Tag: เงิน
-
ยูทูบเบอร์สาวชาวญี่ปุ่นคนนี้ ทุ่มเงินกว่า 200 ล้านเยน ศัลยกรรมตัวเองเป็น “ตุ๊กตาบลายธ์”
เชื่อว่าหลายคนจะต้องมีตัวละครที่ชอบเป็นแน่ สำหรับบางคนแล้วการชื่นชอบตัวละครตัวใดตัวหนึ่งก็อาจส่งผลถึงขั้นที่ว่าทำให้พวกเขาอยากจะมี “รูปลักษณ์” เหมือนกับตัวละครตัวนั้นเลยทีเดียว อาจจะเห็นกันมาบ้างแล้วสำหรับผู้ที่ยอมทุ่มเงิน ศัลยกรรม เป็นตัวละครหรือบุคคลที่พวกเขาคลั่งไคล้ เช่น ดารา ตัวละครจากหนัง หรือตุ๊กตาบาร์บี้ เป็นต้น ไม่ต่างอะไรกับยูทูบเบอร์สาวชาวญี่ปุ่นคนนี้ ที่ยอมทุ่มเงินกว่า 200 ล้านเยน เพื่อศัลยกรรมตัวเองให้มีรูปลักษณ์เหมือนกับ ตุ๊กตาบลายธ์ ยูทูบเบอร์สาวคนนี้มีชื่อในวงการว่า Vanilla “วานิลลา” เธอเล่าว่าสมัยเด็กๆ เธอเคยถูกรังแกถูกล้อจากเพื่อนๆ ว่าหน้าตาน่าเกลียด พอเธอกลับจากโรงเรียน พ่อของเธอก็ไม่ได้เป็นที่พึ่งให้เธอสักเท่าไหร่ ซ้ำยังบอกว่า “ก็ใครล่ะที่น่าเกลียด อดทนให้ได้สิ” ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เธอฝังใจมาตลอด จนกระทั่งตัดสินใจทุ่มเงินนับล้านเยนในการศัลยกรรมตนเองให้เป็นตัวละครต้นแบบที่เธอชื่นชอบ โดยเธอบอกว่ามันไม่ใช่แค่ครั้งเดียว เธอเข้ารับการทำศัลยกรรมมาแล้วกว่า 100 ครั้ง!! . Vanilla ใช้จ่ายค่าศัลยกรรมไปแล้วรวมๆ 200 ล้านเยน (ราว 59 ล้านบาทไทย) เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นตุ๊กตาบลายธ์ ซึ่งเธอออกมาเผยว่า เธอนั้นไม่สามารถออกกำลังกายหนักๆ ได้ แช่อ่างอาบน้ำก็ไม่ได้ แถมผลข้างเคียงของการศัลยกรรมหน้าผากยังทำให้เธอปวดหัวอยู่บ่อยๆ จนเธอต้องพกยาแก้ปวดติดตัวไว้ตลอดเวลา …
-
เศรษฐีบิตคอยน์โปรยเงินให้ชาวเมือง ยืนยันอยาก “ช่วยคนจน” ไม่เชื่อแจ้งความได้เลย!
ชายชาวฮ่องกงที่เรียกตนเองว่า “พระเจ้า” เพราะอ้างว่าได้ขโมยเงินคนรวยมาแจกจ่ายให้กับคนจนในเมือง ถูกจับกุมตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม 2018 หลังจากโปรยเงินลงมาจากที่สูง Wong Ching-kit ชายชาวฮ่องกงผู้เป็นเซียน บิตคอยน์ (สกุลเงินดิจิทัล) ได้ทำเงินอย่างมหาศาลจากการลงทุนซื้อขายสกุลเงินบิตคอยน์บนอินเทอร์เน็ต คลิปวิดีโอการโปรยเงินของ Wong Ching-kit Wong เล่าว่าในการลงทุนด้วยเงินเริ่มต้นที่ 300,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 1.3 ล้านบาท) ทำให้เขาได้กำไรมามากมายเกือบ 4 เท่าของเงินทุน โดยในคลิปวิดีโอ Wong ได้โปรยธนบัตรมูลค่า 100 ดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 400 บาทไทย) จำนวนนับไม่ถ้วนให้ปลิวว่อนอยู่เหนือถนนในย่าน Sham Shui Po ของเมืองหนึ่งของฮ่องกง ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมากรูกันเข้ามาเก็บธนบัตรเหล่านี้กันอย่างจ้าละหวั่น . Wong ได้โปรยเงินลงมาในวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม และถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวในวันที่ 16 ธันวาคม ในข้อหา “สร้างความวุ่นวาย” ให้กับชาวเมือง ไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าจำนวนเงินทั้งหมดที่ Wong…
-
ตำรวจจับชายญี่ปุ่น “หั่นศพ” แม่ตนเองทิ้งทั่วเมือง สารภาพไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่ไม่มีเงินทำศพ
เมื่อเร็วๆ ที่ผ่านมานี้ได้เกิดเหตุการณ์น่าขนลุกขึ้นในประเทศญี่ปุ่น เมื่อชาวเมืองในอำเภอโออามิชาราซาโตะ จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่นพบเจอ ร่างศพที่ถูกหั่น กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วเมือง และในวันนี้ (26 พฤศจิกายน) หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนถึงเหตุดังกล่าว ก็พบว่า ชายวัย 37 ปี เป็นคนก่อเรื่องนี้ทั้งหมด เขาได้ “หั่นศพ” แม่ของตนเองแล้วนำชิ้นส่วนร่างกายไปทิ้งไว้ยังสถานที่ต่างๆ ทั่วอำเภอ ผู้ต้องหา (มีผ้าคลุมศีรษะ) . เบื้องต้นเจ้าตัวสารภาพว่า เป็นคนทำเรื่องดังกล่าวทั้งหมด แต่ไม่ได้เป็นฆาตกร เขากล่าวว่าตื่นเช้าขึ้นมาพบว่าแม่ของตนนั้นเสียชีวิตอยู่แล้ว แต่เขา “ไม่มีเงิน” มากพอจะทำศพ ก็เลยยต้องตัดสินใจหั่นแล้วนำไปทิ้ง ถึงจุดนี้ ทำให้เราต้องฉุกคิดเรื่องค่าครองชีพในประเทศญี่ปุ่นที่สูงลิบ แม้กระทั่งผู้ที่ล่วงลับไปแล้วก็ยังต้องใช้เงินจำนวนมากในการทำพิธีส่งวิญญาณตามความเชื่อ ทั้งนี้ไม่อาจสรุปได้ว่าคำพูดของผู้ต้องหารายนี้เป็นจริงหรือไม่จริง เพียงแต่มันทำให้เกิดคำถามตามมว่า ค่าใช้จ่ายสำหรับงานศพในญี่ปุ่นนั้นแพงขนาดที่ทำให้คนๆ หนึ่งยอมกลายเป็นฆาตกรหั่นศพเชียวหรือ? บางแหล่งข้อมูลระบุว่าค่าใช้จ่ายสำหรับการทำพิธีศพของญี่ปุ่นนั้นอยู่ที่ราวๆ 1-3 ล้านเยน หากคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 300,000-900,000 บาท . อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนหาสาเหตุการตายที่แท้จริงของมารดาผู้ต้องหา และไม่ว่าคำให้การของผู้ต้องหาจะเป็นจริงหรือไม่ เรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นเหตุการณ์น่าสลดใจเรื่องหนึ่งอย่างปฏิเสธไม่ได้ …
-
หนุ่มจีน “แกล้งตาย” หวังเอาเงินประกัน ภรรยาเชื่อสนิทใจ ฆ่าตัวตายตามพร้อมลูกๆ …
กลายเป็นโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าเมื่อชายชาวจีนคนหนึ่งได้ “แสร้งว่าเสียชีวิต” เพื่อให้ได้รับเงินประกัน แต่ผลสุดท้ายกลับกลายเป็นว่ามันทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่เขารักไป ชายชาวจีนวัย 34 ปีนามว่า He ได้แสร้งว่าเสียชีวิตเพื่อรับเงินประกันแต่กลับไม่ได้บอกแผนการครั้งนี้ให้คนในครอบครัวได้ทราบ มีรายงานว่า He ได้ยืมรถยนต์คันหนึ่งมาเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2018 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พบว่ารถที่ He ยืมมานั้นได้พุ่งตรงลงไปยังแม่น้ำในเขตปกครองซินหัว แต่หลังจากทำการค้นหาในแม่น้ำในบริเวณที่เกิดเหตุก็ไม่มีใครพบร่างของ He เลยแม้แต่คนเดียว ชมคลิปข่าว สุดท้าย Dai ภรรยาวัย 31 ปีของ He กลับเชื่ออย่างหมดใจว่าสามีของตนได้ตายไปแล้ว ด้วยความโศกเศร้าเธอจึงตัดสินใจโยนลูกชายวัย 4 ขวบและลูกสาววัย 3 ขวบลงบ่อน้ำ ก่อนจะกระโดดน้ำ ฆ่าตัวตาย แต่ก่อนที่ Dai จะลงมือปลิดชีวิตของตนเองและลูกๆ ลง เธอได้เขียนข้อความเอาไว้ใน WeChat เธอเล่าว่าครอบครัวของ He นั้นมักมองว่าเธอเป็นหญิงที่ “ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย” อีกทั้งฝ่ายญาติของ…
-
เศรษฐีมาเลฯ “ทำร้ายร่างกาย” พนักงานลานจอดรถ ยืนยันจะไม่ยอมจ่ายค่าจอด 24 บาท…
นักธุรกิจชาวมาเลเซียคนหนึ่งกำลังถูกสอบสวนหลังพบหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอที่เขาได้ทำร้ายพนักงานลานจอดรถทั้งทางวาจาและร่างกาย โดยมีเหตุมาจากเงินจำนวน 3 ริงกิตมาเลเซีย (ประมาณ 24 บาท) ตามรายงาน ทราบว่าเหตุเกิดในลานจอดรถของโรงแรมห้าดาวแห่งหนึ่งในกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2018 ภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่า นักธุรกิจชายสูงวัยเดินเข้ามายังห้องทำงานของพนักงานดูแลลานจอดรถ และกระทำความรุนแรง ขว้างปาวิทยุสื่อสารใส่พนักงานคนดังกล่าว จากนั้นนักธุรกิจก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน พร้อมทำท่าทางจะทำร้ายร่างกาย จากนั้นเขาก็ผลักเก้าอี้ก่อนที่จะชกพนักงานคนดังกล่าวหลายครั้ง ชมคลิปวิดีโอ วิดีโอถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก Balamuraly Doraisamy เมื่อวันอังคารที่ 9 ตุลาคม 2018 ซึ่งอัปโหลดพร้อมกับภาพรถของนักธุรกิจดังกล่าว “พนักงานจำเป็นต้องดำเนินการกับชายคนนี้เพราะชายคนนี้คิดว่าตัวเองนั้นเป็นท่านขุนที่เหนือกว่าคนอื่นๆ ที่จะทำอะไรกับใครก็ได้ ผมคิดว่าเรื่องนี้ถูกรายงานกับตำรวจเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ อย่างไรก็ตามช่วยแชร์คลิปนี้ต่อๆ กันจนกว่าชายคนนี้จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย” ภายหลังทราบมาว่านักธุรกิจวัยกลางคนผู้นี้ เกิดอารมณ์เสียหลังพนักงานลานจอดรถวัย 31 ปี ไม่ยอมเปิด “ไม้กั้น” ทางออกให้กับเขา เนื่องจากเขาไม่ยอมจ่ายค่าจอดรถเป็นจำนวนเงิน 3 ริงกิตมาเลเซีย (24 บาทไทย) ทำให้นักธุรกิจคนดังกล่าวลงจากรถมาระบายอารมณ์กับพนักงานอย่างเต็มที่ ทั้งด่าทอและทำร้ายร่างกาย จนพนักงานลานจอดรถเกิดรอยฟกช้ำหลายจุดบนร่างกาย .…
-
เจ้าหนูสองขวบ “ฉีก” ซองกระดาษจนเละ เพิ่งรู้ว่าเป็นเงินสะสมกว่า 3 หมื่นบาทของพ่อแม่…
การเลี้ยงดูเด็กๆ บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ถึงแม้ว่าการได้อยู่กับเด็กๆ แล้วโลกจะดูสดใส แต่บางทีก็มีเรื่องน่าปวดหัวเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน อย่างเช่นพ่อแม่คู่หนึ่งจากยูทาห์ที่ได้ไปพบเจอกับวีรกรรมของหนูน้อยวัย 2 ขวบอันน่าปวดหัวเข้าให้ พวกเขาพบว่าเจ้าตัวแสบได้ตัด “ธนบัตรเงินสด” ออกเป็นชิ้นเล็กๆ รวมเป็นมูลค่าถึง 1,060 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เกือบ 35,000 บาท) เรื่องราวเริ่มจาก Ben Belnap ผู้เป็นพ่อได้สะสมเงินเก็บเอาไว้เพื่อตอบแทนให้กับพ่อแม่ของตนหลังจากที่เขาเคยได้รับของขวัญอันล้ำค่ามาจากพวกท่าน ซึ่งก็คือตั๋วเข้าชมอเมริกันฟุตบอลนั่นเอง เขาและ Jackee ภรรยาของเขาได้ช่วยกันเก็บสะสมเงินสดไว้ในซองจดหมาย รวมๆ แล้วมีมูลค่าถึง 1,060 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 35,000 บาท) ซึ่งเพียงพอในการตอบแทนพ่อแม่ของ Ben แต่ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะนำเงินสดไปมอบให้กับพ่อแม่ของ Ben พวกเขากลับหาซองที่บรรจุเงินสะสมไว้ไม่เจอ Jackee ผู็เป็นภรรยาจึงลองคุ้ยหาในกองเศษกระดาษดู จึงพบว่าเงินสดได้กลายเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ ไปเรียบร้อยแล้ว ละเอียดเชียว เมื่อ Jackee บอกเรื่องนี้กับ Ben ทั้งคู่กลับหัวเราะร่าออกมา เพราะรู้ว่าฝึมือของคนที่ทำแบบนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Leo ลูกน้อยจอมแสบของเขานั่นเอง ฝ่ายแม่กล่าวว่า “ปกติแล้ว Leo…
-
ส่องบ้านโอตาคุ ผู้ทุ่มเงินกว่า 3 ล้านเยน เพื่อตัวละครอนิเมะ “ตัวเดียว” ที่เขารัก…
ว่ากันว่าความเป็น โอตาคุ นั้นมีแฝงอยู่ในตัวของทุกคนแต่จะมากหรือจะน้อยนั้นก็แตกต่างกันออกไป บางคนอาจมีความหลงใหลในกีฬา บางคนก็หลงใหลในเรื่องของรถ หรือบางคนก็หลงใหล “ตัวการ์ตูน” เป็นชีวิตจิตใจ อย่างเช่นชายชาวญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อทวิตเตอร์ว่า @Onika_Rem0202 คนนี้หลงใหลในตัวละครสาวจากอนิเมะตัวหนึ่งอย่างมากขนาดที่ว่าทุ่มเงินราว 3 ล้านเยน (8.7 แสนบาท) เพื่อซื้ออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับตัวละครตัวนี้ ตัวละครที่หนุ่มคนนี้หลงใหลก็คือ Rem สาวน้อยน่ารักผมสีฟ้าจากเรื่อง Re:Zero−Starting Life in Another World นั่นเอง และวันนี้เราจะพาไปชม “ห้อง” ของชายหนุ่มผู้ทุ่มเทเงินมหาศาลให้กับตัวละครสาว Rem ดูซิว่าจะมันจะ Rem ขนาดไหนกันเชียว!? ที่สะดุดตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นฟิกเกอร์ขนาดเท่าคนจริงของ Rem นี่แหละ แล้วก็พวกตุ๊กตาน่ารักโมเอะ มีเยอะมากๆ ลองส่องดูที่ตู้โชว์จะพบว่ามีโมเดลและฟิกเกอร์ของ Rem อยู่มากมายหลายขนาดและหลายอิริยาบถ ปัจจุบันก็ผ่านมาเป็นเวลา 2 ปิแล้วหลังจากที่อนิเมะเรื่องนี้ออกฉาย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความหลงใหลใน Rem ของหนุ่มคนนี้ลดลงเลยแม้แต่น้อย เขามักโพสต์ภาพลงบนทวิตเตอร์ว่าได้ตู้โชว์มาใหม่และไม่นานก็มีโมเดลกับฟิกเกอร์ของ Rem มาวางโชว์เต็มตู้เสียแล้ว ห้องที่หันไปทางไหนก็จะเจอแต่…
-
ชาวเน็ตเล่าประสบการณ์ …สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่เคยทำเพื่อ “แลกกับเงิน” หยึยๆ ทั้งน้านนน~
ไม่ว่าใครๆ ก็จำเป็นต้องมีเงินมาไว้ใช้ในการดำรงชีพทั้งนั้น แต่กว่าจะหาเงินมาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย หลายคนยอมทำเกือบทุกวิถีทางและคว้าทุกโอกาสเพื่อให้ตนได้รับ เงิน มาเป็นของตัวเอง ตามที่หลายคนเข้าใจก็คือ คนเราต้องทำงานเพื่อแลกกับเงิน และงานเหล่านั้นถ้าว่ากันตามตรงก็ควรจะเป็นงานที่สุจริตและเป็นกิจจะลักษณะ แต่วันนี้ลองมาฟังเรื่องราวแปลกๆ จากชาวเน็ตเว็บไซต์ Reddit ที่จะมาเล่าถึง “สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่พวกเขาเคยทำเพื่อแลกกับเงิน” คืออะไรกันบ้าง… จากคุณ u/seattlefoodie “เคยทำงานเป็นคนดูแลตู้สล็อตในคาสิโน โดยลวนลามเกือบทุกวันแถมไม่ได้ทิปอีกต่างหาก พอย้ายงานไปที่อีกคาสิโนหนึ่งได้ทำงานเป็นพนักงานส่วนเคาน์เตอร์” “แม้เงินเดือนน้อยลงแต่ก็ไม่ต้องถูกลวนลามแถมเก็บทิปไว้เป็นของตัวเองได้อีกด้วย แต่สักพักคาสิโนทั้งสองที่นี้ก็ร่วมหุ้นกัน ฉันลาออกเลยจ้า…” จากคุณ u/billbapapa “ตอนนั้นฉันอายุประมาณ 8 ขวบฉันอยากหาเงินมาก ป้าฉันเลยบอกว่า ‘ถ้าอยากได้เงินขนาดนั้นก็ไปเล่นขี้ซะ’ จากนั้นฉันก็ไปคว้ากิ่งไม้มาจิ้มแล้วคนๆ ลงไปในบ่ออุจจาระนอกบ้าน แล้วกลับไปขอค่าตอบแทนจากคุณป้า เท่านั้นแหละป้าฉันหัวเราะออกมาลั่น พลางพูดออกมาว่าไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะทำจริงๆ หลังจากนั้นฉันก็ไปหยิบกิ่งไม้ขึ้นจากบ่ออุจจาระแล้วไปวางไว้บนกระโปรงรถของคุณป้า…” จากคุณ u/LittlePoogie “พี่ชายผมท้าให้ผมกระดกดื่ม เมเปิลไซรัป ให้หมดขวดแลกกับเงิน 1,650 บาท ผมตอบตกลง แต่พอดื่มเข้าไปผมคิดว่าผมจะตายเสียแล้ว มันหนืดๆ และน่าขยะแขยง แถมยังไหลลงคอช้ามากๆ ผมต้องทนกับรสชาติแย่ๆ นี้เป็นสัปดาห์เลยล่ะ” จากคุณ u/jackbanks2469 “ผมเคยดื่ม ซอสบัฟฟาโล…
-
สองหนุ่มได้ตังค์จากแมคฯ 1 ล้านบาท เพราะเอาภาพตัวเองไปติดโดยไม่มีใครจับได้ 50 วัน!!
หากย้อนกลับไปช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาทีมงานเหมียวของเราได้นำเสนอเรื่องราวของ ‘สองหนุ่มเนียนเอา ‘รูปของตัวเอง’ ไปแปะในร้าน McDonald’s โดยที่ไม่มีใครจับได้!?‘ เมื่อหนุ่มอเมริกันเชื้อสายเอเชียสองคนบังเอิญสังเกตเห็นว่าในร้าน McDonald’s ในย่านที่พวกเขาอยู่อาศัยนั้นไม่มีป้ายโฆษณาที่มีนายแบบเป็นชาวเอเชียอยู่เลย พอเห็นผนังที่ว่างเปล่าในร้าน Mc ใกล้บ้าน ก็เลยปิ๊งไอเดียที่อยากจะโชว์ความเป็นเอเชียนในร้าน Mc ขึ้นมา พวกเขาก็เลยลงทุนไปถ่ายภาพโฆษณาแบบเนียนๆ แล้วก็เอาไปแปะไว้ วันเวลาผ่านไปกว่า 50 วัน ไม่มีใครจับได้เลยสักคนว่ามันเป็น ‘ภาพปลอม’ พี่แกก็เลยออกมาโพสต์ทวิตเตอร์เพื่อเล่าถึงวีรกรรมดังกล่าวจนกลายเป็นกระแสไวรัล อย่างที่รู้กันดีว่าการกระทำของพวกเขานั้นถือเป็น ‘การกระทำที่ไม่ได้รับอนุญาต’ แต่ขณะเดียวกันเรื่องราวทั้งหมดก็ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะจนมีคนรู้ไปแล้ว แต่ทาง McDonald’s ก็ไม่ได้ว่าอะไรแม้แต่น้อยแถมยังมอบเงินรางวัลให้ด้วย!? (ก็แหงล่ะ ได้โฆษณาร้านไปฟรีๆ เลยนี่นา) ซึ่งล่าสุดทั้งสองคนก็ได้รับเชิญให้ไปออกรายการ Ellen DeGeneres เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทาง McDonald’s ได้ฝาก ‘เงินรางวัล’ มามอบให้คนละ 25,000 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 1 ล้านบาท เป็นรางวัลให้กับสิ่งที่พวกเขาทำ Ellen กล่าวกับพวกเขาว่า…
-
คุณลุงภารโรงมหาลัย ได้พบปะครอบครัวเสียที หลังนศ. ร่วมใจระดมเงินให้เพื่อตอบแทน
คุณลุง Herman Gordon ภารโรงอันเป็นที่รักของเหล่านักเรียนใน มหาวิทยาลัย Bristol ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันได้ไปเที่ยวกับภรรยาสุดที่รักแล้ว หลังนักเรียนช่วยกันระดมเงินให้ลุงได้กลับไปเจอครอบครัว อ่านข่าวเก่าได้ >>> ที่นี่เลย! คุณลุงภารโรง Herman Gordon วัย 65 ปีและภรรยา หลังมีข่าวอันน่าประทับใจที่เด็กนักศึกษาราว 230 ชีวิตในมหาวิทยาลัย Bristol ร่วมใจกันระดมเงินให้กับคุณลุงภารโรง Herman Gordon เป็นจำนวนราว 64,000 บาท เพื่อตอบแทนสิ่งดีๆ ที่คุณลุงได้ทำไว้ให้กับพวกเขา พวกเขาจึงอยากมอบสิ่งดีๆ กลับคืนให้คุณลุง นั่นก็คือการนำเงินจำนวนหนึ่งมามอบให้คุณลุงเพื่อเดินทางกลับบ้านเกิด ณ ประเทศจาเมกา เพื่อพบหน้าครอบครัวพร้อมกับภรรยาสุดที่รักของตนเอง และนั่นทำให้คุณลุงถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวเลยทีเดียว คลิปวิดีโอ ล่าสุด คุณลุงและภรรยานามว่า Denise ก็ได้เดินทางกลับไปยังประเทศจาเมกาเพื่อพบหน้าครอบครัวหลังย้ายมาทำงานอยู่ที่ประเทศอังกฤษอยู่นมนานและมีชื่อเสียงจากการที่คุณลุงกลายเป็นภารโรงที่ “เด็กๆ รักมากที่สุด” คนหนึ่ง ขณะเดินทางกลับบ้าน คุณลุง Herman และภรรยาก็ได้แวะพักที่แคริบเบียน ในรีสอร์ทสุดหรูบริเวณอ่าวมอนเตโก เพื่อฉลองครบรอบวันแต่งงานปีที่ 23 ของคุณลุงและภรรยา …
-
10 อันดับ “เซเลบ” กับค่าตอบแทนที่ได้จากการโพสต์ ‘อินสตาแกรม’ เพียงโพสต์เดียว!!!
ใครว่า โซเชียลมีเดีย ไม่มีประโยชน์ สมัยนี้การเป็นเน็ตไอดอล หรือการที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถทำเงินได้มากมายมหาศาลขึ้นอยู่กับว่าเรานั้นโด่งดังขนาดไหน (วัดจากยอดผู้ติดตาม) หลายคนคงทราบกันดีว่าเว็บไซต์ Youtube นั้นเป็นแหล่งทำเงินชั้นยอด หลายคนจึงผันตัวเป็น ยูทูบเบอร์ กันมากมาย ขณะเดียวกัน Instagram เองก็ตอบแทนคุณไม่น้อยเลยหากคุณมีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน วันนี้เราลองไปชม 10 อันดับคนดัง ที่มียอดผู้ติดตามหลายล้าน ดูกันซิว่าเมื่อพวกเขาโพสต์ภาพบนอินสตาแกรมแต่ละที จะได้เงินมากมายมหาศาลขนาดไหน!! (จากน้อยไปมาก) 10. Kendall Jenner ยอดผู้ติดตาม: 93 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 16.3 ล้านบาท!! 9. Lionel Messi ผู้ติดตาม: 97 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 16.3 ล้านบาท (เท่ากับ Kendall) 8. Neymar da Silva Santos Junior ผู้ติดตาม: 100 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 19.55…
-
ไอดอลญี่ปุ่น “ลืมปิดกล้อง” หลังไลฟ์เสร็จ พบว่าเธอขำคิกคักกับ ‘ค่าตอบแทน’ ที่เธอจะได้
ในประเทศไทยบ้านเราขณะนี้เองก็กำลังเป็นที่นิยมไม่น้อยเลยสำหรับ กลุ่มไอดอลสไตล์ญี่ปุ่นอย่าง BNK48 ที่เรียกได้ว่าทั้งสายโหดสายซอฟต์ก็ผันตัวมาเป็น “โอตะ” กันเป็นขบวน ไม่ต่างอะไรกับประเทศผู้ให้กำเนิดอย่างญี่ปุ่น ที่มีกลุ่มไอดอลสาวๆ มากมาย แน่นอนว่าเหล่าสาวๆ ไอดอลนั้นจะต้องมีบุคลิกน่ารักน่าเอ็นดู มีความใสแบ๊วที่ทำให้ผู้ชมได้ชุ่มชื่นหัวใจเมื่อพบเห็น แต่เหตุการณ์ในวันนี้อาจทำให้เหล่าโอตะอาจจะต้องผิดหวังกันสักหน่อยเมื่อ ไอดอลสาว Bibian Murakawa จากวง HKT48 ประจำสาขาฟูกูโอกะ ถ่ายวิดีโอไลฟ์สดและ “ลืมปิดกล้อง” หลังถ่ายเสร็จ ทำให้เห็นเบื้องหลังอันน่าผิดหวังในความคิดของหลายๆ คน คลิปวิดีโอถูกโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ @48gtosaka เนื้อหาภายในเป็นการถ่ายไลฟ์วิดีโอที่สาว Bibian วัย 18 ปี พูดคุยกับแฟนคลับของเธอ ซึ่งทุกอย่างดูปกติดีเว้นเสียจากว่าเธอ หัวเราะคิกคักเกี่ยวกับเรื่องค่าจ้าง ออกมา คลิปวิดีโอของ Bibian ที่ลืมปิดกล้องหลังวินาทีที่ 37 ※閲覧注意(夢を壊したくない方は見ないで下さい)配信切り忘れ?アイドルの裏の顔が流出配信直後にタワーの数をお金に換算して歓喜する親子村川緋杏の給料は月16万円と判明#PRODUCE48 #HKT48 #村川緋杏 #무라카와비비안 #SHOWROOM pic.twitter.com/dqNPJ90I1O — 48Gと坂道応援中🍥 (@48gtosaka) September 5, 2018 ในวินาทีที่ 37 ของวิดีโอ เธอกล่าวอำลาผู้ชมก่อนจะนำมือมาสัมผัสกับบริเวณกล้อง…
-
การโกงแห่งประวัติศาสตร์ของไนจีเรีย กับ ‘สนามบิน’ ที่ไม่มีจริง ฟันเงินกว่า 8,000 ล้าน!!
เหตุการณ์ฉ้อโกงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของไนจีเรีย กับสนามบินปลอมที่ไม่มีอยู่จริง สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 242 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 8,000 ล้านบาท ให้กับแบงก์ชาติ!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1995-1998 นาย Nwude เองก็ทำงานอยู่ในธนาคาร Union Bank of Nigeria เช่นกันในตำแหน่งของผู้อำนวยการ นั่นทำให้เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และคนที่ตกเป็นเหยื่อของการก่อเหตุฉ้อโกงในครั้งนี้ก็คือนาย Nelson Sakaguchi ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการแบงก์เช่นกัน นาย Nwude ให้ข้อมูลกับ Nelson ว่าตอนนี้ไนจีเรียกำลังวางแผนที่จะสร้างสนามบินในเมือง Abuja (ซึ่งเป็นเรื่องที่เมคขึ้นมา สนามบินไม่ได้ถูกสร้างจริงๆ) พร้อมกับหลอกล่อเขาว่าเราสามารถสร้างสนามบินด้วยวิธีการที่ถูกกว่างบที่กำหนด นั่นจะทำให้เหลือเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเต็มๆ ถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 330 ล้านบาท เพียงแต่ว่าต้องให้ตนเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเงินในการสร้างสนามบินทั้งหมด แน่นอนว่านาย Nelson ก็หลงเชื่อ มอบเงินจำนวนกว่า 191 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6,200 ล้านบาท) ให้กับนาย Nwude…
-
ชายฮ่องกงรับคำท้า “กินนักเก็ต 90 ชิ้น” เผยตั้งใจแพ้ เพราะอยากเสียเงินให้กับการกุศลอยู่แล้ว!
การกินเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ชอบ ยิ่งเป็นการกินที่ได้เงินรางวัลตอบแทนแล้วด้วยยิ่งเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างมาก แต่การที่เราจะได้เงินมานั้นแน่นอนว่ามันไม่ง่าย เราอาจจะต้องกินจนแน่นปริกว่าจะได้เงินรางวัลมาก็เป็นได้ ล่าสุดชายชาวฮ่องกงคนหนึ่งก็ได้รับคำท้าในการทาน McNugget 90 ชิ้นให้หมดภายในเวลา 90 นาที เพื่อรับเงินรางวัล 20,000 ฮ่องกงดอลลาร์ (กว่า 80,000 บาท) ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Joe เขาได้ทำการถ่ายทอดสดการกินนักเก็ตในครั้งนี้ลงบนเฟซบุ๊ก Dennis Chan เมื่อวันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม 2018 ที่ผ่านมา กติกาของชาเลนจ์นี้ก็คือการทานนักเก็ต McNugget จากร้าน McDonald’s จำนวน 90 ชิ้นให้หมดภายในเวลา 90 นาทีเพื่อรับเงินรางวัล แต่หากไม่สามารถทานหมดได้ทันเวลาหรืออิ่มก่อน จะต้องจ่ายค่าปรับ 100 ฮ่องกงดอลลาร์ (426 บาท) ต่อชิ้นที่เหลือ ชมคลิปการทานนักเก็ตของ Joe กัน ชาวเน็ตที่เข้ามาชมคลิปของเขา เมื่อเห็นว่า Joe เริ่มทานไม่ไหว จึงแนะนำให้จิ้มซอสเยอะๆ …
-
ยูทูบเบอร์ญี่ปุ่น มอบเงิน “1 ล้านเยน” ให้ชายชราไร้บ้าน กลายเป็นเรื่องราวน่าประทับใจ
ยูทูบเบอร์จากญี่ปุ่นคนหนึ่งที่ใช้ชื่อแชแนลว่า ラファエル ได้เผยวิดีโอที่ตัวเขาเดินเตร็ดเตร่ไปตามท้องถนนเพื่อค้นหา คนชรา และมอบความช่วยเหลือเท่าที่เขาสามารถช่วยเหลือได้ ล่าสุดในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เขาได้ไปพบกับชายชราไร้บ้านในชุดซอมซ่อคนหนึ่งเข้า เขาอยากทราบว่าสิ่งที่ชายชรคนนี้ต้องการซื้อมากที่สุดคืออะไรเมื่อมีเงิน 1 ล้านเยน เขาจึงมอบเงินจำนวน 1 ล้านเยน (ประมาณ 3 แสนบาท) ให้กับชายชราดังกล่าว โดยมีเงื่อนไขว่าเขาจะใช้เงินซื้ออะไรก็ได้ภายในหนึ่งวันเท่านั้น เมื่อยูทูบเบอร์หนุ่มมอบเงินให้กับชายชรา ชายชราก็ถามกลับด้วยความกังวลว่า “ฉันควรได้รับเงินนี้เหรอ ตำรวจจะไม่จับฉันใช่ไหม?” ยูทูบเบอร์หนุ่มจึงยืนกรานอีกครั้งว่าไม่เป็นไรจริงๆ ทันทีที่ได้รับเงินมา คุณลุงรีบไปยังห้างที่ใกล้ที่สุด ซื้อเสื้อผ้า อาหาร และของใช้ในชีวิตประจำวัน จากนั้นคุณลุงเดินเข้าโรงแรมเพื่อพัก อาบน้ำ และแต่งตัวเสียใหม่ ต่อมาคุณลุงจึงเดินไปตามถนน หาซื้อเสื้อผ้าราคาย่อมเยาแบรนด์ต่างๆ เมื่อยูทูบเบอร์หนุ่มเข้ามาถามว่า ทำไปออกมาซื้อเสื้อผ้าแบรนด์ถูกๆ? ทำไมถึงไม่ซื้อในห้าง? คุณลุงจึงตอบว่า “กลัวเงินที่เหลือมันจะเหลือน้อยเกินไป อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัด” สรุปแล้วคุณลุงใช้เงินในวันนี้ไปเพียง 20,000 เยน หรือราวๆ 6,000 บาทเท่านั้น ยูทูบเบอร์หนุ่มถามคุณลุงอีกว่า ต้องการซื้ออะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า? คุณลุงยิ้มแล้วตอบว่า “อยากร้องคาราโอเกะ…
-
มหากาพย์เจ้าหนี้ vs ลูกหนี้ ยืมเงินไปเป็นปีขอผลัดวันประกันพรุ่ง บอกถ้าประจานจะไม่จ่าย!?
เรื่องของการยืมเงินแล้วไม่คืนนี่ถือเป็นปัญหาที่เจ้าหนี้หลายคนต้องพบเจอ และปวดหัวกันมานักต่อนัก โดยเฉพาะกลุ่มที่ ‘ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย’ และเรื่องราวนี้เองก็เป็นอีกครั้ง ที่เจ้าหนี้ต้องคอยตามทวงหนี้มาตลอด 1 ปีเต็มๆ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ยืมไป จนนำไปสู่การนำมาโพสต์ประจานในที่สุด เรื่องมีอยู่ว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Nasornprom Lathaisrong ได้ทำการโพสต์เรื่องราวที่ตนได้พบเจอมาในฐานะเจ้าหนี้ ที่ถูกลูกหนี้ที่เป็นพี่สาวคนหนึ่งยืมเงินไป ทวงแล้วทวงอีกก็ยังไม่ได้คืน พร้อมกับแคปชันว่า “Ep.1 ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย ไม่ตอบ #อย่าให้คนรู้จักยืมเงินเด็ดขาด #มายืมอย่างดีนัดวันอย่างดี #พอถึงวันคืนหาย #มีต่อep2” (บอกไว้ก่อนนะว่ายาวมว๊ากกกก เพื่อนๆ ควรจะมีเวลาว่างซัก 1-2 ชั่วโมงในการเผือกเรื่องนี้เลยทีเดียว!!) เอาล่ะเรามาเริ่มกันที่ EP. แรกกันเลย!! ทุกอย่างเริ่มจากการที่ลูกหนี้ทักมายืมเงินเป็นจำนวน 5,000 บาท แล้วก็ขอยืมเพิ่มอีก 2,000 บาท รวมแล้วเป็น 7,000 บาท เมื่อวันที่ 20 เดือนธันวาคม ปี 2559 . . โดยเป็นคนยืมกำหนดว่าจะคืนเงินทั้งหมดอย่างช้าไม่เกินสิ้นเดือนมกราคม…
-
ชาวเน็ตแชร์ 14 ประสบการณ์ “เพื่อนยืมเงินไม่คืน” แต่ละคนสุดช้ำ มีใครมากกว่านี้อีกไหม!?
‘เรื่องของเงิน มันไม่เข้าใครออกใคร’ เป็นประโยคที่หลายๆ คนอาจจะเคยได้ยินมากันบ้างแล้ว… และมันก็จริงไม่น้อยเลยทีเดียว ดังที่เราจะได้เห็นจากโลกโซเชียล ที่มีคนออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวว่าเงินแค่ไม่กี่บาทก็สามารถตัดความสัมพันธ์ฉันเพื่อนมาแล้วนักต่อนัก สืบเนื่องมาจากโพสต์ หนุ่มให้เพื่อนยืมเงิน 4,000 บาท 7 เดือนก็ยังไม่ยอมคืน พอทักไปทวงกลับถูกตัดเพื่อนซะงั้น!? และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว ก็อยากจะหยิบยกประสบการณ์จากเหล่าชาวเน็ตในโพสต์ดังกล่าวมาให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกัน จะได้เป็นกรณีศึกษาเอาไว้เผื่อมีใครมายืมเงินจะต้องคิดไตร่ตรองให้มากขึ้นกว่าเดิม 1. พอไปทวงก็โดนด่า 2. เงิน 30,000 บาท ยืมไปแล้วก็ไม่ยอมคืน 3. 300 บาทก็ตัดเพื่อนกันมาแล้ว 4. ปิดเฟซหนีอีกต่างหาก 5. สงสัยเห็นเราเป็นธนาคารแน่ๆ 6. ยังคงรอคอยอย่างมีความหวัง 7. ทวงแล้วทวงอีก ยังดีที่ได้คืนมาครึ่งนึง 8. คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ 10,000 บาทก็ไม่ยอมคืน 9. 200 ก็ตัดกันได้…
-
บริการประทับใจ…’โรนัลโด’ มอบทิปให้พนักงานทั้งรีสอร์ทกว่า 780,000 บาท
สำหรับแฟนๆ กีฬาฟุตบอลจะรู้กันดีว่า คริสเตียโน โรนัลโด ถือเป็นนักเตะที่ดีและมีคุณภาพทั้งในและนอกสนาม เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่จะทำให้เพื่อนๆ เห็นว่า โรนัลโด คือคนที่สุดยอดไปเลยจริงๆ หลังจากจบช่วงบอลโลก ทีมชาติโปรตุเกสที่นำทัพโดยโรนัลโดตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นก็นำมาซึ่งข่าวที่สร้างความตกใจให้กับแฟนบอลทั่วโลก คือการย้ายตัวจากทีมราชันชุดขาว เรอัลมาดริด ไปยัง ไอ้ม้าลาย ยูเวนตุส นั่นเอง การย้ายตัวในครั้งนี้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับทีมไอ้ม้าลายมากมาย ทั้งฐานแฟนบอลที่เพิ่มขึ้น และมูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นอย่างทันตาเห็น ในช่วงก่อนที่ฟุตบอลลีคจะเปิดฤดูกาล โรนัลโดเองก็พาครอบครัวไปพักผ่อนกันที่แคว้น Peloponnese ประเทศกรีซ พวกเขาเข้าพักในรีสอร์ทที่มีชื่อว่า Costa Navarino และด้วยความประทับใจในบริการ มีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่าโรนัลโด ได้มอบเงินก้อนโตเป็นทิปให้กับพนักงานทั้งรีสอร์ท รวมแล้วเป็นมูลค่ากว่า 17,850 ปอนด์ หรือราวๆ 780,000 บาท!! นับเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะโดยปกติแล้วเงินที่จะให้เป็นทิปส่วนใหญ่ก็จะให้กันที่หลักพันบาท หรืออย่างมากก็หมื่นบาท แต่นี่พี่แกล่อไปเกือบล้านเลยทีเดียว หลังจากที่จบการออกทริปในครั้งนี้โรนัลโดก็จะต้องเดินทางย้ายไปอยู่ที่ประเทศอิตาลี และร่วมซ้อมกับทีมก่อนจะเข้าสู่เส้นทางชีวิตใหม่ร่วมกับทีมไอ้ม้าลายต่อไป… ที่มา : ladbible, thesun
-
สาวเอเชียถูกเหยียด “ชอบกินหมาแมวใช่ไหม?” ได้รับเงินชดใช้เกือบ 3 แสนบาท!!
เชื่อว่าหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าการกระทำหรือคำพูดแบบใดบ้างถึงจะเรียกว่าเป็นการ “เหยียด” คนอื่น ฉะนั้น มันก็อาจมีบ้างทีที่เราจะพูดอะไรออกไปแล้วไปเหยียดคนอื่นเข้าโดยไม่ได้เจตนา ขณะเดียวกันก็มีคนที่ตั้งใจจะพูดเหยียดคนอื่นจริงๆ คนที่ชอบเหยียดคนอื่น ซึ่งทำให้ผู้อื่นต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ก็สมควรจะชดใช้ในสิ่งที่เขากระทำลงไป อย่างเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้… หญิงสาวชาวเอเชียที่เข้าไปทำงานยังบริษัทบัญชีแห่งหนึ่งในไอร์แลนด์ เมื่อราวๆ เดือนกรกฎาคม 2017 เพียงเดือนแรกที่เธอเข้าทำงาน เพื่อนร่วมงานเพศชายก็เข้ามาถามด้วยความเหยียดว่า “ผมได้ยินมาว่าแมวและหมาเป็นอาหารจานหลักของชาวเอเชียนี่ คุณชอบทานมันใช่ไหม?” คำถามนั้นทำให้หญิงสาวเสียความรู้สึกอย่างมาก เธอไปรายงานกับผู้จัดการด้วยน้ำตา จากนั้นผู้จัดการจึงรับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ โดยการทำให้ชายที่เหยียดเธอต้องออกมาขอโทษ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน หญิงสาวคนนี้ก็ลาออกจากตำแหน่งงานเดิม และก็ได้ยอมรับคำขอโทษของเพื่อนร่วมงานที่เคยพูดจาเหยียดเธอ แต่เรื่องราวกลับใหญ่โตไปถึงองค์กร Workplace Relations Commission (WRC) ที่ขอให้บริษัทชดใช้ให้เธอเป็นจำนวนเงินราว 296,000 บาท ขณะในระหว่างการสอบสวน ทางองค์กรก็ทราบมาอีกว่า เพื่อนร่วมงานชายคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมเหยียดแบบอื่นอีก เขาได้แอบถ่ายรูปของสาวเอเชียคนนี้และส่งไปให้เพื่อนของเขาดู แถมเธอยังบอกว่า บางครั้งแอบเห็นเพื่อนของเขาคนหนึ่งเรียกเธอว่า “แม่สาวร่องสวย” นอกจากนี้ ชายคนเดิมยังมีพฤติกรรมเหยียดอื่นๆ อีกมากมาย เช่น พูดว่า “ผมคงจะได้หญิงสักคนในคืนที่คุณไปเที่ยว เพราะที่ที่คุณไปผมก็จะไปด้วยเหมือนกัน”…
-
หนุ่มลองใจ ‘คนไร้บ้าน’ ทำกระเป๋าเงินตก เขาเก็บมาคืน แถมเอาเงินที่ให้ไปซื้ออาหารแจกคนอื่น!!
หนุ่มถ่ายคลิปลองใจ แกล้งทำกระเป๋าเงินตกต่อหน้าคนไร้บ้าน และผลที่ได้คือเรื่องราวน่าประทับใจ… ชายไร้บ้านเก็บกระเป๋าเงินขึ้นและนำมันไปคืนให้กับ Waqas Shah ที่เป็นยูทูบเบอร์ ในกระเป๋ามีเงินอยู่ทั้งหมด 5,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยเกือบ 160,000 บาท “เฮ้นาย! นายทำกระเป๋าเงินตกน่ะ ตกอยู่ตรงนั้น” ชายโฮมเลสเรียก Waqas พร้อมกับชี้นิ้วไปที่จุดเกิดเหตุ “คุณเป็นคนไร้บ้านใช่มั้ยครับ? คุณเอาเงินมาคืนให้ผม” Waqas ตอบกลับไป “การนำมันมาคืนมันก็ถูกแล้วนี่ ผมไม่ขโมยของใครหรอกนะ” ชายโฮมเลสกล่าว “การที่คุณนำมันมาคืนให้ผม ผมจะตอบแทนคุณก็แล้วกัน คุณเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณที่เอามันมาคืนให้ผมนะครับ” Waqas กล่าว เรื่องราวความประทับใจยังไม่จบอยู่เท่านี้ หลังจากที่ Waqas เดินจากไป กล้องยังคงจับอยู่ที่ชายโฮมเลส ปรากฏว่าเขานำเงินที่ได้เป็นของตอบแทนไปซื้ออาหาร แล้วเอาไปแจกจ่ายให้กับโฮมเลสคนอื่นๆ ที่อยู่ในละแวกนั้น Waqas เดินตามชายโฮมเลสไปอีกครั้งเพื่อสอบถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ชายโฮมเลสก็ตอบกลับมาว่า “การให้เป็นสิ่งที่เราควรทำ หากเราให้ไปเท่าไหร่…
-
สาวน้อยหัวใจใหญ่ ช่วยสุนัขให้มีบ้าน แล้วช่วยหาเงินบริจาคให้ศูนย์พักพิงสัตว์ต่อด้วย
แม้จะเป็นเพียงแค่เด็กหญิงอายุ 12 ปี เธอก็ไม่ปล่อยให้อายุมาเป็นตัวกำหนดการกระทำของตัวเอง เธอเลือกช่วยสุนัขจรจัดตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้ารอจนโตมันคงไม่ทันใจเธอ Molly Wogan มีโอกาสได้มาช่วยงานในศูนย์พักพิง Cape Ann Animal Aid ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะว่าพ่อแม่ของเธอก็เป็นอาสาสมัครที่ช่วยงานอยู่ที่นี่ การมาที่นี่ทำให้เธอได้เจอกับ Mama Grace สุนัขสีดำตัวหนึ่งที่นั่งหงอยอยู่ในกรง ด้วยความที่อาสาสมัครเห็นเธอสนใจมัน ก็เลยลองบอกให้พามันออกไปวิ่งเล่นดูเผื่อจะชอบแล้วอยากรับมันไปเลี้ยง เมื่อได้ออกมาข้างนอก เจ้าหมาก็มีท่าทีแตกต่างจากตอนอยู่ในกรงลิบลับเลย มันขี้เล่นและซุกซน แต่ในขณะเดียวกันก็อ่อนโยนและเชื่อฟังคน ทำให้ทั้งเด็กหญิงกับพ่อแม่ของเธอเอ็นดูมัน ก็เลยอาสาจะพามันไปดูแลที่บ้านสัก 2-3 วันเพื่อให้มันได้ออกจากกรงบ้าง ปะ ไปอยู่บ้านด้วยกันก่อนนะ อย่างไรก็ตามการพามันมาอยู่บ้านด้วยก็ยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกถูกชะตากับมันยิ่งขึ้น มันเข้ากับทุกคนได้ดี แม้แต่หมาอีกตัวหนึ่งที่เลี้ยงไว้ก็ยังสนิทกับมันเลย มันทำให้บรรยากาศในบ้านมีความสุขมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นแบบนั้นแทนที่จะพามันมาอยู่แค่ไม่กี่วัน พวกเธอก็เลยเปลี่ยนใจเลือกรับเลี้ยงมันไว้แทน … ยินดีด้วยนะเจ้าหมา ได้มีครอบครัวแล้ว เมื่อพวกเขาตัดสินใจรับเลี้ยงมัน ทางศูนย์พักพิงกเลยเล่าที่มาที่ไปของมันให้ฟัง เพื่อให้ครอบครัวเข้าใจมันมากขึ้น … Mama Grace เป็นหมาจรจัดท้องโตมาก่อน มันป่วยเป็นโรคปอดบวมแต่ก็ยังพยายามจะเอาชีวิตรอดให้ได้ มันฝืนตัวเองจนคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย จากนั้นก็เลี้ยงพวกมันจนโตเป็นลูกหมาที่น่ารักและมีคนรับไปเลี้ยงหมดทุกตัวเลย…
-
ชาวเน็ตคำนวณ “เงินสินน้ำใจ” ที่พระยาโกษาเหล็กรับมา ในยุคนี้มันจะมูลค่าเท่าไร!?
จากละครเรื่อง ‘บุพเพสันนิวาส’ ในตอนที่ 9 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของ ‘พระยาโกษาเหล็ก’ รับเงินสินบนจากเหล่าไพร่ที่ไม่อยากถูกเกณฑ์ไปสร้างป้อมปราการ เพื่อให้ไปทูลกับพระนารายณ์ให้รับสั่งยกเลิกการสร้างป้อมดังกล่าว จากในละครหากใครจำได้ก็จะพบว่ามูลค่าเงินที่ไพร่รวบรวมมานั้นมีมูลค่า ’50 ชั่ง’ ด้วยกัน แต่เพื่อนๆ สงสัยรึไม่ว่าเงิน 50 ชั่งนั้นมันจะมากสักเท่าไหร่กันเชียวหากมาเทียบกับค่าเงินในปัจจุบัน วันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาไขข้อสงสัยของทุกคนให้กระจ่างกัน โดยสมาชิกเว็บไซต์พันทิปชื่อว่า MaSaChi ได้ตั้งกระทู้ชื่อว่า “เงินที่ เจ้าพระยาโกษาเหล็กรับมา จนเป็นเหตุให้ถูกโบยจนตาย คิดเป็นเท่าไหร่ในปัจจุบัน” โดยเจ้าของกระทู้ได้ทำการวิเคราะห์ค่าเงินอ้างอิงถึงตอนที่แม่การะเกดจ่ายเงินซื้อมุ้งให้กับไพร่ในเรือนของออกญาโหราธิบดีจนได้คำตอบและมูลค่าของมันก็มากมายมหาศาลเลยทีเดียว!! ลองไปอ่านเนื้อหาในกระทู้กันแบบเต็มๆ กันเลยดีกว่า “โกษาเหล็ก รับเงินมา 50 ชั่ง 800 เบี้ย = 1 เฟื้อง 8 เฟื้อง = 1 บาท 4 บาท = 1 ตำลึง…
-
พบกับ ‘Gildong’ ผู้ช่วยสุดน่ารักจากร้านขายของสัตว์เลี้ยง ที่ลูกค้าทุกคนหลงรัก
เพื่อนๆ คิดว่าหมาที่เก่งควรทำอะไรได้บ้างครับ จริงๆ แค่มันคาบกิ่งไม้เป็น นั่งรอเราตามที่บอกได้ หรือตามเสียงเรียกได้แค่นั้นก็น่าจะเก่งแล้ว ทว่าเจ้า Gildong เก่งขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง มันช่วยงานที่ร้านขายของได้ด้วย ตั้งแต่เข้าไปต้อนรับลูกค้า ช่วยรับเงินทอนเงิน และช่วยเติมพลังใจได้ด้วย นี่สิน่าจะเรียกว่าเก่งของจริง ในร้านขายของเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่ง มีเจ้าของร้านสาวน่ารัก และก็ยังมีผู้ช่วยแสนน่ารักอยู่อีกหนึ่งตัว ก็คือเจ้าหมาพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล Gildong เมื่อไหร่ก็ตามที่มีลูกค้าเดินเข้ามาในร้าน แล้วหยิบสินค้าไปจ่ายเงิน เจ้า Gildong ก็จะเข้ามาทำหน้าที่ทันที โดยมารับเงินจากลูกค้าไปนั่นเอง ไม่ว่าลูกค้าคนไหนก็ตามหยิบเงินออกมาให้ เจ้าหมาก็จะเดินมารอโดยไม่ต้องเรียกให้เหนื่อย แถมมันยังเอาเงินทอนไปให้ลูกค้าได้อีกต่างหาก เก่งจริงๆ มันไม่เคยอู้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แค่ลูกค้าเข้าประตูร้านมาก็ออกมาจากกรงแล้ว หน้าที่ของมันก็มีเพียงแค่การเอาเงินไปให้เจ้าของร้าน แล้วก็หยิบเงินทอนที่เจ้าของร้านเตรียมไว้ให้ไปคืนแค่นั้นแหละ ส่วนค่าจ้างของมันก็จะเป็นขนมยังไงล่ะ แค่ได้กินก็มีความสุขมากแล้ว เจ้าของร้านยังชมอีกว่าตั้งแต่มีเจ้า Gildong มาอยู่ด้วยก็ทำให้ลูกค้ามาที่ร้านมากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย แถมยังสร้างรอยยิ้มให้เธอและลูกค้าทุกคนด้วย …
-
เพจดังแฉกลโกงเบี้ยเลี้ยง ตชด. 3 จังหวัดภาคใต้ ผ่านมา 3 ปี ได้น้อยลงเรื่อยๆ เงินหายไปไหน…
สวัสดิการของผู้ปฏิบัติหน้าที่ เป็นส่วนหนึ่งของผลตอบแทนจากระบบราชการ จะมีการระบุจำนวนเงินไว้ตามตำแหน่งงาน… แต่เมื่อทุกครั้งที่เราได้ยินข่าวคราวของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กลับรู้สึกว่าพวกเขากำลังถูกกดขี่อย่างต่อเนื่องและเรียกร้องความเป็นธรรมไม่ได้เลย ข้อมูลดังต่อไปนี้ถูกเปิดเผยโดยเพจ CSI LA ในวันที่ 6 มีนาคม 2561 เวลา 14.40 น. เป็นการนำข้อความจากระบบข้อความหลังบ้าน ที่เล่าผ่านตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ เกี่ยวกับค่าเบี้ยเลี้ยงสนามและค่าเสี่ยงภัย ที่ถูกตัดและหายไปบางส่วน… ข้อความจากโพสต์ดังกล่าว มีใจความดังต่อไปนี้… “ตชด. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เขียนมาเล่าเรื่องการโกงค่าเบี้ยเลี้ยง ตชด. ให้ฟังครับ สวัสดีคับแอดมินเพจ CSI LA คือผมอยากจะให้แอดมิน ทำเรื่องที่ผมอยากจะขอร้องต่อไปนี้ให้มันแดงขึ้นมาครับ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เบี้ยเลี้ยงสนาม และค่าเสี่ยงภัย ของ ตชด.ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ 3 จว.ใต้ คือว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี 2558 จนถึง ก.ย. 2560 ได้รับเบี้ยเลี้ยง 6,130…
-
9 เรื่องราวสุดบ้าที่มี “เงิน” มาเกี่ยวข้อง ทำให้รู้ว่าเงินมีอิทธิพลกับคนมากขนาดไหน
คงไม่มีใครเถียงหรอกว่าปัจจุบันเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตจริงๆ แค่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็มีเรื่องให้ต้องเสียเงินกันเสียทุกครั้งแล้ว ถ้าไม่มีเงินจะอยู่ยังไงล่ะ จะไปใช้ชีวิตปลูกผักกินเองแบบชาวไร่ในสมัยก่อนก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่งอีก แม้แต่ในสมัยก่อนที่คนไม่ต้องพึ่งพาเงินมากเหมือนในปัจจุบัน เงินก็มีส่วนทำให้คนทำเรื่องที่ปกติตัวเองคงไม่ทำถ้าไม่เพราะเงินจำนวนมากอยู่ด้วย ลองไปรับฟังกันดูนะว่ามันบ้าขนาดไหน 1. จ่ายค่าเช่าหวังฮุบอพาร์ตเม้นต์ เมื่อปี 1965 ทนาย Andre-Francois ทำสัญญาจะจ่ายเงินค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ให้คุณยาย Jeanne Calment วัย 90 ปีทุกเดือน โดยมีข้อแม้ว่าถ้าคุณยายตายไปแล้วจะต้องยกอพาร์ตเมนต์ให้กับเขา คงหวังจะได้อพาร์ตเมนต์ราคาถูกมาครอง เพราะคุณยายแก่แล้วน่าจะอยู่ได้ไม่นาน แต่อาจจะเพราะเธอไม่อยากยกอพาร์ตเม้นต์ให้เขาง่ายๆ คุณยายก็ฮึดมาจากไหนไม่รู้ มีชีวิตอยู่ยาวนานจนทนายคนนั้นตายไปก่อนตัวเองเสียอีก แล้วในปีถัดมาคุณยายก็ตายไปด้วยอายุ 122 ปี ทนายหนุ่มจึงได้จ่ายค่าอพาร์ทเมนต์นานกว่า 30 ปี ทั้งที่ตัวเขาไม่มีโอกาสได้เข้าไปอยู่เลย รวมแล้วเป็นเงินกว่า 280,000 ดอลลาร์สหรัฐในยุคปัจจุบัน (ประมาณ 9 ล้านบาท) 2. เก็บความตายของพ่อไว้เป็นความลับ หวังเอาเบี้ยคนชรา เมื่อปี 2010 ทางการของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเดินทางไปที่บ้านของนาย Sogen Kato เพื่อยินดีกับเขาเนื่องในโอกาสอายุครบ 111 ปี ถือเป็นชายที่อายุเยอะที่สุดในเมือง…
-
ญี่ปุ่นเปิดตัว “เหรียญโอตะคุ” แค่ดูเมะ แชร์เรื่องราว เขียนรีวิว ก็มีเงินไปชอปปิงสบายๆ
ธุรกิจการ์ตูนญี่ปุ่นหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่าอนิเมะเป็นธุรกิจหนึ่งที่เติบโตไปทั่วโลก ทุกวันนี้จึงมีเหล่าโอตาคุ (ผู้ที่คลั่งไคล้อะไรบางอย่างจนเกินพอดี แต่มักใช้เรียกคนที่คลั่งไคล้ในอนิเมะ) เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเป็นการสนับสนุนเหล่าแฟนๆ และเสริมสร้างความมั่นคงให้กับธุรกิจอนิเมะ ประเทศญี่ปุ่นจึงได้นำเงินตราเสมือนจริงเข้ามาใช้งานกับธุรกิจนี้เพื่อให้แฟนๆ สามารถนำเงินตราไปใช้จับจ่ายซื้อของหรือสนับสนุนผู้สร้างผลงานอนิเมะได้ด้วย โดยมีชื่อเรียกเงินตรานี้ว่า เหรียญโอตาคุ (Otaku Coin) บริษัทที่นำเอาเหรียญโอตาคุเข้ามาใช้ก็คือ Tokyo Otaku Mode ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดจำหน่ายอนิเมะ มังงะ (หนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น) เกมและรวมถึงของใช้เกี่ยวกับอนิเมะด้วย บริษัทนี้จัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ไปให้กับแฟนๆ ทั่วโลกเลยทีเดียว แม้ว่าอนิเมะจะได้รับความความนิยมอยู่มากพอสมควร แต่แฟนๆ กลับมีช่องทางในการสนับสนุนคนทำอนิเมะหรือมังงะผ่านทางการซื้อการ์ตูนและสินค้าที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ทางบริษัทจึงหวังว่าการนำเหรียญโอตาคุเข้ามาใช้จะทำให้กลุ่มลูกค้าเข้ามาสนับสนุนธุรกิจโดยตรงได้มากขึ้น คลิปวิดีโอโปรโมตเหรียญโอตาคุ วิธีการสะสมเหรียญโอตาคุก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย แฟนๆ อนิเมะก็เพียงแค่ทำสิ่งที่พวกเขาทำเป็นปกติอยู่แล้ว นั่นก็คือการรับชมอนิเมะ ช่วยกันแชร์อนิเมะ และเขียนรีวิวให้กับอนิเมะเพียงเท่านี้ก็ได้เหรียญโอตาคุมาใช้กันแล้ว หรือแม้แต่การไปงานอีเวนต์ก็ทำให้ได้รับเหรียญโอตาคุเช่นกัน เมื่อได้รับเหรียญโอตาคุมาแล้ว แฟนๆ ก็สามารถนำเหรียญเหล่านี้ไปซื้อของในเว็บไซต์หรือในงานอีเวนต์กันได้เลย นอกจากการซื้อของแล้วเหรียญเหล่านี้ยังสามารถใช้ส่งเป็นเงินสนับสนุนให้กับโครงการอนิเมะต่างๆ ได้ด้วย หรืออีกทางหนึ่งแฟนๆ ก็สามารถส่งเหรียญโอตาคุให้กับคนทำอนิเมะหรือมังงะเจาะจงเป็นรายบุคคลเลยก็ย่อมได้ เมื่อมีเงินสนับสนุนส่งให้แล้วคนทำผลงานก็จะได้สร้างอนิเมะและมังงะกันออกมาให้เราได้ชมมากขึ้นนั่นเอง หลังจากมีการเปิดตัวเหรียญโอตาคุออกสู่สาธารณะแล้ว ก็มีคนใหญ่คนโตในวงการอนิเมะหลายคนเข้ามาให้การสนับสนุนโครงการนี้ ในจำนวนนั้นก็รวมไปถึง Christopher Macdonald ผู้บริหารสูงสุดของ Anime News…
-
คุณพ่อมักจะเอาเงินไปซ่อนตามที่ต่างๆ ในบ้านของลูก….ให้ดีๆ ก็ไม่ได้ ปั๊ดโธ่!!
เรื่องราวน่ารักๆ นี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของหญิงสาวรายหนึ่ง หลังจากที่คุณพ่อของเธอได้ใช้ความสามารถพิเศษในการเม้มเงินคุณแม่ เพื่อสร้างเซอรไพรส์ให้กับลูกสาวสุดที่รัก คุณพ่อของหญิงสาวรายดังกล่าวได้นำเงินของเขาไปซ่อนไว้ตามที่ต่างๆ ในบ้านของลูกสาวเหมือนกับเป็นค่าตอบแทนที่คอยดูแลเขา “เราอาศัยอยู่ใกล้ๆ กัน และเขามักจะมาพบฉันเป็นประจำ เราเหมือนคู่ซี้เลย แต่โดยปรกติแล้วเขามักจะไม่ทิ้งอะไรไว้ จนกระทั่งฉันมาพบมันเข้า” Somebodysmama ผู้ใช้งานจากเว็บไซต์ Imgur พูดถึงพ่อของเธอ บางครั้งแบงก์ดอลลาร์ ก็มักจะถูกซ่อนไว้ใกล้ๆ กับถุงขนม คราวนี้คุณพ่อแอบเอามาหย่อนในกระเป๋าเองเลยจ้าา พร้อมกับบอกว่า “ขอบคุณสำหรับอาหารนะ” แหม่… ช่างเป็นคุณพ่อที่น่ารักจริงๆ เลยนะเนี่ย เจออีกแล้วนะคะ คุณพ่อ!! โอ… นั่นการ์ดวิเศษหรือ?? คราวนี้ดูเหมือนว่าหญิงสาวจะต้องหาที่จับดีๆ เพื่อเอามันลงมาแล้วหล่ะ ฮ่าๆ มีเงินอยู่ทุกที่จริงๆ . เจอต้นไม้ที่ออกดอกเป็นเงินแบบนี้ เห็นทีต้องหาเมล็ดมาปลูกซะแล้วมั้ง?? . คราวนี้คุณพ่อซ่อนไว้ที่ไหนน้า!? . . “ความสุขมีอยู่ทุกๆ ที่ หวังว่าลูกจะรู้สึกดีขึ้นเร็วๆ นี้นะ” ที่มา boredpanda
-
พบกับการดูหนังโป๊ในรูปแบบใหม่ แค่เข้าไปดูหนังโป๊ก็ได้เงินตรามาใช้ฟรีๆ ดีไปป่าวเพ่!?
ในยุคที่อินเตอร์เน็ตรุ่งเรืองแบบนี้เราจะค้นหาอะไรก็ง่ายไปเสียหมด ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงสื่อลามกอย่างหนังโป๊ด้วยเช่นกัน แม้ว่าในประเทศไทยหนังโป๊จะผิดกฎหมาย แต่ในบางประเทศนั้นธุรกิจหนังโป๊เป็นสิ่งถูกกฎหมายซึ่งสามารถทำเงินได้อย่างมหาศาลเลย นอกจากนี้จากการสำรวจของทางประเทศอเมริกาแล้ว พบว่าผู้ชายกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ในช่วงอายุ 18-30 ปีดูหนังโป๊เป็นเรื่องปกติอีกด้วย ซึ่งน่าจะพอตีความได้ว่าในประเทศอื่นเองก็มีคนรับชมหนังโป๊อยู่จำนวนมากพอสมควรเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ธุรกิจหนังโป๊ในปัจจุบันนั้นมักจะหาเงินจากการที่คนดูหนังโป๊เข้าไปชมโฆษณาในเว็บไซต์ ซึ่งไม่มีผลประโยชน์อะไรกับฝั่งคนดูเลย ทว่าในวันนี้มีคนคิดระบบใหม่ที่คุณสามารถรับชมหนังโป๊แล้วยังได้เงินจากการดูด้วย ฟังน่าสนใจใช่ไหมล่ะ บริษัทที่เสนอการดูหนังโป๊รูปแบบใหม่นี้ชื่อว่า Vice Industry Token พวกเขามีความตั้งใจที่จะแก้ไขรูปแบบหนังโป๊ที่ให้คนเข้าไปดูฟรีเพื่อรับค่าชมโฆษณา ซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อทางเว็บไซต์เท่านั้น ทางบริษัทอยากจะสร้างเว็บไซต์แบบบล็อกเชน (Blockchain) ซึ่งเป็นระบบที่ผู้ใช้งานทุกคนจะมีบัญชีเป็นของตัวเองซึ่งทางเว็บไซต์เป็นคนดูแลให้ จากนั้นถ้าผู้ใช้ทำตามภารกิจที่ทางเว็บไซต์ให้ไว้ได้ก็จะได้รับเงินไปใช้ฟรีๆ โดยภารกิจที่ว่านี้ก็จะมีตั้งแต่การเข้าไปตอบคอมเมนต์ในหนัง นำหนังไปแชร์ให้ผู้อื่น หรือการโหวตให้คะแนนในเว็บไซต์เป็นต้น ภารกิจเหล่านี้จะทำให้คนดูหนังโป๊ให้ความสนใจกับหนังมากขึ้น ส่งผลให้การเก็บข้อมูลจากผู้ใช้เพื่อมาพัฒนาผลงานหนังโป๊มีประสิทธิภาพตามมานั่นเอง ส่วนเงินตราที่ทางบริษัทจะแจกให้ผู้เข้าชมนั้นเรียกว่า VIT ซึ่งเป็นสกุลเงินตราจำลองเฉพาะของเว็บไซต์ในเครือของบริษัท โดยเงินที่ว่านี้สามารถสะสมนำไปใช้ดูหนังโป๊แบบสมาชิกพรีเมี่ยม รวมทั้งใช้ซื้อสินค้าหรือบริการจากเว็บไซต์ในเครือได้ด้วย Stuart Duncan ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารสูงสุดของบริษัท Vice Industry Token บอกว่าเขาต้องการใช้ระบบเงินตราจำลองรูปแบบใหม่นี้เพื่อดึงความสนใจและการตอบรับจากคนดูหนังโป๊มากขึ้น เขากล่าวว่า “ใครก็ดูหนังโป๊กันทั้งนั้นแหละ มันเป็นธุรกิจใหญ่ของโลกเราเลย แต่ระบบที่ใช้โฆษณาเป็นตัวหาเงินนี้มีจุดบกพร่องและมีการฉ้อโกงอยู่มาก การที่ผมนำระบบที่เรียกความสนใจจากคนดูเข้ามาใช้น่าจะทำให้เกิดประโยชน์กับทุกคนมากขึ้น” นอกจากการเข้าชมหนังโป๊และการทำสิ่งที่ทางบริษัทกำหนดไว้ให้…
-
งานวิจัยไขข้อสงสัยว่า ‘เงิน’ สามารถซื้อความสุขให้เราได้จริงๆ หรือเปล่า
หลายคนคงเคยได้ยินใช่ไหมว่า “เงินนั้นไม่สามารถซื้อได้ทุกอย่าง” หรือ “เงินนั้นซื้อความสุขไม่ได้” และเชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คงใช้ประสบการณ์ของตนเองตอบได้ทันทีว่าคำพูดเหล่านั้นเป็นจริงดังว่าหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนก็จะต้องมีคำตอบเป็นของตัวเอง และเกิดเป็นประเด็นถกเถียงกันในที่สุด วันนี้ คำถามที่ว่า “เงินซื้อความสุขได้หรือไม่?” ได้มีการศึกษากันอย่างเป็นวิทยาศาสตร์แล้ว โดยนักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ ที่ได้ทำการศึกษาว่า ต้องใช้เงินมากขนาดไหนถึงทำให้คนรู้สึกได้ถึงความสุข ซึ่งงานวิจัยชิ้นนี้ยังได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Emotion โดย American Psychological Association อีกด้วย มีงานวิจัยก่อนหน้านี้ที่ศึกษาถึงรูปแบบการเข้าสังคมแบบมุ่งเน้นตนเอง หรือมุ่งเน้นผู้อื่น จำแนกตามแต่ละชนชั้นทางสังคม โดยภายหลัง นักวิทยาศาสตร์ชื่อว่า Paul K. Piff กลุ่มนักศึกษา และผู้ช่วยวิจัย จึงพยายามจะขยายผลโดยการใช้ข้อมูลรายได้ในครอบครัวของแต่ละคนจากงานวิจัยก่อนหน้ามาใช้เทียบกับการเกิดอารมณ์ต่างๆ ทั้ง 7 ที่เป็นองค์ประกอบของความสุข ได้แก่ อารมณ์ขัน ความกลัว ความเห็นอกเห็นใจ ความพึงพอใจ ความกระตือรือร้น ความรัก และความภาคภูมิใจ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ การที่ได้รายได้สูงนั้นสัมพันธ์กันกับอารมณ์พึงพอใจ ภาคภูมิใจ และอารมณ์ขัน ซึ่งอารมณ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มุ่งเน้นไปยังตนเอง ในขณะที่การมีรายได้ต่ำนั้นสัมพันธ์กันกับอารมณ์ที่มุ่งเน้นไปยังผู้อื่น…
-
คุณแม่ออกไปเช่าหนัง กลับมาเปิดกล่องดู เจอโน้ตพร้อมตังค์แถมมาให้ด้วย!?
สำหรับในหลายๆ ประเทศ ตู้อัตโนมัติไว้สำหรับเช่าหนังแผ่นถือว่าเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ด้วยวิธีการที่ง่ายให้คุณสามารถเลือกชมหนังเรื่องโปรดได้ที่บ้านของตัวเองในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เหมาะสำหรับคนที่บ้านไม่มีอินเตอร์เน็ตไว้ดูหนังออนไลน์ ซึ่งหนึ่งในตู้ยอดนิยมนั้นเป็นของบริษัท Redbox ตู้เช่าหนังอัตโนมัติของ Redbox เพียงแค่จ่ายเงินเข้าเครื่องก็สามารถเลือกนำหนังที่อยากดูกลับบ้านได้ง่ายๆ แต่ไม่แน่ว่าคุณอาจได้ของแถมที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเหมือนกับคุณแม่ท่านนี้ก็ได้นะ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า Liz ได้แชร์เรื่องราวในวันที่ 27 มกราคม 2017 เมื่อคุณแม่ของเธอได้ไปเจอเข้ากับของแถมสุดเซอร์ไพรส์จากกล่องดีวีดีหนังที่เธอไปเช่ามาจากตู้อัตโนมัติ ตอนที่เธอมาถึงบ้านและได้เปิดดูก็พบเข้ากับแผ่นหนังดีวีดีแต่ไม่ได้มีเพียงแค่นั้นเพราะมันกลับมีกระดาษโน้ตและเงินกว่า 3,300 บาทติดมาด้วย!! เซอร์ไพรส์มั้ยละคุณ นอกจากจะได้ดูหนังแล้วยังได้เงินไปซื้อหนมมากินอีกด้วย ไม่รอช้าเธอได้นำกระดาษโน้ตขึ้นมาอ่านจนทำให้เข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงมีของแถมเหล่านี้ กระดาษโน้ตเขียนไว้ว่า “สวัสดี!! ผมชื่อ Marcos นะ ทุกเดือนผมจะนำเงิน 100 ดอลลาร์สหรัฐให้คนแปลกหน้า นี่เป็นเดือนแรกที่ผมหันมาใช้วิธีใส่ลงไปในกล่องดีวีดีของ Redbox แทน คุณเป็นคนแรกที่ได้รับมันในปี 2017 เลยนะ!! ขอให้คุณนำเงินไปใช้ในทางที่ดี แต่ถ้าไม่ต้องการก็ส่งมันต่อไปให้คนอื่น ขอให้เป็นวันที่ดีนะ บายยย” นับว่าเป็นความน่ารักและเป็นวิธีการที่สามารถมอบความสุขให้กับใครหลายคนได้ดีเลยจริงๆ ชาวเน็ตที่ได้เห็นต่างมาแสดงความชื่นชมให้กับชายคนนั้น “นั่นเป็นเรื่องที่น่าตกใจมาก ฉันเชื่อมาตลอดว่าความดียังคงมีอยู่ในตัวมนุษย์จริงๆ”…
-
เมืองหนึ่งในอิตาลีที่อยากให้คนย้ายเข้าไปอยู่ จนถึงกับยอมควักเงินจ่ายให้เลยนะเออ
เราต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากให้กับการย้ายบ้านหรือย้ายที่อยู่ ทั้งเรื่องรถขนของ ค่าเช่าบ้านใหม่ ค่าซ่อมแซมอื่นๆ แต่ถ้าคุณได้ย้ายมาที่เมืองนี้รับรองว่าไม่ได้ทำให้คุณเสียเงินเพียงอย่างเดียว เพราะคุณจะได้รับเงินค่าตอบแทนที่ย้ายเข้ามาอีกด้วย เมืองดังกล่าวมีชื่อว่า Candela ตั้งอยู่ในประเทศอิตาลี โดยพวกเขาได้ให้ข้อเสนอเอาไว้ว่าถ้าหากคุณย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ในเมือง จะทำให้ได้รับเงินมากกว่า 78,000 บาทเลยทีเดียว . เหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นก็เพราะจำนวนประชากรที่ลดลงไปมาก จากที่เคยมีคนอยู่กว่า 8,000 คนตอนนี้กลับเหลือเพียงแค่ 2,700 คนเท่านั้นเอง เมื่อคนหายไป ความครึกครื้นมีชีวิตชีวาของเมืองก็หายตามไปด้วย วัยรุ่นหนุ่มสาวส่วนใหญ่ก็หนีไปที่อื่น เหลือไว้เพียงแค่ผู้เฒ่าผู้แก่ เพราะอย่างนั้นหากปล่อยทิ้งไว้เมืองนี้คงกลายเป็นเมืองร้างอย่างแน่นอน Nicola Gatta นายกเทศมนตรีประจำเมืองจึงไม่อาจอยู่นิ่งเฉยได้ เขาจึงคิดข้อเสนอใหม่สำหรับดึงดูดให้คนเข้ามาอยู่กันมากขึ้น สังเกตเห็นได้ว่าในเมืองมีผู้สูงอายุอยู่กันเป็นส่วนใหญ่ ถนนที่ทอดยาวเชื่อมหาเมืองใกล้ๆ ข้อเสนอนั้นคือการมอบเงินค่าตอบแทนให้โดยแบ่งตามจำนวนคนในครอบครัว ถ้ามาแบบคนเดียวโสดๆ ก็จะได้รับ 30,000 บาท มากับแฟนได้ 46,000 บาท มาเป็นครอบครัวสามคนได้ 70,000 บาท และถ้าหากมากัน 4 – 5 คนจะได้มากกว่า 78,000 บาทกันไปเลย และยังมีเรื่องของภาษีค่าใช้จ่าย…
-
หนุ่มขายฮอทด็อก ถูกตำรวจกลั่นแกล้งยึดเงินไปหมด ชาวเน็ตระดมทุนช่วยรวม 2.6 ล้านบาท!!
“ทุกคนแถวนั้นเห็นเหมือนกันหมดครับ ผมไม่ได้ทำอะไร ผมไม่ได้ขโมยของใคร ไม่ได้เมา ผมก็แค่ทำงานเพื่อหาเงินให้ครอบครัวเท่านั้น…” เป็นประโยคที่สะเทือนใจชาวโซเชียลไปทั่วโลก จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมื่อตำรวจคนหนึ่งได้แจ้งข้อหาสั่งปรับหนุ่มขายฮอทด็อก แต่เท่านั้นยังไม่จบ… นายตำรวจยังได้นำเงินจำนวนทั้งหมด 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจากคนขายไส้กรอกอย่างหน้าตาเฉย ราวกับว่านี่เป็นการปล้นกันซึ่งๆ หน้า ภาพจากวิดีโอที่มีคนในละแวกนั้นถ่ายเก็บไว้ได้ (กระเป๋าเงินของคนขายไส้กรอก) หลังจากวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงบนโซเชียล ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแชร์เรื่องราวแย่ๆ ของตำรวจคนนี้มากกว่า 36,000 ครั้ง และด้วยพลังของชาวเน็ตก็ทำให้สืบทราบมาว่า นายตำรวจคนดังกล่าวชื่อ Sean Aranas โดยในคลิปวิดีโอเจ้าตัวได้พูดทำนองว่า “นี่ถือเป็นการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอย่างถูกต้อง..” ภาพจังหวะตอนเจ้าหน้าที่ริบเงินของคนขายไปทั้งหมด จากนั้นสำนักข่าวท้องถิ่นก็ได้เข้าไปสัมภาษณ์ผู้เสียหาย โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่า ยอมรับว่าไปเปิดร้านตรงนั้นโดยไม่ได้ขออนุญาตก่อน ตนยอมรับได้ที่จะถูกใบสั่งให้ไปเสียค่าปรับ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจถึงมีสิทธิเอาเงินไปซึ่งๆ หน้าแบบนั้น ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ออกมาชี้แจงว่า จะทำการไต่สวนเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว แต่ในส่วนข้อหาการเปิดร้านขายข้างทางโดยไม่ได้ขออนุญาตเจ้าของจะต้องเสียค่าปรับตามกฎหมายกำหนด จากการถูกเจ้าหน้าที่กลั่นแกล้ง ทำให้ชาวเน็ตผู้ถ่ายเหตุการณ์ได้สร้างแคมเปญระดมทุนเพ่อช่วยเหลือครอบครัวของคนขายผ่านเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อช่วยเป็นค่าปรับ และช่วยเหลือค่าเสียหายต่างๆ ยอดเงินที่ชาวเน็ตตั้งไว้ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมีคนบริจาคให้มากถึง 82,800…
-
เคล็ดลับอิสระในการทำงานของสาววัย 23 ปี ที่หารายได้ผ่านไอจี ได้มากกว่าการเป็นนางแบบ…
ปัจจุบันการสร้างรายได้ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็สามารถเห็นกันได้เป็นเรื่องปกติ อย่างเช่นการเปิดราคาให้คนสามารถเข้ามาจับจ่ายใช้สอยกันในโลกออนไลน์ การทำโฆษณา หรือแม้แต่การมีสปอนเซอร์ให้เราช่วยโปรโมทสินค้าต่างๆ เหมือนกับเธอคนนี้ที่บอกได้เลยว่าเป็นหนึ่งคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเลยทีเดียว Gabby Epstein หญิงสาววัย 23 กับการทำงานในฝันของใครหลายคน ที่ตอนนี้เธอมีรายได้จากการโปรโมทสินค้าให้กับผู้ที่เป็นสปอนเซอร์ให้ต่างๆ มากมายผ่านอินสตาแกรมกับยอดติดตามมากกว่า 1.8 ล้านคน และบอกเลยว่าการเป็นนางแบบอาชีพที่เธอทำควบคู่กัน รายได้การทำงาน 4 วันในการเป็นนางแบบของเธอยังไม่เท่ากับสปอนเซอร์ที่เข้ามาจ่ายค่าโฆษณาในโซเชียลมีเดียเพียงรายเดียวเลย . และครั้งนี้เธอก็ได้ออกมาบอกเล่าสาวๆ ทั้งหลายว่า เธอมาถึงจุดที่สามารถนำการทำงานมาผนวกเข้ากับการไปเที่ยว ความสวยงาม ชุดว่ายน้ำ แฟชั่น หรือแม้แต่การใช้ชีวิตไปรอบๆ โลกอย่างนี้ได้อย่างไรห ย้อนกลับไปในตอนที่เธอยังเรียนมหาวิทยาลัยสาขาวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ เธอก็ได้มาทำความรู้จักกับอินสตาแกรมผ่านการแนะนำของเพื่อนๆ ซึ่งในตอนนั้นนอกจากเรื่องเรียนแล้วเธอยังทำงานพาร์ทไทม์ และเป็นนางแบบอีกด้วย การเป็นนางแบบแน่นอนว่าต้องออกเดินทางไปตามที่ต่างๆ ที่สวยงาม จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอได้ถ่ายรูปและโพสต์ลงอินสตาแกรม เพื่อนๆ ของเธอมากมายก็ได้เข้ามาเห็นว่าเธอได้ออกมาเจอกับอะไรบ้างในชีวิต จนเมื่อทางแบรนด์สินค้าหรือบริษัทต่างๆ ติดต่อเข้ามายื่นข้อเสนอให้เธอได้รับเสื้อผ้าฟรีๆ ผลิตภัณฑ์หรือแม้แต่ทริปท่องเที่ยว เพื่อแลกกับการโปรโมทสินค้าให้กับพวกเขาเหล่านั้นลงในหน้าเพจของเธอ จนกระทั่งมันเติบโตกลายเป็นอาชีพหลักของเธอไปแล้ว ดังนั้นเธอจึงตอบรับกับข้อเสนอที่ได้รับจากโรงแรมหรือบริษัทท่องเที่ยวเพื่อออกเดินทางไปยังประเทศต่างๆ มากมาย โดยเมื่อช่วง 2 ปีก่อน เธอกล่าวว่า “ฉันได้ใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนในการทัวร์ยุโรปและถ่ายภาพในเนื้อหาที่เหมาะกับคู่รัก…
-
Forbes เผย หลังไฟต์หยุดโลก McGregor เป็นนักกีฬาที่มีรายได้แซง CR7 ไปเรียบร้อย!!
แม้ว่าศึกกำปั้นหยุดโลกของ Conor McGregor กับ Floyd Mayweather จะจบลงกันไปแล้ว ศึกผลแพ้ชนะเราก็รู้กันว่าตา Conor เป็นฝ่ายแพ้ไปแต่เชื่อไหมว่า แม้เขาจะแพ้แต่เงินในกระเป๋าของเขากลับเพิ่มพูนกลายเป็นผู้ชนะเฉย ซึ่งจากศึกในครั้งนั้น เขาได้รับเงินค่าตอบแทนสูงถึงราวๆ 3 พันล้านบาท ซึ่งนั้นถือเป็นเงินที่มหาศาลมากๆ สำหรับการชกเพียงครั้งเดียว และสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้ชนะนั้นก็คือ อันดับรายได้ของเขาที่ถูกจัดในเว็บไซต์ Forbes ในสาขานักกีฬาตอนนี้แซงนักฟุตบอลชื่อดัง Cristiano Ronaldo กันไปเรียบร้อยแล้ว ศึกหยุดโลกที่ผ่านมา แม้จะแพ้คนนี้ แต่ Conor ก็ไปชนะอีกคนแทนนะ ตัว Cristiano Ronaldo นั้นมีรายรับที่จัดอยู่ใน Forbes อยู่ที่ราวๆ 2.5 พันล้านบาท ซึ่งน้อยกว่า McGregor ไป 5 ร้อยล้านบาท เขาจึงตกอันดับลงไปนั่นเอง สองนักกีฬาดังมาเจอกันแบบนี้ ก็ต้องถ่ายรูปด้วยกันหน่อย และถ้าย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ก่อนที่ศึกใหญ่นี้จะเกิดขึ้น ทั้งคู่เคยพับกันมาก่อนแล้ว โดยตัว Cristiano Ronaldo ได้แวะไปหา Conor McGregor ที่สนามฝึกซ้อมและทั้งคู่ก็ได้มีการหยอกล้อกันเล็กๆ Conor McGregor บอกว่า…
-
น้องหมาจอมหิวกินได้แม้กระทั่ง ‘เงิน’ แบบนี้แม่จะซื้ออาหารให้หนูได้ยังไงล่ะลูก??
น้องหมาและน้องแมวอาจเป็นสัตว์เลี้ยงที่เต็มไปด้วยความน่ารักน่าชัง แต่บางครั้งพวกมันก็แปลงร่างกายเป็นปิศาจตัวน้อยๆ ของคุณได้เช่นกัน สำหรับใครมีสัตว์เลี้ยงก็คงจะเคยเจอปัญหาน้องหมานักทำลายล้างกันมาบ้างแน่ๆ ใช่ไหมล่ะ และชาวเน็ตจากญี่ปุ่นท่านนี้ก็มีชะตากรรมไม่ได้แตกต่างจากพวกเราเล๊ย!! เมื่อเร็วๆ นี้ได้มีการเผยแพร่ภาพเศษธนาบัตรมูลค่ากว่า 10,000 เยนหรือประมาณ 3,000 บาทพร้อมกับภาพของผู้ต้องสงสัย โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ @asuka1216na5 และหลังจากนั้นก็ได้มีชาวเน็ตจำนวนมาเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมกับปลอบใจเจ้าของภาพ บางคนก็เข้ามาคอมเม้นต์ปลอบใจแบบฮาๆ ว่าเงินทองมันก็แค่ของนอกกายเท่านั้นน่า ในขณะที่บางคนก็บอกว่าลองสังเกตหน้าของชายที่อยู่บนธนาบัตรดีๆ สิ บางที่เขาอาจจะกำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่ก็ได้นะ ฮ่าๆ แต่ดูมุมนี้เขาอาจจะรู้สึกเซงมากกว่าก็ได้นะ!! แต่ดูเหมือนว่าคุณ @asuka1216na5’s จะไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้เดียวที่กำลังประสบปัญหาน้องหมาหิวเงินนี้ เมื่อชาวเน็ตท่านหนึ่งได้แชร์รูปภาพของเจ้าตูบของเขาที่กำลังทำหน้าตาเหมือนกับมีความผิด พร้อมกับภาพของธนาบัตร 10,000 เยน ที่แหว่งออกไป ใครๆ ก็ชอบเงินทั้งนั้นแหละน่า บ๊อกๆ และแล้วก็ความหวังที่จะกอบกู้เงินคืนมาของจากเจ้าตูบก็เริ่มมีความหวังขึ้นมา เมื่อมีชาวเน็ตท่านหนึ่งได้โพสต์แผนภาพแสดงลักษณะของธนบัตรชำรุดที่ธนาคารรับแลก โดยแผนภาพดังกล่าวอธิบายไว้ว่าธนาคารจะยอมรับแลกถ้าหากว่าธนบัตรนั้นมีการชำรุดไม่เกิน 2 ใน 3 และนี่คือแผนภาพที่ว่านั้น สีฟ้าคือแบบที่ธนาคารยอมรับแลก ส่วนสีแดงหมดสิทธิ์จ้า เงินทองก็แค่ของนอกกาย ฮือออ!! เจ้าหมาาา ที่มา rocketnews24
-
ชีวิตน่าอิจฉาของชายหนุ่มผู้กล้าทำตามฝันของตัวเอง ด้วยการ “ท่องเที่ยว” ปีละ 6 เดือน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การทำงานเป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญของชีวิตเรา เพราะถ้าหากไม่ได้ทำงานแล้วแน่นอนว่าจะเอาเงินที่ไหนมายาไส้กันล่ะครับ!! แต่การที่จะต้องทำงานไปตลอดทั้งวันจนไม่มีวันหยุดพักเลยก็ดูจะผิดมนุษย์ไปหน่อยเหมือนกันนะ อ่า.. อาจจะสงสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะว่าความพอดีเนี่ยมันอยู่ตรงไหนกัน?? ถ้าหากใครอยากละลองหาความพอดีของการทำงานและการใช้ชีวิตนั้น ลองไปพบกับเรื่องราวของพ่อหนุ่มคนนี้ได้เลย… พบกับ Benedict หรือ Ultra Romance ชายหนุ่มวัย 35 ปี ที่ทำงานครึ่งปีและหยุดครึ่งปี Benedict ค้นพบว่าการทำงานหนักตลอดทั้งปีนั้นมันดูจะผิดธรรมชาติมนุษย์ไปหน่อย ทุกวันนี้ Benedict ทำอาชีพคนตกปลาและเปิดให้เช่าเรือหาปลา ในแต่ละปีเขาจะทำงานหนักเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น และใช้เวลาอีกครึ่งปีที่เหลือออกไปใช้ชีวิตกับธรรมชาติ แต่การเดินทางท่องโลกกว้างของเขานั้นไม่ได้ใช้ค่าใช่จ่ายที่สูงแต่อย่างใด บางวันเขาใช้เงินในการท่องเที่ยวเพียงแค่ 350 บาทเท่านั้น เขาเลือกใช้จักรยานเป็นพาหนะในการท่องเที่ยว สำภาระทุกอย่างถูกบรรทุกไว้กับจักรยานคู่ใจของเขา Benedict บอกว่า “ชีวิตธรรมดานั้นไม่ใช่ผม ผมจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย และกำลังจะได้เป็นครูสอนพละ แต่แล้วภาพของอนาคตที่แสนน่าเบื่อก็ผุดขึ้นมาในหัวผม ซึ่งชีวิตแบบนั้นผมไม่ต้องการมันซักนิด” ในแต่ละปี Benedict จะมีรายได้จากการทำธุรกิจเรือของเขาประมาณ 300,000 บาท ถึงแม้จะไม่ใช่เงินที่มากมายแต่นี่ก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา เขาบอกว่าตัวเขาเองนั้นเป็นชาวประมงและใช้เวลาส่วนมากไปกับการหาปลาซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถเลี้ยงชีพตัวเองได้ ซึ่งมันแตกต่างกับพนักงานที่ต้องทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ทั่วๆ ไป …
-
อดีตทหารผ่านศึก บริจาคที่ดินส่วนตัวมูลค่า 77 ล้านบาท มอบให้องค์กรกุศลเพื่อช่วยสังคม!!
อีกเรื่องราวคุณงามความดีของนายทหารผู้ผ่านศึกสงคราม ที่ได้บริจาคพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองหลังเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อมอบให้แก่องค์กรการกุศลช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์… Stephen Florentz อดีตทหารผ่านศึกที่เคยผ่านสมรภูมิรบในเวียดนาม ในฐานะแพทย์สนามที่คอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ หลังจบจากสงครามเขาก็ได้ย้ายมาทำหน้าที่เป็นแพทย์ให้กับโรงพยาบาลในชุมชน Stephen Florentz ช่วงบั้นปลายชีวิตเขาได้มอบพินัยกรรม ทำการบริจาคที่ดินทั้งหมดให้กับองค์กร Central Oklahoma Habitat for Humanity “ดูเหมือนว่านั่นจะเป็นเรื่องเดียวที่เค้าใส่ใจมากที่สุดในชีวิต โดยเฉพาะช่วงหลังจากที่เขาได้ย้ายมาอาศัยอยู่ที่โอคลาโฮมา และมีบ้านเป็นของตัวเอง” Mike Bourland เพื่อนคนสนิทเล่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวปัจจุบันถูกสร้างให้เป็นที่พักสำหรับกลุ่มคนไร้บ้าน และคนที่ต้องการความช่วยเหลือต่างๆ เจ้าตัวได้ทำการติดต่อกับ Ann Felton CEO ผู้ดูแลองค์กรดังกล่าว ทว่าไม่มีใครรู้มาก่อนว่าเขาได้ทำการมอบพื้นที่ทั้งหมดให้กับองค์กรไว้ก่อนแล้ว จนกระทั่งเมื่อ 6 เดือนก่อน คุณลุงสตีเฟ่นได้ลาจากโลกไปอย่างสงบ จนเมื่อมีการเปิดพินัยกรรมถึงได้รู้ว่า คุณลุงได้มอบโฉนดที่ดินทั้งหมดมูลค่ากว่า 2.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 77 ล้านบาท) “พวกเราไม่แปลกใจเลยที่เขาบริจาคทรัพย์สินทั้งหมดที่ตัวเองมีให้กับมูลนิธิ เพราะนี่คือภาพสะท้อนตัวตนของความเป็น Stephen Florentz อย่างแท้จริง… เขาเป็นทั้งผู้ให้ และผู้ที่คอยหวังดีกับเพื่อนมนุษย์เสมอ” T. Sheri…
-
ช่องยูทูปจีน ไปทดสอบทักคนญี่ปุ่นว่า “ทำเงินตก” เพื่อดูว่าพวกเขาจะรับหรือไม่!?
สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับชาวญี่ปุ่นมานานคือ ‘ความซื่อสัตย์’ ที่ถูกปลูกฝังมาหลายต่อหลายชั่วอายุคน ไม่ว่าใครต่างก็รู้สึกประทับใจกับสิ่งเหล่านี้ที่พบเจอมา ถึงกับเป็นการบอกปากต่อปากว่าชาวญี่ปุ่นนั้นมีความซื่อสัตย์มากขนาดไหน แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเจอการแสดงความซื่อสัตย์ของชาวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ก็คงจะไม่เชื่อซักเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากพอสมควรในโลกอินเตอร์เน็ต อย่างเช่นการทำคลิปทดสอบความซื่อสัตย์ของชาวญี่ปุ่นที่มีอย่างแพร่หลายผ่านยูทูป และในคราวนี้ก็เช่นเดียวกัน เป็นการทดสอบความซื่อสัตย์ของชาวญี่ปุ่นจากช่อง YouTube สัญชาติจีน JokeTV ด้วยการพิสูจน์จากเงินจำนวน 10,000 เยน ทำทีไปทักว่าคนๆ นั้นทำเงินตก (ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ของตัวเอง) แล้วเขาจะรับเงินจำนวนมากขนาดนี้รึเปล่า? สำหรับธนบัตร 10,000 เยนนั้นถือว่าเป็นธนบัตรที่ชาวญี่ปุ่นนิยมพกติดไว้ในกระเป๋าหลายๆ ใบ เพื่อความสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวัน (เหมือนดั่งธนบัตรมูลค่า 1,000 บาทของบ้านเรา) พอชายผู้นี้โดนทักว่าทำเงินตกรึเปล่า เขารีบปฏิเสธทันทีว่าไม่ใช่ของตัวเอง บางคนที่ถูกทักปุ๊บ ก็จัดแจงตรวจสอบกระเป๋าเงินก่อนว่าทำตกจริงๆ รึเปล่า แต่ทว่าก็ไม่มีใครยอมรับว่าทำเงินตกเลย ทำเงินตกรึเปล่าคะ? เอ่อ เปล่าครับ อย่างเธอคนนี้ก็ถูกทักว่าทำเงินตกจากจุดที่เดินผ่านมา สุดท้ายแล้วก็บอกว่าไม่ได้ทำตกแต่อย่างใด คุณยายรายนี้ก็ถูกทักเช่นกัน…
-
รวม 18 สถานที่ซ่อนเงิน สำหรับพ่อบ้านใจกล้า ไม่ได้อยากท้าทาย… แต่เพื่อความอยู่รอด
เมื่อคน 2 คนตกลงปลงใจกันใช้ชีวิตคู่แล้ว ไม่ว่าอะไรก็ต้องแบ่งปันกัน ไม่ว่าจะบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ หรือเงิน เพราะถือว่าเป็นคนๆ เดียวกันแล้ว แต่บางครั้งแม่กวางน้อยก็ออกจะโหดกับพ่อบ้านไปสักนิด เพราะพวกเธอจะไม่ค่อยยอมให้หนุ่มๆ เอาเงินไปซื้อของเล็กๆ น้อยๆ ที่พวกเขาอยากได้ ด้วยเหตุผลว่าอาจจะเปลืองเงิน หรือควรจะเก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นมากกว่า ในบทความนี้#เหมียวฟิ้นเลยรวบรวมและหาสถานที่เหมาะๆ ที่เหล่าพ่อบ้านพอจะใช้เป็นแหล่งพักเงินชั่วคราวของพวกเขาได้ มีที่ไหนน่าสนใจและไม่เคยเห็นบ้าง เราจะมาแฉ เอ้ย เราจะมาแนะนำกันนะ… 1. กล่องใส่รองเท้าเก่าๆ แต่ควรเก็บกล่องไว้ในที่ปลอดภัยๆ นิดนึงนะ เพราะแม่กวางน้อยอาจจะเอาไปทิ้งวันไหนก็ไม่รู้ 2. เจาะช่องใต้พรมให้พอดีแล้ววางเงินลงไป (แต่ควรเจาะในที่ที่ห่างจากทางเดินนิดนึงนะ ไม่งั้นอาจจะหลุดออกมาโดยไม่รู้ตัว) 3. ซ่อนไว้ในตุ๊กตาของลูกๆ (จำแม่นๆ หน่อยนะว่าอยู่ในตัวไหน) 4. ซ่อนไว้ในแจกัน 5. ซ่อนไว้ในเข็มขัด ติดตัวเราไปตลอดเวลา แทบไม่เหลือร่องรอย 6. บ้านใครมีคอม ลองแงะออกมาแล้วยัดเงินลงไปเลย 7. ถ้านาฬิกาแขวนของคุณสามารถเปิดออกได้ ก็ใส่เงินลงไปเลย …
-
เรื่องราวของสาวมาเล ที่บังเอิญเงินเด้งเข้าบัญชี 100 ล้านบาท แล้วก็เอาไปใช้ซะงั้น!?
ก่อนหน้านี้ลูกพี่เหมียวจอมหื่น #จ่าสิบเหมียว ได้ลงเรื่องราวของหนุ่มเมกัน ที่บัตรเครดิตของเขาเกิดผิดพลาด ได้รับวงเงินอย่างไม่จำกัด พลิกชีวิตจากดินสู่ดาวมาแล้ว (ติดตามข่าวเดิมได้ที่นี่) แถมศาลยังยกฟ้องกรณีที่เจ้าตัวถูกธนาคารฟ้องอีกด้วย แต่สำหรับคราวนี้ เกิดเหตุการณ์คล้ายๆกัน เมื่อสาวมาเลเซียเชื้อสายจีน ผู้อาศัยอยู่ในออสเตรเลีย Christine Jiaxin Lee วัย 21 ปี ที่จู่ๆก็มีเงินเด้งเข้าบัญชีเธอมากกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเจ้าตัวก็คิดว่าพ่อแม่ใจดีโอนมาให้ซะอีก Christine Jiaxin Lee ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 จู่ๆก็มีเงินเด้งเข้าบัญชีเธอเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าวงเงินสูงขนาดนี้ ใครล่ะจะอดใจไหว เธอจึงเอาไปช็อปปิ้งอย่างสนุกสนาน (แอบนิสัยไม่ดีเนาะ) จากการรายงานของ Dailymail ได้ระบุว่า เธอถลุงเงินไปกับการช็อปปิ้งกระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า สินค้าแฟชั่นแต่งตัวจากแบรนด์ดังทั้งหลาย ซึ่งเธอจ่ายเงินไปสูงถึง 8 ล้านบาท ไปกับการช็อปกระเป๋าแบรนด์ Dior ภายใน 1 วัน คอลเล็คชั่นกระเป๋าส่วนหนึ่งของเธอ เรียกได้ว่าหรูหราสุดๆ นี่ก็อีกส่วนหนึ่ง และนี่ก็ด้วย…
-
สรุปให้เข้าใจง่ายๆ 8 ข้อ ร่างกฎหมาย กยศ. ฉบับเก่า vs ใหม่ แตกต่างกันอย่างไร!? กู้ยาก!? ดอกเบี้ยแพง!?
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการมีอยู่ของหน่วยงานที่ชื่อ กยศ. (กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา) ทำให้เด็กไทยเป็นแสนเป็นล้านคนสามารถมีทุนการศึกษาเพื่อเล่าเรียนต่อและต่อยอดโอกาสให้กับตัวเอง โดยส่วนตัว#เหมียวฟิ้นเองในช่วงมัธยมก็ได้กู้เพื่อมาเรียนเหมือนกัน แต่คนบางคนเห็นว่ามีดอกเบี้ยที่ต่ำก็เลยเอาเงินไปผ่อนมือถือหรือซื้อของใช้ฟุ่มเฟือยเสียมากกว่า และเมื่อจบการศึกษาไปแล้วกลับไม่ยอมใช้หนี้ กยศ. จนตอนนี้มีรายชื่อผู้ค้างชำระหนี้มากถึง 1.9 ล้านราย ด้วยเหตุนี้เองทางกยศ.จึงได้เตรียมร่างกฎหมายฉบับใหม่ เพื่อทำให้การกู้ยืมเงินเป็นไปได้ยากขึ้นและสร้างกฎเกณฑ์เพื่อให้คนหันกลับมาชำระหนี้หลังจากที่จบการศึกษาไปแล้ว โดยในร่างกฎหมายฉบับเดิมระบุว่าผู้มีสิทธิ์กู้คือนักเรียนและนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แต่ในร่างกฎหมายฉบับใหม่นี้จะเพิ่มเงื่อนไขเข้าไปอีก ว่านอกจากจะขาดทุนทรัพย์แล้วจะต้องเป็นนักเรียนนักศึกษาที่เรียนในสาขาที่มีความจำเป็นพ่อประเทศหรือสาขาที่ประเทศกำลังขาดแคลน (ถ้าเรียนตามใจตัวเองก็จะไม่สามารถกู้ได้) และต้องเรียนดีด้วย ต่อไปนี้จะเป็นการเปรียบเทียบเงื่อนไขการกู้ยืมเงินแบบเก่าและแบบใหม่ดูว่ามีความแตกต่างกันยังไงบ้าง!? 1. เรื่องผลการศึกษา แบบเก่า: เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.00 แบบใหม่: เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1.00 จุดนี้จะเห็นได้ว่าเปิดโอกาสให้นักเรียนที่มีผลการเรียนแย่กว่าเดิมสามารถกู้ได้ เหมือนกับการเปิดโอกาส แต่การที่จะมีคนได้เกรด 1.00 หรือ 1.25 แล้วได้เรียนต่อไป (จุดนี้ต้องตั้งคำถามว่ายังมีสถาบันที่เปิดโอกาสให้เรียนต่อไปอีกหรือไม่ เพราะบางสถาบันเกรดต่ำกว่า 1.75 หรือ 2.00 ก็จะถูกบังคับออกแล้ว) 2. ดอกเบี้ย แบบเก่า: ดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อปี แบบใหม่: ดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี จากเดิมที่เงินกู้ กยศ.…
-
ไบค์เกอร์ใจดีเก็บกระเป๋าได้ “ขับรถไล่คืน” แต่เจ้าของชูนิ้วกลางใส่ โยนซะเลยงานนี้!!
นี่เป็นอีกหนึ่งเรื่องดราม่าที่เถียงกันไม่ตกจริงๆ สำหรับเมืองนอก เมื่อหนุ่มไบค์เกอร์คนหนึ่ง ซึ่งมีจิตใจดี เขาได้เห็นรถยนต์คันหนึ่งทำกระเป๋าเงินตกไว้ ก็เลยพยายามขับตามไปเอากระเป๋าเงินไปคืน แต่กลับเจอพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีจากเจ้าของ เหตุการณ์ทั้งหมดถูกจับภาพไว้ได้จากกล้องที่ติดอยู่บนหัวหนุ่มไบค์เกอร์โดยเริ่มจากการที่เขาได้ไปเห็นรถคันนี้กำลังเลี้ยวออกมาจากปั๊มน้ำมัน ก็ได้เจอรถยนต์คันดังกล่าว เหมือนจะลืมกระเป๋าเงินและมือถือไว้บนหลังคารถ ซึ่งตอนเลี้ยวออกมาทำให้กระเป๋าเงินหล่น ภาพเหตุการณ์ที่กล้องบันทึกเอาไว้ หนุ่มไบเกอร์คนนี้ก็เลยรีบไปเก็บให้ เพราะกลัวว่าเขาจะไม่เห็นและขับไปไกล พร้อมกับพยายามขับตามไปเรื่อยๆ ทั้งบีบแตรและเรียก แต่คนขับรถยนต์ก็ไม่สนใจ พร้อมทั้งชูนิ้วกลางและเอามือปัดไล่ให้ไปไกลๆ นี่เขาคงคิดว่าพ่อหนุ่มมาก่อความรำคาญหรืออย่างไร!? จนกระทั่งรถยนต์ได้จอดลง ไบค์เกอร์ก็ได้โชว์กระเป๋าเงินให้เขาได้ดู หลังจากที่คนขับรถยนต์เห็นก็พูดว่า ‘thank you so much bro’ แต่หนุ่มไบค์เกอร์ก็อยากจะดัดนิสัยของเขาเสียหน่อย ก็เลยโยนกระเป๋าเงินเข้าหน้าต่างไป หลังจากนั้นเขาก็ได้เห็นว่าเขาลืมมือถือไว้ข้างบนรถด้วย ก็เลยอยากจะดัดนิสัยต่อด้วยการทิ้งลงพื้นมันซะเลย หลังจากคลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้เป็นที่ถกเถียงกันอย่างมากที่สิ่งที่เขาทำนั่นมันถูกต้องหรือไม่ ซึ่งเสียงก็แบ่งออกเป็นสองฝ่าย “คนขับรถไม่รู้ว่าไบค์เกอร์ตามเขามาทำไม และเขาก็ได้ขอบคุณเมื่อนึกขึ้นได้ ไบค์เกอร์ควรไม่สนใจเรื่องก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะทำเรื่องไม่ดีก็ตาม” “ไบค์เกอร์น่าจะเป็นพวกหลงตัวเอง เขาจิตใจดี แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นคนดีด้วย” “คนขับรถยนต์สมควรได้รับแล้ว” เราไปชมคลิปเหตุการณ์กันเลย แล้วเพื่อนๆ คิดว่าการกระทำของหนุ่มไบค์เกอร์คนนี้เกินกว่าเหตุไปหรือเปล่า ลองแสดงความคิดเห็นกันมาได้นะจ๊ะ ที่มา dailymail
-
หนุ่มทำเงินแสนปลิวกระจุยหน้าธนาคาร พนักงานช่วยตามเก็บ จนได้กลับมาครบทุกใบ!!
ลองนึกภาพถ้าเราถือเงินสดกว่าแสนบาทเพื่อที่จะนำไปฝากธนาคาร แต่โชคร้าย เราดันทำเงินจำนวนนั้นตก แถมยังถูกลมพัดจนกระจุยกระชาย ความรู้สึกของเราตอนนั้นจะสิ้นหวังขนาดไหน สำหรับ หยาง ชายชาวจีนคนนี้ก็เช่นกัน เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเขาได้นำเงินสดที่เก็บหอมรอมริดมาอย่างยาวนานจำนวน 30,000 หยวน หรือราว 150,000 บาท ไปฝากธนาคารแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงสู แต่ยังไม่ทันได้เดินเข้าธนาคาร เขาดันทำเงินก้อนนั้นตกหน้าประตู สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เงินจำนวนนั้นถูกลมพัดกระจุยกระจายไปทุกทิศทาง ตอนนั้นเขาถึงกับช็อคและทำอะไรไม่ถูกไปเลยทีเดียว โชคดีที่พนักงานธนาคารคนหนึ่งชื่อว่า ซุน เห็นเหตุการณ์ เธอจึงรีบวิ่งออกมาช่วยเก็บเงินที่กำลังปลิวในทันที “เธอไม่สนใจด้วยซ้ำว่าฝนตกอยู่หรือเปล่า เธอเข้ามาช่วยผมเก็บเงินที่ตกอยู่ แม้สุดท้ายเธอจะต้องเปียกทั้งตัว แต่เธอก็ยังตัดสินใจช่วยผม” หลังจากนั้น พนักงานธนาคารคนอื่นๆ ก็ออกมาช่วยเก็บเงินเช่นกัน สุดท้ายเงิน 30,000 หยวนที่ปลิวไป ก็กลับมาอยู่ในมือของนายหยางครบทุกหยวนไม่ขาดแม้แต่นิดเดียว พอเก็บเงินเสร็จแล้ว ผู้จัดการของธนาคารก็นำผ้าเช็ดตัวมาให้กับนายหยาง รวมทั้งนำไดร์เป่าผมมาช่วยเป่าให้เงินแห้งอีกด้วย ขอชื่นชมพนักงานทุกคนจริงๆ ถ้าไม่ได้พวกเขาเงินของนายหยางอาจมีหายไปบ้างก็เป็นได้ นี่แหละน้า น้ำใจของเพื่อนมนุษย์ ที่ยังทำให้โลกใบนี้งดงามอยู่ ^^ ที่มา Shanghaiist
-
หญิงสาวประมูลความ “บริสุทธิ์” ของตัวเอง เพื่อซื้อบ้านใหม่ให้พ่อแม่จากเหตุไฟไหม้
บางสิ่งบางอย่าง เมื่อเราไม่รู้ว่าจะหาทางออกยังไง บางครั้งก็ต้องทำสิ่งที่ไม่อยากทำ เหมือนอย่างชีวิตของหญิงสาวที่ชื่อว่า Katherine Stone ตอนนี้เธอคงเข้าใจสถานการณ์นี้ดีที่สุดแล้ว หลังจากที่เธอได้เอาความบริสุทธิ์ไปประมูลเพื่อนำเงินมาช่วยเหลือครอบครัวของเธอ หญิงสาววัย 20 ปีคนนี้มาจากเมืองซีแอตเทิล พร้อมกับครอบครัว สูญเสียทุกอย่างจากเหตุการณ์ไฟไหม้เมื่อปี 2014 และตอนนี้ก็ขัดสนเรื่องการเงินเป็นอย่างมาก จนต้องอยู่ในบ้านที่ผุพัง วันหนึ่งเธอเล่นเฟซบุ๊กแล้วก็ไปเจอโฆษณาตัวหนึ่งเป็นเหมือนที่ค้าบริการในรัฐเนวาดา เธอจึงได้ไอเดียว่าจะขายความบริสุทธิ์ของเธอเพื่อที่จะนำเงินมาซื้อบ้านหลังใหม่ให้กับพ่อแม่ หลังจากนั้นเธอได้ติดต่อไปยัง Denis Hof ผู้เป็นเจ้าของกิจการแห่งนี้ หลังจากที่คุยกันเรียบร้อย เธอก็ได้พยายามขอให้ Hof ตั้งประมูลความบริสุทธิ์ของเธอ หลังจากได้ยินดังนั้น Hof ก็เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เธอประสบอยู่ ก็เลยเปิดห้องให้เธอได้อยู่แบบฟรีๆ เพื่อรอวันประมูลความบริสุทธิ์ของเธอ และตอนนี้ยอดเงินประมูลก็สูงถึง 14,000,000 บาทแล้ว แต่ Hof กล่าวว่าเธอยังไม่ตอบรับ เพราะว่ายังหาคนที่ใช่ไม่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินมากพอที่จะจ่าย แต่คนนั้นก็ยังไม่เหมาะสมสำหรับเธอ พอเรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้มีเสียงวิจารณ์ออกมามากมาย ส่วนมากก็จะมาในแง่ลบ แต่เธอก็ยืนยันที่จะทำตามแผนต่อไป เพราะเธอเห็นว่าครอบครัวต้องมาก่อน ตัวอย่างการสัมภาษณ์ของเธอผ่านรายการ This Is Life Everyone I met…
-
คุณแม่ลูกสามถูกหวย พาลูกไปซื้อของเล่น เจอ ‘คนไร้บ้าน’ กลางทาง เปลี่ยนใจช่วยเหลือเขาแทน…
การถูกหวยคงเป็นสิ่งที่หลายๆ คนปรารถนา ไม่งั้นสลากกินแบ่งรัฐบาลคงไม่สามารถอยู่ได้หรอกเนาะ แถมไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเท่าไหร่ก็ยังมีผู้เล่นหน้าใหม่ๆ แวะเวียนเข้าไปเล่นกันอย่างมาก… และถ้าสามารถถูกหวยขึ้นมาได้ล่ะก็ หลายๆ คนก็คงจะจินตนาการว่าจะนำเงินจำนวนนั้นๆ ไปใช้อะไรกันบ้าง ส่วนมากก็คงปรนเปรอตัวเองนั่นแหละ แต่จะมีใครสักกี่คนที่ใช้ลาภลอยนี้เพื่อผู้อื่นบ้าง?? Sofia Lorena ซิงเกิลมัมคนนี้ก็เช่นกัน เธอถูกหวยรางวัลเล็กๆ จำนวนเงินก็ราวๆ 200 เหรียญ หรือ 7,000 บาท เธอเตรียมใช้เงินส่วนนี้ซื้ออะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้กับลูกของเธอ…จนกระทั่งเธอเปลี่ยนใจเมื่อเจอคนที่ต้องการมันจริงๆ เธอกะว่าจะใช้เงินจำนวนดีซื้ออะไรเล็กๆ น้อยๆ ให้กับลูกๆ ทั้ง 3 คนของเธอ ก่อนที่เธอจะไปเจอเข้ากับ Glenn ชายแก่ไร้บ้านคนหนึ่ง… ‘ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้ใช้เงินที่ถูกหวย แต่แล้วฉันก็เจอ Glenn เขาถือป้าย ‘Homeless(คนไร้บ้าน)’ อยู่ท่ามกลางลมหนาวของอุณหภูมิติดลบที่ถาโถมเข้ามา มือของเขากำลังสั่น และกำลังร้องไห้’ เธอโพสต์ในเฟซบุ๊คของเธอ Glenn ชายไร้บ้าน ‘ทันใดนั้นฉันก็หยุดรถและเลื่อนกระจกลง ฉันเสนอที่จะซื้อกาแฟร้อนๆ ให้เขาสักแก้วซึ่งเขาก็ลังเลก่อนที่จะขึ้นรถมาด้วย เราขับไปที่ดังกิ้นส์โดนัท…
-
รีวิวสร้างบ้านริมทะเล รื้อของเก่าทำใหม่ งบประมาณ 1 ล้านบาท สวยงามน่าอยู่..!!
การจะเลือกแบบบ้าน หรือออกแบบบ้านให้ถูกใจเราสักหลังนั้น ดูจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เลยทีเดียว (ใครผ่านจุดนั้นมาแล้วจะเข้าใจดี) บางคนอาจจะเน้นความสะดวกสบาย จุดใช้สอยต่างๆ แต่บางคนอาจจะมีงบจำกัด ทำให้ต้องเลือกกันแบบพิถีพิถันหน่อย แต่ที่#เหมียวฟิ้นจะให้ดูในวันนี้ เป็นแบบบ้านที่ประหยัดงบนิดนึง จากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณ Innrae ซึ่งเธอยืนยันว่างบประมาณในการก่อสร้างเฉพาะตัวบ้านของเธอ “ไม่ถึงล้าน” มันจะออกมาสวยงามพอให้บางคนเอาไปทำตามหรือเปล่า เราลองมาดูกันเลย เจ้าของกระทู้เล่าว่านี่คือบ้านไม้ 100 ตารางวา ที่เธออยู่กันมาหลายรุ่น ในจังหวัดประจวบฯ ซึ่งตัวบ้านทำจากไม้ที่เก่าไปตามกาลเวลา ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนมันให้กลายเป็นบ้านใหม่ คุณ Innrae เล่าว่าช่างที่มารับเหมาสร้างบ้านให้เธอเป็นคนเธอรู้จัก ทำให้พอจะคุยกันง่ายหน่อย ช่างได้รื้อบ้านของเธอออกและเก็บเอาไม้ที่ยังพอใช้ได้เอาไว้ใช้ในอนาคต เจ้าของกระทู้บอกว่าเธอมีคอนเซ็ปต์ในใจคือ อยากสร้าง “บ้านชั้นเดียว ยกพื้นสูง 1 ห้องนอน มีห้องโถงกว้างๆ ลมโกรกๆ หน่อย ฝ้าสูงๆ หน้าต่างเยอะๆ สีเรียบๆ” เธอหาแบบบ้านตามอินเตอร์เน็ตและขับรถออกไปดูตามที่ต่างๆ มาหลายที่จนได้แบบที่ต้องการ นี่คือแบบบ้านที่เธอลองทำออกมาให้ชมกัน จากการพูดคุยกับผู้รับเหมา ตกลงกันที่ราคา 850,000 บาท ไม่มีสัญญาใดๆ นอกจากสัญญาใจ เธอแบ่งเงินออกเป็น 4 งวด ระยะในการสร้าง…
-
ปัญหาโลกแตก!! รวมคำตอบสุดฮาของชาวเน็ต เมื่อถามว่า “ที่ไหนซ่อนเงินเมียได้ดีสุด?”
การแต่งงานมีชีวิตคู่นั้นดูจะเป็นเรื่องที่มีความสุขไม่น้อยเลย เพราะมันคือการที่คนสองคนจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันไปจนวันสุดท้าย แต่สำหรับบางคู่ เหมือนกับเราได้นายธนาคารมาช่วยดูแลเรื่องการเงินยังไงยังงั้นเลย ทำให้บางคนเลือกที่จะ…ซ่อนเงินเมีย… เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่าคุณ ตาก๊วก ได้ตั้งกระทู้ สถานที่ไหน มุมไหน อุปกรณ์อะไรที่ใช้ซ่อนเงินเมียได้ดีที่สุด?? เพื่อแบ่งปันสถานที่ซ่อนเงินเมียดีๆ เราลองมาดูก่อนหน่อยดีกว่าว่าพวกเขาเก็บเงินให้พ้นมือเมียกันยังไงบ้าง? 1. เปิดบัญชีลับ 2. กระเป๋าเมียใบเก่าๆ ที่ไม่ใช่แล้ว 3. เก็บลิ้นชักที่ทำงานครับ 4. ผมใช้วิธีขอแบ่งจากลูกครับ เพราะ ป.1 ได้ 20 บาท ไม่ได้ใช้อะไรอยู่แล้ว บางวันผมก็ขอหมดครับถ้าลูกไม่คิดว่าซื้ออะไร ลูกให้ทุกครั้งเลยครับ 5. ผมเอาใส่ในแคปซูล ที่เอาไว้ใส่ป้าย พรบ.มอเตอร์ไซค์ ม้วนๆ แล้วยัดเข้าไป 6. บ้านเมียน้อยครับ เพราะก่อนที่เมียจะหาเจอ คุณก็คงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้ว 7. ซ่อนในรองเท้าเมียที่มันกองๆ รวมกันอยู่ 8. ฝ้าเพดานครับ หาซองใส่เก็บดี ๆ ใส่พวกยาฉุนไว้หน่อยกันพวกจิ้งจก ตุ๊กแก มากิน ผมวางลืมไว้นาน…
-
พาดูวิธีกำจัด ‘ธนบัตรไม่ใช้แล้ว’ ในสหรัฐฯ แถมยังเอาไปสร้างประโยชน์ต่อได้อีก
ตอนนี้จะเห็นว่ามีการผลิต ธนบัตรใหม่ ออกมาเรื่อยๆ พอมีธนบัตรใหม่ เราก็เอาธนบัตรเก่าไปแลก แล้วเราเคยสงสัยกันมั้ยว่า พวกธนบัตรเก่าเนี่ย เค้าเอาไปไว้ไหน หรือเอาไปทำอะไร?? วันนี้ #เหมียวขี้ส่อง จะพาไปดูขั้นตอนการจัดการกับ ‘ธนบัตร’ เก่าเหล่านี้ โดยธนาคารแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกา ที่บอกเลยว่า ไม่ใช่แค่ทำลายนะ ยังเอาไปทำประโยชน์ได้อีกด้วย นี่คือธนบัตรเก่า ที่ไม่ใช้แล้วด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม เราจะตามมันไปยังโรงงานในนิวออร์ลีน ซึ่งมันจะถูกแปรสภาพให้แทบไม่เหลือแบบเดิม โดยการตัดให้เป็นชิ้นเล็กๆ กองเท่าภูเขาขนาด คงจะมีมูลค่าไม่น้อยเลยสินะ… เห็นกองดำด้านหลังนั่นไหมล่ะ มันคือกองดินนั่นเอง ธนบัตรต่างๆ จะถูกนำมาบดจนเหลือเป็นผุยผง แล้วผสมกับดิน ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่ามันเป็นส่วนผสมลับเลย ที่จะเปลี่ยนดินธรรมดาให้กลายเป็นดินที่มีคุณค่าทางอาหารขึ้นมาได้… แน่นอนว่าออกมาเป็นดินที่สามารถนำมาใช้ในการเกษตรได้ได้อย่างดีเยี่ยมเลย และมันจะถูกส่งไปขายให้กับชาวไร่ในแถบนี้ และนี่คือผลผลิตที่ได้มาจากเงินมูลค่านับล้าน (ที่ไม่มีค่าไปแล้ว อิอิ) สำหรับใครที่อยากรับชมเป็นคลิปแบบจริงจัง ลองดูด้านล่างได้เลย มีขั้นตอนให้เห็นกันเพลินๆ โอ้โห ขึ้นชื่อว่า ‘เงิน’ แล้ว ไม่ว่ามันจะแปรสภาพไปยังไง…
-
มาดูว่า Cristiano Ronaldo นักฟุตบอลที่รายรับมากที่สุดในโลก ใช้เงินของเขายังไงบ้าง!!?
ก็ขึ้นแท่นไปเรียบร้อยสำหรับพ่อหนุ่มนักกีฬาหน้าหล่ออย่าง Cristiano Ronaldo ดาวดังที่กำลังเล่นให้กับ Real Madrid ในลีกของสเปนปัจจุบัน และตอนนี้เขาก็เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ได้รับค่าตอบแทนสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกด้วย!!! จากการรายงานของ Forbes ตอนนี้เขาคือนักกีฬาที่ทำรายได้มากที่สุดในโลก!!! ใน 12 เดือนที่ผ่านมาเขาได้รับเงินทั้งหมดราวๆ 61 ล้านปอนด์ (3,172 ล้านบาท) 1 ใน 3 ของรายได้นั้นมาจากการเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับทาง Tag Heuer และ Nike ราวๆ 22 ล้านปอนด์ หรือ 1,144 ล้านบาท แค่ของ Nike ก็ปาเข้าไป 9 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 468 ล้านบาทแล้วล่ะ!!! นี่ยังไม่รวมของเจ้าอื่นๆ ทั้ง Herbalife, Castrol, Samsung, และ KFC นะเนี่ย!!? แต่รายได้ของเขาส่วนใหญ่นั้นมาจากสัญญาปัจจุบันกับต้นสังกัด Real Madrid ล่ะ ที่ได้รับค่าเหนื่อยราวๆ 35…
-
หนุ่มโดนแฮ็กเฟซบุ๊ค มิจฉาชีพใช้ทักแชท ‘ขอยืมเงินเพื่อน’ ชั่วโมงเดียวได้ 70,000 บาท!!
โลกออนไลน์เดี๋ยวนี้ แม้แต่เพื่อนที่เจอหน้ากัน มีเฟสบุ๊ฏไว้ติดต่อกัน ก็ไม่อาจจะไว้ใจกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการหยิบยืมเงินทองไปใช้ในช่วงที่ขัดสน โดยปกติถ้ารู้จักกันดี ทักขอยืมเงินแป๊บเดียวก็โอนให้แล้ว นั่นเป็นเรื่องของความไว้ใจ อย่างในกรณีของคุณ Noppadol Soisakun กล่าวว่าเขาถูกแฮ็กบัญชีเฟสบุ๊กเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 12.00 น. โดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย และคนร้ายที่สวมรอยเป็นตัวเขานั้นได้ทำการทักแชทเพื่อนกว่า 30 คน ด้วยประโยคทำนองเดียวกัน จะทักประมาณว่า ตอนนี้อยู่ที่ไหน จะขอยืมเงินซัก 4 – 8 พันบาท เพื่อนำไปจ่ายค่าซื้อของ แล้วก็ขอยืมเพิ่มอีกครั้ง โดยอ้างว่าจะคืนเงินให้ในเวลาช่วงบ่ายแทบทุกคนที่ถูกทัก เพื่อนที่ตกเป็นเหยื่อก็หลงโอนเงินไปให้โดยไม่คิดอะไรมาก เพราะตัวจริงเป็นผู้ที่มีน้ำใจคอยช่วยเหลือมาโดยตลอด (เครดิตดี) ซึ่งหลังจากเวลาผ่านไป 1 ชั่วโมง คนร้ายสามารถหลอกยืมเงินเพื่อนของเขาไปได้ราวแล้วเกือบๆ 70,000 บาทเลยล่ะ ภายหลังจากนั้นเขาสามารถกู้คืนบัญชีของตัวเองมาได้สำเร็จ และคนรู้จักของเขานั้นก็เพิ่งจะมารู้ทีหลังว่าไม่ใช่ตัวจริงที่มาขอยืมเงิน ทำให้เสียรู้เพราะความเชื่อใจไปหมดสิ้น อย่างไรก็ตามเจ้าตัวได้แจ้งความเอาไว้แล้ว…
-
เดี๋ยวนี้ใครใช้ดอกไม้!? หนุ่มจีนขน ‘ช่อธนบัตร’ เซอร์ไพรส์ขอแต่งงานแฟนสาว คนให้กำลังใจเพียบ
‘ดอกไม้’ เป็นสื่อแทนใจที่สามารถใช้มอบเพื่อบอกแทนความรู้สึกได้เป็นอย่างดี เช่น การที่ผู้ชายมอบดอกไม้ให้กับผู้หญิงนั้นเป็นการแสดงความรู้สึกรักที่มีให้กัน หรือการมอบช่อดอกไม้ตามงานต่างๆ เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ แต่ปัจจุบันก็ได้มีการนำวัสดุต่างๆ มาทำเป็นดอกไม้ อย่างเช่น กระดาษ หรือแม้แต่เงินก็ตาม ซึ่งก็สามารถนำมาใช้แทนกันได้ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้ระบุว่ามีหนุ่มนักศึกษาชาวจีนรายหนึ่งที่กำลังศึกษาอยู่ในวิทยาลัยครูหนานชาง เขาได้คบหากับแฟนสาวคนหนึ่งมานานพอสมควรแล้ว จึงคิดที่จะขอเธอแต่งงาน เขาก็เลยผุดไอเดียสุดบรรเจิดด้วยการประดิษฐ์ดอกไม้ช่อใหญ่ไปคุกเข่าขอเธอแต่งงานท่ามกลางฝูงชน แต่!!! มันไม่ใช่ดอกไม้ธรรมดาๆ น่ะสิ เพราะดอกไม้ที่เขานำไปมอบให้กับเธอนั้นทำมาจากเงินมูลค่ากว่า 27,000 บาทเลยทีเดียว ฝ่ายแฟนสาวก็เซย์เย้สรับช่อธนบัตรและตกลงปลงใจแต่งงานกับเขา แหม่ ถือว่าเป็นไอเดียขอแต่งงานที่เจ๋งสุดๆ อีกวิธีหนึ่งเลยนะเนี่ย เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงออกถึงความรักแล้ว… ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับฝ่ายหญิงถึงความมั่นคงและความพร้อมที่จะดูแลเธออีกด้วย ที่มา : shanghaiist
-
สาววัย 21 ปีรวยไม่รู้เรื่องหลังธนาคารโอนเงินเข้าผิดบัญชี เอาไปซื้อของร่วม 4 ปีหลัก 80 ล้าน!!
เรื่องของเงินนั้นเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าหากว่าวันหนึ่งวงเงินในบัญชีของเราเพิ่มขึ้นมากจนผิดปกติ บางคนอาจจะรู้สีกดีที่ได้เป็นเศรษฐี แต่จงจำเอาไว้ว่าเงินที่ไม่ใช่ของเรา หากนำไปใช้ก็จะกลายเป็นโจรไปในทันที อย่างเช่นกรณีของสาวนักศึกษาวัย 21 รายนี้ Christine Jiaxin Lee สาวนักศึกษาวัย 21 ปี สาขาวิศวกรรมเคมี ได้กลายมาเป็นเศรษฐีโดยไม่ทันตั้งตัวหลังจากที่ธนาคารได้โอนเงินเข้าผิดบัญชี มาเข้าที่บัญชีของเธอแทนเป็นมูลค่า 162 ล้านบาท (4.6 ล้านดอลลาร์) โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของเงินจำนวนมากในบัญชีเลยแม้แต่น้อย ไม่ติดต่อธนาคารตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่เงินมูลค่ามหาศาลนี้อยู่ภายในบัญชีของเธอ เธอก็ถอนเงินมาซื้อของอย่างต่อเนื่องแบบหนักหน่วง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการซื้อของจำพวกกระเป๋าแบรนด์เนม ของใช้เครื่องประดับราคาแพง ยกตัวอย่างเช่น หมอนชาเนล มูลค่า 47,000 บาท กำไลข้อมือ Cartier Love มูลค่า 318,000 บาท กระเป๋าหนังจระเข้ Birkin Himalayan มูลค่า 5.59 ล้านบาท และสิ้นค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ อีกบานตะไท รวมมูลค่าที่ใช้จ่ายไปทั้งหมดก็ประมาณ 84…
-
รายการแกล้งคนในยูทูบ ทำเงินหล่นต่อหน้าสาว เพื่อลองใจเธอ งานนี้เจ็บแสบ!!
ว่ากันว่า ‘เงินซื้อได้ทุกอย่าง’ ประโยคนี้จะจริงสักแค่ไหน ลองไปชมคลิปที่#เหมียวฟิ้นจะนำเสนอต่อไปนี้เลย เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทีมงานช่องยูทูบ RiskyRobTV ได้ทำคลิปการทดลองทางสังคม (แบบแสบๆ) ด้วยการให้ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้าไปพูดคุยกับหญิงสาวเพื่อขอเธอออกเดท แต่เธอกลับปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่าเธอนัดเพื่อนของเธอไว้ จากนั้นเขาก็จะทำทีเป็นเดินจากไปและแกล้งทำเงินจำนวนหนึ่งหล่นออกจากประเป๋า เมื่อหญิงสาวเห็นเข้าก็เลยช่วยเขาเก็บและบอกว่า “ให้ฉันช่วยไหม? คุณรู้ไหมพอดีเพื่อนของฉันอาจจะยังมาไม่ถึงในอีกชั่วโมง ฉะนั้นฉันเลยไม่มีอะไรให้ทำ” จากนั้นหญิงสาวก็ติดกับและออกไปหาอะไรดื่มกับชายหนุ่ม แต่ในระหว่างที่กำลังดื่มกันแบบเพลินๆ นั้นเองชายหนุ่มก็ขอออกไปเข้าห้องน้ำ และเขาก็ไม่กลับมาอีกเลย หญิงสาวเลยต้องจ่ายค่าเครื่องดื่มทั้งหมดเอง จากนั้นชายหนุ่มก็รีบเดินตามหาหญิงสาว เมื่อเธอเห็นเขาเข้าก็เกิดอาการยัวะจัด และบอกว่า “คุณไปไหนมา!? คุณเดินหนีไปเฉยๆ และปล่อยให้ฉันจ่ายบิลเอง มันไม่ดีเลยนะ” จากนั้นชายหนุ่มก็ตอบเธอด้วยประโยคเจ็บแสบว่า “ผมไม่จ่ายบิลให้พวก Gold Digger (หญิงสาวที่ออกเดทกับชายหนุ่มๆ เพื่อเงิน) หรอกนะ” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย หลังจากนี้ไปเธอคงเข็ดไปอีกนาน ที่มา RiskyRobTV
-
งานวิจัยเคมบริดจ์ชี้ชัด ‘เงิน’ สามารถซื้อความสุขได้ ถ้าคุณใช้จ่ายให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพของคุณ!!!
หลายๆ ครั้งหลายๆ ครา เราก็มักจะได้ยินคำกล่าวติดหูที่ว่า ‘เงินน่ะ ไม่สามารถซื้อความสุขได้หรอก’ หรือ ‘ความสุขไม่สามารถซื้อหาได้ด้วยเงิน’ แต่วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีอีกหนึ่งทฤษฎีที่จะมาย้อนแย้งกันล่ะ ว่าที่จริงแล้วเงินน่ะสามารถซื้อได้!!? ล่าสุดทาง University of Cambridge ก็ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ กับสังคมและบริบทในปัจจุบันกลับได้คำตอบว่า เงินสามารถซื้อความสุขได้ ถ้าผู้ใช้ใช้ในทิศทางที่เหมาะสมกับความชอบของตนเองล่ะ!!! เงินสามารถซื้อความสุขได้!? โดยการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการโอนเงินกว่า 76,800 ครั้ง จากผู้เข้าร่วมการสำรวจกว่า 625 คน เป็นระยะเวลา 6 เดือนเต็ม ในกว่า 59 ประเภทของการโอนเงิน และนอกจากนี้ยังให้ผู้เข้าร่วมการสำรวจทำแบบทดสอบด้านบุคลิกภาพ อารมณ์ และความพึงพอใจเกี่ยวกับชีวิตแบบออนไลน์ซะก่อน และแบ่งพวกเขาเป็น 5 กลุ่มคือ กลุ่มเปิดกว้าง กลุ่มจิตสํานึก กลุ่มสังคม กลุ่มประนีประนอม และกลุ่มที่มีความมั่นคงทางอารมณ์ การใช้เงิน กล่าวคือกลุ่มสังคมจะใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับการสังสรรค์ ส่วนกลุ่มจิตสำนึกจะใช้เงินไปในด้านสุขภาพและการออกกำลังกายซะมากกว่า และสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยอีกอย่างหนึ่งก็คือ แบบทดสอบความสุขที่บ่งบอกว่าผู้ที่ใช้เงินสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองจะมีความสุขกับชีวิตมากกว่า นอกจากนี้นักวิจัยยังได้สอบถามล้วงลึกไปอีกในกรณีต่างๆ เช่นลองให้กลุ่มจิตสำนึกกับกลุ่มสังคมมาตอบคำถามในข้อเดี่ยวกับที่ว่า ‘คุณยอมเสียเงิน 500 บาทไปกับการกินเหล้าในบาร์ไหม?’…
-
งานแกะสลัก “ที่คั่นหนังสือ” ทำจากเงินแท้ คุณค่าที่หนอนหนังสือคู่ควร!!
ที่คั่นหนังสือถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับคนที่รักการอ่าน เพราะเราจะใช้มันในการคั่นห้าที่เราอ่านถึงโดยไม่ทำให้หนังสือของเราเสียหายจากรอยพับ Ingrid Zenarola ศิลปินนักแกะสลักฝีมือดี ได้ทำการแกะสลักที่คั่นหนังสือที่ทำจากเงินล้วนๆ โดยไม่มีการใช้เทคโนโลยีช่วยใดๆ ทั้งสิ้นทำให้ทุกชิ้นมีเอกลักษณ์ แต่กว่าจะได้แบบนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ เขาเหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่กับการตัดเงิน ค่อยๆทำจนออกมาเป็นรูปร่าง แล้วก็พัฒนาฝีมือมาเรื่อยๆ จนกระทั่งออกมาเป็นที่คั่นหนังสือเหล่านี้ จึงไม่แปลกเลยว่าของแต่ละชิ้นทำไมถึงแพงนัก ราคา 10,000 ขึ้นไปทั้งนั้นเลย ใครสนใจก็ลองเข้าไปชมกันได้ที่ Etsy | silverleaf.it | Facebook ที่มา boredpanda
-
รัฐบาลแคนาดาประกาศโครงการนำร่อง ‘แจกเงินให้ประชาชนไปใช้ฟรี’ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
นับว่าเป็นข่าวที่ทำให้ชีวิตของประชาชนในประเทศดี๊ดีขึ้นมาทันที โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวคราวว่าประเทศฟินแลนด์และเนเธอร์แลนด์ได้ออกโครงการแจกเงินให้ประชาชนไปแล้วแถมประสบความสำเร็จด้วย คราวนี้ก็มาเป็นตาของรัฐบาลของประเทศแคนาดาบ้าง!! แคนาดาเตรียมแผนแจกเงินให้ประชาชนฟรี!! รัฐบาลจากรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ได้วางแผนโครงการนำร่องเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยจะทำการแจกเงินให้กับประชาชนภายในรัฐนำไปใช้ได้ฟรีๆ โดยไม่มีการตอบคำถาม, สัมภาษณ์ หรือเงื่อนไขผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศแคนาดา เงินดังกล่าวเรียกว่ารายได้ขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะครอบคลุมในเรื่องของค่าครองชีพต่างๆ เช่น ค่าอาหารการกิน, ค่าเดินทาง, ค่าเสื้อผ้า และค่าจิปาถะอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ โดยเงินจำนวนนี้จะจ่ายให้เป็นเช็ครายเดือนไม่ใช่ในรูปแบบของเงินสด ทั้งนี้ทางรัฐบาลยังไม่ได้ระบุว่าจะนำโครงการนี้มาใช้จริงเมื่อไหร่ หรือในพื้นที่ไหน และยังไม่ได้ระบุว่าจะได้รับเงินต่อคนเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งรัฐบาลเองก็ต้องพิจารณาในส่วนของงบประมาณค่าใช้จ่ายเหล่านี้อีกทีหนึ่ง ให้เงินประชาชนเอาไปนอนหนุนแทนหมอน!! แต่ก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ เลยนะเนี่ย เหมียวเลเซอร์ เชื่อว่าจะสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ มีเงินเดือนใช้เป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานของประเทศ แค่คิดก็ฟินแลนด์ เอ้ย!! ฟินแล้ว ที่มา : businessinsider, unilad
-
จากภาพฝรั่งกดเงิน ATM ที่พัทยา สู่การแชร์ภาพการกดเงิดสุดฮาจากทั่วโลก!!
โดยปกติแล้วการกดเงินที่ตู้ ATM นั้นเป็นสิ่งที่ต้องปกปิดเป็นความลับมากๆ เพราะคุณต้องพยายามไม่ให้ใครมาเห็นรหัสผ่านของคุณได้ ถ้าเกิดว่ามีใครรู้รหัสก็อาจจะนำไปสู่การโจรกรรมเงินได้ในอนาคต แต่เมื่อไม่นาน ประมาณ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้มีภาพที่โด่งดังไปทั่วอินเตอร์เน็ต โดยสมาชิกเว็บไซต์ Reddit ชื่อว่า Palifaith ได้โพสต์ภาพของฝรั่งคนหนึ่งที่กำลังกดเงินจากตู้ ATM พร้อมกับมีหญิงสาวยืนอยู่ข้างๆ 2 คน เขาก็ได้พูดติดตลกว่า “ประเทศไทยนี่ต้องอันตรายมากแน่ๆ เพราะชายคนนี้ต้องมีบอดี้การ์ดมาคุมตอนกดเงินด้วย” เดิมทีภาพนี้ถ่ายโดย Jim Delcid เมื่อ2 ปีที่แล้ว ก็ได้ที่ดราม่ามากมาย บางคนก็มองว่าเรื่องนี้ดูตลก บางคนก็มองว่าเป็นการมองแบบเหมารวมว่าพวกเธออาจจะขายบริการก็เป็นได้ แต่เราจะไม่พูดถึงเรื่องนั้น หลังจากโพสต์ภาพนี้เขาก็ไม่ได้คิดว่ามันจะดังอะไรมากมาย จนกระทั่งทุกคนเห็นว่าภาพนี้สามารถสานต่อได้ ก็เลยทำการหาภาพการกดเงิดจากตู้ ATM ฮาๆจากทั่วโลกมาแบ่งปัน เราไปดูกันเลยว่าแต่ละคนจะฮาร์ดคอร์แค่ไหน 1. ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ 2. ไม่เกรงใจคนเตี้ยเลย 3. พี่จะยืนกดเงินอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ย 4. มันไม่มีที่จอดม้า 5. กดเงินค่ารักษาแป๊บ 6. เพื่อเงิน ยอมเสี่ยง …
-
ชายหนุ่มปริศนา จู่ๆ โปรยเงินนับหมื่นไปในอากาศแล้วหนีไป ชาวเมืองช่วยกันตามเก็บจ้าล่ะหวั่น
เมื่อวันที่ 14 มกราคมเว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งโยนปึกธนบัตรจำนวนมากขึ้นไปในอากาศ ในระหว่างที่ธนบัตรกำลังลอยลงมาสู่พื้นดินนั้นเอง ชายหนุ่มปริศนาคนดังกล่าวก็หายออกไปจากที่เกิดเหตุทันที แต่แทนที่ชาวบ้านจะรุมเก็บกันอย่างชุลมุน พวกเขากลับรวมตัวกันเก็บกัมเก็บธนบัตรที่ปลิวอยู่ตามพื้นมารวบรวมไว้ โดยที่หนึ่งในนั้นเป็นตัวแทนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำมันส่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเลย หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำเงินทั้งหมดออกมานับ ปรากฏว่าได้เงินสดทั้งหมด 11,000 หยวนเลยทีเดียว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามจะระบุตัวชายปริศนาผู้ปล่อยเงินลงบนถนน เพื่อสืบสวนหาสาเหตุของการกระทำต่อไป ใครว่าคนจีนไม่มีระเบียบกัน นี่ไงพวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาก็มีน้ำใจเหมือนกันนะเออ น่าชื่นชมจริงๆ ที่มา shanghaiist
-
พ่อหนุ่มเปลี่ยงแปลงชีวิตตัวเอง ออกทัวร์ทวีปยุโรปโดยไม่ใช้เงินเลย เพื่อการกุศลสำหรับโรคมะเร็ง!!
แทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ กับการตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้ว่าอยากจะออกไปเที่ยวรอบโลก อยากจะทำแบบนี้ให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ก็ไม่อาจทำได้นั่นก็เป็นเพราะว่าด้วยปัจจัยของหน้าที่การงานและเรื่องของการเงิน ซึ่งเวลาที่เราจะเดินทางไปที่ไหนซักที่ มันก็ต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พักและอื่นๆ อีกมากมาย ไม่มีทางที่จะไม่ใช้เงิน แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Kris Mole วัย 24 ปีผู้นี้ ได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าการออกไปผจญภัยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป Kris Mole เดินทางด้วยระยะทางกว่า 15,712 กิโลเมตรแล้ว (9,763 ไมล์) ผ่านทั้งเมืองหลวงเมืองเล็กในยุโรปรวมแล้วทั้งสิ้น 23 เมือง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถระดมทุนสำหรับองค์กร Cancer Research ได้อีกเป็นจำนวนมาก จุดเริ่มต้นการเดินทางของเขานั้นก็มาจากเมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษ แต่ก่อนเคยเป็นคนติดเหล้าและการพนัน จนหมดเนื้อหมดตัว อีกทั้งหลังจากที่คุณป้าของเขาถูกวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็ง เขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง!! ตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 เขาเริ่มต้นทริปไร้การใช้เงินเพื่อการกุศล เดินทางไปทั่วทวีปยุโรป ท้าทายชีวิตด้วยการเสี่ยงถูกจับบนรถไฟโดยที่ไม่ซื้อตั๋ว ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น…
-
ญี่ปุ่นทำเจ๋ง!! ถ้าคุณกลั้นใจไม่ลืมตามอง “หน่มน๊มสาว” ทางเว็บจะบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์
เว็บไซต์ช่องทีวีสำหรับผู้ใหญ่ของญี่ปุ่น ERO24TV ได้จัดกิจกรรมดีๆขึ้นมาเพื่อนำเงินไปบริจาคให้กับผู้ป่วยเอดส์ โดยเงินนั้นจะได้มาจากการที่คุณเข้าไปในเว็บของเขา แล้วทำการอดทนไม่มองนมของสาวๆที่กำลังจะโชว์ให้คุณดู เพียงแค่นี้ก็เป็นการได้ทำบุญแล้ว กิจกรรมนี้เริ่มจัดตั้งแต่วันที่ 26 ถึง 6 ธันวาคม มีชื่อว่า “Love is Patience” ที่จะท้าทายเหล่าชายหื่นทั้งหลายว่าจะสามารถอดใจไม่ลืมตามองนมของสาวๆ โดยที่ทางเว็บจะเชื่อมต่อกับเว็บแคมของคุณเพื่อดูว่าคุณได้ลืมตาดูหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าคุณต้องมีเว็บแคมก่อนถึงจะใช้บริการเว็บนี้ได้ พอเข้าเว็บมาก็จะเจอหน้าตาประมาณนี้ ถ้าคุณไม่มีเว็บแคมจะเข้าไม่ได้นะจ๊ะ ถ้าคุณผ่านด่านแรกมาแล้ว ก็จะมีสาวสวยมาแนะนำอะไรต่างๆ ซึ่งเขาจะทดสอบให้คุณได้ลองลืมตา หลับตา แล้วหลังจากนั้นเกมก็จะเริ่มขึ้น ระหว่างที่คุณหลับตา เธอก็จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคเอดส์ พอผ่านไปสักพักก็จะมีสาวสวยคัพ G ออกมายั่วให้คุณอยากเปิดตา ถ้าคุณทนไม่ไหว ลืมตาขึ้นมา เว็บแคมก็จะตรวจจับได้ แล้วทุกอย่างก็จบ ไม่ได้เงินไปบริจาค แต่ถ้าคุณมีจิตใจที่แน่วแน่พอจนจบครบ 1 นาที ทางเว็บก็จะบริจาคเงิน 5 เยน ประมาณ 1.5 บาท ต่อนาที ย้ำ!! ต่อนาที ให้กับมูลนิธิหยุดยั้งโรคเอดส์ ยิ่งถ้าคุณอดกลั้นได้นานเท่าไหร่ เงินก็จะยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้เหมียวก็ยังไม่ได้ลองเลยว่าเป็นยังไง เพราะไม่มีเว็บแคม…
-
23 ที่ซ่อนเงินจากเหล่ามนุษย์เมีย ดัดแปลงโดยเหล่าพ่อบ้านใจกล้า ที่อยากมีอิสรภาพทางการเงิน!!!
สำหรับมนุษย์เมีย เราก็สามารถจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดมนุษย์ที่เก่งฉกาจไม่แพ้อเวนเจอร์กันเลยทีเดียว แถมพลังที่กล้าแข็งที่สุดก็คือ พลังในการตามกลิ่นเงินนี่แหละสุดๆ !!! วันนี้เหมียวก็มี 23 ที่ซ่อนเงินเจ๋งๆ ไว้ให้กับเหล่าพ่อบ้านใจกล้า ที่อยากมีอิสรภาพทางการเงินไว้ใช้กันสักหน่อย ฮร่าๆๆๆ แหม…อย่าให้รู้เชียวนะ รู้เห็นเป็นไม่ได้ เก็บหมด T^T ในหลอดไฟนี่แหละปลอดภัย ผู้หญิงไหนเปลี่ยนหลอดไฟเองบ้างล่ะ ช่างน้อยนัก อิอิ มีคำกล่าวว่า ที่อันตรายที่สุดคือที่ๆ ปลอดภัยที่สุด ของแต่งบ้านฟรุ้งฟริ้งนี่แหละ เสร็จเรา!!! ว่ากันว่าของใกล้ตัว จะไม่สงสัย ฮร่าาา อินี่แหละ ใกล้สุดๆ ละ!!! สำหรับคนชอบทำสวน ผู้หญิงเค้าไม่ชอบหรอก มันเปื้อนน อิอิ ถ้าเป็นคนไม่ช่างสังเกตล่ะก็ สบายยยย ตรงนี้ชัวร์สุด อิอิ ตุ๊กตาหมีที่เราซื้อให้นี่แล อย่าเอาไปแขวนไว้สูงๆ ล่ะ >< อุปกรณ์กีฬา อ้างบอกว่าจะไปเล่นกีฬา แต่เราจะไปใช้เงินนน…
-
ทดสอบความซื่อสัตย์ ชายแกล้งตาบอดขอแลกเงิน โดยให้แบงก์ที่เกินจำนวน จะมีคนบอกหรือไม่!?!
วันนี้เรามาดูการทดลองทางสังคมอีกอันหนึ่งที่เจ๋งมากๆ เพราะมันสามารถวัดความซื่อสัตว์ของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี โดยผู้ทำคลิปนี้ Adrian Gee ได้แกล้งทำเป็นคนตาบอด พร้อมกับออกเดินหาคนแปลกหน้าเพื่อทำการแลกเงิน เขาต้องการแลกแบงค์ 5 ดอลล่าร์ เป็นเหรียญทั้งหมด ซึ่งในกระเป๋าของเขาตอนนั้นมีแบงค์ 50 ดอลล่าร์และ 5 ดอลล่าร์ อยู่ด้วยกัน แต่เขาจะยื่นแบงค์ 50 ดอลล่าร์ให้กับคนแปลกหน้า แล้วแกล้งทำเป็นหยิบผิด เพื่อที่จะวัดใจว่าเขาจะเตือนว่านี่ไม่ใช่แบงค์ 5 ดอลล่าร์ หรือว่าจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เอา 50 ดอลล่าร์ไป แล้วก็ให้เหรียญ 5 ดอลล่าร์ มาแทน อย่างคนแรกที่เขาไปเจอนั้นเป็นผู้หญิง และเธอก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี พร้อมกับบอกว่าสิ่งที่ยื่นให้ไม่ใช่แบงค์ 5 ดอลล่าร์ แต่บางคน ก็ไม่ได้บอกว่าแบงค์ที่ยื่นให้คืออะไร แต่ก็หยิบเหรียญเพียง 5 ดอลล่าร์ยื่นให้ พร้อมกับเดินหนีไปเลย สามีภรรยาคู่นี้ก็เช่นกัน เขาหยิบ 50 ดอลล่าร์ไป แต่ให้เขาเพียงแค่ 5 ดอลล่าร์ พร้อมกับเดินหนี และเหมือนจะคุยอะไรบางอย่างที่ไม่ดีด้วย แต่บางคนที่ไม่มีเงินให้แลก เขากลับบอกกับชายตาบอดว่าเงินที่เขาอยู่นั้นมันเป็นแบงค์ 50 ดอลล่าร์ ส่วนแบงค์…
-
ถึงกับเงิบ!! ตำรวจพบเครื่องนับเงินจากจีน ยิ่งใส่เงินไปเรื่อยๆ มันก็จะดูดเงินเราไปเรื่อยๆ
หลายคนคงเคยเห็นหน้าตาของเครื่องนับเงินกันมาแล้ว ส่วนมากเราจะพบได้ตามธนาคารหรือสถานที่ที่ต้องมีธุรกรรมเกี่ยวกับเงิน วิธีใช้ก็แสนจะง่าย เพียงแค่คุณมีเงินปึกนึง วางลงไปบนเครื่อง มันก็จะนับให้คุณได้อย่างแม่นยำ แต่วันหลังถ้าคุณเห็นเครื่องนับเงิน คุณต้องเช็ค 2 รอบเลยนะ เพราะไม่งั้นอาจจะเจอเจ้าเครื่องนับเงินแบบนี้ก็เป็นได้ ตำรวจนายหนึ่งในประเทศจีน ชื่อว่า Chen Qingzhou ได้โพสต์คลิปคลิปหนึ่ง เป็นครึ่งนับเงินที่ประหลาดมากๆ เพราะทุกครั้งที่เราเอาเงินไปใส่ มันจะดูดเงินเราไปทุกรอบเลย ไปชมคลิปกันเลยดีกว่า ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ อีกทั้งคนที่เป็นเจ้าของเครื่องยังสามารถใช้รีโมตในการควบคุมได้ด้วยว่าจะดูดเงินเท่าไหร่อะไรยังไง น่ากลัวจริงๆเลย ที่มา CCTV News
-
ชีวิตสุดประหยัดของวิศวกรซอฟต์แวร์ Google ใช้ชีวิตอยู่ในรถบรรทุกที่จอดในบริเวณบริษัท
การที่เรามีหน้าที่การงานที่ดี อยู่กับบริษัทในฝัน แถมยังเป็นบริษัทที่มีสวัสดิการดีเยี่ยมและเป็นผู้นำทางด้านเว็บไซต์ค้นหาอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Google ด้วย ใครๆ ก็คงจะคิดว่าหากได้เป็นพนักงานของบริษัทนี้ คุณภาพชีวิตต้องดี๊ดีทั้งนั้น แต่ไม่ใช่กับพ่อหนุ่มวิศวกรซอฟต์แวร์รายนี้ เขาเปิดเผยเพียงแค่ชื่อว่า Brandon วัย 23 ปี โดยก่อนหน้าที่จะได้รับบรรจุเป็นพนักงานของ Google จะต้องผ่านการฝึกงานเสียก่อน ซึ่งในช่วงฝึกงานเขาต้องอยู่ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน โดยจะต้องร่วมกันจ่ายค่าห้องเช่าประมาณ 71,000 บาท (2,000 ดอลลาร์) ทุกเดือน จากการที่จะต้องร่วมกันแชร์พื้นที่ส่วนตัวและค่าเช่าที่ว่านั้น มันทำให้เขารู้สึกว่าไม่มีความเป็นส่วนตัวเอาเสียเลย และยิ่งไปกว่านั้นคือเขารู้สึกเสียดายเงินที่ต้องจ่าย แต่กลับไม่มีความสุขแม้แต่นิดเดียว เขาจึงตัดสินใจวางแผนซื้อรถบรรทุกมูลค่าประมาณ 356,000 บาท (10,000 ดอลลาร์) หลังจากที่ได้รับบรรจุเป็นพนักงาน Google เมื่อได้รถบรรทุกมาก็นำมาจอดในที่จอดรถของบริษัทและใช้ชีวิตอยู่ในนั้น ค่าใช้จ่ายของเขามีเพียงแค่ค่าประกันภัยรถยนต์ ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ ค่าโทรศัพท์บริษัทก็จ่ายให้ เดินไปอาบน้ำในฟิตเนส เดินไปทำงาน ประหยัดค่าน้ำมัน และรับประทานอาหารเช้า กลางวัน เย็นที่บริษัท …
-
ชมคลิปเจ้านกแก้ว “อีริค” ที่โกรธจนคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ คาบเงินเหรียญขว้างกระจายทั่ว
โดยปกติแล้ว เวลาเราเห็นสัตว์ต่างๆมีอารมณ์โกรธ พวกมันก็มักที่จะมาระบายกับต้นเหตุของปัญหานั้น อย่างเช่นสุนัขเวลาโกรธเรา มันก็จะมากัดเรา ขู่เรา หรือแมวที่เวลาโกรธ มันก็จะเป็นแมว (เพราะมันดูเหมือนโกธตลอดเวลา) แต่วันนี้เหมียวจะพาไปดูอาการโกรธของนกแก้วที่ชื่อว่า “อีริค” ไม่รู้ว่ามันโกรธเจ้าของมันด้วยเหตุผลอะไร แต่ท่าทีที่มันแสดงออกมา เรียกได้ว่าบ้าบิ่นเหลือเกิน เพราะวิธีที่มันใช้นั้น ทำเอาเจ้าของปวดหัวกันไปเลย มันเดินเข้าไปที่กระป๋องเก็บเงินเหรียญของเจ้านาย ก่อนที่จะเปิดฝาออก จากนั้นมันก็คาบเหรียญที่อยู่ข้างในทิ้งจนกระจายเต็มไปหมด นี่มันเป็นนกแก้วที่อารมณ์ร้ายที่สุดเท่าที่เหมียวเคยเจอมาเลย อยากรู้ว่ามันร้ายสักแค่ไหน เราไปดูคลิปกันเลย อยากรู้จริงๆว่าใครเป็นคนสอนมันให้เป็นแบบนี้ นี่มันคาแรกเตอร์ตัวร้ายในละครไทยชัดๆ ที่มา Sharon Curle
-
Google มอบรางวัลให้อดีตพนักงานที่ซื้อเว็บบริษัท เพิ่มให้เป็นสองเท่าเมื่อรู้ว่าเขาจะนำไปบริจาค!!
เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจกับกรณีของพ่อหนุ่ม Sanmay Ved อดีตพนักงานของบริษัท Google จากข่าวก่อนหน้านี้ที่เหมียวเคยนำเสนอไปแล้ว ซึ่งทาง Google เองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ทราบถึงข้อบกพร่องของระบบดังกล่าวต้องรีบแก้ไขโดยด่วน ทั้งนี้ทั้งนั้น เนื่องจาก Sanmay Ved เป็นผู้ที่เจอข้อบกพร่องของระบบ ทางบริษัทก็ยินดีมอบเงินรางวัลเป็นการตอบแทน ซึ่งเจ้าตัวก็กล่าวเอาไว้ว่า ‘ผมไม่สนใจเงินรางวัลอะไรนั่นหรอก ผมแค่อยากจะให้กรณีนี้เป็นตัวอย่างในการหาข้อผิดพลาดก็เท่านั้นเอง’ โดยระเบียบทั่วไปของบริษัทนั้นจะมอบเงินรางวัลให้กับผู้ที่สามารถค้นหาข้อบกพร่องเป็นการตอบแทนอยู่แล้ว เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมการหาช่องโหว่ความปลอดภัยของระบบ อย่างไรก็ตามเขาก็เลือกที่จะนำเงินรางวัลที่ว่านี้ มูลค่ามากกว่า 1 หมื่นดอลลาร์ (355,000 บาท) มอบให้องค์กรการกุศลของอินเดียแทน เพื่อช่วยเหลือด้านการศึกษาในสลัม ซึ่งหลังจากบริษัท Google ได้ทราบเรื่องเงินที่เขานำไปใช้ ก็เพิ่มเงินบริจาคให้เป็นสองเท่าไปเลย!! ที่มา : businessinsider
-
Taylor Swift คนงาม ยินดีบริจาคเงินช่วยเหลือหลานของแดนซ์เซอร์เพื่อต่อสู้กับโรคมะเร็ง!!
หลายๆ คนที่เป็นแฟนคลับของ Taylor Swift ก็คงจะเคยได้อ่านและได้ยินข่าวเกี่ยวกับการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้คนของเธอมามากมายแล้ว ซึ่งครั้งนี้มันก็เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อแดนซ์เซอร์ที่ได้ร่วมงานกับเธอได้รับเงินบริจาคเป็นจำนวน 1,800,000 บาท (50,000 ดอลลาร์) โดยที่ Kim Toshi Davidson แดนซ์เซอร์ที่ร่วมงานกับ Taylor นั้นมีหลานสาวน่ารักวัย 13 เดือนประสบกับโรคร้ายอย่างมะเร็ง และจะต้องใช้เงินรักษาเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ Taylor รู้ข่าวปุ๊บ เธอก็ได้ทำการบริจาคเงินให้กับหลายสาวของเขาทันทีผ่านเว็บไซต์ GoFundMe เป็นเงินประมาณ 1,800,000 บาท (50,000 ดอลลาร์) พร้อมกับฝากข้อความเอาไว้ว่า ‘หนูน้อย Ayden, ฉันรู้สึกโชคดีที่ได้ร่วมงานกับคุณลุง Toshi ของหนูระหว่างทัวร์คอนเสิร์ต และเราทุกคนขอร่วมส่งกำลังใจให้ ด้วยรัก จาก Taylor’ ทางด้าน Toshi เองก็ได้ออกมาแสดงความรู้สึกที่มีผ่าน Instagram เอาไว้ว่า ‘Taylor Swift เปรียบได้เหมือนดั่งนางฟ้า ซึ่งทางครอบครัวของเราก็รู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง…
-
งงเลยดิ!! พ่อหนุ่มสั่งพิซซ่ากับปีกไก่มากิน แต่ภายในกล่องปีกไก่กลับได้เงินเป็นปึกมาแทน
กลายมาเป็นเรื่องที่ชวนฉงนและงงงวยของพ่อหนุ่ม Mike Vegas เมื่อเขาทำการสั่งพิซซ่ากับปีกไก่และรอคอยอาหารมาส่ง ซึ่งเมื่ออาหารมาส่งถึงมือเขาก็พบว่าภายในกล่องปีกไก่ที่สั่งมานั้น ไม่มีปีกไก่เลยซักชิ้น แต่กลับกลายเป็นเงินปึกหนาอัดแน่นอยู่ภายในกล่องแทน!! ซึ่งภายในกล่องปีกไก่ที่เขาได้รับมามีบิลและเงินมัดรวมกันไว้ 2 ปึก นับมูลค่าได้มากถึง 860 ปอนด์ (ประมาณ 47,400 บาท) ถือว่าเป็นเงินที่มีมูลค่าสูงเอามากๆ เลยล่ะ!! เขาก็เลยทำการโพสต์รูปภาพผ่าน Facebook ส่วนตัว พร้อมกับข้อความ ‘เมื่อคุณสั่งพิซซ่าจาก Dominos และได้เงินแทนที่จะได้ปีกไก่’ When you order Dominoes Pizza and instead of wings you get cash…..#doihavetogiveitback #ihavetotakeitback #karmatest #dominoespizza Posted by Mike Vegas on Saturday, September 19, 2015 หลังจากที่ได้รับอาหารทั้งหมด…
-
หนุ่มจีนเหวอ ฝังเงินเกือบ 6 แสนบาทลงในดิน 4 ปีผ่านไปกลายเป็นเงินเน่าซะงั้น
มีเงินเยอะก็ใช่ว่าจะทำให้คุณรวยเป็นเศรษฐีได้นะ เพราะบางครั้งแม้ว่าคุณจะเก็บมันดีขนาดไหน แต่หากเงินเหล่านั้นเกิดได้รับความเสียหายขึ้นมาคุณก็อาจสูญเงินเหล่านั้นไปในทันทีเลยก็ได้ เหมือนอย่างกรณีที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ เพราะเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านายจาง จากมณฑลเจียงสู ประเทศจีน กำลังเตรียมที่จะแต่งงาน แต่จู่ๆก็เกิดนึกขึ้นมาได้ว่าเขาเคยได้รับเงินเกือบ 6 แสนบาท เป็นมรดกมาจากคุณแม่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยเงินเหล่านั้นคุณแม่ของเขาได้เก็บใส่กล่องเหล็กอย่างดี และฝังมันไว้ในดินใต้ห้องครัวของเขา แต่เมื่อเขาขุดมันขึ้นมาก็ต้องตกใจ เพราะเงินเหล่านั้นได้แปรสภาพกลายเป็นเศษขยะที่เกือบจะหาค่าอะไรไม่ได้เลย!! นายจางจึงร้องขอความช่วยเหลือจากธนาคารท้องถิ่นเพื่อช่วยเปลี่ยนธนบัตรเหล่านั้นให้กลายเป็นเงินแบบที่มันเคยเป็น แต่ทางธนาคารก็ต้องหนักใจเพราะไม่สามารถทำตามคำขอของเขาได้ และถึงทำได้ก็ไม่สามารถคืนเงินได้เต็มจำนวน แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารก็กล่าวกับนายจางว่า พวกเขาจะช่วยเต็มที่ และจะติดต่อไปยังธนาคารในนานกิงเพื่อประเมินความเสียหายทั้งหมดต่อไป ที่มา shanghaiist
-
กลเม็ดสุดเด็ดในการ ‘ซ่อนเงิน’ ให้พ้นสายตาภรรยา หากจะท้าทายอำนาจเมียต้องเนียนให้สุด!!
เหมียวเชื่อว่าคู่รักทั้งหลายนั้นมีวิธีการเก็บเงินที่ดีที่สุดก็คือการให้ฝ่ายภรรยาเป็นผู้เก็บทุกบาททุกสตางค์ หากสามีจะนำเงินไปใช้อะไรก็ต้องขอเบิกจากภรรยาเสียก่อน แต่ก็แหงล่ะ!! บางทีเราก็ไม่อยากฝากไว้นี่หว่า อยากจะเอาไปซื้อนู่นนี่นั่นบ้าง การเม้มเงินซ่อนเมียจึงเป็นสิ่งที่ตามมา!! 1. ซ่อนไว้ใต้ลิ้นชัก ดึงลิ้นชักออกมาก่อน แล้วก็แปะธนบัตรเอาไว้แบบนี้ อ่าห์!! เนียน 2. ซ่อนไว้ใต้โคมไฟ สอดเอาไว้ข้างใต้ฐานโคมไฟแบบนี้ อ่าห์!! เนียน 3. ซ่อนไว้หลังนาฬิกาผนัง สอดไว้ดีๆ ล่ะ แล้วก็แขวนเอาไว้เหมือนเดิม อ่าห์!! เนียน 4. ซ่อนไว้ใต้ขอบประตู พับธนบัตรให้เรียวพอประมาณ แล้วแปะเทปใส สอดเข้าไปข้างใต้บานประตูเลย อ่าห์!! เนียน 5. ซ่อนไว้ในไฟฉาย ม้วนธนบัตรให้เป็นทรงกระบอกแบบนี้ แล้วก็สอดเข้าไป อ่าห์!! เนียน 6. ซ่อนไว้ในปากกา ม้วนให้เล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้…
-
Taylor Swift ปฏิเสธเงินค่าตัว 70 ล้านบาทของเศรษฐี แต่เธอกลับไปร้องเพลง ‘ฟรี’ ให้ลูกของเพื่อน
เรียกได้ว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักนักร้องสาวสุดฮอตอย่าง Taylor Swift แน่นอน เพราะนอกจากเธอจะสวย เก่ง และรวยมากแล้ว Taylor Swift ถือเป็นนักร้องตัวอย่าง ที่มักจะสร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ และคนทั่วโลกได้เห็นเสมอ และในครั้งนี้ เธอก็ได้สร้างเรื่องราวสุดประทับใจอีกเช่นเคย โดยการปฏิเสธเงินค่าตัวถึง 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 70 ล้านบาท ที่มหาเศรษฐีจ้างวานเธอให้ไปร้องเพลงในงานแต่งงานของเขา ในเวลาเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่า การปฏิเสธของเธอในครั้งนี้ จะทำให้เหล่าแฟนๆ และคนทั้งโลก ยิ่งหลงรักเธอมากขึ้นกว่าเดิม เพราะในวันเดียวกันนั้น นักร้องสาวสุดฮอตวัย 25 ปี ได้เลือกไปเข้าร่วมพิธีรับศีลของ ‘Leo’ ลูกชายเพื่อนสนิทที่เพิ่งจะลืมตาดูโลก แถมยังไปช่วยร้องเพลงให้พวกเขาแบบฟรีๆ อีกด้วย เรียกได้ว่า ‘เงิน’ ไม่สามารถซื้อ Taylor Swift ได้จริงๆ เหมียวนี่ต้องขอชื่นชมเธอจากใจเลยฮะ เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นภาพนี้ จะต้องซาบซึ้งไปตามๆ กันแน่นอน…
-
พบกับเข็มขัดสุด ‘อัจฉริยะ’ ของท่านชาย ที่สามารถซ่อนเงินให้พ้นจากสายตาบรรดาเมียๆ ได้
เข็มขัดเส้นนี้ ดูจากภายนอกมันก็อาจจะเหมือนเข็มขัดผู้ชายธรรมดาๆ ทั่วไป แต่ใครจะรู้บ้างล่ะว่า พอลองพลิกเข้าไปดูด้านใน เราจะเห็นว่ามันแอบมีช่องซิปเล็กๆ ซ่อนอยู่แบบนี้… ซึ่งช่องซิปเล็กๆ ภายในเข็มขัด สามารถใส่เงิน หรือกระดาษแผ่นเล็กๆ ได้อีกด้วย และที่สำคัญเชื่อว่าหนุ่มๆ ทั้งหลายคงจะอยากจะได้มาครอบครองสักเส้นแน่ๆ เพราะเข็มขัดสุดพิเศษนี้ มันสามารถช่วยซ่อนเงินให้พ้นจากสายตาของบรรดาเมียๆ ทั้งหลายได้เป็นอย่างดี งานนี้ขอบอกเลยว่าคุณเธอไม่มีทางรู้แน่นอน ไอเดียเขาเจ๋งดีนะว่ามั้ย หนุ่มๆ อยากได้สักเส้นมั้ยล่ะ อิอิ!! ส่วนเข็มขัดเส้นนี้มาในราคาเบาๆ เพียงแค่เส้นละ 1600 บาทเท่านั้น ใครที่อยากได้ก็สามารถเข้าไปดูได้จากเว็บไซต์นี้เลยฮะ ที่มา : spendingitall
-
มาดูกันว่าเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ จะสามารถซื้ออะไรได้บ้างในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า เงิน 1 เหรียญ หรือประมาณ 35 บาท ถ้าเป็นในประเทศเราก็คงสามารถซื้ออาหารมาทานได้ 1 มื้อใช้ไหมล่ะ แต่ถ้าเป็นต่างประเทศ เพื่อนๆ คิดว่า เงิน 35 บาทของพวกเขาสามารถซื้ออะไรได้บ้าง หากใครที่อยากรู้ ในวันนี้เราได้นำภาพเหล่านั้นมาให้ชมกันแล้ว… 1.Nepal – อาหารพื้นเมือง 1 จาน 2.Mexico – กล้วย 48 หวี 3.Ireland – มันฝรั่งทอด 4.Australia – ใช้โทรศัพท์มือถือโทรออกได้ 1 นาที 5.Kenya – ซื้อหัวหอมได้ 4 หัว, มะเขือเทศ 4 ลูก และผักกาดหอม 8 มัด 6.Zimbabwe – มีร้านขายของ 1 ดอลล่าร์มากมาย แถมสินค้าก็มีให้เลือกเยอะตั้งแต่อาหารไปจนถึงเสื้อผ้า 7.Thailand…
-
สามีขอก่อนตาย “ให้ฝังเงินลงหลุมไปด้วย” ภรรยาผู้ซื่อสัตย์ก็ยินดีทำตามประสงค์!!
ชีวิตคู่ของคนเราไม่แน่นอนนัก มีพบก็ต้องมีจาก เป็นสัจธรรมของชีวิต ซึ่งเรื่องราวของสามีผู้ที่ทำงานอย่างหนัก เพื่อให้มาซึ่งเงินและเงิน โดยที่ใช้จ่ายน้อยมาก มีเงินเก็บมากมายแต่ก็ไม่ได้ใช้จนในวันสุดท้ายของชีวิต ภรรยาของเขาได้รับการร้องขอครั้งสุดท้ายจากสามีผู้ตระหนี่ยิ่งกว่าใครๆ ที่เธอเคยเจอ เขามีเงินมากมายก่ายกองจนชนิดที่ว่าใช้ยังไงก็ไม่หมด รักเงินยิ่งกว่าภรรยาเสียอีก ซึ่งก่อนที่เขาจะลงโลงก็กล่าวกับภรรยาเอาไว้ว่า “เมื่อผมตายไป ช่วยนำเงินของผมทั้งหมดฝังไปกับผมด้วย ผมจะได้เอาไปใช้ในชีวิตหลังความตาย” เมื่อวันนั้นมาถึง พิธีกรรมทางศาสนาก็ได้ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเมื่อสัปเหร่อจะทำการปิดโลง ภรรยาของเขาก็บอกว่า “เดี๋ยวก่อน” พร้อมกับนำกล่องรองเท้าใส่เข้าไปในโลงพร้อมกับศพของสามีก่อนที่จะฝังกลบดิน เพื่อนๆ ของเธอก็หวังว่าเธอคงจะไม่คิดเอาเงินฝังตามที่สามีของเธอขอจริงๆ ซึ่งเธอเองก็ได้กล่าวกับเพื่อนว่า “ฉันทำตามสัญญา เพราะฉันเป็นคริสเตียนที่ดี ฉันจะโกหกเขาไม่ได้” “หมายความว่าเธอฝังเงินของเขาทุกบาททุกสตางค์ตามไปด้วยจริงๆ เหรอ?” เธอก็ตอบกลับทันใดว่า “ใช่แล้ว ให้ไปหมดนั่นแหละ แต่เอาไปเข้าบัญชีตัวเองก่อน แล้วค่อยเขียนเช็คให้ทีหลัง” อื้อหือ ร้ายกาจจริงๆ ฮ่าฮ่า!! ที่มา : metaspoon
-
Taylor Swift บริจาคเงินกว่า 1.6 ล้านบาทให้กับเด็กป่วย ‘ลูคีเมีย’ ที่ไปดูคอนเสิร์ตของเธอไม่ได้
เรียกได้ว่างดงามทั้งหน้าตา และจิตใจจริงๆ สำหรับนักร้องสาวสุดฮอตอย่าง Taylor Swift ที่ล่าสุดเธอเพิ่งได้ทำการบริจาคเงินเป็นจำนวน $50,000 หรือราวๆ 1.6 ล้านบาทให้กับหนูน้อยวัย 11 ปี ที่ป่วยเป็นลูคีเมีย และไม่สามารถเดินทางไปดูคอนเสิร์ตของเธอได้ ซึ่งหนูน้อยที่น่าสงสารคนนี้ มีชื่อว่า Naomi Oakes เธอเป็นแฟนคลับตัวยงของ Taylor Swift ซึ่งตกอยู่ในสถานการณ์ป่วยเป็นโรคลูคีเมีย และจะได้รับการรักษาอยู่ในโรงพยาบาลยาวนาน 6-9 เดือน ซึ่งถูกถ่ายลงวีดีโอและแชร์กันทั่วในโลกสังคมออนไลน์ เมื่อ Taylor ได้ทราบเรื่องราวของแฟนคลับตัวน้อยๆ ของเธอ เธอจึงได้บริจาคเงินจำนวนมหาศาลก้อนนี้ให้กับมูลนิธิเด็ก GoFundMe หลังจากที่เธอผิดหวังจากข่าวเรื่องแฟนคลับตัวน้อยของเธอคนนี้จะไม่สามารถเข้ามาชมคอนเสิร์ตของเธอได้ที่ Phoenix, Arizona ที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้านี้ Taylor ได้เขียนลงบนหน้าเวปเพจว่า “ถึง Naomi คนสวยและกล้าหาญ ฉันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่เธอจะไม่สามารถมาร่วมคอนเสิร์ตของฉันได้ แต่ก็อย่าลืมว่ามันคงยังมีครั้งหน้าเสมอ” เรียกได้ว่าช่างเป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจจริงๆ เหมียวนี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม Taylor Swift ถึงเป็นนักร้องในดวงใจของใครหลายๆ คน ก็เพราะว่าเธอมีจิตใจที่งดงามแบบนี้ยังไงล่ะ…