Tag: แรงงาน
-
พนักงานซักผ้าถูก “ผ้าบิดแขน” จนขาด หลังล้วงมือหยิบผ้าขณะเครื่องยังไม่หยุดปั่น
เครื่องจักรนั้นเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้คนได้มากก็จริงๆ แต่ขณะเดียวกันหากใช้เครื่องจักรอย่างไม่ระมัดระวังก็อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายจนสาหัสได้ เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2561 พนักงานในโรงซักผ้าแห่งหนึ่งใน ต.ชากพง อ.แกลง จ.ระยอง ถูกเครื่องซักผ้า “ปั่นจนแขนขาด” หลังยื่นมือเข้าไปในเครื่องขณะที่เครื่องยังไม่หยุดทำงาน ร.ต.อ.จันทร์ติ วรรณูปถัมถ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กร่ำ จ.ระยอง ได้รับแจ้งในวันเดียวกันนี้ว่า นายกี้ อายุ 28 ปี พนักงานชาวไทใหญ่ใน โรงซักผ้าอมรพันธ์วิลล่า ได้รับอุบัติเหตุจนแขนขาด เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุพบเครื่องซักผ้า 4 เครื่อง และพบนายกี้กำลังนั่งโอดครวญด้วยความเจ็บปวดโดยแขนข้างขวาของเขาตั้งแต่ช่วงข้อศอกจนถึงปลายแขนขาดหลุดออกมา แขนของนายกี้มีเลือดไหลออกมา เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงรีบนำชิ้นส่วนของแขนต่อกลับเข้ากันแล้วกันผ้าเอาไว้ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลแกลงอย่างรวดเร็ว ต่อมาสอบถามกับ นายโก้ เพื่อนร่วมงานชาวไทยใหญ่ของนายกี้ ได้ความว่า ทีแรกนายกี้ก็ได้นำผ้าปูที่นอนมาเข้าเครื่องซักตามปกติ โดยหลังจากซักเสร็จแล้วก็นำไปเข้าเครื่องปั่นแห้ง อุบัติเหตุเกิดขึ้นเมื่อเครื่องปั่นแห้งแจ้งเตือนว่าปั่นแห้งเสร็จแล้ว แต่นายกี้ไม่รอให้เครื่องหยุด ใช้มือล้วงหยิบผ้าขณะเครื่องยังหมุนด้วยความเร็ว นั่นทำให้ผ้าในเครื่อง พันเข้ากับมือของนายกี้ และบิดแขนของเขาตามแรงหมุนของเครื่องปั่นแห้ง จนแขนขาดออกจากกัน นายกี้เจ็บปวดจนร้องออกมาดังลั่นพร้อมเลือดที่พุ่งกระฉูดออกมาจากแขน จากนั้นทุกคนจึงเข้ามาช่วยเหลือ ใช้ผ้าพันแผลห้ามเลือด และโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่กู้ภัยพันแขนของนายกี้เข้าด้วยกันเตรียมนำตัวส่งโรงพยาบาลแกลง…
-
หญิงชาวอินโดถูกตัดสิน “ประหาร” ในซาอุฯ เพราะฆ่านายจ้างที่พยายาม ‘ข่มขืน’ เธอ
ชาวอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตาได้เกิดความไม่พอใจกับทางประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างมาก หลังหญิงชาวอินโดนีเซีย ถูกตัดสินประหารชีวิต โดยไม่มีการแจ้งรัฐบาลอินโดฯ Tuti Tursilawati ผู้ใช้แรงงานหญิงชาวอินโดนีเซียที่อพยพเข้ามายังประเทศซาอุดีอาระเบียได้ถูกตัดสินประหารชีวิตในปี 2011 ด้วยคดีฆาตกรรมนายจ้างของตน แต่ถึงอย่างนั้นเธอยังไม่ได้รับโทษ กระทั่งวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา เธอถูกประหารชีวิตเป็นที่เรียบร้อยในเมืองอัฏฏออิฟ ประเทศซาอุดีอาระเบีย Tuti Tursilawati การตัดสินคดีในครั้งนี้ทำให้เกิดความไม่พอใจแก่ชาวอินโดนีเซียอย่างยิ่ง Joko Widodo นายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียได้ติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศของซาอุดีอาระเบีย ถึงสาเหตุที่ไม่แจ้งข่าวการประหารชีวิต Tuti Tursilawati ให้ทางการอินโดนีเซียได้ทราบ ประกอบกับการให้ปากคำของ Tuti ที่กล่าวว่าเป็นการกระทำเพื่อ ป้องกันตนเอง หลังจากถูกนายจ้างของเธอลวนลามและคุกคามทางเพศ ยิ่งทำให้ชาวอินโดนีเซียยิ่งไม่พอใจ ภายหลังทราบว่า ทางซาอุดีอาระเบียไม่สนใจเรื่องของการร้องขอสิทธิมนุษยชนและสิทธิการรักษาชีวิตของตน (ผู้กระทำผิด) สุดท้าย นายกรัฐมนตรีของอินโดนีเซียจึงได้พยายามร่างข้อตกลงจริงจังกับประเทศซาอุดีอาระเบียเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 แล้วที่ทางการประเทศซาอุดีอาระเบียมีกาประหารชีวิตชาวอินโดนีเซียโดยไม่มีการแจ้งกลับมายังประเทศบ้านเกิด ที่มา: migrantcare, nextshark และ Daily Mail
-
ย้อนอดีตชม 20 ภาพน่าสะเทือนใจของ “การใช้แรงงานเด็ก” ช่วงยุค 1900s ในสหรัฐฯ
ในช่วงต้นๆ ของคริสต์ศักราช 1900 สำหรับวงการอุตสาหกรรมแล้ว แรงงานมนุษย์นั้นจำเป็นอย่างยิ่ง แม้จะเริ่มมีการใช้งานเครื่องจักร แต่ก็ไม่สามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ทุกอย่าง ฉะนั้น โรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการใดที่มีแรงงานมนุษย์มากก็ถือว่าได้เปรียบ ในช่วงยุคนั้นจึงนิยม การใช้แรงงานเด็ก เพื่อทำงานในบางหน้าที่ จนสุดท้ายกลายเป็นการกดขี่อันน่าเศร้าที่เด็กๆ ต้องเจอ บรรยากาศอันน่าสะเทือนใจของการใช้แรงงานเด็กในในอดีตช่วงยุค 1900s ถูกเก็บมาเป็น “ภาพ” ให้คนรุ่นหลังได้ชม วันนี้ เราจึงจะพาทุกท่านไปชมภาพเหล่านั้นกัน… 1. Giles Edmund Newsom เด็กวัย 11 ปีที่ทำงานเกี่ยวกับกังหันลม และแล้วอุบัติเหตุจากเครื่องจักรก็พรากนิ้วมือของเขาไป 2. Rosie วัย 7 ขวบกับปีที่สองของการเป็นคนงานแกะเปลือกหอย 3. เด็กส่งหนังสือพิมพ์คนหนึ่งผล็อยหลับบนขั้นบันได้พร้อมกับหนังสือพิมพ์ที่เขาต้องส่ง 4. Ferris เด็กส่งหนังสือพิมพ์วัย 7 ขวบ 5. Mary วัย 4 ขวบกับหน้าที่แกะเปลือกหอย 6. Vance วัย 15 ปีคอยเปิดปิดประตู ทำงาน 10…
-
เอาใจสาวกญี่ปุ่นกับ 14 อาชีพ ที่ชาวต่างชาติสามารถเข้าไปทำได้ในแดนปลาดิบ!!
ประเทศญี่ปุ่นถือเป็นหนึ่งในประเทศอันดับต้นๆ ที่ผู้คนอยากไปเที่ยวมากที่สุด เนื่องจากเป็นประเทศที่สวยงาม ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว ผู้คน และวัฒนธรรม สิ่งเหล่านี้ทำให้ประเทศญี่ปุ่นมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก จนทำให้ใครหลายคนใฝ่ฝันที่จะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น การที่ชาวต่างชาติอย่างเราๆ จะสามารถเข้าไปใช้ชีวิตเสมือนหนึ่งในประชากรของประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเสียทีเดียว เนื่องจากปัจจุบันภาวะขาดแคลนแรงงานที่มีความสามารถในญี่ปุ่น ทำให้ทางประเทศญี่ปุ่นจำเป็นต้องจ้างแรงงานต่างชาติเข้ามาช่วย ถึงแม้จะเป็นจำนวนที่ไม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นโอกาสสำหรับผู้ที่ต้องการจะไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศญี่ปุ่น วันนี้เราจึงมานำเสนอถึง 13 อาชีพสำหรับชาวต่างชาติ ที่ทางประเทศญี่ปุ่นต้องการมากที่สุด จะมีอาชีพอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย… 1. วิศวกร ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีการทำอุตสาหกรรมจำนวนมาก เช่น อุตสาหกรรมไฟฟ้าและยานยนต์ เป็นต้น ฉะนั้น ตำแหน่งวิศวกรจึงเป็นที่ต้องการจำนวนมาก หากใครที่เรียนด้านวิศวกรรมมาก็ถือว่ามีโอกาสค่อนข้างสูงในการที่จะได้เข้าไปทำงานในประเทศญี่ปุ่น 2. เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ประเทศญี่ปุ่นเองก็ขาดแรงงานที่มีทักษะความสามารถทางไอทีหรือเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉะนั้น ผู้ที่มีความรู้ความสามารถทางด้านนี้ก็มีโอกาสที่จะได้เข้าไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นสูงด้วยเช่นกัน 3. เจ้าหน้าที่ธนาคารการลงทุน ในตลาดแรงงานของญี่ปุ่น ธนาคารการลงทุนนั้นถือเป็นสถาบันการเงินที่มีการหมุนเวียนแรงงานเข้า-ออกบ่อยครั้ง หมายความว่า มีการรับเข้าพนักงานทั้งในและนอกประเทศจำนวนมาก และบ่อยครั้ง ชนิดที่ว่า “ปีต่อปี” เลยทีเดียว ฉะนั้น ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับการเงินและการลงทุนเองก็มีโอกาสที่จะถูกรับเข้าทำงานจากธนาคารในญี่ปุ่น …
-
ภาพน่ารัก “คุณพ่อผู้ใช้แรงงาน” มานั่งในสถานีรถไฟใต้ดินทุกวัน ใช้ไวไฟฟรีคอลหาลูกเมีย
การที่ต้องอยู่ห่างไกลครอบครัวนั้น สำหรับบางคนเป็นอะไรที่ทำใจได้ยากยิ่ง เนื่องจากความเป็นห่วง ความคิดถึงที่มีให้กับครอบครัวนั้น มันทำให้คนไกลรู้สึกทรมานใจยิ่งนัก ดังนั้นหลายคนที่ต้องออกไปทำงานห่างไกลครอบครัว จึงจำเป็นต้องหาทางติดต่อกับครอบครัวอยู่บ่อยๆ เพื่อลดความคิดถึงและห่วงหา แต่สำหรับบางคนนั้น การติดต่อกลับหาครอบครัวก็ไม่ได้ทำได้ง่ายๆ มันอาจจะต้องแลกมาด้วยความพยายามอย่างมาก ดังเช่นแรงงานชาวจีนผู้นี้ที่เขาจะต้องมาที่สถานีรถไฟใต้ดินทุกๆ วัน เพื่อใช้บริการ “ไวไฟฟรี” ของสถานีในการโทรหาภรรยาและครอบครัว นาย Ge Yuanzheng แรงงานก่อสร้างในเมืองทางจีนตะวันออก ซึ่งอพยพมาจากมณฑลเหอหนาน เขามีรายได้น้อยแถมยังต้องอาศัยอยู่ในหอพักแสนธรรมดากับเพื่อนร่วมงาน เขาจำเป็นต้องประหยัดเงินกระทั่งแม้ไปเที่ยวเขาก็ยังไม่กล้าไปสถานที่ดังๆ เนื่องจากกลัวจะเสียค่าใช้จ่ายที่มากเกินไป Ge พยายามติดต่อครอบครัวทุกวัน แต่เขาเองก็ยังต้องประหยัดและเก็บออมเงินที่ได้มาแสนยากลำบาก เขาเลยเลือกที่จะใช้บริการดีๆ ของสถานนีรถไฟใต้ดินอย่างอินเทอร์เน็ตไวไฟฟรีนั่นเอง เขาเล่าว่าเขาต้องเดินมาที่สถานีทุกๆ คืนเพื่อใช้สัญญาณไวไฟติดต่อและพูดคุยสนทนากับครอบครัว โดยเมื่อเดือนก่อนก็มีคน ถ่ายรูป ของเขาขณะโทรหาครอบครัวมาโพสต์ลงอินเทอร์เน็ต ครั้งแรกที่ภรรยาของ Ge เห็นภาพดังกล่าวบนอินเทอร์เน็ต เธอรู้สึก ไม่พอใจ ที่มีคนถ่ายรูปเขาที่อุตส่าห์เดินลัดเมืองมาเพื่อแค่โทรบอกรักภรรยา แต่เมื่อ Ge ได้อธิบายว่าเขาไม่เป็นไร ทุกๆ อย่างปกติดี เธอจึงให้กำลังใจเขาแทน เขาและภรรยานั้นมีลูกด้วยกัน 2 คน ลูกชายของเขาทำงานแล้ว ในขณะที่ลูกสาวของเขานั้นกำลังเล่าเรียนเพื่อที่จะเป็นพยาบาล ค่าส่งเสียเล่าเรียนของลูกสาวนั้นราวๆ…
-
หอการค้าญี่ปุ่นเผย กว่า 60% ของบริษัทขนาดเล็ก-กลาง ประสบภาวะขาดคนทำงานอย่างหนัก
การมองหางานในประเทศญี่ปุ่นถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับชาวต่างชาติ เพราะความแตกต่างของวัฒนธรรมและภาษาที่ใช้ อีกทั้งบริษัทต่างๆ ก็ได้ตั้งมาตรฐานสำหรับพวกเขาเอาไว้สูงมาก แต่ตอนนี้พวกเขาอาจต้องนำเรื่องนี้มาแก้ไขกันใหม่ เมื่อผลสำรวจออกมาว่าบริษัทจำนวนมากในประเทศกำลังขาดแคลนคนทำงานอย่างหนัก จากการศึกษาของฝ่าย หอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น (หรือเรียกว่า JCCI) บอกว่า กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางของประเทศกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานอย่างหนัก Akio Mimura ประธานฝ่ายดังกล่าวได้เสนอให้รัฐบาลลดมาตรฐานการรับคนต่างชาติเข้าทำงาน เพราะการรับสมัครแต่ชาวต่างชาติที่มีทักษะสูงและเข้มงวด แถมยังต้องมีทักษะการพูดภาษาญี่ปุ่นที่ดีเยี่ยม ทั้งหมดนั้นทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนคนทำงานแบบนี้มากขึ้น Akio จึงได้แนะนำให้รัฐบาลดึงชาวต่างชาติที่ไม่มีหรือมีทักษะการทำงานต่ำเข้ามาทำในส่วนของอุตสาหกรรมก่อสร้างและการขนส่งคมนาคม เพื่อลดช่องว่างของปัญหานี้ให้เล็กลง นายกรัฐมนตรีของประเทศ Shizo Abe ก็ตั้งใจว่าจะลดมาตรฐานในการรับชาวต่างชาติเข้ามาทำงานลง และเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะทำลายความเป็นอยู่ของประชาชนหรือการบริหารประเทศแต่อย่างใด ขณะเดียวกันชาวเน็ตญี่ปุ่นกลับคิดว่าปัญหาขาดแคลนคนทำงานเกิดจากเงินเดือนที่น้อยนิดมากกว่าเรื่องของชาวต่างชาติ “ผลลัพธ์จะออกมาดีกว่านี้ถ้าหากมีการขึ้นเงินเดือนให้” “การแก้ปัญหาแบบนั้นก็เหมือนกับเรานำเข้าทาสชาวต่างชาติที่สามารถทนรับเงินเดือนอันน้อยนิดได้” “นี่ก็เพราะไม่มีการขึ้นค่าแรงให้กันบ้างเลย ช่วยแก้ปัญหาตรงนี้ทีเถอะ” “บริษัทเล็กและกลางจ่ายเงินเดือนให้น้อยมากๆ จึงไม่แปลกที่จะหาคนเข้ามาทำงานไม่ได้” “ทุกคนเข้าใจมั้ย? พวกเขาก็แค่อยากได้ทาสเข้ามาเท่านั้นเอง!” ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นก็อาจเป็นได้จากทั้งสองเหตุผล แต่นี่ก็อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับชาวต่างชาติผู้ต้องการเข้าไปทำงานในประเทศนี้ก็ได้ ที่มา: rocketnews24
-
ศิลปินติดป้ายโฆษณาแบรนด์เสื้อผ้า เผยให้เห็นเบื้องหลังแสนหดหู่ของอุตสาหกรรมแฟชั่นในบังคลาเทศ
เมื่อระบบทุนนิยมเติบโตมากขึ้น อุตสาหกรรมเสื้อผ้าสำเร็จรูปก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เจ้าของบริษัทผู้ผลิตแบรนด์เสื้อผ้าต้องแข่งกันแสวงหากำไรให้ได้มากที่สุด โดยใช้วิธีการลดต้นทุนการผลิตให้ต่ำลง และพึ่งพาแรงงานราคาถูกในการตัดเย็บ “บังคลาเทศ” เป็นประเทศที่ผลิตเสื้อผ้าให้กับแบรนด์ดังมากมาย เช่น Zara, H&M ฯลฯ อีกทั้ง ยังมีฐานการผลิตเสื้อผ้าที่มีค่าแรงถูกที่สุดในโลก คนงานในโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าได้รับค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน ทำให้พวกเขาต้องทำงานหนักแบบไม่ได้หยุดพัก ขณะที่ผู้บริโภคได้ใส่เสื้อผ้าที่มีคุณภาพ ทันสมัย และสวยงาม แต่หารู้ไม่ว่าความงามเหล่านั้นมันเต็มไปด้วยเบื้องหลังการผลิตที่แสนหดหู่และเลวร้าย อย่างไรก็ตาม ในปี 2013 ที่ผ่านมา โรงงานเสื้อผ้าในประเทศบังคลาเทศหลายแห่งได้เกิดอุบัติเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากส่วนใหญ่โรงงานเหล่านี้ไม่ได้มาตรฐาน ส่วนเจ้าของโรงงานก็ไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องความปลอดภัย ดังนั้น จึงทำให้ผู้ใช้แรงงานได้เสียชีวิตไปมากถึง 1,134 คน ซึ่งก็นับเป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์แฟชั่นบังคลาเทศเลยก็ว่าได้ ด้วยเหตุนี้ ศิลปินนามว่า Igor Dobrowolski จึงได้ตัดสินใจทำป้ายโฆษณาแบรนด์เสื้อผ้าไปติดไว้บนถนนในกรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เพื่อแสดงให้ผู้คนได้เห็นถึงเบื้องหลังอันแสนเลวร้าย และน่าสะพรึงกลัวของวงการอุตสาหกรรมแฟชั่นในบังคลาเทศ และนี่คือผลงานของเขา… . . . สำหรับใครที่ชื่นชอบผลงานขอเขา คุณสามารถเข้าไปติดตามเขาได้ทางเฟซบุ๊ก igor.dobrowolski.5 และอินสตาแกรม igordobrowolski ได้เลยจ้า ที่มา : boredpanda
-
การดิ้นรนเพื่อชีวิต ของเหล่าเด็กๆ ในเหมืองคองโก ยากลำบากไม่ต่างไปจาก ‘ผืนนรกบนดิน’
การใช้แรงงานคนเพื่อการก่อสร้าง ขนย้ายสิ่งของ หรืออย่างการขุดเหมืองควรจะมีความเหมาะสม มีการดูแลจัดการที่ดี และทว่าเหมืองแห่งนี้กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ที่ต้องทำให้คนงานต้องมาทนอยู่กับสภาพเหมือนนรกบนดิน แถมยังมีการใช้แรงเด็กสี่ขวบให้เข้ามารับอันตรายไปด้วย โดยเหมืองแห่งนี้เป็นแหล่งในการขุดหาแร่โคบอลต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดกาตังกา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งความอันตรายนั้นสูงมากเพราะมันจะสร้างหมอกพิษที่ทำลายดวงตาและเสี่ยงที่จะเป็นโรคผิวหนังกับปอดได้ หากเด็กๆ ทำงานไม่ดี อาจจะถูกทำร้ายจากผู้คุมงานด้วย แต่เจ้าแร่อันตรายตัวนี้นั้นคือส่วนประกอบหลักของการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังพัฒนาและมีอัตราการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากแนวโน้มของรัฐบาลในประเทศอังกฤษ ที่มีการประกาศห้ามขายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันในปี 2040 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในประเทศคองโกที่สามารถหาแร่ชนิดนี้ได้ง่าย ต้องดึงแรงงานมาขุดเหมืองเพิ่มมากขึ้น จนเมื่อทางสำนักข่าว Sky News ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่นี้ก็ได้เจอกับ Dorsen เด็กน้อยวัยแปดขวบ หนึ่งในคนงานเหมือง… เด็กคนนี้ต้องเจอกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในทุกวัน เพื่อช่วยพ่อหาเงินไปกินข้าวหลังจากที่แม่ของเขาได้เสียชีวิตลง โดยเขาเป็นเพียงแค่หนึ่งในจำนวนเด็ก 40,000 คนที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับงานประเภทนี้ นอกจากนั้นอาหารการกินในที่ปลูกขึ้นบริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยสารพิษที่หากกินเข้าไปก็จะทำให้อาเจียน ท้องเสีย อีกทั้งเกิดปัญหากับต่อมไทรอยด์และปอดอีกด้วย ถึงขนาดว่านกหรือปลาแถวนั้นไม่สามารถทนอยู่กับสภาพแวดล้อมเหล่านี้ได้ Dorsen คนซ้าย และ Richard เพื่อนของเขา ไม่มีใครรู้ได้ว่ามีเด็กที่ทำงานในเหมืองเหล่านี้ต้องสังเวยชีวิตไปกี่คนแล้ว เนื่องจากตายไปก็จะถูกฝังไว้ในอุโมงค์ที่ถูกทำลาย หากคนที่มีชีวิตรอดก็ยังต้องทนกับความเจ็บปวด เด็กผู้หญิงก็จะถูกคุกคามทางเพศหรืออาจจะท้องตั้งแต่อายุแค่ประมาณ 10…
-
แฟ้มภาพสุดสะเทือนใจ “แรงงานเด็กในบังกลาเทศ” กับโชคชะตาที่พวกเขาไม่มีสิทธิ์เลือก..
พูดถึงวัยเด็ก หลายคนอาจนึกถึงช่วงเวลาที่สนุกสนานกับการเล่นสนุกโดยไม่ต้องมีพันธะผูกพันกับเรื่องใดๆ ให้ปวดหัว ถือว่าเป็นวัยที่ใช้ชีวิตอย่างที่พวกเขาต้องการ แต่รู้หรือไม่ จากรายงานของ UNICEF และ ILO เด็กๆ กว่า 7.1 ล้านคนในบังกลาเทศ ต้องทนทุกข์ทรมานกับปัญหาถูกบังคับใช้แรงงานเด็กอย่างหนักหน่วง จนแทบไม่ได้ใช้ชีวิตวัยเด็กอย่างที่พวกเขาควรจะได้รับ ด้วยเหตุนี้เองช่างภาพ GMB Akash จากบังกลาเทศจึงถ่ายภาพ “Angels in Hell” ชุดนี้ออกมา เพื่อให้โลกได้เห็นว่า เด็กๆ เหล่านี้ต้องทุกข์ทรมานขนาดไหนกับชีวิตที่พวกเขาไม่มีวันได้เลือกเอง หลายๆ คนถูกบังคับให้ทำงานในโรงงานต่างๆ บางคนถูกล่ามโซ่ไว้เพื่อไม่ให้หนีไปไหน บางคนก็ถูกบังคับให้ทำงานในเหมืองทอง บางทีพวกเขาอาจไม่เคยรู้เลยว่า ชีวิตวัยเด็กที่แท้จริงควรจะเป็นอย่างไร… เพียงหวังว่าซักวัน ที่เทพธิดาตัวน้อยเหล่านี้จะหลุดออกไปจากขุมนรกได้เสียที… . . . . . . . . ก็ได้แต่หวังว่าความช่วยเหลือจะไปถึงพวกเขาในเร็ววันนะฮะ พวกเขาจะได้มีชีวิตที่ดีขึ้นเสียที เห็นแบบนี้แล้วเพื่อนๆ อย่าสนับสนุนแรงงานเด็กเลยนะฮะ มันโหดร้ายเกินไปจริงๆ ที่มา gmbakash
-
ย้อนดู 15 ภาพ ‘โรงงาน’ ในอดีต สมัยที่เทคโนโลยียังไม่ก้าวหน้า และเด็กๆ ยังต้องเป็นแรงงาน
หากพูดถึงโรงงาน เราคงจะนึกถึงเครื่องไม้ เครื่องมือที่เป็น เครื่องจักร เพราะปัจจุบันนี้ใช้เครื่องจักรมากกว่าแรงงานคน แต่ถ้าสมัยก่อนละ พวกเขาไม่ได้มีเครื่องมือเพรียบพร้อมเหมือนปัจจุบัน แล้วพวกเขาทำงานกันยังไง #เหมียวขี้ส่อง ขอพาทุกคนย้อนไปดูภาพ โรงงานในอดีต เพื่อดูว่า สภาพโรงงานเป็นยังไง แล้วพวกเขาทำงานกันยังไง ด้วย 15 ภาพ ที่หลายคนไม่เคยเห็นแน่นอน 1. แรงงานในช่วงพัก ณ โกดังเก็บชาอินโดนีเซีย ประมาณปี 1860 2. เหล่าแรงงานสร้างเรือ ณ โรงงานวิศวกรรมในลอนดอน 3. คนงานใช้เครนระบบไอน้ำเพื่อวางกระบอกปืนให้เข้าที่ 4. แรงงานเด็กกำลังทำงานที่โรงงานทอฝ้าย โดยมีผู้ใหญ่คอยคุมไม่ห่าง 5. เหล่าแรงงานหญิงในกระบวนการผลิตอัลบั้มของ The Beatles ที่มีชื่อว่า “Rubber Soul” 6. ที่โรงงานเย็บผ้าแห่งนี้ ผู้หญิงจะต้องสวมหมวกกระดาษ ซึ่งอาจจะดูแปลกไปซะหน่อย 7. กฏหมายเกี่ยวกับแรงงานเด็กไม่ได้มีทุกที่เสมอไป เด็กหนุ่มคนนี้กำลังปั่นล้ออยู่ที่โรงงานฝ้าย ในแมนเชสเตอร์ประเทศอังกฤษ …
-
กว่าจะได้มาเป็นทองคำอันล้ำค่า กับเบื้องหลังที่ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและชีวิตของคน!!
ทองคำแท้เป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงมาก นั่นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่หายากมากๆ กว่าจะได้ทองคำมาต้องลำบากทำเป็นเหมืองที่ต้องลงมือขุดและงมไปทั่วบริเวณ ซึ่งถ้าหากว่าเจอทองคำเมื่อไหร่ นั่นก็หมายถึงเงินเป็นจำนวนมากนั่นเอง แต่ทว่าเงินเหล่านั้นไม่ได้มาถึงมือคนที่ลงแรงกายและหงาดเหงื่อ แต่กลับตกไปเป็นของนายทุนแทน เหมืองทองคำที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากบนโลกใบนี้ ผู้คนที่เป็นแรงงานส่วนใหญ่นั้นล้วนเป็นแรงงานเด็กแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแอฟริกา ที่จะต้องเสี่ยงทั้งชีวิตและสุขภาพร่างกายในระยะยาวให้กับการทำงานอันหนักหน่วง ทั้งก้มและขุดหาทองคำอันล้ำค่าเพื่อแลกกับอาหารและที่อยู่อาศัย Matjaz Krivic ช่างภาพผู้ทำสารคดีเกี่ยวกับแรงงานเหมืองทองคำได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘เด็กที่มีอายุน้อยเพียงแค่ 8 ปี จะต้องทนทำงานหนักแทบทั้งวันและทุกวัน’ ซึ่งภาพชุดนี้เป็นแรงงานเด็กในเหมืองทองคำแห่งหนึ่งจากประเทศบูร์กินาฟาโซ เขาเริ่มต้นการถ่ายทอดชีวิตของคนงานเหมืองในปี ค.ศ. 2012 โดยที่เขานั้นรู้สึกได้ถึงความดิ้นรนและการต่อสู้เพื่อหาหนทางเอาชีวิตรอดภายในประเทศนี้ และรับรู้ได้ถึงความใจกว้างต่อคนงานเหมืองด้วยกันที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยธุรกิจคนงานเหมืองในประเทศนี้ เป็นการค้าขายแรงงานแบบธุรกิจครอบครัว ผู้คนที่ทำงานเหมืองก็มาจากบริเวณใกล้ๆ เหมือง ซึ่ง 1 ใน 3 ของคนงานทั้งหมดเป็นเด็ก การทำงานจะเริ่มต้นเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และจะจบการทำงานในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ก็เหมือนกับการทำงานทั่วไป แต่ว่าเด็กๆ เหล่านี้จะต้องคอยขุด, งม, ล้างหิน, แบกน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดระยะเวลา 11…
-
รวม 13 ภาพผู้คนที่มีพฤติกรรมแปลกๆ ในห้างสรรพสินค้า ถ้าไม่กล้าจริงทำไม่ได้นะ!!
ในวันนี้เราได้รวบรวมภาพของผู้คนที่ชอบทำตัวแปลกๆ ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่องมาให้ได้ชมกัน ซึ่งแต่ละภาพที่ได้นำมาให้ชมนั้นเรียกได้ว่าหากไม่กล้าจริง คงทำไม่ได้แน่นอน งานนี้พฤติกรรมของแต่ละคนจะเด็ดแค่ไหน ต้องชมเอาเองซะแล้ว เมื่อความง่วงมาบังเกิด ก็หลับมันตรงนี้เลยละกัน ถึงกับใช้แรงงานเด็กกันเลยทีเดียว แต่งตัวชิคๆ มาเดินช้อปปิ้ง อุต๊ะ!! กลายเป็นสัตว์เลี้ยงไปซะแล้ว มือคงถือถุงไม่พอ เจ๊แกเลยโชว์ทักษะขั้นเทพซะเลย เป็นทรงผมที่แนวที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา ฮ่าๆ ง่วงจังเลยแม่ เด็กๆ บางคนก็คิดว่าห้างสรรพสินค้า เป็นสนามเด็กเล่น เจอแบบนี้ไปไม่ถูกเลย เหลืองอร่ามมาเลยนะตัวเอง นี่ถ้าไม่มั่นจริงใส่ไม่ได้นะจะบอกให้ เขาเหมาะกับคนเสื้อเหลืองข้างบนจริงๆ อยากให้มีป้ายราคาแบบนี้ในบ้านเราบ้าง ฮ่าๆ นั่นมันตัวอะไรหว่า เรียกได้ว่าใจกล้าอย่างเดียวคงไม่พอ จะต้องมั่นใจมากๆ อีกด้วย ถึงจะทำแบบนี้ได้ ดีนะที่ไม่ค่อยเจอเหตุการณ์แบบนี้ในบ้านเราสักเท่าไหร่ ไม่อย่างนั้นคงจะเป็นที่ฮือฮาน่าดู ที่มา : gamme