Tag: แคมเปญ
-
สุดยอดชิ้นงานโฆษณา ‘Changing Your Perspective’ เพราะการอ่านช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น
ในยุคสมัยข้อมูลที่มีเป็นจำนวนมาก ถึงขั้นเรียกได้ว่าเกินพิกัดกว่าที่คนหนึ่งคนจะรับได้ไหวทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นทั้งสื่อวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และสื่อออนไลน์สมัยใหม่บนโลกออนไลน์… อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลที่มีมากจนเกินไป ด้วยพื้นฐานความเป็นมนุษย์มักจะเลือกทางที่ง่ายและถูกใจที่สุดเสมอ นั่นจึงเป็นสิ่งที่อันตรายต่อการใส่ข้อมูลที่บิดเบือน และผิดเพี้ยนไปจากความจริง จนอาจนำไปสู่ความรุนแรงได้ Questioning War (ประเด็นเกี่ยวกับสงคราม) ทางด้านนิตยสารรายเดือน “Reporter” จึงได้สร้างแคมเปญ Changing Your Perspective – เปลี่ยนมุมมอง สะท้อนออกมาเป็นภาพโฆษณา 3 ชิ้น ภายใต้ชื่อภาพที่แตกต่างกัน พร้อมกับการตั้งคำถามกับความเชื่อหรือถูกบังคับให้เชื่อ ว่าตัวเราเองเคยตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งนั้นบ้างหรือไม่ หรือจุดประสงค์ที่แท้จริงในแต่ละอย่างนั้น เกิดขึ้นมาเพื่ออะไร? Questioning Neo-Nazism (ลัทธิที่เคลื่อนไหวคืนชีพนาซี) Questioning Radicalism (ลัทธินิยมความรุนแรง) นิตยสารรายเดือน Reporter มุ่งเน้นไปที่นำเสนอการข่าวในแนวสืบสวนสอบสวน และปกของแต่ละเดือนมักจะออกมาเป็นในแนวการตั้งคำถามในประเด็นสังคมส่วนใหญ่ และแคมเปญดังกล่าวก็ได้นำ 3 ประเด็นมาชูโรงในด้านเนื้อหาของปีนี้ด้วย ภายใต้การผลิตของทีมเอเจนซี่ Y&R จากกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก พร้อมกับเป็นการสะท้อนตัวตนของนิตยสารในด้านการนำเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ…
-
แคมเปญรณรงค์สุดเจ๋งจากนิวซีแลนด์ ว่าด้วยเรื่องการเล่นน้ำอย่างมีสติ มิฉะได้เจอยมทูตแน่!!
ร้อนๆ แบบนี้นอกจากสงกรานต์บ้านเราแล้ว ทะเลก็คงจะเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ใครๆ ก็อยากจะไปเพื่อคลายร้อน ใส่ชุดบิกินี่สวยๆ หรือพักผ่อนหย่อนใจ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการลงเล่นน้ำทะเลนอกจากสร้างความสุขแล้ว มันยังมีอย่างอื่นด้วย เพราะบางครั้งถ้าเราลงไปเล่นอย่างขาดสติหรือไม่ได้ระวังถึงอันตรายที่จะเกิด ทะเลก็จะเป็นที่อีกสถานที่หนึ่งที่มอบความตายให้กับคุณได้เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทางการนิวซีแลนด์จึงออกแคมเปญที่ช่วยให้ประชาชนระวังถึงภัยที่อาจจะเกิดขึ้นจากบริเวณชายหาด เพราะประเทศนิวซีแลนด์นั้นมีสถิติคนตายจากการจมน้ำหรืออันตรายที่เกิดขึ้นจากการเล่นน้ำบ่อยมากๆ 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ที่เสียชีวิตจากการจมน้ำเมื่อปีที่แล้วเป็นชายหนุ่มอายุ 15-34 ปี ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วในนิวซีแลนด์มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำปีละ 105 คนเลยทีเดียว แคมเปญที่ว่านั่นก็คือ ‘The Swim Reaper‘ ซึ่งเป็นโฆษณาที่ใช้ตัวยมทูตซึ่งเป็นตัวแทนแห่งความตายมาเดินเล่นบนชายหาด รวมถึงคอยเตือนว่าอะไรควรทำอะไรไม่ควรทำก่อนลงเล่นน้ำ เพราะถ้าพลาดอาจจะส่งผลให้ยมทูตตนนี้แวะไปหาคุณได้!! ลงมาเล่นน้ำกับเขาสิตัวเอง พี่เขามารอรับคนตายที่ชายหาดทุกวันเลยนะ เฝ้ามองว่าอาจจะมีคนติดมาแถวๆ ซอกหิน เป็นไปได้ก็อย่าเจอกันเลยจะดีกว่า… ในส่วนของคำแนะนำสำหรับคนที่อยากแวะมาเจอกับความตาย พี่แกก็ได้ให้คำแนะนำไว้หลายวิธีเลยไม่ว่าจะเป็นการว่ายน้ำด้วยการใส่กางเกงยีนส์ หรือจะเป็นการกระโดดลงน้ำที่มีท่อนไม้แหลมๆ อยู่ข้างใต้ ไม่ก็อาจจะเป็นการว่ายน้ำแรงๆ แล้วไปชนเข้ากับหิน ทุกวิธีล้วนสามารถพาคุณมาพบกับพี่ Swim Reaper ได้หมด อยากมาเจอกันไวๆ ก็รับกางเกงยีนส์จากพี่ยมทูตลงไปเล่นน้ำได้เลย …
-
Twitch แจกทุน “สตรีมเมอร์ดีแต่ขาดทุนการศึกษา” สำหรับสาวๆ ให้สูงสุด 60,000 บาท!!
การแจกทุนการศึกษาโดยบริษัทเอกชนนั้น จะเกิดขึ้นไม่บ่อยเท่าไหร่นัก และเว็บไซต์สตรีมมิ่งวีดีโอเกมขนาดใหญ่อย่าง Twitch จะจัดงานแบบนี้บ้าง แต่สำหรับทุนนี้จะมีความแตกต่างตรงที่ จะมอบให้เฉพาะสาวๆ เท่านั้น!! โครงการแจกทุนการศึกษาดังกล่าว เป็นการร่วมมือกันระหว่าง “1,000 Dreams Fund” และ Twitch โดยพวกเขามีจุดมุ่งหมายของแคมเปญในครั้งนี้ว่า… จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สตรีมเมอร์หญิงที่มีปัญหาค่าใช้จ่ายเช่น การเดินทางไปงานเกี่ยวกับเกม การศึกษา การอัปเกรดฮาร์ดแวร์ และโปรแกรมการเรียนการสอนที่เกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์หรือศิลปะ โดยทุนดังกล่าวไม่ได้มีไว้สำหรับค่าใช้จ่ายประจำวัน (เช่นค่าสาธารณูปโภคค่าอาหาร) หรือค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาทางการแพทย์ โดยที่ผู้เข้าร่วมโครงการจะต้องเป็นสตรีมเมอร์เพศหญิงที่มีรายการของตัวเองบน Twitch และผู้สมัครต้องแสดงให้เห็นถึงความต้องการทางการเงิน ด้วยการเขียนเรียงความเพื่ออธิบายวิธีที่จะใช้เงินทุนดังกล่าวในด้านใด การคัดเลือกจะขึ้นอยู่กับเนื้อหาของใบสมัครและความต้องการทางการเงิน และผู้สมัครที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย มหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาในสหรัฐอเมริกา จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ โครงการนี้ถูกมองจากเหล่าสตรีมเมอร์ใน Twitch เองว่าเป็นเพียงหนึ่งในแผนการเพิ่มจำนวนสตรีมเมอร์หญิงเท่านั้น แต่เนื่องจากเป็นการช่วยเหลือสังคมในอีกทางหนึ่ง บวกกับการที่มีโครงการแบบนี้ออกมา จะทำให้สัดส่วนของสตรีมเมอร์หญิงและชายมีจำนวนใกล้เคียงกัน และผลตอบรับต่อโครงการนี้จึงออกมาค่อนข้างดี หนึ่งใน Twitch สตรีมเมอร์ดาวเด่น Tina ‘shadowfoxx086’ Degenhart กล่าวว่า “หลายปัญหาที่ผู้หญิงต้องเผชิญเกิดจากการขาดความเคารพ แต่การเล่นเกมเป็นอีกหนึ่งสิ่งหนึ่งที่เราไม่ควรละอายใจที่จะทำ เพราะทางอุตสาหกรรมเกมจะไม่เข้าใจวิธีปฏิบัติต่อผู้หญิง หากพวกเราไม่แสดงวิธีปฏิบัติต่อผู้หญิงให้พวกเขาเห็น” แหม่… เห็นแบบนี้แล้วต้องชูนิ้วโป้งเลยค่ะ!! อย่างไรก็ตาม…
-
แบรนด์อังกฤษ เลือกผู้ป่วยเด็กร่วมถ่ายโฆษณาเสื้อผ้า เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเท่าเทียม
“ป้ายกำกับมีไว้ใช้สำหรับสินค้าเท่านั้น ไม่ได้ใช้กับผู้คน” ข้อความจากบริษัท River Island แบรนด์เสื้อผ้าจากเมืองผู้ดีที่กล่าวถึงเคมเปญล่าสุดที่ให้โอกาสเด็กน้อยทั้ง 6 ที่มีอาการป่วยในการร่วมโฆษณาเสื้อผ้าเด็กของพวกเขาในโครงการ Labels Are For Clothes Cora Bishop สาวน้อยวัย 6 ขวบผู้ป่วยด้วยอาการดาวน์ซินโดรม เป็นหนึ่งในเด็กน้อยที่ได้ร่วมโครงการนี้ คุณ Sheryl Bishop แม่ของเด็กน้อยให้สัมภาษณ์ว่าลูกสาวของเธอมีความสุขมากที่ได้เข้าร่วมแคมเปญ “Cora เป็นเด็กที่น่ารักมาก สิ่งที่เธอเป็นทำให้คนอื่นๆ สนใจและสร้างเสียงหัวเราะให้กับพวกเขา พวกเขาให้เธอร่วมถ่ายโฆษณานั้น และเธอก็แค่ออกไปเล่นสนุกเหมือนปรกติ โดยที่พวกเขาไม่ได้กำหนดให้เธอทำอะไรเลย ฉันรู้สึกภูมิใจในทีมงานอย่างมากที่ช่วยให้ลูกสาวของฉันมีความเชื่อว่าเธอสามารถประสบความสำเร็จในสิ่งที่เธออยากทำได้” คุณ Sheryl แม่ของเด็กน้อยวัย 6 ขวบให้สัมภาษณ์ Cora Bishop สาวน้อยวัย 6 ขวบ หนึ่งในผู้ร่วมโครงการของแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังจากอังกฤษ สาวน้อย Cora ชื่นชอบการเป็นนางแบบเด็กของเธอมาก เด็กหญิงวัย 6 ขวบได้รับการคัดเลือกจากแบรนด์ หลังจากที่ทาง Zebedee Management บริษัทที่ทำงานร่วมกับผู้ป่วยได้แนะนำเธอให้กับพวกเขา นอกจากสาวน้อยแล้ว Gabriel Sohota เด็กชายวัย 4 ขวบที่มีอาการป่วยเช่นเดียวกับ Cora เองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการนี้ด้วยเช่นกัน และก็เหมือนกับเด็กทั่วๆ ไป Gabriel เองก็มีความสุขและเขาเองแทบไม่หยุดโพสต์ท่าเลยทีเดียว ในขณะที่ได้เป็นนายแบบตัวน้อยให้กับ River Island Gabriel…
-
หนุ่มทดลองอยู่คนเดียวนาน 1 สัปดาห์ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ‘ความโดดเดี่ยว’ มันโหดร้ายแค่ไหน
บนโลกนี้มีคนอยู่นับล้านๆ คนที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันบนดาวดวงเล็กๆ ใบนี้ ซึ่งในแต่ละวันเราก็ต้องพบปะกับผู้คนมากมายทั้งรู้จักและแปลกหน้า และด้วยความที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ทำให้หากไม่ได้พบปะหรือมีปฏิสัมพันธ์กับใครก็อาจจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘ความเหงา’ ขึ้นมาได้ ความเหงาอาจเกิดขึ้นมาได้ในตอนที่เรารู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว หรืออยากจะหาใครสักคนมาพูดคุยปรับทุกข์ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่มีใครรู้จักกับความเหงาจริงๆ ว่าความโหดร้ายจริงๆ ของมันทำให้เราทรมานได้แค่ไหนกันนะ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ชายคนหนึ่ง ทดลองขังตัวเองไว้ในบ้านเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์โดยไม่มีการพบปะกับใคร ไม่มีการใช้โทรศัพท์ รวมถึงไม่มีการใช้อินเทอร์เน็ต เพื่ออยากจะทดสอบว่าความเหงามันจะสามารถสร้างผลกระทบอะไรแก่เขาได้บ้าง ชายนักทดลองคนดังกล่าวมีชื่อว่า Joe โดยเขาได้อัดวิดีโอตัวเองขณะทำการทดลองในครั้งนี้เอาไว้ ซึ่งจากวิดีโอของเขาจะเห็นได้ว่า ในวันแรกๆ ของการทดลอง Joe ก็ดูจะมีความสุขดีกับความเงียบสงบภายในบ้านที่เขาอยู่ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานนัก ความเหงาก็เริ่มทำหน้าที่ของมัน จนในที่สุดมันก็ทำให้สภาพจิตใจของเขาย่ำแย่จนแทบจะไม่มีชิ้นดี จนถึงขั้นนอนไม่หลับเลยทีเดียว “มันเป็นความว่างเปล่าที่ผมสัมผัสได้ว่ามันว่างเปล่าจริงๆ” Joe กล่าว การทดลองของ Joe ในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญชื่อว่า The Loneliness Project ซึ่งเป็นแคมเปญที่ต้องการกระตุ้นให้ผู้คนช่วยกันดูแลช่วยเหลือคนเหงา รวมถึงฟื้นฟูสภาพจิตใจที่ได้รับบาดเจ็บมาจากความเหงา ที่มักจะเกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ “ในตอนนี้มีคนที่มีภาวะเหงาเรื้อรังมากถึง 1.2 ล้านคนในสหราชอาณาจักร โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว ก็คือพวกเขาเหล่านี้มักจะไม่ได้รับสิ่งที่เรียกว่า มิตรภาพ…
-
สวีเดนผุดแคมเปญช่วยลดความเครียด ให้ผู้คนมาใช้ชีวิตชิวๆ ในกระท่อมกลางธรรมชาติ!!
ภาวะความเครียด เกิดจากผลกระทบหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการเรียน ด้านการเงิน รวมถึงด้านการทำงาน แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่อาจไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้มากนัก แต่สำหรับผู้คนในประเทศสวีเดนแล้ว มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพวกเขามาก ด้วยเหตุนี้ สวีเดนจึงได้มีการจัดทำแคมเปญที่ชื่อว่า “72 Hour Cabin” ขึ้นมา เพื่อเชิญชวนให้กลุ่มวัยทำงาน 5 คนที่มีความเครียดมาใช้เวลา 3 วันเต็ม ใน “กระท่อมเรือนกระจก” ที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันร่มรื่น และเงียบสงบ กับบรรยากาศแบบชนบทในสวีเดน . สำหรับแคมเปญ 72 Hour Cabin นี้ มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้คนที่มีความเครียดระดับสูงจากการทำงาน และจากเมืองใหญ่ที่มีความวุ่นวาย มาใช้ชีวิตในกระท่อมกลางป่าที่รอบล้อมไปด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงาม ทั้งนี้ เพื่อจะได้เป็นการช่วยบำบัดสภาพจิตใจ และทำให้คุณภาพชีวิตของพวกเขาดีขึ้น ซึ่งแคมเปญดังกล่าวยังหวังที่จะช่วยส่งเสริมให้ประเทศอื่นๆ ทั่วโลกได้ทำตามอีกด้วย . และผู้โชคดี 5 คนไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว พร้อมนักข่าวจากประเทศอังกฤษ คนขับรถแท็กซี่จากกรุงปารีส นักจัดอีเว้นท์ในนิวยอร์ก และเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเยอรมัน ที่ได้เข้ามาร่วมแคมเปญนี้ จะได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของผู้คนในชนบท รวมถึงได้เห็นสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติที่สวยงาม…
-
งี้ก็มี!? หนุ่มเมกันผุดกิจกรรม ‘กระหน่ำปืนใส่เฮอร์ริเคน Irma’ หวังไล่ให้มันออกไปไกลๆ..!!
อาจจะเป็นธรรมเนียมของชาวเมกันก็ได้นะ ที่แบบว่า… ถ้าไม่ชอบใจอะไรซักอย่างแล้ว ก็ยิงแม่มเลยล่ะกัน!! เช่นเดียวกับพายุเฮอร์ริเคน Irma ที่กำลังจะเข้ามาพัดถล่มหมู่เกาะและชายฝั่งในรัฐฟลอริดา จนทำให้ล่าสุดทางการต้องสั่งอพยพชาวเมืองกว่า 5,600,000 คน อย่างเร่งด่วนที่สุด แน่นอนว่าไม่มีใครชอบหรอก.. ที่จู่ๆ จะมีฟ้าฝนลมแรงมาพัดบ้านเราพังไปทั้งหลัง ด้วยเหตุนี้หนุ่มเฟี้ยววัย 22 ปี Ryon Edwards ผู้อาศัยอยู่ในฟลอริดามาตั้งแต่เด็กจนโต รู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อปกป้องบ้านเมืองของตัวเอง แต่ตัวเองไม่มีพลังวิเศษ… งั้นก็เอาปืนมายิงใส่แบบสไตล์อเมริกันคาวบอยเลยละกัน Ryon ได้สร้างอีเวนท์ ‘Shoot At Hurricane Irma’ บนเฟซบุ๊ก และถูกอกถูกใจชาวเมืองจนมีคนกดติดตามเข้าร่วมด้วยมากกว่า 50,000 คน อันที่จริงแล้วในช่วงเวลาที่ชาวเมืองทุกคนต่างเร่งรีบอพยพหนีภัยจากพายุแบบนี้ คงไม่มีใครมายืนยิ้มยิงปืนใส่พายุหรอกจริงมั้ย? แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเอาปืนออกมาเล็งใส่พายุจริงๆ หรอกนะ… Ryon ให้สัมภาษณ์กับ BBC ว่า “ด้วยพลังแห่งความเครียดผสมกับความเซ็งและเบื่อหน่าย ผมเลยจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมาซะเลย แถมผลตอบรับนี่โคตรจะเซอร์ไพรส์สุดๆ ไปเลยครับ ตอนแรกผมก็ไม่คิดหรอกว่าจะมีคนบ้าเอาปืนมาเล็งใส่พายุกันจริงๆ เราก็แค่อยากเกรียนไปเล่นๆ แค่นั้น เอาไปเอามากลายเป็นเรื่องจริงจังเฉยเลย” มีหนุ่มฟลอริด้าคนหนึ่ง……
-
ชม 15 ภาพจากบรรยากาศ ‘GoTopless’ หนุ่มสาวเดินเปลือยท่อนบน รณรงค์เผยหน้าอกเสรี..!!
เราข้ามฝั่งไปกันที่เกาะแมนฮัตตันกันบ้าง เพราะเมื่อวันเสาร์ที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้มีเหล่าคนรุ่นใหม่ออกมาร่วมกันเดินขบวนเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ‘GoTopless’ หรือแปลไทยว่า เทศกาลเปลือยอกนั่นเอง ซึ่งอันที่จริงมันถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีมาตั้งแต่ปี 2007 แล้วล่ะ จุดประสงค์ก็เพื่อออกมาต่อต้านกฎหมายที่ว่า การที่หญิงสาวเปลือยอกเดินในที่สาธารณะถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย แต่ก็ใช่ว่าภายในงานจะมีแต่หน้าอกเท่านั้น เพราะยังประกอบไปด้วยวงโยธวาทิต กลุ่มศิลปินที่ออกมาเพ้นท์เรือนร่างให้ผู้คน หรือแม้กระทั่งผู้ชายที่เห็นด้วยกับการแก้กฎหมายดังกล่าว และทั้งหมดนี้คือภาพบรรยากาศจากนิวยอร์ก เอาเป็นว่าลองเลื่อนไปชมกันดูเลย . . . . . . . . . . . . . . ฮึ่มม.. อย่าว่างั้นงี้เลยนะ อยากไปเที่ยวชมงานนี้ดูซักครั้งจัง ไม่ได้คิดหื่นเลยนะจริงจริ๊งง ที่มา: Metro
-
แคมเปญ ‘ป้องกันการฆ่าตัวตาย’ ของเกาหลีใต้ ช่วยลดจำนวนได้ กวาดกว่า 38 รางวัลทั่วโลก!!
นับว่าปัญหาการฆ่าตัวตาย เป็นปัญหาที่หลายๆ ประเทศกำลังเผชิญเลยก็ว่าได้ จนทำให้รัฐบาลหลายๆ ประเทศเริ่มที่จะหันมาสร้างแคมเปญเพื่อรณรงค์แก้ปัญหาดังกล่าว เช่นเดียวกับที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งคราวนี้เราจะพาไปชมอีกหนึ่งแคมเปญการแก้ปัญหาที่เกิดจากความมือระหว่างรัฐ และภาคเอกชน ที่ช่วยลดจำนวนตัวเลขบุคคลฆ่าตัวตาย และกวาดรางวัลมาแล้วกว่า 38 รางวัล สะพาน Mapo สถานที่ๆ มีคนมาจบชีวิตตัวเองลงมากที่สุดในเกาหลีใต้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 รัฐบาลเกาหลีใต้ได้จับมือร่วมกับบริษัทประกันภัย Samsung Life Insurance และ Cheil Worldwide เพื่อสร้างแคมเปญที่หวังจะช่วยลดปัญหาการฆ่าตัวตาย มีการใช้พื้นที่โฆษณา และมีการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผ่านหลายช่องทาง และหนึ่งในนั้นก็มีการเขียนข้อความติดบนสะพาน Mapo ตัวอย่างเช่น “ทานข้าวมารึยัง?” หรือ “ใจเย็นๆ นะ ไปเดินเล่นด้วยกันมั้ย?” เป็นต้น ด้วยความที่สะพาน Mapo ถูกใช้เป็นสถานที่ฆ่าตัวตายมากที่สุด ทางการจึงได้สั่งให้มีการติดตั้งไฟตามสะพานเพื่อไม่ให้บรรยากาศดูมืดอึมครึมมากเกินไป รวมทั้งยังมีการสร้างรูปปั้นที่ช่วยตระหนักให้คนที่กำลังหมดหวังในชีวิตให้ได้รู้ว่า… ไม่ว่ายังไง ชีวิตเราก็ยังมีคนที่คอยรับฟัง และพร้อมจะช่วยเหลือเสมอ รูปปั้นของแคมเปญ ‘Bridge of Life สะพานแห่งชีวิต’ ที่กลายเป็นกำลังใจให้ผู้คนที่สิ้นหวัง…
-
ชมภาพวาดน่ารักๆ ของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว จากศิลปินที่รับภาพมาจากเจ้าของ มุ้งมิ้งสุดๆ!!
จะเป็นอย่างไร!? เมื่อผู้เป็นเจ้าของบรรดาสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ได้พากันออกมาส่งภาพหมา แมว รวมถึงสัตว์เลี้ยงแสนรักชนิดอื่นๆ ของตัวเองให้กับศิลปินคนหนึ่ง บอกเลยว่าหลายคนจะต้องคาดไม่ถึง เพราะผลงานที่ได้รับมันสวยงาม และน่าทึ่งเกินบรรยาย ในวันนี้เราจะขอนำภาพวาดสัตว์เลี้ยงแสนน่ารัก จาก Koko Sempai ผู้ใช้จากเว็บไซต์ Boredpand ที่ได้เปิดรับภาพสัตว์เลี้ยงจากเจ้าของหลากหลายคน แล้วบันดาลออกมาเป็นในเวอร์ชั่นการ์ตูนสุดน่ารัก แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายของตัวจริงไป ว่าแล้วก็มาชมผลงานของพวกเขากันเลยดีกว่า… 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18…
-
เมื่อตุ๊กตาหมีเท็ดดี้ชมพูถูกลืมเอาไว้ ทางสนามบินจัดแคมเปญตามหาเจ้าของให้ซะเลย!!
ภารกิจตามหาเจ้าของให้กับตุ๊กตา ได้เริ่มขึ้นหลังจากที่ตุ๊กตาหมีเทดดีแบร์ที่น่าสงสารตัวนี้ ถูกเจ้าของลืมไว้ที่สนามบิน Cork ในประเทศไอร์แลนด์ ด้วยเหตุนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิดในการจัดแคมเปญตามหาเจ้าของให้กับมันซะเลย ซึ่งหลังจากที่ทางเฟสบุ๊คแฟนเพจ Cork Airport ได้โพสต์ภาพของเจ้าตุ๊กตาหมีตัวดังกล่าวลงในเฟสบุ๊ค ไปเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อเลยว่ามันจะได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีการแชร์โพสต์ออกไปมากกว่า 903 ครั้งเลยทีเดียว จากการรายงานทางเว็บไซต์ต่างประเทศระบุว่า ในวันที่สองหลังจากที่เจ้าตุ๊กตาหมีถูกทิ้งเอาไว้อย่างโดดเดี่ยว ทางเจ้าหน้าที่สนามบินจึงได้ตัดสินใจสร้างแคมเปญตามหาเจ้าของให้กับมัน โดยการนำภาพไปโพสต์ลงในเฟสบุ๊คพร้อมทิ้งข้อความเอาไว้ว่า “ตุ๊กตาหมีสีชมพูตัวนี้กำลังจะเดินทางออกไปท่องเที่ยว แต่น่าเสียดายที่มันต้องแยกจากเพื่อนร่วมเดินทาง หากคุณคิดถึงเจ้าหมีตัวนี้ ก็โปรดติดต่อกลับมาหาเรา ตอนนี้มันกำลังทานมื้อเย็น ดื่มชา และพักผ่อนอยู่ในห้องพัก” ช่วยตามหาเจ้าของให้หน่อยน้าาาา ขณะรอคอยเจ้าของกลับบ้าน อยู่ว่างๆ ก็มานั่งเล่นดนตรี ฮร่าๆ “เราพบเจ้าเท็ดดี้อยู่อย่างโดดเดี่ยวบริเวณประตูขึ้นเครื่องบิน และเราก็รู้ว่ามันจะต้องเหงามากแน่ๆ และตอนนี้มันก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสนามบินไปแล้ว มันมีความสุขในการช่วยเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า พร้อมกับรอคอยให้เจ้าของมารับกลับบ้าน” เจ้าหน้าที่จากทางสนามบินกล่าว ตอนนี้มันได้รับชุดทำงาน และกำลังจะกลายเป็นพนักงานในสนามบินแล้ว ดูสิว่ามันน่ารักแค่ไหน หากเจ้าของไม่มารับมันกลับไป เจ้าตุ๊กตาหมีน้อยตัวนี้อาจจะต้องเซ็นสัญญาระยะยาว เพื่อที่จะเข้าทำงานกับทางสนามบินแล้วนะ ฮร่าๆ…
-
นางแบบผิวสี ร่วมกันถ่ายภาพเลียนแบบแบรนด์ดัง ปลุกกระแสความหลากหลายในวงการแฟชั่น
Deddeh Howard นักศึกษาเภสัชศาสตร์วัย 27 ปี รวมถึงเป็นบล็อกเกอร์แฟชั่น และนางแบบผิวสีจากลอสแองเจลิส เธอได้ร่วมมือกับช่างภาพ Raffael Dickreuter ด้วยการนำภาพเคมเปญแฟชั่นที่ระดับโลกของนางแบบตัวท็อปแห่งวงการแฟชั่นไม่ว่าจะเป็น Kendall Jenner, Gigi Hadid, Kate Moss และ Gisele Bundchen มาถ่ายใหม่ ภายใต้โปรเจคที่ชื่อว่า ‘Black Mirror’ สำหรับโปรเจค ‘Black Mirror’ ทาง Deddeh ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่เธอเคยถูกปฏิเสธจากเอเจนซี่นางแบบ เพียงเพราะเหตุผลที่ว่าพวกเขามีนางแบบผิวสีอยู่แล้ว ซึ่งในความเป็นจริงเธอคิดว่าการเป็นนางแบบผิวสีไม่ควรถูกจำกัดไว้เพียงแค่คนเดียว และดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้สึกอับอายที่ทางสังกัดจะนำเสนอนางแบบที่มีความหลากหลาย และนั่นก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวด และรู้สึกแย่เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้เธอจึงได้สร้างโปรเจคดังกล่าวขึ้นมา และส่งข้อความไปยังผู้หญิงผิวสีทุกๆ คน โดยเฉพาะสาวผิวดำว่า พวกเธอมีความงดงามเท่าเทียมกับคนอื่นๆ และสามารถที่จะถ่ายแบบร่วมกับแบรนด์ดังระดับโลกได้เช่นกัน 1.Chanel 2.Victoria’s Secret 3.David Yurman 4.Vivara 5.Gucci…
-
คุณพ่อไอเดียเจ๋ง เปลี่ยนวีลแชร์เด็กๆที่ป่วย ‘กล้ามเนื้อลีบ’ ให้กลายเป็นรถแฟนซีสุดเท่!!
เมื่อถึงวันฮาโลวีน บรรดาชาวชาติตะวันตกทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ต่างก็พากันแต่งตัวเป็นภูตผีปีศาจสุดหลอนกันใช่ไหมละ!? แต่สำหรับ Ryan Weimer สุดยอดคุณพ่อคนนี้ เขามีไอเดียการทำชุดฮาโลวันที่เจ๋งกว่าคนอื่นๆ โดยได้สร้างสรรค์ชุดฮาโลวีนให้กับลูกชายของตัวเองในแบบที่ไม่เหมือนใคร บอกเลยว่ามันเป็นผลงานที่สุดยอด Ryan และ Lana Weimer สองสามีภรรยา ที่มีลูกชายป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อลีบมาตั้งแต่เกิด และต้องพึ่งพาวีลแชร์ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา เมื่อวันฮาโลวีนมาถึง Ryan ผู้เป็นพ่อจึงได้ปิ๊งไอเดียสุดบรรเจิด โดยการนำวีลแชร์ของลูกชาย มาเนรมิตให้กลายเป็นชุดเรือโจรสลัดสุดเท่นั่นเอง หลังจากที่สร้างเสร็จ เรื่องชุดฮาโลวีนสุดเท่ของลูกชายก็ได้เผยแพร่ออกไป แถมยังได้รับความสนใจจากผู้ปกครองทั่วโลกเป็นอย่างมาก โดยทางผู้ปกครองยังร้องขอให้ Ryan ช่วยเปลี่ยนวีลแชร์ให้กับลูกๆ ของพวกเขาบ้าง จนกระทั่งในปี 2015 Ryan และ Lana จึงได้ตัดสินใจที่จะสร้างแคมเปญ เพื่อระดมทุนในการเปลี่ยนรถเข็นธรรมดาๆ ให้กลายเป็นชุดน่ารักๆ สำหรับเด็กๆ นอกจากนี้ พวกเขายังได้เป็นส่วนหนึ่งของ “Magic Wheelchair” องค์กรไม่แสวงหากำไร ในการสร้างรถเข็นเวทมนตร์ให้แก่เด็กที่ใช้วีลแชร์ โดยมีวัตถุประสงค์คือ การสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าให้กับเด็กๆ ทุกคนนั่นเอง สำหรับแคมเปญดีๆ…
-
3 ผู้ว่าจังหวัดในญี่ปุ่น ลงทุนสวมชุดคนท้อง รณรงค์ให้พ่อบ้านใจกล้าช่วยเมียทำงานบ้าน!!!
เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศได้เผยว่า จากการสำรวจของ International Social Survey Programme (ISSP) พบว่า ผู้ชายญี่ปุ่นโดยเฉพาะในพื้นที่คิวชู และจังหวัดยามากุจิ มีแนวโน้มที่จะไม่ช่วยเหลืองานในครัวเรือน รวมถึงไม่ช่วยภรรยาดูแลลูก รายงานระบุฝ่ายภรรยาจะทำงานบ้านหนักมากกว่าสามีถึง 7 เท่า ด้วยเหตุนี้ ทางญี่ปุ่นจึงได้ผุดแคมเปญที่เรียกว่า “คิวชู-ยามากุจิ สร้างความสมดุลในชีวิตการทำงาน” โครงการนี้จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว หาวิธีที่จะทำให้การใช้ชีวิต และการทำงานของพวกเขาเข้ากันได้มากขึ้น ด้าน 3 ผู้ว่าราชการจังหวัดคนปัจจุบันของจังหวัดซากะ จังหวัดมิยาซากิ และจังหวัดยามากุจิ ก็ได้ถูกเชิญให้มาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญนี้ด้วย โดยทั้ง 3 จะต้องใส่แจ็คเก็ตเลียนแบบการตั้งครรภ์ของคุณแม่ ที่มีน้ำหนักกว่า 7.3 กิโลกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับน้ำหนักของหญิงตั้งครรภ์ 7 เดือน เพื่อออกไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติของพวกเขา… ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ช้อปปิ้ง ซักผ้า รีดผ้า และล้างจาน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ชายได้เข้าใจถึงความยากลำบาก ในสิ่งที่ผู้หญิงต้องแบกรับในระหว่างตั้งครรภ์ คลิปวีดีโอการทดลองบางส่วนที่ถูกปล่อยออกมา…
-
สาวๆ พร้อมใจ ถ้าใครโหวต No (ไม่เอา Donald Trump) จะได้ภาพนู้ดของเธอ แหม่!!
ก็เข้ากระแสโหวตกันหน่อยเนาะช่วงนี้ ถ้าบ้านเราก็คงจะเป็นการลงประชามตินี่แหละ และประเทศสหรัฐอเมริกาก็ด้วย เพราะตอนนี้กำลังเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะทำการเลือกประธานาธิบดีกัน!!! หนึ่งในผู้ที่มีคะแนนนำมาก็คือนาย Donald Trump ผู้เข้าชิงตำแหน่งจากพรรค Republican และแน่นอนว่าถ้ามีผู้สนับสนุน ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย แต่พวกเขาจะใช้วิธีไหนเพื่อชักจูงกันหน๊ออออ ฮร่าาา แคมเปญนี้เลย Tramps Against Trump !!! ที่สาวๆ ออกมาร่วมกันยืนยันว่า จะส่งภาพนู้ดให้คุณ ถ้าคุณโหวตให้ผู้สมัครจากอีกพรรคการเมืองล่ะ Jessica Rabbit เจ้าของแคมเปญนี้กล่าวกับสำนักข่าว Dazed ว่า ‘ตอนนี้สังคมของเหล่านักต่อสู้ต่อการเหยียดเพศกำลังรวมตัวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้คนชอบเหยียดได้รับตำแหน่ง และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญนี้จะไม่หยุดเฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่จะถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก’ มีสาวๆ มารวมตัวกันหลายคนด้วยล่ะ ไม่รู้เหมือนกันนะเนี่ยว่าแคมเปญนี้จะได้ผลรึเปล่า แต่ที่แน่ๆ หนุ่มๆ มีเปรมกันล่ะงานนี้ ประเด็นคือบ้านเราจะมีแบบนี้บ้างรึเปล่าหน๊อออ ฮร่าาาา ที่มา: Metro
-
หนุ่มๆ นายร้อยไทยหุ่นแซ่บ ร่วมใจกันถ่ายแบบกับน้องหมาจรจัด เพื่อช่วยหาบ้านให้กับมัน!!
เพื่อนๆ หลายคนคงเคยเห็นชายหนุ่มองค์กรต่างๆ ในต่างประเทศที่ออกมาทำการถ่ายรูปโชว์กล้ามเพื่อทำอะไรดีๆ ให้กับสังคมกันมาบ้างแล้ว อย่างเช่นนักดับเพลิงออกมาถ่ายแบบเพื่อหาเงินมาช่วยเหลือเด็กที่ยากไร้ เป็นต้น แต่หนุ่มไทยของเราก็ไม่น้อยหน้านะเออ ตอนนี้กระแสในโลกออนไลน์กำลังมีแคมเปญที่น่าสนใจซึ่งก็คือนำหนุ่มๆ นายร้อยมาถ่ายรูปโชว์กล้ามเพื่อหาบ้านให้กับน้องหมาจรจัด โดยเป็นการร่วมมือของเพจชื่อดังที่มีชื่อเสียงหลายเพจดังต่อไปนี้ Supper, PickAPet4Home-Bangkok, Jaytherabbit,และ หนุ่มสาวนายร้อยสอยดาว ให้ความร่วมมือกันจนเกิดเป็นแคมเปญนี้ขึ้นมา และนอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนเสื้อผ้าสวยๆ จากเพจสินค้าแฟชั่นสัตว์เลี้ยง Devon & Drew จนได้ภาพออกมาแซ่บสุดๆ ทั้งมะหมา และนายแบบเลยทีเดียว ซึ่งนายแบบแต่ละคนนั้นก็เป็นนายร้อยที่มาจากเพจ หนุ่มสาวนายร้อยสอยดาว ที่ต้องบอกเลยว่าแต่ละคนนี่มีหุ่นไม่แพ้นายแบบมืออาชีพเลยทีเดียว เอาล่ะ หากเพื่อนๆ คนไหนอยากช่วยหาบ้านให้น้องหมาก็ทำการแชร์ภาพเหล่านี้ออกไปให้ชาวโลกได้รับรู้โดยทั่วกัน และถ้าใครสนใจอยากรับเลี้ยงน้องหมาก็สามารถติดต่อโดยตรงไปยังเพจต่างๆ ที่ #เหมียวหง่าว ได้เอ่ยชื่อไว้ที่ข้างบนได้เลยนะจ๊ะ . . . . . . . เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะเพื่อนๆ ต้องขอบอกเลยว่านอกจากจะได้ชมภาพซิกแพ็คสวยๆ งามๆ ของชายในเครื่องแบบทั้งหลายแล้ว ยังได้ช่วยเหลือน้องหมาอีก เป็นแคมปญที่ดีไม่เบาเลยทีเดียวนะเนี่ย ^^ ที่มา : Jaytherabbit
-
‘Power Of Puppies’ โปรเจคถ่ายคลิปวิดีโอแสดงพลังของน้องหมา พร้อมกับบริจาคอาหารตามยอดวิว
เมื่อพูดถึงเหล่าเจ้าหมาแล้ว ทาสหมาทุกคนจะรู้ว่ามันเป็นสัตว์ที่น่ารักน่าชังขนาดไหน ทั้งนิสัยขี้เล่นทะเล้น แถมยังมีหน้าตาที่น่ารักน่าชัง ยิ่งถ้าตอนเป็นเด็กๆ แล้วล่ะก็ยิ่งทวีคูณความน่ารักขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ไม่ว่าจะทำงานมาเหนื่อยแค่ไหน อยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดแค่ไหน เหล่าผู้คนต่างก็ต้องยอมสยบให้กับความน่ารักของมัน ทางบริษัทอาหารสุนัข Puppy Chow และเว็บไซต์ SoulPancake ได้ร่วมมือกันสร้างโปรเจค #PowerofPuppies ขึ้นมา โดยโปรเจค #PowerofPuppies นี้สร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนได้คลิกชมวิดีโอนี้และเขาจะทำการบริจาคอาหารสุนัขเป็นจำนวน 5 ขีด ต่อการเล่นวีดิโอนี้ 1 ครั้ง ให้กับ Rescue Bank (องค์กรช่วยเหลือสุนัข) ซึ่งเนื้อหาในคลิปวิดีโอก็มีคร่าวๆ ดังนี้… วิดีโอเผยให้เห็นถึงความน่าเบื่อของเด็กๆ ระหว่างคลาสเรียน ในโรงเรียนเด็กเล็ก วันธรรมดาๆ ในสถานสงเคราะห์คนชรา… และความตึงเครียดของเหล่าผู้คนที่กำลังออกกำลังกายในยิม จากนั้นก็ได้นำเหล่าลูกหมาเข้ามาในระหว่างกิจกรรมที่พวกเขากำลังทำอยู่… บรรยากาศดูแปรเปลี่ยนไป จากห้องเรียนที่น่าเบื่อ กลับมีแต่เสียงหัวเราะ เหล่าผู้สูงอายุที่ดูท้อแท้สิ้นหวัง กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง นักกีฬาที่ดูเคร่งขรึมในตอนแรก กลายเป็นคนน่ารักมุ้งมิ้งขึ้นมาทันตา เอาล่ะ เราไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาค ด้วยการเข้าไปชมวิดีโอที่ข้างล่างนี้พร้อมๆ กันได้เลย… เชื่อแล้วว่าพลังของเหล่าหมาน้อยนี่มันช่างรุนแรงซะจริงๆ สามารถเรียกรอยยิ้มจากทุกคนได้อย่างทันตาเห็นเลยทีเดียวแฮะ แต่ถึงยังไงก็สู้ #เหมียวหง่าว ไม่ได้หร๊อก…
-
โฆษณาชุด ‘ทำลายธรรมชาติ = ทำลายชีวิต’ แคมเปญรณรงค์ให้ใส่ใจกับหายนะต่อสิ่งแวดล้อม
โลกทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของถิ่นที่อยู่อาศัยของมนุษย์และการนำทรัพยากรธรรมชาติมาเปลี่ยนแปลงเป็นผลผลิตต่างๆ เพื่อนำไปใช้งานในแต่ละด้าน แต่ยิ่งนานวัน ยิ่งมากขึ้นไปทุกที จนกระทั่งตอนนี้ธรรมชาตินั้นถูกทำลายอย่างหนัก ภาพโฆษณาชุด Destroying Nature Is Destroying Life สร้างสรรค์โดย Robin Wood นักเคลื่อนไหวทางด้านสิ่งแวดล้อมชาวเยอรมัน โดยทำการออกมาเรียกร้องให้มนุษย์หันมาใส่ใจต่อหายนะที่กำลังเกิดขึ้นต่อธรรมชาติทุกวินาทีในตอนนี้ที่เกิดขึ้นมาจากการกระทำของมนุษย์เอง ไม่ว่าจะเป็นทั้งไฟป่าแผดเผาเพื่อเคลียร์พื้นที่ การตัดไม้ทำลายป่าอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ รวมไปถึงการทำแท่นขุดเจาะน้ำมันในบริเวณขั้วโลก อันเป็นผลประโยชน์ที่มนุษย์หาจากธรรมชาติและทำร้ายทำธรรมชาติอย่างรุนแรงในเวลาเดียวกัน รายละเอียดของภาพแบบใกล้ชิด ที่มา : behance, designyoutrust
-
หนุ่มน้อยชาวรัสเซียวัย 16 สุดดี๊ด๊า ได้อยู่กับดาราหนังโป๊สาวในโรงแรม 1 เดือน ทำเอาหนุ่มๆ อิจฉาหนักมาก
วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ทางสำนักข่าว Dailymail ได้เผยเรื่องราวที่กำลังกลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลกโซเชียลอยู่ในขณะนี้เลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อ Ruslan Schedrin หนุ่มน้อยชาวรัสเซียวัย 16 ปีคนนี้ เป็นคนที่เข้าเว็บไซต์ขายแขนเสมือนจริง ที่ใช้สำหรับเล่นเกม และเขาก็เป็นคนที่ 100,000 พอดี เลยทำให้ได้รับรางวัลสุดพิเศษมาครอบครองนั่นก็คือ เขาจะได้อยู่ในโรงแรมร่วมกับดาราหนังโป๊สาวนามว่า Ekaterina Makarova เป็นเวลา 1 เดือนเต็มๆ นั่นเอง Ruslan ได้เผยว่า ในตอนแรกเขาแทบไม่เชื่อเลยว่าจะได้รับรางวัลนี้ แต่พอมันเป็นเรื่องจริง ทำให้เขารู้สึกมีความสุขสุดๆ เขาได้ติดตามผลงานของ Ekaterina มาตลอด และเมื่อได้รับรางวัลนี้มันก็ยิ่งทำให้รู้สึกแฮปปี้มากๆ แถมยังอยากจะพบกับเธอเร็วๆ ซะด้วย ทางด้าน Vera Schedrina แม่ของหนุ่มน้อยได้เผยว่า เธอไม่เห็นด้วยแน่ๆ ที่จะให้ลูกชายไปอยู่กับดาราหนังโป๊ตลอดเวลา 1 เดือนเต็ม เพราะเขายังเด็ก และกำลังเรียนหนังสืออยู่ …
-
Nissan ออกแคมเปญรณรงค์เคาะกระโปรงรถก่อนสตาร์ท เช็คแมวน้อยนอนหลับหาที่อบอุ่น
ในช่วงอากาศหนาวนั้น ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสัตว์ต่างก็ต้องหลบภัยหนาวหาที่อบอุ่นกัน ไม่ว่าจะหาเตาผิง ซุกใต้ผ้าห่มหนาๆ ใส่เสื้อกันหนาวหลายๆ ชั้น ส่วนของประเทศไทยเราก็หนาวแบบพอประมาณ (เว้นเสียแต่บริเวณบนยอดดอย อันนั้นหนาวมาก) และที่ญี่ปุ่นก็เช่นเดียวกัน หนาวไปถึงกระดูกกันเลยล่ะ และที่ญี่ปุ่นเองมีจำนวนประชากรแมวสูงมาก มากเสียจนเห็นได้ทั่วไปตามท้องถนนและตามพื้นที่สาธารณะ โดยเฉพาะหน้าหนาวแบบนี้ แมวจรที่ไม่มีใครดูแลก็ต้องเตร็ดเตร่ตามหาแหล่งสร้างความอบอุ่นให้กับตัวเอง ซึ่งหนึ่งในที่เหล่าแมวจะชอบเข้าไปซุกหลบนอนข้างในก็มักจะเป็นตามซอกหรือใต้กระโปรงรถยนต์ที่จอดอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในช่วงฤดูหนาวนี้ ทาง Nissan ประเทศญี่ปุ่น ก็ได้ออกแคมเปญรณรงค์เช็คกระโปรงรถก่อนสตาร์ท โดยให้ทำการเคาะกระโปรงรถซัก 2-3 ที พร้อมกับเช็คใต้กระโปรงรถด้วย เพื่อให้น้องแมวได้รู้ตัวและออกไปจากบริเวณนั้น จะได้ไม่เกิดอันตรายต่อน้องแมวและสิ่งที่ไม่คาดคิดจากความไม่ตั้งใจของเราเอง เคาะกระโปรงรถก่อนสตาร์ท #KnockKnockCats #猫バンバン ที่มา : Nissan Newsroom, rocketnews24
-
ทำบุญกัน!! หมอหล่อขอเชิญชวนสาวๆ ไปร่วมออกเดทด้วย ระดมทุนเพื่อการกุศลบุญหนักมาก
ข่าวดีสำหรับสาวๆ ที่ชื่นชอบชายหนุ่มแนวคุณหมอ หรือเป็นสาวที่ชอบทำบุญกุศล เหมียวนี่อยากจะแนะนำให้รู้จักกันซะเหลือเกินกับคุณหมอสุดหล่อล่ำรายนี้ เขามีชื่อว่า Dr. Mikhail Varshavski หรือเรียกสั้นๆ ง่ายๆ ว่าคุณหมอ Mike คุณหมอ Mike สุดหล่อล่ำบึ้ก ดูจากภายนอกแล้วต้องตกเป็นเป้าหมายอันดับหนึ่งของสาวๆ แน่นอน ซึ่งนอกจากจะเป็นคนหล่อแล้ว ก็ได้รับฉายาคุณหมอที่เซ็กซี่ที่สุดจากนิตยสาร People ด้วย การันตีคุณภาพจริงๆ สำหรับคนนี้!! ปัจจุบันคุณหมอก็ได้ทำการประกาศออกผ่านสื่อว่าต้องการที่จะหาคู่เดทด้วย โดยจะเฟ้นหาหญิงสาวผู้โชคดีเพียงคนเดียวเท่านั้น เพื่อไปเที่ยวทั่วเมือง New York กับเขา พักในโรงแรม 4 ดาว และร่วมรับประทานอาหารในภัคตาคารชื่อดัง โดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญพิเศษ เปิดประมูลการออกเดทเพื่อการกุศล สร้างประโยชน์ให้กับสังคม เงินที่ได้จะเข้ามูลนิธิ The Limitless Tomorrow Foundation ช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมไปถึงช่วยเหลือด้านอื่นๆ อีกด้วย สำหรับสาวผู้โชคดีที่ได้รับคัดเลือกก็จะได้รับตั๋วเครื่องบินฟรีไปยังเมือง New York ร่วมออกเดทกับคุณหมอที่เซ็กซี่ที่สุด…
-
เทรนด์ใหม่มาแรงในประเทศอินเดีย ที่ผู้คนแห่กันไปเซลฟี่กับ ‘วัว’ รณรงค์แคมเปญคุ้มครองปศุสัตว์!!!
เป็นเทรนด์การถ่ายภาพเซลฟี่ที่ต้องบอกว่า โคตรจะแปลก และแหวกแนวมากๆ เมื่อผู้คนชาวอินเดียว ได้ไปถ่ายภาพเซลฟี่กับเหล่าวัว และโพสต์มันลงในโซเชียลมีเดียของพวกเขา!!!! แทนที่ชาวอินเดียจะไปถ่ายภาพการแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน สถานที่สวยๆ ที่ตัวเองได้ไปเที่ยวมา หรืออาหารสุดน่าทานของตัวเอง ตอนนี้พวกเขาดันหันมาถ่ายภาพกับวัวกันอย่างแพร่หลาย และไอเดียนี้เริ่มจากแคมเปญขององค์กรพิทักษ์ปศุสัตว์อย่าง Go Seva Parivar แหละ เพราะวัว ถือว่าเป็นสัตว์ที่สำคัญมากๆ ในประเทศอินเดีย ถือว่าเป็นธุรกิจไซส์ขนาดใหญ่มาก และที่สำคัญ ตามหลักศาสนาฮินดูแล้ว วัวถือว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย แต่การถ่ายภาพเซลฟี่กับวัวครั้งนี้ไม่ได้เป็นการเอาศาสนามาล้อเล่นนะจ๊ะ เพราะในบางพื้นที่ของประเทศอินเดียนั้น การฆ่าวัวเพื่อนำมากินเป็นสิ่งที่ผิด แต่กระนั้นก็มีรายงานถึงการฆ่าวัวในหลายๆ พื้นที่ ช่วงปีที่ผ่านมา โดยแคมเปญนี้เริ่มขึ้นมาก็เพื่อจะบอกทุกๆ คนว่า การปกป้องปศุสัตว์นั้นไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความเชื่อ หรือศาสนาเท่านั้น แต่เป็นความจริงด้วย!!! พอมีแคมเปญแบบนี้ออกมา ก็จะได้ช่วยปลุกจิตสำนึกของผู้คนยังไงล่ะ!!! สำหรับเรื่องนี้เหมียวเห็นว่าเป็นความเชื่อ ความศรัทธาของแต่ละประเทศมากกว่าเนาะ จะไปว่าเขาก็ไม่ได้เพราะเรื่องแบบนี้นั้นละเอียดอ่อน แต่ที่สำคัญปกป้องพวกเค้าก็ดีนะเมี๊ยวว เพราะทุกๆ คนก็รักชีวิตของตัวเอง ไม่ต่างกับสัตว์หรอก T^T ที่มา:…
-
ฉายภาพสัตว์ใกล้สูญพันธุ์กว่า 160 ชนิดบนตึก Empire State แคมเปญสร้างจิตสำนึก!!!
เมื่อราวๆ ไม่กี่วันที่ผ่านมา ตึกเอมไพร์สเตทก็ได้มีแคมเปญเจ๋งๆ ฉายภาพบนตัวตึกกัน ซึ่งมีควาหมายที่ไม่ธรรมดาเลยล่ะแถมตึกนี้ก็เป็นหนึ่งในตึกที่มีชื่อเสียง และสำคัญที่สุดในประเทศเทศสหรัฐอเมริกาซะด้วย ในส่วนของภาพที่ฉายล้วนแต่เป็นภาพของเหล่าสัตว์ใกล้สูญพันธุ์กว่า 160 ชนิด ไม่แน่อาจจะเพราะเมื่อเร็วๆ นี้คุณหมอสัญชาติอเมริกันได้ทำการยิงสิงโต Cecil ก็เป็นได้… ภาพจากตึกเอมไพร์สเตท และเจ้าสิงโต Cecil สิงโตผู้ไม่ทำร้ายมนุษย์ ที่ถูกนายแพทย์ชาวอเมริกันฆ่าตายมาเมื่อไม่นานนี้ โดยโปรเจคนี้มีชื่อว่า Racing Extinction มีจุดประสงค์ที่จะทำให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์เหล่านี้ ก่อนที่พวกมันจะสูญพันธุ์และหายไปจากโลกในที่สุด โดยมีสัตว์มากกว่า 160 สายพันธุ์เลยล่ะ ที่ถูกฉายบนช่วงจำนวนกว่า 33 ชั้นของตัวตึก เหมียวก็หวังว่าแคมเปญนี้จะช่วยสร้างความตระหนักต่อความเป็นอยู่ของพวกมันมากขึ้นนะ และแน่นอนปัจจัยหลักที่จะทำให้พวกมันสูญพันธุ์ก็คือมนุษย์อย่างพวกเรานี่แหละ T^T ที่มา: Distractify
-
เมื่อพนักงานร้านกาแฟแห่งนี้ ‘เปลือย’ ทั้งร้าน งานนี้ทำเอาลูกค้าถึงกับตกอกตกใจไปตามๆ กัน
เมื่อคุณได้เดินเข้าไปภายในร้านกาแฟแห่งนี้ เชื่อว่าถ้าหากไม่ได้สังเกตดีๆ คุณก็อาจจะคิดว่ามันก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติแม้แต่น้อยใช่ไหมล่ะ แต่…คุณลองสังเกตเหล่าพนักงานในร้านให้ดีๆ ว่าพวกเขามีอะไรผิดปกติไปหรือไม่ หากไม่บอกก็คงไม่รู้แน่นอนว่าพนักงานทั้งหมดในร้านกาแฟ Natural Bliss Cafe แห่งนี้ กำลังเปลือยกายอยู่!! ใช่แล้ว!! พวกเขากำลังเปลือยกาย โดยการบอดี้เพ้นท์ตัวเองเป็นเครื่องแบบพนักงานอยู่นั่นเอง แถมลูกค้าบางคนที่เป็นหน้าม้าก็เปลือยกายบอดี้เพ้นท์เหมือนกัน งานนี้ทำเอาลูกค้ารายอื่นที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวถึงกับงง และตกใจกันเป็นแถวเลยล่ะ แต่ความจริงแล้ว นี่คือแคมเปญโฆษณาของของผลิตภัณฑ์ครีมเทียมคอฟฟี่เมตตัวใหม่ ที่ได้เหมาร้านกาแฟในนิวยอร์ก เพื่อทำการถ่ายโฆษณาไวรัลสำหรับสื่อออนไลน์นั่นเอง โดยผลิตภัณฑ์ครีมเทียมตัวใหม่นี้ จะเน้นส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ และด้วยเหตุนี้นี่เองที่ทำให้พนักงานทุกคนในร้านต้องเปลือยกาย เพื่อจะสื่อถึงธรรมชาติยังไงล่ะเมี๊ยว นอกจากนี้ลูกค้าที่มาใช้บริการยังต้องประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เมื่อรู้ว่ากาแฟที่เขาสั่งไม่ต้องจ่ายเงินสักบาท แถมยังมีรสชาติที่ดีอีกด้วย ถือเป็นการสร้างงานโฆษณาที่สร้างสรรค์มากเลยทีเดียว ที่มา : adweek
-
ช็อตเดียวก็เกินพอ!! สื่ออิตาลีจับมือยูนิเซฟคลอดแคมเปญแห่งปี รณรงค์ยุติความรุนแรงในโรงเรียน!!
แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้ความรุนแรงทุกรูปแบบ เกิดขึ้นกับตนเองหรือคนที่เรารัก ซึ่งวิธีที่จะหยุดยั้งความรุนแรงได้ ก็คงต้องเริ่มจากทัศนคติของตัวเราก่อนที่จะพัฒนาเป็นสังคมวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ และถ้าพูดถึงวิธีการหยุดยั้งความรุนแรงในวงกว้าง เหมียวการออกแคมเปญเจ๋งๆ และใช้สื่อเป็นตัวช่วยในการเผยแพร่ก็ถือเป็นวิธีที่ดีเลยหละ ว่าแล้วมาดูตัวอย่างเจ๋งๆ ของการร่วมมือของยูนิเซฟและสื่อมวลชนอิตาลีกันเลยดีกว่า!! นี่คือ ‘One shot is enough’ หรือ ภาพเดียวก็เกินพอ ที่เราจะเรียกว่าเป็นแคมเปญแห่งปีที่ควรส่งต่อก็ว่าได้ เพราะพวกเค้าทำเพื่อยุติความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามโรงเรียนกับเยาวชนให้ได้ผล เริ่มจากที่องค์การยูนิเซฟอิตาลีหาข้อมูล สอบประวัติ และผลพิสูจน์ต่างๆ จากตำรวจ เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ แล้วพบว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้จะส่งผลกระทบอย่างมหาศาล เมื่อเด็กผู้ถูกกลั่นแกล้งโดนนำคลิปวิดีโอ หรือภาพไปเผยแพร่ประจานให้ยิ่งอับอายและหาทางออกไม่ได้ จนเด็กบางคนไม่ยอมกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน ย้ายที่เรียน ถึงขั้นว่าให้พ่อแม่สอนหนังสือที่บ้านไปเลยก็มี โดยส่วนที่หนักและน่าเห็นใจที่สุดก็คือ ถ้าปมในใจของเด็กๆ ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้มันยากเกินจะเยียวยาแก้ไข ก็จะทำให้พวกเขาต้องกลายเป็นโรคซึมเศร้าและทำร้ายตัวเองอีกด้วย… T_T ที่มา UNICEF, postjung
-
รัสเซียออกแคมเปญรณรงค์ “เซลฟี่ปลอดภัย” ที่แปลกและแหวกแนวยิ่งกว่าใคร!?
ยุคปัจจุบันนี้กล้องมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง มีติดสมาร์ทโฟนทุกเครื่อง แถมยังสะดวกต่อการเก็บภาพถ่ายของตัวเองที่เรียกว่าเซลฟี่ซะเหลือเกิน ทำให้มนุษย์ทั้งหลายนั้นเสพติดการเซลฟี่จนลืมถึงอันตรายที่จะตามมา ทางการรัสเซียก็เล็งเห็นถึงปัญหานี้เลยทำการออกแคมเปญรณรงค์เซลฟี่อย่างไรให้ปลอดภัย ทำโปสเตอร์ห้ามเซลฟี่ในสถานที่และช่วงเวลาที่อาจจะเกิดอันตรายได้ อย่างเช่นห้ามเซลฟี่บนรางรถไฟเป็นต้น หรือแม้แต่การไปเซลฟี่บนรถไฟก็ตาม มีความอันตรายสูงมาก รวมไปถึงการเซลฟี่กลางถนน หรือแม้แต่การเซลฟี่บนเรือและบนบันได ซึ่งก็สมเหตุสมผลที่ควรจะรณรงค์ดีนะเนี่ย จะได้ท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล (ถ้าทำตามนะ) แต่การรณรงค์นี้ไม่ธรรมดา เพราะมันมีมากยิ่งกว่าการเซลฟี่ทั่วไปเสียอีก อย่างเช่นห้ามเซลฟี่พร้อมกับอาวุธ (อันนี้น่าจะปกติที่รัสเซีย) ห้ามเซลฟี่บนเสารับสัญญาณโทรทัศน์ ที่หนักยิ่งกว่าก็คือห้ามไปเซลฟี่บนเสาไฟฟ้าแรงสูง และห้ามเซลฟี่ในช่วงเวลาหิมะถล่ม โอ้วววว นี่ถึงกับต้องห้ามกันขนาดนี้เลยเหรอ คือมันมีคนคิดจะทำแบบนี้จริงๆ เร๊อะ? จากข้อห้ามทั้งหมดทั้งปวงสรุปได้ก็คือ “อย่าเซลฟี่ จะเป็นการดีที่สุด ที่จะทำให้ชีวิตปลอดภัย” แหม่!! เป็นการออกแคมเปญที่ทำให้เรื่องเซลฟี่กลายเป็นเรื่องที่ร้ายแรงสุดๆ (แต่บางกรณีก็จริงเหมือนกันนะ) ที่มา : thechive
-
“โค้ก” ทำแคมเปญอันทรงพลัง เอาโลโก้ออก เพื่อสื่อ “อย่าตัดสินคนแค่ภายนอก”
โค้กหรือโคล่าโคล่า ถือเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่และเราเห็นอยู่แทบทุกวัน ทุกครั้งที่โค้กปล่อยแคมเปญแต่ละอย่างออกมามันก็เจ๋งๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเอาเนื้อเพลงไปพิมพ์ลงบนข้างกระป๋อง หรือจะเป็นการส่งโค้กให้คนในครอบครัว แต่ครั้งนี้โค้กได้นำเอาโลโก้พร้อมกับตัวหนังสือทุกอย่างออกไป ซึ่งแคมเปญนี้เกิดขึ้นที่ตะวันออกกลาง เพื่อรณรงค์ให้คนไม่ตัดสินคนอื่นจากภายนอก แคมเปญนี้อยู่ในช่วงรอมฎอน หรือเทศกาลถือศีลอดนั่นเอง โดยทั้งกระป๋องจะมีเพียงแถบสีขาวเท่านั้นที่ยังอยู่ และมีตัวหนังสือเขียนกำกับไว้ว่า “Labels are for cans, not for people.” หรือจะแปลก็คือ “ยี่ห้อมีไว้สำหรับกระป๋อง ไม่ใช่สำหรับคน” ฟังดูอาจจะงงๆ แต่ถ้ามองดูดีๆแล้วก็จะเข้าใจ ตราสัญลักษณ์หรือยี่ห้อคือสิ่งที่ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกแล้วจำได้ว่าสินค้าตัวนี้เป็นยังไง แต่ถ้าเอาตราออกไป คนก็จำไม่ได้ และไม่สามารถตัดสินได้ว่าในกระป๋องนี้มีอะไรอยู่ เช่นเดียวกับความคิดของคนที่เวลาเราไปพบกับคนที่สัญชาตินี้ หรือนับถือศาสนานี้ เราอาจจะคิดไปเองว่าเขาเป็นยังไง แท้ที่จริงแล้วเรายังไม่ทันได้รู้จักเขาจริงๆเลย แคมเปญนี้สร้างโดย FP7 และ Memac Ogilvy ซึ่งเขาได้ทำหนังสั้นมาอีกเรื่องเพื่อเสริมเข้ากับแนวคิดนี้ โดยการนำเอาคนที่ไม่รู้จักกัน ต่างเชื้อชาติและศาสนา ต่างที่มา ต่างบุคลิกมาทานอาหารร่วมกันในความมืด ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนก็มองไม่เห็นกัน ทำได้แค่เพียงคุยกันเท่านั้น หัวข้อที่พวกเขาคุยกันก็มีหลากหลายตามประสาผู้ชายทั่วไป แต่เมื่อไฟเปิดขึ้นมา ทุกคนก็ได้เจอกับบุคคลที่พวกเขาคุยด้วยเมื่อกี้ ซึ่งก็ได้แก่ชายที่สักเต็มหน้า ชาย 2 คนที่ใส่ชุดอาหรับ และชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เปิดกล่องดู ซึ่งข้างในได้บรรจุโค้กกระป๋องที่ดีไซน์ใหม่โดยไม่มีโลโก้แล้วพวกเขาก็คิดถึงประโยค “ยี่ห้อมีไว้สำหรับกระป๋อง”…