Tag: แท็กซี่
-
คนขับแท็กซี่จีน ถูกพักงาน 3 วันหลังตำรวจพบว่า “มาสก์หน้า” ขณะขับรถกลางคืน!?
ในเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้เกิดเรื่องราวอันน่าสงสารกับคนขับแท็กซี่ชายคนหนึ่ง เพราะเขาต้องถูกพักงานถึง 3 วัน หลังมีภาพหลุดว่าเขาแอบ มาสก์หน้า ขณะขับรถ!! คนขับแท็กซี่แซ่ เฉิน ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ตามหลังภาพการมาสก์หน้าขณะขับรถของเขากลายเป็นที่สนใจอย่างมากบนโลกออนไลน์ เขาได้รับบทเรียนและคำสั่งสอนอย่างจริงจังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เกี่ยวกับพฤติกรรมการสวมแผ่นมาสก์หน้าขณะขับรถแท็กซี่ในยามค่ำคืน คลิปข่าวจากจีน อย่างไรก็ตามบริษัทแท็กซี่ที่เฉินทำงานอยู่ก็มิได้มีข้อบังคับใดที่สามารถเอาผิดหรือลงโทษคนขับแท็กซี่วัย 25 ปีคนนี้ได้ ที่ทำได้ก็มีเพียงสั่งให้เฉินพักงาน 3 วันเท่านั้น ทางฝ่ายของเฉินคนขับแท็กซี่หนุ่มก็เผยว่า ตนก็ตกใจเช่นกันที่พบว่าภาพดังกล่าวกลายเป็นที่สนใจบนโลกอินเทอร์เน็ตขนาดนี้ เขาเริ่มมาสก์หน้าเป็นกิจวัตรก็เพราะว่าการทำงานกะกลางคืนนั้นส่งผลต่อผิวของเขามาก เฉิน คนขับแท็กซี่วัย 25 ปี คนเรามันก็ต้องห่วงสุขภาพผิวกันบ้างสิเนอะ ทำไมไม่เข้าใจกันบ้างเลย! ที่มา: nextshark, Shanghaiist และ 中天新聞CH52
-
หนุ่มโพสต์ตัดพ้อ หวังดี ‘ช่วยปิดกระโปรงรถแท็กซี่’ แต่โดนหาว่า ‘เสือก’ ซะงั้น!?
บางครั้งการจะทำความดีช่วยเหลือผู้อื่น อาจจะต้องดูกันสักนิดนึง ต้องดูก่อนว่าอีกฝ่ายเค้าเต็มใจที่จะให้ช่วยหรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะถูกหาว่า ‘ยุ่งเรื่องของคนอื่น’ ไปซะได้ เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไปนี้ เรื่องมีอยู่ว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งชื่อ Supod Mongkonkoon โพสต์เล่าเรื่องราวว่าตัวเขาช่วยปิดฝากระโปรงท้ายให้กับแท็กซี่คันหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วกลับโดนด่าว่า ‘เสือก’ ซะงั้น!? ลองไปอ่านโพสต์ต้นฉบับแบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… “ผมช่วยพี่แต่ผมต้องมาโดนพี่ด่าว่า “เสือก” เหรอ??? ผมเห็นพี่แท็กซี่ลืมปิดกระโปรงหลังรถ ผมเลยจอดบีบแตรเรียกแล้วปิดให้ (อาจจะปิดแรงไป) พอมาจอดด้านข้างรถ พี่แท็กซี่เปิดกระจกมาหน้าตาพี่แกไม่พอใจผมอย่างมาก ผมก็บอกดีๆ นะว่าพี่ครับลืมปิดกระโปรงหลังผมเลยปิดให้นะ แต่พี่แท็กซี่ก็เหมือนไม่รับฟังจะติจะว่าผมอย่างเดียว โมโหโวยวาย ต่อหน้าผู้โดยสาร แถมทิ้งท้ายด่าผม “เสือก” ผมนี่ถึงกับงง ผมเลยคิด “เห่ย นี่ผมช่วยพี่แต่ผมต้องมาโดนพี่ด่าเสือกหรอ?” นี่ผมทำอะไรผิดไปรึเปล่า??? ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ไปโกรธหรือโมโหใครมา แต่ผมให้เกียรติช่วยพี่ พี่จะไม่ให้เกียรติผมไม่เป็นไร แต่พี่ก็ควรให้เกียรติผู้โดยสารที่มากับพี่ด้วยนะครับ (ถ้าผมช่วยพี่แล้วทำให้ทรัพย์สินพี่เสียหายผมก็ต้องขอโทษด้วยครับ) @แยกอโศก 09.00 น.” คลิปเหตุการณ์ โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนเข้ามากดไลก์ถึง 5,200…
-
แท็กซี่เบรกแรงเกิน จนลูกค้าสาวหัวทิ่มติดเบาะ เลยฝากเป็นผลงานศิลปะเอาไว้ซะเลย!!
การ ‘เบรกรถอย่างกะทันหัน’ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งตัว แต่มันก็ถือเป็นความจำเป็นเพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จนอาจนำไปสู่อาการบาดเจ็บของคนที่โดยสารอยู่ในรถได้ เช่นเดียวกันกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ คนขับรถแท็กซี่จำเป็นต้องเบรกรถอย่างกะทันหัน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ แต่ทำเอาผู้โดยสารสาวที่ไม่ทันได้เตรียมตัวถึงกับพุ่งไปข้างหน้าด้วยความรุนแรง แต่ความพีคมันไม่ได้มีแค่นี้ เพราะกลายเป็นว่าเครื่องสำอางบนหน้าของผู้โดยสารสาวได้ประทับลงไปบนด้านหลังของเบาะคนนั่งหน้าจนเห็นได้ชัด ราวกับว่าเป็นงานศิลป์ที่อยู่บนผืนผ้าใบเลยทีเดียว!! เรื่องมีอยู่ว่านาย Jim McNee คนขับรถแท็กซี่วัย 50 ปี ได้รับผู้โดยสารผู้หญิงคนหนึ่ง และเธอก็ขอให้เขาไปส่งที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ แต่เนื่องจากว่าช่วงนั้นเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ทำให้มีปัญหาจราจรติดขัด ในระหว่างการเดินทางก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อรถที่ขับอยู่ข้างหน้าจู่ๆ ก็หยุด ทำให้ Jim ต้องเบรกรถอย่างกะทันหัน!! อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานว่าผู้โดยสารสาวได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จากนั้น Jim ก็ขับรถพาเธอไปส่งถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย หลังจากที่ทำงานเสร็จสิ้นแล้ว Jim ก็ขับรถกลับมาที่บ้าน โดยไม่ได้สังเกตอะไร จนกระทั่งผู้โดยสารคนอื่นเห็นเข้า เขาก็เลยถ่ายภาพส่งไปให้ลูกชายของเขา Jamie ดู และลูกชายก็เอาไปโพสต์ลงทวิตเตอร์ พร้อมกับแคปชั่นว่า “งานศิลปะที่ดูแปลกตา” โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตมากมาย มีคนไลก์มากกว่า 26,000 ครั้ง และรีทวีตไปอีกกว่า 5,000 ครั้งเลยทีเดียว “หลายคนคิดว่ามันเป็นเรื่องปลอม แม้แต่พ่อก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่ารอยเครื่องสำอางมันยังติดอยู่”…
-
เปิดบทลงโทษแท็กซี่ในประเทศต่างๆ หาก “ปฏิเสธผู้โดยสาร” ถูกปรับเท่าไหร่ รุนแรงแค่ไหน?
“ไม่ครับไปส่งรถ” “ไปเติมแก๊ส” “เส้นนั้นรถติดครับพี่” “ราคาเหมาได้ไหมครับ” และอีกสารพัดคำตอบอันหนักแน่นจากเหล่าแท็กซี่ผู้น่ารัก ที่เรามักจะได้ยินเวลาที่เราอยากจะโบกรถแท็กซี่แอร์เย็นๆ สักคันกลับบ้านไปพักผ่อน ด้วยปัญหาการที่แท็กซี่หลายๆ คันเลือกรับผู้โดยสาร และขอค่าโดยสารเป็นราคาแบบเหมาๆ ก็ยิ่งทำให้ผู้โดยสารอย่างเรารู้สึกท้อแท้ในการเรียกพี่ๆ ทั้งหลาย และถึงจะมีการจดป้ายทะเบียนแล้วนำไปร้องเรียนกับกรงขนส่ง แต่พวกพี่ๆ แท็กซี่จะก็ถูกปรับเพียง 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งดูจะไม่รุนแรงเท่าที่หลายๆ คนคาดหวังไว้ ภาพของพี่ๆ แท็กซี่ที่พากันปฏิเสธผู้โดยสารในวันฝนตกช่วงต้นเดือนเมษายน 2018 ที่ผ่านมา (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) จากค่าปรับเพียง 1,000 บาทที่เราเห็น ก็เลยทำให้หลายๆ คนสงสัยกันมากว่าในต่างประเทศล่ะ มีบทลงโทษสำหรับการปฏิเสธผู้โดยสารยังไงบ้าง? และนอกจากการปฏิเสธผู้โดยสารแล้วมีกรณีไหนอีกไหมที่พวกเขาจะถูกปรับ? ลองมาไล่ดูกันไปเป็นข้อๆ เลย 1. เกาหลีใต้ อย่างกรณีแรกนี้เป็นเรื่องราวของกฎหมายใหม่ของแท็กซี่ในประเทศเกาหลีใต้ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร ที่ออกมาเมื่อปี 2015 ที่ระบุว่าหากแท็กซี่คันไหนปฏิเสธผู้โดยสารจะต้องถูกปรับเป็นจำนวนเงิน 2 แสนวอน (ประมาณ 5,860 บาท) ถ้าหากแท็กซี่คันเดิมถูกจับได้อีกเป็นครั้งที่ 2 จะถูกจับปรับเป็นเงิน 4 แสนวอน (ประมาณ 11,723 บาท) ถูกพักใบขับขี่ไป…
-
ฝรั่งพูดไทยได้ ขอเปิดมิเตอร์ดีๆ ไม่ยอมจ่ายเหมา 500 บาท โดนแท็กซี่สวนกลับ ‘ฝรั่งงี่เง่า’
สิ่งที่น่าเหนื่อยใจกับเรื่องของแท็กซี่เมืองไทย ที่คนส่วนใหญ่มักจะเจอก็คือโบกไม่จอด เรียกไม่ไป ไม่วิ่งผ่าน จะไปเติมแก๊ส และสารพัดเหตุผลร้อยแปดที่จะบอกปัดผู้โดยสาร แถมบางครั้ง พอย้ายก้นไปลงนั่งบนเบาะรถแท็กซี่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะเจอก็คือคนขับเรียก ‘ราคาเหมา’ แทนที่จะเปิดมิเตอร์ตามปกติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นกับชาวต่างชาติบ่อยครั้ง เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา หนุ่มบล็อกเกอร์สอนภาษาอังกฤษ Danny ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอในช่วงที่เขากำลังขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่งในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะนั่งกลับไปยังที่พักของตนเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คือการต่อรองราคาของคนขับ เรียกเป็นราคาเหมาทั้งสิ้น 500 บาท โดยไม่มีทีท่ายอมเปิดมิเตอร์ อ้างว่ามิเตอร์เสีย นาย Danny ก็ใจเย็นใช้คำพูดคำจาอย่างสุภาพว่า จะไม่ยอมไปเด็ดขาดถ้าหากไม่กดมิเตอร์ ท้ายที่สุดแล้วก็ยอมกดมิเตอร์ แต่โดนบ่นมาตลอดทางจนถึงทางด่วน คนขับก็ขอ 300 บาทเพื่อเป็นค่าขึ้นทางด่วน ทั้งที่จริงไม่ถึง 100 บาท แต่ก็ยอมให้ไป 200 บาทโดยไม่ได้รับเงินทอนแต่อย่างใด… เมื่อถึงปลายทางแล้วค่าโดยสารทั้งสิ้น 375 บาทตามมิเตอร์ นาย Danny จึงให้ไป 500 บาท คนขับก็ไม่ยอมทอนอ้างว่า…
-
“ไม่อยากรับคนไทย” สาวอัดคลิปประจานแท็กซี่ หลังคนขับไม่กดมิเตอร์ แถมถูกทิ้งไว้กลางทาง
ดูเหมือนปัญหาแท็กซี่ไม่รับผู้โดยสาร หรือรับไปแล้วทิ้งไว้กลางทางจะยังคงมีให้เห็นอยู่ไม่ขาด และแม้ว่าจะมีการพยายามแก้ไขปัญหาตรงนี้เท่าไหร่ก็ตามก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลสักที ล่าสุดมีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่าคุณ Sukanya Saetiao ได้ออกมาอัดคลิปวิดีโอ หลังจากที่เธอโบกแท็กซี่จากสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อเดินทางไปยังเขตห้วยขวาง แต่กลับถูกคนขับแท็กซี่ทิ้งลงข้างทางแบบงงๆ คุณสุกัญญาบอกเล่าผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองว่าเธอโบกแท็กซี่หมายเลขทะเบียน ทส-9435 จากสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อไปห้วยขวาง แต่ระหว่างนั้นคนขับแท็กซี่กลับไม่ยอมกดมิเตอร์และบอกกับผู้โดยสารว่าจะขอเก็บค่าโดยสาร 500 บาทเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลและมีรถติดหนัก โดยที่ไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า สุดท้ายคุณสุกัญญาจึงต้องลงจากรถบริเวณถนนมอเตอร์เวย์ และเรียกรถ Grab ให้มารับเธอ แม้ในระหว่างที่เธอรอรถอยู่ข้างทางจะมีแท็กซี่อยู่หลายคันที่จอดเพื่อรอรับ แต่เธอก็ปฏิเสธที่จะใช้บริการเนื่องจากแท็กซี่หลายคันไม่ยอมกดมิเตอร์ นอกจากนี้ยังมีคลิปเสียงของคนขับแท็กซี่ที่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการรับผู้โดยสารชาวต่างชาติด้วยว่า “ที่แท็กซี่ไม่อยากรับคนไทยก็เพราะอย่างงี้แหละครับ คนขับแท็กซี่เขาถึงรับแต่คนต่างชาติ” ชมคลิปวิดีโอเต็มๆ ได้ที่นี่เลย ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 เมษายน 2561 กรมขนส่งทางบกได้ออกมาชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า หลังจากตรวจสอบแท็กซี่คันดังกล่าวพบว่าผู้ประกอบการคือ สหกรณ์แท็กซี่อาสาสมัคร จึงได้ประสานผู้ประกอบการให้ติดตามตัวพนักงานขับรถมารายงานตัวแล้ว โดยจะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 1,000 บาท ทั้งนี้หากผู้อ่านคนไหนเจอกรณีคล้ายๆ กับผู้โดยสารรายนี้ หรือถูกเก็บค่าโดยสารที่แพงเกินกว่าปกติ ให้โทรแจ้งกรมขนส่งทางบกได้ที่หมายเลข 1584 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เกิดบทลงโทษแก่คนขับต่อไปในอนาคตนะครับ ที่มา Sukanya Saetiao , ins.dlt.go.th
-
คลิปจริง แท็กซี่ปฏิเสธผู้โดยสาร เลือกผู้โดยสารท่ามกลางสายฝน พร้อมขับรถผ่านหน้าตาเฉย
แท็กซี่ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการเดินทางที่ยอดนิยมของชาวไทยโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพราะการโดยสารแท็กซี่นั้นสะดวกสบาย มีความเป็นส่วนตัว และรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ยังมีปัญหาที่เราคุ้นเคยและมักจะได้ยินบ่อยๆ กับปัญหารถแท็กซี่ ปฏิเสธผู้โดยสาร เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2018 เฟซบุ๊กเพจ ไม่เป็นไรหรอก. ได้โพสต์คลิปวิดีโอที่หน้าจะสะท้อนถึงปัญหาแท็กซี่ไทยได้ คลิปวิดีโอนี้ได้รับการเข้าชมมากกว่า 2 ล้านครั้งในระยะเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง กับการโพสต์คลิปวิดีโอพร้อมแคปชั่นสั้นๆ ว่า “น้ำใจแท็กซี่ที่มีให้กับพี่น้องชาวไทย สี่ทุ่มคืนวันฝนตก หึหึ ถ้าสักวันพวกเค้าเรียกร้องความเห็นใจ ควรให้ไหมครับ” ฝนตกโปรยปราย แท็กซี่คันสีฟ้ากำลังเคลื่อนตัวมารับผู้โดยสาร แต่ทว่าคนแล้วคนเล่าก็ยังไม่ได้ขึ้นแท็กซี่คันนี้ ไปซอยตรงนี้ก็ยังไม่รับไป แท็กซี่สีเขียวเหลืองก็เป็นอีกหนึ่งคันที่ปฏิเสธผู้โดยสาร คันแล้วคันเล่าที่ปฏิเสธผู้โดยสารท่ามกลางฝนตกแบบนี้ คันนี้ก็ไม่ไป คลิปวิดีโอยืนยัน หลังจากที่คลิปวิดีโอได้โพสต์ออกไปก็ได้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นดังนี้ สงสารแท็กซี่จังเลย (ประชดเปล่าเนี่ย?) โอเค รอแป๊บ ชีวิตดีๆ ที่ลงตัว แท็กซี่ไทยอัธยาศัยดี พี่จะเอายังไงครับ …
-
รวมความเห็นชาวเน็ต ประเด็น “แท็กซี่หื่น พาสาวเข้าม่านรูด” สะท้อนมุมมองในสังคมไทย…
เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีข่าวนักร้องหญิงชื่อดังคนหนึ่ง ถูกคนขับรถแท็กซี่พาเข้าโรงแรมม่านรูดในย่านลาดพร้าว เพื่อหวังจะกระทำอนาจาร แต่โชคดีที่ผู้เสียหายหลบหนีออกมาแจ้งตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2018 เมื่อ น.ส.อินทุอร ดีบุกคำ หรือน้องแอล นักร้องสาวจากวงคิง ก่อนบ่ายก๊อปปี้วาไรตี้โชว์ ที่ร้องเพลงประจำเดือนไม่มา ได้เข้าแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน ให้ตามหาคนร้ายที่พาตนเข้าโรงแรมเพื่อกระทำอนาจาร ทางผู้เสียหายได้รายงานว่าได้ขึ้นแท็กซี่สีแดงหมายเลขทะเบียน ทห 6270 กทม. โดยนั่งที่เบาะหลังก่อนที่จะเผลอหลับไป เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าตนเองนอนอยู่ที่โรงแรมและเห็นคนขับแท็กซี่วัยประมาณ 30 เปลือยกายอยู่และกำลังไซ้ซอกคอของตน จึงได้ร้องโวยวายและโทรศัพท์เรียกให้พี่ชายมารับ นอกจากนั้นยังพบอีกว่าเงินในกระเป๋าของตนนั้นหายไปจำนวนหนึ่ง เนื่องจากคนขับรถแท็กซี่ดังกล่าวได้ใช้เงินของผู้เสียหายในการเปิดห้องในโรงแรมม่านรูดที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในรถแท็กซี่คันดังกล่าว ซึ่งในคลิปวิดีโอที่บันทึกไว้ก็แสดงให้เห็นใบหน้าของคนขับรถอย่างชัดเจนและเห็นผู้เสียหายที่หลับอยู่ที่เบาะด้านหลังคนขับ ทำให้ทางตำรวจสามารถตามหาผู้กระทำความผิดและจับกุมได้สำเร็จ โดยทางคนขับแท็กซี่ได้อ้างว่าตนเองไม่ได้ข่มขืน แต่เห็นว่าผู้เสียหายหลับอยู่และไม่ทราบที่อยู่แน่ชัด ก็เลยพาไปพักที่โรงแรม จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีความเห็นวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตมากมายที่มาต่อว่าฝ่ายผู้เสียหายว่าเป็นความผิดของเธอตั้งแต่แรกในเรื่องของการแต่งตัวที่ไม่มิดชิดและเมาสุราจนดูแลตัวเองไม่ได้ ความเห็นบางส่วนที่กล่าวถึงพฤติกรรมการดื่มแอลกอฮอล์ของผู้เสียหาย . . บ้างก็กล่าวว่าการแต่งกายของเธอนั้นเป็นเหตุผลที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ . . . นอกจากนั้นก็ยังมีความเห็นต่างๆ มากมายจากชาวเน็ตที่กล่าวถึงการกระทำของคนขับแท็กซี่จากโครงการแท็กซี่ Ok ที่ไม่เหมาะสมดังกล่าวที่ควรสร้างความปลอดภัยและความสบายใจให้กับผู้โดยสาร แต่กลับทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยได้ และยังกล่าวอีกว่าดีแล้วที่เข้ามาแจ้งความกับตำรวจ…
-
ที่นี่ไทยแลนด์!! แท็กซี่แฮงก์ขับรถไม่ไหว ใช้ ‘ฝรั่ง’ ขับแทน แถมเรียกค่ารถไปพันกว่า!?
หลายๆ ครั้งที่เรามักจะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของ ‘แท็กซี่’ บ้านเรา ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ก็มีให้เราเห็นอยู่ทุกวัน และเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้เองก็เช่นกัน เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2018 ทางเพจเฟซบุ๊ก แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์สเตตัสเล่าเรื่องราวที่ลูกเพจได้ทำการอินบ็อกซ์มาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอและแฟนหนุ่มที่เป็นชาวต่างชาติ โดยเนื้อหาในโพสต์เต็มๆ เล่าว่า ” #อเมซซิ่งไทยแลนด์ #แทกซี่เมาแฮงค์ขับรถไม่ไหว #ใช้ฝรั่งขับแทนเรียกค่ารถพันกว่า แบบนี้ก็มีด้วย เช่ารถแท็กซี่จากตลาดเกษตรเพื่อต่อรถไปท่าเรือปาบารา เพราะรถตู้คนจองเต็ม เลยตัดสินใจเอาแท็กซี่ พอขับมาได้สักพักก็เห็นคนขับอาการไม่ค่อยดีจอดรถบ่อย” “เราเลยถามว่าพี่เป็นอะไรป่าว มีโรคประจำตัวเหรอ คนขับบอกป่าวแต่เมื่อคืนกินเหล้าเลยแฮงก์ แม่งบอกแฟนน้องขับรถได้ไหมเปลี่ยนแทนพี่หน่อย พี่ไม่ไหว ใจสั่นและกลัว เห้ย กูเสียเงินไม่ใช่ถูกๆ ถ้ามึงแฮงค์ทำงานไม่ได้ก็ไม่ต้องรับลูกค้า สรุปผัวกูต้องขับไปส่งมึงท่าเรือแทน (อย่างน้อยก็ดีกว่าให้มันขับไม่งั้นคงจะขึ้นเรือไม่ทันแน่)” โพสต์ดังกล่าว หลังจากที่โพสต์นี้ได้เผยแพร่ออกไปก็พบว่าได้รับความสนใจจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก หลายคนก็เข้ามาให้ความเห็นกันไปต่างๆ นาๆ บ้างก็มองโลกในแง่ดีว่า “ดีนะที่ยังไม่ฝืนขับต่อไปน่ะ” บ้างก็เล่าเรื่องราวที่เคยเจอกับตนเอง “วินแถวที่ทำงานนี่ตั้งวงเหล้าขาวกับเบียร์ทุกคืน เลือกไม่ได้อีก เพราะมีวินเดียวแล้วมันก็ดื่มกันทุกคน มันจึงมีความลุ้นในการนั่งวินกลับบ้านหลังเลิกงานทุกวัน” บ้างก็ตำหนิไปว่า “???? แล้วยังกล้าเก็บเงินฝรั่งอีก โอ้โหวววว์ ด่าไม่ถูก ไม่รู้จะด่าอะไรดี” …
-
ไม่ได้มีแค่ไทย สมาคมคนขับแท็กซี่ในฮ่องกงประท้วงไล่คนขับ Uber เหมือนไทยเปี๊ยบ!!
ปัญหาเรื่อง Uber เข้ามาแทนที่ระบบขนส่งเดิมนั้น เป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแต่ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะล่าสุดสื่อนอกอย่าง coconuts ก็ได้เดินทางไปสัมภาษณ์ผู้คนที่ต้องประสบปัญหากับการประท้วงของแท็กซี่ในฮ่องกงที่ออกมาแสดงความไม่พอใจจากบริการดังกล่าว… เช่นเดียวกับไทย Uber ในฮ่องกงนั้นถือเป็นบริการที่ใช้ง่ายและสะดวก แต่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย บวกกับปัญหาแนวเดียวกับบ้านเราที่แท็กซี่ฮ่องกงเลือกรับผู้โดยสาร หรืออาจจะไม่ปฎิเสธตลอดทางเลยก็มี ฉะนั้นคนจึงหันไปใช้บริการดังกล่าวกันมากขึ้นๆ และเมื่อคนหันไปใช้ Uber มากขึ้น คนที่อยากจะใช้แท็กซี่ปกติก็มีน้อยลง งานนี้ทางกลุ่มคนขับแท็กซี่จึงไม่พอใจเป็นอย่างมาก พวกเขาจึงรวมกันออกมาประท้วงแก่กระทรวงคมนาคม ทั้งหมดวางแผนที่จะออกมาขับรถวนไปรอบๆ เมืองด้วยความเร็วที่ช้า โดยพวกเขาหวังว่าการประท้วงนี้จะทำให้พวกเขาสามารถเข้าร้องเรียนต่อ Frank Chan Fan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมานาคมและการเคหะของฮ่องกงได้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางรัฐเคยออกมาแก้ปัญหานี้ด้วยการปล่อยกฎหมายห้ามปฎิเสธลูกค้ามาก่อนแล้ว เพียงว่ามันก็ยังคงไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะจากปากผู้โดยสารส่วนใหญ่ก็ยังบอกว่า แท็กซี่มักจะปฎิเสธลูกค้าหรือไม่ก็กำหนดราคาเหมามาแทนที่จะกดมิเตอร์ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้นั่นเอง สุดท้ายแล้วปัญหาทั้งหมดจะจบลงที่ตรงไหน แล้ว Frank Chan Fan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมฮ่องกงจะว่าอย่างไร เราก็คงต้องติดตามกันต่อไปนั่นเอง… ถ้าส่งรถและเติมแก๊สด้วยนี่ใช่เลย ไทยชัดๆ ที่มา coconuts
-
เบื้องหลังการเป็น “คนขับแท็กซี่” ในลอนดอน นั้นไม่ง่าย ต้องรอบรู้ แถมปฏิเสธลูกค้าไม่ได้!!
เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งคุณอยากจะทำอาชีพขับแท็กซี่ในกรุงลอนดอน คุณจะทำยังไง? คุณอาจจะคิดว่าถ้าเรามีสกิลการปฎิเสธลูกค้าเทพๆ เช่นไม่ไปน้องส่งรถ ไม่ไปพี่ไกล หรือไม่ว่างเติมแก๊ซ แล้วแค่นี้ก็จะเป็นคนขับแท็กซี่ได้แล้วคุณคิดผิด! เพราะการจะเป็นคนขับแท็กซี่สีดำในกรุงลอนดอนได้นั้น คุณจะต้องผ่านการทดสอบสุดหินเสียก่อน โดยคุณจะต้องเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้เส้นทางและสถานที่ต่างๆ จากหนังสือที่เรียกว่า ‘Bluebook‘ ซึ่งหนังสือเล่มนี้มันเปรียบเสมือนคัมภีร์ไบเบิลของคนขับแท็กซี่ที่นี่เลย ส่วนถ้าใครสงสัยว่าทำไมต้องไปอ่านหนังสือแบบนั้น ทำไมไม่เปิด GPS แล้วขับตามเส้นทางไป คำถามนี้ถูกตอบโดย Peter Allen ชายผู้ผ่านการทดสอบดังกล่าวมาแล้วกว่า 9 ปีว่า ถ้าคนขับแท็กซี่ไม่สามารถรู้เส้นทางและบริการลูกค้าได้อย่างประทับใจในทันที ภาพลักษณ์ของอาชีพก็จะดูแย่ แถมถ้าเกิดใช้ GPS เวลามีปัญหาเฉพาะหน้าแล้วไปช้าจะทำยังไง GPS ไม่ต้อง ทุกอย่างมันอยู่ในหัว ฉะนั้นคนที่มาขับแท็กซี่ดำจะต้องจดจำ 320 เส้นทางทั่วไปที่คนชอบไปในระยะทางกว่า 1,000 กิโลเมตรรอบลอนดอน ถนนกว่า 25,000 แห่ง และสถานที่น่าสนใจอีกกว่า 20,000 แห่ง ในกรุงลอนดอน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม บ้านพัก สถานีตำรวจ ร้านค้าและอื่นๆ อีกมากมาย…
-
แท็กซี่ไทยอัปเกรดใหม่ไฉไลกว่าเก่า มาทั้งไฟเขียวและปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน!!
เปิดศักราชใหม่มาก็มีข่าวดีแล้ว เมื่อกรมขนส่งทางบกได้ปรับเปลี่ยนพัฒนาให้แท็กซี่ไทยมีความล้ำขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เพื่อเป็นของขวัญให้กับชาวไทยในปี 2561 เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2561 ทางเพจ พื้นที่ให้เล่า ได้มีการเผยแพร่ประสบการณ์การลองใช้รถแท็กซี่เวอร์ชั่นอัปเกรดใหม่ล่าสุดจากกรมการขนส่งทางบก แท็กซี่ที่ปรับใหม่นี้เปลี่ยนไฟแสดงสถานะจากสีแดงเป็นสีเขียวทำให้ง่ายต่อการมอง มีการเพิ่มกล้องหน้ารถและยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารด้วยการเพิ่มปุ่มขอความช่วยเหลือฉุกเฉินอีกด้วย แอดมินได้ระบุข้อความว่า “วันนี้โบกรถแท็กซี่หน้าตาประหลาด พอขึ้นมาเลยบอกพี่คนขับว่าไฟสวยจังค่ะ ดูเป็นมิตร พี่เขาก็ขำแล้วบอกว่ามันเป็นนโยบายใหม่ของขนส่งเขา รถรุ่นใหม่ที่ขึ้นทะเบียนต้องใช้ไฟสีเขียว ติดกล้องหน้า มีจีพีเอส และที่เด็ดคือมีปุ่ม SOS ให้กดด้วยค่ะ! พอกดปุ๊บสัญญานจะถูกส่งไปที่ศูนย์เลย คนนั่งฟังแล้วตื่นเต้นมากแต่พี่คนขับไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ บอกตั้งแต่ขับมาไม่ค่อยมีคนกล้าโบกเลย เพราะไม่เหมือนชาวบ้าน หลายครั้งเห็นเขาไม่โบกรถเราแต่ไปโบกคันหลังก็น้อยใจเหมือนกัน ขนส่งเขาก็ไม่ช่วยโปรโมตเลย พอบอกว่าขอกลับไปใช้ไฟว่างสีแดงได้มั้ยเขาก็ไม่ให้… นี่ก็เลยมาช่วยโปรโมตให้เลย! ใครเจอรถไฟว่างสีเขียวโบกได้นะคะ เป็นรถรุ่นใหม่ ในกรุงเทพฯ เพิ่งมีร้อยกว่าคันเองค่ะ อยากให้มีคนเรียกรถพี่เยอะๆ” จากโพสต์ดังกล่าวทำให้มีชาวเน็ตออกมาคอมเมนต์กันหลายความเห็นดังนี้ ร่วมด้วยช่วยแชร์ ถึงแม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ต้องมีการปรับปรุงเล็กน้อย เพิ่มความปลอดภัยให้กับสาวๆ รีวิวจากผู้ใช้จริง นับเป็นนิมิตรหมายอันดีของแท็กซี่ไทย หวังว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะนำพาสิ่งดีๆ กลับมานะคะ ที่มา เพจ…
-
คนขับแท็กซี่อัดคลิประบายความในใจ เพื่อนร่วมอาชีพไม่ไปส่งนทท. และเรียกค่าโดยสารแพง
วันที่ 30 ธันวาคม 2017 เพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า คนเลวต้องไม่มีที่ยืน ได้โพสต์คลิปของพี่คนขับแท็กซี่คนหนึ่งออกมาระบายความไม่พอใจเกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองเพิ่งไปเจอมา พี่คนนี้มีประสบการณ์ขับแท็กซี่มานานกว่า 17 ปี เขาเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ได้นำรถไปเติมแก๊สที่สายใต้และเจอกับชาวต่างชาติครอบครัวหนึ่งมาติดต่อจะนั่งแท็กซี่ไปกับคุณลุงคนขับที่ยืนอยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมสยาม 2 ในเขตพญาไท แต่แทนที่คุณลุงคนนั้นจะพาชาวต่างชาติขึ้นรถ ใช้มิเตอร์ตามปกติ คุณลุงกลับบอกครอบครัวนั้นไปว่าเขาคิดราคา 350 บาท ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ชาวต่างชาติต้องการเลยและตอบลุงคนนั้นไปว่า “No, I want meter.” ลุงคนขับคนดังกล่าวจึงรู้สึกไม่พอใจที่ไม่ได้ในราคาที่ตัวเองต้องการ และใช้ภาษาไทยด่าชาวต่างชาติครอบครัวนั้นไปด้วยคำหยาบคายอย่างมาก ก่อนที่จะเดินจากไปทิ้งครอบครัวต่างชาติไว้ให้ยืนงงไปอย่างนั้น พี่คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงเดินเข้าไปหวังจะกล่าวคำขอโทษและตั้งใจพาครอบครัวนี้นั่งรถแท็กซี่ไปแบบฟรีๆ แต่แน่นอนว่าชาวต่างชาติกลุ่มนี้หมดสิ้นความศรัทธาในตัวคนขับแท็กซี่ไทยไปเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงใช้วิธีการเรียก Uber มารับแทน เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทำให้พี่แท็กซี่ในคลิปวิดีโอรู้สึกไม่พอใจกับเพื่อนร่วมอาชีพของตัวเองอย่างมาก เขาจึงแสดงความคิดเห็นเอาไว้ 3 ประเด็นด้วยกัน… ประเด็นที่ 1 การท่องเที่ยว การท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการเพิ่มเม็ดเงินให้บ้านเรา และการที่ลุงคนขับคนนั้นแสดงกิริยาดังกล่าวออกมา ทำให้ภาพลักษณ์ของแท็กซี่บ้านเราเสียหาย และอาจทำให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศเราน้อยลง ประเด็นที่ 2…
-
ลูกค้าถึงกับงง นั่ง Uber ประมาณ 20 นาที โดนเก็บค่าโดยสารไปกว่า 460,000 บาท!?
เหตุการณ์ต่อไปนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มแคนาดาผู้หนึ่ง ที่ได้แชร์ประสบการณ์ราคาแพงของเขา หลังจากที่ถูกคิดค่าโดยสารของบริการรถแท็กซี่จาก Uber เป็นเงินกว่า 18,518.50 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 460,000 บาท!! คุณ Hisham Salama เล่าประสบการณ์ของเขาผ่านทางทวิตเตอร์โดยบอกว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาเขาได้ใช้บริการดังกล่าว เพื่อไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลในเมืองโทรอนโต แต่เมื่อมาถึงที่หมายเขากลับถูกคิดค่าบริการเป็นจำนวนเงินมากกว่าครึ่งล้านบาท!! เจอเก็บค่าบริการแบบนี้ แบงค์ 20 ในกระเป๋าถึงกับสั่น!! จำนวนเงินดังกล่าวถูกแจ้งเป็นยอดที่ค้างไว้ในบัตรเครดิตของเขา “ผมไม่เข้าใจเลยว่าทำไมนั่งรถแค่ 20 นาทีผมถึงต้องเสียเงินกว่า 18,518.50 เหรียญ” ชายหนุ่มให้สัมภาษณ์กับสื่อของแคนาดา แต่ถึงแม้จะรู้สึกขำๆ เพราะคิดว่ามันจะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ แต่ชายหนุ่มก็รู้สึกหวั่นๆ เพราะเขาได้รับข้อความยืนยันจาก Uber ว่าค่าโดยสารดังกล่าวนั้นถูกต้องแล้ว “เราได้ยืนยันแล้วว่าจุดเริ่มต้นที่คุณเลือกและปลายที่ทางเลือกนั้นถูกต้องแล้ว กรุณาบอกเราถ้าหากว่าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม” ส่วนท้ายของข้อความจาก Uber ถึงคุณ Hisham Salama แบบนี้ก็ยิ่งงงกว่าเดิมสิครับ ในเมื่อระบบช่วยเหลืออัตโนมัติไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้กับคุณ Hisham Salama ได้ งานนนี้ชายหนุ่มเลยต้องเพิ่งพาพลังแห่งโลกอินเตอร์เน็ต หลายๆ คนก็ได้เข้ามาแสดงความเห็นกันต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นหญิงสาวคนนี้ที่เอามือทาบอกพร้อมกับบอกว่า “เดี๋ยวนะ!! นี่เรื่องจริงหรือ??” ส่วนบางคนก็บอกว่าสงสัยเงินดอลล่าห์ของแคนาดาจะไม่เท่ากับของอเมริกาซะละมั้ง??…
-
ปฏิทินคนขับแท็กซี่ประจำปี 2018 จากเมืองนิวยอร์ค เล่นมาในมาดเซ็กซี่แบบนี้ใครเล่าจะอดใจไหว!?
ใครว่าคนจะถ่ายแบบได้จะต้องดูหล่อสวยหุ่นดีเพียงอย่างเดียว เพียงแค่คุณใจรักและอยากช่วยเหลือคนต่อให้คุณเป็นคนไม่หล่อหรือทำอาชีพอะไรคุณก็เปลี่ยนตัวเองเป็นนายแบบได้สบายๆ ถ้าไม่เชื่อ งั้นให้ปฏิทินคนขับแท็กซี่เหลืองแห่งเมืองนิวยอร์คมาเป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องนั้นกันดีกว่า เพราะพวกเขาก็ไม่ได้ดูหล่อสวยเพอร์เฟกต์ แต่พวกเขาใช้ความฮาของตัวเองมาเป็นจุดขายแทนยังไงล่ะ ปฏิทินดังกล่าวนั้นจะถูกจัดตั้งขึ้นทุกปี โดยจัดทำขึ้นเพื่อเปิดขายและหาเงินสมทบทุนเพื่อมอบให้กับองค์กร University Settlement ซึ่งองค์กรดังกล่าวก็จะนำเงินทั้งหมดไปเพื่อช่วยเหลือในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักคนชรา เด็กด้อยโอกาสและอื่นๆ อีกมากมาย ส่วนนายแบบนางแบบนั้นก็จะเป็นคนขับแท็กซี่สีเหลืองกับรถคู่ใจของพวกเขา โดยคนขับแท็กซี่ราวนี้ก็มีหลากหลายเพศ หลากหลายเชื้อชาติ และหลากหลายชั่วเวลาในการทำงานแตกต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือพวกเขาพร้อมที่จะมาเป็นแบบให้กับการขายปฏิทินครั้งนี้อย่างเต็มใจ หล่อน้ำกระฉูด… คูลป่าวไม่รู้ แต่สาวๆ ติดตรึมมม นอกจากจะเป็นสาวสวยขับแท็กซี่แล้ว เธอยังเป็นสาวสวยทรงพลังอีกด้วยนะ!! อยากกินเค้กกับพี่ไหมน้อง งานหลักขับแท็กซี่ งานรองคือช่างเสริมสวย… พี่คนนี้หล่อเข้มสุดๆ ผันตัวเป็นนายแบบได้เลยนะเนี่ย ถ้าลุงคนนี้กินขาดทุกคนจริงๆ เคนดอลก็อย่าหวังจะสู้ ยามว่างก็ปั้นดินให้เป็นหม้อ สนใจจะนั่งแท็กซี่ไปแล้วไปเด็ดดอกไม้กับคุณพี่ไหมหนู ลุงคนนี้ออกแนวซีเรียสหน่อยๆ นะเนี่ย เข้มเชียว เซ็กซี่อะไรขนาดนั้นล่ะคุณพี่ ถึงจะอายุเยอะ แต่ความเซ็กซี่ในการโพสของพวกเขาก็ยังไม่หายไปจริงๆ นอกจากปฏิทินแล้ว พวกเขายังมีการของอย่างอื่นเพื่อหารายได้เสริมอีกด้วยนะ เช่น…
-
คนขับแท็กซี่ในนิวยอร์กถ่ายรูปกับลูกค้าตั้งแต่ยุค 80s โดยใช้เบาะหลังเป็นสตูดิโอในการถ่ายภาพ
Ryan Weideman คนขับรถแท็กซี่ในมหานครนิวยอร์ก เติมเต็มความฝันของตัวเองที่อยากจะเป็นช่างภาพด้วยการใช้เบาะหลังของรถแท็กซี่ของเขา ใช้เป็นสตูดิโอในการถ่ายภาพให้กับลูกค้า เขาเริ่มถ่ายภาพลูกค้าคนต่างๆ ของเขาตั้งแต่ปี 1980 ซึ่งลูกค้าแต่ละรายก็มีความแตกต่างกันไป ทำให้ได้เห็นแฟชั่นการแต่งตัวในแต่ละยุคที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป การถ่ายภาพของเขาจะเน้นการถ่ายภาพให้ออกเป็นสีขาวดำ บางครั้งก็เป็นภาพเซลฟี่น่ารักๆ แสดงให้เห็นความเป็นกันเอง สื่อให้เห็นถึงความสุขลูกค้าแต่ละคนที่ได้มาใช้บริการแท็กซี่ของเขา 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19. 18.…
-
14 ความสำราญใจ ของทั้งผู้ใช้บริการและคนขับอูเบอร์ แบบนี้ก็มีด้วยหรือนี่!?
แท็กซี่อูเบอร์ นั้นอาจจะเป็นบริการที่ไม่ถูกกฎหมายในบางประเทศ แต่สำหรับในหลายประเทศนั้นการให้บริการดังกล่าวนั้นป็นเรื่องถูกกฎหมาย และได้รับความนิยมอย่างมากอีกด้วย แน่นอนว่าการให้บริการอูเบอร์นั้นเป็นการนำรถยนต์ส่วนตัวมาให้บริการแทนรถแท็กซี่ ซึ่งคนขับแต่ละคนนั้นก็จะมีเทคนิคการให้บริการที่แตกต่างกันออกไป และวันนี้เราก็มีภาพฮาๆ จากทั้งคนขับและผู้โดยสารรถแท็กซี่นี้จะต่างประเทศมาฝากกัน จะฮาแค่ไหนไปชมกันเลย… 1. น้องหมาของคนขับอูเบอร์ ที่คอยนั่งเป็นเพื่อนเจ้านาย และผู้โดยสาร เอ่อ… หวังว่าคุณคงจะไม่แพ้ขนหมานะ!? 2. ขึ้นรถคันนี้มีแต่อิ่มกับอิ่ม!! 3. อืม… จะนั่งไปด้วยดีไหมเนี่ย?? 4. ไม่ว่าคุณจะใช้โทรศัพท์รุ่นไหน เราก็เตรียมสายชาร์จไฟไว้บริการคุณทุกแบบ!! 5. แหม่… ดีจังเลยนะ มีเกมให้เล่นด้วย 6. เจอผู้โดยสารแบบนี้ ก็ขอหน่อยสักรูป ฮ่าๆ 7. ในรถอูเบอร์คันนี้ เค้ามีบริการไวไฟฟรีด้วยนะเออ!! 8. ส่วนคันนี้ก็มีตั้งแต่พาสเตอร์ปิดแผล ไปจนถึงที่แคะหูเลยทีเดียว 9. เจอลูกค้าแบบนี้ ตอนดึกๆ แบบนี้ บอกได้คำเดียวว่าขนลุก!! 10. คันนี้เองก็มีแจกอาหารรอบดึกด้วยนะเออ!! 11. เดี๋ยวพี่ขอแวะไปส่งลูกก่อนนะพ่อหนุ่ม…
-
คนขับแท็กซี่นำเงินกว่า “ครึ่งล้าน” กลับมาคืนให้คุณตา หลังรู้ว่าเขาถูกแก๊งต้มตุ๋นหลอก…
การตกเป็นเหยื่อของแก๊งต้มตุ๋นนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว เพราะบางครั้งคุณเองก็อาจจะเคยตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพได้เหมือนกับคุณตาท่านนี้ แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีโชคดี เมื่อคุณตาได้พบกับแท็กซี่หนุ่มพลเมืองดีทำให้เขาได้รับเงินทั้งหมดคืน… คุณตา Barry Stone ได้รับโทรศัพท์จากบุคคลนิรนาม ที่อ้างว่าเขาโทรมาจากสำนักงานตำรวจสกอตแลนด์ยาร์ด เพื่อจะขอทำการตรวจสอบบัญชีของคุณตา เนื่องจากมีความเกี่ยวโยงในเรื่องของการฉ้อโกงธนาคาร แก๊งมิจฉาชีพได้บอกให้คุณตาถอนเงินเป็นจำนวนประมาณ 12,128 ปอนด์ (ประมาณ 530,000 บาท) โดยแยกเป็นธนบัตรมูลค่า 50 ปอนด์ จำนวน 8,000 ปอนด์ (350,000 บาท) และเงินสกุลยูโรอีกประมาณ 4,128 ปอนด์ (180,000 บาท) โดยมีการบอกขั้นตอนว่าหลังจากที่ถอนเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำไปมอบให้กับคนขับรถแท็กซี่เพื่อที่จะให้นำส่งตำรวจไปตรวจสอบที่ลอนดอนต่อไป…. หลังจากที่ได้ยินกระบวนการทั้งหมด คุณตาจึงได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปฝากให้กับแท็กซี่ แต่แล้ว Izy Rashid พนักงานขับรถแท็กซี่พลเมืองดี กลับรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ไม่ชอบมาพากล เขาจึงตัดสินใจนำเงินกลับไปส่งคืนให้คุณตาถึงที่บ้าน “ผมรู้สึกไม่ดีเลย มันไม่ใช่เงินจำนวนนน้อยๆ แต่หลังจากที่ได้เงินคืนตอนนี้ผมรู้สึกดีมากๆ และไม่กังวลอะไรแล้ว” คุณตา Stone กล่าว นอกจากนี้คุณตายังได้เล่าถึงเหตุการณ์ต้มตุ๋นในครั้งนี้ว่า “บางครั้งเราก็หลงเชื่อเรื่องพวกนี้นะ พวกเขาบอกผมว่าต้องการตรวจหาลายนิ้วมือจากธนบัตรของธนาคาร เพื่อหาตัวคนร้าย” หลังจากที่ได้ติดต่อกับทางตำรวจจริงๆ คุณ Izy Rashid…
-
แบบนี้ก็มี… วีออสปาดขึ้นสะพานเกือบชนแท็กซี่ ยังไม่พอ ขับตามมาหาเรื่องเค้าถึงที่อีก!?
กลายเป็นกระแสดราม่าร้อนฉ่าไปทั่วโลกโซเชียล หลังจากที่ผู้ขับแท็กซี่ผู้ใช้เฟซบุ๊กนามว่า Oun Chatchai ได้นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองมาเผยแพร่บนโลกโซเชียล โดยในคลิปวิดีโอเป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่ ที่ดันไปเจอรถวีออสปาดหน้าก่อนขึ้นสะพานจนเกือบนำไปสู่อุบัติเหตุ แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น… เพราะคนขับวีออสได้เลือกที่จะขับตามหลังมาหาเรื่องต่อ!? เจ้าตัวเล่าว่าตนกำลังขับขึ้นสะพานข้ามแยกสาธุประดิษฐ์ เพื่อมุ่งหน้าจะไปทางสวนพลู คนขับแท็กซี่เล่าต่อว่า จังหวะที่กำลังจะขึ้นสะพาน ก็ได้มีรถเก๋งวีออสคันหนึ่งที่กำลังจอดอยู่ตรงคอสะพาน ขับเบี่ยงออกมาทางขวาโดยไม่เปิดไฟเลี้ยว วิเคราะห์: ถึงแม้จะเปิดไฟเลี้ยว แต่บริเวณดังกล่าวก็เป็นเส้นทึบ ซึ่งตามกฎหมายไม่สามารถเปลี่ยนเลนได้ แน่นอนว่าในจังหวะอันตรายบนท้องถนน การบีบแตรรถก็เป็นอีกสัญญาณเตือนเพื่อความระมัดระวัง เขาจึงบีบแตรเสียงดังลั่น และขับออกมา แต่หลังจากที่แท็กซี่ขับรถต่อไปเรื่อยๆ รถเก๋งวีออสคันเดิมก็ขับตามมาปาดหน้าเอาเรื่องอีก โดยคนขับแท็กซี่เล่าว่า ผู้ขับขี่รถเก๋งได้ขับรถตามมาพร้อมทั้งตะโกนบอกว่า ‘เป็นคนไทยรึเปล่า? ทำไมไม่มีน้ำใจ?’ จู่ๆ วีออสก็มาปาดขวาและจอดขวางรถแท็กซี่ไว้ โดยมีพฤติกรรมเหมือนตั้งใจจะตามมาหาเรื่อง หลังจากที่ปาดหน้าไม่ยอมให้แท็กซี่ไปต่อแล้ว เจ้าของรถทั้งสองคนก็ได้ลงมาจากรถเพื่อพยายามถามไถ่น้ำใจจากคนขับแท็กซี่ รับชมคลิปวิดีโอเหตุการณ์เต็มๆ คลิกที่ลิงค์นี้เลยครับ เรื่องราวทั้งหมดถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยฝ่ายชาวเน็ตได้กล่าวว่าตนต้องการแค่ทำมาหากิน และไม่ได้อยากมีปัญหากับใคร จึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาหาเรื่องกันด้วย ชาวเน็ตที่ได้รับชมคลิปดังกล่าวต่างก็ออกมาสนับสนุนในการกระทำของแท็กซี่ว่าเป็นฝ่ายถูก และดีที่ไม่ได้หาเรื่องกลับไปด้วย Packy K. Yarana เส้นทึบนะทางที่เขาปาดมาหนะ น้ำใจคือไร เขาขับมาของเขาดีๆ…
-
บริษัทแท็กซี่ญี่ปุ่น ออกนโยบายห้ามไม่ให้คนขับคุยกับผู้โดยสาร ในระหว่างการเดินทาง
ต้องยอมรับเลยนะว่า “แท็กซี่” ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ในการเดินทาง ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมของคนขับ ระเบียบการจราจร รวมถึงยังมีการตั้งกฎระเบียบต่างๆ ขึ้นมา เพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของแต่ละประเทศอีกด้วย และล่าสุดเมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560 ทางเว็บไซต์ Rocketnews24 มีรายงานว่า Miyako Taxi บริษัทรถแท็กซี่ ในจังหวัดเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้เริ่มดำเนินการให้บริการ Silence Taxi โดยมีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้คนขับรถพูดคุยกับผู้โดยสารในขณะที่อยู่ระหว่างการเดินทาง จากการรายงานระบุว่า การบริการดังกล่าวได้มีการดำเนินการในเขตกรุงเกียวโตเป็นส่วนใหญ่ โดยภายในด้านหลังพนักพิงศีรษะของรถแท็กซี่ จะมีการแจ้งให้ลูกค้าได้ทราบว่า… นอกเหนือจากการทักทายหลังจากที่ผู้โดยสารได้เข้ามาในรถแล้ว คนขับรถแท็กซี่จะไม่สามารถพูดคุยกับพวกเขาระหว่างการเดินทางได้ ยกเว้นแต่ในสถานการณ์ที่ฉุกเฉินเท่านั้น “สำหรับการบริการดังกล่าวกำลังอยู่ในช่วงทดลอง โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศระหว่างการเดินทางให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลาย และมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุด” ทางบริษัทกล่าว โดยปกติแล้วบริษัท Miyako Taxi จะไม่มีกฎ หรือนโยบายข้อบังคับเกี่ยวกับการขับออกมาเลย แต่ในตอนนี้ทางบริษัทกลับรู้สึกว่าในขณะที่ผู้โดยสารบางคนมักจะชอบฟัง และสอบถามเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในเกียวโตอยู่บ่อยๆ แต่ในทางกลับกัน ผู้โดยสารบางคนโดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองเกียวโตหรือบริเวณใกล้เคียง มักจะรู้สถานที่ต่างๆ อยู่แล้ว ดังนั้น…
-
ขนาดนี้ยังโดน? “บอย ถกลเกียรติ” เจอคนขับแท็กซี่สั่งยกมือไหว้รถ พร้อมขู่ “สักนัดไหม!!”
นี่กลายเป็นเรื่องที่ถูกชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีที่บอย ถกลเกียรติ มีปากเสียงกับคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง จนถึงขั้นขู่ยิงปืน!? เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Free’night Kub เมื่อช่วงดึกของวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นคลิปวิดีโอที่มี คุณบอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ ผู้กำกับและประธานกรรมการฝ่ายบริหาร สถานีโทรทัศน์ช่องวัน ยืนพูดคุยกับคนขับแท็กซี่ป้ายทะเบียน มข 3566 บริเวณข้างถนนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครฯ เบื้องต้นทราบว่าแท็กซี่คันดังกล่าวปฏิเสธผู้โดยสาร คุณบอยจึงใช้มือทุบรถ (คาดว่าเกิดความหงุดหงิด อาจจะเรียกมาแล้วหลายคันแต่ไม่ไปส่ง) ทำให้คนขับแท็กซี่เกิดความไม่พอใจ ก่อนจะลงมาแสดงท่าทางก้าวร้าวบอกให้คุณบอยยกมือไหว้รถของตนเองแถมยังขู่ว่าตัวเองมีปืน ทำให้คุณบอยต้องหยิบเงิน 1,000 บาทให้กับคนขับแท็กซี่รายนี้ไป พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปวิดีโอด้วยว่า “ความคิดส่วนตัวผมนะครับ โบกแท็กซี่แล้วไม่ไป จะบอกให้นะแค่ทุบรถยังน้อยไปด้วย ยังมีหน้าลงมาขู่เค้าต่อหน้าลูกเค้าอีก ไม่ได้ไปแถมต้องเสียเงินให้อีก 1,000 สังคมแย่ลงทุกวัน ปล. ความคิดส่วนตัวผมนะครับ” ชมคลิปเหตุการณ์ทั้งหมดได้ที่นี่เลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ตามมามากมาย Janpen Chamnanthuan “ถึงเวลาต้องเอาจริงจังกับแท็กซี่ จะได้ไม่เป็นอันตรายกับประชาชนผู้ใช้บริการ” Tum Photongnak…
-
ผิดถูกอย่างไร!? ชาวเน็ตเผยคลิป “คนขับแท็กซี่สาว” คุยมือถือ-ขับอ้อม-ไล่ผู้โดยสารกลางทาง
เรียกได้ว่ากำลังเป็นประเด็นร้อนบนโลกโซเชียล ณ ตอนนี้เลย หลังจากที่มีชาวเน็ตคนหนึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กว่า Yaowalak Chusri ได้แชร์คลิปวิดีโอของคนขับแท็กซี่สาวผู้มีพฤติกรรมที่ดูไม่เหมาะสมรายหนึ่ง โดยคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกแชร์ลงบนเพจ DR.K v.3 ก่อนจะอ่านต่อ ลองตามไปชมคลิปเหตุการณ์บนรถแท็กซี่คันนี้กันดู จากข้อมูลที่ทางสำนักข่าวแมวเหมียวเราได้ไปเจอมา พบว่าหญิงสาวผู้เป็นลูกค้าได้นั่งแท็กซี่ทะเบียน ทร 2195 สีชมพูจากบริเวณหน้าแพลตตินั่มไปยังบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ โดยมีแม่ น้าสาว และลูกชายเดินทางไปด้วย หลังจากที่โบกแท็กซี่คันดังกล่าวแล้ว หญิงสาวเจ้าของเรื่องเล่าว่าคนขับแท็กซี่ได้จอดคุยโทรศัพท์ระหว่างทางโดยที่มิเตอร์ยังทำงานอยู่ อีกทั้งระหว่างทางคนขับยังคุยโทรศัพท์จนเกือบไปเฉี่ยวชนใส่รถตู้ประจำทาง เมื่อผ่านไปได้ประมาณ 500 เมตรจู่ๆ คนขับก็เลี้ยวรถกลับและเฉี่ยวคนที่ยืนอยู่ข้างทาง จนมาถึงบริเวณประตูน้ำคนขับก็พยายามที่จะไล่ผู้โดยสารลง หลังจากที่จอดแล้วคนขับได้เรียกเงินค่าโดยสาร แต่ผู้โดยสารปฏิเสธที่จะจ่ายเพราะไม่ได้ไปถึงที่หมายตามที่ตกลงไว้ ทำให้คนขับพยายามขับออกนอกเส้นทางไปทางเส้นดินแดง-ห้วยขวาง ซึ่งในระหว่างนั้นเกิดปากเสียงขึ้นตลอดทาง และในตอนที่แท็กซี่กำลังจะจอด คุณแม่ของผู้โดยสารกำลังจะก้าวขาลงจากรถ คนขับก็ได้ขับแท็กซี่ไปเคลื่อนไปข้างหน้าราวกับว่าต้องการจะสร้างความตกใจให้กับครอบครัวนี้ หลังจากที่คลิปวิดีโอนี้ถูกแชร์ลงบนโซเชียล ก็มีชาวเน็ตออกมาให้ความเห็นกันมากมาย ยิ่งทำให้บางคนรู้สึกกลัวการใช้บริการแท็กซี่มากยิ่งกว่าเดิม บ้างก็บอกว่ายิ่งจะทำให้แท็กซี่ดูแย่ลงไปอีก ชาวเน็ตบางคนก็เชียร์ให้คุณป้าไปต่อยมวยแทน อืม… นี่อาจจะเป็นแท็กซี่ 1%…
-
หนุ่มหลงผิดปล้นแท็กซี่ แต่ลุงคนขับพาเขาเลี้ยงข้าวแทน จนโจรกลับใจไปมอบตัว…
บางครั้งคนที่ทำผิดก็ไม่ไช่คนที่ไม่ดีเสมอไป บางครั้งพวกเขาอาจจะตัดสินใจไปโดยพลการโดยที่ยังใตร่ตรองได้ไม่ถี่ถ้วนก็เป็นได้ หากได้รับกำลังใจ หรือคำพูดดีๆ ก็อาจทำให้พวกเขารู้สำนึก และกลับตัวกลับใจได้ทัน เช่นเดียวกันกับเรื่องราวต่อไปนี้… เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเช้าของวันที่ 19 เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่เมืองฮิเมจิ จังหวัดเฮียวโงะ คนขับรถแท็กซี่วัย 66 ปี ก็ทำการจอดรถที่ข้างถนนเพื่อรอรับลูกค้าตามปกติ เมื่อช่วงเวลา 1.00 น. ชายหนุ่มวัย 25 ก็เดินเข้ามาในรถ แต่ก่อนที่คุณลุงแท็กซี่จะถามถึงจุดหมายปลายทาง เขาก็ถูกล็อคคอจากด้านหลังอย่างรุนแรง “มีเงินเท่าไหร่ส่งมาให้หมด” ผู้โดยสารหนุ่มกล่าว ขณะที่เอามือล็อคคอของคุณลุงคนขับรถแท็กซี่อยู่ ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์น่ากลัวแบบนี้แต่คุณลุงกลับใจเย็น พร้อมกับตอบไปอย่างใจเย็นว่า “นายยังเด็กอยู่เลยนะ นายต้องทบทวนสิ่งที่นายกำลังทำอยู่ให้ดีกว่านี้” ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ คำพูดของคุณลุงก็ทำให้ชายหนุ่มผู้เกือบกลายเป็นอาชญากรฉุกคิดขึ้นมาได้ จากนั้นคุณลุงก็ทำเรื่องที่เหนือความคาดหมาย ด้วยการขับรถพาชายหนุ่มไปทานอาหารที่ร้านอาหารแบบสายพานด้วยกัน หลังจากที่ทานอาหารเสร็จแล้ว ก็ไม่ทราบว่าทั้งคู่ได้พูดคุยอะไรกันบ้าง แต่หลังจากนั้นอีกหนึ่งชั่วโมง ช่วงเวลา 2.00 ของวันเดียวกัน ชายหนุ่มก็ได้เดินไปที่สถานีตำรวจใกล้ๆ เพื่อทำการมอบตัว เป็นเรื่องน่าเศร้าที่จะรู้ว่าในอีกไม่นานที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีการใช้รถยนต์อัตโนมัติที่ขับเคลื่อนโดยระบบ AI และคงจะไม่มีแท็กซี่ผู้ใจดีแบบนี้เกิดขึ้นอีกต่อไปแล้ว… ที่มา : sankei,…
-
ไปดูว่าคนไทยคิดอย่างไร เมื่อรู้ข่าวเจ้าหน้าที่จับ “คนขับรถอูเบอร์” ที่สนามบินสุวรรณภูมิ?
แม้ว่าบริการรถรับส่ง “อูเบอร์” จะเป็นบริการที่สะดวกสบาย เรียกใช้บริการสะดวก แต่มันก็ยังคงเป็นบริการที่ไม่ถูกกฎหมายเพราะเนื่องจากในประเทศไทยไม่เอื้ออำนวยให้นำรถยนต์ส่วนบุคคลมาให้บริการแก่ผู้โดยสารในเชิงรถสาธารณะได้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2017 ที่ผ่านมามีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของสนามบินสุวรรณภูมิได้เข้าควบคุมตัวคนขับรถอูเบอร์รายหนึ่งที่ขับมารับลูกค้าชาวญี่ปุ่น 2 คนที่สนามบิน ก่อนจะสอบปากคำและเชิญออกนอกพื้นที่ หลังจากที่ข่าวนี้ถูกรายงานออกไปในวงกว้าง กลับทำให้ชาวเน็ตและผู้ใช้บริการอีกจำนวนหนึ่งแสดงความไม่พอใจ เพราะเนื่องจากพวกเขามองว่าการให้บริการแท็กซี่ในปัจจุบันไม่มีคุณภาพที่มากพอ บางคันมีปัญหาเรื่องมิเตอร์ บางคันพาอ้อมนอกเส้นทาง รวมไปถึงปัญหาของคนขับแท็กซี่ที่มักแสดงความเกรี้ยวกราดจนกลายเป็นข่าวให้เห็นอยู่ไม่น้อย อีกทั้งหลายๆ รายยังบอกด้วยว่าหากจะจับผู้กระทำความผิดจริงก็ควรจะพัฒนาระบบแท็กซี่ให้ดีขึ้นด้วย ความคิดเห็นของโลกออนไลน์ต่อประเด็นเจ้าหน้าที่สนามบินจับคนขับอูเบอร์ . . . . อูเบอร์ในต่างแดนโดนแบนด้วยไหม? ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นที่ระบุว่าอูเบอร์ผิดกฎหมาย เพราะมีหลายๆ ประเทศที่แบนอูเบอร์อยู่เหมือนกัน อย่างเช่นในประเทศเดนมาร์ก เมื่อปี 2014 ระบุว่าบริการอูเบอร์นั้นขัดต่อกฎความปลอดภัยของประเทศ และยังมีสมาคมคนขับแท็กซี่ออกมาต่อต้านจำนวนมาก (แต่ปัจจุบันก็ยังคงมีการให้บริการกันอยู่) ในประเทศนอร์เวย์เองก็ยังไม่แน่ชัดว่าบริการนี้ถูกต้องหรือไม่ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะถูกโดนใบสั่งและจับได้เหมือนกัน ในปี 2015 ประเทศเกาหลีใต้ได้ประกาศให้บริการรถรับส่งทำนองนี้เป็นบริการที่ผิดกฎหมายทั้งหมด และยังคงมีผลมาถึงปัจจุบัน หรืออย่างในประเทศไต้หวันเองแม้จะมีการให้บริการอูเบอร์ แต่เมื่อราวๆ ปลายปี 2015 ก็ได้มีคำสั่งระงับการให้บริการและสั่งปรับเป็นเงินจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตามในไต้หวันก็ยังคงมีการให้บริการขนส่งคล้ายๆ กันนี้อย่างเปิดเผย…
-
เมืองดูไบเตรียมใช้งาน ‘แท็กซี่โดรน’ แบบไร้คนขับ ทางเลือกใหม่ของการเดินทาง!!
ย้อนกลับไปในตอนเด็กๆ เชื่อเลยว่าหนึ่งในการ์ตูนสร้างฝันการของใครหลายๆ คน ก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง The Jetsons แน่นอน และเพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าในอีกไม่นานยานพาหนะจากการ์ตูนเรื่องนี้กำลังจะออกมาโลดแล่นสู่โลกแห่งความจริงแล้ว!! ด้วยฝีมือของนักสร้างโดนชาวจีน EHang ที่กำลังจะทำให้เมือง Dubai กลายเป็นที่แรกของโลกที่ใช้แท็กซี่โดยสารด้วยโดรน!! ณ การประชุมสุดยอดรัฐบาลโลกในเมือง Dubai เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Matter al-Tayer เจ้าหน้าที่ระดับสูงของระบบคมนาคมในเมืองดูไบได้ประกาศว่าในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้ จะดำเนินการใช้งานเจ้าเครื่อง EHang 184 ในระบบการขนส่งมวลชน เจ้า EHang 184 นี้จะสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ครั้งละ 1 คน พร้อมกระเป๋าเดินทางขนาดเล็ก โดยการชาร์จ 1 ครั้งจะสามารถใช้งานได้ 30 นาที และเดินทางได้เป็นระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร อีกทั้งยังสามารถบินได้สูงจากพื้นดินประมาณ 3.5 กิโลเมตรเลยทีเดียว โดยเจ้าแท็กซี่โดรนนี้ถูกเปิดตัวในงาน Consumer Electronics Show ที่ลาส เวกัส เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา และมันก็สร้างความสนใจให้กับผู้คนมากมาย…
-
ถึงกับเซ็ง!! แท็กซี่โดนปรับข้อหาขับเร็วเกิน ณ จุดๆ เดิมทั้งสิ้น 14 ครั้งตลอดระยะ 2 เดือน
ในเรื่องของการจับผู้กระทำกฎจราจรในปัจจุบัน จะไม่ค่อยเห็นนายตำรวจมายืนสังเกตข้างถนนแล้ว แต่สำหรับในบางประเทศวิธีการแบบนี้ก็ยังคงมีอยู่ ทั้งตั้งด่านเป็นกิจลักษณะ รวมทั้งไปแอบยืนหลังเสาไฟฟ้าแล้วโผล่ออกมาจ๊ะเอ๋ด้วย ฮร่า ซึ่งถ้าหากว่าเรารู้ว่าจุดไหนเป็นจุดที่เราพลาดพลั้งไปแล้ว ก็จะมีความระมัดระวังมากขึ้น ไม่อยากจะกระผิดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง แต่สำหรับที่ประเทศอังกฤษ กรณีนี้เกิดขึ้นกับหนุ่มใหญ่วัย 41 ปี Steven Holman ทำอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่ ต้องยุติบทบาทหน้าที่ของตัวเองลง เนื่องจากเขากระทำผิดในข้อหาขับรถเร็วเกินกว่ากำหนดที่ไม่ใช่แค่ 1 หรือ 2 ครั้ง แต่มากถึง 14 ครั้งใน 2 เดือน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีประวัติเสียแม้แต่ครั้งเดียวตลอดระยะเวลาที่ทำอาชีพคนขับแท็กซี่มา 10 ปี ซึ่งทุกอย่างก็หายวับไปกับสายลมเพียงเพราะกล้องตรวจจับความเร็วเพียงแค่ตัวเดียว กล้องตรวจจับความเร็วคู่กรณีของ Holman กล้องตัวดังกล่าวติดตั้งในบริเวณข้างถนนของเมือง Plymouth, Devon ที่เคยเป็นไฟจราจรมาก่อน จนกระทั่งกลายมาเป็นกล้องตรวจจับความเร็วเมื่อปีที่แล้ว แต่ทว่าไม่มีการติดป้ายหรือคำเตือนบนถนนให้ผู้ขับขี่ได้เห็นอย่างชัดเจน ว่ามีกล้องคอยตรวจจับอยู่ ซึ่งในระหว่างนั้น Holman ก็ถูกกล้องจับได้ว่าขับเร็วเกินกว่า 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นจำนวน 9 ครั้งในช่วง 2 สิงหาคมถึง…
-
ช่างภาพแอบถ่ายช่วงเวลาพักผ่อนของ “แท็กซี่ญี่ปุ่น” หลังเมื่อยล้าจากการขับรถทั้งวัน…
การขับรถยนต์เป็นระยะทางไกลๆ หลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องที่ไม่ต้องใช้แรงอะไรมากมายแต่จริงๆ แล้วมันเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆ ถ้าใครเคยขับรถข้ามจังหวัดก็คงจะทราบดี ดังนั้นอาชีพที่ต้องขับรถตลอดเวลา ก็ต้องการการพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายตื่นตัวอยู่เสมอ บางคนอาจจะใช้กาแฟหรือเครื่องดื่มชูกำลังช่วย หรือบางคนอาจจะงีบสักพักให้ร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนที่จะออกเดินทางต่อ ช่างภาพ William Green จากประเทศอังกฤษก็เป็นคนหนึ่งที่ได้เห็นวิธีพักผ่อนของแท็กซี่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยที่เขาได้บันทึกภาพของคนขับแท็กซี่ที่กำลังนอนพักอยู่ในรถ หลังจากขับรถรับส่งผู้โดยสารมาแทบจะทั้งวันแล้ว “ผมมาญี่ปุ่นเพื่อทำโปรเจกต์อื่นอยู่ แต่แล้วก็ไปสะดุดภาพของแท็กซี่ขณะเดินอยู่บนทางเท้า” ตอนแรกที่เขาได้เห็นก็รู้สึกประหลาดใจ แต่พออยู่ไปนานๆ ก็ได้รู้ว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับญี่ปุ่นที่จะได้เห็นคนแอบงีบในที่สาธารณะแบบนี้ มันเหมือนเป็นสัญญาณของความขยันและการทำงานหนัก ตอนนี้เขารู้สึกว่ากำลังตื่นเต้นกับการได้เห็นปรากฏการณ์ที่แสนธรรมดา มันเป็นเรื่องที่ดีมากๆ อย่างหนึ่งเลยถ้าเราได้มีช่วงเวลาที่เป็นส่วนตัวในที่สาธารณะได้ ที่มา sobadsogood
-
Airbus เตรียมพัฒนาเทคโนโลยี “รถยนต์บินได้” เพื่อช่วยแก้ปัญหารถติดในเมือง
ในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า มนุษย์ได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีเจ๋งๆ ออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น หุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายเหมือนมนุษย์ได้ หรือจะเป็นการพัฒนาระบบ AI ขับเครื่องบินรบ ที่สามารถเอาชนะมนุษย์ยอดนักบินกองทัพ ก็มีมาแล้วเช่นกัน และล่าสุดเมื่อวันที่ 17 มกราคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า ทางบริษัทผู้ผลิตอากาศยานและเฮลิคอปเตอร์พาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่าง Airbus ได้มีแผนที่จะทดความยานต้นแบบของ “รถยนต์บินได้” ในปลายปี 2560 นี้ โดยทางบริษัทเชื่อว่าจะสามารถช่วยลดความแออัดบนถนน ช่วยประหยัดเวลา และประหยัดเงินของประชนชนได้ ทางด้าน Tom Enders หัวหน้าผู้บริหารสูงสุดของ Airbus ได้ออกมาเผยในที่ประชุมสุดยอดเทคโนโลยี ณ ประเทศเยอรมนีว่า “จะมีการวางแผนทดสอบรถต้นแบบขนาดเล็กภายในสิ้นปีนี้ โดยในปีที่ผ่านมาทาง Airbus ได้ทำการจัดตั้งแผนกที่เรียกว่า “Urban Mobility” ขึ้นมา หน้าที่ของมันก็เพื่อช่วยตรวจสอบแนวความคิดในการสร้างรถยนต์รับส่งส่วนบุคคลชนิดบินได้ หรือที่ลักษณะคล้ายกับเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งจะสามารถรับผู้โดยสารได้หลายคน อีกทั้งผู้โดยสารยังสามารถจองการใช้บริการผ่านทางแอพพลิเคชั่น ได้เหมือนกับรถแท็กซี่อีกด้วย” จากการรายงานระบุว่า ขณะนี้ทาง Airbus กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีการนำรถยนต์ขึ้นและลงในแนวดิ่ง เพื่อที่จะนำมาใช้ในการรับส่งผู้โดยสารที่อาศัยอยู่ในเมืองที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ซึ่งคาดว่าการพัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าวจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการผลิตในปี 2021 …
-
ชาวเน็ตเล่าประสบการณ์เจอแท็กซี่ใจดี พาหลงแต่ไม่คิดเงินเพิ่ม-ไม่มั่นใจเรียกคันอื่นได้เลย
เราอาจได้ยินเรื่องราวด้านลบของแท็กซี่ไทยมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นแท็กซี่หยาบคาย หรือแท็กซี่ที่มิเตอร์ขึ้นเร็วเป็นจรวด หรือแม้แต่แท็กซี่ที่ชอบพาขับอ้อมเพื่อให้ได้เงินเยอะขึ้น จนทำให้หลายๆ คนเสื่อมศรัทธาในบริการรถแท็กซี่ไป แต่วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมเรื่องราวน่าประทับใจของแท็กซี่แสนใจดีคนหนึ่งที่ชาวเน็ตไปพบเจอมา รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องเปลี่ยนความคิดที่มีแต่แท็กซี่ไปอย่างแน่นอน เรื่องราวเป็นของคุณ Ssojinp Amas เธอเล่าว่าช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 16 มกราคม เธอได้เรียกแท็กซี่คันหนึ่งเพื่อไปส่งที่บ้าน แต่เมื่อขับไปได้ซักระยะหนึ่ง คนขับแท็กซี่หลงทางจนค่าแท็กซี่ขึ้นมาเป็นจำนวนมากกว่าปกติที่เธอเคยจ่าย คนขับแท็กซี่จึงปิดมิเตอร์ และคิดค่าแท็กซี่เท่าที่เธอเคยจ่ายเท่านั้น สร้างความประทับใจให้กับเธอเป็นอย่างยิ่ง เธอจึงมอบทิปเล็กๆ น้อยๆ ให้กับคนขับแท็กซี่ไป เมื่อถึงที่หมาย เนื่องจากยามประจำหมู่บ้านไม่อยู่ ทำให้เธอไม่สามารถเข้าบ้านได้ คนขับแท็กซี่ใจดีดังกล่าว ก็อยู่รอเป็นเพื่อนเธอจนยามมาเปิดประตู จากนั้นเขาถึงได้ขับรถออกไป (คุณสมชัย ศรีกิตติชัย คนขับแท็กซี่ดังกล่าว) อ่านเรื่องราวน่าชื่นใจของพี่แท็กซี่รายนี้แบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย เมื่อเรื่องราวเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นกันอย่างมากมาย ชาวเน็ตท่านหนึ่งที่เคยใช้บริการของคนขับแท็กซี่ท่านนี้ ก็มาช่วยยืนยันว่า คุณลุงเป็นคนดีจริงๆ นะฮะ คนดีแบบนี้ ไม่ชื่นชมได้ยังไงล่ะฮะ จริงมั้ยครับเพื่อนๆ ^^…
-
หนุ่มแชร์คลิปแท็กซี่ มิเตอร์พุ่งพรวดวินาทีละ 1 บาท ทำขนาดนี้เอากระเป๋าตังค์ไปเลยครับ!!
แท็กซี่ถือเป็นระบบขนส่งที่ได้รับความนิยมจากคนเมืองมากๆ เพราะมันมีความเป็นส่วนตัวและรวดเร็วกว่ารถเมล์ และสามารถไปส่งคุณในสถานที่ที่เจาะจงได้ แต่บางครั้งคุณก็อาจจะต้องสังเกตที่มิเตอร์ของรถด้วยว่ามันมีความผิดปกติหรือไม่ เพราะไม่งั้นคุณอาจจะต้องจ่ายค่าโดยสารให้กับคนขับในจำนวนที่แพงกว่าค่าโดยสารปกติถึงหลายเท่าทีเดียว เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นหยิบยกมาเล่าต่อไปนี้มาจากคุณศุภธัช บัวทองแก้ว จากกรุงเทพมหานครฯ โดยเขาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ได้ไปใช้บริการรถแท็กซี่คันหนึ่งบริเวณแฟชั่นไอส์แลนด์ แต่หลังจากที่คนขับแท็กซี่ออกตัวไปได้ไม่นาน เขาก็พบสิ่งผิดปกติบางอย่าง เพราะเมื่อมองที่มิเตอร์ของรถ ค่าโดยสารกลับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ จากภาพนี้จะสังเกตได้ว่าตัวเลขของค่าโดยสารพุ่งขึ้นราวๆ วินาทีละ 1 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่เกินกว่าที่กฎหมายระบุเอาไว้ ซึ่งอัตตราค่าโดยสารจากกิโลเมตรที่ 1 ถึงกิโลเมตรที่ 10 อยู่ที่กิโลเมตรละ 5.50 บาท และกิโลเมตรที่ 10 ถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 6.50 บาท คลิปหลักฐานที่เขาถ่ายเอาไว้… นอกจากนี้คุณศุภธัชยังได้มีการถ่ายรูปป้ายทะเบียนของแท็กซี่คันดังกล่าวเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ใช้บริการคนต่อไป หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย แถมยังมีชาวเน็ตอีกหลายรายพากันแชร์เรื่องราวการถูกโกงค่าแท็กซี่อีกเพียบ ว่าที่ร้อยตรี ยอดรัก หงษา “ผมก็เคยเหตุการแบบนี้แหละครับ นั่งจากบางพลีใหญ่มา บางบอน วิ่งเส้นพระราม2…
-
บริษัทต่างชาติเตรียมสร้าง ‘แท็กซี่ลอยฟ้า’ เปิดใช้ปี 2020 ปฏิวัติการเดินทางราวกับหนังไซไฟ
การเดินทางด้วยแท็กซี่เริ่มสะดวกสบายมากขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะแทนที่เราจะต้องไปยืนโบกมือหยอยๆ ข้างถนน ตอนนี้ระบบต่างๆ ก็เริ่มพัฒนาทำให้เราสามารถเรียกแท็กซี่ผ่านสมาร์ทโฟนได้ และคุณเชื่อไหมว่าในอนาคตอันใกล้ มนุษย์เราอาจจะสามารถเรียกแท็กซี่จากทางอากาศได้ด้วย? สิ่งที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือ “แท็กซี่ลอยฟ้า” ที่แม้จะยังเป็นเพียงแนวคิดหรือคอนเซ็ปต์แต่ก็มีการยืนยันออกมาแล้วว่าแท็กซี่ในรูปแบบนี้กำลังถูกพัฒนาอยู่จริงๆ โดยเจ้าแท็กซี่ลอยฟ้าที่ว่านี้อยู่ในระหว่างการคิดค้นโดย Airbus Group บริษัทที่ผลิตอากาศยานและระบบป้องกันประเทศของยุโรป ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อให้มันว่า CityAirbus เจ้า CityAirbus ที่ว่านี้ Airbus Group ต้องอาศัยบริษัทหลายๆ แห่งร่วมกันพัฒนามันขึ้นมา โดยพวกเขาได้มอบหมายงานให้บริษัท MTSI (Modern Technology Solutions, Inc) รับหน้าที่ในการบินทดสอบ ส่วนบริษัท SOAR Oregon จะเป็นผู้ให้การสนับสนุนการทดสอบ ไอเดียของแท็กซี่ลอยฟ้าจะมีความใกล้เคียงกับระบบของรถไร้คนขับที่บริษัทผู้ผลิตรถ Tesla กำลังพัฒนาอยู่ ผสมกับเทคโนโลยีโดรนที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายเพื่อการถ่ายภาพ ซึ่ง CityAirbus จะมาในรูปแบบของยาน 4 ใบพัดไร้คนขับที่บังคับทิศทางได้เอง สามารถนั่งได้ 1 ที่นั่ง และบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้เลยโดยที่ไม่ต้องใช้ถนนหรือรันเวย์ในการออกตัว นอกจากนี้ยาน CityAirbus ยังมาพร้อมกับระบบเซ็นเซอร์อัจฉริยะ ที่จะคอยตรวจจับการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ นั่นหมายความว่าหากคุณนั่งยานที่ว่านี้อยู่บนอากาศ มันก็จะไม่มีทางชนกันเองแน่นอน…
-
เจ๋งไม่แพ้ใคร..ชาวแท็กซี่นิวยอร์คเกอร์ ออกมารวมตัวถ่ายภาพปฏิทินวางขาย แอ๊คชั่นจัดเต็ม!!
เรียกได้ว่าทุกๆ ปีเราจะได้เห็นเรื่องราวของกลุ่มนักศึกษา หรือองค์กรต่างๆ ที่รวมตัวกันถ่ายภาพปฏิทินพร้อมกับนำมาวางขาย บ้างก็นู้ด บ้างก็เป็นภาพเน้นสวยงาม แล้วแต่จะครีเอทกันไป แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีสำนักไหนเด็ดเท่านี้อีกแล้ว เพราะนี่คือปฏิทินคอลเล็คชั่นประจำปี ‘2017’ ที่คาดการณ์กันว่ากำลังจะมาแรงที่สุด แซงทุกโค้งมหา’ลัย ที่เคยทำกันออกมา เป็นการรวมตัวของเหล่าคนขับแท็กซี่ผู้ใช้ชีวิตในนิวยอร์คมาอย่างยาวนาน จนเรียกได้ว่าเป็น ‘นิวยอร์คเกอร์’ เต็มตัว โดนหนุ่มฮ็อตแต่ละคนจะได้รับหน้าที่ไปคิดท่าโพสต์เท่ๆมา และนี่คือภาพจากปฏิทินทั้งหมด โดยสนนราคาอยู่ที่ 500 บาทเท่านั้น เปิดตัวปฏิทินต้อนรับปีใหม่อย่างงดงาม ทักทายกันด้วยเดือนแรกสุดของปี มกราคม หนุ่มหล่อ Zaib ขอรับหน้าที่นี้ไว้เอง กุมภาพันธ์ กับหนุ่ม Luis แหม..เดือนแห่งความรักต้องเข้าตีมซักหน่อย ไปต่อกันที่มีนาคม…กระผมคนขับ Ali จะขอดูแลผู้โดยสารอย่างดี เมษายน เดือนนี้ร้อนหน่อย คงต้องปล่อยให้รุ่นเก๋าอย่าง Yuriy จัดการแล้วล่ะ มากันที่เดือนพฤษภาคม พี่ Sam จัดให้!! มิถุนายน เค้าว่าเป็นเดือนของหนุ่มฮ็อตโจ (แอบชอบอันนี้ พี่แกเล่นใหญ่มาก)…
-
เมื่อผมลืมหยิบกระเป๋าตังค์ขึ้นแท็กซี่… คนขับไปส่งฟรี แถมให้เงินไว้ใช้อีก 100 ด้วย!!
แน่นอนว่าการใช้บริการแท็กซี่นั้นคงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากเพื่อความสะดวกรวดเร็ว และสามารถไปส่งถึงที่หมายได้ตรงตามที่ต้องการ เช่นเดียวกับเรื่องราวของพ่อหนุ่มคนนี้ที่รีบร้อนขึ้นรถแท็กซี่ แต่ดั๊นลืมกระเป๋าสตางค์พอมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่นั่งไปบนรถแท็กซี่แล้ว แต่ดีที่คุณลุงคนขับรถแท็กซี่นั้นไม่ว่าอะไรและยินดีไปส่งโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ เรื่องมีอยู่ว่าสมาชิกเฟซบุ๊คชื่อว่า Tanat Panichingon ได้เล่าเรื่องราวสุดแสนประทับใจที่เขาได้พบเจอมากับตัวเอง เขาเล่าว่า ในวันนั้นเป็นวันที่ฝนตกและรถติด เขามีธุระที่ต้องรีบไปที่สยามฯ ก็เลยเรียกแท็กซี่เพื่อที่จะไปต่อรถไฟฟ้า แต่พอขึ้นไปนั่งบนรถบอกเป้าหมายเสร็จสรรพ ก็เพิ่งมารู้ตัวว่าไม่ได้พกกระเป๋าเงินลงมาด้วย ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินอยู่ 5 บาท เขาก็เลยบอกกับลุงแท็กซี่ว่าเขาลืมกระเป๋าเงิน ไม่มีเงินซักบาท พร้อมกับบอกว่าให้คุณลุงทิ้งเขาไว้ตรงนั้นเลย แต่คุณลุงใจดีก็ตอบกลับมาว่าไม่เป็นไรลุงจะไปส่งเองโดยไม่คิดเงิน แต่ด้วยความเกรงใจคุณ เขาก็ปฏิเสธเลยไป แต่คุณลุงก็ไม่ยอมและบอกว่าถ้าไม่มีเงินแล้วจะไปต่อยังไงล่ะ พร้อมกับควักธนบัตร 100 บาท มอบให้กับหนุ่ม หลังจากนั้นเขาก็ทำการขอเบอร์คุณลุงพร้อมกับเลขบัญชีไว้เพื่อทำการคืนเงินในภายหลัง แต่คุณลุงก็ยังบอกอีกว่า “ไม่เป็นไรไม่ต้องคืนแค่ร้อยเดียวเอง เรื่องเล็ก แต่เรานั่นแหละต้องกลับให้ถึงบ้านนะ” และเขาก็กล่าวทิ้งท้ายไว้ที่โพสต์ว่า “แท็กซี่ดีๆยังมีอีกเยอะมาก T-T ขอบคุณคุณลุงมากคับ ฝนก็ตก รถก็ติด ยังมาเจอลูกค้างงๆ ลืมเอากระเป๋าตังมาอีก ขอบคุณคุณลุงมากคับ คุณลุงขับรถแท็กซี่แถวบางนาเป็นหลัก ใครเจอถือว่าโชคดีมาก เป็นคนดี มีน้ำใจมากๆ” เมื่อเรื่องราวถูกเผยแพร่ออกไปทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมายโดยส่วนใหญ่แล้วจะเข้ามาชื่นชมความใจดีของคุณลุงคนขับแท็กซี่ บางส่วนก็บอกว่าเคยใช้บริการกับคุณลุงคนนี้ และแกเป็นคนใจดีมากๆ…
-
ฝรั่งทำคลิปแฉแท็กซี่ภูเก็ต 1 กิโล 200 บาท พร้อมถาม ‘ผมทำงี้จะโดนกระทืบไหม!?’
ไม่รู้ว่ามีใครพอจะคุ้นหน้าคุ้นตาพ่อหนุ่ม Jack Brown ในโลกออนไลน์บ้างหรือเปล่า เขาคือฝรั่งผู้หลงรักเมืองไทย เดินทางมากินมาอยู่ที่นี่และมีสุนัขคู่ใจที่ชื่อเจ้า Chester จนตอนนี้มีคนกดติดตามเขาแล้วเกือบ 3 แสนคน ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา นาย Jack Brown ได้โพสต์คลิปวิดีโอเกี่ยวกับการให้บริการของรถแท็กซี่ในจังหวัดภูเก็ต ที่คิดค่าบริการในอัตราที่ค่อนข้างแพง วิ่ง 1 กิโลเมตร ในเวลาไม่ถึง 2 นาที โดนไป 200 บาท จนเจ้าตัวงงว่าทำไมถึงแพงขนาดนี้? นาย jack ได้พูดไว้ในคลิปวิดีโอว่า “ตอนนี้ผมกำลังจะกลับโรงแรมนะครับ จากนี้ประมาณ 1 กิโล จะให้ดูว่าแท็กซี่ที่นี่มันแพงแค่ไหนครับ ชมคลิปวิดีโอได้ที่ด้านล่างเลย (ใครดูไม่ได้กดเบาๆ ที่นี่เลยนะ) เกิดอะไรขึ้นกับแท็กซี่ที่ภูเก็ต??เกิดอะไรขึ้นกับแท็กซี่ที่ภูเก็ตทำไมถึงได้แพงเว่อร์ขนาดนี้ ใครมีอำนาจลงมาดูแลหน่อยดีมั้ย เงินเข้ากระเป๋าใครหมดเนี่ย นั่งให้ดูในคลิปนั่งไม่ถึง2นาที ไม่ถึง1กิโล โดนไป200 รบกวนพลังโซเชียล ช่วยกันแชร์ เพื่อจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ้าง โพสต์โดย Jack Brown บน 18 มิถุนายน…
-
ฝึกสำนักไหน!? กรณีพิพาทบนถนน ‘คนขับแท็กซี่ vs ชาวต่างชาติ’ งานนี้มีโชว์ลีลากังฟูขาคู่
กลายเป็นคลิปร้อนในโลกออนไลน์ขณะนี้เลย สำหรับคลิปของคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง ที่พยายามจะเลี้ยวเข้าซอยโดยการปาดหน้ารถของชาวต่างชาติ แต่ชาวต่างชาติไม่ยอม จึงเกิดการทำลายทรัพย์สินกันเกิดขึ้น เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ร้านสวยถูกดี ขายส่งเสื้อผ้า ยกกระสอบ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอ ของคนขับแท็กซี่เลือดร้อนและคู่กรณีเป็นชาวต่างชาติรายหนึ่ง เป็นเหตุการณ์ที่รถแท็กซี่สีชมพูพยายามจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอย แต่ในจังหวะนั้นมีรถแจ๊สสีขาวของชาวต่างชาติขับผ่านปากซอยมาแล้ว จึงไม่หยุดรถให้แท็กซี่คันดังกล่าว คนขับรถแท็กจึงไม่ยอม พยายามปาดหน้ารถแจ๊สและพยายามจะเข้าซอยให้ได้ พร้อมกับตะโกนบอกให้รถแจ๊สถอยไป แต่เนื่องจากไม่มีใครยอมใคร คนขับแท็กซี่เลยเกิดอาการฉุนขาด ลงจากรถพร้อมกับอุ้มเด็กไว้และถีบประตูรถแจ๊สเจ้าอย่างจัง ทำให้ประตูด้านข้างรถบุบเข้าไปอย่างเห็นได้ชัด เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเจ้าตัวได้กลับขึ้นรถไปแล้ว ก็ได้พยายามเร่งเครื่องเพื่อให้อีกฝ่ายถอยไป ต่อมาคนขับแท็กซี่ได้เปิดประตูรถลงมาอีกครั้ง และวิ่งกระโดดไปถีบใส่กระโปรงหน้ารถแจ๊ส สร้างความเสียหายเพิ่มอีก แม้จะถูกคู่กรณีทำลายทรัพย์สินของตัวเอง แต่ชาวต่างชาติก็ยังพยายามใจเย็น ลงจากรถมาถ่ายป้ายทะเบียนและใบหน้าของคนขับแท็กซี่เอาไว้ แม้ในระหว่างนั้นคนขับแท็กซี่จะพยายามเร่งเครื่องใส่เจ้าตัวก็ตาม ลองชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยครับ (ใครดูไม่ได้กดที่นี่เลยนะจ๊ะ) #ช่วยกันแชร์หน่อยครับ #ตอนนี้แท็กซี่กำลังหนีอยู่ โพสต์โดย ร้านสวยถูกดี ขายส่งเสื้อผ้า ยกกระสอบ บน 15 มิถุนายน 2016 หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในแง่ลบมากมาย โดยบางความเห็นบอกว่าฝรั่งขับรถมาทางเอก แต่แท็กซี่ต้องการจะเลี้ยงเข้าซอยซึ่งเป็นทางโท ฉะนั้นจึงต้องรอให้รถของฝรั่งไปก่อนจึงจะเลี้ยวได้ และแม้จะถูกกระทำแต่ก็ยังใจเย็นอยู่ …
-
ยกย่องแท็กซี่น้ำใจงาม… ขึ้นเลยไม่ต้องถามครับ ไปทุกที่ไม่มีปฏิเสธ-ทหารชายแดนนั่งฟรี!!
แม้ว่าทุกวันนี้เราจะได้เห็นข่าวคราวด้านลบๆ เกี่ยวกับแท็กซี่ไทยมาซะเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่านั่นเป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะคนขับแท็กแซี่ดีๆ ที่เขาทำงานโดยสุจริตนั้นยังมีอีกเยอะ อย่างเช่นเรื่องราวเท่ๆ ของพี่แท็กซี่รายนี้ เรื่องราวของคนขับแท็กซี่ต่อไปนี้ถูกบอกเล่าผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่าคุณ Nattapol Mookkhun โดยเขาได้เล่าว่ามีรถแท็กซี่คันหนึ่งย้ายมาอยู่บ้านข้างๆ ทำให้หมดปัญหาเรื่องการส่งลูกไปโรงเรียน โดยมีข้อความอยู่ว่า “ผมมีปัญหาในเรื่องการรับส่งลูกชายไปโรงเรียนเพราะรถโรงเรียนมาไม่ถึงบ้านสุดท้ายก็มีแท็กซี่มาเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆบ้านผมปัญหาทุกอย่างก็จบลงเพราะผมเชื่อว่าพี่เขาเป็นคนดีคนหนึ่งในสังคมเลยทีเดียวล่ะ…ขอบคุณครับ” แต่ที่น่าเซอร์ไพรซ์กว่านั้นก็คือรอบๆ รถแท็กซี่คันนี้มีข้อความที่เขียนด้วยปากกาเคมีถูกเขียนไว้รอบคัน เพื่อบอกให้คนทั่วไปทราบว่ารถคันนี้ให้บริการฟรีแก่ข้าราชการและทหารตามชายแดน ยกตัวอย่างเช่น “ฟรีสำหรับทหารชายแดน ต.ช.ด ข้าราชการตามตะเข็บชายแดน โปรดแสดงบัตรทุกครั้งถ้าต้องการนั่งฟรี” “ไม่ต้องถาม ผมไป” “ขับเคลื่อนด้วยพลังงานความสุข” หรือ “ปันมุกขันธ์ ป.5/1 V.I.P. Standby” กล้าที่จะแตกต่าง แถมไม่กลัวรถเลอะแบบนี้ เอาใจ#เหมียวฟิ้นไปเลยจ้า ที่มา Nattapol Mookkhun
-
ซ้ำซาก!! แท็กซี่โกงค่าโดยสารแอร์โฮสเตจ ผ่านไปเดือนเดียวโกงผู้โดยสารอีกแล้ว!?
#เหมียวฟิ้นต้องขอท้าวความกลับไปเมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ในช่วงนั้นมีข่าวคราวการจับกุมคนขับแท็กซี่แสบ ที่โก่งค่าโดยสารของแอร์โฮสเตจเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,200 บาท ซึ่งเว็บไซต์ Dailynews ได้ระบุว่าคนขับแท็กซี่มีชื่อว่านายวัชระ ทาน้อย วัย 31 ปี ต่อมาเว็บไซต์ Khaosodonline ได้รายงานว่าในวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายวัชระ ได้ก่อเหตุซ้ำอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เขารับนักท่องเที่ยวสาวชาวตุรกีจากสนามบินดอนเมือง ไปอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีการตกลงค่าโดยสารกันที่ 2,000 บาท (ไม่รวมค่าแก๊ส) ระหว่างทางได้แวะเติมแก๊สเป็นจำนวนเงิน 277 บาท แต่เขาเรียกเก็บเงินกับผู้โดยสาร 500 บาท ทำให้ทั้งคู่เริ่มมีปากเสียงกัน จนผู้โดยสารต้องจำใจจ่ายเงินไป 15 ดอลลาร์ (ประมาณ 535 บาท) แต่นายวัชระบอกว่าต้องจ่ายอีก 500 ดอลลาร์ (ประมาณ 17,855 บาท) แม้ว่าผู้โดยสารจะบอกให้ขับไปยังสถานีตำรวจแต่นายวัชระก็ไม่ยอม พยายามคว้ากระเป๋าและชกผู้โดยสารสาวเข้าที่กกหู สุดท้ายผู้โดยสารได้หนีออกมาได้ และได้รับความช่วยเหลือจากคนในบริเวณนั้นเพื่อพาไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากประเด็นการก่อเหตุซ้ำซากนี้เอก ทำให้หนุ่มญี่ปุ่นชื่อดังอย่างนายอะกิฮิโระ โกกิ โทมิกาวา ต้องโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า “เวลาที่ผมมีปัญหากับแท็กซี่ไม่ดีบางคน พวกเขาจะพูดว่า…
-
ผู้โดยสารโวย แท็กซี่สนามบินหน้าเลือด เรียกค่าโดยสาร 900 บาท อ้างตกลงราคากันแล้ว!?!?
เรียกว่ามีข่าวด้านไม่ดีเกี่ยวกับแท็กซี่ออกมาเรื่อยๆ จริงๆ โดยเฉพาะแท็กซี่สนามบิน และวันนี้อีกครั้งกับเรื่องราวของแท็กซี่ ที่ไม่ยอมกดมิเตอร์ และเรียกค่าโดยสารแพงเกินกว่าเหตุ เรื่องราวดังกล่าวเป็นของคุณ Feldmann Bee เธอเล่าว่าเธอเรียกแท็กซี่จากสนามบินดอนเมือง เพื่อไปโรงแรมโฟร์วิงส์ ถนนศรีนครินทร์ พอขึ้นรถแล้ว แท็กซี่ไม่ยอมกดมิเตอร์และบอกว่าจะคิดค่าโดยสาร 900 บาท เมื่อถึงที่หมายแล้ว เธอพยายามเจรจากับแท็กซี่เพื่อลดราคาค่าโดยสาร แต่แท็กซี่ไม่ยอมและมีท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง โชคดีที่พนักงานโรงแรมห้ามเอาไว้ จึงไม่เกิดเรื่องขึ้น ช่วยกันแชร์หน่อย แท็กซี่จะทำร้ายผู้โดยสาร ขึ้นรถแล้วไม่ยอมกดมิตเตอร์ จากสนามบินดอนเมือง มาโรงแรมโฟร์วิงส์ ถนนศรีนครินทร์ ขึ้นแล้วเรียกราคาระหว่างทาง 900 บาท (ดิฉันขอขอบคุณพนักงานโรงแรมโฟร์วิงส์มากๆที่ช่วยเหลือ ดูแล เป็นอย่างดี) โพสต์โดย Feldmann Bee บน 20 เมษายน 2016 เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย อื้อหือ เรียกราคาอย่างกะเดินทางไปต่างจังหวัดเลย โชคดีที่เวลา #เหมียวอ๊อดโด้ เรียกแท็กซี่ทีไร เจอแต่แท็กซี่ดีๆ ตลอดเลย น้อยครั้งมากที่จะเจอไม่ดี สงสัยจะเป็นที่ดวงของแต่ละคนละมั้ง…
-
น่ากลัวขึ้นทุกวัน!! แท็กซี่ไล่ผู้โดยสารลงกลางทาง แถมพยายามขับชนหลังถูกถ่ายรูปทะเบียนรถ
ดูเหมือนว่าแท็กซี่สมัยนี้จะเริ่มน่ากลัวขึ้นทุกวันๆ เพราะล่าสุดมีผู้โดยสารมาร้องเรียนในโลกออนไลน์ว่าถูกคนขับแท็กซี่ไล่ลงจากรถกลางทาง แถมพยายามจะขับชนเพราะเธอถ่ายรูปทะเบียนรถของเขาไว้ด้วย!? เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 เมษายน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก เมยาวี เกตุแก้ว ได้โพสต์ภาพและข้อความร้องเรียนลงในเพจ ร้องเรียนแท็กซี่ปฎิเสธผู้โดยสาร ร้องเรียนแท็กซี่บริการห่วย บริการแย่ โดยเธอเล่าว่าเธอโบกรถแท็กซี่สีชมพูขาวป้ายทะเบียน ทษ 9817 บริเวณหน้าตลาดโรงเกลือเพื่อเดินทางไปหมู่บ้านมหาดไทย 1 แต่ในระหว่างที่เธอกำลังเดินทางอยู่นั้นเองคนขับแท็กซี่กลับบอกให้เธอลงกลางทาง และเรียกเก็บค่าโดยสาร เธอจึงถ่ายภาพป้ายทะเบียน แต่คนขับรีบกระชากมือถือไปจากเธอและขู่ให้ลบรูปถาพทะเบียนออก เธอจึงรีบลงจากรถและมาถ่ายภาพทะเบียนอีกครั้ง จากนั้นคนขับแท็กซี่ก็เกิดความโมโหจึงขับรถพุ่งไปหาเธอ โชคดีที่เธอกระโดดหลบออกมาก่อน ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย แท็กซี่คันนี้แย่มากค่ะ#คือเราขึ้นจากหน้าตลาดโรงเกลือขนส่งสายใต้ใหม่จะปัยเอาของที่มหาดไท1แล้วกลับมาสายใต้เจอแท็กซี่ขึ้นแล… โพสต์โดย เมยาวี เกตุแก้ว บน 8 เมษายน 2016 จากนั้นทางเพจร้องเรียนแท็กซี่ฯ ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและต่อว่าคนขับแท็กซี่คันนี้ พร้อมกับแนะนำให้โทรไปยังเบอร์ 1197 และ 1584 เพื่อแจ้งหมายเลขทะเบียนและร้องเรียนเกี่ยวกับพฤติกรรมของคนขับรถคันดังกล่าว ทำไมเดี๋ยวนี้พี่แท็กซี่ดุจัง ที่มา เมยาวี เกตุแก้ว
-
ไอเดีย ‘แท็กซี่ไร้คนขับ’ ในประเทศสิงคโปร์ เพื่อตอบสนองขนส่งมวลชนในเวลากลางคืน!!
เราก็คงจะคุ้นเคยกันมาบ้างแล้วกับเทคโนโลยีรถยนต์ที่สามารถขับเองได้ หรือไร้คนขับนั่นแหละ ที่มีการศึกษาและพัฒนากันมาอย่างยาวนานหลายปี จนบัดนี้ก็ (น่า) จะถึงเวลาที่พร้อมกับการใช้งานจริงแล้วล่ะ (มั้ง) พูดถึงเรื่องระบบการขนส่งมวลชนแล้ว ปัจจุบันก็จะมีรถไฟ รถไฟฟ้า รถบัส รถเมล์ รถจักรยานยนต์รับจ้าง (ในบางประเทศ) และรถแท็กซี่ ซึ่งก็แล้วแต่ที่จะเลือกใช้บริการ แต่ทุกบริการจะต้องมีคนขับ ฉะนั้นแล้ว ทางบริษัท nuTonomy กำลังพัฒนาแนวทางบริการขนส่งมวลชนในประเทศสิงคโปร์ โดยการนำแท็กซี่พลังงานไฟฟ้าไร้คนขับมาให้บริการ เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกของการขนส่งมวลชน คาดว่าน่าจะพร้อมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า สำหรับระบบไร้คนขับของแท็กซี่ดังกล่าว จะเลือกเส้นทางที่รวดเร็วที่สุด หลีกเลี่ยงเส้นทางที่การจราจรแออัด อีกทั้งยังมีค่าโดยสารที่ถูกกว่ารถแท็กซี่ทั่วไปด้วย โดยทาง CTO ของบริษัท Emilio Frazzoli ได้กล่าวถึงแนวคิดดังกล่าวจะช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายเหมือนกับรถยนต์ส่วนตัว ลดปัญหาการจราจร อีกทั้งเป็นตัวเลือกในการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนในเวลากลางคืน ‘ในประเทศสิงคโปร์ ประชาชนต้องการรถบัสเพิ่มขึ้น แต่ไม่สามารถทำได้อันเนื่องมาจากไม่มีคนขับในช่วงเวลากลางคืน อีกทั้งหุ่นยนต์พวกนี้จะไม่มาแย่งงานของมนุษย์แน่นอน มันเป็นการเพิ่มทางเลือกและตอบสนองในความต้องการมากกว่า’ โดยในตอนนี้ยานพาหนะไร้คนขับของบริษัทได้ผ่านการทดสอบครั้งแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการทดสอบในเรื่องของการนำทาง การขับผ่านอุปสรรคสิ่งกีดขวางต่างๆ โดยไม่เกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด ที่มา :…
-
ผู้โดยสารสาวเหวอ คนขับแท็กซี่จอมหื่นโชว์ช่วยตัวเองระหว่างขับรถไปส่งผู้โดยสาร!?
วันนี้#เหมียวฟิ้นมีภัยสังคมอยากจะมาเตือนเพื่อนๆ โดยเฉพาะสาวๆ กันด้วยนะ เพราะเมื่อวันที่ 6 เมษายน ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nawarat Punyaratchatapreeda ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยถึงสาวๆ ที่ต้องนั่งรถแท็กซี่ ให้ระมัดระวังกันให้ดี เพราะบางทีคนขับอาจจะแอบทำกิจกรรมบางอย่างที่ผู้โดยสารคาดไม่ถึงก็ได้ ทั้งนี้คุณนวรัตน์ได้เล่าว่าเธอขึ้นแท็กซี่ป้ายทะเบียน มฉ4534 เพื่อเดินทางไปยังงานกาชาด ที่จัดขึ้นที่บริเวณสวนอำพร ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม ถึง 7 เมษายน 2559 แต่ในระหว่างที่เดินทาง เธอก็สังเกตเห็นว่าคนขับแท็กซี่มีท่าทางแปลกๆ จึงหันไปมองและพบว่าคนขับกำลังช่วยตัวเองอยู่!? ด้วยความตกใจเธอจึงรีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐานและบอกให้คนขับจอดรถทันที โชคดีที่บริเวณนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ เธอจึงรีบเจ้าไปแจ้งความเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามรถแท็กซี่คันดังกล่าวมาดำเนินคดี อ่านเรื่องราวเต็มๆ ของเธอได้ที่ด้านล่าง เหี้ยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก นั่งแท้กซี่มางานกาชาดคนเดียว เจอแท้กซี่ป้ายทะเบียน มฉ4534 ตอนแรกนั่งมามันก้ชวนคุยนั่นนี่ปกต… โพสต์โดย Nawarat Punyaratchatapreeda บน 6 เมษายน 2016 น่าสงสารสาวๆ จริงๆ ที่ต้องมาตกเป็นเหยื่อของบุคคลเหล่านี้ ยังไงก็ขอให้สามารถตามตัวพ่อแท็กซี่คนนี้มาดำเนินคดีให้ได้นะจ๊ะ ที่มา Nawarat Punyaratchatapreeda
-
งามไส้!! แท็กซี่ไทยรีดค่าโดยสารชาวต่างชาติกว่า 6,000 บาท ทำภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเสียหายเละ
กลายเป็นเรื่องราวชวนให้ชาวไทยถึงกับอับอายกันทั้งประเทศเลยทีเดียว สำหรับกรณีที่มีคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง เรียกค่าโดยสารสุดโหดจากชาวต่างชาติที่มาทำธุระในไทยถึง 6,000 บาท โดยไม่กดมิเตอร์!! เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Krit Karnchanabatr ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตัวเอง โดยเล่าว่าเมื่อวันที่ 28 มีนาคม มีผู้บริหารระดับสูง 2 คนเดินทางมาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทั้ง 2 คนได้เรียกรถแท็กซี่จากสนามบินสุวรรณภูมิ ป้ายทะเบียน มฉ936 เพื่อจะไปยังโรงแรม W Hotel สาทร แต่แท็กซี่รายนี้กลับไม่ยอมกดมิเตอร์ แถมยังเรียกค่าโดยสารสุดโหดถึง 6,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่แพงเกินจะรับได้ทีเดียว แต่ชาวต่างชาติทั้ง 2 คนไม่อยากมีปัญหากับคนขับแท็กซี่จึงจ่ายเงินให้คนขับไปแต่โดยดี จากนั้นชาวต่างชาติทั้ง 2 คนก็เดินทางมาถึงโรงแรม W Hotel และแสดงท่าทีที่ไม่พอใจอย่างมาก อีกทั้งยังบอกด้วยว่าจะนำเรื่องนี้ไปบอกเพื่อนๆที่ สวิสต์เซอร์แลนด์ หลังจากที่ทราบข่าวทางโรงแรม W Hotel รู้สึกหดหู่ใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงให้เจ้าหน้าที่ไปตามรถแท็กซี่คันดังกล่าว จนคนขับแท็กซี่ยอมคืนเงินให้ 5,400…
-
แบบนี้ก็มี? สาวโพสต์คลิปแท็กซี่ไม่ยอมเลี้ยวตามที่บอก แถมคว้าอาวุธจะทำร้ายผู้โดยสาร!?
เรียกได้ว่ามาถึงจุดวิกฤตแล้วจริงๆ สำหรับระบบการขนส่งในประเทศไทย เพราะมีเรื่องการกระทบกระทั่งกันระหว่างคนขับรถและผู้โดยสารมาให้เราเห็นกันแบบรายวันทีเดียว แถมนับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เลยด้วย ล่าสุดก็มีกรณีคล้ายๆ กันนี้มาให้เราชมอีกแล้ว เป็นเรื่องราวที่ถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Seedwow Sabza เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวเล่าว่ากำลังนั่งแท็กซี่จากโรงเรียนมักกะสันพิทยาไปยังซอยอ่อนนุช 46 ซึ่งอยู่ใกล้กับตึกซีคอนสแควร์ เมื่อใกล้ถึงที่หมาย ผู้โดสารจึงบอกให้แท็กซี่เลี้ยวเข้าซอย แต่แท็กซี่กลับไม่ยอมเลี้ยวโดยให้เหตุผลว่ารถติด และขอขับตรงไปยังตึกซีคอนแล้วให้ผู้โดยสารโบกรถไปอีกต่อหนึ่ง ผู้โดยสารทั้ง 2 เห็นท่าไม่ดีจึงบอกให้แท็กซี่จอดรถ แต่ดูเหมือนว่าคนขับแท็กซี่จะเกิดอาการไม่พอใจ จึงลงจากรถมาเปิดกระโปรงหลังเพื่อควานหาอาวุธและขู่ทำร้ายร่างกาย โชคดีที่บริเวณนั้นมีคนอยู่ด้วยเยอะ ทำให้ทั้ง 2 คนไม่ได้รับอันตรายใดๆ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเลยจริงๆ เรียกรถจากโรงเรียนมักกะสันพิทยาจะไปอ่อนนุช 46 แถวๆซีคอน พอใกล้ๆถึง 4 แยกอ่อนนุชบอกให้แท็กซี่เลี้ยวขวา แท็กซี่บอกผมไม่ไปหรอกรถติดผมจะเหยียบอย่างเดียว เราเลยบอกให้จอดตรงนี้ถ้าพี่ไม่ไปในซอย แท็กซี่บอกก็ไปลงซีคอนเอางั้นละต่อรถไป เราก็เลยบอกว่าถ้าพี่ไม่ไปส่งตั้งแรกไม่บอกว่าไม่ไปเราก็เลยขอลงก่อนถึงซีคอนเพราะแท็กซี่ไม่ไปส่งในซอย แท็กซี่บอกจัดให้ พอจอดเราจ่ายค่าโดยสารเสร็จแท็กซี่บ่นๆ ยังไม่ทันลงจากรถดีประตูไม่ทันปิด มันก็ขับรถออกไปจังหวะเราปิดปะตูมันดัง แท็กซี่จอดรถลงมาเปิดฝากระโปรงรถข้างหลังจะหยิบเหล็กมาทำร้ายเรา พูดว่าเดะกูฝาดแม่งเลย #โชคดีที่มีคนรอรถ มันเลยวางลงแล้วพูดว่าเดี๋ยวกูต่อยแม่งเลย แล้วก็ขับรถไป #แจ้งความไว้ละเดะเห็นดีกันนิสัยแย่มากขับตามใจตัวเองจะมาขับแท็กซี่ทำไม โพสต์โดย Seedwow…
-
ชมคลิปแกล้งคนสุดเกรียน เมื่อคนขับแท็กซี่ที่คุณขึ้น กำลังจะทำ “คาร์บอมบ์” คุณจะทำยังไง?!?
ภัยก่อการร้ายในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้ ทำให้ภาพลักษณ์ของชาวอิสลามนั้นติดลบลงไปอย่างมาก ด้วยคำสอนที่เคร่งครัด ทำให้เหล่าผู้ก่อการร้ายฉวยโอกาสนั้น บิดเบือนคำสอนและล้างสมองผู้อื่นให้ทำในสิ่งที่ตนต้องการ ด้วยเหตุนี้ทางกลุ่มนักทำคลิปจากซาอุดิอารเบียกลุ่มนี้ จึงทำคลิปแกล้งคนชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อแสดงให้ทุกคนตระหนักรู้ในความน่ากลัวของ “การก่อการร้าย” โดยพวกเขาแกล้งทำทีเป็นคนขับรถแท็กซี่ เมื่อมีผู้โดยสารขึ้นมา พวกเขาก็จะถามว่า “คิดยังไงกับการทำจีฮัด” (การต่อสู้เพื่อปกป้องศาสนา) จากนั้นคนขับก็จะเปิดเสื้อให้เห็นอุปกรณ์คล้ายระเบิดฆ่าตัวตาย เราไปดูกันดีกว่า ว่าปฏิกิริยาของผู้โดยสารเป็นยังไงบ้าง ใจเย็นพี่ๆๆๆๆ อย่าเพิ่งกดๆ ตรูโดดลงก่อนล่ะ ล็อคคอมันไว้ๆๆๆ ไปชมคลิปกันเลย ฮาาา ปฏิกิริยาแต่ละคนนี่เงิบๆ ทั้งนั้น เห็นมั้ยละว่าไม่ใช่ชาวมุสลิมทุกคนซะหน่อย ที่อยากจะก่อการร้าย เห็นทีเราต้องเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อชาวมุสลิมแล้วล่ะ ใช่มั้ยละเพื่อนๆ ที่มา Viral God
-
แท็กซี่ไทยใจดี ใครเป็นทหารและตำรวจจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้นั่งฟรีไปเลยจ้า!!
นี่ถือเป็นหนึ่งในเรื่องราวดีๆ ที่สังคมไทยมีให้แก่กันล่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้#เหมียวฟิ้น ได้เจอเข้ากับรถแท็กซี่น้ำใจงามคันหนึ่ง ที่ประกาศตัวเลยว่าจะให้บริการ์แก่เหล่าทหารจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แบบฟรีๆ เลย เมื่อช่วงดึกของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊กเพจ ชายแดนใต้ ปลายด้ามขวาน เป็นภาพของรถแท็กซี่คันหนึ่งที่รอบๆ รถมีข้อความที่เขียนด้วยปากกาเมจิกว่า “ฟรีสำหรับทหาร 3 จังหวัดชายแดนใต้ แสดงบัตรทุกครั้งถ้าต้องการนั่งฟรี” นอกจากพี่แท็กซี่คันนี้จะบริการรับส่งพี่ทหารฟรีแล้ว ยังให้บริการไปถึงเหล่าข้าราชการตำแหน่งอื่นๆ ด้วยนะ เพราะข้อความที่อยู่ด้านท้ายรถระบุว่า “ทหารที่รับราชการที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้และข้าราชการที่อยู่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ทหารพรานและตำรวจตระเวนชายแดน แท็กซี่คันนี้บริการฟรี” หลังจากที่เรื่องราวของพี่แท็กซี่คันนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คนต่างพากันชื่นชมกันอย่างมากมายทีเดียว อย่างเช่นคุณทิวลิป ต้นเตี้ย กล่าวว่า “พวกเราอยากให้นักรบไทยทุกท่านรู้ไว้ว่าคุณเป็นฮีโร่ในใจพวกเราทุกๆคนพวกเรา” และคุณ สจินต์ เงียเง่ “จริงเปล่านี่ น่าสนใจ พอถึงกรุงเทพจะนั่งรอคันนี้คันเดียวเลย” ท่านใดเจอพี่แท็กซี่คันนี้ ฝากขอบคุณแทนพวกผมด้วยนะครับ ขอบคุณจากใจนักรบชายแดนครับ Posted by ชายแดนใต้ ปลายด้ามขวาน…
-
ตำนาน ‘ผีเหยื่อซีนามิ’ ที่กลุ่มคนขับแท็กซี่ญี่ปุ่น เล่าลือกันถึงความหลอน
ถือว่าเป็นโศกอนาตกรรมครั้งหนึ่งของชาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิถล่มที่เมืองอิชิโนมากิ รวมถึงการละลายของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกิชิมา ซึ่งจนถึงทุกวันนี้ ภาพของความสูญเสีย ก็ยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำของชาวญี่ปุ่น แม้เหตุการณ์จะผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าวิญญาณของผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 คน ยังคงวนเวียนไม่ไปไหน และยังคงใช้ชีวิตอย่างปรกติ เหมือนกับไม่รู้ว่าตนเองนั้น ได้จากโลกนี้ไปนานแสนนานแล้ว!! โดยมีแท็กซี่คนหนึ่งเล่าว่า ในช่วงที่กำลังบูรณะเมืองขึ้นมาใหม่ เขาได้ไปขับรถรับผู้โดยสารอยู่แถวนั้น กลางดึกคืนหนึ่งเขาได้รับผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งขึ้นมา เธอบอกให้เขาไปส่งที่ย่านมิฮามิฮามะ คนขับแท็กซี่ได้ยินดังนั้นจึงบอกเธอไปว่า เขตมินามิฮามะถูกคลื่นยักษ์ถล่มพังพินาศไปหมดแล้ว ผู้โดยสารคนหญิงคนนั้นฉุกกึกขึ้นมา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยียบว่า “ฉันตายแล้วเหรอ” (ภาพประกอบ ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์จริง) คนขับแท็กซี่งุนงงกับคำพูดของเธอ เขาจึงหันกลับไปดู แต่แล้วเขาต้องตกใจแทบสิ้นสติ เมื่อเบาะหลังไม่มีใครนั่งอยู่ซักคนเดียว!! ยังไม่จบเท่านั้น คนขับแท็กซี่อีกท่านก็เล่าว่า เขาเคยรับผู้โดยสารชายคนหนึ่ง แต่เมื่อเดินทางไปถึงจุดหมาย ปรากฎว่าไม่มีใครนั่งรถมากับเขาด้วย!? ไม่เพียงแต่แท็กซี่เท่านั้น ชาวเมืองอิชิโนมากิก็เคยเห็นเหตุการณ์ประหลาดๆ เช่นกัน พวกเขาเล่าว่าบางครั้งเขาเห็นเพื่อนบ้านที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ซึนามิเดินไปเดินมาอยู่แถวบ้านที่พวกเขาอยู่เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ หรือบางคนก็เห็นพวกเขาเดินจับจ่ายซื้อของในซุปเปอร์มาเก็ต แม้กระทั่งบางคนก็เคยเห็นวิญญาณไร้หัว หรือแขนขาดขาขาด ป้วนเปี้ยนอยู่บริเวณที่เคยมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่คิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องลึกลับ ทางมหาวิทยาลัยโตโฮกุกล่าวว่า ผู้ที่มีส่วนร่วมหรืออยู่ในเหตุการณ์ที่มีความสูญเสียครั้งใหญ่ อาจมีอาการทางจิต และเห็นภาพหลอนอยู่เป็นระยะๆ ดังเช่นที่ชาวเมืองอิชิโนมากิ เคยสูญเสียญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน คนรัก…
-
เขาคือ Joseph Ziyaee คนขับ Uber ทำรายได้เดือนละ 500,000 บาท ทั้งๆที่แทบไม่ได้ขับเองเลย
พูดถึง Uber ในช่วงๆ 2-3 ปีที่แล้วหลายคนอาจจะไม่รู้จัก แต่ในปัจจุบันก็ยอมรับได้เลยว่าเรารู้จักกันมากขึ้น (เคสที่ดังสุดก็คือข่าวของปัญหาระหว่างตัวแอพกับการขนส่งสาธารณะในไทย) เอาเป็นว่าวันนี้เราจะไม่ท้าวความถึงเรื่องเก่าๆ แต่ #ประธานเหมียว จะพาไปรู้จักกับชายผู้หนึ่งซึ่งไม่ธรรมดา เพราะน่าจะเป็นคนขับรถ Uber ที่ทำเงินมากสุดเลยก็ว่าได้ และที่สำคัญก็คือ เขาแทบจะไม่ได้ขับเองเลย…. อ่าว งงล่ะสิ เขาคนนั้นก็คือ Joseph Ziyaee คนนี้ครับ ทางเว็บไซต์ BusinessInsider ได้เผยแพร่เรื่องราวของพ่อหนุ่มคนนี้ ซึ่งทำเงินได้มากกว่า 90,000 เหรียญ (ราวๆ 3,100,000 บาท) ในช่วง 6 เดือนล่าสุด โดยเฉพาะในเดือนแรกซึ่งเขาสามารถทำได้มากถึง 20,000 เหรียญ โดยการสมัครเป็นคนขับ Uber และขับเองเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เขาทำเงินโดยผ่านทางโปรแกรมแนะนำคนอื่นเข้ามาขับ หรือที่เรียกว่า Referral Code ซึ่งเปิดโอกาสให้คนขับเดิม ชวนเพื่อนมาขับ และจะทำให้ทั้งสองคนได้โบนัส #ประธานเหมียว ลองไปสืบมาคร่าวๆ เงินโบนัสนี้ในสหรัฐอเมริกาจะอยู่ที่ราวๆ 200-400 เหรียญ (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ต่างๆ) นับเป็นจำนวนเงินที่มากทีเดียว…
-
ผู้โดยสารแฉ มิเตอร์รถแท็กซี่ขยับ 15 วินาที 15 บาท ทำขนาดนี้เอากระเป๋าตังค์ไปเลย!!
จะเดินทางไปไหนมาไหนในยุคนี้ นอกจากต้องระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนแล้ว ยังต้องระวังพวกมิจฉาชีพหรือพวกหัวหมอด้วยนะ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวที่ชื่อว่า Jam Atilal เป็นคลิปวิดีโอที่เธอถ่ายไว้ขณะนั่งโดยสารอยู่ยนรถแท็กซี่คันหนึ่งที่มิเตอร์วิ่งเร็วผิดปกติ ในระหว่างที่เธอนั่งอยู่บนรถเธอสังเกตเห็นว่ามิเตอร์แท็กซี่วิ่งเร็วจนน่าตกใจ เลยหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเป็นเวลา 15 วินาที ซึ่งมิเตอร์ก็วิ่งจาก 249 บาทไปเป็น 265 บาท รวมแล้ว 15 บาท ก่อนจะถ่ายเลขทะเบียน ทร – 809 ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่าง พึ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้มิตเตอร์ขึ้นทุก1วิ โกงกันขนาดนี้เอากระเป๋าตังกูไปเหอะ Posted by Jam Atilal on 29 มกราคม 2016 แหม่ ถ้าจะทำกันขนาดนี้ เอากระเป๋าตังค์เราไปเลยก็ได้นะ ใครพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีกแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลยนะ ที่มา Jam Atilal
-
ผู้โดยสารรถแท็กซี่ถุยน้ำลายใส่หน้าคนขับ หลังไม่พอใจที่คนขับรับผู้โดยสารซ้อน
เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดอึ้งคลิปหนึ่งของผู้โดยสารรถแท็กซี่จอมยัวะในเมืองนิวพอร์ต ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่โกรธจัดเมื่อคนขับแท็กซี่จอดรับผู้โดยสารหลายคน ถึงขั้นถุยน้ำลายใส่หน้าคนขับเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าคนขับแท็กชื่อนาง Kris วัย 31 ปี ถูกผู้โดยสารต่อว่าอย่างหนักหลังเธอจอดรับผู้โดยสารคนอื่นนอกจากเขา จึงเกิดอาการไม่พอใจและลงจากรถไปในที่สุด แต่ก่อนที่เขาจะจากไปได้มีการถุยน้ำลายใส่ที่หน้าของเธอพร้อมกับด่าเธอว่า “ยัยหมู” ด้วย คลิปจากกล้องวงจรปิดภายในรถเผยให้เห็นภาพการโต้เถียงกันระหว่างผู้โดยสารและคนขับ โดยที่คนขับแท็กซี่สาวได้ขอให้ชายหนุ่มปิดประตูเพราะในระหว่างนั้นเป็นช่วงที่ฝนกำลังตกพอดี แต่ดูเหมือนว่าผู้โดยสารชายจะไม่ยอม คนขับแท็กซี่จึงเชิญให้เขาลงจากรถไป แต่ก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย จากเหตุการณ์นี้ทำให้ Kris ถึงกับช็อคและต้องหยุดงานไป 2-3 วัน กว่าจะกลับมาขับรถได้อีกครั้งหนึ่ง ที่มา metro
-
น้ำตาจะไหล!! หนุ่มขับแท็กซี่ไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย เหตุเพราะภรรยาเพิ่งเสียชีวิต
กลายเป็นเรื่องราวที่มีการแชร์กันอย่างมากมายในขณะนี้เลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่ง ที่ขับรถไปด้วยพร้อมกับป้อนนมลูกน้อยไปด้วย สาเหตุเพราะว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียงชีวิตหลังจากคลอดลูกได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Kwang Jazzykwang โดยเจ้าตัวเล่าววันได้เดินทางไปทำงานด้วยรถแท็กซี่คันหนึ่ง แต่เมื่อเปิดประตูรถเข้าไปก็ตกใจเล็กน้อยเพราะคนขับ ขับรถไปด้วยพร้อมกับป้อนนมลูกไปด้วย แต่เธอก็ตัดสินใจขึ้นไปนั่ง จากคำบอกเล่าของคนขับแท็กซี่ทำให้ทราบว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน ทำให้เขาต้องดูแลลูกอีก 2 คน คนโตอยู่ชั้นป.2 และคนเล็กเพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือน เขาจึงต้องกระเตงลูกน้อยมาเลี้ยงบนรถด้วย แต่เนื่องจากลูกคนเล็กมีอาการป่วยม้ามโตเพราะติดเชื้อจากแม่ ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่เจ้าตัวไม่มีเงินพอ ทุกวันนี้รายได้จากการขับแท็กซี่ยังแทบไม่พอจ่ายค่าเช่าบ้านเลย ใครที่เจอพี่แท็กซี่คนนี้ก็สามารถช่วยเหลือพี่เขาได้นะ เหมียวอ่านแล้วน้ำตาคลอเลย ที่มา Kwang Jazzykwang
-
หนุ่มจีนทุ่มสุดตัว เช่าป้ายแท็กซี่กว่า 1,400 คัน เขียนคำขอโทษและขอคืนดีภรรยา!!
ในทุกๆความสัมพันธ์ ต้องมีช่วงเวลาที่เลวร้ายบ้าง แม้แต่สามีภรรยา ก็ยังมีวันที่ต้องทะเลาะกัน สิ่งที่สำคัญคือ พวกเขาจะสามารถปรับความเข้าใจกันได้เร็วขนาดไหน แต่สำหรับหนุ่มจีนคนนี้ ดูท่าทางแล้ว เขาคงจะจนด้วยเกล้าในการขอคืนดีกับภรรยาจริงๆ เขาจึงทุ่มทุนเช่าป้าย LED บนรถแท็กซี่ เขียนคำขอโทษและขอคืนดีจากภรรยา โดยหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า “A. Qiang” เขาได้เช่าป้ายโฆษณา LED บนรถแท็กซี่กว่า 1,400 คัน ในเมือง Yibin โชว์ข้อความว่า “ขอโทษนะที่รัก ให้อภัยผมเถอะนะ” ในช่วงวันเสาร์ถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา เมื่อชาวเน็ตมาได้เห็นข้อความดังกล่าว ก็ต่างตกใจในวิธีการขอคืนดีของชายคนนี้ เพราะต้องบอกว่าวิธีแบบนี้มันฮาร์ดคอร์จริงๆ โดยค่าเช่าโฆษณาแบบนี้ จะตกอยู่ที่ 10,000 หยวนหรือราว 50,000 บาทต่อวัน เมื่อรวมสามวันแล้ว ก็จะมีค่าใช้จ่ายราม 150,000 บาทเลยทีเดียว ไม่มีรายงานว่าตอนนี้เขาคืนดีกับภรรยาของเขาหรือยัง แต่เหมียวว่า ถ้าสามารถทำให้คนที่เรารักกลับมาได้ ลงทุนอีกแสนก็ยังคุ้ม ใช่มั้ยละเพื่อนๆ อิอิ ที่มา Shanghaiist
-
ชาวเน็ตชื่นชม คนขับแท็กซี่ใจบุญ บริการขับรถรับ-ส่งผู้ป่วยฟรี พร้อมทิ้งเบอร์ให้จองคิว
เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่ง ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ สุวรรณฉัตร พรหมชาติ เป็นคลิปขณะที่คนขับแท็กซี่กำลังอุ้มผู้โดยสารชายชราคนหนึ่ง ที่ท่าทางอ่อนแรงไปส่งที่บ้านในซอยลึก พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ทุกๆบุญ ที่ผมได้ลงมือทำ ขอให้ผู้ร่วมบุญปิดทองหลังพระ ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญครับ รู้วันหมอนัด จองคิวเลยครับ 087-331-5421 ไปและกลับฟรีครับ” หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีสมาชิกในโลกออนไลน์พากันกดไลค์และกดแชร์อีกมากมาย ทั้งนี้ยังมีข้อความอวยพรให้แก่คนขับแท็กซี่อย่างล้นหลามทีเดียว แม้จะเป็นความดีเล็กๆ แต่เหมียวก็อยากจะส่งต่อให้เพื่อนๆ ชาวเหมียวได้อ่านกัน จะได้เห็นว่าสังคมนี้ยังไม่แล้งน้ำใจเสมอไปยังไงล่ะ ที่มา สุวรรณฉัตร พรหมชาติ
-
ขนส่งฯ สั่งลงโทษ “แท็กซี่หื่น” แล้ว ปรับ 1 พันบาท ฐานคุยหื่นใส่ผู้โดยสาร
หลังจากที่กลายเป็นข่าวคราวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน เกี่ยวกับกรณีของคนขับแท็กซี่หื่นกาม ที่พูดจาไม่สุภาพกับผู้โดยสาร และยังใช้คำพูดในเชิงลวนลามผู้โดยสารสาว จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของขาวเน็ต ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กของกรมการขนส่งทางบก PR.DLT. โพสต์ข้อความบอกว่าได้มีการเรียกตัวนาย เอกภพ เจริญธนาสาธร ไปสอบสวนแล้ว พร้อมทั้งมีการสั่งปรับเป็นจำนวนเงิน 1000 บาท พร้อมทั้งบันทึกปากคำให้การไว้ว่า หากมีการร้องเรียนอีกครั้ง จะมีโทษสูงสุดคือเพิกถอนใบอนุญาตทันที หากใครเจอเหตุการณ์แบบนี้ แอดเหมียวแนะนำว่าอย่าไปกลัวนะ ให้แจ้งไปยังกรมการขนส่งทางบกเลย เพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ผู้โดยสารและคนขับแท็กซี่คนอื่นๆ ต่อไป ที่มา Laphasrada Khansuwan , กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.
-
คลิปแท็กซี่ชนรถเมล์ระหว่างตีวงเลี้ยว ผู้โดยสารวิ่งจ้าละหวั่น กลัวแก๊สระเบิด
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา โลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอระทึกผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก อีนู๋เมเม่ ผู้หญิงชัดเจน เป็นคลิปเหตุการณ์ของรถแท็กซี่คันหนึ่งที่ขับเบียดรถเมล์ ในระหว่างที่รถเมล์กำลังตีวงเลี้ยว ทำให้ทั้งคู่ต้องหยุดชะงักอยู่กลางถนน แต่หลังจากเกิดเหตุได้ไม่นาน กลุ่มผู้โดยสารบนรถเมล์กลับได้กลิ่นคล้ายแก๊สรั่วลอยออกมาจากรถแท็กซี่คันดังกล่าว ทำให้ทุกคนพยายามปีนออกมาอย่างทุลักทุเลจากประตูที่มีรถแท็กซี่จอดขวางอยู่ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ทั้งนี้เจ้าของคลิปยังเล่าเพิ่มเติมว่า ในช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ เมื่อรถทั้งสองคันได้เบียดกันจนหยุดนิ่งแล้ว ทั้งแท็กซี่และรถเมล์ไม่สามารถจะขยับออกจากบริเวณนั้นได้ เพราะหากขยับออกจะทำให้รถเมล์พลิกคว่ำทันที ส่วนตัวเองนั้นอยู่บนรถเมล์ก็เกือบถูกผู้โดยสารคนอื่นเหยียบหัวเช่นกัน ที่มา อีนู๋เมเม่ ผู้หญิงชัดเจน
-
[ทำดีมีแชร์] โลกออนไลน์แชร์ ภาพวินมอเตอร์ไซค์และแท็กซี่ บริการฟรีถวายในหลวง
เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม จึงมีเหล่าผู้ให้บริการขนส่งบางคนขอแสดงตัว ออกมาทำอะไรดีๆ เพื่อพ่อหลวงกันบ้างล่ะ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 5 ธันวาคม ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพของวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ ที่ติดป้ายให้บริการฟรีเนื่องในวันพ่อ ทำเอาชาวเน็ตถึงกับชื่นชมในความมีน้ำใจของพวกเขาเลย โดยภาพของวินมอเตอร์ไซค์นั้นถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้ทวิตเตอร์ @nat_jojoe3411 ถ่ายได้ในเขตจตุจักร พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “วินมอเตอร์ไซค์เขตจตุจักรให้บริการฟรีวันพ่อ โดยพิมพ์หลังเสื้อ ‘วิ่งฟรีเพื่อพ่อ’ น่ารักจริงๆ” อีกกรณีหนึ่งเป็นเรื่องราวของคนขับแท็กซี่รายหนึ่ง ป้ายทะเบียน 1มก 5656 กรุงเทพมหานคร ที่มีน้ำใจ ติดป้ายไว้ที่หลังรถโดยระบุข้อความว่า “วันนี้วันพ่อครับผม วันนี้บริการนั่งฟรีครับผม ถวายพ่อหลวงครับผม ผมรักพ่อหลวงครับ (ชีวิตนี้ขอทำดีถวายพ่อหลวงครับผม จากเด็กบ้านนอก)” ใครที่ต้องเดินทางในเมือง หากเจอพี่วินและพี่คนขับแท็กซี่ ก็สามารถเรียกใช้บริการพวกเขาได้นะจ๊ะ ที่มา NationTV 22 , @nat_jojoe3411
-
ดวงแข็ง!! แท็กซี่รอดปาฏิหาริย์ หลังถูกรถบรรทุกชนอัดเข้าไปใต้รถเมล์!!!
คนเราหากจะถึงคราวตาย ก็สามารถตายกันได้ง่ายๆ เช่นเดียวกัน หากคนเรายังไม่ถึงฆาตแล้ว ต่อให้โชคร้ายแค่ไหนก็ไม่ตาย อย่างเช่นคนขับแท็กซี่คันนี้ เมื่อเวลาประมาณ 11.40 น. ของวันที่ 10 พฤศจิกายน 2558 เกิดอุบัติเหตุรถชน 5 คันรวดที่บริเวณแยกรัชโยธิน ตรงข้ามตึกช้าง และมีแท็กซี่คันหนึ่งถูกรถบรรทุกปูนชนจนเข้าไปอัดอยู่ใต้รถเมล์อีกคัน ข่าวดีก็คือ คนขับรถแท็กซี่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัยแล้ว น่ากลัวมากๆเลย โชคดีที่ไม่มีใครเสียชีวิต ใครที่ใช้รถใช้ถนนก็ขอให้ระมัดระวังนะฮะ อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเวลาจริงๆ ที่มา Dilox Tamjaipaun
-
รวบแท็กซี่โหด ปฏิเสธผู้โดยสารแถมจะใช้กระบองฟาด ที่แท้ผู้โดยสารเป็นตำรวจ
เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใชเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Kaweewat Apiwat เป็นภาพและข้อความเตือนภัยสำหรับผู้ที่ต้องเดินทางด้วยรถแท็กซี่ และอาจเจอคนขับเจ้าอารมณ์ โดยเนื้อหาทั้งหมดมีอยู่ว่า “เหตการณ์วันนี้ยิ่งทำให้รู้ว่าแท็กซี่มันโหดร้ายยิ่งนัก นับวันแท็กซี่เริ่มเหิมเกริม วันนี้ได้เรียกแท็กซี่จะกลับบ้าน แต่ไม่ไป ซึ่งโดยปกติก็จะถามว่าทำไมไม่ไปเปิดว่างไว้ทำไม แต่ไม่ได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ เราก็เปิดประตูทิ้งไว้” “น้อง Sakon Gui มาปิดให้อาจจะแรงไปหน่อย เราก็ไปขึ้นรถแท็กซี่อีกคัน มันก็ถือไม้กระบองตามมายืนอยู่ข้างประตูรถทำท่าจะฟาด ผมก็เปิดประตูรถออกไปเลยครับ ก็เลยบอกไปว่าจะฟาดก็ลองดู ผมเป็นตำรวจ (ท่าทีก็เปลี่ยนไป) สามารถจับคุณได้เลยนะ” “ผมจะจับคุณข้อหาปฏิเสธไม่รับผู้โดยสาร จากนั้นกูทำการล็อกแขนเรียบร้อย ต่อมาตำรวจบริเวณแยกก็เข้ามาสอบถามจึงได้จับกุมดำเนินคดีเรียบร้อย เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แท็กซี่นี่มันใหญ่คับเมืองจริงๆ ไม่รับผู้โดยสารแล้วจะหาเรื่องชวนตีอีก ถ้าเป็นคนอื่นประชาชนตาดำๆ จะทำยังไง #ไม่จับแล้วยังหาเรื่องจนได้ #ลงให้ระวังว่าระวังตาลุงขับแท็กซี่คนนี้ให้ดีๆ” หลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ประสบการณ์แย่ๆ ที่เคยเจอกับแท็กซี่ไทยด้วย โดยคุณ Jeerapa Jeab Feuangdang ได้เล่าว่าเคยเจอแท็กซี่พาอ้อมเส้นทาง และถูกใช้มีดข่มขู่รีดไถ ในขณะที่คุณ Prae Kiwi’s เล่าว่าเคยนั่งแท็กซี่ตอนดึกๆ เป็นเส้นทางไม่ไกลมา…
-
เดือด!! คนขับแท็กซี่ถ่ายคลิปประจานผู้โดยสารกินขนมบนรถแถมไล่ลงกลางทาง เจอชาวเน็ตสวนกลับยับ
กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับกรณีระกว่างคนขับแท้กซี่และผู้โดยสาร โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปของคนขับแท็กซี่ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า ประเสริฐ บุญประเสริฐ ที่ได้ถ่ายคลิปของตนเองขณะที่กำลังด่าผู้โดยสารรายหนึ่ง โดยมีใจความว่า “ไม่ได้เรียนหนังสือหรือถึงอ่านป้ายห้ามรับประทานอาหารที่ติดไว้ไม่ออก พร้อมกับบ่นอีกชุดใหญ่ และบอกให้รีบทานให้หมดไว ๆ เพราะนี่เป็นรถสาธารณะ นั่งกันหลายคน ถ้าเห็นแต่แรกว่ากินขนมจะไม่จอดรับขึ้นรถแน่นอน” พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ขึ้นมาแดกๆๆ บนรถ สุดท้ายผู้หญิงที่นั่งหลังผมทำท่าไม่พอใจ ผมเลยนิมนต์ลงกลางถนนที่รถติดๆ เลยจ้า” หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีความเห็นหนึ่งแสดงความเห็นอกเห็นใจคนขับรถแท็กซี่ว่า “อย่ามองว่าไม่สมควร อย่างมันพูดก็ถูก รถโดยสารไม่ใช่ที่แดกข้าว แดกขนม รถสาธารณะ วันนึงคนขึ้นเยอะ” ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งหนึ่งมองว่าสิ่งที่คนขับแท็กซี่พูดนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพียงแต่วิธีการพูดอาจจะดูรุนแรงไปหน่อย ควรปรับวิธีการพูดให้ดูนุ่มนวลมากขึ้น หลังจากนั้นเจ้าของคลิปก็ได้ออกมาตอบโต้ชาวเน็ตที่รุมวิจารณ์ตนเองว่า อยากให้ลองนึกถึงใจเขาใจเราบ้าง หากคุณเป็นคนขับรถที่มีคนนำขนมขึ้นมากินบนรถของคุณอย่างสนุกสนาน คุณจะรู้สึกอย่างไร เหมียวก็ขอฝากไปถึงผู้ที่ต้องเดินทางด้วยแท็กซี่บ่อยๆ ก็แล้วกันนะ ว่าอย่างเอาของกินหรืออะไรที่กลิ่นแรงๆ ขึ้นไปกินบนรถเขาเลยนะ ส่วนพี่ๆ แท็กซี่เองก็ใจเย็นๆ นะจ๊ะ มีอะไรก็ค่อยๆ พูด…
-
ห้าม!! คนขับแท็กซี่ไม่แคร์สื่อ เขียนป้ายห้ามทุกสิ่งอย่าง ใครไม่พอใจรถเมล์ฟรียังมี
เวลาที่เราต้องเดินทางด้วยรถแท็กซี่ หลายๆ คนก็คงจะพอทราบถึงมารยาทในการโดยสารรถแท็กซี่คร่าวๆ ล่ะนะ เช่นไม่นำอาหารกลิ่นแรงๆ ขึ้นมากิน ไม่ส่งเสียงดังโวยวายคนขับรถ เพราะหากเราไม่เกรงใจคนขับรถแท็กซี่ คุณอาจจะเจอแบบโหดๆ อย่างนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค Aonuma Choothong เป็นภาพที่เจ้าตัวได้ถ่ายมาจากรถแท็กซี่คันหนึ่ง โดยเป็นป้ายข้อกำหนดในการโดยสารรถ ที่มีการระบุข้อห้ามต่างๆ มากมาย ทั้งห้ามกินหมากฝรั่ง ท๊อฟฟี่ ลูกอม อาหาร ห้ามใช้แป้งฝุ่น น้ำหอม สารเคมี ห้ามเล่นเกม What App, Line(ให้ปิดเสียงเลย) หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามากดไลค์และแสดงความเห็นมากมาย โดยมีหนึ่งในความคิดเห็นที่น่าสนใจของคุณ วุฒิชาติ ธงแสนเมือง บอกไว้ว่า “ผมขับแท๊กซี่ครับ ตามที่เห็นเขาคงอึดอัดมากไปนะ ผมเช่ารถขับก็เจอแบบที่ลงรูปทุกวันแต่ผมเฉยๆนะ คิดซะว่าเดี๋ยวเขาก็ลงแล้วทนเอานิดหน่อย” มองในมุมลูกค้า เหมียวเองก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกันนะ เพราะบางทีเราก็มีธุระที่ต้องติดต่อ แต่ก็ต้องเห็นใจพี่คนขับแท็กซี่เช่นกัน ว่าวันๆ ต้องเจอกับลูกค้าและรับกับความเครียดมากมาย เอาเป็นว่าเกรงใจซึ่งกันและกันดีกว่าเนอะ ที่มา Aonuma Choothong
-
ทำดีมีแชร์!! แห่แชร์ภาพหนุ่มจ่ายค่าแท็กซี่แพงที่สุดในชีวิต ช่วยเหลือแท็กซี่รักษาพังผืดเกาะกระดูก
ทุกครั้งที่เกิดเรื่องราวดีๆ ขึ้นในโลกออนไลน์ เหมียวมักจะรู้สึกอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูก อาจเพราะว่าทุกวันนี้มีเรื่องให้เครียดมากมาย ทำให้ทุกครั้งที่เห็นเรื่องราวน่ารักๆ เหมียวก็อดไม่ได้ที่จะนำมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊คของนาย Polapat Saibourtong ได้โพสต์เรื่องราวสุดประทับใจของเขา ที่ได้ไปเจอกับคนขับแท็กซี่รายหนึ่งมา โดยเจ้าตัวเล่าว่า “น้ำตาไหลแต่เช้า วันนี้ออกจาก Office ไปหานายที่รพ bnh เจอ Taxi คันนึงมาจอดแต่ไฟไม่เปิด มองเข้าไปเห็นลุงคนนึงอายุต้องรุ่นอาม่าแน่ๆ ความคิดแว็บแรก ไปดีไหมวะเนี่ย แต่ด้วยความที่รีบก็เลยรีบเข้าไป ความรู้สึกแรกคือ เห้ย!! ลุงไหวไหมลุงแก่มาก!!” “แล้วลุงก็เล่าให้ฟังว่าลุงชื่อประเสริฐ ลุงเป็นพังผืดเกาะกระดูก ขอเจ้าของอู่มาขับรถหาเงินไปรักษาโดยการฉีดยา 9 เข็มเข็มละ 290 บาท ลุงเป็นคนอ่างทองพ่อแม่ตายตั่งแต่เด็ก ขายบ้านไปในราคา 30 บาทแล้วเดินจากอ่างทองมาหัวลำโพงทำงานเป็นคนขับรถมาตลอด 70 ปี” “ก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ในวัด แต่อยู่ดีๆ ด็เดินไม่ไหว เลยต้องออกมาทำงานหาเงิน ศุกร์นี้เป็นเข็มสุดท้ายแล้ว แล้วจะเลิกขับรถแล้วเพราะร่างกายก็ไม่ไหวแล้ว หลังจากนี้จะไปบวชแล้วก็รอวันที่ร่ากายไปไม่ไหว นั่งฟังไปน้ำตาซึมไปรู้ตัวอีกทีถึงหน้ารพแล้ว Meter ขึ้น 55…
-
สาวประเภทสองเดือด หลังเจอแท็กซี่บอกไม่อยากรับกระเทย เพราะเรื่องมาก!?!?!
การเป็นคนขับแท็กซี่นั้น ไม่ควรมีการแบ่งแยกหรือเลือกผู้โดยสาร ไม่ว่าผู้โดยสารจะเป็นใคร อาชีพอะไร ก็ต้องรับทั้งหมด และยิ่งถ้ามีการแบ่งแยกด้วยเรื่องเพศซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนแล้วละก็ ก็ยิ่งประเด็นร้อนยิ่งขึ้นไปอีก อย่างเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปนี้ ได้กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที เนื่องจากคนขับแท็กซี่คนหนึ่ง บอกว่าไม่อยากรับสาวประเภทสอง เพราะส่วนใหญ่ชอบเรื่องมาก โดยเหตุการณ์ในคลิปมีอยู่ว่า สาวประเภทสองสองคนได้โบกแท็กซี่คันหนึ่ง เมื่อขึ้นไปแล้ว ปรากฏว่าคนขับแท็กซี่มีท่าทางไม่พอใจอย่างยิ่ง เธอจึงถามว่าเป็นอะไร คนขับแท็กซี่บอกว่า ตนเองนั้นไม่อยากรับผู้โดยสารที่เป็นกระเทยหรือสาวประเภทสอง เนื่องจากเป็นพวกเรื่องมาก แต่ที่รับสองคนนี้ขึ้นมาเพราะว่าดูไม่ออกว่าเป็นสาวประเภทสอง เมื่อทั้งสาวประเภทสองได้ยินดังนั้น ก็เดือดขึ้นมาทันที ว่าทำไมถึงทำไมแบบ มันไม่ควรมีการแบ่งแยก กระเทยไม่ได้เป็นคนเลือกมากอย่างนั้นทุกคน ไปชมคลิปกันเลย เหมียวว่าการแบ่งแยกเพศแบบนี้ไม่โอเคเลย ปัจจุบันโลกก็เปลี่ยนไปไหนต่อไหนแล้ว ทัศนคติแบบนี้ไม่ควรมีอยู่แล้ว และยิ่งเป็นแท็กซี่ยิ่งไม่ควรทำ เพราะเป็นการปฏิเสธผู้โดยสาร แล้วเพื่อนๆละคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะเหมียว ที่มา Piyachart Chansawang
-
ออนไลน์แฉ คนขับแท็กซี่สุดเดือด ควักไม้ลงมาฟาดคนขับรถ 2 แถว ตอนนี้ยังจับตัวไม่ได้
เมื่อข่วงเย็นของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Ferny Juthaporn Monkeykid เป็นภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดที่เผยให้เห็นรถสองแถวและรถแท็กซี่ขณะวิ่งอยู่บนถนนสายหนึ่ง และเนื่องจากมีผู้โดยสารโบกรถอยู่ข้างทาง ทำให้รถสองแถวจอดเพื่อรับผู้โดยสาร แต่ดูเหมือนว่าคนขับแท็กซี่จะไม่พอใจ จึงรีบขับรถไปดักหน้า และหยิบท่อนไม้ลงมาฟาดใส่คนขับสองแถวทันที พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ลุงคนที่ถูกทำร้ายในคลิปคือลุงของเรา ต้องเข้าใจนะคะว่ารถ 2 แถว เมื่อมีคนโบกเขาก็ต้องจอดรับผู้โดยสาร แต่ทำไมแท็กซี่คันนี้ถึงได้ใจร้ายแบบนี้ คิดอะไรอยู่ถึงทำคนแก่ได้ลง อาชีพคนขับรถเหมือนกัน ตอนนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้ ไม่เข้าใจทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ลุงคนที่ถูกทำร้ายในคลิปคือลุงของเรา ต้องเข้าใจนะคะว่ารถ2แถว เมื่อมีคนโบกเขาก็ต้องจอดรับผู้โดยสาร แต่ทำไมแท็คซี่คันนี้ถึงได้ใจร้ายแบบนี้ คิดอะไรอยู่ถึงทำคนแก่ได้ลง อาชีพคนขับรถเหมือนกัน ตอนนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้ ไม่เข้าใจ ทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้ Posted by Ferny Juthaporn Monkeykid on 24 กันยายน 2015 หลังจากที่โพสต์คลิปได้ไม่นาน เจ้าตัวก็ได้กลับมาอัพเดทอาการของคุณลุงคนขับสองแถวหลังจากที่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วว่า มีการเย็บแผลเกือบทั้งใบหน้าเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีชาวเน็ตอีกมากมายเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็น และแสดงความสงสารคุณลุงคนขับแท็กซี่กันอย่างมากมายเลย ยังไงเหมียวขอส่งกำลังใจ ให้คุณลุงหายเร็วๆ นะ…
-
แท็กซี่งงถูกตำรวจทางหลวงโบก บอกจดทะเบียนกรุงเทพต้องวิ่งแต่ในกรุงเทพเท่านั้น!?!!
เกิดประเด็นร้อนขึ้นอีกครั้ง เมื่อมีแท็กซี่คันหนึ่งจดทะเบียนขึ้นกับกรุงเทพ ขับรถออกไปต่างจังหวัด แต่ถูกตำรวจทางหลวงโบก เนื่องจากมีกฎว่า แท็กซี่ห้ามวิ่งนอกเขตที่จดทะเบียน ทางเจ้าของแท็กซี่ก็งงว่า มีกฎแบบนี้ด้วยหรือ เขาไม่เคยได้ยินกฎนี้มาก่อน และเขาก็ทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ส่วนทางตำรวจทางหลวงก็อ้างว่า กฎนี้มีขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้แท็กซี่ที่จดทะเบียนจังหวัดอื่น เข้ามาแย่งลูกค้าของแท็กซี่ที่จดทะเบียนในจังหวัดนั้นๆ ว่าแล้วไปชมคลิปเหตุการณ์กันดีกว่า กรมการขนส่ง บอกว่า กดมิเตอร์ทั่วประเทศครับ คำว่าทั่วประเทศ หมายความว่า TAXI METER สามารถ วิ่งใด้ทั่วประเทศ ถ้ากรมการขนส่งเห็นโพสนี้ แล้วมีความคิดว่าเราเข้าใจผิด ช่วยมาบอกด้วย เรา จะใด้บอกมีที่ใหนบ้างที่บังคับ ให้กดมิตเตอร์…… แต่ !!!! ที่โพสมันถูก ข่วยบอกเจ้าหน้าที่ตามเส้นทางหลวงด้วย ขอบคุณ Posted by คนเดินดิน ธรรมดา พอใจเท่าที่มี on 12 กันยายน 2015 เบื้องต้น เจ้าของรถแท็กซี่ได้โทรถามทางสำนักงานขนส่ง และทางขนส่งแจ้งว่า แท็กซี่สามารถกดมิเตอร์แล้ววิ่งไปส่วนไหนของประเทศก็ได้ ก็เรียกได้ว่างงไปตามๆกัน ถ้ามีข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วเหมียวจะนำมาเล่าให้เพื่อนๆฟังอีกครั้งนะ หรือถ้าใครมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ช่วยไขข้อสงสัยทีนะฮะ ที่มา คนเดินดิน…
-
ลูกค้า GrabTaxi เจอภรรยาคนขับไลน์มาหาว่าเป็นชู้ เพียงเพราะเห็นเบอร์ที่เม็มไว้
นี่คืออุทาหรณ์สำหรับคนที่ใช้บริการเรียกแท็กซี่ GrabTaxi ที่เกิดขึ้นกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า Belle Jongprasit เธอได้ใช้บริการ GrabTaxi อยู่บ่อยครั้งจนวันหนึ่งได้รับข้อความจากไลน์คนแปลกหน้า ซึ่งหาว่าเธอเป็นชู้กับสามีของเธอ เธอจึงได้แคปรูปทั้งหมดมาโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่กำลังจะใช้บริการนี้ พร้อมกับให้ทาง GrabTaxi หามาตรการความปลอดภัยในการใช้งานอีกด้วย สำหรับคนที่อยากแชร์เพื่อเป็นอุทหรณ์สำหรับเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน โพสนี้จะ public ให้แชร์นะคะะ เพราะเอาจริงมันก็แอบอันตราย และไม่รู้ว่า GrabTaxi จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน ฝากกันแชร์ค่ะ เรียกแท๊กซี่บ่อยก็กลายเป็นชู้ #grabtaxi มีมาตรการความปลอดภัยของผู้โดยสารหน่อยมั้ยยย U_U โทรผ่านแอ๊พได้อย่างเดียว ห้ามขึ้นเบอร์ในมือถือ กลัวมีคนดักราดน้ำกรดใส่บ่องตง 55555555 ตอนนี้หนูใช้รูป minion เพราะหนูวาดเองกับมือค่ะ ภูมิใจในผลงาน ไม่ได้หนีพี่นะ ! สำหรับคนที่อยากแชร์เพื่อเป็นอุทหรณ์สำหรับเพื่อนร่วมโลกด้วยกัน โพสนี้จะ public ให้แชร์นะคะะ เพราะเอาจริงมันก็แอบอันตราย แ… Posted by Belle Jongprasit on Friday, September 4, 2015 ที่มา Belle Jongprasit
-
ชมการขึ้นแท็กซี่ที่บันเทิงที่สุดในโลก ทั้งร้องทั้งเต้น นี่นึกว่าอยู่ในผับ!!!
เคยประสบปัญหากับการขึ้นแท็กซี่หรือไม่? พอขึ้นไปแล้ว คนขับชอบทำให้เราอึดอัดใจ บางครั้งก็ชวนคุยเรื่องเครียดๆเช่น การเมือง ศาสนา ปัญหาชีวิต ซึ่งเราไม่ได้อยากคุย แต่วันนี้เหมียวจะพาไปชมแท็กซี่ที่บันเทิงที่สุดในโลก นาย Jonathan Garuano หรือในอีกชื่อหนึ่ง Do GOOD Jonathan เขาทำอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่ Uber และตอนนี้เขาชอบเพลง “Can’t Feel My Face” เอามากๆ เขาจึงเปิดเพลงนี้ทุกครั้งที่มีผู้โดยสารขึ้นมา เราไปชมกันเลยว่าผู้โดยสารเขามีปฏิกิริยาอย่างไรกันบ้าง มันสุดเหวี่ยงจนต้องถอดเสื้อ ฟิลลิ่งมันได้สุดๆ พวกนี่ดูฮาร์ดไปหน่อยนะ วาดลวดลายกันเต็มที่ ไปชมคลิปเต็มๆกันเลย แหม ท่าทางสนุกจริงๆ แต่เห็นเขายกไม้ยกมือนั่นไม่ต้องกลัวนะ เขาบอกว่า ยกเฉพาะตอนติดไฟแดงเท่านั้น ระหว่างขับมืออยู่พวงมาลัยตลอดจ้า รับประกันความสนุกและความปลอดภัยจร้าา ที่มา Distractify
-
หนุ่มนักธุรกิจใจงาม พบกับแท๊กซี่ที่ไม่เคยสัมผัสสวนสนุกพาไปส่ง ก็เลยชวนมาเล่นด้วยกันซะเลย!!
เรื่องราวอันน่าประทับใจของพ่อหนุ่ม Liam Murphy ที่มีภาระต้องไปติดต่อเจรจาธุรกิจที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เขาก็เลยถือเป็นโอกาสเที่ยวไปในตัว โดยตัดสินใจไปที่สวนสนุก Ferrari World เมื่อไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ก็ต้องพึ่งพาแท๊กซี่สาธารณะให้ไปส่งถึงที่หมาย ซึ่งเขาก็ได้พบกับคนขับแท๊กซี่ที่ชื่อว่า Shakiha โดยส่วนตัวแล้วคนขับแท๊กซี่ผู้นี้ไม่เคยมาที่นี่เลย แถมยังไม่เคยนั่งรถไฟเหาะตีลังกาด้วย ไหนจะต้องนั่งรออยู่ในรถแท๊กซี่ประมาณ 4 ชั่วโมงจนกว่านักธุรกิจหนุ่มออกไปเล่นในสวนสนุกอีก พ่อหนุ่ม Liam ก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนแผนแบบสายฟ้าแลบ ชักชวนคนขับแท๊กซี่มาร่วมจอยความสนุกกับเขาซะเลย กลายเป็นว่าพา Shakiha ไปสัมผัสกับบรรยากาศรถไฟเหาะตีลังกาครั้งแรกในชีวิต!! Liam ได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘แทนที่เขาจะต้องนั่งเบื่อๆ เพื่อรอลูกค้าอยู่ในรถของตัวเอง เขาก็ได้รับช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตไปเลยล่ะ’ ชีวิตของ Shakiha ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ตลอดระยะเวลา 14 ปี ทำงานในฐานะลูกจ้างที่ไม่ได้รับสวัสดิการดีเท่าที่ควร ไหนจะต้องคอยส่งเงินให้กลับไปให้ครอบครัวที่อินเดียด้วย ทำให้ Liam รู้สึกแย่กับการที่เขาจะต้องมานั่งรอลูกค้าที่ออกไปมีความสุข โดยที่ตัวเขาเองไม่เคยได้สัมผัสมันเลยซักครั้ง ที่มา : thechive