Tag: เสียใจ
-
สาวสวม ‘ชุดแต่งงาน’ ไปเยี่ยมหลุมศพของแฟนหนุ่ม ในวันที่พวกเขาควรจะได้แต่งงานกัน
เรื่องราวของความรัก ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้น หลายๆ คนจะรู้กันดีว่ามันช่างงดงามเหลือเกิน แต่บางครั้งจุดจบของมันก็ไม่ได้สวยงามเสมอไป… และนี่คือเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่ง ที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์อันน่าสลดใจ เมื่อแฟนหนุ่มของเธอที่กำลังจะแต่งงานกับเธอได้จากไปอย่างไปมีวันหวนกลับมา Kendall James Murphy นักผจญเพลิงจากเมือง Montgomery รัฐอินดีแอนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2017 ในวัย 27 ปี คู่หมั้นของเขา Jessica Padgett ที่ตกลงปลงใจจะแต่งงานกันในช่วงเดือนตุลาคมปี 2018 ซึ่งทุกอย่างได้ถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ดันเกิดเหตุที่น่าสลดใจขึ้นเสียก่อน เธอจึงตัดสินใจสวมชุดแต่งงานในวันที่ ‘ควร’ จะเป็นวันแห่งความสุขที่สุดในชีวิตของเธอ เพื่อถ่ายภาพรำลึกถึงการจากไปถึงชายผู้เป็นดั่งหัวใจ ด้วยการช่วยเหลือของทีมช่างภาพจาก Loving Life Photography ที่สร้างสรรค์ภาพถ่ายเหล่านี้ ให้ออกมามีพลังบอกเล่าถึงเรื่องราวความรักที่แสนงดงามของเธอ แม้มันจะไม่มีวันสมหวังแล้วก็ตาม ทางทีมงาน Loving Life Photography นำภาพที่พวกเขาถ่ายอัปโหลดลงเพจเฟซบุ๊กพร้อมกับแคปชันว่า “เธอดูเจ็บปวดแต่ก็ยังสวยงาม เธอเข้มแข็งและไม่มีวันพ่ายแพ้ เธอเดินพร้อมกับแบกทุกอย่างในจักรวาลเอาไว้บนบ่า และจักรวาลที่อยู่บนบ่าของเธอทั้งสองข้าง มันสยายออกมาดูราวกับเป็นปีก” ภาพถ่ายของ Padgett ที่ถ่ายคู่กับรองเท้าบูทของ James…
-
แม่ร่ำไห้…ลูกชายวัย 13 ปี “โดดตึกตาย” เพราะเลียนแบบตัวละครในเกม PUBG!!
เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นในประเทศจีน ที่ผู้เป็นแม่ต้องสูญเสียลูกชายวัย 13 ปีไปเนื่องจากเขาทำการกระโดดจากที่สูงจนตกลงมาเสียชีวิต เบื้องต้นแม่กล่าวโทษว่าเขาทำพฤติกรรมเลียนแบบตัวละครในเกม PUBG เกม PlayerUnknown’s Battlegrounds หรือ PUBG นั้นเป็นเกมยิงเอาชีวิตรอดที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่คนเล่นเกมในปัจจุบัน รวมถึงเด็กหนุ่มวัย 13 ปีคนนี้ก็ชื่นชอบการเล่นเกมนี้มากเช่นกัน โฆษณาเกม PUBG ในประเทศจีน ตามรายงานกล่าวว่าเด็กหนุ่มผู้เสียชีวิตนั้นได้กระโดดจากอพาร์ตเมนต์เมื่อราวเวลาตีหนึ่งของวันที่ 30 สิงหาคม 2018 หลังเล่นเกม PUBG บนเครื่อง iPad ฝ่าย Yu Lihua ผู้เป็นแม่ก็ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ลูกชายตนกระโดดลงมาจากอพาร์ตเมนต์ชั้น 4 เพราะต้องการรู้ว่าตนจะรอดชีวิตแบบตัวละครในเกมหรือไม่ เด็กหนุ่มผู้เสียชีวิตทราบภายหลังว่าชื่อ Xi Tianci เจ้าหน้าที่พบร่างศพของเขา 6 ชั่วโมงหลังเสียชีวิต ผลการชันสูตรพบว่า Xi Tianci น่าจะเสียชีวิตทันทีหลังตกลงสู่พื้น ฝ่าย Yu ผู้เป็นแม่ได้แต่ร่ำไห้และกล่าวโทษว่าเป็นเพราะเกมที่ทำให้ลูกชายของเธอต้องตาย “เกมนั่นแหละที่ทำให้ลูกฉันตาย ไม่มีเหตุผลอื่นอีกแล้ว” เธอกล่าว “เขาคิดถึงเกมนี้ตลอดแม้จะไม่ได้เล่นมันก็ตาม เขาต้องอยากรู้แน่ว่าเขาจะตกลงมาแล้วรอดชีวิตเหมือนในเกมหรือเปล่า” ในเกม PUBG หากตัวละครตกจากที่สูง…
-
ครอบครัวใจสลาย เมื่อ ‘สถานสงเคราะห์สัตว์’ การุณยฆาตหมาของพวกเขาเพราะเข้าใจผิด!?
‘สุนัข’ สำหรับหลายๆ คนแล้วมันเป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง เป็นทั้งเพื่อน เป็นทั้งลูก ที่มอบความสุขให้กับหลายๆ ช่วงชีวิตของเรา แต่เมื่อมีเหตุที่ทำให้ต้องเสียมันไปย่อมทำให้เกิดความทุกข์ใจตามมา ราวกับว่าได้สูญเสียสมาชิกในครอบครัวไปเลยทีเดียว เช่นเดียวกันกับครอบครัวนี้ที่ต้องสูญเสียเจ้าหมาไปเพราะการทำงานที่ผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ในสถานสงเคราะห์สัตว์ เรื่องมีอยู่ว่าเจ้าหมา Moses ของคุณ Tony และ Jennifer Wang จากเมือง Peoria รัฐอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ถูกพาตัวไปไว้ที่สถานสงเคราะห์สัตว์เพื่อเฝ้าดูอาการ ‘โรคพิษสุนัขบ้า’ เนื่องจากว่าดันไปกัดใส่ช่างซ่อมบำรุงคนหนึ่งเข้า เจ้า Moses จะต้องอยู่ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Tazewell County Animal Control เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วันเพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้ป่วยเป็นโรคอะไร จากนั้นก็จะได้รับอนุญาตให้กลับมาอยู่ที่บ้านได้เหมือนเดิม แต่กลายเป็นว่าเจ้า Moses กลับถูกเจ้าหน้าที่ทำการ ‘การุณยฆาต’ เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหมาอีกตัวหนึ่ง “ในทุกๆ วันฉันจะแวะไปเยี่ยมเจ้า Moses ก่อนที่จะไปทำงาน และเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ฉันก็ไปเยี่ยมตามปกติพร้อมกับเอาคุกกี้ติดมือไปให้มันด้วย” คุณ Tony เล่า “เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น.…
-
เจ้าตูบเศร้าที่ลูกแกะเพื่อนรักจากไป เพื่อนแพะในบ้านเลยมานอนกอดปลอบใจมัน
Drake เป็นสุนัขของ Megan Mostacci เธอเป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มช่วยเหลือแกะ Black Goat Farm and Sanctuary ที่บ้านก็เลยมีแกะมาอยู่ด้วยบ้าง แต่ก็ไม่มีเพื่อนแกะตัวไหนเลยที่ Drake รู้สึกสนิทด้วยมาก จนกระทั่งมันได้เจอกับ Jerry ลูกแกะสีขาวที่ถูกแม่ทิ้งตั้งแต่ยังเป็นเด็ก Jerry นอนกอดกับพี่ Drake อุ่นดีจัง Jerry เข้ามาอยู่ที่บ้านของ Megan เพราะว่ามันต้องมีคนป้อนนมให้ตลอด หญิงสาวเจ้าของของ Drake ก็เลยอาสาดูแลมันให้เอง ลูกแกะตัวนี้สนิทกับเจ้าหมามากกว่าตัวที่ผ่านๆ มา มันชอบเข้ามานอนบนตัวของ Drake ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกแกะชอบทำเวลาอยู่กับแม่ ส่วนเจ้าหมาก็ยอมให้ลูกแกะนอนด้วยเพราะมันเองก็รักเพื่อนใหม่เหมือนกัน รักเธอที่สุดเลย อยู่ด้วยกันไปนานๆ นะ ความสัมพันธ์ของพวกพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จากเพื่อนธรรมดากลายเป็นเพื่อนสนิทในเวลาไม่นาน ในทางกลับกันสุขภาพของเจ้าแกะไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย Jerry มีปัญหาสุขภาพหลายอย่างตั้งแต่เข้ามาอยู่ใหม่แล้ว และแม้จะดูแลมันดีแค่ไหนมันก็ยังไม่แข็งแรงขึ้นสักที สุดท้ายแล้วมันก็ป่วยแล้วตายไปทิ้งให้เจ้าหมาต้องอยู่ตามลำพัง เมื่อ Drake ไม่ได้เจอเพื่อของมันนานเข้า มันก็เอาแต่คอยมองหาเจ้าแกะขาวอยู่เสมอ พอหาไม่เจอมันก็เอาแต่ซึมเศร้า ไม่ร่าเริงสดใสเหมือนปกติเลยสักนิด เพื่อนสนิทหายไป เจ้าหมาก็ซึมไปเลย ในตอนที่ Megan ไม่รู้จะปลอบมันยังไงกับการสูญเสียเพื่อนสนิทไป…
-
ชายหนุ่มเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป หลังจับได้คาหนังคาเขาว่า “ภรรยากำลังมีอะไรกับชายอื่น”
เราอาจเคยเห็นฉากการนอกใจในหนัง ในละคร หรือบางคนก็อาจได้เจอกับตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่าความรู้สึกในตอนนั้นของผู้ที่ต้องพบว่าคนที่เรารักแอบไปมีอะไรกับคนอื่น มันคงเป็นสิ่งที่ไม่อาจอธิบายมาเป็นคำพูดได้เลย จนกลายเป็นการกระทำที่เราจะต้องรู้สึกเสียใจในภายหลัง Ira van den Heuvel คือหนึ่งในคนที่ต้องเจอกับเหตุการณ์อันเลวร้ายแบบนั้น เมื่อเขาจับได้คาหนังคาเขาว่าภรรยาของตัวเองกำลังมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นอยู่ และรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหลังจากนั้น เขาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเมือง Green Bay รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกาว่า ในวันนั้นเขาออกไปทำงานตั้งแต่เช้า และต้องไปแจกใบปลิวต่อในช่วงหัวค่ำ แต่โชคดีที่เขาได้ไปเดินแจกอยู่บริเวณอาคารใกล้ๆ กับบ้านของตัวเอง เขาจึงตั้งใจที่จะแวบไปหาภรรยาและลูกชายที่บ้านสักเล็กน้อยในช่วงพักเบรค พอเขาถึงหน้าบ้านก็เห็นว่ามีรถกระบะคันใหญ่จอดอยู่ตรงทางเข้าออกของบ้าน ซึ่งเขาไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อนเลย เขาจึงพยายามเช็กดูตรงประตูบ้านว่ามีร่องรอยของผู้บุกรุกหรือเปล่า Ira รู้สึกโล่งใจที่ไม่พบว่ามีการบุกรุกแต่อย่างใด จนกระทั่งเขาเดินไปถึงหน้าประตู เขาก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากหน้าต่างห้องนอนใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ชายหนุ่มเล่าว่า “ผมจำได้ว่านั่นคือเสียงครางของภรรยาในตอนที่พวกเรามีอะไรกัน แต่ตอนนั้นผมกลับได้ยินเสียงครวญครางของผู้ชายคนหนึ่งดังออกมาพร้อมๆ กันด้วย หืมมม อย่างนี้แล้วจะทำไงดี? จะทำไงดีล่ะ?” เขาเห็นว่าประตูแง้มอยู่เล็กน้อย เขาจึงตัดสินใจถีบประตูเข้าไปพร้อมกับพูดออกมาดังๆ ว่า “ที่รัก ผมกลับมาบ้านแล้ว” สิ่งที่เขาเห็นในตอนนั้น หลายๆ คนอาจมองว่ามันเป็นเหมือนกับในหนังตลกหลายๆ เรื่อง เพราะเขาต้องเจอกับแผ่นหลังของผู้ชายคนหนึ่ง เปลือยกายรีบวิ่งเข้าไปหลบในห้องน้ำ ในตอนนั้น…
-
12 ผลการค้นหา “สถานที่เศร้าที่สุด” ในแผนที่โลก และผลที่ได้มันฮาซะเหลือเกิน!!
เรื่องราวคของสถานที่สุดเศร้าที่ซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ นี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความว่างของหนุ่มออสเตรเลียวัย 33 ปีนามว่าคุณ Damien Rudd หลังจากที่เขาได้รวบรวมสถานที่ที่มีชื่อสุดหมดหวังเอาไว้อินสตาแกรม Sad topographies หนุ่มออสซีวัย 33 ปีเริ่มต้นรวบรวมสถานที่แสนสิ้นหวังนี้จากความบังเอินที่เขาได้กดเข้าไปตรงช่องค้นหาของ Google พร้อมค้นหาคำที่เศร้าที่สุด และหลังจากนั้นเขาก็ได้พบกับ Mount Hopeless (ภูเขาสิ้นหวัง) – จากประเทศออสเตรเลีย และจากวันนั้นเป็นต้นมา ชายหนุ่มก็ได้อุทิศเวลาของตัวเองเพื่อค้นหาสถานที่ที่เศร้าที่สุดในโลก และรวบรวมเอาไว้เพื่อแบ่งปันความฮากับคนอื่นๆ ในอินสตาแกรมของเขา “ผมใส่คำค้นหาว่าสิ้นหวังใน Google Map และพบสถานที่มากมายที่มีคำว่าสิ้นหวังอยู่ในชื่อ และนอกจากนี้ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่มีความหมายใกล้เคียงกันอีกด้วย ผมจึงเริ่มที่จะแคปภาพของสถานที่เหล่านั้นและเก็บรวบรวมไว้” Damien ให้สัมภาษณ์ และตอนนี้ดูเหมือนว่าสถานที่ต่างๆ ที่เขารวบรวมนั้นจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถทำเป็นหนังสือได้เลยทีเดียว ซึ่งเขาได้รวบรวมสถานที่สุดเศร้าเหล่านี้เอาไว้ในหนังสือ Sad Topographies เกาะไร้ประโยชน์ จากประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งในสถานที่สุดเศร้าจากคอลเลคชั่นของหนุ่มออสซีรายนี้ Damien ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานที่ที่เขาชื่นชอบมากที่สุด ชายหนุ่มเล่าว่าทวีปแอนตาร์กติกาถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีความสนใจมากที่สุด ที่นั่นมีภูเขา Shapeless Mountain (ภูเขาไร้รูปร่าง) ที่ถูกตั้งชื่อหลังจากที่ไม่มีใครมองออกว่ามันเป็นรูปร่างอะไร “Shapeless Mountain คือภูเขาที่นักเดินทางพยายามที่จะปีนขึ้นไป แต่พวกเขาเกิดวัดขนาดของมันผิดพลาดนั่นจึงทำให้มันมีอีกชื่อหนึ่งว่า Mistake Mountain (ภูเขาแห่งความผิดพลาด)” ชายหนุ่มเล่าถึงที่มาของชื่ออันแสนเศร้าของภูเขาแห่งนี้ …
-
โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า
ในวันวาเลนไทน์ที่เพิ่งผ่านมานี้มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตนักเรียน Nikolas Cruz ก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิล AR-15 ยิงกราดในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School รัฐฟลอริด้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีแต่นักเรียนเท่านั้น แม้แต่คุณครูภายในโรงเรียนก็กลายเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเองก็มีโค้ช Aaron Feis รวมอยู่ด้วย Aaron Feis ผู้เป็นทั้งโค้ชและผู้รักษาความปลอดภัย Feis เป็นโค้ชทีมฟุตบอลและผู้รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน และเขาเองก็ถูกยิงในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน แต่จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ เขาไม่ได้ถูกยิง แต่ตั้งใจเอาตัวเองเข้าไปบังกระสุนปืนให้นักเรียนต่างหาก โดยขณะที่นักเรียนคนหนึ่งกำลังหนีจากหนุ่มที่ถือปืน เขาเห็นว่านักเรียนคนนั้นไม่สามารถหนีพ้นวิถีของปืนได้แน่ๆ ก็เลยใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อให้นักเรียนสามารถหนีไปได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเขาเองนั้นต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่การเสียสละตัวเองของเขาได้เผยแพร่ออกไป คนจำนวนมากก็ทวีตเพื่อสรรเสริญถึงความดีและระลึกถึงการจากไปของเขา นี่คือโฉมหน้าของโค้ช Aaron Feis วีรบุรุษที่บาดเจ็บจากการเข้าปกป้องนักเรียนในเหตุยิงปืน เขาเป็นที่รักของนักเรียนที่รู้จักเขาทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจไปให้เขาด้วย โค้ช Aaron Feis เป็นคอยปกป้องผู้อื่นเสมอมา วันนี้เขาได้เสียสละร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องนักเรียน มันต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการเผชิญหน้ากับมือปืนที่บ้าคลั่ง โค้ช Feis เป็นวีรบุรุษอเมริกัน แทนที่จะพูดถึงมือปืน เรามาให้เกียรติวีรบุรุษ…
-
‘หนูอยากตาย’ คุณแม่หัวใจสลาย เมื่อพบกับโน้ตใต้เตียงลูกสาว เพราะถูกรังแกบ่อยครั้ง
Naomi O’Neill คุณแม่วัย 28 ปี จากเมืองลิเวอร์พูลประเทศอังกฤษ แทบใจสลายเมื่อวันหนึ่งเธอพบเจอกระดาษโน้ตของลูกสาววัย 8 ปี Millie ที่เขียนว่า “หนูอยากตาย” Naomi กล่าวว่าขณะที่เธอเข้าไปเก็บที่นอนให้ลูกสาว เธอก็พบกระดาษโน้ตใบหนึ่งที่ปลายเตียง ในกระดาษเขียนด้วยลายมือที่เร่งรีบเหมือนตื่นตระหนก น่าจะเป็นเพราะว่า Millie ไม่อยากไปโรงเรียนอีก Naomi พบว่าลูกสาวของตนเองถูกรังแกมาร่วมสัปดาห์ และทราบอีกว่ามีนักเรียนคนหนึ่งขู่ Millie ว่าจะ “ฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว” ของเธอ Naomi ต้องการให้ Millie ย้ายโรงเรียน เพราะเธอมีอาการหวาดกลัวการไปโรงเรียน อีกทั้งยังพยายามทำร้ายตัวเองหากไม่ยอมให้เธออยู่บ้าน นอกจากนี้ Millie ยังไม่ยอมทานข้าว ไม่ยอมแต่งตัวแบบที่เคยแต่ง เพราะอยากเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตนเอง ในกระดาษโน้ตที่ Millie เขียน มีใจความว่า “หนูเสียใจเพราะว่ามันไม่ยุติธรรมเลยที่พวกเขาเอาแต่แกล้งหนูแบบนี้ ไม่ควรมีเด็กคนไหนควรถูกกลั่นแกล้งจนรู้สึกแบบนี้ มันทำให้หนูเสียใจ และไม่เหมือนเดิม ไม่สำคัญ โมโห โง่ และก็เจ็บปวด” “มีอีกหลายอย่างที่พวกเขาทำ แต่หนูไม่อยากเขียนออกมา” ส่วนอีกด้านหนึ่งของกระดาษเขียนว่า…
-
ภาพสุดสะเทือนใจ คุณแม่โพสต์ภาพ ‘คุณตานอนร่ำไห้’ ข้างๆ หลานสาวที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็ง
ภาพบางภาพไม่จำเป็นต้องมีคำบรรยายใดๆ คุณก็สามารถเข้าใจและสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของคนที่อยู่ในภาพได้เป็นอย่างดี และมันยิ่งสะเทือนใจหากคุณได้รู้เรื่องราวที่อยู่ในภาพนั้น เช่นเดียวกับภาพคุณตาที่นอนร้องไห้อยู่ข้างเตียงของหลานสาว เมื่อรู้ว่าเธอกำลังจะจากไปในไม่ช้าเพราะไม่อาจต้านทานมะเร็งร้ายได้ Ally Parker มีลูกสาววัย 5 ขวบ ที่กำลังจะพ่ายแพ้ต่อโรคมะเร็งสมอง ขณะที่พ่อของเธอ Sean Peterson ก็กำลังป่วยหนักด้วยโรคเซลล์ประสาทสั่งการเสื่อม และอาจจะจากไปในไม่ช้านี้เช่นกัน นั่นเท่ากับกับว่า Ally กำลังเผชิญหน้ากับความกลัวที่จะต้องสูญเสียทั้งลูกสาวและคุณพ่อในเวลาไล่เลี่ยกัน หรืออาจจะห่างกันไม่กี่สัปดาห์ด้วยซ้ำ ดังนั้นคุณแม่จึงตัดสินใจโพสต์ภาพลูกสาวลงในเฟซบุ๊กเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมี Sean พ่อของเธอนอนร้องไห้อยู่ข้างๆ เตียงของลูกสาว ใบหน้าของ Sean เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน เมื่อรู้หลานสาวผู้เป็นที่รักต้องจากไปก่อนวัยอันควร เช่นเดียวกับสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ที่ทรมานใจไม่แพ้กัน แต่พวกเขาต้องอดทนไว้เพื่อปลอบใจกันและกัน สำหรับเด็กน้อย Braylynn Lawhon เธอได้รับการวินิจฉัยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ปีที่ผ่านมาว่าเป็น Diffuse Intrinsic Pontine Glioma ซึ่งเป็นมะเร็งสมองชนิดร้ายแรง ไม่มีวิธีรักษาและไม่มีอัตราการรอดชีวิต ตอนนี้อาการของเธอแย่ลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่คุณหมอเองก็พยายามอย่างหนักในการบรรเทาความเจ็บปวดให้กับเธอเท่าที่จะทำได้ แน่นอนว่าคนที่เจ็บปวดจนไม่รู้จะหาคำใดมาบรรยายคือ Parker แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรวบรวมความกล้าในการแบ่งปันประสบการณ์อันเจ็บปวดในเฟซบุ๊กเพื่อให้ผู้คนตระหนักถึงโรคร้ายนี้มากขึ้น “เราทุกคนคิดว่าพวกเขาจะมีอายุยืนกว่าเรา และเราไม่คิดเลยว่า Braylynn ลูกสาวที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉันจะเป็นคนแรกที่จากไป…” Parker เขียนในเฟซบุ๊ก เธอบอกอีกว่า “ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับเรา…
-
ประมวลภาพความเสียหาย ชายแดนอิรัก-อิหร่าน จากเหตุแผ่นดินไหวที่ร้ายแรงที่สุดในปี 2017
เมื่อเวลาประมาณ 3 ทุ่มตามเวลาท้องถิ่นในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2017 ได้เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.3 แมกนิจูดใกล้กับชายแดนประเทศอิรัก-อิหร่าน สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับเมือง Sarpol-e Zahab ในประเทศอิหร่าน และทางตอนเหนือของแหล่งที่อยู่อาศัยชาวเคิร์ดในประเทศอิรัก สำนักงานข่าว Reuters ได้รายงานว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากการกระทบกันของชั้นเปลือกโลกจนเกิดเป็นการสั่นสะเทือนที่รุนแรง ทำให้ในตอนนี้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่ำ 406 คนและบาดเจ็บอีกกว่า 7,185 คน ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในปีนี้เลยทีเดียว เราได้ประมวลภาพผลกระทบที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้เพื่อนๆ ได้เห็นถึงความรุนแรงของมัน การเข้ามาช่วยเหลือจากหลายฝ่าย รวมถึงการสูญเสียที่อยู่อาศัยและคนที่ตนเองรักไปอย่างน่าเศร้า สิ่งปลูกสร้างภายในเมือง Sarpol-e Zahab ต้องพังทลายลงไปด้วยแรงสั่นสะเทือน คนที่เดินอยู่ท่ามกลางซากปรักหักพังภายในเมือง Darbandikhan ในเคอร์ดิสถาน ทางตอนเหนือของประเทศอิรัก ทีมช่วยเหลือพยายามตามหาผู้รอดชีวิตภายในเมือง Sarpol-e-Zahab โดยใช้การดมกลิ่นของสุนัข ภาพนี้ถูกถ่ายในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2017 แสดงให้เห็นถึงความเสียใจของชายคนนี้ที่อยู่ในเมือง Sarpol-e-Zahab ญาติของผู้จากไปภายในเมืองเดียวกัน ที่ยังคงเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น สิ่งก่อสร้างภายในเมืองแทบจะพังพินาศไปทั้งหมด และในตอนเกิดอาฟเตอร์ช็อคก็ทำให้ทุกคนหวาดกลัวและรีบวิ่งออกมาอยู่ในที่โล่งแจ้ง นี่เป็นแผ่นดินไหวครั้งที่ 4 ในปีนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศอิหร่าน แต่ในสามครั้งก่อนนั้นมีจำนวนการตายแค่ไม่เกินเลข 1 หลักเท่านั้น และภาพด้านล่างนี้ก็คือผลกระทบอันรุนแรงที่เกิดขึ้นในเมือง Darbandikhan …
-
ชายชาวโอซาก้าหลับนอนกับ ‘ศพคนรัก’ นาน 5 วัน เพราะสะเทือนใจจนไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี
ในบางสถานการณ์เราอาจไม่รู้ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะว่าสิ่งที่เราเจอมันทำให้เรารู้สึกไม่อยากยอมรับความจริงจนในสมองมันตันไปหมด เหมือนกับชายคนนี้ที่พอเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาเขาก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก จนทำให้ต้องนอนอยู่กับศพไปนานถึง 5 วัน เรื่องราวนี้ถูกพบในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2017 เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองฮิระกะตะ จังหวัดโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าตรวจค้นบ้านของชายวัย 48 ปีคนหนึ่งในสภาพที่ดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ และพบเข้ากับศพหญิงสาววัย 44 ปีที่เป็นคนรักของเขานอนอยู่บนเตียงภายในบ้าน สถานีตำรวจเมืองฮิระกะตะ ตำรวจได้ทำการตรวจค้นหลังจากที่ผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้นบังเอิญไปเห็นศพของหญิงสาวสวมชุดนอนอยู่ข้างๆ กับชายเจ้าของห้องบนเตียง จึงได้ทำการแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาตรวจสอบ จากการสอบถามข้อมูลทำให้ทราบว่าชายคนนี้เป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยให้กับบริเวณที่อยู่อาศัยดังกล่าว โดยในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาคนรักของเขาก็จะเข้ามานอนที่ห้องบ้างเป็นบางครั้ง ชายคนนี้ได้บอกว่าคนรักของเขามีสุภาพที่ไม่แข็งแรงอยู่แล้ว และเธอก็ไม่ยอมเข้ารับการตรวจหรือรักษาจากแพทย์ ทำให้อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่งในคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2017 เธอก็ได้เสียชีวิตไปขณะที่ยังหลับอยู่ เขาเล่าว่า “ในคืนนั้นร่างกายของเธอเย็นยะเยือก จนทำให้ผมไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไปดี” เขาตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ทั้งจิตใจและความรู้สึกของเขาแทบจะเป็นอัมพาตไปเลยในตอนนั้น จึงได้ตัดสินใจเก็บร่างไร้วิญญาณของคนรักเอาไว้เป็นเวลานานถึง 5 วันจนกระทั่งมีคนไปพบเข้า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงหาสาเหตุการตายของหญิงสาวต่อไปและไม่ได้มองว่าชายคนนี้เป็นคนฆ่าเธอ แต่ก็ได้ทำการจับกุมเขาในความผิดที่ไม่ยอมแจ้งความเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหญิงสาวและไม่ยอมพาเธอไปรักษาแม้รู้ว่าเธอกำลังอยู่ในขั้นอันตราย ที่มา: rocketnews24
-
เจ้าหมาตาบอด Smiley ผู้ช่วยบำบัดรักษาเด็กๆ ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง
หลายคนอาจต้องเกิดมามีความผิดปกติทางร่างกายจนรู้สึกไม่อยากก้าวเดินต่อไป ถึงอย่างไรเราก็ต้องไม่ย่อท้อและใช้ทั้งชีวิตให้มีความสุขเหมือนกับเจ้าหมาตัวนี้ นี่เป็นเรื่องราวอันน่าเศร้าของสุนัขที่ชื่อว่า Smiley ที่ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2017 หลังจากที่ต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน น้องหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตัวนี้ต้องเกิดมาพร้อมกับความพิการไม่มีดวงตาทั้งสองข้าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงมีความสุขได้จากความผิดปกติหายากที่ทำให้ฟันมีขนาดใหญ่กว่าปกติจนเหมือนกับว่ามันยิ้มอยู่ตลอดเวลา แม้เกิดมาไม่มีดวงตาจนต้องถูกเย็บปิดเอาไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่เจ้า Smiley ก็ยังคงยิ้มอยู่เสมอ ชีวิตของมันเริ่มขึ้นในศูนย์ดูแลลูกสัตว์ก่อนที่ Joanne George จะมารับมันไปเลี้ยงในตอนที่อายุได้ 2 ขวบ หลังจากนั้นมันก็ได้ออกช่วยเหลือผู้คนจำนวนมาก เจ้าหมาจะเดินทางไปตามโรงพยาบาล สถานพักฟื้นหรือโรงเรียนเพื่อไปให้กำลังใจเหล่าคนไข้ที่ต้องอยู่ในช่วงเวลาอันย่ำแย่ ให้พวกเขาสามารถกลับมายิ้มได้อีกครั้ง Joanne ที่มอบความรักให้กับมันมาโดยตลอด ด้วยการที่มันต้องเกิดมาผิดปกติแต่ใบหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยความสุข ทำให้ทุกคนที่ได้เจอกับมันกลับมามีกำลังใจกล้าเผชิญกับปัญหากันต่อไป โดยเฉพาะกับเด็กที่ต้องพิการแต่กำเนิดซึ่งน้องหมาสามารถเข้าไปเยียวยาจิตใจพวกเขาได้เป็นอย่างดี คนไข้ที่ชื่อว่า Teddy ผู้ป่วยที่ไม่พูดไม่จาและไม่สื่อสารอะไรกับใครเลยก็ถึงกับทำให้ทุกคนแปลกใจเมื่อเขายิ้มออกมาเป็นครั้งแรกขณะที่ได้เจอกับ Smiley เหมือนกับว่ามันเกิดมาเพื่อมอบความสุขให้กับทุกคนเลยจริงๆ ใบหน้าที่ช่วยเยียวยาจิตใจให้กับทุกคน แต่เมื่อเดือนกรกฎาคมเจ้าของของมันก็ได้โพสต์ข่าวร้ายลงไปในเฟซบุ๊ก เมื่อมีการตรวจพบมะเร็งในตับและกระเพาะของเจ้าหมา นั่นหมายความว่ามันจะใช้ชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน การเดินทางเพื่อช่วยเหลือผู้คนมาตลอด 12 ปีกำลังจะจบลงอย่างน่าเศร้า ในตอนนี้อินสตาแกรมของมันมีคนติดตามมากกว่า 200,000 คนแล้ว ซึ่งล่าสุดเจ้าของได้โพสต์ภาพขอณะที่เขากำลังจับมือมันเอาไว้พร้อมกับแคปชั่นที่แสนสะเทือนใจว่า “นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่พอจะตอบแทนทุกอย่างที่มันทำมาตลอดได้ พรุ่งนี้คงต้องปล่อยให้มันจากไปอย่างสงบหลังจากที่ต่อสู้มาอย่างยากลำบาก”…
-
สวนสัตว์โทบุเตรียมโต๊ะวางดอกไม้ เพื่อระลึกถึงเจ้า ‘เกรปคุง’ แฟนคลับร่วมอาลัยไม่ขาดสาย…
ความเสียใจในการจากไปของคนที่เรารัก หลายคนคงเข้าใจความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี แม้ว่าที่ตายจากไปอาจไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสัตว์ก็ตามเช่นเดียวกับเพนกวินน้อยสายพันธุ์ฮัมโบลต์ที่โด่งดังในประเทศญี่ปุ่นตัวนี้ เพนกวินตัวนั้นมีชื่อว่า เกรปคุง ก่อนหน้านี้มันมีอาการป่วยที่รุนแรงมาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา จากโรคที่เกิดขึ้นเฉพาะกับเพนกวิน และด้วยอายุที่มากถึง 20 ปี (ซึ่งเทียบเท่าได้กับคนอายุ 80 เข้าไปแล้ว) ทำให้อาการของมันแย่ลงไปอีก ต่อมาไม่นานในวันที่ 12 ตุลาคมมันก็ได้จากโลกนี้ไป สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับแฟนคลับของมันทั่วโลก ทางสวนสัตว์โทบุในเขตไซตามะ จึงได้ทำการสร้างอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงเจ้าเพนกวินน้อยตัวนี้ อนุสรณ์ชั่วคราวของเพนกวินอันเป็นที่รัก เหล่าแฟนคลับต่างพากันเข้ามาแสดงความเสียใจกับการจากไปในครั้งนี้ เหตุผลที่เจ้าเพนกวินได้รับความนิยมอย่างมากนั้น นอกจากความน่ารักน่าชักแล้วเจ้าเพนกวินน้อยตัวนี้ยังมีแฟนเป็นสาว 2D อีกด้วย เรื่องราวเกิดขึ้น ในตอนที่การ์ตูนอนิเมะชื่อดัง Kemono Friends ได้นำแผ่นป้ายโปรโมทรูปตัวละครหลักในเรื่องที่ชื่อว่า Hululu มาตั้งเอาไว้ในกรงอาศัยของมันตั้งแต่เดือนเมษายน เท่านั้นเองความรักของทั้งสองก็ได้เกิดขึ้น พอเจ้าเพนกวินเห็นสาวน้อยคนนี้เข้า มันก็เดินมายืนดูเธอนานเป็นชั่วโมงๆ ถึงกับไม่ยอมกินข้าวกินปลาเลยทีเดียว ความรักอันบริสุทธิ์ของเจ้าเพนกวิน ทุกคนรับรู้และเข้าใจว่ารักเธอมากเพียงใด ตรงอนุสรณ์ก็จะมีรูปของ Hululu ไปแปะไว้อยู่ ความรักอันสุดแสนประหลาดนี้ได้สร้างรอยยิ้มไว้ให้กับผู้คนจำนวนมาก และเหมือนกับฝันที่เป็นจริง เมื่อผู้วาดการ์ตูนเรื่องดังกล่าว Mine Yoshizaki ได้วาดภาพเจ้าเกรปคู่กับแฟนสาวของมันขึ้นมา เพื่อเป็นการระลึกถึงความน่ารักของเจ้าเพนกวินตัวนี้ ผู้วาดสร้างผลงานให้มันได้เข้าไปอยู่กับสุดที่รักได้ในที่สุด แม้แต่ห่วงเล็กๆ…
-
สาวญี่ปุ่นร่วมโหวต 7 อันดับการ ‘ถูกบอกเลิก’ ที่ทำร้ายหัวใจพวกเธอมากที่สุด!!
ชีวิตคู่ของหลายคนบางครั้งเมื่อมาถึงจุดจุดหนึ่งการเลิกรากันไปอาจเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่เราต้องเลือกวิธีการบอกเลิกให้ดีเพราะเราอาจทำให้อีกฝ่ายต้องรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากกับการถูกเลิกก็ได้ ในประเทศญี่ปุ่น จึงได้มีการใช้แบบสอบถามของ DoCoMo ที่รวบรวมประสบการณ์การถูกบอกเลิกอันแสนเจ็บปวดมาให้หญิงสาวชาวญี่ปุ่นวัยราวๆ 30 ในเมืองโตเกียว ได้เข้ามาตอบว่าสถานการณ์แบบไหนที่ทำให้พวกเธอรู้สึกเจ็บมากที่สุด ผลโหวตทั้งหมดได้ออกมาเป็น 7 การบอกเลิกที่เลวร้ายมากที่สุดสำหรับพวกเธอ 7. ถูกบอกเลิกหลังจากที่ความลับโดนเปิดเผยและอีกฝ่ายรับไม่ได้ (โหวต 141 คน/ 1 เปอร์เซ็นต์) หลายคนมองว่าสถานการณ์นั้นสมควรแล้วที่จะถูกบอกเลิก แต่ก็ยังมีบางส่วนที่คิดว่าเรื่องของตัวเองควรได้รับการให้อภัยไม่น่าถึงขนาดต้องเลิกคบกัน 6. ถูกบอกเลิกในที่ที่เต็มไปด้วยความทรงจำของทั้งสองคน (โหวต 245 คน/ 3 เปอร์เซ็นต์) เป็นตรรกะของบางคนที่คิดว่าการทำลายความทรงจำที่ดีที่มีให้กันไปซะจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่บางครั้งมันกลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกทรมานมากที่สุดก็ได้ 5. ถูกบอกเลิกหลังจากที่ทะเลาะกันอย่างหนัก (โหวต 245 คน/ 3 เปอร์เซ็นต์) จากคู่รักที่สนิทกันมากๆ บอกไว้ว่าการทะเลาะกันจะช่วยแยกแยะอารมณ์และปัญหาออกมาเพื่อแก้ไขมันให้ดีขึ้นได้ แต่บางครั้งการโต้เถียงบางเรื่องก็ไม่สามารถเรียกความรู้สึกเดิมกลับมาได้แม้อีกฝ่ายจะพยายามมากขนาดไหนก็ตาม 4. ถูกบอกเลิกในตอนที่ไปเจอกับพ่อแม่หรือคนในครอบครัว (โหวต 658 คน/ 8 เปอร์เซ็นต์) สถานการณ์นี้ไม่ได้มีการบอกว่าไปเจอพ่อแม่ของตัวเองหรือของอีกฝ่าย เลิกกันตอนไปเจอหรือหลังจากนั้น…
-
นักวิทยาศาสตร์ทำการศึกษา อธิบายว่า “การถูกบอกเลิก” แบบไหนที่ทำให้เราเจ็บที่สุด
ในตอนที่เราอกหักครั้งแรกตอนนั้นรู้สึกอย่างไรกันบ้าง กินไม่ได้นอนไม่หลับ รู้สึกทรมาน มีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างยากลำบาก ประมาณนั้นหรือเปล่า? แล้วครั้งนั้นเป็นครั้งที่เจ็บที่สุดมั้ย? เราสามารถถูกบอกเลิกได้หลากหลายเหตุผล ทว่าแล้วเหตุผลไหนที่เจ็บที่สุดล่ะ? นี่จึงกลายเป็นคำถามให้กับนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Cornell ได้ออกมาหาคำตอบกัน การถูกบอกเลิกก็คือการที่ถูกอีกฝ่ายบอกปฏิเสธนั่นเอง ผู้วิจัยจึงได้ทำการทดลองกับคน 600 คน โดยการทดลองแรกนั้นจะมีหน้าม้าเป็นผู้หญิงสองคน และผู้ชายอีกคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรอยู่รวมกัน จากนั้นพวกเขาจะมอบหมายงานบางอย่างให้กับผู้หญิงคนหนึ่ง และเธอคนนั้นต้องเลือกว่าจะทำงานกับผู้หญิงอีกคน ทำงานกับผู้ชาย หรือว่าทำคนเดียว ซึ่งเธอเลือกที่จะทำกับผู้หญิงอีกคนหรือทำคนเดียวเท่านั้น และเมื่อผู้ชายไม่ได้อยู่ในการตัดสินใจของเธอเลย นั่นจะทำให้พวกเขาสามารถรับรู้ความรู้สึกของการถูกปฏิเสธได้ ส่วนการทดลองอื่นจะให้ผู้เข้าร่วมอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ ใช้เวลาร่วมกันและกระตุ้นให้พวกเขาเหล่านั้นแสดงความรู้สึกออกมาว่า รู้สึกอย่างไรกันบ้างเมื่อตนเองต้องถูกปฏิเสธด้วยสาเหตุต่างๆ ในขณะที่ผู้วิจัยจะทำการสังเกตร่วมด้วย การศึกษาทั้งสองนี้เผยให้เห็นว่าการที่ต้องถูกปฏิเสธและไปเลือกคนอื่น สร้างความรุนแรงได้มากกว่าปฏิเสธด้วยเหตุผลอื่นที่ไม่มีบุคคลที่สามมาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหากว่าอกหักเพราะอีกฝ่ายไปกับอีกคน จะยิ่งสร้างความทรมานใจได้มากกว่าสิ่งอื่นใด นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “การถูกปฏิเสธจากการเปรียบเทียบ” เหตุผลที่มันมีความรุนแรงมากที่สุดก็เพราะ การปฏิเสธคือการทำให้รู้สึกถูกตัดทิ้งออกไปและลดความเป็นเจ้าของลง นั่นยิ่งทำให้รู้สึกแย่เมื่อพบว่าตนเองเป็นตัวเลือกที่แย่กว่า จากการสังเกตอื่นๆ ของผู้วิจัยพบว่า หากคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองถูกปฏิเสธเพราะอะไร ก็จะพยายามหาคำตอบให้ได้ แม้ว่าสิ่งที่ได้อาจทำให้เจ็บกว่าเดิมก็ตาม แต่ถ้าหากหาเหตุผลไม่ได้จริงๆ พวกเขาจะตีความไปเองว่าคนใหม่ที่โผล่มาในรูปของเธอคนนั้นคือคนที่เธอเลือก นักวิทยาศาสตร์เสริมให้อีกว่า มันเป็นเรื่องดีที่จะบอกให้ผู้ที่ถูกปฏิเสธรับรู้ว่าคุณไม่ได้เลิกกับเขาเพื่อไปมีคนอื่น ซึ่งจะทำให้เขาเหล่านั้นรู้สึกดีขึ้น แต่หากว่าไปมีคนอื่นจริงๆ การแสดงออกว่าคนๆ นั้นดีกว่าคนเดิมก็ควรจะเก็บเอาไว้เป็นความลับให้มากที่สุด…
-
การจากไปที่แสนเศร้า ของเจ้า “หมีแพนด้า” ที่แก่ที่สุดในโลกเสียชีวิตด้วยวัย 37 ปี
การจากไปของคนที่เรารู้จักหรือสัตว์ที่เรารัก สร้างความเศร้าโศกเสียใจและความเจ็บปวดให้กับคนใกล้ชิดอย่างมากมาย ยิ่งหากว่าเป็นที่รักของใครหลายคนด้วยแล้ว เรื่องราวต่างๆ ก็จะถูกเก็บไว้ไม่จางหายไปไหน หมีแพนด้า เป็นสัตว์ที่เราทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยความน่ารักน่าชัง สีสันที่เป็นเอกลักษณ์ ถึงขนาดที่บ้านเราเองมีช่องที่สามารถส่องตามติดชีวิตมันได้เลยทีเดียว หลายคนคงรู้อยู่แล้วว่าเจ้าสัตว์ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน จึงทำให้คนนประเทศนั้นรักพวกมันเป็นอย่างมาก และต้องแลกมาด้วยความเศร้าใจอย่างมากเช่นเดียวกัน เมื่อ Basi หมีแพนด้าที่อายุมากที่สุดในโลกได้ตายลงไป ในปัจจุบันยังคงไม่มีการพูดถึงอายุเฉลี่ยของแพนด้า ทว่าตามสถิติเจ้านี่คือตัวที่มีอายุยืนยาวที่สุด ซึ่งอยู่มานานถึง 37 ปี และตลอดเวลานั้นมันก็สามารถมีชีวิตได้อย่างเต็มที่ และสร้างความสุขให้กับใครหลายคน ตัวมันถูกช่วยเหลือมากจากบริเวณแม่น้ำที่เย็นจนจับตัวเป็นน้ำแข็งในมณฑลเสฉวน ปี 1984 ก่อนที่จะพามันไปอยู่บ้านใหม่ นั่นคือศูนย์วิจัยและแลกเปลี่ยนแพนด้ายักษ์ช่องแคบฝูโจว กายกรรมก็ไม่ใช่ปัญหา ต่อมาในปี 1990 มันก็ได้รับเลือกเป็นมาสค็อตให้กับกีฬา เอเชี่ยนเกมส์ และได้เดินทางไปโชว์ตัวในสวนสัตว์แซนดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา การเดินทางไปต่างประเทศ ทำให้ดูตื่นเต้นไม่น้อย ช่วงชีวิตของมันหากเทียบกับมนุษย์แล้ว เรียกได้ว่ามันแก่กว่า 100 ปีเลยทีเดียว การจากไปของมันเป็นไปอย่างสงบและอบอุ่น ภายในบ้านที่คุ้นเคยที่เมืองฝูโจว วันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา ทำท่านั่งได้คล้ายกับมนุษย์เลย ทุกคนที่เคยพบเห็นความน่ารักของมันและทางสถาบันที่เลี้ยงดูมันมาเอง…
-
คุณแม่สุดระทม ต้องขึ้นศาลเจอกับอดีตสามี ด้วยข้อหา… ‘ฆาตกรรมลูกชายตัวเอง’!!
สำหรับหัวอกคนเป็นแม่แล้ว เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รักลูกของตัวเอง เพราะกว่าที่คุณแม่จะให้กำเนิดลูกน้อยได้พวกเธอต้องคอยดูแลเอาใจใส่อยู่นานหลายเดือน และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของความรักระหว่างแม่ – ลูก ที่ไม่มีสิ่งใดเทียบเคียงได้ และนี่ก็เป็นเรื่องราวสุดร้าวระทมใจของคุณแม่ Ana Estevez ที่ถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อเธอต้องมาขึ้นศาลเพื่อฟังคำตัดสินเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมลูกชายเธอ และผู้ต้องหาในครั้งนี้ก็คืออดีตสามีหรือคุณพ่อของผู้เสียชีวิตจริงๆ นั่นเอง ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนเมษายนตอนต้นปี เป็นวันที่ผู้ต้องหา (พ่อ) พาเด็กหนุ่มวัย 5 ขวบ Aramazd Andressian Jr. ไปเที่ยวที่ดิสนีย์แลนด์ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย พยานกล่าวว่า เด็กชายนั่งรถออกจากสวนสนุกไปกับคุณพ่อ จากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นอีกเลย หลังจากหนึ่งเพียงหนึ่งวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่า มีคนพบว่าคุณพ่อคนดังกล่าว นอนสลบไม่ได้สติอยู่บนรถของตนเองในสวนสาธารณะ Arroyo Seco Park โดยบนรถมีการราดน้ำมันไว้ทั่วคัน และมีแผงยาหลายชนิดตกอยู่บนเบาะ ดูเหมือนว่าเขามีเจตนาจะฆ่าตัวตาย ตำรวจจึงเข้าควบคุมตัวไว้ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเขาเป็นคนลงมือฆ่าบุตรชายด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีหลักฐานเพียงพอ เจ้าหน้าที่จึงต้องปล่อยตัวคุณพ่อฆาตกรคนนี้ไปก่อน มีรายงานว่าเพียงวันเดียวหลังจากที่เขาถูกปล่อยตัว เขาได้ทำการย้อมสีผมและโกนหนวด ราวกับว่าพยายามปกปิดอัตลักษณ์ของตนเอง รวมทั้งย้ายไปอยู่ที่ลาส เวกัส มีรายงานอีกว่า คุณพ่อฆาตกรคนดังกล่าวไม่มีท่าทีเสียใจแม้แต่นิดเดียว เขายังออกไปพบปะผู้คน กินเที่ยวอย่างสนุกสนาน รวมทั้งวางแผนที่จะเดินทางออกนอกประเทศอีกด้วย …
-
เรื่องเศร้าของแม่ลิง ที่พาร่างลูกน้อยไปด้วยทุกๆ ที่ เพียงหวังว่าปาฏิหารย์จะมีจริง…
การต้องสูญเสียคนรักไป ย่อมสร้างบาดแผลและความเศร้าเสียใจให้กับคนในครอบครัวอย่างแน่นอน และถึงแม้ว่าจะเป็นพวกสัตว์เองก็ย่อมมีความรู้สึกแบบนี้เช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการเผยแพร่คลิปวิดีโออันแสนเศร้าของแม่ลิง ที่ต้องสูญเสียลูกน้อยของมันไป และถึงแม้ว่ามันจะพยายามอย่างไร ลูกลิงน้อยผู้น่าสงสารก็ไม่ฟื้นขึ้นมา… เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองบังคาลอร์ ประเทศอินเดีย ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า แม่ลิงนั่งเฝ้าร่างที่ไร้วิญญาณของลูกมันอยู่นานหลายวัน มันไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้กับลูกน้อยของมันเลย แม่ลิงพาร่างไร้วิญญาณของลูกน้อยไปด้วยในทุกๆ ที่ไม่ว่าจะเป็นบนต้นไม้ หรือบนกำแแพง ราวกับว่ามันกำลังรอคอยปาฏิหาริย์ให้ลูกน้อยฟื้นขึ้นมา สร้างความหดหู่ใจให้กับผู้ที่พบเห็นอย่างมาก และนี่คือคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นถึงความเศร้าของแม่ลิง แม่ลิงที่กำลังเสียใจกับการจากไปของลูกน้อย ส่วนสาเหตุการตายของลูกลิงนั้นคาดว่าน่าจะมาจากการถูกไฟฟ้าแรงสูงช๊อต จึงทำให้มันพลัดตกลงมาจากต้นไม้จนเสียชีวิต ชาวบ้านที่นี่เล่าว่าฝูงลิงส่วนมากมักจะตกเป็นเหยื่อของสายไฟฟ้าแรงสูง เพราะว่าพวกมันไม่รู้ว่าภายในสายไฟนั้นมีอันตรายที่สามารถคร่าชีวิตพวกมันได้ การขยายตัวของพื้นที่เมือง อาจะเป็นหนึ่งปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของพวกลิง นอกจากการที่จะต้องคอยระวังอันตรายจากมนุษย์แล้ว อาหารการกินต่างๆ ของพวกมันก็ยังแตกต่างไปจากเดิมที่ควรจะเป็นอีกด้วย ถึงแม้จะพยายามอย่างไรก็ตาม เจ้าลิงน้อยก็ไม่อาจกลับมาวิ่งเล่นได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ที่มา dailymail
-
ภาพสุดท้าย… พ่อโอบกอดลูกชายที่ป่วยเป็นมะเร็งไว้ เพื่อเติมเต็มความหวังก่อนที่จะจากไป
สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากเห็นมากที่สุดคือการเห็นลูกต้องล้มป่วยด้วยโรคร้าย ถ้าเลือกได้พวกเขาก็อยากจะเจ็บแทนเองด้วยซ้ำ แต่พ่อแม่คู่นี้ต้องเจ็บยิ่งกว่านั้น เพราะต้องทนเห็นลูกจากไปในอ้อมกอดของตัวเอง Braiden Prescott เด็กชายวัย 7 ขวบ ป่วยด้วยโรคมะเร็งชนิดนิวโรบลาสโตมา (Neuroblastoma) ได้เสียชีวิตลงหลังแอดมิทเข้าโรงพยาบาลในเดือนกันยายนปี 2016 ได้เพียงแค่ 2 วันเท่านั้น คนที่เจ็บปวดที่สุดจากการเสียชีวิตของเด็กชายก็คงจะเป็นคุณแม่ Steph และคุณพ่อ Wayne Prescott จากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ พ่อแม่ได้แชร์ภาพช่วงสุดท้ายของ Braiden ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคู่แทบใจสลายไปพร้อมๆ ลูก เพราะต้องเห็นลูกชายที่รักจากไปต่อหน้าต่อตา ในวันที่เด็กชายเสียชีวิต คุณแม่ Steph เล่าว่า “ฉันนอนอยู่ข้างเตียงของลูกตลอดทั้งคืน แล้วตื่นมาตอนตี 3 เพราะได้ยินเสียงลูกสำลัก จึงทำการตามพยาบาลมาทันที” หลังจากที่เข้ามาตรวจสอบอาการสักพัก พยาบาลบอกกับเธอว่า “ใกล้จะถึงเวลาที่เขาจะไปแล้ว” แม้คุณแม่จะรู้อยู่แล้ว แต่เมื่อได้ยินแบบนั้น เข่าของเธอแทบจะทรุดลงไปทันที แต่ก็ยังพยายามฮึดสู้แล้วเดินไปปลุกสามี แม่อยากอุ้มลูกชายไว้เพื่อให้เขาจากไปอย่างสงบในอ้อมกอดของเธอ แต่ไม่อาจทำใจได้ เธอจึงปล่อยให้สามีเป็นคนอุ้มแทน ส่วนเธอก็นั่งจับมือลูกอยู่ข้างๆ สำหรับโรคร้ายที่หนูน้อยต้องเจอนั้น เป็นความผิดปกติเนื่องจากมีเนื้องอกที่ขากรรไกร ทำให้เขาไม่สามารถเปิดปากได้หรือพูดได้ พ่อแม่เลยไม่รู้ว่าลูกชายต้องการอะไรเป็นสิ่งสุดท้าย …
-
ผู้ประกาศข่าวสุดสตรอง รายงานข่าวสามีตัวเองเสียชีวิต กลั้นน้ำตาทำหน้าที่ต่อจนจบรายการ!!
Supreet Kaur ผู้ประกาศข่าวสาวชาวอินเดีย ขณะที่กำลังทำหน้าที่ประกาศข่าวออกอากาศสดทางช่อง IBC24 จู่ๆ ก็มีรายงานด่วนเข้ามาถึงสถานการณ์อุบัติเหตุรถชน และมีผู้เสียชีวิตถึง 3 คนด้วยกัน เธอทำหน้าที่รายงานข่าวตามปกติ แต่ในครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน เพราะหนึ่งในนั้นมีรายชื่อของสามีสุดที่รักของเธออยู่ด้วย หลังจากที่รับทราบแล้วว่าสามีได้เสียชีวิตลง Supreet ก็พยายามอดกลั้นน้ำตาทำหน้าที่รายงานต่อไป เป็นเวลากว่า 10 นาที ก่อนที่ทางห้องส่งจะตัดภาพออกอากาศออกไป สามีของ Supreet นาย Harshad Kawade ได้นั่งรถออกไปข้างนอกกับเพื่อนๆ อีก 5 คน ก่อนที่จะถูกรถบรรทุกพุ่งชนจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นให้การว่า “อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นรุนแรงมาก ผู้โดยสารที่นั่งมาในรถยนต์เสียชีวิตทันที 3 คน ขณะที่อีก 2 คนบาดเจ็บสาหัส” ผู้กำกับการรายงานข่าวของช่อง IBC24 เล่าวว่า “ขณะที่เธอกำลังอ่านรายงานข่าว เธอก็เอะใจว่านั่นเป็นรถที่สามีของเธอโดยสารไปด้วย ในวันเดียวกันนั้นเลย” “แม้ว่าผู้รายงานข่าวภาคสนามจะไม่ได้แจ้งรายชื่อผู้เสียชีวิต แต่ทีมโปรดัคชั่นก็มีรายชื่อเรียบร้อยแล้ว แต่เราไม่สามารถบอกเธอขณะที่รายการทำลังถ่ายทอดสดได้” “แม้เธอจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับรถที่สามีของเธอโดยสารไปด้วย แต่ก็ต้องยอมรับในความเป็นมืออาชีพของเธอจริงๆ เพราะเธอยังคงทำหน้าที่ต่อไปอีกกว่า 10…
-
พ่อแม่ถ่ายภาพ “ลูกคู่แฝด” เก็บเป็นความทรงจำสุดท้าย ก่อนที่หนึ่งคนต้องจากไปตลอดกาล
บางครั้งความสุขก็เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ แล้วก็หายไป แต่อย่างน้อยมันจะยังคงอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป… คุณ Lyndsay และคุณ Matthew Brentlinger คู่รักจากเมือง Toledo รัฐ Ohio ทั้งคู่พยายามกันอย่างหนักเพื่อที่จะมีลูกมาหลายปีแล้ว และในที่สุดความหวังของพวกเขาก็กลายเป็นความจริง เมื่อวันที่ 17 เดือนธันวาคมปี 2016 ที่ผ่านมาคุณ Lyndsay ได้ให้กำเนิดทารกน้อยแฝดสองชื่อว่าหนูน้อย William และหนูน้อย Reagan แต่เรื่องราวไม่ได้สวยงามแบบที่วาดฝันไว้เพราะหนึ่งในนั้นจะมีชีวิตรอดอยู่ได้เพียงอีกไม่กี่วันเท่านั้น… เจ้าหนู William นั้นเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติในร่างกายที่แปลกประหลาด หัวใจซีกขวาทำงานแค่ซีกเดียว คู่สามีภรรยาเล่าว่า เมื่ออายุครรภ์ได้ 5 เดือนพวกเขาก็รู้แล้วว่าลูกชายของเขาก็จะเกิดมาลืมตาดูโลกได้เหมือนเด็กปกติทั่วไป แต่เขาจะมีเวลาอยู่กับครอบครัวเพียง 11 วันเท่านั้นก่อนที่จะหมดลมหายใจลงอย่างน่าเศร้า “และมันจะเป็น 11 วันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของผม” คุณ Matthew ผู้เป็นสามีกล่าว ทั้งคู่ก็เลยอยากถ่ายรูปหนูน้อย William และคู่แฝดของเขาเอาไว้…
-
เจ้าของทำให้ ‘สุนัขป่วย’ มีความสุขในวันสุดท้าย ก่อนการุณยฆาต จากกันไปตลอดกาล…
ขึ้นชื่อว่า สัตว์เลี้ยง ถ้าได้อยู่ด้วยกันนานๆ ยิ่งเกิดความผูกพัน เหมือนมันเป็นคนในครอบครัว และถ้าเรารู้ว่า ต้องเสียมันไปในวันหนึ่ง ก็คงยากที่จะทำใจ เหมือนเรื่องราวของหมาตัวหนึ่ง ที่ใครได้อ่านก็ต้องน้ำตาไหล เมื่อเจ้าของรู้ว่า มันกำลังจะตาย จึงได้พามันเที่ยวพร้อมทำเรื่องสนุกๆ ก่อนที่มันจะจากไปตลอดกาล เรื่องราวนี้ถูกแชร์ในเว็บไซต์ imgur เป็นภาพของ Hannah สุนัขอเมริกัน พิทบูล ตัวหนึ่งที่ป่วยหนักด้วยโรคไต โดยมีโรคแทรกซ้อนอื่นๆ อีก และวันนี้ก็เป็นวันสุดท้ายที่มันได้ใช้เวลากับครอบครัวอย่างมีความสุข เจ้าของเล่าให้ฟังว่า “เมื่อ 2 เดือนก่อน มันมีอาการชัก แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง จนหลังๆ มา อาการมันเริ่มแย่ๆ ลงเรื่อยๆ” มันเริ่มใช้ชีวิตลำบากมากขึ้น การเดินขึ้นบันไดกลายเป็นเรื่องยากสำหรับมัน หรือแม้แต่เนินเขาเตี้ยๆ ก็กลายเป็นภูเขาสูงชันสำหรับมัน ส่วนยาที่ให้มันกิน ก็ดูเหมือนว่า จะไม่ได้ผลอีกแล้ว ทั้งหมอและเจ้าของพยายามยื้อชีวิต Hannah อย่างสุดความสามารถ แต่มันยิ่งสร้างความทรมานให้กับมันขึ้นเรื่อยๆ จนหมอแนะนำให้ทำการุณยฆาตมัน แม้จะเป็นเรื่องยากที่จะทำใจ แต่พวกเขาก็ทนเห็นมันทรมานไม่ได้ จึงตัดสินใจทำตามคำแนะนำ แต่ก่อนที่จะทำการุณยฆาตมันนั้น พวกเขาได้ทำให้ Hannah มีความสุขมากที่สุดเท่าที่ทำได้ เช่น พาไปเที่ยว ไปกินอาหารโปรด และกิจกรรรมอื่นที่จะทำให้มันมีความสุข …
-
สาวเผลอขับรถชนนกตายรู้สึกผิดจนร้องไห้ไม่หยุด…พร้อมกลับไปรับศพของมันมาฝังเป็นอย่างดี
หลายๆ คนมองว่าชีวิตแต่ละชีวิตนั้นมีค่า ไม่ว่าจะเป็น สัตว์ คน หรือแม้แต่ต้นไม้เองก็มีชีวิต ฉะนั้นหากเราพลาดพลั้งทำให้ชีวิตหนึ่งชีวิตต้องตายไปก็จะรู้สึกเศร้าเสียใจเป็นเรื่องธรรมดา เช่นเดียวกับสาวน้อยคนนี้ที่ไม่ได้ตั้งใจขับรถชนเข้ากับเจ้านกตัวน้อยจนทำให้มันตาย ซึ่งเธอก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และนี่คือ Simone (คนตัวเล็ก) และ Mikayla (คนตัวสูง) สองคู่ซี้วัยเรียน จากเมือง Houston รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อไม่นานมานี้เอง Mikayla ได้ขับรถออกไปข้างนอก ร่วมกันกับเพื่อนรักของเธอ และพี่สาว แต่จู่ระหว่างทางเธอก็ได้ขับรถชนกับเจ้านกตัวน้อยอย่างจัง เป็นเหตุให้มันเสียชีวิตในทันที นั่นทำให้ Mikayla รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ก็เลยร้องไห้ออกมาไม่หยุดตลอดทาง ซึ่งเพื่อนของเธอก็เลยถ่ายคลิปมาอัพลงโซเชียลเน็ตเวิร์คซะเลย ในระหว่างนั้นก็ได้เปิดเพลงเศร้าคลอไปด้วย Mikayla เล่าว่า “เมื่อฉันได้ยินเพลงเศร้า ก็ทำให้นึกถึงฉากในหนังที่เจ้านกน้อยพลัดร่วงลงมาจากรัง ในวันที่มีแสงแดดส่องจ้า ท่ามกลางใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นลงมาช้าๆ เป็นสัญญาณบอกว่าชีวิตใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว!! แต่ก็น่าเศร้าใจที่รู้ว่าหลังจากนั้นมีคนพรากชีวิตของมันไป และมันคงไม่มีโอกาสที่จะได้โบยบินอีกครั้ง” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าเธอเป็นคนที่รักสัตว์มากๆ และเธอไม่เคยฆ่าแม้แต่แมลงซักตัวที่อยู่ในบ้านของเธอเลย “ฉันเป็นคนที่รู้สึกอ่อนไหวต่อเรื่องต่างๆ ได้ง่ายมาก ฉันไม่สามารถทนเห็นเรื่องเศร้าแบบนี้ได้โดยไม่ร้องไห้ออกมา” Mikayla กล่าว แต่ถึงอย่างนั้น…
-
เปิดประวัติ ‘นิเชา’ นักแสดงดังจาก ‘เทวดาท่าจะบ๊องส์’ หนังสุดฮาที่เราต่างก็เคยดู!!
พูดถึงวงการตลกแล้ว เราคงจะข้ามเขาคนนี้ไปไม่ได้ นั่นก็คือ นิเชา ชายชาวแอฟริกา ผู้โด่งจากหนังตลกเรื่อง THE GODS MUST BE CRAZY (เทวดาท่าจะบ๊องส์) โดยเขาได้สร้างความฮาให้กับผู้คนมากมาย ทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ ชแต่หากเด็กรุ่นใหม่ที่ไม่เคยดู หรือไม่เคยติดตามก็คงไม่รู้จัก (คนรู้จักนี่ท่าจะแก่กันแล้ว อิอิ) ไม่เป็นไร เดี๋ยว #เหมียวขี้ส่องจะพาไปรู้จักเอง นิเชา เป็นคนชนผ่าซาน (San) หรือ บุชเมน (Bushmen) จากประเทศนามีเบีย ที่อยู่ในทวีปแอฟริกาใต้ เนื่องจากชนเผ่าของเขา ไม่ได้มีการจดบันทึกประวัติ วัน เดือน ปี เกิด จึงมีการคาดเดาว่า เขาน่าจะเกิด วันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2487 เขามีความสามารถในการใช้ภาษาได้ถึง 3 ภาษา นั่นก็คือ ภาษาเฮเรโร ภาษา Tswana ส่วนภาษาแอฟริคานส์ ก็พอสื่อสารได้ นิเชาใช้ชีวิตตามธรรมชาติ ไม่มีเทคโนโลยีแบบคนสมัยใหม่ ด้วยเหตุนี้ทำให้เขาไม่รู้ค่าของเงิน …
-
วันสุดท้ายของเจ้า ‘Daisy’ อดีตหมากู้ภัย ที่ต้องถูก ‘การุณยฆาต’ หลังปัญหาสุขภาพรุมเร้า !!
มีคนเคยกล่าวไว้ว่า ‘ชีวิตคือการผจญภัย’ และแน่นอนว่าสักวันหนึ่งมันก็ต้องจบลง เมื่อเราเดินทางไปถึงจุดหมาย หรืออาจจะจบลงระหว่างทางก็ไม่มีใครรู้ได้ ซึ่งก็เหมารวมไปถึงสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้ด้วย เช่นเดียวกับเรื่องราวของเจ้าหมาพิทบูลที่ถูกเจ้านายสุดแสนใจดีช่วยเหลือมาจากสถานพักพิงสัตว์ และใช้ชีวิตร่วมกันอย่างมีความสุข แต่ด้วยสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรมเนื่องจากถูกโรคภัยรุมเร้า จนเจ้าของที่แสนดีเห็นแล้วว่ามันช่างไม่มีความสุขกับชีวิตเสียเลย พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะให้มันจากไปอย่างสงบ เจ้าหมาตัวนี้มีชื่อว่า Daisy เป็นสุนัขพันธุ์พิตบูลถูกช่วยเหลือโดยคุณ Nina มาตั้งแต่ปี 2002 เธอไปรับเจ้า Daisy มาจากสถานสงเคราะห์สัตว์ Riverside County Animal Shelter ในรัฐ California Nina ได้เล่าว่าในตอนแรกนั้นเธอไม่ได้ตั้งใจที่จะไปรับเจ้า Daisy มาเลี้ยง โดยเธอมีธุระที่จะต้องไปเกี่ยวกับงานที่จะต้องไปทำที่สถานสงเคราะห์สัตว์ แต่พอเดินผ่านกรงขังเจ้า Daisy กลับมีท่าทางเป็นมิตรและส่ายหางกระดุ๊กกระดิ๊กต่อเธอ จึงทำให้ Nina คิดว่าจะต้องพามันกลับไปด้วย จากนั้นพวกเขาก็ได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข โดยในช่วงแรกนั้นเจ้า Daisy ดูจะมีการปรับตัวเข้ากับสุนัขตัวอื่นยากมากๆ เธอต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อทำให้มันคุ้นชินกับโลกภายนอกและสุนัขตัวอื่นๆ ด้วยการพามันออกไปเดินเล่นทุกวันเป็นเวลากว่า 8 ปี และเจ้า Daisy เองก็มีทวิตเตอร์เป็นของตัวเองด้วยนะ โดยมีคุณ Nina…
-
เมื่อ ‘สาวออทิสติก’ วัย 18 ปี ฉลองวันเกิดอย่างโดดเดี่ยว พี่สาวโพสต์ซึ้ง ขอกำลังใจชาวเน็ตหน่อย!!
สำหรับเด็กออทิสติกแล้ว คงไม่มีสิ่งไหนที่พวกเขาต้องการมากกว่าความรักและความใส่ใจจากคนรอบข้าง แต่จะเป็นเรื่องสุดสะเทือนใจขนาดไหน หากเด็กออทิสติกคนหนึ่งจัดงานวันเกิด แต่กลับไม่มีใครมาร่วมงานวันเกิดแม้แต่คนเดียว เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ Hallee Sorenson เด็กสาวออทิสติกวัย 18 ปีคนหนึ่ง เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เธอได้จัดงานวันเกิดครบรอบ 18 ปี โดยเชิญชวนเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาร่วมเฉลิมฉลอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไม่มีเพื่อนคนไหนมาร่วมงานวันเกิดของเธอแม้แต่คนเดียว ทำให้เธอต้องนั่งเหงาๆ และร้องไห้อยู่กับเค้กและของกินเพียงลำพัง ภาพนี้ Hallee ถ่ายคู่กับคุณแม่ของเธอ นับจากวันนั้นเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้ว และวันเกิดของ Hallee ก็กำลังจะเวียนกลับมาอีกครั้ง Rebecca Lyn ลูกพี่ลูกน้องของเธอ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้นขึ้นอีก เธอจึงออกมาเชิญชวนชาวเน็ต ให้ร่วมเฉลิมฉลองวันเกิดกับ Hallee “ทุกคนช่วยอ่านหน่อยนะ นี่คือลูกพี่ลูกน้องของฉัน Hallee เธอเป็นผู้หญิงที่น่ารักทั้งภายนอกและภายใน เธอสามารถทำให้ทั้งโลกสดใสด้วยรอยยิ้มของเธอ เธอเป็นคนที่เป็นห่วงเป็นใย สนุกสนาน ฉลาด และน่ารัก ฉันภูมิใจมากที่ได้เป็นญาติของเธอ เธอเป็นแค่ผู้หญิงโชคร้ายที่มีอาการออทิสติก แต่เธอไม่เคยปล่อยให้สิ่งนั้นมากำหนดชีวิตของเธอ นั่นคือสาเหตุที่ฉันไม่ค่อยบรรยายเธอด้วยคำนั้น (ออทิสติก) เท่าไหร่ ตอนนี้วันเกิดของ Hallee กำลังใกล้เข้ามาอีกแล้ว และฉันมีอะไรบางอย่างที่อยากขอจากพวกคุณ” …
-
25 โมเม้นท์ฮาๆ ของเหล่าสัตว์เลี้ยง ที่ตัดสินใจทำสิ่งผิดพลาด และแทบจะเสียใจในทันใด
ถ้าเพื่อนๆ เลี้ยงสัตว์เลี้ยงกันล่ะก็ แน่นอนต้องเคยมีโมเม้นท์แบบนี้ ที่เจ้าตัวป่วนของเรานั้นตัดสินใจทำอะไรลงไปสักอย่าง ละแน่นอนเป็นอะไรที่พลาดในชีวิตพวกมันอย่างมาก ไอ้เราที่เป็นเจ้าของก็ได้แต่ขำและวิ่งไปหยิบกล้องมือถือมาล่ะเนาะ วันนี้จ่าสิบเหมียวก็มี 25 ภาพโมเม้นท์ฮาๆ ของเหล่าสัตว์เลี้ยง ที่ตัดสินใจผิดพลาดในชีวิตจนมันต้องเสียใจอย่างมากเลยทีเดียว จะฮาขนาดไหนมาดูไปพร้อมๆ กันเลย เจ้าเหมียว เดี๋ยวบอกพี่คนขับพากลับไปส่งที่บ้านด้วยนะ ฮ่าๆๆ เห็นแล้วนึกถึงกะเหรี่ยงเลย >< จะรู้มั้ยว่ามันเล็กไปแล้วน่ะ ลงไปอีท่าไหนน่ะเจ้าเหมียว งานแบบแพ็คคู่ก็มา สงสัยจะอยากขึ้นไปนอนชิวๆ แบบมนุษย์ นี่มุดลงไปหาเศษอาหารมากินอีกแล้วใช่มั้ย!? อยากเอามือขยุ้มหน้าที่แก้มบานๆ นี้แล้วดันกลับเข้าไปจริงๆ เป็นยังไงล่ะ ชอบมุดดีนัก หึหึ เห้ยยยย นั่นขึ้นไปได้ยังไง ฮ่าๆๆๆ ก่อนจะช่วยขอถ่ายภาพไว้ก่อนนะ อิอิ นึกว่ามีเต่าในบ้าน -*- จะช่วยหรือปล่อยมันทำหน้าฟินๆ แบบนั้นต่อดี?? มันมีคนเนียนอยู่ เอ้ยยยย…
-
แกล้งเซอไพร้ส์แฟนด้วยช็อคโกแลต Godiva สุดหรู แต่พอเปิดมาเอิ่ม… ตามภาพนั่นแหละ!!!
หากได้รับของขวัญที่ห่อหุ้มมาด้วยกล่องสวยๆ สุดหรูหรา หลายคนก็คงคาดหวังว่าสิ่งที่อยู่ภายในกล่องจะต้องเป็นมีค่าอย่างแน่นอน ดังภาพของกล่องของขวัญสีทองผูกด้วยโบว์สุดหรูกล่องนี้… แค่ได้เห็นกล่องบรรจุภัณฑ์ เหมียวเชื่อว่าคนที่ได้รับจะต้องยิ้มอ่อนกันทุกคน เอ…แล้วข้างในจะเป็นอะไรนะ มาลุ้นไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า ว้าวววว!! มันคือช็อคโกแลตชื่อดังสัญชาติเบลเยี่ยมยี่ห้อ Godiva ข้างในจะต้องเต็มไปด้วยช็อกโกแลตแสนน่ากินมากมาย ลาภปากละงานนี้!! เปิดกล่องออกมาแล้ว ตื่นเต้นๆ คือ…พอเปิดชึ้นในสุดออกมาเท่านั้นแหละ เรียกได้ว่าฝันสลายกันเลยทีเดียว เพราะแทนที่จะได้รับช็อกโกแลตแสนอร่อย แต่กลับได้รับนมมาแทน ก็เข้าสโลแกนเลยสิทีนี้ ‘รักใครให้ดื่มนม’ เอิบ…เซอร์ไพรส์มั้ยละแก ร้องไห้หนักมากกก โห!! ได้มาตั้ง 5 กล่องแหนะ คนให้ก็เข้าใจคิดจริงจริ๊งงงงง เฮ้อ…สิ่งที่คิดมันช่างตรงข้ามกับความเป็นจริงซะเหลือเกิน ที่มา : ck101
-
ย้อนชมภาพในวัยเด็ก และสมัยเรียน ของ ‘ปอ ทฤษฎี’ ที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
เรียกได้ว่าเป็นข่าวที่สร้างความเศร้าโศกเสียใจ และใจหายให้กับหลายๆ คนไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระเอกหนุ่มขวัญใจประชาชน ‘ปอ ทฤษฎี สหวงษ์’ ที่เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2559 หลังเข้ารับการรักษาอาการป่วยไข้เลือดออกขั้นวิกฤต และภาวะแทรกซ้อนนานกว่า 2 เดือน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นผลงานในวงการบันเทิงของปอมาแล้วมากมาย แถมปอยังเป็นที่รักของแฟนคลับรวมไปถึงเหล่านักแสดงในวงการบันเทิงหลายๆ ท่านอีกด้วย และในวันนี้เราก็จะพาคุณไปชมภาพเมื่อครั้งสมัยเด็กๆ ของพระเอกหนุ่ม ‘ปอ ทฤษฎี’ เรียกได้ว่าเป็นภาพที่หาดูได้ยากมากๆ เลยละ ถึงแม้บรรยากาศในตอนนี้จะเต็มไปด้วยความเศร้าโศก แต่ถึงอย่างไรทางทีมงาน CatDumb ทุกคน ก็ต้องขอเป็นกำลังใจให้กับทางครอบครัว และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อจากการไปของพระเอกหนุ่ม เชื่อว่าชื่อของ ‘ปอ ทฤษฎี’ จะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป ที่มา : kapook
-
ความรักของแม่ ลิงกอริลล่าอุ้มร่างไร้วิญญาณของลูกน้อยไปมาเกือบ 1 อาทิตย์ พยายามปลุกทุกเช้าหวังลูกจะตื่น…
เรียกได้ว่าสะเทือนใจจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ เกิดเป็นคนเกิดเป็นมนุษย์นะเหมียว ถ้าไม่รักลูกรักเต้าแล้วล่ะก็ อายสัตว์มันนะเออ เช่นเดียวกับกรณีของแม่กอริลล่าตัวนี้ Shira ลิงกอริลล่าแห่งสวนสัตว์ Frankfurt ประเทศเยอรมนี วิ่งไปมาในกรงของมันมาเป็นอาทิตย์ โดยอุ้มลูกของมันไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา น่าจะไม่ใช่ภาพที่แปลกตาอะไรมากมาย ภาพเหตุการณ์ แต่อนิจจามันหารู้ไม่ว่าลูกของมันได้เสียชีวิตมาแล้วกว่า 1 อาทิตย์ มันได้แต่อุ้มร่างไร้วิญญาณของลูกน้อยไปไหนมาไหน นำศพมานอนให้ไออุ่นบนหน้าอก และพยายามปลุกลูกน้อยของมันให้ตื่นทุกๆ เช้า ผอ. สวนสัตว์ Manfred Niekisch กล่าวว่า ‘สาเหตุการตายของลูกน้อยยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เพราะว่าเมื่อตอนเย็นวันนั้นเรายังเห็นมีชีวิตอยู่ปกติ แต่พอเช้ามามันก็กลับเสียชีวิตไปซะงั้น แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเลยล่ะ’ เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าธรรมชาติของแม่กอริลล่าและลูกน้อยจะสนิทกันมาก แน่นอนว่าคงต้องใช้เวลา และให้พื้นที่กับ Shira ซะหน่อย เพื่อให้มันยอมรับความจริงอันโหดร้ายนี้ได้ พอปลอดภัยทางเจ้าพนักงานก็จะเข้าไปในกรง นำร่างลูกน้อยออกมาเพื่อดูสาเหตุการตายของมัน… สะเทือนใจเหมียวจริงๆ เจ้ากอริลล่าน้อยมีอายุได้เพียง 1 อาทิตย์เท่านั้น ก็ต้องจากโลกใบนี้ไปเสียแล้ว เห้อออ โลกใบนี้ช่างโหดร้าย -*- ที่มา: Metro
-
สาวจีนงอแงหนัก หลังจากโดนแฟนบอกเลิกผ่านแชท ถึงกับลงไปดิ้นกลางถนน!!
อาการผิดหวังของคนเรามีไม่เท่ากัน หากคนที่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ต่อให้เสียใจมากแค่ไหนก็ยังคงนิ่งได้ แต่บางคนนี่สิยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ ถึงกับต้องกรี๊ดลั่นโวยวายไม่หยุด และทวีความหนักหน่วงมากขึ้นด้วยการลงไปนอนดิ้นบนพื้นอย่างสาวจีนรายนี้!! สาวจีนวัย 24 ปีรายนี้ควบคุมตัวเองไม่อยู่ หลังจากที่เธอโดนแฟนหนุ่มที่คบกันมานานพอสมควรบอกเลิกผ่านแอพพิลเคชั่น WeChat เกิดอาการงอแงหนักสุดขีด ลงไปนอนดิ้นอยู่บนพื้นพร้อมกับตะโกนโวยวาย จนคนรอบข้างตกใจ!! ผู้คนที่ผ่านไปมาก็ไม่รู้จะจัดการยังไงกับเธอดี เพราะสติเหมือนจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ตะโกนออกมาประมาณว่า “ฉันอยากจะอยู่กับเธอตลอดไป” ถ้าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ก็คงไม่ดีแน่ พลเมืองดีก็ช่วยกันหามเธอออกไป คอยปลอบให้เธอได้สติกลับคืนมา ทุลักทุเลยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก แต่ดูเหมือนว่าอาการจะไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว จนในที่สุดก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยและพยายามดึงสติสาวรายนี้ ต่อให้พยายามแค่ไหก็เหมือนจะไม่เป็นผล เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากจะ มัดเธอขึ้นเปลแล้วพาไปโรงพยาบาลเพื่อสงบสติ จะลำบากลำบนแค่ไหน ลองชมบรรยากาศกันได้เลยจ้า ที่มา : shanghaiist