Tag: เฟซบุ๊ก

  • ชาวเน็ตตั้งข้อสังเกต คุยกันในไลน์ ทำไม FB และ IG ขึ้นโฆษณาในสิ่งที่เรากำลังพูดถึง?

    ชาวเน็ตตั้งข้อสังเกต คุยกันในไลน์ ทำไม FB และ IG ขึ้นโฆษณาในสิ่งที่เรากำลังพูดถึง?

    เวลาที่เราเล่นเฟซบุ๊กมักจะมีโฆษณาขึ้นมาโปรโมตบนหน้าฟีดข่าวของเรา ซึ่งบางครั้งเราก็อาจสงสัยว่าทำไมมันถึงชอบขึ้นโฆษณาในสิ่งที่เรากำลังสนใจอยู่ อย่างกับมีญาณทิพย์หยั่งรู้ว่าเรากำลังต้องการอะไรอย่างไงอย่างงั้นอ่ะ!?! เรื่องนี้เราต้องทำการศึกษาทดลองอย่างจริงจังแล้วว่า เจ้าพวกโฆษณาในเฟซบุ๊กนี้มันมีที่มาที่ไปได้อย่างไร ทำไมถึงรู้ว่าเรากำลังพูดถึงอะไร ต้องการอะไร จนมีชาวเน็ตเริ่มตั้งคำถามกันว่า ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ได้อ่ะ? ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @UchihaNippa ได้มีการทวีตเป็นรูปภาพการสนทนาไลน์กับเพื่อนในกลุ่ม ซึ่งได้มีการพูดถึงร้านปิ้งย่างร้านหนึ่ง หลังจากพูดไปสักพักก็ได้เข้าแอปพลิเคชันอินสตาแกรม อยู่ดีๆ ก็ขึ้นโฆษณาร้านปิ้งย่างร้านที่พูดถึงขึ้นมาเฉยเลยอ่ะ “เมื่อวานนัดร้านปิ้งย่างกันในไลน์ ไม่กี่ชั่วโมงต่อมามีโฆษณาขึ้นในไอจีนี่ ทั้งๆที่นี่ยังไม่เคยเสิร์ชหาร้านเลย55555 แล้วสองวันก่อนคุยเรื่องดิสนีย์แลนด์กัน วันนี้ขึ้นมาแล้ว นี่เลยทำการทดลองกับเพื่อน อยู่ใน reply” เมื่อวานนัดร้านปิ้งย่างกันในไลน์ ไม่กี่ชั่วโมงต่อมามีโฆษณาขึ้นในไอจีนี่ ทั้งๆที่นี่ยังไม่เคยเสิร์ชหาร้านเลย55555 แล้วสองวันก่อนคุยเรื่องดิสนี่ย์แลนด์กัน วันนี้ขึ้นมาแล้ว นี่เลยทำการทดลองกับเพื่อน อยู่ใน reply pic.twitter.com/2nEOYNygg7 — autuming. 🍂 (@Inggist) July 23, 2018     เอ้าขึ้นมาเฉย!!   อ่ะไหนลองอีกที คุยเรื่องดิสนีย์แลนด์บ้าง   มันมาอีกแล้ว!!!   ไหนๆ ขอลองอีกที เคเอฟซี จัดมา   คุณส่งสายลับมาสืบข้อมูลใช่มั้ยมาร์ค…

  • หนูน้อย 12 ขวบถูก “แจ้งจับ” เพราะรับจ้างตัดหญ้า แต่ดันตัดไปโดนสนามหญ้าบ้านข้างๆ?

    หนูน้อย 12 ขวบถูก “แจ้งจับ” เพราะรับจ้างตัดหญ้า แต่ดันตัดไปโดนสนามหญ้าบ้านข้างๆ?

    เมื่อเด็กๆ หันมาสนใจในการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แน่นอนว่าเด็กๆ เหล่านั้นควรได้รับคำชื่นชมและคำแนะนำที่จำเป็นให้เด็กๆ มีพฤติกรรมที่ดีอยู่เสมอ แต่เหตุการณ์นี้ หนูน้อยอายุ 12 ปี กลับต้องถูกผู้ใหญ่โทรแจ้งตำรวจเพราะเกิดข้อผิดพลาดขณะที่ทำธุรกิจรับจ้างตัดหญ้าหน้าบ้าน      เจ้าหนูน้อย Reginald Fields วัย 12 ปี ได้เปิดธุรกิจรับจ้างตัดหญ้าที่ชื่อว่า Mr. Reggie Lawn และขณะที่กำลังตัดหญ้าให้กับบ้านของ Lucille Holt ที่อยู่ในรัฐโอไฮโออยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านของ Lucille ว่าเจ้าหนู Reggie ได้ตัดหญ้าไปถูกบางส่วนของสนามหญ้าหน้าบ้านของเขา แต่โชคดีที่ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับเจ้าหนู     เมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง Lucille จึงได้บันทึกเป็นภาพวิดีโอเอาไว้และโพสต์มันลงไปบนเฟซบุ๊ก ซึ่งภายหลังมีผู้เข้าชมจำนวนมากเลยทีเดียว เมื่อเรื่องราวถึงหูของชาวเน็ต นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กิจการของเจ้าหนู Reggie เป็นที่สนใจและโด่งดังไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต     ในคลิปวิดีโอจะได้ยินเสียงคุณ Lucille พูดว่า “ฉันคิดว่าฉันแบ่งเส้นเอาไว้ชัดเจนนะ ว่าส่วนไหนที่เป็นสนามหญ้าของบ้านฉัน บ้านนั้นโทรแจ้งตำรวจเพียงเพราะว่า เจ้าหนูดันตัดหญ้าไปถูกสนามหญ้าบ้านของเขา” “ใครกันที่ทำแบบนี้?” เธอถาม “ฉันโมโหมากในตอนนี้…

  • 10 โพสต์ฮาๆ จากเฟซบุ๊ก ที่ไม่รู้ว่าคนโพสต์ตั้งใจให้ตลกไหม แต่มันขำจนแทบกลิ้งเลยล่ะ

    10 โพสต์ฮาๆ จากเฟซบุ๊ก ที่ไม่รู้ว่าคนโพสต์ตั้งใจให้ตลกไหม แต่มันขำจนแทบกลิ้งเลยล่ะ

    โซเชียลมีเดียมีให้เลือกใช้งานกันอย่างมากมายหลากหลาย ทั้งทวิตเตอร์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก จนบางครั้งก็ต้องตามกันจนไม่เป็นอันได้ทำอย่างอื่น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีอะไรก็มักจะนำไปโพสต์กันในโซเชียล ตั้งแต่ชีวิตประจำวัน เรื่องที่ไปพบ เรื่องความรัก หรือเรื่องตลกๆ โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายนั้นอาจจะช่วยให้คนอื่นๆ ยิ้มตามไปได้ด้วยไม่มากก็น้อย และในวันนี้ก็เป็นตาของโพสต์จากเฟซบุ๊กกันแล้ว ที่จะมานำรอยยิ้มสู่ผู้อ่าน เหมือนกับเรื่องตลกๆ เสียดสีสุดฮาเหล่านี้ ที่จะทำให้คุณยิ้มร่าได้ไม่ยากเลย   เมื่อผู้ต่อต้านการฉีดวัคซีนพยายามหาแหล่งอ้างอิง เพื่อวิทยานิพนธ์อันตรายของวัคซีน “ทุกคนช่วยด้วย ฉันเริ่มต่อต้านการฉีดวัคซีนก็เลยว่าจะเขียนเกี่ยวกับอันตรายของวัคซีนในวิทยานิพนธ์เสียหน่อย แต่ก็หาแหล่งอ้างอิงทางวิชาการไม่ได้เลย ฉันว่าฉันหาไปทุกที่แล้วนะ ใครก็ได้ช่วยหางานวิจัยทางวิชาการที่สนับสนุนแนวคิดของฉันที” คอมเมนต์: “จะบอกว่าการที่คุณหางานวิจัยมาสนับสนุนไม่ได้มันก็น่าจะยืนยันแล้วนะว่า แนวคิดของคุณมันผิด”   เมื่ออาจารย์จะล้างแค้นนักเรียนที่ไม่เคยมาเรียน ผมพร้อมแล้วที่จะพบกับนักเรียนที่ไม่เคยมาเรียนเลยตลอด 30 คาบในเทอมนี้ แต่ดันเมลมาขอคุยกับผมเรื่องเกรด บนโต๊ะ: นายมันไม่สมควรจะผ่าน แน่จริงก็ลองทำให้ผมเปลี่ยนใจดูสิ   เมื่อชายคนหนึ่งทำเป็นอวดเก่งโดยอ้างเหตุแผ่นดินไหว “โทษทีนะทุกคน ที่แผ่นดินไหวเพราะผมขย่มสาวหนักไปนิด” “อย่างนี้นี่เอง… มิน่าล่ะข่าวเลยบอกว่าแผ่นดินมันไหวแค่ไม่กี่วิ”   เมื่อหลานสาวเอาแต่บ่นไม่ยอมทำเรียงความ คุณย่าจึงออกโรง “ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะสนุกกับการล้างจานขนาดนี้ ในตอนที่มีเรียงความ 2 ชิ้นต้องทำส่งในวันจันทร์” “และถ้าหลานไม่ทำเรียงความส่ง หลานก็สามารถล้างจานเป็นอาชีพได้เลยนะ ย่ารักหลานนะ”   เมื่อคุณโพสต์ถามเรื่องลามกๆ…

  • งานที่แย่ที่สุดในบริษัทเฟซบุ๊ก “ผู้ตรวจสอบเนื้อหารุนแรง” เหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีใครใส่ใจ

    งานที่แย่ที่สุดในบริษัทเฟซบุ๊ก “ผู้ตรวจสอบเนื้อหารุนแรง” เหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีใครใส่ใจ

    บนโลกอินเทอร์เน็ตอันไร้ขอบเขตใดๆ ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะเสพสื่อต่างๆ ตามความชื่นชอบหรือความสนใจของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด และด้วยความไร้ขอบเขตเหล่านี้ โลกอินเทอร์เน็ตจึงมีสภาพเป็นสีเทา ที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีอยู่ โดนเฉพาะบนเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ค และเพื่อให้สังคมกลุ่มหนึ่งอยู่ภายใต้การควบคุม เนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ออกมาจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ก็จะต้องผ่านผู้ดูแลตรวจสอบเสียก่อน เพื่อไม่ให้ความไม่จรรโลงใจไปกระทบกับจิตใจของผู้อื่นในวงกว้าง     งานดังกล่าวก็คือ งานตรวจสอบเนื้อหาของผู้ดูแลระบบหลังบ้านของเฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อคอยจัดการ ‘ตรวจสอบและลบ’ เนื้อหาที่ถูกแจ้งละเมิดเข้ามาทุกๆ วัน เป็นพันๆ เคส     หนึ่งในผู้ดูแลทางด้านดังกล่าวนามว่า Laura เปิดเผยว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่สำคัญที่สุด และแย่ที่สุดในเฟสบุ๊ก อีกทั้งยังไม่มีใครใส่ใจอะไรกับงานนี้เลย… เนื่องจากการทำงานของเธอจะต้องเจอกับ เนื้อหาที่ล่อแหลมและกระทบกระเทือนจิตใจ อย่างเช่น การตัดหัว สื่อลามกเด็ก การทารุณกรรมสัตว์ ฯลฯ     สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ตรวจสอบเนื้อหาจะต้องพบเจอทุกวัน จากการรายงานเข้ามาของผู้ใช้งานของเฟซบุ๊ก เธอเปิดเผยว่าตัวผู้ทำงานจะกลายมาเป็นเครื่องจักร ที่คอยทำการกดปุ่มถัดไป ปุ่มใช่หรือไม่ใช่ กระบวนการดังกล่าวจะวนลูปกลายมาเป็น กดถัดไป ตัดสินใจ และกดถัดไป ตัดสินใจ หลายต่อหลายครั้งภายในหนึ่งวัน     สำหรับ…

  • เราจะไม่นกแล้ว!? Facebook เตรียมเพิ่มความสามารถใหม่ ให้คุณ “หาคู่” ได้ง่ายขึ้น

    เราจะไม่นกแล้ว!? Facebook เตรียมเพิ่มความสามารถใหม่ ให้คุณ “หาคู่” ได้ง่ายขึ้น

    ดูเหมือนว่าตอนนี้ Facebook จะพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้มีความสามารถรอบด้านมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ตอนแรกเป็นเพียงเครือข่ายสังคมออนไลน์ ก็เริ่มปรับให้คอนเทนต์วิดีโอมีความสำคัญมากขึ้น ล่าสุดทาง Facebook เริ่มที่จะเพิ่มความสามารถใหม่อย่างการหาคู่เข้าไปด้วย!?     สำหรับหนุ่มสาวที่ไม่ค่อยจะมีโอกาส ไม่มีเวลา หรือนกตลอด นี่อาจเป็นโอกาสของคุณ เพราะพวกเขาเตรียมเปิดความสามารถในการหาคู่ ให้คุณได้สร้างโปรไฟล์และข้อมูลต่างๆ ลงไปในหน้า Facebook ของตัวเอง และแน่นอนว่ามันจะแสดงให้เห็นเฉพาะคนที่ไม่ใช่เพื่อนของคุณเท่านั้น (อยากให้ใครเห็นก็ไป Unfriend เขาซะนะ) Facebook ได้เปรียบกว่าแอปฯ อื่นๆ ตรงที่มันมีข้อมูลแทบจะทุกอย่างในชีวิตของคุณอยู่แล้ว ทำให้การจับคู่กับคนอื่นๆ นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและตรงกับสิ่งที่คุณต้องการ สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่ตั้งค่ามันให้จับคู่กับคนที่คุณตั้งค่าเอาไว้เท่านั้น     Facebook ได้ออกมาอธิบายว่า “การจับคู่ที่จะเกิดขึ้นจะอิงการแนะนำตามการตั้งค่าการเดตจากสิ่งที่มีเหมือนกันและมีเพื่อนร่วมกัน พวกเขาจะมีตัวเลือกในการค้นหาคนที่มีความสนใจเหมือนกันผ่าน กลุ่ม (Groups) หรือกิจกรรมต่างๆ (Events) ด้วย”     การทำงานของความสามารถนี้ 1. ให้คุณได้เลือกสร้างโปรไฟล์ได้เพียงแค่ใส่ชื่อจริงของคุณ โปรไฟล์ของคุณจะไม่แสดงให้เพื่อนๆ ของคุณเห็น หรือคนที่ไม่ได้ใช้ความสามารถนี้ และมันจะไม่แสดงในนิวฟีด 2. คุณจะสามารถเรียกดูกิจกรรม (Events) ในเมืองของคุณ หรือกลุ่ม (Group)…

  • ลูกทัวร์เดินหน้าเอาผิดทัวร์หรูของ “ดาราอักษร อ.” ประเด็นไม่หวังกำไร ท้าเปิดรายจ่ายโชว์

    ลูกทัวร์เดินหน้าเอาผิดทัวร์หรูของ “ดาราอักษร อ.” ประเด็นไม่หวังกำไร ท้าเปิดรายจ่ายโชว์

    กำลังเป็นประเด็นดราม่า หลังเพจจัดทริปสุดหรูของดาราถูกแฉว่า เก็บเงินค่าทัวร์แพงเป็นแสน แต่ลูกทัวร์กลับได้ขนมปังสองแผ่น แถมโดนแย่งน้ำดื่มไปกินอีก ทั้งนี้ทางเฟซบุ๊กเพจ Look-Loke / ลูกโลก ก็ออกมาแย้งว่าตนมิได้จัดทัวร์ แต่เป็นการ “พาเพื่อนเที่ยว” เท่านั้น และด้วยเหตุนี้เองทำให้เพจดังกล่าวโดนลูกทัวร์จวกยับประเด็นจงใจหลบภาษี และถูกท้าให้เปิดเผยรายจ่ายจริงที่ใช้ในทริปนั้นๆ     ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chaianan Sodapak ได้ออกมาเผยว่าใน ทริป Luxury Private ทัวร์ ของเพจท่องเที่ยวซึ่งมี ดาราอักษรย่อ อ. เป็นเจ้าของนั้น ตนต้องจ่ายค่าทัวร์กับเพจนี้เป็นเงิน 139,000 บาท แต่การบริการกลับแย่ ตารางการเดินทางไม่ชัดเจน สถานที่ท่องเที่ยวถูกเปลี่ยนแปลงและน้อยลง แถมยังถูกเปลี่ยนแปลงที่พักโดยไม่แจ้งให้ทราบ เรียกได้ว่า ลูกทัวร์ที่ไปด้วยกันนั้นต้องเที่ยวกันอย่างยากลำบาก แน่นอนว่าทางเพจเองก็ออกมาตอบโต้ต่างๆ นานา เช่น ไม่ได้เป็นทำธุรกิจนำเที่ยว แต่เป็นเสมือนกับการพาเพื่อนเที่ยวเท่านั้น จึงไม่มีการบริการใดๆ อีกทั้งยังแจงว่าการไปเที่ยว 12 วันเช่นนี้ ปกติแล้วจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300,000-500,000 บาท จึงตั้งราคาเป็นกันเองให้หลายๆ คนเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าปัญหาที่เกิดทั้งหมดอาจเป็นเพราะเพียงแค่ว่า “เคมีของการไปเที่ยวไม่ตรงกันเท่านั้นเอง” หลังจากที่ทางเพจ Look-Loke / ลูกโลก โต้แย้งมาแบบนั้น ในวันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา…

  • จากใบหน้า ‘Mark Zuckerberg’ ขณะเข้าพบวุฒิสภา ชาวเน็ตมือดีเลยทำมีมแซวกันใหญ่

    จากใบหน้า ‘Mark Zuckerberg’ ขณะเข้าพบวุฒิสภา ชาวเน็ตมือดีเลยทำมีมแซวกันใหญ่

    ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีคดีหนึ่งที่เป็นที่โด่งดังในต่างประเทศ คือมีการเปิดเผยว่าข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 80 ล้านบัญชีถูกล้วงออกไปใช้โดยบริษัทที่ปรึกษาทางการเมืองของอังกฤษ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อสองปีก่อน และเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้หลากหลายคนไม่พอใจ และทำให้คนดังหรือเจ้าของธุรกิจหลายรายเลือกที่จะลบเฟซบุ๊ก เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลกันมากมาย ส่วนในวันนี้ (วันที่ 10 เมษายน 2018 ตามเวลาท้องถิ่น) Mark Zuckerberg ได้เดินทางเข้าพบกับวุฒิสภาสหรัฐฯ เพื่อให้การเกี่ยวกับความผิดพลาดนี้ ซึ่งก็จบลงด้วยการที่เขากล่าวขอโทษเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกล้วงออกไป แต่ประเด็นครั้งนี้ก็คือ การแสดงออกภายในระหว่างการเข้าพบวุฒิสภาของตา Mark เพราะว่าสีหน้าและท่าทางของเขานั้นเหมือนกับหุ่นยนต์ไม่มีผิด ด้วยการแสดงออกที่เตะตาชาวเน็ตแบบนี้ จึงไม่พลาดที่พวกเขาจะนำภาพของ Mark Zuckerberg มาทำมุขหรือทำเป็นมีมแซวกันไปทั่วโลกออนไลน์ ตามรูปที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในวันนี้ครับ   1. ปรับเปลี่ยนรอยยิ้มได้อย่างง่ายดาย   2. Zuckerberg รูปโปรไฟล์ vs Zuckerberg เมื่อเข้าพบวุฒิสภา   3. *จิบน้ำนิดหน่อย* ก่อนจะคิดว่ามนุษย์ก็ดื่มน้ำเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่หว่า   4. วุฒิสภา:บอกเราเกี่ยวตัวเองที่พวกเราไม่รู้มาหน่อยสิ คุณ Zuckerberg Zuckerberg: ผมคือโมเดลรุ่น 255.03-5 บลาๆๆ ที่ถูกดีไซน์มาเพื่อสำรวจความอ่อนแอในรูปแบบของประชากรมนุษย์ วุฒิสภา:…

  • เฟซบุ๊กเตรียมออกฟีเจอร์ใหม่ Unsend ให้คุณลบข้อความได้ แม้จะส่งไปแล้วก็ตาม

    เฟซบุ๊กเตรียมออกฟีเจอร์ใหม่ Unsend ให้คุณลบข้อความได้ แม้จะส่งไปแล้วก็ตาม

    คุณเคยไหม? ระหว่างที่แชตคุยกับอีกฝ่ายผ่านเฟซบุ๊ก อาจจะเป็นเพื่อน ครูบาอาจารย์ คนที่แอบชอบ หรือเจ้านาย คุณดันเผลอพิมพ์อะไรสักอย่างออกไป แล้วดันมารู้สึกเสียใจทีหลังว่า “ตูไม่น่ากดส่งไปเลยโว้ยยย!!” แม้จะมากดลบทีหลังก็ไม่ทันซะแล้ว และคุณก็ได้ทำลายความสัมพันธ์นั้นลงไปเป็นที่เรียบร้อย   เรามีตัวอย่างสถานการณ์สมมติที่คนส่งข้อความอยากจะให้มีปุ่ม “ลบ” ณ เดี๋ยวนั้นเลย   นี่ก็ด้วย แทบจะแทรกแผ่นดินหนี   โอ๊ยยยยย กดลบทันไหม!!   ถ้าคุณเคยเจ็บช้ำกับการส่งอะไรแบบนั้นออกไปล่ะก็ ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นก็ได้ เพราะมีข่าวออกมาว่าตอนนี้ทาง Facebook กำลังเตรียมที่จะปล่อยฟีเจอร์ใหม่ ที่ช่วยให้คุณกดลบข้อความที่ส่งไปแล้วได้ ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย Facebook ได้ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ว่าเตรียมที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่างการกดลบข้อความที่ถูกส่งผ่านระบบข้อความ Messenger โดยฟีเจอร์ที่ว่านี้จะยังอยู่ในระหว่างการทดสอบและพัฒนา และจะพร้อมเปิดให้ใช้งานได้ในเดือนหน้านี้     ตัวแทนจาก Facebook ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง Business Insiders ว่า “เราได้มีการหารือเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้มาหลายครั้ง และผู้คนใช้ฟีเจอร์ Secret Message (การส่งข้อความลับ) ที่มีความสามารถในการลบข้อความโดยอัตโนมัติ ตอนนี้เราจะขยายขอบเขตในการลบข้อความออกไปอีก มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยจนกว่ามันจะพร้อม” ในขณะเดียวกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้มีแหล่งข่าวกว่า 3…

  • พี่มาร์ก!! ไหนบอกข้อมูลเฟซบุ๊ก 50 ล้านที่หลุดไป ไหงวันนี้หนักขึ้น คาดสูงถึง 87 ล้าน

    พี่มาร์ก!! ไหนบอกข้อมูลเฟซบุ๊ก 50 ล้านที่หลุดไป ไหงวันนี้หนักขึ้น คาดสูงถึง 87 ล้าน

    จะเรียกว่าเป็นวิกฤตใหญ่ของทาง ‘เฟซบุ๊ก‘ และ ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก‘ เลยก็ได้ เพราะถ้าใครได้ตามข่าวคงจะจำกันได้ว่าเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีข่าวเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านคน แต่นั่นมันคืออดีต… เพราะว่าตอนนี้ทางเฟซบุ๊กได้ออกมารายงานแล้วว่ามีข้อมูลรั่วไหลจากแคมเปญต้นเหตุเป็น 87 ล้านคนแล้ว ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่หนักหนามากๆ     ทางเฟซบุ๊กได้ยืนยันว่าข้อมูลกว่า 97% ที่ถูกนำไปใช้นั้นคือผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา แต่ทาง BBC ได้คาดการณ์ว่าในรายชื่อที่หลุดไปนั้น มีประมาณ 1.1 ล้านคนมาจากสหราชอาณาจักร นอกจากนี้ทางเฟซบุ๊กยังบอกอีกว่า ผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ถูกดึงข้อมูลไปใช้นั้นล้วนเปิดข้อมูลเป็นแบบสาธารณะ ผลคือทำให้ข้อมูลเหล่านั้นถูกดึงออกไปใช้เป็นแบบสำรวจและเปรียบเทียบกับข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งทางเฟซบุ๊กนั้นได้ปิดใช้งานและจัดการในส่วนนี้เรียบร้อยแล้ว     ตัวมาร์กเองก็ยอมรับว่าเขานั้นเคยมีมุมมองที่แคบเกินไป อย่างการที่เขาคิดว่าเขาได้คิดค้นเครื่องมือมาให้คนใช้แล้ว ฉะนั้นผู้ใช้จะต้องรับผิดชอบในการใช้เครื่องมือด้วยตัวเอง ซึ่งเขาบอกว่าเขาจะเปลี่ยนแนวคิดซะใหม่และหันมาเอาใจใส่ผู้ใช้ของเขาให้มากยิ่งขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเลข 87 ล้านคนที่กล่าวมานั้น เป็นตัวเลขที่มาร์กได้คาดว่าจะเป็นจำนวนที่สูงที่สุดและไม่มีมากไปกว่านี้แล้ว แถมเขายังบอกว่ามันอาจจะมีจำนวนไม่ถึงด้วยซ้ำ     สุดท้ายแล้ว แม้ว่ามาร์กจะออกมายอมรับตรงๆ แต่ว่าการที่ตัวเลขนั้นมันมีมากกว่าเดิม ก็ถือเป็นการสร้างความไม่มั่นใจให้แก่ผู้ใช้งาน แต่ไม่ว่ายังไง มาร์กก็ยืนยันว่าเขาจะอยู่ตรงนี้และจะเป็นคนจัดการปัญหาทั้งหมดด้วยตัวเขาเอง…   ที่มา cnn, bbc,…

  • Edward Snowden: เฟซบุ๊กก็เป็นแค่บริษัทสอดส่องผู้ใช้ ที่เรียกตัวเองว่า “โซเชียลมีเดีย”

    Edward Snowden: เฟซบุ๊กก็เป็นแค่บริษัทสอดส่องผู้ใช้ ที่เรียกตัวเองว่า “โซเชียลมีเดีย”

    สื่อออนไลน์ในยุคปัจจุบันถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ไปแล้ว หากมองเพียงผิวเผินแล้วอาจจะคิดว่าเป็นเพียงแค่พื้นที่สาธารณะที่ให้อิสระแก่ผู้คน ในการนำเสนอหัวข้อต่างๆ และการแสดงความคิดเห็นที่มีต่อประเด็นนั้น แต่ทว่าในอีกแง่มุมหนึ่งของ Edward Snowden อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมากล่าวผ่านแพลทฟอร์มทวิตเตอร์ เกี่ยวกับจุดประสงค์ที่แท้จริงของสื่อโซเชียลมีเดียระดับโลกนั้น ไม่ได้เป็นไปตามที่เราคิดเท่าไหร่นัก…   Edward Snowden   นาย Snowden ได้กล่าวไว้ในทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “ธุรกิจที่ทำเงินจากการเก็บและขายข้อมูลส่วนตัวนั้น จะถูกจำกัดความว่าเป็น ‘บริษัทสอดส่องและเฝ้าระวัง’… แต่การรีแบรนด์เพื่อเรียกตัวเองว่า ‘โซเชียลมีเดีย’ คือวิธีการลวงที่ประสบความสำเร็จที่สุด ตั้งแต่ครั้งที่กระทรวงการสงครามสหรัฐฯ เปลี่ยนชื่อมาเป็นกระทรวงกลาโหมสหรัฐ” “เฟซบุ๊กสามารถทำเงินได้ จากการใช้ประโยชน์และขายข้อมูลส่วนตัวรายบุคคลหลายล้านราย ซึ่งเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากความสมัครใจของคุณ และพวกเขาก็ไม่ใช่เหยื่อ แต่เป็นพวกสมรู้ร่วมคิด”     การออกมาทวีตในครั้งนี้ของ Snowden เกิดขึ้นหลังจากที่ทางเฟซบุ๊กได้ทำการยุติบัญชีของ Cambridge Analytica บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำงานด้านแคมเปญให้กับประธานาธิบดี Donald Trump และทางเฟซบุ๊กได้ออกมายืนยันว่าทำแค่เพียงยุติบัญชี แต่ไม่ได้ทำการลบข้อมูลที่ถูกแอบบันทึกออกไปอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งนับเป็นจำนวนข้อมูลของผู้ใช้ทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านราย อันเป็นข้อมูลส่วนตัว รวมไปถึงเพื่อนและรายชื่อผู้ติดต่อ     ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Snowden ชี้เป้ามายังเฟซบุ๊กรวมไปถึงบริษัทอื่นๆ ที่ให้บริการพื้นที่โซเชียลมีเดียกับความชะล่าใจและปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ต้องตกอยู่ในความเสี่ยง ในส่วนของบริษัท…

  • ชาวเน็ตกุมขมับ ลูกผู้ป่วยไอซียู วางแผนแอบเอายาให้แม่ ผ่านทางสายน้ำเกลือ!?

    ชาวเน็ตกุมขมับ ลูกผู้ป่วยไอซียู วางแผนแอบเอายาให้แม่ ผ่านทางสายน้ำเกลือ!?

    เพื่อนๆ หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของ หมอแสง หรือ นายแสงชัย แหเลิศตระกูล ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดปราจีนบุรี และเขายังเป็นหมอพื้นบ้านที่ได้ชื่อว่าสามารถรักษามะเร็งได้ด้วยตัวยาชนิดหนึ่ง จนทำให้ผู้คนให้ความสนใจในตัวยาชนิดนี้ของเขาเป็นอย่างมาก แล้วนั่นก็ทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งเกิดความคิดที่จะนำยาชนิดนี้ไปผสมให้กับแม่ของตัวเองซึ่งกำลังนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู เธอจึงได้โพสต์ถามคนในกลุ่มเฟซบุ๊กเอาไว้ว่า “อยาก ..แอบเอายา..ผสมน้ำให้แม่ในห้อง icu จัง ค่ะ…แม่ใส่ท่ออาหาร” จนกระทั่งมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นช่วยเหลือและสนับสนุนความคิดนี้ของเธอ   โพสต์ของเธอที่เข้ามาถามคนในกลุ่มเฟซบุ๊ก . . .   ต่อมาผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ชื่อว่า Petch Alisanant ได้ทำการแคปภาพของโพสต์ดังกล่าวเอามาแชร์ พร้อมกับแสดงความคิดเห็นในเชิงไม่เห็นด้วยที่หญิงสาวจะทำอย่างนั้น เพราะไม่อาจทราบได้ว่ายาตัวดังกล่าวจะส่งผลดีหรือเสียให้กับคนไข้อย่างไรบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดมีปัญหาตามมาภายหลังแล้วใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ นั่นจึงควรเป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นจากทั้งคนในครอบครัวและแพทย์ผู้รักษาเอง   โพสต์ของชายที่ไม่ค่อยเห็นด้วยกับความคิดแอบเอายาไปใส่ให้คนไข้   โพสต์ของเขาได้ทำให้มีชาวเน็ตคนอื่นๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นเอาไว้มากมาย Patcharee Phiewkam “พอแอบให้เองเสร็จ ผู้ป่วยแย่ลงก็จะโทษหมอพยาบาลและรพ.ทันทีว่าดูแลผู้ป่วยยังไงให้แย่ลงโคตรน่ากลัวเลย ทางที่ดีต้องปรึกษาหมอก่อน”   Nokeiang Sukhanit “ชีวิตลำบาก…..ลำบากหมอพยาบาล”   Poranin Arjinajarn “พีคมากกกกก ถ้าคนไข้เปนอะไรขึ้นมา ขอให้เค้ารู้ตัวเถอะว่า เพราะตัวเขาเอง”   สุกัญญา สุพร “ยาอะไร คนไข้เก่งกว่าหมอ”   Kor-kai…

  • เฟซบุ๊กล้มเลิกแบ่งหน้านิวฟีดเป็น 2 ส่วน หลังทดลองใช้ใน 6 ประเทศแล้วทุกคนไม่ปลื้ม!!

    เฟซบุ๊กล้มเลิกแบ่งหน้านิวฟีดเป็น 2 ส่วน หลังทดลองใช้ใน 6 ประเทศแล้วทุกคนไม่ปลื้ม!!

    ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน หลายคนคงจะจำได้ว่าทาง Facebook ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะทำการแบ่งหน้านิวฟีดของเราออกมาเป็นสองส่วน ซึ่งจะแบ่งแยกนิวฟีดที่ได้รับการโปรโมตและไม่ได้รับการโปรโมตออกจากกัน ระบบดังกล่าวนั้นได้เปิดทดสอบใน 6 ประเทศที่ทาง Facebook เลือก และผลลัพธ์ที่ได้กลับมาจากแบบสอบถามก็พบว่า พวกเขาไม่ปลื้มกับระบบใหม่แม้แต่น้อย และนั่นก็ทำให้ทางบริษัทได้รับคำตอบสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว… “พวกคุณทั้งหมดได้ให้คำตอบแก่เราแล้ว และพวกเราก็ได้รู้ว่าผู้ใช้ไม่ต้องการให้แยกนิวฟีดออกเป็นสองส่วน”     ด้วยเหตุนี้ทาง Adam Mosseri หัวหน้าฝ่ายที่ดูแลในส่วนของนิวฟีดก็ให้สัมภาษณ์ว่า “ในแบบสำรวจผู้ใช้ ส่วนใหญ่ล้วนตอบกลับมาว่าพวกเขารู้สึกไม่พอใจกับหน้านิวฟีดที่แยกออกจากกัน เพราะมันไม่ได้ทำให้รู้สึกเข้าถึงเพื่อนหรือครอบครัวของพวกเขาง่ายขึ้นอย่างที่เราเสนอ” การทดสอบระบบดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่ประเทศศรีลังกา, โบลิเวีย, สโลวาเกีย, เซอร์เบีย, กัวเตมาลาและกัมพูชา     สุดท้ายแล้ว Adam ก็ได้บอกปิดท้ายว่า การแบ่งหน้านิวฟีดออกเป็นสองส่วนนั้นถือเป็นความล้มเหลว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ได้อะไรกลับมาเลย เพราะว่าจากแบบสอบถามมันทำให้เขารู้ว่า ผู้ใช้นั้นสนใจที่จะเข้าถึงเพื่อนและครอบครัวมากกว่าการเข้าถึงข่าวสาร ฉะนั้นเขาจึงจะหาแนวทางที่พัฒนาให้ระบบนิวฟีดดีขึ้นและตรงตามความต้องการในอนาคต     ที่มา gizmodo

  • เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมเฟซบุ๊กถึงรู้ไปซะทุกเรื่อง!? นี่คือระบบกลไกการทำงานของมัน!!

    เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมเฟซบุ๊กถึงรู้ไปซะทุกเรื่อง!? นี่คือระบบกลไกการทำงานของมัน!!

    นี่คือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณ เมื่อคุณกำลังพูดคุยถึงสิ่งของที่คุณอยากได้มาใช้ในบ้าน และหลังจากนั้นสิ่งของสิ่งนั้นก็ได้ปรากฏอยู่ในแถบโฆษณาบนเฟซบุ๊กในเวลาถัดมา ความรู้สึกแบบนี้แทบจะเหมือนกับการที่เรากำลังถูกสอดส่องพฤติกรรมโดยโซเชียลเน็ตเวิร์กผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณเอง แต่โชคดีที่นั่นไม่ใช่ประเด็น เทคโนโลยีในการโฆษณากลุ่มเป้าหมายของเฟซบุ๊กนั้นได้ล้ำหน้าอย่างเหลือเชื่อ โดยการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงสิ่งที่เราต้องการหรือว่าสนใจจนทำให้เรารู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกดักฟังการสนทนาอยู่ และเทคโนโลยีสุดล้ำของเฟซบุ๊กที่กล่าวถึงก็คือ Facebook Pixel     Facebook Pixel เป็นโค้ดหรือระบบติดตามซึ่งจะติดตั้งอยู่แทบจะทุกเว็บไซต์ โดยระบบนี้จะติดตามและศึกษาพฤติกรรมจากการโพสต์และการค้นหาบนเว็บไซต์ ถ้าหากคุณกำลังค้นหาวงดนตรีวงโปรดของคุณ ไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าโฆษณาทัวร์คอนเสิร์ตของวงนั้นจะขึ้นมาให้เราเห็น สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือการที่เฟซบุ๊กนั้นก็ยังคงสอดส่องพฤติกรรมของเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้งานมันอยู่ก็ตาม เนื่องจาก Facebook Pixel ที่ถูกติดตั้งลงบนเว็บไซต์นับล้าน ทำให้ระบบของมันสามารถคำนวณเวลาที่เราใช้ไปกับเว็บไซต์ดังกล่าว และประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานออกมา ทำให้โฆษณาที่โผล่ขึ้นมาเหล่านั้นจะเฉพาะเจาะจงมากๆ     การใช้ประโยชน์จากการรวบรวมข้อมูลบุคคลที่สามทำให้โฆษณาบนเฟซบุ๊กแม่นยำขึ้น เฟซบุ๊กยังสอดส่องตำแหน่งของคุณจากการเช็กอิน ข้อมูลละติจูด ลองติจูดจากการใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถบอกตำแหน่งของคุณได้ เพื่อคำนวณหาโฆษณาที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น หากเราไปเที่ยวต่างจังหวัด เราก็จะเห็นโฆษณาของธุรกิจหรือโฆษณาอื่นๆ ในจังหวัดนั้น และระบบนี้ยังสามารถทำงานได้ในขนาดพื้นที่ที่เล็กลงมาอีกได้ หากเราเช็กอินในห้องสรรพสินค้า ก็อาจจะขึ้นเป็นโฆษณาสินค้าที่กำลังวางขายอยู่ในห้างฯนั้น     ข้อมูลดังกล่าวที่ถูกรวบรวมถือว่าเป็นประโยชน์ต่อทางเฟซบุ๊กอย่างมาก จึงทำให้ทางบริษัทได้คิดค้นวิธีเก็บข้อมูลในขณะที่เราออฟไลน์เช่นกัน จากการสัมภาษณ์ผู้ที่ได้สืบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้พบว่าทางเฟซบุ๊กนั้นได้ซื้อข้อมูลจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ทำให้ทางบริษัทได้ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ พฤติกรรมการใช้จ่าย หรือแม้กระทั่งแอปพลิเคชันร้านค้าที่เราไว้วางใจ ยิ่งเก็บรวบรวมข้อมูลได้มากเท่าไร ทางเฟซบุ๊กก็จะคำนวณเลือกโฆษณาให้เราได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่าการกระทำแบบนี้จากทางเฟซบุ๊กจะเหมือนกับการลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเฟซบุ๊กได้สอดแนมคุณจริงๆ การที่ระบบนั้นทำหน้าที่ได้ดี…

  • อ่านได้แต่ห้ามหัวเราะ!? ก็แค่กด “ปุ่มขำ” เฉยๆ เจอคนหัวร้อนทักมาด่ารัวๆ นี่ตรูทำอะไรผิด

    อ่านได้แต่ห้ามหัวเราะ!? ก็แค่กด “ปุ่มขำ” เฉยๆ เจอคนหัวร้อนทักมาด่ารัวๆ นี่ตรูทำอะไรผิด

    ทุกคนรู้ดีว่าเมืองไทยเป็นเมืองร้อน แต่บางครั้งอากาศที่ว่าร้อนแล้วหัวของคนบางคนอาจจะร้อนซะยิ่งกว่า เหมือนอย่างเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Pongsakorn Noisiri ที่โพสต์เล่าเรื่องเอาไว้ในวันที่ 28 มกราคม 2018 เมื่อเขาต้องถูกต่อว่าและหาเรื่องอย่างหนัก เพียงเพราะการไปกดหัวเราะในสเตตัสของเพื่อนในเฟซบุ๊ก   โพสต์ที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง   หลังจากที่คู่กรณีทักมา เขาก็ถูกแฟนของฝ่ายหญิงเข้ามาโจมตีอย่างหนัก ด่าเขาเสียๆ หายๆ โดยที่เขาตอบกลับไปว่า ก็แค่กดผ่านๆ แม้จะไม่ได้รู้จักกันจริงๆ แต่ก็เห็นว่าเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊ก   ภาพจากห้องแชทของทั้งสองฝ่าย . . .   ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เพราะทางฝั่งคู่กรณีถึงกับกล้าท้าให้เจ้าของเรื่องไปถามคนอื่นๆ ดูเลยว่า การที่มาทำแบบนี้มันเป็นเรื่องที่สมควรมั้ย   . . . . . . .   จบงานก็ทำเอาเจ้าของเรื่องถึงกับปวดหัว ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแค่กดหัวเราะให้กับเพื่อนในเฟซบุ๊ก จะกลายเป็นเรื่องราวที่เขาบอกว่า “มาเป็นซีรีส์” ได้ถึงขนาดนี้   โพสต์เล่าเหตุการณ์ของเจ้าของเรื่อง   คราวหลังเวลาจะเข้าไปตอบโพสต์ใครในเฟซบุ๊ก ก็คงต้องดูกันให้ดีๆ แล้วแหละนะ ไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่เหมือนอย่างเรื่องนี้ก็เป็นได้   ที่มา: facebook

  • นักศึกษาผิวขาวจะไม่ทน ต้องป่าวประกาศ ‘ทวงคืนคนขาว’ เมื่อเห็นสาวผิวขาวจูบหนุ่มเอเชีย

    นักศึกษาผิวขาวจะไม่ทน ต้องป่าวประกาศ ‘ทวงคืนคนขาว’ เมื่อเห็นสาวผิวขาวจูบหนุ่มเอเชีย

    ในปัจจุบันที่โลกของเราพยายามจะเปิดรับความแตกต่างระหว่างบุคคลอย่างเท่าเทียม คนส่วนมากจึงต่อต้านแนวคิดการเหยียดเชื้อชาติ เหยียดสีผิว และการเหยียดเพศอีกด้วย ทว่าก็ยังมีคนส่วนหนึ่งที่ยังคงใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดเชื้อชาติอย่างโจ่งแจ้งอยู่ หนุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊กคนนี้เองก็เช่นกัน เขาโจมตีคู่รักหญิงผิวขาวและชายเอเชียด้วยถ้อยคำรุนแรงบนเฟซบุ๊ก ทำให้ชาวเน็ตที่เห็นโพสต์นั้นพากันวิจารณ์เขายับเลย   โพสต์ในเฟซบุ๊กของหนุ่มผิวขาว   โพสต์ที่ว่านี้เขียนโดยหนุ่มที่ใช้ชื่อว่า Will Harrison เขาเขียนมันลงในกลุ่มเฟซบุ๊กของมหาวิทยาลัย University of California Irvine ที่ชื่อ UC Irvine (UCI) Class of 2020 ในโพสต์มีใจความว่า “ถึงสาวผิวขาวหน้าบ้านๆ ที่ผมเห็นเธอจูบกับหนุ่มน้อยเอเชียใกล้กับศูนย์นักศึกษาเมื่อวาน ไม่มีใครคิดว่าที่คุณทำอยู่มันเท่หรอกนะ แถมมันยังดูเหมือนคุณเสแสร้งแสดงเป็นพิเศษด้วย ใครๆ ก็รู้ว่าที่เธอคบกับหนุ่มน้อยชาวเอเชียคนนั้นเป็นเพราะว่าผู้ชายผิวขาวไม่มีใครอยากคบเธอต่างหาก แล้วก็อยากบอกกับหนุ่มน้อยเอเชียคนนั้นด้วยว่าถึงแกจะพยายามอย่างมากจนในที่สุดก็ได้คบกับสาวผิวขาวเสียที แต่สาวคนนั้นไม่ได้เซ็กซี่อะไรเลย เธอดูเหมือนพวกบ้าเห่อสตรีนิยมที่มีสีผมประหลาดแค่นั้นเอง”     “ในขณะเดียวกันสาวเอเชียน่ะก็ ‘ขึ้นชื่อ’ ว่าเป็นพวกบูชาผู้ชายผิวขาว ดูจากข้อมูลในแอปฯ หาคู่ก็รู้แล้ว แถมสถิติการแต่งงานของคนต่างสีผิวก็บอกแบบนั้นเหมือนกัน ลองแข่งกันเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใน Tinder เป็นผู้ชายผิวขาวธรรมดาๆ ดูสิ แล้วมานับดูว่ามีสาวเอเชียอยากคุยกับพวกเธอมากแค่ไหน มันต้องเยอะพวกเธอตกใจมากแน่ๆ ยังไงซะก็ลองให้หนุ่มน้อยเอเชียคบกับสาวผิวขาวไปเถอะ คนเขารู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองว่าคบกันไม่ยาวหรอก” โพสต์นั้นหยาบคายมากเสียจนเมื่อผู้ดูแลกลุ่มเห็นแล้วต้องรีบลบทิ้งทันทีเลย แต่ก็ไม่ทันชาวเน็ตมือไวทั้งหลายหรอก พวกเขาเก็บภาพโพสต์ของหนุ่มผิวขาวเอาไว้ได้ทัน และเริ่มแชร์ลงโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวางทันที พอโพสต์ถูกแชร์ไปคนก็เริ่มวิจารณ์หนุ่มคนนี้อย่างหนาหู…

  • เมนต์ยังไงให้ได้ปั๋ว.. สาวไปเมนต์ฮาๆ ในเฟซบุ๊กหนุ่ม อีกอาทิตย์นึงแต่งงานกันเฉย!!

    เมนต์ยังไงให้ได้ปั๋ว.. สาวไปเมนต์ฮาๆ ในเฟซบุ๊กหนุ่ม อีกอาทิตย์นึงแต่งงานกันเฉย!!

    เวลาเราจะไปตอบโพสต์บนโซเชียลมีเดียของผู้อื่น เราควรจะดูบริบทให้ดีว่าโพสต์นั้นจริงจังหรือว่าโพสต์เอาฮา ไม่งั้นอาจจะได้สามีแบบงงๆ เหมือนสาวคนนี้ที่ไปตอบโพสต์รับสมัครภรรยาในเฟสบุ๊กของเพื่อนแบบเอาฮา แต่หนุ่มกับเอาจริงจนได้แต่งงานกันเฉยเลย เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อหนุ่มไนจีเรีย Chidimma Amedu ตัดสินใจว่าเขาถึงวัยที่ควรจะแต่งงานสักที จึงได้ประกาศรับสมัครสาวมาแต่งงานด้วยอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ธันวาคม 2017 แต่แทนที่เขาจะประกาศทางเว็บไซต์หาคู่ เขากลับโพสต์ประกาศลงในเฟสบุ๊กของตัวเอง โพสต์มีใจความว่า “ผมคิดว่าตัวเองถึงวัยที่ควรจะแต่งงานแล้ว ตอนนี้ผมไม่อยากเสียเวลารออีกต่อไป ถ้าใครสนใจกรุณาส่งข้อมูลส่วนตัวเข้ามาสมัครเป็นเจ้าสาวของผม ผู้ที่เหมาะสมที่สุดจะได้แต่งงานกับผมในวันที่ 6 มกราคม 2018 ปิดรับสมัครตอนเที่ยงคืนวันท่ี 31 ธันวาคม 2017 นี่ผมเอาจริงนะครับ ใครมาไม่ทันอย่าเสียดายล่ะ”   รูปจากงานแต่งงานของ Chidimma Amedu และ Sophy Ijeoma   สาวช่างแต่งหน้า Sophy Ijeoma ซึ่งเป็นเพื่อนกับเขาบนเฟซบุ๊กก็ผ่านมาเห็นพอดี เธอคิดว่าเขาคงจะโพสต์ตลกๆ ไปแบบนั้นแหละ จึงตอบคอมเมนต์ไปว่า “ฉันสนใจนะ ส่งข้อความมาคุยกันดูสิ 555” จริงๆ แล้วเธอกับเขาเป็นแค่เพื่อนบนเฟซบุ๊กกันเท่านั้น ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกันเลย ชายหนุ่มรู้จักกับเธอตอนที่เธอไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งงานของเพื่อนเขา แต่พอเห็นเธอมาโพสต์แบบนี้เขาก็สนใจในตัวเธอไม่น้อยเลย เขาตอบคอมเม้นต์เธอว่า “ผมพร้อมจะแต่งงานกับคุณกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ” แล้วก็ตอบคอมเม้นต์ของเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า “ตอนนี้ผมสนใจ Sophy Ijeoma อยู่”   คอมเมนต์ในเฟซบุ๊กที่ฝ่ายสาวไปตอบโพสต์ของหนุ่ม…

  • 5 วิธีการเอาตัวรอดของแบรนด์ธุรกิจ จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเฟซบุ๊กในปี 2018

    5 วิธีการเอาตัวรอดของแบรนด์ธุรกิจ จากการปรับเปลี่ยนรูปแบบของเฟซบุ๊กในปี 2018

    จากกรณีที่พี่ Mark Zuckerberg เจ้าของเฟซบุ๊กได้ทำการปรับเปลี่ยนระบบการแสดงผลที่หน้านิวส์ฟีด ให้มีการโชว์คอนเทนต์หรือโฆษณาของแบรนด์หรือธุรกิจต่างๆ ให้แสดงผลน้อยลง ส่งผลให้โอกาสในการหาลูกค้าหน้าใหม่ๆ ลดลงไปเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่ามันจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจมากมาย เพราะส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ใช้เฟซบุ๊กเป็นพื้นที่ในการทำโฆษณาแทบทั้งสิ้น!! แล้วเราจะมีวิธีอยู่รอดได้อย่างไร!? หากสูญเสียพื้นที่ในการโฆษณาและหาลูกค้า วันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมคำแนะนำจากบทความของเว็บไซต์ Socialmediatoday กันครับ   ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าที่พี่ Mark เค้าทำไป จริงๆ ก็เป็นการรับมือกับปัญหาที่เฟซบุ๊กได้เผชิญมายาวนานหลายปี   ซึ่งปัญหานั้นก็คือเหล่าคอนเทนต์ด้อยคุณภาพจากแบรนด์ต่างๆ อย่างเช่น Click Bait หรือการ Engagement Baiting (การเรียกร้องให้ผู้ใช้งานมีส่วนร่วมโดยการให้กดไลก์กดแชร์) และเมื่อมองในมุมนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่เหล่าแบรนด์ต่างๆ จะหันมาพัฒนาคอนเทนต์การโฆษณา หรือวิธีการหารายได้ด้วยวิธีที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น จากเหตุการณ์ดังกล่าวก็ได้มีความเห็นจากนาย James Whatley ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของบริษัท Ogilvy UK ก็ได้ออกมาให้ความเห็นว่า “หากคุณเป็นสำนักพิมพ์หรือทำคอนเทนต์โฆษณาที่ผลิตแต่ผลงานดีๆ น่าสนใจและมีคุณภาพอยู่แล้ว ขอบอกเลยว่านี่คือโอกาสทองของพวกคุณ” ฉะนั้นการปรับเปลี่ยนอัลกอริทึ่มของเฟซบุ๊กไม่ได้เป็นจุดจบทุกอย่างของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ หรือเล็กแค่ไหนก็ตาม เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เคยเกิดขึ้น!! นั่นหมายความว่า เราจะต้องปรับตัวไปตามการเปลี่ยนแปลงที่เฟซบุ๊กได้วางเป้าหมายเอาไว้ ถ้าหากคุณยังใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นพื้นที่หลักในการเข้าถึงลูกค้าอยู่ล่ะก็นะ…   แล้วเราจะต้องทำอะไรกันบ้าง!?   เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยากลำบากมากๆ เพราะคุณจะยอมทิ้งเฟซบุ๊กที่มียูสเซอร์มากถึง 2 พันล้านยูสเซอร์ไปเหรอ?…

  • เล่นเฟซบุ๊กบ่อยๆ ทันข่าวทันโลก แต่นี่คือ 7 เหตุผลจากนักจิตวิทยา ว่าคุณควรพักเล่นมันซะบ้าง!!

    เล่นเฟซบุ๊กบ่อยๆ ทันข่าวทันโลก แต่นี่คือ 7 เหตุผลจากนักจิตวิทยา ว่าคุณควรพักเล่นมันซะบ้าง!!

    ทุกวันนี้คงไม่มีใครไม่ใช้งานโซเชี่ยลมีเดียยักษ์ใหญ่ชื่อดังอย่าง เฟซบุ๊ก หรอก เพราะมันทำให้เรื่องยุ่งยากในชีวิตเราง่ายไปเสียหมด อยากจะติดต่อพูดคุยกับเพื่อนก็ทำได้ในทันที หรือจะติดตามความเคลื่อนไหวของคนรู้จักก็ทำได้ไม่ยาก แม้แต่ซื้อขายของก็ยังทำกันบนเฟซบุ๊กเลย แต่ทุกสิ่งในโลกก็เหมือนเหรียญที่มีสองด้าน มีข้อดีอยู่ในตัว ก็ต้องมีข้อเสียแฝงอยู่ด้วยเช่นกัน ดังที่นักวิจัยท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า เฟซบุ๊กแฝงไปด้วยปัญหาด้านจิตวิทยา และปัญหาเหล่านี้ก็มองเห็นได้ยาก และปัญหาเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้เฟซบุ๊กมีสุขภาพย่ำแย่ลง โดยตีเป็นปัญหาได้ 7 ข้อหลักๆ ดังนี้     1. เฟซบุ๊กทำให้คุณรู้สึกว่าชีวิตคุณไม่ดีเท่าคนอื่น นักจิตวิทยาด้านสังคม Leon Festinger ได้ทำการสังเกตผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนใหญ่ และพบว่าทุกคนมักจะทำการเปรียบเทียบชีวิตเพื่อนที่เห็นในเฟซบุ๊กกับชีวิตของตนเองอยู่เสมอและมักจะรู้สึกว่าตนเองมีชีวิตไม่ดีเท่าเพื่อนคนอื่นๆ เพราะส่วนมากพวกเขาจะโพสต์ภาพที่ได้ไปกินอาหารหรูๆ ภาพได้ไปเที่ยวต่างประเทศ และภาพตอนเกิดเรื่องดีๆ กับชีวิต 2. ข้อนี้เป็นผลต่อเนื่องกันจากข้อหนึ่ง คือเฟซบุ๊กทำให้คุณรู้สึกอิจฉาเรื่องดีๆ ของเพื่อนนั่นเอง โดยนักวิจัยได้ค้นพบว่าการได้เห็นเรื่องดีๆ ของคนอื่นผ่านทางการเลื่อนดูนิวฟี๊ดทำให้คุณเกิดความรู้สึกอิจฉาขึ้นและอาจจะทำให้คุณรู้สึกเศร้าหรือหดหู่ได้     3. เฟซบุ๊กทำให้คุณเข้าใจผิดเกี่ยวกับความคิดเห็นของคนส่วนมาก นั่นเป็นเพราะเฟซบุ๊กมักจะนำเสนอเนื้อหาที่เราชอบติดตาม ซึ่งส่วนหนึ่งนับว่าเป็นความคิดเห็นและรสนิยมส่วนตัวของเราเอง และพอเราเห็นข้อมูลเหล่านี้บ่อยๆ แล้ว เราก็จะคิดว่าคนส่วนมากคิดเช่นนั้นเหมือนกัน 4. เฟซบุ๊กทำให้คุณรู้ความเป็นไปของคนที่คุณอยากลืม ซึ่งตัวอย่างที่ชัดที่สุดคงจะเป็นแฟนเก่านั่นแหละ เพราะเรามักจะเห็นภาพแฟนเก่าผ่านทางนิวฟี๊ด และแม้ว่าเราจะไม่ได้ติดตามเขาแล้วก็ตาม เราก็ยังมีโอกาสที่จะเข้าไปส่องดูเฟซบุ๊กของเขาอยู่ดีนั่นแหละ ซึ่งมันทำให้คุณตัดขาดจากเขาได้ยากยิ่งขึ้น     5. เฟซบุ๊กอาจทำให้คุณเกิดความอิจฉาแฟนก็ได้ นักวิจัยชี้ว่าหากเราดูเฟซบุ๊กของแฟนบ่อยๆละก็ เราก็จะเห็นว่ามีใครติดตามหรือกดไลค์แฟนเราอยู่บ่อยๆ ซึ่งอาจทำเราอิจฉา…

  • หนุ่มอัดคลิปจ้วงอาหารจานสวยของเพื่อน ก่อนที่พวกเขาจะถ่ายภาพอวดโซเชียล

    หนุ่มอัดคลิปจ้วงอาหารจานสวยของเพื่อน ก่อนที่พวกเขาจะถ่ายภาพอวดโซเชียล

    ภาพที่คนกำลังพยายามถ่ายอาหารจารสวยเพื่อไปลงโซเชียล ถือว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน โดยเฉพาะสาวๆ ที่พออาหารมาวางปุ๊บก็จะถ่ายรูปอัพลงโซเชียลมีเดียก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อความสบายใจและความสุขของพวกเธอ แต่ถ้าจู่ๆ มีคนมาทำลายความสุขนั้นต่อหน้าต่อตาอย่างที่เขาคนนี้ทำล่ะจะเป็นอย่างไร?! Kevin Freshwater คือชายหนุ่มผู้ทำลายความพึงพอใจของใครหลายๆ คน เพราะเมื่อไหร่ที่เพื่อนหรือคนใกล้ตัวกำลังถ่ายภาพอาหารที่ดูน่ากินอยู่นั้น เขาก็จะใช้ส้อมทำลายมันซะป่นปี้จนไม่สามารถอัพลงอินสตาแกรมได้เลย…   อยากอัพลงโซเชียลกันมากใช่มั้ย เอาส้อมบี้ซะเลยยย นี่แน่ะๆ   โดยเขาได้ถ่ายคลิปการกระทำสุดเหี้ยมโหดอันนี้เอาไว้แทบทุกครั้ง ก่อนจะนำมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของตัวเอง เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา เหยื่อแต่ละคนถึงกับเอ๋อรับประทาน งงกันไปตามๆ กัน บางคนก็หัวเราะให้กับสิ่งที่เขาทำ บางคนก็ถึงกับจะเดินไปสั่งจานใหม่เพื่อให้ได้ถ่ายอีกรอบ หรือแม้กระทั่งคนที่ด่าเขาด้วยคำหยาบคายเลยก็มี คลิปวิดีโอของเขามีผู้เข้าชมเกือบ 260,000 ครั้งในอินสตาแกรม kevinfreshwater และในเฟซบุ๊กก็มีคนเข้าชมมากกว่า 43 ล้านครั้ง แชร์อีกกว่า 436,000 ครั้ง และมีคนไลก์อีกกว่า 320,000 คนเลยทีเดียว   เงิบสิครับ!! กำลังจะถ่ายอยู่แล้ว โดนทำลายฝันซะงั้น   มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น บ้างก็เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาทำอย่างเช่น Mike Hayne “กินอาหารเข้าไปเลย ง่ายๆ แค่นั้นก็พอแล้วมั้ย ไม่ต้องมาถ่ายหรอก”…

  • เอางี้เลยนะ!? ชาวมะกันตั้งแคมเปญ “หันพัดลมไปที่พายุ” ไล่พายุเฮอร์ริเคนออกไปไกลๆ!!

    เอางี้เลยนะ!? ชาวมะกันตั้งแคมเปญ “หันพัดลมไปที่พายุ” ไล่พายุเฮอร์ริเคนออกไปไกลๆ!!

    หลายๆ ครั้งที่ภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้นเกิดความเครียดและความกังวล แต่ดูเหมือนว่าชาวมะกันผู้นี้จะมีวิธีรับมือกับความเครียดเหล่านั้นได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว คุณ Joshua Stanaland เจ้าของแคมเปญสุดฮานี้ ได้สร้างกิจกรรมตลกๆ บนเฟสบุ๊กเพื่อเชิญชวนชาวอเมริกามาร่วมใจกันเปิดพัดลมพร้อมกันและเป่าพายุเฮริเคนให้ไปไกลๆ จากพื้นที่ของพวกเขา โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นที่นิยมอย่างมากและมีผู้สนใจเข้าร่วมถึง 4 หมื่นคนเลยทีเดียว!!   มาช่วยกันเถอะพวกเรา!!   โดยกิจกรรมดังกล่าวจะมีขึ้นในวันที่ 7 กันยายนนี้ที่สหรัสอเมริกา ซึ่งในคำอธิบายคุณ Joshua ได้อธิบายไว้ว่า “นี่ทุกๆ คน ออกไปนอกบ้านของพวกคุณและเปิดพัดลมเพื่อไล่พายุเฮอริเคนไอม่า และไล่มันออกไปจากอเมริกากันเถอะ แต่ถ้าใครไม่มีพัดลมจะใช้เครื่องเป่าลม หรือว่าปืนลม หรือไดร์เป่าผมอะไรก็ได้นะ วันเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม ปล. แต่เราจะไม่รับผิดชอบต่อปอดของคุณ ถ้าหากคุณเลือกใช้ปากเป่าลม”   หลังจากนั้นเหล่าชาวมะกันที่จะเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวก็ได้เข้ามาคอมเม้นต์กันเป็นจำนวนมาก อย่างคนนี้บอกว่า เดี๋ยวเอาพัดลมทั้งบ้านไปช่วยเป่าเลย   เดี๋ยวก่อน ถ้าเกิดพัดลมไปเพิ่มพลังให้เฮอร์ริเคนล่ะ จะทำไง?   “ผมอาศัยอยู่ประเทศไทยแต่อยากร่วมด้วย ผมจะช่วยยังไงดี ผมมีพัดลมห้าตัว มันจะแรงพอมั้ยอ่ะ”   ชาวเน็ตอีกท่านก็เข้ามาตอบว่า “ลองใช้เข็มทิศจัดตำแหน่งดูนะ พยายามให้ชัวร์ว่ามันจะไม่เป่ากันเอง”   “โอเค เดี๋ยวผมจับพวกมันเชื่อมต่อกับ GPS จะได้ไม่เป่ากันเองจนเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์”   แต่ในขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครต้อนรับเจ้าเฮอริเคนไอม่านี้เลย จนมีชาวยุโรปการออกแคมเปญมาต้าน พร้อมกับบอกว่า…

  • เฟซบุ๊กปิดระบบ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หลังจากพบว่าพวกมัน พยายามสร้างภาษาเป็นของตัวเอง!!

    เฟซบุ๊กปิดระบบ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หลังจากพบว่าพวกมัน พยายามสร้างภาษาเป็นของตัวเอง!!

    สำหรับใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวงเทคโนโลยีกันอยู่ อาจจะได้ยินข่าวของการออกมางัดข้อกันระหว่างทีมของ Mark Zuckerberg และ Elon Musk ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องของการพัฒนาระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรต่อมวลมนุษยชาติ และในระหว่างที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังถกเถียงกันเรื่องของการพัฒนาระบบ AI ก็ได้มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ ทีมวิจัยของทางเฟซบุ๊กได้ปิดระบบ AI ของพวกเขา หลังจากที่พบว่าพวกมันกำลังพยายามสร้างภาษาของตัวเอง!!     จากการรายงานของวารสาร Digital Journal บอกว่า ระบบดังกล่าวได้พยายามพัฒนาภาษาของพวกมันเอง โดยทีมวิจัยได้ทำการปิดระบบของปัญญาประดิษฐ์ หลังจากที่พวกเขาพบว่าระบบเริ่มไม่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกัน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ภาษาใหม่ที่พวกมันสร้างขึ้นมานั้นไม่มีความหมายสำหรับมนุษย์ แต่มีแค่ AI ด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ 2 ตัวของเฟซบุ๊กที่ชื่อ Bob และ Alice ได้พยายามสร้างภาษาใหม่เพื่อโต้ตอบกัน     Bob เริ่มพูดว่า “I can i i everything else” จากนั้น Alice จึงตอบกลับมาว่า “Balls have zero to…

  • ลูกสาวเจอรูปแมวในเฟซบุ๊กของสถานสงเคราะห์ ปรากฏว่าเป็นแมวที่หายไปเมื่อ 2 ปีก่อน!!

    ลูกสาวเจอรูปแมวในเฟซบุ๊กของสถานสงเคราะห์ ปรากฏว่าเป็นแมวที่หายไปเมื่อ 2 ปีก่อน!!

    คงไม่มีใครอยากให้สัตว์เลี้ยงตัวเองหายไปอย่างไร้ร่องรอย เช่นเดียวกับครอบครัว Zelitky พวกเขาเคยเลี้ยงดูเจ้าเหมียว Jimmy ทว่าจู่ๆ วันหนึ่งมันกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย พวกเขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อตามหามันแต่ก็ไม่เจอ จนกระทั่ง 2 ปีต่อมา วันหนึ่งลูกสาวได้เข้าไปที่เพจ West Milford Animal Shelter และพบว่ามีเจ้า Jimmy ไปปรากฏอยู่ในนั้น!!   ภาพหลักฐานจากครอบครัวว่าพวกเขาเคยเลี้ยงดูมันมาก่อน   ‘ดิฉันจำได้ว่าเป็นวันที่ 13 กันยายน 2014 เป็นประจำทุกวันที่เราจะปล่อยมันออกไปเดินเล่น มันชอบออกไปสำรวจนอกบ้าน พอตกเย็นมันก็จะกลับมา แต่อยู่ดีๆ วันนั้นมันก็ไม่กลับมา และก็หายไปเลย’ Sue Zelitsky เล่า พวกเขารู้สึกหมดหวัง และคิดว่ามันคงไม่คิดจะกลับมาอีกแล้ว จนลูกสาวของครอบครัวได้ไปเห็นรูปของมันจากหน้าเพจเฟซบุ๊ก พร้อมคำอธิบายว่า ‘เป็นแมวที่ถูกทิ้งไว้ข้างถนนอย่างน่าสงสาร และกำลังมองหาบ้านหลังใหม่’    เมื่อลองเอารูปมาเทียบดูก็พบว่ามันคือ Jimmy จริงๆ จากนั้นพวกเขาจึงเดินทางไปหามันทันที   ‘ทันทีที่เราไปถึงศูนย์พักพิงสัตว์ เจ้าหน้าที่ก็พาเราไปพบเจ้า Jimmy ทันที หลังจากที่ผมเปิดกรงผมก็ทักทายไปว่า เป็นยังไงบ้างไอ้เหมียวยังจำกันได้รึเปล่า? จากนั้นมันก็เอาหัวมาถู พร้อมร้องเสียงออดอ้อน เราถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลย’ ครอบครัวเล่า…

  • บ่าวสาวโพสต์ประสบการณ์เงิบ “ออกาไซน์เซอร์งานแต่ง” ออกมาแย่ ไม่ตรงตามที่ตกลง!?

    บ่าวสาวโพสต์ประสบการณ์เงิบ “ออกาไซน์เซอร์งานแต่ง” ออกมาแย่ ไม่ตรงตามที่ตกลง!?

    กลายเป็นดราม่าที่มีคนพูดถึงกันอยู่พอสมควร สำหรับกรณีที่มีคู่บ่าวสาวไปว่าจ้างให้ออกาไนซ์เซอร์แห่งหนึ่งมาจัดงานแต่งให้ แต่ปรากฏว่าตัวงานออกมาไม่ดีพอสมกับราคาที่ว่าจ้างไปในตอนแรก แถมยังมีของให้ไม่ครบอีกด้วย งานนี้ทำเอาคู่บ่าวสาวถึงกับเงิบเลยทีเดียว       เรื่องราวนี้เป็นเรื่องราวจากคุณไข่มุก โดยเธอได้เล่าผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง Amornrat Sangsee ว่าเธอได้ไปว่าจ้างออกาไนซ์เซอร์แห่งหนึ่งเพื่อมาจัดงานแต่งให้กับเธอและสามีในวันที่ 4 มีนาคม ที่จังหวัดราชบุรี ในราคา 50,900 บาท ซึ่งเป็นแพ็คเกจที่แพงที่สุดของทางร้านนี้   แต่เมื่อถึงวันงานจริงหลายๆ อย่างกลับไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ อย่างเช่น ประเด็นแรก พอถึงช่วงแห่ขันหมากในเวลา 9 โมง 9 นาที ทีมงานของออกาไนซ์เซอร์กลับนำอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ในขบวนขันหมากและพิธีการมาไม่ครบ โดยอ้างว่านำของไปส่งให้ผิดงาน     ประเด็นสอง พอถึงช่วงเย็นที่ต้องเข้าสู่ช่วงกินเลี้ยงระหว่างเครือญาติ กลับได้เวทีและฉากหลังแบบวานโรงเรียนมาแทน ประเด็นสาม กล่องใส่ซองให้บ่าวสาว กลายร่างเป็นกล่องโฟมซะอย่างนั้น   สภาพของกล่อง   เมื่อคุณไข่มุกพยายามคุยกับทางออกาไนซ์เซอร์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงแก้ไขโดยการโอนเงินคืนแก่คู่บ่าวสาวเป็นจำนวน 15,000 บาท แต่ไม่แน่ใจว่างานนี้จะเป็นการคืนที่สมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะความรู้สึกของบ่าวสาวที่ไม่ได้อะไรตามเป้านั้นมันเรียกคืนกลับมาไม่ได้ จึงเกิดการโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ขึ้น   ขณะนี้โพสต์ดังกล่าวได้หายไป ซึ่งมีเสียงจากชาวเน็ตบอกว่าถูกรุมรีพอร์ทสแปม เช่นเดียวกันกับเพจของทางร้านจัดงานแต่ง ที่ปิดตัวหายเงียบไปเช่นกัน ทีนี้เราลองไปดูฝั่งความเห็นชาวเน็ตกันบ้างนะครับ… เรื่องของวัน พรุ่งนี้ “ไม่นึกว่าจะเป็นเรื่องจิง…

  • รู้จักกับเพจ ‘Boyfriends Of Instagram’ สดุดีเหล่าพ่อบ้าน อันเป็นผู้เสียสละที่แท้จริง!!

    รู้จักกับเพจ ‘Boyfriends Of Instagram’ สดุดีเหล่าพ่อบ้าน อันเป็นผู้เสียสละที่แท้จริง!!

    เพราะเบื้องหลังภาพสวยงามของเหล่าสาวสวยทั้งหลาย ก็ล้วนมาจากเหล่าพ่อบ้านผู้ยอมเสียสละทั้งเวลา และพละกำลังวังชา เพื่อที่จะได้รูปภาพสุดชิคให้พวกเธอเอาไปโพสต์กันเก๋ๆ ลงบนโลกโซเชียลยังไงล่ะ และเพื่อเป็นการเชิดชูแก่วีรกรรมของพ่อบ้านดีเด่นจากทั่วโลก  ‘Boyfruends Of Instagram’ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา โดยจุดประสงค์ก็เพื่อบอกเล่าเรื่องราวของพ่อบ้านฮีโร่ตัวจริงเสียงจริง ถึงแม้จะไม่มีพลังวิเศษ หรือบินไม่ได้ แต่อย่างน้อยเค้าก็ทำให้แฟนสาวมีความสุขได้ เอาล่ะ…เราไปเชิดชูวีรกรรมพ่อบ้านผู้เสียสละไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า   ดูพ่อหนุ่มคนนี้สิ เค้าสามารถอยู่แบบนี้ได้ทั้งวันโดยไม่มีคำว่าเมื่อย เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดของแฟนสาว   หนุ่มล่ำคนนี้เขาไม่ได้เล่นฟิตเนสหรอกนะ แต่เขาถ่ายรูปให้แฟนสาวจนกล้ามขึ้นเป็นมัดๆ เลยล่ะ   พ่อหนุ่มคนนี้ถ่ายรูปมามากพอจนรู้ว่า มุมนี้แหละเพอร์เฟคที่สุด!!   ไม่ว่าเธออยากจะถ่ายมุมไหน ท่าไหน สไตล์ไหน หนุ่มๆ เค้าก็ยอมทั้งน๊านน   นี่สินะผู้เสียสละที่แท้จริง   กว่าจะได้ภาพสวยๆ ให้พวกเธอไปยลโฉมกันในโลกออนไลน์ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เค้าคนนี้นี่เอง   ลุงคนนี้ถ่ายรูปให้แฟนสาวจนรู้แล้วว่า ต้องท่าไหนเธอถึงจะดูเริ่ดที่สุด   นี่ก็ฮีโร่ตัวจริงเสียงจริงเหมือนกัน คนอื่นสนุ๊กสนุก แต่เจ้าตัวได้มายืนเก็บภาพบรรยากาศให้แทนซะงั้น   รางวัลพ่อบ้านดีเด่นปีนี้ยกให้แก่… พ่อหนุ่มคนนี้เลยครับ มาเที่ยวผับทั้งทีต้องดูแลแฟนไม่พอ ต้องสะพายกระเป๋าให้อีก คืนสังสรรค์ของนายจบลงแล้วนะจอร์จ   ถ้าไม่ใช่เพราะคำว่า…

  • สาวผิวน้ำผึ้งแชร์ประสบการณ์ จากคนขายน้ำมะพร้าวข้างทาง จนกลายเป็นนางแบบระดับอินเตอร์

    สาวผิวน้ำผึ้งแชร์ประสบการณ์ จากคนขายน้ำมะพร้าวข้างทาง จนกลายเป็นนางแบบระดับอินเตอร์

    นี่เป็นเรื่องราวที่ทำเอา#เหมียวฟิ้นถึงกับต้องหยุดอ่านอยู่นานทีเดียว แล้วเมื่ออ่านจบก็ถึงกับทึ่งในชีวิตของคนๆ หนึ่ง ที่เติบโตจากคนธรรมดาๆ จนสามารถทำตามฝันได้สำเร็จ เรื่องราวที่เราจะเล่าต่อไปนี้เป็นของคุณโอปอล พิไลวรรณ พิมพ์ภูลาด วัย 22 ปี เธอได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Pili Opal เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเธอได้เล่าเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เริ่มทำงานหาเงินด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสต๊าฟขายตั๋วหรืองานขายมะพร้าวข้างถนนเธอก็ผ่านมาแล้ว   เนื่องจากเธอเป็นคนผิวสีน้ำผึ้ง ทำให้หน้าตาของเธอไม่ได้โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ เท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่ได้ย่อท้อและยังฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเธอจะเป็นนางแบบให้ได้ เมื่อเธอโตขึ้นเธอก็ได้พบกับโมเดลลิ่งและคนในวงการเดินแบบ ทำให้เธอเริ่มออกเดินตามฝันในการเป็นนางแบบ   คุณโอปอลเล่าให้#เหมียวฟิ้นฟังว่าในสมัยก่อน เธอได้รับการตำหนิและการดูถูกจากคนรอบข้างของเธอมากมาย “เคยมีคนแนะนำให้ทำดั้งแล้วก็แนะนำให้ใช้ครีมหน้าขาวหน้าเกือบแพ้ เพราะเราดำกร้านแดดมาก แต่ทาทีไรมันก็ไม่ขาวเพราะเราเปนคนผิวเหลืองไง” คุณโอปอลกล่าว จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้มีผลงานถ่ายแบบชิ้นแรกกับ Thiacatwalk และหลังจากนั้นเธอก็เริ่มเรียนรู้การโพสท่าและทักษะต่างๆ ในการเป็นนางแบบ   คุณโอปอลเริ่มมีผลงานในต่างประเทศ ได้ขึ้นปกนิตยสาร และได้เดินแบบบนเวที Elle Fashion Week 2016 ไปจนถึงงานถ่ายแบบให้กับโฆษณาน้ำหอมของ David Beckham ก่อนจะทิ้งท้ายให้ทุกคนอย่าหยุดทำตามฝัน                …

  • งงกันทั้งบาง ภาพ ‘เป็ดหัวติดไฟ’ ถูกเฟซบุ๊กเซ็นเซอร์ หรือเป็นเพราะแอบถ่ายติดพี่มาร์กมาด้วยนะ!!?

    งงกันทั้งบาง ภาพ ‘เป็ดหัวติดไฟ’ ถูกเฟซบุ๊กเซ็นเซอร์ หรือเป็นเพราะแอบถ่ายติดพี่มาร์กมาด้วยนะ!!?

    จะว่าไปแล้วระบบการเซ็นเซอร์ของเฟซบุ๊ค มักจะมีอะไรให้เราแปลกใจอยู่เสมอ เพราะบางอย่างที่มันควรจะเซ็นเซอร์ก็ดั๊นไม่เซ็นฯ แต่กลับกันบางภาพที่ไม่ได้มีเนื้อหารุนแรงอะไรเลย แถมยังดูเหมือนเป็นภาพตัดต่อซะด้วยซ้ำ ยังโดนระบบเฟซบุ๊คของเฮียมาร์กแบนเข้าจนได้ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นบนเพจ ‘Teen Memes’ เมื่อแอดมินเพจได้โพสต์ภาพของหญิงสาวชาวเอเชียคนหนึ่งในร้านอาหาร เธอกำลังนั่งดูจอโทรศัพท์มือถืออยู่ และเขาก็ได้ตัดต่อรูปภาพในนั้นให้เป็นรูปเป็ดหัวติดไฟ แต่ดั๊นโดนระบบเซ็นเซอร์ซะได้ เอ๊ะ!! แบบนี้ก็ได้เหรอเนี่ย?   พอ #เหมียวบ็อบ ลองเอาเฟซฯ ส่วนตัวเข้าไปดู ก็พบว่าเออ..มันแบนจริงๆเว่ยเฮ้ย   ระบบแจ้งเตือนมาว่า เป็นภาพที่มีเนื้อหารุนแรง พอเราลองเปิดเข้าไปดูแล้วก็พบว่า มันเป็นภาพแบบเนี๊ยะ!! (รุนแรงตรงไหนอ่ะ)   แต่เดี๋ยวก่อน!! มีชาวเน็ตคนหนึ่งสังเกตุเห็นรูปพี่มาร์กติดเข้ามาด้วย หรือว่าการที่มันโดนแบน เพราะดันมีรูปหน้าพี่แกติดเข้ามาด้วยกันแน่นะ?   งานนี้จะไปเหลืออะไรละคร๊าบบ ชาวเน็ตออกมาแซวกันมันมือเลยทีนี้…   “รูปนี้ถูกหาว่ารุนแรง แต่ด้านขวามือในหน้าจอผม มีคนโพสต์รูปหมาโดนลูกธนูยิง มีเลือดไหลเต็มไปหมด แต่ไม่โดนเซ็นเซอร์!! บางทีอาจจะเป็นเพราะนั่นมันหมาจน แต่คนที่อยู่ในภาพเป็นเฮียมาร์กละมั้ง?”   “มาร์ก เอ็งหยุดสอดแนมพวกเราได้แล้ว ผมว่าเดี๋ยวคอมเม้นท์นี้ต้องโดนลบแน่เลย โถ่วพี่มาร์กไอ่!@#$%^&”   แต่รูปแบบนี้ไม่เห็นจะโดนแบนแฮะ เออน่าคิดเนาะ   เอ้าา ไหนลองพิมพ์ชื่อคนที่คุณก็รู้ว่าใครนี่ดูสิ ฮ่าๆๆ…

  • สาวตามหนุ่มที่เก็บมือถือตัวเองได้ เตรียมปลดล็อคเอาไปใช้เอง บอกหน้าตาเฉย “ลืมไว้ได้ไงอะ”

    สาวตามหนุ่มที่เก็บมือถือตัวเองได้ เตรียมปลดล็อคเอาไปใช้เอง บอกหน้าตาเฉย “ลืมไว้ได้ไงอะ”

    เทคโนโลยีสมัยนี้มันมีราคาแพงและหรูหราขึ้นเรื่อยๆ จนใครก็อยากที่จะเป็นเจ้าของมัน หากคุณลืมหรือทำมันหล่นหายที่ไหนล่ะก็ คงเป็นเรื่องยากมากที่จะได้คืน ยิ่งเป็น iPhone ด้วยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย…   เช่นเดียวกับเรื่องราวของพริตตี้สาว คุณปุ๋ย ณพิชญา น้อยทรง และน้องสาว ที่ออกไปเที่ยวที่เซ็นทรัลเมืองพัทยา แต่ดันลืมมือถือ iPhone6 ไว้ที่ตู้เกม เมื่อกลับไปดูก็ไม่พบร่องรอยอีกแล้ว พวกเธอจึงใช้แอพฯ Find My iPhone ออกตามหาสัญญาณมือถือว่าอยู่ที่ไหน จึงพบว่ามีคนเก็บไปได้แล้วขับรถวนอยู่ในตัวเมือง     แม้จะโทรศัพท์ไปหาแต่คนที่เก็บได้กลับไม่ยอมรับสายและยังปิดเครื่องหนีไปดื้อๆ โชคดีที่เธอล็อคเครื่องไว้ทำให้ไม่สามารถปลดล็อคได้ง่ายๆ หลังจากที่ออกตามหาตัวกันมานานเกือบชั่วโมง พวกเธอก็ตามจนเจอคนที่เก็บได้บริเวณร้านซ่อมมือถือและพบว่าเป็นผู้ชายและผู้หญิงร่างท้วม 2 คน     เมื่อสอบถามไปยังคนที่เก็บได้ว่าทำไมถึงนำมือถือของพวกเธอไปให้กับร้านซ่อมมือถือ เจ้าตัวจึงตอบว่า “ก็ผมจะเอาไปใช้ผมเจอ ผมก็ไม่รู้ จะปลดล็อคเอาไปใช้หน่อยเหอะ ผมไม่รู้ว่าของใคร ผมจะปลดล็อคใช้อยู่แล้วเนี้ยะ” แต่หลังจากที่ยืนพูดคุยกันได้สักพัก ฝ่ายชายก็คืนมือถือให้กับเจ้าของและขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปในที่สุด   และนี่คือบทสนทนาระหว่างที่เธอทวงมือถือคืนจากคนที่เก็บได้ (ใครดูคลิปไม่ได้ให้กดที่นี่นะ) ดูคนแล้งน้ำใจ!!! อีดอก สมน้ำหน้าเอาไปไม่ได้ติด icloud ร้านปลดล้อคให้ไม่ได้ ? เรื่องคือน้องสาวปุ๋ยลืม iPhone6 ที่เซ็นทรัลชั้น6ตรงที่เล่นเกมส์ เราก็ตาม Find…

  • เรื่องราวสุดประทับใจตลอด 10 ปีของคู่รัก ตั้งแต่มัธยม ฝ่าฟันอุปสรรคจนมีครอบครัวในฝัน

    เรื่องราวสุดประทับใจตลอด 10 ปีของคู่รัก ตั้งแต่มัธยม ฝ่าฟันอุปสรรคจนมีครอบครัวในฝัน

    การที่ความรักจะสามารถก่อร่างสร้างฐานได้นั้น มันจำเป็นที่จะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งความรัก ความเข้าใจ ความอดทน ความรับผิดชอบ และอีกมากมาย หากขาดสิ่งเหล่านี้ไปก็อาจจะทำให้คนสองคนอยู่กันได้ไม่ยืดยาวเท่าที่ควร แต่หากคุณอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้คนสองคนสามารถคบและมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวได้เป็น 10 ปีล่ะก็ ลองมาดูเรื่องราวของสาวคนนี้หน่อยเป็นไง? เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กของคุณ แอม อัยย์ญาดา ที่บอกเล่าเรื่องราวของเธอกับคุณธูป แฟนหนุ่มของเธอ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว     ในตอนนั้นทั้งคู่ยังเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนม.ปลายที่เริ่มจีบกันใหม่ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มเติบโต เข้ามหาวิทยาลัย ช่วยกันเรียน ช่วยกันทำมาหากิน ลองผิดลองถูกอยู่หลายอย่าง จนวันหนึ่งความรักของทั้งคู่เริ่มสุกงอมและตกลงแต่งงานกัน แม้ฝ่ายชายจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำได้ดีก็คือเขารักครอบครัว ตอนนี้นี้ทั้งคู่มีลูกด้วยกันแล้ว ช่างน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ   . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…

  • เงิบกว่านี้ไม่มี…สาวตีเนียนเป็นเมียน้อยหลอกเอาเงิน เมียหลวงตลบหลัง เอาซะฮากระจาย!!

    เงิบกว่านี้ไม่มี…สาวตีเนียนเป็นเมียน้อยหลอกเอาเงิน เมียหลวงตลบหลัง เอาซะฮากระจาย!!

    ในยุคนี้ การจะทำอาชีพเป็นนักต้มตุ๋นหลอกลวงคนไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้วนะ เพราะทุกคนมีสื่ออยู่ในมือ สามารถหาข้อมูลและถูกตลบหลังกลับได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับหญิงสาวนักต้มตุ๋นมือใหม่รายนี้   เรื่องนี้มาจากเฟซบุ๊กของคุณ Sunisa LannaHut โดยเธอได้เผยแพร่ภาพบทสนทนาระหว่างเธอและหญิงสาวปริศนาคนหนึ่ง ที่ส่งข้อความมาหาเธอและทำทีว่าตัวเองเป็นเมียน้อยของสามีเธอ ซึ่งฝ่ายของคุณสุนิสาเองก็พยายามถามเมียน้อยกลับไป เพื่อให้อีกฝ่ายระบุตัวตนสามีของเธอให้แน่ชัด ว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า?     ฝ่ายเมียน้อยจึงอ้างว่าเจอกับสามีของเธอที่ผับแห่งหนึ่ง โดยฝ่ายชายแอบเปลี่ยนชื่อเป็น “ต้น” แล้วมาคบกับเธอ แถมยังทำให้เธอท้องมานานกว่า 4 เดือน หากอยากให้เธอเลิกยุ่งกับสามี ต้องจ่ายเงินจำนวน 150,000 บาทให้กับเธอ เมื่อคุณสุนิสาเห็นเข้าจึงฮายกใหญ่และเฉลยไปว่าแท้จริงแล้วสามีของเธอไม่ใช่คนไทย แล้วพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ประเทศไทยด้วย ไม่น่าจะได้เจอกันง่ายๆ …งานนี้มีคดีพลิก!!   . . .   หลอกใครก็เอาให้เนียนๆ หน่อยนะแหม่ แต่จะให้ดี ทำงานหากินสุจริตดีกว่านะทุกคน ที่มา Sunisa LannaHut

  • สัมภาษณ์เปิดใจแอดมิน “คาราโอเกะชั้นใต้ดิน” เพจสุดฮา สร้างกระแสมุกแนวใหม่ขึ้นในไทย

    สัมภาษณ์เปิดใจแอดมิน “คาราโอเกะชั้นใต้ดิน” เพจสุดฮา สร้างกระแสมุกแนวใหม่ขึ้นในไทย

    โลกของเฟซบุ๊กนั้นมีการเปลี่ยนแปลงแทบจะตลอดเวลา ในแต่ละวันจะมีเพจใหม่ๆ ผุดขึ้นมาสร้างสีสันให้กับโลกออนไลน์เสมอๆ บางเพจเกิดมาแล้วดับไปอย่างรวดเร็วประหนึ่งหนอนผีเสื้อ แต่บางเพจก็มีคาแรคเตอร์ที่ชัดเจน สามารถอยู่มาได้หลายปี     และหนึ่งในเพจที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ เห็นจะหนีไม่พ้นเพจ คาราโอเกะชั้นใต้ดิน ที่ชอบนำภาพเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคมมาใส่เนื้อเพลงคาราโอเกะจนเกิดเป็นการผสมผสานที่ฮาอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กของ#เหมียวฟิ้นกดแชร์ภาพจากเพจนี้กันอย่างล้นหลาม เราเลยอดไม่ได้ที่จะขอไปสัมพลาด (ภาษณ์) ตัวแอดมินถึงที่มาที่ไปของเพจนี้กันสักหน่อย     เหมียวฟิ้น: สวัสดีครับ ไม่ทราบว่าแอดมินชื่ออะไรเหรอครับ? แอดมิน: ขอไม่บอกนะครับ อิอิ   เหมียวฟิ้น: ตอนนี้เพจมีแอดมินมีกี่คนครับ? ทุกภาพที่ลงในเพจนี่คิดเองเลยหรือเปล่าครับ? แอดมิน: มีคนเดียว ที่โพสไปคิดเองหมดครับ มีลูกเพจส่งมาบ้างแต่ยังไม่ได้เอาไปใช้เลย     เหมียวฟิ้น: อะไรดลใจให้ทำเพจนี้ครับ? แอดมิน: อาจจะได้มาจากพวกหนังหรือละคร Musical ที่แบบแม่งร้องเพลงกันได้ทุกสถานการณ์เลย ทีนี้เราเอาเหตุการณ์ที่คุ้นเคยกับเพลงที่ติดหูมารวมกัน มันก็จะกลายเป็นเรื่องใหม่ที่คิดว่าน่าจะสนุกดี ก็เลยเอามาทำเป็นคาราโอเกะเพราะรูปแบบมันก็ดูเหมือนจะบังคับๆให้เราร้องตามไปด้วยระหว่างที่อ่าน   เหมียวฟิ้น: งี้แสดงว่าต้องมีหนัง Musical ที่เป็นตัวจุดประกายเราใช่ไหมครับ? แอดมิน: จริงๆก็ไม่มีนะ แบบดูผ่านๆ…

  • อย่างฮา!! พ่อบ้านขอระบายความในใจ หลังต้องรอสาวๆ เลือกซื้อของเป็นเวลานานๆ…

    อย่างฮา!! พ่อบ้านขอระบายความในใจ หลังต้องรอสาวๆ เลือกซื้อของเป็นเวลานานๆ…

    สำหรับคุณพ่อบ้านแล้ว คงจะไม่มีอะไรจะหนักหนาไปกว่าการต้องต่อสู้กับความเบื่อหน่ายที่ต้องรอสาวๆ เลือกซื้อของเป็นเวลานานๆ ยิ่งเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้าล่ะก็ เตรียมเสื่อผืนหมอนใบไปได้เลย เพราะพวกเธอจะเลือกแล้วเลือกอีก ลองแล้วลองอีกประหนึ่งว่าพวกเธอมีเวลาตลอดกาลชั่วฟ้าดินสลายในการเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเธอมากที่สุด และคงจะไม่มีความเห็นของพ่อบ้านคนไหนที่สามารถที่บรรยายความรู้สึกของเหล่าพ่อบ้านได้ดีไปกว่าข้อความจากคุณ Chakree Yutdharaks อีกแล้วล่ะ โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ไปส่งแฟนสาวเลือกซื้อรองเท้าที่ห้างสรรพสินค้า แต่สงสัยจะใช้เวลามากไปนิดนึง จนเจ้าตัวขอบ่นในสไตล์น่ารักๆ ถึงแม่บ้านของเขาเล็กน้อย     ข้อความของคุณ Chakree ได้บรรยายไว้ว่า “ไม่มีอะไรสิ้นหวังไปกว่าการรอผู้หญิงลองรองเท้าแล้ว ตอนเรามองไปในดวงตาอันเหม่อลอยของผู้ชายทุกคนในแผนก เราสัมผัสได้ถึงการรอคอยชั่วกัปชั่วกัลป์ ความไร้จุดหมาย หลุมดำ มิติของเวลา” “การนัดหมายที่จะต้องถูกเลื่อน หมาแมวที่รอตาละห้อยอยู่ที่บ้าน ความง่วงจาก Anthems วันแม่ บลาๆๆๆ อยากให้ที่นี่มีเก้าอี้นอน อยากเดินเข้าไปบอกผู้ชายทุกคนในนี้ว่าเฮ้ย เราเข้าใจนาย ผมเข้าใจพี่นะครับ หาเบียร์แดกกันไหม ลงไปข้างล่างเจอท็อปส์ซูเปอร์มาร์เกตเลยนะ.. ตัดสินใจทำในสิ่งที่สิ้นหวังรองลงมาคือการเซลฟี่ตัวเองตอนคุณเธอลองรองเท้า”     หลังจากที่#เหมียวฟิ้นได้มีโอกาสคุยกับคุณ Chakree ก็พบว่ารองเท้าที่พวกเขาต้องเสียเวลาลองแล้วลองอีกก็เพราะว่ามันคือรองเท้าคู่พิเศษ ที่จะเอาไว้ใส่ในงานแต่ง ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 14 สิงหาคมนี่เอง ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ   เมื่อเห็นข้อความของคุณ Chakree แล้ว ทำให้…

  • ชาวเน็ตโวย เพื่อนบ้านเทปูน วางกระถางต้นไม้เลยออกมาครึ่งถนน แจ้งเขตแต่ทำอะไรไม่ได้

    ชาวเน็ตโวย เพื่อนบ้านเทปูน วางกระถางต้นไม้เลยออกมาครึ่งถนน แจ้งเขตแต่ทำอะไรไม่ได้

    การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นเราจะต้องมีน้ำใจและเคารพกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่มีการกำหนดไว้นะ เพราะหากแต่ละคนทำตามใจตัวเองโดยไม่ฟังเสียงรอบข้างล่ะก็ คุณก็อาจจะกลายเป็นปัญหาแบบนี้ได้ล่ะ   เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อคุณ Konun Konun ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองลงในโลกออนไลน์ โดยเจ้าตัวบอกว่าภายในหมู่บ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่นั้น มีเพื่อนบ้านรานหนึ่งได้เทปูนเลยออกมาหน้าบ้านกว่า 2.5 เมตร กินพื้นที่ในหมู่บ้านครึ่งหนึ่งของถนน ทำให้คนในหมู่บ้านเข้าออกลำบาก     แถมยังมีการนำเอากระถางต้นไม้และถังขยะมาวางหน้าบ้านเพื่อกั้นเป็นอนาบริเวณของตัวเอง แม้จะมีการเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนบ้านรายนี้แล้วแต่กลับแสดงความไม่พอใจ พร้อมกับบอกว่า “เหมือนเอารถมาจอดหน้าบ้าน 1 คัน ทำมาตั้งนานไม่เคยมีปัญหากับใคร” เจ้าตัวจึงทนไม่ได้ต้องมาระบายให้ชาวเน็ตรับทราบ     หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปได้ไม่นานก็มีชาวเน็ตให้ความสนใจกับประเด็นดังกล่าวมากพอสมควร และร่วมกันแชร์ประสบการณ์แย่ๆ เกี่ยวกับเพื่อนบ้านอีกมากมาย   . .   ถ้าเราจะมีเงินซื้อบ้านหลังละเป็นล้าน แต่สิ่งที่เราซื้อไม่ได้ก็คือเพื่อนบ้านนี่แหละนะ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าเพื่อนบ้านเราจะเป็นคนยังไง ทางที่ดีเราควรมีน้ำใจกับคนอื่นๆ ด้วยนะ เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบสันติ ที่มา Konun Konun

  • ศิลปินแห่งชาติยก “กินข้าว” คือคำที่ถูก ส่วน “ทานข้าว” คือคำที่ผิด แบบไหนล่ะที่ถูกต้อง?

    ศิลปินแห่งชาติยก “กินข้าว” คือคำที่ถูก ส่วน “ทานข้าว” คือคำที่ผิด แบบไหนล่ะที่ถูกต้อง?

    กลายเป็นดราม่าสนั่นข้ามวันกันเลยทีเดียว สำหรับประเด็นที่กำลังถกเถียงอยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ว่าระหว่างคำว่า “ทานข้าว” กับ “กินข้าว” คำไหนคือคำที่ถูกต้องและสุภาพกันแน่?     เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนชื่อดังและศิลปินแห่งชาติได้โพสต์ข้อความบอกว่าคำว่า “ทานข้าว” ถือเป็นคำที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้กันแบบผิดๆ เพราะเนื่องจากคำว่า “ทาน” แปลว่า “ให้” ไม่ได้แปลว่า “กิน”     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความระบุอีกว่า “ยิ่งทานข้าว ยิ่งหิว เพราะไม่มีข้าวตกถึงท้อง ให้คนอื่นหมด อยากหายหิว ให้กินข้าว ทาน แปลว่า ให้ ไม่ใช่กิน! ลองถามขอทานว่าอยากได้ข้าวหรือเงิน เขาจะตอบว่าเงิน เพราะชื่อของเขาคือ ขอทาน ไม่ใช่ ขอกิน! เข้าใจตรงกันแล้วนะ!”     หลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความเห็นเข้ามาอย่างมากมายเช่น บางความเห็นบอกว่าความหมายของคำอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่ถูกในวันนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกในอนาคต   ส่วนบางความเห็นยกคำว่า “กู” กับ “มึง” ขึ้นมาเปรียบเทียบว่าในยุคหนึ่งคำเหล่านี้เป็นคำที่ใช้กันเป็นปกติ แต่หากนำมาพูดในยุคปัจจุบันกับคนที่ไม่สนิท อาจมีเรื่องกันได้…

  • ถึงกับเหวอ!! สาวโดนมือดีพ่นสีรถ หาว่าแย่งแฟนคนอื่น ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่มีแฟน!?

    ถึงกับเหวอ!! สาวโดนมือดีพ่นสีรถ หาว่าแย่งแฟนคนอื่น ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่มีแฟน!?

    เป็นเรื่องที่กำลังโด่งดังและมีชาวเน็ตแห่แชร์กันอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่จอดรถซื้อของที่ตลาดอยู่ดีๆ กลับมีมือดีแอบมาพ่นสีใส่รถของเธอซะอย่างงั้น!?     เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pinyapat Ming Peemmetasawad ได้โพสต์ข้อความบอกว่าเมื่อตอนค่ำของวันที่ 27 มีนาคม ตัวเองได้ขับรถไปซื้อของที่ตลาดรถไฟศรีนครินทร์กับเพื่อนๆ     แต่หลังจากที่เดินซื้อของกันเสร็จและกลับมาที่รถต้องตกใจสุดๆ เพราะรอบตัวรถมีข้อความหยาบคายถูกพ่นด้วยสีสเปรย์ พร้อมกันนี้ยังมีกระดาษที่เขียนข้อความข่มขู่ตกอยู่ใกล้รถ     ทั้งนี้เจ้าตัวได้ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาชู้สาวกับใคร แถมเจ้าตัวเองก็ยังไม่มีแฟนด้วย จึงไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้กับสน.ประเวศ เพื่อตามหามือพ่นสีมาลงโทษต่อไป     อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลยจ้า แชร์ได้ แชร์เลยจ้าาา เผื่อได้เบาะแส . . วันที่ 27 มีนาคม 2559 ที่ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ เวลาประมาณ 20.00 น. เรากับพี่และเพื… โพสต์โดย Pinyapat Ming Peemmetasawad บน 27 มีนาคม 2016   ขอให้ตามจับผู้กระทำความผิดรายนี้ได้ไวๆ…

  • คดีพลิก!! แม่ค้าสาวโดนด่าผ่านไลน์ หาว่าแอบกิ๊กกับแฟนคนอื่น เจอขายของกลับ (ซื้อด้วยนะ!?)

    คดีพลิก!! แม่ค้าสาวโดนด่าผ่านไลน์ หาว่าแอบกิ๊กกับแฟนคนอื่น เจอขายของกลับ (ซื้อด้วยนะ!?)

    บางครั้งที่เราเจอวิกฤติโดยไม่ทันตั้งตัว หากเราไม่เตรียมการรับมือให้พร้อมเราก็อาจจะกลายเป็นผู้เสียหายได้ แต่สำหรับคนที่หัวไว ไม่ว่าจะเจอเรื่องเลวร้ายขนาดไหนพวกเขาก็ไม่หวั่นอยู่แล้ว   นี่เป็นเรื่องราวฮาๆ ที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของแม่ค้าสาว Supranee Kumterm เธอมีชื่อเล่นว่ามิกซ์ ทำอาชีพค้าขายอยู่ที่จังหวัดอุบลฯ โดยเจ้าตัวเล่าว่าวันหนึ่งมีหญิงสาวไลน์มาหาเธอ และกล่าวหาว่าเธอนั้นแอบไปกิ๊กกับขายหนุ่มคนหนึ่ง       เจอเข้าไปแบบนี้ก็งงซิ เพราะเธอยืนยันว่าตัวเองไม่เคยไปกิ๊กกับใคร แต่ด้วยจิตวิญญาณแม่ค้าสาว เธอจึงไม่ยอมให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เธอจึงทำการเสนอขายเสื้อผ้า และเครื่องประดับ สุดท้ายหญิงสาวที่ไลน์มาด่าเธอก็ถึงกับยอมใจแถมยังจะขอสั่งซื้อสินค้าของเธอด้วยนะเออ!!     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “ถ้าด่าแล้วจบลงแบบนี้….ก็เร่เข้ามาๆๆมาด่าเยอะๆ เลยจ้า ด่าแล้วก็ซื้อเสื้อผ้ากับสร้อย Shoker ด้วยนะจ๊ะ ยินดีให้ด่าเป็นอย่างยิ่ง”                 แม่ค้าฝากบอกเลยว่า ถ้าจะมาด่ากันแบบนี้ ขอให้ด่าเข้ามาเยอะๆ เลยจ้า ที่มา Supranee Kumterm

  • สาวโพสต์แฉ!! กระเป๋ารถเมล์สาย 8 หื่น นั่งชิดแถมลูบขาผู้โดยสารสาว วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ

    สาวโพสต์แฉ!! กระเป๋ารถเมล์สาย 8 หื่น นั่งชิดแถมลูบขาผู้โดยสารสาว วอนผู้เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบ

    หากคุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง การเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวคงจะเป็นเรื่องที่อันตรายอยู่ไม่น้อย เพราะแม้กระเป๋ารถเมล์เดี๋ยวนี้ก็ยังมีพวกหื่นกามแฝงตัวด้วยนะจะบอกให้   เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวรายหนึ่งที่ชื่อว่า Mmiyok Stw เธอเล่าว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ได้ขึ้นรถเมล์สาว 8 เบอร์รถ 39-106 จาก MRT ลาดพร้าว มุ่งหน้าไปสวนจตุจักร     แต่ในระหว่างที่กระเป๋ารถเมล์กำลังเก็บค่าโดยสารจากเธอก็มีท่าทีแปลกๆ เพราะกระเป๋ารถเมล์รายนี้มีการลูบมือของเธอตอนรับเงิน แถมยังไม่ยอมไปเก็บเงินคนอื่นๆ ต่อ แต่ยังนั่งลงข้างๆ หญิงสาว และแม้ว่ารถเมล์จะผ่านไปหลายป้ายแล้วก็ตาม กระเป๋ารถเมล์รายนี้ก็ยังไม่ยอมลุกไปสักที     ต่อมากระเป๋ารถเมล์ได้พยายามขยับเข้ามาใกล้เพื่อจะได้เบียดหญิงสาว และยังมีการใช้มือลูบที่ขาหญิงสาวอีกด้วย แม้เธอจะอยากตะโกนบนรถแค่ไหนแต่เธอก็ไม่กล้าพอ จึงทำได้แค่ถ่ายรูปของกระเป๋ารถเมล์ส่งให้เพื่อนดูเท่านั้น     อ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย อยากเตือนภัยผู้หญิงที่ใช้บริการรถเมล์นะ คือวันนี้เวลาประมาณ 2 ทุ่ม ขึ้นรถเมยล์สาย 8 เบอร์รถ 39-106 มาจาก MRT ลาดพร้าวเพ… โพสต์โดย Mmiyok Stw บน 12 มีนาคม 2016  …

  • แบบนี้ก็มี? สาวโพสต์คลิปแท็กซี่ไม่ยอมเลี้ยวตามที่บอก แถมคว้าอาวุธจะทำร้ายผู้โดยสาร!?

    แบบนี้ก็มี? สาวโพสต์คลิปแท็กซี่ไม่ยอมเลี้ยวตามที่บอก แถมคว้าอาวุธจะทำร้ายผู้โดยสาร!?

    เรียกได้ว่ามาถึงจุดวิกฤตแล้วจริงๆ สำหรับระบบการขนส่งในประเทศไทย เพราะมีเรื่องการกระทบกระทั่งกันระหว่างคนขับรถและผู้โดยสารมาให้เราเห็นกันแบบรายวันทีเดียว แถมนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยด้วย   ล่าสุดก็มีกรณีคล้ายๆ กันนี้มาให้เราชมอีกแล้ว เป็นเรื่องราวที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Seedwow Sabza เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวเล่าว่ากำลังนั่งแท็กซี่จากโรงเรียนมักกะสันพิทยาไปยังซอยอ่อนนุช 46 ซึ่งอยู่ใกล้กับตึกซีคอนสแควร์     เมื่อใกล้ถึงที่หมาย ผู้โดสารจึงบอกให้แท็กซี่เลี้ยวเข้าซอย แต่แท็กซี่กลับไม่ยอมเลี้ยวโดยให้เหตุผลว่ารถติด และขอขับตรงไปยังตึกซีคอนแล้วให้ผู้โดยสารโบกรถไปอีกต่อหนึ่ง ผู้โดยสารทั้ง 2 เห็นท่าไม่ดีจึงบอกให้แท็กซี่จอดรถ   แต่ดูเหมือนว่าคนขับแท็กซี่จะเกิดอาการไม่พอใจ จึงลงจากรถมาเปิดกระโปรงหลังเพื่อควานหาอาวุธและขู่ทำร้ายร่างกาย โชคดีที่บริเวณนั้นมีคนอยู่ด้วยเยอะ ทำให้ทั้ง 2 คนไม่ได้รับอันตรายใดๆ   ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเลยจริงๆ เรียกรถจากโรงเรียนมักกะสันพิทยาจะไปอ่อนนุช 46 แถวๆซีคอน พอใกล้ๆถึง 4 แยกอ่อนนุชบอกให้แท็กซี่เลี้ยวขวา แท็กซี่บอกผมไม่ไปหรอกรถติดผมจะเหยียบอย่างเดียว เราเลยบอกให้จอดตรงนี้ถ้าพี่ไม่ไปในซอย แท็กซี่บอกก็ไปลงซีคอนเอางั้นละต่อรถไป เราก็เลยบอกว่าถ้าพี่ไม่ไปส่งตั้งแรกไม่บอกว่าไม่ไปเราก็เลยขอลงก่อนถึงซีคอนเพราะแท็กซี่ไม่ไปส่งในซอย แท็กซี่บอกจัดให้ พอจอดเราจ่ายค่าโดยสารเสร็จแท็กซี่บ่นๆ ยังไม่ทันลงจากรถดีประตูไม่ทันปิด มันก็ขับรถออกไปจังหวะเราปิดปะตูมันดัง แท็กซี่จอดรถลงมาเปิดฝากระโปรงรถข้างหลังจะหยิบเหล็กมาทำร้ายเรา พูดว่าเดะกูฝาดแม่งเลย #โชคดีที่มีคนรอรถ มันเลยวางลงแล้วพูดว่าเดี๋ยวกูต่อยแม่งเลย แล้วก็ขับรถไป #แจ้งความไว้ละเดะเห็นดีกันนิสัยแย่มากขับตามใจตัวเองจะมาขับแท็กซี่ทำไม โพสต์โดย Seedwow…

  • ขี่รถอย่าประมาท!! หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งเข้าชนล้อรถพ่วงอย่างจัง แต่ไหวตัวทันรอดปาฏิหาริย์!?

    ขี่รถอย่าประมาท!! หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งเข้าชนล้อรถพ่วงอย่างจัง แต่ไหวตัวทันรอดปาฏิหาริย์!?

    นี่ถือเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้ใช้รถใช้ถนนได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของ 2 พ่อลูกที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปมุดใต้ล้อรถพ่วงกลาง 4 แยก ที่ดูแล้วชวนเสียวไส้มากๆ     เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า แมวเหงา เพราะเราคู่กัน เป็นคลิปวิดีโอของ 2 พ่อลูกที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยกัน แต่ในระหว่างที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่นั้นเอง รถเกิดดับกะทันหัน ทำให้ลูกชายซึ่งเป็นคนขับต้องรีบสตาร์ทด้วยความตกใจ     แต่เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ไม่ได้อยู่ในเกียร์ว่าง ทำให้รถพุ่งตัวไปด้านหน้าเมื่อสตาร์ทได้แล้ว และพุ่งไปชนเข้ากับล้อรถพ่วงอย่างจัง แต่โชคดีที่ในวินาทีนั้นเองน้องคนขับสามารถไหวตัวทันและลุกออกมาจากใต้ล้อรถพ่วงได้ ทำให้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์!!     ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย วีดีโอ วินาทีชีวิตลูกชาย จะจำจนวันตาย. ขอบคุณๆๆๆปฏิหาร(ลูกชายเสื้อแดง) วิดีโอนี้โพสลงเพื่อเตือนสติไม่ให้ประมาท ขับรถให้มีสติ #กรณีนี้รถมันดับตรงทางแยก #น้องคนขับตกใจกัวรถที่ตามหลังจะชน #จึงรีบสตาร์ทลืมปลดเกียร์ว่าง #รถเลยพุ่ง #แรงกระชากมือเลยบิดคันเร่งค่ะ. คงไม่มีใครอยู่ดีๆจะขับรถไปมุดรถพ่วงนะค่ะ หัวอกคนเป็นแม่โพสเพื่อให้เป็นอุทธาหรณ์ค่ะ. ดีใจที่ลูกยังมีชีวิตอยู่ผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ และขอบคุณแทนน้องสำหรับทุกๆกำลังใจค่ะ โพสต์โดย แมวเหงา เพราะเราคู่กัน บน 10 มีนาคม 2016   #เหมียวฟิ้น ดูแล้วหวาดเสียวมากเลยนะเนี๊ยะ…

  • ใครทำยอมรับมาดีๆ? บุคคลปริศนาขึ้นป้าย “รับกำจัดสัตว์” ในโรงพยาบาลสัตว์ ล่าสุดรื้อถอนออกไปแล้ว

    ใครทำยอมรับมาดีๆ? บุคคลปริศนาขึ้นป้าย “รับกำจัดสัตว์” ในโรงพยาบาลสัตว์ ล่าสุดรื้อถอนออกไปแล้ว

    เกิดเป็นกระแสดราม่าสำหรับคนรักสัตว์กันเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่มีบุคคลปริศนาไปติดตั้งป้ายโฆษณา “รับกำจัดหมาจรจัด” ภายในโรงพยาบาลสัตว์ สร้างความไม่พอใจแก่คนรักน้องหมาเป็นอย่างมาก   เมื่อช่วงดึกของวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Tamm Settakorn เป็นภาพป้ายโฆษณารับกำจัดหมาจรจัดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พร้อมเบอร์ติดต่อ แถมยังบอกอีกว่าไม่คิดค่าใช้จ่ายและบริการฟรีตลอด 24 ชั่วโมง!?     เมื่อเจ้าตัวได้เห็นภาพดังกล่าวก็ถึงกับปรี๊ดแตก เลยโพสต์ข้อความว่า “ถามว่า จิตใจทำด้วยอะไรไม่ทราบ ไม่รักหมา ไม่ชอบหมา ก็ไม่ควรขนาดนี้หรือเปล่า พอประกาศหาบ้านให้ลูกหมา 1-2 วันที่ผ่านมา วันนี้เห็นป้ายนี้มาติด หน้ารพ.รวมชัย บางนา ที่ที่ลูกหมา 3 ตัวอยู่ คือไร?”   “เห็นป้ายแล้วอยากเห็นหน้าเจ้าของเบอร์โทร 2 เบอร์นี้มากๆ แล้วตอนนี้ลูกหมา ยังหาบ้านไม่ได้เลยทั้ง 3 ตัว ..โอ้โห พอเห็นป้ายแบบนี้อยาก แปะป้ายแบบนี้บ้าง ว่ารับกำจัดคนจัญไร หัวใจมด ที่คิดจะทำร้ายสัตว์ โดยเฉพาะหมาแมว! แหม่รับไม่ได้บอกตรงๆ ไม่รู้จะสรรหาคำอะไรมาใช้กับคนแบบพวกเมิงแล้วจริงๆ นรกยังเสียดายพื้นที่ให้กับคนอย่างพวกเมิง…

  • [เหมียวชวนคุย] คนไม่มีศาสนาถือเป็นเรื่องแปลกหรือไม่? จำเป็นไหมที่ต้องมีศาสนา?

    [เหมียวชวนคุย] คนไม่มีศาสนาถือเป็นเรื่องแปลกหรือไม่? จำเป็นไหมที่ต้องมีศาสนา?

    เรื่องศาสนาดูจะเป็นเรื่องที่ซีเรียสและละเอียดอ่อนพอสมควรสำหรับคนในแต่ละศาสนาเลยทีเดียว จนมีคนบางกลุ่มเริ่มหันเหออกไปและไม่นับถือศาสนาใดเลย ซึ่งคนกลุ่มนี้เองนับวันก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเพราะความขัดแย้งและปัญหาที่เกิดขึ้นมาไม่เว้นแต่ละวันของคนในศาสนาหรือผู้นำศาสนาก็เป็นได้ ล่าสุด#เหมียวฟิ้นได้ไปเจอเข้ากับประเด็นที่น่าสนใจผ่านเฟซบุ๊กของ ดร.ศิลป์ชัย เชาว์เจริญรัตน์ นักวิชาการด้านศาสนวิทยา ศาสนศาสตร์ ปรัชญา มนุษยวิทยาและรัฐศาสตร์ เป็นเรื่องราวของนักเรียนหญิงคนหนึ่งที่แสดงตัวว่าไม่นับถือศาสนาใดเลย แต่กลับโดนคนรอบข้างดูถูก ทั้งนี้เจ้าตัวได้เล่าว่าที่โรงเรียนมักจะมีการสวดมนต์และทำกิจกรรมทางศาสนาพุทธ แต่เนื่องจากเธอไม่นับถือศาสนาใดๆ ทำให้เพื่อนๆ มองว่าเธอเป็นคนประหลาดและดูถูกเธอ และบังคับให้เธอไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์รอบๆ ตัว จนเจ้าตัวทนไม่ได้ จึงมาขอคำปรึกษากับดร.ศิลป์ชัยว่าควรจะแก้ปัญหายังไงดี ทั้งนี้หลังจากที่เรื่องราวของนักเรียนสาวถูกเผยแพร่ไป ก็มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นเข้ามากันอย่างหลากหลายแนวทางทีเดียว อย่างเช่นความเห็นนี้บอกว่าตนเองนับถือศาสนาคริสต์แต่กลับถูกทางโรงเรียนลงโทษและบังคับให้ประนมมือ ส่วนความเห็นนี้มองว่าหากเราไม่นับถือศาสนา ก็ลองทำตามวัฒนธรรมไปก่อน เพราะแต่ละอย่างนั้นมีเหตุมีผลของมัน หากเติบโตและเรียนรู้แล้วว่าสิ่งต่างๆ ทำไปเพื่ออะไร ค่อยตัดสินใจว่าจะนับถือหรือไม่นับถือศาสนาก็ได้ มีบางความเห็นแนะนำเกี่ยวกับการแก้ปัญหาในด้านกฎหมายเข้ามาด้วยเช่นกัน ว่าหากโดนคนรอบข้างคุกคามมากๆ ให้แจ้งความไว้เลย เพราะตนเองเคยใช้วิธีนี้มาแล้ว และได้ผลดีทีเดียว โดยส่วนตัว#เหมียวฟิ้นเองแล้ว เป็นคนที่มีศาสนานะ แต่ก็เริ่มคิดๆ อยู่เหมือนกันว่าในอนาคตเราอาจจะไม่นับถืออะไรเลย ยึดแค่หลักการทำดีก็พอ หรือหากเจอแนวคิดหรือหลักคำสอนของศาสนาหรือลัทธิไหนที่เข้าท่าก็อาจจะนำมาปรับใช้กับตัวเองดูบ้าง เพราะทุกวันนี้ดูเหมือนว่าการนับถือศาสนาใดก็ตาม ดูจะมีปัญหาและเกิดการแบ่งแยกไปซะหมดเลย แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวล่ะ คิดเห็นอย่างไรกันบ้างกับการไม่นับถือศาสนา? ลองแชร์ความคิดเห็นกันเข้ามาได้นะ ที่มา ศาสนวิทยา dr.Sinchai Chaojaroenrat

  • ‘นอวงพอส’ โพสต์ข้อความชวนซึ้งถึงเพื่อน ‘โจ้’ ผู้ลาลับ แฟนคลับอ่านแล้วน้ำตาไหลไปตามๆ กัน

    ‘นอวงพอส’ โพสต์ข้อความชวนซึ้งถึงเพื่อน ‘โจ้’ ผู้ลาลับ แฟนคลับอ่านแล้วน้ำตาไหลไปตามๆ กัน

    ปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันแล้ว สำหรับเพลง “รักอยู่รอบกาย” ของวงพอส หลังจากที่ห่างหายไปนานถึง 14 ปี หลังจากการจากไปของ “โจ้วงพอส”     แม้ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับมือดีที่แอบมาปล่อยเพลงก่อนกำหนด แต่พวกเขาก็สามารถปล่อยเพลง (แบบถูกลิขสิทธิ์) ออกมทาให้แฟนๆ ได้ฟังกัน ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีทีเดียว เพราะเพลงนี้มียอดวิวในยูทูบไปแล้วกว่า 7 แสนครั้ง     ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจของนอ นรเทพ มาแสง มือเบสวงพอส ก็ได้ดพสต์ข้อความซึ้งๆ ถึงเพื่อนผู้ล่วงลับ โดยข้อความมีอยู่ว่า “เป็นไงบ้างวะมึง…เพลงเราคนชอบเยอะนะ คนคิดถึงมึงเยอะเชียว ทีมงานดีใจกันมากรวมถึงกูด้วย”     “มีอุปสรรค์นิดหน่อยแต่ช่างมันเถอะ พวกกูสบายดีทุกคน วันก่อนไปบ้านมึงมาทางนั้นก็สบายดี คุณยายยังแข็งแรงดี พ่อแม่มึงทำบ้านใหม่ ฝั่งตรงข้ามบ้านที่กูเคยไปจอดรถน่ะเหมือนเดิมแต่คราวนี้ไม่ได้ไปแดกหนมจีนร้านเดิมที่มึงเคยพาไป ไม่ทันว่ะ หลายคนคิดถึงมึงนะ”     “หลายครั้งที่คะยั้นคะยอให้กูเล่าเรื่องมึงสมัยก่อนให้ฟัง ก็เรื่องเดิมๆแหละเล่าซ้ำไปซำ้มาเค้าก็ฟังกันนะ หลายเรื่องตะก่อนขำเดี๋ยวนี้ไม่ขำละ มันวนหลายรอบละ ก็ มันไม่มีเรื่องใหม่นี่หว่าจะให้กูเล่าอะไรนักหนา บางเรื่องกูก็เริ่มลืมๆบ้างแล้ว เวลามันนานแล้ว”…

  • แชร์เรื่องราว 2 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย นั่งขายโปสการ์ดอยู่แถว BTS สร้างแรงบันดาลใจให้คนมีฝัน

    แชร์เรื่องราว 2 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย นั่งขายโปสการ์ดอยู่แถว BTS สร้างแรงบันดาลใจให้คนมีฝัน

    แอดเหมียวเชื่อว่าหลายๆ คนมีฝัน แต่บางครั้งฝันมันก็อาจจะต้องใช้เวลา ใช้เงินและความพร้อม หลายๆ คนเลยเลือกที่จะรอ และรอ แต่วันนี้เหมียวมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้ใครบางคนมาเล่าสู่กันฟังล่ะ   เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ในเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Gyf Chaithanapat โดยเธอเล่าวว่าเจอคู่รักชาวรัสเซีย Irina และ Alexander นั่งขายโปสการ์ดอยู่ที่บริเวณ BTS หมอชิต     จากการสอบถามทั้งคู่จึงทราบว่าพวกเขาอยากจะเดินทางรอบโลก โดยนาย Alexander เล่าว่าหลังเรียนจบจะออกเดินทางรอบโลก 1 ปี ซึ่งตั้งแต่มาอยู่ไทยได้ 4-5 วัน ตนเองใช้เงินไปแค่ 300 บาทเอง (คุณพระ)     พวกเขาเล่าว่าได้เดินทางไปมาแล้วทั้งอินเดีย เยอรมัน ไทย และอีกหลายๆประเทศ แถมพวกเขายังเล่าอีกว่าเวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนจะอาศัยการเดินพร้อมกับถือแผนที่เอา เพื่อประหยัดต่อค่าใช้จ่าย และเนื่องจากเป็นคนรัสเซียทำให้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เพิ่งจะมาฝึกเอาเมื่อช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ส่วนโปสการ์ดที่พวกเขาขายนั้น พวกเขาบอกว่าไม่ได้ตั้งราคาไว้ สามารถให้ได้ตามต้องการเลย หญิงสาวจึงขอให้ทั้งคู่เลือกโปสการ์ดที่ชอบที่สุดมาให้เธอ 2 ใบ ก่อนที่เธอจะยื่นแบงค์ร้อยให้พวกเขาเป็นค่าตอบแทน    …

  • ชาวเน็ตระวังไว้ แก๊งมิจฉาชีพสร้างเพจปลอม หลอกว่าเฟซของคุณกำลังจะโดนปิด เพื่อหลอกเอารหัส!!

    ชาวเน็ตระวังไว้ แก๊งมิจฉาชีพสร้างเพจปลอม หลอกว่าเฟซของคุณกำลังจะโดนปิด เพื่อหลอกเอารหัส!!

    แม้ว่าทุกวันนี้ Facebook จะเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือในระดับสูง แต่ก็ยังคงมีไวรัสหลากหลายรูปแบบออกมาให้เราเห็นกันเป็นประจำ ทั้งการกดไลค์ลิ้งต่างๆ หรือการเผยแพร่ภาพอนาจารโดยที่เราไม่ต้องการ   ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Tech Talk Thai ได้ออกมาเตือนชาวโซเชียล ถึงไวรัสรูปแบบใหม่ ที่จะส่งข้อความมาเตือนเราว่าบัญชีของเรามีความเสี่ยงต่อการถูกปิด เพื่อให้เรายืนยันตัวตนกับทางระบบ     แต่ความจริงแล้วข้อความดังกล่าวไม่ใช่ข้อความจากทีมงาน Facebook อย่างเป็นทางการ แต่เป็นข้อความจากแก๊งมิจฉาชีพ ที่ใช้การ “ฟิชชิ่ง” เพื่อหลอกเอาข้อมูลภายในบัญชีของเรานั่นเอง   ในขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กเพจชื่อดังอย่าง Drama-Addict ก็ได้ออกโรงเตือนชาวเน็ตเช่นกัน “กำลังระบาดหนักมาก เฟซปลอมแนวๆนี้ ถ้ามีใครมาแชร์สเตตัสเราแล้วขึ้นเตือนแบบนี้ ไม่ต้องไปกรอกข้อมูลอะไรทั้งนั้น เพราะมันทำหน้าเว็บปลอมให้เรากรอก user/password แล้วแฮคเพจ แฮคเฟซเรานะครับ”       ใครเจอเพจและข้อความแนวๆ นี้อีก ก็ช่วยๆ กันดูและเตือนเพื่อนๆ ด้วยนะ เพราะหากคนเหล่านี้ได้บัญชีและรหัสผ่านเฟซบุ๊กของเราไป อาจเกิดความเสียหายตามมา หรืออาจถูกปิดบัญชีจริงๆ เลยก็ได้นะเออ   ที่มา techtalkthai , Drama-addict

  • น้ำตาจะไหล!! หนุ่มขับแท็กซี่ไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย เหตุเพราะภรรยาเพิ่งเสียชีวิต

    น้ำตาจะไหล!! หนุ่มขับแท็กซี่ไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย เหตุเพราะภรรยาเพิ่งเสียชีวิต

    กลายเป็นเรื่องราวที่มีการแชร์กันอย่างมากมายในขณะนี้เลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่ง ที่ขับรถไปด้วยพร้อมกับป้อนนมลูกน้อยไปด้วย สาเหตุเพราะว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียงชีวิตหลังจากคลอดลูกได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น   เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Kwang Jazzykwang โดยเจ้าตัวเล่าววันได้เดินทางไปทำงานด้วยรถแท็กซี่คันหนึ่ง แต่เมื่อเปิดประตูรถเข้าไปก็ตกใจเล็กน้อยเพราะคนขับ ขับรถไปด้วยพร้อมกับป้อนนมลูกไปด้วย แต่เธอก็ตัดสินใจขึ้นไปนั่ง   จากคำบอกเล่าของคนขับแท็กซี่ทำให้ทราบว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน ทำให้เขาต้องดูแลลูกอีก 2 คน คนโตอยู่ชั้นป.2 และคนเล็กเพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือน เขาจึงต้องกระเตงลูกน้อยมาเลี้ยงบนรถด้วย   แต่เนื่องจากลูกคนเล็กมีอาการป่วยม้ามโตเพราะติดเชื้อจากแม่ ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่เจ้าตัวไม่มีเงินพอ ทุกวันนี้รายได้จากการขับแท็กซี่ยังแทบไม่พอจ่ายค่าเช่าบ้านเลย     ใครที่เจอพี่แท็กซี่คนนี้ก็สามารถช่วยเหลือพี่เขาได้นะ เหมียวอ่านแล้วน้ำตาคลอเลย   ที่มา Kwang Jazzykwang

  • ฮ่า ฮ่า ฮร่าาา!! รวม 13 แชทฮาๆ จากโลกออนไลน์ ทั้งมุกตลก มุกจีบ รวมไว้ที่นี่หมด

    ฮ่า ฮ่า ฮร่าาา!! รวม 13 แชทฮาๆ จากโลกออนไลน์ ทั้งมุกตลก มุกจีบ รวมไว้ที่นี่หมด

    การสื่อสารผ่านตัวอักษรในแอพฯ ต่างๆ ช่วยให้เราประหยัดเงินมากกว่าการโทรศัพท์ได้เยอะเลย แถมยังสะดวกรวดเร็วด้วยนะ แต่แน่นอนว่าการใช้ตัวอักษรคุยกัน มันอาจจะเกิดความผิดพลาดทั้งการสะกดคำหรือความหมายผิดเพี้ยนไปจากเดิมได้   วันนี้เหมียวได้รวบรวมเอา 13 แชทฮาๆ จากโลกโซเชียลมาให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านกัน เผื่อใครจะลองเอาไปเล่นดูบ้าง หรือศึกษาไว้เป็นอุทาหรณ์ก็ได้นะ พร้อมแล้วไปชมกันเลย   1. ชวนไปเที่ยวบ้าน แต่ไม่ทำอะไร   2. ส่งโลมา…   3. พ่อออกจากการสนทนา…   4. ก็แค่อยากคุยด้วย…   5. กวนมาก็กวนกลับ บรึ๊นนนนนน   6. เน็ตหลุดชีวิตเปลี่ยน   7. คำไหนคำนั้น   8. เป็นแฟนกันไหม…   9. ก็บอกว่าเล่นเกมแป็บไง!!   10. ถุงพลาสติกก็ดีนะ   11. ตอบโจทย์ไม่ได้นะ   12. ตอบโจทย์แล้ว   13.…

  • [เหมียวรีวิว] แกะกล่อง Smart Watch ราคาพันนิดๆ นับแคลลอรีได้ ต่อเฟซบุ๊กได้ แถมกันน้ำได้ด้วย!!

    [เหมียวรีวิว] แกะกล่อง Smart Watch ราคาพันนิดๆ นับแคลลอรีได้ ต่อเฟซบุ๊กได้ แถมกันน้ำได้ด้วย!!

    เมื่อไม่นานมานี้แอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับร้านนาฬิกาแห่งหนึ่งบนเฟซบุ๊ก เขาขายนาฬิกา Smart Watch เหมียวเห็นแล้วก็อยากได้เหมือนกัน แต่คิดว่าคงหลายพัน แต่ปรากฏว่าราคาแค่พันนิดๆ เอง!! ไม่รอช้าซิ รีบซื้อมาลองเล่นโดยพลัน   จากหน้าตาจะเห็นเป็นกล่องสีขาว ไม่มีชื่อยี่ห้อหรือข้อความอะไรมากมาย มีเพียงแค่คำว่า Smart Bracelet อยู่ด้านบนเท่านั้น และมีสัญลักษณ์ Apple Store และ Google Play อยู่ด้านล่าง ซึ่งก็หมายความว่าเราจะต้องไปโหลดแอพฯ ของเจ้านาฬิกามาใช้ในมือถือนั่นเอง   เมื่อแกะออกมาก็จะเห็นนาฬิกาอัจฉริยะ 1 เรือน ภายในกล่องมีแค่เจ้านี่เลย (อ้อเกือบลืม มีคู่มืออีกแผ่นนึง) ตัวสายรัดจะเป็นยาง TPU นิ่มๆ ไม่เจ็บข้อมือ มีรูสำหรับรัดข้อมือหลายรูมาก คนข้อมือเล็กไม่ต้องเจาะเพิ่มเลย   ตัวสายรัดกับนาฬิกา สามารถถอดแยกออกจากกันได้แบบนี้ มันก็จะกลายเป็น USB สั้นๆ สามารถชาร์จกับคอมหรือสายชาร์จมือถือได้ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 20 – 30 นาที สามารถอยู่ได้นานประมาณ 5 – 6…

  • ทำผิดจนเคยชิน!! ชาวเน็ตโวย ห้าแยกวัชรพลเปิดเลนพิเศษ ขับเลยมาเลนอีกฝั่ง หวั่นเกิดอุบัติเหตุ

    ทำผิดจนเคยชิน!! ชาวเน็ตโวย ห้าแยกวัชรพลเปิดเลนพิเศษ ขับเลยมาเลนอีกฝั่ง หวั่นเกิดอุบัติเหตุ

    เป็นคลิปที่ผู้ใช้รถใช้ถนนกำลังให้ความสนใจอย่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปที่ถูกถ่ายได้ ณ ห้าแยกวัชรพล ที่มีการจราจรติดขัด จนผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเปิดเลนใหม่ที่ล้ำเข้าไปอีกเลน ทำให้การจราจรอีกฝั่งติดขัดเช่นกัน และอาจเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความว่า “ทำผิดกฎหมายจนเคยชิน ห้าแยกวัชรพลเปิดเลนพิเศษกันจนซึมลึกเข้าไปในสันดาน บางครั้งเราไม่หลบกลายเป็นเราผิด จนท.ครับ เอาจริงเอาจังเสียทีครับ นี่คือต้นตอของปัญหาจราจรที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะความมักง่ายและความเห็นแก่ตัว”     คลิปได้ที่ด้านล่างเลย ทำผิดกฎหมายจนเคยชิน Cr : Pakpoom Plin Wannaseang ห้าแยกวัชรพล เปิดเลนพิเศษกันจนซึมลึกเข้าไปในสันดาน บางครั้งเราไม่หลบกลายเป็นเราผิด จนท.คร้าบ เอาจริงเอาจังเสียทีครับ นี่คือต้นตอของปัญหาจราจรที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะความมักง่าย และความเห็นแก่ตัว Posted by Motor Thailand on 10 ธันวาคม 2015   หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ทำชาวเน็ตพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มองว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่มักง่ายและไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้รถติดหนักกว่าเดิม   ในขณะที่คุณ Puparn Kongsaby  กล่าวว่า พฤติกรรมการขับรถแบบนี้มีให้เห็นมานานแล้ว เพราะบริเวณแยกนั้นเป็นแยกที่มีรถติดหนักโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน จึงมีการเปิดเลนใหม่กันเอง วอนเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความเรียบร้อยด้วย    …

  • วินมอเตอร์ไซค์ใจงาม ลูกค้าทำกระเป๋า-ทอง หล่น ตามหาถึงที่เพื่อเอาไปคืน

    วินมอเตอร์ไซค์ใจงาม ลูกค้าทำกระเป๋า-ทอง หล่น ตามหาถึงที่เพื่อเอาไปคืน

    กลายเป็นเรื่องราวดีๆ ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอยู่ในขณะนี้เลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของวินมอเตอร์ไซค์รายหนึ่งที่สามารถเก็บทองและเงินจำนวนมากของลูกค้ารายหนึ่งได้ แต่แทนที่จะเชิดเอาทรัพย์สินทั้งหมดไป เขากลับมีน้ำใจตามหาลูกค้าจนเจอและนำมันไปคืนให้กับเจ้าของ     เรื่องนี้ถูกแชร์ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Wirat Sawangarom เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยมีข้อความว่า “เมื่อเช้าไปตลาดวัดตะกล่ำ จะไปจ่ายค่าไฟและเปลี่ยนสร้อยข้อมือที่ชำรุด แขวนกระเป๋าตังค์ไว้หน้ามอเตอร์ไซค์ กระเป๋าร่วง มารู้ตัวอีกทีที่ตลาด” “รีบขับรถกลับไป มีคนบอกวินมอไซค์ชื่อมานพเก็บได้ รีบตามไป พบคุณมานพกำลังไล่บ้านเลขที่ตามบิลค่าไฟฟ้าของเรา เพื่อจะเอากระเป๋ามาคืน ซาบซึ้งในน้ำใจพี่เขาจริงๆ ให้รางวัลพี่เขาไปเล็กน้อย กลับบ้านไปเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปพี่เขา”   “ประชาสัมพันธ์ความดีของพี่มานพ ขับวินมอไซค์หน้าวัดตะกล่ำ เบอร์ 4 คนนี้ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ!! เรื่องและภาพ : เครือวัลย์ จ้อยศรีเกตุ”   หลังจากที่เรื่องราวของพี่มานพถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามาแสดงความเห็นและชื่นชมในความซื่อสัตย์ของพี่มานพเป็นอย่างมาก และอวยพรขอให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไปด้วย     ทำดีงี้เหมียวขอชื่นชมเลย อยากให้มีคนแบบพี่มานพเพิ่มขึ้นเยอะๆ เลยนะ ที่มา Wirat Sawangarom

  • ทำไมใจร้ายงี้!! ชาวเน็ตแฉ แม่ประกาศยกลูกให้คนอื่นฟรีๆ เหตุเพราะลูกดื้อและได้สามีใหม่!?

    ทำไมใจร้ายงี้!! ชาวเน็ตแฉ แม่ประกาศยกลูกให้คนอื่นฟรีๆ เหตุเพราะลูกดื้อและได้สามีใหม่!?

    เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เว็บไซต์ Herkid ได้เผยแพร่ภาพบทสนทนาหนึ่ง ของหญิงสาวปริศนาที่ส่งข้อความไปหาชาวเน็ตคนอื่นๆ เพื่อยกลูกชายวัย 4 ขวบให้ ด้วยสาเหตุที่ว่าลูกชายนั้นดื้อเกินไป และตนเองได้สามีใหม่แล้ว!?     เรื่องราวทั้งหมดถูกเผยแพร่ผ่านชาวเน็ตรายหนึ่งที่เข้ามาโพสต์ข้อความในกรุ๊ป Herkid รวมพลคนเห่อลูก เป็นภาพบทสนทนาของหญิงสาว 2 คน พร้อมกับข้อความว่า “ขออนุญาตแอดมินนะคะ ไม่คิดมาก่อนว่าจะได้มาเจออะไรแบบนี้ค่ะ”   “มีใครได้รับข้อความขอยกลูกให้อย่างเราไหมคะ สรุปเด็กคนนั้นจะเป็นยังไง แม่เด็กคิดอะไรของเขากันนะ ขออนุญาติเพิ่มเติมนะคะ มีคุณแม่หลายท่านให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นลูกติดสามีเก่าน่ะค่ะ ถึงกระนั้นก็ยังคิดว่า ไม่สมควรยกให้ใครง่ายๆ เขาไม่ใช่สิ่งของ”     หลังจากที่ข้อความของคุณแม่ใจยักษ์ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สมาชิกในกลุ่ม Herkid รวมพลคนเห่อลูก เข้ามาแสดงความเห็นและต่อว่าหญิงสาวปริศนากันอย่างมากมาย พร้อมกับบอกว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องมีความอดทน ไม่ว่าลูกจะดื้อแค่ไหนก็ต้องสอนเขาให้ได้     ลูกทั้งคนจะมายกให้คนอื่นง่ายๆ แบบนี้ได้ไง ที่มา herkid

  • ระทึก!! ออนไลน์เผยคลิปแก๊งค์วัยรุ่นนับ 10 สวมหมวกกันน็อค ไล่ยิงกันกลางกรุง

    ระทึก!! ออนไลน์เผยคลิปแก๊งค์วัยรุ่นนับ 10 สวมหมวกกันน็อค ไล่ยิงกันกลางกรุง

    ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ระทึกที่เกิดขึ้นในบ้านเราเลย เพราะเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการส่งต่อคลิปวิดีโอเหตุการณ์แก๊งค์วัยรุ่นนับ 10 คน สวมหมวกกันน็อคไล่ยิงกันกลางกรุง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจนลงไปนอนกับพื้น   ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณทางเท้า ลาดปลาเค้า กม.2 มีกลุ่มวัยรุ่นกว่า 10 คนสวมใส่หมวกกันน็อคและขับขี่มอเตอร์ไซค์ไร้ป้ายทะเบียน ใช้อาวุธปืนและมีดวิ่งไล่กันบนถนน ก่อนที่หนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายจะล้มลงไปกับพื้น สร้างความหวาดกลัวให้แก่ประชาชนแถวนั้น     ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง   หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันประนามต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแสดงความห่วงใยต่อสังคม เพราะหากมีใครได้รับลูกหลงจากเหตุการณ์ดังกล่าว อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้         ที่มา รวมคลิปตลกสุดฮา , kapook , nachananaka

  • ใจพี่หล่อมาก!! ชาวเน็ตแชร์เรื่องราวดีๆ ของกระเป๋ารถเมล์ เสียสละเพื่อประชาชนไม่แพ้อาชีพอื่นๆ

    ใจพี่หล่อมาก!! ชาวเน็ตแชร์เรื่องราวดีๆ ของกระเป๋ารถเมล์ เสียสละเพื่อประชาชนไม่แพ้อาชีพอื่นๆ

    นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เหมียวอ่านแล้วอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันบ้างเลยล่ะ เพราะมันอาจช่วยให้เรารู้สึกดีในวันที่สังคมมีแต่เรื่องแย่ๆ เต็มหน้าเฟซบุ๊กไปหมดก็ได้   เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ็กที่ชื่อว่า อรวรรณ จันทร์นวน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกระเป๋ารถเมล์รายหนึ่ง ที่มีน้ำจิตน้ำใจ ยอมไม่พักกินข้าว และขับรถต่อไปเพื่อไปส่งผู้โดยสารให้ถึงที่หมาย นอกจากนี้ยังเคยส่งผู้โดยสารแบบฟรีๆ มาแล้วด้วย ทำเอาชาวเน็ตต่างชื่นชมและแชร์ข้อความของเธอออกไปอีกกว่าหมื่นครั้งเลยทีเดียว     ทั้งนี้มีข้อความเต็มๆ ว่า “มีเรื่อง!!!!!อยากจะเล่าเกี่ยวกับกระเป๋ารถเมล์คันนี้ เรื่องมีอยู่ว่า เรานั่งรถเมล์สาย 56 จากพาหุรัด เพื่อกลับบ้านซึ่งต้องลงบางลำภู ระหว่างนั้นมีผู้โดยสารเป็นป้าแก่ๆ. 3-4 คน ขึ้นมาและกระเป๋ารถเมล์ถามว่า ไปลงไหนครับ ป้าก็บอกผ่านมหาลัย….ไหม?”   “กระเป๋ารถเมล์หันไปถามคนขับรถว่า จะจอดแค่บางลำภูดีไหม คนขับบอกแล้วแต่ กระเป๋ารถพูดออกมาเสียงดังแบบดังมาก ‘ไม่ต้องพักหรอกกินข้าว บนรถก็ได้ผู้โดยสารเยอะ รถติดต้องรอคันหลังนาน’ คุณพระใจพี่แมร่งหล่อมาก”     “มันทำให้เราคิดเลยนะ ว่าไม่ใช่แค่อาชีพ ตำรวจ ทะหาร พยาบาล ที่ต้องเสียสละเพื่อประชาชนหรอก กระเป๋ารถเมล์/คนขับรถเมล์ก็เช่นกัน น่านับถือใจแกจริงๆ ค่ะ พี่คนนี้เคยให้เราขึ้นรถเมล์ฟรีด้วย เพราะเราจะนั่งรถเมล์ไปรับลูกทุกวัน”    “แต่รถเมล์จะเข้าบางลำภูเป็นบางคัน พี่เค้าเห็นเราอุ้มลูกขึ้นรถแล้วบอกว่ารถไม่เข้าบางลำภู แต่ว่าจะนั่งไปลงแยกวันชาติได้นะครับผมไม่เก็บตัง…

  • หญิงลีน้ำตาร่วง คุณย่าเสียแต่ต้องไปทำงานต่อ แฟนๆ แห่ให้กำลังใจเพียบ

    หญิงลีน้ำตาร่วง คุณย่าเสียแต่ต้องไปทำงานต่อ แฟนๆ แห่ให้กำลังใจเพียบ

    ถือเป็นสปิริตอันแรงกล้าของนักร้องสาวเสียงดีอย่าง “หญิงลี ศรีจุมพล” เลยก็ว่าได้ เพราะในขณะที่เธอกำลังจะขึ้นเวทีเพื่อทำการแสดงนั้นเอง ก็ต้องมาทราบว่าสุดเศร้าว่าคุณย่าแท้ๆ ของเธอนั้นได้เสียชีวิตลงแล้ว แต่ด้วยสปิริตทำให้เธอฝืนใจและขึ้นร้องเพลงจนจบงาน   เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Yinglee Lalla หญิงลี ศรีจุมพล ขาขาวสาวลำซิ่ง Fanpage ได้โพสต์ภาพของหญิงลี ในขณะที่กำลังร้องไห้และบอกเล่าเรื่องราวทุกข์ใจผ่านหน้าเฟซบุ๊ก     พร้อมกันนี้ยังมีข้อความที่กล่าวถึงคุณย่าผู้ล่วงลับของเธอด้วยว่า “กำลังจะขึ้นเวที ที่สโมสรทหารบก หญิงต้องเล่นให้สนุกให้งานสมบูรณ์ // เมื่อเสร็จงาน หญิงจะรีบกลับบ้านเกิด นาโพธิ บุรัรมย์ เพื่อไปหาย่า ในวาระที่ย่าบอกลูกหลานว่า ย่าไม่ไหวแล้ว”   “ระบบภายในย่าเสียหาย ในวัยชรา 85 ปี ดับหมดแล้วซึ่ง ไต หู ตา แต่จำลูกหลานดีอยู่ค่ะ เรียกหาพวกเราตลอดว่าจะไปแล้ว”     หลังจากที่ข้อความถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีแฟนๆ แห่แหนกันเข้ามาให้กำลังใจเพียบ ทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่เพียงลำพังและพร้อมจะติดตามผลงานของเธอตลอดไป     เหมียวขอเป็นกำลังใจให้หญิงลีและครอบครัวสามารถผ่านช่วงเวลาเศร้าโศกนี้ไปให้ได้นะ ที่มา Yinglee Lalla…

  • [เหมียวเตือนภัย] ช่างภาพอุบาทว์ในหาดใหญ่ ชวนนางแบบไปถ่ายภาพแต่แอบลวนลาม!?

    [เหมียวเตือนภัย] ช่างภาพอุบาทว์ในหาดใหญ่ ชวนนางแบบไปถ่ายภาพแต่แอบลวนลาม!?

    ในทุกสังคมและทุกอาชีพ มักมีคนดีและคนเลวปะปนกันไปนะ ไม่เว้นแม้แต่สังคมของนักถ่ายภาพก็มีให้เราได้เห็นเช่นกัน ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอกระทู้เตือนภัยจากสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า ifine เขาได้เข้ามาตั้งกระทู้เตือนภัยเกี่ยวกับช่างภาพสุดหื่นรายหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา   โดยเจ้าของกระทู้ได้เล่าถึงพฤติกรรมของช่างภาพรายนี้ว่า มักจะชอบชวนนางแบบสาวไปถ่ายภาพเซ็กซี่ แต่เมื่อไปถึงกลับถูกช่างภาพรายนี้ลวนลาม (มีหนักสุดคือบังคับให้จับอวัยวะเพศเลยทีเดียว)       และไม่เพียงเท่านั้น ช่างภาพรายนี้ยังแสดงพฤติกรรมหื่นๆ ใส่นางแบบสาวไปทั่วหาดใหญ่ จนแต่ละคนทนไม่ได้ ต้องแคปภาพหน้าจอเอามาประจานกันเลย ลองไปชมภาพกัน                       เหมียวก็ขอเอาเรื่องนี้มาเตือนสาวๆ ที่หาดใหญ่และบริเวณใกล้เคียงด้วยนะ ว่าหากจะรับงานก็ให้ระมัดระวังตัวให้ดีๆ นี่ดีนะเนี๊ยะไม่มีการเปิดเผยหน้าหรือชื่อของช่างภาพคนนี้ออกมา ไม่งั้นเรื่องอาจบานปลายกว่านี้ หากรู้ตัวก็รีบกลับใจซะนะ ที่มา ifin

  • สุดชอกช้ำ ชายหนุ่มถ่ายคลิปเดินส่งเมียให้ชู้เพราะรวยกว่า แถมอวยพร “โชคดีนะ”

    สุดชอกช้ำ ชายหนุ่มถ่ายคลิปเดินส่งเมียให้ชู้เพราะรวยกว่า แถมอวยพร “โชคดีนะ”

    เหมียวล่ะน้ำตาจะไหลเลยทีเดียว เพราะล่าสุดเหมียวได้ไปเห็นคลิปวิดีโอหนึ่งจากเฟซบุ๊กเพจ LiveNews เป็นคลิปที่ชายหนุ่มรายหนึ่งกำลังเดินไปส่งแฟนสาว ขึ้นรถชายชู้อีกคน ทำเอาชาวเน็ตรวมถึงเหมียวเองถึงกับนับถือใจของพี่แกเลย   นอกจากนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “มาส่งเมียให้ไปอยู่กับชู้เพราะให้อภัยมาเกินพอขนาดกลับบ้านผูกข้อต่อแขนกัเสร็จยังโกหกมีงานด่วนรีบกลับมาทำงานวันต่อมาเอาไปเช่าโรงแรมบนเกาะล้านมีอะไรกันนี่ขนาดเพิ่งแต่งงานนะเนี้ย”     ชมคลิปสุดอึ้งได้ที่ด้านล่างเลย มาส่งเมียให้ไปอยู่กับชู้..เพราะให้อภัยมาเกินพอ!!LiveNews ” มาส่งเมียให้ไปอยู่กับชู้..เพราะให้อภัยมาเกินพอ!! ” มาส่งเมียให้ไปอยู่กับชู้เพราะให้อภัยมาเกินพอขนาดกลับบ้านผูกข้อต่อแขนกัเสร็จยังโกหกมีงานด่วนรีบกลับมาทำงานวันต่อมาเอาไปเช่าโรงแรมบนเกาะล้านเย็ดกันนี่ขนาดเพิ่งแต่งงานนะเนี้ย..(@กรองทิพย์ สิบบาท) กล่าว…” ขอบคุณเรื่องจาก↭(@กรองทิพย์ สิบบาท) CREDI :https://goo.gl/t9g38R #LiveNews อย่าลืมกด”like”กด”share”กันด้วย Posted by LiveNews on 4 พฤศจิกายน 2015   เหมียวไม่รู้ว่าพี่ผู้ชายเป็นใครอยู่ที่ไหนนะ แต่เหมียวนับถือใจพี่เลย ขอให้เจอรักครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม และเขาก็รักพี่จริงๆ นะ ที่มา LiveNews

  • ชาวเน็ตแชร์คลิปงานแต่งของเจ้าสาวขาพิการ เจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวเข้างาน ซึ้งน้ำตาไหล

    ชาวเน็ตแชร์คลิปงานแต่งของเจ้าสาวขาพิการ เจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวเข้างาน ซึ้งน้ำตาไหล

    หากใครกำลังสิ้นหวังในความรัก แอดเหมียวขอแนะนำให้คุณลองมาอ่านเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่เหมียวนำมาเสนอในวันนี้หน่อย รับรองว่าคุณจะกลับมาเชื่อมั่นในรักแท้อย่างแน่นอน     เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก กิ๊กกิ๊ก’ ปัทมา.‎เป็นคลิปวิดีโองานแต่งงานของคุณยะและคุณหนูนา คู่บ่าวสาวที่กำลังเข้าพิธีวิวาห์ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย     แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตประทับใจในความรักของทั้งคู่คือ ฝ่ายหญิงนั้นสูญเสียขาทั้งสองข้างไป แต่แทนที่ฝ่ายชายจะตัดใจและจากเธอไป เขากลับอยู่ข้างๆ เธอและตัดสินใจขอเธอแต่งงานในที่สุด     นอกจากนี้คุณหนูนายังได้พูดประโยคซึ้งๆ ถึงแฟนของเธอด้วยว่า “สิ่งที่หนูอยากจะบอกพี่ยะ ที่เราได้อยู่ด้วยกัน ที่พูดไม่ดีกับพี่ยะ เพราะว่าตั้งแต่หนูตัดขา หนูก็แบบว่าจะเป็นคนอารมณ์ร้อนค่ะ เอาแต่ใจตัวเอง จนบางทีก็ชวนทะเลาะเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยพูดขอโทษ แต่วันนี้อยากจะบอกว่าเขาขอโทษ”       ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย   ดูคลิปนี้แล้วน้ำตาไหลและยินดี พี่หนูนาเจ้าสาวขาขาด✌✌ ☺เห็นพี่เค้ายิ้มเราดูมีความสุขตามเลย ตอนนี้แต่งงานแล้วน่ะค่ะน่าอิจฉามากๆ ขอแสดงความยินดีกับพี่หนูนาและพี่ยะด้วยน่ะค่ะปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหลคู่แท้มีจริงๆด้วยในโลกนี้ใครที่มีแฟนก็ช่วยกันดูแลดีๆเหมือนพี่ๆคู่นี้น่ะไม่ว่าจะเป็นยังไง Posted by กิ๊กกิ๊ก’ ปัทมา. on 5 พฤศจิกายน 2015   เหมียวล่ะขอชื่นชมในความอดทนของทั้งคู่เลย ยังไงขอเอาใจช่วยให้ความรักของทั้งคู่เบ่งบานและรักกันตลอดไปเลยนะ ที่มา กิ๊กกิ๊ก’ ปัทมา.‎

  • Facebook เตรียมอัพเดต “รูปโปรไฟล์ขยับได้” เหมือนในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์เลย!!

    Facebook เตรียมอัพเดต “รูปโปรไฟล์ขยับได้” เหมือนในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์เลย!!

    เฟซบุ๊กถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราขาดไม่ได้แล้วในชีวิต หลายคนอาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราติดจนเสียนิสัย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องของยุคสมัยที่ทุกคนต้องมีเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกันแล้ว ถ้าใครเล่นเฟซบุ๊กมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ ก็คงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั่นก็คือการรูปโปรไฟล์ของเขาที่มายังไงก็อย่างงั้น …จนถึงตอนนี้   เห็นรูปข้างบนนี้ไหม นี่คือภาพเก่าที่มีคนทำออกมาเล่นๆ โดยให้รูปโปรไฟล์ของเรากลายเป็นภาพ GIF ที่เคลื่อนไหวได้ อิจฉาใช่มั้ยล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน ตอนนี้เฟซบุ๊กจะทำให้ฝันของทุกคนเป็นจริงแล้วกับการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ของเราเป็นภาพ GIF ได้ด้วย   คุณสามารถใส่วิดีโอความยาว 7 วินาทีลงไปในรูปโปรไฟล์ แล้วทางเฟซบุ๊กก็จะเปลี่ยนให้เป็นไฟล์ GIF ให้เอง ลองดูในภาพข้างล่างนี่ก็ได้ พอจะนึกภาพออกแล้วใช่มั้ยล่ะ   อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่นั่นคือ “รูปโปรไฟล์ชั่วคราว” ที่เราสามารถตั้งเวลาได้ว่าจะเอารูปนี้ขึ้นเป็นภาพโปรไฟล์กี่วัน พอถึงเวลาที่กำหนดแล้ว มันก็จะกลับไปเป็นภาพเดิมให้ เหมาะสำหรับงานเทศกาลต่างๆ   ในส่วนของแอปในสมาร์ทโฟนก็จะเปลี่ยนหน้าตามไทม์ไลน์ของเราให้ดูง่ายขึ้น รูปโปรไฟล์ย้ายมาตรงกลาง มีประวัติ รูปภาพให้ดู ไม่ต้องค้นให้เสียเวลา   เราไปชมคลิปฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวมาเลยว่าจะเจ๋งได้แค่ไหน   แต่อย่าเพิ่งไปเปิดมือถืออัพรูปนะ ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ใช้อย่างจริงๆจังๆ เป็นแค่การทดสอบอยู่ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะมันมาแน่ๆ อดใจรอได้เลย หลังจากนี้เราคงได้เห็นรูปโปรไฟล์ขยับได้เหมือนในรูปภาพในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์แน่นอน ที่มา distractify

  • แพงไปไหม? ชาวเน็ตโพสต์ภาพอาหารตามสั่งจากร้านปากซอย ราคาจานละ 150 บาท!?

    แพงไปไหม? ชาวเน็ตโพสต์ภาพอาหารตามสั่งจากร้านปากซอย ราคาจานละ 150 บาท!?

    แอดเหมียวเข้าใจว่าทุกวันนี้อะไรๆ มันก็แพงนะ ข้าวของและอาหารทุนอย่างมีต้นทุนที่แพงขึ้น ทำให้เราต้องจ่ายมากกว่าแต่ก่อนนั่นเอง แต่เหมียวก็ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งอาหารตามสั่งที่ปกติจานละแค่ 30-40 บาท จะพุ่งไปสูงถึง 150 บาทเลย!!   เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค ประเสริฐ บุญประเสริฐ ที่บอกเล่าเรื่องราวของตนเองที่ได้ไปกินอาหารตามสั่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งมา โดยเจ้าตัวเล่าว่าเขาได้สั่งข้าวกระเพรารวมมิตร แต่พอคิดเงินกลับต้องอึ้งล่ะ เพราะจานนั้นมีราคาสูงถึง 150 บาท   พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “อ่านก่อนนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกินข้าวกระเพรารวมมิตรร้านปากซอยสาธุประดิษฐ์ 16 พอคิดเงินป้าแกบอกข้าวจานนี้ 150 ครับกระเพรารวมมิตรจานละ 150 ครับร้านอาหารตามสั่งธรรมดา กินเสร็จหมดแรงเลยเมืองไทย”   ทั้งนี้เจ้าตัวยังได้ถ่ายคลิปการสนทนาระหว่างแม่ค้ามาให้เราได้ชมกันด้วย โดยภายหลังจากการพูดคุย ฝ่ายแม่ค้าได้เสนอจะคืนเงินให้กับเขา 20 บาท แต่ชายหนุ่มกลับปฏิเสธและขอนำคลิปมาเผยแพร่แทน อ่านก่อนนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกินข้าวกระเพรารวมมิตรร้านปากซอยสาธุประดิษฐ์16พอคิดเงินป้าแกบอกข้าวจานนี้150ครับกระเพรารวมมิตรจานละ150ครับร้านอาหารตามสั่งธรรมดา กินเสร็จหมดแรงเลยเมืองไทย Posted by ประเสริฐ บุญประเสริฐ on 28 กันยายน 2015   แหม่ มันก็น่าเห็นใจอยู่นะเนี๊ยะ กินเสร็จนี่ แอดเหมียวว่าอิ่มไปหลายมื้อเลย ใครเจอเหตุการณ์แบบนี้สามารถโทรแจ้งสคบ. ได้ที่เบอร์ 1569…

  • คนแปลกหน้าหลายคนรวมตัวกันในเฟซบุ๊ก เพื่อไปช่วยคุณตาวัย 75 ซ่อมหลังคาบ้าน

    คนแปลกหน้าหลายคนรวมตัวกันในเฟซบุ๊ก เพื่อไปช่วยคุณตาวัย 75 ซ่อมหลังคาบ้าน

      เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ Fremont ในแคลิฟอร์เนีย ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ชายคนหนึ่งชื่อว่า David Perez ได้มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วได้พบกับบางอย่างที่น่าสะเทือนใจ เมื่อคุณตา Richard วัย 75 ปี ที่อยู่บ้านข้างๆเขาได้ออกมาซ่อมหลังคาบ้านด้วยตัวของเขาเอง เขาจึงไม่รอช้าที่จะทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเหลือคุณตาคนนี้ เขาจึงถ่ายภาพแล้วโพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก   เขาได้เขียนบรรยายไว้ว่า “ผมต้องขอโทษเขาจริงๆที่ไม่มีทักษะการซ่อมหลังคาเลย ผมอยากจะขอถามทุกคนที่อยากจะสละเวลามาใช่คุณตาซ่อมหลังคา ดูเหมือนว่าตาจะมีวัสดุทุกอย่างแล้ว ขอแค่แรงคนละไม้คนละมือเท่านั้น” และแล้วหลังจากนั้นปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น   ผู้คนต่างหลั่งไหลกันมามากกว่า 40 คนเพื่อมาช่วยคนตาในการซ่อมหลังคา ในขณะที่บางคนก็ช่วยบริจาคน้ำ โดนัท และพิซซ่าให้อิ่มหนำตามๆกันไป   คุณตา Richard กล่าวว่า “มันทำให้ผมคิดใหม่เกี่ยวกับความศรัทธาในน้ำใจมนุษย์ ผมนี่งงไปหมด  ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าสหายเหล่านี้จะมาเคาะที่ประตู แล้วพูดกับผมว่าผมอยากจะช่วยคุณฟรีๆ”   ตอนแรกคุณตาคิดว่าการซ่อมหลังคานี้จะใช่เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ต้องขอบคุณทุกๆคนจริงๆที่ช่วยซ่อมหลังคาให้เสร็จภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงเท่านั้น ที่มา thechive