Tag: ai
-
ผู้ลงสมัครนายกเทศมนตรีญี่ปุ่น ชูนโยบายใช้ AI เข้ามามีบทบาททางการเมือง!!
อย่างที่รู้กันดีว่าการหาเสียงของเหล่าพรรคการเมือง หรือตำแหน่งสำคัญเพื่อบริหารส่วนต่างๆ ของบ้านเมือง เหล่าผู้สมัครก็จะนำนโยบายต่างๆ มาปราศรัยเพื่อเรียกคะแนนจากประชาชน ซึ่งผู้สมัครแต่ละคนก็จะมีนโยบายที่แตกต่างกันออกไป แต่สำหรับผู้เข้าแข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีของเมืองทามะ ที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงโตเกียว ได้ทำการเสนอนโยบายที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก คือการใช้ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หรือ AI เข้ามามีบทบาทหน้าที่ทางการเมือง และผู้อยู่เบื้องหลังนโยบายนี้ก็คือนาย Michichito Matsuda วัย 44 ปี เขาได้กล่าวปราศรัยเอาไว้ว่า “เมืองทามะนั้นเคยเป็นเมืองที่เจริญมากๆ ของญี่ปุ่นเมื่อ 40 ปีก่อน ปัจจุบันนี้อายุของประชากรได้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับกันจำนวนของประชากรไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม ฉะนั้น และเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารในปัจจุบัน ผมจึงคิดว่าควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของระบบ AI เป็นตัวกำหนดนโยบายต่างๆ โดยการเก็บข้อมูลต่างๆ ในเมือง มาประมวลผลเพื่อทำหนดนโยบายทางการเมืองได้อย่างชัดเจน และแม่นยำ” และนี่ไม่ใช่การหาเสียงครั้งแรกของเขา โดยการชูนโยบายที่จะใช้ AI ในการบริหารงานส่วนต่างๆ แต่ย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเขาได้พ่ายแพ้ให้กับ Hiroyuki Abe ที่ได้รับเสียงโวตมากถึง 31,828 ครั้ง ส่วน Michichito ได้รับคะแนนไปแค่ 3,509…
-
แนะนำ 4 สายอาชีพแห่งอนาคต แม้อาจจะมีหุ่นยนต์แทนที่ แต่ใส่ใจได้ไม่เท่ามนุษย์นะ!!
มนุษย์ทำการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว ยิ่งนานวันสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ก็ยิ่งล้ำหน้า และตัวของเราเองก็ควรที่จะเรียนรู้เพื่อปรับตัวให้พร้อมกับเทคโนโลยีที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วย… ดั่งคำพูดของ Ray Kurzweil หัวหน้าแผนกวิศวกรรมของ Google ที่เคยกล่าวเอาไว้ใน “หุ่นยนต์จะเริ่มปรับตัวและพัฒนาให้มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ในปี 2029 จากนั้นมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ” และถ้าหากเทคโนโลยีหุ่นยนต์หรือปัญญาประดิษฐ์เริ่มมีบทบาทมากกว่านี้ จะเกิดอะไรขึ้น…? ในวงการอุตสาหกรรมได้นำเครื่องจักรกลและระบบคอมพิวเตอร์ มาช่วยทุ่นแรงสายการผลิต เพราะว่าเครื่องจักรสามารถทำงานได้รวดเร็วกว่า อึดกว่า และแม่นยำกว่ามนุษย์หลายเท่า ด้านธนาคารต่างๆ ก็มีการนำแอปพลิเคชั่นมาใช้ เพื่อช่วยการบริหารจัดการการเงิน ไม่ว่าจะโอน จ่าย ก็ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส สะดวก และรวดเร็วกว่าเคาน์เตอร์ธนาคาร แต่ถึงแม้ว่าปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ จะสามารถเรียนรู้ทำงานด้านต่างๆ แทนมนุษย์ได้ แต่ก็ยังขาดในสิ่งที่เรียกว่า ‘ความใส่ใจ’ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ยังไม่อาจเทียบเท่ามนุษย์ได้ แล้วสายงานไหนบ้างล่ะที่ยังคงต้องการคนมาทำงานอยู่… มาดูกันได้เลยจ้า สายงานด้านอาหาร เครื่องจักรไม่มีวันเข้าใจคำว่ารสชาติและไม่สามารถคิดค้นสูตรอาหารเองได้ เหล่าเชฟจึงไม่หวั่นกับการมาถึงของเทคโนโลยีใดๆ เพราะความพึงพอใจของรสชาติ สามารถเติมเต็มได้ด้วยฝีมือการทำอาหารและความพิถีพิถันในการออกแบบหน้าตาอาหารให้ถูกใจผู้ชิม ใครอยากโกอินเตอร์ในฐานะเชฟชื่อดังต้องนี่เลย สาขาศิลปะการประกอบและออกแบบอาหาร หรือ Culinary Arts and Design มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ที่พร้อมจะตอบโจทย์ด้านรสชาติของคนทั่วโลก…
-
เป็นเรื่อง!! เมื่อรถจาก Uber ที่ขับด้วยระบบอัตโนมัติ ชนคนตายเป็นครั้งแรกบนโลก
กลายเป็นเรื่องใหญ่สุดๆ หลังรถของ Uber ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเกิดขัดข้องและชนคนที่เดินอยู่ข้างถนนจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ทำให้ทางบริษัทต้องเร่งหาสาเหตุและทดสอบระบบดังกล่าวใหม่อีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในเมืองเทมเป้รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งรถคันดังกล่าวนั้นได้ขับชนหญิงสาววัย 49 ปี นามว่า Elaine Herzberg และแม้ว่าตัวรถคันดังกล่าวจะมีผู้ช่วยอยู่หลังพวงมาลัยก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวก็ยังเกิดขึ้นอย่างไม่ทราบสาเหตุ ในรายงานได้บอกว่า Elaine Herzberg กำลังจูงจักรยานของเธอข้ามถนนตามปกติจนกระทั่งรถคันดังกล่าวได้ชนเธอเข้าเต็มๆ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้รีบพาเธอไปส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนที่สุดแต่โชคร้ายที่เธอเสียชีวิตในเวลาต่อมา Dara Khosrowshahi ประธานกรรมการบริหารของอูเบอร์ได้ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่าเรื่องดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจริง เขาและทีมทนายกำลังเร่งหาทางออกกับเรื่องดังกล่าวอย่างเร่งด่วนที่สุด นอกจากนี้โฆษกของทาง Uber ก็ได้ออกมาบอกว่า “พวกเราขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างมากแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และพวกเราจะขอรับผิดชอบและตรวจสอบสาเหตุของปัญหาทั้งหมดให้ได้เร็วที่สุดอย่างแน่นอน” เหตุการณ์ดังกล่าวนั้นนับว่าเป็นครั้งแรกของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของ Uber และยังเป็นเหตุการณ์ที่สองนับจากรถของ Tesla เมื่อปี 2016 ซึ่งหลายฝ่ายก็ออกมาบอกว่าระบบนี้จำเป็นจะต้องพัฒนาและทดสอบให้มากกว่านี้ เพราะ AI ยังไม่สามารถที่จะคาดการณ์การกระทำของมนุษย์ได้อย่างแม่นยำและสมเหตุสมผล อัพเดท: จากรายงานล่าสุดของตำรวจ พบว่า Elaine Herzberg…
-
‘หุ่นยนต์ทนาย’ ปัญญาประดิษฐ์รุ่นใหม่ สามารถว่าความกรณีง่ายๆ และแม่นยำกว่ามนุษย์…
เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นมีความก้าวหน้าขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆ วัน ปัญญาประดิษฐ์จำพวกหุ่นยนต์จึงได้รับการพัฒนาให้มีความฉลาดมากขึ้น จนสามารถเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ได้ในหลายตำแหน่งงาน เช่น นักแปล พนักงานขับรถ และพนักงานต้อนรับ เป็นต้น จนมนุษย์เองก็เริ่มเกิดความกลัวว่าวันหนึ่ง หุ่นยนต์จะทำให้มนุษย์ไม่เหลือจุดยืนบนโลกใบนี้อีกต่อไป และวันนี้ความกลัวดังกล่าวกลับมาหลอกหลอนจิตใจผู้คนอีกครั้ง เพราะว่า หุ่นยนต์จะเข้ามารับตำแหน่ง “ทนายความ” ที่ก่อนหน้ามีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ทำได้ ในเดือนตุลาคม 2017 ที่ประเทศอังกฤษได้มีการจัดงานแข่งขันสำหรับทนายความ ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้มีชื่อว่า Case Cruncher Alpha เป็นการแข่งขันระหว่างทนายความจากบริษัทใหญ่ในกรุงลอนดอน กับหุ่นยนต์ทนายความ ทนายความทั้งมนุษย์และหุ่นยนต์จะได้รับกรณีศึกษาเกี่ยวกับ การขายประกันพ่วงสินเชื่อ ที่หลอกผู้บริโภคให้เข้าใจผิด และให้คาดการณ์ว่าทางผู้ตรวจตราข้อพิพาททางการเงินจะอนุญาตให้ผู้เสียหายฟ้องร้องได้หรือไม่ คำตอบถูกส่งมาจำนวน 775 คำคาดการณ์ แต่คำคาดการณ์ของหุ่นยนต์กลับเอาชนะไปด้วยอัตราความแม่นยำและถูกต้องที่ 86.6% ส่วนทนายความที่เป็นมนุษย์นั้นมีความแม่นยำเพียง 66.3% เท่านั้น ที่จริงแล้ว Case Cruncher ไม่ใช่หุ่นยนต์จากบริษัทยักษ์ใหญ่อะไร เป็นเพียงผลผลิตจากสมองของนักศึกษากฏหมาย 4 คน ที่เริ่มจากการสร้างปัญญาประดิษฐ์สำหรับตอบผู้ที่มาขอคำปรึกษาทางกฎหมายผ่านทางอินเทอร์เน็ต จากนั้นพวกเขาก็พัฒนามาเป็นการเขียนโปรแกรมให้ปัญญาประดิษฐ์เหล่านั้นสามารถคาดการณ์ในกรณีข้อพิพาทต่างๆ ได้ และน่าตกใจยิ่งกว่าคือ พวกเขาทั้ง 4 คนไม่มีความรู้ทางด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์เลย แต่เป็นการที่พวกเขาเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง…
-
พาชมโรงงานในจีน ผู้ให้กำเนิด “สมาร์ตเซ็กส์ทอย” หุ่นยนต์พูดได้ ล้างจานก็ยังได้
เทคโนโยยีในปัจจุบันมีการพัฒนาที่รวดเร็วเสียจนพวกเราจับตามองกันไม่ทัน โดยเฉพาะเทคโนโยยีด้านการทำหุ่นยนต์หรือการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์นั้น เรียกได้ว่าเข้าใกล้กับภาพหุ่นยนต์ในอุดมคติมากเข้าไปทุกที ล่าสุดทางประเทศจีนก็ใช้เทคโนโลยีอันล้ำสมัยนี้ผสมผสานเข้ากับตุ๊กตายาง เพื่อทำให้พวกเธอสามารถโต้ตอบกับเจ้าของ และเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่างได้ด้วย . บริษัท Exdoll ซึ่งมีตั้งอยู่ในเมืองต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน เป็นบริษัททำตุ๊กตายางชั้นนำของจีนที่ผลิตตุ๊กตายางได้หลากหลายรูปแบบตามความต้องการของลูกค้า โดยมีราคาเริ่มต้นแค่เพียงตัวละ 400 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12,500 บาท) เท่านั้น แต่เมื่อเร็วๆ นี้ทางบริษัทได้สร้างตุ๊กตายางรุ่นใหม่ที่ชื่อว่า Xiaodie โดยตุ๊กตายางรุ่นใหม่นี้มีความสามารถที่พิเศษกว่ารุ่นเก่าก็คือมันถูกติดตั้งเทคโนโลยีการโต้ตอบกับมนุษย์เข้าไปด้วย ทำให้พวกเธอสามารถคุยกับเจ้าของได้เหมือนกับ Siri โปรแกรมโต้ตอบจากบริษัท Apple เลยก็ไม่ปาน . นอกจากนี้แล้ว Xiaodie ยังมีีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ เธอจึงสามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมเล่นเพลง หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างเครื่องล้างจานได้ เท่านี้เราก็สามารถสั่งให้มันเปิดโปรแกรมหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เองด้วย ทั้งหมดนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ในราคา 4,000 ดอลลาร์สหัรฐ (ประมาณ 125,000 บาท) อีกทั้งตุ๊กตายางที่แสนสมาร์ตตัวนี้ยังสามารถเรียนรู้พฤติกรรมของเราได้ด้วย ผู้ผลิตชี้แจงว่าภายใน 1 ปีหลังจากซื้อเธอไป เธอจะสามารถเลียนแบบสีหน้าท่าทางได้ และจะจดจำเสียงของเจ้าของแล้วมองตามเจ้าของได้ด้วย . Wu Xingliang ผู้อำนวยการด้านการตลาดของบริษัท…
-
นักวิทย์ญี่ปุ่นประดิษฐ์ AI ที่อ่านใจคุณได้ ไม่ว่าคุณคิดอะไรในหัว มันก็จะถ่ายทอดออกมาเป็นภาพ
ในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีถือว่าก้าวหน้ากว่าเดิมมากๆ เมื่อเทียบกับสมัยก่อน และยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกเรื่อยๆ และตอนนี้หากคุณคิดว่า AI ในเกมที่ตบคุณตายได้ง่ายๆ นั้นไม่เจ๋งพอ ตอนนี้มี AI ที่เจ๋งกว่านั้นออกมาแล้ว มันคือ AI ที่สามารถอ่านใจของคุณได้! นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นนั้นได้สร้าง Artificial Intelligence หรือ AI ที่สามารถอ่านคลื่นสมองของคนและก็แสดงมันออกมาเป็นรูปภาพที่ขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขามองอยู่ในขณะนั้น เช่น ถ้าคนมองไปที่ตัวอักษร A เจ้า AI เนี่ยก็จะพยายามจะสร้างรูปที่คล้ายๆ ตัว A ออกมา แม้ว่ามันก็ยังเบลอๆ ไม่สมบูรณ์ดีนัก แต่ว่าก็ถือว่าประสบความสำเร็จในการอ่านความคิดของคนได้ในระดับหนึ่งล่ะนะ กว่า 10 สัปดาห์ในการทดสอบ นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงผลของการทดสอบเกี่ยวกับการบันทึกคลื่นสมองโดยแบ่งเป็น 2 แบบคือ แบบแรกคือในขณะที่พวกเขามองไปที่รูปภาพ และอีกแบบคือขณะที่เขานึกถึงภาพที่มองไปก่อนหน้านี้ ซึ่งนักวิจัยนั้นใช้การสแกนคลื่นสมองเพื่อพัฒนาระบบ Deep Learning Network เพื่อให้มันสามารถแปลรหัสและแสดงเกี่ยวกับสิ่งที่คนนึกถึงตอนนั้นๆ แต่ด้วยข้อเท็จจริงแล้ว เจ้า AI นี่มันไม่ได้อ่านใจเราจริงๆ หรอก เพียงแต่ว่ามันนั้นสามารถอ่านคลื่นสมองของเราและสามารถแปลความหมายของมันได้ เช่นถึงแม้คุณจะคิดถึงรูปตัวอักษร…
-
AI จาก Google ฉลาดล้ำเกินไปแล้ว สามารถคาดเดาและให้คะแนนภาพที่มนุษย์น่าจะชอบได้ตัวเอง
ในปัจจุบันนั้นเทคโนโลยี AI นั้นได้ถูกพัฒนาไปไกลขึ้นเรื่อยๆ โดยมันได้ถูกนำไปใช้ในหลายๆ ด้าน และหลายค่ายก็ต่างพากันเข็น AI ในแบบของตัวเองออกมาโชว์สักยภาพกันให้เพียบ เช่นเดียวกับ NIMA (Neural Image Assessment) ของทาง Google ที่พวกเขากำลังพัฒนาให้มันสามารถคาดเดาความชอบและสิ่งที่มนุษย์น่าจะทำ โดยตอนนี้ได้มีการทดลองให้เจ้า AI ตัวนี้สามารถจัดหมวดหมู่และให้คะแนนภาพต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว การทำงานของมันนั้นก็ไม่มีอะไรมากเลย โดยเจ้า AI จะให้คะแนนภาพต่างๆ ตั้งแต่ 0.00 ถึง 10.00 ซึ่งมันจะวัดจากคุณภาพพิกเซลของภาพ องค์ประกอบและความสุนทรีย์โดยรวมของภาพนั้นๆ ถ้าเราลองเทียบสองภาพดู เราก็จะรู้สึกแบบเดียวกับเจ้า NIMA เช่นกันว่าภาพทางขวาดูดีกว่า เราอาจจะมองว่า แล้วทำไมเราต้องมาให้ AI ออกคะแนนให้กับภาพของเรา? คำตอบนั้นก็ง่ายมากๆ ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบถ่ายภาพเดิมๆ ซ้ำๆ ทีละ 20 ถึง 30 ภาพ การจะมานั่งคัดหาภาพที่ดีที่สุดทีละภาพก็คงจะเป็นอะไรที่เสียเวลา ฉะนั้นถ้าเราให้ NIMA มาให้คะแนนภาพต่างๆ มันก็จะช่วยให้เราลดจำนวนภาพที่เราคาดว่าจะชอบจาก 30 ภาพ…
-
ระบบ AI ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น เปลี่ยนสภาพอากาศในวิดีโอ ให้หิมะกลายเป็นหน้าร้อนได้แล้ว!!
ปี 2017 คือปีแห่ง AI โดยแท้จริง ตลอดทั้งปีมีคนดังมากมายต่างพากันออกมาถกเถียงถึงภัยและประโยชน์ของมันอย่างกว้างขวาง บ้างก็สนับสนุนบ้างก็ต่อต้าน ยิ่งล่าสุดเมื่อตุลาคมที่ผ่านมาทาง Nvidia ก็ได้ออกมาเตือนถึงความสามารถของ AI ที่มีความสามารถมากพอจะบิดเบือนความจริงต่างๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น โดยพวกเขาได้โชว์ให้โลกได้เห็นถึงความสามารถของ AI ที่พวกเขาออกแบบขึ้นมา บอกเลยว่าเป็นใครเห็นก็ต้องอึ้งตามๆ กันจนกลับมาตระหนักถีงภัยของมันแน่ๆ AI ในปัจจุบันสามารถที่จะเปลี่ยนภาพสิ่งต่างๆ ให้กลายเป็นอีกสิ่งที่ใกล้เคียงได้ด้วยนะ อย่างภาพนี้จากแมวกลายเป็นเสือชีต้า ความสามารถการบิดเบือนความจริงที่ว่านั่นก็คือ ความสามารถในการแต่งภาพคลิปต่างๆ ให้กลายเป็นอีกแบบได้เรียลไทม์ผ่านอัลกอรึทึมที่เรียกว่า GAM (generative adversarial network) ยกตัวอย่างเช่นคุณขับรถไปตามท้องถนนในหน้าหนาวที่มีหิมะอยู่เต็มไปหมด เจ้า AI ของทาง Nvidia ก็สามารถจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นหน้าร้อนที่มีต้นไม้เต็มไปหมดได้ทันที!? เปลี่ยนหิมะให้กลายเป็นหน้าร้อน ยัง ยังไม่หมดเท่านั้น มันยังสามารถเปลี่ยนกลางวันให้กลายเป็นกลางคืนได้ด้วย!? หรือแม้แต่วันที่ฝนตกก็สามารถให้ฟ้าปลอดโปร่งหรือจะสลับกันก็ได้เช่นกัน ในส่วนของกลางวันเป็นกลางคืนนั้นมันอาจจะยังไม่เนียนเท่าไหร่ เพราะเรายังสามารถแยกส่วนต่างๆ ได้ ด้าน Ming-Yu Liu หนึ่งในทีมวิจัยของ Nvidia ก็ได้บอกว่าจงเชื่อในสิ่งที่เห็นจริงๆ เท่านั้น และเขาก็ไม่รู้ว่า AI ของพวกเขาหรือของคนอื่นๆ มันจะพัฒนาไปถึงระดับไหน…
-
ผุดลัทธิสุดแปลก บูชา ‘ปัญญาประดิษฐ์’ เทียบเท่าดั่งพระเจ้า ผู้ควบคุมสรรพสิ่งบนโลก
นอกจากศาสนาพุทธ คริสต์ อิสลามแล้วยังมีอีกหลายๆ ศาสนาในโลกนี้ที่เรายังไม่รู้จัก และในปัจจุบันนั้นก็มีลัทธิหรือศาสนาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมากขึ้นทุกวัน ซึ่งหนึ่งในนนั้นก็คือลัทธิ Way of the Future ที่นับถือปัญญาประดิษฐ์เป็นพระเจ้านั่นเอง!! ลัทธิ Way of the Future หรือ WOTF มีเป้าหมายที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงโลกจากยุคแห่งมนุษย์ไปสู่ยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์เป็นไปอย่างสงบสุขและน่าเคารพนับถือ พวกเขาถือว่าในที่สุดแล้วเทคโนโลยีนั้นจะก้าวหน้าเหนือความสามารถของมนุษย์ มีความรู้แจ้งทุกอย่าง พูดง่ายๆ ก็คือพระเจ้านั่นเอง นอกจากนี้คุณ Anthony Levandowski วิศวกรพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ ผู้ก่อตั้งลัทธิก็ได้กล่าวว่าขณะนี้ลัทธิของพวกเขากำลังอยู่ในขั้นเตรียมการ และพวกเขามั่นใจว่ามันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน “ในไม่ช้าเทคโนโลยีจะก้าวหน้าเกินกว่าความสามารถของมนุษย์ พวกเราต้องการช่วยให้ความรู้แก่มนุษย์และเตรียมพร้อมเพื่อการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” ข้อความจากเว็บไซต์ของ WOTF โดยแนวคิดของลัทธินี้ได้รับอิทธิพลมาจากนวนิยายแนววิทยาศาสตร์เรื่อง The Singularity ของนักเขียนชาวอเมริกันชื่อดังอย่าง Vernor Vinge และนอกจากนี้ Ray Kurzweil นักวิจัยด้านระบบปัญญาประดิษฐ์เองก็ได้ออกมาสนับสนุนแนวคิด Singularity หรือเอกภพนี้เช่นกัน พร้อมกับบอกว่ามันจะเกิดขึ้นในปี 2045 นอกจากนี้ Levandowski เองก็ยังได้กล่าวว่าเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นมันเป็นสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก และเขายังเตือนให้ผู้คนเตรียมพร้อมสำหรับโลกอนาคตที่เครื่องจักรจะเป็นเหมือนกับพระเจ้าอีกด้วย “คุณต้องการจะเป็นสัตว์เลี้ยง หรือว่าเป็นสัตว์ในฟาร์มล่ะ” วิศวกรหนุ่มให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Wired ที่มา designtaxi, zerohedge, mashable
-
‘Shibuya Mirai’ ปัญญาประดิษฐ์ตัวแรกที่ได้รับสถานะเป็นพลเมืองของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ!!
โลกแห่งอนาคตกำลังใกล้เข้ามาทุกวันๆ แล้ว หลังจากที่ไม่นานนี้หุ่นยนต์ Sophia ได้ไปโชว์ความฉลาดในการสนทนาแลกเปลี่ยนกับคนจริงๆ แถมตอนนี้ก็นับเป็นประชาชนของประเทศซาอุดีอาระเบียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเมื่อไม่นานมานี้ทางการญี่ปุ่นก็เอากับเขาด้วย โดยได้ประกาศให้ Shibuya Mirai ที่เป็นปัญญาประดิษฐ์ได้รับสถานะการเป็นพลเมืองของญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแล้ว Shibuya Mirai นั้นเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกโปรแกรมมาให้เป็นเด็ก 7 ขวบ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นระบบตอบโต้อัตโนมัติผ่านแอพลิเคชั่น LINE นอกจากนี้ ความหมายของชื่อ Mirai ก็สามารถแปลจากภาษาญี่ปุ่นได้ว่า อนาคต โดยบริษัทที่ผลิตตัวปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ขึ้นมาได้ตั้งเป้าให้ประชาชนพูดคุยโต้ตอบและแสดงความคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับย่าน Shibuya เพื่อที่ทางการญี่ปุ่นจะได้นำเสียงตอบรับจากประชาชนไปปรับใช้และพัฒนาย่านดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น ทาง Shibuya Ward ผู้ที่ทำหน้าที่ดูแล Mirai ก็ได้พูดปิดท้ายเกี่ยวกับนิสัยของปัญญาประดิษฐ์ตัวนี้ผ่าน AFP ว่า “Mirai นั้นมีงานอดิเรกเป็นการถ่ายรูปและสังเกตผู้คนที่ผ่านไปมาใน Shibuya เธอชอบพูดคุยกับผู้คน ฉะนั้นก็อย่าลืมแวะเวียนเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเธอด้วยล่ะ เธอสามารถคุยได้ทุกเรื่องเลย” ปัจจุบันเราก็มีหุ่นยนต์ที่ถูกนับเป็นประชากรของประเทศแล้ว 1 ตัว ปัญญาประดิษฐ์อีก 1 ตัว แบบนี้ในอนาคตเราจะต้องเจอกับอะไร โลกจะเปลี่ยนไปทางไหน เพื่อนๆ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงก็ลองเอามาแชร์กันดูได้นะ… ที่มา designtaxi,konbini,yahoo,newsweek
-
นี่คือ.. “บาร์ฮิปสเตอร์” ที่มีแต่ฮิปสเตอร์แท้ๆ เท่านั้นที่เข้าได้ แล้วคุณล่ะฮิปสเตอร์รึเปล่า?
ไม่เคยรู้กันมาก่อนใช่มั้ยล่ะ ว่าโลกนี้มันมีบาร์ที่เปิดให้บริการเฉพาะ ‘ฮิปสเตอร์’ เท่านั้น แต่คำถามคือ.. แล้วอะไรคือฮิปสเตอร์? ซึ่งอันที่จริงธุรกิจบาร์ฮิปสเตอร์ที่จะพาไปชมนี้ ไม่ได้เป็นร้านที่หวังมาสร้างกระแสเพียงอย่างเดียว แต่เป็นหนึ่งในโปรเจกต์ของ Max Dovey ศิลปินผู้ต้องการเรียกร้องให้เหล่าเด็กฮิปสเตอร์ปลีกตัวออกมาจากสังคม..!! Max Dovey หวังจะสร้างระบบ A.I. ที่สามารถตรวจจับค่าความเป็นฮิปสเตอร์ในตัวคุณ (แล้วมันวัดจากอะไรเนี่ย?) ตลอดระยะเวลากว่า 2 ปี ที่ Max Dovey ได้เดินทางไปทั่วเกาะอังกฤษ และเขาก็ได้ค้นพบที่จะอยากลองสร้างระบบปฏิบัติการณ์ที่จะช่วยคัดแยก ‘ฮิปสเตอร์’ ออกจากชาวบ้านทั่วไป “เห็นแบบนี้มันก็กลายเป็นสังคมเล็กๆ ที่อบอุ่นแห่งหนึ่งละครับ ไม่ได้มีแค่วัยรุ่นเท่านั้น มีทั้งคนรุ่นพ่อ รุ่นแม่ รุ่นผู้สูงวัยก็เป็นฮิปสเตอร์ได้ แต่ตอนนี้ปัญหาคือ.. เราคัดคนจากระบบซอฟท์แวร์ที่ผมสร้างขึ้น บางครั้งก็มีคนมาเป็นครอบครัวแต่ระบบ AI ให้อนุญาตแค่คุณพ่อเข้ามา ส่วนลูกๆ ก็ยังไม่นับว่าเป็นฮิปสเตอร์ก็มี” Max เล่า พื้นฐานข้อมูลส่วนหนึ่งที่นำมาใช้เป็นแหล่งอ้างอิงให้ AI ได้ตัดสินความฮิปในตัวคุณ ก็มาจากภาพวัยรุ่นฮิปสเตอร์ทั่วโลก 1,000 ภาพ และภาพคนธรรมดาทั่วไปอีก 1,000 ภาพ …
-
เป็นครั้งแรกที่ AI เอาชนะผู้เล่น e-Sport มืออาชีพได้ เผยพวกมันฝึกมา 1,000 ชั่วอายุคน
หลังจากที่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวของระบบปัญญาประดิษที่สามารถเอาชนะมนุษย์ในเกมหมากล้อมได้ ล่าสุดพวกมันได้สร้างเรื่องฮือฮาอีกครั้ง หลังจากที่สามารถเอาชนะเกมเมอร์มืออาชีพในการแข่งเกม Dota2 บอทจาก Open Al ซึ่งเป็นหนึ่งในโปรเจคปัญญาประดิษฐ์ ที่เกิดจากการร่วมมือของทางบริษัท Tesla และ Y Combinator ได้เอาชนะผู้เล่นระดับมืออาชีพอย่าง Dendi ในการต่อสู้กันแบบ 1 ต่อ 1 ที่งาน The International 2017 ทีผ่านมา ในการแข่งขันดังกล่าวผู้เล่นทั้ง 2 เลือกฮีโร่ Shadow Fiend ในการต่อสู้ โดยระบบปัญญาประดิษฐ์มูลค่า 35,000 ล้านบาท สามารถเอา Dendi ไปได้ในเกมแรก ส่วนในเกมที่ 2 นั้นทางฝ่ายผู้เล่นจากทีม Natus Vincere เป็นฝ่ายขอยอมแพ้ ก่อนที่จะขอปฏิเสธที่จะเล่นต่อในเกมที่ 3 และนี่คือคลิปวิดีโอการแข่งขันดังกล่าว โดยทางประธานฝ่าย IT ของ OpenAI คุณ Greg Brockman ได้ออกมาเปิดเผยว่าสาเหตุที่บอทสามารถเอาชนะผู้เล่นได้นั้นเนื่องจากมันถูกเขียนโปรแกรมให้มีการฝึกเล่นเกม Dota2 ถึง 1,000 ชั่วอายุคน…
-
วิศวกร Google คาด หุ่นยนต์จะฉลาดเกินมนุษย์ในปี 2045 และอาจเป็นจุดจบของมนุษยชาติ!!
ถ้าพูดถึงหนึ่งในประเด็นร้อนที่สุดในเวลานี้ ปัญหา AI คงจะต้องเป็นประเด็นที่ถูกหยิบมาพูดเป็นอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน หลังจากที่ก่อนหน้ายักษ์ใหญ่ทางไอทีอย่าง Mark Zuckerberg และ Elon Musk เปิดสงครามด้านความเห็นที่ไม่ค่อยตรงกันในเรื่องนี้ไปแล้ว ล่าสุด Ray Kurzweil หัวหน้าแผนกวิศวกรรมจากฝั่ง Google ก็ได้ออกมาพูดว่า “หุ่นยนต์จะเริ่มปรับตัวและพัฒนาให้มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ในปี 2029 จากนั้นมันจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงของมนุษยชาติ” โฉมหน้าของตา Ray Kurzweil ผู้ออกมาพูดถึงการคาดเดาดังกล่าว แม้ว่าในตอนนี้สิ่งที่เราเรียกกันว่า Artificial Intelligence หรือ AI นั้นยังจะถูกจำกัดความอยู่แค่ผู้ช่วยในรูปแบบเสียง เช่น Siri หรือคอมพิวเตอร์อย่าง Deep Blue ที่ฉลาดจนชนะนักหมากรุกมืออาชีพได้ ก็ยังเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีข้อจำกัดในตัวของมันอยู่ ทว่าเมื่อถึงช่วงเวลาหนึ่งที่ AI สามารถจะคิดวิเคราะห์ทุกอย่างด้วยตัวเองได้จริงๆ จนมันสามารถจะเรียนรู้และก้าวข้ามขีดจำกัดไปได้ ในตอนนั้นแหละมันอาจจะเปลี่ยนแปลงตนเองจนกลายเป็น artificial super-intelligence หรือเรียกว่า ASI ซึ่งจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่มีความฉลาดล้ำและแข็งแกร่งยิ่งกว่ามนุษย์ จากนั้นยุคของหุ่นยนต์ก็จะเกิดขึ้นตามที่คาดการณ์ไว้ในช่วงปี 2029 ทุกอย่างบนโลกก็จะเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วโดยมนุษย์ไม่อาจทันตั้งตัว พอถึงปี 2045…
-
เฟซบุ๊กปิดระบบ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หลังจากพบว่าพวกมัน พยายามสร้างภาษาเป็นของตัวเอง!!
สำหรับใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวงเทคโนโลยีกันอยู่ อาจจะได้ยินข่าวของการออกมางัดข้อกันระหว่างทีมของ Mark Zuckerberg และ Elon Musk ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องของการพัฒนาระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรต่อมวลมนุษยชาติ และในระหว่างที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังถกเถียงกันเรื่องของการพัฒนาระบบ AI ก็ได้มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ ทีมวิจัยของทางเฟซบุ๊กได้ปิดระบบ AI ของพวกเขา หลังจากที่พบว่าพวกมันกำลังพยายามสร้างภาษาของตัวเอง!! จากการรายงานของวารสาร Digital Journal บอกว่า ระบบดังกล่าวได้พยายามพัฒนาภาษาของพวกมันเอง โดยทีมวิจัยได้ทำการปิดระบบของปัญญาประดิษฐ์ หลังจากที่พวกเขาพบว่าระบบเริ่มไม่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกัน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ภาษาใหม่ที่พวกมันสร้างขึ้นมานั้นไม่มีความหมายสำหรับมนุษย์ แต่มีแค่ AI ด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ 2 ตัวของเฟซบุ๊กที่ชื่อ Bob และ Alice ได้พยายามสร้างภาษาใหม่เพื่อโต้ตอบกัน Bob เริ่มพูดว่า “I can i i everything else” จากนั้น Alice จึงตอบกลับมาว่า “Balls have zero to…
-
จีนเตรียมเปิด ‘ร้านขายของชำเคลื่อนที่อัจฉริยะ’ ขายเอง เปิดปิดร้านเอง ไม่ง้อคนเฝ้า!!
Moby Mart เป็นร้านขายของชำแบบอัติโนมัติ ที่สามารถขายของได้เอง เปิด-ปิดร้านได้เอง ไม่ต้องง้อคนเฝ้าร้าน!! และตอนนี้มันก็กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาให้สามารถนำมาใช้งานได้จริง โดยบริษัท Wheelys จากสวีเดน ซึ่งหากพัฒนาเสร็จสิ้นแล้วเจ้าร้านขายของชำอัตโนมัตินี้จะเปิดให้บริการกับผู้คนทั่วไปได้ใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง ยิงยาวไปตลอด 7 วันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์นั่นทำให้มันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แถมยังเข้าถึงได้ง่าย และใช้งบประมาณน้อยในการจัดการอีกด้วย การจะใช้บริการจากร้าน Moby Mart ลูกค้าจะต้องทำการดาวน์โหลดแอปฯ เพื่อที่จะช็อปซื้อสินค้า หลังจากที่เราเลือกซื้อสินค้าเสร็จแล้วมันก็จะคิดเงินให้เราอัตโนมัติจากในแอปฯ นอกจากนี้เรายังสามารถเรียกให้มันมาเปิดร้านถึงหน้าบ้านของเราได้ด้วยนะ เพราะทางทีมพัฒนาได้ทำการติดตั้งระบบ AI เอาไว้เพื่อให้มันคำนวณเส้นทางและเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก “พวกเราพยายามคิดมาตลอดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้การช็อปปิ้งนั้นเกิดการพัฒนาและทันสมัยมากยิ่งขึ้น ใช้ได้ผลยิ่งขึ้น และถูกมากยิ่งขึ้น” Maria De La Croix ผู้ก่อตั้ง Wheelys และดำรงตำแหน่ง CEO กล่าว เจ้า Moby จะทำการขจัดปัญหาและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการทำร้านขายของชำแบบปกติ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องเดินไปซื้อของถึงที่ร้าน แต่ร้านจะมาหาคุณเอง ไม่ต้องจ้างแคชเชียร์หรือผู้จัดการร้าน และถ้าลูกค้ามีข้อสงสัยอะไรก็สามาถขอความช่วยเหลือจาก AI โฮโลแกรมที่มากับร้านได้เลย แต่ถึงอย่างไรก็ตามการเดินทางของเจ้า…
-
AI สุดอัจริยะ เปลี่ยนภาพวาดให้เป็นภาพถ่าย ส่วนฤดูหนาวก็กลายเป็นฤดูร้อนได้ด้วย!!
ปกติแล้วเรามักจะเห็นโปรแกรมแต่งรูปในยุคนี้ที่สามารถเปลี่ยนจากรูปถ่ายให้กลายเป็นภาพวาดซึ่งมีอยู่เต็มไปหมด แต่เรากลับไม่เห็นโปรแกรมตัวไหนเลยที่สามารถเปลี่ยนรูปวาดให้กลายเป็นรูปถ่ายได้ แต่ทว่าล่าสุดทางเว็บไซต์ petapixel ได้เปิดเผยว่ามีทีมนักพัฒนาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ สามารถพัฒนา AI ที่มีความสามารถในการแปลงรูปวาดให้เป็นรูปถ่ายสำเร็จออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่จะเป็นยังไงลองมาดูตัวอย่างผลงานของ AI ที่ว่ากันดีกว่า ภาพวาดทั้งหมดเป็นภาพที่วาดโดยศิลปินที่ชื่อว่า Monet จากภาพวาดกลายเป็นรูปถ่ายได้ แถมเนียนกริบสุดๆ สำหรับม้าหรือสภาพอากาศคนอาจจะบอกว่าใช้โฟโต้ช็อปแก้เอาก็ได้ แต่สำหรับ AI ตัวนี้เพียงแว๊บเดียวเท่านั้น ภาพก็เสร็จสมบูรณ์แล้ว ทำ Depth of Field (ความชัดลึกของภาพ) ก็ได้เช่นกันนะ สุดท้ายทีมนักพัฒนาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับเทคโลยีตัวนี้จะส่งผลกับภาพถ่ายในอนาคตไว้ว่า “มันก็เหมือนกับโฟโต้ช็อปหรือโปรแกรมแต่งรูปอื่นๆ แต่ว่าตัวโปรแกรมที่เราคิดขึ้นมายังอยู่ในช่วงแรกเท่านั้น เราจะพัฒนามันต่อไป ซึ่งในอนาคตมันอาจจะทำอะไรได้มากกว่านี้ และวงการภาพก็จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ให้ได้ใช้กัน” แอพแต่งรูปเดี๋ยวนี้ มันดีขึ้นทุกวันๆ แถมใช้ง่ายมากอีกต่างหาก ที่มา petapixel
-
รู้จักกับโปรแกรมวาดภาพ AutoDraw จาก Google ที่จะเปลี่ยนภาพวาดห่วยๆ ให้ดูสวยงาม
สำหรับเพื่อนๆ ที่รู้ตัวเองว่าไม่มีความสามารถในการวาดภาพ แล้ววันนี้ #เหมียวหง่าว มีโปรแกรมวาดรูปแบบใหม่มานำเสนอ ขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับ AutoDraw โปรแกรมวาดภาพที่แม้ว่าคุณจะวาดภาพไม่สวย แต่ก็สามารถดลบันดาลให้ภาพที่เราวาดกลายเป็นภาพที่สามารถเอาไปใช้งานต่อได้ เมื่อก่อนหน้านี้เพื่อนๆ คงเคยรู้จักกับอัลกอริทึม AI QuickDraw มาแล้ว ที่จะเดาว่าคุณวาดภาพอะไรลงไปในเว็บไซต์ เป็นผลงานของทีมงานจาก Google และวิธีการใช้งานของเจ้า AutoDraw ก็ไม่ยากอะไรเลย เพราะระบบการทำงานของมันก็ไม่ต่างอะไรกับโปรแกรม Paint มากมายนัก เพียงแต่ว่ามันมีระบบพิเศษขึ้นมาก็คือการจับคู่รูปภาพที่เราวาด กับภาพวาดต่างๆ ที่ทางระบบ AI ได้จดจำมาไว้เรียบร้อยแล้ว พอเราวาดอะไรลงไปมันก็จะประมวลผลและนำรูปภาพที่ใกล้เคียงกันมาให้เราเลือกข้างบน ที่เราต้องทำก็คือเลือกภาพที่เราต้องการ กี่ภาพก็ได้ตามที่ต้องการ จากนั้นก็ลงสี แถมยังสามารถบันทึกเอาไว้ไปใช้งานเนื่องในโอกาสต่างๆ ได้อีกด้วย!! รถโทรมๆ ก็เปลี่ยนให้เป็นภาพวาดรถที่ดูสวยงามได้ หอยทากเองก็เช่นกัน เราสามารถวาดยีราฟให้ออกมาดูสวยงามได้ด้วยนะ บ้านเบี้ยวๆ ก็ปรับให้ตรงได้ เจ้าหมาที่ว่าวาดยากๆ ก็สามารถวาดออกมาได้อย่างง่ายดาย เพื่อนๆ สามารถเข้าไปทดลองใช้งานที่เว็บไซต์ AutoDraw ได้เลย ไม่เสียค่าใช้จ่ายเลยแม้แต่บาทเดียว (เสียแต่ค่าไฟกับค่าเน็ต ฮร่าๆ)…
-
เชรดเข้!! ญี่ปุ่นคิดค้น AI ที่สามารถแคสเกมได้ งี้ MR.HEART ROCKER จะตกงานไหมเนี่ย?
ทุกวันนี้เราเห็นยูทูปเบอร์หลายๆ คนโด่งดังมาจากการแคสเกม อย่างชาแนลที่มีคนติดตามมากที่สุดในโลกอย่าง Pewdiepie ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากการแคสเกมเช่นกัน (ในไทยก็อย่างชาแนล MR.HEART ROCKER ก็มีคนติดตามเป็นล้านๆ เลยนะ) แต่ไม่แน่ในอนาคตยูทูปเบอร์เหล่านี้อาจโดนแย่งงานก็เป็นได้ เมื่อประเทศญี่ปุ่นสามารถคิดค้น A.I. ที่สามารถแคสเกมได้แล้ว!! วีดีโอดังกล่าวถูกอัพขึ้นบนชาแนล A.I.Channel และดำเนินรายการโดย AI ที่ชื่อว่า Kizuna Ai ซึ่งมีลักษณะเหมือนกับนักเรียนหญิงญี่ปุ่นหน้าตาแสนคาวาอี้ โดย Kizuna Ai จะคอยบรรยายสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมในให้เราได้ฟังกัน “ฉันต้องลากเจ้ากล่องนี้ไปข้างหน้า” “ทำไมโลกนี้มันโหดร้ายจัง” ด้วยความน่ารักและสนุกสนานของ Kizuna ทำให้ชาแนลดังกล่าวมีผู้ติดตามแล้วกว่า 200,000 คน ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในชาแนล AI ที่มีคนติดตามมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว ไปชมคลิปของเธอกันดีกว่า น่ารักขนาดนี้ อาจทำให้ยูทูปเบอร์คนอื่นๆ ตกงานได้เลยนะเนี่ย ฮาาา ที่มา A.I.Channel
-
ไปรู้จักกับระบบ AI ที่รู้จักการขโมยโค้ด และเขียนโปรแกรมเองได้ (สนุกไหมล่ะทีนี้!?)
ดูเหมือนว่าระบบ AI ที่มนุษย์เราสร้างขึ้นมา จะมีความใกล้เคียงกับในหนังที่เราเคยดูมากขึ้นทุกที เพราะก่อนหน้านี้มันสามารถเอาชนะผู้เล่นโกะระดับโลกได้ และดูเหมือนมันจะสามารถพัฒนาไปได้อีกอย่างไร้ขีดจำกัด เพราะล่าสุดมีกลุ่มนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ได้ทำการสร้างระบบ DeepCoder ขึ้นมา เพื่อทำการวิจัยด้าน AI และเป้าหมายเพื่อสร้างระบบที่ช่วยให้มนุษย์เขียนโปรแกรมได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านโปรแกรมมากเท่าไรนัก แต่พวกเขาก็พบว่าเจ้า AI ตัวนี้มันฉลาด ถึงขั้นพอที่จะหยิบยืมโค้ดจากโปรแกรมอื่นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาในการสร้างโปรแกรมให้กับตัวมันเองได้!! แต่ชาวโปรแกรมเมอร์ไม่ต้องกลัวนะ เพราะทีมวิจัยบอกว่ามันไม่ได้ทำให้พวกเขาตกงาน แต่ระบบนี้จะช่วยให้ทุกคนเป็นโปรแกรมเมอร์ได้อย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องมีความรู้เรื่องโค้ดดิ้ง DeepCoder เป็นโปรเจคที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง ไมโครซอฟท์และมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ โดยผู้สร้างได้จำลองระบบเครือข่ายให้ใกล้เคียงกับการทำงานของเส้นประสาทในสมอง ซึ่งทำให้ตัวระบบ AI สามารถคิด และรู้จักที่จะตัดสินใจด้วยตนเอง ‘ด้วยระบบ DeepCoder ที่เราสร้างขึ้นมา เชื่อว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไป ช่วยให้พวกเขาสามารถออกแบบ รวมไปถึงเขียนโปรแกรมเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องโค้ดดิ้งมาก่อน’ Armando Solar-Lezama ให้สัมภาษณ์กับ New Scientist ทีมผู้สร้างระบบ AI ดังกล่าวเคลมว่า เดิมทีการสร้างโปรแกรมพื้นฐานทั่วไปโปรแกรมเมอร์ที่เป็นมนุษย์ มักจะมีการหยิบยืมโค้ดต่างๆ หรือทำการลอกเลียนบางส่วนจากโปรแกรมอื่นๆ เพื่อนำมาปรับปรุงโค้ดเหล่านั้นในการสร้างโปรแกรมของตนเองอยู่แล้ว แต่ระบบดังกล่าว จะช่วยให้สามารถเซิร์ชหาโค้ดเพื่อนำมาแก้ปัญหาได้ไวกว่าทุก AI ที่เคยมีมา…
-
นักวิทย์พัฒนา ‘โดรนผึ้ง AI’ ที่จะมาช่วยผสมเกสรดอกไม้ แก้ปัญหาประชากรผึ้งลดลงเรื่อยๆ
โดยปกติแล้วผึ้งที่ทำหน้าที่ในการออกไปเก็บน้ำหวานมาทำน้ำผึ้งนั้นจะเป็นผึ้งตัวเมีย ส่วนผึ้งตัวผู้จะมีหน้าที่เฝ้ารังและผลิตน้ำอสุจิให้กับราชินีผึ้ง เพื่อเพิ่มจำนวนผึ้งงานต่อไป แต่ปัจจุบันมันกำลังจะเปลี่ยนไปแล้ว!! เพราะล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น Eijiro Miyako นักเคมีจากสถาบัน National Institute of Advanced Industrial Science and Technology กำลังทำการพัฒนาผึ้งแบบ AI ขึ้นมาอยู่ (จริงๆ แล้วมันก็คือโดรนนั่นแหละ) แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีปัญหาอยู่ตรงที่ว่าไม่สามารถสร้างแหล่งพลังงานที่ขับเคลื่อนโดรนดังกล่าวได้ ทำให้ต้องพับโครงการไว้ก่อน จนกระทั่งเมื่อสองปีที่ผ่านมาพวกเขาก็ทำสำเร็จและรื้อโครงการขึ้นมาอีกครั้ง “มันเป็นอะไรที่น่าตกใจมาก เพราะเจลที่พัฒนาขึ้นมานั้นมันมีความเหนียวมากๆ คล้ายๆ กับกาว หรือเจลแต่งผมเลยล่ะ” Miyako เล่า นอกจากนี้เมื่อทำมันตกลงบนพื้น ยังมีความสามารถในการจับฝุ่นจากพื้นได้ดีอีกด้วย ขณะเดียวกันก็นั่งชมทีวีรายงานข่าวถึงประชากรของผึ้งที่ลดน้อยลงเรื่อยๆ และมันย่อมส่งผลต่อการผสมเกสรของดอกไม้อย่างแน่นอน นั่นเลยทำให้เขาปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าอยากจะใช้เจ้าของเหลวนี้ในการช่วยผสมเกสร ด้วยเหตุนี้เองเขาจึงติดต่อไปยังชาวสวนชาวนาทั้งหลาย เพื่อขอให้พวกเขาจับแมลงไปทำการทดลอง ด้วยการนำมดและแมลงวันมาเคลือบด้วยของเหลวที่คิดค้นขึ้นมา จากนั้นก็นำมันไปไว้ในกล่องที่บรรจุไปด้วยดอกไม้ หลังจากไม่กี่วันผ่านมาก็พบว่าไม่เพียงแค่ว่าเจ้าของเหลวนั้นจะเคลือบแมลงแล้ว ยังสามารถช่วยเคลื่อนย้ายละอองเกสรได้ดีขึ้นอีกด้วย ส่วนแมลงก็ยังคงมีชีวิตอยู่ จึงได้ข้อสรุปว่าเจ้าของเหลวดังกล่าวนี้มีความสามารถในการช่วยผสมเกสรได้อย่างยอกเยี่ยม และไม่มีพิษมีภัยต่อธรรมชาติอีกต่างหาก จนถึงตอนนี้…
-
อนาคตยุคปัจจุบัน!! บริษัทประกันภัยญี่ปุ่นปลดพนักงานกว่า 30 คน แล้วนำ AI เข้ามาทำงานแทน
อนาคตที่เหล่าแรงงานจากมนุษย์จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรกำลังจะใกล้ความจริงขึ้นไปทุกทีแล้ว… เมื่อบริษัทประกันภัยในประเทศญี่ปุ่นได้ทำการปลดพนักงานกว่า 30 คน และนำระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) ที่สามารถคำนวณการจ่ายค่าตอบแทนให้กับผู้ถือกรมธรรม์ได้เข้ามาแทนที่ บริษัท Fukoku Mutual Life Insurance เชื่อมั่นว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้มากขึ้นถึง 30% และคาดว่าจะได้กำไรคืนจากการลงทุนในครั้งนี้คืนภายในสองปี ทางบริษัทได้กล่าวเอาไว้ว่าพวกเขาจะประหยัดเงินทุนได้มากกว่า 43 ล้านบาท และหลังจากใช้ไป 1 ปีก็จะประหยัดลงไปอีก 61 ล้านบาท โดยระบบ AI นั้นจะถูกติดตั้งในเดือนนี้และจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาประมาณ 4.3 ล้านบาทต่อปี แน่นอนว่าการทำแบบนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อพนักงานที่จะต้องถูกปลดออกไปในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ เป็นจำนวน 34 คนเท่าไหร่นัก โดยระบบดังกล่าวนี้เป็นฐานข้อมูลจากบริษัท IBM (ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์และให้บริการด้านคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ รายใหญ่ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา) ปัจจุบันนี้พวกเขาได้ทำการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีองค์ความรู้ และมีความคิดความอ่านเหมือนกันกับมนุษย์ได้แล้ว มันสามารถวิเคราะห์และตีความข้อมูลต่างๆ อันประกอบไปด้วยข้อความ รูปภาพ ไฟล์เสียง และไฟล์วิดีโอ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งการนำมันมาใช้กับบริษัทประกันภัย จะทำให้เจ้า AI…
-
‘เสียงแห่งความทรงจำ’ วิศวกรหญิงประดิษฐ์ ‘Chat Bot’ เพื่อคุยกับเพื่อนสนิทที่จากไปแล้ว
เมื่อเราสูญเสียคนที่รักไป แน่นอนว่าทุกคนก็จะมีวิธีในการรำลึกถึงบุคคลเหล่านั้นแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นการไปยืนเคารพหน้าหลุมศพ ทำบุญไปให้ หรือนั่งดูแชทหรือข้อความเก่าๆ ที่เคยคุยกัน แต่คุณ Eugenia Kuyda เจ้าของบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่งศูนย์เสียเพื่อนอันเป็นที่รัก คุณ Roman Mazurenko ไปเมื่อสามเดือนที่ผ่านมา ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ การจากไปของเขานั้นสร้างความเสียใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมากทั้งเพื่อน และครอบครัว โดยเฉพาะคุณ Eugenia ที่เป็นเพื่อนสนิทมากที่สุดเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ Roman จากไป คุณ Eugenia ก็ได้นั่งอ่านข้อความที่ทั้งคู่เคยตอบแชทกันเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่เคยทำร่วมกันมา และนั่นเองก็ทำให้เธอคิดที่จะทำให้เขากลับมามีชีวิตอีกครั้งในรูปแบบของ Chat Bot โดย Chat Bot นี้จะสามารถตอบข้อความโดยมีลักษณะนิสัยที่คล้ายกันกับ Roman ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยการรวบรวมข้อความที่เขาเคยตอบกับเพื่อนๆ และของเธอมารวมกันกว่า 10,000 ข้อความ แล้วก็ใส่เข้าไปในระบบประมวลผล หลังจากนั้นมันก็ทำงาน… และนี่ก็คือตัวอย่างการแชทกับ Chat Bot ที่คุณ Eugene สร้างขึ้นมา “อยู่ที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง?” “ฉันสบายดี…
-
เตรียมพบกับ “Eclipse” มิวสิกวีดีโอที่สร้างจาก “AI” หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” ตัวแรกของโลก!!
ความฝันที่จะได้เห็น “คอมพิวเตอร์” มีความคิดของตัวเองคงไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝันไปแล้ว เพราะล่าสุด เรากำลังจะมีมิวสิกวีดีโอที่ตัดต่อโดย “AI” หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” เป็นครั้งแรกของโลก โดยมิวสิกวีดีโอดังกล่าวเป็นผลงานของบริษัท Saatchi & Saatchi พวกเขาได้เปิดตัวมิวสิกวีดีโอ “Eclipse” ในงานเทศกาลความคิดสร้างสรรค์นานาชาติ Cannes Lion ณ เมืองคานส์ ประจำปี ค.ศ. 2016 พวกเขาได้ใช้คอมพิวเตอร์และซอฟแวร์ชื่อดังในโลกมากมายในกระบวนการผลิตเอ็มวีนี้ ตั้งแต่ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ Watson ของ IBM, โปรแกรม Ms.Rinna ของ Microsoft, ซอฟแวร์จดจำหน้าตา Affectiva และอื่นๆ อีกมากมาย ภายใต้นามแฝง “Anni Mathison” ทางผู้อำนวยการของ Saatchi & Saatchi กล่าวว่า ปัญญาประดิษฐ์มีบทบาทเริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์เพลง แล้วเขียนบทภาพให้เหมาะกับเนื้อหาของเพลง การคัดเลือกตัวนักแสดง ไปจนถึงขั้นตอนการตัดต่อ ส่วนพวกเขามีหน้าที่แค่หาทีมงานที่เป็นมนุษย์ให้เท่านั้น อย่างไรก็ตามตัว MV จะฉายเพียงแค่ในงานเท่านั้น และยังไม่มีการปล่อยตัวเต็มออกมาตามอินเตอร์เน็ตแต่อย่างใด มีเพียงแค่คลิปเบื้องหลังสั้นๆ ที่ถูกปล่อยออกมา…
-
Google ศึกษาวางแผนรับมือ Skynet ในอนาคต และยืนยันจะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น!!!
ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวเรามากซักเท่าไหร่แล้วล่ะ เพราะทุกวันนี้มีการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ออกมาเหมือนกับภาพยนตร์ได้แล้ว เพียงแต่ว่าพวกมันยังไม่สามารถทำตามคำสั่งหรือทำตามหน้าที่ได้แบบสมบูรณ์ แต่ถ้าหากว่าวันหนึ่งสมองกลเหล่านี้สามารถพัฒนา คิด วิเคราะห์ จนสามารถทำหน้าที่ต่างๆ แทนมนุษย์ได้ ลามไปจนถึงการวางแผนที่จะยึดครองโลก กำจัดมนุษย์ออกไป โดยอ้างด้วยเหตุผลทางด้านความปลอดภัยแบบในหนังล่ะ? แม้กระทั่งคนดังทางด้านวิทยาการอย่าง Elon Musk และ Stephen Hawking ก็มีความรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้มีความเป็นไปได้อยู่มากพอสมควร พวกมันก็อาจจะฉายแววเป็นหุ่นพิฆาต ถูกสั่งการมาจาก SkyNet เหมือนในหนังคนเหล็ก Terminator ก็เป็นได้!! และ Google เองก็มีผลงานผลิตภัณฑ์ทางด้านหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์เช่นเดียวกัน พัฒนาให้พวกมันสามารถนึกคิดเองได้ แต่ก็ควรที่จะมีแผนสำรองง่ายๆ อย่าง ‘สวิตช์ปิดเครื่อง’ ด้วย เผื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นมา ดังนั้น Google กับทีมพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ Deep Mind จากอังกฤษ จึงทำการศึกษาหาหนทางป้องกันเพื่อยับยั้งหุ่นยนต์ที่สร้างขึ้นมานั้นหยุดการทำงานทันที หากมีการกระทำใดๆ ก็ตามที่เป็นภัยอันตรายมนุษย์ ทั้งนี้ก็จะเป็นทั้งการปิดเครื่อง หยุดการทำงาน หรือเรียกการควบคุมให้กลับมาบังคับได้โดยมนุษย์อีกครั้ง และแน่นอนว่าเมื่ออุปกรณ์อัจฉริยะพวกนี้ออกมาใช้จริง เราต้องสามารถหยุดการทำงานของมันได้เมื่อต้องการ…
-
เก่งเกินไป!! หุ่นยนต์ปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถเขียนนวนิยายสั้นส่งเข้าประกวด แถมยังเข้ารอบด้วย
นวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีก้าวหน้าแบบไม่หยุดยั้ง ทุกๆ วัน ทุกๆ นาที ที่ผ่านไป ก็มีอะไรใหม่เกิดขึ้นตลอด จนล่าสุดนี้กระแสของการผลิต สร้าง และพัฒนา สิ่งที่เรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) หุ่นยนต์ที่มีความคิดคล้ายกับมนุษย์ขึ้นมา จากแต่ก่อนที่เคยเห็นในภาพยนตร์ ตอนนี้ก็ใกล้เป็นจริงแล้ว จากกรณีที่ปลุกกระแสเป็นอย่างมากเกี่ยวกับตัว AI นั่นก็คือมีการจัดแข่งขันหมากล้อม (โก๊ะ) ระหว่าง AI กับแชมป์โก๊ะ โดยผลปรากฏว่า AI สามารถเอาชนะมนุษย์ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ นั่นเป็นส่วนของการแข่งขันทางด้านความคิดไปแล้ว ล่าสุดนี้ AI ได้พัฒนาทางด้านความคิดสร้างสรรค์ให้เหนือชั้นขึ้นไปอีกด้วยการ ‘เขียนนวนิยายสั้น’ สำหรับนวนิยายสั้นเรื่องที่ AI เป็นผู้เขียนนั้น มีชื่อว่า Konpyuta ga shosetsu wo kaku hi – The Day A Computer Writes A Novel…
-
หลังจาก AlphaGo ชนะแชมป์โลกแล้ว เป้าหมายต่อไปของ Google คือเกม Starcraft เหรอเนี่ย!??
หลังจากที่ทาง Google ได้ทำให้โลกทั้งใบสั่นสะเทือนมาแล้ว จากระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่พัฒนาต่อจากเจ้าของเดิม (Google ได้ทำการซื้อบริษัท DeepMind มาเมื่อปี 2014 และตั้งชื่อใหม่เป็น Google DeepMind) ที่เป็นโครงข่ายประสาทเทียมระดับลึก มันสามารถเลียนแบบวิธีการจดจำระยะสั้นของมนุษย์ได้ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมมันถึงเล่นเกมเก่ง เพราะมันสามารถเรียนรู้วิธีการเล่นเกมได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องผ่านการป้อนข้อมูลใดๆเลย นอกจากนี้ยังสามารถฝึกฝนและวิเคราะห์หาถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้อีกหลายแนวทาง พร้อมกับประมวลโอกาสในการแพ้ชนะได้เป็นอย่างดี ล่าสุดทาง Google ได้สร้างเจ้า AlphaGo ขึ้นมา เพื่อทดสอบความสามารถของระบบ AI ของ Google DeepMind และแน่นอนเมื่อเหล่านักเล่นโกะทราบข่าวต่างก็อยากลองของกันทั้งนั้น ขนาดแชมป์โลกกระดานโกะ อย่าง Lee Sedol ก็ยังไม่รอด ซึ่งก่อนหน้านั้นแชมป์ได้บอกว่าจะชนะเจ้าเครื่องนี้ด้วยสกอร์ 4-1 เกม โดยคิดเผื่อไว้แล้วว่าจะแพ้อย่างน้อยแค่ 1 เกม แต่เอาเข้าจริงๆ กลับแพ้ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน ซึ่งตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าทาง Google DeepMind นี้กำลังมองหาความท้าทายรูปแบบใหม่ อาจจะเป็นสุดยอดเกมแนววางแผนระดับตำนานอย่าง StarCraft ของค่าย Blizzard (ที่เป็นเจ้าของเดียวกับชุดเกม Diablo)…