Tag: body language

  • นักจิตวิทยาเผยท่าทางต่างๆ บ่งบอกถึงความรู้สึกของเหล่าคู่รัก ตรงกันบ้างรึเปล่าเอ่ย!?

    นักจิตวิทยาเผยท่าทางต่างๆ บ่งบอกถึงความรู้สึกของเหล่าคู่รัก ตรงกันบ้างรึเปล่าเอ่ย!?

    ว่ากันว่ากิริยาท่าทางต่างๆ สามารถบ่งบอกถึงความเป็นตัวตนของคนๆ นั้นได้ แต่รู้หรือไม่ว่าท่าทางที่แสดงต่อกันระหว่างคู่รักนั้นก็สามารถบ่งบอกความรัก ความห่วงใยที่ทั้งคู่มีต่อกันได้เหมือนกันนะ Dr. Lilian Glass นักจิตวิทยาได้ออกมาอธิบายถึงท่าทางต่างๆ ของคู่รักที่พวกเขาแสดงต่อกันว่ามีความหมายว่าอย่างไรและจะส่งผลอย่างไรต่อชีวิตคู่ มาลองเช็คกันดูดีกว่าว่าคู่รักของเรามีพฤติกรรมอย่างนี้กันบ้างหรือเปล่า…   การจับมือกัน   ถ้าร่างกายของทั้งคู่ได้หันหาเข้าหากันและจับมืออย่างในภาพ แสดงว่าทั้งคู่นั้นต้องการที่จะเข้าใกล้ชิดระหว่างกันและกัน และการจับมือยังแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งที่ทั้งคู่มีให้แก่กันอีกด้วย หากคุณเห็นคู่ไหนที่มีพฤติกรรมอย่างนี้มั่นใจได้เลยว่าคู่นั้นมีความผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นเลยล่ะ   เขาเป็นของฉันนะ   การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนำมือไปโอบเอวหรือโอบแขนอีกฝ่าย นั่นแสดงว่าอยากจะแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเหมือนกับต้องการจะบอกแก่คนอื่นว่า “เขาเป็นของฉันนะ” แต่เป็นการบอกผ่านทางภาษากายแทน   ท่ายืนที่แสดงความดูแลกันและกัน   หากร่างกายของฝ่ายหญิงหันไปหาคู่รักของเธอก็หมายความว่า เธอต้องการที่จะอยู่ใกล้ชิดกับเขาให้ได้มากที่สุด และการที่ฝ่ายชายนำมือไปกอดเอวของฝ่ายหญิงเอาไว้ นั่นก็แสดงถึงความอ่อนโยนที่เขามีให้แก่เธอและยังให้ความหมายอีกนัยหนึ่งว่าไม่อยากจะเคร่งครัดกับฝ่ายหญิงมากนัก เหมือนกับการวางมือไว้บนเอวอย่างหลวมๆ ซึ่งท่าทีที่แสดงออกมาแบบนี้ เป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจที่ทั้งคู่มีระหว่างกันและยังเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์ที่ดีอีกด้วย   ท่าทางที่แสดงให้เห็นถึงเส้นใยความสัมพันธ์ที่แข็งแรง   การยืนอย่างมั่นคงและกุมมือกันอย่างเหนียวแน่นนั้น เป็นการบอกว่าพวกเขาเคยชินที่ได้ผ่านอะไรมาด้วยกันและยังทำสิ่งต่างๆ ร่วมกันมาเป็นเวลานาน อีกทั้งท่ายืนของทั้งคู่ยังบอกถึงความรู้สึกสบายใจในความสัมพันธ์ที่ทั้งคู่มีต่อกันได้เป็นอย่างดีเลยแหละ   ท่าแสดงความเป็นเจ้าของอีกท่าหนึ่ง   เมื่อฝ่ายชายคล้องแขนฝ่ายหญิงมาแนบกาย นั่นคือเขาอยากที่จะบอกแก่ทั้งโลกว่าเขาเป็นเจ้าของฝ่ายหญิง แต่นี่เป็นท่าที่ผู้หญิงส่วนมากมักไม่ชอบ เพราะว่าพวกเธอจะรู้สึกอึดอัดและไม่สบายเนื้อสบายตัวและมันเหมือนการที่เธอถูกบังคับตลอดเวลานั่นเอง   ความมีใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน   ท่าการนั่งอีกแบบหนึ่งที่ผู้หญิงนั่งอยู่บนตักของผู้ชายนั้นมีความหมายว่า ผู้หญิงยินดีที่จะมอบชีวิตที่เหลืออยู่ให้ขึ้นอยู่กับผู้ชาย และทั้งคู่ยังมีความเชื่อใจอย่างหมดหัวใจเลยทีเดียว  …

  • ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ “8 ภาษากาย” ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ และทำให้ตัวเองดูคูลขึ้นได้จริงๆ

    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ “8 ภาษากาย” ที่คุณสามารถเรียนรู้ได้ และทำให้ตัวเองดูคูลขึ้นได้จริงๆ

    ภาษาที่เราใช้สื่อสารนั้นมีอยู่มากมายทั่วโลก นอกจากภาษาที่เราใช้พูดกันแล้วนั้น “ภาษากาย” เป็นอีกสิ่งสำคัญที่สามารถสื่อสารได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ภาษากายมีความพิเศษอยู่หลายอย่าง มันสามารถเป็นตัวเสริมที่ทำให้ภาษาพุดของเรามีความน่าเชื่อถือ หรือในขณะเดียวกันมันก็สามารถที่จะลดความน่าเชื่อถือได้ ซึ่งคราวนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพต่างๆ จะเป็นคนมาแนะนำ 8 ภาษากายที่คุณควรฝึกและนำไปใช้อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง…   1. ลอกเลียนแบบท่าทางของอีกฝ่าย – Rosemary Haefner หัวหน้าฝ่ายบุคคล เว็บไซต์ CareerBuilder แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราต้องลอกเลียนแบบให้เหมือนเสียทีเดียวนะ นั่นจะดูเป็นการล้อเลียนเกินไป การที่เราค่อยๆ “Mimic” อย่างช้าๆ จะเป็นการแสดงถึงความเห็นด้วย หรือเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้พวกเขารู้สึกคล้อยตามและถูกจูงใจได้   2. เดินอย่างมั่นใจ – อ้างอิง Scientific American การเดินหลังห่อ หรือไร้แรงเป็นการแสดงถึงความเศร้าและขาดแรงบันดาลใจ ลองเปลี่ยนมาเป็นการเดินแบบมีชีวิตชีวาสิ เดินหลังตรงส้นเท้าลงเต็มพื้น นี่คือการแสดงถึงความมั่นใจและการมีเป้าหมายซึ่งจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่มีบุคลิกน่าเชื่อถืออีกด้วยนะ   3. การใช้สายตา – Leil Lowndes พยายามสบตาผู้พูดหรือคู่สนทนาเป็นประจำ แต่ไม่ใช่การจ้องเขม็งไปที่พวกเขานะ การสบตานอกจากแสดงให้เห็นถึงความมั่นใจแล้ว ยังแสดงให้เห็นความสนใจในคู่สนทนาอีกด้วย สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยมั่นใจ สามารถฝึกง่ายๆ ด้วยการหมั่นสบตากับคู่สนทนาของคุณทุกคน อย่างตั้งใจและแสดงถึงความอบอุ่น คุณจะค่อยๆ พัฒนาทักษะนี้ไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆ ได้   4.…