Tag: เม็กซิโก

  • นักโทษเม็กซิโกถูกจนท. “ทรมาน” ด้วยการเปิดเพลงแนว “เรเกตอน” ให้ฟัง 10 วันติด!

    นักโทษเม็กซิโกถูกจนท. “ทรมาน” ด้วยการเปิดเพลงแนว “เรเกตอน” ให้ฟัง 10 วันติด!

    ว่าด้วยเรื่องของ การทรมาน คนเรามักจะนึกถึงภาพการทรมานด้วยความเจ็บปวดที่เกิดจากร่างกายและวาจา แต่ใครจะไปนึกล่ะว่า เสียงเพลง ที่ทำให้คนเรารื่นเริงก็สามารถทำให้คนต้องทุกข์ทรมานได้เช่นกัน เพราะเพลงบางชนิดก็ทำให้ผู้ฟังเกิดอารมณ์ทางลบและอารมณ์นั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ฟังซ้ำๆ เช่นนักโทษชาวเม็กซิโกคนหนึ่ง เขามีอาการคลุ้มคลั่งหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทรมานโดยการเปิดเพลงแนว เรเกตอน (เป็นแนวที่แตกมาจากเร้กเก้อีกที) และบังคับให้เขาต้องฟังเป็นเวลา 10 วันติด Gilberto Aguirre Garza อดีตหัวหน้างานในสำนักงานทนายความในเบรากรุซ ถูกจับกุมในเดือนเมษายนปี 2018 ด้วยข้อหามีส่วนเกี่ยวข้องกับการปกปิดและบิดเบือนหลักฐานเกี่ยวกับศพ 13 ราย หลังจากสู้คดีมายาวนาน Garza ถูกผู้ว่าราชการของเบรากรุซตัดสินให้รับโทษ “ทรมานด้วยเสียงเพลง” หรือ Music Torture นั่นเอง   Gilberto Aguirre Garza คนซ้าย   Reyes Peralta ประธานขององค์กรทนายอาชญากรรมแห่งเบรากรุซ กล่าวว่า รอบๆ ห้องขังของ Garza นั้นมีลำโพงติดตั้งอยู่หลายตัว ลำโพงเหล่านี้ทำหน้าที่ขยายเสียงเพลงของ Maluma นักร้องเพลงสไตล์เรเกตอนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง และเล่นอยู่อย่างนั้นแบบต่อเนื่องไม่มีหยุดเป็นเวลา 10 วันเต็ม เพลงที่ดังออกมาทำให้ Garza ไม่สามารถนอนหลับได้ลง ไม่แม้แต่จะอุดหูตัวเองได้ด้วยซ้ำเพราะเสียงเพลงนั้นดังเกินกว่าจะหลีกเลี่ยง  …

  • ชายคนหนึ่งทำการ “ไล่ผี” บนรถไฟ ขณะที่หญิงอีกคนตะโกนว่า “ปีศาจ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า…

    ชายคนหนึ่งทำการ “ไล่ผี” บนรถไฟ ขณะที่หญิงอีกคนตะโกนว่า “ปีศาจ” ซ้ำแล้วซ้ำเล่า…

    เรื่องราวในวันนี้อาจทำให้หลายท่านเกิดความกลัว เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการไล่ผีที่เขาสิงคน “บนรถไฟ” ขบวนหนึ่งนั่นเอง คลิปวิดีโอหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังบนโลกออนไลน์ในขณะนี้ เผยให้เห็นชายและหญิงคู่หนึ่งกำลังมีปากเสียงกันบนขบวนรถไฟในประเทศเม็กซิโกที่มีผู้โดยสารอยู่มากมาย ชายที่แต่งกายด้วยชุดสูทได้ทำพิธีการ ไล่ผี ขึ้นมาบนรถไฟขบวนดังกล่าว ขณะที่หญิงวัยกลางคนอีกรายก็ตะโกนออกมาว่า “ปีศาจ” ต่อหน้าผู้โดยสารที่กำลังงุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   คลิปวิดีโอเหตุการณ์ “ไล่ผี” บนรถไฟ    คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายมาจากขบวนรถไฟใต้ดินในเม็กซิโกซิตี้ แสดงให้เห็นว่าชายชุดสูทอ้างตัวเป็นร่างทรงของ พระเยซู กำลังทำพิธีการปลดปล่อยวิญญาณร้ายที่เขาเชื่อว่า “สิง” อยู่ในร่างของหญิงด้านหน้าของเขา ชายในชุดสูทพูดว่า “ในนามของพระผู้เป็นเจ้า จงออกไปเสีย!” และ “จงออกไป นี่คือคำสั่งจากพระเจ้า ออกไปได้แล้ว” ส่วนหญิงวัยกลางคนตรงหน้า ดูเหมือนเชื่อว่าตนถูกสิงจริงๆ กล่าวออกมาว่า “ใช่ ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป” จากนั้นจึงพูดต่อว่า “เลือดของพระเยซูมีอำนาจปลดปล่อยฉันออกไปจากบาปทั้งปวง”     หลังจากนั้นไม่นานหญิงวัยกลางคนก็กวัดแกว่งร่มคันโตที่เธอถือ ฟาดเข้าไปที่ชายในชุดสูทขณะที่เขากำลังทำพิธีไล่ผีออกจากตัวเธอ แต่ชายในชุดสูทก็ยังไม่หยุด เขาพูดกับหญิงที่กำลังสับสนต่อหน้าของเขาว่า “เราให้อภัยเจ้า”   .   จากนั้นหญิงที่ถูกกล่าวว่าถูกวิญญาณเข้าสิงก็ตะโกนออกมาซ้ำๆ ว่า “ปีศาจ” เธอพูดซ้ำอยู่หลายครั้ง จนผู้โดยสารบางคนเริ่มกลัว เก็บข้าวเก็บของและย้ายหนี…

  • เหตุจากเม็กซิโกชนะเยอรมนีในบอลโลก ชาวเม็กซิกันกระโดดฉลอง ก่อแผ่นดินไหวย่อมๆ!!

    เหตุจากเม็กซิโกชนะเยอรมนีในบอลโลก ชาวเม็กซิกันกระโดดฉลอง ก่อแผ่นดินไหวย่อมๆ!!

    ในขณะที่ผลบอลโลกคู่ช็อกแชมป์เก่าระหว่าง เยอรมนีพบเม็กซิโก เป็นที่ถกเถียงกันเมื่อคืนจนถึงเช้านี้ด้วยสกอร์ 1 – 0 ในครึ่งแรก จากจังหวะโต้กลับเร็วของ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ไหลทะลุส่งให้ เฮอร์วิง โลซาโน เติมขึ้นมาล็อกตัดเข้าในและทำประตูเสียบเสาแรกเข้าไปได้สกอร์ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดครึ่งแรก!!     ด้วยการทำสกอร์นำแชมป์เก่าของเม็กซิโก เหล่ากองเชียร์ในสนามกีฬาลุจนีกี ต่างโห่ร้องกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจอย่างบ้าคลั่ง แต่คงจะเทียบไม่ได้เท่ากับเหล่ากองเชียร์ที่บ้านเกิดในเมืองหลวงเม็กซิโกซิตีแม้แต่นิดเดียว     เนื่องจากกองเชียร์ส่วนใหญ่ต่างรอให้กำลังใจและรอลุ้นกันอยู่ที่บ้านเกิด จนกระทั่งทำสกอร์นำขึ้นมาได้ปุ๊บ เหตุแผ่นดินไหวที่กระทำโดยมนุษย์ก็เกิดขึ้นทันทีในเวลา 11.32 น. ตามเวลาท้องถิ่น   หน่วยเฝ้าระวังแผ่นดินไหวเม็กซิโก ทำรายงานอย่างเป็นทางการ กล่าวว่าเกิดแผ่นดินไหวประดิษฐ์ (แผ่นดินไหวขนาดย่อมที่มนุษย์สร้างขึ้น) El #sismo detectado en la Ciudad de México se originó de manera artificial. Posiblemente por saltos masivos durante el Gol…

  • เผยโฉมผู้สมัครหน้าใหม่ Paola González ลงเลือกตั้งเม็กซิโก ด้วยอายุเพียงแค่ 18 ปี!!

    เผยโฉมผู้สมัครหน้าใหม่ Paola González ลงเลือกตั้งเม็กซิโก ด้วยอายุเพียงแค่ 18 ปี!!

    เมื่อพูดถึงเรื่องของการบ้านการเมือง การแข่งขันชิงตำแหน่งเก้าอี้ต่างๆ ภาพจำของผู้สมัครเข้าชิงมักจะเป็นผู้ชายเสียส่วนใหญ่ พร้อมกับช่วงอายุที่จะเรียกด้วยสรรพนามนำหน้าว่า ‘ลุง’ แต่สำหรับเกมการเมืองชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีภายในรัฐ Jalisco ประเทศเม็กซิโก มีสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อย เมื่อหนึ่งในผู้สมัครหน้าใหม่กลับกลายเป็น หญิงสาวที่มาพร้อมกับอายุเพียง 18 ปีเท่านั้น!!   Paola González Dávalos   เธอมีชื่อเต็มๆ ว่า Paola González Dávalos ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมือง Tepatitlán ที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์เกมการเมืองของที่นี่ เธอเพิ่งจะมีอายุครบ 18 ปีเมื่อเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา และเป็นครั้งแรกที่เธอลงสมัครชิงตำแหน่งทางการเมืองด้วย   .   อย่างไรก็ตาม ด้วยอายุที่ยังน้อยในสายการเมือง เธอมักจะตกเป็นเป้าโจมตีของพรรคฝ่ายตรงข้าม แต่ด้วยการเตรียมความพร้อมก่อนลงสมัครที่ผ่านมา เธอทำงานทางด้านสังคมสงเคราะห์มาอย่างต่อเนื่อง และมีพี่เลี้ยงทางด้านการเมืองอย่างคุณพ่อคอยสนับสนุน   .   โปรไฟล์ของ González นั้นก็ไม่ได้แย่เลยด้วยทักษะทางด้านภาษาที่หลากหลาย ทั้งเชี่ยวชาญภาษาฝรั่งเศส โปรตุเกส และอังกฤษ และเธอก็เคยได้รับบทบาทเป็นผู้นำด้านต่างๆ ในองค์กรนอกภาครัฐมาหลายแห่ง   .   “ฉันมักจะถูกโจมตีจากฝ่ายตรงข้ามในเรื่องอ่อนประสบการณ์ แต่ฉันเชื่อว่าตำแหน่งนายกเทศมนตรีจะต้องมีทักษะความเป็นผู้นำ และความซื่อสัตย์…

  • หวยใต้ดินของจริง เพราะมันคือรถที่ฝังไว้ในดิน ผู้โชคดีที่มาขุดมัน 50 ปีข้างหน้าเอาไปเลย!!

    หวยใต้ดินของจริง เพราะมันคือรถที่ฝังไว้ในดิน ผู้โชคดีที่มาขุดมัน 50 ปีข้างหน้าเอาไปเลย!!

    อ่านแล้วอาจจะไม่เชื่อ แต่หวยใต้ดินจากประเทศเม็กซิโกนี้คือเรื่องจริง เพราะว่าทางเมือง Ojinaga ได้คิดค้นหวยสุดแหวกขึ้นมา จากเดิมผู้ชนะจะได้รางวัลไปในทันที แต่คราวนี้ผู้ชนะจะต้องให้ญาติพี่น้องในอีก 50 ปีเป็นคนมารับแทน เหตุการณ์หวยใต้ดินที่ว่าเริ่มจากเทศกาล El IV Reencuentro Ojinaguense ที่จัดขึ้นทุกปีในเมือง เพียงแต่ครั้งนี้ชาวเมืองรู้สึกว่าการงานเทศกาลแจกของธรรมดามันไม่สนุกอีกต่อไป ฉะนั้นชาวเมืองจึงช่วยกันรวมเงินคนละนิดละหน่อยมาซื้อรถคันใหม่ที่เดิมทีผลิตภันฑ์ในเมืองดังกล่าวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มาเล่นกิจกรรมสนุกกันๆ โดยชาวเมืองตั้งกฎว่า รถที่ผลิตออกมาสดๆ ร้อนๆ ในปี 2018 นี้จะกลายเป็นของรางวัลให้กับครอบครัวที่จำได้ว่าเคยมีมันอยู่ในอีก 50 ปีข้างหน้า     ตัวรถนั้นจะถูกฝังไว้ใต้พื้นคอนกรีตใจกลางเมือง ที่สร้างมาอย่างดีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากตัวรถแล้วภายในรถจะมีจดหมายจากปี 2018 ของชาวเมืองถึงคนในอีก 50 ปีข้างหน้าที่มาขุดเอารถคันดังกล่าวไป แม้ว่าการฝังรถไว้ 50 ปีจะเป็นเรื่องที่ดูหน้าสนุก แต่ก็ยังมีชาวเมืองบางกลุ่มรู้สึกว่าการทำแบบนี้มันช่างไร้ประโยชน์ เพราะว่าการจะเอารถออกมาได้นั้นจำเป็นจะต้องทุบพื้นคอนกรีดออก แถมยังต้องนำเครนมายกรถขึ้นอีกมันเป็นพิธีการที่ยุ่งยาก     กลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยยังบอกอีกว่า การทำแบบนี้เป็นการเปลืองงบประมาณเปล่าๆ ทำไมรัฐถึงไม่เอาเงินที่ซื้อรถไปบริจาคให้คนที่เลือดร้อนโดยตรงแทน   อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนเห็นด้วยก็ย่อมมีคนไม่เห็นด้วย เช่นชายคนหนึ่งที่ต้องเดินทางไปดูแลลูกต่างเมืองตลอดเวลาได้บอกว่า เมื่อผ่านไป 50 ปี ลูกชายหรือเขาอาจจะเป็นผู้โชคดีได้ใช้รถคันดังกล่าวก็ได้  …

  • หวด…ล้างบาป!! พิธีชำระล้างบาปในเม็กซิโก ผู้คนออกมา “เฆี่ยนแส้” ใส่กันในวันอีสเตอร์

    หวด…ล้างบาป!! พิธีชำระล้างบาปในเม็กซิโก ผู้คนออกมา “เฆี่ยนแส้” ใส่กันในวันอีสเตอร์

    (มีภาพและเนื้อหาที่ควรใช้วิจารณญาณในการรับชม)   แต่ละศาสนาหรือแต่ละวัฒนธรรมนั้นก็จะมีพิธีกรรมหรือธรรมเนียมปฏิบัติที่แต่งต่างกันออกไป แม้ว่าจะเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์ด้วยกันเอง แต่พิธีกรรมล้างบาปนั้นกลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในประเทศเม็กซิโก ในวันพระเยซูคริสต์ทรงคืนหรือที่เรียกกันว่า วันอีสเตอร์ (Easter) ของศาสนาคริสต์ถือว่าเป็นวันที่สำคัญอย่างยิ่ง ทั้งนี้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ในแต่ละภูมิภาคก็จะมีพิธีการเฉลิมฉลองที่แตกต่างกัน โดยที่พบเห็นได้บ่อยและดูเป็นที่นิยมที่สุดก็คือการตกแต่งไข่และการค้นหาไข่ที่เรียกกันว่า “ไข่อีสเตอร์” แต่บางพื้นที่ประเทศเม็กซิโกกลับมีพิธีในวันอีสเตอร์ที่แตกต่างกับการค้นหาไข่ยิ่งนัก นั่นก็คือการ ปิดถนนเฆี่ยนตีกัน โดยผู้คนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก   ในเมือง Soltepec แห่งประเทศเม็กซิโก ได้มีการจัดพิธีกรรมนี้ขึ้นในวันอีสเตอร์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นพิธีชำระล้างบาปให้กับร่างกาย   ธรรมเนียมปฏิบัตินี้เชื่อว่าเริ่มมีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เนื่องจากผู้เฒ่าเป็นกังวลว่าวัฒนธรรมและความเชื่อทางคริสต์ศาสนาจะเสื่อมสลายไป   พิธีกรรมนี้ถือเป็นการชำระล้างบาปให้ตนเองด้วยการทรมาน   นอกจากชาวเม็กซิโกแล้ว ชาวฟิลิปปินส์บางกลุ่มก็ฟาดแส้ใส่กันในวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ในเมือง San Fernando รัฐแคลิฟอร์เนีย   บางครั้งพิธีกรรมนี้ถูกเรียกว่า Magdarame   พวกเขาเชื่อว่า พิธีกรรมนี้จะเป็น “ฆ่า” ความบาปที่พวกเขาเห็นและพบเจอมา   “ปิศาจแห่งความอ่อนแอ ความคิดชั่วร้าย และความศรัทธาอันน้อยนิดที่ครอบงำชีวิตของผู้คนมาเป็นเวลายาวนาน พิธีนี้จะกำจัดมันให้สิ้นซาก” Rev Michael Geisler เขียนเอาไว้   ถึงแม้พิธีเฆี่ยนล้างบาปนี้จะถูกมองว่ารุนแรงเกินไป แต่ก็ยังเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในหลายๆ ประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก   ที่มา: Thesun

  • ชายทำความสะอาดสวนสัตว์ ถูกสิงโตขย้ำ ‘ดับอนาถ’ เนื่องจากล็อกกรงไม่สนิท

    ชายทำความสะอาดสวนสัตว์ ถูกสิงโตขย้ำ ‘ดับอนาถ’ เนื่องจากล็อกกรงไม่สนิท

    ณ สวนสัตว์ชื่อว่า Nicolas Bravo ในรัฐอีดัลโก ประเทศเม็กซิโก ชายผู้ทำความสะอาดสวนสัตว์ได้ถูก สิงโต ขย้ำจนเสียชีวิต เนื่องจากปิดกรงสิงโตไม่สนิท Gustavo Serrano Carabajal ชายหนุ่มวัย 28 ปี ได้เข้าไปทำความสะอาดกรงสิงโตตามหน้าที่ปกติ แต่เหตุร้ายกลับเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด เมื่อ Carabajal ลืมล็อกกรงสิงโตให้สนิท จึงทำให้สิงโตสามารถเปิดกรงออกมาและเข้าทำร้ายด้วยการกัดเข้าที่บริเวณคอ     Carabajal นั้นเสียชีวิตก่อนที่ความช่วยเหลือฉุกเฉินจะมาถึง ซึ่งศพของเขานั้นถูกพบอยู่ในกรงขังสิงโตเพศผู้วัย 22 ปีตัวหนึ่งที่มีชื่อว่า Kimba Fernandez Perez Romero ตัวแทนสภาท้องถิ่นกล่าวว่า สิงโต Kimba จะไม่ถูกฆ่าแม้ว่ามันจะเข้าทำร้ายคนทำความสะอาดสวนสัตว์จนเสียชีวิตก็ตาม   .   Romeo กล่าวเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่จะมีการสร้างเสริมความปลอดภัยให้มากขึ้น หากต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ที่ถูกขังอยู่ในกรง สัตว์ในสวนสัตว์แห่งนี้ 75 เปอร์เซ็นต์เป็นสัตว์ที่ทาง หน่วยงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลาง (PROFEPA) ช่วยเหลือ โดยการให้สวนสัตว์แห่งนี้เป็นที่พักพิงและเลี้ยงดู     Romeo ยังรายงานว่า สวนสัตว์ดังกล่าวกำลังดำเนินการเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย เช่น…

  • ศิลปินสร้างผลงานมินิมอลด้วย ‘อิฐและหนังสือ’ สะท้อนให้เห็นอิทธิพลของสิ่งเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่

    ศิลปินสร้างผลงานมินิมอลด้วย ‘อิฐและหนังสือ’ สะท้อนให้เห็นอิทธิพลของสิ่งเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่

    ว่ากันว่างานศิลปะมักจะมีความหมายที่สะท้อนนัยยะบางอย่างออกมาเสมอ แต่บางครั้งความหมายของมันอาจจะไม่ได้มองเห็นได้ง่ายๆ มันอาจจะต้องอยู่ที่การตีความของผู้ชม ด้วยเหตุนี้บางครั้งเราจึงสงสัยว่าทำไมงานศิลปะบางชิ้นถึงได้เรียบง่ายและช่างดูเล็กน้อยเสียเหลือเกิน และอาจจะเกิดข้อสงสัยนี้ขึ้นอีกเมื่อคุณได้เห็น The Castle ผลงานศิลปะในปี 2007 ของศิลปินชาวเม็กซิโกนามว่า Jorge Méndez Blake ที่เป็นการก่ออิฐขึ้นมาเป็นกำแพงขนาดเกือบ 21 x 4 เมตรเพื่อเป็นการศึกษาถึงเรื่องของอิทธิพลจากหนึ่งแรงภายนอก     เขานำอิฐมาวางเรียงกันบน “หนังสือ” เล่มหนึ่งที่ชื่อว่า The Castle ของ Franz Kafka โดยไม่ใช้ปูนเชื่อม ปรากฏว่ากองอิฐจำนวนมากเรียงกันเป็นแนวโค้งขึ้นบริเวณเหนือจุดที่มีหนังสือ ยิ่งไปกว่านั้น รอยโค้งยังส่งผลให้อิฐเรียงตัวกันเป็นแนวโค้งตั้งแต่ด้านล่างไปจนถึงด้านบน     ในความจริงแล้วงานศิลปะชิ้นนี้สามารถสะท้อนความหมายเชิงอุปลักษณ์ (เปรียบเปรย) ได้ไม่ว่าจะใช้หนังสือเล่มไหนหรือเรื่องใดก็ตาม แต่ Méndez Blake เจาะจงเลือกใช้หนังสือเรื่อง The Castle เนื่องจากต้องการสรรเสริญวิถีชีวิตและผลงานของ Kafka ที่เป็นผู้เขียน     Kafka เป็นนักประพันธ์ที่มีลักษณะเป็นคนเก็บตัวสูง และได้เขียนงานของเขาอย่างเงียบๆ มาตลอดชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นหนังสือของเขายังได้รับการตีพิมพ์โดยเพื่อนของเขา Max Brod หลังจากที่ตัว Kafka เองเสียชีวิตไปแล้ว     ผลงานที่แสนเรียบง่ายแต่ทรงพลังชิ้นนี้ สะท้อนนัยยะผ่านกองอิฐและปึกกระดาษของหนังสือว่า ผลงานนวนิยายของ…

  • ภาพกอดครั้งสุดท้าย หลังคุณพ่อชาวเม็กซิโกจำใจลาจากครอบครัว เพราะนโยบายของทรัมป์

    ภาพกอดครั้งสุดท้าย หลังคุณพ่อชาวเม็กซิโกจำใจลาจากครอบครัว เพราะนโยบายของทรัมป์

    หลังจากที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีมาตรการตรวจสอบผู้อพยพอย่างเข้มงวด ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในอเมริกาจึงล้วนได้รับผลกระทบจากมาตรการนี้กันถ้วนหน้า เนื่องจากผู้ที่ไม่ได้มีเชื้อสายอเมริกัน หรือกระทั่งเป็นผู้อพยพที่แม้จะมีครอบครัวในสหรัฐอเมริกานั้น ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้อาศัยอยู่ในประเทศอเมริกาโดยถูกกฎหมายอีกต่อไป     ชายชาวเม็กซิกันคนนี้ชื่อว่า Jorge Garcia วัย 39 ปี จำเป็นต้องจากครอบครัวเนื่องจากกฎหมายผู้อพยพของสหรัฐนั้นมีข้อบังคับให้เขาต้องกลับไปอยู่ที่ประเทศบ้านเกิดที่เม็กซิโก ทั้งๆ ที่ตัวเขาเองอาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ รวมแล้วเป็นเวลา 29 ปี เขาใช้ชีวิตเป็นชาวสวนอยู่ในสหรัฐอเมริกาอย่างเงียบๆ มาจนกระทั่งปี 2005 ที่เขาและภรรยาเริ่มช่วยกันต่อสู้เพื่อให้ Jorge มีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการอาศัยอยู่ในอเมริกา     จากนั้นในปี 2009 หน่วยงาน ICE ได้แจ้ง Jorge ล่วงหน้าว่าจะต้องถูกเนรเทศออกนอกประเทศ ขณะนั้นเองก็มีนโยบาย DACA ที่ Barack Obama อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐได้ออกมาเพื่อครอบคลุมผู้อพยพ โดยมีเงื่อนไขว่าหากผู้ที่มีอายุไม่เกิน 31 ปี ในปี 2012 จะสามารถต่ออายุเพื่ออาศัยอยู่ในประเทศได้     แต่โชคไม่ดีที่ในเวลานั้น Jorge มีอายุได้ 32 ปี ซึ่งเกินมา…

  • ชายรุ่นพ่อจับเด็กสาวแต่งานตอนอายุ 12 ขวบ และกักขังเธอนาน 19 ปี พร้อมข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ชายรุ่นพ่อจับเด็กสาวแต่งานตอนอายุ 12 ขวบ และกักขังเธอนาน 19 ปี พร้อมข่มขืนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    เรื่องราวสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจากเม็กซิโกได้รับแจ้งว่าชายหนุ่มคนหนึ่งได้ข่มขืนลูกสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของเขา และกักขังเธอไว้นานเกือบ 2 ทศวรรษ นาย Henri Michele Piette ชายวัย 62 ปีถูกจับกุมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่เขาถูกตั้งข้อหาข่มขืนและข้อหาหนักอื่นๆ เมื่อหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ โดยเหยื่อเขานั้นคือ Rosalynn McGinnis หญิงสาวจากเมือง Wagoner รัฐโอกาโฮมาซึ่งเป็นลูกเลี้ยงของเขาเอง   Rosalynn McGinnis และพ่อเลี้ยงของเธอ ในงานวันเกิดเมื่อตอนที่เธออายุได้ 13 ปี   คุณ McGinnis ซึ่งปัจจุบันอายุ 33 ปีให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พ่อเลี้ยงของเธอลักพาตัวเธอตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้ 12 ปี หลังจากที่เลิกกับแม่ของเธอเนื่องจากปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศ จากการรายงานของสื่อท้องถิ่น McGinnis ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมอีกว่าพ่อเลี้ยงของเธอมอบแหวนแต่งงานให้ระหว่างที่อยู่บนรถตู้และขอเธอแต่งงาน     พ่อเลี้ยงลักพาตัว McGinnis ไปยังแม็กซิโกและขังเธอไว้ในบ้านเป็นเวลานานถึง 19 ปี แต่ในปี 2016 หญิงสาวและเด็กๆ อีก 8 คนที่ถูกจับตัวไปไว้กับเธอในภายหลัง สามารถหนีจากพ่อเลี้ยงออกมาได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้มีเด็กน้อย 1 คนที่หนีออกมาได้แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเด็กๆ ทั้ง 9 คนนั้นเป็นเหยื่อหรือเกี่ยวข้องกับนาย Piette อย่างไร แต่จากคำให้การในศาล…

  • ทำความรู้จัก Frida หมาฮีโร่เน็ตไอดอล ผู้ช่วยชีวิตมนุษย์จากแผ่นดินไหวถึง 52 คน!!

    ทำความรู้จัก Frida หมาฮีโร่เน็ตไอดอล ผู้ช่วยชีวิตมนุษย์จากแผ่นดินไหวถึง 52 คน!!

    เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา เกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ประเทศเม็กซิโก มีขนาด 7.1-8.1 แมกนิจูด ทำให้มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากมาย ซึ่งเป็นการเกิดแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 ภายในรอบสองสัปดาห์ เหตุการณ์ในครั้งนี้กำลังเป็นที่จับตามองจากคนทั้งโลก คอยส่งกำลังใจช่วยเหลือในฐานะเพื่อนร่วมโลก ใจกลางความเสียหายอยู่ที่เมืองหลวงของประเทศเม็กซิโก เหล่าหน่วยงานกู้ภัยต้องทำงานอย่างนักเพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน หนึ่งในนั้นก็คือ เจ้า Frida สุนัขประจำหน่วยกู้ภัยที่เข้ามาทำหน้าที่ในการช่วยเหลือประชาชน   เจ้า Frida มันถูกส่งตัวให้ไปช่วยผู้ประสบภัยในที่ต่างๆ ซึ่งมันทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม มันสามารถช่วยเหลือผู้คนให้รอดชีวิตถึง 52 คนเลยทีเดียว ชุดกู้ภัยประจำตัวของเจ้า Frida จะประกอบไปด้วยแว่นตาป้องกันควันและเศษต่างๆ กระเด็นเข้าตา และรองเท้าที่คอยปกป้องอุ้งเท้าของมันจากพื้นที่ขรุขระ เท่ชะมัดเลย   มันตั้งใจออกไปปฏิบัติงานทุกครั้ง เป็นที่ประทับใจให้แก่ผู้พบเจอ   ในเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้มันก็ได้เข้าไปช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดชีวิตได้ถึง 12 คนเลยทีเดียว   แววตามีความมุ่งมั่นมาก ฮีโร่สุดๆ   แหม่ เหนื่อยง่ะ ขอพักก่อนน๊าาาาา   มีคนประทับใจเจ้า Frida ถึงขนาดวาดแฟนอาร์ตให้ด้วยนะ   เก่งมากเจ้าหมา…

  • 17 ภาพสุดซึ้งจากชาวเม็กซิโก แม้ประสบภัยแผ่นดินไหว แต่ก็ยังจับมือกันอย่างเข้มแข็ง

    17 ภาพสุดซึ้งจากชาวเม็กซิโก แม้ประสบภัยแผ่นดินไหว แต่ก็ยังจับมือกันอย่างเข้มแข็ง

    ในโลกนี้คงไม่มีอะไรมาทำร้ายมนุษย์ได้ นอกจากมนุษย์จะทำร้ายกันเอง แม้แต่ภัยธรรมชาติที่รุนแรงก็ไม่อาจทำอะไรมนุษย์ได้ ตราบเท่าที่มนุษย์ยังคงจับมือฝ่าฟันมันไปด้วยกัน และนี่คือภาพความประทับใจจากชาวเม็กซิโก ที่ทำให้เห็นว่าแม้ประสบภัยแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังจับมือกันอย่างเข้มแข็ง   1. หน่วยกู้ชีพและประชาชนช่วยกันหาคนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังของอาคาร หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.1 ริกเตอร์ ในเม็กซิโก เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา   2. ผู้คนช่วยเหลือผู้บาดเจ็บท่ามกลางซากปรักหักพังของอาคารที่พังลงมา   3. หน่วยกู้ภัย นักดับเพลิง ตำรวจ ทหาร และอาสาสมัคร ช่วยกันเอาซากปรักหักพังออกจากอาคาร   4. หน่วยกู้ภัยและอาสาสมัครช่วยกันขุดเศษซากออกจากอาคาร   5. ผู้คนช่วยกันเอาเศษซากออกจากอาคาร   6. เจ้าหน้าที่และประชาชนช่วยกันเอาเศษซากออก เพื่อตามหาคนที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง   7. เจ้าหน้าที่กู้ภัยช่วยสุนัขออกจากซากปรักหักพังระหว่างการค้นหาผู้รอดชีวิต   8. ทุกคนทำงานอย่างไม่รู้สึกเหนื่อย เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต   9. หน่วยกู้ภัยชูกำปั้นขึ้น เป็นสัญลักษณ์ให้ผู้คนเงียบ เพื่อที่จะได้ยินเสียงผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง   10. หญิงสาวชูป้ายขอให้ทุกคนเงียบ เพื่อที่จะฟังเสียผู้รอดชีวิต   11. หน่วยกู้ภัยช่วยผู้บาดเจ็บออกจากพื้นที่ที่รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว  …

  • รวมภาพความเสียหาย-คลิปตึกถล่มในพริบตา เม็กซิโกแผ่นดินไหว 7.1 แมกนิจูด คนตาย 140!!

    รวมภาพความเสียหาย-คลิปตึกถล่มในพริบตา เม็กซิโกแผ่นดินไหว 7.1 แมกนิจูด คนตาย 140!!

    Breaking News!! อีกหนึ่งสถานการณ์ที่ทั่วโลกต้องจับตามองด้วยความเป็นห่วง หลังเกิดเหตุแผนดินไหวรุนแรง 7.1 แมกนิจูด ที่ประเทศเม็กซิโก สำนักข่าวต่างชาติได้รายงานว่า เมื่อเวลา 12.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 19 กันยายน ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวมีความรุนแรงขนาด 7.1 แมกนิจูด และส่งผลให้ตึกอาคารและบ้านพักต่างๆ พังถล่มลงมา โดยเฉพาะที่กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ซึ่งเป็นพื้นที่ๆ ได้รับผลกระทบมากที่สุด     จากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตแล้วทั้งหมดกว่า 140 คน โดยแบ่งเป็นจากรัฐโมเรลอส 54 ราย รัฐปวยบลา 26 ราย และที่เม็กซิโก ซิตี้ อีก 30 ราย   จากความรุนแรงของแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างออกไปกว่า 120 กิโลเมตร ทำให้อาคารหลายหลังพังถล่มลงมาในชั่วพริบตาเดียว .   ภัยพิบัติในครั้งนี้ทำให้สนามบินนานาชาติฮัวเรสเบนีเดซ ณ กรุงเม็กซิโกซิตี้ ต้องปิดให้บริการชั่วคราว มีการประกาศเตือนไม่ให้ประชาชนเดินทางโดยเรือ หรือรวมกลุ่มกันอยู่บนท้องถนน อีกทั้งสายไฟฟ้าและเสาสัญญาณโทรศัพท์หลายจุดในเมืองก็ได้รับความเสียหาย ทำให้ตอนนี้มีประชาชนกว่า…

  • สาวน้อยประกาศหาเจ้าตูบ แต่ไม่มีรูปเลย “วาดเอง” แถมยังตามเจอซะด้วย..!!

    สาวน้อยประกาศหาเจ้าตูบ แต่ไม่มีรูปเลย “วาดเอง” แถมยังตามเจอซะด้วย..!!

    อีกหนึ่งเรื่องราวน่ารักๆ ของสาวน้อยวัย 7 ขวบ และเจ้าตูบขนสีกาแฟ ที่เกิดขึ้นที่เมืองเม็กซิโกซิตี้ ประเทศเม็กซิโก ก่อนหน้านี้สาวน้อย Sol ได้อุปการะเจ้าตูบ Morgan มาจากสถานพักพิงสัตว์ พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมาโดยตลอด ทว่าจู่ๆ วันหนึ่งเจ้าตูบกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย…   หนูน้อย Sol และเจ้าตูบ Morgan   หลังจากที่เจ้าตูบหายไปได้ไม่นาน หญิงสาวก็พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะตามหามันกลับมาให้ได้ แต่ไม่ว่าจะหายังไงเธอก็หาไม่เจอซักที Sol จึงคิดขึ้นมาได้ว่าเธอน่าจะทำโปสเตอร์ประกาศสุนัขหาย ทว่า… เธอมีภาพถ่ายของเจ้าตูบเพียงใบเดียว และเธอก็คงไม่อยากเอาไปติดไว้ข้างทางด้วย   หนูน้อย Sol จึงใช้วิธีวาดขึ้นมาเองซะเลย   Mara คุณแม่ของ Sol เล่าว่า “ลูกสาวร้องไห้ตอนที่ Morgan หายไป และในคืนนั้นเองเธอก็นั่งทำโปสเตอร์เพื่อตามหาพวกมันทั้งคืนเลย” ในโปสเตอร์เธอได้เขียนอธิบายไว้ว่า Morgan เป็นเพื่อนรักของเธอ เรียกร้องให้ผู้ที่พบเห็นช่วยพามันกลับมา พร้อมกับอธิบายลักษณะรูปพรรณสัณฐานของมัน   ใบหน้าของเจ้า Morgan ที่สาวน้อยวาดใส่ลงมาในโปสเตอร์   ไม่นานหลังจากที่ Sol นำโปสเตอร์ไปติดตามเมืองต่างๆ…

  • ก็ใจมันรัก!! หนุ่มเม็กซิกันหลอกเมียว่าไปซื้อบุหรี่ แล้วก็บินไปเชียร์บอลที่รัสเซียหน้าตาเฉย

    ก็ใจมันรัก!! หนุ่มเม็กซิกันหลอกเมียว่าไปซื้อบุหรี่ แล้วก็บินไปเชียร์บอลที่รัสเซียหน้าตาเฉย

    ฟุตบอลหนึ่งในกีฬาโปรดของผู้ชายหลายๆ คน การได้ดูฟุตบอลทีมีรักในช่วงสุดสัปดาห์นี่มันสวรรค์ชัดๆ แล้วยิ่งถ้าได้ดูติดขอบสนามอีกนะ โอ้โห.. ฟินสุดๆ บางคนถึงกับยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชมการแข่งขันของทีมฟุตบอลที่ตนเองรัก และชายคนนี้ก็คือหนึ่งในตัวอย่างของผู้คลั่งไคล้ฟุตบอลมากๆ มากจนถึงขนาดที่ว่ายอมโกหกเมียว่า ออกไปซื้อบุหรี่แค่เดี๋ยวเดียว แล้วก็ลงทุนบินลัดฟ้าไปตามเชียร์ทีมชาติที่กำลังฟาดแข้งในต่างประเทศ!?     ในรายการ Confederations Cup ระหว่างเม็กซิโกและเยอรมนีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา ชายหนุ่มท่านหนึ่งนามว่าคุณ Antonio Garcia ได้ลงทุนบินลัดฟ้าจากเม็กซิโกเพื่อไปเชียร์ทีมชาติเม็กซิโกถึงขอบสนามที่ประเทศรัสเซีย โดยชายหนุ่มคนดังกล่าวกลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืน หลังจากที่คลิปวิดีโอสัมภาษณ์ของเขาถูกปล่อยในโลกอินเตอร์เน็ต ชายหนุ่มบอกว่าเขาขอภรรยาออกไปซื้อบุหรี่ข้างนอก แต่หลังจากนั้นก็แอบขึ้นเครื่องแล้วเดินทางมาเชียร์ฟุตบอลที่รัสเซีย     “ผมบอกเมียว่าจะออกไปซื้อบุหรี่ที่ร้านสะดวกซื้อ Oxxo แต่ผมไม่ได้บอกเธอว่าจะมาดูบอลที่นี่ เพราะผมคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าเธอไม่รู้ และเธอคงไม่คิดหรอกว่าผมจะแอบขึ้นเครื่องมาที่นี่” คุณ Garcia กล่าว “ค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้นไม่สำคัญ แต่การได้ชมทีมรักแบบใกล้ชิดนั้นสำคัญกว่า” แฟนบอลท่านนี้กล่าวเสริม     ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้วภรรยาของแฟนบอลตัวจริงท่านนี้จะรู้ว่าเขานั้นแอบขึ้นเครื่องมาถึงรัสเซีย และแน่นอนว่าตอน ขากลับคุณ Garcia คงจะต้องมีของฝากเล็กๆ น้อยๆ ติดมือไปฝากภรรยาบ้างแล้วล่ะ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะได้นอนนอกบ้านก็เป็นได้นะ ฮ่าๆ ที่มา odditycentral, sports.ru

  • รู้จักกับเมนูหวานฉ่ำ “ไอศกรีมขนมปังเม็กซิโก”คล้ายกับไอศกรีมบ้านเรา แต่จัดหนักกว่า!!

    รู้จักกับเมนูหวานฉ่ำ “ไอศกรีมขนมปังเม็กซิโก”คล้ายกับไอศกรีมบ้านเรา แต่จัดหนักกว่า!!

    ในตอนเด็ก เพื่อนๆ คงจำได้ดีกับรถขายไอศกรีมที่บีบแตรดังแป๊นๆ มาขายที่หน้าบ้าน โดยเมนูสุดฮิตต้องเป็นไอศกรีมขนมปังฉ่ำๆ ที่ราดซอสช็อคโกแลตหรือสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งนั้นก็เป็นความอร่อยที่อยู่ในความทรงจำของทุกๆ คน แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่าในประเทศเม็กซิโกเขาก็มีร้านไอศกรีมแบบนี้เหมือนกัน โดยพ่อค้าจะตักไอศกรีมเป็นลูกๆ ยัดเข้าไปในขนมปังนุ่มๆ พูดแล้วก็อยากทานขึ้นมาทันที เราไปชมกันว่าไอศกรีมขนมปังที่เม็กซิโกจะต่างจากบ้านเราแค่ไหน     ไอศกรีมขนมปังแซนด์วิชแบบนี้ชาวเม็กซิกันเขาเรียกว่า “tortas de nieve” สำหรับคนไทยนั้นจะมองว่าเป็นเมนูที่ไม่แปลกเท่าไหร่ แต่สำหรับชาวต่างชาตินั้นขนมปังแซนด์วิชมักมีไว้ทานกับเบค่อน ชีส ผักสลัด หรือเนื้อเท่านั้น การนำไอศกรีมเป็นลูกๆ มาใส่จึงเป็นเรื่องที่แปลกเอามากๆ     ไม่มีใครทราบว่าใครเป็นคนคิดค้นเจ้าไอศกรีมขนมปังขึ้นมาเป็นคนแรกของเม็กซิโก แต่มีอยู่ร้านหนึ่งที่ขายเมนูนี้กว่า 60 ปีแล้ว ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในเมือง Xonacatlan รัฐ Estado de ประเทศเม็กซิโก โดยมีครอบครัว Sanchez เป็นเจ้าของร้านและอ้างว่าเมนูนี้เริ่มต้นจากการทดลอง แต่ลูกค้ากลับชอบมันมากๆ จึงทำขายมาจนปัจจุบัน เคล็ดลับของไอศกรีมขนมปังเม็กซิกันนั้นต่างจากประเทศไทยตรงที่พ่อค้าจะมีการโรยเกลือเล็กน้อยลงไปบนไอศกรีมด้วย ซึ่งมันทำให้ไอศกรีมนั้นละลายเร็วยิ่งขึ้นและเป็นการตัดรสหวานดีๆ นี่เอง     โดยแต่ละร้านก็จะมีรสชาติไอศกรีมที่แตกต่างกันออกไปไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลต วานิลลา หรือผลไม้ต่างๆ   ลองไปดูคลิปวิธีการทำกันดู มีความคล้ายกับประเทศไทยเลยนะ  …

  • หนุ่มเม็กซิกัน แต่งงานกับสาวอเมริกัน เพื่อกรีนการ์ด แล้วสังหารเธอ โดยมีภรรยาตัวจริงช่วย…

    หนุ่มเม็กซิกัน แต่งงานกับสาวอเมริกัน เพื่อกรีนการ์ด แล้วสังหารเธอ โดยมีภรรยาตัวจริงช่วย…

    สหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นดินแดนที่หลายๆ คนอยากเข้าไปแสวงหาความสำเร็จและความก้าวหน้าในชีวิต และมีชาวสหรัฐฯ หลายคน ได้ให้ความช่วยเหลือชาวต่างชาติเหล่านี้ เพื่อให้ได้กรีนการ์ดมาง่ายๆ อย่างเช่นหญิงสาวคนนี้ ที่เธอแต่งงานกับชาวเม็กซิโกคนหนึ่งเพื่อให้เขาได้กรีนการ์ด แต่สุดท้าย ชายชาวเม็กซิโกคนนั้นเอง ก็รวมมือกับภรรยาเก่า ฆาตกรรมเธออย่างโหดเหี้ยม แม้ตอนนี้ก็ยังไม่สามารถหาร่างพบ     หญิงสาวผู้โชคร้ายคนนั้นมีชื่อว่า Cecelia Bravo Cabrera เธอได้แต่งงานกับหนุ่มชาวเม็กซิกัน Francisco Valdivia เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งการแต่งงานครั้งนี้จะทำให้ Valdivia ได้กรีนการ์ดอย่างถูกกฎหมายมาใช้งาน ภายหลังเธอจึงทราบว่า Valdivia  เคยแต่งงานมาแล้วเมื่อปี 2007 กับหญิงที่ชื่อว่า Rosalina Lopez  ไม่แน่ใจว่าเธอทราบเรื่องนี้มาก่อนหรือไม่ แต่ไม่ว่าเธอจะพอใจหรือไม่ เธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะ Lopez และ Valdivia ได้ร่วมกันข่มขู่เธอเพื่อไม่ให้เธอฟ้องหย่า     จนกระทั่งเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จู่ๆ Cecelia Cabrera ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครทราบว่าเธอหายไปไหน ทางตำรวจก็ได้พยายามตามหาเธอ หลายเดือนผ่านไป หลักฐานที่พวกเขารวบรวมได้บ่งชี้ว่า เธอถูกฆาตกรรมโดย Valdivia และ Lopez ทางตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแรงจูงใจ ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เชื่อว่าต้องเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ของทั้งสามอย่างแน่นอน   ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะทำกันขนาดนี้ได้ น่ากลัวจริงๆ T_T…

  • พาเที่ยว “ถ้ำคริลตัล” ในเม็กซิโก สวยงามราวกับบ้านของซุปเปอร์แมนในขั้วโลกเหนือ!!!

    พาเที่ยว “ถ้ำคริลตัล” ในเม็กซิโก สวยงามราวกับบ้านของซุปเปอร์แมนในขั้วโลกเหนือ!!!

    สำหรับคนที่เคยดูหนังเกี่ยวกับซุปเปอร์แมน ก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตากับบ้านของเขาที่ตั้งอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ ซึ่งมันเป็นแท่งคริสตัลขนาดใหญ่ที่พุ่งขึ้นมาอย่างสวยงาม     แต่ไม่น่าเชื่อว่าสถานที่แบบนั้นจะมีอยู่จริงบนโลกของเราด้วย ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Naica ประเทศเม็กซิโก ถ้ำนี้เต็มไปด้วยผลึกหินสีขาวแวววับ แต่ต้องเดินลึกเข้าไปกว่า 300 เมตร หินชนิดนี้ก็คือแร่ยิปซั่ม พบในถ้ำแห่งนี้มีขนาดใหญ่สุดถึง 12 เมตรด้วยกัน หนักกว่า 55 ตัน แถมอุณหภูมิในถ้ำก็สูงถึง 58 องศาเซลเซียส แต่ก็มีความชื้นถึง 90-99% นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมไม่มีคนเข้ามาสำรวจ เพราะว่าอยู่ไม่ถึง 10 นาทีก็ทนไม่ไหวแล้ว     นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งได้ตั้งโปรเจกต์ Naica ขึ้นมาเพื่อทำการศึกษาเกี่ยวกับถ้ำแห่งนี้ โดยที่นี่ตั้งอยู่บนรอยเลื่อนโบราณและข้างใต้ก็เต็มไปด้วยลาวาที่ร้อนระอุ ช่องว่างของถ้ำเป็นสาเหตุที่ทำให้แร่เจริญเต็บโตขึ้นมาได้ แต่ต้องใช้เวลานานถึง 500,000 ปี ซึ่งอุณหภูมิที่อยู่ในถ้ำก็คงที่เหมาะสำหรับทำให้แท่งคริสตัลเหล่านี้ต่อตัวขึ้นไปเรื่อยๆ ได้     เห็นแล้วก็รู้สึกได้เลยว่าโลกเรานี้ยังมีอีกหลายที่ที่เรายังไม่ได้ค้นพบ แต่เชื่อว่าเลยถ้ำแห่งนี้คงไม่มีใครไปเยือนแน่นอน เพราะว่ามันร้อนเกินจะบรรยาย ที่มา designyoutrust

  • ชวนเที่ยว “ทะเลสาบชมพู” ในเม็กซิโก สวยงามราวเทพนิยาย แต่มีอยู่บนโลกเราจริงๆ

    ชวนเที่ยว “ทะเลสาบชมพู” ในเม็กซิโก สวยงามราวเทพนิยาย แต่มีอยู่บนโลกเราจริงๆ

    คุณอาจไม่ต้องเป็นถึงระดับโจรสลัดหมวกฟาง ก็สามารถออกไปตามหาทะเลแปลกๆ บนโลกใบนี้ได้เช่นกัน เพราะวันนี้เราจะพาคุณไปชมทะเลสาบที่มีสีสันแปลกตาราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายหรือการ์ตูนเรื่องไหนสักเรื่อง…     ทะเลสาบที่ #เหมียวฟิ้น พูดถึงอยู่ในขณะนี้อยู่ในประเทศเม็กซิโก เป็นทะเลที่มีสีสันประหลาดมาก เพราะมันเป็นสีชมพู เชื่อว่าผู้ที่คลั่งไคล้อินสตาแกรมหลายๆ คนก็อยากที่จะไปเก็บภาพสวยๆ จากที่นี่มาอัพให้ชาวโลกได้ดูเหมือนกัน     ทะเลสาบแห่งนี้ถูกพบอยู่ในหมู่บ้านของชาวประมง Las Coloradas ชายฝั่งตะวันออกของเม็กซิโก มันไม่ใช่เวทย์มนต์หรือการโฟโต้ชอปใดๆ เพราะมันเป็นชมพูอมสีแดงแบบนั้นจริงๆ ส่วนที่ว่ามันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไงนั้น ก็เพราะว่าในน้ำทะเลมีแพลงตอนแดงและไรทะเลเป็นจำนวนมหาศาล พวกมันมีสีแบบนี้ด้วยสารในตัวของมันเอง เปลี่ยนให้น้ำกลายเป็นสีชมพูไปโดยปริยาย     นอกจากน้ำทะเลสีชมพูและชายหาดสีน้ำตาลแล้ว ที่ชายหาดยังมีกองทรายสีขาวๆ มาขั้นระหว่างกลางด้วย สาเหตุก็เพราะว่าครั้งหนึ่งที่เมือง Las Coloradas เคยถูกใช้เป็นเหมืองขุดเกลือมาก่อน ทำให้เศษซากของเกลือยังคงหลงเหลือและเกาะรวมกันเป็นคราบขาวๆ นั่นเอง   . . . . . .   นี่ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่โรแมนติกเอามากๆ เลยนะ ว่าแล้วเราก็ออกเดินทางกันเลย!! ที่มา boredpanda

  • ไปดูการขึ้นรถไฟของประเทศ “ญี่ปุ่น vs. เม็กซิโก” ถ้ามันจะต่างกันขนาดนี้!!

    ไปดูการขึ้นรถไฟของประเทศ “ญี่ปุ่น vs. เม็กซิโก” ถ้ามันจะต่างกันขนาดนี้!!

    รถไฟ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟฟ้า หรือจะเป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน ในแต่ละประเทศก็จะมีธรรมเนียมการขึ้นที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมและนิสัยของคนประเทศนั้นๆ ถ้าพูดถึงประเทศญี่ปุ่น เราก็พอจะนึกออกใช่ไหมว่าบ้านเมืองของเขาเป็นระเบียบมากแค่ไหน ทุกอย่างที่นั่นต้องเป็นไปตามแบบแผนเป๊ะๆ ขึ้นบันไดเลื่อนก็ต้องชิดขวา เว้นด้านซ้ายให้คนเดินขึ้น การขึ้นรถไฟก็เช่นกัน   ที่ญี่ปุ่นนั้นเวลาจะขึ้นรถไฟ ก็จะมีแถวให้คนยืนรอตรงประตูเลย พอรถไฟหยุดก็จะให้คนที่อยู่ในรถออกมาก่อน แล้วคนที่ต่อแถวรอก็จะเดินเข้าไปเมื่อไม่มีคนเดินออกมาแล้ว เป็นอะไรที่เพอร์เฟ็กต์มากๆ   แต่สำหรับเม็กซิโกที่เราไม่ค่อยรู้จักบ้านเมืองเขาเท่าไหร่ เขามีวิธีการขึ้นรถไฟที่แปลกมากๆ เลย Watanuki :v ก็เลยทำการเปรียบเทียบการขึ้นรถไฟของสองประเทศนี้ออกมาเป็นคลิป เราไปดูกันว่ามันจะต่างกันแค่ไหน   อื้อหืออออ ข้างในว่าแน่นแล้วนะ คนที่ดันเข้าไปนี่คิดอะไรอยู่ 5555555 ที่มา Watanuki :v

  • ตำรวจพบอุโมงค์ขนส่งยาเสพติด ซ่อนอยู่ชั้นใต้ดินระหว่างชายแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก

    ตำรวจพบอุโมงค์ขนส่งยาเสพติด ซ่อนอยู่ชั้นใต้ดินระหว่างชายแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก

    แม้ว่าจะมีมาตรการในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่รุนแรงมากแค่ไหนก็ตาม แต่ด้วยมูลค่าอันสูงลิบลิ่วของยาเสพติดนั้น ก็ยังคงมีขบวนการขนส่งยาเสพติดเกิดขึ้นอยู่เสมอ นับวันก็ยิ่งแนบเนียนเหนือชั้นกว่าภาพยนตร์แล้ว     โดยเมื่อไม่นานมานี้เจ้าหน้าตำรวจจากทั้งฝั่งสหรัฐฯ และเม็กซิโกได้บุกเข้าทลายแหล่งขนส่งยาเสพติดในเมืองตีฮัวนา ประเทศเม็กซิโก ซึ่งภายในโกดังต้องสงสัยนี้มีเส้นทางขนส่งยาใต้ดินเป็นอุโมงค์ที่ทอดตัวยาวไปไกลถึงโกดังในเมือง แซนดีเอโก ประเทศสหรัฐฯ     เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดของกลางได้เป็นกัญชาจำนวน 12 ตัน และจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการค้ายาได้จำนวน 22 ราย โดยใช้เวลาในการสืบสวนการลักลอบขนยาของแก๊งค์นี้ประมาณ 6 เดือนเต็มๆ มูลค่ากัญชาทั้งหมดที่ยึดมาได้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 217 ล้านบาท     สำหรับตัวหัวหน้าแก๊งค์ Jaoquin El Chapo สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้อย่างหวุดหวิด โดยอาศัยช่องทางจากอุโมงค์ขนส่งยานี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพบกับอุโมงค์ดังกล่าวที่ซ่อนอยู่ใต้ดินมานานแสนนาน ที่มา : unilad

  • กลุ่มนักท่องเที่ยวถูกทหารอียิปต์ถล่มยิงเสียชีวิต 12 ราย เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มนักรบหัวรุนแรง!?

    กลุ่มนักท่องเที่ยวถูกทหารอียิปต์ถล่มยิงเสียชีวิต 12 ราย เพราะคิดว่าเป็นกลุ่มนักรบหัวรุนแรง!?

    เรื่องอันน่าสลดใจกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ที่ได้เข้าไปท่องเที่ยวในประเทศอียิปต์โดยมากันเป็นขบวนรถยนต์ 4 คัน แล่นในเขตทะเลทรายภาคตะวันตกในประเทศอียิปต์ ซึ่งได้แล่นเข้าไปในพื้นที่ต้องห้ามของเขตวาฮัต และยังเป็นแหล่งกบดานของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง ISIS อีกด้วย     เจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติการไล่ล่าอยู่มาพบเข้าก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นขบวนของกลุ่มนักรบหัวรุนแรง จึงเปิดฉากยิงถล่มกลางทะเลทรายทันที!!     และในที่สุดก็พบความจริงว่าเป็นรถยนต์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเม็กซิกัน ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีก 10 ราย ไม่ใช่กลุ่มนักรบหัวรุนแรงที่นำโดยกลุ่ม ISIS เพื่อต่อต้านกองทัพอียิปต์แต่อย่างใด ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย ผลสรุปก็คือเป็น ‘ความเข้าใจผิด’ และแสดงความรับผิดชอบโดยนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาล     ทางด้านผู้นำเม็กซิโกเองเกิดอาการไม่พอใจเป็นอย่างมากและประณามเหตุการณ์ความรุนแรงในครั้งนี้ โดยเรียกร้องให้ทางอียิปต์ทำการสอบสวนเรื่องราวทั้งหมดให้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุด ที่มา : mirror

  • จี๊ดใจไปอีก!! ศิลปินเม็กซิกันสื่อหายนะโลกลางๆ ด้วยการลงทุนสะสมขยะทั่วโลกมาจัดเป็นชุดภาพสุดแนว

    จี๊ดใจไปอีก!! ศิลปินเม็กซิกันสื่อหายนะโลกลางๆ ด้วยการลงทุนสะสมขยะทั่วโลกมาจัดเป็นชุดภาพสุดแนว

    แม้ว่าปัญหาโลกแตกต่างๆ มักเป็นโจทย์ที่ยากเกินจะสรรหาเหตุผลอันเหมาะสมจะเป็นคำตอบได้ แต่ด้วยทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์แล้ว ก็สามารถตอบปัญหาโลกให้กับเราได้มากนักต่อนักแล้วเช่นกัน ทว่าน่าแปลกใจที่ ‘ปัญหาขยะ’ ที่เราทุกคนต่างได้เรียนรู้กันมาทั้งนั้นว่าควรจะจัดการแก้ไขมันอย่างไร ถึงจะไม่ทำให้ขยะล้นโลก แต่สภาพของธรรมชาติที่ถูกทำลายเพราะขยะกลับมีมากขึ้นทุกทีๆ T_T     และเหมียวคิดว่า ‘Alejandro Durán’ ศิลปินชาวเม็กซิกันผู้ไปอาศัยในบรุคลิน นิวยอร์ก ท่านนี้ คงจะคิดไม่ต่างกับเหมียว จึงได้คลอดโปรเจ็คต์ภาพถ่ายชุดที่ 4 ที่ชื่อว่า “Washed Up” ขึ้นมาล่ะ!!     ภาพชุดนี้ได้รับการการันตีด้วยรางวัลจากคณะกรรมการของ Center Exposing Photography และกำลังจะถูกนำไปจัดแสดงในนิทรรศการที่ Habana Outpost ร้านอาหารพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของบรุคลิน และที่พิพิธภัณฑ์ขยะ Xo kI’In Retreat Center ในเม็กซิโก     เขาสามารถสื่อให้เห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมผ่านขยะพลาสติกและมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อโลก ด้วยการสะสมขยะพลาสติกทั่วโลก แล้วนำมาถ่ายทำที่ Sian Ka’an พื้นที่อนุรักษ์ขนาดใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก ซึ่งมันทำให้เรามองเห็นของสองสิ่งที่ไม่ควรอยู่ด้วยกัน มาจัดวางไว้ในพื้นที่เดียวกัน        …