Tag: เจ้าชายแฮร์รี่
-
ย้อนชม “ชุดแต่งงานเลอค่า” แห่งราชวงศ์อังกฤษ ก่อนงานแต่งเจ้าชายแฮร์รี่ในวันพรุ่งนี้!!
ใกล้เข้าไปทุกทีกับเหตุการณ์ที่ผู้คนทั่วโลกต่างรอคอย งานอภิเษกสมรสของเจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เคิล พระคู่หมั้น ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม 2018 นี้ แน่นอนว่าการจัดงานจะต้องยิ่งใหญ่อลังการ พร้อมทั้งมีผู้เข้าร่วมงานมากมายจนถึงกับต้องมีการจับจองที่นั่งเพื่อเข้าชมงานเลยทีเดียว และก่อนจะถึงวันงาน #เหมียวหง่าว ก็อยากจะขอพาเพื่อนๆ ย้อนรอยไปชมชุดเจ้าสาวที่ใช้ในงานอภิเษกสมรสของราชวงศ์อังกฤษ ว่าจะมีความเลิศหรูอลังการขนาดไหน ไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… ชุดเจ้าสาวของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 พระราชพิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบาระ ถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤจิกายน ปี 1947 ชุดเจ้าสาวของพระองค์ออกแบบโดยท่านเซอร์ นอร์แมน ฮาร์ตเนลล์ เป็นชุดสีงาช้างที่ทำขึ้นมาจากผ้าซาติน ประดับประดาไปด้วยไข่มุก และอัญมณีชิ้นเล็กๆ รวมแล้วกว่า 10,000 ชิ้น ที่นำเข้ามาจากอเมริกา ตัวผ้าชายกระโปรงที่มีความยาวกว่า 13 ฟุต (4 เมตร) ตัวผ้ามีการนำอัญมณีและไข่มุกต่างๆ รวมทั้งดอกกุหลาบ มาปักเป็นรูปดวงดาวตลอดทั้งผืน…
-
งานแต่งเจ้าชายแฮร์รี่มาแปลก เพราะพระองค์ไม่เชิญนักการเมืองมา แต่สามัญชนมาเพียบ!?
ทุกครั้งที่มีงานแต่งงานของคนที่สูงศักดิ์หรือคนที่มีชื่อเสียง เหล่านักการเมืองจากชาติต่างๆ มักจะเป็นกลุ่มคนแรกๆ ที่ถูกเชิญไปร่วมงานเสมอๆ แต่นั่นไม่ใช่สำหรับงานแต่งของเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ซึ่งหลายคนก็น่าจะทราบกันดีแล้วว่างานแต่งของพระองค์นั้นกำลังจะเริ่มขึ้นในเร็ววันนี้แล้ว ซึ่งทางราชสำนักก็ได้ออกมาประกาศรายชื่อแขกที่จะได้รับเชิญให้มายังงานดังกล่าว โดยรายชื่อนั้นต่างสร้างความตกใจให้กับสื่อมวลชนมากๆ นั่นก็เพราะในรายชื่อนั้นไม่มีนักการเมืองอยู่แม้แต่คนเดียว แถมในรายชื่อยังมีสามัญชนทั่วไปได้รับเชิญมางานมากถึง 1,200 คน ไม่ว่าจะเป็นเด็กสาวผู้รอดชีวิตจากเหตุระเบิด เจ้าของร้านขนมเพื่อสังคม คุณครูโรงเรียนประถม เด็กชายผู้อุทิศชีวิตให้องค์กรการกุศลและอื่นๆ อีกมากมาย หนูน้อยเอมีเลีย ทอมป์สัน วัย 12 ขวบ เหยื่อจากเหตุระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ ได้รับเชิญให้ร่วมพิธีเสกสมรสด้วย รูเบน ลิเธอร์แลนด์ เด็กชายผู้อุทิศตัวให้กับชุมชนคนหูหนวกและแม่ของเขา ส่วนสาเหตุที่งานแต่งของเจ้าชายแฮร์รี่ต่างจากงานเมื่อครั้นเจ้าชายวิลเลี่ยมนั่นก็เพราะ เจ้าชายแฮร์รี่ไม่ใช่คนที่จะต้องรับตำแหน่งต่อ แต่เจ้าชายวิลเลี่ยมจะต้องรับหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาต่อราชวงศ์ฉะนั้นจึงต้องมีบุคคลสำคัญมานั่นเอง นอกจากนี้เจ้าชายแฮร์รี่ยังต้องการความหลากหลายทั้งด้านอายุ เชื้อชาติและการงาน พระองค์จึงโฟกัสที่สามัญชนเป็นส่วนใหญ่ นอกจากนี้ก็จะมีเพื่อนสนิททั้งของพระองค์และเมแกนมาร่วมงานด้วย เจ้าของร้านขนมเพื่อกาลกุศลที่ตอนแรกที่เธอได้รับเชิญ เธอนึกว่าเธอถูกแกล้ง ส่วนงานจะออกมาเป็นอย่างไรนั้น ก็คงต้องติดตามกันต่อไป ซึ่งมันคงจะเป็นงานแต่งของเชื้อพระวงศ์ที่น่าสนใจที่สุดงานหนึ่งตั้งแต่มีมาเลยก็ว่าได้ ที่มา bbc, fortune
-
เมื่อลูกต้องแต่งกับเจ้าชายแฮร์รี่ แถมถูกเชิญไปเดินคู่กับลูกอีก จึงไม่แปลกที่จะเครียดสุดๆ
อีกแค่ 1 เดือนเท่านั้น สำหรับงานแต่งระดับโลกของเจ้าชายแฮร์รี่แห่งราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งได้ประกาศจัดงานในวันที่ 19 พฤษภาคม 2018 โดยภายในงานจะมีแขกมากมายทั้งคนดังและคนสำคัญระดับโลกก็ต่างรอที่จะมายังงานดังกล่าว อย่างไรก็ตาม แม้คนส่วนใหญ่จะตื่นเต้นกับงานแต่งที่จะเกิดขึ้น แต่มีชายคนหนึ่งที่ดูไม่ค่อยจะตื่นเต้นเท่าไหร่นัก แถมยังดูจะเครียดหนักกว่าเก่าอีกต่างหาก ชายคนนั้นก็คือ ‘โธมัส มาร์เคิล‘ วัย 73 ปีผู้เป็นพ่อของ ‘เมแกน มาร์เคิล‘ ว่าที่เจ้าหญิงคนต่อไปนั่นเอง ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเครียดนั่นก็เพราะว่า มีคนไปเห็นโธมัสกำลังเดินอยู่ข้างถนนพร้อมกับถือหนังสือ ‘Images Of Britain‘ ประจวบกับในวันแต่งงานนั้นตัวโธมัสที่เป็นพ่อเจ้าสาวจะต้องเข้าร่วมในพิธีด้วย ซึ่งเขาจะต้องเดินบนพรมแดงคู่กับลูกสาวเพื่อส่งตัวไปจนถึงเจ้าชาย แน่นอนว่าถ้ามันเป็นงานแต่งปกติก็คงไม่มีใครตื่นเต้นขนาดนี้ แต่นี่คืองานแต่งที่ทั้งโลกจับตามอง เขาจึงกังวลว่ากลัวจะทำผิดพลาดระหว่างงานนั่นเอง อย่างไรก็ตาม คนในครอบครัวก็ออกมาแก้ข่าวและบอกว่า โธมัสอาจจะรู้สึกกังวลที่ต้องเข้าพิธีกับลูกก็จริง แต่ความกลัวที่แท้จริงของเขาคือ โธมัสนั้นจะต้องเป็นตัวแทนของครอบครัวและชาวอเมริกันทั้งหมด แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ความสัมพันธ์ของครอบครัวทั้งสองนั้นดูจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่นัก เพราะย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 เจ้าชายแฮร์รี่เคยให้สัมภาษณ์ออกรายการวิทยุของ BBC ว่าเขากับคู่หมั้นนั้นมีช่วงเวลาที่ดีมากๆ ซึ่งครอบครัวของเธอไม่เคยมีช่วงเวลาแบบนี้ให้กับเธอ จุดนั้นเองน่าจะเป็นจุดที่สร้างความเจ็บปวดให้กับโธมัสพอสมควร แต่อย่างไรก็ตามเขาจะทำอย่างไรต่อไป…
-
17 ภาพหาดูยากในแต่ละช่วงชีวิตของ “เจ้าชายแฮร์รี่” ที่ควรค่าแก่การรับชม
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับวันทั้งโลกจับตามอง ในงานอภิเษกสมรสของเจ้าชายเฮนรี ชาลส์ อัลเบิร์ต เดวิด แห่งเวลส์ กับนักแสดงหญิง มีแกน มาร์เคิล ที่จะขึ้นในเร็ววันนี้ แน่นอนว่าหลายคนนั้นมักจะเห็นภาพหรือรู้จักเขาในตอนโตแล้ว แต่มีกี่คนที่รู้ว่าในวัยเด็กของเจ้าชายแฮร์รี่นั้นเป็นอย่างไรและผ่านอะไรมาบ้าง กว่าจะมาเป็นเจ้าชายคนเล็กรูปงามอย่างตอนนี้ได้ ฉะนั้นเราจะมาดูภาพที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักรวมถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วัยเด็กจนถึงช่วงอายุ 33 ปีหรือปัจจุบันกัน ว่าเจ้าชายนั้นเจออะไรและเติบโตไปทิศทางไหนบ้าง เจ้าชายแฮร์รี่เกิดเมื่อ 15 กันยายน 1984 และเป็นบุตรคนที่สองของเจ้าหญิงไดอาน่าและเจ้าชายชาลส์ ต่อมาเมื่อมีอายุ 1 ขวบ สองพี่น้องก็ได้ติดตามพ่อและแม่ไปทุกหนทุกแห่ง จากนั้นหลังอายุได้ 3 ขวบ เจ้าชายแฮร์รี่ก็ได้เข้าไปเรียนยังโรงเรียนเตรียมอนุบาลในน็อตติ้ง ฮิลล์เป็นวันแรก ในปี 1992 เจ้าหญิงไดอาน่าและเจ้าชายชาลส์ได้เริ่มแยกกันอยู่ แต่ทั้งหมดก็ยังคงออกงานด้วยกันอยู่บ่อยๆ ต่อมาเมื่ออายุได้ 10 ขวบ เจ้าชายแฮร์รี่ก็ต้องไปส่งเจ้าชายวิลเลี่ยมเข้าเรียนโรงเรียนอีตันเป็นวันแรก ต่อมาเมื่อเจ้าชายแฮร์รี่อายุได้ 11 ขวบ เขาก็เดินทางไปดูกีฬาระดับชาติด้วยกันกับเจ้าชายชาลส์ ซึ่งในปีนี้เจ้าชายชาลส์และเจ้าหญิงไดอาน่าได้หย่าร้างกันอย่างเป็นทางการ เมื่อมีอายุได้ 12 ช่วงเวลาอันเลวร้ายก็เกิดขึ้นกับเจ้าชายแฮร์รี่ เมื่อเจ้าหญิงไดอาน่าได้เสียชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุรถชน…
-
เปิดประวัติพ่อเด็กขโมยป็อปคอร์น แท้จริงเป็นวีรบุรุษสงคราม สหายร่วมรบเจ้าชายแฮร์รี่..!!
จากกระแสความน่ารักของเด็กสาวตัวน้อย ที่แอบขโมยป็อปคอร์นของเจ้าชายแฮร์รี่กิน ก็ทำเอาชาวเน็ตหลายคนสงสัยว่า เอ๊ะ…แล้วครอบครัวของหนูน้อยนี้เป็นใครกันนะ ถึงได้นั่งใกล้ชิดกับเจ้าชายได้ขนาดนั้น อ่านข่าวเก่าที่: หนูน้อยมือไว แอบขโมยป็อปคอร์นของเจ้าชายแฮร์รี่ พระองค์ทรงแกล้งคืนซะเลยนี่แฮร่!! ชาวเน็ตบ้างก็อาจจะเผลอคอมเมนท์ไปก่อนแล้วว่า… คุณแม่ไม่เลี้ยงดูลูกให้ดีริอาจไปรบกวนเจ้าชายได้เยี่ยงไร ซึ่งอันที่จริงเราจะพาไปรู้จักกับ David Henson คุณพ่อของสาวน้อยผู้เป็นวีรบุรุษสงคราม ภาพจากเหตุการณ์ความน่ารักที่โด่งดังไปทั่วโลก คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว เดิมที David Henson เคยรับราชการประจำอยู่ในหน่วย ‘Royal Engineer’ ทว่าต้องสูญเสียขาทั้งสองข้างไปจากการปฏิบัติหน้าที่กู้กับระเบิดในอัฟกานิสถาน เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน แต่จากการสูญเสียขาทั้งสองกลับกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ David Henson และภรรยาของเขาเป็นห่วงเป็นใยกันยิ่งกว่าเดิม ทั้งสองต่างเป็นวีรบุรุษที่เคยอยู่ในสนามรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาแล้ว ภาพของ David Henson และครอบครัว ด้วยกำลังใจจากคนรอบข้าง และลูกสาวตัวน้อยอย่าง Emily ทำให้คุณพ่ออดีตทหารกล้าตัดสินใจที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเองอีกครั้ง… นั่นก็คือการเป็นนักกีฬาแข่งขันให้กับรายการพาราลิมปิกเกม เขาพยายามอย่างหนักจนถูกคัดเลือกให้เป็นนักกีฬาทีมชาติอังกฤษตัวจริงในปี 2014 อีกทั้งก่อนหน้านี้เขายังเคยคว้าเหรียญทองแดงจากการวิ่งแข่งที่เมืองริโอ เดอ จาเนโร มาแล้วด้วย สาวน้อย Emily กับเหรียญรางวัลของคุณพ่อ และภาพจากคลิปวิดีโอที่เราเห็น คุณพ่อก็ไม่ได้อยู่ไหนไกล……
-
หนูน้อยมือไว แอบขโมยป็อปคอร์นของเจ้าชายแฮร์รี่ พระองค์ทรงแกล้งคืนซะเลยนี่แฮร่!!
อีกหนึ่งความน่ารักที่ใครเห็นเป็นต้องยิ้มตาม เมื่อเจ้าชายแฮร์รี่แห่งราชวงศ์อังกฤษทรงไปนั่งชมการแข่งขันกีฬาที่เมืองโตรอนโต แต่กลับถูกหนูน้อยคนข้างๆ แอบขโมยป็อปคอร์นซะงั้น!? เป็นวินาทีที่กล้องสามารถหันไปจับภาพได้แบบพอดีเป๊ะ ในขณะที่เจ้าชายแฮร์รี่ทรงนั่งชมการแข่งขัน Invictus Game ซึ่งเป็นรายการแข่งขันกีฬาคนพิการที่พระองค์ทรงเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงอยู่นั้น… จู่ๆ สาวน้อยที่สืบทราบมาว่าชื่อ Emily Henson ก็เอื้อมมือไปหยิบป็อปคอร์นของพระองค์มากินเฉ๊ยย สังเกตที่หนูน้อยเสื้อเหลืองดีๆ เห็นแบบนี้มือไวมากเลยนะจะบอกให้ ทันทีที่พระองค์เผลอ Emily ก็แอบเอื้อมไปจิ๊กป็อปคอร์นทันที.. ขอซักอันนึงน๊าา และดูเหมือนว่ารสชาติป็อปคอร์นจะถูกใจ รอบแรกยังไม่หนำใจเห็นว่าอร่อยดี… ขออีกทีละกันนะ คราวนี้พระองค์จับไต๋ได้แล้ว อ๊ะ..!! งานนี้พระองค์สั่งลงโทษด้วยการป้อนให้ซะเลย อ๊ามมม นอกจากนั้นพระองค์ทรงหยอกเหย้าเล่นกับหนูน้อยอย่างเป็นกันเอง กลายเป็นภาพน่ารักๆ ที่ถูกใจชาวเน็ตไปทั่วโลกเลยล่ะ ไม่เชื่อก็ต้องลองดูเอง… เป็นการตอบกลับของพระองค์ที่ทรงน่ารักมากๆ พะยะค่ะ ชาวเน็ตก็ออกมาชื่นชมว่าพระองค์ทรงไม่ถือตัวได้ๆ จนกระทั่งป็อปคอร์นใกล้จะหมดนั่นแหละ ฮ่าๆๆ บางคนก็แซวว่าหนูน้อย Emily ต้องได้เป็นผู้สืบบัลลังก์คนต่อไปแน่ๆ บ้างก็ว่าเป็นเรื่องราวที่ล้ำค่าสุดๆ พระองค์ทรงเป็นกันเองกับเด็กๆ มาก แหม๊… เด็กยังไงก็เป็นเด็กละน๊อออ แน่นอนว่าปฏิกริยาความน่ารักของพระองค์ ได้ทำให้ใครหลายคนคิดว่า……
-
เจ้าชาย Harry และ Meghan Markle ออกเดทอย่างเป็นทางการครั้งแรก ชาวเน็ตพากันกรี๊ดด้วยความปิติ
ไม่ได้มีภาพปรากฏออกมาให้เห็นกันง่ายๆ เลยจริงๆ สำหรับเจ้าชายแฮร์รี่ (Prince Harry) และ เมแกน มาร์เกิ้ล (Meghan Markle) นักแสดงสาวชาวอเมริกัน พระสหายหญิงคนสนิท ที่ได้คอนเฟิร์มความสัมพันธ์กันไปเมื่อไม่นานมานี้ และล่าสุดวันที่ 25 กันยายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยภาพสุดสวีทเจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน มาร์เกิ้ล ที่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนด้วยกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก ขณะเข้ารับชมการแข่งขันเทนนิสวีลแชร์ ในกีฬาอินวิคตัส เกมส์ ที่ประเทศแคนาดา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ดูมีความสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก โดยเจ้าชายแฮร์รี่ และ เมแกน ได้ปรากฏตัวในชุดยีนส์ลำลองธรรมดาๆ และสวมแว่นตากันแดด แต่อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่อาจรอดพ้นสายตาผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นไปได้ ซึ่งหลังจากที่ได้ปรากฏตัวผู้เข้าร่วมชมการแข่งขัน ต่างก็พากันปรบมือต้อนรับทันทีที่ทั้งคู่เดินมาด้วยกัน . นอกจากนี้ ทั้งเจ้าชายแฮร์รี่ และเมแกน ยังได้หันมาคุยกับผู้ชมคนอื่นๆ ที่อยู่แถวหลัง พร้อมกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองอีกด้วย ทั้งคู่ดูมีความสุขมาก แถมยังไม่หยุดยิ้มกันเลย . ทางด้าน…
-
เจ้าชายแฮร์รี่เปิดใจ… ไม่มีรัชทายาทองค์ใดประสงค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ เพราะหน้าที่นั้นยิ่งใหญ่เหลือเกิน!!
สำหรับประเทศอังกฤษนั้น เราคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ในอดีตเคยปกครองด้วยระบอบกษัตริย์มาก่อน และปัจจุบันอังกฤษก็ได้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทว่าล่าสุดเจ้าชายแฮร์รี่แห่งเวลส์ได้ออกมาเปิดใจกับสื่อดังหลายสำนักว่า สำหรับรัชทายาทรุ่นใหม่ในราชวงศ์อังกฤษไม่มีองค์ใดประสงค์สืบสันตติวงศ์เป็นกษัตริย์หรอก เพราะภาระหน้าที่นั้นช่างยิ่งใหญ่ซะเหลือเกิน!! โดยพระองค์ทรงให้สัมภาษณ์กับสื่อ Newsweek ไว้ว่า “ถ้าจะให้พูดกันตามตรงก็คงต้องบอกว่า ในความเป็นจริงแล้วข้าพเจ้าไม่คิดว่าในราชวงศ์จะมีใครประสงค์ขึ้นเป็นกษัตริย์นะ..” จากประโยคดังกล่าวที่พระองค์ทรงให้สัมภาษณ์ไว้ ก็ได้กลายเป็นกระแสไปทั่วโลกออนไลน์ และสื่อหลายสำนักต่างก็พากันวิเคราะห์ประโยคดังกล่าวถึงความเป็นไปได้ในอนาคต แต่ก็ใช่ว่าพระองค์จะสละราชสมบัติไปซะทีเดียว เพราะเหตุผลทั้งหมดที่กล่าวมาพระองค์ประสงค์จะให้สามัญชนคนทั่วไปได้รับรู้ว่า การเกิดมาเป็นเชื้อสายราชวงศ์ของอังกฤษนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ไม่ว่าจะต้องคอยดูแลตัวเองไม่ให้มีข่าวเสียหาย ต้องเสด็จไปตามงานที่ถูกเชื้อเชิญทั่วทั้งประเทศ รวมถึงยังต้องคอยมีส่วนร่วมกับประเพณีที่สืบทอดมาอย่างช้านาน โดยพระองค์ได้ทรงอธิบายเพิ่มเติมว่า ส่วนตัวพระองค์ยังคงต้องการให้ประชาชนทั่วไปมองว่า พระองค์ยังคงใช้ชีวิตเหมือนคนปกติสามัญชน ไปช็อปปิ้งในห้างบ้างในวันหยุด หรือไปทานอาหารนอกบ้านบ้างในบางโอกาส ที่มา: Independent