Tag: เสพติด
-
วัยรุ่นอาชีวะตั้งวงดื่มน้ำท่อม ควักปืนโชว์เพื่อน ปืนลั่นทะลุมือ กระสุนฝัง ‘อัณฑะ’ เพื่อน…
ความคึกคะนองของวัยรุ่น หลายครั้งก็นำมาซึ่งอันตราย และความเจ็บปวดทางร่างกายอย่างสาหัส เช่นเดียวกับเหตุการณ์ดังต่อไปนี้ ที่นักเรียนหนุ่มอาชีวะวัย 17 ปีได้ควักอาวุธปืนขึ้นมาหวังอวดเพื่อนฝูง แต่กลับลั่นยิงทะลุมือตัวเอง มิหนำซ้ำกระสุนพุ่งเข้าไปฝังในลูกอัณฑะของเพื่อนอีกคน… รายงานจาก ครอบครัวข่าว 3 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561 กล่าวว่าเมื่อเวลาราย 03.30 นาฬิกา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกยิงบาดเจ็บ 2 รายในบ้านพักอาศัย ต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่ามีผู้บาดเจ็บเป็นเด็กนักเรียนอาชีวะ 2 ราย รายแรกนายโดม (นามสมมุติ) อายุ 17 ปีบาดเจ็บที่มือข้างซ้าย เป็นรอยถูกยิงทะลุด้วยกระสุนปืนขนาด .38 ส่วนอีกราย นายบูม (นามสมมุติ) นักเรียนวัย 18 ปี เป็นแผลถูกยิงแบบเดียวกันที่ต้นขาข้างซ้าย อีกทั้งกระสุนปืนดังกล่าวยังทะลุเข้าไปจนถึงลูกอัณฑะและฝังอยู่ในนั้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจึงรีบปฐมพยาบาลและนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน . เหตุเกิดในบ้านของครอบครัวนายนพพล (นามสมมุติ)เพื่อนในกลุ่มวัย 17 ปี ที่ได้ชวนอีก 7…
-
ชายชาวจีนกิน “ยาแก้หวัด” กว่า 30,000 เม็ดในระยะเวลา 10 ปี เพราะเกิดอาการ ‘เสพติด’
ชายวัย 48 ปีจากนครฉางชา ประเทศจีน กลายเป็นข่าวใหญ่ในประเทศเนื่องจากพฤติกรรมทาน ยาแก้หวัด ติดต่อกันมายาวนาน 10 ปี รวมแล้วมากกว่า 30,000 เม็ด เพียงเพราะมีอาการ “เสพติด” ชายสกุล Wang วัย 48 ปีได้เล่าผ่านคลิปวิดีโอบนเว็บไซต์หนึ่งว่า เขาซื้อยาแก้ไข้หวัดมารักษาอาการปวดหัวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว หลังจากเขาใช้มันเขาพบว่ามันมีประสิทธิภาพดี จากนั้นเมื่อเขารู้สึกไม่ค่อยดีเพียงเล็กน้อยเขาก็เริ่มคิดที่จะใช้ยานี้เพื่อให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แต่ปัญหากลับติดอยู่ตรงที่ว่าการจะใช้ยาให้ได้ผลแบบเดิมเขาต้องเพิ่มปริมาณยาให้มากขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งเป็น 8 ถึง 12 เม็ดต่อวัน ครอบครัวของ Wang พยายามนำตัวเขาไปพบแพทย์เพื่อรักษาอาการเสพติด หลังจากการตรวจวินิจฉัย แพทย์กล่าวว่า ยาดังกล่าวมีส่วนผสมของ “คาเฟอีน” หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานมันจะให้ผลกับร่างกายคล้ายกับนิโคตินในบุหรี่และแอลกอฮอล์ในสุราเลยทีเดียว ซึ่ง Wang นั้นได้ใช้ยาชนิดนี้มา 10 ปีแล้ว ล่าสุด Wang กล่าวว่าที่ผ่านมาเขาใช้ยาแก้หวัดเพื่อสนองความต้องการของตนเอง แต่ปัจจุบันเขาต้องลดขนาดยาลง และทานยาต้านซึมเศร้าและวิตกกังวลควบคู่ไปด้วยจนกว่าอาการเสพติดจะดีขึ้น อย่างไรก็ตาม แพทย์กล่าวว่าสำหรับคนทั่วไปไม่ต้องกังวล คาเฟอีนในยาแก้หวัดนั้นไม่ได้ส่งผลแบบเดียวกับ Wang…
-
การใช้ชีวิตสุดหวานแหวว ของหญิงสาวผู้เสพติด ‘สีชมพู’ มานานกว่า 36 ปี
หลายๆ คนมีสีที่ตัวเองชอบมากเป็นพิเศษ ทำให้เรามักจะแต่งตัวหรือเลือกของใช้ต่างๆ เป็นสีนั้นๆ แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้จะให้เรียกว่าชอบอย่างเดียวก็คงไม่ได้ เพราะเธอคือผู้หญิงที่ใช้ทุกอย่างเป็นสีชมพูมายาวนานกว่า 36 ปี เธอคนนี้มีชื่อว่า Kitten Kay Sera หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Pink Lady of Hollywood หญิงสาวผู้เสพติดสีชมพู ใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมสุดหวานแหววที่เธอเป็นคนเลือกเอง ในเมืองลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา Kitten หญิงสาวผู้เสพติดสีชมพูมาอย่างยาวนาน . Kitten เริ่มชอบสีชมพูมาตั้งแต่ตอนงานวันเกิดของตัวเองในปี 1980 เมื่อเธอสวมชุดสีชมพูตั้งแต่หัวจรดเท้าและตอนนั้นเธอก็รู้สึกมีความสุขกับมันมากๆ จึงตัดสินใจว่าจะใช้แต่สีชมพูไปตลอดชีวิต ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดของตัวเองเป็นสีชมพู ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน เตียง ไมโครเวฟ แปรงสีฟัน จะมีก็แค่เครื่องปรับอากาศที่เธอไม่สามารถเปลี่ยนให้มันเป็นสีชมพูได้ เพราะเธอไม่ใช่เจ้าของอพาร์ตเมนต์แห่งนี้ ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างมีความหวานแหววอย่างแท้จริง . เธอบอกว่าการเปลี่ยนทุกอย่างให้กลายเป็นสีชมพู รวมถึงการเลือกซื้อของสีชมพูเพียงอย่างเดียว ทั้งหมดนั้นต้องสูญเงินไปมากกว่า 47 ล้านบาท โดยพวกของใช้ในบ้านทั่วไปที่เธอซื้อในหนึ่งปีก็ต้องเสียเงินกว่า 880,000 บาทแล้ว และไม่ใช่เพียงแค่ของใช้ต่างๆ เพราะแม้แต่หมาของเธอเจ้า Miss Kisses…
-
หนุ่มผู้ยอมรับตัวตน กับอาการเสพติดเซลฟี่รุนแรง มีความสุขที่ได้ถ่ายรูปตัวเอง 200 รูปต่อวัน!!
การเซลฟี่ในยุคสมัยปัจจุบันกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับไปโดยปริยายแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะไปไหนหรือไปทำอะไร คนเราก็อยากจะถ่ายรูปตัวเองพร้อมกับสถานการณ์ ณ ตอนนั้น เพื่อนำมาแชร์ให้กับคนรู้จักได้รับรู้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่คงไม่มีใครเซลฟี่รูปตัวเองแบบหนักหน่วงและต่อเนื่องได้เท่าพ่อหนุ่ม Junaid Ahmed วัย 22 ปีคนนี้แล้วล่ะ และที่หนักขนาดนั้นเป็นเพราะว่า เจ้าตัวเผยถึงจำนวนการเซลฟี่อยู่ที่ขั้นต่ำ 200 รูปต่อวัน!! Junaid Ahmed Junaid Ahmed อดีตนักศึกษาสาขาแฟชั่นและอดีตนายแบบ วัย 22 ปี จากเมืองปีเตอร์โบโรห์ ประเทศอังกฤษ มีความลุ่มหลงกับการเซลฟี่เป็นอย่างมาก โดยที่เขานั้นจะใช้เวลาเตรียมตัวเซลฟี่ประมาณ 3 ชั่วโมง ได้จำนวนรูปภาพอย่างต่ำหลัก 200 รูป จากนั้นจะคัดเลือกรูปที่ดูดีที่สุดและอัปโหลดสู่อินสตาแกรม เขาจะใช้เวลาแต่งหน้าทำผมหน้ากระจกก่อนเสมอ หลังจากนั้นก็จะทำการเซลฟี่อย่างต่อเนื่องทุกๆ วัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 50,000 คน จะได้เห็นในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจนำเสนอ ซึ่งนอกเหนือจากการแต่งหน้าแล้ว เขาก็ได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าอีกหลายส่วนด้วย “เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมโพสต์รูปภาพไปแล้ว ภายใน 1 หรือ 2 นาทีแรกก็จะได้รับจำนวนไลก์เกิน…
-
น้องแกะกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ถูกเลี้ยงแบบผิดๆ จนเสพติดบุหรี่เคี้ยวแทนหญ้า!?
ปกติเราจะเห็นแต่คนติดบุหรี่กันใช่มั้ยครับ แต่คราวนี้มาแปลก เรื่องของเรื่องคือมีเจ้าแกะตัวหนึ่งมันมีอาการติดสารนิโคตินเป็นอย่างมาก และโปรดปรานที่จะกินบุหรี่ โดยเจ้าแกะตัวนี้อาศัยอยู่กับเจ้าของมันที่เมือง Mandya รัฐ Karnataka ประเทศอินเดีย ซึ่งจะพบเจอได้บ่อยๆ นอกร้านชาและตลาด และมันก็หวังที่จะได้บุหรี่จากคนที่ผ่านไปมา โดยเจ้าสัตว์ตัวนี้รักสารนิโคตินเอามากๆ พอที่ทำให้มันเลือกเคี้ยวบุหรี่แทนที่จะกินหญ้าหรือผักอื่นๆ เหมือนแกะทั่วไป Yashwant ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของแกะตัวนี้กล่าวว่าเจ้าแกะตัวนี้มันเริ่มติดบุหรี่มาจากการที่มันได้ไปเจอและลองกินก้นบุหรี่เข้าให้ “มันเริ่มติดบุหรี่จากที่มันไปเลียซองยาสูบที่เขาทิ้งเอาไว้ และมันก็เริ่มติดมากขึ้น จนตอนนี้กลายเป็นว่ามันกินบุหรี่เป็นอาหารหลักซะแล้ว” “ถ้าสัตว์มันป่วย เราจะให้บุหรี่กับมันเป็นจำนวนมาก” ชาวนาในพื้นที่บอกว่าใช้ยาสูบเพื่อขจัดพยาธิและหนอนในสัตว์ แต่นักวิจัยพบว่าทำแบบนั้นมันจะเกิดอันตรายทั้งคนและสัตว์ และยังบอกต่อว่าการบริโภคนิโคตินอาจทำให้สัตว์น้ำลายฟูมปาก ตัวร้อน ตัวสั่น อาเจียน ร่างกายอ่อนแอ ชัก ระบบหายใจล้มเหลวและตายได้ ที่มา Dairymail, Youtube
-
MIT เผย “โรคเสพติดมือถือ” มีอยู่จริง และส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ร้ายแรงกว่าที่เราคิด!?
ปัจจุบัน แทบทุกคนจะต้องมีสมาร์ทโฟนเป็นของตัวเอง และการที่เล่นแต่มือถือจนแทบไม่เงยหน้าขึ้นมาเลย แบบนั้นเราอาจเรียกว่า อาการของคนติดมือถือ แต่เพื่อนๆ รู้มั้ยว่าอาการนั้นมันมีอยู่จริงและสามารถส่งผลเสียให้กับสุขภาพเราได้อย่างมาก การเสพติดมือถือจะมีความใกล้เคียงกับการเสพติดโซเชียลมีเดีย เพราะคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น มักจะเล่นโซเชียลมีเดียผ่านมือถือกันทั้งนั้น การโทรคุยกันแทบจะไม่เกิดขึ้น เพราะเราสามารถได้เห็นและสื่อสารกันผ่านโลกโซเชียลได้ นั่นจึงทำให้มีการศึกษาจำนวนมากที่พยายามศึกษาเกี่ยวกับผลเสียที่ตามมาจากสมาร์ทโฟน ล่าสุดในเดือนพฤศจิกายน 2017 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ หรือรู้จักกันในชื่อ MIT ได้เผยแพร่ การทดลองของอาจารย์โรงเรียนสอนธุรกิจในประเทศอิตาลี และฝรั่งเศส อาจารย์ทั้งสองคนตั้งกฎห้ามไม่ให้นักเรียนใช้สมาร์ทโฟนเป็นเวลาหนึ่งวัน ผลลัพธ์ที่ได้คือ นักเรียนส่วนใหญ่เกิดความกระวนวายขึ้นมา เพราะไม่รู้ว่าจะเอาเวลาว่างไปทำอะไรดี เนื่องจากปกติพวกเขาจะเช็กโทรศัพท์กันอยู่เสมอ เหมือนอย่างนักเรียนคนหนึ่งที่ปกติจะเช็กมือถือของตัวเองถึง 4 ครั้งในเวลาแค่ 10 นาที การศึกษาในรูปแบบเดียวกันนั้นเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา พบว่าเด็กที่ไม่ได้เล่นมือถือจะทำงานที่ต้องใช้สภาวะทางด้านจิตใจได้แย่ลง รู้สึกสูญเสียบางสิ่งบางอย่างไป และยังส่งผลถึงทางร่างกาย เช่น อัตราการเต้นของหัวใจและความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย มี การศึกษาหนึ่งที่พูดถึงการเพิ่มสูงขึ้นของผู้มีอาการซึมเศร้าและฆ่าตัวตายในปี 2010 – 2015 จากสถิติของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค หรือรู้จักกันในชื่อ CDC ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงได้รับผลกระทบค่อนข้างมากในช่วงที่สมาร์ทโฟนเริ่มเป็นที่นิยม โดยสถิติการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นถึง 65 เปอร์เซ็นต์ และหญิงสาวที่มีอาการซึมเศร้าก็เพิ่มอีกกว่า 58…
-
หนุ่มผู้เสพติดการต้มตุ๋น ร้องศาลให้ส่งเขาไปยังคุกไกลผู้คนนาน 20 ปี เพื่อให้เขาเลิกนิสัยนี้
Jimmy Sabatino ชายผู้ถูกยกให้เป็นสุดยอดนักต้มตุ๋นอันดับต้นๆ ของรัฐฟลอริดา ซึ่งปัจจุบันเขาถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 20 ปี หลังจากเขาถูกตัดสินข้อหาฉ้อโกงเป็นเงินกว่า 340 ล้านบาท!! Jimmy นั้นใช้ชีวิตส่วนใหญ่ไปกับการต้มตุ๋นคนอื่น และสลับผลัดเปลี่ยนกับการใช้ชีวิตอยู่ในคุกมาตั้งแต่ตอนอายุ 19 ซึ่งทุกครั้งที่เขาเข้าไปเขาก็มักจะหาทางเพื่อออกมาได้เสมอ เขาเล่าว่าวิธีการมันมักจะเกิดขึ้นเองโดยไม่ทันตั้งตัว แต่รู้อีกทีเขาก็จะหาวิธีเพื่อต้มตุ๋นให้เจ้าหน้าที่หาทางพาเขาออกไปเสียทุกที . ก่อนจะถูกจับนั้น เป้าหมายส่วนใหญ่ของเขาที่เข้าไปต้มตุ๋นมักจะเป็นโรงแรมเสียส่วนใหญ่ โดยล่าสุดเขาได้หลอกลวงว่าตัวเองเป็น James Harvey ประธานฝ่ายการตลาดของ Sony ซึ่งการอ้างชื่อดังกล่าวจะช่วยให้เขามีความน่าเชื่อถือที่มากยิ่งขึ้น โดยมีครั้งหนึ่งเมื่อปี 2014 เขาเข้าไปพักที่โรงแรม Hilton และเปิดจองห้องไว้มากมายเพื่อที่จะปิดบังค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เขาจะต้องจ่ายและให้มันดูสมจริงกับตำแหน่งของเขา จากนั้นเขาก็สั่งแชมเปญสุดหรูมาที่ห้องของเขาจำนวนกว่า 100 ขวด แน่นอนว่าเขาไม่ได้จะดื่มแชมเปญพวกนั้นแต่เขาต้มตุ๋นโรงแรมและนำแชมเปญไปขายต่อยังคลับระดับท็อปๆ ของไมอามี่ เรียกว่าวิธีดังกล่าวนั้นสามารถทำเงินให้เขาได้มหาศาล แต่ในไม่ช้าทุกการต้มตุ๋น เขาก็จะถูกเจ้าหน้าที่จับได้เสมอ เพราะทุกครั้งที่เขาเริ่มการต้มตุ๋นเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และจะทำมันไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดสิ้นสุดจนกว่าจะถูกจับ ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดทำให้เขาต้องถูกจำคุก 5 ปี สุดท้ายในชั้นศาล ศาลถามเขาว่าเขามีคำร้องอะไรก่อนจะถูกพิพากษาไหม Jimmy ก็ได้ร้องขอให้ศาลจำคุกเขา 20 ปี…
-
เด็กหนุ่มเสียชีวิตลง หลังจากเข้าค่ายเพื่อ “เลิกอาการติดอินเตอร์เน็ต” เพียง 2 วัน
อาการติดอินเตอร์เน็ตในปัจจุบันนั้นเกิดขึ้นได้แพร่หลายมาก ด้วยที่ว่าการเข้าถึงนั้นไม่ได้ยากเหมือนเมื่ออดีตแต่อย่างใด โดยเฉพาะในประเทศจีน ที่เด็กๆ เป็นกันมากซะจนมีค่ายที่ไว้สำหรับเลิกอาการดังกล่าวเลยทีเดียว เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นกับเด็กหนุ่มวัย 18 ปีคนหนึ่งที่มีชื่อว่า Li Ao ที่ต้องมาพบกับความสิ้นหวัง เป็นอาการนี้จนทำให้ไม่ได้สนใจสิ่งรอบตัว และทำให้แม่ของเขาเป็นกังวลกับเรื่องนี้ นั่นเองที่ทำให้ Liu Dongmei ผู้เป็นแม่ได้ตัดสินใจส่งเขาไปยังค่ายรักษาอาการที่ว่าในมณฑลอานฮุย ประเทศจีน ซึ่งมีชื่อเสียงในการทำให้เด็กเลิกติดอินเตอร์เน็ตได้ ด้วยการฝึกฝนทั้งทางด้านร่างกาย และการใช้หลักจิตวิทยาการปรึกษาเข้าช่วย เธอตัดสินใจให้เขาเข้าค่ายในวันที่ 3 สิงหาคมซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาอยู่ในนั้นถึง 180 วันค่าใช้จ่ายรวมมากกว่า 1 แสนบาท แต่หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 วันก็ได้รับการโทรแจ้งมาว่าลูกของเธอกำลังถูกพาไปโรงพยาบาลด้วยอาการสาหัส ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในเวลาอันสั้น เธอได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าร่างของเด็กชายนั้นมีบาดแผลเต็มตัวมากกว่า 20 แผลทั่วร่างกาย ทั้งที่ก่อนเข้าค่ายยังปกติดี แล้วนี่เขามาเสียชีวิตลงในเวลาแค่สองวันได้อย่างไร ตอนนี้นั้นยังไม่ทราบสาเหตุการตาย และทางผู้อำนวยการกับคนทำงานในค่ายดังกล่าวจำนวน 4 คนได้ถูกคุมขังเพื่อรอการสอบสวนในเวลาต่อไป คลิปวิดีโอพ่อแม่ของเด็กให้สัมภาษณ์ ในประเทศจีนนั้นมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่า 730 ล้านคน หนึ่งในสี่ของทั้งหมดคือเด็กที่อายุต่ำกว่า 19 ปี ซึ่งเมื่อพ่อแม่คิดว่าพวกเขาติดมันมากจนเกินไปก็จะส่งเข้าค่ายเพื่อให้เลิกด้วยวิธีการแบบทหารและการฝึกซ้อมอย่างเข้มงวด…
-
รวม 23 บุคคลผู้มีอาการเสพติดสิ่งของแบบแปลกๆ แทบจะไม่น่าเชื่อว่ามีแบบนี้อยู่จริง!!
ว่ากันว่าคนเราอย่างน้อยต้องมี 1 อย่างที่เราเสพติด บางคนอาจจะติดกาแฟ ติดบุหรี่ ติดเหล้า หรือติดสาว ก็ว่ากันไปตามความชอบแต่ละคน ทว่า 23 บุคคลที่ถูกคัดเลือกมาจากรายการ ‘My Strange Addiction’ เห็นแล้วถึงกับรู้สึกอึ้งกิมกี่ เพราะไม่น่าเชื่อว่าโลกนี้จะมีคนเสพติดของแบบนี้อยู่ด้วย!? 1. หนุ่มผู้เสพติดการมีเซ็กส์กับรถ 2. ทาสแมวผู้เสพติดการกินขนแมว 3. หนุ่มเหงาผู้เสพติดการใช้ชีวิตกับตุ๊กตายาง 4. หนุ่มผู้เสพติดลูกโป่งรูปสัตว์ ยิ่งใหญ่ยิ่งทำให้รู้สึกดี 5. หญิงสาวผู้เสพติดการกินเถ้ากระดูกของสามีตัวเอง 6. คุณป้าผู้เสพติดการดื่มฉี่อุ่นๆ 7. หนุ่มผู้เสพติดการกินถุงพลาสติค 8. หญิงสาวผู้เสพติดการสูดดมแป้งเด็ก (แหม่…สูดอย่างกับเป็นโคเคนเลยนะ) 9. หญิงสาวผู้เสพติดการกินฟูกนอน 10. หนุ่มผู้เสพติดการศัลยกรรมให้ตัวเองดูเหมือน จัสติน บีเบอร์ 11. หญิงสาวผู้เสพติดการกินยางรถ 12.…
-
เรื่องจริงของคนเสพติด ‘การกินมีด’ หมอตกใจหลังพบมีด 40 เล่มในท้อง… เพราะเขาเสพติดมัน!?
บางครั้งโลกของเราก็มีรสนิยมการกินแบบแปลกๆ แต่บางทีมันก็แปลกจนล้ำเส้นไปหน่อยนะ… เช่นเดียวกับชายคนนี้ ที่มีรสนิยมการทานอาหารที่สุดจะแปลก แต่ไม่ได้แปลกแบบธรรมดานะ ต้องขอบอกเลยว่าแปลกมากๆ!! ก็เพราะว่าเขาชอบกิน ‘มีด’ ยังไงล่ะ Jarnail Singh ชายวัย 42 ปีที่อาศัยอยู่ในรัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย ได้ถูกหามส่งโรงพยาบาลเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากที่เขามีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง และร่างกายอ่อนเพลีย หลังจากที่แพทย์ได้ทำการตรวจความผิดปกติทางร่างกาย ด้วยวิธีการต่างๆ รวมไปถึงการเอ็กซเรย์แล้วก็พบว่าในท้องของเขานั้นมีมีดอยู่มากมายนับได้ทั้งหมดประมาณ 40 เล่มเลยทีเดียว!! . จากการสอบถามก็ได้ทราบว่านาย Singh ได้เริ่มกินมีดมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้เอง โดยเจ้าตัวให้สาเหตุว่าเขาเสพติดรสชาติของมัน “ผมชื่นชอบรสชาติของมัน และก็เสพติดมัน…ก็เหมือนกับคนที่ชอบการดื่มเหล้าหรือเบียร์นั่นแหละ ความรู้สึกของผมก็ประมาณนั้นเลย” เขาให้สัมภาษณ์กับ CNN ซึ่งมีดที่เขากินไปนั้นไม่ได้ผ่านกระบวนการเคี้ยวแต่อย่างใด แต่ดูเหมือนจะเป็นลักษณะการกลืนมากกว่า ซึ่งมีดที่เขากินเข้าไปนั้นก็มีลักษณะแตกต่างกันออกไป ส่วนใหญ่จะเป็นมีดพับ และบางอันก็มีขนาดยาวถึง 17 เซนติเมตรเลยทีเดียว!! จากรายงานของแพทย์พบว่าสาเหตุที่นาย Singh ปวดท้องนั้นมาจากบาดแผลที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขา แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เกิดการติดเชื้อเลยแม้แต่น้อย จากรายงานของสำนักข่าว CNN นาย Singh…
-
อาหมวยแดนมังกรวัย 19 ปี อยากเหมือน “หลิว อี้ เฟย” เลยลงทุนทำศัลยกรรมทั้งใบหน้า
นอกจากฟ่าน ปิง ปิง แล้ว หนึ่งในนักแสดงสาวจีนที่โด่งดัง และได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คงจะหนีไม่พ้น “หลิว อี้ เฟย” อย่างแน่นอน เพราะนอกจากความสามารถในด้านการแสดงแล้ว เธอยังเป็นนักแสดงสาวที่มีใบหน้าสวยงามได้รูปตามแบบฉบับสาวจีนเป๊ะๆ ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้สาวจีนหลายๆ คนอยากมีใบหน้าที่สวย และมีเสน่ห์เหมือนกับเธอ หนึ่งในนั้นก็คือ “หลี ยี่เฟ่ย” สาว หมวยวัย 19 ปี จากเมืองชิงเต่า มณฑลซานตง ประเทศจีน เธอก็คือหนึ่งในแฟนคลับที่ชื่นชอบนักแสดงสาวคนนี้มาตั้งแต่เด็กๆ ที่สำคัญเธอยังพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เหมือนนักแสดงสาว เพราะในสมัยเรียนอยู่ชั้นประถม หลี ยี่เฟ่ย ถึงขั้นลงทุนไปเรียนรำจีน รวมไปถึงพยายามเลียนแบบท่าทางให้เหมือนกับหลิว อี้ เฟย อีกด้วย และหลังจากที่ได้เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัย เธออยากมีใบหน้าเหมือนกับนักแสดงสาว ดังนั้นจึงทำให้เธอเริ่มหันไปทำศัลยกรรมมากขึ้น จนทำให้เธอมีใบหน้าคล้ายกับนักแสดงสาวยังไงละ . นี่คือภาพของหลิว อี้ เฟย นักแสดงผู้โด่งดังของจีน ผู้ที่มีทั้งความสามารถ รวมไปถึงมีหน้าตางดงามตามแบบฉบับสาวจีน …
-
แม่ชาวจีน ประกาศออกรายการทีวี ขู่ตัดขาดความสัมพันธ์ หากลูกสาวยังคิดทำศัลยกรรมเพิ่มอีก
เมื่อคุณมีไอดอล หรือนักแสดงในดวงใจที่ชื่นชอบ แน่นอนว่าคุณอาจจะอยากมีใบหน้าที่สวย หล่อเหมือนพวกเขาบ้าง บางคนก็ถึงขั้นยอมทำศัลยกรรม เพื่อเปลี่ยนทั้งใบหน้า และรูปร่างของตัวเองให้เหมือนกับคนดังเหล่านั้น เหมือนกับกรณีของ Yu Bing สาวชาวจีนวัย 29 ปีคนนี้ ที่ผ่านการโมดิฟายใบหน้าของตัวเองมาแล้วกว่า 20 ครั้ง เนื่องจากอยากมีใบหน้าสวยเป๊ะเหมือน Fan Bingbing นักแสดงสาวสวยชาวจีนนั่นเอง วันนี้ (28 มีนาคม 2559) ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่า รายการของช่อง Dragon TV ของจีน ได้เผยเรื่องราวของ Yu Bing และคุณแม่วัย 61 ปีของเธอ ที่กำลังรู้สึกเป็นกังวลต่อลูกสาวของตัวเองเป็นอย่างมาก เนื่องจากเวลาที่เธอได้เจอลูกกี่ทีๆ ใบหน้าของลูกสาวก็เปลี่ยนไปทุกครั้งจนแทบจำไม่ได้ อีกทั้ง Yu Bing ยังผ่านการทำศัลยกรรมมาแล้วกว่า 20 ครั้ง และดูเหมือนว่าเธอจะเสพติดศัลยกรรมเข้าอย่างจังซะแล้ว แม้ว่าตอนนี้เธอจะทำศัลยกรรมไปมาก และหมดเงินไปแล้วกว่า 4 ล้านบาท แต่ Yu…
-
หญิงชาวอเมริกัน ทุ่มเงินกว่า 17 ล้านบาท ศัลยกรรมยกเครื่อง เพื่อเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นตุ๊กตาบาร์บี้
บาร์บี้ เป็นตุ๊กตาที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อทำให้เห็นถึงความสมบูรณ์แบบของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่ผอมเพรียว เอวเล็ก ใบหน้าสวยคม และสิ่งเหล่านี้นี่เอง ที่ทำให้ผู้หญิงบางคน อยากสวยเป๊ะเหมือนเหล่าตุ๊กตาบาร์บี้ จนถึงขั้นยอมเปลี่ยนตัวเอง ลงทุนทำศัลยกรรมทั้งตัว Nannette Hammond คุณแม่ลูก 5 วัย 42 ปี ผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองซินซินเนติ รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ก็เช่นกัน เธอเป็นอีกหนึ่งคน ที่รัก และคลั่งไคล้ในตุ๊กตาบาร์บี้เป็นอย่างมาก และด้วยความที่อยากจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้มีหน้าตา และรูปร่างใกล้เคียงกับตุ๊กตาบาร์บี้มากที่สุด เธอจึงได้ตัดสินใจเริ่มทำศัลยกรรมอย่างจริงตั้งแต่อายุ 30 เป็นต้นมา สำหรับการทำศัลยกรรมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาของ Nannette เรียกได้ว่ามันเยอะมากจริงๆ เพราะเธอผ่านทั้งการทำหน้าอกไปแล้วถึง 3 ครั้ง ทำผิวแทน ทำวีเนียร์ ต่อขนตา ฉีดปาก สักคิ้ว สักปาก ย้อมสีผม รวมไปถึงต่อเล็บ และที่สำคัญดูเหมือนว่า Nannette จะไม่หยุดทำศัลยกรรมง่ายๆ ซะแล้วสิ เพราะเธอได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่า…
-
เด็กจีนติดเกมขั้นหนัก ใช้ถังพลาสติกนั่ง ‘ขรี้’ แทนส้วม พร้อมเล่นเกมส์อย่างชิวๆ โดยไม่สนคนรอบข้าง
สำหรับใครที่ชอบเล่นเกม คุณอาจจะเคยมีช่วงเวลาที่เสพติดอย่างหนัก จนบางทีถึงขั้นไม่ยอมลุกไปไหน แม้กระทั่งกินข้าว หรืออาบน้ำ เรียกได้ว่าติดงอมแงมจนไม่ยอมให้อะไรมาพรากจากหน้าจอไปแม้แต่วินาทีเดียวใช่ไหมละ ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต่างอะไรไปจากเกมเมอร์หนุ่มชาวจีนคนนี้ ผู้ที่กำลังเล่นเกมอย่างเมามันบนเก้าอี้ทรงแปลกประหลาด แต่เอ…นอกจากจะเล่นเกมแล้ว ดูเหมือนเขากำลังทำบางสิ่งบางอย่างอยู่นะเนี่ย โดยเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2559 ทางสำนักข่าวต่างประเทศ ได้เผยคลิปวีดีโอของเด็กหนุ่มรายดังกล่าว ในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่แห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งในคลิปปรากฏให้เห็นเป็นภาพของหนุ่มรายนี้ กำลังเล่นเกมอย่างเมามันบนถังพลาสติกสีขาว อั้ยหยา!! ใช่อย่างที่คิดหรือเปล่าน้า ว่าเด็กติดเกมรายนี้จะต้องทั้งอึ ทั้งฉี่ ไปพร้อมๆ กับตอนที่เขากำลังเล่นเกมแน่ๆ แม้ภาพจากคลิปวีดีโอ จะไม่สามารถบอกได้ว่าเด็กหนุ่มกำลังขรี้อยู่หรือไม่ แต่ดูจากปฏิกิริยาของเด็กสาวที่นั่งข้างๆ แล้ว คล้ายว่าเธอกำลังเหม็นอะไรบางอย่าง แต่ทว่าเด็กหนุ่มก็ยังนั่งบนถังส้วมเคลื่อนที่ เล่นเกมส์ต่อไปโดยไม่แคร์ผู้คนรอบข้างเลยแม้แต่น้อย เอิบ!! จริงๆ แล้วการหยุดเล่นเกมแค่แป็บเดียว แล้วเดินลุกไปเข้าห้องน้ำ มันก็ใช้เวลาไม่นานหรอกนะ แต่นี่คุณน้องเล่นปล่อยกลางร้านแบบนี้ เป็นใครจะทนไหวกันละ ที่มา : dailymail
-
รวม 13 ภาพที่จะแสดงให้เห็นว่า ทุกวันนี้เราเสพติดการใช้มือถือขนาดไหน!!
อย่างที่เราทราบกันดีว่าทุกวันนี้ โทรศัพท์สมาร์ทโฟนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเราไปเสียแล้ว ไม่ว่าเราจะไปไหน ก็ต้องเห็นคนยกโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเสมอ และเมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นบ่อยๆ สิ่งที่ตามมาก็คือ การตามหาที่ชาร์จ และนี่คือ 13 ภาพที่จะมาแสดงให้เห็นว่า ทุกวันนี้ผู้คนเสพติดการชาร์จโทรศัพท์มือถือขนาดไหน จนกลายมาเป็นภาพฮาๆ แบบนี้ ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย ทำเป็นเนียนดูภาพ แต่ที่จริงๆ รอชาร์จแบตใช่มั้ยล่ะ อะไรจะขนาดน้านนน แหม แม้แต่เครื่องกรองน้ำก็ยังไม่เว้น ระวังไฟดูดนะเท้อ คือมันจวนตัวจริงๆ ขอชาร์จแปปนะ ขอให้หล่นใส่หัวทีเถอะ ปกติต้องชาร์จมือถือก่อนนอนทุกวันไง แล้วเมื่อคืนดันเมา ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น นี่ก็ด้วย Power Bank ของจริง เค้าเรียกว่า DIY หมอนซักใบมั้ยละ นี่ก็อีกคน เค้าบอกว่าหาที่ชาร์จไม่เจอ เลยเอาไปชาร์จในไมโครเวฟ เป็นไงละ จะเหลือเหรอ ก็เข้าใจนะว่าต้องชาร์จ ลองหาแบตสำรองซักก้อนเถอะ…
-
คลายข้อสงสัยของสิงห์อมควัน ทำไมถึงต้องสูบบุหรี่ในระหว่างหรือหลังดื่มสุราและเบียร์!?
เป็นเรื่องปกติธรรมดาของช่วงชีวิตวัยรุ่นหรือวัยทำงาน หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้ามาจากหน้าที่การงานในแต่วัน การได้ออกไปนั่งดื่มกับเพื่อนๆ ก็ถือว่าเป็นทางออกที่ช่วยบรรเทาได้ ทั้งนี้ก็ต้องดื่มอย่างมีสติด้วยนะจ๊ะ และหนึ่งสิ่งที่จะตามมาสำหรับนักดื่ม แต่ก็ไม่ใช่สำหรับทุกคน นั่นก็คือพฤติกรรมการสูบบุหรี่ ซึ่งจะสังเกตได้ว่าหากได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไปซักพัก จะเริ่มมีอาการอยากสูบบุหรี่ และมันจะยิ่งต้องการมากกว่าช่วงเวลาที่ไม่ได้ดื่มหลายเท่าตัวด้วย (สูบบ่อยมากขึ้น) ลองสังเกตพฤติกรรมของเพื่อนที่สูบบุหรี่ในช่วงเวลาที่ออกไปนั่งดื่มด้วยกันดูสิ เมื่อเวลาผ่านไปซักพักพวกเขาจะเริ่มอยากบุหรี่ และยิ่งนั่งด้วยกันนานๆ ก็จะหายตัวออกไปสูบบุหรี่บ่อยถึงบ่อยมาก แล้วเหตุใดถึงเป็นเช่นนั้นล่ะ มีผลงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้เปิดเผยเอาไว้แล้วล่ะ จากการศึกษาของ Dr. Mahesh Thakkar ได้อธิบายเอาไว้ว่า ผลกระทบหลักจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็คือความง่วง และเมื่อแอลกอฮอล์มาเจอกับสารนิโคติน (ในผู้ที่สูบบุหรี่อยู่แล้ว) มันก็เลยกลายมาเป็นตัวกระตุ้นเพื่อป้องกันการนอนหลับ ซึ่งหากเป็นผู้ที่สูบบุหรี่จัดก็จะดื่มหนักเช่นกัน โดยที่สารนิโคตินเป็นตัวที่ทำให้ความง่วงที่เกิดจากแอลกอฮอล์จางไป ทำหน้าที่กระตุ้นส่วนตอบรับของสมองที่ชื่อว่า Basal forebrain ยิ่งกระตุ้นไม่ให้หลับ เพราะนิโคตินไม่อยากให้หลับ ก็เลยไปกระตุ้นให้อยากสูบบุหรี่มากขึ้น อย่างไรก็ตามผลการศึกษาก็สอดคล้องอย่างเห็นได้ชัดว่าร้อยละ 85 ของชาวอเมริกันที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มักจะมาควบคู่กับการสูบบุหรี่ เอาเป็นว่าเมื่อมีฉันก็ต้องมีเธอ พึ่งพาซึ่งกันและกัน แต่ถ้าหากว่าใครเลิกได้ก็จะดีกับทั้งสุขภาพร่างกายและเงินในกระเป๋าด้วยนะจ๊ะ ที่มา : unilad
-
เผยงานวิจัยเกี่ยวกับอาหาร ชี้ชัดว่า ‘ชีส’ ส่งผลทำให้มีอาการเสพติดเหมือนกับยาเสพติด
เอ๊ะ!? มันยังไงกันแน่เนี่ย ไหงจู่ๆ ก็มาบอกว่าชีสเหมือนกับยาเสพติด ด้วยความอร่อยและความหอมอันเย้ายวนของมัน ทำให้หลายคนถึงกับพลาดพลั้งรับประทานมันเข้าไป ถึงแม้จะไม่บ่อยแต่ก็ทำให้ย้อนคิดอยากจะกินชีสอยู่เสมอ แน่นอน!! ด้วยความอร่อยของมันปฏิเสธิไม่ได้จริงๆ แหละ โดยมีผลการวิจัยที่ถูกเผยแแพร่ผ่าน U.S. National Library of Medicine (หอสมุดทางการแพทย์สหรัฐฯ) ได้กล่าวเอาไว้ว่าพิซซ่าเป็นอาหารที่มีผู้คนเสพติดมากที่สุด ซึ่งสาเหตุหลักๆ แล้วมาจาก ‘ชีส’ แทบทั้งสิ้น โดยเจ้าชีสผู้ร้ายกาจนี้ ประกอบไปด้วยสารที่ชื่อว่า เคซีน เป็นโปรตีนที่มาจากผลิตภัณฑ์นมทั้งหลายแหล่ มันจะแสดงพลังในตอนที่เราย่อยอาหารและปล่อยสารที่ชื่อว่า Casomorphin ออกมา เข้าไปประกบกับตัวรับสารโดพามีนที่สื่อกับระบบประสาท จนทำให้กลายเป็นสารเสพติดไปโดยปริยาย สั้นๆ ง่ายๆ เลยก็คือ กินแล้วติดใจ อยากจะกินอีก โหยหาชีสอยู่ร่ำไป ไม่ใช่ความผิดของเราหรอก แต่เพราะมันอร่อยต่างหาก!! แต่กินเยอะๆ ก็หยุดได้เหมือนกัน มันเลี่ยน!! เว้นเสียแต่ว่าติดใจรสชีสจริงจัง กินยังไงก็ไม่เลี่ยน ที่มา : thechive
-
ชายชาวจีนเสพติด ‘พริกป่น’ หนักถึงขั้นขาดไม่ได้ ต้องกินวันละกว่า 2.5 กิโลกรัมทุกวัน
เรียกได้ว่างานนี้ทำเอาคนกินเผ็ดทั้งหลายถึงกับชิดซ้ายกันเป็นแถว เพราะเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยให้เห็นภาพของชายคนหนึ่ง ที่กำลังกินพริกป่นในปริมาณมากจนน่าตกใจ โดยเขามีชื่อว่า Li Yongzhi ชายชาวจีน จากเมืองเจิ้งโจว ผู้ที่เสพติดพริกป่นที่มากผิดปกติ และในแต่ละวันเขาก็มักจะบริโภคพริกป่นเข้าไปถึงวันละ 2.5 กิโลกรัม จนผู้คนในเมืองแถวนั้นเรียกเขาว่า ‘เจ้าแห่งความเผ็ด’ ในทุกๆ เช้าเวลาที่เราตื่นนอน สิ่งแรกที่หลายคนทำก็อาจจะเป็นอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟันกันใช่ไหมละ แต่สำหรับนาย Li นั้น สิ่งที่เขาต้องทำเป็นอันดับแรกคือการกิน ‘พริก’ นั่นเอง นาย Li เป็นผู้ที่ชื่นชอบพริกป่นมาตั้งแต่เด็กๆ และมื้ออาหารที่เขากินแต่ละมื้อ จะขาดพริกป่นไม่ได้เด็ดขาด ซึ่งเขาก็ได้กล่าวว่า เวลาที่เขาได้กินพริกความเผ็ดร้อนของมันคือความสุขของเขา ในตอนที่ลูกชายประสบอุบัติเหตุหนัก จนเขาต้องไปเฝ้าที่โรงพยาบาลทุกวัน สิ่งที่เขาต้องทำเป็นประจำ และขาดไม่ได้ก็คือ การแอบกลับไปกินพริก 2 ชามใหญ่ และกลับไปดูแลลูกชายต่อยังไงละเหมียว อย่างไรก็ตาม แม้ว่านาย…