Tag: โหดร้าย
-
“ถังข่าหนังมนุษย์” งานศิลปะที่แสนทารุณ ซึ่งต้องแลกมาด้วยชีวิตของทาสชาวทิเบต
((บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ทำให้คุณไม่สบายใจ และอาจกินหมูจุ่มไม่อร่อย)) “ถังข่า” งานพุทธศิลป์อันมีเอกลักษณ์ของชาวทิเบต ซึ่งเป็นการวาดภาพของพระโพธิสัตว์หรือสถานที่ต่างๆ ตามความเชื่อของพุทธศาสนานิกายวัชรยาน และถูกนำประดับตกแต่งอยู่ทั่วไปตามศาสนสถานนั่นเอง งานศิลปะนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในดินแดนหลังคาโลก และไม่น่าเชื่อว่าในอดีตความสวยงามแบบนี้ไม่ได้ถูกวาดเอาไว้บนผืนผ้าใบเท่านั้น แต่มันยังถูกวาดเขาไว้บนผิวหนังมนุษย์ด้วยเช่นกัน… นี่อาจจะเป็นเพียงแค่งานศิลปะธรรมดาๆ คล้ายกับรอยสักถ้าหากว่ามันไม่ได้ถูกเขียนเอาไว้บนตัวของทาส ก่อนที่เจ้าของทาสรายนั้นจะใช้วิธีถลกหนังออกมาอย่างทารุน ถังข่าหนังมนุษย์ คืองานศิลปะที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมและความโหดร้ายของทาสเกษตรกรรมของทิเบตในสมัยก่อน ซึ่งพวกเขามีฐานะเป็นหนึ่งในสมบัติของนายจ้าง . ว่ากันว่างานทาสเกษตรในทิเบตนั้นขึ้นชื่อเรื่องความโหดร้ายและทารุณไม่น้อยเลยทีเดียว โดยกรรมวิธีให้ได้มาซึ่งถังข่าหนังมนุษย์นี้ นายจ้างจะนำทาสที่ถูกคัดเลือกแล้วมาวาดลวดลายต่างๆ ลงไป . จากนั้นพวกเขาจะทำการเจาะรูที่ผิวหนังลึกประมาณ 2 เซนติเมตร และค่อยๆ หยอดปรอทลงไปทีละนิดเพื่อให้ผิวหนังกับร่างกายแยกออกจากกัน และถลกหนังออกมากลายเป็นถังข่าหนังมนุษย์อย่างที่เราได้เห็นกัน ปัจจุบันถังข่าหนังมนุษย์ที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี ผืนหนึ่งได้ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งเหอหนาน ในประเทศจีน นับว่าเป็นงานศิลปะที่แลกมาด้วยความโหดร้ายทารุณจริงๆ ที่มา blog.sina, Thangka
-
โหดร้าย!! 12 การกระทำสุดแสบต่อจิตใจ… ถ้าจะโหดสาดขนาดนี้เอามีดมายิงตรูเลยดีกว่า
คนเรานั้นบางครั้งก็มักจะมีการกระทำที่สุดแสนจะเจ็บแสบต่อจิตใจออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยไป คนเหล่านั้นคือเหล่าผู้คนที่มีความคิดจินตนาการคำด่าหรือการกระทำสุดสร้างสรรค์ออกมาใช้ได้ทุกวัน จนบางครั้งก็สงสัยว่าไอ้ที่พูดออกมาทุกวันนั้นเอาเวลาที่ไหนมาคิด คำพูดของพวกเขานั้นเจ็บแสบแม้แต่กับคนที่นั่งดูเหตุการณ์อยู่จนบางครั้งก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีนอกจะ “โหดสาด” กันเลยก็มี… ใช่แล้ว อะไรแบบคน 12 คนต่อไปนี้ยังไงล่ะ หนึ่งในนักเรียนหญิงของผมแอบสูบบุหรี่ในห้องน้ำ แต่จะให้เข้าไปจับในห้องน้ำเลยก็คงไม่ดีผมเลยนั่งรอให้เธอสูบบุหรี่ให้เสร็จจะได้จับมันแบบคาหนังคาเขาไปเลย แฟนเก่าส่งข้อความมาขอคืนดี แฟนเก่า: คิดถึงจังเลยที่รัก เราจะกลับมาคบกันอีกครั้งได้ไหม ฉัน: คุณเคยอยากได้ขรี้กลับมาเวลากดน้ำชักโครกไปแล้วไหมล่ะ… นั่นล่ะความรู้สึกเวลาฉันเห็นคุณส่งข้อความมาหา พ่อหลอกโผ้มมมม ซ้าย: พ่อบอกว่าเขาจะให้รถผม ขวา: ไอ้คุณพ่อเควี้ย เมื่อแม่พบว่าลูกชายสอบตก แม่: ทำไมลูกถึงสอบตกตลอดเลย ลูกชาย แม่…การสอบเดียวที่แม่ผ่านก็คือการ(ตรวจ)สอบครรภ์นั่นแหละ พูดงี้มุดกลับเข้าฮีมาเลยดีกว่า กอร์ดอน แรมซีย์ ก็ยังเป็น กอร์ดอน แรมซีย์ อยู่วันยังค่ำ ไก่จานนี้มันไม่สุกโคตรๆ จนแพทย์สนามเก่งๆ คงจะช่วยให้มันกลับมามีชีวิตได้ด้วยซ้ำ ก็จริงอยู่นะ… ทำไมดูภาพนี้ทีไร ผมนึกว่า 21 Savage เป็นโคตรวายร้ายที่ขัดจังหวะรายการทีวีเพื่อประกาศแผนชั่วทุกทีเลย เมื่อพ่อสอนลูกชายในการเลือกผู้หญิง ลูกเอ๋ย คำแนะนำที่ดีที่สุดในการเลือกผู้หญิงของพ่อคือ จงแต่งงานกับผู้หญิงที่มีรอยสักห่วยๆ ซะ…
-
นักเรียนถูกคุณครูบังคับให้เลียส้วม เหตุเพราะเขาไม่ทำการบ้าน ชาวเน็ตลุกเป็นไฟ!!
การทำโทษคนที่ทำผิดนั้นเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ในสังคม เพียงแต่บางครั้งการลงโทษมันก็อาจจะดูรุนแรงเกินไป เช่นความผิดเล็กน้อยแต่ลงโทษรุนแรงราวกับทำคดีฆาตกรรม หรือการลงโทษเด็กๆ ที่โหดร้ายเกินไป ล่าสุดได้มีสำนักข่าวในประเทศอินโดนีเซียรายงานว่า มีการแจ้งความการลงโทษที่เกินกว่าเหตุของคุณครูท่านหนึ่งในโรงเรียนประถมในจังหวัดสุมาตราเหนือ ได้สั่งให้นักเรียนของตนเลียไปที่ส้วมสกปรกถึง 12 ครั้ง ด้านผู้ปกครองที่ได้ทราบเรื่องจากลูกตัวเองก็หัวเสีย ก็ไม่รอช้าเดินทางไปยังโรงเรียนและร้องเรียนกับทางอาจารย์ใหญ่ทันทีว่าสิ่งที่ลูกตัวเองโดนนั้นมันเกินกว่าเหตุ แต่เมื่อไปถึงผู้ปกครองคนดังกล่าวก็ต้องแปลกใจ เพราะการลงโทษดังกล่าวนั้นได้รับการอนุมัติให้สามารถทำได้โดยไม่มีการลงโทษอาจารย์แต่อย่างใด ผู้เป็นพ่อได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ลูกชายผมเล่าให้ฟังว่าเขาถูกบังคับให้เลียส้วมถึง 12 ครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นเขาถึงกับต้องอ้วกออกมาหลังจากเลียไป 4 ครั้ง” ด้านผู้เป็นแม่ก็ออกมาเสริมว่า “ฉันโมโหและผิดหวังมากๆ ที่ทางโรงเรียนอนุญาตให้มีการลงโทษแบบนี้ นี่คือไม่มีวิธีลงโทษแบบอื่นแล้วเหรอ?” ส่วนเหตุผลที่ทำให้นักเรียนคนดังกล่าวถูกลงโทษนั่นก็เพราะว่าเขาลืมทำการบ้าน ฉะนั้นการลงโทษด้วยการเลียส้วมจึงเกิดขึ้น ซึ่งทำให้หลายคนต่างพากันสงสัยว่าการทำแบบนี้มันถูกแล้วอย่างนั้นเหรอ และถ้าจะลงโทษสั่งให้ไปทำความสะอาดเฉยๆ มันก็ควรจะเพียงพอแล้วหรือเปล่า? เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นประเด็นร้อนแรงทั้งในท้องถิ่น และบนโลกออนไลน์ด้วยเช่นกัน… ด้าน Joni Walker Manik จาก Sergei Bedagai Regency Education Board ก็ออกมาบอกว่า ทางบอร์ดบริหารได้สั่งย้ายครูคนดังกล่าวไปยังโรงเรียนอื่นเรียบร้อยแล้ว ส่วนเหตุผลที่ต้องสั่งย้ายแทนที่จะลงโทษด้วยวิธีอื่นนั้น Joni ให้เหตุผลว่าคนเรานั้นสามารถผิดพลาดกันได้ ฉะนั้นการสั่งย้ายจึงเพียงพอแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความทางสมาคมปกป้องครูคนดังกล่าวแต่อย่างใด… ที่มา…
-
คำพูดอันโหดร้ายจากเด็กๆ ใสซื่อ ที่บางครั้งก็ทำให้หัวใจดวงน้อยๆ ของเราแหลกสลาย
ว่ากันว่าคนที่จะพูดความจริงเสมอนั่นคือ “เด็กเล็ก” และ “คนเมา” โดยเฉพาะเด็กเล็ก ด้วยความที่พวกเขาใสซื่อมากจนบางครั้งก็พูดตรงเป็นไม้บรรทัด ไม่ต้องไปหวังเลยว่าเด็กน้อยๆ เหล่านั้นจะรู้จักคำว่าถนอมน้ำใจ โอเค ถ้ามันเป็นการชมก็อาจจะน่าภูมิใจอยู่หรอก แต่บางครั้งมันก็ไม่ใช่คำชมนี่สิ โดยเฉพาะสิ่งที่ผู้คนต่อไปนี้ต้องพบเจอ ฟังไปแล้วก็น้ำตาแทบไหล Berlyn พูดกับคุณพ่อ “พ่อจ๋า ผมคุณพ่อมันงอกผิดด้านอ่ะ มันงอกเข้าไปในหัวพ่อแทนที่จะงอกออกมาเฉยเลย” เจ็บนะเนี่ย น้ำนี้ห่วยมาก เด็กสี่ขวบบอกฉันว่า “คุณเป็นคนที่สวยที่สุดที่ผมเคยเห็น…แค่ในวันนี้นะ” ถึงคุณ Mcmahon คุณเป็นครูที่ดี แต่ไม่ใช่ครูที่ฉันชอบที่สุด พ่อ พวกเราไม่ได้หัวเราะกับพ่อหรอกนะ พวกเราหัวเราะใส่พ่ออยู่ต่างหาก ก็เด็กเขาไม่รู้ ญาติตัวน้อย: ไม่ใช่ว่าคุณเพิ่งจะมีลูกไปเหรอ ฉัน: ใช่แล้ว ญาติตัวน้อย: งั้นทำไมคุณยังท้องโตอยู่ล่ะ ฉัน: ….(ปล่อยให้ฉันอ้วนอย่างสงบเถอะ) ฉันล่ะชอบงานพี่เลี้ยงจริงๆ เด็ก: คุณแต่งหน้าไหม ฉัน: ฉันไม่ได้แต่ง ทำไมเหรอ เด็ก: คุณควรจะแต่งหน้านะ เด็ก 4…
-
ด้านมืดของเชียร์ฯ เกาหลีเหนือ เผยต่อสื่อนอกว่า ‘ถูกบังคับขืนใจกลายเป็นทาสกามรมณ์ชนชั้นสูง’
ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 เราคงจะได้เห็นกองเชียร์อันโดดเด่นจากประเทศเกาหลีเหนือที่ชนะใจใครไปหลายๆ คน แต่คำบอกเล่าสุดสะเทือนใจนี้อาจทำให้คุณต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ จนมองว่าพวกเธอนั้นช่างน่าสงสารเสียเหลือเกิน นี่คือเรื่องราวจากปากของ Lee So-yeon หญิงสาววัย 42 ปี อดีตนักดนตรีของกองทัพเกาหลีเหนือ ก่อนที่เธอจะหนีออกมาอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2008 ภาพกองเชียร์ของเกาหลีเหนือในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 เธอเล่าว่า “กลุ่มแสดงศิลปะดนตรีของเกาหลีเหนือจะได้ทำการโชว์ความสวยงามจากการเต้นและร้องเพลง แต่นอกจากที่พวกเธอจะเป็นเหมือนกับคนที่คอยสร้างภาพให้กับคิมจองอึนแล้ว พวกเธอยังต้องร่วมงานปาร์ตี้ของกลุ่มผู้บริหารระดับสูงในกองทัพ เพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของคนเหล่านั้น” So-yeon บอกอีกว่าปาร์ตี้ดังกล่าวจะถูกจัดขึ้นทุกวัน เมื่อผู้หญิงทุกคนเข้าไปที่งานแล้ว พวกเธอจะถูกบังคับให้ถอดเสื้อผ้าออกจนหมด ราวกับเป็นสิ่งของ นั่นถือว่าเป็นความเจ็บปวดทางกายภาพที่พวกเธอจะต้องได้รับ แม้ว่าพวกเธอจะไม่เต็มใจที่จะบริการเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศใครก็ตาม แต่ร่างกายของหญิงสาวจะกลายเป็นสิ่งที่ปรนเปรอผู้บริหารระดับสูงเหล่านั้น ถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน เหตุการณ์อันน่าเศร้าที่เธอเล่าให้ฟังในครั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต ตั้งแต่ช่วงหลายปีก่อน ซึ่งกองเชียร์ของการแข่งขันกีฬาที่เราได้เห็นไปล่าสุดอาจไม่ได้เจอกับอะไรแบบนี้แล้วก็ได้ ทางด้าน Kim Hyung-soo ชายวัย 54 ปีที่หนีมาอาศัยอยู่ในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2009 พร้อมลูกชายที่เป็นนักกีฬาสกี ได้ออกมาพูดถึงเบื้องหลังของกองเชียร์และนักกีฬาเกาหลีเหนือว่า คนเหล่านั้นทุกคนคือทาสของคิมจองอึน การที่เขาบอกว่าเป็นทาสนั่นก็เพราะว่า คิมจองอึนคือคนที่ควบคุมทุกอย่างเอาไว้ นักกีฬาจึงเปรียบได้กับทาสทางการกีฬาของผู้นำคนนี้ที่ถูกควบคุมเอาไว้อย่างรัดกุม ส่วนโค้ชก็เป็นทาสที่ต้องทำตามคำสั่งของเขาทุกอย่าง เขาอธิบายว่านั่นเป็นเพราะในเกาหลีเหนือ…
-
เด็กหญิงวัย 12 ปี หายจากบ้านไป จนพบว่าโดนหมาจรจัดรุมกัดเสียชีวิต
การที่เรานำหมาไปปล่อยทิ้งไว้ตามถนนหนทางอย่างน่าสงสาร จนพวกมันต้องกลายมาเป็นสุนัขจรจัด สิ่งนี้อาจเป็นปัญหาที่รุนแรงมากกว่าที่เราคิด เพราะเมื่อไหร่ที่มันต้องอยู่ท่ามกลางความโหดร้าย น้องหมาเหล่านั้นอาจเปลี่ยนไปมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ป่าเถื่อน และทำในสิ่งที่เราอาจไม่เคยคาดคิดมาก่อน เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศยูเครน เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในเมืองอันเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลยูเครน อยู่ใกล้ๆ กับเมือง Donetsk ประเทศยูเครน เมื่อวันหนึ่ง Liza Kanareikina เด็กหญิงวัย 12 ปี หายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่พ่อแม่ของเธอจะพบร่างที่ถูกฉีกออกไปคนละทิศละทางจมอยู่ใต้กองหิมะ Liza เด็กหญิงผู้จากไป ด้วยวัยแค่ 12 ปี จากการรายงานของสำนักข่าว Daily Mail ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2018 บอกว่า Natalia Skiba เพื่อนบ้านของเธอพบเห็นว่าเด็กสาวเพิ่งเลิกเรียนและกำลังเดินกลับบ้านตามทางปกติที่เธอเดินอยู่ทุกวัน แต่แล้วเธอกลับถูกพบเป็นศพอยู่ในป่า ด้วยสภาพที่ส่วนต่างๆ ของร่างกายกระจายออกไป คนในพื้นที่อีกหลายๆ คนบอกว่ารอบๆ หิมะนั้นมีเลือดกระจายกระจายเต็มไปหมด กระเป๋าของเธอก็ตกอยู่ใกล้ๆ กับที่เกิดเหตุ รอยเลือดในที่เกิดเหตุ . มีบางคนที่ยืนยันว่าเด็กสาวถูกฝูงสุนัขจรจัดเข้าโจมตี ฉีกร่างของเธอออกเป็นชิ้นๆ แล้วกินเนื้อของเด็กสาวในที่สุด ซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างมากเพราะสุนัขเหล่านี้มีอยู่เยอะมากในละแวกนั้น หลังจากที่พวกมันถูกทิ้งมาตั้งแต่ช่วงสงครามกลางเมืองในปี…
-
ครอบครัวตั้งกล้อง แอบถ่ายพี่เลี้ยงเด็กที่ทำร้ายลูกของเขาด้วยการทุบตีและบีบจมูก
ปัจจุบันหลายครอบครัวนิยมจ้างพี่เลี้ยงเด็กให้มาดูแลลูกของตัวเอง เพราะตนเองไม่ว่างและไม่อยากปล่อยให้เด็กอยู่ในบ้านตามลำพัง แต่ก่อนจะรับพี่เลี้ยงเด็กมาควรจะตรวจสอบประวัติและพฤติกรรมของเธอให้ดี ไม่เช่นนั้นลูกของคุณอาจจะลำบากเพราะการเลี้ยงดูที่ไม่ดีของพี่เลี้ยงเด็กเอาได้เหมือนกับครอบครัวนี้ Elena Levendeeva เป็นคุณแม่อายุ 26 ปี เธออาศัยอยู่ในเมือง Nefteyugansk ประเทศรัสเซีย เมื่อไม่นานมานี้เธอเพิ่งจ้าง Anastasia Zhelyabova หญิงอายุ 31 ปี มาเป็นพี่เลี้ยงคนใหม่ให้กับลูกชายอายุ 8 เดือนของเธอ Elena Levendeeva และลูกชายของเธอ แต่พอพี่เลี้ยงมาดูแลลูกได้ไม่นาน เธอก็สังเกตเห็นว่าลูกของเธอร้องไห้งอแงทุกครั้งเมื่อพี่เลี้ยงคนนี้มาทำงาน เธอจึงเอะใจว่าบางทีพี่เลี้ยงคนนี้อาจจะเลี้ยงลูกของเธอได้ไม่ดีก็ได้ เธอจึงลองติดกล้องวงจรปิดไว้ในบ้านเพื่อสังเกตพฤติกรรมของพี่เลี้ยงดู หลังจากติดกล้องวงจรปิดได้วันเดียวเท่านั้น สิ่งที่กล้องบันทึกภาพได้ก็ทำให้เธอโมโหมาก เพราะ Zhelyabova ใช้ความรุนแรงกับลูกของเธอหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว ในตอนต้นของคลิป ในขณะที่เธอกำลังให้นมหนุ่มน้อยอยู่ เขาคงขัดขืนจนทำให้เธอโมโหเธอก็เลยใช้มือตบก้นและหน้าของเขา เท่านั้นยังไม่พอตอนที่เธอป้อนนมหนุ่มน้อยอยู่ เธอก็ใช้มือบีบจมูกของเขาเอาไว้ด้วย เพื่อบังคับให้เขาดื่มนมเข้าไป หลังจากเธอป้อนนมเขาเสร็จเธอก็จับมือของเด็กชายไว้และลากเขาไปตามทาง แล้วเธอก็โยนเด็กน้อยไปบนพื้นข้างๆ กันด้วย พอดูคลิปวิดีโอที่เธอแอบถ่ายเอาไว้จบ เธอก็ตัดสินใจนำคลิปวิดีโอส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้พวกเขาดำเนินคดีกับ Zhelyabova ทันที นอกจากนี้เธอยังอัปโหลดคลิปวิดีโอลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้กับครอบครัวอื่นที่คิดจะจ้างพี่เลี้ยงเด็กมาดูแลลูกของตัวเองด้วย โดยเธอโพสต์ว่า “เนื่องจากลูกของฉันร้องไห้บ่อยมาก ฉันก็เลยลองติดกล้องวงจรปิดดู…
-
ตำรวจรวบตัวหนุ่มวัยรุ่น จากคลิปโยนลูกแมวลงทะเลสาบ หลังถูกแชร์ต่ออย่างกว้างขวาง!!
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] การทารุณกรรมสัตว์เป็นสิ่งที่ไม่อาจถูกยอมรับได้ในสังคม แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งนี้ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ เหมือนอย่างเหตุการณ์นี้ที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งได้แสดงความป่าเถื่อน โดยการโยนลูกแมวตัวน้อยลงไปในทะเลสาบ ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวคือสิ่งที่เกิดขึ้นมานานกว่า 1 ปีมาแล้ว เผยให้เห็นภาพของเด็กหนุ่มวัยรุ่นโยนลูกแมวตัวน้อยไปอย่างแรงจนทำให้มันตกลงไปในทะเลสาบ ตอนเริ่มคลิป คนที่กำลังถ่ายอยู่พูดว่า “ยินดีต้อนรับนะเจ้าพวกตูดหมึก และนี่คือ Felipe เจ้าเหมียวเหินฟ้า” ก่อนที่ชายในคลิปจะโยนแมวออกไป ลูกแมวลอยไปไกลและร่วงลงน้ำในที่สุด โดยไม่มีใครทราบว่ามันเป็นตายร้ายดีอย่างไรแล้ว แม้เวลาจะผ่านมานานเป็นปี แต่ในที่สุดช่วงต้นปี 2018 คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวก็ถูกนำมาแชร์ในโลกโซเชียลอีกครั้ง โดย Nicole Pinheiro หญิงสาวที่เป็นคนแชร์คลิปรู้สึกสะเทือนใจอย่างมากหลังจากที่เธอได้เห็นภาพความน่าสงสารของเจ้าแมว Nicole บอกว่า “ฉันถึงกับจิตหลุดไปเลย ฉันเอาคลิปนี้ไปให้แม่ดู เธอถึงกับร้องไห้ออกมาและแทบจะไม่อยากเชื่อว่าจะมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นบนโลกของเรา” เธอยังพูดอีกว่า “ไม่เกี่ยวว่าเขาจะเล่นสนุกทั่วไป อยากหาอะไรมาอัปลงโซเชียลมีเดีย หรือไม่ว่าเพราะอะไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้วโดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผลเหล่านั้นเลย และมันยังคงไม่น่าให้อภัยไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม เขาก็คือคนที่ทำในสิ่งที่ผิด” การรายงานข่าว และคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวิดีโอดังกล่าวได้กลายเป็นกระแสขึ้นมา จึงทำให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยด่วน จนกระทั่งตำรวจในเขต Stanislaus รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้สืบสาวไปเจอผู้กระทำผิดที่กำลังศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยม Patterson จากคลิปวิดีโอ…
-
ไม่อยากให้ทุกข์ใจ…คุณพ่อพาลูกสาวไปเยี่ยมหลุมศพพี่ชาย ที่ถูกฆาตกรรมเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
ภาพสุดสะเทือนใจของผู้เป็นพ่อที่พาลูกสาววัย 4 ของเขามายังหลุมที่เธอไม่รู้จัก ซึ่งแน่นอนว่าหนูน้อยคงได้แต่ตั้งข้อสงสัยว่าพ่อพาเธอมายังที่ใด และหลุมศพที่เธอยืนอยู่ต่อหน้าคือหลุมศพของใคร… ภาพของผู้เป็นพ่อที่ตัดสินใจจะบอกความจริงแก่หนูน้อยที่ไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องราวอันโหดร้ายในอดีต Ralph Bulger คือชายผู้อยู่ในภาพดังกล่าว โดยภาพนี้ได้ถูกบันทึกที่สุสานแห่งหนึ่งในเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ โดยเขาได้พาลูกสาวคนเล็กวัย 4 ขวบมายังหลุมศพของพี่ชาย James Bulger ที่หากยังมีชีวิตอยู่ปัจจุบันจะมีอายุครบ 25 ปี แน่นอนว่าหนูน้อยวัย 4 ขวบ และ James นั้นไม่เคยพบกัน เพราะเขานั้นได้เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1993 เมื่อตอนที่เขาอายุเพียง 2 ขวบ เท่านั้น ส่วนสาเหตุการตายของ James นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในคดีฆาตกรรมที่โหดที่สุดคดีหนึ่งในเกาะอังกฤษเลยก็ว่าได้ เพราะว่าเมื่อตอนที่เขาอายุ 2 ขวบ ขณะเดินเล่นอยู่ในศูนย์การค้า เขาได้ถูกเด็กชายวัย 10 ขวบสองคน Jon Venables และ Robert Thompson ลักพาตัวและ 2 วันต่อมาก็ถูกพบเป็นศพบริเวณรางรถไฟ (คดีดังกล่าวทำให้ Jon และ Robert ถือเป็นฆาตกรที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ) …
-
ฆาตกรสาววัย 18 ปี แก้แค้นให้แฟนหนุ่มพร้อมบอกกับเหยื่อว่า ‘ไว้ไปเจอกันในนรก’
เมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เกิดเหตุฆาตกรรมอันแสนโหดร้ายขึ้นในรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อหญิงสาววัย 18 ปี จากแก๊งใหญ่ที่ชื่อว่า MS-13 ทำการทรมานและลงมือฆ่าหญิงสาววัย 15 ปี เพื่อแก้แค้นให้กับแฟนหนุ่มของตัวเอง ฆาตกรสาวคนนี้มีชื่อว่า Venus Romeo Iraheta เธอถูกยื่นเรื่องต่อศาล Fairfax ในวันที่ 8 มกราคม 2018 ในข้อหาฆาตกรรมสาววัย 15 ปีที่ชื่อว่า Damaris Reyes Rivas Venus ฆาตกรสาวสุดโหด สมาชิกแก๊ง MS-13 (ย่อมาจาก Mara Salvatrucha) Damaris เหยื่อของการฆาตกรรมในครั้งนี้ เธอให้การสารภาพว่าทำการฆ่าเด็กสาวคนนั้นจริงๆ เพราะเธอเชื่อว่า Damaris ล่อลวง Christian Sosa Rivas หนึ่งในสมาชิกแก๊ง MS-13 แฟนหนุ่มของ Venus จนต้องพบกับความตาย หญิงสาวเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังแบบชิลๆ…
-
ศิลปินเปลี่ยนตัวการ์ตูนในวัยเด็กของเรา ให้กลายเป็นผู้ใหญ่เวอร์ชั่นดาร์ก หมดกันความใสซื่อบริสุทธิ์ของตรู!!
ในวัยเด็กของเรา นอกจากเพื่อนๆ แถวบ้านหรือที่โรงเรียนแล้ว เพื่อนที่เติบโตมาพร้อมกับเรา และอยู่ในใจของเราเสมอก็คือเหล่าตัวการ์ตูนจากรายการทีวีต่างๆ นั่นเอง พวกมันมักจะติดอยู่ในความทรงจำของเรา นึกถึงเมื่อไรก็จะเห็นความน่ารักของพวกมันเสมอๆ แต่เพื่อนๆ อาจจะไม่สามารถมองตัวการ์ตูนสุดโปรดเหมือนเดิมได้อีก ถ้าหากได้เห็นภาพวาดของ Sylvain Sarrilh หรือที่เป็นรู้จักกันในโลกออนไลน์ในชื่อ Tohad ศิลปินหญิงคนนี้ได้นำตัวการ์ตูนในวัยเด็กของเรา มาวาดใหม่ให้สมจริงมากขึ้น และก็ดูดุดันน่ากลัวมากขึ้นเช่นกัน คำเตือน: ภาพบางภาพนั้นมีความรุนแรงและโหดร้าย และอาจมีเลือดสาดด้วย ทำลายฝันวัยเด็กยิ่งนัก คนขวัญอ่อนโปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม เมื่อเทเลทับบีส์เจอสารกัมมันตภาพรังสี พวกมันเลยกลายพันธุ์เป็นเอเลี่ยนไปเล้ย สาวน้อยอลิซในแดนมหัศจรรย์ จริงๆ ไม่ได้ไปแดนมหัศจรรย์มาหรอก แต่เมายานี่เอง Dora the explorer หลังจากไปเป็นลูกศิษย์ แคทนิส เอเวอร์ดีน มา เมื่อโพคาฮอนทัส ไม่ได้ต้อนรับคนนอกอีกต่อไป เธอจึงออกล่าพวกเขาแทน สาวๆ อย่าจับบาร์บี้แต่งชุดคิลบิลล่ะ เดี๋ยววิญญาณนักดาบจะเข้าสิงเอา นางเงือกน้อย(เป็นนางเงือกอยู่ใช่ไหม??) กลายพันธุ์ตามปลาทะเลลึกไปแล้ว ปิกาจูร่างสุดยอด หรือว่ามันโดนช๊อตจนขนฟูฟระ!? เอ่อ…
-
พ่ออุปถัมภ์ใจทราม ข่นขืนและคุกคามทางเพศลูกเลี้ยงกว่า 900 ครั้ง เพื่อสร้างฮาเร็มของตัวเอง
พ่อแม่อุปถัมภ์ คือคนที่คอยช่วยให้เด็กๆ ที่อ่อนแอหรือกำพร้าได้กลับมามีสิ่งที่เรียกว่าครอบครัวอีกครั้งหนึ่ง ฟังดูเหมือนกับว่าเด็กเหล่านั้นจะได้อยู่อย่างมีความสุข แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ มันก็อาจไม่ได้เป็นอย่างนั้นเสมอไป เหมือนอย่างสิ่งที่เด็กในครอบครัวนี้ต้องเจอ นี่เป็นครอบครัวของนาย Viktor Lishavsky วัย 37 ปี ชาวรัสเซียผู้คอยอุปถัมภ์เลี้ยงดูเด็กกำพร้าและเด็กผู้ด้อยโอกาสจำนวนมาก จนกระทั่งเขาถูกตั้งข้อหาข่มขืนและกระทำทางเพศอย่างรุนแรงกับเด็กสาว 5 คนที่อยู่ในการดูแลของเขามานานกว่า 5 ปี Viktor ชายฟันทองผู้ทำความป่าเถื่อนกับเด็กมานานกว่า 5 ปี เขาถูกจับกุมตัวหลังจากที่ เด็กสาวภายใต้การดูแลนำสิ่งที่เขาทำกับเธอไปบอกอาจารย์ในโรงเรียน ทำให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเขาเอาไว้ในเดือนมิถุนายน 2017 หลังจากนั้นความผิดของเขาก็เริ่มถูกเผยออกมามากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนกลางวันเขาคือช่างซ่อมรองเท้า แต่ตกกลางคืนเขาคือคนที่คุกคามเด็กๆ ในการดูแลของตัวเองมานานหลายปี เขาถูกตั้งข้อหาว่า ทำการข่มขืนเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีถึง 248 ครั้ง และกระทำพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงกับเด็กเหล่านั้นอีก 358 ครั้ง ครอบครัวที่รวมเด็กอุปถัมภ์เอาไว้เป็นจำนวนมาก ต่อมาถูกตั้งข้อหาเพิ่มว่าแสดงพฤติกรรมทางเพศที่รุนแรงกับเด็กสาวอายุต่ำกว่า 14 ปี จำนวน 22 ครั้ง อีกทั้งเขายังมีคดีข่มขืนอีก 11 ครั้ง โดยมีการทำร้ายร่างกายที่รุนแรงจนถูกตั้งเป็นคดีอาชญากรรมและทำให้ผู้อื่นตกอยู่ในอันตราย…
-
การกลั่นแกล้งที่ไม่รู้จบ แม้ทำให้ลูกสาวฆ่าตัวตายไปแล้ว ก็ยังตามราวีพ่อแม่ของเค้าต่ออีกด้วย
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2017 เด็กสาววัย 13 ปี Rosalie Avila ได้ทำการฆ่าตัวตายในบ้านของเธอเอง ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอถูกกลั่นแกล้งอย่างหนักมาตลอด 2 ปี และถึงแม้สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้เธอตัดสินใจจากโลกนี้ไปแล้ว แต่มันก็ยังไม่หยุดเพียงแค่นั้น เมื่อพ่อแม่ของเธอกลายเป็นเป้าหมายต่อไป… หลังจากที่ Freddie Avila พบลูกสาวแขวนคอจบชีวิตตัวเองอยู่ในห้องนอน เขาและ Charlene แม่ของเด็กสาวก็รู้สึกโศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก และพวกเขาก็ยังถูกกลั่นแกล้งในโลกโซเชียลมีเดียเหมือนกับที่ลูกสาวเธอเคยโดนอีกด้วย Rosalie เด็กสาวที่ฆ่าตัวตายเพราะถูกกลั่นแกล้งอย่างหนัก พ่อแม่ของเด็กสาวคือเหยื่อรายต่อไปสำหรับการกลั่นแกล้งที่เกิดขึ้น มีคนส่งข้อความมาหาพวกเธอ เป็นรูปตัดต่อใบหน้า Rosalie ขณะพูดกับแม่ของเธอว่า “คราวหลังแม่ไม่ต้องพาหนูไปนอนบนเตียงนะ พาหนูลงหลุมศพไปเลยดีกว่า” แล้วเป็นภาพเด็กสาวชี้ไปที่หลุมศพของตัวเอง รูปตัดต่อที่ถูกส่งเข้ามาเพื่อแกล้งตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับคนเป็นพ่อเป็นแม่ นี่คือความโหดร้ายที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของพวกเขามาตลอด 2 ปี ในวันที่เธอฆ่าตัวตายก็ได้ทิ้งจดหมายเอาไว้ให้กับพ่อและแม่ เขียนขอโทษที่เธอต้องทำอย่างนี้ลงไปเพราะว่าตัวเองเป็นคนที่ “น่าเกลียด” และ “ขี้แพ้” Freddie เล่าว่า ก่อนที่ลูกสาวของเขาจะจากไป เธอเคยมาปรึกษาและพูดคุยกับเขาอยู่หลายครั้ง และเขาจะพยายามพูดให้เธอคิดแต่สิ่งดีๆ…
-
17 คดีฆาตกรรมอันแสนเลือดเย็น ที่ต้องใช้เวลาหลายสิบปี กว่าจะไขคดีได้!!
การฆ่าคนถือว่าเป็นการกระทำที่นอกจากผิด ศีลธรรม จริยธรรมแล้ว ยังผิดกฎหมายในแทบจะทุกประเทศบนโลกนี้ด้วย ซึ่งการเอาผิดคนที่เป็นฆาตกรก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวนกันอย่างละเอียด บางคดีจึงต้องใช้เวลานานเป็นปีๆ เลยทีเดียว แต่นี่คือ 17 อันดับคดีฆาตกรรมที่บางคดีต้องใช้เวลาในการไขคดีเป็นทศวรรษเลยทีเดียว ไปดูกันว่าจะมีความน่ากลัวและใช้เวลานานแค่ไหน 1. John List เขาฆ่าครอบครัวของเขาในปี 1971 และได้หายตัวไป หลังจากนั้นในปี 1989 มีผู้หญิงคนหนึ่งได้ดูรายการ America’s Most Wanted แล้วก็พบว่าเพื่อนบ้านของเธอที่ชื่อ Robert Clark ได้มีลักษณะท่าทางที่เหมือนกับ List เธอจึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบและปรากฎว่า ใช่คนเดียวกันเขาจึงถูกจับกุมในปี 1990 ระยะเวลาที่ใช้ไขคดี : 19 ปี 2. การตายของ Roy Mccaleb Roy McCaleb ถูกพบเป็นศพอยู่ที่บ้านของเขาที่ Houston จากการถูกยิงในปี 1985 โดยภรรยาของเขา Carolyn Sue Krizan-Wilson ได้ให้การว่ามีคนบุกเข้ามาในบ้านและใช้ปืนยิงสามีของเธอ ซึ่งคดีนี้ก็ยังไม่สามารถปิดลงได้จนในปี 2013 เธอก็ได้สารภาพว่าเธอเป็นผู้ลงมือยิงสามีของเธอเอง ระยะเวลาที่ใช้ไขคดี: 28 ปี 3. การตายของเจ้าหน้าที่ Richard…
-
หญิงสาวเปิดเผยภาพ “เรือนร่างอันบอบช้ำ” ของตัวเอง หลังจากที่ต้องตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์
**บทความอาจมีภาพหรือเนื้อหาที่มีความรุนแรง** แม้ยุคสมัยจะผ่านไปนานแค่ไหน ปัญหาการค้ามนุษย์ก็ยังคงตามติดมนุษยชาติกันมานานเป็นร้อยเป็นพันปี จนล่าสุดก็มีหญิงสาวที่ตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ได้ออกมาแสดงถึงผลร้ายที่เกิดขึ้นกับเธอ หลังจากที่เธอต้องตกไปอยู่ในวงเวียนของการค้ามนุษย์เป็นเวลานาน เธอคนนี้เป็นหญิงชาวบัลแกเรียวัย 20 ปีซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ โดยเธอนั้นถูกคนร้ายจับตัวไปและบังคับให้ตนต้องเข้าสู่กระบวนการค้าประเวณี และทุกครั้งที่เธอพยายามหนีออกมา เธอจะต้องถูกทำร้ายตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรงจนเกือบตายเลยก็มี สภาพของหญิงสาวคนดังกล่าว Norbert Ceipek นายแพทย์ผู้เปิดคลีนิคอยู่ในประเทศบัลแกเรียเพื่อคอยช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ เป็นคนที่รับเรื่องและดูแลเหยื่อเคราะห์ร้ายคนนี้ โดยเขาเล่าว่าเธอถูกนำมาทิ้งไว้หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบัลแกเรียจึงรอดมาได้ เธอเล่าว่าเธอได้รู้จักกับชายคนหนึ่งที่สัญญาว่าจะช่วยเหลือเธอ พร้อมพาไปยังประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่ความจริงไม่เป็นแบบนั้น เมื่อเธอเดินทางไปถึงเธอกลับต้องเดินบนถนนพร้อมกับหญิงที่ถูกพามาค้าประเวณีอีกสามคน แน่นอนว่าเธอไม่ยอมที่จะตกเป็นเหยื่อ ทว่าเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้และถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักนาน 8 เดือนเต็ม จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้โอกาสกลับมายังประเทศเกิดของเธอ เธอตัดสินใจที่จะหนีออกมาในช่วงเวลานั้น แต่โชคไม่เข้าข้าง เธอถูกจับได้และโดนซ้อมอย่างหนักจนสภาพใกล้ตาย สุดท้ายเธอก็มาจบลงตรงที่หน้าโรงพยาบาลเพราะชายคนดังกล่าวนำเธอมาทิ้งไว้ . โชคยังดีที่เวลาต่อมาเธอได้รับการช่วยเหลือ และชายคนดังกล่าวก็ถูกจับ ทว่าการจะรักษาแผลทั้งหมดของเธอนั้นต้องใช้เงินจำนวนมาก เงินบริจาคที่ Norbert ก็คงไม่เพียงพอ เขาก็ได้แต่หวังว่าจะมีเงินสนับสนุนจากรัฐที่มากขึ้น รวมถึงเงินบริจาคที่เยอะขึ้นเพื่อเพียงพอต่อการทำศัลยกรรมให้เหยื่อค้าบริการทุกคนนั่นเอง… ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาองค์กร International Labor Organization (ILO) และ Walk Free Foundation ได้รายงานว่า…
-
ชายหนุ่มถูกลูกฉลามกัดเข้าที่พุงไม่ยอมปล่อย สุดท้ายเขาต้องตัดสินใจปลิดชีวิตมันในท้ายที่สุด…
(บางภาพมีเนื้อหาที่รุนแรง ไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวเลือด) เหตุการณ์สุดสยอง เมื่อ Ervin Maccarty นักดำน้ำจากรัฐฟลอริด้าได้ถูกลูกฉลามกัดเข้าที่พุงอย่างจัง หลังจากลงไปเล่นน้ำกับเพื่อนๆ งานนี้เล่นเอาวุ่นวายกันสุดๆ วินาทีที่ Ervin ถูกช่วยขึ้นมาบนเรือพร้อมกับลูกฉลามตัวน้อยที่เกาะติดอยู่ที่พุงของเขา มันกัดพุงของเขาแน่นราวกับมันกำลังต่อสู้กับเหยื่อที่ตัวใหญ่กว่าอย่างไม่เกรงกลัว ด้านพุงของชายหนุ่มก็เริ่มมีเลือดที่อาบลงมาเต็มไปหมด ภาพเหตุการณ์นั้นถูกบันทึกไว้โดยเพื่อนของเขาเอง ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงความทรมานของ Ervin สุดๆ แต่ถึงจะเจ็บยังไงในช่วงแรกนั้นดูเหมือนพวกเขาพยายามจะทำให้เจ้าลูกฉลามยอมปล่อยแต่โดยดี โดยไม่ทำอันตรายกับมัน แต่ลูกฉลามก็ต่อสู้สุดใจเพื่อชีวิตของมัน ในวินาทีสุดท้ายพวกเขาตัดสินใจจะจบชีวิตเจ้าฉลามลงซะด้วยการใช้มีดปาดเข้าไปในตัวของมัน จนมันสิ้นใจลงและยอมปล่อยในที่สุด . . Ervin ได้เล่าถึงวินาทีชีวิตของเขาว่า ตอนที่โดนฉลามกันนั้นมันพึ่งมากัดแรงมาก เขาหายใจไม่ออกจนต้องกลับเรือ แต่วินาทีที่ต้องว่ายน้ำกลับเรือนั้นเขาไม่มีแรงแม้แต่จะว่ายน้ำด้วยซ้ำ แต่สุดท้ายทุกอย่างก็จบลงและเขาก็ปลอดภัยในท้ายที่สุด ลองรับชมคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวได้ข้างล่างเลย ที่มา dailymail
-
สัตวแพทย์เถื่อนชาวจีน เปิดซุ้มในตลาดรับตัดเส้นเสียงน้องหมา เพื่อไม่ให้พวกมันเห่า
การเห่าของน้องหมานั้นถือว่าเป็นเรื่องธรรมดามาก เพราะน้องหมาทุกตัวย่อมเห่าอยู่แล้ว จะเห่ามากเห่าน้อยก็ว่ากันไป แต่การเห่านี้บางครั้งก็อาจทำให้ใครบางคนรู้สึกไม่พอใจกันสักเท่าไหร่ หลายบ้านอาจใช้วิธีการนำตะกร้อมาครอบปาก ทำให้พวกมันไม่สามารถเห่าได้ แต่นั่นก็จะทำให้น้องหมามีอาการเครียดและหงุดหงิดได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้ในประเทศจีนใช้วิธีการแก้ปัญหาที่ง่ายและรวดเร็วกว่านั้น เมื่อมีคลิปวิดีโอถ่ายภาพการทำงานของชายคนหนึ่ง ที่ใช้วิธีการตัดเส้นเสียงของพวกมัน ทำให้ไม่สามารถส่งเสียงออกมาได้อีกเลย ด้วยราคาเพียงแค่ 200 หรือ 500 บาทเท่านั้นเอง ต่อมามีการเผยแพร่ออกไป ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเมือง Qingbaijiang มณฑลเสฉวน ได้ลงพื้นที่เพื่อสืบหาความเป็นมาของชายคนดังกล่าว ทำให้รู้ว่าเขาคนนั้นมีชื่อว่า Zeng แต่สิ่งสำคัญก็คือ เขาและผู้ช่วยอีกคนไม่มีใบอนุญาตในการประกอบอาชีพเกี่ยวกับการรักษาสัตว์ ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากทางการ เพราะกระบวนการผ่าตัดนี้ต้องมีการใช้ยาชา อีกทั้งการง้างปากและใช้อุปกรณ์ตัดเส้นเสียงของพวกมันอีก นับว่าเป็นเรื่องที่ทำให้น้องหมาเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายเป็นอย่างมาก คลิปวิดีโอการตัดเส้นเสียงสุนัข ของสัตวแพทย์เถื่อน เรื่องของสถานที่เองก็เช่นกัน เพราะพวกเขาเล่นตั้งโต๊ะซะกลางตลาดดอกไม้ กลางวันแสกๆ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องของผู้คนพลุกพล่าน แต่เป็นเรื่องของเชื้อโรคที่อาจทำให้สุนัขที่เข้ารับการผ่าตัดติดเชื้อได้ ที่สำคัญที่สุดเลยคือ เขาคนนี้จะใช้อุปกรณ์เดิมที่มีอยู่เพียงชุดเดียว ในกการตัดเส้นเสียงให้กับสุนัขทุกตัว ทำให้พวกมันติดเชื้อกันง่ายมากกว่าเดิมเสียอีก แต่แม้จะเป็นอย่างนั้นลูกค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มองว่า วิธีการนี้เป็นความโหดร้ายหรือป่าเถื่อน ในขณะที่หญิงสาวเจ้าของหมาพุดเดิ้ลคนหนึ่งบอกว่า เธอเพียงต้องการทำให้มันไม่เห่าเท่านั้น โดยวิธีการดังกล่าวเขาบอกว่า เป็นสิ่งที่ชายคนนี้ได้เรียนรู้มาจากตอนที่ทำงานอยู่ในร้านสัตว์เลี้ยงเมื่อนานมาแล้ว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดอุปกรณ์ของเขาทั้งหมด และกำลังอยู่ในช่วงสืบสวนกันต่อไป คาดว่าอย่างน้อยจะต้องโดนข้อหาการดำเนินงานที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างแน่นอน…
-
รวม 15 ภาพที่จะทำให้เรารู้ว่า “ธรรมชาติ” คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และมหัศจรรย์ของจริง
แม้ว่ามนุษยชาติจะทำร้ายธรรมชาติด้วยวิธีการอันหลากหลายและโหดร้ายแค่ไหน แต่เชื่อไหมว่าธรรมชาตินั้นมีอะไรที่โหดร้ายกว่ามนุษย์อีกมากมายเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแวดล้อม สัตว์ และอื่นๆ อีกมากมายที่ถ้าเราเข้าไปยุ่งมีเจอดีแน่ๆ ด้วยเหตุนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูกับเหตุการณ์ตัวอย่างจากทั่วทุกมุมโลก ที่เราจะทำให้รู้ว่าธรรมชาตินั้นมีพลังและมันน่ากลัวขนาดไหน เอ้า อย่ารอช้ากันเลย มาดูกัน!! ตุ๊กตาที่ถูกทิ้งไว้เมื่อไม่ใช้แล้ว ถูกพวกตัวต่อมาสร้างเป็นรังของพวกมันในที่สุด Fun Fact: รู้ไหมว่าเวลาตัวต่อตัวหนึ่ง ไปต่อยเข้ากับใครมันจะปล่อยกลิ่นพิเศษส่งกลับไปยังรังด้วยนะ แล้วตัวต่อที่เหลือที่รังก็จะตามกลิ่นมาต่อยเหยื่อก่อนหน้าทันที ฝูงมดคันไฟที่ต่อกันจนเป็นแพ เพื่อหนีน้ำท่วมจากพายุ Harvey Fun Fact: เชื่อไหมว่าธรรมชาติสร้างให้พวกมันสามารถมีชีวิตรอดในสภาพนี้ได้นานถึง 3 สัปดาห์!! และภายในแพนี้ยังมีพิษรุนแรงกว่าปกติอีกด้วย ถ้าโดนกัดทีก็เจ็บคูณ 2 จากเดิม แม้ปลาหมึกจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้ล่า แต่จริงๆ แล้วในธรรมชาติยังมีอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าเสมอ Fun Fact: รู้ไหมว่าหนวดปลาหมึกแต่ละหนวดจะมีลักษณะนิสัยที่แตกต่างกัน และยังสามารถทำงานแยกกันได้เป็นอย่างดี ตะขาบที่กำลังปกป้องลูกของมัน ดูความน่ากลัวนั้นสิ Fun Fact: รู้หรือไม่ว่าตะขาบนั้นกินสัตว์ขนาดเล็กอย่างมด แมลงสาบ และแมลงอื่นๆ เป็นอาหาร เห็ดคอร์ไดเซป ที่สามารถขึ้นและกลายเป็นกาฝากบนตัวแมลงต่างๆ ได้ อย่างในรูปก็เป็นแมงมุมที่กลายเป็นเหยื่อ Fun…
-
โห่วจารรรรรย์!!…โจรใจบาปลักหลับคนเมา ขโมยตังไม่พอ…ยังมาแอบขโมยน้ำกามไปอีก!!
เรื่องราวสุดฉาวที่กลายเป็นกระแสดังมากๆ ในจีน เมื่อกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชายคนหนึ่งในช่วงเช้ามือของวันอาทิตย์ในเมืองหลิวโจว ซึ่งกำลังทำการโจรกรรมเงินของชายอีกคนที่กำลังเมาปลิ้นอยู่ในสวนสาธารณะ พอเช้ามาชายคนดังกล่าวก็พบว่าเงินของตนหายไป จึงวิ่งโร่ไปแจ้งความทันทีพร้อมกับขอดูกล้องวงจรปิด และทำให้เรารู้ว่านายคนนี้มีชื่อว่า A’Jun ซึ่งเมื่อเขาได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เขานอน ความจริงมันกลับโหดร้ายกว่านั้น!! ชายคนดังกล่าวกลับไม่ได้ขโมยเงินเฉยๆ แต่เขากลับขโมยน้ำวิเศษของชายคนนั้นไปด้วยก่อนขโมยเงินอีกด้วย ซึ่งเขาทำการค่อยๆ แก้เข็มขัดและปลดกระดุมรูดซิบอย่างตั้งใจ จนสุดท้ายเขาก็ก้มลงไปโบลว์จ็อบอยากเมามัน แน่นอนว่า A’Jun ก็ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ด้วยความที่เขาเมาก็ยังคงนอนหลับต่อไป เวลาผ่านไปชายคนดังกล่าวยังคงมีความสุขกับการม๊วบๆ จนกระทั่งเรื่องบังเอิญก็เกิดขึ้น มือถือของ A’Jun เผลอตกออกมาจากกระเป๋ากางเกง ทำให้ชายคนดังกล่าวตกใจและกลับเข้าสู่จุดมุ่งหมายหลักเขาอีกครั้งนั่นก็คือการขโมยเงินนั่นเอง… แม้ว่าชายคนนี้จะขโมยเงินไปได้สำเร็จ แต่ในความเก่งกาจของเจ้าหน้าที่ พวกเขาก็ออกตามสืบหาคนร้ายทันทีในวันเดียวกันหลังจากดูกล้องวงจรปิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้แกะรอยจนไปพบว่า ชายคนนี้พักอยู่โรงแรมห่างจาสถานที่เกิดเหตุแค่ 20 เมตรเท่านั้น!! สุดท้ายคนร้ายได้สารภาพถึงสาเหตุที่ทำลงไปว่า เขาไปเจอกับ A’Jun แล้วรู้สึกว่าเขาน่ารักดีและเปรียบได้ดั่งเจ้าชายนิทรา เขาก็เลยเปลี่ยนจากการจูบเป็นโบลว์จ็อบแทนนั่นเอง ส่วนกระเป๋าเงินของ A’Jun ก็ได้คืนไปด้วยดี เพียงแต่เงินนั้นถูกนำออกไปหมดแล้ว โดยเขาบอกว่ามันโอเคเพราะบัตรต่างๆ ยังอยู่ดีนั่นเอง ที่มา shanghaiist
-
หญิงสาวชาวอินเดียถูกครอบครัวตัวเองฆ่าตาย หลังพวกเขาเชื่อว่าเธอเป็นแม่มด!!?
ความเชื่อที่ว่าใครเป็นแม่มดต้องถูกกำจัดนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่มีกันมาอย่างช้านานแม้ว่าในปัจจุบันจะเลือนหายไปเกือบหมดแล้วก็ตาม แต่เชื่อเถอะว่ามันยังมีความเชื่อนี้หลงเหลืออยู่บ้าง ซึ่งล่าสุดมันได้เกิดขึ้นที่ประเทศอินเดียนั่นเอง เธอคนนี้มีชื่อว่า Kanya Devi วัย 40 ปีจากรัฐราชสถาน ประเทศอินเดีย ซึ่งเธอคนนี้ได้ถูกฆ่าตายด้วยเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อว่ายังเกิดขึ้นในยุคนี้ นั้นก็คือเธอถูกคนในครอบครัวกล่าวหาว่าเธอเป็นแม่มด และตั้งใจจะฆ่าเธอทั้งเป็นโดยการบังคับให้เธอถอดเสื้อผ้าออก พร้อมกับบังคับให้กินถ่านร้อนๆ จากเตาเผา หลังจากการบังคับกินถ่านแล้ว คนในครอบครัวของเธอยังจัดการเธอด้วยการนำเหล็กร้อนๆ แทงลงไปบนตาของเธอทั้งสองข้างอย่างโหดเหี่ยม จนสุดท้ายเธอก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหวแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ด้านศพของเธอ ทางญาติๆ ก็ได้นำศพซ่อนไว้เพื่อไม่ให้ทางการรู้ แต่อย่างไรก็ตามตำรวจก็สามารถตามจนพบและจับผู้ต้องหาจำนวน 5 คนได้ ซึ่งในนั้นยังรวมถึงหลานๆ ของ Kanya ด้วย โฉมหน้าของผู้ต้องหาทั้งหมด… ด้านเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดอย่างถี่ถ้วน แต่ทุกคนก็บอกเป็นเสียงเดียวกันถึงสาเหตุการฆ่าว่า พวกเขาเชื่อว่า Kanya เป็นแม่มดจึงจัดการฆ่าซะ แต่ทางตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อซะทีเดียว นอกจากนั้นยังเดาว่าอาจจะเป็นเรื่องของผลประโยชน์หรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ . แต่ยังไงจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การฆ่าคนในครอบครัวด้วยวิธีอันเหี่ยมโหดดังกล่าวนั้น ถือเป็นเรื่องผิดศิลธรรมที่รับไม่ได้อย่างสูงที่สุดนั่นเอง… ที่มา dailymail
-
ช่างภาพเผยภาพถ่ายของ “เด็กผิวเผือก” ในแทนซาเนีย ที่แสดงให้เห็นถึงความงามของพวกเขา
Marinka Masséus ช่างภาพชาวดัตช์ ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการสร้างผลงานภาพถ่ายในชุดที่ชื่อว่า “Under the Same Sun” เพื่อเป็นการให้ผู้คนได้ตระหนักถึงเรื่องราวอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นจริงของคนเผือกในประเทศแทนซาเนีย “เป้าหมายของฉันคือ อยากแสดงให้เห็นถึงมุมมองที่งดงามของผู้คนเหล่านี้ เพื่อให้พวกเขาได้รับการยอมรับ และได้รับความเท่าเทียมในสังคม” Marinka กล่าว ในประเทศแทนซาเนีย เมื่อคุณเกิดมาเป็นคนเผือก ผู้คนในประเทศจะมองว่าคุณเป็นสิ่งชั่วร้าย ซึ่งความกลัวและความเชื่อในสังคมแทนซาเนีย ส่งผลให้หญิงสาวจำนวนมากที่ให้กำเนิดทารกออกมามีผิวเผือกต้องยินยอมให้คนสังหารลูกของตัวเองตั้งแต่เกิด และถ้าหากขัดขืน พวกเธอและลูกก็จะถูกนำตัวไปคุมขัง และกลายเป็นคนจรจัดที่ไม่มีใครต้องการในสังคม อีกทั้งยังต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัวไปตลอดชีวิตอีกด้วย เด็กๆ หลายคนที่เกิดมามีผิวเผือก มักจะถูกสังคมรังเกียจ แถมยังถูกกล่าวหาว่าเป็นสิ่งที่ชั่วร้าย พวกเขาจะต้องถูกสาปแช่ง และใช้ชีวิตอยู่ด้วยความกลัว นอกจากนี้ เด็กผิวเผือกบางรายที่โชคร้ายก็ถูกฆ่าอย่างน่าเวทนา บางรายก็ถูกกีดกันจากสังคม รวมถูกตัดขาดจากครอบครัวด้วย นั่นทำให้พวกเขาต้องแยกตัวออกจากสังคมเพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตรอด นอกเหนือจากเรื่องความเชื่อแล้ว อาการผิวเผือกยังทำให้ผิวหนัง และดวงตาแพ้แสงง่ายกว่าคนปกติทั่วไป นั่นหมายความว่าร่างกายของพวกเขาไม่มีภูมิคุ้มกันจากธรรมชาติ ซึ่งถ้าหากผิวหนังถูกแสงแดด ก็อาจจะส่งผลให้เกิดแผลไหม้อย่างรุนแรง จนกลายเป็นจุดสีน้ำตาลต่างๆ ทั่วร่างกาย สุดท้ายก็ส่งผลให้เกิดเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง อย่างไรก็ตาม ทางองค์กรที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ ก็พยายามที่จะส่งครีมกันแดดไปยังแอฟริกา…
-
เด็กออทิสติก ถูกเด็กเกเรกลั่นแกล้งเกินกว่าเหตุ…เอาตะปูที่ติดกับไม้กระดานฟาดลงไปบนหัว!!
**คำเตือน เนื้อหามีภาพที่รุนแรง** การกลั่งแกล้งเด็กออทิสติกหรือคนที่ออนแอ่กว่านั้น ล้วนเกิดขึ้นอยู่ในทุกย่อมหญ้าของโลกใบนี้ ซึ่งการแกล้งของเด็กเกเรนั้น บ้างครั้งมันก็ไม่รุนแรงอาจจะเบาๆ แต่บางครั้งนั้นก็รุนแรงจนรับไม่ได้ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ของเด็กคนนี้… Romeo Smith เด็กชายวัย 9 ขวบ ผู้ป่วยเป็นออทิสติกจากเมืองนอตทิงแฮมเชอร์ ประเทศอังกฤษ โดยเด็กชายได้ถูกกลั่นแกล้งโดยแก๊งเด็กเกเร โดยการแกล้งสารพัดวิธีทั้งทุบตี หรือด่าทอด้วยชื่อและถ้อยคำหยาบคาย สุดท้ายเด็กชายพยายามวิ่งหนี หรือกระทั่งปีนต้นไม้ก็หนีไม่พ้น จนสุดท้ายเมื่อเด็กชายพยายามวิ่งหนี แต่ก็ได้มีเด็กเกคนหนึ่งก็โยนแผ่นไม้ใส่ Romeo แต่ที่แย่กว่าแผ่นไม้คือ มันดันมีตะปูติดมาด้วยและมันก็ติดหนึบอยู่กับหัวเขาทันที ตะปูที่แผ่นไม้นั้นมีความยาวมากพอที่จะเจาะทะลุหัวของเขา และฝั่งเข้าไปถึงกระโหลกและติดหนึบไม่หลุดไปไหน แต่โชคยังดีที่เด็กชายไม่ถึงกับขาดสติ เขายังสามารถเดินกลับไปที่บ้านเพื่อขอความช่วยเหลือจาก Natasha ผู้เป็นแม่ได้ในสภาพที่ตะปูยังติดอยู่กับหลังหัวของเขา ยังไงก็ตามเด็กชายก็ถูกนำส่งตัวไปรักษาทันที โชคยังดีที่ตัว Romeo ไม่เป็นอะไร แม้สภาพที่เห็นจะหน้ากลัวมากๆ ก็ตาม แต่ยังไงซะการกระทำนี้ก็ถือว่าเกินกว่าเหตุมากๆ ด้านคุณแม่ของเขาก็บอกว่า นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกชายถูกรังแก บางครั้งแค่เดินกลับบ้านกับคุณพ่อของเขา แค่แว๊บเดียวเขาก็หายไป และเขาก็ยังถูกเรียกไปกลั่นแกล้งบ่อยๆ และด้วยความที่เป็นออทิสติก เขาก็ไม่สามารถที่จะปฏิบัติหรือปฏิเสธเด็กเกพวกนี้ได้อย่างถูกต้องนั่นเอง สุดท้ายแล้ว ทางครอบครัวก็ไม่รู้ว่าเด็กเกเรดังกล่าวเป็นใคร…
-
การดิ้นรนเพื่อชีวิต ของเหล่าเด็กๆ ในเหมืองคองโก ยากลำบากไม่ต่างไปจาก ‘ผืนนรกบนดิน’
การใช้แรงงานคนเพื่อการก่อสร้าง ขนย้ายสิ่งของ หรืออย่างการขุดเหมืองควรจะมีความเหมาะสม มีการดูแลจัดการที่ดี และทว่าเหมืองแห่งนี้กลับแตกต่างอย่างสิ้นเชิง ที่ต้องทำให้คนงานต้องมาทนอยู่กับสภาพเหมือนนรกบนดิน แถมยังมีการใช้แรงเด็กสี่ขวบให้เข้ามารับอันตรายไปด้วย โดยเหมืองแห่งนี้เป็นแหล่งในการขุดหาแร่โคบอลต์ ตั้งอยู่ในจังหวัดกาตังกา สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ซึ่งความอันตรายนั้นสูงมากเพราะมันจะสร้างหมอกพิษที่ทำลายดวงตาและเสี่ยงที่จะเป็นโรคผิวหนังกับปอดได้ หากเด็กๆ ทำงานไม่ดี อาจจะถูกทำร้ายจากผู้คุมงานด้วย แต่เจ้าแร่อันตรายตัวนี้นั้นคือส่วนประกอบหลักของการสร้างรถยนต์ไฟฟ้า ที่กำลังพัฒนาและมีอัตราการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากแนวโน้มของรัฐบาลในประเทศอังกฤษ ที่มีการประกาศห้ามขายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันในปี 2040 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในประเทศคองโกที่สามารถหาแร่ชนิดนี้ได้ง่าย ต้องดึงแรงงานมาขุดเหมืองเพิ่มมากขึ้น จนเมื่อทางสำนักข่าว Sky News ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่นี้ก็ได้เจอกับ Dorsen เด็กน้อยวัยแปดขวบ หนึ่งในคนงานเหมือง… เด็กคนนี้ต้องเจอกับความโหดร้ายที่เกิดขึ้นในทุกวัน เพื่อช่วยพ่อหาเงินไปกินข้าวหลังจากที่แม่ของเขาได้เสียชีวิตลง โดยเขาเป็นเพียงแค่หนึ่งในจำนวนเด็ก 40,000 คนที่ต้องทนทุกข์ทรมานกับงานประเภทนี้ นอกจากนั้นอาหารการกินในที่ปลูกขึ้นบริเวณโดยรอบก็เต็มไปด้วยสารพิษที่หากกินเข้าไปก็จะทำให้อาเจียน ท้องเสีย อีกทั้งเกิดปัญหากับต่อมไทรอยด์และปอดอีกด้วย ถึงขนาดว่านกหรือปลาแถวนั้นไม่สามารถทนอยู่กับสภาพแวดล้อมเหล่านี้ได้ Dorsen คนซ้าย และ Richard เพื่อนของเขา ไม่มีใครรู้ได้ว่ามีเด็กที่ทำงานในเหมืองเหล่านี้ต้องสังเวยชีวิตไปกี่คนแล้ว เนื่องจากตายไปก็จะถูกฝังไว้ในอุโมงค์ที่ถูกทำลาย หากคนที่มีชีวิตรอดก็ยังต้องทนกับความเจ็บปวด เด็กผู้หญิงก็จะถูกคุกคามทางเพศหรืออาจจะท้องตั้งแต่อายุแค่ประมาณ 10…
-
เด็กน้อยถูกใช้ในการประกอบพิธี “ไสยศาสตร์” โดยเจ้านายของผู้เป็นแม่ จนเสียชีวิตในที่สุด…
บทความนี้มีเนื้อหาและภาพที่รุนแรง อาจจะไม่เหมาะกับคนอ่านทุกคน โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เรื่องราวสุดสลดนี้จากนเดีย เมื่อเด็กน้อยวัย 3 ขวบ พบว่าถูกใช้เป็นเครื่องสังเวยในการประกอบพิธีกรรมไสยศาสตร์ จนท้ายที่สุดเด็กน้อยก็ได้เสียชีวิตลงในเวลาต่อมา… เรื่องเกิดขึ้นรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย ซึ่งผู้เป็นแม่ได้นำตัวนำตัวลูกน้อยมาส่งโรงพยาบาลในสภาพย่ำแย่ และเรื่องสุดประหลาดใจก็เกิดขึ้นเมื่อทีมแพทย์พบว่าในตัวเด็กมีเข็มยาว 2 นิ้วอยู่เต็มร่างกายไปหมด ภาพเอ็กซ์เรย์ ทีมแพทย์ก็บอกว่าอาการของเด็กน้อยนั้นสาหัสมากๆ ที่สำคัญพวกเขายังพบว่าตามร่างกายของเด็กยังมีร่องรอยของการกระทำชำเราทางเพศอีกด้วย ฝั่งคุณแม่เองก็ได้ให้ปากคำว่า เธอถูกบังคับโดยอดีตเจ้านายของเธอ ให้นำลูกของตัวเองมาใช้ในการทำพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ จนท้ายที่สุดเธอทนไม่ไหวเลยต้องหนีออกมา ภาพของคุณแม่และลูกน้อยที่กำลังเดินทางไปยังโรงพยาบาล ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ยื่นฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กจากการกระทำความผิดทางเพศ (POSCO) กับ Sanatan Thakur ชายวัยราวๆ 50 ปี ซึ่งเป็นอดีตนายจ้างของแม่เด็กในฐานะผู้ต้องสงสัย นี่คือเข็มทั้งหมด ที่ทีมแพทย์เจอในตัวเด็ก ด้านนาย Sanatan ที่รู้ตัวว่าจะถูกจับก็ยังคงพยายามหนีการตามจับจากเจ้าหน้าที่ จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้แต่อย่างใด ส่วนด้านเด็กน้อยที่ดูเหมือนว่าจะได้รับการรักษาเรียบร้อย แต่ไม่นานนักอาการก็ดูจะหนักขึ้นทำให้สุดท้ายเด็กน้อยก็ได้จากโลกใบนี้ไปอย่างน่าสงสาร แม้ว่าในตอนท้าย ทางตำรวจจะรู้ว่าใครเป็นคนร้ายและตามจับอยู่ แต่การจากไปของหนูน้อยผู้ตกเป็นเหยื่อก็ไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้ สุดท้ายเพื่อนๆ คิดว่านอกจากตัวเจ้านายเก่าแล้ว แม่ของเด็กก็เป็นฝ่ายที่ผิดด้วยไหมที่ยอมทนอยู่ได้ตั้งนาน หรือว่าเธอมีความจำเป็นกันนะ? ชาวเน็ตที่ได้อ่านต่างวิจารณ์แม่เด็กในแง่มุมต่างๆ กันไป…
-
เพื่อนบ้านพลเมืองดี ตัดสินใจยิงพ่อที่คลุ้มคลั่ง จับลูกวัย 3 เดือนกดน้ำ จนรอดได้หวุดหวิด!!
เรื่องราวสุดสะเทือนขวัญนี้เกิดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นที่พูดถึงในสื่อหลายสำนัก เมื่อเพื่อนบ้านหนุ่มได้ตัดสินใจเข้าช่วยเหลือครอบครัวหนึ่ง ในขณะที่คนเป็นพ่อกำลังพยายามทำร้ายลูกน้อยวัย 3 เดือนทั้งสองคน คุณ Cash Freeman จากเมือง Ada รัฐโอคลาโฮมา ได้ลงมือฆ่านาย Leland Michael Foster หนุ่มวัย 27 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เขาได้ขู่แม่ของเด็กด้วยมีดและพยายามที่จะฆ่าลูกน้อยของเขาด้วยการจับกดน้ำ นาย Leland Michael Foster คนดังกล่าว เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อราวๆ เที่ยงวันของวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้เป็นแม่ของเด็กน้อยทั้งสองคนได้โทรแจ้งตำรวจ หญิงสาวบอกว่าสามีของเธอถือมีด เขาพยายามที่จะฆ่าเธอและลูกน้อยทั้งสองคน คุณ Lisa Bratcher ผู้ได้รับแจ้งจากแม่ของเด็ก เธอบอกว่าได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงของเด็กๆ ดังมาตามสายโทรศัพท์ซึ่งดูเหมือนพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างมาก และรีบส่งเจ้าหน้าที่ไปทันที แต่ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะถึงที่เกิดเหตุ หลานสาววัย 12 ปีของพวกเขาได้วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านก่อนหน้านี้แล้ว เพื่อนบ้านอย่างคุณ Cash Freeman รับรู้เหตุการณ์ ก็รีบตามหนูน้อยไปพร้อมกับปืนพก เมื่อเข้าไปในบ้าน ชายหนุ่มก็พบกับเพื่อนบ้านของเขากำลังเอามีดจี้แม่ของเด็กและจับลูกน้อยทั้งสองกดลงกับอ่างอาบน้ำ เพื่อนบ้านพลเมืองดีจึงตัดสินใจยิงไปที่พ่อ 2 นัดหวังให้เขาหยุดซะ ทำให้เขาที่กำลังคลั่ง ล้มลงกับพื้นและเสียชีวิตในที่สุด จากนั้นชายหนุ่มได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้กับตำรวจฟังและตอนนี้ทางอัยการกำลังรวบรวมสำนวนต่างๆ เพื่อพิจารณาการกระทำของเขา เด็กน้อยทั้งสองถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลใน Oklahoma…
-
มนุษย์ใจดี ช่วยชีวิตหมาที่ถูกทำร้าย-ถอนเล็บ เอามาทิ้งรอความตายริมถนน จนมันรอดอีกครั้ง!!
คำเตือน: เนื้อหานี้อาจจะมีภาพที่รุนแรง ภาพของแผลบนร่างกายสุนัข ซึ่งอาจจะทำให้บางคนหดหู่ได้ กลายเป็นเรื่องชวนให้เศร้า หลังจากที่เช้าวันอังคาร บริเวณริมถนนสาย A20 ของเมืองเคนท์ ในประเทศอังกฤษ มีพลเมืองดีบังเอิญไปพบเจ้าหมาสเปเนียลสีขาวดำ กำลังนอนรอความตายอย่างน่าสงสาร ร่างกายของมันอยู่ในสภาพแย่ มีบาดแผล และเล็บของมันก็ถูกถอนไปหมด ด้วยเหตุนั้น เขาจึงรีบพามันไปที่ศูนย์ดูแลสัตว์ RSPCA ทันทีและตั้งชื่อเล่นให้กับเจ้าหมาว่า Flick เมื่อมันไปถึงศูนย์ดูแล เจ้าหน้าที่ก็ไม่รอช้า รีบตรวจและช่วยเหลือมันทันที เพราะสภาพและอาหารของมันตอนนั้นถือเป็นเคสเร่งด่วน โฆษกของ RSPCA ออกมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้า Flick ว่า “การถอนเล็บของสุนัขออกอย่างไม่เต็มใจถือว่าเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจและผิดกดหมายภายใต้กฎหมายในการคุ้มครองสัตว์ภายในประเทศอังกฤษ ที่สำคัญยังไม่รับรวมการทิ้งสุนัขของตนทำเหมือนกับว่ามันเป็นขยะ” สภาพร่างกายของมัน ที่ต้องบอกว่าหนักมาก มีบาดแผลเต็มตัว ซึ่งถ้าไม่ได้คนใจดีช่วย มันคงจะไม่รอด เจ้า Flick เเป็นสุนัขที่ไม่ได้รับการตรวจสอบและลงทะเบียนรวมถึงมีได้ฝังไมโครชิพไว้ ทำให้การตามหาตัวเจ้าของจริงๆ เป็นไปได้ยากมากๆ แต่ถ้าเกิดว่าหลังจากที่ทางศูนย์รักษามันเรียบร้อยแล้วยังไม่มีใครมาแสดงความเป็นเจ้าของ ทางศูนย์ก็จะทำการหาบ้านหลังใหม่ให้แก่มัน ซึ่งสัตวแพทย์จากทางโรงพยาบาลสัตว์จะเป็นคนรับมันไปดูแลแทนนั่นเอง… ใครกันนะช่างโหดร้ายกับเจ้า Flick ได้ ทิ้งมันยังไม่พอยังถอนเล็บมันอีก อย่าให้เจอนะ ที่มา metro
-
เจ้าหน้าที่อิสราเอลปิ้งย่างสร้างกลิ่นหอม เพื่อเป็นการยั่วยุเหล่านักโทษ ที่อดอาหารประท้วง
เมื่อเหล่านักโทษปาเลสไตน์ ทำการประท้วงเจ้าหน้าที่ด้วยวิธีการคลาสสิกแต่ได้ผลเสมอมาอย่างการอดอาหาร แต่ทว่าดูเหมือนมันจะใช้ไม่ได้ผลนักในเหตุการณ์ครั้งนี้ เพราะสมาชิกพรรคฝ่ายขวา Ichud Leumi (สหภาพแห่งชาติ) ได้จัดการยั่วยุเหล่านักโทษด้วยวิธีการที่โหดเสียกว่าการทำร้ายร่างกายหรือพูดจาไม่ดีใส่เสียอีก เพราะวิธีที่ว่าก็คือการตั้งปาร์ตี้ปิกนิกพร้อมแจกอาหารฟรี และทำการโจมตีด้วยกลิ่นอาหารปิ้งย่าง!! แถมกลิ่นที่ว่า ก็ไม่ใช่กลิ่นไม่ดีหรือเป็นพิษแต่อย่างใด แต่มันคือกลิ่นของเนื้อย่างบาร์บีคิวหอมๆ ที่ลอยไปตามลมจนเล็ดลอดผ่านเข้าไปถึงห้องขังของเหล่านักโทษที่ทำการประท้วงกว่า 1,500 ชีวิต ในเรือนจำ Ofer เขตเวสต์แบงก์ ของประเทศอิสราเอล การประท้วงอดอาหารดังกล่าว นำโดยนักโทษชาวปาเลสไตน์นามว่า Marwan Barghouti เมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อเป็นการกดดันให้ทางการอิสราเอลมอบสวัสดิการทางการแพทย์ที่ดีและให้สิทธิ์นักโทษสามารถใช้โทรศัพท์ได้ และเกิดเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์กับเจ้าหน้าที่อิสราเอลเมื่อวันที่ 20 เมษายน ภายนอกเรือนจำทางตอนเหนือของเยรูซาเลมด้วย ในระหว่างที่ผู้ถูกคุมขังชาวปาเลสไตน์กำลังทำการอดอาหารประท้วงอย่างต่อเนื่องภายในเรือนจำ ลองคิดสภาพเราเป็นชาวเน็ตที่กำลังหิวแล้วอยู่ดีๆ ก็เลื่อนไปเจอภาพอาหารที่น่ากินในยามดึก แค่นั้นมันก็ทรมานสุดๆ แล้ว แต่นี้อดอาหารประท้วงอยู่ กลับต้องรู้ว่าข้างนอกมีปาร์ตี้ของกินอยู่และแค่นั้นยังไม่พอ ดันส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลอีก… คลิปจากเหตุการณ์ดังกล่าว กับความทรมานในความหิวโหยของนักโทษในคุก ที่กำลังอดอาหารประท้วงอยู่ โหดร้ายสุดๆ รูปอาหารยามดึกยังเทียบชั้นไม่ติด!! ที่มา rt
-
สาวผู้ตกเป็นทาสเซ็ก ISIS บอกเล่าประสบการณ์ถูกบำเรอกาม ต่อหน้าลูกของเธอเอง!?
เรารู้จัก ISIS ในฐานะกลุ่มผู้ก่อการร้ายซึ่งมีชื่อในด้านลบตามสำนักข่าวต่างๆ อยู่เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ได้สังหารคนบริสุทธิ์ และทำลายชีวิตของใครหลายๆ คนมาแล้วมากมาย หนึ่งในนั้นคือ Hanan หญิงชาวอาหรับที่นับถืออิสลามนิกายสุหนี่ผู้โชคร้าย ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่เคยถูกกลุ่ม ISIS ทำลายชีวิตของเธอโดยการข่มขืน และที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ เธอถูกคนเหล่านั้นข่มขืนต่อหน้าลูกๆ ของเธออีกด้วย วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2560 ทางสำนักข่าวเดลีเมล์ ได้เผยชะตากรรมที่แสนเลวร้ายของ Hanan หญิงวัย 26 ปี ผู้ซึ่งสามีหลบหนีออกจากเมือง Hawijah ไปก่อนหน้า แต่เธอและลูกๆ ต้องแยกจากสามี เธอถูกกลุ่ม ISIS ทำร้ายอย่างทารุณ หลังจากที่ถูกจับพร้อมกับผู้หญิงอีก 50 คน เหตุเพราะพยายามหลบหนีไปที่เมือง Hawijahในอิรัก โดยทางคนในกลุ่มดังกล่าวได้อ้างกับเธอว่า การที่สามีของเธอหนีไป ทำให้เธอไม่ได้เป็นมุสลิมอีกต่อไป และจะต้องแต่งงานกับ ISIS คนหนึ่ง และเมื่อเธอปฏิเสธเพราะว่านั่นไม่ใช่หลักคำสอนที่ถูกต้อง พวกเขาจึงได้จับเธอไปทรมาน ทั้งเฆี่ยนตี และข่มขืน “ผู้ชายคนเดิมเข้ามาข่มขืนฉันทุกวัน เป็นเวลา 1 เดือนโดยไม่ได้เอาผ้าปิดตา แถมยังทำต่อหน้าลูกๆ ของฉัน ซึ่งลูกสาวของฉันต้องทุกข์ทรมานจากความพิการทางสมอง…
-
ประเพณี ‘ชนสุนัข’ ในอัฟกานิสถาน เป็นความบันเทิงหรือการทารุณกรรมสัตว์กันแน่!?
มีประเพณีอันแสนโหดร้ายที่น่าจะถูกล้มเลิกไปตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่ในประเทศอัฟกานิสถาน… ก่อหน้านี้ทางกลุ่มตาลีบันได้ทำการประกาศแบนกีฬา ‘ต่อสู้สุนัข’ ไปแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เกี่ยวข้องกับหลักคำสอนของอิสลาม แต่ในปัจจุบันถูกนำกลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้งแล้ว เจ้าของสุนัขหลากหลายคนต่างก็พาสุนัขของตัวเองมาเข้าร่วมการต่อสู้เป็นประจำทุกสัปดาห์ในเขต Paghman เมือง Kabul โดยที่แมตช์คู่เดือดจะจัดขึ้นในช่วงวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันหยุดพักผ่อนของประเทศอัฟกานิสถาน เจ้าหมาขนาดใหญ่หลายตัวจะต้องมาต่อสู้ห้ำหั่นกัน ซึ่งการแข่งขันจะจบลงเมื่อมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมวิ่งหนีไป หรือถูกทำให้หมดสภาพ แม้ไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่ทำให้ได้รับแผลฉกรรจ์จากการต่อสู้ ฤดูการต่อสู้นั้นจะมีขึ้นในช่วงเดือน พฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม เพราะพวกเขาเชื่อว่าบาดแผลของสุนัขนั้นจะหายได้เร็วกว่าในอากาศหนาว ในการแข่งขันจะมีกรรมการที่คอยจับตาดูและตัดสิน ขณะเดียวกันก็จะมีผู้คนยืนล้อมรอบเป็นวงกลมกลายเป็นสังเวียน ส่วนเจ้าของของสุนัขก็จะอยู่ข้างในวงเพื่อสั่งให้สุนัขสู้กัน สายพันธุ์ที่ผู้คนนำมาเข้าร่วมมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Mastiffs และ Afghan ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความตัวใหญ่และความดุดันอยู่แล้ว ซึ่งผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัลเป็นการตอบเป็นมูลค่ามากกว่า 100,000 บาทเลยทีเดียว แล้วเพื่อนๆ ชาวเหมียวมีความคิดเห็นอย่างไรกับกีฬานี้บ้าง? คิดว่าโหดร้ายป่าเถื่อนหรือไม่? หรือมองว่ามันเป็นแค่กีฬา ก็สามารถแสดงความคิดเห็นกันเข้ามาได้เลยนะจ๊ะ ที่มา : dailymail
-
Chunky หมาที่โดนลักพาตัว ถูกทารุณกรรมอย่างโหดร้าย แต่มันก็ยังไว้ใจมนุษย์อยู่ดี!!
เรื่องราวของเจ้า Chunky หมาที่เคยผ่านประสบการณ์ที่อาจทำให้มันเกลียดมนุษย์เข้าไส้ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเลือกที่จะไว้ใจเหล่ามนุษย์ต่อไป เมื่อปีที่ผ่านมาเจ้า Chunky หมาพันธุ์ชิวาว่าผสม ถูกกลุ่มเด็กที่มีจิตใจโหดเหี้ยม 4 คนลักพาตัวไป และพวกเขาก็ลงมือทรมานมันด้วยวิธีที่แสนจะโหดร้ายทารุณ เด็กๆ เหล่านั้นบังคับให้เจ้า Chunky กินยาเสพติดเข้าไป เตะต่อย บีบคอ และ พยายามที่จะหักคอมัน ก่อนที่จะทิ้งมันเอาไว้ในสภาพที่ใกล้ตาย เท่านั้นยังไม่พอก็พบว่าที่บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะดวงตาของมันนั้นมีรอยแผลไฟไหม้อยู่ด้วยเพราะถูกเอาสเปรย์ดับกลิ่นมาพ่นไฟใส่หน้า ช่างเป็นการกระทำที่โหดร้ายทารุณเกินมนุษย์ แต่โชคดีที่มีคนมาพบมันและพามันไปรักษาได้อย่างทันท่วงที เจ้า Chunky ถูกรักษาจากอาการบาดเจ็บทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นแผลไฟไหม้ อาการข้างเคียงจากการถูกบังคับให้กินยา และกระดูกขาที่หักจนหายดี “นี่เป็นเคสที่ยุ่งยากที่สุดเท่าที่ฉันเคยรับมือมา ทั้งหมดที่พวกเขาทำกับเจ้า Chunky นั้นมันทำให้ฉันรู้สึกแย่มากๆ” คุณ Caroline Doe จากศูนย์ช่วยเหลือ RSPCA กล่าว อาการของเจ้า Chunky ดีขึ้นเรื่อยๆ และตอนนี้มันก็ได้กลับคืนสู่เจ้าของเดิมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นที่น่าแปลกใจของคุณ Caroline และเจ้าของของมันมาก ที่ถึงแม้ว่าเจ้า Chunky จะเพิ่งผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมา แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงส่ายหางดุ๊กดิ๊กไปมาตลอดเวลาอันแสดงให้เห็นว่ามันรู้สึกมีความสุขเป็นที่สุด นั่นเป็นเพราะว่าที่บ้านหลังนี้และเจ้าของสุดที่รักของมัน คือสถานที่ที่มันคิดว่าปลอดภัยที่สุดแล้วในโลกใบนี้… …
-
10 เหตุผลที่จะมาพิสูจน์ว่า ‘Joker’ คือวายร้ายที่น่ากลัว และอันตรายมากที่สุด!!
เมื่อกล่าวถึงตัวร้ายอย่าง Joker ที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลของ Batman แล้ว เพื่อนๆ หายคนก็คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี แต่หลายๆ คนกคิดว่าเขาเป็นแค่วายร้ายธรรมดา ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่ขอบอกไว้เลยว่าคิดผิด!! เพราะจริงๆ แล้ว Joker น่ะโหดเหี้ยมสุดๆ ไปเลยล่ะ และในวันนี้เอง #เหมียวหง่าว จะขอพาเพื่อนๆ ไปพิสูจน์กันว่า เขาคือวายร้ายที่มีความน่ากลัวที่สุดแล้ว (เรื่องราวทั้งหมดอาจจะมีบางส่วนไม่ได้เห็นในภาพยนตร์ เพราะอิงจากใน Comics นะจ๊ะ) 1. Joker เป็นคนฆ่า Robin จากตอน Death in the Family หลังจากที่ Joker ได้ใช้ชะแลงเหล็กทุบ Robin จนใกล้ตายในโรงงานที่ถูกทิ้งร้างแห่งหนึ่ง จากนั้นเขาก็วางระเบิดทิ้งไว้แล้วก็จากไป และการระเบิดนั้นก็ทำให้เขาเสียชีวิต Batman ที่มาช่วยไว้ไม่ทันรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก และเขาก็ไม่เคยให้อภัยกับตัวเองเลยที่มาช่วย Robin ไว้ไม่ทัน ซึ่งความโศกเศร้าในครั้งนี้ก็ถูกนำไปเปรียบเทียบกับเมื่อตอนที่เขาสูญเสียพ่อกับแม่ไป เพราะ Todd หรือ Robin นั้นก็เปรียบเสมือนกับคนในครอบครัวของเขานั่นเอง 2.…
-
คำเตือน!! ให้ระวังหมาทั้ง 19 ตัวนี้ไว้ให้ดี เพราะมันทั้งโหด ดิบ เถื่อน และ ฮา!! (เราเตือนแล้วนะ) 555+
ก็อย่างที่รู้กันดีว่าเหล่ามะหมาทั้งหลายนั้นเป็นสัตว์ที่มีความน่ารัก น่าเอ็นดู จนบางครั้งเราก็หลงรักมันไปโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่ใช่กับเหล่ามะหมาที่ #เหมียวหง่าว จะพามาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้อย่างแน่นอน เพราะว่าพวกมันน่ะทั้งดุ โหด ดิบ เถื่อน น่ากลัวเป็นที่สุด จะเลื่อนลงไปชมกันอยู่มั้ยลองถามใจตัวเองดูให้ดีนะ เราขอเตือน!! (ฮร่า) 1. เจ้าหมาล่าเนื้อตัวนี้ที่พร้อมจะลิ้มลองรสชาติเลือดของทุกคน 2. เห็นผลงานที่มันทำไว้ข้างหลังนั่นมั้ย ถ้าเราเดินเข้าไปล่ะก็คงจะมีสภาพไม่ต่างกับเจ้าสิ่งนั้นอย่างแน่นอน 3. เจ้าสุนัขที่แสนดุร้ายตัวนี้ ที่คอยจ้องจะจับคนที่ผ่านไปมากินเป็นอาหาร 4. หรือจะเป็นเจ้าตัวใหญ่ตัวนี้ ที่พร้อมจะขย้ำทุกสิ่งที่ขวางหน้า 5. เจ้าฆาตกรตัวน้อยที่พร้อมจะตามล่าคุณไปทุกที่ 6. เจ้าปิศาจร้ายที่เต็มไปด้วยความโกรธตัวนี้ ที่พร้อมจะบดกระดูกของคุณให้กลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย 7. หรือจะเป็นเจ้าสัตว์ร้ายจอมโหด ที่ใบหน้าของมันจะปรากฏให้คุณเห็นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่คุณจะตาย 8. เจ้าอสูรที่พร้อมจะขย้ำทุกคนที่พยายามจะเข้าไปหยิบขนมมันฝรั่ง 9. และนี่คือฝันร้ายที่จะเชิญให้ทุกคนเข้าไปหา จะลองเสี่ยงกับมันดูมั้ยล่ะ? 10. เจ้าสัตว์ร้ายที่มีอารมณ์รุนแรง ที่ใฝ่ฝันถึงการฆ่าล้างแค้นในทุกๆ คืน 11.…
-
ร่วมตีความ 23 ภาพศิลปะที่แสดงให้เห็นว่า สังคมมนุษย์ยุคปัจจุบัน เต็มไปด้วยปัญหาขนาดไหน!!
ในยุคปัจจุบันแม้เทคโนโลยีและวิถีชีวิตของมนุษย์จะก้าวหน้าไปมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีปัญหาหลายๆ อย่างเกิดขึ้นมาพร้อมๆ กัน ซึ่งหลายๆ อย่างนั้น ได้ส่งผลกระทบที่ต่อมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ #เหมียวอ๊อดโด้ จึงจะพาเพื่อนๆ ไปชม 23 ภาพวาดสะท้อนความโหดร้ายในสังคมมนุษย์ยุคปัจจุบัน จะเป็นยังไง มาลองตีความกันดีกว่า!! ความเครียดในชีวิต เรากำลังถูกโทรศัพท์ยึดครอง บางครั้งความสร้างสรรค์ก็ถูกกักขังไว้ในกรง การพัฒนาทางวัตถุที่กลวงโบ๋ ความสวยงามแบบปลอมๆ ความงดงามของร่างกายขึ้นอยู่กับใคร? การหลั่งไหลของความรู้ ความเท่าเทียมของชายหญิง ชีวิตนี้มีแต่งาน งาน แล้วก็งาน โลกร้อนด้วยน้ำมือใคร? การทำงานของสมอง เลือดตาแทบกระเด็น ความรักของธรรมชาติ รอ..เพื่อที่จะเติบโต (ตามทางของใคร?) ความชั่วร้ายที่ถูกกักเก็บไว้ ความพยายามที่จะเป็นอิสระ วิถีของเงิน ร่างกายของผู้ชายในอุดมคติ มีคนจับตาดูคุณอยู่เสมอ…
-
รวมภาพถ่ายสุดสะเทือนใจจาก “สงคราม” ที่เรื่องจริงมีเพียงความโหดร้าย…
มนุษย์กับสงครามถือว่าเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับมานานหลายพันปี แม้เราจะได้รับบทเรียนมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง แต่ดูเหมือนมนุษย์จะไม่เคยเรียนรู้เลยว่า ทุกครั้งที่มีสงคราม แม้จะได้รับบางอย่างกลับมา แต่สิ่งที่สูญเสียไปก็ใหญ่หลวงไม่แพ้กัน และวันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ชม ภาพถ่ายจาก “สงคราม” จริงๆ ที่แสดงให้เห็นว่า เรื่องสงครามสนุกๆ คงมีแต่ในหนังเท่านั้น จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย *คำเตือน ภาพค่อนข้างรุนแรง ถ้าใครใจไม่แข็ง ขอให้ปิดตั้งแต่ตรงนี้นะฮะ ภาพทั้งหมดนี้มาจากสงครามเวียดนามในช่วงปี 1965 ในสงครามแต่ละครั้ง ก็อาจมีเหตุผลแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เลี่ยงไม่ได้สำหรับสงครามก็คือความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้หญิง หรือผู้ชาย ก็ต่างได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน สงครามทำให้เรามองอีกฝ่ายเป็นศัตรู จนบางครั้งแทบไม่นับว่าเป็นคนด้วยซ้ำไป หากไม่ฆ่า ก็อาจถูกอีกฝ่ายฆ่าได้ แม้สุดท้ายเราอาจได้อะไรกลับมา แต่สิ่งที่สูญเสียไปก็มากมายเช่นกัน . . . .…
-
ช้างแก่ในกัมพูชา หัวใจวายตายขณะทำงานหลังจากแบกนักท่องเที่ยวมากว่า 15 ปี ด้านกลุ่มอนุรักษ์เรียกร้องให้มีการหยุดใช้งาน..!!
Sambo ช้างแก่เพศเมียอายุประมาณ 40-45 ปีตัวนี้ มันเป็นหนึ่งในช้างกว่า 13 ตัว ที่ถูกบริษัททัวร์ Angkor Elephant Company นำมาใช้แรงงานในการแบกนักท่องเที่ยว เพื่อเดินทางไปเยี่ยมชมนครวัดที่ประเทศกัมพูชา มาตั้งแต่ปี 2544 จนในที่สุดเจ้า Sambo ก็จากไปด้วยอาการหัวใจวาย ขณะกำลังแบก 2 นักท่องเที่ยวเป็นเวลานานกว่า 40 นาที ท่ามกลางอุณหภูมิอากาศที่ร้อนจัดถึง 40 องศาเซลเซียล ด้วยความที่อากาศร้อนจัด บวกกับกำลังถูกใช้แรงงานเป็นเวลานาน ทำให้ร่างกายของมันเกิดความอ่อนเพลีย และขาดลมพัดให้ร่างกายเย็นขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เจ้า Sambo ที่น่าสงสาร เกิดอาการหัวใจวายเฉียบพลัน จนเป็นลมลงไปกองที่พื้น และในที่สุดมันก็ตายอย่างน่าเวทนา ซึ่งหลังจากที่ภาพของเจ้า Sambo ถูกนำไปเผยแพร่ลงบนโลกโซเชียล กลุ่มคนรักสัตว์ต่างก็พากันออกมาวิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหนักว่า ทำไมถึงนำช้างแก่มาใช้แรงงานในสภาพที่อากาศร้อนจัดถึงแบบนี้ พร้อมกันนี้ยังมีการเรียกร้องให้ยุติการใช้แรงงานช้างในการนำไปเป็นพาหนะแบกนักท่องเที่ยว และขอให้บรรดานักท่องเที่ยวไม่ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวในลักษณะนี้อีก ขณะที่ทางทางผู้จัดการของบริษัททัวร์ Angkor Elephant Company ก็ได้ออกมาเผยว่า ทางบริษัทรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก…
-
รวม 21 ภาพที่จะทำให้คุณเห็นว่า บางครั้งชีวิตก็โหดร้ายกับเราเกินไป T^T
ชีวิตคนเราก็ต้องมีช่วงที่ดีบ้าง เลวร้ายบ้างสลับกันไป ไม่มีใครเจอเรื่องดีทุกวันหรือเจอเรื่องร้ายทุกวัน แต่บางครั้งเราก็ต้องยอมรับเลยว่า ชีวิตมันจะโหดร้ายกับเราไปถึงไหน T^T อย่างเช่น 21 ภาพที่เหมียวนำมาให้ชมวันนี้ จะทำให้คุณรู้ว่า บางครั้ง ชีวิตก็โหดร้ายกับเราเกินไปจริงๆ ซื้อไอติมมา กำลังจะถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค… ใครเอามากินบนนี้… แล้วจะทำไงต่อ… เรื่องร้ายๆเกิดขึ้นได้เสมอ พออยากได้รูปครอบครัวดีๆ… ขณะที่รถคนอื่นเป็น Porsche แต่รถของคุณกลับ… ซื้อสีมาทาบ้าน แต่สีดันหกตั้งแต่ในรถ แล้วจะเปิดยังไง… นี่ก็เหมือนกัน เฮ้อ… บางครั้งก็ไม่ได้อยากตื่นเต้นหรอกนะ… เมื่อทางจักรยานถึงทางตัน หลังทำธุระเสร็จ นี่คือสิ่งที่คุณเพิ่งเห็น นี่ก็หมด คงไม่ต้องเดินไกลแล้วละ ออกไปเล่นกับเพื่อนครั้งแรก หน้าแหกเลยทีนี้… พอจะปีนออกจากบ้าน… ทำไมวันนี้มืดจัง เมื่อชีวิตมาถึงทางตัน…
-
ไปชมกันว่า ผู้หญิงหรือผู้ชายจะโหดร้ายกว่ากัน เมื่อมีคนแปลกหน้าเข้ามาทำความรู้จัก!!!
หลายคนอาจบอกว่าเพศหญิงเป็นเพศที่อ่อนไหวและมีจิตใจที่อ่อนโยนกว่าผู้ชาย แต่เรื่องจริงเป็นเช่นนั้นจริงหรือ โดยเฉพาะเมื่อมีคนต้องการเข้ามาทำความรู้จัก ทาง whatever จึงทำการทดลองว่า หากมีคนแปลกหน้าเข้ามาทำความรู้จัก ผู้ชายและผู้หญิงจะมีวิธีปฏิเสธอย่างไร และใครจะโหดร้ายกว่ากัน สวัสดีครับ ผมอยากรู้จักคุณจัง สวัสดีค่ะ ฉันอยากรู้จักคุณจัง ไปชมคลิปกันเลยว่า ใครจะโหดร้ายกว่ากัน ทำไมคุณผู้หญิงโหดร้ายจัง ไม่เปิดโอกาสให้ทักทายกันเลยทีเดียว ส่วนผู้ชายดูประณีประนอมกว่ากันเยอะเลย เหมียวว่าถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จริงๆในชีวิต อย่างน้อยก็ตอบปฏิเสธเขาดีๆเถอะ จะได้ไม่เป็นการทำร้ายกันเกินไปเนอะ ที่มา whatever
-
คุณหมอใช้ ‘หนังช้าง’ ปิดแผลแรด หลังถูกนายพราน ยิง-ตัดนอ แล้วปล่อยให้ตายช้าๆ
ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรมีข่าวคราวเกี่ยวกับการล่าสัดว์แบบโหดร้ายมาให้เห็นกันแทบทุกวัน…มนุษย์นี่หนอออ พวกเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวที่สุดแล้วล่ะ เมื่อทางสำนักข่าวเมโทรของประเทศอังกฤษได้รายงานข่าวเกี่ยวกับแรดเพศเมียวัย 12 ปี ในแอฟริกาใต้ ที่ถูกเหล่าผู้ลักลอบล่าสัตว์ทำร้าย แถมลักลอบตัดนอเธอไปอีกต่างหาก สภาพของแรดสาว โดยเหล่านายพรานได้ฆ่าลูกแรดวัย 5 ขวบของเธอยิงเธอด้วยปืน และพอเธอล้มลงก็จัดการตัดนอออกไปและทิ้งไว้อย่างนั้น ให้เธอร้องด้วยความทรมาน จนนายแพทย์ Johan Marais ไปเจอเข้า จึงได้ทำการรักษาพยาบาลเธอในเบื้องต้น และได้ใช้หนังช้างเป็นผ้าพันแผลให้เธอ แน่นอนว่าหนังช้างนั้นไม่ได้ฆ่าเอาจากช้างแถวนั้นหรอกนะจ๊ะ เขาไปซื้อที่ร้านขายของตกแต่งมา ซึ่งคุณหมอได้บอกว่า ‘เราได้พยายามนึกถึงอุปกรณ์ที่จะมาเป็นผ้าปิดแผล แน่นอนต้องเป็นวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน มีน้ำหนักเบา และยืดหยุ่นได้…อะไรจะเหมาะไปกว่าหนังช้างอีกล่ะ แถมจะสามารถอยู่ไปได้อีก 4 – 5 อาทิตย์เลยล่ะ’ ซึ่งแผลในกรณีนี้สามารถใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์กลาส หรือพลาสติกได้ แต่แน่นอนว่าจะมีความยุ่งยากในเรื่องของขนาดที่พอดีกับแผลของแรด หนังช้างเลยเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้วล่ะ น่ากลัวจริงๆ -*- แต่อย่างน้อยก็สามารถรักษาชีวิตได้ ต้องขอบคุณคุณหมอจริงๆ และหวังว่าเหล่าเจ้าหน้าที่ของอุทยาน จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เหมือนในกรณีของเจ้าสิงโต Cecil นะ… ที่มา: Metro
-
จริงรึเปล่า!!? สำนักข่าวต่างประเทศรายงานพฤติกรรมสุดโหดย้อมสีลูกไก่ขายในประเทศไทย
เรียกได้ว่างามหน้าเมืองพุทธกันล่ะทีนี้ เมื่อทางสำนักข่าวเมโทรแห่งประเทศอังกฤษได้มีรายงานการพบเห็นเรื่องราวสุดสะเทือนใจของนักท่องเที่ยวรายหนึ่งที่ได้มาพักผ่อนยังประเทศไทย ซึ่งทางสำนักข่าวได้รายงานว่า เหตุเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวสาวชื่อว่า Gina Jones วัย 33 ปี ที่มาเที่ยวประเทศไทย แถบเกาะลันตา ไปเจอกับลูกไก่ตัวหนึ่งมีสีสันสดใสแปลกๆ และมันก็ได้กระโดดขึ้นรถบรรทุก ไปหาถุงๆ หนึ่ง ที่เต็มไปด้วยลูกไก่สีแปลกๆ ภาพของลูกไก่ที่ถูกย้อมสี พอเธอเข้าไปดูก็พบว่ามีลูกไก่อยู่ในถุงพลาสติกหลังรถ มากมายเต็มไปหมด ซึ่งมีสีสันที่สดใส ทั้งชมพู เหลือง เขียว ส้มเลยทีเดียว ตอนแรกเธอพยายามแอบปล่อยลูกไก่ให้หนีออกจากถุงภายในรถ แต่ก่อนที่เธอจะช่วยได้สำเร็จรถก็ได้ออกตัวไปก่อน เธอรู้สึกสงสารมากที่ได้เห็นอะไรแบบนั้น โดยเธอคิดว่ารถคันนั้นมุ่งหน้าไปยังเกาะ เพื่อที่ลูกไก่จะถูกนำไปขายเป็นของเล่นถูกๆ ให้กับเด็กๆ ไก่ที่ถูกจับใส่ไว้ในถุง แน่นอนว่าอุณหภูมิมันต้องสูงมากๆ แถมอยู่ในรถด้วยซะอีก เหมียวก็ไม่รู้เหมือนกันนะเนี่ยว่าเขาเอาไปขายกันจริงๆ หรือเปล่า หรือถูกนำไปใช้อย่างอื่น ซึ่งถ้านำไปย้อมสีขายให้เด็กๆ จริงๆ นี่ก็ถือว่าโหดร้ายมากเพราะลูกไก่ที่ไม่ได้อยู่กับแม่นั้นเปอเซ็นต์ตายสูงมากเลยทีเดียว ใครรู้เรื่องนี้ช่วยไขให้เหมียวกระจ่างทีนะ น่าสงสารจริงๆ T^T มาชมคลิปวิดีโอกันได้ที่นี่เลย ที่มา: Metro
-
14 ภาพสุดลึกซึ้ง ที่จะมาบอกให้เราได้รู้กันว่า ‘โลกใบนี้มันโหดร้ายแค่ไหน’
พอใช้ชีวิตอยู่บนโลกกันมาสักพัก เหมียวเชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้แล้วล่ะว่าโลกของเราน่ะมันโหดร้าย ทำให้ชีวิตของเราต้องโหดร้ายตามไปด้วย และแน่นอนว่าวันนี้เหมียวก็มีภาพสุดสะเทือนใจมาฝากกัน ลองมาดูกันได้เลย วิถีชีวิตของเด็กๆ ที่แตกต่างกัน เศษทาน ลำดับขั้น ใครได้ประโยชน์ ศาสนา!!? เด็กในวัยเดียวกัน เทคโนโลยี ทำอะไร!!? เหตุใด มนุษย์ ความฝัน บ้านนก?? ถูกรึเปล่า คนดี!!? ดูๆ แล้วมีความหมายลึกซึ้งทุกๆ ภาพเลยว่ามั้ย โลกของเรามันโหดร้ายจริงๆ T^T ที่มา: Funniest And Craziest Videos