Tag: แบรนด์
-
ย้อนอดีตชม 22 แบรนด์ดังกับ “โลโก้ยุคแรก” ของพวกเขา บอกเลยว่า…มาไกลมาก!!
เมื่อเห็นโลโก้ของ แบรนด์ดังระดับโลก หลายคนต้องนึกออกแน่ๆ ว่าโลโก้นั้นๆ เป็นของแบรนด์อะไร เพราะว่าแบรนด์ดังส่วนมากจะมีโลโก้ที่ติดตราตรึงใจผู้คน จนใครเห็นก็ต้องจำได้ แต่หารู้ไม่ว่าโลโก้แบรนด์ดังที่เห็นกันในปัจจุบันนั้นไม่ใช่เวอร์ชั่นออริจินัลหรอกนะ เพราะถ้าหากย้อนกลับไปยัง โลโก้ยุคแรกเริ่มของมัน จะเห็นได้ว่ามันต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง วันนี้เราจึงจะพาไปชม โลโก้ยุคแรกเริ่มของแบรนด์ดังระดับโลก ที่ต่างจากสมัยนี้มาก จนคุณๆ ทั้งหลายอาจจำไม่ได้ว่ามันมาจากแบรนด์อะไรกันแน่… 1. Playboy กับยุคแรกที่เป็นเจ้าต่ายแบบเต็มตัว 2. Adidas กับยุคเก่าพร้อมชื่อเต็มๆ ว่า Adolf Dassler 3. Burger King กับโลโก้ยุคแรกที่มีพระราชาบนเบอร์เกอร์ 4. Ford กับโลโก้ยุคแรกที่ดูคลาสสิก 5. Lego กับโลโก้ที่แปลกตา แต่มันก็คือโลโก้จริงในยุคแรกของแบรนด์ 6. Nestle กับโลโก้ยุคแรกที่มีเกราะอัศวินอยู่บนนั้น 7. Adobe กับโลโก้ยุคแรกที่มาพร้อมชื่อเต็ม 8. โลโก้ยุคแรกของ Canon มาเป็นองค์เทพกวนอิมพร้อมชื่อเดิมว่า Kwanon …
-
แบรนด์แฟชั่นออกชุดใหม่ ชาวบ้านสงสัย เฮ้ย มันใช่ของเรารึเปล่า ‘ก่อแคมเปญทวงคืน’
ในโลกของแฟชั่นกว่าจะคลอดคอลเลคชั่นใหม่ออกมาได้ ต้องอาศัยเวลาในการร่างและออกแบบจากแรงบันดาลใจรอบตัว ซึ่งดีไซน์เนอร์อาจจะหยิบยกอะไรบางอย่างมาเป็นองค์ประกอบของแต่ละชุด ด้วยลักษณะของแรงบันดาลใจ ที่มาในนามของคำว่า ‘ยืมมาใช้’ มักจะกลายเป็นข้อถกเถียงกันอยู่เสมอ อย่างในกรณีของคอลเลคชั่นของแบรนด์ Dior ที่ออกมาในปีที่แล้ว มีความคล้ายคลึงกับชุดพื้นเมืองของชาวบ้าน Bihor ในประเทศโรมาเนียมากๆ ด้านซ้ายคือชุดจาก Dior ด้านขวาคือชุดของ Bihor คอลเลคชั่นเสื้อผ้าจาก Dior ชุดนี้ มีมูลค่าขายทั้งชุดประมาณ 30,000 ยูโร (1,165,000 บาท) โดยที่กำไรทั้งหมดไม่ได้เข้ากระเป๋าชาวบ้าน Bihor เลย ไม่มีแม้แต่กระทั่งให้เอ่ยชื่อว่าเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ . . ชาวโรมาเนีย ก็ไม่ได้นิ่งเฉยกับการนี้ พวกเขาจึงริเริ่มปฏิบัติการทวงคืนโดย Beau Monde นิตยสารแฟชั่นสายเลือดโรมาเนีย สร้างแคมเปญเพื่อให้ชาวโลกได้รับรู้ ร่วมกับช่างฝีมือและนักออกแบบชาวพื้นเมือง Bihor ตัวอย่างงานแคมเปญที่ออกแบบเหมือนกับนิตรสารแฟชั่นไม่ผิดเพี้ยน . . พวกเขาได้ร่วมกันสร้างแบรนด์แฟชั่นเป็นของตัวเอง เพื่อรักษาเอกลักษณ์ชุดพื้นเมืองเอาไว้ในนาม Bihor Couture และขายให้กับเหล่าผู้ชื่นชอบแฟชั่นในราคาที่ถูกกว่า และกำไรที่ได้นั้นส่งถึงมือช่างผู้สร้างเสื้อผ้าพื้นเมืองโดยตรง สร้างงานสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านได้มากกว่า…
-
เบื้องหลัง 11 แบรนด์ดังระดับโลก กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ พวกเขามีอดีตอย่างไรกันบ้าง!?
แบรนด์ดังระดับโลกทั้งหลาย แน่นอนว่ากว่าจะมีชื่อเสียงอย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ได้ พวกเขาย่อมมีเคยมีประวัติทั้งดีและแย่กันมาทั้งนั้น บางแบรนด์ก็มีอดีตอันขมขื่น ขณะเดียวกันบางแบรนด์ก็อาจจะมีอดีตที่ทำให้เราต้องตกใจก็เป็นได้ ฉะนั้นวันนี้เราจึงขอนำเสนอ เบื้องหลัง 11 แบรนด์ดังระดับโลก ที่อาจทำให้คุณต้องตกใจก็เป็นได้… 1. Häagen-Dazs ที่จริงแล้วเป็นบริษัทสัญชาติอเมริกันแท้ๆ ส่วนชื่อของแบรนด์ที่ดูไม่เหมือนภาษาอังกฤษนั้น เป็นคำพูดลอยๆ ที่ทำให้ฟังดูเหมือนเป็นบริษัทของประเทศฝั่งยุโรปเท่านั้นเอง 2. Corn Flakes นั้นถูกผลิตมาเพื่อหยุดยั้งการช่วยตัวเองและการมีเซ็กส์ที่มากเกินไป John Harvey Kellogg นายแพทย์ที่ต่อต้านการมีเซ็กส์และการช่วยตัวเอง ได้พยายามช่วยเหลือ “ผู้ป่วย” ที่เสพย์ติดเซ็กส์ด้วยการใช้โภชนาการบำรุงสุขภาพ เขาจึงสร้างธัญญาหารที่ทำจากข้าวโพดมาช่วยยับยั้งอาการเหล่านี้ 3. Coca Cola ปัจจุบันก็ยังคงผลิตมาจากใบโคคาใช้แล้วที่มีสารโคเคน บริษัทนี้เป็นเพียงบริษัทเดียวในอเมริกาที่ได้รับอนุญาตให้สกัดโคเคนออกมาจากใบโคคาได้ สารโคเคนนั้นจะถูกจำหน่ายให้กับวงการแพทย์ ส่วนใบโคคาที่ใช้แล้วก็ถูกจำหน่ายให้กับบริษัท Coca Cola นั่นเอง 4. Puma และ Adidas ถูกก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้องท้องเดียวกัน ทั้งคู่เริ่มก่อตั้งบริษัทผลิตรองเท้าด้วยกันแต่สุดท้ายก็แตกหักกันกลายเป็น 2 แบรนด์นี้นั่นเอง 5. เครือ Marriott กว่าจะมาเป็นโรงแรมหรูยักษ์ใหญ่นั้นเริ่มจากการเป็นแบรนด์แผงตั้งขายเบียร์มาก่อน …
-
ภาพตัดต่อ 16 โลโก้แบรนด์ดัง เสียดสีเจ็บแสบ ว่าเขาต้องการขายอะไรกันแน่!?
ในสังคมปัจจุบัน แทบทุกคนจะต้องมีสิ่งหนึ่งที่ฝังอยู่ในสมอง นั่นคือภาพของเหล่าโลโก้สัญลักษณ์ของแบรนด์ชั้นนำต่างๆ เมื่อเห็นปุ๊บก็รู้ปั๊บว่าเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อใด แต่แท้จริงแล้วชื่อยี่ห้อหรือโลโก้ต่างๆ ที่เราเห็นกันอยู่ทุกวัน สิ่งเหล่านั้นอาจไม่สามารถสื่อถึงความเป็นจริงเกี่ยวกับสินค้าของพวกเขาได้ มันอาจเป็นเพียงแค่สิ่งที่ทำออกมาให้ดูโก้เก๋เท่านั้นเอง เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก Viktor Hertz เลยทำการตัดต่อพวกมันใหม่ซะเลย เขาได้ทำการตัดต่อนำเอาความหมายที่แท้จริงของแต่ละยี่ห้อใส่เข้าไปในโลโก้ของพวกเขา กลายมาเป็นผลงานที่พอเราได้เห็นแล้วจะสามารถเข้าใจถึงคุณค่า ความหมาย และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเรา แต่ละยี่ห้อจะสื่อถึงอะไรได้บ้าง เราลองไปดูกันเลย บริษัท Apple ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี แท้จริงแล้วมูลค่าของมันอาจเกิดจากรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้นเอง (Appearance Costs) Samsung ถูกมองว่าไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากสิ่งเดิมที่มีมาก่อนเลย (Samething) พวกเขาแค่กำลังพยายามคิดต่างเท่านั้นเอง Netflix คือสิ่งที่ทำให้เราไม่ได้หลับ (No Sleep) และไม่ได้สหวีวี่วีด้วย (No Sex) McDonalds ตัวการหลักของโรคเบาหวาน (Diabetes) Burger Kings คืออาหารขยายสะโพกชัดๆ (Bigger Hips) Game of Thrones คือซีรีส์สำหรับคนที่ชอบเลือดอันป่าเถื่อน (Gore) และหน่มน้ม…
-
ชาวเน็ตตาดีเทียบเอ็มวีเพลง ‘Delicate’ ของเจ๊เทย์ เฮ้ย!? นี่ล้อเลียนโฆษณากันรึเปล่าเนี่ย
ในแวดวงการเพลงป๊อประดับตัวแม่แถวหน้าของสหรัฐฯ คงจะไม่พูดถึง Taylor Swift ก็คงไม่ได้ หลังจากที่มีข่าวจิปาถะมากมายหลายสิ่ง ครั้งนี้ก็กลับมาอีกแล้ว เมื่อเธอได้ปล่อยมิวสิควิดีโอเพลงตัวใหม่ออกมา… มิวสิควิดีโอที่ว่านั้นก็คือเพลง Delicate ถูกปล่อยขึ้นเว็บไซต์ YouTube เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2018 โดยมียอดวิวเข้าไปแล้ว 14 ล้านครั้ง แต่สิ่งที่ถูกพูดถึงไม่ใช่เนื้อหาของเพลง แต่กลับเป็นตัวเนื้อหาของมิวสิควิดีโอต่างหาก มิวสิควิดีโอเพลง Delicate ของ Taylor Swift เพราะเมื่อวิดีโอถูกปล่อยออกมาแล้ว ชาวเน็ตตามโซเชียลมีเดียหลายเจ้า ก็ได้ออกมาทักท้วงถึง ‘ความคล้ายคลึง’ ที่มีในวิดีโอตัวดังกล่าวนั้น เทียบกับโฆษณาน้ำหอมของแบรนด์ KENZO ซะงั้นแหนะ โฆษณา KENZO World ปี 2016 เพราะไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ การแสดงออกทางสีหน้า ท่าทางการเต้นแปลกๆ อารมณ์และท่าทางทั้งหมดนั้น แทบจะไม่ต่างไปจากโฆษณาชุด KENZO World เมื่อปี 2016 โพสต์บางส่วนจากทวิตเตอร์ที่นำมาเทียบให้เห็นกัน .…
-
นักออกแบบชาวอินเดียผู้นำสองสิ่งมาผสมผสานกันให้กลายเป็น ‘โลโก้’ ขนาดจิ๋ว
เรื่องของโลโก้แบรนด์คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถจดจำจุดเด่นหรือจุดขายของเราได้จากสิ่งนี้ มันจึงควรเป็นการนำเสนอให้เห็นว่าเราสร้างโลโก้ขึ้นมาเพื่อที่จะสื่อถึงเรื่องอะไร เหมือนอย่างผลงานที่เป็นเอกลักษณ์เหล่านี้ นี่คือผลงานของนักออกแบบชาวอินเดียที่ใช้ชื่อว่า Shibu PG เขาได้นำของสองสิ่งที่ไม่เหมือนกันมารวมเอาไว้ในโลโก้เพียงอันเดียว ซึ่งมีทั้งความสวยงาม เรียบง่าย มินิมอล ความคิดสร้างสรรค์ และมันก็ยังสามารถรู้ได้ทันทีว่าเขาจะสื่อถึงเรื่องอะไร ผ่านสัญลักษณ์เล็กๆ เหล่านี้ แต่ละชิ้นมีหน้าตาเป็นยังไง เราไปชมกันเลย เป็นการรวมตัวกันอย่างลงตัว สามารถสื่อถึงเอกลักษณ์ของทั้งสองสิ่งได้เป็นอย่างดี อยากจะเห็นเป็นกระต่ายตัวเดียว หรือหลายตัวก็ได้ ดวงตาอันโฉบเฉี่ยว ดูแตกต่างกันมากแค่ไหน เขาก็สามารถออกแบบให้มันกลายเป็นหนึ่งเดียวได้ เห็นแล้วรู้สึกคิดถึงเครื่องดื่มยี่ห้อหนึ่งขึ้นมาเลยแฮะ น้องหมาน่ารักทั้งในรูปและในโลโก้ เรามักจะเห็นการผสมผสานระหว่างสิ่งมีชีวิต กับไม่มีชีวิต เพนกวินน้อยที่กำลังมีความรัก ล่องลอยไปในอากาศได้เหมือนๆ กัน นำสัญลักษณ์เล็กๆ มาแทนดวงตาได้อย่างสวยงาม เมื่อเห็นหน้าพิซซ่าแล้วคิดถึงหน้าเจ้าม้าขึ้นมา หมีน้อยคงจะคอแห้ง เห็นแล้วก็สัมผัสได้ถึงจินตนาการอันไม่รู้จบของศิลปินคนนี้เลย สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบผลงานของเขา สามารถเข้าไปติดตามกันได้ที่เว็บไซต์ behance ที่มา: designyoutrust
-
H&M ออกมาขอโทษ หลังถูกวิจารณ์ข้อความไม่เหมาะสมบนเสื้อ สื่อไปในทาง “เหยียดเชื้อชาติ”
H&M แบรนด์เสื้อผ้าที่มีร้านค้าอยู่มากมายทั่วโลกได้ออกมาขอโทษผู้บริโภค หลังจากบริษัทได้โฆษณาเสื้อฮู้ดที่มีสโลแกนที่อาจสื่อถึงการเหยียดสีผิวได้ และยืนยันว่าจะระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก เสื้อฮู้ดสีเขียวที่มีสโลแกนว่า ‘Coolest Monkey in the Jungle’ (ลิงที่เจ๋งที่สุดในป่า) ก่อนหน้านี้ทาง H&M ได้ทำเสื้อฮู้ดสีเขียวแบบใหม่ออกมา ตรงกลางอกของเสื้อพิมพ์ข้อความว่า Coolest Monkey in the Jungle และใช้เด็กผิวสีคนหนึ่งเป็นนายแบบของเสื้อตัวนี้ จากนั้นจึงได้นำภาพมาโฆษณาบนเว็บไซต์หลักของบริษัท แม้ว่าดูผ่านๆ อาจจะไม่มีอะไร แต่สโลแกนบนเสื้อ ประกอบกับลักษณะของนายแบบ ทำให้ผู้บริโภคบางส่วนเข้าใจว่า H&M กำลังเหยียดคนสีผิวอยู่ โดยเปรียบเทียบว่าพวกเขาเป็นเพียงลิงที่ไร้อารยธรรมเท่านั้น หลังจากเสื้อตัวนี้ถูกโฆษณาบนเว็บไซต์หลัก ชาวเน็ตก็แสดงปฎิกิริยาต่อต้านเรื่องนี้กันจำนวนมากเลยทีเดียว ในจำนวนนั้นก็รวมถึงคนดังหลายคนด้วย ทวีตจาก Models of Diversity Models of Diversity องค์กรที่ส่งเสริมความเท่าเทียมและความหลากหลายในมนุษย์เอง ก็ได้ออกมาทวีตถึง H&M ว่า “H&M ในประเทศอังกฤษให้เด็กผิวสีคนหนึ่งเป็นนายแบบให้เสื้อฮู้ด ‘Coolest Monkey in the Jungle’…
-
ผลการทดสอบจาก 1,000 คน เฉลี่ยแล้วพวกเขาจะจำโลโก้ป๊อปคัลเจอร์กันได้มั้ยนะ?
เมื่อพูดถึงสิ่งสำคัญในการสร้างสินค้าหรือแบรนด์ นอกจากตัวสินค้าที่เราอยากนำเสนอแล้ว โลโก้ของสิ่งๆ นั้นหรือแบรนด์ของเรานับว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้ผู้คนสามารถจดจำมันได้ ยิ่งโดดเด่นและจำง่ายยิ่งสำคัญ ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทางเว็บไซต์ signs.com จึงได้จัดการทำผลสำรวจคน 1,000 คน โดยให้พวกเขาบอกว่าพวกเขาจำโลโก้ของสิ่งต่างๆ ที่เป็นป๊อปคัลเจอร์จากยุคสมัยต่างๆ ทั้งสินค้า หนัง หรือเกมได้หรือไม่ ทีมงาน Signs ได้บอกว่า “พวกเรานั้นเป็นนักออกแบบตัวยง ฉะนั้นถ้ามีคนสร้างบริษัทขึ้นมาแล้วมันทำให้เราจำ 80% ของสิ่งที่เราเห็น 20% ของสิ่งที่เราอ่าน หรือ 10% จากสิ่งที่เราได้ฟังจากคนอื่นได้ นั่นถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ภาพของแบรนด์ประสบความสำเร็จและเกิดเป็นเรื่องราวขึ้นมา” เริ่มกันที่สัญลักษณ์ของซูเปอร์ฮีโร่แต่ละคนในคอมมิคกันก่อน โดยทุกคนจะจำโลโก้ของแบทแมนและซูเปอร์แมนกันได้ทุกคน เพราะมันเป็นป๊อปคัลเจอร์ที่เราเจอได้บ่อยๆ ส่วนตัวอื่นๆ ก็จะไล่เรียงลงมาซึ่งน่าแปลกใจที่ สไปเดอร์แมนมีคนจดจำได้น้อย ถัดมาเป็นคิวของตราสัญลักษณ์ของแต่ละบ้านจากแฮร์รี่ พอตเตอร์ ซึ่งส่วนใหญ่คนจะจำตราประจำบ้านแต่ละหลังไม่ได้ เพราะในหนังนั้นไม่ค่อยจะมีการโชว์ตราพวกนี้อย่างจริงจังนัก ต่างจากตราของโรงเรียนฮอกวอตส์ที่รวมทุกบ้านด้วยกันผู้คนจะจำได้ แต่ที่เด่นรองลงมาก็คงเป็น ชานชาลาที่ 9 3/4 ที่พูดถึงบ่อยๆ และจำได้ง่าย มาต่อกันที่สัญลักษณ์ในเกมออฟโทรนกันบ้าง ซึ่งสัญลักษณ์ประจำตระกูลในเรื่องนี้มีเยอะแยะมากมายจึงยากมากๆ ที่จะจดจำถ้าไม่ใช่ตระกูลหลักๆ แต่ใช่ว่าคนจะไม่จำสิ่งต่างๆ ในเรื่องนะ เพราะว่าตัวละครในเรื่องนั้นเป็นที่ถูกพูดถึงกันหนักหน่วงมากกว่าสัญลักษณ์ตระกูลนั่นเอง โลโก้ของหนังต่างๆ นั้น โกสบัสเตอร์ถือเป็นโลโก้ที่ทุกคนในผลสำรวจจดจำได้…
-
หากโลโก้แบรนด์ดัง ขยับไปมาได้ จะดึงดูดผู้คนและสื่อความหมายได้มากแค่ไหน…
สิ่งที่ทำในเรานั้นจำผลิตภัณฑ์และการใช้การของแบรนด์ต่างๆ ได้ ก็คงจะเป็นตัวโลโก้นี่แหละ ซึ่งในปกตินั้นแบรนด์ต่างๆ ก็จะมีโลกโก้ที่เป็นภาพนิ่งอย่างที่เราเห็นกันบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่มันจะดีแค่ไหนถ้าเกิดว่ามันขยับได้และสามารถแสดงออกถึงตัวตนของแบรนด์มากขึ้น อย่างเช่น 9 โลโก้ที่ #เหมียวหน่า นำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมวันนี้ รับรองว่าเพื่อนๆ จะต้องชอบอย่างแน่นอน จะเป็นอย่างไร เราไปชมกันเลย 1. Mozilla Firefox โลโก้ของ Firefox มีรูปสุนัขจิ้งจอกที่เป็นสัญลักษณ์ล้อมรอบแผ่นดินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขยายตัวทั่วโลกของแบรนด์และความเร็วที่เห็นได้ชัด 2. Burger King ลองเพิ่มมิติให้กับโลโก้ซักหน่อย ดูแล้วหิวกันบ้างไหม?? 3. FedEx ลูกศรที่แสดงถึงการเดินทางที่รวดเร็วในบริการ 4. Uber ภาพเคลื่อนไหวของ Uber ประกอบด้วยจุดแผนที่นำไปสู่ปลายทางของคุณ 5. LinkedIn 6. Instagram Instagram ได้เน้นย้ำถึงจุดเด่นของกล้อง โดยใช้กล้องถ่ายรูปและโพลารอยด์แบบดั้งเดิมในโลโก้ที่มีชีวิตชีวา 7. Mastercard แสดงให้เห็นว่ามาสเตอร์การ์ดสามารถใช้ทำอะไรต่างๆ ได้มากมาย 8. Pinterest การค้นหารูปภาพ และปักหมุด เป็นจุดเด่นของ Pinterest 9. Nike สีนีออนสดใสที่เป็เอกลักษณ์…
-
14 สัญลักษณ์แบรนด์ดัง กับความหมายแฝงที่แท้ทรู ที่คุณเองก็อาจไม่เคยรู้มาก่อน..!?
โลโก้และชื่อเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำ ยกตัวอย่างก็เช่น Nike ที่ใครเห็นก็เป็นอันต้องร้องอ๋อ… และรู้ได้ทันทีว่ามันคือแบรนด์ขายอุปกรณ์กีฬาอะไรประมาณนั้น มีสินค้าแบรนด์หลายชิ้นที่เรายอมควักเงินจ่าย แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าสัญลักษณ์โลโก้ และชื่อแบรนด์ที่เราคลั่งไคล้ มีความหมายที่แท้จริงอะไรแฝงอยู่? เอาเป็นว่าไปหาคำตอบพร้อมๆ กันเลย 1. Pepsi เดิมทีถูกใช้ชื่อว่า ‘Brad’s Drink’ ตามชื่อผู้คิดค้น Caleb Davis Bradham ต่อมาเจ้าตัวเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า ‘Pepsi-Cola’ ซึ่งผันมาจากศัพท์การแพทย์คำว่า Dyspepsia หมายถึงอาการอาหารไม่ย่อยนั่นเอง 2. Google ชื่อที่เรียบง่ายแต่เกิดจากการระดมสมองของกลุ่มนักศึกษาจาก Stanford University ตอนแรกมีคนเสนอใช้ชื่อ Googolplex ทว่าชื่อนี้ก็ตกไปและเปลี่ยนมาใช้ชื่อ Google แทน 3. McDonald’s Raymond Kroc อดีตเซลส์แมนขายเครื่องปั่นได้เจอกับสองพี่น้อง Dick และ Mc McDonald เจ้าของร้านเบอร์เกอร์ในแคลิฟอร์เนีย และรู้สึกติดใจในรสชาติเอามากๆ จนต่อมาพวกเขาทั้ง 3 คนได้ทำธุรกิจร่วมกัน Raymond Kroc เป็นคนที่ทำให้ร้านเบอร์เกอร์ของสองพี่น้องขยายสาขาออกไปทั่วสหรัฐฯ จากนั้นเขาก็ทำการจดทะเบียนลิขสิทธิ์ชื่อ…
-
พาไปรู้จัก 18 แบรนด์สนีกเกอร์นอกกระแส ที่คนไทยอาจไม่คุ้นเคย แต่ดีไซน์เท่ไม่แพ้ใคร!!
วันนี้ขอปรับเข้าโหมดแฟชั่นสตรีทกันบ้าง เชื่อว่าตอนนี้มีคนไทยไม่น้อยที่ค้นพบว่าตัวเองชื่นชอบการเก็บสะสมรองเท้าผ้าใบ หรือที่เราเรียกกันว่า ‘สนีกเกอร์’ นั่นแหละ พอพูดถึงรองเท้าผ้าใบหลายคนอาจจะรู้จักแต่แบรนด์ดังขึ้นห้างไม่กี่แบรนด์เท่านั้น เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับแบรนด์สนีกเกอร์เจ๋งๆ ที่อาจจะไม่ได้โด่งดังมากมายในบ้านเรา แต่ในวงการแฟชั่นโลกแล้วถือว่าดีไซน์เท่ไม่เป็นรองใครเลยล่ะ 1. Clae . 2. Visvim . 3. Gourmet . 4. Superga . 5. Blackspot . 6. Common Projects . 7. Generic Surplus . 8. Newton Running . 9. Creative Recreation . 10. Pointer Footwear . 11.…
-
ศิลปินแต่งแต้มพฤกษา และสัตว์ ลงบนโลโก้ของ ‘แบรนด์กีฬา’ ด้วยการเย็บปักถักร้อย…
สำหรับเพื่อนๆ ที่ชื่นชอบการซื้อของแบรนด์เนมทั้งหลายแล้วต้องขอบอกเลยว่าคงจะคุ้นชินกับโลโก้ของแต่ละแบรนด์กันเป็นอย่างดี แต่จะเป็นอย่างไรหากโลโก้เหล่านั้นถูกแต่งเติม ด้วยการเย็บถักปักร้อยด้วยภาพต่างๆ เช่นต้นไม้ ดอกไม้ สัตว์ คงจะดูแปลกตาไม่น้อยเลยใช่มั้ยล่ะ?? ศิลปินชาวไอซ์แลนด์ชื่อว่า James Merry ได้ทำการเปลี่ยนโลโก้แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาชื่อดังด้วยการเย็บปักถักร้อยรูปพืชพรรณ เห็ด และสัตว์ลงไป และมันก็ออกมาดูงดงามเกินคาด!! เพราะใครจะไปรู้ล่ะว่าโลโก้แบรนด์กีฬาที่ดูแสนจะธรรมดา จะดูเข้ากั๊นน เข้ากันกับดอกไม้ ผลไม้ ต้นไม้ และนก ซะงั้น เป็นการผสมผสานของธรรมชาติ และชุดกีฬา ให้ดูแบ๊วขึ้นมาในทันตา!! แต่ละผลงาน Merry ได้วางแผน และออกแบบว่าจะต้องใช้รูปแบบไหนมาแต่งเติม ตราไนกี้ ที่กลายมาเป็นที่เกาะของนกแก้ว โลโก้ของแบรนด์ Champion ที่กลายเป็นพื้นดินให้เหล่าพฤกษาเจริญเติบโต . . . . เพื่อนๆ สามารถเข้าไปชมผลงานของศิลปิน James Merry เพิ่มเติมได้ที่อินสตาแกรม james.t.merry และเว็บไซต์ jtmerryได้เลยนะจ๊ะ …
-
20 สิ่งที่ไม่ได้ใช้ชื่อนั้นตั้งแต่แรก เคยถูกเรียกว่าอย่างอื่นมาก่อน คุณคงไม่รู้ล่ะสิ อิอิ
เคยมีคำกล่าวไว้ว่า กาลเวลาเปลี่ยนไปอะไรๆ ก็ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตาม ขนาดใจคนยังเปลี่ยนแล้วนับประสาอะไรกับชื่อแบรนด์ ชื่อหนัง ชื่อวง หรือชื่อตัวละครต่างๆ ที่เรารู้จักกันดีล่ะ?… ในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหนัง ของเล่น ตัวละคร หรือแบรนด์ต่างๆ ที่มีชื่อแบบดั้งเดิมมาก่อน แต่ถูกเปลี่ยนมาเป็นชื่อแบบปัจจุบันที่เราเรียกกันจนติดปาก จะมีอะไรบ้างนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… 1. Hannah Montana ทีวีซีรี่ย์ชื่อดังของอเมริกา เดิมถูกเรียกว่า Alexis Texas ภายหลังก็เปลี่ยนชื่อมาเป็นชื่อนี้ 2. The Powerpuff Girls เดิมถูกเรียกว่า Whoopass Girls 3. หนังสือเรื่อง Mice and Men ของ John Steinback เดิมถูกเรียกว่า Something That Happened 4. SpongeBob เดิมถูกเรียกว่า Spongeboy ที่ไม่สามารถใช้ชื่อเดิมได้นั้นเพราะชื่อมันติดเรื่องลิขสิทธิ์ของบริษัทไม้ถูพื้น 5.…
-
เว็บไซต์ Insider เผยการออกเสียงที่ถูกต้อง ของ 20 แบรนด์แฟชั่นชั้นนำ ที่จริงแล้วอ่านยังไง!?
การตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าต่างๆ บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับชื่อของแบรนด์ด้วย ซึ่งเพื่อนๆ หลายคนก็จะมีแบรนด์ที่ตัวเองชื่นชอบแตกต่างกันไป แน่นอนว่าแต่ละคนก็จะศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับแบรนด์นั้นๆ กันดีอยู่แล้ว และส่วนใหญ่ชื่อแบรนด์เหล่านั้นก็จะมาจากหลากหลายประเทศไม่ใช่อเมริกาเพียงอย่างเดียว และในวันนี้ #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมวิธีการออกเสียงของแต่ละแบรนด์สินค้าชั้นนำต่างประเทศ โดยการแนะนำของเว็บไซต์ Insider จะได้รู้ว่าวิธีการออกเสียงที่ถูกต้องมันเป็นอย่างไร 1. Christian Louboutin วิธีการออกเสียงที่ผิด : Chris-chan Loo-boo-tin วิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง : Kreest-yahn Loo-boo-tahn 2. Zara วิธีการออกเสียงที่ผิด : Zah-rah วิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง : Dzah-dah 3. Joie วิธีการออกเสียงที่ผิด : Joy-ee วิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง : Zjwah 4. Maje วิธีการออกเสียงที่ผิด : Mayje วิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง : Mahj 5. Ralph Lauren วิธีการออกเสียงที่ผิด : Ralph Lore-EN วิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง : Ralph LAU-ren 6. Acne วิธีการออกเสียงที่ผิด : Ack-knee วิธีการออกเสียงที่ถูกต้อง…
-
15 โลโก้ของแบรนด์ดัง ที่ซ่อนความหมายเอาไว้อย่างแยบยลและลึกซึ้ง จนนึกไม่ถึง…
ที่จริงแล้วแบรนด์ของโลโก้ต่างๆ นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สวยเล่นๆ กันเท่านั้นนะจ๊ะ แต่มีความหมายเชิงลึกแฝงอยู่ด้วยเกือบทุกอันเลยล่ะ!! วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็จะพาเพื่อนๆ ไปพบกับความหมายที่แฝงอยู่ในแบรนด์ดังทั้ง 15 แบรนด์กัน แล้วเพื่อนๆ จะนึกไม่ถึงกันเลยทีเดียว… โลโก้ของ Beats ถ้าดูดีๆ แล้วมันคือรูปหน้าคนที่สวมหูฟัง Toblerone คือขนมจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ภาพหมีนั้น เป็นสัญลักษณ์ของเมือง Bern ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แถมถ้าตัดตัวอักษรออกแล้วล่ะก็ จะเป็นชื่อของเมืองด้วยล่ะ Hyundai ตัว ‘H’ เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์อยู่แล้ว แต่ที่จริงนอกจา H แล้ว ยังเป็นรูปคนจับมือกันด้วยล่ะ Baskin Robbins ถ้าดูดีๆ แล้วคือเลข 31 สื่อถึงไอศครีมทั้ง 31 รสของพวกเขา Tour de France รายการแข่งขันจักรยานระดับโลก …
-
แบรนด์แฟชั่นญี่ปุ่น นำ ‘ชุดโบราณ’ มาดัดแปลงให้เข้ากับสมัยใหม่ ดูเท่แถมใส่ได้ไม่อายใคร!!
ครั้งก่อน #จ่าสิบเหมียว ก็ได้นำเสนอเรื่องราวของ แบรนด์แฟชั่นญี่ปุ่นดัดแปลงชุดคลุม ‘ซามูไร’ มาเป็นเสื้อแจ็คเกตสุดเท่สำหรับท่านชาย!! กันไปแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าบริษัทแฟชั่นในญี่ปุ่นนั้นนำเอาแฟชั่นที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศในสมัยโบราณ มาดัดแปลงให้เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน แถมล่าสุดอีกหนึ่งบริษัทแฟชั่น Wazigen Shizukuya ก็ได้นำแฟชั่นชุดสวมใส่ของชาวญี่ปุ่นในสมัยโบราณ มาดัดแปลงทั้งชุดกันไปเลย หลากหลายสีสัน สวยงาม แถมเข้ากับยุคสมัยอีกต่างหาก!! ผลงาน Wazigen Shizukuya บริษัทแฟชั่นที่นำชุดสมัยเก่ามาดัดแปลงให้เข้ากับสมัยใหม่ สำหรับชุดทั้งหมดนั้นถักทอโดยใช้เส้นใยเดนิมและผ้าฝ้าย เหมาะสำหรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีหรือฤดูใบไม้ร่วงในประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก แต่ถึงจะใส่สบาย ราคาไม่ได้สบายตามนะ เพราะในส่วนของเสื้อ จะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 45,000 เยน หรือ 15,000 บาท และกางเกงราวๆ 35,000 เยน หรือ 12,000 บาท รวมทั้งชุดก็สบายๆ เกือบ 30,000 บาทเท่านั้นเอง แถมมีหลากหลายสีสันให้ได้เลือกกัน ผ้าคลุมคล้ายๆ นักรบพเนจร ราคาจะแพงหน่อย ตกอยู่ที่ 70,000 เยน หรือประมาณ 24,000 บาท …
-
10 ความหมายแท้จริงที่ซ่อนอยู่ ภายใต้แบรนด์สินค้าชื่อดัง ที่เราต่างคุ้นตากันเป็นอย่างดี..!?
สินค้าทุกอย่างจำเป็นที่จะต้องมี โลโก้ ชื่อ และเอกลักษณ์ เพื่อความโดดเด่น และง่ายต่อการจำต่อผู้บริโภค หลายๆแบรนด์มักจะมีชื่อเรียกแปลกๆ โดยเฉพาะสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทั้งหลาย แล้วเคยสงสัยกันมั้ยล่ะ ว่าความหมายที่แท้จริง ก่อนที่จะมาเป็นชื่อนั้นๆเนี่ย มันมีที่มาจากอะไร กว่าจะกลายเป็นชื่อแบรนด์ดัง ที่ทำให้คนรู้จักกันไปทั่วโลกได้ 1. Adidas มันไม่ได้ย่อมาจาก ‘All Day I Dream About Sex’ อย่างที่หลายๆคนชอบพูดกันหรอกนะจ๊ะ เพราะจริงๆแล้วมันเป็นชื่อผู้สร้างนั่นแหละ Adolf Dossler เป็นการผสมคำจากชื่อเล่นของเขา ‘Adi’ และ ‘Das’ เสียงจากการอ่านนามสกุลที่ถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่าวิธีนี้ ช่วยให้แบรนด์ดูดีมีสไตล์มากกว่าการใช้ชื่อเจ้าของไปอย่างตรงไปตรงมานั่นเอง 2. GAP แบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่นชื่อดัง ที่เรามักจะเห็นเวลาไปเดินห้างบ่อยๆ อันที่จริงความหมายของมันก็ไม่ได้ลึกซึ้งอะไรเลย แค่มาจาก ‘วัฒนธรรม GAP’ คือช่วงวัยระหว่าง เด็กและผู้ใหญ่นั่นเอง 3. Häagen-Dazs แบรนด์ไอศครีมชื่อดังก้องโลก ที่ใครต่างก็ยอมรับในความเอร็ดอร่อยของแบรนด์ เดิมทีผู้สร้างแบรนด์นี้เป็นชาวยิว ชื่อ Reuben Mattus และเพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ชาวเดนมาร์ค…
-
เมื่อแบรนด์ดังพากันทิ้งอักษร A, B, O จากโลโก้ เพื่อรณรงค์ให้คนไปบริจาคเลือดกันมากขึ้น!!!
A, B และ O เป็นตัวอักษรที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์เป็นอย่างมากต่อวงการแพทย์ เพราะมันคือตัวที่บ่งบอกถึงกรุ๊ปเลือดนั่นเอง และถ้าวันหนึ่งมันเกิดหายไปล่ะ โลกเรานี้ก็คงวุ่นวายน่าดู ตอนนี้ก็ได้เกิดแคมเปญหนึ่งขึ้นมา โดยทางบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งได้ทำการเอาตัวอักษร A, B และ O ออกไปจากชื่อแบรนด์ เพื่อให้คนตระหนักว่าตอนนี้เรากำลังขาดตัวอักษรที่สำคัญอยู่ รอให้ทุกคนได้ไปเติมเต็มกลับคืนมา วิดีโอโปรโมทแคมเปญคราวนี้… แคมเปญนี้มาพร้อมกับแฮชแท็ก #MissingType ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันขององค์กร NHS Blood and Transplant และกลุ่มประชาสัมพันธ์ Engine Group ในลอนดอน เพื่อให้คนได้ไปบริจาคเลือดในสัปดาห์แห่งการบริจาคเลือดแห่งชาติที่นั่น โดยมีสถิติจาก 10 ปีที่แล้วทำให้เห็นว่ามีคนบริจาคเลือดลดลงไปกว่า 30 เปอร์เซ็นต์เลยด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ได้มีแบรนด์ดังอย่าง Google, Microsoft, Tesco, Nandos และ Dairy Milk ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยการออกมาโพสต์ในสื่อออนไลน์ เป็นรูปโลโก้ของบริษัทตนเอง ตัดอักษรทั้ง 3 ตัวนี้ออก 1. 2. 3. 4. 5.…
-
19 สินค้า “ปลอม” สุดฮา เอาความตั้งใจให้ไม่เหมือน มาเป็นของเกรียนๆ ได้!!!
โลกนี้มีหลายแบรนด์ที่โด่งดังและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และมันสามารถเพิ่มมูลค่าสินค้าของตัวเองให้สูงขึ้นได้ด้วยการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครก็ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านมาดูอีกมุมหนึ่งของแบรนด์ที่จะพูดว่าเป็นของเก๊ได้ไม่เต็มปาก เพราะมันก็เก๊จริงๆ แต่มันเก๊ไปในทางสร้างสรรค์ที่เอาความฮาเข้าว่า เราไปดูกันดีกว่าว่าแต่ละอันจะเด็ดแค่ไหน เล่นสลับตัวอักษรงี้เลย เห็นอะไรเป็นดาวๆ ก็คิดถึงยี่ห้อนั้นตลอด คุณพี่ขาาาา เกือบแล้วๆ มาทำทิชชู่ขายแล้วเหรอ นับขีดให้ดีๆ นะจ๊ะ แฮนด์เมดแน่ๆ ถ้าไม่อ่านนี่หลงแน่นอน ไปจับโปเกม่อนกันเถอะ กระต่ายเหมือนกันนะจ๊ะ บรรยายหน้ากล่องงี้เลยเหรอ อีกนิดก็ใช่เลย ติดป้ายกลับด้านรึเปล่า เป็นกล้วยก็ได้เหรอ ดูไกลๆ ก็นึกว่าใช่ น่าจะป่วยหนัก ก็เป็นภูเขาเหมือนกัน เอาจริงๆ ถ้าไปเจอมันขายอยู่ก็น่าซื้อดีเหมือนกันนะ ใส่ไปที่ไหนคนเห็นก็คงยิ้มได้บ้างแหละ ที่มา lifebuzz
-
ไปดูการเปลี่ยนแปลงของ 18 โลโก้ “บริษัทยักษ์ใหญ่” ตั้งแต่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบันนี้!!
นอกจากชื่อบริษัทแล้ว โลโก้ก็ยังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำของผู้คน ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมาก็ต้องมีโลโก้แล้ว แต่พอถึงตอนนี้โลโก้มันก็ต้องเปลี่ยนไปตามยุคและสมัยด้วย โลโก้นอกจากจะเป็นรูปที่สวยงามแล้ว มันต้องมีความหมายและหลักการคิดบางอย่างที่ทำให้ออกมาเป็นแบบนั้นได้ วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะพาทุกท่านไปย้อนอดีตชมโลโก้ของบริษัทดัง จนถึงโลโก้ปัจจุบันว่ามันเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน Shell โลโก้แรกนั้นวาดเมื่อปี 1900 หลังจากนั้นก็พยายามที่จะทำให้โลโก้เป็นที่น่าสนใจโดยการเพิ่มสีสันและทำให้จำง่ายยิ่งขึ้นจนกลายมาเป็นโลโก้ในปัจจุบันซึ่งเริ่มใช้ในปี 1999 Apple โลโก้แรกของ Apple นั้นออกแบบมาในปี 1976 โดย Ronald Wayne โดยเป็นภาพของนิวตันที่กำลังนั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ล และนี่คือโลโก้ล่าสุดที่ใช้ในปี 2013 อีกทั้งยังใช้โลโก้รูปเดียวกัน แต่เป็นสีดำทั้งหมดในบางครั้ง ซึ่งโลโก้นี้เริ่มใช้ในปี 1998 Discovery Channel โลโก้อันแรกนั้นถูกใช้ในปี 1985 และโลโก้ใหม่ถูกทำให้ทันสมัยยิ่งขึ้นและใช้ในปี 2009 Mozilla Firefox เดิมทีนั้นเป็นรูปนกฟีนิกซ์ ซึ่งใช้ในปี 2002 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น Firefox ในปี 2004 และยังเหลือความเป็นไฟไว้อยู่ ซึ่งโลโก้ล่าสุดนั้นใช้ในปี 2009 General Electric โลโก้แรกถูกออกแบบอย่างเรียบง่ายในปี 1892…
-
15 “ข้อความลับ” ที่ซ่อนอยู่ในโลโก้แบรนด์ดัง ล้วนมีความหมายมากกว่าที่ทุกคนคิด!!
โลโก้แบรนด์ ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาของบริษัทเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากชื่อที่ทำให้คนสามารถจำแบรนด์ได้แล้ว โลโก้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้คนจดจำได้ด้วย การออกแบบโลโก้นั้นไม่ใช่ว่าวาดๆ ออกมาก็เสร็จแล้ว เพราะทุกขั้นตอนล้วนผ่านการคิดมาแล้วทั้งนั้น อีกทั้งยังสอดแทรกข้อความหรือความลับเล็กๆ น้อยๆ ไว้ข้างในโดยที่เราไม่ทันสังเกต วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยจะพาทุกท่านมาไขความลับที่อยู่ในแบรนด์ดังเหล่านี้กันว่าจะเจออะไรกันบ้าง เราไปดูกันเลย FedEx – โลโก้จะซ่อนลูกศรไว้ตรงระหว่างตัวอักษร E และ x เพื่อสื่อให้เห็นถึงการส่งต่อไปข้างหน้า Gillette – ให้ดูดีๆ ที่ตัวอักษร G และ i ที่มีความรู้สึกเหมือนใบมีดโกนมันสามารถเฉือนได้คมมากๆ ซึ่งแสดงถึงสินค้าได้อย่างดี NBC – เป็นช่องสถานีโทรทัศน์ เราจะเห็นช่องสีขาวตรงกลาง ที่กินพื้นที่เข้าไปในสีม่วงหน่อยๆ จริงๆ แล้วมันคือรูปนกยูงที่เป็นตัวแทนแห่งชื่อเสียงและความภาคภูมิใจ Vaio – แบรนด์คอมพิวเตอร์ของโซนี่ที่ทำเพื่อสื่อถึงการผสมผสานของอนาล็อกและดิจิตอล โดยตัวอักษร VA นั้นทำให้ออกมาเหมือนคลื่นธรรมชาติ และ IO ก็คือไบนารี่โค้ดนั่นเอง Tostitos – แบรนด์ขนมที่ทำออกมาให้ตัว T…
-
25 อันดับแบรนด์ “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์” ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก!!
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เหล้าที่เรารู้จักกันดีนั้น ถือเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเอาไว้ดื่มฉลอง หรือดื่มเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น บางที่ก็ดื่มเป็นยาก็มี ทำให้บนโลกนี้มีเหล้าอยู่หลายแบรนด์เป็นอย่างมาก วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปพบกับ 25 อันดับของแบรนด์เหล่าที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก มูลค่าที่ว่าก็คือมูลค่าของแบรนด์นะ ไม่ใช้มูลค่าต่อขวด ซึ่งตัววัดนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความนิยมและคุณภาพได้อีกด้วย เราไปดูกันเลยว่าทั่วโลกนี้จะมีแบรนด์ไหนกันบ้าง 25: Havana Club ประเภท: รัม มูลค่าแบรนด์: 19,000 ล้านบาท เรตติ้งแบรนด์: AA+ 24: Gujing Gong Jiu ประเภท: ไป๋จิ่ว มูลค่าแบรนด์: 20,000 ล้านบาท เรตติ้งแบรนด์: A+ 23: Old Parr ประเภท: วิสกี้ มูลค่าแบรนด์: 20,000 ล้านบาท เรตติ้งแบรนด์: AAA- 22: Cîroc ประเภท: วอดก้า มูลค่าแบรนด์: 21,000…
-
ศิลปินเทสีใส่ “โลโก้” แล้วหมุนเร็วๆ เกิดเป็นภาพสุดยูนีคจากแบรนด์ต่างๆ!!
ปกติแล้วเราจะเห็นโลโก้เป็นภาพนิ่งธรรมดา ที่ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ แต่ช่างภาพ Manuel Mittelpunkt และนักออกแบบ Matthias Grund ได้ทำการเปลี่ยนมิติใหม่ของโลโก้ให้มันดูมีสีสันมากยิ่งขึ้น ภาพทั้งหมดนี้ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ตกแต่งแต่อย่างใด แต่ต้องใช้ความไวในการจับภาพโลโก้ของแต่ละแบรนด์ในช่วงเวลาที่มันกำลังหนุมด้วยความเร็ว เพื่อให้สีที่ได้เทลงไปนั้นหมุนเป็นวงกลม ทำให้เกิดภาพที่สวยงาม ตัวโลโก้นั้นทำจากไม้ แล้วใช้สีที่เป็นสีเดียวกับแบรนด์นั้นๆ ค่อยแต้มลงไป แล้วนำไปยึดกับแกนหมุน ซึ่งพวกเขาก็ได้ทำการทดลองอยู่หลายครั้งกว่าจะได้ภาพที่น่าพึงพอใจออกมา เราไปชมกันเลยว่าแต่ละแบรนด์มันจะสวยงามแค่ไหน และนี่คือเบื้อหลังการทำงาน รู้สึกได้เลยว่าแต่ละแบรนด์เมื่อกลายเป็นของเหลวแล้วมันดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ กว่าจะได้ภาพแบบนี้คงใช้เวลาน่าดู ที่มา designboom
-
จะเป็นยังไงเมื่อ 17 แบรนด์ดังระดับโลก หันมาผลิตถุงยางอนามัยพร้อมกับสโลแกนสุดฮาาา
ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าแบรนด์ต่างๆที่เรารู้จักกันนั้น จะมีธุรกิจลับที่นอกจากจะขายสินค้าตามแบรนด์ของตัวเองแล้ว ยังมีธุรกิจเสริมที่เราคาดไม่ถึงอีกต่างหากนั้นคือการขายถุงยางอนามัย วันนี้ #เหมียวฮานะ เลยจะพาเพื่อนๆไปดูถุงยางอนามัยที่เป็นของแบรนด์ดังต่างๆและมาพร้อมกับสโลแกนสุดฮาา 1. Nike ลงมือทำซะ!! 2. McDonald แล้วคุณจะต้องหลงรัก 3. Adidas ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ 4. Pringles เพียงแค่คุณลอง ก็ไม่สามารถหยุดได้แล้ววว 5. Gatorade มันอยู่ในตัวคุณ? 6. KFC แน่นอนว่ามันจะอร่อยจนต้องเลียนิ้วเลยล่ะ 7. Pokemon ออกไปจับให้หมดเลยย !! 8. Burger king แล้วแต่คุณเลยยยย 9. Energizer ทำไปเรื่อยๆ เรื่อยๆและเรื่อยๆ 10. XBOX มันดีนะถ้าเราเล่นไปด้วยกัน 🙂 11. IN-N-OUT…
-
15 ชื่อแบรนด์ที่พวกเราเรียกกันบ่อยๆ มาดูชื่อเต็มๆของแต่ละอันกันว่าคืออะไร?
ในโลกนี้มีแบรนด์อยู่มากมายที่เรารู้จักกันไม่ว่าจะเป็น อาหาร ของใช้ ห้างสรรพสินค้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น แต่ละแบรนด์นั้นมักจะมีตัวย่อที่ให้ผู้คนนั้นได้เรียกกันง่ายๆ จนเรานั้นเรียกกันมาจนติดปากตลอด วันนี้ #เหมียวฮานะ ได้ไปเจอข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ที่ได้มาเฉลยถึงชื่อที่แท้จริงของแบรนด์ต่างๆ 15 ชื่อด้วยกัน… 1. KFC มั่นใจได้เลยว่าไม่มีใครไม่รู้จักไก่ทอดแบรนด์นี้ นับว่าเป็นไก่ทอดที่มีความอร่อยมากถึงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งชื่อเต็มๆของ KFC นี้ก็มาจาก “Kentucky Fried Chicken” หรือเรียกง่ายๆว่าไก่ทอดเคนตักกี้ 2. M & M’s ยี่ห้อนี้ก็เป็นที่นิยมเหมือนกันเพราะเป็นยี่ห้อของขนมช็อคโกแลตเคลือบคาราเมลสุดอร่อยนั้นเอง เจ้า m&m’s นี่ก็ย่อมาจาก “Mars&Murrey” เป็นชื่อเจ้าของกิจการทั้งสองคนที่มารวมตัวกันทำขนมนี้ออกมา 3. Big C มาถึงห้างชื่อดังที่ใครๆต้องรู้จักกันบ้างกับ BigC ที่ย่อมาจาก “Big Central” ก็เป็นชื่อตามเครือแม่อย่าง Central นั้นเอง 4. BMW ยี่ห้อรถสุดหรูอันนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักอย่างแน่นอนกับ BMW นี้มีชื่อย่อมาจาก…
-
20 แบรนด์ดังที่ถูกนำมากลับหัวกลับหาง พลิกไปมาจนเกิดมาเป็นแบรนด์ใหม่ที่คุ้นตา!!!
เออเนาะ เหมียวก็ยากรู้เหมือนกันว่าคิดไปได้ยังไงเนี่ยเอามากลับหัวกลับหาง แถมไม่พอยังสลับด้านในออกด้านนอกอีกต่างหาก กับผลงานของศิลปินคนนี้ Ivan Apostolski ที่นำแบรนด์ดังต่างๆ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ลองมากลับหัวกลับหางดู ตามแบบที่เขาต้องการ กลายเป็นแบรนด์ใหม่ที่สวยและน่าสนใจเลยทีเดียว ลองมาดูกันว่ายังจะทำได้อยู่รึเปล่า Apple iOS ฮ่าๆๆ Finding Omen จาก Nemo สุดน่ารัก กลายเป็นเจ้าหนูเด็กผีที่หลอนสุดๆ -*- บรึ๋ยยยยยยย TAKE HIGH CARE กลับหัวจากบริษัทส่งของ DHL (สงสัยจิกกัดเรื่องชอบส่งของพัง) นี่มัน Nokia นี่นา อดีตแบรนด์มือถือชื่อดัง (หรือว่าสิ่งที่บริษัทต้องการตอนนี้คือวิสัยทัศน์!!?) Brat-The Spoilt One แปลว่าเด็กขี้งอแง หรืออาจเพราะต้องไปซ่อมบ่อยๆ หรือเปล่า?? Daily Dad คุณพ่อรายวัน น่าจะมาจาก Paypal?? อ๋อออ ขอตังค์พ่อมาจ่ายสินะ ฮ่าๆๆ …
-
ASUS สี่ตัวอักษรเจ้าปัญหา จนปัญญาที่จะเรียก แล้วการออกเสียงแบบไหนถึงจะถูกต้อง!?
ชื่อแบรนด์สั้นๆ ง่ายๆ เป็นสิ่งที่ดี ทำให้ลูกค้าสามารถจดจำและเรียกชื่อได้ทันที แต่ทว่าปัญหามันอยู่ตรงที่การออกเสียงนี่แหละ แต่ละคนก็ออกเสียงไม่เหมือนกันเลย เพราะด้วยลักษณะของการวางตัวอักษรที่พางงของแบรนด์เช่น ASUS นี่แหละ บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสัญชาติไต้หวันที่มาพร้อมกับชื่อเพียงแค่ 4 ตัวอักษร ‘ASUS’ ลักษณะการสะกดที่สามารถออกเสียงได้หลากหลาย แถมยังทำให้คล้ายกับคำว่า anus – รูทวาร อีกแหนะ เราลองมาดูโฆษณาที่เล่นกับชื่อแบรนด์กันก่อน ออกเสียงคล้ายกับคำว่า asses หากสังเกตกันดีๆ แล้ว ชื่อของบริษัทนั้นได้นำมาจากสัตว์ในตำนาน Pegasus แต่ตัด peg ออก จึงเหลือเพียงแค่ asus แล้วมันออกเสียงยังไงกัน อย่างในภาษาเยอรมันก็จะออกเสียงว่า AH-SOOS AH-SOOS ออกเสียงแบบภาษาเยอมัน AH-SOOS จากประเทศอิตาลี และ EY-SOOS จากประเทศญี่ปุ่น สรุปแล้วว่าออกเสียงอย่างไรให้ถูกต้องตามหลัก AAAAA-SUUUUUS รึเปล่า!? แต่บางคนก็ยังออกเสียง AH-SUS บ้าง…
-
รวม 18 เกร็ดความรู้และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแบรนด์ Coca-Cola น้ำดำในตำนานที่ยังมีชีวิต
ยอมรับเลยว่าเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือซอฟต์ดริ๊งค์สีดำที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในตอนนี้มีเพียงยักษ์ใหญ่แค่ 2 รายเท่านั้นที่ยังฟาดฟันต่อสู้กันไม่หยุดหย่อน ค่ายสีฟ้า เป๊บซี่ และ ค่ายสีแดง โคคา-โคล่า (โค้ก) นั่นแหละ เอาเป็นว่าคราวนี้ขอชูเรื่องเกร็ดความรู้จากฝั่งค่ายสีแดงก่อนละกันเนอะ บริษัทและสูตรต้นตำหรับ Coca-Cola ให้กำเนิดโดยเภสัชกร John S. Pemberton ในปีค.ศ. 1886 แต่ชื่อและโลโก้ที่เราเห็นกันนั้นเป็นความคิดของ Frank Robinson Coca-Cola แต่เดิมเคยทำการตลาดว่าเป็นเครื่องดื่มบำรุงประสาท เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า Coca-Cola ในช่วงแรกๆ นั้นเคยนำโคเคนมาเป็นส่วนผสมด้วย แต่ใช้เพียงแค่ 9 มิลลิกรัมต่อขวดเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาอาการเสพติดฝิ่น ภายหลังในปีค.ศ. 1903 สั่งยกเลิกการนำโคเคนมาเป็นส่วนผสม ในทุกวันนี้ ภานใต้ 3% ของแบรนด์เครื่องดื่มที่มีบนโลก อยู่ภายใต้การจดทะเบียนของ Coca-Cola (3% ก็ประมาณ 1.9 พันล้านยี่ห้อ) มีเพียงเกาหลีเหนือและคิวบาเท่านั้น ที่ไม่การนำ Coca-Cola…
-
รู้หมือไร่?!!? แบรนด์ Superdry แม้มีตัวอักษรญี่ปุ่น แต่ไม่ได้มาจากญี่ปุ่น!!!
หากดูในช่วงสามสี่ปีที่ผ่านมา หนึ่งในแบรนด์ที่กลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นและคนยุคใหม่ในบ้านเรา ก็คงจะหนีไม่พ้นแบรนด์ Superdry ด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบๆแต่ล้ำสมัย ทำให้แบรนด์นี้โด่งดังอย่างรวดเร็ว แต่สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือว่า แม้แบรนด์ Superdry จะมีตัวอักษรญี่ปุ่นกำกับ(และจีนซึ่งเพิ่มมาภายหลัง) แต่แท้จริงแล้ว แบรนด์นี้ไม่ได้มาจากประเทศญี่ปุ่น แต่ว่ามาจากประเทศอังกฤษ!!! จริงๆแล้วบริษัทที่เป็นเจ้าของแบรนด์ Superdry คือบริษัท SuperGroup plc ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ โดยมีผู้ก่อตั้งสองคนคือ Ian Hibbs และ Julian Dunkerton โดยตอนแรกขายในชื่อแบรนด์ Cult Clothing และได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงจนเปิดได้หลายสาขาทั่วประเทศอังกฤษ ส่วนแบรนด์ Superdry เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อปี 2004 ว่ากันว่าชื่อแบรนด์ Superdry มาจากเบียร์ยี่ห้อ Asahi แบบ Super Dry แต่ก็ไม่มีการยืนยันจากผู้บริหารว่าเรื่องนี้จริงหรือเปล่า และภายใต้การนำของ Theo Karpathios ด้วยเสื้อผ้าแนว Vintage Americana ผสมกับตัวอักษรภาษาญี่ปุ่น ทำให้แบรนด์ Superdry ก็ได้กลายเป็นที่นิยมไปทั่วโลก ที่น่าตกใจก็คือในประเทศญี่ปุ่นนั้น…
-
มาทายกันเถอะ ‘เสก โลโซ’ ธุรกิจเยอะ ออกผลิตภัณฑ์เพียบ ยังมีอะไรอีกที่ไม่ได้ทำ?
ก่อนอื่นเลยต้องขอกล่าวถึงประวัติร็อคสตาร์ชื่อดังของเมืองไทยกันก่อน กับพี่ เสก เสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ นั่นเอง เป็นนักร้องนำวงโลโซที่มีแฟนคลับมากมาย กับบทเพลงดังที่คุ้นหูกันดีอย่าง ‘ใจสั่งมา’ ‘ฝนตกที่หน้าต่าง’ ‘ซมซาน’ ‘จักรยานสีแดง’ ‘พันธ์ทิพย์’ และบทเพลงอื่นๆ อีกเพียบ ช่วงหลังๆ มานี้รู้สึกว่าผลงานเพลงพี่เสกจะน้อยลง แต่สิ่งที่เพิ่มเติมมาก็คือเหล่าผลิตภัณฑ์ของพี่เสก ที่คลอดออกมาแบบรัวๆ จนแทบจะตั้งตัวกันไม่ทันเลยทีเดียว โดยที่พี่เสกประกาศว่าจะทำนู่นนี่นั่นผ่านเพจ SEK LOSO ดูเหมือนว่าพี่แกจะคิดเอาไว้เล่นๆ แต่ที่ไหนได้ ทำออกมาจริงๆ แถมยังมีเยอะมากๆ เลยด้วย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน LOSO รุ่น ‘ใจสั่งมา’ ร้านสะดวกซื้อ LOSO SHOP 22 เครื่องดื่มชูกำลัง LOSO D น้ำดื่ม LOSO …
-
จะเป็นยังไง… เมื่อนำโลโก้แบรนด์ดังมา “สลับสี” กับแบรนด์คู่แข่ง
กุญแจสำคัญที่จะทำให้สินค้าเป็นที่จดจำก็คือแบรนด์ หรือโลโก้ นั่นเอง เพราะฉะนั้นในการออกแบบโลโก้สินค้าต้องมีเอกลักษณ์ให้คนจดจำ ให้ผู้บริโภครู้สึกผูกติดกับสินค้าแบรนด์นั้น และแน่นอนว่าสินค้าแบรนด์ดังหลายเจ้านั้นเขามีการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ แค่มองแว็บเดียวก็ดูรู้แล้วว่าเป็นยี่ห้ออะไร ด้วยสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หรือตัวอักษรแค่นี้คนก็จดจำได้แล้ว Paula Rúpolo นักกราฟิกดีไซน์ชาวบราซิล จึงได้ทดลองนำเอาโลโก้แบรนด์ดังทั้งหลายมาสลับสีกันกับแบรนด์คู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็น ยาสีฟันแบรนด์ดังอย่าง ออรัล-บี กับ คอลเกต น้ำอัดลม สไปรท์ กับ 7-อัพ และยี่ห้อดังอื่นๆ มาดูสิว่าเมื่อลองสลับสีกันแล้วจะเปลี่ยนไปยังไง Canon กับ Nikon Fedex กับ Ups Heineken กับ Budweiser Oral-B กับ Colgate Playmobil กับ Lego Real Madrid กับ FCBarcelona Red Bull กับ Monster Energy Sprite กับ 7-up …
-
เบื้องหลังหมายเลขของแบรนด์ดัง มีความหมายว่าอย่างไรบ้าง?
เครื่องหมายทางการค้าสามารถบ่งบอกคุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัว ถือเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองที่ไม่มีใครสามารถลอกเลียนแบบได้ และหลายๆ แบรนด์ก็มักจะเลือกนำตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะสอดแทรกความหมายที่บ่งบอกที่ตัวตนและความเป็นมาของแบรนด์นั่นเอง Six Flags Six Flags นั้นได้ชื่อมาจาก Six Flags over Texas โดยมีความหมายมาจากธงจากทั้งหมด 6 ประเทศที่ควบคุมรัฐเท็กซัส (สเปน, ฝรั่งเศส, เม็กซิโก, สาธารณรัฐเท็กซัสสหรัฐอเมริกาและพันธมิตรสหรัฐอเมริกา) Jack Daniels Old No. 7 หมายเลข 7 ของ Jack Daniels นั้นมีสาเหตุมาจากในสมัยที่เพิ่งเริ่มการก่อตั้งโรงกลั่นจะต้องทำการลงทะเบียนกับรัฐบาล แต่แล้วพอมีการเพิ่มจำนวนของโรงกลั่นก็ต้องทำการจัดระเบียบกันใหม่และเลขที่ออกก็คือ 16 แต่ทางโรงกลั่นไม่ยอมเปลี่ยนเพราะตั้งเป็นชื่อบริษัทไปแล้ว Nintendo 64 สำหรับ Nintendo 64 นั้นตั้งชื่อตามหน่วยประมวลผลขนาด 64 บิต (แค่นี้จริงๆ นะ) Xbox 360 ทาง Microsoft เกรงว่าถ้าให้ชื่อเป็น Xbox 2 ก็กลัวว่าจะดูด้อยกว่าเครื่องของคู่แข่ง เพราะวันเปิดตัวดันมาจัดใกล้ๆ กับวันเปิดตัวของเครื่อง…
-
เมื่อเหล่าคนดังในอดีตกลายมาเป็น “พรีเซนเตอร์” ให้กับแบรนด์ดังในปัจจุบัน
ลองนึกภาพว่าตำนานดารานักร้องในอดีต ถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ เราก็ยังคงเห็นพวกเขาโลดแล่นอยู่ตามหน้าจอเป็นแน่แท้ ทาง DesignCrowd จึงจัดกิจกรรมนำเอานักออกแบบกว่า 450,000 คนจากรอบโลก และหาภาพแบรนด์ดังทั้งหลายแหล่ในโลกมาตัดต่อรวมกันกับเหล่าดาราศิลปินในดวงใจที่ได้ลาโลกนี้ไปแล้ว เราจะได้เห็นพวกเขามีชีวิตอยู่บนโปสเตอร์แบบโลกสมัยใหม่แบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนแน่ๆ จะมีใครบ้าง เราไปดูกันเลย ที่มา boredpanda
-
ศิลปินเปี่ยนโลโก้แบรนด์กีฬาชื่อดังให้สดใสโดยการปัก “ดอกไม้” เพิ่มเข้าไป
เราคงรู้จักแบรนด์ชื่อดังทางด้านกีฬาเป็นอย่างดี เพราะมันมีอยู่ไม่กี่แบรนด์ที่หาซื้อได้ง่ายแล้วเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และทุกครั้งที่เราเห็น ก็มักจะเจอโลโก้แบรนด์ที่เหมือนกันทุกครั้งไป ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลย ศิลปินคนหนึ่งนามว่า James Merry เขาได้ทำโปรเจกต์หนึ่งขึ้นมา โดนการเอาโลโกของแบรนด์กีฬาชื่อดังมาเย็บปักถักร้อยใหม่ โดยประดับไปด้วยรูปแบบดอกไม้สุดคลาสสิกและงดงาม แถมดีเทลแต่ละอันก็ละเอียดมากๆ อีกทั้งเขายังทำงานให้กับ Bjork ศิลปินนักร้องชาวไอซ์แลนด์มาหลายปีอีกด้วย ทั้งการออกแบบเครื่องแต่งกาย และมิวสิควิดีโอ เราไปดูผลงานของเขากันเลย ที่มา boredpanda