Tag: แคนาดา
-
ชายหนุ่มอ้างไปเยือนปี ค.ศ. 3700 เตือนอาจมี “สงคราม” ระหว่างมนุษย์ VS หุ่นยนต์!!
ช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมานี้ มีผู้คนจำนวนไม่น้อยเลยที่กล่าวว่าตนเองนั้น “ย้อนเวลากลับมา” หรือว่าเป็น “นักท่องเวลา” ที่เคยไปเยือนมาแล้วทั้งอดีตและอนาคต และแล้ววันนี้ก็กลับมาอีกราย ชายนามว่า Mike อ้างว่าเคยไปเยือนโลกมนุษย์ในปี ค.ศ. 3700 มาแล้ว และได้กลับมาในปัจจุบันเพื่อเตือนว่าในอนาคตจะเกิด “สงคราม” ระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ Mike เล่าถึงการผจญภัยในปี 3700 ของเขาว่า เขาได้ช่วยเหล่ามนุษย์ทำลายเหล่าหุ่นยนต์ด้วยมือเปล่า แถมมีการหยิบชิ้นส่วนหุ่นยนต์เหล่านั้นติดไม้ติดมือมาด้วย เขาเล่าว่าเมื่อเขามีอายุได้ 18 ปี เขาได้เข้าทำงานใน National Secure Laboratory และเล่าเพิ่มว่าเขาเคยได้รับภารกิจ “ลับ” หลายต่อหลายครั้ง เขากล่าวว่า… “เราท่องเวลาไปยังปีต่างๆ แบบสุ่ม แต่เป้าหมายหลักของเราก็คือ ปี ค.ศ. 3700” ชมคลิปการบรรยายของ Mike นักท่องเวลา Mike ยังเล่าต่ออีกว่าเขาเคยไปยังปี 3700 ราว 18 ครั้งแล้ว ในโลกยุคนั้นมีแต่หุ่นยนต์ที่สามารถควบคุมระบบปฏิบัติการได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะหุ่นยนต์ที่เป็นทหาร พวกมันดูเป็นอาวุธสังหารที่สมบูรณ์แบบอย่างมาก เขาเล่าว่า “ในวันที่…
-
ชาวเน็ตตะลึง พบผืนป่าสั่นไหวในแคนาดาคล้าย “กำลังหายใจ” แต่แท้จริงคืออะไรกันแน่?
ธรรมชาติมักสร้างปรากฏการณ์ประหลาดๆ ให้ผู้คนได้ตื่นตกใจกันอยู่เสมอ อย่างเช่นเหตุการณ์ในวันนี้ ป่าแห่งหนึ่งในประเทศแคนาดา ได้มีผู้คนพบเห็นว่าต้นไม้และพื้นดินมีการขยับขึ้นๆ ลงๆ ราวกับว่า “ป่ากำลังหายใจ” อะไรทำนองนั้น โดยผู้ที่ถ่ายวิดีโอมาก็คือทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @DannyDutch นั่นเอง เราลองไปชมคลิปวิดีโอดังกล่าวนั้นกันเลยดีกว่า The ground looks like it's breathing in this Quebec forest. pic.twitter.com/AeETAYJOdN — Daniel Holland🎗🏴 ॐ (@DannyDutch) October 20, 2018 คลิปวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ตอย่างมาก เพราะภาพที่เห็นนั้นผู้ถ่ายยืนยันได้ว่าเป็นภาพจริงมิได้ผ่านการตัดต่อหรือตกแต่งใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากคลิปวิดีโอนี้สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวเน็ตไปได้ระยะหนึ่งก็มีคนมาเฉลยว่า ภาพที่เห็นไม่ใช่การหายใจของป่าหรือต้นไม้หรอก แต่เป็นเพราะว่ายามที่ฝนตกหรือมีพายุ ดินจะชื้นมากและสูญเสียความหนาแน่นไป เมื่อลมพัดกระหน่ำใส่ต้นไม้จนไหวเอน รากของต้นไม้จึงขยับตามแรงไหวของลำต้น จึงมีการดันพื้นดินให้สูงขึ้นและต่ำลงตามภาพนั่นเอง ป่าหายใจอีกคลิป (คนละป่ากัน) ในคลิปด้านบนจะเห็นได้ชัดเลยว่า ที่พื้นดินและต้นไม้ขยับคล้ายการหายใจนั้นเป็นเพราะแรงลมและพื้นดินที่ร่วนลง หาใช่การหายใจที่แท้จริงของต้นไม้และผืนป่าไม่ อย่างไรก็ตาม ธรรมชาตินี่มักจะสร้างปรากฏการณ์ประหลาดๆ ให้เราได้ตื่นเต้นกันอยู่เรื่อยเลยนะ!…
-
เกาะส่วนตั๊วส่วนตัว Kaulbach Island ที่ตอนนี้กำลัง “ลดราคา” เหลือ 150 ล้านบาทเท่านั้น!!
ชีวิตที่สงบ มีอิสระ และเป็นเอกเทศ ในยามที่ชีวิตต้องการหลีกหนีความวุ่นวายของสังคมมนุษย์ การใช้ชีวิตบนเกาะส่วนตัว คงเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยสำหรับผู้ที่มีความต้องการที่กล่าวไปข้างต้น ก่อนอื่น เราลองมาชมเกาะ Kaulbach เกาะโดดเดี่ยวงดงาม ใจกลางอ่าวมาโฮนของรัฐโนวาสโกเชีย ประเทศแคนาดา เกาะ Kaulbach ด้วยเนื้อที่กว่า 140 ไร่ พร้อมคฤหาสน์หรูเนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ประกอบกับบรรยากาศทั้งป่าไม้ ชายหาด และน้ำทะเล ทำให้เกาะส่วนตัวแห่งนี้เปิดขายด้วยราคาสูงลิบในปีที่ผ่านมา ภายในคฤหาสน์มี 11 ห้องนอนด้วยกัน พร้อมทั้งของใช้สอยที่จำเป็นต่างๆ ที่ยิ่งกว่านั้น ภายนอกคฤหาสน์ยังมี “ลานจอดเฮลิคอปเตอร์” ไว้สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์อีกด้วย คฤหาสน์หรูเนื้อที่กว่า 1,000 ตารางเมตร . . มองจากระเบียงของที่อาศัยออกไปเห็นพื้นหญ้า ต้นไม้ เกาะเพื่อนบ้าน และท้องทะเล สำหรับการเดินทางโดยเรือ เกาะแห่งนี้ได้จัดเตรียมท่าจอดสำหรับยานพาหนะทางน้ำไว้ที่ฝั่งด้านแผ่นดินแม่แล้ว ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากเกาะไปเพียง 6 นาที นอกจากนี้ สำหรับการเดินทางโดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ เกาะ Kaulbach นี้ยังอยู่ไกลจากท่าอากาศยานนานาชาติ Halifax เพียง…
-
หนุ่มแคนาดา ปั่นจักรยาน 650 กม. จากบ้านมาร่วมงานแข่งจน “ชนะเลิศ” แล้วก็ปั่นกลับบ้าน…
การปั่นจักรยานเป็นอีกแบบหนึ่งในการออกกำลังกายที่ดี แถมสนุกและยังได้เดินทางไปยังที่ต่างๆ อีกด้วย หลายคนอาจคิดว่าการปั่นจักรยานนั้นง่ายและสบาย แต่หากคุณต้องปั่นเป็นระยะทางไกลๆ มันอาจไม่สบายอย่างที่คิด ล่าสุดในงานแข่งขันจักรยานระยะทาง 100 กิโลเมตร Big Red Gravel Run ที่จัดขึ้นเมืองแฮร์ริงตัน รัฐควิเบก ประเทศแคนาดา ชายหนุ่มวัย 31 ปีที่ชื่อว่า Kyle Messier ก็ได้รับชัยชนะในงานแข่งขันนี้ไป แต่สิ่งที่น่าทึ่งก็คือชายคนนี้ปั่นจักรยานมาจากเมืองวอเตอร์ลู รัฐออนแทริโอ ซึ่งมีระยะทางกว่า 650 กิโลเมตร (ประมาณกรุงเทพฯ-ลำพูน) เพื่อมาเข้าร่วมงานแข่งขันในครั้งนี้ แถมหลังแข่งเสร็จไม่กี่ชั่วโมงเขาก็ปั่นกลับบ้าน การเดินทางของ Kyle จากบ้านมาถึงสถานที่แข่งขันใช้เวลาราว 3 วันครึ่ง โดยหลังจากที่เขาได้รับชัยชนะจากการแข่งขันแล้วเขาก็ทานพิซซ่าและงีบไป 2-3 ชั่วโมงก่อนที่จะออกเดินทางปั่นจักรยานกลับบ้านอีก 650 กิโลเมตร Kyle ถือได้ว่าเป็นนักปั่นที่อึดและเก่งกาจอย่างมาก เขาชนะการแข่งขันนี้ได้แม้ว่าตนจะปั่นจักรยานมาแล้วกว่า 650 กิโลเมตร แถมขณะแข่งขันเขายังต้องอดทนกับอาการปวดฟันที่เกิดจากตุ่มหนองอีกด้วย Kyle Messier ช่างเครื่องวัย 31 ปี เคล็ดลับของ Kyle…
-
ลูกค้าเดือดเถียงพนักงานไฟแล่บ ดูแววท่าจะแพ้ ‘ล้างลำไส้’ กลางร้าน ปาอาวุธชีวภาพใส่!!
บ่อยครั้งภายในร้านค้าหรือร้านอาหารต้องให้บริการลูกค้ามากหน้าหลายตา อารมณ์ของลูกค้าแต่ละคนก็มีขีดจำกัดไม่เท่ากัน ยิ่งเป็นในต่างประเทศ หากเกิดความไม่พอใจ อาจมีการต่อว่าตำหนิอย่างรุนแรงตามมา… เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ประเทศแคนาดา ภายในร้านอาหาร Tim Hortons เป็นการฉะหน้ากันระหว่างลูกค้าขี้โมโหกับพนักงานแคชเชียร์หน้าร้าน ซึ่งโดยเบื้องต้นแล้วยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการปะทะครั้งนี้ แต่ภาพเหตุการณ์ที่ถูกบันทึกเอาไว้ได้ กลายมาเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง หลังจากที่ลูกค้ารายนี้ชี้หน้าด่าพนักงานด้วยความไม่พอ แถมดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ยอม และตัวเองกำลังจะแพ้… เถียงยังไม่ทันขาดคำ เธอตัดสินใจล้างลำไส้ตัวเอง ถกกางเกงลงกลางร้านพร้อมดำเนินการ ‘ล้างลำไส้’ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว อาวุธชีวภาพที่ซ่อนอยู่ภายในร่างกายของเธอ ถูกคว้าขึ้นมาจากพื้นและปาใส่หน้าพนักงานทันที!! ก่อนที่จะคว้ากระดาษเช็ดมือมาเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรก และปาใส่พนักงานซ้ำอีกรอบ ภายหลังจากเกิดเรื่องไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Royal Canadian Mounted Police ที่รับผิดชอบในท้องที่ ยืนยันว่าได้ทำการจับกุมและปล่อยตัวลูกค้าคนดังกล่าวไปเป็นการชั่วคราวแล้ว เพราะต้องทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อพิจารณาการตั้งข้อหาเสียก่อน คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายในร้าน สำหรับประเทศแคนาดา หากประชาชนกระทำอนาจารในที่สาธารณะ ด้วยเหตุจงใจเหยียดหยามหรือรุกรานผู้อื่น อาจถูกตัดสินมีความผิดตามข้อกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ที่มา: barstoolsports, dailymail
-
ครูสั่งห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ นักเรียนเลยพกเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาเลย!!
ลูกเล่นตุกติกของกลโกงข้อสอบนั้น มีทุกยุคทุกสมัยเสียจริง ตั้งแต่วิธีการจดโน้ตเล็กๆ เก็บในกระดาษใบน้อย การบอกข้อที่ถูกต้องผ่านโค้ดลับต่างๆ สารพัดวิธีที่คนอยากจะโกงข้อสอบนั้นสุดจะคิดได้… ยิ่งในสมัยนี้ เทคโนโลยีทำให้สะดวกสบายมากขึ้น และการมาของสมาร์ทโฟนที่สามารถใช้ค้นหาข้อมูลตามที่ต้องการได้ ก็ไม่แปลกที่จะถูกสั่งห้ามใช้ ห้ามพกเข้าห้องสอบไปตามระเบียบเพื่อป้องกันการโกง อีกหนึ่งเหตุผลที่มักจะใช้อ้างก็คือ ใช้โทรศัพท์เพื่อฟังเพลงระหว่างทำข้อสอบ Eric Saueracker คุณครูชาวแคนาดาท่านนี้ ก็รู้ในความต้องการของนักเรียนเป็นอย่างดี แต่ก็ไม่อาจไว้ใจได้ว่าจะแอบใช้หาคำตอบกันหรือเปล่า ก็เลยสั่งห้ามไม่ให้พกเข้าห้องสอบ เพื่อให้การสอบวิชาฟิสิกส์นั้นเป็นไปตามที่หวังไว้ แต่แล้วนักเรียนคนหนึ่งก็ทำให้เขาปวดใจกับวิถีโบราณ เพราะดันนำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้าห้องสอบแทนนี่สิ! ในขณะที่นักเรียนคนอื่นๆ นำ แผงกั้นมาวางไว้หน้าตัวเองเพื่อกันคนอื่นลอกคำตอบ แต่หมอนี่ดันใช้เครื่องเล่นแผ่นเสียงเปิดเพลงของ Kanye West อัลบั้ม The College Dropout ตลอดเวลาที่ทำข้อสอบเลย ฮร่าาาา ทางด้านนาย Eric คุณครูผู้สอนให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ในระหว่างการทำข้อสอบมิดเทอมของวิชาฟิสิกส์ คำตอบในข้อสอบมีในอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้นก็ต้องห้ามนำโทรศัพท์เข้าห้องสอบ…. ผมพูดติดตลกไปว่า สามารถนำเครื่องเล่นเทปหรือซีดีเข้ามาได้ หากอยากจะฟังเพลง แล้วก็มีนักเรียนคนหนึ่งถามว่านำเครื่องเล่นแผ่นเสียงเข้ามาได้รึเปล่า?” “ผมก็คิดว่าทำไมจะไม่ได้ล่ะ เจ้านี่มันหัวหมอชะมัดผมก็บอกไปว่าโอเคไม่มีปัญหา แล้วเขาก็เอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาจริงๆ ลากสายยาว…
-
นายกฯ แคนาดายืนยันไม่ซ่อมบ้านพักตัวเอง เนื่องจากเกรงใจภาษีของประชาชน
ในขณะมีบางประเทศพยายามนำเงินภาษีของประชาชนไปสร้างบ้านพักบนภูเขาสูง นำเงินไปซื้อเครื่องเก็บเงินอัตโนมัติบนรถเมล์ (ที่ใช้การไม่ได้) และอีกสารพัดการจับจ่าย อีกมุมหนึ่งของโลกกลับมีประเทศหนึ่งที่ไม่กล้านำเงินภาษีของประชาชนมาใช้จ่ายแม้แต่การซ่อมบ้านพักประจำตำแหน่งของตัวเอง ประเทศที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือประเทศแคนาดาที่มี Justin Trudeau เป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน และตามธรรมเนียมของแคนาดา ไม่ว่าใครขึ้นมาเป็นนายกจะต้องย้ายไปอยู่บ้านพักประจำตำแหน่งอย่างบ้านเลขที่ 24 Sussex Drive ตั้งอยู่ในเมืองออตตาวา บ้านหลังนี้แต่เดิมมีชื่อว่า Gorffwysfa (กอร์ฟวิสฟา) ถูกสร้างโดย Joseph Merrill Currier เมื่อราวๆ ปี 1866 – 1868 มีห้องนอนทั้งหมด 34 ห้อง ต่อมาในปี 1950 ได้มีการเข้าไปซ่อมบำรุงเพื่อปรับปรุงให้กลายเป็นบ้านพักสำหรับนายกรัฐมนตรี มีการจดบันทึกไว้ว่าต้องใช้เงินกว่า 5 แสนดอลลาร์สหรัฐหรือราวๆ 15 ล้านบาทในการซ่อมบำรุงเลยทีเดียว จากนั้นในปี 1951 อาคารแห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นบ้านพักสำหรับนายกรัฐมนตรีคนแรก นั่นก็หมายความว่าบ้านหลังนี้มีอายุอานามกว่า 150 ปีแล้วนั่นเอง ตัวอาคารนั้นถูกใช้เป็นบ้านพักเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีไว้เพื่อการว่าราชการ แต่หากมีการประท้วงใดๆ เกิดขึ้น ที่นี่ก็มักกลุ่มคนมาชุมนุมเป็นที่แรกๆ และด้วยความเก่าขนาดนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่วัสดุก่อสร้างหรือสิ่งของตกแต่งภายในจะผุพังไปตามกาลเวลา และแม้จะอยากซ่อมแซมมันขนาดไหนก็ตาม แต่ Justin…
-
จัสติน ทรูโด นายกฯ แคนาดาออกมาขอโทษแมนๆ ว่าเคยทำผิด แม้จะเป็นเรื่องในอดีต!!
ตามปกติแล้วเมื่อผู้นำประเทศต่างๆ ทำผิดในช่วงเวลาการทำงาน เรามักจะไม่ค่อยเห็นผู้นำออกมาขอโทษหรือยอมรับแบบแมนๆ ในสิ่งที่ทำผิดกันสักเท่าไหร่นักและยิ่งเรื่องในอดีตที่ผู้นำคนก่อนๆ เคยทำนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย เพราะน้อยคนมากๆ ที่จะออกมาขอโทษแทน แต่ ‘จัสติน ทรูโด‘ นายกรัฐมนตรีประเทศแคนาดา กลับเป็นผู้นำประเทศคนแรกๆ ที่ออกมาขอโทษบ่อยมากๆ นับตั้งแต่เขาเข้ามาดำรงตำแหน่งจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2015 เขาได้ออกมาขอโทษแล้วถึง 4 ครั้ง ด้วยกัน ครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่เขาเข้ารับตำแหน่งได้เพียง 6 เดือน โดยเขาได้ขอโทษต่อผู้โดยสารที่มากับเรือโกมะกะตะในปี 1914 ซึ่งเรือลำดังกล่าวนั้นได้มีผู้โดยสารชาวซิกข์ อิสลาม และฮินดูลี้ภัยมาเป็นจำนวนมากถึง 376 คน แต่ทางแคนาดาได้ปฏิเสธผู้ลี้ภัยทั้งหมดตามกฎหมายคนเข้าเมือง จัสติน ได้เรียกความผิดพลาดในอดีตดังกล่าวว่า ‘รอยด่างในอดีตของแคนาดา‘ และนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นการออกมาขอโทษต่อเรื่องที่ผู้นำประเทศในอดีตที่เคยทำผิดของเขา ซึ่งนับจากการขอโทษครั้งนี้ก็ยังมีการขอโทษตามมาอีก 2 ครั้งในปี 2017 และล่าสุดในปี 2018 แต่ทำไมกัน ทำไมเขาถึงสามารถออกมาขอโทษได้ง่ายดาย ทั้งที่ผู้นำชาติอื่นๆ นั้นยากที่จะยอมรับผิด ขนาดนาฬิกายังบอกของเพื่อนได้สบายๆ หรือแม้แต่ตัวพ่อของจัสติน ทรูโดอย่าง ‘ปิแอร์ ทรูโด‘ ก็ยังต่างกับลูกสิ้นเชิง ปิแอร์…
-
ชาวเมืองแคนาดางงไปหมด ถูกจากเสียงประหลาดมา 8 ปี และยังหาต้นตอเสียงนั้นไม่เจอ…
บางทีการที่เราได้ยินเสียงที่ไม่ทราบสาเหตุหรือต้นตอ ก็อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาที่เราสามารถมองข้ามมันไปได้ แต่หากว่าคุณได้มาอยู่สถานที่ที่ได้ยินเสียงปริศนามานานกว่า 8 ปี คุณคงไม่สามารถเพิกเฉยได้แน่ เรื่องเกิดขึ้นในเมือง Windsor ในประเทศแคนาดา ที่การใช้ชีวิตของผู้คนที่นั่นถูกรบกวนโดยเสียงปริศนามานานกว่า 8 ปีแล้ว ถึงแม้จะมีหลายคนพยายามที่จะค้นหาต้นต่อและจุดกำเนิดของมัน สุดท้ายก็ไม่มีใครสามารถหาเจอ เสียงปริศนานี้ถูกเรียกว่า “Windsor Hum” ซึ่งได้ออกมารบกวนการใช้ชีวิตของผู้คนกว่า 210,000 คนในเมือง ผู้คนบอกว่าเสียงนี้มีระดับความเข้มข้นและความดังที่ไม่แน่นอน อีกทั้งมันยังเกิดขึ้นแบบสุ่มเวลาอีกด้วย บางครั้งมันเกิดขึ้นเพียง 2-3 ชั่วโมง แต่บางครั้งมันอยู่นานหลายวัน ทำให้หลายคนมีอาการปวดหัว นอนไม่หลับ แสบหู และซึมเศร้า ผู้คนที่ทนไม่ไหวจนกระทั่งต้องย้ายข้าวของออกไปจากเมืองเลยก็มี Sabrina Wiese ผู้อาศัยในเมือง Windsor โพสต์ข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊กว่า “เห็นไหมว่ามีกี่คนแล้วที่ย้ายออกไปจากที่นี่เพื่อหนีเสียปริศนาที่เกิดขึ้น ฉันเองก็อยากจะทำเช่นนั้นมาตั้งหลายปีแล้วเพราะนับวันมันยิ่งไม่มีอะไรดีขึ้น แต่ลองคิดดูหากคุณย้ายออกไปล่ะก็ คนที่คุณรู้จัก คนที่คุณรักก็จะต้องทนได้ยินเสียงนี้ไปตลอด” “คุณไม่มีทางหนีมันพ้น ไม่ว่าคุณจะทำงานที่ไหนก็ตาม เสียงนี้จะตามคุณไปตลอด” Mike Provost วัย 64 ปี กล่าว “หากคุณคิดว่านี่คือเสียงฟ้าผ่า มันคงจะเป็นฟ้าผ่าที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ยาวนานเป็นชั่วโมง เป็นวัน…
-
Wolfdog สายพันธุ์ลูกครึ่งที่น่าสงสารที่สุด จะอยู่ในป่าก็ไม่ได้ จะนำมาเลี้ยงก็อันตราย
น้องหมาหลายๆ ตัวในโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นหมาเลี้ยงหรือหมาป่าก็ล้วนแต่เป็นสัตว์ที่มีความพิเศษในตัวเอง แต่ไม่ใช่หมาทุกสายพันธุ์จะมีที่อยู่อาศัย ได้กินอิ่มนอนหลับในทุกๆ วัน เพราะเจ้าหมาสายพันธุ์ที่เรียกว่า Wolfdog คือหมาที่ไม่มีถิ่นที่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นในเมือง หรือแม้กระทั่งในป่า เจ้า Wolfdog หรืออาจะรู้จักกันในชื่อ Wolf-Dog Hybrid หรือ Wolf Hybrid น้องหมาที่เป็นสายพันธุ์ผสมระหว่างหมาบ้านกับหนึ่งในสี่สายพันธุ์หมาป่า Gray Wolf, Red Wolf, Eastern Wolf และ Ethiopain Wolf แต่เรื่องน่าเศร้าของมันคือมันไม่ถูกนับว่าเป็นทั้งหมาบ้านและหมาป่า หลายๆ คนซื้อมันมาเลี้ยงตั้งแต่มันยังเด็ก แต่ก็ต้องเจอปัญหาจากเจ้า Wolfdog เพราะมันไม่สามารถฝึกให้เชื่องได้เหมือนกับสุนัขบ้านพันธุ์อื่นๆ สุดท้ายเจ้าของก็เลือกที่จะปล่อยมันไป แต่การปล่อยออกมันออกไปจากบ้าน ก็ไม่ได้แปลว่าปัญหาจะจบลงไป เพราะแม้มันจะไม่ใช่สัตว์เลี้ยง แต่มันก็ไม่ใช่สัตว์ป่าเช่นเดียวกัน ทำให้มันไม่มีสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดในธรรมชาติ และด้วยความที่มันไม่ใช่ประชากรของทั้งสองเผ่าพันธุ์ มันไม่สามารถอยู่ในที่ที่สองเผ่าพันธ์ุอยู่ได้ ทำให้ต้องสร้างพื้นที่ที่สามารถอาศัยรวมอยู่เป็นกลุ่มได้ ที่นั่นคือ Yamnuska Wolfdog Sanctuary ที่ตั้งอยู่ในรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา แม้ว่ามันจะมีสัญชาตญาณแบบหมาป่า และชอบที่จะนอนในถ้ำมากกว่าที่จะได้นอนสบายๆ ในเตียงหมา…
-
หญิงตามประกบโจรขโมยกระเป๋า พากลับมาส่งคืนเจ้าของ และเลี้ยงกาแฟปรับชีวิตที่หลงทาง…
เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า Tess Aboughoushe ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาว ที่เพิ่งถูกชิงกระเป๋าสตางค์ไป เธอจึงไล่ตามโจรที่ฉกชิงกระเป๋าสตางค์นั้นไปในตรอกซอกซอยแห่งหนึ่งในเมืองเอ็ดมันตัน รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา สุดท้ายเธอพบว่าคนร้ายกำลังซ่อนตัวอยู่หลังถังขยะ แต่สิ่งที่เธอทำหลังจากพบตัวคนร้าย กลับเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นั่นคือการให้โอกาสกลับตัวกลับใจ เหตุการณ์เริ่มขึ้นหลังจากที่ Tess เพิ่งเสร็จธุระจากการเข้ารักษากระดูกสันหลังในช่วงกลางวันของวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับออฟฟิศ เธอก็สังเกตเห็นว่ามีเรื่องเกิดขึ้นใกล้ๆ เธอเล่าว่า “ฉันกำลังเดินทางกลับออฟฟิศ ขณะที่ฉันกำลังข้ามถนนนั่นเองฉันก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนว่า ‘หยุดนะ เจ้าหัวขโมย มันเอากระเป๋าสตางค์ของฉันไปแล้ว’ มันเหมือนกับในหนังเลย หญิงคนนั้นกรีดร้อง หัวขโมยก็เริ่มวิ่งหนี ฉันไม่ได้คิดอะไรมากนักนอกจากวิ่งตามชายหัวขโมยคนนั้นไป” Tess ไล่ตามชายคนดังกล่าวไปราวสองช่วงตึกก่อนที่จะถึงมุมและหันไปเห็นว่าชายคนนั้นกำลังยืนก้มหน้าเหมือนกับกำลังกลัวอยู่ใกล้ๆ กับอาคารจอดรถ ใบหน้าของเขาเป็นมีรอยข่วนเป็นเส้นๆ ภายใต้ศีรษะที่โกนจนเหี้ยนเตียน ทำให้จิตใจของ Tess สั่นเครือด้วยความเวทนา มือข้างหนึ่งของชายดังกล่าวจกกระเป๋าอยู่ ทำให้ Tess กลัวว่าเขาจะมีมีด แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเลย เขากลับโค้งตัวลงในเสื้อคลุมของเขาและก็ร้องไห้ Tess เล่าต่อว่า “เขาออกมาจากหลังถังขยะนั่น และพยายามพูดจาอย่างไมตรีว่า ‘นี่เป็นกระเป๋าสตางค์ของหญิงคนนั้น ผมไม่อยากทำแบบนี้อีกแล้ว รับไปซะสิ’ จากนั้นฉันก็รับกระเป๋าสตางค์นั้นไว้ และหญิงผู้เสียหายก็มาถึงพอดี ฉันจึงคืนกระเป๋าสตางค์ให้กับเธอ ชายคนนั้นก็อยู่ด้วย…
-
คนขับรถประจำทาง หยุดรถตรงนี้ทุกๆ วัน เพื่อที่จะมาเจอกับ “สุนัขจรจัด” ผู้หิวโหย…
แม้สุนัขจะพูดไม่ได้ แต่เราก็สามารถเดาความรู้สึกของมันจากสีหน้าและการกระดิกหาง เช่นเดียวกับเจ้าตูบในเรื่องราวครั้งนี้เป็นสุนัขจรจัด และมันจะดูมีความสุขทุกครั้งที่เจอหญิงคนขับรถขาประจำ (ซึ่งเธอบอกว่าเวลาเจอกันมันจะกระดิกหางไวมากๆ) เชิญพบกับเรื่องราวดีๆ จากหนึ่งในอาสาผู้เป็นสมาชิกขององค์กร Feed The Furbabies Canada องค์กรการกุศลที่คอยช่วยเหลือเหล่าสัตว์จรจัดด้วยการแจกจ่ายอาหารให้พวกมัน และคอยตรวจสอบความเป็นอยู่ของพวกมันในแคนาดา สาวผู้ไม่ขอเปิดเผยชื่อบอกว่า ความสัมพันธ์ของเธอกับเจ้าตูบนั้นมันเริ่มมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน โดยเธอบังเอิญเจอเจ้าหมาตัวนี้ระหว่างที่มันกำลังคุ้ยขยะอยู่ข้างทางเพื่อหาอะไรกินประทังชีวิต ตอนแรกเธอก็ได้เอะใจอะไรกับมันนัก จนกระทั่งวันเวลาผ่านไป เธอที่ต้องขับรถกลับทางเดิมทุกวันก็ยังคงสังเกตเห็นเจ้าตูบตัวนี้เดินป้วนเปี้ยนไปมาอยู่ตามเส้นทางประจำของเธอ เธอจึงตัดสินใจโยนถุงอาหารสุนัขไปให้มันดู เจ้าตูบที่เห็นถุงอาหารก็ยินดีรับด้วยความเต็มใจ รออยู่ที่เดิมเสมอไม่ไปไหน พอมันได้อาหารปุ๊บ มันก็จะวิ่งไปอย่างมีความสุข โดยที่ทั้งคู่ไม่ต้องพูดคุยกันให้มากความ นับจากวันนั้นมา เจ้าตูบจะมารออยู่ที่เดิม ส่วนอาสาสาวก็จะขับรถมาให้อาหารมันที่เดิมทุกวัน ไม่ว่าสภาพอากาศจะเป็นเช่นไร ทั้งคู่ก็จะมาเจอกันที่เดิมเสมอ จนสุดท้ายก็เกิดเป็นความสัมพันธ์ของสุนัขจรจัดและอาสาช่วยเหลือสัตว์ที่น่ารักสุดๆ ที่มา thedodo
-
ยูทูบเบอร์ลงแรง สร้างบ้านน้อยใจกลางป่า แม้โดดเดี่ยวแต่มีความสุขเหลือเกิน
เชื่อว่าหลายๆ คนคงจะมีความฝันที่จะได้บ้านหลังงามๆ สักหลัง ยิ่งถ้าได้สร้างเองตามใจชอบอยู่ในป่าร่มรื่นสวยงาม (แต่ต้องมีเน็ต) อะไรแบบนั้น โชคร้ายที่พวกเราส่วนมากจะได้ทำแบบนั้นก็แค่ในเกมเท่านั้น แถมเผลอๆ แค่ในเกมยังทำไม่ได้เลยเพราะความคิดสร้างสรรค์ไม่อำนวย อย่างไรก็ตามดูเหมือนยูทูบเบอร์ Shawn James จะสามารถทำบ้านในฝันของเขาออกมาได้จริงๆ แถมยังถ่ายทำผลงานของเขาลงบนยูทูบอีกด้วย บ้านของเขาคนนี้ถูกสร้างขึ้น “อย่างเดียวดายในป่าแห่งหนึ่งที่แคนาดา” และใช้เวลาไปเป็นเดือน เขาบอกว่ามันเป็น กระท่อมไม้แบบดั้งเดิม เพราะเขาสร้างมันขึ้นมาด้วยมือของเขา โดยที่ไม่ได้ใช้เครื่องมือสมัยใหม่หรืออุปการณ์อิเล็กทรอนิกส์เลย Shawn กล่าวว่า “บ้านหลังนี้ทำจากเสารั้วไม้ซีดาร์ยาวสิบสองฟุต (ประมาณ 3.6 เมตร) และมีขนาดมีขนาด 10 ฟุต x 20 ฟุต (ประมาณ 3 X 6 เมตร) โดยมีห้องนอนกว้าง 100 ตารางฟุต (ประมาณ 9.2 ตารางเมตร) อยู่บนชั้นสอง มีพื้นทำจากไม้สนหนา 2 นิ้ว (ประมาณ 5 ซม.) ช่วยกันน้ำและให้ความรู้สึกแบบบ้านแถบชนบท” …
-
คุณลุงคนขับรถได้ช่วยชีวิตเจ้ากวางน้อย เพราะดันไปสังเกตเห็นความผิดปกติบนกองหิมะ
บางคนอาจไม่ชอบการที่เราเป็นคนช่างสังเกตและช่างสงสัย แต่บางเวลา ไอ้การช่างสงสัยและช่างสังเกตนี่แหละที่ทำให้ชีวิตของคนบางคนหรือว่าสัตว์บางตัวสามารถรอดตายได้เลยทีเดียวเชียวล่ะ อย่างเช่นเรื่องราวของคุณลุง Wayne Rowley คนนี้ที่ดั๊นนนนสังเกตไปเห็นอะไรบางอย่างผิดปกติที่เนินหิมะ และเมื่อลุงแกเข้าไปดูก็พบว่ามีหนึ่งชีวิตติดอยู่ข้างใน คุณลุง Wayne เป็นคนขับรถบรรทุกของบริษัทเกี่ยวกับไม้ในรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันพฤหัสที่ 8 กุมภาพันธ์ 2018 คุณลุง Wayne ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติที่ดูเหมือนติดอยู่ภายในกองหิมะข้างทาง เขาขับผ่านไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเขาก็กำลังคิดว่าที่เขาเห็นเมื่อครู่มันคืออะไร จากนั้นเขาจึงหยุด “ฉันไม่แน่ใจว่ามันคืออะไรกันแน่” คุณลุงกล่าว “ฉันคิดว่าฉันน่าจะกลับไปดูอีกทีให้แน่ใจ” และเมื่อคุณลงกลับมาที่กองหิมะ สิ่งที่เขาเห็นก็คือ “ขา” ของสัตว์ที่ติดอยู่ในหิมะนั่นเอง ในสภาพแบบนี้ เจ้าสัตว์ตัวดังกล่าวคงมีชีวิตได้อีกไม่นาน แต่คุณลุง Wayne ก็ยังคงกล้าๆ กลัวๆ เดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อดูให้แน่ใจ “มันคือลูกกวางมูสที่นอนหงายเก๋งอยู่” คุณลุงกล่าว “ฉันลงไปดูว่ามันยังมีชีวิตอยู่ไหม และมันก็หันกลับมามองที่ฉันด้วยล่ะ” ในเมื่อนึกได้ว่ามีเวลาช่วยเจ้ากวางมูสตัวนี้น้อยลงเรื่อยๆ คุณลุงจึงพยายามหาวิธีช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ “ฉันไม่สามารถปล่อยมันไว้อย่างนี้ได้” เขากล่าว “ฉันคิดว่าฉันต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยให้มันรอดออกมาให้ได้” จากนั้นคุณลุง Wayne จึงหยิบพลั่วอันเล็กๆ ออกมาจากรถบรรทุกเพื่อขุดหิมะ คุณลุงบอกว่าเขาได้ใช้พลั่วขุดไปที่รอบๆ…
-
อดีตรมว. กระทรวงกลาโหมของแคนาดา ออกมาบอกว่า ‘อิลลูมินาตี’ มีอยู่จริง!!
เชื่อว่าหลายท่านคงเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้างกับคำว่า องค์กรลับอิลลูมินาตี (Illuminati) เพราะเคยปรากฏอยู่ในภาพยนตร์หรือวรรณกรรมต่างๆ ที่บอกว่าองค์กรนี้เป็นผู้ที่บังคับบัญชาและบงการทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง อีกทั้งยังพยายามที่จะจัดระเบียบโลกขึ้นมาใหม่ …แล้วองค์กรที่ว่านี้มันมีอยู่จริงๆ หรือไม่? ก่อนอื่น มันมีสมมติฐานหลายอย่างเกี่ยวกับองค์กรที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังการเมืองการปกครองนี้ อาจจะใช้เวลาเป็นวันหากต้องการอ่านบทบาทขององค์กรอิลลูมินาตีระหว่างช่วงสงคราม เช่น วินาศกรรม 11 กันยายน 2001 หรือสงครามอื่นๆ และเราก็อาจจะจบลงที่รู้สึกถึงความวิตกกังวลและหวาดระแวง กับเรื่องที่ไม่รู้ว่าจริงแท้แค่ไหน แต่ขณะนี้ ความรู้สึกวิตกกังวลและหวาดระแวงดังกล่าวได้เกิดขึ้นจริงๆ เมื่อ Paul Hellyer อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของแคนาดา ผู้ที่เคยกำกับการกองกำลังป้องกันประเทศในช่วงปี 1960 ได้ออกมากล่าวว่า องค์กรอิลลูมินาตีนั้นมีตัวตนจริงและกำลังควบคุมโลกใบนี้อยู่ ซึ่งทำให้ตัวเขาถึงกับต้องออกมาแจ้งเรื่องนี้ด้วยตัวเอง Hellyer กล่าวว่าการทำโครงการ Lazarus Effect เป็นเทคโนโลยีที่สามารถเปลี่ยนแปลงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนได้ แต่โครงการต้องถูกระงับเอาไว้เนื่องจากองค์กรอิลลูมินาตีต้องการช่วยเหลืออุตสาหกรรมปิโตรเลียม เขาบอกอีกว่าสมาชิกหลายคนในองค์กรอิลลูมินาตีมีส่วนได้ส่วนเสียกับอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงและน้ำมัน จึงต้องการให้แหล่งอุตสาหกรรมเหล่านี้มีผลการผลิตที่ดีที่สุด “คุณกำลังอยู่ในแผนการลับที่ควบคุมโลกนี้อยู่” Hellyer กล่าว “และพวกเขาก็ได้ระงับเทคโนโลยีนี้เอาไว้จนกว่าอุตสาหกรรมน้ำมันจะทำกำไรให้พวกเขาได้เป็นหมื่นหรือแสนล้าน” “มันจะเป็นแบบนี้ไปตลอดจนกว่าคนจำนวนร้อยหรือพันจะรวมกลุ่มกันแล้วออกมาเรียกร้องว่า ‘พวกแกต้องแสดงความบริสุทธิ์ บอกมาว่าเกิดอะไรขึ้น และเปลี่ยนจุดประสงค์หลักของพวกแกซะ แทนที่จะก่อสงคราม ก็เปลี่ยนเป็นการปกป้องโลกไว้ให้คนรุ่นหลัง’” ด้วยความที่ Hellyer เป็นบุคคลระดับสูงทางการเมือง มันอาจทำให้คุณสงสัยว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงมากหรือน้อยเพียงใด ครั้งก่อนเขาเคยอ้างว่า…
-
คู่รักกับสภาพเท้าอันเน่าเปื่อย ผลพวงจาก ‘พยาธิปากขอ’ สิงเท้าเปล่าบนชายหาด!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] วันหยุดทั้งทีใครก็ต้องอยากพักผ่อนให้ชื่นใจ แต่บางครั้งการพักผ่อนนั้นก็ไม่ได้ตามมาด้วยความชื่นใจเสมอไปหรอก มันอาจมีบางสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ตามมาด้วย และอาจทำให้วันหยุดของคุณเลวร้ายลงสุดๆ เลยก็เป็นได้ อย่างเช่นคู่รักหนุ่มสาวชาวแคนาดาคู่นี้ Katie Stephens วัย 22 ปีและ Eddie Zytner วัย 25 ปี ทั้งคู่ได้ใช้ช่วงเวลาวันหยุดด้วยกันที่สาธารณรัฐโดมินิกัน ณ รีสอร์ตแห่งหนึ่ง และได้ไปเดินเล่นเท้าเปล่าบนชายหาดใน Punta Cana แต่หลังจากที่เขากลับบ้านมาในช่วงเดือนมกราคม 2018 กลับรู้สึกคันบริเวณเท้าของพวกเขา ขณะนั้นพวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นเพราะแมลงกัด เมือพวกเขาไปพบแพทย์ก็ไม่มีแพทย์คนไหนทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งเข้าพบแพทย์คนที่ 3 ที่พบว่า “พยาธิปากขอ” อยู่ในเท้าของพวกเขา . หลังจากนั้น พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยา “Ivermectin” ซึ่งหาไม่ได้ในประเทศแคนาคา ทำให้พวกเขาต้องเดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกาเพื่อหายาดังกล่าว และอาการของพวกเขาดีขึ้นอย่างช้าๆ . พยาธิปากขอนั้นสามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้หากคนเราไปสัมผัสโดนพื้นดินหรือทรายที่ปนเปื้อนอุจจาระของสัตว์ที่มีพยาธิติดอยู่ ทางที่ดีควรป้องกันโดยการ สวมรองเท้าหากออกไปข้างนอก ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร และดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณให้ดี เช่น…
-
เมื่อนายกแคนาดาไปออกงาน แทนที่จะโฟกัสที่งาน แต่ดันโดน ‘ถุงเท้าลายเป็ด’ แย่งซีนซะงั้น!?
สำหรับคนใหญ่คนโตที่มีชื่อเสียงนั้น เรื่องของการแต่งตัวดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็จับจ้องเป็นพิเศษไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้าหน้าผม เครื่องประดับต่างๆ เพราะว่าพวกเขาเหล่านี้อาจจะเป็นผู้นำแฟชั่นในอนาคตก็เป็นได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับดารานักแสดงเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่กับผู้นำประเทศต่างๆ ก็ถูกจับตามองเช่นเดียวกัน จะแบ๊วไปไหนพ่อคุ๊ณณ และคราวนี้ก็เป็นคิวของ Justin Trudeau ผู้นำประเทศแคนาดา ที่แทนที่สื่อจะโฟกัสในเรื่องงานที่เขาพูด แต่สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของสื่อได้ดียิ่งกว่ากลับเป็น ‘ถุงเท้า’ ที่เขาสวมใส่ไปออกงานในวันนั้น เพราะมันทั้งน่ารักทั้งน่าเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว ปิดซะหน่อย เริ่มอายละ โดยกระแสครั้งนี้เกิดมาจากการที่ท่านผู้นำประเทศแคนาดาคนนี้ได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเศรษฐกิจโลก ที่เมืองดาฟอส ประเทศสวิตเซอแลนด์ ซึ่งในวันนั้นเขาได้สวมชุดสูทสีน้ำเงินเรียบ แต่สิ่งที่ดูโดดเด่นที่สุดบนตัวของเขากลับเป็น ถุงเท้าสีม่วงลายเป็ดน้อยน่ารักๆ สีเหลืองอ่อน ซึ่งทางสื่อมวลชนได้เก็บภาพถุงเท้าของเขาไว้ได้ระหว่างที่เขานั่งสนทนาปราศรัยอยู่กับ Malala Yousafzai เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ชาวปากีสถานนั่นเอง ถุงเท้าแบบคนคูลๆ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้นำแคนาดาคนนี้ สวมถุงเท้าแปลกๆ ออกสู่สายตาของสาธารณชน เพราะว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาสวมถุงเท้าลวดลายตัวการ์ตูนชื่อว่า Chewbacca จากเรื่อง Star Wars ขณะเข้าพบ Christine Lagarde หัวหน้ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยลวดลายของถุงเท้าของเขาในวันนั้นมันช่างโดดเด่นซะยิ่งกว่าสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น ถุงเท้าลาย Chewbacca จากเรื่อง Star Wars ถุงเท้าลายใบเมเปิลเขาก็เคยสวมใส่…
-
เหมียวนิ้วแหว่งโผล่หน้าบ้านมนุษย์ ทำเนียนร้องขอเข้าบ้าน ที่ไหนได้มันมาขโมยหัวใจนี่หว่า!!
วันนี้จะพาไปรับชมเรื่องราวของเจ้าเหมียวตัวนึงที่ดูแล้วน่าสงสาร น่าเอ็นดู แต่กลับมาขโมยหัวใจกันไปซะดื้อๆ แหม…ก็มันน่ารักซะขนาดนั้นนี่นา ว่าแต่เรื่องราวของมันเป็นมายังไง รีบไปชมกันเลยดีกว่า… วันหนึ่งสองสามีภรรยาได้ยินเสียงร้องเหมียวๆ ที่หน้าประตู พยายามจะขอเข้ามาในบ้าน ยามนั้นเป็นเวลากลางคืนที่หนาวเหน็บ กับสภาพอากาศ -25 องศาใน รัฐออนแทรีโอตะวันออก ประเทศแคนาดา เมื่อเปิดประตูจึงพบแมวน้อยสีขาวสลับเทากำลังหนาวเหน็บร้องหาความอบอุ่น ผู้ใช้เว็บ Reddit ชื่อว่า thejesscat บอกว่า “มันผอมมาก มันเข้ามาขดตัวอยู่ที่เรา เราจึงให้อาหารมัน เพราะมันหายใจแรงเสียจนเรารู้ว่ามันหิวโซ ” จากนั้นไม่นานพวกเขาก็พบว่าเจ้าเหมียวตัวนี้มีบางอย่างที่แสนพิเศษ นั่นคืออุ้งเท้าของมันนั่นเอง โดยเท้าขวาหน้าของมันมีรูปทรงที่แปลกประหลาดมากๆ แต่มองไปแล้วดูคล้ายกับตัวละครของ Star Trek ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Spock จากนั้น เจ้าเหมียวก็ได้ชื่อว่า Spock ทันที “เหมือนมันจะมีนิ้วเกินนะ แต่กระดูกมันกองรวมกันไปหมด บางชิ้นก็อยู่ไหนไม่รู้” thejesscat เล่า หลังจากเจ้าเหมียวเข้าบ้านมา ด้านนอกก็มีหิมะตกหนัก คู่สามีภรรยาจึงดีใจที่เจ้าเหมียวเข้าบ้านมาทันเวลา ขณะเดียวกัน เจ้า Spock ก็ขึ้นไปนอนบนตักมนุษย์คู่รักราวกับจะฝากชีวิตไว้ที่พวกเขาเลยทีเดียว จากนั้นไม่กี่วันอากาศก็หนาวขึ้นเป็น -30 องศา รวมทั้งหิมะก็หนาขึ้นด้วย ขณะนั้นเจ้า…
-
แบ่งปันรอยยิ้ม นักกิจกรรมสาวแจกถุงยังชีพหน้าหนาว พร้อมกัญชา ให้คนไร้บ้านในแคนาดา
“ฉันมอบห่อเล็กๆ 2 ห่อให้กับชายไร้บ้านคนหนึ่ง และฉันคิดว่าทำไมฉันไม่ทำแบบนี้กับคนอื่นๆ ล่ะ??” Amy Anonymous นักเคลื่อนไหวด้านกัญชาและเจ้าของร้านขายยาในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดาเล่าถึงที่มาของจุดเริ่มต้นโครงการของเธอ เรื่องราวการมอบรอยยิ้มของหญิงสาวท่านนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้วในวันหนึ่งระหว่างที่เธอกำลังเดินไปทำงาน หญิงสาวได้พูดคุยกับชายไร้บ้านคนหนึ่งที่กำลังยืนตัวสั่นท่ามกลางอากาศหนาว ก่อนที่เธอจะตัดสินใจมอบของขวัญห่อเล็กๆ 2 ห่อให้กับเขา หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้นนักกิจกรรมสาวเริ่มมองหาเพื่อนๆ ที่พร้อมจะสนับสนุนการบริจาคสิ่งของเพื่อคนไร้บ้านกับเธอ ซึ่งในตอนแรกนั้นเธอตั้งเป้าการบริจาคสิ่งของให้กับคนไร้บ้านเพียงแค่ 15 คนเท่านั้น ในตอนแรกสิ่งของที่เธอมอบให้กับคนไร้บ้านเป็นเพียงของใช้เล็กๆ น้อยที่จำเป็นสำหรับพวกเขา อย่างเช่นถุงใส่ของใบเล็กๆ ถุงมือ และกัญชาอีกนิดหน่อยเพื่อให้พวกเขารู้สึกผ่อนคลาย หลังจากผ่านไป 7 ปี การบริจาคของเธอเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนใน 2018 นี้ Amy และทีมของเธอได้บริจาคสิ่งของให้กับคนไร้บ้านมากกว่า 150 คน และได้รับความร่วมมือจากกลุ่มคนรักกัญชาของแคนาดาอีกด้วย คุณ Amy Anonymous หญิงสาวผู้เป็นจุดเริ่มต้นของการบริจาครอยยิ้มครั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาถุงบริจาคของพวกเขานั้นประกอบไปด้วยหมวกหนึ่งใบ ผ้าพันคอ ถุงอุ่นมือ และบัตรกำนัลจากร้านอาหาร หมวกอุ่น และถุงเท้าอีก 2-3 คู่ สำหรับคนไร้บ้านที่เป็นผู้หญิงนั้นจะได้รับอุปกรณ์เสริมสวยอย่างน้ำยาทาเล็บเพิ่มด้วย หรือใครที่เลี้ยงสัตว์ก็จะได้อาหารสัตว์เพิ่มเช่นกัน และแน่นอนว่าทุกๆ ห่อนั้นจะมีกัญชาอีกนิดหน่อยและกระดาษมวนแถมมาให้ด้วย Anonymous…
-
ลูกค้าถึงกับงง นั่ง Uber ประมาณ 20 นาที โดนเก็บค่าโดยสารไปกว่า 460,000 บาท!?
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มแคนาดาผู้หนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์ราคาแพงของเขา หลังจากที่ถูกคิดค่าโดยสารของบริการรถแท็กซี่จาก Uber เป็นเงินกว่า 18,518.50 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 460,000 บาท!! คุณ Hisham Salama เล่าประสบการณ์ของเขาผ่านทางทวิตเตอร์โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้ใช้บริการดังกล่าว เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลในเมืองโทรอนโต แต่เมื่อมาถึงที่หมายเขากลับถูกคิดค่าบริการเป็นจำนวนเงินมากกว่าครึ่งล้านบาท!! เจอเก็บค่าบริการแบบนี้ แบงค์ 20 ในกระเป๋าถึงกับสั่น!! จำนวนเงินดังกล่าวถูกแจ้งเป็นยอดที่ค้างไว้ในบัตรเครดิตของเขา “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนั่งรถแค่ 20 นาทีผมถึงต้องเสียเงินกว่า 18,518.50 เหรียญ” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อของแคนาดา แต่ถึงแม้จะรู้สึกขำๆ เพราะคิดว่ามันจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นๆ เพราะเขาได้รับข้อความยืนยันจาก Uber ว่าค่าโดยสารดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว “เราได้ยืนยันแล้วว่าจุดเริ่มต้นที่คุณเลือกและปลายที่ทางเลือกนั้นถูกต้องแล้ว กรุณาบอกเราถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ส่วนท้ายของข้อความจาก Uber ถึงคุณ Hisham Salama แบบนี้ก็ยิ่งงงกว่าเดิมสิครับ ในเมื่อระบบช่วยเหลืออัตโนมัติไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณ Hisham Salama ได้ งานนนี้ชายหนุ่มเลยต้องเพิ่งพาพลังแห่งโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นกันต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนนี้ที่เอามือทาบอกพร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวนะ!! นี่เรื่องจริงหรือ??” ส่วนบางคนก็บอกว่าสงสัยเงินดอลล่าห์ของแคนาดาจะไม่เท่ากับของอเมริกาซะละมั้ง??…
-
เด็กหญิงได้รับ ‘ของขวัญสุดพิเศษ’ จากบริษัทตัดต้นไม้ หลังต้นไม้สุดรักของเธอถูกโค่นลงไป
ในช่วงวัยเด็กของเราทุกคน เชื่อว่าต้องมีสิ่งของหรือสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่เราผูกพันเป็นอย่างมาก สำหรับบางคนอาจเป็นหมอนข้างใบโปรดที่นอนกอดทุกคืน บางคนอาจเป็นสัตว์เลี้ยงที่เติบโตมาด้วยกัน สำหรับเด็กหญิง เช คัลลีย์ ชาวแคนาดาวัยสี่ขวบนิดๆ คนนี้ก็เช่นกัน นับตั้งแต่จำความได้ เธอได้เห็นต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งตั้งตระหง่าอยู่บริเวณหน้าบ้านของเธอ คอยมอบร่มเงาและความชุ่มฉ่ำให้กับครอบครัวคัลลีย์ จนเธอรู้สึกผูกพันกับมันเป็นอย่างยิ่ง แต่วันหนึ่งเธอตื่นขึ้นมาเธอก็ได้พบกับสิ่งที่ทำให้เธอต้องใจสลาย เมื่อต้นไม้สุดที่รักของเธอ กำลังถูกโค่นลง “ฉันตกใจมาก ฉันเห็นเธอยืนมองผ่านหน้าต่างออกไปแล้วก็ร้องไห้ ฉันถามเธอว่าเธอเป็นอะไร เธอตอบว่า ‘ต้นไม้!! พวกเขากำลังตัดต้นไม้’ จากนั้นเธอก็ร้องไห้อย่างหนัก” แจ็คกี้ แม่ของเชกล่าว “ต้นไม้ต้นนี้มันยืนต้นตายมาซักพักแล้ว และตอนนี้กิ่งก้านมันเริ่มร่วงลงมา ฉันกลัวจะเป็นอันตรายต่อบ้าน ต่อทุกคนที่อาศัยอยู่แถบนี้ รวมถึงเด็กๆ ด้วย ก็เลยจ้างบริษัทตัดต้นไม้มาจัดการกับมัน” หลังจากต้นไม้ต้นนั้นถูกโค่นลงไป สองแม่ลูกก็พากันเดินไปยังต้นไม้ที่ถูกโค่นลงไป เชเดินเข้าไปกอดต้นไม้ต้นนั้นเป็นครั้งสุดท้ายและกล่าวว่า “ลาก่อนนะเจ้าต้นไม้ ฉันรักเธอ” ถ้าเป็นบริษัทอื่นอาจแค่นำต้นไม้ดังกล่าวไปแปรรูปหรือทำลายทิ้งอย่างไม่ใยดี แต่นั่นไม่ใช่สำหรับบริษัทอัลลิอันซ์ ทรี แคร์ ที่รับหน้าที่ตัดต้นไม้ดังกล่าวแห่งนี้ ในเย็นวันนั้นเอง พวกเขาได้นำของขวัญสุดพิเศษกลับมาให้เด็กหญิงผู้ใจสลาย พวกเขาได้นำไม้บางส่วนจากต้นไม้ดังกล่าว มาสลักตัวอักษรเป็นชื่อของเชและทำเก้าอี้เล็กๆ มามอบให้กับเธอ ซึ่งของขวัญดังกล่าวทำให้เธอประทับใจมากๆ “พวกเราพยายามเยียวยาทุกความเจ็บปวดเท่าที่เราทำได้ และเรารู้สึกดีทุกครั้งที่ได้เห็นคนที่มีความรักความผูกพันต่อต้นไม้เหมือนกับพวกเรา”…
-
ชาวเน็ตผงะ!! สภาพห้างดังใน ‘แคนาดา’ หลังประกาศเซลส์ เละตุ้มเป๊ะไม่เป็นท่า..!?
เป็นธรรมดาอย่างที่เราทราบกันดีว่า เมื่อไหร่ที่ของแบรนด์เนมตามห้างประกาศเซลส์ลดราคาเมื่อไหร่ เหล่านักช็อปก็จะตามแห่แหนไปแย่งซื้อกันจนล้นห้าง ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีชาวเน็ตออกแชร์พฤติกรรมของนักช็อปในห้าง SEARS จากประเทศแคนาดา หลังมีการประกาศเซลส์ครั้งใหญ่แบบลดล้างสต็อคก่อนที่ห้างจะปิดตัวลง และนี่คือสภาพในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น… โซนรองเท้าผ้าใบถูกรื้อกระจัดกระจาย หลังห้างประกาศลดราคาสินค้าทุกอย่างลง 20 – 50% ผู้คนก็เลือกซื้อกันอย่างบ้าคลั่ง มีการฉีกกล่องทิ้งเรี่ยราดเต็มไปหมด… ชาวเน็ตเจ้าของภาพเล่าว่า มันเต็มไปด้วยความบ้าบิ่นของมนุษย์ ทุกคนเลือกที่จะโยนของที่เลือกมาแต่ไม่ต้องการทิ้งอย่างไม่ใยดี เพียงเพราะมันลดราคา ภายในไม่กี่ชั่วโมงทั่วทั้งห้างก็เต็มไปด้วยกองขยะที่เกิดจากความเห็นแก่ตัวของผู้คน ไม่ใช่แค่โซนเครื่องแต่งตัวเท่านั้น แม้แต่ชั้นวางสินค้าอย่าง ‘หมอน’ ก็ถูกเทกระจาดเช่นกัน ชาวเน็ตบางคนเล่าว่า นักช็อปทั้งหลายแค่ต้องการจะหยิบมันมาก่อนเพียงเพราะมันลดราคา พวกเขาต่างพยายามหยิบมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ต้องการ ชั้นวางรองเท้าผู้หญิงไม่ต้องพูดถึง เละที่สุดในห้างเลยก็ว่าได้ แต่ถึงกระนั้นเหล่านักช็อปหลายคนก็ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า “ยังลดราคาได้ไม่น่าพอใจ ทำให้ตัดสินใจไม่ซื้อของหลายอย่างที่หยิบมา” พฤติกรรมดังกล่าวของผู้บริโภคในห้างแคนาดา ก็ได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตจากทั่วโลก… บ้างก็เล่าว่าเคยทำงานในห้างมาก่อน และก็ไม่เคยเข้าใจว่าทำไมทุกครั้งที่มีลดราคา ผู้คนจะต้องทำนิสัยแบบนี้อยู่เสมอๆ บ้างก็เห็นใจพนักงานที่ต้องคอยรับมือกับผู้บริโภคแย่ๆ แบบนี้ แต่ชาวเน็ตบางคนก็ออกมาแซะว่า… ทีนี้ละคนแคนาดาก็อย่ามาว่าให้คนอเมริกันตอนช่วง Black Friday…
-
น้ำตาแห่งการจากลา.. Justin Trudeau หลั่งน้ำตาหลังนักร้องดังเสียชีวิต จนผู้คนแห่ให้กำลังใจ
ดูเหมือนว่าคนหล่อไม่ว่าจะอยู่ในอิริยาบถไหนก็จะยังดูหล่อเสมอ เช่นเดียวกับ Justin Trudeau ที่แม้แต่ร้องไห้ก็ยังดูหล่อได้อีก..!! โดยเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานการออกมาแสดงความเสียใจของ Justin Trudeau ที่มีต่อนักร้องชื่อดังชาวแคนาดา Gord Downie น้ำตาลูกผู้ชาย… Gord Downie คือนักร้องและนักแต่งเพลงชาวแคนาดา ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนหนุ่มสาวมาแล้วหลายรุ่นด้วยเสียงเพลงและถ้อยคำจากปลายปากกาของเขาเอง และเมื่อวันอังคารที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมาก็ได้มีการรายงานการเสียชีวิตของ Gord Downie ด้วยวัย 53 ปี จากอาการร้ายของมะเร็งสมองที่เจ้าตัวพยายามต่อสู้มาตั้งแต่ปี 2015 “เช้านี้เราได้สูญเสียหนึ่งในบุคคลที่สำคัญต่อประเทศของเรา Gord เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผม และ Gord จะยังคงอยู่ในใจพวกเราทุกคน” Justin กล่าว นอกจากนั้นในฐานะของนายกรัฐมนตรีของประเทศ ยังได้ออกมากล่าวว่า Gord Downie ก็เป็นเพื่อนสนิทของเขาอีกคนหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันกับชาวแคนาดาทุกคน นั่นคือการทำให้ประเทศของพวกเขาเป็นที่ๆ ดีกว่า “Gord Downie ไม่ได้จากเราไปไหน… แม้ว่าร่างของเขาจะได้พักผ่อนอย่างสงบสุขตลอดกาล…
-
เมื่อทางแคนาดา ให้ทีมงานสตูดิโอเรื่อง Your Name ช่วยทำวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยว ว๊าววว..!!
แม้ว่ากระแสของ ‘Your Name’ จะซาไปเยอะแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังคงอินและตรึงตาตรึงใจอยู่ ขอบอกว่าคราวนี้ผลงานจากทีมผู้สร้างเดิมกลับมาอีกครั้ง แต่อยู่ในรูปแบบที่ต่างออกไป… เพราะจากกระแสความโด่งดังของการ์ตูน บวกกับเนื้อหาที่ช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวให้กับญี่ปุ่นได้ด้วย จึงทำให้งานนี้ประเทศฝั่งตะวันตกอย่าง ‘แคนาดา’ ถึงกับตกลงจ้างทีมงานจากสตูดิโอ CoMix Wave Films ให้ช่วยทำวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยวให้เลยทีเดียว ธีมหลักของเรื่องนี้จะเกี่ยวกับคู่รักหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น กับการเดินทางตามหาความสวยงามแห่งธรรมชาติในประเทศแคนาดา แม้ว่าคลิปวิดีโอโปรโมท ‘Warm Winter Canada’ จะมีขนาดความยาวเพียงแค่ 0.31 วินาที… แต่ด้วยลายเส้น รูปแบบ และองค์ประกอบอื่นๆ แล้ว หลังจากที่ได้ชมชาวเน็ตต่างก็รู้สึกหวนกลับไปคิดถึงเรื่องราวใน Your Name อีกครั้ง แม้คำว่า ‘Warm Winter’ ดูจะป็นคำที่เกิดขึ้นได้ยากกับสภาพอากาศของประเทศแคนาดา ทว่าทางทีมงานก็ต้องการจะสื่อสารให้ผู้ชมได้รู้สึกว่า แม้อุณหภูมิจะต่ำแต่การได้ออกเดินทาง การได้มีช่วงเวลาดีๆ ระหว่างท่องเที่ยวในแคนาดา จะช่วยทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนรู้สึกหายหนาวไปในทันใด และนี่คือวิดีโอโปรโมทการท่องเที่ยวของแคนาดา ที่มาในแบบของอนิเมะจากฝั่งญี่ปุ่น นอกเหนือจากนั้น ผลงานอนิเมะ…
-
สีสันแห่งการเลือกตั้ง เมื่อ ‘หมา’ เข้าร่วมชิงตำแหน่ง นายกเทศมนตรีประจำเมืองแคนาดา!!
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีประจำเมือง หรือผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกคนก็คงจะเคยเห็นกันมาแล้ว หรือหากว่าอายุเกิน 18 ปี ก็คงจะต้องเคยไปลงคะแนนเลือกตั้งกันมาบ้าง ทว่าการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีที่เกิดขึ้นในเมืองเซนต์จอห์น ประเทศแคนาดานั้น กลับมีความแปลกออกไป เมื่อมีเจ้าหมาตัวหนึ่งได้ลงชื่อเข้ามาสมัครชิงตำแหน่งกับเค้าด้วย!? สุนัขตัวนี้มีชื่อว่า Finn เป็นสุนัขสายพันธุ์ออสเตรเลียน แคทเทิล วัย 5 ปี ผู้ลงสมัครตัวใหม่ของเมือง พร้อมกับมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอประกาศการลงเลือกตั้งครั้งนี้เอาไว้ในเฟซบุ๊คอย่างเป็นเรื่องเป็นราว แถมยังมีการเอ่ยถึงนโยบายของตัวเองอีกต่างหาก แต่ว่าไม่ต้องตกใจไปหรอก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเจ้าหมาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่เบื้องหลังของเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากผู้เป็นเจ้าของนามว่า Glenn Redmond และตากล้อง Garry Smyth โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นแบบอย่างให้ผู้ลงสมัครคนอื่นๆ ได้เห็นถึงปัญหา และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในอนาคต นั่นก็คือการชี้ให้เห็นถึงปัญหาถนนที่เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือการเก็บกวาดหิมะในช่วงฤดูหนาว โดยปัญหาทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นจะหมดไป ถ้าหากว่าได้เจ้าหมามาคอยดูแลเป็นนายกเทศมนตรี (ก็ว่าไปนั่น) ที่คอยออกเดินตรวจตราไปตามบ้านเรือน และบนท้องถนนเท่าที่จะทำได้ ทั้งนี้เจ้าหมาก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะได้รับการฝึกฝนมาจากเจ้าของ ที่เป็นทั้งครูฝึกสุนัขและสตั้นท์แมน ทำให้มันเคยได้ออกหน้ากล้อง โชว์ตัวอยู่ในหนังมาบ้าง ไม่มีอาการตื่นกล้องอีกต่อไป… หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปสู่โลกออนไลน์ ก็ได้รับกระแสการตอบรับที่ดีมากๆ ซึ่งทางด้าน Glenn…
-
เนื้อตูอยู่ไหน!? หนุ่มประท้วงหนักด้วยกกน. พร้อมกับบ้องกัญชาน้อย หลังถูกตำรวจยึดของไป
ของๆ ใครของใครก็ห่วง แน่นอนละโดยเฉพาะถ้าเป็นสายเขียวด้วยแล้ว ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าพวกเขาจะรักและหวงแหนอะไรมากที่สุด เช่นเดียวกับหนุ่มวัย 31 ปี Jeffrey Shaver จากรัฐออแทริโอ ผู้ชื่นชอบการพากันชี้ (พี้กัญชา) เป็นชีวิตจิตใจ ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น.. เมื่อจู่ๆ วันหนึ่งเจ้าตัวก็ถูกตำรวจจับซะงั้น!? Jeffrey Shaver กับการประท้วงที่ไม่เหมือนใครในโลก เรื่องมันมีอยู่ว่าพ่อหนุ่มคนนี้ ได้ไปยื่นเรื่องทำบัตรผู้ใช้กัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ทว่าหลังจากนั้นได้แค่ 5 เดือน เจ้าตัวก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ แต่ที่มากกว่าจับคือ… ทำไมต้องยึดบ้องและกัญชาไปด้วย!! “ผมทำบัตรผู้ใช้กัญชาถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แล้ววันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาค้นตัวผมและยึดเอากัญชาของผมไป ทั้งที่ผมก็พกบัตรติดตัวอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้ผมต้องไปนอนในคุกเป็นครั้งแรกของชีวิต ผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้บ้องและกัญชาของผมคืน” ซึ่งคราวนี้พ่อหนุ่มได้ออกไปทำการประท้วงด้วยตนเองที่หน้าโรงพยาบาล Cambridge Memorial Hospital ด้วยการถือบ้องกัญชาอันเล็ก พร้อมกับใส่กางเกงในสีเขียวเพียงแค่ตัวเดียว จากนั้นก็จุดไฟใส่บ้องทำการระเบิดหลุมแล้วก็ปล่อยความคิดให้กว้างออกไปกว่าเดิมอีกหลายขุม แต่ใช่ว่าพ่อหนุ่มจะประท้วงแค่วันเดียวเท่านั้น “ผมมีกางเกงในอยู่หลายสี วันแรกผมใส่ชมพูพาสเทล จากนั้นก็สีเหลือง แล้วก็สีเขียวแบบชิลๆ ซึ่งผมมีอีกหลายสีเลยที่ยังไม่ได้ใส่และมันก็ไม่ซ้ำแน่นอน” แม้ว่าพ่อหนุ่มจะพยายามประท้วงมาหลายครั้ง และไม่มีทีท่าว่าจะได้บ้องกับกัญชาคืนมา ถึงกระนั้นเรื่องราวของเขาก็กลายเป็นที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ จนเรียกได้ว่ากลายเป็นเน็ตไอดอลของสายเขียวแห่งแคนาดาไปแล้วก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากเรื่องราวนี้ถูกแชร์ต่อและเป็นที่พูดถึง ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อดังนี้… “เราได้รับข้อติเตียนจากประชาชนถึงเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเราจะทำการติดต่อคุณ…
-
ชายหนุ่มวัย 57 ปี ผู้ที่สามารถเอาชนะหมีกริซลี่ตัวบักเอ๊ก ได้ด้วยการชกหมัดเดียว!?
หากใครเคยคิดว่าการที่เราจะปราบสัตว์ป่าดุร้ายด้วยมือเปล่านั้นมันเป็นเพียงแค่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ในหนัง หรือการ์ตูนเท่านั้น ลืมสิ่งที่เคยคิดไปซะเมื่อต้องเจอกับหนุ่มวัย 57 ปี ผู้ที่เคลมว่าเขาสามารถเอาชนะเจ้าหมีได้ด้วยการใช้มือเปล่าเท่านั้น!!! ขอพาคุณไปรู้จักกับ Randall Warnock ชายผู้นั้นคือ Randall Warnock ชาวแคนาดา เขาเล่าว่าได้ออกเรือไปยืดเส้นยืดสายบนเกาะ Brown ไม่ไกลจากบ้านของเขานัก ระหว่างที่กำลังเดินเล่นเลียบชายฝั่งอยู่นั่น จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงดัง “แกร๊บ” มาจากทางด้านหลัง และต้องตกใจเมื่อหันไปเจอกับเจ้าหมีกริซลี่ตัวใหญ่กำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่ เจ้าสัตว์ป่าสี่ขาได้พุ่งเข้ามาล็อกเข่าขวาของเขาไว้ เขาจึงตัดสินใจหยิบมีดออกมา แต่เมื่อต้องเขย่าเอาเจ้าหมีออกจึงทำให้มีดหลุดมือไปซะอย่างนั้น ทันใดนั้นจึงได้ต่อยเข้าไปที่จมูกของเจ้าหมีเพื่อพยายามหนีออกจากการกอดรัดฟัดเหวี่ยงของมัน เขาได้เล่าต่อว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก เจ้าหมีถอยกลับไปยืนสองขาตั้งหลักมองมาที่ขาของเขา หัวของมันโน้มไปมาเหมือนพร้อมที่จะพุ่งเข้าหาได้ทุกเมื่อ จึงตัดสินใจหยิบกิ่งไม้ตั้งใจโยนใส่หัวเจ้าสัตว์ป่า แต่ก็วืดหลุดมือไปตกอยู่ระหว่างเขาและมัน โชคดีที่ในที่สุดเจ้าหมีนั้นก็ได้วิ่งหนีกลับเข้าพุ่มไม้ไป เมื่อเขากลับไปที่เรือจึงโทรขอความช่วยเหลือกับยามชายฝั่ง หลังจากนั้น 2 ชั่วโมงจึงมีคนมาพบและพาไปโรงพยาบาล เจ้าหมีได้ฝากแผลไว้ที่เข่าของเขาซึ่งต้องเย็บถึง 30 เข็มเพราะดันไปโดนเข้ากับเส้นประสาทด้วย มือถือเจ้ากรรมก็ดันตกอยู่ที่เกาะในขณะที่ต่อสู้กัน แต่เขาก็บอกว่าจะไม่กลับไปที่นั่นอีกแล้ว ใครจะยอมเสี่ยงที่จะเจอหมีกริซลี่เข้าทำร้ายอีกละ ถึงอย่างไรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้เขาได้เป็น ชายผู้ปราบหมีด้วยมือเดียว สุดเท่ห์ไปแล้ว กลายเป็นแฟนคลับหลายๆ คนรู้จักเขาจากข่าวนี้เพียบทีเดียวล่ะ!! ที่มา: ladbible
-
คุณแม่ข้ามเพศแคนาดา เปลี่ยนลูกตัวเองให้กลายเป็น “บุคคลไร้เพศ” คนแรกของโลก
กลายเป็นเรื่องราวสุดแปลกและโด่งดังสุดๆ ในช่วงนี้เลยก็ว่าได้ เมื่อคุณแม่คนหนึ่งผู้เป็นหญิงสาวข้ามเพศได้ประกาศให้ลูกของตัวเองเป็นเด็กคนแรกของโลกที่ไม่มีการระบุเพศอย่างชัดเจน Kori Doty คือพ่อและแม่ชาวแคนาดาของ Searyl Atli เด็กวัย 8 ขวบที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าจะใช้การระบุเพศว่า Unknown หรือก็คือระบุไม่ได้ และยังยืนยันอีกว่าจะให้เด็กใช้เพศแบบนี้ในทุกเอกสารที่ต้องยืนยันเพศ ด้วยความทั้งตัว Kori เป็นผู้ปกครองที่แรกเริ่มเดิมทีเป็นผู้หญิงและได้ทำการข้ามเพศเป็นผู้ชายแทน ทำให้ตอนนี้เขาก็สามารถเป็นได้ทั้งพ่อและแม่ในเวลาเดียว เขาจึงมีความคิดที่ว่าอยากจะให้ลูกของตนมีทางเลือกทางเพศตามใจตัวเองเมื่อตอนโตและไม่อยากตีกรอบของเด็กในตอนนี้ เขาจึงจัดการสู้เพื่อดำเนินเรื่องดังกล่าวให้ถึงที่สุด ในตอนแรกที่ลูกของเขาเกิดมานั้น ทางสำนักงานเขตก็ได้ปฏิเสธคำร้องของเขาในการให้เด็กไม่มีการระบุเพศ แต่ว่าตัว Kori ก็ไม่ยอมเขายังคงต่อสู้หลังชนฝาเพื่อให้ลูกได้มีเพศที่สามารถเลือกจะเป็นได้ จนกระทั่งในที่สุด Kori ก็สามารถต่อสู้จนลูกของเขา Searyl ได้รับการระบุเพศเป็นตัว U เสียที ซึ่งเพศดังกล่าวก็ย่อมาจาก Unknown นั่นเอง และนี่นับว่าเป็นเด็กคนแรกบนโลกเลยก็ว่าได้ที่ได้รับเพศดังกล่าว ด้านฝ่ายกฏหมายของเขาก็ระบุว่าในรัฐออนแทรีโอเปิดกว้างในเรื่องเพศพอสมควร ฉะนั้นการใช้เพศดังกล่าวจึงไม่มีปัญหาใดๆ ทว่าถ้าเกิดออกไปใช้ที่อื่นอาจจะเกิดปัญหาตามมาทีหลังได้เช่นอาจจะผิดกฏหมายในประเทศหรือรัฐอื่นๆ สุดท้าย Kori และกลุ่มสิทธิมนุษย์ British Columbia ก็ได้ออกมาบอกว่า ในเรื่องของกฏหมายและงานเอกสารทั้งหมดควรจะเปลี่ยนให้ทุกเพศทุกสามารถที่จะใช้งานและเข้าถึงกันได้อย่างเท่าเทียมภายในประเทศเสียทีนั่นเอง ยังไงซะ ก็ต้องดูกันต่อไปว่าเมื่อเด็กคนดังกล่าวโตขึ้นมาชะตาชีวิตของเขาจะเป็นยังไง และเขาจะเลือกเพศไหนกันก็ต้องติดตามกันต่อไป ไม่แน่ในอนาคตอาจจะมีเด็กเพศ…
-
Justin Trudeau ร่วมเดินพาเหรด LGBT พร้อมแตะมือกับสาวน้อย เล่นเอาชาวเน็ตรุมอิจฉา
ถ้าให้พูดถึงนักการเมืองที่หล่อพอจะเป็นขวัญใจของสาวน้อยสาวใหญ่ Justin Trudeau ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดา ก็คงจะเป็นชื่อแรกที่โผลขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน ด้วยความที่ว่าพ่อนายกคนนี้มีหมาดที่หล่อเหลาเอาการสุดๆ และยังดูเป็นมิตรกับประชาชนมากๆ ซึ่งล่าสุดเขายังได้คะแนนเสียงจากกลุ่มคนที่เป็น LGBT อีกด้วย เพราะได้เขาได้ไปเดินขบวน Pride March เพื่อยืนยันจุดยืนว่าเขาสนับสนุนคนทุกเพศทุกวัยจริงๆ ไม่จบแค่นั้น ในวันงานเพียงวันเดียว Adam Scotti ผู้เป็นช่างภาพประจำตัวของ Justin ก็ได้เก็บภาพความประทับใจของเขาได้มากมายเลยทีเดียว แต่ที่จะกินใจมากที่สุดก็คงจะเป็นช็อตที่ตัว Justin ได้ไปแตะมือกับสาวน้อยผู้แต่งตัวเป็น Wonder Woman พร้อมกับใส่ถุงเท้าที่มีลายสีรุ่ง ช็อตเดียวได้คะแนนเสียงไปเต็มๆ เลยนะเนี่ยท่านนายก ยัง.. มันยังไม่หมดแค่นั้น ถุงเท้าที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สีรุ้งเพื่อใช้ในการร่วมขบวนพาเหรดเท่านั้น แต่ตัวถุงเท้ายังมีตัวหนังสือเขียนไว้ว่า Eid Mubarak ซึ่งเป็นคำที่ไว้เฉลิมฉลองในวันเราะมะฎอน เรียกว่านอกจากได้ใจกลุ่ม LGBT แล้วยังได้ใจชาวอิสลามอีก มันยังไม่พอ ความเอาใจใส่ของพี่ Justin ยังมีอีก เขาได้เพ้นท์ใบหน้าด้วยรูปใบเมเปิ้ลซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของธงชาติแคนาดา แต่เปลี่ยนเป็นสีรุ่งซึ่งเป็นธงประจำกลุ่ม LGBT อะไรมันจะเก็บรายละเอียดเอาใจคนทุกกลุ่มขนาดนี้ ไม่รู้ว่าพี่แกตั้งใจหรือว่าฝ่ายคอสตูมดูแลมาอย่างดีกันแน่นะ ถึงทำให้การออกงานครั้งเดียวแต่ได้ใจทุกกลุ่มแบบนี้ . . แต่ที่รู้ๆ คือพี่จะหล่อไปไหนเนี่ย ยอมใจจริงๆ<3…
-
มือปราบ ISIS สไนเปอร์ชาวแคนาดา เจ้าของสถิติยิงไกลที่สุดในโลก 3,450 เมตร..!!
คราวนี้เรามาพูดกันถึงเรื่องของมือปืนสไนเปอร์กันบ้าง เพราะล่าสุด หลายสำนักข่าวต่างประเทศได้นำเสนอเรื่องราวของนายทหารชาวแคนาดามือปราบ ISIS ผู้สามารถทำสถิติยิงไกลได้มากที่สุดในโลกเท่าที่เคยบันทึกมา Nick Cardona คือเจ้าของสถิติผู้สามารถใช้ปืน McMillan TAC-50 ปลิดชีพผู้ก่อการร้ายได้จากระยะทางไกลกว่า 3,450 เมตร ซึ่งไกลชนิดที่ว่าหลังยิงออกไปแล้ว ต้องรอ 10 วินาทีกว่ากระสุนจะถึงเป้าเลยทีเดียว สถิติดังกล่าวถูกสร้างขึ้นจากสนามรบในอิรัก หนึ่งในทหารจากหน่วย The Canadian Joint Task Force 2 ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “เป็นการปราบผู้ก่อการร้ายที่น่าเหลือเชื่อมาก Nick สามารถปลิดชีพโจรได้จากระยะไกลกว่า 3 กิโลเมตร เราสามารถเก็บพวกมันได้โดยที่ไม่ทันได้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น…” “แทนที่เราจะใช้ระเบิดขีปนาวุธในการกำจัดกลุ่มผู้ก่อการร้าย ซึ่งอาจกระทบต่อชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์ เราหันมาใช้วิธีจากพลสไนเปอร์ซึ่งมันได้ผลมากกว่าเห็นๆ เราซุ่มโจมตีจากระยะไกลโดยที่กลุ่ม ISIS ไม่ทันได้รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น” Nick ให้สัมภาษณ์ สถิติสูงสุดก่อนหน้านี้เคยเป็นของ Craig Harrison พลสไนเปอร์จากกองทัพอังกฤษ ที่ทำสถิติได้ 2,475 เมตร อ้างอิงข้อมูลจาก Newsweek รายงานว่า ประเทศแคนาดาได้เข้ามามีส่วนร่วมในการต่อกรกับกลุ่ม ISIS มาตั้งแต่ปี…
-
ชมวิถีชีวิตสุดฮิปของคู่รักชาวแคนาดา มีบ้านอยู่บนน้ำ แถมโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ!!
ใครที่กำลังอยากจะมีบ้านเป็นของตัวเองซักหลังหนึ่ง แต่พอเปิดดูเงินในบัญชี บวกกับสภาพเศรษฐกิจบ้านเราในเวลานี้แล้ว ก็ถึงกับเป็นอันต้องกุมขมับแล้วล่ะก็ วันนี้เรามีทางออกมาแนะนำ (แต่จะทำได้จริงรึเปล่าไม่รู้นะ) คฤหาสน์สุดเจ๋งที่อาจไม่ได้ตกแต่งด้วยของแพง แต่เต็มไปด้วยความรัก และความอบอุ่นนี้เป็นของคู่รักชาวแคนาดา Wayne Adams และ Catherine King เอาเป็นว่าตามไปชมพร้อมๆ กันเลย ก่อนอื่นก็ต้องโบกมือทักทายเจ้าของบ้านซะก่อน ตามมารยาทสากลโลก พวกเขาได้ตั้งรกรากอยู่บนผืนน้ำนี้มานานกว่า 25 ปีแล้วล่ะ และเรียกบ้านของตัวเองว่า ‘Freedom Cove’ ที่สำคัญคือพวกเขาเลือกที่จะสร้างผลเสียให้แก่ธรรมชาติน้อยที่สุด สามีหาอาหารด้วยการจับปลา ส่วนภรรยาผู้เป็นมังสวิรัตก็มีโรงปลูกผักเป็นของตัวเอง แรกเริ่มเดิมทีที่นี่เป็นเพียงแค่สตูดิโอสำหรับสร้างงานศิลปะเท่านั้น ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปค่าครองชีพในตัวเมืองที่สูงขึ้น ทำให้พวกเขาตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่อย่างถาวรซะเลย ความรักของทั้งคู่ก็เปรียบดั่งหนังนิยาย ‘ในยุคที่เราสองคนติดต่อกันไม่ได้ ผมคิดถึงเธอมากได้เพียงแค่นอนอธิษฐานกับดวงดาวว่าอยากเจอเธอ และเช้าวันต่อมาเราก็ได้เจอกันจริงๆ’ สำหรับทั้งคู่บ้านหลังนี้ก็เป็นเหมือนอีกหนึ่งงานศิลปะแห่งชีวิต มันไม่มีคำว่าสร้างเสร็จ เพราะต้องต่อเติมและซ่อมแซมไปเรื่อยๆ สำหรับพลังงานความร้อนทั้งหมด พวกเขาเลือกที่จะใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ และมีการต่อระบบน้ำสะอาดจากตัวเมืองมาถึงที่พักของพวกเขาเอง ทว่าปัญหาหนักที่สุดก็คือพายุที่โหมกระหน่ำ แต่นั่นก็ทำให้เขารู้ว่าควรจะสร้างบ้านบนผืนน้ำยังไง ให้ไม่ถูกพายุพัดถล่ม กิจวัตรแต่ละวันของภรรยา เธอก็มักจะง่วนอยู่กับโรงปลูกผักของตัวเอง ในช่วงฤดูหนาวก็มีเตาผิงไฟข้างในตัวบ้านด้วยเหมือนกัน…
-
สายเขียวมีเฮ แคนาดาเตรียมประกาศให้ ‘กัญชา’ เป็นของถูกกฏหมาย อย่างเป็นทางการ!!
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับสายควันโขมงทั่วโลก หลังจากที่ชาวสหายเขียวในประเทศแคนาดา ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการแก้รูปกฎหมายเกี่ยวกับการใช้กัญชา และในที่สุดวันนั้นของพวกเขาก็มาถึง โดยล่าสุดสำนักข่าว CBSNews ได้รายงานว่า ประเทศแคนาดากำลังจะมีการประกาศให้การใช้กัญชาเป็นเรื่องถูกกฎหมาย โดยนายกรัฐมนตรี Justin Trudeau ในช่วงกลางปีที่จะถึงนี้ แคนาดาถูกจัดให้เป็นประเทศแรกในกลุ่ม G7 ที่มีการประกาศให้กัญชาถูกกฎหมาย Jane Philpott รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสุขภาพได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘การเปลี่ยนแปลงข้อกฎหมายเกี่ยวกับการใช้กัญชา นอกจากจะช่วยทำให้รัฐบาลสามารถเข้าไปดูแล และควบคุมกลุ่มผู้ใช้ได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังช่วยให้เม็ดเงินกำไรจากการค้าขายกัญชากลายเป็นรายได้ทางหนึ่งของรัฐ แทนที่จะตกไปอยู่ในมือของผู้ค้ายาเสพติดนอกกฎหมาย’ โดยตัวกฎหมายได้ระบุว่า บุคคลที่จะสามารถใช้กัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี อีกทั้งยังมีการเพิ่มโทษแก่ผู้ที่ลักลอบขายกัญชาให้กับเด็กที่มีอายุไม่ถึงเกณฑ์ รวมทั้งมีการห้ามใช้ในที่สาธารณะด้วย อีกทั้งประชาชนแคนาดายังได้รับสิทธิ ในการปลูกกัญชาสำหรับใช้ภายในครัวเรือนละไม่เกิน 4 ต้น หรือครอบครองได้ไม่เกิน 30 กรัม และที่สำคัญจะมีการจัดเก็บภาษีโดยแบ่งตามความรุนแรงของสายพันธุ์กัญชา (ยิ่งเมามากภาษียิ่งแพง) Justin Trudeau ประธานาธิบดีประเทศแคนาดา ที่หลายคนคงคุ้นหน้าดี อ้างอิงจากตัวเลขอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมด้านกัญชา The Canopy Growth บริษัทผู้ผลิตกัญชาสำหรับการแพทย์มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากถึง 11% ในช่วงปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับบริษัท Aurora Cannabis ที่โตขึ้นมากถึง…
-
เมื่อภาพ ‘ก้น’ ของนายกฯ สุดหล่อของแคนาดา กลายเป็นประเด็นโด่งดังในโลกโซเชียล!!
จากกระแสความหล่อของนาย Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศแคนาดา จนทำให้ผู้คนทั้งโลกต่างก็ให้ความสนใจ ไม่ว่าพี่แกจะไปออกงานที่ไหนก็มักจะมีคนพูดถึงแต่ความหล่อของแกทั้งนั้น!! ซึ่งล่าสุดเองเว็บไซต์ Buzzfeed ของต่างประเทศก็ได้หยิบยกรูปภาพภาพหนึ่งที่บังเอิญมีคนถ่ายเอาไว้ได้ มาวิพากษ์วิจารณ์ซะฮาเลย พร้อมกันรึยังจ๊ะสาวๆ ถ้าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวเอาไว้ให้ดี เพราะภาพต่อไปนี้ขอบอกเลยว่ามันเป็นอะไรที่เด็ดมากๆ!! ผ่ามมมมม!! ภาพนี้แหละ!! คุณเห็นกันมั้ย?? เจออะไรบ้างรึยัง!? รู้นะว่าทุกคนกำลังเป็นเหมือนนายคนนี้อยู่ พยายามจะไม่มอง แต่มันก็ห้ามใจไม่ได้จริงๆ ก็แหงล่ะด้วยแก้มก้นที่อวบอิ่มได้รูปขนาดนั้น แถมยังอยู่ในกางเกงที่รัดจนได้รูปขนาดนั้น นี่มันลูกพีชในตำนานชัดๆ!! ภาพดังกล่าวนี้ถูกนำไปแชร์ลงบนทวิตเตอร์ และมีผู้คนพูดถึงกันมากมายจนมีคนเข้ามากดไลค์กว่า 8,200 คน รีทวิตไปอีก 3,600 ครั้งเลยทีเดียว ชาวเน็ตหลายคนต่างก็ให้ความเห็นไปต่างๆ นาๆ แน่นอนว่าแต่ละคนก็โฟกัสไปที่บั้นท้ายของเขา “แม้ผมจะไม่ใช่ชาวแคนาดา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ทำให้ผมหยุดพูดว่าเขาคือนายกฯ ของผมได้เลย” “พี่แกฮอตมากกกก” “บ้าเอ๊ยย!! ชาวแคนาดาทำไมช่างน่าอิจฉาซะขนาดนี้” “ว้าวววว…
-
พาไปรู้จักการแข่งขันสุดแปลก “ประกวดทรงผมแช่แข็ง” ท่ามกลางอากาศหนาวสุดขั้ว!!
สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ ถ้าเป็นที่บ้านเราก็เริ่มจะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วใช่ไหมล่ะ แต่สำหรับที่เมืองยูคอน ประเทศแคนาดา นับว่าเป็นช่วงที่ชาวเมืองจะได้เผชิญกับสภาพอากาศอันหนาวเหน็บสุดขั้วหัวใจเลยล่ะ และด้วยความที่มันมีสภาพอากาศที่หนาวสุดขั้วเนี่ยแหละ จึงทำให้เกิดประเพณีการแข่งขัน ‘ทรงผมแช่แข็งคอนเทสต์’ ถึงแม้ว่าอุณหภูมิจะติดลบขนาดไหน พวกเขาก็ช่างสรรหาอะไรมาเล่นกันได้ตลอดแหละเนาะ การแข่งขันนี้จะจัดขึ้นที่ ‘Takhini Hot Pools’ ในประเทศแคนาดา เป็นประจำทุกเดือนกุมภาพันธ์ โดยผู้เข้าประกวดก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกลหรอก ส่วนใหญ่ก็เป็นนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใช้บริการบ่อน้ำร้อนนั่นแหละ… จุดประสงค์สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ต้องการให้ผู้คนได้ร่วมสนุกท่ามกลางสภาพอากาศที่แตกต่างกันสุดขั้ว กติกาก็คือผู้เข้าแข่งขันจะต้องแข่งกันทำทรงผมที่แปลกแหวกแนวมากที่สุด จากนั้นให้ถ่ายรูปและส่งภาพไปให้คณะกรรมการ ทีมงานจะทำการคัดเลือกผู้ชนะเลิศ 3 อันดับ และจะประกาศผลในเดือนมีนาคม ตัวอย่างผู้เข้าแข่งขัน เป็นไงล่ะ…ทรงผมเฟี้ยวพอไหม? โดยผู้เข้าแข่งขันที่ชนะเลิศทั้ง 3 อันดับ จะได้รางวัลดังต่อไปนี้… ผู้ชนะเลิศรางวัลที่ 1 จะได้เงินรางวัล $750 พร้อมทั้งเมมเบอร์แช่บ่อน้ำร้อนฟรี 1 เดือน รองชนะเลิศอันดับที่ 1 จะได้เงินรางวัล $200 และเมมเบอร์แช่บ่อน้ำร้อนฟรี 12 ครั้ง รองชนะเลิศอันดับที่ 2 จะได้เงินรางวัล $100 และเมมเบอร์แช่บ่อน้ำร้อนฟรี…
-
รวม “สะพานเพื่อชีวิต” สร้างให้สัตว์ป่าปลอดภัย อยู่ร่วมกับความเจริญอย่างเป็นสุข…
แนวคิดการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และธรรมชาตินั้นกำลังแพร่ขยายไปทั่วโลก เนื่องจากว่าหากมนุษย์ยังคงอยู่อาศัยในแบบที่เป็นอยู่ ไม่ชีวิตทางธรรมชาติหรืออาจจะเป็นชีวิตของมนุษย์เองที่ต้องพบกับการสูญเสีย สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติแบมฟ์ รัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา ดั่งเช่นในเรื่องของปัญหาการสัญจรผ่านเส้นทางหลวง ที่มีรถยนต์แล่นผ่านไปมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งในบางเส้นทางจะตัดผ่านกับอุทยานแห่งชาติอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และนั่นก็คือสาเหตุของอุบัติเหตุอันนำพาชีวิตและทรัพย์สินที่ต้องแลกไป สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่าในประเทศเบลเยี่ยม บรรดานักอนุรักษ์พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องสัตว์ป่าเหล่านี้มาอย่างช้านาน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอุบัติเหตุรถชนหรือไม่ถูกพรากไปจากแหล่งที่อยู่อาศัยทางธรรมชาติ เพราะฉะนั้นแล้ว แนวคิดของ Wildlife Crossing จึงถือกำเนิดขึ้นมา สะพานเพื่อความปลอดภัยของทั้งมนุษย์และสัตว์ป่า มีประสิทธิภาพมากกว่าป้ายเตือนลดระดับความเร็วหลายเท่าตัว สะพานลอยสำหรับสัตว์ป่าในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา เพียงแค่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ระบบถนนหนทางส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศถึง 1 ใน 5 พื้นที่ของประเทศ และอุบัติเหตุรถยนต์ชนสัตว์ป่าคิดเป็นมูลค่าเสียหายสูงถึง 8 พันล้านดอลลาร์ต่อปี (280 พันล้านบาท) สะพานทางข้ามทางลอดสามารถช่วยสัตว์ป่าให้เดินข้ามถนน จากท้องถนนอันวุ่นวายได้อย่างปลอดภัย เพื่อให้พวกมันสามารถใช้ชีวิตตามวิถีธรรมชาติได้อย่างต่อเนื่อง โดยที่ไม่ถูกมนุษย์รบกวนแม้แต่น้อย สะพานสำหรับสัตว์ป่าในรัฐมอนแทนา สหรัฐอเมริกา สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่า สะพานลอดสำหรับรถยนต์ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ สะพานข้ามสำหรับสัตว์ป่านั้นเริ่มขึ้นเป็นที่แรกในประเทศฝรั่งเศส ในช่วงปี 1950…
-
หนุ่มแคนาดาหายตัวไปอย่างลึกลับนาน 5 ปี เจอตัวอีกที เดินเท้าไปโผล่ที่บราซิลเฉยเลย!?
หลายคนคงเคยเห็นประกาศตามหาคนหายบนหน้าเฟซบุ๊กของเราอยู่บ่อยๆ และบ่อยครั้งที่พลังการแชร์ของชาวโซเชียล ก็ได้ช่วยกันตามหาคนหายได้อย่างสำเร็จ แต่สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้มันโคตรจะพีคสุดๆ เมื่อหนุ่มแคนาดานามว่า ‘Anton Pilipa’ หายตัวไปจากบ้านที่เมืองโทรอนโตอย่างไร้ร่องรอยตั้งแต่ปี 2012 ครอบครัวพยายามตามหาทุกวิธีทางจนแทบจะหมดความหวัง จนต่อมาได้พบว่าเขาไปปรากฏตัวอยู่อีกประเทศหนึ่ง ซึ่งมันไกลจากเมืองที่เขาอยู่มากถึง 10,460 กิโลเมตร โอ้วพระเจ้าทำไมนายไปโผล่ที่นั่นได้ละเพื่อน!! Anton คนซ้ายมือหลังจากที่ได้กลับมายังเมืองโทรอนโต อีกครั้ง หลังจากการหายตัวไปของเขาเมื่อปี 2012 ทางครอบครัวได้ทำทุกวิถีทางเพื่อออกตามหา ไม่ว่าจะเป็นการปิดใบประกาศ หรือร้องขอความช่วยเหลือจากชาวเมืองโทรอนโตให้ช่วยกันสอดส่องดูแล แต่ทว่าเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ครอบครัวก็ได้รับโทรศัพท์จากตำรวจบราซิลว่า ได้พบตัวนาย Anton แล้ว ซึ่งเขาอาศัยอยู่ที่เมืองมาเนาส์ ประเทศบราซิล ใบประกาศคนหายของเจ้าตัว ทางด้านน้องชายของเขา Stefan เชื่อว่าพี่ชายของเขามีอาการป่วยทางจิตมาเป็นเวลานาน และได้เดินทางไปยังบราซิลด้วยการเดินเท้าเปล่าเพียงลำพัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ Helenice Vidigal ผู้พบตัวหนุ่ม Anton ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ‘วันนั้นฉันก็ออกตรวจตามปกติค่ะ และพบกับชายหนุ่มคนนี้ดูท่าทางอิดโรย ไม่สวมรองเท้า และฉันก็มั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนย่านนี้ หลังจากที่ฉันได้เข้าไปสอบถาม ก็ต้องพบว่าเขาคือชายแคนาดาผู้หายตัวไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย เมื่อปี 2012 นั่นเอง’ น้องชายของเขา…
-
นักทำขนมแคนาดา Melly Eats World ผู้สร้างสรรค์ “มาการอง” และบรรดาขนมน่ารักจนไม่กล้ากิน
เชื่อว่าหลายคนคงรู้จัก มาการอง ขนมหวานที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ด้วยหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์และรสชาติอันแสนเอร็ดอร่อย ทำให้ขนมชนิดนี้กลายเป็นที่นิยมของคนทั่วโลก แต่ถ้าเพื่อนๆ คิดว่ามาการองไม่สามารถน่ารักได้มากกว่านี้ล่ะก็ เห็นทีจะต้องคิดใหม่แล้วล่ะ ถ้าเพื่อนๆ ได้เห็นผลงานของนักทำขนมจากแคนาดาคนนี้ ปกติแล้วมาการองทั่วๆ ไป ก็จะหน้าตาประมาณนี้ แต่… แท๊แด๊มมมมมมม มาการองยุคใหม่เพิ่มความมุ้งมิ้ง มาการองสุดน่ารักเหล่านี้เป็นผลงานของ Melly Eats World นักทำขนมจากเมืองโทรอนโต้ ประเทศแคนาดา เธอได้เปลี่ยนมาการองธรรมดาๆ ให้มีรูปร่างเป็นสัตว์นานาชนิด ไม่ว่จะเป็นหมีแพนด้า ลิง แมว สุนัข และหมูเป็นต้น ด้วยความน่ารักเหล่านี้ ทำให้ไอจีของเธอมีผู้ติดตามแล้วกว่า 5,000 คน ทั้งนี้ เธอไม่ได้เปิดเผยว่าสูตรของเธอทำอย่างไรจึงออกมาน่ารักมุ้งมิ้ง แต่ถ้าใครมีโอกาสแวะไปเมืองนี้ก็ลองแวะชิมของเธอได้ นอกจากนี้ถ้าใครอยากจะสั่งทำเป็นรูปอะไรพิเศษ เธอก็รับทำอยู่นะ แต่เธอบอกว่าต้องสั่งล่วงหน้า 6 สัปดาห์ เพราะงานเธอแน่นเอี๊ยดเหลือเกิน ลองไปชมผลงานของเธอกันเลย รับรองว่าน่ารักจนกินไม่ลงอย่างแน่นอน (ใครสนใจลองกดเข้าไปดูในไอจีของเธอ @mellyeatsworld ได้เลยนะฮะ รับรองว่ามีภายสวยๆ อีกเพียบแน่นอน) . .…
-
เรื่องราวของ “สาวหล่อไทย & สาวแคนาดา” รู้จักกันบนเฟซบุ๊ก ก่อนจะกลายเป็นรักแท้ที่ไม่หวั่นแม้ระยะทาง
กลายเป็นเรื่องราวสุดประทับใจบนอินเตอร์เน็ตกันเลยทีเดียว สำหรับความรักของสาวหล่อชาวไทยกับหญิงวัยรุ่นชาวแคนาดา ที่รู้จักกันผ่านเฟซบุ๊กโดยบังเอิญ ก่อนความทั้งสองจะพัฒนาความสัมพันธ์เป็นคู่รักและลงเอยด้วยการแต่งงานในที่สุด เรื่องราวดังกล่าวเป็นของสาวหล่อชาวไทย “นิกกี้” และสาวชาวแคนาดา “ชียอน” พวกเธอเล่าว่า พวกเธอพบกันโดยบังเอิญบนเฟซบุ๊กเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2014 หลังจากพูดคุยกันมาหนึ่งเดือน พวกเธอก็ตัดสินใจคบหาดูใจกัน แม้จะมีระยะทางขวางกั้นกว่า 11,400 กิโลเมตร แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรักของทั้งสองจืดจางแต่อย่างใด ในทางกลับกัน ระยะทางนั้นกลับทำให้ความสัมพันธ์ของมั่นคงและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลังจากนั้นคุณชียอนก็ได้เดินทางมาหาคุณนิกกี้หลายครั้งที่ประเทศไทย แม้ว่าเธอจะต้องทำงานหนักอย่างมากเพื่อเก็บเงินซื้อตั๋ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอท้อแม้แต่นิดเดียว จนกระทั่งเมื่อช่วงปี 2015 คุณนิกกี้ก็ได้ตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่ประเทศแคนาดา และได้ตกลงปลงใจแต่งงานกับคุณจียอน ปัจจุบันทั้งสองใช้ชีวิตกันอย่างมีความสุขในประเทศแคนาดา และทางเว็บแคทดั๊มบ์ของเรา ก็ได้สัมภาษณ์คุณชียอนเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าว เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลยดีกว่า #เหมียวอ๊อดโด้ : สวัสดีครับคุณชียอน คุณชียอน : สวัสดีค่ะ (คุณชียอนสามารถพูดและเขียนภาษาไทยได้ในระดับดีมาก) #เหมียวอ๊อดโด้ : เรื่องราวของคุณชียอนตอนนี้โด่งดังมากเลยนะครับ เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้กันแล้วว่า คุณชียอนรู้จักคุณนิกกี้ผ่านเฟซบุ๊ก แต่หลายๆ คนก็ยังสงสัยว่า คุณชียอนไปเจอเฟซของคุณนิกกี้ได้ยังไงครับ เป็นเรื่องบังเอิญเลยหรือเปล่า คุณชียอน : ฉันแค่เห็นเฟซบุ๊กนิคกี้โดยบังเอิญใน…
-
ปรากฏการณ์เสาไฟพวยพุ่งในแคนาดา ดูเผินๆ แล้วนึกว่าเป็น ‘แสงเหนือ’ แต่ที่จริงไม่ใช่!?
บางครั้งธรรมชาติก็ได้สร้างสิ่งสวยงามสุดน่าฉงนให้เราๆ ได้เห็นกันอยู่เสมอ เหมือนกับเรื่องเสาแสงไฟในแคนาดาที่ #จ่าสิบเหมียว จะพาเพื่อนๆ ไปชมกันในวันนี้ ดูเผินๆ แล้วเหมือนกับเสาแสงไฟที่มนุษย์สร้างขึ้นเลยทีเดียว ภาพถ่ายสุดสวยนี้ถูกบันทึกได้ใน Alberta ประเทศแคนาดาสดๆ ร้อนๆ มันคือปรากฎการณ์เสาแสงไฟที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เกิดจากการผสมผสานกันระหว่างแสงอาทิตย์ แสงไฟและหิมะจนเกิดเป็นเสาแสงไฟสุดสวยนี้ขึ้น ภาพนี้ถูกบันทึกได้โดยช่างภาพในละแวกนั้น ขณะที่อุณหภูมิโดยเฉลี่ยอยู่ที่ -18 องศาเซลเซียส ปรากฎการณ์นี้จะเกิดขึ้นขณะที่อุณหภูมิลดฮวบลงต่ำมากๆ เท่านั้น ขณะที่โมเลกุลของน้ำที่อยู่ในอากาศแข็งตัว แต่ยังเรียงกันเป็นแนวดิ่งอยู่ หลังจากนั้นโมเลกุลของน้ำที่เรียงตัวกันในแนวดิ่งนี้จะสะท้อนแสงไฟจากท้องถนน บ้านเรือน หรือแม้กระทั่งไฟจากป้ายแสงนีออนโฆษณาขึ้นไปบนฟ้า ทำให้เกิดเป็นเสาแสงไฟที่สีสันสวยงามแตกต่างกันออกไปนี้ขึ้น สังเกตได้ว่าเป็นแสงไฟที่พวยพุ่งออกมาจากตัวเมือง แสงนี้ไม่ใช่แสงเหนือ ไม่เหมือนกับแสงเหนือ เสาแสงไฟเหล่านี้ส่วนหนึ่งแล้วถึงจะเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติเช่นกัน แต่ก็ยังมีความเกี่ยวข้องเพราะอาศัยแสงไฟจากมนุษย์ และที่สำคัญไม่มีความเกี่ยวข้องกับสนามแม่เหล็กโลกเหมือนแสงเหนือแต่อย่างใด จะสังเกตสีของเสาที่แตกต่างกันออกไป เพราะแหล่งที่มาของแสงแตกต่างกัน สวยงามราวกับเป็นนครแห่งแสงสว่าง สามารถมองได้จากหน้าต่างของบ้าน แม้ในระยะไกลก็ยังสามารถมองเห็นได้ เสียดายที่บ้านเราไม่มีอุณหภูมิหนาวๆ แบบนี้ ลองคิดสภาพของแสงไฟของกรุงเทพดูสิ อื้อหือออ แค่คิดก็ฟินแล้ววว… ที่มา: Dailymail
-
รู้จัก 16 “สัตว์ประจำชาติ” ของแต่ละประเทศทั่วโลก มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง….
สัตว์ประจำชาติ ถือเป็นสัญลักษณ์ และตัวแทนทางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศนั้นๆ อย่างเช่น เวลาที่เราได้เห็นจิงโจ้ ก็ทำให้เรานึกถึงประเทศออสเตรเลีย หรือเวลาเห็นช้าง ก็ทำให้เรานึกถึงประเทศไทย เป็นต้น แล้วเพื่อนๆ เคยสงสัยหรือไม่ว่า สัตว์ประจำชาติของประเทศอื่นๆ ทั่วโลกคืออะไร เชื่อว่ายังมีอีกหลายๆ คนที่อาจไม่เคยรู้มาก่อนแน่นอน และในครั้งนี้เราจะมานำเสนอ 16 ภาพของสัตว์ประจำชาติในแต่ละประเทศ มาดูกันว่าจะมีอะไรบ้าง 1. อินทรีหัวขาว – สัญลักษณ์ของประเทศสหรัฐอเมริกา 2. เสือโคร่งเบงกอล – สัญลักษณ์ของประเทศอินเดีย 3. บีเวอร์ – สัญลักษณ์ของประเทศแคนาดา 4. ยูนิคอร์น – สัญลักษณ์ของประเทศสกอตแลนด์ 5. จิงโจ้แดง – สัญลักษณ์ของประเทศออสเตรเลีย 6. หมีสีน้ำตาล – สัญลักษณ์ของประเทศรัสเซีย 7. อินทรีดำ – สัญลักษณ์ของประเทศเยอรมนี …
-
หนุ่มแคนาดาเงิบ ถูกพ่อค้าหลอกขายแมวสฟิงส์ แท้จริงเป็นแค่แมวถูกจับตัดขน?!?!
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นแมวพันธุ์สฟิงส์ แมวขนสั้นที่หน้าตาเป็นเอกลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเจ้าเหมียวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นแมวที่มีราคาสูงมากๆ พันธุ์หนึ่งเลย โดยมีราคาถึงตัวละ 20,000 บาทเป็นอย่างต่ำเลยทีเดียว ด้วยราคาที่สูงขนาดนี้ ทำให้มีพ่อค้าบางคนหัวใส ทำแมวสฟิงส์ “ปลอม” ขึ้นมา และมีเหยื่อหลายคนหลงเชื่อ และตกเป็นเหยื่อมากมาย อย่างเช่นในรัฐอัลเบอร์ต้า ประเทศแคนนาดาแห่งนี้ ทางสำนักข่าว CBC ได้รายงานว่า นาย JoAnne Dyck ได้ทำการซื้อแมวพันธุ์สฟิงส์มาจากฟาร์มแห่งหนึ่ง พวกเขาตั้งชื่อมันว่า Vlad พอมาถึงบ้าน เจ้า Vlad ก็มีอาการแปลกๆ เช่นตัวสั่นและเหมือนกำลังร้องไห้ แต่ Dyck คิดว่าเป็นเพราะต้องมาอยู่แปลกที่ มันเลยมีอาการกลัวอยู่บ้าง แต่หลายสัปดาห์หลังจากนั้น เจ้าแมวสฟิงส์ตัวนั้นกลับมีขนขึ้นมาเต็มไปหมด จนมีสภาพไม่ต่างจากแมวทั่วไป ตอนนั้นเขารู้ได้ทันทีว่าเขาถูกหลอกแล้ว “ตอนนั้นมันมีอาการเหมือนกำลังร้องไห้ ผมก็นึกว่ามันคิดถึงแม่ หลายวันผ่านไปอาการของมันก็ยังไม่ดีขึ้น ผมเลยตัดสินใจพามันไปหาสัตวแพทย์” “พวกเขาบอกว่ามันไม่ได้เหงาหรือคิดถึงแม่อะไร แต่มันกำลังเจ็บปวดต่างหาก บนร่างกายมันมีรอยถูกมีดโกนอยู่เต็มไปหมด หลังจากนั้นไม่นาน ขนที่ถูกโกนก็ขึ้นมาตามปกติ ผมรู้ได้ทันทีเลยว่า ผมถูกหลอกแล้ว“ Dyck กล่าว ไม่ใช่แค่ JoAnne…
-
Review: แบ็คแพ็คลุยเดี่ยว Rocky Mountains ในแคนาดา เสื้อผ้าชุดเดียวเที่ยว 4 วัน
#เหมียวบ็อบ จะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับเรื่องราวของคุณ phiangphen สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ได้มาเล่าประสบการณ์การที่เธอตัดสินใจแบคแพคไปเที่ยวคนเดียวที่นั่น โดยเริ่มแรกเธอมีความตั้งใจที่จะไปเที่ยวหาเพื่อนที่เมืองซีแอตเติล หลังจากนั้นบังเอิญไปเห็นรูปสวยๆของประเทศแคนาดาในอินสตาแกรมจึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจ เธอจึงตัดสินใจค้นหาทัวร์ท่องเที่ยวปรแกรมทัวร์สำหรับแบคแพคและวางแผนการเดินทาง และนี่คือจุดเริ่มต้น…. เส้นทางเป้าหมายของทริปครั้งนี้ วิวของ Mt.Rainer จากบนเครื่องบิน เมื่อได้เดินทางมาถึงสนามบินเธอก็พร้อมออกไปพจญภัยทันที เรามาติดตามกันหน่อยดีกว่าว่า 3 วันนี้จะได้เจอกับอะไรบ้าง….. จุดแรก Johnston Tunnel และมาต่อกันที่ Johnston Lake จุดที่สาม Minnewanka Lake Johnston Canyon และเพื่อนร่วมทางตัวจิ๋ว . . และก็มาพักทานอาหารเที่ยงกันที่นี่ Emerald Lake . เสร็จแล้วก็เดินทางต่อไปยัง Moraine Lake . บริเวณที่พักสำหรับคืนแรก เช้าวันต่อมาก็ออกเดินทางกันต่อแต่เช้า เพื่อเดินทางไปยัง Jasper National Park และจุดแรกที่ผ่านคือ Crawfoot Glacier แถมได้เจอกับพี่หมีเจ้าถิ่นอีกด้วย อุดมสมบูรณ์มากจริงๆ จุดที่สองของวันใหม่ Bow Lake & Bow Glacier…
-
รัฐบาลแคนาดาประกาศโครงการนำร่อง ‘แจกเงินให้ประชาชนไปใช้ฟรี’ โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
นับว่าเป็นข่าวที่ทำให้ชีวิตของประชาชนในประเทศดี๊ดีขึ้นมาทันที โดยก่อนหน้านี้เคยมีข่าวคราวว่าประเทศฟินแลนด์และเนเธอร์แลนด์ได้ออกโครงการแจกเงินให้ประชาชนไปแล้วแถมประสบความสำเร็จด้วย คราวนี้ก็มาเป็นตาของรัฐบาลของประเทศแคนาดาบ้าง!! แคนาดาเตรียมแผนแจกเงินให้ประชาชนฟรี!! รัฐบาลจากรัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา ได้วางแผนโครงการนำร่องเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยจะทำการแจกเงินให้กับประชาชนภายในรัฐนำไปใช้ได้ฟรีๆ โดยไม่มีการตอบคำถาม, สัมภาษณ์ หรือเงื่อนไขผูกมัดใดๆ ทั้งสิ้น Justin Trudeau นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของประเทศแคนาดา เงินดังกล่าวเรียกว่ารายได้ขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะครอบคลุมในเรื่องของค่าครองชีพต่างๆ เช่น ค่าอาหารการกิน, ค่าเดินทาง, ค่าเสื้อผ้า และค่าจิปาถะอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ โดยเงินจำนวนนี้จะจ่ายให้เป็นเช็ครายเดือนไม่ใช่ในรูปแบบของเงินสด ทั้งนี้ทางรัฐบาลยังไม่ได้ระบุว่าจะนำโครงการนี้มาใช้จริงเมื่อไหร่ หรือในพื้นที่ไหน และยังไม่ได้ระบุว่าจะได้รับเงินต่อคนเป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งรัฐบาลเองก็ต้องพิจารณาในส่วนของงบประมาณค่าใช้จ่ายเหล่านี้อีกทีหนึ่ง ให้เงินประชาชนเอาไปนอนหนุนแทนหมอน!! แต่ก็ถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีมากๆ เลยนะเนี่ย เหมียวเลเซอร์ เชื่อว่าจะสามารถช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ มีเงินเดือนใช้เป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐานของประเทศ แค่คิดก็ฟินแลนด์ เอ้ย!! ฟินแล้ว ที่มา : businessinsider, unilad
-
หรรมส์หดหมดแล้ว!! สหรัฐอเมริกาหนาวสุดๆ หนาวซะจนมี ‘ผีกางเกงยีนส์’ ออกอาละวาดเต็มเมือง
ช่วงนี้ต้องยอมรับเลยล่ะครับ ว่าอากาศหนาวอย่างฉับพลันมันทำให้เราแทบจะตั้งตัวไม่ทัน ขนาดที่ว่ากรุงเทพซึ่งขึ้นชื่อว่าเมืองร้อน ยังต้องใส่เสื้อกันหนาวออกมาเดินถนน… แล้วในรัฐมิเนโซต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งปกติก็มีอากาศเย็นอยู่แล้ว มันก็ยิ่งหนาวมากไปอีก หนาวซะจนกระทั่งมี ‘ผีกางเกงยีนส์’ ออกมาสร้างความหลอนปนฮากันเลย!! ที่จริงแล้วมันเป็นความคิดเริ่มต้นโดยนาย Tom Grotting ซึ่งคงจะเก็บตัวอยู่ในบ้านหน้าหนาวจนไม่มีอะไรทำ คิดไอเดียเจ๋งๆจับกางเกงยีนส์มาแช่น้ำให้เปียก แล้วเอาไปตั้งหน้าบ้าน พอตั้งปุ๊บ แปปเดียวมันก็แข็งกลายเป็นน้ำแข็ง ได้งานศิลปะหน้าบ้านแบบนี้แหละ… เมื่อชาวบ้านใกล้เคียงมาเห็น ก็ต๊กกะใจแอบหลอนเบาๆ แต่หลายคนก็ชื่นชอบในผลงานนี้ เลยเรียกกันสนุกปากว่า ‘ผีกางเกงยีนส์’ แถมยังไม่พอนะ เอาไปทำตามกันอีก ละแวกนั้นก็เลยเต็มไปด้วยกางเกงยีนส์ผีแบบนี้…. และแบบนี้… ยัง ยังไม่จบนะ พอมีการแชร์ภาพลงในโลกออนไลน์ เหล่าผีกางเกงยีนส์ก็เร่ร่อนออกจากรัฐมิเนโซต้า ไปยังประเทศแคนาดา เยอรมนี และรัสเซีย ทำตามกันจนเป็นกระแสอีกด้วย ส่วนเมืองไทยคาดว่าคงจะยากหน่อยนะ ลองคิดไอเดียอื่นๆไปสู้กับเค้าไหม เผื่อจะดังไปทั่วโลกบ้าง…. ที่มา: orzzzz
-
‘สงครามวิสกี้’ กรณีพิพาทเกี่ยวกับดินแดนสุดฮา ที่กินเวลากว่า 3 ทศวรรษ ของแคนาดาและเดนมาร์ก!!!
ไกลออกไปทางเหนือในทะเลอาร์กติกอันแสนหนาวเย็น เกาะที่มีพื้นที่เพียงไม่ถึง 2 ตารางกิโลเมตร ได้เป็นฉนวนเหตุสุดฮาในกรณีพิพาทระหว่างดินแดนของทั้งสองประเทศ!!! สำหรับเกาะเจ้าปัญหาที่ว่านี้ชื่อว่าเกาะ Hans จัดได้ว่าเป็นเกาะร้างที่ไร้ผู้คนอยู่อาศัย ไม่มีทรัพยากรทางธรรมชาติอะไรซักอย่าง แต่กลับเป็นพื้นที่แย่งชิงกันของทั้งสองประเทศ ทั้งแคนาดา และเดนมาร์ก ยาวนานมากว่า 3 ทศวรรษแล้ว!!! เกาะฮานส์ เจ้าเกาะนี้อยู่กึ่งกลางพอดิบพอดีระหว่างแผ่นดินของประเทศแคนาดากับกรีนแลนด์ ที่เป็นของราชอาณาจักรเดนมาร์ก ทำให้ทั้งสองประเทศมีสิทธิ์ถือครองเป็นเจ้าของพื้นที่นี้ได้ตามกฎหมายสากล!!! แต่กระนั้นแผนที่โลกก็แบ่งเกาะนี้ให้เป็นของประเทศเดนมาร์ก ตามการตัดสินของ International Justice of the League of Nations ในปี 1933 แต่พอมาถึงปี 1984 องค์กรนี้ก็สลายตัวและได้กลายเป็น UN แทน ทำให้สิทธิ์การถือครองของเดนมาร์กนั้นอ่อนกำลังลง พิกัดของเกาะ ในราวๆ ปี 1984 นายกของเดนมาร์กได้ปักธงเดนมาร์กลงที่แผ่นดินนี้ แถมทิ้งโน๊ตไว้ว่า ‘ขอต้อนรับสู่เดนมาร์ก’ พร้อมกับขวดเหล้าอีกหนึ่งขวด…หลังจากนั้นก็เกิดเป็นสงครามวิสกี้ (แบบไม่จริงจัง) ขึ้น!!! เวลาหน่วยราชการของประเทศใดไปที่นี่ ก็จะทิ้งโน๊ตเกรียนๆ และขวดเหล้าไว้เสมอ สุดท้ายก็กลายเป็นเรื่องขำขันเฮฮากันไป ซึ่งนับจนถึงตอนนี้ก็กินเวลามากว่า 3 ทศวรรษแล้วล่ะ ตอนนี้ทั้งสองประเทศกำลังตกลงว่าจะให้พื้นที่ส่วนนี้เป็นพื้นที่ส่วนรวมของทั้งสองประเทศ…
-
จับคู่ตัวละคร Dragon Ball ในฉบับอัพเกรดทั้งหน้าทั้งหุ่นแบบจัดเต็มตามสไตล์ Sakimi-chan
จะว่าไปถ้าให้พูดถึงการ์ตูนยอดนิยมในประเทศไทยตั้งแต่ยุคแรกๆ ที่ฮิตทั้งในรูปแบบการ์ตูนเล่มและฉบับอนิเมะฉายในทีวีก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่อง Dragon Ball แน่นอน ครองใจทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่มาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีตามกาลเวลา เปรียบเหมือนดั่งทั้งคนและโลกการ์ตูนก็เติบโตไปด้วยกัน ด้วยเหตุนี้เองศิลปินมากฝีมือจากแคนาดาอย่าง Sakimi-chan ก็ได้สร้างสรรค์จับคู่รักแห่งโลกลูกแก้วมังกรวิเศษในฉบับอัพเกรดสมจริงและเซ็กซี่กระชากใจสุดๆ แบบว่าสลัดภาพเดิมๆ ทิ้งไปได้เลย โกคูหรือโงกุนคู่กับศรีภรรยาจีจี้ คู่ที่สองก็คือบลูม่ากับเบจิต้า คุริรินจับคู่กับหมายเลข 18 อื้อหือ!! แบบว่าภาพตัวละครที่เคยจะได้ตั้งแต่เด็กนี่ไม่เหมือนเลยซักนิดเดียว แต่จะว่าไปก็ดีเหมือนกันนะเหมียวว่า ฮร่าาาา ยังมีผลงานอื่นๆ ให้ติดตามเพียบเลยล่ะ อย่างนารูโตะก็มีนะ สามารถไปติดตามได้ที่ Instagram กันได้เลยจ้า ที่มา : rocketnews24
-
เป็นไปได้!! สินค้าจากแคนาดา ‘อากาศแคนาดาแท้อัดกระป๋อง’ ทางเลือกของอากาศบริสุทธิ์
ทุกวันนี้สินค้าแปลกๆ ใหม่ๆ มักจะคลอดออกมาให้เราถึงกับงงงวยกันอยู่เสมอว่า เอ!? ไอ้ที่ผลิตมาเนี่ยทำเอาขำๆ หรือว่าทำขายจริงๆ อย่างคอนเซปต์ของอากาศอัดกระป๋อง ที่ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องตลก แต่มันก็ทำออกมาแล้วจริงๆ นะเออ สำหรับอากาศอัดกระป๋องนี้มีชื่อว่า Vitality Air ส่งตรงมาจากรัฐแอลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา โดยการนำอากาศบริสุทธิ์จากอุทยานแห่งชาติแบมฟ์และทะเลสาบ Louise ที่ขึ้นชื่อว่ามีอากาศบริสุทธิ์ที่สุดในโลก โดยก่อนหน้านั้นเป็นเพียงแค่เรื่องตลกขำขันที่โผล่ขึ้นมาใน eBay แต่สุดท้ายก็คลอดออกมาจนได้จริงๆ โดยทำการอัดอากาศจากบริเวณที่กล่าวไปข้างต้น นำมาบรรจุไว้ในกระป๋องแบ่งขาย รวมไปถึงการทำออกซิเจนบริสุทธิ์ตามมาด้วยเช่นเดียวกัน สำหรับการใช้งานนั้นก็ใช้งานง่ายเหมือนกับสเปรย์พ่นทั่วไป ฉีดออกมาเพื่อสร้างอากาศบริสุทธิ์หรือจะใช้หน้ากากชนิดพิเศษเพื่อสูดดมก็ทำได้ ซึ่งแต่ละกระป๋องสามารถสูดดมได้ประมาณ 150 – 200 ครั้ง เดิมทีมีเป้าหมายลูกค้าเป็นนักกีฬาชาวแคนาดาและประชาชนทั่วไปเพื่อเป็นตัวช่วยในการหายใจในระหว่างปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นภายในประเทศ แต่ตอนนี้ได้ขยายฐานลูกค้าไปไกลถึงประเทศจีนแล้ว หลังจากที่ทางการจีนได้ประกาศภาวะหมอกควันฉุกเฉิน และไม่น่าเชื่อว่าหลังจากที่ส่งไปให้ตัวแทนขายที่ประเทศจีน ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ในเว็บไซต์ต้องประกาศเลยว่าของหมด และรีบส่งของตามมาสบทบภายหลังอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็ขายในราคาประมาณกระป๋องละ 360 – 721 บาท (10 –…
-
ลูกอีช่างทิ้งต้องสั่นสะเทือน!! ภาพโฆษณาที่เจ็บจี๊ดไปถึงขั้วหัวใจ ตัดแปะคำบนขยะบอกเป็นนิสัย
ปัญหาของขยะที่ทิ้งไม่ลงถัง ขยะที่ถูกทิ้งข้างทางเรี่ยราด ถึงแม้จะจัดถังขยะไว้ให้แล้ว แต่สุดท้ายก็ทิ้งไว้กลางทางอยู่ดี นอกจากจะทำให้บริเวณนั้นสกปรกแล้ว ยังบ่งบอกได้ถึงลักษณะนิสัยของประชากรในภาพรวมได้เลยนะ สะท้อนให้เห็นถึงความมักง่าย!! Selfish เห็นแก่ตัว และภาพโฆษณาชวนเชื่อเสียดสีชุดนี้ ไม่ได้ต้องการให้เป็นโฆษณาเพื่อการค้าแต่อย่างใด โดยมีจุดประสงค์เพื่อปลูกจิตสำนึกในตัวมนุษย์ผู้มักง่าย ผลิตโดยองค์กร Livegreen จากเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา Lazy ขี้เกียจ สร้างสรรค์ด้วยวิธีการตัดแปะคำที่มีอยู่บนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ หลากหลายชนิดให้เกิดเป็นคำศัพท์ที่จี้ได้ตรงจุด ให้กระทบกับบุคคลที่มักง่าย เห็นแก่ตัว ขี้เกียจ ซึ่งก็มาจากแนวคิดที่ว่า ‘เศษขยะที่ถูกทิ้งบ่งบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับตัวคุณเอง’ แบบว่าไม่ต้องบ่นให้ยืดยาว ให้ภาพเล่าเรื่องแทน!! Pig คำด่าที่แปลว่าหมู ให้ภาพลักษณ์ของความสกปรก กินเรี่ยราด Low Life ชีวิตอันต่ำตม (สกปรก เลอะเทอะ) Dumb ไอ้งั่ง ก่อนหน้านี้ของฝั่งสหรัฐฯ ก็เคยทำเหมือนกัน ด่าเลย ขอแรงๆ!! โฆษณาชวนเชื่อชุดนี้ อาจจะไม่สามารถแก้ไขนิสัยของผู้มักง่ายได้อย่างทันที ต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อให้บุคคลในกลุ่มมักง่ายได้ปรับปรุงตัว อย่างน้อยก็น่าจะเข้าไปสะกิดในจิตใจของพวกเขาบ้างแหละ ที่มา…
-
แคนาดาประกาศเตรียมพิจารณากัญชาถูกกฏหมาย ลดความสำคัญของศาสนาและอาวุธ!!
ท่ามกลางกระแสการถกเถียงในทางสากลกับประเด็นของ ‘กัญชา’ ที่มีความเห็นสองฝ่ายที่ยังคงขัดแย้งกันว่ากัญชาเป็นสิ่งเสพติดหรือเป็นยารักษากันแน่ ซึ่งก็มีการออกมาชี้นำเกี่ยวกับประโยชน์และโทษของกัญชาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆ และล่าสุดนี้ทางรัฐมนตรีของประเทศแคนาดา Justin Trudeau ได้ทำการประกาศเตรียมพิจารณาในเรื่องของการทำกัญชาให้เป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมาย ลดความสำคัญของศาสนา รวมไปถึงการยกเลิกกฏหมายอาวุธปืนเพื่อลดจำนวนของปืนที่มีอยู่ในประเทศแคนาดา โดยการพิจารณาร่างกฏหมายในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนการปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง โดยมีจุดประสงค์ก็เพื่อลดอัตราการเกิดอาชญากรรมภายในประเทศ จากการลักลอบขนกัญชา การให้น้ำหนักกับศาสนาที่มากจนเกินไป (เหยียดเพศทางเลือก) รวมไปถึงมีความเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมที่มีอาวุธปืนด้วย อย่างไรก็ตามเหล่าสมาชิกกลุ่มนักบิด Hells Angels ได้รวมกลุ่มออกมาประท้วงและแย้งเกี่ยวกับการร่างและพิจารณากฏหมายเหล่านี้ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการเพิ่มอัตราการเกิดอาชญากรรมจากกัญชาซะมากกว่า ทางรัฐบาลเองก็มองในแง่มุมของการปฏิรูปประเทศให้เป็นไปในแนวทางสมัยใหม่มากขึ้น (เสรีนิยม) นั่นก็คือ การมีความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส การทำงานอย่างทุ่มเท กระตุ้นเศรษฐกิจ มีความเอื้ออาทรและเปิดกว้างเสรีของเพศทางเลือก ที่มา : unilad
-
มารู้จักกับเจ้า Obi สิงโตแอ๊บแบ้ว ชอบไปนั่งอยู่ในที่แคบๆ ไม่ต่างไปจากแมวยักษ์ชอบที่แคบเลย!!
เวลาพูดถึงสิงโต ก็คงจะหนีไม่พ้นคอนเซปต์เจ้าป่าผู้น่าเกรงขาม มีเสียงคำรามอันทรงพลัง จนใครต่างก็หวาดกลัวด้วยกันทั้งนั้น แต่จงลืมภาพพจน์เหล่านั้นให้หมดสิ้น เมื่อคุณได้มารู้จักกับเจ้าสิงโต Obi จากสวนสัตว์ Oaklawn Farm ประเทศแคนาดา เจ้าสิงโต Obi อายุ 2 ขวบ มีน้ำหนักตัวมากถึง 400 ปอนด์ (ประมาณ 181 กิโลกรัม) ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ในสวนสัตว์ Oaklawn Farm ประเทศแคนาดา ถึงแม้หน้าตาของมันจะดูน่าเกรงขาม แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีนิสัยที่น่ารักมากๆ เหมือนกับแมวไม่มีผิด เพราะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เจ้า Obi ได้ขึ้นไปซุกอยู่บนรถเข็นล้อเดียวของเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ซะอย่างงั้น โดยที่คุณ Maria Weinberg หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลสิงโตก็ได้บอกเอาไว้ว่า ‘ในขณะที่กำลังส่งฟักทองให้สิงโตอีกสองตัวเล่นอยู่ เหลือบไปเห็นเจ้า Obi นั่งอยู่บนรถเข็นแล้ว ปล่อยไว้ซัก 2 – 3 นาที มันก็กระโดดออกไปเล่นฟักทองกับเพื่อนๆ’ ‘เจ้า Obi มันมักจะมีนิสัยแปลกๆ…
-
ชมความน่ารักของ “2 ลูกแมวแคระ” ที่ขาสั้นๆของมัน จะทำให้คุณตกหลุกรักโดยไม่รู้ตัว
แม่แมวท้องตัวหนึ่งได้มาคลอดลูกทิ้งไว้ที่กองขยะ ซึ่งได้คลอดออกมาทั้งหมด 5 ตัว มีอยู่ 2 ตัวที่ร่างกายของมันดูไม่ปกติ คือตัวเล็กไม่เหมือนลูกแมวทั่วไป จากนั้นก็มีพลเมืองดีมาพบเห็นและคิดว่ามันจะไม่รอดจึงนำลูกแมวทั้ง 2 นั้นไปรักษาที่ศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยง รัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เพื่อที่จะได้อยู่ในความดูแลของผู้เชี่ยวชาญในการรักษาลูกแมวนี้ แมวสาวน้อยน่ารักเอลฟี่ แมวที่มีขาสั้นหรือเรียกว่าแมวแคระนั้นเอง กิมลี่ น้องชายของเอลฟี่ และตอนนี้ลูกแมวน้อยทั้ง 2 ก็ได้รับการเลี้ยงดูอย่างดีจากแม่บุญธรรมที่ทำงานอยู่ในศูนย์พักพิงสัตว์เลี้ยง ทำให้มีการเป็นอยู่ที่ดี ตัวอ้วนท้วมสมบูรณ์เลยหล่ะ เจ้าลูกแมวแคระทั้งสองมีความสุขในบ้านหลังใหม่ ด้วยความน่ารักของเจ้าแมวน้อยทำให้เป็นขวัญใจของชาวโลกออนไลน์ไปแล้ว มุ้งมิ้ง เดินต้วมเตี้ยมน่ารัก วิดีโอที่โพสต์โดย Elfie & Gimli (@elfie_gimli) เมื่อ ธ.ค. 11, 2014 เวลา 4:04pm PST เจ้าตัวอ้วนนอนสบายเชียว วิดีโอที่โพสต์โดย Elfie & Gimli…