Tag: โรคร้าย
-
หนุ่มถ่าย MV เพื่อแสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ ที่ช่วยดูแลรักษาโรคมะเร็งมาโดยตลอด
เรื่องราวของชายหนุ่ม ที่ต้องการจะแสดงความขอบคุณกับเจ้าหน้าที่พยาบาลและคุณหมอ ที่คอยดูแลเขามาตลอดการรักษาโรคมะเร็ง ก็เลยชวนพวกเขามาถ่าย MV เพลงเพื่อบอกเล่าความรู้สึกของตัวเองซะเลย นาย Davion M. Hollywood หนุ่มวัย 17 ปี ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เขาใช้เวลานานกว่า 5 เดือนในโรงพยาบาล Children’s Medical Center ในเมือง Dallas รัฐเท็กซัส จากความประทับใจของการดูแลของเหล่าเจ้าหน้าที่ Davion ก็เลยถ่ายคลิปวิดีโอทุกช่วงเวลาเก็บไว้ในโทรศัพท์ของเขา หลังจากที่การรักษาเสร็จสิ้น และเขาต้องออกจากโรงพยาบาลไปใช้ชีวิตอย่างคนปกติ Davion ก็เลยนำคลิปวิดีโอเหล่านั้นมาตัดต่อทำเป็นมิวสิกวิดีโอ เพื่อแสดงถึงความขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ดูแลมาเป็นอย่างดี จนช่วยให้เขาสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาแย่ๆ ของชีวิตมาได้ รวมไปถึงขอให้เจ้าหน้าที่เต้นแล้วก็ร้องเพลงแบบลิปซิงก์ เป็นเพลง Count On Me ของ Bruno Mars ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หลังจากที่วิดีโอดังกล่าวเสร็จสิ้นเรียบร้อย ทางโรงพยาบาลก็นำคลิปไปแชร์ลงโซเชียล ICYMI: our patient, Davion, created this…
-
เด็กสาวตัวน้อย ‘ลั่นกระดิ่งแห่งชัยชนะ’ หลังต่อสู้กับมะเร็งมานาน 2 ปี และเอาชนะมันมาได้!!
หลังจากที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายมาอย่างยาวนาน และสามารถเอาชนะโรคร้ายได้สำเร็จ ก็ต้องมีการแสดงให้เห็นถึง ‘ความเป็นผู้ชนะ’ กันบ้างล่ะ นี่คือเรื่องราวของหญิงสาวตัวน้อยวัย 4 ขวบ ที่ต้องอดทนดิ้นรน ต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายมาอย่างยาวนานตลอด 2 ปี!! Holly Hughes ถูกวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ก่อนที่จะถึงวันครบรอบวันเกิดในปีที่ 2 เมื่อปี 2016 “เราเพิ่งมารู้ก่อนวันเกิดครั้งที่ 2 ของเธอ ตอนนั้นผมไม่ได้อยู่ที่อเมริกา และ Christina ภรรยาของผมก็โทรมาบอกว่า Holly เหมือนจะมีพฤติกรรมแปลกไป” คุณ Chris Hughes พ่อของ Holly เล่า “ตอนเราก็ไม่ได้คิดอะไร และเมื่อผมกลับมาก็พบว่า ลูกดูตัวซีด ก็เลยพาไปหาหมอ และพบว่าเธอกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว และหมอบอกว่าเธออาจจะมีชีวิตได้อีก 6-8 สัปดาห์เท่านั้น หากไม่ทำการรักษา” “ผมจำเหตุการณ์ตอนนั้นได้ดี มันเหมือนกับว่าโลกทั้งใบกำลังแตกสลาย ผมอยากจะหายไปเสียตอนนั้นเลย ผมทั้งโกรธและผิดหวัง” “แต่อย่างไรก็ตามเมื่อรวบรวมสติได้ผมก็ถามหมอว่าจะต้องทำอย่างไรถึงจะผ่านมันไปได้ จะต้องรักษาอย่างไร” ในช่วงเวลาไม่กี่ปีมานี้ Holly ต้องผ่านเรื่องราวมากมาย…
-
ชายผู้ดื่ม ‘เหล้าขาว’ แทนน้ำเปล่ามานานเกือบ 30 ปี จนร่างกายเปลี่ยนไป ด้วยโรคประหลาด
หากว่าเหล่านักดื่มได้เปิดมาอ่านเรื่องราวนี้ มันอาจทำให้ทุกคนถึงกับเลิกดื่มแอลกอฮอล์ไปเลยก็ได้ เพราะนี่คืออุทาหรณ์เตือนใจสำหรับคอทองแดงทั้งหลาย กับเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ดื่มเหล้าขาวทุกวันมานานเกือบ 30 ปี จนทำให้เขาต้องป่วยเป็นโรคประหลาด ชายคนนี้ใช้ชื่อว่า Tan วัย 68 ปี เขาเริ่มวิถีนักดื่มตั้งแต่อายุเพียง 13 ขวบ โดยที่พ่อแม่อนุญาตให้เขาทำอย่างนั้น จนกระทั่งอายุได้ 40 ปี เขาก็กินเหล้าขาววันละอย่างน้อย 1 ลิตร ทุกๆ วัน แล้วเขายังบอกอีกว่าเขาดื่มแอลกอฮอล์ราวกับดื่มน้ำยังไงยังงั้นเลย Tan ชายหนุ่มที่ดื่มสุราแทนน้ำมาอย่างยาวนาน เขาใช้ชีวิตแบบนั้นไปได้เกือบ 30 ปี จู่ๆ ก็มีก้อนไขมันงอกขึ้นมาบริเวณคอของเขา ทำให้ชายหนุ่มดูเหมือนกับสัตว์ประหลาดหรือเจ้ายักษ์ตัวเขียว The Incredible Hulk ด้วยเหตุนั้นเอง เขาจึงจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล Hunan Provincial People’s Hospital เมืองฉางชา ประเทศจีน แพทย์ Xiao Xuping วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นโรค Madelung อาการหายากซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเนื้องอกไขมันขึ้นมาตามร่างกายหลายๆ จุด โดยเฉพาะบริเวณคอและไหล่ แพทย์อธิบายว่านี่คือผลกระทบจากการที่เขาดื่มแอลกอฮอล์อย่างหนักมาโดยตลอด…
-
Ed Sheeran บริจาคกีต้าร์พร้อมลายเซ็นให้หนูน้อยผู้ป่วยระยะสุดท้าย เพื่อหาเงินมาช่วยเหลือเธอ
เขากลับมาอีกครั้ง กับการเข้าช่วยเหลือผู้ป่วย… สำหรับศิลปินชาวอังกฤษขวัญใจมหาชน Ed Sheeran ที่ล่าสุดเขาได้เดินทางไปพบกับหนูน้อย Melody Driscoll แฟนเพลงวัย 11 ขวบที่ตอนนี้กำลังป่วยระยะสุดท้ายจากกลุ่มอาการเรตต์ เดิมทีแล้วทั้งพ่อหนุ่ม Ed และหนูน้อย Melody เคยพบกันมาก่อนแล้วตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งด้วยเหตุผลที่เธอเป็นแฟนของนักร้องหนุ่มมาตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ป็อปมากนัก และการพบกันในตอนนั้นทำให้พวกเขารู้สึกสนิทสนมกันมากๆ ทำให้การพบเจอกันเป็นการส่วนตัวของหนูน้อยแฟนคลับกับนักร้องชื่อดังเกิดขึ้นอีกหลายต่อหลายครั้ง และด้วยความใกล้ชิดของทั้งคู่ ทำให้นักร้องหนุ่มอยากจะช่วยหาเงินมาช่วยเหลือแฟนคลับตัวน้อยของเขา Ed จึงทำการบริจากกีต้าร์พร้อมลายเซ็นให้กับครอบครัวของหนูน้อย Melody เพื่อที่ทางครองครัวจะได้นำมันไปประมูลและใช้เงินจากตรงนั้นมาช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่ายแก่ลูกของพวกเขา ที่สุดท้ายยอดเงินก็มีมูลค่ามากถึง 5,000 ปอนด์ หรือประมาณ 210,000 บาท . อย่างไรก็ตาม ทั้งตัว Ed และครอบครัวของหนูน้อย Melody ก็หวังว่าเงินที่ได้จะช่วยสร้างความสุขและเก็บรักษารอยยิ้มที่ไม่ยอมแพ้ต่อโรคร้ายของหนูน้อยไว้ได้ และนั่นอาจจะหมายถึงอาการของเธออาจจะดีขึ้นนั่นเอง ที่มา unilad
-
หนุ่มสาวผ่าตัด ‘เปลี่ยนหัวใจ’ ในวันเดียวกัน ใครจะเชื่อว่าทั้งคู่จะกลายมาเป็น ‘คู่แท้’
นี่แหละน้าบุพเพสันนิวาสจริงๆ ใครจะเชื่อว่าคนที่มาเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจเหมือนกัน วันเดียวกัน และอยู่ห้องติดกัน จะกลายมาคู่รักกันได้ ที่กำลังพูดถึงอยู่นี้ก็คือคู่รักจากเมืองแฟร์แฟกซ์ รัฐเวอร์จิเนีย หนุ่ม Collin Kobelja และสาว Taylor Givens ที่เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2011 ทั้งคู่ต่างได้เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ ในเวลานั้นห้องของทั้งคู่ก็อยู่ติดกัน แต่ไม่มีใครทราบมาก่อนว่า ณ อีกฟากหนึ่งของห้อง มี “เนื้อคู่” ของพวกเขาพักฟื้นร่างกายอยู่ “ทุกสิ่งอย่างดูลงตัวอย่างไม่น่าเป็นไปได้ ทุกสิ่งเกิดขึ้นเหมือนกับว่ามันถูกกำหนดให้เป็นเช่นนั้น” สาว Givens วัย 24 ปีกล่าว “เราทั้งสองคนช่างโชคดีจริงๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นเหมือนถูกกำหนดมาแบบนั้น” หนุ่ม Kobelja วัย 30 ปีกล่าวเสริม ขณะที่ Taylor Givens ยังมีอายุเพียง 17 ปี เธอเริ่มมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับการหายใจและอาการหัวใจสั่น แพทย์ของเธอคาดว่าคงเป็นแค่ความเครียด ทำให้หัวใจทำงานผิดปกติ แต่เมื่อตรวจด้วยการเอ็กซ์เรย์แล้วทำให้พบว่า เธอน่าจะติดไวรัสในหัวใจที่ทำให้หัวใจมีขนาดใหญ่ขึ้น เมื่อเธอไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเมื่อเดือนเมษายนปี 2011 แพทย์ก็พบว่าหัวใจของเธอนั้นสูบฉีดเลือดได้น้อย เพียง 10…
-
เด็ก 7 ขวบ เอาชนะโรคออทิสติกได้ด้วยโยคะ แถมยังยึดเป็นอาชีพทำเงินได้กว่า 5 แสนบาท
สำหรับในวัยเด็กของใครหลายคนนั้น ก็คงจะเป็นวัยที่เรากำลังเล่นซนกับเพื่อนๆ อยู่อย่างสนุกสนาน โดยไม่คิดถึงอะไรในวันข้างหน้า แต่ว่ามีเด็กวัยเพียง 7 ขวบคนหนึ่งที่มีความพิเศษกว่าเด็กทั่วๆ ไป เพราะสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ในตอนนี้ก็คือการเล่นโยคะ และกิจกรรมที่เขาทำอยู่นี้ก็ทำให้เขาสามารถเอาชนะโรคออทิสติกของตัวเองมาได้ และที่สำคัญคือเขามีความเชี่ยวชาญ ถึงขั้นเป็นคุณครูสอนโยคะที่มีอายุน้อยที่สุดในประเทศจีนเลยทีเดียว โดยชื่อของเด็กคนเก่งคนนี้ก็คือ Sun Chuyang จากเมืองไท่โจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน โดยเขาได้เริ่มรู้จักกับการเล่นโยคะมาตั้งแต่เมื่อประมาณ 3 ปีก่อน และก็ทำมันเรื่อยมา จนกระทั่งในปี 2017 เขาก็มีความเชี่ยวชาญจนถึงขั้นได้รับใบรับรองอย่างเป็นทางการ ในการเป็นครูโยคะมืออาชีพเลยทีเดียว ซึ่งในงานของเขานั้น ก็จะมีหน้าที่สอนโยคะให้กับเด็กคนอื่นๆ ในคลาสเรียนที่ในปัจจุบัน เขาได้ฝึกสอนให้แก่นักเรียนแล้วมากกว่า 100 คน และสามารถทำรายได้ให้กับเขาไปแล้วกว่า 100,000 หยวน (ประมาณ 500,000 บาท) แต่กว่าจะถึงจุดนี้ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ สำหรับเขาเลย เพราะว่าในตอนที่ Sun มีอายุ 2 ขวบนั้น เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคออทิสติก จนทำให้แม่ของเขาต้องออกจากงานเพื่อจะใช้เวลามาดูแลเขา และช่วยให้เขาสามารถเอาชนะโรคที่เกิดขึ้นนี้ได้ ซึ่งในที่สุดแล้ว คุณแม่คนเก่งก็แนะนำให้เขารู้จักกับการเล่นโยคะ แล้วก็พบว่าเขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้เป็นอย่างดี ทว่าในช่วงแรกๆ นั้นคุณครูที่สอนโยคะให้กับ Sun…
-
เจ้าเหมียวกำลังจะตาบอด ใครๆ ต่างก็คิดว่า ‘มันไม่รอดแน่ๆ’ แต่หญิงคนหนึ่งไม่ยอมตัดใจ จนมันหายดี!!
การเก็บแมวจรจัดมาดูแล ต้องเผื่อใจไว้ส่วนหนึ่งว่ามันอาจจะมีสุขภาพไม่ดี หรือมีโรคร้ายแรงติดตัวมาด้วย ซึ่งถึงจะพาไปหาสัตวแพทย์แล้ว บางทีสัตวแพทย์เองยังถอดใจยอมแพ้เลย แต่ถ้าคุณมีความรักและมุ่งมั่นที่จะช่วยมันมากพอ บางทีอาจจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นก็ได้ Kimmie Seely เป็นสาวนักธุรกิจ เธอเป็นเจ้าของร้านตัดผม Kalon Hair Lab ในเมืองมิชาวากา รัฐอิเดียน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่อีกมุมหนึ่งเธอก็เป็นผู้ช่วยเหลือแมวที่เป็นที่รู้จักกันดี ที่บ้านของเธอนั้นมีห้องที่ทำไว้สำหรับดูแลแมวโดยเฉพาะ มีครบพร้อมทั้งของเล่น แผ่นทำความร้อน และขวดนมป้อนอาหารลูกแมวเลยทีเดียว เหมียวน้อยตาบอด Lenus อยู่มาวันหนึ่ง มีคนแท็กเธอในโพสต์เฟสบุ๊ก ทำให้เธอรู้ว่ามีลูกแมวจรจัดตัวหนึ่งต้องการความช่วยเหลือ และแม้ว่าตอนนั้นจะดึกมากแล้ว เธอก็ไม่ลังเลเลยที่จะขับรถออกไปช่วยมันทันที พอไปถึงตรงจุดที่ลูกแมวอยู่ เธอก็พบว่ามันนอนร่อแร่เหมือนจะหมดลมหายใจแล้ว เธอเล่าว่า “มันอยู่ตรงมุมหนึ่งของสวน … ตอนฉันเจอ คิดว่ามันตายไปแล้วซะอีก” จากนั้นเธอจึงนำมันกลับไปที่บ้านเพื่ออาบน้ำและกำจัดเห็บหมัดกว่า 40 ตัวทิ้งไป เธอตั้งชื่อเจ้าแมวว่า Lenus มันลืมตาไม่ขึ้น และก็ไม่มีแรงจะขยับด้วย เธอเฝ้าดูมันทั้งคืนและจะพามันไปหาสัตวแพทย์ในตอนเช้า ขยับไม่ไหวแล้ว เมื่อเธอนำมันไปหาสัตวแพทย์ พวกเขาก็พบว่าเจ้าแมวมีปรสิตที่ชื่อว่า cuterebra ซึ่งเป็นปรสิตจากแมลงวันฝังอยู่ที่หน้าอกของมัน และเจ้าแมวก็ดูอ่อนแรงเกินกว่าจะสู้กับปรสิตตัวนี้ไหวด้วย นอกจากนี้ตาของมันก็ดูเหมือนจะมืดบอด…
-
คลิปสั้นน่ารัก ‘คาราเต้ดิ๊ก’ การต่อสู้ของน้องจู๋กับเชื้อร้าย HIV ที่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ช่วย!!
ทุกๆ วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปีนั้น นอกจากจะเป็นวันเริ่มต้นเดือนสุดท้ายของปีแล้ว วันนี้ก็ยังถือเป็นวันเอดส์โลกอีกด้วยเช่นกัน โดยวันสำคัญดังกล่าวถูกจัดขึ้นมาเพื่อรณรงค์ยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ และให้ความรู้เกี่ยวกับเจ้าโรคร้ายที่คร่าชีวิตของผู้ป่วยไปกว่า 25 ล้านคนแล้วทั่วโลก และทางกลุ่มนักทำอนิเมชั่นอิสระที่ใช้ชื่อว่า Emanuele Colombo เองก็ได้ร่วมสร้างอนิเมชั่นที่ใช้ชื่อว่า Karate Dick เพื่อร่วมให้ความสำคัญในวันนี้อีกด้วย Karate Dick เป็นเรื่องราวของเจ้าจู๋หนุ่มนักสู้ ที่กำลังเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อต่อสู้กับเชื้อ HIV และได้ฝึกความแข็งแรงของเขา ก่อนที่จะสวมชุดเกราะถุงยางอนามัยและออกไปผจญโลกกว้าง สื่อให้เห็นถึงการเตรียมพร้อมและทำความเข้าใจกับผู้คนว่าโรคร้ายนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ถุงยางอนามัยนั่นเอง “ขอบคุณวงการแพทย์ ที่ทำให้โรคเอดส์ไม่ใช่โรคร้ายเหมือนที่มันเคยเป็น แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าหากว่าเหล่าเยาวชนของเราขาดความรู้ในการป้องกัน เจ้าโรคร้ายนี้ก็อาจจะกลับมาระบาดอย่างหนักอีกครั้งก็ได้” คุณ Colombo หนึ่งในทีมผู้สร้างกล่าว ถึงแม้จะแข็งแรงแค่ไหนแต่ถ้าหากไม่ป้องกัน ก็อาจจะไม่รอดก็ได้นะเจ้ากระเจี๊ยว!! ไปชมความน่ารักๆ ของคลิปวิดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับโรคเอดส์ได้ที่ด้านล่างนี้เลย… ที่มา designtaxi
-
เด็กอินเดียวัย 11 ขวบ ป่วยเป็นโรคพิเศษทำให้โตไวกว่าอายุถึง 8 เท่า!! แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้…
Shreyash Barmate เด็กชายวัย 11 ขวบจากอินเดียผู้ป่วยเป็นโรค Progeria หรือโรคชราในเด็ก ซึ่งมันทำให้เขาที่เป็นเด็กแต่กลับมีร่างกายที่แก่กว่าปกติราวกับว่า เขาอายุ 70 หรือ 80 เข้าไปแล้ว!! Shreyash นั้นอาศัยอยู่ที่รัฐมัธยประเทศ ประเทศอินเดีย ซึ่งแม้เขาจะเป็นเด็ก 11 แต่ร่างกายภายนอกของเขานั้นแก่ไปมากๆ แล้ว ทั้งแขนขาที่ผอมแห้งราวกับคนแก่ หัวที่โตและล้านกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งจากบันทึกพบว่ามีเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้แค่ราวๆ 150 คนเท่านั้น แต่ถึงร่างกายของเขาจะไม่ปกติ Shreyash ก็ไม่ปล่อยให้โรคนี้มาสร้างความคิดลบกับเขา เขายังคงหัวเราะและยิ้มแย้มอยู่เสมอ และเขายังบอกว่าเขาอยากเป็นนักร้องด้วย แม้ว่าทีมแพทย์จะคาดว่าเขาจะเสียชีวิตอีก 2 ปีจากนี้ก็ตาม เด็กชายได้เล่ากับ The Sun ว่า “ผมเล่นได้ทั้งเครื่องดนตรี ร้องเพลงก็ได้ ปั่นจักรยานก็เก่ง และผมก็ยังชอบว่ายน้ำด้วย ที่สำคัญผมก็รู้ว่าผมป่วยเป็นอะไร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะทำลายฝันของผมที่จะเป็นนักร้องชื่อดังหรอกนะ โตขึ้นผมจะโด่งดังมีชื่อเสียง ที่สำคัญผมจะเก่งกว่าคนอื่น และผมก็มีความสุขมากๆ เลยล่ะ” ด้าน Arvind Barmate ผู้เป็นพ่อก็บอกว่า เขามีลูกสองคนเป็นฝาแฝดก็คือ Shreyash…
-
ความน่ากลัวของแบคทีเรียและพยาธิทั้ง 5 ชนิด มาพร้อมกับความสยดสยองจนคุณรู้สึกขนลุก…
พยาธิอาจะเป็นหนึ่งในสาเหตุของอาการเจ็บป่วยต่างๆ และบางครั้งพวกมันก็อาจจะอยู่ใกล้ๆ ตัวคุณก็ได้เกินกว่าที่คุณคิดก็ได้ ศาสตราจารย์ James Maguire ศาสตราจารย์ทางด้านการแพทย์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวจากเว็บไซต์ BuzzFeed ไว้ว่า บางครั้งอาหารและน้ำดื่มก็อาจเป็นแหล่งที่มาของการติดเชื้อจากพวกวายร้ายตัวเล็กเหล่านี้ และวันนี้เราก็จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับเหล่าปรสิตจอมวายร้ายทั้ง 5 ชนิด ที่ต้องขอบอกไว้เลยว่าแต่ละประเภทนั้นอันตรายสุดๆ 1. พยาธิในสมอง พยาธิชนิดนี้สามารถพบได้ในเขตร้อนชื้น อย่างเช่นในทวีป เอเชีย ออสเตรีเลีย กลุ่มประเทศในแถบแคริบเบียน และในหมู่เกาะแปซิฟิก ศาสตราจารย์ Sue Jarvi จากมหาวิทยาลัยฮาวายกล่าวว่า เจ้าพยาธิเหล่านี้จะติดอยู่ในตัวของหอยทาก และพวกมันอาจจะออกมาพร้อมกับเมือกของหอยทากและติดอยู่ที่ใบของพืชผัก จากนั้นจะเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์และไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายตามกระแสเลือดจนกระทั่งเข้าไปอยู่ในสมอง ความผิดปกติของร่างกายนั้นอาจเกิดได้หลายอาการ ตั้งแต่อาการปวดท้อง ยกแขนลำบาก ไปจนกระทั่งถึงขั้นเนื้อเยื่อสมองอักเสบเลยทีเดียว 2. เชื้ออะมีบาในสมอง โดยปรกติแล้วเจ้าสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวนี้จะอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำจืด และมันมักจะเข้าสู่ร่างกายของเราทางปากและจมูก จากนั้นจะตรงไปที่สมองเพื่อทำลายเนื้อเยื่อและทำให้เกิดอาการสมองอักเสบ ส่วนอาการหลังจากที่เจ้าพวกมันเข้าไปในร่างกายแล้ว จะเริ่มต้นจากการมีไข้ รู้สึกคลื่นไส้ และอาจรุนแรงถึงขั้นโคม่าได้เลยทีเดียว โดยจากสถิติพบว่ามีผู้รอดชีวิตเพียงแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น พวกปรสิตเหล่านี้อาจจะพบได้ยาก แต่จากการรายงานของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 1962…
-
รวมภาพของชาวเน็ตจากรอบโลก กับการต่อสู้ชีวิต เอาชนะ ‘มะเร็ง’ ของพวกเขา
หนึ่งในโรคที่ร้ายแรงและขึ้นชื่อว่าคร่าชีวิตคนที่เรารักไปมากที่สุด ก็คงไม่พ้นโรคมะเร็ง และการจะเอาชนะโรคร้ายให้ได้นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยเช่นกัน ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องราวของชาวเน็ตจากทั่วโลก ที่นำภาพและเรื่องราวการเอาชนะมะเร็งร้ายของพวกเขามาให้เราได้ชมกัน สาวน้อยป. 1 ผู้เอาชนะมะเร็งร้ายได้ ต่อสู้กับมะเร็ง 4 รอบ ผ่าตัด 4 ครั้ง คีโม 55 ครั้ง ฉายรังสี 28 ครั้ง แต่สุดท้ายฉันก็ผ่านมันมาได้… หนุ่มผู้ใช้เวลาต่อสู้กับมะเร็งทั้งหมด 1 ปีเต็ม และผลที่ได้ก็เป็นไปตามคาด สาวน้อย Sophia ที่เคยป่วยเป็นมะเร็งเมื่อ 3 ปีก่อน และเธอก็สามารถเอาชนะมันได้สำเร็จ ที่เห็นผมร่วงหมดแบบนี้ พ่อหนุ่มบอกว่าไม่ใช่เนื้องอกในสมองหรอกนะ แต่เป็นสภาพหลังเอาชนะมะเร็งได้แล้วต่างหากล่ะ ปี 1999 หมอบอกว่าเขามีโอกาสรอดเพียง 10% เจ้าตัวจึงเข้าทดลองรักษามะเร็งด้วยคีโมฯ ปรากฎว่าช่วยได้จริง สาวป่วยเป็นมะเร็งกล้ามเนื้อลายระยะ 4 หมอคาดว่าเธอจะอยู่ได้เพียง 3 เดือน ทว่าเธอเอาชนะมันได้สำเร็จ 3 สาวพี่น้องที่น่ารัก…
-
10 อันดับความเสียหายจาก ‘ภัยพิบัติทางธรรมชาติ’ ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์…
หนึ่งสิ่งที่มนุษย์ไม่สามารถควบคุมได้เลยนั่นก็คือ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทำได้แค่เพียงคาดเดาที่ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน 100% ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่อย่างน้อยๆ ก็เป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายและคร่าชีวิตผู้คนก่อนที่จะสายเกินไป… ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างๆ เกิดขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนไม่ว่าจะเป็นพายุไซโคลน แผ่นดินไหว น้ำท่วม หรือโรคระบาดก็ตาม และวันนี้เราก็ได้รวบรวม 10 อันดับภัยพิบัติทางธรรมชาติที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในประวัติศาสตร์มาฝากทุกคนกัน ซึ่งทั้ง 10 อันดับนั้นจะมีอะไรกันบ้างไปชมกันเลย 10. แผ่นดินไหวที่เมืองอะเลปโป ประเทศซีเรีย ปี 1138 แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ตุลาคมปี 1138 ในเมืองอะเลปโป ประเทศซีเรีย ซึ่งปัจจุบันคือเมืองฮาลับ โดยมีการบันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตไว้ที่ 230,000 คน และนอกจากนี่ยังมีอาคารและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ที่พังทลายไปพร้อมกับเหตุการณ์นี้ด้วย 9. แผ่นดินไหวที่เมืองถังชาน ประเทศจีน ปี 1976 แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคมปี 1976 มีระดับความรุนแรงอยู่ที่ 7.8 แมกนิจูด พบจำนวนผู้เสียชีวิตมากถึง 240,000 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 164,000 คน ซึ่งมีจุดศูนย์กลางมาจากรอยเลื่อนที่ยาวถึง…
-
หญิงสาวป่วยเป็นมะเร็ง ได้กำลังใจต่อสู้กับโรคร้าย จากเจ้านกน้อยที่คอยบินมาเยี่ยมทุกวัน…
ความรักความผูกพันที่เกิดขึ้นนั้นอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเกิดจากคนในครอบครัวเสมอไป แต่ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนที่เราได้เข้าไปมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกันอีกด้วย และหากเป็นไปได้ด้วยดี ก็จะเกิดความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น เรียกได้ว่าจะตัดก็ตัดกันไม่ขาดเลย อย่างเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน แต่กลับเกิดขึ้นระหว่างคนกับนกต่างหากล่ะ… มันเริ่มจากความบังเอิญที่คุณแม่ลูกหนึ่งอย่าง Dina Theissen ได้พบกับนกสายพันธุ์บลูเจย์ นอนอยู่ข้างต้นไม้บริเวณหน้าบ้านของเธอในตอนที่มันอายุเพียงไม่กี่วันเท่านั้น มันถูกตั้งชื่อว่า Gracie ซึ่งเธอกับสามีและลูกสาวของเธอได้นำมันมาเลี้ยงไว้ชั่วคราว เพราะไม่พบแม่ของมันและต้องการที่จะให้มันได้กลับคืนสู่ป่าตามธรรมชาติอีกครั้ง โดยให้มันได้เติบโตและฟื้นฟูร่างกายบริเวณชานบ้านของเธอ มันจึงเติบโตท่ามกลางธรรมชาติ ที่สามารถทำให้มันปรับตัวกลับคืนสู่ป่าได้ง่ายยิ่งขึ้น ได้เรียนรู้วิธีอาหารด้วยตัวเอง และเริ่มที่จะรู้ได้แล้วว่าการเป็นนกนั้นมันต้องทำอย่างไรบ้าง หลังจากนั้น 4 สัปดาห์ทางครอบครัวก็ได้พยายามปล่อยเจ้านกน้อยกลับคืนสู่ป่า แต่มันก็ไม่ยอมไปไหนและบินกลับมาหาพวกเขา จนเมื่อผ่านไปอีกอาทิตย์ครึ่ง มันก็เริ่มมีความกล้าที่จะบินออกไปบนต้นไม้ หันมองโลกกว้างอันสวยงามรอบตัว จนในที่สุดเมื่อเวลาผ่านไปมันก็ได้กลับคืนสู่ป่า ถึงแม้ว่ามันจะยังคงกลับมาหาในทุกๆ วัน เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเวลานานราวสองปีครึ่ง ที่มันมักจะแวะมาเล่นอยู่บ้านพวกเขาทุกวัน หรือบางครั้งก็มาแค่ส่งเสียงร้อง มาใช้เวลาอยู่ร่วมกันเพียงแค่นาทีสองนาทีบ้าง เพราะมันเป็นนกที่แสวงหาการเรียนรู้และกระตือรือร้น ที่จะบินไปทั่วธรรมชาติอันกว้างใหญ่ แต่สุดท้ายเมื่อข่าวร้ายเกิดขึ้นกับบ้านนี้ มันก็ได้แวะมาอยู่นานมากขึ้น ข่าวร้ายที่ว่านั้นก็คือ Dina ป่วยเป็นโรคมะเร็งรังไข่ซึ่งนับว่าเป็นความโชคร้ายของเธอ…
-
คุณลุงมีก้อนเนื้อยักษ์ในปากนานถึง 30 ปี กว่าจะได้รับการผ่าตัดออก จนกลับมายิ้มได้อีกครั้ง
(คำเตือน: ภาพประกอบเนื้อหาอาจไม่เป็นมิตรต่อสายตา) เชื่อว่าถ้าเป็นไปได้ก็คงไม่มีใครอยากเผชิญกับอาการป่วยจากโรคร้าย เช่นเดียวกับ Eng Kheng คุณลุงชาวกัมพูชาที่ต้องต่อสู้กับปัญหาก้อนเนื้อยักษ์ในปากมานานกว่า 30 ปี เดิมทีคุณลุง Eng Kheng อาศัยอยู่ในจังหวัดกำปงจาม ถึงแม้คุณลุงจะไม่ทราบได้ว่าเนื้องอกขนาดใหญ่ในปากเกิดขึ้นจากอะไร แต่ก็ยังโชคดีที่คุณลุงได้รับการช่วยเหลือจาก Dr. Andrew Chang คุณหมอชาวออสเตรเลีย “เชื่อเถอะว่าแม้แต่ผมเองก็ไม่เคยเห็นอะไรใหญ่ขนาดนี้มาก่อน และผมก็ไม่คิดว่าคนทั้งโลกจะไม่เคยเห็นอะไรที่มันใหญ่ขนาดนี้เช่นเดียวกัน…” Dr. Andrew ให้สัมภาษณ์ ซึ่งก่อนหน้านี้คุณลุง Eng Kheng ได้พยายามที่จะหาทางรักษาจากคุณหมอในพื้นที่ ทว่าด้วยปัจจัยความขาดแคลนทางการแพทย์ต่างๆ ทำให้ไม่สามารถรักษาอาการของคุณลุง ที่เพิ่งเกิดเป็นเคสแรกได้ โชคดีที่คราวนี้คุณลุงได้รับการช่วยเหลือ จากคุณหมอชาวออสเตรเลีย เพราะการผ่าตัดในครั้งนี้ Dr. Andrew Chang ได้เดินทางมาด้วยตนเองถึงประเทศกัมพูชา ส่วนหนึ่งก็เพื่อต้องการเผยแพร่ความรู้ด้านการแพทย์ให้กับเพื่อนร่วมอาชีพในพื้นที่นั้นๆ “สาเหตุหนึ่งก็เพราะอาการของคุณลุงแย่เกินกว่าที่เราจะส่งตัวเขามาออสเตรเลียได้อย่างปลอดภัย และการผ่าตัดในประเทศกัมพูชา ก็ช่วยให้เราเผยแพร่ความรู้ในการรักษาให้แก่พวกเขาได้เช่นกัน” คุณหมอกล่าว และนี่คือสภาพใบหน้าของคุณลุงหลังการผ่าตัดครั้งใหญ่ ต้องนับว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณลุงชาวกัมพูชา เพราะสำหรับคุณลุงแล้วเขาไม่ต้องการสิ่งอื่นใดนอกซะจาก การได้กลับมามีสภาพหน้าตาเหมือนคนปกติทั่วไปอีกครั้ง……
-
เรื่องราวสุดประทับใจ จากหมาป่วยโรคมะเร็ง เจ้าของให้ความรักจนตอนนี้มีชีวิตอยู่มาถึง 13 ปี!!
อย่างที่เพื่อนๆ ทราบกันดีว่า ‘โรคมะเร็ง’ เป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนมาเป็นจำนวนมาก แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ แล้วเจ้าโรคร้ายนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่กับเฉพาะคนเท่านั้น เหล่าสัตว์ทั้งหลายก็สามารถเป็นโรคมะเร็งได้เช่นกัน วันนี้ #เหมียวหง่าว จะมาเล่าเรื่องราวของเจ้าหมาที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกัน จะเป็นอย่างไรนั้นลองไปชมพร้อมๆ กันได้เลยจ้า… เรื่องมีอยู่ว่า Jack Richards ชายหนุ่มชาวอังกฤษ ได้รับลูกหมาน้อยตัวหนึ่งเข้ามาเลี้ยงในครอบครัวและตั้งชื่อให้มันว่า D ทุกคนในครอบครัวของเขาต่างก็ตื่นเต้นที่จะได้เลี้ยงเจ้า D เป็นอย่างมาก พวกเขาทำการเลี้ยงดูมันเป็นอย่างดี จนเวลาผ่านไป…เข้าสู่เดือนที่ 6 นับตั้งแต่รับมาเลี้ยง จู่ๆ ก็มีก้อนประหลาดงอกขึ้นมาที่ผิวหนังของมัน ทางครอบครัว Richards ก็เลยพามันไปตรวจกับสัตวแพทย์และพบว่า ก้อนเนื้อนั้นคือมะเร็งร้ายที่จะคอยกัดกินและคร่าชีวิตมันไปทีละนิดๆ พวกเขาก็เลยตัดสินใจที่จะรักษามันตามวิธีการของสัตวแพทย์ หลังจากนั้นก็ได้พาเจ้า D ไปหาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการรักษาสัตว์ที่มหาวิทยาลัย Cambridge เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้ง พวกเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังว่าความรักของพวกเขา และการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญจะช่วยชีวิตมันได้… และพบปาฎิหาริย์เกิดขึ้นเพราะการรักษาเป็นไปได้ด้วยดี จนสุดท้าย… มะเร็งร้ายนั้นหายไปแล้ว!! แต่อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่าอย่างเพิ่งชะล่าใจไปล่ะ เพราะเจ้าเนื้อร้ายนี้มันสามารถกลับมาอีกได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นจงใช้เวลาอยู่กับมันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก็แล้วกันนะ แต่เวลาผ่านพ้นไป 13 ปี เจ้า D ก็ยังมีชีวิตอยู่แถมยังมีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ดีอีกด้วย…
-
ละเลยไม่ได้ การเอาหัวพิงฝาของสัตว์เลี้ยง ถึงจะดูน่ารัก แต่ที่จริงเป็นสัญญาณของหลายโรคร้ายเลยล่ะ!!!
เพื่อนซี้ขนปุยของเพื่อนๆ น่ะ มีอาการกันแบบนี้รึเปล่า!!? น่าเป็นห่วงนะเนี่ย ถึงมันจะดูน่ารักน่าชังขนาดไหน แต่มันเป็นพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นว่าสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณน่ะ มีความผิดปกติอยู่นะ!!! ตามที่ทาง Animal Wellness Magazine ได้ตีพิมพ์ขึ้นมาได้มีการกล่าวว่า การที่สัตว์เลี้ยงของคุณเอาหัวไปซบหรือติดกับกำแพงนั้น เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนใหญ่ๆ เลยล่ะว่ามันกำลังมีปัญหาด้านสุขภาพ!!! น่ารักแต่ที่จริงแล้ว!!!? เพราะตามปกติแล้วสัตว์เลี้ยงจะไม่ทำแบบนี้กันนะจ๊ะ ถึงแม้การเอาหัวไปพิงกำแพง อาจไม่ได้เป็นสัญญาณชี้ชัดว่าเป็นโรคไหนแน่ แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนของทั้งความผิดปกติของหลายๆ อย่าง ทั้งระบบประสาท อาหารเป็นพิษ อาการบาดเจ็บทางสมอง สมองอักเสบ ความผิดปกติในตับ ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ และบางครั้งอาจจำไปสู่การชักด้วยล่ะ!!! โถๆๆ เจ้าเหมียว แกเป็นอะไรน่ะ -*- ทางออกที่ดีที่สุดคือควรพาเจ้าขนฟูของคุณไปให้สัตวแพทย์ทำการตรวจดูว่าเป็นอะไรกันแน่ และนอกจากโรคทางร่างกายแล้ว การเอาหัวพิงกำแพงก็เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของการป่วยทางใจด้วยนะจ๊ะ และไม่แน่บทความนี้อาจช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงของคุณก็ได้ ใครจะไปรู้… ที่มา: Metro
-
นางแบบสาวกลับคืนสู่วงการ หลังจากเกือบสูญเสียลูกในท้องจากการต่อสู้กับโรคมะเร็ง!!
เรื่องราวของนางแบบสาววัย 24 ปีที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายอย่างมะเร็งกระดูก มันเข้ามาเปลี่ยนชีวิตของเธอจากหน้ามือเป็นหลังมือ ประกอบกับเป็นช่วงที่เธอตั้งท้องด้วย วันคืนอันแสนโหดร้ายนี้เกือบจะทำให้เธอต้องสูญเสียลูกในท้องไป เธอมีชื่อว่า Elizaveta Bulokhova นางแบบสาวชาวแคนาดาวัย 24 ปี เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคออสทีโอซาร์โคมา (Osteosarcoma) โรคมะเร็งกระดูกชนิดหนึ่ง ในช่วงเวลาอันโหดร้ายนี้ กำลังใจที่สำคัญที่สุดก็คือแฟนหนุ่มของเธอ ซึ่งทั้งสองคนกำลังจะมีลูกด้วยกันในไม่ช้า เป็นช่วงที่เธอตั้งท้องและตรวจพบกับโรคมะเร็งนี้ด้วย เธอจึงตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดครั้งใหญ่เป็นเวลา 16 ชั่วโมงเพื่อทำการนำมะเร็งร้ายออกไปและฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง โดยที่ก่อนผ่าตัดเธอจะต้องทำการคลอดลูกก่อนกำหนดเพื่อรับการทำคีโมหลังจากผ่าตัดนำมะเร็งออกแล้ว จนในที่สุดการผ่าตัดก็ประสบความสำเร็จ ลูกในท้องของเธอปลอดภัย มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี และตัวเธอเองก็กำลังพักฟื้นอย่างค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ตามลำดับ หลังจากที่ผ่านพ้นเวลาอันโหดร้ายมาได้ ตอนนี้ครอบครัวของนางแบบสาวจึงกลายมาเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ มีคุณพ่อ คุณแม่ และลูกน้อย เพียงเท่านี้เธอก็มีความสุขที่สุดในโลกแล้วล่ะ รอเวลาอีกซักหน่อย เธอจะกลับไปทำงานเป็นนางแบบอีกครั้ง ที่มา : thechive