Tag: เฮอร์ริเคนเออร์มา
-
นักโทษกว่า 100 คนในหมู่เกาะ British Virgin หนีออกจากคุกไปได้ หลังเฮอร์ริเคนเออร์มาเข้าถล่ม…
ณ เวลานี้สำหรับใครที่ได้มีโอกาสติดตามข่าวต่างประเทศอย่างใกล้ชิด คงจะทราบกันดีว่าในหลายๆ พื้นที่นั้นกำลังประสบกับภัยพิบัตรทางธรรมชาติอย่างพายุเฮอร์ริเคนอยู่ และหนึ่งในนั่นก็คือหมู่เกาะ British Virgin ด้วย นอกจากอาคารบ้านเรือนต่างๆ จะได้รับอันตรายแล้ว ยังมีอีกหนึ่งปัญหาใหญ่นั่นก็คือ หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนเออร์ม่าได้พัดเข้าถล่มหมู่เกาะ British Virgin คาดว่ามีนักโทษมากกว่า 100 คนที่อาศัยช่วงจังหวะที่เรือนจำได้รับความเสียหายหลบหนีออกไปได้!! จากการรายงานของ Sky News คาดกันว่านักโทษราวๆ 120 คนได้พากันหลบหนี โดยอาศัยเส้นทางของอาคารที่ได้รับความเสียหาย หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนดังกล่าวได้พัดเข้ามาที่เกาะ Tortola ทางด้านคุณ Paul Exner ผู้ประกอบกิจการด้านเรือสำราญที่อาศัยอยู่ในเกาะแห่งนี้ได้ให้สัมภาษณ์ว่า เหล่าผู้ต้องขังที่นั้นถูกคุมตัวด้วยเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ แต่ดูเหมือนว่าจะมีจำนวนมากจนเจ้าหน้าที่ยอมปิดตาข้างหนึ่ง ปล่อยพวกเขาไป หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าวถูกแพร่กระจายออกไป จึงได้มีการส่งกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากสหราชอาณาจักรไปยังในพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าไปจัดการและตามตัวของเหล่านักโทษกลับมา โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง 2 นาย พร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 53 นาย จากสถานีตำรวจทั้ง 14 แห่ง ได้เดินทางออกจากสนามบิน Brize Norton เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเพื่อไปสมทบกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แล้ว รายงานระบุเป็นการปิดท้ายว่าพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ที่พัดถล่มทะเลแถบแคริเบียนครั้งนี้ถือว่ามีความรุนแรงมากที่สุดอีกลูกหนึ่ง ซึ่งมูลค่าความเสียหายบนเกาะ British Virgin ครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านปอนด์ หรือกว่า…
-
18 ภาพที่จะเผยให้เห็นว่า “พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา” สร้างหายนะให้กับมนุษย์ได้มากแค่ไหน…
พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ถือเป็นอีกหนึ่งภัยธรรมชาติที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อมนุษย์ โดยพายุดังกล่าวเป็นพายุลูกใหญ่ และมีความร้ายแรงกว่าพายุเฮอร์ริเคนฮาร์วีย์หลายเท่าตัว!! และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทางสื่อต่างประเทศมีรายงานว่า พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ได้มุ่งหน้าไปยังทะเลแคริบเบียน เข้าสู่เกาะประเทศแอนติกา บาร์บูดา ในมหาสมุทรแอตแลนติก และหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน ที่มีกำลังแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้คนนับล้านกลายเป็นคนเร่รอน และไร้ที่อยู่อาศัย เนื่องจากพายุลูกนี้ได้สร้างความเสียหายอย่างหนัก จนทำให้ผู้คนไม่มีน้ำ ไม่มีไฟใช้ โดยล่าสุดมีรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 10 ราย วันนี้เราได้รวมภาพถ่ายความเสียหายที่เกิดขึ้นจาก “พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา” มาให้ได้รับชมกัน ว่าแล้วก็มารับชมกันเลย 1.ผู้คนได้พากันอพยพสัตว์เลี้ยงของพวกเขา 2.ภาพก่อนและหลังการเกิดเหตุพายุลูกใหญ่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน 3.อ่าว Paraquita ก่อนและหลังเกิดเหตุ 4.บรรดาน้องหมาที่มาหลบภัยอยู่ใต้ต้นไม้ ที่รัฐโดมินิกัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา 5.แนวชายฝั่งของเกาะเซนต์มาร์ติน ที่ได้รับความเสียหายจากพายุดังกล่าว หลังคาบ้านที่ปลิวออกจากตัวบ้าน และถูกพัดออกไปอยู่บนถนน 6.Beach Plaza Hotel บนเกาะเซนต์มาร์ติน ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน 7.ภาพความเสียหายของร้าน Popular Honky Tonk ในเมือง…
-
‘พายุเฮอร์ริเคนเออร์มา’ พัดถล่มสนามบินที่ชื่อดัง Princess Juliana สร้างความเสียหายมหาศาล!!
สนามบินนานาชาติ Princess Juliana ถือเป็นสนามบินที่มีชื่อเสียงระดับโลก แต่ตอนนี้สนามบินดังกล่าวถูกพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่โจมตี จนเละเทะไปหมด มีรายงานพายุเฮอร์ริเคนเออร์มา ได้เคลื่อนผ่านสนามบินนานาชาติ Princess Juliana ด้วยความเร็ว 185 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราวๆ 290 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณพระ!) ทำลายรั้วกั้นและชายหาด Maho ที่อยู่ติดกัน นอกจากนี้พายุยังได้พัดทรายไปกองอยู่บนรันเวย์ ในขณะที่ก้อนจำนวนมากได้ตกลงมาใส่เครื่องบินจนได้รับความเสียหายหนัก ซากสิ่งของถูกกระจายอยู่ทั่วรันเวย์ หลังจากที่พายุเฮอร์ริเคนพัดเข้าเกาะแซงมาเตียง ก็เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงขึ้นทั่วเกาะ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สั่งให้ประชนชนอพยพออกจากพื้นที่โดยด่วน แต่จนถึงขนาดนี้ยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พายุได้พัดผ่านเข้าอาคาร จนทำให้ข้าวของกระจายอย่างที่เห็น Alex Woolfall หนึ่งในผู้ที่อยู่บนเกาะตอนที่พายุเข้า เล่าว่าตอนนั้นเขาและนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ อยู่ในอาคาร อยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงพายุ ก่อนที่ข้าวของจะพังลงมาและถูกพัดกระจายไปทั่ว ในขณะที่ Brit Carolyne Coleby เจ้าของธุรกิจเกสต์เฮาส์แห่งหนึ่งบนเกาะเล่าว่า ชาวบ้านแถวนั้นพยายามจะปกป้องบ้านและทรัยพ์สินด้วยเอง ด้วยการนำบอร์ดมาตั้งเพื่อกันลม ท่าเทียบเครื่องบินถูกพายุทล่มจนขาดเป็นสองส่วน เธอบอกอีกว่า “ก่อนที่เกิดพายุเฮอร์ริเคนนี้ ท้องฟ้าสดใส แดดส่องสว่างจ้า แต่แล้วอยู่ดีๆ พายุก็เข้าในแบบที่เราคาดไม่ถึงเลย” เที่ยวบินหนึ่งของสายการบิน British…