Tag: เลี้ยงลูก
-
คุณแม่เผย “ตารางจัดการตัวเอง” สำหรับการเลี้ยงลูกพร้อมรางวัล ทำเอาชาวเน็ตฮากระจาย
สำหรับบางคนน่ะ เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ จริงๆ ขณะที่หลายคนชื่นชอบรางวัลที่เป็นเงินหรือของมีค่าต่างๆ แต่คนบางคนก็ชอบที่จะได้รับมันเป็น “ของกิน” โดยเฉพาะเมื่อคุณต้องกลายเป็นพ่อหรือแม่คน บางครั้งมันก็ทำให้คุณเกิดความเครียดเพราะหนูน้อยนั้นช่างทำตัวไม่ได้ดั่งใจและนำพาเรื่องปวดหัวมาให้ตลอด ฉะนั้น ของกินอาจเป็นสิ่งเยียวยาที่ดีได้ อย่างเช่นคุณแม่จากรัฐเนแบรสกานามว่า Maralee Bradley ที่จัดการทำตารางควบคุมพฤติกรรมของตัวเองสำหรับการต่อกรกับลูกน้อยของเธอ และมันก็กลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ตอย่างมากเชียวล่ะ Maralee Bradley ลองมาดูตารางของ Maralee กันเลย จากตาราง ช่องซ้ายสุด ทั้งแถวจะเป็นพฤติกรรมของลูกๆ ส่วน ช่องกลาง จะเป็นการตอบสนองของตัว Maralee เอง และหากทำช่องกลางได้สำเร็จก็จะได้รางวัลตาม ช่องขวา นั่นเอง เรามาดูทีละบรรทัดกันเลยดีกว่า 1. เมื่อลูกฉี่รดที่นอน // เตือนตัวเองว่าเป็นอุบัติเหตุและทุกอย่างโอเค // ได้รับรางวัล (Butterfingger) 2. เมื่อลูกมองบนใส่ // ใจเย็นไว้ และไม่ตะคอกกลับ // ได้รับรางวัล (Sweet Tarts) 3. เมื่อลูกทิ้งแก้วน้ำไว้หลังโซฟาเป็นเดือนๆ…
-
‘ฉันคือเจ้าหญิง’ สาวเผยชีวิตที่ถูกแม่เลี้ยงด้วย “เงิน” และ “ของแบรนด์เนม” แทนความรัก
หลายคนคงอยากจะมีชีวิตที่มีเงินใช้ไม่ขาดมือ อยากได้อะไรก็สามารถนำมันมาครอบครองได้เพียงแค่ใช้เงินซื้อ ไม่ต้องพยายามทำอะไรมากมายชีวิตก็สุขสบาย แต่ที่ความจริงข้อหนึ่งคือ เงินไม่สามารถซื้อทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ นี่คือชีวิตของสาววัย 15 ปีที่ชื่อว่า Nicolette ที่ได้มาเปิดเผยชีวิตของเธอในรายการ Dr.Phil Nicolette ใช้ชีวิตอยู่กับ Nina คุณแม่ของเธอที่เมือง Beverly Hills รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เธอผู้เกิดมาเพรียบพร้อมทุกอย่างกับไลฟ์สไตล์ชีวิตที่หลายๆ คนอิจฉา ชีวิตที่สิ่งต่างๆ สามารถซื้อได้ด้วยเงิน สิ่งที่แม่ได้มอบให้กับเธอนอกจากเงินและความสุขสบายในชีวิตแล้ว เธอไม่ต้องไปโรงเรียนเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ เธอเรียนที่บ้าน มีคนขับรถส่วนตัว พี่เลี้ยงส่วนตัว และเทรนเนอร์ส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงิน ทำให้เธอสามารถใช้จ่ายอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายๆ คนอาจจะเริ่มอิจฉาชีวิตของสาวน้อยคนนี้แล้ว แต่ทว่าชีวิตของเธอนั้นขาดสิ่งที่เงินไม่สามารถซื้อได้นั่นก็คือ เวลาจากแม่ของเธอเอง แม่ของเธอเลี้ยงดูเธอด้วยเงินจนเธอเริ่มตกสู่วังวน ตกเป็นทาสของแบรนด์เนมไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ซึ่งแต่ละชิ้นมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท . ตลกร้ายยิ่งกว่านั้น สาวน้อยคนนี้เริ่มถูกครอบงำด้วยสิ่งของ เธอใช้เงินเป็นจำนวนมากเพื่อชดเชยในสิ่งที่แม่ไม่สามารถให้เธอได้…
-
ดราม่าคอร์สสุดโหด พ่อแม่ติวเข้มลูกเตรียมสอบเข้า ม.1 ให้เรียนพิเศษและทำโจทย์ทุกวัน
ดราม่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กไทย ที่กำลังถูกตั้งคำถามว่า การที่พ่อแม่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของลูก กดดันให้เอาแต่เรียนเพื่อไปสอบเข้าโรงเรียนดังๆ แบบนี้มันเหมาะสมหรือไม่ เริ่มจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้มาโพสต์เรื่องราวแบ่งปันข้อมูลการเลี้ยงลูกในกลุ่ม รวบรวมข้อมูลการศึกษาเพื่อเด็กไทย รู้ไกล เข้าใจโลก แล้วได้มีคนแคปหน้าจอเอาเนื้อหามาแบ่งปันในเพจ โจ๊กเกอร์ อีกครั้งเพื่อให้ชาวเน็ตตัดสินว่า การเลี้ยงลูกแบบนี้มันเป็นอย่างไร เริ่มจากเจ้าของเรื่องได้มาแนะนำวิธีการสอนลูก เตรียมเด็กสอบเข้าชั้น ม.1 ให้เหล่าผู้ปกครองได้นำไปใช้กัน โดยเจ้าของเรื่องได้ทดลองใช้กับลูกมาก่อน #เหมียวบู้บี้ ขออนุญาตสรุปเพื่อให้เข้าใจแบบง่ายๆ โดยใช้สรรพนามแทนเจ้าของเรื่องราวว่า คุณ A 1. คุณ A ได้แนะนำวิธีการให้ผู้ปกครองทั้งหลายในกลุ่มเฟซบุ๊กเริ่มต้นที่ ให้ผู้ปกครองตั้งเป้าหมายว่าอยากจะให้ลูกเข้าโรงเรียนไหน จัดอันดับไว้สัก 5 ที่ 2. วางแผนเก็บข้อมูลโรงเรียนที่อยากให้เข้าตามเฟซบุ๊ก กูเกิ้ล หรือคนรอบตัว คิด วิเคราะห์ แยกแยะ เพื่อการตัดสินใจ 3. ฝึกเด็กให้ทำโจทย์ทุกวัน เริ่มตั้งแต่ตอนอยู่ป.2 โดยโจทย์ก็จะเพิ่มระดับความยากไปในแต่ละระดับชั้น ทำทุกโจทย์ ทำข้อสอบหลายๆ สถาบัน ให้เริ่มเรียนพิเศษ งดเล่นเกมมือถือ ipad มุ่งเน้นการทำโจทย์เลข วิทยาศาสตร์ สังคม ภาษาไทย วันละ 2 วิชาตั้งแต่เวลา…
-
แม่แมวคลอดลูกเสร็จก็ป่วยจนต้องเข้า รพ. งานนี้ ‘แมวจรจัด’ เลยต้องเป็นแม่ชั่วคราวให้
ลูกแมวตัวน้อยที่เพิ่งลืมตาขึ้นมาดูโลก ยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ก็เลยต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแม่แมว แต่แม่แมว Church ดันป่วยหลังจากคลอดลูก 5 ตัวเสร็จทันที เลยต้องเข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาล แล้วแบบนี้ใครจะดูแลลูกแมวล่ะ!? แม่แมว Church คลอดลูกแล้วป่วยเลย ดูแลลูกเองไม่ได้ งานนี้แม่แมวไม่ต้องห่วง เพราะมันโชคดีที่มีเหมียวจรจัด Betty อยู่ มันก็เลยมาดูแลลูกแทนให้ก่อนเป็นการชั่วคราว แม่แมวไม่ต้องห่วงทางนี้นะ พักฟื้นให้เต็มที่เลย Betty เป็นแมวจรจัดที่อยู่ในความดูแลของศูนย์พักพิงสัตว์ MSPCA-Angell เจ้าของของ Church ติดต่อไปหาพวกเขาหลังจากที่ Church ป่วยก็เลยได้เจ้าเหมียวส้มมาช่วยดูแลลูกแมว เหมียวจรจัด Betty เลยต้องสวมบทเป็นแม่ชั่วคราวให้ ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือเปล่า ตอนที่เจ้า Betty มาดูแลลูกแมวมันก็มีน้ำนมให้พอดีเลย Alyssa Krieger อาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงอธิบายว่า “ไม่แน่ว่าเจ้าเหมียวอาจจะคลอดลูกเดือนหนึ่งก่อนที่จะมาอยู่กับเรา หรือไม่มันก็อาจจะเป็นมีน้ำนมเพราะฮอร์โมนที่ไม่ปกติก็ได้ ถึงจะมีเรื่องแบบนี้ไม่มาก แต่มันก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน” เมื่อ Betty ได้เจอลูกแมวของ Church สัญชาตญาณความเป็นแม่ของมันก็เข้าครอบงำแล้วเริ่มดูแลมิ้วน้อยทันที มันช่วยเลียขนให้กับลูกแมวด้วยความอ่อนโยน แล้วก็ให้ลูกแมวดูดนมจากเต้ามันด้วย แม่ยังไม่หายดี เดี๋ยวพี่ Betty…
-
แม่แมวหูหนวกร่างกายอ่อนแอ ทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกน้อยทั้ง 2 ตัวเติบโตแข็งแรง
บางครั้งแม่ก็ตั้งท้องโดยไม่พร้อมได้เหมือนกัน ที่บอกว่าไม่พร้อมนั้นเราไม่ได้หมายถึงเรื่องความเยาว์วัยหรือเรื่องค่าใช้จ่ายหรอกนะ แต่หมายถึงสภาพร่างกายที่อ่อนแอต่างหาก เหมือนกับแม่แมว Honey นี่ไง แต่ถึงมันจะไม่แข็งแรงยังไงมันก็จะไม่มีวันทิ้งลูกเด็ดขาด เจ้า Honey กับลูกน้อยแสนน่ารัก Honey เป็นแม่แมวหูหนวกจากรัฐอินเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา มันอยู่ในความดูแลของกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Humane Society of Whitley County มันให้กำเนิดลูกออกมา 4 ตัวแต่ว่ารอดตายมาแค่ 2 ตัวเท่านั้น ซ้ำร้ายแม่แมวเองก็ร่างกายไม่แข็งแรง แถมยังมีอาการเครียด มันผลิตนมออกมาไม่พอต่อความต้องการของลูกแมวทั้ง 2 ตัว สถานการณ์ของมันเลยน่าเป็นห่วงจนอาสาสมัคร Barb ต้องยื่นมือเข้ามาช่วย Barb ตั้งชื่อลูกแมว 2 ตัวว่า Tupelo และ Manuka ซึ่งเป็นเพื่อนสายพันธุ์ของน้ำผึ้งเพื่อให้เข้ากับชื่อของแม่มัน เขาจะช่วยดูแลพวกมันให้ดีที่สุด ถ้า Honey ให้นมลูกแมวจนหมดแล้วแต่ลูกแมวยังไม่อิ่ม เขาก็จะเอานมแมวทดแทนมาใส่ขวดป้อนให้ลูกแมวทั้ง 2 ตัวด้วยความเอ็นดู นอกเหนือจากเรื่องนมที่มีไม่พอให้ลูกแมวแล้ว เจ้าเหมียวก็เป็นแม่ที่ดีมากเลยทีเดียว มันเป็นห่วงลูกมาก จะต้องคอยดูแลลูกให้อยู่ในสายตาของตัวเองตลอดเวลา เขาและแม่แมวช่วยกันดูแลลูกแมวจนพวกมันมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ…
-
5 เทคนิคการสอนลูก เปลี่ยน ‘เด็กดื้อ’ เป็น ‘เด็กดี’ ได้ง่ายๆ ถ้าสอนแบบถูกวิธี
ว่ากันว่าเด็กนั้นเปรียบเหมือนกับผ้าขาว เทสีไหนลงบนผ้าก็ย่อมปรากฏเป็นสีนั้น เปรียบเหมือนกับว่าเด็กนั้นมีความบริสุทธิ์มาก ถ้าเราสอนสิ่งไหนไปเด็กก็จะซึมซับสิ่งที่เราสอนและจดจำไว้เป็นเยี่ยงอย่าง พ่อแม่แต่ละคนมีวิธีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันไป ไม่มีใครเลี้ยงลูกได้ถูกวิธี 100% เพราะนิสัยใจคอของคนเรานั้นช่างแตกต่างกัน แต่การเลี้ยงดูเด็กก็มีวิธีการที่ได้รับพิสูจน์ว่าสามารถจัดการกับเด็กที่ดื้อได้อย่างอยู่หมัด ด้วยวิธีการเลี้ยงลูกโดย Paul Raeburn และ Kevin Zollman ที่จะมาแนะวิธีเปลี่ยนเด็กดื้อให้เป็นเด็กดีได้แบบง่ายๆ 1.การเดินข้ามถนน วิธีการสอนแบบผิดๆ : ลูกต้องจับมือพ่อแม่ไว้ตลอดเมื่อตอนข้ามข้ามถนน วิธีการสอนที่ดี : ให้ลูกได้เหมือนมีส่วนร่วมได้ช่วยเหลือด้วยการขอร้องให้ลูกช่วยพาข้ามถนนโดยที่พ่อแม่คอยดูอยู่ใกล้ๆ 2. วิธีการลงโทษ วิธีการสอนแบบผิดๆ : รีบลงโทษเด็กโดยที่ไม่ฟังเหตุผลหรือไม่อธิบายว่าทำไมต้องลงโทษ ใช้น้ำเสียงรุนแรงและใช้อารมณ์ วิธีการสอนที่ดี : มีทางเลือกให้ลูกได้เลือกวิธีลงโทษด้วยการจ่ายเงินจากเงินออมหรือล้างจาน 1 สัปดาห์ 3. เมื่อลูกไม่ยอมทานอาหาร วิธีการสอนแบบผิดๆ : ใช้น้ำเสียงแข็งเมื่อเด็กไม่ยอมทานอาหาร พร้อมกับขู่ว่าจะงดขนม วิธีการสอนที่ดี : เสนอข้อแลกเปลี่ยนง่ายๆ ถ้ายอมทานอาหารก็จะสามารถเลือกทานขนมที่ชอบได้ 4. เด็กไม่ยอมทานอาหารด้วยตัวเอง วิธีการสอนแบบผิดๆ : บังคับให้เด็กทานอาหารเองโดยที่พ่อแม่ปล่อยปละละเลย วิธีการสอนที่ดี :…
-
รวมโพสต์สุดฮา จากเหล่าพ่อๆ ที่ทำให้เข้าใจได้ว่า “การเลี้ยงเด็ก” มันปวดหัวแค่ไหน!!
การเลี้ยงเด็กนั้น สำหรับหลายๆ คนแล้ว อาจจะเป็นความฝันอันหนึ่งเลยก็ว่าได้ เด็กตัวเล็กๆ ที่เรียกเราว่าพ่อ หรือแม่นั้น จะไปมีอะไรน่ารักไปกว่านี้ใช่ไหมล่ะ… แต่มันก็ยังมีคนอีกจำนวนมากที่ไม่คิดอย่างนั้น จริงอยู่ว่าการเลี้ยงเด็กนั้นอาจจะเป็นความฝันสำหรับพวกเขาเช่นกัน แต่มันเป็นฝันร้ายนี่สิ… สำหรับพวกเขาแล้ว การเลี้ยงดูเด็กนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันทั้งลำบากแล้วก็น่ารำคาญเอาเสียมากๆ อย่างเช่นเหล่าพ่อๆ เหล่านี้ ที่ออกมาทวีตเรื่องราวชีวิตการเลี้ยงลูกๆ ที่ต่อให้ไม่ใช่พ่อแม่คน ก็อ่านแล้วเข้าใจได้เลย ว่าการเลี้ยงเด็กมันปวดหัวแค่ไหน สำหรับคนที่ผมเคยห้ามไม่ให้กินขี้หมาแล้ว ลูกชายของผมเรื่องมากเรื่ององุ่นชะมัดเลย ยินดีด้วยที่ลูกชายเกิดนะเพื่อน จากวันนี้ไป ห้องน้ำของนายจะมีกลิ่นฉี่ไปตลอดกาล วิธีการเอาตัวรอดในฐานะพ่อแม่น่ะเหรอ? แค่ทำหลายอย่างพร้อมๆ กันได้ก็พอ อย่างตอนนี้ผมกำลังดูทีวีพร้อมกับเมินลูกๆ อยู่ มันน่าจะมีคนแบบโรบินฮูดนะ ขอแบบที่สามารถขโมยแรงจากลูกๆ มาให้พ่อแม่ได้อ่ะ ถ้าคุณสามารถตะโกน “ระวังนะลูก” ขึ้นมาได้โดยที่ไม่ละสายตาจากโทรศัพท์ได้ คุณก็สามารถที่จะเป็นพ่อแม่คนได้ ถึงจะไม่ใช่พ่อแม่ที่ดีก็เถอะ พนักงาน: มีอะไรให้ช่วยไหมคะ ผม: มีครับ เอ้าลูก!! ไปเอาการบ้านคณิตมา เดี๋ยวพี่คนนี้จะช่วยสอน ถ้ามันทำได้จริงๆ จะดีแค่ไหนนะ มีคนเคยบอกว่าการมีลูกก็เหมือนกับมีหัวใจน้อยๆ…
-
25 ภาพภัยแสบจาก ‘มนุษย์ทารก’ พิสูจน์ให้เห็นได้ว่าการเลี้ยงลูกน่ะ มันไม่ง่ายเอาเสียเลยยย!!
การที่คู่สามีภรรยามีลูกน้อยเกิดขึ้นมาเป็นสมาชิกใหม่ในครอบครัวนั้น อาจจะดูเหมือนเป็นของขวัญจากสวรรค์เลยทีเดียว แต่เมื่อลูกน้อย ได้เกิดขึ้นมาลืมตาดูโลกใบนี้แล้ว พ่อแม่ย่อมต้องเลี้ยงดู และใส่ใจดูแลลูกของพวกเขาให้มากๆ ซึ่งการเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยนั้นบอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน หลายครั้งเด็กๆ ก็ทำอะไรที่เราไม่คาดคิด และอาจทำให้เรามองเทวดาตัวน้อย กลายเป็นไอ้เจ้าตัวแสบไปเลยก็ได้ ทางเฟซบุ๊กเพจ Parenting เองก็เข้าใจถึงปัญหานี้ดี จึงได้นำภาพทั้งหลายมาให้ดูกัน เพื่อพิสูจน์ว่า การเลี้ยงลูกน้อยตัวแสบนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด 1. แบงก์พวกนี้ สวยไหมคะแม่ หนูตั้งใจตัดออกมาเลยนะ 2. หนูน้อยกลายเป็นพวกแมวไปแล้ว… 3. นี่ห้องหรือสนามเด็กเล่นเนี่ย!? 4. หนูวาดสวยไหมคะแม่? 5. เข้าใจแหละว่ามันคงหนัก (แต่จะเอาไปเล่นในห้องน้ำทำไมเล่าหนู!!) 6. บอกทีสิว่านั่นไม่ใช่ ขะ ขะ…ขี้!! 7. ยิ่งเลอะยิ่งเยอะประสบการณ์! 8. สนุกไหมลูก… สนุกก็ดีแล้ว T^T 9. หนูอยากลองเป็นปลาดูฮะ 10. ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ได้ลูกเอ๊ย 11.…
-
ชาวเน็ตวาดการ์ตูนเปรียบเทียบการเลี้ยงลูกของ “พ่อ” และ “แม่” เฮ่ย นี่คนหรือของเล่น
หากท่านใดที่กำลังมีลูกน้อยคงจะเข้าใจดีเลยใช่ไหมล่ะครับว่า การเลี้ยงลูกมันเป็นกิจกรรมที่แสนทรหดขนาดไหน เพราะลูกน้อยของเรานั้น ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ทำให้ผู้ที่เป็นพ่อแม่ ต้องทุ่มเทเวลาและแรงกาย เพื่อดูแลลูกน้อยของพวกเขาให้ดีที่สุด แต่บางครั้ง การเลี้ยงลูกก็สนุกเหมือนกันนะ เพราะว่าการที่ได้เล่นกับเด็กน้อย หน้าตาน่ารักๆ ก็อาจทำให้โลกเราสดใสขึ้มาทันทีเลยก็เป็นได้ ซึ่งพ่อแม่แต่ละคนก็จะมีวิธีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างกันออกไปอีกด้วย อย่างเช่นภาพที่จะนำมาเสนอในวันนี้ ที่ทางเฟซบุ๊กเพจ Parenting ได้นำมาเผยแพร่เอาไว้ เป็นภาพการ์ตูนน่ารักๆ ที่แสดงถึงความแตกต่างของการเลี้ยงลูกน้อยระหว่างผู้เป็น “พ่อ” กับผู้เป็น “แม่” ว่าแต่จะตรงครอบครัวของใครบ้างหรือเปล่านั้น ต้องไปชมกันเอาเองเลยยย แม่จะแต่งตัวให้ลูกดูน่ารักน่าเอ็นดู VS พ่อจะแต่งตามจินตนาการของตนเองโดยไม่สนหรอกว่าจะน่ารักรึเปล่า แม่จะเล่นกับลูกแบบน่ารักๆ เช่น จั๊กจี้ VS พ่อจะเล่นอะไรแผลงๆ ที่เหนือกว่านั้น เช่น เอาเคราไปถูกลูก เป็นต้น เวลาแกล้งลูก แม่ก็จะเล่นให้ลูกพอหัวเราะคิกคัก VS พ่อจะเล่นใหญ่ แกล้งทีนึงนี่ลูกกลัวแทบร้องไห้ แม่จะเอาของเล่นให้ลูกเล่นเสมอๆ VS พ่อมักจะแย่งเอาของลูกมาเล่น… แม่จะเห็นลูกเป็นเทวดาตัวน้อย VS คุณพ่อจะเห็นว่าลูกเป็นของเล่นนุ่มนิ่มชิ้นหนึ่ง คุณแม่จะกล่อมลูกน้อย จนกว่าลูกจะหลับ VS…
-
DADS HACK วิธีดูแลเจ้าตัวเล็กที่บ้านแบบง่ายๆ ตามสไตล์คุณพ่อ ไม่เหมาะสำหรับคนกลัวเมีย!!
สำหรับคุณแม่หลายๆ คน การดูแลเจ้าตัวน้อยที่บ้านนนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่อง่ายเลยทีเดียว นอกจากจะต้องคอยดูแลพวกเขาแล้ว คุณยังต้องคอยทำงานบ้านไปพร้อมๆ กันอีกด้วย และแน่นอนว่าเมื่อหน้าที่นี้ตกมาถึงมือคุณพ่อบ้านอย่างเราๆ แล้วล่ะก็ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน แต่!! สบายใจได้เลยถ้าหากคุณรู้วิธีลัดในการดูแลลูกน้อยแบบนี้… ลองประยุกต์เสื้อกล้ามของคุณเป็นที่อุ้มลูกแบบง่ายๆ ดูสิ หรือถ้าหากว่าคุณจะต้องไปขนของ พร้อมกับดูแลเจ้าตัวเล็กด้วย ลองใช้รถเข็นเพื่อทุ่นแรงก็ได้นะ!! บางครั้งกล้วยหอมก็อาจจะใช้ประโยชน์แบบนี้ได้เหมือนกัน!! หรือถ้าหากว่าคุณหากล้วยหอมไม่ได้ ใช้สายยางหรือเชือกแทนก็ได้ไม่ว่ากัน ถ้าหากว่าลูกน้อยของคุณร้องไห้อยากนั่งรถเข็นเด็กล่ะก็ ถังขยะแบบมีล้อก็สามารถแก้ขัดได้เหมือนกัน ถ้าหากปวดท้องอยากเข้าห้องน้ำแบบกะทันหัน อย่าลืมหาอะไรมาถ่วงเจ้าตัวเล็กเอาไว้ก่อนล่ะ เพื่อความปลอดภัย อะไรก็ตามที่มีล้อและเคลื่อนที่ได้ ก็ช่วยให้เจ้าตัวน้อยเพลินได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ป้องกันไอศกรีมเลอะด้วยฝากาแฟ เสื้อไม่เปื้อน แถมยังไม่ต้องโดนคุณแม่บ่นอีก มอบความสนุกให้ลูกน้อยแบบง่ายๆ เวลาชอปปิง แถมยังเป็นการทุ่นแรงในการอุ้มอีกด้วยนะเออ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณถูกเจ้าตัวเล็กกวนระหว่างการทำงาน ลองประยุกต์เครื่องมือเพื่อสร้างความสนุกให้กับพวกเขาดู เหมือนพี่คนนี้ที่ถูกลูกกวนตอนกำลังซ่อมรถ วิธีง่ายๆ สำหรับป้องกันลูกน้อยปีนออกจากเปลเด็ก (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ ) Parenting Protip: If your…
-
คุณแม่โชว์วิธีสุดเจ๋งที่ทำให้ลูกหยุดงอแงกลางดึกได้ แต่ชาวเน็ตกลับเห็นไม่ตรงกัน!?
หลายคนคงทราบกันดีว่าการมีทารกอยู่ในบ้านนั้นเป็นอย่างไร โดยเฉพาะคนที่เป็นคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะก็ คงต้องเคยตื่นกลางดึกมากล่อมลูกน้อยให้หยุดร้องไห้แน่นอน แต่คุณแม่รายนี้ นามว่า Laura Gerson ได้ค้นพบวิธีสุดเจ๋งที่จะทำให้ลูกน้อยของเธอไม่ร้องไห้รบกวนยามหลับนอน นั่นคือการนำจุกนมปลอมไปใส่ไว้ในที่นอนของ Amelia ลูกน้อยของเธอถึง 10 อัน เพราะจากการสังเกตดูแล้ว Amelia มักร้องไห้เมื่อตัวเองควานหาจุกนมปลอมไม่เจอ คุณแม่ Laura ได้ทำการโพสต์ภาพในกลุ่มเฟซบุ๊กถึงวิธีการที่ใช้จัดการลูกน้อยของเธอให้อยู่หมัด และวิธีที่ว่าก็คือการใส่จุกนมปลอมไว้ในที่นอนของลูกสาวตัวน้อยของเธอถึง 10 อัน! เธอบอกว่าตั้งใจจะโพสต์ภาพเพราะเห็นว่าลูกน้อยของเธอดูน่ารักดี แต่กลับเป็นกระแสโด่งดังบนโลกออนไลน์ซะอย่างงั้น ทำเอาเธอเองก็ตกใจเหมือนกัน เธอบอกว่า “ตลกดีที่วิธีแปลกๆ แบบนี้จะได้ผล จากการสังเกตและลองผิดลองถูกดูเห็นว่า 99 เปอร์เซ็นต์ เธอมักจะควานหาจุกนมอยู่ตลอดเวลา ตอนนี้ฉันไม่ต้องตื่นกลางดึกไปกล่อมเธอราว 8 เดือนแล้ว สำเร็จ!! ฉันไม่อยากคิดถึงเวลาที่เธอต้องหย่านมเลยจริงๆ” หลังจากภาพที่เธอโพสต์ได้ผ่านสายตาชาวเน็ต ก็มีคนมากมายมาแสดงความเห็นในเชิงยินดี เช่น “ฉลาดมาก! ฉันน่าจะคิดแบบนี้ได้ตั้งแต่ลูกคนแรกนะ มันไม่สนุกเลยที่เจ้าตัวน้อยปีนป่ายหาจุกนมตั้งแต่ ตี 1…ตี 2… ตี 2 ครึ่ง…กระทั่ง ตี 5 วิธีของคุณน่าจะช่วยให้ฉันได้นอนมากขึ้นหลายชั่วโมงเลยทีเดียว” “ฉันก็ทำแบบนี้กับลูกชายของฉันนะ ตอนที่เห็นเขาเปลี่ยนจุกนมตอนหลับที่ตลกสุดๆ ตอนนี้เขาอายุ…
-
ชาวเน็ตเดือด!! คุณแม่นำเบี้ยผู้พิการ ซื้อของขวัญคริสต์มาสมูลค่า 70,000 บาท ให้กับลูก
เรื่องราวของคุณแม่ผู้พิการรายหนึ่งที่เก็บเงินเบี้ยช่วยเหลือจำนวน 50 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เพื่อซื้อของขวัญวันคริสต์มาสให้กับลูกๆ ของเธอ แต่ทว่าการทำเพื่อลูกของเธอครั้งนี้กลับถูกชาวเน็ตต่อว่าอย่างรุนแรง หลังจากที่เธอให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ This Morning Claire Young ลาออกจากงานของเมื่อปี 2012 หลังจากที่เธอไม่สามารถที่จะทำงานได้เนื่องจากเธอป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อล้าเรื้อรัง โดยหญิงสาวได้รับเงินในการช่วยเหลือ 850 ปอนด์ต่อสัปดาห์ (ประมาณ 37,000 บาท) เพื่อใช้ในการดูแลตัวเองและลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอที่มีอายุไม่เกิน 12 ปี คุณแม่ท่านนี้ใช้เงินเบี้ยผู้พิการของเธออย่างประหยัด และเมื่อปีที่ผ่านมาเธอสามารถเก็บเงินได้มากถึง 2,000 ปอนด์หรือกว่า 87,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวนั้นสามารถทำให้คุณแม่ลูก 6 สามารถมอบของขวัญคริสต์มาสชิ้นพิเศษให้กับลูกๆ ทั้ง 6 คนของเธอได้สบายๆ “ฉันไม่ได้ออกไปฉลองในช่วงหยุดสุดสัปดาห์เลย และฉันก็ได้ไม่ได้ซื้อยาอีกด้วย ฉันตั้งใจจะเก็บเงินทั้งหมดนี้เพื่อนำไปซื้อของขวัญวันคริสต์มาสให้ลูกๆ ” หญิงสาวให้สัมภาษณ์กับพิธีกรรายการ “วันคริสต์มาสนั้นมีแค่เพียงปีละครั้งเท่านั้น และถึงแม้ว่าเราจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากสวัสดิการ แต่เราก็ยังคงต้องฉลองวันสำคัญนี้” เธอให้สัมภาษณ์ Claire พูดต่ออีกว่า จริงๆ แล้วเธอไม่ได้มีความสุขมากนักที่ใช้ชีวิตโดยอาศัยสวัสดิการผู้พิการ “ฉันไม่ชอบที่ต้องคอยพึ่งสวัสดิการ ไม่มีใครชอบสิทธิประโยชน์แบบนี้หรอก แต่คุณไม่มีทางรู้เลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับคุณเมื่อไหร่ ถึงแม้ว่าฉันจะอยู่ได้โดยอาศัยสวัสดิการ แต่ไม่ได้หมายความว่าลูกๆ ของฉันจะไม่สามารถมีความสุขในวันคริสต์มาสเหมือนเด็กคนอื่นๆ…
-
25 ภาพ ที่จะบ่งบอกว่า “การเลี้ยงลูก” นั้นเป็นอะไรที่ยากลำบากม๊ากมากกกกกก
เชื่อว่าแม่ๆ หลายคนคงจะเข้าใจเป็นอย่างดี ว่าการเลี้ยงดูเจ้าแก้วตาดวงใจของเรานั้น ถึงแม้มันจะยากมากมายแค่ไหน เราก็เต็มใจที่จะทำเพื่อลูกน้อยของเราโดยไม่มีข้อแม้ บางคนอาจจะกล่าวไว้ว่าการเป็นประธานาธิบดีนั้นเป็นงานที่ยากมากกว่างานใดๆ ในโลก แต่ Nathalie Jomard ศิลปินชาวฝรั่งเศสกลับไม่คิดเช่นนั้น เธอคิดว่าการเลี้ยงลูกนี่แหละเป็นงานที่โคตรจะยาก ยากกว่าอะไรๆ ทั้งหลายบนโลกอีก ด้วยความที่เข้าใจถึงพลังแห่งความเป็นแม่ Nathalie จึงได้วาดรูปที่สื่อถึงความจริงของเหล่าแม่ๆ ทั้งหลายกับการดูแลลูกน้อยในชีวิตประจำวัน 1. การให้นมลูกจากเต้ามันเป็นอะไรที่เจ็บสุดๆ ยิ่งถ้าเจ้าหนูกัดเข้าล่ะก็ จี๊ดถึงทรวงใน 2. คุณแม่จะไม่สามารถหาความเป็นส่วนตัวได้เลย แม้กระทั่งเวลาเข้าห้องน้ำ 3. เสื้อผ้าที่เคยใส่ได้ตอนสาวๆ ก็คับไปหมด 4. เรื่องน่าอายที่เกิดขึ้นในชีวิต ส่วนมากก็เกิดมาจากเจ้าลูกน้อยของเรานั่นแหละ 5. คุณแม่มีวิธีที่จะปราบลูกของตัวเอง ซึ่งบางทีจะเป็นวิธีที่แปลก แต่ก็ได้ผล 6. การจู๋จี๋กับคุณสามี เป็นเรื่องที่ลืมไปได้เลย 7. วันหยุดอันแสนสบายที่หวังไว้ว่าจะนอนตื่นสายๆ แต่ต้องล่มสลายลงเมื่อเจ้าตัวน้อยมาปลุกตั้งแต่ตี 5 8. เรื่องเลอะเทอะ เป็นเรื่องปกติไม่ว่าบ้านไหนก็เป็น เต็มที่เลยลูก …
-
นักจิตวิทยา Harvard เผย 6 เทคนิคสำหรับพ่อแม่ เลี้ยงลูกให้เติบโตมาเป็น “Good Kids”
ว่ากันว่าเด็กนั้นเปรียบเสมือนผ้าขาว อยู่ที่ว่าคนเป็นพ่อแม่จะเติมอะไรลงไปให้ลูก สิ่งที่พ่อแม่ทำให้ดูก็จะถูกซึมซับลงไปในตัวเด็ก การเลี้ยงดูที่ดีก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะให้เด็กในวันนี้กลายเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า พ่อแม่แต่ละคนก็อยากให้ลูกเป็นคนดี นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Harvard ก็ได้ทำการศึกษาค้นคว้า วิจัยและสรุปผล กลยุทธ์ 6 ข้อ ที่จะทำให้ลูกของคุณกลายเป็นเด็กดี 1. ใช้เวลาอยู่กับลูกๆ ของคุณบ้าง การใช้เวลาอยู่กับบุตรหลานเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด เมื่อใช้เวลาอยู่กับเด็ก คุณก็จะได้ทราบว่า เด็กคนนั้นเขาสนใจอะไรเป็นพิเศษ งานอดิเรกที่เขาชื่นชอบ หรือแม้กระทั่งลักษณะนิสัยของเขา เมื่อคุณลองอยู่กับลูก ไม่เพียงแต่จะเป็นการสังเกตพฤติกรรมในสิ่งที่เขาทำ แต่ก็เป็นการแสดงความใส่ใจให้กับเด็กๆ อีกด้วย 2. บอกให้เด็กๆ ได้รู้ว่าเขามีความหมายสำคัญกับคุณมากแค่ไหน จากผลการวิจัยที่ดำเนินการโดยนักจิตวิทยา เด็กหลายคนไม่ทราบว่าเขาเป็นคนสำคัญสำหรับพ่อแม่มากแค่ไหน การที่บอกเขาอยู่เสมอว่าเขาเป็นคนที่สำคัญต่อคุณจะทำให้บุตรหลานของคุณมีความมั่นใจว่าเขาได้รับความรักจากคุณอย่างเปี่ยมล้น 3. เมื่อเกิดปัญหาให้ช่วยหาวิธีแก้ไขและอยู่เคียงข้างในเวลาที่เด็กๆ ต้องการ เมื่อบุตรหลานของคุณเกิดดื้อด้านขึ้นมา ตัดสินใจล้มเลิกความคิดที่จะทำกิจกรรมต่างๆ เช่น อยากจะเลิกเล่นฟุตบอล คุณต้องถามและรับฟังเหตุผลของเขา ว่าทำไมถึงตัดสินใจแบบนั้น และสอนให้เขารู้ว่าทุกๆ อย่างมีอุปสรรคเสมอ จากนั้นก็ให้กำลังใจเขา ทำให้เขารู้ว่าเขาน่ะสำคัญต่อคนอื่นๆ ด้วยแค่ไหน 4. สอนให้ช่วยงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ และขอบคุณสำหรับการช่วยเหลือ การวิจัยแสดงให้เห็นว่า…
-
พ่อหมาป่าเลี้ยงลูกทั้ง 5 เพียงลำพัง หลังแม่โดนถูกยิงตาย เพราะพยายามหนีออกจากสวนสัตว์
สำหรับหมาป่า ถือเป็นหนึ่งในสัตว์ที่มักจะถูกมองว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ดุร้าย นั่นเป็นเพราะสัญชาตญาณนักล่าโดยธรรมชาติของมัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามันจะเป็นสัตว์ดุร้าย แต่ลึกๆ ในใจพวกมันก็เป็นสัตว์ที่มีหัวใจอบอุ่น แถมยังรักลูกของตัวเองมากๆ เลยล่ะ Ash และ Ember คู่หมาป่าที่คอยดูแลลูกๆ ทั้ง 5 วันที่ 29 กรกฎาคม 2017 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Ember แม่หมาป่าที่อาศัยอยู่ในสวนสัตว์ที่ Cotswold Wildlife Park ใน Bradwell Grove, Oxfordshire ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ ถูกทางเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ผ่านมา หลังจากที่มันพยายามหลบหนีออกจากสวนสัตว์ และเมื่อผู้เป็นแม่ถูกยิงตาย ดังนั้น ความรับผิดชอบในการดูแลลูกน้อย 5 ตัว ที่มีอายุ 11 สัปดาห์ของมัน จึงได้ตกไปเป็นของ Ash พ่อหมาป่าแทน ปัจจุบันเหลือเพียงแต่พ่อหมาป่า Ash ที่ต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง จากการายงานระบุว่า ทางเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ได้พยายามที่จะทำให้เจ้า…
-
โมเม้นหายาก… เมื่อแม่สิงโตรับเลี้ยงลูกเสือดาว ดูแลเหมือนลูกแท้ๆ หลังเสียลูกตัวเองไป
หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเห็นแม่สัตว์เลี้ยงลูกสัตว์ที่ไม่ใช่ลูกตัวเอง แถมบางทีเป็นสัตว์ต่างชนิดด้วย นั่นเป็นเพราะพวกมันมีสัญชาตญาณแห่งความเป็นแม่นั่นเอง เหมือนกับแม่สิงโตจากอุทยานแห่งชาติเซเรนเกตี ในประเทศแทนซาเนีย ที่เลี้ยงดูลูกเสือดาว พร้อมทั้งให้กินนมราวกับเป็นลูกแท้ๆ ของตัวเอง ตามลำดับห่วงโซ่อาหารแล้ว เมื่อสิงโตเห็นลูกเสือดาว พวกมันมักจะลงมือฆ่าทันที เนื่องจากเป็นศัตรูที่คอยแย่งชิงอาหารกัน แต่แม่สิงโตตัวนี้กลับให้ลูกเสือดาวดูดนม ซึ่งเป็นภาพที่แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ยังบอกว่าหาได้ยากมากๆ สำหรับแม่สิงโตตัวนี้ได้คลอดเจ้าตัวน้อย 3 ตัว เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2017 และมันก็ให้ลูกๆ ซ่อนตัวอยู่ภายในรัง บริเวณพื้นที่อนุรักษ์อึงโกรองโกโร แต่จากการสังเกต Ainslie Wilson ผู้จัดการ Ndutu Safari Lodge บอกว่า ‘ดูเหมือนลูกๆ ของมันจะตายแล้ว เพราะมันไม่ได้กลับไปที่รังนานแล้ว’ โดยในภายหลังแม่สิงโตก็พบลูกเสือดาว ที่อยู่ห่างจากรังประมาณ 1 กิโลเมตร แม่สิงโตจึงเกิดความเอ็นดู และตัดสินที่จะดูแลมันเหมือนลูกตัวเอง ไม่มีใครรู้ว่าลูกของสิงโตนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่แม่สิงโตจะอยู่ดูแลลูกเสือดาวตลอดเวลา ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าลูกของมันอาจจะตายไปแล้วจริงๆ ก็ได้ อย่างที่บอกว่ามันแทบจะเป็นไม่ได้ที่สิงโตจะไม่ทำร้ายเสือดาว แต่นักสัตววิทย Sarah Durant บอกว่า “อาจเป็นไปได้ว่าแม่สิงโตได้มาเจอลูกเสือดาว…
-
ฝันเป็นจริง… เมื่อหญิงชรามีลูกคนแรกในวัย 60 ปี แต่ถูกสามีทิ้งเพราะทนฟังเสียงเด็กร้องไม่ได้
เมื่อผู้หญิงเข้าสู่วัยทองโอกาสที่จะมีลูกก็น้อยลงไปด้วย และส่วนใหญ่แพทย์ก็ไม่แนะนำให้มีลูกเมื่ออายุมาก เพราะอาจมีความเสี่ยงที่เด็กจะไม่สมบูรณ์ แต่สำหรับหญิงคนนี้ เธอพยายามมีลูกมาตลอด 20 ปี แต่ก็ไม่สำเร็จ จนกระทั่งอายุ 60 เธอก็ได้รับข่าวดีว่ากำลังจะมีลูกคนแรก แต่ทว่ากลับกลายเป็นข่าวร้ายสำหรับผู้เป็นสามีแทน Serif Nokic วัย 68 ปี จากเมืองโนวี ปาซาร์ เขตราสกาของเซอร์เบียตะวันตก ตัดสินใจทิ้ง Atifa Ljajic ผู้เป็นภรรยาในวันเดียวกับที่เธอคลอดลูกสาว Alina ตอนที่ตั้งท้องหมอบอกกับ Atifa การตั้งครรภ์ในวัยทองเช่นนี้อาจมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น 3 เดือนก่อนคลอดเธอจึงต้องเข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลเพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ทางด้าน Serif เผยว่าเขาคัดค้านเรื่องการมีลูกด้วยช่วงอายุที่ล่วงเลยมาไกลแล้ว แต่ภรรยาก็ยังยืนยันที่จะมีลูกให้ได้ จนกระทั่งวันที่ภรรยาคลอดลูกแล้วอุ้มลูกไว้ในอ้อมกอดครั้งแรก นั่นทำให้เขาตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่อยู่กับครอบครัวอีกแล้ว เขาบอกกับภรรยาว่า เสียงร้องของ Alina จะทำให้เขาตื่นในตอนกลางคืน ซึ่งจะส่งผลต่อสุขภาพของเขา และยังอ้างอีกว่าภรรยาได้ในสิ่งที่ต้องการมาทั้งชีวิตแล้ว ดังนั้นตอนนี้เธอมีความสุขดีแม้จะไม่มีเขาก็ตาม แต่รู้ไหม Atifa ก็มีปัญหาสุขภาพเช่นกัน คือเป็นโรคความดันโลหิตสูง แต่เธอยืนยันว่าพร้อมที่จะเลี้ยงลูกสาวด้วยตัวเองเพียงลำพัง ถึงอย่างนั้น Serif ก็ยังหาเหตุผลเข้าข้างตัวเองว่า “ผมเป็นคนป่วย ผมอายุ 68 ปีแล้ว ผมเป็นเบาหวานและหัวใจก็ไม่ค่อยดีด้วย ดังนั้นมันไม่ง่ายเลยที่ต้องนอนพร้อมฟังเสียงเด็กร้องไห้” เพราะถูกพ่อทิ้งในวันเกิดและไม่ยอมรับเป็นลูกสาว…
-
เมื่อลูกบ่นว่า “หนูไม่อยากไปโรงเรียน” คุณแม่เลยสอนประสบการณ์ล้ำค่า พาเดินขายกล้วยแขก!?
กำลังเป็นกระแสที่ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากชาวเน็ต สำหรับเรื่องราวของคุณมิว Hathairat Neramittanakul ที่นำมาเผยแพร่ลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวของเธอเอง เรื่องมีอยู่ว่า.. เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสาวน้อยพิตต้า ลูกสาวของเธอบ่นกับคุณแม่และคุณพ่อว่า “หนูไม่อยากไปโรงเรียน” พวกเขาเลยพาสาวน้อยไปทดสอบเดินขายกล้วยแขกตามสี่แยกด้วยตัวเองซะเลย ถ้าถามว่าทำไมถึงไม่อยากไปโรงเรียน เชื่อว่าผู้ปกครองหลายคนคงได้คำตอบเหมือนกันคือ ‘ขี้เกียจ’ หรือ ‘เบื่อ’ ดังนั้นคุณแม่จึงพาคุณลูกไปสัมผัสกับชีวิตจริง ถ้าหากลูกไม่ยอมเรียนหนังสือ ด้วยกระแสตอบรับและคำชมจากชาวเน็ตอย่างท่วมท้น ทีมงาน Catdumb ของเราก็ไม่รอช้า ขอเกาะกระแสสัมภาษณ์คุณแม่กับเค้าบ้าง… ไม่ทราบว่าเสียงตอบรับจากคนในครอบครัว หรือคนใกล้ตัว เป็นยังไงบ้าง? “มิวโชคดีค่ะที่คนรอบข้างให้การสนับสนุน และไม่มีใครว่าอะไรเพราะอยากให้น้องเจอกับเหตุการณ์จริง เพราะเราก็ไม่อยากให้ลูกร้องไห้งอแงตอนไปโรงเรียนถูกไหมคะ? มิวเลยคิดว่าการพาเขาไปสัมผัสสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงหากเขาไม่ยอมไปโรงเรียน น่าจะทำให้เขาเข้าใจได้มากกว่าการต้องมานั่งอธิบายค่ะ” แต่งานนี้หนูน้อยพิตต้าไม่ได้มาคนเดียวนะจ๊ะ มีคุณพ่อคอยดูแลอยู่ตลอดไม่ห่างไปไหน หลังจากลองใช้วิธีนี้แล้วน้องพิตต้ายังมีแอบงอแงอยู่บ้างมั้ยเอ่ย? “ก็ยังมีอยู่บ้างตามประสาเด็กอ่ะค่ะ แต่ก็น้อยลงมากถ้าเทียบกับเมื่อก่อน เพราะอย่างน้อยเค้าก็เข้าใจด้วยตัวเองแล้วว่า ถ้าเขาไม่ไปโรงเรียน เขาก็ต้องออกมาทำงานเลี้ยงตัวเองนะ” ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเห็นกระแสจากบางสื่อเกี่ยวกับคำแนะนำการเลี้ยงลูกอย่างสุดโต่ง คุณแม่มีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไรบ้าง? “ส่วนตัวมิวมองว่าเด็กแต่ละคนมีความชอบและความสามารถไม่เหมือนกัน เราควรสนับสนุนในสิ่งที่เค้าอยากทำมากกว่าเพราะในใจเราเชื่อเสมอว่า ทุกอาชีพสามารถประสบความสำเร็จได้และลูกเราก็คงจะมีความสุขมากกว่าถ้าเขาได้ทำในสิ่งที่เขารัก แต่สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ต้องให้เวลากับลูก คอยดูแล ให้คำแนะนำ ไม่ใช่ปล่อยปะละเลยค่ะ” …
-
คุณแม่ส่งอีเมลถามคุณครู ถึงสาเหตุของการบ้านที่เยอะเกินไป จนทำให้ลูกเธอเครียด…
เชื่อแน่ว่าเด็กๆ หลายคนเมื่อได้ยินคำว่าการบ้าน หรือรายงาน ในช่วงประมาณ 10 นาทีสุดท้ายก่อนหมดชั่วโมง ความฝันถึงเรื่องสนุกหลังเลิกเรียนคงจะพังทลายลงมาอย่างแน่นอน แต่อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ การมีการบ้านเนี่ยก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่เหมือนกัน แต่สิ่งที่มันทำให้พวกเราๆ ที่เคยเป็นเด็กกันมาก่อนต้องร้องโอดโอย ก็คือการบ้านที่เยอะต่างหากล่ะ เมื่อไม่นานมานี้มีเรื่องฮือฮาอย่างมากบนโลกออนไลน์ เมื่อคุณแม่ท่านหนึ่งได้ทำการส่งอีเมลหาคุณครูของลูกสาวเธอ เพื่อสอบถามถึงเหตุผลที่ลูกของเธอได้รับการบ้านที่มากเกินไป จนต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงในทุกคืนเพื่อสะสางงานที่ได้รับมอบหมายจากคุณครู… Bunmi Laditan คุณแม่ของสาวน้อย Maya วัย 10 ขวบ จากเมือง Quebec ประเทศแคนาดา เธอได้ทำการส่งอีเมลถึงอาจารย์ของลูกสาวเธอถึงสาเหตุที่ลูกสาวต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการทำการบ้านทุกคืน โดยบางส่วนของข้อความในอีเมลบอกว่า “ลูกของฉันดูแย่ลงมากจากจำนวนของการบ้านที่เธอได้รับในปีนี้ เธอดูเครียดมากและเริ่มมีอาการป่วยที่เห็นได้ชัด เช่น อาการเจ็บหน้าอก เธอตื่นนอนตอนตี 4 และกังวลกับงานที่เธอได้รับ” นอกจากนี้คุณแม่ยังได้บอกกับคุณครูของลูกเธออีกว่า เธอได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญแล้ว และพวกเขาเห็นว่าควรที่จะมีการลดจำนวนการบ้านของเด็กลง เพื่อให้เด็กได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนกับครอบครัวบ้าง นี่คือข้อความในอีเมลที่คุณ Bunmi ส่งไปยังคุณครูของลูกสาวเธอ โดยหลังจากนั้น Bunmi ได้แชร์ภาพของอีเมลฉบับนี้พร้อมทั้งข้อความของเธอผ่านทางเฟซบุ๊กว่า“มีใครช่วยอธิบายหน่อยได้ไหมว่าลูกสาวของฉันอยู่ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงที่โรงเรียนแล้ว แต่ทำไมเธอยังต้องใช้เวลาอีก 2-3 ชั่วโมงต่อคืนที่บ้านเพื่อทำการบ้านอีก เวลาของครอบครัวนั้นไม่สำคัญหรือ?? เวลาที่จะให้เด็กได้พักผ่อนนั้นไม่สำคัญด้วยใช่ไหม?? หรือเธอควรจะเป็นคนบ้างานตั้งแต่อายุ 10 ขวบงั้นหรือ??” นอกจากนี้ข้อความในเฟซบุ๊กของคุณแม่ยังบอกอีกว่าเด็กก็เหมือนผู้ใหญ่นั่นแหละ พวกเขาก็ต้องการเวลาพักหรืออยู่กับครอบครัวเหมือนกัน …
-
18 สิ่งประดิษฐ์สุดอัจฉริยะ สำหรับพ่อแม่เลี้ยงลูกได้ง่ายขึ้น เจ๋งจนต้องร้องเชร้ดดด!!
สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ ในยุคโพสต์โมเดิร์นแบบนี้… การเลี้ยงลูกซักคนหนึ่งคงไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะไหนจะต้องออกไปทำงาน ไหนจะต้องคอยดูแลลูกให้พ้นจากอันตรายที่มีอยู่รอบด้าน ด้วยเหตุนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 18 สินค้าสิ่งประดิษฐ์สุดอัจฉริยะ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ยุคใหม่ รับรองว่าการเลี้ยงลูกจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป 1. เสื้อฮู้ดสำหรับคุณแม่ (สั่งซื้อ) 2. ที่กั้นน้ำสำหรับอาบน้ำให้เด็ก (สั่งซื้อ) 3. กระเป๋าสะพายของคุณแม่ ที่ปรับเป็นเก้าอี้จิ๋วให้ลูกน้อยได้ (สั่งซื้อ) 4. ด้ามจับสำหรับล้างมือให้ลูกน้อย (สั่งซื้อ) 5. หมอนสารพัดประโยชน์ สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งท้อง (สั่งซื้อ) 6. ช้อนป้อนอาหารเพื่อคุณลูก (สั่งซื้อ) 7. รถเข็นเด็กที่เป็นได้ทั้งจักรยานในตัวเดียวกัน (สั่งซื้อ) 8. ที่รองเข่าสำหรับคุณแม่ เพื่อการอาบน้ำให้คุณลูก (สั่งซื้อ) 9. หมวกอาบน้ำคุณลูก น่าร๊ากกก (สั่งซื้อ) 10. ผ้าปูโต๊ะที่คุณลูกสามารถวาดเขียนได้ตามใจชอบ (สั่งซื้อ) …
-
ชาวเน็ตแห่ชื่นชม!! สามีภรรยาที่ทำเสื้อทีมมาเชียร์ลูกสาว ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะหย่ากันแล้ว..
ชีวิตในช่วงวัยเด็กเป็นช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ ในช่วงนี้เด็กจะมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเลี้ยงดูและสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเด็กนั้น มีผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยเป็นอย่างมาก ตัวอย่างของการดูแลเอาใจใส่ลูกสาวของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะต่างแยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่แล้วก็ตาม แต่ก็ยังรักและดูแลลูกของพวกเขาอยู่เสมอ… ครอบครัวของ Maelyn Cazeau สาวน้อยวัย 4 ขวบจากรัฐจอร์เจีย ได้ทำเรื่องราวที่สุดแสนจะน่ารักและได้รับคำชมเชยจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก เมื่อพวกเขาทำชุดฟุตบอลเป็นทีมของครอบครัว โดยใส่เบอร์ 37 ซึ่งเป็นหมายเลขประจำตัวของสูกสาว เพื่อไปเชียร์เจ้าตัวน้อยในการแข่งฟุตบอล ถึงแม้ว่าคุณ Clara Cazeau และสามีของเธอจะหย่ากันและทั้งสองต่างมีคู่ชีวิตใหม่แล้ว แต่ก็ยังคงมาให้กำลังใจหนูน้อย Maelyn ในการแข่งฟุตบอล นอกจากนี้ทั้งสองครอบครัวยังช่วยกันเลี้ยงดูลูกสาวของพวกเขาอีกด้วย Maelyn เป็นเด็กที่โชคดีมาก เธอได้รับความรักจากพ่อแม่ถึง 2 คู่ด้วยกันซึ่งทั้งพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงก็รักและเอ็นดูสาวน้อยมาก คุณ Clara บอกกับนักข่าวอย่างภาคภูมิใจเกี่ยวกับการร่วมกันเลี้ยงดูลูกน้อยของเธอว่า “มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ลูกของเราควรจะเติบโตมาและเข้าใจว่าพ่อและแม่ ได้ทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อเค้า” และนี่คือชุดทีมฟุตบอลที่ครอบครัวของเธอทำขึ้นมา เมื่อรูปชุดทีมฟุตบอลที่มีทั้งแม่กับพ่อเลี้ยง และพ่อกับแม่เลี้ยงของสาวน้อยได้ถูกเผยแพร่ในทวิตเตอร์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาชื่นชมและแสดงความคิดเห็นมากมาย ภาพดังกล่าวทำให้หลายๆ คนรู้สึกดีและซาบซึ้งกับสิ่งที่พวกเขาทำอย่างมาก อย่างสาวคนนี้บอกว่า “ฉันหวังว่าพ่อแม่จะดูแลฉันแบบนี้หลังจากที่พวกเขาหย่ากันนะ เด็กคนนี้โชคดีจริงๆ” บางคนก็เข้ามายกย่องพวกเขา หรือบางคนถึงขั้นซึ้งจนร้องไห้กันเลยทีเดียว!! และผู้ใช้งานเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อ Emilee Plaayer ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของ Maelyn…
-
แพทย์โพสต์เตือน ‘อย่าให้ลูกเล่นเกม’ ติงพ่อแม่ที่ปล่อยให้ลูกเล่นเกมเป็นคน ‘โง่เขลา’
กำลังกลายเป็นประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในโลกโซเชียลอยู่ ณ ตอนนี้ เมื่อมีแพทย์นายหนึ่งได้โพสต์บทความอธิบายถึงวิธีการเลี้ยงลูกของตัวเอง โดยบทความนั้นเขียนเอาไว้ว่า การเล่นเกมนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ดี และเขาจะไม่ยอมให้ลูกเล่นเกมเหมือนกับพ่อแม่คนอื่นๆ โดยเด็ดขาด!! ลองเข้าไปอ่านเนื้อหาบทความกันแบบเต็มๆ ที่โพสต์ต้นฉบับได้เลยจ้า… จากโพสต์ดังกล่าวก็มีประเด็นขึ้นมา เพราะคุณหมอมีการใช่คำพูดที่ดูถูกดูแคลนพ่อแม่คนอื่นที่ยอมให้ลูกเล่นเกมว่าเป็นคน ‘โง่เขลา’ ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่เห็นด้วย จึงเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย คุณ Theetawit Setthachai (ช่า บทขต./เพจบันทึกของตุ๊ด) ให้ความเห็นว่า “ปกติเล่นเกมส์เยอะค่ะ ติดเกมส์ โตมาก็เป็นคนสดใสร่าเริงนะคะ แถมยังเปิดกว้างทุกความเห็น ไม่ด่าคนอื่นว่าเขลา และไม่ยกตนว่าเป็นผู้มีปัญญา อ่านตรรกะประมาณว่าพวกที่คิดไม่เหมือนกูคือโง่นี่งงมาก เป็นจิตแพทย์จริงเหรอคะ?” คุณ Sukavin Sanitraksa ให้ความเห็นว่า “คุณมองภาพลบเกี่ยวกับเกมส์มากไปรึป่าว เราสามารถเล่นเกมส์ในขณะที่อย่างอื่นเราก็ทำได้ไปพร้อมๆกัน เกมส์ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาสำคัญคือคุณมีวินัยในการแบ่งเวลารึป่าวตรงนี้สิน่าคิด เอ้อว์” คุณ Natsuda Cha ให้ความเห็นว่า “มีเพื่อนติดเกมค่ะ ตอนนี้เปน softwear engineering อยู่ singapore ฉลาดมากไม่โง่ อิอิ” คุณ Punniiz Hopecm ให้ความเห็นว่า “คนที่ติดเกมส์…
-
ครอบครัวเลี้ยงลูกแนวใหม่ ให้ลูกเรียนรู้ผ่านเกมวันละ 7 ชม. อยู่ที่บ้าน แทนการไปโรงเรียน!!?
เรียกได้ว่าชาวเกมเมอร์ทั้งหลายในบ้านเราทุกวันนี้ คงรู้สึกเหนื่อยใจกับข่าวหน้าหนึ่งที่ผู้ใหญ่มักจะโทษตัวเกม แทนคนเล่น ว่าเกมหน่ะเป็นสิ่งที่ทำให้เยาวชนเสพติด และเป็นต้นเหตุของความรุนแรงทางสังคม (ที่ไม่ใช่ต้นเหตุมาจากความรุนแรงในสถาบันครอบครัว?) แต่สำหรับ ‘Katie Pybus’ คุณแม่ลูก 3 วัย 44 ปี คนนี้เธอมีวิธีการเลี้ยงลูกที่แตกต่างออกไป นั่นก็คือเธอเลือกที่จะให้เด็กๆ หาความรู้จากการเล่นเกมอยู่ที่บ้านวันละ 7 ชม. แทนการไปโรงเรียน!? คุณแม่ได้ให้เหตุผลว่า การที่เธอเลือกที่จะไม่ส่งลูกไปโรงเรียน เพราะเธอคิดว่าการศึกษาในระบบโรงเรียนนั้นมุ่งเน้นไปที่เรื่องของคะแนน และการสอบ มากเกินความจำเป็น “เกมคือสื่อการเรียนรู้อย่างหนึ่งสำหรับครอบครัวเราค่ะ ดิฉันเชื่อมั่นว่าวิธีการหาความรู้ผ่านการเล่น ย่อมเป็นอีกวิธีที่ได้ผลสำหรับเด็กๆ อย่างแน่นอน” คุณแม่เล่า และสิ่งที่เธอทำนั้นเรียกได้ว่าเป็นการศึกษาในรูปแบบ Homeschool คือการศึกษาเรียนรู้อยู่ที่บ้าน ไม่ต้องไปโรงเรียน และทำการเรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆ แทนตำราหนังสือ ทุกวันทั้ง 3 พี่น้อง Sapphire, Etienne และ Orin จะตื่นคนละช่วงเวลาตั้งแต่ตี 5, 8 โมงเช้า และเกือบๆ 10 โมงเช้า เมื่อทุกคนพร้อมแล้วก็จะรับประทานอาหารเช้าร่วมกัน…
-
23 ภาพฮาๆ ตีแผ่ชีวิตจริงของการเลี้ยงลูก ความจริงที่เจ็บจี๊ด จนต้องฮาลั่นเลยล่ะ!!
สำหรับคนเป็นคุณพ่อคุณแม่นั้น จุดมุ่งหมายของพวกเขาก็คือการเลี้ยงดูลูกๆ ให้ดีที่สุด แต่กว่าจะเลี้ยงได้จนโต พูดรู้เรื่องนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เลยล่ะ… #จ่าสิบเหมียว ก็มี 23 ภาพฮาๆ ตีแผ่ชีวิตของเหล่าพ่อแม่ที่ต้องเลี้ยงลูก รับรองว่าถ้าได้อ่านกันแล้วจะรู้สึกว่าตรงมากจนเจ็บจี๊ดดดดดเลยล่ะ บางครั้งเราก็แค่อยากจะพักผ่อนบ้าง และนี่คือสิ่งเดียวที่เราสามารถทำได้ และนี่คือสภาพของทุกๆ คืน หลังฟัดกับเจ้าตัวเล็กทั้งวัน บางครั้งก็อาจหนักข้อขึ้น… หลับกันในที่สาธารณะเลย ไม่มีอะไรต้องอายแล้วล่ะ!! พ่อแม่มือใหม่จะตกใจอย่างมากที่เห็นความสามารถในการร้องไห้เป็นชั่วโมงๆ ของลูก แต่พอจะหยุดก็ดันหยุดเฉย การอาบน้ำครั้งแรกนั้นน่าประทับใจที่สุด เพราะไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนการณ์เลยแม้แต่น้อย… หลังจากผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง คุณก็จะเริ่มมีทักษะและพลังวิเศษมากขึ้น แต่ไม่ว่าคุณจะกินอะไร เจ้าตัวยุ่งก็จะพยายามกินด้วยเสมอ รวมถึงอวัยวะของพวกเขาเอง ของเล่น กินหมดทุกอย่างยกเว้นอาหารที่เราทำ T^T และถ้าคาดหวังว่าจะนั่งกินดีๆ แบบไม่รกล่ะก็ เอิ่มมม อย่าหวังเลย… การตั้งไข่ของลูกนั้นเป็นอะไรที่สนุกสนานสำหรับพ่อแม่ แต่พอเริ่มเดินได้เท่านั้นแหละ…
-
รวม 17 ทริกดีๆ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่จะทำให้การเลี้ยงลูกของท่านง่ายขึ้นเย๊อะ!!
เชื่อว่าสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่แล้ว การเลี้ยงลูกเป็นกิจกรรมที่ทำให้ทุกท่านต้องปวดหัวอย่างแน่นอน จริงๆ ไม่ใช่แค่มือใหม่ด้วย ต่อให้เป็นคุณพ่อคุณแม่มือเก่า ก็ยังต้องปวดเศียรเวียนเกล้าเช่นกัน งั้นวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเหล่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไปพบกับ 17 ทริกดีๆ ในการเลี้ยงลูก ที่รับรองว่าจะต้องทำให้ชีวิตของเพื่อนๆ ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน จะมีอะไรบ้าง ไปชมกันเลย ลูกๆ ชอบทะเลาะกันเวลานั่งรถใช่มั้ย เอากระดานมากั้นซะเลย คราวนี้นั่งกันเงียบกริ๊บสบายใจเราแน่นอน ถ้าลูกอยากระบายสีผนังบ้าน ให้ไปทารั้วบ้านด้วยน้ำเปล่า รับรองขลุกตรงนั้นได้เป็นชั่วโมงเลยล่ะ ใช้ผ้าปูที่นอนแทนเสื่อเวลาไปเที่ยวทะเล นอกจากป้องกันทรายแล้ว ยังกันไม่ให้ลูกคลานไปไหนไกลได้ด้วย ติดสติ๊กเกอร์ที่รองเท้า เพื่อสอนลูกว่าข้างไหนซ้าย ข้างไหนขวา สอนให้ลูกรู้จักแบ่งเวลา โดยใช้สีกำกับ ปากกาหนึ่งแท่งกับกล่องเปล่าๆ หนึ่งใบ ก็ฟินได้แล้ว สอนให้ลูกรู้จักทำงานบ้าน ด้วยเกมง่ายๆ ทำเปลง่ายๆ โดยใช้ผ้าปูที่นอนเก่าๆ ฝาถ้วยกาแฟสามารถใช้ป้องกันไอศกรีมเลอะเทอะได้ ทำกระดานวาดรูปง่ายๆ ด้วยกระดาษม้วนใหญ่ เอาจอยที่ไม่ได้เสียบกับเครื่องให้ลูกถือเวลาลูกอยากเล่นเกมด้วย ชีวิตคุณจะสงบสุขขึ้นเยอะ …
-
ซิงเกิ้ลแด๊ดแชร์ประสบการณ์ ยากกว่าการเลี้ยงลูกสาว ก็คือการ ‘ตอบคำถามคนอื่น’ นี่แหละ!!
สิ่งหนึ่งที่ยากกว่าการเลี้ยงลูกสำหรับเค้าแล้วก็คือการตอบคำถามให้กับเหล่าผู้คนที่มักมาถามเขาเสมอนั่นแหละ… Michael Ray หนุ่มใหญ่วัย 54 ปีที่เลี้ยงดูลูกสาวของเขา Charlie ด้วยตัวคนเดียวเป็นเวลากว่า 2 ปีเต็มแล้ว ซึ่งปัญหาที่เขาพบนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกแต่อย่างใด แต่เป็นประเด็นที่ว่าคนรอบข้างที่ไม่เข้าใจมากกว่า โดยเฉพาะคำถามยอดฮิตที่ว่า ‘คุณเลี้ยงลูกคนเดียวได้ยังไง!? ผมก็มักตอบกลับไปว่า ‘ก็เหมือนที่พ่อแม่ที่เลี้ยงลูกคนเดียวทั่วไปเขาทำกันนั่นแหละ’ Ray กล่าว Ray และ Charlie เพราะการเป็นพ่อแม่คนเดียวนั้นดูเหมือนจะทำได้ไม่ค่อยดี โดยเฉพาะฝ่ายคุณพ่อคนเดียวที่ต้องเลี้ยงลูกสาว (ที่ปกติมักจะเป็นฝ่ายแม่ที่เลี้ยงลูก) แถมบางรายถึงขั้นเคยมาพูดกับเขาว่า ‘เด็กผู้หญิงทุกคนต้องการแม่’ ซึ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดและบั่นทอนจิตใจมาก และบางครั้งเขาก็รู้สึกน้อยใจอย่างมาก เวลาที่โรงเรียน หรือคลาสฝึกเต้น ห้ามไม่ให้คุณพ่อเข้าร่วมกิจกรรมบางอย่าง เช่น การช่วยลูกสาวแต่งตัวก่อนออกไปแสดง เพราะว่าห้องแต่งตัวเปิดให้เฉพาะผู้หญิงเท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้ ‘ผมพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เธอไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไป โดยเฉพาะการที่เธอไม่ได้รับการติดต่อจากแม่ของเธอมาราวๆ 2 ปีแล้ว เธอคือครอบครัวคนเดียวของผม’ คุณพ่อกล่าว แต่ก็มีข่าวดีเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง เพราะก่อนการออกไปแสดงของลูกสาวนั้น คุณแม่ก็มักจะไปช่วยแต่งตัวอยู่หลังเวทีพร้อมให้กำลังใจลูกๆ แต่กรณีของ Charlie ที่ไม่มีแม่นั้น หมายความว่าจะไม่มีใครคอยอยู่ให้กำลังใจเธอแม้แต่น้อย ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ตระหนักถึงคำขอของคุณพ่อและอนุญาตให้เป็นกรณีพิเศษเรียบร้อยแล้วล่ะ ‘นี่เป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาเลยล่ะว่า การเลี้ยงลูกคนเดียวนั้นมักถูกคนทั่วไปมองว่าไม่ดีและเกิดอาการต่อต้าน…
-
ฮาร์วาร์ดเผย 6 วิธีเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กดี ไม่ก้าวร้าวต่อสังคม และไม่สั่งให้คนอื่นกราบสิ่งของ!!
สำหรับหัวอกคนเป็นพ่อแม่แล้ว ทุกคนล้วนอยากให้ลูกเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แต่ทว่าสิ่งนี้เอง ก็ต้องเกิดจากการเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิดในสถาบันครอบครัวด้วยเช่นกัน วันนี้ #เหมียวบ็อบ จะพาไปดู 6 เคล็ดลับที่ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน Harvard Acedemy ออกมาเผยว่า ส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กในอนาคตจริง และวิธีการต่างๆที่ถูกนำมาอธิบายในเว็บไซต์ Brightside ที่จะช่วยให้ลูกๆของเรามีความรับผิดชอบ มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และไม่ก้าวร้าวต่อคนรอบข้าง… 1. สอนให้รู้จักที่จะควบคุมอารมณ์ ความโกรธ ความเศร้า หรือแม้แต่ความผิดหวัง ล้วนเป็นอารมณ์ที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจไม่ใช่แค่สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นกับเด็กเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ควรสอนให้ลูกจัดการกับอารมณ์แง่ลบให้ได้ เมื่อไหร่ที่เขาโมโห ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า ให้ใช้ช่วงเวลาที่ลูกเริ่มรู้สึกใจเย็นขึ้นมาบ้าง ให้ข้าไปพูดคุย และสอนใช้เทคนิคการหายใจเข้าทางจมูก หายใจออกทางปาก พร้อมกับพยายามนับ 1-5 เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คนเราเกิดความรู้สึกโมโห เลือดในร่างกายจะสูบฉีดอย่างแรง และหัวใจจะเต้นรัวมากกว่าปกติ ดังนั้นการกำหนดลมหายใจ เปรียบได้เหมือนเครื่องมือที่ใช้จัดการกับอารมณ์ร้ายได้เป็นอย่างดี 2. พูดคุยกับลูก ให้รู้จักมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองกระทำ พ่อและแม่ คือต้นแบบที่ลูกจะเรียนรู้ และเอาอย่าง สิ่งสำคัญที่สุดคือการสอนให้พวกเขามีความรับผิดชอบ ต่ออะไรก็ตามที่ได้กระทำลงไป อย่างเช่น กินขนมเสร็จก็ต้องนำไปทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า ให้พ่อแม่พยายามอธิบายกับลูกๆอย่างใจเย็นว่า อะไรคือความรับผิดชอบ และมันส่งผลอย่างไรบ้างระหว่างตัวของลูกเอง…
-
10 ตัวอย่างการเลี้ยงลูกระหว่าง ‘พ่อ vs แม่’ ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจ๊น ชัดเจน!!
สำหรับหัวอกคนเป็นพ่อแม่แล้ว ไม่มีทางที่ทั้งสองจะไม่รักลูกของตัวเอง (ยกเว้นกรณีที่เป็นข่าวไม่ดีละกันเนาะ) เพื่อความสุขของลูกๆแล้ว พวกเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่าง.. แต่ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะรักลูกของตัวเองมากแค่ไหน วิธีการเลี้ยงดูย่อมแตกต่างกัน ก็แหมแน่นอนอยู่แล้วว่าคนเป็นแม่ต้องเลี้ยงลูกด้วยวิธีการแบบผู้หญิ๊งผู้หญิง ถนุถนอมลูกสุดๆ แต่ถ้าปล่อยให้พ่อเลี้ยงลูกแทน อาจจะกลายเป็นแบบนี้ได้ ฮ่าๆๆๆ 1. เมื่อลูกอยากออกไปปั่นจักรยาน 2. ถ้าลูกร้องไห้หิวนม พ่อจะดูแลเจ้าอย่างดี 3. ส่วนเรื่องช็อปปิ้งของใช้เข้าบ้านหน่ะ ถ้ามากับพ่อแล้วหายห่วงได้เลย 4. ไหนลูกอยากเล่นแต่งตัวแฟนซีเหรอ? เข้าทางพ่อเลย อิอิ 5. เมื่อถึงเวลาสันทนาการของลูก คุณพ่อไม่เคยทำให้เด็กๆผิดหวังเลยจริงๆ 6. เมื่อลูกอยากลองฝึกทำอาหารเอง…ได้เลย เดี๋ยวพ่อสอนให้!! 7. แม้แต่พาลูกไปเที่ยวสวนสนุก พ่อก็ทำได้ดีไม่แพ้แม่เลยหล่ะ 8. ถ้าลูกอยากจะไปสวนสัตว์ พ่อจะทำทุกอย่างให้ลูกได้ใกล้ชิดกับสัตว์ (ใกล้ไปป่าวเฮีย 555+) 9. เมื่อลูกหิว..ไม่ต้องห่วง พ่อหิวกว่าลูกเย๊อะ!!! 10. เพื่อรอยยิ้มและความสุขของลูก คนเป็นพ่อพร้อมจะทำทุกอย่างเสมอ.. เห็นแบบนี้แล้ว…
-
10 ภาพแปลกๆ ของ ‘วิธีการเลี้ยงทารก’ ในอดีต สะท้อนสังคมที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
ปัจจุบันการเลี้ยงลูกนั้น มีหลากหลายวิธี บางคนเลี้ยงตามความเชื่อโบราณ ในขณะที่หลายครอบครัวเลี้ยงแบบสมัยใหม่ แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหน ก็คงเป็นทางที่พ่อแม่คิดว่าดีที่สุดสำหรับลูกแล้ว เราคงเคยเห็นแต่การเลี้ยงลูกแบบปัจจุบัน แล้วเคยสงสัยมั้ยว่าในอดีตนั้น มนุษย์เลี้ยงลูกกันอย่างไรบ้าง เราลองย้อนไปดูกันสักหน่อยว่าพวกเขามีวิธีการเลี้ยงลูกแตกต่างจากปัจจุบันหรือไม่ ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ทารกมักถูกเลี้ยงในกรง และนำไปห้อยไว้ที่หน้าต่าง เพื่อให้เด็กๆ ได้รับอากาศบริสุทธิ์ และได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติกลางแจ้ง ในช่วงทศวรรษที่ 1930 ทารกมักจะถูกเลี้ยงในกรง กรงที่ออกแบบให้เด็กออกไปสูดอากาศ ที่ยุคนี้ดูแล้วหวาดเสียว ต่อมาในปี 1940 ค่านิยมเลี้ยงลูกในกรงแล้วห้อยหน้าต่างแบบนี้ก็หมดไป และไม่เคยมีใครนำกลับมาใช้อีกเลย หลังจากนั้น การเลี้ยงลูกก็มีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆ อาจจะเป็นวิธีการแปลกๆ และเข้าใจยาก แต่เชื่อว่า พวกเขาเองก็คงหาวิธีที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆ เช่นกัน ที่สำคัญ วิธีการเลี้ยงลูก ไม่ว่าจะในอดีตหรือปัจจุบันก็คงต้องขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความเชื่อของยุคสมัยนั้นๆ ด้วย ภาพการเลี้ยงลูกใน 100 ปีที่ผ่านมาต่อไปนี้ คงสะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมได้บ้าง… เป็นอีกหนึ่งวิธีในการพาลูกออกไปสัมผัสอากาศข้างนอก วิธีที่ปลอบทารกในปี ค.ศ. 1920 ความกลัวแก๊สพิษระบาดในช่วงสงครามโลก ต้องใช้รถเข็นที่ป้องกันแก๊สพิษอย่างดี รถเข็นสำหรับเด็กเป็นกลุ่ม ผู้ปกครองบางคน…
-
นักวิจัยต่างประเทศกล่าว… ครอบครัวที่เข้มงวดกับลูกมากไป อาจทำให้เด็กเป็นคนขี้โกหก
ในวัยเด็กของเราทุกคนคงจะเคยถูกเลี้ยงดูมาโดยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป พ่อแม่บางคนอาจจะเลี้ยงลูกแบบถนุถนอม บางคนเลี้ยงด้วยเหตุผล บางคนเลี้ยงด้วยไม้เรียว บางคนอาจจะสร้างกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการเลี้ยงลูกแบบเข้มงวดมากๆ นั้น จะส่งผลเสียกับพฤติกรรมของลูกในระยะยาวได้นะ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลีเมล์ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของนักจิตอายุรเวทและนักเขียนหนังสือชื่อดังชาวอังกฤษ Philippa Perry บอกว่าการที่พ่อแม่เข้มงวดกับลูกมากเกินไปนั้น จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่อยากบอกความจริงกับพวกคุณ Philippa บอกว่าทุกๆ คำโกหก ล้วนก่อตัวมาจากสถานการณ์ที่บังคับให้พวกเขาไม่สามารถพูดความจริงทั้งหมดได้ หากลูกๆ ของพวกเขากลายเป็นคนขี้โกหกล่ะก็ พ่อแม่ควรจะโทษการเลี้ยงดูของพวกเขาเอง การให้ความเห็นของเธอไม่ได้เป็นการกล่าวขึ้นมาลอยๆ เพราะก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยของนักจิตวิทยาชาวแคนาดา Dr. Victoria Talwar ที่วัดและทำการทดลองกับเด็กโกหกมาแล้ว Dr. Talwar ได้ทำการทดลองกับเด็กๆ ในโรงเรียนสองแห่งในประเทศแอฟริกาตะวันตก โดยในโรงเรียนแรกจะไม่มีการตั้งกฎเกณฑ์ใดๆ ปล่อยสบายๆ ส่วนอีกโรงเรียนจะตั้งกฎไว้อย่างเข้มงวดและมีบทลงโทษด้วย การทดสอบนี้ก็ง่ายๆ แค่ให้เด็กๆ เดาว่าวัตถุอะไรที่ทำให้เกิดเสียง โดยห้ามมองวัตถุนั้น เธอเรียกการทดลองนี้ว่า Peeping Game เมื่อการทดลองเริ่มขึ้น พวกเขาให้เด็กๆ เข้าไปในห้อง แล้วผู้ทำการทดลองก็โยนบอลพลาสติกลงกับพื้น (ซึ่งมีเสียงแตกต่างจากบอลจริงๆ จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดา) จากนั้นผู้ทำการทดลองก็ทำทีเป็นเดินออกไปข้างนอก แล้วกลับเข้ามาถามว่าเสียงที่ว่านั้นคืออะไร Dr.…
-
เผยเทคนิคเล็กๆ ในการเลี้ยงลูกอย่างชาญฉลาดของ ‘เจ้าชายวิลเลียม’ แห่งอังกฤษ
พ่อแม่ทุกๆ คนมีวิธีการเลี้ยงลูกในแบบของตัวเอง ทั้งการสั่งสอน การหลอกล่อเพื่อให้พวกเขาเติบโตขึ้น และนั่นถือเป็นสิ่งที่ดีมากเลยนะ เพราะมันจะทำให้พวกเขาเติบโตในแบบของเราและพวกเขาก็จะรับรู้ว่าเรารักเขามากแค่ไหน แต่ถ้าเด็กคนนั้นไม่ใช่เด็กธรรมดาอย่างเราๆ แต่เป็นถึงพระโอรสของเจ้าชายของอังกฤษล่ะ? พวกเขาจะมีวิธีรับมือกับลูกๆ อย่างไร จะเหมือนหรือแตกต่างจากเรายังไงบ้าง เราลองไปศึกษากันดีกว่า วันนี้ #เหมียวฟิ้น จะมานำเสนอข้อมูลจากเว็บไซต์ BrightSide ที่ตั้งข้อสังเกตว่าด้วยวิธีการเลี้ยงลูกในแบบของเจ้าชาย William แห่งราชวงศ์อังกฤษ และนี่เป็นเทคนิคดีๆ ซึ่งเราน่าจะได้ศึกษาไว้ จากภาพที่เรานำมาให้ชม คุณจะเห็นได้ว่าเจ้าชายมักจะย่อตัวลงไปหาลูกชายของเขาอยู่เสมอ เมื่อต้องการจะพูด สื่อสาร หรืออธิบายเรื่องใดๆ ไม่ว่าสถานการณ์ใดก็ตาม…. ครั้งหนึ่งราชินี Elizabeth ถึงขั้นดุเจ้าชาย William ขณะอยู่ในพิธีการอันยิ่งใหญ่ต่อหน้าผู้คนนับร้อย แต่ตัวเองยังคงนั่งยองๆ คุยกับลูกชายอยู่ อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญบอกว่ากลเม็ดนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามนะ เมื่อคุณนั่งลงต่อหน้าลูกของคุณ คุณจะสามารถมองดวงตาของพวกเขาได้ง่ายๆ วิธีนี้ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าเป็นเทคนิคการฟังที่ดี เพื่อให้เด็กๆ เห็นว่าคำพูดของพวกเขานั้นสำคัญกับพ่อแม่ของเขา วิธีนี้ยังช่วยเพิ่มความนับถือตัวเอง เพิ่มความไว้วางใจ และช่วยให้พวกคุณได้พุดคุยกันมากขึ้นแม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากก็ตาม แน่นอนว่าคุณต้องนั่งยองๆ ต่อหน้าลุกๆ เพื่อฟังและพูดคุยพวกเขาบ่อยๆ นักจิตวิทยายังแนะนำอีกว่าพ่อแม่ควรจะหยุดกิจกรรมทุกอย่างสักครู่หนึ่งเพื่อมาคุยกับลูกเวลาที่พวกเขาคุยกับเรา เพื่อให้ความสนใจกับพวกเขา ครั้งหน้าที่ลูกๆ พูดคุยกับคุณ หรือเรียกความสนใจจากคุณ…
-
18 ภาพยืนยันว่า… การเลี้ยงลูก ไม่ได้มีแต่ด้านมุ้งมิ้งสวยงาม บางทีก็ปวดขมับเหลือเกิน!!
เข้าใจว่าเด็กๆ ก็ต้องซนเป็นธรรมดา เพราะยังเป็นวัยที่อยากรู้อยากลองสิ่งแปลกใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นในบางครั้งหากเด็กเล่นอะไรแผลงๆ มันอาจจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดกับพวกเขาก็เป็นได้ และนี่คือ 18 ภาพของเหล่าเด็กๆ ผู้น่าสงสาร ที่ซนจนตัวไปติดกับวัตถุต่างๆ ภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น โถส้วมบ้างละ เก้าอี้ หรือจะเป็นประตูบ้านก็มีมาแล้ว ที่สำคัญมันทำให้คุณรู้ว่าการเลี้ยงลูกไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเลยจริงๆ เบื้องหลังความซนของเด็ก ภาพของหนูน้อยที่กำลังต้องการความช่วยเหลือเป็นการด่วน เผลอแป็บเดียว เข้าไปอยู่ในนั้นได้ยังไง บางภาพดูแล้วก็น่าสงสาร ส่วนบางภาพก็ฮาเกินบรรยาย ที่บอกว่าอยากมีลูก เห็นภาพเหล่านี้แล้วอยากเปลี่ยนใจกันบ้างไหม โถๆๆ น่าเห็นใจเหลือเกินเด็กน้อย เจ้าเด็กตัวแสบ เหมือนไม่รู้สึกผิดในสิ่งที่ทำ . ช่วยด้วยฮัฟ มันติด เฮ้อ….การเลี้ยงลูกมันไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ ความซวยมักจะเกิดได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่เว้นแม้กระทั่ง “เด็ก” . เจ้าหนูตัวโตที่นั่งชิงช้าแบบไม่ดูขนาดของตัวเอง ก็ป๋มกำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากลองนิฮะ สุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น…
-
สวัสดิการสุดเมพของ Facebook พนักงานลาเลี้ยงลูก 4 เดือน แถมยังจ่ายเงินเดือนด้วยนะ!!
เรียกว่าเฮกันถ้วนหน้าเลยทีเดียวสำหรับพนักงานของบริษัทเฟสบุ๊ค หลังจากบริษัทได้ประกาศนโยบายสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ สามารถลางานได้ถึง 4 เดือน และยังได้รับเงินเดือนตามปกติ ช่วงสัปดาห์ก่อนเราอาจได้ยินข่าวว่า Mark Zuckerberg ซีอีโอของเฟสบุ๊ค ได้ลางาน 2 เดือนเพื่อไปดูแลลูกที่เพิ่งเกิด จนเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก ตอนนี้หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ Lori Matloff Goler ได้ออกมาประกาศกว่า พนักงานเฟสบุ๊คทุกคน สามารถใช้สิทธิลาเพื่อไปดูแลลูกได้ 4 เดือน โดยที่ยังได้รับเงินเดือนตามปกติ และสิทธินี้รวมถึงพ่อแม่ที่เป็นรักร่วมเพศเช่นกัน “เป้าหมายของเราคือต้องการสนับสนุนพนักงานของเราและคนสำคัญของพวกเขา เราอยากมีส่วนช่วยเหลือกับพนักงานไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเวลาไหน” นอกจากเฟสบุ๊คแล้ว บริษัทอย่าง Microsoft, Amazon, Netflix ก็มีนโยบายนี้เช่นกัน ก็ถือว่าเป็นข่าวดีจริงๆ ใครๆก็อยากอยู่กับลูกในช่วงเวลาแบบนี้ทั้งนั้นแหละ เรียกว่าได้ใจลูกน้องไปเต็มๆเลยจ้า ที่มา Metro
-
มหัศจรรย์แห่งความรัก!! สุนัขคุณแม่ Lilo ผู้เลี้ยงดูและมอบชีวิตใหม่ให้กับน้องแมว Rosie
สิ่งมีชีวิตมักจะถูกกำหนดความสัมพันธ์ทางด้านสายพันธุ์ หากแตกต่างกันอย่างสุดขั้วก็ไม่อาจเข้ากันได้ แต่ก็ไม่ใช่เสมอไปสำหรับในกรณีนี้ อย่างแม่สุนัขที่คอยดูแลลูกต่างสายพันธุ์เป็นแมวน้อย!! น้องเหมียวน้อย Rosie มีอาการเซื่องซึมและมีการตอบสนองที่ไม่ค่อยจะดีนักหลังจากที่ได้บ้านใหม่ในคืนแรก หากไม่มีแม่คอยดูแล อาการของเจ้าเหมียวจะต้องแย่กว่านี้แน่ๆ จนกระทั้งได้มาพบกับคุณแม่ฮัสกี้ Lilo ถึงแม้ว่ามันจะไม่เคยคลอดลูกหรือเลี้ยงลูกมาก่อน แต่ด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ คอยเฝ้าดูแลเหมียวน้อยแบบไม่ห่างและไม่หวงตัว ให้ความรักและความเอ็นดูเหมือนลูกแท้ๆ ของตัวเอง และดูเหมือนว่าตอนนี้น้องเหมียว Rosie จะติดใจคุณแม่ Lilo แล้วล่ะ ชอบเข้าไปนอนซุกด้วยบ่อยๆ เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกอบอุ่นตามอย่างบอกไม่ถูกเลยล่ะ ที่มา : Lilothehusky