Tag: เรือนจำ
-
อดีตนักโทษมะกันเสีย ‘อวัยวะเพศ’ จากมะเร็ง โร่ฟ้องเรือนจำปล่อยโรคไร้การ “วินิจฉัย”
เรื่องราวชวนปวดหัวในวันนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับนาย Keith Jackson วัย 49 ปี ที่ต้องเสียอวัยวะเพศไปเนื่องจากโรคมะเร็ง Keith Jackson เคยเป็นผู้ต้องขังในรัฐนอร์ทแคโรไลนา เขาถูกจับกุมในข้อหาพกพาอาวุธปืนอย่างผิดกฎหมายและก่ออาชญากรรมร้ายแรง หลังจากนั้นเขาเสียอวัยวะเพศจากโรคมะเร็ง เขาจึงโทษเรือนจำที่ไม่ตรวจอาการเขาก่อนหน้านี้ Keith Jackson วัย 49 ปี ในช่วงเวลา 15 เดือนแรกที่เขาถูกขังอยู่ในเรือนจำ เขาก็เริ่มมีอาการเจ็บปวดที่แผลบนอวัยวะเพศของตนเอง มันเริ่มบวมช้ำและมีเลือดออกมาก ข้อมูลจากบันทึกทางการแพทย์ของ Keith พบว่าเขาถูกวินิจฉัยว่ามีการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะเพศหลายต่อหลายครั้ง โดยทีมแพทย์เชื่อว่าเขาได้รับเชื้อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ป้องกัน จึงให้ยาปฏิชีวนะแก่เขา ภายหลังทีมแพทย์ตัดสินใจ ทำการผ่าตัด Keith แต่มันก็สายเกินไปเพราะอาการของมะเร็งได้ลุกลามจนทำลายอวัยเพศของเขาไปแล้ว นั่นทำให้ Keith ต้องการให้ทางเรือนจำและทีมแพทย์ในเรือนจำออกมารับผิดชอบ ที่ปล่อยให้อาการของโรคมะเร็งลุกลามในตัวเขาโดยที่ไม่มีการตรวจวินิจฉัย Keith กล่าวว่า… “ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องออกมารับผิดชอบเรื่องนี้ และสิ่งที่ผมต้องการจริงๆ ก็คือ ‘ความช่วยเหลือ’ เท่านั้นเอง” สุดท้ายเขาก็ยื่นเรื่องฟ้องรัฐบาลกลางภายใต้กฎการฟ้องร้องของภาคเอกชนต่อภาครัฐบาล นอกจากนี้เขายังฟ้องเรือนจำอีก 6 แห่งที่เขาเคยถูกขัง และสถานรักษาพยาบาลอีก 2 แห่งอีกด้วย Keith…
-
นักโทษบังเอิญฆ่าตัวตายในห้องขัง เพราะพยายาม “สำเร็จความใคร่” ด้วยสายไฟฟ้า
ชายผู้เป็นฆาตกรต่อเนื่องที่มีเหยื่อเป็นหญิงสาว 5 ราย ถูกพบเสียชึวิตในห้องขังพร้อมพบสายไฟฟ้าบริเวณอวัยวะเพศและหัวนม Egidius Schiffer หรือมีฉายาว่า Aachen Strangler นั้นถูกเชื่อว่าบังเอิญฆ่าตัวเองตายขณะที่ใช้สายไฟฟ้าในการ “ช่วยตัวเอง” ให้สำเร็จความใคร่ในเรือนจำ Bochum ประเทศเยอรมนี ร่างศพของเขาถูกพบเมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม 2018 ในสภาพที่มีสายไฟฟ้าจากโคมไฟแปะติดเอาไว้กับหลายๆ ส่วนบนร่างกายของเขา ขณะที่เต้าเสียบถูกเสียบอยู่ในปลั๊กไฟ Egidius Schiffer Schiffer ถูกจับกุมในข้อหาฆาตกรรม ก่อนหน้านี้เขาได้ทำการฆาตกรรมเหยื่อเพศหญิง 5 รายเมื่อปี 1983 ถึง 1990 และถูกศาลตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต เขาถูกตัดสินจำคุก 18 ปีให้หลังจากการฆาตกรรมครั้งสุดท้ายของเขา เพราะในปี 2008 เจ้าหน้าที่ได้รับ DNA ของเขามาจากการที่เขากลายเป็นผู้ต้องหาในคดีลักขโมยเศษเหล็ก จึงทำให้โยงกลับไปยังการฆาตกรรมต่อเนื่องเมื่อ 18 ปีก่อนหน้านี้ได้ เหยื่อ 5 รายของเขาเป็นเพศหญิงทั้งหมด และมีอายุตั้งแต่ 15 ถึง 31 ปี และเขาก็ยังได้ทำการข่มขืนเหยื่อ 3 รายจากทั้งหมดด้วย …
-
10 ภาพของวิถี ‘คนคุก’ กับเรือนจำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิต ผู้หลงผิดในนิยามที่ต่างกัน
อาชญากรเลือกกระทำความผิดที่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง เมื่อถูกจับได้จะต้องนำตัวไปปรับทัศนคติตามหลักกฎหมายและมนุษยธรรม เมื่อถึงเวลาอันสมควรก็จะได้รับการปล่อยตัวออกมาสู่สังคมอีกครั้ง ในช่วงเวลาระหว่างการใช้ชีวิตในเรือนจำของแต่ละประเทศนั้นจะไม่เหมือนกัน เนื่องจากแต่ละท้องที่จะนิยามและให้การดูแลสวัสดิการตามกำลังที่มี บวกกับแนวคิดที่ยังคงตีกรอบเอาไว้ตามความเหมาะสม… เรือนจำ Aranjuez ประเทศสเปน เรือนจำ Aranjuez ยอมให้พ่อแม่และเด็กอยู่ด้วยกัน ในช่วงที่หนึ่งในสมาชิกครอบครัวของจองจำ พร้อมกับการตกแต่งห้องขังให้บรรยากาศครอบครัว มีเนอร์เซอรี่ และสนามเด็กเล่น เพื่อไม่ให้เด็กรับรู้ได้ว่ากำลังใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำในขณะที่พ่อแม่ถูกขัง เรือนจำ Luzira ประเทศยูกันดา ผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งนี้จะมีหน้าที่รับผิดชอบจำนวนมาก ทั้งการดูแลกลุ่มของตัวผู้ต้องขังเอง แบ่งออกเป็นหน่วยช่วยกันรับผิดชอบ การปลูกพืชผักและเก็บเกี่ยวมาทำอาหาร พร้อมกับแจกจ่ายให้กับทุกคนภายในเรือนจำ พร้อมทั้งสอนทักษะวิชาชีพอย่างช่างไม้ให้ เมื่อพ้นโทษไปแล้วอัตราการกระทำผิดซ้ำของที่นี่มีเพียง 30% เท่านั้น เมื่อเทียบกับอังกฤษ 46% และสหรัฐฯ 76% เรือนจำ Bastøy ประเทศนอร์เวย์ เรือนจำแห่งนี้เป็นเรือนจำขนาดใหญ่แต่เข้มงวดน้อย อันเป็นสถานที่จองจำฆาตกรและพวกข่มขืน ตั้งอยู่บนเกาะ Bastøy ในชื่อเดียวกันและกินพื้นที่บนเกาะทั้งหมด มีเพียงส่วนชายหาดทางตอนเหนือของเกาะที่เปิดให้ประชาชนคนทั่วไปเข้ามาได้ เรือนจำเปรียบได้เสมือนชุมชนขนาดเล็ก มีอาคาร 80 หลัง ถนนพื้นที่ชายหาด ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรม สนามฟุตบอล พื้นที่เพาะปลูกและป่า…
-
ประเทศกรีนแลนด์เตรียมเปิดตัวเรือนจำสุดหรู ประดุจรีสอร์ต พร้อมให้บริการปี 2019
ถ้าพูดถึงเรือนจำที่เอาไว้ขังนักโทษโดยปกติทั่วไปเราคงคิดว่าน่าจะมีสภาพที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่ ภายในอาจจะสกปรกหรือให้ความรู้สึกอึดอัดเป็นแน่แท้ แต่เรือนจำที่เราจะนำมาให้คุณได้ดูในวันนี้ จะทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับคุกที่ว่ามันต้องสกปรก ต้องออกแบบธรรมดาๆ ไปเลย เพราะนี่คือ “Ny Anstalt” เรือนจำที่มีมนุษยธรรมที่มีการออกเหมือนกับรีสอร์ตสุดหรูหรา ที่กำลังจะเปิดให้บริการภายในประเทศกรีนแลนด์ ในปี 2019 เรือนจำ Ny Anstalt นี้เป็นผลงานที่ได้มาจากการแข่งขันออกแบบเรือนจำแบบใหม่ที่จะตั้งอยู่ในมหานคร Nuuk ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศกรีนแลนด์ ที่นี่มีห้องขังทั้งหมด 76 ห้องแบ่งเป็นห้องขังแบบปิด 40 และห้องขังแบบเปิดอีก 36 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีเนื้อที่ 12 ตารางเมตร แม้ว่าพื้นที่แต่ละห้องจะดูเล็ก แต่นักโทษก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการชมวิวสวยๆ ของภูเขา Sermitsiaq ที่อยู่ล้อมรอบเรือนจำนี้ได้ และใน Ny Anstalt ยังมีพื้นที่ให้นักโทษได้มานั่งพบปะสมาคมรวมถึงห้องครัว ศูนย์การกีฬา ห้องสมุดและโบสถ์ให้ได้ใช้บริการกันอีกด้วยอีกด้วย จุดประสงค์ของการออกแบบเรือนจำหรูหราหลังนี้ เพราะนักโทษจะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวและมีปัญหาเรื่องการปรับตัวเวลาที่พ้นโทษและได้กลับเข้าสังคมอีกครั้งหนึ่ง และที่พิเศษคือนักโทษของเรือนจำนี้สามารถที่จะเข้าไปในเมืองเพื่อทำงานหาเงินได้ แต่ต้องกลับมาเรือนจำทุกๆ เย็น ลักษณะเด่นของเรือนจำนี้คือการที่ใช้กระจกมาเป็นวัสดุในการก่อสร้าง นักโทษที่มาถึงจะได้มองเห็นเข้ามาในตัวของเรือนจำได้ เพื่อช่วยอาการบอบช้ำทางจิตใจ โครงการนี้กินพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 8,000 ตารางเมตร ซึ่งถูกสร้างมาเพื่อตอบสนองต่อวิกฤตการณ์การขาดแคลนเรือนจำแบบปิด ซึ่งทำให้ต้องส่งนักโทษอันตรายไปอยู่ที่ Herstedvester ประเทศเดนมาร์ก…
-
เรื่องราวของ ‘คุกโลมาดำ’ ที่ไม่ได้น่ารักเหมือนชื่อ เพราะนี่คือคุกที่โหดที่สุดในรัสเซีย
คงไม่มีใครอยากติดคุก การต้องติดอยู่ห้องขังหรือรั้วกั้นที่ทำให้เราไม่ได้รับอิสรภาพและไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ ภายนอกเป็นเรื่องที่น่ากลัวเกินบรรยาย แล้วยิ่งถ้าเป็นคุกที่ขึ้นชื่อว่า “โหดที่สุด” แล้ว มันก็ยิ่งเลวร้ายมากกว่านั้น เหมือนกับสถานที่แห่งนี้ นี่คือคุกที่ชื่อว่า Black Dolphin หรือแปลไทยก็คือ โลมาดำ ตั้งอยู่บนชายแดนประเทศคาซัคสถาน เป็นคุกที่เรียกได้ว่า “โหดที่สุดในรัสเซีย” และการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเอามากๆ มันโหดขนาดไหนและนักโทษภายในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง เราลองไปสำรวจกันผ่านภาพเหล่านี้ ชื่อของคุกถูกตั้งขึ้นมาอย่างไม่เป็นทางการ จากนักโทษที่ได้เห็นรูปปั้นที่ตั้งอยู่ด้านหน้า ในสถานที่แห่งนี้มีผู้ต้องขังอยู่ราวๆ 700 คน ทั้งฆาตกรต่อเนื่อง มนุษย์กินคน หรือผู้ก่อการร้าย ว่ากันว่าจำนวนของเหยื่อที่นักโทษในคุกแห่งนี้ลงมือสังหารมีประมาณ 3,500 คน เฉลี่ยแล้วเท่ากับ 5 คดีต่อหนึ่งผู้ต้องขัง ผู้ต้องขังเหล่านี้ส่วนมากถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต อย่างเช่นในภาพคือนักโทษ Vladimir Nikolayev หนึ่งในมนุษย์กินคน เขาได้ฆ่าชายคนหนึ่งแล้วลากไปที่ห้องน้ำเพื่อหั่นศพออกมาเป็นชิ้นๆ เขากินศพไปบางส่วน ก่อนที่จะแบ่งไปให้คนอื่นๆ ที่คิดว่านั่นคือเนื้อจิงโจ้ เพราะอย่างนั้นเองจึงทำให้ Vladimir คืออีกหนึ่งฆาตกรสุดโหดในรัสเซีย หลังจากที่นักโทษเข้ามาอยู่ในคุกแล้ว พวกเขาจะได้รับการเฝ้าดูผ่านกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง ในแต่ละห้องขังจะถูกกั้นด้วยกรงเหล็กถึง 3 ชั้น เพื่อให้ผู้ต้องขังรู้สึกเหมือนกับการอยู่ในคุกซ้อนคุก…
-
พาชมเรือนจำระดับ 5 ดาวในประเทศซาอุฯ ที่เอาไว้ขังคนใหญ่คนโต มีทุกอย่างยกเว้นอิสรภาพ
การถูกจองจำอาจจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่ว่าใครก็คงไม่ปรารถนาซึ่งความไร้อิสรภาพนี้อาจจะทำให้คนที่ถูกจองจำเกิดอาการเครียดและกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น เมื่อพูดถึงเรือนจำทุกคนก็คงจะนึกถึงสภาพของห้องขังที่ชำรุด เก่า สกปรก และสภาพแวดล้อมไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ แต่ทว่าเรือนจำที่จะมานำเสนอในวันนี้มันหรูหราซะยิ่งกว่าโรงแรม 5 ดาวซะอีก เรือนจำแห่งนี้ตั้งอยู่ในกรุงริยาร์ด ประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยสภาพภายนอกเป็นโรงแรมรีสอร์ทสุดหรู ตกแต่งไปด้วยต้นมะกอกอายุ 600 ปี และสวนปาล์มที่รายล้อมไปทั่วเรือนจำแห่งนี้ ซึ่งมีพื้นที่มากกว่า 52 ไร่ มกุฏราชกุมารโมฮัมเม็ด บิน ซัลมาน ทรงได้ออกกวาดล้างจัดการกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการคอร์รัปชั่นอย่างจริงจรัง ซึ่งผู้ต้องหาล้วนแต่เป็นนักการเมือง นักธุรกิจ และยังมีเจ้าชายอีก 11 พระองค์ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย พระองค์ทรงจัดการอย่างเด็ดขาดและไม่เว้นแต่พระญาติเพื่อเป็นการล้มล้างการคอร์รัปชั่นอย่างเด็ดขาดและเป็นธรรมที่สุด ทางการซาอุดิอาระเบียเพิ่งจะมีการเปิดให้ผู้สื่อข่าวเข้ามาทำการบันทึกภาพและเก็บข้อมูลโดยสำนักข่าว BBC เท่านั้นและได้มีการเผยแพร่ภาพเหล่านี้เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ภายในอาคารก็จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือส่วนของผู้เข้าพักโรงแรมกับส่วนที่เป็นแต่ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่แห่งนี้ก็มีครบทุกอย่าง สระว่ายน้ำ ห้องอาหารขนาดใหญ่ อาหารที่มีมากมายคอยให้บริการ บาร์เครื่องดื่ม ล็อบบี้ ห้องพัก คลิปวิดีโอภายในโรงแรม โรงแรมแห่งนี้ถึงแม้ว่าจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่างแต่อย่างใดก็ตามก็ยังไร้ซึ่งอิสรภาพอยู่ดี…
-
แหกคอกมาหาเธอ… 2 นักโทษหนีคุกไปดูดบ้องกับแฟน ก่อนรีบกลับมาที่ห้องขังเหมือนเดิม!?
เพราะความคิดถึงมันห้ามกันไม่ไหว… กลายเป็นว่า 2 หนุ่มถึงกับลงทุนแหกคุกไปหาเธอ แถมยังมีน้ำใจนักกีฬากลับมาอยู่ในคุกเนียนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น!? กลายเป็นข่าวที่เหมือนจะจริงจังแต่ก็ชวนให้ชาวเน็ตขำแตกกันได้ทั่วโลก เมื่อเว็บไซต์ Mirror ได้รายงานเรื่องราวการหลบหนีออกจากเรือนจำแห่งหนึ่งในรัฐโอคลาโฮม่าของ 2 ผู้ต้องขังที่ไม่มีใครคิดว่าหนีออกไปได้แล้ว.. ยังจะกลับมาอยู่อีก!! Harley Davidson และ Rakem Lennox โดยเจ้าหน้าที่เรือนจำได้รายงานว่าเมื่อคืนวันที่ 11 ตุลาคม เวลาประมาณ 22.30 น. ผู้ต้องขังทั้ง 2 คน (ถูกขังในห้องเดียวกัน) ได้ฉวยโอกาสจังหวะตอนที่ผู้คุมอยู่ห่างออกจากห้องขัง หนีไปทางห้องซักรีด จากนั้นได้ขโมยกุญแจจากห้องนั้นเพื่อหนีกลับไปหาแฟนสาวของทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่า 2 นักโทษต่างก็ยังมีความดีหลงเหลืออยู่ เพราะแม้พวกเขาจะหนีออกไปได้ แต่ทั้งคู่ก็ยังตัดสินใจที่จะกลับมาอยู่ในห้องขังแบบเนียนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าสุดท้ายพวกเขาก็ถูกผู้คุมจับได้อยู่ดี… Rakem Lennox โดยทั้งคู่ได้ให้การสารภาพว่า ได้แอบขโมยกุญแจจากห้องซักรีดเพื่อใช้หลบหนีไปหาแฟนสาวจริง ส่วนเหตุจูงใจก็เป็นเพราะ ‘ความคิดถึง’ และช่วงเวลาที่หนีออกไป ทั้งคู่แค่ไปดูดบ้องพี้กัญชากับแฟนสาวอย่างเพลิดเพลินใจเฉยๆ Terry Park เจ้าหน้าที่เรือนจำได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กตนเองว่า “เกิดเหตุ 2…
-
คลิปวิดีโอสุดป่าเถื่อน แสดงให้เห็นการต่อสู้เยี่ยงสุนัขของ “นักโทษที่ติดยาเสพติด”
สารเสพติดต่างๆ ก็จะมีฤทธิ์ร้ายแรงแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นการสร้างภาพหลอน หรือสั่งการให้สมองทำงานได้ช้าหรือเร็วขึ้น แน่นอนว่าผลกระทบของมันที่หากว่าใช้ไปอย่างไม่เหมาะสมหรือมากจนเกินไป สิ่งที่ตามมาก็อาจเป็นได้มากกว่าที่เราคาดคิด เมื่อได้มีคลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายในเรือนจำ Forest Bank ในแกรนด์แมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ แสดงให้เห็นนักโทษชายสองคนคลานสี่ขาตะโกนใส่กันและกัดกันเหมือนหมาสองตัวที่ต่อสู้กัน ทั้งสองคนถูกฤทธิ์ยาที่มีชื่อว่ายาซอมบี้ ซึ่งเป็นตัวยาที่จะทำให้เกิดอาการคลุ้มคลั่งได้ และสภาพของพวกเขานั้นเปลือยเปล่ามีเพียงผ้าปิดหน้ากับปลอกคอผ้าที่เอาไว้ให้ชายอีกสองคนคอยควบคุมเอาไว้เวลาที่สู้กัน ระบบการสังเคราะห์กัญชาที่สร้างแรงกดดันให้กับเรือนจำดังกล่าวเป็นอย่างมาก ทำให้มีนักโทษหลายร้อยคนที่เสพยาเสพติด นำไปสู่การทำร้ายร่างกายและนำส่งโรงพยาบาล คลิปวิดีโอการต่อสู้กันเยี่ยงสุนัขของนักโทษทั้งสอง ท่าทีของทั้งสองคนที่โดนบังคับเอาไว้เปรียบได้กับสุนัขอย่างมาก เพราะมีการแนะนำตัวชื่อสายพันธุ์ของพวกเขาก่อนที่จะเริ่มต่อสู้ เมื่อกล้องซูมเข้าไปก็มีท่าทีจะพุ่งใส่กล้อง เหมือนสัตว์ที่บ้าคลั่ง มีการขู่คำราม แต่ทว่าจากการสังเกตจะมีให้เห็นการแต่งกายของชายชุดดำสองคนที่คอยควบคุมเอาไว้ เสื้อผ้าในชุดลำลอง อีกทั้งยังมีโน๊ตบุ๊กและขวดโหลเมล็ดกาแฟ จึงทำให้ไม่แน่ใจได้ว่าแท้จริงแล้วสถานที่นั้นอยู่ไหนกันแน่ และในคลิปชายคนหนึ่งก็ได้บอกกลับกล้องอีกว่า “เรากำหนดให้หนึ่งในสัตว์สองตัวนี้ต้องมีเลือดออก นั่นหมายความว่าผู้ที่แข่งแกร่งที่สุดจะเป็นผู้ชนะ” จากประโยคแสดงถึงการกลั่นแกล้ง และความหละหลวมของการดูแลเรือนจำดังกล่าว สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องที่มีให้เห็นในทุกวัน ด้วยจำนวนของผู้คุมที่มีกันไม่เพียงพอที่จะจัดการปัญหา และนักโทษติดยาก็มีอยู่มาก ทำให้ต้องมีหลายคนที่ร่างกายทรุดตัวลงเพราะเสพมากจนเกินไป เป็นเรื่องที่เหนือการควบคุมทั้งสิ้น เรือนจำแห่งนี้จัดอยู่ในกลุ่มบี มีผู้ต้องหาอยู่ภายใต้การดูแลเกือบ 1,500 คน และบริหารจัดการโดยบริษัทเอกชน Sodexo การบริหารจัดการเพื่อให้ทุกคนได้อยู่ในความเรียบร้อยนับเป็นสิ่งสำคัญ เพราะถึงแม้ว่าจะเป็นนักโทษแต่พวกเขาก็ยังมีสิทธิ์ได้รับทุกอย่างเทียบเท่ากับมนุษย์ รวมถึงความปลอดภัยที่พึงมีด้วย …
-
เรือนจำโรมาเนียเปิด “ห้องคู่รัก” ให้แฟนมาเยี่ยมมีเซ็กส์กับนักโทษได้ 1 ครั้งต่อสามเดือน
เมื่อต้องติดคุกคุณจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ไม่มีอิสระ ไม่มีความสะดวกสบาย ที่สำคัญไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศกับคู่รักตัวเอง มันช่างเป็นเรื่องที่ฟังดูแย่นะ แต่ในบางประเทศ ได้มีการอนุญาติให้นักโทษที่แต่งงานแล้วมีอะไรกับสามีหรือภรรยาได้ หากพวกเขามาเยี่ยมที่เรือนจำ ซึ่งโครงการนี้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2007 โรมาเนียได้เปลี่ยนกฏหมายอาญา เพื่อให้คู่แต่งงานของนักโทษสามารถมีเพศสัมพันธ์กันได้ในห้องที่จัดเตรียมเอาไว้ Cosmin Bumbut ช่างภาพชาวโรมาเนีย ได้เดินทางไปถ่ายรูปเรือนจำต่างๆ กว่า 35 แห่ง ทั่วประเทศ และตอนนี้รูปภาพเหล่านั้นถูกตีพิมพ์ในชื่อ Camera Intimă (The Intimate Room) ซึ่งถูกเสนอชื่อให้เข้ารับรางวัล Sony World Photography Awards สาขาสถาปัตยกรรม Cosmin บอกว่าระบบเรือนจำในโรมาเนียมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากโรมาเนียได้เข้าร่วมสหภาพยุโรปในปี 2007 โดยการเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดคือการอนุญาตให้นักโทษมีเซ็กส์ได้ นักโทษที่แต่งงานแล้วจะมีสิทธิมีเซ็กส์กับภรรยาหรือสามีได้ 1 ครั้งในทุกๆ 3 เดือน (ครั้งละ 2 ชั่วโมง) ในห้องส่วนตัวที่เรือนจำจัดเตรียมไว้ให้ เมื่อ Cosmin ได้ไปถ่ายรูปที่เรือนจำในเมือง Aiud ของโรมาเนีย เมื่อปี 2008…
-
เรือนจำ Norway ได้ชื่อว่า ‘คุกที่สบายสุดในโลก’ แต่แก้ไขปัญหาอาชญากรรม ได้ผลดีมาก!!!
สวัสดีเพื่อนๆทุกคน วันนี้ #เหมียวบ็อบ ก็มีเรื่องราวไกลตัวมาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องราวของสภาพการเป็นอยู่ของนักโทษในเรือนจำจากประเทศ นอร์เวย์ ประเทศที่เกิดอาชญากรรมน้อยที่สุดในโลก ที่จะทำให้ทุกๆคนได้อิจฉาไปตามๆกันว่าทำไมเค้าอยู่กันสบายจังว้าาาา…. แต่ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า เดิมทีเค้ามีตรรกะความเชื่อที่ว่า การที่คนๆหนึ่งก่อเหตุอาชญากรรมนั้นมีสาเหตุมาจากการที่คนๆนั้นไม่ได้มีคุณภาพชีวิตการเป็นอยู่ที่ดี จึงมีนโยบายการนำผู้กระทำผิดมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี ในสังคมที่ดีกว่าเดิม เพราะพวกเขาเชื่อว่าการแสดงให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตที่ดีจะสร้างแรงจูงใจที่ดีให้แก่นักโทษต่อไป หลังจากที่พวกเขาได้รับอิสระภาพ เอาล่ะ ที่นี้ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าพวกเขามีการเป็นอยู่กันอย่างไรบ้าง เริ่มต้นด้วยห้องพักส่วนตัวของนักโทษ แหม่….ทำไมมันดูสะอาดและช่างน่าอยู่ขนาดนี้ นักโทษที่นี่ยังได้รับสิทธิในการครอบครองอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ส่วนตัวต่างๆอีกด้วย นี้คือตัวอย่างห้องขังส่วนตัวของนักโทษคนหนึ่ง เชื่อแล้วว่าคุณภาพชีวิตเค้าดีจริงๆ ในเวลาว่างพวกเขาสามารถที่จะใช้เวลาในการผ่อนคลายหลังเวลางานด้วยการเล่น Xbox หรือ PlayStation ได้อีกด้วยนะ (ให้สังเกตุที่หน้าผู้คุมว่าแอบลุ้นกับนักโทษขนาดไหน) หรือใครที่รักในเสียงดนตรี จะมาตั้งวงดนตรีกันที่นี่ก็ได้นะ แค่ได้เล่นดนตรีมันยังน้อยไป… ยังมีสตูดิโอห้องอัดเสียงสำหรับนักโทษอีกด้วย แถมไม่พอได้ทำงานร่วมกับ ซาวด์ เอ็นจิเนียร์ ระดับมืออาชีพอีกด้วย กีฬาต่างๆก็มีให้เล่นเหมือนกัน เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของนักโทษทุกคน นักโทษคนไหนที่เจ็บป่วย มีแพทย์คอยบริการอยู่เสมอนะจ๊ะ กำแพงหรืออาคารต่างๆของเรือนจำมักจะตกแต่งด้วยสีต่างๆ เพื่อความสบายตาและทำให้ดูไม่ตึงเครียด สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ผู้คุมที่นี่ไม่มีสิทธิพกพาอาวุธ ลืมเรื่องละเมิดสิทธิทำร้ายร่างกายแบบบางประเทศไปได้เลย…
-
เรือนจำจากแอริโซนาผุดไอเดีย บำบัดจิตใจนักโทษ ให้เป็นพี่เลี้ยงน้องๆ ในศูนย์พักพิง…
สำหรับผู้ต้องหาที่ทำความผิดตามกฎหมายและต้องเข้าไปชดใช้ความผิดในเรือนจำนั้น การบำบัดจิตใจและการฟื้นฟูความประพฤติถือเป็นส่วนหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้พวกเขากลับมาอยู่ร่วมกับสังคมได้อีกครั้ง และที่เรือนจำแห่งหนึ่งจากเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา ได้ผุดไอเดียจับมือร่วมกับศูนย์ช่วยเหลือพักพิงสัตว์เลี้ยง ในการพานักโทษไปบำบัดฟื้นฟูจิตใจ โดยให้พวกเขากลายเป็นพี่เลี้ยงแทนซะเลย ‘โครงการนี้จะช่วยฟื้นฟูทั้งจิตใจของนักโทษ และสัตว์เลี้ยงที่ส่วนใหญ่มักจะถูกเจ้าของทิ้งมา ซึ่งเราเชื่อว่าน่าจะเป็นอีกหนึ่งทางออกที่ดี สำหรับปัญหาการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจพวกเขาทั้งหลาย’ เจ้าหน้าที่ William Sibole ให้สัมภาษณ์ ตัวอย่างนักโทษสาวคดียาเสพติด ที่ตอนนี้มีเพื่อนสุนัขคอยอยู่เคียงข้าง สัตว์เลี้ยงจากศูนย์พักพิงทุกตัวจะได้รับการตรวจสุขภาพ เมื่อพวกมันแข็งแรงดี เจ้าหน้าที่ก็จะพาทั้งนักโทษ และสัตว์เลี้ยง มาใช้เวลาร่วมกัน สำหรับสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย เมื่อสภาพร่างกาย และจิตใจของพวกมันพร้อมแล้ว เจ้าหน้าที่ก็จะประกาศหาบ้านให้พวกมันต่อไป Aubrey Herrera นักโทษคดียาเสพติดและความรุนแรง วัย 31 ปี ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับโครงการที่เธอได้เข้าร่วมว่า ‘ระหว่างพวกเรา และสัตว์เลี้ยงทุกตัวต่างเข้าใจกันดี พวกมันทุกคนถูกสังคมทอดทิ้ง ถูกเลี้ยงดูอยู่ในกรง และไม่มีซึ่งอิสระจนกว่าจะได้เจอบ้านหลังใหม่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามาที่นี่ มันช่วยทำให้เราลืมเรื่องของตัวเราเอง และทำให้เราหันมาสนใจที่จะมอบความรัก และความอบอุ่นให้พวกมันแทน’ Herrera กับการฝึกสุนัขของเธอ อีกแง่หนึ่งมันช่วยทำให้เธอรู้สึกมีคุณค่าในตัวเองขึ้นมาอีกครั้ง…
-
เกือบเนียน!? นักโทษแต่งหญิง เพื่อหวังจะแหกคุก เจ้าหน้าที่รู้ทันเพราะเดินท่าแปลกๆ
Francisco Herrera Argueta นักโทษชายวัย 55 ปี พยายามแหกคุกออกจากเรือนจำด้วยการปลอมตัวเป็นผู้หญิง แต่ไม่สำเร็จถูกเจ้าหน้าที่จับได้ซะก่อนเพราะท่าทางการเดินของเขาดูแปลกๆ และเสียงพูดของเขาฟังดูเหมือนผู้ชาย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมาในเรือนจำเมือง San Pedro Sula ประเทศฮอนดูรัส มีนักโทษคนหนึ่งแต่งตัวสวมวิกผม ยัดหน้าอกปลอม และสวมเสื้อผ้าปลอมตัวเป็นผู้หญิงพยายามที่จะหลบหนีออกมาจากเรือนจำในช่วงที่ปล่อยให้ญาติเข้ามาเยี่ยม แต่ตามระบบของเรือนจำนั้นญาติที่เข้ามาเยี่ยมนักโทษจะต้องฝากบัตรประชาชนไว้ที่เจ้าหน้าที่ พอขากลับก็ต้องมารับคืนจึงจะสามารถออกจากเรือนจำได้ และการปลอมตัวของนักโทษ Francisco ก็ต้องขอบอกเลยว่ามันช่างเนียนและไร้ที่ติเสียจริงๆ แต่พอมาถึงจุดทางออกที่ต้องหยิบบัตรประชาชนคืน กลับถูกจับได้ซะก่อนเพราะเจ้าหน้าที่เริ่มจับสังเกตว่าเสียงที่พูดออกมานั้นเป็นเสียงของผู้ชาย!! ทางเจ้าหน้าที่โฆษกของเรือนจำ Bayron Sauceda ได้เล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า “เจ้าหน้าที่จับพิรุธได้ตั้งแต่ทาเดินแปลกๆ ของเขาแล้ว เพราะนักโทษ Francisco ได้มีการสวมส้นสูง แต่ก็ยังคงผ่านด่านรักษาความปลอดภัยออกมาได้เรื่อยๆ จนถึงจุดที่ต้องรับบัตรประชาชนคืน” “เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ประตูทางออกถามถึงเลขบัตรประชาชนที่ต้องการหยิบคืน ก็พบว่าเสียงที่ตอบกลับมานั้นมันเป็นเสียงของผู้ชายชัดๆ!! จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ขอให้เขาถอดแว่นดำออกมาเพื่อที่จะหาบัตรประชาชนได้ง่ายขึ้น และก็ทำให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีกว่าเป็นผู้ชายปลอมตัวมา” นักโทษ Francisco อดีตนั้นเคยเป็นหัวหน้าแก๊งที่รู้จักกันในนามของ Don Chico ถูกจับเข้าเรือนจำตั้งแต่ปี 2015 ในข้อหาฆาตกรรม และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง จากการหลบหนีในครั้งนี้ทำให้เขาถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ El Pozo ที่อยู่ในเมือง Santa Barbara ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเรือนจำที่โหดร้ายมากที่สุดแห่งหนึ่งในฮอนดูรัสเลยทีเดียวเชียว แหม่…
-
เหล่านักโทษยื่นเรียกร้องให้สามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าเรือนจำได้ เพื่อบำบัดความเครียด…
มีนักโทษในเรือนจำ HM Prison Lowdham Grange ที่ตั้งอยู่ในเมือง Nottinghamshire ประเทศอังกฤษ ก่อตั้งแคมเปญให้นักโทษสามารถพก ‘ตุ๊กตายาง’ เข้าไปใช้ในเรือนจำได้!? จากการให้สัมภาษณ์ของนักโทษรายหนึ่งในเรือนจำ HM ที่เป็นผู้ก่อตั้งเคมเปญชื่อว่านาย กล่าวว่า Jack Swarez “เหล่าตุ๊กตายางจะช่วยในเรื่องของพฤติกรรมของเหล่านักโทษ เพราะพวกเขาสามารถปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศได้” นอกจากนี้เขายังกล่าวเสริมอีกว่า “ทางรัฐบาลจะไม่ต้องรับผิดชอบกับค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นกับแคมเปญนี้ เพราะเหล่านักโทษจะใช้เงินของตัวเองในการซื้อมันมาเข้ามาใช้ในเรือนจำเอง” นาย Swarez เล่าว่าถึงการทำแคมเปญนี้ขึ้นมาว่า “ปัญหาก็คือในเรือนจำของเรานั้นเต็มไปด้วยชายหนุ่มกลัดมัน และทุกๆ ครั้งที่พวกเขาจะปลดปล่อยความใคร่ของตัวเองก็มีเพียงมือข้างที่ถนัดเท่านั้น” “ซึ่งการอาศัยอยู่ในที่เรือนจำแห่งนี้ย่อมอาจทำให้นักโทษมีความเครียดสูง ฉะนั้นการหากิจกรรมลดความเครียดจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก” “ผมมีแรงบันดาลใจหลังจากได้ชมสารคดีที่ออกอากาศทางช่าง Channel 4 เป็นเรื่องราวของชายที่อาศัยอยู่ร่วมกับตุ๊กตายาง ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่มีความเครียดเลยแม้แต่น้อย พร้อมทั้งมีสีหน้าที่มีแต่ความสุขอีกต่างหาก” “นอกเหนือไปกว่านี้การสูบลมเข้าไปในตุ๊กตายาง ย่อมทำให้หล่านักโทษที่ผ่านการสูบบุหรี่มาอย่างจัดเจน ได้รับการบริหารปอดอีกด้วย” “เหล่าผู้ต้องหาจะได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับคู่หูตุ๊กตายางของตัวเอง หลังจากที่ต้องเผชิญความเครียดมาทั้งวัน อันจะช่วยให้พวกเขาผ่อนคลายและมีสุขภาพจิตใจที่ดีขึ้น” แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวของเรามีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง? ก็ลองแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : dailymail
-
ทัวร์ภายใน “เรือนจำ” ที่ปิดตัวของเนเธอร์แลนด์ วันนี้ถูกเปลี่ยนเป็นบ้านผู้ลี้ภัยแล้ว…
ก่อนหน้านี้เราคงได้เห็นข่าวคราวเรื่องของเรือนจำ จากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ต้องถูกปิดตัวลงไปหลายแห่งอันเนื่องมาจากอัตราการก่อเหตุอาชญกรรมของชาวเมืองที่นั่น ลดลงอย่างน่าใจหาย และปัจจุบันสถานที่เรือนจำเหล่านั้นถูกเปลี่ยนให้เป็นบ้านพักสำหรับผู้ลี้ภัย พวกเขายินดีต้อนรับคนจากทุกเชื้อชาติไม่ว่าจะเป็น ซีเรีย อิรัก หรือลิเบีย ที่ต้องการจะหลบหนีสงคราม และเริ่มต้นสร้างชีวิตใหม่ เราตามไปดูกันเลยว่าปัจจุบันเรือนจำเหล่านั้นจะเปลี่ยนไปมากขนาดไหน ในปี 2015 เนเธอร์แลนด์คาดว่ามีผู้ลี้ภัยเข้ามามากถึง 60,000 คน นี่คือตัวอย่างของเรือนจำจากเมือง Haarlem ที่ถูกเปลี่ยนมาเป็นที่พักอาศัยของผู้ลี้ภัย ทางรัฐบาลได้จัดแบ่งโซนไว้ชัดเจนสำหรับชายหญิง เพื่อที่พวกเขาจะได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ‘ความปลอดภัยของพวกเขา เป็นเหมือนภารกิจหนึ่งของเรา ประเทศเราอาจใหม่สำหรับพวกเขา และนั่นก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องคอยดูแลทุกคน’ Menno Schot ผู้ดูแลเรือนจำกล่าว อ้างอิงจากสื่อ AP ผู้ลี้ภัยหลายคนบอกว่าชีวิตของพวกเขาดีขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเรื่องอาหาร และการอยู่อาศัย ประตูที่เหล็กที่เคยใช้คุมขังนักโทษ ตอนนี้ก็ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นประตูที่มอบความปลอดภัยให้ผู้ลี้ภัยทุกคน ‘ผมไม่รู้สึกว่าเราอยู่ในคุกเลยแม้แต่น้อย เพราะที่นี่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยมากกว่าบ้านเกิดเราซะอีก’ ผู้ลี้ภัยวัย 16 ปี คนหนึ่งให้สัมภาษณ์ ผู้ลี้ภัยหลายคนยังเป็นวัยรุ่น บ้างก็อพยพมากับครอบครัว บ้างก็ต้องหลบหนีมาตัวคนเดียว อย่างเช่น Shazia Lutfi สาววัย 19 จากอัฟกานิสถานคนนี้ …
-
โปรตุเกสออกกฎหมายให้โรงอาหารสาธารณะ ต้องมีมื้ออาหารมังสวิรัติเป็นทางเลือกเพิ่ม!!
ปัจจุบันผู้คนมักจะหันมาดูแลสุขภาพของตนเองกันมากขึ้น หลายคนที่อยากมีรูปร่างที่ดี ก็พากันออกกำลังกาย รวมถึงการเลือกรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพอย่างอาหารมังสวิรัติ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกันที่ประเทศโปรตุเกสในตอนนี้ มีการออกกฎหมายหมายบังคับให้โรงอาหารสาธารณะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในเรือนจำ โรงพยาบาล และโรงเรียน และตามสถานที่สาธารณะต่างๆ ที่มีการประกอบอาหารให้กับบุคลากร เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า กฎหมายการบังคับให้โรงอาหารสาธารณะทั่วประเทศเพิ่มทางเลือกอาหารมังสวิรัติ ได้รับการอนุมัติโดยเสียงข้างมากจากรัฐสภาไปเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา โดยระบุว่า โรงอาหารในโรงเรียน มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล เรือนจำ และอาคารสาธารณะอื่นๆ จะต้องเพิ่มตัวเลือกการบริโภคอาหารที่ปลอดจากเนื้อสัตว์ และถ้าหากทุกอย่างดำเนินการไปได้ด้วยดี กฎหมายอาจมีผลได้ภายในเวลาเพียง 2 หรือ 6 เดือน ขณะเดียวกันหากมีปริมาณอาหารที่ไม่เพียงต่อสำหรับการบริโภค โรงอาหารสามารถยกเลิกมื้ออาหารมังสวิรัติได้ สำหรับการออกกฎหมายดังกล่าว ได้ถูกริเริ่มโดย Associação Vegetariana Portuguesa (สมาคมมังสวิรัติโปรตุเกส) ที่ได้เป็นผู้รวบรวมคำร้องมากกว่า 15,000 ฉบับ ซึ่งทางรัฐสภาของประเทศก็ได้มีการปรึกษาหารือในเรื่องดังกล่าว เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทางด้าน Nuno…
-
สาวพาแฟนแหกคุก ให้เข้าไปนอนในกระเป๋าเดินทาง แต่ถูกจับพิรุธได้ แผนแตกดังโป๊ะ!!
โลกของเรามีเรื่องราวชวนให้ประหลาดใจอยู่ไม่เว้นแต่ละวันจริงๆ โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Antonieta Robles Souda หญิงชาวเวเนซุเอลาวัย 25 ปี ถูกจับได้ หลังจากที่พยายามพาแฟนหนุ่มซึ่งเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำแห่งหนึ่งของเมืองบาร์เซโล หลบหนี ซึ่งสาวรายนี้ ได้ทำการวางแผนเป็นอย่างดีเพื่อพาแฟนของตัวเองแหกคุก โดยการนำตัวของเขายัดใส่ลงไปในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ แต่ทว่าดันทำตัวน่าสงสัยจึงถูกเจ้าหน้าที่ในเรือนจำจับได้ซะก่อน เลยทำให้ทั่งคู่ไม่สามารถหนีรอดไปได้ ด้านเว็บไซต์ต่างประเทศได้เปิดเผยว่า Antonieta Robles Souda ได้พาลูกสาววัย 6 ขวบ เข้ามาเยี่ยม José Antonio Anzoátegui แฟนหนุ่มที่ต้องโทษจำคุก 9 ปี 8 เดือน ในข้อหาโจรกรรม ซึ่งเธอได้นำกระเป๋าเดินทางสีชมพูขนาดใหญ่มาด้วย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับเรือนจำในประเทศแถบอเมริกาใต้ ที่สมาชิกในครอบครัวของนักโทษจะสามารถเข้ามาพักค้างคืนในเรือนจำได้ แต่กลับคาดไม่ถึงเลยว่าทั้งคู่จะวางแผนออกจากคุกด้วยกันในวันถัดไป แผนการของพวกเขาดูเหมือนจะเป็นไปอย่างราบรื่น จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับสังเกตได้หลังจากที่ Antonieta พยายามนำกระเป๋าออกจากห้องขัง และดูเหมือนว่าขณะที่เธอกำลังลากกระเป๋ามันดูค่อนข้างลำบากเหลือเกิน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทางเจ้าหน้าที่สงสัย และทำให้พวกเขาได้เดินเข้าขอตรวจค้น งานนี้เลยทำให้ Antonieta…
-
รัฐบาลออสเตรเลีย จะจ่ายโบนัสให้เรือนจำหญิง หากดูแลนักโทษดี จนไม่กลับไปทำผิดซ้ำอีก
การส่งผู้ต้องหาไปอยู่ในเรือนจำนั้นถือเป็นหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมเพื่อขัดเกลาให้บุคคลเหล่านั้นกลับออกมาเป็นคนที่มีคุณภาพอีกครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระบวนการที่ว่านี้ไม่สามารถใช้ได้กับทุกๆ คน ยังคงมีคนหลายคนที่ออกมาจากเรือนจำแล้วทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกลายเป็นปัญหาเรื้อรังของสังคม ด้วยเหตุนี้เองทางรัฐบาลของออสเตรเลียจึงได้ออกนโยบายใหม่ โดยการจ่ายเงินโบนัสพิเศษให้กับเรือนจำแห่งหนึ่งที่สามารถดูแลหรือบำบัดนักโทษให้กลับมาอยู่ในสังคมได้โดยที่ไม่ทำผิดอีก เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าว RT บอกว่านี่เป็นโครงการนำร่องในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย จะใช้กับเรือนจำหญิง 1 ใน 3 ของเรือนจำเอกชนที่ดำเนินการโดยบริษัท Sodexo การจ่ายโบนัสให้กับเรือนจำนั้น มีเงื่อนไขอยู่ว่า เหล่านักโทษหญิงจะต้องพ้นโทษออกไปใช้ชีวิตตามปกติและไม่ก่ออาชญากรรมอีกเป็นระยะเวลา 2 ปี หากทำได้ทางเรือนจำก็จะได้รับโบนัสเป็นจำนวนเงิน 11,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 392,400 บาท จากสถิติภายในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียนั้น พบว่านักโทษหญิงกว่า 34% เมื่อพ้นโทษออกไปแล้วจะกลับไปทำผิดซ้ำๆ อีก เพราะกลับไปอยู่ในสังคมแบบเดิม ที่เต็มไปด้วยยาเสพติดและความรุนแรง ทางภาครัฐจึงพยายามมองหาวิธีการแก้ไขแบบใหม่ ซึ่งพวกเขาเชื่อกันว่าหากทำแบบนี้แล้วจะเป็นการช่วยเหลือนักโทษให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและช่วยให้เรือนจำใส่ใจกับนักโทษของพวกเขามากขึ้น หากใครยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ #เหมียวฟิ้น ได้เคยรายงานเกี่ยวกับเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ ที่มักไม่ใช้วิธีการลงโทษผู้ต้องหานานๆ แต่เน้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมากกว่า ซึ่งก็ส่งผลให้เรือนจำของพวกเขามีจำนวนนักโทษที่ลดน้อยลง จนต้องปิดเรือนจำไปกว่า 19 แห่ง (อ่านข่าวเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ได้ที่นี่เลย)…
-
เนเธอร์แลนด์ประสบวิกฤติหนัก ‘ขาดแคลนนักโทษ’ ถึงขั้นต้องยุบเรือนจำกว่า 19 แห่ง
ในขณะที่ประเทศฟิลิปินส์เพิ่งจะประสบปัญหานักโทษล้นคุกไปเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2016 ทีผ่านมา จนต้องของบจากรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหา แต่ขณะเดียวกันที่เนเธอร์แลนด์กลับประสบปัญหาที่ไม่ว่าชาติไหนๆ ก็อยากจะให้เกิด นั่นคือ “ขาดแคลนนักโทษ” เว็บไซต์ BBC ของต่างประเทศได้รายงานว่าในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรือนจำกว่า 19 แห่งต้องปิดตัวลง และยังมีอีกหลายแห่งที่เตรียมตัวปิดในปีถัดๆ ไป เนื่องจากมีนักโทษไม่เพียงพอให้กักขัง นับตั้งแต่เมื่อปี 2005 นักโทษในเนเธอร์แลนด์มีจำนวนราวๆ 14,468 คน แต่พอถึงปี 2015 จำนวนกลับลดลงอย่างมากเหลือเพียง 8,245 คนเท่านั้น เมื่อคิดเป็นสัดส่วนต่อประชากรทั้งหมด เหลือเพียงแค่ 57:100,000 คนเท่านั้น ถือเป็นสัดส่วนที่น้อยที่สุดของโลกประเทศหนึ่งเลยก็ว่าได้ เหตุที่เนเธอร์แลนด์ไม่ค่อยมีนักโทษหรือการทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนอย่างในประเทศอื่นๆ อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ โดยหน่วยงานยุติธรรมและราชทัณฑ์ของเนเธอร์แลนด์ออกมาให้ความเห็นว่า เป็นเพราะการแก้ไขปัญหาการกระทำผิดและปรับปรุงเป็นรายบุคคล แทนที่จะลงโทษอย่างเดียว ซึ่งหากว่ากันตามจริงแล้ว ประเทศเนเธอร์แลนด์เองมักไม่ลงโทษผู้ต้องหาด้วยการจำคุกเป็นเวลานานๆ อย่างเดียว แต่จะลงโทษด้วยวิธีอื่น เช่นติดเครื่องส่งสัญญาณที่ผู้ต้องหา เพื่อดูพฤติกรรม หรือให้ทำงานเพื่อสังคม และบำบัดอาการทางจิต ความโกรธหรืออะไรก็แล้วแต่ที่อาจส่งผลให้เกิดการทำผิดซ้ำขึ้นอีก นอกจากนี้ทางเรือนจำในเนเธอร์แลนด์ยังมีวิธีการดูแลผู้ต้องหาในแบบที่แตกต่างไปจากที่อื่นๆ ด้วย เพราะพวกเขาจะปรับให้ภายในเรือนจำมีความผ่อนคลาย มีห้องสมุด…
-
ชายอเมริกัน ‘เบื่อเมีย’ ขับรถไปปล้นธนาคาร ให้ตำรวจจับ บอกขอติดคุกดีกว่าอยู่บ้าน!!?
คงไม่มีใครในโลกรู้สึกดีกับคำว่า “คุก” หรือ “เรือนจำ” หรอกนะ เพราะมันคือสถานที่ที่ไม่มีใครอยากไปอยู่ เป็นสถานที่ที่สงวนไว้สำหรับผู้ที่กระทำความผิดเท่านั้น แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่าในโลกใบนี้ยังมีคนที่อยากจะเข้าไปอยู่ในนั้นแบบจับใจเลยทีเดียว… เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Washingtonpost เมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของนาย Lawrence John Ripple ชายชาวอะเมริกันจากรัฐแคนซัส วัย 70 ปี เขาตัดสินใจที่จะปล้นธนาคาร โดยอ้างว่าเขาทำไปเพื่อที่จะได้หนีเมียไปติดคุก!? ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในวันอังคารที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยนาย Ripple ได้เข้าไปปล้นธนาคารแห่งหนึ่ง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว แต่เขาไม่ได้พยายามหนีหรือหาข้อแก้ตัวใดๆ เลย ต่อมาในวันพุธที่ 5 ตุลาคม เขาได้ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ Leavenworth ในรัฐแคนซัส ซึ่งเป็นสถานที่เจ้าตัวบอกว่าอยากไปตั้งแต่แรก เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะนาย Ripple มักมีปัญหาทะเลาะกับภรรยาอยู่บ่อยครั้ง วันหนึ่งเขาทะเลาะกับภรรยาเรื่องไดร์เป่าผมที่เสีย เธอจึงบอกให้เขาซ่อมมัน แต่ข้อโต้เถียงระหว่างพวกเขาก็รุนแรงขึ้นเหมือนอย่างทุกครั้ง จนเขาทนไม่ไหว ตะโกนใส่ภรรยาไปว่า “ไปติดคุกยังดีกว่าอยู่ที่บ้านอีก!!” และดูเหมือนว่านาย Ripple จะเป็นคนรักษาสัญญาเสียด้วย เพราะหลังจากที่ลั่นวาจาไป เขาก็ขับรถตรงไปยังธนาคารทันที…
-
ไปส่องกันว่านักโทษใน ‘เรือนจำญี่ปุ่น’ กินอะไร ผ่านร้านอาหารเรือนจำ ที่คุณก็ลองกินได้…
เมื่อคนเรากระทำความผิด เราก็จะถูกนำตัวเข้าสู่งกระบวนทางกฎหมายและส่งไปยังเรือนจำ ที่นั่นคุณจะได้ใช้ชีวิตแบบไร้อิสระ แทบไม่มีความสะดวกสบาย แถมยังต้องกินอาหารที่ทางเจ้าหน้าที่จัดเตรียมเอาไว้อีกด้วย แต่หากว่าคุณเป็นคนดีที่ใช้ชีวิตแบบสุจริต แล้วดันอยากลองชิมอาหารแบบในเรือนจำ คุณเองก็สามารถหากินได้นะ แม้จะไม่เคยเข้าคุกเข้าตารางมาก่อนเลยก็ตาม ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นจะพาทุกคนไปชมร้านอาหาร Prison Cafeteria ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดฮอกไกโด ความแหวกแนวของร้านอาหารแห่งนี้อยู่ตรงที่พวเขาจะนำเอาส่วนผสมและวัตถุดิบแบบเดียวกับที่ใช้ทำอาหารให้กับนักโทษในเรือนจำมาทำเป็นเมนูอาหารให้ลูกค้าได้กินกัน อย่างเช่นเมนู้ที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้ เป็น Set A ราคา 800 เยน (ประมาณ 270 บาท) จะประกอบไปด้วยซุปมิโซะ ปลาแม็คเคอเรลทอด หัวไชเท้าสไลส์ ฮารุซาเมะ (บะหมี่สลัด) ข้าวเปล่า ส่วน Set B ประกอบไปด้วยซุปมิโซะ มันเทศจีน ผัดผักญี่ปุ่น ปลาแม็คเคอเรลทอด ข้าวเปล่า แม้จะเป็นอาหารของผู้ต้องขัง แต่ทางญี่ปุ่นเองก็คำนึงถึงเรื่องสารอาหารที่ครบถ้วนเช่นกัน . . . . หากใครอยากจะลองชิมอาหารแบบเรือนจำสไตล์ญี่ปุ่นล่ะก็ ตามไปได้ที่ร้าน Prison Cafeteria (หรือ Kangoku…
-
10 อันดับเรือนจำที่ขึ้นชื่อว่า มีความโหดร้ายมากที่สุดในโลก และไทยก็ติดอันดับเช่นกัน
ขึ้นชื่อว่าคุกนั้น แน่นอนว่าไม่มีใครอยากเข้าไปอยู่แน่นอน แต่เมื่อทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามกฏหมายและเมื่อเข้าไปอยู่ในคุก คุณไม่รู้เลยว่าต้องเจอกับอะไรบ้าง อาจจะต้องเจอกับความเจ็บปวด หรือบางคนอาจได้เจอกับมิตรภาพดีๆ ในคุกก็ได้ ซึ่งเรือนจำในแต่ละประเทศก็แตกต่างกันไป จำได้ไหมว่าเราเคยพาไปทัวร์เรือนจำนอร์เวย์ เรือนจำ Norway ได้ชื่อว่า ‘คุกที่สบายสุดในโลก’ แต่แก้ไขปัญหาอาชญากรรม ได้ผลดีมาก!!! แต่คราวนี้ลองไปดูเรือนจำที่ทางเว็บไซต์ TheRichest จัดอันดับว่าโหดร้ายมากที่สุดในโลก มาดูกันว่าข้อมูลที่เว็บต่างชาติเว็บนี้จัดอันดับ มีเรือนจำที่ไหนติดมาบ้าง 10. เรือนจำบางขวาง ประเทศไทย ติดเข้ามาในอันดับสุดท้ายของลิสต์นี้ ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมากพอสมควร ต้นฉบับให้เหตุผลว่า เรือนจำที่นี่มีทั้งการกระทำรุนแรงต่อนักโทษ ความเป็นอยู่ที่แออัด ถึงกับยกให้เป็นหนึ่งในคุกที่ Hardcore แห่งหนึ่งของโลกใบนี้เลย 9. เรือนจำ Rikers Island นิวยอร์ก เป็นคุกที่ขึ้นชื่อเรื่องการใช้ความรุนแรงกับนักโทษ และเคยมีประวัตินักโทษเสียชีวิตจากความรุนแรงนี้มาแล้ว 8. เรือนจำ San Quentin ก่อตั้งเมื่อปี 1852 ซึ่งเป็นคุกที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นที่รู้กันว่ามีปัญหาความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2006 มีการจลาจลเกิดขึ้น เพราะนักโทษพยายามแหกคุก ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 ราย และเสียชีวิตอีก 2…
-
เปิดชีวิต ‘นักโทษเกือบสี่พัน’ ในคุกฟิลิปปินส์ ที่ถูกสร้างมาเพื่อรองรับนักโทษเพียง 800 คน
เรือนจำหรือคุก เป็นแหล่งที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากเข้าไปอยู่แน่นอน เพราะนอกจากไม่มีอิสรภาพแล้ว เรายังไม่รู้ด้วยว่า อยู่ในนั้นต้องเจอกับอะไรบ้าง วันนี้ก็เลยจะพาชมสภาพคุกแห่งหนึ่ง ที่เห็นแล้วเราถึงกับหดหู่ไปตามๆ กัน…. และนี่คือสภาพนักโทษที่ต้องอยู่กันอย่างแออัดที่เรือนจำ Quezon City อยู่ทางเหนือของกรุงมะนิลา ในประเทศฟิลิปปินส์ โดยนักโทษมีจำนวนมากถึง 3,600 คน แต่ต้องมาอยู่รวมกันในห้องที่สร้างขึ้นเพื่อคน 800 คนเท่านั้น นักโทษ 3600 คนอยู่รวมกันในเรือนจำที่สร้างขึ้นเมื่อ 60 ปีก่อน พวกเค้าจะสลับกันนอนที่สนามบาสเกตบอล ตามขั้นบันได ใต้เตียง หรือบางทีก็นำผ้าห่มมาผูกเป็นเปลนอน แต่ทำไงก็ยังแออัดอยู่ดี ที่สำคัญเวลานอน พวกเค้าไม่สามารถยืดแขน ยืดขาได้อย่างเต็มที่ด้วย แค่ขบับนิดเดียวก็ไปชนกับคนอื่นแล้ว นอกจากที่นอนแล้ว ด้านอาหารการกินก็ไม่เพียงพอด้วย รายงานจากบางแห่งบอกว่า บางทีก็มีซากแมลงในอาหารอีกต่างหาก แต่พวกเค้าก็ต้องทนกับสภาพแบบนี้เพื่อความอยู่รอด นักโทษนอนเบียดกันบนพื้นในเรือนจำ Quezon City Raymund Narag อดีตนักโทษที่เคยติดคุกนาน 7 ปี ด้วยข้อหาฆาตกรรม (ซึ่งเขาอ้างว่าไม่ได้ทำ) ได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่งชื่อว่า ‘เสรีภาพและความตายในคุก’ โดยภายในหนังสือเล่มนี้ เขาได้เขียนเล่าประสบการณ์ตลอดที่อยู่ในคุกราวกับว่ากำลังเผชิญกับความตายทุกๆ นาที กิจวัตรประจำวันของพวกนักโทษก็คือ ออกกำลังกาย…
-
เด็กวัย 9 ขวบ ใช้เงินเก็บตัวเอง ซื้อหนังสือบริจาคให้ “นักโทษในเรือนจำ” ได้อ่าน!!
ยังจำหนังสือเล่มแรกที่เราอ่านจบได้อยู่มั้ย ถ้าไม่นับหนังสือเรียนนะ อาจจะเป็นนิยายหรือหนังสือทั่วไป สำหรับ #เหมียวสามสี คือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ภาคแรกตอนอยู่ป.4 มันเป็นอะไรที่ภูมิใจมากๆ ที่เราสามารถอ่านหนังสือหนาๆ ได้จบสักหนึ่งเล่ม ในเรือนจำนั้นยังมีนักโทษอีกหลายคนที่รอวันที่จะถูกปล่อยออกมา หลายคนก็ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและกลับใจได้ ส่วนหนึ่งก็มีจากการอ่านหนังสือในเรือนจำนั่นแหละ เพราะมันช่วยหล่อหลอมให้เขาคิดอะไรบางอย่างได้ สำหรับหนูน้อยวัย 9 ขวบที่ชื่อว่า Tyler Fugett เขาก็มีเงินเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากจะเอาไปสร้างสิ่งดีๆ ซึ่งเงินก้อนนี้แท้จริงแล้วเขากะเอาไว้ซื้อหนังสืออ่าน แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เอามาอ่านเอง แต่กลับเอามาให้นักโทษที่เรือนจำ Montgomery County Jail แทน หนูน้อย Tyler เขามีสมาชิกในครอบครัวที่อยู่ในเรือนจำด้วย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาขอให้แม่พาไปส่งที่ร้านหนังสือทุกๆ สัปดาห์ เพื่อหาหนังสือลดราคา ก่อนที่เขาจะรวบรวมแล้วเอามาส่งให้กับทางเรือนจำ หนูน้อยกล่าวว่า “เวลาที่ผมคิดเรื่องไม่ดี ผมมักจะอ่านหนังสือ ดังนั้นผมเลยเก็บหนังสือแล้วเอาไปให้พวกเขา ถ้าพวกเขาได้อ่านหนังสือก็จะไม่มีเวลาคิดเรื่องไม่ดี บางทีพวกเขาอาจจะเจออะไรดีๆ ในหนังสือและทำให้เปลี่ยนเป็นคนใหม่ได้” หนังสือในเรือนจำนั้นมาจากการบริจาคทั้งหมด และหนึ่งในนั้นก็เป็นของหนูน้อย Tyler ด้วย เป็นเด็กวัย 9 ขวบที่มีความคิดดีจริงๆ ที่มา distractify พอพูดถึงเรื่องนักโทษแล้ว หลายคนอาจจะนึกว่าเขาเป็นคนไม่ดีไปซะหมด…
-
ใช่แน่นะ? เหมียวพาไปชม “ฮอลเดน” คุกในนอร์เวย์ หรูหราประหนึ่งอยู่คอนโดเมืองไทย!?
ถือเป็นหลักสากลของโลก ที่ใครๆ ก็รู้กันว่าเมื่อเราทำผิด จะต้องถูกลงโทษด้วยการปรับหรือจำคุก แต่หากเป็นที่ประเทศนอร์เวย์แล้วล่ะก็ คุณอาจจะอยากเข้าไปนอนในคุกแบบฟรีๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรผิดเลยก็ได้นะ เพราะที่นั่นเขาอยู่กินสบายมากประหนึ่งอยู่คอนโดสุดหรูเลยทีเดียว วันนี้เหมียวจะพาไปทัวร์เรือนจำฮอลเดน ที่ตั้งอยู่กลางป่าในประเทศนอร์เวย์กัน เรือนจำแห่งนี้สามารถรองรับนักโทษได้มากถึง 250 คน กว่าครึ่งของนักโทษได้ก่อคดีร้ายแรง เช่นฆาตกรรม ทำร้ายร่างกาย และข่มขืน ในขณะที่บางส่วนมีความผิดฐานค้ายาเสพติด แต่ที่เรือนจำฮอลเดนพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงพวกเขาให้กลายเป็นคนดีพร้อมกลับสู่สังคม โดยการสร้างสภาวะแวดล้อมให้เหมือนกับการอยู่บ้านและมีธรรมชาติรายล้อม ซึ่งสภาพวะแวดล้อมแบบนี้สามารถเอื้อต่อการหลบหนีออกจากเรือนจำแห่งนี้มาก แต่กลับไม่มีนักโทษคนไหนที่คิดจะหลบหนีออกไปเลย จากภาพต่างๆ จะเห็นได้ว่าภายในเรือนจำนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งทีวี ตู้เย็น โต๊ะ เก้าอี้ หนังสือให้อ่าน แถมห้องนอนกับห้องน้ำก็ดูหรูหราเหมือนกับคอนโดที่หลายๆ คนอาศัยอยู่เลย นอกจากนี้ยังมีห้องนั่งเล่น ห้องดนตรี ห้องสำหรับสวดมนต์ ห้องคอมพิวเตอร์และอีกมากมายให้เหล่านักโทษได้ผ่อนคลายกัน ส่วนทางด้านผู้คุมเรือนจำเองก็มีท่าทีผ่อนคลาย มีการพูดคุยกับนักโทษหรือแม้กระทั่งลงมากินข้าวด้วยก็ยังมี แน่นอนว่าความหรูหราและความสะดวกสบายนั้นจะทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเรือนจำแห่งนี้สบายเกินกว่าโทษที่พวกเขาได้ทำไว้ แต่ที่แห่งนี้มีความเชื่อกันว่าการเปลี่ยนพฤติกรรมของนักโทษ จะได้ผลดีกว่าการลงโทษพวกเขา อีกทั้งยังช่วยหางานให้พวกเขาทำหลังจากที่ออกจาเรือนจำแห่งนี้ไปแล้วด้วย …