Tag: แบน
-
15 โปสเตอร์หนังที่ “โดนแบน” เพราะมันมันถูกออกแบบจน ‘เกินงาม’ ไปนิดนึง…
สิ่งสำคัญที่จะตัดสินได้ว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นจะมีคนดูน้อยหรือมากก็คือ ภาพโปสเตอร์ นี่แหละ เพราะภาพโปสเตอร์ที่น่าสนใจก็จะทำให้ผู้คนเกิดความสนใจในภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ ด้วย แต่ทว่าภาพยนตร์หลายเรื่องก็พลาดที่จะนำเสนอความน่าสนใจผ่านทางภาพโปสเตอร์ของพวกเขาด้วยเช่นกัน เพราะว่าโปสเตอร์เหล่านั้นถูก แบน เนื่องจากความไม่เหมาะสมยังไงล่ะ บางครั้งการนำเสนอของพวกเขาก็ถูกมองว่ามัน “เกินงาม” ไปนิดหน่อย มันจะเกินงามขนาดไหน พวกเราลองไปชมพร้อมๆ กันเลยดีกว่า… 1. Teeth (กลีบเขมือบ) มันอาจจะดูเน้นที่ “ตรงนั้น” ของผู้หญิงมากเกินไปหน่อย แม้ว่าเนื้อเรื่องจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม 2. Sin City (เมืองคนตายยาก) โปสเตอร์ที่มี Eva Green เป็นนางแบบรูปนี้ มันแอบเห็น “จุก” ของเธอจึงกลัวว่าคนดูจะคิดลึก 3. Saw II (เกมต่อตาย..ตัดเป็น 2) ถึงจะดูเป็นโปสเตอร์ที่สร้างสรรค์มากสำหรับภาพยนตร์สุดโหดเรื่องนี้ แต่ทางกองเซ็นเซอร์เขาไม่ชอบใจเท่าไหร่ 4. Man Bites Dog ภาพการฆาตกรรมด้วยปืนไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับโปสเตอร์ แต่สำหรับหนังเรื่องนี้ดั๊นมีรูปจุกนมปลอมลอยขึ้นมา จึงดูเหมือนเป็นการสังหารเด็กทารก กองเซ็นเซอร์จึงบอกว่า “ไม่ผ่านจ้า” 5. The People vs.…
-
ลูกชายถูกศาลสั่งห้ามไม่ให้ติดต่อกับ ‘พ่อแม่ของตัวเอง’ 5 ปี เพราะตื๊อขอเงินมากไป
สำหรับคนเป็นลูกการโทรไปขอเงินพ่อแม่ถือเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะไม่ว่าอย่างไรท่านก็จะยินดีให้ความช่วยเหลือกับเราอยู่แล้ว แต่ไม่ใช่สำหรับคุณพ่อคุณแม่สองท่านนี้ ที่ลูกชายวัย 24 ปี ขอเงินใช้อยู่นั่นแหละ ทั้งๆ ที่อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว ก็เลยไปฟ้องศาลและสุดท้ายศาลก็ตัดสินให้ลูกชายห้ามติดต่อพวกเขาเป็นเวลานานถึง 5 ปี!! และล่าสุดจากรายงานของเว็บไซต์ Mirror ระบุว่านาย Matthew Kerley ถูกศาลตัดสินจำคุกจากการสร้างความก่อกวนให้แก่ผู้อื่น เมื่อปีที่ผ่านมาคุณพ่อของ Matthew คุณ Paul วัย 60 ปี ได้รับการช่วยเหลือและคำแนะนำจากองค์กร Crown Prosecution Service หลังจากที่ลูกชายของตนตามตื๊อขอเงินจนทำให้เขาและภรรยา คุณ Coreen วัย 51 ปี ต้องตกอยู่ในภาวะซึมเศร้า และต้องจมอยู่กับความเครียด ทำให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจไปฟ้องร้องต่อศาลในเมือง Southampton ทำให้ลูกชายถูกตัดสินห้ามไม่ให้ติดต่อกันอีกเป็นเวลา 5 ปี แต่แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นอีกเมื่อเดือนที่ผ่านมานาย Matthew ได้โทรหาพ่อแม่เพื่อขอเงินอีกครั้ง!! จากข้อมูลคำให้การของฝ่ายอัยการระบุว่า “เขา (Matthew) บอกพ่อแม่ของเขาว่ากำลังจะไปสัมภาษณ์งานและต้องโกนหนวด แต่บังเอิญว่าที่โกนหนวดมันพังเสียก่อน เลยโทรไปขอเงินพ่อแม่”…
-
พิสูจน์โลกแบนด้วยวิธีบรรเจิด หนุ่มถ่ายภาพขอบฟ้ามา พร้อมโชว์คำนวณส่วนโค้งให้เห็นชัดๆ
ในต่างประเทศยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่เนืองๆ กับหัวข้อโลกแบน จนกระทั่งมีการรวมกลุ่มรวมตัวของผู้ที่มีความเชื่อดังกล่าว ถึงขั้นจัดเป็นงานประชุมสัมมนาขนาดใหญ่กันเลยทีเดียว แม้จะมียานอวกาศถูกส่งไปนอกโลกก็แล้ว มีภาพถ่ายหลักฐานแสดงลักษณะทางกายภาพของโลกก็แล้ว ยังไง๊ยังไง ทฤษฎีโลกแบนก็ยังมีคนเชื่ออยู่ดี วันนี้วันดีอากาศสดใส แดดมันก็จ้าซะเหลือเกิน ต่อให้โชว์หลักฐานยังไง คนที่เชื่อแบบนั้นก็ยังไม่ยอม เพราะฉะนั้นแล้วนักดนตรีในนาม GregPagel วัย 47 ปี จากเมือง Manitowoc รัฐวิสคอนซิน สหรัฐอเมริกา จึงใช้วิธีหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง… เห็นขอบฟ้านั่นมั้ย มันดูแบ๊นแบนใช่มั้ยล่ะ? แต่ผมได้ยินมาว่าโลกมันกลม ผมโดนโกหกอยู่รึเปล่า? ซูมเข้าไปออกสักนิด ก็แบนอยู่ดี แบนจริงๆ เห็นมั้ย? มาดูมุมกว้างๆ แบบพาโนรามากันบ้าง ก็ยัง ‘แบน’ เอาล่ะ จะมาพิสูจน์กันว่าแบนจริงๆ มั้ย… ภาพจาก Google Earth นั้น ทางด้านซ้ายคือชายฝั่งแม่น้ำ Two Rivers ทางด้านขวาคือชายหาด Silver Creek…
-
วิเคราะห์จริงจัง!! หากทุกคน ‘แบน’ ไม่เติมน้ำมันปั๊ม ปตท. จะส่งผลให้เจ๊งได้หรือไม่!?
จากบทความที่แล้ว #เหมียวหง่าว ได้เสนอข้อมูลเกี่ยวกับ ‘โครงสร้างราคาน้ำมัน ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาของน้ำมันที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้’ ไปแล้ว ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงส่วนของ ‘รายได้ของบริษัทปตท.’ กันบ้าง ว่าถ้าหากเราทำร่วมมือกันบอยคอต ไม่เติมจากปั๊มน้ำมันของ ปตท. จะส่งผลกระทบถึงรายได้ของบริษัทหรือไม่อย่างไร ถ้าพร้อมแล้วลองไปชมพร้อมๆ กันครับ ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าบริษัทในเครือของบริษัท ปตท. นั้นมีเยอะมาก โดยแบ่งออกเป็นสายหลักๆ 3 สายได้แก่ กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและบริหารความยั่งยืน, กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ, และกลุ่มปิโตรเลียมขั้นปลาย และที่เราจะต้องพูดถึงก็คือในส่วนของ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น และธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย เป็นหลัก ภาพโครงสร้างเครือธุรกิจของ ปตท. ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้น ในส่วนนี้จะทำธุรกิจเกี่ยวกับการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ซึ่งจะทำการซื้อสัมปทานในการค้นหาแหล่งน้ำมันเพื่อขุดเจาะออกมาจำหน่าย รวมไปถึงจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซธรรมชาติ ธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ในส่วนนี้จะทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงกลั่น ปิโตรเคมี และขายพลังงาน คือการนำน้ำมันดิบที่ขุดได้มากลั่นลำเป็นลำดับส่วน และนำไปแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และส่วนสุดท้ายที่เป็นส่วนที่หลายๆ คนกำลังให้ความสนใจก็คือการขายพลังงาน ซึ่งแบ่งออกได้เป็นสองส่วน คือการขายพลังงานให้กับภาคธุรกิจด้วยกัน เช่น หน่วยงานราชการ ตลาดต่างประเทศ หรือ ‘ปั๊มน้ำมันอื่น’ และอีกส่วนก็คือการขายพลังงานให้กับผู้บริโภคโดยตรงผ่านหน้าปั๊มนั่นเอง…
-
เอาเรื่อง… หญิงถูกห้ามเข้าสนามบอล จำใจต้องแปลงกายเป็นชาย เพื่อเข้าเชียร์ขอบสนาม!!
ด้วยวัฒนธรรมและกฎระเบียบข้อปฏิบัติของแต่ละประเทศ บางสิ่งบางอย่างที่เรามองว่าเป็นเรื่องทั่วไป ใครๆ ก็มีสิทธิ์ทำได้ กลับแตกต่างจากประเทศอิหร่านอย่างสิ้นเชิง โพสต์ต้นเรื่องดังกล่าวมาจากเว็บไซต์ Reddit พร้อมกับรูปภาพของแฟนบอลที่มีลักษณะคล้ายกับผู้ชาย นั่งเรียงกันอยู่ 5 คน ซึ่งทั้งหมดนั้นคือผู้หญิงแท้ๆ!! ภาพดังกล่าวถ่ายมาจากสนามกีฬาอะซาดี เมืองเตหะราน ประเทศอิหร่าน เป็นช่วงเฉลิมฉลองถ้วยของสโมสร Persepolis ที่สามารถคว้าอันดับที่ 11 ของลีคอิหร่านมาได้ และแน่นอนว่าทางสนามมีข้อห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าร่วมแมตช์หรือกิจกรรมใดๆ ของฟุตบอลชายเลย จากข้อมูลของเว็บไซต์ Daily Sabah รายงานว่า มีผู้หญิงประมาณ 35 ราย พยายามเข้าร่วมการแข่งขันดาร์บี้แมตช์ระหว่างสโมสร Esteqlal และ Persepolis ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางด้าน จันนี อินฟันตีโน ประธานฟีฟ่าผู้อยู่ในประเทศอิหร่าน ณ ช่วงเวลานั้นได้เข้าร่วมชมเกมฟุตบอลในครั้งนั้นด้วย และมีรายงานว่าเขาได้รับคำมั่นสัญญาจากประธานาธิบดีอิหร่าน ฮัสซัน รูฮานี ที่จะอนุญาตให้ผู้หญิงสามารถเข้าร่วมชมฟุตบอลในสนามได้ในอนาคต แต่ทว่าในช่วงนี้ผู้หญิงชาวอิหร่านก็ยังคงต้องแปลงร่างเป็นผู้ชายเพื่อเข้าร่วมเชียร์ถึงขอบสนามไปก่อน อย่างเช่นผู้ใช้อินสตาแกรม zeinab_perspolisi_ak8 ที่ได้โพสต์รูปของตัวเธอเองแต่งหน้าให้เป็นผู้ชายครึ่งซีก แสดงให้เห็นว่าผู้หญิงอิหร่านต้องพยายามขนาดไหนที่จะเข้าไปดูบอล! …
-
คู่รักหนุ่มสาวโดนแบนจากโรงแรมหรู เนื่องจากใช้ ‘โปรฯ ลดราคา’ เข้าพักบ่อยเกิน…
โรงแรมหรูระดับ 4 หรือ 5 ดาวย่อมต้องเป็นที่ดึงดูดใจผู้คน ใครก็ต้องอยากเข้าพักโรงแรมที่มีระดับสูง เนื่องจากสามารถมั่นใจได้ถึงการบริการ ความสะดวกสบาย และความสวยงามหรูหรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อโรงแรมเหล่านั้นมีการลดราคา อย่างเช่นคู่รักหนุ่มสาววัยรุ่นคู่นี้ หนุ่ม Luke Donovan วัย 19 ปีและสาว Taylor Perkins วัย 18 ปี ที่ได้เข้าพักในโรงแรมหรูระดับ 4 ดาว Royal Hotel ใจกลางกรุงคาร์ดิฟฟ์ ประเทศเวลส์ ด้วยโปรโมชันลดหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้ผู้จัดการของโรงแรมต้องออกมาพบพวกเขา คู่รักบอกว่า ผู้จัดการได้สั่งห้ามไม่ให้พวกเขาเข้ามาพักที่โรงแรมแห่งนี้อีก หลังจากที่พวกเขาได้ก่อ “ความรำคาญ” ให้กับพนักงาน ทั้งคู่เริ่มเข้าไปพักที่โรงแรมดังกล่าวเมื่อปี 2017 แต่ปัญหาได้เกิดขึ้นในการเข้าพักเที่ยวสุดท้ายของพวกเขาในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 ที่พวกเขาได้แจ้งกับโรงแรมถึงปัญหาประตูห้องที่ล็อกไม่สนิทและน้ำที่ใช้อาบน้ำนั้นเย็นจนเกินไป Luke บอกว่า “ผมเข้าไปแจ้งกับผู้จัดการในเช้าวันรุ่งขึ้น และเขาก็ได้บอกผมว่า ผมและแฟนได้ประโยชน์จากโรงแรมมากเกินไปแล้ว และพวกเราก็เริ่มสร้างความรำคาญให้กับพนักงานในโรงแรมแล้วด้วย แถมผู้จัดการยังบ่นเรื่องที่ผมจองห้องผ่านเว็บไซต์ booking.com ที่ทำให้เขาได้เงินลดลงอีก” Luke ยังกล่าวอีกว่าผู้จัดการเสนอเงินคืนให้กับเขาและแฟนสาวราว 2,000 บาทพร้อมกับบอกว่า…
-
ไอซ์แลนด์อาจกลายเป็นประเทศแรกในยุโรปที่สั่งห้ามไม่ให้ทำการ ‘ขลิบอวัยวะเพศชาย’
การขลิบอวัยวะเพศชาย คือหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวอิสลาม ชาวยิว และอีกหลายชนชาติเชื่อว่าเป็นการรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ แต่สำหรับประเทศไอซ์แลนด์นั้น คนส่วนมากไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้ซักเท่าไหร่ จึงทำให้เกิดร่างกฎหมายที่เป็นข้อพิพาทกันของคนจากสองฝ่าย ประเทศไอซ์แลนด์อาจจะกลายเป็นประเทศแรกในทวีปยุโรปที่จะสั่งห้ามไม่ให้มีการขลิบ เพราะตอนนี้ได้มีการยื่นร่างกฎหมายใหม่ที่บอกว่า หากใครที่ทำการขลิบโดยไม่ใช่วัตถุประสงค์ทางการแพทย์จะต้องถูกจำคุก 6 ปี ร่างกฎหมายดังกล่าวเกิดขึ้นมาเพราะพวกเขามองว่า การขลิบอวัยวะเพศชายก็ไม่ต่างกับการขลิบอวัยวะเพศหญิง (FGM) ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายในหลายๆ ประเทศของยุโรป รวมถึงไอซ์แลนด์ที่แบนสิ่งนี้มาตั้งแต่ปี 2005 สิ่งนี้ได้รับความสนใจและแรงสนับสนุนจากหลายๆ ฝ่าย มีการพูดถึงว่าการขลิบคือการละเมิดสิทธิของเด็ก ซึ่งสอดคล้องกับบทบัญญัติข้อที่ 12 ของสหประชาชาติ (UN) อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็กที่จะมีผลต่อการใช้ชีวิต อีกทั้งยังมีการพูดถึงเรื่องสุขภาพเอาไว้จากผู้ที่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายนี้ว่า “การขลิบอวัยวะเพศชายมักจะทำขึ้นที่บ้าน ซึ่งมันไม่ได้ปลอดเชื้อโรค และไม่ได้ทำโดยหมอแต่เป็นฝีมือของผู้นำศาสนา จึงมีความเสี่ยงอย่างมากที่เด็กอาจจะติดเชื้อหลายๆ อย่าง จนอาจเสียชีวิตได้เลย” ในโลกโซเชียลก็มีหลายๆ คนที่รู้สึกเห็นด้วยกับเรื่องนี้ “สิทธิของเด็กควรอยู่เหนือเสรีภาพทางศาสนาเสมอ” “ผมคิดว่าก่อนหน้านี้มีสิทธิมนุษยชนบางอย่างที่อยู่เหนือสิทธิทางด้านศาสนา ความเป็นมนุษย์คือสิ่งที่สำคัญเป็นอันดับแรก การคงอยู่ของศาสนาสำหรับคนที่นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งคือสิ่งที่ตามมาเป็นอันดับสอง” “ผมเห็นด้วยกับเรื่องนี้จริงๆ ถ้าคุณเลือกจะทำสิ่งนี้ตอนที่โตแล้ว คุณก็ไปทำเถอะ แต่ไม่ใช่การมาตัดมันออกไปโดยไม่ได้เกิดจากความยินยอม” อย่างไรก็ตาม ทางฝั่งชาวมุสลิมและชาวยิวรู้สึกว่านี่อาจเป็นสิ่งที่แสดงออกถึงการต่อต้านพวกเขา ทำให้ชีวิตของพวกเขาที่อาศัยอยู่ในไอซ์แลนด์ต้องเปลี่ยนไปอย่างมาก อีกทั้งยังมีการโต้เถียงเกี่ยวกับเรื่องของเสรีภาพทางศาสนา กลุ่มการประชุมผู้นำศาสนายิวในยุโรป…
-
ประเทศจีนแบนเพลงแรป เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่หยาบคาย
พวกเราบางคนอาจเคยรู้กันมาก่อนแล้วว่า ใน ประเทศจีน นั้นจะมีการควบคุมและสั่งห้ามสิ่งต่างๆ เอาไว้หลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหาของภาพยนตร์ที่จะถูกนำเข้าไปฉาย หรือแม้แต่การสั่งห้ามเครื่องเล่นเกมคอนโซลทุกชนิดมาตลอดจนถึงปี 2014 จากบรรดาข้อห้ามมากมายของพวกเขานั้น ในวันนี้รัฐบาลจีนตัดสินใจออกมาประกาศผ่านทางสื่อต่างๆ ในประเทศว่า พวกเขาจำเป็นต้องแบน เพลงแรป ไม่ให้มีในโทรทัศน์หรือในวิทยุอีกต่อไป เนื่องจากเนื้อหาของเพลงที่มีความหยาบคายมากเกินไป การประกาศนี้กลายเป็นที่จับตามองของคนทั้งประเทศ เพราะเพลงแรปในประเทศจีนก็ถือว่าได้รับความนิยมอยู่ไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ทางการบอกว่า “พวกเราจะทำการสั่งห้ามดาราคนดังที่มีรอยสัก วัฒนธรรมฮิปฮอป (รวมถึงการแรป) และเนื้อหาแปลกๆ ทุกอย่าง ไม่ให้มีการเผยแพร่ในโทรทัศน์หรือวิทยุอีกต่อไป” พวกเขาให้เหตุผลว่า เพลงแรปนั้นมีเนื้อหาที่หยาบคาย มีการพูดถึงเรื่องการใช้สารเสพติด เนื้อหาที่เกี่ยวกับเรื่องเพศและการเหยียดเพศตรงข้าม ข้อห้ามใหม่ทำให้เหล่าแรปเปอร์ทุกคนต้องเจอกับปัญหาที่ว่า ผลงานของตัวเองไม่สามารถถูกเผยแพร่ออกไปทางทีวีหรือวิทยุได้อีกต่อไป ซึ่งไม่เว้นแม้แต่ PG One แรปเปอร์ชื่อดังที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เขาก็จะไม่ได้โผล่ออกมาในทีวีให้ทุกคนได้เห็นเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แรปเปอร์ชื่อดังในจีน PG One ในขณะที่มีการแบนแรปเปอร์ในประเทศของตัวเอง ทางรัฐบาลก็ยังแบนเพลงป็อปที่มีท่อนแรปใส่เข้าไปอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขากลับไม่มีการประกาศออกมาว่าจะแบนเหล่าดาราฮิปฮอป แรปเปอร์ต่างประเทศที่นำผลงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม ผู้คนอีกฝั่งหนึ่งมองว่า เนื้อหาที่หยาบคายเป็นเพียงของอ้างของรัฐบาล เพราะแท้จริงแล้วพวกเขาสั่งห้ามเพราะเนื้อหาของเพลงมีการพูดถึงการต่อต้านความคิดระบบเผด็จการ ทำให้คนใหญ่คนโตของประเทศรู้สึกไม่ค่อยพอใจกันซักเท่าไหร่ การควบคุมสื่อภายในประเทศจีน…
-
คุณแม่ถูกแบนไม่ให้เลี้ยงสัตว์ หลังจากขังหมาไว้หลังบ้านจนผอมเพราะมันส่งเสียงดัง
การที่เราจะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เลี้ยงสักตัวหนึ่ง สิ่งแรกที่ต้องมีก็คือใจที่รัก เพราะว่าเราต้องดูแลมันราวกับว่ามันคือสมาชิกหนึ่งในครอบครัว แต่ก็ได้มีเหตุการณ์หนึ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าบางทีคนที่รับเลี้ยงสุนัขอาจจะไม่ได้รักมันจริงๆ เหมือนอย่างคุณแม่ท่านนี้ที่ถูกแบนจากการเลี้ยงสัตว์เป็นเวลากว่า 10 ปี เพราะพบว่าเธอปล่อยให้ลูกสุนัข 4 ตัวอดอยากในกองขยะหลังบ้าน Carly Bennett ว่าที่คุณแม่ท้องแก่จาก Staffordshire ประเทศอังกฤษ ได้เลี้ยงสุนัข 4 ตัวไว้สวนหลังบ้าน ท่ามกลางสายฝนและปล่อยให้หิวโซ โดยเธอได้ให้เหตุผลว่าพวกมันเสียงดังจนทำให้เธอตื่น ทางองค์กรพิทักษ์สัตว์จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือ พบว่าสุนัขทั้ง 4 นั้นกำลังพยายามคุ้ยหาอาหารในซากกองขยะ อีกทั้งยังมีสภาพสกปรกและกลิ่นฉี่ที่รุนแรงมาก นอกจากนี้ยังค้นพบอีกว่าคุณแม่ลูกห้า ซึ่งกำลังตั้งท้องคนที่หกได้ปล่อยให้สุนัขตัวโตอดอยากด้วยเช่นกัน เมื่อปีที่แล้วเคยเข้าไปตรวจสอบแล้วครั้งหนึ่ง โดยอัยการ Roger Price กล่าวว่า “ตอนนั้นยังไม่มีใครอยู่ ดังนั้นผู้ตรวจสอบจึงต้องลงพื้นที่ มีเพื่อนบ้านแถวนั้นบอกว่าเธอนำลูกสุนัขไว้ในกล่องหลังบ้านตลอดทั้งคืน ท่ามกลางกองขยะ” ผู้ตรวจสอบก็เลยกลับไปที่บ้านนั้นอีกครั้ง แล้วก็ขอเข้าไปในบ้าน แต่เธอบอกว่าสามีของเธอเอาลูกหมาไปแล้ว แต่เธอก็ลองเข้าไปดูที่หลังบ้าน ตรวจสอบทุกซอกทุกมุมแล้วพบว่าที่นี่มีกลิ่นที่แรง อีกทั้งยังพบสุนัขโตเต็มวัย 3 ตัว ในสภาพที่โอเค เจ้าหน้าที่เล่าว่าที่หลังบ้านเต็มไปด้วยขยะ ทั้งชิ้นส่วนรถ และของต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อสุนัขด้วย นอกจากนี้ทางศาลยังเล่าว่าผู้ตรวจสอบได้ยินเสียงข่วนที่ประตู ก็เลยลองเปิดดู พบว่ามีลูกหมาอีก…
-
แบนเถอะว๊อย!! เชฟดัง Jamie Oliver เรียกร้องห้ามจำหน่าย “เครื่องดื่มชูกำลัง” ให้แก่เด็กๆ
Jamie Oliver คือเชฟชื่อดังที่ไม่ได้มีความสามารถแค่ในการทำอาหาร แต่เขายังเป็นผู้นำหลักที่ช่วยส่งเสริมและพัฒนามื้ออาหารสำหรับเด็กนักเรียนในประเทศอังกฤษ และในครั้งนี้เองเขาก็ได้นำเสนออีกหนึ่งแนวคิดที่สำคัญสำหรับอาหารการกินของเด็กๆ ในปัจจุบัน Jamie ต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการ “ห้ามขายเครื่องดื่มชูกำลังให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี” เพราะเขาพบว่าการที่เด็กดื่มเครื่องดื่มชนิดนี้เข้าไปจะส่งผลเสียให้กับผลการเรียนของพวกเขา Jamie Oliver เชฟชื่อดังผู้เป็นตัวตั้งตัวตีในหลายๆ โครงการที่เกี่ยวกับอาหาร พวกเราหลายๆ คนอาจเคยชินกับการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเวลาที่ต้องทำงานในตอนเช้า หรือบางคนก็อาจนำไปผสมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่สำหรับเด็กแล้วอาจไม่เป็นอย่างนั้น เพราะลองคิดกันดูว่าแม้แต่บริษัทผู้ผลิตเอง ยังย้ำให้เราฟังเสมอว่า “เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรดื่ม” ดังนั้นเราก็ไม่ควรขายให้เด็กไม่ใช่หรอ? แม้เราจะรู้ว่าเด็กไม่ควรจะดื่มอะไรแบบนี้ หรือแม้ว่าฉลากข้างขวดจะบอกเอาไว้ชัดเจนมากขนาดไหน แต่พวกเราก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจ ขายให้เหมือนเป็นเรื่องปกติอยู่ดี และจากการที่เราปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นมาโดยตลอด จึงทำให้มีสถิติการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังของเด็กอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง จากการศึกษาของ หน่วยงานความปลอดภัยด้านอาหารในยุโรป พบว่า กว่า 69 เปอร์เซ็นต์ของวัยรุ่นดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง รวมถึงเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปีอีก 24 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง จึงทำให้หลายๆ ที่ตระหนักถึงปัญหาและลงมือแก้ไข อย่างเช่นห้างสรรพสินค้า Waitrose ที่ไม่ขายเครื่องดื่มชูกำลังให้กับวัยรุ่น หรือแม้แต่สหภาพครู NASUWT ก็ยังออกมาเรียกร้องเช่นเดียวกันกับเชฟชื่อดังคนนี้ Kevin…
-
ผู้คนพากันแบนร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพียงเพราะว่ามีกฎ “ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 12 เข้าร้าน”
เวลาที่คุณไปร้านอาหารหรือร้านกาแฟก็คงจะเคยเห็นป้ายที่บอกกฎเอาไว้ว่าร้านนี้ห้ามไม่ให้คุณทำอะไร หรือนำอะไรเข้าไปบ้าง แต่สำหรับร้านของ Bob Hiiginson วัย 61 ปีที่เปิดร้านกาแฟภายใต้ข้อห้ามที่หลายคนอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เขาได้เปิดร้านที่มีชื่อว่า Chart Room เพิ่งเปิดมาราวๆ 1 เดือนในเมือง Brixham ประเทศอังกฤษ พร้อมกับกฎที่ว่า อนุญาตให้พาสุนัขเข้าร้านมาได้ แต่สำหรับเด็กอายุที่ต่ำกว่า 12 ปีแล้วจะไม่ให้เข้า ทำให้ผู้อยู่อาศัยในที่ไม่พึงพอใจและพากันแบนไม่เข้าร้านของเขา เพราะมองว่านี่ถือเป็นการแบ่งแยก สิ่งที่เขาทำนั้นได้บอกเหตุผลเอาไว้ว่า กลุ่มเป้าหมายหลักคือเพื่อคนที่มีอายุค่อนข้างสูง และพวกเขาส่วนใหญ่ต้องการความสงบ เขาเสริมอีกว่า “ผมอยากให้คนที่เข้ามาได้พูดถึงวันเก่าๆ หรือการสนทนากันโดยที่ไม่มีเด็กมารบกวน อีกทั้งของตกแต่งภายในร้านมีราคาแพงและไม่ได้มีกระจกมากั้นไว้เหมือนพิพิธภัณฑ์ ในอดีตเคยมีเด็กมาพังของในร้านไปแล้ว แต่สำหรับสุนัขนั้นมันไม่ได้กระโดดไปมา มันอยู่กันโดยไม่ทำลายข้าวของและผมไม่เคยเจอสุนัขนิสัยไม่ดีมาก่อน” ชาวบ้านที่ไม่โอเคกับเรื่องนี้ Wendy Moore ได้ออกมาประท้วงและคิดว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นการแบ่งแยกอย่างมากและชัดเจน ที่มองว่าเขามีสิทธิ์อะไรมาห้ามเด็กๆ ไม่ให้เข้าร้านของเขา Lee Knight ก็ได้มาเสริมอีกว่า “ผมมักจะไปในที่ที่เต็มไปด้วยความสุุข เด็กวิ่งเล่นกันไปมา มากกว่าที่จะไปร้านที่ดูมืด เงียบ ดูไม่น่าเข้า โดยที่ทุกคนนั่งบ่นพึมพำและจิบชากันไป แต่นั่นก็เป็นเพียงทางเลือกของผมนะ” ถึงแม้จะเป็นอย่างนั้นแต่ก็มีอีกกลุ่มที่ยังคงสนับสนุนกับความคิดนี้ของเขา ที่ออกมาบอกว่า…
-
นักร้องวง ‘Architects’ สั่งหยุดคอนเสิร์ตกลางคัน หลังพบผู้หญิงถูกลวนลามระหว่างแสดงสด..!!
กำลังกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วทั้งโลกวงการดนตรี หลังจากที่ Sam Carter นักร้องนำของวงเมทัล Architects หยุดเล่นเพลงกลางคันหลังพบว่ามีหญิงสาวถูกลวนลาม โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เทศกาลดนตรี Lowlands Festival ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างที่วงกำลังทำการแสดงสดอยู่นั้น จู่ๆ นักร้องนำก็สั่งหยุด พร้อมกับประกาศออกไมค์ด่ากราดถึงคนที่ลวนลามหญิงสาว วง Architects โดยหนุ่มนักร้องนำอ้างว่า ในระหว่างการแสดงสดและผู้คนกำลังเล่นบอดี้เสิร์ฟอย่างสนุกสนานนั้น จู่ๆ เขาสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโรยตัวอยู่บนฝูงประชาชน ถูกชายนิรนามเอามือเอื้อมไปคลึงเต้านมของเธอ ซึ่งการกระทำดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้แก่วงเป็นอย่างมาก นักร้องนำจึงประกาศออกไมค์ว่า “ผมคิดมาตลอดว่าจะพูดถึงสิ่งที่ผมเห็นเมื่อเพลงที่แล้วดีรึเปล่า… และผมทนไม่ไหวจนต้องพูดมันออกมา คุณรู้ไหมเพลงเมื่อกี้ผมเห็นสุภาพสตรีแฟนเพลงของผม ถูกไอ้งั่งแอบเอามือมาจับนมเธอ มึงรู้อะไรมั้ย!? นั่นไม่ใช่ร่างกายมึง และมึงไม่มีสิทธิ์ไปแตะต้องโว้ย และถ้าเอ็งยังอยากทำอีกนะ ขอให้ออกจากคอนเสิร์ตกูไปเลย ไอ้เวร…!!” คลิปวิดีโอที่เจ้าตัวด่ากราดคนที่ลวนลามสุภาพสตรีในคอนเสิร์ต ‘So, i’ve been going over in my f*cking mind about whether I should say something about…
-
รัฐ Victoria เตรียมแบน ‘เทพนิยาย’ ออกจากหลักสูตร ปลูกฝังเรื่องความเท่าเทียมแทน
โดยทั่วไปแล้วสื่อการสอนของแต่ละประเทศ ก็จะมีการนำเอาเทพนิยายใส่เข้าไปในหลักสูตรด้วย เรื่องราวในนิทานที่ถูกแต่งขึ้นเมื่อหลายร้อยปีก่อนเมื่อเทียบกับสภาพของสังคมในปัจจุบันแล้วต้องขอบอกเลยว่ามันช่างแตกต่างกันเหลือเกิน ล่าสุดในรัฐ Victoria ของประเทศออสเตรเลียได้ทำการประกาศว่าเตรียมที่จะแบนเทพนิยายพื้นบ้านอย่าง สโนว์ไวท์ หรือ โฉมงามกับเจ้าชายอสูร ออกจากหลักสูตรการเรียนการสอน และจะแทนที่ด้วยโปรแกรมการเรียนการสอนที่ชื่อว่า Respectful Relationships เข้าไปแทน เพื่อจัดการกับปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัว โดยจะใช้งบประมาณทั้งสิ้น 755 ล้านบาท และมีระยะการดำเนินการประมาณ 2 ปี ในการจัดทำหนังสือ ของเล่น สำหรับนักเรียนชั้นเตรียมอนุบาลเพื่อปลูกฝังความคิดในเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศให้เหล่าเด็กๆ ซึ่งเหล่าเทพนิยายทั้งหลายนั้นมีโอกาสที่จะทำให้เด็กผู้ชายมีความคิดว่าตัวเองเป็นใหญ่ และทำให้ผู้หญิงมองว่าเห็นคุณค่าของตัวเองน้อยลง สำหรับโปรแกรมใหม่นี้เด็กๆ จะได้ถูกตั้งคำถามว่าหากเปลี่ยนบทบาทของเหล่าตัวละครในเทพนิยาย อย่างเช่น ให้ผู้หญิงสวมชุดเกราะแล้วไปช่วยเจ้าชาย พวกเขาจะมีความคิดอย่างไร? จากนั้นคุณครูก็จะให้คำแนะนำกับเด็กๆ ถึงเรื่องของความแตกต่างระหว่างร่างกายของเพศสภาพ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเพศใดเพศหนึ่งจะมีความสูงส่งไปมากกว่ากัน แต่ถึงอย่างนั้นระบบการศึกษานี้และการแบนเทพนิยายเรื่องต่างๆ ก็ไม่ได้มีแต่คนที่เห็นด้วยเพียงอย่างเดียว รัฐมนตรีกระทรวงครอบครัวและเด็ก Jenny Mikakos ได้ออกมากล่าวว่า “ฉันอ่านเทพนิยายหลายเรื่องให้กับเด็กๆ ในครอบครัวของฉันฟัง และฉันก็จะทำมันต่อไป และฉันก็อยากจะให้พ่อแม่ทุกคนทำต่อไปเช่นกัน เด็กๆ ควรจะเติบโตมาโดยมีแนวทางชีวิตเป็นของตัวเอง ไม่ใช่นำความรู้สึกเรื่องความหลากหลายทางเพศสภาพไปยัดเยียดให้กับพวกเขา” แต่ถึงอย่างไรทางรัฐบาลก็ได้ออกมาแถลงว่าเทพนิยายจะไม่ถูกแบนออกไปโดยปริยาย แต่จะสนับสนุนให้เกิดการ ‘พูดคุย’…
-
ทางการนอร์เวย์เตรียมสั่งแบน “ตุ๊กตายางเด็กผู้หญิง” หวั่นเกิดปัญหาอนาจารในเยาวชนตามมา…
“เซ็กส์ดอล” หรือ “ตุ๊กตายาง” ถือว่าเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ตอบสนองอารมณ์ทางเพศที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน ด้วยรูปร่างที่เหมือนมนุษย์จริงๆ ทำให้มันกลายเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ แต่สุดทางตำรวจของนอร์เวย์ได้เปิดเผยว่า มีการสั่งซื้อตุ๊กตายางที่มีลักษณะเหมือนเด็กผู้หญิงจำนวนมากจากฮ่องกงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจำนวนนั้นเหล่านั้นค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยผู้ที่สั่งซื้อมีอายุตั้งแต่ 18-60 ปี โดยพวกเขาได้แสดงความกังวลว่า ตุ๊กตายางเด็กหญิงเหล่านั้น อาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาชญากรรมทางเพศในเด็กในอนาคต นอกจากนี้มันยังอาจฝ่าฝืนกฎหมายบางอย่างของนอร์เวย์อีกด้วย จนตอนนี้ผู้ที่ครอบครองตุ๊กตาดังกล่าวกำลังถูกติดตามอย่างใกล้ชิดโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากที่นอร์เวย์แล้ว ในออสเตรเลียก็มีประชาชนกว่า 60,000 คน ร่วมลงชื่อแบนการซื้อขายและนำเข้าตุ๊กตายางเด็กหญิงนี้ เนื่องจากอาจเป็นการส่งเสริมพวกที่ชอบร่วมเพศกับเด็ก (paedophile) อย่างไรก็ตาม องค์กรให้คำปรึกษาทางด้านเพศ Sexpo ได้แสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า พวกเขาไม่เห็นด้วยกับการแบนตุ๊กตายางดังกล่าว เพราะตุ๊กตายางเหล่านั้นถูกสร้างมาเป็นทางเลือกในการปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศของผู้ที่ชื่นชอบการร่วมเพศกับเด็ก (paedophile) ซึ่งการแบนอาจทำให้เกิดปัญหามากกว่าประโยชน์ (แต่ในหลากหลายประเทศต่างมีข้อกำหนดในการต่อต้านเรื่องทางเพศที่เกี่ยวกับเด็กอย่างจริงจัง) แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะฮะ ที่มา dailymail
-
Beauty and the Beast อาจจะโดนแบน หลังดิสนี่ย์เพิ่มบท “ตัวละครเกย์” เข้าไปในเรื่อง
เรียกว่าเป็นหนังที่หลายคนรอชมเลยทีเดียว สำหรับเรื่อง “Beauty and the Beast” หรือ “โฉมงามกับเจ้าชายอสูร” เวอร์ชั่นภาพยนตร์ที่นำแสดงโดย เอ็มมา วัตสัน นักแสดงหญิงชื่อดังแห่งยุคนี้ แต่ดูเหมือนว่าแฟนๆ จากประเทศรัสเซียอาจต้องรอเก้อซะแล้ว เพราะทางรัฐบาลรัสเซียกำลังจ่อแบนภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากการ์ตูนชื่อดัง ส่วนสาเหตุนั้นหลายๆ คนอาจจะไม่คิดว่ามันเกิดการแบนเพราะ มีการเพิ่มบทตัวละครเกย์เข้าไปในเรื่อง นี่โฉมงามเอ๋ย เราจะอดโกยเงินที่รัสเซียแล้วหรือ!?? ถ้าใครเคยดูการ์ตูนเวอร์ชั่นต้นฉบับจะทราบว่า เนื้อเรื่องฉบับเก่านั้นตัวละครในเรื่องจะมีบทบาทของหญิงและชายแบบชัดเจน ไม่มีตัวละครใดเลยที่มีลักษณะรักร่วมเพศ แต่ในเวอร์ชั่นหนังโรงล่าสุดนี้ ทางดิสนี่ย์ได้เพิ่มบทให้ตัวละคร เลอฟู (จอร์ช แกด) มีความรู้สึกพิเศษกับตัวละคร แกสตัน (ลุค อีแวน) ในลักษณะของเกย์ขึ้นมา บิล คอนดอน ผู้กำกับกล่าวว่า “มีใครซักคนแอบคิดขึ้นมาว่าจริงๆ แล้วเลอฟูอาจคิดอะไรเกินเจ้านายลูกน้อง จากนั้นจอร์ช (แกด) ก็ทำสิ่งพิเศษขึ้นมา ผมจึงไม่อยากตัดมันออกไปจากในหนัง มันจะต้องเป็นโมเมนต์เกย์ครั้งแรกในหนังดิสนี่ย์แต่นอน” อย่างไรก็ตามในประเทศรัสเซีย มีกฎหมายห้ามโปรโมตรักร่วมเพศควบคุมสื่ออยู่ ดังนั้นพวกเขาจะต้องทำการตรวจสอบหนังเวอร์ชั่นจริงก่อน ว่าเข้าข่ายหรือไม่ หากเข้าข่าย ก็ต้องแบนในรัสเซียไปตามระเบียบ เมื่อสำนักข่าวบีบีซีแห่งประเทศอังกฤษ ถามเรื่องนี้ไปยังฝั่งรัสเซีย ก็ได้คำตอบจาก Vladimir Medinsky รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม…
-
นิตยสาร Playboy ประกาศกลับมาใช้รูปเปลือยอีกครั้ง หลังเพิ่งแบนไปเมื่อปีที่ผ่านมา!??
หลังจากที่นิตยสารปลุกใจเสือป่าชื่อดังระดับโลกอย่าง Playboy ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าจะทำการแบนภาพเปลือยออกไปจากนิตยสารเมื่อปีที่ผ่านมา… แต่เหมือนอะไรจะดลใจ มีเสียงต่อต้าน หรือผลประโยชน์อะไรบางอย่างเราก็ไม่ทราบได้ เพราะล่าสุดพวกเขาก็ได้ออกมาประกาศยกเลิกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อปีก่อนว่าจะทำการแบนรูปเปลือยทั้งหมดออกจากนิตยสารเพราะต้องการที่จะดึงดูดผู้อ่านหลักและผู้ลงโฆษณาให้มากยิ่งขึ้น แต่สุดท้ายแล้วนโยบายดังกล่าวก็ถูกล้มเลิกไป เพราะเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาทางนิตยสาร Playboy ได้ลงรูปเปลือยของนางแบบ Elizabeth Elam พร้อมกับโคว้ตข้อความว่า “การเปลือยเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดา” เรื่องนี้ต้องอ้างไปถึงนาย Cooper Hefner ลูกชายของผู้ก่อตั้งนิตยสาร Playboy ที่เข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายครีเอทีฟของ Playboy เมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตามรายงานได้บอกเอาไว้ว่าเขาเป็นคนที่ไม่เห็นด้วยกับการแบนภาพเปลือย ซึ่งเป็นจุดเด่นของนิตยสารตั้งแต่ครั้งแรกที่ตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี 1953 (โดยมีนางแบบผู้โด่งดังคือ Marilyn Monroe ที่คนจะรู้จักมากที่สุด) ทางนิตยสาร Playboy กล่าวเอาไว้ว่า ในยุคนี้ผู้คนสามารถเข้าถึงสื่อลามกได้อย่างง่ายดายผ่านทางระบบออนไลน์ ทำให้ยอดขายและผู้อ่านนิตยสารลดลง “ผมจะเป็นคนแรกที่จะยอมรับในวิถีทางของนิตยสารอย่างที่เราเคยทำมาก่อน ซึ่งการนำภาพเปลือยออกไปถือเป็นการกระทำที่ผิดพลาด ภาพโป๊เปลือยไม่เคยเป็นปัญหา เพราะการเปลือยไม่ใช่ปัญหา วันนี้เราจะนำเอกลักษณ์เฉพาะตัวแบบที่เราเคยเป็นมาตลอดกลับมาและจะทำให้ทุกคนรู้จักเราในแบบที่เป็นเราอย่างแท้จริง” Cooper กล่าว จากการตัดสินใจในครั้งนี้เรียกเสียงตอบรับที่ดีจากกลุ่มเรียกร้องสิทธิให้สตรี เพราะดูเหมือนว่าบางกลุ่มจะเห็นว่าภาพเปลือยของผู้หญิงก็เป็นสิ่งที่ปกติธรรมดา และการแบนมันออกไปก็เหมือนกับการดูถูกกันนั่นเอง… นี่สิถึงจะเรียกว่า ‘นิตยสารปลุกใจเสือป่า’…
-
เครื่องเล่นมหาหวาดเสียว Tagada ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับแรง G โดยไร้อุปกรณ์เซฟตี้ใดๆ!!
สำหรับคนที่ชื่นชอบความหวาดเสียวแล้วล่ะก็ จะต้องชื่นชอบเจ้าเครื่องเล่นที่ #เหมียวหง่าว จะพาไปชมในวันนี้อย่างแน่นอน!! มันมีชื่อว่า Tagada เป็นเครื่องที่มีลักษณะเหมือนจานขนาดยักษ์ ที่จะให้ผู้เล่นเข้าไปนั่งเป็นวงกลม พร้อมทั้งไม่มีอุปกรณ์เซฟตี้ในๆ เลยนอกจากราวเกาะที่เป็นพนักพิงหลังแค่นั้นเอง โดยเจ้า Tagada นี้จะหมุน และเขย่าไปเรื่อยๆ ผู้เล่นจะต้องต่อสู้กับแรง G ที่เกิดขึ้นจากแรงเหวี่ยง หากใครเกาะราวเหล็กไว้ไม่ดีล่ะก็ อาจะกระเด้งกระดอนไปมาอยู่ในวงกลมนั้นจนอาจได้รับบาดเจ็บได้เลยล่ะ ในบางประเทศอย่างเช่น สหรัฐอเมริกา หรือประเทศออสเตรเลีย เจ้าเครื่องเล่น Tagada นี้ถูกตัดสินให้เป็นเครื่องเล่นที่มีความอันตราย และผิดกฎหมาย แต่ก่อนหน้านี้มันก็ฮิตในหลายๆ ประเทศแถบยุโรปด้วยเช่นกัน เช่น อังกฤษ หรือ สวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่จะมีข่าวว่ามีผู้เล่นได้รับบาดเจ็บหนักจากเครื่องเล่นนี้ จึงทำให้ถูกแบนไปในที่สุด แต่กลับกันปราะเทศทางแถบเอเชียก็ยังมีการเปิดให้เล่นเจ้า Tagada นี้อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะสวนสนุกในเกาหลีใต้ และประเทศเมียนมาร์ ลองไปชมคลิปตัวอย่างการเล่นของเจ้า Tagada กันที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า แต่ถึงจะดูน่าสนุกแค่ไหน แต่ก็รู้สึกได้ถึงความน่ากลัวไม่แพ้กันเลยนะเนี่ย …
-
แม้ “ทรัมป์” จะมีคำสั่งแบนผู้อพยพ แต่ Google เตรียมต่อต้านด้วยการบริจาค 140 ล้านให้ผู้ลี้ภัย
กลายเป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวางไปทั่วโลกเลยทีเดียว สำหรับนโยบายของประธานาธิบดีคนล่าสุดของสหรัฐอเมริกา โดนัดล์ ทรัมป์ เมื่อเขาได้ลงนามคำสั่งห้ามผู้อพยพเข้าประเทศชั่วคราว รวมทั้งแบนไม่ให้ชาวมุสลิมจาก 7 ประเทศเข้าสหรัฐอเมริกา แม้พวกเขาเหล่านั้นจะมีกรีนการ์ดก็ตาม โดยช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมาทรัมป์ได้ลงออกคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้อพยพเข้าสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาอย่างน้อย 120 วัน และในอีกสามเดือนข้างหน้า พวกเขาจะแบนวีซ่าจาก 7 ประเทศมุสลิม ประเทศในลิสต์ได้แก่ อิรัก อิหร่าน ลิเบีย โซมาเลีย ซูดาน ซีเรีย และเยเมน เพื่อคัดกรองและลดความเสี่ยงที่จะมีผู้ก่อการร้ายแฝงตัวเข้ามาในประเทศ คำสั่งดังกล่างสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก เพราะคำสั่งแบนผู้อพยพดูจะขัดกับอุดมการณ์ของสหรัฐอเมริกาที่เป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ รวมทั้งการแบนวีซ่า 7 ประเทศมุสลิมไม่เพียงส่งผลเฉพาะนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ผู้ที่เข้ามาพักอาศัยและทำงานในสหรัฐอเมริกาด้วยวีซ่าทำงานก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ล่าสุด ซันดาร์ พิชัย ซีอีโอของบริษัท Google คนปัจจุบัน เตรียมบริจาคเงินกว่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (70 ล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพ และเขาเชื่อว่าพนักงานของบริษัท ก็จะช่วยบริจาคกันอีกราวๆ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พิชัยได้กล่าวอีกว่าจะมีพนักงานของ Google ราวๆ 200 คน ได้รับผลกระทบจากคำสั่งแบนวีซ่ามุสลิมครั้งนี้ ซึ่งพวกเขาได้สั่งให้พนักงานเหล่านั้น กลับมาในสหรัฐอเมริกาทันทีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…
-
คุณแม่ทดลอง ห้ามลูกชายใช้ ‘โทรศัพท์มือถือ’ และพบว่าพฤติกรรม ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!!
เรียกได้ว่าตั้งแต่ที่ ‘สมาร์ทโฟน’ ได้ถือกำเนิดขึ้น เทคโนโลยีชนิดนี้ก็เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์เราไปค่อนข้างจะมากพอสมควร ลองนึกย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว มนุษย์เรายังไม่รู้จักการก้มหน้ากดมือถือ หรือเอามันขึ้นมาใช้แทบจะทุกสถานที่ และทุกเวลา เหมือนเช่นทุกวันนี้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งส่วนตัว #เหมียวบ็อบ มองว่าเทคโนโลยีชนิดนี้ มันมีทั้งข้อดี และข้อเสียในตัวมันเองนั่นแหละ ข้อดีคือไม่ว่าเราจะทำอะไรมันก็สะดวกรวดเร็ว ง่ายต่อการติดต่อ หรือบันทึกเรื่องราวต่างๆ แต่กลับกันถ้าหากเราติดมันมากจนเกินไป ก็อาจทำให้ใครบางคนไม่คิดจะทำอะไรอย่างอื่น นอกจากนั่งกดมือถือทั้งวี่ทั้งวัน เรียกได้ว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วโลก เช่นเดียวกับลูกชายสุดที่รักของคุณแม่ ‘Karly Tophill’ ครูสอนโยคะจากเมืองคอร์นวอลล์ ประเทศอังกฤษ ‘Karly Tophill’ และลูกชายของเธอ ปัญหามันมีอยู่ว่าลูกชายของเธอวัย 13 ‘Dylan’ เป็นหนุ่มที่ติดโทรศัพท์มือถือมาก เธอสังเกตเห็นพฤติกรรมของลูกชายตัวเองว่า ทุกวันไม่ว่าจะหลังกลับจากโรงเรียน ทำการบ้านเสร็จ กินข้าว อาบน้ำ กิจกรรมต่อไปที่ลูกชายเธอมุ่งให้ความสนใจ ก็คือการง่วนอยู่กับโทรศัพท์มือถือ และการเล่นโซเชียลมีเดีย “ลูกชายของฉันติดมือถือมากเหลือเกิน ทุกวันเขาจะหมดเวลาไปกับการเล่นโซเชียลมีเดียทางมือถือ นั่งเลื่อนจอโทรศัพท์ไปมาได้ทั้งวัน ซึ่งส่วนตัวฉันมองว่ามันช่างเป็นอะไรที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะเด็กวัยนี้ น่าจะได้เรียนรู้กิจกรรมอะไรที่มากกว่านี้” คุณแม่ให้สัมภาษณ์กับ Dailymail ด้วยเหตุนี้เองคุณแม่จึงตัดสินใจออกมาตรการเด็ดขาด สั่งห้ามไม่ให้ลูกชายเล่นโทรศัพท์มือถือ…
-
นี่คือ 11 สิ่งที่แสนจะธรรมด๊า ธรรมดา แต่กลับถูกแบนจากรัฐบาลในประเทศเหล่านี้!!??
ถ้าเรามาว่ากันด้วยเรื่องสิ่งของที่ถูกรัฐบาลสั่งห้าม มันทำให้เรารู้สึกคันปากยุบยิบเหลือเกิน จะนั่งเม้ามอยเรื่องนี้ทั้งวันก็คงไม่จบ เพราะสำหรับประเทศเราดูเหมือนอะไรๆก็ถูกสั่งห้าม สั่งแบน ไปซะทั้งหมด (อย่างเช่นเว็บโป๊เป็นต้น ฮือๆๆๆ T_T) แต่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับไทยเราเท่านั้น เพราะ 11 สิ่งที่มันสุดแสนจะธรรมดาทั้งหลายนี้ ดั๊นนกลายเป็นของต้องห้าม และถูกแบนในประเทศเหล่านี้ซะงั้น!? 1.ออสเตรเลีย: สั่งแบนหนังโป๊ที่นางเอกนมเล็ก สำหรับหนุ่มๆที่ชอบสาวนมเล็ก เราขอเสียใจด้วยที่ประเทศนี้อาจจะหาหนังผู้ใหญ่แนวๆนี้ให้ดูไม่ได้ อีกทั้งนางเอกหน้าอกเล็ก ก็อาจจะไม่ได้แจ้งเกิดเช่นเดียวกัน ทางรัฐบาลให้เหตุผลว่า การที่เนื้อหาในหนังโป๊มีนางเอกนมเล็ก มันชวนให้นึกถึงเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี และอาจเป็นสาเหตุของการก่ออาชญกรรม หรือการข่มขืนผู้เยาว์ได้ แต่กฏย่อมมีไว้แหก ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะสั่งแบน ใช่ว่าจะไม่มีหนังโป๊นางเอกนมเล็กอยู่เลย เพียงแต่อาจจะได้รับความนิยมน้อยหน่อยในประเทศนี้เท่านั้นเอง ที่มา: Theregister 2. จีน: เครื่องเกมคอนโซล ถึงแม้ว่าเครื่องเกมส่วนใหญ่จะมีฐานการผลิตในประเทศจีน แต่ก็น่าแปลกที่รัฐบาลจีนไม่อนุญาติให้วางขายเครื่องเกมคอนโซลได้ การออกกฏสั่งห้ามเริ่มตั้งแต่ปี 2000 โดยทางรัฐบาลให้เหตุผลว่า เครื่องเล่นเกมเหล่านี้จะมอมเมาเยาวชนของชาติ ส่งผลทำให้ไม่ยอมทำการทำงาน มัวแต่เสียเวลาไปแต่กับการเล่นเกมอย่างเดียว ที่มา: Time 3. กรีซ: วิดีโอเกม ไม่ใช่แค่จีนเท่านั้นที่เคยสั่งแบนเครื่องเล่นเกม แต่ครั้งหนึ่งเมื่อปี…
-
มาเลเซียเตรียมเปลี่ยนชื่อ “ฮอตดอก” เพราะอาจขัดต่อแนวทางอิสลาม เรื่องสุนัขเป็นสิ่งสกปรก
ทางรัฐบาลในมาเลเซียเตรียมที่จะเปลี่ยนชื่อ “ฮอตดอก” หรือบางทีอาจจะถูกแบนไปเลยก็ได้ เนื่องจากว่าเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นมุสลิม และเคร่งเรื่องฮาลาลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าฮอตดอกจะเป็นอาหารจากตะวันตก แต่ทางมาเลเซียก็ได้ปรับปรุงอาหารชนิดนี้ใหม่ จากเดิมทีที่ใช้เนื้อหมู ก็เปลี่ยนมาใช้เนื้อไก่แทน Sirajuddin Suhaimee อธิบดีกรมการพัฒนาอิสลามมาเลเซีย กล่าวว่าเขาได้รับข้อร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวมุสลิมมากมายเกี่ยวกับการใช้ชื่อฮอตดอกนี้ ผลิตภัณฑ์ฮาลาลนี้จะทำให้คนสับสน จึงต้องเปลี่ยนชื่อ อีกทั้งสุนัขในศาสนาอิสลามถือเป็นสัตว์ที่สกปรก ดังนั้นชื่อของมันไม่ควรได้รับเครื่องหมายฮาลาล นอกจากนี้ร้านอาหารแห่งไหนที่ไม่ยอมทำตามกฎอาจจะไม่ได้รับเครื่องหมายฮาลาลและถูกแบนได้ หลังจากข่าวนี้ได้ถูกเผยแพร่ไปก็ได้มีเสียงวิจารณ์เป็นอย่างมาก เช่น “ควรเคร่งที่เรื่องศาสนา.. อย่าทำตัวเป็นที่ปรึกษาภาษาอังกฤษ” หรือ “งั้นร้านสัตว์เลี้ยงก็ต้องเปลี่ยนชื่อสุนัขเป็นไส้กรอกด้วยอ่ะดิ” ซึ่งส่วนมากผู้คนต่างก็คิดไปในแนวที่ว่าควรที่จะจริงจังกับวัตถุดิบที่ใช้มากกว่าการเปลี่ยนชื่ออาหารเพื่อให้ได้รับฮาลาล ที่มา dailymail
-
ฝรั่งเศสเตรียมประกาศแบน ‘ถ้วยชามช้อนพลาสติก’ ตามโร้ดแม็พสู่การเป็นประเทศสีเขียว!!
อย่างที่เราพอจะทราบกันอยู่ว่า หนึ่งในสิ่งที่ทำให้โลกของเราประสบกับปัญหาภาวะโลกร้อนอย่างในปัจจุบันนี้นั้นก็คือพลาสติกนี่แหละ และของพื้นๆ อย่างแก้ว จาน ช้อน และส้อมนั้น ส่วนมากก็ทำมาจากสิ่งเหล่านี้ซะด้วยสิ แต่ล่าสุดประเทศฝรั่งเศสก็ได้ออกกฎหมายเอาจริงกับเรื่องนี้แล้ว ซึ่งจะส่งผลบังคับทันทีในราวๆ ปี 2020 ที่จะถึงนี้ ห้ามไม่ให้มีการใช้หรือผลิตถ้วย แก้ว จาน ช้อน และส้อม ที่มาจากพลาสติกทั้งหมด!!! และนี่คือส่วนหนึ่งในความตั้งใจของรัฐบาลเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้กลายเป็นประเทศอนุรักษ์ธรรมชาติ… ประกาศห้ามใช้ถ้วย แก้ว จาน ช้อน และส้อมที่ทำมาจากพลาสติก และช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ ก็ได้มีการประกาศไม่ให้ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ แถมถุงพลาสติกให้กับเหล่าลูกค้าแล้ว โดยในแต่ละปีแค่ส่วนของแก้วพลาสติกนั้นประเทศฝรั่งเศสมีการผลิตมาทั้งหมดกว่า 4,730 ล้านชิ้นด้วยกัน และมีเพียงร้อยละ 1 เท่านั้นที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดนี้สิ้นเปลืองทั้งพลังงาน และยังเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย แน่นอนว่าเรื่องนี้บริษัทผลิตอุปกรณ์พลาสติกต่างๆ เริ่มมีการเคลื่อนไหวบ้างแล้ว เพื่อกดดันให้ EU ไปกดดันฝรั่งเศสให้เลิกกฎหมายนี้เสีย เพราะกระทบต่อภาคธุรกิจนี้อย่างมาก ก็ต้องรอดูว่าผลจะออกมาเป็นยังไงเนาะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวเล็กๆ ของประเทศๆ เดียว แต่จะมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าจับตามองมากๆ ในอนาคตอย่างแน่นอน ที่มา: Metro
-
รู้จัก “แคสเตอร์ เซเมนยา” นักวิ่งหญิงโอลิมปิก ที่เคยถูกแบนเพราะโครโมโซมเป็น “ผู้ชาย”
ทุกวันนี้ในการแข่งขันกีฬาแทบทุกชนิด จะต้องมีการแบ่งแยกเพศของผู้เข้าแข่งขันออกจากกัน เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า ผู้ชายนั้นมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงกว่าผู้หญิง ถ้าไม่แบ่ง ก็อาจไม่ยุติธรรมต่อเหล่านักกีฬาเพศหญิงเท่าไหร่นัก แต่รู้หรือไม่ ครั้งหนึ่งเคยมีนักกรีฑาหญิงคนหนึ่ง ถูกแบนจากการแข่งขันและริบรางวัลทุกอย่างที่เคยทำได้ไป เพราะว่าเธอนั้นมีโครโมโซมเป็น “ผู้ชาย”!! นักกรีฑาคนนี้มีชื่อว่า Caster Semenya วัย 25 ปี จากประเทศแอฟริกาใต้ เธอเริ่มสร้างชื่อในการเข้าแข่งขันกีฬายูธคอมมอนเวลท์เกมในปี 2008 ด้วยการคว้าเหรียญทองในวัย 17 ปี และในปีต่อมา เธอก็คว้าเหรียญทองในการแข่งขันชิงแชมป์โลก ที่กรุงเบอร์เลิน ประเทศเยอรมันนี ในวัยพียง 18 ปีเท่านั้น หลายคนอาจคิดว่านี่คือจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของเธอแต่เปล่าเลย นั่นคือจุดเริ่มต้นของมรสุมในชีวิตของเธอต่างหาก เพราะหลังจากการแข่งขัน หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงร่างกายอันบึกบึนกำยำของเธอ ซึ่งดูไม่เหมือนผู้หญิงเป็นอย่างมาก จนในที่สุดเธอก็ยอมเข้ารับการตรวจโครโมโซมเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผลที่ออกมาพบว่าเธอมีโครโมโซมแบบ XY ซึ่งแปลว่าเธอเป็นผู้ชาย!!! เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนั้น ทางสหพันธ์สมาคมกรีฑานานาชาติ (IAAF) จึงไม่รอช้าแบนเธอจากการแข่งขันทุกชนิดในทันที พร้อมทั้งริบรางวัลที่เธอเคยได้ทั้งหมด พร้อมกับคำครหาว่า เธอแปลงเพศมาเข้าแข่งขันงั้นหรือ!??? ผลของการแบนทำให้เธอไม่สามารถลงแข่งในการแข่งขันระดับนานาชาติที่รองรับผลโดย IAAF แต่แต่รายการเดียว…
-
คิดเห็นกันอย่างไร… เมื่อ กสทช. ขีดเส้นตายเจรจา Niantic และอาจถึงขั้นแบน Pokemon GO
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเชื่อว่าคงไม่มีกระแสใดฮิตไปกว่า Pokemon GO เกมสุดฮิตจากค่าย Niantic.Inc ที่ให้ผู้เล่นสามารถตามจับโปเกมอนบนโลกแห่งความเป็นจริงได้ โดยอาศัยระบบ GPS บนโทรศัพท์มือถือของเราในการติดตาม อย่างไรก็ตามก็มีรัฐบาลหลายๆ ประเทศได้ออกมาแสดงความกังวลว่า การตามหาโปเกมอนของเหล่าโปเกมอนเทรนเนอร์ อาจบุกรุกเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามของทางราชการได้ จนรัฐบาลประเทศอิหร่านประกาศแบนเกม ส่วนทางรัสเซียมีแผนที่จะแบนเกมนี้ภายในเร็วๆ นี้ ล่าสุดทางรคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้ออกมากล่าวถึงความเป็นไปได้ในการแบนเกม Pokemon GO ในประเทศไทย หากทาง Niantic ไม่ให้ความร่วมมือในการถอนพิกัดต้องห้าม 4 แห่งในประเทศไทย (แหล่งข่าว) โดยทาง นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ‘ทาง กสทช. ไม่มีความคิดที่จะแบนเกมนี้แต่อย่างใด แต่หากทาง Niantic ไม่ให้ความร่วมมือ อาจต้องประสานไปยังกระทรวง ICT เพื่อหามาตรการในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว’ อย่างไรก็ตาม เมื่อชาวเน็ตได้เห็นข่าวดังกล่าว ก็ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย . . . …
-
‘อิหร่าน’ เป็นประเทศแรกที่แบน Pokemon GO ด้วยเหตุผลของเรื่อง ‘ความปลอดภัย’
พูดถึงเกมสุดฮิตอย่าง ‘Pokemon GO’ คงไม่มีใครไม่รู้จักแน่นอน เพราะเป็นเกมที่ฮิตเล่นกันตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่เลย ซึ่งตอนนี้ก็เปิดให้เล่นแล้วในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งบ้านเราด้วย และตามมาด้วยกระแสต่างๆ ทั้งด้านบวกและด้านลบ แม้จะเป็นเกมที่ฮิตจนอดเล่นไม่ได้ แต่ล่าสุด อิหร่านเป็นประเทศแรกที่ประกาศแบน ‘Pokemon GO’ อย่างเป็นทางการแล้ว และได้บล๊อคข้อมูลเกี่ยวกับเกมนี้ทุกทาง ไม่ว่าจะทาง Youtube Facebook Twiter ตามเว็ปไซต์ต่างๆ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นด้วย โดยรัฐบาลอิหร่านให้เหตุผลว่า เป็นห่วงเรื่อง ‘ความปลอดภัย’ เพราะตั้งแต่มี Pokemon GO ทำให้ประชาชนติดกันอย่างทั่วไปทั่วเมือง และทำให้พวกเขาสามารถเดินเข้าเดินออกตามสถานที่ต่างๆ ทั้งกลางวันกลางคืน ซึ่งบางทีอาจทำให้พวกเขาได้รับอันตรายได้ อีกหนึ่งเหตุผลคือ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่นั้นนับถือมุสลิม และการเล่นเกมแบบ AR Mobile มีคอนเท้นบางส่วนที่ขัดต่อหลักการปฏิบัติตัวในทางศาสนา แต่ปัญหาดังกล่าวนี้ สำนักข่าว BBC มีรายงานว่า รัฐบาลอิหร่านได้พูดคุยกับทาง Niantic ว่าให้เปลี่ยนแปลงเนื้อหาบางส่วน เพื่อที่จะสามารถเปิดเกมนี้ต่อในอิหร่าน แต่ทาง Niantic ไม่สามารถปรับเปลี่ยนให้ได้ จึงทำให้อิหร่านประกาศแบนเกมนี้ออกจากประเทศในที่สุด เห็นข่าวนี้แล้วย้อนมามองดูบ้านเรา Pokemon GO คงจะไม่ถูกแบนหรอกเนอะ…
-
สหรัฐฯ ลงโทษสาวมือบอน ขีดเขียนในอุทยานแห่งชาติ ‘แบน’ ไม่ให้เข้าอุทยานทุกแห่งในประเทศ!!!
เรื่องราวของคนมือบอนมีอยู่ทั่วทุกมุมโลก โดยเฉพาะพวกที่ชอบขีดเขียนบนสถานที่สำคัญทางธรรมชาติ จนทำให้ธรรมชาติอันงดงามต้องด่างพล้อย ซึ่งแต่ละที่ก็มีบทลงโทษที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเพื่อนๆ คิดจะไปมือบอนในอุทยานแห่งชาติของประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อนๆ อาจเจอบทลงโทษสุดโหดแบบนี้ได้ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย!! เรื่องราวดังกล่าวเป็นของหญิงสาววัย 23 ปีชื่อว่า Casey Nocket ในช่วงปี 2014 เธอได้ออกเดินทางท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติสำคัญๆ ในสหรัฐอเมริกาหลายแห่ง ซึ่งทุกที่ที่เธอไป เธอจะแอบเขียนภาพลงไปบนโขดหินหรือหน้าผา และจากนั้นเธอก็จะอัพรูปลงไอจีเพื่ออวดผลงาน ซึ่งเธอใช้นามแฝงว่า “Creepytings” ครั้งหนึ่งเธอเคยโพสแคปชั่นในรูปของเธอว่า “มันคือศิลปะ ฉันไม่ได้ชอบทำลายข้าวของส่วนรวม และฉันก็เป็นศิลปินคนหนึ่ง” เมื่อผลงานของเธอเผยแพร่ออกไป ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์บนอินเตอร์เน็ตถึงความไม่เหมาะสม โดยมีอุทยานแห่งชาติถึง 7 แห่งที่มีภาพของเธออยู่ แม้เธอจะลบภาพออกในทันทีเมื่อเรื่องแดงขึ้นมา แต่นั่นก็ไม่ทันแล้ว หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ถูกจับกุมในเวลาต่อมา…. Phillip Talbert โจทย์ในคดีกล่าวต่อศาลว่า “ภาพวาดของเธอนั้น เป็นการที่แสดงให้เห็นถึงความไม่เคารพในกฎหมายและสมบัติของชาติของพวกเรา” “ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหน้าที่อุทยานต้องทำงานอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูสิ่งที่เธอทำลายลงไป และจนถึงตอนนี้ ยังมีอีกสองแห่ง ที่ยังไม่สามารถทำให้กลับมาเป็นดั่งเดิม” หลังจากต่อสู้กันในชั้นศาลมานาน สุดท้ายแล้วศาลตัดสินห้ามไม่ให้เธอเข้าอุทยานแห่งชาติทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา รวมถึงต้องบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณะอีก 200 ชั่วโมงเพื่อเป็นการลงโทษ และต้องจ่ายค่าปรับให้กับเจ้าหน้าที่อุทยานอีกด้วย ซึ่งยังไม่ระบุจำนวนว่าเธอต้องจ่ายเท่าไหร่ …
-
รูปถ่ายหน้าท้องที่ห่างกัน 12 ชั่วโมง บ่งบอกให้รู้ว่าร่างกายเปลี่ยนแปลงได้ถ้าไม่ดูแล!!
การมีหน้าท้องที่แบนราบถือว่าเป็นสิ่งที่สาวๆ หลายคนปรารถนา เพราะหน้าท้องที่แบนราบนอกจากหมายถึงรูปร่างที่สวยงามแล้ว ยังหมายถึงสุขภาพที่ดีอีกด้วย แต่หากวันหนึ่งหญิงสาวที่ดูแลสุขภาพตัวเองมาอย่างดีโดยตลอด กลับมีหน้าท้องโผล่ขึ้นมาอย่างน่าตกใจ เธอจะรู้สึกอย่างไร เราลองไปฟังความรู้สึกของเธอกันดีกว่า เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ Tiffany Brien บิวตี้บล็อกเกอร์ชื่อดังคนหนึ่งที่มีผู้ติดตามบนไอจีกว่า 20,000 คน เธอได้แชร์ภาพ “วันร้ายๆ” ของเธอ เพื่อเตือนใจให้คนหันมาดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง โดยภาพที่เธอโพสนั้น เป็นภาพหน้าท้องของเธอเองที่มีอาการ “บวม” อย่างเห็นได้ชัด ส่วนอีกภาพกลับเป็นหน้าท้องที่แบนราบ ที่น่าตกใจคือ ภาพทั้งสองภาพถ่ายห่างกันเพียงแค่ 12 ชั่วโมงเท่านั้น เธอกล่าวว่า “บางครั้ง เราก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นบนโซเชียลเน็ตเวิร์คเสมอไป” “ภาพที่ฉันนำมาโพสแสดงให้เห็นว่า ไม่มีใครสมบูรณ์แบบตลอดไป บางวันร่างกายคุณก็รู้สึกอ่อนล้าเสียเหลือเกิน จนไม่อยากทำอะไร ไม่ต้องกังวล มันเกิดขึ้นกับทุกคนนั่นแหละ” เธอบอกว่า หน้าท้องที่บวมเป่งของเธอนั้นเกิดจาก “การนอนไม่พอ” “ความเครียด” “ฮอร์โมน” และ “การแพ้อาหาร” ซึ่งเธอบอกว่า อาการหน้าท้องบวม เป็นสิ่งที่เธอต้องเจอมาตลอดชีวิต หลังจากที่เธอพยายามค้นคว้าข้อมูล เธอพบว่าการกินแบบธรรมดา และทำสิ่งเดิมๆ ซ้ำๆ เป็นจุดเริ่มต้นของอาการนี้ แต่เธอก็ยังไม่รู้ว่าจริงๆ แล้ว อะไรเป็นสาเหตุกันแน่ “ฉันทำทุกอย่างตามปกติ…
-
ขายทับที่!? เผยพฤติกรรมแอดมินกลุ่ม ‘เปิดท้ายชานเรือน’ ใครขายดีกว่า โดนแบนออกจากกลุ่ม
ช่องทางการค้าขายเดี๋ยวนี้ ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น เราจะเห็นได้ว่าพ่อค้าแม่ค้าหันมาจับตลาดออนไลน์กันเต็มไปหมด และถ้าจะให้ขายได้ดี มีกลุ่มลูกค้าเยอะ การเข้ามาขายของในกลุ่มที่จัดตั้งเฉพาะก็นับว่าเป็นอีกช่องทางที่ดี แต่แล้วเมื่ออยู่ดีๆ ลงขายของเล่นเด็ก ดันโพสต์ตามปกติ มีลูกค้าเข้ามาติดต่อ แล้วจู่ๆ โพสต์ก็หายไปดื้อๆ แถมยังตามหากลุ่มขายของไม่เจออีก อย่างคุณ มงคล 999 ที่นำมาโพสต์ในพันทิป ตามแชทสอบถามแอดมินกลุ่มก็ไม่ได้คำตอบใดๆ จนกระทั่งมารู้ความจริงว่าไปขายทับที่แอดมินกลุ่มที่ขายทรายวิทยาศาสตร์ จึงเป็นเหตุทำให้โดนลบออกจากกลุ่ม ซึ่งนอกเหนือจากกรณีนี้แล้ว ยังมีสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ ที่โดนในรูปแบบเดียวกัน การนำสินค้าประเภทของเล่นเด็กมาประกาศขายภายในกลุ่ม ก็จะถูกบล็อกและลบโพสต์เช่นเดียวกัน สืบกันไปสืบกันมา จนกระทั่งคุณ เอรสเปรสโซ่หวานน้อย พบกับความจริงที่ว่าแอดมินกลุ่มที่สร้างกลุ่มขายของเล่นเด็กขึ้นมานั้นเป็นเจ้าของเดียวกัน คู่สามีภรรยา มาเปิดกลุ่มขายของเล่นเด็ก แต่กลับแบนพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นออกจากกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ขายของเหมือนกับแอดมินและขายดิบขายดีจนมากเกินไป จะถูกแบนอย่างรวดเร็ว ทั้งๆ ที่พ่อค้าแม่ค้ารายอื่นก็ทำตามข้อตกลงกฎการลงขายของกลุ่มแล้วก็ยังโดนอยู่ดี . . . อารมณ์แบบนี้ประมาณว่าเปิดร้านตั้งอยู่ในย่านที่มีคนผ่านมาดูเยอะ พอพ่อค้าแม่ค้ารายอื่นมาตั้งข้างๆ ขายของคล้ายๆ กัน บางรายอาจจะขายได้ดีกว่าก็เลยไล่ที่ออกไป เพื่อให้ตัวเองสามารถขายได้ต่อไป ถ้า…
-
เอาล่ะสิ ทางการจีนออกมาแบนการแพร่ภาพสด ‘กินกล้วย’ เพราะเย้ายวนและเซ็กซี่เกินไป!?
ก็กลายเป็นเรื่องที่ถูกแบนกันซะงั้น ฮ่าๆๆ เมื่อล่าสุดทางการจีนก็ได้ออกมาแบนการถ่ายทอดสดการกินกล้วยในประเทศจีน ซึ่งให้เหตุผลว่ามีผู้คนจำนวนมากที่ถ่ายทอดสดด้วยท่าทีที่เย้ายวนและเซ็กซี่เกินไป!!? เพราะฉะนั้นตอนนี้การถ่ายทอดสดหรือแพร่ภาพสดที่เกิดขึ้นภายในประเทศจีนนั้น จะถูกควบคุมอย่างเข้มงวดขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการกินกล้วยแบบอีโรติคๆ ออกมาให้ได้เห็นกันอีก ถ้าเพื่อนๆ ยังนึกภาพไม่ออก ฮร่าาา ขณะที่การกินกล้วยก็ไม่ได้เป็นอย่างเดียวที่ถูกแบนในการถ่ายทอดสดเท่านั้น การเผยให้เห็นส่วนต่างๆ ทั้งส่วนเรียวขา แม้จะใส่ถุงน่องก็ถูกแบน ยิ่งเผยให้เห็นชุดชั้นในหรือกางเกงในก็จะถูกแบนเช่นกัน เพราะกระทรวงวัฒนธรรมจีนเชื่อว่าพฤติกรรมเหล่านี้กำลัง ‘เป็นภัยต่อวัฒนธรรมอันดีงามของพวกเขา’ จะว่าไปแล้วการแบนกล้วยนั้นถือเป็นเรื่องปลายเหตุมากๆ เลยนะเนี่ย ซึ่งทางเว็บไซต์ข่าวอย่าง BBC ก็ได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า ‘ชาวเน็ตจีนหลายรายไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก แถมบางส่วนยังออกมาบอกว่าจะหันไปถ่ายทอดสดการกินแตงกวาหรือข้าวโพดแทนอีกด้วยล่ะ’ ถ้าใครยังนึกภาพไม่ออกล่ะก็ นาทีที่ 3.17 เลยแจร้ >< ฮ่าๆๆๆ อันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็แอบเห็นด้วยนะเนี่ย อนาคตผลไม้ทั้งหมดคงถูกแบนแล้วล่ะ -*- เอาเป็นว่ากระทรวงวัฒนธรรมก็ต้องวิเคราะห์แล้วล่ะเนาะว่าอะไรดีที่สุดสำหรับคนในประเทศ ซึ่งทางการจีนได้ไตร่ตรองมาแล้วว่า ‘กล้วย’ ไม่ใช่หนึ่งในนั้นล่ะ!!! ที่มา: Metro, BBC
-
สมควร…วุฒิสภาสหรัฐฯ เรียกร้องให้มีการแบน “ปืนพกสไตล์สมาร์ทโฟน” เพราะเนียนเกินไป!!
ถ้าใครจำได้เมื่อช่วงเดือนก่อน #เหมียวอ๊อดโด้ ได้นำ “ปืนพกสไตล์สมาร์ทโฟน” มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน ซึ่งไม่ว่าใครเห็นก็ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เนียนสุดๆ จนดูแทบไม่ออกเลยทีเดียว (ข่าวเก่า) แต่ดูเหมือนว่า เจ้าปืน Ideal Conceal อันนี้จะไม่ได้วางจำหน่ายง่ายๆ ซะแล้ว เมื่อทางวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาเรียกร้องให้มีการแบนเจ้าปืนสไตล์สมาร์ทโฟนอันนี้ เนื่องจากว่ามันแนบเนียนเกินไป!! โดย Charles Schumer สมาชิกวุฒิสภาที่เป็นแกนนำในการเรียกร้องกล่าวว่า เจ้าปืน .38 นี้อันเหมือนกับ “หายนะ” ที่รอวันเกิด เขาจึงมีการเรียกร้องให้ตรวจสอบผลิตภัณฑ์นี้ก่อนจะออกวางจำหน่าย เขาเกรงว่าหากวันหนึ่งตำรวจต้องเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขาอาจสับสนได้ว่า ผู้ต้องหาจะยกปืนหรือโทรศัพท์ขึ้นมากันแน่ #เหมียวอ๊อดโด้ ว่าก็สมควรอยู่ เนียนขนาดนี้เกิดเอาไปก่อเหตุไม่ดีไม่ร้าย จะเกิดความสูญเสียขนาดไหนกัน แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามานะเหมียว ที่มา Sky
-
ไปดูเคล็ดลับเล็กๆ ในการ “ฉีก Post-it” ให้ออกมาดูดี ไม่งอจนเสียรูป!!
Post-it (โพสต์อิต) ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากใจปัจจุบัน เพราะเหมือนเป็นการเตือนความจำเราได้อย่างดี เวลาที่เรากลัวว่าจะลืมอะไรไป เพียงแค่เขียนแล้วแปะไว้ให้เห็นชัดๆ เพียงเท่านี้มันก็จะเตือนความจำของคุณได้แล้ว โพสต์อิตถูกใช้ในหลายๆจุดประสงค์ แต่บางทีคุณรู้สึกไหมว่าเวลาเราดึงมันออกมาจากปึกแล้ว ทำไมมันต้องงอด้วย แล้วพอเอาไปแปะที่ไหนมันก็จะไม่เด่นเลย เพราะมันงอจนเรามองไม่เห็นตัวหนังสือ วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะมาบอกเล่าวิธีฉีกโพสต์อิตแบบสวยงาม โดยเทคนิคนี้มาจากคุณ Martin Schapendonk นั่นเอง นี่คือวิธีฉีกโพสต์อิตแบบที่เราทำกันบ่อยๆ แล้วผลออกมามันก็จะงอ ถึงแม้มันจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดก็ตาม แต่ถ้าคุณอยากให้โพสต์อิตออกมาสวยงาม ก็ลองให้คุณฉีกจากอีกทางที่เป็นกาวเฉียงลงมาแทน เพียงแค่นี้ก็จะทำให้โพสต์อิตของคุณแบนราบสวยงามแล้ว พอเอาไปติดก็จะเห็นข้อความเด่นชัด ต่างจากแบบที่งอๆ เจ๋งไปเลยใช่ไหมล่ะ ได้เทคนิคแล้วก็อย่าลืมเอาใช้ใช้กันนะจ๊ะ ที่มา elite daily
-
วิทยาลัยในรัฐเวอร์มอนต์สั่งแบนผลิตภัณฑ์ชูกำลังทุกชนิด เพราะเกรงว่าจะเพิ่มอัตราเสี่ยงเรื่องเพศสัมพันธ์!!
เค้าว่ากันว่าต่างประเทศจะใส่ใจในทุกๆ รายละเอียด ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งเครื่องดื่มชูกำลังหลากหลายยี่ห้ออันเป็นที่นิยมของเหล่าบรรดานักศึกษาระดับอุดมศึกษา (ในไทยก็เช่นเดียวกัน) ซึ่งจากที่ดื่มๆ กันก็เพื่อใช้เป็นสิ่งกระตุ้นในการทำการบ้าน อ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมต่างๆ ในยามดึกดื่นให้ตื่นตัวตลอดเวลา จะได้ไม่หลับ อีกทั้งยังเอาไปชงผสมเหล้าก็มี!! วิทยาลัย Middlebury รัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ว่าจะดื่มหรือนำไปใช้ด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตามแต่ ทางวิทยาลัย Middlebury จากรัฐเวอร์มอนต์ ประเทศสหรัฐอเมริกาทำการสั่งห้าม (แบน) ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มชูกำลังทุกชนิดตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมเป็นต้นไป โดยให้เหตุผลว่าก่อให้เกิดพฤติกรรมที่สร้างปัญหาอย่าง เพิ่มอัตราการมีเพศสัมพันธ์ (ดื่มแล้วคึก ปึ๋งปั๋ง?) และ เป็นเหตุในการส่งเสริมการดื่มแอลกอฮอล์ (ใช้ผสมชงเหล้า) สั่งห้ามเครื่องดื่มชูกำลังทุกชนิด ทั้งนี้เหตุที่ทำให้ต้องแบนเครื่องดื่มชูกำลัง อันเนื่องมาจากมีผลการศึกษาย้อนไปในปีค.ศ. 2014 ที่บอกว่า อัตราเสี่ยงเกิดเพศสัมพันธ์จะเกิดกับผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มชูกำลังเป็นประจำ และอีกกรณีหนึ่งก็คือการนำไปเป็นส่วนผสมของเหล้าก็จะทำให้เกิดอัตราเสี่ยงเพิ่มได้เช่นเดียวกัน เป็นสาเหตุทำให้เกิดอัตราเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์? ทั้งนี้การตัดสินใจแบนของวิทยาลัยก็คือการห้ามจำหน่ายภายในวิทยาลัย แต่ #เหมียวเลเซอร์ ว่ายังไงนักศึกษาก็คงจะหิ้วมาจากร้านข้างนอกอยู่ดี จะว่าไป เครื่องดื่มชูกำลังมีแรงกระตุ้นมากถึงขนาดนั้นเชียวรึ? ใครเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้วบ้างเอ่ย? ที่มา :…
-
ผิดฉันหรือไร? เฟสบุ๊คม.ฮาร์วาร์ดบล็อคผู้ใช้งานจากไทย หลังโดนป่วนจากกรณีทันตแพทย์หนีทุน
กลายเป็นความขัดแย้งระดับใหญ่โตขึ้นมาซะแล้ว หลังจากมีผู้ใช้งานเฟสบุ๊คหลายท่านยืนยันว่า เฟสบุ๊คอย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้บล็อคผู้ใช้งานจากประเทศไทย หลังจากกรณีทันตแพทย์หญิงหนีทุน ซึ่งตอนนี้ เป็นเวลา 13.50 น. ตามเวลาในประเทศไทย #เหมียวอ๊อดโด้ ได้พยายามเข้าเพจ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผลปรากฏว่าเป็นดังนี้ แต่พอกดเข้าผ่าน Proxy ผลปรากฎว่า เข้าได้ปกติจ้า ซึ่งอย่างทีเราทราบกันดีกว่า หลังจากเรื่องราวของทันตแพทย์หญิงหนีทุนแดงขึ้นมา ทางหน่วยงานไทยได้ติดต่อไปยังทางมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดซึ่งทันตแพทย์คนนั้นกำลังเป็นอาจารย์อยู่ ให้ช่วยสอบสวนเรื่องดังกล่าว แต่ทางมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดได้ตอบกลับมาว่า จะไม่ขอยุ่งด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนตัวของทันตแพทย์หญิง ทำให้ชาวไทยหลายท่านไม่พอใจ และเข้าไปตำหนิมหาลัยฮาร์วาร์ดผ่านทางเพจทางการมากมาย จนเกิดการบล็อคดังกล่าวขึ้น แบนกันซะอย่างนั้น สงสัยจะโดนกองทัพคีย์บอร์ดจากไทยเข้าไปถล่มซะเละเทะ คงจะเกรงผู้ใช้งานจากประเทศไทยไปอีกนาน ฮาา ที่มา Harvard University Official Facebook
-
สายการบินจีนเตรียมทำบัญชีดำผู้โดยสาร ใครมีพฤติกรรมแย่ๆ อาจได้นั่งเจ๊เกียวตลอดชีวิต!!
การเดินทางด้วยเครื่องบินถือว่าเป็นการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็วที่สุดวิธีหนึ่งของโลก แต่ด้วยความรวดเร็วนั้น ต้องแลกมาด้วยกฎระเบียบมากมาย ซึ่งมีผู้โดยสารบางคนอาจไม่สามารถทำตามกฎระเบียบได้อย่างเคร่งครัด และบางทีก็ยังสร้างปัญหาให้กับสายการบินจนเดือดร้อนกันทั่ว และด้วยความที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศหนึ่ง ที่มีผู้โดยสารที่ชอบสร้างปัญหามากที่สุด ทางสายการบินจีนจึงร่วมมือกันสร้าง “บัญชีดำ” สำหรับผู้โดยสารมารยาทแย่ ซึ่งหากใครมีชื่อบนบัญชีดำนี้ล่ะก็ พวกเขาอาจไม่ได้ขึ้นเครื่องบินของสายกาบินเหล่านั้น อีกเลย โดยความร่วมมือครั้งนี้ มีสายการบินภายในประเทศจีนมากมายเข้าร่วมไม่ว่าจะเป็น Air China, China Eastern, China Southern, Hainan Airlines, และ Spring Air อย่างที่เราได้ทราบกันว่า ช่วงสองสามปีที่ผ่าน มีนักท่องเที่ยวชาวจีนทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่มากมายเดินทางออกไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ และสร้างปัญหาให้กับสายการบินต่างๆ หลายต่อหายเคส รวมถึงการเดินทางในประเทศด้วยเช่นกัน จึงมีการสร้างมาตรการนี้ขึ้นมา เพื่อคัดกรองผู้โดยสารเหล่านั้น เหมียวว่าระบบนี้เจ๋งดีนะ เอาไว้คัดกรองผู้โดยสาร ประเทศไทยน่าจะเอามาใช้มั่ง (หรือว่าใช้อยู่แล้วเอ่ย?) บางทีเหล่ามนุษย์ป้าอาจไม่ได้ขึ้นเครื่องบินอีกตลอดกาล ฮาา ที่มา Shanghaiist
-
แฟนๆ ฮีโร่ถึงกับซึม เมื่อทางรัฐบาลจีนประกาศห้ามฉาย Deadpool เนื่องจากฉากรุนแรง!
กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจเลยทีเดียว สำหรับทิศทางของหนัง Deadpool เพราะหนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังความหวังของทางค่าย 20th Century Fox ในการกลับมาสู่ตลาดหนังฮีโร่ ถึงแม้จะฝ่าฟันปัญหาหลายๆ อย่างได้จนสามารถถ่ายทำได้สำเร็จ แต่ยังไม่ทันได้ฉาย ก็เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว เพราะล่าสุดกระทรวงที่ดูแลเรื่องสื่อของประเทศจีน (China’s State Administration of Press, Publication, Radio, Film and Television) ได้ออกมาประกาศแบนห้ามฉายหนัง Deadpool ในประเทศ เนื่องจากฉากรุนแรง คำหยาบ และภาพโป๊เปลือยภายในเรื่อง ซึ่งข่าวนี้ถือว่าเป็นข่าวร้ายสำหรับค่ายเป็นอย่างมาก เพราะจีนได้กลายเป็นตลาดหนังที่ใหญ่ที่สุดอันดับสองของโลก รองจากสหรัฐอเมริกาเท่านั้น นั่นแปลว่า พวกเขาอาจสูญเสียรายได้หลายสิบล้านเหรียญไปจากการถูกแบนครั้งนี้ Deadpool เป็นหนึ่งในหนังฮีโร่ไม่กี่เรื่องที่ได้รับเรต R (ต่ำกว่า 18 ห้ามชม) ระหว่างการฉาย ถึงแม้จะมีการเรียกร้องให้มีการตัดต่อใหม่ และปรับเรตเป็น PG-13 (ต่ำกว่า 13 ต้องมีผู้ปกครองชมด้วย) เพื่อให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนดูที่หลากหลายมากขึ้น แต่ก็ไม่เป็นผล (และก็ถูกแบนไปตามระเบียบ) …
-
Amber Amour นักเคลื่อนไหวต่อต้านการข่มขืนถูกแบนโพสต์กับความจริงที่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง!?
กำลังเป็นที่ถกเถียงในขณะนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับกรณีของนักเคลื่อนไหวต่อต้านการข่มขืนในชื่อโครงการ Stop Rape. Educate โดยมี Amber Amour หญิงสาววัย 27 ปีจากสหรัฐอเมริกาที่ออกเดินทางไปรณรงค์ทั่วโลก แต่แล้วเธอก็ตกเป็นเหยื่อเสียเอง และได้ทำการโพสต์รูปภาพพร้อมบอกเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดผ่าน Instagram โพสต์ปัจจุบันที่ไม่มีคำอธิบายแคปชั่นใดๆ ทั้งสิ้น หลังจากที่โดน Instagram แบนเนื่องจากผิดกฏการใช้งานของชุมชน (ข่าวเก่า) ทำให้หลายคนที่เพิ่งจะมาติดตามประเด็นนี้ต่างถกเถียงกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เพราะถึงแม้เธอจะโพสต์รูปภาพเดิมอีกครั้งพร้อมกับอธิบายอย่างละเอียดก็โดนลบเนื้อหาเหล่านั้นออกไปอีก โพสต์แรกที่บอกเล่าเรื่องราวของเธอหลังจากที่โดนข่มขืน เธอเล่าว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นรวดเร็วมาก ซึ่งในตอนนั้นเธอป่วยมาก่อนแล้ว 2 วันและเพิ่งจะหายดี ก็เลยออกไปยังที่พักเก่าเพื่อทิ้งโน๊ตไว้ให้เพื่อนชื่อ Nick จนเธอได้พบกับ Shakir ชายที่พยายามจะเข้ามาตีสนิทเธอ เธอและเขาก็ได้จูบกัน เธอสังเกตว่าเขาเมาด้วยก็เลยบอกว่ามันเป็นเวลาที่ไม่เหมาะซักเท่าไหร่ และก่อนที่จะออกไป เธอก็ได้เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน พบกับเพื่อนอีกคนชื่อ Clyde แต่ Shakir ก็เดินตามขึ้นมาด้วย บอกว่าจะไปอาบน้ำ แถมยังชวนเธอไปอาบด้วยกัน ซึ่งเธอเองก็ตอบตกลงตามไปอาบด้วย เพราะว่าที่พักปัจจุบันของเธอเป็นน้ำเย็น อยากจะอาบน้ำอุ่นบ้าง และพอเข้าไปอาบน้ำด้วยกันก็เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นมา!! จากกรณีที่เธอบอกเล่ามานั้น มีบางส่วนที่เห็นอก เห็นใจเธอ…
-
Sadaf Taherian นักแสดงสาวถูกเนรเทศจากอิหร่าน เพราะโพสต์ภาพไม่ใส่ผ้าคลุมฮิญาบ!!
ประเด็นละเอียดอ่อนทางศาสนาภายในประเทศที่เคร่งครัดสูงมากอย่างประเทศอิหร่าน ที่ได้นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งทางประเทศอิหร่านออกก็ได้ออกกฏหมายที่ว่าสตรีจะต้องสวมผ้าคลุมศีรษะ (ฮิญาบ) ในที่สาธารณะรวมไปถึงหญิงสาวชาวต่างชาติด้วย ทั้งนี้กฏหมายฉบับดังกล่าวนั้นมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1979 หลังการปฏิวัติศาสนาอิสลามในอิหร่าน ทั้งนี้เรื่องราวของนักแสดงสาวชาวอิหร่านที่ชื่อว่า Sadaf Taherian เธอได้ทำการโพสต์รูปภาพของเธอผ่านอินสตาแกรมโดยคลุมผ้าฮิญาบมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เธอได้ทำการโพสต์รูปภาพตัวเธอเองอีกครั้ง แต่ในคราวนี้ไม่ได้ทำการสวมผ้าคลุมฮิญาบ และเมื่อกระทรวงวัฒนธรรมอิหร่านรู้ว่าเธอทำแบบนี้ ก็ได้สั่งแบนทันที เพิกถอนใบอนุญาต ห้ามแสดงภาพยนตร์ใดๆ ในประเทศอิหร่าน และถูกขับไล่ออกนอกประเทศ จนถึงขนาดต้องลี้ภัยไปยังเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กันเลยทีเดียว เธอเองก็ได้กล่าวไว้ว่า ‘ฉันไม่เคยคิดเลยว่าผู้คนในอิหร่าน จะรุมด่าสาปแช่งได้มากมายถึงเพียงนี้ ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ แต่ก็พูดอะไรมากไม่ได้ ฉันก็แค่อยากใช้ชีวิตในแบบที่ฉันมีความสุข’ อย่างไรก็ตามสื่ออิหร่านประกาศเตือนเอาไว้ว่าการที่ผู้หญิงไม่สวมผ้าคลุม เป็นต้นเหตุของการทำร้ายร่างกายด้วยความรุนแรง เนื่องจากไปกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของผู้ชาย ทั้งนี้ Sadaf Taherian ก็เปิดเผยว่าในระหว่างการแสดงภาพยนตร์ ถึงแม้จะใส่ผ้าคลุมเธอก็ยังถูกลวนลามจากผู้กำกับอยู่ดี ที่มา : independent, telegraph