Tag: ไฟ
-
หนุ่มห้าวเป้ง เจอคลิปเปิดขวดไวน์ด้วยไฟลน ลองเอามาทำตาม.. จะเหลือเรอะงานนี้!?
บนโลกอินเทอร์เน็ตมีการสอนเทคนิควิชาเคล็ดลับ ‘ไลฟ์แฮก’ ต่างๆ มากมายหลายอย่าง ซึ่งในบางกรณีที่เราไม่เคยรู้ว่ามันก็ทำแบบนี้ได้ด้วย และมันสามารถทำให้ชีวิตของเราง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมากไปอีก แต่ว่าไลฟ์แฮกทั้งหลายนั้น จะใช้งานจริงได้หรือไม่ ก็อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคนแล้วล่ะ อย่างพ่อหนุ่ม Lawrence Guo ลูกครึ่งอเมริกัน-เอเชีย จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่กำลังอยู่ในช่วงพักผ่อนกับเพื่อนร่วมก๊วน และกำลังหาทางเพื่อเปิดขวดไวน์ เนื่องจากว่าเหล็กไขจุกพังจนใช้งานไม่ได้… Lawrence Guo Guo นึกขึ้นได้ว่า เขาเคยดูคลิปวิดีโอสอนการเปิดขวดไวน์แบบไม่ต้องใช้เหล็กไขจุก แต่เป็นการใช้เครื่องเป่าไฟขนาดเล็กแทน ซึ่งวิดีโอไลฟ์แฮกในทำนองเดียวกัน ก็มีหลายคนทำออกมาเผยแพร่เต็มโลกออนไลน์ไปหมด ตัวอย่างการสอนเปิดขวดไวน์ด้วยเครื่องเป่าไฟขนาดเล็ก ด้วยวิธีที่นึกขึ้นได้ เขาก็หยิบไฟแช็กขึ้นมาลองใช้ดู แต่อนิจจา ด้วยแรงไฟที่ยังไม่มากพอ(เขาคิดอย่างนั้นอ่ะนะ) มันเลยไม่สำเร็จ เขาก็เลยชักชวนเพื่อนมาใช้ไฟจากเตาแก๊สแทน !? จังหวะที่กำลังใช้ไฟขนาด เบา-ปานกลาง พวกเขาก็ค่อยๆ เอียงคอขวดเข้าหาเปลวไฟอย่างช้าๆ… และแล้วผลก็เป็นไปตามคาด เปิดจุกขวดไวน์ได้ แต่อยู่ในสภาพที่ขวดแตกคามือนี่สิ มันอันตรายมากๆ เลยนะนั่น!! อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่า เตาแก๊สนั้นไม่สามารถใช้แทนเครื่องเป่าไฟขนาดเล็ก แม้จะสามารถควบคุมความแรงในช่วงเวลาหนึ่งได้ แต่แรงไฟก็ยังคงมากกว่าอยู่ดี…
-
ผลงานถ่ายแบบที่ใช้ ‘ธาตุทั้ง 4’ แทนชุดนางแบบ โดยปราศจากโปรแกรมแต่งภาพ…
ปัจจุบันการจะหาภาพถ่ายนางแบบมาชื่นชมความสวยงามนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร แต่การจะชมภาพถ่ายนางแบบที่เรียกได้ว่าสวยงามและมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครนั้นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่หาชมได้ทั่วไปแน่นอน และเมื่อไม่นานมานี้คุณ Asida Turava ช่างภาพผู้มากฝีมือ ได้สร้างสรรค์ผลงานการถ่ายแบบของเขาที่ไม่เหมือนใครและแปลกใหม่สุดๆ โดยช่างภาพคนดังกล่าวได้ใช้เวลาและความพยายามถึง 3 วันในการบันทึกภาพของนางแบบชุดนนี้ อ่า… อยากชมความสวยงามกันแล้วใช่ไหมล่ะ?? ถ้าอย่างนั้นจะรอช้าอะไร เลื่อนไปดูกันได้เลย . ภาพจะเป็นการนำทราย แป้ง ฝุ่น แสงไฟ และน้ำ (ตัวแทนธาตุทั้ง 4) มาสาดใส่ตัวนางแบบและบันทึกภาพเหล่านั้นออกมา และนอกจากความแปลกใหม่ของผลงานแล้ว ภาพถ่ายชุดนี้ไม่ได้ใช้โปรแกรมแต่งภาพใดๆ เลย เว้นเสียแต่ภาพลากเส้นไฟนั้นต้องพึ่งการซ้อนภาพ แต่สำหรับชุดอื่นๆ ที่เกิดขึ้นบนตัวนางแบบนั้นมาจากการใช้แรงจริงๆ สร้างขึ้นมา!! . สายลมและผ้า ที่ไม่ผ่านการตกแต่งภาพใดๆ . . ฝุ่นแป้งที่กระจายตัวออกมา เปรียบเหมือนชุดของเหล่านางแบบ . . . และนี่คือภาพเบื้องหลังผลงานการถ่ายแบบชุดนี้ ว้าวว สวยงามและน่าทึ่งจริงๆ เลยนะเนี่ย ที่มา boredpanda
-
หนุ่มนักประดิษฐ์สร้าง ‘หมัดโลกันตร์’ ปล่อยไฟพวยพุ่งออกมาได้ เหมือนดั่งในการ์ตูน!!
หนังหรือการ์ตูนต่อสู้กำลังภายในหลายๆ เรื่องคงทำให้หลายคนได้เห็นกับเอฟเฟกต์สุดตระการตาอย่างสร้างลมพายุ ปล่อยลำแสงตูมตาม โน่นนี่นั่น แต่ถ้าเป็นหมัดไฟล่ะก็มันจะไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่เราเห็นเพียงในจอภาพอีกต่อไปแล้วล่ะ ตัวอย่างการปล่อยหมัดไฟในการ์ตูนเรื่อง Legend of Korra หรือไม่ก็จะเป็น Ace จาก One Piece ที่สามารถปล่อยหมัดไฟได้เหมือนกัน!! ในเมื่อจินตนาการของมนุษย์มีไม่สิ้นสุด มนุษย์เราก็สามารถสร้างสิ่งที่เกิดขึ้นในการ์ตูนให้เกิดขึ้นจริงได้ อย่างการควบคุมธาตุไฟในการ์ตูนชุดอวตาร ให้กลายมาเป็นหมัดแห่งโลกันตร์!! ด้วยแรงบันดาลใจเหล่านี้ทางด้านหนุ่มนักประดิษฐ์ Allen Pan ได้ทำการสร้างอุปกรณ์พ่นไฟติดมือขึ้นมา ควบคุมด้วยแผงวงจรพิเศษ เมื่อออกแรงปล่อยหมัดปุ๊บไฟก็พวยพุ่งทันที แบบว่าโคตรเท่ จ๊าบปิ๊งนุ๊ก!! โดยคนที่ได้มาทดสอบหมัดไฟก็คือ Oscar Perez ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชากังฟูมาอย่างแท้จริง พร้อมกับการโชว์สกิลเล็กๆ น้อยๆ พอหอมปาหอมคอ คลิปวิดีโอทดสอบอุปกรณ์หมัดไฟสุดเท่!! อย่างไรก็ตามอุปกรณ์เหล่านี้ควรมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลเพราะความอันตรายของมัน แต่มันก็ได้เติมเต็มความฝันสุดคูลของนักประดิษฐ์ผู้คลั่งไคล้การ์ตูนหรือหนังในทำนองนี้ไปแล้ว และถ้าว่าหากใครอยากจะลองศึกษาว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้มีกระบวนการอย่างไร ก็สามารถเข้าไปดูวิธีการทำในเว็บไซต์ hackster ได้เลยครัช ที่มา: Sufficiently Advanced
-
ว่างๆ มาดู “ลักษณะของมือ” ของเรากันเล่นๆ ดูซิว่าคุณเป็นคนธาตุอะไร นิสัยแบบไหน!!
ปกติแล้วเวลาดูลายมือ เราก็มักจะดูกันในเรื่องของโชคลาภ เนื้อคู่หรือเกี่ยวกับการทำนายอะไรทำนองนี้เสียส่วนใหญ่ แต่เชื่อไหมว่าบางครั้งถ้าเราอยากดูนิสัยของคน เราก็สามารถดูผ่านมือของคนได้เช่นกัน!!? แน่นอนว่าหลายคนคงไม่แปลกใจเท่าไหร่นัก เพราะแนวคิดที่ว่ามีกันมาอย่างช้านานแล้ว เพียงแต่ว่าแนวคิดของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันออกไป แม้ว่าแนวคิดบางคนจะต่างกันไม่เหมือนกันเป๊ะ แต่ก็มีอย่างหนึ่งที่จะคล้ายๆ กันคือ มือ จะถูกแบ่งออกเป็น 4 แบบตามแต่ละธาตุนั่นเอง ธาตุทั้งหมดจะถูกจำแนกออกเป็น ดิน น้ำ ลม และไฟ ซึ่งจะถูกแบ่งแยกโดยลักษณะทางกายภาพของมือ เช่นขนาดมือ ขนาดนิ้วเป็นต้นนั้นเอง ว่าแต่ว่าจะมีรายละเอียดยังไงนั้น ลองมาดูกันเลยดีกว่า… ดิน คนที่จะมีมืออยู่ในธาตุนี้จะต้องมีลักษณะมือที่เป็นสี่เหลี่ยม และมีนิ้วที่สั้น ซึ่งคนที่มีธาตุนี้จะเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก และมีความแน่วแน่เป็นที่หนึ่งรวมถึงเป็นคนใจเย็น ลม คนธาตุลมจะมีลักษณะมือที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือสีเหลี่ยมจัตุรัสก็ได้ ส่วนนิ้วก็จะมีความยาวที่เท่าๆ กับมือ นอกจากนั้นคนที่อยู่ในธาตุลมจะเป็นคนที่ฉลาดและเก่งกาจในการสื่อสารกับคนอื่น ส่วนใหญ่คนธาตุนี้จะประกอบอาชีพนักเขียนหรือครูเป็นต้น น้ำ สำหรับมือธาตุน้ำนั้นจะมีรูปทรงกระบอกรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีลักษณะแคบ ส่วนนิ้วจะเรียวยาว ซึ่งมันทำให้คนธาตุนี้เป็นคนที่ลักษณะนิสัยยืดยุ่นและเป็นคนโรแมนติก คนที่จัดอยู่ในธาตุน้ำยังเป็นคนนิ่งๆ ลึกลับ ไฟ คนที่มีมือธาตุไฟนั้นจะเป็นคนที่มือใหญ่กว่าคนอื่นๆ แต่จะมีนิ้วสั้น ซึ่งคนในกลุ่มนี้จะเป็นคนหัวรั้นและมีความเป็นผู้นำสูง นอกจากนั้นยังเป็นคนที่ชอบเข้าสังคมและเล่นกีฬาด้วย จากที่อ่านมากันจนหมดขนาดนี้แล้ว เพื่อนๆ…
-
“Lumos Helmets” สุดยอดหมวกกันน็อคจักรยาน มีไฟสัญญาณให้ ปลอดภัยแน่นอน!!
สำหรับคนที่ชอบปั่นจักรยานแล้ว เรื่องความปลอดภัยคงเป็นสิ่งที่ต้องคิดถึงเป็นอันดับต้นๆ เพราะว่าสิ่งที่ป้องกันเราได้มีแต่หมวกกันน็อคหรือไม่ก็สนับเข่าหรือแขน ยิ่งถ้าใครปั่นตอนกลางคืนที่แสงน้อยๆ ก็จำเป็นต้องติดไฟเพิ่มเพื่อที่จะสามารถปั่นบนท้องถนน แต่มันก็ลำบากตอนเราจะเบรกหรือเลี้ยว เพราะว่ามันไม่ได้มีไฟเหมือนรถคนอื่นๆ ปัญหานั้นจะหมดไป เมื่อได้พบกับ Lumos Helmets สุดยอดหมวกกันน็อคสำหรับจักรยานที่จะทำให้คุณได้มีไฟสัญญาณติดตัว ไม่ต้องกลัวว่ารถคันข้างหลังจะงงแล้วว่าเราจะทำอะไรต่อไป . . . ทางผู้ผลิตเล่าว่าเขาได้ยินข่าวหรืออุบัติเหตุเกี่ยวกับจักรยานอยู่บ่อยครั้ง และส่วนมากก็มาจากการปั่นในช่วงเวลากลางคืน ทำให้รถทั่วไปมองเห็นได้ยาก ซึ่งหมวกกันน็อคอันนี้ก็จะมาช่วยแก้ปัญหานั้น ทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไปสามารถมองเห็นคนปั่นจักรยาน รวมถึงรู้ว่าเขาจะปั่นไปทางไหนได้ด้วย เพราะมันมีฟังก์ชั่นไฟเลี้ยวมาให้!! . โดยคุณสมบัติหลักๆ ของมันก็คือเป็นตัวบอกสัญญาณ ทั้งตอนที่จักรยานกำลังจะเบรก หรือแม้ตอนจะเลี้ยว เราก็สามารถเปิดไฟเลี้ยวได้เหมือนรถทั่วไปเลย ผ่านทางรีโมทไร้สายที่ติดอยู่กับแฮนด์จักรยาน ส่วนเรื่องแบตเตอร์รี่นั้นก็ไม่ต้องห่วง เพราะว่าสามารถชาร์ตผ่านสาย USB ได้ ถือว่าสะดวกสบายเป็นอย่างมาก . . ชมคลิปการทำงานของหมวกกันน็อคนี้กันเลย ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตรกรรมที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้จริงและเป็นประโยชน์ต่อผู้ปั่นจักรยาน ไม่แน่ว่าถ้าในอนาคตเป็นที่แพร่หลาย เราอาจจะเห็นข่าวอุบัติเหตุจากจักรยานน้อยลงก็ได้ ใครสนใจก็ลองเข้าไปชมได้ในเว็บไซต์ Lumos Helmets ได้ ราคาประมาณ 6,000 บาท…
-
‘HENG Balance’ โคมไฟใหม่สุดไฉไล กับจุดเด่นตรงลูกบอลไม้สวิตซ์ ที่ลอยกลางอากาศ!?
ในต่างประเทศ เว็บไซต์ Kickstarter นั้นก็เรียกได้ว่าเป็นเว็บไซต์ที่ดีมากๆ สำหรับนักประดิษฐ์หรือผู้ที่มีไอเดียเจ๋งๆ แต่ไม่มีทุน พวกเขาได้นำไอเดียดีๆ ของพวกเขามาระดมทุนในเว็บไซต์นี้ และหลายๆ ครั้ง ไอเดียเหล่านั้นก็ออกมาเจ๋งเลยทีเดียว Li Zan Wen นักออกแบบสาวชาวจีนกับไอเดียโคมไฟ HENG Balance Lamp ของเธอ คำว่า ‘Heng ในภาษาจีนนั้นแปลว่าความสมดุล’ หมายถึงโคมไฟอันสมดุลนั่นเอง โคมไฟนี้สร้างขึ้นจากไม้ โดยจุดเด่นก็คือสวิตซ์ไฟที่ใช้ลูกบอลไม้สองลูกตรงกลาง เมื่อนำมาอยู่ใกล้กัน ลูกบอลไม้ทั้งคู่จะดึงดูดกันโดยแรงแม่เหล็ก(แต่ไม่ติดกัน) และจะเป็นการเปิดโคมไฟนี้ HENG Balance Lamp สำหรับการออกแบบกรอบนั้นอิงจากบานหน้าต่างของจีนยุคโบราณ ส่วนแรงบันดาลใจในการใช้สวิตซ์แบบนี้นั้นเหมือนกับสวิตซ์แบบย้อนยุค ที่ต้องดึงกระตุกสายลงมาเวลาจะเปิดไฟ แต่กลับกัน เป็นการดึงสายขึ้นไปแทน วิธีการใช้งานเบื้องต้น แค่ดึงเข้าไปติดกันแบบนี้ ไฟก็จะมาแล้วล่ะ สวยงามเลยทีเดียว รายละเอียดในส่วนต่างๆ เป็นผลงานที่สร้างสรรค์มากๆ เลยนะเนี่ย ชมคลิปวิดีโอสาธิตการใช้งานกันได้ที่นี่ สำหรับเว็บไซต์ Kickstarter ก็ถือว่าเป็นอีกแหล่งรวมไอเดียดีๆ จากรอบโลกเลยล่ะ ใครที่มีไอเดียดีๆ…
-
เสริมความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกด้วย “ไฟฉายจินตนาการ” ที่สร้างฉากให้เด็กเล่นกับเงาได้เอง!!
ในวัยเด็ก การเล่นถือเป็นสิ่งที่ใครๆ ต่างก็อยากจะทำกัน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นอะไรก็ตาม เราก็มักจะเจอความสนุกกับทุกๆ อย่างได้อย่างง่ายดาย บางครั้งก็ไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรมาก มีคือมืของเรากับแสงจากหลอดไฟ เราก็สามารถเหมือนมือของเราให้กลายเป็นสัตว์ต่างๆ แล้วสะท้อนมันลงบนกำแพงได้ แล้วทำไมเราไม่สร้างฉากให้มันเสียเลยล่ะ เพื่อที่ลูกจะได้โลดแล่นในจินตนาการได้อย่างเต็มที่ Erik Bele Höglund ดีไซเนอร์ชาวสวีเดนได้ไปเห็นลูกๆ กำลังเล่นกับเงาอย่างสนุกสนาน ก็เลยปิ๊งไอเดียที่จะสร้างสิ่งที่เรียกว่า Darkness Design ของเล่นที่แสนเรียบง่ายที่จะให้ลูกของเขาได้เล่นกับเงาได้สนุกยิ่งกว่าเดิม จากคำกล่าวในเว็บไซต์ว่า “เด็กๆ ชอบเล่นกับเงาและทดลองสร้างอะไรต่างๆ ด้วยมือของพวกเขาเอง เหมือนอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ โปรเจกต์นี้เลยตั้งเป้าจะให้สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เรียบง่ายเหมือนกับโปรเจกเตอร์ แต่มันก็เหมาะสำหรับเด็กๆ ด้วย ไม่ได้ใช้งานยุ่งยากมาก” หลังจากที่เขาออกแบบมันในรูปแบบต่างๆ มามากมาย สุดท้ายก็ได้ออกมาเป็นสิ่งที่เขาหวัง มันเป็นเหมือนไฟฉายที่สามารถแบกไปได้ทุกที่ และวางไว้ให้ลูกสามารถจินตนาการถึงเรื่องราวที่เขาคิดขึ้นมาเอง โคมไฟนี้ทำมาจากไม้ พร้อมกับเลนส์ที่เขาวาดเอง อีกทั้งยังสามารถเก็บสายไฟเข้ามาในตัวได้ด้วยเมื่อเล่นเสร็จ ถือเป็นไอเดียที่สุดยอดไปเลย สำหรับใครที่มีลูกก็เอาไอเดียนี้ไปให้ลูกเล่นได้นะ เป็นอะไรง่ายๆ แถมยังทำให้ลูกใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและจินตนาการได้อย่างดีเลย ที่มา designyoutrust , contemporist, behance
-
ร้านตัดผมสุดเทพในอินเดีย กรรไกรมันเชย ต้องใช้ “เทียนไข” ลนผมให้ได้ทรง!!!
ทุกครั้งที่เราไปร้านตัดผม เราก็มักจะเลือกร้านที่เราไว้ใจ ไปตัดบ่อย เพราะว่าทรงที่ออกมาจะค่อนข้างตามมาตรฐานทั่วไป และทำให้เราอุ่นใจในระดับหนึ่ง แต่ถ้าวันไหนคุณได้ไปอินเดีย แล้วเกิดอยากตัดผมขึ้นมา ขอแนะนำว่าต้องดูร้านให้ดีๆ หน่อยแล้วกัน เพราะว่ามีอยู่ร้านหนึ่งที่มีเทคนิคการตัดผมที่ไม่เหมือนใคร และไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเหมือนด้วย นั่นก็คือการเอาเทียนไขมาลนแทนการใช้กรรไกร ร้านแห่งนี้มีชื่อว่า Raj Men’s Salon ตั้งอยู่ในเมือง Gulbarga, Karnataka โดยเจ้าของร้าน Dasharath ใช้เทคนิคพิเศษนั่นก็คือเอาเทียนไขมาเผาผมแทนการตัดด้วยกรรไกร และลูกค้าก็เหมือนจะชอบด้วย ไอเดียนี้เกิดจากที่เขาต้องการจะทำอะไรที่แปลกไปจากเดิม โดยที่ไม่อยากใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า และปกติเขาก็ใช้เทียนในร้านเป็นประจำอยู่แล้ว ก็เลยปิ๊งไอเดียเอาเทียนมาตัดผมแทนนั่นเอง ตอนนี้ก็เรียกได้ว่าเขาเป็นผู้นำแห่งวงการบาร์เบอร์ของประเทศอินเดียไปเสียแล้ว แถมลูกค้าชอบวิธีการใช้ไฟลนก็ได้ทรงที่ออกมาดีด้วย เราไปชมคลิปการตัดผมด้วยไฟของเขากันเลย ถ้าใครแวะไปอินเดียและอยากสัมผัสบรรยากาศใหม่ๆ แนะนำให้ลองไปตัดดูสักครั้ง ส่วน #เหมียวสามสี ขอบาย ถ้าใครเอาแกล้งเพื่อนโดยการเอาไฟลนขนหน้าแข้งเพื่อนคงรู้ดีว่ากลิ่นมันเป็นยังไง ฮร่า ที่มา scoopwhoop
-
จากภาพ “แมวสปาย” ที่ไปมุดช่องหลอดไฟ ชาวเน็ตจับได้เลยลงโทษ ตัดต่อไปมุดที่อื่นด้วย!!!
สำหรับคนที่ทำงานออฟฟิศ สิ่งหนึ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือบอสของเรานั่นเอง ยิ่งตอนเวลาที่บอสเดินมาตรวจงาน เป็นอะไรที่กดดันเป็นอย่างมาก แต่สำหรับออฟฟิศแห่งนี้ที่ญี่ปุ่น เจ้านายแทบไม่ต้องออกแรง ไม่ต้องติดกล้องวงจรปิดให้เปลืองงบ เพราะพนักงานทั้งหมดได้ถูกจับตามองด้วยน้องแมวเหมียวสปลายตัวนี้เข้าแล้ว ภาพนี้ถูกถ่ายโดยพนักงานออฟฟิศแห่งหนึ่งชื่อว่า @omocha_no_uma เขาได้ถ่ายภาพนี้แล้วอัพลงทวิตเตอร์ หลังจากนั้นก็ถูกรีทวีตอย่างรวดเร็วถึง 80,000 ครั้งเลยทีเดียว ดูสีหน้ามันสิ เหมือนกับว่าจ้องจะจับผิดขนาดนั้นเลย ไม่วาย ผ่านไปไม่นานก็ถึงคิวของชาวตัดต่อเข้าให้ เมื่อเจ้าแมวสปายที่สามารถมุดไปอยู่ทุกที่ ดูซิว่าครั้งนี้คนจะตัดต่อไปมุดอยู่ที่ไหน อย่างเช่น ภาพในตำนาน ว่าแต่แกเข้าไปได้ยังไง มีหลายคนด่าว่าทรัมป์ปากxมา ก็เลยขอเป็นปากแมวแทน นะ นั่นมันนนนน!!! แม๊วววววววว แม๊วริโอ้ก็มา เดอะ แม๊วทริกซ์ หรือกระทั่งออกอวกาศ อยากรู้จริงๆ ว่ามันขึ้นไปอยู่บนนั้นได้ยังไง ไม่น่าใช่ที่ที่แมวมุดไปได้เลยนะนั่น ฮ่าๆ ที่มา boredpanda
-
โอ้วว๊าว!! บ.ต่างชาติคิดค้น “เครื่องปั่นไฟฟ้าพลังน้ำ” เพียงนำไปวางในกระแสน้ำ ก็สร้างกระแสไฟได้แล้ว
ลองจินตนาการว่าคุณเป็นคนที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนตามต่างจังหวัดหรือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แล้วจู่ๆ แบตเตอรี่มือถือดันหมดระหว่างทาง นั่นคงจะเป็นฝันร้ายสุดๆ เลยใช่ไหมล่ะ แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป หากคุณมีเครื่องปั่นไฟฟ้าพลังน้ำ!! เมื่อไม่นานมานี้บริษัท Enomad ในกรุงลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกแบบและคิดค้นเครื่องปั่นไฟจากพลังน้ำขนาดเล็ก ที่มีลักษณะคล้ายกับกระบอกน้ำพกพาง่าย . ขั้นตอนการใช้งานมันก็เพียงแค่เปิดฝา กางใบพัดออกมา แล้วนำไปวางไว้ในแม่น้ำ ลำธาร หรือที่ไหนก็ได้ที่มีกระแสน้ำไหลผ่านตลอดเวลาเพื่อให้ใบพัดหมุน เท่านี้ก็ใช้การได้แล้ว ในการชาร์จแต่ละครั้งจะสร้างพลังงานไฟฟ้าได้ประมาณ 2.5 – 5 วัตต์ สามารถใช้ชาร์จไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้นานถึง 5 ชั่วโมง ชาร์จมือถือได้ 3 เครื่อง กล้อง GoPro หรือแม้แต่ Tablet ได้เร็วกว่าปกติถึง 2 เท่า ไม่ว่าคุณจะไปเจอกับแหล่งน้ำที่ไหนก็ตาม คุณสามารถชาร์จมันได้ทันที (เจอแหล่งน้ำเท่ากับเจอไฟฟ้าเลยนะเออ) ลองชมคลิปสาธิตการทำงานได้ที่ด้านล่างเลย ถือเป็นอีกหนึ่งพลังงานไฟฟ้าที่น่าสนใจมากทีเดียว หากใครสนใจอยากจะสนับสนุนหรือหาซื้อเครื่องปั่นไฟแบบนี้มาไว้ที่บ้านสักตัวล่ะก็ เขาสนนราคาอยู่ที่เครื่องละประมาณ 6 พันบาท…
-
ส่งความรู้สึกให้กับรถคันข้างหลังด้วย “Drivemotion” งานนี้อาจมีคนหัวร้อนเพิ่ม!!!
หลายคนคงเคยประสบกับเรื่องราวบนท้องถนนที่เลวร้ายมาบ้าง ทั้งการเจอรดปากหน้า เจอรถที่ไม่เปิดไฟเลี้ยว หรือรถที่ไม่ทำตามกฎจราจรแล้วทำให้เราต้องเดือดร้อน ซึ่งแต่ละครั้งเราก็ไม่สามารถระบายมันออกมาได้ เพราะว่าเราอยู่แต่ในรถ แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านมาพบกับ Drivemotion เป็นอุปกรณ์ที่จะให้คุณแสดงอารมณ์ให้กับรถคันอื่นๆ ได้ตามต้องการ ทุกวันนี้การสื่อสารด้วยตัวหนังสืออย่างเดียวมันไม่พอแล้ว มันต้องมีการแสดงอารมณ์ตางๆ เพื่อให้คู่สนทนาได้รับรู้อารมณ์ของเราด้วย และเจ้าเครื่องนี้ก็เป็นการแสดงอารมณ์ได้อย่างดีในตอนขับรถ ซึ่งเราสามารถแสดงอารมณ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหน้ายิ้ม โกรธ และอีกมากมาย เพียงแค่คุณกดปุ่มเลือกอารมณ์ที่ต้องการ มันก็จะไปแสดงผล ซึ่งจะเห็นได้อย่างชัดเจนถ้าขับตามหลังมา ดูเหมือนจะเป็นไอเดียที่ทำขึ้นเล่นๆ แต่มันมีขายจริงๆ นะเออ ราคาก็ประมาณ 2,000 – 3,000 บาท ใครสนใจก็ลองไปดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ drivemotion ได้เลย ที่มา drivemotion
-
พาชมเทศกาล “ย่างภูเขา” ที่ประเทศญี่ปุ่น เปลี่ยนภูเขาให้สวยงามด้วยเปลวไฟ!!!
ถ้าพูดถึงการเผาแล้ว ที่บ้านเรามีการเผาป่าบนภูเขาสร้างมลพิษในภาคเหนือถือว่าเป็นปัญหาอย่างใหญ่หลวงที่แก้ไม่ตกจริงๆ แต่วันนี้ #เหมียวสามสี จะพาทุกท่านไปที่ญี่ปุ่นเพื่อไปชมการเผาแบบเดียวกันนี่แหละ แต่ต้องบอกก่อนกว่าการเผาของเขานั้นไม่ได้เผาเรื่อยเปื่อย เพราะมันเป็นเทศกาล “ยามะยากิ” แปลได้ว่าย่างภูเขานั่นเอง ในทุกๆ เดือนมกราคมของทุกปี ในเมืองนาราจะจัดเทศกาลนี้ขึ้นด้วยการทำให้ภูเขาลุกเป็นไฟ พร้อมทั้งขบวนแห่คบเพลิงและพลุมากมาย เปลี่ยนฤดูหนาวให้กลับมาอบอุ่นอีกครั้ง งานนี้จะจัดขึ้นทุกๆ วันเสาร์ที่สี่ของเดือนมกราคม โดยกลุ่มขบวนแห่คบเพลิงนั้นจะเดินไปตามทางของเมืองมุ่งสู่ภูเขาวากะกุสะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับไปแล้ว หลังจากนั้นก็ทำการย่างภูเขาให้ราบ พร้อมทั้งมีหน่วยควบคุมเพลิงให้ไฟไม่ให้ลามเกินขอบเขตด้วย ไฟนั้นจะลุกไหม้ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับว่ามีต้นไม้แห้งอยู่มากแค่ไหน ซึ่งที่มาของเทศกาลนี้ยังไม่มีใครรู้ แต่ก็ทำต่อมาเรื่อยๆ และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว . . . . . . . . . เห็นได้ชัดเลยว่าส่วนที่เผาไปนั้นก็กลายเป็นสถานที่ที่ให้คนมาเยี่ยมชมและสวยงามมากๆ ไปนอนเล่นรับแดดคงจะฟินไม่น้อยเลย ที่มา Amusing Planet
-
เปิดตัว “ไฟจักรยาน” สุดล้ำ ที่จะทำให้การขับขี่จักรยานยุคใหม่ ปลอดภัยยิ่งขึ้นกว่าเดิม!!
ในยุคที่ค่าครองชีพพุ่งทะยานอย่างหยุดไม่อยู่ จักรยานได้กลายเป็นพาหนะสุดคลาสสิก ที่หลายๆ คนเริ่มพิจารณากลับมาใช้อีกครั้ง เพราะจักรยานสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านค่าน้ำมัน รวมถึงทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงอีกด้วย แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับเลยว่า การขับขี่จักรยานบนท้องถนน โดยเฉพาะยามค่ำคืนถือว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอันตราย โดยเฉพาะเรื่องไฟสัญญาณที่บางครั้งก็มองเห็นได้ยาก จนอาจทำให้เกิดอันตรายได้ วันนี้ #เหมียวอ๊อดโด้ จะพาเพื่อนๆ ไปชมนวัตกรรมใหม่ ที่จะทำให้การขับขี่จักรยานยามค่ำคืนของเพื่อนๆ ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จะเจ๋ง จะดีขนาดไหน ไปชมกันเลย ไฟจักรยานดังกล่าวมีชื่อว่า LUMMA เป็นไฟจักรยานขนาดกะทัดรัดติดบริเวณปลายแฮนด์ทั้งสองข้าง โดยในหนึ่งข้างจะประกอบไปด้วย ไฟหน้า ไฟท้าย และตัวยิงเลเซอร์ลงพื้น . . ด้วยจำนวนหลอดไฟที่มากขนาดนี้ ทำให้ผู้ขับขี่ท่านอื่น สามารถสังเกตเห็นจักรยานได้จากทุกทิศทาง 360 องศาเลยทีเดียว นอกจากนี้ ตัวไฟยังมีแบตเตอรี่ภายในซึ่งสามารถนำมาชาร์จใหม่ได้ภายหลัง (ดูไปคล้ายๆ ดาบไลท์เซเบอร์ในสตาร์วอร์เหมือนกันนะเนี่ย) โดยตัวผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบด้วยสไลต์โมเดิร์นมินิมอล เรียกว่าสวยงามกลมกลืนไปกับจักรยานได้อย่างดีงาม น่าสนใจมั้ยละเพื่อนๆ ลองไปชมคลิปนำเสนอไฟจักรยานสุดเจ๋งนี้ดู ตอนนี้มีการระดมทุนผ่านเว็บไซต์ Indiegogo ใครสนใจก็ลองเข้าไปร่วมระดมทุนกันได้นะฮะ ที่มา Lumma System
-
ไม้ขีด 2 ก้าน + ยางรัด 1 เส้น ก็สามารถ “จุดไฟ” ได้แล้ว ดูไว้เผื่อได้ใช้ประโยชน์!!
วันนี้ #เหมียวสามสี มีเทคนิคการใช้ชีวิต ที่ไม่รู้ว่าจะมีประโยชน์รึเปล่า แต่ดูไว้เผื่อกรณีฉุกเฉิน ซึ่งก็ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ก็ดูไปเห๊อะะะ “ไฟ” ถือเป็นสิ่งที่สำคัญของมวลมนุษยชาติ ไฟสามารถสร้างและทำลายหลายๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกัน มนุษย์ต้องการไฟ อย่างน้อยก็เอาไว้ทำอาหารกินเพื่อไม่ให้อดอยาก วันนี้ก็เลยจะพามาดูการจุดไฟโดยใช้เพียงแค่ ไม้ขีด 2 ก้าน + ยางรัด 1 เส้น จบ. เริ่มจากการทำปมยางให้เป็นเหมือนรูป แล้วก็เอาไม้ขีดใส่เข้าไปในรูที่ทำไว้ จากนั้นก็เอาอีกก้านมาใส่รูที่เหลือ เตรียมยิง!! เตรียมยิง!! ปัง!! ถ้าใครงงก็เข้าไปดูวิธีเต็มๆ ได้ตามในคลิปเลย ที่มา MrGear
-
ก้มหน้ากันนัก เยอรมนีเลยติดไฟสัญญาณคนข้ามไว้ที่พื้น อำนวยความสะดวกซะเลย!!
ว่ากันว่ายุคปัจจุบัน เป็นยุคของสังคมก้มหน้า ไม่ว่าจะไปทางไหน เราก็เห็นคนก้มหน้าก้มตากดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในมือโดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ซึ่งมันคงจะไม่มีปัญหาอะไร หากพวกเขาไม่เดินไปก้มหน้าไป เพราะมันอาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ ทาง Stadtwerke Augsburg บริษัทด้านพลังงานและสาธารณูปโภคพื้นฐานในประเทศเยอรมันนีเล็งเห็นถึงปัญหานี้ จึงติดตั้งสัญญาไฟข้ามถนนลงบนพื้น เพื่อคอยเตือนคนที่ชอบเดินก้มหน้าโดยไม่มองถนน!! โดยไฟจราจรดังกล่าวเป็นไฟ LED ที่เจาะฝังลงไปในพื้นดิน ซึ่งจะเชื่อมกับสัญญาไฟจราจรบริเวณนั้นๆ หากไฟจราจรเป็นสีแดง ไฟ LED ที่พื้นก็จะกลายเป็นสีแดง เพื่อเตือนไม่ให้ข้ามถนน แน่นอน พวกเขาออกแบบไฟมาเป็นอย่างดี เพื่อให้แสงแยงตาของผู้ที่ก้มหน้าเล่นโทรศัพท์โดยตรง ชนิดที่ว่าคนที่ไม่เห็น คงมีแต่คนตาบอดเท่านั้นแหละ!! ลองไปชมวิดีโอสาธิตกันดีกว่า ว่าไฟตัวนี้ทำงานยังไง ดูเค้าใส่ใจกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ดีนะฮะ ถ้าแก้พฤติกรรมคนไม่ได้ ก็ทำเท่าที่ได้ไปก่อนละกัน ส่วนประเทศเรานั้น คงต้องรออีกซักพักใหญ่ๆ เลยละ่ ถึงจะมีอะไรแบบนี้ (หรืออาจไม่มีเลย ฮาาา) ที่มา Huffingtonpost
-
ฟินลูกตาดีแท้ กับการนั่งดู “ไม้ขีด 6,000 ก้าน” ถูกเผาแบบรวดเดียวจบ!!!
ถ้าคุณเป็นคนที่เล่นเน็ต และมีเวลาว่างประมาณ 15 นาที มาทำงานกับเราสิครับ สัปดาห์ละ 4,000 – 6,000 บาท ถุ้ย ไม่ใช่ละ ถ้าตอนนี้คุณมีเวลาว่างแล้วล่ะก็ เหมียวมีอะไรฆ่าเวลาให้มาฟินลูกตาเล่นๆ ในวัยเด็กหลายคนคงชอบเล่นไฟ บ้างก็ชอบจุดไฟเผาสิ่งเล็กๆ น้อยๆ และมีสิ่งหนึ่งที่ใครก็อยากจะลองทำนั่นก็คือการเอาไม้ขีดไฟมาเรียงกันแล้วจุดให้มันลุกซู่ขึ้นมาพร้อมกัน แต่ตอนนั้นเราคงทำไม่ได้ ไม่งั้นพ่อด่าตายเลย เล่นอะไรที่มันอันตราย แต่วันนี้ #เหมียวสามสี ก็จะมาสานฝันของทุกคนต่อด้วยคลิปจุดไม้ขีดไฟกว่า 6,000 ก้านโดยแชแนล HTD ซึ่งคลิปมีความยาวประมาณ 14 นาที เหมาะสำหรับคนไม่มีอะไรทำเป็นอย่างมาก อย่ารอช้า เราไปดูกันเลย นอกจากนี้เขายังจุดไฟไม้ขีดในรูปแบบอื่นๆ ด้วยนะ ถือว่าตอบโจทย์มากๆ ที่มา elitedaily
-
มาเปลี่ยนโคมไฟของคุณให้แจ่มแมวด้วยเหล่า “โมเดล” ที่ไม่ได้ใช้กันดีกว่า!!
หลายคนคงเป็นนักสะสมของเล่นในวัยเด็กๆ แต่พอโตขึ้นเราก็ไม่ได้สนใจมันสักเท่าไหร่ จะเก็บไว้ก็เกรงว่าจะเกะกะ วันนี้ #เหมียวสามสี ก็เลยเอาวิธีนำโมเดลที่ไม่ได้ใช้แล้ว มาทำเป็นของประดับโคมไฟของคุณให้ดูดีได้อย่างสวยงาม เจ้าของไอเดียนี้คือ downtwobane จาก Imgur เขาได้รับโมเดลราคาถูกเหล่านี้จากดิสนีย์สโตร์ ซึ่งน้องสาวเป็นคนซื้อมาให้ เป็นโมเดลเหล่า Avengers ที่ไม่รู้ว่าควรเอาไปวางที่ไหนดีถึงจะเหมาะกับบ้าน พอดีว่าเขาไปเจอกับโคมไฟเล็กๆ ในร้าน ราคา 70 บาท ก็เลยปิ๊งไอเดียขึ้นมา พร้อมกับซื้อกาวมาด้วย รวมทั้งหมดแล้วโคมไฟนี้ราคา 500 กว่าบาทเท่านั้นเอง!! ไปดูรูปก่อนและหลังทำก่อนเลย แตกต่างมากๆ อุปกรณ์พร้อม ติดลงไปตามใจชอบเลย อย่าลืมลงสีรองพื้นก่อน รอให้แห้ง แล้วก็พ่นสีทองตามไปเลย ผ่างงงง ออกมาอลังการสุดๆ นอกจากนี้เหล่าแก๊ง Frozen ก็โดนไปด้วยนะ สำหรับใครที่มีโมเดลเล็กๆ ที่แถมขนมมาตอนเด็กๆ ก็สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้เลย ถือเป็นการเอามาทำใหม่ให้บ้านดูดีขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อ ที่มา boredpanda
-
เรื่องราวก้องโลกของแม่แมวผู้กล้า “สการ์เล็ต” ผู้ลุยไฟไปช่วยลูกของมัน ก่อนเสียชีวิตในที่สุด
วันนี้เหมียวมีเรื่องราวอันน่าประทับใจมาฝาก เป็นเรื่องราวที่ต้องเล่าย้อนไปไกลมากในปี 1996 ได้เกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้เกิดขึ้นที่โรงเก็บรถในเมืองบรูคลิค เมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังควบคุมเพลิงอยู่นั้น สายตาได้มองไปเห็นแม่แมวตัวหนึ่ง กำลังคาบลูกวัย 4 สัปดาห์ออกมา 5 ตัวด้วยกัน ขณะที่ไฟกำลังลุกท่วม จากเหตุการณ์นั้นทำให้หูของแม่แมวได้รับบาดเจ็บจากเพลิงไหม้ อีกทั้งยังมีแผลพุพองบริเวณตา แม่แมวพยายามใช้จมูกตรวจสอบว่าลูกทั้ง 5 ตัวยังปลอดภัยดีหรือไม่ จนสุดท้ายก็หมดสติไป เจ้าหน้าที่ดับเพลิง David Giannelli ได้ทำการย้ายแม่แมวไปยังศูนย์เลี้ยงดูสัตว์ North Shore Animal League America และที่แห่งนั้นก็ได้ตั้งชื่อแม่แมวตัวนี้ว่า “สการ์เล็ต” และเลี้ยงดูแม่และลูกๆเป็นอย่างดี แต่ก็มีลูกแมวตัวหนึ่งตายเนื่องจากได้รับเชื้อไวรัส หลังจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ หลังจากได้รับการรักษาตลอด 3 เดือน สการ์เล็ต และลูกๆ ก็พร้อมที่จะมีคนรับไปเลี้ยงแล้ว… ในตอนนั้น ข่าวของสการ์เล็ตโด่งดังไปทั่ว จนมีคนขอรับเลี้ยงมันและลูกๆกว่า 7,000 รายชื่อ จนสุดท้ายลูกของมันก็ถูกคนรับเลี้ยงไปเป็นคู่ ส่วนสการ์เล็ตนั้นถูกรับเลี้ยงโดย Karen Wellen ซึ่งก่อนหน้านี้เธอได้สูญเสียแมวของเธอไปหลังจากที่เธอเกิดอุบัติเหตุเพียงไม่นาน ซึ่งเธอมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะรับเลี้ยงสการ์เล็ตไว้ หลังจากที่สการ์เล็ตได้ไปอยู่กับ Karen แล้ว ก็ยังมีสื่อต่างๆ ให้ความสนใจกับมันเป็นอย่างมาก มันดังไปไกลจนถึงประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังเป็นเสียงที่สำคัญของสำนักข่าว CNN และ Oprah Winfrey…
-
[เหมียวมีสาระ] รู้หรือไม่ ไฟบนท้องถนนเปิดและปิดอย่างไร?
ในทุกๆ คืนที่เราต้องนั่งรถไปตามท้องถนนเพื่อเดินทางไปไหนมาไหน เคยสงสัยกันไหมว่าเสาไฟตามข้างทางนั้น มันมีวิธีเปิดวิธีปิดยังไงกันแน่? หากเพื่อนๆ อยากรู้ล่ะก็ วันนี้แอดเหมียวจะมาเปิดเผยให้ได้รู้กันเอง เมื่อไม่นานมานี้แอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับข้อมูลที่น่าสนใจจากเว็บไซต์ Gotoknow มาล่ะ เป็นการเปิดเผยถึงวิธีการเปิด-ปิดไฟตามถนน โดยไฟถนนส่วนใหญ่จะเป็นแบบตั้งเวลา ซึ่งควบคุมดวงไฟตามถนนที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆกัน ในสมัยก่อนจะมีการใช้สวิทช์ไขลาน ที่ต้องคอยไขลานทุกสัปดาห์ แต่ตอนนี้เทคโนโลยีก้าวไกลมาก ทำให้เปลี่ยนจากการไขลานมาเป็นระบบไฟฟ้า มีหน้าปัดหมุนรอบตัวเองและมีคานหรือก้านติดอยู่ที่หน้าปัดเพื่อเปิด-ปิดไฟฟ้าตามเวลาที่ตั้งไว้ ตัวสวิทช์ที่ใช้กับไฟถนนนั้นจะเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ในเครื่องปรับอากาศ แต่ใช่ว่านาฬิกาจะถูกตั้งค่าให้เปิดปิดแบบตรงเวลานะ เพราะเมื่อฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลง ทำใช้ช่วงเช้า-ค่ำ มาเร็ว-ช้าต่างกัน แต่เจ้าไฟถนนนี้ก็ยังสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองแบบอัตโนมัติได้เช่นกัน เมื่อไม่นานมานี้วิศวกรผู้ทำงานด้านไฟถนนได้พัฒนาเครื่องควบคุม แบบโฟโตอิเล็กทริก ขึ้นมาเรียกย่อว่า “เพคู” เพื่อใช้ควบคุมสวิตช์ที่จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับดวงไฟตามถนน โฟโตเซลล์ที่อยู่ในเครื่องควบคุมแบบนี้มีสารประกอบทางเคมีที่ไวแสง เช่น แคดเมียมซัลไฟด์ หรือซิลิคอน ในตอนเช้าตรู่แสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบโฟโตเซลล์จะทำให้อิเล็กตรอนในสารประกอบนั้นไหลจากอะตอมหนึ่งไปยังอีกอะตอมหนึ่ง และนำกระแสไฟไปยังสวิตช์ซึ่งจะปิดแสงไฟ ครั้นเวลามืดลงอิเล็กตรอนในสารประกอบนั้นหยุดไหล กระแสไฟที่วิ่งอยู่ก็จะหยุด ทำให้สวิตช์เปิดและไฟถนนก็สว่างขึ้น กระแสไฟในโฟโตเซลล์จะไหลหรือหยุดเมื่อใดนั้นขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศนั่นเอง นี่ซินะความลับของไฟข้างถนน มันเปิดปิดอย่างนี้นี่เอง ที่มา gotoknow
-
ชายคนนี้พยายามที่จะจุดไฟเผาแมงมุมขณะเติมน้ำมัน จู่ๆไฟก็ลุกท่วมเต็มไปหมด
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่ปั้มน้ำมันในเมือง Detroit เมื่อชายคนหนึ่งพยายามจะจุดไฟเพื่อฆ่าแมงมุมที่ไต่อยู่ตรงบริเวณฝาถังน้ำมัน ซึ่งตอนนั้นเขาก็ได้เติมน้ำมันอยู่ เหตุการณ์นี้ทำให้ไฟลุกท่วมอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้ถูกบันทึกไว้โดยกล้องวงจรปิดในปั๊ม หลังจากเขาได้เห็นไฟลุกท่วมแล้ว ลูกจ้างที่อยู่ในปั๊มตอนนั้น Susan Adams ได้ตั้งสติแล้วกดปุ่มหยุดน้ำมัน และโทรไปหาหน่วยดับเพลิงทันที แต่ไม่นานหลังจากนั้นชายคนที่จุดไฟเผาก็ได้หยิบถังดับเพลิงที่อยู่แถวๆนั้นมาฉีดไฟที่กำลังลุกท่วม จนสุดท้ายเพลิงก็ได้สงบลง Susan ไดให้สัมภาษณ์ว่าได้คุยกับเขาแล้ว เขารู้สึกผิด เขาไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้น เราไปชมคลิปเหตุการณ์นี้กันเลยดีกว่า ที่มา fox2detroit
-
ชมปรากฏการณ์เกิดขึ้นได้ยากมาก “สายรุ้งไฟ” เหนือฟ้ารัฐเซาท์แคโรไลนา!!
Fire Rainbow หรือที่บ้านเราเรียกว่ารุ้งไฟหรือรุ้งเพลิง เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยากมากบนโลกนี้ ต้องโชคดีจริงๆถึงจะได้พบ ซึ่งบ้านเราก็คงยากที่จะได้เจอ การจะเกิดปรากฎการณ์นี้ได้ต้องเกิดจากเมฆเซอรัส ซึ่งเป็นเมฆที่ลอยตัวสูง และถ้าจะเกิดปรากฏการณ์นี้ได้ต้อสูงกว่า 20,000 และแสงอาทิตย์ต้องตกกระทบกับเมฆเป็นมุม 58 องศา ทำให้เกิดแสงที่ตกกระทบกับผลึกน้ำแข็ง เกิดเป็นสีสันอันงดงามเหล่านี้ และครั้งนี้ที่รัฐเซาท์แคโรไลนาก็ได้เกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น สร้างความตื่นตะลึงให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก หลายคนก็ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ เราไปดูความงดงามของมันกันเลยดีกว่า ที่มา 14news
-
ยายนครราชสีมาช็อค เจอบิลค่าไฟสุดโหดกว่า 26,765 บาท ทั้งที่อยู่บ้านคนเดียว!?
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพบิลค่าไฟ ผ่านเฟซบุ๊คของ Somruthai Deena พร้อมกับข้อความว่า “ค่าไฟ พิสดาร 26,765 บาท” เป็นภาพบิลค่าไฟจากบ้านของคุณยายรายหนึ่งในอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา โดยในบิลระบุค่าไฟของเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้นกว่า 26,765 บาท คิดเป็นหน่วยทั้งหมด 5,685 หน่วย ซึ่งสูงเกินกว่าที่บ้านหลังหนึ่ง ที่มีผู้อาศัยเพียงคนเดียวจะสามารถทำได้ จึงเกิดการถกเถียงกันขึ้นในโลกออนไลน์ แต่หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับบิลค่าไฟสุดโหดว่า แท้จริงแล้ว อาจเกิดจากความผิดพลาดของเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าก็เป็นได้ เพราะหากดูจากประวัติการใช้ไฟก่อนหน้านี้จะพบว่า ตัวเลขจะวิ่งอยู่แถวๆ 136 ไปจนถึง 193 หน่วย แต่ในเดือนกรกฎาคมกลับพุ่งไป 5685 ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ และอาจเกิดจากความผิดพลาดของพนักงานเอง ทั้งนี้ยังมีการแนะนำด้วยว่าให้โทรไปตามเบอร์โทรศัพท์ตามที่แจ้งในบิลเพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยตรวจสอบอีกด้วย ที่มา Somruthai Deena