Tag: เสียงดัง
-
‘บาปหนา’ น้องสาวปั่นหัวเอาคืนพี่ หลังพี่สาวจ้ำจี้กับปั๋ว ครางจนเสียงดังกังวาลไปทั่วบ้าน
บางทีระหว่างที่เรากำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะหรือว่า ‘มีเซ็กส์’ อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์อยู่นั้น ก็อาจจะส่งเสียงดังออกมาโดยที่เราก็ไม่รู้ตัว ซึ่งเสียงที่ว่านี้ มันอาจเป็นเสียงที่กระเส่าหรือโหยหวนจนเกินคำบรรยาย จนใครบางคนที่ได้ฟังอาจจะรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่จะต้องมาคอยฟังเสียงเหล่านี้เล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน และหนูน้อยวัย 11 ปีคนนี้ก็เป็นอีกคนเช่นเดียวกัน ที่ดูเหมือนจะไม่ชอบเสียงอันซาบซ่านที่ว่านี้ หรืออาจจะใช้คำว่าเกลียดเลยก็ยังได้ เพราะหลังจากที่คืนก่อนหน้าที่พี่สาวของเธอร่วมรักกับแฟนหนุ่มอย่างเร่าร้อน จนส่งเสียงดังไปทั่วทั้งบ้าน ช่างเป็นคนบาปที่สกปรกจริงๆ เลยนะขุ่นพรี่ เธอก็คิดหาวิธีที่จะแก้เผ็ดพี่สาวของเธอด้วยการทำอะไรสักอย่าง และในที่สุดแล้วเธอก็หาวิธีเอาคืนพี่สาวของเธอได้ ด้วยการติดโน๊ตน่ารักๆ แต่เจ็บแสบเอาไว้ทั่วทั้งบ้าน จนกลายเป็นเรื่องสุดฮา ที่พี่สาวของเธอต้องนำมาแชร์ให้กับชาวเน็ตได้มีรอยยิ้มกับความไร้เดียงสาของน้องสาวของเธอกันเลยทีเดียว น้องสาววัย 11 ขวบของฉัน บังเอิญได้ยินเสียงฉันกับแฟนหนุ่มกำลังสอดด้ายเข้าเข็มกันเมื่อคืน ในวันนี้พอเราออกไปข้างนอก แล้วกลับมาบ้านก็พบกับกระดาษเหล่านี้อยู่เต็มไปหมดเลย ไม่กะจะให้ส่องหน้าส่องตากันบ้างละ โดยเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา จากผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่มีชื่อว่า @SalsaWater เมื่อเธอได้โพสต์ภาพสิ่งของต่างๆ ที่มีโน๊ตของน้องสาวเธอติดเอาไว้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเขียนคำว่า ‘บาป’ เอาไว้ มีแทบจะทุกหลืบของบ้าน ทว่าจุดที่พีคที่สุดที่ทำให้สาวคนนี้ ตัดสินใจนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ก็เพราะว่า โน๊ตของน้องสาวที่ว่านี้ มันมีอยู่ในแทบจะทุกซอกมุมของบ้าน ไม่ว่าจะหยิบจะจับอะไรก็เป็นอันต้องเจอกระดาษใบนี้เต็มไปหมด คงต้องให้พระเจ้าลงมาโปรดคนสกปรกอย่างพี่แล้วละมั้งเนี่ย …
-
เมื่อป้าชั้นล่างเปิดทีวีเสียงดัง หนุ่มญี่ปุ่นเลยจัดการพังพื้นเพื่อทำลายทีวีของป้าให้สิ้นซาก!!
เรื่องราวสุดเงิบที่เหมือนจะตลกแต่เจ้าตัวกลับฮาไม่ออก เมื่อชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งได้ระบายถึงความรู้สึกแย่ๆ ของการที่ต้องทนอยู่กับเพื่อนบ้านไม่ค่อยดีในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง โดยเขาจะต้องสู้กับมลพิษรอบห้องของเขาทุกๆ วันจนในที่สุดเขาก็ทนมันไม่ไหว Kei Fujino หนุ่มวัย 33 ปี เล่าว่าทุกวันเขาต้องเจอกับชายคนหนึ่งที่ทำอาชีพปล่อยเงินกู้อยู่ชั้นล่างถัดจากเขาไป 2 ชั้น โดยชายคนนี้นั้นมักจะตะโกนใส่โทรศัพท์มือถือในช่วงเช้ามืดแทบทุกวันว่า “จ่ายเงินมาสักที” ส่วนอีกคนที่พ่อหนุ่มคนนี้ต้องเจอคือชายข้างห้องที่มีกลิ่นตัวเหม็นมากๆ เหม็นขนาดที่บางครั้งมันสามารถลอยตามลมเข้ามาในห้องของเขาได้ แต่ที่หนักที่สุด Kei เล่าว่า ป้าที่อยู่ห้องด้านล่างที่ตรงกับห้องของเขามักจะเปิดทีวีเสียงดังมากๆ จนพ่อหนุ่มเจ้าของเรื่องราวคนนี้ทนไม่ไหว จัดการทุบพื้นอพาร์ตเมนต์ โดยใช้ไม้ขนาด 120 เซนติเมตรฟาดลงไปกับพื้นจนเป็นรูกว้าง จากนั้นเขาก็ใช้ไม้ดังกล่าวโยนใส่ทีวีของป้าห้องข้างล่างต่อทันที โชคดีที่ป้าไม่เป็นอะไร คุณป้าคนนั้นได้แจ้งความไปยังตำรวจทันที หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนาย Kei พวกเขาก็ได้รับรู้เรื่องราวร้องไห้ไม่ได้ หัวเราะไม่ออกของเขา ตำรวจบอกว่านาย Kei และป้าคนดังกล่าวนั้นไม่เคยเจอหรือคุยกันแบบตรงๆ มาก่อนเลย ฉะนั้นสาเหตุที่เขาทำไปทั้งหมดล้วนเกิดจากความโมโหที่มีแก่ทีวีที่สร้างเสียงน่ารำคาญแก่เขาเท่านั้น สุดท้ายแล้ว Kei ก็ถูกตั้งข้อหาทำลายทรัพย์สินและถูกคุมขัง ซึ่งก็หวังว่าที่คุมขังนั้นจะแข็งแรงพอจะกักขังหนุ่ม Kei ไว้ให้ไม่ทำลายมัน หรือผู้คุมจะไม่เปิดทีวีเสียงดังนะ… จริงๆ ก็น่าสงสารพ่อหนุ่มคนนี้นะ ที่มา rocketnews24
-
นศ.เขียนโน้ตเตือนห้องข้างว่า ‘มีเซ็กส์’ เสียงดัง โดนตอบกลับ “โสดมา 18 ปี ขอจัดเต็มหน่อยเถอะ!!”
เมื่อต้องเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย เด็กต่างถิ่นหลายคนก็จำเป็นจะต้องอยู่หอพัก ซึ่งหอพักส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะห้องติดๆ กันทำให้อาจจะมีเสียงเล็ดลอดออกมาบ้างเวลาทำกิจกรรมใดๆ ก็ตาม เด็กสาวชื่อว่า Jenna Levine จากมหาวิทยาลัย Syracuse ในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน และสิ่งที่เธอได้ยินก็ไม่ใช่เสียงธรรมดาๆ อย่างการทำกับข้าวหรือว่าพูดคุยกันซะด้วย แต่ว่ามันคือเสียงโหยหวนของคนสองคนที่กำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะกันอยู่… โน้ตของเธอที่ส่งไปให้ห้องข้างๆ ลองนึกภาพตามสิ่งที่เธอได้ยิน มันช่างรบกวนเวลาในการอ่านหนังสือหรือว่านอนหลับซะจริงๆ และมันก็ไม่ใช่เสียงเบา เพราะว่าคู่รักข้างห้องของเธอแสดงหนังสดซะดังจนแทบจะเห็นภาพ Jenna จึงไม่ทนอีกต่อไป และได้เขียนโน้ตแผ่นหนึ่งไปสอดเข้าที่ใต้ประตูห้องนั้น โดยมีเนื้อหาว่า “ช่วยลดเสียงระหว่างการมีเซ็กส์ให้เบาลงสักนิดเถอะนะ เพราะว่าคนบางคนต้องการที่จะนอนหลับพักผ่อน และเสียงนั้นมันยังคอยตอกย้ำคนโสดอย่างฉันด้วย มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่คุณจะทำอย่างนั้น แต่ว่าช่วยเบาเสียงกระเส่านั้นลงนิดนึงละกัน ขอบคุณมาก” ของขวัญแทนการขอโทษพร้อมโน้ตแผ่นหนึ่ง ระหว่างที่เธอนำโน้ตแผ่นนี้ไปสอดใต้ประตูห้อง Jenna ก็สารภาพว่าเธอกลัวมากว่าพวกเขาจะเปิดประตูออกมาพอดี ในเวลาต่อมาเธอก็ได้รับการตอบกลับในแบบที่คาดไม่ถึง โดยพวกเขาได้สอดช็อกโกแลตแท่งมาใต้ประตูห้องของเธอ รวมทั้งโน้ตที่ทำให้ความโกรธของเธอหายเป็นปลิดทิ้ง ซึ่งใจความในจดหมายตอบกลับฉบับนี้ก็คือ ข้อความในโน้ตแทบทำเอาน้ำตาไหล “ถึงเพื่อนบ้านที่น่ารัก ฉันต้องขอโทษจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่ามันเป็นเสียงที่ดังมาก แต่ก็อย่างที่ทุกคนรู้ ว่าบางทีการมีเซ็กส์เสียงดังมันก็สามารถเพิ่มความเร่าร้อนให้กับคู่ของเราได้ แต่อย่างไรก็ตามฉันก็ต้องขอโทษอย่างใจจริง” “ฉันหวังว่าเรื่องแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก และต้องขอขอบคุณเกี่ยวกับคำเตือนในโน้ตของคุณ…
-
ผลวิจัยจากลิงเป็นไปได้ว่า คนที่เสียงเบามีแนวโน้ม “ลูกป๋องแป๋ง” ใหญ่กว่าคนเสียงดัง!??
ถ้าหาใครที่ชอบดูรายการตลก อาจจะคุ้นเคยกับมุกจู๋เล็กกันเป็นอย่างดี อย่างเช่นใครที่มือเล็กจู๋จะใหญ่ หรือคนที่เสียงดังจู๋จะเล็ก เป็นต้น แต่ไม่น่าเชื่อว่ามุกฮาๆ ที่เราได้ยินกันบ่อยๆ นี้จะเป็นความจริง!! เมื่อไม่นานมานี้ได้การศึกษาที่น่าสนใจชิ้นหนึ่ง ได้เผยว่าลิงที่มีเสียงดังนั้นจะมีลูกอัณฑะที่เล็กกว่าลิงที่เสียงเบา แต่น่าเสียดายที่เหล่าลิงตัวเมียนั้นไม่ได้ชื่นชอบลิงที่ไข่ใหญ่นี่นะสิ ฮ่าๆ โดยธรรมชาติแล้ว พวกลิงจะใช้เสียงร้องและพละกำลังของพวกมันในการหาคู่ และสร้างความสนใจเพื่อดึงดูดลิงเพศเมีย ยิ่งตัวไหนที่มีพละกำลังมากและส่งเสียงดังมากเท่าไหร่ก็ยังมีสาวๆ มาตอมมากเท่านั้น แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าความเนื้อหอมนี้ อาจจะต้องแลกมาด้วยขนาดของลูกอัณฑะที่เล็กลงไป เมื่อไม่นานมานี้ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cambridge ได้ค้นพบถึงความสัมพันธ์ในทางตรงกันข้ามระหว่างขนาดของลูกอัณฑะ และขนาดของกระดูก hyoid ที่เกี่ยวข้องกับขนาดของกล่องเสียง คุณ Leslie Knapp นักมานุษยวิทยาหนึ่งในผู้ที่ศึกษานี้กล่าวว่า “เราพบว่าลิงที่มีขนาดของกระดูก hyoids ที่ใหญ่ซึ่งสามารถเปล่งเสียงได้ดัง จะมีขนาดของลูกอัณณฑะที่เล็ก นอกจากนี้พวกมันยังมีลิงสาวๆ ตามติดอีกประมาณ 1-2 ตัวอีกด้วย” การศึกษาครั้งนี้ช่วยให้นักวิจัยเข้าใจถึงสังคมของพวกลิงได้เป็นอย่างดี โดยลิงที่เสียงดังและมีขนาดของลูกอัณฑะที่เล็ก จะเป็นที่ชื่นชอบของสาวๆ มากที่สุด นั่นจึงทำให้พวกมันมีโอกาสเลือกคู่และผสมพันธุ์มากกว่าลิงตัวอื่นๆ นอกจากนี้พวกลิงที่มีลูกกระแป๋งใหญ่ อาจจะไม่เป็นที่นิยมและบางครั้งอาจถูกขับไล่ออกจากฝูงเลยก็เป็นได้ และพฤติกรรมการเลือกคู่แบบนี้อาจส่งผลปยังลักณะของพวกลูงลิงที่รุ่นต่อๆ มาอีกด้วย ถึงแม้งานวิจัยชิ้นนี้จะอธิบายถึงพวกลิง แต่นักวิทยาศาสตร์ให้เหตุผลถึงความคล้ายคลึงของบรรพบุรุษมนุษย์และลิง รวมถึงอะไรหลายๆ อย่าง ที่คล้ายกันในสองสายพันธุ์นี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าการที่เรามีของใหญ่อยู่กับตัว อาจจะทำให้เราภูมิใจจนไม่ต้องเสียงดังอะไรมากมาย ขณะที่คนพยายามเรียกร้องความสนใจด้วยเสียงตลอดเวลา…
-
สองนักเทนนิสต้องหยุดแข่งขัน หลังได้ยินเสียงร่วมรักดังลอดเข้ามา ทำเอาเสียสมาธิหมด!!
เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยคลิปวีดีโอโมเมนต์ชวนขำ ในระหว่างการแข่งขันทัวร์เทนนิส ที่ Sarasota Open ในฟลอริดา ซึ่งเป็นการเผชิญหน้ากันระหว่างสองนักเทนนิสชาวอเมริกัน Frances Tiafoe และ Mitchell Krueger โดยขณะที่ทั้งคู่กำลังทำการแข่งขันกันอยู่นั้น จู่ๆ ก็ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงคู่รักคู่หนึ่งที่ดูเหมือนจะกำลังร่วมรักกันดังก้องไปทั่วอณาบริเวณ งานนี้บอกเลยว่าเล่นเอาทั้งตัวนักกีฬา และผู้ชมถึงกับหลุดขำออกมากันเป็นแถว จากการรายงานระบุว่า ในขณะที่สองผู้เล่นชาวอเมริกันกำลังแข่งขันเทนนิสรอบแรกที่สนาม James T. Driscoll ในวันอังคารที่ผ่านมาอยู่นั้น… ทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งเล็ดลอดเข้ามาจนทำให้พวกเขาถึงกับเสียสมาธิในการเล่น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ Frances นักกีฬาเทนนิสถึงกับหยุดเล่น และหัวเราะขึ้นมาทันที พร้อมกับตะโกนออกไปว่า “มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่” ทางด้าน Mike Cation ผู้บรรยายการแข่งขันกีฬาเทนนิส ได้ออกมาเผยว่า “อาจจะเป็นเพราะมีคนกลุ่มหนึ่งลืมที่จะลดเสียงโทรศัพท์ลงขณะที่เขากำลังเปิดดูหนังผู้ใหญ่ ผมไม่ทราบว่าเขาเป็นใคร แต่ที่แน่ๆ มันต้องเป็นโทรศัพท์ของใครบางคนที่มาร่วมดูการแข่งขันแน่ๆ” ในขณะที่ผู้อยู่ในเหตุการณ์บางคน ได้ออกมากล่าวว่า “นี่ไม่ใช่เสียงที่มาจากโทรศัพท์แน่นอน แต่มันคือเสียงที่มาจากอพาร์ทเมนต์ที่อยู่ใกล้ๆ กับบริเวณที่แข่งขันเทนนิส”…
-
ความเห็นฮาๆ ของบรรดาต่างชาติ เมื่อคนญี่ปุ่น “ซู๊ดดดดด” อาหารอย่างเอร็ดอร่อย!!
ในบ้านเราการสูดอาหารเสียงดังๆ อาจจะดูไร้มารยาท แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้วมันกลับตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง เพราะการสูดอาหารเสียงดังๆ อย่างเช่นการกินเส้นโซบะนั้น มันแสดงให้เห็นว่า ยิ่งสูดดังๆ ก็ยิ่งแปลว่าอร่อยนั่นเอง แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่อาจจะเข้าใจในธรรมเนียม และวัฒนธรรมการรับประทานอาหารดังกล่าวของคนญี่ปุ่น แต่ชาวต่างชาติหลายคนอาจจะยังคงมองว่าเป็นเรื่องแปลก และเมื่อได้เห็นการสูดอาหารเสียงดังๆ ของชาวญี่ปุ่น พวกเขาจะคิดอย่างไรน้า!? และทั้งหมดนี้คือความคิดเห็นฮาๆ ของชาวต่างชาติ เมื่อได้เห็นคนญี่ปุ่นโชว์การโซ๊ยและสูดอาหาร มาดูกันว่าพวกเขาจะมีความเห็นอย่างไร สองนักท่องเที่ยวจากสวีเดนที่ได้มาเยือนประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก ได้บอกว่าการสูดเส้นก๋วยเตี๋ยวดังๆ ของคนญี่ปุ่นนั้นฟังแล้วเหมือนเสียงของหมูเลย และไม่น่าเชื่อเลยว่าสองคู่หูชาวสหรัฐอเมริกาก็คิดเช่นเดียวกัน ส่วนนักท่องเที่ยวชาวนิวซีแลนด์ที่ได้มาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก บอกว่าเธอรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนอยู่ข้างคนที่กำลังโซ้ยอย่างเอร็ดอร่อย ส่วนหนุ่มน้อยจากอังกฤษบอกว่าถ้าเพื่อนๆ ของเขาสูดอาหารแบบนั้น เขาจะบอกให้หยุดทำซะ!! อีกหนึ่งเหตุผลที่ชาวต่างชาติไม่ชอบการสูดอาหารดังๆ ของชาวญี่ปุ่นก็คือ นอกจากจะเสียงเหมือนหมูแล้ว ยังเหมือนเสียงกดชักโครกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ในหลายๆ ประเทศอาจจะมองว่าลักษณะการรับประทานอาหารของคนญี่ปุ่นดูไร้มารยาท แต่เราก็ต้องยอมรับว่าวัฒนธรรมในการกินของแต่ละประเทศนั้นไม่เหมือนกัน . แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทำตามกฎของเขาไปซะถูกอย่าง เพียงแค่อยากให้รู้ไว้ว่าลักษณะการรับประทานและมารยาทบนโต๊ะอาหารของบ้านเขาเป็นเช่นไร ถ้ามาเจอการจกข้าวเหนียวที่บ้านเราบ้าง เขาจะมองว่าไร้อารยะในการกินบ้างรึเปล่าหนอ? ที่มา : kotaku
-
นศ.สาวจะไม่ทน ข้างห้องจู๋จี๋ยามดึกดังลั่น เขียนโน๊ตเตือน แต่ตอบกลับได้แทงใจคนโสดสุดๆ
สำหรับนักศึกษาและการเข้าสู่รั้วมหา’ลัย ส่วนใหญ่แล้วช่วงปีแรกๆก็มักจะได้อยู่อาศัยร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆในหอพักของมหา’ลัย แต่ด้วยความที่คนหลากพ่อ พันแม่ มาเจอกัน เรื่องวุ่นๆก็มักจะเกิดขึ้นเป็นธรรมด๊าา… โดยเฉพาะสำหรับนักศึกษาคู่รักคนไหนที่ชอบเล่นจ้ำจี้กันยามค่ำคืน ด้วยความที่หอในส่วนใหญ่มักจะแออัด ไม่ค่อยเก็บเสียงให้เป็นส่วนตัว ใครจะอวดโครญ จะร้องอะไรที มันก็มักจะได้ยินกันไปสามห้องเจ็ดห้อง เช่นเดียวกับเรื่องราวของ Jenna Levine นักศึกษาจาก Syracuse จากสหรัฐฯ เธอเบื่อที่จะต้องทนกับการนอนฟังเสียงคนข้างห้องเล่นจ้ำจี้กันอย่างสนุกสนานทุกค่ำคืน จะข่มตาหลับก็ยากแสนยาก แถมตัวเองก็ยังโสดอีก แบบนี้มันทำร้ายจิตใจเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าข้างห้องไปอัดอั้นกันมาจากไหนถึงได้จัดเต็มกันเหลือเกิน เธอจึงเขียนจดหมายไปเตือนแบบน่ารักๆซะเลย โดยมีใจความดังนี้ ” สวัสดีเพื่อนข้างห้อง ได้โปรดช่วยมีเพศสัมพันธ์กันให้เสียงเบาลงหน่อยได้มั้ย เพราะว่าพวกเราหลายคนต้องพยายามข่มตาหลับกันแทบทุกคืน แถมมันยังช่วยย้ำความโสดของฉันให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก ขอให้พวกคุณดื่มด่ำกับความรักกันได้อย่างเต็มที่ แต่ได้โปรดเถอะช่วยทำให้เสียงมันเบาลงหน่อยนะ ขอบคุณ!” แต่หลังจากที่แนบจดหมายไปให้ห้องข้างๆได้ไม่นาน ไม่กี่นาทีต่อมา Levine ก็ได้รับจดหมายที่เธอเขียนไปย้อนกลับมาที่เธอ แถมคราวนี้มาพร้อมโพสต์การ์ดรูปกล้วย และช็อคโกแลตหนึ่งห่อ เพื่อแทนคำขอโทษ แถมยังมีข้อความตอบกลับมาด้วย… “…ผมขอโทษจริงๆ ขอโทษจากใจเลย หวังว่าเหตุการณ์นี้คงไม่ไปรบกวนคุณอยู่บ่อยๆ และขอบคุณมากสำหรับการ์ดสวยๆที่คุณส่งมาให้ แน่นอนว่าผมพยายามจะทำให้เสียงเบาลง เฮ้..ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ คุณไม่โสดไปตลอดชีวิตหรอก เพราะยังไงคุณที่ใช่ จะเข้ามาในชีวิตคุณเองเมื่อถึงเวลา เพราะก่อนหน้านี้ผมก็โสดมา 18…
-
ความเดือดร้อนเมื่อแถวบ้านคุณเป็นที่ ‘ฟาร์มโปเกมอน’ เทรนเนอร์มาวันละเป็นพันคน!!
หลังจากที่ ‘Pokemon Go’ เปิดบริการให้เหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายได้ทำตามความฝันกลายเป็นโปเกมอนมาสเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่ได้ไม่นาน ก็มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย และเหตุการณ์นี้ก็เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดีเอาซะเลยเพราะมันสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้คนเป็นจำนวนมาก จนเดือดร้อนไปถึงตำรวจเลยทีเดียว!! เรื่องมีอยู่ว่าที่ Rhodes แถบชานเมืองที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนคร Sydney ในประเทศออสเตรเลีย เป็นที่พักอาศัยของคนจำนวนมากทั้งบ้านและอพาร์ทเม้นท์ต่างๆ มากมาย ผู้คนทั้งหลายใช้ชีวิตกันอยู่อย่างสงบเงียบ ได้พักผ่อนหย่อนใจในที่พักอาศัยของตัวเอง แต่หลังจากที่ Pokemon Go ได้เปิดให้ใช้บริการ เลห่าเทรนเนอร์ทั้งหลายก็ออกตามล่าหาโปเกมอนกันและก็พบว่าสถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่มีโปเกมอนหายากเกิดเยอะมากกก!! และที่สำคัญโปเกมอนแต่ละตัวที่จับได้ที่นี่จะมีค่าพลังต่อสู้ที่สูงมากๆ อีกด้วยเช่นกัน จนได้รับการขนานนามว่าเป็นแหล่ง ‘ฟาร์ม’ โปเกมอนเลยทีเดียว หลังจากนั้นไม่นานเมื่อมีคนมาพบเข้าเรื่อยๆ ก็ทำให้จำนวนเหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายหลั่งใหลกันเข้ามาเพื่อที่จะมาจับโปเกมอนหายากกันที่นี่ และสาเหตุที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าสถานที่แห่งนี้มีจุด PokeStop ถึง 3 จุดที่ตัดผ่านกัน นั่นหลายความว่ามันจะต้องมีโปเกมมอนให้จับมากมายมหาศาลเลยล่ะ แน่นอนว่าเหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายต้องเดินทางเพื่อที่จะมาจับมันเป็นการเพิ่มเลเวลตัวละครให้กับตัวเอง โดยผู้คนที่อยู่อาศัยที่นี่เล้าให้ฟังว่าในวันช่วงแรกๆ นั้นมีคนมาประมาณ 100 กว่าคนเท่านั้นเอง แต่หลังจากนั้นก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหลัก 500 จนตอนนี้มากกว่า 1,000 คนแล้ว และแน่นอนว่ามันมีปัญหาแน่นอน ทั้งในเรื่องของเสียงที่ดังจนผู้อยู่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นต้องเดือดร้อนเพราะว่าเหล่าเทรนเนอร์ทั้งหลายผลัดกันมาไม่ซ้ำหน้าเลย ทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นอยู่อย่างนี้ทั้งวัน นอกจากนี้ก็ยังมีเสียงรถเข้าออกบริเวณนี้ตลอดเวลา แถมยังมีขยะ…
-
Pewdiepie บ่นระงม โดนเจ้าของห้องเช่าไล่ออก เพราะคิดว่าเป็น ‘เกย์’ ปั่มปั๊มกันเสียงดัง!?
แม้จะเป็นคนที่โด่งดังมีชื่อเสียงมากมายแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของพื้นที่นั้นๆ ก็ถูกไล่อยู่ดี อย่างนักแคสเกมระดับซุปเปอร์สตาร์จากยูทูป PewDiePie (ผิวดี๋พายยยย :ทำเสียงตามด้วยนะ) ที่มักจะส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายเวลาเล่นเกมเป็นประจำ เพราะนั่นคือเอกลักษณ์ประจำตัวเขาไปแล้ว และในการอัดคลิปแคสเกมของเขานั้น ก็มักจะทำอยู่ภายในห้องสตูดิโอเล็กๆ ภายในบ้านเช่าพร้อมกับระบบดูดซับเสียง เวลาที่โวยวายจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนคนอื่น นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่จัดการได้ดีเยี่ยม แต่มันดันมาเกิดปัญหาตรงที่มีครั้งหนึ่งที่เขาต้องใช้พื้นที่เยอะหน่อย ก็เลยออกไปอัดคลิปที่ห้องครัว ด้วยสไตล์เสียงดังก็ทำให้เกิดเรื่องจนได้ มีเจ้าของบ้านเข้ามาเคาะประตูหน้าบ้านบอกว่า ‘ส่งเสียงดังเกินไปแล้ว ช่วยเงียบๆ หน่อยจะได้มั้ย เหมือนเกย์ทำอะไรกัน แล้วก็อย่ามาหัวเราะใส่ตูนะ ไม่ตลกด้วยนะโว้ย’ และหลังจากนั้นเพียงไม่นาน เรื่องเสียงดังก็เข้าไปถึงหูเจ้าของบ้านเช่า ส่งจดหมายไล่ออกจากบ้านตามมาติดๆ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้รับคำบ่นเกี่ยวกับเรื่องเสียงดังเลยแม้แต่ครั้งเดียว พอพลาดปุ๊บก็โดนทันที ปัญหาติดอยู่ตรงที่เขาไม่ใช่คนอังกฤษ จึงไม่สามารถซื้อบ้านเป็นของตัวเองได้ จึงจำเป็นที่จะต้องเช่า PewDiePie ถึงกับบ่นอุบอิบว่า ‘มีเงินซื้อบ้านได้เลยนะ ไม่ได้ต้องการเอ็งเลยด้วย ไอ้เจ้าของบ้าน’ ในจดหมายเตือนระบุว่า ‘เพื่อนบ้านแจ้งมาว่าคุณสร้างความรบกวนด้วยเสียงอันดัง หรือที่เรียกว่าพฤติกรรมต่อต้านสังคม จากที่เพื่อนบ้านรายงานมานั้น พบว่าได้ยินเสียงดังกลางดึกในเวลาประมาณ 18.30 น.’…
-
คู่รักเพลย์บอยจัดปาร์ตี้สนั่นทั้งคืน จนเพื่อนบ้านโวยลั่น เพราะสร้างความรำคาญเหลือเกิน
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2558 ที่ผ่านมา ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้เผยภาพชีวิตอันน่าอิจฉาของคู่รัก Bastion และ Maria Yotta หรือที่รู้จักกันในนามคู่รัก Yotta ที่กำลังมีความสุขกับงานปาร์ตี้อันสนุกสุดเหวี่ยง และคึกคักอย่างกับผับเพลย์บอย ท่ามกลางบรรดาหนุ่มสาวที่ได้มาร่วมงานเพียบ ซึ่งภายในงานปาร์ตี้ของทั้งคู่ เต็มไปด้วยบรรดาหนุ่มๆ และสาวอกตู้มในชุกเซ็กซี่สุดวาบหวิว โดยเวลากลางวันก็ใช้ชีวิตแบบเก๋ๆ ให้คนอิจฉาเล่น พอตกกลางคืนก็จัดงานปาร์ตี้สุดรื่นเริงกับพวกเพื่อนๆ เฮ้อ…ช่างเป็นชีวิตที่น่าอิจฉาเสียจริง พวกเขาใช้ชีวิตสนุกแบบนี้แทบทุกวัน จนกระทั่งวันหนึ่งเพื่อนบ้านในย่านฮอลลีวูดฮิลส์ นครลอสแอนเจลิส ต่างก็ออกมาบ่นว่าชีวิตที่ดี๊ดีของพวกเขานั้น ได้สร้างความน่ารำคาญให้กับเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก แถมยังส่งเสียงดังฟังแล้วไม่สบายหูเป็นที่สุด โอ้ววว ช่างหรูหราอะไรขนาดนี้ แต่ดูเหมือนว่าคู่รัก Yotta ทั้งสองจะหาได้แคร์คำพูดเหล่านี้ไม่ พวกเขาก็ยังคงใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป แถมยังบอกอีกว่าที่เพื่อนบ้านออกมาบ่นแบบนี้ ก็เพราะว่าความอิจฉานั่นแหละ และกว่าจะมาเป็นคู่รักมหาเศรษฐีแบบนี้ได้ พวกเขาเคยขายอุปกรณ์ด้านสุขภาพและความงาม อีกทั้งยังเป็นนักพูด เป็นโค้ชการใช้ชีวิตแบบ Yotta และได้ออกหนังสือสอนวิถีสู่ความรวย และชีวิตที่มีความสุขมาแล้วถึง 2 เล่มอีกด้วย …