Tag: เพื่อนร่วมงาน
-
สาวโพสต์เศร้า เพื่อนร่วมงานไม่สนใจวันเกิด ชาวเน็ตแนะนำ “จัดเอง” ไปเลย!!
แต่ละคนก็ให้ความสำคัญกับวันเกิดแตกต่างกันออกไป บ้างก็เห็นว่าเป็นเพียงวันครบรอบอายุที่แสนธรรมดา บ้างก็มองว่ามันคือวันพิเศษที่ต้องการให้เพื่อนๆ มาร่วมเฉลิมฉลอง เช่นหญิงสาวที่ใช้ชื่อบนเว็บ Imgur ว่า AppleDarling คนนี้ ที่ได้โพสต์เล่าถึงความหม่นหมองเมื่อเพื่อนร่วมงานของเธอ ไม่มีใครมาอวยพรวันเกิดให้เธอเลย AppleDarling เล่าว่า… “ฉันทำงานที่นี่มา 6 เดือนแล้ว ที่นี่ผู้ชายเป็นใหญ่เอามากๆ มีเพื่อนร่วมงานหญิงแค่คนเดียวที่อายุพอๆ กับฉัน แต่เธอมักคุยหรือสนใจพวกเพื่อนร่วมงานผู้ชายเสียมากกว่า ฉันพยายามทำตัวเป็นมิตรกับเธอและเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆ ฉันมักเห็นเธอวางแผนจัดงานปาร์ตี้วันเกิดและมอบของขวัญให้พนักงานคนอื่นๆ อยู่เสมอ นั่นทำให้ฉันตื่นเต้นมาก และเมื่อวานขณะที่ฉันกำลังจะกลับบ้าน เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งก็เข้ามากล่าวสุขสันต์วันเกิดล่วงหน้ากับฉันเพราะรู้ว่าวันถัดไปฉันจะหยุดงาน ฉันจึงถามเขาว่ารู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร นั่นทำให้ฉันรู้ว่า เพื่อนร่วมงานหญิงของฉันคนนั้นได้บอกกับทุกคนว่าฉันจะไม่มาทำงานในวันเกิดของตัวเอง ทุกคนก็เลยไม่ต้องเตรียมตัวจะฉลองหรือเตรียมของขวัญอะไรให้ฉัน…” จากนั้น ชาวเน็ตส่วนหนึ่งก็มาแนะนำว่าให้เธอจัดปาร์ตี้เองไปเลย “คุณเตรียมคัพเค้กมาให้ทุกคนซะสิ ไม่ใช่ว่าทำเพราะเซอร์ไพรส์หรอก แต่มันเป็นเรื่องของการแบ่งปันสิ่งดีๆ น่ะ นี่วันเกิดของคุณนะอย่าปล่อยให้เพื่อนร่วมงานหญิงของคุณทำลายมันสิ” “ถ้าอยากเอาคืนก็เตรียมคัพเค้กมาแจกทุกคนซะสิ แล้วบอกพวกเขาว่าพวกเขาน่ะโดนคนบางคนหลอกเสียแล้ว พวกเขาย่อมรู้ดีว่าเขาได้ฟังเรื่องนี้มาจากใคร นี่แหละวิธีเอาคืนที่ดีที่สุด” “ใช่แล้ว มาทำงานเถอะ แล้วนำข้าวของสำหรับปาร์ตี้มาด้วย และทุกคนจะรู้เลยว่านังผู้หญิงคนนั้นมันห่วยขนาดไหนที่บอกว่าเธอจะไม่มา” “ต้องใช้ความใจดีเพื่อเอาชนะหญิงคนนั้น ทำตามที่หลายๆ คนบอกเถอะนะ…
-
หนุ่มแอบเนียนเป็น ‘ฝ่ายบุคคลสาว’ หลอกให้เพื่อนถ่ายหน้าฮาๆ ส่งให้ อย่างจี้!!
บางครั้งในชีวิตการทำงาน มันก็จะมีวันที่ว๊างว่าง ว่างจนไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี ก็เลยอยากจะหาเรื่องมาแกล้งเพื่อนร่วมงาน เช่นเดียวกันกับนาย Lee Blaylock วัย 22 ปี พนักงานก่อสร้างถนน จากเมือง Carlisle ที่ว่างจนไม่รู้จะทำอะไร เลยนึกครึ้มแกล้งเพื่อนร่วมงานขึ้นมาจนกลายเป็นกระแสความฮาในโลกโซเชียล เรื่องมันเริ่มจากที่นาย Lee เคยส่งข้อความไปหาเพื่อนร่วมงานชื่อว่านาย Jordan และปรากฏว่าเขาไม่ได้เมมเบอร์ของ Lee เอาไว้ ด้วยเหตุนี้เองก็เลยแสร้งทำเป็นฝ่ายบุคคล ที่กำลังจะมาตรวจตราการทำงานของพนักงานส่งข้อความไปหาซะเลย!! ข้อความที่ Lee ส่งไปหา Jordan “สวัสดีค่ะ นี่ Claire จากฝ่ายบุคคลเองนะ คือว่าเราอยากจะขอให้คุณช่วยส่งภาพของคุณมาให้ตอนนี้จะได้ไหม เพื่อที่จะเอาไปติดบัตรพนักงานน่ะ” เหมือนการแกล้งจะสำเร็จไปได้ด้วยดี แต่จู่ๆ ก็กลายเป็นว่าเหมือนจะโป๊ะแตก เพราะนาย Jordan นั้นเป็นเพียงพนักงานฝึกหัดเท่านั้น และเขาก็บอกว่าก่อนหน้านี้ได้ส่งภาพถ่ายพร้อมกับใบสมัครงานไปแล้วนี่นา แต่นาย Lee ก็ใช้สกิลในการแถต่อไปว่า “อ๋อ อันนั้นมันอยู่ในระหว่างดำเนินการค่ะ แต่ถ้าส่งมาให้ตอนนี้มันจะสะดวกและรวดเร็วยิ่งกว่า” และก็ได้ภาพนี้มา ก็เลยเสริมไปว่า “ถ้าเป็นไปได้ขอเป็นภาพที่ดูสบายๆ…
-
สาวเอเชียถูกเหยียด “ชอบกินหมาแมวใช่ไหม?” ได้รับเงินชดใช้เกือบ 3 แสนบาท!!
เชื่อว่าหลายคนอาจไม่เข้าใจว่าการกระทำหรือคำพูดแบบใดบ้างถึงจะเรียกว่าเป็นการ “เหยียด” คนอื่น ฉะนั้น มันก็อาจมีบ้างทีที่เราจะพูดอะไรออกไปแล้วไปเหยียดคนอื่นเข้าโดยไม่ได้เจตนา ขณะเดียวกันก็มีคนที่ตั้งใจจะพูดเหยียดคนอื่นจริงๆ คนที่ชอบเหยียดคนอื่น ซึ่งทำให้ผู้อื่นต้องเจ็บช้ำน้ำใจ ก็สมควรจะชดใช้ในสิ่งที่เขากระทำลงไป อย่างเช่นเหตุการณ์ต่อไปนี้… หญิงสาวชาวเอเชียที่เข้าไปทำงานยังบริษัทบัญชีแห่งหนึ่งในไอร์แลนด์ เมื่อราวๆ เดือนกรกฎาคม 2017 เพียงเดือนแรกที่เธอเข้าทำงาน เพื่อนร่วมงานเพศชายก็เข้ามาถามด้วยความเหยียดว่า “ผมได้ยินมาว่าแมวและหมาเป็นอาหารจานหลักของชาวเอเชียนี่ คุณชอบทานมันใช่ไหม?” คำถามนั้นทำให้หญิงสาวเสียความรู้สึกอย่างมาก เธอไปรายงานกับผู้จัดการด้วยน้ำตา จากนั้นผู้จัดการจึงรับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ โดยการทำให้ชายที่เหยียดเธอต้องออกมาขอโทษ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน หญิงสาวคนนี้ก็ลาออกจากตำแหน่งงานเดิม และก็ได้ยอมรับคำขอโทษของเพื่อนร่วมงานที่เคยพูดจาเหยียดเธอ แต่เรื่องราวกลับใหญ่โตไปถึงองค์กร Workplace Relations Commission (WRC) ที่ขอให้บริษัทชดใช้ให้เธอเป็นจำนวนเงินราว 296,000 บาท ขณะในระหว่างการสอบสวน ทางองค์กรก็ทราบมาอีกว่า เพื่อนร่วมงานชายคนดังกล่าวยังมีพฤติกรรมเหยียดแบบอื่นอีก เขาได้แอบถ่ายรูปของสาวเอเชียคนนี้และส่งไปให้เพื่อนของเขาดู แถมเธอยังบอกว่า บางครั้งแอบเห็นเพื่อนของเขาคนหนึ่งเรียกเธอว่า “แม่สาวร่องสวย” นอกจากนี้ ชายคนเดิมยังมีพฤติกรรมเหยียดอื่นๆ อีกมากมาย เช่น พูดว่า “ผมคงจะได้หญิงสักคนในคืนที่คุณไปเที่ยว เพราะที่ที่คุณไปผมก็จะไปด้วยเหมือนกัน”…
-
หนุ่มกดสัญญาณเตือนไฟไหม้ เพราะอยากดู ‘หน้าอกของเพื่อนร่วมงานเด้ง’ ขณะวิ่งหนีไฟ
หนุ่มผู้ทำหน้าที่เป็นบุรุษพยาบาลในโรงพยาบาล Highbury Hospital ในเมืองนอตติงแฮม กำลังจะถูกพักงานตลอดชีวิต (แปลง่ายๆ ว่าไล่ออก) เพราะไปก่อคดีลวนลามทางเพศหลายกระทงตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2016 รวมถึงการกดสัญญาณเตือนไฟไหม้ในโรงพยาบาล เพียงเพราะอย่างดู ‘เต้า’ ของเพื่อนร่วมงานผู้หญิง ‘เด้ง’ ตอนพวกเธอวิ่งหนีไฟ!? เหตุการณ์ย้อนกลับไปในปี 2012 นาย Aaron Kibaja คุณพ่อลูก 4 ถูกลงโทษทางวินัย หลังจากที่ทำการกดสัญญานเตือนภัยในโรงพยาบาล จากการสอบสวนพยานต่างๆ ก็ทำให้ทราบว่าสาเหตุที่ทำไปนั้น เป็นเพราะเขาต้องการที่จะมอง ‘หน้าอก’ ของเพื่อนร่วมงานผู้หญิงเด้งไปมาขณะวิ่งหนีไฟเท่านั้น!! เพราะมีคนพบเห็นว่าตอนที่เพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนหนึ่ง กำลังวิ่งหนีไฟไหม้ จู่ๆ นาย Aaron ก็ทำท่าล้อเลียนตอนที่เธอกำลังวิ่ง รวมไปถึงท่าทางของหน้าอกที่กำลังเด้งอยู่ นอกจากนี้เพื่อนร่วมงานผู้หญิงคนอื่นก็ให้การเพิ่มเติมอีกว่า Aaron นั้นมีพฤติกรรมคุกคามทางเพศอย่างชัดเจนในบริเวณตรงระเบียงทางเดิน หรือห้องสำหรับเจ้าหน้าที่ ในปี 2015 เมื่อเพื่อนร่วมงานกลับมาจากที่ทำงาน หลังจากที่ต้องพักไปเพราะอาการเจ็บข้อมือ จู่ๆ Aaron ก็มาพูดกับเธอว่า “สามีของเธอจะต้องหงุดหงิดแน่ๆ เพราะเธอไม่สามารถช่วยสามีสำเร็จความใคร่ด้วยมือได้ แต่อย่างน้อยเธอก็ยังใช้ปากได้ล่ะนะ”…
-
งานงอก…สาวตั้งใจส่งข้อความลับไปให้ปั๋ว แต่กดผิดส่งให้เพื่อนร่วมงานซะงั้น เขินสิฮะ!!
‘ความผิดพลาด’ เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม โดยเฉพาะการส่งข้อความผิดคน ที่ถือเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดา เพราะปุ่มมันก็เล็กซะปานนั้น การกดผิดจึงเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ถ้าเป็นการส่งข้อความลับระหว่างคู่สามีภรรยาที่พูดคุยกันทุกอย่างที่เกิดขึ้นในบ้านแล้วล่ะก็ ขอบอกเลยว่า ‘เป็นเรื่องใหญ่’ เลยล่ะ 555+ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวของแม่บ้านท่านนี้ ที่ได้ทำการส่งข้อความผิด ตั้งใจจะส่งให้สามีแต่กลายเป็นว่าส่งไปให้กับเซลแมน ที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกันกับเธอซะได้!! ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชื่อว่า @gomachannel0 ได้แชร์เรื่องราวสุดเปิ่นของตนเอง เป็นแชทข้อความในไลน์ กับสติ๊กเกอร์รูปเพนกวินน้อยที่ดูท่าทางกำลังมีความสุข พร้อมกับหัวใจล้อมรอบ หากมองเผินๆ ก็จะเข้าใจว่า ต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ 18+ แน่นอน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้น!? ข้อความในแชทแปลว่า “ฉันเพิ่งปล่อยของหนักออกมา” รูปเพนกวิน “มันมีขนาดใหญ่มากเลยล่ะ อ่าห์” ดูท่าทางของเธอคงจะมีความสุขมากๆ จากสติ๊กเกอร์เพนกวินน้อยตัวนั้น เพราะความอึดอัด ความตุงๆ ความหน่วงที่ท้อง มันได้มลายหายไปจนหมดสิ้น และเป็นเรื่องธรรมดาที่คู่รักกัน จะพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ยิ่งการปลดปล่อยความทุกข์ที่สั่งสมมานานยิ่งแล้ว ก็จะต้องอวดกันเป็นธรรมดา แน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีทางที่จะเอาไปบอกคนอื่นอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทกันก็ตาม แต่แทนที่ข้อความดังกล่าวนี้จะถูกส่งไปให้สามีของเธอ กลับกลายเป็นว่าเธอส่งผิด!! ดั๊นส่งไปให้กับเซลแมนคนหนึ่ง ที่ทำงานในบริษัทเดียวกันกับเธอซะงั้น!? หลังจากผ่านไป 2 ชั่วโมงตั้งแต่ส่งข้อความนี้ไป…
-
สาวเสิร์ฟกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ หลังเพื่อนร่วมงานเซอร์ไพรส์ ให้เธอได้กลับไปเจอ ‘แม่’ อีกครั้ง
เวลาที่เราต้องเดินทางไปเรียนหรือไปทำงานไกลบ้าน ความรู้สึกหนึ่งที่เราต้องเจอคือ ความคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัวที่รอเราอยู่ เช่นเดียวกันกับหญิงสาวคนนี้ที่ถึงแม้ว่าเธอจะห่างบ้านมานานมากแล้วก็ตาม แต่เธอก็ไม่อาจห้ามความรู้สึกนั้นเอาไว้ได้เลย เธอมีชื่อว่า Mary Keaulana-Riotutar หญิงสาวที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในเมือง Laredo รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เธอเข้ามาทำงานเป็นสาวเสิร์ฟอยู่ในร้านอาหารที่มีชื่อว่า Cheddar’s Scratch Kitchen Mary หญิงสาวผู้ห่างบ้านมาทำงานในรัฐเท็กซัส Mary เดินทางจากรัฐฮาวาย มาใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในรัฐเท็กซัสนี้นานถึง 5 ปีแล้ว โดยที่ไม่ได้กลับไปยังบ้านเกิดของตัวเองเลยแต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงคิดถึงบ้านอยู่เสมอ แต่โชคดีที่เธอยังคงมีเพื่อนร่วมงานที่คอยดูแลเอาใจใส่เธอมาตลอด ราวกับเป็นครอบครัวเดียวกัน เธอเล่าว่า “ฉันทายว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้ฉันสามารถอยู่ไกลบ้านได้นานขนาดนี้ ช่วยให้ฉันลืมความเจ็บปวดจากการคิดถึงคนในครอบครัวเพียงคนเดียวซึ่งก็คือแม่ของฉันไปได้บ้าง นั่นคงเป็นเพราะเพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทของฉันทุกคน” ร้านอาหารที่เธอทำงานอยู่ จนกระทั่งในคืนวันหนึ่งขณะที่ Mary กำลังทำงานอยู่ เพื่อนร่วมงานของเธอ แม้แต่คนที่ไม่ได้ทำงานในวันนั้น ทุกคนมารวมตัวกันพาเธอเข้าไปในห้องครัวของร้าน ก่อนที่จะมอบของขวัญที่วิเศษที่สุดให้กับหญิงสาวคนนี้ เพื่อนๆ ทุกคนมารวมตัวกัน และพาเธอเข้ามาในห้องครัว เพื่อนร่วมงานของเธอคนหนึ่งพูดเปิดขึ้นมาว่า “พวกเรามารวมตัวกันเป็นครอบครัวได้ก็เพราะเรารักเธอมาก มาก มากจริงๆ” จากนั้นคนต่อไปก็ระบายความในใจที่เขียนเอาไว้ในกระดาษโน้ตว่า “Mary เธอทุ่มเทให้กับบริษัทนี้และพวกเราทุกคนที่เป็นเหมือนครอบครัว…
-
‘รำคาญเสียงเพื่อนร่วมงานทำไงดี’ ลองมาฟังคำตอบนี้จากรายการ พุธทอล์คพุธโทร
การทำงานร่วมกับคนหมู่มากหรือแม้กระทั่งกับการทำงานร่วมกับคนในที่ทำงาน ทุกคนต่างก็ต้องเจอปัญหาที่เกี่ยวกับงาน ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน หรือสิ่งแวดล้อมในสำนักงาน หากว่าคุณกำลังเจอกับปัญหาต่อไปนี้อย่างใดอย่างหนึ่ง #เหมียวบู้บี้ก็ขอยกเอาเหตุการณ์จากรายการพุธทอล์คพุธโทร มากล่าวถึงในวันนี้ ผู้โทรเข้ามาในรายการพุธทอล์คพุธโทรสายนี้มีชื่อว่า คุณพิงค์กี้ ได้โทรเข้ามาขอคำปรึกษากับดีเจเผือก ดีเจต้นหอม และดีเจลูกกอล์ฟว่า เธอจะทำอย่างไรดีกับทัศนคติที่เธอคิดว่า เสียงของเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของเธอนั้นมันน่ารำคาญมาก คุณพิงค์กี้ได้เล่าว่า เธอมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เธอไม่ค่อยชอบพฤติกรรมของนางเท่าไหร่ คือเพื่อนร่วมงานของเธอคนนี้มักจะพูดเสียงแหลมๆ ชอบพูดอวดตัวเอง รู้ทุกอย่างราวกับว่ากิน Google เป็นอาหาร แต่ทว่าเพื่อนร่วมงานในออฟฟิศคนอื่นๆ กลับไม่รู้สึกรำคาญเลย หรืออาจจะรำคาญบ้างแต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา คุณพิงค์กี้ก็เลยคิดว่า ถ้าในเมื่อเราเปลี่ยนนิสัยของเพื่อนร่วมงานคนนั้นไม่ได้ เราจะทำอย่างไร แล้วคุณพิงค์กี้ก็เล่าอีกว่า มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เพื่อนร่วมงานคนนั้นกำลังพูดอะไรบางอย่างแล้วคุณพิงค์กี้ดันรู้ว่า ข้อมูลจริงๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นก็เลยบอกไป หลังจากนั้นมาเพื่อนร่วมงานคนนี้ก็เลยไม่ค่อยพูดอะไรต่อหน้าคุณพิงค์กี้ จะค่อยๆ หลบ ไม่กล้าพูดอะไรต่อ หลังจากนั้น ดีเจทั้งสามคนก็เริ่มให้คำปรึกษาเริ่มจากดีเจต้นหอมได้พูดสรุปใจความว่า “คนเราต่างคนก็ต่างคาแรคเตอร์กันไป เขาเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน เจอกันแค่เฉพาะที่ทำงาน ทุกอย่างจบตรงนั้น ปัญหานี้ถือว่าเบามากๆ สำหรับการทำงานในออฟฟิศ ทุกคนต่างก็ต้องเจอปัญหาที่แตกต่าง ทำได้เพียงแค่ทำใจว่า คนอื่นอาจจะเจอกับสิ่งอื่นที่หนักกว่าเราอีกเยอะ” ดีเจเผือกก็ได้ให้คำปรึกษาต่อด้วยใจความที่ว่า “ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเป็นเพียงแค่ปัญหาที่ว่า…
-
หนุ่มอินเดียเสียชีวิต หลังถูกเพื่อนแกล้งใช้ ‘หัวฉีดลม’ อัดเข้าในก้นอย่างรุนแรง!?
เป็นอุทาหรณ์สอนคนขี้แกล้งได้อย่างดี สำหรับเหตุการณ์ที่พนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม มีการกลั่นแกล้งกัน และได้ทำให้คนๆ หนึ่งเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด ในวันที่ 15 มีนาคม 2018 พนักงานในโรงงานอุตสหกรรมชาวอินเดียวัย 40 ปีที่มีชื่อว่า Ravinder เขาถูกอัด “ลม” เข้าไปในช่องท้องผ่านทางทวารหนักอย่างรุนแรง ทำให้อวัยวะภายในแหลก มีเลือดตกค้างจำนวนมาก และเสียชีวิตในที่สุด Ravinder ผู้เสียชีวิต วัย 40 ปี เรื่องราวเกิดขึ้นจากการกลั่นแกล้งที่อันตรายของเพื่อนร่วมงานนามว่า Anjan Misra เขาให้การว่าขณะที่ Ravinder กำลังก้มลงเพื่อจะยกกองไม้ขึ้นจากพื้นนั้น เขาเห็นว่ากางเกงของ Ravinder หลวมและร่นต่ำลงจนเห็น “ร่องก้น” เขาจึงนำหัวฉีดลมยัดเข้าไปแล้วเปิดเครื่อง หัวฉีดลมแรงดันสูง ที่ปกติใช้เพื่อ “ตัด” บล็อกไม้ หลังจากนั้นเขาก็ยังถูกกลั่นแกล้งอีกสารพัด จนในเวลาต่อมาเขาก็ล้มลงและหมดสติไป เขาจึงถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว แต่ก็ช้าไปสำหรับการช่วยชีวิตเขา Ravinder เสียชีวิตลงในวันนั้นเอง Mahendra Nath รองผู้บัญชาการตำรวจของรัฐเดลี ประเทศอินเดีย กล่าวว่า “หลังถูกกลั่นแกล้ง…
-
ชายหนุ่มเดินเท้าเกือบ 18 กิโลเมตรไปทำงาน เพื่อนที่ทำงานเห็นใจก็เลยรวมเงินซื้อรถให้
ถ้าเราเป็นคนดีและมีความพยายามสูง คนรอบตัวก็จะรักและปฏิบัติดีกับเรา ในเวลาที่เรากำลังตกที่นั่งลำบาก ไม่ว่าใครก็อยากยื่นมือเข้าช่วยเหลือ หนุ่ม Trenton Lewis เองก็เหมือนกัน เขาเป็นพนักงานที่มีความขยันหมั่นเพียร มาทำงานตรงเวลาทุกวันไม่เคยสาย แถมยังขยันอีกด้วย เมื่อเพื่อนร่วมงานรู้ความจริงที่น่าตกใจว่าเขาเดินเท้ามาทำงานตั้งไกลทุกวัน ทุกคนก็เลยช่วยเหลือเขาโดยการซื้อรถยนต์ให้ Trenton Lewis คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้ทุ่มเทให้กับงาน Lewis เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยอยู่ในเมืองลิตเติลร็อก รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นพนักงานเตรียมสินค้าให้กับบริษัท UPS (United Parcel Service) ซึ่งเป็นบริษัทส่งของที่มีชื่อเสียง ทว่าที่ทำงานของเขาอยู่ห่างจากที่พักถึง 11 ไมล์ (ประมาณเกือบ 18 กิโลเมตร) และเขาก็ไม่มีรถยนต์ใช้เสียด้วย เขาจึงต้องเดินเท้าจากที่บ้านไปที่ทำงานตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืน เพื่อไปเข้างานให้ทันตอนตี 4 ที่เขาทุ่มเทให้กับงานมากถึงขนาดนี้ก็เพราะว่าเขาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวนั่นเอง เขาจึงต้องขยันทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูกสาวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนร่วมงาน Kenneth Bryant Patricia และ Kenneth Bryant เพื่อนร่วมงานของเขารู้เรื่องที่เขาเดินมาทำงานเมื่อเดือนตุลาคม 2017 ด้วยความที่เห็นว่า Lewis เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานและเป็นที่รักของทุกคน พวกเขาก็เลยอยากเซอร์ไพรส์เขาด้วยการรวบรวมเงินจากเพื่อนร่วมงานแล้วซื้อรถมือสองให้เขาสักคัน …
-
โชคชะตาของคุณตำรวจนำพามาให้พบกับเจ้าเหมียว และลิขิตให้ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมงานกัน
เวลาที่เราได้เจอกับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ คงต้องใช้เวลาสักพักถึงจะปรับตัวให้เขากันได้ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเมือง Tryon รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา กลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะพวกเขาสามารถปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ได้ง่ายเสียเหลือเกิน วันที่ 5 ธันวาคม 2017 ตอนที่ตำรวจสาว Tara Atkins ตื่นแต่เช้าไปทำงานที่สถานีตำรวจ พอเธอเปิดประตูเข้าไป เธอก็ได้เจอกับเพื่อนร่วมงานใหม่ นั่นคือเจ้าเหมียวน้อยน่ารักอายุเพียง 4 เดือน จากการสอบถามเจ้าหน้าที่คนอื่นจึงทราบได้ว่า เจ้าเหมียวตัวนี้มาป้วนเปี้ยนอยู่แถวลานจอดรถในคืนที่ผ่านมา ตำรวจหนุ่มไปเจอเข้าด้วยความบังเอิญ เลยพามันเข้ามาหลบหนาวด้านในสถานีเสียก่อน หลังจากนั้นเจ้าเหมียวก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกคนในสถานีได้อย่างยอดเยี่ยม แถมยังทำตัวเหมือนกับว่านี่คือบ้านของมัน และคอยเดินไปเดินมาให้เจ้าหน้าที่คอยอุ้ม คอยกอดอยู่เสมอ โดยเฉพาะ Tara ด้วยความที่เจ้าเหมียวไม่มีอะไรที่ยืนยันได้ว่ามันมีเจ้าของ พวกเธอจึงดูแลมันไว้เป็นการชั่วคราว และนั่นก็ทำให้ Zach ผู้จัดการเมือง แนะนำให้เธอนำเจ้าเหมียวมาเป็นเพื่อนร่วมงานซะเลย Tara ได้ถ่ายรูปของมันตอนทำงานโพสต์ลงหน้าเพจเฟซบุ๊กประจำเมือง เพื่อช่วยตามหาเจ้าของมันอีกทางหนึ่ง ภาพการทำงานระหว่างวันของเจ้าเหมียว ที่ถูกโพสต์ลงไปในเฟซบุ๊ก . เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ต่างบอกให้ Tara รับมันไปดูแลซะเลย แต่ที่บ้านของเธอก็มีน้องหมาอยู่สองตัวแล้ว จึงคิดว่าการที่ต้องเลี้ยงดูเจ้าเหมียวอีกตัวคงจะไม่ไหว หน้าที่การดูแลจึงได้ตกไปอยู่ในมือของ David…
-
เพื่อนร่วมงานใจป้ำ ออกรถเซอร์ไพรส์ให้เธอ หลังเห็นว่าใช้เวลาเดินทางถึง 6 ชั่วโมง
ถือเป็นอีกหนึ่งราวดีๆ ที่จะสร้างรอยยิ้ม และความประทับใจให้กับผู้คนทั่วโลกออนไลน์ เมื่อเจ้านายและเพื่อนร่วมงานสุดใจป้ำ ทุ่มทุนควักเงินซื้อรถยนต์ให้กับหญิงผู้โชคดี เพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษที่เธอพยายามบากบั่นเดินทางมาทำงานไปกลับนานถึง 6 ชั่วโมงต่อวัน วันที่ 26 ตุลาคม 2560 สำนักข่าวเดลีเมล์รายงานว่า Linda Walton หญิงจากรัฐเทนเนสซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่สามารถกลั้นน้ำตาแห่งความสุขเอาไว้อยู่ เมื่อ Krissy Marcellini Tammaro ผู้เป็นเจ้านายพร้อมกับเพื่อนร่วมงานจาก Pristine Clean & Organisation Services ในเมือง Cordova รวม 6 คน ได้โผล่เซอร์ไพรส์ด้วยรถยนต์ Pontiac Grand Prix ปี 1998 ภายหลังจากที่พวกเขารู้ว่าเธอต้องเดินทางมาทำงานวันละ 6 ชั่วโมง พร้อมกันนี้ยังได้ช่วยจ่ายค่าประกันรถยนต์ในเดือนแรก และเปลี่ยนยางใหม่ให้อีกด้วย จากการรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ Linda มีช่วงเวลาในการเดินทางไปทำงานที่แสนจะยาวนาน โดยเธอจะเริ่มจากการนั่งรสบัสเป็นเวลา 2 ชั่วโมง…