Tag: โลกอนาคต
-
มารู้จักกับ AlterEgo สุดยอดนวัตกรรม ควบคุมได้ง่ายๆ เพียงแค่ ‘คิด’ ก็เกินพอแล้ว!!
เทคโนโลยีของเรามีการเติบโตก้าวไกลมากขึ้นไปในทุกๆ วัน ปัจจุบันสิ่งที่เราอาจได้เห็นกันมาบ้างแล้วคือการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสมาร์ทโฟนของเราด้วยการใช้เสียงพูด แต่อุปกรณ์ต่อไปนี้กลับทำได้เหนือชั้นยิ่งกว่านั้น เมื่อมันสามารถควบคุมได้ด้วยเสียงในความคิดของเรา นี่คือสิ่งประดิษฐ์ที่คิดค้นโดยนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) สหรัฐอเมริกา มันมีชื่อว่า AlterEgo อุปกรณ์ที่เราสามารถควบคุมผ่านเสียงความคิดในสมองหรือที่เรียกว่ากลไก Subvocalization AlterEgo อุปกรณ์ที่สามารถสั่งการได้ผ่านความคิด ถ้าให้อธิบายง่ายๆ กลไก Subvocalization คือกระบวนการธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายในสมองของเรา เป็นการพูดแบบไร้เสียงหรือก็คือเหมือนตอนที่เรากำลังอ่านหนังสือโดยไม่ออกเสียงอยู่นั่นเอง ซึ่งตอนนั้นกระบวนการภายในของเราจะบอกให้เรารับรู้ว่าสิ่งที่เราอ่านมันคือคำว่าอะไร มีความหมายว่าอย่างไร เพราะฉะนั้นแล้ว เพียงแค่เราคิดถึงคำพูดสั่งการเอาไว้ในหัว เราก็จะสามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นี้ได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องอ้าปากพูดใดๆ เลย เจ้าอุปกรณ์ชิ้นนี้จะทำการจับสัญญาณระบบประสาทและกล้ามเนื้อในขณะที่เราคิดคำสั่งขึ้นมา จากนั้นระบบคอมพิวเตอร์จะแยกแยะว่าคำสั่งนั้นคือคำว่าอะไร โดยนักวิจัยบอกว่ามันสามารถแยกแยะคำสั่งต่างๆ ออกมาได้อย่างแม่นยำถึง 92 เปอร์เซ็นต์ และเชื่อว่าหากมีการทดสอบมากขึ้นก็จะทำให้มันแยกแยะได้แม่นยำมากขึ้นอย่างแน่นอน นอกจากนั้นนักวิจัยยังบอกอีกว่าการใช้งานเจ้า AlterEgo จะไม่ไปรบกวนกับบทสนทนาในชีวิตจริงของเราแน่นอน เพราะมันมีความสามารถในการแยกแยะระหว่างคำสั่งกับบทสนทนาได้ นักวิจัยได้แสดงตัวอย่างการทำงานของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ ทำให้เราเห็นว่าปัจจุบันมันสามารถควบคุมได้ทั้งระบบทีวีที่ชื่อว่า Roku สามารถบอกเวลาเราได้เพียงแค่เราคิดถึงคำว่า “เวลา” สามารถบวกเลขที่เราคิดเอาไว้ในใจ แถมยังสามารถแนะนำการเดินหมากให้กับเราตอนที่เล่นหมากล้อมได้ด้วย คลิปแสดงตัวอย่างการทำงานของสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ Arnav…
-
บร๊ะเจ้า Elon Musk เปลี่ยนใจ จากแผนทำระบบขนส่งรถ ขอเปลี่ยนมาทำรถเมลล์ใต้ดินก่อน
เมื่อพูดถึง Elon Musk หลายคนก็คงจะนึกถึงรถพลังงานไฟฟ้า Tesla หรือสุดยอดจรวด Space X ของเขา แต่คุณรู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วเขามีบริษัทลูกอยู่อีกหนึ่งบริษัทด้วยนะ เพียงแต่หลายคนอาจจะไม่รู้!? Boring Company เป็นบริษัทที่ Elon สร้างขึ้นจากความคิดที่อยากจะขุดอุโมงค์ใต้มหานครต่างๆ และสร้างระบบขนส่งที่ดีกว่าระบบเดิม และเขาก็เคยประกาศคอนเซ็ปต์ของบริษัทออกมาเมื่อตอนก่อตั้งแล้วด้วย เพียงแต่ว่าตอนแรกมันเป็นแนวคิดเรื่องการขนส่งยานพาหนะ แต่ปัจจุบันเขาคิดว่าน่าจะทำเป็นระบบรถส่งคนคล้ายๆ รถไฟฟ้าใต้ดินน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะยังมีผู้คนอีกจำนวนมาก ที่ต้องการจะใช้ระบบขนส่งประเภทนี้มากกว่ารถยนต์ส่วนตัว ฉะนั้นเขาจึงปล่อยตัวอย่างแนวคิดใหม่ออกมาและคนก็พากันให้ความสนใจมากๆ เขายังยืนยันว่านี่เป็นเพียงคลิปต้นแบบ ที่ปรับเปลี่ยนจากตัวเดิมในปี 2017 ส่วนต้นแบบที่ดีกว่าจะออกมาในเร็วๆ นี้ (เข้าไปดูต้นฉบับได้ที่ @elonmusk) Elon ยังบอกอีกว่าระบบขนส่งดังกล่าว จะช่วยให้คนที่ไม่สามารถเข้าถึงการใช้รถยนต์ส่วนตัว มีระบบขนส่งที่ดีและเร็วขึ้น เพราะตัวระบบขนส่งแบบ Hyperloop ที่เขากำลังสร้างนั้นจะเดินทางได้ไวถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เลยทีเดียว ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าระบบขนส่งนี้จะออกมาเป็นอย่างไร แต่หากมองว่ามีโอกาสจะเกิดขึ้นจริงๆ หรือไม่นั้น ต้องบอกเลยว่ามีแนวโน้มเป็นไปได้สูง… เพราะจากผลงานที่ผ่านมาอย่างจรวดขนาดใหญ่ที่กลับมาลงจอดได้เอง รถยนต์พลังงานไฟฟ้าชั้นเยี่ยม และผลงานด้านเทคโนโลยีอื่นๆ อีกมากมายจาก…
-
นักท่องเวลาที่อ้างว่าเกิดในปี 2043 ได้เล่าถึงเหตุการณ์ “สงครามโลกครั้งที่ 3” ที่เกิดขึ้น
เรื่องราวอันน่าเหลือเชื่อนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มีชายหนุ่มคนหนึ่งอ้างว่าตัวเขาเองนั้นเดินทางมาจากโลกอนาคต พร้อมกับได้เตือนทุกคนเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อีกด้วย!! คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ทางช่องยูทูบ ApexTV โดยในคลิปดังกล่าวได้มีชายคนหนึ่งที่บอกว่าตัวเขาเองชื่อ Michael Phillips ซึ่งเกิดในปี 2043 และได้เดินทางกลับมายังอดีตเพื่อเตือนให้พวกเรารู้เกี่ยวกับหายนะที่กำลังจะเกิดขึ้น จากที่ Michael ได้บอกเอาไว้ในคลิปวิดีโอเขาได้เตือนพวกเราว่าในปี 2019 นั้นจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและเกาหลีเหนือ นอกจากนี้หนุ่มจากโลกอนาคตยังได้บอกอีกว่า สงครามนิวเคลียร์ครั้งนี้จะจบลง หลังจากที่สหรัฐอเมริกาได้ลงมือฆ่าท่านผู้นำ Kim Jong-Un ลงได้สำเร็จ “มันคือสงครามจำกัดขอบเขต รัสเซียและประเทศจีนจะร่วมมือกันเพื่อต่อต้านสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ มันเป็นสงครามที่เลวร้ายมาก ผู้คนมากมายจะล้มตาย อาวุธนิวเคลียร์จะถูกนำมาใช้ แต่จะมีการใช้อาวุธนั้นเพียงแค่ในสนามรบเท่านั้น” ชายหนุ่มลึกลับผู้มาจากโลกอนาคตกล่าวในคลิปวิดีโอ Michael ยังอ้างอีกว่าประธานาธิบดี Donald Trump จะได้เป็นประธานาธิบดีด้วยกันถึง 2 สมัยเลยทีเดียว “Donald จะยังอยู่บนเก้าอี้ของเขาถึง 2 สมัย และเขาก็พยายามจะคว้าตำแหน่งในสมัยที่ 3 อีกด้วย แต่เขาถูกฟ้อง พิธีกรชื่อดังอย่าง Oprah Winfrey ก็พยายามจะเป็นประธานาธิบดี แต่เสียดายที่เธอทำไม่สำเร็จ และชายที่ชื่อ Michael Macintosh คว้าตำแหน่งไป” หนุ่มลึกลับกล่าว และแน่นอนว่าไหนๆ ก็มาจากอนาคตทั้งที งานนี้หนุ่มลึกลับของเราก็ไม่พลาดประเด็นสำคัญอย่างเรื่องโลกร้อน เขาได้บอกเอาไว้ในคลิปวิดีโอว่า ในปี 2075 จะเกิดภัยพิบัติเรื่องโลกร้อนอย่างรุนแรง เนื่องจากการละเลยของรัฐบาลโลก…
-
มาอีกคน… มนุษย์ผู้อ้างตัวมาจากปี 8973 เล่าเรื่องราวให้ฟังถึงโลกอนาคต พร้อมภาพหลักฐาน!?
ในช่วงที่ผ่านมา ดูเหมือนว่ากระแสการการเดินทางข้ามเวลานั้นจะค่อนข้างได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างประเทศ ที่มักจะออกมาอ้างว่าพวกเขาน่ะมาจากโลกอดีตนะจ๊ะ พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เราสามารถหาอ่านได้ในหนังสือประวัติศาสตร์ให้ฟัง แต่ทว่าสำหรับหนุ่มกลับเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป หลังจากที่เขาได้อัดคลิปวิดีโออธิบายว่าตัวเขานั้นเดินทางมาจากโลกอนาคต พร้อมกับเล่าเรื่องของสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 8973 ในฟังอีกด้วย William Taylor เริ่มต้นแนะนำตัวเขา พร้อมกับอ้างว่าขณะนี้เขากำลังทำงานในฐานะหน่วยข่าวกรองให้กับรัฐบาลอังกฤษ และตัวเขาจำเป็นต้องออกมาเปิดเผยความจริงบางอย่างให้ทุกคนรู้ “ในโลกอนาคตนั้นจะมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ามากๆ ซึ่งมันสามารถเค้นความลับของคุณได้ มีการวางแผนที่จะใช้เจ้าสิ่งนี้กับประชาชน พวกเขาอาจจะตามหาผมหลังจากที่ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ แต่ผมยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อบอกความจริงกับคุณเพื่อหวังว่าบางอย่างจะเปลี่ยนแปลง” ชายหนุ่มกล่าว นอกจากนี้เขายังได้เตือนชาวโลกปัจจุบันตาดำๆ ที่ยังทำตัวตามสบายโดยไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองอีกว่า “พวกแกน่ะกำลังถูกปรากฏการณ์ Mandela Effect ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้เกิดความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงๆ และคิดว่าการเดินทางข้ามเวลาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ อันที่จริงแล้ว การเดินทางข้ามมิติเวลานั้นถูกคิดค้นสำเร็จมาตั้งแต่เมื่อปี 1981 แล้ว และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์สามารถสร้างเครื่องมือที่ไม่เพียงแค่เดินทางข้ามเวลาได้เท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้เราเดินทางไปยังจักวาลต่างๆ ที่มีอยู่มากมายนับไม่ถ้วนได้อีกด้วย” และยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เขายังอ้างอีกว่าตัวเองเคยเดินทางไปยังปี 3000 มาแล้ว ซึ่งในอนาคตข้างหน้านั้นมนุษย์เราจะอาศัยอยู่ใต้น้ำ ส่วนในปี 8973 นั้นโลกเราจะเต็มไปด้วยหมอกควัน และมนุษย์เราจะใช้การเดินทางบนอากาศแทน “ในปี 8973 นั้น รัฐบาลอังกฤษมีความคิดว่ามนุษย์และเครื่องจักรสามารถรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้” ชายหนุ่มกล่าว และสำหรับใครที่อยากฟังเรื่องราวของโลกจากปี 8973 แบบเต็มๆ…
-
สื่อสัมภาษณ์หนุ่มที่อ้างว่าเดินทางมาจากปี 6000 แถมเคลมว่ายุคนั้น AI ครองโลก!?
บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นข่าวที่พูดถึงคนหนึ่งคน หรือกลุ่มที่อ้างตัวว่าพวกเขานั้นมาจากโลกอนาคต บ้างก็อีก 20 ปี บ้างก็บอกว่าอีก 100 ปี หนักหน่อยก็อาจจะอีกเป็น 1000 ปีแบบหนุ่มเจ้าของเรื่องราวในครั้งนี้ หนุ่มไม่ทราบนามคนหนึ่ง ได้อ้างว่าเขานั้นเดินทางมาจากปี 6000 พร้อมกับขอให้ทีมข่าวเบลอหน้าของเขา เพราะคนในโลกอนาคตไม่อยากให้คนในปัจจุบันรู้เกี่ยวกับโลกอนาคต ฉะนั้นเขาจึงต้องปิดหน้าเพื่อป้องกันตัว หนุ่มผู้ให้สัมภาษณ์ได้บอกเล่าถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตคร่าวๆ ว่า ในปี 6000 ยารักษามะเร็งได้ถูกคิดค้นขึ้นแล้ว และมันก็ได้ผลมากๆ นอกจากนี้เขายังบอกอีกว่า เทคโนโลยีในอนาคตนั้นล้ำหน้ามากๆ มนุษย์สามารถที่จะเทเลพอร์ตได้ และการย้อนเวลาก็สามารถทำได้ทุกคนถ้าคุณมีเงินมากพอ เขายังอ้างอีกว่าการย้อนเวลานั้นมีกฎอยู่แค่ข้อเดียวคือ คุณจะต้องไม่ไปยุ่งกับเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม คุณจะทำได้แค่มองดูมันเกิดขึ้นเท่านั้นและจะต้องล่องหนตลอดเวลา กลับกันในปี 6000 คนที่ปกครองโลกอยู่นั้นกลับไม่ใช่มนุษย์ด้วยกันเอง แต่เป็น AI โดยเขาให้เหตุผลว่ามนุษย์นั้นมีการวิเคราะห์และตัดสินใจด้วยความรู้สึก แน่นอนว่าบางครั้งคนเราก็ตัดสินใจได้ถูก แต่บางครั้งก็ผิด กลับกัน AI จะตัดสินทุกอย่างด้วยปัญญาที่มันมี และมันจะไม่ใช่ความรู้สึก ซึ่งนั่นทำให้ทุกอย่างแม่นยำ 100% หนุ่มคนนี้ยังอ้างอีกว่า ในอนาคตเราสามารถถ่ายเทจิตของเราลงไปในคอมพิวเตอร์ได้ ซึ่งมันจะทำให้เราสามารถอยู่ได้ตลอดไป และในช่วงสุดท้ายเขาได้โชว์รูปภาพให้เราดูว่าเมืองในปี 6000 นั้นเป็นยังไง…
-
Toyota นำเสนอโลกอนาคตยุคใหม่ เปลี่ยนยานพาหนะให้กลายเป็นบริการหลากหลายสิ่ง
โลกของเรานั้นยังคงพัฒนาต่อไปไม่มีสิ้นสุด โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีที่เจ้าของธุรกิจมากมายก็ต่างพากันคิดค้นนวัตกรรมเจ๋งๆ ออกมาไม่รู้จบ หนึ่งในบริษัทที่ยังคงพัฒนาไม่รู้จบนั่นก็คือ Toyata ที่ล่าสุดนั้นได้ปล่อยคอนเซ็ปต์รถรุ่นใหม่ที่เรียกว่า e-Palette ซึ่งมีการเผยรายละเอียดผ่านงาน CES หรือ Consumer Electronics Show ที่นครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา รถดังกล่าวนั้นจะทำงานด้วยระบบไฟฟ้า 100 เปอร์เซนต์ ที่สำคัญยังใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติด้วยนะ โดยจุดประสงค์ของเจ้ารถชนิดนี้นั้นก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับชุมชนเมืองในโลกอนาคตนั่นเอง ตัวรถนั้นสามารถที่จะเปลี่ยนเป็นห้องอะไรก็ได้ เช่นเป็นห้องนอน ห้องทำงาน หรือแม้แต่ร้านขายรองเท้าเจ้า e-Palette ก็ทำได้หมด และถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ e-Palette มันก็คือห้องขนาด 4 ถึง 9 เมตรที่เคลื่อนที่ไปมาได้ และทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาระหว่างอยู่บนท้องถนนไปอย่างเปล่าประโยชน์นั่นเอง ที่สำคัญพลังงานไฟฟ้ายังช่วยช่วยลดมลพิษด้วย!! . ยังไม่หมดเท่านั้น Toyota ยังได้ตั้งเป้าหมายใช้เจ้า e-Palette ขยายฐานการค้าขายและบริการให้กว้างมากขึ้นร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจมากมายทั้ง Amazon, The Pizza, Uber และ DiDi อย่างไรก็ตามเจ้ารถคันนี้ก็ยังเป็นเพียงแค่รถคอนเซ็ปต์เท่านั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกพักใหญ่ๆ เพื่อใช้ในการพัฒนาให้มันมีคุณภาพที่ดีที่สุด ก่อนจะวางจำหน่ายและใช้งานจริงนั่นเอง แต่เท่านี้เราก็รู้แล้วว่าโลกอนาคตของเรามันจะน่าสนใจขนาดไหน… …
-
ควรค่า!! NANO หนังสั้นแนวไซ-ไฟ ที่คุณควรดูมากที่สุดในปี 2017 กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย
ในแวดวงเทคโนโลยี เหล่านักวิทยาศาสตร์ต่างพยายามพัฒนาสิ่งใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นบนโลกของเรา เพื่อจะทำให้สิ่งต่างๆ นั้นดูง่ายขึ้น และมีประโยชน์ที่มากกว่าเดิม อย่างในปัจจุบัน เรามีเทคโนโลยี “ไมโครชิพ” ที่ฉีดเข้าไปในร่างกายของสัตว์เลี้ยงเพื่อจะติดตามกิจกรรมต่างๆ ของมันในแต่ละวัน พร้อมทั้งหาตำแหน่งของมันได้อย่างง่ายดาย ทว่าจะเป็นอย่างไรถ้าในอนาคตข้างหน้า ไมโครชิพจะเข้ามาควบคุมกิจกรรมทุกๆ อย่างในตัวมนุษย์ แม้กระทั่งเครื่องความสัมพันธ์ ด้วยแนวคิดเช่นนี้จึงได้เกิดหนังสั้นแนวไซ-ไฟกึ่งวิทยาศาสตร์ชื่อว่า ‘Nano’ ขึ้นมา เพื่อสะท้อนปัญหาของเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำจนเกินไป โดยเนื้อเรื่องสำหรับหรับหนังสั้นเรื่องนี้ จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับโลกอนาคตของเราที่ “ไมโครชิพ” ได้กลายเป็นบรรทัดฐานสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในโลก โดยในโลกแห่งจินตนาการแห่งนี้ ไมโครชิพจะถูกฝังเข้าสู่กระแสเลือดของทุกคน จากนั้นไมโครชิพที่ว่านี้มันจะดูดซับข้อมูลทางพันธุกรรมทั้งหมดแล้วก็ควบคุมส่วนต่างๆ ในร่างกายเราอย่างเลือด เนื้อเยื่อ หรือกระทั่งระบบกล้ามเนื้อที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันทั่วๆ ไปของมนุษย์ แล้วนำไปซิงค์กับคอมพิวเตอร์เพื่อควบคุมสิ่งต่างๆ ที่มนุษย์ควรจะทำไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรม การคุมกำเนิด หรือแม้กระทั่งการมีเซ็กส์ ภาพยนตร์สั้นเรื่องนี้กำกับโดย Mike Manning ที่ได้เขียนบทร่วมกับ Tom Anderson ด้วยฝีมือการกำกับอันจัดจ้านบวกกับบทที่ดีเยี่ยม ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องของจินตนาการที่น่าเหลือเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของเทคโนโลยี Nano ซึ่งผู้ชมจะได้รับความสนุกไปพร้อมกับแง่คิดดีๆ อย่างแน่นอน สำหรับใครที่ลังเลอยู่ว่าเรื่องนี้จะดีจริงอย่างที่ว่าหรือไม่ สบายใจได้อย่างแน่นอนเพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ได้รับรางวัลต่างๆ…
-
เหล่าพ่อแม่ที่ฉลาดล้ำนำโลก ถ้าเรายังอยู่ในปี 2017 เค้าก็คงท่องเวลามาจาก 3017 แล้วล่ะ!!
ในปัจจุบันการจะพูดถึงนวัตกรรมต่างๆ หรือการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์แบบล้ำๆ นั้นดูเหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดาไปซะแล้ว เพราะถ้าหากใครที่ติดตามข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีนั้นก็คงจะทราบกันดีว่าตอนนี้โลกเรานั้นไปไกลแค่ไหนแล้ว แต่ถึงแม้ในปี 2017 นี้เราจะมีการคิดค้นทางด้านนวัตกรรมก้าวกระโดดมากแค่ไหน แต่เชื่อเถอะว่ายังไงก็ไม่เท่ากับนวัตกรรมของคุณพ่อคุณแม่ที่ประยุกต์ใช้สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัวจนไปไกลถึงปี 3017 แบบนี้แน่ๆ 1. ลองนึกภาพสติกเกอร์ไลน์ดุ๊กดิ๊กที่มีหน้าคุณแม่ของคุณดูสิ!! อื้อหือ ยิ่งกว่าสวัสดีวันจันทร์แน่นอน!! 2. วิทยุสื่อสารของคุณพ่อที่มาจากปี 3017!! 3. นี่สินะที่เค้าเรียกว่าชุดเกราะกันรังสี (ดูคลิปไม่ได้กด ที่นี่ นะ) y’all livin in my 2017, my dad livin in 3017 pic.twitter.com/HoqRxJmZRA — Austin Roa (@AustinRoa) 17 มิถุนายน 2560 4. ดื่มไวน์แบบเย็นๆ โดยไม่ให้เสียรสชาติ ก็ต้องเอาแก้วแช่แบบนี้แหละนะ 5. การแอบซ่อนเบียร์ในตู้เย็น แบบปี 3017…
-
Atlas หุ่นยนต์จาก Boston Dynamics อัพเกรดแล้ว เดินธรรมดามันไม่คูล ระดับนี้ต้องตีลังกา!!
นับวันนั้นเทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์เริ่มจะมีบทบาทและพัฒนาการที่ล้ำยุคไปเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนแค่ให้มันเดินตามคำสั่งก็เป็นอะไรที่ยากแล้ว แต่ปัจจุบันพวกมันกลับสามารถยกของได้ วิ่งได้ จนตอนนี้ถึงขั้นตีลังกาได้แล้ว!? หุ่นตัวดังกล่าวมีชื่อว่า Atlas ซึ่งถูกพัฒนาโดยบริษัท Boston Dynamics โดยพวกเขาได้เผยคลิปการทดสอบของหุ่นตัวนี้ออกมาในแบบเวอร์ชั่นปรับปรุงจากรุ่นก่อนๆ รับรองว่าใครได้เห็นก็ต้องร้อง เชร่ดดดด แต่ก่อนจะได้เห็นเจ้า Atlas ตีลังกา เราจะได้เห็นความคล่องตัวของมันในเบื้องต้นก่อน ไม่ว่าจะเป็นการกระโดดขึ้นพื้นที่ต่างระดับ ที่ดูคล่องแคล่วมากๆ จนเราอาจจะฉุดคิดขึ้นมาในแว๊บๆ ว่า มันอาจจะใกล้ถึงจุดจบของมนุษยชาติแล้ว… เอ้า ฮึบ ฮึบ! ก่อนจะจบคลิปนั้นเจ้า Atlas ก็ได้โชว์ความสามารถในการตีลังกาที่แม่นยำของมัน ด้วยขนาดตัวที่ไม่ใหญ่มากและดูเข้าใกล้ความเป็นมนุษย์เข้าไปทุกที จนไม่อยากจะคิดว่าถ้ามันได้รวมเข้ากับ AI ตัวอื่นๆ อย่าง Sophia จะเกิดอะไรขึ้น จัดไปครับ Blackflip!! อย่างไรก็ตามคลิปดังกล่าวก็เป็น 1 ใน 2 คลิปที่ทาง Boston Dynamic เพิ่งจะปล่อยออกมาหลังจากที่ตัวบริษัทได้ถูก Google ขายให้กับ Softbank จนความเคลื่อนไหวห่างหายไปนานถึง 8 เดือน แต่ถ้ามีการเคลื่อนไหวแบบนี้ก็คงไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ เพราะรับรองว่าทางบริษัทคงจะมีอัพเดตเกี่ยวกับงานของพวกเขาออกมาเรื่อยๆ อย่างแน่นอน…
-
‘Shibuya Mirai’ ปัญญาประดิษฐ์ตัวแรกที่ได้รับสถานะเป็นพลเมืองของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ!!
โลกแห่งอนาคตกำลังใกล้เข้ามาทุกวันๆ แล้ว หลังจากที่ไม่นานนี้หุ่นยนต์ Sophia ได้ไปโชว์ความฉลาดในการสนทนาแลกเปลี่ยนกับคนจริงๆ แถมตอนนี้ก็นับเป็นประชาชนของประเทศซาอุดีอาระเบียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ทางการญี่ปุ่นก็เอากับเขาด้วย โดยได้ประกาศให้ Shibuya Mirai ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ได้รับสถานะการเป็นพลเมืองของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแล้ว Shibuya Mirai นั้นเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกโปรแกรมมาให้เป็นเด็ก 7 ขวบ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นระบบตอบโต้อัตโนมัติผ่านแอพลิเคชั่น LINE นอกจากนี้ ความหมายของชื่อ Mirai ก็สามารถแปลจากภาษาญี่ปุ่นได้ว่า อนาคต โดยบริษัทที่ผลิตตัวปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ขึ้นมาได้ตั้งเป้าให้ประชาชนพูดคุยโต้ตอบและแสดงความคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับย่าน Shibuya เพื่อที่ทางการญี่ปุ่นจะได้นำเสียงตอบรับจากประชาชนไปปรับใช้และพัฒนาย่านดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น ทาง Shibuya Ward ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล Mirai ก็ได้พูดปิดท้ายเกี่ยวกับนิสัยของปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ผ่าน AFP ว่า “Mirai นั้นมีงานอดิเรกเป็นการถ่ายรูปและสังเกตผู้คนที่ผ่านไปมาใน Shibuya เธอชอบพูดคุยกับผู้คน ฉะนั้นก็อย่าลืมแวะเวียนเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเธอด้วยล่ะ เธอสามารถคุยได้ทุกเรื่องเลย” ปัจจุบันเราก็มีหุ่นยนต์ที่ถูกนับเป็นประชากรของประเทศแล้ว 1 ตัว ปัญญาประดิษฐ์อีก 1 ตัว แบบนี้ในอนาคตเราจะต้องเจอกับอะไร โลกจะเปลี่ยนไปทางไหน เพื่อนๆ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงก็ลองเอามาแชร์กันดูได้นะ… ที่มา designtaxi,konbini,yahoo,newsweek
-
7 อาชีพเกิดใหม่แห่งอนาคต ถ้าโลกพัฒนาไปข้างหน้า ต้องมีงานแบบนี้อย่างแน่นอน!!
โลกเรานั้นยังคงก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งเราอาจจะคิดว่ายุคสมัยของการท่องอวกาศและยุคของหุ่นยนต์อาจจะมาไวกว่าที่คิด และด้วยเหตุผลดังกล่าวเราจึงต้องมองหาอาชีพและแนวทางการใช้ชีวิตแบบใหม่ๆ ทว่าอาชีพอะไรกันล่ะที่โลกอนาคตต้องการ อาชีพอะไรที่เราจะขาดพวกเขาไม่ได้ถ้ายุคสมัยนั้นมาถึง ด้วยเหตุนี้จึงมีการยกตัวอย่าง 7 อาชีพที่ในอนาคตจะขาดคนเหล่านี้ไปไม่ได้เลย เพราะพวกเขาจะกลายเป็นกลไกสำคัญในยุคหุ่นยนต์ เทคโลยี และอวกาศ… ช่างผู้ชำนาญการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ในปัจจุบันเครื่องพิมพ์ 3 มิตินั้นเริ่มเป็นอะไรที่แพร่หลายมากขึ้น เทคโนโลยีที่สามารถสร้างสิ่งของได้ง่ายๆ เพียงแค่สั่งพิมพ์ขึ้นมาราวกับสั่งปริ้นเอกสาร และเชื่อได้เลยว่าในอนาคตเทคโนโลยีนี้จะมีส่วนในชีวิตมากๆ ทั้งการสร้างบ้าน สร้างหุ่นยนต์ รวมถึงสิ่งต่างๆ เยอะแยะไปหมด สถาปนิกผู้เชี่ยวชาญการใช้ขยะ… ฟังดูอาจจะงงๆ แต่ว่าในอนาคตนั้น โลกของเราจะเต็มไปด้วยขยะมากมาย ถ้าโลกไม่มีระบบการจัดการขยะที่ดีปัญหาขยะก็จะตามมา และอาชีพนี้ก็จะกลายเป็นอาชีพที่โลกต้องการ เพราะพวกเขาจะสามารถนำขยะหรือของเหลือทิ้งมาสร้างบ้านสร้างอาคารได้ด้วยการใช้ขยะ ช่วยโลกไม่พอ ยังสร้างอะไรใหม่ๆ ด้วยนะ ไกด์นำเที่ยวในอวกาศ เมื่อมันเข้าสู่ยุคท่องอวกาศ และเกิดการท่องเที่ยวไปทั่วอวกาศ อาชีพที่จะขาดไม่ได้เลยนั่นก็คือไกด์ ซึ่งพวกเขาจะคอยนำทางและแนะนำว่าตรงไหนคือจุดน่าสนใจ ตรงไหนมีอะไร และทำยังไงถึงจะปลอดภัยในอวกาศ ผู้จัดการความตายโลกดิจิทัล อ่านแล้วหลายคนคงจะงงว่านี่มันอาชีพบ้าอะไรกัน แต่รอดูอีก 20 หรือ 30 ปี อาชีพนี้อาจจะมาแน่ๆ ลองคิดดูสิว่าแค่ตอนนี้สื่อออนไลน์นั้นมีผลกับเรามากขนาดไหน แล้วในอนาคตมันจะทวีคูณขึ้นหรือเปล่า…
-
ภาพวาด Illustrator แนวไซไฟ สู่โลกอนาคตที่อาจเกิดขึ้นจริงได้ในอีก 100 ปีข้างหน้า
ปัจจุบันเราคงจะเคยเห็นภาพวาดแนวไซไฟ ที่จะกระตุ้นความคิดและจินตนาการ ด้วยโปรแกรม Illustrator ทำให้มีความสมจริงและสวยงาม กลายเป็นผลงานที่อยู่เหนือความคิดของใครหลายคน และน้อยคนที่เชื่อว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นไปได้จริงๆ ภาพเหล่านี้เป็นฝีมือของ Jonathan Ching ศิลปินอิสระผู้วาดภาพอนิเมชั่นดิจิตอล ในแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ โดยเขาคนนี้มีสิ่งที่สามารถการันตีความสามารถของเขาได้ เพราะเขาจบด้านนี้มาโดยตรง ด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 นี่เองที่ทำให้เราเข้าใจได้ว่าทำไมภาพของเขาที่ได้น่าหลงใหลขนาดนี้ ลองไปดูกันเลยดีกว่า ว่าแต่ละภาพจะออกมาเป็นอย่างไรกันบ้าง ชุดทหารในโลกอนาคต เฮลิคอปเตอร์แบบไม่มีใบพัด ภายในของสิ่งก่อสร้าง ที่เหมือนกับหลุดมาจากในหนัง ต้องขอบคุณทักษะในการสื่อภาพตัวละคร ยานพาหนะ สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่สิ่งมีชีวิตอื่นๆ ออกมาได้อย่างสมจริงสมจัง จนทำให้เรารู้สึกเข้าถึงภาพต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม หุ่นยนต์เดินกันอยู่ในเมือง การเดินทางที่ทุกอย่างจะเริ่มเป็นไปอย่างง่ายๆ แม้จะเป็นการเดินทางออกนอกโลก คราวนี้ตำรวจก็คงจะทำงานได้ง่ายขึ้น เมื่อได้เห็นภาพของเขากันแล้ว หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นเพียงภาพวาด ไม่น่าเกิดขึ้นได้จริงหรอก แต่ทุกอย่างมันก็ไม่แน่เสมอไปหรอก ลองคิดดูสมมุติว่าเราย้อนเวลากลับไป บอกผู้คนในอดีตเมื่อร้อยปีที่แล้วว่า ในอนาคตจะมีรถที่สามารถขับเคลื่อนได้โดยไม่ต้องมีคนขับ พวกเขาเหล่านั้นก็คงจะคิดว่ามันเหลือเชื่อไม่ต่างจากที่เราคิดตอนนี้ พงษ์ศักดิ์นายเห็นสิ่งใดข้างหน้าบ้างเล่า การสร้างหุ่นยนต์จะไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป…
-
กองกำลัง SAS เสริมกำลังทัพ พัฒนาหมวกเกราะสุดไฮเทค ราวกับหลุดมาจาก Star Wars!!
ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอาวุธยุทโธปกรณ์ก็มักจะทันสมัยขึ้นเรื่อยๆ จากเมื่อก่อนเครื่องบินยังใช้ระบบใบพัด ปัจจุบันก็กลายเป็นไอพ่น หรือชุดเกราะที่ยังกันกระสุนไม่ได้มากนัก ก็ถูกพัฒนาให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดอยู่เพียงแค่นี้… ล่าสุดหน่วยรบ SAS (Special Air Service) ของประเทศอังกฤษ ได้ทำการเสริมความแข็งแกร่งให้กับเหล่าทหารด้วยหมวกเกราะชนิดใหม่ล่าสุด ที่จะช่วยให้กองกำลังของพวกเขา สามารถป้องกันการถูกยิงเข้าที่หัวได้ดียิ่งขึ้น หมวกรุ่นนี้มีชื่อว่า Devtac Ronin Kevlar Level IIIA Tactical Ballistic Helmet ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เคลมว่ามันสามารถป้องกันกระสุนจากปืน AK-47 รวมไปถึงช่วยป้องกันสะเก็ดระเบิดและไฟได้ แถมด้วยลักษณะดีไซน์ภายนอกก็ดูล้ำยุคสมัยมาก และดูมีความคล้ายคลึงกับตัวละคร Boba Fett จาก Star Wars อยู่พอสมควรเลยแฮะ . นอกจากตัวหมวกที่แข็งแกร่งและดีไซน์ล้ำสมัยแล้ว อุปกรณ์เสริมและเทคโนโลยีที่อัดแน่นอยู่ภายในหมวกก็ล้ำยุคเช่นกัน เพราะมีทั้งระบบระบายความร้อนภายใน ระบบเซ็นเซอร์ตรวจจับสัญญาณจากหมวกใบอื่นๆ เพื่อระบุตัวตนผู้สวมใส่ ระบบวิสัยทัศน์อินฟาเรด และระบบแผนที่ GPS เรียกได้ว่าหมวกใบเดียว ก็สามารถเสริมความสามารถให้กองทัพได้มากโข แบบนี้ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นกองทหารสุดล้ำยุคในไม่ช้าก็เป็นได้นะเนี่ย… ที่มา dailymail
-
รูปแบบอาคารแห่งอนาคต พับเก็บง่ายเคลื่อนย้ายสะดวก ตั้งใหม่ได้เพียงแค่ไม่กี่นาที!!
นวัตกรรมต่างๆ ในโลกใบนี้ นับวันยิ่งมีการพัฒนาล้ำหน้าขึ้นไปทุกที และเมื่อเร็วๆ นี้ได้มีบริษัทผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมจากประเทศอังกฤษ ที่ได้คิดค้นอาคารที่สามารถสร้างได้เพียแค่กดปุ่มเท่านั้น!! บริษัท Ten Fold Engineering ได้พัฒนาโครงสร้างของอาคารต่างๆ ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างไม่นาน และทั้งหมดนี้สามารถพับได้ โดยโครงสร้างเหล่านี้ถูกนำไปปรับใช้ในการสร้างอาคารต่างๆ ทั้งที่หลบภัย บ้านพักคนชรา และสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ อีกมากมาย อาคารที่สร้างโดยบริษัท Ten Fold นั้นสามารถที่จะคลี่ออกมาได้เหมือนกับการพับกล่อง โดยมันใช้เวลาในการเปลี่ยนรูปร่างเพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น และสามารถบรรทุกขนย้ายไปยังที่ต่างๆ ได้อีกด้วย สิ่งที่น่าประทับใจของเจ้าอาคารนี้ก็คือภายในมันสามารถบรรจุเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ และมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 20 ตารางเมตร นอกจากนี้ยังมีแผงโซล่าเซลล์ ติดไว้ที่ด้านบนของหลังคาเพื่อเป็นแหล่งพลังงานให้กับอาคารอีกด้วย นอกจากจะเป็นอาคารแต่ละหลังแล้ว ก็ยังสามารถนำมาต่อกันเป็นตึกเพื่อประหยัดเวลาในการก่อสร้างได้อีกด้วย และไม่เพียงเท่านั้นบริษัท Ten Fold ยังมีนวัตกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่สามารถพับได้ อย่างเช่น บันไดขนาดใหญ่ สะพาน เป็นต้น โดยราคาเริ่มต้นของอาคารที่ผลิตโดยนวัตกรรมสุดล้ำนี้จะอยู่ที่ประมาณ 4,300,000 บาท . . อาคารหลังอื่นๆ…
-
ประเทศจีนวางแผน เตรียมสร้างหมู่บ้านบนดวงจันทร์ ด้วยความรวมมือจากยุโรป
ยุคของการท่องอวกาศและตั้งรกรากของมนุษย์กำลังจะมาถึงแล้วในอีกเวลาไม่นาน เพราะช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราก็ได้ยินแผนการต่างๆ จากบริษัทระดับโลกหลายแห่งว่าพวกเขาต้องการที่จะสร้างโคโลนี่บนอวกาศ หรือออกสำรวจไปยังดาวต่างๆ ล่าสุดมหาอำนาจอย่างจีนก็หันมาสนใจเรื่องนี้แล้วเช่นกัน โดยตัวแทนจากองค์การอวกาศจีนนาย Tian Yulong ก็ได้ออกมายืนยันแล้วว่าพวกเขาวางแผนเรื่องนี้ไว้จริงๆ นอกจากนั้นทางองค์การอวกาศจีนก็ได้ติดต่อกับองค์การอวกาศของทางยุโรปที่มีชื่อย่อว่า ESA ซึ่งพวกเขาก็ได้บอกว่าแผนการสร้างหมู่บ้านบนดวงจันทร์จะถือเป็นใบเบิกทางต่อไปสำหรับการสำรวจดาวอังคารอย่างเต็มรูปแบบ Jan Woerner อธิบดีของ ESA บอกว่า “พวกเราต้องการวิสัยทัศน์ใหม่ที่จะใช้ในการท่องอวกาศ เพราะตอนนี้หลากหลายชาติก็มีดาวเทียวเป็นของตัวเอง จนมันกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว” “ส่วนหมู่บ้านบนดวงจันทร์ไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นหมู่บ้านที่มีโบสถ์ บ้านคนละหลัง หรือศาลาเมืองอะไรแบบนี้หรอกนะ หมู่บ้านในความหมายของผมก็คือการที่ให้ผู้คนมาอยู่ด้วยกันและช่วยกันสร้างมันขึ้นมาต่างหาก” จุดประสงค์ของตัวหมู่บ้านจริงๆ นั้นจะเป็นการใช้ เพื่อที่สำรวจตัวดวงจันทร์อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงใช้ในการทำเหมืองและท่องเที่ยว ที่สำคัญยังสามารถใช้เป็นสถานที่พักยานอวกาศเพื่อที่จะเดินทางไปยังดาวอังคารได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย การทำงานและอยู่อาศัยบนหมู่บ้านดวงจันทร์จะไม่ได้มีแค่มนุษย์ชาติใดชาติหนึ่ง แต่จะเป็นการร่วมมือกันของนักบินหลากหลายชาติ ที่สำคัญหุ่นยนต์ก็จะเป็นส่วนสำคัญของหมู่บ้านแห่งนี้ด้วย ยังไงก็ตามทางจีนมีแผนเตรียมจะส่งยานอวกาศไร้คนขับขึ้นไปเพื่อเตรียมการต่างๆ บนดวงจันทร์ในปีหน้า แต่ยังไม่มีกำหนดการที่ชัดเจนนัก ลองสมมุติว่าถ้าแผนการดังกล่าวสำเร็จไปได้ด้วยดี นั่นก็เท่ากับว่ามนุษย์เข้าใกล้ยุคของการท่องอวกาศเข้าไปทุกทีแล้วสินะเนี่ย แต่ก็ไม่รู้นะว่าจะอีก กี่สิบ กี่ร้อยปี มนุษย์ชาติจะไปถึงจุดนั้น ยุคอวกาศใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว #เหมียวมู่ทู่ จะอยู่ถึงยุคนั้นไหมนะ ที่มา dailymail
-
ทางการเซี่ยงไฮ้เตรียมสร้าง ‘เมืองแห่งอนาคต’ รวมวิถีชีวิตคนเมืองและเกษตรกรรมเข้าด้วยกัน
เวลายิ่งผ่านไป สิ่งก่อสร้างและนวัตกรรมยุคอนาคตก็เริ่มที่จะมีออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงแนวคิดการใช้ชีวิตต่างๆ ก็เริ่มที่จะคล้ายคลึงกับนิยามของโลกอนาคตมากขึ้นไปอีกขั้นตามกาลเวลา ล่าสุดทางทางการของเมืองเซี่ยงไฮ้ ก็ได้เริ่มดำเนินการตามแผนที่จะเปลี่ยนโฉมเกษตรกรรมให้เข้ากับชีวิตคนเมือง ซึ่งเป็นการออกแบบร่วมกับบริษัท Sasaki . แผนการในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะให้เซี่ยงไฮ้สามารถผลิตอาหารขึ้นภายในตัวเมือง และหล่อเลี้ยงประชากรกว่า 24 ล้านคนได้ ซึ่งตามแผนแล้วก็จะเกิดขึ้นในย่านหนึ่งของอำเภอผู่ตงและเรียกย่านนี้ว่า Sunqiao สิ่งก่อสร้างในย่านนี้ทั้งหมดก็จะประกอบด้วยตึกสูงที่มีทั้งความงดงาม และพื้นที่ใช้สอยในการทำเกษตรกรรม โดยทั้งสองอย่างจะใช้งานร่วมกันจนเกิดเป็นสังคมเกษตรกรรมของคนเมือง . แต่ไม่ได้มีเพียงวิถีชีวิตทางเกษตรกรรมเท่านั้นที่จะเกิดขึ้นในย่านนี้ เพราะจะมีสิ่งก่อสร้างเพื่อความบันเทิงและอำนวยความสะดวกต่างๆ เกิดขึ้นมาควบคู่เช่นกัน ส่วนการปลูกพืชก็จะใช้วิธีการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ หรือการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน โดยพืชที่จะปลูกในย่านนี้ก็จะประกอบด้วยผักต่างๆ เช่น ผักโขม, ผักเคล, ผักกาดกวางตุ้ง และสลัดน้ำ . ที่สำคัญจะใช้วิธีการดูแลด้วยหลอดไฟ LED พร้อมกับให้น้ำสะอาดกับพืชผักพร้อมกับการดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนผักที่โตเต็มที่ก็จะขายและกระจายให้กับร้านค้าต่างๆ ในย่าน Sunqiao นั่นเอง Michael Grove ประธานบริษัท Sasaki บอกว่า เขาเตรียมที่จะเริ่มแผนการจัดการที่ดินในบริเวณดังกล่าวในปี 2018 แต่ยังไม่สามารถระบุวันและเดือนที่แน่นอนได้ เขายังบอกเพิ่มเติมอีกว่าปัญหาใหญ่ของโปรเจคนี้ก็คือการออกแบบตึกที่จะใช้ในย่านดังกล่าว ว่าจะทำให้ยังไงให้ตัวตึกบดบังแสงอาทิตย์ให้ได้น้อยที่สุด . . …
-
สถาบันมันฝรั่งนานาชาติ ทดสอบหาทาง “ปลูกมันฝรั่ง” บนดาวอังคาร ด้วยแรงบันดาลใจจาก The Martian
ถ้าใครยังจำกันได้ ในปี 2015 ภาพยนตร์เรื่อง The Martian ที่แสดงนำโดย Matt Demon ได้แสดงให้เห็นถึงทฤษฎีการเอาตัวรอดของนักบินอวกาศ ด้วยการ ปลูกมันฝรั่ง บนดาวอังคารอันแสนแห้งแล้ง และไม่มีใครคิดว่าจะเพาะปลูกดำรงชีพได้ ด้วยเหตุการณ์ในภาพยนตร์ที่ตัวเอกอย่าง Matt จะต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากและต้องเอาตัวรอดบนดาวอังคาร ทำให้เขาต้องหาวิธีการสร้างเสบียงขึ้นมาเอง เขาจึงเริ่มปลูกมันฝรั่งด้วยวิธีการสร้างห้องที่มีสภาพอากาศพอดีกับการปลูกพืช และด้วยเหตุนั้นทำให้ NASA มองว่ามันน่าจะสามารถทำได้จริง! ต่อมาในปี 2016 ทางด้าน International Potato Center (CIP) หรือสถาบันมันฝรั่งนานาชาติ (มันมีองค์กรนี้อยู่จริงๆ บนโลกนะ) ได้เริ่มที่จะวิจัยและทำตามสิ่งที่ Mark Watney ทำใน The Martian โดยพวกเขาได้ได้ใช้ดินจากทะเลทรายอาตากามา ซึ่งเป็นทะเลทรายอันแห้งแล้งในประเทศเปรู สาเหตุที่ใช้ทรายจากที่นี่ เพราะสภาพดินทรายที่แทบจะไม่มีสิ่งมีชีวิตมาขึ้นได้เลยนั้น คาดว่ามันน่าจะมีสภาพคล้ายกับดินบนดาวอังคาร แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังคาดหวังว่าจะได้รับดินจากดาวอังคารจริงๆ มาทดสอบในอนาคต ล่าสุดทาง CIP ได้ปล่อยคลิปฟุตเทจของโปรเจค Potatoes on Mars ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันฝรั่งมันสามารถโดในทรายที่ไม่น่าจะมีอะไรโตได้จริงๆ ในส่วนของวิธีการพวกเขาก็ได้ใช้วิธีคล้ายๆ กับที่ Matt Demon…
-
เปิดตัว ‘I.Con’ ถุงยางอัจฉริยะ พร้อมฟังก์ชั่นวัดความเด็ดหลังเสร็จกิจ จะได้กี่คะแนนหนอ?
สำหรับใครที่เบื่อหน่ายกับการต้องมาสวมถุงยางอนามัยแบบเดิมๆ ไม่ว่าจะลองเปลี่ยนไปใช้แบบผิวขรุขระ หรือแบบที่เคลมว่าอึดทนนาน ก็ยังไม่รู้สึกว่ามันจะน่าตื่นเต้นขึ้นตรงไหน เรามีนวัตกรรมตัวใหม่มาแนะนำ เพราะล่าสุดบริษัทผลิตถุงยางอนามัย British Condoms ได้ประกาศเปิดตัวนวัตกรรมถุงยางอัจฉริยะแห่งโลกอนาคต ‘The iCon Smart Condom’ อุปกรณ์ที่จะทำให้รสชาติการมีเซ็กส์ของทุกคู่สะเด่าเร่าร้อนยิ่งกว่าแดดในบ้านเราซะอีก สนนราคาเปิดตัวอยู่ที่ 74 ดอลล่าร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,600 บาท) อุปกรณ์ดังกล่าวไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่ถุงยางสำหรับคุมกำเนิดเท่านั้น เพราะมันสามารถตรวจวัดระดับคุณภาพเซ็กส์ของเรา ผ่านการตรวจจับจากความเร็ว จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญไปทั้งหมด และระยะเวลาของการมีเซ็กส์ ซึ่งถุงยางอนามัยอัจฉริยะนี้ จะมีห่วงที่ให้ท่านชายสวมติดไว้บริเวณโคนของน้องชาย โดยห่วงนั้นจะมีระบบเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวอยู่ เพื่อทำการตรวจวัดระดับคุณภาพของเซ็กส์หลังเสร็จกิจ ห่วงเซนเซอร์จะทำการบลูทูธข้อมูลไปยังแอพฯ บนสมาร์ทโฟน ทีนี้จะได้รู้กันไปเลยว่าที่บอกว่าเด็ดน่ะ เด็ดจริงรึเปล่า? อุปกรณ์ดังกล่าวคาดว่าจะวางจำหน่ายบนเกาะอังกฤษก่อนเป็นที่แรกภายในปีนี้ ก่อนจะทำการขยายตลาดส่งออกไปทั่วโลก แบบนี้อีกไม่นานเกินรอคนไทยเราก็จะมีโอกาสได้ใช้กับเค้าบ้างเหมือนกัน นอกจากนั้นผู้ผลิตยังเคลมว่าถุงยางอัจฉริยะ ยังสามารถช่วยตรวจจับหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อย่าง ซิฟิลิส หรือหนองในได้อีกด้วย ‘I.Con คือถุงยางแห่งอนาคตที่จะเปลี่ยนโฉมการมีเซ็กส์ของผู้คนไปโดยสิ้นเชิง’ บริษัทผู้ผลิตกล่าว ทีนี้แหละไอ้คนที่บอกว่าตัวเองเก่งนักเก่งหนา จะได้รู้กันไปเลยว่าเก่งจริงอ๊ะเปล่า!! ที่มา: BusinessInsider
-
ประเทศจีนเริ่มใช้ “หุ่นยนต์ลาดตระเวนตรวจอากาศ” เพื่อรายงานสภาวะความเป็นพิษ ให้ผู้คนได้รับทราบ
ยิ่งนานวันหุ่นยนต์ยิ่งเข้ามามีบทบาทกับชีวิตของเรามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในชีวิตประจำวัน หรือจะเป็นในเรื่องของอุตสาหกรรมต่างๆ หุ่นยนต์ต่างล้วนมีเข้ามีบทบาททั้งสิ้น และอย่างที่เรารู้ว่า ปัญหาสภาพอากาศอันเลวร้ายในหลายๆ เมืองของประเทศจีนกำลังถูกพูดถึงในวงกว้าง ผู้คนก็เลยคิดว่ารัฐบาลควรจะมีมาตรการอะไรสักอย่างมาช่วยและล่าสุดจีนก็ได้ปล่อยหุ่นยนต์ตัวใหม่ออกมาเพื่อช่วยดูแลผู้คนในสถานีรถไฟกันแล้ว หุ่นยนต์ตัวนี้ประจำการอยู่ที่สถานีรถไฟเจิ้งโจวตะวันออก ในเมืองเจิ้งโจว ซึ่งมันมีหน้าที่ตรวจสอบสภาพอากาศ ความชิ้น รวมถึงควันไฟภายในสถานีและโชว์ออกมาผ่านทางหน้าจอมอนิเตอร์ แม้กระทั่งตอนกลางคืนมันก็ยังทำหน้าที่ได้อย่างดี นี้คือหน้าตาของเจ้าหุ่นลาดตระเวนที่ว่า ดูแล้วเหมือนเด็กๆ จะชอบเจ้าหุ่นตัวนี้เป็นพิเศษเลยล่ะ มันถูกออกแบบมาให้หน้าตาเป็นมิตร และเข้าถึงกับทุกคน มันจะสามารถเดินไปเดินมาเพื่อทำให้คนทราบสภาวะของอากาศตอนนั้นว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย มันยังเป็นที่สนใจมากๆ สำหรับคนที่ผ่านไปมาในสถานีอีกด้วย นอกจากจะช่วยรายงานเรื่องสภาพอากาศแล้ว ตอนกลางคืนมันยังกลายเป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่จะคอยเดินเคลียร์สถานีรถไฟให้สะอาดอยู่เสมอ ถ้าเพิ่มฟังค์ชั่นอื่นๆ เข้าไปอีก มันคงจะน่าสนใจไม่น้อยเลยนะเนี่ย ไม่ว่าจะรูปไหนก็มีเด็กๆ เสมอ ถือว่ามันเป็นที่ถูกอกถูกใจเด็กๆ มาก ถือว่านี้เป็นก้าวแรกของยุคอนาคตเลยก็ว่าได้สำหรับการนำห่นยนต์เข้ามามีบทบาทในที่สาธารณะแบบนี้ อีกหน่อยเราอาจจะต้องใช้ชีวิตอยุ่กับพวกมันแบบในภาพยนตร์หลายๆ เรื่องก็ได้ใครจะรู้ แต่ที่รู้แน่ๆ คือพวกมันช่วยอำนวยความสะดวกให้เรามากๆ เลยล่ะ!! ที่มา chinadaily
-
เปิดตัว Benz F015 รถล้ำยุคแห่งอนาคต ใช้ไฟฟ้า-พลังงานสะอาด ควบคุมด้วยท่าทางได้อีก!!!
เบนซ์ หรือในอีกชื่อว่า “Mercedes-Benz” อาจจะมีแนวโน้วในอนาคตที่จะผลิตรถยนต์รุ่น “Mercedes F015” ที่ออกแบบอย่างหรูหราแล้วล้ำมาก… อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะทำให้ รถยนต์รุ่น F015 สามารถขับเคลื่อนได้แบบอัตโนมัติโดยควบคุมรถจากการใช้ท่าทางด้วยมือและลดข้อจำกัดในการทำกิจกรรมต่างๆในเวลาขับรถ เพื่อเพิ่มคุณค่าของเวลา!!! สามารถขับเคลือนแบบปลอดภัยและผ่อนคลาย…. และมีผนังแบบดิจิตอลด้วยยย!!! ด้านหลังยังสามารถแสดงสัญญาณมีทั้งข้อความและเสียง… ที่ล้ำไปกว่านั้น สามารถฉายเลเซอร์เป็นทางม้าลายหรือสัญลักษณ์ต่างๆได้… อีกทั้งยังสามารถควบคุณรถด้วยท่าทาง… นอกจากนี้ยังขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่และเชื้อเพลิงไฮโดรเจน เราไปชมคลิปความล้ำหน้าในนวัตกรรมยานพาหนะในอนาคตกันเลยครับ… ล้ำขนาดนี้ชักอยากให้พัฒนาและผลิตออกมาเร็วๆ เลยละครับ แถมยังสามารถช่วยลดปัญหาโลกร้อนได้อีกด้วย… #เหมียวฟูๆ ว่าพวกเราอย่ามัวเสียเวลา รีบนั่งไทม์แมชชีน…ข้ามกาลเวลาไปกันเลยดีกว่า Go!!! ที่มา : Mercedes-Benz
-
เป็นจริงแล้ว!! Nike เปิดตัวรองเท้ารุ่น HyperAdapt 1.0 รองเท้าผูกเชือกเองแบบในหนัง!!
หากใครที่เคยชมภาพยนตร์ Back to the Future II คงจะจดจำรองเท้าที่พระเอกอย่าง Marty McFly เคยใส่ให้เราดูได้ล่ะนะ มันคือรองเท้า Nike ที่สามารถผูกเชือกได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในช่วงที่ภาพยนตร์ออกฉายนั้นคือปี 1989 คงไม่มีใครคิดว่ามันจะสามารถสร้างรองเท้าแบบนี้ได้จริงๆ… แต่วันนี้มันเกิดขึ้นแล้วล่ะ หลังจากใช้เวลาพัฒนาอยู่นานหลายปี Nike ก็ได้ออกรองเท้ารุ่น HyperAdapt 1.0 ที่มีระบบผูกเชือกรองเท้าแบบอัตโนมัติโดยจะมีเซ็นเซอร์คอยตรวจจับเมื่อถูกสวมใส่ รองเท้ารุ่น HyperAdapt 1.0 ถือเป็นความพยายามของ Nike ที่จะทำรองเท้าแบบผูกเชือกอัตโนมัติ โดยเซ็นเซอร์จะถูกติดตั้งไว้ที่ส้นเท้า แต่ก็ยังไม่แน่นพอดีกับเท้าของทุกๆ คน หากอยากให้มันพอดีจริงๆ ก็อาจจะยังต้องพึ่งการขยับด้วยมือของคุณเองอีกนิดหน่อย (จะมีปุ่ม + และ – มาให้ที่ด้านข้างรองเท้า) และแน่นอนว่าเจ้ารองเท้ารุ่นนี้จะทำงานไม่ได้หากไม่มีแบตเตอรีเพื่อให้พลังงาน ซึ่งการชาร์จแต่ละครั้งจะสามารถทำงานได้นาน 2 สัปดาห์ หากแบตหมดก็สามารถถอดรองเท้ามาชาร์จได้ ดีไซน์เนอร์ Tinker Hatfield ผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบรองเท้ารุ่นนี้บอกว่านี่คือการผสมผสานสามารถของเทคโนโลยีที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองความท้าทายของเหล่านักกีฬา “นวัตกรรมของ Nike ไม่ใช่การฝันถึงวันพรุ่งนี้…
-
เราอยู่ในโลกอนาคตแล้ว!! เปรียบเทียบ ‘สิ่งประดิษฐ์’ จากหนัง Back to The Future กับชีวิตจริง
หลายๆ คนที่เป็นแฟนภาพยนตร์ Back to The Future อาจจะพอทราบกันดีกว่า วันนี้(21 ตุลาคม) เป็นวันที่ ตัวละคร Marty Mcfly พระเอกของเรื่อง Back to The Future เดินทางจากอดีตมายังโลกอนาคตในวันที่ 21 ตุลาคม 2015 ซึ่งในหนังเองได้ใส่สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่คาดว่าโลกอนาคตจะมีใช้กัน เช่นรองเท้ามัดเชือกได้เอง Hoverboard ไร้ล้อ หรือพวกหนัง 3D ที่ในอดีตยังไม่มีกัน วันนี้แอดเหมียวได้รวบรวมเอาสิ่งประดิษฐ์เหล่านั้นมาให้ได้ชมกันแล้ว ดูซิว่าปัจจุบันของเรา มีสิ่งประดิษฐ์ชิ้นไหนเป็นจริงแล้วบ้าง? 1. รองเท้า Nike ที่มัดเชือกได้เอง ปัจจุบันมีรองเท้าที่กระชับได้เองเหมือนในหนังแล้วนะ 2. Hoverboard ไร้ล้อ ทุกวันนี้เรามี Hoverboard ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังแม่เหล็กหรือไนโตรเจนเหลวแล้วเหมือนกัน 3. ยานบินแบบในเรื่อง Spider-Man เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาสื่อต่างประเทศก็เพิ่งจะเปิดตัวโดรนที่ให้คนขึ้นไปยืนได้เหมือนกัน 4.…