Tag: โกโก้
-
เผยกระบวนการทำ “ช็อกโกแลต” จากเมล็ดโกโก้จนกลายเป็นขนมที่ทานกันทุกวันนี้…
ช็อกโกแลตแท่งที่เราชอบซื้อมาทานเป็นขนมในแต่ละวันนั้น บางคนอาจทราบว่ามันทำมาจากผลโกโก้ แต่รู้หรือไม่ว่า จากผลโกโก้ แล้วมันกลายมาเป็นของเหลวสีน้ำตาลๆ ที่เรียกว่า ช็อกโกแลต ได้อย่างไร วันนี้คุณ Dom Ramsey นักทำช็อกโกแลตแบรนด์ Damson ในกรุงลอนดอนได้ออกมาเผยกระบวนการทำช็อกโกแลตจากผลโกโก้จนกระทั่งกลายเป็นแท่งอย่างที่เราทานกันเลยล่ะ ดอกไม้ที่เห็น นี่แหละคือจุดเริ่มต้องของช็อกโกแลต มันผลิดอกออกมาจากจากลำต้นหรือกิ่งใหญ่ๆ ของต้นโกโก้โดยตรง แล้วก็จะเติบโตกลายเป็นฝักโกโก้ ภาพนี้ถ่ายที่ฮาวาย สถานที่เดียวในสหรัฐอเมริกาที่ต้นโกโก้สามารถเติบโตได้ นี่แหละคือผลโกโก้ หรือฝักโกโก้ ฝักโกโก้เก็บเกี่ยวมาในฮาวายมีสีสันหลากหลาย (ดูแล้วไม่น่ากลายเป็นช็อกโกแลตได้) สีของฝักโกโก้ที่ต่างกันนั้นเป็นเพราะความแตกต่างทางพันธุกรรมนั่นเอง ภายในฝักก็จะเป็นเนื้อผลไม้สีขาวๆ ซึ่งภายในจะมีเมล็ดโกโก้ราว 25-40 เมล็ดเลยทีเดียว ว่ากันว่าไอ้เจ้าเนื้อขาวๆ นี้มีรสชาติหวานเสียด้วย (เห็นแล้วคิดถึงมังคุด) แต่ว่าภายในเมล็ดของมันเป็นแบบนี้… สีด้านในเมล็ดอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละพันธุ์ โดยส่วนมากจะมีสีออกม่วงๆ ซึ่งถ้าเป็นเมล็ดโกโก้ที่รสชาติดีขึ้นมาหน่อยก็จะมีสีออกขาวๆ หลังจากที่เก็บผลโกโก้มาแล้ว ก็นำตัวฝักและเนื้อของมันออก คัดเอามาแต่เมล็ด เสร็จแล้วนำไปใส่กล่องไม้แล้วปิดคลุมด้วยใบตองเพื่อหมัก ทิ้งไว้ราว 5-7 วัน ซึ่งกระบวนการนี้สำคัญต่อรสชาติของช็อกโกแลตมากๆ หลังจากการหมัก…
-
บริษัท Mondelez International เปิดรับสมัคร ‘นักชิมช็อกโกแลต’ อาชีพในฝันของคอขนมหวาน
แถวนี้มีใครชอบทานช็อกโกแลตเป็นชีวิตจิตใจบ้างไหม เราเองก็ชอบทานช็อกโกแลตมากเลย ไม่ว่าจะเป็นดาร์กช็อกโกแลตขมๆ มิลค์ช็อกโกแลตหวานๆ หรือจะเป็นช็อกโกแลตสอดไส้อะไรก็ชอบทั้งนั้น คอช็อกโกแลตกันเองน่าจะรู้ดีว่าถึงมันจะแสนอร่อย แต่ช็อกโกแลตก็มีราคาอยู่พอสมควร ถ้าหาซื้อมากินทุกวันคงจนแน่ แต่ตอนนี้เขากำลังเปิดรับสมัครอาชีพ ‘นักชิมช็อกโกแลต’ อยู่นะ ถ้าเราสมัครติดล่ะก็จะได้กินช็อกโกแลตฟรีทุกวัน แถมได้ค่าจ้างอีกด้วย บริษัทที่เปิดรับสมัครนักชิมช็อกโกแลตนี้ก็คือบริษัท Mondelez International ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์ขนมหวานที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่างคุกกี้ช็อกโกแลตสอดไส้ Oreo และช็อกโกแลตนม Milka ที่ขายอยู่ตามร้านสะดวกซื้อในบ้านเรา โดยตามประกาศนั้นจะรับสมัครนักชิมช็อกโกแลตและเครื่องดื่มโกโก้ 1 ตำแหน่ง และนักชิมช็อกโกแลตอีก 3 ตำแหน่ง รวมทั้งสิ้น 4 ตำแหน่งด้วยกันซึ่งมีทั้งงานแบบฟูลไทม์และพาร์ตไทม์ โดยแบ่งเวลาทำงานเป็น 2 ช่วงคือวันอังคารถึงวันพฤหัสเวลา 9.30-12.00 น. และวันจันทร์ถึงวันพฤหัสเวลา 15.00-17.00 น. แต่จะได้ทำงานเวลาไหนก็แล้วแต่หน้าที่ด้วย ทางบริษัทแจ้งว่านักชิมช็อกโกแลตจะได้ทำงานแค่ประมาณ 7.5-8 ชั่วโมงต่ออาทิตย์ และจะได้รับค่าจ้าง 9 ปอนด์ (ประมาณ 400 บาท) ต่อชั่วโมง ถึงจะดูไม่เยอะเท่าไหร่แต่ถ้านับว่าได้กินช็อกโกแลตใหม่ๆ ที่ยังไม่มีขายฟรีด้วยแล้วก็คุ้มสุดๆ การจะไปสมัครทำงานในหน้าที่นักชิมช็อกโกแลตนั้น ไม่จำเป็นต้องจบจากสาขาใดสาขาหนึ่งโดยเฉพาะ เพียงแค่คุณมีใจรักช็อกโกแลตก็มากพอจะไปสมัครทำงานได้แล้ว…
-
ช็อกโกแลตอาจจะสูญพันธุ์ภายในอีก 40 ปี หลังพบวิกฤตสภาพอากาศในโลกที่เปลี่ยนไป
ช็อคโกแลต น่าจะเป็นขนมหวานสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน ไม่เพียงแต่มันจะมีรสชาติเอร็ดอร่อยเท่านั้น แต่งานวิจัยยังพบว่าการทานช็อคโกแลตยังทำให้รู้สึกมีความสุขจากสารเอ็นโดรฟินอีกด้วย จึงไม่แปลกที่ตามห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าสะดวกซื้อจะมีขนมช็อคโกแลตวางขายให้เห็นเต็มไปหมด แต่เชื่อหรือไม่ มีข่าวว่าช็อคโกแลตที่เราชอบทานอาจจะสูญพันธุ์ภายใน 40 ปี เนื่องจากสภาพอากาศของโลกที่กำลังร้อนและแห้งแล้งขึ้นนั่นเอง ปกติแล้วต้นโกโก้นั้นจะเติบโตได้พื้นที่บริเวณ 20 องศาเหนือและใต้จากเส้นศูนย์สูตร ที่มีอุณหภูมิ ฝน และความชื้นที่คงที่ตลอดทั้งปี ดังนั้น ผลผลิตโกโก้ครึ่งหนึ่งของโลกจึงมาจากสองประเทศในแอฟริกาตะวันตกเท่านั้น ซึ่งก็คือไอวอรีโคสต์และกานา แต่ราวๆ ปี 2,050 พื้นที่ปลูกโกโก้จะลดน้อยลงไปอีก สภาพอากาศที่ร้อนขึ้นจะทำให้ต้องนำโกโก้ไปปลูกบนเขาสูงที่มากกว่า 1,000 ฟุต ซึ่งเป็นพื้นที่สงวนไว้สำหรับสัตว์ป่าเท่านั้น เหล่านักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียจึงร่วมมือกับบริษัท Mars เพื่อหาหนทางการแก้ไขปัญหานี้ก่อนที่จะสายเกินไป และพวกเขาก็ค้นพบเทคโนโลยีการตัดต่อพันธุกรรมที่เรียกว่า CRISPR ที่ถูกคิดค้นโดย UC Berkeley Innovative Genomics Institute ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เมล็ดพันธุ์โกโก้ทั้งหลายก็จะสามารถอยู่รอดและเติบโตได้ในสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งมากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ทางบริษัท Mars เองก็ใช้งบประมาณไปกับการช่วยลดภาวะโลกร้อนโดยการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เป็นผลมาจากกระบวนการผลิต โดยคาดว่าในปี 2050 จะสามารถลดได้ถึง 60% ขณะที่หลังจากข่าวการสูญพันธุ์ของโกโก้แพร่กระจายออกไป กลับมีข้อมูลจาก Intergovernmental Panel on…
-
เรื่องราวมิตรภาพ 40 ปี ของหญิงสาวและกอริลล่าชื่อดัง”โกโก้” จากครูฝึกสู่เพื่อนแท้ที่ขาดไม่ได้
เมื่อ 44 ปีก่อน นักศึกษาจิตวิทยาจบใหม่ เพนนี เพทเทอร์สัน ได้รับมอบหมายให้เข้าไปดูแลลูกลิงกอริลล่าสายพันธุ์เวสเทิร์น โลว์แลนด์ เพิ่งเกิดใหม่ตัวหนึ่งในสวนสัตว์ซานฟรานซิสโก หลังจากที่มันป่วยด้วยโรคร้ายแรง จนต้องแยกจากแม่บังเกิดเกล้าของตนเองเพื่อเข้ารับการรักษา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของมิตรภาพอันแสนยาวนานของทั้งสอง ซึ่งพวกเขาแทบไม่เคยแยกจากกันมาก่อน เจ้ากอริลล่าน้อยตัวนั้นถูกตั้งชื่อว่า โกโก้ (Koko) สำหรับสายพันธุ์ของเจ้ากอริลล่าตัวนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่กำลังใกล้สูญพันธุ์ในเวลานั้น (และปัจจุบัน) จึงต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากเจ้าหน้าที่ เพนนี ได้เข้าไปดูแลและสอนภาษามือให้กับ โกโก้ จนมันสามารถเข้าใจภาษามือกว่า 1,000 คำ และยังสามารถเข้าใจคำพูดภาษาอังกฤษอีกกว่า 2,000 คำอีกด้วย จนทำให้มันมีชื่อเสียงเป็น “กอริลล่าที่ฉลาดที่สุดในโลก” ตอนแรกที่ เพนนี เข้ามาดูแล โกโก้ เป้าหมายของเธอเพียงแค่ต้องการทำวิจัยเกี่ยวกับการรับรู้ของกอริลล่าเท่านั้น แต่เธอต้องทึ่งในความฉลาดของเจ้าโกโก้ ที่สามารถเข้าใจ และเรียนรู้ที่จะผสมภาษามือหลายๆ คำเข้าด้วยกัน เพื่อขอร้องอะไรบางอย่าง และเมื่อพวกเธอได้ใช้เวลาร่วมกันมากเท่าไหร่ สายใยแห่งความผูกพันได้ก่อตัวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ทุกวันนี้ผ่านมาแล้ว 44 ปี เพนนีก็ยังดูแลโกโก้อยู่เสมอ เปรียบดั่งแม่ที่คอยดูแลลูกน้อยอยู่ไม่ห่าง (เว้นแต่ว่าลูกน้อยคนนี้แข็งแรงเท่าผู้ชายสิบคนเท่านั้นเอง) เพนนีกล่าวว่า “คุณไม่มีทางคิดว่ากอริลล่าจะทำอะไรแบบนั้นได้แน่ๆ หลายคนดูหนังเรื่องคิงคองแล้วก็คิดว่า กอริลล่าจะต้องป่าเถื่อน ใช้กำลัง…
-
ซึ้งน้ำตาไหล วินาทีที่ชาวสวน ‘โกโก้’ ในประเทศไอโวรี่โคสต์ ได้ชิมช็อกโกแลตเป็นครั้งแรกในชีวิต!!!
ถ้าพูดถึงช็อกโกแลต หลายๆ คนพอนึกถึงรสชาติสุดอร่อยของมันก็คงน้ำลายสอกัน วันนี้เหมียวก็ขอพาเพื่อนๆ ไปชมอีกแง่มุมของอาหารนี้กัน จากหนึ่งในประเทศผู้ผลิตช็อกโกแลตส่งออกมากที่สุดในโลก ท่มาของช็อกโกแลตก็คือเมล็ด Cocoa หรือ โกโก้ โดยประเทศที่ส่งออกเมล็ดนี้มากที่สุดในโลกคือ Ivory Coast แต่เรื่องที่น่าเศร้าก็คือ เกษตรกรไร่ Cocoa ไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติของช็อกโกแลตที่ตัวเองเ็นผู้ทำเลย เพราะมีราคาที่สูงเกินไป เกษตรกร Cocoa ในประเทศ Ivory Coast โดยช็อกโกแลตแท่งที่น่าจะขายกันในราคา 2 ยูโร หรือราวๆ 100 บาท แต่รายได้ต่อวันของเกษตรกรทั้งวันจะได้รับประมาน 7 ยูโร หรือราวๆ 300 บาท และแน่นอนว่าพวกเขาต้องดูแลปากท้องของครอบครัวด้วย เกษตรกรไม่รู้ว่าผลผลิตของเขา Cocoa นั้นถูกนำไปแปรรูปเป็นอะไร บ้างก็นึกว่าเป็นไวน์บ้าง แต่ทีนี้พวกเขาจะได้ลิ้มลองรสชาติผลผลิตของพวกเขาเป็นครั้งแรกเลยล่ะ โอ้ววว ไม่นึกเลยว่าโกโก้จะอร่อยขนาดนี้!!! ลองมาชมคลิปวิดีโอเรื่องราวของพวกเขาเเบบเต็มๆ ได้ที่นี่ เห็นแบบนี้แล้วเหมียวรู้สึกเศร้าใจยังไงไม่รู้ ถ้าเปรียบเทียบกันก็คือประเทศไทยบ้านเราส่งออกข้าว แต่ไม่เคยได้กินข้าวเลยนั่นเอง และไม่รู้ด้วยว่าข้าวนั้นนำไปทำอะไร เจ็บมั้ยล่ะ T^T…