Tag: โซเชียล
-
สาวขอชาวเน็ต ตามหา “เพื่อนรักวัยเด็ก” ที่ไม่เจอกันกว่า 10 ปี จนสุดท้ายได้พบกันอีกครั้ง~
แม้หลายคนพูดว่าโซเชียลมีเดียและโลกออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนไร้ปฏิสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน แต่เหตุการณ์ต่อไปนี้กลับทำให้ผู้คนที่พรากจากกันนับสิบปีได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2018 ทวิตเตอร์ @briannacry หรือ Bri ได้โพสต์ภาพของตัวเธอเองในวัยเด็กกับเพื่อนสาวอีกคนหนึ่งที่เธอกล่าวว่าเป็น “เพื่อนรัก” ของเธอ แต่กลับต้องหายหน้าหายตากันไปนับตั้งแต่นั้น เรื่องราวเกิดตั้งแต่ปี 2006 และด้วยความที่ทั้งคู่ยังเป็นเด็ก จึงไม่มีการแลกข้อมูลติดต่อกันไว้ เครื่องเตือนความจำเดียวที่มีก็คือรูปภาพที่เธอทั้งสองถ่ายคู่กันเท่านั้น Bri (คนซ้าย) โพสต์ว่า… “เฮ้ทวิตเตอร์ ฉันได้เจอเด็กหญิงคนนี้ในงานอาหารค่ำบนเรือที่เกาะฮาวายเมื่อปี 2006 ในงานนั้นเราสนิทกันมาก ฉะนั้น ฉันจึงอยากให้ทุกๆ คนตามหา เพื่อนรัก ของฉันคนนนี้ เพราะฉันคิดถึงเธอมาก และอยากจะรู้ว่าปัจจุบันเธอเป็นอย่างไรบ้าง ช่วยรีทวีตต่อๆ กันไปให้ถึงเธอทีนะ” ปัจจุบันทวีตดังกล่าวมีผู้คนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม (ล่าสุดยอดรีทวีตกว่า 111,000 ครั้งแล้ว) และด้วยพลังของชาวเน็ตนี้เองทำให้เวลาผ่านไปเพียงครึ่งวัน เพื่อนสาวที่ Bri ตามหาก็ปรากฏตัว! โดยทวิตเตอร์ที่ชื่อว่า @heii_tree หรือ Heii โพสต์ภาพแสดงตัวเช่นกันว่า เธอนี่แหละคือคนที่ Bri ตามหา Heii โพสต์ว่า… “ได้ยินว่าเธอตามหาฉันอยู่ใช่ไหม~” …
-
10 อันดับ “เซเลบ” กับค่าตอบแทนที่ได้จากการโพสต์ ‘อินสตาแกรม’ เพียงโพสต์เดียว!!!
ใครว่า โซเชียลมีเดีย ไม่มีประโยชน์ สมัยนี้การเป็นเน็ตไอดอล หรือการที่โด่งดังบนอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถทำเงินได้มากมายมหาศาลขึ้นอยู่กับว่าเรานั้นโด่งดังขนาดไหน (วัดจากยอดผู้ติดตาม) หลายคนคงทราบกันดีว่าเว็บไซต์ Youtube นั้นเป็นแหล่งทำเงินชั้นยอด หลายคนจึงผันตัวเป็น ยูทูบเบอร์ กันมากมาย ขณะเดียวกัน Instagram เองก็ตอบแทนคุณไม่น้อยเลยหากคุณมีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน วันนี้เราลองไปชม 10 อันดับคนดัง ที่มียอดผู้ติดตามหลายล้าน ดูกันซิว่าเมื่อพวกเขาโพสต์ภาพบนอินสตาแกรมแต่ละที จะได้เงินมากมายมหาศาลขนาดไหน!! (จากน้อยไปมาก) 10. Kendall Jenner ยอดผู้ติดตาม: 93 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 16.3 ล้านบาท!! 9. Lionel Messi ผู้ติดตาม: 97 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 16.3 ล้านบาท (เท่ากับ Kendall) 8. Neymar da Silva Santos Junior ผู้ติดตาม: 100 ล้านคน รายได้ต่อหนึ่งโพสต์: 19.55…
-
หนูน้อย 12 ขวบถูก “แจ้งจับ” เพราะรับจ้างตัดหญ้า แต่ดันตัดไปโดนสนามหญ้าบ้านข้างๆ?
เมื่อเด็กๆ หันมาสนใจในการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แน่นอนว่าเด็กๆ เหล่านั้นควรได้รับคำชื่นชมและคำแนะนำที่จำเป็นให้เด็กๆ มีพฤติกรรมที่ดีอยู่เสมอ แต่เหตุการณ์นี้ หนูน้อยอายุ 12 ปี กลับต้องถูกผู้ใหญ่โทรแจ้งตำรวจเพราะเกิดข้อผิดพลาดขณะที่ทำธุรกิจรับจ้างตัดหญ้าหน้าบ้าน เจ้าหนูน้อย Reginald Fields วัย 12 ปี ได้เปิดธุรกิจรับจ้างตัดหญ้าที่ชื่อว่า Mr. Reggie Lawn และขณะที่กำลังตัดหญ้าให้กับบ้านของ Lucille Holt ที่อยู่ในรัฐโอไฮโออยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านของ Lucille ว่าเจ้าหนู Reggie ได้ตัดหญ้าไปถูกบางส่วนของสนามหญ้าหน้าบ้านของเขา แต่โชคดีที่ไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับเจ้าหนู เมื่อพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง Lucille จึงได้บันทึกเป็นภาพวิดีโอเอาไว้และโพสต์มันลงไปบนเฟซบุ๊ก ซึ่งภายหลังมีผู้เข้าชมจำนวนมากเลยทีเดียว เมื่อเรื่องราวถึงหูของชาวเน็ต นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กิจการของเจ้าหนู Reggie เป็นที่สนใจและโด่งดังไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ต ในคลิปวิดีโอจะได้ยินเสียงคุณ Lucille พูดว่า “ฉันคิดว่าฉันแบ่งเส้นเอาไว้ชัดเจนนะ ว่าส่วนไหนที่เป็นสนามหญ้าของบ้านฉัน บ้านนั้นโทรแจ้งตำรวจเพียงเพราะว่า เจ้าหนูดันตัดหญ้าไปถูกสนามหญ้าบ้านของเขา” “ใครกันที่ทำแบบนี้?” เธอถาม “ฉันโมโหมากในตอนนี้…
-
พลังโซเชียล… สาวทวีตให้คุณพ่อผู้พิการแค่ครั้งเดียว พลิกงานอดิเรกเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้!!
บางครั้งโลกโซเชียลก็สามารถสร้างเรื่องราวดีๆ ได้มากกว่าที่คุณคิด… เฉกเช่นเดียวกันกับเด็กสาววัย 17 ปี ที่ได้บังเอิญสร้างธุรกิจให้กับคุณพ่อผู้พิการของตัวเอง จากการแชร์โพสต์เพียงแค่โพสต์เดียวเท่านั้น!! คุณ Christopher Gonzales พ่อหม้ายลูกสองจากเมือง Las Vegas ที่ต้องกลายเป็นผู้พิการ เพราะเขาประสบกับอุบัติเหตุในขณะทำงานเป็นพนักงานที่ไซต์ก่อสร้างเมื่อหลายปีก่อน คุณ Christopher ได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังจากการตกลงมาจากตึกชั้น 5 ทำให้ร่างกายบางส่วนกลายเป็นอัมพาตไป จากการบาดเจ็บในครั้งนี้ทำให้เขาไม่สามารถทำงานอื่นๆ ได้ และต้องคอยรับเงินจากประกันสังคมเพียงอย่างเดียว อุบัติเหตุในครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของ Christopher มีเวลาว่างมากยิ่งขึ้น เขาเริ่มหันมาสนใจทำงานอดิเรกอย่างการวาดภาพ ทาสี และ งานไม้ในโรงรถแทน “วันหนึ่งผมเห็นภาพงานแกะสลักโลโก้แบรนด์กีฬา แล้วก็คิดขึ้นมาในใจว่า ‘แบบนี้เราก็ทำได้’ ผมก็เลยเริ่มลงมือทำมาตั้งแต่ตอนนั้น” Christopher เล่า พอเริ่มทำไปมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เริ่มมีผู้คนให้ความสนใจ โดยเริ่มแรกก็เป็นคนในครอบครัว จากนั้นเรื่องราวก็ถูกนำไปบอกต่อๆ กัน จนกลายเป็นอาชีพเล็กๆ ที่สร้างรายได้ต่อเดือนพอประทังชีวิต งานแต่ละชิ้นที่ Christopher ทำนั้น ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 9 ชั่วโมง เขาเล่าว่ามันค่อนข้างลำบาก…
-
หนุ่มผู้ยอมรับตัวตน กับอาการเสพติดเซลฟี่รุนแรง มีความสุขที่ได้ถ่ายรูปตัวเอง 200 รูปต่อวัน!!
การเซลฟี่ในยุคสมัยปัจจุบันกลายเป็นสิ่งที่ยอมรับไปโดยปริยายแล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะไปไหนหรือไปทำอะไร คนเราก็อยากจะถ่ายรูปตัวเองพร้อมกับสถานการณ์ ณ ตอนนั้น เพื่อนำมาแชร์ให้กับคนรู้จักได้รับรู้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ แต่คงไม่มีใครเซลฟี่รูปตัวเองแบบหนักหน่วงและต่อเนื่องได้เท่าพ่อหนุ่ม Junaid Ahmed วัย 22 ปีคนนี้แล้วล่ะ และที่หนักขนาดนั้นเป็นเพราะว่า เจ้าตัวเผยถึงจำนวนการเซลฟี่อยู่ที่ขั้นต่ำ 200 รูปต่อวัน!! Junaid Ahmed Junaid Ahmed อดีตนักศึกษาสาขาแฟชั่นและอดีตนายแบบ วัย 22 ปี จากเมืองปีเตอร์โบโรห์ ประเทศอังกฤษ มีความลุ่มหลงกับการเซลฟี่เป็นอย่างมาก โดยที่เขานั้นจะใช้เวลาเตรียมตัวเซลฟี่ประมาณ 3 ชั่วโมง ได้จำนวนรูปภาพอย่างต่ำหลัก 200 รูป จากนั้นจะคัดเลือกรูปที่ดูดีที่สุดและอัปโหลดสู่อินสตาแกรม เขาจะใช้เวลาแต่งหน้าทำผมหน้ากระจกก่อนเสมอ หลังจากนั้นก็จะทำการเซลฟี่อย่างต่อเนื่องทุกๆ วัน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้ติดตามในอินสตาแกรมกว่า 50,000 คน จะได้เห็นในสิ่งที่ตัวเองตั้งใจนำเสนอ ซึ่งนอกเหนือจากการแต่งหน้าแล้ว เขาก็ได้รับการผ่าตัดศัลยกรรมใบหน้าอีกหลายส่วนด้วย “เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมโพสต์รูปภาพไปแล้ว ภายใน 1 หรือ 2 นาทีแรกก็จะได้รับจำนวนไลก์เกิน…
-
คนผมแดงได้มีอีโมจิเป็นของตัวเองแล้ว พร้อมเปิดตัวอีโมจิใหม่อีกกว่า 150+ อันในปี 2018
ปัจจุบันนั้น ‘อีโมจิ‘ ถือเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของโลกออนไลน์ไปแล้วก็ว่าได้ เพราะบางครั้งการใส่แค่คำพูดเฉยๆ มันอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป ฉะนั้นการใส่ภาพน่ารักๆ เสริมไปมันจึงเป็นอะไรที่ดีกว่าจริงไหมละ แต่ปัญหาต่อมาคือ บางครั้งตัวอีโมจิมันก็ยังตอบโจทย์เราได้ไม่ครบเท่าไหร่ เช่นเราที่ทำผมสีแดงหรือเป็นคนผมแดงโดยกำเนิด มันกลับไม่มีอีโมจิที่มันตรงกับความเป็นเราซะอย่างนั้น ฉะนั้นด้วยเหตุนี้ทางผู้ผลิตก็เลยไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมปล่อยอัปเดตชุดใหม่มาให้เราได้ใช้กันแล้ว!! ไม่เพียงแต่อีโมจิผมแดงเท่านั้น ถ้าเกิดคุณเป็นคนผิวสีแล้วมีผมสีขาวแบบมอร์แกน ฟรีแมน หรือเป็นคนหัวล้านเจ้าอีโมจิชุดใหม่ก็มีให้คุณเลือกใช้เช่นกัน นั่นยังรวมไปถึงขาทั้งขาและเท้าก็มีให้เราเลือกใช้ด้วยนะ . นอกจากอีโมจิที่เป็นลักษณะต่างๆ ของคนแล้ว ทางผู้พัฒนายังเพิ่มอีโมจิอื่นๆ เข้าไปอีกมากกว่า 157 รายการ ฉะนั้นใครที่รู้สึกว่าที่มีอยู่ยังไม่ตอบโจทย์ก็รอดูเวอร์ชั่นใหม่กันได้เลย รับรองมีตัวเลือกให้ใช้อีกเพียบ!! ส่วนถ้าใครสงสัยว่าแล้วเมื่อไหร่จะได้ใช้อีโมจิชุดใหม่ บอกเลยว่าเราไม่ต้องรอนานเพราะตอนนี้ทางผู้พัฒนาก็ได้เริ่มทยอยปล่อยให้อัปเดตกันแล้ว ซึ่งพวกเขาคาดว่าผู้ใช้ระบบ iOS จะได้ใช้อีโมจิทั้งหมดภายในต้นปีนี้อย่างแน่นอน!! ใครที่อยากจะรู้ก่อนว่าอีโมจิทั้ง 157 แบบที่เพิ่มเข้ามามีอะไรบ้างนั้นก็สามารถเข้าไปดูได้ที่ emojipedia เลยจ้ากับอัปเดต 11.0 ที่มา unilad
-
สาวบอกเลิกกับแฟนหนุ่มหลังเปิด IG ไปเจอสาวแปลกหน้าอัพภาพวิวห้องนอนที่เดียวกันเป๊ะๆ
สื่อโซเชียลปัจจุบันนั้น เรียกว่าเป็นหนึ่งในสื่อที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเลยก็ได้ เพราะคนส่วนใหญ่ปัจจุบันล้วนใช้สื่อโซเชียลในการติดต่อพูดคุยแสดงออกสิ่งต่างๆ และแชร์ความทรงจำดีๆ ของตัวเอง ทว่าบางครั้งการแชร์อะไรโดยไม่นัดให้ดีก็อาจจะเป็นจุดจบของชีวิตได้ เพราะล่าสุดได้มีกระแสโซเชียลในรัสเซียเกี่ยวกับคู่รักคู่หนึ่ง ที่ภรรยาดันไปสังเกตเห็นภาพถ่ายของหญิงแปลกหน้าคนหนึ่ง แต่ภาพดังกล่าวดันเหมือนวิวจากห้องนอนของสามีแบบเป๊ะๆ !? ภาพเจ้าปัญหาที่ว่า Yulia Agranovych หญิงสาวเจ้าของเรื่องราวผู้อาศัยอยู่ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้เล่าว่าเธอได้ดูภาพในไทม์ไลน์ของอินสตาแกรมของแฟนหนุ่ม ซึ่งเขาได้ลงรูปภาพวิวยามค่ำคืนจากหน้าต่างห้องของเธอและเขา แต่ว่าเรื่องมันดันโป๊ะแตกก็ตรงที่ เธอดันไปสังเกตเห็นภาพของหญิงสาวอีกคนบนอินสตาแกรมเช่นกัน โดยใช้ชื่อว่า Vlada Abramovich ซึ่งภาพนั้นก็เหมือนภาพของสามีเธอเป๊ะๆ เลยล่ะ และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้น งานนี้ Yulia ถึงกับหัวร้อนสุดขีดตรงดิ่งไปตามสามีของเธอ Nazar Grynko ว่าเขานอกใจหรือเปล่า แน่นอนว่าคำตอบที่ได้คือไม่ได้นอกใจ เขาแค่ชวนเพื่อนสาวมาจิบชากันและอยู่ในห้องครัวเฉยๆ Yulia เลยตอบกลับเลยว่า “ถ้าแขกมาจิบชา มันต้องจิบอยู่ที่ห้องครัวไม่ใช่ห้องนอน!!” งานนี้เรื่องราวเลยบานปลายใหญ่โต จนหญิงสาวคนดังกล่าวต้องปิดแอคเคาท์อินสตาแกรมหนีไปในเวลาต่อมา แต่ในอีกสื่อโซเชียล เธอก็ออกมายอมรับกลายๆ ว่าเธอมีอะไรกับ Nazar จริงๆ งานนี้สองสาวจึงเกิดการปะทะคารมทันที โดย Yulia ถาม Vlada ว่า “เธอไม่รู้สึกผิดบ้างเหรอที่มีอะไรกับสามีคนอื่น” ด้าน Vlada ก็ตอกกลับมาว่า “เธอเป็นภรรยาของ Nazar แต่ฉันไม่ใช่ ฉะนั้นมันจะมีปัญหาอะไร…
-
ชาวเน็ตช่วยตามหาเด็กที่ถูกลักพาตัวไปจากโรงพยาบาล หลังเห็นข้อความบนโลกออนไลน์
สื่อโซเชี่ยลในปัจจุบันเรียกว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากๆ แน่นอนว่าถ้าใช้ในทางที่ผิดมันก็จะเป็นเครื่องมืออันชั่วร้าย แต่ถ้าใช้ในทางที่ถูกมันก็จะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้อย่างน่าอัศจรรย์แม้จะไม่รู้จักกันก็ตาม เช่นเดียวกับเรื่องราวในครั้งนี้ เมื่อ Mélissa McMahon และ Simon Boisclair สองสามีภรรยาที่เพิ่งจะให้กำเนิดลูกน้อย Victoria ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองควิเบก ประเทศแคนาดา แต่แล้วไม่กี่ชั่วโมงต่อมาลูกน้อยของพวกเขาก็ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!? Daniel Cossette ผู้เป็นลุงของหนูน้อย Victoria เล่าว่า เขาเห็นพยาบาลคนหนึ่งเดินออกไปยังทางเดินพร้อมกับอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งโดยเธอใส่เครื่องแบบของโรงพยาบาล เลยทำให้ตัวเขาไม่ได้สงสัยอะไรว่าเด็กคนนั้นอาจจะเป็นหนูน้อย Victoria แต่เมื่อทั้งหมดรู้ว่าลูกของ Mélissa และ Simon ได้หายไป ทางโรงพยาบาลจึงรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อช่วยตามหาหนูน้อย Victoria ทันที นอกจากนี้ ตัวคุณพ่อก็ได้โพสต์ภาพลูกสาวบนโซเชี่ยลเผื่อว่าจะมีใครบังเอิญเห็นคนร้ายและสามารถช่วยพวกเขาตามหาได้ เชื่อไหมว่าคนกลุ่มแรกที่ยื่นมือเข้ามาช่วยนั้นคือ Mélizanne Bergeron และเพื่อนๆ ซึ่งเป็นวัยรุ่นอายุราวๆ 20 ปีเท่านั้น เธอเล่าว่าบังเอิญเห็นข้อความผ่านหน้าเฟซบุ๊กของพวกเขา จึงตัดสินใจทันทีว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง ทุกคนจึงช่วยกันออกตามหาคนร้ายอย่างเร่งด่วน เวลาผ่านไปไม่นานพวกเขาก็พบว่ามีรถโตโยต้ายาริสสีแดง พร้อมกับป้าย ‘มีเด็กบนรถ’ วิ่งผ่านไปด้วยท่าทีน่าสงสัย ทุกคนจึงพากันค้นกล้องวงจรปิดเพื่อหาเจ้าของรถ และพวกเขาก็พบกับโฉมหน้าของคนร้าย ที่เยี่ยมกว่านั้นคือพวกเขาจำได้ว่า หญิงคนในภาพดังกล่าวนั้นเป็นเพื่อนบ้านของพวกเขาซึ่งอาศัยอยู่ในอพาตเมนต์ใกล้ๆ ทั้งหมดจึงรีบแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที และเจ้าหน้าที่สามารถจับคนร้ายได้ในที่สุดพร้อมส่งคืนหนูน้อย Victoria ให้กับพ่อแม่ของเธอ…
-
20 ภาพบนโลกโซเชียล กับเบื้องหลังที่ทำให้เราได้รู้ว่า โลกเรามีสองด้านเสมอ…
บนโลกโซเชียล ทุกคนสามารถนำเสนอสิ่งต่างๆ ได้อย่างอิสระเพื่อให้เพื่อนในสังคมออนไลน์รู้จักเราได้มากขึ้น (เท่าที่เราต้องการ) แต่สิ่งที่แสดงออกมาก็ไม่ได้เป็นเรื่องจริงทั้งหมดเสมอไปหรอกนะ เพราะหลายคนที่ต้องการให้มียอดไลก์เยอะๆ พวกเขาก็พร้อมที่จะใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูเพอร์เฟคท์มากที่สุด ด้วยวิธีการที่บางทีเราอาจคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เราลองไปดูตัวอย่างเหล่านี้กันว่าความจริงกับสิ่งที่เราเห็นมันต่างกันมากเพียงใด มีความเซ็กซี่ที่ใบหน้า บางทีก็อยากจะมีไม้เซลฟี่เป็นของตัวเองบ้าง ต้นไม้ในหน้าร้อนนี่มันช่างน่าหลงใหลเสียเหลือเกิน เก็บตังมาทั้งปี ในที่สุดผมก็ได้มาเที่ยวดูไบแล้ววว ความอึ๋มที่ไม่ต้องผ่านมีดหมอ แต่ขอแค่ผ่านมือเพื่อน แล่นเรือออกไปยามอาทิตย์อัสดงช่างโรแมนติกเสียจริง ห้องครัวใหม่ไฉไลกว่าเดิม แต่จะทำกับข้าวทีนึงก็ต้องขับรถมาห้างก่อนนะ เขาคงมีความสุขมากที่ได้ออกไปเที่ยวกับสุดที่รัก แฮมเบอร์เกอร์ใหญ่ขนาดนี้ ใครจะไปกินหมดกันละ โต๊ะทำงานใหม่ริมชายหาด ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นเยอะ ถ้าตกลงไปนี่พิการแน่นอน เป็นบั้นท้ายที่เนียนสวยอย่างกับตูดเด็ก เจ้าหมาตัวนี้เก่งจริงสามารถลงไปเดินบนหน้าผาสูงชันได้ด้วย น้องหมาที่ได้รับรางวัลมา 4 สมัยติดต่อกันแล้ว บางครั้งก็อยากจะออกไปนอนเล่นท่ามกลางธรรมชาติบ้าง การเป็นบล็อกเกอร์อาหารไม่ใช่เรื่องง่ายเลย วันนี้ผมได้นั่งเครื่องกับสาวผมบลอนด์มัดจุกด้วยแหละ เธอน่ารักมากเลย จู่ๆ เธอก็อารมณ์ดีเดินไปสูดความเขียวขจีอยู่ริมรั้ว มัลดีฟ…
-
เมื่อคุณแม่เห็นภาพตัวเองถูกแชร์ไปด่าสนั่นโซเชียล เลยตอกกลับด้วยความจริง จนชาวเน็ตเงิบ
ทุกวันนี้โลกโซเชียลน่ากลัวกว่าที่คิดที่เยอะ เพราะผู้คนสามารถแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เห็นบนสื่อออนไลน์ได้อย่างกว้างขวาง โดยที่บางคนยังไม่ทันรู้ความจริงด้วยซ้ำ เหมือนอย่างกรณีของคุณแม่คนนี้ที่ถูกถ่ายรูปแล้วเอาไปโพสต์ในสื่อออนไลน์ จนทำให้เธอถูกชาวเน็ตด่าสนั่นโซเชียลอย่างเสียๆ หายๆ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าคุณแม่แต่ละคนอาจจะมีวิธีเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนก็รักลูกเสมอ เช่นเดียวกับ Molly Lensing ที่มีแผนการเลี้ยงลูกในแบบของตัวเอง โดยเธอมีวิธีจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ที่บางคนอาจไม่เห็นด้วย กระทั่งวันหนึ่งขณะที่เธออยู่ในสนามบินและได้วางลูกน้อยนอนกับพื้น โดยปูผ้าไว้ให้ ซึ่งเธอคงมีเหตุผลที่ทำแบบนั้น แต่มีบางคนไม่เข้าใจ จึงได้แอบถ่ายรูปเธอ ก่อนจะนำไปโพสต์ลงในโลกออนไลน์ คนที่เผยแพร่ภาพดังกล่าวไม่ได้ถาม Molly สักคำว่าทำไมถึงให้ลูกนอนพื้นแบบนั้น แต่กลับไปโพสต์รูปพร้อมแคปชั่นที่คิดขึ้นมาเอง และแน่นอนว่ามันทำให้เธอถูกชาวเน็ตรุมด่าอย่างรุนแรง Molly ไม่รู้เลยว่าภาพดังกล่าวถูกแชร์ไปด่าในโลกโซเชียล กระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือน และภาพนั้นถูกแชร์ไปมากกว่า 60,000 ครั้งแล้ว เธอก็เพิ่งจะรู้ตัว… ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ใต้ภาพของเธอนั้นมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่จะออกไปทางด่าทอซะมากกว่า ต่อมา Molly ได้ออกมาเผยความจริงเกี่ยวกับภาพนั้นว่า “คำพูดทั้งหมดเหล่านั้นไม่เป็นความจริงเลย วันนั้นฉันอุ้มลูกสาว Anastasia เป็นเวลาหลายชั่วโมง จนแขนเริ่มล้า” “แต่การอุ้มในอ้อมแขนนานๆ จะทำให้เด็กนอนไม่สบาย เธอจำเป็นต้องนอนในพื้นที่กว้างกว่านี้ เพื่อที่จะได้ยืดแขนยืดขา และฉันเองก็ต้องติดต่อกับญาติๆ เพื่อบอกพวกเขาว่าเราอยู่ที่ไหน” เธอยังบอกอีกว่าการอยู่ในสนามบินนานๆ มันก็เครียดพออยู่แล้ว แต่นี่เธอต้องอุ้มลูกวัย 2 เดือนไว้ตลอดเวลา…
-
หญิงสาวโชว์ให้เห็นถึงวิธีการปลอมหุ่นลงโซเชียล ‘ก่อนหลังลดน้ำหนัก’ แบบเนียนๆ
เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็หันมาฟิตหุ่นให้เฟิร์มดูดีกันทั้งนั้น แต่กว่าจะทำได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จึงไม่แปลกที่หลายคนเมื่อทำสำเร็จแล้วจึงมักจะมีการถ่ายรูปอวดโซเชียล แต่ก็นั่นแหละ ใช่ว่าทุกอย่างที่อยู่บนโซเชียลจะเป็นความจริงเสมอไป บางคนตัวจริงเป็นอีกอย่างแต่ลงรูปในอินเตอร์เน็ตอีกอย่าง อาจจะมีการใช้มุมกล้องบ้าง แต่งรูปบ้าง หรือทริคอื่นๆ ตามที่สรรหามาทำได้ ด้วยเหตุนี้บล็อกเกอร์ฟิตเนสอย่าง Madalin Giorgetta จึงได้ออกมาเตือนผู้คนว่า ‘อย่างหลงเชื่อทุกอย่างที่คุณเห็นบนโซเชียล’ ด้วยการทำบางอย่างให้ดู เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Giorgetta ได้โพสต์วิดีโอลงในอินสตาแกรมของเธอ ซึ่งเธอได้ทำให้เห็นกันจะๆ ว่าการขยับกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อยก็สามารถเปลี่ยนรูปร่างของคุณได้อย่างเหลือเชื่อ อีกเหตุผลหนึ่งที่หญิงสาวเผยแพร่คลิปดังกล่าวเพราะเธอเป็นคนที่ชอบลงรูปหุ่นตัวเองในอินสตาแกรม จนหลายคนหาว่าเธอใช้โฟโต้ช้อปในการตัดต่อรูปตัวเองบ้าง หาว่าเป็นภาพปลอมบ้าง ทั้งๆ ที่ทั้งหมดนั้นคือรูปร่างของเธอจริง แต่แทนที่หญิงสาวจะอธิบายเป็นคำพูดให้พวกเขาฟัง เธอเลือกที่จะถ่ายวิดีโอ โดยทำให้ทุกคนเห็นว่าหุ่นที่แท้จริงเป็นยังไง และการสร้างหุ่นปลอมๆ นั้นทำยังไง หญิงสาวบอกว่า “หุ่นของฉันมันสามารถขยายออกและลดลงได้ตลอดเวลา เพราะฉันไม่ใช้รูปปั้น” โพสต์ของ Giorgetta ได้สร้างความตระหนักให้ผู้คนได้ดีมาก ในเรื่องความน่าเชื่อถือของข้อมูลบนโลกออนไลน์ และที่สำคัญคือไม่มีร่างกายของใครจะดูเหมือนเดิมตลอดเวลา ทุกอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเสมอ คลิปที่หญิงสาวแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จากการขยับกล้ามเนื้อเพียงเล็กน้อย ที่มา thisisinsider
-
สรุป 6 ข้อจากประชุม “ปฏิรูปการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย” ลงทะเบียนต้องสแกนลายนิ้วมือ-ใบหน้า!!
กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่ววงการสื่อ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2560 ที่ประชุมสภาขับเคลื่อนปฎิรูปประเทศ (สปท.) มีมติเห็นชอบการรายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เรื่องผลการศึกษาและข้อเสนอแนะการปฏิรูปใช้สื่อโซเชียลมีเดีย และในการรายงานดังกล่าวได้มีการเสนอให้แต่งตั้ง ‘คณะกรรมการขับเคลื่อนการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์’ ซึ่งจะคอยจัดทำแผนนโยบายส่งเสริมการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หลังจากที่มีการประกาศผลรายงานดังกล่าวออกมา ก็กลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกโซเชียล ด้วยเหตุนี้เราจะขอสรุปใจความสำคัญจากเกี่ยวกับแนวการปฏิรูปจากผลการรายงานดังกล่าวแบ่งออกเป็นข้อๆ ดังนี้ 1. การเพิ่มมาตรการจัดระเบียบลงทะเบียนมือถือโดยเฉพาะระบบเติมงน กสทช. มีแผนที่จะใช้ลายนิ้วมือ ควบคู่การลงทะเบียนโทรศัพท์มือถือด้วยบัตรประชาชน โดยจะเน้นไปที่การบังคับใช้ในพื้นที่ๆ มีเหตุการณ์ความรุนแรงโดยเฉพาะสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้ง กสทช. ได้เสนอให้บริษัท Operator หาวิธีการจัดเก็บรูปภาพของผู้ลงทะเบียนซิมด้วยเช่นกัน 2. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ควรมีมาตรการเสริมในการจำกัดขอบเขตการใช้งานโทรศัพท์มือถือ เฉพาะที่ กสทช. ได้เสนอให้บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ต ประสานงานและร่วมมือกันกำหนดพื้นที่ของหมายเลขใช้งานนั้นๆ (เน้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้) และหากผู้ใช้งานมีการเดินทางข้ามเขตพื้นที่ควรให้มีระบบแจ้งเตือน 3. จัดตั้งศูนย์กลางบริหารจัดการข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ เสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์กลางเพื่อเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ในความครอบครองของผู้ให้บริการ (Operator) อีกทั้งเพื่อเป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่นการสืบสวนข้อมูลเพื่อคดีทางอาญาเป็นต้น 4.…
-
ศิลปินนำเสนอ “ความจริง” ของภาพอาหารสวยๆ ในเน็ต เบื้องหลังมันวุ่นวายกว่าที่คิด
ถ้าใครจำได้ ทางสำนักข่าวแมวเหมียวของเราเคยนำเสนอประเด็น “ความจริง” กับ “สิ่งที่เห็น” บนโซเชียลไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งทำให้เราได้รู้ว่า ความจริงแล้วภาพแนวสโลวไลฟ์บนโซเชียล อาจไม่ได้สวยงามอย่างที่เราเห็นกัน คราวนี้เป็นอีกกครั้งที่ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชม “ความจริง” ของห้องครัวบนโซเชียล ที่ความจริงแล้วอาจไม่ได้สมบูรณ์แบบงดงามขนาดเหมือนที่ถ่ายออกมาบนอินสตาแกรมเลย โดยผลงานของชิ้นนี้เป็นแคมเปญจากเว็บไซต์ Wren Kitchens ที่ต้องการทำให้เห็นว่ากว่าจะมาเป็นภาพสวยๆ บนไอจีให้เราเห็น มีอะไรอยู่เบื้องหลังบ้าง Wren Kitchens บอกว่า ‘หลายครอบครัวพยายามทำให้โลกเห็นว่าพวกเขาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำอาหารและการใช้ชีวิต พวกเราจึงอยากให้พวกเขาแสดงให้เห็นว่า แท้ที่จริงแล้ว ภาพอันแสนดูดีเหล่านั้น มีเบื้องหลังเป็นอย่างไร’ แต่ละภาพนั้นผ่านการใส่ฟิลเตอร์ แต่งสี และตัดภาพบางส่วนออก จนเหลือเพียงความสวยงามที่อยากจะนำเสนอเท่านั้น ลองไปชมภาพอื่นๆ กัน แล้วเพื่อนๆ คิดว่าจริงอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า . . สารภาพกันซะดีๆ ว่าใครเคยทำแบบนี้บ้าง…. ทีนี้เห็นภาพอะไรบนโซเชียลก็อย่าเพิ่งเชื่อนะ บางทีอาจมีการตกแต่งดัดแปลงโดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้าแบบนี้ก็เป็นได้ (ฮา) ที่มา Wrenkitchens
-
หญิงสาวย้ำเตือน “ทำไมถึงไม่อยากให้พ่อเล่นเฟซบุ๊ก” หลังพ่อแชร์รูปนางเอกหนังโป๊!?
จะว่าไปแล้วไม่ใช่แค่คนรุ่นใหม่อย่างเราๆ เท่านั้นหรอกที่ติดโซเชียลเป็นชีวิตจิตใจ เพราะอันที่จริงคนรุ่นพ่อรุ่นแม่เรา เมื่อได้สัมผัสกับนวัตกรรมแห่งโลกอนาคตแล้ว พวกเขาก็ติดมันงอมแงมไม่แพ้กัน และด้วยสไตล์การเล่นโซเชียลมีเดียของคนรุ่นเก่า บ่อยครั้งเราะจะได้เห็นผู้ใหญ่ส่งภาพดอกไม้ให้กันในเช้าวันจันทร์ แชร์เรื่องที่มันเก่ามากตั้งแต่สมัยอีเมล์ หรือบางทีพวกเขาอาจจะเผลอแชร์ เผลอแสดงความคิดเห็นใส่รูปโป๊โดยไม่ทันได้รู้ตัว!? เช่นเดียวกับคุณพ่อของ Ashley หญิงสาวชาวเน็ตที่ออกมาแชร์ประสบการณ์ ว่าทำไมลูกๆ ควรดูแลการใช้สื่อโซเชียลของผู้หลักผู้ใหญ่ให้ดี… เพราะวันหนึ่งเธอดันไปสังเกตเห็นพ่อของเธอแชร์ภาพนางเอกหนังโป๊ พร้อมกับติดแคปชั่นว่า ‘ป๋าอยากจะเจี๊ยะหนูซะคืนนี้เลย นะหนูจ๋าา’ แน่นอนว่าพวกของเขาไม่ทันได้รู้ว่า นั่นคือการโพสต์แบบสาธารณะ ทุกคนจะเห็นข้อความดังกล่าว ซึ่งจะว่าไปแล้ว…มันก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ เธอจึงไปเม้นท์เตือนพ่อของเธอว่า ‘พ่อรู้รึเปล่า? ที่พ่อโพสต์ข้อความเนี่ย คนอื่นเค้าเห็นหมดเลยนะ!’ หลังจากที่เธอเอาประสบการณ์เรื่องนี้มาแชร์บนทวิตเตอร์ส่วนตัว ชาวเน็ตทั้งหลายต่างก็แห่กันเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้กันยกใหญ่… ‘โถ่ววพ่อ บางทีเราอาจจะต้องมาคุยกันเรื่องการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนเฟซบุ๊กบ้างนะ’ ‘พ่อผมก็เป็นเหมือนกันเลยแฮะ บางทีพวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันมีเรื่องสาธารณะบนโลกโซเชียลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย’ ‘พ่อตาผมก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกัน’ นี่อาจเป็นหน้าที่ของลูกที่ต้องคอยดูแลพวกเขาให้ดีๆ ไม่งั้นมีเงิบแน่นอน ที่มา: Buzzfeed
-
รู้จักเจ้างูน้อย “Snakey” รักการนอนเป็นชีวิตจิตใจ น้องไม่ดุแต่เฟรนด์ลี่มาก!!
“งู” เป็นสัตว์ที่ใครต่อใครก็มองว่าอันตราย และคนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับมันสักเท่าไหร่ นั่นอาจจะเป็นเพราะรูปลักษณ์ภายนอกของมันที่ดูไม่มุ้งมิ้งเหมือนกับหมาแมว แถมบางชนิดก็มีพิษร้ายแรง หากโดนมันฉกเข้าเมื่อไหร่อาจะถึงตายได้ แต่ถ้าหากคุณได้รับชมภาพของ Snakey ลูกงูหลามที่เราจะมาแนะนำให้รู้จักในวันนี้ละก็ บางทีมันอาจจะทำให้คุณเริ่มหันมาชื่นชอบงูขึ้นมาก็เป็นได้ เพราะเจ้า Snakey ตัวนี้มันทั้งน่ารัก และเป็นมิตรมากๆ เลยละ และนี่คือโฉมหน้าของ Snakey เจ้างูน้อยหน้าตามุ้งมิ้งนั่นเอง สำหรับ Snakey มันเป็นงูเพศผู้ อายุ 4 ปีที่ชื่นชอบการผจญภัยเอามากๆ อีกทั้งเวลาว่างๆ ก็ชอบงีบหลับเป็นที่สุด หรือบางทีก็ชอบเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจในที่มืด บางครั้งก็พยายามจะหลบหนี ฮร่าๆ นอกจากจะชื่นชอบการนอนแล้วมันยังรักการกินอีกด้วย มันเป็นงูที่น่ารักมากๆ หากใครลองเข้าไปส่องในเฟสบุ๊คของมันจะเห็นว่าเจ้า Snakey มักจะมาพร้อมกับแฟชั่นหมวกสุดกิ๊บเก๋อยู่เสมอ งานนี้ต้องขอยกให้มันเป็นกูรูด้านแฟชั่นหมวกตัวจริงซะแล้ว หน้าตาจิ้มลิ้มไหมละ วันนี้มาพร้อมกับหมวกรูปไก่ ปาร์ตี้ด้วยกันไหมละ เราชื่นชอบวันคริสมาสต์ที่สุดเลย มากับหมวกซานตี้ใบจิ๋ว แบบนี้ก็ดูเท่ไม่เบา อยากเป็นพ่อมดจัง…
-
หนูน้อยชาวไต้หวัน จัดเต็มในชุด “ปีศาจไร้หน้า” ไปโรงเรียน สมจริงจนเพื่อนร้องไห้
หลังจากที่ทางเฟสบุ๊ค 艾摩妞的萌寶&咩寶 ได้เผยภาพพร้อมคลิปวีดีโอของ MengMeng หนูน้อยชาวไต้หวัน ที่ถูกพ่อแม่จับมาแต่งตัวเป็น No-Face (Kaonashi) ปีศาจไร้หน้า จากการ์ตูนเรื่อง Spirited Away ของค่าย Studio Ghibli เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ได้กลายเป็นกระแสฮือฮา ที่ได้รับความสนใจจากบรรดาชาวเน็ตเป็นอย่างมากเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากหนูน้อยจะแต่งองค์ทรงเครื่องได้ค่อนข้างเหมือนเจ้าผีไร้หน้าแล้ว เธอยังทำหน้านิ่งเหมือนตัวการ์ตูนตัวนี้ไม่มีผิด ฮร่าๆ ช่างน่ารักน่าเอ็นดูซะจริงๆ และนี่คือภาพต้นฉบับของ No-Face (Kaonashi) ปีศาจไร้หน้านั่นเอง ส่วนนี่คือหนูน้อยคอสเพลย์ ผู้ที่โด่งดังไปชั่วข้ามคืน กำลังยืนอยู่ท่ามกลางเพื่อนๆ คนอื่นๆ ที่แต่งตัวเป็นตัวการ์ตูนทั่วๆ ไป งานนี้ด้วยความที่มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครเลย จึงทำให้หนูน้อยคนนี้กลายเป็นจุดเด่นในกลุ่มเพื่อนไปเลยละ ด้วยความน่ารักน่าชังของ MengMeng ทำให้บรรดาชาวเน็ตอดใจไม่ไหว พากันกระหน่ำแชร์ภาพของหนูน้อยบนเฟสบุ๊คของคุณแม่กันไปเป็นจำนวนมาก แหมๆ ดังใหญ่แล้วนะหนู นอกจากนี้ คุณแม่ยังได้เผยภาพของลูกสาวในตอนนี้เธอไม่ได้แต่งเป็นผีไร้หน้า บอกเลยว่าน่ารักสุดๆ จนบางทีก็แอบสงสัยว่านี่ใช่คนๆ เดียวกันหรือเปล่าเนี่ย …
-
Brother Cream แมวเซเลปสุดเท่ในฮ่องกง แฟนคลับตามเป็นแสน มีผลงานในวงการเพียบ!!
จะว่าไปเส้นทางไปสู่การเป็นแมวเซเลปนี่ก็ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะ บางตัวกว่าจะดังก็ต้องรอเวลาให้คนมาชื่นชอบ บางตัวแค่เห็นหน้าก็ทำให้หลายๆ คนหลงใหลจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว เหมือนดังเช่น Brother Cream แมวพันธุ์ British Shorthair ที่มีขนสีขาวและสีครีม หน้าตาสะอาดสะอ้านตัวนี้ มันได้กลายเป็นซุปตาร์แมวที่โด่งดังที่สุดในฮ่องกง เพียงเพราะมีหน้าตาอึนๆ มึนๆ แค่เนี๊ยะ!! เจ้า Brother Cream อาศัยอยู่ ณ ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในย่านจิมซาจุ่ย มันเป็นแมวที่มีลักษณะค่อนข้างอวบ ตัวกลม หัวกลม ใบหน้านิ่งๆ แต่จะว่าไปก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย ซึ่งตลอดเวลาที่ได้อาศัยอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ Brother Cream มักจะชอบโชว์ความน่ารักของมันให้ลูกค้าได้เห็นอยู่เสมอ และแน่นอนว่าใครๆ ต่างก็รัก และเอ็นดูมันเป็นอย่างมาก ถึงขั้นมีคนสร้างแฟนเพจใน Facebook ให้เลยทีเดียว กระทั่งเมื่อปี 2012 หลังจากที่ Brother Cream โด่งดังจนกลายเป็นเซเลปเหมียวในฮ่องกงที่ไม่มีใครรู้จัก มันกลับถูกลักพาตัวไปซะอย่างนั้น โอ้วววว แล้วจะทำอย่างไรดีละเนี่ย การหายตัวไปกว่า 26…
-
Ditology โปรเจคสุดเจ๋ง ‘ทำนิ้วให้เป็นรูปหน้าคนดัง’ สะท้อนสังคมยุคดิจิตอล
ในโลกดิจิตอลนี้ ต้องยอมรับว่า เราอยู่กับเครื่องมือสื่อสารมากกว่าอยู่กับคนรอบข้างซะอีก เราติดต่อคุยกันผ่านทางสื่ออำนวยความสะดวก แต่ไม่ได้หันหน้ามาคุยกันตรงๆ บางทีสิ่งเหล่านี้อาจสร้างความห่างเหินให้เราอย่างไม่รู้ตัว หรือบางที เราเองไม่ได้แสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของเรากับคนที่คุยด้วย ศิลปินชาวอิลาลีคนหนึ่งที่มีฉายาว่า ‘Dito ผู้อยู่เบื้องหลังนิ้ว’ ซึ่งมาจาก Dita Von Teese ที่เป็นไอคอนตัวตลกและซ่อนตัวได้เก่งมากตัวหนึ่ง โดยเค้าได้สร้างรูปการ์ตูนเป็นรูปหน้าคนดังทั้งหลาย ที่อยู่ในวงการข่าว ประวัติศาสตร์ ศิลปะ การเมือง และอื่นๆ อีกมากมาย ภายใต้โปรเจค Ditology เพื่อแสดงให้เห็นภาพที่อยู่เบื้องหลังนิ้วของเรา Magritte โปรเจคนี้เกิดขึ้นในปี 2009 เมื่อเค้าได้เริ่มเล่น Facebook ครั้งแรก และทำให้เค้ารู้สึกว่า คนเรามักจะอยู่ในโลกโซเชียลเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นโลกที่สามารถแสดงความคิดหรือความรู้สึกได้อย่างอิสระ แต่บางทีสิ่งเหล่านี้ก็ปกปิดความเป็นตัวตนของเรา คือ เราอยากให้คนอื่นมองเราแบบไหน เราก็ทำตัวแบบนั้นในโลกโซเชียล ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว อาจจะไม่ใช่อย่างนั้น โดยเฉพาะกับเหล่าคนดังทั้งหลาย ผลงานของเขาโด่งดังไปทั่วโลก และมีการเผยแพร่ทางวิทยุ โทรทัศน์ สื่อออนไลน์ และตามหน้าหนังสือพิมพ์รวมทั้งหนังสือต่างๆ ด้วย โมนา ลิซ่า เหล่ามินเนี่ยน ไมเคิล…
-
เพจล้อเลียนสุดฮา สมมติว่า Avengers เล่นเฟซบุ๊ค พวกเขาจะคุยเรื่องอะไรกันบ้าง!?
นอกจากเฟสบุ๊คจะถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารในชีวิตประจำวันแล้ว เรายังเห็นว่ามีหลายๆ คน ใช้เฟสบุ๊คเป็นช่องทางในการ “ปล่อยของ” ของตนเอง อย่างเช่นเพจที่ #เหมียวอ๊อดโด้ นำมาเสนอวันนี้ รับรองว่าฮาสุดๆ หยุดไม่อยู่อย่างแน่นอน เพจนี่มีชื่อว่า “Social เฮ ฮา” ก่อตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมานี้เอง ด้วยความสร้างสรรค์ในการหยิบเรื่องราวต่างๆ ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบันมาแซว โดยใช้พื้นหลังเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์คยอดฮิตอย่าง “เฟสบุ๊ค” ทำให้ตอนนี้ยอดไลค์พุ่งไปถึง 50,000 คนไปแล้ว ลองไปดูที่เขาแซวหนังเรื่อง Captain America กันดีกว่า . . . . นอกจากทีม Avengers แล้ว บอลยูโรก็โดนกับเค้านะ วรรณคดีไทยก็ไม่เว้น บอลไทยก็มีนะจ๊ะ ใครชื่นชอบก็ลองไปกดติดตามได้ที่เพจ “Social เฮ ฮา” ได้เลยนะจ๊ะ…
-
ไม่ได้กินก็อ้วน!? ผู้เชี่ยวชาญเผยอปากบอก การส่องสมาร์ทโฟนก่อนนอนก่อให้เกิดความอ้วน
ความอ้วนเป็นสิ่งที่หลายคนเกรงกลัว ไม่อยากจะให้มันเข้ามาในชีวิต ทำอะไรนิดๆ หน่อยๆ ก็อ้วนแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการกินที่หักห้ามใจกันไม่ได้ ก็เพราะมันอร่อยแต่มันทำให้อ้วนนี่สิ ยิ่งกินตอนดึกยิ่งทำให้อ้วนหนักมากขึ้น!! แต่รู้มั้ยว่า สาเหตุของความอ้วนในยุคสมัยนี้ นอกจากการกินแล้วก็ยังมีอีกสิ่งที่หนึ่งที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่ามันจะทำให้อ้วนได้เหมือนกัน นั่นก็คือ การเล่นสมาร์ทโฟนในช่วงเวลาก่อนนอน อะไรนะ!? มันเป็นไปได้จริงๆ เหรอเนี่ย ศาสตราจารย์คลินิกจิตเวช Dr. Daniel Siegel ได้อธิบายไว้ในคลิปวิดีโอสั้นๆ ว่าผลกระทบของการเล่นสมาร์ทโฟนก่อนนอนนั้นส่งผลกระทบต่อสมองและร่างกายเป็นทอดๆ ซึ่งเมื่อเราเริ่มจ้องไปที่สมาร์ทโฟนปุ๊บ กระแสของโฟตอนจะส่งสัญญาณไปถึงสมองให้ตื่นตัวตลอด และแสงจากจอก็จะกระตุ้นให้สมองยับยั้งการหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนิน (ฮอร์โมนที่ทำให้หลับลึก) เพราะว่ายังไม่ถึงเวลานอน ยิ่งเลื่อนหน้าจอดูฟีดจากโซเชียลมีเดียต่างๆ มากเท่าไหร่ ก็เหมือนกับว่าบังคับให้ร่างกายตื่นตัวมากเท่านั้น ทำให้การนอนหลับพักผ่อนในตอนกลางคืนไม่เพียงพอ ถ้าคุณนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมง เซลล์เกลียในร่างกายจะไม่สามารถกำจัดสารพิษออกไปจากเซลล์ประสาทได้ จากนั้นก็จะไปกระตุ้นให้ระดับอินซูลินในร่างกายเพิ่มขึ้น โดยปกติอินซูลินในระดับที่พอเหมาะนั้นจะช่วยควบคุมการเผาผลาญของร่างกาย แต่ถ้าหากว่ามีมากเกินไปจะให้ผลที่ตรงกันข้าม นั่นหมายถึงหากว่าเรานอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ระดับอินซูลินที่เพิ่มสูงจะทำให้น้ำหนักตัวเราเพิ่มขึ้น อีกทั้งความเหนื่อยล้า ความเพลียที่นอนไม่พอนั้นจะทำให้เราหิวมากขึ้น และเมื่อกินอาหารเข้าไปทั้งๆ ที่นอนน้อย ระบบการเผาผลาญไม่สามารถทำงานได้เต็มที่…
-
จิกกัดเล็กๆ แสบนิดๆ ภาพการ์ตูนสะท้อนลักษณะนิสัยของคนเราจากการใช้โซเชียล!!
ทุกวันนี้ อะไรหลายๆ อย่างมันถูกเชื่อมกันไว้หมดแล้ว และแทบจะทุกคนจะต้องใช้งานมันบ้าง เพื่อติดต่อเพื่อนสนิท คนรู้จัก หาเพื่อนใหม่ หรือหาอะไรบันเทิงใจเพื่อรับชม และตั้งแต่การมาของสังคมออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น มันทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหน ศิลปินชาวอังกฤษนามว่า Joe Stone จึงได้วาดการ์ตูนแก็กเล็กๆ สะท้อนให้เห็นลักษณะนิสัยการเสพติดโลกโซเชียลอย่าง Facebook นั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตคนเรายังไงบ้าง รอตอบแชทไปชั่วนิรันดร เบื่อก็เปิด Facebook ดู พอเปิดดูแล้วก็เบื่อ วนเวียนไปเรื่อยๆ คนเราทำได้หลายอย่าง มีคู่สนทนาอยู่ตรงหน้า แต่ให้ความสำคัญกับคนในจอมากกว่า แสดงสีหน้าและอารมณ์ในแชทได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ แค่มีอินเทอร์เน็ต โลกทั้งใบก็อยู่ในมือแล้ว จะไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป ที่มา : ufunk, designtaxi
-
7 ภาพวาดเสียดสี “โลกโซเชียลมีเดีย” ที่ทำออกมาได้ลึกซึ้ง สะท้อนความเป็นไปในปัจจุบัน!!
ปัจจุบันนี้โลกออนไลน์นั้นถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เคลื่อนไหวสังคมได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์อะไรก็ตามแต่ ล้วนแต่เกิดจากการเผยแพร่และแชร์กันต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่สามารถหยุดยั้งมันได้ ด้วยความที่ทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมดนั้น มันมักจะทำให้เกิดเรื่องราวแปลกๆ ขึ้น ซึ่งปกติจะไม่ได้เห็นจากในชีวิตจริงแน่ๆ ถ้าไม่มีโลกโซเชียลมาเกี่ยวข้อง แต่ตอนนี้มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ศิลปินท่านหนึ่งชื่อว่า Brecht Vandenbroucke ได้ทำการวาดภาพเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเหตุการณ์แปลกๆ ที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งแต่ละภาพนั้นต้องใช้การตีความที่สูงมากๆ บางภาพอาจดูแล้วมึนตึ๊บได้เลย ว่าแล้วก็ไปช่วยตีความกันเลย 1. เกี่ยวอะไรกับการโทษเกมรึเปล่าน้าาาา 2. ไม่มีเน็ต ถึงกับเสียศูนย์เลย 3. ความสุนทรีและทุนนิยม 4. การไม่เห็นอาจจะทำให้เราได้รับความสุขมากกว่า 5. เดี๋ยวนะะะ หักมุมเกิ๊นนน 6. สะดวกมากไปก็ไม่ดี 7. สงครามตัวหนังสือ เป็นยังไงกันบ้างล่ะ ดูแล้วงงกันใช่ไหมเอ่ย เหมียวก็งงเหมือนกับทุกคนนั่นแหละ บางทีมันอาจจะลึกเกินไปก็เป็นได้.. ยังมีอีกเพียบเลยนะ ใครสนใจก็ลองไปติดตามเขาได้ที่อินสตาแกรม brechtvandenbroucke ที่มา designyoutrust
-
ชาวเน็ตขำแรง!! ชายหนุ่มโพสท์รูปหุ่นลองเสื้อมีท่าทางอิดโรย ผู้คนแชร์กันให้ลึ่ม!!
เพื่อนๆ คงจะเคยเห็นหุ่นลองเสื้อตามร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นต่างๆ ที่จะโชว์ตัวอย่างความสวยงามของเสื้อผ้าให้เหล่าลูกค้าดูว่าถ้าใส่แล้วจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งเจ้าหุ่นนี้บางตัวก็สามารถขยับแขนขาได้ เพื่อโพสท์ท่าต่างๆ ให้ดูดี และวันนี้ #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปชมความเกรียนของเหล่าลูกค้าสุดอารมณ์ดีที่ทำการถ่ายรูปและจัดท่าทางของหุ่นให้ดูทะมัดทะแมงจนกลายเป็นเรื่องสุดฮา เว็บไซต์ Dailymail รายงานว่ามีชายหนุ่มคนหนึ่งได้ทำการโพสท์รูปภาพของหุ่นที่มีท่าทางเหมือนอิดโรยเพราะยืนมาทั้งวันลงในเฟสบุ๊ค ทำให้มีคนแชร์ไปมากกว่า 35,000 ครั้ง และกดไลค์กว่า 25,000 ไลค์เลยทีเดียว โดยคาดว่าที่หุ่นมีสภาพแบบนี้เป็นเพราะเหล่าลูกค้ามือบอนทั้งหลายมาจัดท่าทางของมันจนกลายเป็นสภาพอย่างที่เห็น อย่างไรก็ตามเหล่านักช็อปปิ้งทั้งหลายก็ไม่วายเอาภาพหุ่นลองเสื้อฮาๆ มาแชร์ความฮากันให้ดูบ้าง… แหม่พ่อหุ่นจอมทะเล้น เจอแบบนี้ขอวิ่งหนีก่อนล่ะจ้าาา บรัยยย แค่อยากจะทำให้มันดูเป็นฝรั่งเศสอีกซักหน่อย (ด้วยการใส่ขนมปังบาร์แก็ตไว้บนหัวเนี่ยนะ? – -*) เอิ่มมม…ดูดดื่มเกินไปมั้ยเนี่ย จะเป๊ะไปไหน มากันเป็นครอบครัวใหญ่เชียวนะ ฮร่า ดูโพสท์ท่าเข้า เลิศไปอีกกก ทำอะไรบัดสีบัดเถลิง!! เป็นการมือบอนที่นอกจากจะเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังมีฝีมือดีอีกด้วยนะเนี่ย ฮร่า ที่มา : Dailymail
-
Jessica Gerspacher หนูน้อยลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ มาในชุดชมพู่ อารยา เดินพรมแดง น่ารักมากๆ
กลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกโซเชียลในตอนนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับ Jessica Gerspacher หนูน้อยลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์ แฟชั่นนิสต้าตัวจิ๋วที่มีคนกดไลค์ในความน่ารักมากที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ เพราะล่าสุดหลังจากที่ชมพู่ อารยา ได้ใส่ชุดสวยๆ ไปเดินเฉิดฉายออร่ากระจาย อยู่ที่งานเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2016 หนูน้อย Jessica ก็ขอเอาบ้าง สวมชุดคล้ายซุปตาร์สาว แล้วใส่ถ่ายรูปโชว์ความเก๋ลงในโซเชียล จนบรรดาชาวเน็ตต่างก็พากันเข้าไปกดไลค์ในเฟสบุ๊คของเธอกันแบบรัวๆ เลยละ ในวันนี้เหมียวขี้อ้อน ก็เลยขอนำภาพของเธอมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน งานนี้นอกจากเธอจะมาในชุดเหมือนพี่ชมพู่แล้ว เรายังจะได้เห็นความมีสไตล์ของเธออีกด้วย ว่าแล้วก็ไปชมกันเลย แฟชั่นนิสต้าตัวน้อยในชุดเดินพรมแดง น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ เหมือนตุ๊กตาเลยนะว่าไหม Jessica มาในชุดเกาะอกสีขาว พร้อมกับสวมแว่นตาทรงเก๋ สบายๆ ชิวๆ อยู่ที่บ้าน วันนี้จะแต่งชุดอะไรดีน้า มุมนี้เซ็กซี่เบาๆ ฟรุ้งฟริ้ง งานเงือกน้อยก็มา โอ๊ยยยยน่ารัก ทำเอาเหมียวขี้อ้อนใจละลายเลย Jessica ในชุดเดรสแขนยาว เพิ่มความน่ารักด้วยที่คาดผมรูปโบว์แสนเก๋…
-
ฝ่ายแฟนของกลุ่มวัยรุ่น 6 คนผู้พรากชีวิตชายพิการโต้กลับ ‘อยู่ดีๆ ก็โดนผู้เสียชีวิตหาเรื่องก่อน’
กำลังเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจอย่างมาก จากกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่น 6 คนกระทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ด้วยการทำร้ายชายพิการผู้ทำงานสุจริตจนถึงขั้นเสียชีวิต นำไปสู่การจับกุมผู้กระทำการทั้งหมด แต่ยังไม่อาจทราบได้ว่าจะได้รับโทษอย่างที่สมควรหรือไม่เพราะกลุ่มวัยรุ่นเหล่านี้ล้วนเป็นลูกของตำรวจทั้งสิ้น ภายหลังจากที่กลายมาเป็นข่าวใหญ่โตและสื่อสำนักใหญ่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ทางด้านแฟนสาวของหนึ่งในวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ออกมาโพสต์ข้อความเรียกร้องความเป็นธรรม ให้ฟังความทั้งสองด้าน โดยบอกว่า ไม่ได้ฟันชายพิการ เพียงแต่ถือมีดไว้ป้องกันตัว และชายพิการเป็นผู้ที่เข้ามาทำร้ายก่อน แต่พลาดท่าล้มจนไปโดนมีดที่ถืออยู่เข้าหลอดลม?? อีกทั้งยังเล่าเหตุการณ์ว่า ‘เราอยู่ดีๆ ผู้เสียชีวิตมาหาเรื่องก่อน’ และรวมไปถึงการโพสต์ข้อความทำนองคนภายนอกอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยว เป็นข้อความที่มีความรุนแรงอยู่พอสมควร แต่ปรากฏว่าสืบหาเพจหรือเฟสบุ๊กดังกล่าวไม่เจอแล้ว ซึ่งทางด้านทนายความ นายอนันต์ชัย ไชยเดช ได้นำหลักฐานทั้งหมดนำไปแจ้งความ ข้อหาโพสต์ข้อความลักษณะข่มขู่ ตามความผิด พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่มา : ยมทูต ติ้งต้อง’ง
-
เดี๋ยวๆ นี่ล้อกันเล่นใช่มั้ย…คอสตูมสุดแหวกแนวของน้องหมา เล่นเอาคนดูฮาลั่นโซเชียลกันเลยทีเดียว
คนเลี้ยงหมาส่วนใหญ่ มักจะสรรหาชุดคอสตูมน่ารักๆ เอาไว้ให้น้องหมาใส่เล่นกันแบบชิคๆ ใช่ไหมละ แต่สำหรับชุดคอสตูมของน้องหมาตัวนี้ บอกเลยว่าหากคุณได้เห็นภาพเพียงเสี้ยววินาที มันก็ทำให้คุณขำออกมาทันทีอย่างแน่นอน เพราะจากภาพเราจะเห็นได้เลยว่า คอสตูมของน้องหมานั้นทำมาจากกล่องกระดาษแสนธรรมดาๆ เวลาใส่แล้วเราจะไม่เห็นตัวของหมา แต่จะมีอวัยวะบางส่วนโผล่มาให้เห็นเพียงน้อยนิดเท่านั้น ไม่เชื่อก็ลองดูได้เลย ชุดนี้มีความแปลกตรงที่ เราจะไม่สามารถเห็นตัวของมันเต็มๆ ได้ และเมื่อลองซูมเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นเพียงแค่จมูกที่โผล่ออกมาแค่นั้นเอง เอ้าๆ ใกล้เข้ามาอีกนิดแล้ว ยิ่งดูก็ยิ่งฮานะว่ามั้ย ฮ่าๆ ป้าดดดดด พอลองมาดูด้านหลังเท่านั้นแหละ เห็นเป็นภาพใบหน้าของเจ้าหมาตัวน้อย ที่ถูกจับมาแต่งตัวแหวกแนวกว่าหมาตัวอื่นๆ แต่ดูจากสีหน้าลองทายกันดูสิว่า เจ้าหมาจะพอใจในชุดที่ใส่หรือเปล่า แหม!! เรียกได้ว่าเป็นภาพที่สร้างความฮาได้ลั่นโซเชียลกันเลยนะเนี่ย งานนี้ไม่รู้ว่าจะฮาหรือสงสารดี แต่เมื่อเห็นแล้วก็ทำเอายิ้มไม่หุบกันเลยทีเดียว ภาพจาก randoman06 เรียบเรียงโดย CatDumb
-
เจ้าหนู ‘Noah’ ไม่ค่อยมั่นใจเวลาสวมแว่นตา…ชาวโซเชียลแห่ให้กำลังใจอย่างล้นหลาม!!
ในวัยเด็กๆ เพื่อนๆ คงเคยผ่านเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจกันมาบ้างแล้ว อย่างเช่น ฟันน้ำนมหักก็เลยไม่ค่อยกล้าไปโรงเรียน หรือไปพบเพื่อนของพ่อแม่ที่มีลูกสาว-ลูกชายอยู่ด้วย ทำให้ไม่ค่อยมั่นใจสักเท่าไหร่ เช่นเดียวกับหนูน้อย Noah ที่แม่ของเขาเพิ่งรู้ว่าสายตาสั้นจึงทำให้ต้องใส่แว่นตา ซึ่งการใส่แว่นตานี้ทำให้เขาไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองเอาซะเลย คุณแม่ก็เลยสร้างเพจขึ้นมาในเฟสบุ๊ค ชื่อว่า Glasses for Noah เพื่อให้ชาวโซเชียลมาช่วยกันเปลี่ยนความคิดของเจ้าหนูน้อย Noah ว่าจริงๆ แล้วการใส่แว่นนั้นไม่ได้แย่เสมอไป ซึ่งก็ทำให้มีคนให้ความสนใจและโพสท์รูปภาพมาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม… #เหมียวหง่าว ขอหยิบมาบางส่วนละกันเนอะ เพราะถ้าเอาทั้งหมดนี่มีเป็นพันรูปเลยทีเดียวเชียว ‘เฮ้ Noah ฉันยอมรับเลยนะว่าฉันก็ไม่ได้ใส่แว่นตลอดเวลาหรอกนะ แต่ที่แน่ๆ เลยคือฉันรักมันมากเลยล่ะ’ พี่ชายคนนี้ก็มาในมาดไบค์เกอร์ พร้อมกับรถคู่ใจของเขา และที่แน่นอนว่าเขาก็ใส่แว่นตาด้วยเช่นกัน ‘สวัสดี Noah ฉันชื่อ Noah Spaulding จากโดฮา ประเทศกาต้าร์ แว่นตานี้ทำมาให้คนเจ๋งๆ ใส่เท่านั้นนะ’ ‘สวัสดี Noah นี่คือแฟนหนุ่มของฉัน และฉันก็รักแว่นตาของเขาด้วย’ ‘นี่ Noah แว่นตาของนายเจ๋งกว่าของพวกเราอีกนะ’ ‘หลายๆ คนเค้าก็สวมแว่นตากันนะ’ ‘ไง Noah นี่คือ…
-
“เน วัดดาว” เผยภาพแผลยิงตัวเอง ย้ำไม่ใช่เน็ตไอดอลและไม่ใช่คนที่ควรเอาแบบอย่าง
กลายเป็นข่าวทอล์กออฟเดอะทาวน์กันไปในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา สำหรับกรณีของ เน วัดดาว หรือ นาย มครินทร์ พุ่มสะอาด ที่ชาวเน็ตหลายคนยกย่องให้เป็นเน็ตไอดอลจนมีชื่อเสียงและมีงานในวงการบันเทิงเข้ามามากมาย ได้ใช้ปืนยิงเข้าที่ขมับของตัวเองระหว่างถ่ายทอดสดลงในเว็บไซต์เฟซบุ๊ก ตามรายงานบอกว่าเจ้าตัวมีปัญหาเรื่องชีวิตส่วนตัวและมีอาการจิตตก ทำให้ตัดสินใจยิงตัวเองลงในเฟซบุ๊ก ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน หลังจากนั้นก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลและถูกเรียกสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ล่าสุดเจ้าตัวได้มีการเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์แล้ว โดยในช่วงเวลาตี 1 กว่าของวันที่ 18 เมษายน เน วัดดาวได้โพสต์ข้อความเพื่อย้ำให้ผู้ติดตามของเขารับทราบว่าตนเองไม่ใช่เน็ตไอดอล อย่าคาดหวังในตัวเขามากนักเพราะวันหนึ่งเจ้าตัวอาจจะทำเรื่องไม่ดีอีก และบอกว่าตนเองไม่ใช่คนที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง พร้อมกันนี้ยังโพสต์ภาพบาดแผลและข้อความขอโทษแฟนๆ และคนรอบข้างต่อสิ่งที่เกิดขึ้น “แผลนี้เราคิดสั้นขาดสติเองขอโทดเพื่อนๆที่ๆและครอบครัวที่ต้องมาเป็นห่วง” ต้องยอมรับว่าเนวัดดาวก็เคยทำเรื่องราวดีๆ ให้เราเห็นมาแล้ว เช่นการไล่จับโจร หรือออกมาเตือนเด็กๆ อาชีวะที่ชอบมีปัญหาทำร้ายร่างกายกัน แต่ในกรณีนี้เราก็ทำได้แค่เตือนลูกๆ หลานๆ ว่าไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างล่ะนะ ที่มา Makharin Phumsaart
-
ชาวเน็ตจวกยับ สาวอ้างลูกตำรวจใหญ่ โพสโชว์ใช้เส้นพ่อเคลียร์ใบสั่งลงโซเชียล?!?
กลายเป็นประเด็นร้อนบนอินเตอร์เน็ตเลยทีเดียว เมื่อมีการแชร์ภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นลูกสาวตำรวจใหญ่ โพสภาพพร้อมข้อความโชว์ใช้เส้นสายพ่อ เคลียร์ใบสั่งลงโซเชียล โดยเรื่องราวดังกล่าว ถูกนำมาเผยแพร่โดยเพจ Red Skull V.6 Plus เมื่อมีหญิงสาวคนหนึ่ง โพสภาพใบสั่งพร้อมเขียนบรรยายว่า ตนเองได้ถูกด่านตำรวจเรียก เนื่องจากขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด เมื่อไปถึงโต๊ะเขียนใบสั่ง ตนเองก็อ้างชื่อพ่อของตนเองขึ้นมา จนตำรวจที่เขียนใบสั่ง ต้องยอมเปลี่ยนข้อหาให้เบาลง เพราะกลัวพ่อของหญิงสาวคนนี้ จะตำหนิมาได้ เมื่อชาวเน็ตเห็นภาพดังกล่าว ก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นไปในทางตำหนิ ว่าทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แล้วยังนำมาแชร์ลงโซเชียลอีกต่างหาก ถึงแม้เราจะรู้ว่าเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นได้เป็นประจำ (เศร้าใจแปป) แต่การมาโชว์บนโซเชียลแบบนี้ มันงามเลยจริงๆ แถมจะพาพ่อซวยเอาง่ายๆ แล้วเพื่อนๆ ล่ะคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง ที่มา Red Skull V.6 Plus
-
ขี่รถอย่าประมาท!! หนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์พุ่งเข้าชนล้อรถพ่วงอย่างจัง แต่ไหวตัวทันรอดปาฏิหาริย์!?
นี่ถือเป็นอุทาหรณ์สอนใจผู้ใช้รถใช้ถนนได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของ 2 พ่อลูกที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปมุดใต้ล้อรถพ่วงกลาง 4 แยก ที่ดูแล้วชวนเสียวไส้มากๆ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า แมวเหงา เพราะเราคู่กัน เป็นคลิปวิดีโอของ 2 พ่อลูกที่ขับขี่มอเตอร์ไซค์มาด้วยกัน แต่ในระหว่างที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่นั้นเอง รถเกิดดับกะทันหัน ทำให้ลูกชายซึ่งเป็นคนขับต้องรีบสตาร์ทด้วยความตกใจ แต่เนื่องจากมอเตอร์ไซค์ไม่ได้อยู่ในเกียร์ว่าง ทำให้รถพุ่งตัวไปด้านหน้าเมื่อสตาร์ทได้แล้ว และพุ่งไปชนเข้ากับล้อรถพ่วงอย่างจัง แต่โชคดีที่ในวินาทีนั้นเองน้องคนขับสามารถไหวตัวทันและลุกออกมาจากใต้ล้อรถพ่วงได้ ทำให้รอดตายอย่างปาฏิหาริย์!! ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย วีดีโอ วินาทีชีวิตลูกชาย จะจำจนวันตาย. ขอบคุณๆๆๆปฏิหาร(ลูกชายเสื้อแดง) วิดีโอนี้โพสลงเพื่อเตือนสติไม่ให้ประมาท ขับรถให้มีสติ #กรณีนี้รถมันดับตรงทางแยก #น้องคนขับตกใจกัวรถที่ตามหลังจะชน #จึงรีบสตาร์ทลืมปลดเกียร์ว่าง #รถเลยพุ่ง #แรงกระชากมือเลยบิดคันเร่งค่ะ. คงไม่มีใครอยู่ดีๆจะขับรถไปมุดรถพ่วงนะค่ะ หัวอกคนเป็นแม่โพสเพื่อให้เป็นอุทธาหรณ์ค่ะ. ดีใจที่ลูกยังมีชีวิตอยู่ผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ และขอบคุณแทนน้องสำหรับทุกๆกำลังใจค่ะ โพสต์โดย แมวเหงา เพราะเราคู่กัน บน 10 มีนาคม 2016 #เหมียวฟิ้น ดูแล้วหวาดเสียวมากเลยนะเนี๊ยะ…
-
น่าสงสารมาก โลกออนไลน์แชร์ภาพคุณป้าขอทาน นอนคุดคู้กับลูกหมาตัวน้อย วอนคนใจบุญช่วยเหลือ
กลายเป็นภาพชวนสะเทือนใจที่ผู้คนในโลกออนไลน์กำลังให้ความสนใจอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของคุณป้าขอทานคนหนึ่ง นอนคุดคู้กับพื้นโดยมีลูกหมาตัวน้อยนอนอยู่เป็นเพื่อนเธอ ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Nursing Pathum เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกับข้อความว่า “(ณ สะพานเมืองเอก รังสิต) คุณเห็นอะไรในภาพนี้บ้าง ความรักสัตว์ของเจ้าของที่ไม่ว่าจะอยากดีมีจนก็ไม่เคยทิ้งเจ้าอ้วนนี่ให้ลำบาก” “ความซื่อสัตย์ของเจ้าอ้วนแสนรู้ที่ไม่เคยคิดจะทิ้งเจ้าของๆมันต้องให้อยู่โด่ดเดียวเดียวดาย” หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความรู้สึกสงสารแก่หญิงสาวรายนี้กันเป็นจำนวนมาก เช่นคุณ น้องใหม่ คนเดิม บอกว่าเคยเห็นคุณป้าคนนี้มานั่งแถวสะพานเมืองเอกเช่นกัน และไม่ว่าแกจะไปที่ไหน ก็มัจะอุ้มลูกหมาติดไปด้วยตลอด คุณ Kakar Start บอกว่า ตนเองขายอาหารอยู่บริเวณนั้นเหมือนกัน และเห็นหญิงสาวคนนี้ทุกวัน พร้อมกับบอกว่าลูกหมาของคุณป้านั้นซื่อสัตย์มาก นอนข้างๆ เจ้านายทุกวันไม่เคยไปไหนเลย ในขณะที่คุณ Tangwa Palaphon ได้อ่านข้อมูลจากเพจรักหมา บอกว่าลูกหมาตัวนั้นหลับตลอดเวลา คล้ายกับโดนวางยาเลย อาจจะเป็นมิจฉาชีพที่วางยาหมา เพื่อให้คนทั่วไปเกิดความสงสารก็เป็นได้ ขอให้คุณป้ามีชีวิตที่ดีขึ้นนะ แต่หากมีหน่วยงานไหนที่อยู่ใกล้ๆ ลองเข้าไปตรวจสอบหน่อยก็ดีนะ ที่มา Nursing Pathum
-
น่าสลดใจ ชาวเน็ตแชร์ภาพคุณยายแก้ผ้าอาบน้ำแถวสี่แยกบางกะปิ วอนหน่วยงานเข้าช่วยเหลือหน่อย
กลายเป็นเรื่องราวสุดสลดใจทีเดียว สำหรับภาพของคุณยายท่านหนึ่งกำลังแก้ผ้าอาบน้ำข้างถนนแบบไม่แคร์สายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา บริเวณสี่แยกบางกะปิ กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพถ่ายผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Suriya Yaowasung เป็นภาพของคุณยายไม่สวมใส่เสื้อผ้า กำลังใช้ขันตักน้ำจากในบ่อขึ้นมาอาบ กลายเป็นภาพชวนให้สะท้อนใจว่าเหตุใดถึงมาอยู่ตรงนี้และลูกหลานของคุณยายไปไหนหมด? นอกจากนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “ผมผ่านไป 4 แยกบางกะปิ เจอยายคนนึงแกแก้ผ้าอาบน้ำ ทำไมไม่ใครหรือหน่วยงานใดเข้ามาดูแลแกเลย สงสารแกจัง ผมเดินผ่านแกๆ ก็แก้ผ้าอาบน้ำเฉยเลย เหมือนแกอยู่ในห้องน้ำของแกเอง เห็นแล้วเศร้าใจจัง ขอใครสักคนมาดูแลแกหน่อยเถอะนะครับ” ชมภาพเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย Posted by Suriya Yaowasung on 20 กุมภาพันธ์ 2016 หลังจากนั้นภาพดังกล่าวก็ถูกแชร์ออกไปกว่า 6 พันครั้งทีเดียว และมีคนแสดงความเห็นในเชิงสงสารกันอย่างมากมาย ในขณะที่คุณ Suriya ได้โพสต์ตอบกลับว่าหากตนเองพบเห็นคุณยายอีกจะรีบแจ้งไปยังคุณท็อป บิณฑ์ บรรลืฤทธิ์ ให้มาช่วยเหลือคุณยายต่อไป ไม่รู้ว่าป่านนี้คุณยายไปอยู่ที่ไหนแล้ว หรือมีใครให้ความช่วยเหลือแกหรือยัง…
-
โลกออนไลน์แชร์ภาพ พี่น้อง 2 คน บ้านยากจนเก็บขยะขาย วอนชาวเน็ตช่วยคนละเล็กละน้อย
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กของคุณ Ju Kongcharoen หรือน.ส.อนุชดา อักษรกูล ครูกวางวัย 28 ปี เป็นภาพของเด็กชาย 2 คนกับคุณยายวัย 80 ปีรายหนึ่ง พร้อมกับเรื่องราวน่าสะเทือนใจ ตามข้อมูลจากโลกออนไลน์บอกว่าเด็กชาย 2 คนมีชื่อว่าด.ช.เหน่ง อายุ 10 ขวบ และ ด.ช.เด้ง อายุ 9 ขวบ เป็นนักเรียนของโรงเรียนวัดสมหวัง ในอ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ที่มีฐานะยากจน ทุกวันนี้มีรายได้จากการเก็บขยะขายเล็กๆ น้อยๆ และมีเงินสงเคราะห์คนชราอีก 800 บาท ส่วนบ้านที่พักอาศัยนั้นแทบจะไม่สามารถใช้คำว่าบ้านได้เลย เพราะจากภาพน่าจะเป็นกระต็อบหรือเพิงมากกว่า แถมคุณยายเองก็มีดวงตาที่พร่าพราง ทำให้ไม่สามารถสอนหนังสือแก่เด็กๆ ได้ จึงอยากจะวอนขอความช่วยเหลือแก่ชาวเน็ตเพื่อให้ทุนการศึกษา หรือข้าวสารอาหารแห้งเล็กๆ น้อยๆ แก่เด็กทั้ง 2 คนด้วย อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย…
-
อินโฟกราฟิคสุดเจ๋ง ภาพเดียวตอบคำถามได้ครบหมดเกี่ยวกับสังคมออนไลน์ ทั้ง ผู้ใช้ สัดส่วน ฯลฯ
ทุกวันนี้เราก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธได้ว่า โซเชียลมีเดียนั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่กระนั้นเพื่อนๆ เคยสงสัยกันบ้างรึเปล่าล่ะว่า โซเชียลมีเดียของค่ายไหนมีผู้ใช้เยอะที่สุด หรือว่าสัดส่วนการใช้งานด้านไหนดีที่สุด!!? วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีอินโฟกราฟิคดีๆ ที่จะให้ความรู้เพื่อนๆ เกี่ยวกับโซเชียลมีเดียของค่ายต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วโลก จากการเก็บข้อมูลของ Smart Paper Help ล่ะ ว่าแล้วเราลองมาดูกันเลย Infographic สัดส่วนของโซเชียลมีเดีย ถ้าในด้านการใช้งานตอนนี้ โซเชียลมีเดียที่กำลังครองแชมป์เป็นเจ้าตลาดเลยก็เห็นจะไม่พ้น Facebook ด้วยปริมาณผู้ใช้งานรวมแล้วกว่า 1,500 ล้านคน รองลงมาเป็น Youtube ที่ 1 พันล้านคน และ Instagram 400 ล้านคนด้วยกัน ส่วนอีกสถิติที่น่าสนใจก็คือในส่วนของ Youtube มีจำนวนผู้ใช้ที่เป็นวัยรุ่นกว่า 82 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว และ 91 เปอร์เซ็นต์ของคน Gen Y นั้น กำลังใช้ Facebook อยู่ น่าแปลก จำนวน 8 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้งานในอินสตาแกรมนั้นเป็น…
-
[เหมียวเตือนภัย] ผู้ใช้รถโปรดระวัง มิจฉาชีพฝังตะปูลงในส้ม หากเจอห้ามลงรถเด็ดขาด
เดี่ยวนี้มิจฉาชีพมักจะมีวิธีการใหม่ๆ มาใช้หลอกล่อหรือขโมยทรัพย์สินของเราได้แบบไม่รู้จบเลยทีเดียว ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแฉวิธีการใหม่ๆ มาเตือนให้พวกเราระวังตัวกันอีกแล้ว เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Palm Sittichai เป็นภาพของผลส้มที่ถูกวางเอาไว้กลายถนน ดูภายนอกแล้วอาจจะเป็นส้มธรรมดา แต่เมื่อดูใกล้ๆ จะพบว่ามันมีตะปูฝังอยู่ หากรถคันใดไปเหยียบเข้าอาจจะทำให้ยางรั่วจนเราต้องจอดรถ และกลายเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพได้ พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “เตือนภัย …. !!! ระวังภัยรูปแบบใหม่ตะปูส้ม ขับรถบนถนน เจอส้มแบบนี้หลบหน่อยนะครับ” โดยปกติวิสัยแล้ว หากเราเห็นสิ่งแปลกปลอมหล่นอยู่บนถนน เราก็จะขับรถเพื่อหลบหลีกมันไป แต่บางคนอาจจะชะล่าใจเห็นว่าเป็นเพียงผลส้ม เลยขับเหยียบมันไปก็ได้นะ ใครจะขับรถไปไหนไกลๆ หรือมืดๆ ค่ำๆ ก็ระวังตัวกันหน่อยนะจ๊ะ ที่มา Palm Sittichai
-
ความเงิบมาเยือนหลังสาวเจ้าป่าวประกาศว่าตั้งท้อง ดันมีคนมาแฉว่าเมียเอ็ง ไม่ใช่เล่นๆ เลยนะจ๊ะ!?
เวลาแห่งความสุขของผู้ที่กำลังจะเป็นแม่คนก็คือช่วงเวลาที่รู้ว่าตัวเองตั้งท้องลูกน้อยสมาชิกใหม่ของครอบครัว เมื่อได้ทำการประกาศให้คนอื่นได้รับรู้รับทราบกันแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่จะมีคนเข้ามาแสดงความยินดีมากมาย อย่างเช่นสาวเจ้ารายนี้ที่ประกาศว่าตั้งท้องผ่านโซเชียล ฉันตั้งท้องแล้วนะทุกคน!! โอ้ววววว!! ขอแสดงความยินดีด้วยนะจ๊ะ ในขณะที่ทุกคนกำลังดีใจกับว่าที่คุณแม่มือใหม่ จู่ๆ ก็มีคอมเม้นมาจากชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง มาบอกเล่าประสบการณ์เสียวระหว่างเธอกับเขา ด้วยใจความประมาณว่า ‘หวังว่าจะหยุดส่งรูปหน้าอกมาให้เวลามีอารมณ์อยากนะ หวังว่าจะหยุดการบุกเข้ามาหาในออฟฟิศเพื่อขอแบบนั้น เธอทำลายชีวิตของฉัน ไม่ชอบเลยที่โทรมาที่บ้านหรือทิ้งข้อความไว้แล้วลูกสาวก็ได้ฟังข้อความเหล่า นั้น ชีวิตคู่และชีวิตการทำงานแทบพัง ขอสวดภาวนาให้สิ่งนี้หยุดพฤติกรรมโรคจิตของเธอเสียที และฉันหวังว่าผัวของเธอจะฉลาดพอที่จะคิดได้ว่า อาจจะไม่ใช่ลูกของเขาก็เป็นได้!!’ ‘เออ แล้วอีกอย่างนะ Mark ถ้านายอยากจะมาหารือ ฉันอยู่ถัดจากออฟฟิศเมียแกไปสองประตู มันดูเหมือนจะเป็นอะไรที่งี่เง่าซักหน่อยแต่เอ็งก็น่าจะรู้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ควรทำ โดยการบอกว่าเอ็งแต่งงานกับสาวบ้าบอคอแตกมากมาย โชคดีนะเพื่อน’ เงิบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ที่มา : thechive
-
ผลงานหนุ่มเวียดนาม จิกกัดโลกโซเชียล ที่ ‘ความเป็นจริง’ กับ ‘สิ่งที่แสดง’ แตกต่างราวฟ้ากับเหว!!!
สำหรับโลกออนไลน์ ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ๆ ค่อนข้างส่วนตัว ที่เราจะสามารถโพสต์ หรือแสดงความคิดเห็นอะไรก็ได้ (จริงเหร๊ออออ ><) ในระดับหนึ่ง อิอิ ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่นิยมกันมากที่สุดก็คือการโพสต์ภาพต่างๆ โดยเฉพาะในเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตดี๊ดี ที่ไปเจอกันมานั่นเอง แต่ชาวเวียดนามคนหนึ่ง Hồ Anh Đức ก็ได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังของภาพเหล่านั้น ว่าที่จริงแล้วพวกเขาไม่ได้มีชีวิตแบบนั้นจริงๆ แต่สร้างภาพ หรือ Fake เอาแหละ ดูกันไว้ฮาๆ ถ้าตรงก็ขออภัยนะเมี๊ยววว เขาได้นำเสนอเบื้องหลังสุดฮา ว่ากว่าจะได้ภาพโพสต์ลงโซเชียลแต่ละภาพนั้น… แทบจะแลกเอามาด้วยเลือด และเนื้อเลยทีเดียว ‘ผมต้องการจะแสดงให้เห็นว่า อะไรคือเบื้องหลังของเหล่าบรรดาภาพในโลกโซเชียล ซึ่งแน่นอนมันไม่ใช่อย่างที่คุณคิด’ Hồ Anh Đức กล่าว ผู้คนอาจจะรู้สึกดีขึ้น แต่ไม่ได้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมหรอก… ลองมาชมวิดีโอที่เขาอยากนำเสนอกันได้ที่นี่เลย อื้อหือออ จะว่าไปเขาเอาความจริงมาล้อเล่นเลยนะเนี่ย ก็นั่นล่ะเนาะ คนเราก็ไม่ได้มีชีวิตเหมือนที่เราพยายามจะนำเสนอในโลกออนไลน์เสมอไปหรอกนะ เพราะฉะนั้นเวลาดู เวลาเห็นอะไรมา ก็คิดใน ‘ฐานะมนุษย์’ ด้วยนะจ๊ะ ไม่ใช่ชีวิตเพอร์เฟ็คต์เหมือนที่เขาพยายามแสดงให้เห็นนนน เพราะมันไม่ได้จริงไปทั้งหมด ><…
-
ลาก่อย Ed Sheeran ประกาศเลิกเล่นมือถือ-โซเชียล เพราะทำให้เขาเห็นโลกน้อยลง!!!
ก่อนอื่นเหมียวก็ต้องขอแสดงความเสียใจต่อแฟนๆ ของ Ed Sheeran ที่ชอบติดตามพี่แกในโลกออนไลน์ด้วยนะจ๊ะ เมื่อนักร้องหนุ่มได้ตัดสินใจเลิกใช้โซเชียลมีเดียทุกๆ ทางแล้วล่ะ!!! พ่อหนุ่มนักร้องชื่อดัง Ed Sheeran ได้ตัดสินใจที่จะหันหลังให้ความสับสนอลหม่านของโลกโซเชียล และเขาก็หวังอย่างยิ่งว่า แฟนๆ จะเข้าใจเขา… ด้วยเหตุผลที่ว่า ‘มันได้เข้ามาครอบงำชีวิตผม และทำให้ความสามารถในการมองเห็นโลกของผมลดลง’ แถมพ่อหนุ่ม Ed ยังได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ‘ไม่เพียงแต่โซเชียลมีเดียเท่านั้น ผมยังได้หยุดใช้มือถือ และอีเมลล์ต่างๆ อีกด้วย อาจจะถึงปีหน้าไปเลยก็ได้’ แต่แฟนๆ ไม่ต้องกังวลไปนะจ๊ะ เพราะเขาบอกเป็นนัยน์ว่าเขาจะกลับมา และแน่นอนอัลบั้มที่สามของเขาก็กำลังตามมาด้วยเช่นกัน ข้อความจากอินสตาแกรม ข้อความก็ประมาณว่า ‘ทุกๆ คน ผมจะขอหยุดการใช้ การเล่นโทรศัพท์ของผม รวมถึงอีเมลล์และโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้งหมด ผมมีช่วงเวลาดีๆ ตลอด 5 ปีที่ผมใช้งานสิ่งเหล่านี้มาตลอด แต่มันทำให้ผมเห็นโลกในจอมากขึ้น แต่โลกแห่งความเป็นจริงกลับน้อยลง ผมเลยถือโอกาสนี้มองโลก และเดินทางให้มากขึ้น เพื่อพบปะกับสิ่งที่ผมพลาดไป ถ้าคุณรักผมจริงๆ คุณจะเข้าใจผม เจอกันปีหน้า และแน่นอนอัลบั้ม 3…
-
เปิดภาพ 9 เซเลปเหมียวผู้โด่งดัง ที่ทำเอาบรรดาทาสแมวคลั่งไคล้ และหลงใหลมานักต่อนักแล้ว
‘แมว’ เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ธรรมดา เพราะนอกจากมันเป็นสัตว์ที่คิดจะขึ้นมาครองโลกแล้ว สิ่งหนึ่งที่พวกมนุษย์ไม่อาจจะปฏิเสธได้ก็คงจะเป็นความน่ารัก แบ๊วๆ ใสๆ ของพวกมันนี่แหละ ที่ทำให้พวกมนุษย์ต้องกลายไปเป็นทาสของพวกมันไปโดยไม่รู้ตัว และในวันนี้เราจะขอมาเอาใจทาสแมวทั้งหลาย โดยการรวบรวม 9 แมวเซเลปผู้โด่งดังจากอินสตาแกรม และในโซเชียลต่างๆ มาให้ได้ชมกัน เหมียวขอรับประกันเลยว่าแต่ละตัวที่คัดมาเด็ดๆ ทั้งนั้น เอาละ!! ถ้าพร้อมแล้วไปยลโฉมของพวกมันกันเลย คำเตือน หากใครที่หลงเข้าไปติดตามมันในอินสตาแกรม ระวัง!! คุณอาจจะมัวแต่มองรูปมันทั้งวันทั้งคืนก็เป็นได้ 1.snoopybabe Snoopy แมวเซเลปคลื่นลูกใหม่ ที่พกเอาความแบ๊วๆ ใสๆ มาแบบเต็มพิกัด แถมกำลังมาแรงฝุดๆ ในโลกโซเชียลอีกด้วย และด้วยความน่ารักมุ้งมิ้งเหมือนตุ๊กตา ทำเอาทาสแมวทั้งหลงใหล และตกหลุมรักมันเป็นแถวเลยละ . . 2.Cobythecat สำหรับเจ้า Coby แมวหน้าหยิ่ง ที่มาพร้อมกับดวงตาสีฟ้ากลมโต บวกกับขอบตาสีดำอย่างกับกรีดอายไลน์เนอร์มาเอง ก็ทำเอาทาสแมวหลงรักกันแบบหัวปักหัวปำเลยละ แถมในตอนนี้มันยังมีคนเข้าไปติดตามใน IG มากถึง 1 แสนกว่าคนแล้ว . . 3.Shironeko สำหรับเจ้า Shironeko…
-
ยังจำกันได้ไหม!! ‘น้องก้องเสียใจแต่ไม่แคร์’ จากวันนั้นจนถึงวันนี้ บอกเลยว่าเปลี่ยนไปมากจริงๆ
เพื่อนๆ ยังคงจำ ‘น้องก้อง’ ผู้ที่เคยร้องลิปซิ้งเพลง เสียใจแต่ไม่แคร์ ที่เคยเป็นกระแสอันโด่งดังในโลกโซเชียลกันได้หรือไม่ ซึ่งในตอนนั้นบอกเลยว่าหลังจากที่คลิปวีดีโอของน้องก้อง ได้เผยแพร่ไปในโลกโซเชียล ต่างก็มีผู้คนพากันเข้าไปรับชมความฮา และความน่ารักของคุณน้องกันเพียบ เรียกได้ว่ายอดวิวในยูทูปทะลุหลักล้านกันเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้เราจะขอมาอัพเดทภาพของน้องก้อง ให้เพื่อนๆ ได้หายคิดถึงกันสักหน่อย ต้องขอบอกเลยว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้ น้องก้องเปลี่ยนไปมากๆ เลยทีเดียว แถมยังดูดี และน่ารักขึ้นเป็นกองอีกด้วย โหยยย เรียกได้ว่าเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้กันเลยทีเดียว และที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ จากที่เคยเป็นเด็กอ้วนจ่ำม่ำ ตอนนี้ดูผอมลงเยอะเลยนะเนี่ย อุ๊ยยยย โตเป็นสาวแล้วยิ้มหวานเชียวนะ ความกล้าแสดงออกยังมีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความน่าร๊ากกกกก จากกระเทยหัวโปกอ้วนจ่ำม่ำ ตอนนี้ทั้งสวย และผอมลงเยอะเลย แซ่บมากเลยขุ่นน้องงงงงง จากวันนั้นจนถึงวันนี้พูดได้เลยว่าขุ่นน้องแก่เปลี่ยนไปเยอะจริงๆ แถมยังแซ่บซี๊ดขึ้นอีกด้วยเมี๊ยว ที่มา : patipon.puntawee
-
ดราม่าหนักหน่วง!! หนุ่มฝางไปสอบตำรวจที่ลำปาง บ่นหนัก ที่สุดคือหาร้านสะดวกซื้อไม่เจอ
กลายเป็นประเด็นร้อนระอุขึ้นมาทันที เมื่อพ่อหนุ่มจากอำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ไปสอบตำรวจที่จังหวัดลำปาง ซึ่งคนต่างถิ่นจะรู้สึกว่ามันมีอะไรที่ไม่คุ้นเยอะ ก็เลยทำการระบายออกมาผ่านสื่อโซเชียล ซึ่งพ่อหนุ่มรายนี้ก็บ่นยาวๆ เกี่ยวกับเรื่องภายในจังหวัดลำปางหลายข้อกันเลยทีเดียว รายละเอียดการบ่นในครั้งนี้จะมีอะไรบ้าง ลองตามมาอ่านกันดีกว่า!! เมื่อเรื่องนี้เข้าไปถึงชาวลำปาง ต่างก็แสดงความคิดเห็นในหลากหลายกรณี เหมียวว่าบางทีการวัดความเจริญด้วยร้านสะดวกซื้อ บางทีมันก็ไม่ถูกต้องไปซะหมดหรอกนะ แต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว แล้วพวกท่านล่ะมีความคิดเห็นกันอย่างไรบ้างจ๊ะ ที่มา : กลุ่ม Lampang City
-
ปอท. คุ้มเข้มการกระทำผิดออนไลน์ ทั้งโพสต์ ไลค์ คอมเม้นท์ แชร์ แบบไม่คิดอาจติดคุก!!
เดี๋ยวนี้การจะกระทำอะไรในโลกออนไลน์ หรือในสื่อโซลเชียลต่างๆ ก็ได้เริ่มมีการออกนอกลู่นอกทางกันไปมากขึ้น เพราะด้วยความอิสระที่ไม่มีใครสามารถควบคุมได้ การปั้นเรื่องราว ปลุกปั่นต่างๆ สามารถทำได้โดยง่าย หลอกให้ผู้อื่นเชื่อ ไหนจะในเรื่องของการแสดงความคิดเห็นที่อิสระเต็มที่ ล่าสุดนี้ทาง พ.ต.อ.สมพร แดงดี รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รองผบก.ปอท.) ก็ได้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ข้อมูลของกฏหมายและพรบ. คอมพิวเตอร์ โดยเน้นย้ำว่า หมดการอ้างวลียอดฮิตติดลมบน ‘รู้เท่าไม่ถึงการณ์’ ซึ่งถ้าหากว่าทำผิดมา จับกลับ ไม่โกง 100% ทั้งนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีก็ได้เผย 10 พฤติกรรมเสี่ยงคุกในโลกออนไลน์ไว้ทั้ง 10 ประการดังนี้ 1. การอัพโหลดรูปภาพลามกอนาจารทุกรูปแบบ โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. ตั้งตัวตนปล่อยข่าวลือ ปล่อยข่าวที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย โทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 3. การตัดต่อภาพบุคคลอื่นให้เสื่อมเสียชื่อเสียงนำมาโพสต์ในอินเทอร์เน็ต ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ…
-
ดีงาม!! Facebook จะส่งแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ได้ทราบ หากว่ามีการล้วงข้อมูลจากรัฐบาล
เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่อยากให้ข้อมูลความลับส่วนตัวแพร่กระจายออกไปให้ผู้อื่นได้รับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์และในโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งหากจะใช้งานก็จำเป็นที่จะต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนหนึ่งของตนเองด้วย อย่างไรก็ตามการเผยข้อมูลส่วนตัวนั้นเป็นข้อตกลงระหว่างผู้ใช้กับผู้ให้บริการ โดยที่ผู้อื่นนอกเหนือจากผู้ให้บริการไม่อาจล่วงรู้ถึงข้อมูลผู้ใช้ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้จากผู้ไม่หวังดีนั่นเอง ในการนี้ทาง Facebook จึงได้ออกมาตรการใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทุกรายที่มีมากกว่า 1 พันล้านบัญชี ด้วยการแจ้งเตือนผ่านข้อความว่า ‘เราคาดว่าบัญชีของท่าน ตกเป็นเป้าหมายหรือถูกโจมตีจากบุคคลที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลภายในประเทศของท่าน’ Facebook จะขอให้ผู้ใช้เปิดการใช้งานระบบ Login Approvals (การยืนยันตัวตน) โดยมีหลักการทำงานคือระบบจะทำการส่งรหัสยืนยันตัวตนผ่านข้อความ SMS และจะต้องป้อนรหัสนี้ทุกครั้งเมื่อมีการเข้าระบบจากอุปกรณ์ใหม่หรือบราวเซอร์ใหม่ ทางหัวหน้าแผนงานด้านความปลอดภัยของ Facebook นามว่า Alex Stamos กล่าวเอาไว้ว่า การแจ้งเตือนดังกล่าวนั้นไม่ได้หมายความว่าระบบส่วนกลางได้รับการโจมตี แต่เป็นการถูกโจมตีมาจากอุปกรณ์ของผู้ใช้ที่อาจจะติดไวรัสหรือมัลแวร์มา เพราะฉะนั้นควรที่หยุดการเชื่อมต่อใดๆ และเปลี่ยนเครื่องให้เร็วที่สุด เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับ Facebook เองเพราะหนึ่งในนโยบายหลักคือการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ทุกราย และจะทำการปิดกั้นการล้วงข้อมูลจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ถูกสนับสนุนจากรัฐบาลให้ล้วงข้อมูลหรือแม้แต่กระทั่งตัวรัฐบาลเองก็ตาม!! ที่มา : news.yahoo
-
ก็เอาซิ๊!! หลังมีประกาศโพสต์รูปแอลกอฮอล์ลงโซเชียลผิดกฏหมาย ชาวเน็ตแห่โพสต์กันตรึม
กลายมาเป็นประเด็นใหญ่โตในบ้านเมืองประเทศไทยกันเลยทีเดียว จากจุดเริ่มต้นที่มีดาราคนดังโพสต์รูปภาพเบียร์ยี่ห้อสัตว์ใหญ่เต็มอินสตาแกรม แบบให้เห็นฉลากยี่ห้อกันแบบโต้งๆ เข้าข่ายการโฆษณาแฝง ซึ่งทาง สคบ. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจก็ได้ออกมาประกาศว่า ดาราที่โพสต์รูปภาพดื่มเบียร์หรือถือขวดเบียร์ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ม.26 ว่าด้วยฉลาก สคบ.แจงดาราโพสต์IGดื่มเบียร์ เข้าข่ายผิดกฎหมาย ม.26ว่าด้วยฉลาก ด้าน สตช.เตรียมเรียกดารา 24 คน เข้าสอบเพิ่มเติม ไม่เพีย… Posted by Voice TV on Saturday, October 10, 2015 ตามรายงานดังกล่าว นอกจากดาราจะโดนแล้ว คนทั่วไปก็โดนเหมือนกันหากมีการโพสต์รูปภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงในโซเชียล ซึ่งหลังจากได้ยินและได้เห็นกันไปแล้วว่ายังไงก็ไม่รอดแน่นอน ชาวเน็ตไทยทั้งหลายก็เลยพร้อมใจกันประชดประชันผ่าน #โพสต์รูปแอลกอฮอลลงโซเชียล กันไปเลย ได้เวลาเตรียมหม้อไฟ #โพสต์รูปแอลกอฮอลลงโซเชียล -@size_sss Posted by Suvinit Aum Pornnavalai on Saturday, October 10, 2015 ดื่มใกล้หมดขวดละ เตือน…
-
พลังโลกออนไลน์ แห่แชร์ข้อความช่วยเหลือคุณตา หลังยายถูกรถชนเสียชีวิต ไม่มีแม้เงินทำศพ
เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุรถชนรถจักรยานยนพ่วงข้างบริเวณหน้าสนามกอล์ฟลานนา ถนนโชตนา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้คุณตาและคุณยายเร่ขายผักได้รับบาดเจ็บ แต่คุณยายอาการสาหัสจนเจ้าหน้าที่ต้องเร่งปั๊มหัวใจ หลังจากใช้เวลาปั๊มหัวใจสักครู่ คุณตาก็ได้ถามกับเจ้าหน้าที่ว่า “ยายไม่หายใจแล้วใช่ไหม” กลายเป็นบรรยากาศที่น่าสลดของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเลยทีเดียว แต่เรื่องราวกลับน่าเศร้ากว่านั้น เพราะทั้งคู่มีอาชีพเร่ขายผัก และไม่มีเงินมากพอจะนำศพของคุณยายมาทำพิธีกรรมทางศาสนา แต่โชคดีที่มีชาวเน็ตใจดีที่นามชื่อว่า Napat Meo โพสต์ข้อความเพื่อขอความช่วยเหลือแทนคุณ เพราะคุณตาเองยังคงมีอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุอยู่ จึงอาสารับบริจาคเงินเพื่อนำไปมอบให้กับคุณตาขายผัก เพื่อนำเงินไปทำศพยายและเป็นค่ารักษาพยาบาลต่อไป หลังจากที่ข้อความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตต่างพากันเข้ามากดแชร์ข้อความของเธออย่างมากมาย พร้อมกับโอนเงินเพื่อสมทบทุนให้กับคุณตาอีกเพียบเลยทีเดียว และหากใครอยากจะร่วมสมทบทุน พวกคุณก็สามารถบริจาคให้กับบัญชีของคุณตาได้โดยตรงที่ด้านล่างนี้เลยนะ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ นะคะ ช่วยกันไลค์และแชร์ ตอนนี้คุณยายขายผักที่ประสบอุบัติเหตุ โดนรถชน เสียชีวิตแล้ว คืออ่านข่าวร้องไห้… Posted by Napat Meo on 8 ตุลาคม 2015 ที่มา Napat Meo
-
สาวสุดยัวะหนีด่าน เจอตำรวจยึดกุญแจรถ ถามกลับ “รู้ไหมกูลูกใคร?”
กลายเป็นประเด็นให้โลกออนไลน์หยิบมาวิพากษ์วิจารณ์กันอีกแล้ว สำหรับกรณีของสาวขี้ยัวะรายหนึ่ง ที่ขับรถฝ่าด่าตำรวจ แต่สุดท้ายหนีไม่พ้นจนโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจตามตัวได้ ตามรายงานบอกว่าหญิงสาวได้พยายามขับรถหนีด่านบริเวณถนนสีลม และถูกจับได้แถวแยกสยาม แต่เหตุการณ์กลับดูวุ่นวายขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดเอากุญแจรถของเธอไว้เพื่อตรวจสอบ แต่ฝ่ายหญิงกลับโมโหจัดและยืนยันว่าตนไม่ได้เมา จึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปตำรวจ พร้อมกับขอดูบัตรข้าราชการ และพูดด้วยประโยคสุดคลาสสิคว่า “มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร” คลิกชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เหมียวล่ะขอชื่นชมในความใจเย็นของพี่ตำรวจจริงๆ งานนี้ไม่รู้ล่ะว่าเธอเป็นลูกใคร แต่ที่แน่ๆ โดนจับเหมือนคนทั่วๆ ไปเลยล่ะ ที่มา โก๋แบร์ แชร์ทุกเรื่อง , นิ ตยา คงสุข
-
ถ่ายมาถ่ายกลับไม่โกง!! หนุ่มอัดคลิปถูกตำรวจจับข้อหาดัดแปลงกันชนท้าย ทั้งที่รถอยู่ในสภาพเดิมๆ
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของนาย อนันต์ เหลืองประดิษฐ หรือที่หลายๆ คนรู้จักกันในนามแบทแมน เป็นคลิปวิดีโอในขณะที่เจ้าตัวถูกตำรวจจากสน.ตลิ่งชัน เขียนใบสั่ง ในข้อหาดัดแปลงสภาพรถ แต่เนื่องจากเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ดัดแปลง และรถของตนนั้นก็ออกจากโรงงานมาเป็นแบบนั้นเลย ทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเจ้าหน้าที่ตำรวจรายดังกล่าว แต่ดูเหมือนว่าทางตำรวจเองก็ไม่ได้ยอมแพ้ จึงขอหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปบ้าง เกิดเป็นสงครามของกล้องวิดีโอขึ้นมาซะอย่างงั้น พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “แบทแมนโดนจับขณะพายานลำใหม่กลับบ้าน 22/9/58 ฝากเพื่อนเพื่อนแชร์ด้วยนะครับ ถ้ามีตำรวจหากินแบบนี้แล้วบ้านเมืองจะเจริญยังไงครับ บอกว่ารถใส่กันชนท้ายผิดกฎหมายและดัดแปลงสภาพรถมีหลังคา” “แต่ว่ารถคันนี้จดทะเบียนเป็นรถบรรทุกมีหลังคาถูกต้องตามกฏหมายครับ ขอความเป็นธรรมให้กับแบทแมนด้วยครับ ผมจะได้มีกำลังใจช่วยเหลือสังคมต่อไปครับ ถ้าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับคนที่หาเช้ากินค่ ผมคิดว่าเค้าคงจะเดือดร้อนกันทั้งครอบครัวครับ เพราะมีตำรวจแย่แย่แบบนี้ในสังคมไทย” “รถคันนี้ใช้งานมาแล้ว 3 ปีฝากครับ ไม่เคยโดนจับแม้แต่ครั้งเดียว” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แบทแมนโดนจับขณะพายานลำใหม่กลับบ้าน 22/9/58 ฝากเพื่อนเพื่อนแชร์ด้วยนะครับ ถ้ามีตำรวจหากินแบบนี้ แล้วบ้านเมืองจะเจริญยังไงครับ บอกว่ารถใส่คันชนท้ายผิดกฎหมาย และดัดแปลงสภาพรถมีหลังคา แต่ว่ารถคันนี้จดทะเบียนเป็นรถบรรทุกมีหลังคาถูกต้องตามกฏหมายครับ ขอความเป็นธรรมให้กับแบทแมนด้วยครับ ผมจะได้มีกำลังใจช่วยเหลือสังคมต่อไปครับ ถ้าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับคนที่หาเช้ากินค่ำ ผมคิดว่าเค้าคงจะเดือดร้อนกันทั้งครอบครัวครับ เพราะมีตำรวจแย่แย่แบบนี้ในสังคมไทย รถคันนี้ใช้งานมาแล้ว 3 ปีฝากครับ…
-
ขำหนักมาก!!! คุณครูไอเดียเจ๋ง “ออกโปรหลับแรง” เอาใจนศ. ชอบหลับในห้องเรียน
หลายๆคนคงเคยเป็นใช่ไหมคะ เวลาเรียนทีไรชอบง่วงตลอด แต่เวลาเลิกเรียนกลับดีด้า ความง่วงหายไปทันที เป็นเพราะการเรียนการสอนมันน่าเบื่อหรือเปล่านะ บรรดาคุณครูอาจารย์ท่านก็รู้ดี แต่ก็ไม่รู้จะแก้ยังไงไม่ให้เด็กนักเรียนแอบหลับในห้อง หักคะแนนก็แล้ว ลงโทษก็แล้ว ก็ยังคงหลับกันอยู่ดี ครูท่านนี้เขาเลยมีไอเดียดี อยากหลับกันนักใช่ไหม จัดให้เลย ออกโปรโมชั่นให้ได้หลับกันเต็มที่ โปรโมชั่นของครูท่านนี้ถูกโพสต์ขึ้นโดย คุณGolf’Fer Supanut ได้โพสต์ภาพ “โปรหลับแรง” นักเรียนมีสิทธิ์หลับในห้องเรียน วันละ 15 นาที ต่อคน หลับเกินปรับนาทีละ 15 บาท ซึ่งโปรโมชั่นนี้มีราคา 399 บาท!! ชาวโซเชียลต่างชอบใจพากันแชร์จำนวนมาก โปรหลับแรงโอ้ยยยกูฮาแปป 5555555555 Posted by Golf’Fer Supanut on 19 สิงหาคม 2015 งานนี้ไม่รู้ว่าเด็กนักเรียนยังจะกล้าหลับอยู่หรือเปล่า ถ้าอยากหลับก็จ่ายไปเลย 399 บาท ต่อวัน!! ฮ่าาา เหมียวคิดว่าคุณครูท่านทำขึ้นมาเพื่อเป็นมาตรการในการปราบนักเรียนที่ชอบหลับนะจ้ะ อย่าคิดมากน๊าาาา ที่มา Golf’Fer Supanut
-
จวกเละ!! พนักงานมือถือยี่ห้อดัง โพสต์สมน้ำหน้าเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์
จากข้อความเล็กๆในเฟซบุ๊คของตนเอง ลุกลามจนกลายเป็นดราม่าใหญ่โตไปซะแล้วล่ะ สำหรับกรณีของหนุ่มชาวเหนือรายหนึ่ง ที่โพสต์ข้อความในเชิงรู้สึกสะใจ กับเหตุการณ์ระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อค่ำที่ผ่านมา โดยข้อความทั้งหมดมีอยู่ว่า “ชอบแต้ๆ ระเบิดลงกรุงเทพ เป็นจะไดอยู่บ้านนอกดีๆบ่ชอบ ชอบไปอยู่เมืองกรุง ระเบิดนักๆ เอามันตายหื้อหมดหื้อเสี้ยง #บึนปากใส่” เมื่อข้อความของนายคนนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตที่พบเห็นเข้าเกิดความไม่พอใจ และเข้ามาต่อว่ากันอย่างมากมาย จนมีบางคนเข้าไปเปิดดูประวัติถึงรู้ว่า นายคนนี้เป็นพนักงานอยู่ที่บริษัท Oppo สาขาหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปต่อว่ากับเพจ Oppo Thailand กันอย่างมากมาย ถึงการอบรมพันกงานรายดังกล่าว ซึ่งทางแอดมินเพจก็ได้ออกมาชี้แจงว่า แท้จริงแล้ว พนักงานรายนี้ได้สิ้นสภาพการเป็นพนักงานไปตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว นี่ก็เป็นอีกกรณีตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการโพสต์ข้อความหรือแสดงออกแบบไม่เหมาะสมในโลกออนไลน์ จนข้อมูลหรือข้อความดังกล่าวย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนั่นเอง ที่มา OPPO Thailand
-
คุณพระคุณเจ้าช่วย!! ชมคลิปเตือนภัย ก่อนออกรถเช็คให้ดีๆ ไม่งั้นอาจได้งูเป็นเพื่อนร่วมทาง!?
เราคงเคยได้ยินรายการรถหรือใครก็ตาม ที่มักจะออกมาเตือนเราว่าควรจะเช็ครถก่อนออกเดินทางทุกครั้งใช่ไหมล่ะ ซึ่งคนส่วนใหญ่รับรู้แต่ไม่ค่อยทำตามกันนะ หากคุณไม่เช็ครถให้ดีๆก่อนออกเดินทางล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจได้เพื่อนร่วมทางสุดสยองแบบนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊ค ไอ้ ตี๋เหะ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อค ในระหว่างที่เขากำลังขับรถอยู่นั้นเอง จู่ๆกลับมีงูกจงอางตัวเบิ้มเลื้อยลงมาจากหลังคารถและมาเกาะอยู่ที่ขอบประตู ทำเอาทั้งคนขับและผู้โดยสารในรถถึงกับขนลุกไปตามๆกัน พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “ขับซ่ะเร็วเชียว….กูจะลงไง…หละสึด” ลองไปชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า ขับซ่ะเร็วเชียว….กูจะลงไง…หละสึด Posted by ไอ้ ตี๋เหะ on 11 สิงหาคม 2015 บรึ๋ยยยยย ทีหน้าทีหลัง เวลาจะออกรถ ลองเช็ครอบๆให้ดีๆก่อนนะ ไม่งั้นอาจได้เจอเลื้อยสยองโลกแบบนี้ก็เป็นได้ ที่มา ไอ้ ตี๋เหะ
-
ทดสอบการหลอกนัดเด็กหญิงให้พบกับคนแปลกหน้า สะท้อนถึงความอันตรายของโลกโซเชียล!!
โซเชียลมีเดียในยุคสมัยชีวิตดิจิตอลแบบนี้ในด้านหนึ่งก็ดีที่สามารถเชื่อมคนทั้งโลกเอาไว้ด้วยกัน สามารถติดต่อกันได้สะดวกมากขึ้น แต่เมื่อลองมองกลับไปอีกด้าน ความร้ายกาจของมันสูงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กๆ ที่ยังไม่รู้เท่าทันคน พ่อหนุ่ม Coby Persin ได้ทำการทดสอบให้เห็นถึงความอันตรายของโลกโซเชียล ที่ใครๆ ก็สามารถติดต่อกันได้ แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าที่รู้จักกันเพียงผิวเผินเท่านั้น เขาได้ทำการปลอม Facebook ขึ้นมาเป็นชายหนุ่มอายุ 15 ปีและได้ลองคุยกับเด็กสาวอายุ 14 13 และ 12 ปีตามลำดับโดยทำการขออนุญาตพ่อและแม่ของเด็กหญิงทั้งหมดแล้วก่อนที่จะทำการทดสอบนี้ การทดสอบใช้เวลาในประมาณ 3-4 วันเพื่อทำการพูดคุยผ่านโลกออนไลน์ให้เหยื่อรู้สึกคล้อยตามและสามารถทำการนัดออกมาพบนอกสถานที่ได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมานั้นแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า เด็กเหล่านี้ยอมออกมาจากบ้านเพื่อมาพบคนแปลกหน้าที่รู้จักกันเพียงแค่ในโลกออนไลน์!! ในโลกแห่งความเป็นจริงเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าคนที่จะเจอเป็นคนแบบไหน ซึ่งส่วนใหญ่เหตุคดีข่มขืนที่เกิดขึ้นนั้นล้วนมาจากการที่เด็กหญิงไว้ใจในการพบกับคนแปลกหน้า อย่างกรณีของคุณพ่อรายนี้ที่แอบมาอยู่ในรถด้วย แล้วเขาก็ได้ทำการนัดแนะว่าจะไปหาที่หน้าบ้าน ถ้าหากว่าพ่อไม่อยู่แล้ว ซึ่งคุณพ่อเองก็ไว้ใจลูกสาวของตัวเองว่าจะไม่ทำการเปิดประตูรับคนแปลกหน้าเข้าบ้านอย่างแน่นอน!! แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณพ่อคิด ถ้าหากว่าเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ได้มาทำการทดสอบแบบนี้ เธอจะตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดีอย่างแน่นอน!! เด็กสาวรายสุดท้ายถูกนัดขึ้นมาบนรถ พ่อและแม่ของเธอก็ร่วมสวมบทบาทเป็นผู้ร้ายก่อนที่จะเผยตัวตน และพบกับความจริงที่ว่าลูกสาวของพวกเขายังไม่ทันกลในโลกออนไลน์ที่มีความอันตรายสูงมากๆ โซเชียลมีเดียเป็นดาบสองคม ด้านประโยชน์ของมันก็มีมากมาย แต่อีกด้านร้ายๆ ก็มีเยอะเช่นกัน เพราะฉะนั้นดูแลบุตรหลานของท่านให้ดี ก่อนที่จะตกเป็นเหยื่อของบุคคลที่ไม่หวังดีต่อบุตรหลานของท่าน ด้วยความห่วงใยจากสำนักข่าวแมวเหมียว ที่มา : Coby…
-
สาวในโซเชียลตอบโต้อย่างเจ็บแสบ เมื่อชาวเน็ตผ่านกันรุมวิจารณ์การเขียนคิ้วของเธอ
เคยได้ยินไหมว่า คิ้ว เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของใบหน้า โดยเฉพาะคุณผู้หญิงทั้งหลายที่มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการแต่งหน้าไปกับการเขียนคิ้ว ถ้าวันไหนไม่ได้เขียนคิ้ว ก็อย่าหวังที่จะเห็นเธอออกมาสู่โลกภายนอก ส่วนเคล็ดลับการเขียนคิ้วก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน อยากจะเขียนสั้นบางหรือยาวเข้มก็ว่ากันไป แต่สำหรับสาวคนนี้ เธอมีเทรนด์การแต่งหน้าไม่เหมือนใครจริงๆ เพราะมันแปลกเสียจนทำให้คนในโลกโซเซียลต้องทำการวิจารณ์กันไปยกใหญ่ สุดท้ายเธอคนนี้ทนไม่ไหว เลยต้องออกมาโพสสเตตัสโต้ตอบชาวเน็ตทั้งหลายที่คอยรุมว่าเรื่องคิ้วที่สุดจะบรรยายของเธอ จะเห็นได้ว่า เธอคนนี้ก็ออกมาตอบโต้ด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรงเช่นกัน แถมเธอยังเขียนแนวท้าทายอีกว่า ยังไงๆ เธอก็จะไม่เปลี่ยนการเขียนคิ้วแบบนี้แน่! แต่ไม่แน่นะ อนาคตแฟชั่นการเขียนคิ้วแบบเธอคนนี้อาจจะกลายเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นก็เป็นไปได้นะ ใครจะไปรู้! สุดท้ายแล้วบทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นยังไง เธอจะยืนยันเขียนคิ้วแบบนี้ต่อไปหรือจะเลิกเขียนแบบนี้แล้วเขียนแบบใหม่ที่ไฉไลกว่า ก็โปรดให้กำลังใจเธอด้วยละกันนะ ที่มา ผู้ใช้เฟสบุ๊คท่านหนึ่ง