Tag: เคล็ดลับสุขภาพดี
-
8 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีสุขภาพที่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่คิดแบบเดียวกันก็ตาม
“สุขภาพดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง” ประโยคนี้ยังคงเป็นความจริงเสมอมา เพราะถึงเราจะมีเงินจำนวนมากมายมหาศาลแต่ถ้าเราไม่รู้จักออกกำลังกายหรือคุมอาหาร ร่างกายเราก็ไม่มีทางที่จะมีสุขภาพดีได้ ซึ่งก็คงมีคำถามว่าทำยังไงถึงจะสุขภาพดีล่ะ หลายๆ คนคงคิดว่าอกกำลังกายมากๆ คุมอาหารให้เคร่งครัดนั่นก็เพียงพอต่อสุขภาพดีแล้ว แต่การทำอะไรที่มากเกินไปมันก็มีผลเสียเหมือนกันและบางสัญญาณที่คุณไม่คาดคิดว่าจะสุขภาพดีกลับเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพดี และนี่ก็คือ 8 สัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดี ถึงแม้ว่าคุณจะไม่คาดว่ามันจะดีก็เถอะ ไปชมกันเลยครับ 1. คุณจะกินแค่เวลาที่คุณหิวและจะไม่กินมากเกินไป หากคุณมีอาการกินอาหารมากกว่าที่ตั้งใจไว้และไม่เคยรู้สึกพอเมื่อกินอาหารเสร็จหรือกินอาหารเพื่อแก้เบื่อ นั่นแสดงว่าคุณกำลังมีอาการที่เสพติดอาหาร เพื่อสุขภาพที่ดีคุณจะต้องพยายามปรับพฤติกรรมการกินของตัวเองให้ได้ 2. อาหารที่คุณกินเป็นอาหารที่ดี เวลานึกถึงอาหารเพื่อสุขภาพ หลายๆ คนมักจะนึกถึงแต่อกไก่กับข้าวสวย แต่ในทางกลับกันคุณควรจะกินอาหารให้ที่สุขภาพดีให้หลากหลายกว่านี้ และการงดของหวานมากเกินไปจะเป็นผลเสียต่อคุณด้วย 3. คุณจะกินให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ มนุษย์แต่ละคนย่อมมีความอยากอาหารไม่เหมือนกันและมันก็ไม่มีสูตรตายตัวในการคำนวณแคลอรี่ที่คุณสมควรรับในแต่ละวัน คุณอาจจะสามารถกินได้น้อยหรืออาจจะมากกว่าคนทั่วไป แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องฟังว่าร่างกายคุณต้องการอะไร และต้องการขนาดไหน 4. คุณสามารถขึ้นบันไดแล้วไม่หอบได้ นี่เป็นตัววัดว่าร่างกายของคุณมีสุขภาพดี คุณไม่ต้องมีความแข็งแกร่งที่สุดยอดหรือต้องออกกำลังกายบ่อยๆ ก็สามารถสุขภาพดีได้ และหากคุณไม่รู้สึกว่าจะตายเวลาที่ขึ้นบันไดล่ะก็นั่นแสดงว่าคุณมีสุขภาพที่โอเค 5. คุณมีอารมณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่โศกเศร้าไปถึงตื่นเต้นดีใจ นี่ไม่ใช่อาการไบโพลาร์แต่อย่างใด นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการศึกษาแล้ว่วา “โกรธเป็นบางช่วงถือว่าปกติ มีความเศร้าก็ปกติ รู้สึกรำคาญก็ปกติและรู้สึกหดหู่ก็เป็นเรื่องปกติ อารมณ์เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสุขภาพจิตที่ดีและคุณควรจะตระหนักได้แล้วว่าไม่มีอารมณ์ใดๆ หรอกที่มันคงที่ตลอดเวลา” …
-
เหตุผลที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคอ้วน อาจเริ่มง่ายๆ จาก “อาหารการกิน”!?
ถ้าใครเคยได้ไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เคยสังเกตกันไหมว่ามีแต่คนหุ่นดีเต็มไปหมด ไม่ค่อยได้พบเห็นคนอ้วนเลย แต่ในประเทศสหรัฐอเมริกา กลับตรงกันข้าม จากการสำรวจพบว่าอัตราเฉลี่ยของคนวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคอ้วนในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นสูงถึง 30% ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นมีเพียง 3.5% เท่านั้น . อาหารการกินของคนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความแตกต่างจากของอเมริกามาก จำนวนร้านอาหารจานด่วนในประเทศญี่ปุ่นนั้นมีน้อยกว่าถึง 15 เท่า จึงทำให้คนชาวญี่ปุ่นเลือกที่จะกินอาหารอย่างอื่นที่หลากหลายกันมากกว่า แม้ว่าจะมีร้านอาหารจานด่วนอยู่บ้าง ก็ยังมีร้านข้าวสำหรับคนวัยทำงานที่มีเมนูง่ายๆ อย่างข้าวหน้าเนื้อ ซุปมิโสะ และอีกหลายเมนูที่ให้สารอาหารอย่างครบถ้วน มีราคาประหยัดและสะดวกรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งในร้านสะดวกซื้อของประเทศญี่ปุ่นก็มีอาหารที่ดีต่อสุขภาพและราคาถูกให้เลือกมากมาย เช่น ข้าวปั้น สลัด หรือซุป เปรียบเทียบกับร้านสะดวกซื้อของอเมริกาในราคาเดียวกัน จะเลือกซื้อได้เพียงไม่กี่อย่าง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นของทอดที่เต็มไปด้วยไขมัน ของหวาน และของที่ไม่ดีต่อสุขภาพอีกมากมาย นอกจากนั้นร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่นมีอยู่แทบจะทุกที่ มีจำนวนกว่า 55,000 ร้าน ซึ่งหมายความว่ามีจำนวนร้านสะดวกซื้อต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตรมากกว่า 10 เท่าเมื่อเทียบกับอเมริกา ถ้าหากคุณเพิ่งเลิกงาน คุณสามารถเลือกว่าจะเข้าร้านเบอร์เกอร์คิง หรือเลือกที่จะเข้าร้านซูชิข้างๆ หรือแม้กระทั่งร้านข้าวหน้าเนื้อที่มาพร้อมกับซุปเต้าหู้ หัวหอมและผักกาด ซึ่งความหลากหลายนี้จะทำให้ง่ายต่อการกินอาหารที่สุขภาพดีกว่า เนื่องจากคุณจะไม่ต้องทนเบื่อกินอาหารแบบเดิมในร้านเดิมๆ ทุกวัน…
-
เคล็ดลับอายุยืน!! คุณยายวัย 70 เผยว่าที่สุขภาพดีทุกวันนี้เพราะดูดปุ๊นมาเป็นเวลากว่า 50 ปี
สำหรับผู้เฒ่าผู้แก่หลายคน ก็เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะต้องมีโรคภัยไข้เจ็บมาข้องแวะเยี่ยมเยียนอยู่เสมอๆ เนื่องจากความอายุเยอะและอวัยวะที่เริ่มเสื่อมไปตามกาลเวลา ซึ่งบางครั้งโรคภัยต่างๆ ก็เล่นงานซะจนต้องกินยาเป็นกำมือ ทว่ามีหญิงวัย 70 ปีคนหนึ่งได้ออกมาบอกว่า ทุกวันนี้เธอไม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะแม้แต่เม็ดเดียว เพราะว่าเธอมีร่างกายที่ค่อนข้างแข็งแรง ซึ่งเป็นผลมาจากการสูบกัญชาติดต่อกันมากว่า 50 ปี!! ปลูกไว้ในบ้านเลยละกัน เรื่องราวสุดมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นกับ Carol Francey คุณยายวัย 70 ปีจากเมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา โดยเธอเผยว่าเธอได้ขว้างยาแผนปัจจุบันทิ้งลงถังขยะไปหมดแล้ว พร้อมทั้งยืนยันด้วยว่ากัญชาสามารถทำให้เธอแข็งแรงขึ้น พร้อมทั้งยังรักษาโรคต่างๆ ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ได้อีกด้วย สำหรับคุณยายคนนี้ในอดีตเธอเคยเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านยาเสพติด แต่ในปัจจุบันเธอได้กลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ในการรณรงค์ให้กัญชากลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในประเทศแคนาดาให้ได้ ร่วมรณรงค์ให้กัญชาถูกกฎหมาย “เราควรช่วยให้คนแก่หลายคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้ กัญชาสามารถช่วยลดความวิตกกังวลต่างๆ ในชีวิตประจำวันได้แล้วมันยังทำให้ใจเย็นขึ้นด้วย” Carol กล่าว ทั้งนี้ทั้งนั้นประเทศแคนาดา ก็มีแผนที่จะให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายในเดือนกรกฎาคมปี 2018 ที่กำลังจะมาถึงนี้ อีกทั้งปัจจุบันในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีถึง 29 รัฐที่ยอมรับกัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายแล้ว โดยก่อนหน้านี้มีการศึกษาเรื่องของกัญชาก็พบว่า กัญชาไม่มีผลต่อระดับสติปัญญา (IQ) ของเด็กวัยรุ่น แถมยังสามารถช่วยในเรื่องจิตใจของผู้ป่วยโรคเอดส์ได้ด้วย แต่อย่างไรก็ตามการศึกษายังเผยอีกว่า กัญชาสามารถเพิ่มโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคไบโพล่าร์ อาการทางจิต และความดันเลือดสูงได้เช่นเดียวกัน ปุ๊นกับยายไหมหลาน สำหรับในตอนนี้เธอกล่าวเอาไว้ว่า เธอได้ปลูกกัญชาสายพันธุ์ต่างๆ…