Tag: ใบ
-
การ์ตูนใบ้สุดสยอง 4 เรื่องจาก DarkBox ที่จะทำให้คุณ “ไม่กล้านอนคนเดียว” อีกต่อไป~
สิ่งที่เราจะนำมาเสนอในวันนี้เป็น การ์ตูนสยองขวัญ ต้อนรับวันฮาโลวีนที่กำลังจะมาถึง มันเป็นการ์ตูนสั้นๆ 4 ตอน ผลงานของ DarkBox ศิลปินชาวมาเลเซีย ที่มีไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ด้านการ์ตูนสยองขวัญที่สุดโต่ง แนะนำว่าให้อ่านตอนกลางคืนจะยิ่งเพิ่มอรรถรสให้น่าขนลุกยิ่งขึ้น และก็ไม่ต้องกังวลว่ามันอาจเข้าใจได้ยากเนื่องจากอุปสรรคทางภาษา เพราะการ์ตูนเหล่านี้เป็นการ์ตูนใบ้ตามชื่อโปรเจ็กต์ที่ว่า Silent Horror นั่นเอง เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปพบความสยองขวัญน่าขนลุกกันเลยกับ Silent Horror ทั้ง 4 เรื่องจาก DarkBox… 1. Girl in the Window หญิงสาวในหน้าต่างนั้น . . . 2. Girl แม่สาวน้อย . . . . . . 3. Entrap กับดักหลังกระจก . . . 4. Donor ผู้บริจาค…
-
Rachel Shenton ขึ้นรับรางวัลออสการ์พร้อมทำภาษามือประกอบ ตามสัญญาที่ให้ไว้กับดาราเด็ก
ในวันที่ 5 มีนาคม 2018 ถือเป็นวันที่สำคัญมากๆ สำหรับวงการภาพยนตร์ระดับโลก เพราะถือเป็นวันที่มีการประกาศรางวัลออสการ์นั่นเอง แน่นอนว่าเหล่าคนดังก็ต่างพากันตบเท้าเข้ามาร่วมงานกันเพียบ และหนึ่งในรางวัลที่มีการประกาศออกมา หนังสั้นเรื่อง The Silent Child ก็ถือเป็นหนึ่งผลงานที่คว้าชัยชนะในสาขาภาพยนตร์สั้นยอดเยี่ยมไป เพียงแต่ความวิเศษของรางวัลนี้มันไม่ได้อยู่ที่ตัวหนังเพียงอย่างเดียว มันกลับอยู่ที่ตัวนักแสดงด้วย โดยวินาทีที่รางวัลได้ถูกประกาศ Rachel Shenton นักแสดงนำของเรื่องก็ได้ขึ้นไปรับรางวัลตามปกติ แต่ที่พิเศษคือระหว่างที่พูดขอบคุณสำหรับรางวัล เธอได้ทำภาษามือตามไปด้วยโดยเธอให้เหตุผลว่า “ฉันทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับนักแสดงนำอีกคนวัย 6 ขวบ ซึ่งฉันสัญญาว่าจะพูดและทำภาษามือไปพร้อมกัน ขอโทษด้วยที่อาจจะพูดได้ไม่ดี เพราะตอนนี้มือฉันสั่นไปหมด” The Silent Child เป็นหนังสั้นความยาว 20 นาที ที่ได้ Rachel Shenton และ Maisie Sly หนูน้อยวัย 6 ขวบมาเป็นนักแสดงหลัก และยังได้ Chris Overton เป็นผู้กำกับนั่นเอง ตัวหนังนั้นจะมุ่งเน้นไปที่การพูดถึงเด็กคนหนึ่งที่เกิดมาเป็นใบ้และหูหนวก…
-
3 ตูบพี่น้องตัวจิ๋ว แม้ว่าน้องเล็กสุดจะไม่ได้ยินเสียง แต่ยังไงพวกเราก็จะไม่ทิ้งกัน…
เรื่องราวของ 3 พี่น้องตัวจิ๋วที่ต้องเผชิญชะตากรรมชีวิต เตร็ดเตร่เร่ร่อนดูแลกันและกันมาโดยตลอด จนในที่สุดพวกมันก็ได้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข นี่คือ Bo Daisy และ Luke พวกมันทั้งสามต้องอยู่ข้างถนนมาก่อนที่จะถูกส่งตัวมายังศูนย์พักพิง ย้อนกลับไปในช่วงที่มันเพิ่งอายุได้ 6 เดือน พวกมันทั้งสามไม่สามารถแม้แต่จะเดินให้เป็นเส้นตรงได้ แต่ด้วยความเชื่อเหลือจากเจ้าหน้าที่ พวกมันก็ได้รับที่อยู่อาศัย จนเมืื่อพวกมันโตขึ้นเรื่อยๆ เจ้าหน้าที่ก็สังเกตเห็นว่า น้องเล็กสุด (Luke) มีอาการหูหนวกไม่ได้ยินเสียง และไม่สามารถห่าเปล่งเสียงออกมาได้ ภายใต้การดูแลของ Mr. Bones and Co ศูนย์ช่วยเหลือสุนัขประจำเมืองนิวยอร์ก ได้นำตัวพวกมันไปรักษากับสัตวแพทย์ พร้อมทั้งฉีดวัคซีนป้องกันโรคที่จำเป็นให้ แต่ดูเหมือนว่าใน 3 พี่น้องกลุ่มนี้ เจ้าน้องเล็กสุดจะเรียนรู้อะไรต่างๆ ได้ช้ากว่าพี่ๆ เมื่อสัตวแพทย์วินิจฉัยและพบว่าเจ้า Luke มีอาการหูหนวก และไม่สามารถส่งเสียงได้ พวกเขาก็พยายามที่จะดูแลมันอย่างใกล้ชิดมาเสมอ แต่สิ่งที่น่าประทับใจกว่าคือเรื่องราวของการดูแลกันและกัน “พวกมันดูแลกันและกันไม่เคยห่างเลยค่ะ ส่วนพวกพี่ๆ ก็ไม่คิดจะทิ้งน้องเหมือนกัน ไม่ว่าจะวิ่งเล่น นอนหลับ…
-
ศิลปินให้กำเนิด “ใบหน้าบนผ้าปลิว” ผลงานภาพถ่ายสุดแหวก ที่มาจากคนแปลกหน้า!!
ภาพงานศิลป์สุดเจ๋ง เมื่อช่างภาพชาวเกาหลี Wonjun Jeong ได้ร่วมมือกับ Sailors Studio สร้างผลงานภาพสุดแปลกขึ้น โดยใช้ภาพของคนแปลกหน้าผสมกับผ้าที่ปลิวไปตามแรงลม… ผลงานการร่วมมือกันชิ้นนี้มีชื่อว่า Conversations โดยมีแนวคิดเกี่ยวกับคนแปลกหน้าที่เราพบเจอกันทุกวัน เพียงแต่ว่าเราไม่รู้จักพวกเขา อาจจะจำได้แค่ใบหน้าลางๆ เหมือนกับผ้าบางๆ ที่ปลิวไปตามลม ทางด้านเทคนิคการถ่าย พวกเขาก็ได้โยนผ้าขึ้นไปให้ปลิวไปตามธรรมชาติและแรงลมในสถานที่ต่างๆ จากนั้นก็เก็บภาพดังกล่าวมาพร้อมเพิ่มใบหน้าของคนแปลกหน้าที่พวกเขาเจอลงไป กลายออกมาเป็นผลงานชิ้นนี้ ผลงานเหล่านี้ต่างมีเรื่องเล่าในแบบของตัวเอง บางรูปดูแล้วก็ให้ความรู้สึกเหมือนจิ๊กซอว์ที่ขาดหายไป เราอาจจะจำหน้าคนแปลกหน้าคนนั้นได้เลือนลางแต่ก็ไม่ทั้งหมด เช่นเดียวกับคนในผ้าที่บางรูปมีปาก แต่ไม่มีหน้า ซึ่งก็หมายความว่าเราอาจจะจำปากคนแปลกหน้าได้แต่ส่วนอื่นอาจจะจำไม่ได้ ภาพของคนแปลกหน้าที่เลือนลาง บางครั้งเราอาจจะจำได้แค่บางส่วนบนใบหน้าของพวกเขา หรืออาจจะเกือบทั้งหน้า แต่ก็ไม่หมด มันก็เหมือนกับผ้าที่ปลิวไปตามแรงลม ถ้าเราคว้าผ้าไว้ เราอาจจะได้รู้จักคนแปลกหน้าที่อยู่ในผ้านั้น หรือเราอาจจะปล่อยให้ผ้าปลิวตามลมต่อไป และให้พวกเขาได้ใช้ชืวิตในโลกใบเดียวกันแบบคนแปลกตาต่อไป… แต่ยังไงก็ตาม ผลงานนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีทีเดียวล่ะ ทั้งตัวผ้าและใบหน้าของคน ทำออกมาได้เข้ากันสุดๆ ที่มา sobadsogood
-
ลาที่เกือบตาย กลายมาเป็นนักบำบัดประจำตัวสาวน้อย และช่วยทำให้เธอพูดได้อีกครั้ง
เป็นอีกเรื่องราวที่ชวนให้ซึ้งกินใจน้ำตาไหลจนต้องขอแชร์เลยก็ว่าได้ เรื่องมันมีอยู่ว่าก่อนหน้านี้เจ้าลา Shock ถูกช่วยเหลือมาจากชาวนาใจร้าย ที่มัดมันติดไว้กับเสา และไม่ยอมดูแลจนผอมแห้งเหลือแต่กระดูก หลังจากนั้นมันก็ถูกย้ายมาอาศัยอยู่ที่ศูนย์ช่วยเหลือลาในเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ และนั่นก็เป็นที่ๆ มันได้เจอกับสาวน้อย Amber ผู้เกิดมาพร้อมความผิดปกติของร่างกาย เจ้าลา Shock หนูน้อย Amber ตอนเกิดมาเธอหายใจไม่ออก คุณหมอจึงจำเป็นต้องต่อท่อช่วยหายใจให้เธอ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการที่เธอไม่สามารถพูดเปล่งเสียงออกมาได้ ‘ลูกสาวของเราเธอเกิดมาพร้อมกับโรคสมองพิการ เป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะขยับร่างกายไปไหนมาไหน และเธอก็ไม่สามารถพูดเปล่งเสียงออกมาได้ มีเพื่อนของเราแนะนำมาว่า เราสามารถบำบัดเด็กที่ป่วยโรคนี้ด้วยการใช้ลาได้ ในฐานะที่เราเป็นพ่อแม่ก็อยากจะทำทุกอย่างเพื่อลูก และเราก็พบว่ามันน่าอัศจรรย์ใจมากจริงๆ’ Julian Austwick คุณพ่อของหนูน้อยเล่า สำหรับ Shock แล้ว หนูน้อย Amber ก็ถือเป็นคนไข้คนแรกของมันเหมือนกัน ทั้งคู่ดูจะเข้าขากันได้ดีเอามากๆ และการฝึกขี่ลา ช่วยทำให้สาวน้อย Amber ได้รู้จักบริหารกล้ามเนื้อด้วยตนเอง ซึ่งมันก็ส่งผลดีต่อเธอในระยะยาว จนกระทั่ง Amber อายุได้ 3 ขวบ เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดกล่องเสียงให้สามารถพูดได้อีกครั้ง แต่ก็ใช่ว่าผ่าตัดเสร็จแล้วจะพูดได้ทันทีเลย หนูน้อยต้องใช้เวลาในการฝึกอยู่พอสมควร และวันหนึ่งสิ่งที่เป็นเหมือนราวกับปาฏิหาริย์สำหรับคนเป็นพ่อแม่ก็ได้เกิดขึ้น หลังจากที่ลูกสาวได้เข้าคอร์สบำบัดกับเจ้าลาเสร็จแล้ว จู่ๆ ลูกสาวก็พูดออกมาว่า ‘ฉันรักเธอนะช็อคกี้’…
-
หญิงสาวดีใจสุดๆ ที่ได้งานใหม่ เลยถ่ายรูปงานหมั้นกับ “ใบตอบรับเข้าทำงาน” จนดังทั่วเน็ต!!!
นี่คือเรื่องราวชีวิตของนางสาว Benita Abraham ผู้ได้พบรักกับสิ่งที่ไม่ใช่คน แต่กลับเป็นใบตอนรับเข้าทำงานในที่ที่เธอฝันว่าอยากทำงานที่นี่มาโดยตลอด หลังจากว่างงานมานานกว่า 7 เดือน ตอนนี้เธออายุ 37 ปีแล้ว ควรมีงานทำแบบจริงจังซักที จนกระทั่งเธอได้รับใบตอบรับให้เข้าทำงานตำแหน่ง Healthcare Administration ทำเอาเธอเก็บอารมณ์ไม่อยู่ ก็เลยทำการออกไปถ่ายรูปสุดหวานกับใบตอบรับนั่นซะหน่อย จนโด่งดังไปทั่วโลกออนไลน์ “ในที่สุดฉันก็เจอคู่แท้แล้วค่ะ เข้ากันได้ดี ที่ร๊าก” เธอเขียนไว้ในเฟซบุ๊กของเธอ “หลังจาก 7 เดือนที่รอมานาน ฉันก็ได้เจองานที่เหมาะและบริษัทที่ดูแลพนักงานเป็นอย่างดี และฉันจะได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย” และตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะกังวลเพราะมันดังเกินไป กลัวว่าบอสใหม่ของเธอจะเห็นเข้า “ฉันก็กังวลนิดๆ แต่ดูเหมือนเขา(บอส) จะบอกว่ามันน่ารักดี ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก” . . . . . . ที่มา boredpanda