Tag: เด็กหญิง
-
เด็กสาวอินเดีย ถูกบังคับอยู่กระท่อมเนื่องจากมี “ประจำเดือน” สุดท้ายถูกพายุคร่าชีวิต…
เด็กหญิงวัย 14 ปีชาวอินเดียต้องกลายเป็นเหยื่อพายุไซโคลนเพียงเพราะเธอมี “ประจำเดือน” จึงถูกบังคับให้นอนอยู่แต่ในกระท่อม S. Vijayalakshmi ผู้เคราะห์ร้าย เธอเป็นเด็กหญิงวัย 14 ปีที่ติดอยู่ในกระท่อมแยกเดี่ยวเรียกว่า Gaokor กระท่อมนี้เปรียบเสมือนสถานที่สำหรับแยกหญิงที่มีประจำเดือนไปอาศัยชั่วคราว แต่ในขณะนั้น (ช่วงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2018) พายุไซโคลน Gaja ก็กำลังรุกเข้ามายังพื้นที่ตอนใต้ของรัฐทมิฬนาฑู ประเทศอินเดียพอดี ทำให้เธอตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ผลจากพายุ Gaja ทำให้มีผู้เสียชีวิต 46 รายและ Vijayalakshmi เองก็เป็นหนึ่งในนั้น พายุลูกนี้ได้กวาดล้างดินแดนไปราว 800 ตารางกิโลเมตรหรือ 500,000 ไร่ พื้นที่การเกษตรไปของทั้ง 12 เขตถูกทำลายราบคาบ ขณะเดียวกันสมาชิกในครอบครัวของ Vijayalakshmi นั้นปลอดภัยดีในเนื่องจากหลบภัยในบ้านของตัวเองที่ไม่ห่างไกลจากกระท่อม Gaokor นัก ฝ่ายยายของหญิงสาวกล่าวว่าไม่สามารถเข้าไปช่วย Vijayalakshmi ในกระท่อมได้เนื่องจากต้นมะพร้าวนั้นโค่นล้มทับกระท่อมจะไม่สามารถฝ่าเข้าไปได้ถึง หลังจากเข้าถึงตัวของ Vijayalakshmi เธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดโดยด่วน แต่พอไปถึงแพทย์ก็กล่าวว่าเธอได้เสียชีวิตแล้ว คลิปผู้ประสบภัยพายุ Gaja ในประเทศอินเดีย …
-
คดีปริศนาของ Hazel เด็กหญิงวัย 13 ปีที่ “ละเมอ” ไปแขวนคอตัวเองตายในตู้เสื้อผ้า
กลายเป็นคดีปริศนาไปเลยทีเดียวเมื่อเด็กหญิงวัย 13 ปี เสียชีวิตหลัง “ละเมอ” เดินไปยังตู้เสื้อผ้าเพื่อแขวนคอตัวเอง Hazel Georgina Bradley เด็กหญิงชาวเวลส์วัย 13 ปีที่มีภาวะความ กลัวตู้เสื้อผ้า มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เธอได้ดูการ์ตูนเรื่อง Monster Inc. คืนหนึ่ง Hazel ก็เข้านอนตามปกติ แต่เช้ารุ่งขึ้นเธอกลับถูกพบว่าแขวนคอเสียชีวิตอยู่ในตู้เสื้อผ้า พร้อมสวมเครื่องแต่งกายเป็นชุดนักเรียน Hazel Georgina Bradley วัย 13 ปี จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ่อแม่ของ Hazel ยืนยันอย่างมั่นใจว่าลูกสาวของพวกเขาเกิดการ “เดินละเมอ” อย่างแน่นอน Rebecca วัย 43 ปีผู้เป็นแม่กล่าวว่าก่อนเข้านอนในคืนเกิดเหตุ เธอยังกอดและจูบเพื่อบอกราตรีสวัสดิ์กับลูกสาว ก่อนจะแยกย้ายกันไปนอนในช่วงเวลา 21.20 น. ของคืนวันที่ 23 พฤษภาคม 2018 แต่เมื่อเวลา 6.45 น. ของเช้าวันถัดมา Graham วัย 44 ปีผู้เป็นพ่อก็พบร่างลูกสาวตัวเองในชุดนักเรียน “แขวนคอ”…
-
หนูน้อย 7 ขวบโชว์สกิล “หมอผ่าตัด” ผ่าเจ้าหมีได้น่ารักจนกลายเป็นไวรัลในญี่ปุ่นเลยล่ะ!!
บางครั้งวิธีการที่เด็กๆ เล่นของเล่นก็อาจส่อแววอนาคตของเด็กคนนั้นได้เช่นกัน อย่างเช่นเด็กหญิงวัย 7 ขวบคนนี้ที่ทำการ “ผ่าตัด” ช่วยชีวิตเจ้าตุ๊กตาหมี จนกลายเป็นคลิปไวรัลไปเลยทีเดียว วิดีโอเด็กหญิงญี่ปุ่นวัย 7 ขวบที่แสดงบทบาทการเป็นศัลยแพทย์ที่พยายามผ่าตัดตุ๊กตาหมีของตนเอง ถูกโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ @Kazzy_com มียอดเข้าชมปัจจุบันถึง 4.85 ล้านครั้งเลยล่ะ เรามาดูคลิปการผ่าตัดสุดน่ารักนี้กันดีกว่า https://twitter.com/Kazzy_com/status/1028780985972740096?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1028780985972740096&ref_url=https%3A%2F%2Fnextshark.com%2Fjapanese-girl-bear-operation-toy%2F ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ชื่อ @Kazzy_com นั้นเป็นพ่อของเด็กสาวในคลิป บอกว่ารู้สึกประทับใจและภูมิใจในตัวลูกสาวของตนมากที่มีความสนใจและใส่ใจรายละเอียดในการผ่าตัดเจ้าหมี ลูกสาวตัวน้อยของเธอจัดแจงสร้างบรรยากาศให้เหมือนกับห้องผ่าตัดด้วยการ สร้างเสียงเครื่องวัดการเต้นของหัวใจด้วยเมโทรนอมหรือเครื่องนับจังหวะนั่นเอง เจ้าหมีสวมหน้ากากออกซิเจนด้วยล่ะ จากนั้นจะเห็นได้ว่าหนูน้อยได้สมมติการฉีดยาชาไปที่ตัวเจ้าหมี ก่อนที่จะทำการผ่าตัดอย่างพิถีพิถัน เครื่องไม้เครื่องมือที่เธอใช้ ถึงจะเป็นของเล่น แต่เธอก็ตั้งใจเลือกให้ใกล้เคียงของจริงเลยนะ เช่น เจ้าลูกโป่งน้ำที่เธอเลือกมาให้แสดงเป็น “ก้อนเนื้องอก” ในตัวเจ้าหมีนั่นไงล่ะ พอชาวเน็ตได้มาชมคลิปสุดน่ารักนี้ หลายๆ คนก็อดใจไม่ไหว เข้ามาคอมเมนต์เล่นไปกับน้องด้วยซะงั้น เช่น “เจ้าหมีเป็นไงบ้าง การผ่าตัดสำเร็จไหมเอ่ย?” ส่วนฝ่ายคุณพ่อ @Kazzy_com ก็ตอบกลับว่า “มันเป็นการผ่าตัดที่ยาก แต่เราก็นำเนื้องอกออกมาได้สำเร็จ ตอนนี้เจ้าหมีมีสุขภาพที่ดีและกำลังนอนอยู่ในห้องของลูกสาวผมอย่างสบายใจ” นอกจากนี้แฟนชาวเน็ตคนหนึ่งก็ได้วาดภาพแฟนอาร์ตให้กับเธอ เขียนในภาพว่า…
-
เด็กสาวฟิลิปปินส์ที่มี “แฝดอีกคน” เติบโตอยู่ในร่างกาย เธอกำลังจะผ่าตัดในไทยเร็วๆ นี้
เรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นกับเด็กสาวคนหนึ่งในประเทศฟิลิปปินส์นามว่า Veronica Cominguez เธอเป็นเด็กหญิงวัย 14 ปีจากเมืองอีลีกันที่มีแฝดน้องสาวเติบโตขึ้น “ภายในลำตัว” ของเธอ บริเวณช่วงอกของ Veronica นั้นจะพบว่ามีก้อนเนื้อลักษณะคล้ายแขน มือ และนิ้ว งอกออกมา ซึ่งเป็นร่างของแฝดน้องสาวของเธอที่มีการพัฒนาการผิดปกติ และก็ทำให้ Veronica นั้นต้องการความช่วยเหลือ Veronica Cominguez วัย 14 ที่มีแฝดน้องเติบโตอยู่ในร่างกาย ส่วนแขนที่งอกออกมานั้นเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง Veronica ต้องอาบน้ำทำความสะอาด “แฝดน้อง” ของเธอเสมอ รวมถึงคอยตัดเล็บนิ้วมือให้เธอด้วยเช่นกัน ปัจจุบันผู้คนในท้องที่ได้ทำการระดมทุนเพื่อให้ Veronica เดินทางมาเข้ารับการผ่าตัดนำแฝดของเธอออกที่ ประเทศไทย เธอกล่าวว่า “ตอนหนูยังเป็นเด็กฉันคิดว่ามันเป็นเท้าที่งอกออกมา แต่นานๆ เข้ามันก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ มันหนักขึ้นและทำให้หนูเคลื่อนไหวตัวได้ลำบาก มันมักจะแกว่งไปมาเสมอ และทำให้เสื้อผ้าของหนูเปียกอยู่แทบตลอด” Flora Cominguez ผู้เป็นแม่ของ Veronica ก็เล่าว่าในครอบครัวของเธอเองก็มีประวัติการออกลูกเป็นแฝดอยู่บ้าง และเล่าว่าขณะที่เธอตั้งครรภ์ ถึงเธอไม่ได้เข้าไปพบแพทย์เธอก็รู้ดีว่าเธอต้องคลอดฝาแฝดออกมาแน่นอน เธอจึงตั้งชื่อให้กับลูกทั้งสองคน Flora กล่าวว่าสะดือของ Veronica จะเปียกอยู่เสมอเนื่องจากของเหลวที่ไหลออกมาจากบริเวณ “ฝาแฝด”…
-
เผยวินาที ‘ชายแปลกหน้า’ ลักพาตัว ‘เด็กหญิง’ วัย 3 ขวบในจีน สุดท้ายถูกจับ…
ชายคนหนึ่งถูกจับกุมตัว 18 ชั่วโมงหลังจากพบภาพเขาในกล้องวงจรปิด ซึ่งกำลังทำการลักพาตัวเด็กหญิงคนหนึ่งขึ้นรถบนถนนในเมืองกันเซา มณฑลเจียงซีทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ในวันที่ 6 กรกฎาคม 2018 ผู้ต้องสงสัยนามว่า Zhang ถูกพบเห็นในวิดีโอที่ถูกบันทึกมาว่ามีการหลอกล่อให้เด็กหญิงวัย 3 ขวบด้วยอาหารหรือขนมบางอย่าง ทำให้เด็กหญิงเดินเข้าไปหาเขาเพราะอยากได้อาหาร พ่อของเด็กสาวรีบโทรฯ แจ้งตำรวจทันทีที่รู้ว่าลูกสาวของตนหายตัวไป เด็กหญิงถูกหลอกล่อด้วยอาหาร ซึ่งเธอก็ยังมีท่าทางที่ไม่เต็มใจจะไปกับผู้ต้องสงสัย แต่เขากลับอุ้มเธอขึ้นรถของเขาไปเลย เมื่อ Zhang ได้ตัวเด็กสาวแล้ว เขาไม่รอช้า รีบขี่รถจักรยานยนต์ของเขาออกไป หลังจากตวรจสอบจากภาพในกล้องวงจรปิด ผ่านไป 18 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้แกะรอยตามเขาจนพบตัวเขาที่บ้านในช่วงเช้าของวันที่ 7 กรกฎาคม ส่วนเด็กหญิงถูกช่วยเอาไว้ได้อย่างปลอดภัยและไร้ร่องรอยถูกทำร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวของ Zhang เอาไว้เนื่องจากเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีค้ามนุษย์ แต่เจ้าตัวกลัวปฏิเสธข้อกล่าวหา อ้างว่าแค่ต้องการรับเด็กคนนี้ไปเลี้ยงดูเป็นลูกสาวก็เท่านั้นเอง ขณะนี้การสอบสวนยังคงดำเนินการต่อไป สำหรับพ่อแม่ เรื่องนี้คงเป็นอุทาหรณ์ว่าไม่ควรปล่อยลูกหลานที่ยังเด็กให้อยู่ตามลำพังและห่างไกลจากสายตา ที่มา: nextshark, dailymail และ NewsChina
-
สาวน้อยหัวใจใหญ่ ช่วยสุนัขให้มีบ้าน แล้วช่วยหาเงินบริจาคให้ศูนย์พักพิงสัตว์ต่อด้วย
แม้จะเป็นเพียงแค่เด็กหญิงอายุ 12 ปี เธอก็ไม่ปล่อยให้อายุมาเป็นตัวกำหนดการกระทำของตัวเอง เธอเลือกช่วยสุนัขจรจัดตั้งแต่ตอนนี้ เพราะถ้ารอจนโตมันคงไม่ทันใจเธอ Molly Wogan มีโอกาสได้มาช่วยงานในศูนย์พักพิง Cape Ann Animal Aid ในรัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะว่าพ่อแม่ของเธอก็เป็นอาสาสมัครที่ช่วยงานอยู่ที่นี่ การมาที่นี่ทำให้เธอได้เจอกับ Mama Grace สุนัขสีดำตัวหนึ่งที่นั่งหงอยอยู่ในกรง ด้วยความที่อาสาสมัครเห็นเธอสนใจมัน ก็เลยลองบอกให้พามันออกไปวิ่งเล่นดูเผื่อจะชอบแล้วอยากรับมันไปเลี้ยง เมื่อได้ออกมาข้างนอก เจ้าหมาก็มีท่าทีแตกต่างจากตอนอยู่ในกรงลิบลับเลย มันขี้เล่นและซุกซน แต่ในขณะเดียวกันก็อ่อนโยนและเชื่อฟังคน ทำให้ทั้งเด็กหญิงกับพ่อแม่ของเธอเอ็นดูมัน ก็เลยอาสาจะพามันไปดูแลที่บ้านสัก 2-3 วันเพื่อให้มันได้ออกจากกรงบ้าง ปะ ไปอยู่บ้านด้วยกันก่อนนะ อย่างไรก็ตามการพามันมาอยู่บ้านด้วยก็ยิ่งทำให้พวกเรารู้สึกถูกชะตากับมันยิ่งขึ้น มันเข้ากับทุกคนได้ดี แม้แต่หมาอีกตัวหนึ่งที่เลี้ยงไว้ก็ยังสนิทกับมันเลย มันทำให้บรรยากาศในบ้านมีความสุขมากยิ่งขึ้น เมื่อเห็นแบบนั้นแทนที่จะพามันมาอยู่แค่ไม่กี่วัน พวกเธอก็เลยเปลี่ยนใจเลือกรับเลี้ยงมันไว้แทน … ยินดีด้วยนะเจ้าหมา ได้มีครอบครัวแล้ว เมื่อพวกเขาตัดสินใจรับเลี้ยงมัน ทางศูนย์พักพิงกเลยเล่าที่มาที่ไปของมันให้ฟัง เพื่อให้ครอบครัวเข้าใจมันมากขึ้น … Mama Grace เป็นหมาจรจัดท้องโตมาก่อน มันป่วยเป็นโรคปอดบวมแต่ก็ยังพยายามจะเอาชีวิตรอดให้ได้ มันฝืนตัวเองจนคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย จากนั้นก็เลี้ยงพวกมันจนโตเป็นลูกหมาที่น่ารักและมีคนรับไปเลี้ยงหมดทุกตัวเลย…
-
หนูน้อยพิการแต่กำเนิด ‘ไม่มีมือ’ แต่กลับคว้าชัยชนะการประกวด “คัดลายมือ” ได้สำเร็จ
เด็กสาวจากรัฐเวอร์จิเนียได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า การที่เธอเกิดมาพิการก็ไม่ได้ทำให้เธอยอมแพ้ เด็กหญิงวัย 9 ขวบนามว่า Anaya Ellick เธอไม่เคยคิดว่าเธอจะด้อยกว่าคนอื่น ถึงแม้เธอจะเกิดมาโดย “ไม่มีมือ” ก็ตาม เธอบอกว่า “หนูว่าหนูทำอะไรหลายอย่างได้ ถ้าหากหนูใช้ความพยายาม” ซึ่งไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นเป็นความจริง เพราะล่าสุดเธอได้คว้าเอาชัยชนะการประกวดคัดลายมือในงานประกวด Zaner-Bloser National Handwriting contest เมื่อวันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2018 . เธอเอาชนะการประกวดมาได้ภายใต้การร้องขอพิเศษสำหรับผู้พิการ ในการเขียนภาษาอังกฤษตัวเขียน (Cursive) และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ชัยชนะมาครอบครองเมื่อปี 2016 เธอก็ชนะรายการนี้มาแล้วครั้งหนึ่งเช่นกัน เธอกล่าวว่า “หนูมีความสุขมากๆ และทีแรกหนูคิดว่าแม่ล้อเล่นที่บอกว่าหนูชนะการประกวดอีกแล้ว” นอกจากนี้ Anaya ยังมีความคิดที่จะเข้าแข่งขันกีฬาในอนาคตด้วย ถึงแม้เธอจะพิการมาตั้งแต่กำเนิด แต่ความฝันและความพยายามตามความฝันของเธอนั้น กลับเป็นสิ่งที่พาให้เธอประสบความสำเร็จ ที่มา: wfla
-
แพทย์งุนงง หลังพบหนังยางฝังอยู่ในแขนของเด็กวัย 4 ขวบ ราวกับโดนเล่นของใส่!!
พวกเราบางคนอาจเคยเจอกับเรื่องราวที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ว่ามันเกิดอย่างนั้นได้อย่างไร เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยวัย 4 ขวบคนนี้ เมื่อพบ “หนังยาง” อยู่ใต้ผิวหนังบริเวณแขนของเธอ ราวกับว่าเธอโดนไสยศาสตร์เสกของเข้าตัว เด็กหญิงคนดังกล่าวมีชื่อว่า Le Le เธออาศัยอยู่กับตายายในเมือง Linquan มณฑลอานฮุย ประเทศจีน โดยเมื่อช่วงต้นปี 2018 ตายายพบเห็นรอยแดงประหลาดเป็นวงรอบๆ แขนของเธอ ทั้งสองคนจึงพาเด็กหญิงไปเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลในเมือง ซึ่งหมอไม่สามารถบอกได้ว่ามันคือรอยอะไรและวินิจฉัยเป็นเพียงแค่อาการติดเชื้อหรืออาการภูมิแพ้ทั่วไปเท่านั้น รอยรอบๆ แขนของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ พอวันเวลาผ่านไป อาการดังกล่าวกลับยิ่งแย่ลงไปมากกว่าเดิม ทำให้พ่อแม่ของเธอตัดสินใจพาไปเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลเด็กของมหาลัยแพทย์ซีเจียง เมืองหางโจว พวกเขาได้พบกับนายแพทย์ Ye Wensong ซึ่งได้ทำการอธิบายว่ารอยแปลกๆ นั้นน่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากหนังยาง แน่นอนว่าเมื่อพ่อแม่ได้ยินอย่างนั้น พวกเขาก็ดูจะไม่ค่อยเชื่อหมอเท่าไหร่ เพราะคิดว่าถ้าเป็นหนังยางจริง ตอนที่มันรัดไว้ก็น่าจะมีคนบอกให้เอาออกหรือสังเกตเห็นกันมาตั้งนานแล้ว อย่างไรก็ตาม แม้ตอนแรกพวกเขาจะไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ยอมให้ลูกสาวนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล จนกระทั่งได้เจอกับผลลัพธ์อันน่าประหลาดใจ เพราะแพทย์สแกนพบหนังยางอยู่ในแขนของเธอจริงๆ และทำการผ่าตัดเอาออกมาในที่สุด แพทย์จำเป็นต้องผ่าตัดเอาหนังยางออกมา นี่มันคือการโดนเล่นของใส่ชัดๆ!! แต่ความจริงแล้วแพทย์อธิบายว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นจากการที่คนเฒ่าคนแก่ (ตายายของเด็กสาว) นำเอาสายสิญจน์หรือหนังยางไปมัดข้อมือหรือมัดแขนของเธอเอาไว้เพื่อเป็นสิริมงคล แต่นั่นอาจกลายเป็นการทำร้ายเด็กไปโดยไม่รู้ตัว นายแพทย์…
-
เด็กหญิงวัย 5 ขวบจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ช่วยเหลือ ‘ทหารผ่านศึก’ ที่ได้รับบาดเจ็บจากสงคราม!!
บางครั้งเหล่าทหารหาญทั้งหลายแม้ภายนอกพวกเขาจะดูเข้มแข็ง แต่ภายในก็มีมุมอ่อนแอเฉกเช่นเดียวกัน… และนี่เองก็เป็นสิ่งที่ เด็กหญิงวัย 5 ขวบครึ่ง ที่ถูกเรียกว่า Tempy Pattinson จากเมือง Darlington ประเทศอังกฤษ มองเห็นภายในตัวของเหล่าชายชาติทหารและเธอก็เลือกที่จะไม่มองข้ามไปและตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเพื่อช่วยเหลือพวกเขา Tempy ได้เข้าร่วมกับองค์กร Help for Heroes เป็นองค์กรที่ช่วยเหลือและให้การสนับสนุนเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และเจ็บป่วยจากการรับใช้กองทัพของประเทศอังกฤษ โดยทางองค์กรมีการจัดกิจกรรมช่วยเหลือมากมาย มีครั้งหนึ่งที่ Tempy ไปลงสมัครแข่งว่ายน้ำ 100 เมตร หรือการลงแข่งขันไตรกีฬาเพื่อเรี่ยไรเงินบริจาค นอกจากนี้ก็มีกิจกรรมที่ชื่อว่า Facing It Together ที่ Tempy และทีมงานจะติดต่อไปยังทหารผ่านศึกเพื่อให้มานั่งคุยกันต่อหน้าและเธอก็จะบอกว่าพวกเขาน่ะคือฮีโร่ตัวจริง เพื่อเติมเต็มความหมายในชีวิตที่ขาดหายไปให้กับเหล่าทหารหาญอีกครั้งหนึ่ง นายทหาร Simon Brown วัย 38 ปี เคยรับใช้กองทัพมานานกว่า 13 ปี ก่อนจะได้รับบาดเจ็บหนักจากการไปประจำการที่อิรักเมื่อปี 2006 ในวันเกิดเหตุที่ทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป Simon ได้ออกไปทำภารกิจเพื่อช่วยเหลือเพื่อนทหารจำนวน 7 คนที่ถูกจับตัวไป และเขาสามารถช่วยเหลือมาได้ถึง 6…
-
คุณแม่สัญญากับลูกสาวว่า จะพาเธอไปถ่ายรูปกับดอกไม้ให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้
ว่ากันว่าผู้หญิงกับดอกไม้นั้นเป็นของคู่กัน ความสวยงามของดอกไม้และความสวยงามของผู้หญิง ต่างเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกันและกัน เมื่อไหร่ที่ทั้งสองสิ่งนี้มาอยู่ด้วยกันก็จะทำให้โลกนี้เกิดความสวยงามยิ่งขึ้น Roberta Baneviciene คุณแม่ผู้ชื่นชอบในการถ่ายภาพ เธอกับลูกสาวมักจะชอบตระเวนไปยังที่ต่างๆ เพื่อเก็บรูปภาพไว้ สิ่งที่สาวน้อยกับคุณแม่ชอบเหมือนๆ กันเลยนั่นก็คือดอกไม้ คุณแม่จึงได้สัญญากับลูกสาวว่า เธอจะพาลูกไปถ่ายรูปกับดอกไม้ให้ได้เยอะที่สุด ดอกไม้แต่ละชนิดก็เบ่งบานในฤดูกาลที่แตกต่างกัน คุณแม่และลูกสาวก็พยายามที่จะเก็บความสวยงามเหล่านี้ไว้ในรูปแบบของรูปภาพอันสวยงามเหล่านี้ ความงามที่ลงตัวระหว่างเด็กหญิงกับดอกไม้ เด็กหญิงกับดอกลาเวนเดอร์ ดอกไม้สีเหลืองและชุดสีเหลือง เปรียบเหมือนกับความสดใส แบบนี้ดูลึกลับไปอีกแบบ เหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยๆ คุณแม่ถ่ายภาพสวยมาก . ภาพโทนเข้ม แต่ไม่ได้ทำให้ความน่ารักของสาวน้อยลดลงเลย เจ้าหญิงน้อย . ดอกไม้ก็สวย คนก็น่ารัก แจกความสดใสท่ามกลางทุ่งทานตะวัน คุณแม่สัญญาว่าจะพาเธอไปถ่ายรูปกับดอกไม้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ . น้องโพสท่าเก่งมาก ดูสวยไปซะทุกรูปเลย . น้องต้องโตขึ้นมาเป็นสาวที่สวยมากๆ แน่นอน ภาพนี้ดูไร้เดียงสา ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เด็กน้อยกับดอกทิวลิปสีแดง ที่มา boredpanda
-
เด็กหญิงป.5 เป็นลมและเสียชีวิต หลังถูกคุณครูสั่งทำโทษ ให้วิ่งรอบสนามกว่า 4 รอบ
เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 11.00 น. ด.ญ.ภัทราพร หรือน้องเนิร์ต วัย 11 ปี ซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ป.5 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้เข้าเรียนวิชาพละศึกษา แล้วมีเด็กนักเรียนชายในห้องเล่นกันขณะที่ครูกำลังสอน ครูจึงสั่งทำโทษนักเรียนทั้งห้องโดยการสั่งให้วิ่งรอบสนาม 4 รอบ น้องเนิร์ตจึงต้องวิ่งไป และเธอก็ล้มลง จนเพื่อนๆ ต้องช่วยกันนำตัวส่งห้องพยาบาล ในเบื้องต้นครูพยาบาลก็เช็ดตัวให้ ขณะนั้นน้องเนิร์ตยังพอรู้สึกตัวและสามารถลุกมากดน้ำเองได้แต่ก็กลับล้มฟุบลงไปอีก จนสุดท้ายทางโรงเรียนต้องติดต่อกลับไปหาผู้ปกครองให้มารับน้องเนิร์ตกลับบ้านเพราะเห็นว่าไม่สบายและตัวร้อน เมื่อพ่อและยายมาถึงก็พบว่าน้องเนิร์ตนอนตัวสั่น หายใจแรง และบอกว่ารู้สึกร้อนภายในตัวมาก จากนั้นพ่อและยายจึงรีบนำตัวน้องเนิร์ตส่งโรงพยาบาลตากสิน ขณะเดินทางไปโรงพยาบาลน้องเนิร์ตมีอาการคลื่นไส้อาเจียน พูดไม่รู้เรื่อง เกร็งกล้ามเนื้อ และก็หมดสติไป เมื่อถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้แจ้งว่า น้องเนิร์ตได้ “เสียชีวิต” ตั้งแต่ก่อนมาถึงโรงพยาบาลแล้ว ทางคุณพ่อจึงเข้าไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน และขอนำศพน้องเนิร์ตเข้ารับการชันสูตรที่ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งต้องรอผล 45 วัน หลังจากนั้นมีการติดต่อเข้ามาจากครูพยาบาลเพื่อสอบถามอาการของน้องเนิร์ต คุณยายจึงได้แจ้งครูพยาบาลไปว่าน้องเนิร์ตเสียชีวิตแล้ว จากนั้นก็ไม่มีใครติดต่อมาอีก และเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 พ่อของน้องเนิร์ตก็ได้เข้าพบผู้อำนวยการของโรงเรียน แต่กลับได้รับคำตอบว่าผู้อำนวยการไม่รับทราบเรื่องนี้เลย จากนั้นผู้อำนวยการและคณาจารย์จึงได้เข้ามาเป็นเจ้าภาพงานศพของน้องเนิร์ตในคืนที่ 3…
-
เด็กหญิงชาวจีนวัย 11 ขวบ ตกเป็นทาสกามของยามที่โรงเรียน จนตั้งท้องได้ 5 เดือน
เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศได้รายงานว่า นักเรียนสาววัย 11 ปีผู้หนึ่งพบว่าตัวเธอเองกำลังตั้งท้อง หลังจากถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนข่มขืน เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นกับเด็กหญิง Lele (นามสมมุติ) นักเรียนสาวจากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน หลังจากที่เธอเริ่มรู้สึกอึดอัดตามร่างกาย ก่อนที่จะเข้าตรวจในคลินิกใกล้บ้านและพบว่าตัวเองกำลังตั้งท้องนาน 5 เดือน เด็กหญิง Lele อาศัยอยู่กับคุณแม่ที่มีอาการป่วยทางจิตและพี่สาวของเธอ จากการคำให้การของคุณ Zhang Jun พี่เขยของเธอกล่าวว่า สาวน้อยถูกนาย Liu เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงเรียนล่วงละเมิดทางเพศเธอครั้งแรกเมื่อตอนที่เธออายุได้เพียงแค่ 9 ขวบ พี่เขยของเด็กหญิงเล่าว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนดังกล่าว ได้ฉุดตัวของสาวน้อยเข้าไปในชั้นใต้ถุนอาคาร ในระหว่างที่เธอกำลังเล่นกับเพื่อนๆ ที่สนามเด็กเล่น ก่อนที่จะลงมือข่มขืนเธอ พร้อมกับขู่ว่าจะฆ่าคนในครอบครัวของเธอ ถ้าหากเด็กหญิงเอาเรื่องนี้ไปบอกกับคนอื่น เป็นเวลามากกว่า 2 ปี ที่เด็กหญิง Lele ตกเป็นทาสกามของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนนี้ โดยที่นาย Liu เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยวัย 50 ปีที่ตกเป็นผู้ต้องหา ได้ทำงานที่โรงเรียนดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 5 ปี ทางด้านอาจารย์ Chang Chunkui คุณครูใหญ่ของทางโรงเรียน ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับพนักงานคนนี้ว่า “เขาไม่ใช่คุณครูของโรงเรียน…
-
เด็กน้อยใช้ดาต้าอินเตอร์เน็ตจนหมด ขอดาต้าเพิ่ม แต่ทางค่ายให้เซตของเล่นแทน
พวกเราคงเคยมีโมเมนต์ที่เล่นอินเตอร์เน็ตจนหมด ต้องเสียเงินเพิ่มหรือรอให้ครบรอบเดือนถึงจะใช้งานได้อีกครั้ง แต่ก็มีเจ้าหนูคนหนึ่งที่ได้ลองวิธีแปลกใหม่และได้รับการตอบกลับอย่างเซอร์ไพรส์ หนูน้อย Macie Bullen-Jones ได้ใช้ข้อมูลโทรศัพท์ของเธอดูคลิปวิดีโอบนอินเตอร์เน็ตจนหมดหลังจากที่ได้โทรศัพท์เป็นของขวัญเมื่อวันคริสต์มาส หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน เธอก็ได้รับข้อความจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ O2 แจ้งว่าเธอใช้งานอินเตอร์เน็ตจนหมด แต่แทนที่เจ้าหนูจะรอเดือนใหม่ หรือเปลี่ยนไปใช้ Wi-Fi ทั้งเดือน เจ้าหนูกลับส่งข้อความไปยังบริษัทเพื่อถามว่าพวกเขายินดีที่จะช่วยเธอไหม เธอส่งข้อความไปว่า “ได้โปรด ขอดาต้าเพิ่มให้หนูได้ไหม” Claire คุณแม่ของเจ้าหนู Macie ได้แอบไปเห็นข้อความในโทรศัพท์ของเธอ ก็เลยเกิดปิ๊งไอเดียขึ้นมา เธอจึงส่งข้อความไปยัง O2 และขอให้ทางบริษัทช่วยตอบกลับหนูน้อยคนนี้ว่าเธอต้องช่วยทำงานบ้านบ้างนะ ถึงจะได้เล่นอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง ทางด้านบริษัท O2 นั้นยิ่งกว่ายินดีที่จะช่วยและตอบกลับมาว่า “พวกเราได้รับข้อความของคุณแล้ว แต่เนื่องจากที่คุณเริ่มโด่งดัง พวกเราเลยอยากจะเขียนจดหมายตอบกลับไป” ในจดหมายกล่าวว่า “พวกเราไม่สามารถเพิ่มการใช้งานอินเตอร์เน็ตให้ได้ในระหว่างนี้ ระบบของเราบอกว่าหนูไม่ค่อยช่วยเหลืองานบ้านคุณแม่ของหนู จึงต้องรอรายงานเพิ่มเติมจากคุณแม่” แต่ทางบริษัทไม่อยากให้เจ้าหนูต้องเบื่อจากการที่ไม่ได้ดูยูทูบ ก็เลยส่งของขวัญมาให้เพื่อเป็นการปลอบใจ และกล่าวว่า “อย่าเศร้าไปเลย พวกเราได้ส่ง Fidget Spinner ไปให้เพื่อสร้างความสุขให้กับหนู พร้อมกับ #ของขวัญเซอร์ไพรส์จาก O2 หวังว่าหนูจะชอบนะ” …
-
คลิปสาวน้อยร้องไห้ซะน่าสงสาร สักพักยิ้มน่ารักออกมาอีก ละลายหัวใจคนดูถล่มทลาย
เราเชื่อว่าคนแทบทั้งโลกคงจะแพ้ในความน่ารักของเด็กเล็กแน่ๆ ก็พอมองเด็กที่ใสซื่อบริสุทธิ์แล้วเห็นพวกเขายิ้มหรือเล่นซนทีไรเราก็อดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้ทุกที แต่คงจะหาใครมาเทียบชั้นความน่ารักกับสาวน้อยจากจีนคนนี้ได้ยาก เพราะไม่ว่าเธอจะทำอะไรเธอก็ดูน่ารักไปเสียทุกอิริยาบถเลย ตอนนี้คลิปวิดีโอของเธอกำลังกลายเป็นกระแสไวรัลร้อนแรงในหมู่ชาวเน็ตด้วย ชาวเน็ตที่ได้ดูคลิปของเธอต่างก็ยอมยกใจให้กับดวงตากลมโตที่ชวนมอง และแก้มตุ้ยนุ้ยน่ารักน่าหยิกของเธอกันทั้งนั้น ตอนนี้คลิปวิดีโอของเธอมีคนดูไปแล้วเกือบ 6 ล้านครั้ง และมียอดแชร์สูงถึง 60,000 ครั้งเลยทีเดียว ดูตอนที่เธอร้องไห้สิ ใครจะใจแข็งไม่สงสารเธอได้ แต่ความน่ารักของเธอยังไม่จบเท่านั้น จากที่เธอร้องไห้ในตอนแรก อยู่ดีๆ เธอก็เผยยิ้มกระชากใจชาวเน็ตแบบไม่ทันตั้งตัว ยิ้มหวานอะไรขนาดนั้นหนูน้อย อรั๊ยยยย นอกจากคลิปร้องไห้และหัวเราะของน้องจะโด่งดังมากแล้ว คลิปมุมน่ารักน่าหยิกอื่นๆ ของเธอก็ขโมยหัวใจชาวเน็ตได้เยอะไม่แพ้กันเลย ดูแก้มอ้วนๆ ของเธอสิ เห็นแล้วอยากจะยื่นมือเข้าไปบีบในจอเลย ขอแค่ได้มองแก้มตุ้ยนุ้ยที่เหมือนกับกระรอกของเธอ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนใจแข็งแค่ไหนก็ต้องยอมยกใจให้กับเธอทั้งนั้น โง้ยยยย ตอนน้องยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ก็ยังดูน่ารักเลยอ่า เห็นแล้วใจคอไม่ดี จะตายเอาให้ได้เลย โฮกกก ถ้าใครคิดว่าความน่ารักเพียงเท่านี้ยังไม่พอ ก็ลองเข้าไปดูวิดีโอตัวเต็มอันนี้ดูสิ รับรองตกหลุมรักแน่นอน แพ้เด็กอ่า ยิ่งมองยิ่งน่าร๊ากกก ที่มา: gfycat, 9GAG Girly
-
คู่พ่อแม่ถูกตัดสินจำคุก 20 ปี หลังจับลูกสาววัย 12 ปีเป็นทาสเซ็กส์ ร่วมกันข่มขืนเธอเป็นประจำทุกวัน
เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยเรื่องราวที่แสนเลวร้ายสำหรับเด็กหญิงชาวรัสเซียคนหนึ่งที่มีอายุเพียง 12 ปี เมื่อเธอถูกพ่อแม่ของเธอเองร่วมกันข่มขืน พ่อแม่วัย 34 ปี ของเด็กสาว หลังจากทำทารุณกรรมทางเพศกับเธอ พวกเขาจึงถูกพิจารณาคดีความว่ามีอาการของ “โรคใคร่เด็ก” พ่อแม่ผู้ลงมือก่อเหตุ พวกเขาถูกกักตัวไว้ที่เมืองวอลโกกราดในรัสเซีย หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงพวกเขาจะต้องถูกจำคุกถึง 20 ปี เด็กสาวผู้เคราะห์ร้ายให้การว่าถูกทารุณกรรมทางเพศมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2016 จนถึงเดือนมีนาคม 2017 โดยกล่าวว่าฝ่ายผู้เป็นพ่อนั้นมักจะข่มขืนเธอในทุกๆ วัน บางวันก็มีแม่ร่วมด้วย ซึ่งผู้เป็นแม่เองถูกตั้งข้อหาว่ากระทำทารุณกรรมทางเพศด้วย “อวัยวะเพศเทียม” ฝ่ายผู้เป็นแม่กล่าวว่า “ให้พวกเราข่มขืนก็ยังดีกว่า ให้ไอ้บ้าที่ไหนไม่รู้มาทำ” เมืองวอลโกกราด ในฤดูหนาว ในการพิจารณาตัดสินคดี ทั้งคู่จึงถูกถอดถอนสถานะการเป็นพ่อแม่ของเด็กสาว หมายความว่าพวกเขาไม่มีสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเด็กสาวคนนี้อีกต่อไป เด็กสาวจึงถูกส่งตัวไปรับการดูแล ส่วนผู้เป็นแม่นั้นยังให้การกับตำรวจว่าเธอเองก็ถูกข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 13 ปี เธอและสามีจึงตกลงกัน “ฝึกฝน” ให้ลูกสาวของพวกเขาคุ้นเคยกับสิ่งที่จะต้องพบเจอในอนาคต เมื่อเด็กสาวได้รับการตรวจร่างกาย แพทย์จึงพบว่าเธอมีปัญหาเกี่ยวกับประจำเดือน และพบว่าเธอได้สูญเสีย “ความบริสุทธิ์” ไปแล้ว สถานกักกันในวอลโกกราด สุดท้ายจากคำให้การของเด็กสาว…
-
เด็กสาววัย 3 ขวบรู้สึกผิดหวัง หลังรู้ว่าตัวเองจะได้น้องชาย แต่พอได้ของหวานปุ๊บหายเศร้าเลย
เรื่องราวน่ารักๆ นี้ถูกเผยแพร่โดยว่าที่คุณแม่ลูกสอง Siobhan คุณแม่ของหนูน้อย Daisy Martin อายุ 3 ขวบจากกรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลล์ คุณแม่ได้บอกกับ Daisy ก่อนหน้านี้แล้วว่า เธอกำลังจะมีน้อง ซึ่งเธอก็ยินดีกับแม่ของเธอและคาดหวังว่าเด็กในท้องนั้นจะเป็นน้องสาว เธอจะได้มีเพื่อนเล่นตุ๊กตาซะที แต่เมื่อคุณแม่ไปอัลตราซาวด์ดูเพศของเด็กแล้วก็พบว่าเป็นเด็กผู้ชาย คุณแม่ตัดสินใจบอกข่าวดีกับลูกสาวของเธอว่า “หนูกำลังจะมีน้องชายแล้วนะ” พอหนูน้อย Daisy ได้ยินแม่ของเธอบอกก็ร้องไห้ทันที จนผู้เป็นแม่ตกอกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น Daisy บอกว่า “หนูอยากได้น้องสาว ไม่ได้อยากได้น้องชาย แง้ T^T” เมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นแบบนี้ คุณแม่เลยต้องงัดไม้เด็ดออกมาหลอกล่อให้หนูน้อยเลิกกรีดร้อง ด้วยการปลอบเธอ แล้วยื่นขนมหวานให้ แล้วบอกว่า นี่น้องชายของเธอส่งมาให้นะ “เราเขียนโน๊ตเล็กๆ ติดไปกับขนมหวานที่ให้เธอว่า ของขวัญเล็กๆจากน้องชาย จากนั้นก็ดูปฏิกิริยาของเธอ” แล้วดูเหมือนว่ามันจะได้ผลเมื่อหนู Daisy หยุดร้องไห้แล้วมาจดจ้องกับขนมหวานที่แสนน่ากินตรงหน้า แต่เธอก็ยังไม่หยุดสะอึกสะอื้น คุณแม่รู้ว่าต้องใช้เวลานิดหน่อยกับความผิดหวังที่หนูน้อยได้รับ ลองไปชมคลิปกันดีกว่า อยากดูคลิปแบบเต็มๆ กดไปตรงนี้ได้เลย instagram ความน่ารักสุดใสไร้เดียงสาของเจ้าหนู Daisy ขณะไปเที่ยวทะเล ภาพวันแต่งงานของคุณพ่อกับคุณแม่…
-
กรณีเชียร์ลีดเดอร์สาว โดนบังคับให้ฝึกฉีกขา ‘ทรมานร่างกาย’ ท้ายที่สุดโค้ชถูกไล่ออก…
จากเรื่องที่เกิดขึ้นในคลิปวิดีโอของเชียร์ลีดเดอร์สาววัย 13 ปี Ally Wakefield ถูกจับฉีกขาและกดตัวลงไปจนเธอร้องขอชีวิตด้วยความเจ็บปวดอย่างทรมาน หลังจากนั้นเธอก็มีอาการเจ็บบริเวณต้นขาอย่างมาก เพราะกล้ามเนื้อและเอ็นของเธอฉีกจากวิธีการฝึกที่เธอต้องทำ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่การออกกำลังกาย แต่เป็นการทรมานร่างกายของเธอเสียมากกว่า… คลิปวิดีโอดังกล่าวได้ถูกถ่ายไว้ในช่วงสัปดาห์แรกของการเข้าค่ายเชียร์ลีดเดอร์ในเดือนมิถุนายน ซึ่งมีทั้งหมด 8 คลิป และทุกคลิปที่ได้เห็นนั้นล้วนแล้วแต่เป็นการฝึกบังคับให้ฉีกขา คลิปวิดีโอที่เธอถูกบังคับและการสัมภาษณ์หลังเหตุการณ์ แน่นอนว่าโค้ช Ozell Williams ผู้ควบคุมการฝึกซ้อมและเป็นคนกดหลังเธอลงในคลิปวิดีโอ ถูกไล่ออกจากหน้าที่ที่ทำอยู่ตอนนี้และได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า… “จากเรื่องราวที่คุณได้เห็นในวิดีโอสามารถมองเห็นได้ในมุมมองที่ต่างกัน ผมมีความต้องการที่จะเล่าเรื่องของผม แต่ก็ยังไม่สามารถพูดอะไรได้มากในตอนนี้” โค้ชคนดังกล่าวก่อนหน้านี้เคยถูกไล่ออกมาจากโรงเรียนอีกแห่งด้วยเหตุผลเดียวกัน มีการบอกเล่ามาจากปากของเด็กสาวทั้งหลายว่า เขาจะต่อยเข้าที่ใบหน้าของพวกเธอ หากไม่สามารถทำการแสดงได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อคลิปวิดีโอได้ถูกเผยแพร่ออกไปทางโรงเรียน East High ก็ได้วางตำแหน่งผู้ตรวจสอบภายในเพื่อสอบสวนกันเอง โดย 2 ใน 4 คนนั้นก็คือครูใหญ่และผู้ช่วยครูใหญ่ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นช่วงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังทำการสืบสวนเกี่ยวกับเรื่องนี้ การฝึกซ้อมอันหนักหน่วงที่เธอต้องถูกเข่าของโค้ชกดไปที่หลังกับมือ ทิ้งน้ำหนักไปยังขาขวาจนเธอได้รับบาดเจ็บ แม่ของเธอก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า… “ฉันได้แนบวิดีโอส่งไปให้ผู้ช่วยครูใหญ่ เป็นภาพที่ลูกสาวและเพื่อนๆ ของเธอถูกบังคับให้ฉีกขา และโดนบังคับให้ต้องรับการฝึก จนเป็นเหตุให้ลูกฉันบาดเจ็บ” Tom Boasberg…
-
‘Guevedoces Syndrome’ โรคประหลาด จากเด็กหญิงกลายเป็นชายเมื่ออายุ 12 ขวบ
เมื่อไม่นานมานี้ทางเว็บไซต์ Metro ได้รายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ประหลาดของเหล่าเด็กๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถบทะเลแคริบเบียน ว่าร่างกายของพวกเขามีการเปลี่ยนแปลงลักษณะทางเพศเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น!! เรื่องเหลือเชื่อนี้เกิดขึ้นในหมู่บ้านห่างไกลในเมือง Salinas ประเทศสาธารณรัฐโดมินิกัน โดยพบว่าเด็กผู้หญิงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ จะมี ‘จู๋’ งอกออกมาเมื่อพวกเธออายุได้ 12 ขวบ ปรากฏการณ์นี้พบได้กับเหล่าเด็กๆ ที่มีอาการ Guevedoces Syndrome หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่าโรค pseudo hermaphrodites การเป็นโรคดังกล่าวในเมืองนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา และเด็กป่วยก็จะได้รับการยอมรับว่าพวกเธอมีสองเพศในคนเดียว หนึ่งในสารคดีของทาง BBC เคยพาไปทำความรู้จักกับโรคนี้แล้ว โดยรายการดังกล่าวได้พาไปรู้จักกับ Johnny ชายวัย 24 ปีที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเด็กผู้หญิงที่รู้จักกันในชื่อ Felicitia Johnny เล่าผ่านรายการว่า “ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยใช่ชุดกระโปรงสีแดง ตอนผมเกิดมาพวกเขาไม่รู้ว่าผมมีเป็นเพศอะไร ตอนไปโรงเรียนผมใส่กระโปรง แต่ผมไม่เคยชอบของเล่นเด็กผู้หญิงและชุดพวกนั้นเลย” โรคดังกล่าวเกิดจากความผิดปรกติของเอนไซม์ ที่ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนเพศตั้งแต่ในครรภ์ได้ เมื่อแรกเกิดพวกเขาจะดูเหมือนเด็กผู้หญิง แต่เมื่อถึงช่วงวัยรุ่นจะมีการพัฒนาฮอร์โมนเพศชายและทำให้ร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งอาการเสียงแตก และมีอวัยวะเพศชายที่ค่อยๆ โตขึ้น ดอกเตอร์ Michael Mosley ผู้ดำเนินรายการสารคดีของทาง BBC กล่าวว่า “บางครั้งเราเรียกโรคนี้ว่าอาการ machihembras ซึ่งหมายความว่าเด็กมีการเปลี่ยนเพศจากหญิงไปเป็นชาย เมื่อแรกเกิดพวกเขาจะมีอวัยวะเพศที่เหมือนกับเด็กผู้หญิงและไม่มีลูกอัณฑะ แต่เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ทุกอย่างจะเริ่มเปลี่ยนไปอวัยวะเพศจะเริ่มโตขึ้น จนกลายเป็นผู้ชายในที่สุด” ที่มา metro
-
กว่า 20 ปี ที่หญิงสาวและตำรวจได้มาเจอกันอีกครั้ง เพื่อขอบคุณที่ช่วยชีวิตเธอในวัยเด็ก…
เรื่องราวมิตรภาพนั้นเป็นสิ่งสวยงามเสมอไม่ว่ามันจะเกิดกับใครก็ตาม และสำหรับเรื่อราวที่เกิดขึ้นกับคนทั้งสองนี้ก็เช่นเดียวกัน… คุณ Klynn Scales อาจจะไม่ได้มีชีวิตในวัยเด็กที่สดใสเหมือนเด็กๆ ทั่วไป เธอเติบโตมาในบ้านที่เต็มไปด้วยปัญหาของยาเสพติดและความรุนแรง บ่อยครั้งที่เธอต้องแอบขโมยอาหารจากร้านสะดวกซื้อใกล้ๆ บ้านเพื่อเอามาให้น้องชายทั้งสองของเธอได้มีอาหารประทังชีวิต จนกระทั่งเมื่อตอนที่เธอมีอายุได้ 9 ขวบ มิตรภาพระหว่างหญิงสาวกับนายตำรวจท่านหนึ่งเกิดขึ้น โดยคุณตำรวจจะผ่านมาแวะเวียนหน้าบ้านทุกๆ วัน และเธอก็จะส่งรอยยิ้มโบกมือทักทายเขาอยู่เสมอ “ฉันเคยผ่านเรื่องราวร้ายๆ มามาก เขามักจะปกป้องพวกเราและช่วยพวกเรา เมื่อต้องเจอเรื่องร้ายๆ ในวัยเด็ก” หญิงสาวกล่าว ถึงแม้ว่าจะไม่รู้จักชื่อของนายตำรวจท่านนี้ แต่เด็กหญิงก็เชื่อว่าเขาเป็นเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอสามารถเชื่อใจได้ และแล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ในระหว่างที่คุณตำรวจแวะเวียนผ่านบ้านของเด็กหญิงเหมือนเช่นเคย เขากลับไม่พบรอยยิ้มและการโบกมือทักทายของเธอ นั่นจึงทำให้เขาคิดได้ว่าอาจจะเกิดเรื่องร้ายกับเธอแน่ๆ นายตำรวจท่านนั้นจึงตัดสินใจเข้าไปในบ้าน และพบว่าหนูน้อยกำลังนอนซมด้วยพิษไข้อยู่ โดยที่ไม่มีใครคอยอยู่ดูแลเธอเลยแม้แต่คนเดียว เขาจึงรีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจดูอาการและให้ความช่วยเหลือเธอ หลังจากนั้นหญิงสาวก็มีเหตุจำเป็นทำให้เธอต้องย้ายบ้านไป และแล้ว Klynn กับคุณตำรวจท่านนั้นจึงไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย… จนกระทั่ง 20 ผ่านไปจากที่เจอกันเป็นครั้งสุดท้าย คุณตำรวจ Jeff Colvin ก็ได้รับอีเมลล์ฉบับหนึ่งจากเด็กหญิงที่เขาเคยช่วยชีวิตเอาไว้ และท้ายที่สุดทั้งสองก็ได้กลับมาพบกันอีกครั้ง ในที่สุดแล้ว การกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง เธอก็กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ Jeff Colvin สำหรับทุกสิ่งที่เขาได้ช่วยเธอในวัยเด็ก และนอกจากนั้นแล้วเขาก็ยังกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้เธอเลือกที่จะเป็นเจ้าหน้าตำรวจอีกด้วย …
-
หญิงสาวบอกน้องว่า “อย่าเลี้ยงหมา” แต่เธอไม่ฟัง เป็นไงล่ะ.. โตมาได้เพื่อนซี้สุดน่ารักเลย!!
พ่อแม่หลายๆ คนมักไม่ให้ลูกน้อยเข้าใกล้สัตว์เลี้ยงเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายกับลูก แต่ในขณะเดียวกันก็มีพ่อแม่ไม่ให้ที่ให้ลูกเติบโตไปพร้อมๆ สัตว์เลี้ยง ย้อนกลับไปในปี 2007 ผู้ใช้เว็บไซต์ Imgur คนหนึ่ง ได้บอกกับน้องสาวว่า ‘เวลามีลูกอะ อย่าให้ลูกเข้าใกล้สัตว์เลี้ยงนะ’ แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้หลานสาวของเธอได้กลายเป็นเพื่อนซี้กับน้องหมาไปแล้ว มิตรภาพของน้องหมากับเด็กน้อยเริ่มขึ้นตั้งแต่วันแรกที่เด็กหญิงเกิดมา โดยจะมีสุนัขสีดำตัวหนึ่งคอยอยู่ข้างๆ เธอไม่เคยห่าง แถมบางครั้งมันยังแอบกินคุกกี้ของเธอด้วย นั่นทำให้ความเป็นเพื่อนค่อยๆ ชัดเจนขึ้น ต่อมาเมื่อเด็กหญิงโตขึ้นมาเล็กน้อย ทุกวันอาทิตย์เธอจะตื่นแต่เช้าเพื่อมานั่งดูการ์ตูนกับน้องหมาเพื่อนรัก พวกเขาจะทำทุกอย่างด้วยกันเสมอ ไม่ว่าจะเล่น นั่งในรถ หรือแม้แต่นั่งแช่โซฟาเฉยๆ ทั้งคู่ก็จะตัวติดกันเสมอ แม้กระทั่งตอนที่เด็กหญิงถึงวัยที่ต้องเข้าเรียน น้องหมาก็จะเดินไปส่งเธอเสมอ มันช่างเป็นมิตรภาพอันสวยงามและยากที่จะอธิบายจริงๆ แต่เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในขณะที่เด็กหญิงกำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ น้องหมากลับแสดงอาการของอายุที่มากขึ้น เช่น มีเคราสีเทา แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความรักที่ทั้งคู่มีให้กันน้อยลงไปเลย บางทีน้องหมาก็ชอบที่จะแต่งตัวสวยๆ เพื่อเอาใจเด็กหญิง เพราะอยากเห็นเธอมีความสุข และอยากเห็นรอยยิ้มของเธอในทุกช่วงเวลา แม้ตัวเองจะอ่อนแรงเต็มทีแล้วก็ตาม หลังจากที่ทั้งคู่อยู่เคียงข้างกันมา 10 ปี น้องหมาก็ตรวจพบเนื้องอกจนคุณหมอต้องผ่าออกให้ และในช่วงที่มันพักฟื้นนั้น เด็กก็อยู่เคียงข้างมันตลอด…
-
เทพธิดาสู่สรวงสวรรค์… Eileidh สาวน้อยป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ได้จากไปแล้วอย่างสงบ
หลังจากที่เมื่อไม่นามานี้เราได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับสาวน้อย Eileidh Paterson เด็กหญิงวัย 5 ขวบผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งต่อมหมวกไตระยะสุดท้าย ที่ได้เขาพิธีวิวาห์กับเพื่อนหนุ่มเมื่อเดือนที่แล้ว (อ่านข่าวเก่า สาวน้อย 5 ขวบป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย ขอแต่งงานกับหนุ่มเพื่อนซี้ ทำฝันให้เป็นจริงก่อนตาย…) ล่าสุดทางเฟซบุ๊คเพจของเธอได้ออกมาเปิดเผยว่า เทพธิดาตัวน้อยได้จากโลกนี้ไปแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา… โรคร้ายในร่างกายหนูน้อยลุกลามไปที่ตับ หลังจากที่เธอได้รับการสแกนร่างกายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ก่อนที่อาการของเธอจะทรุดลงหนักและจากไปในที่สุด ข้อความจากทางเพจเฟซบุ๊คดังกล่าวบอกว่า “ทุกๆ หัวใจของเรารู้สึกเศร้ามาก ฉันรู้สึกเสียใจที่ต้องบอกทุกคนว่า Eileidh นางฟ้าตัวน้อยของเราได้จากโลกนี้ไปแล้วเมื่อเวลา 11 โมง 45 นาทีของวันที่ 1 กรกฎาคม” “โชคร้ายที่เราได้พบเจอในวันพฤหัสบดี หลังจากทำการสแกนอัลตราซาวด์แล้ว ก็พบว่าตับของเธอนั้นขยายตัวและเต็มไปด้วยมะเร็ง มันเป็นสิ่งที่ร้ายแรงกับเธออย่างมาก เธอใช้ลมหายใจสุดท้ายอยู่กับครอบครัว เธอชนะใจทุกๆ คนที่ได้พบเจอ และทุกคนก็จะคิดถึงเธอเสมอ” หลังจากที่ทราบข่าว ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเธอ หลายๆ คนรู้สึกเศร้าอย่างมาก หนึ่งในคอมเม้นต์จากชาวเน็ตบอกว่า “เธอได้รับความรักจากพวกเราที่นี่ทุกคน เราเสียใจอย่างมากที่เธอต้องจากไปแบบนี้” ชาวเน็ตร่วมแสดงความเสียใจต่อการจากไปของสาวน้อย …
-
ทางการนอร์เวย์เตรียมสั่งแบน “ตุ๊กตายางเด็กผู้หญิง” หวั่นเกิดปัญหาอนาจารในเยาวชนตามมา…
“เซ็กส์ดอล” หรือ “ตุ๊กตายาง” ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ตอบสนองอารมณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ด้วยรูปร่างที่เหมือนมนุษย์จริงๆ ทำให้มันกลายเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ แต่สุดทางตำรวจของนอร์เวย์ได้เปิดเผยว่า มีการสั่งซื้อตุ๊กตายางที่มีลักษณะเหมือนเด็กผู้หญิงจำนวนมากจากฮ่องกงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนนั้นเหล่านั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยผู้ที่สั่งซื้อมีอายุตั้งแต่ 18-60 ปี โดยพวกเขาได้แสดงความกังวลว่า ตุ๊กตายางเด็กหญิงเหล่านั้น อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมทางเพศในเด็กในอนาคต นอกจากนี้มันยังอาจฝ่าฝืนกฎหมายบางอย่างของนอร์เวย์อีกด้วย จนตอนนี้ผู้ที่ครอบครองตุ๊กตาดังกล่าวกำลังถูกติดตามอย่างใกล้ชิดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากที่นอร์เวย์แล้ว ในออสเตรเลียก็มีประชาชนกว่า 60,000 คน ร่วมลงชื่อแบนการซื้อขายและนำเข้าตุ๊กตายางเด็กหญิงนี้ เนื่องจากอาจเป็นการส่งเสริมพวกที่ชอบร่วมเพศกับเด็ก (paedophile) อย่างไรก็ตาม องค์กรให้คำปรึกษาทางด้านเพศ Sexpo ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการแบนตุ๊กตายางดังกล่าว เพราะตุ๊กตายางเหล่านั้นถูกสร้างมาเป็นทางเลือกในการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศของผู้ที่ชื่นชอบการร่วมเพศกับเด็ก (paedophile) ซึ่งการแบนอาจทำให้เกิดปัญหามากกว่าประโยชน์ (แต่ในหลากหลายประเทศต่างมีข้อกำหนดในการต่อต้านเรื่องทางเพศที่เกี่ยวกับเด็กอย่างจริงจัง) แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะฮะ ที่มา dailymail
-
ชีวิตต้องสู้!! เด็กหญิงวัย 5 ขวบถูกแม่ทิ้ง ต้องรับภาระดูแลคุณย่า และทำทุกอย่างเพียงลำพัง
ในขณะที่เด็กวัย 5 ขวบคนอื่นๆ ได้ไปโรงเรียนเล่นกับเพื่อนๆ อย่างสนุกสนาน แต่สำหรับเด็กหญิงวัย 5 ขวบจากจีนคนนี้ กำลังต้องแบกรับภาระอันใหญ่หลวงด้วยการดูแลคุณย่าที่ป่วยหนักไว้บนบ่า จนเธอแทบไม่มีชีวิตวัยเด็กของตนเอง เด็กหญิงคนนี้คนนี้มีชื่อว่า Anna Wang วัย 5 ขวบจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ทุกวันนี้เธอต้องดูแลคุณย่าที่ป่วยหนักวัย 92 ปี เพียงลำพัง นับตั้งแต่คุณย่าของเธอป่วยหนักจนแทบไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เธอก็รับหน้าที่ทำอาหารและหาเลี้ยงคุณย่าในทุกๆ วัน ขณะที่เด็กคนอื่นสามารถใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้เธอยังทำงานบ้านอื่นๆ อย่างเช่น กวาดบ้าน พาคุณย่าอาบน้ำและเข้าห้องน้ำอีกด้วย ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในบ้านอันแสนเงียบงันในทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ทุกๆ เช้าเธอต้องตื่นขึ้นมาทำทุกอย่างในบ้าน โดยไม่มีใครคอยช่วยเหลือ พ่อของเธอถูกตำรวจจับด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้เขาต้องติดคุกตั้งแต่เธออายุเพียง 3 เดือน ส่วนแม่ของเธอก็แต่งงานใหม่และทิ้งเธอให้ใช้ชีวิตกับคุณย่าตามลำพัง เวลาเธอเตรียมอาหาร เธอต้องหาเก้าอี้มาเหยียบเพื่อให้สามารถประกอบอาหารบนโต๊ะได้ โชคดีที่เพื่อนบ้านของเธอเล็งเห็นถึงความยากลำบาก ทำให้พวกเขาอนุญาตให้เธอเข้าไปเก็บผัก ผลไม้ จากสวนของพวกเขาได้แบบฟรีๆ คุณย่าของเธอป่วยเป็นโรคข้อต่ออักเสบขั้นรุนแรง ทำให้แทบไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้…
-
คำขอสุดท้ายของเด็กสาว “อยากรับเลี้ยงแมว” ก่อนที่มะเร็ง จะพรากชีวิตของเธอจากไป…
เชื่อว่าชีวิตของมนุษย์ทุกคนจะต้องพบเจอกับช่วงเวลาที่อ่อนแอ และเลวร้ายที่สุด นั่นทำให้เราต้องการกำลังใจจากคนที่เรารัก และอยากใช้เวลาที่เหลือทำในสิ่งที่ใจต้องการ เหมือนดังเช่นเรื่องราวของ Kylie เด็กสาววัย 12 ปีคนนี้ เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารัก และมักจะสร้างรอยยิ้มให้กับคนรอบข้างอยู่เสมอ กระทั่งวันหนึ่ง เธอถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง และอาจจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ในเวลาเพียงไม่นาน ดังนั้น เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะทำในสิ่งที่ตนเองต้องการเป็นครั้งสุดท้าย นั่นก็คือ “การเลี้ยงแมว” นั่นเอง ในตอนแรกทางครอบครัวของเธอก็รู้สึกกังวลในการที่จะรับลูกแมวมาเลี้ยง เพราะที่บ้านของพวกเขามีสัตว์เลี้ยงถึง 4 ตัวแล้ว แต่ในเมื่อสาวน้อย Kylie ได้ร้องขอ แน่นอนว่าพวกเขาก็จะทำในสิ่งที่เธอปรารถนา ซึ่งคุณพ่อของเธอก็ได้ติดต่อไปยังมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ทันที “เจ้าเหมียวเป็นแมวที่มีสุขภาพที่ดี และก็รอให้คนใจดีมารับไปเลี้ยง จนกระทั่งเราได้รับสายที่น่าเศร้าว่าสาวน้อยที่ชื่อ Kylie ป่วยเป็นมะเร็ง ในตอนแรกทางครอบครัวไม่ได้รับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงเป็นการถาวร แต่จะให้มันอยู่กับ Kylie ในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตเธอเท่านั้น” เจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกล่าว หลังจากที่ทางครอบครัวของ Kylie ได้รับเจ้าเหมียวที่แสนน่ารักจากมูลนิธิมาเลี้ยง พวกเขาก็เห็นว่าเธอกับเจ้าเหมียวสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี ซึ่งเธอได้เรียกมันว่า “Eliza” ครั้งแรกที่ Kylie ได้เจ้าเจ้าเหมียว ใบหน้าของเธอดูมีความสุขมาก และในวันต่อๆ…
-
หนูน้อยวัย 5 ขวบเป็นโรคผมร่วง ถูกครูบังคับให้ถอดวิกผมออก เพราะผิดกฎโรงเรียน
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยเรื่องราวของ Apryl Corbett หนูน้อยวัย 5 ขวบ ที่เป็นโรค อาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ (Areata alopcia) ถูกคุณครูที่โรงเรียน Broad Oak Community Primary ในเซนต์เฮเลนส์ ประเทศอังกฤษ บังคับให้ถอดวิกผม ด้วยสาเหตุที่ว่าเป็นการละเมิดกฎระเบียบของโรงเรียน และอาจจะเป็นอันตรายต่อเพื่อร่วมชั้นได้ ทางด้าน Lianne Corbett ผู้เป็นแม่ เมื่อได้ทราบเรื่องราวของลูกสาว เธอก็รู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก เพราะหลังจากที่ได้ซื้อวิกผมให้กับลูกสาว หนูน้อย Apryl ก็เริ่มถูกเยาะเย้ย และถูกรังแก เพราะว่าเธอหัวล้าน “ฉันรู้สึกโกรธในสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก พวกเขากำลังพยายามจะบอกว่า Apryl น่าจะมีความสุขมากกว่าถ้าหากถอดวิกออก แต่เมื่อมาถึงบ้านเธอกลับเศร้า เพราะไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นผมของเธอ และเธอก็ชอบที่จะใส่วิกผมมากกว่า” ผู้เป็นแม่กล่าว สำหรับ Areata alopcia เป็นโรคอาการผมร่วงเป็นหย่อมๆ ซึ่งจะมีลักษณะการร่วงเป็นวงกลมเดียว หรือหลายวงกลม จะเกิดได้จากความเครียด…
-
เมื่อเด็กหญิงพิเศษได้รับความรัก จากเจ้าเหมียวที่ไม่มีใครต้องการ ทำให้เธอมีรอยยิ้มมาทันที
แมวเหมียว มักจะถูกกล่าวหาว่าชอบทำตัวป่วนประสาทให้มนุษย์ได้กุมขมับอยู่ตลอด ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เจ้าเหมียวทั้งหลายก็มีด้านดีเหมือนกัน ไม่เชื่อก็ลองเปิดใจ และทำความรู้จักกับมันให้มากขึ้นสิ รับรองว่ามันจะทำให้คุณมีความสุขขึ้นอย่างแน่นอน เหมือนกับเรื่องราวของสาวน้อย กับแมวเหมียวตัวหนึ่ง ที่ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกเป็นอย่างมาก เพราะทั้งคู่เป็นตัวแทนของความรัก และความผูกพันระหว่างคนกับสัตว์ เมื่อคุณได้อ่านเรื่องราวของพวกเขา คุณจะต้องยิ้มไม่หุบเลยละ นี่คือ Laura สาวน้อยวัย 14 จากประเทศสเปน ที่มีความน่ารักเหมือนเด็กสาววัยรุ่นทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่ทำให้เธอดูแตกต่างก็คือ เธอมีความผิดปกติทางพันธุกรรมที่หายาก ส่งผลต่อการพัฒนาระบบประสาทและร่างกายของเธอนั่นเอง ทางด้าน Isa Gonzalez Asensio ผู้เป็นแม่ของ Laura ได้ตัดสินใจที่จะหาสัตว์เลี้ยง เพื่อมาทำหน้าที่เป็นสหายบำบัดโรคให้กับลูกสาว ซึ่งเธอได้ไปรับเจ้าเหมียวน้อยตัวจากศูนย์พักพิงสัตว์ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวน่ารักๆ นั่นเอง เจ้าเหมียวตัวนี้มีชื่อว่า Lou มันเป็นแมวจากศูนย์พักพิงสัตว์ที่ไม่มีใครต้องการ และหลังจากที่แม่ของ Laura รับมันมาเลี้ยง เจ้าเหมียวก็กลายเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรัก และเป็นเพื่อนที่แสนดีให้กับเธอ ซึ่งก่อนที่จะไปรับเจ้าเหมียวมาเลี้ยงทางเจ้าหน้าที่จากศูนย์พักพิงสัตว์ได้เผยว่า “เจ้าเหมียวมักจะมีปัญหาในการหาบ้านตลอด เราไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่มีใครมารับไปเลี้ยงสักที และตอนนี้เราเข้าใจทุกอย่างแล้ว มันอาจจะกำลังรอคอยเด็กสาวคนนี้อยู่ก็เป็นได้” และนี่คือคลิปวีดีโอวินาทีที่ทั้งคู่ได้พบกันเป็นครั้งแรก ซึ่งเมื่อคุณได้ลองคลิกเข้าไปรับชม…
-
สาวน้อยป่วย ‘โรคสมองอักเสบ’ เริ่มหายดีเรื่อยๆ เพราะมีคนส่ง ‘จดหมายกำลังใจ’ มาให้ทุกวัน!!
หนูน้อย Mylee Sue วัย 3 ขวบ อาศัยอยู่ในเมือง Longview รัฐ Texas เธอความทรมานจากอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง สาวน้อยและครอบครัวต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา หนูน้อย Mylee ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคสมองอักเสบจากเหตุแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง ซึ่งมันส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำลายสมองของตัวเอง ในบางครั้งเธอก็ต้องทรมานจากอาการชัก ไม่สามารถเดินไปไหนมาไหนได้อย่างปกติ และไม่สามารถจำอะไรได้เลยแม้แต่ครอบครัวของเธอก็ตาม “ในแต่ละวันที่เราต้องเผชิญนั้น มันช่างเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากจริงๆ” คุณ Susan Ross คุณแม่ของหนูน้อย Mylee กล่าว “พวกเราต้องทำการทบทวนความจำให้กับเธอ เพื่อให้เธอสามารถเดินได้ และการพูดของเธอ อาการชักของเธอนั้นก็เป็นเรื่องที่น่ากลัว และเธอก็ยังลืมว่าฉันเป็นแม่ของเธอด้วยในบางครั้ง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่มากๆ เธอต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลนับครั้งไม่ถ้วนตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา” คุณแม่กล่าวเสริม แต่สิ่งที่ทำให้หนู Mylee ยิ้มและมีความสุขได้ในทุกๆ วัน ก็คือการได้เห็นจดหมายคริสต์มาสต์ที่ส่งมาที่บ้านของเธอ เรื่องมันเริ่มมากจากที่คุณแม่ Susan Ross ได้ขอร้องให้เพื่อนๆ และครอบครัวช่วยส่งจดหมายคริสต์มาสต์มาให้กับหนูน้อย Mylee และในตอนนี้ทุกๆ วัน หนูน้อย…
-
หนูน้อยวัย 7 ขวบ บังเอิญเก็บสลากถูกรางวัลได้ เลือกนำเงินไป ‘ซื้ออาหารแจกคนยากไร้’
หากได้เจอกับสิ่งของมีค่าไม่ว่าจะเป็นแก้ว แหวน เงิน ทอง ที่เจ้าของทำตกไว้ คุณจะทำอย่างไรกับมันดี จะส่งคืน หรือจะเก็บเอาไว้ซะเอง? และนี่ก็อาจจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดใจ ที่จะทำให้คุณได้ตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องได้ แต่สำหรับ Phoebe Brown เด็กหญิงวัย 7 ขวบคนนี้ เธอได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นแล้วว่า การได้เสียสละความสุขของตัวเองทั้งๆ ที่ได้รับมันมาด้วยความบังเอิญ แล้วนำไปแบ่งปันให้กับผู้อื่นมันเป็นเรื่องที่น่าประทับใจแค่ไหน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน เว็บไซต์ Huffingtonpost มีรายงานว่า Phoebe Brown เด็กหญิงวัย 7 ขวบคนนี้ เธอโชคดีมากๆ ที่ได้บังเอิญเจอลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลกว่า 100 ดอลลาร์ หรือราวๆ 3,500 บาท ตกอยู่บนพื้น หลังจากที่ได้ออกไปทำธุระกับคุณแม่ใน Independence, รัฐมิสซูรี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่แทนที่จะเก็บเงินจำนวนนั้นไว้ หนูน้อยได้ตัดสินใจบอกแม่ของเธอว่า จะนำทั้งหมดนี้ไปซื้ออาหารกระป๋อง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้คนที่ยากลำบาก ด้านคุณพ่อของ Phoebe ก็ได้ออกมาเผยกับทางสถานีโทรทัศน์ Kansas City…
-
เด็กหญิงน้อยป่วยเป็น ‘ออทิสติก’ หยุดพูดเป็นเวลากว่า 3 ปี…จู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นมาว่า ‘อยากกินขนมปังปิ้ง’
ยังมีโรคภัยไข้เจ็บอีกหลายชนิดที่เรายังไม่รู้จัก ซึ่งมันก็มีอาการแปลกๆ ออกมาให้เห็นมากมายอย่างเช่นคนที่มีมือและเท้าคล้ายกับเปลือกไม้ ขนที่มีขนขึ้นเต็มไปทั่วร่าง เป็นต้น และเจ้าหนูน้อย Coco Bradford คนนี้เองก็เช่นกัน เธอป่วยเป็นโรคออทิสติค มองดูเผินๆ แล้ว ก็ดูไม่ผิดปกติอะไรใช่มั้ยล่ะ? แต่จริงๆ แล้วเธอไม่ปริปากพูดมาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้ว!! พ่อแม่ของหนู Coco เล่าให้ฟังว่าเธอเริ่มพูดได้เมื่อมีอายุ 2 ขวบ แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็หยุดพูดไปซะเฉยๆ เลย ซึ่งเป็นอาการที่เด็กออทิสติคทั่วไปจะเป็นกัน กว่า 3 ปีแล้วที่หนู Coco ไม่ปริปากพูดเลย และอยู่มาวันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อเธอเอ่ยปากพูดออกมา เพื่อขอกินขนมที่เธอชื่นชอบซึ่งก็คือ ขนมปังปิ้งนั่นเอง พ่อแม่ของเธอตกใจมาก และดีใจสุดขีดในที่สุดเธอก็กลับมาพูดอีกครั้งแล้ว หลังจากที่ทำตัวเหมือนคนใบ้ มากว่า 3 ปี หนู Coco นั้นดูท่าจะมีความสุขมากเป็นพิเศษหลังจากที่เธอเริ่มพูดแล้ว คุณแม่ของเธอเล่าว่าขณะที่เธอเริ่มเอ่ยปากขอขนมปังได้แล้ว จู่ๆ เธอก็แล้วพูดอีกพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปด้วยความดีใจ ในครอบครัว Bradford นี้มีลูกถึง 4 คนด้วยกัน แต่มีเพียง Coco ที่เป็นน้องคนสุดท้องเท่านั้นที่ป่วยเป็นโรคออทิสติค…
-
สะเทือนใจ…เจ้าหมาไม่ยอมห่างจากเด็กน้อยป่วยหนัก หลังพ่อแม่เตรียมปลดเครื่องยื้อชีวิต…
ว่ากันว่าหมาเป็นสัตว์ที่สามารถรับรู้ถึงอารมณ์ของมนุษย์ได้ หากมันรู้ว่ามีเรื่องเศร้าเกิดขึ้น ด้วยความห่วงใย มันจะไม่ยอมจากไปไหน ดั่งเช่นเรื่องราวที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องสะเทือนใจและประทับใจไปพร้อมๆ กันอย่างแน่นอน เรื่องราวดังกล่าวเป็นของครอบครัว Hall เมื่อสมาชิกคนล่าสุดของครอบครัว Nora เกิดอาการหัวใจวายขณะอายุได้เพียง 4 เดือน หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น สมองและระบบประสาทของเธอตายไปเกือบทั้งหมด เธอจึงมีชีวิตรอดได้เพียงเพราะเครื่องมือช่วยชีวิตเท่านั้น ต่อมาแพทย์ได้วิเคราะห์แล้วว่า เธอคงไม่รอดอย่างแน่นอน วันหนึ่งเธออาจมีอาการหัวใจวายขึ้นมาอีก ทำให้ John และ Mary พ่อแม่ของ Nora ต้องตัดสินใจทำสิ่งที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากทำ นั่นก็คือการปิดเครื่องมือช่วยชีวิตนั่นเอง… ในขณะที่ Mary ตัดสินใจจะปิดเครื่องนั้น เจ้าหมาพันธุ์บาสเซ็ตฮาวด์สองตัวของบ้าน กลับไม่ยอมลุกไปไหน และนั่งอยู่ข้างๆ Nora อย่างนั้น ราวกับรู้ว่ากำลังจะมีเรื่องราวแสนเศร้าเกิดขึ้นในห้องนั้น ตอนแรกเธอลังเลว่า จะให้เจ้าหมาสองตัวนี้อยู่ในห้องด้วยหรือไม่เพราะมันอาจจะเครียดจากความรู้สึกเศร้าสลดของคนที่อยู่ในห้อง สุดท้ายเธอก็ปล่อยให้เจ้าหมาสองตัวนั้นอยู่กับเด็กน้อย Nora จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต หลังจากนั้นทางครอบครัว ก็ได้โพสเรื่องราวลงบนเพจเฟสบุ๊กของตนเอง เล่าเรื่องราวและเหตุผลของการตัดสินใจของพวกเขา จนมีชาวเน็ตมากมายเข้ามาให้กำลังใจ We wish…
-
เรื่องราวของนักเรียนสาวกับสถานีรถไฟที่กำลังจะปิดตัวลง ถูกรบกวนโดยผู้คนเป็นจำนวนมาก!!
เรื่องราวอันน่าประทับและอบอุ่นเป็นที่สุดจากประเทศญี่ปุ่น ที่เหมียวเคยนำเสนอไปแล้วนั้น ตอนนี้ก็กลายมาเป็นกระแสที่ทุกคนต่างให้ความสนใจล้นหลามกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่นเอง ซึ่งหลายคนก็พยายามที่ค้นหาตัวตนของนักเรียนสาวผู้ใช้บริการสถานีรถไฟเพียงคนเดียว จนกลายเป็นการรบกวนชีวิตส่วนตัวของเธอในทันที!! ก่อนอื่นเลยต้องกล่าวถึงพฤติกรรมของคนที่ตื่นรถไฟกันซักหน่อย เรียกกันว่า โอตาคุรถไฟ ซึ่งมักจะทำการถ่ายภาพรถไฟญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ไม่สมควร รบกวนผู้อื่น และในส่วนของการพยายามถ่ายภาพนักเรียนสาวผู้โดยสารเพียงคนเดียวที่เดินทางด้วยรถไฟไปโรงเรียน ยิ่งกระตุ้นให้เหล่าโอตาคุรถไฟ อยากจะเก็บภาพของเธอที่อยู่บนรถไฟให้ได้ โดยไม่สนว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม มีรายงานเข้ามาว่าจากสถานีที่เงียบสงบ กลับเต็มไปด้วยเหล่าโอตาคุรถไฟ ที่มารอการปรากฏตัวของนักเรียนสาวรายนี้ ดักถ่ายภาพ ‘ผู้โดยสารเพียงคนเดียวของสถานี’ รวมไปถึงการแอบติดตามตัวและครอบครัวของเด็กเพื่อที่จะถ่ายภาพมาให้ได้ Mint Jam บล็อกเกอร์ผู้ที่อาศัยอยู่ในท้องที่เดียวกันกับนักเรียนสาวคนดังกล่าว ได้ประกาศผ่านทางโลกออนไลน์ให้หยุดการกระทำแบบนี้ได้แล้ว เพราะพวกโอตาคุรถไฟเหล่านี้จะบังคับให้เธอโพสท่าถ่ายรูป ทั้งในสถานีและชานชาลา มันเป็นการรบกวนเวลาของเด็ก ทั้งๆ ที่เธอจะต้องรีบขึ้นรถไฟเพื่อไปเรียนให้ทันเวลา เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว เหมือนจะเป็นการขอร้องอะไรที่ง่ายๆ แต่กลับเป็นการทำลายความเป็นส่วนตัวของเด็กหญิงคนหนึ่งไปเลย เธอไม่ได้เป็นนางแบบที่ถูกจ้างมาถ่ายภาพ เธอเป็นเพียงแค่นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่พยายามไปโรงเรียนให้ทันเวลา คล้ายๆ กับสื่อที่พยายามเก็บภาพที่ดีที่สุดโดยไม่คิดถึงความเหมาะสมเลยแม้แต่นิดเดียว ที่มา : rocketnews24
-
หญิงสาวได้กลับมาเจอครอบครัวอีกครั้ง หลังจากพลัดหลงกลางฝูงชนเมื่อ 17 ปีก่อน
การที่พ่อแม่ต้องสูญเสียลูกไป ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างหนึ่ง และยิ่งถ้าหายไปโดยไม่ทราบชะตากรรมแล้วล่ะก็ ความทุกข์ใจของพวกเขา คงสาหัสจนเราไม่อาจนึกถึงได้ แต่สำหรับครอบครัวนี้ ดูเหมือนว่าโชคชะตายังไม่โหดร้ายกับพวกเขาจนเกินไปนัก แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านมานานแล้ว แต่สุดท้ายพวกเขาก็สามารถกลับมาพบกับลูกสาวที่หายตัวไปของพวกเขาอีกครั้งจนได้ เมื่อ 17 ปีก่อน Tang Yunfu ได้พลัดหลงกับลูกสาว Tang Shuzhuo ท่ามกลางฝูงชนจำนานมหาศาล ที่หน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่งในเมือง Nanyang แม้ว่าเขาจะพยายามตามหาเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าลูกสาวของเขา จะไม่ได้อยู่แถวนั้นแล้ว แม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปนานเท่าไหร่ พวกเขากลับไม่เคยหยุดพยายามค้นหาลูกสาวที่หายไปคนนี้ พวกไปเดินทางไปยังร้านขายของชำทุกที่ สถานีรถไฟ สถานีรถโดยสาร เพียงหวังว่าลูกสาวของเขา จะยังอยู่แถวนั้น จนเมื่อช่วงปี 2011 พวกเขาได้นำรหัส DNA ของเธอไปให้กับตำรวจเพื่อหวังว่าวันหนึ่ง พวกเขาอาจเจอเธออีกครั้งก็เป็นได้ จนสุดท้ายด้วยความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศล ในที่สุดพวกเขาก็ได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ต้องนับว่าความพยายามตลอด 17 ปีที่ผ่านมานั้นไม่สูญเปล่าเลยทีเดียว Tang Shuzhuo เติบโตขึ้นมาในครอบครัวบุญธรรมอันแสนอบอุ่น แม้เธอจะไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นใคร แต่เธอยืนยันว่า พวกเขาดูแลเธอดุจลูกแท้ๆเลยทีเดียว สุดท้ายก็ได้กลับมาเจอกันอย่างมีความสุขอีกครั้งหนึ่งแล้วนะ น่าดีใจแทนพวกเขาจริงๆ ถ้าใครกำลังประสบกับเหตุการณ์แบบนี้ เหมียวก็ขอให้ได้เจอกับคนที่รักเร็วๆนะฮะ…
-
หนูน้อยคนนี้ ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่ยอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่เลือกที่จะไปสวรรค์
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยเรื่องราวชวนเศร้าของ Julianna Snow เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ชาวโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งตอนที่ Julianna อายุ 4 ขวบ เธอต้องกลายเป็นผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง และต้องทรมานจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ แถมยังต้องต่อเครื่องช่วยหายใจตลอดเวลาอีกด้วย แม้ว่าเธอจะเจ็บป่วย เดินไม่ได้ แม้แต่ลุกขึ้นมานั่งยังแสนลำบาก แต่หนูน้อยคนนี้ก็ยังคงมีหัวใจที่แข็งแกร่ง และดูเหมือนจะเข้าใจยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวของเธอเอง นอกจากนี้เธอยังบอกกับพ่อแม่อีกว่า เธอไม่อยากกลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกแล้ว เพราะเธอจะโดนท่อสวนเข้าไปในโพรงจมูก เพื่อดูดเอาเสมหะออกมา เนื่องจากโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ทำให้หนูน้อยควบคุมระบบทางเดินหายใจไม่ค่อยสะดวก แม้ว่าพ่อกับแม่ของเธอจะพยายามหาเหตุผลต่างๆ เพื่อให้ลูกสาวได้กลับไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่สิ่งที่หนูน้อยพูดตอบกลับมานั้นทำเอาพ่อแม่อึ้งกันไปพักใหญ่ ‘หนูเข้าใจทุกอย่างดี แต่ไม่เป็นไร เพราะพระผู้เป็นเจ้าจะคอยดูแลหนู และท่านจะอยู่ในใจของหนูตลอดเวลา’ นี่คือสิ่งที่ Julianna บอกกับพ่อแม่ของเธอ เมื่อได้ฟังสิ่งที่ลูกสาวตัวน้อยพูดขึ้นมา ก็ทำให้พวกเขาอึ้งกันไปพักใหญ่ แต่ถึงอย่างไรผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็รับฟัง และยินดีกับการตัดสินใจของลูก…
-
ตำรวจตามจับโจรปล้นบ้านได้ ด้วยภาพวาดฝีมือของเด็กหญิงวัย 11 ขวบ!!!
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ภาพสเก็ตสุดยึกๆยือๆของคนร้ายซึ่งวาดโดยเด็กน้อยวัย 11 ปี จะสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายได้จริงๆ แบบนี้ไม่รู้ว่าจะชมว่าภาพวาดเหมือน หรือตำรวจเก่งดีจริงๆ!! เรื่องมีอยู่ว่าวันหนึ่ง บ้านของ Rebecca DePietro เด็กหญิงวัย 11 ปีถูกโจรรายหนึ่งบุกเข้าขโมยของ โชคดี Rebecca ได้เห็นหน้าของคนร้าย ก่อนที่เขาจะหลบหนีไป เมื่อตำรวจมาถึงก็ทำการสอบสวน ปรากฏว่าในบ้านหรือบริเวณรอบๆ ไม่มีกล้องวงจรปิดอยู่เลย และไม่มีใครเห็นคนร้ายด้วยนอกจาก Rebecca ทางตำรวจจึงขอให้ Rebecca วาดภาพสเกตช์ของคนร้ายให้หน่อย แน่นอน Rebecca ไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง เธอใช้เวลาเพียงสองนาที บรรจงวาดภาพคนร้ายขึ้นมาจากความทรงจำของเธอให้กับตำรวจ นี่คือภาพสเก็ตที่ Rebecca วาดขึ้นมา หลายคนอาจบอกว่า ภาพแบบนี้ใครจะไปดูออก แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่คิดอย่างนั้น พวกเขานำภาพนี้ไปเทียบกับอาชญากรที่มีประวัติอยู่ และเขาได้พบคนหนึ่งที่คล้ายกับภาพสเก็ต เขามีชื่อว่า Pedro Bruno ทางตำรวจจึงนำกำลังเข้าจับกุมในทันที Bruno สารภาพว่าเขาเป็นคนขโมยของบ้านหลังนั้นเอง และเขายังเคยปล้นบ้านแถวนั้นอีกนับ 10 หลังอีกด้วย สุดท้ายแล้วนาย Bruno ก็ต้องเข้าไปรับกรรมตามระเบียนในคุก ต้องขอบคุณภาพวาดของ Rebecca…
-
คลิปชี้แจงจากน้องเด็กหญิงทะเลาะกับแม่เพื่อซื้อโทรศัพท์ ‘แค่ไปเดินดูเฉยๆ ขอเก็บเงินก่อน’
การที่จะโพสต์รูปภาพและเรื่องราวอะไรซักอย่างโดยที่ไม่ตรวจสอบความเป็นมาก่อนนั้น อาจจะส่งผลเสียทำให้มีผู้คนเข้าใจผิดเป็นวงกว้างได้ เสียหายทั้งผู้ที่ถูกกล่าวหาและตัวผู้โพสต์เอง อย่างเช่นกรณีในข่าวนี้ ‘ขอโทษแล้ว หนุ่มโพสต์ภาพเด็กหญิงทะเลาะกับแม่จะเอามือถือ ที่แท้เป็นการเข้าใจผิด’ ซึ่งในข้อเท็จจริงก็คือน้องไม่ได้ทะเลาะกับแม่ของเธอเลย จากที่เห็นภาพและได้มีการแชร์ออกไปนั้น ก็แค่ไปเดินในห้างสรรพสินค้าเพื่อดูโทรศัพท์เท่านั้นเอง โดยที่เจ้าตัวผู้โพสต์รูปภาพและข้อความดังกล่าวก็ได้ออกมาขอโทษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจังหวะที่น้องยืนคุยกับแม่ก็คือถามแม่ว่า ‘จะเดินดูต่อมั้ย จะกลับเลยรึเปล่า’ ประมาณนี้ ซึ่งน้องเองก็อยากได้โทรศัพท์จริง แต่อยากได้เครื่องราคา 1,200 บาทเท่านั้น ตอนนี้ก็ต้องเก็บเงินไปก่อน จากคลิปสัมภาษณ์โดยคุณ พิมมี่ เฟี้ยว’ฟ้าว “ข่าวน้องที่ขอแม่พิการซื้อโทรศัพท์ที่ห้างแห่งหนึ่ง” #ไม่เป็นความจริง!! (11/10/58)::–> “ข่าวน้องที่ขอแม่พิการซื้อโทรศัพท์ที่ห้างแห่งหนึ่ง” #ไม่เป็นความจริง!! (11/10/58) <–::โปรดใช้วิจารณญาณ ~CREDIT: www.facebook.com/100003362082154/videos/797866963668699/*************************ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@พิมมี่ เฟี้ยว’ฟ้าว Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on Sunday, October 11, 2015 หลังจากความจริงเปิดเผยมาจากตัวน้องเอง ก็มีผู้ใหญ่ใจดีสองท่านมาคอมเม้นใต้คลิปอยากจะมอบโทรศัพท์ให้กับน้องได้นำไปใช้ นั่นก็คือคุณ ทิวากร เหล่าชัย และคุณ Tippatai…
-
ขอโทษแล้ว หนุ่มโพสต์ภาพเด็กหญิงทะเลาะกับแม่จะเอามือถือ ที่แท้เป็นการเข้าใจผิด
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของเด็กหญิงคนหนึ่งกับแม่ผู้พิการ ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัชลบุรี โดยมีข้อความระบุไว้ว่าเด็กหญิงกำลังโกรธแม่ของเธอหลังจากที่ไม่ยอมซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้ ทำให้โลกออนไลน์ต่างพากันแชร์ภาพและข้อความดังกล่าวออกไป และต่อว่าในการกระทำอันไม่เหมาะสมของเธออย่างมากมาย หลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีความคิดเห็นหนึ่งเข้ามาแย้งว่า ภาพทั้งหมดที่เห็นนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นก็ได้ เพราะเจ้าตัวบอกว่าตนเองรู้จักกับเด็กคนนี้ ตัวจริงเป็นคนนิสัยดีมาก และแม่แท้ๆ ของเธอก็ทิ้งเธอไปนานแล้ว คนที่เห็นในรูปนั้นเป็นเพียงแม่บุญธรรมเท่านั้น ข่าวที่ลงอาจมีการผิดพลาดได้ ในเวลาต่อมาเจ้าของภาพก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจผ่านเฟซบุ๊คของตัวเอง พร้อมขอโทษที่ทำให้เรื่องบานปลายจนเด็กหญิงและแม่ต้องเสียหาย และไม่คิดว่าเรื่องราวที่โพสต์ออกไปนั้นจะมีคนแชร์เยอะขนาดนี้ ทีหน้าที่หลัง จะโพสต์หรือจะแชร์อะไรก็เช็คข้อมูลกันดีๆ ก่อนนะจ๊ะ ไม่งั้นเราอาจทำลายชื่อเสียงหรือทำให้บุลคลผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรต้องเสียหายแบบฟรีๆ ก็ได้ ที่มา kapook
-
ชาวเน็ตชื่นชม เด็กสาวซื้อน้ำให้หญิงชราขอทาน โดยไม่มีท่าทางรังเกียจแต่อย่างใด…
ในยุคปัจจุบันที่ทุกคนทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดในสังคมที่โหดร้าย ผู้คนต่างเมินเฉยซึ่งกัน น้ำใจอาจกลายเป็นสิ่งที่หาได้ยากขึ้น แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับทุกคน อย่างเช่นเรื่องราวของเด็กสาวมากน้ำใจคนหนึ่ง ที่ถูกเล่าบนเฟสบุ๊คของคุณ Pound Nutthakrit ที่เหมียวรับรองว่าถ้าใครได้อ่าน จะได้ชื่นชมในความดีงามของเธอแน่นอน โดยเจ้าของเฟสบุ๊คเล่าว่า ขณะที่พวกเขาไปหาเงินบริจาคทำค่ายจิตอาสาที่บริเวณห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต เขาได้เห็นเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่ง ซื้อน้ำเปล่าไปมอบให้กับขอทานหญิงชราที่นั่งอยู่บริเวณนั้น พร้อมทั้งพูดคุยอย่างไม่รังเกียจ จนทำให้เขาต้องนำความดีของเธอนั้น มาเล่าต่อบนโซเชียลเน็ตเวิร์ค นอกจากหน้าตาดีแล้ว จิตใจยังดีมากอีกนะครับเนี่ย เหมียวขอชื่นชมจากใจเลย เห็นมั้ยละการทำดีไม่ได้ทำยากอย่างที่คิดหรอก ขอแค่ทำสิ่งเล็กๆน้อยๆ เหมียวว่าซักวัน ความดีนั้นจะต้องการเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่แน่นอน ^^ ที่มา Pound Nutthakrit
-
ทดสอบการหลอกนัดเด็กหญิงให้พบกับคนแปลกหน้า สะท้อนถึงความอันตรายของโลกโซเชียล!!
โซเชียลมีเดียในยุคสมัยชีวิตดิจิตอลแบบนี้ในด้านหนึ่งก็ดีที่สามารถเชื่อมคนทั้งโลกเอาไว้ด้วยกัน สามารถติดต่อกันได้สะดวกมากขึ้น แต่เมื่อลองมองกลับไปอีกด้าน ความร้ายกาจของมันสูงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่ยังไม่รู้เท่าทันคน พ่อหนุ่ม Coby Persin ได้ทำการทดสอบให้เห็นถึงความอันตรายของโลกโซเชียล ที่ใครๆ ก็สามารถติดต่อกันได้ แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าที่รู้จักกันเพียงผิวเผินเท่านั้น เขาได้ทำการปลอม Facebook ขึ้นมาเป็นชายหนุ่มอายุ 15 ปีและได้ลองคุยกับเด็กสาวอายุ 14 13 และ 12 ปีตามลำดับโดยทำการขออนุญาตพ่อและแม่ของเด็กหญิงทั้งหมดแล้วก่อนที่จะทำการทดสอบนี้ การทดสอบใช้เวลาในประมาณ 3-4 วันเพื่อทำการพูดคุยผ่านโลกออนไลน์ให้เหยื่อรู้สึกคล้อยตามและสามารถทำการนัดออกมาพบนอกสถานที่ได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า เด็กเหล่านี้ยอมออกมาจากบ้านเพื่อมาพบคนแปลกหน้าที่รู้จักกันเพียงแค่ในโลกออนไลน์!! ในโลกแห่งความเป็นจริงเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าคนที่จะเจอเป็นคนแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่เหตุคดีข่มขืนที่เกิดขึ้นนั้นล้วนมาจากการที่เด็กหญิงไว้ใจในการพบกับคนแปลกหน้า อย่างกรณีของคุณพ่อรายนี้ที่แอบมาอยู่ในรถด้วย แล้วเขาก็ได้ทำการนัดแนะว่าจะไปหาที่หน้าบ้าน ถ้าหากว่าพ่อไม่อยู่แล้ว ซึ่งคุณพ่อเองก็ไว้ใจลูกสาวของตัวเองว่าจะไม่ทำการเปิดประตูรับคนแปลกหน้าเข้าบ้านอย่างแน่นอน!! แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณพ่อคิด ถ้าหากว่าเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ได้มาทำการทดสอบแบบนี้ เธอจะตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีอย่างแน่นอน!! เด็กสาวรายสุดท้ายถูกนัดขึ้นมาบนรถ พ่อและแม่ของเธอก็ร่วมสวมบทบาทเป็นผู้ร้ายก่อนที่จะเผยตัวตน และพบกับความจริงที่ว่าลูกสาวของพวกเขายังไม่ทันกลในโลกออนไลน์ที่มีความอันตรายสูงมากๆ โซเชียลมีเดียเป็นดาบสองคม ด้านประโยชน์ของมันก็มีมากมาย แต่อีกด้านร้ายๆ ก็มีเยอะเช่นกัน เพราะฉะนั้นดูแลบุตรหลานของท่านให้ดี ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่ไม่หวังดีต่อบุตรหลานของท่าน ด้วยความห่วงใยจากสำนักข่าวแมวเหมียว ที่มา : Coby…