Tag: ไต้หวัน
-
สาวไต้หวันขี่จักรยานยนต์ แต่ “ถนนไม่ดี” เลยเสียหลัก ตัวไถลไปขวางล้อรถบัส ดับคาที่
การขับขี่จักรยานยนต์ใกล้กับรถใหญ่มากๆ นั้นเป็นสิ่งอันตรายที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น “รถใหญ่” อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น ลองชมตัวอย่างจากเหตุการณ์ต่อไปนี้ เมื่อสาวชาวไต้หวันคนหนึ่งขับขี่จักรยานยนต์เบียดข้างๆ รถบัสขนาดใหญ่ แล้วเกิดสะดุดพื้นถนน ทำให้รถล้มลงจนร่างของเธอไหลเข้าหารถบัส หญิงสาววัย 27 ปีสกุล Xu ผู้ที่เป็นนักศึกษาปีที่สองของสถาบันวิจัยในมหาวิทยาลัยการป้องกันชาติ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของเธอเพื่อไปเข้าเรียนในเวลา 09.00 น. ของวันที่ 4 ธันวาคม 2018 เธอขับขี่มาอย่างปกติ แต่ขณะที่เธอขับมายังบริเวณถนน Tamsui Pingding เธอก็ตั้งใจจะแซงรถบัสคันหนึ่งจากทางด้านซ้ายมือของเธอ แต่กลับเคราะห์ร้ายเพราะพื้นถนนต่างระดับ ทำให้ยานพาหนะของเธอเสียหลักและคว่ำลง ตัวของเธอหลุดออกจากรถและไถลเข้าไป “ใต้ล้อ” ของรถบัส ร่างของเธอถูกทับ เสียชีวิตคาที่ กลายเป็นอีกหนึ่งอุบัติเหตุน่าสะเทือนใจของการใช้รถใช้ถนน จังหวะที่รถล้มลงและร่างของเธอก็ไกลเข้าไปขวางใต้ล้อของรถบัส ชมคลิปได้ที่นี่ ทางฝั่งของ Lu คนขับรถบัสวัย 62 ปีเล่าว่าวันนี้เขาเองก็กำลังขับรถพาเด็กนักเรียนจำนวนหนึ่งไปส่งยังสถานที่ทัศนศึกษา เขาบอกว่าเขาไม่รู้สึกเลยขณะที่เกิดเหตุน่าสลดใจนี้ขึ้น กระทั่งรถบัสอีกคันหนึ่งที่ตามหลังมาแจ้งว่าพบผู้บาดเจ็บถูกรถเหยียบ จากนั้นพวกเขาก็รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็ได้รีบติดต่อญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิตทันที ส่วนคนขับรถก็เข้ารับการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ ปรากฏว่าไม่พบแอลกอฮอล์แต่อย่างใด ล่าสุดคดีดังกล่าวก็ยังคงอยู่ในกระบวนการสืบสวนสอบสวน ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ ณ…
-
หนุ่มไต้หวัน ‘แกล้ง’ ถูกรถชน… แต่ไม่เนียน เลยตีหน้าซื่อลุกเดินเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ปัจจุบันนี้มีผู้คนที่ออกมาหารายได้ด้วยการ “แกล้งถูกรถชน” เป็นจำนวนมาก ถึงแม้ว่าอาจจะมีความเสี่ยงที่จะเจ็บตัวจริงๆ แต่หากทำสำเร็จ พวกเขาก็สามารถเรียกค่าเสียหายได้สูงทีเดียว การหากินด้วยวิธีทุจริตเช่นนี้อาจใช้ได้ดีเมื่อไม่มีหลักฐานหรือพยานพบเห็น แต่ในยุคที่ข่าวบนสังคมออนไลน์แพร่กระจายอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยวนาที ผู้หากินอย่างทุจริตเหล่านี้ก็ถูกตีแผ่ให้สังคมได้รู้เท่าทัน เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไต้หวัน ผู้ใช้รถใช้ถนนคนหนึ่งได้บันทึกภาพของชายเดินเท้าคนหนึ่งเอาไว้ คลิปวิดีโอดังกล่าวบันทึกภาพขณะที่ขายคนนั้นกำลังแกล้งล้มราวกับถูกรถชนพอดิบพอดี บนถนน Zhongshan ย่าน Shalu เมือง Taichung ในประเทศไต้หวัน ขณะที่รถของผู้บันทึกภาพกำลังขับตรงไป ชายเสื้อสีขาวที่เดินอยู่ข้างทางก็เห็นรถคันนี้และพยายามเดินเข้ามากลางถนน เขาค่อยๆ ก้าวให้ช้าลง กะจังหวะที่รถจะมาถึงตัวเขาจากนั้นเขาก็ทำเป็นล้ม แต่โชคไม่ดีที่เขากะจังหวะได้ผิดพลาด ทำให้เขาล้มลงอย่างไม่เนียนต่อหน้าคนขับรถคันที่เป็นเป้าหมาย ชมคลิปได้ที่นี่ ล้มไกลมากกก เหมือนเขาเองก็จะรู้ตัวว่าล้มไกลเกินไป จะหลอกว่าถูกชนอย่างไรก็คงไม่เนียนสุดๆ ทันทีที่เขาคิดได้ว่าแผนไม่สำเร็จ เขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินจากไปอย่างหน้าตาเฉย ปล่อยให้คนขับรถคันนี้ต้องงุนงงเพียงลำพัง ชาวเน็ตที่พบเห็นเหตุการณ์นี้บนโลกออนไลน์ต่างก็เข้ามาคอมเมนต์กันจำนวนมาก เช่น… “นี่มันเป็นศิลปะชัดๆ” “เอาไปแค่ 87 คะแนนพอ มันไม่เนียน” “อารมณ์แบบเนียนล้มแล้วนึกขึ้นได้ว่าต้องไปหาหมองี้” “ฉันจะนำกลับไปฝึกซ้อม ครั้งหน้าเจอกันเนียนกว่านี้แน่” ที่มา: ck101 และ tw.lifestyle
-
ชมภาพ ‘ผู้ลงสมัครเลือกตั้ง’ เขตหนึ่งของไต้หวัน ที่ “น่ารัก” จนหนุ่มๆ ต้องลุกฮือ!!
มักจะเป็นที่ฮือฮาอยู่เสมอเมื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเมืองดันกลายเป็น “สาวงาม” อย่างเช่น ล่าสุด น้องจินนี่ ลูกสาวของคุณสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ก็โด่งดังไปทั้งประเทศเพราะรูปโฉมที่งดงามน่ารักนั่นเอง วันนี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันก็เกิดขึ้นในไต้หวัน ผู้คนต่างฮือฮาอย่างมากเมื่อเห็นสาวงามคนหนึ่งในงานเลือกตั้ง แต่เธอไม่ใช่ลูกสาวของนักการเมืองแต่อย่างใด เธอเป็นหนึ่งใน “ผู้ลงสมัครเลือกตั้ง” ต่างหาก ชื่อของเธอก็คือ Chen Kedi เป็นตัวแทนลงสมัครเลือกตั้งในเขตหนึ่งหรือเขตซองเฮ ในนครไทเปของไต้หวัน โดยในวันออกเดินหาเสียง Kedi ได้กวาดเอาเสียงตอบรับจากหนุ่มๆ ไปถล่มทลาย กระทั่งคนพูดต่อๆ กันเลยว่า เธอคือผู้สมัครเลือกตั้งที่ “สวยที่สุด” ในไต้หวันเลยทีเดียว สวยแบบนี้ใครจะไปคิดล่ะว่าเธอจะหันมาเล่นการเมืองกับเขาด้วย Chen Kedi ผู้ลงสมัครเลือกตั้งเขตหนึ่ง . เห็นเข้ามาพัวพันกับการเมืองแบบนี้ Kedi ต้องมีมากกว่าความสวยแน่นอน ปัจจุบันเธอเป็นครูสอนภาษาอังกฤษสำหรับโลกไซเบอร์ เป็นครูกวดวิชา และยังเป็นนางแบบทั่วไปอีกด้วย Kedi จะนับว่าเป็น เน็ตไอดอล คนหนึ่งก็ได้เพราะเธอเองก็ค่อนข้างมีชื่อเสียงมากบนโลกออนไลน์ Kedi เติบโตมาในเขตยองเฮตั้งแต่เด็ก เธอจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านภาษาต่างประเทศ ทำให้เธอมีทักษะด้านภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นที่ดีเยี่ยม และที่สำคัญเธอชื่นชอบการเมืองมากๆ โดยในปี 2018 นี้เองที่เธอตัดสินใจเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค Youth Sunshine ของเขตดังกล่าว…
-
ชาวเน็ตสาวใช้ Google ส่องหน้าบ้านตัวเอง พบชายแปลกหน้า ‘ส่องกล้อง’ เข้ามาในบ้าน!
เชื่อว่าหลายคนคงเคยใช้ Google Street View กันมาบ้าง มันเป็น “โปรแกรมแผนที่” ที่สามารถแสดงภาพถ่ายจริงๆ ของพื้นที่ที่เราต้องการได้ ในแง่ของการใช้งานนั้น Google Street View นับว่ามีประโยชน์มากเพราะมันช่วยให้ผู้ที่ขี้หลงงงเส้นทางสามารถหาเส้นทางไปสู่จุดหมายได้แม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากจะมีประโยชน์ด้านการหาเส้นทางแล้ว มันยังทำอย่างอื่นได้ด้วยนะ! ชาวเน็ตสาวชาวไต้หวันคนหนึ่งออกมาเล่าว่า ในวันที่เธอกำลังเล่น Google Street View เพื่อแก้เบื่ออยู่นั้น เธอก็คลิกมาดูภาพบริเวณหน้าบ้านตัวเอง เธอเห็น ชายคนหนึ่ง มายืนอยู่ด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าบ้านเธอ เมื่อสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่า ชายคนดังกล่าวถือ “กล้องส่องทางไกล” อยู่ในมือและหันหน้าเข้าไปในบ้านของเธอ นั่นทำให้เธอเกิดความรู้สึกกลัวที่จะออกไปถาม และรู้สึกสูญเสียความเป็นส่วนตัวอย่างมากอีกด้วย เธอจึงนำภาพที่ได้มาโพสต์ถามผู้คนบนโลกออนไลน์ว่าควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ หลังจากโพสต์ภาพออกไปก็มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์กันมากมาย ซึ่งจะช่วยให้หญิงสาวคนนี้หายกังวลได้หรือไม่ ลองมาชมกัน… “นี่เป็นพนักงานเก็บค่าไฟหรือเปล่า? พวกเขาน่ะมักถูกเข้าใจผิดเป็นประจำเลยนะ” “น่าจะมาตรวจมิเตอร์น้ำหรือไฟสักอย่าง” “คงมาตรวจมิเตอร์แหละ ลองดูสิว่ามาทุกวันหรือเปล่า” “น่าจะเป็นคนเก็บค่าไฟนะ” ไม่รู้ว่าชายในภาพเป็นใครกันแน่ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเหตุการณ์นี้สร้างความหวาดกลัวให้เจ้าของบ้านอย่างมากเลยล่ะ ที่มา: ck101
-
Jane Lana จากนางพยาบาลสู่การเป็น “นางแบบ” ล่าสุดมี Photo Book ของตัวเองแล้ว
ก่อนหน้านี้เป็นที่ฮือฮาในได้หวันอย่างมากที่มีภาพของ นางพยาบาลสาว คนหนึ่งผู้มีใบหน้าอันน่ารักและงดงามจนครองใจชายหนุ่มทั่วประเทศ พยาบาลสาวคนนั้นนามว่า Jane Lana ก่อนหน้านี้ ภาพที่เธอสวมเครื่องแบบพยาบาลแล้วอุ้มเด็กน้อยคนหนึ่งเอาไว้ก็กลายเป็นภาพสุดโด่งดังบนโลกออนไลน์ของไต้หวัน Jane Lana จนล่าสุด ชายหนุ่มทั้งหลายจะได้เชยชมความงดงามของ Jane Lana พยาบาลสาวคนนี้ได้อย่างจุใจแล้ว เพราะว่า เธอได้ถ่ายแบบลงหนังสือภาพหรือ Photo Book ของตัวเองเป็นที่เรียบร้อย จากพยาบาลสาวที่ดูแลคนไข้อยู่ในโรงพยาบาล ด้วยกระแสของโลกออนไลน์ทำให้เธอผันตัวมาเป็นนางแบบบน Photo Book ซึ่งมีทั้งภาพความงามภายนอกและ “ภายใน” ของเธอกันเลยทีเดียว Jane Lana กับ Photo Book ของเธอ น่าหามาเชยชมจริงๆ อวยกันมาขนาดนี้ จะไม่ให้เห็นภาพถ่ายของเธอก็ดูจะใจร้ายไปหน่อย เอาเป็นว่าเราไปชมตัวอย่างภาพถ่ายสุดงดงามและเซ็กซี่ของ Jane Lana ใน Photo Book ของเธอกันหน่อยดีกว่า ลุย!!! อะเฮือกกก~ . . . โมเมนต์ใสๆ กับ…
-
สาวไต้หวันเผยประสบการณ์ “เปลี่ยนแปลงตัวเอง” 5 ปี จนกลายเป็น ‘สาวหวาน’ สุดน่ารัก~
วันนี้เรามาว่ากันด้วยเรื่องของการ “เปลี่ยนแปลงตัวเอง” โดยเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอกที่หลายคนคิดว่ามันถูกกำหนดมาให้เรามีหน้าตาและรูปร่างเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เปลี่ยนแปลงได้ยาก ก็อาจจะจริงที่เปลี่ยนแปลงได้ยาก แต่ก็ใช่ว่าจะปรับมันไม่ได้สักหน่อย สาวชาวไต้หวันสมาชิกเว็บไซต์ Dcard คนหนึ่งได้มาแชร์เรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากหญิงที่โคตรแมนจนกลายเป็นหญิงสาวแสนน่ารักมันไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันแต่อย่างใด หญิงสาวไม่เปิดเผยชื่อสกุลเล่าว่าย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้วเธอเป็นหญิงสาวสูง 168 เซนติเมตร มีผิวคล้ำเพราะชอบเล่นกลางแดด ช่วงมัธยมต้นเธอมีสิวขึ้นนับไม่ถ้วนเนื่องจากการนอนดึกและความเครียดจากการสอบ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่เด็กจนโต เผยว่า เขาไม่ได้ชอบผู้หญิง “แมนๆ” แบบเธอเลยแม้แต่น้อย นั่นทำให้เธอรู้สึกผิดหวังกับความรักและรูปลักษณ์ของตัวเองอย่างมาก ขณะที่เธอขึ้นชั้นมัธยมปีที่ 5 ขณะที่นักเรียนรุ่นเดียวกันหันมาสนใจการแต่งตัวเสริมสวย แต่เธอกลับไม่สนใจอะไรเลย จนวันเกิดปีที่ 18 ของเธอ ศิลปินที่เธอชอบมาเล่นคอนเสิร์ตในไต้หวัน เธอจึงบอกกับทางวงดนตรีดังกล่าวว่าวันนั้นเป็นเกิดของเธอ แต่พวกเขากลับไม่สนใจเธอเลย เธอจึงเกิดคำถามว่านั่นเป็นเพราะเธอ “ไม่สวย” อย่างนั้นหรือ? จากนั้นเธอก็เริ่มมีความคิด “อยากสวย” ขึ้นมาตั้งแต่วันนั้น… จากเหตุการณ์ในวันนั้นเธอจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงการแต่งกายของตนเอง ด้วยความที่เธอเป็นหญิงเอเชียที่ตัวค่อนข้างสูงจึงทำให้หาเสื้อผ้าใส่แล้วเหมาะสมได้ง่าย เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เธอเริ่มสนใจเรื่องความงาม เริ่มมีการใช้เครื่องสำอาง สนใจการแต่งหน้า และการดูแลรูปร่าง จากนั้นพัฒนาการความงามของเธอก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ … …
-
เตือนสาวๆ!! หนุ่มหื่นแอบถ่าย “ใต้กะโปรง” ขณะหญิงสาวกำลัง ‘จดจ่อ’ กับหนังสือในร้าน
ในยุคสมัยที่ มนุษย์ กลายเป็นภัยอันตรายอย่างหนึ่งของมนุษย์ด้วยกันเอง ไม่ว่าจะออกไปที่ไหนก็ต้องระวังตัวเอาไว้ให้มาก โดยเฉพาะสาวๆ ที่มักเดินทางคนเดียว บางครั้งคุณอาจอยู่ใกล้ๆ กับ “ชายไม่ประสงค์ดี” ก็เป็นได้ ถือได้ว่าเป็นอุทาหรณ์ให้กับสาวๆ สำหรับเหตุการณ์ที่จะนำมาเสนอต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์เกิดขึ้นในร้านหนังสือแห่งหนึ่งในเมืองหลัวตง ของไต้หวัน ภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้ว่าเมื่อราวๆ 15.00 น. ของวันที่ 6 กันยายน 2018 หญิงคนหนึ่งที่ยืนเลือกหนังสืออยู่ในร้านถูกชายอีกคนในร้านแอบใช้กล้องถ่าย “ใต้กระโปรง” ของเธอโดยทำทีว่ามาเลือกหนังสือ ขณะที่หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำกำลังอ่านหนังสืออย่างใจจดใจจ่อ ชายเสื้อสีขาวที่อยู่ใกล้ๆ ก็แอบนั่งลงและยื่นแขนเข้าไปใต้กะโปรงระหว่างขาทั้งสองข้างของเธอ แล้วใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเอาไว้ คลิปวิดีโอเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดของร้านหนังสือ ชายในคลิปแอบนั่งยอง เขาสอดแขนเข้าไปใต้กะโปรงของหญิงสาวและแอบถ่ายรูปเป็นเวลาราว 3 วินาที เมื่อเสร็จแล้วเขาก็ลุกยืนทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะเดียวกันหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายก็ไม่อาจรู้สึกตัวได้ว่าตนกลายเป็นเหยื่อของชายคนนี้ไปเสียแล้ว เมื่ออ่านบทความนี้แล้วหวังว่าสาวๆ จะมีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะปัจจุบันคนเรามัน “รู้หน้าไม่รู้ใจ” จริงๆ ที่มา: ck101 และ youtube
-
หนุ่มอังกฤษคนเดิม โผล่เกาหลีทำคลิป “แอ้มสาว” ไม่ซ้ำหน้า ชาวเน็ตเดือดอีกรอบ!!
นักท่องเที่ยวหนุ่มสัญชาติอังกฤษนามว่า Nick Coakley หลังจากเดินทางมาเที่ยวยังประเทศไทยและไปต่อที่ไต้หวันพร้อมแล้ว เป้าหมายต่อไปของเขาก็คือ ประเทศเกาหลีใต้!! ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า เป้าหมายการท่องเที่ยวของเจ้าหนุ่ม Nick Coakley นั้น คือการทำคลิปวิดีโอในลักษณะของการเกี้ยวสาวและเผยแพร่คลิปออกมาให้ติดตามบนโลกออนไลน์ โดยปกติแล้ว Nick จะถ่ายทำวิดีโอที่เกี่ยวกับการไล่หลีหญิงเอเชียแบบสุ่มๆ เอาตามที่ตัวเองชอบ เขาจะเข้าไปทักทาย แนะนำตัว แล้วก็ต่อด้วยประโยคทำนองว่า น่ารักดี อยากทำความรู้จัก อยากเป็นเพื่อน ล่าสุดเมื่อวันพุธที่ 29 สิงหาคม 2018 Nick ได้อัปโหลดคลิปวิดีโอใหม่ลงบนช่องยูทูบของเขา เป็นวิดีโอเกี่ยวกับการท่องเที่ยววันแรกในประเทศเกาหลีใต้ หนุ่ม Nick กับวันแรกในเกาหลีใต้ เขาระบุว่า เขาจะเข้าไปทำความรู้จักสาวๆ อย่างไม่เหนียมอาย เพื่อขอทำความรู้จักและขอข้อมูลสำหรับติดต่อ เขาเขียนอธิบายวิดีโอไว้ด้วยว่า “วันแรกในเกาหลีของผม สาวๆ ที่นี่ใจดีมากแถมเป็นมิตรสุดๆ พวกเธอคุยง่ายมากและสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้อย่างง่ายดาย เจ๋งมาก!” ตอนนี้ Nick ถามสาวเสื้อดำว่า “คุณมีแฟนหรือยังเอ่ย? ผมเป็นแฟนคุณได้ไหม?” เธอดูท่าทางลังเลเขาจึงพูดต่อว่า “มันโอเคนะ ผมก็ผิวขาวเหมือนกัน ดูสิผิวผมขาวใช่ไหมล่ะ?” แถมหลังจากนั้นเจ้า Nick…
-
พลเมืองดีไต้หวัน ช่วยเหลือคนที่ “รถเสียขยับไม่ได้” ด้วยการ “อุ้ม” มันไปยังร้านซ่อม…
ซูเปอร์ฮีโร่น่ะไม่ได้มีแค่ในหนังหรือการ์ตูนเท่านั้น มนุษย์อย่างเราก็อาจกลายเป็นฮีโร่ได้โดยไม่ต้องมีพลังพิเศษใดๆ ขอเพียงแค่ใช้ความสามารถที่มีในการ ช่วยเหลือผู้อื่น ได้ก็พอแล้ว ล่าสุดในไต้หวัน แค่เพียงเหตุการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้น ก็สามารถสร้างคนธรรมดาให้กลายเป็นฮีโร่ได้ เมื่อชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามาช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหารถจักรยานยนต์เสีย… หลายคนคงเคยประสบปัญหารถดับกลางถนน เช่นเดียวกับเจ้าของเรื่องรายนี้ที่จู่ๆ รถจักรยานยนต์ของเขาก็ดับขณะขับขี่อยู่บนทางจักรยานยนต์ โดยไม่ทราบว่าสาเหตุเกิดจากน้ำมันหมดหรืออะไรกันแน่ แต่เมื่อเข็นไปสักพักมันก็สตาร์ตติดแต่กลับดูเหมือนว่าจะเกิดความเสียหายเกิดขึ้นเล็กน้อยทำให้ล้อหลังของรถนั้นล็อกไม่สามารถขับขี่ต่อไปได้ ในขณะที่กำลังงุนงงอยู่กับวิธีแก้ไขปัญหา ชายคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาเสนอความช่วยเหลือ ในเมื่อมันขี่ไม่ได้ แถมยังเข็นต่อไปไม่ได้อีก ชายกำยำล่ำสันผู้ปรากฏกายมาราวกับฮีโร่จึงตัดสินใจ ยกมันขึ้นมา ทั้งคันเลย… ขี่ไม่ได้ เข็นไม่ได้ ก็คงต้อง “ถือ” มันไปเท่านั้นแหละนะ อึ้บบ!! ชายคนนี้ยกรถจักรยานยนต์ทั้งคันขึ้นราวกับว่าอุ้มลูกหมา แถมเขายังเดินต่อไปอีกกว่า 100 เมตร จนกระทั่งถึงร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ชมคลิปวิดีโอของฮีโร่หนุ่มคนนี้กัน! ชาวเน็ตที่เข้ามาชมวิดีโอต่างพากันชื่นชมและยกย่องให้ชายหนุ่มคนนี้เป็น “เดอะฮัลค์แห่งไต้หวัน” เลยทีเดียวเชียวล่ะ ที่มา: 陳韋丞 via ck101
-
มาดูการ “จดเลกเชอร์” โคตรเทพของพยาบาลสาวชาวไต้หวัน สวยจนนึกว่าศิลปินมาจดเอง!!
การเรียนให้มีประสิทธิภาพหลายคนอาจจะเลือกวิธีการ จดโน้ต ลงบนสมุดเพื่อให้ตนสามารถกลับมาอ่านทำความเข้าใจได้อย่าง่ายอีกครั้ง แต่การจดโน้ตมันจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจได้มากน้อยขนาดไหนนั่นก็ขึ้นอยู่กับ “สกิล” การจดด้วยนะ บางคนจดด้วยลายมือเร่งรีบจนกลับมาอ่านอีกครั้งก็อ่านไม่ออกไปซะแล้ว เมื่อพูดถึงเรื่องการจดโน้ต วันนี้ก็มีเรื่องราวสุดพีคจากฝั่งไต้หวันมาให้ชมอีกแล้ว เมื่อคุณแม่รายหนึ่งโพสต์ภาพสมุดโน้ตของลูกสาวตัวเองลงบนเฟซบุ๊ก จากนั้นเมื่อชาวเน็ตหลายต่อหลายคนผ่านมาเห็นถึงกับอ้าปากค้างกันเป็นแถว เพราะ ภาพประกอบ สมุดโน้ตนั้นมันสวยงามมาก สวยจนนึกว่าศิลปินมาวาดเลยทีเดียว อะไรประมาณนี้ (วาดสวยมว๊ากกกก) และอะไรประมาณนี้ คุณแม่ที่โพสต์ภาพดังกล่าวเล่าว่าลูกสาวของตนปัจจุบันกำลังศึกษาที่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัย Fooyin ในไต้หวัน (ป้าด! นึกว่าเรียนคณะศิลปกรรมศาสตร์เสียอีก) คุณแม่รายนี้ยังอธิบายเพิ่มว่าที่ลูกสาวของตนวาดรูปประกอบการจดโน้ตได้สวยงามขนาดนี้ก็เพราะว่าตอนเด็กๆ เธอเคยเรียนวาดรูปมาก่อนนั่นเอง แต่พอโตขึ้นกลับอยากเปลี่ยนจากวาดรูปมาเป็นดูแลผู้คนมากกว่า นี่แหละโฉมหน้าพยาบาลสาวที่วาดรูปได้สวยจนคว้าใจชาวเน็ตไปเพียบ! นอกจากหน้าตาน่ารักๆ แล้วฝีมือการวาดภาพยังเรียกได้ว่าขั้นเทพเลยอีกด้วย การลงเงาและการเน้นให้เกิดมิติถือว่าทำได้อย่างชำนาญเลยล่ะ แถมการจดโน้ตของเธอยังมีระเบียบเพื่อให้อ่านได้สบายตา . . . . สาวน้อยคนนี้ทุ่มเทกับการเรียนมากเลยทีเดียวนะเนี่ย คุณครูจะว่าอย่างไรไม่รู้แต่ #เหมียวโลลิ ให้ไปก่อนเลย 100 คะแนนเต็ม!!! ที่มา: ●【爆廢公社】● via ck101
-
ขุดเจอรูปถ่าย “วัย 14 ปี” ของดาราสาวไต้หวัน ‘แม่ให้มาเยอะ’ จนน่าตกใจเลยล่ะ!!!
ดาราสาวๆ บางคนนั้นยอมรับเลยจริงๆ ว่ามีแววเป็นดาราหรือนางแบบมาตั้งแต่ยังเด็ก อย่างเช่นล่าสุดดาราและนางแบบสาวไต้หวันนามว่า 郭書瑤 หรือที่เรียกกันว่า Yaoyao นั้นมีคนไปขุดเจอรูปเธอสมัยเป็นเด็กบอกเลยว่าทำเอาหนุ่มๆ กำเดาไหลเลยทีเดียวเชียว เนื่องในโอกาสวันเกิดครบรอบ 28 ปีของเธอที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม จึงทำให้เธอกลับมามีบทบาทในสายตาของชาวเน็ตอีกครั้ง Yaoyao หรือชื่อจริงๆ ว่า Guo Shu Yao นั่นเอง Yaoyao มีผลงานการถ่ายแบบมากมาย รวมไปถึงผลงานเพลงและพิธีกร อีกทั้งยังเคยเป็นนักแสดงในภาพยนตร์รางวัลเรื่อง Campus Confidential ที่กำกับโดย Lai Junyu อีกด้วย ล่าสุดชาวเน็ตได้ไปค้นเจอรูปของ Yaoyao ที่ถ่ายและโพสต์ลงอินเทอร์เน็ตเมื่อปี 2004 หรือ 14 ปีที่แล้วนั่นเอง ซึ่งขณะนั้นตัวของเธอเองก็ยังมีอายุได้ 14 ปีอีกด้วย เมื่อเห็นภาพวัยเด็กของเธอแล้ว บอกเลยว่าเธอนั้นเป็นเด็กอายุ 14 ปีที่เรียกได้ว่า “งานดีย์” จริงๆ ส่อแววนางแบบมาตั้งแต่เด็กๆ เลยล่ะ นี่มันเพชรเม็ดงามชัดๆ Yaoyao ในวัย 14 ปี (ก็ธรรมดาๆ นะ…
-
เปิดประตูมิติ~ นักข่าวสาวจากไต้หวัน ที่ได้ชื่อว่า “ซ่อนรูป” จนชายหนุ่มหัวใจแทบวาย!!
ผู้ประกาศข่าว เป็นอาชีพที่ใช่ว่าใครก็ทำได้ แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่เก่งและมีความสามารถในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะภาษาและการสื่อสาร หลายคนโดยเฉพาะหนุ่มๆ จึงติดภาพผู้ประกาศข่าวสาวๆ ว่าต้องเป็นคนที่เก่ง ฉลาด เนี๊ยบ และเรียบร้อย แน่นอนว่าไม่เป็นที่น่าสนใจในหมู่ชายฉกรรจ์เท่าใดนัก… แต่บอกเลยว่าวันนี้ หนุ่มๆ ต้องหันมาสนใจอย่างแน่นอน เพราะผู้ประกาศข่าวสาวคนนี้ มีดีมากกว่าความสามารถแน่นอน เธอมีชื่อว่า 涂恩晨 หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ Stella Tu เป็นผู้ประกาศข่าวชาวไต้หวัน ในจอโทรทัศน์เธอไม่ได้โดดเด่นไปกว่านักข่าวคนอื่นๆ ดูเผินๆ แบบนี้ไม่มีใครรู้แน่นอน ว่าเธอซ่อนอาวุธลับอะไรเอาไว้ฆ่าชายหนุ่ม… เพื่อนๆ คงเห็นแล้วว่า ในบทบาทผู้ประกาศข่าวเธอไม่แตกต่างจากคนอื่นๆ เลย หลายคนอาจมองผ่านไปเฉยๆ แต่หากเธอถอดคราบนักข่าวออกเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ รับรองเลยว่าไม่มีหนุ่มคนไหนกล้ามองผ่านอย่างแน่นอน!!! ต่อไปนี้เราจะพาทุกท่านไปส่องชีวิตนอกการทำงานเป็นนักข่าวของสาว Stella Tu ไปดูกันว่า ผู้ประกาศข่าวสาวคนนี้ซุกซ่อนอะไรเอาไว้ใต้ชุดทำงานแสนสุภาพนั้นกันแน่ 3…2…1…ลุย!!! บึ้ม! การแต่งกายของเธอดูเรียบง่ายแต่ก็ไม่สามารถปกปิดอาวุธลับของเธอได้เลย เธอออกกำลังกายเป็นประจำ จึงไม่แปลกใจที่รูปร่างของเธอ แน่น! กระชับ! แน่นกระชับไปหมด! ตอนนี้หนุ่มๆ คงเริ่มสนใจนักข่าวคนนี้แล้วล่ะสิ…
-
หนุ่มไต้หวันถ่ายภาพขายไมโครเวฟ แต่ฝาเตาอบดั๊นสะท้อน “หรรม” ออกมาซะงั้น!!
การขายของออนไลน์นั้นเป็นที่นิยมกันอย่างมากเนื่องจากสามารถทำได้ง่าย สะดวก และเข้าถึงผู้คนได้เป็นจำนวนมาก เราอยากขายสินค้าอะไรก็เพียงแค่ถ่ายภาพแล้วอัปโหลดลงบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ข้อควรระวังก็คือ การถ่ายภาพสินค้านั้นต้องถ่ายให้สินค้าน่าสนใจ ดูน่าซื้อ และพยายามอย่าถ่ายให้ติดภาพไม่พึงประสงค์ เพราะมันอาจแย่งซีนสินค้าคุณก็เป็นได้… แต่เตือนไปก็คงไม่ทันแล้วสำหรับไอ้หนุ่มคนนี้ ที่ต้องการจะขายไมโครเวฟชิ้นใหม่เงาวับ! เงาจนกระทั่งเมื่อถ่ายรูปสินค้าเพื่ออัปลงอินเทอร์เน็ตมันกลับ สะท้อนภาพเปลือยล่อนจ้อนของพี่แกมาด้วย!! ขายไมโครเวฟชิ้นใหม่เงาวับจ้าาา… เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเอ็งต้องถ่ายมันมาตอนแก้ผ้าอยู่ด้วยฟระ!? งานนี้แทนที่ชาวเน็ตจะสนใจไมโครเวฟกลับกลายเป็นว่าหันมาสนใจ “บักหรรมขลำโอ้ก” ของพี่แกกันยกน้อยยกใหญ่เลย… ชายคนนี้ตั้งใจจะขายเตาอบไมโครเวฟชิ้นนี้ในราคา 2,800 ไต้หวันดอลลาร์ (ราว 3,000 บาท) ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าตอนนี้เตาอบไมโครเวฟชิ้นนี้ถูกขายออกไปหรือยัง ไหนดูอีกทีซิ อื้อหืม ชัดราวกับส่องกระจก หลังจากภาพนี้ได้กลายเป็นไวรัลของโลกอินเทอร์เน็ตไต้หวัน คนก็เข้ามาคอมเมนต์ให้ความสนใจกันมากมายที่เดียว เช่น… “แหม ช่างเป็นเตาอบที่ฝาปิดใสสะอาดดีจริงๆ” “สินค้าชินนี้มีโฆษณาแฝงด้วยแฮะ” “กรุณาอย่านำภาพไปเพิ่มแสงหากไม่อยากเห็นภาพอันตราย” “ฉันเห็นแล้วฉันอยากซื้อทันทีเลยล่ะ” “นี่มันไมโครเวฟสำหรับอบสาวๆ ให้ไหม้เกรียมหรือเปล่า?” และ “คิดว่าแม่ยกแม่หม้ายทั้งหลายคงมีความต้องการซื้อเตาอบชิ้นนี้ และอาจมีความต้องการ…” ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ สินค้าที่ถูกขายออกไปจะเป็นเตาอบหรือว่าตัวเจ้าของร่างเปลือยนั้นกันแน่ ฮ่าๆ (หยอกกกกก) ที่มา: metro และ ck101
-
เบื่อเที่ยวอยากแวะเล่นเกม โรงแรมเกมมิ่ง iHotel จัดเต็มทุกเครื่อง ทุกห้อง พร้อมรายชั่วโมง!!
สำหรับเกมเมอร์ที่อยากจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศหลายวัน แต่ไม่อยากพกคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คติดตัวไปด้วย เนื่องจากความยุ่งยากหรือไม่อยากแบกหนักๆ แต่ก็อยากจะเล่นเกมระหว่างเที่ยวด้วย (วันพักเที่ยว) ตอนนี้ที่ไต้หวันมีสิ่งที่เกมเมอร์สายท่องเที่ยวต้องการแล้ว เพราะว่าที่นี่มีบริการโรงแรมเกมมิ่งไว้พร้อมบริการ จัดเต็มทั้งอุปกรณ์การเล่น อุปกรณ์การนั่ง สะดวกสบายมีเครื่องให้ทุกห้อง!! ทริปไต้หวันเกมมิ่งนี่ จัดขึ้นโดยโรงแรม iHotel มาพร้อมกับเครื่องสเปค i5-7400 แรม 16GB และการ์ดจอ GTX 1080 Ti GPU เพียงพอต่อการเล่มเกมทุกประเภทในปัจจุบัน ยัดมาให้พร้อมสองเครื่องทุกห้อง!! นอกจากจะได้เครื่องคอมพิวเตอร์แรงๆ ไปเล่นระหว่างพักผ่อนแล้ว ทางโรงแรมยังให้บริการพร้อมกับเก้าอี้เกมมิ่ง DXRacer และจะตั้งอยู่ข้างกันในห้องเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องตะโกนด่ากันหากเกิดอาการหัวร้อน นั่งกระซิบหูข้างๆ กันก็ได้ ในเรื่องของเรทราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3,200 บาทต่อคืน แต่ถ้าหากไม่อยากอยู่ทั้งคืนก็มีเรทรายชั่วโมงอยู่ที่ประมาณ 383 บาทในช่วงสุดสัปดาห์ หรือจะจ่ายราคาเหมาที่ 2,400 บาทสำหรับเรท 15 ชั่วโมงก็ได้ . นอกจากจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ในห้องพักแล้ว ก็ยังมีโทรทัศน์ขนาด 46 นิ้วไว้ให้บริการสำหรับรายการแข่งขัน…
-
ไม่ยุติธรรม! สาวไต้หวันคลอดลูกแล้วอ้วน พอลดน้ำหนัก “หน้าอก” ดันไม่ลดด้วย!!?
ว่ากันว่า ผู้หญิงยามคลอดลูกแล้วรูปร่างก็จะเปลี่ยนไปทันที ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่รวดเร็วยามตั้งครรภ์ ประกอบกับอาหารต่างๆ ที่ทานเข้าไปจำนวนมาก อาจทำให้คุณแม่มือใหม่ “อ้วนขึ้น” ได้มากมายทีเดียว แต่สำหรับสาวสวยคนนี้กลับไม่เป็นอย่างที่คุณแม่มือใหม่ประสบพบเจอ หลังจากที่เธอคลอดลูกออกมาแล้ว เธอไม่ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองอ้วนขึ้นเลย สิ่งเดียวที่มันเพิ่มขนาดมากขึ้นกลับเป็น หน้าอก ซะงั้น! หญิงสาวชาวไต้หวันคนนี้ชื่อว่า Zhao Xinxin เธอได้ชื่อว่าเป็น “นักอักษรวิจิตรผู้เลอโฉม” ที่มีชื่อเสียงมากในไต้หวัน ล่าสุดในปี 2017 เธอก็ได้กลายเป็นคุณแม่ ซึ่งนั่นทำให้เธอกังวลมากว่าจะรูปร่างของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีก เธอส่องกระจกมองรูปร่างตัวเองแล้วร้องไห้ เพราะเธอรู้สึกว่าเธออ้วนขึ้น ตามแบบฉบับคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งคลอดลูกยังไงอย่างงั้น เธอจึงลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง มุ่งเน้นการออกกำลังกายและอาหารเพื่อสุขภาพ เวลาเพียงไม่กี่อึดใจ เธอก็ลดน้ำหนักตัวเองได้ถึง 18 กิโลกรัม มันทำให้เธอหุ่นเช้งกระเด๊ะกว่าเดิมอีก!! แต่ถึงจะลดน้ำหนักไปมากมาย เธอก็ยังคงมีหน้าอกและน้ำนมมากพอให้ลูก เพราะด้วยรูปร่างธรรมชาติของเธอนั้นก็เรียกได้ว่าบะละฮึ่มอยู่แล้ว ก่อนตั้งท้องเธอมีขนาดคัพหน้าอกที่ คัพ E เลยทีเดียว . ว่ากันว่าหญิงที่ตั้งครรภ์ขนาดของหน้าอกจะเพิ่มมากขึ้นเป็นปกติอยู่แล้ว Zhao Xinxin ก็เช่นกัน ขณะที่เธอตั้งครรภ์เธอบอกว่าขนาดหน้าอกของเธอเปลี่ยนจากคัพ E มาเป็น คัพ G กันเลยทีเดียว!! แถมปัจจุบันเธอลดน้ำหนักออกมากเกือบ…
-
ภาพหญิงสาว “หุ่นเซี๊ยะ” น่าเจี๊ยะคนนี้ ไม่บอกจะรู้ไหมว่าเธอคือ… หญิงอายุ 61 ปี!!!
เรื่องของวัยมันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ ต่อให้เราเป็นหนุ่มสาวที่สวยหล่อกันขนาดไหน วันหนึ่งเมื่อเราแก่ชรา สังขารที่ไม่เที่ยงของเรานั้นก็ย่อมเปลี่ยนเราให้ไปเป็นไปตามวัย ใบหน้าที่เคยใสก็หมองลง ผิวหนังที่เคยนุ่มก็หย่อนคล้อย ความหนุ่มความสาวก็จะกลายเป็นความชราอย่างสมบูรณ์ แต่เรื่องราวในวันนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นแบบที่เราคิดเสมอไป ความชราไม่อาจเอาความสาวไปจาก “คุณป้า” ที่ชื่อว่า Chen Meifeng คนนี้ได้เลย แม้ว่าเธอจะมี อายุอานามถึง 61 ปี แล้วก็ตาม แต่รูปลักษณ์ของเธอยังขาวผุดผ่อง ตึงกระชับ ราวดอกไม้แรกแย้มก็ไม่ปาน… Chen Meifeng วัย 61 ปีที่งดงามจนสาววัยรุ่นต้องอาย ล่าสุดเจ๊ใหญ่จากไต้หวัน Chen Meifeng คนนี้ ก็ได้โพสต์ภาพของตัวเองเปรียบเทียบกันระหว่าง ตัวเธอในปัจจุบันกับเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ซึ่งดูแล้วตัดสินไม่ได้เลยว่า สวยเหมือนเดิม หรือว่าสวยกว่าเดิมกันแน่!! ปัจจุบัน (ซ้าย) – เมื่อ 20 ปีที่แล้ว (ขวา) และที่เป็นจุดเด่นอันเข้าตาชาวเน็ตแบบจังๆ ก็คือมีภาพของเธอเมื่อปี 2014 (อายุ 57) ที่เผยออกมา ซึ่งเป็นภาพ Chen Meifeng ในชุดบิกินีสีชมพู…
-
บ๊างบางง “ตึกกระดาษ” ในไต้หวัน เมื่อพื้นที่ไม่เอื้ออำนวย ตึกเลยผอมเพรียวแบบนี้
ไม่รู้ว่าคนที่ผ่านไปๆ มาๆ ใน ประเทศไต้หวัน จะพบเจอกันบ้างหรือเปล่า ที่มีตึกและบ้านรูปทรงเป็นแผ่นแนวตั้งแบนๆ อยู่เกลื่อนกลาด หากใครเห็นมาก็คงต้องสงสัยกันบ้างแหละว่ามันคืออะไร มันเป็นรสนิยมการสร้างบ้านแบบใหม่ของชาวไต้หวันหรืออย่างไรกันนะ? ชาวไต้หวันเรียกสิ่งก่อสร้างแบนๆ เหล่านี้ว่า “ตึกกระดาษ” ช่างเป็นชื่อที่เหมาะจริงๆ ก็ผอมบางซะขนาดนั้น ชาวเน็ตบางรายถ่ายภาพมาถามในโลกโซเชียลว่า ในตึกแบนๆ บางๆ พวกนี้ มันอาศัยอยู่ได้จริงๆ เหรอ? แล้วถ้ามีพายุไต้ฝุ่นหรือเกิดแผ่นดินไหวขึ้นมา ตึกแบนๆ เหล่านี้คงเป็นอันตรายน่าดูเลยล่ะ จริงไหม? ซึ่งมันก็ถูกที่หลายๆ คนจะคิดเช่นนี้ แต่ว่าเจ้าตึกกระดาษพวกนี้ไม่ได้สร้างขึ้นเท่ๆ หรอกนะ มันมีเหตุผลของมันอยู่… ชาวไต้หวันเล่าว่าเนื่องจากช่วงหนึ่งมีการขยายถนน รัฐบาลมีการเวนคืนที่ดิน แต่ก็ยังมีบางคนที่่ไม่ยอมย้ายหนียังคงปักหลักบ้านและตึกของตัวเองอยู่อย่างนั้น แต่เนื่องจากการปฏิรูปบ้านเมืองใหม่ ตึกใหญ่ที่เคยมีก็กลายเป็นว่าไปตั้งทับที่ดินของรัฐเสียอย่างนั้น จึงมีการแปลงโฉมตึกต่างๆ เสียใหม่ให้เข้ากับพื้นที่ที่ตนครอบครอง ทั้งนี้เมื่อถนนมีการขยายตัว ก็มักจะมีพื้นที่เป็นสามเหลี่ยมมุมแคบบริเวณขอบถนน ซึ่งเมื่อพื้นที่ที่ใช้ได้เป็นรูปทรงนี้ไปเสียแล้ว ตึกต่างๆ รวมไปถึงบ้านจึงออกมาเป็นแบนๆ แบบนี้ด้วยนั่นเอง ถึงอยู่ลำบากก็ต้องอยู่ให้ได้ เพราะถ้าไม่อยากอยู่ที่แคบๆ มันก็จะเป็นการทำให้พื้นที่ตรงนั้นไร้ประโยชน์ ฉะนั้น ถึงพื้นที่จะแคบ ก็เลือกที่จะก่อสร้างอะไรบางๆ อย่าง…
-
ดราม่าข้ามประเทศ!! “ชาวไทย” ย่ำโขดหินสาหร่าย ฝ่ายไต้หวันแนะ “อย่าทำแบบนี้เลย..”
ตามสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามในแบบเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละประเทศ เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ต่างก็อยากจะได้รูปถ่ายสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกหรือความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยได้มาสัมผัส ณ ช่วงเวลานั้นๆ คงจะไม่ผิดเท่าไหร่นัก ถ้าหากว่าการยืนถ่ายรูปของเราไม่ได้เป็นการทำลายธรรมชาติ แต่ทว่าหลายต่อหลายครั้งก็จะเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งคนไทยหรือชาวต่างชาติก็ตาม โขดหินสาหร่าย ชายทะเลเหลาเหม่ย ประเทศไต้หวัน อย่างเช่นในกรณีของโขดหินสาหร่ายจากประเทศไต้หวัน ณ ชายทะเลเหลาเหม่ย รายละเอียดถูกเปิดเผยผ่านจากเพจ Drama-Addict มีชาวไต้หวันร้องเรียนเข้ามาว่า… มีนักท่องเที่ยวชาวไทยบางส่วนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ขึ้นไปเหยียบบนโขดหินที่มีสาหร่ายเกาะ อีกทั้งยังถ่ายรูปมาเผยแพร่ผ่านโซเชียลด้วย . ทางด้านชาวเน็ตฝั่งไทยก็ได้ออกมาย้ำเตือนให้กับผู้อื่นได้รับทราบว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ถือเป็นการทำลายธรรมชาติ และไม่ควรเอาเยี่ยงอย่างเพราะจะส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของนักท่องเที่ยวไทย ทั้งนี้ชาวเน็ตบางส่วนก็โต้แย้งว่า การขึ้นไปเหยียบสาหร่ายแบบนี้ไม่น่าจะทำให้สาหร่ายตายได้ และไม่มีป้ายตักเตือนเป็น ‘ภาษาไทย’ ในบริเวณนั้น . . อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวายและความเสียหายต่อสถานที่ท่องเที่ยวไปมากกว่านี้ จึงมาการตักเตือนส่งผ่านมายังเพจดัง เพื่อย้ำเตือนว่าไม่ควรขึ้นไปเหยียบสาหร่ายบนโขดหินโดยเด็ดขาด หากยังละเลยก็อาจจะต้องมีการทำป้ายเตือนเป็นภาษาไทย อาจจะมองได้ทางอ้อมว่า เป็นการเหมารวมพฤติกรรมนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งหมด อันที่จริงแล้ว มีการทำป้ายเตือนไว้ในบริเวณดังกล่าวด้วย เพียงแต่ไม่ใช่ภาษาไทย . . ที่มา…
-
นักธุรกิจยั๊วะจัด จองปอร์เช่ 8 ล้านพร้อมออปชั่นเสริม แต่ไม่ได้ตามสั่ง ขับชนโชว์รูมซะเลย
เมื่อกล่าวถึงมูลค่าของราคารถยนต์แต่ละคันนั้นไม่ใช่เล่นๆ ต่อให้เป็นนักธุรกิจมีเงินมากมายมหาศาลก็ตาม เพราะถ้าหากได้รถยนต์ที่ไม่ถูกต้องตามสเปก แต่จ่ายเงินออกไปแล้ว ก็ต้องมีน้ำโหกันบ้าง ว่าทำไมถึงไม่ได้ตามที่ต้องการทั้งๆ ที่จ่ายเงินไปแล้ว เหมือนเรื่องนี้… เรื่องราวชวนหงุดหงิดนี้เกิดขึ้นที่ประเทศไต้หวัน เมื่อนักธุรกิจวัย 42 ปี แซ่ Chu ผู้เป็นลูกค้าชั้นเลิศของแบรนด์ Porsche ได้ทำการสั่งจองรถรุ่น Panamera Sport Turismo ผ่านตัวแทนจำหน่ายในเดือนมกราคมปี 2017 พร้อมกับออปชั่นเสริม 4D Chassis Control ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 6,200,000 บาท บวกกับออปชั่นที่เขาต้องการก็จะมีราคาพุ่งสูงไปถึง 7,970,000 บาทเลยทีเดียว ซึ่งทางผู้ช่วยของเขาก็ได้ทำการจองรถรุ่นดังกล่าวพร้อมออปชั่นที่เขาต้องการด้วยการวางเงินมัดจำ 2,100,000 บาท แต่เมื่อรถที่สั่งจองไว้เดินทางมาถึงโชว์รูมในเดือนพฤศจิกายน กลับไม่มีของตามที่เขาสั่งเอาไว้เลย ทางด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลับบอกว่าคนมาจองไม่ได้บอกรายละเอียดออปชั่นเสริม อาจเป็นเพราะผู้ช่วยที่มาติดต่อลืมสั่งของเพิ่ม… เมื่อเจอแบบนี้ Chu ก็เกิดอาการยั๊วะจัด ปฏิเสธที่จะจ่ายค่ารถที่ยังคงค้างอยู่และเรียกร้องขอค่ามัดจำคืน ซึ่งทางโชว์รูมก็ปัดความรับผิดชอบ ไม่คืนค่ามัดจำตามคำร้องหากไม่ตกลงตามสัญญาการซื้อขาย โดยให้เวลากลับไปตัดสินใจ 5 วัน ไม่นานนัก รถ Porsche Cayenne สีขาวก็วิ่งเข้าพุ่งชนโชว์รูม…
-
โอละแม่… ชาวเน็ตสงสัย ใบหน้าป้ายหาเสียงของนักการเมืองหญิง ทำไมถึงผิดเพี้ยนเพียงนี้
เป็นธรรมดาของวงการโฆษณา เพื่อให้ได้ภาพที่สามารถดึงดูดผู้คนได้มากที่สุด ก็ต้องผ่านกรรมวิธีปรุงแต่งกันเสียก่อน นั่นจึงเกิดเป็นคำที่ว่า “ภาพนี้ตกแต่งเพื่อการโฆษณา” และสิ่งเหล่านี้ก็เกิดขึ้นกับวงการเมืองเช่นเดียวกัน อย่างนาง Wang Zhiya ผู้สมัครชิงตำแหน่งการเมืองท้องถิ่นในเมืองไทเป ไต้หวัน ได้ทำการโพสต์ภาพของตนยืนคู่กับป้ายหาเสียง แต่… ไหงดูไม่เหมือนกันเลยล่ะ อันเนื่องมาจากชาวเน็ตที่ได้เห็นภาพที่เธอถ่ายคู่กับป้ายตัวเองนั้น ดูแปลกตาไปอย่างมากเมื่อเทียบกับตัวจริงที่ยืนอยู่ข้างกัน ถึงกับแสดงความคิดเห็นเชิงสงสัยว่า “นี่เธอออกมาช่วยหลานสาวเล่นการเมืองรึเปล่า” ในขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนก็ได้ทำการค้นคว้าเพิ่มเติม และพบว่านาง Wang นั้นเคยเล่นมิวสิควิดีโอเมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งถ้าเทียบกับปัจจุบันนี้เธอก็เปลี่ยนไปมากแล้ว อย่างไรก็ตามนาง Wang ไม่ได้นิ่งนอนใจ อ่านและตอบกลับความคิดเห็นที่เข้ามาเล่นตลกกับภาพของเธอ พร้อมกับเผยเพิ่มเติมว่า “โลกแห่งความจริงมันโหดร้าย การแต่งภาพนี่แหละที่ทำให้สวยงาม” นอกจากนี้ก็สัญญาว่าจะทำการแต่งภาพให้ดูใกล้เคียงมากกว่านี้ และจะเริ่มออกกำลังกายเพิ่มให้เข้ารูปและมีรูปร่างที่ดีอย่างที่ตัวเองหวังเอาไว้ ที่มา : nextshark
-
เด็กประถมพบกล้องที่จมทะเลหายไปนานกว่า 2 ปี จากญี่ปุ่นสู่ไต้หวัน แถมยังใช้ถ่ายได้อยู่!!
เราคงคิดถึงหลายสิ่งที่เราอาจทำหล่นหายไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ อยากจะได้มันกลับมาอยู่ในอ้อมอกของเรา เมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ความหวังในเรื่องนั้นก็จะยิ่งลดลง แต่ไม่แน่ว่าเพื่อนๆ อาจจะโชคดีเหมือนอย่างเธอคนนี้ก็เป็นได้ เธอไม่ได้เป็นคนค้นพบสิ่งที่หายไปด้วยตัวเอง แต่นี่เป็นการค้นพบของเด็กชั้นประถมในประเทศไต้หวัน ช่วงต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ขณะที่ทางโรงเรียนกำลังพาเด็กๆ ไปเก็บกวาดขยะอยู่ตามริมชายหาด แล้วเด็กชายวัย 11 ขวบคนหนึ่งก็ได้เจอกับหินรูปร่างประหลาด ก้อนหินหน้าตาประหลาด เมื่อสังเกตดีๆ ให้ชัดๆ ถึงได้รู้ว่ามันคือกล้องถ่ายรูปที่สวมเคสกันน้ำอยู่ แต่ถูกเพรียงเกาะอยู่เต็มไปหมดเท่านั้นเอง เมื่อคุณครู Park Lee เห็นอย่างนั้น จึงเรียกรวมเด็กๆ ให้มาดูการค้นพบอันน่าแปลกประหลาดในครั้งนี้กัน ดูจากสภาพแล้ว มันคงจะทนใช้ชีวิตอยู่ใต้ทะเลมาอย่างยาวนาน แต่เด็กๆ ก็ช่วยกันเคาะเอาสิ่งมีชีวิตที่ติดอยู่ออกจนพบเข้ากับปุ่มถอดเคสออก เมื่อถอดออกมาเด็กๆ และคุณครูก็พบว่าตัวกล้องนั้นไม่ได้โดนน้ำเลยแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นคือมันยังมีแบตหลงเหลือสามารถเปิดขึ้นมาใช้งานได้ตามปกติอีกด้วย กล้องยังคงอยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยม แถมยังมีแบตใช้งานได้ตามปกติ อาจารย์ Park เล่าว่า ในตอนแรกเด็กทุกคนยังคงถกเถียงกันว่าควรจะเก็บเอาไว้ หรือว่าพยายามตามหาเจ้าของดี ก่อนที่สรุปแล้วทุกคนเลือกที่จะตามหาเจ้าของกล้องตัวนี้ พวกเขาจึงเปิดรูปที่มีอยู่ในกล้องซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ทว่ากลับมีเพียงภาพเดียวที่พอจะบอกได้ว่าเจ้าของเป็นใคร แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาพบว่าเจ้าของนั้นน่าจะต้องเป็นคนญี่ปุ่นอย่างแน่นอน ดูจากหลายๆ สถานที่ที่เห็นในภาพแล้ว …
-
อรั้ยย! มาดูเทพธิดาแห่ง “หมากล้อม” จากไต้หวัน ถึงไม่ชนะเลิศแต่ชนะใจเรานะ…งื้ออ
หมากล้อม หรือว่า โกะ นั้นเป็นกีฬาที่แข่งขันกันด้วยปัญญาและความคิด และยังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศทวีปเอเชีย จนกระทั่งมีการแข่งขันชิงแชมป์ระดับประเทศและระดับโลกกันเลยทีเดียว โดยในเดือนมีนาคมปี 2018 นี้เองก็ได้มีการแข่งขันหมากล้อม Senko Cup เกิดขึ้นภายใต้การดูแลของบริษัท Nihon Ki-in โดยในงานแข่งขันก็มีผู้เข้าร่วมแข่งขันมากหน้าหลายตา แต่ท่ามกลางผู้คนมากมายกลับมีดอกไม้ที่เบ่งบานและเจิดจรัสงามเด่นอยู่ดอกหนึ่ง นั่นก็คือ Joanne Missingham หรือเป็นที่รู้จักกันในฉายา เทพธิดาหมากล้อม ไงล่ะ นักกีฬาระดับเจ็ด Joanne คนนี้เป็นลูกครึ่งไต้หวัน-ออสเตรเลีย เธอมีอายุ 23 ปี ย่างเข้าปีที่ 24 แล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร เธอจึงดึงเอาความสนใจของผู้เข้าร่วมการแข่งขันหมากล้อมไปจนหมด หากใครอยากรู้รายละเอียดของเธอมากกว่านี้ ก็เข้ามารับชมกันได้ ที่นี่เลยจ้า ป้าดดดด… แม่เทพธิดาน้อย ก่อนอื่นต้องบอกไว้ก่อนว่า Joanne ไม่ได้คว้าแชมป์ไปในการแข่งขันครั้งนี้ แต่เธอก็ได้ที่ 2 ของงานมาครอง!! เดินกลับบ้านไปพร้อมกับเงินรางวัลกว่า 870,000 บาทเลยทีเดียว ว้าวววว อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาที่เด็กสาววัย 23 ปีจะเอาชนะคู่แข่งที่แก่กว่าเธอนับทศวรรษมาได้จนถึงรอบชิงชนะเลิศ ไม่ว่าใครก็ตามที่แข่งขันหมากล้อมกับเธอ…
-
นางแบบสาวโพสต์วิดีโอยอมให้จับหน้าอกกลางที่สาธารณะ ถูกชาวเน็ตวิจารณ์กันอย่างหนัก
ในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เพื่อนๆ หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นกระแสกระแสหนึ่งที่มาแรงมาก ก็คือกระแสที่คนๆ หนึ่งจะแบมือและให้เพื่อน แฟนหรือใครก็ตามนำคางมาวางเกยที่มือของพวกเขา ด้วยความน่ารักน่าชังนี้จึงทำให้มันกลายเป็นกระแสที่นิยมของวัยรุ่นชาวเอเชียไปเลย วิดีโอแสดงกระแสนำคางมาเกยที่มือเหมือนที่กล่าวมา แต่ที่ล้ำกว่ากระแสการวางคางไว้บนมือ ก็คือเมื่ออาทิตย์ก่อนได้มีหญิงสาวหน้าตาน่ารักหุ่นเซ็กซี่ได้โพสต์วิดีโอลงเพจเฟซบุ๊กของตน โดยในวิดีโอแทนที่เธอจะนำมือมาไว้บนคางตามกระแสนิยม แต่เธอกลับนำหน้าอกมาแทนให้จับแทน เรียกได้ว่าสร้างความน่าอิจฉา เอ๊ย!! สร้างเสียงฮือฮาไปทั่วโลกออนไลน์เลยทีเดียว โดยเธอคือนางแบบชาวไต้หวันที่รู้จักกันในชื่อ Yui Yui (辛尤里) เธอได้อัปโหลดวิดีโอที่มีมือของคนๆ หนึ่งกวักมือเรียกเธอเข้ามาหาและได้ทำการจับหน้าอกของเธอในที่สาธารณะของฮ่องกงและประเทศไต้หวันเช่นข้างถนน ในรถบัสและในสถานีรถไฟ ด้วยจำนวนผู้ติดตามในเฟซบุ๊กกว่า 30,000 คนและในอินสตาแกรมอีกว่า 19,200 คน ทำให้วิดีโอของเธอถูกแชร์ต่อกันไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเห็นวิจารณ์การกระทำของเธอย่างมากมาย โดยเราจะยกตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ ชมกันครับ “นี่เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีของมวลมนุษยชาติเลยนะ ผู้หญิงควรจะมีเกียรติมากกว่านี้ และผู้ชายก็ไม่ควรที่จะแนะนำชักชวนให้ผู้หญิงทำอะไรแบบนี้” “ศักดิ์ศรีของเธออยู่ที่ไหนอ่ะ? เธอไม่มีความเคารพในตัวเองเลย น่าอายจัง” “ทำไมถึงทำให้ตัวเองโดนดูถูกและดูงี่เง่าแบบนั้นล่ะ” วิดีโอที่เธอได้โพสต์และกลายเป็นกระแสไปทั้งทั่วโลกออนไลน์ ซึ่งก็ได้มีทนายชาวฮ่องกงท่านหนึ่งได้ออกมาเตือนนางแบบสาวอยู่เหมือนกันว่าการทำแบบนี้อาจทำให้เธอถูกจับกุมในข้อหากระทำอนาจารในที่สาธารณะ ซึ่งมีโทษสูงสุดคือจำคุก 7 ปี แต่สุดท้ายนี้เธอจะถูกลงโทษอะไรหรือไม่ก็ต้องติดตามกันต่อไป…
-
งงทั้งกองร้อย เมื่อมีสาวมาถ่ายรูปกับทหารหนุ่ม นึกว่าเป็นแฟนกัน อ้าวเฮ้ย… นั่นแม่หรอกเหรอ!?
ภาพสาวสวยคนหนึ่งที่ถ่ายรูปเซลฟี่กับทหารหนุ่มนั้นกำลังเป็นที่ฮือฮาในกลุ่มชาวเน็ตไต้หวัน เพราะดูยังไงก็เหมือนกับคู่รักไม่มีผิด แต่ในความเป็นจริงแล้วเธอคือแม่ของเขาต่างหาก ชาวเน็ตต่างก็ทำใจเชื่อได้ยากว่าคุณแม่อะไรจะสวยและดูอ่อนเยาว์ขนาดนี้ หลังจากที่ Ye Xinyu ( 葉芯語 ) โพสต์ภาพของตัวเองและลูกชายลงในเฟซบุ๊กแล้ว ก็ได้รับความสนใจจากความเน็ตอย่างล้นหลาม เฉพาะโพสต์หน้าเฟสบุ๊กของเธอมีคนเข้าไปกดไลค์ให้โพสต์ของเธอกว่า 12,000 ครั้ง และแชร์ต่อไปอีกกว่า 100 ครั้งแล้ว นี่ยังไม่นับที่ชาวเน็ตเอาไปเผยแพร่กันต่ออีกนะ โพสต์ของคุณแม่ ในโพสต์เฟซบุ๊กเธอกล่าวถึงหน้าตาที่สวยงามของเธอ ซึ่งเธอเองก็มีความมั่นใจในความสวยเหมือนกัน และอีกส่วนก็กล่าวถึงลูกชายของเธอที่เป็นทหารอยู่ โดยเธออยากให้ทุกคนปฎิบัติต่อลูกของเธอด้วยความเป็นมิตร ลูกชายจะได้เป็นทหารที่ช่วยเหลือคนอื่นได้อย่างมีความสุข เธอยังบอกในโพสต์ไว้ด้วยว่าลูกชายเธออายุ 20 ปีแล้ว พอเห็นดังนั้นชาวเน็ตเลยลองนั่งนับอายุของเธอดู แล้วคาดว่าเธอน่าจะมีอายุเกือบๆ 40 ปีแล้ว แต่ก็ยังสวยเช้งอยู่เลย ชาวเน็ตที่เข้ามาเห็นต่างก็ตกตะลึงในรูปลักษณ์ที่ดูเยาว์วัยของสาวคนนี้กันทั้งนั้น นอกจากรูปที่เธออัปกับลูกชายแล้ว รูปอื่นๆ ที่เธออัปโหลดลงในเฟสบุ๊กไม่ว่ารูปไหนก็ดูสวยใสทั้งนั้น ลองไปชมรูปของเธอกันเลย ถึงจะเห็นแบบนี้แต่ไม่ใช่แฟนกันนะ เป็นแม่ลูกต่างหาก ลูกชายเพิ่งเข้ากองทัพไม่นาน เลยเข้ามาให้กำลังใจทุกอาทิตย์ค่ะ รูปโปรไฟล์ของเธอช่างดึงดูดใจชายหนุ่มซะจริง พออยู่ในชุดเสื้อกันหนาวแล้วทำให้เข้าใจผิดง่ายๆ เลยว่าเป็นเด็กนักเรียน ผิวขาวเนียน ตากลมโตมีเสน่ห์ขนาดนี้ หนุ่มที่ไหนจะอดใจไม่มองได้บ้าง ยิ่งแต่งตัวชุดลำลองก็ยิ่งดูวัยรุ่นมากเข้าไปทุกที…
-
ครอบครัวยอมสละทุกสิ่ง เพื่อดูแลสุนัขจรจัดทั้งหมด 3,000 ตัว ให้พวกมันได้มีชีวิตที่ดี
ถ้าเกิดคุณเป็นคนรักสัตว์มากๆ แล้วเกิดมีสุนัขตัวหนึ่งบาดเจ็บ คุณพร้อมที่จะสละเงินจำนวนหนึ่งมาช่วยมันไหม ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเกิดมันมีมากถึง 3,000 ตัวละ คุณจะยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อแลกกับความสุขอันยิ่งใหญ่ของพวกมันไหม คุณอาจจะคิดว่ามันไม่มีหรอกคนที่จะทำแบบนั้น ขนาดคนที่เลี้ยงไว้ 100 หรือ 500 ตัวยังลำบาก จำนวนขนาดนั้นพวกเขาจะดูแลทั่วถึงได้อย่างไร? ถ้าคุณกำลังคิดแบบนัั้นอยู่ละก็ คุณต้องคิดใหม่แล้วเพราะครอบครัวชาวไต้หวันผู้เป็นเจ้าของศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ Mrs. Hsu’s Sanctuary ที่ก่อตั้งเมื่อ 5 ปีก่อนสามารถทำได้ พูดไปมันอาจจะดูเหมือนง่ายนะ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ง่ายเลยแถมยังเริ่มยากขึ้นอีกต่างหาก เพราะเมื่อไม่นานมานี้ประเทศไต้หวันเพิ่งจะมีแบนการการุณยฆาต ทำให้จากเดิมที่สัตว์ในศูนย์ช่วยเหลือมีสุนัขอยู่ในการช่วยเหลือกว่า 3,000 อยู่แล้วนั้น ตอนนี้พวกมันกลับเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เพราะกฎหมายดังกล่าว . อย่างไรก็ตามทางศูนย์ก็ไม่ได้ยอมแพ้แต่อย่างใด พวกเขายังคงช่วยกันดูแลเจ้าตูบทั้งหมดต่อไปด้วยวิธีต่างๆ นานา ทั้งการทำหมัน และทำวีลแชร์ราคาถูกให้พวกมัน นอกจากนี้แม้ว่าศูนย์นี้จะเริ่มต้นจากการเป็นกิจการของครอบครัว Hsu แต่ใช่ว่าจะมีแต่คนในครอบครัวหรอกนะที่มาดูแลพวกมัน เพราะว่าอาสาสมัครมากมายต่างพาสมัครเข้ามาช่วยเหลือศูนย์แห่งนี้ด้วยจุดประสงค์คล้ายกันคือ พวกเขารักสุนัข ยกตัวอย่างเช่น Angel Wang อาสาสมัครที่เข้ามาเป็นส่วนร่วมที่ศูนย์แห่งนี้เมื่อ 4 ปีก่อนด้วยเหตุผลเช่นเดียวกับคนอื่นๆ เธอใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่ศูนย์เพื่อดูแลสุนัข…
-
โอ้มายก็อด!! พ่อบ้านไต้หวันได้เงินเกือบแสนบาทต่อเดือนจากการดูแลบ้านรวมถึง “แปรงเต่า”
หากจะให้พูดถึงอาชีพที่สามารถทำเงินได้จำนวนมากต่อเดือน หลายคนก็อาจจะนึกว่าอาชีพ วิศวกร ผู้รับเหมา แอร์โฮสเตส หรืิออื่นๆ แต่ว่าคงไม่มีใครนึกถึงว่าอาชีพ ‘พ่อบ้าน’ ก็สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาลได้เช่นเดียวกัน และชายหนุ่มคนนี้ก็มาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาสามารถสร้างรายได้ถึง 86,000 บาทต่อเดือน จากการประกอบอาชีพเป็นพ่อบ้านรวมถึงการ ‘แปรงเต่า’ หน้าตาของ Lee พ่อบ้านรายได้สูงเกือบแสนบาท พูดไปอาจจะไม่เชื่อ แต่ว่านี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ เมื่อมีชายหนุ่มชาวไต้หวันชื่อว่า Lee ซึ่งในอดีตเคยเป็นเพียงพนักงานในร้านอาหารที่ได้รับเงินเดือนละ 30,000 ดอลลาร์ไต้หวัน(ประมาณ 32,000 บาท) ตัดสินใจพลิกโผชีวิตตัวเอง โดยลาออกจากงานเดิมแล้วหันหน้ามาเป็นพ่อบ้านประจำ และนี่การตัดสินใจครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาเลยก็ว่าได้ เจ้าเต่าน้อยแสนน่ารัก “หลายๆ ครอบครัวในไต้หวันมักจะออกไปหาเงินกันทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ทำให้พวกเขาไม่มีเวลาที่จะดูแลบ้านช่องให้สะอาด พวกเราเหล่าพ่อบ้านแม่บ้าน จึงเข้ามาเพื่อช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับพวกเขา” Lee กล่าว สำหรับหน้าที่หลักๆ ที่ Lee ต้องปฏิบัติก็คือ การดูแลบ้านช่องให้สะอาด กำจัดศัตรูพืชให้กับต้นไม้ที่อยู่ภายในบ้าน รวมถึงช่วยทำธุระบางอย่างที่ได้รับมอบหมาย เพียงเท่านั้น การแปรงต้องใช้ทักษะอย่างสูง แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่นอกจากการทำงานตามปกติที่พ่อบ้านทั่วๆ ไปจะได้รับมอบหมายก็คือ Lee จะต้องแปรงกระดองเต่ารวมถึงทำความสะอาดให้กับเต่าตัวน้อย…
-
ไต้หวันเตรียมเพิ่ม “เพศที่สาม” ระบุลงในพาสปอร์ตและบัตรประชาชน ยื่นเรื่องรอการอนุมัติ
ในยุคที่ประชาธิปไตยกำลังเบ่งบาน การเรียกร้องสิทธิในด้านต่างๆ ก็เข้มข้นขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะด้านความเท่าเทียมทางเพศ ที่ไม่ใช่แค่เพศหญิงหรือเพศชาย แต่รวมไปถึงเพศที่สามด้วย ในบางประเทศทางยุโรป เพศที่สามอาจได้รับการยอมรับและมีเสรีภาพเท่าเทียมกับเพศหญิงหรือเพศชายโดยมีกฎหมายมารองรับ แต่ในเอเชียยังไม่มีประเทศไหนที่ประกาศรองรับเรื่องนี้แบบ 100% อย่างไรก็ตาม ไต้หวันเป็นประเทศเดียวในเอเชียที่เรียกร้องสิทธิให้ชาว LGBTQ มาอย่างยาวนาน จนกระทั่งวันที่ 24 พฤษภาคม 2017 ทางการไต้หวันได้ประกาศให้มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกัน โดยจะเตรียมประกาศใช้ภายใน 2 ปีนี้ อ่านข่าวเก่า ไต้หวันเตรียมร่างกฎหมาย เพื่อรับรองการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ไม่มีเพียงแค่กฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกันเท่านั้น แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการความเท่าเทียมทางเพศของไต้หวัน (Gender Equality Committee of the Taiwan) ได้ประกาศเตรียมเพิ่ม “เพศที่สาม” ระบุลงในพาสปอร์ตและบัตรประชาชนด้วย ทางการไต้หวันกล่าวว่าการระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนและหนังสือเดินทางเป็นการช่วยปกป้องสิทธิของคนแปลงเพศ คนข้ามเพศ และเพศทางเลือกอื่นๆ ดังที่กล่าวมาแล้วว่าก่อนหน้านี้ไต้หวันเตรียมอนุมัติการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องมีการระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนด้วยเพื่อเป็นการส่งเสริมสิทธิของ LGBTQ ในเอเชีย ปัจจุบันมีเพียงไม่กี่ประเทศที่ให้ระบุเพศที่สามในบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง โดยประเทศที่อนุมัติเมื่อปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย ประเทศแคนาดาออสเตรเลีย เดนมาร์ก เยอรมนี มอลตา นิวซีแลนด์…
-
บริษัทของเล่นให้สาวๆ ใส่ชุดว่ายน้ำเข้าไปอยู่ในตู้คีบตุ๊กตา ชาวเน็ตว่าไม่เหมาะสม คนนะไม่ใช่สิ่งของ!!
กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์กันอย่างมาก หลังจากที่ได้มีการเผยแพร่ภาพของตู้คีบตุ๊กตาจากทางตอนใต้ของประเทศไต้หวันที่ทางบริษัทผู้เป็นเจ้าของ ได้นำเหล่าสาวๆ ไปนั่งอยู่ภายในตู้เพื่อเรียกลูกค้า ภาพของตู้คีบตุ๊กตาพร้อมกับเหล่าสาวๆ ที่อยู่ด้านในนั้นถูกมองว่าทำให้เหล่าสาวๆ กลายเป็นสิ่งของและหลายๆ คนก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีดังกล่าว บริษัทเครื่องเล่นดังกล่าวโฆษณาว่า “ตู้คีบพร้อมกับสาวๆ นั้นจะทำให้คุณได้พบกับสิ่งที่ดีกว่า” โดยพวกเขาได้นำตู้ของเล่นทั้ง 4 ตู้นี้ไปตั้งไว้ในเมือง Tainan City ทางตอนใต้ของประเทศไต้หวัน โดยเหล่าสาวๆ ภายในตู้นั้นจะมีหน้าที่ทักทายและทำท่าทางเพื่อให้ผู้เล่นได้ชมระหว่างที่กำลังลุ้นกับการคีบตุ๊กตา อย่างไรก็ตามเจ้าตู้คีบนี้กลับประสบความสำเร็จอย่างมาก มีหนุ่มไต้หวันไม่น้อยที่สนใจเล่นเจ้าตู้คีบนี้ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบตุ๊กตาเลยก็ตาม สาวๆ ที่อยู่ในตู้จะคอยโพสต์ท่าทาง และทักทายกับผู้เล่น หลังจากที่ภาพของตู้คีบนี้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกออนไลน์ ก็ได้มีหลายๆ คนที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ชาวเน็ตท่านหนึ่งเขียนคอมเมนต์ว่า “มันทำให้ผู้หญิงดูเหมือนเป็นสิ่งของเลย” ส่วนบางคนก็กังวลว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีกระแสวิพากย์วิจารณ์ ทางบริษัทเจ้าของตู้คีบก็ได้ออกมากล่าวขอโทษ พร้อมกับกล่าวว่า “จากนี้ไปเราจะพิจารณามาตรฐานการจัดงานให้ดีขึ้น” แหม่… ไม่รู้ว่าไปได้ไอเดียนี้มาจากที่ไหนนะเนี่ย?? ที่มา rocketnews
-
รีวิวกินแบบเล็กๆ ไปหาอะไรกินแบบจัดเต็มที่ไต้หวันกันเถอะ อาหารฉ่ำๆ เพียบ น้ำลายไหลจริงจัง
ไต้หวัน แดนสวรรค์ของนักชิม ที่ใครหลายๆ คนไปก็อดใจไม่ได้ที่จะต้องไปรีวิวอาหารหลากชนิดที่มีอยู่มากมายในเมืองเมืองนี้ เช่นเดียวกับคุณ Eat Lek Lek ที่มีโอกาสไปเยือนไต้หวัน และก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพอาหารน่าทานๆ มาให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน อาหารของไต้หวันจะมีมากมายขนาดไหน และจะน่ากินอยากที่เขาว่าไหม เราไปชมกันให้ชัดๆ ไปเลย ร้านแรกที่ คุณ Eat Lek Lek จะพาไปชิมก็คือ ร้าน Din Tai Fung เป็นอาหารไต้หวันที่มีสาขาที่ไทยด้วย โดยสาขาที่ไปชิมนี้เป็นสาขา Sogo และถ้าบอกว่าเป็นคนไทย ทางร้านก็จะมีเมนูภาษาไทยให้ด้วย บอกเลยว่าอาหารรวมๆ อร่อยมาก ถ้าไปไต้หวันแนะนำว่าให้ลองแบบออริจินัล แล้วจะติดใจ . เต้าหู้ผัดพะโล้หอมรสชาติเข้าเนื้อ (ราคา 60 NT ราวๆ 70 บาทไทย) ไก่แช่เหล้าเนื้อนุ่ม แน่น เด้ง กลิ่นเหล้าค่อนข้างแรงเลยล่ะ เสี่ยวหลงเปา 126 NT หรือราวๆ 140 บาทไทย แป้งบางนุ่ม น้ำซุปหอม ข้าวผัดก็อร่อยค่ะ ผัดมาหอมๆ…
-
หนุ่มไต้หวันแต่งงานกับ “ร่างไร้ชีวิตของแฟนสาว” หลังเธอเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ
การที่จะได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวกับคนที่เรารักมัน คงจะเป็นสิ่งที่หลายๆ คนวาดฝันเอาไว้ บางคนก็สุขสมหวัง ในขณะที่บางคนกลับต้องมาเจอกับเรื่องราวที่พวกเขาไม่มีวันคาดคิด วันที่ 7 กันยายน 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Tsai Shang-chen หนุ่มชาวไต้หวันวัย 30 ปี ได้จัดพิธีแต่งงานกับแฟนสาวที่กำลังตั้งท้อง แม้ว่าเธอจะเสียชีวิตไปพร้อมกับลูกในท้อง ภายหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุรถสกู๊ตเตอร์ล้มคว่ำ จากการรายงานระบุว่า นาย Tsai ได้คบหาดูใจกับ Chen Yi-chi สาววัย 23 ปี มาเป็นเวลานานถึง 5 ปี จนกระทั่งเธอท้องได้ 5 เดือน ทั้งคู่ก็มีแผนที่จะแต่งงานกัน รวมทั้งมีการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าเรื่องราวที่ไม่คาดฝันดันเกิดขึ้นซะก่อน เพราะในปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงได้เกิดอุบัติเหตุรถสกู๊ตเตอร์คว่ำจนเสียชีวิต แม้ว่าแฟนสาวจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังหวังที่อยากจะแต่งงานกับเธอ ด้วยเหตุนี้นาย Tsai จึงได้จัดพิธีแต่งงานตามที่เคยวาดฝันเอาไว้ สำหรับพิธีงานแต่งของทั้งคู่ได้จัดขึ้นที่เมือง Yuanlin ทางฝั่งตะวันตกของไต้หวัน โดยมีญาติ…
-
นักท่องเที่ยวมือบอน ใช้หินทุบสะพานกระจกที่เพิ่งสร้างเสร็จ ร้าวจนเสียวสันหลังวาบ…
เมื่อวันที่ 1 กรฎาคม 2017 ได้มีการเปิดใช้สะพานแก้วแห่งหนึ่งในเมือง Fengbin ประเทศไต้หวัน และหลังจากวันก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ได้เข้ามาร่วมชมความสวยงามและทดสอบความแข็งแรงของสะพานดังกล่าวด้วย แต่ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวผู้หนึ่งจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับการร่วมทดสอบ ว่าความหมายที่แท้จริงแล้วก็คือการเดินเฉยๆ แต่พี่แกดันเล่นเอาหินมาทุ่มใส่ ทำเอาสะพานกระจกถึงกับร้าวเลยทีเดียว และนี่คือสภาพของกระจกที่เกิดจากการทดสอบด้วยก้อนหิน!! สะพานแก้วแห่งนี้ตั้งอยู่ริมหน้าผาในมลฑล Hualien ซึ่งมีความยาวทั้งสิ้น 150 เมตร และสูงจากพื้นดิน 50 เมตร โดยใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 3 ปีด้วยกัน แต่เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2017 หลังจากที่เปิดใช้งานได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ สะพานดังกล่าวก็ต้องถูกสั่งปิดหลังจากเจ้าหน้าที่พบว่ากระจกบานหนึ่งเกิดการร้าวเนื่องจากมีหินหล่นใส่ กลุ่มนักท่องเที่ยวผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า พวกเขาเห็นชายคนหนึ่งได้ใช้ก้อนหินทุบลงไปที่แผ่นกระจกก่อนที่จะหลบหนีออกไป เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดสะพานเพื่อทำการซ่อมแซม และหลังจากนั้นสะพานแก้วแห่งนี้ก็เปิดให้ใช้บริการอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น บ่อยครั้งที่สะพานแก้วแบบนี้มักจะได้รับความเสียหาย ทั้งจากธรรมชาติและนักท่องเที่ยว อย่างเช่นเมื่อปี 2015 สะพานแก้วที่ภูเขา Yuntai นั้นก็เคยได้รับความเสียหายจากการที่หินหล่นใส่เช่นกัน ที่มา shanghaiist
-
ไต้หวันเซอร์ไพร้ส์ผู้โดยสาร เปลี่ยน “รถไฟใต้ดิน” ให้เป็นสนามกีฬา เสียงตอบรับล้นหลาม!!
ใครที่สัญจรด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินเป็นประจำอาจจะรู้เบื่อกับอะไรเดิมๆ ไม่ว่าจะเป็นการเบียดเสียดกับผู้คนมากมาย นั่งเก้าอี้แบบเดิมๆ ก้มมองพื้นเดิมๆ ด้วยเหตุนี้ไต้หวันจึงได้ปิ้งไอเดียเปลี่ยนพื้นรถไฟฟ้าใต้ดินให้กลายเป็นอะไรที่น่าสนุกยิ่งขึ้น เพื่อช่วยคลายความเบื่อหน่ายของผู้โดยสารบ้าง เมืองไทเปซึ่งเป็นเมืองหลวงของไต้หวันนั้น ได้เป็นเจ้าภาพสำหรับการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยโลกฤดูร้อน 2017 Summer Universiade ในวันที่ 19 สิงหาคมที่กำลังจะถึงนี้ และเพื่อตอบรับกับการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ก็เลยทำการเปลี่ยนแปลงพื้นในรถไฟใต้ดินให้กลายมาเป็นสนามแข่งกีฬาหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สนามฟุตบอล ลู่วิ่ง และสนามบาสเกตบอล… โปรเจคนี้จัดทำขึ้นโดย EasyCard Corporation ร่วมกับบริษัทการขนส่งสาธารณะทั่วไต้หวัน รวมถึงหน่วยงานการท่องเที่ยวของประเทศไต้หวันด้วย ส่วนแรงบันดาลในการเปลี่ยนพื้นรถไฟฟ้าใต้ดินครั้งนี้ เกิดจากความต้องการโปรโมททางด้านการท่องเที่ยว และเพื่อตอบรับกับกระแสการเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ โดยย้อนกลับในปี 2011 สหพันธ์กีฬามหาวิทยาลัยนานาชาติได้ลงมติให้ไทเปเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยในปีนี้ สามารถชนะประเทศบราซิลไปได้อย่างขาดลอย สำหรับกีฬามหาวิทยาลัยถือเป็นกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยกีฬามหาวิยาลัยภาคฤดูร้อน 2017 (2017 Summer Universiade) จะเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม ไปจนถึงวันที่ 30 สิงหาคม ด้วยเหตุนี้ไทเปจึงได้โปรโมทตอบรับกระแสการแข่งขันกีฬาผ่านรถไฟฟ้าใต้ดิน และคาดหวังว่าการท่องเที่ยวจะประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว …
-
นักการเมืองไต้หวัน พาลูกสาวสุดเซ็กซี่ช่วยโปรโมทหาเสียง หวังเพื่อดึงดูดกลุ่มคนรุ่นใหม่!!
คำว่าพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสถือเป็นวลีที่ใช้ได้ทั่วโลกจริงๆ ล่าคุณแม่นักการเมืองจากพรรคก๊กมินตั๋งได้คิดแผนกระตุ้นการเมืองและหาทางดึงความสนใจจากวัยรุ่นชาวไต้หวันยุคใหม่ Hung Hsiu-Chu ผู้รับตำแหน่งเป็นประธานผู้หญิงของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมาเธอได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนของพรรคในการลงชิงตำแหน่งในนครซินจู๋ ประเทศใต้หวัน ทว่าด้วยความที่โลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ การหาเสียงด้วยวิธีเดิมๆ ไม่อาจดึงกลุ่มคนให้หันมาสนใจการเมืองได้ ด้วยเหตุนี้ Hung ที่มองเห็นถึงปัญหาดังกล่าว จึงหาทางที่จะหาเสียงด้วยวิธีแบบใหม่ วิธีที่จะดึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มาสนใจได้ เธอจึงจัดการดึงลูกสาวของตัวเองให้มาช่วยหาเสียงเสียเลย… Akina Li Tzu-Yu คือลูกสาวคนที่ว่านั่นเอง โดยเดิมทีลูกสาวของเธอเป็นคนที่ชอบในแนวเซ็กซี่อยู่แล้ว ซึ่งปกติคนเป็นพ่อแม่ก็คงจะไม่ค่อยปลิ้มเท่าไหร่ แต่สำหรับ Hung กลับพลิกวิกฤตตรงนั้นให้เป็นโอกาสด้วยการดึงลูกสาวที่ชอบแต่งตัวเซ็กซี่ให้มาช่วยหาเสียงอีกแรง ลูกสาวของเธอเดิมทีมียอดผู้ติดตามในเฟสบุ๊คอยู่แล้วมากกว่า 1 แสนคน และเมื่อคุณแม่ของเธอมาเชิญชวนแบบนี้ เธอตกลงหันมาช่วยเหลือในการหาเสียงกับแม่ของเธอ ซึ่งด้วยความน่ารักและความเซ็กซี่ของเธอ จึงไม่ยากเลยที่จะทำตามแผนของแม่เธอได้สำเร็จ ทว่าเรื่องทุกอย่างก็ไม่ชัดเจนว่าแผนการของ Hung Hsiu-Chu นั้นสำเร็จมากน้อยแค่ไหน แต่ผลที่ออกมาแน่ชัดก็คือ เธอแพ้ในการเลือกตั้ง ทำให้สุดท้ายเธอต้องสูญเสียตำแหน่งประธานพรรคของเธอไปให้กับ Wu Den-Yih ซึ่งเป็นสมาชิกในพรรคเดียวกัน ถือว่าเป็นการหาเสียงที่โดนใจวัยรุ่นจริงๆ โดยเฉพาะหนุ่มกลัดมัน ถ้าใครอยากจะวาร์ปก็เชิญได้เลยที่ akina0727 ที่มา koreaboo
-
ชาติแรกในเอเชีย!! ไต้หวันเตรียมร่างกฎหมาย เพื่อรับรองการแต่งงานระหว่างเพศเดียวกัน
ในยุคที่ประชาธิปไตยกำลังเบ่งบาน ความต้องการด้านเสรีภาพก็เพิ่มขึ้นแทบจะทุกที่บนโลก และเหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้ชาวไต้หวันที่รักความเป็นประชาธิปไตยรู้สึกดีใจมากๆ เมื่อทางการไต้หวันได้มีการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับความเสมอภาคในการแต่งงาน!! เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2017 หลังจากที่มีการเรียกร้องและการเคลื่อนไหวมาอย่างยาวนาน ทางการไต้หวันได้ประกาศให้มีการปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการแต่งงานของเพศเดียวกัน โดยจะเตรียมประกาศใช้ภายใน 2 ปีนี้ คุณ Chi Chia-wei นักกิจกรรมและนักเคลื่อนไหว กลายมาเป็นแกนนำในการเรียกร้องครั้งนี้ เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมาเขาถูกทางรัฐบาลปฏิเสธการแต่งงานของเขา กลุ่มผู้เคลื่อนไหวมองว่ากฎหมายที่บัญญัติให้เฉพาะชายและหญิงสามารถแต่งงานกันได้ เป็นความไม่เสมอภาคและเป็นจำกัดสิทธิของประชาชนมากเกินไป พวกเขาจึงออกมาเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายในครั้งนี้ การเรียกร้องเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2017 และทางการเพิ่งจะประกาศการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันที่ 24 พฤษภาคม 2017 และด้วยเหตุนี้จึงทำให้ประเทศไต้หวัน เป็นชาติแรกในทวีปเอเชียที่จะได้รับอนุญาตให้มีการแต่งงานของเพศเดียวกัน อย่างไรก็ตามยังคงมีกลุ่มคนบางส่วนที่ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงกฎหมายการแต่งานของเพศเดียวกันในครั้งนี้ พวกเขามองว่าตามหลักของขงจื้อแล้วการตอบแทนบุญคุณพ่อแม่นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญ และพื้นฐานของการแต่งงานก็ควรจะเป็นชายและหญิง ไม่อย่างนั้นแล้วเด็กๆ อาจจะเกิดความสับสนได้ คุณ David Tseng หนึ่งในกลุ่มของผู้มีความเห็นต่างกับเรื่องนี้กล่าวว่า “ตอนนี้พวกเขากำลังจะแก้กฎหมายและอาจทำให้คำว่า พ่อและแม่ เกิดการสับสนได้ พวกเราแตกต่างกับชาติตะวันตก ความกตัญญูต่อพ่อแม่นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญและเป็นเรื่องที่เราต้องรักษาไว้” หัวข้อเรื่องความเสมอภาคนี้ได้รับการเสนอเข้าสู่สภาของไต้หวันครั้งแรกเมื่อปี 2003 แต่ได้รับการปฏิเสธจากคณะรัฐมนตรีและพรรคอนุรัษ์นิยมอย่างพรรคก๊กมินตั๋ง…
-
เรื่องราวของ “Chang” ชายผู้ยับยั้งการสร้างนิวเคลียร์ในไต้หวัน และถูกตราหน้าเป็นกบฎ!!
อะแฮ่ม… วันนี้เราจะขอทำตัวมีสาระกันบ้าง โดยเราจะพาไปรู้จักกับเบื้องหลังเรื่องราวของ Chang Hsien-yi นักวิทยาศาสตร์ชาวไต้หวัน ผู้ยับยั้งการสร้างนิวเคลียร์ในประเทศไต้หวันได้สำเร็จ แต่ทว่าเขากลับถูกทางการตราหน้าว่าเป็นกบฎ!! ย้อนกลับไปเมื่อปี 1949 ได้เกิดเหตุที่ทำให้ไต้หวันและจีนแผ่นดินใหญ่ ต้องแยกตัวออกจากกัน แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาก็คือการแข่งขันทั้งทางการทหารและเศรษฐกิจ Chang Hsien-yi จนกระทั่งในช่วงปี 1960 จีนแผ่นดินใหญ่มีโครงการสร้างอาวุธนิวเคลียร์ขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลทำให้รัฐบาลไต้หวันตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก และเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ Hau Pei-tsun ดำรงตำแหน่งเป็นผู้นำแห่งเกาะไต้หวัน ทำให้ไต้หวันมีโครงการที่จะสร้างอาวุธนิวเคลียร์ด้วยเช่นกัน ท่ามกลางยุคสงครามเย็นเช่นนี้ มีหลายฝ่ายที่เห็นด้วยกับการสร้างนิวเคลียร์ ทว่ากลับมี Chang Hsien-yi นักวิทยาศาสตร์ผู้ค้านหัวชนฝา และเชื่อว่านิวเคลียร์ไม่อาจนำมาซึ่งสันติภาพที่แท้จริงได้อย่างที่หลายคนคิด โรงงาน 221 เชื่อว่าเป็นสถานที่ทำการวิจัย และทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของจีน Chang เป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ถูกคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าประจำสถาบันศูนย์วิจัยพลังงานนิวเคลียร์แห่งไต้หวัน ในช่วงแรกเขามีความสุขกับการได้เป็นนักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าที่ได้รับการคัดเลือกจากทางการไต้หวัน ทว่าต่อมา… เจ้าตัวก็เริ่มตั้งคำถามว่า แท้จริงแล้วเกาะไต้หวันต้องการนิวเคลียร์จริงๆ หรือ? บวกกับเหตุการณ์ระเบิดหายนะที่เชอร์โนบิล ประเทศรัสเซีย ก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจว่า การไม่มีนิวเคลียร์จะเป็นผลดีต่อทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ และไต้หวัน มากกว่า ด้วยอุดมการณ์ที่ค้านอย่างหัวชนฝา ทำให้ Chang…
-
นักเขียนสาวไต้หวันฆ่าตัวตาย เผยเรื่องจริงอันขมขื่น ผ่านนิยายเล่มแรกที่เพิ่งวางขาย…
หลินอีว์หาน นักเขียนสาวดาวรุ่งวัย 26 ปี ชาวไต้หวันได้ตัดสินใจฆ่าตัวตาย หลังจากที่ผลงานเขียนชิ้นแรกของเธอที่ชื่อว่า Fang si Chi’s First Love Paradise เพิ่งจะวางขายจนเป็นนิยายขายดีอันดับต้นๆ ได้ไม่นาน และกำลังตีพิมพ์ซ้ำเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ทางด้านพ่อแม่ของเธอก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุการแขวนคอตายของลูกสาวว่า เธอน่าจะทำไปเพราะความเครียดที่สะสมมาเป็นเวลานานและไม่ได้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าทั่วไป เดิมทีตัวเธอเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่มีฐานะดี นอกจากนั้นคนในครอบครัวของเธอก็ทำงานสายอาชีพแพทย์กันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือพี่ชายของเธอก็ตาม ส่วนตัวหลินเองก็ไม่ได้น้อยหน้าแต่อย่างใด เพราะเธอเป็นคนที่หัวดี เคยทำคะแนนสอบได้มากถึง 75% จนสามารถเข้าเรียนคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ได้ แต่ทว่าเธอก็ต้องพักการเรียนไปหลังจากเข้าเรียนได้ 2 สัปดาห์ ซึ่งเป็นผลจากการที่เธอป่วยเป็นโรคซึมเศร้า จากนั้นไม่นานเธอก็หันไปเรียนด้านวรรณคดีจีนแทน แต่หลังจากที่เธอเรียนไปได้เป็นเวลา 1 ปี เธอก็ตัดสินใจที่จะหยุดเรียนอีกครั้งหนึ่งด้วยสาเหตุเดิม นั่นก็คือสภาพจิตใจของเธอที่ย่ำแย่มากๆ จนกระทั่งคิดฆ่าตัวตายครั้งแล้วครั้งเล่า ครั้งหนึ่งเธอเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันมองว่าตัวเองเป็นผู้ป่วยทางจิตประเภทหนึ่ง แต่ก็ฉันก็มีความฝันอยากจะเขียนหนังสือให้ได้เหมือนกับ เคนซาบุโร โอเอะ (นักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น) ซึ่งฉันก็พยายามพัฒนาตัวเองโดยเริ่มจากการอ่านหนังสือ เพื่อให้เข้าถึงวัฒนธรรมต่างๆ และเพิ่มพูนความรู้” . ตามรายงานจากเว็บไซต์ Koalasplayground บอกว่าเนื้อหาเกี่ยวนิยายดังกล่าวที่เธอเป็นคนแต่งขึ้นมา…
-
ไต้หวันเริ่มสั่งห้ามบริโภค เนื้อสุนัขและแมวโดยเด็ดขาด ฝ่าฝืนปรับสูงสุดถึง 287,000 บาท
หลายคนน่าจะทราบกันดีว่าชนชาติทางฝั่งเอเชียอย่างจีนหรือเกาหลี ถือเป็นชาติที่นิยมในการกินสุนัขเป็นอย่างมาก แถมยังมีการค้าขายอย่างแพร่หลายสุดๆ แต่แล้วล่าสุดใต้หวันก็ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าการบริโภคเนื้อหมาและแมวถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และยังถือว่าเป็นชาติแรกในเอเชียที่ประกาศห้ามในเรื่องนี้อีกด้วย ซึ่งตัวกฏหมายใหม่นี้ได้ระบุอย่างชัดเจนเลยว่าถ้าพบผู้ใดบริโภคเนื้อสุนัขและแมวจะถูกปรับไม่เกิน 57,000 บาท ส่วนใครที่ส่งออกหรือขายเนื้อสุนัขจะถูกปรับไม่เกิน 287,000 บาทเลยทีเดียว ส่วนเหตุผลที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้น ก็คงจะมาจากการที่ผู้คนในไต้หวันเริ่มที่จะหันมาเลี้ยงสุนัขและแมวกันมากยิ่งขึ้น ทำให้พวกเขาเริ่มทนไม่ได้ที่เพื่อนสี่ขาของพวกเขาต้องกลายเป็นอาหารนั่นเอง นอกจากนั้นประธานาธิบดีหญิง ไช่ อิงเหวิน ดูน่าจะมีนโยบายบางอย่างที่ตอบโต้กับเรื่องนี้ เพราะเมื่อตอนเลือกตั้งเธอเป็นคนที่ชูว่าตัวเองเป็นคนรักสัตว์มากๆ แถมยังเลี้ยงแมวไว้สองตัวสุนัขอีกสามตัว แต่ถึงอย่างนั้นการสั่งห้ามในครั้งนี้ก็ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แม้ในจีนจะยังคงเดินหน้าและบริโภคสุนัขเป็นเรื่องปกติต่อไป แถมยังมีเทศกาลลิ้นจี่และเนื้อหมา ที่จัดขึ้นทุกปี สุดท้ายก็หวังว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียจะหันมาให้ความใส่ใจกับเพื่อนสี่ขาเหล่านี้และก่อตั้งกฏหมายขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันต้องกลายเป็นอาหารเช่นเดียวกับที่ไต้หวันกำลังทำอยู่นั่นเอง ยอมรับว่าปกติ #เหมียวมู่ทู่ เคยเห็นแต่ข่าวกินสุนัข แต่แมวถือว่าแปลกจริงๆ ดูแววตาของพวกมันแล้วคิดว่ามันจะต้องกลายเป็นอาหารก็เศร้าสุดๆ แล้ว แม้ประเทศอื่นอย่างจีนหรือเกาหลี จะยังไม่มีกฏหมายช่วยเหลือพวกมัน แต่กลุ่มคนมากมายก็พยายามเข้าไปช่วยเหลือกันอย่างต่อเนื่อง ยิ่งพวกคนเริ่มหันมาเลี้ยงพวกมันเป็นเพื่อนมาขึ้น ความคิดของพวกเขาก็คงจะเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ และในที่สุด หวังว่าจุดยืนและมุมมองของพวกเขาต่อเพื่อนซี้สี่ขาพวกนี้ก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ที่มา boredpanda
-
ร้านอาหารไต้หวันออกอาวุธ ให้พนักงานเสิร์ฟสวมชุดบิกินี่ โปรโมทวันแรกดึงดูดลูกค้า!!
ทุกวันนี้มีร้านอาหารเปิดใหม่มากมาย ทำให้แต่ละร้านต่างพยายามชูจุดขายอะไรบางอย่างเพื่อให้เหนือกว่าคู่แข่ง บ้างอาจใช้รสชาติเป็นจุดเด่น บางร้านอาจเป็นบรรยากาศอันแสนผ่อนคลายและจรรโลงใจ แต่ร้านอาหารจากไต้หวันร้านนี้ใช้วิธีการที่แตกต่าง ด้วยการใช้พนักงานเสิร์ฟสวมชุดบิกินี่ เพื่อดึงดูดลูกค้า!! ร้านอาหารแห่งนี้มีชื่อว่า “Fresh Feast” ตั้งอยู่ในเขตซงซาน ในกรุงไทเป ประเทศไต้หวัน เจ้าของร้านได้จ้างนางแบบสาวสวยระดับห้าดาว มาสวมชุดบิกินี่แล้วเดินเสิร์ฟอาหาร เพื่อเป็นการโปรโมทงานเปิดร้านวันแรก และดูเหมือนว่าแผนการตลาดครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จด้วย เพราะเพียงสองวันที่มีการจ้างพนักงานสาวสวยมาเดินเสิร์ฟ ก็มีชาวเน็ตนับหมื่นร่วมแชร์ภาพและคลิปของบรรยากาศภายในร้าน จนทำให้ร้านโด่งดังไปทั่วประเทศ รวมทั้งในต่างประเทศด้วยเช่นกัน มีชาวเน็ตท่านหนึ่งคอมเมนต์ว่า “ผมไม่เคยไปไต้หวันมาก่อน สงสัยจะต้องออกผจญภัยแล้วล่ะ” ส่วนชาวเน็ตอีกท่านกล่าวว่า “อยากได้แบบนี้บ้าง ใครสักคนช่วยเปิดร้านอาหารแบบนี้บ้างเถอะ” . . ลองไปชมคลิปบรรยากาศกันดีกว่า ถ้า #เหมียวอ๊อดโด้ ไปร้านนี้นะ รับรองว่าไม่ได้สนใจอาหารแน่นอน เพราะมัวแต่มองอย่างอื่น ฮาาา ที่มา odditycentral
-
ชมคลิปวิดีโอสุดซึ้งจากไต้หวัน คุณพ่อผู้ทำใจยอมรับความต่างทางเพศสภาพของลูกๆ
ก่อนหน้านี้ไม่นานประเทศไต้หวัน เพิ่งเป็นประเทศแรกในแถบทวีปเอเชีย ที่ประกาศให้มีกฏหมายรองรับการจดทะเบียนสมรสสำหรับผู้ที่มีเพศเดียวกัน เพื่อเป็นการรณรงค์ให้เกิดความเข้าใจ และการยอมรับในความแตกต่างด้านเพศสภาวะมากขึ้นในสังคมไต้หวัน กลุ่ม Home Is Love ได้นำเสนอวิดีโอเรื่องราวจากครอบครัวหนึ่ง ที่จะช่วยทำให้เราเข้าใจความหมายที่แท้จริงของความรัก มากยิ่งขึ้น… จากวิดีโอเราจะได้เห็นชีวิตของคุณพ่อวัย 65 ปี เขามีลูกสาว 2 คน และลูกชาย 1 คน แต่แล้วเขาก็ต้องรู้สึกตกใจ เมื่อรู้ว่าลูกสาวคนโตเป็นเลสเบี้ยน… ซึ่งสำหรับคนหัวยุคเก่าแล้วเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ยากจะเปิดใจให้ยอมรับได้ เขาตั้งคำถามกับตัวเองทุกวันว่า ทำไมลูกสาวถึงเป็นเลสเบี้ยนได้? แต่แล้วคุณพ่อก็คิดขึ้นมาได้ว่า ความสุขที่แท้จริงของเขา ก็คือการได้เห็นลูกทุกคนมีความสุข และสิ่งใดที่ทำให้ลูกๆ ไม่มีความสุข หัวอกผู้เป็นพ่อก็ไม่สามารถที่จะยอมรับสิ่งนั้นได้เหมือนกัน จากนั้นคุณพ่อจึงใช้เวลาศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับ ‘เลสเบี้ยน’ ยิ่งค้นคว้าหาข้อมูลมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งช่วยทำให้คุณพ่อเข้าใจถึงหัวอกของลูกสาวคนโตได้ดีขึ้น ในวันที่ลูกๆ ทุกคนเริ่มมีครอบครัวเป็นของตัวเอง ด้วยความที่ลูกสาวคนโตสุดมีรสนิยมที่ไม่เหมือนใคร ทำให้คุณพ่อห้ามใจไม่ให้เป็นห่วงเธอไม่ได้เลย แต่แล้วเมื่อมาถึงวันรวมญาติ ลูกสาวคนโตก็กลับมาพร้อมกับคู่ชีวิตของเธอ และหลานสาวตัวน้อยน่ารัก การได้ใช้เวลาอยู่กับหลานสาวตัวน้อย…
-
เปิดวาร์ป ‘Misa Chiang’ สาวนักคอสเพลย์จากไต้หวัน ผู้มีกระแสมาแรงที่สุดในตอนนี้!!
ว่ากันว่าในการแต่งคอสเพลย์เนี่ย มันไม่ใช่เแค่เรื่องการใช้วัสดุราคาแพงมาทำเป็นอุปกรณ์เท่านั้น เพราะสำหรับบางคนถึงจะใช้วัสดุราคาประหยัดมาประยุกต์ใช้ พวกเขาก็สามารถคอสเพลย์ออกมาได้เนียนซะอย่างกับตัวการ์ตูนมาเอง และคราวนี้เราจะขอเปิดวาร์ป เอ้ย! พาไปรู้จักกับสาวน้อยหน้าใสตากลมชาวไต้หวัน ‘Misa Chiang’ ที่นอกจากจะมีดีกรีเรื่องความเนียนในการแต่งคอสเพลย์แล้ว ความน่ารักของเธอก็กำลังขโมยหัวใจหนุ่มๆ ทั่วเอเชียไปแล้วเหมือนกัน สาวน้อยหน้าตาเด็กคนนี้มักจะอัพเดทผลงานการคอสเพลย์ของเธอผ่านอินสตาแกรม @misa72600 เป็นประจำ จนตอนนี้มีผู้ติดตามมากถึง 2 แสนกว่าคน ซึ่งส่วนใหญ่เธอมักจะคอสเพลย์ตัวการ์ตูนดังจากญี่ปุ่น ที่เหล่าโอตาคุรู้จักกันดี และตัวละครจากเกมดังต่างๆ ที่สำคัญเครื่องแต่งกายเกือบทุกชิ้น เธอสร้างมันขึ้นมาเองกับมือด้วยวัสดุง่ายๆ ราคาประหยัด ไปดูผลงานการแต่งคอสเพลย์ของเธอกันบ้าง เป็น Cindy จาก Final Fantasy XV แต่งเป็น Star Guardian Jinx จากเกม League of Legends เป็นเอ็ดเวิร์ดมือกรรไกร จากหนังดังที่จอห์นนี่ เดปป์ เคยแสดงได้ด้วยนะ แต่เวอร์ชั่นนี้น่าดูกว่าเย๊อะ Harley Quinn ก็มา…
-
ปู๊น ปู๊นนน!! นั่งรถไฟไป “Houtong” หมู่บ้านเหมียวไต้หวัน ดินแดนแห่งสวรรค์ของเหล่าทาสแมว
การเดินทางเพียงระยะเวลาสั้นๆ จากญี่ปุ่น เพื่อมุ่งหน้าลงไปยังหมู่บ้าน Houtong ในไต้หวัน บอกเลยว่ามันจะต้องเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ และประทับใจให้กับคุณแน่นอน เพราะนี่ไม่ใช่หมู่บ้านธรรมดาๆ แต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของไต้หวัน และยังเป็นหมู่บ้านของบรรดา “แมวเหมียว” อีกด้วย ว้าวววว!! ฟังดูน่าตื่นเต้นจังเลย ขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ “Houtong” หมู่บ้านแมวบนเกาะไต้หวัน Houtong เป็นที่รู้จักในนามสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไต้หวัน โดยในอดีตหมู่บ้านแห่งนี้เคยเป็นแหล่งถ่านหินขนาดใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ที่สามารถผลิตถ่านหินได้ปีละกว่า 2 แสนตัน จนกระทั่งกิจการถ่านเริ่มซบเซา ทำให้ผู้คนต้องย้ายออกไปทำงานที่อื่น จนทำให้เหมืองแห่งนี้ต้องปิดตัวลง และกลายเป็นเหมืองร้างไปในที่สุด เรารอพวกเธอมาหาอยู่ตรงนี้นะ ที่ Houtong มีประชากรอาศัยอยู่ราวๆ 6,000 แต่ในทางตรงกันข้าม กลับมีแมวเหมียวอยู่เป็นจำนวนมาก และดูเหมือนจำนวนของมันก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่องๆ ซะด้วยสิ สำหรับหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมืองไทเป ประมาณ 60 กิโลเมตร โดยนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือน สามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 40 – 50 นาทีเท่านั้น เมื่อคุณเดินทางมาถึงก็จะพบกับบรรดาน้องเหมียวมากมาย…
-
ครูใหญ่โรงเรียนไต้หวันขอลาออก หลังนักเรียนใส่ชุดนาซีเดินพาเหรด จนถูกวิจารณ์ไปทั่ว
เรียกว่ากลายเป็นประเด็นร้อนระดับชาติเลยทีเดียว หลังจากมีภาพนักเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในประเทศไต้หวัน ได้เดินพาเหรดวันคริสต์มาสด้วยธีมชุดนาซี จนถูกทูตจากประเทศอิสราเอลตำหนิผ่านสื่อสาธารณะ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งในนครซินจู๋ ประเทศไต้หวัน เมื่อนักเรียนของโรงเรียนได้แต่งตัวด้วยชุดนาซี พร้อมด้วยธงสวัสดิกะ และรถถังจำลอง เดินขบวนแฟนซีในช่วงวันคริสต์มาสที่ผ่านมา จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์จากชาวโลก ทางนาย Asher Yarden ผู้แทนประเทศอิสราเอลได้กล่าวตำหนิเหตุการ์ดังกล่าวผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า “มันน่าละอายและน่าตกใจมากที่ 70 ปี หลังเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว โรงเรียนมัธยมปลายในไต้หวันได้แสดงออกสนับสนุนการกระทำอันโหดเหี้ยมดังกล่าว เราขอประณามการกระทำอันไร้ซึ่งรสนิยมเหล่านี้ และขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจของไต้หวัน ปรับปรุงหลักสูตรการศึกษาพร้อมสอนให้เด็กๆ ได้รู้ว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หมายถึงอะไรและมันโหดร้ายขนาดไหน” หลังเหตุการณ์ดังกล่าว Cheng Hsiao-ming อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมดังกล่าวได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง “ในฐานะผู้มอบความรู้ เราควรสอนให้พวกเขารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง พวกเราจะเรียนรู้จากความผิดพลาด และเหล่านักเรียนก็ต้องเรียนรู้เช่นกัน” หนังสือพิมพ์ The Taipei Times รายงานว่า จริงๆ แล้วทางครูได้เสนอให้เดินพาเหรดในธีมวัฒนธรรมอาราบิก แต่สุดท้ายนักเรียนก็ได้โหวตเลือกธีมนาซีเยอรมันแทน ก็ถือว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบกันไป ว่าแต่ประเทศเขาไม่มีสั่งย้ายบ้างเหรอ ไม่เหมือนประเทศแถวนี้เบยเนอะ อิอิ ที่มา bbc
-
ศิลปินนำไส้ดินสอขนาดเพียง 0.5 และ 0.9 มิลลิเมตร มาสลักเป็นตัวอักษรได้อย่างงดงาม
เราเชื่อว่านี่อาจไม่ใช่ครั้งแรก ที่คุณได้เห็นผลงานการแกะสลักจากไส้ดินสอ เพราะงานศิลปะเหล่านั้นมันอาจจะเคยผ่านตาหลายๆ คนมาบ้างแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ เราจะขอพา มารับชมงานแกะสลักไส้ดินสอ จากผลงานของ Chien Chu Lee ศิลปินชาวไต้หวัน ผู้ที่ได้ฝึกการแกะสลักของชิ้นเล็กๆ ด้วยตัวเองมาตั้งแต่ปี 2010 คุณ Chien Chu Lee กับผลงานของเขา… นี่คือ การสลักตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้ง 26 ตัวจากไส้ดินสอแท่งเล็กๆ ที่มีขนาดเพียง 0.5 มิลลิเมตร และ 0.9 มิลลิเมตรเท่านั้น เขาสามารถใช้มีดคัทเตอร์แกะสลักจนออกมาเป็นภาพของตัวอักษรที่เรียงติดกันได้… เพื่อนๆ ลองชมผลงานเหล่านี้ให้ดีๆ ว่านอกจากความงามแล้ว มันยังมีความประณีต และละเอียดลออมากๆ อีกด้วย เหมียวขี้อ้อน ต้องยอมรับเลยนะว่างานแกะสลักจากสิ่งของธรรมดาๆ อย่างผัก ผลไม้ก็ว่ายากแล้ว แต่พอมาเจอผลงานแกะสลักจากไส้ดินสอแบบนี้ ก็ยิ่งยาก และน่าทึ่งเข้าไปใหญ่ เพราะไหนจะต้องใช้ทั้งความอดทน ความประณีตกว่าจะออกมาเป็นผลงานสวยๆ ให้เราได้เห็นกัน ซึ่งกว่าจะได้มาแต่ละชิ้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ…
-
ชมชีวิตการจับปลาแบบดั้งเดิม ชาวประมงไต้หวันใช้ “พลุไฟ” จับปลาได้วันละ 4 ตัน!?
หากคุณคุ้นเคยกับภาพของชาวประปงในไทยและวิถีการหาปลาของบ้านเราล่ะก็ คุณอาจจะรู้สึกอะเมซิ่งสุดๆ เมื่อได้เห็นการจับปลาในรูปแบบที่เราไม่คุ้นตาจากชาวประมงในไต้หวันก็เป็นได้ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ทุกคนไปล่องเรือหาปลากับชาวประมงในไต้หวันกัน แต่พวกเขาไม่ได้ใช้อวนหรือแหนะ แต่พวกเขาใช้พลุไฟแทน!? บางคนอาจจะสงสัยว่าพลุไฟนั้นช่วยหาปลาได้ยังไง? ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่าพวกเขาใช้วิธีนี้มานานกว่า 100 ปีแล้ว อย่างเช่นคลิปที่#เหมียวฟิ้นนำมาเสนอให้ดูในวันนี้เป็นการออกไปจับปลาซาดีนในแถบชาบฝั่งของไต้หวัน พวกเขาจะจุดพลุไฟที่บรรจุอยู่ในกระบอกไม้ไผ่ จากนั้นก็จะยื่นออกไปในทะเล ทันใดนั้นปลานับร้อยนับพันก็ประโจนตัวขึ้นมาเหนือน้ำทันที สาเหตุที่พวกมันพากันกระโดดออกมาแบบนี้ก็เพราะว่าชาวประมงได้ใส่ผงซัลฟูริกลงไปที่ก้นกระบอกไม้ไผ่ ซึ่งพวกเขาใช้ในการล่อปลาให้ขึ้นมาจากน้ำ เท่านี้ปลาก็พร้อมจะกระโจนออกมาแล้ว ตามรายงานบอกว่าชาวไต้หวันจะออกหาปลาซาดีนได้ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฎาคม และในช่วงหลังๆ มานี้จำนวนปลาซาร์ดีนก็ลดลงอย่างน่าใจหาย ทำให้แต่ก่อนที่เคยมีเรือหาปลามากถึง 300 ลำ ปัจจุบันเหลือเพียง 3 ลำเท่านั้น ในแต่ละคืนเรือของชาวประมงจะสามารถจับปลาซาร์ดีนได้วันละ 3-4 ตัน คิดเป็นเงินก็ราวๆ 157,300 บาทเลยทีเดียว ใครอยากรู้ว่าปลามันกระโดดขึ้นมายังไง ลองไปดูคลิปนี้กันเลย เป็นภาพที่น่าอะเมซิ่งมาก ว่าแล้วพวกเราก็ออกเรือไปหาปลากันเล้ย!! ที่มา viralnova , KennyHDV空中攝影
-
หนุ่มไต้หวันสุดเทพ สร้างเกม Ragnarok VR สุดเจ๋งขึ้นมา เอาซะอยากเล่นเลย!!
เชื่อใครที่เป็นเกมเมอร์สายออนไลน์ยุคแรกๆ คงไม่มีใครไม่รู้จักเกม Ragnarok เกมออนไลน์สุดเทพจากเกาหลี ที่เคยฮิตทั่วบ้านทั่วโมงจนกลายเป็นข่าวดังมาแล้ว ล่าสุดหนุ่มชาวไต้หวัน David Tai ผู้คลั่งไคล้ในเกม Ragnarok อย่างสุดหัวใจ ได้โชว์ความเทพด้วยการพัฒนาเกม Ragnarok VR ที่เล่นผ่านเครื่อง Virtual Reality ขึ้นมาด้วยตนเอง บอกได้คำเดียวว่าเมพสุดๆ!! โดยเมืองที่เขาเลือกมาคือเมืองพอนเทร่า ถือว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ชาวแรคนาร็อคต้องจำได้อย่างแน่นอน ซึ่งทางผู้พัฒนาพยายามทำทุกอย่างให้เหมือนกับเกม Ragnarok ต้นฉบับมากที่สุด ตั้งแต่ลักษณะของเมือง แถบเมนู ค่าพลังต่างๆ เรียกว่าเห็นแล้วคิดถึงวัยเด็กจริงๆ . ลองไปฟุตเทจจากในเกมกันเลย อื้อหือ น่าเล่นแบบสุดๆ ไปเลยนะเนี่ย เห็นแล้วอยากให้มีวางขายจริงๆ #เหมียวอ๊อดโด้ จะไปซื้อมาคนแรกเลย แบบว่าคิดถึงสมัยนั่งหัวเกรียนในร้านเกมจริงๆ ฮาาาา ที่มา David Tai
-
ชาวประมงไต้หวันช่วยชีวิตลูกปลาฉลามกว่า 75 ตัว ให้ออกมาดูโลกจากซากแม่ฉลามที่ตายแล้ว
เป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากๆ สำหรับประชากรสัตว์น้ำอย่างฉลามเสือที่ต้องมาพบกับชะตาชีวิตอันย่ำแย่ เมื่อปลาฉลามเสือสองตัวไปติดตาข่ายดักปลาในวันที่ 13 และ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณเมืองท่า Changbin, Taitung ของไต้หวัน จนเป็นสาเหตุที่ทำให้มันเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทั้งนี้ร่างของฉลามเสือทั้งสองก็ได้ถูกส่งไปยังศูนย์วิจัยสัตว์น้ำ Eastern Marine Biology Research Center เพื่อทำการเก็บร่างเอาไว้ศึกษาและวิจัยต่อไป แต่เมื่อสังเกตเห็นปุ๊บ ร่างของแม่ฉลามนั้นพร้อมที่จะทำการคลอดแล้ว หากไม่ทำการผ่าซากของแม่ฉลาม ลูกฉลามที่อยู่ภายในอาจจะตายตามแม่ของมันไปด้วย เพราะฉะนั้นชาวประมงไต้หวันจึงร่วมกันช่วยชีวิตเหล่าลูกปลาฉลามออกมาทั้งสิ้น 38 ตัวได้อย่างปลอดภัย และอีกวันต่อมาซากของแม่ปลาฉลามอีกตัวก็ถูกนำมาผ่าเพื่อช่วยชีวิตลูกปลาฉลามตัวน้อยอีกระลอก และชาวประมงก็ได้ช่วยชีวิตลูกปลาฉลามไว้อีก 37 ตัวด้วยกัน ลูกปลาฉลามทั้งหมด 75 ตัวถูกนำตัวไปรักษาในสระน้ำขนาดใหญ่ภายใต้การดูแลของศูนย์วิจัยสัตว์น้ำ แต่ทว่ามีลูกปลาฉลามผู้โชคร้าย 7 ตัวจากแม่ฉลามตัวที่สองยังอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมคลอด จึงเหลือรอดอยู่ทั้งหมด 68 ตัวเท่านั้น Ho Yuan-shin หนึ่งในตัวแทนของศูนย์วิจัยกล่าวว่าช่วงนี้เป็นช่วงการให้กำเนิดลูกปลาฉลาม จึงทำให้พวกมันว่ายเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้น…
-
จูงมือมันเชย!! คู่รักไต้หวันถ่ายภาพท่องเที่ยวในธีมแบบ ‘ถ้าปั๋วไม่อยาก ก็จิกหัวลากมาซะเลย’
ถ้าใครจำได้ ในช่วงปีก่อนมีแฮชแท็กอันหนึ่งฮิตขึ้นมาบนโลกอินเตอร์เน็ตนั่นก็คือ #followmeto โดยแฮชแท็กนี้ริเริ่มโดยสองคู่รัก Murad Osmann และ Natalia Zakharova ซึ่งทั้งสองจะถ่ายรูปให้ดูเหมือนกำลังจูงมือกันอยู่ จนทำให้ชาวเน็ตทั่วโลกอิจฉากันมาแล้ว ล่าสุดมีคู่รักชาวไต้หวันคู่หนึ่งได้ถ่ายชุดภาพล้อเลียนแฮชแท็กนี้ บอกได้คำเดียวเลยว่า ฮาสุดๆ ไปเลย จะเป็นยังไง ไปชมกันเลย จากปกติที่ต้องจับมือกันเดิน กลายเป็นว่าฝ่ายชายถูกฝ่ายหญิงฉุดกระชากลากถู น่าอเน็จอนาถใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งดึงผม ทั้งดึงหู ซึ่งหลังจากภาพชุดนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ถูกแชร์บนเฟสบุ๊คหลายพันครั้ง เรียกว่าได้รับความนิยมแบบสุดๆ ไปเลย ใครสนใจก็ลองเอาไปทำตามได้ แต่อย่าลืมนัดแนะกับคู่รักดีๆ นะ ไม่งั้นอาจกลายเป็นทะเลาะกันทีหลังได้ ฮาาาา ที่มา Boredpanda
-
ร้านชานมไข่มุกในไต้หวันกับไอเดียแก้วหลอดไฟ สมกับเป็นชา ‘นม’ จริงๆเลย…!!
อากาศร้อนๆแบบนี้ใครหลายๆคนคงกำลังมองหาร้านกาแฟเย็นๆ หรืออยากนั่งกินชาเย็นๆซักแก้วเพื่อบรรเทาความร้อนและผ่อนคลายใช่มั้ยล่ะ? นอกจากชาหรือกาแฟเย็นๆซักแก้วแล้ว หลายคนก็คงอยากได้บรรยากาศดีดี อยากมองสิ่งสวยๆงามๆ ที่เห็นแล้วกระชุ่มกระชวยหัวใจ โดยเฉพาะหนุ่มๆที่มาร้านเหล่านี้ก็คงอยากมองสาวน่ารักๆ เป็นธรรมดา ที่ไต้หวันมีร้านขายชานมไข่มุกที่มีไอเดียเจ๋งๆในการออกแบบแก้วใส่ชานมให้ดูแปลกตาในรูปทรงของ ‘หลอดไฟ’ แต่มันไม่ได้มีแค่นั้นน่ะสิ่ เพราะที่ร้านนี้ยังมีพนักงานสาวสวยและเซ็กซี่สุดๆ ทำให้กำลังมาแรงในเอเชีย ณ ตอนนี้เลยก็ว่าได้ เป็นการทำชานมที่น่าจับตามองจริงๆ!! ไข่ในมือซ้ายนั่นมีความหมายอะไรรึเปล่า!???? เป็นชา ‘นม’ ที่น่ากินเนอะว่ามะ สาบานได้ว่าตามองไปที่แก้วหลอดไฟขาวๆนั้นจริงๆ แทนที่จะใช้แก้วพลาสติกในการใส่ชา แต่เป็นการใส่แก้วหลอดไฟขนาดยักษ์แทน แม้ทางต้นฉบับข่าวไม่ได้มีการยืนยันว่านี่เป็นหลอดไฟจริงๆ หลอดไฟใช้แล้ว หรือเป็นการสั่งทำแก้วขึ้นมาเป็นทรงหลอดไฟ ซึ่งก็น่าคิดว่าหากเป็นหลอดไฟจริงๆ จะมีอันตรายอะไรแอบแฝงไว้รึเปล่า เอาเป็นว่าหน้าที่ตรวจสอบและประเมินคุณภาพปล่อยให้หน่วยงานของประเทศเค้าจัดการไป ส่วนหน้าดูนม เอ๊ย ดูชานม ก็เป็นของแฟนเพจเหมียวทุกคนคร้าบ…!! ที่มา : rocketnews
-
เปิดมิติใหม่ที่ ‘ภัตตาคารห้องส้วม’ ในไต้หวัน เพราะใช้เครื่องสุขภัณฑ์เป็นภาชนะใส่อาหาร!?
เมื่อกล่าวถึงร้านอาหารแล้วพวกเรามักจะนึกถึงความน่าทานของอาหารมาเป็นอันดับหนึ่ง จากนั้นก็แล้วแต่รสนิยมของแต่ละคนว่ามีความชอบไปในทิศทางไหน เช่น บางคนก็ชอบความสะอาด บางคนก็ชอบแนวการตกแต่งร้านที่ดูแนวๆ อยู่กับธรรมชาติ เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันก็มีร้านอาหารครีเอทออกมามากมาย เช่น ใส่ภาชนะแบบแปลกๆ มาให้เราทาน บางครั้งก็มีการคิดชื่อเมนูแปลกๆ จนทำให้เราสงสัยว่ามันคืออะไรจนทำให้ต้องสั่งมาลองทาน แต่!! #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆ ไปชมร้านอาหารที่เรียกได้เลยว่าแปลก แบบขั้นสุด แปลกเพราะว่าเขาใช้เครื่องสุขภัณฑ์มาใช้เป็นภาชนะในการเสิร์ฟอาหารให้กับลูกค้ายังไงล่ะ!!??…ไม่เชื่อใช่มั้ยล่ะ ลองไปชมภาพพร้อมๆ กันได้เลย ร้านอาหารนี้ชื่อว่าร้าน Modern Toilet Restaurant หรือ ภัตตาคารห้องส้วม ตั้งอยู่ในเมือง Kaohsiung ประเทศไต้หวัน เป็นร้านอาหารที่มีความใจกล้าโดยการใช้เครื่องสุขภัณฑ์เป็นภาชนะในการใส่อาหารมาให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด หรือเมนูเส้น ก็จะถูกจัดเสิร์ฟมาในโถส้วม หรือ โถฉี่เกือบจะทั้งหมด!! โดยจะมีการตกแต่งร้านด้วยกระจก โถฉี่และโถส้วม เพื่อให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในห้องน้ำจริงๆ ฮร่า แต่จริงๆ แล้วนอกจากรูปร่างที่ดูแปลกๆ แล้วแต่อย่างอื่นก็ปกติดีนะจ๊ะ โดยเฉพาะเรื่องความสะอาดนี่ไว้ใจได้เลย เป็นอย่างไรกันบ้างจ๊ะเพื่อนๆ…
-
อะไรเนี๊ยะ!? โรงเรียนอนุบาลในไต้หวัน ให้เด็กๆ เลียครีมจากแก้มเด็กหญิง อ้างเพื่อให้ความรู้เพศศึกษา!?
กลายเป็นประเด็นร้อนอยู่สื่อสังคมออนไลน์ของไต้หวันอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพหลุดของเหล่าเด็กๆ วัยอนุบาลจากโรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่กำลังเลียครีมจากแก้มของนักเรียนหญิงและยังมีภาพที่เด็กๆ ส่งลูกเชอร์รี่ให้กันด้วยปาก จนเกิดความสงสัยว่านี่มันคือกิจกรรมอะไรกันแน่!? เมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของเด็กๆ ชั้นอนุบาลจากโรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองจางฮั่ว ของไต้หวัน ที่กำลังจัดงานเลี้ยงวัยเกิดให้กับเพื่อนร่วมคนหนึ่ง แต่ในระหว่างจัดกิจกรรมกลับเกิดภาพอื้อฉาวเกิดขึ้น เมื่อมีภาพหลุดออกมาว่าเด็กผู้ชายกำลังเลียครีมที่แก้มของเด็กผู้หญิง และภาพที่เด็กๆ กำลังส่งลูกเชอร์รี่ให้กันด้วยปากคล้ายกับการจูบ นอกจากนี้ยังมีภาพที่กลุ่มเด็กหญิงทาลิปสติกรุมหอมแก้มเด็กผู้ชายจนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยจูบ หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบออกมาอย่างมากมาย และยังสร้างความกังวลใจให้แก่ผู้ปกครองเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับเด็กๆ แต่ทางโรงเรียนก็ออกมาแสดงความเสียใจและกล่าวขอโทษในที่สุดและบอกว่าพวกเขาพยายามจะ “ให้ความรู้” เรื่องเพศศึกษาแก่เด็กๆ เท่านั้นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เรื่องเพศศึกษาอาจจะเป็นเรื่องที่ควรจะสอนกัน แต่#เหมียวฟิ้นว่าให้เด็กๆ เขาโตอีกหน่อยแล้วค่อยสอนก็ได้นะ ที่มา shanghaiist , TVBS NEWS
-
โรงเรียนอนุบาลถูกวิจารณ์ยับ หลังมีภาพจัดงานวันเกิดให้เด็กแบบสุดเสื่อม มีเลียครีมบนแก้ม และใช้ปากส่งขนม
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2559 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมืองจางฮั่ว ประเทศไต้หวัน ถูกบรรดาผู้ปกครองวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก หลังจากที่ได้เห็นภาพของบรรดาเด็กนักเรียนทั้งหญิงและชาย มีการแสดงพฤติกรรมออกมาในทางที่ไม่เหมาะสม ภายในงานวันเกิดของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่ทางโรงเรียนได้จัดงานให้ จากภาพเราจะเห็นได้ว่า เด็กนักเรียนชายคนหนึ่งกำลังเลียครีมไปที่แก้มของเด็กผู้หญิง ส่วนอีกภาพจะเป็นเด็กผู้หญิงกำลังคาบลูกเชอรี่ในปาก แล้วส่งต่อให้เด็กผู้ชายอีกคน งานนี้เมื่อภาพดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ซึ่งทางโรงเรียนก็ได้ออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมอ้างว่า ทำไปเพื่อสอดแทรกในเรื่องการสอนเพศศึกษา ทั้งนี้จากกรณีดังกล่าว คาดว่าพฤติกรรมที่เด็กๆ ได้แสดงออกมานั้น เป็นความตั้งใจของครูผู้จัดงาน ที่ได้ยุยงส่งเสริมให้เด็กๆ แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกมาเช่นนี้ ที่มา : shanghaiist
-
พาไปดู พาไปชม ‘บ้านกลับหัวกลับหาง’ ในประเทศไต้หวัน เอาให้มึนและงงกันไปข้างนึงเลย!!
สิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ไม่อยากจะเน้นให้แปลกและแหวกแนวมากเท่าไหร่ เพราะจะใช้เป็นที่อยู่อาศัยและทำกิจรรม กิจการต่างๆ อ่ะนั่นคืออาคารที่ไว้ใช้งานจริง แต่จะว่าไปคนเราก็มักจะสรรหาอะไรที่มันแปลกใหม่อยู่เสมอ ด้วยการสร้างสิ่งที่เราอาศัยอยู่ทุกวัน ‘บ้าน’ ให้มันบิดเบี้ยวเข้าไปในโลกของอินเซ็ปชั่น!! สิ่งที่ #เหมียวเลเซอร์ จะพาไปชมนี้ก็คือ ‘บ้านกลับหัว’ จากเมืองไทเป ประเทศไต้หวัน โดยจัดแสดงอยู่ในนิทรรศการมหัศจรรย์โลกกลับหัวกลับหาง (Upside Down Wonderland Exhibition) แหวกข้อจำกัดแรงโน้มถ่วงของโลก ผู้คนทั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้าไปเยี่ยมชมกันอย่างล้นหลาม สำหรับบ้านกลับหัวและนิทรรศการกลับหัวทั้งหมดนี้ จัดขึ้นโดย National Taiwan Science Education Center ทางผู้จัดบอกว่าใช้งบประมาณในการสร้างทั้งสิ้น 600,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 21.4 ล้านบาท) และใช้เวลาในการสร้างประมาณ 2 เดือน สำหรับเทศการดังกล่าวจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2015 และจะจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์…
-
เคยไปยัง!? เยี่ยมชมสวรรค์ของทาสแมว เที่ยวฟินๆ ภายใน Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน
ข่าวคราวเกี่ยวกับเกาะแมวที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นถูกนำเสนอไปเยอะแล้ว ที่ญี่ปุ่นก็มีหลายเกาะเลยที่มีประชากรแมวมากกว่ามนุษย์ อ่ะ!! แต่ถ้าประเทศญี่ปุ่นอยู่ไกลไป ลองเขยิบเข้ามาใกล้ๆ อีกซักนิด ย้ายถิ่นฐานไปดูที่ไต้หวันกันบ้าง Houtong หมู่บ้านแมวแห่งไต้หวัน บางคนอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วว่าที่ไต้หวันก็มีสวรรค์สำหรับทาสแมวโดยเฉพาะเหมือนกัน สถานที่แห่งนี้มีชื่อหมู่บ้าน Houtong อยู่ห่างจากเมือง Taipei ประมาณ 60 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเยือนสามารถเดินทางมาได้โดยรถไฟ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 – 50 นาที ประวัติความเป็นมาของหมู่บ้าน Houtong แต่ก่อนเคยเป็นไซค์สำหรับเหมืองถ่านหินมาก่อน จนกระทั่งเหมืองได้ปิดตัวลงไป มีประชากรมนุษย์อยู่อาศัยเป็นจำนวน 6,000 คน ซึ่งในอดีตมีประชากรแมวน้อยหน่อย แต่จู่ๆ ก็เกิดเพิ่มจำนวนขึ้นมาอย่างกระทันหัน จนประชากรแมวแทบจะยึดครองไปทั่วหมู่บ้านแล้ว ทั้งนี้จากหมู่บ้านที่เคยเงียบเหงา ก็กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยในปีค.ศ. 2009 กลุ่มอาสาสมัครผู้รักแมวได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของหมู่บ้าน Houtong จากหมู่บ้านข้างเหมืองถ่านหินให้กลายมาเป็นหมู่บ้านเต็มรูปแบบ โดยอาศัยประวัติศาสตร์ในอดีตของเหมืองผสมผสานกับสิ่งมีชีวิตที่ส่งเสียงร้องเมี๊ยวๆ ได้อย่างลงตัว การเดินทางโดยรถไฟจาก Taipei สู่ Houtong …
-
สาวนักคอสฯ ชาวไต้หวัน กับแนวตัวละครนักดนตรีหลากหลาย น่ารักจนเกินจะห้ามใจไหว!?
ในวงการคอสเพลย์นั้นมีมานานมากแล้ว ซึ่งก็มีตั้งแต่งานบ้านๆ ไปจนถึงระดับงานคอสเกรด AAA กันเลยทีเดียว นานๆ ทีเราจะได้เห็นอะไรงามๆ แบบนี้บ้าง ซึ่งล่าสุดนี้ก็ขอแนะนำให้รู้จักสาวนักคอสฯ จากไต้หวันที่รู้จักในนามว่า Ely คนนี้นี่แหละ!! กว่าจะได้ชุดของตัวละครซักหนึ่งชุดต้องใช้เวลาในการออกแบบ หาวัสดุต่างๆ ชิ้นงานบางชิ้นถึงกับต้องเย็บปักถักร้อยเองเลยก็มีนะเออ กว่าจะได้ชุดงามๆ สวมใส่ อีกทั้งคนใส่ก็ต้องมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับตัวละครให้มากที่สุด ซึ่งสำหรับสาว Ely นักคอสฯ จากไต้หวัน คนนี้ไม่ต้องสงสัยเลย อ่ะ!! ก่อนอื่นเลยมาเรียกน้ำย่อยกับผลงานกาลก่อนของ Ely แนวตัวละครนักดนตรีเริ่มกันที่ The Idolm@aster’s Rin Shibuya ภาพนี้อลังมาก!! Haruhi Suzumiya’s Yuki Nagato Guilty Gear’s I-No…
-
ขนาดนั้นเลย!?! ชาวต่างชาติทำการ์ตูนน่ารักๆ เพื่อให้คนแยกออกระหว่าง “ไต้หวัน” กับ “ไทยแลนด์”
สำหรับบ้านเราแล้ว การแยก “ไต้หวัน” และ “ไทย” ไม่เป็นปัญหาเลย เพราะเราออกเสียงไม่เหมือนกันอยู่แล้ว แต่ที่ต่างประเทศ โดยเฉพาะฝรั่งนั้น มันเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะออกเสียงให้ไม่คล้ายกัน บางคนก็ออกเสียงว่าไทยแลนด์ แต่นึกว่าไทยแลนด์พูดภาษาจีนก็มี ทางเว็บไซต์ expup จึงได้จัดทำการ์ตูนชุดนี้ขึ้นมา เพื่อแยกเอกลักษณ์ระหว่างประเทศไทยและไต้หวัน เราไปดูกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง (ใครมีเพื่อนชาวต่างชาติ แนะนำเอาให้ดูเป็นอย่างยิ่ง) เริ่มจากแผนที่ประเทศเลย อันนี้เห็นได้ชัดเจนที่สุด ของไต้หวันเหมือนมันฝรั่ง ส่วนของไทยหรือขวานหรือช้างนั่นเอง สิ่งที่ชาวไต้หวันให้ความเคารพก็คือเต๋า ส่วนบ้านเรานับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ ที่ใต้หวันกินชาไข่มุกกันเป็นส่วนใหญ่ ชาบ้านเราจะออกสีส้มกว่า (แต่ทำไมเดี๋ยวนี้ร้านชาไข่มุกมันเยอะกว่าล่ะ) การออกแบบรูปทรงของวัดก็แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลย ชาวไต้หวันส่วนมากขี่สกู้ตเตอร์ ส่วนบ้านเราคนส่วนมากจะจำว่าเป็นรถตุ๊กๆ ไต้หวันมีการขายของโดยใช้จักรยาน บ้านเราก็เด่นเรื่องขายของโดยใช้เรือหรือตลาดน้ำนั่นเอง สัตว์ประจำชาติของไต้หวันคือหมีดำ ส่วนบ้านเราก็คือช้าง ปีใหม่ที่ไต้หวันจะมีการจุดประทัดกัน ส่วนบ้านเราก็มีเทศกาลวันสงกรานต์ ธงชาติก็ไม่เหมือนกันเลย มีแค่สีเท่านั้นที่เหมือนกัน ที่ไต้หวันทักทายด้วยการโบกมือ ส่วนบ้านเรายกมือไหว้แล้วพูดว่า “สวัสดี” หวังว่าชาวต่างชาติจะเข้าใจอะไรมากขึ้นนะ จะได้ไม่ต้องเกิดเหตุการณ์แบบว่า “อ้อ…
-
ภาพคฤหาสน์สุดหรู ที่เคยใช้ถ่ายทำซีรีส์ดัง ‘F4 ไต้หวัน’ ปัจจุบันกลายเป็นบ้านร้างไปซะแล้ว
หากใครเคยดูซีรีส์ดังยอดฮิตอย่าง ‘รักใสใสหัวใจ 4ดวง’ ในเวอร์ชั่น F4 ไต้หวันละก็ เหมียวเชื่อว่าหลายคนคงจะจำเหล่านักแสดงหลักแต่ละคนได้เป็นอย่างดี ซึ่งในวันนี้เราได้จะพามาดูนักแสดงแต่อย่างใด แต่เราจะพาคุณผู้ชมทุกท่าน มาชมคฤหาสน์ที่เคยใช้ในการถ่ายทำซีรีส์ดังเรื่องนี้ต่างหากละเหมียว และนี่ก็คือคฤหาสน์ของเต้าหมิงซื่อ ที่ใช้ในการถ่ายทำยังไงละ สวยและอลังการงานสร้างมากๆ เลยใช่ไหม แต่ในปัจจุบันคฤหาสน์หลังนี้กลายเป็นบ้านร้างไปซะแล้ววววววว งานนี้ต้องขอขอบคุณผู้ใช้ทวิตเตอร์นามว่า LErikVii ที่ได้เผยภาพคฤหาสน์สุดหรู ที่เคยใช้ถ่ายทำซีรีส์ รักใสใสหัวใจ 4 ดวง เวอร์ชั่นไต้หวันมาย้อนความทรงจำให้เราได้ชมกัน เรียกได้ว่า เห็นแล้วก็อดเสียดายไม่ได้จริงๆ เพราะคฤหาสน์สุดหรูหลังนี้ ถูกปล่อยให้กลายเป็นบ้านร้าง โดยที่ไม่มีใครเหลียวแลไปซะแล้ว ที่มา : LErikVii
-
ชาวเน็ตอึ้ง หนุ่มไต้หวันขี่มอเตอร์ไซค์ไปสระผมไป เล่นเอาเงิบกันทั้งถนน!!?!
การมีทักษะ multi-tasking เนี่ยมันก็ดีอยู่หรอกนะ เพราะคุณสามารถทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกันได้ แต่นั่นไม่ได้หมายตอนคุณกำลังขับขี่ยานพาหนะอยู่ อย่างเช่นหนุ่มชาวไต้หวันคนนี้ นอกจากเขาจะขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจของเขาแล้ว เขายังสระผมไปพร้อมๆกันด้วย?!?! ทำได้จริงเดะ!! โดยคลิปที่มีการแชร์กัน เป็นภาพของชายวัยรุ่นคนหนึ่ง กำลังขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ในแถบชานเมือง Gaoshu ประเทศไต้หวัน และระหว่างนั้น เพื่อนที่ซ้อนมาด้วยก็ทำการสระผมให้เขาไปพร้อมๆกัน เรียกได้ว่าเงิบกันทั้งถนน ซึ่งคนที่อัดคลิปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเพื่อนที่ขี่รถมาด้วยกันนั่นเอง ไปชมคลิปกันเลย หลังจากคลิปปล่อยออกไปได้ไม่นาน ทางตำรวจก็ตามจับกุมตัววัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวมาได้ โดยตั้งข้อหาขับขี่รถโดยประมาท รวมถึงไม่สวมหมวกกันน็อค ไม่รู้ว่าจะทึ่งหรือสมน้ำหน้าดีละเนี่ย ยังไงก็ตามแต่ เห็นแบบนี้แล้วก็อย่าไปทำตามนะเพื่อนๆ มันไม่ได้เท่อย่างที่คิดหรอก ฮ่าๆ ที่มา Rocketnews
-
[จากวันนั้นถึงวันนี้] เหมียวชวนรำลึกความหลังกับ F4 ไต้หวัน 14 ปีผ่านไปพวกเขาเป็นยังไงบ้าง?
หากใครยังจำกันได้ เมื่อสัก 10 กว่าปีก่อน ทางช่อง 3 ได้นำเอาซีรี่ย์ไต้หวันเรื่องหนึ่งมาฉายในช่วงไพรม์ไทม์ (ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่เลย เพราะไม่เคยมีซีรี่ย์ต่างประเทศมาฉายเวลานี้มาก่อน) ซีรี่ย์เรื่องนั้นมีชื่อว่า รักใสๆ หัวใจ 4 ดวง หรือที่เราเรียกติดปากว่า F4 นั่นเอง หลังจากที่ซีรี่ย์ออนแอร์ทางโทรทัศน์ได้ไม่นาน ก็เกิดเป็นกระแส F4 Fever ไม่ว่าจะหันไปทางไหนเราก็มักจะได้เห็นข้าวของเครื่องใช้ที่มีภาพของ 4 หนุ่มติดอยู่ด้วยตลอดเวลา และหลังจากนั้นไม่นานก็มีการมาเปิดคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่ต่างพากันแห่ไปดูทั่วบ้านทั่วเมือง จากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาก็ผ่านมากว่า 14 ปีแล้ว ช่างไวอะไรขนาดนี้ วันนี้แอดเหมียวเลยจะขอพาเพื่อนๆ ไปชมกันว่าปัจจุบันพวกเขาทั้ง 4 เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรแล้วบ้าง? พร้อมแล้วไปชมกันเลย 1. เหยียนเฉิงซี่ (Jerry Yan) รับบท เต้าหมิงซื่อ 2. โจวอี๋หมิน (Vic Zhou) รับบท ฮัวเจ๋อเล่ย 3. อู๋เจี้ยนหาว (Vanness Wu)…
-
นางแบบสาวไต้หวันสุดทน จ่อเอาผิดคนนำรูปของตนมากล่าวอ้างว่าศัลยกรรม อับอายไปทั่วโลก
หากใครยังจำกันได้ เมื่อหลายปีก่อนในโลกออนไลน์บ้านเราเคยมีการแชร์ภาพของครอบครัวครอบครัวหนึ่ง ที่ทั้งสามีและภรรยาต่างก็ทำศัลยกรรม ทำให้ลูกๆ ที่เกิดมามีใบหน้าแปลกไปจากพ่อและแม่ กลายเป็นภาพที่ชาวเน็ตมักจะหยิบขึ้นมาล้อเลียนเสมอ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะไม่ได้เป็นแบบนั้นล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Appledaily ได้ออกมารายงานว่า เยี่ยว่านเจิ้ง ที่อยู่ในภาพดังกล่าวนั้น แท้จริงแล้วเป็นนางแบบสาวชาวไต้หวัน เธอได้เตรียมที่จะยื่นฟ้องคลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่ง หลังจากที่พวกเขานำภาพของเธอไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ การนำภาพของเธอไปใช้นั้น ส่งผลให้ชีวิตของเธอสูญเสียโอกาสมากมาย และกลายเป็นตัวตลกให้สังคมหยิบมาพูดถึงตลอดเวลา นางแบบสาวกล่าวว่าเธอไดเถ่ายแบบเพื่อให้คลินิกใช้โฆษณาเมื่อปี 2012 พร้อมกับนายแบบและเด็กๆ อีก 3 คน โดยภาพดังกล่าวถูกเซ็นสัญญาว่าจะใช้แค่ในสื่อสิ่งพิมพ์และนิตยสารเท่านั้น แต่ภาพดังกล่าวกลับถูกใช้ในอินเตอร์เน็ตด้วย ทำให้เกิดการส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว แต่ที่ดูจะเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องที่ภาพดังกล่าวถูกนำไปใส่สีตีไข่และบอกว่านี่คือครอบครัวชาวเกาหลีที่ทำศัลยกรรม จนลูกๆ 3 คนไม่มีใครที่มีใบหน้าเหมือนพ่อแม่เลย อีกทั้งเธอยังถูกกล่าวหาอีกว่าถูกฝ่ายสามีฟ้องหย่าเพราะทำศัลยกรรมจนลูกๆ ของพวกเค้าหน้าตาไม่เหมือนแม่ เยี่ยว่านเจิ้ง ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าเธอเสียทั้งสุขภาพกายและใจ เพราะเธอเองไม่เคยมีครอบครัวเลย และในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมานี้เธอต้องสูญเสียโอกาสอะไรหลายอย่าง คิดเป็นมูลค่านับล้าน ชมคลิปแถลงข่าวได้ที่ด้านล่าง โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ที่มีเอเจนซี่ถามว่าเธอคือคนที่สามีฟ้องหย่าเพราะทำศัลยกรรมใช่ไหม? ทำให้เธอต้องออกมาเรียกร้องสิทธิ์ของเธอและเตรียมฟ้องกลับกับคลินิกที่ผิดสัญญากับเธอล่ะ ที่มา 娛樂影音 , appledaily , kapook
-
นำเทรนด์ก่อนใคร!? คุณป้าชาวไต้หวันแต่งหน้าไปเดินตลาด…หน้าแน่นฝุดๆ !!
การแต่งหน้าถือเป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่สาวๆ ต้องพยายามเรียนรู้และเสียเวลาไปกับมันค่อนข้างมากเลยทีเดียว เพราะการแต่งหน้าจะช่วยให้ใบหน้าของเราดูสดใสน่ามอง แต่จะว่ายังไงดีล่ะ มาตรฐานของเราแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ฉะนั้นคำว่า “สวย” ของแต่ละคนจึงแตกต่างออกไป เหมือนกับการแต่งหน้าของคุรป้ารายหนึ่งในประเทศไต้หวัน ที่ถูกถ่ายไว้ได้ในระหว่างออกไปจ่ายตลาด เมื่อวันที่ 19 กันยายนที่ผ่านมา เป็นภาพของคุณป้ารายหนึ่งที่แต่งหน้าแน่นจนขาวและคิ้วเข้มประหนึ่งว่าเป็นนักแสดงงิ้วมาเอง ทำเอาสาวๆ ที่พบเห็นถึงกับงงในสไตล์การแต่งหน้าของเขาเลย สุดท้ายนี้ แอดเหมียวอยากจะทิ้งคำสั้นๆ ไว้ว่า…รักเพื่อน ช่วยเพื่อนเลือกรองพื้นนะจ๊ะ ที่มา 19lou
-
จำกันได้มั้ย? พบกับ 3 นักแสดงหลักจาก ‘เปาบุ้นจิ้น’ ปัจจุบันพวกเขาเปลี่ยนไปแค่ไหนกันนะ
‘เปาบุ้นจิ้น’ นั่นแน่!! แค่พูดชื่อซีรีย์ดังจากไต้หวันเรื่องนี้ขึ้นมา เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคน โดยเฉพาะคนที่อายุ 20+ คงจะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะซีรีย์เรื่องนี้ไม่บอกก็รู้เลยว่าโด่งดัง และเคยฮิตทั่วบ้านทั่วเมืองมาก่อน ซึ่งในตอนนี้วันเวลาก็ผ่านมานานกว่า 22 ปีแล้ว หลายคนอาจจะหลงๆ ลืมๆ กับใบหน้าเหล่านักแสดงหลักเรื่องนี้กันแล้วใช่ไหมล่ะ และเพื่อเป็นการเตือนความทรงจำ ในวันนี้เราได้นำภาพของ 3 นักแสดงหลัก ไม่ว่าจะเป็นท่านเปา จั่นเจา และกงซุนเช่อ มาให้ได้ชมกันแล้วจ้า 1.Jin Chao-chun นักแสดงชาวไต้หวัน วัย 63 ปี ผู้รับบท ‘เปาบุ้นจิ้น’ ผู้พิพากษาตงฉิน ผู้ผดุงคุณธรรม แถมยังเป็นที่พึ่งของประชาชน ใครเดือดร้อน หรือมีปัญหาทุกข์ใจ ขอให้มาหาท่านเปาได้เลย 2.Kenny Ho นักแสดงชาวฮ่องกง วัย 55 ปี ผู้รับบท ‘องครักษ์จั่นเจา’ ยอดมือกระบี่เจ้าของฉายา ‘แมววังหลวง’ แถมใบหน้าที่หล่อเหลาของจั่นเจา ก็ทำเอาสาวๆ หลงใหลมานักต่อนักแล้วนิฮะ…
-
ระทึก!! หนุ่มไต้หวันสุดคลั่ง ควักมีดจ้วงโสเภณี อ้าง “พระผู้เป็นเจ้าต้องการให้ชำระบาป”
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดระทึกของหนุ่มชาวไต้หวันผู้นับถือศาสนาคริสต์รายหนึ่งในโรงแรมย่านว่านหัว เมืองนิวไทเปซิตี้ ของไต้หวัน ขณะใช้มีดปอกผลไม้แทงไปที่หญิงสาวในสภาพล่อนจ้อน โดยชายหนุ่มได้บังคับให้เธอถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นจึงปล้นทรัพย์สินของเธอและโจมตีเธอด้วยมีดปอกผลไม้ โดยอ้างว่าที่เขาทำไปทั้งหมดนั้น เพื่อเป็นการ “ชำระบาปให้เธอ” ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มแซ่ซื่อ วัย 42 ปี ได้หลอกล่อให้หญิงสาวซึ่งทำอาชีพเป็นโสเภณี ไปที่โรงแรมกับเขา แต่หลังจากที่เปิดห้องกัน เขาก็ได้แสดงพฤติกรรมสุดป่าเถื่อนโดยการใช้มีดจ้วงไปที่เธอขณะที่เธอแปลือเปล่า แต่โชคดีที่หญิงสาวไหวตัวทันและวิ่งออกไปนอกห้อง ทำให้ชายหนุ่มต้องเป็นฝ่ายที่หนีไปเสียเอง หลังจากเกิดเหตุได้ไม่นาน พนักงานของทางโรงแรมก็ได้เข้ามาดูเหตุการณ์และช่วยเหลือหญิงสาว จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าหนุ่มแซ่ซื่อนั้นใช้มีดแทงหญิงสาวจริง โดยเจ้าตัวอ้างว่าเมื่อ 3 ปีก่อน เขาได้ยินเสียงของพระผู้เป็นเจ้าบอกว่า “จงล้างบาปหญิงขายบริการด้วยเลือด” ชายหนุ่มจึงรอเวลาที่เหมาะสมและได้หลอกหญิงขายบริการมาเป็นเหยื่อของเขา ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อหากรรโชคทรัพย์แก่ชายรายดังกล่าว แต่เหตุการณ์การใช้มีดแทงหญิงสาวนั้น จะมีการสืบสวนต่อไป และจะมีการตรวจสอบสภาพจิตใจของเขาก่อนจะพิจารณาคดีขั้นต่อไป ที่มา shanghaiist
-
แม้ยามวิกฤติก็ฮาได้!! ชาวไต้หวันรุมถ่ายรูปตู้ไปรษณีย์ หลังโดนพายุพัดจนเอียง
ไม่ใช่แค่คนไทยหรอกนะ ที่จะสามารถเฮฮาไปกับเรื่องร้ายๆได้ เพราะชาวไต้หวันเองก็มีอารมณ์สนุกสนานแบบนั้นเช่นกัน เพราะเมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่า หลังจากเกิดพายุไต้ฝุ่นเซาเดโลร์เข้าถล่มที่กรุงไทเป จนทำให้สิ่งปลูกสร้างในเมืองเกิดความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตกว่า 6 ราย แต่กลับเกิดเรื่องน่ารักๆขึ้น เพราะพายุได้พัดเอาตู้ไปรษณืย์สีแดงและสีเขียวที่ตั้งอยู่ข้างถนน จนทำให้มันเอียงกระเท่เร่ ประหนึ่งเหมือนว่ามันกำลังทำท่าสงสัยอะไรสักอย่างอยู่ ทำให้ชาวเมืองอดไม่ได้ที่จะต้องเข้าไปโพสต์ท่าถ่ายรูปแบบขำๆกับเจ้าตู้ไปรษณีย์นี้เลย นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าทางไปรษณีย์ในไต้หวัน ไม่มีนโยบายที่จะเข้าไปซ่อมเจ้าตู้ไปรษณีย์นี้แต่อย่างใด เพราะมันได้กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ ที่ดึงดูให้คนเข้ามาร่วมกันถ่ายรูปอย่างมากมายทีเดียว แหม่ ไอ้เราก็นึกว่าจะมีแต่ชาวไทยที่ชอบทำอะไรเกรียนๆแบบนี้นะเนี๊ยะ ที่มา rocketnews24 , kapook
-
แม่ค้าออกโปรโมชั่นเด็ด เป่ายิ้งฉุบชนะรับซุปฟรี แต่โดนจวกว่าขายร่างกายซะงั้น!?
ทุกวันนี้การแข่งขันสูงซะเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นวงการไหนๆ ก็ตาม ร้านค้าต่างๆ ก็เช่นกัน เดี๋ยวนี้ก็มักจะมีกระแสแม่ค้าสวย แม่ค้าหุ่นแซ่บออกมาให้เห็นกันเรื่อยๆ จะว่าไปก็เริ่มเกลื่อนแล้วล่ะ แต่มันอยู่ที่ว่าใครจะมีอะไรเป็นจุดขายที่น่าสนใจมากกว่ากัน!! คราวนี้มากันที่ประเทศไต้หวัน โดยที่แม่ค้าร้านอาหารรายนี้ได้ทำการออกโปรโมชั่นสุดเร้าใจลูกค้า โดยที่ใครเป่ายิ้งฉุบชนะแม่ค้า ก็จะได้รับซุปเผ็ดจัดจ้านไปแบบให้ฟรีไม่คิดเงินแม้แต่แดงเดียว แต่เอาเข้าจริงๆ คนจะสนใจตัวแม่ค้าซะมากกว่า!? โดยที่หลังจากลงคลิปโปรโมตไปเพียงไม่นาน เธอก็กลายมาเป็นคนดังข้ามคืน ต่างเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศไต้หวันกันเลยทีเดียว มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่พ้น “ชาวเน็ต” ที่มาแสดงความคิดเห็นว่าแผนการโปรโมตนี้ไม่ได้เน้นที่ซุปฟรี แต่เป็นการใช้ร่างกายของเธอโปรโมตร้านต่างหาก!! ไม่แน่ใจว่าคนทั่วไปเข้าใจจุดประสงค์ของเธอผิดหรือเปล่า เธอเองก็อาจจะมีเจตนาแอบแฝงมาด้วยอยู่แล้วก็เป็นได้ หรือไม่ก็ผิดเองที่แม่ค้าสวยเซ็กซี่เกินไปจนคนอื่นอิจฉา อันนี้เหมียวก็ไม่รู้นะ ฮ่าฮ่า!! ที่มา : rocketnews24