Tag: โกง
-
การโกงแห่งประวัติศาสตร์ของไนจีเรีย กับ ‘สนามบิน’ ที่ไม่มีจริง ฟันเงินกว่า 8,000 ล้าน!!
เหตุการณ์ฉ้อโกงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของไนจีเรีย กับสนามบินปลอมที่ไม่มีอยู่จริง สร้างความเสียหายเป็นมูลค่ากว่า 242 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราวๆ 8,000 ล้านบาท ให้กับแบงก์ชาติ!? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงปี 1995-1998 นาย Nwude เองก็ทำงานอยู่ในธนาคาร Union Bank of Nigeria เช่นกันในตำแหน่งของผู้อำนวยการ นั่นทำให้เขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และคนที่ตกเป็นเหยื่อของการก่อเหตุฉ้อโกงในครั้งนี้ก็คือนาย Nelson Sakaguchi ที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการแบงก์เช่นกัน นาย Nwude ให้ข้อมูลกับ Nelson ว่าตอนนี้ไนจีเรียกำลังวางแผนที่จะสร้างสนามบินในเมือง Abuja (ซึ่งเป็นเรื่องที่เมคขึ้นมา สนามบินไม่ได้ถูกสร้างจริงๆ) พร้อมกับหลอกล่อเขาว่าเราสามารถสร้างสนามบินด้วยวิธีการที่ถูกกว่างบที่กำหนด นั่นจะทำให้เหลือเงินเข้ากระเป๋าตัวเองเต็มๆ ถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราวๆ 330 ล้านบาท เพียงแต่ว่าต้องให้ตนเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเงินในการสร้างสนามบินทั้งหมด แน่นอนว่านาย Nelson ก็หลงเชื่อ มอบเงินจำนวนกว่า 191 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (6,200 ล้านบาท) ให้กับนาย Nwude…
-
ฉาวมหาวิทยาลัยแพทย์โตเกียว ตัดคะแนนผู้สมัครสอบหญิงทิ้ง เพื่อรับผู้ชายมากกว่า…
เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นกับสถานบันทางการศึกษาอย่าง มหาวิทยาลัยแพทย์กรุงโตเกียว ที่ถูกเปิดเผยถึงความไม่ยุติธรรมจากกระบวนการภายใน กรณีคัดเลือกนักศึกษาเข้ามาด้วยระบบจัดสอบ แต่มีข้อครหาในเรื่องของผลคะแนนที่ถูกตัดออกอย่างไม่สมเหตุสมผล เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยจากหนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun รายงานว่ามหาวิทยาลัยแพทย์กรุงโตเกียว ทำการตัดคะแนนสอบของผู้สมัครหญิงมาตั้งแต่ปี 2011 เพื่อคงจำนวนนักศึกษาหญิงในจำนวนที่ต่ำกว่านักศึกษาชาย ต้นเหตุของกรณีนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีผู้สมัคร ที่ผ่านการคัดเลือกเป็นผู้หญิงมีจำนวนคิดเป็น 38% ในปี 2010 ทางด้านสำนักข่าวใหญ่ NHK และ Kyodo News รายงานเพิ่มเติมว่าจากแหล่งข่าวอื่นๆ ยืนยันว่ามีการตัดคะแนนในผลการสอบจริง โดยในบางปีคะแนนของผู้สมัครที่เป็นผู้หญิงจะถูกตัดออกมากถึง 10% จากคะแนนที่ทำได้ อีกทั้งการถูกสื่อในประเทศแฉเกี่ยวกับกรณีของนาย Futoshi Sano เจ้าหน้าที่อาวุโสภายในกระทรวงศึกษาธิการ ได้ทำการตกลงภายในกับบุคลากรมหาวิทยาลัยในปี 2017 ขอเส้นสายเข้าไปประมูลในโครงการรัฐแลกกับการให้ลูกชายสอบติดมีที่เรียนที่มหาวิทยาลัย (ด้วยวิธีเพิ่มคะแนนสอบ) Futoshi Sano หนึ่งในแหล่งข่าวอ้างกับทางหนังสือพิมพ์ว่า ทางมหาวิทยาลัยพยายามจะลดจำนวนนักศึกษาหญิงให้เหลือเพียง 30% จากจำนวนทั้งหมด ด้วยเหตุผลที่ว่าผู้หญิงมักจะลาออกจากการแพทย์ หลังจากแต่งงานและมีลูกแล้ว (เป็นแม่บ้าน) ในขณะที่ผู้ชายยังคงทำงาน เป็นบุคลากรช่วยเหลือภายในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยได้มากกว่า เพราะจะต้องเข้ากะเป็นระยะเวลานานและพร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉิน …
-
ยิ่งขุดยิ่งเจอ!? อู่ต่อเรือฟินิกซ์เถื่อน ไร้ใบอนุญาต แต่พบเรือราชการเป็นลูกค้าเพียบ
จากกรณีของเหตุการณ์สุดสลด ‘เรือฟินิกซ์ล่มที่ภูเก็ต’ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวเสียชีวิตไปเกือบ 50 ราย หลังจากที่เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบเรื่องราวต่างๆ ก็ทำให้พบกับสิ่งผิดปกติมากยิ่งขึ้น!! ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก บิ๊กเกรียน ได้ทำการอัปเดตเรื่องราวว่าหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนและพบว่าอู่ต่อเรือฟินิกซ์นั้นเป็นอู่เถื่อน ‘ไม่มีใบอนุญาต’ แถมยังมีเรือราชการเป็นลูกค้าของอู่นี้อีกเพียบ!! ลองไปอ่านโพสต์เต็มๆ ได้ที่ข้างล่างนี้เลยจ้า… “#อู่ต่อเรือฟีนิกซ์ ‘เถื่อน’ ไม่มีใบอนุญาต ‘ศรีวราห์’ แจ้งข้อหาดำเนินคดี สุดเงิบ!!?? พบเรือราชการเป็นลูกค้า ทั้งกรมประมง และกรมทรัพยากรทางทะเลฯ ขึ้นคานรอการซ่อม จากเหตุการณ์เรือฟีนิกซ์ จมทะเลอันดามันจนทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตจำนวนมาก และอยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีกับบริษัททัวร์และผู้มีส่วนรับผิดชอบนั้น เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ฝ่ายความมั่นคง พร้อมด้วยนายสุรัฐ ศิริไสยาสน์ ผอ.สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต จนท.สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต ได้เดินทางไปตรวจสอบ หจก.ธนวัฒน์เอ็นจิเนียริ่ง ภูเก็ต ซึ่งเป็นอู่ต่อเรือฟีนิกซ์ ตั้งอยู่เลขที่ 65 ถนนท่าเรือใหญ่ หมู่ 7 ต.รัชฎา อ.เมือง จว.ภูเก็ต และคานเรือบริษัทสิกิจ จำกัดเลขที่…
-
เอาไป 5 ดาว!! เมื่อคะแนนรีวิวกลายเป็นสิ่งสำคัญในธุรกิจ การซื้อขายคะแนนรีวิวจึงเกิดขึ้น
ในโลกของการซื้อขายออนไลน์นั้น การที่เว็บไซต์มีคะแนนรีวิวในระดับสูง หมายความว่าพวกเขาจะได้รับความเชื่อถือมากขึ้น รัฐบาลคาดการณ์ว่าคะแนนวิจารณ์พวกนั้นสามารถส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวอังกฤษในแต่ละปีในมูลค่าสูงถึง 23 พันล้านปอนด์ (ราวๆ 1 ล้านล้านบาท) เลยทีเดียว แม้ว่าการให้ความเห็นพวกนี้อาจจะดูน่าเชื่อถือ แต่จากการสำรวจของชาวอังกฤษจำนวน 1,600 คนที่ดำเนินการโดย Chartered Institute of Marketing 3 ใน 4 ของผู้ใช้ เว็บไซต์นักวิจารณ์นั้นพบเห็นรีวิวปลอมกันเป็นประจำ นักวิเคราะห์สหรัฐบางแห่ง คาดว่าครึ่งหนึ่งของความเห็นของผลิตภัณฑ์ใน Amazon อาจไม่น่าเชื่อถือด้วยซ้ำ การซื้อขายคะแนนรีวิว นั้นทำได้ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ตั้งแต่การสร้างบัญชีปลอมขึ้นมาเพื่อรีวิวสินค้าของตัวเอง การแจกสินค้าฟรีแก่คนที่เข้ามาให้คะแนนรีวิวแก่ร้าน หรือการสร้างเพจที่จะชวนคนให้สั่งสินค้าจาก Amazon และรีวิวสินค้า ก่อนที่ทางร้านจะทำการคืนสินค้าแบบเต็มราคา ดูเหมือนว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนสาวไปถึงตัวบริษัท เพจโซเชียลมีเดียเหล่านี้จึงออกมาเป็นตัวกลางของการซื้อขายคะแนนรีวิว พวกเขาจะได้รับเงินจากทางบริษัทเพื่อให้ “ช่วยสนับสนุน” และพวกเขาจะ “เชิญชวน” คนมารีวิวสินค้า และจ่ายเงินค่าสินค้าที่ว่าให้ จริงอยู่ว่าเว็บซื้อขายสินค้าจำนวนมากจะมีนโยบายไม่อนุญาตให้มีการรีวิวแลกกับเงินหรือสินค้า และมีมาตรการลงโทษการซื้อขายคะแนนรีวิว หรือรีวิวปลอมอย่างหนัก แต่แม้ในปัจจุบันเอง ก็ยังมีการซื้อขายคะแนนรีวิวให้เห็นกันอยู่มากมายอยู่ดี แม้แต่ในเว็บชื่อดังอย่าง Trustpilot, eBay หรือ Amazon ก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำได้ในเวลานี้ ก็มีเพียงแค่การตรวจสอบสินค้าที่จะซื้อให้ดีก็เท่านั้น…
-
ลูกทัวร์เดินหน้าเอาผิดทัวร์หรูของ “ดาราอักษร อ.” ประเด็นไม่หวังกำไร ท้าเปิดรายจ่ายโชว์
กำลังเป็นประเด็นดราม่า หลังเพจจัดทริปสุดหรูของดาราถูกแฉว่า เก็บเงินค่าทัวร์แพงเป็นแสน แต่ลูกทัวร์กลับได้ขนมปังสองแผ่น แถมโดนแย่งน้ำดื่มไปกินอีก ทั้งนี้ทางเฟซบุ๊กเพจ Look-Loke / ลูกโลก ก็ออกมาแย้งว่าตนมิได้จัดทัวร์ แต่เป็นการ “พาเพื่อนเที่ยว” เท่านั้น และด้วยเหตุนี้เองทำให้เพจดังกล่าวโดนลูกทัวร์จวกยับประเด็นจงใจหลบภาษี และถูกท้าให้เปิดเผยรายจ่ายจริงที่ใช้ในทริปนั้นๆ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chaianan Sodapak ได้ออกมาเผยว่าใน ทริป Luxury Private ทัวร์ ของเพจท่องเที่ยวซึ่งมี ดาราอักษรย่อ อ. เป็นเจ้าของนั้น ตนต้องจ่ายค่าทัวร์กับเพจนี้เป็นเงิน 139,000 บาท แต่การบริการกลับแย่ ตารางการเดินทางไม่ชัดเจน สถานที่ท่องเที่ยวถูกเปลี่ยนแปลงและน้อยลง แถมยังถูกเปลี่ยนแปลงที่พักโดยไม่แจ้งให้ทราบ เรียกได้ว่า ลูกทัวร์ที่ไปด้วยกันนั้นต้องเที่ยวกันอย่างยากลำบาก แน่นอนว่าทางเพจเองก็ออกมาตอบโต้ต่างๆ นานา เช่น ไม่ได้เป็นทำธุรกิจนำเที่ยว แต่เป็นเสมือนกับการพาเพื่อนเที่ยวเท่านั้น จึงไม่มีการบริการใดๆ อีกทั้งยังแจงว่าการไปเที่ยว 12 วันเช่นนี้ ปกติแล้วจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 300,000-500,000 บาท จึงตั้งราคาเป็นกันเองให้หลายๆ คนเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าปัญหาที่เกิดทั้งหมดอาจเป็นเพราะเพียงแค่ว่า “เคมีของการไปเที่ยวไม่ตรงกันเท่านั้นเอง” หลังจากที่ทางเพจ Look-Loke / ลูกโลก โต้แย้งมาแบบนั้น ในวันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา…
-
ฝรั่งพูดไทยได้ ขอเปิดมิเตอร์ดีๆ ไม่ยอมจ่ายเหมา 500 บาท โดนแท็กซี่สวนกลับ ‘ฝรั่งงี่เง่า’
สิ่งที่น่าเหนื่อยใจกับเรื่องของแท็กซี่เมืองไทย ที่คนส่วนใหญ่มักจะเจอก็คือโบกไม่จอด เรียกไม่ไป ไม่วิ่งผ่าน จะไปเติมแก๊ส และสารพัดเหตุผลร้อยแปดที่จะบอกปัดผู้โดยสาร แถมบางครั้ง พอย้ายก้นไปลงนั่งบนเบาะรถแท็กซี่แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะเจอก็คือคนขับเรียก ‘ราคาเหมา’ แทนที่จะเปิดมิเตอร์ตามปกติ ซึ่งปัญหาดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นกับชาวต่างชาติบ่อยครั้ง เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา หนุ่มบล็อกเกอร์สอนภาษาอังกฤษ Danny ได้ทำการโพสต์คลิปวิดีโอในช่วงที่เขากำลังขึ้นรถแท็กซี่คันหนึ่งในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อที่จะนั่งกลับไปยังที่พักของตนเอง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็คือการต่อรองราคาของคนขับ เรียกเป็นราคาเหมาทั้งสิ้น 500 บาท โดยไม่มีทีท่ายอมเปิดมิเตอร์ อ้างว่ามิเตอร์เสีย นาย Danny ก็ใจเย็นใช้คำพูดคำจาอย่างสุภาพว่า จะไม่ยอมไปเด็ดขาดถ้าหากไม่กดมิเตอร์ ท้ายที่สุดแล้วก็ยอมกดมิเตอร์ แต่โดนบ่นมาตลอดทางจนถึงทางด่วน คนขับก็ขอ 300 บาทเพื่อเป็นค่าขึ้นทางด่วน ทั้งที่จริงไม่ถึง 100 บาท แต่ก็ยอมให้ไป 200 บาทโดยไม่ได้รับเงินทอนแต่อย่างใด… เมื่อถึงปลายทางแล้วค่าโดยสารทั้งสิ้น 375 บาทตามมิเตอร์ นาย Danny จึงให้ไป 500 บาท คนขับก็ไม่ยอมทอนอ้างว่า…
-
ครูพิเศษชาวสิงคโปร์โดนตัดสินโทษ หลังช่วยเด็กโกงข้อสอบ GCE แบบทันสมัยในปี 2016
ทุกๆ คนรู้กันดีว่าการโกงข้อสอบนั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี หากว่าเราโกงข้อสอบแล้ว ไม่เพียงแค่ว่าเราไม่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าหน้าที่ แต่เรายังไม่ซื่อสัตย์ต่อความสามารถที่ตัวเรามีจริงๆ อีกด้วย ถึงอย่างนั้นการโกงข้อสอบกลับมีออกมาให้เห็นกันอยู่ร่ำไป แถมยังมีวิธีที่ซับซ้อนและทันสมัยมากขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย เมื่อวันจันทร์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา Tan Jia Yan ครูสอนพิเศษสาวชาวสิงคโปร์ วัย 32 ปีได้ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจากคดีมีส่วนร่วมในการช่วยนักเรียนชาวจีน 6 คนของเธอโกงข้อสอบ GCE (General Certificate of Education หรือ ประกาศนียบัตรการศึกษาทั่วไป) ระดับ O (Ordinary Level หรือ ระดับสามัญ) ในปี 2016 วิธีการของเธอคือ Tan Jia Yan จะเข้าร่วมการสอบ GCE ในฐานะผู้สมัครแบบส่วนตัว และจะใช้การวิดีโอคอลติดต่อไปยังนักเรียนของเธอและทำการบอกคำตอบให้แก่พวกเขา โดยที่ฝั่งนักเรียนจะมีการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือ อุปกรณ์บลูทูธ และหูฟังขนาดเล็กสีเนื้อเข้าไปในห้องสอบ การโกงข้อสอบในครั้งนี้ถูกเปิดเผยหลังจากที่ผู้คุมสอบได้ยินเสียงประหลาดจากหนึ่งในนักเรียนของเธอและทำการค้นตัวนักเรียนคนดังกล่าว Tan Jia Yan โดนข้อหาเกี่ยวกับการโกงข้อสอบเป็นจำนวน 27 กระทง โดยที่ 26 กระทงนั้นมาจากเหตุการณ์สอบ GCE และอีกหนึ่งกระทงจากคดีช่วยนักเรียนวัย 20 ปีโกงข้อสอบภาษาอังกฤษเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2016 …
-
ชาวบ้านรวมตัวจับ “ผู้นำหมู่บ้าน” ใส่เครื่องประหาร เหตุทำหน้าที่ห่วย แถมชอบโกหก!!
บางครั้งคนที่เข้ามารับตำแหน่งผู้นำก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีความสามารถเสมอไป เพราะผู้นำบางคนตอนเข้ามาก็อาจจะพูดและรับปากกับคนของตนเป็นอย่างดีเพื่อให้ได้เข้ามา แต่พอเข้ามาจริงๆ กลับมัวหลงในอำนาจและลืมคำสัญญานั้นไป ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องดังกล่าว ส่วนใหญ่ในประเทศที่มีการโหวตผู้นำ ชาวเมืองก็มักจะเลือกโหวตคนอื่นแทนในการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่สำหรับประเทศอย่างโบลิเวียกลับไม่ทำอย่างนั้น เพราะที่นี่มีการลงโทษผู้นำประเภทดังกล่าวได้แสบสันกว่าเยอะด้วยวิธีที่เรียกว่า ‘การลงโทษโดยสังคม‘ ล่าสุดนั้นการลงโทษดังกล่าวได้เกิดขึ้นที่หมูบ้านทางเหนือของประเทศโบลิเวีย โดยชาวบ้านได้จับตัว Javier Delgado ผู้ใหญ่บ้านที่เข้ามาทำหน้าที่แต่กลับผิดสัญญาและปฎิบัติงานให้ชุมชนไม่ดีพอตามที่กล่าวอ้าง ใส่เครื่องคุมขังและประจารต่อหน้าสาธารณชน การคุมขังนาย Javier นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลที่ว่า ผู้ใหญ่บ้านคนนี้ไม่ยอมทำตามคำร้องที่ชาวเมืองส่งไปให้เขา และเขายังโกหกชาวบ้านอีกหลายๆ อย่าง ด้านนาย Javier ก็บอกกับสื่อว่า เขาถูกจับแบบนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว และเขาก็เป็นเพียงคนไม่กี่คนในโบลิเวียที่ถูกทำแบบนี้ ซึ่งเขายังบอกอีกว่า ในครั้งที่ 3 เขาไม่มีโอกาสแม้จะพูดหรือร้องขอความเป็นธรรมกับตนเองเลยสักครั้ง แต่ต่อให้เขาสามารถอธิบายเหตุผลได้ แต่การถูกลงโทษโดยสังคมถึง 3 ครั้งนั่นหมายความว่า เขาจะต้องมีข้อบกพร่องมาตลอดการเข้ารับหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านของเขาที่กินเวลามากว่า 2 ปี ด้านชาวบ้านก็ให้นิยามของนาย Javier ว่า “ama qhuilla, ama llulla, ama…
-
เพจดังแฉกลโกงเบี้ยเลี้ยง ตชด. 3 จังหวัดภาคใต้ ผ่านมา 3 ปี ได้น้อยลงเรื่อยๆ เงินหายไปไหน…
สวัสดิการของผู้ปฏิบัติหน้าที่ เป็นส่วนหนึ่งของผลตอบแทนจากระบบราชการ จะมีการระบุจำนวนเงินไว้ตามตำแหน่งงาน… แต่เมื่อทุกครั้งที่เราได้ยินข่าวคราวของเจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น กลับรู้สึกว่าพวกเขากำลังถูกกดขี่อย่างต่อเนื่องและเรียกร้องความเป็นธรรมไม่ได้เลย ข้อมูลดังต่อไปนี้ถูกเปิดเผยโดยเพจ CSI LA ในวันที่ 6 มีนาคม 2561 เวลา 14.40 น. เป็นการนำข้อความจากระบบข้อความหลังบ้าน ที่เล่าผ่านตำรวจตระเวนชายแดนในพื้นที่ เกี่ยวกับค่าเบี้ยเลี้ยงสนามและค่าเสี่ยงภัย ที่ถูกตัดและหายไปบางส่วน… ข้อความจากโพสต์ดังกล่าว มีใจความดังต่อไปนี้… “ตชด. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เขียนมาเล่าเรื่องการโกงค่าเบี้ยเลี้ยง ตชด. ให้ฟังครับ สวัสดีคับแอดมินเพจ CSI LA คือผมอยากจะให้แอดมิน ทำเรื่องที่ผมอยากจะขอร้องต่อไปนี้ให้มันแดงขึ้นมาครับ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับ เบี้ยเลี้ยงสนาม และค่าเสี่ยงภัย ของ ตชด.ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในพื้นที่ 3 จว.ใต้ คือว่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ปี 2558 จนถึง ก.ย. 2560 ได้รับเบี้ยเลี้ยง 6,130…
-
9 เรื่องราวสุดบ้าที่มี “เงิน” มาเกี่ยวข้อง ทำให้รู้ว่าเงินมีอิทธิพลกับคนมากขนาดไหน
คงไม่มีใครเถียงหรอกว่าปัจจุบันเงินเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิตจริงๆ แค่ก้าวเท้าออกจากบ้านก็มีเรื่องให้ต้องเสียเงินกันเสียทุกครั้งแล้ว ถ้าไม่มีเงินจะอยู่ยังไงล่ะ จะไปใช้ชีวิตปลูกผักกินเองแบบชาวไร่ในสมัยก่อนก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่งอีก แม้แต่ในสมัยก่อนที่คนไม่ต้องพึ่งพาเงินมากเหมือนในปัจจุบัน เงินก็มีส่วนทำให้คนทำเรื่องที่ปกติตัวเองคงไม่ทำถ้าไม่เพราะเงินจำนวนมากอยู่ด้วย ลองไปรับฟังกันดูนะว่ามันบ้าขนาดไหน 1. จ่ายค่าเช่าหวังฮุบอพาร์ตเม้นต์ เมื่อปี 1965 ทนาย Andre-Francois ทำสัญญาจะจ่ายเงินค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ให้คุณยาย Jeanne Calment วัย 90 ปีทุกเดือน โดยมีข้อแม้ว่าถ้าคุณยายตายไปแล้วจะต้องยกอพาร์ตเมนต์ให้กับเขา คงหวังจะได้อพาร์ตเมนต์ราคาถูกมาครอง เพราะคุณยายแก่แล้วน่าจะอยู่ได้ไม่นาน แต่อาจจะเพราะเธอไม่อยากยกอพาร์ตเม้นต์ให้เขาง่ายๆ คุณยายก็ฮึดมาจากไหนไม่รู้ มีชีวิตอยู่ยาวนานจนทนายคนนั้นตายไปก่อนตัวเองเสียอีก แล้วในปีถัดมาคุณยายก็ตายไปด้วยอายุ 122 ปี ทนายหนุ่มจึงได้จ่ายค่าอพาร์ทเมนต์นานกว่า 30 ปี ทั้งที่ตัวเขาไม่มีโอกาสได้เข้าไปอยู่เลย รวมแล้วเป็นเงินกว่า 280,000 ดอลลาร์สหรัฐในยุคปัจจุบัน (ประมาณ 9 ล้านบาท) 2. เก็บความตายของพ่อไว้เป็นความลับ หวังเอาเบี้ยคนชรา เมื่อปี 2010 ทางการของกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเดินทางไปที่บ้านของนาย Sogen Kato เพื่อยินดีกับเขาเนื่องในโอกาสอายุครบ 111 ปี ถือเป็นชายที่อายุเยอะที่สุดในเมือง…
-
ร้านสะดวกซื้อในจังหวัดกิฟุประเทศญี่ปุ่น เปิดบริการโดยไม่มีพนักงานแม้แต่คนเดียว
“สวัสดีครับ เชิญครับ” หรือ “สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับค่ะ” นั้นเป็นคำทักทายที่เราได้ยินจนติดหูเมื่อเราเข้าไปใช้บริการในร้านสะดวกซื้อ พนักงานในร้านมักจะทักทายเราแบบนี้เสมอๆ เพื่อเป็นการบ่งบอกว่าเหล่าพนักงานนั้นยินดีตอนรับและพร้อมบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ ร้านสะดวกซื้อนั้นคงอยู่ไม่ได้หากไม่มีสินค้าวางขาย และก็อยู่ไม่ได้เช่นกันหากว่า “ไม่มีพนักงาน” คอยดูแลร้านแม้แต่คนเดียว แต่เชื่อไหมล่ะว่ามันกลับมีร้านแบบนี้อยู่จริงๆ ในจังหวัดกิฟุ ของประเทศญี่ปุ่น ขณะที่หญิงสาวคนหนึ่งและเพื่อนๆ กำลังเดินทางไปยังเมืองคะคะมิกะฮะระ ในจังหวัดกิฟุ นั้นเอง พวกเขารู้สึกว่าอยากจะซื้อบุหรี่ และบังเอิญหันไปเห็นร้านค้าสะดวกซื้อแบรนด์ดังของญี่ปุ่น Lawson พวกเขาจึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปซื้อบุหรี่ เมื่อเข้าไปแล้ว สิ่งที่ทำให้พวกเขาอึ้งก็คือ ชั้นวางสินค้าที่ว่างเปล่า แทบไม่เหลืออะไรเลยนอกจาก เครื่องดื่มที่กระจัดกระจาย หมากฝรั่ง แล้วก็ของต่างๆ สำหรับใช้ในห้องน้ำ นอกจากนี้ห้องน้ำของร้านแห่งนั้นยังแปะป้ายที่เขียนเอาไว้ว่า “ปิดให้ใช้บริการ: ไม่สามารถใช้ได้ทั้งห้องน้ำผู้หญิงและผู้ชาย” พวกเขาจึงพยายามเรียกพนักงานอยู่หลายครั้ง แต่ไม่มีใครออกมา ไม่ได้ยินแม้เสียงของผู้คนที่ทำงานอยู่หลังร้าน จึงสรุปได้ว่า ที่ร้าน Lawson แห่งนี้ “ว่างเปล่า” ไม่มีใครอยู่ มีแต่ประตูที่ไม่ได้ล็อค และไฟที่เปิดไว้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่หากดูจากเว็บไซต์ของ Lawson ร้านนี้ยังถือว่าเป็นหนึ่งใน 10,000 สาขาที่ยังเปิดตัวอยู่…
-
เจ้าของตู้คีบญี่ปุ่นถูกจับกุม หลังพบว่ามีการตั้งค่าเครื่องเล่นให้คีบได้ยากเกินไป
หากจะกล่าวถึงตู้เกมอย่างหนึ่งที่เป็นขวัญใจของใครหลายคน สำหรับสาวๆ แล้ว ‘ตู้คีบตุ๊กตา’ ดูเหมือนจะเป็นตู้เกมที่เป็นที่โปรดปรานเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความน่ารักของตุ๊กตาที่อยู่ข้างในตู้และมีราคาที่ไม่แพงมากนัก ทำให้ไม่ว่าใครๆ ต่างก็ต้องเคยลองเล่นเจ้าเครื่องที่ว่านี้มาแล้วทั้งนั้น แต่เมื่อได้ลองสัมผัสเครื่องเล่นแนวๆ นี้ดูก็จะพบว่า จริงๆ แล้วการคีบตุ๊กตามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด ไม่ว่าจะด้วยการเล็ง การคิดคำนวณ หรือกระทั่งการกะระยะไว้อย่างพอดิบพอดี บางทีคำนวนมาอย่างดิบดี แต่พอกดคีบเท่านั้นแหละ กลับพลาดอย่างง่ายๆ จนทำให้บางคนต้องเสียเงินให้กับเจ้าเครื่องหนีบนี้เป็นร้อยเป็นพัน เพื่ออยากจะแก้แค้นให้สาสมใจเลยก็มี ซึ่งปัญหานี้ได้เกิดขึ้นกับผู้คนมากมาย จนบางทีเราก็คิดไปว่าเครื่องนี้มันโกงเราหรือเปล่านะ และดูเหมือนว่าการสันนิษฐานของเราอาจจะกลายเป็นเรื่องจริงขึ้นมาก็ได้ เพราะในตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นได้มีเจ้าของเกมตู้คีบ ถูกตั้งข้อหาว่าตั้งค่าเครื่องเกมให้ไม่สามารถเอาชนะได้จริงๆ!! เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งเมืองโอซาก้า ได้ควบคุมตัวนาย Takeshi Ohira อายุ 33 ปี เจ้าของตู้เกมชื่อว่า Amusement Trust ซึ่งเป็นตู้เกมคีบที่ได้รับความนิยมทั้งในเมืองโอซาก้าและเกียวโต นอกจากนี้ยังมีการจับกุมพนักงานของเขาอีก 5 คนร่วมด้วย สำหรับข้อหาที่ผู้ต้องสงสัยเหล่านี้ถูกตั้งขึ้นก็คือ ‘ตั้งค่าหรือปรับแต่งเครื่องเล่นเกมให้ไม่สามารถเอาชนะได้’ โดยทั้งนี้ทั้งนั้นรูปแบบเครื่องจักรภายในตู้เกม ก็ดูเหมือนจะได้รับการปรับแต่งจนกลายเป็นกลโกงขึ้นมา ซึ่งสามารถดูได้จากวิดีโอการสาธิตข้างล่างนี้ วิดีโอการสาธิตกลโกงเครื่องจักรจากสำนักข่าว ANN นอกจากกลไกของตู้เกมจะถูกตั้งข้อสงสัยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจยังบอกอีกด้วยว่า ตัวพนักงานเองก็มีส่วนร่วมในการโกงเช่นเดียวกัน โดยพนักงานเหล่านี้จะมาคอยให้กำลังใจผู้เล่นในตอนที่เล่นเกมอยู่ และหากเมื่อเห็นว่าผู้เล่นได้พยายามหลายครั้งและถอดใจจะเลิกเล่นแล้วจริงๆ พวกเขาก็จะแกล้งสาธิตการเล่นให้ดู แต่ก่อนที่จะมีการสาธิตเกิดขึ้น…
-
รายการญี่ปุ่นโคตรถึงใจ ติดตามชีวิต “ข้าราชการดูงานต่างประเทศ” เพื่อการงานหรือไปเที่ยว!?
บ่อยครั้งที่เรามักจะเจอข้าราชการจากหลายๆ องค์กรในบ้านเราขอเบิกงบจากกองกลาง เพื่อที่พวกเขาจะใช้สำหรับการเดินทางไปดูงานตามที่ต่างๆ อาจจะเป็นต่างจังหวัดหรือหนักหน่อยก็ไปต่างประเทศ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่านั่นคือการไปเที่ยวหรือไปศึกษางานจริงๆ เพราะเราไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมสักเท่าไหร่ แต่ใช่ว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นจะมีแค่ที่ประเทศไทยนะ เพราะที่ญี่ปุ่นก็เป็นเช่นกัน โดยเรื่องราวนี้ได้ถูกเปิดเผยผ่านรายการ 実録! 金の事件簿 2 ซึ่งออกอากาศผ่านช่อง FUJI TV ทีมงานจากรายการดังกล่าวนั้นได้แอบสืบพบว่า ‘คณะสมาชิกสภาจังหวัดคากาวะ’ ได้ขอเบิกงบจากรัฐเป็นเงินกว่า 10 ล้านเยน หรือตีเป็นเงินไทยก็เกือบๆ 3 ล้านบาท เพื่อที่จะพาทุกคนนั่งเครื่องบินชั้นธุรกิจ ไปดูงานถึงประเทศเยอรมนี อิตาลี และสวิตเซอร์แลนด์ กินเวลารวมแล้วกว่า 9 วัน 7 คืน!! โฉมหน้าของคณะสมาชิกสภาจังหวัดคากวะที่เป็นเหยื่อของรายการในครั้งนี้ มาครับนั่งเครื่องบินสุดหรู แล้วบินไปกันเลย ป้ายแรกที่เยอรมนี!! นอกจากเยอรมนีแล้ว ยังมีอีกสองประเทศสุดหรูหราที่ใครๆ ก็อยากไป แน่นอนว่าถ้าเราได้ยินการไปดูงานต่างประเทศแถมไปนานขนาดนี้เราก็ต้องคิดไปก่อนแล้วว่า พวกเขาไม่ได้ไปดูงานหรอกแต่แอบโกงเงินแบบอ้อมๆ ผ่านวิธีดังกล่าวเพื่อให้ได้ไปเที่ยวต่างหาก งานนี้ทีมงานเลยขอปลอมตัวตามติดชีวิตเหล่าคณะสมาชิกสภากันสักหน่อย เอาแบบตามติดตั้งแต่ญี่ปุ่นยาวจนไปถึงต่างประเทศเลย งานนี้และจะได้รู้กันว่าโกงหรือศึกษางานจริงๆ กันแน่!! ตามติดมาจากญี่ปุ่น ตอนนี้เหยื่อทั้งหมดก็มาถึงเยอรมันแล้ว พอมาถึงสถานีแรก เหล่านักเดินทางทั้ง 6 ก็ไม่รอช้า เข้าไปดูงานถึงในร้านอาหารสุดหรูพร้อมสั่งเบียร์ชั้นดีมากระดกอย่างสบายใจ…ดูงานจริงๆ นะ…
-
หนุ่มสร้าง “หุ่นยนต์ไม้” มาช่วยไม่ให้โดนเตะออกจากเกม Star Wars เพื่อหาเงินเปิดกล่องแก้แค้น EA!!
ถ้าพูดถึงเกมที่เป็นกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ในขณะนี้คงไม่มีเกมไหนที่กระแสจะมาแรงแซงทางโค้งไปกว่า Star Wars: Battlefront 2 อีกแล้ว ซึ่งเรื่องที่ถูกพูดถึงก็ไม่ใช่เรื่องดีอีกต่างหาก โดยประเด็นที่ถูกยกมาพูดถึงเกี่ยวกับเกมดังกล่าวนั่นก็คือระบบ Loot Box หรือที่เราเรียกกันว่ากล่องสุ่ม ซึ่งทางตัวเกมได้ยัดอะไรต่างๆ มากมายที่ส่งผลกับตัวเกมเข้าไปทั้งอาวุธและสกิลรวมกันอยู่ในนั้น แทนที่เกมจะจับยัดแค่ของสวยงามอย่างสกินอาวุธหรือชุดตัวละครเท่านั้น ที่สำคัญไปกว่าสิ่งอื่นเลยก็คือ เกมดังกล่าวก็ไม่ได้เปิดให้เราเล่นฟรีฟรีแถมตัวเกมก็มีราคาแพงอีกต่างหาก ทำให้ทั้งสื่อและผู้เล่นสับกันยับ!! และเมื่อภายในกล่องสุ่มเจ้ากรรมมันดันมีไอเทมเจ๋งๆ ที่ส่งผลกับตัวเกมแน่ๆ ผู้เล่นจึงต้องสรรหาวิธีสุดหัวหมอมาแก้เผ็ด EA ด้วยวิธีสุดเนียนหรือเรียกกันตรงๆ ก็คือการโกงนั่นแหละ โดยพ่อหนุ่มหัวใสนามว่า GARBTRONIX จึงคิดค้นหุ่นยนต์กดจอยสติ๊กแบบอัตโนมัติที่ทำจากเศษไม้ออกมา ซึ่งจุดประสงค์หลักที่พ่อหนุ่มต้องทำแบบนั้น นั่นก็คือการปล่อยให้เจ้าหุ่นยนต์ไม้เล่นเกมเองไว้เฉยๆ โดยการเดินไปมาซ้ายขวา ผลลัพธ์ที่ตามมามันจะทำให้เขาไม่ถูกเตะออกจากห้องที่เขาเล่นอยู่ เพราะถ้าการยืนเฉยๆ จะทำให้เขาถูกเตะออกจากเกมที่เขาเล่นอยู่และไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา และทุกครั้งที่เขาจบในแต่ล่ะแมทช์เขาก็จะได้รับเงินภายในเกม ซึ่งมันสามารถใช้ไปเปิดเจ้ากล่องสุ่มเจ้าปัญหาได้โดยที่เขาไม่ต้องจ่ายเงินให้กับทาง EA เพิ่มเติมนอกจากราคาเกม แต่ใช่ว่าการกระทำของพ่อหนุ่มคนนี้จะเป็นเรื่องที่ดีหรอกนะ เพราะว่าสิ่งที่เขาทำมันก็คือการโกง และการโกงก็ถือเป็นเรื่องที่ผิดแม้ว่าตัวผู้จัดจ่ายหน่ายอย่าง EA จะแย่แค่ไหนก็ตาม นอกจากนั้นการโกงแบบนี้ยังสร้างภาระให้กับเพื่อนภายในเกมที่ต้องมาเจอพ่อหนุ่มคนนี้ยืนอยู่กับที่โดยไม่เล่นอีก ฉะนั้นถ้าใครอยากจะทำแบบนี้ก็อยากแนะนำว่าอย่าเลย ดูแค่ให้เป็นกรณีตัวอย่างก็พอ เพราะแม้ว่าระบบกล่องสุ่มในเกมจะแย่มากแค่ไหน แต่ตัวเกม Star Wars: Battlefront 2 ก็ไม่ได้แย่เลยล่ะ ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้วเล่นเองเถอะ!!…
-
ร้ายกาจ!! หญิงลักลอบซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามูลค่ากว่า 60,000 บาท แต่จ่ายเพียงแค่ 120 บาท
ปัจจุบันตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อในต่างประเทศได้นำเครื่องมือหนึ่งที่เรียกว่า เครื่องจ่ายเงินบริการตัวเอง ให้ลูกค้าสามารถนำของที่ซื้อมาสแกนบาร์โค้ดเองได้ที่เครื่อง เรียกว่าสะดวกสบายๆ รวดเร็วทันใจเรามากกว่าเดิม ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้มีเพียงแค่ข้อดี เพราะข้อบกพร่องที่ชัดเจนของเครื่องนี้ก็คือ มันสามารถทำให้ลูกค้าโกงราคาของสินค้าได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกันกับที่เธอคนนี้ได้ทำลงไป เธอมีชื่อว่า Cheyenne Amber West สาววัย 25 ปีในเมือง Fort Pierce รัฐฟลอริด้า วันหนึ่งเธอไปซื้อของในร้าน Walmart กับแม่ของเธอ และได้ทำการโกงราคาสินค้า ทำให้เธอจ่ายเพียงแค่ 120 บาท แต่กลับได้สินค้าที่มีมูลค่ากว่า 60,000 บาท!! Amber หญิงสาวผู้โกงเงินในร้านสะดวกซื้อ จากการรายงานข่าวในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2017 บอกว่าเธอเข้าร้านมาเลือกหยิบคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค จอยเกม และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายรายการ ก่อนที่จะนำบาร์โค้ดที่ตัวเองเตรียมไว้ติดทับไปกับบาร์โค้ดของสินค้าเหล่านั้นและเดินไปจ่ายเงินที่เครื่องจ่ายเงินบริการตัวเอง แน่นอนว่าเครื่องไม่สามารถรับรู้ได้ว่าบาร์โค้ดที่มันสแกนอยู่ไม่ตรงกับสินค้านั้นๆ ทำให้ราคาที่ออกมาถูกลงไปเยอะมาก แต่สิ่งที่เธอทำทั้งหมดก็ไม่อาจรอดสายตาของพนักงานรักษาความปลอดภัยไปได้ เธอจึงโดนตรวจสอบในทันที หลังจากนั้นเธอถูกจับข้อหาลักทรัพย์ตามคดีอาญาและข้อหาขโมยของในร้านค้า โดยเมื่อถามถึงสาเหตุเธอก็ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า “ฉันต้องการนำคอมพิวเตอร์นั้นไปให้สามีเพื่อตอบแทนที่เขาซื้อกระเป๋าเงินราคาแพงให้ ส่วนจอยเกมฉันต้องการนำไปฝากลูก ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่ฉันไม่สามารถมีกำลังซื้อได้เอง” การสอบปากคำแม่ของเธอที่ไปด้วยกัน Alicia West…
-
เอ๊า.. ผลการศึกษาล่าสุด เผย “คนหน้าเหลี่ยม” อาจจะมีแนวโน้มเป็นคนคิดไม่ซื่อได้มากกว่า!?
ต้องบอกก่อนว่าผลจากงานวิจัยชิ้นล่าสุดนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ต้องการแขวะบุคคลทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เพราะนี่เป็นหนึ่งในผลวิจัยที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร Archives of Sexual Behavior โดยทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Nipissing ประจำประเทศแคนาดา ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมจากคน 2 กลุ่ม โดยเน้นไปที่การจับสังเกตบทบาทของค่าความกว้าง-สูง ของใบหน้า (FWHR) เพื่อหาความสอดคล้องที่มีต่อพฤติกรรมการหาคู่ และพฤติกรรมความไม่ซื่อสัตย์ สำหรับกลุ่มแรก… ทีมวิจัยได้นำอาสาสมัครจำนวน 145 คน (วัยนักเรียน) มาวัดขนาดความกว้าง – ยาว ของใบหน้าตามหลัก FWHR ซึ่งมีวิธีการวัดโดยนำขนาดความกว้างของใบหน้า ลบกับขนาดความยาวของใบหน้า นอกจากนั้นทีมวิจัยยังได้เก็บแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมความสัมพันธ์ทางเพศ แรงขับทางเพศ และได้นำข้อมูลทั้งหมดไปวิเคราะห์ประมวลผล และน่าแปลกใจมากที่ทีมวิจัยพบความเชื่อมโยงระหว่างขนาดความเหลี่ยมของใบหน้า และพฤติกรรมความสัมพันธ์ทางเพศ ในการศึกษาขั้นที่ 2 ทีมวิจัยได้นำอาสาสมัครจำนวน 314 คน ไปทำการทดสอบ โดยมีการเพิ่มบททดสอบที่เกี่ยวกับเรื่องของเพศสัมพันธ์นอกความสัมพันธ์แบบผูกมัด (Sociosexuality) และความไม่ซื่อสัตย์ที่เกิดอย่างจงใจ (intended infidelity) จากการทดสอบทั้ง 2 ขั้นตอน ทีมวิจัยได้ผลสรุปออกมาว่า ค่าสัดส่วนใบหน้า FWHR มีผลต่อการกระตุ้นทางเพศทั้งหญิงและผู้ชาย……
-
ชาวบ้านเอาคืนหลังนักท่องเที่ยว “จอดรถในหมู่บ้าน” เพราะไม่อยากเสียค่าที่จอดในสนามบิน
การโกงเลี่ยงจ่ายค่าจอดรถ หรือเลี่ยงที่จะจ่ายเงินบางอย่างนั้น ไม่ได้มีแค่บ้านเราเท่านั้นที่ทำ แต่เมืองนอกก็ทำเหมือนกัน และในครั้งนี้ก็เป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยว ที่ต้องเดินทางไปต่างถิ่นแต่ดันไม่ยอมจ่ายค่าจอดรถสนามบิน ทว่าการไม่ยอมเสียเงินค่าจอดรถในสนามบินนั้น มันจะไม่มีปัญหาอะไรเลย ถ้าพวกนักท่องเที่ยวดังกล่าวไม่เอารถของพวกเขามาจอดเต็มสองข้างทางในหมู่บ้านใกล้ๆ จากแผนที่จะเห็นว่า พื้นที่เจ้าปัญหามันอยู่ใกล้สนามบินนิดเดียวเท่านั้น แล้วดูจอดกัน รถทุกคันไม่ใช่ของชาวบ้านด้วยนะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ถนนใกล้ๆ กับ Luton Airport ในประเทศอังกฤษ โดยชาวบ้านได้ทำการแชร์ภาพที่พวกเขาจัดการกับรถมากมายที่มาจอดเต็มสองข้างทางหมู่บ้านของพวกเขา จนทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อนโดยการพ่นสีและทุบกระจก รถบางคันก็ยังถูกปล่อยลมยาง เรียกว่าเป็นการแก้เผ็ดที่จัดการกับพวกไม่ยอมเสียเปรียบได้อย่างดี เจ้าของรถกลับมาน่าจะมีอึ้งกันไปบ้างล่ะ เละเชียว บรึ๊ยยย พอสำนักข่าวต่างๆ รู้เรื่องเข้าก็เดินทางไปสอบถามเรื่องราวกับชาวบ้าน ก็พบว่ารถเหล่านี้จอดนิ่งอยู่แบบนี้มานานหลายวันแล้ว บางคันก็นานถึงสองสัปดาห์เลยทีเดียว ชาวบ้านยังบอกอีกว่า รถบางคันก็ไม่ได้เสียหายหนักขนาดนั้น บางคันก็แค่วาดรูปหรือเขียนคำด่าทอลงไป แต่ว่าเด็กๆ ที่เห็นก็คงนึกสนุกและอยากเอาคืนเช่นกัน ก็เลยจัดการทุบกระจกจนแตกหลายคันเลยทีเดียว ด้านพ่อแม่ของเด็กๆ ก็ไม่ห้ามไรเพราะคิดว่ามันสมควรแล้ว ด้านเพื่อนบ้านที่ไม่ได้โดนลูกหลงของผลกระทบนี้ก็บอกว่า พวกเขาไม่โทษชาวบ้านหรอกนะ เพราะพวกเขาเข้าใจความรู้สึกดี แม้หน้าบ้านจะไม่ได้โดนรถมาจอดเต็มทางเหมือนถนนเส้นใกล้ๆ แถมพวกเขาบอกเพิ่มเติมว่ารถบางคันจอดมาเกือบจะเดือนแล้วเจ้าของยังไม่กลับมาเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเรื่องราวอาจจะดูรุ่นแรง หรือหลายคนอาจจะสงสัยว่าเจ้าของรถไปแจ้งตำรวจเหรอ โฆษกของเมือง Bedfordshire ก็บอกว่า…
-
สาวหลอกว่าเดินไม่ได้กิน “เบี้ยเลี้ยงผู้พิการ” มา 58 ปี แต่โดนจับได้หลังโพสต์รูปไปเที่ยวสุดชิล
Linda Hoey หญิงวัย 58 ปี จากเมืองสแตฟฟอร์ดเชอร์ ประเทศอังกฤษ ที่หลอกผู้คนว่าเธอเป็นคนพิการไม่สามารถเดินได้ถ้าปราศจากไม้เท้า พร้อมยังกินเบี้ยจากรัฐบาลเป็นเวลากว่า 14 ปี!! Linda ที่โกหกทุกคนพร้อมกินเบี้ยคนพิการคิดเป็นเงินมากกว่า 2 ล้าน 8 แสนบาท และยังโกงไม่จ่ายค่าผ่านทาง M6 อีกคิดเป็นเงินกว่า 690,000 บาท แต่แล้วเรื่องราวการโกงของเธอก็ถูกเปิดโปงโดยตัวของเธอเอง… เรื่องราวของการถูกเปิดโปงมันเริ่มขึ้นจากการที่เธอ ดันโพสต์ภาพการไปเที่ยวที่อียิปต์และมัลดีฟในสภาพที่เดินได้ปกติ ที่สำคัญยังขี่รถATVและว่ายน้ำอีก งานนี้ดูยังไงก็ไม่ใช่คนพิการแน่นอน ภาพการไปเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ โดยไปดำน้ำที่มัลดิฟในปี 2013 และไปเที่ยวสนุกๆ ที่อียิปต์ในปี 2012 ทว่าเมื่อสืบเรื่องราวความเป็นมาทางศาลก็พบว่า เธอนั้นถูกจ้างงานในบริษัท PartsWorld ซึ่งทำอยู่ในตำแหน่งผู้จัดจำหน่ายอุปกรณ์เสริมรถยนต์ ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอถูกจ้างตั้งแต่ปี 1997 หรือก็คือ 17 ปีแล้วนั้นเอง ที่ช็อคยิ่งกว่านั้น เมื่อศาลไปถามเจ้านายของเธอ เจ้านายก็เผยความลับสุดอึ้งกว่าเดิม เขาบอกว่าเขาไม่เคยเห็น Linda ใช้ไม่เท้าในการเดินมาก่อนเลย เอ้า!! ยืนให้อูฐเลียสบายๆ…
-
แก๊งมิจฉาชีพซวย เจอโปรแกรมเมอร์เขียนโค้ดให้โทรกลับ 28 ครั้ง/วินาที เอาคืนซะเละเลย!!
ไม่ใช่แค่บ้านเราเท่านั้นที่มักจะมีแก๊งมิจฉาชีพปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่สินเชื่อ แสร้งทำเป็นโทรมาตามหนี้ให้คนที่รู้ไม่เท่าทันรู้สึกกลัว และตกเป็นเหยื่อด้วยการโอนเงินไปให้พวกมันในที่สุด ปัญหานี้ได้เกิดขึ้นกับชาวเน็ตคนหนึ่งผู้เป็นทั้งโปรแกรมเมอร์และยูทูปเบอร์ งานนี้เจ้าตัวเลยหวังเอาคืนแก๊งมิจฉาชีพด้วยการเขียนโค้ดขึ้นมาเพื่อก่อกวนสายโทรศัพท์ และเรียกการกระทำครั้งนี้ว่า… ‘Project Mayhem’ (เชร๊ดดอย่างกับในเรื่อง Fight Club) เรื่องมันมีอยู่ว่าวันหนึ่งเขาได้ไปเจอกับเว็บไซต์ซัพพอร์ตของไมโครซอฟท์เวอร์ชั่นของปลอม เจ้าตัวจึงลองโทรไปสอบถามและพบว่าเป็นเว็บไซต์ที่แก๊งมิจฉาชีพสร้างขึ้นมาหลอกให้โอนเงินจริงๆ โดยเขาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าหมายเลขการติดตั้ง (License Key) ได้หมดอายุลงแล้ว และสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการไปซื้อบัตรเติมเงิน iTunes ราคา 200 เหรียญ ทันทีที่รู้ว่าเขาได้เจอกับแก๊งค์มิจฉาชีพ โปรแกรมเมอร์คนนี้ก็ได้ตัดสินใจที่จะเขียนโค้ดหวังแก้แค้นเอาคืนทันที ปฏิบัติการ Project Mayhem จึงได้เริ่มขึ้น… เขาทำการเขียนโค้ดโปรแกรมขึ้นมา โดยตั้งค่าให้โทรศัพท์กระหน่ำโทรที่เบอร์ของมิจฉาชีพเป็นจำนวนทั้งหมด 28 ครั้งต่อวินาที ทุกครั้งที่แก๊งมิจฉาชีพรับสาย พวกเขาก็จะได้ยินข้อความที่ว่า ‘สวัสดีไอ้พวกมิจฉาชีพ วันนี้อาจเป็นวันดีของคุณที่จะสร้างทางเลือกใหม่ ถอดหูฟังออก กลับบ้านไปซะ แล้วเรื่องทั้งหมดนี้จะจบลงอย่างรวดเร็ว หรือ… ถ้าคุณยังไม่หยุดละก็ เราก็จะก่อกวนคุณไม่หยุดจนกว่าคุณจะเลิกเช่นเดียวกัน’ อีกทั้งเจ้าตัวยังได้ติดตั้งโปรแกรมให้บันทึกเสียงจากปลายสาย และส่งกลับไปให้พวกมิจฉาชีพฟังกันเองอีก เรียกได้ว่าวิธีนี้ทำให้เหล่ามิจฉาชีพถึงกับหัวร้อนประสาทกินกันไปข้างหนึ่งเลย อันที่จริงนี่ก็ไม่ใช่ผลงานครั้งแรกของเขา เพราะเจ้าตัวมักจะอัพวิดีโอแก้เผ็ดเหล่ามิจฉาชีพให้เราดูกันผ่านแชนแนล ProjectMayhem เป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าใครอยากได้ยินเสียงหัวร้อนของแก๊งสแกมเมอร์…
-
13 กลเม็ดเช็ดแม่ของมิจฉาชีพ ที่ใช้ดักข้อมูลจากตู้ ATM มันเนียนซะจนคุณดูไม่ออก…
เป็นที่รู้กันดีว่าการใช้ตู้ ATM แต่ละครั้งต้องระมัดระวังให้มาก เพราะเราไม่รู้เลยว่ามิจฉาชีพจะมาในรูปแบบไหน โดยเฉพาะปัจจุบันนี้ การดักข้อมูลจากตู้ ATM มีหลากหลายวิธีเกินกว่าที่เราจะรู้ทัน ดังนั้นเราก็ควรที่จะศึกษาหาความรู้เพื่อป้องกันตัวเองเอาไว้บ้าง บางทีภายนอกตู้ ATM อาจดูปกติ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะใช้ได้อย่างปลอดภัย เพราะมิจฉาชีพอาจจะวางกับดักไว้แล้ว และคุณก็จะตกเป็นเหยื่อทันทีที่เข้าไปใช้ เพราะฉะนั้นแล้วเรามาดูกันเถอะว่า ทุกวันนี้การปล้นตู้ ATM ไปถึงขั้นไหนแล้ว จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของกระบวนการเหล่านี้ 1. บางทีตู้ ATM ที่เราเห็นอาจถูกสวมรอยทั้งตู้เลยก็ได้ 2. ที่เสียบบัตรปลอมของโจร เหมือนจนแทบแยกไม่ออก 3. อาจมีกล้องซ่อนอยู่ตามจุดที่คาดไม่ถึงเพื่อแอบดูรหัสของคุณ 4. ตู้ปลอมมักมีร่องรอยของการงัดแงะ 5. มิจฉาชีพสามารถซ่อนกล้องได้ทุกที่ 6. ปุ่มกดปลอม มาพร้อมทั้งเครื่องดักข้อมูลบัตร 7. ปลอมแปลงช่องจ่ายเงิน 8. กล้องขนาดเล็กที่แอบซ่อนในช่องกดรหัส 9. แม้แต่ช่องเสียบบัตรก็อาจจะเป็นของที่โจรนำมาติดตั้งเอง 10. เครื่องดักข้อมูล ATM พร้อมจะส่งข้อมูลที่ดักมาได้ผ่านทาง…
-
บทเรียนเตือนใจสังคม… จากเงินแค่ 15 บาท ลงเอยที่ลูกค้าฆ่าเจ้าของร้านบะหมี่!?
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ชายแซ่หูอายุ 22 ปี หลังจากที่เขากินก๋วยเตี๋ยวจนเสร็จพร้อมกับจ่ายเงิน แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าของร้านได้โกงเงินเขาไปชามละ 1 หยวน ซึ่งเขากินไปทั้งหมด 3 ถ้วยด้วยกัน จึงรวมกันเป็นทั้งหมด 3 หยวน ซึ่งเจ้าของร้านได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นจนทั้งคู่เกิดเหตุทะเลาะกันยกใหญ่ ซึ่งสุดท้ายแล้วนายหูก็ได้หยิบมีดมาตัดคอเจ้าของร้านวัย 42 ปี แล้วนำไปทิ้งไว้ในถังขยะใกล้ๆ กับร้าน สุดท้ายแล้วตำรวจก็ได้เข้าจับกุมตัวนายหู โดยตำรวจได้ตรวจค้นประวัติของเขาคนนี้ก็พบว่าเขาเป็นคนจากมณฆลเสฉวน แถมยังเคยมีประวัติการเข้ารับการรักษาทางจิตและยังมีประวัติการใช้ความรุนแรงมาก่อนในช่วงหนึ่งปีที่แล้ว ญาติของเขาได้ให้ปากคำกับตำรวจว่า นายหูมีปัญหาทางจิตและชอบใช้ความรุนแรงมานานแล้ว เขาชอบที่จะทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวของเขาบ่อยๆ รวมถึงพ่อและแม่ของเขาด้วย แม่ของนายหูกล่าวกับผู้สื่อข่าว “ต้องขอโทษจริงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันสอนเขามาไม่ดีเอง” ท้ายที่สุดแล้วจากรายงานของเพื่อนบ้านแถวนั้นได้บอกว่า เจ้าของร้านคนนี้อาศัยอยู่กับลูกชายวัน 13 ปีเพียงสองคนหลังจากเขาแยกทางกับภรรยาของเขาเมื่อ 5 ปีก่อน แถมชาวบ้านแถวนั้นยังบอกอีกว่าเจ้าของร้านเป็นที่ซื่อสัจสุจริตมากๆ เขาไม่เคยโกงลูกค้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายแล้วเจ้าของร้านโกงจริงหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ หรือจริงๆ แล้วนายหูอาจจะหลอนแล้วคิดไปเองอย่างงั้นเหรอ? เรื่องนี้ก็คงต้องรอให้ทางตำรวจพิสูจน์กันต่อไป… ที่มา shanghaiist
-
หนุ่มแชร์คลิปแท็กซี่ มิเตอร์พุ่งพรวดวินาทีละ 1 บาท ทำขนาดนี้เอากระเป๋าตังค์ไปเลยครับ!!
แท็กซี่ถือเป็นระบบขนส่งที่ได้รับความนิยมจากคนเมืองมากๆ เพราะมันมีความเป็นส่วนตัวและรวดเร็วกว่ารถเมล์ และสามารถไปส่งคุณในสถานที่ที่เจาะจงได้ แต่บางครั้งคุณก็อาจจะต้องสังเกตที่มิเตอร์ของรถด้วยว่ามันมีความผิดปกติหรือไม่ เพราะไม่งั้นคุณอาจจะต้องจ่ายค่าโดยสารให้กับคนขับในจำนวนที่แพงกว่าค่าโดยสารปกติถึงหลายเท่าทีเดียว เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นหยิบยกมาเล่าต่อไปนี้มาจากคุณศุภธัช บัวทองแก้ว จากกรุงเทพมหานครฯ โดยเขาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ได้ไปใช้บริการรถแท็กซี่คันหนึ่งบริเวณแฟชั่นไอส์แลนด์ แต่หลังจากที่คนขับแท็กซี่ออกตัวไปได้ไม่นาน เขาก็พบสิ่งผิดปกติบางอย่าง เพราะเมื่อมองที่มิเตอร์ของรถ ค่าโดยสารกลับพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ จากภาพนี้จะสังเกตได้ว่าตัวเลขของค่าโดยสารพุ่งขึ้นราวๆ วินาทีละ 1 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่เกินกว่าที่กฎหมายระบุเอาไว้ ซึ่งอัตตราค่าโดยสารจากกิโลเมตรที่ 1 ถึงกิโลเมตรที่ 10 อยู่ที่กิโลเมตรละ 5.50 บาท และกิโลเมตรที่ 10 ถึงกิโลเมตรที่ 20 กิโลเมตรละ 6.50 บาท คลิปหลักฐานที่เขาถ่ายเอาไว้… นอกจากนี้คุณศุภธัชยังได้มีการถ่ายรูปป้ายทะเบียนของแท็กซี่คันดังกล่าวเอาไว้ด้วย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ใช้บริการคนต่อไป หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ มากมาย แถมยังมีชาวเน็ตอีกหลายรายพากันแชร์เรื่องราวการถูกโกงค่าแท็กซี่อีกเพียบ ว่าที่ร้อยตรี ยอดรัก หงษา “ผมก็เคยเหตุการแบบนี้แหละครับ นั่งจากบางพลีใหญ่มา บางบอน วิ่งเส้นพระราม2…
-
ประเด็นดราม่า เว็บไอทีดังเขียนบทความสอนโกง Pokemon GO แถมตำหนิคนเล่นสร้างความเดือดร้อน
กลายเป็นประเด็นดราม่าอย่างรุนแรงเลยทีเดียว สำหรับเว็บไซต์ด้านไอทีชื่อดังเว็บไซต์หนึ่ง หลังเขียนบทความสอนโกงเกม Pokemon GO โดยไม่ต้องเดินออกจากบ้านไปไหน รวมทำตำหนิคนที่ออกไปเล่นเกม Pokemon GO นอกบ้านสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น จนชาวเน็ตเข้ามาต่อว่าอย่างรุนแรง โดยเมื่อช่วงเที่ยงวันที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ทางด้านไอทีชื่อดังของไทยเว็บไซต์หนึ่งได้เขียนบทความสอนโกงเกม Pokemon Go ในชื่อ “xxxxพาแบก PC ไปจับ Poke’mon คอมบ้านก็จับโปเกม่อนได้นะ” โดยตัวบทความได้สอนให้ผู้เล่นสามารถเล่นเกม Pokemon GO ได้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ Destop หรือ Laptop โดยไม่ต้องออกจากบ้านไปไหน ซึ่งถือว่าขัดกับเจตนารมณ์ของค่าย Niantic ที่ต้องการให้ผู้เล่นอออกจากบ้านไปเดินเล่น ยิ่งไปกว่านั้น มีส่วนหนึ่งของบทความเขียนตำหนิในทำนองว่า การเล่น Pokemon GO อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้ เมื่อชาวเน็ตเห็นบทความดังกล่าว ก็ได้เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์เว็บไซต์ดังกล่าวอย่างรุนแรง . . เรียกว่าเดือดจริงๆ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกับประเด็นนี้ ลองแสดงความเห็นกันเข้ามานะฮะ ที่มา ซักที่บนอินเตอร์เน็ตนิล่ะ ไม่ต้องรู้หรอก อิอิ
-
รวม 7 มหโกงกีฬาระดับโลกสุดอื้อฉาว ที่ทำให้ “กีฬา” ไม่ใช่ “ยาวิเศษ” อีกต่อไป
“กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ ฮาไฮ๊ ฮาไฮ๊” เชื่อว่าเพลงนี้เพื่อนๆ แทบทุกคนต้องเคยฟังเคยร้องมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งหากพูดถึงกีฬาแล้ว เราคงนึกถึงภาพการต่อสู้ของเหล่านักกีฬาเพื่อให้ได้ซึ่งชัยชนะ แต่อย่างนั้นก็ต้องไม่ลืมสปิริต และการรู้แพ้รู้ชนะรู้ให้อภัย แต่ในความเป็นจริงแล้ว บางครั้งการแข่งกีฬาก็เป็นเหมือนสงครามที่ต่างฝ่ายต่างทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ชัยชนะมา แม้จะต้องใช้กลวิธีในการโกงก็ตาม ซึ่งในการแข่งขันระดับนานาชาติ บางครั้งก็มีเหตุการณ์เช่นนี้เช่นกัน วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม 7 มหโกงกีฬาระดับโลกสุดอื้อฉาว ที่ทำให้ “กีฬา” ไม่ใช่ “ยาวิเศษ” อีกต่อไป 7. บอสตันมาราธอน 1980 เริ่มจากการโกงในมหกรรมวิ่งมาราธอนระดับโลก Boston Marathon เมื่อ Rosie Ruiz นักวิ่งโนเนมจากที่ไหนไม่รู้ สามารถวิ่งทำลายสถิติการแข่งขันได้อย่างราบคาบ จนมีการมอบเหรียญรางวัลเป็นที่เรียบร้อย แต่ปรากฎว่าหลังจากนั้นมีการจับได้ว่า Rosie Ruiz ขึ้นรถไฟใต้ดินแล้วแอบเข้าเส้นทางแข่งขันก่อนถึงเส้นชัย จนเธอสามารถทำลายสถิติในที่สุด 6. ซู ชิ หมิง กับ แก้ว พงษ์ประยูร เชื่อว่าหลายคนคงจะจดจำชื่อของซุปเปอร์สตาร์ชาวจีนคนนี้ได้อย่างขึ้นใจ หลังจากที่โอลิมปิกเกมส์ที่ลอนดอน “ซู…
-
สาววัย 21 ปีรวยไม่รู้เรื่องหลังธนาคารโอนเงินเข้าผิดบัญชี เอาไปซื้อของร่วม 4 ปีหลัก 80 ล้าน!!
เรื่องของเงินนั้นเป็นอะไรที่ละเอียดอ่อนมากๆ ถ้าหากว่าวันหนึ่งวงเงินในบัญชีของเราเพิ่มขึ้นมากจนผิดปกติ บางคนอาจจะรู้สีกดีที่ได้เป็นเศรษฐี แต่จงจำเอาไว้ว่าเงินที่ไม่ใช่ของเรา หากนำไปใช้ก็จะกลายเป็นโจรไปในทันที อย่างเช่นกรณีของสาวนักศึกษาวัย 21 รายนี้ Christine Jiaxin Lee สาวนักศึกษาวัย 21 ปี สาขาวิศวกรรมเคมี ได้กลายมาเป็นเศรษฐีโดยไม่ทันตั้งตัวหลังจากที่ธนาคารได้โอนเงินเข้าผิดบัญชี มาเข้าที่บัญชีของเธอแทนเป็นมูลค่า 162 ล้านบาท (4.6 ล้านดอลลาร์) โดยที่ตัวเธอเองก็ไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติของเงินจำนวนมากในบัญชีเลยแม้แต่น้อย ไม่ติดต่อธนาคารตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดระยะเวลา 4 ปี ที่เงินมูลค่ามหาศาลนี้อยู่ภายในบัญชีของเธอ เธอก็ถอนเงินมาซื้อของอย่างต่อเนื่องแบบหนักหน่วง โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการซื้อของจำพวกกระเป๋าแบรนด์เนม ของใช้เครื่องประดับราคาแพง ยกตัวอย่างเช่น หมอนชาเนล มูลค่า 47,000 บาท กำไลข้อมือ Cartier Love มูลค่า 318,000 บาท กระเป๋าหนังจระเข้ Birkin Himalayan มูลค่า 5.59 ล้านบาท และสิ้นค้าฟุ่มเฟือยอื่นๆ อีกบานตะไท รวมมูลค่าที่ใช้จ่ายไปทั้งหมดก็ประมาณ 84…
-
เกร็ดน่ารู้ 10 ข้อเกี่ยวกับตู้และบัตร ATM ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ รอดพ้นจากเงื้อมมือของมิจฉาชีพ!!
ปัจจุบันเหล่ามิจฉาชีพทั้งหลายจ้องที่จะขโมยเงินที่อยู่ในธนาคารของเราไปด้วยวิการต่างๆ นาๆ หลายคนคงเคยได้ยินข่าวที่ว่ามีมิจฉาชีพขโมยเงินด้วยการก็อปปี้ข้อมูลบัตร ATM แล้วดึงเงินที่อยู่ในบัญชีไป ซึ่งเกิดความเสียหายมูลค่ากว่าหลายล้านบาท วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับตู้ และบัตร ATM มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกัน เพื่อเป็นประโยชน์ในการป้องกันทรัพย์สินของเพื่อนๆ ไม่ให้ถูกขโมยไปโดยเหล่ามิจฉาชีพ 1. ตัวก็อปปี้ข้อมูลบัตร (Skimmer) ให้เพื่อนๆ สังเกตุบริเวณที่สอดบัตรให้ดี เพราะว่ามันมีลักษณะที่ดูคล้ายกันมาก โดยเจ้าเครื่องนี้จะทำการแสกนและก็อปปี้ข้อมูลที่อยู่ในบัตรทั้งหมด เพราะฉะนั้นก่อนกดเงินก็ลองขยับๆ ตรงช่องสอดบัตรดูก่อนนะจ๊ะ 2. สังเกตุความแตกต่าง เจ้าตัว Skimmer นี้จะมีขนาดที่ใหญ่และหนากว่าช่องปกติธรรมดา 3. บัตรที่ฝังชิปไม่ได้การันตีถึงความปลอดภัยได้เสมอไป แน่นอนว่าการ์ดที่มีชิปฝังอยู่นั้นทำให้ยากต่อการถูกแฮ็ค แต่ถึงกระนั้นตู้ทั้งหลายก็ไม่ได้อัพเกรดเพื่อให้บัตรเหล่านี้ใช้งานด้วยกันได้ การที่เราใช้บัตรที่มีแถบแม่เหล็ก บางทีอาจจะทำให้ตกเป็นเป้าสายตาของผู้ร้ายมากขึ้น เพราะมันดูเหนือกว่าบัตรธรรมดาทั่วไป 4. เครื่อง Skimmer ยังคงต้องการใช้รหัสบัตรเพื่อเข้าถึงข้อมูล ส่วนใหญ่แล้วเหล่ามิจฉาชีพเหล่ามิจฉาชีพจะทำการติดตั้งกล้องไว้ที่ไหนสักแห่งเพื่อส่องดูการกดรหัสของคุณ เพราะฉะนั้น การเอามือปิดจะช่วยได้อย่างมาก 5. แต่อย่างไรก็ตาม การปิดก็ไม่ได้ผลเสมอไป เพราะแป้นกดตัวเลขปลอม แป้นกดตัวเลขปลอมจะถูกวางลงบนของเดิม เพื่อบันทึกการกดรหัสของคุณ 6. อุปกรณ์ที่ควรสังเกตุ แป้นกด กล้อง…
-
โจ๋วัยรุ่นหัวหมอ สั่งแก้วน้ำเปล่าจาก Drive-Thru ตีเนียนไปเติมน้ำอัดลม โดนจับข้อหาปล้น!!
ความหัวหมอของคนเรามักจะคิดออกมากันได้เรื่อยๆ หัวหมอในที่นี้ก็คือการเอารัดเอาเปรียบทุกวิถีทาง ไม่เว้นแม้แต่เรื่องเล็กๆ อย่างแก้วน้ำเปล่าและอัดลมอันมาเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด McDonald’s Drive-Thru เอาง่ายๆ เลยก็คือการดื่มเครื่องดื่มที่เราไม่ได้ซื้อมันก็ไม่ต่างไปจากการขโมยนั่นแหละ และการขโมยก็คืออาชญากรรม อย่างในกรณีของโจ๋วัย 18 ปี Cody Morris ที่แวะเข้าไปซื้อแก้วน้ำเปล่าจาก McDonald’s drive-thru ในรัฐ Arkansas สหรัฐอเมริกา พร้อมกับเพื่อนอีกสองหน่อ Cody Morris วัย 18 ปี หลังจากได้แก้วน้ำเปล่ามาแล้ว ทั้งสามก็จอดรถเดินเข้าไปในร้านเพื่อที่จะเติมเป็นน้ำอัดลมแทน แม้จะเนียนแค่ไหน สุดท้ายก็ไม่รอดสายตาของผู้จัดการสาขาไปได้ ในเมื่อมีขโมยก็ต้องแจ้งตำรวจ!! เมื่อทั้งสามหน่อรู้ตัวปุ๊บ เพื่อนสองคนของ Cody ยอมจำนนแต่โดยดี ส่วนเจ้าตัวดันเลือกที่จะหลบหนีความผิด และยิ่งไปกว่านั้นก็คือ Cody ขับรถชนผู้จัดการสาขาที่พยายามเข้ามาขัดขวางเขาถึงสองครั้งด้วยกัน เครื่องกดน้ำอัดลม ภายหลังพบรถยนต์ถูกจอดทิ้งไว้ในตรอกบริเวณใกล้เคียง สุดท้าย Cody ก็ถูกจับกุมในข้อหาปล้น เป็นคดีอาญาศซะด้วย แต่เจ้าตัวก็ถูกประกันตัวออกมาด้วยมูลค่า 2,500 ดอลลาร์ (87,700…
-
ผู้โดยสารโวย แท็กซี่สนามบินหน้าเลือด เรียกค่าโดยสาร 900 บาท อ้างตกลงราคากันแล้ว!?!?
เรียกว่ามีข่าวด้านไม่ดีเกี่ยวกับแท็กซี่ออกมาเรื่อยๆ จริงๆ โดยเฉพาะแท็กซี่สนามบิน และวันนี้อีกครั้งกับเรื่องราวของแท็กซี่ ที่ไม่ยอมกดมิเตอร์ และเรียกค่าโดยสารแพงเกินกว่าเหตุ เรื่องราวดังกล่าวเป็นของคุณ Feldmann Bee เธอเล่าว่าเธอเรียกแท็กซี่จากสนามบินดอนเมือง เพื่อไปโรงแรมโฟร์วิงส์ ถนนศรีนครินทร์ พอขึ้นรถแล้ว แท็กซี่ไม่ยอมกดมิเตอร์และบอกว่าจะคิดค่าโดยสาร 900 บาท เมื่อถึงที่หมายแล้ว เธอพยายามเจรจากับแท็กซี่เพื่อลดราคาค่าโดยสาร แต่แท็กซี่ไม่ยอมและมีท่าทางไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง โชคดีที่พนักงานโรงแรมห้ามเอาไว้ จึงไม่เกิดเรื่องขึ้น ช่วยกันแชร์หน่อย แท็กซี่จะทำร้ายผู้โดยสาร ขึ้นรถแล้วไม่ยอมกดมิตเตอร์ จากสนามบินดอนเมือง มาโรงแรมโฟร์วิงส์ ถนนศรีนครินทร์ ขึ้นแล้วเรียกราคาระหว่างทาง 900 บาท (ดิฉันขอขอบคุณพนักงานโรงแรมโฟร์วิงส์มากๆที่ช่วยเหลือ ดูแล เป็นอย่างดี) โพสต์โดย Feldmann Bee บน 20 เมษายน 2016 เมื่อชาวเน็ตเห็นคลิปดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย อื้อหือ เรียกราคาอย่างกะเดินทางไปต่างจังหวัดเลย โชคดีที่เวลา #เหมียวอ๊อดโด้ เรียกแท็กซี่ทีไร เจอแต่แท็กซี่ดีๆ ตลอดเลย น้อยครั้งมากที่จะเจอไม่ดี สงสัยจะเป็นที่ดวงของแต่ละคนละมั้ง…
-
20 สุดยอดการ “โกงในห้องสอบ” สมควรที่จะได้เกรด 4 ด้านความคิดสร้างสรรค์!!!
ถ้าจะพูดว่าการโกงในห้องสอบเป็นเรื่องปกติก็คงไม่ได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ผิด หลายโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยมีกฎว่าห้ามทุจริตในห้องสอบ บางที่ถ้าตรวจพบก็สามารถทำให้สิ้นสภาพนักศึกษาได้เลย ดังนั้นอย่าคิดเอาไปทำเด็ดขาดเลยนะ การสอบถือเป็นการวัดความรู้ของเราหลังจากได้เรียนมาแล้วว่าเรามีความเข้าใจในเนื้อหามากเพียงไหน ดังนั้นก่อนสอบก็จะต้องทบทวนความรู้ต่างๆ ที่มี ใช้เวลาอยู่กับมันให้ได้มากที่สุด เพื่อที่ว่าตอนสอบเสร็จแล้วจะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาไปชมคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมา จนต้องหาวิธีที่จะพิชิตข้อสอบนั้นด้วยวิธีที่มันล้ำมากๆ เอามาให้ดูกันขำๆ แต่อย่าเอาไปทำกันจริงๆนะ 1. ติดไว้ตรงขวดน้ำนี่แหละ 2. แหม่ ทำเป็นคิดนะ 3. สังเวยนาฬิกาสักอัน 4. เขียนสูตรไว้บนเล็บนี่แหละ 5. ต้องใช้แว่น ถึงจะเห็นข้อความ 6. เป็นโค้กที่เต็มไปด้วยสาระ 7. ถึงกับต้องใช้มือปลอม 8. เหตุผลที่ไว้ทรงผมนี้ 9. รองเท้าสวยดีนะ 10. ไกลไปนิด แต่ก็ได้อยู่ 11. มือที่มองไม่เห็น 12. มาเป็นแหวนที่มีสมุดจิ๋ว…
-
ช่างภาพถึงกับงง เจอพี่เจ้าสาวแอดมาด่า บอกคิดแพงยิ่งกว่า กทม. ขอไม่จ่ายส่วนที่เหลือ?!?!
ปัญหาเรื่องการจ้างช่างภาพ กลายเป็นเรื่องที่เราพบเห็นได้เป็นประจำในปัจจุบัน จนกลายเป็นที่ถกเถียงกันบนอินเตอร์เน็ต อาจเป็นเพราะความเข้าใจผิดหรือด้วยเหตุอันใดก็ตามแต่ และวันนี้อีกครั้งกับดราม่าตากล้อง เมื่อคุณภูเบศร์ หนูดำ ถูกพี่เจ้าสาวที่เพิ่งถ่ายงานเสร็จไป แอดเฟสบุ๊คมาด่า และบอกว่าเขาคิดราคาแพงเกินไป กะเอารวยเลยหรือไง เพราะแพงกว่าราคาตากล้องในกรุงเทพอีก ดังที่จะเห็นได้ในโพสต์ข้างล่าง และยืนยันจะไม่จ่ายส่วนที่เหลือ ทั้งๆ ที่คุณภูเษศร์ได้ทำการตกลงกับเจ้าของงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางคุณภูเบศร์ ก็ได้ตอบกลับไปว่าตอนนี้ทางเจ้าของงานได้จ่ายเงินมาครบหมดแล้ว ไม่สามารถคืนได้แล้ว แนะนำให้รอชมภาพสวยๆ จะดีกว่า เขากล่าวหาว่า…. ผมโกง ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมราคาสูงกว่าช่างภาพใน กทม โพสต์โดย ภูเบศร์ หนูดำ บน 4 เมษายน 2016 อ่ะ สำหรับใครเห็นภาพไม่ชัด ลองดูภาพใหญ่ตามนี้ เมื่อชาวเน็ตทราบเรื่องดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย #เหมียวอ๊อดโด้ ว่าเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความพึงพอใจของลูกค้านะฮะ ถ้าเค้าพอใจทุกอย่างคือจบ ไม่ต้องเปรียบเทียบกับที่อื่น แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรบ้าง ลองเสนอกันเข้ามาดูนะเหมียวว ที่มา ภูเบศร์ หนูดำ
-
ทีม Fedfe ออกมายอมรับ ‘วาว’ ออกจากแก๊งแล้ว เหตุเพราะโกงเงินเพื่อนๆ!?
หากใครที่ติดตามผลงานของ Fedfe มาตั้งแต่แรกๆ ก็น่าจะทราบได้ว่าแก๊งนี้มีทีมงานที่เป็นเพื่อนๆ กันทั้งหมด 9 คน แต่ในระยะหลังมานี้กลับเหลือ 8 คน ซึ่งคนที่หายหน้าหายตาไปก็คือ วาว ทำให้แฟนๆ เข้าใจกันว่าเจ้าตัวออกจากแก๊งไปแล้ว แต่ไม่ได้มีการให้เหตุผลว่าเจ้าตัวออกไปเพราะเหตุใด ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 4 เมษายน ทางเฟซบุ๊กเพจของ เฟ็ดเฟ่ บอยแบนด์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความถึงสาเหตุที่วาวออกจากกลุ่มว่า เป็นเพราะเจ้าตัวโกงเงินเพื่อนๆ ในแก๊งไปเป็นจำนวนมากนั่นเอง ซึ่งปัญหาทั้งหมดเริ่มขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมปี 2557 ที่วาวได้โกงเงินเพื่อนๆ จนเพื่อนๆ จับได้ แต่พวกเขาก็ยังให้โอกาสกลับใจ แต่เจ้าตัวก็ยังโกงเงินเพื่อนๆ ไปอีก ครั้งนี้ทีมงานบอกว่าวาวนำเงินทั้งหมดที่พวกเขาหาได้ไปจนหมดเลยทีเดียว แถมยังทิ้งปัญหาและหนี้สินไว้ให้พวกเขาต้องสะสางอีกเพียบ นอกจากนี้ทางทีมงาน Fedfe ยังได้ระบุเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับวาวว่า เพื่อนคนนี้ไม่ได้คบกันมานานเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ แต่เพิ่งจะคบกันได้ 2-3 ปีเท่านั้น ส่วนคนอื่นๆ คบกันมาเป็นสิบปี แต่พวกเขาก็ปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ทั้งนี้ทีมงานยังบอกอีกว่าไม่ได้อยากประจาน แต่ที่ต้องเอามาเผยแพร่ให้ได้ทราบกันก็เพราะกลัวว่าจะมีเหยื่อรายต่อๆ ไปอีก ทั้งนี้กลุ่ม Fedfe เริ่มต้นจากกลุ่มเพื่อนเล็กๆ…
-
สาวสั่งลิป Sivanna ผ่านเน็ต 300 โหลมูลค่า 40,000 กว่าบาท โดนแม่ค้าโกงส่งให้แค่นิดเดียว!!
การขายของออนไลน์นับว่าเป็นสิ่งที่มาคู่กับยุคอินเทอร์เน็ตสมัยนี้จริงๆ ไม่ว่าจะทั้งสั่งซื้อมาใช้เองหรือจะสั่งเพื่อนำมาขายต่อในพื้นที่ก็ว่ากันไป ทั้งนี้ก่อนที่จะทำการสั่งซื้อออนไลน์ใดๆ หากซื้อจากบริษัทหรือห้างร้านที่มีชื่อเสียงก็ควรที่จะเช็คประวัติผู้ขายเสียก่อน ยิ่งถ้าสั่งจากพ่อค้าแม่ค้าเป็นตัวบุคคลแล้วด้วย ก็ควรที่จะเช็คให้ละเอียดถี่ถ้วนมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สุดท้ายแล้วกลโกงต่างๆ ก็ยังเกิดขึ้นได้อยู่ดี ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ สมาชิกหมายเลข 2949934 จากเว็บพันทิป เป็นเรื่องราวของการสั่งซื้อลิป Sivanna ที่กำลังได้รับความนิยมสูงมากและกำลังขาดตลาดจนหาซื้อได้ยาก ซึ่งเธอเองก็เป็นคนที่รับมาขายต่ออีกที ในเมื่อร้านใหญ่ๆ ของหมด ก็ต้องหาซื้อตามร้านเล็กๆ แทน เธอติดต่อกับแม่ค้ารายหนึ่งเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยทางแม่ค้าแจ้งว่ามีของครบทุกสีพร้อมส่งทันที จึงตกลงสั่งซื้อลิปเป็นจำนวนทั้งสิ้น 300 โหล มูลค่ารวมทั้งหมด 42,850 บาท พอโอนเงินให้เสร็จสรรพ จะส่งของให้ในวันอังคารแต่โดนผลัดมาเป็นวันพุธแทน แต่เมื่อของมาถึงในวันพฤหัสบดี เธอไปรับของที่ไปรษณีย์ เปิดกล่องออกมาทำให้รู้สึกช็อคไปซักพัก เนื่องจากจำนวนของที่อยู่ภายในกล่องไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงไว้ (300 โหล) ตอนแรกที่นึกขึ้นได้เธอคิดว่าน่าจะส่งให้ผิด แต่พอรู้ข้อมูลมาจากเพื่อนที่ขายลิปเหมือนกัน เพื่อนเธอก็โดนหลอกด้วย ส่งของให้ไม่ครบ จึงทำการคืนสินค้าไป ซึ่งมันก็มาส่งต่อให้เธออีกทอดเป็นลิปชุดเก่า ชุดเดียวกันที่ส่งมาหลอกขายมาก่อน ได้ของไม่ครบตามที่กล่าวอ้าง…
-
โกงดีนัก จับเข้าคุกให้เข็ด!! สองนักศึกษาโดนจับเข้าคุก 1 ปีเต็ม เนื่องจากสลับตัวไปสอบแทน
ตามปกติแล้วการจัดสอบเพื่อวัดผลทางการเรียน ก็มักจะมีนักเรียนนักศึกษางัดวิชากลยุทธ์ต่างๆ มาใช้ในห้องสอบทั้งด้านมืดและด้านสว่าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นด้านมืดเสียมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นทั้งทำโพยเล็กๆ ซ่อนไว้ในเครื่องเขียนหรือตามตัว และอื่นๆ สารพัดเท่าที่จะทำได้ การโกงสอบเกิดขึ้นทั่วโลก ที่สเปนก็เช่นกัน เหตุเกิดที่เมือง Almeria ทางตอนใต้ของสเปน เมื่อมีนักศึกษาคนหนึ่งถูกกรรมการคุมสอบจับได้ว่า ทำการเข้าสอบแทนนักศึกษาอีกคน โดยพบพิรุธจากบัตรประจำตัวที่นำมาเข้าสอบ มีการปลอมแปลง โดยทั่วไปแล้วโทษสูงสุดก็น่าจะเป็นการปรับติด F พักการเรียนและหนักสุดก็คือลบรายชื่อจากเป็นนักศึกษา (โทษทางวินัยการศึกษา) แต่เนื่องจากเป็นการปลอมแปลงเอกสาร เรื่องนี้ต้องถึงขึ้นศาลกันเลยล่ะ และอัยการก็ได้ตัดสินความผิดให้นักศึกษาทั้งสองราย จำคุก 1 ปี เพื่อทดแทนการจ่ายค่าปรับมูลค่า 6 ยูโร (240 บาท) ต่อวันจากทั้งหมด 1,699 ยูโร (67,000 บาท) อย่างไรก็ตาม José Carlos Segura ทนายของนักศึกษาผู้เป็นจำเลยบอกว่าโทษตัดสินแบบนี้ถือว่าเป็นความป่าเถื่อนและเกินกว่าเหตุ เนื่องจากว่าบัตรประจำตัวนักเรียนไม่อาจถือเป็นเอกสารทางราชการได้ น่าจะให้อำนาจตัดสินอยู่ภายในสถานศึกษาเสียมากกว่า (รับโทษทางวินัยการศึกษาแทน) เพราะจะทำให้เยาวชนทั้งสองหมดอนาคต กลายเป็นอาชญกรที่มีประวัติติดตัวไปตลอดชีวิต ซึ่งผลของคดีนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด ที่มา…
-
ผู้โดยสารแฉ มิเตอร์รถแท็กซี่ขยับ 15 วินาที 15 บาท ทำขนาดนี้เอากระเป๋าตังค์ไปเลย!!
จะเดินทางไปไหนมาไหนในยุคนี้ นอกจากต้องระวังอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นบนท้องถนนแล้ว ยังต้องระวังพวกมิจฉาชีพหรือพวกหัวหมอด้วยนะ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กสาวที่ชื่อว่า Jam Atilal เป็นคลิปวิดีโอที่เธอถ่ายไว้ขณะนั่งโดยสารอยู่ยนรถแท็กซี่คันหนึ่งที่มิเตอร์วิ่งเร็วผิดปกติ ในระหว่างที่เธอนั่งอยู่บนรถเธอสังเกตเห็นว่ามิเตอร์แท็กซี่วิ่งเร็วจนน่าตกใจ เลยหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเป็นเวลา 15 วินาที ซึ่งมิเตอร์ก็วิ่งจาก 249 บาทไปเป็น 265 บาท รวมแล้ว 15 บาท ก่อนจะถ่ายเลขทะเบียน ทร – 809 ชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่าง พึ่งรู้ว่าเดี๋ยวนี้มิตเตอร์ขึ้นทุก1วิ โกงกันขนาดนี้เอากระเป๋าตังกูไปเหอะ Posted by Jam Atilal on 29 มกราคม 2016 แหม่ ถ้าจะทำกันขนาดนี้ เอากระเป๋าตังค์เราไปเลยก็ได้นะ ใครพบเห็นเหตุการณ์แบบนี้อีกแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เลยนะ ที่มา Jam Atilal
-
ตะลึงไปทั่ว!! อาจารย์ติดประกาศประชดแจก F ยกคลาส จากเหตุนักศึกษา 2 คนทุจริตการสอบ
ในช่วงนี้ตามมหาวิทยาลัยก็ถือว่าเป็นช่วงสอบที่กำลังดุเดือดกันเลยทีเดียว แต่แล้วก็มีนักศึกษาที่คิดจะโกงข้อสอบ แอบลักลอบนำโพยติดตัวเข้าไปด้วย สุดท้ายก็โดนจับได้และถูกลงโทษให้ได้รับเกรด F ทันที แต่ไม่ได้รับพักการเรียนแต่อย่างใด ทั้งนี้จากเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นวิทยาเขตที่ตั้งอยู่ในภาคอีสาน อาจารย์ผู้สอนประจำวิชาเศรษฐศาสตร์มหภาค รหัสวิชา 011011822 ก็ได้ติดป้ายประกาศเพื่อตอบโต้กับกรณีการโกงข้อสอบของนักศึกษา 2 คนด้วยใจความที่ว่า ‘นักศึกษาควรจะได้ F ทุกคน’ พอภาพดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วโซเชียล บางความเห็นก็บอกว่าไม่ยุติธรรมกับนักศึกษาคนอื่น แท้จริงแล้วอาจารย์ทำการประชดประชันกรรมการที่ตรวจสอบการทุจริต ตัดสินให้ F นักศึกษา 2 ราย แทนที่จะได้รับโทษพักการเรียน อีกทั้งยังได้ทำหนังสือถึงคณบดีเพื่อให้ทำการพิจารณาผลการสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากตนเองไม่ได้เข้าร่วมเป็นกรรมการสอบสวนในกรณีนี้ กลายเป็นว่ามีคนออกตัวต่อว่าอาจารย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาจจะเพราะด้วยป้ายประกาศที่ทำให้เข้าใจผิดว่าจะให้ F นักศึกษายกคลาสนั่นเอง คือเกรดยังไม่ออก นักศึกษาจะได้เกรดตามปกตินั่นแหละ และอาจารย์เองก็ชี้ชัดว่าที่ทำแบบนี้ก็เพื่อกระตุ้นให้มีการทบทวนทบทวนผลสอบการทุจริตของกรรมการฯ อีกครั้ง ที่มา : Nipha Kazuya Techawitthayayothin, Drama-addict
-
เปิดประเด็น!! พนักงานโรงภาพยนตร์ชื่อดัง คิดจะโกงค่าน้ำดื่ม แค่ 5 บาทก็จะเอาให้ได้
สำหรับใครที่ไปชมภาพยนตร์ในโรงเป็นประจำ หรือไม่ต้องเป็นประจำก็ได้ เพียงแค่เดือนละครั้ง สองครั้ง แล้วได้ซื้อของกินที่ทางโรงภาพยนตร์เป็นผู้จัดจำหน่ายเอง ต่างก็จะรู้กันเป็นอย่างดีว่ามีราคาสูงมาก อย่างเช่น ป๊อปคอร์นแพงกว่าตั๋วภาพยนตร์ แม้กระทั่งน้ำเปล่าธรรมดาก็ปาเข้าไป 20 กว่าบาทแล้ว ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะมีสิทธิ์ที่จะสามารถนำเข้าไปรับประทานในโรงได้นั่นเอง จึงมีราคาแพง (ก็ว่ากันไป) แม้ไม่อาจร้องเรียนให้ทางผู้บริหารภาพยนตร์ให้ปรับลดราคาได้ ก็ไม่เป็นไร ใครจะซื้อก็ซื้อ ส่วนใครไม่ซื้อก็แนะนำให้หาอะไรทานให้อิ่มก่อนที่จะเข้าชมภาพยนตร์ แต่แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับโรงภาพยนตร์ มจ. สาขาฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ที่มีพนักงานตั้งใจจะโกงหรือพยายามที่จะโน้มน้าวให้ซื้อของที่มีราคาแพงกว่า เรื่องราวของคุณ Tobsuthawut ที่ได้ทำการโพสต์ในกระทู้พันทิปเอาไว้ว่าเขาได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องรุ่นพี่กับแฟน ซึ่งก่อนที่จะไปชมภาพยนตร์นั้น ก็แวะซื้อน้ำดื่ม โดยเน้นย้ำว่าจะซื้อแค่น้ำเปล่าขวดเดียว พนักงานจึงหยิบน้ำแร่และบอกว่าราคา 30 บาท แต่ด้วยราคาที่แพง เขาก็เลยบอกแฟนว่าเอาเป็นน้ำเปล่าทั่วไปก็พอราคา 25 บาท ทางด้านแฟนของเขาก็ปฏิเสธน้ำแร่และขอน้ำเปล่าธรรมดา แต่พนักงานก็บอกเอาไว้ว่าราคาเท่ากันนั่นก็คือ 30 บาท พร้อมกับหยิบขวดน้ำเปล่าทั่วไปที่ไม่มีป้ายติดราคามาให้ และด้วยความผิดปกตินี้ ซึ่งเขาและแฟนเคยซื้อในราคา 25 บาท จึงถามว่ามีการขึ้นราคารึเปล่า พนักงานมีท่าทางสะอึกเล็กน้อย ก่อนจะบอกว่า ‘งั้น 25…
-
เรียงความ ‘เศษซากความฝัน เมื่อพ่อของฉันถูกจับกุม’ บอกเล่าเรื่องราวอาชญากรรมภายในครอบครัว
ตามโรงเรียนระดับมัธยมหรือระดับประถมศึกษานั้น หนึ่งในการประกวดที่จัดขึ้นให้เห็นบ่อยๆ ก็คือการประกวดเรียงความ และมักจะมีผู้เข้าแข่งขันมากมาย ต่างก็เตรียมความพร้อมเรียงความของตนเพื่อที่จะคว้ารางวัลมาให้ได้ แต่สำหรับเรียงความที่หนูน้อย Ayumi Takada นักเรียนชั้นเกรดแปด (มัธยมศึกษาตอนต้นระดับ 2) เตรียมมานั้น เป็นการบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวของเธอ กับชื่อเรียงความว่า ‘เศษซากความฝัน’ (The Remains of Dreams) ‘เศษซากความฝัน’ พ่อของฉันถูกจับกุม ตำรวจมาที่บ้านของฉัน ทางเข้าบ้านที่แต่ก่อนเคยเป็นที่บอกลาและต้อนรับกลับบ้านในทุกๆ วัน ต่างเต็มไปด้วยนักข่าวที่มารออยู่เต็มหน้าบ้านไปหมด มันเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 26 พฤษภาคม 2015 เจ้าหน้าที่ตำรวจหกนายมายืนล้อมหน้าประตูอันคับแคบที่หน้าบ้าน คุณแม่ของฉันก็เลยโทรเรียกญาติให้มาจัดการกับบางสิ่งบางอย่าง โดยอย่างแรกก็คือฉันจะไปพบกับคุณยายของฉันที่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งจากนั้นคุณป้าก็จะมารับฉันไป มันก็คล้ายๆ กับบางสิ่งที่คุณเห็นกันในโทรทัศน์ แต่ครั้งนี้มันเกิดขึ้นในบ้านของฉัน ทุกสิ่งมันดูบิดเบี้ยวไปหมดราวกับว่าฉันกำลังยืนอยู่ในจุดที่ห่างไกลจากความเป็นจริง และเฝ้ามองดูมันเกิดขึ้น และ ‘บุคคลผู้ต้องสงสัย’ กำลังยืนอยู่ในใจกลางของพายุที่โหมกระหน่ำใส่บ้านของเรา และเขาก็ได้กลายเป็นบุคคลที่มาจากมิติอื่นที่ห่างไกลจากพวกเราไปแล้ว พ่อของฉันตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีละเมิดกฎหมายการเลือกตั้งสำนักงานสาธารณะ โดยก่อนหน้าที่จะมีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนั้น คุณป้าของฉันก็ได้รับผลักดันจากคุณพ่อให้เข้าสมัครเลือกตั้ง อย่างไรก็ตามก่อนที่จะมีการประกาศผลอย่างเป็นทางการ ก่อนหน้านี้ก็ได้มีเลือกตั้งล่วงหน้าเสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งมีการว่าจ้างอาสาสมัครมาลงคะแนนเสียงให้ที่เรียกกันว่า ‘การเร่ขายอิทธิพล’ (ซื้อสิทธิ์ขายเสียง) จนมาถึงช่วงวันหยุดในเดือนพฤษภาคม หลังจากที่ป้าของฉันแพ้คะแนนการเลือกตั้ง สมาชิกของสภาเทศบาลเมืองจากฝ่ายที่สนับสนุนคุณป้าก็ถูกเรียกตัวเพื่อสอบปากคำโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ…
-
เจ็บจี๊ด!! สั่งซื้อเสื้อผ้าออนไลน์ได้ของไม่ครบ กลับโดนแม่ค้าด่าทั้งไลน์ทั้งจ่าหน้าซอง
เดี๋ยวนี้การค้าขายเปลี่ยนรูปแบบไปมาก จากที่เมื่อก่อนเราจะออกไปซื้อของตามหน้าร้าน เดี๋ยวนี้ก็เปลี่ยนมาเป็นรูปแบบออนไลน์และส่งผ่านไปรษณีย์ เพื่อความสะดวกสบายที่มากขึ้น แต่ต้องแลกมากับความไม่สบายใจแทน เป็นกรณีที่เรามักจะเห็นได้ว่าเกิดขึ้นบ่อยมาก กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าขายของออนไลน์ที่มีมากมายจนแทบจะนับร้านกันไม่ได้แล้ว บางร้านก็ใช้เวลาในการสะสมชื่อเสียงให้ลูกค้าเชื่อใจจนสามารถยืนหยัดในตลาดออนไลน์ได้ ซึ่งก็มีพ่อค้าแม่ค้าที่จ้องจะโกงลูกค้ามากมายเช่นกัน ดีไม่ดียังมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียวไม่แคร์ลูกค้าด้วย และเหตุการณ์อันสุดแสนจะเจ็บจี๊ดนี้ก็ได้เกิดขึ้นกับสมาชิกเว็บไซต์พันทิป คุณเด็กปั๊ม(ชั่วคราว) ที่ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวการสั่งซื้อเสื้อผ้าออนไลน์จากร้านแห่งหนึ่ง การซื้อขายก็ดูเหมือนเป็นปกติ ลูกค้าอยากได้สินค้าอะไร แม่ค้าก็คิดราคาและรอให้ลูกค้าโอนเงินผ่านธนาคาร เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้วก็รอการจัดส่งเป็นขั้นตอนสุดท้าย มันเริ่มแปลกๆ เมื่อชุดที่สั่งนั้นส่งมาเพียงแค่ตัวเดียว ทั้งที่สั่งไปทั้งหมด 3 ชุด ในเมื่อโอนเงินไปแล้วก็ควรที่จะได้รับสินค้าตามที่ตกลงกันเอาไว้ เมื่อสอบถามแม่ค้าเพิ่มเติม กลายเป็นว่าเซ้าซี้จนรำคาญ โดนแม่ค้าด่ากลับผ่านไลน์รัวๆ กันเลยทีเดียว การปะทะอารมณ์ผ่านคีย์บอร์ดก็ยั้งไม่อยู่แล้วล่ะ จนกระทั่งได้รับของผ่านไปรษณีย์มาอีก 1 ชุด ยังขาดอีกหนึ่งชุด ซึ่งของข้างในก็ไม่ใช้ตรงตามที่สั่งไปเลย และปิดท้ายด้วยการจ่าหน้าซองที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษร E แถมยังเปลี่ยนนามสกุลลูกค้าจาก กลิ่นหอม เป็น ฮีกลิ่น (ขอเลี่ยงใช้คำตรงนะจ๊ะ) จะว่าไปแล้วการขายสินค้าไม่ว่าจะเป็นทั้งออนไลน์หรือหน้าร้านก็ตาม ผู้ขายก็ควรที่จะมีความจริงใจต่อลูกค้า ไม่ควรใช้อารมณ์ที่รุนแรงและฉุนเฉียว…
-
ตีแผ่ความจริง!! รวม 10 เหตุการณ์การโกงชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดกับ “พิพิธภัณฑ์กลโกง” ชาติไทย
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่เกลียดการโกงชาติ และเหตุการณ์การโกงทั้งหลายที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เหมียวว่าคุณอาจจะต้องชอบกิจกรรมที่เหมียวจะมานำเสนอต่อไปนี้แน่ๆ เพราะเร็วๆ นี้เรากำลังจะมี “พิพิธภัณฑ์กลโกงชาติ” เกิดขึ้นในประเทศไทยแล้ว โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้จะรวบรวมรูปปั้นการโกงชาติจาก 10 คดีกลโกงชาติเอาไว้และจัดแสดงให้คนไทยได้เข้าชมกันไปชั่วลูกชั่วหลานเลยทีเดียว หลายคนมีคำถามว่า ทำไมหุ่นจำลองแต่ละตัวถึงไม่เห็นหน้าตาว่าเป็นยังไง? คำตอบคือที่แต่ละตัวไม่มีหน้าเพราะ พวกเขาต้องการให้ทุกคนมาช่วยกันฉีกโฉมหน้าของคนที่ก่อคดีเหล่านี้ทั้งที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลังว่ามีหน้าตาอย่างไรนั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง สำหรับใครที่สนใจอยากจะเข้าชมพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ก็สามารถเข้าชมได้ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครหรือหอศิลปกรุงเทพฯ ชั้น L อยู่แยกปทุมวัน ในวันที่ 15 – 27 กันยายน 2558 เปิดทำการทุกวันยกเว้นวันจันทร์นะ ที่มา Anti-Corruption Thailand