Tag: เทรนเนอร์
-
สาวๆ โปรดระวัง!! เทรนเนอร์เกิด “เป้าตุง” ขณะช่วยสาวคนหนึ่งยกบาร์เบลจากด้านหลัง!
เรื่องนี้อาจเป็นอุทาหรณ์สำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบการเข้าไป ออกกำลังกายในยิม ได้เป็นอย่างดี… คลิปวิดีโอหนึ่งถูกถ่ายมาจากยิมออกกำลังกายไม่ทราบสถานที่แน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเป็นประเทศใดประเทศหนึ่งในเอเชีย ในวิดีโอแสดงให้เห็นว่า สาวมัดผมคนหนึ่งกำลังออกกำลังกายอยู่กับบาร์ยกน้ำหนัก พร้อมด้วยผู้ที่คาดว่าน่าจะเป็น เทรนเนอร์ ประกบคอยช่วยเหลืออยู่ด้านหลัง ในวิดีโอ ท่ายกน้ำหนักของสาวคนนี้คือท่า สคว็อต ซึ่งเธอจำเป็นต้องย่อตัวลงและยืดตัวขึ้นซ้ำๆ แต่ขณะที่เธอกำลังย่อและยืดตัวอยู่นั้น ภายในคลิปกลับแสดงให้เห็นบางสิ่งที่สะดุดตาผู้ชมขึ้นมาเสียอย่างนั้น ต่อให้ไม่ได้ตั้งใจมองก็คงจะเห็นได้ไม่ยากว่า เป้ากางเกง ของเทรนเนอร์นั้นนูนแหลมขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ชาวเน็ตที่ผ่านมาเห็นคลิปวิดีโอนี้ถึงกับวิจารณ์กันไปต่างๆ นานา ขณะที่เป้ากางเกงของเทรนเนอร์นั้นลุกชูชันขึ้นมาราวกับมีชีวิต หญิงสาวก็ยังคงทำท่าสคว็ตต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ร่างกายของทั้งสองนั้นสัมผัสกันหลายครั้ง ไม่แน่ใจว่าผู้หญิงในคลิปดังกล่าวรู้ตัวหรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม ภาพที่ออกมานั้นถือว่าเป็นภาพที่ไม่น่าจรรโลงใจเท่าใดนัก เชิญดูคลิปกันได้เลย… หลังจากคลิปนี้แพร่งพรายออกไปสู่โลกออนไลน์ ชาวเน็ตต่างเข้ามาให้ความเห็นกันมากมาย เช่น… “ผมคิดว่าเธอเองก็สนุกกับมันนะ” “เธอไม่รู้ตัวเหรอ ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนเลย” “เธอโยกตัวเข้าหามันเสียด้วยนะนั่น” “ดูดีๆ มันเป็นแค่รอยยับของกางเกงเท่านั้นเอง” และ “เจอแบบนี้ เป้าไม่ตุงสิแปลก” อย่างไรก็ตาม หากใครไม่ต้องการพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ยามเข้าไปออกกำลังกายกับเทรนเนอร์ในยิมล่ะก็ ให้ระวังตัวเองเอาไว้เสมอ ไม่อย่างนั้นอาจเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้ ที่มา: ck101…
-
หนุ่มออทิสติกโดนเทรนเนอร์ดูถูก ไปเรียนกฎหมาย 2 ปี กลับมาฟ้องร้องจนชนะคดี!!
การถูกแบ่งแยก (Discrimination) ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้ในสังคมตะวันตก เพราะถือว่าเป็นการลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ (Dehumanization) ดังนั้นผู้ที่ดูถูกหรือเหยียดผู้อื่น อาจถูกกฎหมายลงโทษจนทำให้เสียทั้งงาน เสียทั้งเงินเลยทีเดียว อย่างเช่นเรื่องราวของหนุ่มคนนี้ ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า Ketan Aggarwal จากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เหตุเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2015 เขาได้สมัครเป็นสมาชิกของฟิตเนส Virgin Active เพื่อมาออกกำลังกายเช่นคนทั่วไป ด้วยความที่เขามีอาการออทิสติก ทำให้เขามีการตอบสนองค่อนข้างช้า แต่ด้วยความหงุดหงิดหรือเหตุอันใดไม่ทราบได้ ดันมีผู้ฝึกสอนคนหนึ่งด่าเขาว่า “โง่” หลายต่อหลายครั้ง… เมื่อเขาได้ยินดังนั้น เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้ทำการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังบริษัทแม่ของ Virgin Active แต่ทางบริษัทกลับมองข้ามคำร้องเรียนของเขา ดังนั้นจึงเป็นเหตุทำให้เขารู้สึกว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อตอบโต้บ้าง… หลังจากเหตุการณ์นั้น เขาก็ได้ใช้เวลา 2 ปีในการศึกษากฎหมายด้วยตนเอง ผ่านการอ่านหนังสือกฎหมายในห้องสมุดและเรียนรู้เพิ่มเติมจากตำราออนไลน์ เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว Ketan Aggarwal ก็ได้ทำการยื่นฟ้องร้องกรณีของเขาต่อศาลทันที… เขาได้ใช้ความรู้ทางกฎหมายของเขา พิสูจน์ความผิดของพนักงานดังกล่าวต่อศาลได้สำเร็จ สุดท้ายทาง Virgin Active ต้องจ่ายค่าปรับให้กับเขาเป็นเงิน 1,390…
-
ฟิตเนสในตีม ‘ซาดิสม์-มาโซคิสม์’ อยากจะมีรูปร่างดี ต้องให้บังคับกันขนาดนี้เลย!?
“ปีใหม่ ฉันจะผอมให้ได้” นี่คงเป็นอีกหนึ่งปณิธานที่ใครหลายๆ คนได้ตั้งไว้เป็นหนึ่งในภารกิจที่จะทำให้ได้ในปีนี้ แต่พอเริ่มไปได้ไม่กี่วันก็ต้องถอดใจซะแล้ว ก็กับข้าวมันอร่อยจะให้ห้ามใจยังไงไหว ถ้าการลดน้ำหนักด้วยตัวเองมันไม่ได้ผลก็ต้องใช้วิธีใหม่ในการบังคับตัวเอง สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีในการทำให้ตัวเองมีแรงบรรดาลใจในการลดน้ำหนักล่ะก็ ลองมาดูยิมแบบใหม่ของที่ญี่ปุ่นกันดู Himitsu no Gym เป็นยิมที่ตั้งอยู่ในย่านชินจุกุ ยิมแห่งนี้มีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือการเทรนแบบพิเศษจากเทรนเนอร์พิเศษ ที่หนุ่มๆ ทั้งหลายคงจะต้องอยากสมัครสมาชิกกันรัวๆ ความพิเศษที่ว่านี้ก็คือการจัดห้องออกกำลังกายในธีมซาดิสม์ มาโซคิสม์ แหม่ แค่คิดก็ซี้ดซ้าดซะแล้ว นอกจากนี้ยังมีเทรนเนอร์สาวที่คอยดูแลแบบตัวต่อตัว เทรนแบบเน้นๆ ใครที่ไม่เชื่อฟังเทรนเนอร์ล่ะก็เจอดีแน่ ในห้องออกกำลังกายแห่งนี้จะมีอุปกรณ์สำหรับสายซาดิสม์ มาโซคิสม์เอาไว้ให้ดูทั้งโซ่ แส้ กุญแจมือ มาครบทุกอัน และอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับโชว์เท่านั้น มันเอาไว้ใช้จริงๆ สำหรับลูกค้าที่ยินยอมและเต็มใจจะถูกเทรนแบบพิเศษที่จัดขึ้นโดยทางยิม เทรนเนอร์สาวจะดูแลคุณเป็นอย่างดีด้วยการบันทึกน้ำหนักก่อนเข้าคอร์ส ดูแลเรื่องโภชนาการและสอนวิธีการออกกำลังกายเพื่อให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่ถ้าคุณลูกค้าดื้อไม่ยอมทำตามหรือน้ำหนักไม่เป็นไปตามคอร์สที่วางไว้ก็ต้องมีการกระตุ้นกันเล็กน้อยด้วยเหล่าอุปกรณ์ทั้งหลายที่แขวนไว้ในยิม บางครั้งเทรนเนอร์ก็จะใช้เหล่าอุปกรณ์ในการทรมานช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ามีแรงฮึดและมีอารมณ์ในการออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น หลายคนอาจจะอยากรู้ว่าวิธีการเทรนแบบพิเศษนี้มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง เริ่มต้นเลยก็ต้องมีการอบอุ่นร่างกายยืดเส้นยืดสายเรียกเหงื่อกันเสียหน่อย จากนั้นเทรนเนอร์ก็จะเริ่มหยิบเอาอุปกรณ์การทรมานมาใช้ทีละชิ้น เพื่อกระตุ้นให้คุณลูกค้ามีแรงฮึกเหิม หลังจากการอบอุ่นร่างกายพอสมควรแล้ว เทรนเนอร์ก็จะพาเข้าสู่ขั้นของการคาร์ดิโอ หากว่าคุณลูกค้าเหยาะแหยะก็จะโดนหวดด้วยแส้ทันที ขั้นต่อไปก็เข้าสู่ขั้นตอนของการเวทเทรนนิ่ง ขั้นตอนนี้เทรนเนอร์อาจจะมีการสาดน้ำตาเทียนใส่เล็กๆ น้อย เพื่อความสะใจของคุณลูกค้า…
-
รู้จักกับ Jean Titus นักฟิตเนสเทรนเนอร์ผิวสีวัย 50 ปี แหม๊ ลุงล่ำบึ้กซะจริงจริ๊งงง!!
บางคนอาจจะคิดว่า เมื่อเราแก่ตัวลงไป เราอาจจะไม่ได้แข็งแรงเหมือนอย่างตอนนี้ แต่รู้หรือไม่ว่าสุขภาพร่างกายของเราในอนาคตมันเป็นผลจากการกระทำของเราในปัจจุบัน นั่นก็หมายความว่าถ้าเราดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ในอนาคตเมื่อแก่ตัวไปเราก็จะมีร่างกายที่แข็งแรง ตรงกันข้ามหากเราไม่ดูแลร่างกาย ในอนาคตเราก็อาจจะมีร่างกายอ่อนแอเจ็บป่วยง่าย Jean Titus เทรนเนอร์หนุ่มผิวสีวัย 50 ปีจากกรุงวอชิงตัน ดีซี ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงบึกบึนจนอิชั้นใจจะละลาย เขาได้ออกมาเปิดเผยเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับการดูแลร่างกายของตัวเขาสำหรับคนที่อยากจะมีร่างกายแข็งแรงเหมือนเขา เริ่มแรก Jean บอกว่าเดิมทีนั้นเขาเป็นคนที่ผอมมาก เขากลัวว่าเมื่อแก่ตัวไปเขาจะกลายเป็นคนขี้โรคจึงได้เริ่มหันมาดูแลสุขภาพ ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร ในเรื่องอาหารการกิน เขาได้จำกัดแคลอรีไว้ที่ 3,400 แคลอรีต่อวัน ซึ่งเขาได้คำนวณมาแล้วว่าเพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน โดยเขาจะแบ่งให้ได้ประมาณ 3-5 มื้อต่อวัน ด้านการออกกำลังกาย เขาจะออกกำลังกาย 5 วันต่อสัปดาห์ ด้วยการเล่นเวทเทรนนิ่ง อีกทั้งเขายังเป็นนักกีฬายกน้ำหนักที่เคยยกได้สูงสุด 200 กิโลกรัม ทำให้เขามีความแข็งแรงเป็นอย่างมากและเขาก็ชื่นชอบมันเป็นชีวิตจิตใจ . . เห็นแบบนี้หลายคนคงแทบจะไม่เชื่อว่าเขานั้นอายุ 50 ปีแล้ว ร่างกายที่แข็งแรงบวกกับกล้ามแน่นๆ แบบนี้ทำให้สาวๆ สมัครเป็นแฟนคลับและติดตามเขาในอินสตาแกรมถึง 130,000…
-
เจ้าแมวหลงทางโต๋เต๋เข้ามาในยิม ยึดเป็นที่มั่นเอาไว้ สร้างแรงกระตุ้นให้มนุษย์ออกกำลัง!!
เรื่องราวของเจ้าเหมียวหลงทางที่บังเอิญหลุดเข้ามาในห้องออกกำลังกายของยิมแห่งหนึ่ง แทนที่มันจะกลัวคนและหนีออกไป แต่เจ้าเหมียวกลับอยู่ที่ยิมแห่งนี้ และคอยเป็นแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนมนุษย์ของมัน เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาเจ้าแมวลายเสือตัวหนึ่งได้หลุดเข้ามาในยิม พร้อมกับเดินวางมาดในระหว่างที่ผู้มาใช้บริการคนอื่นๆ กำลังออกกำลังกายอยู่ และนี่คือโฉมหน้าของเทรนเนอร์คนใหม่ “เจ้าเหมียวหลุดเข้ามาในยิมของผมและทำให้ผมคึกคักขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอาทิตย์ที่เหนื่อยมาก ถึงแม้ว่าผมจะไปที่ยิมแต่ก็ไม่อยากจะทำอะไรเลย” ชายหนุ่มเจ้าของยิมกล่าว การปรากฎตัวของเจ้าเหมียวทำให้บรรยากาศในห้องออกกำลังกายคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง เจ้าของยิมรู้สึกที่ดีใจที่มันทำให้ทุกคนมีความสุข เขาจึงตัดสินใจที่จะรับมันไว้ดูแล เพราะนอกจากนี้มันยังช่วยจัดการกับพวกหนูในโรงยิมได้อีกด้วย เจ้าเหมียวกลายเป็นเทรนเนอร์คนใหม่ของที่นี่ พวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า LB มันชอบที่จะเดินไปรอบๆ ยิมและทำเหมือนกับว่าที่นี่เป็นบ้านของมัน “ผมชอบเจ้าเหมียวตัวนี้มาก มันอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ผมมีความสม่ำเสมอในการออกำลังกายในสัปดาห์นี้ก็ได้” เจ้าของยิมกล่าว เจ้า LB ชอบที่นี่มากในระหว่างที่ทุกคนออกกำลังกาย มันจะเป็นยามคอยจัดการกับพวกหนูที่อยู่ในยิม นอกจากนี้การมีเจ้าเหมียวอยู่ในยิม ยังเป็นแรงกระตุ้นให้ทุกคนที่มาออกกำลังกายที่นี่อีกด้วย บางครั้งเจ้าแมวเหมียวจะเข้ามาเรียกร้องความสนใจจากคนในยิม มันชอบที่จะให้พวกเขากอด และบางครั้งมันก็จะออกไปล่าหนูเพื่อเป็นการออกกำลังกายให้ตัวเองบ้าง ตอนนี้ LB กลายเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่เรียบร้อยแล้ว เหมือนกับว่าเจ้าเหมียวเข้ามาช่วยเรา “เจ้าเหมียวทำให้ผมมีแรงฮึดและชอบมาที่ยิม ที่จริงผมเป็นคนขี้เกียจมาก แต่ผมคิดว่าผมรักเจ้า LB มากกว่า” ชายหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย เจ้า LB เทรนเนอร์คนใหม่ของที่นี่…
-
Nick Johnson เทรนเนอร์สุดโหด ผู้สามารถจับโปเกม่อนได้ครบ 142 ตัวเป็นคนแรกในอเมริกา!?
ใรขณะที่บางประเทศกำลังจะเปิด บางประเทศก็พึ่งเปิดได้ไม่กี่สัปดาห์ หรือบางประเทศที่กำลังมีข่าวคราวจะเปิดแต่ก็ไม่เปิดกันสักที ล่าสุดข่าวคราวแห่งความสิ้นหวังก็ได้มาเยือนเหล่าเทรนเนอร์แล้ว เพราะชายหนุ่มคนนี้ได้จับโปเกมอนทุกตัวที่เปิดให้จับในพื้นที่ของเขาเรียบร้อยแล้วล่ะ!!! Nick Johnson ชายหนุ่มที่ประกาศตัวว่าสามารถจับโปเกมอนได้หมดทุกตัวในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยในเกม Pokemon GO นั้นปัจจุบันมีโปเกมอนให้จับทั้งหมด 151 ตัว (จาก Pokedex ที่ปรากฏในตัวเกม) ซึ่งมี 142 ตัวเท่านั้นที่สามารถจับได้ในสหรัฐอเมริกา โฉมหน้าของ Nick Johnson เทรนเนอร์วัย 28 ปี ที่เดินวันละราวๆ 12 กิโลเมตรเพื่อจับโปเกมอนมาเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์เต็ม ตอนที่เขาจับโปเกมอนได้ครบนั้น ตัวละครของเขาเลเวล 31 จับโปเกมอนไปแล้วกว่า 4,629 ตัว (609 ตัวในนั้นเป็น Pidgeys ล้วนๆ -*-) ฟักไข่โปเกมอนกว่า 303 ฟอง รวมระยะทางเดินของเขาทั้งหมดกว่า 153 กิโลเมตร และมากไปกว่านั้น น้ำหนักเขาลดถึง 5 กิโลกรัมเลยล่ะ!!! ซึ่งถ้าใครจะหาว่าเขาไม่มีงานการทำล่ะก็ ผิดถนัด!!! เขาทำงานวันละเกือบๆ…
-
ความเดือดร้อนเมื่อแถวบ้านคุณเป็นที่ ‘ฟาร์มโปเกมอน’ เทรนเนอร์มาวันละเป็นพันคน!!
หลังจากที่ ‘Pokemon Go’ เปิดบริการให้เหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายได้ทำตามความฝันกลายเป็นโปเกมอนมาสเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ไม่นาน ก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และเหตุการณ์นี้ก็เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีเอาซะเลยเพราะมันสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก จนเดือดร้อนไปถึงตำรวจเลยทีเดียว!! เรื่องมีอยู่ว่าที่ Rhodes แถบชานเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนคร Sydney ในประเทศออสเตรเลีย เป็นที่พักอาศัยของคนจำนวนมากทั้งบ้านและอพาร์ทเม้นท์ต่างๆ มากมาย ผู้คนทั้งหลายใช้ชีวิตกันอยู่อย่างสงบเงียบ ได้พักผ่อนหย่อนใจในที่พักอาศัยของตัวเอง แต่หลังจากที่ Pokemon Go ได้เปิดให้ใช้บริการ เลห่าเทรนเนอร์ทั้งหลายก็ออกตามล่าหาโปเกมอนกันและก็พบว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่มีโปเกมอนหายากเกิดเยอะมากกก!! และที่สำคัญโปเกมอนแต่ละตัวที่จับได้ที่นี่จะมีค่าพลังต่อสู้ที่สูงมากๆ อีกด้วยเช่นกัน จนได้รับการขนานนามว่าเป็นแหล่ง ‘ฟาร์ม’ โปเกมอนเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นานเมื่อมีคนมาพบเข้าเรื่อยๆ ก็ทำให้จำนวนเหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายหลั่งใหลกันเข้ามาเพื่อที่จะมาจับโปเกมอนหายากกันที่นี่ และสาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าสถานที่แห่งนี้มีจุด PokeStop ถึง 3 จุดที่ตัดผ่านกัน นั่นหลายความว่ามันจะต้องมีโปเกมมอนให้จับมากมายมหาศาลเลยล่ะ แน่นอนว่าเหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายต้องเดินทางเพื่อที่จะมาจับมันเป็นการเพิ่มเลเวลตัวละครให้กับตัวเอง โดยผู้คนที่อยู่อาศัยที่นี่เล้าให้ฟังว่าในวันช่วงแรกๆ นั้นมีคนมาประมาณ 100 กว่าคนเท่านั้นเอง แต่หลังจากนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหลัก 500 จนตอนนี้มากกว่า 1,000 คนแล้ว และแน่นอนว่ามันมีปัญหาแน่นอน ทั้งในเรื่องของเสียงที่ดังจนผู้อยู่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นต้องเดือดร้อนเพราะว่าเหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายผลัดกันมาไม่ซ้ำหน้าเลย ทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นอยู่อย่างนี้ทั้งวัน นอกจากนี้ก็ยังมีเสียงรถเข้าออกบริเวณนี้ตลอดเวลา แถมยังมีขยะ…
-
คุณแม่เทรนเนอร์โต้ชาวเน็ต การออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อลูกในท้อง!!
เคยได้ยินข่าวคราวกับคนดังในประเทศไทยที่ออกกำลังกายขณะตั้งครรภ์แล้วโดนชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงลบเนื่องจากเป็นห่วงว่าจะเกิดอันตรายต่อเด็กในท้องบ้างมั้ยเอ่ย!? อ่ะ ประเด็นนั้นก็หายไปตามกาลเวลา และล่าสุดที่เหมียวเลเซอร์ เคยนำเสนอไปซึ่งกรณีนี้เป็นดราม่าของคุณแม่เทรนเนอร์ชาวออสเตรเลียที่ตั้งครรภ์เหมือนกัน Chontel Duncan เทรนเนอร์ชาวออสเตรเลีย ตั้งครรภ์ท้องท้องเป่งจนได้ที่ แต่เธอก็ยังคงออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยด้วย เพราะเธอมั่นใจว่าสิ่งที่เธอทำจะส่งผลดีต่อทั้งตัวเธอเองและลูกในท้อง อีกทั้งยังยืนยันว่าไม่ส่งผลกระทบต่อลูกอย่างแน่นอน!! ‘ผู้คนส่วนใหญ่คิดว่าฉันกำลังทำร้ายลูกในท้อง แต่รับรองได้ว่ามันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ ฉันรู้ว่ามันเป็นเรื่องยากกับการที่จะอุ้มท้องแล้วทำในสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วก็มีผู้หญิงหลายคนที่อุ้มท้องแบบฉันเหมือนกัน และจะออกกำลังกายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ฉันจะถ่ายภาพเก็บความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายด้วย ฉันอาจจะทำให้หลายคนถึงกับหัวเสีย แต่ฉันไม่แคร์ ผู้คนควรที่จะได้เห็นความหลากหลายของการอุ้มท้อง และจำเอาไว้ว่าที่คุณแม่มือใหม่ต้องเตรียมพร้อมทั้งด้านสภาพร่างกายและจิตใจก็เพื่อเตรียมรับมือกับความท้าทายที่กำลังจะมาถึง’ เธอบอกว่าไปตรวจสุขภาพกับคุณหมอมาแล้วและยืนยันว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไม่ได้มีอันตรายต่อลูกในท้อง ซึ่งตอนนี้ Chontel และสามี Sam ได้วางแผนต้อนรับสมาชิกใหม่เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีกำหนดคลอดในวันที่ 30 มีนาคมที่จะถึงนี้แหละ หวังว่าลูกของเธอจะมีสุขภาพดีอย่างที่หวังเอาไว้นะ ที่มา : unilad
-
คุณแม่สาวชาวออสเตรเลียถึงแม้จะต้องท้องอยู่ แต่ก็ยังคงรูปร่างฟิตแอนด์เฟิร์มแบบสุด!!
ว่ากันว่าในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งท้องนั้น ลักษณะของร่างกายจะเปลี่ยนไปอย่างมาก แบบว่าจากที่เคยผอมก็จะอ้วนอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ไม่สามารถทำกิจกรรมออกแรงต่างๆ ได้เหมือนอย่างเคย เพราะดูเหมือนจะเป็นการฝืนร่างกายและอาจจะทำให้ลูกในท้องได้รับผลกระทบกระเทือนด้วย แต่สำหรับคุณแม่ชาวออสเตรเลียนามว่า Chontel Duncan กลับมีความคิดที่แตกต่าง ด้วยความที่ว่าเธอเป็นเทรนเนอร์ ถึงแม้ว่าจะตั้งท้องอยู่ แต่ก็ยังคงออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายมีความฟิตอยู่เสมอ แต่ก่อนอื่นต้องบอกไว้ว่าย้อนกลับไปปีค.ศ. 2009 เธอเคยเป็นผู้เข้ารอบสุดท้ายในการประกวด Miss Australia ด้วยนะจ๊ะ อื้อหือ!! ว่าแล้วเชียว ราศีความงามยังจับอยู่เลยนะเนี่ย จากตอนแรกเธอกับเพื่อนของเธอ Nat ได้ลองเปรียบเทียบขนาดครรภ์กัน โดยที่ Nat ตั้งท้องก่อนเธอไปประมาณ 4 สัปดาห์ ส่วน Chontel เองก็เพิ่งจะตั้งท้องได้หมาดๆ เธอยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ และเรื่องอาหารการกิน (โดยเฉพาะอันนี้ เธอชอบมาก) ราวกับท้องที่เพิ่มขึ้นมานั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด เพราะเธอรู้ว่าควรจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้กระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะตะบี้ตะบันออกกำลังกายเพื่อรูปร่างที่สวยงามนะ เมื่อถึงจุดที่ควรจะต้องหยุดออกกำลังกายหนักแล้ว เธอก็หยุดทันที เกรงว่าจะเสี่ยงอันตรายต่อตัวเด็กในท้อง …