Tag: เด็กอัจฉริยะ
-
13 สุดยอดอัจฉริยะร้อยปีมีหนึ่งคน ที่สามารถเข้าศึกษาในวิทยาลัยตั้งแต่ยังอายุ 10 ต้นๆ
เชื่อว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ที่เกิดมาล้วนแต่อยากเกิดมาเป็นคนฉลาด มีสมองดี แต่สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้มาแบบง่ายๆ ต้องมีการฝึกฝน ตั้งใจศึกษาหาความรู้ใส่ตัวอยู่เสมอๆ ถึงจะได้เป็นคนที่ฉลาดทันคน แต่คนบางคนก็เกิดมาพร้อมกับสมองอันชาญฉลาด เหมือนกับว่าได้รับพรสววรค์มา คนเหล่านี้เราเรียกว่า อัจฉริยะ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาเป็นอัจฉริยะได้ไม่ได้เป็นเพราะแค่พรสวรรค์ แต่เป็นความพยายามของพวกเขาที่อยากจะเรียนรู้ในด้านที่ตัวเองชอบ เหมือนกับเหล่าอัจจฉริยะอายุน้อยที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ 1. Michael Kearney เป็นคนที่สำเร็จการศึกษาอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ สำเร็จการศึกษาปริญญาด้านมนุษยวิทยาเมื่ออายุ 10 ขวบ 2. Jeremy Shuler เขาศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยคอร์เนล เมื่ออายุ 12 ปี สามารถอ่านภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีเมื่ออายุได้ 2 ขวบ 3. Sho Yano สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Loyola ตอนอายุ 12 ปี และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทอีกครั้งตอนอายุ 21 ปีจากมหาวิทยาลัยชิคาโก 4. Alia Sabur ลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัย Stony Brook ในรัฐนิวยอร์กตอนอายุ 10 ปี และเมื่ออายุ…
-
เด็กชายวัย 8 ขวบสุดอัจฉริยะ เรียนรู้เขียนโค้ดเอง แถมเรียนเร็วจนโรงเรียนไม่มีอะไรจะสอนแล้ว
ในปัจจุบันนั้นเด็กที่เกิดมาแล้วมีแนวโน้มที่เป็นอัจฉริยะมีสูงขึ้นมากกว่าแต่ก่อนเรื่อยๆ อาจเป็นเพราะการเข้าถึงเทคโนโลยีและความรู้เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น ทำให้เด็กบางคนเพียงอายุไม่ถึง 10 ขวบ พวกเขาก็สามารถใช้งานหรือพูดถึงสิ่งต่างๆ ได้เทียบเท่ากับผู้ใหญ่บางคนแล้ว Seth Yee หนุ่มน้อยวัย 8 ขวบจากประเทศสิงคโปร์ ที่ล่าสุดได้เข้ารับการทดสอบว่ามีไอคิวที่สูงถึง 134 ซึ่งคิดเป็นอัตราที่ 1% จากเด็กวัยเดียวกันทั้งหมด Seth นั้นเป็นเด็กที่ฉลาดมากๆ ด้วยความที่เขาส่อแววอัจฉริยะตั้งแต่วัยแบเบาะ โดยแม่ของเขาเล่าว่าเมื่อช่วงใกล้ 2 ขวบ ตอนที่พาลูกของเธอไปสนามเด็กเล่น… แต่แทนที่เขาจะเล่นของเล่นเหมือนเด็กทั่วไป แต่เขากลับเลือกจะยืนมองไปที่ของเล่นแล้วถามกลับมาว่า เครื่องเล่นตรงหน้ามันทำงานยังไงแทน? แน่นอนว่าการเป็นอัจฉริยะถือเป็นเรื่องดีสำหรับตัวเด็ก แต่สำหรับพ่อแม่นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากๆ เพราะว่าเมื่อส่งเขาไปโรงเรียนตามปกติมันกลับทำให้คุณครูที่โรงเรียนท้อ เนื่องจากทางโรงเรียนไม่รู้จะสอนอะไรให้กับ Seth เพราะเขาดันเข้าใจทุกอย่างแล้ว จนสุดท้ายเขาต้องกลับมาเรียนอยู่ที่บ้านแทน อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ผู้เป็นพ่อของเขาทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ ฉะนั้นหนุ่มน้อยวัย 8 ขวบที่เรียนอยู่บ้านจึงมีโอกาสได้หัดเขียนโปรแกรมกับผู้เป็นพ่อ ซึ่งนั่นทำให้ตอนนี้หนูน้อยสามารถใช้ภาษาคอมพิวเตอร์ได้ถึง 3 ภาษาทั้ง Arduino, JavaScript, และ Python เวลาผ่านไปพ่อกับแม่ของ Seth เริ่มรู้สึกว่าที่สิงคโปร์นั้นไม่มีอะไรให้หนูน้อยได้เรียนรู้อีกแล้ว…
-
สองพี่น้องหัวจีเนียส เรียนจบสาขาฟิสิกส์ด้วยอายุหลัก 10 ต้นๆ แถมพูดจีนคล่องปร๋อออ!!
การจะเป็นอัฉริยะได้นั้น บางคนต้องใช้เวลาเพื่อฉายแววแตกต่างกันไป บางคนอาจจะตั้งแต่วัยเด็กเล็กๆ หรือบางคนอาจจะต้องโตเป็นผู้ใหญ่เสียก่อน แต่สำหรับสองพี่น้อง Carson และ Cannan Huey-You วัย 14 ปี และ 11 ขวบนั้นกลับฉายแววตั้งแต่ยังเด็ก เพราะแม้ทั้งคู่จะอายุน้อยแต่แววอัจฉริยะของทั้งคู่นั้นได้ฉายแววเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคนพี่นั้นสามารถที่จะเรียนจบสาขาฟิสิกส์ ไมเนอร์ภาษาจีนและคนิตศาสตร์ได้แล้ว ส่วนคนน้องก็กำลังวางแผนที่จะเข้าเรียนต่อเกี่ยวกับวิชาวิศวกรรมและฟิสิกส์ดาราศาสตร์ สุดยอดเลยใช่ไหม? Carson นั้นนับว่าเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดที่สามารถเรียนจบจากมหาวิทยาลัย Texas Christian University ด้วยวัย 14 ปี ส่วนคนน้องก็กำลังตามมาในไม่ช้าเพื่อที่จะสานฝันการเป็นนักบินอวกาศของเขา ด้านผู้เป็นแม่ Claretta Kimp บอกว่า แม้ลูกของเธอนั้นจะเป็นอัจฉริยะขนาดไหน แต่พอพวกเขากลับมาอยู่ที่บ้านทั้งสองก็เป็นแค่เด็กปกติ พวกเขาเล่นกันหัวเราะกัน เล่นมวยปล้ำกัน คือทำทุกอย่างที่เด็กอายุเท่าพวกเขาจะทำกันนั่นเอง ยังไม่หมดเท่านั้น แววความเป็นอัจฉริยะของเด็กสองคนนี้ก็ไม่ได้เพิ่งฉายในตอนอายุ 10 ขวบหรอกนะ แต่มันฉายแววตั้งแต่ยังเด็กเลยต่างหาก เพราะเมื่อตอนอายุ 2 กับ 3 ขวบทั้งคู่ก็สามารถอ่านหนังสือได้แล้ว…
-
อัจฉริยะหรือขี้เกียจ!? ผลงานนักเรียนญี่ปุ่นทำโปสเตอร์ “รณรงค์ขับขี่ปลอดภัย” สร้างกระแสดัง
ถ้าพูดถึงกระแสไวรัลในเน็ตทางฝั่งญี่ปุ่นตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องราวมือสีแดงอย่างแน่นอน เมื่อมีภาพการบ้านของเด็กชายคนหนึ่งถูกโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น เมื่อคุณได้สั่งการบ้านภาคฤดูร้อนให้เด็กๆ กลับไปทำในหัวข้อว่า “โปสเตอร์ขับขี่ปลอดภัย” ซึ่งเมื่อคุณลองคิดภาพตาม คุณคิดว่าเด็กวัย 12 จะทำการบ้านนี้ออกมายังไงล่ะ? พวกคุณคงคิดว่ามันจะต้องเป็นภาพน่ารักๆ พากันข้ามถนน หรืออะไรที่เด็กปกติจะคิดกันขึ้นมา ทว่ากลับมีเด็กคนหนึ่งสามารถทำการบ้านนี้เสร็จได้ภายใน 5 นาที โดยการทาสีแดงลงไปทั่วทั้งแขน จากนั้นก็วางทับลงไปบนกระดาษ พร้อมเขียนคำว่า “ช่วยด้วย” ลงไป พร้อมกับได้บอกว่าโปสเตอร์นี้แหละที่จะทำให้คนตระหนักถึงจริงๆ ไม่ใช่ภาพน่ารักๆ ที่คนอื่นๆ ทำกัน งานนี้เล่นเอาชาวเน็ตอึ้งกันเป็นแถบๆ เพราะถ้าเราไม่บอกว่าเด็กทำ ดุยังไงมันก็อิมแพคเหมือนคนที่โดนชนและเลือดอาบเต็มตัวล้มลงกับพื้น เด็กวัย 12 ที่สามารถคิดได้ขนาดนี้ โตขึ้นจะต้องเจ๋งมากแน่ๆ ความเห็นคนเราย่อมมีแตกต่างกันไป เพราะชาวเน็ตบางกลุ่มก็บอกว่าเด็กคนนี้จริงๆ ขี้เกียจต่างหาก เขาแค่ไม่อยากจะทำการบ้านเหนื่อยๆ แบบที่เด็กคนอื่นวาด ก็เลยใช้ภาพนี้แหละ งั้นเราลองมาดูคอมเม้นท์ชาวเน็ตที่ถกเถียงกัน อย่างพี่คนนี้ที่บอกว่าตัวเองเป็นศิลปิน ก็บอกว่างานของเด็กคนนี้มีสื่อสารออกมาได้ชัดเจนมากๆ แม้จะอ่านตัวหนังสือญี่ปุ่นไม่ออกก็ตาม ด้านพี่คนนี้ก็บอกว่า สิ่งที่ทำให้เขาประทับใจคือ การที่วัฒนธรรมและการศึกษาทำให้เด็กคิดแบบนี้ได้ และกล้าจะออกจากกรอบมันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก และเชื่อว่าเขาจะมีอนาคตที่ดีแน่ๆ ในส่วนคองคอมเม้นชาวเน็ตในไทยก็ให้ความเห็นในทิศทางที่หลากหลายเช่นกัน ซึ่งเราก็ได้ลองหยิบยกคอมเม้นจากเพจ TALKS…
-
เด็กอินเดียวัย 11 ขวบ เปลี่ยนอุปกรณ์ที่เชื่อมอินเตอร์เน็ต ให้กลายเป็นเครื่องดักฟังได้!!
ในการประชุมเกี่ยวกับความปลอดภัยในโลกไซเบอร์ World Forum ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้เข้าร่วมการประชุมต่างต้องตะลึงไปตามๆ กัน เมื่อเด็กหนุ่มชาวอินเดียวัย 11 ขวบ สามารถดัดแปลงอุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตไร้สายให้เป็นเครื่องดักฟังได้!! Reuben Paul โปรแกมเมอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบอินเตอร์เน็ตชั้นป. 5 จากโรงเรียนแห่งหนึ่งของเมืองออสติน ในรัฐเท็กซัส ได้แสดงให้เห็นถึงระบบการรักษาความปลอดภัยที่ต่ำของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ หนุ่มน้อยได้แสดงให้เห็นว่าเขาสามารถดักฟังข้อมูลต่างๆ ได้จากอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ และทำการเชื่อมต่อระบบบลูทูธของอุปกรณ์นั้นๆ เพื่อใช้เป็นตัวรับส่งข้อมูล Reuben Paul ได้เชื่อมต่อตุ๊กตาหมีของเขาเข้ากับอินเตอร์เน็ต และควบคุมมันผ่านทางระบบบลูทูธเพื่อทำการรับและส่งข้อมูล จากนั้นเด็กหนุ่มได้ทำการเชื่อต่อ Raspberry Pi บอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กเข้ากับคอมพิวเตอร์ของเขาบนเวทีและเริ่มทำการค้นหาสัญญาณบลูธูทของอุปกรณ์ภายในห้องประชุม จากการรายงานของสำนักข่าวบอกว่าหนุ่มน้อย Paul สามารถเชื่อมต่อกับบลูทูธของผู้เข้าร่วมประชุมบางคนได้ จากนั้นและทำการบันทึกเสียงจากอุปกรณ์ดังกล่าว จากนั้นถ่ายโอนเสียงจากอุปกรณ์ที่ถูกแฮกผ่านออกมาทางตุ๊กตาหมีซึ่งสร้างความฮือฮาได้อย่างมาก ไปชมความสามารถของเจ้าหนูคนนี้ได้ที่คลิปวิดีโอด้านล่างนี้เลย… “จากเครื่องบินถึงรถยนต์ หรือจากสมาร์ทโฟนถึงบ้านไฮเทค ทุกๆ อย่างสามารถเป็นส่วนหนึ่งของ Internet of Things (IOT) ได้” เด็กหนุ่มพูดถึงโปรเจคของเขาบนเวที The World Forum ที่ผ่านมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พ่อหนุ่มน้อยคนนี้ต้องทำให้หลายๆ คนต้องตะลึง…
-
สุดยอด ‘เด็กอัจฉริยะ’ วัย 9 ขวบ เรียนจบชั้นมัธยมปุ๊บ เรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยปั๊บ!!
เราต่างรู้ดีว่ากว่าจะประสบความสำเร็จนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในเรื่องการเรียน ที่กว่าจะเรียนจะจบแต่ละชั้นต้องใช้เป็นเวลาเป็นปีๆ สำหรับเด็กชาย William Maillis คนนี้ทำให้เราต้องทึ่ง ด้วยการเรียนจบมัธยมในวัยเพียง 9 ขวบ เท่านั้น ที่สำคัญกำลังเตรียมศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาแล้วด้วย William ได้ตั้งเป้าหมายของตัวเองว่า อยากพิสูจน์ให้เห็นถึงการดำรงอยู่ของพระเจ้า และความฝันที่อยากเป็นนักดาราศาสตร์ แม้หลายคนจะมองว่า เป็นเพียงความฝันในวัยเด็กเท่านั้น แต่ William กำลังจะทำให้ฝันเป็นจริงในไม่ช้านี้แล้ว พ่อแม่ของเขา Peter และ Nancy บอกว่า พวกเขาเริ่มสังเกตเห็นความสามารถพิเศษของ William เมื่อเขาสามารถนับเลขได้ ตอนอายุเพียง 6 เดือนเท่านั้น และสามารถพูดเป็นประโยคได้ในวัย 7 เดือน และยังบอกอีกว่า พวกเขาแทบไม่ต้องผลักดันในเรื่องการศึกษาให้ William เลย แต่เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง และเดินตามทางของตัวเอง ในขณะที่อาจารย์ในวิทยาลัยบอกว่า ความสามารถของเขานั้นเหมาะที่จะเรียนในระดับเดียวกับผู้ใหญ่เลย นอกจากนี้ William ไม่เห็นด้วยแนวคิดของไอน์สไตล์ เกี่ยวกับขนาดของหลุม โดยมีแนวคิดเป็นของตัวเองว่า ‘จักรวาลนั้นดำรงอยู่ได้อย่างไร?’ William ตั้งของสันนิษฐานว่า การมีอยู่ของจักรวาลนั้น อาจจะเกิดจากการมีสิ่งภายนอกสร้างมันขึ้นมา และสิ่งนั้นก็คือ พระเจ้า แต่ก็มีข้อสงสัยเกี่ยวกับที่มาของพระเจ้าอีก…
-
เด็กอัจฉริยะ 7 ขวบ ได้ชื่อว่า ‘โปรแกรมเมอร์’ อายุน้อยที่สุด ออกจากโรงเรียนเพื่อทำงานเต็มตัว!?
ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ดีไม่ได้เก่งกว่าผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์มาแล้วมากมายก็ได้ เหมือนกับเด็กชายวัย 7 ขวบคนนี้ ที่มีความอัจฉริยะ จนได้เป็นโปรแกรมเมอร์ที่อายุน้อยที่สุดในโลก Muhammad Hamza Shahzad เด็กอัจฉริยะจาก Handsworth ในประเทศอังกฤษ กำลังอยู่ในช่วงเตรียมเอกสารออกจากโรงเรียน เพื่อหันมาทำงานด้านไอทีอย่างเต็มตัว ด้วยวัยเพียง 7 ขวบเท่านั้น หลายคนสงสัยว่าเด็กอัจฉริยะคนนี้ทำไมถึงได้เป็นโปรแกรมเมอร์ที่อายุน้อย ต้องบอกว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นเลย เพราะ Muhammad ได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องไอทีจากพ่อของเขา Asim ผู้ที่ทำงานด้านไฮเทคกับบริษัท Cyber Royal ซึ่งเป็นบริษัทไอทีของสหรัฐฯ พ่อของเขาบอกว่า ‘Muhammad มีความสามารถในด้านคอมพิเตอร์นี้ตั้งแต่ตอนที่ยังใส่ผ้าอ้อมอยู่’ พ่อของเขาบอกว่า “ที่โรงเรียน เขาจะกำหนดมาตรฐานของตัวเอง เราจึงมีหน้าที่ช่วยให้เขาพัฒนาขึ้น ไม่ใช่เพื่อเขาคนเดียว แต่เพื่อคนอื่นๆ ด้วย และนี่คือที่เราทำได้” ตอนนี้ Muhammad กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Microsoft Office ที่อายุน้อยที่สุดในโลก โดยเมื่อปีที่แล้ว ในวัย 6 ขวบ เข้าได้สมัครเข้าทดสอบความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เกณฑ์ที่ต้องผ่านนั้นคือ 700 คะแนน แต่ Muhammad สามารถทำได้ถึง 757 คะแนน…
-
‘Daniel’ เด็กอัจฉริยะวัย 11 ปี แม้จะเรียนมัธยม แต่ก็มาเข้าคลาสมหาวิทยาลัยเป็นประจำ..!!
กลายเป็นเรื่องฮือฮาของนักศึกษา เมื่อจู่ๆ ก็มีเด็กน้อยวัย 11 ปีโผล่มานั่งเรียนที่ห้องเรียนของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ในมหาวิทยาลัย University of Toledo ในรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เรื่องนี้เล่ามาโดยคุณ Cigdem Kahyaoglu วัย 19 ปี นักศึกษาคณะคณิตศาสตร์ชั้นปีที่สอง และกำลังเรียนเตรียมเพื่อจะย้ายคณะไปเป็นแพทย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งเมื่อวันที่ผ่านมาเธอได้ทำการถ่ายรูปภาพของเพื่อนร่วมชั้นเรียนตัวน้อยคนหนึ่งอัพลงโซเชียล พร้อมกับให้แคปชั่นว่า “เด็กคนนี้มีอายุ 11 ขวบ กำลังนั่งเรียนวิชาเคมีกับฉันอยู่ เขาบอกว่าถ้าพวกเรามีปัญหาหรือคำถามอะไรก็ให้ส่งอีเมลล์ไปหาเขานะ” ซึ่งแน่นอนว่ามีผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมากโดยมียอดไลค์กว่า 190,000 ไลค์ และรีทวิตไปกว่า 100,000 ครั้ง ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง!! เท่านั้นยังไม่พอ Cigdem ยังเล่าเพิ่มเติมอีกว่าเจ้าหนูน้อยคนนี้เองก็เคยมานั่งเรียนวิชาแคลคูลัสร่วมกับเธอเมื่อปีที่ผ่านมาด้วย!? (โอ้โห อะไรจะเก่งปานนั้น) โดยเด็กน้อยในรูปนั้นมีชื่อว่า Daniel Liu อายุ 11 ปี เป็นเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาเท่านั้น แต่เขามักจะมาหาความรู้เพิ่มเติมจากการนั่งเรียนในชั้นเรียนระดับมหาวิทยาลัยอยู่เสมอ แน่นอนว่าเขาไม่ใช่เด็กธรรมดาๆ อยู่แล้วล่ะ…