Tag: โค้ก
-
โค้กญี่ปุ่นออกลายใหม่เป็นสาวๆ จากเรื่อง Ohenro อนิเมะจากสตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลัง Fate
ประเทศญี่ปุ่นกับตัวการ์ตูนเป็นของคู่กันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ว่ากันว่าไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทไหน ก็จะต้องมีมาสคอตเป็นตัวการ์ตูน หรือไม่ก็มีการวาดตัวการ์ตูนจากสินค้านั้นๆ สักตัวสองตัว และแน่นอนว่าถ้าเป็นสิ่งที่จะสามารถเพิ่มยอดขายทางการค้าได้แล้ว มีหรือที่ผู้ผลิตจะไม่ทำ โดยเฉพาะผู้ผลิตเครื่องดื่มโคล่ารายใหญ่อย่างโคคาโคล่า หรือโค้ก ที่เคยออกสินค้าขายเฉพาะในญี่ปุ่นมามากมายอย่าง โค้กลายดอกซากุระ หรือโค้กลายสถานที่ท่องเที่ยว และในคราวนี้ก็ถึงเวลาของโค้กรูปแบบใหม่ ที่ออกขายเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา ด้วยขวดที่ออกแบบมาเป็นลวดลายของ Megumi, Chiwa และ Mao สามตัวละครเอกจากอนิเมะเรื่อง Ohenro (おへんろ) ที่ผลิตโดยสตูดิโอ Ufotable ผู้อยู่เบื้องหลังอนิเมะซีรีส์ยอดนิยมอย่าง Fate นั่นเอง Ohenro ชื่อของอนิเมะบนขวดนั้น แปลตรงๆ ได้ว่า “ผู้แสวงบุญ” และแน่นอนว่าอนิเมะเรื่องนี้ก็จะเป็นเรื่องราวของการติดตามตัวเอกทั้งสาม ที่กำลังออกเดินทางไปตามวัด 88 แห่งบนเกาะ Shikoku หนึ่งในสี่เกาะใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในการท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันอีกด้วย จากซ้ายไปขวา Megumi, Chiwa และ Mao Megumi นั้นใส่หมวกที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้แสวงบุญใน Shikoku ส่วนสะพานด้านหลังมีชื่อว่าสะพาน Onaruto ซึ่งเชื่อมต่อระหว่าง Honshu ที่เป็นเกาะหลักของญี่ปุ่นกับเกาะ Shikoku อย่างไรก็ตามหากคุณต้องการที่จะเป็นเจ้าของขวดโค้กสุดพิเศษขวดนี้…
-
หนุ่มญี่ปุ่นถูกรางวัล “โค้กโปร่งใส” แต่พอรางวัลมาถึงก็พบว่ามันใสจริงๆ ใสจนไม่มีอะไรเลย!?
ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนที่ญี่ปุ่นมีกระแสเครื่องดื่มไร้สีออกมาเป็นที่นิยมมากขึ้นในตลาด ดังนั้นในตอนที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ @masa_b_ ได้รับจดหมายจากทางเพจออฟฟิศเชียลของบริษัทโคคาโคล่าญี่ปุ่น ว่าเขานั้นถูกรางวัลจากกิจกรรม “โค้กโปร่งใสที่ไม่เคยมีใครลองมาก่อน” เขาก็รู้สึกดีใจมากๆ แน่นอนว่ารางวัลส่งมาที่บ้านเขาถึงที่เลย แต่ด้วยความที่เขาลืมมันไปแล้ว กว่าเขาจะไปหยิบมันออกมาจากตู้จดหมาย เวลาก็ผ่านไปหลายสัปดาห์อยู่ ในกล่องที่เขาได้มานั้น มีกล่องพลาสติกเปล่าๆ ที่ติดตราโลโก้ของโคคาโคล่าชัดเจนอยู่ เพียงแต่มันไม่มีอะไรอยู่ในนั้นเลยนี่สิ เปิดกล่องมา…. เฮ้ย!? เจอกล่องเปล่า!? กล่องเปล่าจริงๆ ไม่อิงนิยาย ในตอนแรกเขาก็คิดไปมากมาย ตั้งแต่ทางบริษัทลืมใส่โค้กมารึเปล่า? มีคนมาแอบเปิดกล่องเอาของข้างในไปใช่ไหม? แต่หลังจากที่อ่านข้อความที่อยู่บนหลังกล่องเขาก็ถึงบางอ้อ “ขอแสดงความยินดีกับการได้รับรางวัล! เราขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่คุณได้เข้าร่วมกิจกรรมเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เราได้ใส่โค้กโปร่งใสที่ไม่เคยมีใครลองมาก่อนไว้ในกล่องนี้แล้ว 2 ขวด จากการวิจัยที่จำนวนมากเราได้สร้างรสชาติใหม่ที่ให้ความรู้สึกเบาราวกับว่ามันเป็นอากาศ และใช้ขวดใสที่ออกแบบมาเป็นพิเศษซึ่งสามารถมองเห็นได้โดยผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์เท่านั้น ขอให้มีความสุขกับมันนะ!!” กิจกรรมนี้จัดขึ้นในวันที่ 1 เมษายน… ใช่แล้วมันคือ April Fool นั่นเอง ด้วยความที่ว่าเปิดจดหมายเอาตอนปลายเดือน @masa_b_ เลยโดนหลอกเข้าอย่างจังเลย แถมราวกับตอกย้ำเพื่อยืนยันเรื่องนั้น ที่ด้านหลังของกล่องยังมีข้อความเขียนต่ออีกว่า นี่เป็นเพียง April Fool เท่านั้น และเป็นได้ว่าแผนการขายปลีกสินค้านี้ก็เป็นเพียงเรื่องโกหกเช่นกัน……
-
ชายหนุ่มขยันผิดทาง ซัดโคเคนต่อเนื่อง 10 ปี ทำสองงานจุนเจือหนี้ แบกร่างเกินจะรับไหว…
ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไป ประโยคปลอมประโลมจิตใจเพื่อที่เราลุกขึ้นสู้ชีวิต ขยันทำมาหากินเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ให้อยู่รอดพ้นไปในแต่ละเดือน… แน่นอนว่า ยิ่งทำงานหลายอย่าง ก็ยิ่งมีรายได้ที่มากขึ้น แต่มันก็ต้องแลกมาด้วยพละกำลังของร่างกายและจิตใจ มากกว่าปกติหลายเท่าตัว Jake Scicluna ตัวอย่างจากนาย Jake Scicluna วัย 35 ปี ชายชาวอังกฤษ ผู้ขยันขันแข็งทำงานหาเงินเพื่อชดใช้หนี้ของตัวเอง โดยที่เขาทำอาชีพเป็นคนเฝ้าประตูไนท์คลับ พร้อมกับเปิดร้านสักเป็นของตัวเองในเวลาเดียวกัน เนื่องจากเคยนำบ้านไปจำนองกับเพื่อนเพื่อหาเงินทุนมาหมุนเวียน จากหน้าที่การงานดังกล่าว เขาจึงเลือกใช้โคเคนเป็นตัวเสริมกำลังให้กับตัวเอง แน่นอนว่ายาเสพติดนั้นอาจจะช่วยรีดพลังในร่างกายออกมาได้ ในทางกลับกันมันก็ย่อมบั่นทอนและทำลายร่างกายของเขาอย่างช้าๆ ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่เขาทำ 2 งานควบคู่กันไป การสูดโคเคนเข้าจมูกอย่างต่อเนื่อง ก็ทำลายระบบหลอดเลือดในจมูก และทำให้น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงเดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา เขาประสบกับอาการหายใจไม่ออกถึงขั้นนอนล้มพับอยู่ภายในบ้านของตนเอง แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วเขาก็เสียชีวิตในโรงพยาบาลของเช้าวันถัดมา… ผลของการชันสูตรพบว่า ปริมาณของโคเคนที่อยู่ในร่างกายของเขานั้นมีจำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นจำนวนมากพอที่จะทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นจนถึงตายได้ ทางด้านคุณแม่ Susan กล่าวว่า “โคเคนคือยาเสพติดที่เลวร้ายที่สุด เขาทำงานเป็นคนเฝ้าประตูไนท์คลับในเวลากลางคืน และโคเคนก็ทำให้เขาตื่นตัวตลอดเวลา จากนั้นก็มาเปิดร้านสักเป็นของตัวเอง…
-
Coca Cola เปิดตัวรสชาติใหม่ รส Georgia Peach และ California Raspberry
Coca Cola ผู้ผลิตน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ของโลกที่มียอดการจำหน่ายถล่มทลายทั่วโลก ความนิยมของสินค้าจากทางบริษัทสามารถการันตีด้วยยอดขายและกระแสตอบรับจากลูกค้า ทำให้ Coca Cola ไม่หยุดคิดและสร้างสรรค์สินค้าใหม่ๆ มาให้เราได้ลองอยู่เสมอ และเมื่อไม่นานที่ผ่านมานี้ Coca Cola ได้มีการเปิดตัว โค้ก รสชาติใหม่นั่นก็คือ รส Georgia Peach และ California Raspberry นับว่าเป็นครั้งแรกในช่วงเวลาเกือบ 16 ปี หลังจากที่มีการเปิดตัว โค้ก รสวานิลลา เมื่อปี 2002 ทางบริษัทได้ทำการสำรวจและคิดค้นรสชาติใหม่ๆ เกือบ 30 รสชาติ แต่รสชาติ รส Georgia Peach และ California Raspberry ถูกปากกลุ่มสำรวจมากที่สุด ผลไม้ที่นำมาทำจะมาจากท้องถิ่นตามชื่อของรสชาติทั้งพีชจากรัฐจอร์เจียและ ราสป์เบอรี่จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ผสมผสานกับความหวานซ่าของโค้ก บรรจุลงขวดแก้วขนาด 12 ออนซ์หรือประมาณ 354 มิลลิลิตร ส่วนเรื่องบรรจุภัณฑ์ นอกจากจะมีแค่แบบขวดแก้วแล้ว…
-
สยบ 11 ความเชื่อแบบผิดๆ ที่มีมานาน สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องเหลวไหล โกหกทั้งเพ!!
ตั้งแต่เล็กจนโต หลายๆ คนคงจะมีความเชื่อแบบแปลกๆ ที่ถูกสอนกันมา อย่างถ้าหากแมวดำกระโดดข้ามศพคนตายจะฟื้น ถ้าหากเจอนกเค้าแมวบ้านนั้นจะมีคนตาย หรือประเทศบางประเทศอ้างว่ามีการปกครองระบอบประชาธิปไตย แต่เคยสงสัยกันบ้างหรือเปล่าว่า สิ่งที่เราเชื่อนั้นมันจะเป็นเรื่องจริงหรือเปล่านะ!? เพื่อไขความกระจางเกี่ยวกับความเชื่อแบบผิดๆ เราก็ได้รวบรวม “11 ความเชื่อที่ไม่เป็นความจริง” มาฝากกัน จะมีอไรบ้างนั้นไปชมกันเลย… 11. สบู่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ อันที่จริงแล้วสบู่ไม่สามารถทำให้เชื้อแบคทีเรียตายได้ อย่างมากที่สุดก็เพียงแค่การชำระล้างเชื้อแบคทีเรียออกไปเท่านั้น และนอกจากนี้ตัวสบู่เองนั่นแหละก็อาจจะเป็นที่สะสมของแบคทีเรียเองก็ได้นะ 10. ถ้าคุณกลืนหมากฝรั่งลงไป มันจะอยู่ในท้องคุณ 7 ปี!! จริงๆ แล้วหมากฝรั่งนั้นไม่อาจจะถูกย่อยในร่างกายเราได้ก็จริง แต่มันจะไม่ติดอยู่ในร่างกายเราอย่างแน่นอน ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปอ่านในได้ที่นี่เลย ผู้เชี่ยวชาญเผยถึง ‘การกลืนหมากฝรั่งลงท้อง’ จริงๆ แล้วมันไม่ได้พันลำใส้หรอกนะ!! 9. การโกนผม จะทำให้ผมหนาขึ้น หลังจากที่เราตัดผม จะเหลือตอผมสั้นๆ หลายๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่าตอเหล่านั้นคือผมที่หนาขึ้น แต่จริงๆ แล้วมันเป็นปลายผมที่แข็งอยู่แล้วนั่นเอง 8. การสัมผัสกับคางคกอาจทำให้มือคุณเป็นหูด อันที่จริงแล้วหูด หรือก้อนเนื้อแข็งๆ นั้นเกิดจากการได้รับเชื้อ human papillomavirus จากผู้ป่วยเท่านั้น ไม่ได้มาจากคางคกแต่อย่างใดนะ 7.…
-
การดื่มโค้ก 1 กระป๋องจะทำอะไรกับร่างกายของเราบ้าง หลังจากผ่านไปแล้ว 1 ชั่วโมง…
ใครที่ชอบดื่มโค้กเป็นประจำ นอกจากทำให้ร่างกายสดชื่นจากความซ่าของโค้กแล้ว เคยสงสัยมั้ยว่ามันจะทำอะไรกับร่างกายของเราอีกบ้าง!? นี่คือข้อมูลใหม่ที่เพิ่งได้รับการเปิดเผย เกี่ยวกับปฏิกิริยาของร่างกายหลังดื่มโค้กเข้าไปแล้วในเวลา 1 ชั่วโมง ผลการวิเคราะห์เหล่านี้รวบรวมโดย The Renegade Pharmacist ซึ่งเป็นบล็อกที่ดูแลโดยอดีตเภสัชกรชาวอังกฤษ Niraj Naik โดยชี้ให้เห็นรายละเอียดต่างๆ ของโค้กถึง 7 จุดด้วยกัน ใน 10 นาทีแรก น้ำตาล 10 ช้อนชาจะทำปฏิกิริยากับระบบในร่างกายของคุณ (เป็นปริมาณ 100% ที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน) 20 นาทีต่อมา น้ำตาลในเลือดจะทำให้อินซูลินหลั่งออกมา ในขณะเดียวกันตับของคุณจะตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้โดยการเปลี่ยนน้ำตาลให้กลายเป็นไขมัน 40 นาทีต่อมา ร่างการจะดูดซึมคาเฟอีนเป็นที่เรียบร้อย รูม่านตาของคุณจะขยายออก ความดันโลหิตจะเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าตับของคุณกำลังส่งน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดมากขึ้น นอกจากนี้ตัวรับอะดีโนซีนในสมองของคุณจะเกิดการทำงาน ทำให้คุณไม่รู้สึกง่วง 45 นาทีต่อมา ร่างกายของคุณจะเพิ่มการผลิตโดปามีน เพื่อกระตุ้นสารแห่งความสุขในสมองของคุณ ซึ่งขั้นตอนนี้ร่างกายจะตอบสนองคล้ายๆ กับเวลาเสพเฮโรอีน จนกระทั่งนาทีที่ 60 กรดฟอสฟอริกจะทำปฏิกิริยากับแคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสีในลำไส้เล็กของคุณเพื่อเพิ่มการเผาผลาญอาหาร ประกอบกับปริมาณน้ำตาลที่สูงรวมทั้งสารให้ความหวาน ส่งผลให้เพิ่มการขับถ่ายแคลเซียมในปัสสาวะ ซึ่งในนาทีที่ 60…
-
ใครว่าโค้กต้มกับอะไรก็อร่อย!? พบการทดลอง “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปต้มโค้ก” ที่ออฟฟิศเหมียว
นอกจากอาหารประจำชาติของคนไทยจะเป็นผัดกะเพรา เชื่อว่าอาหารอีกอย่างที่ทุกบ้านต้องมีก็คือ “บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยเราก็ไม่เคยเบื่อมันเลย อาจเป็นเพราะรูปแบบของเส้นและรสชาติที่มีหลากหลายนั่นเอง แต่รสชาติที่มีมากมายของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้นมันยังไม่เด็ดพอที่จะทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน เราจึงอยากทำการปฏิวัติวงการบะหมี่ด้วยการนำโคล่ามาต้มกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป!!! ซึ่งเราได้แรงบันดาลใจมาจากเมนูไก่ต้มโค้ก หมูต้มโค้ก และอีกต่างๆ นานาทำให้เกิดเป็นการทดลองในครั้งนี้ โดยครั้งนี้เราใช้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4 รสชาติ กับโคล่าขวดใหญ่ 1 ขวด มาดูกันว่ามันจะเวิร์คอย่างที่คิดไว้หรือเปล่า อันดับแรกโคล่าลงไปแล้วต้มให้เดือด จะรู้สึกได้ถึงความซู่ซ่าของน้ำอัดลมเลยทีเดียว จากนั้นเรามาเริ่มที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสแรกกัน ซึ่งนั่นก็คือ “รสก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก” ดูเชิงแล้วน่าจะเข้ากันได้อยู่นะ เพราะมีสีน้ำซุปคล้ายๆ กัน(เกี่ยวไหม) แต่ยังไงก็ช่าง หย่อนลงต้มไปเลยด่วนๆ เพราะหิวแล้ว เสร็จแล้วววว!! ชามนี้เป็นแบบยังไม่ได้ใส่เครื่องปรุงนะ พอชิมดูแล้วก็ต้องร้องออกมาว่า “นี้มันพะโล้นี่หว่า!!” ความหวานจากน้ำโค้กมันแทงเข้ามาที่ลิ้นเหมือนเอาน้ำตาลทรายมากรอกปาก ใครที่บ่นอยากกินของหวานเอาไอ้นี่ไปกินได้เลย ต่อไปเพิ่มความแอดวานซ์ด้วยผงปรุงรสก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ทำให้ดูหอมน่าทานมากขึ้น พอคีบเส้นเข้าก็พบว่า มันหวานมาก ไม่มีรสชาติใดๆ นอกจากหวาน หวานสุดๆ เลย เก๊าผิดหวัง T T เดินหน้าต่อไปด้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอีกรสชาติหนึ่ง นั่นก็คือ…
-
เจ้าหมาติดโค้กหนัก กินติดต่อกันทุกวันนานนับปี จนทำให้ฟันผุต้องถอนออกถึง 12 ซี่
สุนัขส่วนใหญ่ อาจจะชื่นชอบการรับประทานขนมคบเคี้ยว กระดูก บิสกิต หรือเศษอาหาร แต่สำหรับเจ้า Lady พี่หมาพันธุ์แจ๊ค รัสเซล เทอร์เรีย ในวัย 20 ปีตัวนี้ บอกเลยว่ามันชอบในสิ่งที่แตกต่างจากสุนัขตัวอื่นๆ นั่นก็คือ เจ้า Lady ชอบดื่มโค้กเป็นอย่างมากนั่นเอง เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Lady เจ้าหมาแสนน่ารักตัวนี้ ได้รับการถอนฟันออกจากปากทั้งหมดถึง 12 ซี่ (เดิมมีอยู่ 16 ซี่) หลังจากที่ดื่มโค้กติดต่อกันทุกวันเป็นเวลานานถึง 1 ปี ก่อนหน้านี้ เจ้า Lady ก็คือหมาที่ชื่นชอบการทานอาหารปกติๆ เหมือนกับสุนัขทั่วๆ ไป แต่หลังจากที่มันได้แอบชิมโค้กของ Kate Snook ผู้เป็นเจ้าของ นั่นทำให้เจ้าหมารู้สึกชื่นชอบเครื่องดื่มน้ำอัดลมนี้เป็นอย่างมาก ทางด้าน Kate Snook เจ้าของวัย 46 ปี จากเมือง Trowbridge…
-
หนุ่มเจอสกั๊งก์หัวติดอยู่ใน ‘กระป๋องโค้ก’ เดินอยู่กลางถนน ตัดสินใจเข้าไปช่วยเหลือมัน!!
ก็อย่างที่เรารู้กันอยู่ว่าสกั๊งก์นั้นเป็นสัตว์ที่ไม่ว่าใครก็ไม่อยากที่จะเข้าใกล้ เนื่องจากว่ามันมีกลไกในการป้องกันตัวอย่างการปล่อยสารเคมีที่มีกลิ่นฉุนและสามารถทำให้ตาของเราบอดได้ชั่วขณะหนึ่งเลยล่ะ แต่จู่ๆ ชายคนหนึ่งก็บังเอิญไปพบกับเจ้าสกั๊งก์ที่กำลังได้รับความลำบาก โดยหัวของมันติดอยู่ในกระป๋องโค้ก เดินไปมาอยู่กลางถนนซึ่งแน่นอนว่าเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นดังนั้นเขาก็เริ่มส่งเสียงเรียกเจ้าสกั๊งก์ พร้อมพร่ำบอกว่า “ใจเย็นๆ นะไอ้สกั๊งก์น้อย เดี๋ยวชั้นจะช่วยแกเอง อย่าตกใจนะ อย่าฉีดสเปรย์ใส่ฉันนะ อย่าทำแบบนั้นนะ” นั่นก็เพราะว่ากลไกในการป้องกันตัวของเจ้าสกั๊งก์นั้นจะทำงานเมื่อมันรู้สึกถึงอันตราย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคลิปนั้นสุ่มเสี่ยงต่อการทำให้มันรู้สึกแบบนั้น เจ้าสกั๊งก์เดินวนไปมาบนถนนอยู่นาน แต่ในที่สุดมันก็ยอมฟังที่ชายหนุ่มพูดเดินเข้ามาหาใกล้ๆ เพื่อให้เขาช่วยดึงกระป๋องโค้กออกไป ในระหว่างที่ดึงชายหนุ่มพูดอยู่ตลอดว่าอย่าพ่นกลิ่นใส่ฉันะๆ ใจเย็นๆ ไปพลาง จนในที่สุดก็สามารถดึงออกมาได้อย่างปลอดภัย ลองไปชมคลิปเหตุการณ์แบบเต็มๆ ที่ข้างล่างนี้ได้เลยจ้า… ถึงแม้ว่าสัตว์ที่ได้รับความเดือดร้อนมาจะเป็นสกั๊งก์ก็ตาม แต่มนุษย์ก็ยังพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือพวกมันอยู่เสมอ ^^ ที่มา : viralnova
-
หนุ่มเล่นพิเรนทร์ เทโค้ก 1,500 แกลลอนลงไปในอ่าง พร้อมยัด ‘เมนทอส’ ลงไปแช่เล่นอย่างสบายใจ!?
ก็อย่างที่เราทราบกันเป็นอย่างดี ว่าโค้กกับเมนทอสนั้น เป็นส่วนผสมที่จัดได้ว่าถ้ามาเจอกันแล้วล่ะก็ หายนะเกิดอย่างแน่นอน แต่เจ้าหนุ่ม Ryan ที่จะมาทำการทดลองในวันนี้ได้ฉีกกฎข้อนี้ไปซะไม่เหลือชิ้นดีเลยล่ะ กล่าวคือ เขาทำการทดสอบด้วยการเทโค้กลงในอ่างขนาดใหญ่ปริมาณ 1,500 แกลลอนด้วยกัน หลังจากนั้นก็เติมน้ำแข็งลงไปหลายๆ ถุง และจุดพีคกก็คือ เมนทอสเย็นชื่นใจด้วยอีก 1 ถังเต็มๆ !!? ดูเหมือนสระธรรมดาๆ เลยใช่มั้ย!? มันคือสระที่เต็มไปด้วยโค้ก!!! อื้อหืออออ เป็นส่วนผสมที่น่ากล้วจริงๆ ลองชมคลิปกันได้ที่นี่เลย 1 ถังเต็มๆ กับน้ำแข็งอีกหลายถุง โดรนที่เตรียมมาถ่ายภาพสวยๆ หูยยยย น่าลงไปเล่นมั้ยเนี่ย ฮร่าาาาา เห็นแล้วสยองจริงๆ และแล้วเขาก็ลงไปจริงๆ ดื่มซะด้วยจะเป็นไรไป อิอิ อีกหนึ่งที่เป็นจุดพีคของเรื่องนี้ก็คือโดรนที่พวกเขานำมาถ่ายภาพ… โชคร้ายหน่อยที่ระหว่างถ่ายภาพสวยๆ อยู่ เจ้าโดรนก็ตกลงไปในบ่อโค้กซะนี่ บอกเลยว่าโมเม้นต์นี้ ลั่นมาก เอิ๊กๆๆๆ เป็นการทดลองที่หลุดโลกจริงๆ…
-
ชมป้ายโฆษณา “โค้ก” ทั่วโลกเมื่อ 60-80 ปีก่อน มีตั้งแต่นิวยอร์ค จนถึงกรุงเทพฯ !!
คงไม่มีใคไม่รู้จักเครื่องดื่มที่เป็นอันดับหนึ่งของโลกในขณะนี้ นั่นก็คือ “โค้ก” นั่นเอง แต่กว่าจะมาเป็นอันดับหนึ่งแบบนี้ได้นั้นก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะแยะเหมือนกัน โดยเริ่มต้นนั้นก็คือต้องผ่านการโฆษณาก่อน ในวันที่ 31 มกราคม ปี 1893 โคคา-โคล่า เริ่มจดเครื่องหมายการค้าเป็นครั้งแรก หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นแบรนด์ที่ทั้งโลกจดจำเป็นต้นมา เนื่องจากน้ำอัดลมที่ทำออกมานั้นอร่อยและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งตอนนั้นยังไม่มีใครทำออกมาเหมือน จากข้อมูลในนิตยสาร TIME บอกว่าในช่วงยุค 1930s นั้นทางบริษัทเริ่มที่จะโปรโมตไปประเทศอื่นบ้างแล้ว ทำให้โค้กเป็นที่รู้จักกันในต่างประเทศ รวมไปถึงบ้านเราซึ่งอยู่คนละฟากโลกด้วย และวันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปชมป้ายโฆษณาโค้กในแต่ละดินแดนแบบสไตล์วินเทจ รับรองว่าไม่ผิดหวัง เด็กนั่งขายโค้ก 1936 มีป้ายกำกับด้วยสำหรับคนผิวสี 1938 ที่ Jimmie’s Trailer Camp สหรัฐ 1938 1938 เปอร์โตริโก้ 1943 Columbus Circle แมนฮัตตัน 1944 ที่ร้าน Anne’s Sandwich Shop 1946 ระหว่างในทางเยอรมนี 1947…
-
เรื่องล้ำๆ ยกให้เขา!! ญี่ปุ่นสร้าง “ตู้น้ำอัดลมเกล็ดน้ำแข็ง” หยอดเหรียญ เปิดปุ๊บเป็นน้ำแข็งปั๊บ
ตอนนี้เครื่องดื่มเกล็ดน้ำแข็งอย่างเสลอปี้ที่ขายกันตามเซเว่นนนั้นกลายเป็นเครื่องดับร้อนที่ทุกๆ คนรู้จักกันดี มีบางคนพยายามที่จะทำกินเองที่บ้านโดยการเอาไปแช่ในช่องฟรีซให้เย็นจัดๆ แล้วออกมาเขย่าเล็กน้อย ซึ่งก็มีบางคนทำสำเร็จบางคนทำไม่สำเร็จ และเพื่อให้ได้อารมณ์มากกว่าแค่การกดจากตู้กดมากิน ทาง Coca-Cola จึงได้ทำตู้โค้กแบบหยอดเหรียญขึ้นมา โดยความพิเศษของมันอยู่ที่อุณหภูมิ -4 องศาในการแช่เครื่องดื่ม ทำให้เวลาที่คุณเปิดฝาโค้กออกมาแล้วเทลงในแก้ว มันจะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งภายในพริบตา . เจ้าตู้หยอดเหรียญนี้จะเริ่มตั้งไว้ในเซเว่นอีเลเว่น 1,000 สาขา ในเขตโตโฮกุ จังหวัดอากิตะ เกาะชินโกคุ ประเทศญี่ปุ่น ขั้นตอนในการซื้อเครื่องดื่มจากตู้นี้ ไม่ใช่ว่าคุณจะหยอดหรียญแล้วได้เครื่องดื่มมาเลยนะ คุณจำเป็นจะต้องจ่ายเงินที่เค้าเตอร์ซะก่อน จากนั้นคุณก็จะได้ตั๋วสำหรับเอามาหยอดใส่ตู้เครื่องดื่ม เมื่อหยอดตั๋วลงไปแล้ว เจ้าเครื่องนี้ก็จะปล่อยขวดโค้กออกมา 1 ขวด มองจากภายนอกแล้วอาจจะเหมือนขวดน้ำอัดลมธรรมดาๆ แต่เมื่อคุณเปิดฝาออกมา จิบเล็กน้อย แล้วปิดฝาใหม่ พลิกขึ้นลง แค่นั้นน้ำอัดลมข้างในก็จะค่อยๆ เปลี่ยนกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งในทันที ตอนนี้เจ้าตู้หยอดเหรียญที่ว่านี้ยังมีให้เห็นแค่ในบางพื้นที่เท่านั้น ยังไม่มีแพลนจะขยับขยายออกไปยังเมืองใหญ่ๆ หรือในต่างประเทศนะ . แม้ว่าบางคนอาจจะมองว่าไปซื้อสเลอปี้ตามเซเว่นน่าจะง่ายกว่า แต่#เหมียวฟิ้นมองว่านี่แหละวิถีแบบชาวญี่ปุ่น ชอบอะไรที่มีขั้นมีตอน มันดูเจ๋งในแบบพวกเขาดีนะ ที่มา rocketnews24
-
พาย้อนไปดู 50 แผ่นป้ายโฆษณา ‘Coca-Cola’ ตลอดระยะเวลา 120 ปีที่ผ่านมา!!!
นับว่าเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมตลอดกาล Coca-Cola หรือโค้ก เครื่องดื่มน้ำอัดลมสีดำที่ช่วยทำให้ผู้คนดื่มรู้สึกสดชื่นมาไม่รู้กี่ยุคกี่สมัยแล้ว ก็ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน และสิ่งหนึ่งที่เรามักจะเห็นเป็นเอกลักษณ์กันมาโดยตลอดก็คือการโฆษณาของ Coca-Cola นี่แหละ ยุคนี้เราจะได้เห็นการโฆษณาผ่านตาตามสื่อโทรทัศน์และอินเตอร์เน็ต แต่ในยุคก่อนๆ ส่วนมากจะเป็นสื่อสิ่งพิมพ์โปสเตอร์ประกาศต่างๆ เราจะมาย้อนกลับมาดูกันว่าเอกลักษณ์การโฆษณาในแต่ละยุคจะจี๊ดจ๊าดแค่ไหน 1889 . 1900 1907 1909 1910 1918 . 1920 . 1924 . 1927 . 1931 1933 1935 1936 . 1937 . 1942 . 1946 1947 1948 1949…
-
อยากรู้มั้ยว่าทำไมโค้กขวดแก้วถึงมีรสชาติที่อร่อยกว่ารูปแบบอื่น? เป็นเพราะพื้นผิววัสดุยังไงล่ะ!!
ในที่นี้คงไม่มีใครรู้จักน้ำดื่มสีดำซ่าที่สร้างความสดชื่นให้กับมนุษย์มาหลายยุคหลายสมัย สองเจ้าดังๆ ก็จะเป็น โคคา-โคล่า (โค้ก) กับ เป๊บซี่ ซึ่งก็เป็นที่ถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้งว่า เจ้าไหนอร่อยกว่ากัน อันนี้ก็ต่างความคิดต่างความเห็นกันไป แล้วแต่บุคคล และอีกประเด็นหนึ่งที่อาจจะมีบางคนรู้สึก (หรือหลายคน) ว่าโค้กแบบบรรจุในขวดแก้วนั้น เมื่อดื่มเข้าไปแล้ว รสชาติยิ่งกว่าขวดที่บรรจุในขวดพลาสติกหรือแบบกระป๋องเสียอีก เออ!? แล้วทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ล่ะ หรือว่าเรารู้สึกกันไปเอง ด้วยความสงสัยนี้ นักชีวเคมีอันเป็นผู้ก่อตั้ง Science By Design คุณ Sara Risch ได้หาคำตอบมาคลายข้อสงสัยดังกล่าวแล้ว เหตุผลหลักๆ ก็มาจาก การที่ของเหลวทำปฏิกิริยากับวัสดุที่บรรจุ นั่นเอง ‘ในการบรรจุผลิตภัณฑ์ของแต่ละบริษัทนั้นจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดปฏิกิริยาใดๆ ที่อาจจะส่งผลเสียหายต่อสินค้า’ โดยแบบกระป๋องนั้นจะมีการเคลือบพอลิเมอร์ เพื่อไม่ให้อลูมิเนียมดูดซับโมเลกุลของโซดาในเครื่องดื่ม แต่ก็ยังเกิดขึ้นอยู่ดี ซึ่งทำให้รสชาติเครื่องดื่มเปลี่ยนแปลงไป ในส่วนของขวดพลาสติกนั้นให้ผลตรงข้ามกัน กล่าวคือขวดพลาสติกจะถ่ายเทสารแอซีแทลดีไฮด์ (สารแต่งกลิ่น) เข้าไปในโมเลกุลของโซดา รสชาติก็เปลี่ยนไปอีก คุณ Sara…
-
น่ากินมั่กๆ!! ยิ่งกว่าโค้กวุ้นก็คือ ‘โค้กขวดวุ้น’ ตัดแบ่งกินได้ ฟีลอารมณ์หนึบหนับมาเต็ม
เห็นหัวข้อแบบนี้แล้วอาจจะรู้สึกไม่ค่อยแปลกใจอะไร เพราะว่าหลายๆ คนก็เคยทำ ‘โค้กวุ้น’ กันมาก่อน วิธีทำง่ายๆ ก็แค่เทน้ำโค้กใส่ภาชนะ แล้วนำไปแช่ช่องฟรีส รอให้มันแข็งตัวแล้วก็นำมากินคล้ายๆ กับสเลอปี้นั่นแหละ แต่สำหรับวิธีการนี้จะเป็นการทำโค้กวุ้นแบบเยลลี่กัมมี่แบร์ อ้าววว!! อ่านแล้วน่าสนใจดีใช่มั้ยเอ่ย มันน่ากิน น่าทำตามขนาดไหน #เหมียวเลเซอร์ ขอนำทุกท่านมาร่วมรับชมกัน ณ บัดนี้ ก่อนอื่นเลยคุณต้องมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ ขวดโค้กขนาดมาตฐาน (พลาสติก) เจลาติน 60 กรัม สก็อตเทป มีดหรือคัตเตอร์ และหม้อต้ม ขั้นตอนแรกให้เทน้ำโค้กลงไปในหม้อต้ม จากนั้นก็ตามด้วยเจลาติน คนให้เข้ากัน นำไปตั้งบนเตาด้วยไฟอ่อนๆ เคี่ยวให้เดือดกรุ่นๆ ในระหว่างที่กำลังต้มอยู่นั้น ก็ผลัดมาทำแม่แบบขวดวุ้น ค่อยๆ ลอกฉลากอย่างระมัดระวัง เก็บรักษาไว้ก่อน จากนั้นก็ใช้มีดหรือคัตเตอร์ผ่าขวดจากหัวถึงท้ายขวดยาวประมาณ 6 นิ้ว ปิดแผลขวดที่เพิ่งผ่าไปด้วยสก็อตเทป หนาๆ หลายชั้นซักนิดนึง เพื่อกันของเหลวไหลทะลักออกจากขวด หลังจากแปะสก็อตเทปเรียบร้อย นำโค้กผสมเจลาตินที่ต้มไว้มาเทใส่ขวด แล้วนำไปแช่ช่องฟรีส ปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน …
-
รวม 18 เกร็ดความรู้และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแบรนด์ Coca-Cola น้ำดำในตำนานที่ยังมีชีวิต
ยอมรับเลยว่าเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือซอฟต์ดริ๊งค์สีดำที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในตอนนี้มีเพียงยักษ์ใหญ่แค่ 2 รายเท่านั้นที่ยังฟาดฟันต่อสู้กันไม่หยุดหย่อน ค่ายสีฟ้า เป๊บซี่ และ ค่ายสีแดง โคคา-โคล่า (โค้ก) นั่นแหละ เอาเป็นว่าคราวนี้ขอชูเรื่องเกร็ดความรู้จากฝั่งค่ายสีแดงก่อนละกันเนอะ บริษัทและสูตรต้นตำหรับ Coca-Cola ให้กำเนิดโดยเภสัชกร John S. Pemberton ในปีค.ศ. 1886 แต่ชื่อและโลโก้ที่เราเห็นกันนั้นเป็นความคิดของ Frank Robinson Coca-Cola แต่เดิมเคยทำการตลาดว่าเป็นเครื่องดื่มบำรุงประสาท เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า Coca-Cola ในช่วงแรกๆ นั้นเคยนำโคเคนมาเป็นส่วนผสมด้วย แต่ใช้เพียงแค่ 9 มิลลิกรัมต่อขวดเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาอาการเสพติดฝิ่น ภายหลังในปีค.ศ. 1903 สั่งยกเลิกการนำโคเคนมาเป็นส่วนผสม ในทุกวันนี้ ภานใต้ 3% ของแบรนด์เครื่องดื่มที่มีบนโลก อยู่ภายใต้การจดทะเบียนของ Coca-Cola (3% ก็ประมาณ 1.9 พันล้านยี่ห้อ) มีเพียงเกาหลีเหนือและคิวบาเท่านั้น ที่ไม่การนำ Coca-Cola…
-
แฟนสาวถึงกับน้ำตาไหล หลังจากเธอได้ลองดื่มเป๊ปซี่เป็นครั้งแรกในชีวิต!!
ชายหนุ่มคนนี้เขามีชขื่อว่ามาริโอ้ เขาได้อัดคลิปเขาและแฟนของเขาซึ่งมนคลิปนี้เขาได้ซื้อเป๊ปซี่ให้กับเธอดื่มเป็นครั้งแรกในชีวิต แฟนของเขาเป็นโรงแพ้คาเฟอีน เธอไม่สามารถดื่มน้ำอัดลมชนิดใดได้เลย ทั้งโค้ก เป๊ปซี่ หรือดอกเตอร์เป๊ปเปอร์ และตอนนี้เขาได้ตัดสินใจที่จะซื้อเป๊ปซี่ที่ไม่มีคาเฟอีนให้เธอได้ดื่ม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของชีวิตเธอเลยที่จะได้ดื่มน้ำอัดลม เราไปดูปฏิกิริยาของเธอกันเลยดีกว่า แต่หลังจากคลิปนี้ถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง ชาวเน็ตบางส่วนก็ออกมาให้ความคิดเห็นว่านี่อาจจะเป็นคลิปโปรโมตจากทางเป๊ปซี่เองที่พยายามทำวิดีโอไวรัลออกมา อันนี้จะเป็นยังไงเหมียวก็ไม่ขอฟันธงนะจ๊ะ ที่มา Rumble Viral
-
ทั่วโลกถึงกับงง เมื่อซุปเปอร์มาร์เก็ตในฮ่องกง นำโค้กกระป๋องใส่กล่อง พร้อมห่อด้วยพลาสติกใสอย่างดี??!!?
ปกติถ้าเรานึกถึงประเทศที่ทำบรรจุภัณฑ์เวอร์ๆ เราจะนึกถึงประเทศอย่างญี่ปุ่นเอาไว้ก่อน เพราะพวกเขามักพิถีพิถันในเรื่องความเป็นเอกลักษณ์และความสวยงามอยู่แล้ว แต่คุณจะเงิบยิ่งเสียกว่าอะไร ถ้าคุณได้ไปเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตในฮ่องกง เพราะพวกเขานำโค้กกระป๋อง ใส่กล่องพร้อมห่อด้วยพลาสติกใสอย่างดีให้คุณ!!?!!? ปกติอาหารที่ถูกห่อด้วยพลาสติกใส คืออาหารที่เราไม่อยากให้มันสัมผัสกับอากาศหรือลมเพื่อไม่ให้มันเสียรสชาติ รวมถึงป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆไม่ให้เข้าไปในอาหาร แต่โค้กกระป๋อง ด้วยบรรจุภัณฑ์ของมันก็สามารถทำทุกอย่างที่ว่ามาได้อยู่แล้ว แล้วจะห่อพลาสติกเข้าไปอีกชั้นท่าไม เรียกได้ว่าก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางบนอินเตอร์เน็ต เนื่องจากเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรโดยใช่เหตุ แถมเพิ่มขยะพลาสติกให้กับโลกอีกต่างหาก ทีหลังจะซื้อน้ำอัดลม ไปซื้อจากตู้แบบนี้ดีกว่า สะดวกแถมยังไม่เพิ่มขยะพลาสติกให้กับโลกด้วย ที่มา rocketnews24
-
“โค้ก” ทำแคมเปญอันทรงพลัง เอาโลโก้ออก เพื่อสื่อ “อย่าตัดสินคนแค่ภายนอก”
โค้กหรือโคล่าโคล่า ถือเป็นแบรนด์ที่เก่าแก่และเราเห็นอยู่แทบทุกวัน ทุกครั้งที่โค้กปล่อยแคมเปญแต่ละอย่างออกมามันก็เจ๋งๆทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการเอาเนื้อเพลงไปพิมพ์ลงบนข้างกระป๋อง หรือจะเป็นการส่งโค้กให้คนในครอบครัว แต่ครั้งนี้โค้กได้นำเอาโลโก้พร้อมกับตัวหนังสือทุกอย่างออกไป ซึ่งแคมเปญนี้เกิดขึ้นที่ตะวันออกกลาง เพื่อรณรงค์ให้คนไม่ตัดสินคนอื่นจากภายนอก แคมเปญนี้อยู่ในช่วงรอมฎอน หรือเทศกาลถือศีลอดนั่นเอง โดยทั้งกระป๋องจะมีเพียงแถบสีขาวเท่านั้นที่ยังอยู่ และมีตัวหนังสือเขียนกำกับไว้ว่า “Labels are for cans, not for people.” หรือจะแปลก็คือ “ยี่ห้อมีไว้สำหรับกระป๋อง ไม่ใช่สำหรับคน” ฟังดูอาจจะงงๆ แต่ถ้ามองดูดีๆแล้วก็จะเข้าใจ ตราสัญลักษณ์หรือยี่ห้อคือสิ่งที่ทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกแล้วจำได้ว่าสินค้าตัวนี้เป็นยังไง แต่ถ้าเอาตราออกไป คนก็จำไม่ได้ และไม่สามารถตัดสินได้ว่าในกระป๋องนี้มีอะไรอยู่ เช่นเดียวกับความคิดของคนที่เวลาเราไปพบกับคนที่สัญชาตินี้ หรือนับถือศาสนานี้ เราอาจจะคิดไปเองว่าเขาเป็นยังไง แท้ที่จริงแล้วเรายังไม่ทันได้รู้จักเขาจริงๆเลย แคมเปญนี้สร้างโดย FP7 และ Memac Ogilvy ซึ่งเขาได้ทำหนังสั้นมาอีกเรื่องเพื่อเสริมเข้ากับแนวคิดนี้ โดยการนำเอาคนที่ไม่รู้จักกัน ต่างเชื้อชาติและศาสนา ต่างที่มา ต่างบุคลิกมาทานอาหารร่วมกันในความมืด ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนก็มองไม่เห็นกัน ทำได้แค่เพียงคุยกันเท่านั้น หัวข้อที่พวกเขาคุยกันก็มีหลากหลายตามประสาผู้ชายทั่วไป แต่เมื่อไฟเปิดขึ้นมา ทุกคนก็ได้เจอกับบุคคลที่พวกเขาคุยด้วยเมื่อกี้ ซึ่งก็ได้แก่ชายที่สักเต็มหน้า ชาย 2 คนที่ใส่ชุดอาหรับ และชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เปิดกล่องดู ซึ่งข้างในได้บรรจุโค้กกระป๋องที่ดีไซน์ใหม่โดยไม่มีโลโก้แล้วพวกเขาก็คิดถึงประโยค “ยี่ห้อมีไว้สำหรับกระป๋อง”…
-
ไอเดียเจ๋ง!! การโฆษณาของโค้กซีโร่ กับ “ป้ายโฆษณาโค้กแบบดื่มได้”
การโฆษณาเดี๋ยวนี้ถือว่าก้าวไกลมากๆ เลยล่ะ เนื่องจากเทคโนโลยีสมัยนี้ไปไกลกว่าที่คิด ช่วยทำให้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เกิดขึ้นได้จริงแล้ว อย่างเช่นเมื่อก่อนเห็นป้ายโฆษณาของกิน แล้วอยากจะให้มันโผล่ออกมากินได้จริงๆ ตอนนี้โค้กซีโร่สามารถทำได้แล้วล่ะ ทำให้ผู้คนมีส่วนร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของโฆษณาไปในตัวด้วย!! ไอเดียนี้ถือว่าเด็ดมากๆ อย่างเช่นเมื่อทวีตเป็นเสียงดื่มโค้ก อึก อึก อึก!! ก็ได้โค้กซีโร่ไปดื่มฟรีๆ หรือไม่ก็ทำท่าดูดน้ำโค้กจากป้ายโฆษณาจนหมดก็สามารถไปรับโค้กซีโร่ของจริงดื่มได้ฟรี เป็นการตลาดที่เจ๋งมากๆ เลยนะเนี่ย เห็นแบบนี้แล้วอยากให้มีป้ายโฆษณาแบบนี้ในประเทศไทยบ้างจัง เผื่อเดินๆ อยู่แล้วรู้สึกกระหายน้ำก็ดูดน้ำจากป้ายซะเลย ฮ่าฮ่า!! ที่มา : fooyoh