Tag: เรียนต่อ
-
เตือนภัยผู้หญิงที่ “อยู่คนเดียว” ฝรั่งตามรังควาญชีวิตสาวไทยจนน่ากลัว เหตุเพราะเธอไม่เล่นด้วย
วันนี้มีเรื่องราวมาเตือนภัยสาวน้อยสาวใหญ่ที่อาศัยอยู่คนเดียว โดยเฉพาะในต่างประเทศ… ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวไทย นบ ได้ออกมาเล่าเรื่องราวของเพื่อนสาวตน ให้ชาวเน็ตได้ตระหนักถึงภัยอันตรายของการเป็นผู้หญิงที่อาศัยอยู่คนเดียวในต่างแดน เธอเล่าว่า เพื่อนสาวของตนที่ปัจจุบันไปศึกษาต่อที่ซานฟรานซิสโกนั้น ถูกหนุ่มต่างชาติตามจีบ แต่ทว่าเพื่อนสาวของเธอ ไม่ได้ชอบและไม่เล่นด้วย ชายคนดังกล่าวจึงนำสิ่งสกปรกทั้งหลายเช่น สีน้ำมันและเศษขยะต่างๆ มาปาใส่ประตูหน้าห้องเพื่อกลั่นแกล้ง เพื่อนสาวของเธอต้องทนเจอสิ่งเหล่านี้ถึงหกเดือน แต่ล่าสุดก็จับตัวชายผู้กระทำผิดได้ เพราะชายคนดังกล่าวได้บุกเข้าไปทำร้ายหญิงสาวขณะทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านอาหาร สภาพหน้าประตูห้องของสาวที่ถูกหนุ่มแอบนำสิ่งสกปรกมาสาด สีน้ำมัน และเศษขยะ . . ล่าสุดผู้ใช้ทวิตเตอร์ นบ ก็ได้ออกมาบอกว่าขณะนี้ชายหนุ่มผู้ก่อเหตุถูกจับกุมแล้ว ส่วนสำหรับคนที่สงสัยว่าฝ่ายหญิงไปทำอะไรเขาไว้ก่อนหรือไม่นั้น ทาง นบ ผู้เป็นเพื่อนของฝ่ายหญิงก็ออกมาตอบเรียบร้อยแล้ว เธอบอกว่า ไม่อยากให้ถามแบบนี้ ทางเพื่อนของตนไม่เคยยุ่งหรือแม้แต่คุยกับชายคนดังกล่าวเลย ฉะนั้นจึงไม่เคยคบกัน สำหรับกรณีนี้เธอกล่าวว่า ฝ่ายชายน่ามีอาการทางจิตแน่นอน ก่อนหน้านี้ วีรกรรมของชายที่ตามตื๊อจีบสาวไทยคนดังกล่าวนั้นมีอีกมาก ขณะที่ทางฝ่ายหญิงได้ทำการตั้งกล้องเพื่อจะถ่ายผู้ที่นำสิ่งสกปรกมาสาดหน้าห้อง ปรากฏว่าไม่มีใครโผล่มาเลย แต่พอเอากล้องออก กลับมีคนมาสาดอีก นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวยังเคยโทรฯ ไปสั่งอาหารในร้านที่ฝ่ายหญิงทำงานเป็นร้อยสาย แต่ไม่มารับ แถมบางครั้งมีการสั่งให้ส่งถึงบ้าน แต่ระบุที่อยู่เป็นเลขที่ห้องของฝ่ายหญิงทั้งๆ ที่ฝ่ายหญิงไม่ได้สั่ง ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้ชายหนุ่มถูกจับก็คือ เขามายังร้านอาหารที่ฝ่ายหญิงทำงานอยู่โดยบังเอิญ พอเจอหน้ากัน ฝ่ายชายกลับเขามาด่าทอด้วยคำหยาบคาย มีการทำร้ายร่างกาย ตบหัว…
-
หนูน้อย ป.5 ร่ำไห้ หมดสิทธิ์เรียนต่อ เพราะแม่ไม่แจ้งเกิด ไหนจะต้องดูแลยายพิการอีก!!
อีกหนึ่งเรื่องราวสุดเศร้าที่ต้องการความช่วยเหลือ เมื่อมีชาวเน็ตนามว่าคุณ Yuwatida Thomrongnisakron ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความถึงเด็กหญิง 11 ขวบที่ตอนนี้อาศัยอยู่กับย่าที่พิการ กำลังร่ำไห้พร้อมขอความช่วยเหลือ ภาพดังกล่าวนั้นถูกโพสต์ลงบนโซเชียลเมื่อวันที่ 23 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งข้อความของคุณ Yuwatida ก็ได้ระบุว่า “หนูอยากเรียนต่อค่ะ…. เด็กคนนี้ไม่มีใบเกิดไม่สามารถจะเรียนหนังสือต่อได้” หนูน้อยคนดังกล่าวนั้นกำลังศึกษาอยู่ชั้นป.5 แต่ว่าเธอนั้นไม่สามารถที่จะเรียนต่อได้ เพราะว่าเธอเป็นเด็กที่เกิดมาแล้วไม่ได้รับการแจ้งเกิดโดยมารดาของเธอ ทำให้หนูน้อยคนนี้จึงไม่มีเลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักที่ทางโรงเรียนต้องการเพื่อใช้ในการเรียนต่อ ด้านคุณ Yuwatida จึงขออาสาเป็นกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือหนูน้อยคนดังกล่าว โดยเธอได้ร้องขอคำแนะนำจากชาวเน็ตเกี่ยวกับวิธีการแก้ไขปัญหาให้แก่น้องคนนี้ เพราะเธอไม่ต้องการให้หนูน้อยที่แสนกตัญญูต้องหมดโอกาสเพียงเพราะเธอเกิดมาโดยผู้ปกครองที่ไม่รับผิดชอบ หนูน้อยคนดังกล่าวนั้นอาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 12/2 ม.2 ต.เนินเพิ่ม ต.นครไทย จ.พิษณุโลก ซึ่งเธออยู่กับย่าที่พิการเพียงแค่สองคน และผลการเรียนก็ไม่ได้แย่เลย ออกจะเป็นคนขยันเสียด้วยซ้ำ เพราะล่าสุดเธอมีผลการเรียนอยู่ในอันดับที่ 6 ของห้องเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือและคำแนะนำมากมายจากชาวเน็ต คุณ Yuwatida ก็ได้ออกมาอัปเดตเพิ่มเติมแล้วว่า หนูน้อยนั้นสามารถเรียนต่อและเข้าสอบ Onet ได้ตามปกติด้วยการใช้รหัส G ซึ่งเป็นรหัสที่สามารถสุ่มตัวเลข 13 หลักขึ้นมาเพื่อการศึกษาได้…
-
หากว่าการสอบเข้า Harvard มันยากแล้ว… ขอบอกเลยว่า 10 เรื่องต่อไปนี้ยากยิ่งกว่าซะอีก!!
มหาวิทยาลัย Harvard University ถือเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก จึงไม่แปลกเลยที่จะมีผู้คนมากมายจากทั่วโลกต่างก็อยากเข้ามาสมัครเรียนที่นี่กันทั้งนั้น ในแต่ละปีมียอดตัวเลขผู้สมัครสูงถึง 34,000 คนเลยทีเดียว!! แต่ในจำนวนผู้สมัครที่มากมายขนาดนี้จะมีผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าเรียนเพียง 5.9% หรือถ้าคิดเป็นจำนวนคนก็ประมาณ 1,700 คนเท่านั้น แน่นอนว่าอีก 32,000 กว่าคนที่เหลือก็ต้องผิดหวังและกลับบ้านไปทั้งหมด แหม่ ฟังดูแล้วเพื่อนๆ อาจจะคิดว่าการเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย Harvard เป็นอะไรที่หินแบบสุดๆ แล้วใช่มั้ยล่ะ? แต่ขอบอกเลยว่านายคิดผิด!! เพราะยังมีเรื่องที่ยากยิ่งกว่านี้ซะอีก ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ลองตามไปชมพร้อมๆ กันที่ข้างล่างได้เลย…กับ 10 เรื่องที่ยากยิ่งกว่าการสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย Harvard 1. การสมัครเข้าทำงานในบริษัทกองทุนบริหารความเสี่ยงขนาดยักษ์อย่าง Citadel LLC การหางานเกี่ยวกับการเงินใน Wall Street ว่ายากแล้ว การเข้าทำงานในบริษัท Citadel ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลย แต่ล่าสุดผู้ก่อตั้งและ CEO Ken Griffin ที่เป็นศิษย์เก่าจากมหาวิทยาลัย Harvard ก็ได้มีการเปรยๆ ออกมาถึงแผนการในอนาคตของ Citadel ว่าเขาต้องการที่จะเปิดรับสมัครและสัมภาษณ์คนมากกว่า 10,000…