Tag: america
-
คุณแม่ผู้ใช้เวลาว่าง “พาลูกล่าสัตว์” ด้วยเหตุไม่อยากให้ติดสมาร์ทโฟน จุดดราม่าบนโลกออนไลน์
ในปัจจุบันไม่ว่ามองไปทางไหน ก็จะเจอผู้คนเล่นโทรศัพท์สมาร์ทโฟนกันจนเป็นเรื่องชินตาไปแล้ว ที่ไม่ว่าทั้งผู้ใหญ่หรือเด็ก ต่างก็ติดกันซะงอมแงมจนแทบจะเป็นปัจจัยที่ 5 เลยทีเดียว แต่มีแม่ท่านหนึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่อยากให้ลูกๆ ของเธอติดโทรศัพท์สมาร์ทโฟนมากจนเกินไป เธอจึงตัดสินใจพาพาลูกๆ ของเธอออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านแทนการเล่นสมาร์ทโฟน.. แต่มันเกิดประเด็นดราม่าเพราะเป็นการพาออกไปล่าสัตว์แทน คุณแม่ Heather Del Moral อายุ 34 ปี ได้พาลูกๆ ของเธอที่มีชื่อว่า Papi Isa และ Armonia ซึ่งมีอายุระหว่าง 9 และ 14 ปี ออกล่าสัตว์ ถึงพวกเขาจะยังมีอายุที่น้อย แต่แม่ของเธอก็ยืนยันที่จะพาลูกๆ ของเธอไปทำกิจกรรมดังกล่าว โดยเธอบอกว่า การล่าสัตว์ทำให้สายใยในครอบครัวของเธอมีความแข็งแรงมากขึ้นและยังสอนให้มีความเคารพแก่สัตว์ทั้งหลาย อีกทั้งยังทำให้ห่างไกลจากโลกโซเชียลมีเดีย ที่ปัจจุบันมีความหลอกลวงอยู่อย่างมากมาย “มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับฉัน ในเวลาที่ออกล่าสัตว์ด้วยกัน เราได้พูดคุย หัวเราะ และใช้เวลาร่วมกันแทนที่จะมากดแต่ โทรศัพท์สมาร์ทโฟน” “มีบางคนไม่เชื่อเหมือนกันนะ ว่าที่ฉันพาลูกๆ ออกล่าสัตว์เนี่ยจะเป็นเรื่องที่ดี ฉันก็เคารพความคิดเห็นของพวกเขานะ แต่ขอให้พวกเขาเคารพความคิดของฉันเหมือนกัน” Heather กล่าว “การล่าสัตว์ทำให้เด็กๆ ได้ออกไปสู่ธรรมชาติที่กว้างใหญ่ ทำให้ฉันสามารถสอนพวกเขาถึงชนิดของสัตว์ต่างๆ ได้ และยังมีกีฬามากมายให้เล่น…
-
ครั้งหนึ่งกับสงครามเย็น เมื่อสหรัฐกับโซเวียตแข่งกันผลิต “รถยนต์” กันอย่างเอาเป็นเอาตาย
สงครามเย็น เป็นสงครามที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แม้จะไม่มีเวลาเริ่มที่แน่ชัด แต่นี่เป็นสงครามของ 2 ขั้วมหาอำนาจนั่นคือ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา ที่ห้ำหั่นกันเพื่อชิงความเป็นเจ้ามหาอำนาจบนโลกนี้ ความเป็นเลิศที่ทั้ง 2 ชาติมหาอำนาจแข่งกันนั้นมีอยู่หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการทหาร ด้านแฟชั่น ด้านการสำรวจอวกาศ ด้านยนตกรรมก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทั้งสองประเทศแข่งกัน อเมริกามีแนวคิดรวบยอดเกี่ยวกับรถยนต์มาตั้งแต่ปี 1938 โดย Harley Earl หลังจากที่สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง GM (General Motors) ก็พร้อมกลับสู่สังเวียนยนตกรรมอีกครั้ง รถยนต์ The LeSabre ออกสู่ตลาด เขาได้รถยนต์ The LeSabre และออกสู่สาธารณะในปี 1951 โดยรูปทรงของรถยนต์นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของเครื่องบิน โดยส่วนหน้ามีส่วนที่คล้ายกับไอพ่นและตัวรถยนต์ที่เป็นอลูมิเนียมสามารถสร้างความประทับใจจากประชาชนได้เป็นจำนวนมาก มันถูกออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากส่วนต่างๆ ของเครื่องบิน ในขณะที่ฝั่งโซเวียตก็ได้ผลิตรถยนต์จากโรงงาน ZIL โรงงานที่ผลิตรถลิมูซีนชื่อดัง โดย ZIS-112 นี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก LeSabre อย่างเห็นได้ชัดโดยจำลองรูปลักษณ์ของรถในรูปแบบไซโคลโลว์ให้ดูเรียบง่ายแม้กระทั่งกระจกหน้ารถที่บิดเบี้ยว …
-
คุณแม่ใจร้ายขังลูกชาย 2 คนไว้ในกรงสุนัข หลังจากหย่ากับสามีที่แต่งงานกันมากว่า 6 ปี!!
ชีวิตแต่งงานของใครหลายคู่จะจบลงด้วยการหย่า แต่สำหรับชีวิตของลูกๆ ที่เกิดจากการแต่งงานนั้นยังคงดำเนินต่อไป แม้คุณแม่กับคุณพ่อจะไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม Noel Richard สามีและอดีตภรรยาของนาง Krystal ได้ตัดสินใจที่จะหย่าหลังจากแต่งงานกันมากว่า 6 ปีและตกลงกันว่านาง Krystal จะเป็นคนเลี้ยงลูกชายทั้ง 2 แต่แล้วใครจะรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น Noel สามีใจสลายเมื่อรู้ว่าลูกของเขาถูกเลี้ยงดูเหมือนดั่งสุนัข หลังจากที่ได้ตัดสินใจหย่า Noel ก็ได้ขนทรัพย์สินของตนเองออกจากบ้าน ย้ายไปที่อยู่ใหม่ของตนเองโดยที่ได้ฝากลูกชาย 2 คนของเขาไว้กับนาง Krystal บ้านที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโบสถ์คริสต์ ตอนนี้ได้เป็นบ้านที่อยู่อาศัยของนาง Krystal หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อนาย Noel กลับมาเพื่อเยี่ยมลูกๆ ของเขา ผลปรากฎว่าลูกๆ ของเขานั้นถูกเลี้ยงดูไม่ต่างจากสัตว์เลี้ยง โดยนาง Krystal ให้ลูก 2 คนของเธอนั้นอาศัยอยู่ในพื้นที่ของบ้านที่ถูกสร้างเหมือนกับ “กรงสุนัข” เจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐ Virginia ได้ให้ข้อมูลว่าระหว่างที่เขาได้เข้าไปเพื่อทำการตรวจสอบบ้านของเธอ ผลปรากฎว่า เด็กน้อย 2 คน ซึ่งอีกคนดูเหมือนว่าอีกคนหนึ่งจะเป็นเด็กออทิสติก ถูกขังอยู่ในห้องที่ไม่มีเตียง มีเพียงแค่ถาดอาหารสุนัขและเศษอาหารตามพื้น พร้อมกับรอยเล็บบนกำแพงไม้อัดของห้อง…
-
ครั้งหนึ่งกับความยิ่งใหญ่… 2 กระสวยอวกาศโซเวียต จากยุคสงครามเย็น ถูกทิ้งร้างกลางทะเลทราย
สถานะการณ์ความตึงเครียดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียตนำไปสู่ “สงครามเย็น” สงครามที่ 2 อภิมหาอำนาจแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำของโลกในด้านต่างๆ รวมไปถึงด้านการสำรวจอวกาศด้วยเช่นกัน ในคาซัคสถานมีการค้นพบยานอวกาศ 2 ลำ ถูกทิ้งร้างใกล้กับจุดปล่อยยาน Baikonur ซึ่งอยู่ห่างจากทะเล Aral ไปทางทิศตะวันออก 200 กิโลเมตร จุดที่พบกระสวยอวกาศทั้ง 2 ลำ Alexander Kaunas ช่างภาพผู้ถ่ายรูปกระสวยอวกาศได้ให้ข้อมูลว่า เขาและคณะเดินเท้ากว่า 36 กิโลเมตรฝ่าทะเลทรายสู่โรงเก็บกระสวยอวกาศ ที่ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ปฎิบัติการทางอวกาศ โรงเก็บกระสวยอวกาศ . Alexander ได้กล่าวว่า “มันสนุกที่จะหาสถานที่บางแห่งที่ผู้คนไม่สามารถเข้ามาได้ มันทำให้รูปถ่ายของผมดูแปลกใหม่ เราเดินเท้าประมาณ 36 กิโลเมตร แบกสัมภาระของเราไปถึงอาคาร เมื่อเราเข้าไปในอาคาร เราพบว่าเสียงกระซิบอันแผ่วเบาของเราก็สามารถได้ยินดังไปทั่วอาคาร” สภาพกระสวยอวกาศที่ถูกทิ้งร้าง . ท่อเชื้อเพลิงของกระสวยฯที่มีน้ำหนักถึง 2 ล้านกิโลกรัม . จากการค้นคว้า ทำให้เราได้ข้อมูลว่ากระสวยอวกาศทั้ง 2…
-
เพราะเหตุใดประเทศอย่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น จึงเลือกที่จะไม่ฝังสายไฟฟ้าลงใต้ดิน!?
เมื่อพูดถึงเรื่องสายไฟฟ้า เสาไฟฟ้าในประเทศที่พัฒนาแล้ว เราก็มักจะนึกถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก่อนเป็นอันดับแรก และจะตามมาด้วยความสวยงามของการจัดการระบบสายไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันหลากหลายประเทศก็เริ่มที่จะนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินแล้ว (และในบ้านเราก็เริ่มทำแล้วในบางจังหวัด) ย้อนกลับไปดูสภาพของเมือง Jersey City หลังประสบกับพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ ในปี 2012 แต่ทว่าการนำสายไฟฟ้าลงใต้ดินนั้นยังไม่อาจสามารถทำได้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ ทั้งๆ ที่เราคิดว่าก็ประเทศเหล่านั้นน่าจะทำได้ แต่ด้วยเหตุใดที่ประเทศก้าวหน้า ยกตัวอย่างเช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นจึงไม่ทำ? ก่อนอื่นเลยต้องเกริ่นว่าประเทศเหล่านี้อยู่ในโซนที่เกิดภัยภิบัติอยู่บ่อยครั้ง อย่างสหรัฐอเมริกาจะต้องเจอกับพายุเฮอร์ริเคนและแผ่นดินไหว ส่วนทางฝั่งญี่ปุ่นก็ต้องเจอพายุไต้ฝุ่นและแผ่นดินไหวในทุกๆ ปี แผนภาพพื้นที่เสี่ยงภัยแผ่นดินไหวของสหรัฐอเมริกา สีแดงจะเป็นระดับที่รุนแรงที่สุด ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น สิ่งที่ตามมาก็คือความเสียหายต่อระบบสายส่งไฟฟ้า ซึ่งจะต้องทำการซ่อมแซมให้รวดเร็วที่สุด โดยเมื่อเทียบกันแล้ว แม้ว่าเสาไฟฟ้ากับสายไฟฟ้าที่อยู่เหนือพื้นดินจะเสียหายมากกว่า แต่สำหรับราคาการซ่อมนั้นถูกกว่าระบบสายไฟฟ้าฝังดินหลายเท่าตัว ดังนั้นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงภัยพิบัติสูงยังคงใช้ระบบสายส่งไฟฟ้าเหนือพื้นดินอยู่ สำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ค่าใช้จ่ายในการทำสายส่งไฟฟ้าลงดินจะแพงกว่าการทำสายส่งไฟฟ้าเหนือพื้นดินประมาณ 3 ถึง 10 เท่า ราคาของระบบสายไฟฟ้าเหนือพื้นดินจะอยู่ที่ 285,000 ดอลลาร์ต่อ 1.6 กิโลเมตร ระบบสายไฟฟ้าใต้ดินจะอยู่ที่ 1,000,000 ดอลลาร์ต่อ 1.6 กิโลเมตร (ข้อมูลล่าสุดในปี 2015)…
-
Marvel ปล่อยเบื้องหลังการถ่ายทำสุดฮาของ Capt. : Civil War ลืมภาพฮีโร่ขรึมๆ ไปได้เลย..!!
ในสมัยนี้ถ้าจะพูดถึงหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ครองใจเหล่าผู้ชมจากทั่วโลกได้มากที่สุดก็คงจะไม่พ้นของค่าย Marvel นี่แหละ และอย่างเรื่องล่าสุด Captain America: Civil War ก็ถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของค่ายนี้เลยทีเดียว ด้วยการนำเอาเหล่านักแสดงมากฝีมือและซุปเปอร์ฮีโร่ขวัญใจหลายๆ คนมารวมกัน แน่นอนว่าการถ่ายทำนั้นค่อนข้างจะหินเลยทีเดียว ไหนจะต้องความเป๊ะของนักแสดง ความเป๊ะของฉาก คอสตูมและการแต่งหน้าต่างๆ วันนี้เราเลยจะพาไปดูเบื้องหลังฮาๆ ของกระบวนการเหล่านี้กันล่ะ!! Captain America: Civil War ในส่วนของเบื้องหลังเวอร์ชั่นเป็นคลิป (เวอร์ชั่นภาพอยู่ด้านล่าง) แหม๊…ฉากต่อสู้สุดแสนเร้าใจความเป็นจริงมันคือแบบนี้นี่เอง Bucky หรือ Winter Soldier ของเราก็มีมุมฮาๆ เยอะเหมือนกันนะเนี่ย ถึงจะหลายเทค แต่ก็ต้องผ่านซีนนี้ไปให้ได้!!! โอยยยยย ต้องพูดอะไรต่อไปวะเนี่ยยยย? ลืมอีกแล้ววววว… เดี๋ยวๆๆ จำเป็นต้องแลบลิ้นขนาดนั้นด้วยเหรอ ฮร่าาา วานด้า วิชั่นเจ็บปวดมากๆ เลยนะ เธอรู้ไหม?? (แล้วดูหน้าวิชั่นซะก่อน -*-) ฮ่าๆๆๆ ไหนๆ ก็พลาดซะละ…
-
อนุสาวรีย์ “Captain America” ถูกสร้างขึ้นแล้ว ในบ้านเกิดของเขาที่เมือง Brooklyn
Captain America ถือเป็นฮีโร่ตัวแรกๆ ของอเมริกาที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากว่าเป็นตัวแทนของความรักชาติสูง และสร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากนักวาดคอมมิค Mark Gruenwald ผู้วาดและเขียนเรื่องราว Captain America ขึ้นมาได้จากโลกนี้ไปแล้ว มีการสดุดีถึงขั้นรนำเถ้ากระดูกของเขามาวาดเป็นหนังสือการ์ตูนเพื่อเป็นการเคารพแก่การจากไป ล่าสุดยังทำสร้างอนุสาวรีย์ Captain America ขึ้นที่สวนสาธารณะ Prospect Park ในเมือง Brooklyn อีกด้วย สาเหตุที่ต้องสร้างไว้ที่นี่ก็เพราะว่าบ้านเกิดของ Steve Roger หรือ Captain America อยู่ที่นี่นั่นเอง และตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 75 ปี แล้วที่ตัวละครนี้ถือกำเนิดขึ้นมา แต่ทั้งนี้ก็ได้มีบางส่วนที่ไม่ค่อยพอใจกับการตั้งอยู่ของอนุสาวรีย์แห่งนี้ ทางการจึงจำเป็นต้องย้ายอีกครั้งไปที่ Barclays Center ในอีกไม่กี่สัปดาห์จนกระทั่งถึงสิ้นเดือนกันยายนจะย้ายอีกครั้งไปอยู่ที่ Sunset Park จนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ หลังจากนั้นไม่มีการเปิดเผยว่าจะได้ตั้งอยู่ถาวรหรือต้องย้ายไปที่ไหนอีกหรือไม่!? แต่ถ้าใครเป็นแฟนคลับอยากจะไปถ่ายรูปด้วย ก็เป็นโอกาสอันดีเลยล่ะ . . . ที่มา designyoutrust
-
เมื่อ ‘ซูชิ’ อาหารขึ้นชื่อของญี่ปุ่นถูกทำเป็นเบอร์ริโต้ ชาวนิวยอร์กแห่กินอย่างล้นหลาม!!
ว่ากันด้วยเรื่องของอาหารแล้ว ประเทศญี่ปุ่นเองก็ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารการกินเช่นกัน โดยเฉพาะอาหารที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลกอย่างซูชิ ที่มีลักษณะเป็นข้าวปั้น และวางหน้าด้วยปลาดิบ กลับกันหากเป็นอาหารของทางแถบยุโรป ที่จะเป็นอาหารแนวแบบสะดวกในการรับประทานซะมากกว่า อย่างเช่นเบอร์ริโต้ของเม็กซิโก ที่นำแป้งมาห่อไส้วัตถุดิบไว้ข้างใน แล้วก็เคี้ยวกร้วมๆอย่างเดียวเสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องมีการจัดใส่จานหรือภาชนะอะไรสักอย่าง และจะเป็นอย่างไรเมื่ออาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิถูกนำมาฟิวชั่นกับเบอร์ริโต้? #เหมียวหง่าว จะพาเพื่อนๆไปชมการผสมผสานของวัฒนธรรมอาหาร ที่บอกได้คำเดียวว่าเป็นอะไรที่สุดยอดมากๆ เลยล่ะ!! และนี่คือโฉมหน้าของ Sushi Burrito ซูชิเบอร์ริโต้ที่ว่า ผลงานความครีเอทนี้เป็นของร้าน Pokéworks ในนิวยอร์ค โดยเริ่มต้นด้วยการใส่ข้าวเข้าไปในเครื่อง แล้วมันก็ออกมาเป็นแผ่นอย่างสวยงาม จากนั้นก็เลือกหน้าได้เลย เอาผักอะไรบ้างจ๊ะ? แล้วก็มาถึงคิวปลาดิบเรามั่งล่ะ มีทั้งทูน่า แซลม่อน และปลาดิบอื่นๆอีกมากมาย จากนั้นก็ม้วนนน!!! ปริ๊งงงงงง ออกมาเป็นแบบนี้เลย!!! ผ่าครึ่งให้ดูซะหน่อย โอ๊ยยยน้ำยายไหยยยย กินโชว์ซักหน่อยยย อ้ามมมมมม ไปชมคลิปเพิ่มเติมกันได้ที่ข้างล่างนี้เลย… The ‘Sushi Burrito’ has hit NYC and it’s amazing. Posted by…