Tag: เรื่องราวรอบโลก
-
11 ภาพความทรงจำสุดเศร้า และทรงคุณค่าในเวลาเดียวกันการพิธีศพในรูปแบบต่างๆ จากทั่วโลก!!
เมื่อพูดถึงงานศพ เราก็มักจะนึกถึงการสูญเสียใครสักคนไป จะด้วยสาเหตุใดก็ล้วนสร้างความเศร้าโศกให้กับเครือญาติเสมอ แต่ว่านอกจากความเสียใจแล้ว งานศพก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพราะว่าบางครั้งก่อนที่ผู้ตายจะจากไป พวกเขาก็มักจะมีความต้องการในการจัดพิธีศพให้กับตัวเองให้สมเกียรติ หรือบางทีอาจจะมีเหตุการณ์ที่หลายคนคาดไม่ถึงเกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน เช่นปาฎิหารย์แปลกๆ หรือไม่ก็มีสัตว์มาห้อมล้อม อย่างไรเช่นอะไรแบบนี้… งานศพเล็กๆ ของหญิงสาวคนหนึ่ง ซึ่งเธอใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตอยู่กับเหล่าสุนัขจรจัดและให้อาหารพวกมัน ฉะนั้นในวันที่เธอจากไปพวกสุนัขจรจัดจึงพากันมาเฝ้าพิธีของเธอ สุนัขตัวในภาพได้จากไป ซึ่งเจ้าของมันชอบที่จะเล่นขว้างบอลด้วยกัน ฉะนั้นเพื่อส่งมอบความสุขต่อให้คนอื่น เขาจึงแชร์ลูกบอลให้คนเลี้ยงสุนัขได้ทำกิจกรรมแบบเดียวกับเขา ผู้เสียชีวิตเป็นแฟน Star Wars ตัวยง ฉะนั้นก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้บอกกับครอบครัวว่าให้จัดงานศพเป็นธีมหนังที่เขาชอบและมี Storm Trooper มานำขบวน พ่อเจ้าของภาพนั้นร้องขอให้ลูกชายจัดงานศพให้แบบชาวไวกิ้ง และเมื่อเขาจากไปลูกชายจึงสร้างเรือไวกิ้งทำมือขึ้นมาแล้วเผาไปกับแม่น้ำตามแบบของชาวไวกิ้ง งานศพอันสมเกียรติของสุนัขตำรวจที่ต้องจากไปเพราะถูกคนร้ายแทงเข้าอย่างโหดร้าย เจ้าของภาพเล่าว่า คุณย่าของเธอนั้นได้เย็บผ้าปูที่นอนมาให้กับทุกคนที่มาร่วมงานเป็นจำนวน 100 ผืน ก่อนที่เธอจะจากไป และเธอยังเก็บแยกไว้พิเศษอีก 4 ผืนสำหรับลูกหลานที่ยังไม่เกิดมาด้วย พนักงาน UPS พากันมาให้กำลังใจเพื่อนร่วมงานที่ต้องเสียลูกสาวไปก่อนวัยอันควร ชาวเมืองพากันมาร่วมไว้อาลัยให้แก่คนไร้บ้านที่เพิ่งจากไป และปัจจุบันเขาไม่มีครอบครัวเหลืออยู่ แม่ของหนูน้อยในรูปได้โพสต์ว่า สามีของเธอนั้นได้เสียชีวิตระหว่างงาน…
-
ชายหนุ่มเดินเท้าเกือบ 18 กิโลเมตรไปทำงาน เพื่อนที่ทำงานเห็นใจก็เลยรวมเงินซื้อรถให้
ถ้าเราเป็นคนดีและมีความพยายามสูง คนรอบตัวก็จะรักและปฏิบัติดีกับเรา ในเวลาที่เรากำลังตกที่นั่งลำบาก ไม่ว่าใครก็อยากยื่นมือเข้าช่วยเหลือ หนุ่ม Trenton Lewis เองก็เหมือนกัน เขาเป็นพนักงานที่มีความขยันหมั่นเพียร มาทำงานตรงเวลาทุกวันไม่เคยสาย แถมยังขยันอีกด้วย เมื่อเพื่อนร่วมงานรู้ความจริงที่น่าตกใจว่าเขาเดินเท้ามาทำงานตั้งไกลทุกวัน ทุกคนก็เลยช่วยเหลือเขาโดยการซื้อรถยนต์ให้ Trenton Lewis คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้ทุ่มเทให้กับงาน Lewis เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยอยู่ในเมืองลิตเติลร็อก รัฐอาร์คันซอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาเป็นพนักงานเตรียมสินค้าให้กับบริษัท UPS (United Parcel Service) ซึ่งเป็นบริษัทส่งของที่มีชื่อเสียง ทว่าที่ทำงานของเขาอยู่ห่างจากที่พักถึง 11 ไมล์ (ประมาณเกือบ 18 กิโลเมตร) และเขาก็ไม่มีรถยนต์ใช้เสียด้วย เขาจึงต้องเดินเท้าจากที่บ้านไปที่ทำงานตั้งแต่ประมาณเที่ยงคืน เพื่อไปเข้างานให้ทันตอนตี 4 ที่เขาทุ่มเทให้กับงานมากถึงขนาดนี้ก็เพราะว่าเขาเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยวนั่นเอง เขาจึงต้องขยันทำงานเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูลูกสาวให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนร่วมงาน Kenneth Bryant Patricia และ Kenneth Bryant เพื่อนร่วมงานของเขารู้เรื่องที่เขาเดินมาทำงานเมื่อเดือนตุลาคม 2017 ด้วยความที่เห็นว่า Lewis เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานและเป็นที่รักของทุกคน พวกเขาก็เลยอยากเซอร์ไพรส์เขาด้วยการรวบรวมเงินจากเพื่อนร่วมงานแล้วซื้อรถมือสองให้เขาสักคัน …
-
กุ้งเครย์ฟิชเพศเมียพัฒนาไปอีกขั้น เมื่อพวกมันสามารถ “โคลนนิ่งตัวเอง” ได้ตามธรรมชาติ!?
หลายคนที่อ่านแล้วอาจจะงงว่า ห๊ะ!? การโคลนนิ่งมันทำได้ตามธรรมชาติด้วยเหรอ แล้วมันเป็นไปได้ยังไงกัน…ซึ่ง คำตอบก็คือมันเป็นไปได้ และมันเป็นไปแล้วจริงๆ แรกเริ่มเดิมทีรูปแบบการโคลนนิ่งของกุ้งเครย์ฟิชสายพันธุ์ที่ชื่อว่า Marmorkrebs นั้นถูกค้นพบเมื่อปี 1995 ซึ่งนั่นทำให้มันสามารถขยายพันธ์ได้อย่างรวดเร็ว จนเวลาต่อมาพวกมันกลายเป็นปัญหาที่หนักมากๆ โดยมันเริ่มระบาดจากประเทศเยอรมนี จากนั้นก็ลามไปทั่วยุโรปและแอฟริกา และด้วยปัญหาดังกล่าวทำให้นักอนุรักษ์ออกมาแบนเจ้ากุ้งสายพันธุ์นี้เด็ดขาด โดยห้ามซื้อขาย ห้ามเลี้ยงดูและที่สำคัญห้ามปล่อยลงแม่น้ำตามธรรมชาติเด็ดขาด!! อย่างไรก็ตาม แม้เราจะเรียกว่ามันเป็นการโคลนนิ่งเพราะมันมียีนส์เหมือนแม่ทุกประการ แต่จริงๆ มันก็คือการสืบพันธุ์ตามธรรมชาติอย่างหนึ่งของกุ้งเครย์ฟิชโดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งตัวผู้ แต่พวกมันก็ยังสามารถจะออกไข่ได้ด้วยตัวเอง แถมลูกที่ออกมาก็จะเหมือนกับตัวมันทุกประการ นอกจากนี้นักวิทย์ยังได้ยกตัวอย่างอีกว่า กุ้งเครย์ฟิชนั้นไม่ใช่สัตว์เพียงชนิดเดียวที่มีความสามารถในการออกลูกแบบนี้ โดยยังมี ฉลามหัวค้อน, แมลงสาบ , เพลี้ยอ่อน, แมงกระพรุน, จิ้งเหลนหางแส้, ตัวต่อ และมังกรโคโมโดก็สามารถทำได้เช่นกัน แม้ว่าเจ้ากุ้งสายพันธุ์นี้จะถูกห้ามให้เพาะเลี้ยง จำหน่ายหรือปล่อยกลับธรรมชาติในปัจจุบันก็ตาม แต่ดูเหมือนมันจะสายเกินไปเสียแล้ว เพราะตอนนี้ประเทศมาดากัสการ์กำลังประสบปัญหาจำนวนกุ้งเครย์ฟิชที่มีมากเกินไป ซึ่งนั่นทำให้พวกมันกลายเป็นตัวการสำคัญในการทำลายระบบนิเวศน้ำจืดในเกาะ สุดท้ายแล้ว แม้ว่ามันดูเหมือนจะสร้างแต่ปัญหา แต่ความจริงมันก็มีประโยชน์เช่นกัน เพราะ Dr Frank Lyko หัวหน้าทีมวิจัยโรคมะเร็งจากประเทศเยอรมนีได้บอกว่าพวกเขาอยากจะใช้กุ้งพวกนี้มาเป็นตัวศึกษาเกี่ยวกับเนื้องอกนั่นเอง… ภาพของเหล่ากุ้งเครย์ฟิชที่ถูกจับได้จำนวนมาก ซึ่งทีมวิจัยพิสูจน์แล้วว่าพวกมันทั้งหมดมี DNA เดียวกัน ทีมา…
-
เกาะกลางน้ำสุดแปลก ที่ทุกๆ 6 เดือนจะถูกเปลี่ยนสัญชาติระหว่างฝรั่งเศสกับสเปน
อีกไม่ถึง 1 สัปดาห์เกาะกลางแม่น้ำบีดาซัวขนาด 3,000 ตารางเมตรกำลังจะถูกฝรั่งเศสส่งมอบให้ทางการสเปนไปดูแลต่อ หลายคนอาจจะงงว่า ทำไมต้องส่งต่อแล้วเกาะแบบนี้มันไม่ใช่ทรัพย์สินถาวรของประเทศนั้นๆ หรือต้องสู้แย่งกันหรอกเหรอ? คำตอบคือไม่!! เพราะเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่า Faisans แห่งนี้นั้นทางสเปนและฝรั่งเศสได้ทำการทำสนธิสัญญากันไว้แล้วเมื่อ 350 ปีก่อน ส่วนสาเหตุที่ต้องตกลงกันแบบนี้ก็เพราะเกราะแห่งนี้มันดันตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนของสองประเทศนั่นเอง โดยมันตั้งอยู่กลางแม่น้ำบีดาซัว ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองอองเดย์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส กับเมืองอิรึนและเมืองออนดารีเบียทางตอนเหนือของสเปน ส่วนความสำคัญของเกาะแห่งนี้นั้นนั่นก็คือเกาะที่ไว้เดินทางมาเจอกันตรงกลางและทำสนธิสัญญาต่อกันและกันของสองประเทศ เรื่องมันเริ่มมาจากปี 1659 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส และกษัตริย์ฟิลิปที่ 4 แห่งสเปน เสด็จมาร่วมลงพระนามในสนธิสัญญาพิเรนีส (Treaty of the Pyrenees) บนเกาะแห่งนี้ โดยทั้งสองประเทศต่างตกลงแบ่งปันเขตแดนระหว่างกันเป็นที่เรียบร้อยเพื่อยุติข้อพิพาทที่แล้วมาของสองประเทศ ด้วยเหตุนี้ทั้งสองจะต้องเปลี่ยนกันมาครอบครองเกาะแห่งนี้ทุกๆ 6 เดือน โดยเริ่มจากสเปน ซึ่งกินเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ถึง 31 กรกฎาคม 1659 จากนั้นก็ทำการเปลี่ยนมือไปยังฝรั่งเศสและทำแบบนี้วนมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน เดิมทีในสัญญานั้น ตัวเกาะจะต้องถูกดูแลด้วยกองทหาร ทว่าปัจจุบันทหารได้ถูกถอนออกไปแล้ว…
-
ลูกชายตำรวจหลั่งน้ำตา หลังถูกจับกุมข้อหาฆาตกรรมลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบ
Joshua Richards หนุ่มอเมริกันวัย 21 ปี ได้ถูกจับกุมข้อหาฆ่าลูกเลี้ยงวัย 3 ขวบของตัวเอง Brentley Gore โดยคดีนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากสื่อท้องถิ่นเพราะว่าผู้ต้องหานั้นเป็นลูกชายของ Josh Richards สารวัดใหญ่ประจำรัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อช่วงวันที่ 28 มกราคม 2018 ที่ผ่านมา โดยตำรวจได้ตั้งข้อหากับ Joshua ว่าเขาลงมือสังหารลูกเลี้ยงของเขาด้วยการเอาเข็มขัดรัดที่คอเพื่อให้หนูน้อย Brentley จนหมดสติและเสียชีวิตในที่สุด ด้วยผลจากอาการหลอนจากการเสพกัญชา ต่อมาในวันอังคารที่ 30 มกราคม นาย Joshua ก็ได้ถูกพาตัวไปที่ศาลเพื่อประกอบคำรับสารภาพ โดยตัว Joshua นั้นร้องไห้ตลอดการพิจารณาคดี เขายอมสารภาพว่าจริงๆ แล้วลูกของเขาไม่ได้ถูกเขารัดคอแต่อย่างใด เพียงแต่มันเป็นอุบัติเหตุที่เขาเผลอทำให้ลูกตกลงมาหัวกระแทกจนเสียชีวิต ซึ่งมันเกิดขึ้นระหว่างที่ภรรยานอนหลับอยู่อีกห้อง Joshua บอกว่าเขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องฆ่าลูกเลี้ยงเลย เพราะเขากับภรรยาผู้เป็นแม่ของเด็กชาย Brentley ก็เพิ่งจะแต่งงานกันและเธอกำลังอุ้มท้องลูกคนที่สองนั่นเอง โดยเมื่อฟังจากคำสารภาพดังกล่าวพร้อมกับค้นหาหลักฐานตำรวจก็พบว่า นาย Joshua ไม่ได้มีท่าทีจะเกลียดหนูน้อย Brentley แต่อย่างใด แถมภาพหลายภาพทั้งคู่ก็ดูมีความสุขและสนิทสนมกันมากๆ…
-
ความแตกต่างของเด็กในเกาหลีเหนือ กับเด็กทั่วโลก มาดูกันว่าวิถีชิวิตเด็กที่นั่นเป็นอย่างไร
วิถีชีวิตของคนในประเทศที่ปิดกั้นตัวอย่างเองอย่างเกาหลีเหนือนั้น เป็นสิ่งที่เรามีข้อมูลอยู่น้อยนิดมาก นานๆ ทีเราจะได้มีโอกาสเห็นภาพหรือข่าวเกี่ยวกับเรื่องในประเทศเกาหลีเหนือสักครั้ง นอกจากนี้เกาหลีเหนือยังปิดกั้นข้อมูลส่วนใหญ่จากภายนอกไม่ให้คนในประเทศรู้อีกด้วย แล้วในประเทศปิดแบบนี้เด็กเล็กจะใช้ชีวิตกันอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้ลองรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเด็กในเกาหลีเหนือมาให้เพื่อนๆ แล้ว ไปดูกันว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตต่างกับเด็กในประเทศอื่นอย่างไรบ้าง 1.ทารกเกิดใหม่ก็มีชั้นวรรณะแล้ว เด็กทารกที่เกิดในประเทศเกาหลีเหนือจะได้รับชั้นวรรณะ หรือที่คนเกาหลีเหนือเรียกว่า ‘songbun‘ โดยวรรณะจะแบ่งเป็น 3 ชนชั้นก็คือ มีความจงรักภักดี เป็นกลาง และเป็นภัยต่อสังคม ซึ่งชั้นวรรณะที่ทารกได้รับนั้นจะเป็นแบบเดียวกับพ่อแม่ของตัวเอง และชั้นวรรณะเหล่านี้จะใช้เป็นตัวกำหนดว่าเด็กคนนั้นสามารถเข้าเรียนที่ไหนได้บ้าง และทำงานแบบไหนได้บ้าง เหมือนว่าเกิดมาก็ถูกกำหนดทางเดินชีวิตไว้เลย 2.เด็กทุกคนที่นี่ต้องเข้าเรียนชั้นอนุบาล เด็กๆ สามารถเลือกเข้าไปเรียนในชั้นอนุบาลได้ตั้งแต่อายุ 4 ปี แต่ถ้าหากว่าอายุ 5 ปีแล้วทางรัฐบาลจะบังคับให้เด็กทุกคนไปเรียนตามกฎหมาย นอกจากนี้เด็กทุกคนที่ต้องการเรียนหนังสือต้องเคยเข้าเรียนชั้นอนุบาลมาก่อนเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปีด้วย ไม่สามารถข้ามไปเรียนชั้นประถมได้ทันทีเลย 3.เด็กกำพร้าบางคนก็มีพ่อแม่เหมือนคนทั่วไป สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศเกาหลีไม่ได้รับเลี้ยงเฉพาะเด็กที่ไม่ทราบว่าพ่อแม่เป็นใครเท่านั้น หากว่าพ่อแม่คู่ไหนมีเงินไม่พอจะเลี้ยงลูก ก็สามารถส่งลูกไปให้กับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้เช่นกัน นอกจากนี้ถ้าเกิดรับเลี้ยงเด็กไปแล้วแต่เงินไม่พอเลี้ยงทีหลัง ก็ส่งตัวกลับมาได้ด้วย 4.กิจกรรมและการเรียนการสอนล้วนแฝงไปด้วยแนวคิดรักชาติ ในโรงเรียนของเกาหลีเหนือ มักจะมีโปสเตอร์เกี่ยวกับการเมืองติดไว้ตามทางเดินให้เด็กๆ ได้ดูกัน และเวลาที่จัดปาร์ตี้ให้กับเด็กๆ แทนที่จะได้แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนที่ชอบ…
-
ซิงเกิลมัมบังเอิญถ่ายภาพเจ้าชายอังกฤษทั้งสองและชายาได้อย่างงดงาม จนใครก็ขอซื้อ
การถ่ายรูปไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เราจะต้องทำการจัดมุมกล้อง ลองดูว่าแสงเหมาะสมต่อการถ่ายรูปไหม ต้องจัดตำแหน่งองค์ประกอบให้นายแบบนางแบบ แล้วหาจังหวะจับภาพในขณะที่ทุกคนดูดี ถ้าไม่ใช่มืออาชีพละก็กว่าจะถ่ายได้รูปสวยๆ สักรูปหนึ่งคงเหนื่อยกันน่าดูเลย แต่ก็มีหญิงคนโชคดีคนหนึ่ง บังเอิญถ่ายรูปของเชื้อพระวงศ์ออกมาได้สวยงามมากๆ ทั้งที่ไม่มีการจัดฉากหรือนัดแนะใดๆ ดูเป็นธรรมชาติมากเลย รูปของเธอจึงเป็นที่อิจฉาของตากล้องและสื่อมากมายทีเดียว รูปของเจ้าชายวิลเลี่ยมและแคเธอริน ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และเจ้าชายแฮรี่กับเมแกน มาร์เคิล แคเรน แอนวิล คุณแม่อายุ 39 ปี อาศัยอยู่ใน Watlington เขต Norfolk ประเทศอังกฤษ เธอเป็นคนที่บังเอิญถ่ายรูปของ ดยุกและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ และ เจ้าชายแฮรี่ กับ เมแกน มาร์เคิล ออกมาได้อย่างสวยงามแบบไม่น่าเชื่อ ในรูปถ่ายนั้นเชื้อพระวงศ์ทั้งสี่คนกำลังเยี่ยมเยียนประชาชนในโอกาสเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสประจำปีอยู่ โดยพวกเขาเดินเคียงข้างกันอย่างพร้อมเพรียง และก็ประจวบเหมาะว่าพวกเขาหันมายิ้มให้กับกล้องของแคเรนกันทุกคน เธอจึงได้ภาพที่สมบูรณ์แบบใบนี้มา Karen เล่าว่าเธอและลูกสาวเคยมางานฉลองคริสต์มาสประจำปีเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น และเมื่อปีที่แล้วเธอกับลูกสาวก็ไม่ได้มางาน เนื่องจากตัวเธอสุขภาพไม่ค่อยดี แคเรน แอนวิลและลูกสาว ตอนปีที่แล้วพวกเธอทำได้เพียงนั่งดูงานเฉลิมฉลองอยู่ที่บ้านผ่านทางโทรทัศน์เท่านั้น เธอเล่าว่า “ตอนนั้นเรากำลังนั่งชมงานเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสผ่านทาง Sky News และลูกสาวของฉันก็บอกว่าอยากไปงานบ้าง ฉันจึงตอบเธอไปว่าถ้าปีหน้าฉันสุขภาพดีแล้วเราจะไปงานด้วยกัน“ พอมาปีนี้เธอจึงได้มีโอกาสมางานกับลูกสาว และก็ได้รูปถ่ายใบนี้ติดไม้ติดมือกลับมาด้วย ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะได้รูปถ่ายที่ดูดีขนาดนี้มาโดยบังเอิญ Karen…
-
หนุ่มเล่าประสบการณ์ บังเอิญไปออกทริปแล้วได้รูมเมทเป็นผู้หญิงหมด ชาวเน็ตชอบใจใหญ่เลย!!
หนุ่ม Robbie Stowers อายุ 20 ปีเป็นนักศึกษาของ มหาวิทยาลัยลอนดอน เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ไปออกทริปเล่นสกีกับทางมหาวิทยาลัย บริเวณภูเขาหิมะในแคว้นโรนาลป์ ประเทศฝรั่งเศส แต่บังเอิญว่าหนุ่มคนนี้มาลงชื่อช้า จึงถูกจับไปอยู่รวมกับห้องของคนอื่น ซึ่งเป็นสาวๆ สามคน สาวสามคนที่ว่านี้ก็คือ Charlotte, Abbie และ Fish (เป็นฉายาเนื่องจากเธอเป็นนักว่ายน้ำ) แม้ว่าชายหนุ่มจะอยู่บ้านหลังเดียวกับพี่สาวมาก่อน แต่ก็ไม่เคยจะต้องมาอยู่ห้องร่วมกับสาวคนไหนเลย การต้องมาอยู่ร่วมห้องกับสาวถึงสามคนเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์จึงเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับเขา ดีที่พวกเธอสามคนยินดีให้เขาเข้ามาอยู่ด้วยอย่างไม่เคอะเขินอะไร แต่เมื่อเขาได้เข้ามาอยู่ห้องร่วมกับพวกเธอ ก็พบว่าผู้หญิงมักจะทำอะไรบางอย่างที่แตกต่างกับผู้ชายโดยสิ้นเชิง และเขาก็ค่อยๆ เรียนรู้ว่า ตอนผู้หญิงอยู่ด้วยกัน พวกเธอทำอะไรกันบ้าง หลังจากจบทริปเล่นสกีครั้งนี้แล้วเขาจึงได้นำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาสังเกตมาจากพวกเธอ มาแบ่งปันบนทวิตเตอร์ของเขา และชาวเน็ตก็ชอบใจใหญ่ เพราะว่าพวกเขาเห็นด้วยว่ามันจริงนั่นเอง ในกลุ่มผู้หญิง มักจะมีคนหนึ่งที่เป็นเหมือนแม่เสมอ เธอจะคอยดูแลทุกคนไม่ให้ขาดตกบกพร่องเลย สำหรับกลุ่มนี้ คนที่เป็นแม่ก็คือ Charlotte ตอนที่ผมเข้าไปอาบน้ำ ผมสังเกตเห็นกระจุกผมกองอยู่อย่างเป็นระเบียบ บริเวณผนังห้องน้ำด้วย เขาทำไมไปทำไมกัน?? ถ้าพวกเธออยากอยู่เงียบๆ พวกเธอมักจะส่งเสียง ชู่ว กับทุกการกระทำเลย …
-
เผยเบื้องหลังชีวิต มนุษย์ผู้อยากเป็นตุ๊กตา Human Ken Doll พร้อมภาพในอดีตก่อนจะเริ่มทำศัลยกรรม
ในปัจจุบัน การทำศัลยกรรมได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ไม่ใช่แค่การทำศัลยกรรมเพื่อการแพทย์เท่านั้น แต่การทำศัลยกรรมเพื่อความงามเองก็เช่นกัน จนเราอาจพูดได้ว่าใครๆ ก็ทำศัลยกรรมกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว การทำศัลยกรรมเพื่อเสริมความงามนั้น ช่วยให้คนเรามีรูปร่างตามที่ตนเองปรารถนา ซึ่งบริเวณที่คนนิยมทำศัลยกรรมกันมากก็คือจมูก หน้าอก และปาก แต่ว่าสำหรับบางคนแล้ว การแก้ไขเพียงบางส่วนของร่างกายไม่เพียงพอจะทำให้เขาพอใจได้ เขาจึงตัดสินใจทำศัลยกรรมทั้งร่างกายมันเสียเลย Rodrigo Alves ผู้มีฉายาว่า Human Ken Doll Rodrigo Alves เป็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ผ่านการศัลยกรรมมาอย่างโชกโชน โดยเขาใช้เวลามากว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตเพื่อเข้ารับการผ่าตัดและพักรักษาตัวเพื่อให้พร้อมสำหรับศัลยกรรมครั้งหน้า เขาทำศัลยกรรมจนแทบไม่เหลือเค้าของรูปร่างเดิมอยู่เลย สาเหตุที่เขาทำศัลยกรรมมากขนาดนี้ เพราะตัวเขามีความเชื่อว่าร่างกายที่มีมาตั้งแต่เกิดนั้น ไม่ใช่ร่างกายที่แท้จริงของเขา ดังนั้นเขาจึงพึ่งการทำศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองมีร่างกายที่ ‘สมบูรณ์แบบ’ ซึ่งเป็น ‘ร่างที่แท้จริง’ ของเขา รูปร่างของเขาก่อนเริ่มทำศัลยกรรม Rodrigo อธิบายว่า “ฉันเกิดมาอยู่ในร่างที่ผิด และฉันไม่หวั่นที่จะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อให้ได้ร่างกายที่แท้จริงมา” แพทย์ชี้แจ้งว่าเขาเป็นโรค Body Dysmorphic Disorder ซึ่งทำให้คนป่วยรู้สึกว่าร่างกายของตนไม่ใช่ร่างที่แท้จริง ส่วนร่างจริงๆ นั้นเป็นร่างที่อยู่ในจินตนาการต่างหาก “หมอบอกว่าฉันไม่ได้เป็นบ้า แค่มีปัญหาเรื่องมุมมองที่มีต่อร่างกาย ฉันมักจะฝันเสมอว่าฉันไม่ได้มีรูปร่างแบบที่เป็นอยู่ แต่พอตื่นมาแล้วลองส่องกระจก ฉันก็จะคิดว่าเสมอว่าคนในนั้นไม่ใช่ฉัน” เขาจึงได้เริ่มทำศัลยกรรมจนมีรูปร่างดังที่เห็นอยู่ทุกวันนี้…
-
เที่ยวชม ‘คุกญี่ปุ่น’ ดูสะดวกสบาย แต่ลึกๆ กลับให้ความรู้สึกอึดอัดและทุกข์ทรมาน!!
หากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศในฝันแถบเอเชียที่มีทั้งระเบียบวินัยเป็นเลิศ ประเพณีอันงดงามเป็นเอกลักษณ์ บ้านเมืองสะอาด อัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยถึงน้อยมาก อันเนื่องมาจากเป็นประเทศที่พัฒนาทั้งทางด้านความคิดและรูปลักษณ์ภายนอก นั่นก็คือ ‘ประเทศญี่ปุ่น’ นี่แหละ ว่ากันว่าประเทศญี่ปุ่นมีอาชญากรรมน้อยมาก การปล้นจี้แทบจะไม่มีเลย โดยเทียบอัตราส่วนของประชากร 100,000 คน จะมีเพียงแค่ 49 เท่านั้นที่เป็นนักโทษ เมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างอเมริกาตัวเลขพุ่งสูงไปถึง 760 คน (อัตราเทียบในปีค.ศ. 2008) โดยระบบยุติธรรมของประเทศญี่ปุ่นเน้นในเรื่องของ ‘การสำนึกตัวให้กลับมาเป็นคนดี’ หากใครกระทำความผิดที่ไม่ร้ายแรงมากเป็นครั้งแรก ทั้งตำรวจและศาลจะว่ากล่าวตักเตือนก่อนและทำการปล่อยตัวไป พยายามติดต่อคนในครอบครัวช่วยพาผู้ที่หลงผิดกลับตัวเป็นคนดีให้ได้ แต่ถ้าหากว่ารุนแรงเกินกว่าจะเป็นคนดีได้ ก็ต้องถูกส่งตัวเข้าคุกไปตามระเบียบ ดูผิวเผินจากระบบดังกล่าวแล้ว คล้ายๆ กับการให้อภัยแก่ผู้ที่หลงผิดให้มีโอกาสกลับตัวกลับใจ และสภาพภายในของคุกญี่ปุ่นนั้นดูสะดวกสบายมากๆ มีเครื่องอำนวยความสะดวกให้เพรียบพร้อมทุกอย่าง แต่กระบวนการต่อจากนี้อาจทำให้ผู้ต้องหาภายในคุกกลับทุข์ทรมานยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก เพราะหัวใจหลักของระบบยุติธรรมของญี่ปุ่นคือ ‘การสารภาพ’ เพราะเชื่อว่าการสารภาพคือขั้นแรกของการกลับตัวกลับใจ โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาในอาชญากรรมรุนแรงอย่างการฆาตกรรม ทำให้เกิดปัญหาที่ว่าผู้ต้องสงสัยหลายรายยอมรับสารภาพ เพื่อที่จะไม่ต้องเจอการสอบสวนแบบหนักหนาสาหัสอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 23 วัน โดยที่ยังไม่ถูกตั้งข้อหา โดยการสอบสวนเพื่อเค้นให้ยอมรับสารภาพของตำรวจญี่ปุ่น จะกินเวลาประมาณ…
-
พนักงานร้าน Burger King กลายเป็นฮีโร่ หลังวิ่งลงไปช่วยผู้ป่วยโรคเบาหวานที่กำลังเดือดร้อน
อาชีพพนักงานบริการตามร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด เป็นอาชีพที่มีค่าตอบแทนไม่มาก นอกจากนี้ยังเหน็ดเหนื่อยมาก เพราะว่าต้องบริการลูกค้าที่เข้ามาสั่งอาหารตลอดเวลา และคอยดูแลแทบทุกส่วนของร้านให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ จึงไม่แปลก หากจะเจอพนักงานที่ทำงานแบบขอไปทีอยู่บ่อยๆ แม้ว่าจะทำอาชีพที่ได้ค่าตอบแทนน้อย แต่ถ้าเราทำงานด้วยความเต็มใจ และทำงานอย่างเต็มที่ นึกถึงผลลัพธ์ของงานเป็นหลัก ความดีและความตั้งใจก็จะส่งผลตอบแทนให้กับเราแน่นอน แม้ว่าจะไม่ได้มาในรูปแบบของเงินก็ตาม Rebecca Boening และครอบครัว Rebecca Boening อาศัยอยู่ในเมืองอามาริลโล รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำเนื่องจากเป็นโรคเบาหวาน จึงจำเป็นต้องควบคุมปริมาณน้ำตาลให้ดีอยู่เสมอ เมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่าน้ำตาลในเลือดต่ำจนอยู่ในขั้นอันตราย เธอจึงต้องรีบเติมน้ำตาลให้ตัวเองโดยด่วน โชคดีที่ระหว่างทางนั้นมีร้าน Burger King พอดี เธอจึงรีบเลี้ยวรถเข้าไปในช่องไดร์ฟทรูทันที พอขับรถ เข้าไปพนักงานบริการ Tina Hardy ก็ออกมารับบริการทันที แต่ Rebecca คงจะขาดน้ำตาลรุนแรงจริงๆ เธอจึงสั่งอาหารด้วยน้ำเสียงสั่นเทา และพูดตะกุกตะกักอีกด้วย ดังที่เธอเล่าผ่านเฟซบุ๊กของตนว่า “ฉันบอกกับพนักงานไปว่าฉันมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ และต้องการอาหารมาก” และ “ตอนมีอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ จะคิดจะทำอะไรก็ยากไปหมด” แต่เธอก็ได้รับความช่วยเหลือที่ไม่คาดคิด เพราะพอสั่งอาหารเสร็จปุ๊บ พนักงานที่ให้บริการเธอก็วิ่งมาหาเธออย่างรีบร้อน พร้อมยื่นไอศกรีมให้เธออย่างฉับไว แล้วบอกว่าทานได้ทันทีเลย หลังจากนั้น…
-
นายทหารจีนยอดฮีโร่ใช้มือเปล่าแงะกระจกรถ เพื่อช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ข้างใน นี่แหละฮีโร่ตัวจริง!!
ฮีโร่ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นไม่จำเป็นต้องมาจากอวกาศ มีพลังพิเศษ หรือใส่ชุดเกราะสุดล้ำแต่อย่างใด ขอแค่คุณมีจิตใจที่ดีพร้อมจะช่วยเหลือคนอื่นเสมอ เท่านี้คุณก็จะสามารถเป็นฮีโร่ได้แล้ว เช่นเดียวกับนายทหารจีนนามว่า Ma Jun-dong วัย 26 ปีคนนี้ ซึ่งเขาได้เอาตัวเอาเข้าไปเสี่ยงและช่วยเหลือชาวบ้านสองคนที่ติดอยู่ในรถให้หนีรอดออกมาอย่างปลอดภัยด้วยมือเปล่า!? เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในมณฑลเหอเป่ย์ ประเทศจีน เมื่อรถยนต์คันหนึ่งได้เกิดเหตุชนและพลิกคว่ำพร้อมกับมีน้ำมันรั่วไหลออกมาซึ่งอาจจะเกิดเหตุร้ายเมื่อไหร่ก็ได้ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือภายในรถคันดังกล่าวยังมีคนสองคนติดอยู่ข้างใน ไม่สามารถเปิดประตูออกมาได้ ซึ่งในขณะที่ผู้คนต่างพากันมุงดู และไม่รู้จะทำยังไง นาย Ma Jun-dong ก็ได้วิ่งเข้าไปช่วยทันทีด้วยการทุบกระจกของรถด้วยก้อนหิน พร้อมใช้มือเปล่าๆ ของเขาแหวกกระจกออกโดยไม่สนว่ามือของเขาจะเป็นอะไรหรือไม่ เขาพยายามอย่างหนักเพื่อช่วยคนข้างในออกมา ซึ่งหลังจากที่แหวกกระจกได้ชาวบ้านคนอื่นๆ ก็ได้ตัดสินใจเข้าไปร่วมวงและพาผู้บาดเจ็บออกมา ส่วนตัว Ma Jun-dong นั้นก็พยายามอดทนต่อแผลกระจกบาดที่เขาได้รับจากการช่วยเหลือคนที่ติดอยู่ข้างใน สุดท้ายความพยายามของเขาก็ประสบผล ทุกคนช่วยกันพาผู้เคราะห์ร้ายออกมาจากรถได้สำเร็จและปลอดภัย . . ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวของเขาได้ถูกเผยแพร่ออกไป คนมากมายก็ต่างพากันชื่นชมเขาว่าเป็นฮีโร่ของหมู่บ้าน ส่วนด้านสาวๆ ก็บอกว่าอยากจะแต่งงานกับเขาเหลือเกิน อย่างไรก็ตามเราก็ต้องขอบคุณความเป็นฮีโร่ของนายทหารหนุ่มคนนี้จริงๆ ถ้าดูแบบคลิปเราจะเห็นชัดๆ เลยว่าเขานั้นกล้าหาญขนาดไหน ที่มา nextshark
-
เมือง Staufen ณ เยอรมนี กำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จากเหตุขุดเจาะใต้ดินที่ผิดพลาดในอดีต!!
Staufen คือชื่อของเมืองในประเทศเยอรมนีที่มีผู้อยู่ในอาศัยมากกว่า 8,100 ครัวเรือน ทางการเคยมองว่าเมืองแห่งนี้จะเป็นสถานที่นำร่องพลังงานสีเขียวของประเทศ จึงทำการจัดตั้งโปรเจกต์ใหญ่ขึ้นมาพร้อมขุดเจาะเพื่อหาพลังงานสีเขียวในปี 2007 แน่นอนว่าผลลัพธ์มันค่อยๆ ส่งผลเสียมาทีละนิดๆ จนกลายเป็นปัญหาใหญ่ในปัจจุบัน โดยชาวเมืองได้ค้นพบว่า โปรเจกต์หาพลังงานสีเขียวโดยการขุดเจาะดังกล่าวมันดันส่งผลเสียอันใหญ่หลวงเกินกว่าหลายคนคาดไว้ เพราะหลังจากที่แท่นขุดเจาะขุดลงไปถึงชั้นน้ำบาดาล ผลที่ตามมากลับทำให้พื้นดินเกิดขยายตัวและสูงขึ้น ทำให้บ้านเรือนจำนวนมากกว่า 230 หลังเกิดรอยร้าวตามมา!? ผู้ว่าการเมือง Staufen ก็ออกมาบอกว่า “พวกเราต้องอยู่ในสภาพพร้อมรับปัญหาแบบนี้มา 10 ปีแล้ว มันเป็นภัยร้ายที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ” อาคารหลายๆ แห่งในตัวเมืองจะมีการทาสีเหมือนพลาสเตอร์แปะไว้ พร้อมกับมีข้อความเขียนไว้ว่า “Staufen จะต้องไม่พังลง” ซึ่งมันก็เป็นคำปลอบใจชาวเมืองที่ไม่ค่อยได้ผลสักเท่าไหร่ ตอนนี้พื้นดินในเมืองเคลื่อนสูงขึ้นกว่า 60 เซนติเมตรและเคลื่อนไปด้านข้างถึง 45 เซนติเมตร และผลของการเคลื่อนตัวในครั้งนี้ ทำให้บ้านสองหลังถล่มลงมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้อาคารหลังอื่นๆ ก็อาจพังลงมาได้ทุกเมื่อเช่นกัน ผู้ว่าเมืองได้บอกว่า เขาพยายามสู้กับปัญหานี้มาเป็นเวลานานแล้ว เขาพยายามมองหาทางออกเพื่อให้พื้นที่ตัวเมืองกลับไปเป็นเหมือนเดิมแต่มันก็คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตาม Staufen ไม่ใช่เมืองเพียงแห่งเดียวที่ต้องเผชิญกับปัญหานี้ เมือง Freiburg ที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ ก็เจอปัญหาคล้ายแบบเดียวกันเป๊ะ ซึ่งทาง German Geothermal Association ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด พวกเขายังคงมองหาทางออกอยู่เรื่อยๆ นั่นเอง ที่มา odditycentral,thelocal
-
เด็กหนุ่มวัย 15 ถูกไล่กลับบ้าน หลังถักเปียผมสุดเฟี้ยวไปโรงเรียน คุณแม่งงทำไมผู้หญิงทำได้?
กลายเป็นกระแสสังคมกันพอสมควร หลังเด็กหนุ่มคนหนึ่งถูกโรงเรียนสั่งให้กลับบ้านทันทีเนื่องจากทรงผมที่เขาทำมานั้น มันขัดกับข้อตกลงของทางโรงเรียน ด้านผู้เป็นแม่จึงเกิดคำถามมากมายขึ้นในใจทันทีจากเหตุการณ์ดังกล่าว… Trisha Jukes คุณแม่ลูกสองวัย 34 ปี เล่าว่าเธอได้รับโทรศัพท์จากลูกชายของเธอ Jordan Waterfield วัย 15 ปี ซึ่งเขาโทรมาด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิดมากๆ โดยเขาบอกกับเธอว่าเขาถูกอาจารย์สั่งให้กลับบ้าน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาถูกไล่กลับนั้น มันเกิดขึ้นจากการที่ทรงผมของ Jordan ไม่เหมาะสม โดย Trisha ผู้เป็นแม่ก็ตั้งคำถามกับทางโรงเรียนว่ามันผิดตรงไหน ทั้งๆ ที่ผมทรงนี้ผู้หญิงก็ยังทำได้ แถมยังบอกว่าตนส่งลูกเรียนมาปีที่ 4 แล้วยังไม่เคยมีปัญหาอะไรเลยจนกระทั่งตอนนี้ ทางด้านอาจารย์จากโรงเรียน RSA Academy ในประเทศอังกฤษก็ได้ออกมาชี้แจงว่า เขาได้ส่ง Jordan กลับบ้านจริงด้วยเหตุหลักคือทรงผมมันสุดโต่งเกินไป ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมผู้หญิงถึงทำได้ส่วนเขาถึงถูกส่งกลับก็เพราะว่า ทรงผมของเขามันสั้นเกินไปนั่นเอง อย่างไรก็ตาม ทางด้าน Trisha ก็ได้เข้าไปต่อรองกับคณะอาจารย์ของโรงเรียนเพื่อให้ลูกของเธอได้กลับเข้าคาบเรียนอีกครั้ง โดยเธอบอกว่าเธอไม่ยอมให้ลูกต้องสูญเสียการเรียนไปหนึ่งวันเพราะเพียงแค่เรื่องของทรงผม อย่างไรก็ตาม Jordan นั้นก็ได้อนุญาตให้กลับเข้าไปเรียนต่อได้หลังจากเกิดเหตุไม่กี่ชั่วโมง แต่ผู้ปกครองหรือ Trisha ยังต้องมีการกลับเข้าไปหารือกับคณะอาจารย์อีกครั้งเพื่อหาข้อตกลงในเรื่องทรงผมของลูกชายนั่นเอง… ทรงผมไม่เกี่ยวกับการเรียน แต่ไว้ให้มันพอดีๆ ไม่ดูเฟี้ยวฟ้าวเกินก็น่าจะดีกว่านะ แล้วเพื่อนๆ คิดว่าไงกับเรื่องราวในครั้งนี้ลองมาแชร์กันดูนะ …
-
รวมชุดภาพถ่ายที่เผยให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเผชิญอะไรบ้างจากการปฏิบัติหน้าที่…
การเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรักษาความปลอดภัยในต่างประเทศนั้นเป็นอะไรที่ไม่ง่ายเลย ซึ่งเราก็คงรู้กันดีว่าเป็นปัจจุบันคนก็มักจะทำอะไรตามใจตัวเอง ฉะนั้นตำรวจจึงเป็นงานที่หนักหน่วงเพื่อควบคุมประชาชนของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเกิดบอกว่าจากการสำรวจจะพบว่าทุกๆ 22 นาทีจะต้องมีตำรวจหนึ่งคนที่บาดเจ็บล่ะ เราจะเชื่อกันไหม? ฟังดูอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่เชื่อเหอะว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่โดย The Police Federation ผ่านเว็บไซต์ Dailymail เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2017 ซึ่งเป็นภาพของเหล่าเจ้าหน้าที่ที่มีใบหน้าฟกฟกช้ำเต็มไปหมด บ้างก็เจ็บเล็กน้อย บ้างก็อาการหนักเลยก็มี โดยเป็นการยืนยันว่าสถิติที่ว่ามันเป็นเรื่องจริง และในปีก่อนก็มีตำรวจถูกทำร้ายมากกว่า 22,000 คนเลยทีเดียวล่ะ ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็พ่อหนุ่มคนนี้ DS James Dowler เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ออกไปปฎิบัติหน้าที่บริเวณ South Wales แล้วถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้ายเมื่อปี 2015 เจ้าหน้าที่ PC Karl Heath ถูกทำร้ายโดยชายคนหนึ่งระหว่างที่เขาเจอตอนกำลังไปทำงาน จนหัวไหล่ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ PC Heather Caruana วัย 30 ปี ถูกทำร้ายโดยวัยรุ่นจนเกิดเป็นแผลรอบดวงตาจนลืมตาไม่ขึ้น ห้าวันต่อมาแผลดังกล่าวได้สร้างรอยแผลเป็นให้กับเธอ PC Safia Finlow ถูกทำร้ายร่างกายขณะไปทำงานที่เมือง Devon…
-
สาวจีนมัวแต่เล่นวีแชท รู้ตัวอีกทีก็ลงไปอยู่ในสระน้ำพร้อมกับรถหรูมูลค่า 10 ล้านบาท!!
เรียกว่าเป็นความสูญเสียมูลค่าหลายล้านที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย เมื่อสาวจีนคนหนึ่งได้ขับรถสุดหรูของเธอพุ่งลงสระน้ำข้างทาง ด้วยสาเหตุที่ว่าเธอมัวแต่เล่นวีแชทจนไม่ได้มองถนน เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน โดยทาง South China Morning Post รายงานว่า ระหว่างทางที่หญิงสาวกำลังขับรถ Maserati GranTurismo มูลค่ากว่า 10 ล้านบาทไปยังเมืองหนานจิง เธอก็มัวแต่พิมพ์วีแชทจนสุดท้ายรถเสียหลักพุ่งลงบ่อน้ำข้างทาง แต่อีกสื่อหนึ่งก็ได้รายงานแตกต่างกันออกไป โดยได้รายงานว่าหญิงสาวนั้นหักหลบรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่พุ่งเข้ามา สุดท้ายเสียการควบคุมรถไปจนพุ่งลงบ่อน้ำข้างทาง อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการรายงานต้นเหตุของเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนกันคือรถหรูของเธอจบสภาพลงที่บ่อน้ำข้างทาง ซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ Xu Jie ผู้มารับผิดชอบในคดีนี้ก็บอกว่า “ตอนที่ผมมาถึงยังที่เกิดเหตุ หญิงสาวคนนี้ก็กำลังเดินออกจากสระน้ำด้วยอาการสั่นจากอากาศที่หนาวเย็น โชคยังดีที่น้ำไม่ลึกมากนักโดยตัวรถยังไม่จมลงไปทั้งหมดเหลือส่วนหลังคาไว้เกือบๆ 30 เซนติเมตร นอกจากนี้ตัวรถก็ยังทำงานได้ปกติดี” นอกจากความเสียหายที่เกิดจากตัวรถแล้ว ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บใดๆ จะมีก็แต่หญิงสาวเจ้าของรถที่ถูกตั้งข้อหาใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ จึงโดนปรับเป็นเงิน 50 หยวน หรือเป็นเงินไทยราวๆ 250 บาท สุดท้ายแล้วก็ไม่มีการรายงานต่อว่า หญิงสาวได้ทำยังไงกับตัวรถหลังจากยกมันขึ้นจากบ่อน้ำ และตัวเธอนั้นเป็นเจ้าของรถหรือไม่นั้น ก็คงต้องรอรายงานกันต่อไป… ที่มา nextshark
-
ครอบครัวเร่งช่วยเหลือชายชาวฟิลิปปินส์ที่ขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าวเป็นเวลานานกว่า 3 ปี!?
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าจะมีคนที่อยู่กินบนต้นไม้นานถึง 3 ปีโดยไม่ลงมาเลย ซึ่งพอเกริ่นแบบนี้หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันโอเวอร์ แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ ที่สำคัญยังเป็นต้นมะพร้าวอีกด้วย!? Gilbert Sanchez ชายชาวฟิลิปปินส์วัย 47 ปี จากเมือง La Paz คือชายผู้เป็นเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ โดยเขาได้หนีจากการใช้ชีวิตบนพื้นดินขึ้นไปบนอยู่บนต้นมะพร้าวตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันก็นับได้กว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวเขาไม่เคยลงมาเหยียบพื้นเลยแม้แต่ครั้งเดียว จนสุดท้ายทุกคนก็ตัดสินใจจะพาเขาลงมาจากที่ตรงนั้น… เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นจาก Gilbert ที่หนีออกจากบ้านหลังจากถูกทุบเข้าที่หัวอย่างรุนแรงระหว่างที่มีปากเสียงกันในครอบครัว มันส่งผลให้เขาเกิดอาการจิตหลอนจนคิดว่าถ้าเขายังอยู่บนพื้นต่อไปก็จะมีคนมาตามฆ่าเขา เมื่อความคิดดังกล่าวมันฝังลึกอยู่ในหัวและจิตใจของเขา เขาจึงตัดสินใจขึ้นไปอาศัยอยู่บนต้นมะพร้าว พร้อมกับตั้งเป้าว่าจะไม่ลงมาอีกเลยต่อให้ใครจะมากล่อมหรือจะโดนแมลงและสภาพอากาศที่รุนแรงโจมตีก็ตาม ในด้านอาหารการเป็นอยู่ของเขา ก็จะได้รับการส่งเสบียงผ่านเชือกที่ห้อยลงมา ซึ่งตัวแม่ของเขาจะเป็นคนส่งให้เสมอๆ แม้จะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม เพราะเธอได้ลองกล่อมเขาหลากหลายทางแล้วจดสุดท้ายก็ต้องยินยอมและทำแบบนี้เรื่อยมา Aldrin Sanchez น้องชายของ Gilbert เล่าว่า เขาเคยพยายามเรียกให้พี่ชายลงมาหลายต่อหลายครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธเสมอ มีครั้งหนึ่งเขาบอกให้พี่ชายลงมาแต่ตัวพี่กลับบอกให้เขาไปไกลๆ เพราะถ้าลงไปเขาจะถูกฆ่า ด้านลูกๆ สองคนของ Gilbert ที่เกิดจากภรรยาที่เสียชีวิตก็ได้รับการดูแลจากตาและยายของพวกเขา แต่น่าเศร้าที่ครอบครัวไม่สามารถส่งเด็กๆ ไปเรียนได้เพราะหัวหน้าครอบครัวก็ดันติดอยู่บนต้นไม้ ที่แปลกกว่าคือทุกคนใน La Paz รับรู้ถึงเรื่องราวของ Gilbert Sanchez…
-
รวม 10 ข้อห้ามสุดแปลกจากทั่วโลก ที่ทั่วโลกทำได้ แต่ถ้ามาประเทศนี้ห้ามทำเด็ดขาด!!
ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปที่ไหนของโลก เราก็พอจะเข้าใจได้ว่าหลายๆ อย่างนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมายที่ห้ามทำกันโดยสากลโดยที่เราไม่ต้องถาม ทว่าก็ยังมีข้อห้ามอีกหลายอย่างที่มีเฉพาะเจาะจงในบางประเทศเท่านั้น… บางอย่างนั้นก็ผิดกฎหมาย บางอย่างก็เป็นแค่ข้อห้ามที่ไม่ได้บังคับแต่ก็ไม่ควรทำด้วยเหตุผลหลายๆ อย่าง เช่นเพื่อให้เกียรติ หรืออะไรก็ว่าไป อ่านแล้วดูน่าสนใจใช่ไหมล่ะ เราลองมาดูกันดีกว่าจะมีข้อห้ามอะไรแปลกๆ บ้าง เวลาเราไปจะได้ไม่ทำพลาด… ห้ามกินบิสกิตในวันคริสต์มาส แต่วันปกติกินได้ ข้อห้ามจากปี 1644 จากประเทศอังกฤษ ประกาศใช้โดย Oliver Cromwell ด้วยเหตุผลหลักว่ามันผิดศีลธรรม โดยทำการห้ามกินบิสกิตรวมถึงขนมปังหวานต่างๆ ในวันคริสต์มาส ทว่าในความเป็นจริงแล้วก็ไม่ค่อยมีใครจะแคร์สักเท่าไหร่… ห้ามแตะหรือเอามือจับวาฬ กฎหมายนี้ก็ออกจะแปลกหน่อยๆ ซึ่งมาจากอังกฤษเช่นเดียวกัน โดยมีกฎว่าวาฬหรือโลมาที่อยู่ในรัศมี 3 ไมล์ รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ล้วนเป็นทรัพยสินของราชินีทันที ฉะนั้นจึงอย่าคิดได้ลองแตะมันเป็นอันขาด ห้ามช่วยคนจมน้ำ กฏหมายแปลกๆ จากประเทศจีน ที่ห้ามให้เราลงไปช่วยคนที่จมน้ำเด็ดขาด ซึ่งมันอาจจะฟังดูงี่เง่า ทว่าทาง Eastern philosophy ได้บอกว่ากฎนี้มีไว้เพื่อควบคุมประชากรชาวจีนที่มีมากเกินไปแบบเนียนๆ ด้วยเหตุผลว่าถ้าเข้าไปช่วยคนจมน้ำเท่ากับไปยุ่งกับชะตากรรมของชาวบ้าน ห้ามจูบที่สถานีรถไฟ อีกหนึ่งกฏหมายสุดแปลกจากประเทศฝรั่งเศส และบางสถานีในอังกฤษ ซึ่งบังคับใช้ในปี 1910 โดยมีข้อห้ามว่าห้ามจูบกันระหว่างรอรถไฟ แต่จะมีพื้นที่พิเศษไว้ให้ ฟังดูอาจจะแปลกสักหน่อย แต่กฎนี้มันมีเพื่อให้รถไฟไม่ต้องมามัวรอผู้โดยสารที่จูบลาเป็นเวลานานนั่นเอง ห้ามให้อาหารนก…
-
เจ้าของทีมฟุตบอล ตัดสินใจรับชายไร้บ้าน 2 คนเข้าทำงาน แถมยังให้ที่พักฟรีๆ อีก…
ปัญหาคนไร้บ้านนั้น ล้วนเป็นปัญหาที่เรื้อรังและไม่ได้รับการจัดการมาเป็นเวลานาน ซึ่งคนที่ต้องกลายมาเป็นคนไร้บ้านนั้นก็มาด้วยเหตุผลแตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันคือ พวกเขาเหล่านั้นหลายคนยังคงรอโอกาสที่ใครสักคนจะหยิบยื่นมาให้… ล่าสุดได้มีเรื่องราวอบอุ่นหัวใจ เมื่อ Glenn Tamplin เศรษฐีจากเมือง Essex ในอังกฤษ ผู้เป็นเจ้าของทีมฟุตบอล Billericay Town F.C. ซึ่งเป็นทีมฟุตบอลประจำเมืองได้หยิบยื่นโอกาสเปลี่ยนชีวิตให้กับคนไร้บ้านสองคนที่เขาเจออยู่บ่อยๆ Glenn เล่าว่าชายทั้งสองนั้นมักจะนั่งอยู่บริเวณเส้นทางที่เขาไปทำงาน จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ตัดสินใจพูดคุยกับ Richard ชายไร้บ้านคนหนึ่ง จนได้พบว่าชายคนนี้นั้นเคยเป็นอดีตทหารอากาศที่เคยร่วมรบในสงครามฟอล์กแลนด์ แต่ตอนนี้เขากลับกลายเป็นคนไร้บ้านนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ Glen จึงตัดสินใจที่จะหยิบยื่นโอกาสให้อดีตนายทหารคนดังกล่าวและเพื่อนของเขาอีกคนหนึ่ง Rey ให้มาทำงานให้กับเขา Richard นั้นได้รับงานเป็นผู้ดูแลทั่วไป ส่วน Rey ได้รับหน้าที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนาม AGP Arena ซึ่งเป็นสนามฝึกซ้อมของทีม โดยที่นั้นทั้งคู่จะมีที่พักให้นอนและมีงานให้ทำตามที่เขากำหนดข้างต้น ฉะนั้นชีวิตพวกเขาทั้งคู่จะได้ดีขึ้น Glen บอกว่าเขาตัดสินใจจะช่วยเหลือทั้งคู่ และเปลี่ยนชีวิตพวกเขา ทั้งเรื่องปัญหาการติดสุราและการใช้ชีวิตในระยะยาว ซึ่งพวกเขาจะได้ลดการดื่มเหล้า และมีเงินเก็บเพิ่มขึ้น นอกจากนี้เขาบอกว่าเขายินดีที่จะมอบชีวิตใหม่ให้กับคนดีๆ แบบคนทั้งสองที่ขาดแค่โอกาสแก้ตัวนั่นเอง… เขาเปิดเผยแนวคิดที่น่าสนใจให้สื่อที่ไปสัมภาษณ์ได้ฟังว่า “ผมเริ่มคิดว่า ผมควรจะเปลี่ยนชีวิตของพวกเขาให้ดียิ่งขึ้น และในตอนเช้าผมก็เลยตัดสินใจให้โอกาสทั้งคู่ใหม่…
-
สะ..สะตรอง!! ฉลามถูกคลื่นซัดเข้ามาในสระน้ำริมทะเล หญิงสาวไปอุ้มมันโยนคืนทะเลแบบโคตรเท่
ว่ากันว่าฉลามนั้นเป็นสัตว์ที่อันตราย การที่อยู่ดีๆ จะเข้าไปจับมันนั้นถือเป็นความคิดที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เพราะอาจจะถูกกัดจนเกิดการบาดเจ็บตามมาก็เป็นได้ ทว่าหญิงสาวคนคนนี้กลับไม่คิดแบบนั้น Melissa Hatheier ซึ่งทำงานเป็นตัวแทนอสังหาริมทรัพย์จากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียคนนี้ ได้จับเจ้าปลาฉลามตัวหนึ่งที่มันดันหลุดเข้าไปในบริเวณอ่างเก็บน้ำ โดยเธออุ้มมันขึ้นมาอย่างกล้าหาญและแข็งแรง จากนั้นก็นำตัวเจ้าฉลามไปปล่อยยังทะเล ซึ่งมีการบันทึกภาพไว้ได้ด้วย… และเมื่อภาพเหตุการณ์ของเธอที่ถูกบันทึกได้ถูกปล่อยไปบนโลกอินเตอร์เน็ต เรื่องราวของเธอก็กลายเป็นไวรัลทันที… ก่อนอื่นลองรับชมคลิปเหตุการณ์ได้ข้างล่างเลยครับ และด้วยวีรกรรมนั้นทางสำนักข่าว The Today Show ก็เลยรู้สึกสนใจขอสัมภาษณ์เธอทันที ซึ่งเธอเล่าว่าที่เกิดเหตุนั้นอยู่ที่ Cronulla ขณะที่ทางด้านพิธีกรก็ถามว่านี่คุณไม่กลัวมันจะหันมากัดบ้างเหรอ คุณทำแบบนั้นไม่ได้นะ!! Melissa ก็บอกว่า ในหัวของเธอคิดแค่ว่าเธอจะต้องช่วยเจ้าฉลามให้ได้ เธอไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นหรอก เธอชอบช่วยเหลือผู้รอดชีวิตอะไรทำนองนี้ และผลลัพท์ก็ออกมาอย่างที่เห็น คลิปเหตุการณ์ของเธอนั้นมีคนเข้าชมแล้วมากกว่า 360,000 ครั้ง ชาวเน็ตมากมายก็ต่างพากันมาชื่นชมว่าเธอช่างกล้าหาญ และเป็นคนดีจริงๆ ยังไงก็ตามผู้เชี่ยวชาญก็ยังแนะนำว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่แนะนำให้ทำ เพราะอาจจะเกิดอันตรายได้นั่นเอง ทางที่ดีควร แจ้งผู้เชี่ยวชาญหรือหน่วยงานเฉพาะให้พวกเขามาเป็นคนจัดการ แทนที่จะลงไปด้วยตัวเองอย่างที่เห็นในคลิป โชคดีที่เธอไม่ถูกฉลามทำร้ายล่ะนะ… ที่มา buzzfeed
-
เด็ก 12 ขวบโดนเพื่อนจับมัดแล้วขว้างเนื้อใส่ เพียงเพราะเป็น “มังสวิรัติ” จนนำไปสู่ความตาย..
เรื่องราวสุดสลด ที่แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของการกลั่นแกล้งในสังคมนักเรียนจากโลกตะวันตก เมื่อเพื่อนของเด็กชายคนหนึ่งรู้ว่าเขามังสวิรัติ จึงจัดการกลั่นแกล้งต่างๆ นาๆ จนเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น… Louie Tom Fenton เด็กชายวัย 12 จากเมืองฮาร์ตฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ได้ถูกเพื่อนที่โรงเรียนกลั่นแกล้งอย่างหนักเพราะเขาเป็น ‘มังสวิรัติ’ ซึ่งนั่นทำให้เขาทั้งถูกล้อเลียนต่างๆ นาๆ จนล่าสุดเด็กชาย Louie ได้ตัดสินใจแขวนคอตายในห้องน้ำที่บ้านอย่างน่าเศร้าสลด ซึ่งผู้เป็นแม่ที่มาพบกับร่างไร้วิญญานของลูกก็ได้พบจดหมายของบุตรชาย ภายในนั้นได้บอกเล่าถึงความอึดอัดใจของลูกชาย ที่เขาได้ถูกกลั่นแกล้งต่างๆ นาๆ ตั้งแต่ย้ายมาเรียน ซึ่งเธอได้เล่าให้ศาลฟังว่า ลูกชายของเธอโดนกลั่นแกล้งมาตลอด และมันหนักข้อขึ้นทุกวันโดยเฉพาะเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ถูกเพื่อนๆ ปาเนื้อใส่เขาที่โรงอาหารโรงเรียนด้วยเหตุที่เขาเป็นมังสวิรัติ และเมื่อการแกล้งมันหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ เด็กชายก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากปลีกตัวไปกินข้าวคนเดียวให้ห่างไกลจากเพื่อนฝูง ต่อมาเด็กชายก็หันไปสูบบุหรี่เพื่อช่วยหาทางออกในความเครียดเรื่องดังกล่าว จนสุดท้ายเด็กชายก็ตัดสินใจปลิดชีวิตตัวเองด้วยการแขวนคอตายในท้ายที่สุด ด้าน Graeme Fenton พ่อของ Louie ได้บอกว่าลูกชายของเขานั้นไม่ได้ตั้งใจฆ่าตัวตาย เพราะเขาเป็นสมาชิกชมรมลูกเสือสมุทร และเขาก็ได้เรียนการผูกเงื่อนทุกชนิด ฉะนั้นมันอาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบที่เผลอทำลงไป นอกจากนั้นไม่นานมานี้ลูกชายยังเล่าถึงเรื่องการไปทัศนศึกษาอย่างสนุกสนานอยู่เลยแท้ๆ ยังไม่หมดเท่านั้น ด้านโรงเรียนหรือคนรู้จักของเด็กชาย ก็ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า Louie เป็นเด็กอารมณ์ดี เขาคงไม่คิดจะฆ่าตัวตายหรอก และพวกเขาก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นแบบนั้น ทว่าจะพูดยังไงผลลัพท์มันก็ได้ออกมาแล้วอยู่ดี… ยังไงก็ตาม การตายของ Louie…
-
ทำคลิปลองใจคนญี่ปุ่น ด้วยการเอา “ของมีค่า” วางทิ้งไว้บนโต๊ะ งานนี้จะโดนจิ๊กหรือไม่!?
คำที่ว่า ถ้าคุณลืมของไว้ญี่ปุ่น ผ่านไปเป็นวันกลับมาเอาของก็ยังอยู่ที่เดิม เคยคิดกันไหมว่ามันเป็นการอวยญี่ปุ่นกันเกินไป ด้วยเหตุนี้ทางช่อง Life Where I’m From ก็เลยทำคลิปเพื่อทดสอบว่าคำพูดดังกล่าวมันเกินจริงไหม… ขั้นตอนการทดสอบของช่องดังกล่าวนั้นง่ายมาก พวกเขาได้เอาของมีค่าวางไว้บนโต๊ะใน Skytree’s Sola Machi entertainment complex ในกรุงโตเกียวที่มีผู้คนมากมายผ่านไปมาก จากนั้นก็แอบเอากล้องอีกตัวถ่ายไว้ ของมีค่าที่วางไว้ก็เป็น ถุงช็อปปิ้งที่มีของข้างใน โทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงิน จากนั้นก็วางทิ้งไว้เฉยๆ นั่งดูเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นก็รอดูว่าจะมีใครมานั่งหรือแอบหยิบของมีค่าของพวกเขาไปไหม ซึ่งผลที่ออกมานั้นมันเหลือเชื่อมากๆ ผ่านไปเป็นชั่วโมงยังไม่มีใครมาขโมยของบนโต๊ะเลย อย่างมากก็มานั่งใกล้ๆ ของ แต่พวกเขาก็แค่นั่งกินอาหารเท่านั้น ผู้คนต่างพากันเดินผ่านไปมาไม่ได้สนใจของมีค่าบนโต๊ะเลย เวลาผ่านไปอีกสักพักพวกเขาเริ่มรู้สึกว่ายังไงก็ไม่มีใครขโมยแน่ๆ และเขาก็รู้สึกว่าเกรงใจพนักงานและร้านพอสมควรจึงทำการเก็บของ แต่พวกเขาก็ยังอยากทดสอบเพิ่มเดิม เลยเดินทางไปยังร้านสตาร์บัคส์ใกล้ๆ กันก็พบว่า ที่นี้มีคนวางของจองไว้เต็มไปหมด หลายโต๊ะเป็นกระเป๋าหรือของที่ดูมีค่าพอสมควรเลย พอไปที่สตาร์บัคส์ ก็เจอคนวางของไว้เต็มไปหมด โดยที่ไม่กลัวใครจะมาหยิบไปเลย ไม่ว่าจะเป็นถุงช็อปปิ้งหรือกระเป๋าสะพายก็วางทิ้งไว้กันหน้าตาเฉย แต่พวกเขาก็ยังไม่เลิก เลยจัดการเอาแมคบุ๊คไปวางไว้ จากนั้นก็ตั้งกล้องถ่าย ผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีใครมานั่งจุดที่แมคบุ๊ควางไว้ หรือท่าทีจะขโมยเลย สุดท้ายพวกเขาก็รู้สึกว่ามันมีข้อสรุปแล้วล่ะ…
-
หญิงสาวพบแฟนสภาพเปลือย อยู่บนร่างลูกสาวตัวเองวัย 12 ปี เลยจัดการแทงแฟนยับ 6 ทีเต็มๆ!!
เกิดเหตุอื้อฉาวร้าวรานภายในครอบครัวกันอีกแล้ว เมื่อล่าสุดสื่อนอกได้รายงานถึง เหตุการณ์ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอว่า เกิดคดีแม่ลูกหนึ่ง ได้แทงชายที่เป็นแฟนหนุ่มเข้าที่ท้องถึง 5 ครั้ง จากนั้นก็แทงที่ศีรษะอีก 1 ครั้ง หลังจากที่เห็นเขากับลูกสาวเธอสภาพเปลือย?? เรื่องราวดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นเมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 14 กันยายน เวลาประมาณ 02.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่คุณแม่ลูกหนึ่งเข้านอนเร็วกว่าปกติและตื่นขึ้นมาในเวลาดังกล่าว เธอก็พบว่าแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังคบหากันอยู่ กำลังขึ้นคร่อมลูกสาววัย 12 ของเธอในสภาพเปลือยท่อนบนอยู่ เธอคิดว่าแฟนหนุ่มจะทำมิดีมิร้ายกับลูกสาว จึงได้จัดการหยิบมีดพกแทงแฟนหนุ่มในทันที มีดถูกกระหน่ำแทงลงไปบนท้องและบริเวณหลังศีรษะ รวมแล้ว 6 ครั้ง แต่ที่เหลือเชื่อคือแฟนหนุ่มยังคงรอด ส่วนคุณแม่ได้โทรแจ้งตำรวจพร้อมรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าจึงเข้ามายังที่เกิดเหตุในเวลาต่อมา… ต่อมาชายหนุ่มถูกส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา ด้านลูกสาวได้ให้ปากคำว่า เธอถูกแฟนของผู้เป็นแม่พยายามแก้ผ้าเธอ และเขาบอกกับเธอว่า “นี่แหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อเธอมีแฟน..” แต่กลับกันแล้ว ด้านแฟนหนุ่มได้ให้ปากคำว่า เขาถูกแทงเพราะแฟนสาวของเขา บังเอิญมาเห็นเขากับลูกสาวของเธอและรู้สึกอิจฉาที่ลูกสาวชอบในตัวเขา จึงจัดการแทงเขานั่นเอง ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวนี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน เราคงต้องรอความคืบหน้าของคดีกันอลหม่านระหว่าง แม่-แฟนแม่-ลูกสาวที่ติดมา ซึ่งดูจะเป็นการล่วงละเมิดทางเพศที่น่าเป็นห่วงมากเลยทีเดียว… ที่มา dailymail
-
เด็กอินเดียวัย 11 ขวบ ป่วยเป็นโรคพิเศษทำให้โตไวกว่าอายุถึง 8 เท่า!! แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้…
Shreyash Barmate เด็กชายวัย 11 ขวบจากอินเดียผู้ป่วยเป็นโรค Progeria หรือโรคชราในเด็ก ซึ่งมันทำให้เขาที่เป็นเด็กแต่กลับมีร่างกายที่แก่กว่าปกติราวกับว่า เขาอายุ 70 หรือ 80 เข้าไปแล้ว!! Shreyash นั้นอาศัยอยู่ที่รัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย ซึ่งแม้เขาจะเป็นเด็ก 11 แต่ร่างกายภายนอกของเขานั้นแก่ไปมากๆ แล้ว ทั้งแขนขาที่ผอมแห้งราวกับคนแก่ หัวที่โตและล้านกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งจากบันทึกพบว่ามีเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้แค่ราวๆ 150 คนเท่านั้น แต่ถึงร่างกายของเขาจะไม่ปกติ Shreyash ก็ไม่ปล่อยให้โรคนี้มาสร้างความคิดลบกับเขา เขายังคงหัวเราะและยิ้มแย้มอยู่เสมอ และเขายังบอกว่าเขาอยากเป็นนักร้องด้วย แม้ว่าทีมแพทย์จะคาดว่าเขาจะเสียชีวิตอีก 2 ปีจากนี้ก็ตาม เด็กชายได้เล่ากับ The Sun ว่า “ผมเล่นได้ทั้งเครื่องดนตรี ร้องเพลงก็ได้ ปั่นจักรยานก็เก่ง และผมก็ยังชอบว่ายน้ำด้วย ที่สำคัญผมก็รู้ว่าผมป่วยเป็นอะไร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะทำลายฝันของผมที่จะเป็นนักร้องชื่อดังหรอกนะ โตขึ้นผมจะโด่งดังมีชื่อเสียง ที่สำคัญผมจะเก่งกว่าคนอื่น และผมก็มีความสุขมากๆ เลยล่ะ” ด้าน Arvind Barmate ผู้เป็นพ่อก็บอกว่า เขามีลูกสองคนเป็นฝาแฝดก็คือ Shreyash…
-
มาได้ยังไง!? เมื่อป้ายบอกข้อมูลใจกลางเมือง แสดงหน้าเว็บโป๊โจ๋งครึ่มแบบไม่อายฟ้าดิน ฮร่า
ในปัจจุบันนั้นป้ายโฆษณาหรือป้ายให้ข้อมูลต่างๆ ก็ล้วนปรับเปลี่ยนมาเป็นระบบดิจิตอลกันหมดแล้ว และด้วยความเป็นดิจิตอลนี้เอง ก็ทำให้เกิดความผิดพลาดจากฝ่ายควบคุมป้ายอยู่บ่อยๆ อย่างเช่นเมื่อเช้าวันจันทร์ที่ 4 กันยายน 2017 ป้ายบอกข้อมูลที่ตั้งภายในศูนย์การค้า Southwater ในเมือง Telford เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมา เพราะแทนที่จะโชว์ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ก็ดันกลายมาเป็นหน้าเว็บโป๊ซะอย่างนั้น… แน่นอนว่าเมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้น กว่าฝ่ายดูแลจะรู้ตัวก็มีประชาชนคนพบเห็นไปหลายรายแล้ว และจนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็ตัดสินใจตัดอินเตอร์เน็ตของป้ายทุกตัวในศูนย์การค้าเป็นการชั่วคราว เพื่อทำการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กลับมามาอยู่ในสภาพปกติอีกครั้ง ด้าน Emily Taylor ตัวแทนจากสภาเมือง ไม่เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นมาจากภายในองค์กร แต่มันจะต้องเกิดจากการที่มีมือดีเข้ามาแฮคและเล่นพิเรนทร์แน่ๆ ซึ่งจะต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบหาต้นตอที่ชัดเจน เดิมทีแล้วป้ายดังกล่าวจะแสดงข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับศูนย์การค้าและใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์ รวมถึงโฆษณาต่างๆ แต่การมาเยือนของเว็บโป๊นั้น ก็อาจจะเป็นการโฆษณาแบบเนียนๆ ก็เป็นไปได้เหมือนกันนะ… ที่มา metro
-
พ่อแม่ลงทุนบินจากอินเดียมาหาลูกชายที่ฟลอริดา เพื่อทำร้ายร่างกายสะใภ้ โทษฐานไม่เชื่อฟัง
Devbir Kalsi วัย 33 ปี พร้อมพ่อแม่ของเขา Jasbir วัย 67 ปีและ Bhupinder วัย 61 ปี ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยว หลังจากภรรยาของเขา Silky Gaind วัย 33 ปี แจ้งตำรวจ เหตุการณ์ทั้งหมดนั้นเริ่มจากการที่ Devbir ได้โทรเรียกพ่อแม่ของเขาจากอินเดียให้บินมายังฟลอริดา ที่บ้านของเขาในเมือง Riverview เพื่อช่วยจัดการสั่งสอนภรรยาของเขาที่ไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งต่างๆ ของเขา ตัวภรรยานั้นถูกครอบครัว Kalsi ทุบตีอย่างหนัก และกักขังไว้ในห้องพร้อมกับลูกน้อย จากนั้นก็ทำการยึดโทรศัพท์มือถือมาด้วย เพื่อสั่งสอนให้เธออยู่ในโอวาทของพวกเขา และทุกครั้งที่ Silky พยายามจะสู้เธอก็จะถูกทำร้ายหนักกว่าเดิม ซึ่งร้ายแรงสุดๆ ก็คงจะเป็นการถูกสามีถือมีดและขู่ว่าจะแทงถ้ายังไม่ฟังในขณะที่เธอยังอุ้มลูกน้อยอยู่นั่นเอง แต่ยังไงก็ตามสุดท้ายแล้ว Silky ก็สามารถหาทางโทรกลับไปหาพ่อแม่ที่อินเดียของเธอจนได้ ซึ่งทำให้พ่อแม่ของเธอติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ในรัฐฟลอริด้าและเดินทางมาช่วยเธอในเวลาต่อมา ด้านเจ้าหน้าที่เล่าว่าในช่วงเวลาที่พวกเขามาถึง ตอนแรกประตูถูกล็อคไว้และเมื่อพยายามจะพังเข้าไปก็จะถูกดันไว้โดยตัว Kalsi เอง ทว่าทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่พยายามพวกเขาจะได้ยินเสียงกรีดร้องให้มาช่วยเหลือลูกและตัวเธอเองดังออกมาตลอด นั่นทำให้เจ้าหน้าที่ยิ่งแน่ใจว่าต้องรีบเข้าไปช่วย สุดท้ายแล้วเรื่องก็จบลงที่ทั้งสามคนถูกจับ พร้อมถูกตั้งข้อหามากมายโดยหลักๆ แล้วก็จะเป็นคดีทำร้ายร่างกายและกักขัง แต่ภายหลังก็ถูกเพิ่มข้อหาเกี่ยวกับการทำร้ายเด็กรวมถึงมีอาวุธร้ายแรงไว้ครอบครองด้วย และทั้งหมดจะถูกส่งกลับไปดำเนินคดีต่อที่อินเดีย ทว่าตอนนี้ยังถูกกักขังไว้เพื่อรอการสอบสวนต่อไป……
-
เด็กสาวตก “ดาบเอกซ์แคลิเบอร์” เก่าแก่ได้ในทะเลสาบ ราวกับเป็นผู้ถูกเลือกในตำนาน!!
เมื่อพูดถึงดาบในตำนานบนโลกใบนี้ เราก็คงจะนึกถึงดาบกันอยู่แค่ไม่กี่เล่ม แน่นอนว่า เอกซ์แคลิเบอร์ ถือเป็นดาบในตำนานที่ต้องถูกพูดถึงเป็นอันดับแรกๆ อย่างแน่นอน ด้วยความพิเศษและอำนาจของมันที่ผู้ถูกเลือกเท่านั้นจะใช้ได้ ทว่าล่าสุด Matilda Jones หนูน้อยวัย 7 ขวบ ดันตกดาบในตำนานนี้ระหว่างไปออกทริปกับครอบครัวที่ทะเลสาบ Dozmary Pool ในประเทศอังกฤษได้เฉยเลย แบบนี้เธอก็เป็นคนที่ถูกเลือกสิเนี่ย!! จากคำบอกเล่าของคนในท้องถิ่น พวกเขาเล่าว่าทะเลสาบแห่งนี้นี่แหละ เป็นทะเลสาบที่กษัตริย์อาเธอร์ได้เอาดาบเอกซ์แคลิเบอร์ของจริงมาทิ้งไว้ หลังจากบาดเจ็บสาหัสหลังสู้รบในเหตุการณ์ Battle of Camlann แต่ที่แปลกกว่าคือ ตอนที่มาถึงทะเลสาบดังกล่าว Paul Jones วัย 51 ซึ่งเป็นคุณพ่อของน้องหนู Matilda พึ่งจะได้คุยกับเธอและ Lois น้องสาวของเธอว่าที่นี้มีตำนานของดาบดังกล่าวอยู่ แล้วไม่นานพวกเขาก็เจอดาบจริงๆ ซึ่งใครจะเชื่อว่าเด็กสาวที่อยากจะมาเล่นน้ำเพราะอากาศร้อน จะสามารถเจอดาบในตำนานบริเวณแม่น้ำที่ลึกแค่เอวของเด็กสาวได้…ยิ่งบวกเข้ากับที่มาของชื่อ Matilda ที่ตั้งตามจักรพรรดินี Matilda จากราชวงค์อังกฤษด้วยแล้ว มันก็ดูจะเป็นไปได้นะที่เธอจะถูกเลือกจากดาบเล่มนี้ แต่แม้ว่าดาบดังกล่าวจะมีความยาวถึง 1.2 เมตรราวกับเป็นของจริง บวกเข้ากับตำนานต่างๆ แต่คุณพ่อของน้องหนู Matilda ก็บอกว่าตัวดาบอาจจะมีอายุราวๆ 30 ปีเท่านั้น ที่สำคัญมันอาจจะเป็นแค่พรอพประกอบหนังที่ถูกเอามาทิ้งไว้นั่นเอง… ที่มา dailymail
-
ใครจะเชื่อว่าเปลือกส้มที่ดูไร้ค่า จะสามารถเปลี่ยนผืนป่าคอสตาริกาให้กลับมาชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง!!
ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ผืนป่าในประเทศคอสตาริก้านั้น อยู่ในระดับที่วิกฤตมากๆ ด้วยเหตุนี้เหล่านักนิเวศวิทยาก็ต่างพยายามต่อสู้เพื่อฟื้นฟูผืนป่าแห่งนี้ ด้วยการหาหนทางต่างๆ มากมายเพื่อป่ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 1997 Daniel Janzen และ Winnie Hallwachs สองสามีภรรยานักนิเวศวิทยาได้ร่วมมือกับอุทยานแห่งชาติ Área de Conservación Guanacaste เพื่อฟื้นฟูผืนป่ากลับขึ้นมาอีกครั้ง โดยในตอนนั้นพวกเขาได้ปิ๊งไอเดียบางอย่างขึ้น จึงได้เดินทางไปตกลงกับบริษัท Del Oro ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำผลไม้เจ้าใหญ่ของประเทศ ทั้งคู่ได้เสนอบริษัทว่า ถ้าบริษัทมอบพื้นที่ป่าของบริษัทให้อุทยานแห่งชาติ พวกเขายินดีที่ให้บริษัทเอาขยะที่เป็นเปลือกส้มและเปลือผลไม้อื่นๆ มาทิ้งได้ที่อุทยาน ทางบริษัทเมื่อได้รับข้อเสนอดังกล่าวก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก เพราะปกติแล้วพวกเขาต้องจ้างบริษัททำลายขยะกำจัดเปลือกส้มเหล่านี้ด้วยวิธีการกลบฝังหรือเผาทำลายเท่านั้น แต่หากสามารถนำไปทิ้งได้ที่อุทยาน พวกเขาแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เลย ด้วยเหตุนี้บริษัทจึงนำเปลือกส้มจำนวนกว่า 12,000 ตันมาทิ้งทับถมกันไว้ที่อุทยานดังกล่าว กินพื้นที่ไปกว่า 3 เอเคอร์ เรียกว่าทั้งพื้นที่เต็มไปด้วยเปลือกส้ม แต่สัญญาดังกล่าวกลับมีอายุได้เพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น เพราะปีต่อมาบริษัท Tico Fruit คู่แข่งสำคัญของบริษัท Del Oro ได้ฟ้องร้องต่อศาลว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทำลายป่าในอุทยานแห่งชาติ ซึ่งในท้ายที่สุดศาลตัดศาลสินให้สัญญาดังกล่าวเป็นโมฆะ เวลาผ่านไป 15 ปี เปลือกส้มดังกล่าวยังคงถูกทิ้งไว้ที่เดิมโดยไม่มีใครเข้าไปใยดี แม้จะมีนักวิจัยหลายคนเข้าไปเยี่ยมเยียนพื้นที่ดังกล่าว แต่ก็ไม่มีการประเมินถึงความเสียหายจากการทิ้งเปลืองส้มในครั้งนั้นอย่างจริงจัง จนกระทั่งปี…
-
เคราะห์ซ้ำกรรมซ้อน…อุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่เล่นงานหนัก นอกจากท่วมเมืองแล้วยังท่วมที่ลี้ภัยอีก
ผ่านไปกันเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้วสำหรับภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากพายุฮาร์วีย์ นอกจากความรุนแรงยังไม่ลดลงแล้ว ความเสียหายต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมก็ยังขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ ยิ่งมีการแพร่ภาพศูนย์อพยพที่ถูกน้ำท่วมแล้ว ก็ยิ่งทำให้เราสลดใจในชะตากรรมของเพื่อนมนุษย์เหล่านี้ ล่าสุด น้ำที่ท่วมสูงทำให้ประชาชนจำนวนมาก ต้องทิ้งบ้านเรือนและย้ายเข้าไปอยู่ศูนย์หลบภัย แน่นอนว่าโดยปกติถ้าทางการให้ย้ายไปแบบนี้ เราก็คงอุ่นใจได้พอสมควรว่าเราจะปลอดภัยในศูนย์หลบภัยเหล่านั้น แต่ความเป็นจริงที่พุ่งเข้าหน้าชาวเท็กซัสกลับตรงกันข้ามกับสิ่งที่พวกเขาหวังไว้ ลองดูสภาพน้ำที่ท่วมเต็มพื้นที่ของ Bowers Civic Center ภายในก็มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่อยู่รวมกันเต็มไปหมด ดูความแออัดชั้นบนนั่นสิ ที่แย่กว่าคือห้องน้ำก็ไม่สามารถใช้งานได้ เพราะน้ำเข้าไปยึดพื้นที่ไว้หมดแล้ว มีการเผยแพร่ภาพจากชาวเน็ตที่ชื่อ Valerie LaPoint-Kinlaw ซึ่งได้แสดงให้เห็นศูนย์หลบภัยที่ทางการได้เตรียมไว้ให้ ถูกน้ำที่เกิดจากพายุทะลักเข้ามา ทำให้หลายส่วนของศูนย์หลบภัยถูกปกคลุมไปด้วยน้ำ ไม่ว่าจะเป็นพื้นชั้นล่าง ห้องน้ำและอื่นๆ ล้วนเต็มไปด้วยน้ำ เราลองดูคลิปแบบเต็มๆ จากสถานที่เกิดเหตุกันดู ผู้คนกว่า 500 คนจะต้องอาศัยอยู่บนที่นอนที่สูงกว่าน้ำนิดหน่อย หรือไม่ก็ไปแออัดกันอยู่ข้างบนชั้นสโลป นอกจากนั้นน้ำยังไม่มีทีท่าจะลดในเร็วๆ นี้ จะมีแต่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐฯ ได้บอกกับประชาชนว่า พายุฮาร์วีย์จะเบาตัวลงในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน วอนให้ประชาชนอยู่ในความสงบและรออีกหน่อยนั่นเอง… ที่มา metro
-
เด็กน้อยถูกเมินหลังที่ตกรถบัสไปโรงเรียน จนกระทั่งชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามา จัดไปน้องอ้าย!!
มันเป็นเรื่องยากนะ ที่เวลาอยู่ๆ มีคนแปลกหน้าเดินมาเคาะประตูบ้านและขอให้ช่วยเหลือหน่อย แล้วเราจะยอมยื่นมือไปช่วย เพราะด้วยความเราไม่รู้จักคนๆ นั้น เขาหวังดีหรือเปล่าก็ไม่รู้นั่นเอง เด็กชายในเรื่องราวครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะเจ้าหนูคนนี้พลาดตกรถโรงเรียนและอาจจะไปโรงเรียนไม่ทันถ้าไม่มีคนไปส่ง หนุ่มน้อยเลยตัดสินใจไปเคาะประตูเพื่อนบ้านเพื่อให้พวกเขาไปส่งหน่อย แน่นอนว่าด้วยความที่สังคมเมืองนอกเพื่อนบ้านจะไม่ค่อยสนิทกันมากนัก พวกเขาจึงไม่รู้จักเจ้าหนูคนนี้และตัดสินใจไม่ไปส่ง หนุ่มน้อยทำแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าขอความช่วยเหลือไปหลายหลังก็ไม่มีใครช่วย จนกระทั่ง… พ่อพระมาโปรดของจริง ใจเขาหล่อสุดๆ Brian Smith ชายหนุ่มผิวสีคนหนึ่งเปิดประตูออกมา ซึ่งแน่นอนว่าถ้าคนเราตัดสินคนด้วยรูปลักษณ์ภายนอก เราก็จะคิดว่าชายคนนี้น่าตาน่ากลัวไม่เป็นมิตรแน่ๆ แต่ผิดแล้ว เราไม่ควรตัดสินกันแบบนั้น เพราะเขาคนนี้บอกว่า จัดไปน้อง เดี๋ยวพี่ไปส่งเอง!! เขาได้เล่าเรื่องราวลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “หนุ่มน้อยคนหนึ่งมาเคาะประตูบ้านในตอนเช้า จนผมตื่นขึ้นมาด้วยความหงุดหงิดพร้อมพูดว่า เชรี่ยไรกันเนี่ย!! วินาทีที่เปิดไปเจอเด็กหนุ่มคนอ้อนวอนให้เขาไปส่งหน่อย พร้อมบอกว่าเขาตกรถโรงเรียน ไม่มีใครยอมไปส่งเลย ไปขอมาหลายบ้านแล้วด้วย ผมก็เลยบอกกลับไปว่า ไม่มีปัญหาเดี๋ยวพี่ไปส่งเองไอ้น้อง!! วินาทีนั้นผมไม่คิดอะไรเลย ขนาดฟันผมก็ยังไม่แปรงด้วยซ้ำ ผมหยิบกุญแจรถแล้วไปส่งเขาที่โรงเรียนทันที” Brian ปิดท้ายคอมเม้นว่า ไปหาความรู้เถอะไอ้น้องชาย นี่มันเป็นสิ่งที่พี่ชายจะทำให้ได้ พร้อมแฮชแทคว่าเด็กคืออนาคต…อื้อหือ คนดีสุดๆ จริงๆ งานนี้ชาวเน็ตก็ออกมาชื่นชม Brian กันเพียบเลยล่ะ…
-
ชายหนุ่มคว้าปืนกะ “ปล้นรถชาวบ้าน” แต่คนที่อยู่ในรถดันโหดยิ่งกว่า งานนี้เละครับพี่น้อง!!
แม้ว่าเหล่าหัวขโมยนั้นจะมีอาวุธครบมือแค่ไหน แต่ว่าถ้าคุณไปขโมยของไม่ดูตาม้าตาเรือ ชีวิตคุณอาจจะตกเป็นภัยเอง เพราะตัวอย่างก็มีให้เห็นมากมาย ดูอย่าง จอห์น วิค สิตีเป็นไง ขโมยไม่ดูละฆ่าหมาเขาอีก งานนี้ยับ!! Angelo Drew Martinez วัยรุ่นหนุ่มชาวเม็กสิโกวัย 20 ปี ในเรื่องนี้ก็เช่นกัน เพราะว่าเขาคิดว่าการชักปืนออกมาขู่ชาวบ้านมันจะง่ายมากๆ ที่จะปล้นใครสักคน งานนี้เขาก็เลยไปปล้นรถคันหนึ่งบริเวณ Loma Linda Community Center ในรัฐแอลบูเคอร์คี ประเทศเม็กซิโก ภาพของสถานที่เกิดเหตุ ทว่ารถคันนั้นกลับไม่หมูอย่างที่คิด เพราะทันทีที่เข้าไปปล้นก็ต้องเจอดีเป็นชายหนุ่มสามคนที่เป็นนักฟุตบอล งานนี้ Angelo ถึงกลับร้องขอชีวิต เพราะเขาถูกชายสามคนอัดเละเป็นโจ๊กเลยล่ะ หลังจากที่โดนสวนกลับอย่างหมดสภาพ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงพร้อมกับรับตัว Angelo ไปคุมขังและถ่ายภาพมัคช็อต และนี้ก็คือสภาพที่ได้ของเขาหลังจากปล้น… โฉมหน้าของตา Angelo หลังจากฆ่าไปหน่อย จากการให้การของพยานทั้งสาม พวกเขาเล่าว่ากลางดึกในคืนเหตุการณ์นั้น พวกเขากำลังนั่งคุยกันอยู่ในรถใกล้ๆ กับ Loma Linda Community Center หลังจากที่พวกเขาซ้อมเสร็จ สักพักเขาก็เห็น Angelo มาด้อมๆ มองๆ…
-
เมื่อชาวเน็ตนับพันร่วมแรงร่วมใจช่วยกันตามหาเด็กน้อยที่เผลอ “ลืมตุ๊กตาลิง” ตัวโปรดไว้…
ในวัยเด็กนั้น เชื่อว่าหลายคนจะคงมีตุ๊กตาตัวโปรดที่เวลาไปไหนกับพ่อแม่ก็จะพกไปเสมอๆ และด้วยความเป็นเด็กบางครั้งเราก็อาจจะเผลอลืมมันทิ้งไว้ตามที่ต่างๆ ถ้านึกได้กลับไปเอาทันก็ดีไป แต่บางครั้งมันก็ดันนึกไม่ทันเนี่ยสิ… ทว่าเมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่ St. John’s International Airport ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้าพร้อมติดตามหาเจ้าของทันที เพราะเธอรู้ว่ามันจะต้องสำคัญต่อเจ้าหนูที่เป็นเจ้าของแน่นอน Kristen Sellars เจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลลูกค้าจากสายการบิน WestJet ได้เจอเข้ากับเจ้าตุ๊กตาลิงถูกทิ้งไว้บริเวณจุดบอร์ดดิ่ง เธอก็รู้ได้ว่าเจ้าของต้องเป็นกังวลแน่ๆ ที่ตุ๊กตาตัวโปรดหายไป เธอไม่รอช้าหยิบมือถือขึ้นมาและถ่ายรูปมันทันที!! จากนั้นเธอก็แชร์มันลงบนเฟซบุ๊กของตัวเองพร้อมแคปชั่นว่า “เจ้าลิงจ๋อตัวนี้มันถูกลืมที่ไว้ที่สนามบิน และมันก็ทำให้ฉันลำบากใจทุกครั้งที่มองไปที่มันพร้อมหวังว่าเจ้าของจะกลับมาเอามันกลับไปสักที “ งานนี้ผู้คนมากมายก็ต่างแชร์เรื่องราวของเจ้าจ๋อออกไป และกระแสตอบรับก็ดีมากๆ จนสุดท้าย Kristen และเพ่ื่อนร่วมงานก็ได้ตั้งชื่อให้กับมันว่า “Bo” เวลาผ่านไป ก็ยังไม่มีเจ้าของมารับเจ้า Bo กลับไป งานนี้เธอก็เลยจัดการดูแลเทคแคร์ และพามันไปถ่ายรูปตามมุมต่างๆ ของสนามบินอยู่เรื่อยๆ แน่นอนว่าทุกคนในสนามบินก็รู้จักและชื่นชอบมันมากๆ เลยล่ะ สุดท้ายแล้ว Kristen ก็บอกว่า “ฉันหวังว่าสักวันหนึ่ง เจ้าของจริงๆ ของมันจะเดินทางกลับมารับเจ้าจ๋อไปอยู่ด้วยนะ” ที่มา buzzfeed
-
ภาพความต่างของ “เกาหลีเหนือและใต้” ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ที่ต่างกันสุดขั้ว!!
คนส่วนใหญ่นั้นมักจะรู้และได้ยินว่า เกาหลีใต้นั้นดียังไงแฮปปี้ขนาดไหน ส่วนเกาหลีเหนือนั้นแย่ยังไงลำบากขนาดไหนกันอยู่บ่อยๆ แต่เราก็แค่ได้ยินแต่ไม่ยักจะได้เห็นภาพการเปรียบเทียบของสองประเทศนี้จริงๆ กันเสียที ด้วยเหตุนี้จึงมีชาวต่างชาตินามว่า Jacob Laukaitis จึงได้ไปเก็บภาพของทั้งสองประเทศมาและเปรียบเทียบพร้อมบอกเล่าประสบการณ์ที่เขาได้รับ จากการไปยังดินแดนเกาหลีทั้งสอง ซึ่งเขาก็บอกว่ามันต่างกันสุดขั้ว จนไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งสองใช้ชื่อเกาหลีเหมือนกัน พูดไปก็ไม่เห็นภาพ เอาเป็นว่าลองมาดูภาพความแตกต่างกันดูดีกว่า… ช่วงเวลาว่างของฝั่งเกาหลีใต้ พวกเขาก็จะไปนั่งในสวนสาธารณะอย่างมีความสุขและผ่อนคลาย แต่สำหรับเกาหลีเหนือ พวกคุณไม่ค่อยจะมีเวลว่างหรอก ว่างเมื่อไหร่ก็จะโดนเรียกไปเต้นๆ แบบนี้แหละ ช่วงชีวิตวัยรุ่นจากฝั่งเกาหลีใต้ พวกเขาก็จะมีชีวิตที่อิสระ ได้ใช้ชีวิตตามแบบตัวเอง แต่งตัวสวยๆ หล่อๆ แต่ทางเกาหลีเหนือ ทุกคนก็ต้องไปเรียนพร้อมใช้ชีวิตตามแบบแผนที่ท่านคนในรูปกำหนดมาให้ ท้องถนนในเกาหลีใต้นั้น ก็จะเต็มไปด้วยรถและผู้คนตลอดเวลา แต่เกาหลีเหนือก็ตามที่เห็น เงียบกริบไม่มีรถสักคัน ลานจอดรถเกาหลีใต้ก็จะเต็มไปด้วยผู้คน แต่ฝั่งเกาหลีเหนือที่คนไม่ค่อยจะมีรถใช้กัน ก็จะนานๆ มีรถมาจอดสักคัน ความต่างของบ้านนอกก็จะมีโทนสีและหญ้าที่ต่างกันมากๆ อย่างเกาหลีใต้ก็จะอุดมสมบูรณ์ ส่วนเกาหลีเหนือก็อย่างที่เห็น ด้านระบบขนส่งอย่างรถไฟก็จะแตกต่างกันมากๆ ด้วยเทคโนโลยีและสภาพแวดล้อม อย่างเกาหลีใต้เราก็จะเห็นถึงความศิวิไลซ์ แต่เกาหลีเหนือเราก็จะเห็นความสวยงามในแบบเก่าๆ หน่อย ในส่วนของมหาลัยนั้น…
-
ชาวบ้านเอาคืนหลังนักท่องเที่ยว “จอดรถในหมู่บ้าน” เพราะไม่อยากเสียค่าที่จอดในสนามบิน
การโกงเลี่ยงจ่ายค่าจอดรถ หรือเลี่ยงที่จะจ่ายเงินบางอย่างนั้น ไม่ได้มีแค่บ้านเราเท่านั้นที่ทำ แต่เมืองนอกก็ทำเหมือนกัน และในครั้งนี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยว ที่ต้องเดินทางไปต่างถิ่นแต่ดันไม่ยอมจ่ายค่าจอดรถสนามบิน ทว่าการไม่ยอมเสียเงินค่าจอดรถในสนามบินนั้น มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าพวกนักท่องเที่ยวดังกล่าวไม่เอารถของพวกเขามาจอดเต็มสองข้างทางในหมู่บ้านใกล้ๆ จากแผนที่จะเห็นว่า พื้นที่เจ้าปัญหามันอยู่ใกล้สนามบินนิดเดียวเท่านั้น แล้วดูจอดกัน รถทุกคันไม่ใช่ของชาวบ้านด้วยนะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ถนนใกล้ๆ กับ Luton Airport ในประเทศอังกฤษ โดยชาวบ้านได้ทำการแชร์ภาพที่พวกเขาจัดการกับรถมากมายที่มาจอดเต็มสองข้างทางหมู่บ้านของพวกเขา จนทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนโดยการพ่นสีและทุบกระจก รถบางคันก็ยังถูกปล่อยลมยาง เรียกว่าเป็นการแก้เผ็ดที่จัดการกับพวกไม่ยอมเสียเปรียบได้อย่างดี เจ้าของรถกลับมาน่าจะมีอึ้งกันไปบ้างล่ะ เละเชียว บรึ๊ยยย พอสำนักข่าวต่างๆ รู้เรื่องเข้าก็เดินทางไปสอบถามเรื่องราวกับชาวบ้าน ก็พบว่ารถเหล่านี้จอดนิ่งอยู่แบบนี้มานานหลายวันแล้ว บางคันก็นานถึงสองสัปดาห์เลยทีเดียว ชาวบ้านยังบอกอีกว่า รถบางคันก็ไม่ได้เสียหายหนักขนาดนั้น บางคันก็แค่วาดรูปหรือเขียนคำด่าทอลงไป แต่ว่าเด็กๆ ที่เห็นก็คงนึกสนุกและอยากเอาคืนเช่นกัน ก็เลยจัดการทุบกระจกจนแตกหลายคันเลยทีเดียว ด้านพ่อแม่ของเด็กๆ ก็ไม่ห้ามไรเพราะคิดว่ามันสมควรแล้ว ด้านเพื่อนบ้านที่ไม่ได้โดนลูกหลงของผลกระทบนี้ก็บอกว่า พวกเขาไม่โทษชาวบ้านหรอกนะ เพราะพวกเขาเข้าใจความรู้สึกดี แม้หน้าบ้านจะไม่ได้โดนรถมาจอดเต็มทางเหมือนถนนเส้นใกล้ๆ แถมพวกเขาบอกเพิ่มเติมว่ารถบางคันจอดมาเกือบจะเดือนแล้วเจ้าของยังไม่กลับมาเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเรื่องราวอาจจะดูรุ่นแรง หรือหลายคนอาจจะสงสัยว่าเจ้าของรถไปแจ้งตำรวจเหรอ โฆษกของเมือง Bedfordshire ก็บอกว่า…
-
ชาวประมงช็อคหนัก หลังเปิดหน้าต่างรถทิ้งไว้ กลับไปเจอ “ยุง” นับพันตัวตั้งกองทัพในรถ!!
ช่วงเวลาสุดช็อคของชาวประมงชาวรัสเซียคนหนึ่ง เมื่อเขาดันออกไปหาปลาแต่ดันลืมปิดหน้าต่างรถซะอย่างนั้น รู้ตัวอีกทีก็ตอนกลับมา แต่สิ่งที่เขาต้องเจอมันน่ากลัวราวกับนั่งสยองขวัญอย่างไงอย่างงั้น สิ่งที่ชาวประมงต้องเจอนั้นคือกองทัพยุงนับร้อยนับพันตัว บินอยู่เต็มรถของเขาซึ่งแค่มองก็หน้ากลัวมากๆ แล้ว เขาคาดว่าฝูงยุงเหล่านี้จะบินเข้ามาเพราะมันสัมผัสได้ถึงก๊าซคาบอนที่เขาปล่อยออกมาตอนอยู่ในรถนั้นเอง ที่เห็นเทาๆ มัวๆ ในรถนั้นคือยุงล้วนๆ !! จำนวนยุงที่กะด้วยตานั้นมีเยอะมากๆ อาจจะ 1,000 ตัวเลยก็ได้ ซึ่งลองจินตนาการดูสิว่าถ้าลองไปนั่งข้างในนั้นสัก 5 นาทีสภาพของเราจะเป็นยังไง บรึ๊ยยย ดูกองยุงจำนวนมากที่นอนตายอยู่ ลองคิดสภาพการนั่งลงไปแล้วให้ยุงทั้งหมดมากัด อ่าห์ ฟิน ยุงนั้นเป็นแมลงประเภทหนึ่งที่มีอยู่ทั่วโลก และยังเป็นตัวพาหะนำโรคมากมาย ฉะนั้นการเปิดหน้าต่างหรือประตูรถทิ้งไว้ และรถมีแสงไฟตกแต่งอยู่ตลอดก็จะสามารถดึงดูดแมลงต่างๆ มาได้เยอะแยะเลยทีเดียว ถ้าไม่บอกว่ายุง นี่คิดว่าแมงเม้าเลยนะเนี่ย พอลองช้อนขึ้นมา โอ้โห ฉะนั้น ถ้าใครจะออกจากบ้าน หรือขับรถไปที่ไหนก็อย่าลืมปิดบ้านให้มิดชิด เพราะนอกจากภัยจากแมลงแล้ว ภัยจากสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็น่ากลัวเช่นกัน ด้วยความเป็นห่วงนะ… ที่มา dailymail
-
นักศึกษาสาวประกาศตามหาที่พัก เจอเจ้าของใจดี๊ใจดี เสนอที่อยู่ฟรีๆ ‘ถ้ายอมให้เลียเท้า’
ภัยจากโรคจิตนั้นสามารถเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา และกับคนทุกชนชั้นไม่เว้นแม้แต่เมืองปารีสที่เราคิดว่าเจริญแล้วก็ตาม เพราะหลังจากเธอโพสต์ข้อความตามหาที่พักบนอินเตอร์เน็ต อยู่ได้ไม่นานโรคจิตก็มาโจมตีเธอทันที Erin Clark จากเมืองเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์ ได้เข้าศึกษาต่อกฏหมายที่มหาลัยในเมืองปารีส ทว่าเธอก็ได้ประสบปัญหาในการหาที่พัก จึงสอบถามชาวเน็ตว่าใครพอจะมีแนะนำที่พักในปารีสได้บ้าง… แน่นอนว่าก็มีคำแนะนำจากชาวเน็ตในพื้นที่มากมาย แต่แล้วก็มีข้อความจากชายแปลกหน้าคนหนึ่งเข้ามาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่พักที่เธอกำลังตามหาอยู่ แน่นอนว่า Erin ก็จะต้องสนใจคุยรายละเอียดอยู่แล้วล่ะ ชายคนดังกล่าวนั้นเปิดตัวด้วยข้อความที่ดูเป็นมิตรปกติดี จนกระทั่งเจตนาที่แท้จริงของเขาได้เผยออกมา ซึ่งเขาเสนอกับ Erin ว่าเธอสามารถเข้ามาพักที่นี่ได้ฟรีๆ แต่ว่ามีเงื่อนไขคือต้องสนองตัณหาของเขา โดยเขามีรสนิยมทางเพศเกี่ยวกับเท้า เพราะฉะนั้นแล้วเขาจึงขอเลียเท้าของเธอในบางครั้งบางคราว… นอกนั้นเขายังจะใส่เครื่อง CB 3000 ไว้ที่หรรมส์ของเขาด้วย ซึ่งเขาได้อธิบายว่าเขาไม่ได้จะมีเซ็กส์ แต่เขาแค่ชื่นชอบอะไรแบบนี้เท่านั้น ถ้าเธอรับเงื่อนไขทั้งหมดได้ เธอก็ได้จะห้องพักสุดหรูไปอยู่ฟรีๆ เลย งานนี้ Erin จึงคิดหนัก พร้อมกับสงสัยว่า ไอ้เจ้าเครื่อง CB 3000 ที่ว่ามันคืออะไร จึงไปตามหาก็ต๊กกะใจในความจริง เธอจึงจัดการแชร์เรื่องราวนี้ออกไป ชาวเน็ตก็ให้ความสนอกสนใจกันยกใหญ่ สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดก็ดันมาจบลงตรงนี้ ซึ่งเราก็ไม่ทราบว่าในตอนจบของเรื่อง Erin จะยอมให้เขาเลียเท้าไหม…
-
ครอบครัวถูกแมลงวันบุกเข้าบ้าน กำจัดออกไปไม่หมด ถึงขั้นทำให้เด็กชายสุขภาพย่ำแย่!!
แมลงวัน เจ้าสิ่งมีชีวิตสุดน่ารำคาญ ที่นำพามาแต่โรคภัยเช่นเดียวกับยุง ซึ่งล่าสุดได้มีเรื่องราวอันน่าสงสารเกิดขึ้นกับเด็กชายและเพื่อนบ้านรอบๆ ที่ต้องเจอกับปัญหาแมลงวันบุกยึดครั้งใหญ่… Jamieleigh Dale ผู้เป็นแม่ของเด็กชาย Stephen วัย 2 ขวบ ได้เล่าว่าบ้านที่พวกเขาอยู่อาศัยในประเทศอังกฤษนั้นกำลังเจอปัญหาแมลงวันมาก่อกวนอย่างหนัก ซึ่งมันสร้างปัญหาให้ลูกของเธอมากๆ เด็กชาย Stephen จะต้องพบกับช่วงเวลาอันโหดร้าย ทำให้เด็กชายต้องฝืนใจนอนในขณะที่แมลงวันก็มาตอบเขาอยู่ไม่ขาดสาย และอย่างที่รู้กันว่าแมลงวันเป็นตัวพาหะนําโรคชั้นดี จึงทำให้เด็กชายเริ่มมีอาการป่วยและไอทุกครั้งที่ตื่น ทางด้านคุณแม่ก็ได้ทำการร้องเรียนกับทางการท้องถิ่นไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังไม่มีการดำเนินการช่วยเหลือใดๆ ได้กลับมาแค่เพียงคำแนะนำให้ปิดประตูและหน้าต่าง เพราะปัญหาแมลงวันมาจากจุดนี้ แต่คุณแม่ก็บอกว่า ถึงแม้จะปิดไปแล้วแต่แมลงวันก็ยังโผล่เข้ามาอยู่ดี… เธอบอกว่า ตัวเธอนั้นอยู่ไม่สุขเลยที่ทุกครั้งเห็นแมลงวันเกาะตามตัวลูก รวมถึงทุกครั้งที่มีการกินข้าว แมลงวันก็จะมาเกาะเสมอ นอกจากนั้นไม่ว่าจะใช้วิธีไหนฆ่าพวกมัน แมลงวันก็จะกลับมาและอาจจะเยอะกว่าเดิมด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นสเปรย์กำจัดแมลงก็ทำให้สุขภาพคนในบ้านย่ำแย่ไปทุกที ยิ่งลูกชายของเธอตนนี้ต้องออกจากโรงเรียนเพราะอาการป่วยของเขาด้วย สุดท้ายเมื่อเรื่องร้ายแรงขึ้นทุกที จนทำให้เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมรับรู้ แล้วเริ่มจะเข้ามาจัดการและสอบสวนปัญหาดังกล่าวแล้ว โดยพวกเขาได้บอกว่า พวกเขาจะจัดการปัญหานี้ให้ได้พร้อมกับมองหาว่าต้นต่อทั้งหมดมันมาจากไหน ทว่าปัญหานี้แม้จะมีองค์กรมากมายเข้ามาช่วยเหลือ แต่ดูแล้วคุณแม่ลูกหนึ่งก็บอกว่า แมลงวันก็ไม่หายไปหรือลดจำนวนสักที ก็คงต้องดูกันว่าองค์กรต่างๆ จะจัดการปัญหานี้ยังไงต่อไป… ที่มา metro
-
คุณพ่อชาวซิกข์ ไม่พอใจที่โรงเรียนคริสต์แบนลูกชาย เพราะผ้าโพกหัวนั้นผิดกฎเครื่องแบบ!?
เรื่องราวความต่างทางชนชาติและศาสนานั้น ยังเป็นสิ่งที่ถกเถียงเมากันช้านานไม่เว้นแม้แต่ในเมืองหรือสังคมของหลายประเทศที่เรียกว่าเป็นประเทศพัฒนาแล้วก็ตาม ล่าสุดในเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ก็ได้มีข่าวเกี่ยวกับปัญหาด้านศาสนาเกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเด็กนักเรียนคนหนึ่งถูกแบนจากทางโรงเรียนด้วยเหตุผลที่ว่า หนูน้อยคนนี้โผกหัวไปโรงเรียนตามแบบศาสนาซิกข์ที่เขานับถืออยู่… เรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไป จนเกิดกระแสวิพากย์วิจารย์มากมาย ทำให้ทางโรงเรียน Melton Christian College ซึ่งเป็นโรงเรียนต้นทางที่แบนเด็กชาย Sidhak วัย 5 ขวบ ได้ออกมาตอบโต้กับเรื่องนี้ว่า… ที่พวกเขาแบนเด็กชายเป็นเพราะว่าการแต่งตัวของเด็กชายนั้น มันไม่เข้ากับรูปแบบเครื่องแต่งกายของทางโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนคริสต์ ทำให้เหตุนี้จึงจำเป็นต้องแบนเด็กชาย Sidhak นั่นเอง ด้าน Sagardeep Singh Arora คุณพ่อของเด็กชาย ก็ออกมาตอบโต้ต่อการกระทำนี้เช่นกัน ซึ่งเขาเล่าถึงลูกชายว่าพึ่งจะเข้าเรียนโรงเรียนดังกล่าวเมื่อต้นปีเท่านั้น แล้วการทำแบบนี้มันก็ถือเป็นการริดรอนสิทธิ เด็กๆ ควรจะสามารถฝึกหรือทำพิธีทางศานาตามความเชื่อได้ปกติที่โรงเรียน รวมถึงเครื่องแต่งกายด้วย… เขายังบอกเสริมอีกว่า เขาไม่คิดเลยว่าประเทศและเมืองที่เขาคิดว่าจะเจริญแล้วอย่าง เมืองเมลเบิร์น จะมีสถานที่ที่ยังคงปิดกั้นทางศาสนาและเครื่องแต่งกายอยู่อีก สุดท้ายแล้วทางคุณพ่อ Sagardeep ก็ได้ส่งเรื่องไปยังชั้นศาลแล้ว ส่วนผลจะเป็นยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไป ด้านลูกชาย Sidhak ก็ได้เข้าเรียนในโรงเรียนอื่นแทนเป็นที่เรียบร้อย ยังไงก้ตามคุณพ่อ Sagardeep ก็หวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรในโรงเรียนคริสของประเทศดังกล่าวในอนาคต รวมถึงโรงเรียน Melton Christian ด้วยเช่นกัน… ที่มา dailymail
-
หนุ่มทำคลิป ‘ล่อโจรมาขโมย’ แล้วปิดประตูตีแมว พาขับรถบรรทุกทัวร์นรก ให้หัวหมุนรอบเมือง!!
ปกติเวลาเราดูคลิปพวกแกล้งคน หรือที่เรียกว่าคลิปแนว Prank จากฝรั่งแล้ว ส่วนใหญ่คลิปก็จะเป็นการแกล้งเพื่อน แกล้งคนแปลกหน้า แกล้งคนรู้จัก หรือวิธีสารพัดแบบที่คนส่วนใหญ่ก็มักจะทำกันแบบเดิมซ้ำๆ ไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่เท่าไหร่ แต่ว่าวันนี้ #เหมียวมู่ทู่ จะพาไปดูคลิปแนวนี้ในแบบใหม่ที่เปลี่ยนจากการแกล้งใครก็ไม่รู้ มาเป็นการแกล้งเหล่าโจรที่พยายามจะขโมยของ งานนี้เล่นเอาโจรไปไม่เป็นเลยทีเดียว หนุ่มยูทูบเบอร์ของเราได้ทดลองเอารถบรรทุกของไปจอดเปิดประตูด้านหลังเอาไว้ในพื้นที่ล่อหูล่อตาโจรขโมย (ซึ่งมีอัตราการขโมยของสูงพอควร) และดูว่าจะมีโจรคนไหนมาติดกับดักนี้มั้ย ลองดูสิครับ… เราจะเห็นว่าคนทั้งสองที่เป็นเจ้าของคลิป ได้ทำทีเป็นเอารถขนของไปจอดไว้ตามที่ต่างๆ และเปิดท้ายรถไว้เพื่อล่อให้เหล่าหัวขโมยขึ้นรถมาตรวจสอบดู จากนั้นก็ปิดท้ายรถทันทีพร้อมแกล้งขี่รถเร็วๆ โยกไปมาให้หัวขโมยทรงตัวไม่ได้ คลิปดังกล่าวนั้นกลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่วันที่อัพโหลดจนตอนนี้มีคนดูไปถึง 35 ล้านครั้งแล้ว… แม้ว่ากระแสตอบรับและคนดูจะเยอะมากๆ แต่เสียงตอบรับจากผู้คนก็ไม่ได้ออกมาทางด้านดีเท่าไหร่นัก เพราะคนบางส่วนจะให้เหตุผลประมานว่าเจ้าของคลิปเนี่ย ไปดักจอดรถในย่านคนจน นอกจากนั้นคนทั้งหมดที่โดนแกล้งก็ล้วนเป็นคนผิวสีทั้งนั้น บ้างก็บอกว่าถ้าเป็นเขา เขาจะขังพวกนี้แล้วขี่ไปที่สถานีตำรวจซะ ไม่ใช่มาแกล้งอะไรแบบนี้มันดูเป็นการทรมานคนเสียมากกว่า หรือมีบางคนที่บอกว่าทั้งหมดในคลิปเนี่ยมันเป็นการจัดฉาก ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ หรอก (ข้อนี้มีเหตุผลนะ เพราะถึงแม้ว่าจะมีคลิป Prank มาอย่างมากในช่วงหลัง แต่ก็ดูเหมือนจะเป็นคลิปที่จัดฉากขึ้นมา มากกว่าช่วงแรกๆ ที่จะเป็นคลิปแกล้งแบบที่แกล้งจริงๆ) ชาวเน็ตคนนี้ก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เข้าใจว่าทำไม ทุกคนเห็นใจกับโจรนัก ทั้งๆ ที่เขาก็ทำผิด…
-
ตำรวจรวบพ่อแม่ให้ลูกน้อยเสพ “เฮโรอีน” หลังเด็กติดยาตั้งแต่ในท้องแม่ หวังปกปิดให้เนียนแต่ก็ไม่รอด!!
เรื่องราวสุดหดหู่จากรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่งถูกเข้าจับกุมตัวหลังจากที่ถูกค้นพบว่า พวกเขาให้สารเสพติดแก่ลูกสาวแรกเกิดมาเป็นเวลานานกว่า 2 เดือนแล้ว สาเหตุนั้นเป็นเพราะลูกสาวของพวกเขาติดเฮโรอีนจากแม่ที่ใช้สารเสพติดระหว่างตั้งครรภ์ และนั่นนำไปสู่การจับกุมตัวพ่อแม่ทั้งสองในที่สุด… Lacey Dawn Christenson วัย 26 ปี และ Colby Glen Wilde วัย 29 ปี ผู้เสพติดเฮโรอีนและสารเสพติดอื่นๆ มาเป็นเวลานาน จนสุดท้ายแม้ Lacey จะตั้งท้อง พวกเขาก็ยังไม่เลิกที่จะเสพติดยา ผลของการติดยาจึงส่งต่อมายังลูกของพวกเขาแม้จะยังอยู่ในครรภ์ของเธอ… เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐยูทาห์ได้รายงานว่า Lacey ใช้สารเสพติดอย่างเฮโรอีนและยาแก้ปวดหลายชนิดเป็นเวาติดต่อกันนานมากๆ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ตัวพวกเขาเองยังรู้ดีว่าลูกที่เกิดมาจะมีอาการติดยาแน่ๆ พวกเขาจึงต้องรีบหาทางออกโดยด่วนก่อนเด็กจะเกิดออกมา เพื่อปกปิดความผิดของพวกเขาว่าใช้สารเสพติด เพราะการตรวจสุขภาพลูกน้อยนั้นจะต้องแสดงอาการอยากยาขึ้นมา ทำให้หมอสังเกตถึงความผิดปกติและความซวยอาจจะมาถึงตัวพวกเขาเองได้ ทั้งคู่ให้การสารภาพว่า ก่อนหน้านั้นพวกเขาได้ปรึกษากันรวมถึงปรึกษากับเพื่อนของทั้งคู่ว่าควรจะทำยังไง จนสุดท้ายพวกเขาได้คำตอบว่า ควรจะใช้สารเสพติดให้เด็กกินตั้งแต่แรกเกิดเลย เพื่อกลบอาการอยากยาของเด็ก ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงใช้ยา Suboxone ทาไปบริเวณเหงือกของเด็กเพื่อให้เด็กค่อยๆ ซึมซับยาไปอย่างช้าๆ และไม่แสดงอาการอยากยาขึ้นมา พวกเขาเริ่มทำแบบนี้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน ทำทุกครั้งหลังจากที่พยาบาลออกจากห้องไป พวกเขายังคงทำมันมาเรื่อยๆ จนถึงวันที่…
-
ในที่สุดคุณยายวัย 86 ปี ก็เรียนจบ “ปริญญาตรี” เสียที ยืนยันได้ว่าไม่มีใครแก่เกินเรียน!!
โดยปกติแล้วถ้าคนที่ลาออกจากมหาลัยหรือไม่ได้เรียนต่อ เพื่อออกไปทำธุรกิจหรืออะไรก็ตามส่วนใหญ่พวกเขาก็มักจะไม่กลับไปเรียนต่อสักเท่ไหร่เมื่อมีอายุที่มากขึ้น แต่เราก็เห็นคนจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่กลับไปเรียนจนจบ… คุณยาย Peggy Styles วัย 86 ปีเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ก็จัดว่าเป็นผู้สูงอายุคนหนึ่งที่เลือกจะกลับไปเรียนต่อ และแน่นอนว่าเธอก็ทำมันจนสำเร็จจนจบปริญญา ฉะนั้นก็ขอยินดีกับคุณยายด้วยนะ คุณยายแกเล่าว่า ตัวเองนั้นไม่มีโอกาสเหมือนคนอื่นเท่าไหร่นัก เพราะแรกเริ่มตัวเธอนั้นเกิดที่ประเทศอังกฤษเมื่อปี 1931 แต่ว่าพออายุ 6 ขวบ เธอก็ต้องย้ายไปยังประเทศเยอรมนีกับครอบครัว จนกระทั่งปี 1940 เธอก็ต้องย้ายกลับมาอังกฤษอีกครั้งแต่กลับมาในฐานะผู้ลี้ภัยแทน ด้วยปัญหากันย้ายถิ่นฐานไปมารวมถึงภาษาที่เปลี่ยนตลอด ทำให้เธอมีปัญหาในการเรียนรู้จนสุดท้ายพออายุ 15 เธอก็ไม่ไหวจนต้องลาออกจากโรงเรียน จากนั้นเมื่อมีอายุจนถึงระดับหนึ่งเธอก็ได้แต่งงานกับสามีที่เพิ่งออกจากการเป็นทหาร และทั้งคู่ก็มาเปิดโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งเป็นกิจการของครอบครัวไปโดยปริยาย จุดพลิกผันที่ทำให้คุณยาย Peggy ตัดสินใจกลับไปเรียนนั้น มันเริ่มจากที่หลานชายของเธอมาขอให้เธอช่วยเรื่องโปรเจคหน่อย ซึ่งโปรเจคดังกล่าวเกี่ยวกับเรื่องของสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตัวโปรเจคก็สะท้อนสิ่งต่างๆ ในตัวเธอและทำให้มองเห็นถึงอดีตจนตัวเองตระหนักได้ว่าต้องกลับไปเรียนต่อ ด้วยเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจสมัครเข้าเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยบริสทอล ซึ่งตั้งอยู่ในในประเทศอังกฤษ โดยตอนที่เริ่มเข้าเรียนนั้นเธอมีอายุ 78 ปี นั่นก็หมายความว่าเธอใช้เวลา 8 ปีในการเรียนจนจบนั้นเอง ส่วนเหตุผลที่คุณยาย Peggy ใช้เวลานานขนาดนั้นเพื่อเล่นจบนั่นก็คือ เธอป่วยเป็นโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ ทำให้เธอต้องใช้เวลาอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเดือนๆ…
-
คุณแม่แอบพาลูก 4 ขวบขึ้นเครื่อง เพราะคิดว่าเด็กเล็กไม่ต้องซื้อตั๋ว ทำไฟลท์ดีเลย์วุ่นวาย!!
เรื่องราวสุดปั่นป่วนเมื่อคุณแม่ชาวจีนคนหนึ่ง ได้แอบพาลูกของเธอขึ้นเครื่องโดยที่ไม่ได้ซื้อตั๋วในส่วนของลูก ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบปุ๊บก็ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายขึ้นมาทันที เพราะต้องจัดการปัญหายิบย่อยจนสายการบินต้องดีเลย์เที่ยวบินไปนานกว่า 5 ชั่วโมง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฏาคม 2017 เป็นสายการบินจูนเยา เที่ยวบินระหว่างปักกิ่งไปเซี่ยงไฮ้ โดยที่ทางสายการบินจับได้ว่ามีผู้โดยสายคนหนึ่งแอบขึ้นเครื่องและจ่ายตั๋วไม่ครบ… ผู้โดยสารดังกล่าวเป็นคุณแม่ที่เดินทางมาพร้อมกับสมาชิกครอบครัว เป็นผู้ใหญ่สองคนและเด็กอีกสองคน ซึ่งปัญหามันเกิดขึ้นเพราะคุณแม่คนดังกล่าวแอบพาลูกวัย 4 ขวบขึ้นมาด้วย โดยไม่ยอมซื้อตั๋วในส่วนของลูกคนดังกล่าว!! ผู้ต้องหาได้ให้เหตุผลของการทำแบบนี้ว่า เธอคิดว่าลูกของตนยังเล็กและไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าโดยสาร จึงทำการพาขึ้นเครื่องมาด้วยโดยไม่ซื้อตั๋ว และเรื่องนี้ได้สร้างปัญหายกใหญ่จนทำให้เครื่องบินต้องดีเลย์ออกไป ท้ายที่สุดผู้โดยสารคนอื่นๆ ที่ต้องทนรับผลกรรมไปด้วยก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป พวกเขาต่างประท้วงและบังคับให้สายการบินต้องออกตัวทันทีหลังจากเครื่องดีเลย์มาแล้วกว่า 5 ชั่วโมง!! แน่นอนว่าพอเรื่องนี้ไปถึงชาวเน็ต มีเหรอจะรอด จวกเละ!! แถลงการณ์จากทางสายการบินดังกล่าว ทางด้านสายการบินก็ได้ออกมาแก้ต่างถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า พวกเขาจะไม่เอาผิดกับครอบครัวดังกล่าว เพราะแม้ว่าปกติแล้วเด็กวัย 2 ขวบขึ้นไปจะต้องเสียเงินค่าตั๋ว แต่ถ้าส่วนสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตรก็ถือว่าไม่เป็นไรและเด็กคนดังกล่าวก็อยู่ในเงื่อนไขนั้น ส่วนเรื่องเครื่องที่ต้องดีเลย์นานกว่า 5 ชั่วโมง จริงๆ แล้วปัญหามันเกิดขึ้นเพราะครอบครัวดังกล่าวแค่ 90 นาที ส่วนเวลาดีเลย์ที่เหลือเกินขึ้นเพราะสภาพอากาศไม่ดีนั่นเอง……
-
รวม 10 ประเทศจากทั่วโลก ที่รัฐบาลอยากให้ประชาชน ป๊าบๆ แล้วมีลูกกันให้มากที่สุด!!
ทรัพยากรมนุษย์นั้นนับว่าเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยในการขับเคลื่อนประเทศชาติ และยิ่งประชากรมีคุณภาพประเทศชาติก็จะไปได้ไกลกว่าชาติอื่นๆ ทว่าหลากหลายประเทศในโลกตอนนี้กำลังเผชิญกับปัญหาขาดแคลนประชากรอย่างเลี่ยงไม่ได้ สาเหตุนั้นก็เพราะว่าคนรุ่นใหม่นั้นไม่นิยมที่จะมีบุตรกันเท่าที่ควร ด้วยความคิดที่ว่าการมีบุตรจะสร้างภาระให้ และเป็นโซ่ตรวนพวกเขา นี่ยังไม่นับปัญหาของการมีคู่ที่คนส่วนใหญ่มักจะนกแล้วนกอีก ด้วยเหตุนี้ประชากรเกิดใหม่ในหลายประเทศจึงลดลงแล้วลดลงอีก แต่ประชากรสูงอายุกลับเพิ่มเอาๆ ทำให้ปัญหาในเรื่องของแรงงานและอื่นๆ ก็ตามมาไม่หยุดหย่อน ทำให้รัฐบาลหลายประเทศหันมารณรงค์ให้ชาวเมืองของพวกเขามีลูกกันมากขึ้นด้วยวิธีการต่างๆ ทั้งมีลูกแล้วแจกของ มีลูกแล้วได้สิทธิ์พิเศษและอื่นๆ อีกเพียบ ฉะนั้นวันนี้เราจึงจะมาดู 10 ประเทศที่มีปัญหาเรื่องประชากรซึ่งถูกรวบรวมโดย Businessinsider กัน ว่าแต่จะมีประเทศอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย ประเทศเดนมาร์ก เดนมาร์กนั้นกำลังประสบปัญหาประชาชนไม่ยอมมีลูกเสียที จนตอนนี้ประชากรผู้สูงอายุก็สูงขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งมันหนักขนาดที่พวกเขาจะต้องออกแคมเปญมาสนับสนุนให้คนมีลูกโดยใช้ชื่อว่า Do it for Denmark เลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครมีลูกจะได้รับข้าวของเครื่องใช้สำหรับลูกๆ ฟรีถึง 3 ปีเลยล่ะ ประเทศรัสเซีย ใครจะคิดว่าประเทศโหดสัสแห่งนี้ก็จะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาประชกรเช่นกัน โดยประเทศนี้ประสบปัญหาเพราะว่าผู้ชายส่วนใหญ่ในประเทศติดเชื้อ HIV กันเป็นจำนวนมาก รวมถึงปัญหาการติดสุราด้วย ด้านผู้หญิงก็ไม่ค่อยจะนิยมมีลูกกันเท่าไหร่นัก ทางการจึงจัดตั้งวันหยุดขึ้นมาหนึ่งวัน ซึ่งเป็นวันที่จะให้ประชากรเน้นมีเซ็กส์กันและถ้าใครเกิดคลอดลูกถัดจากวันดังกล่าวไปอีก 9 เดือน คนๆ นั้นก็จะได้รับตู้เย็นไปใช้ฟรีๆ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องประชากรลดเป็นจำนวนมาก…
-
ข้อดีของการมีคุณพ่อที่ ‘เกรียน’ และ ‘ตัดต่อภาพเป็น’ คุณลูกเลยได้ภาพฮาๆ เหล่านี้!!!
Oscar หนูน้อยวัย 1 ขวบ ถูกคุณพ่อสุดเกรียนที่เบื่อการถ่ายรูปแบบธรรมดาๆ ตัดต่อรูปจนเป็นที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตเข้าให้ซะแล้วล่ะ!! Andreas Miezans วัย 33 ปี นายธนาคารจากเมือง Tønsberg ประเทศนอร์เวย์ ทำการตัดต่อภาพลูกชายตัวน้อยของเขาออกมาแบบฮาหลุดโลกสุดๆ เพื่อส่งให้ครอบครัวดูกันแบบขำๆ แต่ฮาขนาดนี้ ชาวเน็ตต่างก็เลยพากันขำตามไปด้วย . . “ผมมีไอเดียนี้มาตั้งแต่ Oscar จะเกิดซะอีก ผมเป็นคนชื่นชอบถ่ายรูป และจะถ่ายอะไรตลกๆ เอาไว้ดูในวันข้างหน้าแล้วขำกันในอนาคต” Andreas กล่าว “ทีแรกผมก็โพสให้ครอบครัวกับเพื่อนๆ ดูกันขำๆ เพราะอันที่จริงผมมาจากประเทศสวีเดน” . . . เขาใช้เวลาประมาณสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ในการหาจังหวะและสถานการณ์เหมาะๆ เพื่อถ่ายรูปแล้วนำมาตัดต่อ โดยที่หนูน้อย Oscar ก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ภาพส่วนใหญ่ถ่ายขึ้นในช่วงที่เค้าลาพักจากงานเพื่อมาเลี้ยงลูก รูปที่ได้กระแสดีที่สุดดูเหมือนจะเป็นรูปที่พ่อลูกคู่นี้แต่งชุดนักบอล นั่งเชียร์ทีมชาติสวีเดนอยู่หน้าทีวี เพราะองค์ประกอบต่างๆ ดูเข้ากันดีไปหมด . . Andreas เล่าว่าการถ่ายภาพพวกนี้ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไรเลย เขาไม่ได้วางแผนจัดฉากไว้ เพราะรูปส่วนใหญ่ก็ถ่ายกันไม่ไกลจากบ้านนัก …
-
เพื่อนบ้านแจ้งตำรวจมาจับ “สไลด์เดอร์” ข้างถนน แต่พอมาถึง ก็มาแจมกับเขาซะงั้น!!?
เรื่องราวสุดพลิกผันจากเมืองแอชวิลล์รัฐนอร์ทแคโรไลนา เมื่ออยู่ดีๆ ก็มีชาวบ้านโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาจับปาร์ตี้สไลด์เดอร์ที่ทำขึ้นมาอย่างผิดกฏหมายและขัดขวางการจราจร ซึ่งมีเด็กๆ เล่นอยู่และส่งเสียงดัง แต่ว่าพอตำรวจมาเพื่อจะปิดปาร์ตี้สไลด์เดอร์ดังกล่าว เรื่องกลับไม่เป็นอย่างที่คาดคิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนกลับเลือกที่จะไม่ปิดสไลด์เดอร์ แต่กลับเลือกที่จะลงไปเล่นกับเด็กๆ จนเกิดเป็นภาพสุดประทับใจและน่ารักอย่างเหลือเชื่อ Katlen Joyce Smith ชาวบ้านที่มาร่วมแจมได้บอกกับสำนักข่าว ABC ว่า “ตอนแรกเจ้าหน้าที่ทั้งสองเดินมา ผมนึกว่าพวกเขาจะจับพวกเราแล้วเสียอีก แต่วินาทีที่เจ้าหน้าที่ผู้หญิงขอถุงดำพร้อมกับถอดอุปกรณ์ของเธอออก แล้วร่วมลงไปเล่นกับเด็กๆ เล่นเอาผมอึ้งไปเลย” ย๊า ฮู้ว.ว.ว.ว Travis Eagledove ชาวบ้านอีกคนก็บอกว่า “นอกจากตำรวจผู้หญิงคนนั้นแล้ว เจ้าหน้าที่ Joe Jones ซึ่งเป็นตำรวจอีกคนที่มาด้วยกันก็ร่วมไปเล่นกับเขาด้วยนะ แต่ว่าตัวเขาใหญ่เกินกว่าจะใช้ถุงดำในการเล่น เด็กก็เลยไปเอาเรือยางมาให้เขาแทน ซึ่งมันเป็นภาพที่น่ารักสุดๆ” เป็นภาพที่น่ารักสุดๆ เลยจริงไหม สุดท้ายแล้วชาวบ้านที่เล่นสไลด์เดอร์ก็ชื่นชมและบอกว่าเด็กๆ ชอบตำรวจทั้งสองมากๆ พวกเขาเป็นคนที่ใจดีและเข้าใจในเด็กๆ ดูคุณตำรวจแกจะแฮปปี้มากๆ เลยนะเนี่ย เอ้าลุกๆ ก้นเปียกหมดแล้ว ก่อนจากก็ถ่ายรูปกับเด็กๆ กันสักหน่อย …
-
เหตุการณ์หดหู่จากบ้านพักคนชรา เมื่อเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ ทำร้ายคุณปู่มากถึง 11 หมัด!!
เหตุการณ์สุดหดหู่เมื่อมีการเผยแพร่ภาพของเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชราในแคนาดา ซึ่งกำลังรับหน้าที่ดูแลคนปู่ท่านหนึ่งอยู่ แต่แล้วเขาก็ต้อยเข้าที่หน้าของคุณปู่ซะอย่างนั้น ภาพดังกล่าวเล่นเอาญาติของคุณปู่ถึงกับช็อค!! เรื่องราวในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวของคุณปู่ Georges Karam วัย 89 ปี สังเกตเห็นว่าคุณปู่ของพวกเขามีบาดแผลตามร่างกายซึ่งมาจากไหนก็ไม่ทราบได้ พอถามตัวคุณปู่ก็ไม่ยอมปริปาก จนกระทั่งทาง Daniel Nassrallah ผู้เป็นหลานได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ในห้อง เพื่อติดตามดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณปู่ของเขา ภาพที่ปรากฏออกมาเล่นเอาคนทั้งครอบครัวช็อคไปตามๆ กัน เมื่อ Jie Xiao เจ้าหน้าที่ผู้เป็นคนดูแลปู่ของพวกเขาได้พูดบางอย่างและต่อยเข้าที่หน้าของคุณปู่ Georges ซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 11 ครั้งด้วยกัน แค่นั้นยังไม่พอเขาดูเหมือนจะพยายามทำให้คุณปู่คนดังกล่าวหวาดกลัวด้วยการพูดข่มขู่พร้อมกับชูกำปั้นขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นครอบครัวของคุณปู่ Georges จึงรีบรุดหน้าไปยังบ้านพักคนชรา Garry J Armstrong ทันทีหลังจากแจ้งความกับตำรวจเพื่อเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ทางด้านของคุณปู่ก็ได้รับการส่งตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทันที โชคดีที่ไม่ได้ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนักนอกจากบาดแผลฟกช้ำ แต่มันก็สร้างความหวาดกลัวให้กับทั้งคุณปู่และครอบครัวไม่น้อยเลยทีเดียว ส่วนทางด้านนาย Jie ก็ให้การรับสารภาพและจะถูกตัดสินคดีในเร็ววันนี้ ทางครอบครัวคุณปู่ก็หวังว่าเขาจะได้รับการลงโทษที่เหมาะสมกับการกระทำดังกล่าว ที่มา metro
-
ชาวเน็ตถกเถียง วิทยาลัยทำรั้วกั้นใน “งานเลี้ยงจบ” เพื่อแยกคนจ่ายเงิน กับไม่จ่ายออกจากกัน!!
ปกติแล้วเวลาที่โรงเรียนมีการจัดงานพรอมหรืองานเลี้ยง ส่วนใหญ่ก็มักจะมีการจ่ายเงินเพิ่มเติมเพื่อให้งานดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นได้ และหลายคนก็อาจจะยินยอมที่จะจ่าย แต่ก็มีไม่น้อยทีไม่ยอมจ่ายด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่นเดียวกับงานเลี้ยงจบของวิทยาลัย Colegio de Bachilleres ในประเทศเม็กซิโก ซึ่งล่าสุดได้มีการโพสต์ภาพบรรยากาศในงานดังกล่าว และมีจุดสนใจจุดหนึ่งที่ดูแล้วแปลกตามากๆ นั่นก็คือมีรั้วไม้กั้นอยู่ภายในงานด้วย!? . เมื่อลองหาต้นตอก็พบว่ารั้วดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจากการที่ทางวิทยาลัยได้ขอเก็บเงินจากผู้เข้าร่วมงาน เพื่อที่จะได้ไปจ้างคนมาจัดงานในครั้งนี้ และทางผู้จัดก็เกิดแนวคิดที่ว่าคนที่ไม่จ่ายเงินก็ไม่ควรจะได้เข้าร่วมงาน… และเมื่องานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นทุกคนที่มาร่วมงานก็ต่างพบว่ารั้วดังกล่าวนั้นได้ล้อมรอบบริเวณงานไว้เรียบร้อย ส่วนด้านนอกรั้วก็จะมีเก้าอี้ไว้ให้สำหรับผู้ที่ไม่ได้จ่ายค่าร่วมงาน ทั้งนี้ทั้งนั้น เมื่อภาพนี้ได้ถูกโพสต์ลงโซเชียล ก็มีกระแสตอบรับออกมามากมายในแนวลบประมาณว่า ทำไมจะต้องทำแบบนี้ด้วยมันเป็นการจำกัดสิทธิ์เกินไปหรือเปล่า รวมถึงยังโทษในตัวของผู้จัดงานที่คิดไอเดียแบบนี้ขึ้นมาด้วย แต่ว่าก็ยังมีคนมากมายเช่นกันที่เห็นด้วยกับไอเดียนี้ โดยพวกเขาให้เหตุผลที่ว่า ทำไมจะต้องให้สิทธิ์ที่เท่าเทียมกับคนที่จ่ายเงินและไม่จ่ายเงินด้วย ถ้าคิดว่าไม่จ่ายเงินเพราะไม่อยากร่วมงานก็ไม่ต้องมาแต่แรกก็ได้ เพื่อนๆ มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไง ก็ลองมาแชร์ความคิดเห็นกันดูนะ… ที่มา odditycentral, am
-
คุณแม่อยากสุดเกรียนโพสต์ภาพลูก “โดนเจาะที่แก้ม” ลงเฟซบุ๊ก จนชาวเน็ตด่าเละ!!
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากคุณแม่คนหนึ่งได้โพสต์รูปลูกของเธอที่เจาะแก้มลงบนโซเชียล งานนี้พอชาวเน็ตเห็นก็ไม่พอใจเข้ามาโจมตีกันยกใหญ่… เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน Enedina Vance คุณแม่ลูกหนึ่งได้โพสต์ภาพลูกสาวของเธอลงบนโซเชียล แต่ปัญหามันจะไม่มีอะไรเลย ถ้าภาพลูกสาวของเธอไม่ได้มีจุดสายตาบริเวณแก้มที่ถูกเจาะอยู่ พร้อมกับข้อความว่า “น่ารักใช่ไหมล่ะ? เชื่อสิว่าเธอจะต้องชอบมากๆ และขอบคุณฉันอย่างแน่นอนเมื่อเธอโตขึ้น แต่ถ้าเธอไม่ชอบก็แค่เอาออกไม่ยากเลยจริงไหม?” ยังไม่หมดแค่นั้น Enedina ยังบอกอีกว่าเธอเป็นแม่ของเด็ก เธอจะทำอะไรก็ได้ เธอจะติดสินทุกอย่างให้ลูกของเธอจนกว่าลูกจะอายุ 18 และข้อความอีกมากมายเพื่อแสดงว่าเธอเป็นเจ้าชีวิตของลูก คนอื่นไม่มีอำนาจมาตัดสิน!! งานนี้ชาวเน็ตก็โมโหกันยกใหญ่ว่า ถึงจะเป็นพ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิไปตัดสินชีวิตเด็กนะเว้ย!! ต้องให้เด็กเลือกอนาคตตัวเอง และอื่นๆ อีกมากมาย เรียกว่าด่ากันยับเลยทีเดียว ทว่าความจริงเกี่ยวกับภาพเด็กดังกล่าวนั้นกลับทำให้ทุกคนต้องช็อค เมื่อจริงๆ แล้วภาพดังกล่าวเป็นภาพปลอม!!? เพราะส่วนที่เจาะแก้มเด็กนั้นเกิดขึ้นจากการโฟโต้ช็อป ไม่ได้เจาะจริงๆ แต่อย่างใด งานนี้คุณแม่คนดังกล่าวเล่นเอาชาวเน็ตเงิบกันเป็นแถบๆ เป้าหมายจริงๆ ที่คุณแม่ชาวเน็ตคนนี้อยากจะสื่อก็คือ ทำไมเธอจะทำแบบในภาพไม่ได้ ในเมื่อพ่อแม่ทั่วไปยังบังคับให้เด็กผู้ชายไปขลิบได้เลย การทำแบบนี้มันก็ไม่ต่างกัน ไม่ก็อาจจะร้ายแรงกว่าด้วยซ้ำ สุดท้าย Enedina ก็ออกมาบอกว่า “ฉันรู้สึกดีที่การโพสต์เกรียนของเธอทำให้หลายคนได้ตระหนักถึงสิทธิของเด็กทารก ว่าพวกเขาควรจะเป็นคนเลือกสิ่งต่างๆ ให้กับตัวเอง รวมถึงการทำอะไรกับอวัยวะเพศของตัวเองก็เช่นกัน”…
-
หนุ่มสาวลองเล่นเซ็กส์ทอย 4 นิ้ว ยัดเข้า “รูตรู๊ด” คิดว่าจะออกมาเองได้ แต่สุดท้ายไม่พ้นมือหมอ!!
จากค่ำคืนอันเสียวซ่านกลายเป็นค่ำคืนสุดทรมาน เมื่อหญิงสาวและคู่นอนอยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่เพื่อเพิ่มรสชาติเซ็กส์ของพวกเขา โดยแฟนหนุ่มจัดการใช้เซ็กส์ทอยยัดเข้าไปที่ก้น ทว่าเรื่องกลับผิดพลาด เซ็กส์ทอยดันติดอยู่ในรูก้นเอาออกมาไม่ได้ซะอย่างนั้น!!? Emily Georgia หญิงสาววัย 20 ปี จากประเทศอังกฤษ ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์หลังจากที่เซ็กส์ของเธอและคู่นอนไม่เป็นไปอย่างที่คิด เธอได้เล่าถึงช่วงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า คู่นอน “วันไนท์สแตน” ของเธอแนะนำให้เอาเซ็กส์ทอยอันนี้ยัดเข้าไปที่ก้น เดี๋ยวมันก็ออกมาเองตามธรรมชาติ แต่ว่าเวลาผ่านไปมันกลับติดอยู่ข้างใน ออกมาไม่ได้เลย ซึ่งคู่นอนเธอก็ไม่รู้จะช่วยยังไงพร้อมกล่าวอ้างว่าต้องทำงานตอนเช้า ก็เลยทิ้ง Emily ไว้กลับเซ็กส์ทอยขนาด 4 นิ้วในก้นของเธอ… จากนั้นเธอต้องทุกข์ทรมานอยู่กับเครื่องเล่นเสียวที่อยู่ในร่างกายของเธออยู่พักหนึ่ง จนเพื่อนสนิทของเธอเข้ามาเจอเข้าและรีบนำตัว Emily ส่งโรงพยาบาลทันที ทีมแพทย์ก็ทำการเอ็กซ์เรย์ช่วงล่างของเธอก็พบว่า เจ้าเซ็กส์ทอยเจ้าปัญหามันเข้าไปลึกมากๆ ที่สำคัญตัวเซ็กทอยยังทำมาจากเหล็กพร้อมกับมีเพรชอยู่ตรงท้ายซึ่งคมมากๆ ถ้าดึงออกมาเฉยๆ จะเกิดปัญหาตามมาได้ ที่สำคัญมันเกือบจะสร้างแผลให้กับลำไส้ของเธอแล้วด้วย ทีมแพทย์จึงตัดสินใจว่าการผ่าตัดจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด พวกเขาต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงเพื่อช่วยรูทวารและลำไส้ของ Emily ให้ปลอดภัย . สุดท้ายหลังจากผ่าตัดเธอก็พักฟื้นที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งวัน จากนั้นก็กลับบ้านได้ เธอเล่าว่าถ้าใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ อย่ารอช้าให้รีบมาหอหมอทันทีและมันก็ไม่น่าอายอย่างที่คิดด้วย ที่สำคัญเธอก็คงจะเข็ดกับอะไรแบบนี้ไปอีกระยะหนึ่งเลยล่ะ ทีหลังก็แทงแต่พอดีนะหนู อย่าเอาเข้าไปหมดแบบนั้น!! . …
-
20 สิ่งของราคาบรมโคตะระแพง มีเงินอย่างเดียวคงซื้อไม่ได้… ต้องมีเงินมากๆ ด้วย
รวมข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ที่มีราคาแพงบรมโคตรแพง ที่มีแต่คนบรมโคตรรวยเท่านั้นที่ซื้อได้ ใครที่มีเงินมากๆ จนไม่รู้จะเอาไปทำอะไรมาทางนี้เลย… อันดับที่ 20 น้ำบรรจุขวด มูลค่า $60,000 (2,000,000 บาท) Verachi Acqua di Cristallo’s “Tributo a Modgliani” คือน้ำบรรขวดที่ทำขึ้นเพื่อยกย่องศิลปินขาวอิตาเลียน Amedo Clemente Modigliani ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว ภายในบรรจุด้วยน้ำแร่ธรรมชาติจากฟิจิและฝรั่งเศส ผสมผสานด้วยน้ำจากธารน้ำแข็งจากไอซ์แลนด์และผงทองคำจำนวน 5 มก. ขวดทำมาจากทองคำ 24 กะรัต ออกแบบและผลิตโดย Fernando Altamirano และ Paulo di อันดับที่ 19 เคสโทรศัพท์ iPhone 5 มูลค่า $100,000 (3,400,000 บาท) The Natural Sapphire Company ผลิตเคส iphone 5 ที่ตัวโครงผลิตด้วยทองคำขาว 18 กะรัต และประดับด้วยอัญมณีซัฟไฟร์ซีลอนทั้งอัน มีสีให้เลือกหลายสีด้วยกัน และมีทับทิมสีแดง 38 เม็ด กับพลอยเขียวส่องเป็นรูปโลโก้ ถ้าคุณใช้เคสนี้…
-
จากผลสำรวจเด็กญี่ปุ่น พบว่าพวกเขาไม่เคย ‘ปลดทุกข์หนัก’ ที่โรงเรียนเลย อั้นกันได้ยังไง!?
ถ้าพูดถึงการปวดขี้ที่โรงเรียน เชื่อว่าหลายๆ คนก็คงจะมีความรู้สึกกลัวที่จะขี้ที่โรงเรียนกันแน่นอน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เช่นอาจจะเป็นเพราะความสกปรกของห้องน้ำ พอเข้าไปขี้แล้วจะโดนล้อว่ามรึงแม่งขี้แตก ว้ายๆ หรืออาจจะรู้สึกเขินอาย ที่จะต้องขี้ที่ห้องน้ำโรงเรียนขนาดว่าต้องรอห้องน้ำไม่มีคนถึงเข้าไปใช้… ปัญหาดังกล่าวฟังแล้วน่าจะเป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนตัว แต่หารู้ไม่ว่าปัญหานี้มันเวิลด์ไวด์สุดๆ เพราะล่าสุดทาง Japan Toilet Labo ได้มีการไปให้สัมภาษณ์นักเรียนญี่ปุ่นกว่า 4,777 คนเกี่ยวการขี้ที่โรงเรียน แล้วผลที่ออกมากลับเล่นเอาตะลึงเชรี่ยๆ เด็กนักเรียนมากกว่า 50% ไม่เคยขี้ที่โรงเรียนเลยเว้ยเฮ้ย!!? แต่ถ้าลองมาหาเหตุผลเชิงลึก และแบ่งเหตุผลออกเป็นข้อๆ ตามจำนวนร้อยละของกลุ่มนักเรียนที่ไม่ขี้ที่โรงเรียนเป็นหลายๆ กลุ่ม เราก็สามารถที่จะได้เหตุผลเยอะแยะเลยทีเดียว 29.3% บอกว่า ที่โรงเรียนมันมีแต่ส้วมหลุม 29.2% บอกว่าสวมที่โรงเรียนมันเหม็นสลัด นอกจากต้องดมขี้ตัวเองยังต้องดมของคนอื่นอีก 26.3% บอกว่าพวกเขามีเวลาช่วงพักน้อย ถ้าไปขี้ทีก็นานสุดๆ ข้าวนี่ไม่ต้องกินกันล่ะ 29.2% บอกว่าส้วมที่โรงเรียนมันไม่สะอาดเลย อี๋… 23.9% บอกว่าเวลาขี้ที่โรงเรียนแล้วรู้สึกไม่มีความสุข 20.1% บอกว่าพื้นห้องน้ำมันสกปรก 16.1 % บอกว่าชักโครกมันเย็น เอาตูดวางลงทีไรขนลุกทุกที หน้าตาของส่วมหลุมที่เด็กๆ ไม่ค่อยปลื้ม อย่างไรก็ตาม เหตุผลหลักๆ…
-
ชาวเน็ตแซว “ควีนอลิซาเบธ” จิกกัดรัฐบาลอังกฤษเรื่อง Brexit ด้วยชุดสุดงามของพระองค์
ในแต่ละปี ที่ประเทศอังกฤษจะมีพิธีกล่าวเปิดสมัยประชุมสภาโดยควีนอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งทุกปีควีนจะสวมใส่ฉลองพระองค์สีขาวมาโดยตลอด แต่สำหรับปีนี้ เหมือนจะมีอะไรดลใจให้พระองค์เปลี่ยนมาสวมใส่ฉลองพระองค์สีน้ำเงินซะอย่างนั้น… สำหรับคนปกติแล้วก็คงจะไม่คิดอะไร แต่ว่ากับชาวเน็ตกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เพราะพวกเขาสังเกตเห็นฉลองพระองค์สีฟ้าและหมวกที่เป็นสีของธง EU ซะอย่างนั้น นอกจากนั้นตัวเกสรดอกไม้บนหมวกก็เป็นเหลืองและเรียงตัวเป็นวงกลมซึ่งเป็นตัวแทนของดาวบนธงอีกด้วย ซึ่งอาจจะสื่อว่าพระองค์ไม่ค่อยปลื้มกับ เหตุการณ์ Brexit สักเท่าไหร่นัก (ส่วนใครที่ยังไม่ทราบว่า Brexit คืออะไรจะอธิบายให้เข้าใจด้านล่างนะจ๊ะ) เราลองมาดูฉลองพระองค์ในแต่ละปีของควีนอลิซาเบธกัน ว่าในแต่ละปีพระองค์สวมใส่ฉลองพระองค์แบบไหนบ้าง ในช่วงปี 2010 ฉลองพระองค์ของควีนเป็นโทนสีขาวทอง 2011 ฉลองพระองค์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว ต่อมาปี 2012 โทนสีของฉลองพระองค์ก็ยังคงเดิม ปี 2013 ควีนก็ยังคงโทนสีไว้ดังเดิม เรื่อยๆ ไปจน 2014 ปี 2015 ยัน 2016 ก็ยังเป็นสีขาว และนี้ก็คือฉลองพระองค์ที่เป็นต้นเรื่องในปี 2017 นี้ ชาวเน็ตร่วมกันคาดเดาถึงความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เนื่องจากตัวควีนอลิซาเบธที่ 2…
-
ย้อนรอยภาพในอดีตของเมืองปารีส ครั้งน้ำท่วมใหญ่ในปี 1910 ชาวเมืองจะรับมือกันอย่างไร?
เหตุการณ์น้ำท่วม ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่บ้านเราต้องเจอกันบ่อยมากๆ เรียกว่ามีข่าวคราวทุกปี และถึงแม้จะพยายามป้องกันอย่างไรก็ไม่สามารถขจัดปัญหาเหล่านี้ออกไปได้เสียที… นั่นก็ทำให้เราฉุกคิดได้ว่าระบบการจัดการน้ำยังอยู่ในขั้นย่ำแย่ แต่รู้ไหมว่าเมืองใหญ่อย่างปารีสก็เคยประสบกับปัญหาน้ำท่วมหนักมาแล้วเหมือนกัน!? เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปารีสนั้นถือว่าหาดูได้ยากมากๆ ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงท้ายเดือนมกราคมปี 1910 ในช่วงเดือนที่มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องส่งผลให้แม่น้ำ Seine มีระดับน้ำที่สูงขึ้นมาก จนเอ่อล้นออกมาท่วมตัวเมืองในที่สุด ใช่ว่าทุกคนจะมีเรือใช้ ฉะนั้นอะไรที่พอจะลอยได้ก็นับว่าเป็นเรือเช่นกัน ในอดีต ณ ช่วงเวลานั้นปารีสประสบกับเหตุการณ์น้ำท่วมอยู่บ่อยครั้ง แต่สำหรับครั้งนี้มีความร้ายแรงมากกว่าปกติและกินเวลานานนับสัปดาห์เลยทีเดียว ทางด้านระบบระบายน้ำก็ยังไม่ดีพอที่จะถ่ายเทน้ำทั้งหมดออกไปได้ทัน ต่อมาในวันที่ 21 มกราคม 1910 ฝนยังคงตกอย่างต่อเนื่องและระดับน้ำก็สูงยิ่งขึ้นไปอีก ในช่วงเวลานี้นั่นเองที่น้ำเริ่มไหลเข้าท่วมทั้งเมืองรวมไปถึงระบบคมนาคมต่างๆ และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวเมือง ซึ่งทำให้ผู้คนหลายพันชีวิตไม่สามารถจะใช้ชีวตอยู่ในบ้านที่มีชั้นเดียวได้ปกติ รถไฟใต้ดินก็ใช้งานไม่ได้ ห้างร้านต่างๆ ก็ต้องปิดทำการไปโดยปริยาย สังเกตจากการที่ผู้คนหันมาใช้เรือ ทำให้รู้ได้ทันทีว่าน้ำท่วมครั้งนี้หนักหนาแค่ไหน ทางเดินก็ต้องสร้างขึ้นเฉพาะกิจ เพื่อใช้ในการเดินทางไปยังบ้านเรือนหลังอื่นๆ จากปัญหาน้ำท่วมหนักทำให้ผู้คนต้องหันมาใช้เรือในการคมนาคมแทน และต่อมาในวันที่ 28 มกราคม 1910 ระดับน้ำก็เลวร้ายยิ่งขึ้นเมื่อเพิ่มระดับท่วมสูงเป็น 8 เมตรจากระดับน้ำปกติ ทำให้การใช้ชีวิตในเมืองยิ่งทวีความลำบากมากยิ่งขึ้น ความเสียหายที่เกิดขึ้นตีเป็นเม็ดเงินจำนวนกว่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราวๆ 5 หมื่นล้านบาท) แม้ค่าความเสียหายจะสูงมากขนาดไหน…
-
เฉลยเหตุผลว่าทำไม “งานบริการลูกค้า” ในประเทศญี่ปุ่น ถึงขึ้นชื่อว่าบริการดีที่สุดในโลก!?
สำรหรับใครที่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่น เคยดูสารคดี หรือไม่ก็อ่านเรื่องราวต่างๆ เกี่ยวกับตัวประเทศนี้ น่าจะพอรู้กันว่างานบริการของที่นี่มักจะถูกจัดให้อยู่ในระดับท็อปเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมกันล่ะ? ทำไมพวกเขาถึงสามารถทำออกมาดีแบบนั้นได้ ตั้งแต่ระดับร้านหรู ที่พักราคาแพง ไปจนกระทั่งร้านอาหารข้างทางทั่วไป ที่แม้ว่าตัวราคาหรือบริการที่ไปมันไม่ได้สูงเลยก็ตาม… ด้วยเหตุนี้ทางเว็บไซต์ Rocketnews24 ก็เลยจัดการหาคำตอบสำหรับความสงสัยในครั้งนี้มาให้เราดูกัน โดยได้อธิบายไว้ว่า ทุกอย่างนั้น… มันเริ่มมาจากรากฐานของวัฒนธรรมของญี่ปุ่น เริ่มแรกคือการเคารพสิทธิของคนอื่น และความเป็นมนุษย์ธรรมของคนในชาติ ฉะนั้นการบริการก็ยืนอยู่บนคอนเซ็ปที่ว่า “คุณควรจะปฏิบัติต่อคนที่ให้การสนับสนุนคุณด้วยความสุภาพอ่อนโยน” ล่าสุด American Express International ก็ได้ทำผลสำรวจกลุ่มคน 1,000 คน จากหลากหลายประเทศไม่ว่าจะเป็น แคนาดา ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น เม็กซิโก สิงคโปร์ อังกฤษ และอเมริกา เพื่อสำรวจความพึงพอใจในงานบริการจากประเทศต่างๆ ของลูกค้า ผลที่ได้ก็ออกมาตามคาดเกือบประเทศจะมีความพึงพอใจงานบริการอยู่ที่ 30-35% เท่านั้น โดยมีฮ่องกงที่ความพึงพอใจต่ำกว่าชาติอื่นๆ โดยจะอยู่ที่ 23% จะมีก็เพียงแต่ประเทศญี่ปุ่นที่ความพึงพอใจของลูกค้าพุ่งสูงถึง 56% ซึ่งเรียกว่าเยอะมากๆ เลยทีเดียว คนที่เข้าร่วมผลสำรวจยังบอกอีกว่า แม้เขาจะเจอผู้ให้บริการแย่ๆ ในญี่ปุ่น แต่จากนั้นพอไปร้านอื่น…
-
ชาวเน็ตจวกหนัก… หลังมีภาพของนักท่องเที่ยวจีน ใช้มือจับคอนกนางนวล เพื่อบังคับถ่ายรูป
เป็นที่รู้กันดีว่าชาวจีนนั้นมีจำนวนประชากรเยอะที่สุดในโลก และนั่นทำให้กลุ่มชาวจีนแบ่งออกเป็นทั้งคนที่ดีและกลุ่มคนที่นิสัยไม่ดีออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในครั้งนี้ก็เป็นเรื่องราวของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่นิสัยไม่ดีนั่นเอง เรื่องราวในครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณอ่าวเมืองต้าเหลียน ประเทศจีน โดยภาพที่ถูกเผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ใช้อาหารหลอกล่อนกนางนวลในบริเวณนั้นให้เข้ามาใกล้ๆ และคว้าตัวนกมาอย่างรุนแรง ทั้งการจับคอ จับตัว รวมไปถึงการจับปีกด้วย ภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Weibo สื่อโซเชียลของจีน และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนไม่พอใจเป็นอย่างมาก พร้อมกับออกมาถกเถียงอย่างรุนแรง โดยมีบางส่วนบอกในทำนองว่า “ลองให้นักท่องเที่ยวที่ไหนไม่รู้ เข้ามาบีบคอตัวเองถ่ายถ่ายรูปสิ จะรู้สึกชอบกันมั้ย!?” ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมนักท่องเที่ยวชาวจีนถึงอยากถ่ายรูปกับนกนางนวลนั้น คงจะเกิดขึ้นเพราะว่านกนางนวลหัวดำจะพบเจอได้เฉพาะฤดูกาลเท่านั้น และกว่าจะได้เจอนั้นก็มีโอกาสที่น้อย พวกเขาก็อยากจะได้ภาพของพวกมันกลับไป เรื่องราวในทำนองนี้ไม่ได้พึ่งจะเกิดขึ้น แต่ว่ามันเคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2014 ในบริเวณทางใต้ของเมืองคุนหมิง โดยมีนักท่องเที่ยวไปจับนกนางนวลมาเพื่อที่จะถ่ายรูปเช่นกัน แต่แล้วนักท่องเที่ยวก็ทำให้ปีกของนกนางนวลหัก และในปีต่อมาก็มีนักท่องเที่ยวไปจับนกนางนวลมาอีก คราวนี้เป็นการจับขามันเอาไว้แน่นไม่ให้ไปไหนแล้วก็ถ่ายรูป และต้นปีที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยวจีนมีปัญหากับนกนางนวลเช่นกัน โดยพวกเขาได้ทุ่มนกนางนวลลงกับพื้นจนมันบาดเจ็บสาหัสเลยทีเดียว . ยังไงก้ตามแม้กระแสชาวเน็ตจะโจมตียังไง เรื่องเหล่านี้ก็ยังเกิดขึ้นเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่กับนกนางนวลแต่นักท่องเที่ยวจีนบางกลุ่มก็ยังคงสร้างปัญหาหลากหลายรูปแบบไม่หยุดหย่อน คงทำได้แค่รอดูกันต่อไปว่าอนาคตทางการจีนจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงบ้าง.. ที่มา shanghaiist
-
ครูสาวมะกันถูกจับกุม ในข้อหาพรากผู้เยาว์ลูกศิษย์ตัวเองถึง 3 คน ชาวเน็ตอึ้งในความแซ่บ!!
เรื่องราวสุดฉาวในสื่ออเมริกา เมื่อคุณครูสาวท่านหนึ่งถูกตำรวจเข้าจับกุมข้อหามีเซ็กส์กับเด็กนักเรียนของตัวเอง แถมนักเรียนทั้งหมดก็ยังเป็นผู้เยาว์ทั้งหมดด้วย!! Erin McAuliffe คุณครูสาววัย 25 จากโรงเรียน Rocky Mount Prepatory ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ถูกจับกุมข้อหาแอบมีเซ็กส์กับนักเรียนชายวัย 16 ปี และวัย 17 ปีอีกสองคน ซึ่งถือเป็นข้อประพฤติที่ผิดต่อการเป็นครูด้วย ทว่าก่อนที่จะจับตัวคุณครูสาว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ได้ทำการสอบปากคำคุณครูคนอื่นๆ รวมถึงนักเรียนกว่า 1,300 คน เพื่อสอบถามถึงข้อมูลต่างๆ Erin ถูกฝากขังไว้ที่เรือนจำ Carteret County ภายหลังได้รับการประกันตัวด้วยเงินจำนวนประมาณ 680,000 บาท ก่อนจะถูกนำตัวไปขึ้นศาลในวันที่ 12 มิถุนายน 2017 เป็นระยะเวลาสองวัน ทว่าแม้เธอจะถูกจับในข้อหาดังกล่าว แต่จริงๆ แล้วเธอถูกทางโรงเรียนจับได้และไล่ออกไปตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งวันก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รับแจ้งจากทางโรงเรียน ในส่วนของข้อมูลของคุณครูสาว เธอเรียนจบจาก Methodist University ทางด้านคณิตศาสตร์เมื่อปี 2014 แถมพึ่งจะเข้ามาเป็นครูเมื่อปี…
-
วินาทีสุดระทึก… เมื่อกล้องหน้ารถบัส จับภาพเหตุการณ์ ‘รถบินข้ามเลน’ พุ่งเข้าชนอย่างจัง!!
สำนักข่าวจากฝั่งญี่ปุ่นได้รายงานเหตุการณ์สุดระทึกเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นเหตุการณ์อุบัติเหตุของรถยนต์ที่ขับมาด้วยความเร็วสูง จนกลายเป็นเหตุระทึกขวัญในแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนัก!! เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนเมืองโทะโยะกะวะ ในจังหวัดไอจิ ประเทศญี่ปุ่น โดยรสบัสที่จับภาพได้นั้นเป็นรสบัสของขบวนนำเที่ยวที่กำลังเดินทางไปจังหวัดยะมะนะชิ แต่แล้วอยู่ดีๆ ก็มีรถยนต์คันนึงขับมาด้วยความเร็วสูง จนบินพุ่งทะยานข้ามเลนมาชนเข้ากับหน้ารสบัสคันดังกล่าวเข้าอย่างจัง จากอุบัติเหตุในครั้งนี้ สร้างความเสียหายให้กับรถบัสอย่างหนัก แต่โชคยังดีที่ไม่มีผู้ใดในรถเสียชีวิตรวมถึงทั้งไกด์และคนขับที่อยู่ในส่วนหน้าของรถ ผู้โดยสารทั้งหมด 47 คน มีเพียง 6 คนเท่านั้นที่ได้รับความเสียหายจากกระดูกหัก ส่วน 39 คนที่เหลือได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ทางด้านของเจ้าของรถที่พุ่งเข้ามา ทางตำรวจได้ยืนยันแล้วว่าเขาเป็นคุณหมอวัย 62 ปี ซึ่งเขาไม่รอดจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ในส่วนของรถบัสนั้นถือว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มากๆ เพราะตัวคนขับรวมถึงไกด์ที่นั่งอยู่ติดหน้าต่างยังรอดมาได้ เมื่อดูมุมกล้องจากด้านในตัวรถบัสแล้ว จะเห็นได้ว่าคนขับมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างรวดเร็ว เขาพยายามหักหลบรถที่พุ่งเข้ามา รวมถึงโชคดีที่รถที่พุ่งเข้ามาลอยสูงพอสมควรจนเกือบจะชนส่วนหลังคาอย่างเดียวแล้วด้วยซ้ำ ทางด้านชาวเน็ตที่ได้ดูเหตุการณ์ต่างก็พอกันชื่นชมคนขับรถบัสว่าเขาเก่งมากๆ ที่สามารถควบคุมตัวรถได้แม้ในวินาทีชีวิตแบบนี้ ที่สำคัญยังช่วยให้ทุกคนรอดตายมาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ สุดท้ายทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังต้องตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวมถึงสาเหตุที่รถยนต์สามารถพุ่งข้ามเลนมาถึงขนาดนี้ได้ และพวกเขาก็ยังต้องตามหาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกในครั้งหน้า ด้านสภาพของรถที่พุ่งเข้ามาชนนั้น ตัวรถเละไม่เป็นชิ้นดี ที่สำคัญตัวรถยังคงติดอยู่กับรถบัสด้วย ที่มา rocketnews24
-
เด็กชายเกิดมาไร้จมูก ได้รับช่วงเวลาแห่งความสุขอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นช่วงที่แสนสั้นก็ตาม…
Eli Thompson เด็กชายจากรัฐแอละแบมาผู้เกิดมาพร้อมกับใบหน้าที่ไร้จมูก และเสียชีวิตอย่างสงบกลางดึกเมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2017 หลังจากที่พึ่งฉลองครบรอบวันเกิด 2 ขวบได้ไม่นาน… Eli เป็นเด็ก 1 ใน 37 คนทั่วโลกเท่านั้นที่เกิดมาแล้วไม่มีจมูก ซึ่งเขาได้ถูกบันทึกไว้เมื่อตอน 4 มีนาคม ปี 2015 นอกจากนี้เขายังเกิดก่อนกำหนดคลอดถึง 5 วัน และเขาไม่มีโพรงจมูกหรือระบบหายใจด้วยจมูก เหมือนดั่งคนปกติทั่วไป แต่ถึงอย่างนั้น Eli ก็ยังมีอายุได้จนถึง 2 ขวบ ซึ่งทางพ่อของเขา Jeremy Finch ได้บอกว่าลูกชายเป็นคนที่ร่าเริงตลอดเวลา เขาชอบที่จะชนกำปั้นกับทุกๆ คนที่เขาได้เจออยู่บ่อยๆ นอกจากนี้ทางด้านครอบครัวก็ยังบอกอีกว่า Eli เป็นเด็กที่มีสปิริตสูงมาก เขาเรียนรู้ที่จะสื่อสารผ่านการมองเห็นและพยายามสื่อสารกับเด็กคนอื่นๆ เสมอ และแน่นอนว่าเขาเป็นตัวจุดประกายให้กับคนมากมายรอบๆ ตัว ซึ่งทำให้คนเหล่านั้นรู้สึกสงสารและเข้าใจเขามากเป็นพิเศษ เมื่อตอนอายุ 7 เดือน เด็กชายได้เจอกับ Tessa เด็กสาวชาวไอร์แลนด์…
-
หมูกว่า 19 ตัวอาศัยจังหวะชุลมุน หนีจากรถขนย้ายที่ชนบนทางด่วน อิสระที่สัมผัสได้แค่ชั่วคราว
ไม่นานมานี้ได้มีสำนักข่าวหลายแห่งรายงานว่ามีเหตุการณ์สุดประหลาดใจ เกิดขึ้นบนถนนทางด่วนในจังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่ออยู่ดีๆ รถขนหมูจำนวน 37 ตัวได้ชนเข้าอย่างจังกับรถอีกคัน แต่แล้วหมูบางส่วนก็สบโอกาสหนีออกมา!! เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2017 ที่ผ่านมา ช่วงเวลาราวๆ 9.30 น. ซึ่งเรื่องเริ่มขึ้นจากรถขนย้ายหมูจำนวน 37 ตัว กำลังเคลื่อนไปตามทางด่วนเพื่อไปยังโรงเชือด แต่แล้วคนขับก็ไม่ได้สังเกตเห็นรถที่จอดอยู่บริเวณไหล่ทางด่วน รถขนย้ายจึงชนกับรถคันข้างหน้าเข้าอย่างจัง . ด้วยเหตุนั้นทำให้คนขับรถบาดเจ็บพอสมควร ซึ่งเขาก็ได้ลงไปเช็ครถอีกคันที่เขาชนเข้า แต่ว่าในจังหวะชุลมุนนั้นเหล่าหมูทั้ง 19 ตัวก็เหมือนรู้ว่าจังหวะว่า นี่แหละคือโอกาสดีที่จะหนีเพื่อชีวิตอิสระ พวกมันจึงพากันแหกกรงออกมาแล้วหนีไปตามท้องถนน เหตุการณ์ดังกล่าวก็สร้างความลำบากใจและทำให้คนขับรถที่เดิมบาดเจ็บอยู่แล้ว ต้องแบกร่างกายของตัวเองเพื่อตามหาหมูทั้งหมดและนำมันกลับมา . เขาได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและตามจับพวกมันรวมถึงการปิดถนนเพื่อตามหาหมูทั้ง 19 ตัว ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมงครึ่งเลยทีเดียวกว่าจะจับหมูทั้งหมดกลับมาได้ และถูกนำขึ้นรถขนย้ายคันใหม่เพื่อเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางเดิมของพวกมัน สุดท้ายเราก็รู้กันดีว่าพวกมันจะถูกส่งไปยังโรงเชือดและกลายเป็นเนื้อหมูแสนอร่อยให้พวกเรากิน แต่ใจหนึ่งก็สงสารพวกมัน เพราะคงรู้สึกกลัวและรักชีวิตเช่นเดียวกันกับเรา จึงตัดสินใจหนีออกมาจากกรงอย่างที่เห็นกัน… ที่มา rocketnews24
-
ชายหนุ่มสองคนถูกจับข้อหาทำร้ายลูกจระเข้ หลังโพสต์ภาพเทเบียร์ใส่ปากมันอย่างโหดร้าย!!
แม้จระเข้จะเป็นสัตว์ที่ดุร้ายและสร้างปัญหาให้กับคนบ่อยครั้ง แต่ยังไงความจริงที่ว่าคนย่อมเป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยมที่สุดก็ยังหนีไม่พ้นอยู่ดี โดยล่าสุดนี้ก็มีข่าวเกี่ยวกับชายหนุ่มสองคน ถูกจับข้อหาทารุณลูกจระเข้ด้วยการเทเบียร์ให้มันกิน!!? Joseph Andrew วัย 20 ปี และ Zachary Lloyd Brown วัย 21 ปี ทั้งคู่เป็นวัยรุ่นจากเมือง Ridgeland ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกเขาได้ก่อวีรกรรมสุดห่ามนั่นก็คือการทารุณและทำร้ายลูกจระเข้… ทั้งคู่ได้จับลูกจระเข้มาจากข้างทางขณะที่มันกำลังข้ามถนน และจับมันบีบคอเพื่อให้จระเข้ตัวดังกล่าวอ้าปากออก จากนั้นทั้งคู่ก็กรอกเบียร์เทใส่ปากจระเข้ พร้อมกับถ่ายรูปการกระทำของพวกเขาไว้ แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ลืมที่จะโพสต์ภาพดังกล่าวลงในโซเชียลมีเดีย แต่ต่อมาหลังจากที่ชาวเน็ตได้เห็นภาพของทั้งคู่ เหล่าชาวเน็ตก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมากที่ไปทารุณลูกสัตว์แบบนั้น ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกตามหาตัววัยรุ่นทั้งสอง และได้ตั้งข้อหาทารุณสัตว์พร้อมกับปรับทั้งคู่เป็นเงิน 300 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (เป็นเงินราวๆ 10,000 บาท) . ทาง Kyndel McConchie เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรรมชาติก็ได้ออกมาบอกว่า “พวกเราได้เห็นภาพดังกล่าวถูกโพตส์ลงใน Snapchat โดยคนใดคนหนึ่งในสองคนนั้น ซึ่งภาพดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่พวกเรารับไม่ได้ การไปทำร้ายลูกจระเข้แบบนั้นถือเป็นเรื่องที่ผิด ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกเราเมินเฉยต่อเรื่องนี้ไม่ได้จนต้องออกตามหาตัวทั้งสอง” สุดท้ายแล้วทั้งสองก็คนจะได้บทเรียนเกี่ยวกับการทำอะไรห่ามๆ ไปอีกนานเลยก็ได้ แม้การลงโทษจะเป็นแค่การปรับก็ตาม แต่เชื่อว่าพวกเขาน่าจะโดนสั่งสอนจนหูชาแน่ๆ เลยทีเดียวล่ะ ที่มา dailymail
-
มือสไนเปอร์ ผันตัวมาเป็นผู้พิทักษ์ “แรด” จากนักลักลอบ ด้วยมาตรการ “ยิงก่อนถาม” !!
แรด ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ยอดฮิตอันดับต้นๆ ที่เหล่านักลักลอบล่าสัตว์มุ่งเป้า เพราะด้วยมูลค่านอของพวกมันนั้นมีราคาสูงมากๆ จนทำให้จำนวนของพวกมันลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงหลัง ซึ่งที่ทุ่งหญ้า Borana ในเคนย่าอันเป็นพื้นที่สงวน ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่มีแรดอยู่เยอะและเป็นที่หมายตาของเหล่านักลักลอบ แต่ว่าในอีกไม่นานมันกำลังจะได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น เพราะเหล่าฝูงแรดกำลังได้รับการปกป้องจากกลุ่มมือสไนเปอร์ฝีมือดี.. Chris Haslam จากสำนักข่าวบีบีซีได้เล่าว่า เขาได้ไปยังสถานที่ดังกล่าวและได้พูดคุยกับเหล่ามือสไนเปอร์ทีไ่ด้รับการฝึกจากหน่วย SAS (หน่วยรบพิเศษทางอากาศแห่งกองทัพอังกฤษ) พร้อมกับพูดคุยกับพวกเขาในขณะที่พวกเขากำลังเฝ้าดูอยู่ห่างๆ จากฝูงแรดขาว Chris ได้ถามกับเหล่าสไนเปอร์ว่า ถ้าเกิดมีคนรู้จักหรือญาติสนิทเข้ามาในบริเวณนี้จะทำยังไงเหรอ เหล่าสไนเปอร์ก็ตอบกลับเขาทันทีว่า “พวกเราไม่สนว่าคนๆ นั้นเป็นใคร แต่ถ้าคนเหล่านั้นเข้ามาเพื่อที่จะเอานอแรดเมื่อไหร่ พวกเราจะยิงให้ตายได้ทันที!!” สำหรับเขตอนุรักษ์ Lewa และ Borana นั้นมีพื้นที่รวมกันมากถึง 375 ตารางกิโลเมตร (ประมาณ 230,000 ไร่) นอกจากนี้สถานที่ดังกล่าวยังเป็นที่ซึ่งเคยมีแรดอยู่จำนวนมาก แต่ด้วยจำนวนของพวกลักลอบล่าสัตว์ที่มีจำนวนมากขึ้นเช่นกัน จึงทำให้ประชากรลดไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้การมาของหน่วยสไนเปอร์จึงเป็นเรื่องที่ดีจำเป็นสำหรับการอนุรักษ์ พวกเขาจะทำงานกันเป็นทีม 4 คน 2 คนเป็นมือสไนเปอร์ และที่เหลือเป็นหน่วยชี้เป้า ซึ่งมาพร้อมกับอาวุธครบมือและเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆ ที่สำคัญคือกำลังสนับสนุนและลาดตระเวนทางอากาศ ที่ทำให้สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน ทีมสไนเปอร์จะต้องดูแลแรดจำนวน…
-
เมียโพสต์ถาม ผัวเอามรดกแม่เธอ-เงินเก็บครอบครัว 3.7 ล้าน ไป “เติมเกมมือถือ” จนหมด ทำไงดี!?
หลายคนที่เล่นเกมในยุคนี้ทั้งในคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพมือถือ คงจะคุ้นเคยกับ ระบบกาชาปอง ในเกมกันอย่างแน่นอน ซึ่งเจ้าระบบที่ว่านี้มันเป็นระบบที่ให้เราสุ่มหาไอเทมหรืออะไรก็ตามที่อยู่ภายในเกมด้วยการเสี่ยงดวงนั่นเอง และแน่นอนว่าคนญี่ปุ่นก็ดูจะเสพติดเจ้ากาชาปองนี้ง่ายๆ เสียด้วย บางคนเล่นเสี่ยงดวงหาไอเท็มสนุกสนานในเกมก็ดี แต่บางคนก็หยุดไม่อยู่ เติมไม่อั้น กระทั่งนำเงินคนอื่นมาเติมนี่สิ… ล่าสุดมีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น จากการเล่นเกมและเสี่ยงดวงในเกมจนไม่ได้สติ เรื่องเริ่มต้นเมื่อภรรยาของครอบครัวนี้ได้รับเงินค่าประกันจากการเสียชีวิตของคุณแม่ของเธอ รวมถึงมรดกต่างๆ เป็นเงินมากกว่า 2.4 ล้านบาท เธอหวังว่าจะได้นำเงินนี้ไปเลี้ยงดูลูกๆ ของตนในภายภาคหน้า ซึ่งเดิมทีเธอและสามีของเธอมีเงินเก็บเก่าอยู่แล้วหลักล้านบาท พอรวมกับเงินใหม่เข้าไปทั้งคู่ก็จะมีเงินเก็บมากถึง 3.7 ล้านบาทเลยทีเดียว และแน่นอนว่าทั้งคู่ก็ตระหนักในเรื่องนี้ดี พร้อมกับตั้งใจจะทำตามสิ่งที่พวกเขาคิดไว้ เรื่องราวผ่านไปปกติเป็นเวลา 2 ปีครึ่ง ภรรยาก็ได้กลับมาเช็คเงินในบัญชีเก็บสะสมอีกครั้ง ทว่าเมื่อเห็นตัวเลขเธอถึงกับต้องเข่าทรุด เพราะเงินในบัญชีมันหายไปจนหมดเลย หมดขนาดที่ว่าไม่เหลือแม้แต่แดงเดียว เธอจึงตามหาคำตอบอยู่พักหนึ่งจนความจริงก็ถูกเปิดเผยโดยสามีของเธอ ผ๊างงง!!? สามีได้เล่าว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ภรรยายังเศร้าโศกกับการจากไปของครอบครัว ตัวสามีเองได้เข้าสู่วงการเกมมือถือที่เต็มไปด้วยเกมดีๆ กาชาดีๆ และเขาก็ลุ่มหลงมันมากพร้อมกับใช้จ่ายเงินไปกับการสุ่มกาชาในเกม เริ่มต้นมากกว่า 12,000 บาทต่อเดือน และหนักขึ้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ไม่หมดแค่นั้น ตัวสามียังทำท่าเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของเขา แถมยังไม่ขอโทษและสำนึกผิดกับการผลาญเงินก้อนโตที่เขาและภรรยากะเก็บไว้ให้ลูกๆ ในอนาคตอีกต่างหาก ภรรยาไม่รู้จะทำยังไงจึงได้สอบถามชาวเน็ตว่าเธอควรจะทำยังไงกับเหตุการณ์ดังกล่าวดี ชาวเน็ตจึงให้คำแนะนำว่าเธอควรจะจัดการกับสามีอย่างเด็ดขาด และติดต่อทนายเพื่อดำเนินคดีกับตัวสามีโทษฐานขโมยเงินจำนวนมากไปจากเธอโดยไม่ยินยอม จนตอนนี้เหตุการณ์ดังกล่าวก้ยังไม่ได้ข้อสรุป…
-
สาวอินเดีย “ตัดหรรมส์” ผู้นำศาสนาท้องถิ่น หลังจากพยายามข่มขืนเธอ บอกครอบครัวก็ไม่เชื่อ!!
เหตุการณ์สุดระทึกที่ชาวเน็ตต่างพอกันสะใจกันเป็นแถบๆ เมื่อผู้นำศาสนาท้องถิ่นในอินเดียพยายามล่อลวงหญิงสาวไปข่มขืน แต่ก็ต้องโดนสวนกลับโดยการตัดอวัยวะเพศของผู้นำคนดังกล่าวทิ้งซะ!!? ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รายงานว่า Hari Swami ชายที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำศาสนาท้องถิ่น ได้พยายามข่มขืนหญิงสาววัย 23 ปี แต่แล้วหญิงสาวคนดังกล่าวก็ทำการดัดหลังด้วยการซ่อนมีดไว้ใต้หมอน จากนั้นเมื่อถึงจังหวะ เธอก็หยิบมันออกมาพร้อมฟันลงไปที่อวัยวะเพศของ Hari จากนั้นก็ตัดมันจนขาดในที่สุด จากการสอบสวย สาวเจ้าได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า เธอถูกล่วงเกินทางเพศจากชายคนดังกล่าวมาเป็นเวลานานกว่า 5 ปีแล้ว จนสุดท้ายเธอก็ไม่ทนอีกต่อไป และจัดการจบปัญหาด้วยตัวเอง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นาย Hari ก็ไปที่โรงพยาบาลท้องถิ่นในสภาพบาดเจ็บสาหัส แต่ข่าวรายงานว่าตอนนี้อาการของเขาอยู่ในสภาวะปกติแล้ว Sparjan Kumar ตำรวจผู้รับผิดชอบคดี ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า “หญิงสาวคนดังกล่าวใช้มีดในการปกป้องตัวเอง และตัดไอ้จ้อนของคนร้ายในที่สุด” พอเจ้าหน้าที่ถามกับสาวผู้เคราะห์ร้ายเกี่ยวกับครอบครัวของเธอว่ารู้เรื่องหรือหรือไม่ เธอก็ตอบกลับมาว่า ครอบครัวของเธอไม่เคยเชื่อคำพูดของเธอเลย พวกเขายังตามืดบอดสนิทพร้อมเชื่อผู้นำศาสนาคนดังกล่าว เชื่อขนาดว่าเชิญให้เธอไปนอนบ้านของผู้นำคนนั้นเลยด้วยซ้ำ เพื่อประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์ตามที่พวกเขาเชื่อกัน สุดท้ายแล้ว หญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายก็อยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่เป็นที่เรียบร้อย และเธอก็มั่นใจได้ว่าเธอจะปลอดภัย พร้อมกับได้ดำเนินคดีกับนาย Hari ตามกฎหมายต่อไป… เหตุการณ์ดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่น่าวิตก โดยเฉพาะการละเมิดทางเพศในขณะที่ครอบครัวก็ยังไม่คิดจะให้การช่วยเหลือ คิดไปคิดมาก็คล้ายกับหลายๆ คดีที่เกิดขึ้นในประเทศของเรา…
-
รวบตัวชายผู้หลอกสาวว่าเป็น “โปรดิวเซอร์หนังโป๊” ชักจูงสาวเข้าวงการ ตั้งกล้องมีเซ็กส์มาหลายนาง
หลังจากตำรวจตามจับมายาวนาน ล่าสุดศาลก็ตัดสินให้ชายหนุ่มจากรัฐมิสซูรีถูกสั่งให้จำคุก10 ปี หลังจากที่เขายอมรับว่าตนได้ทำการหลอกหลวงหญิงสาวมากมายมาให้มีเซ็กส์กับเขา โดยให้เหตุผลว่าเป็นการมาแคสติ้งหนังโป๊นั่นเอง Mario Antoine อดีตช่างภาพงานแต่งงานวัย 34 ปี จากเมืองแคนซัสซิตี้ เขาได้หลอกมีเซ็กส์กับหญิงสาวมาแล้วอย่างน้อย 6 คน (หรือมากกว่านั้น) ซึ่งจากรายงานระบุว่า เขาได้หลอกล่อด้วยวิธีการแอบอ้างว่าตัวเองเป็นช่างภาพมากฝีมือ แถมยังอ้างว่าทำให้งานทั้ง “Playboy Worldwide” และ “Playboy Asia” นอกจากนี้เขายังได้ปลอมแปลงเอกสารมากมายทั้งของหน่วยงาน IRS และ Department of Homeland Security เพื่อใช้ในการรองรับว่าบริษัทหนังโป๊ของเขาถูกต้องตามกฏหมายจริงๆ ส่วนการออดิชั่นกับเขา เพื่อที่จะได้เซ็นสัญญาและอยู่ในสังกัด ก่อนอื่นจำเป็นจะต้องมีเซ็กส์กับเขาเสียก่อนและเขาจะจ่ายเงินให้อย่างงาม หากพวกเธอผ่านการแคสติ้งและได้เป็นนักแสดงจริงๆ แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ไม่เคยจ่ายเงินให้จนตอนนี้เงินที่เขาต้องจ่ายให้กับหญิงสาวทั้งหมดรวมๆ กันมันมากกว่า 50 ล้านบาทเข้าไปแล้ว สุดท้ายก็หนีไปไม่รอด หลังจากก่อเหตุมาหลายครั้ง เขาก็ถูกจับได้ พร้อมกับให้คำสารถภาพเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำลงไป ส่วนข้อหาที่ Mario ต้องโดนมีมากถึง 21 ข้อหาเลยทีเดียว ตั้งแต่การทำผิดทางโลกออนไลน์ การคุกคามและอื่นๆ…
-
สาวอินเดียมอบ “ไม้พาย” ให้เจ้าบ่าวในวันแต่งงาน ย้ำเตือนให้รู้ว่า อย่ามาหือกับเมียนะ!?
เหล่าเจ้าบ่าวจอมซ่าระวังตัวให้ดี เมื่อสาวอินเดียได้มอบของขวัญวันแต่งงานให้กับเจ้าบ่าวเป็นไม้หน้าสามอย่างดี พร้อมที่จะฟาดกระบาลเจ้าบ่าวได้ทันทีถ้าพวกเขาใช้กำลังกับพวกเธอ เรื่องดังกล่าวกำลังเกิดขึ้นกับเจ้าสาวในประเทศอินเดียกว่า 700 คน โดยพวกเธอได้รวมตัวกันเพื่อจัดพิธีแต่งงานหมู่ขึ้นมา และให้ของขวัญเจ้าบ่าวเป็นไม้พายขนาดย่อมที่มีลักษณะเหมือนกันหมดทุกคนอีกด้วย ซึ่งไม้ดังกล่าวปกติแล้วจะเป็นไม้ที่ไว้ใช้สำหรับการตีผ้า ส่วนขนาดก็กำลังพอดีมือโดยตัวไม้จะมีขนาดราวๆ 40 เซนติเมตร จึงมีรูปร่างเหมาะมือในการถือเป็นอย่างมาก Gopal Bhargava รัฐมนตรีของรัฐมัธยประเทศ ได้บอกว่าถึงแม้เหล่าเจ้าสาวจะต้องการใช้ไม้นี้เพื่อป้องกันตัวและเตือนใจเจ้าบ่าว แต่มันก็ยังคงเป็นเพียงไม้สำหรับตีฝุ่นออกจากเสื้อผ้าเท่านั้น เขายังอธิบายเหตุผลเพิ่มเติมจากปากเจ้าสาวว่า “พวกเธอบอกกับผมว่า การที่ต้องให้ไม้นี้กับเจ้าบ่าวก็เพราะ ในประเทศอินเดีย หลายครั้งเวลาที่พวกเขาเมาเมื่อไหร่ ผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะกลายเป็นคนหัวรุนแรงทันที และแม้ไม้ดังกล่าวจะดูเป็นเครื่องมือสร้างความรุนแรง แต่จริงๆ แล้วมันคือเครื่องป้องกันตัวต่างหาก” ด้วยเหตุนี้ Gopal จึงตัดสินใจสั่งซื้อไม้ดังกล่าวมากถึง 10,000 อัน เพื่อมอบให้แก่สาวๆ ไว้เป็นของขวัญในวันแต่งงานของพวกเธอ และยังมีหญิงสาวมากกว่า 700 คน มาขอรับไม้ไปเรียบร้อยแล้ว ประชากรชาวอินเดียส่วนใหญ่จากสถิติในปี 2013 จะมีรายได้ประมาณ 21,000 บาท ต่อปี แต่ทว่าค่าใช้จ่ายที่ใช้ในงานแต่งของกลุ่มคนชั้นล่างจะใช้เงินมากถึงราวๆ 53,000 บาท ซึ่งนั้นมันมากกว่ารายรับต่อปีถึงสามเท่าเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม นโยบายมอบไม้ดังกล่าวนี้ ทำให้สื่อในพื้นที่บอกว่าสิ่งที่…
-
“มีกระสุนเป็นตับ จะเอาป้ะละ!?” คุณแม่ชักปืนขึ้นมาขู่ช่างผม หลังตัดลูกตัวเองชักช้าไม่ทันใจซะเลย
ทุกครั้งที่เราไปใช้บริการใดๆ ก็ตามแล้วได้รับการบริการที่ช้าจนเรามักจะหัวร้อนอยู่บ่อยๆ ซึ่งปกติเราก็จะมีวิธีการแก้ปัญหาหลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการบ่น ยกเลิกบริการ หรือไม่ก็อดทนรอ แต่ว่าเมื่อ 16 เมษายน 2017 ที่ผ่านมาในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ได้มีคุณแม่ผิวสีคนหนึ่งหยิบปืนมาจ่อยิงคนในร้านเนื่องจากพนักงานตัดผมให้ลูกชายของเธอช้า จนเธอต้องระเบิดอารมณ์ออกมาแล้วพูดว่า “ฉันมีกระสุนเป็นตับ และฉันก็จะยิงพวกแกให้หมดเลย” เหล่าพนักงานจึงพยายามพูดให้เธอใจเย็นลง เพื่อช่างตัดผมจะได้รีบตัดผมให้ลูกชายของคุณแม่จนเสร็จ และสุดท้ายทั้งคู่ก็ออกไปจากร้านทันที ทิ้งไว้แต่ความมึนงงให้กับพนักงานทั้งหมดภายในร้าน Al Pugh พนักงานฝึกหัดในร้านออกมาบรรยายถึงความรู้สึกของตัวเองเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเขาถึงกับรู้สึกช็อค “คุณไม่รู้หรอกว่าคนอื่นคิดยังไง บางทีเธออาจจะยิงผม หรืออาจจะยิงลูกตัวเองด้วยก็ได้ ใครจะรู้จริงไหม?” นอกจากนี้ Al ยังบอกปิดท้ายอีกว่า “เธอไม่น่าวู่วามทำแบบนั้นเลย เพราะเธอไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายสักหน่อย” แถมลูกชายของเธอในตอนนั้นก็นั่งนิ่งทำอะไรไม่ถูกเลยล่ะ ด้านเจ้าของร้าน Michael D’Amico บอกว่าเขาเปิดร้านนี้มาตั้งแต่ปี 1960 เขาไม่อยากให้หญิงสาวคนดังกล่าวถือปืนไปมาบนท้องถนนที่มีคนเต็มไปหมด เขาจึงแจ้งตำรวจให้ตามจับเธอทันที สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เดินทางมาถึงเพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และตามหาคุณแม่คนดังกล่าว ทว่าเจ้าหน้าก็ไม่พบเบาะแสเกี่ยวกับคุณแม่ใจร้อนคนดังกล่าวเลยนั่นเอง สามารถรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวข้างล่าง จะทำอะไรก็คิดดีๆ อย่าใจร้อนเลยนะทุกคน ค่อยๆ คุยกันสิ ที่มา cleveland19
-
พนักงานหน้านิ่งโนแคร์ แม้จะถูกปล้นมีปืนจ่อหน้า หยิบเงินให้ชิวๆ จะเอาก็เอาไปเลย…
ลองคิดว่าถ้าเพื่อนๆ ต้องทำงานอยู่ในร้านค้าแห่งหนึ่งที่เปิดไปจนถึงเช้า แล้วจู่ๆ กลางดึกก็มีลูกค้าน่าสงสัยชักปืนออกมาเพื่อปล้นเงินของร้านไป เพื่อนๆ จะทำยังไง? เป็นใครก็ต้องตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จะเอาเงินให้หรือจะรับมือกับโจรยังไงดี ล่าสุดคลิปเหตุการณ์ของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เป็นพนักงานให้กับร้าน Jimmy Johns ในรัฐแคนซัส ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 3 ทุ่ม 15 ของวันที่ 26 เมษายน ชายหนุ่มกำลังต้อนรับลูกค้าที่เดินเข้ามาสั่งอาหาร ในตอนแรกก็มีท่าทีปกติแต่สักพักเขาก็ชักปืนออกมาพร้อมบอกให้ชายหนุ่มส่งเงินให้เขา ปกติแล้วถ้าคนถูกปล้นแถมมีปืนจ่ออยู่ตรงหน้าก็จะต้องมีท่าทีตื่นกลัวหรือแสดงสีหน้าออกมา แต่พนักงานชายคนนี้กลับไม่แสดงสีหน้าตกใจหรืออะไรเลย แถมค่อยๆ ทำทุกอย่างตั้งแต่ถอดถุงมือจนถึงควักเงินให้กับโจร ที่สำคัญเขาถึงกับยกลิ้นชักเงินออกมาให้กับโจรคนนั้นไปเลยทีเดียว ทว่าโจรคนดังกล่าวเหมือนจะไม่ได้คิดในส่วนของการปกปิดใบหน้ารวมถึงกล้องวงจรปิด ทุกการกระทำถูกบันทึกไว้หมดแล้ว และสามารถเห็นหน้าตาของโจรคนนี้ได้อย่างชัดเจน . ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของรัฐแคนซัสได้ตั้งข้อหาชายคนดังกล่าว พร้อมให้กับให้ประชาชนที่เคยเห็นหรือรู้จักแจ้งเบาะแสเข้ามา แต่ด้วยใบหน้าที่ชัดเจน ทำให้ทางกรมตำรวจใช้เวลาไม่นานนักพร้อมกับออกมาชี้แจงว่าพวกเขารู้ว่าโจรคนดังกล่าวคือใครแล้ว เหลือเพียงแค่การออกตามหาตัว สุดท้ายก็ต้องชื่นชมชายหนุ่มพนักงานคนดังกล่าวที่ตอบโต้กับเหตุการณ์ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาใจเย็นหรือเบื่อหน่ายกับชีวิตกันนะ นิ่งสุดๆ เลยทีเดียว พี่โจรแกลืมไปหรือเปล่าว่านี้มันยุค 2017 แล้ว กล้องวงจรปิดยุคนี้มันชัดมากเลยนะเฮ้ย ที่มา ladbible
-
สุดประทับใจ… เมื่อช่างซ่อมรู้ว่าลูกค้าพึ่งมีจะสมาชิกใหม่ เขาจึงซ่อมงานให้ฟรีไม่คิดเงิน!!
ถ้าสมมุติวันหนึ่งในวันที่อากาศหนาวมากๆ แล้วเครื่องทำน้ำอุ่นของคุณก็ดันเสีย แถมพายุก็บังเอิญมาเข้าในวันนั้น หนักไปกว่านั้นคือ เมื่อวานคุณพึ่งจะรับลูกที่พึ่งเกิดกลับมาดูแลที่บ้านอีก ฟังดูแย่เกินจริงใช่ไหมล่ะ? แต่นี่แหละคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของ Maria และ Jesse Hulscher จากรัฐมินนิโซตา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากที่ Maria พึ่งจะคลอดลูกได้ไม่นาน Maria กับ Jesse Hulscher พร้อมกับลูกชายคนแรก และสมาชิกตัวน้อยคนใหม่ล่าสุด ด้วยอากาศแย่แบบนั้นมันคงไม่ดีต่อลูกน้อยของพวกเขาอย่างแน่นอน ทั้งคู่ก็ไม่รอช้าเรียกช่างซ่อมเครื่องทำน้ำอุ่นจากบริษัท Magnuson Sheet Metal ซึ่งเป็นบริษัทในท้องถิ่นให้มาช่วยซ่อมให้ และเมื่อช่างมาถึงก็จัดการดำเนินงานทันที และในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเครื่องทำน้ำอุ่นของพวกเขาก็กลับมาใช้งานได้ดีอีกครั้ง จนเวลาผ่านไปหลายวันทางบริษัทก็ส่งใบแจ้งหนี้เพื่อให้ทั้งคู่ไปชำระเงิน แต่พวกเขากลับรู้สึกตื้นตันใจและไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นข้อความที่อยู่ในใบแจ้งหนี้ว่า “ไม่มีค่าใช้จ่าย ดูแลสมาชิกใหม่ของพวกคุณให้ดีนะ” ซึ่งเมื่อเรื่องราวในครั้งนี้ได้เผยแพร่ออกไป ทางสำนักข่าว Fox 9 ก็ไม่รอช้าเดินทางไปสัมภาษณ์บริษัทดังกล่าวทันที และ Craig ผู้จัดการของบริษัทก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมจัดการซ่อมให้พวกเขาฟรีๆ เพื่อแสดงความยินดีกับลูกชายที่พึ่งเกิดของพวกเขา” ด้วยเหตุนี้ Jess จึงแชร์ข้อความรู้สึกของเขาเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่า “ผมไม่รู้จะต้องขอบคุณพวกเขายังไงถึงจะพอกับการบริการที่ดีแบบนี้ ทั้งรวดเร็วและช่างซ่อมที่มีคุณภาพรวมถึงจิตใจที่เข้าใจลูกค้า บริษัทแบบนี้ควรค่าที่จะได้ใจของลูกค้าคนหนึ่งไปชั่วชีวิต และขอบคุณ Craig กับทีมงานของคุณที่มอบประสบการณ์ดีๆ…
-
เรียนรู้ประวัติชาวอินเดียแดงชนเผ่าต่างๆ จากภาพสีที่อาจไม่เคยผ่านตาคุณมาก่อน!!
ชาวอเมริกันดั้งเดิม หรือที่เรารู้จักกันในชื่ออินเดียแดง ถือเป็นชนชาติดั้งเดิมที่ล้มหายตายจากไปเมื่อ 120 ปีก่อนเป็นผลมาจากการล่าอาณานิคม แต่สำหรับเรื่องนั้นก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว ส่วนในครั้งนี้เราจะมาดูภาพของชนเผ่าต่างของอินเดียแดงกัน ล่าสุดทางเว็บไซต์ Dailymail ได้ปล่อยเซตภาพดังกล่าวออกมา แต่ว่าภาพทั้งหมดล้วนเป็นภาพสีที่ถูกชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ โดยจะย้อนกลับไปเมื่อปี 1899 ซึ่งแต่ละภาพก็จะประกอบไปด้วย ชาวอินเดียแดงจากหลากหลายชนเผ่าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Sioux, Crow, Ute, Passamaquoddy, Pawnee, Maricopa, Blackfeet และ Salish Porrum และ Pedro จากเผ่า Ute ปี 1899 เผ่า Ute ถือเป็นเผ่าที่มีขนาดใหญ่และตั้งถิ่นฐานกันอยู่บริเวณภูมิประเทศที่เป็นภูเขาของรัฐต่างๆ อย่างเช่น Colorado, Utah, Wyoming, Eastern Nevada และ Northern New Mexico นอกจากนั้นพวกเขายังมีทักษะในการล่าสัตว์ที่สูงมากๆ อีกด้วย Peter Tall Mandan และ Iron White Man จากชนเผ่า Sioux ปี 1900 เผ่านี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเผ่าที่เป็นชาวอเมริกันแท้ๆ โดยพวกเขาตั้งถิ่นฐานอยู่บริเวณทุ่งหญ้าใน Minnesota…
-
นายพรานชาวแอฟริกาใต้ หายตัวอย่างลึกลับระหว่างล่าสัตว์ คาดว่าถูกจระเข้เขมือบแล้ว!?
การล่าสัตว์ถือว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตของประเทศซิมบับแว่ ซึ่งผู้คนที่เดินทางไปส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะทำกิจกรรมนี้กันบ่อยๆ ที่สำคัญทางการยังมีการออกใบอนุญาติและจัดพื้นที่ล่าให้อย่างถูกกฏหมายอีกด้วย Scott Van Zyl ชายวัย 44 ปีผู้มีลูกสองคนและภรรยาแสนสวย พร้อมกับเปิดกิจการพานักท่องเที่ยวออกไปล่าสัตว์ในแอฟริกาใต้ ที่อยู่ดีๆ วันหนึ่งเขาก็หายตัวไปอย่างน่าสงสัย เรื่องมันเริ่มจากวันหนึ่งเขาและคนแกะรอยได้ลงจากรถและเดินเข้าไปในพุ่มไม้ในทิศทางที่ต่างไปจากเส้นทางล่าสัตว์ปกติ แล้ววันต่อมาสุนัขของเขาก็กลับมาที่แคม์ปแต่ตัว Scott ไม่ได้กลับมาด้วย จะมีก็แต่ปืนไรเฟิลของเขาที่วางทิ้งไว้บนรถเท่านั้น หลังจากที่ทุกคนทราบว่า Scott หายตัวไปทีมกู้ภัยจึงรีบออกตามหาเขาทันที ไม่ว่าจะด้วยเฮลิคอปเตอร์ รถยนต์ รวมถึงทีมแกะรอย ทั้งหมดต่างพากันช่วยตามหาตัว Scott ในบริเวณอุทยานที่คาดว่าเขาหายไป ส่วนเพื่อนๆ ของเขาก็ช่วยกันนำโปสเตอร์ประกาศคนหายไปติดตามหมู่บ้านต่างๆ Scott มีลูกชาย 2 คน ซึ่งเขามาลูกๆ มาเที่ยวในซิมบับเว แต่เขากลับหายไปอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากการออกตามหาดำเนินการไปได้ระยะหนึ่ง ก็มีคนพบเข้ากับรอยเท้าของ Scott ซึ่งมันนำไปสู่แม่น้ำลิมโปโป และเมื่อตามรอยเท้าไปจนสุดสายพวกเขาก็พบเข้ากับกระเป๋าของเขาที่วางอยู่ใกล้ๆ กับรอยเท้า Sakkie Louwrens หนึ่งในทีมค้นหาบอกว่า ทางตำรวจสงสัยว่าเขาอาจจะถูกจระเข้กินไปแล้วก็เป็นได้ “พวกเราได้บังเอิญเจอเข้ากับซากศพของมนุษย์ในร่างของจระเข้สองตัวที่พวกเราจับมาได้” บริเวณแม่น้ำที่เขาหายตัวไปอย่างลึกลับ สุดท้ายชิ้นส่วนของศพที่ถูกพบในจระเข้ ก็กำลังถูกส่งไปตรวจเพื่อพิสูจน์หาหลักฐานกันต่อไป แต่จะใช้ร่างของเขาหรือไม่ ซึ่งมันต้องใช้เวลาพอสมควร…
-
รู้จักหมู่บ้าน Fucking ที่มีอยู่จริงในออสเตรีย อยากจะเปลี่ยนชื่อแทบแย่ แต่ก็เปลี่ยนไม่ได้…
สถานที่บนโลกใบนี้ส่วนใหญ่แล้วก็ล้วนจะมีชื่อเพื่อบ่งบอกถึงที่ตั้งอยู่เสมอ และเพื่อให้คนได้จดจำและรู้จัก ซึ่งมักจะตั้งกันตามลักษณะที่ตั้งหรือความหมายของสถานที่นั้นๆ เช่น บ้านดอนทุเรียน เพราะมีสวนทุเรียน หรือหมู่บ้านดงอีกาดำ เพราะมีกาสีดำชุกชุม เป็นต้น แต่ก็มีไม่น้อยเลยทีเดียวที่มีชื่อสถานที่แปลกๆ ทั้งออกแนวตลก ไปจนถึงหยาบคายก็มี แต่เบื้องหลังชื่อพวกนั้นมันก็ไม่ได้ตั้งขึ้นมาเพราะต้องใจหยาบคายอะไรหรอกนะ แต่คนเราเนี่ยแหละที่ไปคิดว่ามันหยาบคาย อย่างหมู่บ้านเล็กๆ ในประเทศออสเตรียที่ชื่อว่า Fucking Village . หมู่บ้าน Fucking แห่งนี้ตั้งอยู่ที่ประเทศออสเตรีย ถ้าอ่านกันตามปกติเราก็คงจะอ่านชื่อเมืองนี้ว่า ฟักกิ้ง เป็นแน่แท้ แต่จริงๆ แล้วหมู่บ้านแห่งนี้มันอ่านว่า ฟุกกิ้ง ต่างหากล่ะ ด้วยความที่ชื่อของเมืองมันล่อแหลมขนาดนี้ ผู้คนทั่วทุกสารทิศเมื่อได้เห็นและรู้จัก พวกเขาก็ต่างพากันหัวเราะสนุกสนาน บ้างก็นำชื่อเมืองไปใช้ในทางที่ไม่ดี แถมยังมีผู้ไม่หวังดีโทรมากลั่นแกล้งชาวบ้านด้วยคำพูดล่อแหลมและหยาบคายไม่เว้นแต่ละวัน แค่นั้นยังไม่พอ ชาวบ้านยังต้องประสบกับปัญหาป้ายเมืองบ่อยๆ รวมถึงยังมีคู่รักมากมายมานอนเปลือยกาย หรือทำอนาจารบริเวณป้ายชื่อเมืองอีกต่างหาก ส่วนถ้าใครกำลังนั่งคิดว่า เอ้า!! งี้ก็จัดการเปลี่ยนชื่อเมืองซะสิ ต้องบอกว่า พวกเขาเคยคิดจะทำแล้วเมื่อราวๆ ปี 2012 โดยให้ชาวบ้านโหวตชื่อ เปลี่ยนชื่อเป็น Fugging แต่ว่ามันทำไม่ได้ เพราะมันมีเมืองชื่อดังกล่าวอยู่ในออสเตรียแล้ว ส่วน Andreas Dockner นายกเทศมนตรีเมือง Fugging ก็ออกมาบอกว่าควรจะมีเมือง Fugging ในออสเตรียแค่แห่งเดียวก็พอ พร้อมให้คำแนะนำเมือง Fucking ว่า “ถ้าเมืองของผมชื่อว่า…
-
เตือนภัย “รูเล็กๆ” ที่ตู้ ATM มันอาจจะเป็นกล้องจิ๋ว และทำให้คุณสูญเงินไม่รู้ตัว!?
เรื่องเงินไม่เข้าใครออกใคร… และไม่ว่าเราหรือทางธนาคารจะออกมาตรการป้องกันมาดีมากเพียงใด เหล่ามิจฉาชีพก็พร้อมจะยกระดับตัวเองเพื่อหาทางสร้างอาชญากรรมให้เราสูญเงินได้เสมอ และแม้เรื่องนี้จะเกิดขึ้นในกรุงลอนดอน แต่เราก็ไม่สามารถวางใจได้เลยว่าจะเกิดกับเมืองไทยเมื่อไร และครั้งหน้าอาจจะเป็นตู้ที่คุณใช้ประจำก็ได้ ล่าสุดทางตำรวจในลอนดอนได้พบกับรูเล็กๆ ที่ตู้ ATM บริเวณมหาวิหารเซนต์พอล โดยรูที่พวกเขาเจอมันเล็กมากๆ จนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว ส่วนจุดประสงค์หลักของเจ้ารูดังกล่าว คือมันซ่อนกล้องตัวจิ๋วเพื่อการบันทึกเลขรหัส ATM ของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายที่เผลอมากดเงินตรงตู้ดังกล่าว มองเห็นกันไหมว่ากล้องอยู่ตรงไหน มันคือรูเล็กๆ นั่นยังไงล่ะ เล็กจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียวใช่ไหมล่ะ ส่วนนี้ก็เป็นแผงวงจรภายในของกล้องตัวข้างบน ซึ่งตัวนี้จะอยู่บริเวณช่องรับเงิน ในวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมาทางตำรวจก็เจอกรณีเดียวกันกับตู้ ATM บริเวณใกล้เคียง แต่ว่าในคราวนี้ตำแหน่งของกล้องนั้นเปลี่ยนไป เจ้ากล้องนี้ย้ายขึ้นไปอยู่เหนือแป้นพิมพ์ตัวเลข เพื่อง่ายต่อการดูว่าเหยื่อกดเลขอะไรไปบ้าง ซึ่งตำรวจก็ได้ปล่อยภาพของเจ้าตู้ที่เกิดเหตุออกมาให้ดูกันด้วย… รอบนี้เล็กกว่าเดิมอีก มองเห็นกันไหม แถมมีตั้งสามรูอีกต่างหาก คำตอบของรูในครั้งนี้ คือรูที่อยู่ตรงกลางนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ทางตำรวจก็เลยแกะออกมาดู และนี่ก็คือสภาพข้างใน ที่เปิดเผยให้เห็นว่ามิจฉาชีพซ้อนกล้องจิ๋วไว้ยังไง นอกจากกล้องแล้ว ถัดมาในวันที่ 8 มีนาคม ตำรวจลอนดอนก็ได้ตรวจตราดูตู้ ATM อีกครั้งหนึ่ง แต่ทว่าในครั้งนี้มันกลายเป็น…
-
นักการเมืองสวีเดน หาเสียงระหว่างผ่านการ “เล่นเกม” บอกพร้อมผลักดัน e-Sports เต็มที่
ถ้าใครที่ติดตามข่าวเกี่ยว e-Sport บ้านเราก็น่าจะได้ยินข่าวคราวกันมาบ้างเกี่ยวกับการดัน e-Sports ให้กลายเป็นกีฬาอย่างเป็นทางการ ซึ่งมันก็คงต้องใช้เวลาพอสมควรเลยกว่าที่จะเป็นไปได้จริงๆ แต่ไม่ใช่แค่บ้านเราเท่านั้นที่กำลังผลักดันกีฬาอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Sports นักการเมืองในประเทศสวีเดนก็กำลังพยายามเช่นเดียวกัน โดยล่าสุดได้มีนักการเมืองที่ชื่อว่า Rickard Nordin สมาชิกของพรรคเสรีนิยม Centre Party แถมยังเป็นเกมเมอร์ตัวยงอีกต่างหาก เพราะเขาบอกว่าตลอดชีวิตของเขาก็เล่นเกมมาตลอด เขาหาเสียงพร้อมอภิปรายถึงการผลักดังเรื่องดังกล่าวในประเทศสวีเดน ระหว่างที่เขากำลังสตรีมเกม Hearthstone บนเว็บไซต์ Twitch ว่าเขาต้องการให้ e-Sports มีสถานะเทียบเท่ากับกีฬาปกติ และอยากให้มีวีซ่าที่สามารถสนับสนุนตัวนักกีฬาในการเดินทางไปแข่งขัน เหมือนที่ประเทศสหรัฐอเมริกาทำอยู่ นอกจากนี้ทางสำนักข่าวที่ชื่อว่า glixel ก็ได้ไปสัมภาษณ์เขาว่าอะไรคือจุดเริ่มต้นให้เขาหันมาสตรีม Hearthstone บอกพูดคุยเรื่องการเมืองกับคนดูไปด้วย ซึ่งเขาก็บอกว่า “ผมอยากจะทำให้การเมืองมันเข้าถึงง่ายสำหรับคนรุ่นใหม่ และเขาก็ชอบการทำแบบนี้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น ก่อนหน้านี้ผมก็ได้สร้างแอพพลิเคชั่นการเมืองตัวแรกขึ้นมา เพื่อให้คนเข้าไปโหวตนักการเมืองสวีเดนที่ตัวเองชื่นชอบ และไม่นานมานี้ผมก็ได้ลองเล่น Hearthstone แน่นอนว่าผมก็รู้สึกชอบมันพอสมควรเลย แถมยังมีโอกาสได้เข้าไปดูคนอื่นเล่นใน Twitch แล้วรู้สึกว่าผมน่าจะสามารถเอาความชอบและงานของผมเข้ามารวมกันได้ ผมก็เลยเริ่มสตรีมผ่านแพลตฟอร์มนี้ พร้อมพูดคุยเรื่องการเมืองกับคนที่เข้ามาดูไปพร้อมๆ ในขณะที่นักการเมืองคนอื่นพูดถึงเรื่องซุปเปอร์มาร์เก็ต ราคาสินค้า แต่ตัวผมกลับสนใจเรื่องของ e-Sports มากกว่า” ทาง glixel ยังถามต่ออีกว่าแล้ววัฒนธรรมเกี่ยวกับเกมในประเทศสวีเดนเป็นยังไงบ้าง เขาก็บอกว่าตอนนี้วัฒนธรรมเกมและ e-Sports ในประเทศกำลังไปได้สวยเลย ไม่ใช่แค่เกมคอมพิวเตอร์เท่านั้น บอร์ดเกมและเกมมือถือก็กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน แถมประเทศสวีเดนก็มีไอดอลนักกีฬา e-Sports…
-
ตำนานของชาย 2 คน ที่ขโมยเครื่องบินโบอิ้ง ขับหายไปจากสนามบิน จนตอนนี้ก็ยังหาไม่เจอ!?
เรื่องราวลึกลับรอบโลกนั้นมีมากมายกายกอง มีทั้งที่หาข้อสรุปได้และยังหาข้อสรุปไม่ได้ ซึ่งทุกเรื่องก็ล้วนน่าสนใจทั้งนั้น ซึ่งมีอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ และทุกวันนี้ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงง… หลายๆ คนน่าจะเคยได้ยินหรือรู้จักเรื่องนี้กันมาบ้าง แต่ถ้าใครยังไม่รู้ก็ปูเสื่อนั่งฟังกันได้เลยครับ… โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องของเครื่องบิน Boeing 727-223 ที่อยู่ดีๆ ก็หายไปนานนับสิบปี จนตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อมูลว่ามันหายไปไหน 25 พฤษภาคม ค.ศ. 2003 เครื่องบิน Boeing 727-223 ออกบินจาก Quatro de Fevereiro Airport ในประเทศแองโกลา ตามรายงานระบุว่า ในช่วงเวลาที่พระอาทิตย์กำลังตกดิน มีชายสองคนแอบลักลอบขึ้นไปบนเครื่องบินที่จอดอยู่ในสนามบิน และพามันบินขึ้นโดยไม่มีการอนุญาตก่อน โดยเรื่องผิดปกติที่เกิดขึ้นก็คือ ตอนนั้น(ต้องใช้คำว่าตอนนั้น เพราะตอนหลังเค้าก็ทราบนี่นา)ไม่มีใครรู้เลยว่าใครเป็นคนขับเจ้าเครื่องบินลำนี้ออกไป แถมเจ้าหน้าที่วิทยุการบินก็พยายามห้ามพวกเขา แต่ถูกตัดการสื่อสารไป มีคนเชื่อว่าเครื่องบินถูกขโมยไปโดยคนเพียงสองคนเท่านั้น โดยทั้งสองคนนี้มีชื่อว่า Ben Charles Padilla และ John Mikel Mutantu โดยทั้งคู่ได้รับการรับรองให้สามารถขับ Boeing 727 ได้ (เพียงแต่ว่าโดยปกติแล้วการจะขับเครื่องบินแบบนี้ได้จำเป็นจะต้องมีลูกเรือขั้นต่ำ 3 คน) ภาพของ Ben Charles Padilla เครื่องบินแล่นออกจากสนามบินโดยที่ไม่ติดต่อวิทยุการบินรวมถึงไม่มีไฟนำทางเข้าสู่รันเวย์แม้แต่น้อย หลังจากที่บินขึ้นได้สักระยะตัวเครื่องบินมุ่งตรงสู่มหาสมุทรแอทแลนติก อย่างไม่มีเหตุผลอะไรรองรับจุดหมายของทั้งคู่ และแน่นอน…
-
ชม 23 ภาพ ‘ชนเผ่าอินเดียนแดง’ ที่ถ่ายเมื่อ 100 ปีก่อน เผยวัฒนธรรมและเรื่องราวที่เราไม่รู้…
ก็อย่างที่รู้กันว่าในอดีตนั้นประเทศอเมริกามีชนพื้นเมืองที่ชื่อว่า ‘อินเดียนแดง’ อยู่ แต่ปัจจุบันพวกเขาเหลือจำนวนอยู่เพียงน้อยนิดเท่านั้น หรือเท่าที่เหลืออยู่ก็แทบจะรับวัฒนธรรมใหม่ๆ ไปหมดแล้ว ซึ่งการที่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตของเผ่าอินเดียนแดงแบบถ่องแท้นั้นเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร แต่ในวันนี้ #เหมียวหง่าว มีชุดภาพ วิถีชีวิตของชาวอินเดียนแดงเมื่อ 100 ปี ที่แล้วมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน J.P. Morgan นายธนาคารที่มีทรัพย์สินมากมายได้ทำการลงทุนเป็นเงินจำนวนกว่า 2.6 ล้านบาท (เงินเมื่อ 100 ปีก่อน) เพื่อถ่ายทำสารคดีความเป็นอยู่ของชาวอินเดียนแดงขึ้นมา ได้เป็นรูปภาพกว่า 40,000 รูปภาพในบริบทต่างๆ ทำให้เห็นวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวอินเดียนแดงในอดีต ถือเป็นผลงานที่คุ้มค่าและน่าอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างยิ่ง และนี่ก็คือรูปภาพบางส่วนที่จะหยิบยกมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน 1. หัวหน้าเผ่า Klamath กำลังยืนอยู่บนเนินเขาเหนือทะเลสาบ Crater ใน Oregon ถ่ายเมื่อ 1923 2. หญิงสาวจากเผ่า Qagyuhl สวมใส่ชุด Fringed Chilkat Blanket และหน้ากากที่บ่งบอกว่าเธอเป็นคนทรง ถ่ายเมื่อ 1914 3. ชนเผ่า Koskimo…
-
หญิงสาวโดนแฟนหนุ่มแย่งกิน ‘มันฝรั่งทอด’ จนหมด โมโหหยิบมีดทำครัวจ้วงเข้าให้ โดนสั่งจำคุก 6 เดือน
สำหรับคู่รักหลายๆ คน จะรู้กันดีกว่าชีวิตคู่นั้นบางครั้งมันก็อาจจะมีเรื่องราวที่ต้องกระทบกระทั่งกันบ้างถือเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถนำมาทำให้กลายเป็นประเด็นทะเลาะที่ใหญ่โตได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องที่ #เหมียวหง่าว จะนำมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังต่อไปนี้… Dianne Margaret Clayton หญิงวัย 34 ปีอาศัยอยู่ในเมือง Blackburn ประเทศอังกฤษ ร่วมกันกับแฟนหนุ่มของเขา Simon Hill แต่เรื่องราวความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นไม่ธรรมดาเอาซะเลย เรื่องมีอยู่ว่าในวันหนึ่งขณะที่ Dianne อยากทานมันฝรั่งทอดเป็นอย่างมาก แต่พอรู้ว่าแฟนหนุ่มของเขาแย่งกินซะหมดเลย จึงเกิดความโมโหเธอจึงหยิบมีดทำครัวแทงเข้าไปที่บริเวณไหล่ของนาย Simon จนได้รับบาดเจ็บ Dianne ถูกผู้พิพากษาตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 6 เดือน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ที่ศาล Blackburn Court ทางด้านอัยการ คุณ Parveen Akhtar ได้กล่าวว่า “เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาหลังจากที่คู่รักได้ออกไปปาร์ตี้สังสรรค์ที่บ้านของเพื่อน ซึ่งแน่นอนว่าในงานเลี้ยงนั้นก็มีมันฝรั่งทอดเสิร์ฟเป็นกับแกล้มด้วย แต่กลับกลายเป็นว่านาย Simon นั้นรับประทานซะเรียบเลย นั่นทำให้ Dianne เกิดบันดาลโทสะ และทำการตบเข้าไปที่ใบหน้าของเขาอย่างจังก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เดินกลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับมีดทำครัว แล้วก็จ้วงเข้าไปที่บริเวณไหล่ของเขา…
-
กล้องวงจรปิดจับภาพสาวออสซี่ วางยาพิษในกาแฟของเพื่อนสาว เพียงเพราะเธอเลิกกับแฟน!?
นี่เป็นเรื่องราวการฆาตกรรมที่อ่านแล้วชวนสะพรึงมากกว่าที่เราเคยได้เห็นจากในการ์ตูนโคนันหรือนิยายสืบสวนสอบสวนเลยก็ว่าได้… เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เว็บไซต์ Mirror ได้นำเสนอเรื่องราวของ Jessica Wongso วัย 27 ปีหญิงสาวชาวออสเตรเลีย ได้ทำการฆาตกรรมเพื่อนสนิทสาว ด้วยการวางยาพิษลงในกาแฟของเธออย่างเยือกเย็น เหตุการณ์ทั้งหมดถูกเปิดเผยผ่านกล้องวงจรปิดภายในร้านกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ที่ Jessica Wongso และเพื่อนสาว Wayan Mirna Salihin ไปนั่งดื่มกัน จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็น Jessica กำลังเทไซยาไนด์ลงไปในถ้วยกาแฟของ Mirna ในช่วงที่เธอเผลอ จากนั้นไม่นานเธอก็เริ่มมีอาการทุรนทุรายก่อนจะหมดสติและเสียชีวิตไป ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่นี่ จากการสืบสวนพบว่าทั้ง Jessica และ Mirna เป็นเพื่อนสนิทที่เรียนในชั้นเดียวกัน ซึ่ง Jessica ได้ให้เหตุผลที่เธอลงมือฆ่าเพื่อนสาวเพราะว่า Mirna เลิกกับแฟนหนุ่ม แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากเธอก่อน เมื่อศาลพิจารณาหลักฐานต่างๆ แล้ว จึงตัดสินให้ Jessica มีความผิดฐานฆาตกรรมผู้อื่นโดยเจตนา ในระหว่างการพิจารณาคดี ด้านอัยการได้กล่าวว่า “การกระทำของจำเลยเป็นเรื่องที่โหดร้ายมาก เพราะมีความมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตเพื่อนของตัวเอง มันเป็นการกระทำที่ทารุณเพราะยาพิษไซยาไนด์ได้คร่าชีวิตของเหยื่อ Wayan Mirna Salihin มันไม่ได้ฆ่าเธอในทันทีแต่ค่อยๆ ทรมาณเธอ”…
-
มิตรภาพของนักวิ่งและหมาน้อยจรจัดที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ ระหว่างแข่งมาราธอนกลางทะเลทราย…
Dion Leonard นักกรีฑาวัย 41 ปี ได้เดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขัน Gobi March เป็นรายการแข่งขันวิ่งมาราธอนฝ่าทะเลทรายที่จัดขึ้น 1 สัปาดาห์เต็มๆ ณ ประเทศจีน แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันสุดๆ ก็ได้เกิดขึ้นกับเขาคนนี้ ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ Leonard สังเกตุเห็นลูกสุนัขเรร่อนตัวหนึ่งอาศัยอยู่ใกล้ๆ กับแคมป์นักกีฬา ซึ่งมันทำให้เขาแปลกใจอย่างมาก เพราะเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้นในวันถัดมา เจ้าสุนัขจรจัดตัวนี้ก็ออกสตาร์ทวิ่งกับนักวิ่งคนอื่นๆ ด้วย เจ้าสุนัขเรร่อนอายุ 18 เดือนตัวนี้ จึงกลายเป็นมาเป็นที่สนใจของนักวิ่งที่เข้าแข่งขัน จนถูกกลุ่มนักวิ่งอเมริกันตั้งชื่อให้ว่า Tinto และถูกเปลี่ยนมาเป็นชื่อ Gobi ในเวลาต่อมา ในขณะที่การแข่งขันกำลังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ เจ้า Gobi ก็เริ่มติดใจ และวิ่งไปพร้อมๆ กับ Leonard จนทั้งคู่กลายเป็นคู่หูประจำการแข่งขันครั้งนี้ การแข่งขันที่ทรหด และเต็มไปด้วยอุปสรรคมากมายที่เหล่านักวิ่งต้องฟันฟ่า ทั้งอากาศอันร้อนระอุ และภูมิเทศที่ค่อนข้างเป็นอุปสรรค ทำให้มีหลายครั้งที่ Leonard ต้องคอยอุ้มมันเอาไว้ในอ้อมอก และนั่นทำให้เขาเริ่มรู้สึกถึงสายสัมพันธ์บางอย่างที่เขามีต่อเจ้า Gobi เจ้า Gobi…
-
คลิปหญิงสาวผู้กำลังจะตายด้วยโรคมะเร็ง ขอพบ ‘หมาที่รัก’ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากไป…
ทีมแพทย์และพยาบาล จากโรงพยาบาล Ernesto Dornelles ที่ประเทศบราซิล พากันซึ้งน้ำตาไหลกันเป็นแถบๆ เมื่อได้เห็นภาพสุนัขมาเยี่ยมเจ้าของผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งขั้นสุดท้าย เพื่อเติมเต็มคำสั่งเสียของเธอ… วิดีโอนี้ถูกถ่ายไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วเมื่อวันที่ 30 ตุลาคมปีก่อน แต่เพิ่งเกิดเป็นกระแสในโลกออนไลน์หลังจากที่ถูกแชร์เมื่อไม่นานมานี้ จากการรายงานของสำนักข่าว Canal10 ทางโรงพยาบาลนัดหมายให้ทั้งสองได้พบกัน เพื่อเติมเต็มคำขอสุดท้ายของเธอ ให้เธอได้พบกับสัตว์เลี้ยงของเธอเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อเติมเต็มความขอครั้งสุดท้ายของคนเป็นเจ้าของ เมื่อเจ้า Ritchie ได้พบกับเจ้าของของมัน มันก็กระเสือกกระสนเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับเจ้าของมันมากที่สุด แม้เจ้าของของมันไม่สามารถแม้กระทั่งออกแรงยกแขนเพื่อลูบหัวสัตว์เลี้ยงของตัวเองได้ ทางด้านนาง Cristine Barbara Heck นักจิตวิทยาได้อธิบายว่า คุณค่าที่แท้จริงของชีวิตหนึ่งที่ได้เกิดมา คือการที่ได้อยู่กับคนที่รักให้นานที่สุด ซึ่งไม่ต่างไปจากคนอื่นๆ ที่กำลังจะตาย เธอกำลังอยู่ในระหว่างการรำลึกถึงช่วงเวลาที่สวยงามในชีวิตของเธอ… และนี่คือคลิปที่บันทึกเหตุการณ์น่าประทับใจนี้เอาไว้… ก่อนจะตายก็ขอให้ได้อยู่กับคนที่รักให้นานที่สุดก็พอ นี่แหละนะ ที่เค้าว่ากันว่าความสัมพันธ์และมิตรภาพระหว่างผู้คน คือสิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของชีวิต… ที่มา: Mirror
-
เปิดตัว ‘พิพิธภัณฑ์ไอศกรีม’ ในนิวยอร์ค สวรรค์ของคนรักของหวาน มีเต็มไปหมด!!
พิพิธภัณฑ์เจ๋งๆ ในนิวยอร์ค ที่จัดแสดงโชว์ผลงานศิลปะในธีมไอศกรีม จะเรียกว่าเป็นสวรรค์ของคนรักไอศกรีมเลยก็ว่าได้ จะสวยงามตระการตาขนาดไหนไปดูกันเลย… พิพิธภัณฑ์ไอศกรีมเปิดตัวแล้ว เพลิดเพลินไปกับไอศกรีมลูกใหญ่ๆ ลูกโป่งกินได้ และผลงานแสดงโชว์อีกมากมายภายในงาน งานแสดงโชว์นี้ จัดขึ้นโดย Maryellis Bunn และ Manish Vora ที่อยากจะเติมเต็มความฝันวัยเด็ก และความรักที่มีต่อของหวาน โดยเชิญชวนศิลปินกว่า 30 ชีวิต มาร่วมสร้างสรรค์ผลงานในธีมไอศกรีมเพื่อจัดแสดงโชว์ภายในงาน นี่เป็นเพียงนิทรรศการชั่วคราวที่จะจัดแสดงถึงปลายเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น น่าเสียดายสุดๆ ที่ตั๋วเข้าชมขายหมดเกลี้ยงไปแล้ว แม้จะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา . แน่นอนว่ามีไอศกรีมให้กินฟรีด้วย!! หนึ่งในห้องจัดแสดง คุณจะได้ลองชิมด้วยลูกโป่งอัดแก๊สฮีเลียมที่สามารถรับประทานได้ เมื่อกินเข้าไป น้ำเสียงก็จะเปลี่ยนเป็นโทนเสียงที่สูงขึ้นด้วยล่ะ ส่วนนี่คือห้องช็อกโกแลตที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโรงงานผลิตช็อกโกแล็ตของวิลลี่วองก้า จากภาพยนตร์เรื่องชาลีกับโรงงานช็อกโกแลต ที่จัดแสดงน้ำพุช็อกโกแลต และสามารถทานกันได้ฟรีๆ อีกด้วย มีห้องจัดแสดงทั้งหมด 6 ห้องให้ได้สำรวจกันแบบเต็มอิ่มกันไปเลย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย . ผลงานแสดงโชว์ที่ใหญ่โตที่สุด ได้แก่ อ่างสปริงเคิลสายรุ้งจำลองเกือบ 5,000 กิโลกรัม ให้ผู้มาเที่ยวชมได้ลงไปแหวกว่าย…
-
เจ้าพ่อค้ายาอเมริกาใต้ เปลี่ยนคุกกลายเป็นห้องพักโคตะระหรู มีชีวิตอยู่ระดับวีไอพี!!
สำนักข่าว BBC เปิดเผยภาพภายในห้องขังของนักโทษเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ Jarvis Chimenes Pavao ที่เรือนจำ Tacumbu ในอะซุนซิออง เมืองหลวงของประเทศปารากวัย มีความเป็นอยู่ดีมากๆ จนไม่เห็นจะเหมือนห้องขังเลยสักนิด มีการเปิดเผยว่านาย Jarvis ใช้ชีวิตอย่างหรูหรา และสะดวกสบาย อยู่ในห้องขัง VIP ที่ครบครันไปทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำในตัว ห้องประชุม ห้องสมุด ห้องครัว ทีวีพลาสม่า เครื่องปรับอากาศ ไปจนถึงคอลเล็กชั่นดีวีดีของเขา . . . . นาย Jarvis เป็นหนึ่งในเจ้าพ่อค้ายารายใหญ่ที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ มีความผิดฐานฟอกเงินและถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 8 ปี แต่ชีวิตหลังลูกกรงอันสะดวกสบายของนาย Jarvis ก็สิ้นสุดลง ภายหลังที่เจ้าหน้าที่สงสัยว่านาย Jarvis มีแผนการจะระเบิดกำแพงแหกคุกออกไป ทางด้านทนายความของนาย Jarvis กล่าวความ ความสะดวกสบายของลูกความของเขา แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องและอื้อฉาวของระบบเรือนจำในประเทศปารากวัย ซึ่งเขาได้เปิดเผยว่าทั้งผู้อำนวยการเรือนจำและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไม่ต่ำกว่า 12 คนที่รับสินบนจากลูกความของเขา นาย Jarvis จึงถูกย้ายตัวไปทำการสอบสวนกับหน่วยงานพิเศษ เพื่อเปิดโปงเจ้าหน้าที่เรือนจำที่มีความเกี่ยวข้องกับการทุจริตในครั้งนี้ต่อไป…
-
มีคนลองคอสเพลย์ ‘เลโก้’ แบบสมจริง ขอบอกว่าไม่น่ารักอย่างที่คิดหร๊อกกก!??
เมื่อพูดถึงเลโก้… คุณนึกถึงเลโก้แบบนี้ใช่รึเปล่า?? . แล้วสงสัยรึเปล่าว่าถ้าหากเลโก้มีชีวิตขึ้นมา จะเป็นยังไง?? แต่ก่อนจะไปดู… เตรียมใจให้พร้อมกันก่อนล่ะ …. … .. . ขอเชิญพบกับ ชุดมนุษย์เลโก้ในโลกแห่งความเป็นจริงได้เลย!! . นี่แหละคือเลโก้ในชีวิตจริง!! ไม่ใช่เอเลี่ยนแต่อย่างใด ชุดมนุษย์เลโก้ที่น่าทึ่งปนขนลุกชุดนี้ ออกแบบและทำขึ้นโดย Frank Ippolito และความร่วมมือของเว็บไซต์ Tested โดยพวกเค้าเรียกมันว่า ‘Creepyfig’ เนื่องจากว่ามันออกมาดูหลอนผิดคาดสุดๆ ไปเลย ส่วนหัวมีน้ำหนักประมาณ 6.35 กก. มีทั้งคิ้วและหูเหมือนมนุษย์ แถมผิวหน้าก็มีรอยย่นเหมือนหนังหน้ามนุษย์ แต่ถ้าคิดว่ายังหลอนไม่พอ ดูมือซะก่อน มีเล็บมือด้วยล่ะ เพื่อทำให้ฝันของหนูๆ เป็นจริง เค้าใส่ชุดนี้เดินทักทายผู้คนทั่วงาน Comic-con 2016 แน่นอนว่าโดดเด่น ชวนขนลุกไปทั้งงานเลยทีเดียว นี่มันใช่อ้ะป่าว?? หนูไม่แน่ใจ… ไปดูคลิปกันขั้นตอนการทำชุดนี้ขึ้นมากันดีกว่า… คลิปใส่ชุดมนุษย์เลโก้เดินเที่ยวงาน Comic-con 2016 รู้สึกไม่ค่อยโอเคเลยแฮะ หลอนชะมัด นี่ทำให้ความฝันเป็นจริงหรือทำให้ฝันร้ายกันแน่เนี่ย…
-
ผู้หญิงชาวจีน วัย 53 ปี ยอมลาออกจากงาน เพื่อดูแลหมาจรจัด 250 ชีวิต ที่บ้านเธอ!!
ทุกๆ ปี เมื่อมาถึงเทศกาลกินเนื้อสุนัขประจำปีที่ประเทศจีน จะต้องมีสุนัขถูกฆ่าตายมากกว่า 10,000 ตัว เพื่อเสิร์ฟในงานเลี้ยง แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยอมอุทิศชีวิตทั้งกายและใจของเขา เพื่อช่วยเหล่าสุนัขที่น่าสงสารเอาไว้ เหมือนกับผู้หญิง วัย 53 ปี คนนี้… Wen Li คุณครูโรงเรียนมัธยมจากมณฑลกานซู ที่ยอมลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลบ้านสงเคราะห์สุนัขในโรงนาของเธอตั้งแต่ปี 2011 มาแล้ว ระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เธอรับสุนัขมาเลี้ยงแล้วทั้งหมด 220 ตัว โดยมีทั้งผู้ที่นำมาปล่อยและเธอรับมาเอง เธอเรียกตัวเองว่าเป็น ‘คุณยาย’ และปฏิบัติกับหมาๆ ดั่งเป็นลูกหลานของเธอ แต่ก็แน่นอนว่า เมื่อจำนวนสุนัขเร่ร่อนมีมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็มากขึ้นตามไปด้วย และนอกจากเธอจะต้องเก็บหอมรอมริบเพื่อเช่าบ้าน เธอก็ยังต้องใช้เวลาทั้งวันดูแลมันด้วย ในทุกๆ วัน เธอจะซื้อขนมปังกรอบจำนวน 80 ชิ้น อาหารสุนัข 7.5 กก. และเนื้อตับ 2.5 กก. มาเลี้ยงสุนัข…
-
‘Froggyland’ พิพิธภัณฑ์กบสุดแหวกแนว นำมาจัดท่าทางต่างๆ ให้เหมือนมนุษย์!!
เมื่อก่อนการเที่ยวพิพิธภัณฑ์บางทีก็เป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่เหมียวขาสั้นว่าพิพิธภัณฑ์สมัยนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ลองไปดูพิพิพัณฑ์แสดงโชว์สัตว์สตัฟฟ์ที่เมืองสปลิต ประเทศโครเอเชียแห่งนี้กัน ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว… พิพิธภัณฑ์ Froggyland ที่เมืองสปลิต ประเทศโครเอเชีย กบจำนวนกว่า 507 ตัวถูกสตัฟฟ์ และนำมาจัดท่าทางในบริบทเหมือนมนุษย์ มีทั้งหมดกว่า 21 สถานการณ์ต่างๆ ด้วยกัน ในระหว่างปี ค.ศ. 1910 and 1920 นักสตัฟฟ์สัตว์สัญชาติฮังการีนามว่า Ferenc Mere ได้ใช้เนคนิกในสตัฟฟ์กบที่ไม่เหมือนใคร และยังคงเป็นปริศนามาทุกวันนี้ โดยเขาสตัฟฟ์พวกมันผ่านทางปากโดยที่ไม่มีร่างกายไม่เสียหายเลย เค้าคนนี้สตัฟฟ์กบมานับพันตัวเลยทีเดียว กบสตัฟฟ์ส่วนหนึ่งของ Ferenc Mere ได้ถูกนำจัดแสดงโชว์ในครั้งพิพิธภัณฑ์ Froggyland แห่งนี้ ซึ่งบางตัวมีอายุมากกว่า 100 ปีเลยทีเดียว กบทำกสิกรรม เรียนหนังสือในห้องเรียน แข่งเทนนิส . คณะกบกายกรรม . . . การสตัฟฟ์สัตว์เป็นที่นิยมขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยเฉพาะอย่างย่งนประเทศกฤษ แม้แต่ชาลส์ ดาร์วิน นักธรรมชาติวิทยาชาวอังกฤษ และสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งสหราชอาณาจักรก็ยังสนใจการสตัฟฟ์สัตว์ ทันตกรรมกบ กบเมาทะเลาะกันในบาร์…
-
พบกับ Skywalk ที่เที่ยวแห่งใหม่ที่เมืองเซี้ยงไฮ้ สุดหวาดเสียวด้วยความสูง 340 เมตร
หากใครที่กำลังมีแผนไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้แล้วยังไม่รู้จะไปทำอะไร และหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบกิจกรรมอะไรที่ท้าทายๆ ขอบอกว่าห้ามพลาด Skywalk แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปวันที่ นี้ จินเหมาทาวเวอร์ ตึกสูงเสียดฟ้าที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ได้เปิดตัว Skywalk นอกตัวอาคารชั้น 88 ที่มีความสูงถึง 340 เมตร จากการรายงานของสำนักข่าว People’s Daily ระบุว่านี่เป็นทางเดินภายนอกอาคารที่ปราศจากที่กั้นที่มีความสูงที่สุดในโลกอีกด้วย มีเพียงเชือกนิรภัยเท่านั้น ที่จะเหนี่ยวรั้งไม่ให้คุณพลัดตกลงไป งานนี้บอกเลยใครใจไม่ถึงพอมีเป็นลมหมดสติแน่นอนจ้า ก่อนที่จะออกไปแตะขอบฟ้าเพื่อพบความหวาดเสียว ก่อนอื่นจะต้องเซ็นแบบฟอร์มยินยอมพร้อมใจก่อน และเพื่อรับประกันว่าเราสามารถรับมือกับความสูงนี้ได้ ถึงแม้ว่าจะหวาดเสียวและระทึกใจสุดๆ แต่ทิวทัศน์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ที่จะได้เห็นจากบนนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ . . . ทางเดินโปรงใสบนชั้น 88 นี้ ยาวประมาณ 60 เมตรและมีความกว้างออกมาเพียง 1.2 เมตร เท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถออกไปเดินได้เพียงรอบละ 15 คน (รวมถึงพนักงานดูแลความปลอดภัยอีกจำนวน 2 คนด้วย) . . . แค่คิดก็เสียวแล้วนะเนี่ย!! ที่มา: Shanghaiist
-
รางวัลสาว ‘บั้นท้ายสวยที่สุดแห่งปี’ ในปี 2016 ก็คือ Jennifer Metcalfe คนนี้นี่เอง!!
นี่คือภาพของเจ้าของรางวัลดาราชาย-หญิงที่มีบั้นท้ายที่สวยที่สุดประจำปี 2016 … คงจะไม่ต้องบรรยายอะไรให้มากความ ไปชมภาพ (ก้น) สวยๆ กันเลย!! นักแสดงสาวชาวอังกฤษ Jennifer Metcalfe อายุ 33 ปี ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ บั้นท้ายที่สวยที่สุดประจำปี 2016 ด้วยคะแนนโหวตออนไลน์ที่สูงที่สุดถึง 10,000 คะแนน . . . เปรี๊ยะมั้ยล่ะ !? นักแสดงสาว Jennifer เผยว่าเคล็ดลับในการรักษาหุ่นสวยของเธอ มีเพียงแค่การออกกำลังกาย และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเป็นประจำเท่านั้นเอง เธอยอมรับว่าเธอรู้สึกแปลกใจนิดหน่อยที่เธอได้รางวัลนี้ เธอต้องขอขอบคุณคุณแม่ของเธอ Mary ที่ทำให้เธอเกิดมามีบั้นท้ายสวยๆ แบบนี้!! . . . ในโอกาสนี้ เธอก็ได้ฝากแง่คิดดีๆ ไปถึงสาวยุคใหม่ทุกคนว่า อย่าไปวิตกกับเรื่องรูปร่างมากนัก ให้พอใจในสิ่งตัวเองมี และใช้ชีวิตให้มีความสุขก็พอ มาต่อกันที่ทางด้านดาราฝ่ายชายที่มีบั้นท้ายที่สวยที่สุดกันบ้าง พวกเราก็คงจะคุ้นหน้าคุ้นตาเค้ากันเป็นอย่างดี… ดาราฝ่ายชายที่ได้รางวัลนี้ได้แก่ Tom Hiddleston วัย 35 ปี หวานใจของนักร้องสาวซุปเปอร์สตาร์ Taylor Swift นั่นเอง!! จากการโชว์บั้นท้ายขาวๆ…
-
หนุ่มไว้ผมยาว 2 ปี เพื่อถ่ายภาพเลียนแบบเซเลปสุดฮา แล้วโกนเพื่อช่วยผู้ป่วยมะเร็ง
ศูนย์รักษาโรคมะเร็งในเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้จัดแคมเปญที่มีชื่อว่า Dry July Shave Off เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็ง และบริจาคเส้นผมเพื่อทำวิกผมให้ผู้ป่วยที่สูญเสียเส้นผมจากการรักษา ภาพของผู้ป่วยที่ผมร่วงไปตามๆ กันหลังการมารักษาด้วยเคมีบำบัด เป็นสิ่งที่ดลใจให้ Mark Udovitch นักรังสีวิทยาววัย 28 ปี ไว้ผมยาวนานถึง 2 ปี กับอีก 6 เดือน เพื่อให้ผมยาวพอที่จะสามารถนำไปบริจาคได้ และในระหว่างนี้เอง เค้าก็เลยถ่ายภาพเลียนแบบดาราแบบเกรียนๆ เพื่อช่วยกระตุ้นยอดบริจาคด้วยเลย มาดูกันซิว่าเค้าเลียนแบบเป็นใครบ้าง.. Kendall Jenner Janet tribute Mark จะบอกลาเส้นผมของเขาในวันที่ 29 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ พร้อมๆ กับทีมแพทย์คนอื่นๆ อีก 15 คน แต่ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง Mark ก็จะยังถ่ายรูปเลียนแบบดาราคนอื่นอีกเรื่อยๆ ผ่านทางเฟซบุ๊คFDryJulyShaveOff ของพวกเขา และแน่นอนว่าผู้ที่บริจาคผ่านทางเว็บไซต์ Dryjuly ก็สามารถรีเควสได้ด้วยนะเออ เป้าหมายของยอดการบริจาคอยู่ที่ 100,000 ดอลลาร์ นับเป็นเงินจำนวนมากพอสมควร แต่พวกเขาก็ไม่คาดหวังว่าจะต้องได้มากขนาดนั้น เพราะจุดประสงค์ของกิจกรรมครั้งนี้ ก็เพื่อให้อาชีพของพวกเขาเป็นที่รับรู้ของคนทั้งโลกนั่นเอง Kim…
-
สาวน้อยผู้เลือกอำลาโลกนี้ด้วยวัยเพียง 14 ปี เพื่อนๆ ร่วมจัดงานเลี้ยงสุดซึ้งมอบให้เธอ…
สาวน้อยผู้ป่วยเป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาได้ ซึ่งเธอต้องทนทรมานอยู่กับความเจ็บปวดทุกวัน นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะอำลาไปจากโลกนี้ด้วยวัยเพียง 14 ปี… Jerika Bolen วัย 14 ปี จากรัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา เธอเป็นโรคเซลล์ประสาทในไขสันหลังเสื่อมชนิดที่ 2 (SMA) ซึ่งมีผลต่อเซลล์ประสาทสั่งการ และทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ แพทย์พบความผิดปกติของเธอขณะที่เธออายุได้เพียง 8 เดือน เธอต้องทุกข์ทรมานกับการผ่าตัดมาแล้วมากกว่า 30 ครั้ง และต้องอยู่กับเครื่องช่วยหายใจถึงวันละ 12 ชั่วโมง เธอบอกว่าเธอพร้อมที่จะอำลาโลกนี้มานานแล้ว แต่สิ่งที่ทำให้เธอยังคงยืนหยัดได้ถึงทุกวันนี้ก็คือครอบครัว หลังการผ่าตัดครั้งล่าสุดของเธอ Jerika ถามตัวเองว่า “นี่เธอกำลังทำเพื่อตัวเองอยู่ หรือทำเพื่อครอบครัวกันแน่??” เธอจึงตัดสินใจที่จะปิดเครื่องช่วยหายใจในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ เพราะเธอไม่อาจที่จะทนกับความเจ็บปวดต่อไปอีกแล้ว เมื่อเธอตัดสินใจเช่นนั้น แม่ของเธอก็ยอมรับในการตัดสินใจของเธอ (ภาพ Jerika Bolen กับแม่ของเธอ Jen Bolen) “เธอยืนหยัดเพื่อฉันมาตลอด 14 ปีแล้ว ถึงเวลาที่เธอจะต้องเป็นคนตัดสิน เพราะมันเป็นชีวิตและร่างกายของเธอ” Jen กล่าว แต่ลึกๆ แล้วเธอก็รู้สึกเสียใจอยู่ดี กับการสูญเสียสิ่งที่มีค่ามากที่สุดของเธอไป …
-
คลินิกรักษาสัตว์อเมริกา เชิญชวนน้องๆ หนูๆ ให้นำตุ๊กตาสัตว์สุดรักสุดหวงมาซ่อมแซมได้ฟรี!!
ตอนเด็กๆ ใครมีตุ๊กตาสุดรักสุดหวงของเป็นของตัวเองกันบ้าง?? ที่ไม่ว่ามันจะเก่า หรือฉีกขาดยังไง เราก็ยังต้องนอนกอดมันทุกๆ คืน แต่คงจะดีไม่น้อยเลยถ้าพวกมันถูกเนรมิตให้เหมือนใหม่อีกครั้งเหมือนกับตุ๊กตาของเด็กๆ เหล่านี้ Fort Leavenworth คลินิกรักษาสัตว์ในรัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เชิญชวนน้องๆ หนูๆ ให้นำตุ๊กตาของพวกเค้ามาเข้ารับการรักษาซ่อมแซมฟรี โดยปกติแล้ว จะรับรักษาสัตว์เลี้ยงทั่วๆ ไปเหมือนกับคลินิกอื่นๆ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเค้าได้เชิญชวนเด็กๆ ให้นำตุ๊กตาสัตว์ตัวโปรดที่บาดเจ็บหรือฉีกขาด มาเข้ารับการผ่าตัดได้ฟรีๆ ผู้ป่วยแพนด้า มาเข้ารับการเย็บแขน และเปลี่ยนกระดุมตาอันใหม่ ผู้ป่วยลิงบาบูนกำลังเข้ารับการผ่าตัด . ทั้งนี้ นี่ก็เป็นกิจกรรมของทางคลินิกที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการฝึกฝนทักษะการผ่าตัดของสัตวแพทย์ โดยลงมือเย็บด้วยไหมเย็บแผลและใช้ทักษะการเย็บแผลจริงๆ แถมยังเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชนอีกด้วย เด็กๆ แต่ละคนแฮปปี้ไปตามๆ กัน เมื่อตุ๊กตาที่น่ารักของพวกเค้าถูกซ่อมแซมจนหายดีอีกครั้ง ไม่ใช่แค่เด็กๆ เท่านั้นหรอกที่แฮปปี้ สัตวแพทย์แต่ละคนก็ท่าทางจะสนุกกันน่าดูเหมือนกันนะ เข้าไปดูรูปภาพและเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของพวกเค้าเลย คลิ้กที่นี่ ที่มา: TheDodo
-
10 เรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้น ภายหลังเกม Pokemon Go เปิดให้เล่นในต่างประเทศ!!
ในเกม Pokemon Go ผู้เล่นจะต้องเดินไปยัง Pokestop ตามจุดต่างๆ ถึงจะสามารถจับโปเกม่อนตัวใหม่ๆ มาไว้ในคอลเลกชั่นได้ และสำหรับจุด Pokestop ก็กระจายอยู่ทุกที่บนท้องถนน ตามบ้านเรือน ร้านค้า และสถานที่ต่างๆ ด้วยเหตุนี้ หลายๆ คนก็เลยใช้โอกาสในการหารายได้เสริมจาก Pokestop ที่อยู่ใกล้ๆ บ้านซะเลย ไหนๆ มีแขกไม่ได้รับเชิญมาป้วนเปี้ยนจับโปเกม่อนแถวบ้านบ่อยๆ อยู่แล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เห็นแล้วน่าชื่นอกชื่นใจจริงๆ 1. ถึงพี่ไม่หล่อ แต่พี่ขยันทำมาหากินนะคร้าบ เปิดเป็นร้าน Pokemart ซะเลย 2. เด็กๆ ใช้เวลาว่างหารายได้ ด้วยการตั้งโต๊ะขายน้ำมะนาวหน้าบ้านให้กับเหล่าเทรนเนอร์ ดีงามมั้ยล่ะ 3. สาวน้อยคนนี้ขายขนมในธีมสีสันสวยงามเพื่อหารายได้ที่สนามหญ้าหน้าบ้าน 4. เด็กๆ แจกน้ำมะนาวที่ถนนหน้าบ้าน เพื่อเรี่ยไรเงินบริจาคช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง น่าประทับใจมากๆ 5. เด็กน้อยหารายได้ด้วยการขายเครื่องดื่มในธีมโปเกม่อน ให้กับคนที่ผ่านมายัง Pokestop 6. โบสถ์แห่งหนึ่งในอังกฤษ เชิญชวนให้เหล่าเทรนเนอร์เข้าไปจับโปเกม่อนข้างใน พร้อมกับทานบิสกิตและเครื่องดื่มฟรีทุกๆ วันอังคาร 7.…
-
คนรักสัตว์เห็นแล้วจะต้องร้องกรี๊ด กับ 11 อาชีพที่มีอยู่จริง ไม่ต้องจบสัตวแพทย์มาก็ทำได้!!
ถ้าคุณเป็นคนที่มีใจรักสัตว์ คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการได้ทำงานอยู่กับสัตว์ที่คุณชื่นชอบทุกวัน และนี่คือ 11 อาชีพที่คุณจะได้ทำงานอยู่กับสัตว์ ไม่ต้องจบสัตวแพทย์มาก็ทำได้!! 1. นักสืบตามหาสัตว์เลี้ยง ทุกวันนี้สัตว์เลี้ยงก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัวคนหนึ่ง ดังนั้นถ้าหายไปก็เป็นเรื่องใหญ่เลยใช่มั้ยล่ะ?? นักสืบตามหาสัตว์เลี้ยงคือผู้รับจ้างแกะรอยสัตว์เลี้ยงที่สูญหายหรือคาดว่าถูกขโมยไป ซึ่งคุณจะต้องร่วมงานกับตำรวจ และองกรค์ช่วยเหลือสัตว์ต่างๆ เพื่อตามหาสัตว์เลี้ยงมาคืนผู้ว่าจ้างให้ได้ 2. ช่างแต่งหน้าสัตว์ อาชีพนี้คุณจะต้องมีทักษะการแต่งหน้าหรือทางด้านศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคุณต้องทำหน้าที่แปลงโฉมให้กับเหล่านักแสดงหน้าขน รวมถึงคอยดูแลพวกมันอย่างใกล้ชิดในกองถ่ายภาพยนตร์ หรือการแสดงมหรสพต่างๆ 3. บริกรคาเฟ่แมว ถ้าคุณเป็นคนชอบกาแฟ ขนมเค้ก และลูกแมวเหมียว อาชีพนี้เหมาะกับคุณเป็นที่สุด คุณจะได้เล่นกับแมวทุกวัน และคอยแนะนำแมวเหมียวให้ลูกค้าของคุณได้รู้จัก แต่แน่นอนว่าคุณจะต้องจัดการเรื่อง ‘อึ’ ของพวกมันให้ดี 4. รับจ้างตัดหญ้าโดยใช้แกะ ถ้าคุณมีฝูงแกะที่แข็งแรงซักฝูง คุณสามารถใช้แกะรับจ้างเล็มหญ้าได้ ไม่ว่าจะสนามกอล์ฟ โรงเรียน หรือบ้านพักที่อยู่อาศัย รับประกันได้เลยว่าหญ้าเท่ากันทุกเส้นแน่นอน และลืมเรื่องปัญหาวัชพืชไปได้เลย 5. ผู้จัดการโรงแรมสำหรับแมวเหมียว ถ้าคุณอยากเปลี่ยนบ้านให้เป็นโรงแรมสำหรับแมวเหมียว คุณจำเป็นจะต้องมีพื้นที่สำหรับเป็นห้องพักให้แมว และคุณจะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้แมวอย่างครบครัน และหน้าที่ของคุณก็คือดูแลแมวเหมียวที่มาพักเสมือนแขก VIP ของคุณ …
-
ชีวิตวันนี้ของ ‘เจ้าหมีแสนเศร้า’ หลังจากที่ชาวเน็ตนับแสน ร่วมเรียกร้องให้ปล่อยมัน
เมื่อไม่นานมานี้ ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยภาพของเจ้าหมีขั้วโลกแสนเศร้า ที่ถูกขังอยู่กรงกระจกเล็กๆ จนทำให้ชาวเน็ตนับแสนต้องออกมาเรียกร้องกดดันหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้ทำการปิดตัวสวนสัตว์แห่งนี้… ล่าสุด รองผู้บริหารของสวนสัตว์น้ำแห่งนี้ได้ออกมาตอบโต้กระแสเรียกร้องนี้แล้ว หลังจากที่มียอดผู้ลงชื่อเรียกร้องแล้วกว่า 300,000 คน เจ้าหมีตัวนี้ถูกจับมาขังอยู่ในกรงกระจกเล็กๆ อย่างโดดเดียว ณ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแกรนด์วิว กลางศูนย์การค้าในเมืองกว่างโจว ประเทศจีน เพื่อนักเที่ยวได้มาต่อแถวเข้าชม และถ่ายภาพเซลฟี่คู่กับมัน ชื่อของมันคือ ‘Pizza’ ทุกๆ วันมันได้แต่ก็ถอนใจ เคาะประตูหล็กซ้ำไปซ้ำมา แล้วก็กลับไปนอนหมดอาลัยตายอยากอยู่ในมุมมืดๆ เพียงลำพัง . . . ทางมูลนิธิสัตว์เอเชีย ได้ทำการยื่นรายชื่อคำร้อง เพื่อให้ปิดพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแกรนด์วิว ในศูนย์การค้าแห่งนี้ ซึ่งก็มีผู้ที่ได้ร่วมลงชื่อมากกว่า 300,000 คนแล้ว Dave Neale ผู้อำนวยการสวัสดิภาพสัตว์สมาคมพิทักษ์สัตว์แห่งเอเชีย กล่าวว่า “มันถูกขังอยู่ในสภาพแวดล้อมที่จำกัดมาก ซึ่งนั่นไม่ใช่ธรรมชาติของพวกมันเลย ถึงจะมีสระน้ำให้ว่าย แต่สระก็เล็กมาก ดังนั้นมันควรถูกย้ายไปให้ไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้” เด็กๆ ที่มาชมคอยเคาะกระจกเรียกความสนใจจากมัน แม้แต่พนักงานรักษาความปลอดภัยก็ไม่ห้าม . .…
-
บรรยากาศประท้วง ‘ต่อต้านรัฐบาล’ ในมาซิโดเนีย ไม่มีปืน-ระเบิด มีแต่ศิลปะเต็มเมือง
นี่คือภาพโดย Frédéric Séguin ช่างภาพสื่อมวลชนซึ่งถ่ายในระหว่างการประท้วงอย่างสันติของประชาชนในประเทศมาซิโดเนีย ภายหลังจากหลายปีที่ประชาชนต้องทนอยู่กับรัฐบาลอันคอร์รัปชั่น ประชาชนทุกเพศทุกวัยต่างพากันร่วมใจทำการเปลี่ยนโฉมเมือง ด้วยการทาสีไปตามถนนและสิ่งก่อสร้างที่มาจากเงินทุนที่สกปรก เป็นการประท้วงที่ปราศจากการใช้ความรุนแรง และเป็นภาพที่น่าทึ่งเป็นที่สุด ช่างภาพบอกว่า แทนที่จะใช้ปืน ระเบิด หรือความรุนแรงมาห้ำหั่นกัน พวกเขาแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์ด้วยสีสันเหล่านี้ งานเบื้องหลังของเหล่าผู้ประท้วง กำลังเตรียมสีทั้งหลาย แน่นอนว่ามันอาจจะไม่ได้รับความสนใจจากทางรัฐบาลเลยก็ได้ แต่กลุ่มของพวกเขายังคงเดินหน้าทำมันต่อไป บนจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ พวกเขาไม่ต้องการความรุนแรง และมีวิธีในการนำเสนอแบบของพวกเขาเอง… จึงออกมาเป็นผลงานแบบที่เราได้เห็นกันนี้ . . . . . . . . . . . เห็นทีแรกก็นึกว่างานแสดงศิลปะซะอีก เป็นภาพการประท้วงที่สวยมากทีเดียวเลยใช่มั้ยล่ะ ที่มา: Boredpanda
-
บทเรียนเตือนใจ ‘มนุษย์กล้อง’ วิจารณ์คู่รักมัวแต่เล่นมือถือในร้านอาหาร ทั้งที่ไม่จริงเลย!!
การโพสต์ภาพของคนอื่นที่เราไม่จักรู้ลงโซเชียลมีเดีย เป็นเรื่องที่สมควรทำรึเปล่า?? โดยเฉพาะการเอาไปทำให้เป็นเรื่องตลก โดยที่ไม่ได้รับการอณุญาตหรือยินยอมก่อน เพื่อนๆ ว่ามันเป็นการกระทำที่ควรจะต้องหยุดรึเปล่า?? ทุกวันนี้มีคนมากมายที่ต้องกลายประเด็นในโลกออนไลน์โดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อมีคนทำอะไรพลาดขึ้นมา ก็จะถูกถ่ายรูปเพื่อเอาไปประจานในโลกโซเชียล หรือแม้กระทั่งแค่ทำอะไรไม่เหมือนคนอื่น ก็จะถูกถ่ายรูปแล้วถูกคนอื่นมาแสดงความคิดเห็นกันต่างๆ กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับคนอื่น อันที่จริงแล้วมันไม่ควรเป็นอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ?? เหมือนกับกรณีนี้ ที่ชาวเน็ตคนหนึ่งพยายามเรียกร้องความสนใจโดยการโพสภาพของคนอื่น ทั้งๆ เธอไม่รู้เรื่องราวเบื้องหลังของเค้าเลย ซึ่งก็ทำให้เธอหน้าแตกยับเยินในท้ายที่สุด ผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า @selkcub แชร์รูปหนุ่มสาวคู่หนึ่งในร้านอาหาร พร้อมกับแค็ปชั่นว่า “น้องสาว… เลิกกับเค้าซะเถอะ” ทุกคนคงจะพอเข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร เพราะเธอคิดว่าเขาไม่สนใจแฟนสาวของเขา เอาแต่ก้มหน้าใส่หูฟังเล่นโทรศัพท์ลูกเดียวนั่นเอง ทวีตนี้มีคนถูกใจและถูกรีทวีตไปหลายพันครั้ง จนกระทั่ง Jonathan ชายหนุ่มในภาพได้ผ่านมาเห็นเข้า เขาก็จึงเข้ามาตอบโต้ “นั่นแฟนผมเอง ผมเพิ่งได้มีโอกาสกล่าวคำเทศนาเป็นครั้งแรก ซึ่งตอนนั้นเธออัดวิดีโอผมเอาไว้ และเธอก็อยากให้ผมดู ขอบคุณ” คำตอบโต้ของ Jonathan แน่นอนว่าแฟนของเค้า Ray ก็เข้ามาโต้ตอบด้วย “สาวน้อย พวกเราคบกันมา 3 ปีแล้ว ฉันพอใจแล้วล่ะ แต่ฉันก็เอาใจช่วยเธอนะ ขอให้เธอเจอผู้ชายที่แสนดีของเธอเร็วๆ แล้วกัน” พร้อมกับส่งรูปคู่ยืนยันความสวีทของเขาพวก …
-
จำได้ไหม!? ‘สาวน้อยมหันตภัยบ้านบึ้ม’ ผู้กลายเป็นตำนาน ไปรู้จักเธอกันเถอะ
ยังจำสาวคนนี้ได้อยู่หรือไม่ ‘สาวน้อยมหันตภัย’ กับสายตาและรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ของเธอ โดยมีฉากหลังเป็นไฟที่กำลังลุกลามบ้านทั้งหลังอยู่ วันนี้เธอโตเป็นสาวแล้ว แล้วเธอก็เพิ่งได้เปิดเผยถึงที่มาที่ไปของ meme อันนี้ด้วย!! ‘สาวน้อยมหันตภัย’ คนนี้ที่จริงมีชื่อว่า Zoe Roth ทุกวันนี้เธออายุ 16 ปีแล้ว ภาพของเธอกลายเป็นหนึ่งใน meme ที่ฮาและโด่งดังที่สุดอันนึงเลยก็ว่าได้ คงจะไม่มีใครไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ๆ เหตุการณ์ในภาพนี้เกิดขึ้นในปี 2004 ตอนนั้นเธอยังอายุเพียง 4 ขวบ เช้าวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังนั่งดูทีวีอยู่กับพี่ชายของเธอ แม่ของเธอก็เข้ามาบอกว่าที่หน้าบ้านมีไฟไหม้ Dave พ่อของเธอ จึงรีบคว้ากล้อง และพาทุกคนออกไปหน้าบ้านเพื่อดูไฟไหม้ และทดสอบประสิทธิกล้องดิจิตอลที่เพิ่งซื้อมาใหม่ไปพร้อมๆ กัน วันนั้นก็ไม่มีอะไรมากเลย เขาแค่เดินไปรอบๆ เพื่อดูไฟจากหลายๆ มุม เพราะมันสวยดี และไม่ใช่อะไรที่ได้เห็นกันทุกวัน เพื่อนบ้านต่างก็พากันออกมามุงดูเต็มถนนในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังพยายามสกัดไฟที่กำลังลุกลามบ้านทั้งหลังอยู่ ภาพที่ถ่ายได้ในวันนั้นมีทั้งหมดราวๆ 30 ภาพ แต่เขาไม่เคยสังเกตเลยว่า Zoe ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์สุดๆ ในภาพนี้ จนกระทั่งเวลาผ่านไป 3 ปี เขาถึงอัพโหลดรูปนี้ขึ้นบนเว็บไซต์ Zooomr โดยตั้งชื่อภาพว่า ‘Firestarter’ แล้วรูปก็กลายเป็นที่โด่งดังขึ้นในทันที …
-
‘หนังโป๊โปเกมอน’ กลายเป็นกระแสยอดฮิตบนเว็บหนังโป๊ทั่วโลก หลังเปิดตัว Pokémon GO!!
พอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ หลายๆ คนก็คงลืมความสนุกของ Pokémon ไปซะแล้ว แต่พอ Pokémon GO กลับฮิตมาอีก ครั้งไฟของเหล่าเทรนเนอร์ก็จึงลุกไหม้อีกขึ้นอีกครั้ง แถมเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นซะด้วย เว็บไซต์ PornHub ได้เปิดเผยสถิติคำค้นหายอดนิยมโดยผู้ใช้ ซึ่งพบว่า ‘Pokémon porn’ เป็นคำค้นหาที่ได้รับความนิยมเพิ่มเรื่อยๆ ตั้งแต่เมื่อเกมเปิดออกมาในวันที่ 6 กค. และถือว่าเป็นคำค้นหายอดฮิตที่สุดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา!! +136% จากช่วงเวลาที่ผ่านมา… และไม่น่าเชื่อเลยว่า ผู้ค้นหาส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ใช้ที่มีอายุน้อย ในช่วงระหว่าง 18-24 ปีอีกด้วย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะมาจากทวีปอเมริกากลาง และอเมริกาใต้เป็นส่วนใหญ่ Alex Hawkins โฆษกประจำเว็บไซต์ Xhamster ก็ได้ออกมาพูดถึงกระแสนี้ว่า “ห้าวันที่ผ่านมา เราเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในการค้นหาสื่อลามกของผู้ใช้งานเว็บไซต์ คำที่เคยเป็นคำค้นหายอดนิยมเช่นคำว่า ‘MILF’,’Teen’ และ ‘Interracial’ ทั้งหมดถูกแทนที่ด้วยคำว่า ‘Pokemon’, ‘Pikachu’, ‘Hentai’ และ ‘Anime’ ไปเสียแล้ว” และที่ยิ่งไปกว่านั้น Pokémon GO ไม่เพียงแต่ฮิตถล่มเว็บไซต์ลามกเท่านั้น…
-
แค่ภาพที่เห็นนี้ภาพเดียว ทำเอาชาวเน็ตมโนเรื่อง ‘ไทม์แมชชีน’ เอาซะฮาท้องแข็งเลย!!
คุณเป็นคนที่เชื่อเรื่องการเดินทางข้ามกาลเวลาหรือไม่?? อาจจะมีใครบางคนที่ค้นพบช่องโหว่ระหว่างเวลาและอวกาศแล้วก็เป็นได้ อย่างเช่นลุงและเด็กน้อยคนนี้… “ผมว่าผมรู้แล้วล่ะ ว่าอีก 70 ปีข้างหน้า ลูกผมจะหน้าตาเป็นยังไง” คุณพ่อคนหนึ่ง โพสภาพนี้ผ่านเว็บไซต์ Reddit เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ขณะที่พ่อลูกคู่นี้กำลังช็อปปิ้งอยู่ในห้างคอสโก้แห่งหนึ่ง สำหรับคนที่ยังไม่เห็น จะบอกให้ก็ได้ว่าชายแก่ในภาพที่นั่งอยู่ข้างหลัง สวมทั้งเสื้อโปโลและกางเกงขาสั้นลายสก๊อตสีเขียวเหมือนลูกฃายของเค้าเปี๊ยบ นี่มันคือการเดินทางข้ามเวลาชัดๆ!! แน่นอนว่าอาจจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็ได้ แต่ก็ผู้ใช้งานเว็บไซต์มากมายที่ได้สันนิษฐานไว้อย่างชาญฉลาดว่า นั่นแหละคือลูกของเค้าเอง เค้าย้อนเวลากลับมาเพื่อช่วยชีวิตพ่อของเค้า!! ในขณะที่ผู้ใช้อีกคนสันนิษฐานว่า “ประเดี๋ยวพอพ่อของเค้าหันไปมองทางอื่น ชายคนนั้นก็แอบเดินเข้ามาและกระซิบบางสิ่งที่สำคัญมากๆ กับร่างอันแบเบาะของเขา” บางคนก็แนะนำให้เดินเข้าไปหาลุงแกเลย “เดินเข้าไปหาเค้าซะ กอดเค้า.. แล้วก็บอกกับเค้าว่า ‘พ่อก็รักลูกเหมือนกันลูกพ่อ’ แน่นอนว่าเค้าจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนกับว่าไม่รู้จักคุณ เพื่อเป็นการรักษาความต่อเนื่องระหว่างเวลากับอวกาศ แต่ทั้งคุณและเค้าก็จะรู้กันดีอยู่แก่ใจ” แต่บางคนก็ตั้งข้อสังเกตุ “แล้วทำไมลูกของเค้าต้องใส่ชุดตัวเดิมย้อนกลับมาด้วย แถมมีแอบเปลี่ยนรองเท้าจาก Crocs เป็น Adidas ซะด้วย” ผู้ใช้อีกคนมาช่วยไขข้อสงสัย “เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนความต่อเนื่องของเวลากับอวกาศไง เรื่องๆ ง่ายแค่นี้ดูก็รู้แล้ว” ยังไงก็ตาม ก็มีบางคนให้คำแนะนำที่มีประโยชน์เอาไว้ “สมัครสมาขิกบัตรห้าง Costco แบบพรีเมี่ยมไว้ให้ลูกด้วยล่ะ เพราะดูเหมือนว่าเค้าจะมาช็อปปิ้งที่นี่ไปจนแก่แน่ๆ” …
-
งานแต่งสุดเก๋ ของคู่บ่าวสาวที่เน้นการรักษ์โลก แหวนรีไซเคิล กระทั่งชุดแต่งงานก็มือสอง…!!
งานแต่งของคู่บ่าวสาวชาวอังกฤษคู่นี้แปลกไม่เหมือนใครจริงๆ แต่ก็ถือได้ว่าน่าชื่นชม จะเรียกว่าเป็นงานแต่งแนวรักโลกที่เน้นการรีไซเคิลก็ว่าได้…. Dan และ Kim Woolnough เจ้าหน้าที่บริหารการขายอายุ 22 ปี กับพยาบาลสาววัย 24 ปี พวกเค้าพบกันครั้งแรกในปี 2014 ขณะที่ทั้งคู่เป็นเพียงพนักงานฝึกหัดในเมืองเดอรัม ประเทศอังกฤษ ในเดือนกันยายนของปีต่อมา หลังจากที่ทั้งคู่คบหาดูใจกันได้ซักพักแล้ว Dan ก็จึงขอ Kim แต่งงาน บนเทือกเขาเคสวิคในอุทยาน Lake District ทั้งคู่ตัดสินใจที่จะจัดงานแต่งงานแบบประหยัดงบประมาณ และจะใช้วัสดุรีไซเคิลกับของมือสองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้กระทั่งแหวนแต่งงานก็ยังใช้แหวนที่ทำมาจากโลหะที่นำกลับมารีไซเคิล (ซื้อมาจากเว็บไซต์ Esty ที่ขายของจำพวกงานฝีมือต่างๆ) การ์ดงานแต่งของพวกเค้าก็ทำมาจากกระดาษรีไซเคิล 100% ทุกแผ่น รวมถึงประหยัดการใช้กระดาษด้วนวิธีการแจ้งสถานที่จัดงานให้แขกทราบผ่านทางอีเมลล์ ในขณะที่เจ้าสาวส่วนใหญ่จะใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ และเงินจำนวนมากเพื่อเลือกซื้อชุดเจ้าสาวในฝันของพวกเค้า แต่ Kim ซื้อชุดเจ้าสาวมือสองมาจากเว็บไซต์ GumTree ในราคาแค่ 80 ปอนด์ หรือ 3,705 บาทเท่านั้น “มันเหมือนเป็นโชคชะตามากกว่า ทันทีที่ฉันไปรับชุดนี้มา ฉันก็ตกหลุมรักมันทันที” Kim กล่าว “ฉันปรับแต่งมันเล็กน้อยเพื่อให้ฉันสวมใส่ได้พอดี ซึ่งเจ้าของชุดเก่าก็ดีใจมากที่เธอจะสวมชุดนี้ออกงานจริงๆ”…
-
อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินจากชื่อ!! ขอต้อนรับสู่เมือง ‘ดิลโด้’ เมืองเล็กๆ แต่มีความสุขที่สุดในโลก
ถูกต้องแล้ว ไม่ได้ตาฝาดกันหรอก #เหมียวขาสั้น ก็แทบไม่เชื่อสายตาเหมือนกัน แล้วก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีเมืองที่ชื่อแบบนี้อยู่ด้วย มันแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้แฮะ และถ้าโดยปกติแล้วคำว่าดิลโด้เนี่ย มักจะทำให้นึกถึงกระปู๋ปลอมตลอดเลย ไม่เคยคิดไม่เคยฝันว่าจะถูกนำมาใช้เป็นชื่อจริงๆ แบบนี้ ขอต้อนรับสู่เมือง Dildo หรือ ‘เมืองที่มีความสุขที่สุดในโลก’ แต่ก่อนที่จะคิดลึกไปกันใหญ่ ต้องบอกก่อนว่าที่นี่ไม่ได้มีอะไรที่ทะลึ่งตึงตังแต่อย่างใด อย่าเพิ่งรีบร้อนตัดสินกันจากชื่อสิจ๊ะ เมือง Dildo เป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ที่อยู่ในรัฐฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ ประเทศแคนาดา เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากและน่าไปเที่ยวมากๆ เลยก็ว่าได้ มีพื้นที่สำหรับให้บริการกีฬาทางน้ำอย่างครบครัน ทัวร์สำหรับคอการผจญภัยก็มี หรือจะล่องเรือชมวิวไปกับเรือ ‘Dildo Pleasure’ ก็ได้ นักท่องเที่ยวจะได้รื่นรมย์ไปกับทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล และถ่ายภาพคู่กับมาสคอต์ประจำเมือง ‘กัปตัน Dildo’ ช่วยปลายเดือนกรกฏาคมห้ามพลาดเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่นั่นจะมีงานเทศกาลประจำปีที่เรียกว่า Dildo Festival หรือ Dildo Days ซึ่งใน 1 ปีจะมีครั้งเดียวเท่านั้น เป็นอีกเมืองที่น่าไปเที่ยวจริงๆ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีเมืองที่ชื่อแบบนี้อยู่ด้วยจริงๆ…
-
กลับมาอีกรอบ ศิลปะบนทุ่งนาของชาวนา Inakadate ในญี่ปุ่น ปีนี้อลังการขึ้นกว่าเดิม!!!
ทุกๆ ฤดูร้อนของญี่ปุ่น ที่หมู่บ้าน Inakadate ในจังหวัดอาโอโมริ ทุ่งนาธรรมดาๆ จะถูกเปลี่ยนให้เป็นศิลปะบนนาข้าวอันสวยงาม ถ้าใครยังไม่รู้จักหมู่บ้านนี้ คลิ้กลิ้งค์เรื่องเก่าที่ CatDumb เคยทำเอาไว้ ด่วน!! และปีนี้ก็เช่นเคย ศิลปะบนทุ่งนาของชาวนาญี่ปุ่น ปีนี้อลังการขึ้นกว่าเดิม เราไปกันเลยดีกว่า… ในคราวนี้ เนื่องจากภาพยนตร์เรื่อง Shin Godzilla หรือ Godzilla: Resurgence มีกำหนดการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่นในปลายเดือนนี้ ผลงานศิลปะบนทุ่งนารอบนี้จึงออกมาเป็นแบบนี้แหละ ภาพเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน วันที่ 23 มิถุนายน ก็อตซิลล่าเริ่มดูเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น ภาพเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 5 กรกฎาคม แต่นแต๊น!! อลังการตระการตา ที่จริงแล้วเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ก็มีผลงานศิลปะออกมาชิ้นหนึ่งซึ่งโด่งดังมากเช่นกัน ต้องยอมรับเลยว่าพวกเขาออกแบบกันได้อย่างน่าทึ่งจริงๆ หลายคนคงจะสงสัยสินะว่าพวกเขาทำได้ยังไง ขอยกเนื้อหาของเหมียวสามสี ที่เคยทำเอาไว้ในเว็บมาเล่าต่อ ศิลปะแบบนี้เค้าเรียกว่า “Tanbo Art” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ Tanbo…
-
24 เหตุการณ์สุดประทับใจ ที่บอกคุณว่า… โลกนี้ยังคงมีความสวยงาม!!!
ตื่นมาก็จะแต่ข่าวผู้ก่อการร้ายอันน่าสลด วันนี้#เหมียวขาสั้นมีภาพซึ้งๆ ที่จะช่วยพิสูจน์ให้เห็นว่าโลกเราไม่ได้มีแต่ความรุนแรงและความโหดร้ายเสมอไป… 1. ตำรวจญี่ปุ่น คอยช่วยครอบครัวเป็ดข้ามถนนอย่างปลอดภัย 2. หญิงสาวรีบวิ่งออกไปกางร่มให้คนพิการ กลางสายฝนที่โหมกระหน่ำลงมาอย่างหนัก 3. เจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมชายที่กำลังจะฆ่าตัวตายจนสำเร็จ หลังจากนั้น 8 ปีต่อมา เขากลายคุณพ่อลูก 2 และมอบรางวัลให้กับเจ้าหน้าที่คนนี้ที่ศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายแห่งชาติอเมริกา 4. กลุ่มผู้ประท้วงในบราซิลเซอร์ไพรส์เจ้าหน้าที่คนนี้ หลังจากที่รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขา 5. เจ้าหน้าที่ตำรวจมอบรองเท้าให้แก่ชายไร้บ้าน 6. พนักงานขับรถบัส ยอมหยุดรถ และลงไปช่วยเหลือเป็นกำลังใจเด็กสาวที่กำลังนั่งร้องไห้ 7. พนักงานเสิร์ฟในปากีสถานคนนี้กำลังป้อนอาหารให้กับชายพิการที่ใช้มือไม่ได้ 8. พ่อที่เปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ของลูกชายตัวน้อย 9. เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกอดสมาชิกครอบครัวคนใหม่ ที่เขารับมันมาดูแล 10. ชาวญี่ปุ่นรวมพลังช่วยเหลือคนที่กำลังติดอยู่ใต้รถไฟ ด้วยการช่วยดันตู้โดยสารให้ขยับจนคนออกมาได้ 11. พนักงานร้าน Wendy’s ถอดร่มจากโต๊ะนอกร้าน เพื่อมาส่งชายชราขึ้นรถของเขา 12. แช๊ค (นักบาสเกตบอลชื่อดัง)…
-
พาไปดู “หุบเขาแห่งสันติสุข” สุสานที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีศพถูกฝังมากถึง 5 ล้านศพ
#เหมียวขาสั้น ขออาสาพาไปเยี่ยมชมภาพสุสานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นภาพที่ถูกบันทึกจากโดรนถ่ายภาพทางอากาศโดยช่างภาพนามว่า Ali Hashim Moon จะใหญ่แค่ไหนไปดูกันเลย!! ภาพสุสานอันกว้างใหญ่ไพศาลสุดลูกหูลูกตาที่เห็นอยู่นี้คือสุสาน Wadi Al-Salam หรือ “หุบเขาแห่งสันติสุข” ตั้งอยู่ในเมือง Najaf ประเทศอิรัก นับเป็นสุสานที่ใหญ่ที่สุดที่มีร่างอันไร้วิญญาณถูกฝังมากถึง 5 ล้านศพ และกินพื้นที่กว่า 1,485.5 ไร่ จากการรายงานของ BBC ระบุว่าในทุกๆ ปี จะมีศพชาวศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ถูกนำมาฝังที่นี่มากถึง 50,000 ศพ และในขณะที่ภูมิภาคกำลังร้อนกรุ่นไปด้วยการสู้รบระหว่าง กองกำลัง ISIS ที่กำลังต่อสู้กับกองกำลังชีอะห์จากความขัดแย้งทางศาสนา นั่นก็แปลว่าจำนวนหลุมศพกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก่อนหน้านี้ ในปีพ.ศ. 2534 จนถึง พ.ศ. 2546 อิรักก็ถูกรุกรานโดยกองทัพสหรัฐ ซึ่งคร่าชีวิตชาวอิรักไปนับแสนๆ คน ภาพอันน่าทึ่งเหล่านี้ ถูกบันทึกจากโดรนถ่ายภาพทางอากาศโดยช่างภาพนามว่า Ali Hashim Moon อย่ารอช้า เราไปชมคลิปของสุสานแห่งนี้กันเลยดีกว่า อะไรจะใหญ่ขนาดนี้ ทั้งน่าทึ่งแล้วก็ขนลุกยังไงก็ไม่รู้แหะ… ที่มา:…
-
แค้นฝังหุ่น!! “ผีทหารญี่ปุ่น” หุ่นลากรถที่สร้างโดยอดีตทหารจีนที่เกลียดญี่ปุ่นเข้าไส้
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่บาดแผลจากสงครามที่ฝังลึกลงไปในใจของผู้คนนั้น ยังคงทำให้ชาวพื้นเมืองจดจำมาถึงทุกวันนี้ แม้กระทั่งความเคียดแค้นก็ยังไม่จางหายไปได้ง่ายๆ Duan Shaojie อายุ 57 ปี จากมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เป็นอดีตนายทหารที่ยังคงมีความแค้นฝังลึกมาถึงทุกวันนี้ เขาจึงใช้เวลาภายหลังเกษียณสร้างหุ่นลากรถ “ปีศาจญี่ปุ่น” ขึ้นมา เขาใช้ทักษะในด้านการเชื่อม ผสมผสานกับศิลปะ และความเกลียดชังที่มีต่อญี่ปุ่น สร้างหุ่นยนต์ ‘ปีศาจญี่ปุ่น’ สำหรับลากรถเข็น ซึ่งผู้นั่งสามารถควบคุมการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ทั้งการเดิน วิ่ง หันซ้าย-ขวา และถอยหลัง แน่นอนว่าโดดเด่นสะดุดสายตาผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาไม่น้อยเลยทีเดียว… . . . เขากำลังวางแผนที่จะสร้างหุ่นแบบต่างๆ เพิ่มอีก เช่นหุ่นกองทัพปฏิวัติแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน หุ่นยนต์รถถัง และหุ่นสายลับ แล้วถ้าหากว่าหุ่นขัดข้องใช้งานไม่ได้แล้ว เขาก็จะใช้เป็นเป้าฝึกยิงธนูแทน มณฑลเหอหนานเคยประสบกับหายนะมาแล้วมากมาย ตั้งแต่การรุกรานของญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งในเวลาต่อมาก็เกิดอุทกภัยแม่น้ำหวงในปีพ.ศ. 2481 ซึ่งท่วมพื้นที่ของมณฑลเหอหนาน มณฑลอันฮุย และมณฑลเจียงซู ทำให้มีชาวจีนเสียชีวิตไปเป็นแสนๆ คน จนมาถึงภาวะแห้งแล้งอย่างรุนแรงที่นับได้ว่าเป็นหายนะที่รุนแรงที่สุด ซึ่งส่งผลให้มีชาวจีนอดอยากตายกว่า 2 ล้านคน ซึ่งล้วนแต่เป็นผลจากการรุกรานของญี่ปุ่นทั้งสิ้น …
-
แอบส่องไอจี 12 นักแสดงนำจาก “Game Of Thrones” ชีวิตจริงเขาทำอะไรกันบ้าง!?
สำหรับคอซีรี่ย์แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักซีรี่ส์แนวแฟนตาซีย้อนยุคอย่าง “Game Of Thrones” กันแน่ๆ ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะนักแสดงนำแต่ละคนแสดงกันอย่างสมบทบาท เรียกได้ว่าถ้าใครได้ดูแล้วก็ต้องอินไปตามๆ กัน แต่เห็นพวกเขาซีเรียสในซีรี่ย์ขนาดนี้ คุณรู้หรือไม่ว่าในชีวิตจริงพวกเขาสดใสและใช้ชีวิตเหมือนอย่างเราๆ นี่แหละ เดี๋ยว #เหมียวขาสั้นจะพาไปส่องอินสตาแกรมของพวกเขากัน 1. ไมซี วิลเลียม หรือ อาร์ยา สตาร์ค กับชุดสบายๆ ก่อนจะไปดูคอนเสิร์ตบียอนเซ่ @maisie_williams วันว่างๆ ก็ออกกำลังกายเบาๆ 2. ปีเตอร์ ดิงค์เลจ หรือ ทีเรียน แลนนิสเตอร์ พาลูกสาวไปเดินเล่น @peterdinklage แฟมิลี่แมนตัวจริง 3. นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู หรือ เจมี่ แลนนิสเตอร์ ในลุคพ่อครัว เท่ปะละ @nikolajcosterwaldauhq 4. ลีนา เฮดีย์ หรือ เซอร์ซีย์ แลนนิสเตอร์ กับท่าทางทะเล้นๆ สลัดคราบราชินีแห่งเจ็ดอาณาจักรผู้เลอโฉมออกไปหมดเลย อินสตาแกรม @aamlenaheadey 5. เอมิเลีย คลาร์ก…
-
‘Alison Midstokke’ หญิงผู้เกิดมาใบหน้าไม่สมประกอบ แต่ต่อสู้จนได้เป็น ‘นางแบบ’ ตามฝัน!!
นี่คือชีวิตของหญิงสาวผู้หนึ่งที่เกิดพร้อมกับใบหน้าไม่เหมือนคนอื่น และเข้ารับการทำศัลยกรรมเพื่อแปลงโฉมมาแล้วนับร้อยครั้ง จนในที่สุดความฝันที่จะเป็น ‘นางแบบ’ ของเธอก็เป็นจริง Alison Midstokke ชาวอเมริกัน อายุ 31 ปี อาศัยอยู่ในนิวยอร์ค เธอเป็นโรคที่เกี่ยวกับทางพันธุ์กรรม ที่เรียกกันว่า กลุ่มอาการเทรเชอร์-คอลลิน (Treacher Collins syndrome) ซึ่งเกียวข้องกับพัฒนาการของกระดูกใบหน้า ทำให้เธอเติบโตขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ไม่ประสมประกอบ เธอได้รับอุปการะเลี้ยงดูจาก Denise และ Rick พ่อแม่บุญธรรมของเธอ ที่รับเธอมาเลี้ยงเมื่อเธอมีอายุเพียงไม่กี่สัปดาห์ เธอต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลมาตั้งแต่เล็กเพื่อแก้ไขความผิดปกติของศีรษะและใบหน้าเธอ เนื่องจากมันกระทบต่อความสามารถในการพูดและฟังของเธอ นั่นจึงทำให้เธอต้องขาดเรียนบ่อยๆ และต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่แต่ในโรงพยาบาล การไปโรงเรียนถือว่าเป็นเรื่องที่หนักใจสำหรับเธอ “ฉันเคยเป็นเด็กร่าเริง ชอบออกไปเล่นข้างนอก เป็นที่รักของเพื่อนๆ” เธอกล่าว “แต่พอโตขึ้น ทุกคนก็ปฎิบัติกับฉันต่างออกไป ฉันกลายเป็นคนที่ทุกคนคอยกีดกันไม่ให้เข้ากลุ่ม แม้กระทั่งเพื่อนฉันเองก็ด้วย” ตอนเธออายุ 17 ปี เธอได้เข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่ แต่หลังการผ่านตัด เธอกลับออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะเธอกลัวและไม่กล้าที่จะเผชิญกับปฏิกิริยาของเพื่อนๆ นั่นเป็นเพราะเธอกังวลกับความคิดของคนอื่นมากเกินไป รวมถึงมีปัญหาในการยอมรับตัวตนของตนเอง อย่างไรก็ตาม เธอมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นนางแบบ ซึ่งเธอก็ได้พยายามทำให้มันเป็นความจริงมาตั้งแต่อายุ 15 ปีแล้ว แต่ก็ไม่มีช่างภาพหรือศิลปินคนไหนที่อยากร่วมงานกับเธอแบบจริงๆ จังๆ .…
-
คุณพ่อชาวจีนพาลูกชาย 8 ขวบออกท่องเที่ยว 700 กิโล ด้วยเงิน 500 บาท เพื่อให้เรียนรู้ชีวิต
การอบรมเลี้ยงดูลูกด้วยวิธีการที่ทรหดๆ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนเห็นด้วยซักเท่าไหร่ แต่สำหรับพ่อลูกคู่นี้ พวกเขาได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญมากมายจากการเดินทางครั้งนี้ ไม่ว่าจะเรื่องความยากลำบากในชีวิต ความเห็นอกเห็นใจ ความเพียรพยายาม รวมถึงการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด Pu Wei ตั้งใจที่จะสอนบทเรียนชีวิตอันล้ำค่าให้กับลูกชายวัย 8 ขวบของเขา ด้วยการออกเดินทางจากจากเมืองซีอานไปยังเมืองหลานโจว รวมระยะทางทั้งหมด 700 กิโลเมตร โดยพกเงินติดตัวในกระเป๋าเพียง 100 หยวน (525 บาท) สำหรับใช้ตลอดการเดินทาง พ่อลูกคู่นี้เดินทางมาแล้ว 3 วัน ยังคงเหลืออีก 3 วันจึงจะถึงที่หมาย แต่พวกเขายังคงไม่เสียเงินไปแม้แต่สตางค์เดียว ที่ทำอย่างนั้นได้ก็เพราะพวกเขาเดินทางโดยการพึ่งพาการโดยสารรถของคนอื่น และทำงานแลกอาหารและที่พักระหว่างทาง ภาพพ่อลูกขณะกำลังช่วยขนของลงจากรถบรรทุกเพื่อแลกกับที่พักผ่อนระหว่างการเดินทาง ตลอดการเดินทางของพวกเขา ถึงแม้จะเหนื่อย แต่คนเป็นพ่อก็ภูมิใจที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ เป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้ คือให้ลูกของเขาได้สัมผัสกับความหอมหวานและความขมขื่นในชีวิตไปพร้อมๆกัน ขณะที่เขาอายุยังน้อยอยู่ โดยรวม พวกเขาโดยสารรถมาแล้ว 12 คัน แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาก็ต้องเผชิญทั้งการถูกเมินและถูกระแวง ในบันทึกการเดินทางวันที่ 3 ของ Pu ระบุไว้ว่า “ผู้ใดก็ตามที่ถูกทำร้ายจากการถูกเมินและถูกระแวง ไม่ต้องเก็บไปคิดให้มากไปหรอก เมื่อคุณรู้ว่าการเมินและการระแวงทำร้ายจิตใจคนอื่นได้…
-
ชมภาพหายากของ Erta Ale แอ่งลาวาอันเดือดดาล ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็น “ประตูสู่นรก”
ถึงแม้จะเสี่ยงอันตรายแค่ไหน แต่ช่างภาพที่รักการถ่ายภาพเป็นชีวิตจิตใจ ก็พร้อมที่จะเสี่ยงตัวเองเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่เขาต้องการ… ช่างภาพชาวโปรตุเกสนามว่า Joel Santos อายุ 38 ปี ใช้โดรนถ่ายภาพภายในแอ่งภูเขาไฟที่มีความร้อนกว่า 1,100 องศาเซลเซียส ภูเขาไฟลูกนี้มีชื่อว่า Erta Ale หรือที่รู้จักกันว่า “ภูเขากรุ่นควัน” ด้วยความสูง 2,011 ฟุต ตั้งอยู่ที่ทะเลทราย Danakil สถานที่ที่ถือว่าร้อนสุดในโลก อยู่ในแถบ Afar ประเทศเอธิโอเปีย . แอ่งลาวาภายในภูเขาไฟ Erta Ale มีชื่อเรียกอีกชื่อว่าเป็น ‘ประตูสู่นรก’ มีความร้อนสูงถึง 1,100 องศาเซลเซียส และมีการไหลเวียนของลาวาอย่างต่อเนื่องมานานตั้งแต่ปี 1906 การปะทุครั้งใหญ่ที่เคยเกิดขึ้นในปี 2005 ได้ทำให้ผู้คนที่อาศัยอยู่ในแถบนี้ต้องอพยพออกไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น และอีกครั้งในเดือนสิงหาคมปี 2007 ผู้คนต้องอพอพออกไปอีกเป็นจำนวนมาก ส่วนการประทุครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2008 Joel Santos กล่าวว่านี่คือหนึ่งในโปรเจ็คที่อันตรายที่สุดที่เขาเคยทำมา เขารู้ดีว่าการปีนภูเขาลูกนี้มีความเสี่ยงแค่ไหน . อุปสรรคที่น่ากลัวที่สุดคือ การเปลี่ยนแปลงของขอบปล่อง เพราะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดขณะที่ลาวากำลังเคลื่อนตัวขึ้น-ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ลาวาเอ่อล้น พื้นผิวอาจจะดูว่ามั่นคง มีความเสี่ยงสูงที่จะตกลงไปได้ตลอดเวลา…
-
เน็ตหมดไม่ใช่ปัญหา!! ชาวเน็ตแชร์ ภาพสาวนั่งอ่าน ‘เฟซบุ๊ค’ ที่พริ้นท์ใส่กระดาษ 15 หน้า
การนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินแล้วไม่มีไวไฟให้เล่นเป็นเรื่องน่าเบื่อ บางคนก็อาจจะมีวิธีแก้เบื่อโดยอ่านหนังสือพิมพ์ หรือไม่ก็อ่านนิยาย แต่สาวมาดมั่นคนนี้เธอมากับนวัตกรรมใหม่ในการเข้าถึงเฟสบุ๊ค ที่ถึงแม้จะไม่มีไวไฟก็ยังตามติดเล่นได้ ภาพนี้ถูกแชร์ผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของ Alex Steinman นักข่าวจากสำนักข่าวบันเทิง Entertainment Weekly ในนิวยอร์ค มีผู้รีทวีตแล้วมากกว่า 11,000 ครั้ง และยอดไลค์กว่า 22,000 ไลค์ เขาถ่ายภาพนี้ขณะที่อยู่ในรถไฟฟ้าใต้ดิน เนื่องจากสังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ กำลังนั่งอ่านโพสต์และคอมเม้นท์จากเฟสบุ๊คในกระดาษที่ปริ้นท์มาอย่างใจจดใจจ่อ หลังจากการสอบถามเธอ ทราบว่าผู้หญิงคนนี้พริ้นท์โพสต์และคอมเม้นท์ใส่กระดาษประมาณ 15 หน้า มานั่งอ่านแบบชิวๆ ในขณะที่คนอื่นนั่งจิ้มมือถือของตัวเอง ชาวเน็ตก็ต่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง แห่กันมาคอมเม้นท์อย่างสนุกสนาน “อะไรจะเริ่ดขนาดนั้น ฮ่าๆ” @EvanSlead “เจ๊แกอ่านออกเสียงด้วยรึเปล่า??” @RyanfromJersey . “ไม่มีไวไฟ ไม่ใช่ปัญหา” @MaiAndy “มองจอนานๆ สายตาจะเสียเอาได้” @Ianhinkle . “อยากจะอ่านด้วยจัง ท่าทางจะฮา” @SimplyBerry “อย่างน้อยเธอก็เอามาจุดไฟเผาคนอื่นได้” @miksago . “ผู้ท้าชิงแอดมินเพจประจำสัปดาห์” @thebryandavis “เธอกดไลค์ด้วยอ้ะป่าว??” @fmfdlr …
-
เด็กน้อยทำตุ๊กตาช้างหาย พ่อแม่ปลอบใจว่ามันไปเที่ยวรอบโลกนะ ชาวเน็ตร่วมมือจัดให้เต็มที่เลย!!
เป็นธรรมดาที่เวลาเด้กๆ ทำข้าวของหายไปสักชิ้น พวกเขาจะเกิดความเสียใจ ยิ่งสิ่งนั้นเป็นของรักมากๆ ก็อาจทำให้เศร้าไปหลายวันเลยทีเดียว แต่คุณพ่อคุณแม่บางคนก็มีวิธีรับมือกับเหตุการณ์นั้นได้อย่างชาญฉลาดเหมือนกัน นี่เป็นเรื่องราวของคุณพ่อคุณแม่คู่หนึ่งจากเว็บไซต์ Reddit พวกเขาเล่าว่าลูกชายทำตุ๊กตารุปช้างสีเทาสุดรักหายไป แต่ด้วยความรักลูกและไม่อยากให้เขาเสียใจมาก พวกเขาเลยโกหกไปว่าความจริงแล้วตุ๊กตาตัวนั้นไม่ได้หายแต่ออกเดินทางรอบโลกเท่านั้น ต่อมาทั้งคู่ก็ได้โพสต์ภาพตุ๊กตาช้าง พร้อมกับขอความช่วยเหลือให้ทุกคนช่วยกันตัดต่อให้ตุ๊กตาตัวนี้เหมือนไปเที่ยวรอบโลกมา ให้หลากหลายสถานที่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อเอาไปยืนยันกับลูกชายของเขา ลองดูกันซิว่าเจ้าช้างตัวนี้ไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง!? 1. ไปแอฟริกา 2. โดดร่มไปที่ไหนสักที่ 3. หาเพื่อนใหม่ๆ 4. ไปแอนตาร์กติกา 5. ไปลอนดอน 6. หาเพื่อนใหม่ในเปรู 7. ล่องเรือในนอร์เวย์ 8. นั่งชิลๆ กับเทพีเสรีภาพในนิวยอร์ค 9. ซึมซับวัฒนธรรมในกัมพูชา 10. ชมดอกซากุระในญี่ปุ่น 11. ชิมอาหารที่ฝรั่งเศส 12. เล่นซ่อนแอบที่ญี่ปุ่น 13.…
-
Universal Studios เปิดตัวของเล่นใหม่ The Walking Dead พร้อมเอาตัวรอดจากซอมบี้หรือยัง!?
เหล่าสาวก The Walking Dead มาทางนี้เลยจ้า!! Universal Studios เปิดตัวของเล่นแห่งใหม่ ที่พวกเค้ารับประกันว่าจะทำให้คุณทั้งทึ่งและหวาดผวาอย่างแน่นอน สวนสนุก Universal Studios Hollywood ประกาศเปิดตัวสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ที่สร้างขึ้นจากซีรี่ย์ยอดฮิต “The Walking Dead” ซึ่งจะเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ คุณจะได้ชมเที่ยวฉากต่างๆ ที่เห็นจากในภาพยนตร์ โดยเริ่มต้นที่ฉากในโรงพยาบาล พร้อมๆ กันนี้ คุณจะได้สวมบทบาทการเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้อีกด้วย นักแสดงจาก The Walking Dead ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ก็ได้มาร่วมสนุกที่สวนสนุกแห่งนี้ในวันเปิดตัวผ่านมา Ross Marquand ผู้รับบท Aaron กล่าวว่า “คนส่วนใหญ่คงสงสัยกันว่าโลกที่ถูกรุกรานโดยซอมบี้มันเป็นยังไง และพวกเขาต้องทำยังไงเพื่ออยู่รอด ผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทการเอาตัวรอดชีวิตที่แตกต่างไปจากละครที่เคยดูแน่นอน!” . “นอกจากจะเป็นแค่สวนสนุกแล้ว มันก็ยังแสดงถึงความดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ของคุณด้วย ว่าคุณจะสามารถอยู่ต่อไปได้หรือไม่ หากคุณต้องสูญเสียทุกสิ่งและคนที่คุณรัก” Michael Traynor ผู้รับบท Nicholas ให้สัมภาษณ์ว่า “ทุกวันนี้เราอยู่กันอย่างปกติ มีอาหารและที่อยู่เพียบพร้อม แต่คุณจะสามารถเอาชีวิตรอดจากภัยพิบัติที่เกินจะหยุดยั้งได้หรือไม่…
-
ภารกิจช่วยเหลือ ‘เต่าทะเลติดกระสอบ’ ย้ำเตือนมนุษย์อีกครั้งว่า พวกเราทำร้ายธรรมชาติแค่ไหน!??
บ่อยครั้งที่เรามักจะลืมนึกถึงเพื่อนร่วมโลก แล้วเผลอทิ้งเศษขยะเล็กๆ น้อยๆ ลงในแหล่งน้ำหรือในทะเล นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกมันได้รับความเดือดร้อน สัตว์บางตัวต้องทนทุกทรมานไปเกือบทั้งชีวิตเพราะไม่สามารถเอาขยะเหล่านั้นออกไปจากตัวของมันได้ คลิปที่คุณจะได้ชมต่อไปนี้เป็นคลิปของ Amir Rahim หนึ่งในผู้สังเกตการณ์ของ WWF-Pakistan (องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลประจำประเทศปากีสถาน) เขาได้นั่งเรือออกจากเมืองการาจี ลาดตระเวนในทะเลเป็นระยะทาง 180 ไมล์ทะเล (หรือ 333 กิโลเมตร) แต่ในระหว่างทางเขาก็ได้ไปเจอเข้ากับบางอย่างลอยอยู่บนผิวน้ำ จึงพยายามขยับเรือเข้าไปใกล้ๆ จากนั้นเขาและทีมงานก็รู้ว่ามันคือสัตว์ที่กำลังเดือดร้อนอยู่ เขาจึงกระโดดลงไปในน้ำเพื่อดูว่ามันคือตัวอะไร เมื่อเข้าใกล้จึงรู้ว่านั่นคือเต่าหญ้าแปซิฟิกที่กำลังติดอยู่กับถุงกระสอบที่มีความเหนียวมาก แม้แต่มนุษย์เองก็ยังไม่สามารถฉีกออกได้ พวกเขาจึงนำมันขึ้นมาบนเรือ และใช้มีดตัดถุงนั่นออก ก่อนที่จะปล่อยมันกลับสู่ทะเลไปในที่สุด . ลองไปชมภารกิจช่วยเต่ากันเลย ยังคงมีสัตว์ทะเลที่ได้รับความเดือดร้อนจากฝีมือมนุษย์แบบนี้อยู่อีกเพียบเลยนะ ยังไงแล้วก็ช่วยๆ กันเก็บเศษขยะ หรือระวังไม่ให้มันหล่นลงไปในทะเลด้วยนะ ที่มา viralnova
-
ตามติดชีวิตลูกเศรษฐีรัสเซีย กับการ “อวดรวย” แม้กระทั่ง ‘ปูติน’ ยังออกมาพูดจิกกัด!!
รูปของบรรดาเด็ก VIP เหล่านี้ ถูกรวบรวมมาจาก Instagram @richrussiankids ซึ่งมีผู้ติดตามมากถึง 370,000 คน ที่ทำการประชดประชันเสียดสีไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นขี้อวด ที่ใช้เงินไปกับการพักผ่อนที่สุดแสนสิ้นเปลือง และวิถีชีวิตอันฟุ่มเฟือย นี่คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ … ผู้ใช้ Instagram ชื่อ Mansur Verona โพสโชว์คลังแสงของเขา แล้วก็ยังมีทั้งโรลส์-รอยซ์ และเรือยอชท์ส่วนตัว . เธอคนนี้นามว่า Polinaaam … “คนบางคนอาจจะเลือกเดิน บางคนอาจจะขับรถ แต่ฉันเลือกเรือยอชท์!!” Roman Izraylit บนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว เป็นลูกหลานของผู้พัฒนาท่าเรือคนสำคัญของรัสเซีย โปรไฟล์ของเค้ายังเต็มไปด้วยรูปถ่ายคู่กับคนสำคัญๆ มากมาย หนุ่มหล่อบนโรลส์-รอยซ์หน้ารีสอร์ทหรู เขาเรียกตนว่า Black Prince เชื่อกันว่าเป็นในลูกหลานของ Sergey Sarkisov เจ้าของบริษัทประกันเงินล้านในรัสเซีย หนังสือพิมพ์ Komsomolskaya Pravda ได้ทำการเฝ้าสังเกตุพฤติกรรมของลูกคนรวยเหล่านี้ พบว่าพวกนี้จะชื่นชอบการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์บนเรือยอชท์ ดื่มแชมเปญราคาแพงลิบลิ่ว โดยเฉพาะไวน์ยี่ห้อ Armand de…
-
ชาวเน็ตจีนคลั่งไคล้ ‘ตำรวจจราจร’ หนุ่มหล่อมาดเข้ม เอาซะอยากจะโดนใบสั่งจังเลย…
บางคิดอาจจะมองตำรวจจราจรด้วยภาพพจน์ที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ แย่ไปกว่านั้น บางคนถึงกับมีอคติร้ายๆ ต่อตำรวจจราจรมาโดยตลอด แต่วันนี้ #เหมียวขาสั้นจะพาไปดูอีกหนึ่งมุมมองของพวกเขาเหล่านี้กัน… นี่เป็นแคมเปญที่ประเทศจีนเพิ่งริเริ่มเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีวินัยในการใช้ถนนมากขึ้น เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีพร้อมๆ กับการสร้างความเห็นอกเห็นใจให้แก่นายตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุมานะ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ Weifang ผู้ไม่เคยละทิ้งหน้าที่หรือขัดขืนข้อปฏิบัติใดๆ . . เจ้าหน้าที่ Chen Xiaojun จราจรหนุ่มมาดเข้มจากเซินเจิ้น เสน่ห์เหลือล้นบาดใจสาวๆ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยืดหยุ่น และประนีประนอม นอกจากนี้ เขายังเคยผ่านภารกิจเสี่ยงตายในการไล่ล่าผู้ร้ายบนท้องถนนในระยะทางต่อเนื่องถึง 12 กม. จนสามารถจับคนร้ายได้ในที่สุด . จราจรรูปหล่อที่เมืองอู่ฮั่น ที่เมืองเจิ้งโจว ที่เมืองจี่หนาน จากรายงานข่าวของเว็บไซต์ NetEase ระบุว่า สาวๆ นับพันที่หลงเสน่ห์จราจรรูปหล่อเหล่านี้ ต่างพากันตามหาว่าเจ้าตัวว่าแต่ละคนประจำการอยู่ที่ใด (แม้แต่ผู้ชายก็ด้วย) บางคนถึงกับแนะนำให้ทางการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดวันสำหรับจราจรโดยเฉพาะไปเลย เจ้าหน้าที่หลายๆ คนพากันเขินอายเวลาที่มีคนมาขอถ่ายรูป แต่ก็เลี่ยงที่จะบริการประชาชนไม่ได้ พวกเขาไม่ลืมที่จะคอยย้ำเตือนประชากรให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและมีวินัยในการใช้ถนน เมื่อปีที่แล้ว ก็มีรายงานข่าวเกี่ยวกับจราจรหนุ่มอีกคน ซึ่งเป็นที่ฮือฮาเพราะเขาสามารถใช้หน้าตาอันหล่อเหลาของเขาหยุดการจราจรได้ . แต่ยังไงก็ตาม อย่าให้หน้าตาอันหล่อเหลาทำให้คุณหน้ามืดตามัว แม้แต่อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยหนานชาง Zhou…
-
การเดินทางของเจ้าราล์ฟ… จากสุนัขจรจัด สู่เจ้าหมานักท่องโลก
ความรักและความผูกพันธุ์เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มันทำให้เรายอมทำได้ทุกอย่างเพื่อช่วยคนที่เรารัก… เรื่องราวแบบนี้ ถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเองเราก็คงจะไม่รู้ แต่เชื่อว่าทุกคนคงจะเข้าใจดี นี่คือการเดินทางของเจ้าราล์ฟ สุนัขจรจัดที่มีคนใจดีนำกลับไปเลี้ยง เรื่องราวของทั้งคู่นั้นเรียกได้ว่าทั้งประทับใจ และวิเศษสุดๆ ซึ่งแทบจะไม่เคยได้พบเจอที่ไหนมาก่อน คาโอริ โทมารุ ได้เข้าร่วมอบรมโปรแกรมการสอนภาษาอังกฤษในเมืองเม็กซิโก และได้ไปเดินเล่นในสวนสาธาณะแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งเธอพบเจ้าหมาน้อยจรจัดท่าทางเหงาหงอย ไม่มีคนเหลียวแล เธอให้สัมภาษกับเว็บไซต์ Dodo ว่า ครั้งแรกที่เธอพบมัน มันทั้งผอม ทั้งสกปรก และยังมีคนใจร้ายเอาสีชมพูทาหัวมันให้ดูตลกอีกด้วย มันเดินไปเดินมา เที่ยวขอเศษอาหารประทังชีวิตด้วยท่าทีเป็นมิตร ทำให้เธอสงสารมันจับใจ วันรุ่งขึ้น เธอตัดสินใจพามันไปพบกับสัตว์แพทย์แถวๆ นั้น เพราะไม่อาจปล่อยให้เจ้าหมาที่น่าสงสารอยู่อย่างเดียวดายอีกต่อไป เธอจึงตั้งชื่อให้มันว่าเจ้าราล์ฟ หลังจากนั้น เธอและเพื่อนก็ได้ช่วยกันตามหาที่อยู่ใหม่ให้มัน แต่สุดท้ายแล้วก็จบด้วยการที่เธอเก็บมันไว้เลี้ยงซะเอง เธอบอกว่าเธอรักมันเสียจนไม่สามารถปล่อยมันไปไหนได้อีกแล้ว!! แต่เรื่องราวมันไม่ได้ง่ายดายแบบนั้นน่ะสิ.. หลังจากจบโปรแกรมที่เม็กซิแล้ว เธอไม่สามารถนำมันขึ้นเครื่องบินกลับไปกับเธอได้ เพราะที่สนามบิน San Luis Potosi ไม่มีเครื่องบินลำใหญ่พอที่รองรับเจ้าราล์ฟได้ แต่แทนที่เธอจะปล่อยมันทิ้งไว้ที่นั่น โทมารุและพ่อของเธอจึงตัดสินใจขับรถจากนิวยอร์กไปเม็กซิโก เพื่อไปรับมันกลับมาอยู่บ้านด้วยกัน และในระหว่างทางกลับบ้าน โทมารุก็ได้ค้นพบว่า เจ้าราล์ฟก็รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ ไม่ต่างจากเธอเลย!! โทมารุเล่าว่า เจ้าราล์ฟชื่นชอบการเดินทางมาก โดยเฉพาะการเดินทางด้วยรถยนต์…
-
ชมบรรยากาศ การโดยสารเครื่องบิน ในยุค 50s มันจะต่างจากปัจจุบันมากแค่ไหนนะ!??
การเดินทางโดยเครื่องบินในยุค 50 ดูเหมือนจะแตกต่างกับการบินในยุคปัจจุบัน บางคนถึงกับเปรียบเปรียบเปรยว่ามันเต็มไปด้วยเสียงเด็กร้องไห้ระงมบนเครื่อง สภาพอากาศการบินที่ย่ำแย่ และรสชาติของอาหารที่จืดชืด (กัดซะเจ็บเลย) เอาเป็นว่าเราลองย่อนกลับไปดูเมื่อในอดีตราว 50-60 ปีก่อน มันจะแตกต่างกันมากเพียงใดนะ… ในช่วงยุคทองของการโดยสารทางการบิน ผู้ที่มีโอกาสได้บินไปไหนต่อไหนมักจะเป็นพวกผู้ดี มียศ มีชาติตระกูล เหล่าสุภาพสตรีมักจะสวมสร้อยไข่มุกราคาแพง พร้อมกับชุดเดรสและถุงมือที่เข้าชุดการเป็นอย่างดี ส่วนเหล่าท่านสุภาพบุรุษก็มักจะสวมสูทจากอิตาลี หรือแม้กระทั่งเด็กๆก็ยังสวมใส่ชุดสุภาพเป็นทางการ และผูกโบว์หูกระต่ายเล็กๆสำหรับเด็กผู้ชาย เหล่าผู้โดยสารผู้มีอันจะกินในยุคนั้น เดินทางชนิดที่ว่าไม่เกี่ยงกับเรื่องราคาของตั๋วเครื่องบินเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าไฟล์ทจากลอนดอนไปออสเตรเลียจะสูงมากกว่ารายรับเฉลี่ยรายปีของบุคคลธรรมดาเลยก็ว่าได้ นี่เป็นรูปที่ผู้โดยสารกำลังก้าวออกจากเครื่องบินพาณิชย์ Douglas DC-6 เครื่องบินที่เป็นที่นิยมในยุคแรกๆ รันเวย์ในสนามบินเปรียบเสมือนกับเวที Catwalk ที่ผู้คนต่างแต่งตัวสวยจัดเต็มกันทุกคน บริเวณด้านหลังของตัวเครื่องมีเลานจ์ ไว้บริการสำหรับผู้โดยสารที่ต้องการสังสรรค์ พูดคุยกันในระหว่างการเดินทาง เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้อื่น ภาพภายในเครื่องบิน Douglas DC-7 ระหว่างรอเครื่องออกบิน ภาพผู้โดยสารกำลังสูบบุหรี่และผ่อนคลายภายในเลานจ์เครื่องบิน Douglas DC-7 ซึ่งล้วนแต่เป็นผู้มีอันจะกิน อย่างไรก็ตาม การเดินทางด้วยเครื่องบินในยุคนั้น นับได้ว่าคุ้มค่ากับราคาที่เสียไป โดยไม่ต้องมานั่งกังวลกับปัญหาเรื่องที่นั่ง หรือความโกลาหนวุ่นวายให้เสียเวลา ปัจจุบันเพื่อให้เครื่องบินบรรจุผู้โดยสารได้มากขึ้น พวกเขาจะใช้วิธีการเสริมเก้าอี้ และลดจำนวนพนักงานบนเครื่องบินลง …
-
ความ(ไม่)ลับ 16 เรื่องเกี่ยวกับประเทศ ‘เกาหลีเหนือ’ คนไทยไม่ใช่เกาหลี แต่ก็ควรรู้…
เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่สันโดษ ตัดขาดจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง เรียกได้ว่าเป็นประเทศแห่งความลึกลับ และไม่มีที่ไหนน่าพิศวงมากไปกว่าที่นี่อีกแล้ว… นี่คือความลับที่ถูกรวบรวมจากผู้ที่หลบหนีออกมาจากเกาหลีเหนือ ซึ่งซ่อนไปด้วยอะไรหลายๆอย่างอันแปลกไปจากบ้านเรา ที่เราแทบจะนึกกันไม่ถึงเลยทีเดียว 1. เกาหลีเหนือมีทรงผมที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลทั้งหมด 28 ทรง เป็นทรงของผู้หญิง 18 ทรง และทรงของผู้ชาย 10 ทรง 2. ปีศักราชที่ใช้ในเกาหลีเหนือ เริ่มนับจากวันเกิดของท่านผู้นำคนแรกของเกาหลีเหนือ “คิม อิล-ซ็อง” (ศักราชที่ 105) เรียกว่าระบบ Juche 3. โรงแรม Ryugyong ที่ตั้งสูงตระหง่านกลางเมืองหลวงหรือ เมืองเปียงยาง มีทั้งหมด 105 ชั้น เป็นตึกที่สูงเป็นอัน 24 ของโลก แต่ห้องกว่า 3,000 ห้องยังคงเป็นห้องโล่งๆ 4. ในปี 2014 ท่านผู้นำคิม จ็อง-อึน แบนขนมช็อกโก้พาย เพราะว่ามันได้รับความนิยมเกินไป และกลัวจะทำให้เกิดการก่อจลาจล ชาวเกาหลีใต้จึงแกล้งนำช็อกโก้พาย ผูกกับลูกโป่ง 50 ลูก…
-
13 ภาพแต่งงาน LGBT บอกให้เรารู้ว่า… ความรัก เกิดขึ้นได้ โดยไร้ขีดจำกัดและเส้นแบ่ง
หลังจากที่ศาลประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้ผู้มีความหลากหลายทางเพศทุกรัฐ สามารถสมรสกันได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2015 การแต่งงานของคู่รักเพศเดียวกันจึงมีอิสระมากขึ้น… ทุกวันนี้คู่รักเพศเดียวกันต่างก็สามารถจัดงานแต่งในฝันของพวกเค้าได้โดยที่ไม่ถูกกีดกันจากผู้ใดอีกแล้ว และไม่ต้องกลัวว่าคนรอบข้างจะไม่ยอมรับ… Kathryn Hamm นักเขียนชื่อดังจากเว็ปไซต์ GayWeddings ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้ นี่คือ 13 ภาพถ่ายของคู่รักเพศเดียวกัน 13 คู่ ที่จะทำให้เห็นว่ารักแท้ไม่มีจำกัดนิยาม… 1. Jennifer และ Allegra ในงานแต่งที่จัดขึ้นที่แคลิฟอร์เนีย via Gayweddings 2. ภาพถ่ายพรีเว้ดดิ้งของ Ann และ Emily ระหว่างเดินทางไปงานแต่งที่จัดแบบเรียบง่ายใน Disney World via Gayweddings 3. Alex และ Stephen คู่นี้พบกันระหว่างการทดลองหาคู่ผ่านเวปไซต์หาคู่ แต่กลับกลายเป็นว่าบุพเพสันนิวาสได้มาเจอกัน via Gayweddings 4. Kevin และ Christopher สองหนุ่มผู้พบรักกันขณะที่เป็นทหารประจำการอยู่ที่ทำเนียบขาว via Gayweddings 5. Ashleigh และ Erika…
-
สาวน้อยวัยเพียง 7 ขวบ กับหัวใจอันยิ่งใหญ่ ช่วยชีวิต ‘ลูกแมว’ มาแล้วถึง 17 ตัว !!
เด็กๆ ถึงแม้จะไร้เดียงสา แต่บางครั้งด้วยมุมมองที่ยังอ่อนต่อโลก ก็ทำในเด็กตัวน้อยๆ ได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหนือคำบรรยาย… ดังเช่นหนูน้อยเอ็มม่าที่เป็นตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นได้ว่า เราเองก็ทำสิ่งที่วิเศษได้เพียงแค่เราตั้งใจที่จะทำ หนูน้อยเอ็มม่าวัยเพียง 7 ขวบ กับคุณแม่คริสทีนของเธอ ได้ช่วยชีวิตลูกแมวจรจัดมาทั้งหมดแล้ว 17 ชีวิตด้วยกัน ด้วยวัยเพียงเท่านี้ หนูน้อยเอ็มม่ามีกิจกรรมมากมายที่ต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นเรื่องกีฬา หรือการเรียน แต่เธอสละเวลาอันน้อยนิดมาช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก และดูเหมือนว่าเธอจะรักมันมากเช่นกัน ขณะที่ครอบครัวก็ดูจะให้ที่พักและความอบอุ่นกับแมวเหมียวเหล่านั้นเป็นอย่างดีด้วย… นี่คือหนูน้อยเอ็มม่า อายุ 7 ขวบ แม้ว่าหนูน้อยเอ็มม่าจะต้องไปโรงเรียน ทำกิจกรรม มีงานบ้านต้องช่วยทำ แต่เธอก็ให้เวลากับเพื่อนหน้าขนของเธอเสมอ เธอชอบออกไปเล่นสนุกไม่ต่างจะเด็กคนอื่น แต่เธอก็ยังชอบที่จะได้พักผ่อนอยู่กับเจ้าตัวน้อยของเธอ ใครๆ ต่างก็รู้ว่าหนูน้อย Emma รักเจ้าเหมียวขนาดไหน และเจ้าเหมียวน้อยเองก็คงจะรักเธอไม่ต่างกัน พอโตขึ้น ความฝันของหนูน้อยเอ็มม่าคือการได้ทำงานกับมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์ พูดได้เลยว่าสิ่งที่เธอทำนั้น ไม่เพียงแต่เป็นการเรียนรู้เกี่ยวความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน แต่แน่นอนมันยังเป็นการเพิ่มคุณค่าชีวิตของตัวเธอเองอีกด้วย ช่างเป็นเด็กดีซะยิ่งกระไร #เหมียวขาสั้น ขอเป็นกำลังใจให้หนูน้อยเอ็มม่าเป็นแบบอย่างที่ดีแบบนี้ต่อไปนะจ๊ะ… ที่มา: Onegreenplanet
-
ย้อนกลับไปดูป้ายโฆษณา ‘เหยียดเพศ’ ที่เหล่าแบรนด์ดัง ล้วนเคยใช้มาในอดีต…
โฆษณาสินค้าต่างๆ ในแต่ละยุคนั้น สามารถสะท้อนให้เห็นสถานะของคนในสังคมได้เป็นอย่างดี เช่นโฆษณาในปัจจุบันมักจะชักชวนให้ผู้หญิงมีหุ่นผอมๆ มิฉะนั้นก็จะถือว่าเป็นคนไม่สวย เรียกว่าโฆษณาเป็นเครื่องมือที่กำหนดค่านิยมของมนุษย์ได้เป็นอย่างดี ลองย้อนกลับไปดูดีกว่าว่าในยุคอดีตที่ผ่านมา แบรนด์ดังบางแบรนด์ที่เรารู้จัก ก็อาจจะเคยใช้โฆษณาในลักษณะเหยียดเพศนี้มาแล้วก็เป็นได้… โฆษณา Alcoa Aluminum ในปี 1953 … “ฝาบิดที่ผู้หญิงเปิดเองไม่ได้” โฆษณาเนคไท แบรนด์ Van Heusen ในปี 1951 … “แสดงให้เธอเห็น ว่าโลกเป็นของผู้ชาย” โฆษณาน้ำยาทำความสะอาด Procter & Gamble ในปี 1968 … “ผู้หญิงจะท่องอวกาศได้ ก็ต่อเมื่อพวกเธอมีหน้าที่ขึ้นไปทำความสะอาด” โฆษณารองเท้า Weyenberg ในปี 1974 … มองผู้หญิงว่าเป็นเบื้องล่างของผู้ชาย โฆษณาอุปกรณ์ทำครัว Kenwood ในปี 1961 … “หน้าที่ของภรรยาคือหุงหาอาหาร” โฆษณารถยนต์ Mini 1971 … “รถยนต์ขับสะดวก ที่ขนาดผู้หญิงก็ขับได้” โฆษณาวิตามิน แบรนด์ Kellogg’s ในปี 1938 … “ยิ่งทำงานบ้านเยอะก็ยิ่งสวย = ต้องอยู่บ้านในขณะที่ผู้ชายออกไปข้างนอก” …
-
หัวใจจะวาย!! ไปเที่ยวป่าด้วยกัน หันไปอีกที หลานสาวแนะนำ ‘เพื่อนใหม่’ เอ่อ นั่นมันงู๊ววววว!!!
เป็นเด็กๆก็จะซุกซน ชอบเล่นอะไรสนุกๆ ชอบหยิบนู่นหยิบนี่ตามประสาของเด็ก… แต่ นี่มันก็เกินป๊ายยยยยยยย นี่เป็นคลิปของครอบครัวๆ หนึ่ง ขณะที่กำลังเที่ยวสำรวจเกาะบีเวอร์ รัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่สาวน้อย Adriana ตื่นเต้นกับการสำรวจเกาะตามประสาของเด็ก แต่แล้วทุกคนก็ถึงกับต้องตกใจ เมื่อเธอตะโกนว่า “ดูนี่สิว่าหนูเจออะไร!!” และหันมาพร้อมกับเพื่อนใหม่ในมือเธอ สิ่งที่เธอหยิบขึ้นมา มันคืองูลำตัวยาวขนาดประมาณ 1.2 – 1.5 เมตร คุณลุงของเธอตกใจมากถึงกับสบถออกมา แต่แทนที่หนูน้อยจะตกใจ เธอกลับหัวเราะชอบใจ… (#เหมียวขาสั้นเห็นแล้วหัวใจจะวายแทน ทุกคนดูนิ่งมากกก!!) พอนึกขึ้นได้(มั้ง)ว่างูมันฉก เขาจึงบอกเธอ “โยนมันทิ้งลงน้ำซะ เดี๋ยวกลัวมันจะกัดเอานะ” ดังนั้นเธอก็จึงปล่อยมือ แล้วเจ้างูก็เลื้อยกลับลงน้ำไป เราไปชมคลิปกันเลยฮะ ดูปฏิกิริยาของครอบครัวนี้กัน… ในนาทีนั้น ถ้าเป็น #เหมียวขาสั้นเองก็คงทำอะไรถูกเหมือนกัน ที่มา: Viralnova
-
นวัตกรรมใหม่ เบื้องหลังการถ่ายฉากรถยนต์ ไม่ต้องใช้รถจริง แต่โคตะระสมจริง!!
เทคโนโลยีสมัยนี้มันช่างเหลือเชื่อ หลอกตาเราได้ทุกอย่างจริงๆ สิ่งที่เราเห็นอาจไม่ใช่สิ่งที่เป็นอยู่ไปซะทุกอย่างก็ได้ The Blackbird คือ นวัตยานยนต์สำหรับถ่ายทำ Footage รถยนต์โดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้รถยนต์จริงๆ ผลิตขึ้นโดย The Mill บริษัททำ Visual Effects ของประเทศอังกฤษ มันสามารถปรับแต่งได้อย่างเต็มที่ ทั้งขนาดของช่วงล้อ ความกว้างของระยะล้อ และชุดปีกนก เพื่อจำลองให้เป็นรถแบบใดก็ได้ อีกทั้งให้ภาพ Footage ที่ให้รายละเอียดได้ครบถ้วน สมจริง แสงเงามีการเคลื่อนไหวที่มีชีวีวา การขับเคลื่อนและการหมุนของล้อก็เป็นหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยให้ CGI ดูสมจริงมากที่สุด ทั้งนี้ ล้อของ The Blackbird ก็สามารถเคลื่อนไหวบิดไปมาได้อย่างสมจริง นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนวงล้อและยางที่มีความสูงได้สูงสุดถึง 4 ฟุต และความกว้างถึง 10 นิ้ว เรียกได้ว่ามีโครงสร้างเหมือนกับรถยนต์ของจริงที่สามารถตอบสนองต่อพื้นและสภาพถนนได้อย่างดีเยี่ยม นวัตกรรมชิ้นนี้ เชื่อว่าจะเป็นวิธีที่ช่วยลดต้นทุนในการฉากถ่ายรถยนต์ โดยจะช่วยลดความยุ่งยากในเรื่องการจัดหารถ และช่วยประหยัดเวลาที่ใช้ในการถ่ายทำ ชมการทำงานของมันแบบเต็มๆ แล้วต้องอ้าปากค้างเหมือนเรา… ถึงจะมีเทคโนโยล้ำสมัยขนาดนี้ แต่ยังก็ตาม #เหมียวขาสั้นเชื่อว่า ยังไงๆซะ ทุกคนก็คงยังอยากดูหนังที่ถ่ายทำด้วยรถซุปเปอร์คาร์เท่ๆ ของจริงอยู่ดีนั่นแหละน่า ว่ามั้ย??…
-
น่ายกย่อง… พนักงานร้านฟาสต์ฟู๊ด ควักเงินตัวเอง ซื้อของกินให้ ‘คนไร้บ้าน’ ผู้หิวโหย
การเป็นคนดี ทำดี ก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทน #เหมียวขาสั้น คนนึงแหละที่เชื่อแบบนั้น เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่เมือง San Antonio รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา นาง Michelle Resendez มารดาของนาย Matthew ได้โพสต์เล่าเรื่องเกี่ยวกับ “เหตุการณ์ที่คนเป็นแม่ต้องประทับใจ” เพื่อให้โลกได้รับรู้และร่วมชื่นชมต่อการกระทำของลูกชายเธอ แม่ของเขาบรรยายว่าในบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ลูกของเธอทำงานอยู่ ก็มีชายไร้บ้านเดินเข้ามาในร้านพร้อมกับเงินจำนวนครึ่งเซนต์ เข้ามาถามเขาว่ามีอะไรในเมนูที่เขาพอจะซื้อได้ไหม (แค่นั้นคงไม่พอซื้ออะไรหรอกลุง TT) ด้วยความสงสาร Matthew ถามชายคนนั้นกลับไปว่า “ถ้าเป็นไปได้ คุณอยากจะกินอะไรล่ะ” ชายไร้บ้านจึงตอบกับเขาว่า “อะไรก็ได้ทั้งแหละ ที่จะช่วยบรรเทาความหิวโหยของเขาได้” สิ่งที่ Matthew ทำต่อมา เรียกได้ว่าน่าซาบซึ้งใจสุดๆ เขาควักบัตรเดบิทขึ้นมา และซื้ออาหารให้ชายแก่อย่างไม่ลังเล จากนั้นก็ยื่นใบเสร็จให้ พร้อมกับบอกให้เขาไปนั่งพักและทำตัวตามสบาย เหตุการณ์อันน่าประทับใจยังไม่จบเพียงเท่านั้น ด้วยความบังเอิญ มีหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอเห็นเหตุการณ์อันน่าประทับใจทั้งหมด เธอจึงเขียนไปถึงเจ้านายของ Matthew เพื่อชื่นชมต่อการกระทำของเขา และยังไม่พอ… เธอยังตบทิปแก่เขาอย่างงดงามอีกด้วย!! เหตุการณ์นี้จึงทำให้แม่ของเขาภูมิใจเป็นอย่างมากที่มีลูกชายที่จิตใจกว้างขวางแบบนี้ สิ่งที่ Matthew ทำนั้น เป็นสิ่งที่ทำออกมาจากใจโดยที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน การเป็นคนดี ทำดี ก็ย่อมได้รับสิ่งดีๆตอบแทนขอให้ทุกคนจงยืนหยัดต่อการทำความดีต่อไป…
-
พาไปรู้จัก “Mongrel Mob” แก๊งอันธพาล ที่ใหญ่และอันตรายสุด ในประเทศนิวซีแลนด์…
ช่างภาพ Jono Rotman ได้ไปพบกับ “Mongrel Mob” แก็งอันธพาลที่อันตรายที่สุดในประเทศนิวซีแลนด์มีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ ธุรกิจเถื่อนไม่ว่าจะเป็นค้ายา ค้าอาวุธ ก่ออาชญากรรม ฟอกเงิน (พี่แกทำหมดเลยนะเนี่ย!!!) โดยสมาชิกในแก๊งจะมีเสื้อหนังพร้อมตราประจำแก๊งแถมรอยสักที่ลำตัวและใบหน้า เพื่อให้ดูเหมือนกับชนเผ่าเมารี ซึ่งเป็นชนเผ่าดั้งเดิมของนิวซีแลนด์ แม้ว่าบางส่วนจะไม่ใช่คนเมารีก็ตาม… ก่อนจะเข้าร่วมแก๊งได้ ก็จะต้องทำภารกิจต่างๆ เพื่อเป็นการพิสูจน์ก่อน พวกเขาอ้างว่ารวมตัวกัน เพียงเพื่อปกป้องคนพื้นเมืองบางส่วนที่ไม่มีที่ยืนในสังคม… จึงทำให้มีเรื่องทั้งทางกฎหมายและแก๊งฝ่ายตรงข้าม หรือกับคนทั่วไป ดูเหมือนว่า พวกเขาเองก็ไม่ได้คิดว่าเป็นคนที่เลวทรามมากนัก แต่อย่างไรก็ตาม การทำผิดกฎหมายก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนักเลย ลองติดตามผลงานที่ช่างภาพคนนี้ได้ไปถ่ายพวกเขามาโดยตรง… . . ส่วนตัว #เหมียวฟูๆ คิดว่า ขึ้นชื่อว่า “อันธพาล” และทำเรื่องผิดกฎหมายนับไม่ถ้วน ถึงแม้จะมีข้ออ้างอันใด ก็ไม่สมควรเท่าไรนัก… สงสารคนที่มีรอยสักเหมือนกันโดนเหมาร่วมว่าเป็น “คนไม่ดี” แน่เลย ที่มา : wegointer.com , boredpanda.com
-
วิธีดับร้อนสไตล์รัสเซีย ขี้เกียจออกไปสระว่ายน้ำ เปลี่ยนห้องครัวเป็นสระน้ำซะเลย!!!
เพื่อนๆอยากจะมีสระว่ายน้ำที่บ้านบ้างมั้ยล่ะ!? วันนี้ #เหมียวขาสั้น นำไอเดียมานำเสนอ เผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจจะลองทำตามบ้าง ฮ่าๆ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมือง Tver ประเทศรัสเซีย โดยนาย Vladimir Vechnyy กับกลุ่มเพื่อนๆ ได้มีความคิดสุดประหลาด เพราะอยู่ดีๆ ก็อยากเปลี่ยนห้องครัว ให้กลายเป็นสระว่ายน้ำซะงั้น!!!! อันดับแรก พวกเขาปูพื้นและผนังด้วยแผ่นพลาสติกจำนวนมากที่นำมาต่อกันด้วยกาวเพื่อให้กันน้ำได้อย่างสมบูรณ์ เครื่องใช้และเครื่องครัวถูกป้องกันมิดชิดด้วยพลาสติก ระบบวงจรไฟฟ้าภายในครัวถูกปิดเพื่อความปลอดภัย จะต้องทำให้มั่นใจว่าห้องถูกป้องกันอย่างมิดชิด ไม่ให้มีการรั่วไหล จากนั้นพวกเขาเปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ จนกระทั้งน้ำลึกได้ที่ พวกเขาก็ทั้งกระโดด ทั้งแหวกว่าย กันอย่างเมามัน แหวกว่ายกันอย่างสนุกสนาน เสมือนกับอยู่ในสระว่ายน้ำของจริง จากนั้นพวกเขาก็เหยียดกายนอนลง เพลิดเพลินกับบุหรี่และเครื่องดื่มเย็นๆ ซึ่งตั้งเอาไว้บนโต๊ะกลางห้อง ใช้กระบะพลาสติกทำเป็นเรือ พาน้องเหมียวมาแจมด้วย แต่น้องกระโดดหนีจ้า นาย Vladimir เล่าว่าพวกเขาใช้เวลาไปกว่า 4 ชั่วโมงในการสร้างสระนี้ขึ้นมา และใช้เวลาอีก 3 ชั่วโมงในการเติมน้ำจนลึกพอ อีกทั้งยังยืนยันว่า แมวของเขาชอบเล่นน้ำ แต่ที่มันกระโดดหนีเพราะมันเขินกล้อง!! พอพวกเขาสนุกกันเต็มที่แล้ว พวกเขาก็เปิดช่องพื้นในห้องครัว ปล่อยให้น้ำระบายลงไปยังห้องใต้ดิน เท่านี้ก็กำจัดน้ำในห้องออกไปได้หมดจด…
-
สาวอังกฤษเมายาขั้นหนักถึงขั้นขาดสติ ช่วยตัวเองบนเก้าอี้กลางสวนสาธารณะ ไม่สนแม้คนมอง!!
บ่อยครั้งที่เราเห็นข่าวหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคดียาเสพติด ซึ่งนอกจากมันจะทำลายสุขภาพแล้ว มันยังทำให้ผู้เสพเกิดอาการคุ้มคลั่ง ไร้สติ บางรายถึงขั้นไปทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงขั้นเสียชีวิตก็มี และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์เตือนใจ สำหรับคนที่คิดอยากจะลองเสพยาเสพติด ซึ่งภาพ และคลิปวีดีโอที่คุณได้รับชมอยู่นี้ ถูกถ่ายขึ้นที่สวนสาธารณะในเมืองทรูโร มณฑลคอร์นวอล สหราชอาณาจักร โดยเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า Alice Coyle ในวัย 19 ปี หญิงสาวจากคลิปวีดีโอดังกล่าว กำลังนอนแผ่บนเก้าอี้ เพื่อทำการอะไรบางอย่าง ซึ่งจากภาพได้ปรากฏให้เห็นว่า หญิงสาวรายนี้ได้เริ่มปฏิบัติการช่วยเอง ท่ามกลางผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆ สวนสาธารณะ แบบไม่แคร์สายตาใครเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าคนธรรมดาๆ ที่มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน คงไม่มีใครกล้าทำสิ่งที่อุบาดตาแบบนี้ได้ แต่สำหรับ Alice เธอได้ทำการเสพยาสไปซ์เข้าไปเป็นจำนวน ดังนั้นจึงทำให้เธอเกิดอาการเมายาขั้นหนักจนกลายเป็นคนขาดสติ งานนี้คนที่เห็นเหตุการณ์ก็ได้แอบถ่ายภาพของเธอไว้ และนำไปโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ซึ่งคลิปวีดีโอดังกล่าวก็ถูกชาวเน็ตแชร์ออกไปกว่าหมื่นครั้งเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวหญิงสาวรายดังกล่าวเอาไว้ได้ เธอก็ได้รับโทษโดยการบำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 12 เดือน นอกจากนี้…
-
ดวงซวย ‘บ้านบึ้ม’ โดยไม่ได้ตั้งใจ คนงานบึ้มบ้านผิดหลังเพราะ Google Maps พามา!?
คำแช่ง คำด่าที่เคยฮิตมาตั้งแต่สมัยปีมะโว้ ใครไม่ … ขอให้บ้านบึ้ม อะไรแบบนี้ เคยคุ้นหูกันบ้างมั้ยเอ่ย? เราอาจจะพูดกันเพราะเป็นเรื่องที่ติดตลก แต่ถ้ามันเกิดขึ้นมาจริงๆ ล่ะ จะตลกกันออกมั้ยเนี่ย? คือเรื่องของความซวยมาเยือนจริงๆ มันรุนแรงมากๆ กับพลังการนำทางของ Google Maps หากใครเคยลองใช้แล้วจะรู้ว่าบางทีเราก็ไม่ควรไว้เนื้อเชื่อใจมันเสมอไป บางครั้งก็พาหลงไปไกลจะจุดที่เราตั้งใจจะไป ซึ่งมันก็เกิดขึ้นกับหนึ่งในพนักงานรับระเบิดสิ่งก่อสร้างของบริษัท Billy L. Nabors Demolition ทางบริษัทได้รับแจ้งให้ทำการระเบิดบ้านหลังหนึ่งในเมือง Rowlett รัฐ Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งบ้านหลังที่จะต้องทำการระเบิดทิ้งอยู่ห่างออกไปจากบ้านของ Lindsay Diaz พอสมควรและลักษณะของบ้านที่ได้รับแจ้งมานั้นก็คล้ายกัน เพราะสภาพบ้านพังยับเยินอันเนื่องมาจากพายุทอร์นาโดในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา และแล้วพนักงานระเบิดบ้านก็จัดการบึ้มบ้านของ Lindsay Diaz ทันที ผลปรากฏว่าผิดหลัง!! โดยที่ Lindsay Diaz ย้ายไปอาศัยบ้านเช่าหลบภัยพายุ และได้กลับมาเพื่อจะทำการซ่อมแซมบ้านของตัวเอง แต่กลับเหลือเป็นเพียงเศษซากบ้านไปแล้ว ทางด้านพนักงานบริษัทผู้บึ้มบ้านก็ได้ทำการส่งภาพการนำทางของ Google Maps มาให้…
-
คุณพ่อจัดงานแต่งกับลูกสาวตัวน้อย หลังทราบว่าเป็นโรคร้ายและมีชีวิตเหลืออยู่เพียงแค่ 2 วัน
ความรักอันบริสุทธิ์ที่แท้จริง เกิดจากรักของผู้เป็นพ่อ และแม่ เพราะไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร ผู้ที่เป็นพ่อและแม่ ก็ยังคงรัก และห่วงใยลูกทุกคนอยู่เสมอ และในวันนี้เราจะขอมาเผยเรื่องราวอันแสนเศร้าของ Poppy-Mai หนูน้อยวัยเพียง 1 ขวบ 4 เดือน ที่กำลังจะเติบโตเพื่อก้าวเข้าสู่ชีวิตอันสดใสในอนาคต แต่ทว่าสิ่งเหล่านั้นกลับไม่สามารถเกิดขึ้นได้เสียแล้ว เพราะหนูน้อยกลับมีเวลาเหลืออยู่อีกไม่กี่ลมหายใจเท่านั้น Andy Barnard วัย 31 ปี และ Sammi วัย 29 ปี ผู้เป็นพ่อแม่ของหนูน้อย Poppy-Mai ได้เผยว่า เมื่อพวกเขารู้ว่าจะได้ลูกสาวคนแรก เขาสัญญาไว้เสมอว่า สักวันหนึ่งเมื่อหนูน้อยเติบโต เขาจะต้องจัดงานแต่งงานที่ดีที่สุด และมีความสุขมากที่สุดให้กับลูกสาวให้ได้ แต่ก็ต้องมาฝันสลาย เพราะอยู่มาวันหนึ่งทั้งคู่ได้สังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติของลูกสาว เนื่องจากเธอไม่ยอมทานอาหาร และไม่ดื่มอะไรเลย ที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ ท้องของเธอป่องเป็นลูกอีกด้วย งานนี้จึงทำให้ทั้งคู่รีบพาลูกสาวไปพบแพทย์ทันที แม้ว่าพวกเขาจะพาลูกสาวไปพบแพทย์แล้ว แต่อาการก็ดูเหมือนจะแย่ลงกว่าเดิม ดังนั้น Andy จึงพาลูกสาวกลับไปตรวจอาการอย่างละเอียดกับคุณหมอที่สถาบันโรคเด็ก หลังจากที่ตรวจดูอาการอย่างละเอียด ก็ทำให้ผู้เป็นพ่อแม่ถึงกับช็อก เมื่อพบว่าลูกสาวมีเนื้องอกชนิดร้ายแรงที่สามารถลุกลามกลายเป็นมะเร็งที่ไตได้ แต่ที่แย่ไปกว่านั้นก็คือ…
-
บริษัทผลิตหุ่นยนต์สร้างหุ่น “โซเฟีย” สามารถโต้ตอบกับมนุษย์และแสดงสีหน้าได้ 62 รูปแบบ
อีกหน่อย#เหมียวฟิ้นว่าเราคงจะได้เห็นหุ่นยนต์ออกมาเดินตามท้องถนนปะปนกับคนทั่วไป หรืออาจจะได้เห็นเรื่องราวความรักระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์จริงๆ ก็ได้นะ เพราะล่าสุดมีบริษัทหัฒนาหุ่นยนต์ สามารถสร้างหุ่นยนต์ให้พูดจาและแสดงสีหน้าท่าทางได้เหมือนกับมนุษย์แล้ว เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CNBC ได้รายงานว่า บริษัท Hanson Robotics ผู้คิดค้นและพัฒนาหุ่นยนต์มาเป็นเวลานนา ได้ปล่อยคลิปวิดีโอหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง ที่อาจเป็นก้าวสำคัญของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ หุ่นยนต์ตัวนี้มีชื่อว่า “โซเฟีย” เป็นหุ่นยนต์ที่เลียนแบบหญิงสาว และมีการโต้ตอบกับมนุษย์ได้ (เกือบจะ) เป็นธรรมชาติทีเดียว ทั้งการขยับปากไปตามคำพูด การเคลื่อนไหวของคิ้วและดวงตา ให้ความรู้สึกเหมือนมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ด้านด็อกเตอร์ David Hanson หัวหน้าทีมวิศวะกรผู้พัฒนาหุ่นยนต์ตัวนี้บอกว่าได้แรงบันดาลใจในการสร้างหุ่นมาจากดาราสาว Audrey Hepburn ที่โด่งดังมากในช่วงยุค 50 และภรรยาของของผสมกัน ช่วงหนึ่งด็อกเตอร์ Hanson พูดกับหุ่นยนต์ว่า “กรุณาเป็นเพื่อนกับผมด้วยนะ” หุ่นยนต์โซเฟียจึงตอบกลับมาว่า “นั่นเป็นข้อเสนอที่เยินยอเกินไปแล้ว” ตามรายงานบอกว่าผิวหนังของโซเฟียทำมาจากซิลิโคน ทำให้ใบหน้าของเธอมีความอ่อนนุ่มและสามารถแสดงสีหน้าได้มากถึง 62 รูปแบบเลยทีเดียว นอกจากนี้จะมีกล้องซ่อนไว้ในดวงตาของเธอ เพื่อจับความเคลื่อนไหวต่างๆ…
-
Jeremy Meeks นักโทษหน้าหล่อระอุโซเชียล ตอนนี้พ้นโทษออกมาเป็นนายแบบเต็มตัวแล้ว!!
ย้อนกลับไปเมื่อปีค.ศ. 2014 เป็นช่วงที่เกิดกระแสตื่นตัวกับนักโทษผู้กระทำความผิดฐานครอบครองอาวุธผิดกฏหมาย ถูกศาลตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลา 2 ปี และทางกรมตำรวจแห่ง Stockton รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการโพสต์ภ่ายของผู้ต้องหาประกอบคดีผ่าน Facebook ทำเอาหลายคนอึ้งในความหล่อมาดเข้มของ Jeremy Meeks Jeremy Meeks นักโทษหน้าหล่อ ซึ่งหลังจากที่มีการเผยแพร่ภาพของเขาออกไปในโลกออนไลน์จนเป็นกระแสในแง่บวกทางด้านความหล่อ ทางต้นสังกัดเดินแบบ White Cross Management ได้พา Jeremy Meeks มาทำการเซ็นสัญญานาย หากพ้นโทษเมื่อไหร่ก็จะได้มาทำงานร่วมกันทันที Jim Jordan ผู้เป็นเจ้าของต้นสังกัดได้เปิดเผยเอาไว้ว่า ณ ตอนที่เขาพานักโทษผู้นี้มาเซ็นสัญญาด้วย ก็เป็นเพราะว่าอยากจะให้โอกาสกับเขาอีกซักครั้ง (แหม ก็หน้าตาดีซะขนาดนี้ ไม่คว้ามาร่วมงานก็คงไม่ได้แล้ว) ‘ในตอนแรกที่ผมเห็นรูปเขา ผมมีความรู้สึกว่าจะต้องเข้าไปช่วยเหลือแล้วล่ะ หลังจากที่ผมได้คุยกับภรรยาและพบปะกับครอบครัวของเขา Jeremy เป็นทั้งสามีและคุณพ่อ ทางเราก็เลยอยากจะจัดการดูแลอนาคตให้กับเขา และผมไม่คิดว่าจะได้รับผลกระทบจากกระแสของลูกค้าและแฟนๆ จากทั่วโลกมากนัก’ ถ้ายังจำกันได้ หลังจากที่ภาพถ่ายของ Jeremy เผยแพร่ออกไป…
-
หญิงอ้วนออกไปยืนกลางที่สาธารณะ ค้นพบท่าทีและความรู้สึกตลกขบขันของผู้คนที่มีต่อคนอ้วน!!
ในเรื่องของรูปร่างส่งผลต่อภาพลักษณ์ของตัวบุคคลได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ความนิยมชมชอบของผู้คนในแต่ละท้องถิ่น แต่ถ้าจะให้พูดถึงความนิยมรูปร่างในแบบสากลแล้วมักจะเป็นในส่วนของร่างกายที่มีความผอมแบบพอดี ไม่ปล่อยอ้วนท้วมจ้ำม่ำจนเกินไป แต่ก็ยังมีผู้คนที่ประสบกับความอ้วนอยู่มากมายเช่นกัน ทั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัว แต่ใครจะรู้ล่ะว่าผู้คนจะมีความรู้สึกนึกคิดอย่างไรต่อคนอ้วน Haley Morris-Cafiero วัย 40 ปี จึงอยากจะเห็นภาพเหล่านี้ ด้วยการพาตัวเองออกไปยืนกลางที่สาธารณะ โดยความคิดนี้ย้อนกลับเมื่อ 4 ปีก่อน หลังจากที่เธอได้ถ่ายรูปตัวเองกลางย่านไทมส์สแควร์ สังเกตพบว่ามีผู้ชายที่ยืนอยู่ด้านหลัง จ้องมองมาด้วยสายตาเยาะเย้ยเธอ จากนั้นด้วยความสงสัยใคร่รู้ว่าเนื้อแท้ของคนเราจะมีความรู้สึกต่อคนอ้วนอย่างไรบ้าง เธอก็เลยอยากจะลองเก็บภาพการแสดงออกของผู้คนในที่สาธารณะที่มีต่อคนอ้วนมาเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ จะเห็นได้ว่าการแสดงออกทั้งท่าทางและสีหน้าของแต่ละคน จะออกไปแนวเยาะเย้ยและตลกขบขัน สะท้อนให้เห็นว่าสังคมในปัจจุบันมีกระแสความคิดต่อความอ้วนเป็นอย่างไร หากจะมองแบบไม่คิดอะไร ทุกคนก็ว่าเธออาจจะดูตลกขบขันไปเสียหน่อย เพราะด้วยหุ่นอ้วนท้วมสมบูรณ์ แต่ท่าจะมองในแง่ซีเรียสก็คือ ผู้คนไม่ค่อยจะให้คุณค่ากับคนอ้วนซักเท่าไหร่ ที่มา : haleymorriscafiero, designyoutrust
-
ช่างภาพตามติดชีวิตชนเผ่าโบราณ Dukha แห่งมองโกเลีย กับความห่างไกลอันแสนสุข!!
ปัจจุบันมนุษย์มีความเจริญมากขึ้นกว่าแต่ก่อน จึงอาจจะทำให้เราเผลอคิดไปว่าทุกภาคส่วนบนโลกล้วนมีแต่ความเจริญ ทั้งด้านเทคโนโลยีและความเป็นอยู่ จากหมู่บ้านกลายมาเป็นเมือง มีไฟฟ้าใช้ เป็นต้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม บางส่วนของโลกยังคงมีอารยธรรมแบบโบราณหลงเหลืออยู่ ด้วยกระแสโลกาภิวัฒน์ที่ทำให้โลกนั้นไร้พรมแดน จึงเป็นเรื่องยากที่จะอนุรักษ์อารายธรรมท้องถิ่นโบราณเอาไว้ บางสิ่งจึงเริ่มหายไปตามกาลเวลา แต่สำหรับชนเผ่า Dukha แห่งมองโกเลีย กลับใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมมาอย่างยาวนาน จะเปลี่ยนถิ่นฐานไปเรื่อยๆ ซึ่งยังคงอยู่ในภูมิภาคเดียวกัน ช่างภาพนามว่า Hamid Sardar-Afkhami ได้ทำการไปเยี่ยมและศึกษาวิถีชีวิตของพวกเขาในแต่ละวัน แล้วก็พบว่านอกจากจะใช้ชีวิตอยู่แบบโบราณแล้ว ยังมีการฝึกฝนสัตว์ป่าเพื่อใช้งานอีกด้วย นอกจากจะมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ชนเผ่านี้ยังมีการฝึกฝนกวางเรนเดียร์เพื่อใช้เป็นยานพาหนะหลักด้วย เด็กๆ จะได้เรียนรู้วิธีการฝึกและเลี้ยงกวางเรนเดียร์ตั้งแต่อายุน้อยๆ กวางเรนเดียร์ที่ได้รับการฝึกแล้วจะเป็นสัตว์ที่เชื่องและอ่อนโยนมาก แม้กระทั่งเด็กตัวเล็กๆ ก็ยังสามารถเข้าใกล้ได้ สาวน้อยกำลังจะพาลูกกวางเรนเดียร์อาบน้ำอาบท่า ชนเผ่า Dukha หรือในอีกชื่อหนึ่งเรียกว่า Tsaatan แปลว่า ผู้เลี้ยงกวางเรนเดียร์ ปัจจุบันครอบครัวของชนเผ่า Dukha นั้นเหลือเพียงแค่ 44 ครอบครัวเท่านั้น หรือประมาณ 200…
-
พบศพชายนักล่องเรือชาวเยอรมันกลายสภาพเป็น ‘มัมมี่’ ชันสูตรศพพบว่าเสียชีวิตไม่เกินเจ็ดวัน!!
กลายเป็นเรื่องที่น่าตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่งกับการพบศพของนักล่องเรือ ผจญภัยไปตามมหาสุมทรต่างๆ ซึ่งจู่ๆ ชาวประมงสองรายจากชายฝั่งฟิลิปปินส์ บังเอิญไปเจอเรือที่อยู่ในสภาพล่องลอยอย่างไร้จุดหมาย แล้วก็พบกับสภาพของศพที่อยู่สภาพคล้ายกับมัมมี่!! สำหรับศพดังกล่าวก็คือนาย Manfred Fritz Bajorat ชาวเยอรมัน วัย 59 ปี โดยมีรายงานว่าเขาได้หายตัวไปตั้งแต่ปีค.ศ. 2009 และจากการสันนิษฐานในตอนแรก คาดว่าเขาน่าจะเสียชีวิตมาหลายปีแล้วอันเนื่องมาจากสภาพศพที่คล้ายกับมัมมี่ แต่ภายหลังการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ทางตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์กลับแจ้งว่าเขาเสียชีวิตอันเนื่องมาจากหัวใจวายเฉียบพลัน ในช่วงที่ก่อนจะพบศพเขาอยู่บนเรือ ‘จากการชันสูตรศพพบว่าสาเหตุการตายของเขานั้นเกิดจากโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และคาดว่าเขาน่าจะเสียชีวิตมาไม่มากหรือไม่น้อยกว่า 7 วัน’ โฆษกตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าว ตำรวจยังรายงานอีกด้วยว่า ชาวประมงผู้พบศพนั้นสังเกตเรือยอร์ชลำนี้ลอยอยู่ใกล้ๆ ชายฝั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยที่ไม่มีทีท่าว่าจะไปไหนหรือมีกิจกรรมใดๆ เลย จึงตัดสินใจเข้าไปสำรวจภายในก็พบกับสภาพศพของ Manfred Fritz Bajorat อยู่ในสภาพดังกล่าวคล้ายกับว่าจะทำการติดต่อขอความช่วยเหลือผ่านวิทยุสื่อสารเป็นครั้งสุดท้าย แต่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุของสภาพศพที่กลายมาเป็นมัมมี่ได้ในเวลาอันรวดเร็วเพียงแค่ 7 วันได้ ยังคงเป็นเรื่องปริศนาที่ต้องการข้อพิสูจน์กันต่อไป ที่มา : mirror, unilad
-
วิทยาลัยในรัฐเวอร์มอนต์สั่งแบนผลิตภัณฑ์ชูกำลังทุกชนิด เพราะเกรงว่าจะเพิ่มอัตราเสี่ยงเรื่องเพศสัมพันธ์!!
เค้าว่ากันว่าต่างประเทศจะใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งเครื่องดื่มชูกำลังหลากหลายยี่ห้ออันเป็นที่นิยมของเหล่าบรรดานักศึกษาระดับอุดมศึกษา (ในไทยก็เช่นเดียวกัน) ซึ่งจากที่ดื่มๆ กันก็เพื่อใช้เป็นสิ่งกระตุ้นในการทำการบ้าน อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ในยามดึกดื่นให้ตื่นตัวตลอดเวลา จะได้ไม่หลับ อีกทั้งยังเอาไปชงผสมเหล้าก็มี!! วิทยาลัย Middlebury รัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ว่าจะดื่มหรือนำไปใช้ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามแต่ ทางวิทยาลัย Middlebury จากรัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกาทำการสั่งห้าม (แบน) ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมเป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าก่อให้เกิดพฤติกรรมที่สร้างปัญหาอย่าง เพิ่มอัตราการมีเพศสัมพันธ์ (ดื่มแล้วคึก ปึ๋งปั๋ง?) และ เป็นเหตุในการส่งเสริมการดื่มแอลกอฮอล์ (ใช้ผสมชงเหล้า) สั่งห้ามเครื่องดื่มชูกำลังทุกชนิด ทั้งนี้เหตุที่ทำให้ต้องแบนเครื่องดื่มชูกำลัง อันเนื่องมาจากมีผลการศึกษาย้อนไปในปีค.ศ. 2014 ที่บอกว่า อัตราเสี่ยงเกิดเพศสัมพันธ์จะเกิดกับผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มชูกำลังเป็นประจำ และอีกกรณีหนึ่งก็คือการนำไปเป็นส่วนผสมของเหล้าก็จะทำให้เกิดอัตราเสี่ยงเพิ่มได้เช่นเดียวกัน เป็นสาเหตุทำให้เกิดอัตราเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์? ทั้งนี้การตัดสินใจแบนของวิทยาลัยก็คือการห้ามจำหน่ายภายในวิทยาลัย แต่ #เหมียวเลเซอร์ ว่ายังไงนักศึกษาก็คงจะหิ้วมาจากร้านข้างนอกอยู่ดี จะว่าไป เครื่องดื่มชูกำลังมีแรงกระตุ้นมากถึงขนาดนั้นเชียวรึ? ใครเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้วบ้างเอ่ย? ที่มา :…
-
พาไปดู พาไปชม ‘บ้านกลับหัวกลับหาง’ ในประเทศไต้หวัน เอาให้มึนและงงกันไปข้างนึงเลย!!
สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ไม่อยากจะเน้นให้แปลกและแหวกแนวมากเท่าไหร่ เพราะจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยและทำกิจรรม กิจการต่างๆ อ่ะนั่นคืออาคารที่ไว้ใช้งานจริง แต่จะว่าไปคนเราก็มักจะสรรหาอะไรที่มันแปลกใหม่อยู่เสมอ ด้วยการสร้างสิ่งที่เราอาศัยอยู่ทุกวัน ‘บ้าน’ ให้มันบิดเบี้ยวเข้าไปในโลกของอินเซ็ปชั่น!! สิ่งที่ #เหมียวเลเซอร์ จะพาไปชมนี้ก็คือ ‘บ้านกลับหัว’ จากเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน โดยจัดแสดงอยู่ในนิทรรศการมหัศจรรย์โลกกลับหัวกลับหาง (Upside Down Wonderland Exhibition) แหวกข้อจำกัดแรงโน้มถ่วงของโลก ผู้คนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าไปเยี่ยมชมกันอย่างล้นหลาม สำหรับบ้านกลับหัวและนิทรรศการกลับหัวทั้งหมดนี้ จัดขึ้นโดย National Taiwan Science Education Center ทางผู้จัดบอกว่าใช้งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้น 600,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 21.4 ล้านบาท) และใช้เวลาในการสร้างประมาณ 2 เดือน สำหรับเทศการดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2015 และจะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์…
-
แถลงการณ์จาก Sony ช่วยเรื่องสัญญาของ Kesha ไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่กับโปรดิวเซอร์โดยตรง!!
หลังจากที่มีการต่อสู้ทางกฏหมายกันมาแล้วระหว่างศิลปินสาว Kesha กับโปรดิวเซอร์ Dr. Luke (Lukas Gottwald) ในเรื่องของการถูกข่มขืนทั้งทางร่างกายและจิตใจ จนศาลได้ตัดสินให้ Kesha ต้องอยู่ต่อจนกว่าจะมีผลงานครบทั้ง 6 อัลบั้มตามสัญญา และทาง Dr. Luke เองก็ได้เองมาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาแล้ว หลังจากที่กลายเป็นกระแสทำให้แฟนเพลงและบรรดาเพื่อนศิลปินไม่พอใจ ได้มีการกดดันให้ทาง Sony ยกเลิกสัญญาดังกล่าวซะ มีทั้งกระแส #freekesha บรรดาแฟนๆ ร่วมกันระดมทุนเพื่อยุติสัญญาดังกล่าวให้กับ Kesha รวมไปถึง Taylor Swift ได้มอบเงินเป็นจำนวน 250,000 ดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนให้เธอออกมาจากค่ายให้จงได้ แต่ด้วยความหวังและความช่วยเหลือทั้งหมดที่จะช่วยให้ Kesha หลุดพ้นมาจากการจองจำจากสัญญาดังกล่าวนั้น กลับต้องสูญเปล่า เนื่องจากทางทนายความตัวแทนของ Sony ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ‘ทางค่ายไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ไม่สามารถยุติสัญญาดังกล่าว เนื่องจากเป็นสัญญาระหว่าง Dr. Luke กับ Kesha ไม่ได้ขึ้นโดยตรงกับทางค่าย Sony’ …
-
เคยไปยัง!? เยี่ยมชมสวรรค์ของทาสแมว เที่ยวฟินๆ ภายใน Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน
ข่าวคราวเกี่ยวกับเกาะแมวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นถูกนำเสนอไปเยอะแล้ว ที่ญี่ปุ่นก็มีหลายเกาะเลยที่มีประชากรแมวมากกว่ามนุษย์ อ่ะ!! แต่ถ้าประเทศญี่ปุ่นอยู่ไกลไป ลองเขยิบเข้ามาใกล้ๆ อีกซักนิด ย้ายถิ่นฐานไปดูที่ไต้หวันกันบ้าง Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน บางคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าที่ไต้หวันก็มีสวรรค์สำหรับทาสแมวโดยเฉพาะเหมือนกัน สถานที่แห่งนี้มีชื่อหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมือง Taipei ประมาณ 60 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือนสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 – 50 นาที ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน Houtong แต่ก่อนเคยเป็นไซค์สำหรับเหมืองถ่านหินมาก่อน จนกระทั่งเหมืองได้ปิดตัวลงไป มีประชากรมนุษย์อยู่อาศัยเป็นจำนวน 6,000 คน ซึ่งในอดีตมีประชากรแมวน้อยหน่อย แต่จู่ๆ ก็เกิดเพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างกระทันหัน จนประชากรแมวแทบจะยึดครองไปทั่วหมู่บ้านแล้ว ทั้งนี้จากหมู่บ้านที่เคยเงียบเหงา ก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยในปีค.ศ. 2009 กลุ่มอาสาสมัครผู้รักแมวได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของหมู่บ้าน Houtong จากหมู่บ้านข้างเหมืองถ่านหินให้กลายมาเป็นหมู่บ้านเต็มรูปแบบ โดยอาศัยประวัติศาสตร์ในอดีตของเหมืองผสมผสานกับสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ ได้อย่างลงตัว การเดินทางโดยรถไฟจาก Taipei สู่ Houtong …
-
คุณพ่อผู้กล้าหาญสละชีวิตตัวเอง เพื่อเข้าไปช่วยเหลือลูกน้อยวัย 3 ขวบให้รอดพ้นจากไฟไหม้บ้าน!!
อุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่และทุกเวลา ไม่เว้นแม้แต่ภายในบ้านอันแสนอบอุ่นและในเวลาที่เรากำลังนอนหลับกันอยู่ โดยที่เรื่องราวอันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของ Demetrius Johnson ชายหนุ่มวัย 24 ปี จากนิวยอร์ก เกิดเหตุไฟไหม้บ้านทั้งหลัง!! Demetrius Johnson คุณพ่อวัย 24 ปี Johnson ได้กลิ่นไหม้ภายในบ้านเช่าในช่วงเช้ามืดของวันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เขาจึงรีบทำการปลุกคู่หมั้น Tempest Thomas และลูก Treasure Brighorn วัย 8 ขวบ กับ Demaris Johnson วัย 15 เดือน พาออกไปจากบ้านที่กำลังโดนไฟไหม้โหมกระหน่ำอย่างรุนแรง เขาสามารถพาทั้งสามคนออกมาจากบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ายังมีลูกชายวัย 3 ขวบอีกหนึ่งคน Demetrius Johnson Junior ยังคงติดอยู่ภายในบ้าน ‘ผมจะไม่ยอมปล่อยให้ลูกชายตายอยู่ในนั้นเด็ดขาด’ นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ลุยไฟเข้าไปในบ้านอีกครั้ง ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว กลับเข้าไปตรวจสอบก็พบว่าลูกชายวัย 3…
-
ซึ้งใจที่สุด!! ผู้ดูแลแมวบนเกาะญี่ปุ่นทวิตขอสนับสนุนอาหารน้องแมว ได้น้ำใจกลับมาเกินคาด!!
เป็นที่รู้กันแล้วว่าตอนนี้ที่ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนรักและคนหลงแมวเหมียวเป็นอย่างมาก อย่างเกาะแมว Aoshima เกาะขนาดเล็กที่มีประชากรแมวมากกว่ามนุษย์เสียอีกแหนะ โดยเจ้าเหมียวเหล่านี้ก็จะเตร็ดเตร่ไปทั่ว และผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาช่วยกันดูแล แต่ด้วยความห่างไกลของเกาะ Aoshima กับท่าเรือ Nagahama ประมาณ 13.5 กิโลเมตร ประกอบกับบนเกาะไม่มีร้านค้ามากนัก ทำให้อาหารที่เลี้ยงแมวกำลังจะหมดลง ดังนั้นหนึ่งในผู้ดูแลชีวิตเหมียวเหล่านี้จึงได้ทำการโพสต์ผ่านทวิตเตอร์เพื่อขอความช่วยเหลือเป็นการด่วน กลุ่มผู้อนุรักษ์และดูแลชีวิตแมวบนเกาะ Aoshima ได้ทวิตข้อความว่า ‘ขอความช่วยเหลือสนับสนุนอาหารน้องแมวเป็นการด่วน เนื่องจากตอนนี้อาหารน้องแมวใกล้จะหมดแล้ว เนื่องจากไม่มีร้านค้าขายอาหารแมวบนเกาะเลย อีกทั้งสถาณการณ์เดินเรือเป็นไปอย่างยากลำบากในฤดูหนาว เพราะมีลมแรงมาก’ หลังจากที่มีการทวิตข้อความขอสนับสนุนอาหารแมวออกไปแล้ว ทางกลุ่มผู้ดูแลก็ได้รับอาหารแมวส่งตรงมาช่วยเหลือจากทุกสารทิศของญี่ปุ่นเป็นจำนวนกว่า 40 กล่องเลยทีเดียว!! โดยไปรับมาจากท่าเรือเพื่อนำกลับไปที่เกาะ Aoshima แต่ด้วยจำนวนกล่องอาหารแมวที่ได้รับมานั้นมีจำนวนเยอะมาก เยอะจนล้นห้องเก็บอาหารแมวที่จัดไว้ ผู้ดูแลจึงต้องนำออกมาเก็บไว้ข้างนอกแบบนี้ ถึงขั้นต้องขอร้องเลยว่าได้โปรดหยุดส่งอาหารแมวมาเถอะ เราไม่มีที่จะเก็บแล้วจ้า แต่ก็ยังไม่วาย น้ำใจที่หลั่งไหลมาจากทั่วสารทิศยังคงมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางผู้ดูแลเองก็บอกว่าตอนนี้มีเพียงพอแล้วล่ะ ไม่ต้องส่งมาอีกแล้ว และขอขอบคุณทุกๆ คนที่มอบความช่วยเหลือให้…
-
อุ๊ยตาย !! นักการเมืองผู้ต่อต้านความรุนแรงจากเกมถูกจับ ด้วยข้อหา ‘ค้าอาวุธ’ ในโลกแห่งความเป็นจริง!!
หลายๆคนคงรู้จักเกม GTA เป็นอย่างดี เนื่องจากเนื้อหาเกมที่มีความรุนแรง ทั้งค้ายา ค้าอาวุธเถื่อน ปล้น ฆ่า สารพัดสิ่งผิดกฎหมายรวบรวมอยู่ในนั้น จึงเป็นเหตุผลให้หลายๆ พื้นที่ในโลกนี้ชี้ว่านี่อาจเป็นสาเหตุที่จะก่อให้เกิดอาชญากรรมและทำการต่อต้านความรุนแรงจากเกมทุกรูปแบบ (แต่เอาจริงๆแล้วเหมียวว่ามันอยู่ที่ตัวคนมากกว่านะ) เกม Grand Theft Auto (GTA) ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ออกตัวประนามความรุนแรงจากเกมก็คือ Leland Yee ส.ว. จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเคยกล่าวว่าเกมที่มีเนื้อหารุนแรงอย่าง GTA และเกมอื่นๆ เป็นสิ่งที่ชี้นำก่อให้เกิดเหตุอาชญกรรม เนื่องจากช่วงนั้นเหตุยิงกราดที่โรงเรียน Sandy Hook ที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 ราย… Leland Yee และล่าสุดนี้นาย Leland Yee ถูกจับกุมในข้อหาเกี่ยวกับการค้าอาวุธปืนและการฉ้อโกงเกี่ยวกับการรณรงค์เลือกตั้ง โดยรายงานกล่าวว่าสาเหตุของการกระทำก็คือเพื่ออำนาจและเงิน ซึ่งก็ดันมาพลาดท่าตรงที่เขาได้ติดต่อสัญญาซื้ออาวุธปืนกับแก๊งชาวอิตาเลียน ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ แต่หารู้ไม่ว่าเป็นการล่อซื้อจาก FBI ส่งผลทำให้นาย Yee และพรรคพวกถูกศาลสั่งจำคุก 5 ปีเต็ม พร้อมกับค่าปรับอีกประมาณ 8.9 ล้านบาท!!…
-
หนุ่มใหญ่บังเอิญฆ่าคู่รักด้วย ‘แตงกวา’ ใช้เป็นเซ็กส์ทอยบำเรอรัก ลืมไว้คาปากจนสิ้นใจ!!
พูดถึงเรื่องบนเตียงมันก็เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์แหละ เล่นจ้ำจี้จึ๊กกะดึ๋ยเพื่อสร้างสีสันในชีวิตคู่กันซักหน่อย แต่บางคู่ก็อยากจะเล่นให้มันพิสดารมากขึ้นไปอีก ด้วยการนำของเล่นอะไรต่อมิอะไรเท่าที่จะสรรหามาได้ อย่างในกรณีอันน่าเศร้าของคู่รักหนุ่มใหญ่เซลล์แมน Oliver Dietmann วัย 46 ปี กับ Rica Varna วัย 46 ปี ที่ดันชอบนำผักมาเป็นอุปกรณ์เสริมใช้ในระหว่างบำเรอรักบนเตียง ซึ่งทั้งคู่ใช้มันบ่อยๆ ด้วยนะ และในคราวนี้ก็เป็น ‘แตงกวา’ Oliver Dietmann เซลล์แมนชาวเยอรมันวัย 46 ปี จากรายงานบอกว่าก่อนที่จะขึ้นไปทำกิจกรรมบนเตียงทั้งคู่จิบไวน์ด้วยกันประมาณ 4 ขวด แล้วก็พากันไปเล่นจ้ำจี้บบนเตียงก่อนที่ฝ่ายชายจะคว้าแตงกว่ามายัดปากคู่รัก แต่จู่ๆ เขาก็สังเกตเห็นว่ามีควันพวยพุ่งออกมาจากเตา เนื่องจากย่างเนื้อไว้เป็นอาหารสำหรับสุนัขทิ้งไว้ เขาก็เลยรีบไปที่ห้องครัว และให้อาหารน้องหมาด้วยเนื้อที่ย่างทิ้งไว้ จากนั้นก็ไปสูบบุหรี่ที่ระเบียงก่อนที่จะกลับมาที่ห้องนอน ปรากฏว่า Rica หมดสติไปแล้ว เพราะดันลืมที่จะเอาแตงกวาออกจากปากก่อน!! ทั้งนี้สาเหตุการตายก็คือแตงกว่าหลุดเข้าไปติดในลำคอทั้งแท่ง ทำให้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต และผลพิจารณาคดีนี้ศาลตัดสินให้เขาต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 5 ปีเต็ม ที่มา :…
-
คืนชีพ!! ห่างหายถึง 24 ปี ไอศกรีมรส ‘ซากุระ’ ถูกนำกลับมาขายที่ Baskin Robbins อีกครั้ง
พูดถึงเอกลักษณ์ของไอศกรีมก็คงจะเป็นรสชาติที่นอกเหนือจากรสนิยมทั่วๆ ไป อย่าง ช็อกโกแลตเอย วานิลลาเอย สตรอว์เบอร์รี่เอย ซึ่งหากจะให้ดูโดดเด่นกว่าคู่แข่งและเข้ากับความยูนีคของแต่ละประเทศ ก็ต้องงัดรสชาติแปลกๆ ออกมาสู้!! อย่างในประเทศญี่ปุ่นเองเนี่ย รสชาติที่นิยมมากๆ และขายดีตลอดทั้งปี ‘ชาเขียว’ ไม่น่ารอดพ้นสายตาไปได้ แต่กระนั้นไอศกรีมหลายเจ้าก็วางขายกันเกลื่อน จนเป็นเมนูประจำไปแล้ว ซึ่งในตอนนี้ไอศกรีมจากแบรนด์ Baskin Robbins ของญี่ปุ่น ได้ทำการชุบชีวิตรส ‘ซากุระ’ ให้กลับมาอีกครั้ง หลังจากที่ห่างหายไปอย่างยาวนานถึง 24 ปี โดยไอศกรีมรสซากุระนี้ให้คำจำกัดความว่า 桜餅 (sakuramochi – เค้กข้าวซากุระ) มีส่วนผสมของเกลือเล็กน้อยไม่ให้หวานจนเกินไป และจะเพิ่มความหอมละมุนเข้าไปอีกชั้น ด้วยใบของดอกซากุระจริงๆ ทั้งนี้ไอศกรีมรสชาติซากุระของ Baskin Robbins จะวางจำหน่ายในญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วง 1 มีนาคม ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม สนนอยู่ที่ราคา 360 เยน (114 บาท) ซึ่งถ้าหากใครได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ก็อย่าลืมแวะไปชิมแล้วกลับมาบอกเหมียวบ้างนะว่ามันอร่อยแค่ไหน ส่วนตัว…
-
พาไปเยี่ยมชม ‘บ้านพักพิงน้องหมาจรจัด’ แห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศอิหร่าน!!
ทุกวันนี้องค์กรเพื่อช่วยเหลือสัตว์นั้นมีมากมาย บ้านพักสำหรับสัตว์จรจัดก็มีมากเช่นเดียวกัน แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในหลากหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว อีกฟากหนึ่งของโลก บางประเทศก็มีบ้างแต่น้อยมาก บางประเทศก็ไม่มีเลย อย่างเช่นในประเทศอิหร่านแห่งนี้ มีปัญหาของสุนัขจรจัดเป็นจำนวนมาก และยังไม่มีหน่วยงานไหนที่จะเข้ามาดูแลจัดการเรื่องนี้เลย จนกระทั่งการก่อตั้งบ้านพักพิงของสุนัขจรจัดเป็นแห่งแรกของประเทศอิหร่าน ศูนย์ Vafa Animal Shelter ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2004 จากการตั้งคำถามของ Fatemeh Motamedi ผู้ก่อตั้งศูนย์แห่งนี้ ‘ทำไมอิหร่านถึงไม่มีบ้านพักพิงสัตว์เหมือนอย่างประเทศอื่นบ้างล่ะ?’ โดยศูนย์แห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมือง Hashtgerd อยู่ห่างจากเมืองหลวง Tehran ของประเทศอิหร่านไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 70 กิโลเมตร เป็นบ้านสำหรับเหล่าน้องหมาจรจัดเพื่อพักฟื้นและเยียวยาจิตใจ รอวันที่จะได้พบกับเจ้าของใหม่รับไปดูแลให้มีชีวิตที่ดีต่อไป สำหรับสุนัขจรจัดที่เข้ามายังศูนย์แห่งนี้จะได้รับการทำหมัน เพื่อควบคุมปัญหาการเพิ่มจำนวน ได้รับอาหารโภชนาการที่เหมาะสม และมีการพาพวกมันไปเดินเล่นอย่างที่พวกมันควรจะได้รับตามประสาสุนัข (ทำให้อารมณ์ดีมากขึ้น) ด้วยจำนวนสุนัขที่มีมากกว่า 700 ตัว เจ้าหน้าที่อาสาสมัครจะคอยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาช่วยกันดูแลเจ้าตูบทุกชีวิตให้มีความสุขมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้…
-
ประเด็นร้อน!! นักร้องสาว Ke$ha ถูกโปรดิวเซอร์ข่มขืน ศาลยกฟ้อง และบีบบังคับให้อยู่ในค่ายตามสัญญา
หากใครยังจำนักร้องสาวผมบลอนด์ที่โด่งดังจากเพลง Tik Tok เมื่อ 6 ปีที่แล้ว อ่าฮะ!! ทำนองเพลงเข้ามาในหัวกันเลยใช่มั้ยเอ่ย แล้วก็อีกเพลงที่ฮิตทั่วบ้านทั่วเมือง Timber ที่ร่วมขับร้องกับ Pitbull นั่นแหละ!! เธอก็คือ Ke$ha คนนี้นี่เอง นักร้องสาวชื่อดัง Ke$ha ห่างหายไปจากวงการเพลงนานพอสมควร ระยะเวลาก็นานหลายปี ซึ่งจากการที่เราไม่ได้ยินเสียง ไม่ได้เห็นการออกทัวร์อะไรเลย เนื่องจากว่ามีเรื่องราวที่เธอถูกโปรดิวเซอร์ Dr. Luke ภายในค่าย Sony ทำการข่มขืนและทำร้ายจิตใจเธอเป็นอย่างมากมานานแรมปีกันเลยทีเดียว Ke$ha (ซ้าย) Dr. Luke (ขวา) Ke$ha ทำการฟ้องร้องโปรดิวเซอร์คู่กรณี Dr. Luke จากการที่เธอถูกข่มขืนและข่มเหงจิตใจ อีกทั้งเน้นย้ำที่จะยกเลิกสัญญากับทางต้นสังกัด โดยในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เธอเดินทางเข้าไปร่วมฟังคำพิพากษาจากศาลนิวยอร์กด้วย แต่ศาลตัดสินยกฟ้อง เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ และโดนทางฝั่ง Dr. Luke ฟ้องกลับเหมือนกัน…
-
Nissan ออกแคมเปญรณรงค์เคาะกระโปรงรถก่อนสตาร์ท เช็คแมวน้อยนอนหลับหาที่อบอุ่น
ในช่วงอากาศหนาวนั้น ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่างก็ต้องหลบภัยหนาวหาที่อบอุ่นกัน ไม่ว่าจะหาเตาผิง ซุกใต้ผ้าห่มหนาๆ ใส่เสื้อกันหนาวหลายๆ ชั้น ส่วนของประเทศไทยเราก็หนาวแบบพอประมาณ (เว้นเสียแต่บริเวณบนยอดดอย อันนั้นหนาวมาก) และที่ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน หนาวไปถึงกระดูกกันเลยล่ะ และที่ญี่ปุ่นเองมีจำนวนประชากรแมวสูงมาก มากเสียจนเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนนและตามพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะหน้าหนาวแบบนี้ แมวจรที่ไม่มีใครดูแลก็ต้องเตร็ดเตร่ตามหาแหล่งสร้างความอบอุ่นให้กับตัวเอง ซึ่งหนึ่งในที่เหล่าแมวจะชอบเข้าไปซุกหลบนอนข้างในก็มักจะเป็นตามซอกหรือใต้กระโปรงรถยนต์ที่จอดอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในช่วงฤดูหนาวนี้ ทาง Nissan ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ออกแคมเปญรณรงค์เช็คกระโปรงรถก่อนสตาร์ท โดยให้ทำการเคาะกระโปรงรถซัก 2-3 ที พร้อมกับเช็คใต้กระโปรงรถด้วย เพื่อให้น้องแมวได้รู้ตัวและออกไปจากบริเวณนั้น จะได้ไม่เกิดอันตรายต่อน้องแมวและสิ่งที่ไม่คาดคิดจากความไม่ตั้งใจของเราเอง เคาะกระโปรงรถก่อนสตาร์ท #KnockKnockCats #猫バンバン ที่มา : Nissan Newsroom, rocketnews24
-
โกงดีนัก จับเข้าคุกให้เข็ด!! สองนักศึกษาโดนจับเข้าคุก 1 ปีเต็ม เนื่องจากสลับตัวไปสอบแทน
ตามปกติแล้วการจัดสอบเพื่อวัดผลทางการเรียน ก็มักจะมีนักเรียนนักศึกษางัดวิชากลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ในห้องสอบทั้งด้านมืดและด้านสว่าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นด้านมืดเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นทั้งทำโพยเล็กๆ ซ่อนไว้ในเครื่องเขียนหรือตามตัว และอื่นๆ สารพัดเท่าที่จะทำได้ การโกงสอบเกิดขึ้นทั่วโลก ที่สเปนก็เช่นกัน เหตุเกิดที่เมือง Almeria ทางตอนใต้ของสเปน เมื่อมีนักศึกษาคนหนึ่งถูกกรรมการคุมสอบจับได้ว่า ทำการเข้าสอบแทนนักศึกษาอีกคน โดยพบพิรุธจากบัตรประจำตัวที่นำมาเข้าสอบ มีการปลอมแปลง โดยทั่วไปแล้วโทษสูงสุดก็น่าจะเป็นการปรับติด F พักการเรียนและหนักสุดก็คือลบรายชื่อจากเป็นนักศึกษา (โทษทางวินัยการศึกษา) แต่เนื่องจากเป็นการปลอมแปลงเอกสาร เรื่องนี้ต้องถึงขึ้นศาลกันเลยล่ะ และอัยการก็ได้ตัดสินความผิดให้นักศึกษาทั้งสองราย จำคุก 1 ปี เพื่อทดแทนการจ่ายค่าปรับมูลค่า 6 ยูโร (240 บาท) ต่อวันจากทั้งหมด 1,699 ยูโร (67,000 บาท) อย่างไรก็ตาม José Carlos Segura ทนายของนักศึกษาผู้เป็นจำเลยบอกว่าโทษตัดสินแบบนี้ถือว่าเป็นความป่าเถื่อนและเกินกว่าเหตุ เนื่องจากว่าบัตรประจำตัวนักเรียนไม่อาจถือเป็นเอกสารทางราชการได้ น่าจะให้อำนาจตัดสินอยู่ภายในสถานศึกษาเสียมากกว่า (รับโทษทางวินัยการศึกษาแทน) เพราะจะทำให้เยาวชนทั้งสองหมดอนาคต กลายเป็นอาชญกรที่มีประวัติติดตัวไปตลอดชีวิต ซึ่งผลของคดีนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ที่มา…
-
ไม่ต้องเถียงกัน!! ‘จิมิที่สวยงามที่สุดในโลก’ ได้ผลผู้ชนะเลิศแล้ว ตัดสินโดยเหล่านักวิทย์
หากใครยังจำกันได้ เมื่อเนิ่นนานมาแล้วมีข่าวคราวเกี่ยวกับการประกวดเฟ้นหา ‘จิมิที่สวยงามที่สุดในโลก’ (คือมันไม่น่าจะมีการประกวดแบบนี้ขึ้นมาได้ แต่มันก็มีขึ้นจริงๆ) จัดการประกวดโดยบริษัทเซ็กส์ทอยที่ชื่อว่า Autoblow (ข่าวเก่า) มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะเนี่ย การประกวาดนี้จริงจังมาก มีเงินรางวัลให้กับผู้ชนะด้วย และเหล่ากรรมการทั้งหลายก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ทางด้านการเก็บและประมวลผลข้อมูล เพื่อทำการวิจัยว่าจิมิแบบไหนที่ได้รับความนิยมจากผู้คนมากที่สุด โดยเหล่ากรรมการจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาด 15 นิ้ว (ซูมให้เห็นหมดทุกรูขุมขน) ถึงกับสามารถนำไม้บรรทัดมาวัดขนาดได้บนหน้าจอกันเลยทีเดียว และจะให้คะแนนจากความซับซ้อนของส่วนซ่อนเร้นและพื้นผิว (แหม่ ถึงกับขนาดนั้นเลย) จนในที่สุดก็ได้ผลโหวตออกมาปรากฏว่า 51% ชอบแบบง่ายๆ ไม่ซับซ้อนหลายชั้นมาก (Class 1-2) ส่วนอีก 49% ชอบแบบหลายๆ ชั้น หนาๆ หน่อย ประเทศและจำนวนผู้ที่เข้าร่วมประกวด มาถึงกันขนาดนี้แล้วผู้ชนะการประกวดจิมิสวยก็คือ สาวชาวอังกฤษนามว่า Nell วัย 27 ปี คว้าเงินรางวัล 178,000 บาท ติดไม้ติดมือกลับบ้าน อีกทั้งจิมิของเธอก็ได้นำไปเป็นแบบของเล่นชิ้นใหม่ของบริษัทต่อไป…
-
หญิงใจเด็ด กำลังจะโดนพี่เขยข่มขืน คว้าเคียวตัดจู๋ขาดสะบั้น พร้อมนำชิ้นส่วนไปส่งตำรวจ!!
ปัญหาของการข่มขืนเกิดขึ้นทั่วโลก ไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งหากเหยื่อที่โดนข่มขืนไปแล้วก็มักจะไม่ยอมออกมาต่อสู้หรือเปิดโปงพฤติกรรมอันชั่วช้าเหล่านี้ให้กับผู้อื่นฟัง แต่ก่อนที่มันจะเกิดขึ้น ผู้หญิงสามารถป้องกันตัวเองได้ อย่างเช่นหญิงใจเด็ดวัย 32 ปี จากอินเดียผู้นี้ เว็บไซค์ Times of India มีรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ข่มขืนเกิดขึ้นที่ย่าน Sidhi ในรัฐมัธยประเทศของอินเดีย โดยที่หญิงวัย 32 ปีรายหนึ่ง เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับอวัยวะเพศชายที่ถูกตัดมาด้วย เนื่องจากเธอถูกพี่เขยพยายามทำการข่มขืน!! หลังจากที่ตำรวจทราบเรื่องก็เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อพยายามรักษาบาดแผลจากการโดนเคียวตัด แต่กลับพบว่าชายผู้ถูกกล่าวหาคนดังกล่าวผูกคอตายแขวนกับต้นไม้ที่อยู่บริเวณใกล้บ้านไปแล้ว หญิงวัย 32 ปี ผู้นี้อาศัยอยู่กับพี่เขย เนื่องจากสามีของเธอต้องออกไปทำงานไกลบ้านกว่า 1,126 กิโลเมตร ในรัฐมหาราษฏระ โดยเธอให้การว่าตอนที่กำลังจะถูกพี่เขยข่มขืน เธอแกล้งทำเป็นสมยอม หลังจากนั้นก็คว้าเคียวมาตัดอวัยวะเพศของพี่เขยจนขาด อย่างไรก็ตาม เธอถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าในเบื้องต้น ซึ่งตำรวจจะทำการสืบสวนรายละเอียดของคดีนี้ต่อไป อีกทั้งได้ทำการตรวจสอบสภาพจิตใจของเธอ ยังอยู่ในสภาพที่ปกติดี และไม่ได้รู้เสียใจกับการกระทำดังกล่าว (ที่ทำไปก็เป็นการป้องกันตัว) ที่มา : timesofindia, independent, unilad
-
ตื่นตัวทั่วโลก LIGO ยืนยันค้นพบ ‘คลื่นแรงโน้มถ่วง’ เป็นครั้งแรก ตามทฤษฏีของไอน์สไตน์
เมื่อคืนของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ตามช่วงเวลาท้องถิ่นของประเทศไทย อีกฟากหนึ่งของโลกกำลังจัดงานแถลงการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษย์ มันก็คือ ‘คลื่นแรงโน้มถ่วง’ ซึ่งเป็นการค้นพบครั้งแรกของโลก และได้ทำการถ่ายทอดสดให้ผู้ชมทั่วโลกได้รับชมไปพร้อมๆ กัน มาถึงแบบนี้ หลายๆ คนอาจจะงงว่ามันคืออะไร ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่า Gravitational Waves (คลื่นแรงโน้มถ่วง) เป็นทฤษฏีของไอน์สไตน์ที่ตั้งขึ้นมานานแล้ว แต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีจริงหรือไม่ จนระยะเวลาผ่านไปเกือบร่วมๆ 100 ปี วันนี้ก็มาถึงแล้ว ซึ่งทีมงาน LIGO (Laser Interferometer Gravitational-Wave Observatory) ออกมายืนยันว่าค้นพบคลื่นความโน้มถ่วงเป็นครั้งแรก จากวันที่ 14 กันยายน 2015 ตรวจพบแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากหลุมดำสองหลุม ขนาดมวล 29 และ 36 เท่าของดวงอาทิตย์รวมตัวกัน และปล่อยพลังงานออกมาเป็นคลื่นแรงโน้มถ่วง สามารถวัดคลื่นดังกล่าวได้ในเวลาเดียวกันทั้งสถานีที่ Hanford, Washington และ Livingston, Louisiana โดยลักษณะของคลื่นแรงโน้มถ่วงจะไม่เหมือนกับคลื่นธรรมชาติอื่นๆ เป็นรูปแบบการบิดงอของตัวอวกาศ ระยะทางสองทิศยืดและหดออกจากกัน…
-
สามีจ้างวานมือปืนปลิดชีวิตภรรยา แต่ภรรยากลับรอดตาย โผล่เซอร์ไพรส์ ณ งานศพตัวเอง!!
ฟังๆ ดูแล้วเรื่องราวแบบนี้ลักษณะมันคล้ายๆ กับภาพยนตร์อาชญากรรมดราม่า แย่งชิงผลประโยชน์อะไรทำนองนี้เลยแฮะ ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จริงบนโลกใบนี้ แต่ก็อย่างว่า ทุกสิ่งมันเกิดขึ้นได้จริงๆ #เหมียวเลเซอร์ ขอนำเสนอเรื่องราวสุดแปลกในระหว่างความสัมพันธ์ของคนสองคน ที่อยู่กินกันแบบสามีภรรยาที่ประเทศออสเตรเลีย แต่เกิดผิดใจกันถึงกับต้องแลกมาด้วยชีวิต Noela Rukundo ภรรยาที่ถูกมือปืนตามล่าจากการจ้างวานของสามี รายงานมาจากเว็บไซต์ The Mirror กล่าวว่า Balenga Kalala ผู้เป็นสามี ได้ทำการจ้างมือปืนเป็นมูลค่า 180,000 บาท เพื่อสังหาร Noela Rukundo ผู้เป็นภรรยา หลังจากสงสัยว่าภรรยาอาจจะมีการนอกใจตน มือปืนก็ได้ทำการตามตัวเธอจนเจอในที่สุด แต่ทว่ามือปืนไม่อยากลงมือฆ่าเธอแต่อย่างใด เพราะเขาเป็นคนรู้จักของพี่ชายเธอ ดังนั้นมือปืนจึงได้บอกแผนการทั้งหมดที่สามีได้วางเอาไว้ และกลับไปบอกฝ่ายสามีว่าลงมือสังหารสำเร็จเรียบร้อยหายห่วง Balenga Kalala ผู้เป็นสามี จากนั้นฝ่ายสามีก็ไปบอกครอบครัวของภรรยาว่า เธอเสียชีวิตจากอุบัติเหตุในแอฟริกาและจะจัดงานศพให้ ทุกสิ่งกลับทำให้ช็อคยิ่งกว่าเดิม หลังจากที่งานพิธีไว้อาลัยเสร็จสิ้นไปแล้ว จู่ๆ ภรรยาที่เขาคิดว่าตายไปแล้ว กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเขาซะงั้น!! จากบทสัมภาษณ์ส่วนหนึ่งของ The Washington Post เธอกล่าวว่า…
-
หนุ่มห่ามเมา ขอโชว์กลืนเบอร์เกอร์ทั้งชิ้น สุดท้ายอาหารติดหลอดลม สิ้นชีวิต!!
เรื่องของอาหารการกินไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะจ๊ะ ใครจะไปคิดใช่มั้ยล่ะว่าการกินอาหารจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตได้ อย่างพ่อลูกสามวัย Darren Bray วัย 29 ปีผู้นี้ ที่ได้ทำการซื้อชีสเบอร์เกอร์มากิน แต่กลับกลายเป็นอาหารมื้อสุดท้ายที่ทำปลิดชีวิตตัวเอง เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2015 ที่ผ่านมา Darren ได้ออกไปซื้อชีสเบอร์เกอร์มา หลังจากที่ดื่มเบียร์กระป๋องจนเมาได้ที่ และแวะเข้าไปที่บ้านเพื่อนของเขา และเขาก็พูดกับเพื่อนว่า ‘ดูนี่นะ’ ก่อนที่จะพับชีสเบอร์เกอร์ก้อนโตให้เหลือครึ่งหนึ่ง แล้วก็ทำการกลืนลงไป จากนั้นเพียงไม่นาน เขาก็รู้สึกหน้ามืดและสลบในที่สุด Sam Bisgrove เพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์กล่าวว่า ‘ผมเห็นเขาพยายามคายมันออกมา เสียงไอของเขามันดังน่ากลัวมาก ผมก็พยายามช่วยตบหลังเขาเพื่อให้อาการบรรเทาลง’ ภายหลังเจ้าหน้าที่พยาบาลได้เข้ามาทำการกระตุ้นหัวใจให้เขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งก็พบกับก้อนเบอร์เกอร์ขนาดใหญ่ขวางหลอดลมเขาเอาไว้ แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาได้ทัน #เหมียวเลเซอร์ แนะนำว่าไม่ควรนำเรื่องอาหารการกินมาเล่นกันนะ ปกติแล้วการทานอาหารของมนุษย์จะต้องทำการเคี้ยวแล้วค่อยกลืนลงไป ถ้าหากอาหารชิ้นใหญ่เกินกว่าขนาดหลอดลม มันจะทำให้เราขาดอากาศหายใจได้ ถึงขั้นเสียชีวิตกันเลยล่ะ ที่มา : dailymail, viralthread, headlines-news, theladbible
-
รู้หรือไม่!? Facebook Messenger มีเกม ‘หมากรุก’ ให้เราเล่นฆ่าเวลาได้แบบชิวๆ
คนเรามีสื่อสารกับผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกันก็ตาม โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ไม่รู้จะทำอะไร โทรศัพท์ที่มีอยู่ในมือก็จะเป็นทางออกแรกที่นึกถึง หยิบขึ้นมาคุยแชท วิดีโอคอล และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าประเด็นสนทนาหมดลงแล้ว ก็ยังไม่รู้จะทำอะไรอีก ครั้งนี้ขอเสนอความลับภายใน Facebook Messenger ที่จะช่วยฆ่าเวลาให้กับคุณและเพื่อนคู่แชทได้เป็นอย่างดี มันจะช่วยกระตุ้นพลังสมองให้คุณได้คิดอยู่ตลอด มันก็คือ ‘เกมหมากรุก’ นั่นเอง วิธีการเล่นเกมผ่าน Messenger ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เลือกเพื่อนมาซักคนหนึ่ง แล้วก็พิมพ์ @fbchess play ลงไป ฝ่ายที่ส่งข้อความจะเป็นผู้เริ่มเดินหมากก่อน และการที่จะเดินหมากในแต่ละครั้งก็จะต้องป้อนคำสั่งลงไปผ่านช่องแชท ซึ่งคำสั่งก็จะมี K ตัวคิง, Q ตัวควีน, B ตัวบิชอป, N ตัวอัศวิน, R ตัวเรือ, และ P ตัวเบี้ย คำสั่งเดินจะเป็น @fbchess เปิดเสมอ เช่น @fbchess Pg4 เคลื่อนตัวเบี้ย…
-
เผยภาพประวัติศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวญี่ปุ่นในอดีตผ่านโปสการ์ดที่มีอายุร่วมกว่า 100 ปี
หนึ่งในประเทศอันเป็นที่รักและชื่นชอบของนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในเอเชีย ดินแดนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ ความสวยงาม วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่คอยหล่อเลี้ยงให้นักท่องเที่ยวกลับมาเยี่ยมเยือนได้ตลอด นั่นก็คือ ประเทศญี่ปุ่น Nihonbashi Dori Tokyo (1992) สะพานข้ามแม่น้ำญี่ปุ่นที่ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบัน แต่ตอนนี้อยู่ใต้ทางด่วนแล้ว ญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย พร้อมกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามไม่ว่าจะเป็นทั้งในเมืองและธรรมชาตินอกเมือง ซึ่งในอดีตนั้นน้อยคนที่จะได้เห็นกับตา เนื่องจากการเดินทางที่ลำบาก รวมไปถึงหลักฐานภาพถ่ายที่มีไม่มาก แต่ก็ยังมีอยู่บ้าง ดอกซากุระบานสะพรั่งในสวน Mukojima, Tokyo (1907-1918) อย่างในคอลเลคชั่นโปสการ์ดช่วงปี 1900 เผยให้เห็นภาพของเมืองโตเกียวและโยโกฮามา ก่อนภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในปี 1923 ย่าน Yoshiwara, Tokyo ที่ยังคงเต็มไปด้วยหญิงขายบริการ สวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น Hanayashiki – ฮานายาชิกิ กรุงโตเกียว เริ่มก่อตั้งในปีค.ศ. 1853 ภาพนี้ถ่ายในช่วง 1907-1918 ปัจจุบันยังเปิดให้บริการอยู่ ย่านบันเทิงแหล่งใหญ่ของโตเกียว Asakusa – อะซากุซะ (1922) อัดแน่นไปด้วยโรงภาพยนตร์หลายโรง…
-
สภาพฐานลับของ NASA ถูกปล่อยทิ้งร้างเป็นทศวรรษ น้อยคนที่จะเห็นและไม่มีใครกลับไปอีก!!
NASA หนึ่งในองค์กรที่มีความก้าวหน้าในด้านของเทคโนโลยีอวกาศ ที่มักจะแสดงให้ชาวโลกได้ตื่นตาตื่นใจกันอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการส่งดาวเทียมไปโคจรรอบโลก และสำรวจดาวดวงอื่นๆ รวมไปถึงการส่งนักบินอวกาศไปสำรวจดาวเคราะห์อันห่างไกล ภาพที่เราได้เห็น ได้รับรู้ และได้สัมผัสนั้นคือความสำเร็จขององค์กร NASA ที่มีเยอะแยะมากมายหลายโครงการ แต่ก็ใช่ว่าทุกโครงการที่เกิดขึ้นจะสำเร็จเสมอไป ถ้าหากเกิดความล้มเหลว ทางองค์กรจึงจำเป็นที่จะต้องละทิ้งโครงการเหล่านั้นที่เคยคาดหวังว่ามันจะลุล่วงไป ซึ่งแต่ละอย่างนั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย อย่างเช่น Santa Susana Field Laboratory โครงการขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 7,208 ไร่ ห่างจากย่านดาวน์ทาวน์ของเมือง Los Angeles ไป 48 กิโลเมตร เป็นฐานลับที่เคยยิ่งใหญ่ที่ช่วงค.ศ. 1948 ภายหลังในปีค.ศ. 1959 มันได้กลายมาเป็นภัยพิบัตินิวเคลียร์ครั้งแรกและครั้งที่ร้ายแรงที่สุดของอเมริกา ความล้มเหลวเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ประสบกับปัญหาไฟกระชากอย่างรุนแรงในชั่วข้ามคืนละปล่อยก๊าซกัมมันตรังสีออกสู่ชั้นบรรยากาศ เจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะแก้ไขปัญหาอย่างสุดความสามารถตลอดสัปดาห์ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งแก้ไขก็ยิ่งทำให้มันแย่ลง เพราะเป็นการเพิ่มปริมาณสารกัมมันตรังสีให้มากขึ้นไปอีก . . ทางด้านเจ้าหน้าที่ Atomic Energy Commission เผยว่าองค์ประกอบของพลังงานล้มเหลวใน…
-
ทฤษฎีกฏ 5 วินาที หลังจากอาหารตกพื้น ยังกินได้หรือไม่? มาพิสูจน์เพื่้อคลายข้อสงสัยกันเถอะ!!
นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ค้างคาในใจหลายคนมากๆ อย่างในกรณีของอาหารที่ตกพื้นแล้วยังสามารถนำมารับประทานได้หรือไม่? บางคนก็บอกว่าไม่ได้ เพราะมันปนเปื้อนเชื้อโรค แบคทีเรียและพยาธิที่อยู่บนพื้นแล้ว บางคนก็บอกว่าได้ เพราะว่าพยาธิยังไม่ทันเห็น อะไรประมาณนี้ เอาล่ะ ทีนี้เราลองมาคิดกันดูว่าถ้าอาหารตกลงบนพื้น ในแง่ของเวลา 3 วินาที 5 วินาที หรือมากกว่านั้น ยังจะมีความสะอาดปลอดภัยอยู่หรือไม่ หรือว่าอาหารที่ตกพื้นแล้วยังไงก็รับประทานไม่ได้ เสี่ยงต่อสุขภาพทันที อยากรู้แล้วใช่มั้ยล่ะ? วิศวกรจาก NASA นามว่า Mike Meacham ออกไปทำการทดลองที่ว่านี้ โดยนำคุ๊กกี้ไปแจกให้กับผู้คนที่ผ่านไปมาบนถนน ซึ่งในขณะที่กำลังจะยื่นคุ๊กกี้ให้ ก็แกล้งทำตกพื้น โดยหลายคนปฏิเสธที่จะรับประทานคุ๊กกี้ชิ้นที่ตกพื้น เพราะมันสกปรกไปแล้ว แต่บางคนกลับยินดีที่จะกิน เพราะมันตกพื้นแห้งๆ แค่ไม่กี่วินาทีเอง โดยปกติแล้ว แบคทีเรียที่อยู่บนพื้นจะกระโจนเข้าหาอาหารทันทีที่มันสัมผัสกับพื้น ซึ่งถ้าหากว่าเป็นพื้นเปียกๆ จะมีอัตราเสี่ยงที่สูงกว่าพื้นแห้ง ‘อาหารที่ถูกทิ้งไว้ให้ตกพื้นและได้รับความชื้นมากกว่า 30 วินาทีจะมีแบคทีเรียสะสมเป็น 10 เท่าของอาหารที่ตกพื้นเพียงแค่ 3 วินาที…
-
พัฒนาไปอีกขั้น ‘โซล่าเซลล์โปร่งใส’ สามารถใช้แทนกระจกได้ พร้อมผลิตพลังงานไปในตัว!!
ทุกๆ วันนี้เราจะเห็นได้ว่ามีการนำแผงโซล่าเซลล์มาติดตั้งตามสถานที่ต่างๆ กันมากขึ้น อาศัยพลังงานจากแสงอาทิตย์นำมาใช้เป็นกระแสไฟฟ้าแทน ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี ช่วยลดมลพิษจากการผลิตไฟฟ้าแบบเก่า ซึ่งในประเทศไทยก็มีการนำมาใช้เช่นกัน แผงโซล่าเซลล์ที่ใช้ในปัจจุบัน สำหรับอัตราการเติบโตของแผงโซล่าเซลล์ในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่ในสัดส่วนที่พุ่งสูงถึง 70% ตลอดปีที่ผ่านมา โดยอ้างอิงมาจากการรายงานของนิตยสาร Fortune และจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีโซล่าเซลล์ก็ต้องพัฒนากันต่อไป จนในตอนนี้ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Michigan State University สามารถสร้างโซล่าเซลล์โปร่งใสขึ้นมาได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก!! ซึ่งแนวคิดแบนนี้มีมานานแล้ว เพียงแต่เกรงว่าหากทำแบบใส เกรงว่าแสงอาทิตย์จะผ่านทะลุไป ทำให้ไม่สามารถเก็บพลังงานเอาไว้ได้ แต่ด้วยเทคโนโลยี Transparent Luminescent Solar Concentrator (TLSC) นี้ จะทำการปล่อยเกลืออินทรีย์เพื่อดูดซับคลื่นของแสงเอาไว้ สามารถนำไปผลิตกระแสไฟฟ้าใช้งานได้เหมือนกับโซล่าเซลล์แบบปกติทุกประการ ซึ่งปริมาณแสงที่สามารถนำมาผลิตได้มีเพียงแค่ 5% เท่านั้น คิดๆ ดูแล้วถือว่าเป็นปริมาณที่น้อย แต่ถ้าหากนำมาใช้ในบ้านเรือนหรือตามตึกอาคารสูงต่างๆ แล้ว ก็น่าจะเพียงพอสำหรับการใช้งานจริง ช่วยผลิตพลังงานสะอาดได้เป็นจำนวนมหาศาลกันเลยล่ะ รายละเอียดเพิ่มเติม รับชมได้ภายในคลิปด้านล่าง ที่มา…
-
มีใจให้ซะที!! TransMedics การปลูกถ่ายหัวใจ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน สามารถทำได้จริงแล้ว
อวัยวะของมนุษย์นั้นก็เหมือนกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้านั่นแหละ มันมีการเสื่อมและสลายตามไปกาลเวลา แต่สิ่งที่ต่างไปก็คือมันไม่สามารถซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม แต่ทางออกก็มีอยู่เสมอ เลือกใช้การทดแทนด้วยอวัยวะเทียม แต่ปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น วงการแพทย์ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ว่าจะมีอวัยวะเทียมมาทดแทนแต่ก็ยังไม่สามารถทำงานได้ 100% เพราะฉะนั้นจึงต้องทำการแทนที่ด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งหนึ่งในอวัยวะภายในที่สำคัญที่สุดก็คือ ‘หัวใจ’ อุปกรณ์ชิ้นใหม่ TransMedics ที่ไว้ใช้ทำการชุบชีวิตหัวใจของผู้บริจาคที่เพิ่งเสียชีวิต หลังจากที่หัวใจหยุดทำงานเนื่องจากขาดออกซิเจน โดยจะทำการสูบฉีดเลือดเข้าไปใหม่ พร้อมกับให้อุณหภูมิที่พอเหมาะและออกซิเจนที่จำเป็นต่อการกระตุ้นหัวใจ โดยทางทีมแพทย์จะทำการผ่าตัดนำหัวใจออกมาจากร่างของผู้บริจาค จากนั้นจะนำมาบรรจุภายในกล่องแช่แข็งเพื่อทำการเคลื่อนย้ายนำไปชุบชีวิตใหม่ให้กับหัวใจที่หยุดทำงานไปแล้ว เมื่อหัวใจที่หยุดเต้น กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ทางทีมแพทย์ก็จะนำหัวใจเหล่านี้ไปปลูกถ่ายให้กับผู้อื่นต่อไป โดยปัจจุบันการปลูกถ่ายหัวใจสำเร็จไปแล้ว 15 รายด้วยกัน Heart in a Box This device can bring dead hearts back to life. Posted by Hashem Al-Ghaili on Saturday, January…
-
ยาธาตุกระต่ายบิน!! เจ้ากระต่ายน้อยโดนลมพัดสูงจนถึงขั้นไปติดอยู่บนหลังคา โชคดีที่รอดมาได้
ภัยธรรมชาติเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ เลยนะ อย่างในเมือง Omagh ทางตอนเหนือของประเทศ Ireland ประสบกับพายุ Gertrude อย่างรุนแรงในคืนก่อน ซึ่งหลังจากที่พายุซาลงไปแล้ว จู่ๆ ชาวบ้านก็ต้องตกใจกันอีกรอบเมื่อเจอกับเจ้ากระต่ายน้อย ไปติดอยู่บนหลังคาแบบงงๆ เจ้ากระต่ายตัวนี้มีชื่อว่า Bumper ใครๆ คิดไม่ออกว่าเจ้ากระต่ายน้อยติดดินตัวนี้มันจะปีนขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไงกัน จนในที่สุดก็ต้องเรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพาตัวมันลงมา กว่าจะช่วยมันลงมาได้ต้องใช้ ‘แครอทอร่อยๆ’ มาล่อมัน ถึงจะยอมมาด้วย โชคดีตรงที่ Bumper ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด สุขภาพดี และกลับไปสู่อ้อมกอดของเจ้าของเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงทางเจ้าหน้าที่ก็ยังนึกไม่ออกว่าเจ้ากระต่ายขึ้นไปอยู่บนหลังคาได้อย่างไร สงสัยคงจะโดนพายุพัดแรงจนบินขึ้นไปอยู่บนนั้นแน่ๆ ที่มา : theladbible
-
บริษัทญี่ปุ่นล้ำโลก ปลูกทั้งข้าวและผักอีกมากมายกว่า 200 ชนิด ภายในอาคารศูนย์ใหญ่!!
ในโลกยุคที่ความเจริญของตัวเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปจากแต่ก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมืองหลวงในหลายๆ ประเทศ บรรยากาศแบบบ้านเรือนและธรรมชาติจากชนบทนั้น ได้หายไปอย่างสมบูรณ์ แต่ไม่ใช่กับบริษัท Pasona Group แห่งนี้ เพราะว่าที่นี่ได้ทำการปลุกชีวิตสีเขียวขึ้นมาภายในตัวอาคารศูนย์ใหญ่ของบริษัทซะด้วย!! ซึ่งยังคงใช้เป็นตึกสำหรับการดำเนินกิจการควบคู่กับการปลูกข้าว ปลูกผัก ตั้งแต่แตงกวายันมะเขือเทศ โดยฟาร์มสีเขียวภายในอาคารนี้ ปลูกผักมากมายกว่า 200 ชนิดกันเลยทีเดียว วัตถุดิบสดและใหม่ที่ปลูกจะถูกนำมาใช้ประกอบเป็นอาหารให้กับพนักงานที่ทำงานภายในบริษัท รวมไปถึงการสร้างพื้นที่สีเขียวตกแต่งภายในยังช่วยกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจในเรื่องของการเกษตรมากขึ้น สืบเนื่องจากปัจจุบันผู้คนหันไปสนใจทำงานออฟฟิศซะส่วนใหญ่ อาชีพเกษตรกรภายในประเทศจึงมีจำนวนลดลงอย่างน่าใจหาย อีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้ธรรมชาติอยู่คู่กับมนุษย์ได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ทำงานออฟฟิศแบบนี้ก็ตาม ที่มา : rocketnews24
-
6 สถานที่ลึกลับบนโลกที่ไม่สามารถสอดส่องผ่าน Google Earth ได้ เราไม่ดีพอหรือเธอไม่ชัดเจน!?
เทคโนโลยีสมัยใหม่ก้าวหน้ามากขึ้น ตั้งแต่การทำแผนที่บนอินเทอร์เน็ต การฉายภาพพื้นผิวโลกที่ถูกถ่ายจากดาวเทียมบนอวกาศ ทำให้เราสามารถเดินทางไปดูสถานที่ต่างๆ บนโลกได้จากหน้าจอคอมพิวเตอร์เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส อยากจะไปดู 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ก็ค้นหาได้ทันที หรือจะเป็นต่างประเทศที่เราใฝ่ฝันว่าซักวันหนึ่งจะเดินทางไปชมที่นั่นด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตามเราสามารถสอดส่องได้ทุกที่ แต่มันก็ไม่ใช่เสมอไป เพราะบางสถานที่ก็ถูกปิดบังเอาไว้ เก็บงำความลับอะไรบางอย่างอยู่ เช่น 8 สถานที่ดังต่อไปนี้ที่ถูกเบลอภาพและซ่อนเอาไว้บน Google Earth Pacific Northwest, USA HAARP (High Frequency Active Auroral Research Program) ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้ๆ กับชายแดนของรัฐ Washington-Oregon เป็นสถาบันวิจัยเกี่ยวกับการควบคุมพลังงานบนชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ ซึ่งถูกสั่งปิดโดยกองทัพอากาศของสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา ว่ากันว่าที่นี่ทำการวิจัยเพื่อควบคุมสภาพอากาศและปรากฏการณ์ธรรมชาติ บางคนก็ว่าเป็นสถานีทดลองจานบิน UFO เมืองลึกลับในประเทศรัสเซีย หากลองเข้าไปดูลึกๆ ภายในความหนาวเหน็บของแถบไซบีเรียก็จะพบว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งถูกเบลอภาพเอาไว้ใน Google Earth และไม่มีใครรู้เลยว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ หลายๆ คนก็คิดว่าน่าจะเป็นเมืองที่ใช้เป็นสถานที่ตั้งของค่ายทหารเพื่อใช้ในการทดลองและวิจัยอาวุธ ซึ่งต้องใช้พื้นที่และความเป็นอิสระสูงพอตัว…
-
รวมคอลเลคชั่น ‘น้องถังขยะ’ จากประเทศญี่ปุ่น แสดงอารมณ์มุ้งมิ้งจนอยากจะวิ่งเข้าไปกอด!!
หากใครที่เคยไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น ก็จะรู้ว่าประเทศนี้เป็นประเทศที่เต็มไปด้วยตู้หยอดน้ำและเครื่องดื่มเต็มไปหมด มีทั่วทุกมุมถนน เยอะยิ่งกว่าร้านสะดวกซื้อซะอีกแหนะ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไปโดยปริยายกันเลยทีเดียว อ๊ะ!! สวัสดีเราคือถังขยะ และสิ่งหนึ่งที่จะมาคู่กันกับตู้หยอดน้ำเหล่านี้ ก็คือถังขยะไว้สำหรับกระป๋องและขวดน้ำที่ดื่มหมดแล้ว แยกประเภทไว้แบบชัดเจน เพื่อบ้านเมืองที่สะอาด ซึ่งหากสังเกตดีๆ จะเห็นว่ามันมีสองรูไว้หยอด ลักษณะคล้ายกับดวงตาสองดวงของมันเลย ช่วยทิ้งให้มันลงถังหน่อยเถอะ!! ซึ่งทาง Tokyo Watchers จากอินสตาแกรมก็ได้นำภาพของน้องๆ ถังขยะทั้งหลายมาเพิ่มเติมชีวิตชีวาเข้าไป เติมทั้งแขนและคิ้วสุดน่ารัก เพื่อแสดงอารมณ์ที่แตกต่างกันไป ทั้งมีความสุข เศร้า ตื่นเต้น และอื่นๆ อีกมากมาย รับรองได้ว่าสไตล์นี้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบตัวการ์ตูนสุดๆ มาในแนวสุภาพเรียบร้อย เศร้า เสียใจ ไม่มีใครสนใจเราเลย ตาเดียวก็เฟี้ยวได้ อุ๊ย!! โดนเสียบเข้าเบ้าตาหนึ่งข้าง ถังขยะเดียวดาย จับมาเป็นแพคคู่ซักหน่อย นี่ก็มาเป็นคู่รักกัน จับมือถือแขนน่ารักเชียว ทำไมต้องมาตั้งให้อยู่ใกล้กับสองตัวนี้ด้วย หรือจะเอา!!…
-
แอพฯ นาฬิกาปลุกมาใหม่ มีให้เลือก 3 วิธีที่จะปิด อย่างน้อยก็ต้องมีซักวิธีที่ทำให้คุณตื่น!!
ช่วงเวลาที่ไม่อยากให้มาถึงมาที่สุดในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์แห่งการทำงานหรือเรียนหนังสืออย่างวันจันทร์ หลายคนก็คงจะประสบปัญหากับการตื่นนอนที่ยากเย็นซะเหลือเกิน ยิ่งอากาศหนาวๆ นะ ไม่ต้องพูดถึง อยากจะนอนขดไปตลอดทั้งเช้าเลย ทว่านาฬิกาปลุกธรรมดา ก็แค่สั่นและส่งเสียงให้คุณรู้ตัว บางคนก็เลื่อนปลุกไป (โรคนอนต่ออีก 5 นาที) หรือไม่ก็ปิดปุ๊บ นอนต่อยาวเลย ทีนี้ปัญหามันก็เกิดสิ เพราะว่าตัวเราไม่ยอมลุก ไม่ยอมตื่นซักที เพราะฉะนั้นเหมียวขอแนะนำให้รู้จักกับ Mimicker Alarm แอพฯ นาฬิกาปลุกที่จะมากระตุ้นให้คุณลุกออกมาจากเตียง แอพพลิเคชั่นนาฬิกาปลุก Mimicker Alarm นี้ จะมาพร้อมกับวิธีการปิด 3 รูปแบบ 1. การเซลฟี่ – ถ่ายเซลฟี่พร้อมกับการแสดงอารมณ์บนใบหน้า 2. ถ่ายรูปวัตถุที่มีสีตรงตามกำหนด – แอพฯ จะให้เราไปถ่ายรูปวัตถุที่มีเฉดสีให้ตรงตามที่กำหนด 3. การอ่านออกเสียง – อ่านเรื่องสั้น ซึ่งถ้าหากว่าคุณเลือกที่จะเซลฟี่ ก็ไม่ใช่การเซลฟี่แบบหน้าง่วงๆ เพิ่งตื่นนอนนะ เพราะว่าแอพฯ จะบอกให้คุณเซลฟี่พร้อมกับการแสดงอารมณ์ออกมาบนใบหน้า เพื่อหวังว่าจะช่วยให้คุณได้ลืมตาตื่นนอนจากการหลับนั่นเอง …
-
เอาใจชาวขนมหวาน!! Kit Kat ออกรูปแบบใหม่ แท่งเหมือนเดิม แต่เพิ่มเติมคือท๊อปปิ้ง
ในบรรดาขนมหวานหลากรสชาติตอนนี้คงต้องยกให้ Kit Kat แล้วล่ะ เพราะรู้สึกว่าจะออกรสใหม่มาเยอะมาก (แต่ที่ไทยก็มีน้อยนิด) เอาใจผู้ที่ชื่นชอบช็อกโกแลตบาร์ยี่ห้อนี้กันสุดๆ แต่ถ้าจะให้ออกรสใหม่มาเรื่อยๆ ก็คงไม่ไหว ลองเพิ่มท๊อปปิ้งเข้าไปดีมั้ย? ล่าสุดนี้ทาง Kit Kat ก็ได้ทำการเปิดตัว Kit Kat Chocolatory ช็อปแห่งแรกอย่างเป็นทางการในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนอกเหนือจากการเปิดตัวร้านแล้ว ก็ยังมีผลิตภัณฑ์พิเศษตามมาด้วย มันก็คือคิทแคทเดิมๆ เพิ่มเติมท๊อปปิ้งแบบจัดเต็ม!! มันมีชื่อว่า Kit Kat Chocoaltory Moleson เพิ่มความหวานกรุบกรอบพิเศษเติมเต็มไปด้วยท๊อปปิ้งผลไม้และถั่วราดอยู่บนบาร์ ถือว่าเป็นคิทแคทอันแรกด้วยที่ทำแบบนี้ โดยผลไม้ที่ว่าก็คือ ผลแครนเบอร์รีส์ กับ ถั่วอัลมอนด์ ให้รสชาติเปรี้ยวกรุบกรอบตัดกับความหวานของช็อคโกแลต คิทแคทพร้อมท๊อปปิ้งนี้วางขายเฉพาะที่ช็อปในเมืองโตเกียวเท่านั้น สนนราคาอยู่ที่ 500 เยน (150 บาทเท่านั้นเอง) แหม่ออกมาในช่วงนี้ เหมาะสำหรับเทศกาลวันวาเลนไทน์มากๆ เลยแหละ แต่น่าเสียดายที่ต้องบินไปซื้อถึงญี่ปุ่น ที่มา : rocketnews24
-
ล้ำได้อีก!! ‘Ripples’ เครื่องพิมพ์ลวดลายลาเต้อาร์ทบนกาแฟ ทุกรูปแบบตามที่ใจคุณต้องการ
ทุกวันนี้อะไรๆ ก็ดูล้ำยุคไปหมด โลกอนาคตที่เราฝันกันนั้นก็น่าจะมาถึงแล้วล่ะ เพราะเทคโนโลยีพัฒนาได้รวดเร็วมาก จนแทยจะตามกันไม่ทัน ล่าสุดนี้ก็มีการออกมาโชว์ความสามารถของเครื่องพิมพ์ลาเต้อาร์ทที่ตอบสนองได้ทุกลาย ทุกแบบกันเลยล่ะ!! มันจะแตกต่างอะไรไปจากการทำลวดลายบนกาแฟร้อนทั่วไปล่ะ? สำหรับเจ้าเครื่อง Ripples นี้ ใช้งานง่ายมาก สามารถสั่งการได้ผ่านแอพฯ ได้ทันที กดปุ่มสร้างลวดลาย เลือกรูปที่ต้องการ และนำกาแฟขึ้นแท่นพิมพ์ เพียงเท่านี้ก็จะได้กาแฟพร้อมลวดลายตามสั่งแล้วจ้า อย่างไรก็ตามสำหรับเครื่อง Ripples นี้ เพิ่งจะทำการเปิดตัวไปในงาน Consumer Electronic Show เมือง Las Vegas ที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะพร้อมให้บริการภายในเร็วๆ นี้แหละจ้า แต่ต้องยอมรับเลยว่าเครื่องนี้มันเจ๋งจริง!! Coffee imprinting machineThis cool machine imprints any image onto your coffee with ridiculous detail. Posted by…
-
บรรยากาศของประเทศอัฟกานิสถานในอดีตช่วง 1960 ก่อนการเข้ามาของกลุ่มตาลีบัน
ถ้าจะให้จินตนาการภาพถึงประเทศอัฟกานิสถานล่ะก็ คงจะหนีไม่พ้นภาพของกลุ่มผู้ก่อการร้ายอิสลามอย่างแน่นอน ที่ผ่านมาอัฟกานิสถานถูกปกครองด้วยกลุ่มตาลีบัน ที่ตั้งตนเป็น ‘รัฐอิสลามแห่งอัฟกานิสถา’ ตังแต่ปีค.ศ. 1996 เป็นต้นมา ซึ่งถ้าหากย้อนกลับไปในช่วงที่ยังไม่มีกลุ่มตาลีบันเข้ามา ประเทศอัฟกานิสถานเป็นประเทศที่ดูสงบและมีความสุขมากๆ อีกประเทศหนึ่งเลยล่ะ เป็นภาพที่ถ่ายโดยอาจารย์มหาวิทยาลัยชาวอเมริกัน Dr. Bill Podlich ในช่วงปีค.ศ. 1960 ระบบการศึกษาในอดีต สนามเด็กเล่น การเดินทางด้วยขนส่งมวลชน บรรยากาศริมถนน การพบปะเพื่อนๆ ร่วมผ่อนคลาย บรรยากาศภายในตลาด ผัก ผลไม้สด จากภาพในอดีตนั้นสะท้อนให้เห็นถึงความสุขชาวอัฟกานิสถานในอดีต ซึ่งในปัจจุบันอัฟกานิสถานได้รับอิสระแล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือจากอเมริกา ทำการขับไล่กลุ่มตาลีบันและทำการจัดตั้งรัฐบาลปกครองตนเองเป็นที่เรียบร้อย ที่มา : fooyoh
-
ใครๆ ก็ใช้สมาร์ทโฟน แต่หากใช้งานนานเกินไป อาจส่งผลเสียถึงขั้นทำให้นิ้วผิดรูปผิดร่าง!?
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในยุคเทคโนโลยีไร้สายที่พัฒนารวดเร็วอย่างก้าวกระโดดนั้น ทำให้พฤติกรรมของมนุษย์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จะเห็นได้ว่าทุกวันนี้ใครๆ ก็มีสมาร์ทโฟนคู่ใจติดตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะออกไปเดินเล่น ไปทานข้าว ต้องมีสมาร์ทโฟนอยู่ด้วยเสมอ การใช้สมาร์ทโฟนเพื่อติดต่อสื่อสารนั้นเป็นสิ่งที่ดีและสะดวกมาก แต่ทว่าหากใช้งานนานเกินติดต่อกันเป็นเวลา 10 ชั่วโมงขึ้นไป ทั้งนี้ชาวต่างชาติก็เริ่มสังเกตความผิดปกติของนิ้วก้อยตัวเองจากลักษณะนิ้วที่เริ่มเปลี่ยนไป (ยังไม่มีการฟันธงนะ) ปัจจุบันนี้เริ่มมีผู้คนสังเกตความผิดปกติของนิ้วก้อยตัวเอง โดยมีลักษณะที่ผิดแปลกไปจากเดิม อาจเกิดจากการถือหรือกำสมาร์ทโฟนหลายชั่วโมงต่อวัน ตอนแรกๆ อาจจะดูไม่น่ากลัวซักเท่าไหร่ นิ้วก้อยน้อยๆ ของเรา ทำให้เราเริ่มรู้สึกเจ็บปวด หนักที่สุดก็คงจะเป็นแบบนี้แหละ เพราะฉะนั้นเพลาๆ การใช้สมาร์ทโฟนลงบ้าง ก็คงจะดีไม่น้อย พฤติกรรมการถือหรือกำสมาร์ทโฟนเอาไว้ยาวนานหลายชั่วโมง อาจจะเป็นส่วนหนึ่งของลักษณะนิ้วที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการยืนยันว่าเท็จจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ระวังกันไว้บ้างก็ดีนะจ๊ะ ที่มา : viralnova
-
คนงานตกถังสารละลายเดือดแต่รอดตายมาได้ บริษัทขอให้ทำการุณยฆาตเพราะไม่อยากจ่าย
หนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้ลูกน้องของบริษัทอยู่ทำงานไปนานๆ ก็คือการเอาใจใส่พนักงาน การดูแลยามที่พนักงานลำบาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของอุบัติเหตุระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เช่นในกรณีของคนงานภายในโรงงานจากยูนนานที่ประสบกับอุบัติเหตุตกลงไปในถังสารละลายเดือดจัดๆ ร่างกายถูกลวกแทบทั้งตัว แต่รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด Yuan Longhua วัย 38 ปี คนงานในโรงงานเครือ CQC Group เกิดพลัดตกลงไปในบ่อสารละลายเดือดจัดหลังจากที่ทำงานต่อเนื่องยาวนานกว่า 13 ชั่วโมง ในวันที่ 1 สิงหาคม 2558 โดยที่เขารอดชีวิตมาได้ แต่จะต้องทำการตัดขาขวาทิ้ง และเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยทางบริษัทเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่หลังจากเดือนตุลาคมเป็นต้นมาทางบริษัทเริ่มมีทีท่าที่เปลี่ยนไป จากที่เคยจ่ายค่ารักษาให้ ก็เริ่มจ่ายช้า ไม่ตรงเวลา จนถึงขั้นไม่ยอมจ่าย ทำให้อาการทรุดลงต่อเนื่อง อีกทั้งยังทำการโน้มน้าวทางครอบครัวให้ทำการหยุดรักษาและทำการุณยฆาต โดยจะชดเชยให้หลังจากที่เขาเสียชีวิตแทน ทางด้านน้องชายของนาย Yuan เปิดเผยว่าหลังจากที่พี่ชายของตนประสบอุบัติเหตุ ไม่เคยเห็นหน้าเจ้านายเลย ได้แต่ติดต่อผ่านตัวแทนบริษัท ซึ่งหลังจากที่บริษัทไม่ยอมจ่ายค่ารักษา ทางครอบครัวต้องจ่ายเองเพื่อยื้อชีวิตเขาเอาไว้ แม้แต่กระทั่งแพทย์ผู้ดูแลเองก็ยังบอกเลยว่าบริษัทนี้ กระทำในสิ่งที่แย่มากๆ ปัดปัญหาทิ้งแบบไม่ใยดีต่อชีวิตลูกน้องเลย ที่มา : shanghaiist
-
เรื่องราวของนักเรียนสาวกับสถานีรถไฟที่กำลังจะปิดตัวลง ถูกรบกวนโดยผู้คนเป็นจำนวนมาก!!
เรื่องราวอันน่าประทับและอบอุ่นเป็นที่สุดจากประเทศญี่ปุ่น ที่เหมียวเคยนำเสนอไปแล้วนั้น ตอนนี้ก็กลายมาเป็นกระแสที่ทุกคนต่างให้ความสนใจล้นหลามกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวญี่ปุ่นเอง ซึ่งหลายคนก็พยายามที่ค้นหาตัวตนของนักเรียนสาวผู้ใช้บริการสถานีรถไฟเพียงคนเดียว จนกลายเป็นการรบกวนชีวิตส่วนตัวของเธอในทันที!! ก่อนอื่นเลยต้องกล่าวถึงพฤติกรรมของคนที่ตื่นรถไฟกันซักหน่อย เรียกกันว่า โอตาคุรถไฟ ซึ่งมักจะทำการถ่ายภาพรถไฟญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ไม่สมควร รบกวนผู้อื่น และในส่วนของการพยายามถ่ายภาพนักเรียนสาวผู้โดยสารเพียงคนเดียวที่เดินทางด้วยรถไฟไปโรงเรียน ยิ่งกระตุ้นให้เหล่าโอตาคุรถไฟ อยากจะเก็บภาพของเธอที่อยู่บนรถไฟให้ได้ โดยไม่สนว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม มีรายงานเข้ามาว่าจากสถานีที่เงียบสงบ กลับเต็มไปด้วยเหล่าโอตาคุรถไฟ ที่มารอการปรากฏตัวของนักเรียนสาวรายนี้ ดักถ่ายภาพ ‘ผู้โดยสารเพียงคนเดียวของสถานี’ รวมไปถึงการแอบติดตามตัวและครอบครัวของเด็กเพื่อที่จะถ่ายภาพมาให้ได้ Mint Jam บล็อกเกอร์ผู้ที่อาศัยอยู่ในท้องที่เดียวกันกับนักเรียนสาวคนดังกล่าว ได้ประกาศผ่านทางโลกออนไลน์ให้หยุดการกระทำแบบนี้ได้แล้ว เพราะพวกโอตาคุรถไฟเหล่านี้จะบังคับให้เธอโพสท่าถ่ายรูป ทั้งในสถานีและชานชาลา มันเป็นการรบกวนเวลาของเด็ก ทั้งๆ ที่เธอจะต้องรีบขึ้นรถไฟเพื่อไปเรียนให้ทันเวลา เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว เหมือนจะเป็นการขอร้องอะไรที่ง่ายๆ แต่กลับเป็นการทำลายความเป็นส่วนตัวของเด็กหญิงคนหนึ่งไปเลย เธอไม่ได้เป็นนางแบบที่ถูกจ้างมาถ่ายภาพ เธอเป็นเพียงแค่นักเรียนหญิงคนหนึ่งที่พยายามไปโรงเรียนให้ทันเวลา คล้ายๆ กับสื่อที่พยายามเก็บภาพที่ดีที่สุดโดยไม่คิดถึงความเหมาะสมเลยแม้แต่นิดเดียว ที่มา : rocketnews24
-
ทำบุญกัน!! หมอหล่อขอเชิญชวนสาวๆ ไปร่วมออกเดทด้วย ระดมทุนเพื่อการกุศลบุญหนักมาก
ข่าวดีสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบชายหนุ่มแนวคุณหมอ หรือเป็นสาวที่ชอบทำบุญกุศล เหมียวนี่อยากจะแนะนำให้รู้จักกันซะเหลือเกินกับคุณหมอสุดหล่อล่ำรายนี้ เขามีชื่อว่า Dr. Mikhail Varshavski หรือเรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่าคุณหมอ Mike คุณหมอ Mike สุดหล่อล่ำบึ้ก ดูจากภายนอกแล้วต้องตกเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของสาวๆ แน่นอน ซึ่งนอกจากจะเป็นคนหล่อแล้ว ก็ได้รับฉายาคุณหมอที่เซ็กซี่ที่สุดจากนิตยสาร People ด้วย การันตีคุณภาพจริงๆ สำหรับคนนี้!! ปัจจุบันคุณหมอก็ได้ทำการประกาศออกผ่านสื่อว่าต้องการที่จะหาคู่เดทด้วย โดยจะเฟ้นหาหญิงสาวผู้โชคดีเพียงคนเดียวเท่านั้น เพื่อไปเที่ยวทั่วเมือง New York กับเขา พักในโรงแรม 4 ดาว และร่วมรับประทานอาหารในภัคตาคารชื่อดัง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญพิเศษ เปิดประมูลการออกเดทเพื่อการกุศล สร้างประโยชน์ให้กับสังคม เงินที่ได้จะเข้ามูลนิธิ The Limitless Tomorrow Foundation ช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมไปถึงช่วยเหลือด้านอื่นๆ อีกด้วย สำหรับสาวผู้โชคดีที่ได้รับคัดเลือกก็จะได้รับตั๋วเครื่องบินฟรีไปยังเมือง New York ร่วมออกเดทกับคุณหมอที่เซ็กซี่ที่สุด…
-
ชายถูกจับเนื่องในข้อหาใช้ภรรยาเป็น ‘ไม้ถูพื้น’ เหตุจากทะเลาะกันเรื่องทำแซนด์วิชเลอะ!?
คนเรานี่มันหัวเสียกันได้แทบทุกเรื่องกันเลยทีเดียวนะเนี่ย เรื่องไม่เป็นเรื่องจริงๆ อย่างในกรณีของคู่สามีภรรยาจากรัฐฟอลริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เกิดเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันจนถึงขั้นฝ่ายภรรยาอยากจะขอหย่า เนื่องจากฝ่ายสามีทำเกินกว่าเหตุ!! เหตุจากแซนด์วิชโดนนมหกเลอะเทอะ!! เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากฝ่ายสามีใช้ภรรยาเป็นไม้ถูพื้นเพื่อใช้เช็ดนมที่หกจากแก้วจนเลอะเทอะไปทั่วบริเวณ ในระหว่างที่เขากำลังเตรียมทำแซนด์วิชเนยถั่วเยลลี่ ยัง ยังไม่จบ… ซึ่งนอกจากนี้ฝ่ายสามีก็โทรไปยังหมายเลข 911 และร้องเรียนว่า ‘เธอโยนเนยถั่วกับเยลลี่ของผมลงพื้น’ (เมียน่าจะเป็นฝ่ายโทรมากกว่านะ!?) ใช้ภรรยาเป็นไม้ถูพื้นเพื่อทำความสะอาด!! อีกทั้งเจ้าหน้าที่ก็ได้ยินเสียงของฝ่ายภรรยาว่า ‘ที่ทำก็เพราะเอ็งฉีกเสื้อซะจนขาด แถมยังผลักให้ล้มลงพื้นอีก นั่นทำให้ฉันโมโหจนต้องตะคอกใส่นี่แหละ’ ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รีบไปยังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งรายงานมาว่า ชายคนดังกล่าวใช้ศีรษะและผมของภรรยาเพื่อทำความสะอาดพื้น เจ้าหน้าตำรวจจึงทำการจับกุม Keith Davidson วัย 46 ปี ทันที ด้วยปืนช็อตไฟฟ้า ฝ่ายภรรยาเปิดเผยว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนกระทำแบบนี้ ‘เขาเคยใช้หัวของฉันล้างจานด้วย นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ไม่ใช่ครั้งที่สองและสาม ฉันทนไม่ไหว เขากลายเป็นสัตวประหลาดไปแล้ว’ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการจับกุมสามีผู้โหดเหี้ยมได้ จะต้องทำการส่งให้ศาลตัดสินความผิด ซึ่งจะพิจารณาความผิดในวันที่ 27 มกราคมที่จะถึงนี้ ที่มา : unilad
-
เกาหลีเหนือคุยโว!! สามารถสร้าง ‘เครื่องดื่มแอลกอฮอล์’ ที่ไม่ส่งผลทำให้มีอาการ ‘เมาค้าง’ ได้
นับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาอันใหญ่หลวงของคนที่ชอบดื่มด่ำไปกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สุดๆ เพราะความสุขตอนดื่มกลับกลายมาเป็นความทุกข์ตอนตื่น หฃังจากที่ดื่มด่ำไปกับความบันเทิงเพียงชั่วข้ามคืน พอกลับมานอนหลับแล้วตื่นเช้ามาก็พบกับความจริงอันแสนทรมานร่างกาย เพราะว่ามีอาการเมาค้างต่อเนื่องจนแทบจะทำอะไรไม่ได้เลย พาลทำให้ต้องถอนกันเรื่อยๆ ฮร่าาาา แต่แล้วปัญหาของอาการ ‘เมาค้าง’ จะหมดไป เมื่อมีนักวิทยาศาสตร์ของเกาหลีเหนือได้ออกมาประกาศว่าตอนนี้สามารถผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่จะไม่ส่งผลก่อให้เกิดอาการเมาค้างได้สำเร็จแล้ว โอ้วววว!! เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่ส่งผลให้มีอาการเมาค้าง โดยมีรายงานผ่านทาง เปียงยางไทมส์ กล่าวคือเครื่องดื่มชนิดนี้จะผ่านกระบวนการผลิตแบบพิเศษแบบสุดๆ โดยที่ไม่เคยมีที่ไหนทำมาก่อน ซึ่งจะควบคุมการผลิตโดยโรงงาน Taedonggang Foodstuff ที่ได้ทำการวิจัยและปรับปรุงสูตรเครื่องดื่มดังกล่าวมานานหลายปี จนมาพบกับสูตรลับโดยใช้วิธี ‘ต้มข้าวเหนียว’ แทนน้ำตาล จนกลายร่างมาเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูตรไม่มีอาการเมาค้าง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เราๆ ก็คงไม่มีโอกาสได้ชิมกันหรอก หรือไม่แน่อาจจะลองบินไปเกาหลีเหนือเพื่อพิสูจน์ก็ได้นะ อิอิ ที่มา : unilad
-
บุกตะลุยล้วงลึกเบื้องการเตรียมความพร้อมของกองถ่ายหนัง AV สด สะอาด และปลอดภัย!?
เหมียวเชื่อว่ามีหนุ่มๆ หลายคนไม่มากก็น้อยที่ต้องเคยผ่านประสบการณ์ความเป็นชายจากหนัง AV แดนปลาดิบ ซึ่งในอุตสาหกรรมหนัง AV ของญี่ปุ่นไม่ใช่เล่นๆ เลยนะ มีการปั้นดาราหน้าใหม่ขึ้นมาเสมอ แถมบางคนก็ได้เป็นดาวค้างฟ้ามีแฟนคลับติดตามมากมาย จะว่าไปแล้วสำหรับวงการนี้มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก กว่าจะได้ออกมาซักหนึ่งเรื่องจะต้องมีการเตรียมความพร้อมของกองถ่ายเยอะพอสมควร อีกทั้งยังต้องดูแลในเรื่องของสุขภาพอนามัยและความสะอาดของนักแสดงอีกด้วย สงสัยกันบ้างรึยัง ว่ามเบื้องหลังจะเป็นยังไง ตามมาดูกันได้เลย!! เบื้องลึกเบื้องหลังการเตรียมความพร้อมของกองถ่ายทำหนัง AV ญี่ปุ่น!! ในกองถ่ายจะมีทีมงานทั้งหมด 15-20 คน ประกอบไปด้วย ผู้อำนวยการผลิต 1 คน ผู้ช่วยผู้กำกับ 3 คน คนถือกล้อง 2 คน ช่างเทคนิคด้านไฟฟ้า 1 คน คนกำกับแสงไฟ 1 คน ช่างแต่งหน้า 1 คน พระเอก 1 คน ดารา AV 1 คน และตำแหน่งอื่นๆ ก่อนจะถ่ายทำต้องมีการเตรียมเตียงอนามัยอย่างดีซะก่อน หากต้องมีการล่อหลื่น…
-
ลองกันยัง!? เผยกลเม็ดในการวาดรูป ‘เท้า’ แบบง่ายๆ ด้วยการใช้หมายเลข 8, 6 และ 11
หากใครที่กำลังฝึกวาดภาพคนอยู่ ก็คงจะประสบปัญหาไม่น้อยกับการวาดรูปเท้า เป็นส่วนที่มองข้ามไปไม่ได้เลยแหละ เพราะว่ามันวาดยากพอๆ กันกับส่วนอื่นๆ เช่นกัน ซึ่งหลายคนก็มีวิธีฝึกวาดที่แตกต่างกันไป แต่วันนี้เหมียวจะนำเสนอวิธีที่จะทำให้การวาดเท้านั้นง่ายขึ้น โดยที่เทคนิกนี้เผยแพร่ผ่านทวิตเตอร์ @kaburimono_kabu นำเสนอวิธีการวาดเท้าแบบง่ายๆ ด้วยการนำตัวเลข 8, 6 และ 11 มาใช้เป็นแบบร่าง เรามาเริ่มต้นการวาดเท้าอันสวยงามแบบง่ายๆ กันเถอะ!! 1) เริ่มวาดเลข 8 ก่อน 2) จากนั้นตามด้วยเลข 6 จำนวน 5 ตัว เป็นนิ้วเท้า 3) วาดเลข 11 ที่ขอบๆ เลข 8 4) ขั้นตอนสุดท้าย ลบส่วนที่ไม่ต้องการออก เพียงเท่านี้ก็จะได้เท้างามๆ แล้วจ้า เทียบกับเท้าจริงๆ ก็พอได้อยู่นะเนี่ย มีตาตุ่มด้วยแหละ เอาเป็นว่าใครที่กำลังประสบปัญหาในการวาดเท้าอยู่ ลองนำเทคนิกนี้ไปฝึกกันได้ หวังว่าจะช่วยพัฒนาทักษะการวาดไม่มากก็น้อยนะจ๊ะ ที่มา :…
-
15 ภาพที่เผยให้เห็นอีกด้านหนึ่งของเมืองลอนดอน ณ ดินแดนผู้ดี ประเทศอังกฤษ!!
คำกล่าวที่ว่าเหรียญมีสองด้านนั้นใช้ได้เสมอ เพราะในโลกนี้ไม่มีอะไรที่ดูดีและดูแย่ไปเสียทั้งหมด เช่นเดียวกันกับเมืองหลวงของประเทศอังกฤษอย่างลอนดอนที่ใครๆ ต่างก็จินตนาการภาพในฝันเอาไว้ว่ามันต้องเป็นเมืองที่ดีงาม ผู้คนดูดีมีน้ำใจ สมกับเป็นผู้ดีแห่งอังกฤษ ซึ่งนั่นก็ไม่ได้เป็นเรื่องจริงไปเสียทั้งหมด ยังคงมีอีกด้านที่ไม่ค่อยได้เปิดเผยออกมา เมืองลอนดอนเองก็มีเรื่องแย่ๆ เยอะพอสมควรเหมือนกันนะเออ อย่างเช่นตัวอย่างจาก 15 ภาพดังต่อไปนี้ 1. มูลค่าของที่จอดรถมีค่าเท่ากับบ้านพร้อมสี่ห้องนอนในสก็อตแลนด์ 2. ป้ายห้ามสูบบุหรี่ แต่เละเทะไปด้วยรอยจี้ของบุหรี่ 3. ร้านสะดวกซื้อภายในร้านเดียวกัน ขายทั้งไก่ทอดและซิมโทรศัพท์ 4. มันฝรั่งทอดในผับ ราคาแพงมาก ราคา 1.6 ปอนด์ (ประมาณ 80 บาท) 5. โรลล์ไส้กรอกกับมูลค่า 5 ปอนด์ (ประมาณ 258 บาท) 6. โปสการ์ดแม่น้ำจริงๆ นะ 7. จักรยานที่ถูกล็อคไว้เนื่องจากจอดนานเกิน จนเจ้าของไม่มาเอาคืน 8. การหาเงินโดยสุจริตของคนไร้บ้าน 9.…
-
ชายหนุ่มอ้างตัวเป็นฝาแฝดของนักจัดรายการโทรทัศน์สาวชื่อดัง ยัดตัวเองเข้าไปในรูปให้ดูเลย!!
กลายเป็นการเรียกร้องความสนใจที่ดูฮาไม่น้อยเลยล่ะ เมื่อมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นฝาแฝดพี่ชายของนักจัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ประหนึ่งราวกับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน เพียงแต่ว่าพลัดพรากจากกันไปไกลแสนไกลก็เท่านั้นเอง ฮร่าาาา!! เขาคนนี้มีชื่อว่า Kirby Jenner ชายหนวดเฟิ้มที่กล่าวว่าเขาเป็นฝาแฝดพี่ชายของ Kendall Jenner นักจัดรายการโทรทัศน์ชื่อดัง ด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์สุดแสบด้วยการตัดต่อยัดตัวเองเข้าไปในภาพถ่ายของ Kendall และโพสต์ผ่านอินสตาแกรมของตัวเอง จนดังไปทั่ว!! ไม่ว่าจะโพสต์ท่าไหน ก็ทำตามได้ พ่อหนุ่ม Kirby ยังบอกอีกด้วยว่าตัวเองนั้นเป็นนายแบบมือสมัครเล่น เพิ่งเข้าวงการ ชอบทุกสิ่งทุกอย่าง แต่สุดท้ายก็บอกกับทาง Daily Mail ว่าเขาก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายอารมณ์ดีมีอารมณ์ขัน อยากจะทำในสิ่งที่อยากทำภายในชีวิตเดียวที่มีก็เท่านั้นเอง ฮร่าาาาา ปิดให้มันมิดชิดซักหน่อย เธออุ้มหมา ฉันร้องเกะ ถึงกับตกใจหนวดปลอม!! นายแบบ นางแบบ และแฝดชาย!? ฉันจะตามเธอไปทุกที่ นั่งดูสาวๆ เพลินเลยนะลุง จากการที่ทำเอาฮาจนกลายเป็นกระแสดังไปทั่ว ต้องยอมรับว่าฝีมือการตัดต่อของเขานั้นเนียนจริง และมีผู้ติดตามเขาเป็นแสนกว่าคนแล้ว แต่ยังคงห่างชั้นกับ Kendall…
-
อะไรยังไง!? ดิสนีย์แลนด์ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับสวนสนุก ‘ดีสนีย์ ลาว’
เป็นข่าวที่เรียกกระแสฮือฮาอย่างยิ่งสำหรับแฟนคลับดีสนีย์รุ่นเล็กรุ่นใหญ่เลยก็ว่าได้ สำหรับข่าวคราวการเตรียมสร้างสวนสนุก ‘ดีสนีย์ ลาว’ (ข่าวเก่า) ซึ่งในตอนนี้ทางการดีสนีย์สหรัฐฯ เองก็ได้ออกมาชี้แจงแถลงไขว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น ล่าสุดนี้ทาง Voice TV ได้ออกมารายงานข่าว ‘ดีสนีย์ ลาว’ ว่าการสร้างสวนสนุกดังกล่าวในบริเวณเขตเศรษฐกิจจำเพาะท่าแขก แขวงคำม่วน ชายแดนลาวติดกับจังหวัดนครพนมของไทย ที่ทำให้หลายคนคิดว่าเป็นสวนสนุกดีสนีย์แลนด์ที่ใกล้ประเทศไทยมากที่สุดนั้น ไม่เป็นความจริง โดยทางโฆษกดีสนีย์แลนด์จากประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยผ่านอีเมลว่าทางดีสนีย์นั้นมองหาโอกาสในการขยับขยายสาขาของดีสนีย์แลนด์อยู่เสมอ ซึ่งประเทศลาวก็เป็นพื้นที่เป้าหมายที่น่าสนใจ แต่ว่ายังไม่มีแผนที่จะขยายไปยังประเทศดังกล่าว สำหรับข่าวที่เคยนำเสนอผ่านหนังสือพิมพ์เวียนเทียนไทม์สนั้น ชื่อ ‘ดีสนีย์ ลาว’ เป็นเพียงแค่ชื่อเรียกอย่างไม่เป็นทางการเท่านั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับดีสนีย์แลนด์ของประเทศสหรัฐอเมริกาแต่อย่างใด อาจจะเป็นเพียงแค่สวนสนุกที่มีแผนการสร้างบรรยากาศคล้ายๆ กัน ที่มา : voicetv
-
ศิลปินเปลี่ยนตัวละครและคนดังมากมายให้กลายมาเป็นร่างเด็กน้อย บนปกหนังสือสำหรับเด็ก
เป็นประจำทุกปีเมื่อถึงวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคมในประเทศไทย นั่นก็คือวันเด็ก ซึ่งในปีนี้ก็ตรงกับวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2559 ผู้ปกครองต่างก็พาเด็กไปเยี่ยมชมสถานที่ต่างๆ หรือไม่ก็ในโลกออนไลน์ตอนนี้ก็จะทำการโพสต์รูปตอนเด็กๆ มาอวดโฉมกันเพื่อต้อนรับกับกระแสวันเด็ก สิ่งหนึ่งที่มาคู่กับเด็กๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นตัวการ์ตูนน่ารักๆ นี่แหละ เพราะฉะนั้นแล้ว เหมียวก็เลยอยากจะขอนำเสนอผลงานของศิลปิน Joey Spiotto มาให้ชมกันซักเล็กน้อยเพื่อตอบรับกับกระแสวันเด็ก ด้วยการเปลี่ยนตัวละครดังจากหลายๆ เรื่องมาเป็นร่างเด็กน้อยน่ารักบนปกหนังสือ จะมีใครบ้างตามมาดูกันเลยจ้า แอร๊ยยยยย!! แต่ละตัวน่ารักทั้งนั้นเลยอ๊ะ มีใครรู้จักครบทุกตัวบ้างเอ่ย? หน้าตาคุ้นๆ กันบ้างมั้ยจ๊ะ…
-
พ่อหนุ่มเปลี่ยนลายเซ็นให้เป็นรูป ‘กระปู๋’ ขำๆ แต่ทางการไม่ขำด้วย เพราะมันใช้งานไม่ได้!!
เคยมีใครคิดอยากจะเปลี่ยนลายเซ็นตัวเองให้เป็นเรื่องตลกขำขันบ้างรึเปล่า? ถ้าลองเฉยๆ ก็คงไม่มีใครว่าหรอก อย่าไปทะลึ่งตึงตัง ใช้เป็นลายเซ็นในเอกสารสำคัญของทางราชการเข้าล่ะ เดี๋ยวเรื่องมันจะบานปลายเหมือนอย่างพ่อหนุ่มชาวออสซี่คนนี้แหละ ด้วยความที่เป็นคนที่ติดตลก มองอะไรในแง่บวก สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นเพียงแค่เรื่องขำๆ ของพ่อหนุ่มชาวออสเตรเลีย Jared Hyams ที่เกิดอยากจะเปลี่ยนลายเซ็นตัวเองให้กลายเป็นรูปกระปู๋โดยทำการเซ็นลงไปในแบบฟอร์มขอเปลี่ยนที่อยู่ ‘เพราะผมคิดว่ามันน่าจะขำขันไม่น้อย พวกเขาก็น่าจะรับได้ และในปีหน้าผมอาจจะเซ็นอย่างอื่นแทน’ แต่เรื่องขำของเขานั้น ทางการไม่ได้ขำด้วย กลับกลายเป็นฝันร้ายของหน่วยงานกันเลยทีเดียว ‘หลังจากที่ผมเปลี่ยนลายเซ็นไป ผมก็ได้รับจดหมาย ได้รับโทรศัพท์ว่าลายเซ็นมันใช้ไม่ได้ มันทำให้ผมคิดว่า แล้วทำไมมันถึงใช้ไม่ได้ล่ะ?’ เพราะทางการอยากได้ลายเซ็นของจริง ตัวเขาเองก็มั่นใจว่ามันก็คือลายเซ็นของเขาแล้วทำไมถึงใช้ไม่ได้ แม้ว่าทางการจะไม่ขำด้วย แต่ก็ไม่สามารถหยุดความตั้งใจของเขาได้ เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนลายเซ็นให้เป็นรูปกระปู๋ทั้งหมดสำหรับเอกสารทางราชการ อย่างเช่น หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตต่างๆ บัตรประจำตัวอื่นๆ เป็นต้น แต่ก็โดนทางการปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า ‘เป็นการสร้างความสับสนและล่วงละเมิดทางเพศ’ เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ มุ่งมั่นที่จะใช้ลายเซ็นนี้ จนกระทั่งสามารถเปลี่ยนลายเซ็นในเอกสารราชการบางฉบับได้ รวมไปถึงเปิดบัญชีธนาคารด้วยลายเซ็นกระปู๋อันน่าภาคภูมิใจสำเร็จ แหม่!! คนมันจะเกรียน อะไรก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ…
-
สลดใจ!! หนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วม ISIS ลงมือประหารชีวิตแม่ตัวเองท่ามกลางฝูงชนในใจกลางเมือง
เป็นที่รู้กันดีว่าความโหดเหี้ยมอำมหิตของกลุ่มรัฐอิสลามนั้นเป็นเช่นไร ตั้งแต่การสังหารตัวประกันทั้งแบบทารุณ ทรมาน และแบบม้วนเดียวจบ ทำให้กระฉ่อนไปทั่วโลก ซึ่งในคราวนี้ก็เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นอีกครั้งหลังจากที่มีหนึ่งในกลุ่มผู้เข้าร่วมอุดมการณ์ของ ISIS ลงมือประหารชีวิตแม่แท้ๆ ของตัวเอง จากการรายงานของ The Independent และบัญชีทวิตเตอร์ الرقة تذبح بصمت (@Raqqa_SL) กล่าวเอาไว้ว่า Ali Saqr al-Qasem วัย 20 ปี ผู้เข้าร่วมกลุ่ม ISIS ได้ทำการยิงแม่ของเขา Lena วัย 45 ปี ด้วยปืนไรเฟิลจู่โจมท่ามกลางฝูงชนที่ภายในเมืองอัรร็อกเกาะฮ์ ประเทศซีเรีย Ali Saqr al-Qasem วัย 20 ปี หนึ่งในผู้เข้าร่วมกลุ่ม ISIS ต้นเหตุของความสลดใจเกิดขึ้นมาจากแม่ของเขานั้นได้พยายามให้ลูกชายออกมาจากกลุ่มรัฐอิสลามและอยากจะให้หนีออกไปด้วยกัน ซึ่งกลับไม่ได้เป็นไปแบบนั้น ทางกลุ่มรัฐอิสลามเห็นว่าใครก็ตามที่ขัดขวางหรือไม่สนับสนุนกลุ่มก็จะถูกฆ่าทิ้ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อกันว่า Ali Saqr al-Qasem ถูกสั่งการมาจากเบื้องบนของกลุ่มอีกที ตัดสินให้ลงมือประหารชีวิตแม่ของเขาด้วยตัวเขาเอง…
-
ความเงิบมาเยือนหลังสาวเจ้าป่าวประกาศว่าตั้งท้อง ดันมีคนมาแฉว่าเมียเอ็ง ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะจ๊ะ!?
เวลาแห่งความสุขของผู้ที่กำลังจะเป็นแม่คนก็คือช่วงเวลาที่รู้ว่าตัวเองตั้งท้องลูกน้อยสมาชิกใหม่ของครอบครัว เมื่อได้ทำการประกาศให้คนอื่นได้รับรู้รับทราบกันแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะมีคนเข้ามาแสดงความยินดีมากมาย อย่างเช่นสาวเจ้ารายนี้ที่ประกาศว่าตั้งท้องผ่านโซเชียล ฉันตั้งท้องแล้วนะทุกคน!! โอ้ววววว!! ขอแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะ ในขณะที่ทุกคนกำลังดีใจกับว่าที่คุณแม่มือใหม่ จู่ๆ ก็มีคอมเม้นมาจากชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง มาบอกเล่าประสบการณ์เสียวระหว่างเธอกับเขา ด้วยใจความประมาณว่า ‘หวังว่าจะหยุดส่งรูปหน้าอกมาให้เวลามีอารมณ์อยากนะ หวังว่าจะหยุดการบุกเข้ามาหาในออฟฟิศเพื่อขอแบบนั้น เธอทำลายชีวิตของฉัน ไม่ชอบเลยที่โทรมาที่บ้านหรือทิ้งข้อความไว้แล้วลูกสาวก็ได้ฟังข้อความเหล่า นั้น ชีวิตคู่และชีวิตการทำงานแทบพัง ขอสวดภาวนาให้สิ่งนี้หยุดพฤติกรรมโรคจิตของเธอเสียที และฉันหวังว่าผัวของเธอจะฉลาดพอที่จะคิดได้ว่า อาจจะไม่ใช่ลูกของเขาก็เป็นได้!!’ ‘เออ แล้วอีกอย่างนะ Mark ถ้านายอยากจะมาหารือ ฉันอยู่ถัดจากออฟฟิศเมียแกไปสองประตู มันดูเหมือนจะเป็นอะไรที่งี่เง่าซักหน่อยแต่เอ็งก็น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยการบอกว่าเอ็งแต่งงานกับสาวบ้าบอคอแตกมากมาย โชคดีนะเพื่อน’ เงิบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ที่มา : thechive
-
ผู้รายงานข่าวชาวอิสราเอล ทดสอบเสื้อกันมีดแทง แต่โชคร้ายมันกันไม่ได้ 100% เจ็บตัวเลย!!
ถือว่าเป็นความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งกับการทดสอบเสื้อกันวัตถุอันตรายที่มีออกมามากมาย เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพที่แท้จริงของมัน ก็ต้องมีการทดสอบเพื่อเรียกความมั่นใจให้กับผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อกันกระสุน เสื้อกันสะเก็ดระเบิด รวมไปถึงเสื้อกันมีดตัวนี้แหละ ผู้รายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์ชาวอิสราเอล Eitam Lachover เป็นผู้ที่ใส่เสื้อกันมีดแทงตัวนี้ โดยมีนาย Yaniv Montakyo รองประธานบริษัทผู้ผลิตเสื้อเกราะเป็นผู้แทงมีด เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความสตรองของเสื้อตัวนี้ มีดที่ใช้ทดสอบก็คือมีดคอมมานโดเหล็กหนาที่ถูกใช้โดยเหล่าทหารจากทั่วโลก ซึ่งก่อนที่จะถูกแทง Lachover ก็ถามแบบเกรงๆ ว่า ‘คุณจะแทงผมด้วยไอ้นี่จริงๆ เหรอ?’ คำตอบที่ได้รับก็คือ ‘อ่ะแน่นอน’ แถมยังบอกให้คลายกังวลว่า ‘คุณไม่ต้องห่วงหรอก เรามั่นใจในคุณภาพผลิตภัณฑ์ของเรา มันสามารถปกป้องคุณจากมีดที่แข็งแกร่งว่ามีดเล่มนี้ได้ชัวร์ๆ อย่าได้กลัวไป ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ผมยังอยู่กับคุณนะ’ โดนแทงทะลุในการทดสอบครั้งที่สอง!! หลังจากที่เริ่มแทงไปได้ซักพัก ดูเหมือนว่าเสื้อเกราะกันมีดจะทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม เพื่อให้แน่ใจก็แทงไปอีกรอบ ซึ่งในคราวนี้มันไม่เหมือนครั้งแรก เพราะโดนแทงทะลุเสื้อเกราะไปแล้ว มีปฏิกิริยาตอบสนองของ Lachover ให้เห็นเล็กน้อย แต่ยังคงรักษาสีหน้าเอาไว้ได้ ภายหลัง Montakyo ก็ได้ออกมาแสดงความเสียใจที่ไม่ทันได้สังเกตว่าเขาทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงกับการทดสอบในครั้งนี้ มันอันตรายมากๆ ถ้าหากว่ามีดเสียบทะลุเสื้อเกราะเข้าไปจนมิดด้าม…
-
โพสต์สุดท้ายของหนุ่มอดีตทหารถูกแชร์นับหมื่น หลังตกเป็นเหยื่อของพวกเมาแล้วขับ!!
ในช่วงเวลาก่อนที่จะเข้าสู่ปีใหม่นั้น ใครๆ ต่างก็มักจะบอกกับตัวเองว่าปีที่ผ่านมาเราเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เราทำอะไรบ้าง ทำมาดีหรือแย่แค่ไหน และสัญญาว่าในปีหน้าต่อไปจะทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม เฉกเช่นเดียวกันกับอดีตทหารผ่านศึกอิรัก Matthew DeRemer เมื่อช่วงวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2015 ที่ผ่านมา เขาก็ได้ทำการโพสต์รูปภาพพร้อมกับข้อความกินใจ โดยตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะเป็นคนที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป แต่เหตุการณ์กลับผลิกผันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา อดีตทหารวัย 31 ปีผู้นี้ ตกเป็นเหยื่อของพวกเมาแล้วขับ ในระหว่างที่เขากำลังขับรถจักรยานยนต์ในบริเวณใกล้ๆ บ้าน ทำให้เขาเสียชีวิตในวันนั้น ถึงแม้ว่าตัวเขาจะจากไปแล้ว แต่เรื่องราวของเขายังคงอยู่ในโซเชียลและดำเนินต่อไป ด้วยข้อคิดที่เขาทิ้งเอาไว้ให้ชาวเน็ตได้ระลึกถึงอย่างเช่นรูปภาพพร้อมกับข้อความที่ว่า ‘เราเกิดภายใน 1 วัน เราตายภายใน 1 วัน เราเปลี่ยนแปลงภายใน 1 วัน และเราก็ตกหลุมรักภายใน 1 วัน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ภายใน 1 วัน’ และเพื่อนๆ ของเขาก็ได้ทำการแชร์โพสต์สุดท้ายที่เป็นข้อความอันทรงพลัง เพื่อเป็นการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน…
-
คือจริงป่ะ!? รวม 15 ภาพที่พิสูจน์ให้เห็นว่า ‘เชื้อไม่ทิ้งแถว’ สืบเชื้อสายในตระกูล เหมือนกันเด๊ะ
เวลาไปหาคนรู้จักที่ไม่ได้เจอกันนาน หรือไม่ก็พอใครได้เห็นภาพของพ่อหรือแม่หรือญาติผู้ใหญ่ก็ตาม มักจะพูดออกมาว่า ‘หน้าเหมือนกันจัง’ อะไรทำนองนี้ ทั้งๆ ที่เราเองก็ไม่ได้สังเกตขนาดนั้นว่าเหมือนแค่ไหน จนมีคนมาทักถึงจะรู้ ฮร่าาา!! อย่างคำที่ว่า ‘เชื้อไม่ทิ้งแถว’ ถึงแม้ว่าจะเป็นคนเล็กสุดในตระกูล แต่มักจะมีหนึ่งสิ่งที่มีเหมือนใครซักคนหนึ่งที่มาทางพ่อหรือแม่นั่นแหละ ว่าแล้วก็มาพิสูจน์กันกับ 15 ภาพดังต่อไปนี้กันได้เลย!! มุมเอียงนิดนึง ใช่เลย เอ็งเหมือนพ่อ อย่างกับเข้าเครื่องถ่ายเอกสาร สมัยพ่อเด็กๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ ทำตามซะเลย เลียนแบบพ่อเปี๊ยบบบบ ถอดแบบออกมาเป๊ะๆ ยายยิ้มยังไง หนูก็ยิ้มแบบนั้นแหละ หล่อได้พ่อเลยพี่ชายยยย หน้าตาแบบนี้ ไม่ต้องสืบ เปรียบเทียบรุ่นคุณแม่กับรุ่นคุณลูก แม่กับลูกเหมือนกันเป๊ะ ลูกสาวที่เหมือนพ่อ ดูรอยยิ้มนั่นสิ ยิ้มแบบนี้ได้พ่อมาเต็มๆ ยายกับหลานไม่ต่างกัน พ่ออุ้มยังไง ลูกชายก็อุ้มแบบนั้น โอ้ยยยย!!…
-
‘หมาป่า’ กับบทบาทนักล่าที่กลายมาเป็นผู้เยียวยาให้กับทหารผ่านศึกผู้บอบช้ำให้กลับมาหายดี
ถ้าหากให้พูดถึงสัตว์นักล่าผู้น่าเกรงขามในป่าลึก ก็คงจะหนีไม่พ้น ‘หมาป่า’ นี่แหละ ด้วยความที่ไม่เหมือนหมาบ้านหรือสุนัขเลี้ยงที่คุ้นเคยกับมนุษย์ พวกมันมีสัญชาตญาณความเป็นนักล่าสูง ดุร้าย พร้อมที่จะจู่โจมได้ทุกเมื่อ แต่กลับกลายเป็นว่าหมาป่าที่ศูนย์อนุรักษ์สัตว์ป่าสงวนจากแคลิฟอร์เนีย ได้สลัดคราบนักล่าออกไปจนหมดสิ้น ได้รับมอบหมายหน้าที่ใหม่ในการเยียวยาจิตใจของเหล่าทหารผ่านศึกที่ประสบกับโรคความผิดปกติทางด้านความเครียด น้องหมาป่าจากศูนย์อนุรักษ์ Lockwood รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมทำหน้าที่ใหม่กับทีมสัตวแพทย์ ที่ก่อตั้งโดยอดีตทหารเรือแห่งกองทัพสหรัฐฯ Matt Simmons กับนักจิตวิทยา Dr Lorin Lindner โดย Dr Lorin Lindner นั้นได้กล่าวเอาไว้ว่าการที่นำหมาป่าที่ได้รับการช่วยเหลือมาจับคู่กับทหารผ่านศึก จะช่วยทำให้ทั้งสองสามารถปรับความเข้าใจกันได้ เพราะเป็นอาการที่ขาดความเชื่อใจ ยากที่จะสร้างความสัมพันธ์ใหม่ได้ เพราะฉะนั้นการที่ปล่อยให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกัน จะทำให้รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการความเครียดของทหารผ่านศึกแล้ว ยังช่วยให้เหล่าหมาป่าได้รับการรักษาทางจิตใจเช่นเดียวกัน อย่างเช่น Jim Minick ได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘พวกมันไม่ตัดสินคุณจากภายนอก ทำอะไรมาก่อน พวกมันแคร์เพียงแค่ว่าตอนนี้คุณเป็นแบบไหน และมันจะช่วยสานสัมพันธ์แบบพิเศษขึ้นมา’ ที่มา : unilad
-
น่าย๊ากก!! คลอดมาใหม่กับกระเป๋าผ้าใบน้อย พร้อมลวดลายหน้าแมวจากเกม Neko Atsume
หากใครยังจำกันได้มีกระแสช่วงหนึ่งที่เกมล่อแมวเข้าบ้านอย่าง Neko Atsume (ねこあつめ) ฮิตระเบิดระเบ้อในไทย มีแมวมากหน้าหลายตาแวะเวียนเข้ามาในบ้าน พร้อมกับทำประวัติแมวแต่ละตัว จนบางคนทำได้ครบแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้เกม Neko Atsume ก็ได้ออกอัพเดทใหม่ มาพร้อมกับภาษาอังกฤษ ของเล่นใหม่และแมวตัวใหม่มากมาย ยังสามารถทำให้กลับไปติดงอมแงมได้อยู่บ้าง แต่ก็ไม่เท่ากับตอนแรกๆ ล่าสุดนี้ทางผู้พัฒนาเกมก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถจับต้องได้จริงๆ มันก็คือถุงผ้าใบน้อย พร้อมลวดลายใบหน้าของเหมียว Manzoku-san และ Oddo-san มาให้แฟนๆ ได้จับจองเป็นเจ้าของกัน ลักษณะของกระเป๋าก็จะเป็นแบบกระเป๋าผ้าใบเล็กๆ ที่เหมาะไว้สำหรับใส่ของเล็กๆ จุกจิก หรือจะใช้เป็นกระเป๋าสตางค์ก็ได้ แถมยังมีหน้าตาของเจ้าเหมียวแปะไว้ด้วย เพิ่มความรักเข้าไปอีก!! สิ่งที่ทำให้กระเป๋าผ้าหน้าแมวนี้แตกต่างก็คือมันมีขาและหางนี่แหละ อิอิ แต่ทว่ายังไม่ได้จำหน่ายในปีนี้หน้า จะวางจำหน่ายในเดือนมกราคาปีหน้า (แหม ก็อีกนิดเดียวเอง) ค่าตัวจะอยู่ที่ 1,380 เยน (ประมาณ 412 บาท) และจะวางขายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้นนะจ๊ะ ที่มา : rocketnews24
-
อ่อนหัด!! ชายหวังจะเดินทางข้ามกาลเวลา อัดรถพุ่งใส่อาคาร กาลเวลาพาไปโรงพยาบาลแทน
เคยมีความคิดแปลกๆ แผลงๆ ที่อยากจะทำให้เหมือนในภาพยนตร์บ้างรึเปล่า? อย่างเช่นการเดินทางข้ามกาลเวลาแบบภาพยนตร์ Back to the Future แต่ก็ยั้งความคิดเหล่านั้นเอาไว้ ให้มันเป็นเพียงแค่จินตนาการเฉยๆ เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง มันยังไปไม่ถึงขั้นนั้นหรอก แต่จะว่าไปก็มักจะมีคนลองของอยู่เสมอ อย่างเช่นหนุ่มใหญ่ Marty McFly วัย 40 ปีจากเมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ที่ไปลองของข้ามกาลเวลาที่รัฐฟอลริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยความเชื่อที่ว่าการเร่งความเร็วให้กับยานพาหนะ จะทำให้พุ่งเข้าไปสู่ประตูมิติแห่งกาลเวลาได้ พี่แกก็อัดรถ Dodge Challenger คู่ใจอย่างแรง จนผลสุดท้ายก็ซัดเข้ากับตัวอาคารเข้าอย่างจัง ทะลุกำแพงทำประตูมิติให้กับร้านค้าแบบงงๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามายังที่เกิดเหตุก็พบกับพี่แกในสภาพที่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เนื่องจากคาดเข็มขัดนิรภัยเอาไว้ และโชคดีตรงที่ว่าอาคารที่ถูกชนนั้นไม่มีการใช้งานด้วย มีแต่ตัวรถกับอาคารนี่แหละที่ได้รับบาดเจ็บ ฮร่าาาา สืบสวนหาข้อมูลเหตุจูงใจจากการกระทำดังกล่าว พ่อหนุ่มใหญ่ของเราก็อ้างว่าที่ขับด้วยความเร็วสูงแบบนี้ก็เพราะว่าพยายามที่จะเดินทางข้ามกาลเวลายังไงล่ะ แต่จริงๆ ก็คือขับรถเร็วๆ เพื่อจะไปหาลูกสาวที่รออยู่ปลายทางไวๆ สุดท้ายก็โดนข้อหาขับรถด้วยความประมาทและไม่มีหลักฐานรับผิดชอบจากประกันภัยด้วย ก่อนที่จะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อวินิฉัยอาการบาดเจ็บทางร่างกายต่อไป (จะตรวจสุขภาพจิตด้วยรึเปล่าเนี่ย?) ที่มา : huffingtonpost
-
แฟนๆ Star Wars หัวเสีย อุตส่าห์รอชมรอบ Premiere แต่เครื่องฉายโรงหนังทำเจ๊งบ๊ง!!
เวลาที่เราไปดูภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยมาอย่างยาวนาน หรือไม่ก็ตั้งใจไปดูเรื่องอะไรก็ตาม ก็ไม่อยากจะเจอปัญหาพักเรื่องกลางคันเนื่องจากปัญหาและข้อผิดพลาดทางเทคนิคหรอก เพราะมันไม่ควรจะมี ซึ่งถ้าหากมันเกิดขึ้นก็จะทำให้อารมณ์ดูหนังหยุดชะงักไปทันที และเกิดอาการหัวเสียแน่นอน (คล้ายๆ ในสมัยแผ่น VCD ออกใหม่แล้วแผ่นกระตุก) ปัญหาดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย แต่แล้วมันก็เกิดขึ้นจนได้ แถมยังเป็นการฉายภาพยนตร์เรื่อง Star Wars The Force Awakens รอบ Premiere อีกต่างหาก โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา ณ โรงภาพยนตร์ Hollywood’s Arclight คือเข้าใจอารมณ์แฟนหันงที่รอภาคต่อมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี คิดว่าจะดูภาพยนตร์ได้ราบรื่นแต่เครื่องฉายของทางโรงภาพยนตร์กลับเจ๊งบ๊งไม่เป็นท่า แม้จะพยายามที่จะกู้กลับมาให้เร็วที่สุด พอกลับมาฉายได้ก็ดันฉายผิดตอน ไม่ต่อเนื่องอีก แฟนๆ ถึงกับหัวเสีย หัวร้อนไปตามๆ กัน โอ้โห่!! กรีดร้องโนกันเป็นว่าเล่น แต่ก็อย่างว่าแหละเข้าใจอารมณ์โดนขัดจังหวะ ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้น แต่แล้วมันก็ดันมาซวยตรงที่รอบ Premiere ด้วยนี่แหละ ที่มา : unilad
-
นางแบบสาวนิวซีแลนด์กับกระเพาะอยากปะทะ ‘แฮมเบอร์เกอร์ 100 ชิ้น’ เทคเดียวเอาอยู่!!
มันถือว่าเป็นเรื่องที่เหมือนจะแปลกแต่ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ เพราะเรามักจะเห็นมานักต่อนักแล้วกับการกินจุ กินอาหารจำนวนเยอะๆ ภายในครั้งเดียวหมด แถมส่วนมากก็จะเป็นคนที่มีรูปร่างผอมมากกว่าที่จะเป็นคนอ้วน ล่าสุดนี้ก็มาอีกแล้ว กับภารกิจกระเพาะอยากปะทะของนางแบบสาวผู้ชนะการประกวด Miss Earth จากนิวซีแลนด์ เธอมีชื่อว่า Nela Zisser เห็นหุ่นเพรียวแบบนี้ แต่บอกเลยว่าเธอผ่านสงครามการกินมาเยอะพอสมควรเลยนะ แบบว่าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอสามารถกินแมงป่องมาแล้ว 10 ตัว การกินเบอร์ริโต้ยักษ์ขนาด 5 ปอนด์ ภายใน 5 นาที และชีสเค้กก้อนใหญ่ 8226 แคลลอรี่แบบไม่เหลือซาก และในคราวนี้เธอก็ขอทดสอบกระเพาะเหล็กอีกครั้งด้วยภารกิจกินแฮมเบอร์เกอร์ 100 ชิ้นให้หมดภายในรอบเดียว โดยก่อนหน้านี้มีผู้ทำมาแล้วนั่นก็คือสาวจากแดนญี่ปุ่น Yuka Kinoshita ที่ทำสถิติไว้ 62 ชิ้น Yuka Kinoshita tries to eat 100 Hamburgers in one round Yuka Kinoshita tries to…
-
อยากให้เธอลอง!! พาเลสเบี้ยนมาพบกับชายแท้ พาเกย์มาพบกับหญิงแท้ ลงเอยด้วย ‘จูบ’
ในยุคสมัยที่มีความเปลี่ยนแปลงมากจนถึงมากที่สุด ซึ่งในเรื่องของเพศทางเลือกในอดีตนั้นถูกปกปิดมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าทั้งฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงที่มีความรู้สึกในด้านความรู้สึกชื่นชอบเพศเดียวกัน ปัจจุบันนี้ก็ได้มีการเปิดกว้างและยอมรับมากขึ้นแล้ว แต่จะว่าไปในเรื่องของความรู้สึกที่ชื่นชอบในเพศเดียวกัน หากให้พวกเขาเหล่านั้นไม่ว่าจะเป็นเลสเบี้ยนหรือเกย์มาพบกับผู้ที่มีเพศเป็นปกติบ้างล่ะ พวกเขาจะรู้สึกแบบไหน!? ก็คงไม่ต่างจากคนทั่วไปนั่นแหละ ก็คือผู้คนธรรมดาเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือความรู้สึกในเรื่องแรงกระตุ้นในเรื่องเพศ ซึ่งหากให้พวกเขามาพบกับเพศที่ตรงกันข้ามแบบนี้ ปฏิกิริยาของพวกเขาก็มีความรู้สึกเขินอายเล็กน้อยถึงปานกลาง ซึ่งในงานนี้ก็ได้เชิญเลสเบี้ยนมาพบกับชายแท้ และเกย์มาพบกับหญิงแท้ เพื่อพิสูจน์ในเรื่องของการจูบ ผลลัพธ์จะออกมาเป็นอย่างไร ลองมาพิสูจน์กันได้ในคลิปทั้งสองด้านล่างเลยจ๊ะ เลสเบี้ยนมาพบกับชายแท้ เกย์มาพบกับหญิงแท้ (บางคนไม่เคยจูบผู้หญิงมาก่อนเลย) ทั้งนี้ จากการที่ได้เห็นปฏิกิริยาตอบสนองแล้ว พวกเขาก็ยังเหมือนคนทั่วไป เพียงแต่ว่าการจูบกับเพศปกตินั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกถึงอารมณ์ทางด้านเพศหรือมีแรงกระตุ้นเท่าที่ควร แต่ก็ยังมีความรู้สึกดีที่ได้มอบให้กับฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง ที่มา : The Human Experiment
-
ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียบอกเล่าประสบการณ์เสี่ยงตาย ว่ายน้ำข้ามทะเลกว่าเจ็ดชั่วโมงเพื่อเริ่มชีวิตใหม่
เราต่างก็ได้รับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับความยากลำบากของชาวซีเรียที่สูญเสียทุกอย่างไป ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สิน เงินทอง รวมไปถึงชีวิต ซึ่งชาวซีเรียก็ได้กลายมาเป็นผู้ลี้ภัยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากสาเหตุของสงครามกลางเมืองอันวุ่นวาย ทำให้บ้านที่เคยอยู่กลายเป็นแดนสงคราม สงครามกลางเมืองในซีเรีย ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียต่างรู้ดีว่าชะตาชีวิตของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้าย หากยืดหยัดอยู่ในซีเรียก็คงมีค่าไม่ต่างไปจากการรอความตาย เพราะฉะนั้นหลายคนจึงเลือกที่จะทิ้งดินแดนเดิมของตนและลี้ภัยไปต่างประเทศ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางที่เฝ้าฝันเอาไว้ Ameer Mehtr ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียที่ว่ายน้ำข้ามทะเลจากตุรกีไปยังกรีซ แต่สำหรับ Ameer Mehtr ผู้ลี้ภัยที่เสี่ยงตายเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน จากการตัดสินใจวิ่งหนีสุดชีวิตไม่คิดหันหลังกลับ พึ่งพาร่างกายของตนเองเพื่อตามหาชีวิตใหม่ เนื่องจากเขาไม่มีเงินเพียงพอที่จะว่าจ้างคนพาข้ามประเทศได้ เขาได้รับการฝึกฝนการว่ายน้ำมาจากทีมชาติซีเรีย และด้วยการฝึกฝนที่ได้รับมาเขาจึงวางแผนที่จะว่ายน้ำข้ามทะเลเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในยุโรป ข้ามฝั่งจากประเทศตุรกีผ่านทะเลอีเจียนไปยังเกาะ Samos ประเทศกรีซ ก่อนที่จะว่ายน้ำข้ามทะเลด้วยระยะทางเพียงแค่ 4 ไมล์ (6.4 กิโลเมตร) นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เขาต้องเตรียมความพร้อมให้ร่างกายเสียก่อน ด้วยการฝึกว่ายน้ำในทะเลริมชายฝั่งในเมืองเบรุต ประเทศเลบานอน ซึ่งก็ได้ลี้ภัยมาอยู่ที่นี่ได้ซักระยะแล้ว ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเดินทางข้ามละเทด้วยเรือยาง หลังจากนั้นในเดือนกันยายน เขารู้สึกว่าตอนนี้ร่างกายและจิตใจพร้อมที่จะไปแล้ว ก็ได้ทำการศึกษาแผนที่อย่างเคร่งครัดเพื่อที่จะค้นหาเส้นทางที่สั้นที่สุด จนกระทั่งถึงคืนที่ต้องไป เขาก็ได้ลักลอบเข้าเมือง Güzelçamlı ของประเทศตุรกี วิ่งหนีอย่างสุดชีวิตเพื่อหลบหนีการจับกุมของตำรวจตุรกี…
-
พ่อหนุ่มยอมบินไกลข้ามยุโรป เสียเงินให้การศัลยกรรม เพื่อแลกกับ ‘ซิกแพค’ แบบถาวร
สมัยนี้ใครๆ ต่างก็หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพและดูแลรูปร่างของตัวเองมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งผู้หญิงหรือผู้ชายก็อยากจะมีรูปร่างที่ดูดีด้วยกันทั้งนั้น ถ้าให้พูดถึงสิ่งที่ชายทั้งหลายอยากจะมีบนร่างตัวเองมากที่สุดก็คือ ‘ซิกแพค’ กล้ามหน้าท้องงามๆ แต่กว่าจะได้มานั้นก็ยากเอาการ ชายทั่วโลกต่างเฝ้าฝันที่จะมีกล้ามหน้าท้องเป็นมัดๆ ทั้งหกก้อน บางคนก็ไปถึงฝัน แต่บางคนก็ถอดใจซะก่อน เพราะจะต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและควบคุมอาหารไปด้วย ซึ่งพ่อหนุ่ม Lee Coupland วัย 31 ปี ผู้นี้ก็อยากมีเหมือนกัน แต่หนทางของเขากลับแตกต่างออกไป เขาเดินทางไปยังเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกีเพื่อที่จะดูดไขมันส่วนเกินออกไปจากหน้าท้องก่อนที่จะโดนอาคมมีดหมอศัลยกรรมทำให้มีกล้ามหน้าท้องซิคแพคแบบถาวร ใช่แล้ว!! ซิกแพคแบบถาวร ซึ่งทางด้านเจ้าตัวเองก็บอกว่าตอนนี้มันยังเป็นเรื่องที่แปลก แต่อีกไม่นานก็จะกลายเป็นเรื่องธรรมดาอย่างการทำศัลยกรรมหน้าอกหรือจมูกของผู้หญิงนั่นแหละ สิ่งที่น่าตกใจมากกว่านั้นก็คือ เขาไม่ใช่ชาวอังกฤษคนเดียวที่คิดแบบนี้ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีชายชาวอังกฤษจำนวน 7 คนเข้ามาทำศัลยกรรมกับโรงพยาบาลแห่งนี้ไปแล้วเมื่อ 6 เดือนก่อน จากการผ่าตัดเสริมกล้ามหน้าท้องถาวรของเขานั้นจะต้องพักฟื้นยาวนานกว่า 7 สัปดาห์เลย แถมยังมีอาการแน่นหน้าอกตามมาอีก และหากใครที่คิดจะผ่าตัดทำซิคแพคถาวรขอบอกไว้ก่อนเลยว่าไม่สามารถทำได้ทุกคน โดยอย่างแรกเลยก็คือต้องเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงและมีรูปร่างที่สมส่วน ถึงแม้ว่าเขาจะได้กล้ามหน้าท้องถาวรมาสมใจอยากแล้ว แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกขี้เกียจที่จะออกกำลังกายเลยแม้แต่น้อย ‘การศัลยกรรมนี้เป็นเพียงตัวช่วยเสริมให้มันดูเด่นขึ้นมาเท่านั้น มันไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์อะไรหรอก คุณก็ต้องออกกำลังกายเหมือนเดิมเพื่อที่จะรักษามันเอาไว้ แต่อย่างน้อยคุณก็มีกล้ามหน้าท้องอ่อนๆ…
-
สุนัขพิตบูลผู้ภักดี ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องเจ้าของจากการถูกทำร้ายด้วยมีดฝีมือแฟนเก่า
ไม่ว่าใครๆ ต่างก็รักชีวิตของตัวเองกันทั้งนั้น แต่สิ่งมีชีวิตที่เรียกกันว่า ‘สุนัข’ นี้กลับยอมที่จะต่อสู้อย่างสุดแรงเกิด เพื่อที่จะปกป้องเจ้านายอันเป็นที่รักของมัน โดยไม่สนว่าจะต้องแลกด้วยชีวิตของตัวเองก็ตาม อย่างในกรณีของเจ้าสุนัขพิตบูลตัวนี้ มันมีชื่อว่าเจ้า Lucy สุนัขพันธ์พิตบูลอายุ 6 ปี เสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นหลังจากที่โดนแทงด้วยมีดเข้าที่บริเวณลำคอ สาเหตุก็มาจากการที่มันพยายามปกป้อง Lisa Potts จากแฟนเก่าของเธอที่ชื่อว่า Walter Williams ซึ่งพยายามที่จะทำร้ายเธอด้วยมีด ‘น้ำตาของฉันมันไหลรินออกมาจนแทบจะหยุดไม่อยู่ ฉันไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับมันเลยแม้แต่น้อย ฉันพยายามเรียกชื่อ พยายามปลอบ ลูบหัว เพื่อที่จะปลุกมันให้ตื่น’ Lisa Potts กล่าวถึงช่วงเวลาสุดท้ายก่อนที่เจ้า Lucy จะจากไป เธอกล่าวว่าในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอกลับเข้ามาในบ้านก็พบกับ Williams นั่งรออยู่ภายในบ้านแล้ว แต่ด้วยความไม่เข้าใจกัน เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง และฝ่ายแฟนเก่าก็เริ่มตบตี จากนั้นก็คว้ามีดเพื่อที่จะทำร้ายเธอ แต่เจ้า Lucy เข้ามาช่วยได้ทัน ถึงแม้ว่าเจ้า Lucy จะโดนแทงเข้าที่คออย่างจัง มันก็พยายามที่จะสู้สุดชีวิต…
-
ร้านกาแฟใจดี!! ยอมให้น้องหมาจรจัดมานอนภายในร้านหลังจากปิดในตอนกลางคืน
ว่ากันด้วยเรื่องของคนรักสัตว์ อยากจะมีสัตว์เลี้ยงซักตัวไว้คอยเป็นเพื่อนยามเหงา บางครั้งน้องหมาก็เจอกับเจ้านายที่ดีก็ถือว่าดีไป แต่หลายครั้งน้องหมาก็ต้องประสบกับความรักที่หมดลงจากเจ้านายที่เคยไว้ใจที่สุด จนกลายมาเป็นปัญหาสุนัขจรจัด ร้านกาแฟยอมให้น้องหมาไปนอนในร้านได้!? เช่นเดียวกันกับประเทศกรีซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมือง Mytilene ที่มีเจ้าของมากมายทำการทิ้งสุนัขเนื่องด้วยเหตุผลที่ว่าเลี้ยงไม่ไหว (หรือหมดความรักแล้ว) จนทำให้มีน้องหมามากมายต้องพยายามเอาชีวิตให้รอดในแต่ละวัน ยิ่งตกกลางคืนก็ต้องนอนข้างถนน และด้วยเหตุนี้เองทางร้านกาแฟที่ชื่อว่า Hott Spott ได้ทำการเปิดประตูต้อนรับน้องหมาจรจัด หลังจากที่ไม่มีลูกค้าเข้าร้านแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาที่ปิดร้านนี่แหละ ภายในร้านก็จะกลายมาเป็นที่พักพิงให้กับน้องหมาทั้งหลาย ไม่ต้องทนหนาวอีกต่อไป ‘หลังจากที่ร้านปิดในแต่ละคืน น้องหมาก็จะเข้ามานอนที่นี่แหละ พวกเราไม่มีปัญหาอะไรเลย ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเราก็ทำแบบนี้มาตลอด ให้น้องหมาได้นอนบนที่นั่งของลูกค้า’ พนักงานร้านกาแฟกล่าว อย่างน้อยก็เป็นการเยียวยาชีวิตของน้องหมาให้อยู่รอดต่อไป จนกว่าจะได้พบเจอคนที่รักมันจริงๆ ซักวันหนึ่ง ใครที่เลี้ยงน้องหมาหรือสัตว์เลี้ยงอะไรก็ตาม ดูแลให้ดี อย่าเอาหนึ่งชีวิตที่มีคุณเป็นโลกทั้งใบไปทิ้งซะล่ะ ที่มา : thechive
-
จบเกมนักล่า!! นักล่าสัตว์มืออาชีพออกล่าช้างในซาฟารีแต่พลาดท่า โดนช้างพุ่งใส่จนเสียชีวิต
มนุษย์ผู้ที่เรียกตนว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ แต่กลับทำร้ายสัตว์โลกอื่นๆ เพื่อความสนุกสนานของตนเอง หลายครั้งที่มีข่าวออกมาในกรณีของนักล่าสัตว์ที่ภาคภูมิใจกับผลงานการฆ่าของตน โดยที่สัตว์เหล่านั้นไม่ได้คิดทำร้ายพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ล่าสุดนี้ตามรายงานจากเว็บไซต์ The Telegraph ได้กล่าวเอาไว้ว่านักล่าชื่อดัง Ian Gibson ถูกช้างพุ่งเข้าใส่ในระยะที่ใกล้จนไม่ทันตั้งตัวเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตในระหว่างออกล่าสัตว์ ทางด้านผู้จัดการซาฟารี Chifuti นามว่า Paul Smith ตัวแทนของบริษัทผู้ว่าจ้างนักล่าคนดังกล่าวบอกว่าในตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ตามไปด้วยกำลังรู้สึกสะเทือนใจกันเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังกล่าวว่านาย Gibson เป็นนักล่าที่มากประสบการณ์กว่า 25 ปีแล้ว เคยมีผลงานการฆ่าเสือดาวมาแล้ว แต่ในครั้งกลับเสียท่าให้กับช้าง เนื่องจากมีระยะห่างกันเพียงแค่ 50 – 100 เมตร ซึ่งช้างตัวนั้นก็หันมาหาเขาและพุ่งเข้าใส่ทันที จนไม่อาจหนีหรือตั้งตัวได้ทัน อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีนี้ก็เป็นเหมือนดั่งคำเตือนของเหล่านักล่าสัตว์ทั้งหลาย ชีวิตที่ถูกคร่าไปด้วยเงื้อมมือของตัวเอง สุดท้ายก็ต้องโดนเหล่าสัตว์เอาคืนแลกเป็นชีวิตของตนเช่นกัน ที่มา : telegraph, independent
-
ชายหนุ่มกับการเนรมิตร้านเล็กๆ ขึ้นมา เพื่อให้ทุกคนสามารถสร้างของขวัญคริสต์มาสได้เอง!!
ว่ากันด้วยเรื่องของเทศกาลแห่งความสุข สำหรับช่วงที่กำลังจะมาถึงนี้ก็คือคริสต์มาสและปีใหม่ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ‘ของขวัญ’ ที่ตั้งใจจะนำไปมอบให้กับใครซักคน ซึ่งก็จะนำไปสู่การเฟ้นหาของขวัญและซื้อมาด้วยมูลค่าต่างๆ แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Thomas Dambo จากประเทศเดนมาร์กกลับรู้สึกว่าการไปซื้อของขวัญด้วยมูลค่าทางเม็ดเงินนั้น เหมือนจะมีคุณค่าเพียงแค่มูลค่าตามจำนวนเงินเท่านั้น แต่กลับไม่มีคุณค่าทางจิตใจเลย และเขาก็อยากจะพิสูจน์ให้เห็นว่าของขวัญที่มอยให้กันนั้นไม่จำเป็นต้องซื้อ เพราะว่าคุณก็สามารถสร้างเองได้ และด้วยความคิดนี้ เขาจึงเริ่มลงมือสร้างร้านเล็กๆ ขึ้นมาจากวัสดุรีไซเคิลทั้งหมด โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้คนทั่วไปสามารถสร้างของขวัญของตัวเองจากเศษวัสดุและขยะเหลือใช้ ทั้งนี้การก่อสร้างร้านเล็กๆ ก็ใช้ระยะเวลาประมาณ 9 วันกว่าจะเสร็จสิ้นและพร้อมเปิดให้บริการ อีกทั้งยังได้ชักชวนให้ผู้คนแถวๆ นั้นได้เข้ามาร่วมสร้างสรรค์ของขวัญอันล้ำค่าทางจิตใจ ที่สามารถสร้างได้ด้วยสองมือของเราเอง อีกทั้งยังเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วย ภายในร้านก็จะมีอุปกรณ์และวัสดุต่างๆ ให้เลือกมากมาย ใครอยากจะหยิบอะไร จะทำของขวัญแบบไหน ก็แล้วแต่ความชอบ ทำตามความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อยืดออกแบบเอง เสื้อสำหรับสัตว์เลี้ยงน่ารัก…
-
ล้ำเกิ๊น!! Keyboard PC ที่สุดของคอมพิวเตอร์พกพา ถูกย่อส่วนให้มีขนาดเท่ากับคีย์บอร์ด
ปัจจุบันเทรนด์ของผลิตภัณฑ์ไอทีส่วนมากจะเน้นที่ความบาง ความเบา ความเล็ก ความกระทัดรัด และความสะดวกในการพกพาเป็นหลัก นั่นก็เลยทำให้ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าทางไอทีก็จะออกมาเป็นแนวๆ นี้กันหมด เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ให้ได้มากที่สุด เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop PC) เอาเป็นว่าจากที่เมื่อก่อนเนี่ยเราใช้คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะกัน ได้รับความนิยมสูงมากๆ จนกระทั่งมาถึงยุคของคอมพิวเตอร์โน๊ตบุค ซึ่งในยุคแรกเครื่องจะหนาๆ หนักๆ หน่อย ปัจจุบันก็พัฒนาให้บางและเบาลงได้มาก สะดวกต่อผู้ใช้งานเป็นอย่างยิ่ง (แต่ราคาไม่ได้เบาตาม) คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค (Notebook หรือ Laptop) แต่ถ้าหากว่าคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คที่ใช้ๆ กันอยู่มันยังไม่ใช่ มันยังไม่ตอบสนองต่อความสะดวกในเรื่องของขนาดและการพกพา วันนี้ก็มีตัวเลือกใหม่เปิดตัวเปิดใจออกมาแล้ว มันมีชื่อว่า Keyboard PC รุ่น WP004 สร้างสรรค์โดยบริษัท Tekwind Corporation Keyboard PC WP004 จาก Tekwind Corporation หน่านี๊? นี่มันอะไรกัน เป็นคีย์บอร์ดรุ่นใหม่หรืออย่างไร!? บอกได้เลยว่าหน้าตามันก็เหมือนคีย์บอร์ดแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่ข้างในนั้นยัดคอมพิวเตอร์ทั้งเครื่องลงไปให้เรียบร้อยแล้ว เว้นเสียแต่ว่าไม่ได้รวมจอมาให้ก็เท่านั้นเอง …
-
ผู้เชี่ยวชาญแนะ อย่าใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดิมติดต่อกัน นอกจากจะไม่สะอาด ยังเสี่ยงกับเชื้อโรคอีก
ว่ากันด้วยเรื่องของผ้าเช็ดตัวผืนน้อยที่ใช้กันอยู่เป็นประจำ จะขาดไปก็ไม่ได้ เพราะว่าหลังอาบน้ำเสร็จก็ต้องใช้เช็ดตัวให้แห้ง ทำความสะอาดเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการอาบน้ำ แต่ส่วนมากก็จะใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดิมเป็นประจำ อาบน้ำทุกครั้งก็ใช้ผืนนี้ หากว่าใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเดิมมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป โดยที่ไม่ได้นำไปซักหรือทำความสะอาดเลย ทางผู้เชี่ยวชาญแนะเลยว่านอกจากจะเช็ดตัวไม่สะอาดหมดจด แถมยังเสี่ยงต่อโรคทางผิวหนังเป็นอย่างมาก เพราะเป็นแหล่งสะสมของเหล่าเชื้อแบคทีเรียชั้นเยี่ยม วิธีการหลีกเลี่ยงง่ายๆ เลยก็คือให้นำผ้าเช็ดตัวที่ใช้หลังอาบน้ำเสร็จแล้วประมาณ 3 ครั้ง ไปซักให้สะอาดซะ หรือถ้ายังไม่ว่างซัก ก็นำไปตากให้โดนแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค ไม่ควรที่จะตากทิ้งไว้ให้ห้องน้ำ ห้องที่ไม่มีอากาศถ่ายเท หรือทิ้งไว้บนพื้นห้องน้ำ มันอันตรายร้ายแรงแค่ไหนกับการใช้ผ้าขนหนูที่ไม่สะอาด เหตุผลก็คือผ้าขนหนูที่ยังเปียกน้ำหมาดๆ นั้นเต็มไปด้วยเชื้อโรคซึ่งอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อจากการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง ส่วนมากมักจะพบโคลิฟอร์มแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วง ทั้งนี้จากการใช้ผ้าเช็ดตัวนั้น เราจะทำการเปลี่ยนผ่านสสารต่างๆ มากมายระหว่างผ้าเช็ดตัวกับผิวหนัง เช่น เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว เชื้อรา ปัสสาวะ เศษอุจจาระและอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนมีแบคทีเรียด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งทิ้งผ้าเช็ดตัวไว้ในที่อับ หรือบนพื้นห้องน้ำเชื้อแบคทีเรียก็จะขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว แค่นึกภาพตามก็อี๋แล้ว!! ผู้เชี่ยวชาญยังบอกด้วยว่า หากได้กลิ่นอับจากผ้าเช็ดตัวเมื่อไหร่ ก็ควรที่จะเลิกใช้แล้วนำไปซักทันที เพราะนั่นเป็นสัญญาณเตือนจากแบคทีเรียนั่นเอง ศาสตราจารย์…
-
งานดีไปอีก!! พ่อหนุ่มขอแฟนแต่งงานด้วย ‘กระบี่แสงในคราบอภินิหารแหวนครองพิภพ’
กระแสความแรงของภาพยนตร์สงครามแห่งกาแล็คซี่มีไม่หยุดจริงๆ อย่างภาคล่าสุด The Force Awakens ก็เพิ่งเข้าโรงไปหมาดๆ ทำเอาแฟนคลับตื่นเต้นกันยกใหญ่ ในทางกลับกันกับภาพยนตร์อภินิหารแหวนครองพิภพ ก็ได้จบลงไปอย่างสมบูรณ์แล้ว แม้ว่าจะมีส่วนขยายออกไปนิดหน่อย แต่กระแสก็เริ่มจางๆ ลงไป อย่างไรก็ตาม ถ้าหากว่านำจุดเด่นของทั้งสองเรื่องมารวมร่างกันล่ะ มันจะออกมาเป็นแบบไหน? พ่อหนุ่มนามว่า Dave ได้นำไอเดียดังกล่าวมาทำเป็นของเพื่อขอแฟนสาวแต่งงาน แต่ไม่ใช่แหวนนะ กลายมาเป็น ‘กระบี่แสง’ แทน และด้วยเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของกระบี่แสงมารวมตัวกับลวดลายตัวอักษรโบราณ จึงออกมาเป็นกระบี่แสงที่มีความงดงามในโลกของอภินิหารแหวนครองพิภพ อีกทั้งยังเป็นบทกลอนความรักที่งดงามสลักลงไปบนตัวกระบี่ด้วย ผลงานสุดจี๊ดนี้สร้างสรรค์โดย Vader’s Vault และได้ตั้งชื่อให้กับกระบี่แสงที่งดงามเล่มนี้ว่า Arod Megil ชื่อก็ยังเท่เลยแฮะ เผยให้เห็นคริสตัลแหล่งให้กำเนิดพลังงาน หลักการทำงานของมันจะเป็นยังไงหว่า? ชวิ้งงงงง โหว่ม โหว่ม ถ้ายังดูแล้วไม่อิ่ม จัดแบบคลิปไปสิจ๊ะ จะรออะไร!! ที่มา : thechive
-
เรื่องราวความสุขในวันสุดท้ายของเจ้าสุนัข Lena อันเป็นที่รัก ก่อนที่จะหมดลมหายใจ!!
ความจริงแล้วเหมียวก็ไม่ค่อยอยากจะแชร์เรื่องราวแบบนี้ซักเท่าไหร่ เพราะมันจะทำให้เรารู้สึกเศร้า แต่ทว่ามันก็เป็นหนึ่งกลไกของชีวิต เมื่อมีเกิดก็ต้องมีวันจาก ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ก็ตาม ไม่มีใครสามารถหลีกหนีความจริงเช่นนี้ไปได้ ผู้ใช้จากเว็บไซต์ Imgur นามว่า NickCageMatch ได้ทำการแชร์เรื่องราวเกี่ยวกับการสูญเสียสุนัขอันเป็นที่รักที่มีชื่อว่าเจ้า Lena โดยทำการเล่าเรื่องผ่านมุมมองอันแสนสุขของมัน ‘สวัสดีจ๊ะ เราชื่อ Lena นะ ฉันเพิ่งจะหลับไหลไปตลอดกาลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ แต่ไม่ต้องเศร้าไปนะ เพราะว่าฉันมีอายุถึง 15 ปีครึ่งแล้ว ฉันก็เลยอยากจะเล่าช่วงเวลา 24 ชั่วโมงสุดท้ายอันแสนสุขให้ฟัง’ ‘อย่างแรกเลยที่อยากจะบอกก็คือ สุขสันต์วันคริสต์มาส ฉันชอบวันหยุดแบบนี้มากๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมันดีไปหมด ไม่ว่าจะเป็นอาหารเลิศรส และของเล่นชิ้นใหม่ แต่ฉันก็รู้สึกผิดหวังเล็กๆ ที่ว่าฉันจะอยู่ไม่ถึงคริสต์มาสปีนี้น่ะสิ แต่ฉันก็ชอบปีที่ผ่านๆ มานะ’ ‘ฉันทำกิจกรรมมากมายหลายอย่างในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากจะรอคอยให้มีเพื่อนๆ มาเยี่ยมที่บ้านแล้ว ฉันก็ชอบช่วงเวลาที่มีคนเดินเข้ามาที่บ้านนี่แหละ’ ‘ในวันสุดท้ายของฉัน คุณพ่อก็พาฉันออกไปข้างนอก ทำกิจกรรมต่างๆ เยอะแยะมากเลย อย่างเช่นออกไปเดินเล่นแถวๆ เนินเขา Moab’ …
-
หญิงสาวค้นพบว่าตัวเองมี ‘ฝาแฝด’ หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ หลังจากที่เจอในโลกออนไลน์!!
โลกอันกว้างใหญ่ไพศาลจากที่เมื่อก่อนเราไม่อาจรู้ได้เลยว่ามันกว้างใหญ่ขนาดไหน ยังมีอะไรที่รอให้เราไปค้นพบอยู่อีกมากมาย จนปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก็ได้เชื่อมทั้งโลกเอาไว้ด้วยกัน และหนึ่งสิ่งที่เราไม่เคยคิดสงสัยมาก่อนเลยว่า เราจะมีฝาแฝดอยู่อีกซีกโลกหนึ่งรึเปล่า? ฟังดูแล้วก็เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าฝาแฝดนั้นมักจะเกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน แต่ทว่ามันก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะน้อยนิดก็ตาม อย่างเช่นคู่แฝด Sara และ Shannon ที่มาเจอกันได้หลังจากมีการติดต่อกันในโลกออนไลน์ โดยฝ่ายที่เริ่มต้นก่อนก็คือ Sara จากประเทศสวีเดนซึ่งเพื่อนของเธอบังเอิญไปเจอรูปภาพของ Shannon ในอินเทอร์เน็ตและสังเกตเห็นว่าหน้าตาคล้ายกับเธอซะเหลือเกิน จนไปทักว่านี่เป็นรูปของเธอเองรึเปล่า? จนในที่สุดทั้ง Sara กับ Shannon ก็ได้ติดต่อพูดคุยกัน ทั้งสองเข้ากันได้ดีมาก Sara จึงตัดสินใจเดินทางไปที่เมือง Dublin ประเทศไอร์แลนด์ บ้านเกิดของ Shannon เมื่อทั้งสองได้เจอหน้ากันเป็นครั้งแรก ฝ่าย Shannon ก็บอกว่า ‘ฉันเข้าโอบกอดเธอทันที แล้วก็ยืนนิ่งอยู่แบบนั้น แบบว่า นี่มันอะไรกันเนี่ย มันแปลกมากๆ เลยนะ’ ‘ทั้งจมูกและดวงตา ใบหู ริมฝีปาก ความรู้สึก และรอยยิ้ม…
-
เอ๊ะ ยังไง!? ทีมฟุตบอลอิตาลีเซ็นสัญญาว่าจ้างอดีตดาวโป๊ ให้เข้าร่วมทำงานกับสโมสร
ในข่าวคราววงการลูกหนังนั้น โดยปกติส่วนมากแล้วหากมีการเซ็นสัญญาเปลี่ยนผู้คุมทีม ซื้อตัวผู้เล่นหรืออะไรต่างๆ นั้นก็มักจะเป็นคนในวงการค้าแข้งใช่มั้ยเอ่ย? แต่ตอนนี้ทุกสิ่งกำลังจะหมุนไปอย่างรวดเร็วหลังจากที่สโมรสรฟุตบอลอิตาลีได้ทำการเซ็นสัญญาว่าจ้างดาวโป๊เข้าร่วมทำงานด้วย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่แปลกประหลาดและไม่เคยเจอมาก่อน เพราะว่าเป็นการนำคนนอกวงการเข้ามามีส่วนร่วมในบทบาทการบริหารสโมสรฟุตบอล โดยอดีตดาวโป๊อิตาลี Sara Tommasi วัย 34 ปี กำลังจะเปลี่ยนบทบาทของตัวเองเข้ามามีส่วนร่วมในวงการลูกหนังแล้ว โดยสโมสรที่ทำการเซ็นสัญญาว่าจ้างเธอนั้นเป็นสโมสรฟุตบอลสมัครเล่นของอิตาลี นามว่า Marruvium ทั้งนี้ยังไม่ได้มีการประกาศออกมาเป็นอย่างทางการว่าเธอจะเข้ามาทำในหน้าที่อะไร ตำแหน่งไหน มีความรับผิดชอบอย่างไรบ้างกับสโมสร แต่คาดเดากันว่าน่าจะเป็นผู้จัดการทีม ทางด้านประทานสโมสร Romeo D’Amore รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ อีกทั้งยังทิ้งท้ายไว้ว่า ‘ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างมาก พวกเราจริงจังกับเรื่องนี้ และ Sara จะไม่ทำให้พวกเราผิดหวัง’ โอ้โห มั่นใจขนาดนี้ หรือว่าจะเป็นแผนกระตุ้นนักเตะรึเปล่านะ!? แหนะๆๆ หนุ่มๆ ที่ได้อ่านข่าวนี้เสร็จ เหมียวรู้นะว่าจะไปไหนต่ออ่ะ รีบเอาชื่อ Sara ไปค้นหากันตั้งแต่ยังอ่านไม่จบเลยมั้ง ฮ่าฮ่า!! เอาเป็นว่า ยังไงก็ต้องคอยติดตามกันต่อไปละกัน ว่าเธอจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรในสโมสรฟุตบอลสมัครเล่นนี้ ที่มา :…
-
แรงบันดาลใจกับความพยายาม หากตั้งใจจริง ก็สามารถพัฒนาทักษะการวาดภาพได้!!
เคยรู้สึกบ้างมั้ยว่าเวลาที่เราอยากจะวาดภาพอะไรซักอย่างก็อยากจะให้มันออกมาสวยและดูดี ถึงแม้ว่าคนอื่นจะมองว่ามันยังไม่สวยซักเท่าไหร่ อย่างน้อยก็ขอให้สวยในสายตาเราซะก่อน แต่ยังไง๊ ยังไง ความเป็นศิลปินในตัวเรามันไม่เคยพัฒนาขึ้นเลย ก็มีบ้างที่อาจจะทำให้รู้สึกท้อ และในที่สุดก็ทำให้ล้มเลิกความตั้งใจที่จะพัฒนาทักษะการวาดภาพของตัวเอง แต่ไม่เป็นไร หยุดพักซักหน่อย แล้วค่อยกลับมาจับดินสอวาดภาพอีกครั้ง จงยึดสุภาษิตที่ว่า ‘ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น’ อย่างเช่นการเปรียบเทียบภาพวาดในช่วงแรกและช่วงหลังต่อไปนี้ ทั้งนี้ทักษะต่างๆ นั้นไม่ได้เกิดขึ้นภายในหนึ่งวันหรือสองวัน ต้องอาศัยระยะเวลาซักหน่อยอาจจะใช้เวลาเป็นปี แต่รับรองได้ว่ามันจะติดตัวเราไปตลอดเลยล่ะ ที่มา : thechive
-
นักวิจัยเผยวิธีเอาชนะโรคกลัวแมงมุมได้ภายในสองนาที ‘ถ้ากลัวมัน ก็เข้าไปอยู่กับมันซะเลยสิ’
สัตว์โลกที่ทำให้หลายๆ คนถึงกับขนลุกขนพองผยองเดชมานักต่อนัก มันก็คือ ‘แมงมุม’ นั่นเอง ด้วยจำนวนขาที่มีมากว่าสี่ บางตัวก็ขายาวเป็นก้าง มีหนวด บางตัวก็อ้วนตุ๊บขาเป็นปล้อง แถมยังมีขนตามตัวอีก อี๋!! แค่นึกภาพก็สยองจะแย่แล้วววววว แล้วความกลัวแมวมุมเหล่านี้ คุณเคยคิดที่จะเอาชนะมันบ้างรึเปล่า? ฟังดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นซะเหลือเกิน ทั้งนี้นักวิจัยจากภาควิชาจิตวิทยาคลินิก มหาวิทยาลัยอัมสเตอร์ดัม ได้เสนอทางเลือกอันสุดแสนจะวิเศษที่จะทำให้คุณสามารถเอาชนะความกลัวแมงมุมได้ภายในสองนาทีเท่านั้น แต่การที่จะเอาชนะมันในระยะเวลาอันแสนสั้นนี้ กลับกลายเป็นวิธีการที่ดูเหมือนจะทรมานเสียมากกว่า ดั่งสุภาษิต ‘หนามยอกเอาหนามบ่ง’ กลัวแมงมุม ก็ต้องไปอยู่กับแมงมุมภายในห้องเดียวกัน ซึ่งนักวิจัยก็เชื่อว่าการกระทำแบบนี้ภายในเวลาสองนาที กับการนำตัวกระตุ้นความกลัวเข้าไปด้วย จะช่วยทำให้เกิดการต่อสู้กับความกลัว โดยที่สองนักวิจัย Marieke Soeter และ Merel Kindt ได้ทำการทดลองกับผู้ที่มีอาการกลัวแมงมุม 45 ราย ไปขังเดี่ยวพร้อมกับแมงมุมทารันทูล่า พร้อมกับให้ยา Propranolol หรือ Placebo เพื่อลดความเครียดและกดดันของผู้ทดสอบ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือบางคนอาการกลัวแมงมุมหายไปในทันที ในขณะบางส่วนก็ยังคงมีอาการกลัวแมงมุมอยู่ โดยอาศัยระยะเวลาผ่านไปประมาณปีกว่าๆ ความกลัวแมงมุมก็เริ่มหายไป …
-
เป็นไปได้!! สินค้าจากแคนาดา ‘อากาศแคนาดาแท้อัดกระป๋อง’ ทางเลือกของอากาศบริสุทธิ์
ทุกวันนี้สินค้าแปลกๆ ใหม่ๆ มักจะคลอดออกมาให้เราถึงกับงงงวยกันอยู่เสมอว่า เอ!? ไอ้ที่ผลิตมาเนี่ยทำเอาขำๆ หรือว่าทำขายจริงๆ อย่างคอนเซปต์ของอากาศอัดกระป๋อง ที่ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องตลก แต่มันก็ทำออกมาแล้วจริงๆ นะเออ สำหรับอากาศอัดกระป๋องนี้มีชื่อว่า Vitality Air ส่งตรงมาจากรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา โดยการนำอากาศบริสุทธิ์จากอุทยานแห่งชาติแบมฟ์และทะเลสาบ Louise ที่ขึ้นชื่อว่ามีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านั้นเป็นเพียงแค่เรื่องตลกขำขันที่โผล่ขึ้นมาใน eBay แต่สุดท้ายก็คลอดออกมาจนได้จริงๆ โดยทำการอัดอากาศจากบริเวณที่กล่าวไปข้างต้น นำมาบรรจุไว้ในกระป๋องแบ่งขาย รวมไปถึงการทำออกซิเจนบริสุทธิ์ตามมาด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับการใช้งานนั้นก็ใช้งานง่ายเหมือนกับสเปรย์พ่นทั่วไป ฉีดออกมาเพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์หรือจะใช้หน้ากากชนิดพิเศษเพื่อสูดดมก็ทำได้ ซึ่งแต่ละกระป๋องสามารถสูดดมได้ประมาณ 150 – 200 ครั้ง เดิมทีมีเป้าหมายลูกค้าเป็นนักกีฬาชาวแคนาดาและประชาชนทั่วไปเพื่อเป็นตัวช่วยในการหายใจในระหว่างปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นภายในประเทศ แต่ตอนนี้ได้ขยายฐานลูกค้าไปไกลถึงประเทศจีนแล้ว หลังจากที่ทางการจีนได้ประกาศภาวะหมอกควันฉุกเฉิน และไม่น่าเชื่อว่าหลังจากที่ส่งไปให้ตัวแทนขายที่ประเทศจีน ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ในเว็บไซต์ต้องประกาศเลยว่าของหมด และรีบส่งของตามมาสบทบภายหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ขายในราคาประมาณกระป๋องละ 360 – 721 บาท (10 –…
-
สาวๆ สนใจมะ!! แนะนำให้รู้จัก ChiChi แอพฯ สำหรับวัดขนาดไฟหน้าสาวๆ วิธีใช้ก็แค่ ‘หนีบในร่อง’
อุ้ย ตาย ว้าย กรี๊ด!! นี่โลกของเรามันพัฒนาไปไกลได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือนี่ ใครมันจะไปคิดล่ะว่าการวัดขนาดของไฟหน้าของสาวๆ นั้นจะสามารถพัฒนามาเป็นแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนได้ บอกไว้ก่อนเลยนะว่าเหมียวไม่ได้คิดทะลึ่งตึงตังอะไรเลยซักนิ๊ดดดดด สำหรับแอพฯ ดังกล่าวมีชื่อว่า ChiChi ช่วยบ่งบอกถึงขนาดไฟหน้าของสาวๆ ได้ว่ามีคัพอะไร จะได้ไม่ต้องไปหาภาพมาเปรียบเทียบกับขนาดของตัวเอง และไม่ต้องสงสัยเลยว่าแอพฯ นี้มาจากที่ไหน ก็เป็นฝีมือการพัฒนาของชาวญี่ปุ่นนี่แหละ ฟังถึงคุณสมบัติแอพฯ แล้ว พี่ไม่ได้มาเล่นๆ นะจะบอกให้!! เพราะว่ามันมีประโยชน์ในแง่ของปัญหากว่า 80% ของผู้หญิงทั่วโลกที่เลือกขนาดบราไม่ตรงกับขนาดคัพหน้าอกของตัวเอง เป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพที่จะตามมาภายหลัง สำหรับวิธีการใช้ก็แสนจะง่ายดาย หลังจากที่ติดตั้งไว้ในเครื่องแล้ว เปิดแอพฯ ขึ้นมาแล้วก็นำสมาร์ทโฟนไปหนีบไว้ในร่องหน้าอก และแอพฯ ก็จะทำการคำนวนหาขนาดคัพที่ถูกต้องของผู้ใช้ แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดคือสามารถวัดขนาดคัพที่ใหญ่ที่สุดอยู่ที่คัพ E หากใครสนใจอยากจะลองใช้งาน แอพฯ จะเปิดให้ทดสอบในช่วงเดือนมกราคม ปีค.ศ. 2016 ที่จะถึงนี้ และจะต้องลงทะเบียนผู้ทดสอบหน้าเว็บไซต์ด้วย ให้บริการบน iOS เพียงอย่างเดียวเท่านั้น เอ้า!! สาวๆ คนไหนอยากจะลอง อยากจะรู้ขนาดที่แท้จริงของตัวเอง…
-
Martin Shkreli ผู้ปั่นราคายาต้าน HIV บุคคลที่โดนเกลียดมากที่สุด ตอนนี้ปั่นราคายาเพิ่มอีกตัว
ถ้าหากว่าเอ่ยชื่อของ Martin Shkreli บางคนอาจจะมาไม่ทันหรือยังไม่รู้จักชื่อเสีย(ง) เรียงนามของพ่อหนุ่มคนนี้ เขาเป็นคนที่โดนเกลียดมากที่สุดในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นบุคคลที่เห็นแก่ตัว ไร้น้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยการปั่นราคายาต่อต้านเชื้อ HIV ที่พุ่งสูงไปถึง 5,000 เท่ากว่าราคาที่แท้จริง Martin Shkreli ผู้บริหารระดับ CEO ของบริษัท Turing Pharmaceuticals จากที่เคยทำวีรกรรมแสบเอาไว้ ตอนนี้ก็เอาอีกด้วยการปั่นราคายารักษาโรคอเมริกันทริพาโนโซม (Chagas Disease) เป็นลักษณะของการติดเชื้อปรสิตที่สามารถทำให้เกิดภาวะหัวใจล้มเหลว ด้วยการกระทำแบบนี้ทำให้ชีวิตของผู้คนนับร้อยนับพันต้องตกอยู่ในความเสี่ยง จากปกติที่ตัวยารักษาโรคอเมริกันทริพาโนโซม ควรจะอยู่ที่ 50 ดอลลาร์ (1,811 บาท) โดนปั่นสูงไปถึง 60,000 ถึง 100,000 ดอลลาร์ (2.17 ล้าน ถึง 3.62 ล้านบาท) วีรกรรมก่อนหน้านั้นคือยาต่อต้านเชื้อ HIV ที่บริษัทของเขาผูกขาดและเป็นผู้จัดจำหน่ายเพียงผู้เดียว จากราคาที่ควรจะเป็นอยู่ที่ 13.50 ดอลลาร์ (489 บาท) มีราคาพุ่งสูงถึง…
-
อ๊ะ ตอผุด!? คลิปสัมภาษณ์ Stanley Kubrick ยอมรับว่าการไปเหยียบดวงจันทร์มันไม่มีจริง
ย้อนไปกลับใปในช่วงยุคสมัยที่มนุษย์ริเริ่มและพยายามอย่างมากกับการที่จะออกไปสำรวจนอกโลก โดยมีจุดหมายเริ่มต้นเป็นที่ใกล้ๆ นั่นก็คือดวงจันทร์ บริวารที่มีระยะใกล้โลกมากที่สุด จนกระทั่งสหรัฐอเมริกาก็ได้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกได้เห็นว่าสามารถไปเหยียบบนดวงจันทร์ได้แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้มีคนเชื่อไปซะทุกคน มีทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ เกิดขึ้นเยอะมาก พร้อมกับตั้งคำถามและข้อสังเกตของคลิปวิดีโอก้าวแรกของมนุษย์ที่ไปเหยียบบนดวงจันทร์ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของแสงและเงา ความผิดปกติของธงที่นำไปปักบนดวงจันทร์ และอื่นๆ อีกมากมาย และบุคคลที่ได้ชื่อเสียงมากที่สุดจากการไปเหยียบดวงจันทร์เป็นคนแรกก็คือ Neil Armstrong ซึ่งภายหลังจากการเสียชีวิตของเขาประมาณ 15 ปี คลิปวิดีโอนี้ก็ถูกปล่อยออกมาเพื่อเปิดเผยเบื้องหลังว่าที่แท้จริงแล้วเหตุการณ์ทั้งหมดนั้นถูกกำกับโดยรัฐบาลสหรัฐฯ และ NASA โดยที่ทางด้าน Stanley Kubrick ก็ออกมายอมรับว่านักทฤษฎีสมคบคิดนั้นถูกต้องแล้ว โดยภาพที่เห็นนั้นเป็นผลงานของผู้กำกับสารคดีชื่อดัง T. Patrick Murray อีกทั้งยังบอกว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถูกจัดฉากเพื่อสนองคำพูดของประธาณาธิบดี John F Kennedy ที่ต้องการจะแสดงให้ทั้งโลกได้เห็นพลังของสหรัฐอเมริกาภายใต้การปกครองของตน แต่สำหรับ T. Patrick Murray แล้วการสร้างภาพในการลงจอดบนดวงจันทร์นั้นถือว่าเป็นผลงานชื้นเอกของเขาเลยก็ว่าได้ อีกทั้ง Kubrick ยังกล่าวเสริมไว้ด้วยว่า ก่อนที่จะถ่ายทำนั้นเขาถูกยัดเยียดข้อมูลที่ผิดๆ…
-
นักวิทย์ฯ วิเคราะห์ภาพวาด ‘โมนาลิซ่า’ มานานกว่า 10 ปี พบว่ามีภาพผู้หญิงอีกคนซ่อนอยู่!!
กลายเป็นเรื่องที่จุดประเด็นให้อึ้งกันอีกครั้ง หลังจากที่นักวทิยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ปัสกาล โกตต์ ได้รับอนุญาตจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ให้สามารถเข้าไปวิเคราะห์ผลงานศิลปะชิ้นเอกของโลกตั้งแต่ปีค.ศ. 2004 นั่นก็คือภาพวาด ‘โมนาลิซ่า’ ของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี โดยตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เขาได้ทำการวิเคราะห์ภาพดังกล่าวด้วยเทคโนโลยี Layer Amplification Method ที่คิดค้นขึ้นมาเอง เป็นเทคนิคการฉายแสงความเข้มข้นสูงเข้าไปในภาพหลายๆ เพื่อวัดค่าสะท้อนแสง โดยจะนำข้อมูลที่มาสร้างภาพที่อยู่ระหว่างชั้นต่างๆ ของภาพวาด แต่แล้วก็ต้องประหลาดใจเมื่อพบว่ามีภาพวาดทับซ้อนอยู่ใต้ภาพโมนาลิซ่ามากถึง 3 ภาพเลยล่ะ โดยภาพแรกเป็นภาพของผู้หญิงมีลักษณะมองออกไปด้านข้างไม่ได้มองตรงมาอย่างที่เห็น และมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอีกด้วย ส่วนภาพที่สองคือ ภาพร่างของบุคคลที่มีลักษณะศีรษะ จมูก และมือที่ใหญ่กว่าโมนาลิซ่า แต่มีริมฝีปากเล็กกว่า ส่วนภาพที่สามนั้นเป็นลักษณะคล้ายกับพระแม่มารีสวมเครื่องประดับศีรษะที่ประดับด้วยไข่มุก ทางด้าน ปัสกาล โกตต์ ก็เชื่อว่าภาพที่ปรากฏนั้นคาดว่าจะเป็น ‘ลิซ่า เกอราร์ดินี’ ภรรยาของพ่อค้าผ้าไหมชาวเมืองฟลอเรนซ์ในอดีต ส่วน ‘โมนาลิซ่า’ นั้นเป็นเพียงแค่ผู้หญิงอีกคน แต่อย่างไรก็ตาม…
-
ลูกอีช่างทิ้งต้องสั่นสะเทือน!! ภาพโฆษณาที่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ ตัดแปะคำบนขยะบอกเป็นนิสัย
ปัญหาของขยะที่ทิ้งไม่ลงถัง ขยะที่ถูกทิ้งข้างทางเรี่ยราด ถึงแม้จะจัดถังขยะไว้ให้แล้ว แต่สุดท้ายก็ทิ้งไว้กลางทางอยู่ดี นอกจากจะทำให้บริเวณนั้นสกปรกแล้ว ยังบ่งบอกได้ถึงลักษณะนิสัยของประชากรในภาพรวมได้เลยนะ สะท้อนให้เห็นถึงความมักง่าย!! Selfish เห็นแก่ตัว และภาพโฆษณาชวนเชื่อเสียดสีชุดนี้ ไม่ได้ต้องการให้เป็นโฆษณาเพื่อการค้าแต่อย่างใด โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกในตัวมนุษย์ผู้มักง่าย ผลิตโดยองค์กร Livegreen จากเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา Lazy ขี้เกียจ สร้างสรรค์ด้วยวิธีการตัดแปะคำที่มีอยู่บนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ หลากหลายชนิดให้เกิดเป็นคำศัพท์ที่จี้ได้ตรงจุด ให้กระทบกับบุคคลที่มักง่าย เห็นแก่ตัว ขี้เกียจ ซึ่งก็มาจากแนวคิดที่ว่า ‘เศษขยะที่ถูกทิ้งบ่งบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับตัวคุณเอง’ แบบว่าไม่ต้องบ่นให้ยืดยาว ให้ภาพเล่าเรื่องแทน!! Pig คำด่าที่แปลว่าหมู ให้ภาพลักษณ์ของความสกปรก กินเรี่ยราด Low Life ชีวิตอันต่ำตม (สกปรก เลอะเทอะ) Dumb ไอ้งั่ง ก่อนหน้านี้ของฝั่งสหรัฐฯ ก็เคยทำเหมือนกัน ด่าเลย ขอแรงๆ!! โฆษณาชวนเชื่อชุดนี้ อาจจะไม่สามารถแก้ไขนิสัยของผู้มักง่ายได้อย่างทันที ต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อให้บุคคลในกลุ่มมักง่ายได้ปรับปรุงตัว อย่างน้อยก็น่าจะเข้าไปสะกิดในจิตใจของพวกเขาบ้างแหละ ที่มา…
-
พ่อหนุ่มเปลี่ยงแปลงชีวิตตัวเอง ออกทัวร์ทวีปยุโรปโดยไม่ใช้เงินเลย เพื่อการกุศลสำหรับโรคมะเร็ง!!
แทบจะทุกคนเลยก็ว่าได้ กับการตั้งเป้าหมายในชีวิตเอาไว้ว่าอยากจะออกไปเที่ยวรอบโลก อยากจะทำแบบนี้ให้ได้ซักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ก็ไม่อาจทำได้นั่นก็เป็นเพราะว่าด้วยปัจจัยของหน้าที่การงานและเรื่องของการเงิน ซึ่งเวลาที่เราจะเดินทางไปที่ไหนซักที่ มันก็ต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าที่พักและอื่นๆ อีกมากมาย ไม่มีทางที่จะไม่ใช้เงิน แต่สำหรับพ่อหนุ่ม Kris Mole วัย 24 ปีผู้นี้ ได้พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่าการออกไปผจญภัยไม่จำเป็นต้องใช้เงินเสมอไป Kris Mole เดินทางด้วยระยะทางกว่า 15,712 กิโลเมตรแล้ว (9,763 ไมล์) ผ่านทั้งเมืองหลวงเมืองเล็กในยุโรปรวมแล้วทั้งสิ้น 23 เมือง ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถระดมทุนสำหรับองค์กร Cancer Research ได้อีกเป็นจำนวนมาก จุดเริ่มต้นการเดินทางของเขานั้นก็มาจากเมืองไบรตัน ประเทศอังกฤษ แต่ก่อนเคยเป็นคนติดเหล้าและการพนัน จนหมดเนื้อหมดตัว อีกทั้งหลังจากที่คุณป้าของเขาถูกวินิจฉัยเป็นโรคมะเร็ง เขาจึงตัดสินใจเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของตัวเอง!! ตั้งแต่ปีค.ศ. 2007 เขาเริ่มต้นทริปไร้การใช้เงินเพื่อการกุศล เดินทางไปทั่วทวีปยุโรป ท้าทายชีวิตด้วยการเสี่ยงถูกจับบนรถไฟโดยที่ไม่ซื้อตั๋ว ค่ำที่ไหนก็นอนที่นั่น…
-
รวม 10 สุดยอดสถานที่ทางธรรมชาติ ที่ยังไม่มีอารยธรรมท่องเที่ยวของมนุษย์เข้าไปยุ่งเกี่ยว!!
มนุษย์เลือกใช้วิถีชีวิตท่ามกลางเจริญแต่ก็ขาดธรรมชาติไปไม่ได้เช่นกัน ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อาณาเขตความเจริญของเมืองและหมู่บ้านก็ได้ขยายออกไปเรื่อยๆ ทำให้สภาพธรรรมชาติรอบๆ จางหายไป และในไม่ช้าก็จะกลายเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์ เมื่อกล่าวถึงธรรมชาติ มนุษย์ก็ยังคงค้นหาสถานที่ที่ยังคงเป็นธรรมชาติแบบ 100% อยู่ แต่ทว่ามันจะมาพร้อมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ยิ่งที่ไหนฮิตติดลมบน นักท่องเที่ยวก็จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาเป็นจำนวนมาก ทำให้บริเวณนั้นค่อยๆ เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ถ้าหากว่าดูแลไม่ดีเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ยังคงมีสถานที่ทางธรรมชาติที่ยังคงเป็นตัวตนของตัวเอง มีความสวยงามและอลังการทุกอณู เนื่องจากยังไม่มีอุตสหกรรมท่องเที่ยวเข้าไปตั้งรกราก อีกทั้งอยู่ห่างไกลจากความเจริญของมนุษย์ และยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก 1. The Forest Lake อยู่ในเขต Tyumen ประเทศรัสเซีย 2. Tepui หุบเขาสูงเสียดฟ้า ประเทศเวเนซุเอลา 3. น้ำตก Honokohau เกาะเมาวี รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา 4. ป่าฝน Amazon บริเวณพื้นที่อเมริกาใต้ (บราซิล, เปรู, โคลอมเบีย, เวเนซุเอลา,…
-
ภาพการ์ตูนชุด ‘ความสุขที่ได้รับจากการเลี้ยงแมว’ อธิบายได้ทุกสิ่งเกี่ยวกับชีวิตของทาสแมว!!
หากใครที่ยังไม่ได้ถวายชีวิตให้กับแมว ไม่เคยมีแมวเข้ามาในชีวิต หรือเพียงแค่เห็นผ่านๆ แมวก็น่ารักดีนะ ซึ่งพอได้มาเป็นทาสแมวอย่างเต็มตัว ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมัน ก็จะสัมผัสได้ถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ว่าจะได้ยินมาจากปากต่อปาก จากคำบอกเล่าของคนที่เลี้ยงแมวเองก็คงจะไม่รู้ซึ้งซักเท่าไหร่ ถ้านึกภาพไม่ออก ภาพการ์ตูนชุดนี้จะขยายภาพเหล่านั้นออกมาเอง ว่ามันเป็นแบบไหน!! ผู้ใช้ทวิตเตอร์ในนาม @otape0711 ก็ได้เผยภาพการ์ตูนชุด ‘ความสุขที่ได้รับจากการเลี้ยงแมว’ เป็นการ์ตูนหลายช่องกับลายเส้นน่ารักๆ เผยให้เห็นชะตากรรมของทาสแมวที่ต้องประสบและพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นทั้ง ออกไปไหนก็ไม่ได้ โดนแย่งผ้าห่ม จะลุก จะไปห้องน้ำ จะทำงาน ก็ไม่ได้ ทำลายข้าวของ แย่งความอบอุ่นจากเครื่องทำความร้อนอีก ความร้ายกาจของแมวทำให้ชีวิตทาสต้องอมทุกข์ถึงเพียงนี้ (แต่ก็ยอม) ต่อให้ทุกข์แค่ไหนมันก็คือความสุขที่ได้รับนั่นแหละ ฮ่าฮ่า!! เอ้า เจ้าพร้อมที่จะถวายชีวิตให้กับแมวแล้วหรือยังล่ะ เจ้ามนุษย์ทั้งหลาย!! ที่มา : rocketnews24
-
นักศึกษาสัญชาติเกาหลีใต้ถือป้าย ‘กอดฟรี’ มอบให้กับชาวญี่ปุ่น เพื่อลบความบาดหมางในอดีต!!
จากอดีตที่ผ่านมานั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ ถึงแม้ว่าจะลดลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่ก็ยังคงสัมผัสได้อยู่บ้างกับเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเกาหลีใต้กับประเทศญี่ปุ่นอันบอบบางเหลือเกิน ทั้งเรื่องสงคราม เรื่องดินแดน เรื่องภายใต้การปกครองที่ทำให้ถูกกดให้อยู่ในฐานะที่ต่ำกว่า ถึงแม้ว่าเรื่องเหล่านี้ยังคงฝังใจทั้งสองประเทศ นักศึกษาแลกเปลี่ยนชาวเกาหลีใต้ที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศญี่ปุ่น เธอมีชื่อว่า Suyeon Youn ก็ได้พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงจากความบาดหมางให้กลายมาเป็นความเข้าใจอันดี เธออยู่ที่ญี่ปุ่นมาปีกว่าแล้ว และชอบประเทศญี่ปุ่นมากๆ เลยด้วย เธอจึงตัดสินใจใช้เวลาที่อยู่ประเทศญี่ปุ่น ออกไปยืนถือป้ายที่มีใจความว่า ‘กอดฟรี’ และ ‘ฉันเป็นคนเกาหลี เธอจะให้อ้อมกอดกับฉันบ้างรึเปล่า?’ และสถานที่ที่เธอเลือกก็คือบริเวณศาลเจ้าและย่านการค้าที่มีคนพลุกพล่านในเกียวโต ช่วงแรกๆ ที่ยืนถือป้ายก็ออกอาการประหม่านิดหน่อย รอคอยผู้ที่จะเข้ามามอบโอบกอดอันแสนอบอุ่นอยู่นานแสนนาน มีทั้งอ้อมกอดเล็กๆ ไปจนถึงอ้อมกอดจากกลุ่มใหญ่ เห็นภาพแบบนี้แล้วก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ที่มา : rocketnews24
-
7 ภาพยนตร์ยุคปัจจุบัน ถูกจับย้อนกลับไปสู่สื่อในอดีตบน ‘เทปวิดีโอ’ เพิ่มความขลังได้หลายเท่าตัว!!
หากใครที่เป็นคอภาพยนตร์รับชมที่บ้านในสมัยนู้น (สมัยไหนก็ไม่รู้) แบบว่าช่วงนั้นสื่อภาพยนตร์ภายในบ้านก็คงจะหนีไม่พ้น ‘เทปวิดีโอ’ อย่างแน่นอน ใครที่ซื้อมาซัก 1 ม้วน ก็กรอดูมันอย่างนั้นหลายเดือน หลายปี หรือไม่ก็ออกไปหาเช่าเรื่องใหม่ๆ ตามร้านเช่าวิดีโอ EX_MACHINA จนมาถึงยุคของ VCD, DVD และแผ่น Blu-Ray จนกระทั่งเดี๋ยวนี้เป็นรูปแบบไฟล์ดิจิตอลรวมไปถึงระบบการให้บริการแบบ Streaming บนอินเทอร์เน็ต ภาพหน้าปกของภาพยนตร์ก็ดูล้ำไปเรื่อยๆ ตามสมัยนิยม แต่ถ้าหากลองนำภาพยนตร์ในปัจจุบันมาบรรจุในวิดีโอเทปแบบเก่าบ้าง หน้าตาของมันดูขลังไปเลยแฮะ!! Only God Forgives Her Kumiko The Treasure Hunter Mad Max Fury Road The Revenanat Under The Skin ภาพโดยรวมของทั้ง 7 เรื่องในรูปแบบวิดีโอเทป …
-
ทางเลือกการศึกษา!! หนุ่มจากสถาบัน MIT ลาออกมาตั้งวิทยาลัยเอง เรียนก่อน จ่ายทีหลัง!!
นับว่าเป็นอีกปัญหาหนึ่งของการศึกษาในระดับที่สูงๆ อย่างการเรียนในระดับอุดมศึกษา (ทั้งมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย) นั้นจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากๆ จนทำให้เหล่านักเรียน นักศึกษาต้องหันหน้าเข้าหาแหล่งเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (ในประเทศไทยก็คือ กยศ.) ซึ่งสำหรับที่ต่างประเทศก็มีเช่นเดียวกัน แต่ทว่าด้วยค่าเทอมที่สูงลิบ ค่ากิน ค่าอยู่ก็แพง รวมไปถึงหนี้จากการกู้ยืมเพื่อการศึกษาก็มีจำนวนสูงเช่นกัน โดยหนึ่งในนักศึกษาจากสถาบัน MIT – Jeremy Rossman เขาก็ประสบกับปัญหาหนี้จากการกู้ยืมเพื่อการศึกษานี้ เพียงระยะเวลาที่เป็นนักศึกษาผ่านไปแค่ 9 เดือน (ค่าเทอม ค่าความเป็นอยู่) ก็ปาเข้าไปแล้วประมาณ 1.6 ล้านบาท (44,720 ดอลลาร์) เขาจึงตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะทำได้มาก่อน นั่นก็คือการลาออก และไปตั้งวิทยาลัยของตัวเอง เขาไม่ได้ก่อตั้งเพียงคนเดียว ยังมี Ashu Desai เป็นผู้ร่วมก่อตั้งด้วย พวกเขาตั้งชื่อว่า The Make School (โรงเรียนแห่งการสร้าง) โดยให้นิยามคือเป็นระบบ Anit-College (ต่อต้านระบบวิทยาลัยแบบเก่า) โดยจะเป็นสถานที่เรียนสำหรับผู้ก่อตั้งเองและเหล่านักพัฒนาซอฟต์แวร์ด้วย ความแตกต่างของวิทยาลัยแห่งนี้ก็คือ…
-
ชายหนุ่มวอนชาวเน็ตช่วยตามหา ‘ช่างภาพปริศนา’ กับภาพความงดงามระหว่างที่เขาขอแฟนแต่งงาน
ในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตแต่ละช่วงนั้น หนึ่งสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือการถ่ายภาพเพื่อเก็บความทรงจำดีๆ เหล่านั้นเอาไว้ เผื่อว่าวันไหนจะได้กลับมาเปิดดูภาพนั้นอีกรอบ เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก อย่างในกรณีของคู่รักที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตคู่อย่างจริงจัง ที่เหมียวจะบอกคือช่วงจังหวะเวลาในการขอแต่งงานนั่นเอง หากใครมีเพื่อนฝูงหรือมีเงินซักหน่อยเพื่อจ้างช่างภาพมาเก็บภาพความประทับใจก็จะเป็นอะไรที่ดีมากเลยล่ะ ซึ่งสำหรับพ่อหนุ่ม Michael Kent จากประเทศอังกฤษ ได้ทำการคุกเข่าขอแฟนสาว Fiona Newlands แต่งงานในต่างแดนที่ประเทศไอซ์แลนด์ จึงไม่มีใครถ่ายรูปให้ Dear Internet. Last night I proposed to Fiona Newlands in Iceland. A random woman took our picture as it happened (we… Posted by Michael John Kent on Saturday, November 28, 2015 จนมีผู้หญิงรายหนึ่งเดินผ่านมา เขาจึงขอให้เธอช่วยถ่ายรูปช่วงเวลาสำคัญให้…
-
23 ปีผ่านมาแล้ว ชมการเปลี่ยนแปลงของชุด Power Rangers ฉบับฝรั่งแสดงกันดีกว่า!!
หากจะให้พูดถึงภาพยนตร์การตูนคนแสดงอย่าง Power Rangers หรือขบวนการห้าสีอันโด่งดังที่มีต้นฉบับมาจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งเด็กน้อยและเด็กโข่งต้องร้อง ‘อ๋อ’ กันอย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะในยุคสมัยไหน ต่างก็เป็นที่จดจำและเติบโตมาด้วยกันทั้งนั้น สำหรับซีรีส์ Mighty Morphin Power Rangers นั้นเป็นขบวนการห้าสีที่ออกฉายในฝั่งอเมริกา เริ่มออกฉายเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1993 โดยอ้างอิงมาจาก Japanese Super Sentai ขบวนการห้าสีของฝั่งญี่ปุ่น มีภาคต่อออกมามากมาย มีชุดคอสตูมที่แตกต่างกันออกไป ตามเอกลักษณ์ของแต่ละภาค Mighty Morphin Power Rangers ฉบับก่อนออกเป็นภาพยนตร์ Power Rangers Zeo Power Rangers Turbo Power Rangers in Space Power Rangers Lost Galaxy Power Rangers Lightspeed…
-
เชฟชาวออสซี่ทดลองย่างเนื้อซี่โครงแกะในรถ แสดงอันตรายของการปล่อยเด็กทิ้งไว้ในรถ!!
หากใครที่ใช้รถยนต์เป็นประจำก็คงจะทราบกันดีว่าการจอดรถในที่โล่งแจ้งกลางแดดร้อนจัดๆ นั้นเป็นสิ่งที่ไม่อยากจะให้เกิดขึ้น แต่ก็ต้องเกิดเพราะว่าไม่สามารถหาที่จอดรถใต้ร่มได้ ปัญหาที่ตามมาก็คือความร้อนที่สะสมอยู่ภายในตัวรถ ร้อนจะชนิดที่ว่ามันก็คือเตาอบดีๆ นี่เอง และหนึ่งสิ่งที่ต้องใส่ใจกันเป็นพิเศษก็คือการลืมหรือปล่อยเด็กทิ้งไว้ในรถยนต์ที่จอดไว้ในบริเวณที่โล่งแจ้ง ทางด้าน Kidsafe Australia ก็ได้เชิญให้เชฟชาวออสเตรเลีย Matt Moran มาพิสูจน์ถึงความร้อนระอุภายในรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้กลางแดด ว่ามันร้อนมากมายแค่ไหน ก่อนหน้านั้นเขาก็ได้ทำการจอดรถยนต์ไว้ใกล้ๆ กับบริเวณชายหาด โดยมีอุณหภูมิเริ่มต้นที่ 27.1 องศาเซลเซียส จากนั้นก็นำเนื้อซี่โครงแกะวางไว้บนถาดและนำมาวางทิ้งไว้ในรถยนต์คันดังกล่าว แล้วก็ปล่อยให้กระบวนการทำความร้อนย่างเนื้อให้สุก ปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง อุณหภูมิค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนภายในรถยนต์นั้นร้อนระอุถึง 72.5 องศาเซลเซียส เนื้อซี่โครงแกะชิ้นนี้ก็กลายมาเป็นเนื้อย่างที่พร้อมรับประทานแล้ว แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นหลัก สิ่งที่เขากำลังจะบอกก็คือ ในทุกๆ ปีมีเด็กกว่า 5,000 รายถูกทิ้งไว้ในรถยนต์แบบนี้ ความร้อนสามารถคร่าชีวิตคนได้ เพราะหากรถยนต์มีอุณหภูมิที่สูงมากๆ มันก็ไม่ต่างไปจากเตาอบเลย แม้จะเปิดหน้าต่างระบายความร้อนแล้วก็ตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กที่ไม่สามารถพาตัวเองออกมาจากที่ที่อันตรายแบบนี้ เพราะฉะนั้นจงใส่ใจกับเด็กๆ ด้วย ที่มา : theage
-
เธอคือแม่สาวนักคอสเพลย์ ‘Angie’ ไม่ว่าจะคอสเป็นตัวอะไร เธอก็ดูแน่นไปซะทุกตัวเลย!!
ว่าแล้วเหมียวเองก็นำเสนอในเรื่องของการแต่งคอสเพลย์มามากมาย มีทั้งอันที่ดูดี สมจริง ใกล้เคียงต้นฉบับ รวมไปถึงอันที่ดูเห่ย เอาฮา ติดตลกก็ไม่น้อย แต่สำหรับคราวนี้ขอนำเสนอนักคอสเพลย์ฝ่ายหญิงที่คุณไม่ควรพลาด (โดยเฉพาะหนุ่มๆ วัยกลัดมัน) April O’Neil จาก Teenage Mutant Ninja Turtles (นินจาเต่า) เธอคนนี้มีชื่อว่า Angie เธอเป็นนักคอสเพลย์ตัวยงเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครหญิงตัวไหน เธอจะกลายร่างเป็นตัวละครนั้น แต่ด้วยเอกลักษณ์ของเธอเองก็เลยทำให้ตัวละครที่ถูกคอสนั้น ดูแน่นไปซะทุกส่วน คือแบบว่าเห็นแล้วจะเป็นลม อิอิ Power Girl จากฝั่ง DC ยอมแพ้ซะดีๆ นะ แม่เสือสาว คอสเพลย์เป็น Athena คอสเพลย์เป็นนักรบบ้านๆ บ้าง Hyrule Warriors จาก Zelda แม่เหมียวน้อย Catwoman…
-
คุณแม่ทำความสะอาดห้องน้ำในบ้านเจอของเล่นลูกชาย หย่อนคำถามจนทวิตเตอร์ลุกเป็นไฟ!!
กลายเป็นเรื่องที่สะกิดต่อมฮาจนได้ เมื่อคุณแม่ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งที่ชื่อว่า Patty Parsons ได้เข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นล่างภายในบ้าน แล้วก็ไปเจอกับสิ่งของบางอย่างติดอยู่กับผนังห้องน้ำ ซึ่งเธอก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร แถมมีแต่ลูกชายของเธอเพียงคนเดียวที่ใช้ห้องน้ำนี้ และด้วยความสงสัยของคุณแม่ ก็เลยหย่อนประเด็นคำถามลงไปในทวิตเตอร์ของเธอ มีใครรู้บ้างว่าไอ้เจ้าสิ่งนี้มันคืออะไร? ว่าแล้วก็มีผู้ใจดีเข้ามาตอบคำถามให้กับเธอ บ้างก็ว่าเป็นที่หนีบแปรงฟันบ้าง บ้างก็ว่าเป็นไมโครโฟนของเล่น คุณแม่ยังบอกเลยนะว่า ได้กลิ่นหอมละมุนละไม ฮ่าฮ่า!! เจอรายนี้บอกว่าเป็นตัวหนีบฝักบัว สีฟ้าอ่อนแบบนี้คนดังนิยมใช้กันด้วยนะเออ!! คำถามของคุณแม่ไปไกลเกินกว่าจะหยุดยั้งแล้ว ผู้คนแห่กดรูปหัวใจ (ไลค์) ให้กับทวีตคำถามของเธอกันมากมาย โทรศัพท์ของคุณแม่กระพริบตลอดเวลาจากทวีตต้นเรื่อง คุณแม่ยังไม่ยอมหยุดยั้งง่ายๆ มีการไปค้นห้องของลูกชายเพิ่มเติมตอนที่ลูกชายออกไปทำงานอีกแหนะ และแล้วก็เจอร่างแยกอีกอัน ฮ่าฮ่า!! ลูกชายของคุณแม่นี่เหลือร้ายจริงๆ (ยังจะคิดว่าเป็นไฟฉายอยู่อีกเรอะ?) ตายละหว่า ลูกชายของคุณแม่ไม่เหลือความลับอะไรอีกต่อไปแล้ว ของเล่นยอดชายโผล่มาซะขนาดนี้ ก็บอกแม่ดีๆ เถอะ ที่มา : thechive
-
จากเหตุการณ์เรือไททานิกอับปาง เรื่องราวของสองพี่น้องผู้รอดชีวิต แต่ต้องกำพร้าพ่อแม่
หากยังจำกันได้กับเหตุการณ์เรือสำราญขนาดมหึมาที่บรรทุกผู้โดยสารไปเต็มลำ และเมื่อวันที่ 15 เมษายน ค.ศ. 1912 เรือไททานิกประสบกับอุบัติเหตุชนกับภูเขาน้ำแข็ง ทำให้เรืออับปาง มียอดผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ราย และมีผู้รอดชีวิตราวๆ 710 ราย ซึ่งสองคนในนั้นก็คือเด็กชายวัย 2 ขวบ กับ 4 ขวบ ซึ่งในตอนแรกนั้น เมื่อทั้งสองรอดชีวิตจากเหตุการณ์เรือไททานิกอับปาง ยังไม่มีใครสามารถระบุได้แน่ชัดว่าเด็กทั้งสองคนชื่ออะไร เพราะไม่มีวี่แววของผู้ปกครองหรือพ่อแม่เลย จนกระทั่งผู้หญิงคนหนึ่งจากเมืองนิส ประเทศฝรั่งเศสได้เห็นภาพของเด็กทั้งสองจากหนังสือพิมพ์ ก็รู้สึกคุ้นหน้าว่าจะเป็นลูกๆ ของเธอ ผู้หญิงคนดังกล่าวมีชื่อว่า Marcelle Caretto เธอได้ทำการติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อทำการยืนยันตัวตนว่าเป็นลูกชายของเธอ อธิบายลักษณะรูปร่างและถามคำถามที่มีเพียงลูกชายของเธอเท่านั้นที่จะตอบได้ (ชื่อเก่าของลูกชายก็คือ Louis กับ Lola) ภายหลังการยืนยันความสัมพันธ์ เธอก็จะได้พบกับลูกๆ ทั้งสองของเธออีกครั้ง นั่นก็คือเด็กชาย Michel และ Edmond ที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา (ได้ชื่อใหม่) แล้วสองพี่น้องขึ้นไปอยู่บนเรือไททานิกได้อย่างไร? เรื่องราวทั้งหมดก็เกิดขึ้นจากคุณพ่อที่จากไปในเหตุการณ์เรือไททานิก เขามีชื่อว่า…
-
รักเธอสุดหัวใจ!! น้องหมาเดินทางไกลกว่า 300 กิโลเมตร เพื่อกลับไปหาหญิงผู้ช่วยชีวิตมัน
การบอกความรู้สึกของสัตว์นั้นไม่มีคำพูดใดๆ เพราะมันพูดเป็นภาษามนุษย์ไม่ได้ แต่ก็สามารถสื่อออกมาให้มนุษย์รับรู้ได้ผ่านจากท่าทางและการกระทำของมัน เพื่อเป็นการบอกว่าฉันคิดกับเธออย่างไร อย่างเช่นเรื่องราวของเจ้าสุนัขสีดำที่ชื่อว่าเจ้า Shavi จากประเทศรัสเซียตัวนี้ ก่อนหน้านั้นมันต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เป็นสุนัขจรจัดที่ต้องทนหนาวและทนหิวไปวันๆ จนกระทั่งวันหนึ่งมันก็ถูกรถชนและถูกทิ้งไว้ในสภาพใกล้จะสิ้นชีวา โชคดีที่มีพลเมืองดีพามันไปรับการรักษาได้ทันเวลา ก่อนที่ร่างกายอันบอบช้ำจะถูกอากาศหนาวคร่าชีวิต หลังจากนั้นก็ได้ทำการประกาศหาเจ้าของใหม่เพื่อนำมันไปเลี้ยง และแล้วโชคชะตาก็ได้นำพามันมาพบกับ Nina Baranovskaya หญิงผู้เป็นแม่พระที่ตอบรับเลี้ยง Shavi เพียงผู้เดียว Nina ได้พาเจ้า Shavi กลับมาพักอาศัยอยู่ที่แฟลตเล็กๆ ใน Rostov-on-Don เธอช่วยทำกายภาพบำบัดให้ ช่วยให้มันกลับมาเดินได้อีกครั้ง และสอนให้เรียนรู้คำสั่งพื้นฐานต่างๆ ปลอบใจยามได้ยินเสียงรถยนต์ ให้กำลังใจและดูแลเมื่อมันต้องได้รับการผ่าตัดจนหายดีในที่สุด แต่เนื่องจากแฟลตของเธอเล็กเกินไป อีกทั้งมีสุนัข 2 ตัว และแมวอีก 3 ตัว อยู่ภายใต้การดูแลของเธออยู่แล้ว Nina จึงจำเป็นที่จะต้องหาเจ้าของใหม่ ซึ่งก็มีเพียงเพื่อนเธอคนเดียวที่ยอมตกลง แถมยังอยู่ห่างไกลกว่า 300 กิโลเมตรเลยทีเดียว ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยดี…
-
คุณพ่อยอมลาออกงานเงินเดือนสูง ขายรถยนต์ เพื่อที่จะใช้ชีวิตที่เหลือพาลูกไปเที่ยวตามฝัน
เรื่องราวอันน่าประทับใจของคุณพ่อที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อดูแลลูกของตัวเอง อย่างเช่นคุณ John Silk จากอดีตนักธุรกิจ มีเงินเดือนสูงลิบ ได้ตัดสินใจลาออกจากงานที่มีเงินเดือนดีๆ ขายรถยนต์ Porsche คันหรู เพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ดูแลลูกสาวคนพิเศษ และพาเธอไปเที่ยวตามฝัน การตัดสินใจอันแกร่งกล้าของเขานั้น มีเหตุผลมาจากหน้าที่การงานในตอนนั้น ทำให้เขาไม่มีเวลาอยู่ดูแลลูกสาวเลย เขาจึงลาออกจากงาน ขายรถยนต์หรู และเริ่มระดมทุนไว้ใช้สำหรับทริปในฝันของลูกสาวของเขา ลูกสาวของเขามีชื่อว่า Vicky ซึ่งมีอาการในกลุ่มดาวน์และเป็นโรค Eisenmenger ที่มีความซับซ้อนเกี่ยวกับหัวใจและปอด ซึ่งจากการวินิจฉัยของแพทย์ เธออาจจะมีอายุถึงเพียงแค่ 15 ปี แต่ปัจจุบันเธอมีอายุถึง 22 ปีแล้วล่ะ โดยที่ก่อนหน้านั้นเธอได้เจอหน้าคุณพ่อเพียงแค่แค่สุดสัปดาห์เท่านั้น หลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่แยกทางกันเมื่อปีที่ผ่านมา ปัจจุบันคุณพ่อ John ได้งานใหม่เป็นผู้ช่วยคนขับรถบัสโรงเรียน ได้ไปรับไปส่งลูกที่โรงเรียนด้วยตัวเอง เจอหน้ากันทุกวัน ทั้งเช้าและเย็น ซึ่งถึงแม้จะเป็นงานที่เงินน้อย แต่มีความสุขมาก คุณพ่อเก็บเงินรักษาลูก แถมยังพาเธอไปเที่ยวมากถึง 24 ครั้ง 15 ประเทศ ตลอดระยะเวลา 14 ปี…
-
โจรถึงฆาตแอบไปซุ่มอยู่ในปล่องไฟ เจ้าของบ้านจุดไฟปุ๊บ ร้องลั่นก่อนดับอนาถคาปล่องไฟ!!
เรื่องราวที่ว่าไม่รู้จะสงสารโจรหรือเจ้าของบ้านดี เพราะว่ามันเป็นเรื่องของการสูญเสียชีวิตมนุษย์รายหนึ่งที่แอบเข้าไปอยู่ในปล่องไฟในบ้านหลังหนึ่งในเมือง Huron รัฐ California ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่เจ้าของบ้านได้ทำการจุดไฟในเตาผิงตามปกติ แต่แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องลั่นออกมาจากปล่องไฟ เจ้าของบ้านเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น ก็รีบทำการโทรแจ้ง 911 และพยายามที่จะดับไฟในเตาผิง ซึ่งภายในบ้านก็เริ่มมีควันฟุ้งเต็มไปหมด จนกระทั่งหน่วยฉุกเฉินเดินทางมาถึง ณ บ้านที่เกิดเหตุ ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ใช้เครื่องเจาะเตาผิง เพื่อที่จะช่วยชีวิตคนที่ติดอยู่ในปล่องไฟให้ได้ แต่ก็ไม่ทันการ ผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าจะเป็นโจรกลับสิ้นชีวาไปเสียก่อน โดยในตอนที่กำลังช่วยเหลือนั้นยังมีการตอบสนอง มีการหายใจและเคลื่อนไหวอยู่ในปล่องไฟอยู่ ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนก็ได้ทำการสรุปเอาไว้ว่า หัวขโมยรายนี้แอบปีนเข้าไปในปล่องไฟในช่วงเวลากลางคืน หวังว่าจะลงมาจนสุดข้างล่าง ณ เตาผิง แต่ดันติดอยู่ในปล่องไฟทั้งคืนจนถึงช่วงเวลากลางวัน ซึ่งทางเจ้าหน้าชันสูตรศพที่ก็ได้ศพหัวขโมยรายนี้ไประบุตัวตนของเขาต่อไป ที่มา : unilad
-
หลุดภาพถ่ายของมนุษย์แพะ ชาวเน็ตต่างถกเถียงกัน เป็นแค่เรื่องหลอกหรือมีอยู่จริง!?
ในความเป็นไปได้ในโลกของความเป็นจริง จากตำนานเรื่องเล่าลึกลับต่างๆ ในอดีต โอกาสที่จะเกิดขึ้นหรือพบเจอจริงๆ นั้นถือว่ามีน้อยมากๆ แต่ในเรื่องของสัตว์ประหลาดที่มีร่างกายเป็นครึ่งมนุษย์ ครึ่งสัตว์มีความเป็นไปได้อยู่บ้าง (รึเปล่า) เรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาในอเมริกา กับตำนานของ ‘มนุษย์แพะ’ สัตว์ประหลาดครึ่งคน ครึ่งแพะเป็นที่ล่ำลือกันมานานมากๆ ตั้งแต่ในช่วงปีค.ศ. 1957 เป็นต้นมา อาศัยอยู่ในป่าลึกห่างไกลผู้คนและมักจะปรากฏกายในช่วงกลางคืน เดินด้วยสองเท้าเหมือนมนุษย์ และเดินสี่เท้าเหมือนแพะ มีเขาและขนปกคลุมร่างกาย การค้นพบครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นในรัฐ Maryland แต่ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นมนุษย์แพะจริงๆ หรือไม่ เพราะหลักฐานภาพถ่ายที่ได้มานั้นเบลอจนแทบมองไม่ออก โดยสุดท้ายแล้วความเป็นไปได้ก็คือการกลั่นแกล้งใส่ชุดเป็นมนุษย์แพะ ไม่น่าจะต้องใส่ใจอะไรมาก แต่สำหรับบางคนกลับจริงจังกับเรื่องแบบนี้ Nathan Couch นักล่าท้าผี ก็ได้ทำการเขียนหนังสือ Goatman: Flesh or Folklore? (มนุษย์แพะ: มีจริงหรือแค่นิทาน?) เขาได้ทำการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับมนุษย์แพะที่มีตำนานมาร่วมกว่า 60 ปี ซึ่งก็กล่าวกันว่ามนุษย์แพะนั้นเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว ปรากฏตัวในหลายๆ รัฐด้วย จนกระทั่งมีการพบเห็นมนุษย์แพะในเวลากลางวันแสกๆ ใกล้ๆ บริเวณภูเขา Wasatch…
-
แคนาดาประกาศเตรียมพิจารณากัญชาถูกกฏหมาย ลดความสำคัญของศาสนาและอาวุธ!!
ท่ามกลางกระแสการถกเถียงในทางสากลกับประเด็นของ ‘กัญชา’ ที่มีความเห็นสองฝ่ายที่ยังคงขัดแย้งกันว่ากัญชาเป็นสิ่งเสพติดหรือเป็นยารักษากันแน่ ซึ่งก็มีการออกมาชี้นำเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของกัญชาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ และล่าสุดนี้ทางรัฐมนตรีของประเทศแคนาดา Justin Trudeau ได้ทำการประกาศเตรียมพิจารณาในเรื่องของการทำกัญชาให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย ลดความสำคัญของศาสนา รวมไปถึงการยกเลิกกฏหมายอาวุธปืนเพื่อลดจำนวนของปืนที่มีอยู่ในประเทศแคนาดา โดยการพิจารณาร่างกฏหมายในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อลดอัตราการเกิดอาชญากรรมภายในประเทศ จากการลักลอบขนกัญชา การให้น้ำหนักกับศาสนาที่มากจนเกินไป (เหยียดเพศทางเลือก) รวมไปถึงมีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมที่มีอาวุธปืนด้วย อย่างไรก็ตามเหล่าสมาชิกกลุ่มนักบิด Hells Angels ได้รวมกลุ่มออกมาประท้วงและแย้งเกี่ยวกับการร่างและพิจารณากฏหมายเหล่านี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเพิ่มอัตราการเกิดอาชญากรรมจากกัญชาซะมากกว่า ทางรัฐบาลเองก็มองในแง่มุมของการปฏิรูปประเทศให้เป็นไปในแนวทางสมัยใหม่มากขึ้น (เสรีนิยม) นั่นก็คือ การมีความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส การทำงานอย่างทุ่มเท กระตุ้นเศรษฐกิจ มีความเอื้ออาทรและเปิดกว้างเสรีของเพศทางเลือก ที่มา : unilad
-
เร่าร้อนเหลือเกิน!! ปฏิทินนู้ดเพื่อการกุศล กับเหล่านักศึกษาหนุ่มไร้เสื้อผ้าแห่ง Warwick
การทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น มักจะมีวิธีการที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเปิดรับบริจาคก็ดี หรือทำสิ่งของเพื่อแลกกับเงินบริจาคก็ดี แต่สำหรับในครั้งนี้มันดีกับสาวๆ หรือเหล่าเก้ง กวางทั้งหลายจริงๆ นะ สำหรับการระดมทีมเพื่อหาเงินสำหรับการกุศลครั้งนี้ คงจะไม่มีอะไรแซ่บและเร่าร้อนไปมากกว่าเหล่านักศึกษาหนุ่มจากชมรมภายเรือจากมหาวิทยาลัย Warwick ประเทศอังกฤษอีกแล้ว หนุ่มๆ แต่ละคนก็ซนกันจัง โดยในปีที่ผ่านมานั้นหนุ่มๆ จากชมรมพายเรือได้ทำการถ่ายแบบปฏิทินนู้ดเพื่อการกุศลมาแล้ว และกระแสตอบรับนั้นถือว่าดีมากๆ (จะไม่ดีได้ยังไงล่ะ ดูจากหน้าตาและหุ่นของแต่ละคนสิ!!) ซึ่งเงินที่ได้จากการขายปฏิทินนั้นจะนำไปบริจาคให้กับกลุ่มรักร่วมเพศในวงการกีฬาอีกทั้งเป็นเงินทุนให้กับชมรมพายเรือด้วย กระแาการตอบรับของปฏิทินนู้ดนี้ ขายดิบขายดีในหมู่หญิงสาวและเหล่าเก้งกวางเป็นอย่างมาก ซึ่งทางกลุ่มนักศึกษาหนุ่มก็ได้บอกเอาไว้ว่าปฏิทินนู้ดที่จัดทำขึ้นมานี้เหมาะกับทุกเพศเลย รายได้จากการจำหน่ายปฏิทินในครั้งที่ผ่านมานั้นสูงถึง 300,000 ปอนด์ (ประมาณ 16 ล้านบาท) และได้บริจาคให้กับ Sport Allies ไปเกือบๆ 50,000 ปอนด์ (ประมาณ 2 ล้านบาท) ใครที่ยังไม่เชื่อว่าเหล่าหนุ่มนักศึกษาชมรมพายเรือจากมหาวิทยาลัย Warwick นั้นจะแซ่บและดุเด็ดเผ็ดมันส์ขนาดไหน ลองชมภาพเรียกน้ำย่อยจากปฏิทินชุดเก่ากันไปก่อน สัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวกันมั้ยจ๊ะ?…
-
ความลงตัวระหว่างเมืองกับธรรมชาติ อพาร์ทเม้นท์แห่งแรกในโลกที่ปลูกต้นไม้บนอาคาร!!
ท่ามกลางความเจริญของถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ที่พัฒนาขึ้นจากชุมชนเล็กๆ แบบหมู่บ้านตามชนบทเริ่มเปลี่ยนแปลงเป็นตัวเมืองที่ใหญ่มากขึ้น แต่สิ่งที่หายไปนั่นก็คือธรรมชาติสีเขียวของต้นไม้ต่างๆ จะเห็นได้ว่าตามอาคารสูงๆ หรือตึกต่างๆ แทบจะไม่มีต้นไม้เลย ด้วยเหุตนี้เอง สถาปนิกชาวอิตาลี Stefano Boeri จึงได้สร้างนวัตกรรมใหม่ของการออกแบบอาคารร่วมสมัยให้เข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว ด้วยการสร้างอพาร์ทเม้นท์ที่มีความสูงถึง 117 เมตร ภายในเมือง Lausanne ประเทศ Switzerland สำหรับอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ จะเป็นอพาร์ทเม้นท์แห่งแรกในโลกที่มีการปลูกต้นไม้จริงๆ อยู่บนอาคาร ส่งเสริมธรรมชาติท่ามกลางชีวิตแบบชาวเมือง ภายใต้ชื่อ La Tour des Cedres (The Tower of Cedars) โดยจะมีต้นไม้ทั้งหมดประมาณ 100 ต้น พุ่มไม้อีก 6,000 พุ่ม และพืชเล็กๆ อีก 18,000 ชนิด กระจายทั่วพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ทั้งนี้พืชสีเขียวทั้งหลายจะช่วยปกป้องอาคารจากลมแรง ฝุ่น และมลพิษทางเสียง อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมุมมองสีเขียวภายในเมืองอีกด้วย…
-
ฝูงวัวยืนล้อมและร่วมไว้อาลัยเพื่อนวัวที่จากไปจากการถูกรถชนในฮ่องกง น่าสงสารเหลือเกิน!!
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่างๆ สิ่งมีชีวิตทุกชีวิตนั้นมีความรู้สึกเหมือนกัน ทั้งมีความสุขหรือโศกเศร้าเสียใจ เช่นเดียวกันกับฝูงวัวเหล่านี้ ที่ยืนล้อมและร่วมไว้อาลัยแก่การจากไปของเพื่อนวัวตัวหนึ่งที่ถูกรถชน เหตุการณ์อันน่าเศร้านี้เกิดขึ้นที่ฮ่องกง เวลาประมาณ 7.30 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุรถชนวัวตัวหนึ่งทำให้มันได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขาขวาด้านหน้า และมีเลือดไหลออกจากทางปาก ซึ่งหลังจากนั้นผู้ที่ขับรถชนก็ได้หยุดรถและโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมายังที่เกิดเหตุ ภายหลังไม่นานนัก วัวตัวหนึ่งก็ได้ร้องโหยหวนและเรียกเพื่อนๆ ที่เหลือออกมาช่วยกันใช้หัวดันเพื่อนที่จากไปออกไปจากถนน แต่ก็ไม่อาจทำได้สำเร็จ พวกมันจึงยืนล้อมและร่วมไว้อาลัยแก่การจากไปของเพื่อนที่ไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่งเล่าว่า ‘พวกมันพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว พวกมันก็ยังยืนอยู่รอบๆ บริเวณ พยายามปลุกเพื่อนให้ลุกขึ้น แม้จะนานแค่ไหนก็ตาม’ ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามไล่ต้อนฝูงวัวให้ออกไปจากที่เกิดเหตุและได้ทำการเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว แต่ภาพโศกนาฏกรรมที่เห็นนั้นช่างน่าเศร้า แม้แต่สัตว์ก็ยังมีความสึกเช่นเดียวเหมือนกับมนุษย์ 大黃牛遭四驅車撞死 同伴不離不棄 目擊者阿Ben見到時,牛牛仲企喺度苦苦掙扎到我哋同事趕到時牛牛終於支持唔住佢嘅同伴亦唔忍心離去……R.I.P【大黃牛遭四驅車撞死 同伴不離不棄】http://bit.ly/1MpjzGN====================跟實我哋【 現場 - 蘋果突發】就知更多社會事#牛牛 #萬物皆有情 Posted by 現場 - 蘋果突發 on Sunday, November 1, 2015 ที่มา…
-
นางแบบสาวโกรธจัด หลังออกเดทแรกแล้วหนุ่มไม่ยอมซื้อของชาแนลให้ ขว้างโทรศัพท์คู่เดทลงน้ำ!!
ความเข้ากันได้ของคนสองคนนั้นอยู่ที่อะไร เหมียวเองก็ไม่อาจแน่ใจได้ จะเป็นเพราะความรักที่มอบให้กันหรือว่ามูลค่าสิ่งของภายนอกหว่า? แต่สำหรับกรณีนี้ของนางแบบสาวจีนที่ได้ออกไปเดทแรกกับหนุ่มที่รู้จักผ่านเพื่อน ดูท่าทางไปด้วยกันไม่รอดแล้ว เรื่องมันเกิดขึ้นก็ตอนที่นางแบบสาวชาวฮ่องกงนามว่า Yuen Ching-ching ได้ออกเดทกับหนุ่มรายหนึ่งที่รู้จักผ่านเพื่อน แล้วทั้งคู่ก็ออกไปเดินช็อปปิ้งในห้าง ซึ่งนางแบบสาวก็อยากจะได้ของขวัญวันเกิดให้กับแม่ของเธอ เลยมาหยุดอยู่ที่ร้านชาแนล หลังจากผ่านไปได้ซักพัก เธอก็หยิบกระเป๋าชาแนล ต่างหูหนึ่งคู่ และสร้อยคอหรูหรามาให้พ่อหนุ่มคู่เดทจ่าย แต่อนิจจาพ่อหนุ่มกลับปฏิเสธ เพราะราคานั้นมันแพงระยับพุ่งสูงไปถึง 25,000 ดอลลาร์ (ราวๆ 902,331 บาท) เขาจ่ายไม่ไหว!! พอได้ยินคำตอบแบบนี้นางแบบสาวก็เลยขอยืมโทรศัพท์จากฝ่ายชาย ทำทีเป็นว่าจะโทรหาพี่ชายให้มาจ่ายค่าของทั้งหมดให้ แล้วก็หนีหายไปพร้อมกับโทรศัพท์ ไม่กลับมาหาอีกเลย!? จนฝ่ายชายต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังเกิดเหตุได้ 2 วัน ทางด้านนางแบบสาวก็อ้างว่าฝ่ายชายยินยอมให้โทรศัพท์เอง แล้วก็จะไม่คืนโทรศัพท์ให้ด้วย เพราะว่าขว้างทิ้งลงแม่น้ำไปแล้ว!! กระเป๋าชาแนลก็ไม่ได้ โทรศัพท์ก็หายไปด้วยเช่นกัน จนในที่สุด ผลของการกระทำของเธอก็ลงเอยด้วยคำตัดสินถูกคุมประพฤติเป็นระยะเวลา 1 ปี และจะต้องชดใช้ค่าโทรศัพท์ที่หายไปเป็นมูลค่า 927 ดอลลาร์ (ราวๆ…
-
กลุ่มแฮกเกอร์ Anonymous ประกาศสงครามกับกลุ่ม ISIS ปล่อยวิดีโอแถลง ‘เราจะตามล่าทุกหนทุกแห่ง’
หลังจากเหตุการณ์ก่อการร้ายที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทางรัฐบาลฝรั่งเศสเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายอย่างสาสม และเมื่อไม่นานมานี้ทางกลุ่มแฮกเกอร์ชื่อดังกระฉ่อนโลก Anonymous ก็ได้ออกมาแสดงทีท่าเช่นเดียวกัน กลุ่มแฮกเกอร์ Anonymous ได้ทำการปล่อยคลิปวิดีโอผ่านสื่อออนไลน์ พร้อมกับอ่านแถลงการณ์ประกาศทำสงครามกับกลุ่ม ISIS เป็นภาษาฝรั่งเศสด้วยใจความดังต่อไปนี้ ‘พวกเอ็งจงรับรู้เอาไว้ว่า พวกเราจะตามล่าและจะไม่ยอมปล่อยให้หลุดไปได้’ ‘พวกเราจะเริ่มปฏิบัติการครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดเพื่อต่อกรกับพวกเอ็ง’ ‘การจู่โจมทางโลกไซเบอร์ครั้งใหญ่กำลังจะเกิดขึ้น สงครามได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว จงเตรียมตัวเอาไว้ให้ดี’ ‘ชาวฝรั่งเศสนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกเอ็งหลายเท่า และจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจากความโหดร้ายที่ได้รับในครั้งนี้’ อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่กลุ่มแฮกเกอร์ออกมาต่อกรกับกลุ่มรัฐอิสลาม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยออกมาข่มขู่หลังจากเหตุการณ์การโจมตี Charlie Hebdo เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา คลิปแถลงการณ์จาก Anonymous (อัพเดทบรรยายภาษาอังกฤษ) ปฏิบัติการในครั้งนี้มีชื่อว่า #opISIS เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการประกาศศึก ภายในทวิตเตอร์ภายใต้ #opISIS ก็ได้มีการเปิดฉากอย่างรวดเร็ว มีการเปิดเผยรายชื่อบัญชีทวิตเตอร์ของกลุ่ม ISIS กว่า 1,000 รายชื่อ ตามมาด้วยคำขู่ที่จะกำจัดเว็บไซต์ชวนเชื่อของกลุ่ม ISIS ‘เมื่อเรากำจัดพวกเอ็งได้แล้ว…
-
เหล่าชายจีนเริ่มนิยมคบหากับ ‘ตุ๊กตายาง’ แทนผู้หญิงจริง ไม่อยากเจอปัญหาความสัมพันธ์!!
เรื่องของตุ๊กตายางเพื่อปรนเปรอทางด้านอารมณ์ทางเพศนั้นมีมานานแล้ว จุดประสงค์ของการสร้างมันขึ้นมาก็เพื่อสิ่งเดียว นั่นคือการสนองความต้องการทางเพศของเหล่าชายวัยกลัดมัน แต่ทว่าตอนนี้มันไปไกลเกินกว่าจะคิดเช่นนั้นแล้วล่ะ ด้วยสภาพสังคมของจีน ความรุนแรงและหึงหวงเป็นเรื่องธรรมดาของผู้อันเป็นที่รัก เรามักจะเห็นบ่อยๆ ว่าภรรยาชาวจีนนั้นจะหึงแรงมาก มีทั้งทุบ ทั้งตี ทั้งตบ ไหนจะสิ่งของของสามี รวมไปถึงชู้ของสามีด้วย ทางออกของเหล่าชายจีนที่เหลือก็คือการหันมาคบกับตุ๊กตายางแทน!? เพราะด้วยความที่แทบจะเหมือนคนจริงๆ สวยตามสเป็คในฝันที่เลือกได้ ไม่มีบ่น อยากตอนไหนก็จัด เหล่าตุ๊กตายางจึงเป็นทางเลือกที่เหลือนั่นเอง และไม่อยากจะเจอในเรื่องของปัญหาความสัมพันธ์ การหึงหวงอันหนักหน่วง การบ่นจู้จี้จุกจิก อ่าห์!! มันก็แล้วแต่คนจะคิดเนอะ นานาจิตตัง แต่เหมียวว่ามันก็แปลกๆ อยู่ดี ที่มา : shanghaiist, fooyoh
-
ผู้นำระดับสูงของ ISIS ถูกสังหารโดยเครื่องบินรบของกองทัพสหรัฐฯ ในประเทศลิเบีย!!
การตามล่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายยังคงร้อนระอุไปทั่ว จากข่าวเก่า ซึ่งภายหลังจากที่มีการเปิดเผยของเพนตากอนไม่กี่วัน ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐฯ ได้ออกมาประกาศอีกครั้งว่าผู้นำระดับสูงของ ISIS ถูกสังหารโดยเครื่องบินรบในประเทศลิเบีย (ภาพเครื่องบินรบฝรั่งเศสประกอบข่าว) โฆษกของกองทัพสหรัฐฯ ได้กล่าวเอาไว้ว่าฝูงเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ได้ทำการจู่โจมฐานที่มั่นอันเป็นศูนย์บัญชาการของ ISIS ซึ่งภายในนั้นคาดว่าผู้นำระดับสูงของกลุ่มหลบซ่อนอยู่ โดยปฏิบัติการรุกฆาตนี้ดำเนินการก่อนคืนที่กรุงปารีสจะถูกจู่โจม ศูนย์บัญชาการที่ถูกโจมตีนี้ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเมือง Dernah ประเทศลิเบีย ซึ่งคาดการณ์ว่าผู้นำกลุ่มระดับสูง Abu Nabil (Wissam Najm Abd Zayd al-Zubaydi) หลบซ่อนอยู่รวมไปถึงทหารระดับแนวหน้าด้วย และจากการปฏิบัติการในครั้งนี้ ก็ได้ทำการระเบิดฐานที่มั่นให้เป็นจุล ในช่วงระหว่างที่เครื่องบินรบ F-15 ออกปฏิบัติการไม่นานนัก ช่วงเวลาต่อมาก็เกิดเหตุจู่โจมกรุงปารีสทันที ทั้งนี้ทางโฆษกเพนตากอนก็ได้กล่าวปิดท้ายไว้ว่า ‘การตามล่าผู้นำเหล่านี้ เราจะตามล่าไปทุกหนทุกแห่งไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลก’ ที่มา : unilad, dailymail
-
เผยเอกสารแถลงการณ์โจมตีฝรั่งเศส เหตุจูงใจจากการร่วมปราบปรามกลุ่ม ISIS ในแอฟริกา
จากกรณีของข่าวคราวช็อคโลกกับการถูกโจมตีของประเทศฝรั่งเศสที่ผ่านมานั้น ภายหลังจากวันเกิดเหตุ กลุ่ม ISIS หรือรัฐอิสลามก็ได้ออกมารับแล้วว่าเป็นกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังความโกลาหลทั้งหมด อ่านข่าวเก่า เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สื่อฝรั่งเศสก็ได้เผยเอกสารแถลงการณ์จากกลุ่มดังกล่าว เป็นเอกสารสองภาษานั่นก็คือฉบับภาษาอาราบิกและฉบับภาษาฝรั่งเศส โดยมูลเหตุจูงใจนั้นอาจมาจากการที่ฝรั่งเศสเข้าร่วมปรามปราบกองกำลัง ISIS กับสหรัฐอเมริกาในแอฟริกา อีกทั้งในโซเชียลมีเดียต่างๆ ผู้ที่สนับสนุนกลุ่ม ISIS ได้ใช้แฮชแท็ก #باريس_تشتعل (ปารีสลุกเป็นไฟ) ระบุว่าเป้าหมายต่อไปในการโจมตีคือ กรุงโรม ประเทศอิตาลี กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และ วอชิงตันดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ทางด้านนายฟร็องซัว ออล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ออกมาแถลงการณ์ว่า ‘สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานในปารีสและเซนต์เดนิสนั้น เป็นการกระทำที่ชักจูงให้เกิดสงคราม ประเทศฝรั่งเศสจึงต้องตัดสินใจให้ดี การกระทำดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธ มีการเตรียมการและวางแผนจากนอกประเทศ และการกระทำทั้งหมดนี้เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนสิ้นดี’ ที่มา : Allô la France ที่นี่ฝรั่งเศส, lemonde
-
เลบานอนระอุ!! กลุ่ม ISIS อ้างเป็นกลุ่มที่ก่อการร้าย ระเบิดพลีชีพกลางเมืองอย่างอุกอาจ
ก่อนหน้าที่ประเทศฝรั่งเศสจะถูกโจมตีในรูปแบบการก่อการร้าย ซึ่งภายหลังกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่ม ISIS ก็ได้ประกาศออกมาว่าเป็นกลุ่มที่ลงมือ ซึ่งย้อนกลับไปประมาณ 2 วันก่อนหน้านั้น ช่วงวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีอีกหนึ่งประเทศที่ถูกโจมตีแบบนี้เช่นเดียวกัน ประเทศที่ไม่อาจมองข้ามจากการถูกโจมตีในรูปแบบก่อการร้ายได้เลยก็คือประเทศเลบานอน เหตุเกิดขึ้นที่เมืองเบรุต เมืองหลวงของประเทศเลบานอน มีการจู่โจมในรูปแบบระเบิดพลีชีพถึง 2 ครั้ง ตามรายงานมีผู้เสียชีวิต 44 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกประมาณ 239 ราย ส่งผลทำให้ย่านการค้า Burj al-Barajneh ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ภายหลังการโจมตีอันโหดเหี้ยมนี้ กลุ่ม ISIS หรือรัฐอิสลาม ก็ได้ออกมาอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มตน ทั้งนี้เหตุจูงใจในการกระทำดังกล่าวนั้นยังไม่แน่ชัด แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นการแก้แค้นเนื่องจากเลบานอนได้ส่งกองกำลังทหารเข้าร่วมต่อต้านกับฝ่ายพันธมิตรในช่วงสงครามกลางเมืองซีเรียที่ผ่านมานั่นเอง ที่มา : foxnews, bbc, yahoo
-
ทั่วโลกพร้อมใจ เปลี่ยนสีอาคารให้กลายเป็นลายธงชาติฝรั่งเศส เพื่อไว้อาลัยแก่เหตุโศกนาฏกรรม
ณ เวลานี้คงไม่มีข่าวไหนที่โด่งดังและกำลังเป็นที่สนใจของคนทั่วโลกเท่ากับข่าวการถูกโจมตีของประเทศฝรั่งเศสอีกแล้ว ทำให้ทั่วโลกตื่นตัวกับเหตุดังกล่าวและพร้อมใจกันส่งผ่านความรู้สึกดังกล่าวไปยังชาวเมืองฝรั่งเศส โดยการเปลี่ยนสีอาคารและแลนด์มาร์คสำคัญๆ ของโลกให้กลายเป็นลายธงชาติของฝรั่งเศส เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิตและเป็นเกียรติให้แก่ฝรั่งเศสให้ผ่านช่วยเวลาอันยากเย็นนี้ไปได้ หอไอเฟลจำลองในกรุงลาสเวกัสดับไฟลง City Hall ในกรุงซานฟานซิสโกฉายแสงเป็นลายธงชาติฝรั่งเศส ติดธงไว้หน้าอาคารด้วย รูปปั้นพระเยซูในบราซิล อาคารวุฒิสภาของเม็กซิโก อนุสาวรีย์ Angel de la ในเม็กซิโก ตึก Shanghai’s Pearl ตึก Toronto’s CN ประเทศแคนาดา Sydney Opera House ประเทศออสเตรเลีย Sydney Town Hall ออสเตรเลีย อาคาร Auckland Sky ในนิวซีแลนด์ พิพิธภัณฑ์ Auckland นิวซีแลนด์ สะพาน Brisbane ประเทศออสเตรเลีย โรงแรม Omni ในเมืองดาลลัส สหรัฐอเมริกา…
-
เหล่าแท๊กซี่ในกรุงปารีส พร้อมใจส่งผู้โดยสารฟรีและชาวบ้านเปิดที่พักรับผู้คนเพื่อหลบภัย!!
จากเหตุการณ์อันสะเทือนใจกับการลอบโจมตีกลางกรุงปารีสส่งผลทำให้ทางรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศปิดพรมแดน จากเหตุความไม่สงบภายที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ทั้งนี้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากต่างต้องหนีออกจากจุดอันตรายให้เร็วที่สุด และด้วยเหตุนี้เอง บรรดาแท๊กซี่ในกรุงปารีสต่างพร้อมใจกันปิดมิเตอร์ พาผู้คนหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุไปส่งยังจุดที่ปลอดภัย โดยไม่คิดค่าโดยสารแต่อย่างใด เพราะเนื่องจากหากต้องปล่อยให้ผู้คนเดินและวิ่งหนีไปตามท้องถนนอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ชาวบ้านชาวเมืองในกรุงปารีส (เขต 10 และ 11) ต่างพร้อมใจกันเปิดบ้านต้อนรับผู้คนที่ยังไม่สามารถกลับบ้านของตนเองได้ รวมไปถึงการใช้ #PorteOuverte ในทวิตเตอร์สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการบ้านพักชั่วคราวในกรุงปารีสอีกด้วย ขอให้ทุกท่านปลอดภัยนะ ที่มา : abc, jalopnik
-
ชายชราหายตัวไปนานเกือบ 10 ปี จนมาพบว่าจมอยู่ใต้บ่อน้ำจากภาพใน Google Maps!!
ย้อนกลับไปในปี 2015 ใครจะคิดว่า Google Maps สามารถช่วยตามหาคนที่หายไปนานเกือบสิบปีได้จริงๆ การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของชายชรา David Lee Niles วัย 72 ปี โดยที่เขานั้นเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่แล้วจู่ๆ ในวันที่ 11 ตุลาคม ค.ศ. 2006 นั้นในขณะที่เขากำลังเดินทางออกไปหาเพื่อน ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาไม่มีใครเห็นหน้าเขาอีกเลย ไม่มีใครทราบแบะแสเลยว่าเขานั้นหายตัวไปไหน ชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไร จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อ Brian Houseman สังเกตเห็นส่วนของหลังคารถยนต์อยู่ภายใต้บ่อน้ำในระหว่างที่เขากำลังตกแต่งต้นคริสต์มาสนอกบ้าน ด้วยความสงสัยเขาก็ได้ทำการเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นซากรถยนต์จริงๆ และภายในนั้นมีโครงกระดูกอยู่ด้วย นั่นก็คือสภาพของคุณ David Lee Niles ที่หายตัวไปเกือบ 10 ปีก่อน!! มาตรวจสอบกันอีกทีจากภาพถ่ายดาวเทียมของ Google Maps จะสังเกตได้ว่ามีซากรถจมอยู่ใต้บ่อน้ำนี้มานานหลายปีแล้ว ซึ่งหลังจากที่ David Lee Niles ได้หายตัวไป ทางครอบครัวก็พยายามที่จะตามหาอย่างสุดความสามารถแต่ก็ถอดใจค้นหาภายในสิ้นปีค.ศ. 2011 อย่างไรก็ตามทางครอบครัวก็รู้สึกดีใจที่ตามหาตัวเขาจนเจอ…
-
อัพเดทสถานการณ์การก่อการร้าย ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส #prayforparis
เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันและช็อคไปทั่วโลก เมื่อมีการก่อเหตุก่อการร้าย ณ ใจกลางของประเทศฝรั่งเศส นั่นก็คือกรุงปารีส ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตร่วม 150 รายแล้ว ซึ่งเหมียวเองก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์เริ่มต้นเมื่อช่วง 7 นาฬิกาของวันที่ 14 พฤศจิกายน ตามเวลาประเทศไทย โดยเริ่มต้นจากเหตุกราดยิงในหลายจุดของกรุงปารีสและมีระเบิดพลีชีพ (Suicide Bomb) บริเวณ State de France ทางด้านผู้สื่อข่าวจากทางหลายสำนักได้รายงานว่า มีมือปืนใช้ปืนกลเปิดฉากกราดยิงภัคตาคาร เปอติ แคมโบดจ์ (Petit Cambodge) ในเขต 11 (11th District) และมีการกราดยิงเกิดขึ้นที่ศูนย์ศิลปะบาตาคล็อง (Bataclan) เช่นเดียวกัน นอกจจากนี้ยังมีการจับผู้บริสุทธิ์เป็นตัวประกันด้วย ภายในเวลาเดียวกันเกิดเหตุระเบิดสามระรอกภายนอกบาร์แห่งหนึ่งใกล้ๆ กับ State de France ซึ่งกำลังมีการแข่งขันฟุตบอลระหว่างฝรั่งเศส-เยอรมนี และมีรายงานว่านายฟรองซัวส์ โอลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้เข้าร่วมชมการแข่งขันนี้ด้วย แต่ถูกนำตัวไปยังที่ปลอดภัยแล้ว มีตัวประกันถูกจับตัวราวๆ…
-
เด็กหนุ่มวัย 18 ปี ผู้ชนะการประกวดคลิปวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจง่าย คว้าเงินรางวัลกว่า 14 ล้านบาท!!
เรื่องของวิทยาศาสตร์นั้นหลายคนคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ไกลตัวซะเหลือเกิน ยิ่งให้ไปนั่งฟังคนอธิบายทฤษฎีต่างๆ ที่มีมากมาย ก็ยิ่งทำให้ไม่เข้าใจไปใหญ่ ทำให้คิดเพียงแต่ว่าคงจะมีแต่นักวิทยาศาสตร์กันเองนี่แหละที่จะเข้าใจ แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ทำให้เรื่องซับซ้อนทางวิทยาศาสตร์กลายมาเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย แถมยังได้เงินรางวัลมากถึง 12 ล้านบาทไปด้วย (400,000 ดอลลาร์) เขาคนนั้นก็คือพ่อหนุ่ม Ryan Chester วัย 18 ปีผู้นี้!! โดยที่เขานั้นได้เข้าร่วมแข่งขัน Breakthrough Junior Challenge ประกวดแข่งขันวิดีโอคลิปทางวิทยาศาสตร์ จัดการแข่งขันโดยมูลนิธิ Silicon Valley ของ Mark Zuckerberg ร่วมกับมูลนิธิ Milner Global วิธีการที่ทำให้เขาชนะการประกวดนั้นก็ด้วยคลิปการอธิบายทฤษฎีสัมพัทธภาพที่ยากจะเข้าถึงของ Einstein เอาไว้อย่างเรียบง่าย วิธีการนำเสนอก็เช่นการใช้สิ่งของภายในบ้าน การทดลองในรถตู้เล็กๆ และการวาดภาพประกอบแบบหยาบๆ แต่เข้าใจง่าย แม้ว่าเรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพจะเป็นอะไรที่เข้าใจยาก แต่การนำเสนอที่ดีแบบนี้ ทำให้วิทยาศาสตร์เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ เลยล่ะ ที่มา : breakthroughjuniorchallenge, fooyoh
-
Hannah Shaw หญิงสาวผู้อุทิศตนให้กับการช่วยเหลือน้องเหมียวน้อยให้มีชีวิตที่ดีขึ้น!!
แมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมจากมนุษย์มาก แต่ถึงแม้ว่าจะได้รับความนิยมก็ยังถูกทิ้งได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นแล้วการที่ปล่อยให้เหล่าแมวต้องใช้ชีวิตโดยที่ไม่มีจุดหมายนั้น อาจจะทำให้พวกมันจบชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ก็มีองค์กรต่างๆ มากมายที่คอยช่วยเหลือแมวจรจัด รวมไปถึงตัวบุคคลคนเดียวที่ช่วยเปลี่ยนแปลงโลกนี้ให้น่าอยู่ขึ้น อย่างเช่น Hannah Shaw หญิงสาวผู้อุทิศตนในการช่วยเหลือเหล่าแมวเหมียวน้อยใหญ่จรจัดมาตั้งแต่อายุ 12 ปี จวบจนถึงปัจจุบันเธอได้ช่วยเหลือน้องแมวมานับไม่ถ้วนมานานถึง 8 ปีแล้ว โดยที่เธอนั้นจะช่วยเหลือแมวน้อยที่ถูกทิ้ง แมวป่วยและแมวที่ได้รับบาดเจ็บ มาทำการรักษาและเลี้ยงดูจนกว่าจะหายดีและพร้อมที่จะหาบ้านใหม่ นอกจากนี้เธอยังก่อตั้งเว็บไซต์ KittenLady.org ที่มอบความรู้และเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ในการเลี้ยงดูน้องแมวอีกด้วย คนดีๆ แบบนี้ ต้องสนับสนุนเต็มที่จ้า!! จ้องซะน่าหมั่นเขี้ยวเลยเจ้าเหมียวน้อย!! สามารถไปตามเพิ่มเติมกันได้ใน อินสตาแกรม ของเธอเลยจ้า!! ที่มา : thechive
-
18 นวัตกรรมในอนาคตมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของเรา!!
ปฏิเสธไม่ได้กับชีวิตในยุคดิจิตอลที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของคนเราให้แตกต่างไปจากเดิม อย่างแรกเลยก็คือทำให้มนุษย์ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น และช่วยในเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ในอดีตให้เกิดขึ้นได้จริงและมีประโยชน์ด้วย 1. การสร้างอวัยวะเทียมจากแบบพิมพ์ 3 มิติ ผลิตได้เป็นจำนวนมากและมีประสิทธิภาพ 2. เจ็ทแพคสำหรับงานกู้ภัยฉุกเฉิน (อยู่ในระหว่างการพัฒนา) 3. เซ็นเซอร์ที่สามารถสวมใส่ได้ แปลภาษากายให้กลายมาเป็นคำพูดที่มีความหมาย 4. ชุดบิกินี่ที่ทำมาจากวัสดุที่สามารถดูดซับมลพิษทางน้ำได้ (ช่วยกำจัดมลพิษไปในตัว) 5. เทคโนโลยีภาพเสมือน จำลองภาพเพื่อให้ผู้รับการรักษาลืมความจำปวด 6. ภาพเสมือนที่จำลองขึ้นมาเป็นแบบ 3 มิติ เติมเต็มการวาดภาพระบายสีของเด็กๆ 7. ลำแสงที่สามารถยกวัตถุให้ลอยเหนือจากพื้น อาศัยพลังของคลื่นเสียง 8. การชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย (เทคโนโลยีนี้นำมาใช้จริงแล้ว) 9. และในส่วนของโต๊ะที่สามารถชาร์จโทรศัพท์ไร้สายได้เช่นเดียวกัน (ยังไม่แพร่หลาย) 10. โชว์การประลองฝีมือหุ่นยนต์ถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ คล้ายๆ กับ MMA หรือมวยสากล (ภาพ Real Steel ลอยมาเลย) …
-
เอ่อ!! การประกวดเฟ้นหานางงาม ‘จิมิสวย’ ระดับโลก ใครมั่นใจว่ามีของสวยมาประชันกัน
ยอมรับเลยว่าเดี๋ยวนี้งานประกวดประชันความงามมีมากมายหลายสิ่งซะเหลือเกิน ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดานั่นแหละ เพราะผู้หญิงมักจะมาคู่กับความงาม ทั้งหน้าตาและรูปร่าง แต่มันหนักไปจนถึงขั้นต้องใช้ส่วนของอวัยวะเพศเข้ามาประกวดแข่งกันนี่แหละ!! มาจนได้กับการประกวดแข่งขันจิมิสวยระดับโลก อำนวยการจัดแข่งขันโดยผู้ประกอบการทางด้านอุปกรณ์เซ็กส์ทอย Brian Sloan เพื่อที่จะเฟ้นหาจิมิที่สมบูรณ์แบบที่สุด!! ทั้งนี้การประกวดก็จะให้ผู้เข้าแข่งขันถ่ายภาพจุดซ่อนเร้นของตัวเองและอัพโหลดเข้ากองประกวด และทางกรรมการก็จะให้คะแนนตัดสินมีตั้งแต่ 1 – 10 คะแนน และผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็น 3 อันดับแรก จะได้รับเงินรางวัลตามลำดับ และจะนำจิมิมาใช้เป็นต้นแบบในการออกแบบผลิตภัณฑ์ชิ้นต่อไปของ Sloan จุดประสงค์ของการประกวดแบบนี้คือเพื่อที่จะเฟ้นหาจิมิแบบไหนที่ผู้ชายส่วนใหญ่โปรดปราน และผู้เข้าประกวดทุกคนก็จะต้องใส่ #AutoblowVaginalBeautyContest เพื่อยืนยันการเข้าประกวดจิมิสวยที่สุดในโลกด้วย แหม่!! ก็ช่างจะคิดกันไปได้นะเนี่ย ที่มา : unilad
-
ย้อนอดีตเมื่อ 100 ปีที่แล้ว… มาดูยุคปี 2000 ในความคิดของคนในอดีตกันเถอะ!!
ช่วงนี้การย้อนอดีตกลับไปในยุคก่อนๆ ถือว่ามาแรงเลยทีเดียว อย่างเมื่อไม่นานมานี้ก็มีการระลึกถึงภาพยนตร์ Back to The Future ที่ตัวละครได้เดินทางมาถึงวันที่ 21 ตุลาคม ค.ศ. 2015 ปัจจุบันวันนี้ก็ได้ผ่านพ้นไปแล้ว มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ถึงแม้จะไม่เหมือนในหนังที่ทำเอาไว้ แต่ก็ถือว่าใกล้เคียงกันมากเลยล่ะ สถานีขนส่งทางอากาศ ร้านตัดเสื้อผ้า เช่นเดียวกันกับศิลปินในอดีต ช่วงปีค.ศ 1900 ศิลปินชาวฝรั่งเศสนามว่า Jean-Marc Côté และอีกหลายคน ได้ทำการวาดภาพ ปีค.ศ. 2000 ในจินตราการของพวกเขาในชื่อชุด En L’An 2000 จัดทำขึ้นครั้งแรกในปีค.ศ. 1899 โดยทำเป็นการ์ดสอดไว้ในกล่องบุหรี่และซิการ์ ภายหลังก็นำมาใช้เป็นโปสการ์ดแทน การตามล่าโจรผู้ร้ายของตำรวจ การทำความสะอาดของแม่บ้าน En L’An 2000 แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตในจินตนาการของศิลปินยุคค.ศ. 1900 ที่มีเทคโนโลยีอันก้าวหน้า ทำให้ชีวิตของมนุษย์ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าเครื่องจักรและหุ่นยนต์นั้นเข้ามามีบทบาทด้วยและเน้นที่เทคโนโลยีทางอากาศ ร้านตัดผม…
-
จุดเริ่มต้นของการ ‘แขวนคอ’ จนนำไปสู่วิธีการฆ่าตัวตายอันเป็นอันดับต้นๆ ของโลก!!
เรื่องของการนำเชือกหรือผ้ามาเป็นอุปกรณ์ในการปลิดชีวิตนั้นมีมาเนิ่นนานแล้วล่ะ การแขวนคอ หรือ การผูกคอ ตามแต่จะเรียกจุดประสงค์ของการใช้งาน ไม่มีความซับซ้อนอะไรมากมาย เพียงแค่นำมามัดเป็นห่วงที่สามารถคล้องคอได้ จากนั้นก็ปล่อยให้กลไกของแรงโน้มถ่วงโลกทำงาน ทั้งนี้การแขวนคอนั้นถูกนำมาใช้เป็นวิธีการประหารชีวิตเริ่มต้นขึ้นในช่วงยุคกลางของประเทศอังกฤษ นำเสนอวิธีการโดยชนเผ่าดั้งเดิมแซ็กซอนในช่วงศตวรรษที่ห้า เป็นวิธีการง่ายๆ และใช้งานได้จริง จึงได้รับความนิยมไปอย่างแพร่หลายทุกสารทิศ จากวิธีการประหารชีวิตก็กลายมาเป็นวิธีการฆ่าตัวตายที่ได้รับเลือกมากที่สุดในโลก เพราะเจ็บน้อยที่สุด ไวและง่าย อย่างไรก็ตามไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครนำมันมาใช้เป็นคนแรกและเหตุใดถึงเลือกกระทำ ซึ่งอัตราการฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอที่สูงที่สุดอยู่ในช่วงยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม มีอัตราสูงในหลายประเทศ นอกจากนี้การแขวนคอหรือการผูกคอ ในวัฒนธรรมของชาวไวกิ้งเชื่อว่าเป็นวิธีการบูชายัญชีวิตให้แก่เทพโอดิน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเชิดชูเทพโอดินจากการที่เทพได้ทำการแขวนคอตัวเองเพื่อสละชีวิตนั่นเอง จากทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อเป็นความรู้ อย่าได้คิดนำไปใช้งานจริงเชียวล่ะ เพราะทุกชีวิตมีคุณค่าอยู่ในตัวนะจ๊ะ ที่มา : historic-uk, wikipedia
-
แอพลิเคชั่นใหม่ของ Disney นาม Circle คืนอำนาจให้แม่บ้านคุมสมาร์ทโฟนลูกๆ อยู่หมัด (พ่อบ้านด้วย)
ถ้าหากให้พูดถึงแอพพลิเคชั่นของดีสนีย์ที่เจ็นออกมาให้เราได้สัมผัสกันส่วนมากแล้วจะเป็นเกม แต่มาในคราวนี้ไม่ใช่เกม เป็นแอพลิเคชั่นสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่จะสามารถกำหนดชะตาชีวิตของลูกๆ เอาไว้ได้เลยล่ะ (ขนาดนั้นเลยเรอะ) โดยเจ้าแอพฯ ใหม่นี้มีชื่อว่า Circle with Disney เป็นแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถควบคุมการเข้าถึงของลูกๆ บนอุปกรณ์ได้ไม่ว่าจะเป็น การกำหนดเวลาเล่นอินเทอร์เน็ต และการเข้าถึงส่วนการใช้งานแอพฯ อื่นๆ เป็นต้น อีกทั้งความสามารถของมันยังแสดงให้รู้ด้วยว่าตอนนี้เด็กๆ กำลังดูหรืออ่านอะไรอยู่ เว็บไซต์อะไร เวลาไหน คือแบบว่ารายงานแทบจะหมดสิ้นความลับกันเลยล่ะ ฮ่าฮ่า ทั้งนี้ยังมีอุปกรณ์ที่แยกขายอีกต่างหากในราคา 99 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,559 บาท) ส่วนตัวแอพพลิเคชั่นสามารถดาวน์โหลดได้ผ่าน App Store เอ แต่เหมียวว่างานนี้คืนอำนาจให้แม่บ้านเบ็ดเสร็จ คุมทั้งลูก ทั้งพ่อบ้านแหงๆ เลย ที่มา : thenextweb
-
ความจริงพาช็อค!! หนุ่มวัย 18 ค้นพบว่าตัวเองถูกลักพาตัวมานานกว่า 13 ปี หลังตรวจประวัติเข้าสมัครวิทยาลัย
เรื่องราวที่ฟังดูเหมือนจะมีแค่ในนิยาย แต่กลับกลายเป็นเรื่องจริงอย่างในกรณีของการลักพาตัวหรือขโมยตัวเด็กพรากไปจากแม่แท้ๆ อย่างเช่นข่าว ขโมยลูกคนอื่นหายไป 4 ปี หาตัวจนเจอขอซื้อเด็กในราคา 2 ล้านบาท แม่แท้ๆ ยืนยันไม่ขาย!! ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยของเราเอง ซึ่งก็มีกรณีนี้เกิดขึ้นที่ต่างประเทศเช่นเดียวกัน!! โดยเริ่มต้นของเรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณเดือนสิงหาคม ปีพ.ศ 2545 ได้มีการรายงานการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของเด็กชาย Julian Tiberius Hernandez วัย 5 ขวบ ในรัฐ Alabama ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยที่ผู้เป็นแม่ไม่อาจล่วงรู้ชะตากรรมของลูกชายตัวเองเลย ทั้งนี้ตำรวจก็ได้สันนิษฐานเอาไว้ว่าอาจจะเป็นฝีมือของ Bobby Hernandez ผู้เป็นพ่อของเด็ก จนระยะเวลล่วงเลยผ่านมานานกว่า 13 ปี ในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ ก็พบกับเด็กหนุ่มวัย 18 ปี อยู่ที่รัฐ Ohio โดยยืนยันเป็นคนเดียวกันกับเด็กที่หายตัวไปเมื่อ 13 ปีก่อน ผู้เป็นแม่ของ Julian ก็รู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก เมื่อรู้ว่าลูกของตนยังมีชีวิตอยู่และปลอดภัยดี ส่วนผู้เป็นพ่อนั้นถูกตั้งข้อหาลักพาตัว โดยที่เขาสารภาพว่าในตอนนั้นเขาได้ตกลงกับภรรยาว่าจะพาลูกไปส่งโรงเรียน…
-
โครงการเยียวยาจิตใจทั้งคนและสุนัข จับคู่นักโทษกับสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ เรียนรู้ซึ่งกันและกัน!!
ว่ากันว่าสุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ ประโยคนี้ก็ยังคงมีความหมายแบบนั้นอยู่เสมอ แต่ทว่าบางทีมนุษย์เองก็กลายมาเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุดของสุนัขเมื่อทอดทิ้งพวกมันไป มนุษย์อาจจะไม่รู้สึกซักเท่าไหร่ แต่มันทำร้ายจิตใจของสุนัขที่รักมนุษย์อย่างรุนแรง และด้วยเหตุนี้เองทีม Canine CellMates ได้จัดโครงการเยียวยาจิตใจทั้งคนและสุนัขขึ้นมา ด้วยความรู้สึกที่ไร้ค่าและรู้สึกโดนทอดทิ้งทั้งของตัวนักโทษเอง และสุนัขที่โดนเจ้าของทิ้งและอยู่ในระหว่างรอเจ้าของใหม่ โดยจับคู่ให้มาเจอกัน และอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง โดยโครงการนี้จะช่วยทำให้สุนัขที่ถูกทอดทิ้งได้ทำการปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และได้รับการฝึกฝนเพื่อพร้อมที่จะไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ในอนาคต นอกจากจะมีประโยชน์ต่อสุนัขแล้ว อีกด้านหนึ่งก็มีประโยชน์ต่อตัวนักโทษเองด้วย ส่งผลทำให้สุขภาพจิตที่ดีขึ้น จากที่เคยรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า เมื่อได้รับความรักและความเชื่อใจจากสุนัขเหล่านี้ ทำให้ความคิดของพวกเขาเปลี่ยนไปในเชิงบวก หนึ่งในนักโทษก็ได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘ความผูกพันระหว่างตัวผมกับเจ้า Fred, เรามาจากคนละที่ เจ้า Fred มาจากที่มันกำลังจะถูกฆ่า และผมก็มาจากสถานที่ที่เลวร้าย ถ้าเจ้า Fred มีโอกาสได้ไปอยู่บ้านใหม่และเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ มันก็ทำให้ผมอยากจะเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่ผมอยู่ด้วยเช่นกัน’ ที่มา : unilad, CNN
-
Jason Padget จากอดีตเสือผู้หญิง โดนชกที่หัว ตื่นมาอีกทีกลายเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์!?
เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อของชายวัย 44 ปี จากเมือง Tacoma รัฐ Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา เขาผู้นี้มีชื่อว่า Jason Padget ซึ่งปัจจุบันนี้เขากลายมาเป็นพ่อหนุ่มอัจฉริยะทางด้านคณิตศาสตร์แบบที่ว่าหาได้ยากมากๆ แต่เหตุการณ์ที่ทำให้เขาเป็นอัจฉริยะได้นั้นกลับไม่ใช่มาจากการศึกษาในตอนแรก เพราะในอดีตที่ผ่านมาของ Jason ไม่เคยสนใจที่จะเรียนหนังสือเลย ลาออกจากโรงเรียน มีนิสัยเกเร แถมยังเป็นเสือผู้หญิงตัวพ่ออีกต่างหาก โดยย้อนกลับไปในปีค.ศ. 2002 ระหว่างที่เขาเพิ่งออกมาจากผับ จู่ๆ ก็มีโจร 2 คนพุ่งเข้ามาทำร้ายเขาทั้งชกและเตะไปที่หัวของเขาอย่างจังและซ้ำอยู่หลายครั้ง ก่อนที่จะหลบหนีไป แพทย์ได้ทำการตรวจร่างกายของเขาและบอกว่า บริเวณศรีษะได้รับการกระทบกระเทือนนิดหน่อย ไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล รับยาแล้วก็ไปพักที่บ้านได้ หลังจากพักฟื้นได้ซักพักเขาก็เริ่มมองเห็นรูปทรงเรขาคณิตแบบซับซ้อนกับทุกสิ่งทุกอย่าง สามารถถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดได้ แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงสมการต่างๆ ของรูปทรงเหล่านี้ เป็นเพราะว่าเขาไม่ได้เรียนรู้มาก่อน และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ Jason ตัดสินใจเรียนทางด้านคณิตศาสตร์และฟิสิกส์อย่างจริงจัง ทั้งนี้ก็ได้มีการตรวจสอบสมองของ Jason อย่างละเอียดอีกครั้งก็พบว่า สมองของเขาได้รับการกระตุ้นอยู่ 2 ส่วนจากการถูกทำร้ายในคืนนั้นที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปอย่างสิ้นเชิง นั่นก็คือส่วนคำนวณด้านคณิตศาสตร์และส่วนของจินตนาการภาพ โดยอาการแบบนี้เรียกว่า…
-
เลิกแล้วนะครับ!! เจ้าของน้องหมาชิบะที่เฝ้าร้านขายของชำอันโด่งดัง ประกาศพักงานให้น้องชิบะแล้วจ้า
หากใครยังจำกันได้ ย้อนกลับไปเมื่อไม่นานมานี้มีการแชร์ทั้งภาพและวิดีโอคลิปอันน่ารักน่าชังของน้องหมาชิบะตัวหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นคนเฝ้าร้านขายของชำในญี่ปุ่น โดยที่ร้านขายของชำนี้ก็คือร้าน Suzuki Tobacco Shop หรือร้านขายบุหรี่ที่มีน้องหมาชิบะชื่อว่า ‘ชิบะ’ อีกทีเป็นพนักงานขายนั่นแหละ ซึ่งในตลอดปีที่ผ่านมาการทำหน้าที่ของเจ้าชิบะนั้นเป็นที่ดึงดูดของนักท่องเที่ยวมากๆ ไม่ว่าใครผ่านมาเห็นก็ต้องแวะซักหน่อย เพราะความน่ารักและแสนรู้ของมัน แต่ทว่าล่าสุดนี้เจ้าของน้องชิบะนั้นได้ออกมาประกาศผ่านอินสตาแกรมของตัวเองว่า ร้านขายบุหรี่แห่งนี้ได้ปิดตัวลงอย่างเป็นทางการแล้ว และน้องชิบะก็จะได้ใช้ชีวิตวัยเกษียณเหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป สงสัยว่าต่อจากนี้ไปคงได้ไปนอนแทะแตงกวาทั้งวันแน่ๆ เลย ที่มา : thechive