Tag: เหม็น
-
ฝรั่งรีวิว “ไข่เยี่ยวม้า” ชิมแล้วคายทิ้ง พร้อมบอกว่า “เหมือนไข่เน่า” ชาวเน็ตปรี๊ดแตก!!
ไข่เยี่ยวม้า ไข่เนื้อวุ้นสีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ เป็นของโปรดในหลายๆ เมนูอาหารสำหรับชาวไทยและชาวเอเชียหลายประเทศ หลายคนอาจกล่าวว่าความเอร็ดอร่อยของมันอยู่ที่รสสัมผัสของไข่ขาวที่เด้งราวกับวุ้นแต่ส่วนไข่แดงกลับเนียนนุ่ม โดยทั้งสองส่วนให้รสชาติเค็มมันปะแล่มๆ ประกอบกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ซึ่งหาได้จากไข่เยี่ยวม้าเท่านั้น ทว่าชาวต่างชาติโดยเฉพาะฝั่งตะวันตกกลับบอกว่า “ไม่ชอบ” เจ้าอาหารที่เรียกว่า ไข่เยี่ยวม้า หรือ Century Egg แบบสุดๆ บริษัทผลิตสื่ออย่าง Vocativ ได้สร้างวิดีโอการทดลองชิมไข่เยี่ยวม้าโดยชาวตะวันตก แต่คำวิจารณ์และปฏิกิริยาแง่ลบกลับทำให้ชาวเอเชียจำนวนไม่น้อยเกิดความไม่พอใจ เพราะพวกเขาบอกว่ากลิ่นเหมือนกับไข่เน่าแถมรสชาติยังไม่อร่อยอีกด้วย แถมยังมีการคอมเมนต์ว่า “ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคนเราจะกินไอ้ของแบบนี้ได้จริงๆ” ชมคลิปวิดีโอจาก Vocativ ในคลิป Vocativ มีการเขียนอธิบายว่า “ไข่พวกนี้ส่งกลิ่นเหม็นน่าขยะแขยงออกมา แถมเนื้อของมันยังเป็นวุ้นสีมืดๆ ที่ดูไม่น่ากินอีกด้วย” ในช่วงต้นของคลิปจะเผยให้เห็นวิธีการทำไข่เยี่ยวม้า และหลังจากนั้นก็จะเผยภาพปฏิกิริยา ทั้งสีหน้า และคำวิจารณ์ ของชาวตะวันตกที่ลองชิมเจ้าไข่เยี่ยวม้านี้ คลิปวิดีโอแสดงให้เห็นว่าหลายคนที่ชิมไข่เยี่ยวม้านั้นต้องหน้าเบ้ และรีบคายทิ้งอย่างรวดเร็ว Vocativ จึงเขียนคำอธิบายว่า “ชาวต่างชาติต่างต้องพยายามกลืนและยัดอาหารสุดประหลาดนี้ลงคอให้ได้” “แต่บางคนก็บอกว่าหากสามารถทนกลิ่นมันได้ มันก็ถือว่าเป็นอาหารที่อร่อยเลยล่ะ” สุดท้าย Vocativ เสนอว่า “เราควรทานแบบดั้งเดิมน่ะดีที่สุดแล้ว” หลังจากคลิปวิดีโอนี้ถูกเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล…
-
อี๋วววว~ นี่คือสาเหตุที่เราไม่ควรเข้าใกล้ “ศพปลาวาฬ” ทั้งแก๊สทั้งกลิ่นมาเต็ม!!
วาฬ หรือ ปลาวาฬ หลายคนอาจทราบกันดีว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สัตว์ชนิดนี้ถึงแม้จะมีขนาดมหึมาแต่ก็ใช่ว่าจะเป็นสัตว์อันตรายหรือดุร้ายแต่อย่างใด แต่เมื่อพวกมันสิ้นชีพลงมันกลับอันตรายต่อมนุษย์เสียยิ่งกว่าตอนมีชีวิตอยู่เสียอีก ศพของปลาวาฬย่อมเป็นจุดสังเกตของผู้คนเนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่โต บางครั้งศพของมันก็ลอยอยู่เหนือผิวน้ำ บางครั้งมันก็เกยตื้นอยู่ตามชายหาด แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ศพของปลาวาฬไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์อย่างเราควรเข้าใกล้เลยแม้แต่น้อย ต่อไปนี้คือ เหตุผล ที่ทำไมเราถึงไม่ควรเข้าใกล้ศพปลาวาฬ… เมื่อปลาวาฬตายลงภายในศพจะมีแก๊สอัดแน่อยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะในส่วนท้องที่อัดจนพองรอเวลาระเบิดออก เมื่อเซลล์เริ่มเสื่อมสลายลงทีละนิด แก๊สภายในจึงเหมือนระเบิดเวลาที่รอให้เซลล์รับแรงดันไม่ไหวหรือมีอะไรมากระตุ้นจนเกิดการระเบิดออกมา เครื่องในของปลาวาฬสามารถระเบิดออกมาได้ภายในเสี้ยววินาทีโดยไม่มีสัญญาณเตือน หากชายคนนี้ต้องการหลบระเบิดให้ทันต้องใช้ความเร็วออกตัวที่ 70 กม./ชม. เลยล่ะ แถมแรงระเบิดยังทำให้เครื่องในและไขมันของปลาวาฬสามารถปลิวได้ไกลกว่า 50 เมตรอีกด้วย ที่น่าขนลุกยิ่งกว่าแรงระเบิดของแก๊สภายในศพปลาวาฬก็คือ กลิ่นของมันที่เลื่องลือกันว่าเป็นกลิ่นที่เหม็นเน่าที่สุดเท่าที่คนเราเคยสัมผัสมา บึ้ม! เผละ… อี๋… ขอสาบานเลยว่าชาตินี้จะไม่ขอเข้าใกล้ศพปลาวาฬอย่างแน่นอนเลยล่ะจ้า!! ที่มา: thechive
-
อพยพนักเรียนกว่า 500 ชีวิต คิดว่าแก๊สรั่ว แต่พอหาจนทั่ว พบว่าต้นเหตุคือเจ้า “ทุเรียน” นี่เอง
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2018 เวลาประมาณบ่าย 3 โมงเย็น (ตามเวลาท้องถิ่น) ได้เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นในอาคารห้องสมุดของสถาบันเทคโนโลยี Royal Melbourne (RMIT) ประเทศออสเตรเลีย หลังจากที่นักเรียนได้กลิ่นประหลาดคล้ายกับมีแก๊สรั่วภายในอาคารดังกล่าว อาคารห้องสมุด RMIT ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้คุณครูและนักเรียนกว่า 500 ชีวิต จำเป็นต้องอพยพออกมาและรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเป็นการด่วน เพื่อป้องกันการสูญเสียและอาจเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหญ่ตามมาได้ เนื่องจากว่าภายในอาคารนั้นเต็มไปด้วยสารเคมีอันตรายในห้องแล็บวิทยาศาสตร์ เมื่อนักดับเพลิงมาถึงจึงเข้าไปสำรวจภายในตัวอาคาร ตามหาต้นตอของกลิ่นที่นักเรียนอ้างว่าเป็นกลิ่นแก๊สรั่ว จนกระทั่งพวกเขาได้ไปเจอกับที่มาของกลิ่นนั้น แต่ว่ามันกลับไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่ทุกคนคิด หน่วยนักดับเพลิงบอกว่า “หลังจากที่เราค้นหาจนทั่วแล้ว เราถึงได้พบว่ากลิ่นที่ว่านั้นไม่ใช่กลิ่นแก๊สรั่วหรือกลิ่นของสารเคมีอันตราย แต่มันเป็นกลิ่นแก๊สของ ‘ทุเรียน’ ผลไม้ที่มีกลิ่นฉุนรุนแรง ซึ่งมันเหลือเป็นเศษทิ้งไว้ในกระดาษลังภายในอาคาร” ทุเรียน ราชาแห่งผลไม้ที่คนไทยหลายๆ คนชื่นชอบ พวกเขาบอกว่ากลิ่นของเจ้าราชาแห่งผลไม้นี้ได้ลอยไปตามทางของช่องแอร์ ทำให้ทุกคนได้กลิ่นนี้กันอย่างทั่วถึง เกิดเป็นที่มาของการหนีตายในครั้งนี้ หลังจากนั้น หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจึงเข้าไปกำจัดกลิ่นและเคลียร์พวกเศษทุเรียนออกไปจากอาคารจนหมด ก่อนที่จะเปิดอาคารให้ใช้ตามปกติได้ในตอน 6 โมงเย็นวันเดียวกัน กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต ถูกรายงานออกไปในหลายสำนักข่าว ในบางประเทศมีการห้ามไม่ให้นำทุเรียนเข้าตามสถานที่สาธารณะ…
-
Let it Go!! วิทยาศาสตร์อธิบายถึงสาเหตุว่าทำไมเราถึงไม่ควรอั้น “ตด” เอาไว้
การตดนั้น ปกติเราคงจะคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอายหรือน่ารังเกลียด ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะทั้งเสียงและกลิ่นของมันเวลาที่ถูกปล่อยออกมามักจะสร้างบรรยากาศที่กระอักกระอ่วนกันพอสมควรเลยทีเดียว และเมื่อผลลัพธ์ของการตดมักจะออกมาไม่ค่อยดีนัก เราจึงพยายามที่จะอั้นและไม่ตดออกมาอยู่เสมอ ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการทำแบบนั้นมันไม่ดีเอาซะเลย…งง แล้วละสิว่ามันไม่ดียังไง วิทยาศาสตร์นั้นมีคำตอบ!! โดยคำตอบนั้นมาจาก Dr Satish S.C Rao แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคทางเดินอาหารได้ให้เหตุผลว่า ภายในตดนั้นมีอะไรต่อมิอะไรอยู่มากมายทั้ง ไนโตรเจน, ไฮโดรเจน, ออกซิเจน, คาร์บอนไดออกไซด์, มีเทน และก๊าซย่อยๆ อีกเพียบ และมันก็ไม่ส่งผลดีต่อลำไส้ของเราเลย นอกจากนี้ Dr Satish ยังแนะนำอีกว่าการอั้นไว้นั้นจะมีแต่สะสมแก๊ซมากขึ้นๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือความเสียหายต่างๆ เช่นกลิ่น เมื่อมันสะสมมากขึ้น กลิ่นก็จะเหม็นสุดๆ จนอาจจะฆ่าคนตายได้เลยนะ ไม่ได้โม้!! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือไม่ว่ายังไงตดก็จะต้องถูกปล่อยออกมาแม้เราจะอั้นยังไง เพราะตอนเรานอนหลับ ตดก็จะถูกปล่อยออกมาโดยที่เราควบคุมมันไม่ได้นั่นเอง ฉะนั้นการหาทางออกที่ดีที่สุดคือ หาจังหวะคนน้อยๆ หรือที่ลับตาแล้วปล่อยมันออกมาซะ ปล่อยมันไปอย่างที่เป็น เลทอิทโก…. ในการ์ตูนเรื่อง Family Guy ได้บอกไว้ว่า ถ้าผู้หญิงสามารถดมตดของผู้ชายได้ แสดงว่าเธอคนนั้นได้แสดงความรักออกมาแล้ว ฉะนั้นถ้าชอบใครก็ดมตดของเขาซะ!! หรือถ้าใครหาวิธีการตดแบบเนียนๆ ไม่ได้ คลิปนี้มีคำตอบ… เอ่อ…
-
ญี่ปุ่นผลิต ‘หุ่นยนต์หมา’ ที่ช่วยตรวจสอบว่ากลิ่น “ทีน” ของคุณ ยังโอเคอยู่ไหม..!!
กลิ่น ‘ทีน’ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะเมื่อไหร่ที่มันเผลอไปเตะจมูกคนอื่นเข้า ขอให้รู้ได้เลยว่า… มลพิษทางกลิ่นได้เกิดขึ้นแก่เพื่อนร่วมโลกของคุณแล้ว แต่ใช่ว่าปัญหานี้จะไม่มีทางออก เพราะนอกเหนือจากสเปรย์ดับกลิ่นเท้าแล้ว สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีแห่งชาติประจำประเทศญี่ปุ่น (NITkit) ได้ค้นพบนวัตกรรมที่จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นเท้า นั่นคือหุ่นยนต์หมาน้อยนั่นเอง!! (ทำเสียงแบบโดเรม่อนชูของ) นี่คือ.. เจ้า Hana หุ่นยนตร์ 4 ขาขนปุกปุย ที่จะช่วยคุณจัดการกับกลิ่นเท้าที่เหม็นหึ่ง นับว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมสุดเจ๋งของญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะบริเวณ ‘จมูก’ ของเจ้าสุนัขตัวจิ๋วจะถูกใช้งานด้วยเครื่องตรวจจับกลิ่นที่มีขนาดความยาวกว่า 15 ซม. หลักการทำงานของมันก็ง่ายมาก เพียงแค่คุณยื่นเท้าอันหอมหวลไปให้เจ้าตูบดม มันก็จะใช้เซนเซอร์ตรงจมูกตรวจจับกลิ่นโดยจะแบ่งออกเป็น 3 ระดับดังนี้… 1. ถ้ากลิ่นเท้าของคุณอยู่ในเกณฑ์ที่ยังไม่เป็นภัยต่อคนรอบข้าง เจ้าตูบจะแสดงผลด้วยการเดินเข้ามาคลอเคลียกับเท้าของเรา (เหมือนสื่อเป็นนัยยะว่ากลิ่นเท้าไม่น่ารังเกียจ) 2. หากกลิ่นเท้าของเราอยู่ในระดับที่มีความเหม็นพอสมควร และอาจไปกระทบต่อคนรอบข้างได้ เจ้าตูบจะทำการส่งเสียงเห่าเตือนใส่เรา 3. ระดับสุดท้ายพีคสุด..!! ถ้ากลิ่นเท้าของคุณมันแรงซะจนอาจทำให้คนรอบข้างรู้สึกขมคอ เจ้าตูบก็จะแกล้งตายและสลบคากลิ่นเท้าของคุณทันที สิ่งประดิษฐ์สุดบรรเจิดนี้กำลังจะนำมาวางขายในท้องตลาดญี่ปุ่นในอีกไม่นาน ซึ่งราคาเปิดตัวก็อยู่ที่ 100,000 – 200,000 เยน…
-
“คาโอริ” ไอดอล SKE48 ขอร้องแฟนคลับที่มาอีเว้นท์ให้ “ฉีดเต่า” กันหน่อย อิฉันขมคอไม่ไหวแล้ว!!
สำหรับแฟนๆ แล้ว ใครก็อยากจะไปชมผลงานของศิลปินที่ตัวเองรักทั้งนั้นแหละ เช่นเดียวกับแฟนคลับวงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป SKE48 ที่ไม่ว่าพวกเธอจะไปแสดงสดที่ไหน ก็มักจะมีหนุ่มๆ ตามมาให้กำลังใจกันเพียบ เรตติ้งที่เพิ่มมากขึ้นย่อมหมายถึงงานที่เพิ่มขึ้นด้วย ทว่ากลับมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้พวกเธอรู้สึกไม่สบายใจสุดๆ จนต้องออกมาทวีตข้อความให้แฟนๆ ได้รับทราบกัน เกี่ยวกับเรื่องของ ‘จักกะแร้เปียก!!’ คาโอริ ไอดอลวง SKE48 โดยเว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่า เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาศิลปินสาว ‘คาโอริ มัตสูมูระ’ ได้ทวีตข้อความระบายถึงความอัดอั้นในใจมาตลอดเกี่ยวกับกลิ่นเหม็นหึ่งอันไม่พึงประสงค์ที่เธอต้องเผชิญระหว่างหน้าร้อนนี้ในประเทศญี่ปุ่น เจ้าตัวเล่าว่าเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม SKE48 ได้มีอีเว้นท์พบปะแฟนเพลงพร้อมจับมือ ภายในงานก็มีแฟนเพลงมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก แต่เจ้ากลิ่นเหม็นจากจักกะแร้นี่สิ ชวนทำให้เธอรู้สึกขมคอซะจนทนไม่อยู่เลยก็ว่าได้ จากนั้นเจ้าตัวจึงเปิดประเด็นนี้บนโลกออนไลน์ทันที ข้อความในิวีตเตอร์ระบุไว้ว่า: ‘ขอบคุณแฟนเพลงทุกคนมากนะค๊าา ที่ออกมาพบปะพวกเราในงานที่ผ่านมา แต่หลังจบงานเรากลับได้รับคอมเพลนท์ถึงปัญหาหนึ่งที่ซีเรียสมากๆ มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังต่อแถวจะจับมือทักทายกับพวกเรา เธอเล่าว่าเธอไม่สามารถทนกลิ่นเต่าของหนุ่มๆ ทั้งหลายได้ จริงอยู่ที่การตระหนักถึงกลิ่นกายตัวเองอาจเป็นเรื่องที่เราไม่ค่อยสังเกตกัน และนั่นก็เป็นสิ่งที่พวกเรา SKE48 ต้องคอยดูแลด้วยเช่นกัน ดังนั้นเรามาช่วยกันหยิบโรลออนคนละอันสองอันแล้วทาก่อนมาดูคอนเสิร์ตด้วยนะค่ะ’ หลังจากที่เธอทวีตข้อความดังกล่าวลงไป ก็กลายเป็นกระแสฮือฮาให้แฟนเพลงออกมาแสดงความคิดเห็นกันยกใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะไปในแนวที่เห็นด้วยกับเธอ และรู้สึกดีที่เธอกล้าออกมาพูดถึงปัญหานี้่อย่างตรงไปตรงมา…
-
แนะนำวิธีแก้อาการวิงเวียน จากกลิ่น “ต้นตีนเป็ด” ที่ผู้คนโหยหวนทั่วบ้านทั่วเมือง
พอเข้าใกล้ช่วงฤดูหนาวทีไรเราก็มักจะได้กลิ่นกลิ่นหนึ่งเสมอ เป็นกลิ่นเหม็นๆ ที่ลอยมาตามอากาศ บางคนสูดดมเข้าไปมากๆ ถึงกับมีอาการมึนหัวเลยก็มี… ใช่แล้วล่ะกลิ่นที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือกลิ่นจากต้นตีนเป็ดนั่นเอง ต้นตีนเป็ดนั้นมีชื่อเรียกอีกอย่างว่าพญาสัตบรรณ มันคือไม้ยืนต้นที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป นิยมปลูกเพื่อให้ร่มเงาและความสวยงาม เจ้าต้นไม้ต้นนี้จะมีดอกสีเขียวอ่อนเป็นช่อตามปลายกิ่งในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม และแน่นอนว่าเอกลักษณ์ของมันก็คือกลิ่น ที่บางคนบอกว่าเหม็นแต่บางคนกลับว่าหอม คนที่ไม่มีปัญหาอะไรกับกลิ่นของมัน#เหมียวฟิ้นขอแสดงความยินดีด้วยนะ (คุณคือผู้แข็งแกร่ง) แต่สำหรับใครที่ทนไม่ไหวล่ะก็ อย่าเพิ่งหมดหวังไป เพราะว่าเรามีวิธีต่อกรดีๆ มาฝากกันล่ะ วิธีแก้ไขเมื่อกลิ่นมารบกวน สำหรับใครที่รู้สึกรำคาญกลิ่นของมัน วิธีแก้แบบดั้งเดิมเลยคือนำเอาใบพลูสัก 3 ใบมาตำหรือขยี้ให้แหลก จากนั้นก็นำเอายาผงแดงมาผสม (หาซื้อได้ตามร้านขายยา) เมื่อทุกอย่างเข้าที่ก็นำผ้าขาวบางมาห่อส่วนผสมไว้ แล้วเอามาดมเมื่อคุณเกิดอาการวิงเวียนจากกลิ่นต้นตีนเป็ด หรือหากว่าหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็ให้เปิิดหน้าต่างในตอนกลางวันแล้วปิดในตอนกลางคืน เพราะในช่วงนั้นดอกตีนเป็ดจะส่งกลิ่นออกมาเยอะที่สุด แล้วหาพวกดอกไม้แห้งที่ส่งกลิ่นหอมมาไว้ในห้องช่วยเพิ่มกลิ่นสดชื่น หรือจะใช้เป็นพวกเปลือกส้ม ยูคาลิปตัส สเปรย์ดับกลิ่นต่างๆ มาพ่นไว้ในห้อง ก็พอจะช่วยได้เหมือนกัน แต่ถ้าบ้านคุณมีแอร์ การเปิดแอร์ก็ดูจะเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดล่ะนะ วิธีแก้ไขหากบ้านคุณปลูกไว้เอง สำหรับบ้านที่ปลูกเอาไว้ ให้ตัดแต่งกิ่งอยู่เสมอโดยเฉพาะก่อนช่วงที่ดอกจะออกในฤดูหนาว เพื่อให้ดอกของมันออกไม่ทันในฤดูกาล กลิ่นของมันก็จะลดน้อยลงไปได้ หากว่าต้นตีนเป็ดเริ่มสูงมากจนขึ้นไปตัดลำบาก ถ้าบ้านใครมีเครื่องพ่นน้ำแรงดันสูงก็สามารถฉีดไปที่ดอกของมันเพื่อให้ดอกมันร่วงลงไป ทั้งหมดนี้คือวิธีต่อสู้กับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากดอกตีนเป็นล่ะ แม้เราจะไม่ชอบมันขนาดไหน แต่กลิ่นของมันก็ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำ…
-
ผู้เชี่ยวชาญเผยเทคนิค… ‘ตดอย่างไรให้เหม็นน้อยๆ’ ทีนี้จะได้ผายลม ให้สนุกลำไส้
‘ตด’ คำสั้นๆ แต่แฝงไปด้วยความหมาย และกลิ่นตลบอบอวลที่ชวนให้ขมคอ แค่นึกถึงก็รู้สึกว่ามีกลิ่นตุๆ มาแตะที่ปลายจมูกเบาๆ แล้ว ถ้าอยู่ในที่สาธารณะคงไม่มีใครอยากจะดมกลิ่นลำไส้เน่าของคนอื่นหรอกจริงมั้ย? แต่มันคงจะดีถ้าเราตดได้แบบไร้เสียง ไร้กลิ่น เพราะเวลาจะแอบตดทีไร ก็กลั๊วกลัวว่าเสียงมันจะดัง “ฟี๊ดดดดด!!!” แถมมีกลิ่นตามมาอีก ถ้าโดนจับได้ละก็ซวยแน่ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าความเป็นจริงแล้ว คนที่ร่างกายสุขภาพแข็งแรงดี จะผายลมออกมามากถึง 10-20 ครั้งต่อวันเลยทีเดียว วันนี้ #เหมียวบ็อบ เลยพาเพื่อนๆ ไปหาสาเหตุกัน ว่าอะไรทำให้ตดเหม็น แล้วเราจะได้รู้กันว่าควรทำอย่างไร ให้ตดไม่เหม็น ฮ่าๆๆๆ Dr. Myron Brand นักวิทยาทางเดินอาหาร ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ The Thrillist เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ตดเหม็นไว้ว่า “การที่เรามีกลิ่นผายลมอันไม่พึงประสงค์ ไม่ใช่เรื่องแย่หรอกครับ มันแค่เป็นกลไกการทำงานระหว่างอาหารที่เรากินเข้าไป กับแบคทีเรียที่กำลังทำงานอยู่ในร่างกายของเรา ถ้าใครที่ตดออกมาแล้วเหม็น ให้รู้ไว้เลยว่าคาร์โบไฮเดรตที่เราทานเข้าไปนั้น กำลังถูกย่อยสลายและดูดซับอยู่ในร่างกายของเรา เหมือนกับกระบวนการหมักดองที่อยู่ในท้องเรานั่นเอง” แต่การทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ได้ความหมายว่าจะช่วยทำให้ตดเราเหม็นน้อยลงแต่อย่างใดนะจ๊ะ เพราะงานนี้ Cassandra Forsythe นักวิทย์ฯ ด้านโภชนาการออกมาบอกเองว่า…
-
กลิ่นไม่พึงประสงค์ไม่ใช่เรื่องตลก มีปัญหากับการตด ให้ ‘แผ่นกรองกลิ่นตด’ ช่วยบรรเทาสิ!!
หนึ่งในปัญหาของมนุษยชาติเลยก็ว่าได้ กับการตดในที่สาธารณะหรือแม้แต่ในพื้นที่ส่วนตัวก็ตามที เพราะว่ากันด้วยเรื่องของกลิ่นตดนั้น ไม่มีความหอมเหมือนดั่งดอกลาเวนเดอร์แน่ นอกจากคนอื่นจะไม่ชอบแล้ว ตัวเราเองก็ไม่ชอบเช่นกัน (เอ๊ะ!? หรือว่าบางคนอาจจะชอบกลิ่นตดตัวเองหว่า) วันนี้ #เหมียวเลเซอร์ ขอนำเสนอ Subtle Butt แผ่นกรองกลิ่นตด ผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้ผลิตขึ้นโดย Fashion First Aid มาพร้อมกับคุณสมบัติช่วยลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์จากการปล่อยที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ (ช่วยลดความอับอายให้น้อยลงได้) ทั้งนี้การใช้งานก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นำแผ่นกรองมาแปะติดกับบริเวณด้านหลังชั้นในของคุณ คล้ายๆ กับผ้าอนามัยนั่นแหละ เพียงเท่านี้ก็พร้อมที่จะช่วยบรรเทากลิ่นตดของคุณให้เบาบางลงได้แล้วล่ะ ส่วนในเรื่องของราคาก็อยู่ที่ 12.95 ดอลลาร์ (ประมาณ 458 บาท) มีทั้งหมด 5 ชิ้นด้วยกัน นับว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจมากๆ เลยแฮะ ช่วยทำให้กลิ่นตดเหม็นๆ หายไปได้ แต่ในเรื่องของเสียงตดนั้นขึ้นอยู่กับการควบคุมของแต่ละคนแล้วล่ะ ฮร่าาาาา ที่มา : subtlebutt, Fashion First Aid
-
ชมคลิปสุดฮา เมื่อแมว “ดมเท้าเจ้านาย” ถึงกับหงายท้องกันเลยทีเดียว!!!
กลิ่นเท้าไม่ใช่เรื่องตลกเลย หลายคนคงเคยประสบปัญหากับเพื่อนในห้องเรียนไปเตะบอลมา แล้วพอเข้าเรียนก็ต้องถอดรองเท้า พอเรียนไปได้สักพักเท่านั้นแหละ ห้องเหมือนถูกรมด้วยแก๊สพิษทันที แม้แต่อาจารย์ก็ทนแทบไม่ไหว แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านมาพบกับกลิ่นเท้าของชายคนนี้ ที่ยื่นให้แมวของเขาได้ดม ซึ่งดูจากสีหน้าของแมวแล้ว ก็พอจะรู้ว่ากลิ่นไปยังไง แต่ที่ฮาก็คือการแสดงออกของมันนี่ควรได้รับรางวัลออสการ์ไปเลยนะ เราไปดูคลิปกันเลยดีกว่า แมวคงคิดในใจว่า “เจ้านายฮะ ไปล้างเท้าเถอะ ก่อนที่จะเสียสัตว์เลี้ยงของคุณไป” ที่มา 郭恩劭