Tag: เบอร์เกอร์
-
เบอร์เกอร์คิง ‘มอบสิทธิ์กินฟรี’ ให้เจ้าหมาที่ป่วยใกล้ตาย ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ของมัน
เมื่อกล่าวถึง ‘แฮมเบอร์เกอร์’ คงเป็นอาหารโปรดของใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน!! เช่นเดียวกับเจ้าหมาตัวนี้ที่ชื่นชอบการทานแฮมเบอร์เกอร์เป็นชีวิตจิตใจ แต่อย่างที่รู้กันว่าคนเลี้ยงหมาเลี้ยงแมว จะไม่ให้อาหารคนกับสัตว์เลี้ยงของตัวเองกิน เพราะอาจจะทำให้พวกมันป่วยได้ เจ้า Cody เป็นหมาพันธุ์ Boxer-Labrador อายุ 10 ปี เมื่อ 2 เดือนก่อน เจ้าของพามันไปตรวจและพบว่ามันป่วยเป็นโรคมะเร็งร้าย และจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่ถึง 3 เดือน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่ามะเร็งลามไปได้เร็วแค่ไหน ครอบครัวของมันจึงตัดสินใจที่จะมอบความสุขให้กับมันในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ “วันหนึ่งเราไปที่ร้านเบอร์เกอร์คิงเพื่อซื้อเบอร์เกอร์ให้กับเจ้า Cody และปรากฏว่ามีพนักงานคนหนึ่งใจดีมาก เขาถามว่าจะซื้อเบอร์เกอร์ไปทำไม เราก็เลยเล่าเรื่องราวของมันให้ฟัง” “หลังจากที่จ่ายเงินเสร็จแล้วพนักงานคนนั้นก็บอกให้เรารอก่อน จากนั้นเธอก็ไปพูดกับผู้จัดการร้าน ก่อนจะมาขอชื่อเราไป แล้วเธอก็บอกว่าจากนี้ไปให้มารับเบอร์เกอร์ฟรีสำหรับเจ้า Cody ได้เลย” “ผมไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เพราะมันมีความหมายกับเรามาก ครอบครัวของผมรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ต้องขอขอบคุณพนักงานเบอร์เกอร์คิงที่สาขาถนน Alexis ในเมือง Toledo รัฐโอไฮโอ จริงๆ” Alec Karcher เจ้านายของ Cody วัย 22…
-
เผยเทคนิคถ่ายภาพ ‘อาหารบินได้’ ไม่ยากอย่างที่คิด แค่มีสลิงบางๆ และเวลาว่าง!!
เวลาที่เราเห็นภาพโฆษณาอาหารอันน่าตื่นเต้น ที่แยกส่วนประกอบของอาหารออกมาทีละส่วน และนำเข้ามาประกบกันในช่วงเวลาเพียงเสี้ยววินาที แถมจัดเรียงตัวกันได้อย่างสวยงาม หลายคนคงสงสัยในแง่ความเป็นจริงแล้วมันจะเป็นไปได้ขนาดนั้นเชียวหรือ!? แน่นอนว่าทั้งหมดนี้ คือการจัดองค์ประกอบภาพถ่าย ฉะนั้นแล้วจะต้องมีการวางแผนองค์ประกอบแต่ละส่วนมาเป็นอย่างดี ถ้าให้เป็นภาพนิ่งก็จะสบายหน่อย เพราะคุณจะใช้อุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่าง บวกกับทักษะการตัดต่อและเวลาอีกเล็กน้อย… เทคนิคอาหารบินได้ ลอยกลางอากาศนั้น ถูกเปิดเผยโดยช่างภาพ Skyler Burt เขาได้อัดวิดีโอคลิปสอนถ่ายภาพความยาวประมาณ 5 นาที โดยยกตัวอย่างโฆษณาเบอร์เกอร์ ที่เผยให้เห็นส่วนประกอบทั้งหมดของอาหารที่แยกออกจากกัน ทั้งนี้การเริ่มต้นถ่ายภาพที่สมบูรณ์จะต้องวางแผนไว้ 3 ขั้นตอน คือ ภาพของส่วนอาหาร จะต้องขึงกับสลิงบางใส นำแต่ละชิ้นส่วนมาวางบนสลิง แล้วถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ส่วนขั้นที่ 2 คือการถ่ายภาพ บุคคลนำจานมาวางรองอาหาร แสดงลักษณะเหมือนรออาหารตกลงสู่จาน และขั้นตอนที่ 3 ก็คือการถ่ายภาพพื้นหลังเพียงอย่างเดียว เมื่อได้ภาพทั้ง 3 แบบแล้ว จึงนำมาเข้าสู่กระบวนการตัดต่อ ลบเส้นสลิงออก และนำภาพถือจานและภาพพื้นหลังมาผสานกัน จึงจะได้ออกมาเป็นภาพถ่ายอาหารบินได้อย่างสมบูรณ์ ภาพสุดท้ายที่ผ่านกระบวนการตัดต่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว…
-
ข้าเซ็งหลาย… บ่าวขี่ม้าต่อคิว “แมคฯ ไดรฟ์ทรู” ไยเจ้าไม่ใยดี เทียบเท่าม้าเหล็กไม่ได้รึ!?
บริการเพื่อความสะดวกสบายของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด สำหรับลูกค้าที่ไม่ว่างพอจะเข้าไปต่อคิวสั่งอาหารในร้าน บริการไดรฟ์ทรูก็เกิดมาเพื่อตอบสนองในส่วนนี้ โดยที่ลูกค้าไม่จำเป็นจะต้องลงมาจากยานพาหนะเลยแม้แต่ก้าวเดียว แต่ด้วยความที่โลกของเรามาถึงยุคสมัยที่ไม่มีใครใช้ม้าเป็นยานพาหนะแล้ว มีเพียงแต่ม้าเหล็กที่เคลื่อนตัวเข้าคิวต่อแถวรับอาหารที่ตัวเองสั่ง แล้วม้าจริงๆ ล่ะ? จะสามารถเข้ามาต่อคิวได้เหมือนเช่นยานพาหนะอื่นๆ ได้หรือไม่ ทำไมล่ะ? ข้าจะขับม้ามาสั่งอาหารไม่ได้หรือ? ชายหนุ่มรูปไม่เชิงงามและไม่ใช่เจ้าชาย ถูกพบในบริเวณให้บริการไดรฟ์ทรูของร้านแมคโดนัลด์แห่งหนึ่ง โดยที่เขาก็พยายามเข้าคิวต่อแถวเหมือนกับคนอื่น แต่กลับถูกพนักงานของทางร้านปฏิเสธให้การบริการ ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาต้องลงจากม้าเสียก่อน… ได้ยินแล้วก็รู้สึกเสียใจนิดๆ Jason Barrett วัย 43 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ชายขี่ม้ามาเข้าคิวไดรฟ์ทรู กำลังเข้าคิวต่อแถวเพื่อจะสั่งชุดอาหารเที่ยง แต่ชายคนดังกล่าวกลับถูกบังคับและปฏิบัติในระดับสองมาตรฐานจากทางร้านแมคโดนัลด์ ในชุมชนซัฟฟอล์ก ประเทศอังกฤษ “ผมต้องใช้เวลาเข้าสั่งอาหารถึงสองครั้ง เพราะคุณจะไม่ได้เห็นแบบนี้ทุกวันหรอก แต่เท่าที่ผมมองไปรอบๆ ไม่เห็นว่าจะมีใครรู้สึกถูกรบกวนเลย ผมคิดว่าผู้คนก็คงเคยชินไปแล้วล่ะ” รอข้าอยู่ที่นี่นะ ข้าจักไปไม่นานนัก… “เขาเข้าคิวเพื่อจะสั่งอาหารและพนักงานก็ได้ออกมาพูดคุยกับเขา ด้วยใจความว่า ‘คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ เพราะบริการไดรฟ์ทรูนี้จะให้บริการเฉพาะรถยนต์เท่านั้น’ เพราะพนักงานบอกว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้ เขาก็เลยไปจอดม้าของเขาแล้วก็เดินเข้าร้านเพื่อไปสั่งกาแฟแก้วเดียวแทน” Jason เห็นว่าชายคนนี้จำใจขับเคลื่อนม้าไปยังลานจอดรถ กระโดดลงจากหลังม้าและผูกเชือกเพื่อจอดม้า ก่อนที่จะเดินเข้าในร้านไป และหลังจากที่เขาได้กาแฟมาแล้ว ก็ขับม้าข้ามสนามหญ้าไปพร้อมกับกาแฟลาเต้ในมือ …
-
15 ความจริงของ แฮมเบอร์เกอร์ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน อ่านแล้วระวังจะหิวด้วย
แฮมเบอร์เกอร์เป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้คน ด้วยขนมปังหอมๆ ที่ประกบลงไปบนเนื้อย่างฉ่ำๆ ราดด้วยซอสสุดพิเศษ แซมไว้ด้วยผักกาดหอม มะเขือเทศสดๆ และผักดอง และที่ขาดไม่ได้คือชีสเยิ้มๆ อีกสักแผ่น สองแผ่น แค่ได้ยินก็รู้สึกน้ำลายไหลกันแล้ว แต่วันนี้เราไม่ได้เราไม่ได้จะมาโชว์เมนูแฮมเบอร์เกอร์เฉยๆ แต่อย่างไร แต่เป็น ความจริง 15 ข้อของ แฮมเบอร์เกอร์ ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน แต่ก็มีรูปด้วยอยู่ดีอ่ะนะ อ่านแล้วระวังจะหิวด้วย คนอเมริกาทานเบอร์เกอร์โดยเฉลี่ย สามอันต่อสัปดาห์ ระบบเพิ่มลดเครื่องเบอร์เกอร์เคยออกแบบมาให้ลูกค้าจะใส่อะไรเป็นในเบอร์เกอร์เท่าไหร่ก็ได้ จนกระทั่งมีกลุ่มคน 8 คนมาสั่งเบอร์เกอร์ที่ใส่ไส้ 100 อย่าง Robert Downey Jr. เคยบอกว่า Burger King ช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ เขาเล่าว่าในปี 2003 เขามียาเสพติดจำนวนมากอยู่ในรถ เขาไปจอดสั่ง Burger King มากิน และพบว่ามันห่วยมากจนเขากลับมานั่งทบทวนชีวิต และทิ้งยาเสพติดทั้งหมดในรถลงทะเลไป แต่ชาวอเมริกาเพียงประเทศเดียวก็ทานเบอร์เกอร์ไไปกว่า 50,000,000,000 อันต่อปีแล้ว ร้าน White Castle ในเมือง Wichita รัฐ Kansas…
-
‘Flippy’ หุ่นยนต์ทำเบอร์เกอร์ขั้นเทพ จะทำให้การซื้อฟาสต์ฟู้ดของคุณจะรวดเร็วยิ่งด้วย
เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีการพัฒนามาเรื่อยๆ อย่างไม่หยุดนิ่ง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เมื่อก่อนใครจะคิดว่าจะมีพาหนะบนพื้นดินอย่างรถยนตร์ และใครจะไปคิดว่ารถยนตร์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงมาตลอด อนาคตอาจจะเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าทดแทนกันก็ได้ และนี่ก็เป็นอีกก้าวของเทคโนโลยี เชิญพบกับเจ้า “Flippy” หุ่นยนต์ทำเบอร์เกอร์ที่อาจจะช่วยให้การใช้บริการร้านฟาสต์ฟู้ดของคุณรวดเร็วขึ้นไปอีก ด้วยความสามารถในการทำเบอร์เกอร์ได้ 300 ชิ้นต่อหนึ่งชั่วโมง Flippy คือหุ่นยนต์แขนเดียวที่มีความสามารถในการกลับด้านเบอร์เกอร์อย่างรวดเร็ว มันถูกออกแบบมาให้ทำงานเป็นผู้ช่วยเชฟในห้องครัว ซึ่งในขณะนี้เจ้า Flippy กำลังจะได้เข้าประจำการเป็นครั้งแรกในร้านเบอร์เกอร์ชื่อดัง CaliBurger สาขาแคลิฟอร์เนียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ พวกเขามีแผนการที่จะส่งเจ้า Flippy ไปทำงานในร้าน CaliBurger สาขาใหม่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในอนาคตอีกด้วย แน่นอนว่าเจ้า Flippy ไม่ใช่มนุษย์ ทำให้มันสามารถทำงานได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและยังสามารถคำนวณเวลาพลิกเบอร์เกอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบรวมถึงยังสามารถเตือนพนักงานว่าเวลาไหนที่ควรจะใส่ชีสลงไปบนเนื้ออีกด้วย . หุ่นยนต์ดังกล่าวถูกพัฒนาโดยบริษัทพัฒนาหุ่นยนต์ Miso Robotics โดยมีการใช้ Miso AI เทคโนโลยีที่ผสมผสานระหว่างมุมมองที่ใช้ความร้อนแบบสามมิติและแบบธรรมดาเข้าด้วยกัน ทำให้เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้มีความสามารถในการตรวจสอบเบอร์เกอร์และอาหารอื่นๆ ได้ Flippy มีตะหลิวไว้ใช้สองอันซึ่งอันหนึ่งจะไว้พลิกเนื้อและอีกอันหนึ่งสำหรับอาหารอื่นๆ และนอกจากจะเป็นหุ่นยนต์ที่ถูกโปรแกรมมาให้ทำอาหารที่สมบูรณ์แบบ มันก็ยังสามารถทำความสะอาดอุปกรณ์ทำอาหารได้อีกด้วย ถึงแม้ว่าอุตสาหกรรมการผลิตของอเมริกาจะมีการจ้างงานลดลง 80 เปอร์เซ็นในช่วง 30…
-
คุณแม่ไม่พอใจร้านอาหารตั้งชื่อเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม’ เพราะมันส่อไปในเรื่องเพศ!!
เนื่องจากในปัจจุบันมีการแข่งขันกันอย่างสูงขึ้น ทำให้ร้านอาหารหลายแห่งต้องหาความเป็น ‘ซิกเนเจอร์’ ให้กับร้านของตัวเองอย่าง การสร้างเมนูแปลกๆ หรือการจัดบรรยากาศร้านให้แตกต่างจากร้านอื่นออกไป ซึ่งวิธีเหล่านี้ก็สามารถดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดีทีเดียว- แต่ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเรียกเสียงฮือฮาจากลูกค้าได้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือการคิดชื่อเมนูแปลกๆ ที่ใครได้ฟังอาจจำต้องขำ หรืออึ้งกับความคิดของเจ้าของร้าน แต่ว่ามีเมนูแปลกๆ เมนูหนึ่งที่ไปทำให้คุณแม่คนหนึ่งโกรธอย่างเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะเธอคิดว่านั่นคือคำพูดที่ส่อไปในทางที่ไม่ดีต่อผู้ที่พบเห็นนั่นเอง ร้านอาหารต้นเรื่อง โดยผู้ที่มีความไม่พอใจต่อชื่อเมนูนี้ก็คือคุณแม่ชื่อว่า Anita Robinson ซึ่งเธอบอกเอาไว้ว่าชื่อเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม'(Gangbang Burger) ที่ขายภายในร้าน Khan Pizza เมืองฮัลล์ ประเทศอังกฤษ มันช่างเป็นชื่อที่เสมือนกับต้องการจะบอกว่าความรุนแรงทางเพศเป็นเรื่องที่สามารถยอมรับได้อย่างปกติอย่างไงอย่างงั้น และเธอก็ขอให้ทางร้านนี้เปลี่ยนชื่อเมนูนี้ซะเถอะ สำหรับเมนู ‘เบอร์เกอร์รุมโทรม’ นี้มีส่วนประกอบหลักๆ ก็คือ ไก่จำนวน 4 ชิ้นประกบกับ หัวหอม เห็ด ไข่และตบท้ายบนสุดด้วยชีส แต่ในขณะนี้เมนูนี้ได้ถูกเอาออกจากป้ายของร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ป้ายปิดประกาศเมนูนี้ ขณะเดียวกัน Asfand Khan ผู้จัดการร้านอาหารแห่งนี้ก็ยืนยันว่า ชื่อดังกล่าวเป็นชื่อเล่นที่ทางร้านตั้งให้เพื่อความตลกเท่านั้น และไม่ได้ตั้งใจที่จะส่อไปในทางที่ไม่ดีแต่อย่างใด “ฉันคิดว่ามันเป็นสิทธิของพวกเขานะที่จะตั้งชื่อเมนูอย่างนั้น แต่ฉันก็ไม่อยากที่จะต้องมาอธิบายแก่เด็กๆ ว่าคำว่า ‘รุมโทรม’ มันคืออะไรตอนที่พวกเขาเห็นมันเด่นหราอยู่บนป้ายเมนู” “ดังนั้นฉันจึงต้องเดินหน้าเรื่องนี้ต่อไป เพราะว่ามันไม่มีภาพไปในทางที่บวกแต่อย่างใดในคำพูดนี้ ซึ่งถ้ามันถูกเรียกว่า ‘เบอร์เกอร์ทรีซั่ม’ มันก็คงจะแตกต่างกันออกไป แต่มันก็ไม่ใช่อย่างนั้น” Robinson…
-
อธิบายประโยค ‘ภาพนี้ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น’ ผ่านผลิตภัณฑ์อาหารของ McDonald
ถ้าหากว่าคุณเป็นคนชื่นชอบการทานอาหารฟาสต์ฟู้ด หรือพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปล่ะก็ บ่อยครั้งที่เรามักจะพบว่าภาพของการโฆษณากับสินค้าที่ได้จริงๆ นั้นช่างมีความแตกต่างกันซะเหลือเกิน!! แต่ถ้าหากว่าคุณลองสังเกตที่มุมใดมุมหนึ่งของภาพโฆษณาดีๆ ล่ะก็ ตัวข้อความเล็กๆ ที่เขียนว่า “ภาพนี้ใช้เพื่อการโฆษณาเท่านั้น” ก็คงจะคลายข้อสงสัยให้คุณได้เป็นอย่างดี และวันนี้เราก็จะขอพาทุกคนเข้าสู่โลกของการโฆษณา ที่จะทำให้คุณเข้าใจถึงความหมายของประโยคนี้ได้ดียิ่งขึ้น ผ่านชุดภาพถ่ายอาหารจากร้าน McDonald เมื่อปีที่ผ่านมา McDonald ต้องเผชิญกับปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับภาพของสินค้าที่ไม่ตรงกับโฆษณา ซึ่งถ้าหากว่าเราเคยเห็นภาพของโฆษณาซามูไรเบอร์เกอร์ หรือเฟรนช์ฟรายส์ตอนลด 50 เปอร์เซ็นต์ก็คงจะเข้าใจกันเป็นอย่างดี แต่ทว่าก่อนหน้าที่พวกเขาจะถูกทางลูกค้าร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ในปี 2012 ทางร้าน McDonald จากประเทศแคนาดา ก็ได้ทำคลิปวิดีโอที่อธิบายถึงเบื้องหลังของการถ่ายภาพโฆษณานี้ การรีทัชภาพ ถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับวงการโฆษณา คุณ Hope Bagozzi ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ McDonald แคนาดาได้เป็นผู้อาสาไขข้อข้องใจนี้ หลังจากที่มีลูกค้าส่งคำถามเกี่ยวกับการโฆษณาของพวกเขาว่า “ทำไมอาหารของพวกเขาไม่ตรงกับที่โฆษณาเลย” ผู้จัดการสาวพาเราเดินทางไปยังสตูดิโอถ่ายภาพ เพื่อชมเบื้องหลังการทำงานของการถ่ายภาพโฆษณาของพวกเขา และเปรียบให้เห็นระหว่างความแตกต่างของภาพถ่ายเบอร์เกอร์ที่เธอซื้อมา กับเบอร์เกอร์ที่ทำจากสตูดิโอถ่ายภาพ การทำงานถ่ายภาพเพื่อโฆษณานั้นจะต้องมีการจัดวางอาหารอย่างเหมาะสม และทำการรีทัชภาพที่ถ่ายอีกครั้ง เหมือนกับภาพของแอปเปิลชิ้นนี้ . หรือเมนูขึ้นชื่ออย่างชีสเบอร์เกอร์เองก็ตาม สังเกตว่าเนื้อนั้นจะมีลักษณะเรียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เปรียบเทียบความแตกต่างกันแบบชัดๆ เลย ถึงแม้ว่าภาพของอาหารจริงๆ…
-
เมื่อภาพเจ้าหมาคาบเบอร์เกอร์ทำหน้าฟิน ไปสะดุดตาชาวเน็ตเข้า งานนี้มหกรรมตัดต่อจึงเกิดขึ้น!!
กลับมากันอีกครั้งกับผลงานการตัดต่อจากชาวเน็ต คราวนี้เป็นภาพของเจ้าตูบคาบเบอร์เกอร์ซึ่งดูธรรมดาๆ ก็ยังคิดว่าฮา เพราะดูเบอร์เกอร์ที่เต็มปากกับหน้าฟินๆ ของมัน MattCloudy ชาวเน็ตเจ้าของภาพบอกว่า ตอนเขาเห็นภาพนี้เขาแรกเขาหยุดขำไม่ได้เลย เขาเลยนำภาพดังกล่าวมาโพสต์บน Reddit งานนี้มหกรรมตัดต่อจึงเกิดขึ้น!! เริ่มกันที่ภาพต้นฉบับกันก่อน ด็อกกี้ทรัมป์ กับชีสเบอร์เกอร์ของเขา หมาเขมือบโลก หมาดาร์กไซด์ ฮืดฮาดๆ ด็อกกี้เพนนี่ไวซ์ อย่าริอาจมาใกล้เบอร์เกอร์ของข้า!! งานอาร์ตชั้นเยี่ยม ทำดีมากเจ้าตูบ แกนี่รู้งานจริงๆ อื้มมม อโร่ยยยยย ผักเฉยๆ ไม่เอา แต่ถ้าใส่ในเบอร์เกอร์ด็อกกี้ก็โอเค เฮ้ย ตรูว่าไอ้ด็อกกี้นั่นมันซ่อนไพ่หว่ะ ดูดิแม่มคาบอะไรไว้ในปากด้วย เจ้าตูบกับผองเพื่อนแมคโดนัล ไม่ไหวเดี๋ยวพี่ตูบช่วยเอง จาไมก้าสไตล์ I’m Lovin’ it บังอาจมาซ่าในบาร์เบอร์เกอร์ของพี่ ที่มา reddit
-
พบกับ “เบอร์เกอร์สุดล้ำ!!” ที่ไม่ใช่เบอร์เกอร์ธรรมดาๆ เพราะคุณต้องให้เวลาในการดื่มด่ำมัน
เมื่อเพื่อนๆ หิวจนท้องบิด อาหารจากด่วนที่ง่ายที่สุดคงจะเป็นแฮมเบอร์เกอร์ เพราะแค่ขับรถเข้าไปซื้อไม่กี่นาทีก็ได้กินของอร่อยๆ ที่อิ่มอยู่ท้องกันแล้ว แต่ในปัจจุบันเบอร์เกอร์มันไม่ได้เป็นแค่เบอร์เกอร์เท่านั้น พวกเราปรับสูตรให้มันกลายเป็นอาหารจานอร่อยและอยากใช้เวลากับมันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใส่ชีสจนเยิ้ม หรือการใส่ไข่ให้ชุ่มฉ่ำ ก็ล้วนแล้วแต่ทำให้เราคลั่งใคล้ในความอร่อยของแฮมเบอร์เกอร์มากขึ้น ครั้งนี้จึงจะพาเพื่อนๆ ไปพบกับเบอร์เกอร์ล้ำๆ ที่เห็นแล้วต้องน้ำลายไหล จนต้องไปหาซื้อมาทานเดี่ยวนี้กันเลย 1. เบอร์เกอร์ชิ้นพอดีคำบวกกับชีสละลายเยิ้มๆ ทำเอาหิวไปตามๆ กัน 2. สาวกชีสต้องกรี๊ดกับเมนูนี้แน่ๆ ก็ดูปริมาณชีสที่ราดลงไปสิ ทานหมดไม่พอก็เลียนิ้วด้วย 3. เบอร์เกอร์ที่มีราคาถึง 2000$ หรือตีคราวๆ ก็ประมาณ 67,000 บาท ราคานี้อาจจะดูถูกลงถ้าคุณรู้ว่าในเบอร์เกอร์นี้มีทั้ง ลอปสเตอร์ คาเวียร์ ทรัฟเฟิล และเคลือบด้านบนด้วยทองคำเปลวหนาๆ 4. แมคแอนด์ชีสก็สามารถมาเยิ้มอยู่ในเบอร์เกอร์ได้นะ 5. เบอร์เกอร์ที่เพิ่มความกรุบกรอบด้วยชีโตสและไม่ลืมที่จะราดชีสแบบจัดหนัก 6. ถ้าคุณเลือกไม่ถูกว่าจะทานอะไรดี เบอร์เกอร์ชิ้นนี้ได้รวมชมทั้งแมคแอนด์ชีส ชีโตสและเนื้อฉ่ำๆ ไว้ให้คุณแล้ว 7. เบอร์เกอร์ 10 ชั้น ที่ทานมากๆ ต้องหัวใจวายแน่นอน…
-
ร้านเบอร์เกอร์ในซิดนีย์เปิดตัวเมนู “เฟรนช์ฟรายนูเทลล่า” เอาใจคนรักช็อกโกแลตแบบสุดๆ
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการทานอาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง “เฟรนช์ฟราย” คุณรู้อยู่แล้วว่ามันเหมาะที่จะทานคู่กับอะไร ไม่โรยเกลือ ก็จิ้มซอสมะเขือเทศหรือซอสพริก แค่นั้นมันยังไม่พอ!! พบกับเมนูเฟรนช์ฟรายในรูปแบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร ที่บอกเลยว่าคนที่ชอบทานช็อคโกแลตนั้นพลาดไม่ได้เลย อยากรู้แล้วว่ามันคืออะไรไปชมกันเลย เป็นการผสมผสานระหว่างอาหารคาวและอาหารหวานได้ลงตัวสุดๆ กับเมนูเฟรนช์ฟรายส์แบบใหม่นี้ เป็นเมนูจากร้านชื่อดังอย่าง Butter Sydney ซึ่งเป็นร้านแฮมเบอร์เกอร์ในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ร้าน Butter Sydney ได้จับคู่อาหารสุดฮิตอย่าง เฟรนช์ฟรายส์และนูเทลล่าไว้ด้วยกัน อีกทั้งยังโรยเฮเซลนัทกรอบลงไปแบบไม่อั้นอีกด้วย ลูกค้าก็ต่างรู้ดีว่ามันคือเมนูที่อัดแน่นไปด้วยแคลอรี่ เพราะมันมีทั้งเฟรนช์ฟราย นูเทลล่าและเฮเซลนัท แต่ของไขมันสูงพวกนี้แหละ ที่ดึงดูดผู้คนและทำให้เราน้ำลายไหลได้เสมอ โดยลูกค้าสามารถสั่งเจ้าเฟรนช์ฟรายส์นูเทลล่านี้ทานคู่กับเบอร์เกอร์หรือไก่ทอดกรอบก็ได้ทั้งนั้น ใครที่อยู่แถวๆ ซิดนีย์ก็อย่าลืมตามไปชิมกันดูนะ แต่ถ้าใครที่อยากทำทานเองที่บ้านก็เป็นความคิดที่ไม่เลวเลยนะ ว่าแต่อย่าทานบ่อยไปล่ะ เพราะอาจจะทำให้น้ำหนักเพิ่มได้ ที่มา dailymail
-
รวม 42 Pringles รสชาติแปลกๆ จากประเทศญี่ปุ่น ที่มันช่างมากมาย ละลานตาซะเหลือเกิน!!
สิ่งหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ และไม่สามารถหาได้จากที่ไหนง่ายๆ นั่นก็คือ รสชาติของอาหารที่มาจากประเทศญี่ปุ่น ที่บางครั้งก็แปลกและชวนโอวว้าวได้อีก หลายคนคงจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อในเรื่องของการเนรมิตอาหารที่มีรสชาติแปลกใหม่ขึ้นมาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม ช็อกโกแลต หรือแม้แต่เบอร์เกอร์ ก็เคยถูกผลิตขึ้นมาอย่างจำกัด แถมยังไม่สามารถหาทานได้จากที่ไหนอีกด้วย และถ้าหากเราจะพูดถึง มันฝรั่งทอดกรอบ ที่มีโลโก้เป็นคุณลุงหนวดงาม ผูกหูกระต่ายสีแดง เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึง Pringles แบรนด์มันฝรั่งทอดกรอบที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน สำหรับ Pringles นั้น มีขายมากกว่า 140 ประเทศ ซึ่งทางบริษัทผู้ผลิตก็ได้คิดค้นรสชาติใหม่ๆ ขึ้นมาให้ลิ้มลองกันอยู่ไม่ขาด บางรสชาติก็มีขายเฉพาะบางประเทศเท่านั้น โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นที่มี Pringles หลากหลายรสชาติไม่แพ้ KitKat เลยละ ครั้งนี้ #เหมียวขี้อ้อน จะขอพาเพื่อนๆ มารับชมรสชาติสุดแหวกแนวของ Pringles ที่เคยผลิต และถูกนำมาวางขายในญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงปี 2015 ถึง 2017 เรามาดูกันเลยว่าจะมีรสชาติไหนกันบ้าง (ถ้าเคยกินมาแล้วก็อย่าลืมมาบอกรสชาติกันบ้างน้า) ปี 2015 รสเกลือ รสซาวครีมและหัวหอม …
-
ไอเดียเมนูใหม่ “เบอร์เกอร์เลโก้” เปลี่ยนของเล่นในวัยเด็ก มาเป็นของกินอันแสนน่าหม่ำ
เลโก้ นับว่าเป็นของยอดฮิตสำหรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่หรือเป็นคนที่ไหน ของเล่นชนิดนี้ก็ยังเป็นอะไรที่หลายคนชื่นชอบอย่างแน่นอน แถมในยุคสมัยนี้เลโก้ก็กลายเป็นสิ่งต่างๆ นอกจากของเล่นแล้ว ซึ่งอาหารก็เช่นกัน ล่าสุดก็ได้มีร้านเบอร์เกอร์เปิดใหม่ในชื่อว่า Brick Burger ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยร้านแห่งนี้ทำตัวขนมปังเบอร์เกอร์เป็นรูปตัวต่อเลโก้ขนาด 4×4 ออกมาแถมตัวเบอร์เกอร์ยังมีขนาดที่ใหญ่มากๆ เลยทีเดียว… หน้าตาของเบอร์เกอร์เลโก้ ซิกเนเจอร์เมนูใหม่ของร้าน นอกจากขนาดของตัวเบอร์เกอร์แล้ว เจ้าเบอร์เกอร์เลโก้ยังมีสันหลากหลายและเมนูให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น Darth Burger ที่ชื่อเหมือน Darth Vadar ซะเหลือเกิน หรือจะเป็น Cheesy Mac เลโก้สีเหลืองอัดแน่นไปด้วยชีส จะมาทำให้คนรักชีสชุ่มฉ่ำจนใจละลาย ชีสเต็มขนาดนี้ เหมาะกับคนรักชิสแน่นอน นอกจากตัวเบอร์เกอร์ที่เป็นรูปร่างเลโก้แล้ว ตัวร้านก็ยังตกแต่งด้วยรูปทรงเลโก้เช่นกัน แถมยังตกแต่งได้ออกมาสวยงามเลยทีเดียวล่ะ แม้แต่เลโก้แบทแมนยังต้องมาลอง ใครที่สนใจหรือชอบเบอร์เกอร์เลโก้นี้ก็สามารถเข้าไปกดไลค์ได้ที่เฟสบุ๊คเพจ Brick Burger หรือกดดูคลิปเกี่ยวกับทางร้านได้ที่ข้างล่างเลย บอกเลยว่าถ้าใครชอบกินเบอร์เกอร์และชอบเลโก้เป็นทุนเดิมต้องไม่พลาด นี่#เหมียวมู่ทู่ ทำไปหิวไปเลยนะเนี่ย ที่มา rocketnews24
-
การทดลองสุดเจ๋ง นำเบอร์เกอร์ McDonald’s สุดฮิต มาลองราดด้วยกรดซัลฟิวริก!??
หลังจากที่อินเตอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายและเข้าถึงผู้คนทั่วโลกมาเป็นระยะเวลานานกว่าหลายปี เราก็มักจะได้เห็นการทดลองแปลกๆใหม่ๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การนำลูกอมเมนทอสยัดใส่ในขวดโค้ก หรือการผสมสารเคมีต่างๆเพื่อดูปฏิกริยาที่เกิดขึ้น จากการทดลองโดยแชนแนลในยูทูปรายหนึ่งที่ชื่อว่า Let’s Melt This ผู้ที่มักจะนำสิ่งของต่างๆมาทำการละลายโดยสารเคมีเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้น และนี่คืออีกหนึ่งการทดลองของเขา เมื่อนำเบอร์เกอร์จาก ‘McDonald’s’ แบรนด์ฟาสต์ฟู้ดที่ใครๆก็ต่างรู้จักกันดี มาราดด้วยน้ำกรดซัลฟิวริก เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตัวอย่างบิ๊กแมคชีสเบอร์เกอร์ เมนูยอดนิยม ที่ถูกนำมาทดลองในครั้งนี้ แต่ก่อนอื่นต้องขอเกริ่นถึงคุณสมับติของกรดซัลฟิวริกกันก่อน คือ เจ้ากรดซัลฟิวริกเนี่ยมันมีคุณสมบัติเป็นกรดแร่ (Mineral Acid) มันสามารถทำละลายได้ในทุกระดับความเข้มข้น และมักจะพบเห็นได้บ่อยๆในการทดลองระดับอุตสาหกรรมต่างๆ อีกทั้งมันยังมีความเข้มข้นมากพอที่จะใช้ในการสังเคราะห์เคมี ได้อีกด้วย **คำเตือน** เนื่องจากมันเป็นกรดที่รุนแรง และมีจุดเดือดที่ทำให้ติดไฟได้ง่าย เพราะฉะนั้นขอไม่แนะนำให้ทำการทดลองเองที่บ้านเด็ดขาดนะจ๊ะ และด้วยเหตุนี้เอง การทดลองนี้จึงใช้กรดซัลฟิวริก ในการกัดกร่อนและทำละลายเจ้าเบอร์เกอร์นี้ เพื่อพิสูจน์ว่าสุดท้ายแล้วสสารของเจ้าเบอร์เกอร์ตัวนี้ มันจะออกมาเป็นอย่างไรกันแน่ อาบเบอร์เกอร์ด้วยกรดซัลฟิวริก ให้ชุ่มฉ่ำกันไปเลย (แต่อย่าเผลอกินเด็ดขาดเลยนะ) หลังจากที่เทกรดลงไปแล้ว ก็ต้องรอให้มันเกิดการทำปฏิกริยากันเกิดขึ้นด้วยระยะเวลาเพียง 30 นาที เราจะค่อยๆเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของเบอร์เกอร์ไปทีละเล็กน้อย และนี่คือสภาพของมันหลังจากผ่านไปแล้ว 30 นาที เราจะเห็นได้ว่าขนมปังมีการแข็งตัว ด้านขอบรอบๆขนมปังก็ถูกกรัดกร่อนจนกลายเป็นสีดำด้วย แต่กลับกันในส่วนด้านในและตรงกลางของเบอร์เกอร์ยังคงไม่แข็งตัว…
-
พาชมเบื้องหลัง ‘การถ่ายโฆษณาเบอร์เกอร์’ ในแบบสโลว์โมชั่น กว่าจะออกมาเป๊ะมันไม่ง่าย….
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานเบอร์เกอร์เนื้อแน่นๆ ชีสหนาๆ แสนอร่อย คงเคยเห็นโฆษณาเบอร์เกอร์ของบริษัทฟาสต์ฟู๊ดทั้งหลาย ที่เป็นภาพการตกลงมาเรียงกันแบบเป๊ะๆของ ขนมปัง ผัก เนื้อเบอร์เกอร์ ในแบบสโลว์โมชั่น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วการจะถ่ายรูปแบบโฆษณาออกมาแบบนี้มักจะนิยมใช้ CGI ซะมากกว่าเพราะนอกจากจะง่ายแล้ว ยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกเยอะ แต่ไม่ใช่สำหรับช่างภาพ และผู้กำกับชาวคิวบาคนนี้ Steve Giralt เพราะวิธีการถ่ายโฆษณาของเค้า นอกจากจะปฏิเสธการใช้ CGI แล้ว เค้ายังสร้างเครื่องจักรที่ใช้สำหรับการถ่ายโฆษณาเบอร์เกอร์เองอีกด้วย แบบนี้ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ… ตัวอย่างโฆษณาของเบอร์เกอร์ที่ตกลงมาเรียงตัวกันได้อย่างพอดีเป๊ะ เหมือนที่เราเห็นในทีวีเลยล่ะ และนี่คือโฉมหน้าของช่างภาพผู้จะมานำเสนอเทคนิคดังกล่าว กลไกของเครื่องนี้ก็ไม่ซับซ้อนอะไรมาก เพียงแค่มันมีเชือกไว้คอยแบ่ง ผัก เบคอน ขนมปัง หรือ เบอร์เกอร์ ให้แยกออกจากกันเป็นชั้นๆ การแยกชั้นของส่วนต่างๆก่อนที่มันจะถูกทำให้ตกลงมาเรียงกันเป็นเบอร์เกอร์ 1 ชิ้นแบบพอดีเป๊ะ ส่วนภาพซอสที่พุ่งกระฉูดไปมา ชวนให้น่ารับประทาน ก็มีเบื้องหลังจากเครื่องจักรนี้เช่นกัน เราไปชมคลิปวิดีโอเบื้องหลังการทำงานของพี่เขา เพื่อให้เห็นภาพชัดๆกันไปเลยดีกว่า.. แหมมม…ในที่สุดก็หายข้องใจไปอีกหนึ่งเรื่อง เพราะเวลาที่เห็นโฆษณาอาหารพวกนี้ทีไร มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ว่าเค้าทำกันยังไงให้ในโฆษณามันออกมาดูพอดีเป๊ะ แถมยังยั่วยวนชวนให้ลิ้มลองซะจริงๆ ที่มา:…
-
จัดเต็ม 50 อันดับ “เบอร์เกอร์” ที่ดีที่สุดใน USA กัดทีน้ำไหลเยิ้ม ฉ่ำจนน้ำตาย้อย!!
อเมริกาถือเป็นสวรรค์ของคนรักเบอร์เกอร์จริงๆ ถ้าไม่นับรวมพวกอาหาร Junk Food แล้ว เบอเกอร์ถือเป็นอาหารที่คนนิยมกันมาก เพราะมันอิ่ม ทานง่าย จบในจานแบบไม่ต้องมีอะไรมากมาย ร้านเบอร์เกอร์ในอเมริกาก็มีหลากหลาย ซึ่งส่วนมากจะแพงกว่าร้านเบอเกอร์แบบเฟรนไชส์มากประมาณ 100 – 300 บาท หรืออาจจะแพงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปดูโฉมหน้าของเบอร์เกอร์ที่ติดอันดับท็อป 50 จาก Foursquare ที่สำรวจมาทั้งประเทศ เราจะได้เห็นความฉ่ำของมันอย่างเต็มแล้ว รับรองว่าท้องร้องแน่นอน 1. Hopdoddy Burger Bar — Austin, TX 2. Casper and Runyon’s Nook 3. Shake Shack — New York, NY 4. Poe’s Tavern — Sullivan’s Island, SC …
-
เหมียวชวนเข้าครัว Cheeseburger Onion Rings คนรักชีสและเบอร์เกอร์ พลาดไม่ได้!!!
สำหรับวันนี้เราก็อยากจะพาเพื่อนๆ เข้าครัวกันอีกครั้ง และเมนูในวันนี้รับรองว่าน่าสนใจเลยทีเดียว โดยเฉพาะเหล่าผู้ที่ชื่นชอบในชีสด้วยล่ะก็ เพราะมันคือ Cheeseburger Onion Rings ล่ะ!!! สำหรับคนที่ยังนึกภาพกันไม่ออก จิ้มซอสนิดหน่อย อื้อหืออออออ อูยยยยยย ชีสเยิ้มๆ ส่วนผสม (6-8 วง) – เนื้อวัว 500 กรัม – เกลือ 1 ช้อนชา – พริกไทย 1/2 ช้อนชา – ผงหัวหอม 1 ช้อนชา – Cheddar ชีส ประมาณ 100 กรัม หั่นเป็นชิ้นๆ ละ 1 ตารางนิ้ว – หัวหอม 1 หัว – ไข่ที่ตีแล้ว 5 ฟอง –…
-
กระเดือกไม่ลง!! เผยสภาพอันโอชะของชีสเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอดที่ถูกทิ้งไว้ 10 ปีเต็ม
อาหารการกินเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรที่จะรับประทานทันทีหลังจากที่ปรุงเสร็จแล้ว ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานเกินไป เพราะมันจะทำให้อาหารเสียจนไม่สามารถรับประทานได้นั่นเอง แต่สำหรับอาหารฟาสต์ฟู้ดจากร้าน McDonald’s นั้นมักจะถูกหยิบมาเปิดประเด็นกันเป็นประจำ ด้วยหัวข้อแนวๆ ที่ว่ามันไม่สูญสลายหายไปหรือสภาพของมันที่เปลี่ยนแปลงไปเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น แม้ว่าจะผ่านมานานหลายปีก็ตาม ชีสเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอดที่ถูกทิ้งไว้นานถึง 10 ปีเต็ม จากภาพดังกล่าวมีการติดป้ายเอาไว้ว่า ‘ซื้อเมื่อเดือนเมษายน ปี 2006 ไม่เคยแช่ในตู้เย็น อย่ากินเด็ดขาด’ ซึ่งดูจากสภาพแล้วขนมปังไม่ขึ้นรา มันฝรั่งทอดที่เหี่ยวเฉาไปตามกาลเวลา สิ่งหนึ่งที่เป็นข้อสงสัยก็คืออะไรคือสาเหตุที่ทำให้มันคงสภาพแบบนี้ได้? ชาวเน็ตในเว็บไซต์ Reddit ต่างก็ถกเถียงกันถล่มทลาย บ้างก็ว่ามันไม่น่าจะถึง 10 ปี สภาพเหมือนถูกทิ้งแค่ 4 วันเท่านั้น บ้างก็ว่าที่มันคงสภาพอยู่ได้ก็เป็นเพราะว่ามีความชื้นน้อย ราจึงไม่ขึ้นบนขนมปัง และมีส่วนผสมของเกลือช่วยถนอมอาหาร มันฝรั่งทอดก็เช่นเดียวกัน แต่ไม่มีการพูดถึงสารกันบูดที่ผสมอยู่ในอาหารเลยแฮะ ที่มา : reddit/standbacknow, unilad
-
สนไหม!? ‘ซูชิเบอร์เกอร์’ มิกซ์แอนด์แมชต์อาหารสูตรใหม่ที่กำลังนิยมโด่งดังไปทั่วโลก
ถ้าจะกล่าวถึงอาหารแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ ถ้าไม่มีอาหารเราก็คงไม่มีพลังงานที่จะทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันได้ แต่แท้จริงแล้วอาหารยังเป็นเครื่องสะท้อนถึงวัฒนธรรมที่สั่งสมมาอีกด้วย ล่าสุดก็มีการมิกซ์แอนด์แมชต์ใหม่ของอาหารเกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้หลายๆ ร้านจากทั่วโลกกำลังนิยมทำกันอยู่เลยทีเดียว กับซูชิเบอร์เกอร์ ที่ผสมผสานเอารสชาติจัดจ้านของเบอร์เกอร์และความสดความดึ๋งของซูชิมารวมกัน!!! กลายเป็นเบอร์เกอร์ซูชิ หรือซูชิเบอร์เกอร์นี่แหละ แล้วแต่จะเรียก วัตถุดิบที่ใช้ก็เหมือนกับทำซูชิหรือเบอร์เกอร์ทุกประการ แต่ในส่วนของแป้งเบอร์เกอร์จะต้องทำมาจากข้าวซูชิเท่านั้น ส่วนไส้ข้างในจะเป็นไส้ซูชิหรือเบอร์เกอร์ก็ได้ จะทำขนาดใหญ่ก็ได้นะจ๊ะ แต่เป็นขนาดพอดีคำจะดีกว่า อิอิ ถึงจะไม่ใช่สูตรใหม่อะไรนัก แต่ตอนนี้มันกำลังโด่งดังสุดๆ ไปในโลกออนไลน์โดยเฉพาะในอินสตาแกรมที่ติดแฮชแท็ก #sushiburger กันอย่างหนาตาเลยทีเดียว ทำออกมาได้มีเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ และปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะว่าน่าทานมากๆ เห็นแล้วคิดถึงเบอร์เกอร์ลาบ-ข้าวเหนียว ของเซเว่นเลย เอิ๊กๆๆ ใครทำซูชิเป็นทำแล้วถ่ายรูปมาโชว์กันหน่อยเร้วววว อิอิ เป็นอาหารที่มิกซ์แอนด์แมชต์ออกมาได้ลงตัวมากๆ เลยนะเนี่ย ใครมีโอกาสหรือทำเป็นก็ลองทำลองทานกันดูนะจ๊ะ เป็นยังไงถ่ายมาให้ #จ่าสิบเหมียว รีวิวให้เพื่อนๆ ได้ลองทำกันก็ได้เด้อออออ อิอิ ที่มา: Buzzfeed
-
แล้วไทยละ? KFC ญี่ปุ่นออกเมนูเบอร์เกอร์ใหม่ คราวนี้ไม่ใช่ไก่แล้วนะ!!
ในบรรดาร้านอาหารฟาสฟู๊ด หนึ่งในร้านที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือ KFC ร้านไก่ทอดจากประเทศสหรัฐอเมริกานั่นเอง โดยเฉพาะประเทศไทยเนี่ย KFC เรียกได้ว่านอนมาเป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อไม่นานนี้ ทาง KFC ประเทศญี่ปุ่นได้เปิดตัวเมนูใหม่ ซึ่งคราวนี้ไม่มีเนื้อไก่มาเกี่ยวข้องแล้ว นั่นก็คือชีสเบอร์เกอร์นั่นเอง!! หลายคนอาจแปลกใจ ร้าน KFC มันเป็นร้านไก่ทอดไม่ใช่เหรอ ทำไมมีชีสเบอร์เกอร์ด้วยหละ ไม่ต้องแปลกใจ ทาง KFC เขาคงต้องการเปิดตลาดใหม่ๆ โดยเบอร์เกอร์อันใหม่นี้ เป็นชีสเบอร์เกอร์ ที่มีเนื้อเป็นเนื้อหมูบดผสมกับเนื้อวัว เรียกได้ว่าเป็นเมนูแรกๆของ KFC เลยทีเดียว ที่ไม่มีเนื้อไก่เข้ามาเอี่ยวด้วย ซึ่งเขาขายในราคา 490 เยน หรือราว 150 บาท ถือว่าแพงกว่า McDonald’s เมนูต่ำสุดไปนิดหน่อย ซึ่งผู้ที่ไปชิมมานี้บอกเลยว่า เต็มอิ่มทั้งขนาดเนื้อ ชีส และซอส ซึ่งชีสที่เขาใช้นั้น เป็นเชดด้าชีสขาว เห็นแล้วน้ำลายสอเป็นอย่างยิ่ง …
-
โหดสุด!! ชายคนนี้ทำลายสถิติโลก กิน “บิ๊กแมค” 25 อันรวด รวมแล้ว 13,250 แคลฯ
ถ้าใครยังจำตาหนุ่มคนนี้ได้ ก่อนหน้านี้เหมียวเคยนำเสนอเกี่ยวกับเขาไปแล้วรอบนึง ตอนนั้นเขากินไอติม 3 กล่องพร้อมกับท็อปปิ้งอีกเพียบ มาในวันนี้เขาจะมากินอะไรให้เราได้ดูกันอีก นั่นก็คือเมนู “บิ๊กแมค” ของขึ้นชื่อของร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด McDonald’s ก็คือบิ๊กแมคนี่แหละ ด้วยขนาดของแฮมเบอร์เกอร์ที่ใหญ่ เครื่องก็เต็ม กินแค่อันเดียวก็อิ่มมากๆแล้ว แต่ Matt Stonie เขาจะมากินถึง 25 อัน รวดเดียวแบบไม่หยุดพัก ซึ่งก็ได้ทำลายสถิติจากคนก่อนที่กินไปเพียง 14 อัน ความฮาเริ่มตั้งแต่ตอนไปซื้อแล้ว ผู้จัดการถึงกับออกมาคุยเพราะนึกว่าล้อกันเล่น และแล้วก็ถึงเวลากิน พร้อมกับจับเวลา คำนวนแล้วทั้งหมดก็ 5 กิโลกรัม 13,250 แคลอรี่ เราไปดูคลิปตอนที่เขากินกันเลยดีกว่า ที่มา Matt Stonie
-
วิจารณ์หนัก!! พนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดนำขนม “ปังถูกับพื้นในครัว” ก่อนนำเสิร์ฟให้ลูกค้า
เราไม่มีทางรู้เลยว่าภายในครัวของร้านอาหารมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง อย่างเช่นเรื่องความสะอาด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญในการทำครัว เพราะลูกค้าก็มักจะเลือกร้านที่สะอาด บางครั้งก็เลือกร้านที่เปิดเป็นเฟรนชายส์ เพราะเชื่อว่ามีมาตรฐานที่เท่าเทียมกัน คลิปนี้ถูกโพสต์ในวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อพนักงานหญิงคนหนึ่งได้นำเอาขนมปังเพื่อใช้ในการทำเบอร์เกอร์ของลูกค้ามาถูกับพื้นอย่างตั้งใจ เสร็จแล้วนำไปทำเป็นอาหาร ซึ่งหลังจากคลิปนี้ถูกโพสต์ลงไปแล้ว ก็ถูกกระแสสังคมวิจารณ์อย่างหนัก เหตุการณ์นี้เกิดในร้านฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง Checkers ในต่างประเทศ เหมือนเป็นการเล่นกันของพนักงานที่พยายามจะแกล้งหรือทำร้ายลูกค้า เราไปดูคลิปกันเลย หลังจากคลิปนี้ถูกแชร์ ก็มีคนด่าเป็นจำนวนมาก หลายคนถึงขั้นออกมาบอกว่า “นี่คือเหตุผลที่เขาเกลียดคนผิวสี” เลยทีเดียว ที่มา Duane Moore