Tag: เพื่อนบ้าน
-
15 ภาพฮาๆ ที่จะพิสูจน์ให้เห็นว่าการมี “เพื่อนบ้าน” มันบันเทิ๊งบันเทิงขนาดไหน!
การมีเพื่อนบ้าน บางครั้งมันก็ดีเหมือนกันนะ อย่างน้อยก็ทำให้เราไม่เหงา แล้วยิ่งเจอเพื่อนบ้านที่นิสัยดีๆ ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เราสามารถอยู่บ้านได้อย่างอุ่นใจเลยล่ะ นอกจากเพื่อนบ้านจะช่วยเป็นหูเป็นตาคอยระวังอันตรายที่เข้ามาใกล้บ้านให้เราได้แล้ว พวกเขายังสามารถสร้างความฮาและความบันเทิงให้กับเราได้อีกด้วย เพราะบางทีพวกเขาก็ทำอะไรตลกๆ ออกมาโดยไม่ตั้งใจ วันนี้เราไปชมกันเลยกับ 15 ภาพความฮาความน่ารักของการมีเพื่อนบ้าน ถ้าพร้อมแล้ว ไปชมกันเลย! 1. พวกเรารับแมวจรจัดแถวบ้านมาเลี้ยง แต่แมวของเพื่อนบ้านกลับทำมันท้อง เช้าอีกวันหนึ่งเราเปิดประตูมาเจอกับอาหารแมวพร้อมกระดาษที่เขียนว่า “ค่าเลี้ยงดูเด็ก“ 2. เมื่อเพื่อนบ้านลืมปิดหัวฉีดกระจายน้ำไว้ค้างคืน เช้ามากลายเป็นสวนน้ำแข็งที่น่าดูชมมากเลยทีเดียว 3. หนูน้อย Carter จะมาเคาะประตูบ้านฉันทุกเช้าเพื่อขอกล้วยแล้วก็ไป 4. ป้ายประกาศจากเพื่อนบ้าน เขียนว่า “กรุณาอย่าทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้น เพราะแมวของพวกเราชอบย่องออกมาสูบตอนกลางคืน เรากำลังช่วยให้มันเลิกบุหรี่อยู่” 5. ตอนนี้ตี 3 แล้ว ถึงเวลาที่เพื่อนบ้านของฉันจะออกมาประชุมกับ “แตงโม” 6. เพื่อนบ้านของผมสงสัยว่า ทำไม่พัดลมระบายอากาศของพวกเขาถึงทำงานแปลกๆ แถมเสียงดังเกินไปอีกด้วย พอขึ้นมาส่องดูเท่านั้นแหละชัดเจนเลย 7. เพื่อนบ้านสุดน่ารัก ที่แสดงความเกรี้ยวกราดผ่าน Google…
-
หนุ่มไอร์แลนด์ใช้บัตรเดบิตของ ‘คนตาย’ ซื้อพิซซ่าและใช้จ่ายเป็นเงินหลายแสนบาท…
เรื่องราวเกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า Marie Conlon เสียชีวิตคาที่พักเมื่อราวเดือนตุลาคมปี 2017 ไม่มีใครทราบเรื่องนี้เพราะ Marie ไม่มีครอบครัวเลย เพื่อนบ้านเองก็เจอเธอครั้งสุดท้ายเมื่อราวปี 2015 การตายของ Marie Conlon ไม่มีใครทราบเรื่องเลยนอกจาก Robert Sharkey เพื่อนบ้านที่เข้าไปพบว่า Marie ได้เสียชีวิต แต่แทนที่เขาจะแจ้งตำรจ เขากลับทำสิ่งที่เห็นแก่ตัวอย่างมาก Robert ในวัย 24 ปี ได้บุกเข้าไปยังบ้านของ Marie ผู้เสียชีวิต จากนั้นก็เข้าไปขโมยบัตร Debit เพื่อนำมาใช้จ่ายอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และอื่นๆ ให้กับตนเอง เขาใช้เงินในธนาคารของ Marie ไปกับการซื้อพิซซ่าจากร้าน Domino เป็นจำนวนเงินราว 254,000 บาท และใช้จ่ายสำหรับค่าอาหารในร้าน Sainsbury ไปราว 139,000 บาท นอกจากนี้ยังมี การซื้อโทรศัพท์มืออีก 43,600 บาท รวมถึงค่าน้ำค่าไฟรวมแล้วเป็นจำนวนเงินราว 12,000 บาท Robert จึงถูกกล่าวหาว่าขโมยบัตร Debit…
-
คุณป้าอัดคลิปสารภาพบาป…หลังเพิ่งรู้ว่าเรียกชื่อของ ‘เพื่อนบ้าน’ ผิดมาตลอด 14 ปี
หลายๆ คนคงจะเคยมีโมเมนต์ที่แบบว่า เข้าใจผิดและเรียกชื่อของเพื่อนผิดมากันบ้างไม่มากก็น้อย… แต่สำหรับคุณป้าคนนี้แล้ว ขอบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่พีคกว่านั้น เพราะเธอดันไปเรียกชื่อของเพื่อนบ้านแบบผิดๆ มาตลอด 14 ปีเลยทีเดียว!! Stephanie Aird จากเมือง Hartlepool เขต Durham ประเทศอังกฤษ อาศัยอยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกับเพื่อนบ้านอีกคนหนึ่งที่เป็นผู้หญิงมานานเกือบ 2 ทศวรรษได้แล้ว และเธอมักจะเรียกเพื่อนบ้านคนนั้นว่าคุณ Mavis มาโดยตลอด พวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมา ทุกครั้งที่เจอกันตอนทำสวนก็จะทักทายกันข้ามรั้วบ้าน ถึงเวลาเทศกาลต่างๆ ก็มักจะทำอาหารมาแบ่งกัน มีครั้งหนึ่งที่เธอเคยส่งจดหมายอวยพรคริสต์มาสไปให้เพื่อนบ้านคนนั้นและสามี พร้อมกับเขียนชื่อเธอว่า Mavis ในนั้น แต่ ครอบครัวของเพื่อนบ้านก็ดันส่งกลับมาพร้อมกับระบุชื่อว่า Mavis และ George (ชื่อสามีของเพื่อนบ้าน) หลังจากที่คุณ George ได้เสียชีวิตลงเมื่อเดือนก่อน Aird ก็ได้มีโอกาสคุยกับเพื่อนบ้านคนอื่นถึงคุณ Mavis ในทำนองเป็นห่วงเป็นใยว่าเธอจะต้องผ่านเรื่องร้ายๆ นี้ไปให้ได้ และนั่นเองก็ทำให้ Aird เข้าใจเสียทีว่า เธอเรียกชื่อของ Mavis ผิดมาโดยตลอด!! …
-
ผู้อาศัยใหม่เจอ “จดหมายเตือน” ให้ระวังข้าวของให้ดี ‘คนรายได้น้อย’ จะย้ายเข้ามา…
เหตุการณ์เกิดขึ้นกับผู้อาศัยรายใหม่ของบ้านหลังหนึ่งในนิวซีแลนด์ ที่จู่ๆ ก็มีจดหมายจากเพื่อนบ้านมาสอดเอาไว้ในกล่องรับจดหมาย จดหมายเขียนด้วยลายมือมีใจความว่าอีกไม่นานบ้านข้างๆ จะกลายเป็นบ้านของรัฐฯ ที่เปิดให้เช่าในราคาถูก หมายถึงอีกไม่นานจะมีผู้มีรายได้น้อยเขามาอาศัย ให้ “ระวังเอาไว้ จับตาดูทุกสิ่งที่น่าสงสัย” “กรุณาระวังเอาไว้ ผู้ที่จะย้ายเข้ามาอาศัยข้างๆ บ้านคุณคงจะเป็นคนที่มีรายได้น้อย หรือไม่ก็เป็นผู้ที่กรมจัดหางานส่งมา” ข้อความในจดหมายเขียนเอาไว้ “คาดว่าน่าจะราว 2-3 สัปดาห์ก็จะมีผู้อาศัยใหม่เข้าอยู่ในบ้านหลังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามแล้วดูน่าสงสัย โปรดระมัดระวังเอาไว้ให้ดี” ข้อความในจดหมายกล่าว “หากมีข้าวของสูญหาย หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นบนถนนสายนี้ กรุณาแจ้งตำรวจและดำเนินการประชุมตรวจตราบ้านใกล้เรือนเคียง” ข้อความกล่าวพร้อมจบด้วยการลงชื่อ “เพื่อนบ้านที่ปรารถนาดี” จดหมายดังกล่าวจั่วหัวกระดาษว่า “เรียนผู้เข้าอาศัย” อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ทำให้หลายคนเกิดความไม่พอใจอย่างมาก “นี่มันเป็นการเหยียดกันชัดๆ เอาจริงๆ ทุกคนต้อนรับผู้อาศัยใหม่กันทั้งนั้น บ้านไหนกันแน่นะที่กล้าส่งจดหมายแบบนี้ไป?” ผู้อาศัยรายหนึ่งกล่าวกับ Stuff NZ. ส่วนอีกรายก็นำเรื่องดังกล่าวไปโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กว่าเป็นจดหมายที่ “น่ารังเกียจและน่ากลัว” จริงๆ “ฉันรังเกียจและผวากับการกระทำของคนคนนี้มาก! นี่ขนาดยังไม่รู้เลยนะว่าใครจะเข้ามาอาศัยกันแน่ก็ด่วนตัดสินเขาไปเสียแล้ว แถมเอาไปบอกให้คนอื่นระวังตัวอีก เด็กรุ่นใหม่ๆ จะติดความคิดแบบนี้ไปหรือเปล่าเนี่ย?” สุดท้ายโฆษกของกรมสิทธิมนุษยชนได้ออกมากล่าวแล้วว่าจดหมายฉบับนี้ถือว่าเป็นการ เหยียดชนชั้น ของมนุษย์ “เป็นเรื่องเศร้าที่ยังมีผู้คนซึ่งตัดสินผู้อื่นจากพื้นฐานของรายได้ หรือพื้นฐานที่ว่าเขาได้รับสวัสดิการจากรัฐบาลหรือไม่” เขากล่าว …
-
เพื่อนบ้านแสบ กินเหล้ากันเสียงดัง บ้านอื่นโทรแจ้งตำรวจ เช้ามาเทยำใส่รถตูเฉย เอ๊า!?
เรื่องของ ‘สิทธิ์’ ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องของตัวเราเอง แต่ยังต้องคำนึงถึง ‘สิทธิ์’ ของผู้อื่นด้วย เพื่อให้สามารถอาศัยอยู่ร่วมกันกับคนอื่นๆ ในสังคมได้อย่างมีความสุข และเรื่องราวต่อไปนี้เองก็ชี้ให้เห็นได้เป็นอย่างดีว่าหากเราไม่เคารพสิทธิ์ของคนอื่น ก็จะกลายเป็นปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและผู้อื่น เรื่องมีอยู่ว่าแฟนเพจเฟซบุ๊ก Social Hunter V.ss ได้โพสต์เรื่องราว ที่เกี่ยวกับปัญหาของเพื่อนบ้านที่กินเหล้ากันเสียงดังจนถึงดึกดื่น แถมยังเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าของบ้านเป็นคนโทรแจ้งตำรวจ เลยเอา “ยำ” มาราดที่รถ แถมยังขู่อีกว่าจะทำให้ย้ายออกเลยทีเดียว!! ไปอ่านข้อความในโพสต์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า “ว่าด้วยเรื่องบ้านใกล้เรือนเคียง คนเรานี่ก็แปลกนะ อยู่กันมาจนปีนึงละ ไม่เคยไปด่า ไปมีเรื่องราวกับใครตั้งแต่ซื้อบ้าน แต่อยู่ๆ เรื่องก็มาหาซะงั้น เหตุเกิดเมื่อคืน ราวๆ ตี 2-3 กว่าๆ ข้างบ้านดื่มเหล้าแล้วเสียงดังมากตั้งแต่อยู่มา ครั้งนี้หนักเลย แล้วมีลูกบ้านโทรไปร้องเรียนตำรวจเข้ามาตรวจสอบ เสร็จข้างบ้านคิดว่าบ้านเราโทรแจ้งความเพราะบ้านอยู่ติดกัน แต่เราไม่ได้โทรเลย เราก็นอนของเราปกติ พอตกตอนเช้าน้องสาวออกไปทำงานเรียกให้ลงมาดูรถ เรานึกว่ารถพังหรือโดนชน เปล่าเลย สภาพที่เห็นคือ รถทั้งคันโดนราดไปด้วยยำ มีผัก มีเท้าไก่ มีน้ำราดเต็มรถ คือนี่มันยำเท้าไก่ หรือยำรถกันแน่ เราไม่เคยโวยวายกินเหล้าเสียงดังถึงตี 1…
-
หญิงสาวเขียนโน้ตขอโทษเพื่อนบ้าน ที่ “หมาแก่” ของเธอ หอนเสียงดังบ่อยๆ
พบกับ Charleston Chew หมาแก่ผู้น่ารักที่เพิ่งย้ายมาอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งใหม่พร้อมกับคุณแม่ของมันในพิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหมายังไม่มีโอกาสได้ทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านทั้งหมด แต่ตอนนี้ เพื่อนบ้านหลายคนเริ่มคุ้นเคยกับมันแล้ว ด้วยวัย 11 ปี ทำให้ Charleston มีนิสัยและพฤติกรรมที่ไม่เหมือนวัยหนุ่มอย่างที่มันเคยเป็น มันอยู่ในวัยชรา ซึ่งมีความท้าทายหลายอย่างที่มันต้องเจอ เริ่มตั้งแต่การมองเห็นของมันที่ค่อยๆ ฝ้าฟางเมื่อปีที่แล้ว ที่สำคัญมันต้องการความสนใจมากขึ้นจาก Sharla Wilson ผู้เป็นเจ้าของของมัน เมื่อไหร่ก็ตามที่มันไม่เห็น Wilson อยู่ใกล้ๆ มันจะส่งเสียงหอนร้องเรียก ซึ่งการหอนของมันแต่ละครั้งนั้นเสียงดังมากๆ Wilson บอกว่า “เสียงของมันน่ากลัวที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินมา มันเป็นเสียงที่แปลกจนทำให้เราตกใจได้ อย่างกับเสียงเอเลี่ยนยังไงอย่างนั้น” หญิงสาวเล่าว่าเธอรับเลี้ยง Charleston ตั้งแต่ตอนมันยังเป็นลูกหมาตัวน้อย และมันก็กลายเป็นเพื่อนรักของเธอตั้งแต่นั้นมา ดังนั้นทุกครั้งที่มันเรียกหา เธอจะวิ่งไปอยู่ข้างๆ มันเสมอ “เมื่อไปถึงฉันจะลูบตัวมัน นั่นทำให้มันรู้สึกมีความสุขและรู้สึกดีอีกครั้ง มันแค่อยากรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน มันเป็นหมาที่มีเสน่ห์และถูกตามใจตลอด” เจ้าของกล่าว แม้ว่าเสียงหอนของ Charleston จะแปลกๆ และน่ากลัว แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับ Wilson เพราะเธอชินกับมันแล้ว อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ หญิงสาวเกรงว่าเสียงของเจ้าหมาจะทำให้เพื่อนบ้านตื่นตระหนกและรู้สึกรำคาญ เธอจึงคิดว่าควรจะแจ้งให้เพื่อนบ้านทราบเกี่ยวกับสภาพของ Charleston…
-
ใช่เรื่องเหรอ?! ผัวเมียทะเลาะกัน โยนข้าวของข้ามไปบ้านคนอื่น โทษว่าเพื่อนบ้านผิดซะงั้น
เราอาจเคยเห็นสามีภรรยาทะเลาะกัน แล้วเมื่อเราจะเข้าไปช่วยห้ามก็มักจะโดนสวนกลับมาว่า “ไม่ต้องยุ่ง นี่เรื่องของผัวเมีย” แต่สำหรับเหตุการณ์นี้นั้นมันกลับไม่ได้เป็นการทะเลาะกันของคนแค่สองคน เพราะสามีภรรยาคู่นี้ดันไปก่อเรื่องวุ่นวายให้กับเพื่อนบ้านเพิ่มอีกต่างหาก คลิปวิดีโอเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Destiny Diiz Nanny ในวันที่ 4 พฤษภาคม 2018 เมื่อสามีภรรยาคู่หนึ่งเกิดปากเสียงกัน แล้วกลับโยนข้าวของข้ามมาที่บ้านข้างๆ ผัวเมียทะเลาะกันอยู่บนบ้านชั้นสอง แต่ดันโยนของใส่หลังคาบ้านข้างๆ ด้วยเหตุนั้นจึงกลายเป็นการทะเลาะกันกับเพื่อนบ้าน ตะโกนต่อว่าด่าทอด้วยคำพูดรุนแรงและหยาบคาย ซึ่งฟังดูแล้วเหมือนกับว่าฝ่ายภรรยาที่เขวี้ยงข้าวของมาจะพูดไม่รู้เรื่อง เจ้าของโพสต์อธิบายไว้ว่า “คนเมาทำไรก็ไม่ผิดเหรอ จะเขวี้ยงของไปบ้านใครก็ได้เหรอ โลกช่างไม่ยุติธรรม” ซึ่งแน่นอนว่าความเมาคงไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีสำหรับเรื่องนี้ คลิปเหตุการณ์ดังกล่าว แม้จุดเริ่มต้นอาจมาจากการที่คนสองคนทะเลาะกัน แต่การสร้างความเดือดร้อนลามต่อไปให้คนอื่นย่อมเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและไม่ควรทำอย่างมาก ที่มา: Destiny Diiz Nanny
-
21 วีรกรรมยอดแย่ของเพื่อนบ้าน ซึ่งจะทำให้คุณดีใจที่ไม่ได้มีเพื่อนบ้านแบบนี้
เพื่อนบ้าน… พวกเขาคือบุคคลที่อาศัยอยู่ในละแวกเดียวกับเรา อาจจะเป็นหอเดียวกัน หรือในหมู่บ้านเดียวกัน และนอกจากว่าจะย้ายมาจากที่เดียวกันหรือรู้จักกันมาก่อนแล้ว เพื่อนบ้านก็มักที่จะเป็นคนแปลกหน้าที่เราไม่เคยเจอมาก่อนอยู่เสมอ และพวกเขาก็มักจะไม่เกรงใจที่จะทำอะไรแปลกๆ เพราะไม่ว่าเราจะว่าอย่างไร ที่ที่เขาอยู่มันก็เป็นบ้านของพวกเขาอยู่ดี ดังนั้นการที่เพื่อนบ้านจะกระทบกระทั่งกันหรือไม่ชอบขี้หน้ากันจึงเป็นเรื่องธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นกันบ่อยๆ เหมือนกับเพื่อนบ้านต่อไปนี้ที่บอกได้คำเดียวว่า เพื่อนบ้านแบบนี้….ไม่มีน่าจะดีกว่า ของใครของมันอย่างแท้จริง เป็นเพื่อนบ้านไม่ได้หมายความว่าเป็นเพื่อนกัน ตรูก็กวาดแต่บ้านตรูไง ผิดตรงไหน โดรนทำอะไรผิด ทำไมต้องโยนของใส่โดรนด้วย แต่เอาเข้าจริงๆ การเอาโดรนไปบินที่บ้านคนอื่นมันก็คงไม่ดีเท่าไหร่ล่ะนะ เพื่อนบ้านของผมพบว่าตุ๊กตากวางเรนเดียร์ที่ประดับสวนไว้หายไป ก็เลยเอาภาพคนขโมยมาประดับแทน เลี้ยงบนหอชั้น 10 เนี่ยนะ ฉันอยู่ที่ชั้น 10 ของหอ 12 ชั้น ฉันเดินออกไปที่ระเบียงและได้ยินไก่ขันจากห้องข้างๆ ดูเหมือนว่าเพื่อนบ้านของฉันจะอยากประหยัดก็เลยซื้อไก่มาเลี้ยงเพื่อเอาไข่ เพื่อนบ้านกับปัญหาเรื่องต้นไม้มันของคู่กัน แต่ต้นไม้แบบนี้มันก็เกินไปนะ เพื่อนบ้านคนนี้จะทิ้งขยะไว้หน้าห้องแบบนี้ และจะไม่เก็บไปทิ้งถ้าไม่มีใครมาบ่น ผมตัดหญ้าไปเมื่อวานนี้ และเพื่อนบ้านก็ตัดหญ้าในวันต่อมา ดูเหมือนว่าผมจะตัดไม่ครบทั้งสนามนะ ไม่ก็คุณเพื่อนบ้านคงอยากได้เส้นแบ่งเขตเดน อันนี้ต้องบอกว่าเราต่างหากที่ทำเพื่อนบ้านรำคาญ จะลำโพงอะไรเยอะ เพื่อนบ้านบอกว่าจะเรียกตำรวจถ้าผมจุดดอกไม้ไฟหลังห้าทุ่ม ก็ว่าจะลองท้าทายดูเหมือนกัน เมื่อเพื่อนบ้านบอกว่าเขาไม่ชอบรถของผม ผมก็เลยบอกไปว่าจะจอดแบบแอบๆ…
-
20 บุคคลที่ดูก็รู้ ว่าไม่ถูกกับเพื่อนบ้านขนาดไหน แหม… อย่างกะเกลียดกันมาแต่ชาติปางก่อน
สิ่งหนึ่งที่เราต้องพิิจารณาก่อนที่จะเลือกที่อยู่แห่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด หอพักหรือบ้านก็คือต้องทำการสำรวจเพื่อนบ้านเสียก่อน หากได้เพื่อนบ้านที่ดี ทำอะไรไม่รบกวนกัน มีอะไรก็คอยแบ่งปันกัน ชีวิตก็จะแฮปปี้ แต่ถ้าได้เพื่อนบ้านที่ไม่ดีชีวิตของคุณก็จะไม่มีความสุข และภาพแต่ละภาพที่เราจะนำมาให้คุณได้ชมวันนี้ก็คือเหตุผลที่ว่าทำไมคุณถึงต้องพิจารณาเพื่อนบ้านก่อนย้ายเข้าไปอยู่ที่ใหม่ เอาล่ะ ไปชมกันเล้ย! 1. ไม่ถูกกันใช่มั้ย เอานิ้วกลางไปเลย เต็มๆ 2. “หมาตัวสุดท้ายที่มีขรี้ที่สนามหญ้าของฉันนอนอยู่ใต้ที่นี่” 3. จากไวไฟของบ้านข้างๆ “เพลงที่เอ็งเปิดแม่งโคตรน่ารำคาญเลยโว้ย” เจอสวนด้วยชื่อไวไฟ “ไวยกรณ์ของเอ็งน่ารำคาญยิ่งกว่าอีก” 4. แจกฟักแจกแฟงกันโต้งๆ แบบนี้เลยเรอะคุณพี่ 5. “นี่คือซีดีบันทึกเสียงการมีเซ็กส์ของพวกเอ็ง จากเตียงของฉัน ณ เวลา 04.27 น. ตูได้ยินทุกอย่างและแค่ต้องการที่จะหลับโว้ยยย” 6. “นี่คือเงินจำนวน 9,000 บาท ที่เพื่อนบ้านติดค่ารักษาหมาของฉัน ซึ่งดูวิธีที่เขาจ่ายมาก่อนวันที่ฉันจะไปฟ้องศาลสิ” 7. “บ้านหลังนี้เป็นกรี่” 8. “หากใครทำบอลเข้าไปในเขตสนามหญ้าของเพื่อนบ้านฉัน เขาจะจับมันโยนขึ้นไปบนต้นไม้หมดเลย” 9. Batman vs Joker ดูก็รู้แล้วว่าพวกพี่ไม่ถูกกัน…
-
สาวทำรั้วกั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว พวกหมาไม่ยอม ขุดหลุมไว้คุยกับหมาข้างบ้านเลย
สิ่งที่คนเราต้องการเวลาย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ นอกจากความปลอดภัยและความสะดวกสะบายแล้ว ความเป็นส่วนตัวก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญเหมือนกัน พอ Melody Eby ย้ายมาอยู่บ้านหลังใหม่ในเมืองเซาท์เบนด์ รัฐอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอก็สังเกตเห็นว่าสุนัขของบ้านข้างๆ ชอบมองดูเธอเล่นกับเจ้าหมา 2 ตัวที่บ้าน ด้วยความที่เธอไม่อยากเห็นมันมองมาตลอดเวลา เธอก็เลยสร้างรั้วไม้กั้นเอาไว้ซะเลย แต่ท่าทางเจ้าหมาคงจะอยากผูกมิตรกับเพื่อนใหม่จริงๆ มันก็เลยไม่ยอมให้รั้วบ้านแค่นี้มาเป็นอุปสรรค แล้วขุดหลุมด้านล่างรั้วเอาไว้มุดหน้าเข้าไปหาเพื่อนใหม่นั่นเอง รั้วแค่นี้ไม่อาจขวางกั้นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนหมาได้หรอก วันต่อมา Eby ก็ออกมาเล่นกับสุนัขของเธอเหมือนเดิม แต่เธอก็สังเกตเห็นว่าเจ้าหมาบ้านข้างๆ ได้ขุดหลุมเอาไว้แล้วมุดหน้าเข้ามาทักทายซะแล้ว แถมยังทำหน้าตาขี้อ้อนส่งมาทางเธอด้วย สวัสดีมนุษย์ ขอคุยกับเพื่อนหมาตัวใหม่หน่อยได้ไหม พอหมา 2 ตัวของเธอเห็นเข้า พวกมันก็ดูสนใจเจ้าหมาจากบ้านข้างๆ เหมือนกัน พวกมันก็เลยเข้าไปทักทายกันผ่านรูเล็กๆ ใต้รั้วนั่นแหละ อ้าว หวัดดี นายอยู่บ้านข้างๆ เหรอ ยินดีที่รู้จักนะ แถมเจ้าหมาของเธอทั้ง 2 ตัวก็ช่วยหมาบ้านข้างๆ ขุดรูจากทางด้านนี้ด้วย จนตอนนี้หลุมมีขนาดใหญ่พอให้หมาข้างบ้านสอดแขนของมันเข้ามาได้แล้ว ถึงแม้จะยังไม่สามารถมุดเอาตัวเข้ามาได้ แต่ก็ถือว่าหลุมใหญ่พอดู เรื่องนี้เธอยังไม่ได้คุยกับเจ้าของหมาเพื่อนบ้านเลยแม้แต่น้อย เพราะดูเหมือนว่าเพื่อนบ้านของเธอจะทำงานเวลากลางคืน จึงไม่ได้เจอหน้ากันเสียที…
-
หนุ่มโอดป้าข้างบ้านไม่ยอมให้ซ่อมท่อ หลังมีน้ำซึม-ไฟรั่ว บอก ‘อย่าเข้ามา ขอไหว้เจ้าก่อน’
กำลังเป็นประเด็นบนโลกอินเทอร์เน็ตในตอนนี้เลยทีเดียว ถึงกรณีของหนุ่มคนหนึ่งที่ได้ถ่ายทอดเรื่องราวประสบการณ์การเผชิญหน้ากับเพื่อนบ้าน ที่ได้ก่อปัญหาหลายอย่างให้ จนกระทั่งเกือบจะมีเหตุไฟไหม้ จึงทำให้หนุ่มคนนี้อดทนต่อไปไม่ไหวต้องลุกออกมาเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์สักหน่อย โดยเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า Akesarun Pathom-akkarapat Oath ได้เป็นผู้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงที่ได้เผชิญกับเพื่อนบ้านในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งเขาได้ลำดับเรื่องให้ฟังว่า บ้านของเขาได้มีพื้นที่ติดอยู่กับบ้านหลังหนึ่งที่มีเจ้าของเป็นคุณป้าคนหนึ่ง ผู้ที่นำเรื่องราวมาแชร์ให้ชาวเน็ตฟังในวันนี้ ก่อนหน้านี้ห้องน้ำชั้นที่สองของบ้านคุณป้าก็ได้เกิดน้ำรั่วซึมขึ้นมา จนไปทำให้ผนังบ้านของชายคนนี้เปียกชืื้น เขาจึงไปบอกเรื่องนี้แก่ทางคุณป้าเจ้าของบ้าน แต่ว่าป้าคนดังกล่าวก็ไม่ได้ทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาเลย จึงได้ไปเรียกส่วนกลางของโครงการบ้านมาคุย แต่ก็โดนคุณป้าไล่กลับไป เขาจึงตัดสินใจปรับปรุงทุกอย่างด้วยตัวเอง โดยไม่เรียกร้องความผิดชอบใดๆ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ได้จบลงไป แต่เหตุการณ์ที่ทำให้ชายคนนี้ต้องออกมาพูดก็เพราะว่า มีอยู่วันหนึ่งแฟนของเขาได้ไช้ห้องน้ำที่บริเวณชั้นล่างของบ้าน ทว่าเมื่อเอามือไปสัมผัสน้ำกลับโดนไฟดูด!! ใช้ไขควงลองเช็กไฟ ดังนั้นเขาจึงเข้ามาร่วมทดสอบเพื่อให้แน่ใจ แน่นอนก็โดนไฟดูดเช่นเดียวกัน เขาจึงนำไขควงทดสอบไฟฟ้ามาเช็ก ผลที่ได้ก็คือไฟรั่วจริงๆ แต่ด้วยความที่ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนแล้ว เขาจึงตัดสินใจรอให้ถึงรุ่งเช้าก่อนค่อยไปบอกคุณป้าบ้านหลังติดกันจะดีกว่า พอตอนเช้ามา ชายคนนี้ก็ทำการเช็กอีกรอบว่าไฟบ้านของเขาไม่ได้รั่ว ด้วยการสับเบรกเกอร์ไฟลง แล้วลองใช้น้ำดู แต่ก็ยังโดนดูดเช่นเดิมแถมผนังห้องน้ำยังมีความร้อนระอุออกมาด้วย คุณป้าเจ้าของบ้าน ด้วยความตกใจเขาจึงรีบไปแจ้งที่ส่วนกลางให้ไปช่วยบอกป้าคนนี้หน่อย แต่ส่วนกลางก็โดนคุณป้าไล่กลับมาเหมือนกับเหตุการณ์ในครั้งแรก และเมื่อกลับมาจากการทำงานแล้ว เขาจึงเข้าไปคุยกับคุณป้า แต่คุณป้ากลับไม่รับฟังแต่อย่างใด ส่งผลให้เขาต้องเรียกทั้งช่างทั้งตำรวจมาในที่สุด เมื่อทางเจ้าหน้าที่มาถึงก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากคุณป้าเจ้าของบ้านยังทำพิธีไหว้เจ้าเนื่องในวันตรุษจีนอยู่ และต้องรอให้พิธีเสร็จซะก่อนถึงจะยอมให้เข้าบ้านได้ ทางเจ้าหน้าที่รวมถึงเจ้าของบ้านก็รอ จนกระทั่งคุณป้าทำทุกอย่างเสร็จสิ้น…
-
เจ้าของบ้านต้องเล็มต้นไม้ เพราะเพื่อนบ้านร้องเรียนว่ามันใหญ่เกิน แสงแดดแทบไม่ส่องถึงบ้าน
ปกติแล้วเราเคยแต่ได้ยินการถกเถียงที่ว่ากิ่งไม้ที่ยื่นเข้ามาในรั้วบ้านเราถือว่าเป็นของเราหรือไม่ แต่ว่าเหตุการณ์ในวันนี้นั้นยิ่งกว่านั้นอีก เพราะมันไม่ได้มาเป็นกิ่งก้าน แต่มันมาเป็นพุ่มอันมโหฬาร และมันก็ไม่ได้แผ่เข้าไปในบ้านใครหรอกนะ เพียงแต่ว่ามันแค่มีขนาดใหญ่เกินจนไปบังแดดบ้านอื่นหมดเลยต่างหาก พุ่มไม้ดังกล่าวเป็นพืชจำพวกสนที่มีขนาดสูงราว 12 เมตร และเรียงเป็นแนวยาวกว่า 30 เมตร ที่ทำให้ผู้คนที่อาศัยในละแวกใกล้เคียงต้องบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาต้องย้ายไปใช้ส่วนหลังบ้านเสียมากกว่าเพราะส่วนหน้าบ้านนั้นโดนพุ่มไม้นี้บดบังแสงอาทิตย์จะหมด ทั้งนี้จึงทำให้เกิดการระดมทุนและร้องเรียนปัญหาพุ่มไม้ใหญ่นี้กับสภาท้องถิ่นของเมืองสวอนซีประเทศเวลส์ จนทำให้ Susan Rogers วัย 61 ปีผู้เป็นเจ้าของบ้านอันเป็นที่อยู่ของพุ่มไม้ยักษ์นี้ถูกสั่งให้ตัดกิ่งไม้ออกบ้างเพื่อจำกัดความสูงไม่ให้บังแสงอาทิตย์ที่จำเป็นสำหรับบ้านหลังอื่นๆ Beryl Robbins ผู้ประสานงานในพื้นที่ ขององค์กร Neighbourhood Watch ได้กล่าวว่า “การพยายามคุยกับคุณ Rogers ถึงปัญหาต้นไม้กล่าวไม่ประสบความเสร็จ เราจึงต้องติดต่อคุณ Jennifer Raynor เพื่อที่จะหาทางลดความสูงของพุ่มไม้นี้ พุ่มไม้ยักษ์นี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คน เพราะนอกจากจะบดบังทัศนียภาพแล้วยังทำให้พวกเขาไม่ได้รับแสงสว่างและแสงแดดเท่าที่ควรอีกด้วย” Raynor กล่าวว่า “คุณ Rogers ต้องทำอะไรสักอย่างกับมัน ผู้ตรวจการให้เวลาเธอ 3 เดือนเพื่อตัดกิ่งพุ่มไม้เหล่านี้ เธอยังเหลือเวลาอีกมากก่อนจะถึงการเปิดฤดูทำรังของนก” Louise Gibbard สมาชิกสภาท้องถิ่นกล่าวว่า “พุ่มไม้นี้ส่งผลเสียต่อสังคม ผู้ตรวจการได้ลงไปเยี่ยมบ้านที่ประสบปัญหาและเห็นว่าพุ่มไม้ยักษ์นั้นด้วยตัวเอง เราต้องการให้การจัดการเรื่องนี้เริ่มขึ้นอย่างเร็วที่สุด” ปัจจุบันกำลังรอความเห็นจากคุณ Rogers เจ้าของบ้านและเจ้าของพุ่มไม้สนยักษ์ดังกล่าว…
-
เมื่อป้าชั้นล่างเปิดทีวีเสียงดัง หนุ่มญี่ปุ่นเลยจัดการพังพื้นเพื่อทำลายทีวีของป้าให้สิ้นซาก!!
เรื่องราวสุดเงิบที่เหมือนจะตลกแต่เจ้าตัวกลับฮาไม่ออก เมื่อชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้ระบายถึงความรู้สึกแย่ๆ ของการที่ต้องทนอยู่กับเพื่อนบ้านไม่ค่อยดีในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง โดยเขาจะต้องสู้กับมลพิษรอบห้องของเขาทุกๆ วันจนในที่สุดเขาก็ทนมันไม่ไหว Kei Fujino หนุ่มวัย 33 ปี เล่าว่าทุกวันเขาต้องเจอกับชายคนหนึ่งที่ทำอาชีพปล่อยเงินกู้อยู่ชั้นล่างถัดจากเขาไป 2 ชั้น โดยชายคนนี้นั้นมักจะตะโกนใส่โทรศัพท์มือถือในช่วงเช้ามืดแทบทุกวันว่า “จ่ายเงินมาสักที” ส่วนอีกคนที่พ่อหนุ่มคนนี้ต้องเจอคือชายข้างห้องที่มีกลิ่นตัวเหม็นมากๆ เหม็นขนาดที่บางครั้งมันสามารถลอยตามลมเข้ามาในห้องของเขาได้ แต่ที่หนักที่สุด Kei เล่าว่า ป้าที่อยู่ห้องด้านล่างที่ตรงกับห้องของเขามักจะเปิดทีวีเสียงดังมากๆ จนพ่อหนุ่มเจ้าของเรื่องราวคนนี้ทนไม่ไหว จัดการทุบพื้นอพาร์ตเมนต์ โดยใช้ไม้ขนาด 120 เซนติเมตรฟาดลงไปกับพื้นจนเป็นรูกว้าง จากนั้นเขาก็ใช้ไม้ดังกล่าวโยนใส่ทีวีของป้าห้องข้างล่างต่อทันที โชคดีที่ป้าไม่เป็นอะไร คุณป้าคนนั้นได้แจ้งความไปยังตำรวจทันที หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนาย Kei พวกเขาก็ได้รับรู้เรื่องราวร้องไห้ไม่ได้ หัวเราะไม่ออกของเขา ตำรวจบอกว่านาย Kei และป้าคนดังกล่าวนั้นไม่เคยเจอหรือคุยกันแบบตรงๆ มาก่อนเลย ฉะนั้นสาเหตุที่เขาทำไปทั้งหมดล้วนเกิดจากความโมโหที่มีแก่ทีวีที่สร้างเสียงน่ารำคาญแก่เขาเท่านั้น สุดท้ายแล้ว Kei ก็ถูกตั้งข้อหาทำลายทรัพย์สินและถูกคุมขัง ซึ่งก็หวังว่าที่คุมขังนั้นจะแข็งแรงพอจะกักขังหนุ่ม Kei ไว้ให้ไม่ทำลายมัน หรือผู้คุมจะไม่เปิดทีวีเสียงดังนะ… จริงๆ ก็น่าสงสารพ่อหนุ่มคนนี้นะ ที่มา rocketnews24
-
คุณลุงโดนเพื่อนบ้านเอาอิฐมาวางขวางที่จอดรถ เลยเอาคืนโดยการฟ้องนักข่าวซะเลย
การมีเพื่อนบ้านที่ดี อาจจะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัย และแน่นอนว่าคุณแทบจะไม่ต้องกังวลเลยเวลาที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศเป็นแรมปี แต่ถ้าหากว่าคุณดั๊นโชคร้ายได้เพื่อนบ้านแบบที่ตรงกันข้ามล่ะก็ งานนี้มีปวดหัวแน่นอน!! คุณ Oliver Lynch ชายวัย 79 ปี ผู้นี้เองก็เป็นหนึ่งในคนที่โชคร้ายที่ต้องประสบพบเจอกับเพื่อนบ้านเจ้าปัญหา แต่ทว่าคุณปู่ท่านนี้กลับจัดการกับเพื่อนบ้านสุดแสบแบบสาสมเลยทีเดียว “ผมไม่ชอบให้ใครมารังแกผม” คุณปู่ให้สัมภาษณ์ โดยเหตุการณ์เพื่อนบ้านสุดแสบนี้เกิดขึ้นในวันหนึ่ง หลังจากที่คุณปู่กลับบ้านมาแล้วพบว่าถนนทางเข้าหน้าบ้านของเขานั้นถูกเพื่อนบ้านเอาก้อนซีเมนต์มาเรียงเป็นทางเพื่อกันเขต พร้อมกับบอกคุณ Oliver ว่าที่ตรงนี้คือเขตของบ้านพวกเขา เขตแดนที่ถูกแบ่งเข้ามาในที่ของคุณปู่ จากฝีมือของเพื่อนบ้าน แค่กั้นที่ยังไม่พองานนนี้คุณพี่เพื่อนบ้านถึงขั้นก่อปูนเพื่อกันไม่ให้คุณ Oliver ย้ายก้อนซีเมนต์เหล่านั้นได้เลยทีเดียว คุณปู่ได้เอาเอกสารของที่ดินตัวเองออกมาดูเพื่อยืนยันว่าบ้านของเขานั้นไม่ได้ล้ำที่ของใคร โดยในเอกสารที่ดินของคุณ Oliver นั้นระบุว่าเขาไม่ได้รุกล้ำเขตแดนแต่อย่างใด และคุณทางเข้าบ้านของเขานั้นกว้างมากถึง 3.5 เมตรเลยทีเดียว แต่ทว่าหลักฐานดังกล่าวนั้นกลับไม่เพียงพอ ทางศาลไม่สามารถที่จะสั่งทุบทางกั้นดังกล่าวได้ ซึ่งคุณปู่จะต้องทำการรังวัดที่ใหม่เพื่อยืนยัน หรือไม่ก็นำตัวเพื่อนบ้านของเขามาขึ้นศาลด้วย คุณ Oliver คิดว่าการที่จะพาตัวเพื่อนบ้านไปที่ศาลหรือรังวัดที่ใหม่นั้นเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก งานนี้คุณปู่ของเราจึงจัดการมอบบทเรียนให้กับเพื่อนบ้านด้วยตัวเองมันซะเลย คุณปู่ตัดสินใจติดต่อกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นให้มาทำสกู๊ปพิเศษ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เขากำลังเผชิญอยู่ และดูเหมือนว่ามันจะได้ผลอย่างดีด้วย เพราะหลังจากที่ทางรายการได้ออกอากาศรายการดังกล่าว ก็มีหลายคนที่เห็นใจคุณปู่ท่านนี้ และบอกว่าการกระทำของเพื่อนบ้านนั้นช่างไม่น่ารักเลยจริงๆ เมื่อคุยกันดีๆ ไม่ได้ งานนี้ก็ต้องถึงมือพี่นักข่าวแล้วหล่ะ!! …
-
เจ้าของใจสลายหลังพบแมวแสนรักที่หายไป อยู่ในสภาพถูกแขวนและเต็มไปด้วยเลือด
PussPuss เป็นชื่อของแมวน้อยสีขาวแสนน่ารักที่อาศัยอยู่กับครอบครัวใน Bicester, Oxfordshire ประเทศอังกฤษ ทว่าวันหนึ่งเจ้าเหมียวกลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย งานนี้ทำเอาเจ้าของต้องออกตามหา ก่อนที่จะพบมันอีกครั้งในสภาพที่ถูกแขวนและเต็มไปด้วยเลือด วันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ (17 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมา เจ้าเหมียว PussPuss ที่หายตัวไปถูกพบอยู่ในสวนของเพื่อนบ้าน ในสภาพที่ไร้ลมหายใจและถูกแขวนคอด้วยเชือกไว้ที่รั้ว จนทำให้มีเลือดไหลโชกลงมาที่ขาหลัง จากการรายงานระบุว่า ขณะนี้มูลนิธิป้องกันความรุนแรงในสัตว์ (RSPCA) กำลังเร่งสืบหาเบาะแสว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการกระทำที่โหดร้ายกับเจ้าเหมียวเช่นนี้ ทางด้าน Lisa Gamage ผู้เป็นเจ้าของแมวได้ออกมาเผยว่า เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากที่มีคนจิตใจโหดเหี้ยมมาทำร้าย PussPuss และพรากมันไปจากลูกชายของเธอ “มันน่าเศร้ามากจริงๆ มันเป็นแมวที่สวยงาม แถมเป็นมิตรมาก มันไม่เคยออกไปไหนไกลๆ และไม่ชอบออกไปข้างนอกเวลาฝนตก ฉันก็ได้แต่หวังว่ามันจะถูกฆ่าตายอย่างรวดเร็วและไม่ได้ถูกทรมาน” Lisa กล่าว อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมากล่าวว่า แมวขาวได้ถูกแขวนลงมาจากรั้วในสวน และเลือดของมันก็ไหลลงมาที่ขาหลังเต็มไปหมด “นี่น่าจะเป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับผู้ที่โทรมาแจ้ง และรู้สึกเสียใจกับเจ้าของแมว เรายังไม่ทราบแน่ชัดว่าตอนที่เจ้าเหมียวถูกแขวนมันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ บางทีมันอาจจะแค่ถูกห้อยเอาไว้เฉยๆ…
-
ชาวเน็ตร่วมแชร์ความแปลกของ ‘เพื่อนบ้าน’ ถ้าได้อยู่ข้างกันล่ะก็คงมีแต่เรื่องบันเทิงแน่!!
เราอาจจะเคยเจอเพื่อนบ้านที่ใจดีบ้าง เพื่อนบ้านหยิ่งบ้าง หรือแม้กระทั่งเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย แล้วมีเคยเจอเพื่อนบ้านแปลกๆ มั้ย? อย่างเพื่อนบ้านเหล่านี้ที่ชอบทำอะไรแปลกไปจากคนทั่วไป จนบางทีก็ออกจะน่ากลัวไปซะหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นการสร้างความบันเทิงให้เพื่อนบ้านขี้เผือกอย่างเราๆ 1. ดัดแปลงระเบียงให้เป็นเรือโจรสลัด อืม คิดอะไรอยู่หนอ? 2. เจอแบบนี้ คุณจะคิดว่าเขาเป็นเพื่อนบ้านที่แปลกมั้ย? 3. ปกติเห็นแต่กวางลากซานต้า แต่นี่เอาซานต้าลากกวาง 4. เพื่อนบ้านกำลังประชุมกับแตงโมตอนตี 3!? 5. เพื่อนบ้านพานกแก้วไปเดินเล่น? 6. เพื่อนบ้านนำก้อนหิมะมาแช่แข็ง เพื่อเอาไว้ปาเล่นในช่วงฤดูร้อน 7. เอาเทปมาปิดรอยแตก แต่พอเพื่อนบ้านวัย 92 ปี มาเห็น คิดว่าติดเลขที่บ้านและเอามาแปะบ้าง 8. ระเบียงข้างบนเป็นของ 2 หนุ่ม ชั้นล่างเป็นของ 2 สาว นี่แหละความต่างของผู้หญิงกับผู้ชาย 9. เพื่อนบ้านติดป้ายไม่ให้ทิ้งก้นบุหรี่ลงในสวน เพราะเจ้าเหมียวชอบเอามาสูบต่อตอนกลางคืน และพวกเขาพยายามให้มันเลิกอยู่ …
-
สาวเจ้าทำโทรศัพท์ตกในเขตของเพื่อนบ้าน แถมไม่มีใครอยู่ ก็เลยต้องทำภารกิจกู้ชีพขึ้นมา
เวลาที่ทำมือถือตกลงพื้นหลายคนจะรีบหยิบขึ้นมาและลุ้นว่าหน้าจอมันจะแตกหรือเปล่า ถ้าแตกนั่นก็ถือว่าเป็นความโชคร้ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สำหรับเธอคนนี้มันกลับแย่ซะยิ่งกว่านั้น เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อ Liz Bertorelli ดันทำมือถือตัวเองตกลงพื้น แต่ที่สำคัญเลยก็คือมันดันตกลงไปบนพื้นระเบียงของห้องข้างล่าง!! เธอจึงต้องสวมบทบาทเป็นหน่วยกู้ภัยไอโฟนขึ้นมา เธอได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดลงในทวิตเตอร์ของตัวเอง เราไปดูกันเลยว่าภารกิจของเธอนี้มันยากลำบากมากขนาดไหน คืนวันที่ 3 ตุลาคม เธอทำไอโฟนตกลงไปและรู้สึกอยากจะบ้าตายเมื่อเห็นการแจ้งเตือนมันเด้งขึ้นมาเรื่อยๆ เช้าวันถัดมาเธอใช้วิธีเขียนเบอร์โทรของอีกเครื่องหนึ่งที่เธอมีลงในโน้ตแผ่นเล็กๆ และหย่อนลงไปบนโต๊ะด้านล่าง แต่พอผ่านไปแค่ไม่กี่นาที กระดาษโน้ตแผ่นนั้นก็ปลิวลงไปอยู่ตรงพื้นซะแล้ว จากนั้นก็มีคนมาให้คำแนะนำด้วยนะ อย่างชายคนนี้ที่บอกให้เธอลองเขียนสัญลักษณ์ที่มองเห็นได้ชัดห้อยเอาไว้ หรืออาจจะวาดการ์ตูนลงไปด้วยก็ได้ อีกคนที่แนะให้เธอลองหย่อนเอ็นตกปลากับอะไรเหนียวๆ ไปติดเจ้าไอโฟนขึ้นมา Liz จึงคิดได้ว่าเธอมีไม้ถูพื้นกับเทปกาวอยู่ หวังว่าสิ่งนั้นจะช่วยเธอได้นะ ตอนนี้เธอก็ลองมาคิดดูอีกว่าเธอจะส่งโดรนลงไปซะเลยดีมั้ยเนี่ย เวลาผ่านไปไม่นานแต่เธอก็รู้สึกคิดถึงเจ้ามือถือเครื่องนี้มาก แม้ตอนกำลังให้อาหารเจ้าหมาก่อนออกไปทำงาน หลังเลิกงานกลับมาบ้านเธอก็ต้องพบว่ามือถือดันต้องเปียกฝนซะอีก แถมเจ้าหมาก็ยังรอคอยการกลับมาของไอโฟนไม่ต่างกับเธอเลย เธอลงไปเคาะห้องด้านล่างนั้นดูถึง 3 ครั้งแต่ก็ไม่มีการตอบรับ สงสัยว่าพวกเขาคงจะออกไปเที่ยวหรือไม่ก็ออกไปทำงานเป็นเวลานาน ไม่อย่างนั้นอาจเป็นคนหลับลึกนอนอยู่ในห้องก็ได้ สุดท้ายเธอก็นำอุปกรณ์ที่มีขนาดยาวออกมาทั้งหมด (รวมถึงโดรนและน้องหมาด้วยนะ) ขณะนี้ไอโฟนก็ยังทำงานได้ดีอยู่เพราะหน้าจอยังคงมีการแจ้งเตือนให้เห็น เครียดไปตลอดคงจะไม่ไหว โชคดีที่เธอได้สหายและสุราคู่ใจมาดับความหัวร้อนเอาไว้ เธอนำเอ็นมาผูกกับกระเป๋าเพื่อหย่อนลงไปป้องกันไม่ให้มือถือต้องเปียกน้ำ…
-
เจ้าตูบสมองเหงา ไม่ว่าใครจะผ่านมา มันก็มักจะอ้อนวอนให้ “เล่นขว้างของ” ด้วยเสมอ
หากแมวเป็นสัตว์ที่หลับได้หลับดี หลับยังไงมันก็ไม่ค่อยพอซักที ขอบอกเลยว่าสุนัขก็เป็นสัตว์ที่ขี้เล่นได้ขี้เล่นดี เล่นยังไงมันก็ไม่พอซักทีเช่นกันนั่นแหละ เว็บไซต์ TheDodo ศูนย์รวมเรื่องราวสัตว์โลกได้รายงานเรื่องราวของ Caterina Dellabona ชาวเน็ตผู้ไม่ประสงค์เปิดเผยหน้าตาของตน ที่ดันไปเดินผ่านประตูบ้านแห่งหนึ่ง แล้วก็ต้องพบกับเรื่องยุ่งๆ เข้า ตอนนั้นเธอได้เดินผ่านหน้าบ้านแห่งหนึ่ง ที่เขียนป้ายเป็นภาษาอิตาลีไว้ว่า “ได้โปรดกรุณาอย่าโยนของเล่นใส่ตัวหมา ให้โยนไปทางซ้ายหรือขวาแทน” แน่นอนว่าใครที่เห็นป้ายนี้ตอนแรกก็ต้องรู้สึกงงไม่แพ้กัน เธอถึงกับสบถในใจตัวเองว่า.. “นี่มันต้องเป็นบ้านคนบ้าแน่ๆ” จนกระทั่งจู่ๆ ก็มีสุนัขเดินออกมาแบบ งงๆ “มันมองมาที่ฉันแล้วก็แบบว่า ส่ายหางดุ๊กดิ๊กไปมา แถมในปากมันยังคาบอะไรบางอย่างที่เหมือนของเล่นมันมาด้วย ซึ่งฉันดูๆ แล้วรั้วมันก็กว้างพอที่จะให้มันเอาหัวออกมาได้ จากนั้นมันก็ยื่นของเล่นออกมาให้ฉัน” ซึ่งเธอก็รู้ทันทีว่าเจ้าหมาไม่ได้ต้องการอะไรมากไปซะกว่า การมีมนุษย์ใจดีที่เดินผ่านไปมาแวะเล่นกับมันคนละครั้งสองครั้ง ให้มันได้วิ่งเล่นไปคาบลูกบอลอย่างสนุกสนาน “ตั้งแต่วันนั้นมาทุกครั้งที่เดินผ่านที่นี่ ฉันจะแวะเล่นกับมันตลอดเลยล่ะค่ะ แต่คุณต้องระวังนะเพราะถ้าได้เล่นกับมันแล้ว… มันจะไม่ยอมปล่อยให้คุณกลับบ้านเลยล่ะ” และเรื่องนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นว่า เจ้าตูบนี่มันติ๊งต๊องกันจริงๆ เลยนะ ที่มา: TheDodo
-
19 ความเกรียนของเหล่าเพื่อนบ้าน พกมาทั้งความฮาแถมน่ารัก ถ้าได้เจอแบบนี้งี้รักตายเลย…
บางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่า เราเบื่อกับการใช้ชีวิตกับเพื่อนบ้านซะเหลือเกิน จนอยากจะแยกตัวออกไปอยู่ในป่าให้มันรู้แล้วรู้รอด เพราะบางครั้งเพื่อนบ้านก็ทำตัวน่ารำคาญ เข้ามาจู้จี้ขี้สอ หรือบางทีก็เป็นขาเม้าท์ชอบนินทาไปทั่วทุกสารทิศ ทว่าวันนี้เราจะมาดู 19 เพื่อนบ้านสุดเกรียน ที่ดูแล้วจะทำให้รู้สึกว่า เออมีเพื่อนบ้านก็ดีเหมือนกันชีวิตจะได้มีสีสัน ดีบ้าง แย่บ้าง ฮาบ้างปนๆ กันไป ว่าแต่เพื่อนบ้านที่จะมาให้ดูกันนั้นจะเป็นยังไง ไม่แน่นะว่าคุณอาจจะเคยเจอประสบการณ์แบบนี้มาบ้างก็ได้!! เมื่อเจ้าของภาพช่วยรับเลี้ยงลูกแมวของเพื่อนบ้าน พวกเขาก็เลยส่งเสบียงเสริมมาให้ เพื่อนบ้านของตาคนนี้เผลอเปิดสปริงเกอร์ไว้ทั้งคืนที่อากาศหนาวจัด จนตอนเช้าก็สวนน้ำแข็งมาเป็นของตัวเอง เจ้าหนู Carter อยากกินกล้วย เลยเดินมาบ้านเจ้าของภาพเพื่อขอกล้วยกิน แล้วก็เดินจากไป… แม้จะใช้ชีวิตในคอนโด แต่เพื่อนบ้านสองสไตล์ก็เพลินดีเหมือนกันนะ ชั้นบนเป็นผู้ชายสองคน ชั้นล่างเป็นผู้หญิงสองคนอยู่ด้วยกัน เมื่อคุณติดกระจกผิดจนเวลาอาบน้ำเพื่อนบ้านเห็นชัดแจ๋ว แต่เขิลไม่กล้าบอกเลยฝากข้อความมาให้แก้กระจกหน่อยนะ เห็นทุกวันเลยยย เมื่อสถานีดับเพลิงอยู่ใกล้สถานีตำรวจ และตำรวจอเมริกาก็ชอบกินโดนัท งานนี้ก็เลยแกล้งกันเล่นๆ โดยเอาโดนัทมาทำกับดักเลย คนนะไม่ใช่หนู!! เจ้าของภาพเล่าว่า ตอนตีสามที่เขาตื่นมาเข้าห้องน้ำ ก็เจอเพื่อนบ้านข้างๆ นั่งคุยกับแตงโมเฉยเลย แถมพาเพื่อนๆ มาอีกเพียบ… ป้ายเตือน ห้ามทิ้งก้นบุหรี่เรี่ยราดในบริเวณนี้ เพราะแมวจะออกมาแอบดูดต่อ…
-
ลุงเกลียดเพื่อนบ้านขั้นหนัก ลงทุนตัดหญ้าเป็นคำว่า “ไอ้งั่ง” ตัวโตๆ มองเห็นชัดจากบนฟ้า!!!
เป็นเรื่องปกติที่ในบางครั้ง บ้านเรากับเพื่อนบ้านอาจจะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ ซึ่งบางคนก็ถึงขั้นไม่มองหน้ากันเป็นปีๆ ในขณะที่บางคนอาการหนักถึงขั้นย้ายบ้านหนีเลยก็มี เหมือนดังเช่นเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ที่ดูเหมือนว่าเขาจะเกลียดเพื่อนบ้านขั้นหนัก ถึงกับลงทุนตัดสนามหญ้าหลังบ้านให้กลายเป็นคำว่าไอ้งั่ง พร้อมเติมลูกศรชี้ไปทางบ้านของคู่กรณีกันเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Brian Juel คุณลุงจาก Sequim รัฐวอชิงตันรายนี้ ลงทุนตัดหญ้าคำว่า A Hole หรือไอ้งั่ง (A-Hole เป็นคำย่อๆ ของ Asshole) เป็นตัวอักษรขนาดใหญ่เอาไว้ที่สนามหญ้าหลังบ้านของเขา ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบ่งบอกให้รู้ว่าเขารู้สึกเกลียด Cindy และ Brian Zechenelly ผู้เป็นเพื่อนบ้านมากขนาดไหน จากการรายงานระบุว่า เรื่องราวความขัดแย้งระหว่างสองบ้านนี้ ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2009 โดยทางครอบครัวของ Zechenelly ได้สร้างโรงรถสีม่วงขนาดใหญ่ไว้บนที่ดินของพวกเขา แต่นั่นกลับทำให้คุณลุง Brian และเพื่อนบ้านในละแวกนั้นอีกหลายๆ คน เกิดความไม่พอใจอย่างหนัก เพราะพวกเขาไม่พอใจในรูปลักษณ์ของมัน อีกทั้งอาคารสีม่วงดังกล่าวยังเป็นการลดคุณค่าของทรัพย์สินโดยรอบอีกด้วย งานนี้จึงทำให้พวกเขาได้พากันยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อฟ้องร้องครอบครัวของ Zechenelly เพราะความไม่พอใจอย่างหนัก…
-
เจ้าเหมียวช่วยเพื่อนบ้านให้รอดชีวิต หลังไม่มีใครได้ยินเสียงเธอ ที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือ…
คนที่เลี้ยงแมวมักจะรู้ว่า แมวนั้นมีเซนส์บางอย่างที่มนุษย์ไม่มีหรือจะเรียกว่าสัมผัสที่หกก็ได้ เช่นเวลาเจ้าของป่วยหรือรู้สึกไม่สบาย ก็มีแมวนี่แหละที่มักจะรับรู้ได้ก่อน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะความผูกพันระหว่างเจ้าของกับแมว เหมือนกับน้องเหมียวตัวนี้ที่ใช้ความสามารถพิเศษในด้านการได้ยินทำการช่วยเหลือเพื่อนบ้าน จนทำให้เธอรอดมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน 2017 ได้มีการเผยแพร่เกี่ยวกับความกล้าหาญของเจ้าเหมียว Bandit ที่อาศัยอยู่กับ Fran Swayz ในเมือง Cleburne รัฐเท็กซัส Fran ได้รับเลี้ยง Bandit จากศูนย์พักพิงเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว ปัจจุบันเธอและแมวอาศัยอยู่ในชุมชนผู้อาวุโส Buena Vista Senior Community ปกติแมวอาจจะไม่ค่อยชอบเดินเล่นเหมือนสุนัขสักเท่าไหร่ แต่สำหรับ Bandit แล้ว มันรักการเดินเล่น มันจึงชอบเดินไปกับเจ้าของในทุกๆ เย็น Mary Baker เพื่อนบ้านที่ร้องขอความช่วยเหลือ จนเมื่อเย็นวันหนึ่งลูกสาวของ Fran ได้แวะเข้ามาเยี่ยม เจ้าเหมียวก็ขอให้พวกเขาพาเดินเล่นเป็นรอบที่สอง ซึ่งผิดปกติไปจากเดิมมากๆ เพราะมันไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ถึงอย่างนั้น Fran ก็ปล่อยน้องเหมียวออกมา แต่ทันใดนั้นมันก็พุ่งเข้าไปที่บ้านหลังหนึ่งแล้วร้องเมี๊ยวๆ ส่งเสียงดังตลอด เจ้าของและลูกสาวจึงวิ่งตามมันไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วพวกเขาก็พบกับ Mary Baker…
-
ปู่วัยเกษียณถึงกับเดือด หลังเห็นเพื่อนบ้านปล่อยให้สุนัขอึเรี่ยราด และไม่ยอมทำความสะอาด
ในขณะที่บ้านของเราไม่ได้เลี้ยงสุนัข แต่กลับต้องมาทนทุกข์อยู่กับอุจจาระของสุนัขข้างบ้านที่อึเรี่ยราด เรียกได้ว่ามันคงเป็นสิ่งที่ทำให้หลายๆ คนรู้สึกไม่พอใจอย่างมากแน่นอน John Smedley คุณปู่วัยเกษียณคนนี้ก็เช่นกัน เขาถึงกับโกรธจัดหลังจากที่เพื่อนบ้านไม่ยอมเก็บอุจจาระของสุนัขตัวเอง งานนี้เล่นเอาคุณปู่ถึงกับออกมาต่อว่าเจ้าของอย่างดุเดือดกันเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ Metro ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอขณะที่ John คุณปู่วัย 72 ปี ได้ออกมาด่าเพื่อนบ้านซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์วัย 3 ปีอย่างโกรธจัด หลังจากที่เขาได้ปล่อยให้สุนัขของตัวเองอึเรี่ยราดบนท้องถนน จากการรายงานระบุว่า คุณปู่ปฏิเสธที่จะยอมรับข้อกล่าวหาของ David McDermott ว่าสุนัขของเขานั้นอึเป็นของเหลว โดยทาง Lynn คุณย่าวัย 72 ผู้เป็นภรรยาก็ได้ทำการโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมโยนถุงให้กับชายผู้เป็นเจ้าของสุนัข เพื่อให้เขาทำความสะอาดถนน นอกจากนี้ คุณปู่ยังได้ออกมาเผยว่า “ตอนนั้นฉันอยู่ในห้องนอน และกำลังทำความสะอาดหน้าต่าง ซึ่งฉันก็เห็นในสิ่งที่เขากำลังทำ เขาปล่อยให้สุนัขของเขาอยู่ที่นั่น และเขาก็ยืนอยู่ที่นั่นด้วย… เมื่อสุนัขของเขาอึเสร็จ เขาก็เหยียบมันและใช้เท้าถูมัน จากนั้นเขาก็เดินออกไป ซึ่งมันทำให้ฉันทนไม่ได้ที่จะตะโกนด่าเขาจากหน้าต่างห้องนอน” หลังจากที่ทางคุณปู่ได้ตะโกนด่าผู้เป็นเจ้าของสุนัข เขาก็ได้ตอกกลับมาว่า สุนัขของเขาได้อึบนถนนสองครั้ง แต่เขาไม่สามารถทำความสะอาดได้…
-
14 เพื่อนบ้านแสนน่ากลัว ถึงพวกเขาจะไม่ได้ทำอะไร… แต่มันก็สร้างความหลอนได้จริงๆ
สำหรับเพื่อนๆ หลายคนแล้วคงคิดว่า ‘บ้าน’ เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยมากที่สุด ไม่มีที่ไหนที่จะสบายใจไปกว่าการได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านอีกแล้ว แต่คงไม่ใช่กับเหล่าคนที่มีเพื่อนบ้านแบบที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาให้เพื่อนๆ ชมกันในวันนี้อย่างแน่นอน เพราะมันทั้งหลอน ลแะน่ากลัว จนไม่อยากอยู่บ้านเลยล่ะ ฮร่า 1. ดูไกลๆ ก็ไม่เห็นอะไรนะ แต่ซูมไปใกล้ๆ เท่านั้นแหละ!! (ถึงจะเป็นแค่รูปภาพแต่ก็หลอนอยู่ดี T T) 2. เฮ้ นายที่เดินผ่านไปน่ะ ฝากซื้อข้าวกล่องถุงนึงเด่ะ (ตรูไม่อยู่แล้วว้อยยย!!) 3. ประตูทางเข้าของห้องตรงข้ามมีสัญลักษณ์แปลกๆ เหมือนกับตราของพิธีกรรมแม่มดอะไรซักอย่าง -*- 4. แล้วแกออกมายืนทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ เบอร์นี้ล่ะ 5. นอนดูหนังในบ้านชิลๆ ถ้าเผลอเหลือบมาดูหน้าต่างล่ะก็คงจะหลอนจนนอนไม่หลับแน่ๆ เลย 6. เมื่อข้างบ้านปล่อยเด็กๆ ให้ออกมาวิ่งเล่นตอนกลางคืน 7. ใครบอกให้เอาตุ๊กตาชัคกี้มาวางไว้ที่ระเบียงฟร๊ะ? 8. ถ้าพี่ว่างๆ ก็รบกวนยกมันไปเก็บไว้ที่อื่นเถอะ ในห้องเก็บของหรือทิ้งไปเลยก็ได้…
-
ชาวเน็ตโวย เพื่อนบ้านเทปูน วางกระถางต้นไม้เลยออกมาครึ่งถนน แจ้งเขตแต่ทำอะไรไม่ได้
การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นเราจะต้องมีน้ำใจและเคารพกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่มีการกำหนดไว้นะ เพราะหากแต่ละคนทำตามใจตัวเองโดยไม่ฟังเสียงรอบข้างล่ะก็ คุณก็อาจจะกลายเป็นปัญหาแบบนี้ได้ล่ะ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อคุณ Konun Konun ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองลงในโลกออนไลน์ โดยเจ้าตัวบอกว่าภายในหมู่บ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่นั้น มีเพื่อนบ้านรานหนึ่งได้เทปูนเลยออกมาหน้าบ้านกว่า 2.5 เมตร กินพื้นที่ในหมู่บ้านครึ่งหนึ่งของถนน ทำให้คนในหมู่บ้านเข้าออกลำบาก แถมยังมีการนำเอากระถางต้นไม้และถังขยะมาวางหน้าบ้านเพื่อกั้นเป็นอนาบริเวณของตัวเอง แม้จะมีการเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนบ้านรายนี้แล้วแต่กลับแสดงความไม่พอใจ พร้อมกับบอกว่า “เหมือนเอารถมาจอดหน้าบ้าน 1 คัน ทำมาตั้งนานไม่เคยมีปัญหากับใคร” เจ้าตัวจึงทนไม่ได้ต้องมาระบายให้ชาวเน็ตรับทราบ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปได้ไม่นานก็มีชาวเน็ตให้ความสนใจกับประเด็นดังกล่าวมากพอสมควร และร่วมกันแชร์ประสบการณ์แย่ๆ เกี่ยวกับเพื่อนบ้านอีกมากมาย . . ถ้าเราจะมีเงินซื้อบ้านหลังละเป็นล้าน แต่สิ่งที่เราซื้อไม่ได้ก็คือเพื่อนบ้านนี่แหละนะ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเพื่อนบ้านเราจะเป็นคนยังไง ทางที่ดีเราควรมีน้ำใจกับคนอื่นๆ ด้วยนะ เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบสันติ ที่มา Konun Konun
-
เพื่อนบ้านที่แสนดี… ชายหนุ่มชวนชาวเน็ตระดมทุนนับล้าน ช่วยคุณยายวัย 104 ปี ไม่ต้องขายบ้านทิ้ง
ชีวิตของคนเรานั้นไม่มีอะไรที่แน่นอนจะมีใครอยู่กับเราไปจนถึงช่วงบั้นปลายขีวิตบ้างก็ไม่มีใครรู้ได้ ด้วยอายุที่แก่ลงไปย่อมทำให้เราใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากขึ้น จึงต้องการคนที่มาดูแลถ้าไม่เช่นนั้นก็ต้องออกจากบ้านที่แสนรักไปใช้ชีวิตอยู่ในบ้านพักคนชรา คุณยาย Audrey เองก็เช่นกัน เธอเป็นหญิงชราที่มีอายุมากกว่า 104 ปี อาศัยอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเธออยู่โดยลำพังตัวคนเดียว (ส่วนสามีของเธอเสียชีวิตไปตอนเธออายุ 70 ปี และลูกชายก็เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุในวัย 21 ปี) เมื่อ 4 ปีก่อนคุณยาย Audrey ได้รับอุบัติเหตุในบ้านของเธอจนทำให้กระดูกสะโพกหัก จึงทำให้เธอจำเป็นที่จะต้องใช้เงินในการรักษา ซึ่งเงินที่เธอเก็บมาตลอดชีวิตก็ค่อยๆ หมดไป เธอจำเป็นต้องใช้เงินกว่าปีละ 3 ล้านบาท นั่นทำให้เงินสวัสดิการหลังเกษียณเดือนละ 30,000 บาทแทบจะดูไร้ความหมาย เงินเก็บตลอดชีวิตเธอที่มีกว่า 6 ล้านบาท ก็ค่อยๆร่อยหรอลงไป จนทำให้ต้องตัดสินใจที่จะขายบ้านของเธอ!! แต่ชายหนุ่มวัย 21 ปี Evan เพื่อนบ้านของ Audrey เขาไม่อยากให้คุณยายที่เลี้ยงเขามาตั้งแต่เด็กๆ สูญเสียบ้านของเธอไป เขาอยากให้เธอได้อาศัยอยู่ในบ้านของเธอคอยเป็นเพื่อนบ้านกันเหมือนเดิมอย่างที่เคยเป็น เพราะเชื่อว่าบ้านหลังนี้เป็นสิ่งสำคัญต่อคุณยายเป็นอย่างมาก และครอบครัวของเขาก็พร้อมที่จะให้การดูแลคุณยาย Audrey ก็เลยปิ๊งไอเดียด้วยการเข้าไปหาเงินสมทบทุนในเว็บไซต์ GoFundMe เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือคุณยาย พร้อมกับบอกเหตุผลถึงความรักที่คุณยายมีต่อเขาตั้งแต่สมัยเขายังเด็ก ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์ที่ถึงไม่ใช่ยายแท้ๆ…
-
คู่รักเพลย์บอยจัดปาร์ตี้สนั่นทั้งคืน จนเพื่อนบ้านโวยลั่น เพราะสร้างความรำคาญเหลือเกิน
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพชีวิตอันน่าอิจฉาของคู่รัก Bastion และ Maria Yotta หรือที่รู้จักกันในนามคู่รัก Yotta ที่กำลังมีความสุขกับงานปาร์ตี้อันสนุกสุดเหวี่ยง และคึกคักอย่างกับผับเพลย์บอย ท่ามกลางบรรดาหนุ่มสาวที่ได้มาร่วมงานเพียบ ซึ่งภายในงานปาร์ตี้ของทั้งคู่ เต็มไปด้วยบรรดาหนุ่มๆ และสาวอกตู้มในชุกเซ็กซี่สุดวาบหวิว โดยเวลากลางวันก็ใช้ชีวิตแบบเก๋ๆ ให้คนอิจฉาเล่น พอตกกลางคืนก็จัดงานปาร์ตี้สุดรื่นเริงกับพวกเพื่อนๆ เฮ้อ…ช่างเป็นชีวิตที่น่าอิจฉาเสียจริง พวกเขาใช้ชีวิตสนุกแบบนี้แทบทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนบ้านในย่านฮอลลีวูดฮิลส์ นครลอสแอนเจลิส ต่างก็ออกมาบ่นว่าชีวิตที่ดี๊ดีของพวกเขานั้น ได้สร้างความน่ารำคาญให้กับเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก แถมยังส่งเสียงดังฟังแล้วไม่สบายหูเป็นที่สุด โอ้ววว ช่างหรูหราอะไรขนาดนี้ แต่ดูเหมือนว่าคู่รัก Yotta ทั้งสองจะหาได้แคร์คำพูดเหล่านี้ไม่ พวกเขาก็ยังคงใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป แถมยังบอกอีกว่าที่เพื่อนบ้านออกมาบ่นแบบนี้ ก็เพราะว่าความอิจฉานั่นแหละ และกว่าจะมาเป็นคู่รักมหาเศรษฐีแบบนี้ได้ พวกเขาเคยขายอุปกรณ์ด้านสุขภาพและความงาม อีกทั้งยังเป็นนักพูด เป็นโค้ชการใช้ชีวิตแบบ Yotta และได้ออกหนังสือสอนวิถีสู่ความรวย และชีวิตที่มีความสุขมาแล้วถึง 2 เล่มอีกด้วย …
-
รับชมคลิปวีดีโอหนูน้อยชาวจีน พลาดตกจากหน้าต่างบนตึกชั้น 4 แต่โชคดีที่มีฮีโร่มาช่วยไว้ทัน!!
คลิปวีดีโอสุดระทึกนี้ ถูกถ่ายขึ้นที่ประเทศจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงชายชาวจีนคนหนึ่ง กำลังใช้ไม้ถูพื้นดันตัวเด็ก เด็กผู้หญิง เพื่อช่วยชีวิต หลังจากที่เธอได้พลัดตกจากหน้าต่างของตึกชั้น 4 โดยเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2558 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า เด็กผู้หญิงคนนี้ถูกปล่อยให้อยู่ในห้องพักเพียงคนเดียว และในขณะที่เธอกำลังเล่นอยู่ตามลำพังนั้น เธอก็เกิดพลาดตกจากหน้าต่างบนตึกชั้น 4 แต่โชคดีที่เธอไม่เป็นอะไรมาก เพราะหัวของเธอติดคาอยู่กับลูกกรง จึงทำให้เธอไม่ตกลงมาข้างล่างยังไงละเหมียว ด้วยความตกใจจึงทำให้เธอร้องไห้ออกมาเสียงดัง จนเพื่อนบ้านได้ยิน และสามารถช่วยชีวิตของเธอไว้ได้ โถๆๆ ขวัญเอ้ยขวัญมา หนูน้อยคงจะกลัว และตกใจสุดขีดเลยนะเนี่ย นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราว ที่เป็นอุทาหรณ์ของพ่อแม่หลายคน ที่มักจะชอบทิ้งลูกให้อยู่ห้องพัก หรือบ้านตามลำพัง เพราะถ้าหากลูกของคุณอยู่ในวัยกำลังซน บางทีอาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนหนูน้อยคนนี้ก็ได้ ที่มา : huffingtonpost
-
เขาสะสมฝาขวดที่ใช้แล้วกว่า 75,000 ฝาจากเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างเป็นงานศิลปะสุดอลังการ
‘Droppings and the Dam’ เป็นงานศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นมาจากฝาขวดที่ใช้แล้วกว่า 75,000 ฝา ซึ่งเจ้าของผลงานชิ้นนี้มีชื่อว่า Arunkumar H G เขาได้ทำการไล่เก็บสะสมฝาขวดจากเพื่อนข้างบ้านมานานกว่า 1 ปีแล้ว จากนั้นจึงเอามาสร้างเป็นงานศิลปะสุดเจ๋งที่เราได้เห็นกันนี้ยังไงล่ะ มันช่างเป็นงานศิลปะที่ทั้งสวยและแปลกจริงๆ และที่สำคัญการเก็บฝาขวดเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกว่ามันเป็นการออกกำลังกายที่น่าตื่นเต้นมาก จากการไล่เดินเก็บสะสมชิ้นส่วนพวกนั้น เพื่อที่จะนำมาประดิษฐ์เป็นผลงานที่อลังการงานสร้างแบบนี้ เรียกได้ว่ามันเป็นผลงานศิลปะที่สวยงาม และอลังการงานสร้างจริงๆ งานนี้ต้องขอปรบมือรัวๆ ให้กับผู้ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ขึ้นมาให้เราได้ชมกันซะแล้ว ที่มา : boredpanda