Tag: เลบานอน
-
เลบานอนสั่งตำรวจหญิง “นุ่งสั้น” เป็นมาตรการ ‘ดึงดูด’ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ!
ไม่ว่าจะประเทศใดก็ตาม การที่มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวย่อมเป็นผลดีกับประเทศนั้นๆ หลายประเทศจึงมีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยวิธีต่างๆ ประเทศเลบานอน เองทำเช่นเดียวกัน นอกจากงานประติมากรรมขนาดยักษ์ พิพิธภัณฑ์ ร้านขายของ และสถาปัตยกรรมบ้านเมืองที่เป็นจุดเด่นแล้ว ประเทศนี้ยังมีวิธีการดึงดูกนักท่องเที่ยวที่ “ล้ำ” กว่านั้นอีก ในเมือง Brummana เมืองเล็กๆ ของเลบานอน นายกเทศมนตรี Pierre Achkar ได้เกิดไอเดียสุดบรรเจิดในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวชมในเมือง และไอเดียสุดบรรเจิดที่ว่านี้ก็คือ การสั่งให้ตำรวจจราจรสาวทั้งหลายเปลี่ยนชุดเครื่องแบบมาเป็นสวมใส่ กางเกงขาสั้น โชว์เรียวขากันทั่วทั้งเมืองเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินั่นเอง ตำรวจสาวในเลบานอน ท่านนายกเทศมนตรีกล่าวกับสำนักข่าว RT ว่า “พวกเราชาวเลบานอนเองก็อยากเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์แสนเยือกเย็นของเลบานอนตะวันตกเหมือนกันนะ” เขายังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวในแถบเมดิเตอเรเนียนนั้นส่วนมากจะสวมกางเกงขาสั้นกันทั้งนั้น” สวมกางเกงขาสั้นสีดำอวดเรียวขา แถมใส่สบายอีกด้วย ถึงกระนั้น มาตรการนี้ก็ถูกคัดค้านและถูกโจมตีเช่นกัน โดย ฝ่ายอนุรักษ์นิยม กล่าวว่านายกเทศมนตรี Achkar ทำให้เจ้าหน้าที่เพศหญิงต้องเปิดเผยเรือนร่างโดยไม่จำเป็น ขณะที่ ฝ่ายเสรีนิยม กล่าวว่าการที่การบังคับให้เพศหญิงสวมใส่กางเกงขาสั้นซึ่งเพศชายนั้นอนุญาตให้สวมกางเกงขายาวได้เป็นเรื่องที่สะท้อนความไม่เท่าเทียมอย่างยิ่ง เป็นแนวคิดการดึงดูดนักท่องเที่ยวที่แปลกใหม่ แต่จะได้ผลดีหรือไม่นั้นก็ต้องลองดูกันต่อไป คลิปวิดีโอเหล่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสาว “นุ่งสั้น” ในเลบานอน อย่างไรก็ตาม บนโลกออนไลน์ก็ได้มีการถกเถียงกันถึงประเด็นนี้อยู่มิใช่น้อย…
-
ในที่สุดก็ได้เลือกตั้ง!!! สรุปภาพรวม หลังจาก ‘เลบานอน’ เลือกตั้งครั้งแรกในรอบเกือบสิบปี…
ด้วยเหตุความไม่สงบที่ประเทศซีเรียซึ่งเป็นประเทศใกล้เคียง บวกกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งใหม่ ทำให้การเลือกตั้งของเลบานอนนั้นไม่ได้ถูกจัดขึ้นมาตั้งแต่ในปี 2009 แล้ว อย่างไรก็ตามในเดือนวันที่ 6 พฤษภาคม 2018 นี้เลบานอนก็สามารถจัดการเลือกตั้งขึ้นได้สำเร็จจนได้ หลังจากที่มีการเลื่อนมาถึง 2 สมัย การเลือกตั้งในครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนระบบการลงคะแนนเสียง โดยลดจำนวนหัวเมืองลง และอนุญาตให้ชาวต่างชาติได้ลงคะแนนเสียงเป็นครั้งแรก การลดจำนวนของหัวเมือง และใช้ลงคะแนนเสียงแบบสัดส่วน เชื่อว่าจะทำให้มีการกระจายที่นั่งไปทั้งในกลุ่มคริสเตียนและชาวอิสลามได้ดีขึ้น เนื่องจากเลบานอนมีอำนาจทางการเมืองร่วมกันระหว่างศาสนาต่างๆ และมีจำนวนที่นั่งในรัฐสภาแบ่งไประหว่างชาวคริสเตียน และชาวมุสลิมมาเป็นเวลานานแล้ว โดยนี่จะเป็นการลงคะแนนเสียงสำหรับที่นั่งทั้งหมด 128 ที่นั่งในรัฐสภา ซึ่งมีการเปิดให้ลงคะแนนเสียงไปจนถึงเวลา 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และผลนับคะแนนอย่างเป็นทางการจะประกาศออกมาในวันจันทร์ที่ 7 หรือวันอังคารที่ 8 แม้นักวิเคราะห์คาดว่ารายละเอียดในช่วงต้นจะออกมาภายในคืนวันอาทิตย์ที่ 6 นี้ อย่างไรก็ตามภายในบรรดาผู้ลงสมัครเลือกตั้งนั้นก็ยังมีกลุ่ม Hezbollah กลุ่มติดอาวุธที่ถือว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายจากทางสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ลงสมัครอยู่ด้วย โดยพวกเขากำลังพยายามเพิ่มตัวแทนของตนเองเข้าไปในรัฐสภาอยู่ เรื่องนี้ทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้กลายเป็นที่จับตามองของทางสหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก และมีการส่งผู้สังเกตการณ์ออกไปยังพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งทั้งหมดในประเทศ อย่างไรก็ตามรัฐสภาที่จะได้รับการเลือกตั้งใหม่ในครั้งนี้นั้น จะต้องพบกับปัญหามากมายที่รอพวกเขาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจำนวนผู้ลี้ภัยที่เดินทางเข้ามาในประเทศนับตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในซีเรีย และปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ …
-
สาวเลบานอน ประท้วงรัฐบาลร่างกฎหมายใหม่ ที่บังคับให้เหยื่อถูกข่มขืน แต่งงานกับผู้ก่อเหตุ
การเป็นหญิงสาวในประเทศเลบานอนอาจจะไม่ใช่เรื่องที่โชคดีเท่าไหร่นะ เพราะที่เลบานอนเองมีข่าวคราวเกี่ยวกับหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายและข่มขืนแทบจะรายวันทีเดียว ในปี 2009 มีรายงานว่ามีเด็กหญิงชาวบังกลาเทศถูกฆ่าตายในเลบานอนถึง 11 ศพ โดยส่วนใหญ่มีร่องรอยการถูกทำร้ายตามร่างกาย และในปีเดียวกันนี้เองยังมีข่าวว่าเด็กสาวชาวเนปาลที่เดินทางไปทำงานในเลบานอนได้ฆ่าตัวตายไปถึง 15 คน ซึ่งมีการสันนิษฐานกันว่าอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องของการข่มขู่ทางเพศ ล่าสุดได้มีรายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศอย่าง Independent บอกว่าทางรัฐบาลของเลบานอนได้เตรียมที่จะออกร่างกฎหมายให้หญิงสาวที่ถูกข่มขืนต้องแต่งงานกับผู้ที่ข่มขืนพวกเธอ ตามพระราชบัญญัติฉบับเก่าจากปี 1940 ของเลบานอนได้ระบุเอาไว้ว่าหากใครฝ่าฝืนกฎหมายข้อนี้ จะต้องถูกจำคุกเป็นเวลา 7 ปี และยิ่งหากเป็นผู้เยาว์ หรือผู้ที่มีอาการทางจิตหรือผู้ป่วยไม่ว่าจะในลักษณะใดก็ตาม ก็จะมีโทษเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ในกฎหมายใหม่มาตราที่ 522 ได้สร้างช่องโหว่ทางกฎหมายขึ้น โดยระบุว่าผู้ที่กระทำชำเราผู้อื่นจะได้รับการละเว้นโทษ หากชายคนนั้นยอมแต่งงานกับฝ่ายหญิงเพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ แต่ร่างพรบ.ที่ว่านี้กลับทำให้หญิงสาวในเลบานอนไม่พอใจอย่างมาก และคิดว่านั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุที่ไม่น่าจะช่วยลดคดีการข่มขืนลงได้ ในวันอังคารที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา หญิงสาวเกือบสิบคนจึงได้ออกมาร่วมกันต่อต้านกฎหมายใหม่นี้ ด้วยการสวมชุดเจ้าสาว พร้อมกับมีผ้าพันแผลไว้รอบตัวและมีเลือดปลอมเปื้อนตามร่างกาย ยืนอยู่ที่ด้านนอกของอาคารรัฐสภาพในเมืองเบรุต เพื่อแสดงออกว่าพวกเธอไม่เห็นด้วยกับกฎหมายใหม่นี้ นางสาว Ghida Anani ผู้เป็นหัวหน้ากลุ่มในการต่อต้านครั้งนี้ได้กล่าวว่า “เราขอปฏิเสธการการละเมิดสิทธิของผู้หญิงโดยไม่คำนึงถึงอายุ พื้นเพ หรือสภาพแวดล้อม” Anani ยังบอกอีกว่าเธอไม่ชอบข้อเสนอของรัฐบาลเป็นเหมือนการซ้ำเติมผู้เคราะห์ร้ายมากกว่า “นี่มันเหมือนกับการพูดว่าผู้เคราะห์ร้ายซ้ำกันสองครั้ง พวกเธอต้องใช้ชีวิตร่วมอยู่กับคนที่ละเมิดสิทธิของพวกเธอ และนั่นเป็นเหตุให้เกิดการข่มชืนกันทุกวันๆ”…
-
ชาวเน็ตสุดฮา แต่งเพลง “แพ้ทาง – เลบานอน” เสียดสีการก็อบเพลงต่างชาติของวงการเพลงไทย
เมื่อช่วงสองสามสัปดาห์ก่อน มีชาวเน็ตออกมาตั้งกระทู้แฉว่า เพลง “แพ้ทาง” ของวง “ลาบานูน” ดันไปมีทำนองและจังหวะการร้องคล้ายกับเพลงจากประเทศเลบานอนที่ชื่อว่า Nas Teshbehlena ของศิลปินชาวอาหรับ Maher Zain ซึ่งหลังจากที่ #เหมียวอ๊อดโด้ ลองฟังแล้ว ก็พบว่ามันคล้ายกันจริงๆ อย่างที่เขาบอกแฮะ ใครที่ยังไม่ได้ฟัง ก็ลองฟังเปรียบเทียบกันดูนะ เพลงแรก “แพ้ทาง” ของวง “ลาบานูน” อันนี้เพลง Nas Teshbehlena ของศิลปินชาวเลบานอน Maher Zain ล่าสุดทางเพจ FatAlarmBoy ก็ทนไม่ไหวกับกระแสนี้ จึงแต่งเพลงออกมาเสียดสีการก็อบเพลงต่างชาติของวงการเพลงไทย ชื่อว่าเพลง แพ้ทาง – เลบานอน จะฮา จะเกรียนขนาดไหน ไปฟังกันเลย สำหรับเนื้อเพลง แพ้ทาง-เลบานอน มีดังนี้ ทำไมต้องตั้งกระทู้ ทุกทีที่มีเพลงใหม่ ทำไมต้องทำเรื่องเล็ก ให้มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ ทำไมเธอต้องฟ้องเวลา ที่ฉันลอกมา ฉันจะบ้า อยู่เเล้ว เหมือนเธอมีเวทมนต์ ค้นไปเจอต้นตอ…
-
ขยะจำนวนมหาศาล ถูกนำมากองรวมกันจนล้นถนนในเลบานอน ขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา
ภาพวัตถุสีขาวๆ จำนวนมหาศาล บนถนนสายหนึ่งในเมืองเบรุต ประเทศเลบานอน ที่เพื่อนๆ กำลังเห็นกันอยู่นี้ เมื่อลองเพ่งมองดูดีๆ อาจจะทำให้คุณถึงกับสตั้นไป 3 วิเลยเป็นได้ เพราะความจริงแล้วมันไม่ใช่คลื่นโฟมหรืออะไร แต่มันคือ ‘ขยะ’ ต่างหากละเหมียว แล้วขยะเหล่านี้มันมาจากไหนกันน้า? โดยเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทางรัฐบาลเลบานอน ได้ทำการยกเลิกการแผนส่งออกขยะไปยังประเทศรัสเซีย ดังนั้นขยะจำนวนมหาศาลที่เห็นกันนี้ จึงถูกนำมากองรวมกัน จนในที่สุดก็เกิดเป็นภาพขยะกองสีขาวโพลนยาวไกลไปสุดลูกหูลูกตา โดยในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ทางรัฐบาลเลบานอนได้สั่งปิดที่ฝังขยะเดิม แต่ก็ยังหาที่ทิ้งใหม่ไม่ได้ จนต้องนำมาทิ้งใกล้ๆ กับบริเวณที่อยู่อาศัยของประชาชน ซึ่งก็ได้ทำการตกลงกับทางรัสเซียว่าจะส่งขยะออกไป แต่ดันล้มเหลวในเรื่องเอกสารข้อตกลงซะก่อนจนต้องถูกยกเลิก จึงทำให้กองขยะเหล่านี้ยังคงอยู่ที่เดิม มันเยอะมากจริงๆ และด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้เกิดเป็นปัญหาขยะล้นเมือง แถมยังส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศ และถนนในบริเวณนั้นอีกด้วย ที่มา : cctvnewschina
-
ฮีโร่คุณพ่อ สละชีวิตตัวเองขวางมือระเบิดเพื่อช่วยอีกหลากหลายชีวิตจากเหตุก่อการร้ายเลบานอน
ในขณะที่ทั่วโลกกำลังสนใจเหตุก่อการร้ายที่ปารีสอยู่ แต่ก็ยังมีเรื่องน่าเศร้าเกิดขึ้นอีกหลายที่ หนึ่งในนั้นเกิดขึ้นที่เมืองเบรุตในเลบานอน คุณพ่อชาวเลบานอนคนหนึ่ง ถูกยกย่องเป็นฮีโร่ หลังจากได้ช่วยชีวิตคนไว้นับไม่ถ้วน หลังจากใช้ร่างกายตัวเองสกัดมือระเบิดพลีชีพที่กำลังเดินเข้าหาฝูงชนขณะกำลังจะปลดชนวน จนสุดท้ายระเบิดได้พรากชีวิตเขาและลูกสาวไป คุณพ่อท่านนี้มีชื่อว่า Adel Termos กำลังเดินเล่นอยู่กับลูกสาว ในตอนที่เขาได้ยินเสียงระเบิดครั้งแรกนั้น ฝูงชนได้แตกตื่นเป็นอย่างมาก และในตอนนั้นเขาก็เห็นมือระเบิดคนที่สองกำลังเดินเขาหาฝูงคนอยู่ พร้อมทั้งกำลังจะปลดชนวนระเบิดที่ติดอยู่กับตัวเขา คุณพ่อจึงโถมตัวเข้าใส่ ทำให้ระเบิดทำงาน ซึ่งแรงระเบิดได้พรากชีวิตของเขา แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ ได้ช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้มาก ผู้เห็นเหตุการณ์ Elie Fares ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว PRI ว่า “หลากหลายครอบครัว เป็นหลายๆร้อยครอบครัวเป็นหนี้บุญคุณของเขา” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนี้คือทางกลุ่ม ISIS ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าเป็นต้นเหตุการก่อการร้ายครั้งนี้และในปารีส ที่มา unilad
-
เลบานอนระอุ!! กลุ่ม ISIS อ้างเป็นกลุ่มที่ก่อการร้าย ระเบิดพลีชีพกลางเมืองอย่างอุกอาจ
ก่อนหน้าที่ประเทศฝรั่งเศสจะถูกโจมตีในรูปแบบการก่อการร้าย ซึ่งภายหลังกลุ่มรัฐอิสลามหรือกลุ่ม ISIS ก็ได้ประกาศออกมาว่าเป็นกลุ่มที่ลงมือ ซึ่งย้อนกลับไปประมาณ 2 วันก่อนหน้านั้น ช่วงวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีอีกหนึ่งประเทศที่ถูกโจมตีแบบนี้เช่นเดียวกัน ประเทศที่ไม่อาจมองข้ามจากการถูกโจมตีในรูปแบบก่อการร้ายได้เลยก็คือประเทศเลบานอน เหตุเกิดขึ้นที่เมืองเบรุต เมืองหลวงของประเทศเลบานอน มีการจู่โจมในรูปแบบระเบิดพลีชีพถึง 2 ครั้ง ตามรายงานมีผู้เสียชีวิต 44 ราย และบาดเจ็บสาหัสอีกประมาณ 239 ราย ส่งผลทำให้ย่านการค้า Burj al-Barajneh ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ภายหลังการโจมตีอันโหดเหี้ยมนี้ กลุ่ม ISIS หรือรัฐอิสลาม ก็ได้ออกมาอ้างว่าเป็นฝีมือของกลุ่มตน ทั้งนี้เหตุจูงใจในการกระทำดังกล่าวนั้นยังไม่แน่ชัด แต่คาดกันว่าน่าจะเป็นการแก้แค้นเนื่องจากเลบานอนได้ส่งกองกำลังทหารเข้าร่วมต่อต้านกับฝ่ายพันธมิตรในช่วงสงครามกลางเมืองซีเรียที่ผ่านมานั่นเอง ที่มา : foxnews, bbc, yahoo