Tag: เติบโต
-
9 ประโยคไม่ควรพูดกับ “เจ้านาย” ในที่ทำงาน เพราะมันอาจส่งผลต่ออนาคตคุณเลยก็ได้
ในบริบทของการทำงานในบริษัทหรือว่าองค์กรต่างๆ ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งที่ควรมี โดยเฉพาะระหว่างตัวคุณกับหัวหน้าก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ควรรักษาเอาไว้ให้ดี เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีฝีมือและผลงานที่ยอดเยี่ยม แต่ความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับผู้อื่นอาจทำให้เกิดอคติในตัวเราได้ โดยเฉพาะกับหัวหน้างานที่อาจมองว่าเราเป็นพนักงานที่ไม่รู้จักทีมเวิร์กและไม่รู้จักใช้ชีวิตในสังคม วันนี้เราจึงอยากเสนอ 9 ประโยคที่ไม่ควรพูดอย่างแรง หากไม่อยากทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับหัวหน้า ไปดูพร้อมๆ กันเลยว่า มีประโยคไหนบ้าง และทำไมถึงไม่ควรพูด… 1. “ผมอยากได้เงินเดือนเพิ่ม เพราะผมต้องใช้มันสำหรับซ่อมแซมบ้าน” การขอขึ้นเงินเดือนเป็นสิ่งที่ขอได้ไม่ง่ายแต่ก็ไม่ยาก หากคุณเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวเพื่อขอให้เห็นใจนั่นจะยิ่งทำให้การขึ้นเงินเดือนเป็นไปได้ยาก หัวหน้าจะมองว่าให้เงินไปแล้วทางบริษัทจะได้อะไรเป็นการตอบแทน ลองเปลี่ยนเป็นเอาความสามารถเข้าสู้ดีกว่า โชว์ผลงานที่เหมาะสมกับการขึ้นเงินเดือนให้หัวหน้าดูเพื่อพิจารณา แน่นอนว่าบริษัทไหนๆ ก็ย่อมอยากได้คนทำงานเก่ง ฉะนั้นมันจะดีกว่าหากเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ผมทำยอดการผลิตได้มากกว่าเดิมถึง 3 เท่าจากรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ผมจึงมาขอให้หัวหน้าพิจารณาขึ้นเงินเดือนครับ“ 2. “ช่วงบ่ายผมขอกลับบ้านได้ไหมครับ? งานผมไม่มีอะไรให้ทำแล้ว” เมื่อคุณทำงานจนครบเป้าหมายในแต่ละวันเรียบร้อยแล้ว คุณก็อาจจะอยากกลับบ้านไปพักผ่อน แต่คุณไม่ควรขอกับหัวหน้าตรงๆ แบบนั้น เพราะมันทำให้คุณกลายเป็นคนที่ไม่สนใจจะทำงาน แถมยังได้งานมาทำเพิ่มอีกด้วย จะดีกว่าหากพูดว่า “ช่วงบ่ายผมขอกลับบ้านได้ไหมครับ?“ เฉยๆ โดยไม่ต้องบอกเหตุผล (แต่งานก็ต้องทำให้เสร็จก่อนนะ) พยายามอย่าพูดหรือแสดงความเบื่อหน่ายออกมา 3. “ทั้งหมดมันเป็นความผิดของนพพลต่างหากครับ” การยอมรับความผิดโดยไม่ตัดสินผู้อื่นนั้นเป็นคุณสมบัติของผู้ที่มีวุฒิภาวะ…
-
โตไวเกินไปป่าว!? ภายในเวลาแค่ 6 เดือน ลูกหมาตัวน้อยก็ตัวโตเท่าคนแล้ว!!
กว่าที่เด็กคนหนึ่งจะโตเป็นผู้ใหญ่ได้ เขาต้องผ่านช่วงที่เป็นทารก เด็กเล็ก เด็กโต วัยรุ่น จนมาเป็นผู้ใหญ่ซึ่งใช้เวลากว่า 20 ปี ทว่าสำหรับสุนัขนั้น พวกมันโตไวกว่าที่คุณคิดซะอีก เป็นลูกหมาไม่ทันไรรู้ตัวอีกทีก็ตัวโตจนจำแทบไม่ได้แล้ว Danielle Schweiger และคู่รักก็รู้เรื่องนี้ดี พวกเขาก็เลยทำไดอารี่รูปให้กับเจ้า Bear จะได้เห็นพัฒนาการที่น่าทึ่งของมันได้ชัดเจน ลูกหมา Bear Bear เป็นสุนัขพันธุ์อาคิตะที่คู่รักรับมาเลี้ยงใหม่ เธอเริ่มบันทึกการเจริญเติบโตครั้งแรกของเจ้าหมาตอนที่มันมีอายุได้ 10 สัปดาห์เท่านั้น จากนั้นเธอก็จะถ่ายรูปมันในวันเดิมทุกๆ เดือน โดยเธอจะอุ้มเจ้าหมาไว้ในอ้อมแขนทุกครั้ง เธออธิบายแนวคิดในการถ่ายรูปว่า “มันเป็นวิธีที่น่ารักและสร้างสรรค์ของเขา เพื่อที่จะบอกมันว่ามันยังเป็นเด็กน้อยสำหรับเราอยู่เสมอ ไม่ว่าตัวมันจะโตแค่ไหนก็ตาม” ใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้นเธอก็ได้เห็นพัฒนาการที่ติดจรวดของลูกรักของเธอ ที่โตเป็นหมาตัวใหญ่จนเธอแทบจะอุ้มไม่ไหวแล้ว รูปแรกถ่ายตอนที่น้องอายุ 10 สัปดาห์ เดือนที่ 2 ของการถ่ายรูปน้องก็ตัวยืดแล้ว เดือนที 3 ตัวโตจนเริ่มบังแม่แล้ว เดือนที่ 4 นี้เห็นชัดเลยว่าตัวใหญ่ขึ้น เดือนที่ 5 แกโตเร็วเกินไปแล้วนะ…
-
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ Netflix กำลังโตแซงค่ายหนังใหญ่อย่าง Warner หรือ Sony แล้ว!?
ในปัจจุบันนั้นเราไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่า Netflix นั้นกำลังเป็นบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เป็นเพียงผู้ให้บริการระบบสตรีมมิ่ง จนตอนนี้โตขนาดที่สามารถสร้างหนังและซีรีส์ของตัวเองขึ้นมาได้ ยิ่งล่าสุดทาง The Hollywood Reporter ได้รายงานว่าในปีที่ผ่านมาทาง Netflix นั้นมีอัตราการเติบโตที่ไวมากๆ จนไม่จำเป็นจะต้องหลบอยู่ในเงาของค่ายใหญ่ต่างๆ อย่าง Warner Bros, 21st Century Fox, Sony อีกต่อไป เพราะว่ามูลค่าทางการตลาดของบริษัทดังกล่าวนั้นเติบโตขึ้จากปีที่แล้ว 1.02 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (3.1 ล้านล้านบาท) เป็น 1.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งเทียบกับบริษัทสื่ออื่นๆ ที่มีมูลค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2 ถึง 7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐเท่านี่น ด้วยจำนวนมูลค่ามหาศาลขนาดนี้ Netflix ก็เหลือเพียงแค่ Disney และ Comcast เท่านั้นที่มูลค่าทางการตลาดมากกว่า แต่ถึงจะบอกว่าเหลือถึง 2 ค่าย ที่ต้องไล่ตามแต่มูลค่าก็ไม่ได้ห่างกันมากเลย เพราะอีกแค่ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 24 พันล้านบาท…
-
ชายผู้เติบใหญ่ได้ เพราะหมาป่าช่วยเลี้ยงดูถึง 12 ปี พอกลับมาอยู่กับคน ดันรู้สึกใช้ชีวิตยาก…
ช่วงวัยเจริญเติบโตนั้น สิ่งแวดล้อมและการรับรู้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ที่จะช่วยพัฒนาความคิดและทักษะการใช้ชีวิตให้แก่บุคคลนั้นๆ ต่อไป แต่สำหรับนาย Marcos Rodríguez Pantoja เขาไม่ได้เติบโตท่ามกลางครอบครัวที่อบอุ่น ไม่ได้เติบโตในสังคมของมนุษย์ เพราะเขาดันไปคลุกคลีกับเหล่าหมาป่ามานานถึง 12 ปีเลยทีเดียว ย้อนไปเมื่อปี 1946 ในเมืองกอร์โดบา ประเทศสเปน นาย Marcos Rodríguez Pantoja สูญเสียแม่ไปเมื่ออายุเพียงแค่ 3 ขวบ และถูกพ่อทิ้งอย่างไม่ใยดี แถมส่งไปให้ผู้หญิงอื่นเลี้ยงดูในเมืองใกล้เคียง และด้วยความที่เขายังเป็นเด็ก ก็เลยถูกส่งตัวขึ้นไปบนภูเขาสูง เพื่อไปทำหน้าที่แทนคนเลี้ยงแกะกว่า 300 ตัว แทนชายแก่คนเก่า เขาจำความได้ว่าชายแก่สอนวิธีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ สอนก่อไฟให้ จนในปี 1954 ชายแก่ก็ได้เสียชีวิตลง ในขณะที่ Marcos ยังมีอายุไม่ถึง 8 ขวบ และเขาต้องใช้ชีวิตต่อไปเพียงลำพัง ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Marcos นั้นใช้ชีวิตอยู่รอดท่ามกลางฝูงหมาป่าได้อย่างไร จนเมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเจอกับเขา ในเวลา 12 ปีให้หลัง คำพูดของเขาก็เปล่งเสียงออกมาคล้ายกับสัตว์…
-
เจ้าเสือน้อยถูกช่วยเหลือมาจากคณะละครสัตว์ในสภาพย่ำแย่ ในที่สุดก็ได้รับความรักเป็นครั้งแรก
เราอาจเคยได้ยินว่า หากเราได้รับความรักและการดูแลจากคนรอบข้างแล้ว หลายๆ อย่างในชีวิตเราจะดีขึ้นไปเอง เหมือนอย่างลูกเสือตัวนี้ที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ให้อยู่อย่างเดียวดาย จนกระทั่งมันได้รับความรักอันสวยงามจากมนุษย์ ทำให้มันสามารถกลับมายืนขึ้นได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง นี่คือเรื่องราวของ Aasha ลูกเสือโคร่งเบงกอลวัย 9 เดือนที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้ในเดือนมีนาคม 2011 ด้วยฝีมือของกรมการเกษตรแห่งสหรัฐอเมริกา ขณะที่พวกเขากำลังตรวจสอบคณะละครสัตว์เคลื่อนที่ต่างๆ เจ้าเสือที่อยู่ในสภาพย่ำแย่ คณะละครสัตว์เคลื่อนที่ที่เดินทางไปตามเมืองต่างๆ ด้วยสภาพร่างกายอันย่ำแย่ของเจ้าเสือตัวนี้ มันจึงถูกส่งไปอยู่ในความดูแลของ Vicky Keahey สัตวแพทย์ผู้ก่อตั้งกลุ่ม In-Syn Exotics ผู้คอยช่วยเหลือแมวยักษ์ทั้งหลายในรัฐเท็กซัส เมื่อ Vicky ได้เจอกับเจ้าเสือน้อยที่ถูกทอดทิ้งตัวนี้ เธอก็รู้สึกปวดใจเป็นอย่างมาก เพราะสภาพของ Aasha นั้นทรุดโทรมและย่ำแย่ ผิวของมันแตก คล้ำและแห้ง ขนของมันร่วงไปเป็นหย่อมๆ ซึ่งทำให้เธอรู้ได้ทันทีว่าเจ้าเสือกำลังติดเชื้อและเป็นกลากเกลื้อน Vicky หญิงสาวผู้คอยช่วยเหลือเสือเป็นจำนวนมาก เจ้าเสือมีอาการติดเชื้อจนต้องได้รับการดูแลที่เข้มงวด มันไม่ได้แค่ติดเชื้อ แต่เจ้าเสือตัวนี้ยังขาดสารอาหารอีกด้วย มันมีน้ำหนักเพียงแค่ 13 กิโลกรัม ซึ่งแท้จริงแล้วอายุขนาดนี้มันควรที่จะหนักราวๆ 54 กิโลกรัม เห็นได้ชัดเลยว่าก่อนที่เจ้าเสือจะได้มาเจอกับเธอ มันถูกเลี้ยงดูแบบผิดๆ…
-
คุณแม่มีปัญหา “นมโตไม่หยุด” จนต้องหาทางรักษา เพราะมันทำชีวิตลำบากเหลือเกิน!!
สาวๆ หลายคนอาจจะไม่พอใจที่ตัวเองเกิดมามีขนาดหน้าอกเล็ก นั่นจึงทำให้พวกเธอต้องหาวิธีที่จะเพิ่มขนาดด้วยการทำศัลยกรรมอัพไซส์ จากคัพ A ให้กลายเป็นคัพ D เอาแบบที่ว่าวางระเบิดลงตู้มมมมเดียวจอด!! แต่สำหรับ Sheridan Larkman คุณแม่วัย 23 ปี จาก Trafalgar ในรัฐวิกตอเรีย ประเทศออสเตรเลียคนนี้ เธอกลับรู้สึกไม่พอใจขนาดหน้าอกคัพ K ของตัวเอง จนต้องไปหาทางในการรักษา เนื่องจากมันส่งผลให้เธอใช้ชีวิตลำบากนั่นเอง . วันที่ 27 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์ได้เผยว่า หน้าอกของ Sheridan ได้เริ่มขยายใหญ่ขึ้นเมื่อตอนที่เธออายุเพียงแค่ 8 ขวบ และพออายุได้ 10 ขวบหน้าอกก็ขยายใหญ่ขึ้นอีก (ซึ่งหากเทียบเป็นไซส์หน้าอกก็จะอยู่ที่ประมาณคัพ D) ที่สำคัญดูเหมือนว่ามันจะไม่หยุดเพียงเท่านั้น เพราะหน้าอกเจ้ากรรมดันขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นทำให้ Sheridan แทบจะไม่สามารถหาชุดชั้นในที่พอดีกับขนาดหน้าอกมาใส่ได้เลย ทางด้าน Sheridan ได้ออกมาเผยว่า เธออยากจะวิ่งเล่นกับลูกๆ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดและไม่อยากใช้ชีวิตแบบนี้อีกต่อไปแล้ว ซึ่งตอนนี้เธอกำลังวางแผนที่จะบินไปต่างประเทศ เพื่อเข้ารับการผ่าตัดลดขนาดหน้าอก…
-
หญิงสาวแชร์ประสบการณ์ ชีวิตที่ไม่เรียบง่าย กับการเติบโตมาจากครอบครัวเลสเบี้ยน…
แม้ว่าปัจจุบันจะมีเทรนด์ครอบครัว LGBT หรือ กลุ่มความหลากหลายทางเพศ มีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ทว่าบางครอบครัวก็ยังต้องต่อสู้กับอะไรหลายๆ อย่าง และมันก็อาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างที่คนนอกคิดเสมอไป ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวการเติบโตในครอบครัวเลสเบี้ยนของ Millie Fontana สาววัย 24 ปี ชาวออสเตรเลีย ที่เธอได้ออกมาปราศัยผ่านงานขององค์กร Australian Christian Lobby (องค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มชาวคริสต์ขวาจัด) และทั้งหมดนี้คือคำปราศัยของเธอ เกี่ยวกับความรู้สึกส่วนหนึ่งที่เธอเก็บอัดอั้นมาตลอด “ฉันต้องยอมรับว่าฉันเกิดมาในครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่เป็นผู้หญิง แต่สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกมาตลอดตั้งแต่วัยเด็กนั่นก็คือ… ท้ายที่สุดแล้วเด็กทุกคนย่อมต้องการพ่อ จริงอยู่ที่ฉันได้รับความรักและความอบอุ่นอย่างดีจากคุณแม่ทั้ง 2 แต่ให้พูดเป็นนัยก็คือยังไงพวกเราก็เป็นลูกที่กำพร้าพ่อคนหนึ่งดีๆ นั่นเอง” “ครั้งแรกที่ฉันได้พบกับพ่อที่แท้จริงคือตอนอายุ 14 ปี ฉันกล้าพูดเลยว่ามันส่งผลต่อลักษณะนิสัยอะไรหลายๆ อย่าง และมันก็ทำให้ช่วงวัยเด็กฉันรู้สึกไม่อยากตอบรับใครเข้ามาในโลกของฉัน ฉันสารภาพตามตรงว่ามันมีผลทำให้เรารู้สึกขาดความอบอุ่นอยู่ลึกๆ และมันก็ทำให้ฉันรู้สึกไม่ค่อยอยากอยู่บ้านเท่าไหร่ จนต้องออกไปร่วมกลุ่มสังคมต่างๆ เหมือนว่าเราต้องหาที่พักพิงทางจิตใจ” “ฉันต้องขอพูดตามตรงว่า หากคุณกำลังจะวางแผนมีลูกและคุณเป็นเพศเดียวกันละก็ ทางที่ดีก็ควรจะมีคุณพ่อจริงๆ ที่คอยให้คำแนะนำ และไม่ทำให้เด็กรู้สึกบกพร่องทางสังคมด้วย เชื่อฉันเถอะค่ะว่าเด็กทุกคนพวกเขาไม่รู้หรอกว่าตัวเองเกิดมาในครอบครัวแบบไหน พวกเขาต้องการก็แค่ความรักและการเอาใจใส่จากทั้งพ่อ และแม่ ซึ่งการได้รับการดูแลจากคนทั้งสองเพศจะช่วยทำให้พวกเขารู้สึกมีความอบอุ่นมากกว่า” “ลึกๆ…
-
ส่องภาพ “อลิน-อลัน” สองแฝดสุดคิ้วท์ของขุ่นแม่โอปอล์กับพ่อหมอโอ๊ค น่ารักอะไรขนาดนั้นลู๊กก!!
ต้องยอมรับเลยนะว่า #เหมียวขี้อ้อน เป็นหนึ่งในแฟนคลับตัวยงของน้อง อลิน-อลัน แฝดน้อยสุดคิ้วท์ของคุณแม่โอปอล์ และคุณพ่อหมอโอ๊คเลยละ เพราะทุกๆ ครั้งที่เข้าอินสตาแกรมปุ๊บ ก็ต้องแอบเข้าไปส่องภาพความน่ารักของเด็กๆ ปั๊บ ซึ่งก็ทำให้ได้เห็นพัฒนาการเจริญเติบโตของแฝดคู่นี้อยู่เรื่อยๆ ตั้งแต่แบเบาะ มาจนถึงตอนนี้อลินอลันก็เริ่มพูดได้แล้ว ในครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน ก็จะขอนำภาพน่ารักๆ ของอลินอลันมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน บอกเลยว่าหากใครได้ชมแล้วจะต้องหลงรักพวกเขาอย่างแน่นอน สำหรับโอปอล์ ปาณิสรา และคุณพ่อสุดหล่อโอ๊ค สมิทธิ์ เรียกได้ว่าเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่รักลูกกันแบบสุดๆ เพราะในไอจีของทั้งคู่ต่างก็มีภาพอัพเดทความน่ารักของลูกๆ ให้แฟนๆ ได้ชื่นชมกันอยู่ไม่ขาด แฟนๆ ที่ได้เข้ามาชมภาพของอลินอลันคงจะใจละลายไปกับความสดใส และความไร้เดียงสาของทั้งคู่อย่างแน่นอน วันสบายๆ กับคุณพ่อ หัวฟูอะไรปานนั้นค่ะหนูอลิน สำเนาถูกต้อง ใส่แว่นแล้วจะหล่อมั้ยฮับ สองพี่น้องคู่นี้น่าฟัดเหลือเกิน แบร่ๆ อลันดูง่วงๆ นะลูก หูววว ชุดเซ็กซี่มากกกก หนูชื่ออลินค่ะ…
-
เจ้ากวางป่ากลับมาเยี่ยมมนุษย์ ที่เคยช่วยชีวิตมันเอาไว้ แถมพาลูกแฝดมาอวดโฉมด้วย…
ถ้าหากว่าเราได้เจอเรื่องราวดีๆ ที่น่าจดจำในสถานที่แห่งหนึ่ง เชื่อว่าหากย้อนกลับไปได้ คุณคงอยากจะกลับไปเยือนสถานที่แห่งนั้นอีกสักครั้ง เหมือนดังเช่น เจ้ากวางตัวนี้ ที่ได้กลับมายังสถานที่ที่เคยช่วยเหลือมันไว้เมื่อตอนเป็นเด็ก แถมคราวนี้ยังได้พาลูกๆ ของมันมาด้วย ย้อนกลับไปเมื่อปี 2008 ทางเจ้าหน้าที่ของ Northern Lights Wildlife Society (NLWS) จากประเทศแคนาดา ได้ทำการช่วยชีวิตลูกกวาง 2 ตัวเอาไว้ เนื่องจากแม่ของมันถูกรถชนตาย โดยพวกเขาได้ตั้งชื่อให้พวกมันว่า Ping และ Pong แต่เคราะห์ร้ายที่กวางน้อย Pong ได้ตายจากไปในเวลาต่อมา ทำให้เหลือลูกกวางเพียงแค่เจ้า Ping เพียงตัวเดียว แต่เจ้าหน้าที่ก็พยายามดูแลมันเป็นอย่างดี เพื่อรอวันที่จะได้กลับไปใช้ชีวิตในป่าอีกครั้ง วันเวลาผ่านไป จากกวางน้อยผู้น่าสงสาร ก็ได้เติบโตขึ้นเป็นกวางที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เห็นว่าเจ้า Ping คงจะสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ดังนั้น จึงทำให้พวกเขาได้ส่งมันกลับคืนสู่ป่าดังเดิม ต่อมาในปี 2012 ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้พบว่า เจ้า Ping ได้กลับมายังสถานที่ที่เคยช่วยเหลือมันเอาไว้ตอนเด็กอีกครั้ง แต่รอบนี้มันไม่ได้กลับมาเพียงตัวเดียว…
-
เจ้าแมวจรติดใจมนุษย์ ถูกให้อาหารตั้งแต่อยู่บนบก แล้วก็ว่ายน้ำตามไปถึงเรือกันเลยล่ะ!!
ย้อนเวลากลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม Jason และเพื่อนของเขาได้นั่งเรือออกไปตกปลาที่ทะเลสาบแห่งหนึ่ง ซึ่งในขณะที่เขาและเพื่อนกำลังจับปลาอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้เห็นสิ่งผิดปกติบางอย่างที่กำลังพุ่งตัวมาหา หลายคนอาจจะคิดว่าสิ่งผิดปกติที่พุ่งเข้ามาอาจจะเป็นจระเข้ หรืองู แต่ความจริงแล้วมันคือลูกแมวน้อยที่แสนน่ารักต่างหากล่ะ!! เหตุการณ์นี้เริ่มขึ้นก่อนที่ Jason ก่อนที่เขากับเพื่อนจะขึ้นเรือไปกลางทะเลสาบ จู่ๆ ก็ได้พบกับแมวจรตัวน้อยวิ่งเข้ามาหาเขา “เจ้าเหมียวผอมมากๆ Jason ก็เลยนำแซนด์วิชไก่และป้อนน้ำให้แมวได้กิน” Celeste Kassler แม่ของ Jason กล่าว หลังจากที่ได้รับความรักและความอบอุ่นจากมนุษย์แล้ว เจ้าเหมียวก็ออกไปด้วยความสุข จากนั้น Jason กับเพื่อนก็กระโดดขึ้นเรือเพื่อไปตกปลา เพียงไม่กี่นาทีหลังจากที่เขาได้พายเรือออกไปกลางทะเลสาบ Jason ก็เห็นลูกแมวตัวหนึ่งเกาะอยู่บนกิ่งไม้ กำลังส่งเสียงร้องเบาๆ ตามมาด้วยเสียงตกน้ำ จนทำให้เขาต้องรีบหันไปมองทันที!! ภาพที่เห็นปรากฎว่าเป็น เจ้าเหมียวจรตัวน้อยตัวเดิมกำลังพยายามว่ายน้ำมาหาพวกเขา!! ทั้งสองจึงรีบพายเรือตรงไปยังเจ้าเหมียวเพื่อที่จะช่วยมันขึ้นมาพักอยู่บนเรือ เมื่อทั้งสองได้นำตัวของเจ้าแมวน้อยขึ้นมายังฝั่ง Jason ก็พบว่ายังมีแมวตัวอื่นๆ อีกหนึ่งตัว ซึ่งเขาก็คาดว่าเจ้าเหมียวทั้งสองอาจจะเป็นพี่น้อยกัน แต่ทว่าเขาไม่ได้มีอาหารมากพอที่จะแบ่งให้มันทาน ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือมัน ด้วยนำตัวเจ้าเหมียวกลับบ้าน ภายหลังจากที่ถึงบ้าน คุณป้า และแฟนสาวของ Jason…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ 21 ภาพการเติบโตของน้องหมา เหมือนสูบลมใส่ลูกโป่ง ตัวโตพองลมกันรึยังไง!?
สำหรับคนเลี้ยงหมาแล้วจะรู้กันดีว่าพวกมันนั้นโตเร็วมากๆ จากวันที่รับมาเลี้ยงแรกๆ เป็นลูกหมาตัวน้อยที่ดูเหมือนตุ๊กตา ผ่านไปไม่กี่เดือนก็โตขึ้นมากลายเป็นยักษ์ไปซะแล้ว!? และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมพัฒนาการเติบโตของเหล่ามะหมา ที่เหล่าชาวเน็ตเอามาแชร์กันในเว็บไซต์ Boredpanda แสดงให้เห็นถึงแต่ละช่วยวัยของเหล่ามะหมา ที่เหมือนกับมีคนเอาลูกสูบมาสูบลมให้มันตัวใหญ่ขึ้นเลยทีเดียว 1. ผ่านไปแค่ 6 เดือนเท่านั้น โตไวชะมัด!! 2. ลูกชายของผมโตไวมาก ผ่านไปแค่ 6 เดือนเองนะเนี่ย 3. 9 สัปดาห์ 13 สัปดาห์ และ 21 สัปดาห์ 4. โตขึ้นเรื่อยๆ เลยนะเจ้าหมา (แต่ก็ยังขี้เซาเหมือนเดิม) 5. แม้จะตัวโตแค่ไหน มันก็ยังคงเป็นหมาน้อยสำหรับฉันอยู่เสมอ 6. เจ้า Atlas ตอน 5 เดือนกับ 18 เดือน 7. เจ้า Echo ตอน…
-
เจ้าของสืบจากศพถั่วงอก สงสัยมานานปลูกแล้วไม่ยอมโตสักที และคนร้ายก็คือเจ้าแมว!!
คุณคิดว่าเจ้าขนปุยสี่ขาอย่าง “แมวเหมียว” เป็นสัตว์ที่น่ารัก และไม่เคยขโมยของใครอย่างนั้นหรือ นั่นอาจจะเป็นเฉพาะกับแมวบางตัวเท่านั้น แต่ถ้าหากคุณได้ดูภาพที่เราได้นำมาให้ชมในครั้งนี้ละก็ รับรองว่ามันจะทำให้คุณตาสว่างขึ้นมาทันทีเลยก็ได้นะ เมื่อไม่นานมานี้ ทวิตเตอร์ของผู้ชาวญี่ปุ่นใช้ที่ชื่อว่า @Ryousuke_tanaka ได้โพสต์ภาพของเจ้าเหมียวแสนรักของเขาบนอินสตาแกรม ก็ทำให้บรรดาชาวเน็ตต่างพากันเข้ามากดไลค์ และรีทวิตกันเป็นจำนวนมาก เอ…แสดงว่ามันต้องมีเรื่องราวอะไรบางอย่างแน่ๆ โดยทางผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ ได้เผยว่า เขาได้ปลูกถั่วงอกเอาไว้ และเมื่อมันโต เขาก็จะเก็บมันไปรับประทาน แต่ดูเหมือนว่าถั่วงอกที่เขาปลูกกลับมีปัญหา เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่มันก็ไม่เคยเจริญเติบโต และงอกงามสักที หืมมม…เป็นเพราะอะไรกันนะ!! มันอาจจะหาเหตุผลยากสักหน่อย ว่าทำไมถั่วงอกที่ปลูกถึงไม่โต จนกระทั่งวันหนึ่งความจริงก็ถูกเปิดเผยออก หลังจากที่เขารู้ว่าถั่วงอกที่หายไปนั่น แท้จริงแล้วเป็นฝีมือของเจ้าเหมียวแสนรักที่แอบมากินนั่นเอง โหววว จับได้คาหนังคาเขาแบบนี้ หนีไม่รอดแล้วละเอ็ง เย้ยยยย!! นี่เอ็งเป็นแมวนะไม่ใช่ตัวกินพืช โอ๊ยยยตายๆๆๆ ก็มัวแต่คิดอยู่ตั้งนานว่าทำไมถั่วงอกถึงไม่โตสักที ที่แท้ก็เป็นเพราะอสูรร้ายในบ้านที่เข้ามาแอบกิน ฮร่าๆ ถ้าคิดจะปลูกอีก ก็อย่าลืมเอามันไว้ให้ห่างจากสายตาเจ้าเหมียวของคุณล่ะ ไม่อย่างนั้นความอร่อยของถั่วงอกที่ปลูกขึ้นเองกับมือ อาจจะไม่ทันตกถึงท้องคุณก็เป็นได้ ที่มา : rocketnews24
-
23 ภาพถ่ายชวนยิ้ม “ตอนเด็ก vs ปัจจุบัน” บางคนก็มาไกล บางคนก็ดูไม่เปลี่ยนเลย!!
เมื่อลองเปิดดูในลิ้นชัก บางทีเราอาจจะได้เจอกับภาพถ่ายเก่าๆ ในวัยเด็กๆ ที่ถ่ายกับเพื่อน พ่อแม่ หรือครอบครัว และนั่นก็จะทำให้เราคิดถึงวันเก่าๆ สถานที่เก่าๆ และเรื่องราวดีๆ ที่เคยเกิดขึ้น ซึ่งมันอาจจะทำให้เรายิ้มโดยที่ไม่รู้ตัว และถ้าหากใครที่มีไอเดียเก๋ๆ คุณสามารถถ่ายภาพปัจจุบันของคุณเลียนแบบภาพในอดีตได้ เพื่อจะได้นำมาเปรียบเทียบดูว่าตัวของเรา และสิ่งต่างๆ รอบตัวมันเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน ทั้งหมดนี้คือ 25 ภาพถ่ายในอดีต และปัจจุบันของผู้คน (อาจมีสัตว์มาบางภาพ) เพื่อเปรียบเทียบว่าแต่ละคนเติบโตแล้ว จะมาไกลกันขนาดไหน บางคนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่อาจดูเปลี่ยนไป แต่บางคนก็เหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลย ^^ ภาพในอดีต-ปัจจุบันของคู่พ่อลูก 4 หนุ่มในวัยเด็ก และตอนโต ภาพของเด็กสาวในวัย 6 ขวบ และเมื่อเธอเติบโตขึ้นในวัย 18 แต่รอยยิ้มยังเหมือนเดิม เด็กน้อยที่เคยใฝ่ฝันว่าจะเป็นศิลปิน และในตอนนี้อายุ 17 นี้ เธอก็ได้กลายเป็นศิลปินสมใจแล้ว 15 ปีต่อมา ก็ยังเหมือนเดิม ฮร่าๆ สาวผู้หลงใหลในพาสตามาตั้งแต่เด็กๆ แพนดาน้อยในวัยใสๆ กับภาพปัจจุบันที่ดู….เอิ่ม…
-
ยกนิ้วให้เลย!! สาวชาวลัตเวียใช้เวลา 2 ปี เพื่อช่วยเหลือเจ้าเหมียวจรจัดมากกว่า 350 ตัว
เมื่อได้เห็นแมวจรจัดตัวน้อยๆ ที่อาศัยอยู่เพียงลำพัง เชื่อว่าหลายๆ คนคงอยากจะเข้าไปช่วยเหลือมันอย่างแน่นอน เหมือนดังเช่น Zanda Indriksone สาวใจดีคนนี้ เธอก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ชื่นชอบการช่วยเหลือแมวเหมียวจรจัดเช่นกัน และถึงแม้ว่าเธออาจไม่ได้ศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับสัตว์มากสักเท่าไหร่ แต่ Zanda ก็พอจะมีความรู้เรื่องของเจ้าเหมียวอยู่บ้างจากประสบการณ์ของตัวเอง และในตอนนี้เธอก็ได้ช่วยเหลือแมวไปทั้งหมดกว่า 350 ตัวแล้ว “เมื่อฉันเดินไปตามถนน และเห็นแมว ฉันไม่สามารถที่จะผ่านไปเฉยๆ ได้ สิ่งแรกที่ฉันทำคือ การพาแมวไปหาสัตว์แพทย์ เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจสอบสุขภาพของพวกมัน และสามารถบอกอายุของพวกมันให้ฉันรู้ได้” เธอกล่าว นอกจากนี้ Zanda ยังได้บอกอีกว่า โชคดีที่เธอไม่ได้คอยช่วยเหลือเจ้าเหมียวจรจัดเหล่านี้เพียงคนเดียว แต่ยังมีอาสาสมัครจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่คอยช่วยเหลือ พร้อมทั้งจัดหาบ้านให้พวกมันได้อยู่อาศัยอีกด้วย “ถ้าเจ้าเหมียวไม่เป็นโรค และมีสุขภาพที่ดี แน่นอนว่ามันจะมีโอกาสได้พบกับเจ้าของคนใหม่ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง” Zanda กล่าว และนี่คือโฉมหน้าของเจ้าเหมียวผู้โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือจาก Zanda มาดูกันว่าชีวิตของแต่ละตัวจะเปลี่ยนแปลงไปมากขนาดไหน . . . . . . . . . . . . .…
-
สวนสัตว์เยอรมนี เผยภาพลูกหมีขั้วโลก ‘ส่งสายตาวิ้งๆ’ กระชากใจมนุษย์ไปทั่วโซเชียล!!
หลังจากที่มีภาพของลูกหมีขั้วโลกขนปุยสีขาววัยละอ่อนออกมาเผยแพร่ลงสู่โลกออนไลน์ ก็ทำให้บรรดาชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็หลงใหล และชื่นชอบความมุ้งมิ้งของมันเป็นอย่างมาก จนทำให้มันได้กลายเป็นหมีที่โด่งดังที่สุด ณ วินาทีนั้น และนี่คือภาพของลูกหมีขั้วโลกตัวน้อยที่แสนน่ารัก มันเป็นลูกหมีตัวที่ 3 ของแม่หมี Giovanna ประจำสวนสัตว์เฮลลาบรูนน์ ในกรุงมิวนิก ประเทศเยอรมนี ผู้ที่เคยให้ลูกหมีกำเนิดฝาแฝดที่ชื่อ Nela และ Nobby เมื่อสามปีที่ผ่านมา ส่วนเจ้าลูกหมีตัวน้อยนี้ เพิ่งจะอายุได้เพียง 14 สัปดาห์เท่านั้นเอง แต่บอกเลยว่ามันเป็นหมีที่น่ารัก ทั้งยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสมบูรณ์พูลสุขมากๆ เลยละ สำหรับภาพถ่ายทั้งหมดของเจ้าหมีตัวนี้ ได้ถูกถ่ายขึ้นในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา โดยจากภาพแสดงให้เห็นถึงความน่ารักขณะที่เจ้าหมีน้อยกำลังกระโดดเล่นอยู่บนกินอย่างเพลิดเพลิน และที่สำคัญมันยังเป็นหมีที่ขี้เล่นมากกกก เพราะหลังจากที่กล้องจับภาพไปที่มัน ก็ดูเหมือนว่าเจ้าหมีน้อยจะรู้ตัว รีบหับมาฉีกยิ้มใส่กล้องอวดความสดใสทันที ดู๊ววววดู มีเล่นม้วนหน้าด้วย ทางด้าน Rasem Baban ผู้อำนวยการสวนสัตว์ได้ออกมาเผยว่า “เราเฝ้าดูพัฒนาการของเจ้าลูกหมีตัวนี้มาโดยตลอด และมันก็ทำให้เราเห็นว่า มันมีสุขภาพที่แข็งแรงมาก โดยในตอนนี้มีน้ำหนักตัวกว่า 8.4 กิโลกรัมแล้ว…
-
“การเติบโต” ทั้ง 19 ภาพของเพื่อนตูบสี่ขา ตัวโตมากขึ้นก็ยิ่งทำให้รักมากขึ้นไปอีก
เชื่อว่าหลายๆ คน เติบโตมาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของตนเองตั้งแต่มันยังตัวเล็กๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้เฝ้ามองพวกมันเติบโตจากลูกหมาตัวน้อยๆ จนกลายเป็นเจ้าหมาตัวโตเต็มวัยอันแสนน่ารัก และเมื่อวันหนึ่งที่เราได้มองย้อนถึงเส้นทางการเติบโตของพวกมันแล้วล่ะก็ บางครั้งก็ทำให้พวกเรารู้สึกโชคดีจริงๆ ที่มีพวกมันอยู่ด้วย เจ้าหมาตัวเดิมกับที่นั่งเดิมๆ เพื่อนซี้ที่สุภาพตั้งแต่เล็กยันโต หลายปีผ่านไป ตัวฟูขึ้นเยอะ โตเป็นหนุ่มแล้วนะ ไม่ว่าจะตอนไหน ก็ชอบผจญภัยเสมอ แววตายังเหมือนเดิมเลยนะ จากหมาน้อย ตอนนี้รู้วิธีที่จะอ้อนคนอื่นแล้ว โตแล้วหน้าดุจริงๆ ในที่สุดเขาก็มีหูที่ตั้งตรงซักที เชื่อว่าคงไม่มีใครคิดว่าเขาจะฟูได้ขนาดนี้ อุ้มแทบไม่ไหวแล้ววว บางทีก็ดูจะเกะกะไปนะ ไม่ว่าจะตอนไหน ก็มีมุมฮาๆ มาให้ดูเสมอ ในที่สุดก็ได้รู้ซักทีว่ามุมมองตรงนี้เป็นยังไง จะอายุเท่าไหร่ โตแค่ไหนก็ไม่เลิกอ้อน ท่านอนเหมือนเดิมเด๊ะ อันนี้เหมือนไม่โตขึ้นเลย ยิ่งอยู่ด้วยกันนานเท่าไหร่ มิตรภาพก็แย่งแน่นแฟ้นขึ้นเท่านั้น …
-
17 พัฒนาการของเจ้าเหมียว จากตัวเล็กจ้อย เผลอแป๊บเดียวโตซะแล้ว แต่น่ารักเหมือนเดิมนะ
จากที่ผ่านๆ มา เราได้นำเสนอเรื่องราวของผู้คนที่ออกมารีวิวพัฒนาการความสวย-หล่อของตัวเองกันมาเยอะแล้ว แต่ในครั้งนี้เราจะขอฉีกแนวออกมาซะหน่อย โดยการพาไปชมพัฒนาการเจริญเติบโตของเจ้าเหมียวกันบ้าง โดยภาพของแมวเหล่านี้ บรรดาเจ้าของได้นำมาเผยแพร่ให้ชาวเน็ตได้รับ บางคนก็บอกว่าจากที่เห็นมันเป็นลูกแมวตัวน้อย เผลอแป๊บเดียวก็ตัวโตซะแล้ว ว่าแต่พอโตขึ้นจะเปลี่ยนไปสักแค่ไหนกัน ลองไปรับชมภาพกันเลยจ้า 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 จะว่าไปพวกเอ็งก็โตไวเหมือนกันนะเนี่ย บางตัวก็เปลี่ยนไปมากจนจำเค้าเดิมไม่ได้ ส่วนบางตัวว่าโตแล้วก็ยังทำตัวเป็นเด็กเหมือนเดิม เฮ้อ…แมวหนอแมว ที่มา : brightside
-
เที่ยวไปยิ้มไปกับ Lighthouse Project ธุรกิจ ‘ทัวร์สายเขียว’ มาแรงแหวกกระแสในอเมริกา!!
กลายเป็นเรื่องฮือฮาของรัฐโคโลราโด ประเทศสหรัฐอเมริกาเลยทีเดียว ในสถานที่อื่นๆ อาจจะมีทะเล แม่น้ำ ภูเขา หรืออุทยานธรรมชาติสวยๆ ให้ได้เที่ยวกัน แต่ที่นี่มีโปรเจ็คต์ที่เรียกว่า Lighthouse Cannabis หรือทัวร์สายเขียว ที่กำลังโด่งดังและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก!! งานนี้เพื่อนๆ อาจจะคิดว่าคงจะมีการยิ้มกันทั้งทริปหรือเปล่าอะไรยังไง ซึ่งก็ถูกต้องแหละว่าต้องมีเคลิบเคลิ้มกันบ้าง แต่ทาง Dan Berkowitz ซีอีโอของโครงการนี้ก็ได้กล่าวเช่นกันว่า ‘ทัวร์ของเรานั้นไม่ได้โฟกัสในเรื่องของการบริโภคแต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมไปถึงการเข้าชมต้นกำเนิด กระบวนการต่างๆ และเน้นการให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับกัญชาให้กับเหล่านักท่องเที่ยวด้วย’ เริ่มจากการนั่งรถตู้ที่ทางทัวร์จะไปรับคุณในย่านดาวน์ทาวน์ในเมือง Denver ไปยังศูนย์ที่ใช้ในเพาะพันธุ์กัญชาของพวกเขา ด้วยพื้นที่กว่า 1,200 ตารางเมตรและรวบรวมกัญชาไว้หลากหลายสายพันธุ์กว่า 3,000 ต้นด้วยกัน!!! Lighthouse Cannabis Project ทัวร์สายเขียว บนรถตู้แห่งความหฤหรรษ์ 2 ชั่วโมงก่อนไปถึงศูนย์ใหญ่จากย่านดาวน์ทาวน์ นอกจากกระบวนการต่างๆ แล้ว ก็จะมีวิดีโอเกี่ยวกับประวัติของกัญชาภายในประเทศสหรัฐฯ ตั้งแต่การถูกสั่งห้าม ไปจนถึงการทำให้กัญชากลายเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายในปัจจุบัน ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ในการดูแลของ Waldfogel พนักงานต้อนรับของโครงการนี้ ตั้งแต่เป็นเมล็ดจนพร้อมขายได้ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นกระบวนการทั้งหมดในทัวร์ครั้งนี้ ทางด้านไกด์ทัวร์ของเรา Waldfogel ก็นับเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ได้ผลประโยชน์หลังจากกัญชาถูกกฎหมายเมื่อไม่นานมานี้ แถมล่าสุดทาง Marijuana…
-
ยังจำกันได้ไหม!? ผลงานสุดอลังการของช่างภาพ ที่เลี้ยงลูกและเด็กๆ กับธรรมชาติ ไร้ซึ่งเทคโนโลยี
สำหรับทุกๆ วันนี้ เทคโนโลยีก็เข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตของเราๆ มาก แต่ถ้าใครๆ ยังจำได้ ช่วงเวลาในวัยเด็กของหลายๆ คนที่ไม่มีเทคโนโลยี และใช้ชีวิตกับสังคมร่วมกับผู้อื่น และกับธรรมชาติ มันสุดยอดไปเลยใช่มั้ยล่ะ น่าเสียดายที่เด็กๆ ในยุคนี้อาจไม่เคยได้ประสบพบพานประสบการณ์ดีๆ แบบนั้นอีก กลุ่มช่างภาพจาก Niki Boon Photography เลยมีแนวคิดการถ่ายภาพเกี่ยวกับ ‘Childhood in Raw’ ที่จะนำเสนอภาพของเด็กๆ ที่เติบโตมาโดยไร้เทคโนโลยี จะเป็นอย่างไรลองมาชมกันเลย แถม Niki Boon ตัวช่างภาพเองก็ได้ตัดสินใจเลี้ยงดูลูกของเธอในชนบทของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งห่างไกลเทคโนโลยีอีกด้วย เด็กๆ จะเข้าร่วมกลุ่มสังคมมากขึ้น อยู่กับธรรมชาติ ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน ใช้ชีวิตที่รายล้อมไปด้วยสัตว์ต่างๆ หัดที่จะมีความสุขกับสิ่งรอบข้าง ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์จริงๆ ไม่ว่าอะไรก็เอามาเป็นของเล่นได้หมด พักผ่อนอย่างเต็มที่ จินตนาการไม่มีที่สิ้นสุด อื้อหือออ…
-
รวม 27 ภาพความประทับใจ Then&Now ของเหล่าเจ้าหมา…พวกเอ็งช่างโตไวกันซะเหลือเกิน!!
วันเวลาที่ผ่านไป มักนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่สิ่งต่างๆ สิ่งของก็ผุพังไปตามกาลเวลา ร่างกายที่ค่อยๆ เติบโตขึ้น ความคิดค่อยๆ เปลี่ยนไปตามประสบการณ์ที่ได้ประสบพบเจอ และเวลานี่เองที่เป็นคนพาคนเราให้มาเจอกัน ขณะเดียวกันก็เป็นคนพรากให้จากกันด้วย และเวลานี่ก็ช่างเดินเร็วซะเหลือเกิน บางอย่างเกิดมานานนับ 10 ปีแล้ว แต่ก็รู้สึกเหมือนกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เอง วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมภาพ Then & Now ของเหล่าเจ้าหมาและมนุษย์กัน ซึ่งพวกมันช่างโตไวจนน่าเหลือเชื่อเลยจริงๆ!! 1. เห้ยเองจะโตไวไปแล้วนะ กะพริบตาแว๊บเดียวมาไกลถึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย 2. แหม่ ตอนเด็กเป็นยังไง ตอนโตก็เป็นยังงั้นเลยนะเจ้าหมา 3. พิทบูลตัวเดิมฮับที่เพิ่มเติมน่ะคือความใหญ่ อิอิ 4. หลับแปป อุ้ย ตื่นมาโตขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!? 5. ช่วยบอกทีว่าเอ็งนั่งไทม์แมชชีนมาใช่มั้ยย 6. เจ้านายหนักมั้ยกั๊บ?? 7. อันนี้ดูแล้วจะเป็นฝั่งเจ้ามนุษย์มากกว่านะ ฮร่า 8. เอ็งเป็นหมารึลูกโป่ง สูบลมเข้ารึไง? ตัวถึงได้ใหญ่เอ๊าใหญ่เอา…
-
โตไวกันจริงๆ!! 11 ภาพคนดังในวัยเด็ก กับภาพตอนโตในปัจจุบัน เปลี่ยนไปเร๊วเร็วมากจริงๆ
วันเวลามันช่างผ่านไปเร็วเหลือเกินนะเหมียว ซึ่งถ้าหากลองคิดย้อนกลับไป หลายคนก็คงจะแอบใจหายว่า เฮ้ยยยย นี่เราผ่านช่วงเวลาของการเป็นเด็กมาแล้วหรือนี่ บรรดานักแสดงเด็กเหล่านี้ก็เช่นกัน ซึ่งถ้าหากใครได้ชมภาพยนตร์ดังไม่ว่าจะเป็น Jurassic Park หรือ Star Wars คุณคงจะจำนักแสดงผู้ที่เคยรับบทเป็นตัวเอกของเรื่องได้ ซึ่งในตอนนั้นเรียกได้ว่าพวกเขายังคงเป็นเด็กตัวน้อยๆ น่ารักอยู่เลย และในครั้งนี้เราจะพาคุณไปชมภาพของคนดังตอนเป็นเด็ก กับภาพในปัจจุบันของพวกเขา ที่พิสูจน์ได้ว่าวันเวลานอกจากจะทำให้พวกเขาเติบโตขึ้นแล้ว ยังทำให้สิ่งต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย ไปดูกันเลยว่าจะมีใครบ้าง 1.Dakota Fanning War of the Worlds รับบทเป็น Rachel Ferrier (2005) 2.Bradley Pierce Jumanji รับบทเป็น Peter Shepherd (1995) 3.Kirsten Dunst Jumanji รับบทเป็น Judy Shepherd (1995) 4.Jake Cherry Night at the Museum…
-
สุดเจ๋ง!! เมื่อต้นไม้เจริญเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ‘กระถางต้นไม้’ ก็ทำการเปลี่ยนขนาดตามไปด้วย
เมื่อเราได้ปลูกต้นไม้ไว้ในกระถาง พอมันโตขึ้นแน่นอนว่ากระถางต้นไม้ก็ยังคงเป็นรูปแบบเดิม แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีกระถางต้นไม้ที่สามารถเปลี่ยนขนาด และรูปแบบตามการเจริญเติบโตของต้นไม้ได้ด้วย งานนี้ต้องขอชื่นชมและปรบมือรัวๆ ให้กับ 2 นักออกแบบ Bike และ Began Ayaskan จาก London ที่สามารถสร้างสรรค์กระถางต้นไม้ที่ชื่อว่า ‘Growth’ ขึ้นมา เพื่อให้มันเปลี่ยนขนาดได้ตามการเจริญเติบโตของต้นไม้นั่นเอง ซึ่งกระถางต้นไม้ที่ว่านี้ เป็นงานออกแบบจากศิลปะการพับกระดาษ Origami ของญี่ปุ่น สร้างขึ้นมาเพิ่มพื้นที่ในการพรวนดิน และทำให้รากสามารถชอนไชได้อย่างเป็นระเบียบยังไงล่ะ และที่สำคัญกระถางต้นไม้ ‘Growth’ นี้ ยังเป็นกระถางต้นไม้ที่มีความคงทนกับต้นไม้ที่ปลูกอยู่ในกระถางมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นกระถางต้นไม้ที่เจ๋งที่สุดเลยก็ว่าได้นะเนี่ย หากใครที่ชื่อชอบผลงานของนักออกแบบ 2 คนนี้ ก็สามารถเข้าไปติดตามผลงานของเขาได้ที่ studioayaskan (facebook), studioayaskan (twitter) และ ayaskan (Website) ได้เลย ที่มา : boredpanda
-
2 สิงโตพี่น้องผู้ไม่เคยพรากจากกัน หลังจากถูกช่วยชีวิตไว้จากฉนวนกาซา
เหตุการณ์ที่ฉนวนกาซา ถือเป็นความขัดแย้งที่มีมานาน ซึ่งมันได้ส่งผลกระทบต่อทั้งมนุษย์และสัตว์ต่างๆ การทิ้งระเบิดลงไปได้ส่งผลต่อสวนสัตว์ ราฟาห์ ชายคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในค่ายอพยพ ได้ตัดสินใจซื้อสิงโตสองตัวพี่น้อง โมนาและแม๊กซ์ มา แน่นอนว่าเราไม่ควรเลี้ยงสิงโตไว้ร่วมกับมนุษย์ เนื่องจากความปลอดภัยของมนุษย์ และเพื่อสุขภาพและการเจริญเติบโตของสิงโตเอง ทั้งสองได้อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขาเป็นเวลาหลายเดือน องค์กรฃ่วยชีวิต Four Paws พยายามยื่นมือเข้ามาช่วยด้วย ในระยะเวลาหลายเดือนลูกสิงโตก็ได้เติบโตขึ้น คนที่ช่วยชีวิตพวกมันมาก็รู้ว่าหากปล่อยไว้ ยิ่งทั้งสองโตขึ้นก็จะยิ่งอันตราย ทางองค์กรได้ใช้เวลาเจรจากับเจ้าของอยู่นานหลายสัปดาห์ กว่าที่เจ้าของจะยอมมอบเจ้าสิงโตทั้งสองให้องค์กรเพื่อเลี้ยงดู แต่โชคไม่ดีเลย ที่ผู้ดูแลก่อนหน้านี้ได้เพิกเฉยต่อบาดแผลของพวกมัน ผลวินิจฉัยออกมาว่าทั้งสองเป็นโรคทางผิวหนัง และเจ้าโมนาก็เริ่มมีอาการอ่อนแอและซึมเศร้า นอกจากนี้มันยังมีก้อนเนื้อที่พองขึ้น เนื่องมาจากการอุดตันของเส้นเลือด ทั้งคู่เกือบแย่หลังจากที่ชายแดนอิสราเอลได้ถูกปิดลงระหว่างการเดินทาง แต่โชคยังดีที่ทางจอร์แดนได้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และตอนนี้พวกมันใช้ชีวิตอยู่ที่ศูนย์กักกันสัตว์ และเตรียมตัวที่จะย้ายไปยัง Al Ma’wa Wildlife Sanctuary ซึ่งใหญ่กว่า ผู้ช่วยชีวิตมันตั้งชื่อใหม่ให้พวกมัน คือ Shalom และ Salaam …