Tag: แอป
-
หนุ่มเล่าความจริงผ่านกระดาษ A4 ‘ข้อตกลงการใช้งาน’ จากเหล่าแอปฯ ชื่อดังยอดนิยม…
“I Agree” (ฉันยินยอม) คือโปรเจกต์จากนักออกแบบหนุ่ม Dima Yarovinsky ในความพยายามที่จะโชว์เนื้อหาความยาวในสิ่งที่เรียกว่า ‘ข้อตกลงการใช้งาน’ ที่ทุกคนจะต้องอ่านและยอมรับก่อนใช้งานบริการออนไลน์รูปแบบต่างๆ บนโลก โปรเจกต์นี้ได้ยกรายละเอียดข้อตกลงการใช้งานของแอปฯ ชื่อดังหลากหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็นอินสตาแกรม เฟสบุ๊ก สแนปแชท และทินเดอร์ นำมาแสดงในงาน Visualizing Knowledge 2018 Conference ที่เมืองเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ . “ผมนำเนื้อหาใน ‘ข้อตกลงใช้งาน’ จากบริการออนไลน์ที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน ผมปริ้นท์ใส่กระดาษ A4 ขนาดปกติ พร้อมกับตัวอักษรและขนาดมาตรฐานตามเอกสารข้อกฎหมาย… หลังจากที่ปริ้นท์เงื่อนไขเหล่านี้เสร็จ ก็นำมาแขวนไว้ในแกลอรี่ นับจำนวนคำทั้งหมดของแต่ละแอปฯ รวมถึงคำนวณเวลาที่จะใช้ในการอ่านรายละเอียดเงื่อนไขของแต่ละแอปฯ เขียนติดไว้บนพื้น เป้าหมายของผมมีเพียงแค่อยากให้เห็นว่า ข้อความเล็กๆ ไร้ประโยชน์ แต่แฝงไปด้วยอันตรายเหล่านี้ คือสิ่งที่เราต้องก้มหน้ายอมรับจากเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่” นอกจากนี้ Yarovinsky ได้เพิ่มเติมข้อมูลเอาไว้ว่า ผู้คนโดยเฉลี่ยแล้วจะมีความสามารถในการอ่าน 200 คำต่อนาที…
-
มาดูการปฏิกิริยาของสาวๆ เมื่อ “หนุ่มรูปงาม” ชวนไป “ซั่ม” ด้วยวาจาน่าเกลียด
ไม่ว่าใครก็ต้องชอบคนที่ดูดี จริงไหม? จากคำถามนี้ ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งที่เรียกตนเองว่า Germanlifter จึงได้ทำการทดลองที่น่าสนใจขึ้นมาชิ้นหนึ่ง นั่นคือการ สมัครบัญชีปลอมของแอป Tinder (แอปหาคู่เดต) เพื่อไปดูปฏิกิริยาของสาวๆ ที่มีต่อชายหนุ่มรูปงามแบบเขา เขาเขียนเล่าว่า “มันน่าทึ่งมากที่ เมื่อผม ปัดขวา กับสาวคนไหนก็ตาม ผมจะได้รับการจับคู่ทันที โดยที่ไม่มีแม้แต่ครั้งเดียวที่ผมปัดขวาแล้วจะไม่มีการจับคู่” (สำหรับผู้ที่ไม่เข้าใจ ปัดขวา = ชอบ สมมติว่าคุณปัดขวาที่สาวคนหนึ่งที่เธอเองก็ปัดขวาคุณเอาไว้เหมือนกัน แอปก็จะจับคู่คุณและสาวคนนั้นให้ได้มาคุยกันนั่นเอง) Germanlifter แต่สังคมของแอปหาคู่แบบ Tinder แน่นอนว่าผู้คนก็ต้องมองหาคู่จากรูปลักษณ์ภายนอกอยู่แล้ว จึงไม่อาจเหมารวมได้ว่าเมื่อคนเราเจอกันจริงๆ จะเป็นเหมือนกับที่เจอในแอป แต่ผลลัพธ์ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ หลังจากที่ Germanlifter ได้แชตกับสาวๆ เขาทำการทดลองอีกครั้ง โดยการพิมพ์อะไรไปก็ได้ จะลามก หยาบช้า หรือว่ามั่วซั่วขนาดไหนก็ยังคงขอเบอร์สาวๆ เหล่านั้นได้อยู่ดี เขาบอกว่า “ไม่ว่าผมจะพิมพ์อะไรออกไป ผมก็ยังได้เบอร์สาวพวกนั้นอยู่ดี สาวๆ ที่ผมคุยส่วนมากเธอจะเริ่มเข้ามาคุยก่อน และมักจะตอบอย่างรวดเร็วเมื่อผมส่งข้อความไป แต่เอาจริงๆ ผมก็ถูกปฏิเสธอยู่ 2-3 ครั้งนะ นั่นเป็นเพราะว่า ผมเริ่มการสนทนาด้วยคำว่า ‘มาเย**กันเถอะ’” เขาใช้รูปพวกนี้เป็นภาพโปรไฟล์บน…
-
ชาวอุยกูร์โอด โดนบังคับโหลดแอปลบรูป “อันตราย” ทุกวันนี้ยังเซ็นเซอร์กันไม่พออีกเหรอ
เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้นผู้คนจากกลุ่มชาติพันธุ์อุยกูร์ซึ่งเป็น ประชากรของเขตปกครองตนเองซินเจียง ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศจีนได้ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาถูกทางการจีนโดนบังคับให้โหลดแอปพลิเคชันมือถือ Jingwang Weishi แปลตรงๆ ว่าโปรแกรมทำความสะอาดเว็บ หน้าตาของแอปพลิเคชัน Jingwang Weishi โปรแกรม Jingwang Weishi ที่ว่านี้ได้รับการยืนยันจากทีมกองทุนเทคโนโลยีเปิดของ Radio Free Asia แล้วว่า มีการบันทึกข้อมูลโทรศัพท์เช่น หมายเลข IMEI หมายเลขโทรศัพท์ รุ่นของโทรศัพท์ และผู้ผลิตโทรศัพท์เป็นต้น นอกจากนี้มันยังมีการค้นข้อมูลภายในโทรศัพท์เพื่อหาลายนิ้วมือของเจ้าของ ภาพถ่ายในเครื่อง การบันทึกเสียง และวิดีโออีกด้วย Jingwang Weishi จะเปรียบเทียบสิ่งที่พบกับฐานข้อมูลภายในขนาดใหญ่ และถ้าในเครื่องมีไฟล์ที่ถูกระบุว่า “อันตราย” แอปจะส่งข้อความไปยังผู้ใช้โทรศัพท์เพื่อบอกให้ลบไฟล์ดังกล่าว นักวิจัยกล่าวอีกว่าแอปนี้ยังทำการส่งข้อมูลทุกชิ้นที่พบในมือถือไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก โดยไม่มีการเข้ารหัสใดๆ เลย ภาพกล้องวงจรปิดเหนือเขตปกครองตนเองซินเจียง Jingwang Weishi จะมุ่งเน้นไปที่ไฟล์มัลติมีเดียซึ่งถูกมองว่าเป็นการส่งเสริมลัทธิการก่อการร้าย แต่คนในพื้นที่หลายคนบอกว่าภาพและวิดีโอธรรมดาๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศาสนาหรือวัฒนธรรมของพวกเขา บางครั้งก็จะถูกมองว่าเป็นไฟล์ที่อันตรายเช่นเดียวกัน มีข่าวลือว่าชาวอุยกูร์หลายพันคนโดนจับตัวไปในคุกเพื่อการศึกษาการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโดยยังไม่ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรรมใดๆ ด้วยซ้ำ กองกำลังของประเทศที่ประจำการสอดส่องดูแลห้างสรรพสินค้าในซินเจียง เป็นเวลานานแล้วที่จีนได้เพิ่มการเฝ้าระวังทั้งในด้านมนุษย์ และเทคโนโลยีในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ซึ่งมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นเป็นระยะๆ โดยที่ทางรัฐบาลกล่าวว่ามาตรการดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับพื้นที่ แห่งนี้เพื่อรักษาความปลอดภัยของชาติ แม้ว่าคนส่วนมากจะกล่าวนี่เป็นการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชนก็ตาม …
-
‘ทามาก็อตจิ’ ของเล่นสุดคลาสสิกจากยุค 90 กลับมาแล้ว แต่คราวนี้มาเป็นเกมมือถือนะ!!
ใครที่เกิดมาในช่วงยุค 90 แทบไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าของเล่นสุดฮิตที่ชื่อว่า Tamagotchi ภาษาไทยเรียกว่า “ทามาก็อตจิ” หรือที่บางคนเรียกว่า “ทามาก็อต” นั่นแหละ เจ้าของเล่นรูปไข่ ทามาก็อตจิ นั้นเป็นของเล่นที่ถูกพัฒนาขึ้นจากบริษัท Bandai โดยการเล่นหลักๆ ก็คือการจำลองให้ผู้เล่นได้เลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงตัวหนึ่ง อย่าให้มันตาย ซึ่งจะมีทั้งการให้อาหาร การให้พักผ่อน การอ่านหนังสือ และฟังชั่นอื่นๆ อีกมากมาย ในช่วงปลายยุค 90 นั้น ต้องยอมรับเลยว่า ทามาก็อตจิ หรือทามาก็อต นั้นเป็นของเล่นที่สนุกมากชิ้นหนึ่ง และเป็นที่นิยมสำหรับเด็กๆ ทั่วทุกหนแห่ง แต่น่าเสียดายที่เมื่อเวลาผ่านไป เด็กๆ ก็เติบโตขึ้น พร้อมกับมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เจ้าเครื่องทามาก็อตจิรูปไข่ที่เคยฮิตก็ตายจากไป เหลือไว้เพียงความคิดถึง แต่ว่าวันนี้ ความคิดถึงของพวกเราคงจะสิ้นสุดลง เพราะว่าเจ้าทามาก็อตจิ นั้นได้กลับมาหาพวกเราอีกครั้ง!! ในชื่อว่า My Tamagotchi Forever ซึ่งเป็นรูปแบบของเกมในสมาร์ทโฟน บริษัท Bandai Namco ได้ปล่อยออกมาให้ดาวน์โหลดกันได้แล้วทั้งระบบ iOS และ Android ซึ่งเกมนี้ก็จะยังคงเป็นการเลี้ยงเจ้าเพื่อนตัวน้อยเช่นเคย แต่มีการพัฒนาระบบต่างๆ…
-
บริษัทอังกฤษพัฒนาแอปฯ DrnkPay บล็อคการเงินของคนเมา ป้องกันจ่ายมั่วจนหมดตัว!?
สำหรับเพื่อนๆ ที่เป็นสายแข็งทั้งหลาย คงจะติดนิสัยจ่ายหนักกันเป็นว่าเล่น ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเป็นเงินสดหรือสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ก็ตาม โดยเฉพาะอย่างหลังนี่ยิ่งหนักเลยเพราะมันสามารถใช้จ่ายได้ง่ายมาก เพียงกดเลือกๆ จิ้มๆ ก็สามารถสั่งซื้อได้อย่างง่ายดาย อาจนำมาซึ่งปัญหาใหญ่ได้เลยทีเดียวล่ะ สำหรับวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับแอปฯ ที่จะช่วยบล็อคการใช้บัตรเครดิตเป็นเวลา 12 ชั่วโมงเพื่อป้องกันไม่ให้คนเมาใช้เงินช็อปปิ้งผ่านทางออนไลน์ เจ้าแอปฯ นี้มัชื่อว่า DrnkPay ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัททางการเงินของประเทศอังกฤษชื่อว่า iBe TSE หลังจากมีการวิจัยพบว่ามีนักดื่มชาวอังกฤษเป็นจำนวนมากที่รู้สึกเสียดายเงินทีหลังเมื่อสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ขณะที่กำลังมีอาการเมาอยู่ และส่วนใหญ่สิ่งที่พวกเขาสั่งซื้อนั้นมันก็เป็นอะไรที่แปลกซะเหลือเกิน ยกตัวอย่างเช่น คอร์สการบิน, สมัครสมาชิกคลับพายเรือตลอดชีวิตให้กับใครก็ไม่รู้ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน, รองเท้าแตะ 30 คู่ หรือแม้แต่ไก่เป็นๆ ก็มี จากผลงานวิจัยดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดแอปฯ DrnkPay ขึ้นมา และวิธีการของมันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย ทางตัวแอปฯ ก็จะมีอุปกรณ์เป่าวัดแอลกอฮอล์ที่นำมาใช้คู่กัน ก่อนอื่นที่ต้องทำก็คือผูกบัญชี หรือบัตรเครดิตไว้กับแอปฯ จากนั้นมันก็จะกำหนดเอาไว้ว่าหากมีค่าแอลกอฮอล์เกินบัตรก็จะถูกบล็อคเป็นเวลา 12 ชั่วโมง นอกจากนี้ก็ยังมีระบบ “Help me out” สำหรับคนที่เมาจนไม่ไหว ทางแอปก็จะเรียกรถ Uber มารับและไปส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย ลองไปชมคลิปเพิ่มเติมกันแบบเต็มๆ…
-
รวม 17 เครื่องมือและโปรแกรมน่าใช้งาน จากเว็บไซต์ Google ที่คุณอาจเคยรู้ว่ามีอยู่….
ทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท Google แทบจะอยู่ในวิถีชีวิตประจำวันของเรา เวลานึกอะไรไม่ออกก็เข้าไปเสิร์ชหาข้อมูลในเว็บ Google อยากดูคลิปสนุกๆ ก็เข้า Youtube หลงทางก็เปิด Google Maps แถมระบบปฏิบัติการบนมือถือก็เป็น Android ของพี่กูอีกต่างหาก แต่รู้หรือไม่ นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ข้างบนแล้ว Google ยังมีเครื่องมือและแอปพลิเคชั่นเจ๋งๆ อีกมากมาย ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นมาก่อน จะมีอะไรบ้าง เราไปติดตามพร้อมๆ กันเลย Google Keep แอปจดโน๊ตและเตือนความจำระดับเทพของกูเกิ้ลที่สามารถเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์มได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโทรศัพท์มือถือ นาฬิกาจับเวลา เพียงแค่เราพิมพ์เวลาที่เราต้องการนับถอยหลังเป็นภาษาอังกฤษ แล้วต่อด้วยคำว่า timer เท่านี้กูเกิ้ลก็จะนับถอยหลังให้เราแล้ว Google Sky แค่เพียงเราพิมพ์ Google.com/sky ลงใบบนช่อง URL เท่านี้เราก็สามารถสำรวจอวกาศได้จากรูปภาพของกล้อง NASA satellite, the Sloan Digital Sky Survey, และ the Hubble Telescope Google Books nGram…
-
หนุ่มสุดเกรียน ใช้แอป Face Swap กับรูปปั้นในพิพิธภัณฑ์จนกลายเป็นภาพสุดฮา (หรือสยอง?)
ช่วงนี้ใครๆ ก็ฮิตใช้แอปสุดฮา Face Swap ที่สามารถสลับหน้าคนที่อยู่ในรูปได้ บางคนหัวใสหน่อยก็เอาไปสลับกับสัตว์เลี้ยงต่างๆ จนกลายเป็นภาพสุดฮา แต่ถ้าภาพเหล่านั้นยังฮาไม่พอละก็ ลองไปชมตาหนุ่มสุดเกรียนคนนี้ดู รับรองว่าทั้งฮา ทั้งสยองอย่างแน่นอน เรื่องราวมีอยู่ว่า หนุ่มนักศึกษาจากเมืองนอริช Jake Marshall ได้เดินทางไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลอนดอน ระหว่างนั้นเองเขาก็อยากจะลองถ่ายรูปโดยใช้แอป Face Swap กับเหล่ารูปปั้นในพิพิธภัณฑ์ดู จะได้เอาไปลงโซเชียล ผลปรากฏคือภาพเหล่านั้นดันออกมาฮาสุดๆ เลยน่ะสิ จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย อย่างกะพรางตัวอยู่ อันนี้น่ากลัวไปนิดนะ เจอของจริงแบบนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ขอวิ่งคนแรกเลยนะฮะ สงสารรูปปั้น 555+ สงสัยกำลังเหวออยู่ ใครจะลองเอาไปสลับหน้ากับรูปปั้นในไทยบ้างก็ได้นะ แต่ขอให้เลือกดีๆ ไม่งั้นอาจโดนจับได้นะเหมียวววววว ที่มา Boredpanda
-
รีวิวแอพฯ Wakie นาฬิกาปลุกมาแรงสุดตอนนี้ ที่จะให้ ‘คนแปลกหน้า’ โทรมาปลุกคุณ!!
แอพฯนาฬิกาปลุกทุกวันนี้นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นมาไปขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มีแอพฯที่จะให้คุณบวกเลขให้เสร็จ แล้วเสียงปลุกจะดับลงหรือจะเป็นแอพฯ ที่จะใช้เสียงเพลงที่ปรี๊ดจนคุณแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง แต่วันนี้ #เหมียวสามสี มีแอพฯนาฬิกาปลุกที่เรียกได้ว่าสร้างสรรค์ที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย แอพฯนี้มีชื่อว่า Wakie โดยหลักการของมันก็แสนจะง่าย เพียงแค่คุณตั้งเวลาปลุกแล้ว พอถึงเวลาก็จะมีคนแปลกหน้าโทรมาปลุกคุณให้ตื่นเอง ตอนเริ่มเปิดแอพฯมา มันจะให้คุณล็อกอินพร้อมกับใส่วันเกิด เราก็ใส่ๆ ไปตามใจมันไปก่อน แล้วสุดท้ายมันก็จะพาเรามาหน้านี้ซึ่งก่อนจะเริ่ม เหมียวขอบอกพี่น้องชาวไทยก่อนว่าตอนนี้ฝรั่งเริ่มงงๆ ว่าทำไมคนพิมพ์ไทยเยอะจัง ตรงนี้เวลาเราจะเล่นแอพฯ ให้ไปตั้งค่าตามนี้เลย มาในส่วนของภาษากันบ้าง แอพฯนี้ให้คุณเลือกว่าคุณถนัดภาษาอะไรบ้าง ซึ่งเหมียวก็ตั้งค่าไว้ว่าภาษาไทยนั้นเราเป็น Native คือคนไทยนั่นเอง ส่วนภาษาอังกฤษ พูด อ่าน เขียนได้ มาที่หน้าแรก เราจะเจอกับหมวดต่างๆ ซึ่งถ้าอยากให้มีคนโทรปลุกเราตอนกี่โมงก็เข้าไปตั้งที่ “Ask far a wake up call” ได้เลย พร้อมกับเลือกเวลาและวันที่จะให้มันปลุกซ้ำ เพียงเท่านี้ก็จะมีคนโทรมาปลุกแล้ว ตอนคนโทรมาปลุกก็จะมี Noti เด้งขึ้นพร้อมเสียงเหมือนมีคนไลน์มานั่นแหละ เพียงแค่คุณกดรับก็จะมีเสียงคนแปลกหน้ามาปลุกคุณแล้ว คราวนี้ก็ต้องลุ้นว่าจะเป็นชายหรือหญิง จะปลุกเราดีหรือไม่ ถ้าปลุกไม่ดี เราก็สามารถเข้าไปรายงานที่หน้าโปรไฟล์ของเขาได้เลยว่าคนนี้พูดจาไม่เหมาะสม วิธีดูว่าเราคุยกับใครไป…
-
22 ภาพแห่งมิติใหม่ของ “แอพฯสลับหน้า” จนต้องตั้งคำถามว่า ‘แบบนี้ก็ได้เหรอ?’
ทุกวันนี้แอพฯสลับหน้ากำลังจะครองเมืองไปแล้ว ใครๆ ต่างก็เล่นแอพฯนี้กันทั่วบ้านทั่วเมือง จนบางทีก็เกิดการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเอาไปสลับกับสิ่งที่ไม่ได้เรียกว่า “ใบหน้า” ก็มี จนตอนนี้การสลับหน้านั้นลามไปถึงแอพฯที่ชื่อว่า Snapchat ซึ่งเป็นแอพฯ แนวโซเชียลมีเดียที่เขามักจะส่งรูปหากันแทนการแชท ซึ่งตอนนี้ก็ได้เปิดตัวฟิลเตอร์ใหม่ นั่นก็คือการสลับหน้านี่แหละ ทำเอาคนที่ใช้แอพฯนี้ต่างก็หาไอเดียการสลับหน้าสุดฮามาประชันกันทั้งนั้น วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยเอาตัวอย่างอันดีงามของการสลับหน้าขั้นเหนือกาลเวลามาฝากทุกท่าน ใครที่ใช้แอพฯนี้ก็ลองส่งให้เพื่อนๆได้ฮาด้วยนะ 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18.…
-
28 การ “สลับหน้า” ขั้นแอดวานซ์ ฮาเกินขีดจำกัดจนแทบกลายเป็นความหลอนแล้ว!!
หลายคนคงเคยเล่นแอปสลับหน้าในมือถือกันมาแล้ว อย่างก่อนหน้านี้ที่เคยนำเสนอไป Face Swap Live เป็นแอปที่เรียกเสียงฮาได้ดีไม่น้อยเลย เพราะเราจะได้เห็นหน้าของตัวเองไปอยู่บนตัวของคนอื่น และเห็นหน้าของคนอื่นมาอยู่บนตัวเรา แค่นึกภาพก็ฮาแล้ว แต่ถ้าเราสลับหน้าคนกับหน้าคนมันก็จะธรรมดาเกินไปใช่ไหมล่ะ เพราะว่ามันก็เดิมๆ แต่วันนี้เหมียวจะพาทุกท่านไปชมการสลับหน้าขั้นแอดวานซ์ ที่ไม่ต้องจำกัดแค่ใบหน้าเท่านั้น คุณสามารถสลับกับอะไรทุกอย่างบนโลกจนเกิดคำถามว่า “อย่างนี้ก็ได้เหรอ?” บอกก่อนเลยว่ามันเกินขีดคำว่าฮาจนกลายเป็นคำว่าหลอนแทนไปแล้ว จะเป็นยังไง เราไปดูกันเลยจ้า 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. 14. 15. 16. 17. 18. 19.…
-
รู้จักกับ “Face Swap Live” แอปสลับหน้า ที่จะทำให้คุณฮาท้องแข็งได้!!
ถ้าเราพูดถึงสิ่งอำนวยความสะดวกในสมาร์ทโฟนปัจจุบัน ก็คงนึกถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่ได้ปล่อยออกมาให้เราได้ใช้ ซึ่งแอปเหล่านี้ก็มีทั้งแบบใช้งานในชีวิตได้จริงๆ หรือจะเป็นแอปความบันเทิงให้ได้เราสนุก เราคงรู้จักแอปหนึ่งที่คนนิยมอย่างมากอย่างแอปสลับหน้า ซึ่งเป็นแอปที่เวลาเราถ่ายรูปกับเพื่อนแล้วมันจะสลับหน้าให้เราโดยอัตโนมัติ ใช้ทีไรก็เกิดเสียงหัวเราะตลอด แต่วันนี้ #เหมียวสามสี มีแอปที่ฮากว่านั้นมานำเสนอ ชื่อของมันก็คือ Face Swap Live เป็นแอปที่ทำให้เราสามารถสลับหน้ากับเพื่อนได้ โดยสิ่งที่พิเศษก็คือมันสามารถอัดวิดีโอได้นั่นเอง ถ้าอยากรู้ว่ามันฮายังไง ดูคลิปนี้แล้วก็จะรู้เอง ถ้าใครอยากจะฮาก็สามารถซื้อแอปนี้ได้ในราคาเพียง 1 เหรียญเท่านั้นเอง (ประมาณ 35 บาท) มีแต่ในระบบ iOS เท่านั้นนะจ๊ะ ที่มา Woodsie TV
-
พบกับแอปตัวใหม่ “Bark’N’Borrow” ที่จะให้คุณได้ยืมน้องหมาไปเล่นได้!!
ถือเป็นความคิดที่แหวกแนวดีจริงๆสำหรับคนที่คิดค้นแอปตัวนี้ขึ้นมา มันมีชื่อว่า Bark’N’Borrow เป็นแอปที่สามารถทำให้คุณค้นหาสุนัขเพื่อยืมไป ไม่ว่าจะพาไปเดินเล่น หรือจะเอามาเป็นเพื่อนอยู่ที่บ้านก็ทำได้ โดยหมาที่คุณเอามาเลี้ยงก็จะมาจากคนที่เลี้ยง หรือจะเป็นผู้ดูและมืออาชีพเลยก็มี เหมือนกับคุณใช้แอปเรียกแท็กซี่นั่นเอง แอปนี้เป็นแอปฟรีที่คุณสามารถดาวน์โหลดมาใช้เองได้ ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่เปิดกว้างถึงขนาดที่ว่าคุณจะสามารถนำหมาจากสถานรับเลี้ยงมาได้เหมือนกับแอป Borrow My Doggy และ Walkzee ที่เคยทำมาก่อนแล้ว แน่นอนว่าตอนนี้ที่ไทยยังไม่มีบริการ แต่มันก็ถือว่าเป็นไอเดียที่ดีในการแปลกเปลี่ยนสัตว์เลี้ยง เหมือนเป็นการมอบความสุขแบบส่งต่อกันไปเรื่อยๆ ที่มา boredpanda