Tag: โดนจับ
-
นางแบบสาวเสนอ ‘มีเซ็กส์แบบทรีซัม’ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รอดพ้นจากการจับกุม!!
อย่างที่รู้กันดีว่าเมื่อคุณ ‘ทำผิดกฎหมาย’ สิ่งที่ตามมาก็คือต้องถูกลงโทษตามความผิดที่ได้ทำลงไป แน่นอนว่าหลายๆ คนอาจจะพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการลงโทษเหล่านั้นด้วยวิธีการต่างๆ นานา เช่นเดียวกันกับนางแบบสาวชาวรัสเซียรายนี้ ที่พยายามจะหลีกเลี่ยงการลงโทษทางกฎหมายจากการทำผิดกฎจราจร ด้วยการ ‘เสนอให้มีเซ็กส์แบบทรีซัม’ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คน แต่โดนปฏิเสธเลยโดนจับเข้าคุก 18 เดือน!! เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2018 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail รายงานว่า Kira Mayer นางแบบสาววัย 24 ปี กำลังจะถูกจับกุมในข้อหาสร้างความรุนแรงบนท้องถนน แต่เธอไม่อยากถูกดำเนินคดี จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายลบคลิปวิดีโอที่เป็นหลักฐานทิ้งไปแลกกับการได้มีเซ็กส์แบบทรีซัมกับเธอ ก่อนหน้านั้นเธอถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด แต่กลายเป็นว่าตัวเธอนั้นไม่มีใบขับขี่ จึงต้องขับหนีไป แต่ความพยายามนั้นก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ในที่สุดเธอก็ยอมจอดและลงมาทำข้อตกลงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคน เจ้าหน้าที่เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า “เธอพยายามที่จะตะโกน และแสดงความไม่พอใจ รวมไปถึงพยายามที่จะขับรถหนีไปอีกรอบ แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ” “เธอพยายามที่จะเสนอให้เรามีเซ็กส์ด้วย ทั้งแบบทีละคน หรือพร้อมกัน 2 คนเลยก็ได้ แต่พวกเราปฏิเสธไป พร้อมกับแจ้งข้อหากับเธอเพิ่มเติม” ทางด้าน…
-
สื่อไต้หวันตีข่าว การหายตัวไปของ ‘ฟ่าน ปิงปิง’ กว่า 3 เดือน ถูกจับเพราะ ‘หนีภาษี’!!
กลายเป็นข่าวเด่นข่าวดังของเมื่อคืนที่ผ่านมาเลยทีเดียวกับกรณีของนักแสดงที่ชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งในเอเชียอย่าง ฟ่าน ปิงปิง ถูกจับกุมในข้อหา ‘หนีภาษี’ หลังจากที่เงียบหายไปนานถึง 3 เดือน เพราะถูกกล่าวหาว่าหนีภาษีจากการใช้วิธีที่เรียกว่า ‘สัญญาหยิน-หยาง’ เป็นระบบการทำสัญญาที่นักแสดงชาวจีนใช้กันเพื่อหลบเลี่ยงการจ่ายภาษี ยกตัวอย่างเช่น ในงาน 1 งาน นักแสดงจะทำการเซ็นสัญญาไว้ 2 ฉบับ ฉบับหนึ่งจะเปิดเผยตัวเลขรายได้ให้เห็นอย่างชัดเจนสมมุติว่าเป็น 1 ล้านบาท (เป็นจำนวนเงินที่ถูกหักภาษีไปแล้ว) ส่วนอีกฉบับหนึ่งจะเป็นรายได้อีกจำนวนหนึ่งซึ่งจะไม่นำมาเปิดเผย และในฉบับหลังนี้จะมีจำนวนเงินที่เยอะกว่าฉบับแรกมาก สมมุติว่าเป็น 7 ล้านบาท สรุปแล้วจริงๆ รายได้ของนักแสดงจะอยู่ที่ 8 ล้านบาท ไม่ใช่ 1 ล้านบาทอย่างที่เข้าใจกัน และจากการรายงานของเว็บไซต์ Securities Daily ของประเทศไต้หวัน ได้ระบุว่ามีการค้นพบว่าฟ่าน ปิงปิง ได้ทำการหนีภาษีโดยใช้สัญญาหยินหยางนี้ จากการเซ็นสัญญารับงานแสดงในหนังเรื่อง Cell Phone 2 โดยที่สัญญาแรกมีมูลค่าอยู่ที่ 2 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ (65 ล้านบาท) ส่วนสัญญาที่สองมีมูลค่าถึง 10…
-
ซูเปอร์สตาร์แห่ง Bollywood ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี หลังคร่าชีวิตสัตว์ป่าสงวนในประเทศอินเดีย
บนโลกของเรามีสัตว์สงวนอยู่หลากหลายชนิด ซึ่งเหตุผลที่ต้องมีการขึ้นทะเบียนสัตว์สงวน ก็เพื่อจะอนุรักษ์เผ่าพันธุ์ของสัตว์เหล่านั้นเอาไว้ เพราะฉะนั้นหากใครที่ทำผิดกฎหมายดังกล่าว เข่นฆ่าสัตว์เหล่านั้นไปโดยไร้เหตุผล คนคนนั้นก็สมควรที่จะได้รับโทษเฉกเช่นเดียวกับนักแสดงหนุ่มคนนี้ Salman Khan วัย 52 ปีดาราบอลลีวูดชื่อดังจากประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2018 เขาถูกตัดสินให้จำคุกนาน 5 ปี หลังจากที่เขานั้นเคยพรากชีวิตของ Blackbuck หนึ่งในสัตว์ป่าสงวนของประเทศอินเดียในปี 1998 Salman นักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในอินเดีย ชายคนนี้คือนักแสดง นักร้อง และพิธีกรรายการทีวีซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในประเทศอินเดีย หนังที่เขาเคยเล่นนั้นทำเงินได้เป็นหลายพันล้านบาท แต่ในปี 1998 เขาได้กระทำความผิดเอาไว้ในตอนที่เดินทางไปถ่ายหนังเรื่อง Hum Saath-Saath Hain บริเวณรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ใกล้กับพื้นที่คุ้มครองสัตว์ป่า จากการรายงานในชั้นศาลบอกว่า ตอนนั้นเขาพักอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Bishnois พื้นที่ที่ชาวบ้านนับถือสิ่งมีชีวิตทุกชนิด และสัตว์ในบริเวณนั้นเป็นสัตว์สงวนที่ได้รับการคุ้มครอง แต่เมื่อ Salman เห็นฝูง Blackbuck เขากลับคว้าปืนยิงพวกมันตายไปสองตัว ชาวบ้านที่เป็นพยานทั้ง 28 คนเล่าว่า พวกเขารีบวิ่งออกไปจากกระท่อมทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงปืน…
-
พลาดแล้วไอ้สอง… โจรขึ้นขโมยของโรงแรมย่านฝรั่ง หารู้ไม่เขาฝึกมวยไทยกันทั้งซอย!!
ความซวยเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ อะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ แม้แต่กับหัวขโมยหนุ่มที่มีความตั้งใจจะเข้าไปขโมยของของผู้อื่น ก่อนที่จะรับรู้ว่าตนเองได้ทำพลาดครั้งใหญ่ไปซะแล้ว เหตุการณ์ดังกล่าวถูกรายงานเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2018 ผ่านสเตตัสเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า ไมตรี วงศ์พานิชปฐม เผยเรื่องราวของโจรหนุ่มและพรรคพวกที่เข้าไปพยายามขโมยของในซอยตาเอียด ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ย่านนักท่องเที่ยวชื่อดัง หน้าตาของโจรหนุ่มคนดังกล่าว แต่การตัดสินใจเข้าไปลักทรัพย์ของคนเหล่านี้กลับเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดอย่างมาก หารู้ไม่ว่าชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในซอยนั้นล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มาฝึกมวยไทยทั้งสิ้น ทุกอย่างจึงจบลงอย่างง่ายดาย หัวขโมยโดนล็อกคอนอนรอชะตากรรมในคุก พลาดแล้วไอ้สอง ซอยมีตั้งเยอะแยะ ก็ดันเข้ามาขโมยของในซอยนักมวย ไม่ต้องหวังว่าจะรอดเลยคราวนี้ ในภายหลังทราบชื่อว่าหัวขโมยที่ถูกจับได้ในครั้งนี้มีชื่อว่า นาย ฉัตรชัย สิทธิปัญญา อายุ 39 ปี ด้วยการร่วมมือกันเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเจ้าโจรหนุ่มถูกชาวต่างชาติจับล็อกเอาไว้ใน โรงแรมทูโฮมรีสอร์ต บริเวณย่านดังกล่าว สุดท้ายเจ้าโจรดวงซวยจึงถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืนฯ และพยายามลักทรัพย์ฯ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่จะพยายามตามหาพรรคพวกของเขาที่กำลังหลบหนีต่อไป การกระทำต่างๆ ล้วนแล้วแต่มีผลของมัน การเป็นโจรเหมือนชายคนนี้ย่อมต้องทำให้เขารับผลกรรมไปใช้ชีวิตในคุกไม่ช้าก็เร็ว แต่ที่ซวยสุดๆ ก็คงเป็นตอนที่โดนกำปั้นจากเหล่านักมวยชาวต่างชาติจนทำให้นอนสิ้นสภาพเหมือนอย่างในภาพที่เราเห็น ที่มา: ไมตรี วงศ์พานิชปฐม
-
ควันหลงวันโกหก 10 ผู้คนซึ่งโดนจับได้ว่าพวกเขาโกหก แถมโดนจับได้อย่างเจ็บแสบด้วย
ว่ากันว่ามนุษย์เป็นสัตว์เพียงชนิดเดียวในโลกที่พูดโกหก แน่นอนอยู่แล้ว เพราะสัตว์อื่นยังไม่มีระบบการพูดที่ซับซ้อนเท่ามนุษย์เรา เพราะอย่างนั้นสังคมของคนเราจึงเต็มไปการโกหก หลอกลวง และการใส่ร้าย เรื่องโกหกนั้นตราบใดที่ไม่ใครจับได้ มันก็จะถูกเชื่อว่าเป็นเรื่องจริงต่อไปอยู่เรื่อยๆ แต่มันไม่ใช่สำหรับคนเหล่านี้ ผู้คนซึ่งโดนจับได้ว่าพวกเขาโกหก แถมโดนคนที่จับได้ ตอกกลับอย่างเจ็บแสบเสียด้วย คู่รักผู้ถ่ายรูปตัวเองแกล้งหลับและบอกว่า A: เมื่อเราทั้งคู่หลับ Isaac: อ๋อๆ แสดงว่าคนถ่ายรูปนี่คือไรฝุ่นสินะ อย่ามาเนียนกับสายการบิน Adam: วิดีโอใหม่มาแล้วนะ ผมแอบเอาตัวเองขึ้นเครื่องไปอีกเมือง (ในกระเป๋า) แล้วก็สำเร็จด้วย สายการบิน Tiger Air: เหรอๆ งั้นบอกทีสิ Adam ทำไมเรามีภาพวงจรปิดของคุณที่กำลังเดินขึ้นเครื่องล่ะ จะพูดอะไรก็ตรวจสอบให้ดีก่อนเถอะ ชาย A: นี่ล่ะที่เรียกว่าศิลปะ มันเป็นสิ่งที่สืบทอดกันมาในตะวันตก นี่คือสิ่งที่เหล่าบุรุษแห่งตะวันตกสู้ และสละชีวิตเพื่อให้ได้มา มันคือชัยชนะ ชาย B: มันจะมีนักปั้นผู้หญิงคนไหนที่ใส่ใจในรายละเอียดได้เท่ากับที่ผู้ชายมีให้กับผู้หญิงอีกไหม… ชาย C: ไม่มี!! นี่เป็นรูปปั้นที่ทำมาเพื่อบูชาสวรรค์ และมันก็สวยสมคุณค่าจริงๆ ผู้รู้ D: *ตอบกลับ* คนปั้นเขาเป็นผู้หญิงชาวจีนโว้ย!! ไอ้พวกขี้แพ้งี่เง่า …
-
มาเลเซียมาตรการใหม่ ใครปล่อยข่าวปลอมโดนปรับ 4 ล้านบาท ขังคุกอีก 10 ปี ระวังไว้ให้ดี!!
การจะรับรู้ข่าวสารอะไรก็ตามในสมัยก่อนนั้น เราจำเป็นจะต้องอ่านหนังสือ อ่านหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็ดูจากโทรทัศน์เป็นต้น กลับกันในปัจจุบันเวลาเราจะรับข่าวสารอะไรนั้น เราสามารถจะหาอ่านตามอินเทอร์เน็ตได้ทั่วไป แต่แม้ปัจจุบันนั้นเราจะเสพข้อมูลได้ง่ายและสะดวกขึ้น แต่ใช่ว่าข้อมูลข่าวสารทุกอย่างจะเป็นเรื่องจริง เพราะบางครั้งคนก็ชอบจะกุข่าวปลอมๆ ออกมาเพื่อสร้างกระแสหรือส่งข้อมูลผิดๆ ให้คนอ่าน แน่นอนว่าถ้าคุณรับสารอย่างมีสติก็จะไม่มีปัญหา ทว่าใช่กลับทุกคนจะสามารถรับข่าวสารได้อย่างมีสติ จนบางครั้งก็มีหลายคนมักจะตกเป็นเหยื่อเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทางการมาเลเซียจึงคิดหาแนวทางในการรับมือคนที่ชอบปล่อยข่าวปลอมๆ ออกสู่สายตาประชาชนไม่ว่าจะด้วยการตั้งกฎขึ้นมาว่า ถ้าเกิดใครที่ปล่อยข่าวปลอมแล้วถูกจับได้ คนคนนั้นจะต้องถูกจับและปรับเป็นเงิน 500,000 ริงกิตมาเลเซีย หรือเป็นเงินไทยเกือบ 4 ล้านบาท ส่วนขอบเขตความผิดนั้นล้วนครอบคลุมไปด้วยหลายวิธีเช่น ข้อมูลปลอม คลิปปลอม ข่าวปลอมอะไรก็ตามที่ทำให้คนเข้าใจผิดโดยตั้งใจ แน่นอนว่าสื่อสิ่งพิมพ์หรือแม้แต่เหล่าบล็อกเกอร์ ไอดีโซเชียลปลอมก็จัดอยู่ในข้อกฎหมายข่าวปลอมนี้ด้วย ฉะนั้นใครที่คิดจะกุเรื่องปลอมๆ ขึ้นมาในมาเลเซียคงต้องระวังไว้ให้ดีแล้วล่ะ เพราะจากโทษแล้วหนักเอาเรื่องเลยทีเดียว ซึ่งจะว่าไปก็น่าจะมีกฎหมายแบบนี้ในไทยบ้างนะ ที่มา bbc
-
วิถีแห่งการปราบปราม ‘แว๊นซ์ป่วนเมือง’ ของตำรวจบอสตัน ถึงขั้นชาวจ๊าบหนึ่งรายถูกจนท. ยิง
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2018 เว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจากเมืองบอสตัน ได้เข้าจับกุมแก๊งมอเตอร์ไซค์ป่วนเมืองบนทางด่วนสายหนึ่ง โดยเกิดเหตุขึ้นเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2018 “นี่คือสาเหตุของปัญหา และวันนั้นก็เป็นวันที่เราตัดสินใจเข้าจับกุมผู้ต้องหา 7 รายบนทางด่วน” นาย Marty Walsh นายกเทศมนตรีของเมืองให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเหตุการณ์การเข้าจับกุมของเจ้าหน้าที่ ภาพจากกล้องวิดีโอของผู้ขับขี่จักรยานยนต์รายหนึ่งเผยให้เห็นวินาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ใช้กำลังล้อมสกัดจับกลุ่มไบค์เกอร์ และจากรายงานระบุว่ามีการใช้อาวุธปืนจากหนึ่งในเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย สำนักข่าวท้องถิ่นของบอสตันรายงานว่ามีไบค์เกอร์หนึ่งรายถูกยิง แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่อย่างใด “ผมคิดว่าพวกเขามีความบ้าบิ่น และแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถสร้างความวุ่นวายบนทางหลวง” นายกเทศมนตรีกล่าว ภาพวินาทีที่กลุ่มไบค์เกอร์กำลังหนีจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ . ภาพของนาย Aderito Monteiro วัย 28 ปี 1 ใน 7 ผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหากับหนุ่มวัย 28 ปี ทั้งหมด 6 ข้อหาด้วยกันคือ กระทำการให้เกิดความวุ่นวาย ขับรถโดยประมาท ขับรถ ATV ที่ไม่มีใบประกัน ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ ฝ่าฝืนกฎจราจร…
-
ตำรวจจับชายอินเดีย โทษฐานทำร้ายร่างกายภรรยา แต่กลับพบว่าที่จริงเขาเป็นผู้หญิง!?
ในประเทศอินเดียเวลาแต่งงานกันฝ่ายหญิงจะเป็นคนเอาสินสอดให้กับฝ่ายชาย จึงมีบางครั้งที่สามีแต่งงานกับภรรยาเพื่อหวังสินสอด ในกรณีนี้สามีใช้กำลังทำร้ายร่างกายภรรยาจนเธอทนไม่ได้จึงไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ พอจับตัวได้แล้วถึงได้รู้ความจริงว่าที่แท้สามีของเธอนั้นเป็นผู้หญิง!? ผู้เป็นสามีมีชื่อจริงว่า Krishna Sen เธอเป็นหญิงที่มีนิสัยห้าวและอยากเป็นผู้ชายตั้งแต่เด็ก จนเมื่อปี 2013 เธอก็ปลอมตัวเป็นผู้ชายผ่านทางโซเชียลมีเดีย ทั้งยังตัดผมสั้น แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าผู้ชายอยู่เสมอ และเปลี่ยนชื่อเป็น Sweety Sen เพื่อใช้ตัวตนนั้นจีบสาวออนไลน์ด้วย Krishna Sen (ชื่อชาย Sweety Sen) หญิงคนแรกที่ Sen จีบชื่อว่า Kamini เธอเป็นสาวจากเมือง Haldwani รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย พวกเขาเริ่มติดต่อกันทางโซเชียลมีเดียเมื่อปี 2014 โดยหลอกเธอว่าเขาเป็นลูกชายของนักธุรกิจในเมือง Aligarth รัฐอุตตรประเทศ หลังจากนั้น 3 ปีจึงนัดเจอกันและแต่งงานกันในปีนั้น แต่พอแต่งงานกันได้ไม่นานสามีก็เริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป ทั้งดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ แถมยังทำร้ายร่างกายเธอเพื่อข่มขู่เอาสินสอดด้วย ฝ่ายเจ้าสาวนั้นก็ดูไม่ออกเลยแม้แต่น้อยว่าสามีไม่ใช่ผู้ชาย ต่อมาในปี 2016 Sen ก็มีภรรยาเพิ่มอีกคนหนึ่งชื่อ Nisha สาวจากเมือง Kaladhungi รัฐอุตตราขัณฑ์ ทว่าหลังแต่งงานกันได้ 2 ปีเธอก็ดูออกว่าสามีของเธอเป็นผู้หญิง Sen จึงเสนอเงินให้กับเธอเพื่อให้เธอปิดเรื่องนี้เป็นความลับต่อไป…
-
ตำรวจเข้าจับกุมเด็กสาวและคุณพ่อข้อหาแต่งงานและมีลูกกัน จนแม่แท้ๆ ต้องเป็นฝ่ายหย่าเอง
เด็กสาวมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพ่อแท้ๆ จึงถูกจับทั้งพ่อและลูกเพราะผิดกฎหมายของที่นั่น … Steven Walter Pladl อายุ 42 ปี และลูกสาว Katie Rose Pladl อายุ 20 ปีถูกตำรวจจับกุมตัวในบ้านที่เมืองไนต์เดล รัฐนอร์ธแคโรไลนา หลังอดีตภรรยาแจ้งตำรวจว่าพวกเขามีลูกด้วยกันเอง Katie พลัดพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเธออายุ 18 เธอก็พยายามใช้โซเชียลมีเดียตามหาพ่อแม่แท้ๆ จนพบพวกเขาเข้า เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2016 เธอจึงย้ายเข้าไปอยู่ด้วยกันกับพ่อ แม่และพี่น้องอีก 2 คน ลูกสาว Katie Rose Pladl หลังจากที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ได้เพียง 3 เดือน แม่ของเธอก็ขอหย่ากับพ่ออย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2016 พอเธอออกจากบ้านไปเขาก็ย้ายไปนอนกับ Katie ในห้องของเธอแทน ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2017 เธอได้เข้าไปอ่านบันทึกของลูกอีกคนหนึ่ง จึงได้พบความจริงว่าสามีของเธอทำ Katie ท้องและต้องการให้ลูกอีก 2 คนนับถือ Kaite เป็นแม่เลี้ยงทั้งที่จริงๆ แล้วพวกเขาเป็นพี่น้องกัน…
-
มหากาพย์โจรกรรม ‘ส้ม’ 4,400 กิโล เนียนยัดใส่รถ 3 คันหลบตำรวจ แต่ไม่รอดหร๊อกกก
ก่อนจะทำการโจรกรรมพวกโจรก็คงจะวางแผนกันเป็นอย่างดีแล้ว เพื่อจะทำให้ตัวเองรอดพ้นจากเงื้อมมือของความยุติธรรมไปได้ หรือพูดอีกอย่างก็คือจะได้ไม่โดนตำรวจับเข้าตารางนั่นแหละ โจรขโมยส้มกลุ่มนี้เองก็เช่นกัน เมื่อคิดการใหญ่จะขโมยส้มมากถึง 4.4 ตัน ( 4,400 กิโลกรัม) ถ้าจะขนส้มกันไปเป็นลังหรือใช้รถใหญ่ก็คงจะเตะตาเกินไป พวกเขาเลยหัวใสยัดส้มทั้งหมดลงในรถยนต์เล็กๆ 3 คันแทน จะได้ไม่เป็นที่สังเกต แต่คงขาดประสบการณ์ปล้นเลยเหวอตอนเจอตำรวจซะงั้น โจรกลุ่มนี้ร่วมกันขโมยส้มมาจากเมืองใกล้เคียงเมืองหนึ่ง จากนั้นจึงขับรถมายังบริเวณจังหวัด Sevile ประเทศสเปน โดยพวกเขาขับรถตามกันมา 2 คันอย่างใกล้ชิดผิดปกติ คงเป็นเพราะกลัวว่าจะหลงกับรถของเพื่อนนั่นแหละ พวกเขาคงคิดว่าขโมยส้มใส่รถไว้แบบนี้มันแนบเนียนดีแล้ว คงไม่มีใครเรียกรถไปสุ่มตรวจมั่วๆ หรอก แต่เมื่อพวกเขาเจอตำรวจระหว่างทางก็ดันตื่นตระหนกกลัวตำรวจจับขึ้นมา ก็เลยหักเลี้ยวเปลี่ยนทางแบบกระทันหันซะงั้น พอพี่ตำรวจเห็นรถของพวกเขาขับมีพิรุธขนาดนี้แล้ว จะไม่ให้สงสัยได้ยังไงกัน ตำรวจก็เลยชวนกันขึ้นรถแล้วซิ่งไล่ตามรถน่าสงสัยทั้ง 2 คันนั้นทันที ขับไล่ตามไปได้ไม่นานตำรวจก็สามารถดักรถทั้ง 2 คันไว้ได้ทัน หลังจากเรียกลงมาสอบปากคำก็เลยพบว่ารถคันแรกนั้นมีคู่รักชายหญิงและลูกชายวัยทำงานนั่งอยู่ ส่วนอีกคันหนึ่งนั้นมีพี่ชายและน้องชายนั่งอยู่ด้วยกัน แต่ที่ตำรวจต้องตกใจก็คือนอกจากคนแล้ว ทั้งสองคันรถนั้นเต็มไปด้วยส้มจำนวนมหาศาลเลยทีเดียว เมื่อเห็นว่ามีส้มเยอะผิดปกติขนาดนี้ ตำรวจก็เลยสงสัยเป็นธรรมดาว่าไปขโมยส้มที่ไหนมาหรือเปล่า จึงได้ถามโจรกลุ่มนี้ว่าไปเอาส้มเหล่านี้มาจากไหน แน่นอนว่าจะยอมรับง่ายๆ ว่าไปขโมยมามันก็ไม่ใช่เรื่อง หนึ่งในกลุ่มโจรจึงตอบไปว่าพวกเขาเจอส้มพวกนี้หล่นอยู่ระหว่างทาง ก็เลยช่วยกันเก็บส้มมาเพื่อที่จะเก็บเอาไว้กินด้วยกันที่บ้านแค่นั้นเอง โอ้ยยย…
-
คู่ตายายวัยดึกขนกัญชาเกือบ 30 กิโล อ้างจะเอาไปเป็นของขวัญวันคริสต์มาสแต่โดนรวบก่อน!!
การขนสิ่งของต้องห้ามหรือว่ายาเสพติด เป็นสิ่งผิดกฎหมายที่ใครๆ ต่างก็รู้กันดีว่าผลของการกระทำนั้นจะเป็นอย่างไร แม้ว่าพวกเขาจะอ้างว่าจะเอาไปเป็นของขวัญสำหรับวันคริสต์มาสที่กำลังจะใกล้เข้ามาถึงในเร็ววันนี้ก็ตาม เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวชายวัย 80 ปีชื่อว่า Patrick Jiron และเมียวัย 83 ปีของเขาชื่อว่า Barbara Jiron ขณะกำลังขนกัญชาซึ่งมีน้ำหนักมากกว่า 27 กิโลกรัมข้ามรัฐ ไม่น่าเลยตู เจ้าหน้าที่ตำรวจได้หยุดรถของคู่ตา-ยายคู่นี้บนถนนข้ามระหว่างรัฐสายที่ 80 และเมื่อเปิดผ้าคลุมหลังรถกระบะ โตโยต้า ทาโคม่า ออกพวกเขาก็ต้องตะลึงเพราะพบว่าที่กระบะรถคันนี้เต็มไปด้วยกัญชาอัดซ้อนๆ กันอยู่จนแทบจะไม่มีที่ว่าง และเมื่อนำไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นกัญชาที่พบเป็นกัญชาคุณภาพชั้นยอดที่มีน้ำหนักถึง 27 กิโลกรัมและมีมูลค่ามากถึง 336,000 ดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 11 ล้านบาท) เลยทีเดียว ตา-ยายสายปุ๊นคู่นี้ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า พวกเขาออกเดินทางจากบ้านของพวกเขาที่รัฐแคลิฟอร์เนีย และกำลังมุ่งหน้าเดินทางไปรัฐเวอร์มอนต์ นอกจากนั้นพวกเขายังบอกอีกด้วยว่ากัญชาที่ขนมานั้นเพื่อจะเอาไว้เป็นของขวัญวันคริสต์มาสให้แก่คนที่พวกเขารู้จัก เยอะขนาดนี้ ปอดมีพังกันบ้างแหละ ซึ่งเหตุที่พวกเขาโดนจับก็เพียงเพราะว่า เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นว่ารถคันนี้ได้ขับเลยเส้นกลางถนนโดยไม่เปิดสัญญาณไฟก็เลยเรียกมาตรวจสอบเพียงเท่านั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกเอาไว้ว่าพวกเขาได้กลิ่นกัญชาฉุนจมูกทันทีที่เข้าใกล้รถคันนี้ พวกเขาจึงเข้าค้นรถคันดังกล่าวแล้วก็พบสิ่งที่พวกเขาคิดเอาไว้จริงๆ นั่นจึงทำให้ Patrick ผู้เป็นสามีถูกจับในข้อหาครอบครองกัญชาด้วยเจตนาที่จะส่งมอบ และไม่มีตราประทับภาษียาเสพติด ส่วนภรรยาถูกจับในข้อหาสมรู้ร่วมคิด ของขวัญนี่เมาได้ทั้งหมู่บ้านเลยนะตาจ๋า.. ที่มา: dailymail
-
แรงม้าหรือจะสู้แรงคน…โลกออนไลน์แชร์คลิปตำรวจญี่ปุ่นปั่น “จักรยาน” ไปจับรถ “Lamborghini”
การใช้รถใช้ถนนร่วมกัน แน่นอนว่ามันต้องมีกฎระเบียบเพื่อไม่ให้การจราจรนั้นติดขัด พร้อมทั้งยังลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุไปได้เยอะอีกด้วย ทว่าก็ยังคงมีคนไม่ใส่ใจฝ่าฝืนกฎจราจรให้เห็นอยู่ทุกวันจนเป็นเหตุชินตา ซึ่งนั่นก็กลายเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการจับกุม แต่จะเป็นอย่างไรในเมื่อรถที่ทำผิดกฎดังกล่าวเป็นรถสปอร์ตสุดหรู ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์มีเพียงรถจักรยานธรรมดาๆ ทั่วไปเท่านั้น เลี้ยวหน้าตาเฉย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่นและได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเป็นเหตุการณ์ของรถยนต์สุดหรูอย่าง Lamborghini Huracán ที่คนขับรถคนนี้ได้ทำผิดกฎจราจรและทำให้ผู้อื่นเสี่ยงชีวิตจากการขับขี่รถสุดห้าวของเขา โดยคลิปวิดีโอการทำผิดนี้ได้เริ่มขึ้นในตอนที่ รถยนต์คันหรูคันนี้ได้ขับมาจอดในจุดที่เลยเส้นจอดมาและกำลังเตรียมตัวจะเลี้ยวซ้าย แต่ว่าไฟจราจรในขณะนั้นยังคงเป็นไฟแดงอยู่ และก็กำลังเปิดไฟเขียวให้แก่คนเดินเท้าที่กำลังจะก้าวข้ามถนนเส้นดังกล่าว ได้เลย รอพี่แป๊บไอ้น้อง และเมื่อคนเดินข้ามจนเกือบจะหมดแล้ว รถยนต์คันนี้ก็ได้ออกตัวในทันทีจนแทบจะเฉี่ยวคนข้ามถนนคนสุดท้ายไปด้วยความเร็วที่ค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตามก็มีตำรวจจราจรคนหนึ่งได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด เขาก็ควบจักรยานคู่ใจปั่นไล่ตามรถสุดหรูคันนี้อย่างทันควัน ทำไรผิดรึเปล่า จากนั้นภาพในวิดีโอก็ได้ตัดไปในตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ สามารถควบจักรยานของเขาขี่ตามรถยนต์คันนี้ได้สำเร็จ ซึ่งก็แน่นอนว่าคนขับรถยนต์คันนี้ก็โดยใบสั่งไปตามระเบียบ เมื่อวิดีโอคลิปนี้ออกมาชาวเน็ตต่างก็ออกมาชื่นชม ความกล้าหาญและใจเด็ดเดี่ยวของเจ้าหน้าที่ตำรวจคนนี้ที่เกินร้อยจริงๆ แม้ว่าจะมีเพียงจักรยานเก่าๆ เพียงคนเดียว บางคนอาจจะปล่อยปละละเลย เพราะคิดว่าถ้าให้ตามยังไงก็คงตามไม่ทัน ทว่าเขาคนนี้ก็ยังคงจะทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด แล้วผลจากการพยายามของเขาก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ถึงแม้จะต้องเหนื่อยจากการใช้แรงคนวิ่งตามแรงม้าก็ตาม มานี่มา มาเอาใบสั่งซะดีๆ “ฉันคิดว่านั่นเป็นมอเตอร์ไซค์ซะอีก แต่ว่าไม่ใช่นั่นมันเป็นจักรยานนี่นา” “ผู้ชายคนนั้นถูกจับกุมด้วยตำรวจกับจักรยานแม่บ้านของเขาหรอเนี่ย มันช่างน่าอายซะจริงๆ” “ว้าว จับรถแลมโบกินี่ได้จักรยานหรอเนี่ย ตำรวจคนนี้ควรจะได้รับเหรียญรางวัลจริงๆ” นี่คือความเห็นบางส่วนจากชาวเน็ต และดูเหมือนว่าวิดีโออันนี้จะเป็นเครื่องเตือนภัยให้ชาวญี่ปุ่นไม่กล้าทำผิดกฎหมายอีกต่อไป…
-
เนื้อตูอยู่ไหน!? หนุ่มประท้วงหนักด้วยกกน. พร้อมกับบ้องกัญชาน้อย หลังถูกตำรวจยึดของไป
ของๆ ใครของใครก็ห่วง แน่นอนละโดยเฉพาะถ้าเป็นสายเขียวด้วยแล้ว ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าพวกเขาจะรักและหวงแหนอะไรมากที่สุด เช่นเดียวกับหนุ่มวัย 31 ปี Jeffrey Shaver จากรัฐออแทริโอ ผู้ชื่นชอบการพากันชี้ (พี้กัญชา) เป็นชีวิตจิตใจ ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น.. เมื่อจู่ๆ วันหนึ่งเจ้าตัวก็ถูกตำรวจจับซะงั้น!? Jeffrey Shaver กับการประท้วงที่ไม่เหมือนใครในโลก เรื่องมันมีอยู่ว่าพ่อหนุ่มคนนี้ ได้ไปยื่นเรื่องทำบัตรผู้ใช้กัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ทว่าหลังจากนั้นได้แค่ 5 เดือน เจ้าตัวก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ แต่ที่มากกว่าจับคือ… ทำไมต้องยึดบ้องและกัญชาไปด้วย!! “ผมทำบัตรผู้ใช้กัญชาถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แล้ววันนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาค้นตัวผมและยึดเอากัญชาของผมไป ทั้งที่ผมก็พกบัตรติดตัวอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้ผมต้องไปนอนในคุกเป็นครั้งแรกของชีวิต ผมไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการได้บ้องและกัญชาของผมคืน” ซึ่งคราวนี้พ่อหนุ่มได้ออกไปทำการประท้วงด้วยตนเองที่หน้าโรงพยาบาล Cambridge Memorial Hospital ด้วยการถือบ้องกัญชาอันเล็ก พร้อมกับใส่กางเกงในสีเขียวเพียงแค่ตัวเดียว จากนั้นก็จุดไฟใส่บ้องทำการระเบิดหลุมแล้วก็ปล่อยความคิดให้กว้างออกไปกว่าเดิมอีกหลายขุม แต่ใช่ว่าพ่อหนุ่มจะประท้วงแค่วันเดียวเท่านั้น “ผมมีกางเกงในอยู่หลายสี วันแรกผมใส่ชมพูพาสเทล จากนั้นก็สีเหลือง แล้วก็สีเขียวแบบชิลๆ ซึ่งผมมีอีกหลายสีเลยที่ยังไม่ได้ใส่และมันก็ไม่ซ้ำแน่นอน” แม้ว่าพ่อหนุ่มจะพยายามประท้วงมาหลายครั้ง และไม่มีทีท่าว่าจะได้บ้องกับกัญชาคืนมา ถึงกระนั้นเรื่องราวของเขาก็กลายเป็นที่โด่งดังบนโลกออนไลน์ จนเรียกได้ว่ากลายเป็นเน็ตไอดอลของสายเขียวแห่งแคนาดาไปแล้วก็ว่าได้ ซึ่งหลังจากเรื่องราวนี้ถูกแชร์ต่อและเป็นที่พูดถึง ทางฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อดังนี้… “เราได้รับข้อติเตียนจากประชาชนถึงเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทางเราจะทำการติดต่อคุณ…
-
คุณแม่สะเทือนใจ เมื่อทราบว่าลูกสาววัย 12 ถูกข่มขืน หลังอ่านไดอารี่ที่เธอเขียน
ในตอนเด็กหลายคนอาจชื่นชอบการเขียนไดอารี่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ในแต่ละวันลงไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือร้าย เหมือนกับเด็กสาวคนนี้ที่เขียนแม้กระทั่งเรื่องราวอันเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ และเป็นหลักฐานสำคัญในการจับกุมผู้ที่กระทำผิดนั้น คุณแม่ของเด็กสาววัยเพียง 12 ปีบังเอิญไปอ่านเรื่องราวในไดอารี่ของเธอจนพบว่า สาวน้อยได้เขียนบอกเล่าเรื่องราวถูกวัยรุ่นชายคนหนึ่งขมขื่น ซึ่งเขาคนนั้นมีชื่อว่า Taylor James Dusen อายุ 18 ปี เด็กหนุ่มจากเขต Muskegon ในรัฐมิชิแกนคนนี้ถูกจับในเดือนกรกฎาคมและโดนจำคุกอย่างต่ำ 5 ปีในข้อกล่าวหาที่ว่าเขากระทำการรุกล้ำทางเพศกับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีนับเป็นความผิดพฤติกรรมอาญาในทางเพศระดับที่หนึ่ง การสืบสวนของคดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อแม่ของเด็กสาวได้นำเรื่องที่อ่านเจอในไดอารี่มาเล่าให้ตำรวจฟัง ซึ่งอัยการเขต Timothy Maat ได้ออกมาบอกว่าทั้งสองคนนั้นรู้จักกันมาก่อนในปี 2016 โดยเด็กสาวเป็นเพื่อนของเพื่อนเด็กหนุ่มอีกที และเขาก็ได้กระทำการข่มขืนในเดือนมีนาคมปี 2017 ที่ผ่านมาภายในบ้านของเธอเอง อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มก็ไม่เคยถูกจับในข้อหาใดๆ มาก่อนหน้านี้ การจำคุกของเขาสามารถถูกยืดเวลาไปได้มากที่สุด 25 ปีขึ้นอยู่กับแนวทางของรัฐ แม้ว่าจะเป็นความผิดพลาดหรือไม่ก็ตาม แต่หากว่าทำผิดกฎระเบียบของสังคมก็จำเป็นที่จะต้องได้รับโทษที่ก่อไว้ เพราะการอยู่ร่วมกันก็จะต้องมีกรอบที่สามารถดูแลให้เกิดความเรียบร้อยภายในพื้นที่ได้ ที่มา: dailymail
-
นักร้องหนุ่มในซาอุถูกสอบปากคำ เพราะแค่ดันไปทำท่า Dab บนเวทีคอนเสิร์ตซะงั้น!!
บางคนอาจจะพอทราบกันว่าในประเทศซาอุดิอาระเบียนั้นจะเข้มงวดในเรื่องของกฎระเบียบเป็นอย่างมากว่าอะไรที่สามารถทำได้หรือไม่ได้ เช่น จูบกันในที่สาธารณะที่จะทำให้คุณต้องโดนจับ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ไม่เหมาะสม หรือแต่งตัวผิดระเบียบเองก็เช่นกัน แต่ที่น้อยคนจริงๆ จะรู้ว่าแค่เราทำท่า Dab ก็ถือว่าผิดกฎหมายเช่นเดียวกัน หากใครสงสัยว่ามันคืออะไรก็คือการเอาแขนข้างหนึ่งเหยียดตรงไปด้านข้าง อีกข้างก็จะงอข้อศอกปลายนิ้วชี้ไปทางเดียวกัน เหมือนกับรูปด้านล่าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็คือ Abdallah Al Shaharani ดาราและนักร้องของประเทศดันไปทำท่านี้ในงาน Taif Festival จึงได้ไปกระตุ้นสายตาของเจ้าหน้าที่เข้าทำให้พวกเขาไม่แฮปปี้กันซักเท่าไหร่ หลายคนคงจะสงสัยว่าทำไมการทำท่านี้ถึงได้เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายนั่นก็เพราะว่า การทำท่าทางดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นการพูดถึงกัญชา ซึ่งนับเป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศแถบตะวันออกกลาง และการแสดงออกบนเวทีนั้นยิ่งเหมือนเป็นการชี้นำผู้อื่นให้ไปในทางที่ไม่ดี คลิปวิดีโอการทำท่า Dab บนเวทีของเขา ถ้าดูในคลิปจะเห็นได้ว่ามันเป็นเพียงระยะสั้นๆ ที่เกิดจากการเสียงเชียร์ต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตามนักร้องหนุ่มคนนี้ก็ได้ออกมาขอโทษผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัวและอยากให้ทุกคนยอมรับกับคำขอโทษของเขา นั่นจึงทำให้มีบางส่วนที่สนับสนุนเขาและอยากให้พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แนวคิดที่ว่าท่าดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผิดนั้นเริ่มต้นเมื่อปีที่ผ่านมา ในตอนที่มีสองสาวไนจีเรียถ่ายภาพตัวเองกำลังทำท่านั้นขณะที่กำลังทำการแสวงบุญอยู่ในนครเมกกะ ในขณะที่บางคนก็ชื่นชมกับรูปภาพ แต่คนที่เหลือนั้นเรียกพวกเธอว่าเป็นนางมารร้าย หรือคนนอกศาสนา นั่นก็ถือว่าเป็นการตีความหรือความเชื่อที่แตกต่างกันไป เวลาเราไปที่ต่างๆ ก็คงต้องศึกษาเอาไว้ซะหน่อย ไม่งั้นโดนตำรวจรวบขึ้นมาคงจะลำบากแย่ ที่มา: ladbible
-
14 ภาพผู้ต้องหาในช่วงเวลาเครียดๆ แต่ตัวหนังสือบนเสื้อ ทำให้ชวนฮาซะจริงๆ
ปกติแล้วเรามักจะเห็นลายเสื้อยืดในยุคนี้เป็นชุดคำพูดต่างๆ ที่มันอาจจะเท่ หรือดูตลกในบางครั้ง แต่จะมีไหมที่ในบางสถานะการณ์คำพูดบนเสื้อมันดันเข้ากับความรู้สึกของคนใส่ในช่วงเวลานั้นพอดี แถมฮาอีกต่างหาก ฉะนั้นวันนี้เราก็เลยจะมาดูรูปถ่ายของเหล่านักโทษที่ใส่เสื้อคำพูด มาถ่ายรูปแฟ้มคดีกัน ซึ่งภาพมันก็จะดูไม่มีอะไร จนกระทั่งขอความบนเสื้อมันมามีส่วนร่วมนี่สิ… มาเริ่มกันที่พี่คนแรกกันก่อนเลย ซึ่งพี่เขาโดนจับข้อหาไรไม่รู้ แต่เสื้อพี่แกคงจะบอกความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจนแล้วละ “ผมขอโทษล่วงหน้าเลยล่ะกัน” ก็เพราะเจ๊เป็นคนซุกซนไง เลยถึงโดนจับแบบนี้ อืม พี่มีสิทธิที่จะไม่พูด ฉะนั้นก็เงียบต่อไปละกัน / Go To Jail…ก็พี่ก็กำลังจะไปคุกอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ เสื้อกับสีหน้าของพี่เขาช่างเข้ากันจริงๆ รู้เลยว่าสำนึกผิด ‘American Most Wanted’ อืม..ตอนนี้พี่ก็โดนจับแล้วไง / ผมรู้ว่าทุกคนไม่ได้เพอร์เฟ็ก ดูเหมือนเสื้อพี่แกจะบอกว่าพี่แกดีใจที่ได้ทำเรื่องไม่ดีลงไปเลยแหะ ถึงเสื้อเจ๊จะเตือนว่าเจ๊มีปืนก็เหอะ แต่เจ๊โดนจับแล้วเท่ากับตอนนี้ไม่มีแล้วนะ แฮร๊ / ส่วนพี่เสื้อดำบอกว่าเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบพอ ไม่ใช่ว่าพี่โกนขนไข่มาเพื่อการนี้เหรอ พอเอาเข้าจริงก็หลบกล้องทำเป็นเขิล แหม่.. ถ้าพี่เป็นคนฉลาดจริงๆ พี่ไม่น่าจะโดนจับได้ง่ายๆ นะ / หยุด… หยุดมองเสื้อตรูได้แล้ว…
-
ดราม่าหลังจาก “หนุ่มผิวสี” ถูกจับเพราะกินแพนเค้กกลางถนน สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน!?
ชายหนุ่มคนหนึ่งเล่นพิเรนทร์ด้วยการไปนั่งแพนเค้กกลางถนน จากเรื่องพิเรนทร์ตลกๆ แต่ความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นดันไม่ตลกด้วย ทำให้เขาถูกตั้งข้อหาและถูกจับในที่สุด Kiaron Thomas วัย 21 ปี พ่อหนุ่มจากรัฐฟลอริดา ได้ออกไปเผชิญกับสภาพถนนในวันที่วุ่นวายของรัฐฟลอลิด้า พร้อมกับเก้าอี้ โต๊ะ และจานที่มีแผนเค้กวางอยู่ ซึ่งเขาก็ได้นั่งกินอาหารเช้าของเขากลางสี่แยกอย่างสบายใจ คนที่พบเห็นเขาก็ได้ยกกล้องขึ้นมาถ่าย และพากันอัพโหลดขึ้นสู่สังคมออนไลน์ แต่ว่าถึงแม้มันเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เขาก็ได้รับการแจ้งเตือนจากทั้งชาวเน็ตและตำรวจรัฐฟลอริด้าว่าสิ่งที่เขาทำมันไม่ดี และถึงแม้ในตอนแรกตำรวจจะไม่ได้ทำอะไรกับเขาในทันทีนอกจากการแจ้งเตือน แต่เมื่อคลิปของเขากลายเป็นกระแสที่ผู้คนพูดถึงเรื่องมันก็กลับกันทันที ตำรวจได้ออกไปตามตัวเขาและได้พบว่า Kiaron อาศัยอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุเพียงแค่ 90 เมตรเท่านั้น ซึ่งเขาก็ได้อธิบายกับตำรวจว่ามันเป็นแค่การเล่นพิเรนทร์ของเขาเท่านั้น แต่ตำรวจก็ได้ตั้งข้อหากับเขาว่า วางสิ่งกีดขวางบนถนนและขัดขวางการจราจรนั่นเอง ไหนๆ แล้วเราก็ลองมาดูความคิดเห็นของชาวเน็ตที่มีต่อเขาดูละกัน ถ้านายบอกว่านี้คือการเล่นพิเรนทร์ งี้ผมวิ่งไปขโมยโทรศัพท์ใครสักคน แล้วสุดท้ายโดนจับได้ผมก็แค่บอกว่าเป็นการเล่นพิเรทร์เฉยๆ ได้สิ (ถ้าบ้านเราก็รู้เท่าไม่ถึงการณ์อะนะ) นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน ไม่มีเหตุผลสำหรับเขาเลยที่จะต้องออกไปกลางถนนแล้วทำแบบนั้น เปลี่ยนเป็นตั้งข้อหาเต็มๆกับเขาไปเลยดีกว่าแบบนี้ มันเศร้ามากๆ เลยนะที่โลกให้ค่ากับคนพวกนี้ แค่ทำเรื่องโง่ๆ ก็ทำให้พวกบ้านี่กลายเป็นคนดังแล้ว กินดีๆ ไม่ชอบ ไงล่ะเป็นเรื่องเลย ที่มา unilad
-
วัยรุ่นสองหน่อ โดนตำรวจจับข้อหา ‘ทรมานหมู + ทำร้ายไก่ในฟาร์ม’ รอศาลตัดสินคดี
ชายหนุ่มสองคนถูกตั้งข้อหากระทำการทารุณสัตว์ หลังถูกกล่าวหาว่าทำร้ายเจ้าหมูที่ชื่อว่า Polla และไก่อีกจำนวนมาก ในฟาร์ม Nimbin ที่ตั้งอยู่ในรัฐ New South Wales Bradley Presbury วัย 20 ปี และ Reece Parke วัย 22 ปี เป็นผู้ต้องหาที่ทำให้ไก่ 7 ตัว เสียชีวิต และทำร้ายหมูจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทั้งคู่จะถูกจำคุกไปจนถึงช่วงวันที่ 17 มกราคม และจะถูกศาลตัดสินอีกครั้ง… Bradley Presbury หนึ่งในคนร้ายที่ถูกจับข้อหาทารุณกรรมสัตว์ Reece Parke ชูนิ้วกลางใส่กล้องหลังจากที่ถูกตำรวจรวบตัว คนงานในฟาร์ม Nimbin เป็นคนพบกับเหตุการณ์ที่น่าสยดสยองเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา คุณ Robyn Francis เจ้าของฟาร์มเล่าว่า ขณะที่เขาเอาอาหารไปให้สัตว์ในฟาร์มในตอนเช้าตรู่ จู่ๆ ก็พบเจ้ากับซากไก่มากมาย บางส่วนก็อยู่ในสภาพหัวขาด ถูกโยนเกลื่อนไปทั่วยุ้งฉาง มีไก่สองตัวที่คอของมันถูกตัดขาดเพราะของมีคมและโยนเข้าไปในเล้าหมู ซึ่งเธอก็เดินตามเข้าไปดูปรากฏว่าเจ้าหมูเองก็ถูกกระทำร้ายแรงเช่นเดียวกัน ร่างกายของมันบอบช้ำจากการถูกทุบตี…
-
เจ้าจ๋อถึงกับจ๋อย หลังถูกเจ้าหน้าที่จับมัด เพราะขโมยอาหาร-ก่อกวนผู้คนมากว่าครึ่งปี!!!
ต้องบอกเลยล่ะว่าจ๋อถึงกับจ๋อยไปเลยล่ะงานนี้ เพราะมีรายงานจากทางสำนักข่าว Dailymail ว่า ล่าสุดเจ้าลิงที่ก่อกวนผู้คนชาว Mumbai ในประเทศอินเดียได้ถูกเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรวบตัวแล้ว หลังก่อกวนผู้คนในแถบนั้นมากว่า 6 เดือนเต็มๆ !!? เจ้าลิงตัวร้ายถูกจับโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านการจับลิง ซึ่งต้องใช้เวลาอยู่นานทีเดียวเพราะความแสบของมัน ทั้งขโมยอาหาร ฉีกหมอน และทำลายเสื้อผ้าของผู้คนซะไม่มีชิ้นดี งานนี้ทำเอาผู้คนแห่มาดีใจกันใหญ่เมื่อทางการสามารถจับตัวเจ้าจ๋อวายร้ายได้ จะว่าไปหายซ่าแล้วก็น่าสงสารใช่ย่อยเลยนะเนี่ย สำหรับลิงก็จัดได้ว่าเป็นสัตว์ที่ได้รับความนับถือในสังคมฮินดู ถึงแม้จะมีพฤติกรรมที่ซนและแสบมาก เพราะบางทีพวกมันอาจทำร้ายผู้คนเพื่อแย่งอาหารเลยทีเดียว พอมีคนสังเกตเห้นเจ้าลิงตัวแสบ ก็ได้มีคนโทรไปแจ้งทางการ ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญในการจับลิงจะใช้กับดักที่มีผลไม้เป็นเหยื่อ เพื่อล่อเจ้าจ๋อ เจ้าลิงมีท่าทีแสดงออกอย่างดุร้ายขณะที่ถูกจับมัด แต่พอจับใส่กรงทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ปลดเชือกต่างๆ ที่พันข้อมือมันไว้ และก็ซึมไปตามระเบียบ สำหรับตอนนี้เจ้าลิงก็จะถูกส่งไปอยู่แถบนอกเมืองของ Mumbai เพื่อจะได้ไม่รบกวนชาวบ้าน แต่ก่อนอื่นทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำให้แน่ใจก่อนว่ามันมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ก่อนส่งตัวคืนสู่ป่า เห็นแล้ว #จ่าสิบเหมียว รู้สึกสงสารเลยนะเนี่ย แต่ก็นั่นแหละ…เพราะแก ซนมากกกก!!! สุดท้ายก็ขอให้เจ้าจ๋อมีความสุขกับที่อยู่ใหม่นะจ๊ะ จะให้อยู่ที่นี่ต่อไปก็คงไม่ไหว ลำบากคนอื่นเกิ๊นนนนนนน >< ที่มา: Dailymail, Distractify
-
ซุปตาร์ชายชาวซาอุฯ โดนตำรวจรวบตัวกลางห้าง เพราะว่าหล่อเกินจนสร้างความวุ่นวาย!!
เรื่องไม่เป็นเรื่องกันอีกแล้วกับความหล่อระดับร้อนระอุทะลุปรอทวัดอุณหภูมิของพ่อหนุ่มซุปตาร์นักแสดงชื่อดังจากซาอุดิอาระเบียรายนี้ แบบว่าความหล่อของเขานั้นเป็นต้นเหตุของความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกลางห้างสรรพสินค้า!! พ่อหนุ่มนักแสดงสุดหล่อผู้นี้มีชื่อว่า Abdul Aziz al-Kassar มีชื่อเสียงโด่งดังจากรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ รวมไปถึงโซเชียลมีเดียต่างๆ และด้วยหน้าตาที่หล่อแบบเวอร์วังของเขานั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีแฟนคลับทั้งสาวน้อยและสาวใหญ่ติดตามมากมาย จนกระทั่งความหล่อก็ทำเรื่องให้กับเขาจนได้ ในขณะที่กำลังเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงริยาด เพื่อออกงานตามปกติ แต่ข่าวการมาของเขานั้นแพร่กระจายไปในหมู่แฟนคลับอย่างรวดเร็ว จนมาดักรอต้อนรับในห้างอย่างหนาแน่น จนเจ้าหน้าที่ถึงกับต้องควบคุมตัว Aziz al-Kassar ออกไปจากห้าง เนื่องจากสร้างความวุ่นวายในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตามการที่เขาถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่นั้น ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเลย ซึ่งเขาก็เคารพและเข้าใจในการทำหน้าที่ของเข้าหน้าที่เพื่อความสงบเรียบร้อย และไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีแฟนคลับแห่ตามมามากมายถึงขนาดนี้ แหม่!! ก็หล่อซะขนาดนี้ ใครๆ ก็อยากสัมผัสตัวเป็นๆ ของพี่นั่นแหละ ปิดท้ายกันด้วยเพลงนี้ละกัน ขอโทษจริงๆ ที่เกิดมาหล่อ ที่มา : metro
-
นักเรียนเกเรก่อเรื่องชกหน้านักเรียนผู้พิการทางสายตา ถูกตำรวจตามจับเรียบร้อยแล้ว!!
เมื่อไม่นานมานี้มีคลิปวิดีโอที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาสังคมกับการลดทอนความเป็นมนุษย์ อย่างเช่นการแกล้งและชกต่อยผู้ที่ไม่มีทางสู้ของนักเรียนผู้พิการทางสายตารายหนึ่ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียน Huntingdon Beach High School เมื่อนักเรียนเกเรได้ทำการชกหน้า Austin นักเรียนผู้พิการทางสายตาถึง 2 ครั้ง และได้รับบทลงโทษจาก Cody ชกเข้าไปจนสลบ ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้อง Austin จากการถูกเกเร และในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก Huntingdon Beach, Southern California ก็ได้เข้ามาทำการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และได้ทำการจับกุมเด็กเกเรคนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วในข้อหาคดีทำร้ายร่างกาย ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาด้วย ที่มา : unilad