Tag: แอฟริกา
-
สิงโตหน้าเหมือน Mufasa ในแอฟริกาใต้ ถูกลักลอบวางยาฆ่า ตัดแขน/หน้า อย่างทารุณ!!
*คำเตือน : บทความนี้มีภาพที่รุนแรง ฉะนั้นขอให้ไตร่ตรองดูดีๆ ก่อนจะเลื่อนลงไปรับชมนะครับ ปัญหา ‘การลักลอบล่าสัตว์ป่า’ ถือเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในประเทศแอฟริกาใต้ แม้ว่าจะมีบทลงโทษที่หนักหนาสาหัสเพียงใด แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่สามารถหยุดยั้งเหล่าบุคลลที่ทำผิดกฎหมายได้เลย เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ต่อไปนี้ ที่กลุ่มลักลอบล่าสัตว์ที่ได้ทำการ แอบเข้าไปในพื้นที่สวนสัตว์ Akwaaba Predator Park ในเมือง Limpopo ประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนที่จะทำการ ‘วางยา’ สิงโต ทั้งตัวเมียและตัวผู้ เป็นเหตุให้พวกมันเสียชีวิตไปถึง 5 ตัวด้วยกัน!! นอกจากนี้จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่แล้วพบว่า มีสิงโตตัวหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและเจ้าหน้าที่ เพราะหน้าตาของมันเหมือนกับ Mufasa จากเรื่อง The Lion King ก็เป็นหนึ่งในเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายด้วย แต่สภาพศพของมันหนักกว่าตัวอื่นๆ เพราะถูกตัดเอา ‘เท้า’ และ ‘ใบหน้า’ ออกไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า น่าจะเป็นการจ้างวานจากเหล่า ‘โทรฟี ฮันเตอร์’ หรือถูกนำไปขายเพื่อใช้ประกอบการทำพิธีเวทมนตร์ดำ ทางด้านนาย…
-
เจ้าหน้าที่พบศพ ‘หนุ่มผิวเผือก’ ชิ้นส่วนร่างกายหายไป คาดถูกนำไปใช้ใน ‘พิธีมนตร์ดำ’
เด็กหนุ่มผิวเผือกถูกพบกลายเป็นศพฝังอยู่ใต้ดินในประเทศมาลาวี ชิ้นส่วนของร่างกายบางส่วนของเขาหายไป ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของเขาไว้ได้ถึง 11 ราย ศพของนาย McDonald Masambuka วัย 22 ปี ถูกพบฝังอยู่ใต้ดิน ทางใต้ของประเทศมาลาวี ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังหายตัวไปก่อนหน้านี้นานหลายสัปดาห์ เขาเป็นหนึ่งในคนผิวเผือกที่ตกเป็นหนึ่งเหยื่อการถูกฆาตกรรมจากทั้งหมด 22 คน ในรอบ 4 ปีล่าสุดของประเทศมาลาวี จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าการตายของพวกเขาเกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ โดยเชื่อว่าชิ้นส่วนของคนผิวเผือกสามารถนำไปใช้ทำเป็นยาเวทมนตร์ได้ กลุ่มคนที่กลายเป็นผู้ต้องสงสัยมีทั้งบาทหลวง ตำรวจ และคนปรุงยามืออาชีพ ซึ่งประชาชนของประเทศมาลาวีเองก็ออกมารณรงค์ให้ทำการประหารชีวิตของคนที่เกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมในครั้งนี้ คุณพ่อ Thomas Muhosha นักบวชนิกายคาทอลิก หนึ่งในผู้ต้องสงสัย ขณะเดียวกันรัฐบาลของประเทศมาลาวี ได้ประกาศยกเลิกโทษประหารชีวิตไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน แต่ล่าสุดก็กำลังอยู่ในช่วงพิจารณาว่าจะนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง นาย Peter Mutharika ประธานาธิบดีของประเทศมาลาวี ที่รับปากว่าจะนำเรื่องของการนำโทษประหารชีวิตกลับมาใช้อีกครั้ง ทางด้านองค์กรช่วยเหลือเหล่าบุคคลผิวเผือกหรือ Association of People with Albinism ที่ดูแลเหล่าคนผิวเผือกมากกว่า…
-
หมาไส้กรอกตัวน้อยพบ “ทารก” ถูกทิ้งในท่อระบายน้ำ จึงทำให้ช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน
ใครกันนะที่บอกว่าว่าเจ้าตูบเป็นได้แค่เพื่อนยามเหงาเท่านั้น วันนี้ เจ้าตูบตัวหนึ่งได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นนักสำรวจตัวน้อยที่สามารถช่วยเหลือชีวิตมนุษย์คนๆ หนึ่งเอาไว้ได้เลยทีเดียว Charmaine Keevy วัย 63 ปีต้องตะลึงกับภาพที่เห็น เมื่อเจ้า Georgie หมาไส้กรอกของเธอ ส่งเสียงเห่าและพาเธอไปพบกับทารกถูกทิ้งอยู่ ในเมืองพอร์ตเอลิซาเบท ประเทศแอฟริกาใต้ มองไกลๆ คุณ Keevy คิดว่าเจ้าตูบของเธอเห่าแมวที่นอนส่งเสียงร้องอยู่ แต่พอลองเข้าไปมองดูใกล้ๆ กลับพบว่าเป็นเด็กทารกเพศหญิงถูกทิ้งเอาไว้และกำลังนอนร้องไห้อยู่ภายในท่อระบายน้ำ เธอจึงรีบโบกรถที่ผ่านไปมาแถวนั้นเพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งได้ความช่วยเหลือจากคุณ Cornie Viljoen ที่จอดรถเพื่อช่วยกันนำทารกออกมาจากท่อระบายน้ำ คุณ Viljoen ในวัย 60 ปีเป็นผู้ที่มุดเขาไปในท่อระบายน้ำที่ลึกราว 2 เมตร เพ่ื่อนำตัวทารกออกมา และนั่นทำให้เขาตกใจมากเพราะว่าบริเวณรอบๆ ตัวเด็กมีฝูงมดแดงล้อมอยู่เต็มไปหมด . Viljoen กล่าวว่า “ไม่รู้ว่าใครกันนะที่ช่างใจไม้ไส้ระกำทำกับเด็กทารกได้ถึงขนาดนี้ แต่ก็ดีใจนะที่เราสามารถช่วยชีวิตเธอไว้ได้” เมื่อนำตัวเด็กทารกส่งเข้าโรงพยาบาล แพทย์จึงพบว่าเธอมีอาการตัวเย็นเกินปกติ และมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ หลังจากนั้นแพทย์ก็ตั้งชื่อให้กับเด็กสาวคนนี้ว่า Grace April คุณ Keevey กล่าวว่า…
-
เด็กถูกบังคับให้ดูแม่ตัวเองโดน ‘ข่มขืน’ ปัญหาจากสงครามที่เกิดขึ้นในเซาท์ซูดาน
เซาท์ซูดาน หรือชื่อเต็มสาธารณรัฐเซาท์ซูดาน เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลในทางตะวันออกของ แอฟริกา และมีเมืองหลวงชื่อว่า จูบา พวกเขาเป็นประเทศใหม่ล่าสุดของโลกในปี 2011 หลังจากที่แยกตัวออกมาจากซูดาน แต่ประเทศที่เพิ่งสร้างใหม่นี้ กลับเข้าสู่สงครามในเวลาเพียงสองปีหลังจากการก่อตั้งเท่านั้น ในปี 2013 ประธานาธิบดี Salva Kiir จากกลุ่มชาติพันธุ์ Dinka ได้ไล่สมาชิกของสภาสามัญ Riek Machar จากกลุ่มชาติพันธุ์ Nuer และทำให้ Machar ผันตัวไปเป็นหัวหน้ากบฏ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมือง ความขัดแย้งได้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยมีเป้าหมายหลักที่ชนเผ่า Dinka และชนเผ่า Nuer โดยที่ทางสหประชาชาตินั้นได้ออกมาเตือนประเทศซูดานใต้หลายครั้งว่า สงครามครั้งนี้อาจะบานปลายเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ไปก็ได้ Kiir และ Machar ได้มีการทำข้อตกลงสันติภาพกันหลายครั้ง แต่ทั้งสองฝั่งกลับล้มเหลวในการควบคุมกองกำลังของพวกเขา ทำให้ข้อตกลงเหล่านั้นถูกละเมิดไปนับครั้งไม่ถ้วน โดยที่ครั้งล่าสุดข้อตกลงสันติภาพสุดได้มีการลงนามเดือน สิงหาคม ปี 2015 การสู้รบระหว่างผู้ก่อการกบฏ และกองกำลังของรัฐบาลนั้น ได้สังหารคนไปประมาณ 50,000 คนท่ามกลางข้อกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ที่กระทำโดยทั้งสองฝ่าย เช่นการข่มขืน การทรมาน และการใช้ทหารเด็ก …
-
ทหารประเทศอังกฤษเตรียมกองกำลัง เข้าร่วมต่อต้าน “การล่าสัตว์ผิดกฎหมาย” ในแอฟริกา
จนถึงตอนนี้ได้มีการรณรงค์ต่อต้านการล่าสัตว์อย่างผิดกฎหมายเกิดขึ้นไปทั่วทั้งโลก ทุกๆ คนพยายามกันอย่างมากที่จะหยุดยั้งการฆ่าสัตว์ป่าผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นกับสัตว์ป่าทั่วไป หรือสัตว์ป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์อย่าง ช้าง ละมั่ง เสือโคร่ง หรือเสือดำ แน่นอนว่าความพยายามของผู้คนประสบความสำเร็จอยู่บ่อยครั้ง แต่ใช่ว่าการล่าสัตว์ผิดกฎหมายจะหายไปในเร็วๆ นี้ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ ยังมีการล่าสัตว์ที่ผิดกฎหมายอีกเป็นจำนวนมากที่ยังดำเนินการอยู่ แต่ก็โชคดีที่จากบัดนี้ไป การต่อต้านการล่าสัตว์จะได้ขุมกำลังกลุ่มใหม่เข้ามาช่วยเหลือ พวกเขาคือกองทหารแห่งประเทศอังกฤษนั่นเอง จากการรายงานของสำนักข่าว BBC หน่วยทหารได้ถูกสั่งให้ลงพื้นที่ในแอฟริกาเพื่อการฝึกทหารพรานในการแกะรอย ทักษะทหารราบ ทักษะการเอาตัวรอดในป่า และทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล การฝึกอบรมการปราบปรามการล่าสัตว์จะเกิดขึ้นที่สวนสัตว์ป่าสองแห่งในประเทศมาลาวี และจะมีทหารพราน 120 คนเข้ารับการฝึกคำแนะนำจากหน่วยทหาร เลขาธิการกลาโหม Gavin Williamson ออกมากล่าวว่าการล่าสัตว์ผิดกฎหมายนั้นมัน ‘โหดร้าย’ และหน่วยทหารอังกฤษจะมีส่วนร่วมในการยุติอุตสาหกรรมที่ผิดกฎหมายนี้ Williamson บอกว่า “การให้การฝึกอบรมและการให้คำปรึกษาแก่เจ้าหน้าที่อุทยานทำให้เกิดเครือข่ายที่มีทักษะ สามารถดูแลสัตว์สายพันธุ์ที่มีค่าของโลกให้คงอยู่กับคนรุ่นหลังสืบไป” แผนการในครั้งนี้จะใช้รูปแบบเดียวกับ แผนการต้นแบบที่มีการใช้ใน อุทยานแห่งชาติ Liwonde เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานั่นเอง อย่างไรก็ตามจาก แรดในแอฟริกาถูกล่าอย่างผิดกฎหมายไปมากกว่า 7,245 ตัวในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา และในขณะนี้เองก็ยังไม่อาจทราบได้ว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรบ้างต่อตัวเลขการล่าสัตว์ผิดกฎหมายที่น่าเศร้าเหล่านี้ ที่มา ladbible
-
17 เรื่องจริงเกี่ยวกับ ‘แอฟริกา’ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ และเข้าใจผิดเกี่ยวกับที่นี่มาโดยตลอด
หลายคนคิดว่าเมื่อไปแอฟริกาแล้ว พวกเขาจะเห็นชนเผ่าที่อาศัยอยู่ป่า เห็นสัตว์ป่าเดินตามถนน เห็นถนนที่สกปรก และที่อยู่อาศัยแบบชัวคราว (Makeshift housing) แต่จริงๆ แล้ว แอฟริกามีความหลากหลายมากกว่านั้น ซึ่งในวันนี้ทุกคนจะได้รู้จักทวีปนี้มากขึ้น เพื่อลบล้างความเข้าใจผิดบางอย่างที่ผ่านมา ความเชื่อที่ 1 ไม่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในแอฟริกา แอฟริกาเป็นที่รู้จักในฐานะทวีปที่ประกอบด้วยประเทศกำลังพัฒนา แต่นั่นไม่ได้หมายความทวีิปนี้มีวิถีชีวิตแบบยุคกลาง เพราะ 90% ของชาวแอฟริกันมีโทรศัพท์มือถือ แถมยังมีโปรแกรมเมอร์ที่สร้างแอปพลิเคชันและแกดเจ็ตของตนเองอีกด้วย นอกจากนี้บางประเทศในแอฟริกายังมีโรงงานการผลิตที่พัฒนาไปอย่างมาก มีเครื่องจักรขนาดใหญ่ เช่น การผลิตรถยนต์ภายในประเทศ . ความเชื่อที่ 2 แอฟริกาเป็นทะเลทรายเขตร้อน บ่อยครั้งเมื่อมีคนได้ยินแอฟริกา พวกเขาจะนึกถึงภาพของทะเลทรายที่ร้อนระอุและแห้งแล้ง แต่จริงๆ แล้ว แอฟริกามีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์มากอย่างเหลือเชื่อ มียอดเขาคิลิมันจาโรและยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะและทุ่งหญ้าสะวันนาอยู่ทั่วทวีป แอฟริกามีการแบ่งเขตอุณหภูมิที่ชัดเจน และอุณหภูมิรายปีเฉลี่ยอยู่ในแถบเส้นศูนย์สูตรของทวีปแทบจะไม่เกิน 27 องศาเซลเซียส ความเชื่อที่ 3 มีเฉพาะคนผิวสีเท่านั้นที่อาศัยในแอฟริกา เรามักจะคิดว่าในแอฟริกามีเฉพาะคนผิวสีเท่านั้นอาศัยอยู่ ความจริงก็คือทวีปแอฟริกามีประชากรมากกว่าหนึ่งพันล้านคนซึ่งมีสีผิวและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ความหลากหลายนี้มาจากบรรพบุรุษของพวกเขา เนื่องจากมีผู้อพยพจำนวนมากมาจากอเมริกาและเอเชียที่ยังอยู่ในแอฟริกา หลังจากการประหัตประหารทางการเมือง ความเชื่อที่ 4 แอฟริกาเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า รายการทีวี ภาพยนตร์ และการ์ตูนจำนวนมากมักจะทำให้เราเข้าใจว่าแอฟริกามีสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติและสามารถถูกผู้คนโจมตีได้อย่างง่ายดาย…
-
ไม่ใช่แค่ชื่อ… เปิดประวัติ Gustave โคตรไอ้เข้ตัวจริง ตำนานที่ยังคงมีลมหายใจถึงทุกวันนี้
นอกจากมนุษย์แล้ว บนโลกนี้ยังเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์มากมายหลายชนิด ซึ่งก็มีทั้งสัตว์ที่เป็นมิตรและสัตว์ที่เป็นอันตราย และหากจะพูดชื่อสัตว์ที่เป็นอันตรายแล้ว ชื่อของจระเข้ต้องติดมาเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน เพราะว่ารูปร่างหน้าที่น่ากลัวบวกกับการเป็นสัตว์กินเนื้อของมัน ทำให้ไม่ว่าสิ่งมีชีวิตใดที่ต้องเข้าใกล้ต่างก็ต้องมีผวากันบ้าง จระเข้บนโลกนี้มีอยู่มากมายนับพันนับหมื่นตัว แต่ว่ามีจระเข้อยู่ตัวหนึ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานนักฆ่า และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดเป็นภาพยนตร์ระทึกขวัญมาแล้วมากมาย และชื่อของมันก็คือ กุสตาฟ (Gustave) นั่นเอง กุสตาฟเป็นจระเข้แม่น้ำไนล์ตัวผู้ ซึ่งอาศัยอยู่ที่แม่น้ำรูซิซีในประเทศบุรุนดีในทวีปแอฟริกา ปัจจุบันมันมีอายุกว่า 60 ปีแล้ว อีกทั้งยังมีคนอ้างว่ามันเคยฆ่าคนมาแล้วมากกว่า 300 ชีวิตเลยทีเดียว ไม่ว่ากี่ปีจะผ่านไปก็ไม่เคยมีใครสามารถจับสัตว์ในตำนานตัวนี้ได้ ทำให้เราคาดเดาไม่ได้ว่ามันมีขนาดเท่าไหร่กันแน่ แต่จากการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์บวกกับพยานที่เคยเห็นมันตัวเป็นๆ พวกเขาได้คาดคะเนเอาไว้ว่า เจ้ากุสตาฟอาจมีลำตัวที่ยาวมากถึง 7.5 เมตรและมีน้ำหนักมากกว่า 900 กิโลกรัม นั่นจึงทำให้กุสตาฟกลายเป็นจระเข้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่เคยมีผู้พบเห็นในทวีปแอฟริกา และจากขนาดของมันในตอนแรกนักวิทยาศาสตร์คาดเอาไว้ว่ามันอาจจะมีอายุมากกว่า 100 ปี แต่จากการสังเกตที่ฟันของมันแล้วทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วมันมีอายุน้อยกว่านั้นและน่าจะอยู่ราวๆ ที่ 60 ปี และจะสามารถเจริญเติบโตได้มากกว่านี้อีก แม้ว่ากุสตาฟจะไม่เคยถูกจับได้ แต่ตามร่างกายของมันก็มีร่องรอยของกระสุนหลายนัก อย่างเช่นที่ไหล่ขวาของมันมีก็แผลเป็นที่เกิดมาจากแผลที่ลึกเป็นอย่างมาก แต่ที่มาที่ไปของบาดแผลก็ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามันบาดเจ็บมาจากสิ่งใด แต่จากคำบอกเล่าของคนในท้องถิ่น พวกเขาเล่าว่า บาดแผลของกุสตาฟเกิดจากการที่มันพุ่งเข้าไปโจมตีทหาร ที่พยายามจะสังหารมันด้วยการสาดกระสุนปืน AK47 ใส่…
-
มารู้จักกับ ‘แมวตีนดำ’ อีกหนึ่งสายพันธุ์ของแมวป่า ขนาดตัวเล็ก มีลายเสือ และน่ารักหนักมาก
สัตว์ขนาดเล็กที่สามารถครองใจมนุษย์ได้จนกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมสูงคงหนีไม่พ้น ‘แมว’ นี่แหละ มนุษย์หลายคนกลายมาเป็นทาสนักต่อนักแล้ว แต่ที่เห็นอยู่ทั่วไปนั้นเป็นแมวบ้านซะส่วนใหญ่ คราวนี้เราลองมาดูแมวป่าบ้าง มันจะสู้ความน่ารักของแมวบ้านได้มั้ยหนอ? สำหรับแมวป่าที่ #เหมียวเลเซอร์ จะพามารู้จักกันในคราวนี้ก็คือ แมวตีนดำ (Black Footed Cat) ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นแมวที่มีขนาดเล็กมาก อาศัยอยู่ในเขตแห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงใต้ของตอนใต้ทวีปแอฟริกา เป็นที่น่าตกใจด้วยว่าแมวตีนดำนี้ เป็นสัตว์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธฺ์มาตั้งแต่ปี 2002 ขนาดตัวของพวกมันเล็กแค่ไหนกัน? สำหรับตัวเมียจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 0.8 – 1.6 กิโลกรัมเพียงเท่านั้น ส่วนตัวผู้จะมีน้ำหนักเฉลี่ย 1.6 – 2.1 กิโลกรัม ความยาวของลำตัวอยู่ที่ 50 เซนติเมตร ความสูงหัวไหล่ 25 เซนติเมตร ลักษณะเด่นของแมวตีนดำจะมีขนที่หนานุ่ม เฉดสีขนจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนอมเหลืองหรือสีน้ำตาลแดงและจะมีสีดำพาดตามแนวนอน (คล้ายกับเสือเลย) หัวโตเมื่อเทียบสัดส่วนกับลำตัว ดวงตาก็โตเช่นกัน มีหางสั้น สีขนส่วนคาง หน้าท้อง และขาด้านในจะเป็นสีขาว สีอุ้งเท้าจะเป็นสีดำตามชื่อเลย แมวตีนดำจะพบได้ในประเทศแอฟริกาใต้,…
-
Daphne คุณยายผู้อุทิศชีวิตช่วย ‘ช้างแอฟริกา’ มาตลอด 40 ปี สานต่อเจตนารมย์ของสามีที่เสียไป
เป็นเวลากว่าหลายปีที่สองสามีภรรยาได้ทำงานเป็นทีมร่วมทุกข์ร่วมสุขเพื่อดูแลเหล่าสัตว์ป่าในประเทศแอฟริกา อีกทั้งยังรณรงค์สร้างความตระหนักให้ทุกคนเห็นว่าการล่าช้างเพื่อเอางานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ในปี 1977 หลังจากที่คู่รักได้ย้ายมาอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Nairobi สามีของ ด็อกเตอร์ Dame Daphne Sheldrick ก็ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังคงสืบสานเจตนารมย์ของผู้เป็นสามีต่อไปด้วยการก่อตั้งมูลนิธิที่มีชื่อว่า David Sheldrick Wildlife Trust ขึ้นมา ซึ่งเป็นสถานสงเคราะห์ช่วยดูแลเหล่าลูกช้างป่ากำพร้าแม่ทั้งหลาย จนพวกมันเติบโตสามารถดูแลตัวเองได้จึงจะปล่อยกลับไปสู่ป่าตามเดิม เจ้าลูกช้างบางตัวก็ต้องสูญเสียแม่ของตัวเองเพราะเหยียบกับดัก บางตัวก็ตกลงไปในบ่อน้ำแล้วขึ้นไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกฆ่าเพียงเพื่อเอางาไปขายเท่านั้น หากไม่มีการช่วยเหลือจากมนุษย์เหล่าลูกช้างตัวน้อยๆ กำพร้าแม่ก็จะต้องตาย เพราะอาหารของพวกมันในช่วง 2 ปี แรกก็คือน้ำนมจากแม่ และต้องใช้เวลาอีก 2 ปีสำหรับการหย่านม และคุณ Daphne ก็เป็นคนแรกที่สามารถคิดค้นและผลิตน้ำนมสูตรเฉพาะที่เหมาะกับการเจริญเติบโตของลูกช้างป่าได้สำเร็จ ซึ่งส่วนประกอบของมันประกอบไปด้วยไขมันในผัก และน้ำมันมะพร้าว ลูกช้างมากมายถูกส่งมายังสถานสงเคราะห์ DSWT (David Sheldrick Wildlife Trust) จากหลากหลายที่ทั่วประเทศแอฟริกา และพวกมันก็จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีด้วยความรักและความอบอุ่นจากเจ้าหน้าที่ในสถานที่แห่งนี้ เมื่อเหล่าลูกช้างเติบโตและแข็งแรงดี พวกมันก็จะถูกส่งต่อไปยังอุทยานแห่งชาติ Tsavo National Park…
-
ประเทศในแอฟริกาจ้างทหารอังกฤษเพื่อช่วยปกป้อง “งาช้าง” ที่ถูกล่าจากกลุ่มก่อการร้าย
ในขณะที่สถานการณ์การล่าช้างในแอฟริกากำลังมีทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญกับกลุ่มนักล่าที่มีความอันตรายและร้ายกาจมากขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดทางการได้ขอกำลังของทหารจากอังกฤษเพื่อมาป้องกันโขลงช้างเหล่านี้แล้ว เนื่องจากราคาที่สูงและมีความต้องการอย่างมากในตลาดมืด ทำให้ช้างแฟริกาหลายร้อยตัวต้องตกอยู่ในอันตรายจากเหล่านักล่ามากมาย รวมทั้งกลุ่มผู้ก่อการร้ายด้วย คุณ Christian Mbina ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคจากอุทยาน Gabon บอกกับผู้สื่อข่าวว่า “เรามีหลักฐานมากมายที่บ่งบอกได้ว่ามีกลุ่มผู้ก่อการร้ายลักลอบเข้ามาฆ่าช้างและตัดเอางาพวกมันออกไป” เครือข่ายของกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ อย่าง Boko Haram และ Al-Shabaab มีส่วนเกี่ยวข้องกับการล่าช้างเพื่อเอางาในแถบประเทศเคนยาและแทนซาเนีย นั่นจึงเป็นสาเหตุให้เจ้าหน้าที่ต้องขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพอังกฤษ ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา นายทหารจำนวนมากถูกส่งไปประจำการที่แทนซาเนีย โดมินิกัน รวันดา คองโกและเอธิโอเปียเพื่อฝึกและป้องกันการบุกรุกจากลุ่มก่อการร้าย เด็กๆ ผู้ลี้ภัยส่วนมากตกเป็นเหยื่อของการถูกบังคับให้ขนสิ่งของผิดกฏหมายนี้ และเมื่อต้นปีได้มีการจับกุมเด็กกลุ่มหนึ่งที่กำลังลักลอบขนงาช้างหนัก 40 กิโลกรัม ทหารที่ถูกส่งมาประจำการตามที่ต่างๆ ต้องได้รับการฝึกอย่างหนักเพื่อให้คุ้นเคยกับสภาพภูมิประเทศ นายทหารท่านหนึ่งเล่าว่า “เนื่องจากสภาพภูมิอากาศมีความชื้นค่อนข้างสูง ดังนั้นพวกเราจึงต้องมีการฝึกเพื่อให้คุ้นเคยกับสภาพอากาศแบบนี้ ตอนนี้พวกเรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องโขลงช้าง” ที่มา ladbible
-
เรื่องราวสุดรันทดของสุนัขเกรย์ฮาวด์ ที่ต้องนอนกินในจานข้าว เพราะอดอยากมานาน…
เรื่องราวสุดเศร้าของสุนัขเกรย์ฮาวด์กว่า 64 ชีวิต ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างน่าสงสาร หลังจากที่ชายผู้เป็นทั้งหัวหน้าครอบครัวและผู้เจ้าของพวกมันได้เสียชีวิตไป ทำให้ทางครอบครัวไม่สามารถที่จะหาเงินมาจุนเจือเป็นค่าอาหารให้พวกมันได้ ทำให้พวกมันต้องอยู่อย่างอดอยาก ผอมแห้ง และไม่มีแรงแม้แต่จะยืนกินข้าว แต่กว่าที่เรื่องราวดังกล่าวจะไปถึงองค์กร GreyHound Rescue South Africa สุนัขหลายตัวได้เสียชีวิตไประหว่างรอการช่วยเหลือ ทำให้ตอนนี้เหลือพวกมันเพียงแค่ 16 ชีวิตเท่านั้น ‘ที่แอฟริกาสุนัขเกรย์ฮาวด์จะถูกเลี้ยงเพื่อนำมาล่าสัตว์ ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะออกกฎหมายห้ามใช้สุนัขในการล่าสัตว์แล้วก็ตาม แต่วิธีการนี้ก็ยังเป็นที่ได้รับความนิยมอยู่’ เจ้าหน้าที่จากศูนย์ช่วยเหลือเล่า เมื่อเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาดูแลพวกมัน พวกเขาก็พบว่าร่างกายของสุนัขเต็มไปด้วยบาดแผลที่ถูกมนุษย์ทำร้าย เชื่อว่าก่อนหน้านี้เจ้านายคนเก่าต้องเลี้ยงดูพวกมันอย่างโหดร้ายทารุณ ‘มีหมาตัวหนึ่งมันหิวโซมาหลายวัน มันไม่มีแรงแม้แต่จะยืนกินข้าวด้วยตัวเอง มันถึงกับต้องล้มนอนลงในถ้วยอาหาร’ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเล่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้นำสุนัขทั้งหมดมาดูแลไว้ที่ศูนย์พักพิง พวกเขาช่วยปฐมพยาบาล ให้อาหาร และฟื้นฟูให้พวกมันกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ตอนนี้พวกมันหลายตัวเริ่มกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงดังเดิม และพร้อมที่จะได้รับการอุปการะจากครอบครัวใหม่แล้ว ‘ถึงแม้พวกมันจะถูกฝึกให้ล่าสัตว์มาก่อน แต่พวกมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด มันเป็นสุนัขที่พร้อมจะซื่อสัตย์ และรักผู้ที่ดูแลมันอย่างดี’ เจ้าหน้าที่กล่าวปิดท้าย น่าสงสารมากเลยต้องอดอาหารจาก 64 ตัว เหลือชีวิตรอดเพียงแค่ 16 ตัวเอง ฮือๆๆ…
-
ชีวิตสุดเศร้าของ ‘เด็กเผือก’ ในประเทศแทนซาเนีย เด็กๆ ต้องถูกล่าเพียงเพื่อนำอวัยวะไปขาย
หากพูดถึงเรื่องของเด็กที่เกิดมาพร้อมความผิดปกติทางพันธุกรรม ‘คนเผือก’ ในไทยเราอาจจะไม่ค่อยพบเจอได้มากนัก แต่ในขณะที่ทางฝั่งแอฟริกา เด็กเผือกทุกคนล้วนถูกตั้งค่าหัวตั้งแต่เกิด และถูกล่าเพื่อนำอวัยวะไปขาย… ช่างภาพชาวดัตช์ Marinka Masséus เขาได้เข้าไปเยี่ยมเยียนเด็กเผือกในประเทศแทนซาเนีย พร้อมทั้งถ่ายภาพและตีแผ่เรื่องราวความโหดร้ายที่เกิดขึ้นจริงผ่านเว็บไซต์ Dailymail เธอเล่าว่า ‘ความกลัวที่มีต่อเด็กเผือกตามความเชื่อทางสังคมของที่นี่ฝังลึกมาก ผู้หญิงที่คลอดเด็กเผือกออกมามักจะถูกเกลี้ยกล่อมให้การุณยฆาตเด็กตั้งแต่เกิดซะ หากหญิงสาวปฏิเสธเด็กๆ จะถูกขับไล่ออกจากครอบครัวกลายเป็นคนจรจัด และถูกล่าในที่สุด’ แต่จริงๆ แล้วอาการผิวเผือก จะทำให้ผิวหนัง และสายตาแพ้แสงง่ายกว่าคนปกติทั่วไป จากสถิติพบว่าโอกาสเกิดความบกพร่องดังกล่าวอยู่ที่ 1 ใน 20,000 คน ทว่าที่ประเทศแทนซาเนีย และประเทศแถบฝั่งตะวันออกของแอฟริกา กลับมีเปอรเซนต์การเกิดคนผิวเผือกมากที่สุด ส่วนสาเหตุที่พวกเขาต้องถูกล่า ก็เพียงเพื่อนำอวัยวะไปขายให้กับหมอผี ตามความเชื่อที่ว่าพวกเขาเป็นผีที่จะนำความโชคร้ายมาสู่ครอบครัว จากการสำรวจของสหรัฐฯ คาดว่าตั้งแต่ปี 2015 มีเด็กเผือกในแถบตะวันออกของแอฟริกา ถูกฆ่า และลักพาตัวไปแล้วมากถึง 75 ราย ขณะเดียวกันทางรัฐบาลของประเทศแทนซาเนีย ก็ได้ร่วมมือกับหลายๆ องค์กรเพื่อหวังแก้ปัญหาเรื่องนี้ โดยมีเด็กๆ จำนวนมากต้องย้ายมาอาศัยอยู่ในค่ายที่ทางรัฐบาลจัดขึ้น เพื่อไม่ให้พวกเขาถูกล่า ‘ถึงแม้ว่ารัฐบาลจะมีแคมป์หลบภัยสำหรับเด็กๆ แต่เราก็ไม่รู้ว่าวิธีนี้จะช่วยแก้ปัญหาระยะยาวได้มั้ย…
-
ศิลปินวาดภาพช้างตามกำแพงในแอฟริกาใต้ เพื่อให้ความหวังกับคนในหมู่บ้าน!!
ในช่วงระหว่างวันที่ 13 พฤษภาคม ถึง 31 ตุลาคมปี 2015 ที่ผ่านมา ได้มีกราฟิตี้คนหนึ่งชื่อว่า Falko ได้เดินทางไปทั่วแอฟริกาใต้เพื่อไปวาดรูปช้างตามสถานที่ต่างๆ จุดประสงของภารกิจครั้งนี้ก็คือการเปลี่ยนพื้นที่แห่งนั้นให้มีคุณค่าและน่าอยู่ยิ่งขึ้น โดยตั้งชื่อว่าโปรเจกต์ว่า “Once Upon A Town” และได้ช่างภาพ Luke Daniel มาบันทุกการเดินทางครั้งนี้ให้ เขากล่าวว่า “การวาดบนกำแพงนั้นไม่ได้กลายเป็นเรื่องสกปรกอีกต่อไป เพราะมันคือการเปลี่ยนมุมมองของทุกคน” Falko เป็นกราฟิตี้มาตั้งแต่ปี 1988 เขาพ่นกำแพงครั้งแรกที่โรงเรียน Westridge High School และตอนนี้ก็ได้มายังที่แอฟริกาใต้เพื่อมาสร้างผลงานชิ้นนี้ แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าทำไมต้องเป็นช้าง ลองไปดูผลงานของเขากัน เผื่อว่าจะได้คำตอบ จากภาพเราจะได้เห็นว่าภาพที่เขาวาดนั้นมันเชื่อมโยงกับสถานที่จริงได้อย่างน่าเหลือเชื่อภาพมุมมองที่ตั้งใจเอาไว้ ลองไปติดตามผลงานของเขาได้ที่ Instagram | Facebook ที่มา BBC, redbull
-
กว่าจะได้มาเป็นทองคำอันล้ำค่า กับเบื้องหลังที่ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อและชีวิตของคน!!
ทองคำแท้เป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงมาก นั่นก็เป็นเพราะว่ามันเป็นสิ่งที่หายากมากๆ กว่าจะได้ทองคำมาต้องลำบากทำเป็นเหมืองที่ต้องลงมือขุดและงมไปทั่วบริเวณ ซึ่งถ้าหากว่าเจอทองคำเมื่อไหร่ นั่นก็หมายถึงเงินเป็นจำนวนมากนั่นเอง แต่ทว่าเงินเหล่านั้นไม่ได้มาถึงมือคนที่ลงแรงกายและหงาดเหงื่อ แต่กลับตกไปเป็นของนายทุนแทน เหมืองทองคำที่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากบนโลกใบนี้ ผู้คนที่เป็นแรงงานส่วนใหญ่นั้นล้วนเป็นแรงงานเด็กแทบทั้งสิ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศแอฟริกา ที่จะต้องเสี่ยงทั้งชีวิตและสุขภาพร่างกายในระยะยาวให้กับการทำงานอันหนักหน่วง ทั้งก้มและขุดหาทองคำอันล้ำค่าเพื่อแลกกับอาหารและที่อยู่อาศัย Matjaz Krivic ช่างภาพผู้ทำสารคดีเกี่ยวกับแรงงานเหมืองทองคำได้กล่าวเอาไว้ว่า ‘เด็กที่มีอายุน้อยเพียงแค่ 8 ปี จะต้องทนทำงานหนักแทบทั้งวันและทุกวัน’ ซึ่งภาพชุดนี้เป็นแรงงานเด็กในเหมืองทองคำแห่งหนึ่งจากประเทศบูร์กินาฟาโซ เขาเริ่มต้นการถ่ายทอดชีวิตของคนงานเหมืองในปี ค.ศ. 2012 โดยที่เขานั้นรู้สึกได้ถึงความดิ้นรนและการต่อสู้เพื่อหาหนทางเอาชีวิตรอดภายในประเทศนี้ และรับรู้ได้ถึงความใจกว้างต่อคนงานเหมืองด้วยกันที่คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยธุรกิจคนงานเหมืองในประเทศนี้ เป็นการค้าขายแรงงานแบบธุรกิจครอบครัว ผู้คนที่ทำงานเหมืองก็มาจากบริเวณใกล้ๆ เหมือง ซึ่ง 1 ใน 3 ของคนงานทั้งหมดเป็นเด็ก การทำงานจะเริ่มต้นเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และจะจบการทำงานในช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน ก็เหมือนกับการทำงานทั่วไป แต่ว่าเด็กๆ เหล่านี้จะต้องคอยขุด, งม, ล้างหิน, แบกน้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย ตลอดระยะเวลา 11…