Tag: เกาะ
-
แวะชมภาพถ่ายโรงแรมที่ ‘ใหญ่ที่สุด’ ในญี่ปุ่น ซึ่งถูก ‘ทิ้งร้าง’ ท่ามกลางป่าไม้บนเกาะ
หากถามว่าโรงแรมแห่งไหนดีที่สุดในญี่ปุ่นคงจะตอบได้ยากสักหน่อยเพราะแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกันใช่ไหมล่ะ? แต่ถ้าถามว่าโรงแรมไหน ใหญ่โต ที่สุดในญี่ปุ่นล่ะก็เราหาคำตอบมาให้เพื่อนๆ แล้ว แถมยังพาไปชมทั้งภายนอกภายในเลยอีกด้วย ชื่อของโรงแรมที่ว่าก็คือ Hachijo Royal Hotel ตั้งอยู่บนเกาะภูเขาไฟห่างไกลจากโตเกียว 300 กิโลเมตร ที่นั่นไม่มีหาดทรายให้เล่น มีแต่น้ำลึกๆ สำหรับให้นักดำน้ำได้ผจญภัยเท่านั้น แต่น่าเสียดายที่โรงแรมใหญ่โตแบบนี้กลับไม่ยั่งยืน มันถูกปิดและเปิดใหม่อยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่สามารถกู้ชื่อเสียงกลับมาได้สำเร็จ กระทั่งในปี 2006 มันถูกปิดอย่างถาวร ปัจจุบัน Hachijo Royal Hotel กลายเป็นโรงแรมร้างที่ยังคงความงดงาม ภายนอกรายล้อมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่ม ภายในแม้จะผุพังแต่ก็ถูกประดับประดาด้วยแมกไม้ที่เข้ามาแต่งเติมความงามตามธรรมชาติ วันนี้ ช่างภาพ Natalia Sobańska จะพาเพื่อนๆ ทุกคนเข้าไปชมความงามของโรงแรมร้างแสนกว้างใหญ่แห่งนี้กัน ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . แม้จะถูกทิ้งร้าง…
-
เกาะส่วนตั๊วส่วนตัว Kaulbach Island ที่ตอนนี้กำลัง “ลดราคา” เหลือ 150 ล้านบาทเท่านั้น!!
ชีวิตที่สงบ มีอิสระ และเป็นเอกเทศ ในยามที่ชีวิตต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของสังคมมนุษย์ การใช้ชีวิตบนเกาะส่วนตัว คงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยสำหรับผู้ที่มีความต้องการที่กล่าวไปข้างต้น ก่อนอื่น เราลองมาชมเกาะ Kaulbach เกาะโดดเดี่ยวงดงาม ใจกลางอ่าวมาโฮนของรัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา เกาะ Kaulbach ด้วยเนื้อที่กว่า 140 ไร่ พร้อมคฤหาสน์หรูเนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ประกอบกับบรรยากาศทั้งป่าไม้ ชายหาด และน้ำทะเล ทำให้เกาะส่วนตัวแห่งนี้เปิดขายด้วยราคาสูงลิบในปีที่ผ่านมา ภายในคฤหาสน์มี 11 ห้องนอนด้วยกัน พร้อมทั้งของใช้สอยที่จำเป็นต่างๆ ที่ยิ่งกว่านั้น ภายนอกคฤหาสน์ยังมี “ลานจอดเฮลิคอปเตอร์” ไว้สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย คฤหาสน์หรูเนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตร . . มองจากระเบียงของที่อาศัยออกไปเห็นพื้นหญ้า ต้นไม้ เกาะเพื่อนบ้าน และท้องทะเล สำหรับการเดินทางโดยเรือ เกาะแห่งนี้ได้จัดเตรียมท่าจอดสำหรับยานพาหนะทางน้ำไว้ที่ฝั่งด้านแผ่นดินแม่แล้ว ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากเกาะไปเพียง 6 นาที นอกจากนี้ สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ เกาะ Kaulbach นี้ยังอยู่ไกลจากท่าอากาศยานนานาชาติ Halifax เพียง…
-
สนใจมั้ย!? ประกาศหาคนเลี้ยงแมว ให้เดือนละ 13,000 แต่ได้ไปใช้ชีวิตบนเกาะ พร้อมที่อยู่ฟรี!!
ประเทศกรีซถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเกาะสวยๆ อยู่มากมาย พร้อมกับเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหาดทรายสวยมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียวล่ะ แล้วยิ่งถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบ ‘แมว’ อีกด้วยล่ะก็ ขอบอกเลยว่าคุณจะต้องยินดีมากๆ เลยกับข่าวที่ #เหมียวหง่าว จะเอามาฝากเพื่อนๆ ในวันนี้ เพราะที่เกาะ Syros ที่อยู่ในประเทศกรีซ เค้ากำลังหาพนักงานไปดูแลศูนย์อนุรักษ์สัตว์ ที่มีแมวจรจัดมากกว่า 55 ตัว!! แต่เดิมทีแล้วศูนย์อนุรักษ์สัตว์แห่งนี้ถูกดูแลโดยคุณ Joan Bowell กับสามี จากประเทศเดนมาร์ก มานานกว่า 8 ปี ซึ่งเธอต้องย้ายมาอยู่ที่เกาะแห่งนี้เพื่อรักษาสุขภาพของตัวเอง ตอนนี้เธอกับสามีก็วางแผนที่จะย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นห่วงเหล่าแมวเหมียวที่อยู่ในศูนย์อนุรักษ์สัตว์แห่งนี้อยู่ จึงทำการประกาศหาคนมาคอยดูแลพร้อมกับให้ค่าจ้างเดือนละ 408 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 13,500 บาท แม้อาจจะดูน้อย แต่นี่คือสิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อไปทำงานที่นั่น… ที่พักฟรีเป็นบ้านแฝด ที่อยู่บนเกาะอันแสนสวยงามในประเทศกรีซ และอาศัยอยู่ร่วมกับเจ้าเหมียวที่น่ารักกว่า 55 ตัว นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการดูแลแมวเหมียว ทั้งค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล ก็ไม่ต้องเสียเลยแม้แต่น้อย!!…
-
‘ลิงอุรังอุตังเผือก’ หายาก ได้รับ ‘เกาะส่วนตัว’ เพื่อปกป้องมันให้พ้นจากคนลักลอบค้าสัตว์
ด้วยขนสีขาวบริสุทธิ์และดวงตาสีฟ้าที่สุกใส ทำให้ Alba ลิงอุรังอุตังเผือกเป็นลิงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสวยงาม แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้มันเป็นเป้าหมายของคนลักลอบค้าสัตว์ด้วย Alba เคยเป็นลิงตามธรรมชาติมาก่อน แต่ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามของมันทำให้มันเป็นที่หมายปองของพวกลักลอบค้าสัตว์จำนวนมาก เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมามันถูกชาวบ้านในประเทศอินโดนีเซียจับได้ แล้วเอามาเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงในกรง โชคดีที่องค์กรช่วยเหลือลิงอุรังอุตัง Borneo Orangutan Survival Foundation (BOS) รู้เรื่องเข้าเลยไปช่วยมันให้เป็นอิสระได้ ปกติแล้วหลังจากช่วยสัตว์ป่าได้ อาสาสมัครก็จะปล่อยมันกลับไปสู่ธรรมชาติ ทว่าการปล่อย Alba ไปอยู่ตามธรรมชาติเหมือนเดิมดูไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะมันน่าจะถูกคนลักลอบค้าสัตว์เอาตัวไปอีก พวกเขาก็เลยให้มันอยู่ในความดูแลของทางองค์กร นอกจากเหตุผลเรื่องความสวยงามของมันที่ทำให้ตกเป็นเป้าในการลักพาตัวแล้ว ด้วยความที่มันเป็นลิงเผือก ทำให้มันมีโอกาสเป็นโรคผิวหนัง โรคทางสายตา และโรคเกี่ยวกับการได้ยินมากกว่าลิงตัวอื่นด้วย การดูแลมันอย่างใกล้ชิดจึงเป็นตัวเลือกที่ดูเหมาะสม เพื่อให้มันได้อยู่ตามธรรมชาติอย่างปลอดภัยจริงๆ องค์กร BOS ได้ร่วมระดมเงินทุนเพื่อสร้างพื้นที่ปิดขนาดใหญ่ให้ Alba ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ในนั้น มันจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของคนลักลอบค้าสัตว์อีก หลังจากรวบรวมเงินทุนอยู่เป็นเวลานาน เมื่อเดือนมกราคม 2018 ที่ผ่านมาทางองค์กรก็ประกาศว่า Alba จะได้ย้ายไปอยู่ในถิ่นอาศัยที่เหมาะสมแล้ว โดยพวกเขาได้ใช้เงินกว่า 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.5 ล้านบาท) เพื่อซื้อเกาะส่วนตัวเล็กๆ ให้มันอยู่…
-
ส่องเกาะลับแห่งมหาสมุทรอินเดีย “เซนทิเนล” ที่อาศัยของชนเผ่าดุร้าย ใครอยากลองดี เชิญ!!
มนุษย์นักสำรวจจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่ชื่นชอบการสำรวจพื้นที่ที่ยังไม่มีใครเคยไป เช่น ป่าเขาลึก เกาะร้าง หรือพื้นที่ทุรกันดาร เป็นต้น หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบการสำรวจลักษณะนี้ล่ะก็ เราขอแนะนำให้คุณรู้จักกับ เกาะเซนทิเนลเหนือ หนึ่งในหมู่เกาะอันดามันแห่งมหาสมุทรอินเดีย เกาะแห่งนี้ ถือเป็นเกาะต้องห้าม เพราะบนเกาะเป็นที่อยู่อาศัยของ ชนเผ่าเซนทิเนล ที่ว่ากันว่าดุร้าย ไม่เป็นมิตร และปิดกั้นตัวเองจากคนนอก หากใครฝ่าฝืนเข้าไปใกล้ หรือเข้าไปข้างในเกาะ จะถูกโจมตีใส่ในทันที บนเกาะไม่มีชนกลุ่มอื่นเลย นอกจากเผ่าเซนทิเนล ทั้งนี้ด้วยความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพและปัญหาทางธรรมชาติ รัฐบาลอินเดียจึงพยายามติดต่อกับชนเผ่านี้ให้ได้ ครั้งหนึ่งเคยส่งฑูตนามว่า T.N. Pandit เข้าไปยังเกาะ เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเขานำมะพร้าวและของใช้ต่างๆ เข้าไปมอบให้กับชนเผ่า ในครั้งแรก ชาวเผ่าเซนทิเนลก็ต้อนรับเขาโดยไม่มีการคำนับหรือการทักทายใดๆ แต่ T.N. Pandit ก็พบว่าชาวเผ่านั้นมีสุขภาพและชีวิตการเป็นอยู่ที่ดี เติบโตได้โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งความช่วยเหลือจากภายนอก ภารกิจนี้จึงหยุดลง เกาะเซนทิเนลเป็นหนึ่งในหมู่เกาะอันดามัน ตั้งอยู่กลางมหาสมุทรอินเดีย เกาะเซนทิเนล เป็นเกาะต้องห้ามเนื่องจากเป็นที่อาศัยของชนเผ่าดุร้ายไม่เป็นมิตร เผ่าเซนทิเนล ปฏิเสธการติดต่อกับโลกภายนอก และจะโจมตีอย่างไม่ยั้งมือ กับทุกคนที่กล้ารุกล้ำเขตแดนของเกาะ เพราะฉะนั้นอย่าอยากรู้อยากเห็นแล้วพยายามเฉียดเข้าไปใกล้จะดีกว่า การติดต่อกับโลกภายนอก อาจทำให้พวกเขาได้รับเชื้อโรคจากมนุษย์ภายนอก และนั่นอาจทำให้…
-
เกาะเล็กๆ ในฟินแลนด์ ที่มาพร้อมกับความงดงามอันยิ่งใหญ่ กับภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนไปทุกฤดู
คำพูดที่บอกว่าธรรมชาติคือสิ่งที่สวยงามนั้น จะเรียกว่าเป็นคำพูดที่ไม่ผิดเลยก็ว่าได้ เพราะสถานที่ตามธรรมชาติส่วนใหญ่ก็ล้วนจะมีความงามในแบบของตัวเองเสมอ โดยเฉพาะเมื่อมันต้องเปลี่ยนผันไปตามฤดูกาลทั้ง 4 ความงามที่แปลกใหม่ก็มักจะเกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบ เช่นเดียวกับ Kotisaari Island เกาะเล็กๆ ที่เดิมที่เป็นสถานที่พักของช่างตัดไม้ในตำนานแห่งฟินแลนด์ และยังเป็นศูนย์กลางของคนตัดไม้ในสมัยก่อน ที่ปัจจุบันแม้จะโลกจะเปลี่ยนไป แต่เกาะนี้ยังคงเดิมไม่มีเปลี่ยน และด้วยความลือชื่อของเกาะดังกล่าวทั้งรูปทรงและสภาพโดยรอบ ช่างภาพมากมายก็มักจะเลือกสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายภาพต่างๆ Jani Ylinampa ช่างภาพธรรมชาติจากฟินแลนด์ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกสถานที่นี้สำหรับสร้างผลงานของเขา Jani ได้วางแผนจะถ่ายภาพเกาะดังกล่าวในฤดูต่างๆ ทั้งร้อน หนาว ใบไม้ผลิและใบไม้ร่วง ซึ่งเขาคาดการณ์ไว้ว่าความสวยงามของเกาะนี้จะต้องให้อะไรบางอย่างที่คุ้มค่าต่อการรอของเขาอย่างแน่นอน และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะว่าผลงานที่ออกมามันสวยจนรู้สึกว่า 1 ปีที่รอคอยฤดูกาลทั้งหมดให้วนมาจนครบมันคุ้มค่าเหลือเกิน… เริ่มกันด้วยฤดูใบไม้ผลิกันก่อน…ใช่ที่คุณเห็นนี่คือฤดูที่ใบ้ไม้จะผลิบานจริงๆ แต่ภาพที่เราเห็นกลับดูเศร้ามอง ซึ่งจริงๆ อาจจะมาจากการที่น้ำแข็งจากฤดูหนาวเพิ่งจะละลายก็ได้นะ ต่อด้วยฤดูร้อนที่ดูแล้วเหมือนเป็นเกาะที่ลอยอยู่บนท้องฟ้า ทุ่งหญ้าเขียวขจีดูแล้วสบายตาสุดๆ กลับมาที่ฤดูใบไม้ร่วงที่ดูแล้วมันไม่ร่วงสักเท่าไหร่ แต่กลับรู้สึกสวยราวกับว่านี่มันควรจะเป็นฤดูใบไม้ผลิชัดๆ ปิดท้ายด้วยฤดูหนาว ทุกอย่างดูขาวไปหมด แม้แต่แม่น้ำที่เคยมีอยู่รอบๆ ก็กลายเป็นน้ำแข็ง ใครจะคิดว่าเกาะเดียวสามารถมีสภาพแวดล้อมที่แปลกใหม่ได้ตลอดเวลาแบบนี้ ที่มา boredpanda
-
สภาพเกาะครีตในโทนเหงา สีแสดไปทั่วทุกพื้นที่ ดูสวยงามแต่อันตราย เพราะทรายล้วนๆ…
หากมองสภาพโดยทั่วไปของภูมิภาคที่เป็นเกาะ จะต้องมีสีออกไปในโทนสดใส ท้องฟ้าสีครามตัดกับน้ำทะเลสีน้ำเงินเขียว ไหนจะมีแสงแดดคอยโอบล้อมอีก โอ๊ยยยย… แค่คิดภาพตามก็รู้สึกดีแล้วล่ะ แต่ถ้าคุณลองนึกถึงสภาพที่ยกทะเลทรายมาอยู่แทนที่ล่ะ มันจะออกมาในสภาพแบบไหน แน่นอนว่าทรายจะมีสีออกไปในโทนสีเนื้อ ยิ่งลอยมากับลมเป็นพายุก็ยิ่งทำให้โทนสีเข้มจนน่ากลัว… เมื่อไม่นานมานี้ มีชุดภาพจากเกาะครีต ประเทศกรีซถูกเผยแพร่ออกมา สภาพทั่วไปในบริเวณเกาะมองเห็นเป็นโทนสีส้มแสดเข้มไปทั่วท้องฟ้า ซึ่งภาพเหล่านี้ถูกโพสต์โดยเหล่านักท่องเที่ยวที่ไปพักผ่อนในช่วงนี้ ดูจากภาพแล้วคล้ายจะเป็นการใช้ฟิลเตอร์แต่งภาพ แต่เปล่าเลย ภาพที่เห็นคือภาพจริง สถานที่จริง ในช่วงเวลาที่ทั้งเกาะกำลังเผชิญกับพายุทะเลทราย เคลื่อนตัวย้ายมาจากทะเลทรายซาฮารา เมื่อช่วงวันพฤหัสบดีที่ 22 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น . แม้ภาพถ่ายที่เห็นจะดูดี เหมือนหลุดออกมาจากในภาพยนตร์ยุคโลกล่มสลาย แต่ชาวบ้านชาวเมืองที่อาศัยอยู่บนเกาะขอเซย์โนไว้เลย… เพราะมันแย่ยิ่งกว่าฝุ่นควันกรุงเทพฯ หมอกควันภาคเหนือในไทย เพราะฝุ่นทะเลทรายนั้นอุดมไปด้วย สารตะกั่ว สังกะสี โครเมียม และวาเนเดียม ที่จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระยะยาว . . ภาพถ่ายในมุมเดียวกัน ในวันที่ 23 มีนาคม 2018 หนึ่งวันหลังเหตุพายุทะเลทรายพัดผ่าน …
-
หมู่บ้านอิตาลีเปิดขายบ้าน 30 บาท หวั่นประชากรหนีหาย และกลายเป็นเมืองรกร้างในไม่ช้า
เวลาที่เราจะซื้อบ้านหรือที่ดินสักแห่งหนึ่ง โดยปกติแล้วเราจะต้องมีเงินขั้นต่ำกันเป็นล้านบาทถึงจะสามารถซื้อได้ซึ่งเผลอๆ ได้แค่ที่เปล่าๆ ด้วยซ้ำ แต่เคยคิดไหมว่าจะมีคนขายบ้านหลังโตให้ในราคา 30 บาท เพียงขอให้เรามาอยู่ก็พอ!? หมู่บ้าน Ollolai ในประเทศอิตาลีได้ทำข้อเสนอให้คนจากทั่วโลกเข้ามาอาศัยยังหมู่บ้านดังกล่าวด้วยการขายบ้านในราคาเพียงแค่ 1 ยูโร (ประมาณ 38 บาท) เท่านั้น ถูกสุดๆ เลยใช่ไหมละ แต่ใช่ว่าเราจะสามารถซื้อบ้านหนึ่งหลังในหมู่บ้านดังกล่าวแล้วก็ปล่อยดองไว้เฉยๆ ได้หรอกนะ เพราะการซื้อบ้านราคา 1 ยูโรนี้มาพร้อมกับเงื่อนไขที่ว่า ถ้าคุณซื้อไปคุณจะต้องตกแต่งและซ่อมแซมมันใหม่ทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 3 ปี นอกจากนี้ คุณจะต้องใช้งบประมาณ์ขั้นต่ำ 30,000 ยูโร (ประมาณ 1.1 ล้านบาท) ในการซ่อมแซมและถ้าคุณอยากจะขายต่อ คุณต้องรอ 5 ปีจึงจะสามารถทำได้…ส่วนถ้าใครสงสัยว่าแล้วทำไมต้องขายบ้านในราคานี้ด้วย คำตอบก็คือ เมืองนี้มันใกล้จะเป็นเมืองร้างแล้วยังไงละ ดูซะ เงียบเหงาขนาดไหน บ้านก็โทรมมากๆ ไม่มีคนดูแลเลย (จริงๆ มันสร้างยังไม่เสร็จด้วยซ้ำ) คุณอ่านไม่ผิดหรอก เพราะว่าภายในระยะเวลาไม่กี่ปีจากเดิมที่หมู่บ้าน Ollolai มีประชากรเหลือเพียง…
-
เกาะจิ๋วที่มีชื่อว่า Just Room Enough เนื้อที่มีแค่บ้าน 1 หลัง กับต้นไม้อีก 1 ต้น แต่ก็น่าอยู่ที่ซู้ดดด
ห่างพูดถึงการไปติดเกาะ เพื่อนๆ อาจจะนึกถึงความลำบากและพื้นที่เกาะอันกว้างใหญ่ที่ดูอันตรายและน่ากลัว แต่เพื่อนๆ จะเปลี่ยนความคิดไปเลย ถ้าหากได้เห็นเกาะสุดน่ารักแห่งนี้ เพราะมันมีพื้นที่เล็กกระจิ๋วเป็นที่คาดไม่ถึงเลยล่ะ เกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกแห่งนี้มีชื่อว่า Just Room Enough Island ซึ่งตั้งอยู่ที่อ่าวซานเดรีย ในรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เกาะนี้เป็นหนึ่งใน 1,864 เกาะที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำ St. Lawrence ที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนระหว่างรัฐนิวยอร์กและรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา . เกาะนี้เคยเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ‘Hub Island’ ซึ่งถูกซื้อไปโดยครอบครัว Sizelands ในปี 1950 โดยต่อมาถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ‘Just Room Enough Island’ ครอบครัว Sizelands ปลูกต้นไม้และสร้างกระท่อมขึ้นในทุกตารางนิ้วของพื้นที่ สังเกตจากภาพจะเห็นว่าแทบไม่เหลือพื้นที่ว่างให้เดินเล่นเลย พวกเขาตั้งใจให้เกาะนี้เป็นสถานที่พักผ่อนเล็กๆ ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่บ้านน่ารักกลางน้ำหลังนี้กลับเป็นจุดสนใจให้กับนักท่องเที่ยวมากมายที่ได้มาพบเห็น Just Room Enough Island มีพื้นที่ประมาณ 3,300 ตารางฟุต หรือมีขนาดใหญ่พอๆ กับสนามเทนนิสสนามหนึ่ง ซึ่งนั้นหมายความว่ามันมีขนาดครึ่งหนึ่งของเกาะ Bishop Rock…
-
ทำไมคนเกาะซามัว 95% ถึงเป็นโรคอ้วน บทเรียนที่ประเทศไทยควรเอามาคิดตาม..!?
ไม่น่าเชื่อว่า ‘ประเทศซามัว’ กำลังเผชิญปัญหาวิกฤตโรคอ้วนที่มีประชากรเป็นมากถึง 95% เลยทีเดียว และนับว่าเป็นประเทศที่มีประชากรเป็นโรคอ้วนเยอะที่สุดในโลก อีกทั้ง 1 ใน 3 ของประชากรยังป่วยเป็นเบาหวานอีก..!! และคราวนี้เราจะพาไปหาคำตอบกันว่า ทำไมประชากรที่นี่ถึงต้องเผชิญกับวิกฤตโรคอ้วน ซึ่งทั้งหมดนี้อาจเป็นบทเรียนที่ทำให้คนไทยเราหันมารักสุขภาพกันมากขึ้น Tavita ชาวพื้นเมืองอีกคนหนึ่งที่กำลังต่อสู้กับโรคอ้วน อดีตคนขับแท็กซี่ Tavita เล่าว่า ก่อนหน้านี้เขามักจะดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำวันละ 2 ลิตร ขนมหวานจุกจิก อีกทั้งยังรับประทานแต่อาหารประเภทที่มีไขมันสูง “ผมรู้สึกเป็นห่วงสุขภาพตัวเองมากๆ ตอนนี้น้ำหนักตัวมันมากเกินไป และมันก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเรา ด้วยความรักที่มีต่อภรรยาและลูกๆ เราก็อยากจะอยู่กับพวกเค้าไปนานๆ” Tavita กล่าว แต่ดูเหมือนว่าปัญหา ‘โรคอ้วน’ ของชาวซามัวจะมีปัจจัยที่มากกว่าพฤติกรรมการบริโภคแบบจุกจิก เพราะข้อมูลจาก WHO พบว่า พฤติกรรมการบริโภคยังส่งผลตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงสุขภาพโดยรวมด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบว่ากว่า 9 ใน 10 ของชาวซามัว ยังต้องต่อสู้กับโรคอ้วน และตัวเลขของผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภท 2 ในแต่ละปีพุ่งสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย (เบาหวานประเภท 2 ส่วนใหญ่มักเกิดในกลุ่มคนอ้วนที่ขาดการออกกำลังกาย…
-
20 ภาพจากเกาะร้างใจกลาง New York City ที่หลายคนไม่รู้ว่ามี และไม่เปิดให้คนเข้าไป!!
เคยคิดกันบ้างไหมว่าในมหานครนิวยอร์กอันกว้างใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยตึกรามบ้านช่องนั้น จะมีเกาะร้างแห่งหนึ่งตั้งอยู่โดยไม่มีใครสนใจ เกาะที่ว่านั้นมีชื่อว่าเกาะ North Brother Island ซึ่งเป็นเกาะที่น้อยคนนักจะรู้จัก เพราะว่าเจ้าเกาะนี้อยู่ทางตอนเหนือของแมนแฮตตัน และเป็นเกาะร้างกลางทะเลสาบขนาด 55 ไร่ที่ถูกคนทอดทิ้งไว้เป็นเวลากว่า 55 ปีแล้ว นอกจากนั้นก็ไม่ค่อยจะมีคนผ่านไปมาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั่นเอง ไม่เชื่อดูสิ อยู่แอบๆ แบบนี้สะพานเชื่อมก็ไม่มี ใครจะเข้าไปกัน… แต่ถึงแม้จะมีคนอยากไปที่ดังกล่าวก็ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไปแต่อย่างใด นอกเสียจากว่าจะได้รับการอนุญาตให้เข้าไปโดยเจ้าหน้าที่จากที่ว่าการนิวยอร์ก และด้วยความลึกลับน่าค้นหานี้ ทีมงาน Business Insider จึงเกิดสงสัยเลยยื่นเรื่องและขอไปสำรวจเกาะที่ว่าดูสักหน่อย… เมื่อทีมงานไปถึงก็พบกับสิ่งก่อสร้างมากมาย แน่นอนว่าทั้งหมดล้วนพุพังตามกาลเวลาที่พวกมันถูกทิ้งไว้ แต่ที่น่าสนใจคือ มันเป็นสถานที่รกร้างที่ปกคลุมไปด้วยธรรมชาติ มีต้นไม้และเถาวัลย์อยู่เต็มไปหมดเลยล่ะ แม้ว่าเกาะนี้จะถูกทิ้งไปตั้งแต่ปี 1963 แล้ว แต่ทีมงานก็หวังว่าสักวันทางรัฐจะกลับมามองเห็นพื้นที่ว่างตรงนี้ และพวกเขาจะบูรณะมันกลับมาอีกครั้งพร้อมทำพื้นที่นี้ให้เกิดประโยชน์ และให้ผู้คนได้ย้ายเข้ามาอยู่แทนที่จะปล่อยว่างไว้นั่นเอง ออกเดินทางไปได้!! . . . . . . . . . . . . . . .…
-
ช่วยหมีล่วยย!! เจ้าหน้าที่ถึงกับงง เมื่อพบ ‘โคอาล่า’ เกาะติดในล้อรถมาไกลถึง 16 กิโลฯ
อีกหนึ่งเรื่องราวที่จะทำให้เรารู้สึกว่า.. แบบนี้ก็ได้เหรอ? โดยเว็บไซต์ Metro ได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เมือง Adelaide ประเทศออสเตรเลีย จากต้นฉบับรายงานว่า เจ้าของรถผู้ไม่ประสงค์ออกนาม รู้สึกเหมือนมีแขกที่ไม่ได้รับเชิญติดรถมาด้วย หลังขับรถออกมาจากบ้านไกลกว่า 16 กิโลเมตร และได้ยินเสียงร้องของตัวอะไรบางอย่างตอนจอดรถ ผ่างงงงง… ช่วยหนูด้วยหนูติดอยู่ในล้อ!! ทันทีที่เจ้าของรถทราบว่ามีโคอาล่าตัวน้อยแอบเกาะล้อรถมาด้วย เขาก็รีบโทรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที จากนั้นไม่นาน ทางทีมกู้ภัยและทีมช่วยเหลือสัตว์ ก็ได้เข้ามาช่วยชีวิตมันไว้… Jane Brister เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยโคอาล่าให้สัมภาษณ์ว่า “ดิฉันได้กลิ่นเหม็นไหม้นิดหน่อย พอตรวจดูก็พบว่าขนของมนางไหม้เล็กน้อย แต่โดยรวมร่างกายนางไม่มีบาดแผล และไม่ได้รับอาการบาดเจ็บรุนแรงใดๆ ค่ะ” นอกจากนั้นทางผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมของโคอาล่า ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลแก่ประชาชนในท้องถิ่นว่า โดยปกติโคอาล่าจะเป็นสัตว์ที่ไม่ยุ่งกับคน และมันน่าจะคลานเข้ามาติดอยู่ในล้อรถตอนที่เจ้าของนำรถไปจอดไว้ จากการตรวจสุขภาพก็พบว่าเจ้าโคอาล่าตัวดังกล่าวเป็นคุณแม่มือใหม่ และมีความเป็นไปได้ว่ามันพยายามจะออกตามหาลูกตัวน้อยของมันที่หายไปอย่างไร้ร่องรอย “พวกเราพยายามช่วยกันค้นหาลูกของมันด้วยค่ะ แต่เราใช้เวลาไปทั้งหมด 2 คืนแล้วยังไม่พบเบาะแสใดๆ เลย ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่ก็จะนำตัวมันไปปล่อยคืนสู่แหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติของมัน” แฮร่..!! โชคดีที่งานนี้ไม่มีใครบาดเจ็บ แต่เกาะไปไกลเลยนะเจ้าโคอาล่า ที่มา: Metro
-
รวม 4 เกาะสุดอันตราย จงอย่าแม้แต่จะคิดไปเยี่ยมเยือนเป็นอันขาด ถึงตายแน่นอน!!
สำหรับใครที่กำลังหาโปรแกรมเที่ยววันหยุด หรือวางแผนระยะยาวว่าอยากจะไปเกาะสวรรค์หาดหรรษาสักแห่งบนโลก แล้วกำลังไล่ดูชื่อเกาะสวยๆ อยู่ คุณคิดถูกแล้วที่เปิดเข้ามาโพสต์นี้… เพราะเกาะที่เราจะมาพูดถึงกันในครั้งนี้ มันไม่เป็นมิตรต่อการไปเที่ยวสุดๆ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามตัดมันออกจากรายชื่อไปได้เลย เพราะถ้าไปแล้วอาจจะมีแค่ตั๋วขาไปแต่ไม่มีขากลับก็เป็นได้นะ ว่าแต่จะมีเกาะอะไรบ้างนั้น เราลองมาดูกันเลยดีกว่า หมู่เกาะ Izuในประเทศญี่ปุ่น ถ้าใครที่เคยดูอนิเมชั่นเรื่อง Your name จะต้องคุ้นหน้าคุ้นตากับเกาะนี้แน่นอน และก็คงคิดกันว่ามันสวยงามตามในอนิเมะ แต่ความจริงแล้วเกาะนี้มันโหดร้ายกว่าที่คุณคิด หมู่เกาะอิซุนั้นเป็นหมู่เกาะที่มีภูเขาไฟอยู่เต็มไปหมด ซึ่งเมื่อปี 2000 เคยเกิดการประทุครั้งใหญ่จนต้องอพยพออกกันจนหมด ต่อมาในปี 2005 ทางการก็อนุญาตให้คนกลับไปอยู๋ได้ แต่ด้วยสารพิษที่มีเยอะมากๆ ทำให้ต้องสวมหน้ากากกันแก๊ซตลอดเวลา ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยถ้าไม่จำเป็นอย่าไปเลยจะดีกว่า… เกาะ Ramree ในประเทศพม่า ถ้าคุณเป็นคนกลัวจระเข้ละก็ ควรออกให้ห่างจากตัวเกาะนี้ให้ไวที่สุด เพราะที่นี้คือจุดศูนย์รวมของจระเข้น้ำเค็มจำนวนมาก และมันก็เป็นสัตว์เลี้ยนคลานที่ใหญ่ที่สุดอีกด้วย ความดุร้ายของพวกมันได้รับการันตีโดยการเป็นสถานที่ที่คนถูกจระเข้โจมตีเยอะมากที่สุดในโลก นี่ยังไม่นับรวมสัตว์มีพิษอื่นๆ อีกมากมาย เกาะ Gruinard ในประเทศสก็อตแลนด์ ความอันตรายของเกาะนี้อาจจะไม่เห็นผลทันตา และอาจจะต้องพึ่งโชคกันสักหน่อย เพราะเกาะแห่งนี้นั้นเคยเป็นสถานที่ใช้ทดสอบอาวุธเชื้อโรค Anthrax ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แน่นอนว่าเชื้อโรคอาจจะหายไปบ้างแล้ว แต่มันก็ยังลงเหลืออยู่ในพื้นดิน ซึ่งเสี่ยงอาจจะทำให้ติดเชื้อโรคดังกล่าวได้ แน่นอนว่าร้ายแรงถึงตาย… เกาะ Ilha da Queimada ในประเทศบลาซิล เกาะสุดอันตรายที่ถูกทหารเรือบราซิลห้ามประชาชนทั่วไปเข้าไปอย่างเด็ดขาด…
-
ประกาศขายเกาะส่วนตัวในสก็อตแลนด์ แค่ 14 ล้านบาท คุณก็เป็นเจ้าของเกาะได้แล้วนะ..!!
สำหรับใครที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์ที่จะใช้ลงทุนระยะยาว หรือกำลังมองหาที่พักส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเกาะสวาทหาดสวรรค์จากสก็อตแลนด์ ที่คุณก็เป็นเจ้าของได้ด้วยราคาเพียง 14 ล้านบาทเท่านั้น!! Little Ross Island เป็นเกาะส่วนตัวที่ตั้งอยู่ในเขตการปกครองของประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เกี่ยวกับกรณีที่นาย Hugh Clark ถูกฆาตกรรมที่นี่เมื่อ 60 ปีก่อน Little Ross Island สำหรับใครที่ไม่แคร์เรื่องคดีฆาตกรรมในอดีต ว่ากันว่าที่นี่เป็นเกาะที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับความเป็นส่วนตัว ท่ามกลางธรรมชาติอันโดดเด่นใจกลางทะเล เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสก็อตแลนด์ พร้อมพื้นที่ขนาดประมาณ 73 ไร่ ภายในอาคารก็ประกอบไปด้วยห้องนอน 6 ห้อง โดยบ้านทั้งหลังจะใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์และแรงลม (ประหยัดค่าไฟไปได้อีกเยอะ) รูปแบบอาคารภายนอกที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะ ก็จะมาพร้อมกับประภาคารที่เคยใช้สำหรับการเดินเรือ “ย้อนกลับไปในปี 1900s เกาะแห่งนี้เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวประมง นักเดินเรือ รวมทั้งมีการทำเกษตรกรรมขนาดเล็กขึ้นที่นี่ด้วย” David Corrie จากบริษัทที่ดูแลพื้นที่ส่วนนี้ให้สัมภาษณ์ และทุกวันนี้เกาะแห่งนี้ก็อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท Northern Lighthouses ซึ่งจะเดินทางมาได้ด้วยการใช้เรือหรือเครื่องบินส่วนตัวเท่านั้น ถ้าใครอยากเป็นเจ้าของก็ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณต้องมีเงิน…
-
ชาวต่างชาติตั้งฉายาเกาะเต่า “Murder Island” จากเหตุนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 7 รายในรอบ 3 ปี
หลังจากที่มีข่าวการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวสาวชาวเบลเยี่ยมวัย 30 ปีที่เกาะเต่าออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ และมีผู้สนใจเกี่ยวกับข่าวการเสียชีวิตของเธอเป็นอย่างมาก ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวถึง 7 รายแล้วที่ต้องจบชีวิตบนเกาะแห่งนี้ และล่าสุดทางสื่อต่างประเทศก็ได้รวบรวม 6 คดีการเสียชีวิตบนเกาะเต่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา โดยในบางคดีนั้นยังไม่ทราบถึงตัวจริงของฆาตรกร และเป็นอย่างที่รู้กันว่าในทุกคดีนั้น ได้รับความสนใจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก Hannah Witheridge และ David Miller คดีแรกเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 และได้รับความสนใจจากสำนักข่าวแทบจะทุกสำนักในบ้านเรานั่นก็คือคดีของคุณ Hannah Witheridge หญิงสาววัย 23 ปี และคุณ David Miller ชายวัย 24 ปี สองนักท่องเที่ยวที่ถูกฆ่าอย่างโหดร้ายระหว่างที่ออกมาเดินในด้านนอกโรงแรม ในวันที่ 15 กันยายน 2014 จากการชันสูตรศพพบว่าทั้งคู่ถูกทำร้ายที่ศีรษะจนเสียชีวิตและนอกจากนี้คุณ Witheridge ยังมีร่องรอยการถูกข่มขืนอีกด้วย Luke Miller คดีต่อมาคือนาย Luke Miller ช่างก่อสร้างจากประเทศอังกฤษ ที่ถูกพบศพในสระว่ายน้ำเมื่อวันที่ 8 มกราคมปี 2016…
-
ตั๊กแตนใจกล้าโชว์เก๋า ยืนเผชิญหน้ากับกบถึง 3 ตัว ยังไม่พอกระโดดขึ้นไปเหยียบหัวอีก!!!
ตั๊กแตนเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มักตกเป็นเหยื่อของกบ ถึงแม้ว่าพวกมันอาจจะดีดตัวเร็วก็จริง แต่บางทีก็ไม่พ้นการตวัดลิ้นของพวกกบอยู่ดี ดังนั้นตั๊กแตนจึงต้องอยู่ห่างกบเข้าไว้ แต่ดูเหมือนเจ้าตั๊กแตนตัวนี้จะไม่เกรงกลัวกบเลยสักนิดเดียว เพราะนอกจากเผชิญหน้ากับกบถึง 3 ตัว แล้ว มันยังขึ้นไปเหยียบหัวกบอีกด้วยแหนะ!! เจ้ากบทั้งสาม มาจากสำนักไหนกัน!? ภาพชุดนี้ถ่ายโดยช่างภาพชาวอินโดนีเซีย ที่ไม่รู้จะเรียกว่าเหตุการณ์น่ารักหรือน่ากลัวดี เพราะภาพที่เห็นอยู่นี้เจ้าตั๊กแตนไปอยู่ใกล้กับแก๊งกบถึง 3 ตัว ในระยะที่ประชิดมาก อยู่ใกล้ว่าเสียวแล้ว แถมตั๊กแตนยังจะขึ้นไปเหยียบหัวกบอีก แล้วก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมกบทั้ง 3 ตัว จึงพร้อมใจกันไม่ทำอะไรเจ้าตั๊กแตนเลย ถามไปไม่ตอบแฮะ งี้ก็ต้องโชว์วิชาให้รู้สำนึกกันซักหน่อย… หรือบางทีพวกมันอาจจะวางแผนให้เจ้าตั๊กแตนจอมกวนตายใจก็ได้ ประมาณว่า ‘ไหนๆ มันก็ใกล้ถึงฆาตแล้ว ปล่อยให้มันได้มีความสุขในช่วงสุดท้ายของชีวิตสักระยะหนึ่งก่อนก็ได้ แล้วค่อยจัดการทีหลัง’ จะโชว์แล้วน้าาาาาาาาาา แต่ในทางกลับกัน นี่อาจจะเป็นมิตรภาพของสัตว์ที่อยู่ในระบบนิเวศเดียวกันก็ได้ แม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะเป็นนักล่า ส่วนอีกฝ่ายจะเป็นเหยื่อก็ตาม อะชึ๊บ นี่แหนะ ถึงพวกเอ็งจะเป็นกบ แต่ข้าก็ไม่กล้วเฟร้ย!! แล้วเพื่อนๆ ละคะคิดว่าชะตาชีวิตของตั๊กแตนตัวนี้จะจบลงยังไงนะ? ที่มา China Xinhua News
-
สื่อต่างชาติเปิดโปง การขาย “เนื้อหมา” บนเกาะบาหลี ที่มาในรูปแบบของ “ไก่สะเต๊ะ”!?
เชื่อว่าเกาะบาหลีเป็นอีกหนึ่งในจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ไม่ว่าจะด้วยวัฒนธรรมพื้นเมืองที่น่าหลงใหล หรือจะเป็นบรรยากาศแบบชาวเกาะที่ไม่เหมือนใคร ทว่าล่าสุดทางกลุ่ม Animals Australia ได้เข้าไปลงพื้นที่สืบสาวหาข้อมูลเกี่ยวกับข่าวลือที่ว่า บนเกาะบาหลียังมีการซื้อ-ขาย ‘เนื้อหมา’ เกิดขึ้นอยู่ แต่มาในฐานะสะเต๊ะไก่ซะอย่างนั้น!? **คำเตือน: อาจมีภาพที่กระทบกระเทือนต่อจิตใจ** Lyn White หนึ่งในทีมงานเล่าว่า “ตอนที่เราเริ่มต้นลงพื้นที่ เราแทบจะคิดไม่ออกเลยว่าเนื้อหมาก็ถูกเอามาขายให้นักท่องเที่ยว โดยเปลี่ยนชื่อเป็นสะเต๊ะไก่” ทางทีมงานได้เข้าไปสำรวจบริเวณ Double Six Beach ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่รวมตัวของนักท่องเที่ยวบนเกาะ และพวกเขาก็ได้พบกับความจริงที่ว่า เนื้อสะเต๊ะไก่ที่นำมาเร่ขายเพียงไม้ละ 1 เหรียญบนเกาะนั้น ส่วนใหญ่แล้วล้วนทำมาจากเนื้อหมาแทบทั้งสิ้น “เรามักจะเห็นพ่อค้าหาบเร่เดินขายอาหาร และสะเต๊ะไก่ก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อพวกเราลองสอบถามพ่อค้าจริงๆ พวกเขาก็ยอมรับว่าอันที่จริงมันเป็นเนื้อหมา” ทีมงานคนหนึ่งเล่า Luke หนึ่งในผู้สื่อข่าวจาก ABC ได้เข้าไปศึกษาและสำรวจถึงวัฒนธรรมการกินเนื้อสุนัขบนเกาะบาหลีมานานกว่า 4 เดือน เขาได้เห็นภาพความทารุณโหดร้ายที่มนุษย์มีต่อสุนัขมาแล้วนักต่อนัก “ผมเคยเห็นพวกเขาฆาตกรรมสุนัขได้อย่างโหดร้ายมาก บางตัวก็ถูกบังคับให้กินยาพิษ บางตัวก็ถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต เพียงเพื่อต้องการนำเนื้อมันไปขาย แต่สิ่งที่โหดร้ายไปกว่านั้นก็คือ… ดูเหมือนมันจะได้รับความนิยมสูงจากนักท่องเที่ยวซะด้วย” Luke เล่า หนึ่งในฟุตเทจที่ผู้สื่อข่าวแอบถ่ายมาได้…
-
ชม 20 ภาพสุดช็อค สะท้อนวิถีชีวิตการอยู่อาศัยอย่างแออัด ของผู้คนบนเกาะฮ่องกง!?
เกาะฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งในสถานที่จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคน เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะเคยมีโอกาสได้ไปเยือนเกาะแห่งนี้กันมาบ้างแล้ว ทว่าด้วยพื้นที่ๆ มีอยู่อย่างจำกัด สวนทางกับตัวเลขจำนวนประชากรที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่อยู่การอยู่อาศัยของชาวเมืองตามมา และภาพทั้งหมดนี้จะเป็นตัวบอกเล่าวิถีชีวิตทั้งหมดของชาวฮ่องกงได้ดีที่สุด ‘สิ่งที่แย่ที่สุดในการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ก็คือ คุณไม่มีสิทธิแม้แต่จะหายใจด้วยอากาศบริสุทธิ์ แถมยังต้องอาศัยอยู่ในพื้นที่ขนาดแค่ 1.4 ตารางเมตรเท่านั้น’ ชาวบ้านคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ภาพจากสลัมย่าน Sham Shui Po หลายครัวเรือนมีพื้นที่ใช้สอยเล็กซะจนต้องรวมห้องน้ำ และห้องครัว เป็นห้องเดียวกัน ภาพถ่ายทั้งหมดนี้ถูกนำไปแสดงที่นิทรรศการภาพถ่าย Society for Community Organisation จากสถิติเปิดเผยว่า มีประชากรมากกว่าสองแสนคนบนเกาะฮ่องกง ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก บนเกาะฮ่องกงมีอพาร์ทเม้นท์ขนาดเล็กมากกว่า 88,000 แห่ง และส่วนใหญ่ก็จะมีขนาดห้องที่แคบเอามากๆ ภาพซ้ายจะสังเกตเห็นชักโครกและซิงค์ที่วางอยู่ใกล้กันมากๆ ส่วนภาพขวาเป็นภาพของหนุ่มชาวฮ่องกง และวิถีชีวิตประจำวันของเขา อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับชาวฮ่องกง ที่ห้องครัวและห้องน้ำจะรวมเป็นส่วนเดียวกัน อีกภาพที่ชวนให้ชาวฮ่องกงรู้สึกสะเทือนใจมากที่สุด… ครอบครัวที่ต้องแชร์พื้นที่กันอย่างแออัด และต้องทำทุกกิจกรรมอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก ชายคนในภาพกำลังตกงาน และเขาต้องใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักขนาดแคบ เนื่องจากราคาค่าเช่าที่ค่อนข้างสูง ภาพของหญิงชรา…
-
ศูนย์พักพิงบนเกาะสวรรค์และเหล่าตูบ เหมาะที่จะไปเที่ยวพร้อมกับน้องหมาเกือบร้อย!!
ถ้าคุณเป็นคนชอบหาดทรายสวยๆ ทะเลสีครามบวกเข้ากับเหล่าสุนัขที่แสนน่ารักๆ แล้วยังหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้ากับความชอบดังกล่าวไม่ได้ซักที เราก็ขอนำเสนอหมู่เกาะแสนสวยที่มีทุกสิ่งที่กล่าวไปมาให้คุณได้ฉ่ำหัวใจกัน!! เกาะที่ว่านี้มีชื่อว่าหมู่เกาะเติกส์และเคคอสตั้งอยู่ใน เป็นอาณานิคมโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร ประกอบไปด้วยหมู่เกาะย่อยในเขตร้อน 2 หมู่เกาะ ได้แก่ หมู่เกาะเคคอสและหมู่เกาะเติกส์ ซึ่งที่แห่งนี้ล้วนมีครบทุกอย่างที่คุณต้องการ ทั้งหาดทรายสีขาว ทะเลสีคราม และที่สำคัญก็ยังมีศูนย์พักพิงสุนัขที่มีเหล่าสุนัขน่ารักๆ เพียบ . Potcake Place เป็นศูนย์พักพิงสัตว์ที่สร้างโดยการรวมต่อของอาสาสมัครหลากหลายคน และที่แห่งนี้มีสุนัขในการเลี้ยงดูมากกว่า 50 ถึง 70 ตัว!! แถมนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาก็สามารถขอรับพวกมันไปเลี้ยงได้อีกด้วย แถมในหนึ่งปีที่นี่ยังเลี้ยงดูสุนัขมากกว่า 500 ตัวเลยทีเดียว . สุนัขสายพันธุ์หลักๆ ที่ศูนย์เลี้ยงดูอยู่ก็จะประกอบด้วย แลบราดอร์ริทรีฟเวอร์,เยอรมันเชเพิร์ด และอิงลิชฟอกซ์เทอร์เรีย แน่นอนว่าพวกมันเป็นสุนัขที่น่ารักๆ ทั้งนั้นเลยละ ถ้าใครสนใจและได้แวะไปที่เกาะแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะไปที่ Potcake Place ล่ะ เผื่อถ้าถูกใจน้องหมาตัวไหนจะได้รับมาเลี้ยงซักตัวสองตัว . ที่มา ladbible
-
ทีมสำรวจแทบสิ้นหวัง เมื่อพบขยะพลาสติกจำนวนมาก บนเกาะห่างไกลกว่า 4,800 กิโลฯ
ดูเหมือนว่าปัญหาขยะล้นโลกจะเป็นอะไรที่แก้กันไม่ตกจริงๆ และไม่น่าเชื่อว่าขยะที่คนทั่วไปอาจจะเผลอทิ้งไว้ข้างชายหาด จะส่งผลเป็นวงกว้างได้มากขนาดนี้ Jennifer Lavers จากมหาวิทยาลัยแทสมาเนีย ได้เดินทางไปยังเกาะ Henderson ที่ซึ่งห่างไกลออกไปจากแผ่นดินใหญ่ถึง 4,800 กิโลเมตร และพบว่าที่นี่กลับเต็มไปด้วยซากขยะหลายสิบล้านชิ้น!! เกาะ Henderson ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิค มีขนาดเพียงแค่ 37.5 กิโลเมตร เท่านั้น ซึ่งเกาะแห่งนี้เป็นพื้นที่ควบคุมของทางการอังกฤษ ถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับอนุรักษ์นกทะเลหลายสายพันธุ์ และเต่าทะเลอีกจำนวนมาก หนึ่งในภาพผลกระทบที่เห็นได้ชัดที่สุด ก็คงจะเป็นภาพของปูเสฉวนที่ต้องใช้พลาสติกมาเป็นกระดองให้ตัวเองแทน โดยทีมสำรวจคาดว่าจำนวนขยะมีมากกว่า 37 ล้านชิ้น หนักกว่า 17 ตัน และส่งผลกระทบเป็นวงกว้างต่อระบบนิเวศ Dr. Lavers ให้สัมภาษณ์ว่า ‘ฉันเคยเห็นขยะที่ถูกคลื่นซัดมาเกยตื้นบนชายหาดมาแล้วหลายที่ แต่ไม่เคยเห็นที่ไหนเยอะเท่านี้มาก่อน’ ถึงแม้ว่าในบริเวณรอบเกาะจะไม่มีเส้นทางการเดินเรือของชาวประมง หรือเรือท่องเที่ยว แต่ก็ชี้ให้เห็นว่าขยะจากชายฝั่งตามเมืองใหญ่ สามารถเดินทางไปได้ไกลขนาดไหน บริเวณที่ตั้งของเกาะ ชี้ให้เห็นว่าไม่มีเมืองไหนตั้งอยู่ใกล้เลย แน่นอนว่าขยะทั้งหมดเต็มไปด้วยสารพิษ และมันก็ส่งผลต่อการเพาะพันธุ์สัตว์อนุรักษ์ทางทะเลเป็นอย่างมาก Dr. Lavers ให้สัมภาษณ์ปิดท้ายว่า…
-
ย้อนชม “บาหลี” เมื่อ 40 กว่าปีที่แล้ว ความงดงามที่นักท่องเที่ยวยุคนี้ไม่ทันได้เห็นกัน
เป็นอย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่า เกาะบาหลี เป็นหนึ่งในจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ที่ต้องไปสัมผัสให้ได้ซักครั้งในชีวิต ทว่าก่อนที่กลายมาเป็นเมืองท่องเที่ยวอันสุดฮิตในปัจจุบัน เกาะแห่งนี้เคยเป็นชนบทที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชนพื้นเมือง แต่น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านั้นเริ่มจางหายไปตามยุคสมัย และเราจะพาทุกคนไปพิสูจน์ผ่านภาพถ่ายทั้งหมดนี้… ย้อนกลับไปเมื่อปี 1975 Clifford White (เจ้าของภาพ) ได้ไปเยือนที่เกาะบาหลีครั้งแรก และทั้งหมดนี้คือภาพสะท้อนวิถีชีวิตในอดีต ในยุคสมัยนั้นยังไม่มีนักท่องเที่ยวจากตะวันตกมากนัก ทำให้ชาวบ้านอาจรู้สึกแปลกหูแปลกตาบ้าง เมื่อเห็นนักท่องเที่ยว ภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางไปเล่นกระดานโต้คลื่นด้วยเท้าเปล่า ในภาพนี้คือ Jalan Tegal Wangi หมู่บ้านขนาดเล็กที่เต็มไปด้วยความสงบสุข และเรียบง่าย ย้อนกลับไปในอดีตที่บริเวณอ่าว Kuta เคยเต็มไปด้วยสินค้าจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนม (และของก๊อป) ภาพซ้าย: บริเวณถนนหนทาง ภาพขวา: เจ้าของภาพ และชาวบ้านที่นั่น สมัยก่อนถนนทางไปอ่าว Kuta เป็นถนนที่เงียบสงบ เช่นเดียวกับวิถีชีวิตของหญิงสาวที่มักจะวางสินค้าไว้บนหัวเพื่อขายให้นักท่องเที่ยว ร้านซักรีดในสมัยก่อน ซึ่งเจ้าของภาพบอกว่าเมื่อปี 2011 เขามีโอกาสได้กลับไปอีกครั้ง แต่พบว่ามันกลายเป็น Hard Rock…
-
เผยภาพถ่ายชนเผ่าผู้ห่างไกล ปฏิเสธโลกภายนอกสิ้นเชิง พร้อมจะปลิดชีพได้ทุกเมื่อ!!
ในยุคที่โลกของเราเต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัยแบบนี้ แทบไม่น่าเชื่อว่าจะยังหลงเหลืออารยธรรมของชนเผ่าหนึ่ง ผู้ซึ่งปฏิเสธความศิวิไลซ์จากโลกภายนอก Sentinelese คือชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยอยู่กับธรรมชาติอย่างสันโดษ บนหมู่เกาะ North Sentinel คาบมหาสมุทรอินเดีย และไม่ว่าใครก็ตามที่พยายามจะเข้าไปสำรวจเกาะแห่งนี้ มักจะถูกพวกเขาโจมตีขับไล่ออกมาตลอด! ภาพฟุตเทจจากทีมที่พยายามเข้าไปสำรวจ แต่ไม่สำเร็จ อ้างอิงข้อมูลจาก LoveBiteProduction คาดว่าชนเผ่าดังกล่าว อาจเป็นมนุษย์ที่สืบเชื้อสายโดยตรงจากชนเผ่าดั้งเดิมในแอฟริกา ซึ่งพวกเขาอยู่อาศัยบนเกาะนี้มาแล้วกว่า 60,000 ปี พื้นที่ทั้งหมดของเกาะมีขนาดเท่ากับเกาะแมนฮัตตัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่มีทีมสำรวจใด จะสามารถบอกจำนวนประชากรจากชนเผ่านี้ได้อย่างแน่ชัด ซึ่งปัจจุบันคาดว่าน่าจะอยู่ที่ราวๆ 40 – 500 คน ‘ไม่สำคัญว่าคุณจะมาผูกมิตร หรือเป็นศัตรู เพราะพวกเขาจะต้อนรับคุณด้วยลูกธนู และหอก นับไม่ถ้วน’ ทีมสำรวจกล่าว ภาพของเด็ก และผู้ใหญ่ จากฟุตเทจของทีมสำรวจ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2004 เกิดสึนามิขึ้นเป็นวงกว้างในแถบมหาสมุทรอินเดีย รัฐบาลอินเดียได้ส่งทีมกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือชนเผ่า Sentinelese แต่พวกเขากลับถูกต้อนรับด้วยลูกธนูแทน ภาพชนเผ่ากำลังยิงธนูใส่เฮลิคอปเตอร์ ที่เข้ามาช่วยเหลือจากรัฐบาลอินเดีย บริเวณที่ตั้งของหมู่เกาะดังกล่าว เมื่อปี 1967 รัฐบาลอินเดียเคยพยามที่จะสร้างสัมพันธไมตรีกับชนเผ่านี้…
-
14 สถานที่ (ไม่) ลับจากทั่วโลก แต่คนธรรมดาเข้าไปไม่ได้ และคุณล่ะจะไปไหม!?
เคยอยู่เฉยๆ แล้วเกิดความรู้สึกว่าอยากจะออกไปผจญภัยในโลกกว้าง แบบที่ไม่ต้องกลับมานั่งทำงาน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น และเที่ยวไปเรื่อยๆอย่างไม่มีที่สิ้นสุดบ้างมั้ย? มีงานวิจัยมากมายบอกว่า การได้เดินทางไปยังสถานที่ใหม่ๆ ส่งผลดีหลายด้านต่อทั้งร่างกาย และสุขภาพใจเรา แต่ทว่ายังมีบางสถานที่ ที่มนุษย์ไม่สามารถเข้าไปได้ ถึงแม้ว่าจะอยากไปมากแค่ไหนก็ตาม เราไปดูกันเลยว่ามีที่ไหนบ้าง 1. เกาะงูคลั่งในบราซิล เป็นเกาะที่ถูกทางการบราซิลสั่งปิดตาย ไม่ให้นักท่องเที่ยวคนไหนเข้ามาย่างกรายที่นี่โดยเด็ดขาด เพราะทั่วทั้งเกาะเต็มไปด้วยงูพิษร้ายแรงจำนวนมาก มีเพียงแค่นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มเท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปศึกษาพื้นที่นี้ได้ 2. เกาะเฮิร์ด เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้กับแอนตาร์กติก มีเพียงนักท่องเที่ยวจำนวน 400 คนเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปเที่ยวได้ต่อปี แต่กว่าจะไปถึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ต้องนั่งเรือนาน 2 อาทิตย์ แถมยังต้องฝ่าฟันกับอุปสรรคด้านสภาพอากาศที่แปรปรวนสุดๆ 3. Surtsey ในไอซ์แลนด์ ความพิเศษของเกาะนี้คือ มันเกิดขึ้นจากการปะทุของภูเขาไฟในช่วงยุค 1960s และมันถูกควบคุมไม่ให้มนุษย์เข้าไปสำรวจ เพื่อทำการศึกษาการเป็นไปของเกาะแห่งนี้ตามธรรมชาติอย่างแท้จริง 4. ถ้ำลาสโกในฝรั่งเศส นับว่าเป็นถ้ำที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของมนุษย์มาก เพราะด้านในเต็มไปด้วยภาพศิลปะบนกำแพงของมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ ครั้งหนึ่งมันเคยเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว แต่ทว่าในปี 1963 ถ้ำแห่งนี้ถูกปิดตัวลง เพื่อรักษาความสวยงามจากยุคก่อนประวัติศาสตร์ ให้คงอยู่ต่อไป 5. เกาะเซนติเนลเหนือ เกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะอันดามัน…
-
เมื่อ “กอริลลาน้อย” ถูกฝึกให้เกาะหลังของเจ้าหน้าที่ เป็นภาพน่ารักที่ผู้คนต่างชื่นชม
เมื่อไม่นานมานี้ ทางเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวของ Afia กอริลลาน้อยแสนน่ารักวัยเพียง 6 เดือน ที่กำลังเกาะแน่นอยู่บนหลังของผู้ดูแล เรียกได้ว่าเป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูไม่น้อย ในขณะที่หลายคนคงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า แล้วแม่ของมันละอยู่ที่ไหน Afia เกิดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มันถูกนำมาตัวมายังสวนสัตว์บริสตอล หลังจากที่แม่ของมันดันป่วยหนัก แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าก็กอลริลลาน้อยก็ได้ดูภายใต้ดูแลของทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี Sarah Gedman ทีมดูแลเจ้า Afia ได้เผยว่า “เจ้า Afia มีพัฒนาการที่ดีขึ้นมาก และเราก็คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสุขภาพของมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ… ตลอดเวลาที่ผ่านมา เจ้า Afia มักจะชอบการเรียนรู้ และมันก็มีความมุงมั่นเป็นอย่างมาก ถ้าหากมันเห็นอะไรบางอย่างที่มันต้องการ มันก็จะทำทุกอย่างที่สามารถนำสิ่งนั่นมาตรวจสอบ” เจ้า Afia ถูกฝึกให้มีความเชื่อมั่น และเรียนรู้การใช้ชีวิตตามธรรมชาติของมัน เพื่อที่จะทำให้มันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุข มันได้รับการช่วยเหลือ และได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ก่อนหน้านี้ Afia ได้รับความช่วยเหลือจากทีมแพทย์ของโรงพยายาล St Michael…
-
ผลงานการ “ตกแต่งเปลือกไม้” สุดงดงาม เล่าเรื่องราวของมหาสมุทรที่ถูกลืมเลือน
Debra Bernier เธอคือศิลปินจากเมืองวิกตอเรีย ประเทศแคนาดา ผลงานของเธอเน้นไปในทางการใช้สิ่งของจากธรรมชาติ อย่างเช่นไม้ ดินเหนียว หรือเปลือกหอยในการสร้างงานประติมากรรมขึ้นมา แต่ละชิ้นก็แสดงให้เราได้เห็นถึงจิตวิญญาณของธรรมชาติในร่างของมนุษย์ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้ผลงานที่ออกมาเปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลัง “ตอนที่ฉันทำงานกับไม้ ฉันไม่เคยหมดไอเดียเลย เพราะไม้แต่ละชิ้นก็มีความเป็นประติมากรรมอยู่แล้ว แล้วฉันก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามอารมณ์ ไม้มีเรื่องราวของมัน และฉันก็พยายามที่จะคิดถึงเรื่องราวนั้นแล้วใส่มันลงไปในมือ แล้วถ่ายทอดลงไปบนไม้ชิ้นนั้นให้ออกมาเป็นสัตว์หรือหน้าของคน” . . . . . . . . . . . . . . . . เธอชอบทะเลและธรรมชาติมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว และเธอก็มีความสุขและดีใจที่ได้แบ่งบันความรักของเธอให้กับคนอื่นๆ ด้วย “ความเป็นเด็กในตัวฉันยังชื่นชอบรูปร่างของไม้ แสงแดดที่สะท้อนจากผืนน้ำ ความราบรื่น หินสีเทาๆ และสาหร่าย ความเรียบง่ายแบบนี้ทำให้ฉันมีความสุขยิ่งกว่าความวุ่นวาย และฉันก็อยากจะแบ่งบันให้กับผู้อื่น” ที่มา boredpanda
-
นี่คือหมู่เกาะ Marshall ที่ถูกทดลองบอมบ์นิวเคลียร์ 67 ครั้ง จนกลายเป็นเขตอันตราย..!!
ถึงจะผ่านมากว่า 60 ปีแล้ว หลังจากการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา ประชากรของประเทศแห่งนี้ก็ยังไม่สามารถกลับไปยังประเทศของตัวเองได้… เพราะค่ากัมมันตรังสียังถือว่าสูงอยู่มาก จากการเก็บข้อมูลและสำรวจของ Columbia University พบว่าค่าที่พบยังสูงอยู่เกือบสองเท่าจากระดับที่มนุษย์สามารถอาศัยอยู่ได้แบบปลอดภัย วันนี้ #จ่าสิบเหมียว จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับหมู่เกาะ Marshall สถานที่ๆ สหรัฐอเมริกาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์กว่า 67 ครั้ง จนกลายเป็นเกาะร้างไม่มีใครสามารถที่จะเข้าไปอยู่ได้… หมู่เกาะ Marshall แห่งมหาสมุทรแปซิฟิก สถานที่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา หมู่เกาะแห่งมหาสมุทรแปซิฟิกแห่งนี้มีประชากรราวๆ 52,000 คนด้วยกัน แน่นอนว่าทั้งหมดที่อาศัยอยู่ในเกาะสถานที่ทดสอบนั้น ถูกย้ายออกก่อนที่เกาะจะกลายเป็นสถานที่ทดสอบอาวุธในช่วงปี 1946-1958 ของสหรัฐอเมริกา ระหว่างช่วงปีนั้นระเบิดปรมาณูกว่า 67 ลูกได้ถูกนำมาทดสอบกันที่นี่ แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดก็คือ ‘Bravo Shot’ ระเบิดปรมาณูที่มีอานุภาพรุนแรงกว่าลูกที่อเมริกาทิ้งใส่ฮิโรชิม่าในสงครามโลกครั้งที่ 2 กว่า 1,000 เท่า!!! ตอนนี้เกาะแห่งนี้ถูกทิ้งร้างเพราะมนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ที่นี่ได้เพราะความเข้มของกัมมันตรังสีที่อาจเรียกได้ว่าเกินกว่าที่จะใช้ชีวิตอยู่หลายเท่าตัว แถมการลดลงของมันก็ยังช้ากว่าที่นักวิทยาศาสตร์เคยคาดการณ์ไว้อย่างมาก Bikini หนึ่งในเกาะของหมู่เกาะ Marshall สถานที่ทดสอบอาวุธนิวเคลียร์กว่า 67 ครั้ง จากการคาดการณ์โดยเหล่านักวิทยาศาสตร์ (Science News) คิดว่าตอนนี้ค่ากัมมันตรังสีจะอยู่ที่ 16 millirems ต่อปี…
-
เกาะหมาน้อย ‘Providenciales’ มีเหล่าเจ้าตูบตัวเล็กให้เล่นเพียบ ถูกใจพากลับบ้านได้อีก!!
อื้อหือออ เรียกได้ว่าเป็นไอเดียที่แจ่มสุดๆ ไปเลย ทั้งได้เที่ยว ทั้งได้เล่นกับน้องหมา แถมรับเลี้ยงได้ด้วยนะจ๊ะ สถานที่นี้เปรียบดั่งสวรรค์ของเหล่าน้องหมาและคนรักหมาเลยก็ว่าได้!!! เกาะนี้ชื่อว่า Providenciales เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะ Turks & Caicos สถานที่แห่งนี้เป็นบ้านของศูนย์ช่วยเหลือน้องหมา Potcake ที่มีน้องหมามากมายให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ไปเล่นไปดูแลกัน หลักๆ แล้วหน้าที่ของพวกเขาก็คือช่วยน้องหมาจากข้างถนนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งและไม่สร้างความเดือดร้อนล่ะ แต่ไฮไลท์ของงานนี้ก็คือเป็นการมอบโอกาสให้กับพวกมันที่จะมีบ้านใหม่ ครอบครัวใหม่ และถูกรับเลี้ยงโดยเหล่านักท่องเที่ยวล่ะ!!! เกาะ Providenciales โดยทีมงานจะไปช่วยเหลือเหล่าลูกหมาที่ถูกทิ้งอยู่ข้างถนน พามาที่นี่ ให้ที่พักอาศัยและอาหารให้กับมัน แน่นอนว่าเหล่านักท่องเที่ยวสามารถมาชมความน่ารักสดใส และเล่นกับมันได้เต็มที่ รับเลี้ยงก็ได้ด้วยนะจ๊ะ อิอิ สำหรับไอเดียนี้พวกเขาก็ทำกันมาตั้งแต่ปี 2005 กันแล้วล่ะ สำหรับตอนนี้ทางศูนย์ก็มีลูกหมาในดูแลราวๆ 50-70 ตัว ที่กำลังรอให้เหล่านักท่องเที่ยวมาถูกชะตาและรับไปเลี้ยงกันอยู่ กิจกรรมน่าสนใจของที่นี่ก็คือ เวลาคุณเข้าไปเที่ยวในศูนย์บนเกาะนี้ล่ะก็ จะต้องเลือกน้องหมา 1 ตัวเพื่อดูแล โดยจะได้รับชุดดูแลน้องหมาและอาหาร หลักๆ แล้วก็เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับทั้งคู่ การทำให้น้องหมารู้สึกดีโดยการเข้าสังคมกับมนุษย์ และเพิ่มโอกาสสร้างความถูกชะตาและรับเลี้ยงในที่สุด หลายๆ คนก็เรียกเกาะนี้ว่าเกาะหมาน้อยล่ะ ซึ่งก็ไม่แปลกเลยล่ะที่จะได้ชื่อนี้ อิอิ…
-
แถวนี้พี่ใหญ่!! พาเที่ยวชายหาดที่มี “ฝูงเจ้าเหมียว” เป็นมาเฟียเจ้าถิ่น บนเกาะซาร์ดิเนีย
ไม่น่าเชื่อว่าเมืองที่มีบ้านแค่ 6 หลัง ไม่มีร้านค้า ไม่มีโรงแรม จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมได้มากขนาดนี้ เพราะนี่คือเกาะซาร์ดิเนียในอิตาลี ที่เต็มไปด้วยมาเฟียแมว แมวที่หาด Su Pallosu นั้นจะเดินเที่ยวเล่นตามชายหาดทราย หรือบางทีมันก็ไปเล่นน้ำทะเลด้วยนะ ถือเป็นสวรรค์ของคนรักแมวจริงๆ ที่นี่มีแมวกว่า 60 ตัว และมีหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งอยู่กันมาหลายสิบปีแล้ว โดยคนที่ดูแลแมวเหล่านี้เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร แมวที่นี่เป็นแมวที่สงบเรียบร้อย เชื่อง เล่นกับนักท่องเที่ยว อีกทั้งเวลาเราไปก็ยังสามารถให้อาหารมันได้ด้วย ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมานั้นก็มีนักท่องเที่ยวนับพันเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ สำหรับคนที่อยากไปนั้นก็ต้องจองล่วงหน้าหลายๆ อาทิตย์หน่อย เพราะว่ารองรับคนได้ไม่เยอะ และคนก็จองกันเยอะมากเช่นกัน . . . . . . . ที่มา dailymail
-
เพื่อแม่ผมทำได้!! ชายคนนี้ ‘แกะสลักหิน’ ด้วยตัวเอง ออกมาเป็น ‘รูปปั้นคุณแม่’ ของเขาเอง!!
งานแกะสลักนั้นไม่ใช่ว่าใครๆ ก็สามารถทำได้ เพราะมันต้องมีการวางแผน อีกทั้งมือเราต้องรู้น้ำหนักอย่างดี ไม่งั้นอาจทำให้งานเสียไปเลยก็ได้ เหมือนอย่างชายคนนี้ เขามีเพียงตัวและเครื่องมือเล็กน้อย เตรียมตัวที่จะแกะสลักหินธรรมดาๆ อันหนึ่งให้ดูมีคุณค่าขึ้นมา ดังนั้นน้ำหนักมือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะถ้าแรงไปอาจทำให้หินแตกแล้วงานเสียได้เลย รูปร่างหน้าตาของหินก่อนแกะสลัก เริ่มลงมือ เป็นรูปเป็นร่างแล้ว การตกแต่งรายละเอียดก็ต้องเปลี่ยนเครื่องมือ เห็นเป็นเค้าโครงแล้ว เป็นหน้าของหญิงคนหนึ่ง เธอคนนั้นก็คือแม่ของเขานั่นเอง ที่มา lifebuzz, Boladinha
-
พาเที่ยวหาดที่เต็มไปด้วย “ลูกสุนัข” มากมาย แถมยังสามารถรับไปเลี้ยงได้อีกด้วย!!
ในทะเลแคริบเบียน มีหมู่เกาะอยู่มากมายที่ล้วนสวยงาม มีหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีคราม เหมาะแก่การออกไปพักผ่อนในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ เป็นสวรรค์ของคนอยากมีผิวสีแทนเลยล่ะ แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าในเกาะ Turks & Caicos จะมีหมาน้อยวิ่งเล่นอยู่ทั่ว ให้คุณสามารถไปเล่นกับมัน รวมถึงจะรับไปเลี้ยงเลยก็ได้นะเพราะที่เกาะมีสถานรับเลี้ยงแห่งหนึ่งชื่อว่า Potcake Place K9 Rescue ดำเนินกิจการโดย Jane Parker-Rauw ที่คอยช่วยเหล่าหมาน้อยพวกนี้อยู่ แต่ที่แห่งนี้ก็ไม่ได้เป็นสถานรับเลี้ยงเพียงแห่งเดียวหมู่บนเกาะนี้นะ เหล่าอาสาสมัครได้ทำการช่วยชีวิตสัตว์ต่างๆ มาตั้งแต่ปี 2005 แล้วก็ทำเรื่อยมาเพื่อให้เหล่าสุนัขได้มีบ้านอยู่อาศัย และเผื่อว่านักท่องเที่ยวที่ผ่านมาเกิดหลงรักตัวไหนก็สามารถมาทำเรื่องขอรับไปเลี้ยงได้เลย สถานรับเลี้ยงแห่งนี้รับดูแลสุนัขได้ประมาณ 50-70 ตัว และในแต่ละปีก็จะมีคนมารับเลี้ยงสุนัขประมาณ 500 ตัว ถือว่าเป็นการพักร้อนที่ดีงามมากๆ เลย นอกจากจะได้เห็นวิวดีๆ แล้ว เรายังได้เล่นกับสุนัขอีก ที่มา boredpanda
-
อัพเดทภาพเกาะกระต่าย “โอกุโนะชิม่า” ดินแดนที่คนรักกระต่ายทั่วโลกต้องไปเยือนซักครั้ง!!
นอกจากเกาะแมว เมืองจิ้งจอกแล้ว ประเทศญี่ปุ่นยังมีอีกเกาะที่เป็นถิ่นที่อยู่ของสัตว์สุดน่ารักอีกชนิด นั่นก็คือเกาะโอกุโนะชิม่าหรือเกาะกระต่าย ที่เหล่าคนรักกระต่ายทั่วโลก ต่างใฝ่ฝันที่จะไปเยือนซักครั้ง หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไมจู่ๆ เกาะนี้ถึงมีกระต่ายอยู่มากมายถึงเพียงนี้ เหตุการณ์เริ่มขึ้นเมื่อช่วงปี 1971 เมื่อมีนักเรียนกลุ่มหนึ่ง นำกระต่ายมาปล่อยไว้ที่เกาะแห่งนี้ระหว่างการทัศนศึกษา หลังจากนั้นไม่นาน กระต่ายกลุ่มนั้นก็ขยายพันธุ์และครอบครองเกาะแห่งนี้ หลายคนอาจสงสัยต่อว่า อ้าวแล้วทำไมกระต่ายถึงแพร่พันธุ์ง่ายจัง ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นหรือมนุษย์อยู่บนเกาะเลยเหรอ เหตุผลก็คือ เกาะโอกุโนะชิม่าแห่งนี้ เคยเป็นฐานลับที่คอยผลิตแก๊สพิษในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองให้กับกองทัพญี่ปุ่น หลังจากที่พวกเขาแพ้สงคราม ฐานทัพบนเกาะก็ถูกทำลาย และผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ก็ต่างย้ายออกไป จนกลายเป็นเกาะร้าง ทำให้เหล่ากระต่ายสามารถแพร่พันธุ์ได้สะดวกโยธิน ไม่มีอะไรมาขัดขวางยังไงล่ะ แต่อย่างไรก็ตาม มีอีกทฤษฏีหนึ่งบอกว่ากระต่ายที่อาศัยอยู่บนเกาะ คือกระต่ายที่ถูกจับมาทดลองในช่วงสงครามโลกนั้นเอง แต่มีรายงานว่า หลังจากที่มีการปิดฐานทัพ เหล่าทหารได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตที่นำมาทดลองทั้งหมดเพื่อทำลายหลักฐาน จึงทำให้เป็นที่ถกเถียงกันว่า ทฤษฎีไหนเป็นเรื่องจริงกันแน่ แต่เรื่องนั้นคงไม่สำคัญเท่าไหร่แล้ว เพราะปัจจุบันบนเกาะแห่งนี้มีกระต่ายอาศัยอยู่กว่า 300 ตัว และสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ปีละกว่า 100,000 คนเลยทีเดียว และยิ่งไปกว่านั้น การที่นักท่องเที่ยวมาบ่อยๆ แบบนี้ ทำให้เหล่ากระต่ายไม่มีอาการตื่นมนุษย์แม้แต่นิดเดียว นักท่องเที่ยวสามารถนำอาหารมาให้ และเล่นกับพวกมันได้อย่างสนุกสนานเลยล่ะ…
-
กำเนิดเกาะใหม่เอี่ยมอ่อง ผุดขึ้นจากแรงระเบิดของภูเขาไฟใต้น่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิกใต้!!
ในตอนที่เรากำลังนอนเล่นชิวๆ อยู่ในบ้านช่วงสุดสัปดาห์ เราอาจจะรู้สึกได้ว่าโลกของเราหยุดนิ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมานานแล้ว แต่ทว่าในความเป็นจริงโลกใบนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เห็นได้ชัดจากสภาพอากาศที่ไม่เหมือนเดิม รวมไปถึงการระเบิดของภูเขาไฟใต้น้ำจนกำเนิดมาเป็นเกาะใหม่เช่นนี้!! สำหรับเรื่องราวเกาะแห่งใหม่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้นี้ ลูกเรือในนาม Maiken กำลังแล่นเรือไปเรื่อยๆ จู่ๆ ก็พบกับสิ่งที่น่าสนใจจากระยะไกล เพราะสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็คือควันจำนวนมหาศาลที่ออกมาจากผิวน้ำ ใช่แล้วล่ะมันก็คือภูเขาไฟที่กำลังดับลงอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเข้าไปใกล้ๆ ลูกเรือก็ได้ทำการหย่อนสมอ พักเรือสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ ก่อน เพราะกระบวนการเกิดเกาะใหม่นี้จะค่อยๆ ดำเนินไปอย่างช้าๆ อีกทั้งยังเป็นภาพที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ เลยนะเนี่ย ควันจำนวนมหาศาลพวยพุ่งออกมาจากภูเขาไฟที่อยู่ใต้น้ำทะเลอย่างช้าๆ เพื่อให้ปลอดภัยต่อชีวิต กลุ่มลูกเรือก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ๆ ทีละนิด จนสามารถสังเกตเห็นยอดภูเขาได้ โอ้วววว นั่นมันโผล่ขึ้นมาเป็นเกาะแล้วแฮะ จนทุกอย่างสงบนิ่งเรียบร้อยดี ได้เวลาออกไปสำรวจเกาะใหม่แล้ว สภาพพื้นผิวบนเกาะ มีลักษณะคล้ายกับชายหาดที่เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟ อีกทั้งผิวน้ำทะเลในบริเวณรอบๆ เกาะก็เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟเช่นกัน ยังคงมีทางน้ำหลงเหลืออยู่ให้เรือสามารถแล่นฝ่าเข้ามาได้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น้อยครั้งจะได้เห็นเต็มๆ ตาแบบนี้ โชคดีที่ตอนลูกเรือไปสำรวจไม่เกิดอะไรให้ตกใจ…
-
ซึ้งใจที่สุด!! ผู้ดูแลแมวบนเกาะญี่ปุ่นทวิตขอสนับสนุนอาหารน้องแมว ได้น้ำใจกลับมาเกินคาด!!
เป็นที่รู้กันแล้วว่าตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนรักและคนหลงแมวเหมียวเป็นอย่างมาก อย่างเกาะแมว Aoshima เกาะขนาดเล็กที่มีประชากรแมวมากกว่ามนุษย์เสียอีกแหนะ โดยเจ้าเหมียวเหล่านี้ก็จะเตร็ดเตร่ไปทั่ว และผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาช่วยกันดูแล แต่ด้วยความห่างไกลของเกาะ Aoshima กับท่าเรือ Nagahama ประมาณ 13.5 กิโลเมตร ประกอบกับบนเกาะไม่มีร้านค้ามากนัก ทำให้อาหารที่เลี้ยงแมวกำลังจะหมดลง ดังนั้นหนึ่งในผู้ดูแลชีวิตเหมียวเหล่านี้จึงได้ทำการโพสต์ผ่านทวิตเตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือเป็นการด่วน กลุ่มผู้อนุรักษ์และดูแลชีวิตแมวบนเกาะ Aoshima ได้ทวิตข้อความว่า ‘ขอความช่วยเหลือสนับสนุนอาหารน้องแมวเป็นการด่วน เนื่องจากตอนนี้อาหารน้องแมวใกล้จะหมดแล้ว เนื่องจากไม่มีร้านค้าขายอาหารแมวบนเกาะเลย อีกทั้งสถาณการณ์เดินเรือเป็นไปอย่างยากลำบากในฤดูหนาว เพราะมีลมแรงมาก’ หลังจากที่มีการทวิตข้อความขอสนับสนุนอาหารแมวออกไปแล้ว ทางกลุ่มผู้ดูแลก็ได้รับอาหารแมวส่งตรงมาช่วยเหลือจากทุกสารทิศของญี่ปุ่นเป็นจำนวนกว่า 40 กล่องเลยทีเดียว!! โดยไปรับมาจากท่าเรือเพื่อนำกลับไปที่เกาะ Aoshima แต่ด้วยจำนวนกล่องอาหารแมวที่ได้รับมานั้นมีจำนวนเยอะมาก เยอะจนล้นห้องเก็บอาหารแมวที่จัดไว้ ผู้ดูแลจึงต้องนำออกมาเก็บไว้ข้างนอกแบบนี้ ถึงขั้นต้องขอร้องเลยว่าได้โปรดหยุดส่งอาหารแมวมาเถอะ เราไม่มีที่จะเก็บแล้วจ้า แต่ก็ยังไม่วาย น้ำใจที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศยังคงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางผู้ดูแลเองก็บอกว่าตอนนี้มีเพียงพอแล้วล่ะ ไม่ต้องส่งมาอีกแล้ว และขอขอบคุณทุกๆ คนที่มอบความช่วยเหลือให้…
-
18 เกาะสุดสวยจากรอบโลก ที่อย่างน้อยก่อนตายชีวิตนี้ต้องไปให้ได้กันสักครั้ง!!!
สำหรับตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นช่วงหน้าหนาว บ้านเราอาจจะไม่ค่อยมีอารมณ์อินกับอะไรแบบนี้เท่าไหร่ แต่แน่นอนอีกไม่นานก็หน้าร้อน และการไปเที่ยวเกาะหรือทะเล ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกยอดนิยมสุดๆ ของนักเดินทาง ซึ่งวันนี้เหมียวก็ได้นำ 18 เกาะน่าเที่ยวจากรอบโลก มาให้เพื่อนๆ ได้ชม ได้เลือก ได้วางแผนการเดินทางกัน ลองมาดูกันเลยว่าถูกใจที่ไหนกันบ้างรึเปล่า 1. Palawan, Philippines สดๆ ร้อนๆ เลย ที่ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 1 ในลิสต์ของทาง Condé Nast Traveler แค่นี้ก็การันตีความแซ่บได้แล้วล่ะ 2. Capri, Italy ตั้งอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อุดมไปด้วยอาหารอิตาเลียนแสนอร่อย นี่คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเลื่องชื่อแห่งแถบนี้เลยล่ะ 3. San Blas Islands, Panama ห่างจากชายฝั่งประเทศปานามาเพียงแค่ไม่กี่อึดใจ ประกอบไปด้วยเกาะถึง 378 เกาะด้วยกัน แถมส่วนมากไม่มีผู้อยู่อาศัยด้วยล่ะ ใครอยากได้บรรยากาศแบบโดนปล่อยเกาะแบบสโลว์ไลฟ์ล่ะก็ได้สมใจอยากล่ะ 4. Moskenesøya, Norway ถึงอาจจะดูหนาวหน่อยแต่แค่บรรยากาศก็กินขาดแล้วววว แถมมีโอกาสได้ชมแสงเหนือกันด้วยนะจ๊ะ…
-
ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียบอกเล่าประสบการณ์เสี่ยงตาย ว่ายน้ำข้ามทะเลกว่าเจ็ดชั่วโมงเพื่อเริ่มชีวิตใหม่
เราต่างก็ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับความยากลำบากของชาวซีเรียที่สูญเสียทุกอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง รวมไปถึงชีวิต ซึ่งชาวซีเรียก็ได้กลายมาเป็นผู้ลี้ภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากสาเหตุของสงครามกลางเมืองอันวุ่นวาย ทำให้บ้านที่เคยอยู่กลายเป็นแดนสงคราม สงครามกลางเมืองในซีเรีย ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียต่างรู้ดีว่าชะตาชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย หากยืดหยัดอยู่ในซีเรียก็คงมีค่าไม่ต่างไปจากการรอความตาย เพราะฉะนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะทิ้งดินแดนเดิมของตนและลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางที่เฝ้าฝันเอาไว้ Ameer Mehtr ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่ว่ายน้ำข้ามทะเลจากตุรกีไปยังกรีซ แต่สำหรับ Ameer Mehtr ผู้ลี้ภัยที่เสี่ยงตายเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน จากการตัดสินใจวิ่งหนีสุดชีวิตไม่คิดหันหลังกลับ พึ่งพาร่างกายของตนเองเพื่อตามหาชีวิตใหม่ เนื่องจากเขาไม่มีเงินเพียงพอที่จะว่าจ้างคนพาข้ามประเทศได้ เขาได้รับการฝึกฝนการว่ายน้ำมาจากทีมชาติซีเรีย และด้วยการฝึกฝนที่ได้รับมาเขาจึงวางแผนที่จะว่ายน้ำข้ามทะเลเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยุโรป ข้ามฝั่งจากประเทศตุรกีผ่านทะเลอีเจียนไปยังเกาะ Samos ประเทศกรีซ ก่อนที่จะว่ายน้ำข้ามทะเลด้วยระยะทางเพียงแค่ 4 ไมล์ (6.4 กิโลเมตร) นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาต้องเตรียมความพร้อมให้ร่างกายเสียก่อน ด้วยการฝึกว่ายน้ำในทะเลริมชายฝั่งในเมืองเบรุต ประเทศเลบานอน ซึ่งก็ได้ลี้ภัยมาอยู่ที่นี่ได้ซักระยะแล้ว ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเดินทางข้ามละเทด้วยเรือยาง หลังจากนั้นในเดือนกันยายน เขารู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายและจิตใจพร้อมที่จะไปแล้ว ก็ได้ทำการศึกษาแผนที่อย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะค้นหาเส้นทางที่สั้นที่สุด จนกระทั่งถึงคืนที่ต้องไป เขาก็ได้ลักลอบเข้าเมือง Güzelçamlı ของประเทศตุรกี วิ่งหนีอย่างสุดชีวิตเพื่อหลบหนีการจับกุมของตำรวจตุรกี…
-
ชี้เป้า 11 เกาะแมวแห่งประเทศญี่ปุ่น ถ้าคุณอยากเจอแมว แม๊ว แมว ก็เก็บกระเป๋าไปเลย!!
อาการของทาสแมวที่มักจะเรียกร้องความสนใจจากเจ้านายผู้ไม่สนโลก วันๆ ก็เอาแต่นอนอย่างเดียว พอตื่นก็หิว กินอิ่มก็นอนต่อ ฮ่าฮ่า!! ไม่ใช่อะไรหรอก หากว่าคุณเป็นหนึ่งในทาสแมวที่ชีวิตนี้ได้ถวายทั้งกายและใจให้แมวไปแล้ว หากมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งนั่นก็คือ ‘เกาะแมว’ ประเทศญี่ปุ่นนอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม วัฒนธรรม ประเพณี และเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นแล้ว ก็ยังมีเกาะที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าแมวนี่แหละ นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลย ว่าแล้วก็ขอแนะนำ 11 เกาะแมว ที่ควรไปเที่ยวซักครั้ง รับรองว่าทาสแมวต้องฟินแน่นอน!! 1. Enoshima, จังหวัด Kanagawa สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุด : Katase Enoshima แถมที่นี่ยังมีศาลเจ้าสวยๆ และชายหาดที่เหมาะแก่การปาร์ตี้มากๆ แนะนำให้มาในช่วงฤดูร้อนกันนะจ๊ะ 2. Okishima, จังหวัด Shiga ท่าเรือที่ใกล้ที่สุด : Horikiri เกาะนี้ไม่ได้อยู่ในทะเลสาบ Biwa ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นล่ะ 3. Sanagishima, จังหวัด Kagawa ท่าเรือที่ใกล้ที่สุด :…
-
รวม 10 สุดยอดสถานที่ทางธรรมชาติ ที่ยังไม่มีอารยธรรมท่องเที่ยวของมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยว!!
มนุษย์เลือกใช้วิถีชีวิตท่ามกลางเจริญแต่ก็ขาดธรรมชาติไปไม่ได้เช่นกัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาณาเขตความเจริญของเมืองและหมู่บ้านก็ได้ขยายออกไปเรื่อยๆ ทำให้สภาพธรรรมชาติรอบๆ จางหายไป และในไม่ช้าก็จะกลายเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์ เมื่อกล่าวถึงธรรมชาติ มนุษย์ก็ยังคงค้นหาสถานที่ที่ยังคงเป็นธรรมชาติแบบ 100% อยู่ แต่ทว่ามันจะมาพร้อมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยิ่งที่ไหนฮิตติดลมบน นักท่องเที่ยวก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเป็นจำนวนมาก ทำให้บริเวณนั้นค่อยๆ เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ถ้าหากว่าดูแลไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังคงมีสถานที่ทางธรรมชาติที่ยังคงเป็นตัวตนของตัวเอง มีความสวยงามและอลังการทุกอณู เนื่องจากยังไม่มีอุตสหกรรมท่องเที่ยวเข้าไปตั้งรกราก อีกทั้งอยู่ห่างไกลจากความเจริญของมนุษย์ และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก 1. The Forest Lake อยู่ในเขต Tyumen ประเทศรัสเซีย 2. Tepui หุบเขาสูงเสียดฟ้า ประเทศเวเนซุเอลา 3. น้ำตก Honokohau เกาะเมาวี รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา 4. ป่าฝน Amazon บริเวณพื้นที่อเมริกาใต้ (บราซิล, เปรู, โคลอมเบีย, เวเนซุเอลา,…
-
น่ารักจัง!! เจ้าตูบให้ลิงน้อยเกาะหลัง แถมยังพาเดินเล่นไปทั่ว ทำเอาคนที่ได้เห็นถึงกับยิ้มแก้มปริ
นี่คือคลิปวีดีโอแสนน่ารักของคู่ซี้ต่างสายพันธุ์ระหว่างลิงกับหมา ที่กำลังสร้างรอยยิ้มให้กับคนที่ได้เห็น โดยในคลิปเราจะเห็นหมาตัวหนึ่งกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ริมถนน ซึ่งดูๆ ไปมันก็คือหมาธรรมดาๆ ทั่วไป ที่ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด แต่…เพื่อนๆ ลองดูที่หลังของมันสิ มีตัวอะไรเกาะอยู่น้า ใช่แล้ว…ตัวที่เกาะอยู่บนหลังของมัน ก็คือเจ้าลิงเพื่อนรักของมันนั่นเอง ดูสิดู เจ้าลิงเกาะหลังซะแน่นเลยน้า กลัวตกหรือเปล่าเนี่ย ว่าแต่…พวกเอ็งกำลังจะไปไหนกันหรอ อิอิ!! ชมคลิปของพวกมันกันเลย เรียกได้ว่าความน่ารักของเพื่อนรักต่างสายพันธุ์ระหว่างเจ้าหมา กับเจ้าลิงน้อยคู่นี้ ดูเหมือนจะทำให้คนทั่วทั้งโลกยิ้ม และมีความสุขไปตามๆ กันเลยนะเนี่ย หากใครที่อยากให้เพื่อนของคุณได้ยิ้มตามบ้าง ก็รีบแชร์เลย ที่มา : dailymail
-
เผยภาพ “เกาะแห่งใหม่” ที่ผุดขึ้นมาบนโลก ร่วมออกผจญภัยไปกับนักสำรวจกลุ่มแรกกันเถอะ!!
โลกของเราช่างกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน ยังคงมีสิ่งใหม่ๆ ที่รอให้เข้าไปสำรวจอีกเพียบเลยล่ะ อย่างเช่นเกาะแห่งใหม่ที่เพิ่งผุดขึ้นมาเหนือพื้นผิวน้ำ ห่างจากเมืองนูกูอะโลฟา ของประเทศตองกาเพียงแค่ 45 กิโลเมตรเท่านั้นเอง!! สำหรับเกาะแห่งใหม่นี้เกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟ Hunga Tonga ในช่วงเดือนธันวาคมของปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์เอาไว้ว่าเกาะแห่งนี้จะอยู่ได้ไม่นาน เนื่องจากภูเขาไฟดังกล่าวยังไม่สงบและพร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ ด้วยความสงสัยของนักสำรวจ จึงออกเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ สัมผัสกับพื้นผิวของเกาะและพบกับถ้ำเป็นจำนวน 10 ถ้ำ ประชาชนในพื้นที่ก็หวังว่าจะกลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในไม่ช้า กลุ่มนักสำรวจกลุ่มแรก เดินทางมายังเกาะแห่งนี้ในช่วงเดือนมกราคมของปีค.ศ. 2015 จนถึงปัจจุบัน พื้นที่เกาะที่มีความยาวกว่า 500 เมตรยังรอให้สำรวจอีกมากเลยล่ะ ภาพบางส่วนบนเกาะจะเป็นอย่างไร เชิญรับชมได้เลยจ้า ที่มา : mashable
-
หมู่บ้านเล็กๆ ใน Sicily บรรยากาศดีไม่พอ ใจดีแจกบ้านให้อยู่ฟรีอีกต่างหาก!!
หมู่บ้านเล็กๆ ในแคว้นปกครองตนเองแห่ง Sicily ประเทศอิตาลีเป็นเกาะที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ และเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย มีผู้คนอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้โดยมีชื่อหมู่บ้านว่า Gangi รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม บรรยากาศแบบนี้เหมือนกับในฝันเลยล่ะ!! แต่เนื่องจากประชากรที่อยู่ในหมู่บ้าน Gangi นั้นกลับมีจำนวนลดลงและมีทีท่าว่าจะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ จากที่เคยมีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 16,000 คน ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงแค่ 7,000 คน เท่านั้นเอง ด้วยเหตุผลทางด้านธุรกิจ ที่ไม่มีการลงทุนอะไรมากมายในหมู่บ้านแห่งนี้ จึงทำให้เศรษฐกิจของหมู่บ้านซบเซา ผู้คนเริ่มอยู่ไม่ได้จึงทำการย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแทน บ้านหลายหลังถูกทิ้งให้กลายเป็นบ้านที่ว่างเปล่า ไร้ผู้คนอาศัยอยู่ เหล่าผู้แทนของหมู่บ้านเล็งเห็นถึงปัญหานี้ ถ้าหากว่าปล่อยให้ผู้คนทิ้งบ้านเรือนไปเรื่อยๆ หมู่บ้านแห่งนี้ก็คงจะร้างภายในไม่กี่ปีอย่างแน่นอน ก็เลยออกประกาศแจกบ้านให้ฟรีๆ สำหรับบุคคลที่สนใจ ไม่ว่าจะเป็นการนำบ้านไปเปลี่ยนเป็นธุรกิจโรงแรม หรือเพื่ออยู่อาศัยก็ได้ทั้งนั้น แต่ก็ใช่ว่าจะได้มาแบบฟรีๆ โดยที่ไม่มีเงื่อนไขอะไรเลยนะ อย่างแรกเลยก็คือผู้ที่ขอรับบ้านฟรีนั้นจะต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียว!! อย่างที่สองก็คือผู้ที่ขอรับบ้านฟรีจะต้องนำเสนอแบบแผนหรือโครงการปรับปรุงสถานที่นั้นภายใน 1 ปีหลังจากการซื้อบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ หลังจากที่นำเสนอโครงการหรือแบบแผนการปรับปรุงสถานที่แล้ว จะต้องดำเนินการปรับปรุงให้เสร็จสมบูรณ์ภายในระยะเวลา 3 ปี…
-
เยี่ยมชม “เกาะค๊อกคอม” น้ำสวยทะใส เหมือนดั่งหัวใจของมรกต ประทับใจไม่ลืมเลือน!!
ในตอนนี้กำลังเป็นกระแสที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางกับแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ประเทศเพื่อนบ้านของเรานี่เอง อยู่ที่ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งได้ทำการเปิดแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในนาม “เกาะค๊อกคอม” (Cock-Comb Island) มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายกับหัวใจ จนได้รับชื่อไทยว่า “เกาะหัวใจมรกต” ทะเลแถบนี้เป็นพื้นที่ที่มีปะการังอุดมสมบรูณ์มากๆ เหมาะแก่การดำน้ำดูปะการังเป็นอย่างยิ่ง น้ำทะเลก็ใสสะอาด มองเห็นพื้นทะเลได้อย่างชัดเจน รับรองความสวยงามที่จะทำให้คุณต้องประทับใจอย่างแน่นอน!! สำหรับการเดินทางไปยังเกาะค๊อกคอมนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะเนื่องจากบริเวณที่ตั้งของเกาะค๊อกคอมนั้นอยู่ติดกับทะเลระนอง สามารถซื้อทัวร์เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมความสวยงามกันได้ไม่ยากนัก เมื่อไปถึงแล้วก็จะได้ลอดใต้ปากถ้ำเข้าไปสู่หัวใจมรกต และสัมผัสกับโลกใต้ทะเลอย่างใกล้ชิด เหมียวว่าถ้าเหมียวมีเวลาว่างซักหนึ่งสัปดาห์ก็ว่าจะไปเยี่ยมชมทะเลสวยๆ แบบนี้บ้าง คงจะน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยล่ะ ไม่น่าเชื่อเลยแฮะว่าอยู่ใกล้ๆ ประเทศไทยเรานี่เอง ที่มา : ระนอง-Ranong