Tag: เด็กไทย
-
เด็กไทยวัย 4 ขวบ ได้เข้าเป็นสมาชิก MENSA คลับคนอัจฉริยะแห่งสหราชอาณาจักร
‘หากคนไทยตั้งใจทำอะไร ไม่แพ้ชาติใดในโลก’ หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำกล่าวนี้กันมาบ้างแล้ว และเรื่องราวต่อไปนี้เองก็จะช่วยพิสูจน์ถึงความเป็นจริงจากคำกล่าวนั้นได้เป็นอย่างดี ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Kay Thaweeyot ได้ทำการโพสต์ภาพและข้อความ ว่าลูกสาวของตนเอง หรือน้องอุ้ม ฐิติกา ทวียศ เด็กสาววัย 4 ขวบ ได้รับการตอบรับเข้าเป็นสมาชิกสถาบัน Mensa เรียบร้อยแล้ว!! สถาบัน Mensa คือสังคม IQ สูงที่สุด และเก่าแก่ที่สุดในโลก เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการพิสูจน์และเสริมสร้างสติปัญญาของมนุษย์เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ และการที่จะเข้าร่วมกับองค์กรนี้ได้คุณจะได้รับการทดสอบระดับไอคิวที่ได้มาตรฐานแบบสากล โดยที่ต้องมีระดับไอคิวสูงกว่าคนปกติทั่วไปที่อยู่ที่ประมาณ 90-110 เท่านั้น แต่จากการทดสอบของน้องอุ้ม พบว่าน้องมีระดับไอคิวที่สูงถึง 135 เลยทีเดียว จนได้รับเลือกโดย Mensa ในที่สุด น้องอุ้ม และคุณพ่อคุณแม่ โดยคุณพ่อเล่าว่า น้องอุ้มนั้นเป็นคนที่รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ อีกทั้งยังมีความหลงใหลในสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล นอกจากนี้ น้องยังบอกอีกว่าในอนาคตเธออยากจะทำอาชีพเป็นนักชีววิทยาทางทะเลและสัตวแพทย์ น้องอุ้มกับคุณพ่อ เรื่องราวของน้องอุ้มที่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้นั้นไม่ได้ง่ายดายมีกลีบกุหลาบโรยไว้กลางทาง คุณพ่อเล่าว่า…
-
ครูน้องแพรเผย ที่โกอินเตอร์ได้ ‘เพราะความพยายามของน้อง’ และครอบครัวสนับสนุนเต็มที่
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้เราก็คงจะได้รับทราบเรื่องราวของ น้องแพร ด.ญ.ณัฏฐนันท์ สนุ่นรัตน์ หรือที่ในโลกออนไลน์รู้จักเธอในชื่อของ น้องแพรพาเพลิน เด็กน้อยที่โด่งดังจากคลิปวิดีโอเอาเครื่องสำอางของคุณแม่มาแต่งหน้าเล่น ภาพจากคลิปวิดีโอที่ทำให้น้องแพรโด่งดังตอนอายุ 5 ขวบ น้องแพรนั้นชื่นชอบในเรื่องของการแต่งหน้าเป็นอย่างมาก เธอจึงฝึกฝนในเรื่องของการแต่งหน้าและนำมาอัปเดตให้พี่ๆ ชาวแฟนเพจ น้องแพรพาเพลิน ให้ได้ติดตามกันอยู่บ่อยๆ จนกระทั่งฝีมือของเธอนั้นเก่งกาจจนได้ไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย ด้วยการเป็นหนึ่งในทีมช่างแต่งหน้าในเทศกาลแฟชั่นระดับโลก London Fashion Week 2018 ในขณะที่เธอมีอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น หลังจากที่ข่าวของน้องแพรได้เผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตหลายท่านก็ได้ร่วมกันแชร์เรื่องราวของน้องพร้อมทั้งกล่าวชื่นชมที่น้องสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ พร้อมกับการเป็นช่างแต่งหน้าที่อายุน้อยที่สุด คุณ รสสุคนธ์ เขมะสิงคิ คุณครูผู้สอนแต่งหน้าให้กับน้องแพร ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ว่า การที่น้องแพรสามารถก้าวเข้าสู่วงการเมกอัประดับโลกได้เป็นเพราะว่าน้องแพรมีใจรักในการแต่งหน้า รวมไปถึงมีครอบครัวที่คอยให้การสนับสนุนเต็มที่ ได้มีการติดต่อมาให้คุณรสสุคนธ์เป็นครูสอนแต่งหน้า ซึ่งเธอก็สอนน้องแบบไม่กั๊กประกอบกับที่น้องมีพรสวรรค์ สามารถเรียนรู้ได้เร็ว น้องแพรมีพัฒนาการในเรื่องฝีมือการแต่งหน้าอย่างก้าวกระโดด จดจำทุกสเต็ปทุกขั้นตอนที่คุณครูสอน แถมยังรู้จักการดัดแปลงวิธีใหม่ๆ และยังหมั่นฝึกฝน ทำให้ฝีมือการแต่งหน้าของน้องแพรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ทางครอบครัวยังส่งให้น้องแพรไปเข้าคอร์สสอนแต่งหน้าระยะสั้นที่ประเทศอังกฤษ จนได้รับการเชิญชวนให้ไปแสดงฝีมือในงาน London Fahion…
-
สุภัทรา สะสุพันธ์ ‘น้องแนท’ ผู้ป่วยโรคขนดก ได้พบกับรักแท้ที่พร้อมจะดูแลเธอแล้ว…
น้องแนท หรือ นางสาวสุภัทรา สะสุพันธ์ เด็กไทยเป็นโรคขนดกที่เคยดังไปไกลถึงเมืองนอก (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) เธอเคยได้รับการจดบันทึกจาก Guinness World Records ในปี 2010 ว่าเป็นหญิงสาวที่ขนดกที่สุดในโลก เนื่องจากเธอเป็นโรคที่เรียกว่า “แอมบราส ซินโดรม” แอมบราส ซินโดรม ทำให้เธอมีขนขึ้นตามร่างกายรวมถึงใบหน้ามากกว่าปกติ เธอเคยเข้ารับการรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อให้ขนหยุดเจริญเติบโต แต่ก็ล้มเหลว เธอจึงจำเป็นต้องโกนมันด้วยตัวเองอยู่เสมอๆ ถึงแม้น้องแนทจะเป็นโรคดังกล่าว แต่ครอบครัวและเพื่อน ๆ ต่างก็ยอมรับและคอยหนุนหลังเธอเสมอ จึงทำให้เธอสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข ปัจจุบัน น้องแนทมีอายุได้ 17 ปี และทำการโพสท์รูปตนเองผ่านโซเชียลมีเดีย รูปภาพของเธอเผยให้เห็นถึงหน้าที่แท้จริงแบบไม่มีขนหนาๆ มาปิดบังแบบที่เคยเห็น พร้อมทั้งมีการโพสต์ภาพตนเองที่ถ่ายคู่กับคนรักของเธออีกด้วย “เธอไม่ใช่แค่รักแรก แต่เธอคือรักสุดท้ายของทั้งชีวิต” คือแคปชั่นของภาพเธอกับคนรักที่อ่านแล้วรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของน้องแนทที่มีให้กับคนรักของเธอได้ชัดเจนเลยทีเดียว ชาวเน็ตต่างก็มาแสดงความคิดเห็นในข่าวเป็นกำลังใจให้กับน้องแนทกันมากมาย เช่น คุณ eslizzywizzy แสดงความเห็นว่า “ขอพระเจ้าคุ้มครอง และขอให้มีอนาคตที่มีความสุขนะ” คุณ Lychee4U กล่าวว่า “ดีสำหรับเธอแล้วล่ะ ขอให้เธอมีชีวิตที่ดี” และคุณ Kansa ก็บอกว่า “มหัศจรรย์มากที่เธอมีครอบครัว…
-
ชาวเน็ตขื่นชม “เด็กไทย” สร้าง Special Effect เลียนแบบภาพยนตร์ Dr.Strange ได้อย่างเทพ!!
ถือเป็นคลิปวีดีโอที่ชาวเน็ตส่วนหนึ่งกำลังแชร์อยู่ในโลกออนไลน์ในตอนนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับคลิปของเด็กไทยที่ทำ Special Effect เลียนแบบภาพยนตร์ดังอย่าง Dr.Strange ได้ระดับน้องๆ ฮอลลีวู้ดเลย โดยเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2559 ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ KoGu Studio ได้เผยคลิปวีดีโอความยาว 0.38 วินาที ที่ได้กลายเป็นที่สนใจ และพูดถึงไปทั่วโลกออนไลน์ ณ ขณะนี้เป็นอย่างมาก สำหรับคลิปวีดีโอดังกล่าวเป็นผลงานการสร้าง Special Effect เลียนแบบภาพยนตร์แนวซุปเปอร์ฮีโร่เรื่อง Dr.Strange ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยเด็กไทยวัยเพียง 14 และ 16 ปีเท่านั้น แต่ต้องบอกเลยฝีมือของน้องๆ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ เพราะมันทั้งแนบเนียน และสมจริง ราวกับหลุดออกมาจากในภาพยนตร์เลย ลองไปชมผลงานของพวกเขากันเลยดีกว่า นอกจากนี้ ทางน้องเจ้าของเพจยังได้มีการระบุเอาไว้ด้วยว่า “ผลงานแรกครับกับ Dr.Strange – VFX Fanmade เป็นการทำ Special Effect เลียนแบบในหนังเรื่อง Dr.Strange ครับ…
-
‘น้องมอส’ กับผลงานการทดลองอวกาศ ได้รับคัดเลือกและชื่นชมจากญี่ปุ่น แต่คนไทยไม่ค่อยรู้
แม้ว่านี่จะเป็นเพียงข่าวเล็กๆ แต่ก็เป็นหน้าเป็นตาให้กับประเทศได้มากทีเดียว สำหรับเรื่องราวของนักศึกษาไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงที่ประเทศญี่ปุ่น เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านสื่อของญี่ปุ่นอย่างสำนักข่าว NHK และสำนักข่าวออนไลน์หลายๆ แห่ง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2016 ที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่านักศึกษาผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยรายนี้มีชื่อว่า นายวรวุฒิ จันทร์หอม หรือ น้องมอส เป็นนักศึกษาปี 2 จากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี สิ่งที่ทำให้น้องมอสกลายเป็นที่พูดถึงในญี่ปุ่นก็เพราะว่าเขาได้ทำการค้นคว้าเกี่ยวกับการทดลอง “การโค้งของผิวของเหลวในอวกาศ (Capillary in Zero gravity)” เข้าร่วมในโครงการ Asian Try Zero-G 2016 ที่จะนำแนวคิดการทดลองวิทยาศาสตร์ส่งให้มนุษย์อวกาศญี่ปุ่น จนในที่สุดผลงานของน้องมอสได้รับการคัดเลือกจากองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) ให้นำขึ้นไปทดลองบนสถานีอวกาศ (ISS) ในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งบุคคลที่นำการทดลองของเขาไปทดสอบก็คือมนุษย์อวกาศที่ชื่อนาย Onishi Takuya ซึ่งน้องมอสเองก็ได้มีโอกาสได้ชมการทดลองและพูดคุยกับมนุษย์อวกาศจากสถานีอวกาศนานาชาติ ผ่านระบบสื่อสารจากห้องบังคับการที่ศูนย์อวกาศสึคุบะด้วย . . .…
-
“น้องไอซ์” เด็กนักเรียน ป.1 กับพรสวรรค์ในการวาดภาพ คุณครูอยากให้ทุกคนส่งเสริม
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ แต่สำหรับ เด็กชายนัทธกรณ์ ศรีพะลาน อายุ 6 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านโนนเดื่อ จังหวัดอุดรธานี คนนี้ บอกเลยว่าเขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ของจริงเลยละ เพราะเด็กคนนี้มีความจำดี แถมยังมีความสามารถในด้านการวาดภาพอย่างเต็มเปี่ยม จนทำให้ คุณใบหม่อน ผู้เป็นคุณครูของน้องไอซ์ทึ่งในความสามารถสุดพิเศษเหล่านี้ และอดไม่ได้ที่จะนำเรื่องราวดีๆ มาแชร์ผ่านเฟสบุ๊คที่ชื่อว่า Piyamon Jaem และนี่คือโฉมหน้าของ น้องไอซ์ เด็กชายนัทธกรณ์ ศรีพะลาน คนเก่งนั่นเอง เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา ทางคุณครูใบม่อน ได้เผยภาพพร้อมเรื่องราวน่าทึ่งของลูกศิษย์ว่า น้องไอซ์นั้นสามารถวาดภาพกินรี แค่ได้เห็นเพียงครั้งเดียวได้อย่างงดงาม อีกทั้งยังจำพุทธประวัติเบื้องต้นได้อย่างแม่นยำอีกด้วย และไม่เพียงแต่ภาพของกินรีเท่านั้น เพราะน้องไอซ์ยังสามารถวาดภาพเทพเจ้าทางฮินดูอย่างพระแม่อุมา, แม่ลักษมี เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย รวมไปถึงภาพพระพุทธเจ้า ก็สามารถวาดออกมาได้อย่างน่าทึ่ง แถมยังเก็บรายละเอียดได้ทุกเม็ด นอกจากนี้เธอยังเผยอีกว่า หากน้องไอซ์ไม่ได้รับการสนับสนุนในเวลาที่เหมาะสม ไอซ์จะกลายเป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง แทนที่จะมีโอกาสเป็นศิลปินใหญ่อย่างที่เขาน่าจะทำได้ไม่ยาก และหลังจากที่คุณครูใบหม่อน ได้นำเรื่องราวของน้องไอซ์ ไปแชร์ลงไปเฟสบุ๊คส่วนตัว ชาวเน็ตต่างก็เข้ามาชื่นชมความสามารถของน้องกันเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีการแชร์เรื่องราวออกไปถึง 3,734…
-
คนจะดังช่วยไม่ได้!! เด็กกาญจนบุรีจับพลัดจับผลู ได้ถ่ายแบบลงนิตยสาร GQ Germany ซะงั้น!!
กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนให้เรารู้สึกยินดีไปด้วยเลย เพราะล่าสุดมีข่าวคราวว่ามีกองถ่ายนิตยสารชื่อดังจากประเทศเยอรมันเดินทางมาถ่ายภาพแฟชั่นที่ประเทศไทย แต่ดันไปเตะตาเข้ากับหนุ่มน้อยคนหนึ่ง จึงทาบทามมาเป็นนายแบบเดี๋ยวนั้นเลย!? เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กเพจของคุณ หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยบอกว่าดีไซน์เยอร์ชื่อดัง Kim Jones และทีมงานจากนิตยสาร GQ Germany ได้ยกกองกันมาถ่ายแบบที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แต่ในระหว่างที่กำลังถ่ายแบบอยู่นั้นเอง พวกเขาก็ดันไปเห็นเด็กหนุ่มคนนึงเข้า มีผิวสีน้ำผึ้งและโครงหน้าที่สวยงาม ทางทีมงานจึงจับเด็กหนุ่มคนนั้นมาทดสอบหน้ากล้องและเปลี่ยนเสื้อผ้าถ่ายมันเดี๋ยวนั้นเลย!! ซึ่งชุดที่ใส่ถ่ายแบบก็ไม่ใช่ไก่กา แต่เป็นเสื้อผ้าจากแบรนด์ Louis Vuitton เลยทีเดียว และนี่คือหน้าตาของดีไซน์เนอร์ Kim Jones ที่ว่าล่ะ เคยมาไทยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2016 ด้วยล่ะ เรียกได้ว่าดังแบบฟ้าผ่าเลยนะเนี๊ยะ หลังจากนี้ไปขอให้โด่งดังและมีงานถ่ายแบบเข้ามาเยอะๆ นะจ๊ะ ที่มา stephandimu , gq_germany , หนูน้อยบนยอดเขาอันหนาวเหน็บ
-
ผลสำรวจเผย เด็กญี่ปุ่นอยากเป็น “นักธุรกิจ” มากที่สุด ไทยอยากเป็น “หมอ”
ตอนเด็กๆ เราอาจเคยถูกผู้ใหญ่ในตอนนั้นหลายๆ คนถาม “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” ด้วยความเป็นเด็ก เราอาจตอบไปโดยไม่ทันคิด แต่บางครั้ง คำตอบเหล่านั้นอาจสะท้อนความจริงบางอย่างออกมาก็เป็นได้ ล่าสุดทางบริษัท Adecco ได้ทำการสำรวจความเห็นของเด็กๆ อายุ 6-15 ปี ชาย 500 คน หญิง 500 คน จากประเทศต่างๆ ทั่วเอเชีย จนได้ผลลัพธ์อันน่าตกใจอันนี้ออกมา โดยประเทศญี่ปุ่น อาชีพที่มาเป็นอันดับแรกของเด็กผู้ชายคือ นักธุรกิจ ตามด้วยอันดับสอง นักฟุตบอลอาชีพ ส่วนอันดับสามเป็น ข้าราชการ และอันดับสี่ร่วมเป็นของ หมอและนักเบสบอลอาชีพ และที่น่าตกใจยิ่งกว่า่คือ แม้แต่กับเด็กผู้หญิง ก็มีคนอยากเป็นนักธุรกิจเหมือนกัน โดยเข้ามาเป็นอันดับสาม ส่วนอันดับหนึ่งและสองเป็นของ นักทำขนมและครูตามลำดับ ส่วนอาชีพหมอนั้น มาในอันดับที่สี่ ซึ่งก็ไม่ใช่ผลสำรวจที่น่าตกใจเท่าไหร่ เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนักธุรกิจ และญี่ปุ่นเองก็มีบริษัทระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะด้านอุสหกรรมอิเล็กทรอนิกหรือรถยนต์ เมื่อดูของประเทศญีปุ่นกันแล้ว เราไปดูของประเทศอื่นกันบ้าง นอนมาเลยทีเดียวสำหรับประเทศไทย สำหรับอาชีพหมอ ตามมาด้วยนักกีฬาอาชีพ และเชฟทำอาหาร แต่ที่น่าทึ่งคือ…
-
เราทำได้!! เด็กไทยคว้าที่ 3 จากการแข่ง FIFA Online 3 คว้าเงินรางวัล 2.1 ล้านบาท!!
บอกเลยว่าช่วงนี้วงการ eSport ของประเทศไทยกำลังมาแรงเป็นอย่างมาก หลายทีมได้แข่งชนะเข้าไปแข่งในระดับภูมิภาคได้ อย่าง DotA 2 และ LoL ก็ไปมาแล้วและตอนนี้ก็ได้มีนักกีฬาจากเกม FIFA Online 3 เป็นตัวแทนไปแข่งที่ประเทศเกาหลีใต้ด้วย และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อทีมชาติไทย ประกอบไปด้วยตัวแทน 3 คน ได้แก่ Teedech Songsaisakul ( MiTHTDKeane ), Chatmongkol Sukprasert ( EstrellAlienGolf ) และ Nutthakorn Boonritphakdee ( DFNxAmpZeFFiLoS ) ได้รางวัลชนะเลิศอันดับ 3 ในเอเชีย คว้าเงินรางวัลไปกว่า 2.1 ล้านบาท ในรอบชิงอันดับที่ 3 ไทย เอาชนะประเทศอินโดนีเซียอย่างขาดลอย 3 ต่อ 0 เกม โดยที่ นัดที่ 1 : Nutthakorn…