Tag: chinese
-
หมาแก่จงรักภักดี มาส่งเจ้าของที่สถานีรถไฟทุกวัน แล้วนั่งรอจนเขาเดินทางกลับบ้าน
ความซื่อสัตย์ของหมาแก่จากประเทศจีน ทำให้ชาวเน็ตพากันชื่นชมในความจงรักภักดีต่อเจ้าของของมัน คลิปวิดีโอของเจ้าหมาตัวนี้มีคนเข้าชมกว่า 10 ล้านครั้งแล้ว ทำให้มันเป็นที่รู้จักของชาวจีนจำนวนมาก ถ้าคุณมีโอกาสได้ผ่านไปที่สถานีรถไฟ Liziba ในเมือง Yuzhong มณฑล Chongqing ประเทศจีน ก็จะได้เจอหมาแก่สีน้ำตาลชื่อว่า Xiong Xiong นอนอยู่ตรงนั้นเป็นประจำ มันไม่ได้เป็นหมาจรจัดที่อาศัยอยู่ที่นั่น มันเพียงแค่นั่งรอเจ้าของอยู่เท่านั้น Xiong Xiong เป็นหมาอายุ 15 ปีของนาย Chen มันจะเดินมาส่งเขาขึ้นรถไฟไปทำงานในตอนเช้าทุกวัน พอเจ้าของขึ้นรถไฟไปแล้ว มันก็จะนั่งรออยู่ตรงสถานีรถไฟจนกว่าเจ้าของจะเลิกงานมา แล้วก็จะกลับบ้านไปด้วยกัน คนในพื้นที่เล่าว่า “Xiongxiong จะมาที่สถานีรถไฟประมาณ 7-8 โมงเช้าทุกวันตอนที่เจ้านายของเขาออกไปทำงาน … จากนั้นมันก็จะวนเวียนอยู่แถวสถานีรถไฟ โดยจะรออยู่แถวประตูทางออก B ประมาณสัก 12 ชั่วโมงได้ บางครั้งมันก็นั่งอยู่จนถึง 2 ทุ่ม มันจะรออยู่จนกว่าจะเจอเจ้าของ เมื่อมันเห็นเขาก็จะกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ” มันจะรอเจ้าของทุกวัน ไม่หนีไปเที่ยวที่อื่นเลย นอกจากนี้เจ้าหมาจะให้ความสนใจแค่เจ้าของเท่านั้น ถ้าเกิดมีคนแปลกหน้าเข้ามาเล่นกับมัน เจ้าหมาก็จะไม่สนใจเลย แล้วถ้าคนแปลกหน้าเอาอาหารมาให้กิน…
-
นักเรียนจีนถูกมีดแทงกว่า 7 คน ผู้ก่อเหตุอ้าง เพราะถูกกลั่นแกล้งในวัยเด็กเลยเป็นปมฝังใจ
ในขณะที่อเมริกาต้องรับมือกับเหตุกราดยิงในโรงเรียนบ่อยครั้ง ในจีนเองก็เกิดเหตุทำนองเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากการใช้ปืนเป็นมีดแทน เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2018 เกิดเหตุระทึกขวัญขึ้นที่เมืองมี่จี มณฑลซานซี ทางตอนเหนือของประเทศจีน เมื่อชายหนุ่มใช้มีดเข้าทำร้ายร่างกายเด็กๆ ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก สำนักข่าว BBC ได้รายงานว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในระหว่างเวลา 18.10 นาฬิกา ซึ่งเป็นเวลาที่เด็กๆ เลิกเรียนแล้วและกำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน เจ้าหน้าที่เผยว่าชายหนุ่มรายนี้แซ่เสี่ยว วัย 28 ปี เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าแรงจูงใจของเขาคือการแก้แค้น เพราะเมื่อครั้งที่เขายังเป็นนักเรียนมัธยต้น เขาเคยถูกเพื่อนๆ กลั่นแกล้งมาก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 7 คน เป็นเด็กผู้หญิง 5 คน และเด็กผู้ชาย 2 คน และบาดเจ็บอีกกว่า 12 คน โดยเด็กๆ ที่ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในทันที แต่ไม่มีการระบุเลขอายุที่แน่ชัด คาดว่าอยู่ในระหว่าง 12-15 ปี ในขณะนี้ผู้ลงมือก่อเหตุได้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ภาพของผู้ก่อนเหตุในครั้งนี้ขณะถูกควบคุมตัวไปสอบสวน ภาพจากสื่อสังคมออนไลน์เผยให้เห็นภาพของเด็กนักเรียนที่นอนอยู่บนพื้น โดยมีผู้คนยืนตกตะลึงอยู่รายรอบ …
-
หนุ่มจีนเมาหนัก ปีนขึ้นตึกสูงหวังฆ่าตัวตาย แต่เผลอหลับเลยรอดมาได้
การดื่มแอลกอฮอล์จนเมาอาจเป็นสาเหตุให้คุณประสบอุบัติเหตุหรือทำอะไรไปโดยขาดสติ แล้วยิ่งคุณได้อ่านข่าวต่อไปนี้ล่ะก็คุณจะยิ่งอึ้งกิมกี่เข้าไปใหญ่ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าวท้องถิ่นในจีนได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบชายหนุ่มรายหนึ่ง นอนหมดสติ งีบหลับอยู่บริเวณดาดฟ้าของตึกที่สูง 29 ชั้น ในเมืองซีอาน ตามรายงานบอกว่าตึกนี้มีความสูงอยู่ที่ 100 เมตร หากชายหนุ่มขยับแม้แต่นิดเดียวนั่นอาจหมายถึงความเป็นความตายของเขาเลยก็ได้ โชคดีที่ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบจนเข้าไปช่วยเหลือ ชายหนุ่มไม่ได้มีทีท่าจะขยับหรือพลิกตัวไปทางไหนเลย ทำให้การช่วยเหลือเขาผ่านไปได้อย่างหวุดหวิด หลังจากเข้าช่วยเหลือแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวชายหนุ่มมาสอบถาม จึงทราบว่าเจ้าตัวมีปัญหาเกี่ยวกับชีวิตซึ่งทำให้สภาพจิตใจไม่มั่นคง เขาเล่าต่อว่าหลังจากที่ดื่มเบียร์ไป 2-3 กระป๋อง เขาก็พยายามหาทางปีนขึ้นไปยังดาดฟ้าของตึกและตั้งใจจะกระโดดลงมา แต่โชคดีที่ระหว่างกำลังนั่งอยู่บนดาดฟ้านั้น เขาเผลอหลับไป ทำให้กระโดดตึกฆ่าตัวตายไม่สำเร็จ กินเหล้าอย่าให้เหล้ากินเรา มีสติอย่าเกินลิมิตนะทุกคน แล้วก็อย่าขึ้นที่สูงกันด้วย ที่มา medium
-
อาหารแพงเป็นเหตุ นักท่องเที่ยวจีนก่อเหตุทะเลาะวิวาทกับพนักงานหลังเห็นค่าอาหารเกินราคา
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้ สวัสดีปีใหม่จีนนะครับทุกคน เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมานนี้เป็นวันตรุษจีน หลายครอบครัวก็รวมญาติฉลองกันอย่างรื่นเริง ส่วนเด็กๆ ก็ได้ค่าขนมไปใช้กัน มีความสุขถ้วนหน้า ทว่าในวันมงคลแบบนี้ ที่ประเทศจีนกลับเกิดเรื่องชกต่อยรุนแรงขึ้นเสียอย่างนั้น โดยเหตุเกิดขึ้นในภัตตาคารแห่งหนึ่ง ต้นเหตุของการต่อยตีกันนี้ก็ไม่ใช่ว่าเมาแล้วควบคุมตัวเองไม่ได้หรอก แต่เป็นเรื่องค่าอาหารต่างหาก เหตุเกิดขึ้นในร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมือง Huai’an มณฑลเจียงซู ประเทศจีน มีเหตุต่อยตีกันใหญ่โตที่บริเวณเคาน์เตอร์ซึ่งอยู่ใกล้กับทางเข้าภัตตาคาร ภาพเหตุการณ์นี้มีคนใช้กล้องโทรศัพท์มือถือบันทึกไว้ได้จากชั้นบนของร้านอาหาร ในตอนต้นจะเห็นว่าลูกค้ามีปากเสียงกับพนักงานอยู่ แล้วก็เริ่มเปิดฉากต่อยกันทันที คลิปวิดีโอ พอเริ่มชกต่อยกันแล้วหญิงสาวที่สวมเสื้อสีชมพูก็พยายามใช้ของบางอย่างโยนใส่พนักงานของภัตตาคาร พอพนักงานที่สวมเสื้อสีดำเห็นแบบนั้นก็เลยจับตัวเธอยกขึ้นสูง แล้วทุ่มลงกับพื้นอย่างรุนแรงจนหญิงสาวนอนนิ่งไป หลังจากนั้นชายอีกคนหนึ่งก็พยายามจะวิ่งหนีออกไปทางประตูด้านหน้า คนจำนวนมากจึงช่วยกันจับตัวเขาเอาไว้ไม่ให้หนีออกไปได้สำเร็จ ต้นเหตุนั้นทราบว่าเริ่มจากกลุ่มลูกค้าบอกว่าทางร้านคิดเงินค่าอาหารพวกเขาเกินไป 100 หยวน (ประมาณเกือบ 500 บาท) แต่ทางร้านบอกว่าพวกเขาคิดเงินถูกต้องแล้ว พอไม่สามารถตกลงกันได้จึงชกต่อยกันอย่างที่ได้เห็นในคลิปวิดีโอ อย่างไรก็ตามยังไม่มีบทสรุปออกมาว่าฝ่ายใดถูก ฝ่ายใดผิด ตอนนี้ตำรวจได้รับทราบเรื่องแล้ว และกำลังสืบสวนหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ ที่มา: Shanghaiist
-
จากภาพ “เด็กชายผู้ฝ่าหิมะไปเรียน” ล่าสุดมีคนใจดีมอบเงินเพื่อให้ไปทัศนศึกษาในปักกิ่งด้วย
เมื่อราวๆ เดือนธันวาคม 2017 ที่ผ่านมา ได้มีภาพๆ หนึ่งถูกพูดถึงในโลกออนไลน์อย่างกว้างขวาง เป็นภาพของเด็กชายชาวจีนที่ชื่อ Wang Fuman วัย 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่ในมณฑล Zhaotong เขต Yunnan เขาต้องฝ่าอากาศอันหนาวเย็น -8 องศาเพื่อไปโรงเรียนประถม Zhuanshanbao Primary School ที่อยู่บนเขาที่ห่างจากบ้านไปราวๆ 4.5 กิโลเมตร แต่เนื่องจากอากาศอันหนาวเย็นสุดขั้ว ทำให้เส้นผมของเขาและขนตาของเขามีแต่เกล็ดหิมะเกาะเต็มไปหมด คุณครูจึงอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพของเขาไปลงในโซเชียลเน็ตเวิร์กและกลายเป็นภาพไวรัลที่มีผู้คนแชร์กันออกไปอย่างรวดเร็วจนได้รับฉายา “Ice Boy” จากความโด่งดังของเขาทำให้เด็กชาย Wang ถูกสื่อหลายแห่งเชิญไปสัมภาษณ์ เด็กชาย Wang บอกว่าเมื่อโตขึ้น เขาอยากจะเป็นตำรวจเพื่อจะได้จับคนร้าย และปณิธานในปีใหม่นี้ เขาตั้งใจจะเรียนหนังสือให้มากขึ้นและหาเงินมาเพื่อรักษาคุณยายที่ป่วยของเขา เด็กชาย Wang บอกว่าเขาเองไม่เคยทิ้งบ้านแล้วเดินทางไปไหนเลย เขาอาศัยอยู่ในบ้านโทรมๆ กับน้องสาวและคุณยาย ส่วนแม่ได้ทิ้งครอบครัวไปครอบครัวใหม่ และพ่อต้องไปทำงานในต่างถิ่น จะได้กลับบ้านเพียงปีละครั้งหรือสองเท่านั้น แต่เขาก็หวังว่าสักวันจะได้ไปปักกิ่ง เพราะจะได้รู้ว่าเด็กๆ ที่นั่นเขาเรียนหนังสือกันยังไง และเพราะความโด่งดังของภาพนั้น มันได้ช่วยเปลี่ยนให้ชีวิตของเขาไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อของเด็กชายได้กลับมาที่บ้านอีกครั้งและถูกเสนอให้ทำงานใกล้ๆ กับบ้านของตัวเอง แถมทั้งครอบครัวยังได้รับเงินบริจาคกว่า…
-
เสียวแปล๊บ!? หนุ่มจีนเสียบเข็ม 15 เล่มไว้ในปู๋นานเป็นปี ทนเจ็บไม่ไหวจนต้องเข้าโรงพยาบาล
สำหรับท่านชายอาจจะอยากมีขนาดอวัยวะเพศชายที่ใหญ่ขึ้นเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่คู่นอน ก็อาจจะมีวีธีทำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการนวดท่านชายด้วยน้ำมัน หรืออาจจะเป็นการนำเข็มไปเสียบที่ท่อปัสสาวะเหมือนชายผู้นี้!? และกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับชายชาวจีนอายุ 30 ปี ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง เพื่อรับการรักษาหลังจากนำเข็มจำนวนหนึ่งยัดเข้าไปข้างในท่อปัสสาวะของเขา ภาพ X-ray แสดงเข็มที่อยู่ภายในท่อปัสสาวะของเขา เข็มจำนวนกว่า 15 เล่มที่ถูกเสียบเข้าไปในช่วงปีที่ผ่านนั้น ถูกนำออกมาจากท่อปัสสาวะของเขาทีละเล่ม และเข็มบางเล่มนั้นได้เริ่มเกิดสนิมขึ้นแล้ว ในส่วนของแรงจูงใจที่ทำให้ชายชาวจีนวัย 30 ปี ผู้นี้ นำเข็มไปเสียบเข้าไปที่ท่อปัสสาวะของเขายังไม่เป็นที่แน่ชัด คาดว่าอาจจะเป็นการเพิ่มขนาดของอวัยวะ หรืออาจจะเป็นเพียงแค่ “งานอดิเรกแปลกๆ ” ตามที่ญาติของเขากล่าวก็เป็นไปได้ เข็มกว่า 15 เล่มที่ถูกนำออกมาเรียงราย… การกระทำแบบนี้สามารถที่ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นจากการติดเชื้อ หรือจะเป็นบาดทะยักที่มาจากสนิมในเข็มก็ได้ ในปัจจุบันยังไม่มีผลงานวิจัยทางการแพทย์ชิ้นไหน ที่สามารถบ่งชี้ถึงวิธีการเพิ่มขนาดของอวัยวะเพศชายได้อย่างถาวร เราอาจเคยได้ยินถึงวิธีการที่หลากหลาย แต่ก็ยังไม่มีวิธีไหนที่ใช้ได้แน่นอนตามที่กล่าวอ้างกันมาแต่อย่างใด… ที่มา: shanghaiist
-
สาวจีนใจกล้า พาครอบครัวเดินทางไปช่วยประเทศเดนมาร์ก ด้วยการจับหอยนางรม 200 กิโลมากิน
กลายเป็นเรื่องที่ชวนให้ชาวเดนมาร์กปวดหัวจริงๆ เพราะเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมามีข่าวว่าประเทศเดนมาร์กกำลังประสบกับปัญหาที่มีหอยนางรมเพิ่มจำนวนขึ้นมากจนทำให้ระบบนิเวศไม่สมดุล และดูเหมือนกับชาวเดนมาร์กจะไม่ชอบกินหอยชนิดนี้มากมายอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่ในขณะที่อาหารดังกล่าวเป็นที่ชื่นชอบของชาวจีนหลายคนเลยทีเดียว ต่อมาได้มีข่าวว่าเว็บไซต์ Alibaba ได้หารือกับนักการทูตชาวเดนมาร์กเพื่อที่จะขนเอาหอยนางรมจำนวนมากไปขายในประเทศจีน ในขณะที่บริษัททัวร์บางแห่งเล็งที่จะจัดทัวร์เพื่อให้ชาวจีนได้เดินทางไปจับหอยนางรมกินกันถึงที่ประเทศเดนมาร์กโดยเฉพาะเลย แต่ดูเหมือนจะมีสาวชาวจีนใจกล้ารายหนึ่งที่ไม่อยากจะรอให้มีการจัดทัวร์ หรือสั่งซื้อหอยมานั่งกินที่บ้าน เพราะเธอได้พาครอบครัวเดินทางไปกินหอยนางรมกันถึงที่เดนมาร์กเลยทีเดียว!! เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านาง Bian Miaomiao ได้เดินทางจากประเทศจีนไปอาศัยอยู่ที่ประเทศเดนมาร์กพร้อมกับสามีของเธอเมื่อราวๆ 7 ปีก่อน หลังจากที่นาง Bian Miaomiao ได้รับทราบข่าวว่าตอนนี้เดนมาร์กกำลังประสบปัญหากับการเพิ่มจำนวนของหอยนางรม เธอเลยตัดสินใจที่จะทำบางอย่างเพื่อช่วยเหลือประเทศนี้ เธอได้รวบรวมกลุ่มเพื่อนฝูงและครอบครัวแล้วเดินทางไปยังประเทศเดนมาร์ก สืบเสาะหาสถานที่ซึ่งเกิดปัญหาแพร่ระบาด ลงไปที่ชายหาดพร้อมกับเครื่องมือแงะหอยและอุปกรณ์ปิ้งอย่างครบมือ ตามรายงานของเว็บ Chengdu Business Daily บอกว่าเพียง 4 ชั่วโมง นาง Bian และมิตรสหายก็สามารถจับหอยมาได้มากกว่า 150-200 กิโลกรัมเลยทีเดียว พวกเขาจับเอาหอยนางรมมาปรุงอาหารในรูปแบบต่างๆ ทั้งปิ้งย่างแบบธรรมดา ผัดเผ็ดเสฉวน หรือไข่เจียวหอยนางรม …
-
“ขนาดบ้านของแก ยังไม่มีห้องน้ำเลย!!” สาวจีนปฏิเสธคำขอแต่งงานแฟนหนุ่ม เพราะฐานะแย่เกินไป!?
ในขณะนี้ต้องบอกเลยว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่พัฒนาและเติบโตเร็วมาก ทำให้ผู้คนของพวกเขาพยายามขวนขวายหาความมั่นคงให้กับชีวิตตัวเอง โดยการเข้าไปทำงานตามหัวเมืองใหญ่ๆ และหากเป็นไปได้ การมีแฟนที่มีอันจะกิน ก็ยิ่งทำให้พวกเขารู้สึกมั่นคงไปด้วยนั่นเอง แต่หากคุณไม่ได้ร่ำรวยเงินทองเท่าไหร่ หรือคุณยากจนขนาดหนักจริงๆ ก็อาจจะต้องเตรียมพร้อมรับความเจ็บปวดแบบชายคนนี้ เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดสะบั้นอารมณ์ของคู่หนุ่มสาวชาวจีน ในขณะที่ฝ่ายชายพยายามขอฝ่ายหญิงแต่งงานในที่สาธารณะ แต่ฝ่ายหญิงกลับปฏิเสธคำขอของเขา โดยฝ่ายหญิงได้ตะโกนลั่นกลางถนนว่า “ที่ห้องของนายยังไม่แม้แต่ห้องส้วมหรือห้องอาบน้ำเลย นายยังจะมาขอให้ฉันแต่งงานกับนายอีกเหรอ!? ตลกสิ้นดี” หลังจากที่ฝ่ายชายถูกต่อว่าอย่างหนักโดยไม่ปริปากพูดใดๆ ออกไป ก่อนจะเก็บกระเป๋าและเดินจากไปแบบเงียบๆ สร้างความสะเทือนใจให้แก่ผู้คนโดยรอบและชาวเน็ตอย่างมาก กดชมคลิปสุดสะเทือนใจได้ที่นี่เลย เมื่อราวๆ สัปดาห์ที่ผ่านมา มีสื่อในจีนอย่าง People’s Daily ได้รายงานค่าเฉลี่ยของสินสอดและค่าใช้จ่ายในการที่ผู้ชายจะไปขอผู้หญิง อยู่ที่ราวๆ 200,000 หยวน หรือประมาณ 1 ล้านบาท จำนวนดังกล่าวเป็นเงินที่สูงมากทีเดียว โดยเฉพาะกับครอบครัวชนบทที่แทบจะไม่มีอะไร แม้กระทั่งห้องน้ำ ซึ่งบางบ้านในชนบทอาจจะยังใช้ส้วมรวมสาธารณะ หรือการไปปล่อยตามท้องทุ่งอยู่นั่นเอง ตัวเลขนี้แสดงให้เห็นว่าหากผู้ชายจะขอผู้หญิงสักคนแต่งงาน พวกเขาจะต้องมีความพร้อมในด้านการเงินมากแค่ไหน ที่มา shanghaiist , Lieselotte Young
-
หมดกัน… ฟาร์มเสือจีนปล่อย “โดรน” บินว่อนพาเสือออกกำลังกาย แต่ก็โดนตะปบจนพัง!?
ในช่วงต้นปีแบบนี้ยังคงเป็นช่วงฤดูหนาวของประเทศจีน ทำให้มีสภาพอากาศที่หนาวเย็นและมีหิมะตกในหลายๆ แห่ง นอกจากมนุษย์อย่างเราๆ ที่ใช้ชีวิตลำบากแล้ว พวกสัตว์เองก็เช่นกันนะ อย่างข่าวที่#เหมียวฟิ้นหยิบมารายงานในวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฟาร์มเสือไซบีเรีย China’s Harbin Siberian Tiger Park ที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง ประเทศจีนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่นั่นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว เสือแต่ละตัวก็จะมีร่างกายที่อ้วนท้วมสมบูรณ์ป้องกันอากาศหนาว เนื่องจากอากาศหนาวมากจนพวกมันไม่อยากออกไปไหน ทางฟาร์มเสือจึงออกไอเดียนำเอาโดรนมาบินล่อให้พวกมันวิ่งตาม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้พวกมันได้ออกกำลังกายบ้าง แต่ด้วยสัญชาตญาณของเสือ เมื่อพวกมันเห็นอะไรที่บินได้มันก็จะคิดว่าว่าเป็นนก พวกมันจึงวิ่งไล่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งโดรนลำที่ว่านี้บินต่ำลงมาถึงระดับที่พวกเสือจะกระโดดได้พอดี มันจึงเอื้อมไปตะปบจนโดรนหล่นลงมากับพื้นและพังในที่สุด เมื่อพวกเสือเดินเข้าไปดูกับเหยื่อของตัวเองก็พบว่านั่นไม่ใช่นกแต่เป็นสิ่งของหน้าตาประหลาดที่ตัวเองไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่น่าจะกินได้ด้วย… ชมการไล่ล่าโดรนได้ที่นี่เลย ด้าน Ben Pearson เจ้าหน้าที่จากสมาคมพิทักษ์สัตว์โลกได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับคลิปวิดีโอดังกล่าวว่าแม้มันจะดูเป็นเรื่องตลกๆ แต่นี่เป็นชะตากรรมของเหล่าเสือในประเทศจีนเพราะพวกมันถูกเลี้ยงไว้เพื่อสร้างความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น และโดยธรรมชาติแล้วเสือเองเป็นสัตว์ที่รักความสันโดด การที่ได้เห็นพวกมันมาอยู่รวมกลุ่มกันแบบนี้จึงไม่ใช่ธรรมชาติของพวกมันเลย และเมื่อพวกมันตายไปบางส่วนของร่างกายพวกมันก็ยังถูกนำเอาไปเป็นเครื่องประดับหรือทำยาสมุนไพรด้วย เห็นฮาๆ แบบนี้มีเบื้องหลังให้ดราม่าด้วยนะ ที่มา Shanghaiist , abc
-
บทเรียนเตือนใจสังคม… จากเงินแค่ 15 บาท ลงเอยที่ลูกค้าฆ่าเจ้าของร้านบะหมี่!?
เรื่องนี้เกิดขึ้นที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ชายแซ่หูอายุ 22 ปี หลังจากที่เขากินก๋วยเตี๋ยวจนเสร็จพร้อมกับจ่ายเงิน แต่แล้วเขาก็พบว่าเจ้าของร้านได้โกงเงินเขาไปชามละ 1 หยวน ซึ่งเขากินไปทั้งหมด 3 ถ้วยด้วยกัน จึงรวมกันเป็นทั้งหมด 3 หยวน ซึ่งเจ้าของร้านได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานั้นจนทั้งคู่เกิดเหตุทะเลาะกันยกใหญ่ ซึ่งสุดท้ายแล้วนายหูก็ได้หยิบมีดมาตัดคอเจ้าของร้านวัย 42 ปี แล้วนำไปทิ้งไว้ในถังขยะใกล้ๆ กับร้าน สุดท้ายแล้วตำรวจก็ได้เข้าจับกุมตัวนายหู โดยตำรวจได้ตรวจค้นประวัติของเขาคนนี้ก็พบว่าเขาเป็นคนจากมณฆลเสฉวน แถมยังเคยมีประวัติการเข้ารับการรักษาทางจิตและยังมีประวัติการใช้ความรุนแรงมาก่อนในช่วงหนึ่งปีที่แล้ว ญาติของเขาได้ให้ปากคำกับตำรวจว่า นายหูมีปัญหาทางจิตและชอบใช้ความรุนแรงมานานแล้ว เขาชอบที่จะทำร้ายร่างกายคนในครอบครัวของเขาบ่อยๆ รวมถึงพ่อและแม่ของเขาด้วย แม่ของนายหูกล่าวกับผู้สื่อข่าว “ต้องขอโทษจริงๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันสอนเขามาไม่ดีเอง” ท้ายที่สุดแล้วจากรายงานของเพื่อนบ้านแถวนั้นได้บอกว่า เจ้าของร้านคนนี้อาศัยอยู่กับลูกชายวัน 13 ปีเพียงสองคนหลังจากเขาแยกทางกับภรรยาของเขาเมื่อ 5 ปีก่อน แถมชาวบ้านแถวนั้นยังบอกอีกว่าเจ้าของร้านเป็นที่ซื่อสัจสุจริตมากๆ เขาไม่เคยโกงลูกค้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว สุดท้ายแล้วเจ้าของร้านโกงจริงหรือเปล่าก็ไม่มีใครรู้ หรือจริงๆ แล้วนายหูอาจจะหลอนแล้วคิดไปเองอย่างงั้นเหรอ? เรื่องนี้ก็คงต้องรอให้ทางตำรวจพิสูจน์กันต่อไป… ที่มา shanghaiist
-
เวรี่ฮาร์ด!! วิทยาลัยจีนจัดสอบ “E-Sports” ครั้งแรก ผลคือนักเรียนกว่า 40% สอบตก
แรกเริ่มเลย “เกม” ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อสร้างความสนุกสนานให้กับผู้เล่น ได้สวมบทบาทเป็นตัวละครต่างๆ เพื่อบุกตะลุยด่านต่างๆ จนถึงยุคหนึ่ง เกมถูกพัฒนาให้สามารถเล่นออนไลน์ร่วมกับผู้เล่นคนอื่นๆ ได้ จนเกิดเป็นกิจกรรมที่จริงจังอย่าง E-Sports หรือการเล่นเกมเพื่อการแข่งขันระดับมืออาชีพนั่นเอง การแข่งขัน E-Sports เริ่มได้รับความนิยมไปทั่วโลก และไม่ได้ถูกมองว่าเป็นเพียงแค่เกมหรือสื่อที่ให้ความบันเทิงเท่านั้น เพราะมีการฝึกอบรมและนำไปบรรจุลงในหลักสูตรการเรียนการสอนเลยด้วย เช่นวิทยาลัย Xilingol Vocational College ทางตอนเหนือของประเทศจีน ที่เปิดการเรียนการสอนในสาขาวิชา E-Sports อย่างจริงจัง แต่จากการรายงานของเว็บไซต์ Globaltimes เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมา บอกว่านักเรียนในสาขา E-Sports ที่นั่นกว่า 40% สอบตก โดยหัวข้อการสอบในวิชานั้นเกี่ยวข้องกับเกม League of Legends หนึ่งในเกมที่ฮิตไปทั่วโลก He Jinduo คือหนึ่งในนักเรียนจากทั้งหมด 36 คน ที่อยู่ในคลาสเรียน E-Sports ที่สามารถสอบผ่านและทำคะแนนไปได้สูงถึง 89 คะแนน…
-
นักบินจีนช่วยชีวิตผู้โดยสาร 439 คน จากเหตุเครื่องบิน (เกือบ) ชนบนรันเวย์ รับเงินรางวัล 16 ล้านบาท
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นข่าวการรอดชีวิตจากอุบัติเหตุทางอากาศ เพราะเนื่องจากมีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ยากต่อการควบคุม และหากคุณเคยได้ดูหนังที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุของเครื่องบินมาหลายเรื่องก็คงพอจะนึกภาพกันออกว่ามันเลวร้ายขนาดไหน แต่คุณเชื่อหรือไม่ว่ายังมีนักบินฝีมือดี ที่สามารถควบคุมเครื่องบินจนสามารถช่วยชีวิตผู้โดยสารนับร้อยชีวิตจนรอดตายได้อย่างปาฏิหาริย์!! เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่านักบินชาวจีนรายหนึ่ง ได้ช่วยชีวิตผู้โดยสารกว่า 439 คนให้รอดตาย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรันเวย์ในสนามบินเซี่ยงไฮ้ ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในสนามบิน Shanghai Hongqiao International Airport ประเทศจีน เวลา 12.04 นาฬิกา เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2016 ในขณะที่เครื่องบินของสายการบิน China Eastern Airlines เครื่อง Airbus A320 กำลังเทคออฟขึ้นสู่อากาศ ในขณะนั้นมีเครื่อง Airbus A330 ที่อยู่บนรันเวย์และกำลังเลี้ยวเข้าไปขวางเส้นทางของ Airbus A320 พอดิบพอดี นักบินชาวจีนที่ชื่อนาย He Chao ที่บังคับเครื่อง Airbus A320 จึงตัดสินใจเร่งเครื่องเต็มกำลังเพื่อไม่ให้เครื่องบินที่เขาขับอยู่ไปชนเข้ากับเครื่องบินบนรันเวย์ ที่เฉียดกันไปเพียง 19 เมตรเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ทางสายการบินก็ได้มอบเงินรางวัลให้กับเขาเป็นจำนวน 3 ล้านหยวน…
-
ยอมใจ!! เด็กจีนวัย 13 ปี ติดในลิฟท์นาน 5 ชั่วโมง ไม่รู้ทำไง เลยหยิบการบ้านมาทำจนเสร็จ
นี่เป็นข่าวที่#เหมียวฟิ้นไม่รู้ว่าจะอึ้ง หรือขำ หรือรู้สึกยินดีกันแน่ เพราะความรู้สึกแต่ละอย่างมันปนกันไปหมดเลย… เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้รายงานว่าเด็กนักเรียนหนุ่มชาวจีนนามว่า ซุน ยี่เสี่ยว วัย 13 ปี ได้ติดอยู่ในลิฟท์ระหว่างที่เขากำลังเดินทางกลับบ้าน อันที่จริงแล้วเขาสามารถกรีดร้องหรือพยายามทุบประตูเพื่อขอความช่วยเหลือจากผู้คนภายนอกได้ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะใจเย็นมากกว่าเด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ เด็กชายซุนจึงกดปุ่มไปยังชั้นต่างๆ เพราะเชื่อว่าเป็นการป้องกันไม่ให้ลิฟท์ตกลงไปข้างล่าง จากนั้นเขาก็พยายามที่จะใช้ระบบอินเตอร์คอมเพื่อสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ภายนอก แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอะไรเลย ไม่มีเสียงใครตอบรับกลับมา เป็นคุณจะทำยังไงต่อ!? เขาก็เลยหยิบเอากระดาษออกมาจากกระเป๋าแล้วเริ่มเขียนข้อความร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยกู้ภัย โดยมีข้อความว่า “มีคนอยู่ในลิฟท์ ขอร้องช่วยติดต่อคนดูแลตึกนี้หน่อย” จากนั้นก็พยายามหย่อนมันเข้าไปในช่องระหว่างประตูลิฟท์ และหวังว่าจะมีคนมาเห็นเข้อ แล้วเมื่อไม่มีอะไรให้ทำนอกจากการนั่งรอคอยความช่วยเหลือแล้ว เด็กชายซุนก็หยิบเอาการบ้านออกมา แล้วนำกระเป๋านักเรียนมาวางไว้ที่ตักเพื่อทำเป็นโตะ ก่อนจะลงมือทำการบ้านที่คุณครูสั่งอย่างใจเย็น ตั้งแต่วิชาคณิต ต่อด้วยวิชาวิทยาศาสตร์ และวิชาภาษาจีน เวลาล่วงเลยผ่านไปได้สักพักจนเด็กชายซุนทำการบ้านได้เสร็จหมดทั้ง 3 วิชาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครมาช่วยเหลือเขาสักที หลังจากที่ผ่านไป 5 ชั่วโมง ก็มีนักดับเพลิงเปิดประตูเข้ามาพาเขาออกไปจนได้ แถมยังทึ่งที่พบว่าเขาทำการบ้านอย่างใจเย็นจนเสร็จหมดทุกวิชา เมื่อข่าวนี้แพร่สะพัดออกไปในโรงเรียน เด็กชายซุนก็ได้รับสมญาจากเพื่อนๆ ว่า “นักเรียนหัวเย็น” น้องทำใจเย็นอยู่ได้ไงเนี้ยะ!! ที่มา rocketnews24
-
ดีต่อผู้สูงอายุ!! รัฐบาลจีนแจก “สายรัดข้อมืออัจฉริยะ” ช่วยลดปัญหาผู้ป่วยอัลไซเมอร์หลงทาง
ปัญหาของผู้ป่วยอัลไซเมอร์นั้นค่อนข้างที่จะเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากทีเดียว ในหลายๆ ประเทศกำลังประสบกับปัญหาที่ผู้ป่วยอัลไซเมอร์สูญหาอยู่จำนวนไม่น้อย หนึ่งในนั้นคือประเทศจีน ตามรายงานจากเพจอ้ายจง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม บอกว่าประเทศจีนมีผู้ป่วยอัลไซเมอร์มากถึง 9.5 ล้านคน ซึ่งอย่างที่เรารู้กันว่าการป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย เพราะมันทำให้ความจำของเราแย่ลง จำบุคคลหรือเส้นทางต่างๆ ไม่ได้ สำหรับประเทศจีน.มีจำนวนผู้สูงอายุที่ป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 9.5ล้านคน.หรือคิดเป็น4.75%ของผู้สูงอายุทั้งหมดในจีน ซึ่ง… โพสต์โดย อ้ายจง บน 9 ตุลาคม 2016 นั่นจึงส่งผลให้มีผู้ป่วยอัลไซเมอร์หลายๆ คนหลงทางหรือหายตัวออกไปจากบ้าน และที่ประเทศจีนเองก็มีผู้สูงอายุหายตัวไปถึง 1,370 คนต่อปี ทำให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันหาทางแก้ไขกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้ทางรัฐบาลจีนได้เริ่มต้นโครงการผลิตสายรัดข้อมืออัจฉริยะมาตั้งแต่ปี 2012 เพื่อแจกจ่ายมันให้กับผู้ป่วยอัลไซเมอร์นำไปใช้กันแบบฟรีๆ โดยในสายรัดข้อมือจะมีข้อมูลเช่นชื่อ ที่อยู่ หรือเบอร์ติดต่อญาติๆ ให้มารับกลับบ้าน โครงการที่ว่านี้มีการพัฒนารุ่นใหม่ออกมาตลอด จนล่าสุดในปี 2016 ก็ได้มีการนำเอาเทคโนโลยี QRcode มาใช้ เพื่อให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายคนสามารถสแกนแล้วโทรหาญาติได้ทันที ลดระยะเวลาในการโทรแจ้งตำรวจหรือประกาศหาคนหาย นอกจากหน่วยงานรัฐแล้ว ก็ยังมีบริษัทเอกชนหลายแห่งผลิตสายรัดข้อมือแบบนี้ เช่น องค์กรอาสาสมัครยุวชนกวางโจว (Guangzhou Young Volunteers Association) องค์กรที่ว่า…
-
แบบนี้ก็มีเหรอ? หัวหน้างานบริษัทในปักกิ่ง บังคับพนักงานสาวทุกคนเข้าแถวจูบตัวเองทุกเช้า
ในหลายๆ บริษัทมักมีวัฒนธรรมองค์กรที่แตกต่างกัน เมื่อเราต้องเข้าไปเป็นพนักงานเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับกฎเกณฑ์ที่นั่น แต่…กฎเกณฑ์หรือวัฒนธรรมบางที่มันก็ดูแปลกเกินกว่าที่บางคนจะรับได้จริงๆ… เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ถูกถ่ายได้โดยพนักงานออฟฟิศในบริษัทขายเครื่องชงกาแฟแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อตีแผ่เรื่องราวในที่ทำงานของเขาว่ามีกิจกรรมที่แปลกประหลาดขนาดไหน ตามรายงานบอกว่าในทุกๆ เช้า เวลา 9 โมงถึง 9 โมงครึ่ง หัวหน้างานจะเรียกให้พนักงานสาวทั้งแผนกมายืนเรียงแถวกัน จากนั้นก็บอกให้พวกเธอเหล่านั้นจูบเขาทีละคนๆ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีภายในที่ทำงานเหมือนปลากับน้ำ หัวหน้างานรายนี้บอกว่าพนักงานบางคนจะรู้สึกคิดถึงเขาเมื่อแยกย้ายกันกลับบ้าน บางคนถึงขั้นส่งข้อความไปหาเขาผ่าน WeChat เลย แถมยังบอกอีกว่าเขาได้ไอเดียนี้มาจากตอนที่เดินทางไปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่ามีพนักงานสาวหลายคนยอมทำตามคำสั่งของหัวหน้ารายนี้ แต่ก็มีบางรายที่ทนไม่ได้และเซ็นลาออกในที่สุด (เพราะวัฒนธรรมการจูบแบบนี้ไม่ใช่เรื่องปกติในเอเชีย) ชมคลิป หลังจากที่ภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ลงในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่างเว็บไซต์ Weibo ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา เช่น “พนักงานสาวทั้งหมดนี้ยอมรับได้ยังไง? พวกแฟนๆ หรือสามีของพวกเธอรู้เรื่องกันบ้างหรือเปล่า?” “ฉันอยากจะถามพนักงานสาวพวกนี้มากว่า พวกคุณไม่มีเงินกันเหรอ? คุณจะอดตายไหมถ้าต้องเปลี่ยนงาน?” “ไอ้หัวหน้าคนนี้มันโรคจิตมาก แต่พนักงานพวกนี้โง่เง่ายิ่งกว่า” แบบนี้ก็ได้เหรออออ ที่มา shanghaiist
-
สตรองมาก!! สาวจีนใช้เวลา 17 ปี ในการตามล่าแก๊งคนร้ายที่ฆ่าสามีของเธอทีละคนๆ จนครบ
เวลาเราดูหนังที่ตัวละครหลักใช้เวลานานๆ ในการตามล่าคนร้ายหลายปีกว่าจะเจอ เช่น (Old Boy หรือหนังสืบสวนสอบสวนหลายๆ เรื่อง) เราอาจจะคิดว่ามันมีแค่ในหนัง แต่เรื่องที่ว่านั่นได้เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงแล้ว!! เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณแม่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่สุดสตรองหลี กุ้ยอิง วัย 59 ปี ที่ถูกแก๊งเพื่อนบ้าน 5 คนรุมทำร้ายและฆ่าสามีของเธอไปเมื่อ 17 ปีก่อน เธอจึงสาบานกับตนเองว่าจะออกตามล่าแก๊งคนชั่วมาลงโทษให้จงได้ ย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 หลี กุ้ยอิงมีอาชีพเป็นครูอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในมณฑลเหอหนานร่วมกับสามีฉี หยวนเตอ ถูกเพื่อนบ้านฉี เซวซาน กล่าวหาว่าพวกเขาเป็นคนเอาเรื่องที่เซวซานมีลูกเกิน 1 คน ไปฟ้องทางการ (จีนมีนโยบายให้มีลูกแค่คนเดียว) เซวซานเริ่มทำร้ายนางกุ้ยอิงด้วยก้อนอิฐก่อนที่จะเรียกพรรคพวกอีก 4 คนมาช่วยกระทืบสามีของเธอ ก่อนที่จะพยายามใช้ปังตอฟันนางกุ้ยอิงแต่เธอก็รอดมาได้และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนสามีของเธอกลับไม่ได้โชคดีแบบเธอ เขาถูกแทงด้วยมีดจนเสียชีวิต จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 5 คนก็หนีไปอย่างลอยนวล ต่อมาเมื่อนางกุ้ยอิงออกจากโรงพยาบาล เธอก็ปฏิญาณตนว่าจะตามหาคนร้ายให้ได้และจะขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับสามีของเธอ…
-
ด้านน่ารักก็มีนะ ชาวจีนรวมตัวกันเก็บขยะบนหาดพัทยา สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่คนจีน
หากจะว่ากันตามตรง ที่ผ่านๆ มา#เหมียวฟิ้นเองก็ได้นำเสนอเรื่องราวด้านลบเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีนอยู่ไม่น้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าประเทศจีนมีคนจำนวนมหาศาลเกินกว่าที่จะควบคุมให้พวกเขามีระเบียบวินัยเหมือนกันได้ แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะเป็นแบบนั้นไปซะหมด เพราะอย่างเมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมาก็มีข่าวเกี่ยวกับคุณป้าไกด์ชาวจีนที่ออกมาตักเตือนนักท่องเที่ยวจีนที่ทำตัวแย่ๆ เหมือนกัน ล่าสุดเราได้ไปเจอเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับคนจีนมาบอกกันอีกแล้วล่ะ เป็นเรื่องเกี่ยวกับคนจีนที่รวมตัวกันไปเก็บขยะที่บริเวณหาดพัทยาและหาดจอมเทียน เพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวจีนและทำให้สถานที่ท่องเที่ยวดูสะอาดตามากขึ้น เรื่องนี้ถูกบอกเล่าผ่านเฟซบุ๊กเพจ อ้ายจง โดยมีการระบุว่ากิจกรรมทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งชาวจีนที่เห็นในภาพนี้เป็นการรวมตัวกันของนักธุรกิจจีนและชาวจีนที่ทำงานในประเทศไทย โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยวจีนที่เข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวจีนรักษาความสะอาดเมื่อไปเยือนในที่ต่างๆ ด้วย เป็นภาพที่น่าชื่นชมจริงๆ แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้ชาวไทยหลายๆ คนรู้สึกดีไปตามๆ กัน และมีความเห็นในเชิงชื่นชมมากมาย เช่น Dr-Boss Permsuwan “เคยไปพักรีสอร์ทราคาแพงในหัวหิน วันนั้นมีทัวจีนมาพักตึกข้างเคียงด้วย เค้าไม่เสียงดัง พูดภาษาอังกฤษก็สำเนียงอย่างกับเจ้าของภาษาเลยครับ” Siwarporn Ruangsri “ดีค่ะ ชื่นใจ ดิฉันเคยเบื่อ รำคาญ ถึงขั้นเกลียดนักท่องเที่ยวจีนมากๆ แต่มีระยะหลัง เวลานั่งพักกับลูกทัวร์ (ฝรั่ง) ในวัดพระแก้ว แล้วพิจารณาดูพวกเขา เห็นบางคนทิ้งขยะบนพื้นหน้าตาเฉย บางคนใส่รองเท้าขึ้นมาบนศาลารายแล้ววิ่งลงแทบไม่ทันเพราะเจอเพื่อนมาด้วยกันตวาดให้ลง บางคนนอนแผ่บนศาลา ไกด์จีนรีบวิ่งมาตวาดให้ลุก…
-
เข้าท่ามั้ย? หนุ่มจีนใช้เศษขวดเบียร์ มาเจียระไนทำเป็นแหวนทุนต่ำ… สวยแทบไม่ต่างจากเพชร
ชาวจีนเป็นชนชาติหนึ่งที่ชอบมีพิธีหรือความเอิกเกริกคล้ายๆ คนไทยเหมือนกันนะ ซึ่งเราจะเห็นได้จากการเปิดงานต่างๆ หรือพิธีแต่งงาน ที่ต้องทำให้ดูหรูหรายิ่งใหญ่ไว้ก่อน แต่เมื่อถึงเวลาที่พวกเขาต้องประหยัดหรือทำอะไรเล็กๆ ขอบอกเลยว่าพวกเขาเองก็ไม่แพ้ใครเหมือนกัน เช่นชายหนุ่มคนนี้ที่พยายามจะทำแหวนแต่งงานให้กับแฟนสาวด้วยการนำเอาขวดเบียร์มาแปลงร่าง… เอ๊ะ ยังไงกันแน่? เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่งได้โชว์วิธีการแปรรูปขวดเบียร์ที่ไม่ใช้แล้วให้กลายเป็นแหวนเพชรผ่านเว็บไซต์ Weibo จนมีคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ภาพที่ทุกคนได้เห็นต่อไปนี้บางคนอาจจะมองว่ามันคือขวดเบียร์แบบธรรมดาๆ แต่หากเรามองให้ลึกลงไปอีกจะเห็นว่ามันก็มีความใสแวววาวไม่ต่างอะไรจากเพชรมรกตที่ยังไม่ได้เจียระไนเลย คุณจะเห็นได้ว่ากระบวนการทั้งหมดเริ่มขึ้นตั้งแต่นำเอาขวดเปล่า มาทำให้กลายเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปเจียระไน และนำมาประกอบกับแหวน ซึ่งดูเผินๆ แล้วเหมือนเพชรมรกตจริงๆ ชิ้นหนึ่งเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ภาพชุดนี้ถูกแชร์ออกไปในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีน ก็ทำให้หนุ่มๆ หลายคนถึงกับตื่นตะลึงในวิธีการทำแหวนแต่งงานแบบทุนต่ำ จนมีความเห็นต่างๆ ตามมากมายเช่น “ดูเหมือนว่าสาวๆ นอกจากจะต้องสวยแล้ว พวกเขาจะต้องดูอัญมณีให้เป็นด้วยนะ” “เฮ้ ทำไมแหวนฉันกลิ่นคล้ายๆ เบียร์เลยล่ะ!?” “ถ้าสามีของฉันมาขอแต่งงานด้วยแหวนทำเองแบบนี้ แม้จะไม่มีเพชรฉันก็ยังจะแต่งงานกับเขาอยู่ดี ฉันคิดว่าบางอย่างที่คุณแสดงออกมันทำให้คุณดูมีค่ามากกว่าเพชรซะอีก” . ได้แล้ว เพชรจากขวดเบียร์!! . . หนุ่มๆ คนไหนอยากลองทำแหวนทุนต่ำให้แฟนก็ลองดูได้ แต่ไม่รับประกันว่าถ้ารู้ความจริงแล้ว พวกเธอจะชอบหรือเปล่านะ…
-
พ่อเฒ่าแม่เฒ่าจีน อาศัยอยู่ในถ้ำมานานกว่า 54 ปี แม้ไม่มีชีวิตหรูหราขอแค่มีกันและกันก็สุขใจแล้ว…
จริงอยู่ที่ว่าเงินสามารถซื้อความสุขให้กับชีวิตของเราได้หลายๆ อย่าง (หรืออาจจะเกือบทุกอย่าง) แต่ก็ยังมีคู่รักบางคู่เหมือนกันที่แม้แต่เงินก็ไม่สามารถสร้างความสุขให้กับพวกเขาได้ เพราะขอเพียงมีกันและกันก็มีความสุขพอแล้ว นี่คือเรื่องราวชีวิตรักของนาง Li Suying วัย 77 ปี และสามีของเธอ Liang Zifu วัย 54 ปี คู่รักสองตายายที่โด่งดังไปทั่วโลก เพราะพวกเขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายภายในถ้ำแห่งหนึ่ง ในเมืองหนานชง มณฑลเสฉวน ประเทศจีน แม้จะดูเป็น 2 บุคคลที่ใช้ชีวิตแบบมนุษย์โบราณ แต่ภายในถ้ำก็ถูกตกแต่งให้คล้ายกับบ้านหลังหนึ่งเพียงแต่วัสดุทั้งหมดเป็นสิ่งของจากธรรมชาติ อันที่จริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้ตั้งใจที่จะอาศัยอยู่ในถ้ำตั้งแต่แรก แต่เพราะว่าในตอนที่ทั้งคู่แต่งงานกัน พวกเขามีฐานะที่ค่อนข้างยากจนมากจึงไม่สามารถซื้อบ้านอยู่ในหมู่บ้านแบบปกติได้ พวกเขาก็เลยเลือกที่จะสร้างบ้านอยู่ภายในถ้ำเพราะใช้เงินน้อยกว่าหลายเท่าตัว สองตายายค่อยๆ นำไม้และก้อนอิฐมาก่อเป็นห้องต่างๆ ภายในถ้ำ จนตอนนี้มีห้องนอนแล้ว 3 ห้อง มีห้องครัวและห้องนั่งเล่นครบครัน เรื่องของสองตายายเริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้นจนเจ้าหน้าที่รัฐเริ่มเป็นกังวลและพยายามจะเข้าไปช่วยเหลือด้วยการเสนอให้พวกเขาย้ายไปอยู่ในสถานที่ที่ดีและสะดวกสบายกว่านี้ แต่พวกเขาก็ปฏิเสธและให้เหตุผลว่าพวกเขาเติบโตและคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ พวกเขาคิดว่ามันมีข้อดีอยู่มากทีเดียว เช่นอากาศภายในถ้ำเย็นสบายในหน้าร้อนและอบอุ่นเมื่อถึงหน้าหนาว แถมยังมีน้ำพุสะอาดๆ ผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ๆ กับถ้ำของพวกเขาด้วย และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือพวกเขามีกันและกัน ยังจะมีอะไรที่พวกเขาต้องการอีกล่ะ? #เหมียวฟิ้นล่ะอิจฉาความรักของพวกเขามากเลยนะ แม้ภายนอกจะไม่ได้มีเงินทองมากมาย…
-
มหาวิทยาลัยจีนเอาใจ “พ่อแม่ห่วงลูก” กางเต๊นท์ให้นอนในมหาลัย 3 วัน 3 คืน ให้หายคิดถึง…
ว่ากันว่าเด็กๆ จะอยู่ในการปกครองดูแลของคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้ถึงอายุแค่ 18 ปี หลังจากนั้นเมื่อเมื่อพวกเขาต้องก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยและความอิสระ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ทำได้เพียงแนะแนวทางลูกเท่านั้นเอง แต่ก็มีพ่อแม่บางคนเหมือนกันที่ไม่ยอมปล่อยวาง แม้ว่าลูกๆ ของพวกเขาจะต้องไปเริ่มต้นใช้ชีวิตด้วยตัวเองแล้ว แต่พวกเขาก็ยังตามติดมาคอยดูแลกำกับชีวิตของลุกๆ เสมอ… เมื่อวานนี้มีรายงานจากสำนักข่าวในจีนอีกหลายแห่งได้รายงานว่าทางมหาวิทยาลัย Tianjin University และ Shantou University ได้ตั้งเต๊นท์จำนวนมากไว้ในโรงยิม เพื่อให้ผู้ปกครองที่เป็นห่วงลูกแบบสุดๆ ได้เข้ามานอนพักเป็นการชั่วคราว ตามรายงานบอกว่าทางมหาวิทยาลัยได้เตรียมทั้งเต๊นท์ ผ้าเช็ดตัว น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่มและอุปกรณ์อาบน้ำไว้ให้อย่างครบครัน แต่ก็ใช่ว่าพวกเขาจะสามารถกินนอนดูลูกๆ เรียนหนังสือได้ตลอดไป เพราะทางมหาลัยจำกัดเวลาให้พวกเขาเพียง 3 วันเท่านั้น บางคนอาจมองว่าการที่เหล่าผู้ปกครองเป็นห่วงลูกๆ เกินเหตุแบบนี้น่าจะเป็นเรื่องน่าอายสำหรับวัยรุ่น แต่เมื่อมีสื่อเข้าไปสัมภาษณ์ พวกเขากลับรู้สึกยินดีที่มีพ่อแม่มาเฝ้าพวกเขาถึงที่ พวกเขาบอกว่ามันช่วยให้ผู้ปกครองได้เห็นความเป็นอยู่ที่มหาลัย ส่วนหนึ่งอาจจะจากกฎบังคับให้ทุกๆ ครอบครัวมีลูกได้เพียงคนเดียว เลยทำให้พวกเขารู้สึกว่าลูกของพวกเขาคือแก้วตาดวงใจที่ต้องคอยดูแลตลอดเวลา แม้ว่ามันจะทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่รู้สึกดีที่ได้เฝ้ามองลูกๆ เติบโตก็ตาม แต่มันก็อาจสร้างความอึดอัดให้กับพวกเขาได้ และอาจกลายเป็นการปลูกฝังให้พวกเขารู้สึกปลอดภัยเกินเหตุ ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาอะไรก็ตามก็จะหันมาพึ่งพ่อและแม่เสมอไป . . . #เหมียวฟิ้นคิดว่าการที่พ่อแม่จะทำแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะ และคิดว่าพ่อแม่คนไทยบางคนก็ยังเป็นแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่เชื่อเราเถอะว่าสักวันหนึ่งพวกเขาก็ต้องโตและเราเองก็ไม่สามารถมีชีวิตเพื่ออยู่ดูแลพวกเขาตลอดไปได้ ทางที่ดีเราควรจะสอนให้พวกเขารู้จักดูแลตัวเองและเอาตัวรอดในสังคมให้ได้มากกว่านะ…
-
สวยจนแทบหยุดหายใจ…เปิด 17 ภาพอีกมุมมองหนึ่งของประเทศจีน ที่คุณอาจไม่เคยเห็นมาก่อน
หากคนทั่วไปพูดถึงประเทศจีนล่ะก็ หลายๆ คนน่าจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างกำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม ตระเวนกินในกรุงปักกิ่ง ชื่นชมความงามของมหานครเซี่ยงไฮ้ หรือดูวัฒนธรรมบ้านเมืองในหางโจว แต่คุณรู้ไหมว่าในประเทศจีนยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามอื่นๆ ราวกับในหนังแฟนตาซีที่เรายังไม่เคยเห็นอีกมากมายเลยล่ะ ในบทความนี้#เหมียวฟิ้น จะพาเพื่อนๆ ไปชมภาพสวยๆ จากหลายๆ ที่ เช่นโอเอซิสในเมืองตุนหวง ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน หรือป่าเขียวชอุ่มในจิ่วไจ้โก มณฑลเสฉวน ลองดูกันว่าแต่ละภาพสวยงามอย่างที่เราโม้หรือเปล่า? 1. นาข้าวใน Yuanyang 2. ทะเลทรายในเมือง Dunhuang มณฑลกานซู 3. เต็นท์แบบดั้งเดิมริมทะเลสาบในมณฑล Xinjiang 4. ล่องแพไม้ไผ่ในเม่น้ำ Li ทางใต้ของจีน 5. ทางเดินไม้ริมเขาสุดหวาดเสียวบนภูเขา Huangshan 6. ภาพน่าทึ่งจาก Kuitun Grand Canyon ตีนเขาเทียนชาน 7. หุบเขาในมณฑลอิสระ Shilin Yi 8. ภาพพระอาทิตย์ตกดินจากเมือง Xiapu มณฑลฝูเจี้ยน 9. ภาพในฤดูใบไม้ร่วงในช่วงพระอาทิตย์ตกดินจากเมือง Xiapu…
-
ใครหนอ? ชาวเน็ตตามหาบอดี้การ์ดสาวน่ารักในงานประชุม G20 ยิ้มทีใจละลายเลย
นอกจากที่สาวๆ จะชื่นชอบผู้ชายในเครื่องแบบแล้ว หารู้ไม่ว่าผู้ชายแบบเราๆ เองก็ชื่นชอบสาวๆ ที่อยู่ในเครื่องแบบเหมือนกันนะ… เมื่อช่วงวันที่ 4-5 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการจัดการประชุม G20 ขึ้นที่ประเทศจีน ซึ่งภายในงานนี้มีการรวมตัวกันของผู้นำประเทศจากหลากหลายที่ จึงต้องมีบอดี้การ์ดคอยยืนรักษาความปลอดภัยในแต่ละจุด แต่ดูเหมือนความสนใจของคนในโลกออนไลน์ทั้งหมดจะพุ่งไปที่บอดี้การ์ดสาวคนหนึ่งที่ยืนทำหน้าที่อารักขานายกรัฐมนตรีของอิตาลี เพราะเธอมีหน้าตาน่ารักจนหลายๆ คนสงสัยกันว่าเธอคือใคร? หลังจากนั้นไม่นานภาพของเธอก็ถูกส่งต่อกันไปในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็พยายามสืบหาว่าเธอเป็นใคร จนทราบว่าเธอชื่อ Shu Xin วัย 25 ปี จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เธอเข้ารับราชการทหารกับกองทัพของสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อรับใช้ชาติ ทั้งนี้เมื่อปี 2013 เธอเคยได้รับการขนานนามว่าเป็น “10 สาวทรงเสน่ห์แห่งกองทัพจีน” ด้วย นอกจากนี้ยังมีความสามารถทางด้านการร้องเพลงและเต้นรำด้วย ยิ้มกว้างตาหยี แค่นี้ก็ทำเอาหนุ่มๆ ถึงกับใจละลายแล้ว . ร้องเพลงนี่ของถนัดเลย . . น่ารักแบบนี้ใครจะกล้าหือล่ะ ที่มา shanghaiist , dailymail
-
ฮร่าฮร่า นักร้องจีนคัฟเวอร์ Rolling in The Deep ในสไตล์ “โอเปร่าท้องถิ่น” ฮาสุดในสามโลก!!
ไม่ว่าคุณจะชอบ Adele หรือไม่ก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพลงของเธอนั้นโด่งดังและขายดิบขายดีไปทั่วโลก จนมีคนเอาไปร้องคัฟเวอร์ไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนคลิปในยูทูบ… ซึ่งก็มีทั้งคนที่ปังและปังปินาศมาให้ชมแล้วนักต่อนัก อย่างเช่นคลิปของชายชาวจีน Liao Jialin นักร้องเพลงโอเปร่า ที่เมื่อไม่นานมานี้เขาถูกเชิญไปออกรายการโชว์เพื่อร้องเพลง Rolling in the Deep ในแบบของเขาเพื่อสร้างความตื่นตะลึงและรอยยิ้มให้กับผู้ชม ในฐานะที่เขาเรียนจบจากวิทยาลัยดนตรีในมณฑลกวางตุ้ง จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งที่นาย Liao Jialin กำลังทำอยู่นั้นคือการร้องเพลงคลาสสิคในสไตล์จีนโอเปร่าผสมสำเนียงแบบท้องถิ่น จนอาจกลายเป็นเพลงใหม่ไปเลย… ตอนนี้คลิปร้องเพลงของนาย Liao Jialin มีคนกดเข้าไปชมแล้วกว่า 6 ล้านครั้ง มีการส่งต่อกันในแอพสื่อสังคมออนไลน์ของจีนมาก . ถ้าใครอยากรู้ว่าเพลงที่เขาร้องมันแตกต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ ยังไง ลองไปดูกัน… เผื่อใครไม่เคยฟังเพลงเวอร์ชั่นต้นฉบับ งั้นลองไปฟังกันได้ที่นี่นะ จะว่าไปแล้ว Adele น่าจะลองฝึกร้องเพลง Rolling in the Deep แบบพ่อหนุ่มคนนี้ดูบ้างนะ . ที่มา rocketnews24 , Gavin Don
-
บังเอิ๊ญบังเอิญ!! รวม 19 โปสเตอร์หนังจีน ที่ดันไปเหมือนกับโปสเตอร์หนังต่างประเทศ…
การจะสร้างสรรค์โปสเตอร์หนังในยุคนี้นี่ถือเป็นเรื่องที่โหดหินเอามากๆ เลยล่ะ เพราะเนื่องจากในประวัติศาสตร์โลกภาพยนตร์ที่ผ่านๆ มา มีหนังออกฉายมาไม่รู้กี่พันกี่หมื่นเรื่อง ผู้ที่ทำหน้าที่ออกแบบโปสเตอร์จึงต้องใส่ไอเดียและความระมัดระวังลงไปในงานพอสมควร เพราะโปสเตอร์หนังที่คุณออกแบบ มันอาจจะมีส่วนหนึ่งส่วนใดคล้ายกับโปสเตอร์ที่เคยออกแบบมาแล้วก็ได้… เช่นเดียวกับโปสเตอร์หนังจีนที่ #เหมียวฟิ้น หยิบมานำเสนอเหล่านี้ เป็นโปสเตอร์หนังที่ทางเว็บไซต์ Offbeatchina ได้รวบรวมเอามาให้เราได้ชมกัน ทั้งหมดล้วนเป็นหนังที่เพิ่งจะเข้าฉายในโรงไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ไหงมันดันไปเหมือนกับโปสเตอร์หนังจากประเทศอื่นๆ ที่ฉายก่อนหน้าพวกเขาได้ล่ะเนี๊ยะ!? 1. Vantage Point (2008) VS. China: Seven 2 One (2009) 2. Street Kings (2008) VS. China: Chongqing Blues (2010) 3. A Tale of Two Sisters (2003) VS. China: Illusion Apartment (2010) 4. Addicted to Love (1997) VS.…
-
“หวังเต๋อซุน” นายแบบวัย 80 ปีให้แรงบันดาลใจ “ผมใช้เวลาเตรียมตัว 60 ปี กว่าจะได้เป็นนายแบบ”
หากใครยังจำกันได้ เมื่อปีที่แล้วเราได้เคยนำเสนอเกี่ยวกับเรื่องราวของนายแบบจีนรุ่นเก๋าที่มีนามว่าคุณลุงหวัง เต๋อซุน ในตอนนั้นเขากลายเป็นที่โด่งดังในโลกอินเตอร์เน็ตเพราะมีการเผยแพร่ภาพการเดินแบบเปลือยท่อนบนในงาน China Fashion Week 2015 และที่ดูจะฮือฮาที่สุดก็คงจะเป็นอายุที่ปาเข้าไปกว่า 79 ปีแล้ว แต่ยังมีรูปร่างที่ฟิตปั๋งยิ่งกว่าวัยรุ่นหลายๆ คนเสียอีก ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา คุณลุงหวังเต๋อซุนได้ปล่อยคลิปวิดีโอให้แรงบันดาลใจของตัวเองออกมาให้ชาวโลกได้รับชมกัน โดยเล่าว่ากว่าที่เขาจะกลายมาเป็นนายแบบอย่างทุกวันนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เชื่อว่าหลายคนที่ได้ดูคลิปของเขาแล้วจะต้องได้รับข้อคิดดีๆ กลับไปแน่นอน “ผมชื่อหวังเต๋อซุน เกิดและเติบโตในเสิ่นหยาง ประเทศจีน ผู้คนเริ่มรู้จักผมหลังจากแคทวอล์คโชว์ในครั้งนั้น บางคนเรียกผมว่า “คุณตาที่ฮอตที่สุด” บางคนยังบอกว่าผมเป็นที่ถูกใจชาวเน็ตในชั่วข้ามคืน (หัวเราะ) แต่คุณรู้อะไรไหม เพื่อเตรียมตัวให้เป็นนายแบบทุกวันนี้ ผมต้องใช้เวลาเตรียมพร้อมกว่า 60 ปี” “ตอนผมอายุ 24 ผมเป็นนักแสดงละครเวที อายุ 44 ผมเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ อายุ 49 ผมสร้างคณะละครใบ้ขึ้นมาและเดินทางไปปักกิ่ง กลายเป็นคนเร่ร่อนไป ผมไม่มีอะไรเป็นชื่อของตัวเองเลย เริ่มต้นทุกอย่างจากไม่มีอะไร อายุ 50 ผมเริ่มเข้ายิมเป็นครั้งแรก เริ่มออกกำลังกาย” “อายุ 57…
-
อะไรจะดีปานนั้น!? สาวจีนลงทุนคุกเข่า ซื้อมอเตอร์ไซค์ฮาร์เลย์ ขอแฟนหนุ่มแต่งงาน
ตามขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยเรา การขอแต่งงานถือเป็นเรื่องที่ผู้ชายต้องให้ความสำคัญ เพราะต้องเก็บหอมรอมริบเพื่อนำเงินไปสู่ขอแฟนสาว ไหนจะแหวน ไหนจะเงิน ไหนจะชุด ไหนจะพิธีแต่ง แต่กับชายหนุ่มชาวจีนรายนี้กลับไม่ต้องลำบากอะไรขนาดนั้น เพราะแฟนสาวที่มีพร้อมทุกอย่างลงทุนขอเขาแต่งงานด้วยตัวเองเลย!! เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหญิงสาวชาวจีนจากมณฑลเฉินตู ได้แต่งชุดเจ้าสาวพร้อมกับเอามอเตอร์ไซค์ Harley Davidson ไปเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่ม เท่านั้นยังไม่พอเธอยังคุกเข่าและขอแฟนหนุ่มแต่งงาน ท่ามกลางสายตาของผู้ผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ทำเอาหนุ่มๆ ทั่วอินเตอร์เน็ตถึงกับกรีดร้องด้วยความอิจฉาเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าก่อนที่เธอจะขอแฟนแต่งงาน เธอตะโกนออกมาว่า “ในที่สุดฉันก็ได้เงินมากพอสำหรับซื้อฮาร์เลย์ที่คุณรักแล้ว แต่งงานกับฉันเถอะ ฉันจะใส่ชื่อของคุณลงไปในโฉนดที่ดินของฉันด้วย” นั่นทำให้ฝ่ายชายถึงกับตกตะลึงและพยักหน้าเบาเป็นการตอบตกลงแต่งงาน หลังจากนั้นไม่นานก็มีสื่อตามไปขอสัมภาษณ์ถึงการขอแต่งงานสุดโด่งดังนี้ เธอเลยตอบว่า “การขอแต่งงานไม่ใช่หน้าที่ของผู้ชายสักหน่อย ทำไมผู้หญิงต้องรอไปเรื่อยๆ เพื่อให้ผู้ชายมาขอแต่งงานล่ะ? ฉันต้องก้าวหน้ามากกว่านั้น ถ้าคุณชอบใครสักคน ก็จงไปตามทาง เวลามันไม่ใช่ประเด็นใช้ชีวิตให้เต็มที่” แน่นอนว่าการแหวกขนบธรรมเนียมประเพณีขนาดนี้ย่อมมีความเห็นต่างๆ ตามมาแน่นอน โโยชาวเน็ยบางคนให้ความเห็นว่า “ฉันคงเห็นด้วยที่ผู้หญิงควรมีสิทธิ์แทนที่จะรอให้ผู้ชายมาขอ แต่การเสนอโฉนดที่ดินให้แบบนี้ก็ดูจะเยอะเกินไปหน่อย” “เธอสวย และเขาก็หล่อ เธอซื้อมอเตอร์ไซค์ให้เขาและมีบ้านให้ด้วย? ฉันคิดว่ามันยอดเยี่ยมมาก โชคดีมากเพื่อน”…
-
เด็กวัย 13 เที่ยวแต๊ะอั๋งสาวๆ จนคุณพ่อส่งลูกให้ตำรวจ แต่ชาวเน็ตกลับเห็นต่างกันไปนะ!?
หากลูกชายของคุณกลายเป็นคนที่มีนิสัยชอบแต๊ะอั๋งหรือลวนลามคนอื่น คุณจะทำยังไง? ถ้านึกไม่ออก ลองมาดูวิธีจัดการกับลูกในแบบของคุณพ่อคนนี้กัน เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้รายงานว่ามีคลิปวิดีโอหนึ่งกำลังเป็นที่พูดถึงในเครือข่ายสังคมออนไลน์อยู่ในขณะนี้ เป็นคลิปที่ถูกถ่ายได้จากสถานีรถไฟฟ้าในเมืองนานกิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน คลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของเด็กหนุ่มวัยราวๆ 13-15 ปี เที่ยวเดินไปมาภายในสถานี จากนั้นก็ใช้มือยื่นไปจับแข้งจับขาของหญิงสาวไปทั่ว แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมา มีรายงานผ่านเว็บไซต์ Weibo บอกว่านักแต๊ะอั๋งรุ่นเยาว์รายนี้ถูกจับได้โดยพ่อของเขาเอง ซึ่งพ่อของเขาก็ไม่รอช้า พาลูกชายไปส่งให้ถึงมือตำรวจด้วยตัวเอง หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแชร์ออกไป ชาวเน็ตก็แสดงความชื่นชมต่อการกระทำของคนเป็นพ่อและต่อว่าลูกชายที่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม Bluex “ขนาดอายุ 13 ยังมีพฤติกรรมลวนลามแบบนี้ ถ้าฮอร์โมนของเขาเต็มตัว การข่มขืนคงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินไป” BasicRules “การแต๊ะอั๋งหรือลวนลามผู้หญิงเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และควรได้รับการลงโทษ ไม่ใช่การโยนพวกเขาเข้าตารางนะ แต่เป็นการลงโทษไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง” Warratone Ngernpramuan “ทำตัวเป็นภัยสังคม? ‘หัวใจคุณพ่อน่ากราบ’ มาก ถ้าได้ความเป็นสุภาพบุรุษจากพ่อมาสักครึ่งหนึ่ง เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น” Chiang Noonoy “ตีให้มือหัก..เดี๋ยวมันก็หาย”…
-
หวาดเสียว!! คุณตาชาวจีนนำ “ตะกร้าผลไม้” ทำเป็นที่นั่งบนมอเตอร์ไซค์ สุดท้ายโดนตำรวจจับ
ตามกฎหมายแล้ว ไม่ว่าจะในไทยหรือในต่างประเทศ จะอนุญาตให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์มีผู้โดยสารได้ไม่เกิน 1 คน แต่ก็ยังมีบางคนแอบซ้อน 3 ซ้อน 4 (ซ้อน 5 คน #เหมียวฟิ้น ก็เคยเห็นมาแล้ว) อาจจะเพราะเอาความสะดวกเข้าว่าหรืออะไรก็ตาม แต่ถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายและอาจก่อให้เกิดความอันตรายได้นะ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ CCTVNews ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของคุณตารายหนึ่งในมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ขณะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ เนื่องจากต่อเติมมอเตอร์ไซค์ด้วยการนำเอาตะกร้าผลไม้มาไว้ที่ด้านข้าง เพื่อให้หลานๆ ทั้ง 3 คนสามารถนั่งไปกับเขาได้ ตามรายงานบอกว่าคุณตาได้ขี่มอเตอร์ไซค์มาตามทาง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกให้จอด เพื่อเข้าไปตักเตือนว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้พาเด็กขึ้นรถไปด้วยมากขนาดนี้ และถูกสั่งให้ถอดตะกร้าออกทันที . ชมคลิปได้ที่นี่เลยนะ หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันแสดงความชื่นชมการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจในท้องถิ่นอย่างมาก Yohana Andrew “เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้หน้าที่ของตัวเองดี เพราะว่านี่มันเป็นสิ่งที่ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุบนทางหลวง อย่างการขับรถเร็วหรือการโดยสารเกินกว่ากำหนด” Michelle Yung “ตำรวจทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว มันทำให้ฉันรู้สึกหวาดกลัวเมื่อครอบครัวของฉันในจีนและฮ่องกงไม่ใช้เข็มขัดนิรภัยกับเด็กๆ (หรือวัยรุ่น) ฉันเคยถูกหัวเราะเยาะจากคนขับแท็กซี่เมื่อใช้เข็มขัดนิรภัยด้วย” Tommy Gonzo…
-
เจ็บตัวฟรี!? หนุ่มจีนยืนลุ้นรอภรรยาคลอดลูก จู่ๆ โดนหมอจับไปผ่าตัดริดสีดวงแบบงงๆ ซะงั้น…
หมอเป็นอาชีพหนึ่งที่ต้องอาศัยความเข้มงวดและรอบคอบมากที่สุดอาชีพหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะพวกเขาทำงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตคน ความเป็นความตาย ผิดพลาดนิดเดียวอาจหมายถึงชีวิตคนๆ หนึ่งเลย แต่เนื่องจากเป็นมนุษย์ ความผิดพลาดก็เกิดขึ้นได้บ้างเป็นครั้งเป็นคราว อย่างเช่นเรื่องที่ #เหมียวฟิ้น กำลังจะนำเสนอต่อไปนี้ เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า หนุ่มจีนแซ่หวัง วัย 29 ปีกำลังยืนรอภรรยาคลอดลูกอยู่ภายในโรงพยาบาลเสิ่นหยาง ประเทศจีน เมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา แต่ในระหว่างที่เขากำลังรอภรรยาคลอดลูกน้อยอย่างใจจดใจจ่อ จู่ๆ ก็มีคุณหมอเข้ามาเรียกตัวเขาไปในห้องผ่าตัด เนื่องจากโรงพยาบาลมีห้องผ่าตัดเพียง 2 ห้องเท่านั้น นายหวังจึงเขาใจว่าเขาถูกนำตัวไปยังห้องผ่าตัดของภรรยาและคิดว่าหมออาจจะต้องการให้เขาช่วยเหลือในการทำคลอดของภรรยา แต่หมอกลับสั่งให้เขาถอดกางเกงออกโดยไม่ทันได้พูดคุยหรืออธิบายอะไรเลย แม้จะพยายามถามหมอแล้วว่าทำไมเขาถึงต้องถอดกางเกง หมอก็เอาแต่บอกให้เขาทำตามคำสั่งเท่านั้น “มันรู้สึกแปลกมาก และผมเลยถามเขาว่าทำไม? พวกเขาเลยตอบว่า ‘แค่ทำตามที่เราบอกก็พอ’” นายหวังกล่าว ต่อมาคุณหมอก็ทำการวางยาสลบแก่นายหวังและทำการผ่าตัดริดสีดวงให้กับเขา ในระหว่างการผ่าตัดนั้น นายหวังได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ไปด้วย เจ้าตัวบอกว่าในขณะนั้นเขารู้สึกมีความสุขมาก นายหวังบอกว่า “ผมไม่เคยรู้ว่าผมมีริดสีดวงทวารด้วย เมื่อผมขึ้นเตียงผ่าตัด ผมได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ ผมมีความสุขมาก และผมอยากจะกอดเขาสุดๆ แต่ผมเคลื่อนไหวไม่ได้ เพราะผมรู้สึกเจ็บอยู่” หลังจากที่เขาผ่านการผ่าตัดริดสีดวงแบบงงๆ แล้ว ทางโรงพยาบาลก็ได้มีการออกมาขอโทษแก่เขาและบอกว่าทั้งหมดเป็นความผิดพลาดของทีมแพทย์เอง โดยพวกเขาอธิบายว่าก่อนที่จะผ่าตัดริดสีดวงให้เขานั้น จริงๆ แล้วควรจะเป็นคนไข้อีกคน แต่นายหวังดันมายืนอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัดตอนนั้นพอดี ทำให้ทีมแพทย์นึกว่าเขาคือคนไข้ที่รอคิวผ่าตัด…
-
คุณป้าไกด์จีนโพสต์เตือนอีก หลังคู่รักพากันนอนบนเตียงในห้าง บอก “กลับบ้านไปดีไหม?”
กลายเป็นคนดังไปชั่วข้ามคืนเลยทีเดียว สำหรับหัวหน้าไกด์จีนอย่างคุณป้า Bin Bin Ji (ออกเสียงว่าจี่ ปินปิน) ที่เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวได้โพสต์คลิปวิดีโอต่อว่านักท่องเที่ยวชาวจีน ที่พยายามจะขโมยขอนไม้กลับไปยังประเทศของตัวเอง (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่) จนทำให้ชาวเน็ตในไทยต่างพากันแสดงความชื่นชมถึงมารยาทอันดีงามของคุณป้า ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 สิงหาคม คุณป้าก็ได้โพสต์รูปภาพเตือนนักท่องเที่ยวชาวจีนอีกครั้ง คราวนี้เป็นคู่รักที่พากันขึ้นไปนอนบนเตียงซึ่งเป็นสินค้าโชว์ในงานจัดแสดงสินค้าหมอนยางพาราที่จังหวัดภูเก็ต จนทำเอาคนที่ผ่านไปผ่านมาถึงกับเอือมเลยทีเดียว พร้อมกันนี้คุณป้าจี่ยังโพสต์ข้อความอีกว่า “ไม่อยากจะพูดแล้ว พวกเธอกลับบ้านไปดีไหม…” หลังจากที่#เหมียวฟิ้นได้มีโอกาสคุยกับแอดมินเพจอ้ายจง ที่สามารถติดต่อสื่อสารกับคุณป้าได้ ก็ทราบว่าภาพของนักท่องเที่ยว 2 คนนี้ไม่ใช่ลูกทัวร์ของคุณป้าจี่ แต่เป็นนักท่องเที่ยวของอีกทัวร์หนึ่งที่หัวหน้าทัวร์ไม่รู้จะทำยังไง จึงถ่ายภาพมาปรึกษากับคุณป้า แกก็เลยจัดประโยคเบาๆ ไปให้หนึ่งประโยค คุณป้าจี่นั้นรักเมืองไทยมาก จึงตั้งบริษัททัวร์มาเที่ยวไทย แต่เนื่องจากเห็นว่าคนจีนนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยจะน่ารักเท่าไหร่ จึงเขียนหนังสือกฎข้อปฏิบัติต่างๆ และเปิดคอร์สอบรมไกด์ทัวร์จีนขึ้น เพื่อไปอธิบายให้นักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เข้าใจถึงวัฒนธรรมและการวางตัวในไทยนั่นเอง ที่มา Bin Bin Ji , อ้ายจง
-
ปรบมือรัวๆ!! ไกด์จีนเตือนชาวจีนด้วยกัน หลังพยายามหยิบ ‘ขอนไม้ไทย’ ติดมือกลับบ้านเกิด
แม้เราจะเคยเห็นเรื่องราวแย่ๆ เกี่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ชาวจีนมาหลายครั้งหลายครา แต่ก็ต้องยอมรับว่าคนดีๆ ที่มีความคิดดีๆ ยังคงมีอยุ่นะ เช่นคุณป้าหัวหน้ากรุ๊ปทัวร์รายนี้ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Bin Bin Ji ได้โพสต์คลิปวิดีโอของตัวเอง ขณะทำหน้าที่เป็นหัวหน้าไกด์ทัวร์อยู่บริเวณชายหาดแห่งหนึ่งของประเทศไทย แต่ในระหว่างนั้นกลับมีลูกทัวร์คนจีนพยายามจะหยิบเอาขอนไม้อันหนึ่งกลับไปยังประเทศของตัวเอง หัวหน้าไกด์จึงเตือนนักท่องเที่ยวไม่ให้นำเอาสิ่งใดติดตัวกลับไปด้วย แต่นักท่องเที่ยวยังคงต่อเถียงกับเธอไม่หยุดหย่อน เธอจึงท้าให้ชาวจีนรายนั้นนำท่อนไม้กลับไปด้วย หากคิดว่าตัวเองสามารถผ่านสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้ แต่นักท่องเที่ยวยังคงเถียงกับหัวหน้าไกด์แบบไม่หยุด และอ้างว่าทำแบบนี้มานานกว่า 20 ประเทศแล้ว แต่ไม่เคยถูกดำเนินคดีเลยแม้แต่ครั้งเดียว จะเอาอะไรกลับประเทศก็ไม่เคยมีปัญหา เมื่อหัวหน้าไกด์จีนได้ยินแบบนั้นจึงต่อว่านักท่องเที่ยวจีนชุดใหญ่และบอกว่าชาวไทยนั้นกลัวนักท่องเที่ยวจีนกันหมดแล้ว สาเหตุที่ชาวไทยไม่ชอบคนจีนเพราะมีนักท่องเที่ยวแบบนี้เอง นอกจากนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “ทำไมไม่เก็บชายหาดใส่กระเป๋าขึ้นเครื่องกลับจีนไปด้วยเลยละ ไอ้โง่” ลองชมคลิปตัวเต็มแบบซับไทยจากเพจ China Social Media by Johny ได้ที่ด้านล่างเลย (ใครมองไม่เห็น กดที่นี่ได้เลยนะ) มนุษย์ป้าจีน ผู้พิทักษ์ความยุติธรรมซับไทย ด่าหนักมาก! ด่าจีนด้วยกันเองประจาน! คนไทยด่าไม่ได้งี้ 555 เป็นประเด็นในโซเชียลจีนคลิปนี้ลงวันเดียว ยอดวิว 30 กว่าล้านแล้ว ป้าลูกทัวรฺ์ออกมาช่วยเมืองไทยพิทักษ์ธรรมชาติ น่าชื่นชม ยังคงต้องใช้เวลาปรับ เชื่อว่าเค้าพยายามกันอย่างหนักอยู่ ถ้าชอบไลค์เพจด้วยนะครับ สามชั่วโมงแรกยอดวิวแตะสี่หมื่น แอดมินอินไวท์เพิ่มไม่ได้แล้ววันนี้ 555 #เรายินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มีวัฒนธรรม…
-
ผู้หญิงชาวจีน วัย 53 ปี ยอมลาออกจากงาน เพื่อดูแลหมาจรจัด 250 ชีวิต ที่บ้านเธอ!!
ทุกๆ ปี เมื่อมาถึงเทศกาลกินเนื้อสุนัขประจำปีที่ประเทศจีน จะต้องมีสุนัขถูกฆ่าตายมากกว่า 10,000 ตัว เพื่อเสิร์ฟในงานเลี้ยง แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศจีนก็ยังมีคนบางกลุ่มที่ยอมอุทิศชีวิตทั้งกายและใจของเขา เพื่อช่วยเหล่าสุนัขที่น่าสงสารเอาไว้ เหมือนกับผู้หญิง วัย 53 ปี คนนี้… Wen Li คุณครูโรงเรียนมัธยมจากมณฑลกานซู ที่ยอมลาออกจากงาน เพื่อมาดูแลบ้านสงเคราะห์สุนัขในโรงนาของเธอตั้งแต่ปี 2011 มาแล้ว ระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา เธอรับสุนัขมาเลี้ยงแล้วทั้งหมด 220 ตัว โดยมีทั้งผู้ที่นำมาปล่อยและเธอรับมาเอง เธอเรียกตัวเองว่าเป็น ‘คุณยาย’ และปฏิบัติกับหมาๆ ดั่งเป็นลูกหลานของเธอ แต่ก็แน่นอนว่า เมื่อจำนวนสุนัขเร่ร่อนมีมากขึ้น ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็มากขึ้นตามไปด้วย และนอกจากเธอจะต้องเก็บหอมรอมริบเพื่อเช่าบ้าน เธอก็ยังต้องใช้เวลาทั้งวันดูแลมันด้วย ในทุกๆ วัน เธอจะซื้อขนมปังกรอบจำนวน 80 ชิ้น อาหารสุนัข 7.5 กก. และเนื้อตับ 2.5 กก. มาเลี้ยงสุนัข…
-
พบกับ Skywalk ที่เที่ยวแห่งใหม่ที่เมืองเซี้ยงไฮ้ สุดหวาดเสียวด้วยความสูง 340 เมตร
หากใครที่กำลังมีแผนไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้แล้วยังไม่รู้จะไปทำอะไร และหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบกิจกรรมอะไรที่ท้าทายๆ ขอบอกว่าห้ามพลาด Skywalk แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปวันที่ นี้ จินเหมาทาวเวอร์ ตึกสูงเสียดฟ้าที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ได้เปิดตัว Skywalk นอกตัวอาคารชั้น 88 ที่มีความสูงถึง 340 เมตร จากการรายงานของสำนักข่าว People’s Daily ระบุว่านี่เป็นทางเดินภายนอกอาคารที่ปราศจากที่กั้นที่มีความสูงที่สุดในโลกอีกด้วย มีเพียงเชือกนิรภัยเท่านั้น ที่จะเหนี่ยวรั้งไม่ให้คุณพลัดตกลงไป งานนี้บอกเลยใครใจไม่ถึงพอมีเป็นลมหมดสติแน่นอนจ้า ก่อนที่จะออกไปแตะขอบฟ้าเพื่อพบความหวาดเสียว ก่อนอื่นจะต้องเซ็นแบบฟอร์มยินยอมพร้อมใจก่อน และเพื่อรับประกันว่าเราสามารถรับมือกับความสูงนี้ได้ ถึงแม้ว่าจะหวาดเสียวและระทึกใจสุดๆ แต่ทิวทัศน์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ที่จะได้เห็นจากบนนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าจริงๆ . . . ทางเดินโปรงใสบนชั้น 88 นี้ ยาวประมาณ 60 เมตรและมีความกว้างออกมาเพียง 1.2 เมตร เท่านั้น นักท่องเที่ยวสามารถออกไปเดินได้เพียงรอบละ 15 คน (รวมถึงพนักงานดูแลความปลอดภัยอีกจำนวน 2 คนด้วย) . . . แค่คิดก็เสียวแล้วนะเนี่ย!! ที่มา: Shanghaiist
-
อาตี๋น้อยเก็บขวดขาย 160,000 ใบ นาน 2 ปี เพื่อนำเงินบริจาคให้เด็กกำพร้าโรคเอดส์
นี่เป็นเรื่องราวดีๆ ของหนุ่มน้อยชาวจีนรายหนึ่งที่ชื่อว่า Sun Huixi เขาใช้เวลาหลังเลิกเรียนประมาณ 2 ชั่วโมงทุกๆ วัน เพื่อเก็บขวดพลาสติกไปขาย จากนั้นพอผ่านเวลาไป 2 ปี เขาก็สามารถเก็บขวดได้มากถึง 160,000 ขวด คิดเป็นเงินราวๆ 1 แสนบาท จากนั้นเขาก็นำเงินไปบริจาคให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน Red Ribbon Home ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ที่มีแต่เด็กๆ กำพร้าและป่วยเป็นโรคเอดส์มากมาย แม้ Sun จะอายุยังน้อย แต่เขาก็ตระหนักถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตโดยไม่มีพ่อแม่ เขาจึงคิดอยากจะช่วยเหลือคนอื่นๆ บ้าง ตามรายงานบอกว่าหนุ่มน้อยรายนี้อาศัยอยู่ในเมืองฮาร์บิน เมืองที่สำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีน หมู่บ้าน Red Ribbon Home ถูกก่อตั้งโดยองค์กรการกุศลแห่งหนึ่ง เพื่อเปิดรับเด็กๆ ผู้ป่วยเข้ามาอยู่ในความดูแลของพวกเขา ในตอนแรกที่ Sun ยังไม่ได้เก็บขวดขาย เขาได้บริจาคเงินส่วนตัวให้กับองค์กรเป็นจำนวน 1,000 บาท แต่แล้วเขาก็คิดได้ว่าควรจะหาเงินมาช่วยเหลือเด็กๆ ให้มากกว่านี้ จึงเริ่มเก็บขวดขายนั่นเอง ในขณะที่พ่อแม่ของเขามีรายได้ต่อเดือนรวมกันได้เพียง 9,430 บาท เท่านั้น ถือเป็นความเฉลียวฉลาดในการหาเงินพอสมควร…
-
พลาดไม่ได้แล้ว!! จีนจัดประกวดสาว “หน้าอกสวย” จากทั่วโลก หนุ่มๆ แห่เข้างานกันรึ่ม!!
นี่ถือเป็นงานประกวดที่น่าจะถูกใจหนุ่มๆ และมีผู้เข้ามาร่วมงานแบบแน่นกองประกวดเลยทีเดียว เพราะนี่คืองานประกวดสาวผู้มี “หน้าอกสวย” ที่สุดในโลก!! เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ามีการจัดงานประกวดตามหาสาว “หน้าอกสวย” จากทั่วโลก ขึ้นที่มณฑลอันหุย ประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าการจัดงานครั้งนี้ถูกจัดมาเป็นครั้งที่ 6 แล้ว และดูเหมือนว่าปีนี้จะดูดีงามขึ้นกว่าปีก่อนๆ ที่เคยจัดกันมา จุดประสงค์ของการจัดงานนี้ก็คือ การตามหาหญิงที่มีความมั่นใจ มีหน้าอกที่สวยงามได้รูปและสุขภาพดี . แต่ในปีนี้ดูจะฮือฮาสักหน่อย เพราะมีคุณแม่สาวสวยเข้าประกวดกับเขาด้วย แถมยังได้รับคำวิจารณ์ไปในแง่บวก บอกว่าเธอนั้นดูสวยสง่ากว่าผู้ชนะปี 2015 เสียอีก หลังจากที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ดูจะได้รับความสนใจจากชาวเน็ต โดยเฉพาะหนุ่มๆ มากพอสมควร มีทั้งความเห็นในแง่บวกและลบ เช่น “ผมไม่เห็นหน้าอกแม้แต่ข้างเดียว ผมว่ามันเป็นงานโกหกทั้งเพ!!” “สำหรับผมแล้ว พวกเธอคือผู้ชนะ” “ใครจะสนล่ะ เพราะสุดท้ายแล้วมันก็จะหย่อนยานอยู่ดี” . . หรือถ้าใครคิดว่ายังไม่จุใจ เราลองย้อนกลับไปชมภาพงานประกวดหาสาวอกสวยจากปี 2015 กันดูไหมล่ะ? . .…
-
ชื่นชมเด็กชาวจีน ทำภารกิจเพิ่มน้ำหนัก 16 กิโลกรัม เพื่อปลูกถ่ายไขกระดูกให้คุณพ่อ
การทดแทนบุญคุณในความหมายของคนทั่วๆ ไป อาจจะนึกถึงการเลี้ยงดูพวกเขา การพาพวกเขาไปพักผ่อน พาไปกินอาหารดีๆ การพาพวกเขาไปเที่ยวในที่ที่อยากไป แต่สำหรับคนบางคนแล้ว ดูจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นมากเลยล่ะ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้เปิดเผยเรื่องราวภารกิจอันยิ่งใหญ่ของหนุ่มน้อยชาวจีนวัย 8 ขวบที่ชื่อว่าเช่า หยินเผิง จากมณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่ต้องช่วยคุณพ่อที่กำลังป่วยเป็นโรคลูคีเมียในการปลูกถ่ายไขกระดูก ตามรายงานบอกว่าเช่า เหล่ย ผู้เป็นพ่อ ได้ตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาว(หรือลูคีเมีย) ทำให้เขาต้องเข้ารับการปลูกถ่ายไขกระดูกใหม่ และคนเดียวที่จะช่วยเขาได้ก็คือลูกชายแท้ๆ ของเขา แต่ดันมีปัญหานิดหน่อยตรงที่เช่า เหล่ย เหลือเวลาอีกเพียง 2 เดือนก่อนที่อาการจะทรุดหนักไปกว่านี้ บวกกับลูกชายของเขามีน้ำหนักเพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยเกินไป หากทำการปลูกถ่ายไขกระดูกอาจจะเป็นอันตรายแก่เขาได้ เมื่อทราบเงื่อนไขดังกล่าวแล้วเช่า หยินเผิงจึงพยายามขุนตัวเอง กินอาหารเพิ่มน้ำหนักอย่างหนัก แต่ในขณะเดียวกันเขาก็พยายามออกกำลังกายไปด้วย เพื่อให้มีสุขภาพแข็งแรงควบคู่กันไป ในที่สุดเช่า หยินเผิงก็ทำสำเร็จ เขาสามารถเพิ่มน้ำหนักจาก 30 กิโลกรัมเป็น 46.5 กิโลกรัมได้ภายใน 2 เดือน การปลูกถ่ายไขกระดูกของทั้งคู่เป็นไปอย่างราบรื่นตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางด้านจาง หลิน ภรรยาของนายเช่า…
-
เสียววาบ!! นักท่องเที่ยวจีนเผยที่พักแรมแบบใหม่ กางเต๊นท์นอนริมหน้าผาสุดเร้าใจ
หากคุณต้องเดินทางไปท่องเที่ยวตามป่าเขา แต่รู้สึกว่าคุณยังเร้าใจพอล่ะก็ คุณอาจจะอยากลองมาพักแรมในสถานที่แบบนี้ก็ได้นะ… เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTV ได้เผยแพร่ภาพสุดหวาดเสียว ของกลุ่มคนที่ขึ้นไปตั้งเต๊นท์กว่า 100 หลัง บริเวณริมหน้าผาของภูเขาเล่าจุ่น ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ที่มีความสูงจากระดับพื้นดินถึง 1,000 เมตร ตามรายงานของสื่อท้องถิ่นกล่าวว่ากลุ่มนักเดินทางได้ขึ้นไปตั้งแคมป์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลตั้งแคมป์ของชุมชนในท้องถิ่นเมื่อช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา มีคนจำนวนไม่น้อยได้พิจารณาถึงความคิดนี้แล้วตัดสินใจขึ้นไปตั้งแคมป์อยู่ตรงพื้นที่เสี่ยงตายแบบนั้น แต่พวกเขาก็ถือว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ทดสอบความกล้าของตัวเองและดื่มด่ำไปกับทิวทัศน์ของธรรมชาติไปพร้อมๆ กัน แต่การขึ้นไปนอนอยู่ที่ริมหน้าผาของพวกเขานั้นไม่ใช่เพราะต้องการความตื่นเต้นหรือหวาดเสียวเพียงอย่างเดียว พวกเขาจะได้สิทธิพิเศษในการชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับล้านยามค่ำคืน และสูดอากาศบริสุทธิ์ที่หาได้ยากจากในตัวเมือง . แม้จะดูหวาดเสียวไปหน่อย แต่พวกเขาก็ได้ชื่นชมกับธรรมชาติ ในแบบที่น้อยคนจะได้ทำแบบพวกเขาล่ะนะ ที่มา CCTVNews
-
หนุ่มจีนทำหน้าที่ลูกกตัญญู แอบภรรยาออกจากบ้าน มาดูแลแม่แท้ๆ ตลอด 9 ปี
ปัญหาเกี่ยวกับแม่สามีลูกสะไภ้นั้นมีให้เห็นได้ในทุกสังคมจริงๆ นะ บางคู่ถึงขั้นเลิกรากันเพราะแม่สามีกับลูกสะไภ้ไม่ถูกกันก็มี และคนที่อึดอัดใจที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นลูกชายหรือสามีเอง เพราะไม่สามารถเลือกข้างได้นั่นเอง เรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของของนายหลิว เสี่ยงลี่ และนางจ้าว จ่องกุ้ย ทั้งคู่แต่งงานกันเมื่อปี 2004 และได้รับมรดกมาจากครอบครัวฝ่ายหญิง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความรับผิดชอบที่สูงพอสมควร หลังจากที่ทั้งคู่แต่งงานกันแล้ว พวกเขาก็ได้วางแผนจะซื้อบ้านราคา 6 แสนกว่าบาท และหวังว่าจะชวนแม่ของฝ่ายชายมาอยู่ในบ้านด้วย แต่ภรรยาของเขาไม่เห็นด้วยกับไอเดียนี้ ต่อมาในปี 2007 ทั้งคู่ได้ซื้อบ้านแล้วเรียบร้อย นายหลิวจึงไปรับแม่ของเขามาเที่ยวที่บ้านใหม่บ่อยๆ แต่ดูเหมือนความสัมพันธ์ระหว่างแม่และภรรยาของเขาจะไปได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ จนมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันหนักขึ้นเรื่อยๆ จนภรรยาขู่ว่าจะฆ่าตัวตายหากแม่่สามียังไม่ออกไปจากบ้านของเธอ เพื่อเป็นการรักษาบรรยากาศความสงบภายในบ้าน นายหลิวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากประนีประนอมตามคำขู่ของภรรยา แต่เขาเองก็ไม่อยากจะเป็นลูกชายที่อักตัญญู เพราะแทนที่จะส่งแม่กลับไปอยู่บ้านหลังเดิม เขากลับเช่าบ้านให้แม่อยู่นาน 9 ปี ตามรายงานบอกว่าบ้านหลังนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขาเท่าไหร่ เพื่อที่นายหลิวจะได้แอบภรรยาของเขามาดูแลแม่บ่อยๆ แต่ความลับนั้นไม่มีในโลก วันหนึ่งแม่และภรรยาของเขาดันไปเจอกันในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งโดยบังเอิญ นางจ้าวรู้สึกช็อคและโกรธเคืองมากที่สามีปิดบังเรื่องนี้ไม่ให้เธอรู้มาเกือบ 10 ปี เธอให้สัมภาษณ์กับสื่อเรื่องที่เธอไม่อยากจะอยู่กับแม่ของสามีก็เพราะว่าพวกเขาเข้ากันไม่ได้ และกล่าวว่าแม่สามีควรจะหยุดยุ่งเรื่องครอบครัวของพวกเขาได้แล้ว แม้ว่าสถานการณ์ของครอบครัวนี้จะดำเนินไปแบบอึดอัด แต่ชาวเน็ตก็ได้แสดงความชื่นชมต่อการกระทำของลูกกตตัญญูรายนี้กันอย่างมากมาย เช่น “ฉันรู้สึกแย่กับภรรยาคนนี้มาก คาดหวังให้เธอดูแลแม่สามีไม่ได้เลย” “เราไม่รู้ว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับครอบครัวนี้จริงๆ แล้วเป็นยังไงกันแน่ ฉันหวังแค่ว่าพวกเขาจะสามารถใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างมีความสุข” ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเราเป็นหนุ่มคนนี้เราคงจะอึดอัดใจไม่น้อย เพราะทั้งสองคนเป็นคนที่เรารัก และไม่ควรจะต้องมาเลือกเลยว่าควรจะให้ความสำคัญคนไหนมากกว่ากัน…
-
สาวจีนฮิตไอเดียแปลก สวม “หน้ากากไอ้โม่ง” ลงทะเล หวังกันรังสี UV และแมงกะพรุน!?
ในทุกๆ ปี สาวๆ จะต้องแห่กันไปเที่ยวที่ชายหาดชิงเต่า ในมณฑลซานตง ประเทศจีน เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และนอนอาบแดดให้สบายผิวของพวกเธอ ซึ่งในความเข้าใจของคนทั่วไปแล้ว การอาบแดดก็คงจะมีอุปกรณ์อยู่ไม่กี่อย่าง เช่นแว่นตากันแดด หรือหมวกใบใหญ่ๆ เพื่อบังแดดสักหน่อย แต่กับสาวๆ ชาวจีน พวกเธอมีอุปกรณ์ที่แปลกประหลาดกว่านั้น เพราะพวกเธอสวมใส่ “หมวกไอ้โม่ง” แล้วลงไปเล่นน้ำทะเลและอาบแดด เพื่อป้องกันรังสี UV ที่จะกระทบกับใบหน้าของพวกเธอ และมันยังเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเอามากๆ ในปีที่ผ่านมาด้วย ในขณะที่แฟชั่นบางอย่างผ่านมาแล้วก็ผ่านไป แต่เจ้าหน้ากากไอ้โม่งชิ้นนี้กลับอยู่คู่กับชายหาดของจีนมานานตั้งแต่เมื่อปี 2004 แล้ว และยังคงได้รับความนิยมจากสาวๆ ที่เกรงกลัวรังสี UV เรื่อยมา เจ้าหน้ากากแบบนี้จะครอบคลุมทุกพื้นที่บนใบหน้าของคุณ ไม่ว่าจะเป็นหน้าผาก จมูก แก้ม คาง มันดูจะมีประสิทธิภาพในการกันความร้อนของจีนมากทีเดียว เพราะตอนนี้พุ่งสูงถึง 35 องศาแล้ว ตามรายงานบอกอีกว่าหน้ากากไอ้โม่งแบบนี้ มันเป็นทั้งหน้ากากและหมวกสำหรับว่ายน้ำที่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ และยังช่วยป้องกันอันตรายจากแมงกะพรุนที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วอีกด้วย …
-
ชมหมู่บ้านแปลกในจีน ที่มีบ้านเรือนเพียง 360 หลัง แต่กลับมีฝาแฝดมากถึง 39 คู่!!
#เหมียวฟิ้นอยากจะลองชวนเพื่อนๆ มาคิดกันดูเล่นๆ ว่า…ในชีวิจนี้คุณรู้จักคู่แฝดมาแล้วทั้งหมดกี่คน? บางคนอาจจะรู้จัก 2 คน 4 คน 6 คน บลาๆ แต่เชื่อเลยว่าคุณจะไม่ได้เห็นคู่แฝดที่เยอะขนาดนี้ และอาศัยอยู่ใกล้ๆ กันแบบที่นี่แน่ๆ วันนี้เราจะพาคุณเดินทางไปยังหมู่บ้านซินหยาง ในมณฑลฉงฉิ่ง ประเทศจีน ที่นี่มีชาวบ้านอาศัยอยู่ทั้งหมด 367 หลังคาเรือน แต่ที่น่าแปลกใจก็คือว่า ที่นี่มีคู่แฝดทั้งหมด 39 คู่ จนหมู่บ้านแห่งนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็น “หมู่บ้านฝาแฝด” จากการสำรวจพบว่าในชั้นเรียนทุกๆ ระดับชั้นจะต้องมีคู่แฝดอยู่ในห้องด้วยอย่างน้อย 1 คู่ แถมยังมีข่าลืออีกว่าแม้แต่ไก่ในหมู่บ้านนี้เองก็ยังออกไข่แฝดด้วย คู่แฝดในหมู่บ้านนี้มีเกือบจะทุกวัยตั้งแต่เด็กไปจนแก่ (คู่แฝดที่แก่ที่สุดอยู่ที่ 89 ปี) แม้จะเป็นเรื่องที่น่าฉงนอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มีใครตอบได้เหมือนกันว่าทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ . . . . . นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะ ที่มีการค้นพบคู่แฝดจำนวนมากขนาดนี้ เพราะเมื่อช่วงกันยายนปี 2014 ที่ผ่านมา ก็เคยมีข่าวเกี่ยวกับโรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในมณฑลเหอหนาน ที่มีคู่แฝดเข้าเรียนที่นี่มากถึง 32 คู่หรือ 64 คนมาแล้ว!! และถ้าหากคุณคิดว่านี่ยังน้อยไปแล้วล่ะก็…
-
ชาวเน็ตต่างชื่นชม… แม้พายุเข้าจนไม่มีคนมางานแต่ง แต่เจ้าสาวก็ยังสตรอง ทำให้มันดีที่สุด
ในช่วงที่ผ่านมาประเทศจีนต้องประสบกับมรสุมลูกใหญ่ เกิดเหตุอุทกภัยขึ้นในหลายๆ พื้นที่ ส่งผลให้กิจกรรมต่างๆ ต้องหยุดหรือยกเลิกไปก่อน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้คู่รักชาวจีนคู่นี้ย่อท้อและล้มเลิกงานของพวกเขาเลย เมื่อวันที่ 11 กรกฎดาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ BBC ได้เปิดเผยเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่ง ในเมืองซินเซียง มณฑลเหอนาน ประเทศจีน ที่ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะจัดงานแต่ง แม้สภาพอากาศโดยรอบจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยก็ตาม กำหนดการวันแต่งของพวกเขาคือช่วงเช้าของวันที่ 9 กรกฎาคม พวกเขาส่งการ์ดเชิญไปยังญาติๆ เพื่อนๆ และแขกทั้งหมด 300 คน แต่พอถึงวันงานกลับมีพายุถาโถมเข้ามาจนทำให้แขกเหรื่อส่วนใหญ่ไม่สามารถเดินทางมางานเนื่องจากอาจเกิดอันตรายกับพวกเขา จึงมีแขกเพียง 10 คนเท่านั้นที่สามารถมาร่วมงานได้ แม้จะมีแขกมาร่วมงานน้อยขนาดนี้ นางโจว เถียน ว่าที่เจ้าสาวของเราก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลย เธอพูดกับเจ้าบ่าวของเธอว่า “แม้ว่าพวกเราจะไม่มีแขกมาร่วมงาน ไม่มีดอกไม้ไฟฉลองให้ ไม่มีรถลีมูซีนหรูๆ หรือไม่มีเพลง นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับที่ฉันมีเธอ ฉันมีความสุขมากค่ะ” เรื่องราวนี้น่าประทับใจมากจนทำให้ข้อความของเธอถูกส่งต่อกันในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีนเป็นจำนวนเป็นพันๆ ครั้ง และมีข้อความชื่นชมพวกเขาอีกมากมาย เช่น “นี่คือรักแท้ หัวใจสองดวงที่มีรักให้กันและกัน นอกเหนือจากนั้นก็เป็นเพียงความว่างเปล่าแล้วล่ะ” “การจัดงานแต่งงานมันไม่ได้ทำขึ้นเพื่อคนอื่นๆ แต่มันคือความสุขของคนสองคน นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” “ไม่มีเพื่อนและครอบครัวมาเลยเหรอ?…
-
คุณพ่อชาวจีนพาลูกชาย 8 ขวบออกท่องเที่ยว 700 กิโล ด้วยเงิน 500 บาท เพื่อให้เรียนรู้ชีวิต
การอบรมเลี้ยงดูลูกด้วยวิธีการที่ทรหดๆ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนเห็นด้วยซักเท่าไหร่ แต่สำหรับพ่อลูกคู่นี้ พวกเขาได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญมากมายจากการเดินทางครั้งนี้ ไม่ว่าจะเรื่องความยากลำบากในชีวิต ความเห็นอกเห็นใจ ความเพียรพยายาม รวมถึงการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด Pu Wei ตั้งใจที่จะสอนบทเรียนชีวิตอันล้ำค่าให้กับลูกชายวัย 8 ขวบของเขา ด้วยการออกเดินทางจากจากเมืองซีอานไปยังเมืองหลานโจว รวมระยะทางทั้งหมด 700 กิโลเมตร โดยพกเงินติดตัวในกระเป๋าเพียง 100 หยวน (525 บาท) สำหรับใช้ตลอดการเดินทาง พ่อลูกคู่นี้เดินทางมาแล้ว 3 วัน ยังคงเหลืออีก 3 วันจึงจะถึงที่หมาย แต่พวกเขายังคงไม่เสียเงินไปแม้แต่สตางค์เดียว ที่ทำอย่างนั้นได้ก็เพราะพวกเขาเดินทางโดยการพึ่งพาการโดยสารรถของคนอื่น และทำงานแลกอาหารและที่พักระหว่างทาง ภาพพ่อลูกขณะกำลังช่วยขนของลงจากรถบรรทุกเพื่อแลกกับที่พักผ่อนระหว่างการเดินทาง ตลอดการเดินทางของพวกเขา ถึงแม้จะเหนื่อย แต่คนเป็นพ่อก็ภูมิใจที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ เป้าหมายของการเดินทางในครั้งนี้ คือให้ลูกของเขาได้สัมผัสกับความหอมหวานและความขมขื่นในชีวิตไปพร้อมๆกัน ขณะที่เขาอายุยังน้อยอยู่ โดยรวม พวกเขาโดยสารรถมาแล้ว 12 คัน แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ พวกเขาก็ต้องเผชิญทั้งการถูกเมินและถูกระแวง ในบันทึกการเดินทางวันที่ 3 ของ Pu ระบุไว้ว่า “ผู้ใดก็ตามที่ถูกทำร้ายจากการถูกเมินและถูกระแวง ไม่ต้องเก็บไปคิดให้มากไปหรอก เมื่อคุณรู้ว่าการเมินและการระแวงทำร้ายจิตใจคนอื่นได้…
-
สาวจีนกับไอเดียธุรกิจ “รับจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าให้สาวๆ” เผยเคยได้ค่าจ้าง 5 หมื่นในสองวัน!?
ชาวจีนหรือคนส่วนใหญ่ที่เกิดหลังจากปีค.ศ. 1990 เป็นต้นไป มักจะถูกมองว่าเป็นคนเจนวาย (Gen Y) ที่ชอบความสะดวกสบาย ทำงานไม่ค่อยทนไม้ทนมือ บางคนถึงขั้นถูกเหล่าผู้ใหญ่ตราหน้าว่าเป็นคนที่ขี้เกียจเลยก็มี แต่หญิงสาวชาวจีนรายนี้จะมาพิสูจน์ว่าคำสบประมาทเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องจริง ด้วยการทำธุรกิจรูปแบบแหวกแนวที่เธอคิดขึ้นมาเอง เมื่อวันที 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของนางเติ้ง หญิงสาวจากมณฑลเฉิงตู ประเทศจีน เธอเริ่มฝึกการจัดการตู้เสื้อผ้าตั้งแต่เมื่อปีค.ศ. 2015 จากนั้นเธอก็พบว่าเธอหลงใหลมันเอามากๆ จากนั้นเธอจึงนำสิ่งที่ชื่นชอบมาทำเป็นธุรกิจซะเลย การจัดการตู้เสื้อผ้านั้นไม่ใช่งานธรรมดาๆ ที่มีการให้บริการทั่วไปในเฉิงตู ฉะนั้นเธอจึงต้องแสดงให้โลกได้รู้ว่าธุรกิจของเธอดำเนินการอย่างไร เธอเริ่มโปรโมทธุรกิจของเธอผ่านหน่วยงานต่างๆ และสื่อสังคมออนไลน์ การจัดตู้เสื้อผ้าแต่ละครั้งจะมีการคิดค่าธรรมเนียมตามขนาดของตู้เสื้อผ้า ซึ่งราคาทั่วๆ ไปก็อยู่ที่ 100 หยวน (525 บาท) ต่อชั่วโมงต่อเมตร หากต้องใช้เวลาในการจัดการตู้เสื้อผ้านานกว่า 1 ชั่วโมง เธอก็จะคิดเพิ่มอีก 20 หยวน (105 บาท) เธอเล่าว่าเธอเคยได้ค่าจ้างสูงสุดจากลูกค้าคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านขนาดใหญ่และเป็นเจ้าของตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆ ถึง 2 ตู้ ทำให้เธอต้องเสียเวลาไปกับการจัดเรียง คัดแยกเสื้อผ้าในตู้นาน 2…
-
คุณตาเขียนจดหมายถึง ‘ภรรยาที่ล่วงลับ’ ทุกวันนานกว่า 4 ปี เผยมีเรื่องอีกมากที่ยังไม่เคยบอก
“ความรัก” นั้นถือเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรมเอามากๆ เลยนะ เราไม่สามารถจะหยิบความรักออกมาให้ดูแล้วบอกว่ารักมากหรือน้อยได้ แต่ในเมื่อความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นกับคนๆ หนึ่งแล้ว มันก็จะฝังรากลึกลงไปในความทรงจำ แม้ว่าร่ายกายจะจากโลกใบนี้ไปแล้วก็ตาม แต่เสี้ยวของห้วงคำนึงยังคงอยู่กับคนรอบข้างเสมอ เหมือนกับเรื่องราวของคุณตารายนี้ล่ะ เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวซึ้งๆ ของคุณตาเฉิน ซิวกัง วัย 70 ปี จากเมืองหนิงปัว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ที่พยายามเขียนจดหมายถึงภรรยาผู้ล่วงลับทุกวันๆ เป็นเวลา 4 ปี แม้ว่าเธอจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม ตามรายงานบอกว่าคุณตาเฉินได้เขียนจดหมายจำนวนหลายร้อยหลายพันฉบับถึงภรรยาที่เสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อปี 2012 นับรวมกันแล้วมีตัวอักษรจีนกว่า 1.5 ล้านตัว โดยในจดหมายฉบับแรกๆ มีความยาวตัวอักษรอยู่ที่ประมาณ 1,000 ตัวต่อ 1 ฉบับ แต่นั่นก็ไม่อาจจะบรรยายถึงเรื่องราวในแต่ละวันและความรู้สึกที่คุณตามีต่อคนรักได้ จดหมายของเขาจึงค่อยๆ เพิ่มความยาวออกไปเรื่อยๆ จนตอนนี้มีความยาวอยู่ที่ 2,000 ตัวอักษรต่อ 1 ฉบับแล้ว คุณตาบอกว่าเขาได้แต่งงานกับภรรยาตั้งแต่เมื่อปี 1967 แต่ก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกันนั้น พวกเขามีโอกาสได้เจอกันเพียงแค่ 3…
-
ร่วมสรรเสริญคุณครู บริจาคร่างกายก่อนตาย ช่วยผู้ป่วย 6 คนรอดชีวิตด้วยอวัยวะของเขา…
การให้นับเป็นสิ่งที่ประเสริฐ Mark Osbone ชายชาวอังกฤษ เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 49 ปี ที่ประเทศจีนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เขาจะสามารถมอบให้ประเทศอันเป็นที่รักของเขา ก็คือร่างกายเขาเอง… ในวันครบวันแต่งงาน 6 ปีของพวกเขา Mark Osbone และคุณนาย Wong ภรรยาของเขาจึงได้จัดงานฉลองขึ้นในหอผู้ป่วยไอซียูโรงพยาบาลหางโจว นกกระดาษกว่า 30 ตัวที่พยาบาลพากันทำขึ้น เรียงรายอยู่ที่ปลายเตียง พร้อมกับภรรยาในชุดกี่เพ้าสีม่วงตัวโปรดของเขา Mark ได้ใช้โอกาสนี้ในการกล่าวคำร่ำลาครอบครัวและผองเพื่อนของเขา Mark Osbone ได้เป็นครู และอยู่กินกับภรรยาในหางโจวมากว่า 6 ปีแล้ว เขาถือได้ว่าเป็นคนที่มีความสุขกับชีวิต และชีวิตคู่ของเขากำลังเป็นไปด้วยดี แต่เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ทุกอย่างก็ล่มสลาย จากรายงานข่าวระบุว่า Mark ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะจู่ๆ เขาก็หมดสติ แพทย์ที่ทำการตรวจวินิจฉัยได้ว่า Mark เป็นโรคเส้นเลือดในสมองแตกเฉียบพลัน ซึ่งถือว่าโชคดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่ แพทย์ได้คาดการณ์ว่า สุขภาพของ Mark จะแย่ลงไปอีกเรื่อยๆ โดยที่ไม่สามารถช่วยยื้ออะไรได้อีก Mark สนใจที่จะบริจาคร่างกายของเขา…
-
ชาวเน็ตจีนคลั่งไคล้ ‘ตำรวจจราจร’ หนุ่มหล่อมาดเข้ม เอาซะอยากจะโดนใบสั่งจังเลย…
บางคิดอาจจะมองตำรวจจราจรด้วยภาพพจน์ที่ไม่ดีสักเท่าไหร่ แย่ไปกว่านั้น บางคนถึงกับมีอคติร้ายๆ ต่อตำรวจจราจรมาโดยตลอด แต่วันนี้ #เหมียวขาสั้นจะพาไปดูอีกหนึ่งมุมมองของพวกเขาเหล่านี้กัน… นี่เป็นแคมเปญที่ประเทศจีนเพิ่งริเริ่มเพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมีวินัยในการใช้ถนนมากขึ้น เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีพร้อมๆ กับการสร้างความเห็นอกเห็นใจให้แก่นายตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุมานะ ตัวอย่างเช่น เจ้าหน้าที่ Weifang ผู้ไม่เคยละทิ้งหน้าที่หรือขัดขืนข้อปฏิบัติใดๆ . . เจ้าหน้าที่ Chen Xiaojun จราจรหนุ่มมาดเข้มจากเซินเจิ้น เสน่ห์เหลือล้นบาดใจสาวๆ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยืดหยุ่น และประนีประนอม นอกจากนี้ เขายังเคยผ่านภารกิจเสี่ยงตายในการไล่ล่าผู้ร้ายบนท้องถนนในระยะทางต่อเนื่องถึง 12 กม. จนสามารถจับคนร้ายได้ในที่สุด . จราจรรูปหล่อที่เมืองอู่ฮั่น ที่เมืองเจิ้งโจว ที่เมืองจี่หนาน จากรายงานข่าวของเว็บไซต์ NetEase ระบุว่า สาวๆ นับพันที่หลงเสน่ห์จราจรรูปหล่อเหล่านี้ ต่างพากันตามหาว่าเจ้าตัวว่าแต่ละคนประจำการอยู่ที่ใด (แม้แต่ผู้ชายก็ด้วย) บางคนถึงกับแนะนำให้ทางการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้จัดวันสำหรับจราจรโดยเฉพาะไปเลย เจ้าหน้าที่หลายๆ คนพากันเขินอายเวลาที่มีคนมาขอถ่ายรูป แต่ก็เลี่ยงที่จะบริการประชาชนไม่ได้ พวกเขาไม่ลืมที่จะคอยย้ำเตือนประชากรให้ปฏิบัติตามกฎจราจรและมีวินัยในการใช้ถนน เมื่อปีที่แล้ว ก็มีรายงานข่าวเกี่ยวกับจราจรหนุ่มอีกคน ซึ่งเป็นที่ฮือฮาเพราะเขาสามารถใช้หน้าตาอันหล่อเหลาของเขาหยุดการจราจรได้ . แต่ยังไงก็ตาม อย่าให้หน้าตาอันหล่อเหลาทำให้คุณหน้ามืดตามัว แม้แต่อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยหนานชาง Zhou…
-
ร้านชาบูทำเมนูเรียกลูกค้า “บาร์บี้ห่อเนื้อ” …คีบออกมากิน เหมือนถอดเสื้อผ้าตุ๊กตา!?
เดี๋ยวนี้มันยุคข้าวยากหมากแพง จะค้าจะขายหรือทำธุรกิจอะไรก็ต้องโปรโมตให้มันสุดๆ ใครมีไอเดียอะไรที่ว่าเจ๋งก็ต้องขุดมาใช้ให้หมด ร้านฮ็อตพ็อตแห่งหนึ่งในปักกิ่ง เค้าก็มีไอเดียในการเรียกลูกค้าสุดเลิศของเค้า เราไปดูกันว่ามันแหวกแนวขนาดไหน… ร้านฮ็อตพ็อตแห่งนี้กำลังเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ ด้วยการเสิร์ฟอาหารแนวใหม่ “ตุ๊กตาบาร์บี้ห่อเนื้อแกะสไลด์” !! โดยทั่วไปแล้ว ร้านฮ็อตพ็อตปกติธรรมดาจะเสิร์ฟเนื้อสัตว์เป็นจานๆ แต่ทว่าร้านฮ็อตพ็อตแห่งหนึ่งในเมืองปักกิ่งเสิร์ฟเนื้อในรูปแบบของชุดตุ๊กตาสุดน่ารัก ดูผิวผืนอาจจะคิดว่าเป็นผู้หญิงในชุดราตรีสีแดง แต่จริงๆ แล้วมันคือเนื้อแกะสไลด์!! สำนักข่าว Shanghai Daily รายงานว่า ถ้าลูกค้าจะรับประทานเนื้อแกะ พวกเขาต้องค่อยๆ คีบเนื้อออกมาทีละชิ้นๆ (คล้ายๆ กับถอดทีละชิ้นนั่นแหละ) จนกระทั่งตุ๊กตาล่อนจ้อนเหลือให้เห็นแต่พลาสติกเปลือยเปล่าในที่สุด ในขณะที่เจ้าของร้านคิดว่านี่เป็นวิธีการอันแสนฉลาดในการโปรโมตร้าน แต่ชาวเน็ตจากเว็บไซต์ Weibo เป็นจำนวนมากต่างพากันแสดงความคิดเห็นรังเกียจต่อภาพลักษณ์ที่เหยียดเพศแบบนี้ ต่างคนก็ต่างมีความคิดเห็นที่ต่างกันออกไป … “กินแบบธรรมดาไม่ได้รึไง??” “ทำไมต้องมานั่งคีบเนื้อเสียเวลา โยนตุ๊กตาลงไปทีเดียวไปเลย!!” “น่าขยะแขยง ตุ๊กตานั่นล้างบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้??” แต่เดี๋ยว!! ชุดเนื้อแบบนี้เราเคยเห็นกันมาแล้วนี่นา คล้ายๆ ชุดขุ่นแม่กาก้าเลยนี่นา อุบส์ ชาวเน็ตบางคนก็เลยสงสัยว่านี่เป็นการเลียนแบบเลดี้กาก้า เพราะไม่นานมานี้เอง กาก้าก็มีข่าวเรื่องความเป็นไปได้ที่จะถูกแบนในประเทศจีน (ที่แท้ก็แฟนคลับเลดี้กาก้านี่เอง ฮร่าๆๆ) ที่มา: Shanghaiist, Ali213
-
จีนโชว์เทคโนโลยีล้ำสมัย พนักงานต้อนรับ “หุ่นยนต์สาวสวย” สุดล้ำ ที่สวยเหมือนคนแท้ๆ
การประชุมดาวอสฤดูร้อนประจำปี 2016 ที่นครเทียนจิน เมื่อ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา จีนได้โชว์เทคโนโลยีล้ำสมัยผ่านพนักงานต้อนรับ “หุ่นยนต์สาวสวย” ที่เรียกได้ว่า สร้างความฮือฮาให้กับเหล่าอาคันตุกะที่มาเข้าร่วมประชุมกันเป็นอย่างมาก จะสวยและจะเหมือนจริงซักแค่ไหนกันนะ!? ไปดูกันเลย… นี่คือเจียเจีย (Jia Jia) พนักงานหุ่นยนต์ในร่างสาวสวย สวมชุดจีนแบบโบราณ . เจียเจีย (Jia Jia) มีความสมจริงทั้งในเรื่องของขนาดและส่วนสูงที่เท่ากับมนุษย์จริงๆ อีกทั้งใบหน้าก็มีความละเอียดอ่อนและมีรายละเอียดซับซ้อน จากรายงานของสำนักข่าว Sina พบว่าชาวจีนบางคนถึงกับเรียกหุ่นนี้ว่า “หุ่นเทพธิดา” เลยทีเดียว ส่วนมือนั้นก็ดูสมจริงเช่นเดียวกัน ทั้งผู้เข้าร่วมประชุมและชาวเน็ตที่เห็นเธอต่างก็ตกหลุมรักเป็นจำนวนไม่น้อยเลย บางคนถึงกับบอกว่าเธอสวยกว่าผู้หญิงจริงๆ ที่มีเลือดมีเนื้อซะอีก เจียเจีย สามารถเข้าใจคำพูดของนักท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่งด้วยล่ะ เจียเจีย เป็นอีกขั้นหนึ่งของผลงานปัญญาประดิษฐ์ของประเทศจีน โดยในปัจจุบันมีทั้งหุ่นพนักงานเสิร์ฟ หุ่นพระ และหุ่นผู้ช่วยช็อปปิ้ง เจียเจีย นับได้ว่าเป็นเป็นหุ่นตัวเดียวที่มีรายละเอียดสมจริงเหมือนมนุษย์มากที่สุด สามารถเข้าใจคำพูดของนักท่องเที่ยวได้ในระดับหนึ่ง (แม้กระทั่งคำชม) อีกทั้งสามารถใช้ภาษามือ, ระบบ GPS และ Cloud Service…
-
ยกย่องครู 6 คน เสี่ยงชีวิตปกป้องเด็ก 120 คน ระหว่างพายุทอร์นาโดถล่มโรงเรียน
ว่ากันว่าคุณครูบางคนนั้นมีจิตวิญาณของความเป็นครูมากกว่าคนอื่นๆ เพราะนอกจากพวกเขาจะให้ความรู้แล้ว คุณครูบางคนยังสั่งสอนเราในสิ่งที่ถูกหรือผิดเหมือนกับพ่อแม่ บางคนสอนการใช้ชีวิตให้กับเรา บางคนก็ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้พวกเรารู้สึกปลอดภัยก็มี เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงวันพฤหัสที่ผ่านมา มีพายุทอร์นาโดลูกยักษ์เข้าถล่มที่มณฑลเจียงสู ประเทศจีน ซึ่งในบริเวณนั้นเองมีโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งตั้งอยู่ ภายในโรงเรียนมีเด็กๆ กว่า 120 ชีวิต และคุณครูผู้ดูแลเด็กๆ อีก 6 คน ตามรายงานบอกว่าพายุลูกใหญ่พร้อมลูกเห็บได้เข้าถล่มโรงเรียนเมื่อช่วงบ่าย 2 ครึ่ง จนเกิดความเสียหายหนัก มีลมแรงและฝ้าผ่าลงมาอย่างต่อเนื่อง คุณครู 6 คนจึงพาเด็กๆ เข้าไปหลบอยู่ในห้องเรียน เนื่องจากอาคารค่อนข้างเก่า และพายุรุนแรงมาก มันอาจจะพัดให้ประตูหน้าต่างหลุดปลิวได้ทุกเมื่อ ครูทั้ง 6 คนจึงช่วยกันค้ำยันเอาไว้จากลมพายุด้านนอก หวังเพียงให้เด็กๆทุกคนปลอดภัย หลังจากที่พายุสงบลง มีเด็กๆ 5 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณครูจีงรีบพาเด็กๆ ทั้งหมดไปส่งโรงพยาบาล โดยที่ไม่ทันได้คำนึงถึงบาดแผลของตัวเอง หลังจากที่เรื่องนี้ถูกแชร์ออกไปก็ได้รับเสียงชื่นชมจากชาวเน็ตอย่างมากเช่น “ของคุณคุณครูทั้ง 6 คนที่กล้าหาญและเสียสละช่วยเหลือเด็กๆ ให้ปลอดภัย” และ “พวกเขาคือฮีโร่ตัวจริงสำหรับเด็กๆ เลย” …
-
นี่คนจริงๆ ใช่ไหม? รวม 8 สาวๆ ที่ถูกยกให้เป็น “ตุ๊กตาบาร์บี้” แบบมีชีวิตจริง
ตุ๊กตาบาร์บี้กลายเป็นตุ๊กตาสาวสวยในอุดมคติของหญิงสาวไปทั่วโลก เพราะด้วยหุ่นที่ผอมเพรียวบาง หน้าตาเรียวยาว ริมฝีปากที่อวบอิ่ม และตาโตสีฟ้า จนขนาดที่ว่าสาวๆ บางคนอยากจะกลายเป็นตุ๊กตาบาร์บี้จริงๆ เลย และเมื่อพวกเธอเติบโตขึ้น มีเงินมีทอง ก็เลือกที่จะทำศัลยกรรมเพื่อให้ตัวเองมีความคล้ายกับบาร์บี้ให้มากที่สุด (แต่บางคนก็อาจจะไม่ได้ทำ) วันนี้#เหมียวฟิ้นเลยจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่ามีใครบ้างที่มีหน้าเหมือนบาร์บี้กันบ้าง? 1. Dakota Rose ปัจจุบัน Dakota Rose มีอายุ 19 ปี เธอโด่งดังมากในประเทศญี่ปุ่นและประเทศจีน เธอมักจะชอบถ่ายภาพคอสเพลย์เป็นตุ๊กตาบาร์บี้ แม้เธอจะถูกคนมองว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน แต่เธอก็ไม่ใส่ใจอะไร 2. Venus Palermo Venus Palermo วัย 15 ปี เธออาศัยอยู่ในเมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีความหลงใหลในตุ๊กตาบาร์บี้มาตั้งแต่เด็กๆ จนนำเอาความชอบมาเป็นงานอย่างเช่นการสอนแต่งหน้าผ่านเว็บไซต์ Youtube 3. Lily Cole นักแสดงชาวอังกฤษวัย 28 ปี เคยผ่านงานแสดงมาแล้วมากมาย และสิ่งที่ดูจะเป็นจุดเด่นของเธอก็คือใบหน้าที่คล้ายกับตุ๊กตานี่แหละ 4. Lin Ke Tong Lin…
-
รวยเหลือเกิ๊น!! เด็กสาวถ่ายคลิปอวดรวย โชว์กระเป๋า นาฬิกา สารพัด ชาวเน็ตจีนรุมจวกเพียบ!!
ในยุคที่ใครๆ ก็มีสื่ออยู่ในมือ ทุกคนก็อยากจะแสดงออกถึงความคิด ความรู้สึกของตัวเองออกไปให้คนอื่นๆ ได้รู้ อยากจะแชร์ภาพถ่ายการท่องเที่ยว หรือแม้แต่โชว์ข้าวของใหม่ๆ ที่เพิ่งซื้อมาให้คนอื่นได้ชื่นชมกัน แต่คงจะไม่มีใคร “อวด” ได้เก่งเท่ากับเด็กสาวชาวจีนคนนี้แน่นอน… เมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของเด็กสาวชาวจีนรายหนึ่ง ที่พยายามตั้งกล้องแล้วอวดข้าวของหรูๆ ที่ครอบครัวซื้อมาให้เธอ พร้อมกับล้อเลียนผู้ชมว่าเป็นคนจน จากคลิปวิดีโอ เด็กสาวได้โชว์ตั้งแต่ กระเป๋าที่แม่ของเธอซื้อมาให้จากเกาหลี นาฬิกา Hello Kitty ที่พ่อซื้อมาให้จากเกาหลี พัดลมทรงลูกขนไก่จากสหรัฐ สร้อยคอจากประเทศไทยที่เธออ้างว่ามีมูลค่าถึง 52,990 บาท และแหวนจากญี่ปุ่น ลองไปดูการโชว์รวยของเด็กสาวคนนี้ได้ที่ด้านล่างเลย… แม้บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่คลิปนี้ก็โด่งดังไปทั่วประเทศจีนจนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงการอวดร่ำอวดรวยโดยใช่เหตุของเธอ และยังมีความเห็นจากชาวเน็ตบอกอีกว่า “เห็นได้ชัดว่าพ่อแม่ของเด็กคนนี้เดินทางไปทั่วโลกโดยที่ไม่ได้พาเธอไปไหนมาไหนด้วย” , “เด็กคนนี้มีการบ้านจากโรงเรียนน้อยเกินไปจนทำให้เธอมีเวลาว่างขนาดนี้” , “ฉันคงจะตบหน้าเธอไปแล้วถ้าฉันเป็นพ่อแม่ของเธอ” อันที่จริงแล้ว การอวดข้าวของต่อโลกออนไลน์นั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไรนะ แต่อย่างแรกมันจะทำให้คนรอบข้างของคุณวิจารณ์คุณไปต่างๆ นานา และอาจถูกหมั่นไส้ได้ อย่างที่สองมันอาจจะทำให้คุณเป็นอันตรายจากมิจฉาชีพได้ หากพวกเขารู้ว่าคุณมีทรัพย์สินอะไรบ้าง แถมการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อตามหาเลขที่บ้านของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้วด้วย ที่มา shanghaiist
-
แซ่บมาก!! ยลโฉมคุณป้าวัย 50 ปี ที่ออกกำลังกายจนมีหุ่นสวยเช้งยิ่งกว่าสาวๆ ซะอีก!!
คนเราเมื่อแก่ตัวลงไป ร่างกายของเราก็จะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ผิวหนังที่เคยเต่งตึงก็จะเริ่มหย่อนยาน กล้ามเนื้อที่เคยสวยก็จะค่อยๆมีริ้วรอยมากขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นคงไม่ใช่กับคุณป้ารายนี้… ภาพที่ทุกๆ คนจะได้ดูต่อไปนี้ เป็นภาพของคุณป้าสวยที่ชื่อยี่ เหวิน เธออาศัยอยู่ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน แต่สิ่งที่ทำให้เธอเป็นที่โด่งดังในโลกออนไลน์ในขณะนี้ก็คืออายุของเธอ เพราะปัจจุบันยี่ เหวินมีอายุปาเข้าไป 50 ปีแล้ว!! นี่ใกล้จะเป็นรุ่นยายแล้วนะเนี๊ยะ ยี่ เหวินเริ่มเข้ายิมแบบจริงๆ จังๆ ตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้ 30 ปี ตอนนั้นเธอออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำทุกๆ วัน ทำให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายของเธอกระชับอยู่เสมอ และเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มีข่าวว่าเธอว่ายน้ำผ่านช่องแคบมะละกา (ช่องแคบระหว่างคาบสมุทรมลายูและเกาะสุมาตรา) และเป้าหมายต่อไปของยี่ เหวิน คือว่ายน้ำข้ามแม่น้ำฮั่นในประเทศเกาหลีใต้!? นอกจากนี้เธอยังมีวินัยกับตัวเอง ในเรื่องการออกกำลังกายในยิมด้วย ซึ่งเธอบอกว่าเธอจะเข้ายิมประมาณ 2-3 วันต่อ 1 สัปดาห์ ใช้เวลาแต่ละครั้งประมาณ 2 ชั่วโมง ยี่ เหวินบอกว่าเธอมีร่างกายที่เพรียวบางและสง่างามเมื่อตอนที่อายุ 30 ปี ก่อนที่เธอจะเริ่มออกกำลังกายจริงจังซะอีก และความฝันของเธอคือได้ใส่ชุดบิกินี่ได้สวยๆ ตอนที่เธอมีอายุได้ 80 ปีล่ะ นี่คือภาพเปรียบเทียมเมือสมัยที่เธออายุ 30 และตอน 50…
-
คลิปเมืองจีนเจอวิกฤติน้ำท่วมหนัก ทะลุเข้าห้างราวกับในหนัง เสียหายไปแล้ว 4 หมื่นล้าน..!!
ในช่วงนี้ประเทศจีนกำลังประสบกับปัญหาน้ำท่วมในหลายๆ พื้นที่ เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน 3 วันที่ผ่านมา ล่าสุดมีรายงานจากสำนักข่าว Reuter ว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้กว่า 22 คนแล้ว ตามรายงานบอกว่าระดับแม่น้ำต่างๆ ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำเอ่อท่วมไปยังพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนต่างๆ กว่า 10,500 หลังคาเรือน รวมมูลค่าความเสียหายแล้วอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่น 9 พันล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอเพิ่มเติมเกี่ยวกับอุทกภัยในครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์น้ำทะลักเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจีน คล้ายกับฉากในหนังภัยพิบัติที่เรามักจะได้เห็นกันบ่อยๆ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย (ใครดูไม่ได้ให้กดที่นี่นะ) Intense rain brought on by the El Niño effect has wrecked havoc across southern China over the last few days, including at this one…
-
13 เหตุการณ์ที่สอนว่า… อย่าจอดรถแบบ ‘งี่เง่า’ มิฉะนั้น อาจจะโดนเอาคืนแบบเจ็บแสบ!!!
การขับรถขับรา นอกจากคุณจะต้องมีใบขับขี่แล้ว คุณก็ควรจะมีสามัญสำนึกในการขับขี่ด้วยนะ ไม่งั้นคุณอาจจะโดนแก้แค้นแบบเจ้าของรถคันนี้ได้ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยภาพของรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งในประเทศจีน ที่เจ้าของรถดันขับไปจอดบนบาทวิถีทั้งที่บริเวณนั้นมีที่จอดเยอะแยะ เมื่อคนงานแถวนั้นมาเห็นเข้าจึงสั่งสอนโดยการจะเอาถังขยะกว่า 16 ถังมาวางล้อมรถคันนั้นเอาไว้เพื่อเป็นการสั่งสอนให้หลาบจำ ก่อนที่ในเวลาต่อมาเจ้าของรถจะกลับมาเอาถังขยะออกและขับรถออกไปในที่สุด จอดรถไม่เป็นที่ก็ต้องเจอแบบนี้ บางคนอาจจะมองว่านี่เป็นเพียงการกลั่นแกล้งกันที่เกินเลย แต่#เหมียวฟิ้นจะบอกว่าก่อนหน้านี้ในต่างประเทศมีการกลั่นแกล้งคนที่จอดรถไม่ได้เรื่องได้ราวแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง และเจ็บแสบยิ่งกว่าการนำถังขยับมาวางล้อมรอบซะอีก เราลองไปชมกันเลยว่ามีอะไรบ้าง? 1. เจอรถเข็นห้างหน่อยเป็นไง? 2. จอดรถเอียง งั้นขีดเส้นให้ใหม่เลยละกัน 3. ก็บอกว่าห้ามจอดยังไงล่ะเฮ้ย 4. จอดรถไม่ดูเอง ดันไปจอดตรงกับท่อน้ำสำหรับดับเพลิงพอดี 5. นี่ก็อุตส่าห์ตีเส้นให้ 6. ห่อแผ่นยางไปทั่วรถ เอาให้ขึ้นกันลำบากไปเลย 7. จัดปาร์ตี้ให้สักหน่อย 8. จอดรถขวางหน้าบ้านคนอื่น เป็นไงล่ะ… 9. ก็เผื่ออยากทำอาหาร เลยเอาส่วนผสมมาให้ฟรีๆ 10. จอดรถได้น่าเกลียดมาก…
-
อรู๋ววว…สาวจีนในชุดบิกินี แห่สมัครเป็นไลฟ์การ์ดในจีน โดยมีพระเส้าหลินเป็นผู้ฝึกสอน!?
หากพูดถึงพระ คนส่วนใหญ่ก็น่าจะนึกถึงนักบุญที่ถือศีล 200 กว่าข้อ มีบุคลิกวาจาที่สำรวม ออกบิณฑบาต ให้ศีลให้พรแก่ญาติโยม แต่ถ้าพูดถึงพระวัดเส้าหลิน หลายคนก็จะนึกถึงภาพของพระที่มีความเก่งกาจในการฝึกวิชา สมาธิและความแข็งแกร่งของร่างกาย แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะขอชวนทุกคนไปเปิดมุมมองใหม่เกี่ยวกับพระกันบ้าง เพราะกลุ่มพระจากวัดเส้าหลินทางตอนใต้ของประเทศจีน ได้กลายมาเป็นอาจารย์สอนกังฟูให้กับเหล่าหญิงสาวที่สมัครงานเป็นเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดในแพล่องแก่งแห่งหนึ่ง ตามรานงานบอกว่ากลุ่มหญิงสาวจำนวนหนึ่งได้สมัครงานเข้ามาทำหน้าที่เป็นไลฟ์การ์ดในสถานที่ล่องแก่งในกู่หลงเจีย มณฑลกว่างตง ทางตอนใต้ของประเทศจีน แต่การสมัครครั้งนี้มีเงื่อนไขว่าพวกเธอจะต้องมีทักษะการต่อสู้เช่นกังฟู จึงเป็นหน้าที่ของพระจากวัดเส้าหลินที่ต้องเข้ามาสอนพวกเธอ ในการสมัครครั้งนี้มีผู้เข้าคัดเลือกกว่า 30 คน โดยจะมีการฝึกยาวนานกว่าสัปดาห์ พวกเธอจะมีพระเส้าหลินมาเป็นโคชให้ 2 รูป ซึ่งพวกเธอจะได้เรียนรู้รูปแบบการต่อสู้จากสัตว์ 5 ชนิด ทั้ง เสือ, นกกระเรียน, เสือดาว, งู และมังกร ผู้สมัครจะต้องเรียนรู้และเชี่ยวชาญในการต่อสู้อย่างน้อย 2 แบบ ก่อนที่พวกเธอจะเข้ารับการประเมินขั้นสุดท้ายและได้รับการเซ็นสัญญาว่าจ้างอย่างเป็นทางการ หญิงสาวส่วนใหญ่ที่เข้ามาสมัครงานที่นี่ล้วนจบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยด้านการกีฬา พวกเธอจะต้องมีความรู้พื้นฐานของมวยปล้ำระหว่างการฝึกฝนร่างกายตลอดทั้งสัปดาห์ โฆษกจากบริษัทนำเที่ยวแห่งนี้กล่าวว่าศิลปะการต่อสู้อย่างเช่นมวยปล้ำนั้นสามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพความแข็งแกร่งและการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยชีวิตคนได้ แถมยังเป็นการทดสอบความอึดและกำลังใจได้ด้วย เมื่อพวกเธอผ่านขั้นตอนการทดสอบทั้งหมดแล้ว พวกเธอก็จะได้รับมอบหมายให้คอยสอดส่องดูและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวสาวๆ ที่มาใช้บริการล่องแก่งแห่งนี้ พวกเธอจะได้ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างการล่องแก่ง การใช้อุปกรณ์และความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว ก่อนที่พวกเขาจะไปทำกิจกรรมกัน นอกจากนี้พวกเธอยังทำหน้าที่เป็นเพื่อนร่วมทางให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาคนเดียวอีกด้วย…
-
อาจารย์สาวสวมชุดวิวาห์ ขอแฟนหนุ่มนักศึกษาแต่งงานกลางมหาลัย ปิดท้ายด้วยจุ๊ฟเบาๆ..!!
ไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นภาพของหญิงสาวลงทุนขอแต่งงานกับฝ่ายชายด้วยตัวเอง และล่าสุดมันได้เกิดขึ้นที่ประเทศจีนแล้วล่ะ… . เมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าศาสตราจารย์สาวแห่งมหาวิทยาลัยศิลปะและวิทยาศาสตร์หูหนาน ประเทศจีน ได้แต่งชุดเจ้าสาวพร้อมกับสวมหน้ากาก เพื่อมาดักรอและขอนักศึกษาชายคนหนึ่งแต่งงาน . ตามคำบอกเล่าของเหล่านักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าทั้งสองคนรู้จักกันมาได้สักพักแล้ว และดูเหมือนว่าการขอแต่งงานครั้งนี้เป็นเป็นการเตรียมการที่ใช้เวลานานพอสมควรแถมยังเป็นเรื่องใหญ่สำหรับนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยด้วย . หลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ได้ไม่นาน ภาพของพวกเขาก็ถูกแชร์ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์อย่างรวดเร็ว จนมีความเห็นจากชาวเน็ตบอกว่า “ฉันสามารถหาคุณครูดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนบ้างเนี๊ยะ?” และ “สิ่งที่เราเคยได้ดูในหนังผู้ใหญ่ได้กลายเป็นจริงแล้ว พี่ชายผมล่ะอิจฉาคุณจัง” อย่างไรก็ตาม เมื่อมีคนชอบก็ต้องมีคนไม่ชอบ บางความเห็นกล่าวว่า “เรื่องดังกล่าวนั้นดูไม่เหมาะสมเสียเลย” ก็เป็นความเห็นที่โต้แย้งแลกเปลี่ยนความคิดกันไป ว่าแต่ชาวเหมียวล่ะ คิดว่าเรื่องแบบนี้เหมาะสม หรือไม่เหมาะสมกันอย่างไร คิดเหมือนชาวเน็ตจีนเค้ารึเปล่า…!? . . แหม่ เป็นโชคดีของพ่อหนุ่มคนนี้จริงๆ ได้ทั้งความรู้ได้ทั้งภรรยา ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
หนุ่มจีนเกิดอาการปวดท้องรุนแรง เอ็กซเรย์แล้วแพทย์ตกใจ เพราะพบไตถึง 4 ข้าง!?
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Shanhaiist ได้รายงานว่า นายหวัง ไคเหลียงวัย 28 ปี จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากตรวจพบว่ามีไตเจริญเติบโตในท้องของเขาอีก 2 ข้าง!? ตามรายงานบอกว่าเขามีอาการเจ็บที่ในช่องท้องอย่างรุนแรงจนไม่สามารถยืนขึ้นได้ ทีมแพทย์จึงนำเขาไปเอ็กซ์เรย์ พบว่ามีไตงอกออกมาอีก 2 ข้าง หลายคนได้ยินคงทำหน้าตกใจล่ะซิ!? แต่นั่นไม่ใช่ผลดีต่อนายหวัง เพราะมีเนื้อไตชิ้นหนึ่งเกิดอาการติดเชื้อ จึงต้องทำการผ่าตัดออกโดยด่วน หลังจากที่ใช้เวลาในการผ่าตัดอยู่นานหลายชั่วโมง ทีมแพทย์ก็สามารถนำเอาไตที่ว่านี้ออกมาได้และนายหวังก็พ้นขีดอันตราย ส่วนคุณหมอที่ดูแลอาการของนายหวังบอกว่า ตลอดระยะเวลาในการเป็นหมอกว่า 20 ปีของเขา ไม่เคยเจอเคสไหนที่แปลกเท่ากับนายหวังมาก่อนเลย โอกาสที่จะเกิดการเจริญเติบโตของอวัยวะแบบนี้มีเพียง 1% จากจำนวนประชากรทั้งหมดเท่านั้น (และโอกาสที่จะพัฒนาเป็นไตสมบูรณ์แบบกรณีนี้ แทบจะเป็น 1 ในล้านกันเลยทีเดียว) ทางด้านครอบครัวของนายหวังบอกว่าเขารู้สึกสุขภาพดีขึ้นมาก ทั้งกินอาหารและดื่มเครื่องดื่มได้มากกว่าที่เคย นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังรายงานว่าครอบครัวของนายหวังนั้นมีความผิดปกติทางร่างกายอยู่แล้ว ทั้งคุณพ่อที่มีนิ้วก้อยเล็กผิดปกติทั้งสองข้าง และน้องสาวของนายหวังเองก็มีชิ้นเนื้อเล็กๆ งอกออกมาจากโคนนิ้วก้อย นี่อาจเป็นไปได้ว่ามันคือการส่งต่อของความผิดปกติทางพันธุกรรรมจากรุ่นสู่รุ่นนั่นเอง ถ้าจู่ๆ มีอวัยวะชิ้นใหม่งอกออกมาจากร่างกายของเรา คงจะเป็นอะไรที่สยองมากเลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist , gzdsw
-
เผยบทสัมภาษณ์ “แจ็ค หม่า” บอกสินค้าปลอมในจีน คุณภาพสูงมาก และราคาแสนถูก!!
อย่างที่ทราบกันดีว่าสินค้าปลอมหลายๆ ชิ้นที่เราเห็นกันวางขายกันเกลื่อนตามท้องตลาดทุกวันนี้ บางส่วนนั้นนำเข้าจากจีน และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่ผู้คนบางกลุ่มยังคงซื้อสินค้าเหล่านี้มาใช้นั้นก็เป็นเพราะเรื่องราคาที่ไม่แพงจนสามารถจับต้องได้ และบางชิ้นมีคุณภาพดีในระดับที่ดีเกือบจะเท่ากับของแท้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ CNN ได้เปิดเผยบทสัมภาษณ์ของแจ๊ค หม่า ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของเว็บไซต์ขายของออนไลน์อลีบาบา ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับความนิยมในสินค้าปลอม โดยเจ้าตัวบอกว่าเรื่องจากที่ผ่านมาจีนถูกเลือกให้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตสินค้าแบรนด์ต่างๆ มากมาย ทำให้ชาวจีนที่ทำงานในโรงงานเหล่านั้นมีทักษะในการทำสินค้าและรู้จักวัสดุเป็นอย่างดี พวกเขาจึงผลิตสินค้าออกมาขายผ่านเว็บไซต์ขายของออนไลน์ “ปัญหาก็คือว่า ของปลอมในทุกวันนี้มีคุณภาพสูงขึ้น ราคาถูกกว่าสินค้าจริง ใช้โรงงานผลิตเดียวกัน ใช้วัสดุเดียวกัน พวกเขาแค่ไม่ได้ใช้แบรนด์สินค้าเฉยๆ” เจ้าพ่อเว็บไซต์ขายของออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในจีนกล่าว แต่ถึงจะพูดแบบนั้น แจ็ค หม่า ก็ยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีแนวคิดในการสนับสนุนการซื้อขายสินค้าปลอม และได้มีการร่วมมือกับแบรนด์สินค้าดังๆ ระดับโลกเพื่อหาแนวทางในการป้องกันปัญหาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ แม้ว่าที่ผ่านมาเว็บไซต์อลีบาบาของเขาจะมีสินค้าปลอมมาวางขายกันแบบโจ่งแจ้ง แต่เขาก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำเอาสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ออกจาเว็บไซต์ของเขาให้หมด และกลายเป็นเว็บที่ขายแต่สินค้าที่มีลิขสิทธิ์ถูกต้อง ที่มา cnn
-
แชร์คลิปหนุ่มจีน ‘ตบสาว ยัดใส่ท้ายรถ’ กลางปั๊มน้ำมัน คนมุงเยอะ แต่ช่วยอะไรไม่ได้ด้วย…
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มวัยกลางคนรายหนึ่ง ขณะที่กำลังตบตีหญิงสาวที่อยู่ในกระโปรงท้ายรถเก๋ง แม้จะมีคนยืนดูอยู่หลายคนก็ไม่ทำให้เจ้าตัวหยุดการกระทำสุดโหดร้ายได้เลย ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน โดยชายหนุ่มเชื่อว่าหญิงสาวได้นอกใจตนเอง จึงได้ลงมือทำร้ายเธอกลางปั๊มน้ำมัน แม้จะมีคนในบริเวณนั้นตะโกนว่า “อย่าตีเธอ” แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ฟัง แม้ชายหนุ่มจะไม่หยุดลงมือกับเธอ แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปห้ามปรามใดๆ จนสุดท้ายชายหนุ่มได้ผลักหญิงสาวลงไปในกระโปรงท้ายรถและปิดล็อคไม่ให้เธอออกมาได้ จากนั้นก็ขับรถออกไปจากปั๊มน้ำมันหน้าตาเฉย รองกรรมการจากสำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะของมณฑลเหอเป่ย ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่าหลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เห็นคลิปดังกล่าว พวกเขาก็ออกสืบสวนเรื่องนี้ทันที ภายหลังพวกเขาพบตัวหญิงสาวในเมืองฉางโจว เธอยืนยันว่าชายหนุ่มที่ปรากฏในคลิปนั้นเป็นสามีของเธอ แต่ไม่ได้รับบาดแผลจากการทำร้ายร่างกายในครั้งนั้น และแทนที่จะแจ้งดำเนินคดีกับสามี เธอกลับนิ่งเฉยและยังบอกอีกว่าเธอพยายามจะแกไขความสัมพันธ์ของพวกเขาอยู่ หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีน ก็มีความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้จากชาวเน็ตในจีนผุดขึ้นมามากมาย เช่น “ดูเหมือนหญิงสาวจะไม่ได้ความเคารพเลยในประเทศจีน ผู้ชายคนนั้นตบเธออย่างแรงมาก แม้เธอจะมีภรรยาของเขาแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำแบบนั้น” “ทำไมพวกเขามีเวลามาถ่ายวิดีโอ แต่ไม่มีเวลาที่จะไปหยุดผู้ชายคนนั้นหรือโทรศัพท์หาตำรวจล่ะ? ใครก็ตามที่ถ่านคลิปนี้มันช่างน่ารังเกียจเหลือเกิน” “มันน่ากลัวมาก ไม่มีใครแสดงตัวที่จะปกป้องเธอเลยเหรอ?? ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย (ใครดูไม่ได้กดที่นี่นะ) This video showing a woman being slapped and stuffed inside the…
-
หนุ่มจีนชอบ ‘เครื่องบิน’ ตั้งแต่เด็ก แม้จะไม่ได้เรียนโดยตรง แต่ศึกษาและสร้างมันได้ในที่สุด!!!
ชาวจีนถือได้ว่าเป็นชนชาติหนึ่งที่มีความมุมานะมากที่สุดชาติหนึ่งเลยก็ว่าได้ อย่างเช่นที่เรามักจะได้เห็นชาวจีนประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจอะไรหลายๆ อย่าง หรือเป็นคนดังมีชื่อเสียงในต่างประเทศก็มีให้เห็นมาแล้วมากมาย และหากพวกเขาอยากจะมีเครื่องบินเป็นของตัวเอง โดยไม่ต้องไปเสียงเงินเป็นล้านล่ะ? พวกเขาก็สามารถประดิษฐ์ขึ้นมาได้เองเช่นกัน วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับหนุ่มจีนคนหนึ่งที่ชื่อว่านายเซี๊ยะ บาวกัง ผู้ชื่นชอบเครื่องบินเป็นชีวิตจิตใจ นายเซี๊ยะอาศัยอยู่ในเมืองเฮงชุ่ย มณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน ในตอนที่ยังเป็นเด็ก เขาฝันมาตลอดว่าจะได้ออกบินไปพร้อมกับเครื่องบิน แต่เมื่อเขาอายุได้ 18 ปี ด้วยความจำเป็นในชีวิต เขาไม่ได้เรียนต่อในสาขาที่เขาใฝ่ฝัน จึงก็เริ่มหันหน้าเขาสู่วงการธุรกิจและเปิดร้านขายของเป็นของตัวเอง หลายคนคิดว่า ฝันเรื่องการสร้างเครื่องบินถูกทิ้งลงถังขยะไปแล้ว… แต่ถึงแม้เวลาจะผ่านไปนาน เขาก็ไม่เคยลืมความฝันในวัยเด็กของตัวเอง เขาจึงตัดสินใจทิ้งธุรกิจของตัวเอง แล้วอุทิศเวลาทั้งหมดให้กับการศึกษาเรื่องการบิน การประกอบเครื่องบิน และอีกหลายๆ อย่างเกี่ยวกับการบิน จนในปี 2009 นายเซี๊ยะก็ได้สร้างเครื่องบินประกอบด้วยตัวของเขาเอง และนำมันออกทดสอบ แต่ปรากฏว่าเจ้าเครื่องบินนั่นยังไม่สมบูรณ์ดีพอ ทำให้ไม่สามารถขึ้นบินได้แบบที่เขาตั้งใจไว้ แต่เขาก็ยังไม่ลดละความพยายาม จึงได้ศึกษาการประกอบเครื่องบินไปเรื่อยๆ ลำที่ 2 ที่ 3 และอีกมากมาย จนเมื่อเดือนที่ผ่านมา เขาได้ออกแบบเครื่องบิน (ซึ่งน่าจะเรียกว่าเฮลิคอปเตอร์มากกว่า) และประกอบมันเองเป็นลำที่ 8 (ที่ทุกคนกำลังเห็นอยู่นี้) ปรากฏว่ามันสามารถนำขึ้นบินได้จริงๆ มันสามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และบินได้ไกลถึง 400 กิโลเมตรเลยทีเดียว แม้การประดิษฐ์เครื่องบินจะดูไม่ใช่เรื่องยากอะไร แต่ต้องบอกเลยว่าการจะทำให้มันสมบูรณ์จนบินได้นั้น ต้องได้รับการออกแบบที่ถูกหลักวิศวกรรมด้วย เพราะอย่างชายคนนี้เองก็พยายามจะสร้างเครื่องบินเช่นกัน…
-
คุณพระ!! สาวปล่อย ‘งู’ กลับเข้าป่ากว่า 900 ตัว เชื่อยิ่งปล่อยมากยิ่งได้บุญมาก!?
การที่เรามีจิตใจเมตตา ชอบทุำบุญ ถือเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่คงจะต้องพิจารณากันหน่อยว่าบุญที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่ เพราะหากบุญที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง คุณก็อาจโดนประณามแบบหญิงสาวคนนี้ก็ได้ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้รายงานว่าหญิงสาวรายหนึ่งจากเมืองนานกิง มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ได้ทำบุญโดยการปล่อยงูกว่า 900 ตัว กลับเข้าไปในป่า โดยเธอเชื่อว่ายิ่งปล่อยไปมากเท่าไหร่ก็จะได้บุญมากเท่านั้น หลังจากที่หญิงสาวชาวจีนรายนี้ได้ปล่อยงูออกไปแล้ว เธอก็ได้ถ่ายภาพมาแชร์ลงในเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเว่ยป๋อ แต่ปรากฏว่าเธอกลับถูกชาวเน็ตรุมจวกอย่างรุนแรง โดยบอกว่าการกระทำของเธอเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป ไม่นึกถึงสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยบริเวณนั้นที่จะกลายเป็นอาหารของเหล่างู จนเกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ตามมา นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หญิงสาวคนนี้ได้ปล่อยสัตว์กลับสู่ป่า เพราะก่อนหน้านี้เธอได้เข้าร่วมกับกลุ่มที่มีชื่อว่า “Fang Sheng” และกลุ่มปล่อยสัตว์อีก 2-3 กลุ่ม เพื่อช่วยกันปล่อยสัตว์กลับสู่ผืนป่า เธอทำแบบนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว กลุ่มเหล่านี้มักจะพากันปลดปล่อยสัตว์ที่ถูกขังไว้ในกรง ตั้งแต่เต่าไปจนถึงตัวเม่นแคระ ในทุกๆ 200 วัน ตามรายงานไม่ได้บอกว่าหญิงสาวและกลุ่มของเธอนำงูไปปล่อยที่ไหนกันแน่ แต่จากการคาดคะเนน่าจะเป็นเขตตูเจียงเอี้ยน มณฑลเสฉวน แต่เธออ้างว่านำงูเหล่านี้ไปปล่อยในพื้นที่รกร้างแถวมณฑลเจียงซูกับมณฑลอานฮุย ซึ่งตอนนี้ทางเทศบาลของเมืองนานกิงได้เร่งตรวจสอบเพื่อหาสถานที่ที่แท้จริงแล้ว . ปล่อยอะไรก็ไม่ปล่อย ดันมาปล่อยงูเนี๊ยะนะ!? ที่มา l8gp , CCTVNews
-
รองเท้า Nike ในจีนโดนกว้านซื้อเรียบ เหตุคนจีนเชื่อว่าสัญลักษณ์ของแบรนด์ช่วยให้โชคดี!?
ประเทศจีนเป็นประเทศหนึ่งที่เชื่อเรื่องโชคเรื่องดวงมาก ไม่ว่าจะเป็นหวงจุ้ย โหงวเฮ้ง และการกระทำต่างๆ ที่พวกเขาทำแล้วเชื่อกันว่าโชคดี (อันที่จริงก็ไม่ได้ต่างจากของไทยเท่าไหร่) ล่าสุดดูเหมือนตอนนี้พวกเขาจะแห่กันไปซื้อรองเท้าบางยี่ห้อ เพื่อช่วยเสริมสร้างความโชคดีให้กับพวกเขาด้วย… เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนที่ผ่านมา สำนักข่าวท้องถิ่นของประเทศจีนได้รายงานว่าตอนนี้ร้านค้าแบรนด์ Nike ทางตอนเหนือของประเทศจีน กำลังถูกชาวบ้านรุมกันแย่งซื้อรองเท้า เพราะว่าพวกเขามีความเชื่อกันว่าสัญลักษณ์ “ถูกต้อง” บนรองเท้าจะช่วยเสริมสร้างความโชคดี ตามรายงานบอกว่าร้าน Nike แห่งหนึ่งในมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน ได้ติดป้ายโฆษณาว่า “สวม Nike โชคดีกับการสอบ” ซึ่งสัญลักษณ์ “สวูช” ดันไปคล้ายกับสัญลักษณ์ถูกต้องพอดี ทำให้เหล่านักศึกษาเชื่อว่าจะทำข้อสอบได้ถูกต้อง ทั้งนี้ทางสำนักงานใหญ่ของ Nike ได้ออกมาปฏิเสธว่านี่ไม่ได้เป็นแคมเปญที่พวกเขาคิดขึ้น แต่เป็นแคมเปญที่สาขาย่อยคิดขึ้นมาเอง ทางผู้ช่วยฝ่ายขายของสาขานี้ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าหลังจากที่ติดป้ายโฆษณาที่ว่านี้แล้ว ทำให้ยอดขายพุ่งกระฉูดสุดๆ มีเหล่านักศึกษาแห่กันมาซื้อรองเท้ามากมาย นอกจากเรื่องของสัญลักษณ์ “สวูช” แล้ว เหล่านักศึกษายังใส่ใจเรื่องสีสันของผลิตภัณฑ์ด้วย อย่างเช่นสีแดงจะหมายถึงการทำข้อสอบได้คะแนนสูงสุด ส่วนสีเขียวหมายถึงสอบผ่าน และสีน้ำเงินหมายถึงทำคะแนนได้มากกว่าเพื่อนๆ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นเพียงความเชื่อล่ะนะ ส่วนจะทำได้มากหรือน้อย #เหมียวฟิ้นคิดว่าคงเป็นผลมาจากการอ่านหนังสือมากกว่า ที่มา chinadailyasia
-
มาเฟียจีนถูกปล่อยจากคุก ลูกน้องตั้งแถวรับเพียบ จัดเลี้ยงยิ่งใหญ่…. 3 วันต่อมาโดนจับเข้าคุกอีก -*-!!
แม้ว่าเรือนจำจะเป็นสถานที่ที่เอาไว้กักขังเหล่าคนไม่ดี ที่กระทำความผิดต่างๆ นานา แต่ที่นั่นก็ยังเป็นโอกาสให้คนบางคนสามารถกลับตัวกลับใจแล้วออกมาใช้ชีวิตในสังคมได้ไหมอีกครั้ง แต่ถึงกระนั้นบางคนก็ยังออกมาก่อเหตุซ้ำๆ ซากๆ อยู่ดี… เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้รายงานว่า เฉิง โยวเจ๋อ เจ้าพ่อแก๊งมาเฟียวัย 52 ปีในมณฑลซานซี ประเทศจีน ได้ถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำจิ๋นเชง โดยในวันปล่อยตัวนั้นมีลูกน้องมายืนรอต้อนรับเขามากมาย และเพื่อให้เป็นเกียรติและศักดิศรีเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ เหล่าลูกน้องจึงได้เตรียมขบวนเพื่อต้อนรับอย่างอลังการที่หน้าเรือนจำ มีรถยนต์หรูมาจอดรับทั้ง แลนด์โรเวอร์ 20 คัน เบ๊นซ์ 30 คัน และรถฮัมเมอร์หุ้มเกาะอีก 6 คัน มีการจุดพลุอย่างเอิกเกริก รวมไปถึงจัดงานเลี้ยง 100 โต๊ะที่โรงแรม 5 ดาวให้เขาด้วย แต่การเฉลิมฉลองให้กับเจ้าพ่อผู้ยิ่งใหญ่ก็มีได้ไม่นานนัก เพราะหลังจากนั้น 3 วัน เขาก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมอีกครั้งในข้อหา “สร้างความรบกวนให้กับสังคม” และถูกโยนเข้าเรือนจำพร้อมกับลูกสมุนอีก 9 คน นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งแรกๆ เพราะก่อนหน้านี้นายเฉิงมีประวัติมาแล้วโชกโชน ย้อนกลับไปในปี…
-
สาวจีนปิ๊งไอเดีย เปิดร้านอาหารในคอนเซ็ปต์ [อาหาร+เซ็กส์] จนเกิดเป็นร้านแนวๆ แบบนี้..!!
ว่ากันว่ามีอยู่ 2 สิ่งที่คนเกือบทั้งโลกชอบเหมือนๆ กันก็คือ อาหารและเซ็กส์ แต่ก็ยังไม่เคยมีใครนำเอา 2 สิ่งนี้มารวมกันสักที หญิงสาวชาวจีนรายหนึ่งจึงปิ๊งไอเดีย ทำเป็นร้านอาหารในธีม S&M (ซาดิซม์และมาโซคิสม์) ขึ้นมาซะเลย ร้านอาหารที่#เหมียวฟิ้นจะพาไปชมมีชื่อว่าร้าน Ke’er (ในภาษาจีนแปลว่า “หอย”) ร้านนี้เป็นไอเดียของหญิงสาวที่ชื่อว่าลูลู่ วัย 27 ปี ตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ร้านนี้โด่งดังเพราะว่ามีการนำเอาสัญลักษณ์ทางเพศมาประดับตกแต่งร้าน ตั้งแต่ผ้ากันเปื้อนของเด็กเสิร์ฟที่มีหน้าปกปลอมแปะอยู่ แก้วน้ำรูปหน่มหน๊ม หรือหุ่นเปลือยของหญิงสาวที่แปะไว้ที่กำแพง ในขณะที่ลูลู่จัดการกับธุรกิจหน้าร้าน ทางด้านพ่อของเธอก็ช่วยกิจการของลูกด้วยการทำอาหารอยู่ในครัว แม้ว่าตอนแรกจะมีการถกเถียงกันเล็กน้อย ถือแนวทางในการตกแต่งร้านอาหาร แต่คุณพ่อของเธอก็เริ่มชินและตินนี้ก็แฮปปี้กับการตกแต่งร้านแนว “หื่นๆ” แบบนี้ไปแล้ว ลูลู่ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “‘อาหารและเซ็กส์คือความต้องการพื้นฐานของมนุษย์’ คำพูดเหล่านี้ยังคงไม่เคยเปลี่ยนแปลงตลอด 5,000 ปี ‘ปลดปล่อยสัญชาตญานของคุณออกมา’ และ ‘ปลดปล่อยพันธนาการของคุณ’ คือ 2 คอนเซ็ปต์ที่เราตั้งไว้สำหรับร้านอาหารแห่งนี้” . . . . . มีอุปกรณ์ให้ลูกค้าได้ลองเล่น? .…
-
หลักฐานยืนยันว่าคนจีนสามารถทำได้ทุกอย่างจริงๆ แม้กระทั่งตั้งวงกินข้าวในรถฟใต้ดิน
มีวิธีมากมายหลายร้อยรูปแบบ ที่จะทำให้คุณกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน แค่กินข้าวโพดโดยใส่สว่านแล้วปล่อยให้ผมของคุณไปพันเข้ากับข้าวโพดจนผมหลุดออกไปเป็นกระจุกก็ดังได้ หรือจะโชว์กินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนไฟลุกท่วมตัวคุณก็สามารถดังได้เช่นกัน ล่าสุดดูเหมือนจะมีดารา (ออนไลน์) โผล่ขึ้นมาเจิดจรัสอีกคนแล้วล่ะ แต่รายนี้ดูจะเล่นยากไปไหน เพราะพวกเขาถึงกับตั้งโต๊ะกินข้าวในรถไฟใต้ดินเลยทีเดียว!? เมื่อวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนได้มีการส่งต่อภาพของกลุ่มคนในรถไฟฟ้าใต้ดินในมณฑลกวางซู ประเทศจีน ที่พากันไปตั้งโต๊ะกินข้าว พร้อมหยิบอาหารหลายอย่างมานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย ในชั่วโมงที่สุดจะเร่งรีบ เท่านั้นยังไม่พอ พวกเขาได้ถ่ายคลิปวิดีโอแล้วถ่ายทอดสดให้เพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ได้ดูกัน จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้านลบต่างๆ มากมาย ถึงความเหมาะสมในการเล่นแผลงๆ แบบนี้ หนึ่งในความเห็นจากเว็บไซต์ Weibo ได้แสดงความคิดเห็นว่า “ช่างเป็นการกระทำของคนที่เห็นแก่ตัวอะไรขนาดนี้ ในการแสดงของพวกคุณ คุณแสดงให้เห็นเลยว่าคุณไม่ได้ห่วงใยคนอื่นๆ ในรถไฟเลย” และ “ไม่ว่ามันจะน่ารังเกียจขนาดไหน แต่บางคนก็พยายามจะทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองโด่งดังให้ได้” อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนทั้งหมดได้ถูกไล่ออกจากรถไฟโดยเจ้าหน้าที่ประจำสถานีทันที เพราะมีกฎอยู่ว่าห้ามนำของกินขึ้นมารับประทานบนรถไฟฟ้า ที่มา shanghaiist
-
จีนทำที่จอดรถกว้างพิเศษให้ ‘หญิงสาว’ ใช้บริการ ชาวเน็ตชี้เป็นที่จอด “เหยียดเพศ”
ตามห้างสรรพสินค้าใหม่ๆ เริ่มจะมีที่จอดรถสำหรับผู้หญิงไว้คอยบริการ นั่นก็เพื่อคอยให้บริการให้สาวๆ โดยทางห้างจะมีข้อกำหนดว่ารถคันนั้นจะต้องมีผู้หญิงเป็นคนขับมาจอด อาจจะขับมาคนเดียวหรือมีผู้โดยสารก็ได้ (แต่ควรจะเป็นผู้หญิง) หรือหากเป็นเด็กชายก็ควรจะมีอายุไม่เกิน 12 ปี ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยเพิ่มการดูแลสอดส่องให้กับสาวๆ ให้รู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และล่าสุดที่ประเทศจีนก็เริ่มทำที่จอดรถแบบนี้แล้วเหมือนกัน แต่จุดประสงค์อาจจะแตกต่างไปสักเล็กน้อย เพราะที่นั่นเขามีไว้สำหรับหญิงสาวที่ขับรถไม่คล่องและไม่ถนัดในการเข้าเกียร์ถอยนั่นเอง เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในมณฑลหางโจว ประเทศจีน ได้ทำที่จอดรถสำหรับหญิงสาว ที่มีขนาดความกว้างกว่า 1.5 เท่าของช่องจอดรถขนาดปกติ โดยทาสีบนพื้นเป็นสีชมพูพร้อมกับสัญลักษณ์ผู้หญิง เพื่อให้สังเกตเห็นได้ง่ายๆ ทางผู้จัดการของปั๊มน้ำมันกล่าวว่าที่จอดรถนี้มีไว้สำหรับหญิงสาวที่ขับรถไม่คล่อง ตอนนี้มีการจัดทำขึ้นมาเพียง 8 ช่องจากพื้นทั้งหมด 370 ช่อง แต่หากการทำที่จอดรถแบบนี้ไปได้สวยพวกเขาก็จะทำมันเพิ่มขึ้นไปอีก จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้หลายคนเข้าใจไปว่า หรือนี่จะเป็นเพราะหญิงสาวชาวจีนขับรถได้แย่มากจนต้องเพิ่มขนาดของที่จอดรถเลยหรือ? โครงการทั้งหมดนี้ถูกชาวเน็ตในจีนวิพากษ์วิจารณ์กันไปว่ามันดูเหมือนเป็นการเหยียดเพศไม่มีผิด ความเห็นในโลกออนไลน์พากันวิจารณ์เกี่ยวกับที่จอดรถของหญิงสาวไปหลากหลายมาก อย่างเช่น @潘大官人啊 “พวกปกป้องสิทธิสตรีอยู่ที่ไหนกันหมด? นี่มันคือการเลือกปฏิบัติทางเพศชัดๆ” @一生顽主 “ถ้าพวกคุณจะเลือกปฏิบัติกันขนาดนี้ ทำไมเราไม่หาที่จอดกว้างๆ มาให้พวกเขาจอดตั้งแต่ตอนสอบใบขับขี่เลยล่ะงั้น?” แต่ในขณะเดียวกันก็มีบางความเห็นพยายามแย้งว่านี่ไม่ใช่การเลือกปฏิบัติ เป็นเพียงข้อเสนอที่จะทำตามหรือไม่ก็ได้ อย่างเช่น @吖兴快跑 “พวกเขาไม่ได้บอกให้ผู้หญิงไปจอดรถตรงนั้น พวกเขาแค่ยื่นข้อเสนอให้กับผู้หญิงที่จอดรถไม่เก่งเท่านั้น…
-
นวัตกรรมใหม่จากจีน “หุ่นจอดรถ”!? หมดปัญหาวนหาที่จอดไม่ได้!!
หลายครั้งหลายคราที่เหล่านักช็อปมักจะต้องเสียเวลาไปกับการวนรถในห้างสรรพสินค้าเพื่อหาที่จอดรถเหมาะๆ จนสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ จนบางครั้งบางคนเลือกที่จะจอดรถซ้อนคัน ทำให้รถที่จอดอยู่ก่อนแล้วเข้าออกลำบาก แต่ปัญหาเหล่านั้นกำลังจะหมดไปในเร็ววันนี้ล่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้บริษัท ยี่เฟิง จากเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ได้เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ที่ชื่อว่า Automated Car Parking (ที่จอดรถอัตโนมัติ) เป็นหุ่นยนต์ที่จะช่วยให้คุณสามารถหาที่จอดรถได้อย่างสะดวกสบาย โดยหลักการทำงานของหุ่นยนต์ที่จอดรถก็คือ มันจะทำงานหลังจากที่ผู้ใช้เสียบการ์ดและกดปุ่มล็อครถเข้ากับหุ่นยนต์ที่จอดรถ จากนั้นหุ่นยนต์ก็จะนำรถของคุณไปจอดในซองที่ว่าง และเมื่อคุณกลับมาที่ลานจอดรถ เจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ก็จะนำรถของคุณมาส่งให้ถึงที่ ภายในเวลาไม่ถึง 2 นาทีเลยด้วย . ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า อัจฉริยะ++บริษัทยี่ เฟิง เทคโลโนยี ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ประสบความสำเร็จในการทดสอบใช้หุ่นจอดรถ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในอาคารจอดรถที่มีความทันสมัยที่สุดในโลก โดยหุ่นยนต์ที่เป็นแผ่นรองรับรถยนต์จะนำรถไปจอดหลังจากที่ผู้ใช้รเสียบการ์ดและกดปุ่มล็อคตัวรถเข้ากับแท่นจอด และหุ่นยนต์จะนำมารถส่งคืนหลังจากที่ได้รับคำสั่งภายใน 2 นาที คาดสามารถเปิดให้ใช้งานจริงได้ในเดือนตุลาคมนี้ #ข่าวต่างประเทศช่อง8 โพสต์โดย ข่าวช่อง8 บน 26 พฤษภาคม 2016 ทั้งนี้ทางผู้ผลิตคาดการณ์กันว่าจะเริ่มใช้งานเจ้าหุ่นยนต์จอดรถอัตโนมัติจริงๆ ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ล่ะ หวังว่ามันจะประสบความสำเร็จและเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่พวกเราได้นะ ที่มา ข่าวช่อง8
-
อาเมซิ่งเจงๆ!! ปรากฏการณ์ ‘สายรุ้ง 2 เส้น’ ความงามทางธรรมชาติ ที่ได้มีให้เห็นทุกวัน…
แม้ว่าประเทศจีนจะมีเรื่องแปลกๆ (ด้านลบ) มาให้เราเห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่ประเทศเดียวกันนี้ก็ชอบมีเรื่องน่าประหลาดใจมากให้เราตื่นตาตื่นใจตลอด อย่างล่าสุดมีชาวเมืองในกรุงปักกิ่งกว่าค่อนเมืองพบเห็นสายรุ้ง 2 เส้นพาดผ่านอยู่บนท้องฟ้า ทำให้เกิดเป็นปรากฏการณ์สุดอัศจรรย์ทีเดียว เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเกิดภาพสายรุ้งซ้อนกัน 2 เส้น ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ก่อเกิดภาพสวยงามคล้ายกับในหนังแฟนตาซี ตามรายงานบอกว่าหลังจากที่เกิดปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวเมืองจำนวนมากพากันถ่ายภาพสายรุ้งและโพสต์ลงไปในเครือข่ายสังคมออนไลน์เต็มไปหมด ทั้งนี้การเกิดปรากฏการณ์สายรุ้งนั้นเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีฝนหยุดตกหมาดๆ โดยแสงจากดวงอาทิตย์จะตกลงมากระทบกับละอองน้ำในอากาศ ทำให้เกิดการหักเหของแสงและกลายเป็นแถบแสงสีต่างๆ อยู่บนท้องฟ้า ซึ่งปรากฏการณ์สายรุ้ง 2 เส้นแบบนี้จะเกิดจากการสะท้อนแสงซ้ำภายในเม็ดฝน จนเกิดเป็นสายรุ้งอีกเส้นที่มีสีซีดกว่าเส้นหลัก อย่างไรก็ตามปรากฏการณ์รุ้งกินน้ำ 2 เส้นแบบนี้ไม่ได้มีแค่ในต่างประเทศเพียงอย่างเดียว แต่ในไทยเราก็เกิดขึ้นอยู่หลายครั้งนะ แต่ชาวบ้านบางส่วนมักจะมองว่าเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติซะมากกว่า …
-
พาส่องงานแต่งเศรษฐีจีน เดี๋ยวนี้ไม่ใช้รถบ่าวสาวแล้ว ระดับนี้ต้องใช้ ‘เครื่องบินเจ็ท’ !!!
หลายครั้งที่เรามักจะได้เห็นการจัดงานแต่งงานของชาวจีน ที่มักจะมีงานแต่งงานที่เอิกเกริก บางคนมีขบวนรถหรูแห่ไปทั่ว และมีญาติๆ มาร่วมงานกันคับคั่ง จนบางครั้งดูเหมือนเป็นการจัดงานที่สิ้นเปลืองเกินไป แต่วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ ไปชมการจัดงานแต่งที่เรียบหรูดูแพงของคู่บ่าวสาวในมณฑลหางโจว ประเทศจีน ที่ลงทุนจัดงานแต่งบนเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเลยทีเดียว!? ตามรายงานบอกว่าฝ่ายเจ้าสาวเป็นทายาทของผู้ถือหุ่นบริษัท Sany บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องจักรกลรายใหญ่ของจีน ร่ำรวยถึงขั้นที่ติด 1 ใน 500 บริษัทที่มีทรัพย์สินมากที่สุดในจีนเลยทีเดียว จึงไม่น่าแปลกใจล่ะนะที่งานของพวกเขาจะออกมาเลิศหรูอลังการเหมือนกับการถ่ายทำมิวสิควิดีโอของศิลปินสักวงหนึ่ง . ในงานนี้มีการจัดโต๊ะเพื่อรองรับแขกประมาร 130 โต๊ะด้วยกัน และในงานยังประดับประดาไปด้วยดอกไม้เป็นพันๆ ดอก สวยงามราวกับในหนังเลย แหม่ ถ้ามีแบบนี้บ้างสักครั้งคงจะดีมากเลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
พาทัวร์ “หุบเขาแอปริคอท” หุบเขาสีชมพูในประเทศจีนที่สวยงามหาได้ยากยิ่ง
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน แม้ว่าจะมีข่าวเสียๆ หายๆ ของผู้คนมาให้เราเห็นแบบรายวัน (นั่นก็เพราะว่าบ้านเมืองของพวกเขาเต็มไปด้วยผู้คนที่หลากหลายและยากต่อการควบคุม) แต่ที่นั่นก็ยังมีภูมิประเทศสวยๆ งามๆ รอให้นักเดินทางไปสัมผัสอยู่อีกไม่น้อยเลยนะ วันนี้#เหมียวฟิ้นจะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยังทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ในมณฑลซินเจียง พื้นที่ที่อยู่ห่างไกลตัวเมือง ที่นั่นเป็นที่ตั้งของหุบเขาแอปริคอทที่ปลูกเต็มภูเขา จนเมื่อดอกของมันเบ่งบานทำให้เกิดเป็นภาพสุดวิจิตรราวกับในเทพนิยายก็ว่าได้ เว็บไซต์ Boredpanda ได้ให้ข้อมูลไว้ว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ในเขตการปกครองเต้อเจียน ติดกับชายแดนของคาซัคสถาน หุบเขาแอปริคอทแห่งนี้มีมานานหลายปีแล้ว มันดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางไปชมภูเขาสีชมภูด้วยตาของพวกเขาเอง หากคุณได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วอยากจะขอเดินทางไปชมด้วยตัวเองล่ะก็ เหมียวฟิ้นจะบอกให้ว่าดอกไม้เหล่านี้จะผลิบานในช่วงต้นเดือนมิถุนายนไปจนถึงช่วงปลายเดือนกันยายน รู้งี้แล้วก็รีบจองตั๋วเครื่องบินแล้วแพ็คกระเป๋ารอเลยดีไหมล่ะ? . . . . . . . . . โห!! ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วยนะเนี๊ยะ ที่มา boredpanda
-
เจ้าสาวจีนถูกเจ้าบ่าวยกเลิกงานแต่งกลางคัน เลยนำเงินทั้งหมดมาเลี้ยงอาหารแก่เด็กๆ แทน
แม้ว่าสาวๆ จะหวังให้งานแต่งงานออกมาสวยหรูและเป็นจุดหมายปลายทางระหว่างเธอและว่าที่สามีในอนาคต แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะสมหวังนะ แม้ว่าเธอคนนั้นได้วางแผนงานแต่งมาแล้วเรียบร้อยก็ตาม… เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เปิดเผยเรื่องราวเศร้าๆ ปนความสุขของ Yiru Sun ว่าที่เจ้าสาวชาวจีนที่เตรียมจะแต่งงานกับคู่หมั้นหนุ่มในอีกไม่นาน แต่งานแต่งก็ตั้งถูกยกเลิกไปซะก่อน Yiru เผยว่าเธอได้วางแผนกับคู่หมั้นของเธอไว้ว่าพวกเขาจะทำงานแต่งงานให้ออกมาหรูหราแฟนซี ซึ่งทั้งหมดนี้เธอต้องเสียเงินกว่า 279,000 บาท แต่สุดท้ายเธอกลับมีปัญหาเรื่องสินสมรสก่อนแต่งงานกับคู่หมั้น ทำให้ทั้งคู่ต้องยกเลิกงานแต่งไปอย่างน่าเสียดาย แทนที่จะยกเลิกงานไป Yiru กลับตัดสินใจที่จะไม่ทำให้อาหาร เครื่องดื่มและดีเจที่จ้างมาต้องเสียเปล่า เธอเลยเปลี่ยนงานแต่งให้กลายเป็นงานเลี้ยงปาร์ตี้แก่เด็กๆ ผู้ยากไร้แทนซะเลย เธอได้เชิญคุณแม่วัยรุ่น เด็กๆ จากครอบครัวรายได้ต่ำ และครอบครัวอุปถัมภ์ต่างๆ เข้ามาในงานของเธอ “มันดีมากๆ เลยค่ะ ฉันสามารถนั่งอยู่ที่บ้าน เศร้าโศกเสียใจ และเอาแต่คิดว่า ‘นี่ควรจะเป็นงานแต่งงานของฉัน’ ก็ได้” แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้เอาแต่เสียใจอย่างที่บอก ปัจจุบัน Yiru ทำงานเป็นรองประธานและนักวิเคราะห์ของบริษัทประกันชีวิตนิวยอร์คไลฟ์ เธอได้เอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานของเธอ เพื่อให้งานปาร์ตี้เด็กๆ กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ลองชมคลิปนางฟ้าใจบุญได้ที่ด้านล่างเลย ภายในงานปาร์ตี้ของเธอมีทั้งกิจกรรมการเพ้นท์หน้า การดัดลูกโป่ง…
-
อายุไม่ใช่ปัญหา คุณตาชาวจีนฝึกเต้นรูดเสากว่า 3 ปี แม้อายุจะปาไป 67 แล้วก็ตาม!?
ในปัจจุบันเราเริ่มเห็นสาวๆ หันมาเต้นรูดเสากันมากขึ้นเพราะเห็นแล้วว่ามันไม่ใช่กิจกรรมโป๊เปลือยที่ทำกันในที่อโคจรเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นกีฬาที่เสริมสร้างสุขภาพที่ดีได้ด้วย แต่ก็มีผู้ชาย (สูงอายุ) บางคนที่อยากจะลองเต้นรูดเสากับเขาดูบ้าง…แล้วก็ทำได้ดีซะด้วยนะ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 พฤษภาคม สำนักข่าว CCTVNews ได้เผยแพร่ภาพของ Zhang Xida คุณตาชาวจีนวัย 67 ปีที่หลงไหลในการเต้นรูดเสามากๆ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 เขาเริ่มสนใจการเต้นรูดเสา เลยฝึกฝนร่างกายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ต่อมาคุณตา Zhang ก็เริ่มเชี่ยวชาญการรูดเสาจนได้ฉายาว่า “ปะป๊ารูดเสา” คุณตาเผยเคล็ดลับว่าเขาต้องฝึกฝนร่างกายวันละ 6 ชั่วโมงตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จนตอนนี้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการรูดเสาไปแล้ว คุณตาสามารถเอาชนะร่างกายและวัยของตัวเองได้ด้วยการเคลื่อนไหวที่ท้าทาย แม้ว่าตอนนี้จะมีอายุปาเข้าไป 60 กว่าแล้ว แต่ในหัวใจของเขาก็ยังคงเป็นวัยรุ่นอยู่เสมอ “ไม่มีคำว่าสายไปที่จะเริ่มต้นฝึกฝนตราบเท่าที่คุณยังมีฝัน” คุณตากล่าว เรื่องวัย เรื่องเพศ หรืออะไรก็ตาม ไม่ได้เป็นตัวกำหนดความชอบและสิ่งที่เราอยากทำนะ ฉะนั้นชอบอะไร…
-
ตำรวจสาวเจอไล่ออก หลังถ่ายเซลฟี่สุดสยิวในเครื่องแบบ ให้สื่อสังคมออนไลน์ได้ชมกัน
ตั้งแต่มีสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คมา ดูจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นๆ อยู่ตลอดเวลา (ส่วนใหญ่ก็เกิดมาจากการใช้มันแบบผิดๆ นี่แหละ) ล่าสุดมีตำรวจสาวถ่ายภาพเซลฟี่สุดสยิวมาแชร์ให้โลกออนไลน์ดู จากนั้นเธอกลับถูกไล่ออกทันที เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า ตำรวจหญิงไม่ทราบชื่อวัย 21 ปีในมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ที่ทำหน้าที่เป็นตำรวจกองกำลังเสริม ได้ถ่ายภาพเซลฟี่วับๆ แวมๆ ในชุดเจ้าหน้าที่ตำรวจลงในเว็บไซต์ Weibo จากนั้นภาพของเธอก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่าการแต่งตัวของเธอดูจะเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เช่นความเห็นของคุณที่ใช้นามแฝง Uche Echi บอกว่า “นี่เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่เลยสำหรับเธอ เธอเอาหน้าที่การบังคับใช้กฎหมายมาเรียกชื่อเสียงให้กับเธอ” แต่ความเห็นอีกฝั่งหนึ่งกลับมองว่านี่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรเช่นความเห็นของคุณ Morgane Borrel บอกว่า “นี่มันคือความเซ็กซี่ที่บริสุทธิ์ หากภาพที่เธอนั่งอยู่บนพื้นแล้วเซลฟี่เป็นความไม่เหมาะสม คนส่วนมากก็ถ่ายภาพที่ไม่เหมาะสมทั้งนั้นแหละ” สุดท้ายเธอถูกทางต้นสังกัดของเธอไล่ออกจากการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้เป็นบทเรียนแก่คนอื่นๆ ถึงการแสดงออกอย่างเหมาะสม แต่ถึงเธอจะลบรูปเหล่านี้ออกไปแล้ว กลับมีคนเซฟภาพของเธอไปโพสต์ต่อแบบไม่จบไม่สิ้นอยู่ดี ที่มา dailymail
-
สาวจีนออกมาชูป้าย ‘ต้องการสามี’ หลังป่วยเป็นมะเร็ง โดนผัวทิ้งพร้อมหอบลูกและเงินก้อนสุดท้ายไปด้วย
ขอบอกเลยว่าเรื่องที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้มันดราม่าซะยิ่งกว่าละครหลังข่าวอีก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ป่วยเป็นมะเร็ง แต่แทนที่สามีจะอยู่เป็นกำลังใจและสู้ไปพร้อมๆ กัน กลับทิ้งเธอไปดื้อๆ ซะงั้น!? เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาง Ding Zhen วัย 28 ปี จากมณฑลซานตง ประเทศจีน หญิงสาวผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งในเม็ดเลือดขาวและต้องเข้ารับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก แต่ที่น่าเจ็บใจไปกว่านั้นก็คือ สามีของเธอได้ทิ้งเธอไปแถมยังกระเตงลูกชายของเธอพร้อมกับหอบเงินทั้งหมดที่มีไปด้วย สาเหตุที่สามีของเธอทำแบบนี้ก็เพราะคิดว่าการรักษาโรคมะเร็งต้องใช้เงินอีกมาก จึงเลือกที่จะแก้ปัญหาโดยการหนีไปคนเดียว เมื่อนาง Ding ทราบเรื่องก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะโรคร้ายคงไม่รอให้เธอตามสามีเจอ เธอจึงแต่งชุดเจ้าสาวออกมายืนกลางถนนแล้วชูป้ายตามหาสามีที่หายไป หวังให้กลายเป็นที่สนใจของคนที่ผ่านไปผ่านมาและช่วยเธอตามหาสามีของเธอ นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าสามีของเธอพยายามจะขอหย่ากับเธอถึง 3 ครั้ง หลังจากที่รู้ว่าเธอป่วยเป็นมะเร็ง “หลังจากที่ฉันป่วย สามีของฉันก็ไม่ได้ให้เงินฉันค่ารักษาพยาบาลฉันเลย” เธอกล่าว นอกจากนี้สามีของเธอยังเอาเงินก้อนสุดท้ายของครอบครัว จำนวน 15,000 หยวน หรือประมาณ 83,730 บาท ไปด้วย ทำให้ตอนนี้เธอมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายและค่ารักษามาก เธอหวังแค่ว่าจะได้เจอกับลูกชายตัวน้อยของเธออีกครั้ง เพราะเขาเปรียบเสมือนพลังที่ทำให้เธออยากต่อสู้กับโรคนี้ต่อไป ขอให้เจอสามีและลูกเร็วๆ…
-
ใครอยากไปเที่ยวจีนต้องอ่าน!! ชมการรีวิวอาหารจีนที่เข้าใจง่ายและกวนโอ๊ยที่สุดในปฐพี!!
หากในเร็วๆ นี้คุณมีคิวที่จะต้องเดินทางไปยังประเทศจีน ไม่ว่าจะไปทำธุรกิจ ไปเที่ยว ไปศึกษาต่อ หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วกังวลว่าคุณอาจจะกินอาหารที่นั่นไม่ได้แล้วล่ะก็ ลองมาดูรีวิวอาหารเหล่านี้หน่อย น่าจะพอช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะ ล่าสุด #เหมียวฟิ้น ได้ไปเจอกับการรีวิวสุดฮา (และกวนบาทา) จากผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า สมหมาย นอนหงายหลัง (แค่ชื่อก็กินขาดแล้ว) เขาได้เดินทางไปยังมณฑลเสฉวน ประเทศจีน แล้วถ่ายภาพอาหารมากว่า 29 เมนู แล้วมาเขียนรีวิวแบบเข้าใจง๊ายง่าย… . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . อ่านไปก็ขำไป อะไรมันจะแย่ปานนั้น 555+…
-
หนูน้อยแฝด 3 ชาวจีนออกเดินทางไปทั่วจีน แจกใบปลิวตามหาแม่ที่ทอดทิ้งพวกเขา
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รางานว่า เด็กน้อยแฝด 3 ชาวจีนวัย 5 ขวบ ได้ออกเดินทางไปทั่วประเทศจีนเพื่อแจกใบปลิวตามหาแม่บังเกิดเกล้าที่ทอดทิ้งพวกเขาตั้งแต่ยังเล็ก ตามรายงานบอกว่าเด็กๆ ทั้ง 3 คนถูกพบเห็นที่บริเวณ ข้างถนนในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน กำลังยืนแจกใบปลิวตามหานาง ฮัน ซินหัว แม่วัย 27 ปีของพวกเขา ที่ทิ้งพวกเขาไปแบบไม่ทราบสาเหตุ พร้อมทั้งกระเตงลูกสาวคนเล็กวัย 2 ขวบที่ชื่อหานไปด้วยอีก 1 คน มีรายงานเพิ่มเติมว่าเด็กทั้ง 3 คนนี้เป็นลูกของนางฮันกับนายหวง วันหนึ่งนางฮันได้ทิ้งนายหวงไปและแต่งงานกับแฟนคนใหม่และมีลูกสาวที่ชื่อหาน แต่ดูเหมือนว่าชีวิตคู่กับสามีคนใหม่จะไปไม่รุ่งเท่าไหร่ เธอจึงวกกลับมาหานายหวง แต่ก็หายไปอีกรอบ สุดท้ายนายหวงเกือบจะล้มเลิกการตามหานางฮันแล้ว แต่ดันไปได้ยินข่าวมาว่ามีคนพบเห็นนางฮันอยู่แถวเซินเจิ้น นายหวงเลยพาลูกๆ ทั้ง 3 มาออกตามหาแม่ของเขาที่นี่ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และนี่คือหน้าตาคุณแม่ของเด็กๆ ล่ะ ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเด็กๆ ทั้ง 3…
-
งี้ก็ได้เหรอ!? ยายปล่อยหลานฉี่บนพื้นในห้องโดยสารเครื่องบิน ผู้โดยสารคนอื่นสุดจะทน
คงจะไม่มีอะไรที่ทำให้เหล่าคนเดินทางจะสยดสยองได้เท่ากับการเดินทางร่วมกับชาวจีนอีกแล้วล่ะ เพราะพวกเขามักจะมีพฤติกรรมแปลกๆ โดยเฉพาะเรื่องการรักษาความสะอาด เพราะล่าสุดมีคุณยายคนหนึ่ง ปล่อยให้หลานตัวน้อยนั่งฉี่ในห้องโดยสารบนเครื่องบิน ทำเอาผู้โดยสารคนอื่นๆ ถึงกับอึ้งไปเลย เมื่อวันที่ 2 เมษายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพเที่ยวบินจากเมืองเจิ้งโจวไปยังกรุงปักกิ่ง เป็นภาพของหนูน้อยชาวจีนคนหนึ่ง กำลังนั่งยองๆ บนพื้นในห้องโดยสารของเครื่องบิน จากนั้นก็ปลดทุกข์อย่างสบายใจโดยมีคุณยายคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ ตามรายงานบอกว่ามีผู้โดยสารที่นั่งเบาะข้างๆ กับคู่ยายหลานสังเกตเด็กหญิงพูดกับยายว่าเธอปวดฉี่และต้องการกระโถน แต่แทนที่คุณยายจะพาเธอเดินไปเข้าห้องน้ำ กลับอุ้มหลานมานั่งตรงหน้าและถอดกางเกงเธอออก จากนั้นก็ปล่อยให้หลานฉี่ไปแบบสบายใจ หลังจากที่เรื่องนี้เริ่มโด่งดังในจีน ก็เกิดข้อถกเถียงกันของชาวเน็ต โดยบางคนแสดงความเห็นเชิงประชดประชันว่า “สำหรับทุกๆ คนในชาติของฉันแล้ว ที่ไหนๆ ก็คือห้องน้ำทั้งนั้น” อีกความเห็นบอกว่า “ขอบคุณการศึกษามาก เมื่อเด็กคนนี้โตขึ้นคงจะเป็นแบบเดียวกันนี่แหละ” ไม่รู้ว่าเที่ยวบินนี้จะยาวนานแค่ไหนนะเนี๊ยะ แค่จินตนาการถึงกลิ่นก็สยองแล้ว ที่มา shanghaiist
-
แซ่บค่ะขุ่นแม่!! ชมภาพ “ปอย ตรีชฎา” รับบทบาทสุดสยองในหนังจีนเรื่อง Witch Doctor
เรียกได้ว่าโกอินเตอร์แบบสุดๆ เลย สำหรับ ปอย ตรีชฎา เพราะในระยะหลังๆ มานี้แทบจะไม่เห็นเธอรับงานบันเทิงในไทยเลย แต่ไปโด่งดังอยู่ที่ประเทศจีนแทน แถมยังมีงานแสดงที่นั่นเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ล่าสุดสาวปอย ตรีชฎา กำลังจะมีผลงานภาพยนตร์จีนเรื่องใหม่ที่ชื่อว่า Witch Doctor เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก การฆาตกรรมและปีศาจ ที่มีการยกกองถ่ายมาถ่ายทำในประเทศไทยด้วย แต่สิ่งที่เด็ดดวงและทำให้หนุ่มๆ ถึงกับตาลุกวาวเห็นจะเป็นภาพโปรโมทและตัวอย่างหนังที่ปล่อยออกมานี่แหละ เพราะในหนังเรื่องนี้จะมีฉากที่ปอย ตรีชฎา เปลือยแผ่นหลังให้ได้เห็นกัน โดยเธอบอกว่าไม่มีการใช้สแตนอินหรือนักแสดงแทนนะ งานนี้ถอดเองเลยจ้า ชมตัวอย่างได้ที่ด้านล่างเลย ใบปิดหนังอย่างเป็นทางการ ภาพยนตร์เรื่อง Witch Doctor มีกำหนดฉายในประเทศจีนวันที่ 27 พฤษภาคมนี้นะ ส่วนในประเทศไทยอาจจะต้องรอดูว่าจะประกาศวันไหนกันแน่ ที่มา china
-
อะเมซิ่ง!! ชาวจีนสร้างเรือดำน้ำทุนต่ำ ด้วยเงินเพียง 2 หมื่นกว่าบาท!?
แม้ว่าประเทศจีนจะไม่ได้เป็นประเทศเจ้าแห่งไอเดียและการประดิษฐ์สิ่งแปลกๆ เหมือนกับญี่ปุ่น แต่พวกเขาก็สร้างข้าวของเครื่องใช้ได้เองแบบไม่น้อยหน้าใครเลย ล่าสุดเว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มจากมณฑลอันหุย ประเทศจีน ได้ประดิษฐ์เรือดำน้ำขึ้นมาใช้เอง ด้วยงบเพียง 5,000 หยวน หรือประมาณ 26,980 บาทเท่านั้น!? ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มรายนี้มีชื่อว่านายจาง เฉินวู เป็นชาวนาอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาได้ใช้เงินประมาน 5,000 หยวนในการสร้างเรือดำน้ำ โดยเจ้าตัวบอกว่าใช้เวลาเพียงแค่ 2 เดือนก็สามารถสร้างได้แล้ว นายจางใช้เวลาเป็นชั่วโมงหลังเลิกงานตอนเย็นมานั่งต่อเรือดำน้ำ ซึ่งเขาได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือดำน้ำจริงๆ ที่มีขนาดประมาณ 2 ตัน และแล้วมันก็เสร็จสมบูรณ์และใช้งานได้จริงๆ นายจางบอกว่ามันสามารถดำลงไปในน้ำได้มากกว่า 1 เมตรเลยทีเดียว อยากรู้จริงๆ เลยว่ามันจะใช้การได้มากน้อยแค่ไหนนะเนี๊ยะ ถ้าอีกหน้าทำออกมาขายจริงคงจะเจ๋งไม่หยอกเลยทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
สะเทือนอารมณ์ หนุ่มจีนผลักคนรักออกจากรถขณะมีไฟลุกไหม้ จนตัวเองถูกไฟคลอกตาย
กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนให้สลดใจจริงๆ สำหรับความรักของชายหนุ่มที่มีให้กับหญิงสาว แม้วินาทีสุดท้ายของชีวิตก็เลือกที่จะปกป้องคนรักมากกว่าตนเอง… เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้รายงานว่าคู่สามีภรรยาได้ขับรถมาตามทางในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู ประเทศจีน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุพุ่งชนเข้ากับรถอีกคันหนึ่งกลางถนน ทำให้รถของเขาเสียหายหนักและเกิดเพลิงลุกไหม้ในทันที ตามรายงานของสำนักข่าวท้องถิ่นบอกว่าชายหนุ่มที่น่าจะมีอายุราวๆ 50 ปี ได้พยายามช่วยผลักหญิงสาวออกไปจากตัวรถ ในขณะที่เขายังติดอยู่ด้านในเนื่องจากเก้าอี้กที่เขานั่งได้รับความเสียหายจนไม่สามารถออกมาได้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจะรีบมายังที่เกิดเหตุด้วยความเร็วแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตของชายคนนี้ไว้ได้ทัน จากนั้นสำนักข่าวก็ได้นำภาพเหล่านี้มาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ จนชาวเน็ตต่างสลดใจไปกับเรื่องราวความรักอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาและแสดงความคิดเห็นเข้ามามากมาย “นี่คือรักแท้ ขอให้ไปสู้สุขตินะเพื่อน” โดย @Xiangjianhebiyouhenwan “ตอนนี้ผู้คนควรจะเห็นถึงความสำคัญของอุปกรณ์ดับเพลิงในรถได้แล้ว” โดย @Ershixiongyaodiaogan “ฉันหวังว่าเธอจะหายเศร้าโศก และใช้ชีวิตไปกับความรักที่สามีให้เธอมา” โดย @Zuoshouzhongdeyilian การซื้อถังดับเพลิงเล็กๆ ติดรถยนต์ไว้ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไรนะ เพราะเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อไหร่ เตรียมพร้อมไว้เป็นดีที่สุดนะ ที่มา CCTVNews
-
แหวกแนวไม่หยอก คู่รักชาวจีนชวนกันไปปีนเขา แต่จู่ๆ ฝ่ายชายเซอร์ไพรซ์ขอแต่งงานซะงั้น
การขอแต่งงานถือเป็นหนึ่งในความทรงจำที่น่าจดจำมาก ไม่ว่ามันจะออกมารูปแบบไหน หนุ่มสาวก็จะจดจำมันไปตลอดกาล และแม้ว่ามันจะออกดีหรือแย่ยังไงคุณก็ย้อนเวลากลับไปแก้ไขมันไม่ได้ ฉะนั้นจะทำทั้งทีต้องเอาให้เริ่ดไปเลย เมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า คู่รักหนุ่มสาว ได้ชวนกันไปปีนเขาในอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังปีนขึ้นไปได้ครึ่งทางนั้นเอง จู่ๆ ชายหนุ่มก็หยิบเอาแหวนออกมาและขอเธอแต่งงานแบบเซอร์ไพรซ์สุดๆ จากนั้นชายหนุ่มก็ถามคำถามสุดคลาสสิกกับเธอว่าจะแต่งงานกับเขาไหม ทั้งๆ ที่ทั้งคู่ยังห้องต่องแต่งอยู่ และหญิงสาวก็ตอบตกลงอย่างไม่ลังเล แต่การขอแต่งงานนี้ดูจะไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายสักเท่าไหร่ เพราะเนื่องจากพวกเขามีตากล้องมืออาชีพคอยตามถ่ายภาพ แถมยังมีการเตรียมชุดเจ้าสาวขึ้นไปด้วย ฝ่ายหญิงสาวเองก็น่าจะพอเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ว่าการขอแต่งงานนี้จะเกิดขึ้นโดยการเตี๊ยมกันมาก่อนหรือมาแบบเซอร์ไพรซ์ แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าภาพถ่ายของพวกเขาสวยงามแตกต่างจากการขอแต่งงานทั่วๆ ไปจริงๆ จะขอแต่งงานให้แปลกแหวกแนวยังไงก็ดูเรื่องความปลอดภัยกันด้วยนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
สยอง!! หนุ่มจีนป่วยมีเนื้องอกยักษ์ในช่องท้อง ใหญ่ยิ่งกว่าหญิงตั้งครรภ์!?
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคมทีผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายชาวจีนวัย 33 ปีรายหนึ่ง ได้เข้าไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลทหารในมณฑลเฉินตู ประเทศจีน เนื่องจากมีหน้าท้องที่ขยายใหญ่ออกมา คล้ายกับหญิงตั้งครรภ์ เมื่อเห็นดังนั้นทางโรงพยาบาลจึงได้ทำตรวจร่างกายอย่างละเอียดและพบว่าชายคนนี้มีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่เจริญเติบโตอยู่ภายในช่องท้องของเขา แถมยังมีน้ำหนักมากถึง 15 กิโลกรัมเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าชายชาวจีนรายนี้ได้สังเกตเห็นว่าหน้าท้องของเขาใหญ่ขึ้นตั้งแต่เมื่อปี 2004 แต่ไม่ได้ไปพบแพทย์ในทันที และปล่อยให้เวลาล่วงเลยจนเนื้องอกใหญ่ถึงขนาดนี้ ศัลยแพทย์ของทางโรงพยาบาลเห็นดังนั้นจึงตัดสินใจพาเขาเข้ารับการผ่าตัดเป็นเวลาทั้งสิ้น 6 ชั่วโมง หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว ทางทีมแพทย์จะต้องเฝ้าสังเกตอาการของชายหนุ่มอย่างใกล้ชิดต่อไป หนุ่มๆ คนไหนที่มีหน้าท้องโตผิดปกติก็อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองเป็นโรคอ้วนเพียงอย่างเดียว ลองหาเวลาไปตรวจเช็คร่างกายและออกกำลังกายบ้างนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
มันไม่จริง!! ชมภาพสาวสวยคอสเพลย์สุดน่ารักจากจีน ที่แท้เป็นชายหนุ่มทั้งแท่ง!?
ทุกวันนี้เทรนด์การแต่งตัวคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูนต่างๆ เริ่มได้รับความนิยมในวงกว้างมากขึ้น และในช่วงหลังๆ มานี้ก็เริ่มมีการคอสเพลย์แนวใหม่จากญี่ปุ่น ที่เหล่าหนุ่มๆ หน้าใสจะแต่งตัวเป็นหญิงสาว หรือคอสเพลย์เป็นตัวการ์ตูนสาวๆ ล่าสุด#เหมียวฟิ้นไปเจอเข้ากับเฟซบุ๊กเพจของนักคอสเพลย์ชาวจีนรายหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า 豪歌 – Haoge ซึ่งเพจนี้มักจะลงรูปคอสเพลย์เป็นหญิงสาวผิวขาว หน้าตาน่ารัก มีแต่งชุดเมดบ้าง แต่งเลียนแบบตามแอนิเมะบ้าง หรือแม้แต่ถ่ายพอร์ทเทรตก็มี แต่ความพีคของสาวนักคอสเพลย์รายนี้มันอยู่ตรงที่…เธอไม่ใช่ผู้หญิง!! หากคุณไม่อยากจะเชื่อล่ะก็ ลองมาดูกันไปทีละรูปๆ เลย แต่งเป็นเซเบอร์จากการ์ตูนเรื่อง Fate Stay Night แต่งเป็นอาซึนะจากเรื่อง Sword Art Online แต่งเป็นเซเลอร์วีนัสจากการ์ตูน Sailor Moon มีออกงานแจกลายเซ็นเหมือนไอดอลทั่วๆ ไปด้วยนะ และนี่คือใบหน้าที่แท้จริงของเธอ . . . . . . . . ทำใจแล้วก็ไปดูกันเลย!! ชายแท้ๆ เลยนะขอบอก!! มันช่างทำร้ายจิตใจกันซะเหลือเกิน ที่รู้ว่าเธอ…
-
น่ารักอะไรขนาดนี้? นักเรียนจีนโดนครูทำโทษให้เขียน Emoji กว่า 1 พันตัวลงกระดาษ
เชื่อว่าในสมัยเรียน แต่ละคนน่าจะมีวีรกรรมเล็กๆ น้อยๆ ในโรงเรียนจนโดนคุณครูทำโทษด้วยวิธีต่างๆ มาแล้วมากมาย แต่กับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในประเทศจีนกลับไม่ได้ใช้วิธีทั่วๆ ไปแบบที่เราเจอกัน เพราะพวกเขามีวิธีที่น่าร๊ากน่ารักไว้ใช้ลงโทษนักเรียนของพวกเขาล่ะ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยวิธีการลงโทษนักศึกษาที่มาเรียนสายในมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ในมณฑลเฉิงตู ประเทศจีน ของศาสตราจารย์รายหนึ่ง ที่สั่งให้นักศึกษาไปวาดภาพอีโมจิ (สัญลักษณ์ที่แสดงอารมณ์ต่างๆ) ด้วยมือกว่า 1 พันภาพ!! ตามรายงานบอกว่านักศึกษารายนี้มาเข้าเรียนสาย ทำให้ผู้สอนต้องทำโทษ แต่แทนที่จะสั่งให้คัดลายมือ ทำการบ้านหรือหักคะแนน เขากลับสั่งให้นักศึกษาไปวาดภาพอีโมจิมาส่ง ซึ่งนักศึกษาก็สามารถวาดภาพทั้งหมดมาส่งได้ครบอย่างเหลือเชื่อเลย หลังจากนั้นไม่นานภาพวาดอีโมจิของเหล่านักศึกษาก็ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกอินเตอร์เน็ต ก็ทำให้ชาวจีนถึงกับฮาท้องแข็งเลยทีเดียว ในขณะเดียวกันบางความเห็นกลับบอกว่านี่เป็นการลงโทษที่ไม่ถูกจุด ทำให้นักศึกษาเสียเวลาเปล่านั่นเอง ทีหลังอย่ามาเรียนสายอีกล่ะนักศึกษา ที่มา shanghaiist
-
อ้างว้างเหลือเกิน หมู่บ้านจีนสุดวังเวง เหลือผู้อยู่อาศัยเพียงคนเดียวมานานกว่า 10 ปี!?
หลายๆ คนมันจะเข้าใจไปว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่แออัด แถมยังมีประชากรอยู่หนาแน่นถึง 1.3 พันล้านคน แต่ใช่ว่ามันจะเป็นแบบนั้นเสมอไป เพราะยังมีพื้นที่อีกมากที่ไม่มีคนอาศัยอยู่นะ เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของหลิว เชงเจี๋ย ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน เฉินชานเชอ มณฑลกานซู ประเทศจีน แต่เนื่องจากเพื่อนบ้านของเขาได้ทยอยเสียชีวิตลงไปเรื่อยๆ และบางคนก็ย้ายออกไปอยู่ที่อื่น ทำให้เขากลายเป็นชาวบ้านเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ที่นี่ ตามรายงานบอกว่านายหลิวอาศัยอยู่คนเดียวที่หมู่บ้านแห่งนี้มานานกว่า 10 ปี ในขณะที่ชาวบ้านคนอื่นๆ ได้ย้ายออกไปกันจนหมด เนื่องจากมีทรัพยากรไม่เพียงพอต่อความต้องการ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ต่อไปเพราะต้องดูแลแม่ที่แก่เฒ่าของเขา แต่แล้ววันหนึ่งแม่ของเขาก็จากไป ทำให้เขาต้องอยู่เพียงลำพังกับแกะอีก 2-3 ตัว นายหลิวบอกว่าเขาใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการให้อาหารแกะและออกไปตักน้ำกลับมาเก็บไว้ที่บ้าน หากเขาอยากจะออกไปซื้ออาหาร ที่นั่นก็มีร้านอาหารที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 1.6 กิโลเมตร นายหลิวเลยพยายามอยู่อย่างพอเพียงเท่าที่จะทำได้ . . . ถ้า#เหมียวฟิ้นต้องอยู่ในหมู่บ้านที่ไม่มีใครเหลืออยู่เลย เราคงจะทนไม่ได้แหงๆ ที่มา shanghaiist
-
น่ากลัวมาก!! สื่อนอกรายงาน เด็กนักเรียนจีนถูกพายุหมุนพัดขึ้นไปในอากาศกว่า 4.5 เมตร!!
เคยเห็นพายุทอร์นาโดในหนังมาก็หลายเรื่อง แต่ไม่คิดว่าจะน่ากลัวได้ขนาดนี้เลยนะเนี๊ยะ!! เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมาได้ มีพายุหมุนขนาดเล็กปรากฏขึ้นที่โรงเรียนประถมแห่งหนึ่งในมณฑลกานซู ประเทศจีน ทำให้ข้าวของของเด็กนักเรียนปลิวว่อนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณ แต่ดูเหมือนสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายกว่าที่คิด เพราะว่าพายุหมุนได้ทวีความรุนแรงจนทำให้เด็กนักเรียนคนหนึ่งปลิวขึ้นไปในอากาศกว่า 4.5 เมตร และตกลงมากระแทกกับพื้นด้านล่าง เมื่อเห็นดังนั้นเหล่าคุณครูก็รีบพาเจ้าตัวไปส่งยังโรงพยาบาลเป็นการด่วน โชคดีที่เมื่อตรวจสอบร่างกายแล้วพบว่าเจ้าตัวมีบาดแผลที่บริเวณศีรษะเล็กน้อยเท่านั้น ชมภาพเคลื่อนไหวของเจ้าพายุกันได้ที่ด้านล่างเลย น่าสยองมากเลยนะเนี๊ยะ เป็นภัยธรรมชาติที่เราต่อกรด้วยไม่ได้จริงๆ ที่มา shanghaiist
-
อย่างกับทรานส์ฟอร์มเมอร์ส!! คนงานจีนขับรถตักดินเข้าห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดกลางถนน!?
คงจะเป็นเรื่องยากหากจะบอกเพื่อนๆ ว่ามีรถตักดินกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดกลางถนนประหนึ่งฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่อง Transformers แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะว่าเหตุการณ์แบบนั้นมันเกิดขึ้นแล้วที่ประเทศจีน… เมื่อวันที่ 19 เมษายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเกิดเหตุรถตักดิน 2 คันพุ่งเข้าต่อสู้กันบนถนนแห่งหนึ่งในมณฑลเหอเป่ย ประเทศจีน โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นจากความขัดแย้งกันระหว่างบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง 2 แห่งที่มีความเห็นไม่ตรงกัน ตามรายงานบอกว่าในการต่อสู้อย่างดุเดือดของรถตักดินทั้ง 2 คัน จู่ๆ รถคันหนึ่งก็เกิดเสียจังหวะจนถูกรถอีกคันงัดและพลิกคว่ำลงไป แต่ในขณะนั้นเองกลับมีขบวนรถตักดินอีก 3 คันพุ่งเข้ามาช่วยงัดรถที่คว่ำอยู่ให้คนขับที่ติดอยู่ด้านล่างสามารถมุดหนีออกไปได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เป็นที่น่าเสียดายมากเพราะคลิปวิดีโอดันตัดจบไปเสียก่อน ทำให้เราไม่รู้ผลว่าตกลงใครแพ้หรือชนะกันแน่ และไม่ได้เห็นสีหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจตอนเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุด้วย ที่มา Shanghai Expat , shanghaiist
-
หนุ่มจีนก้มเก็บมือถือระหว่างขับรถ สุดท้ายพุ่งลงแม่น้ำข้างทาง ตกน้ำป๋อมแป๋ม
ไม่ว่าจะภาครัฐ ภาคเอกชน หรือภาคไหนๆ ก็ออกมาพูดออกมาย้ำอยู่บ่อยๆ ว่าการเล่นมือถือขณะขับรถเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะมันทำให้คุณสนใจสิ่งที่อยู่ในมือมากกว่าสิ่งที่อยู่บนท้องถนน ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ เลย ลองดูกรณีศึกษาจากข่าวที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มคนหนึ่งจากเมืองเหวินโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ประสบอุบัติเหตุขับรถตกลงไปในแม่น้ำ ขณะก้มเก็บมือถือที่ตกลงไปยังใต้เบาะ ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ขับรถเลียบแม่น้ำมาเรื่อยๆ แต่ในระหว่างนั้นเจ้าตัวได้ทำมือถือตกลงไปยังด้านใต้เบาะคนขับ แต่แทนที่จะจอดเจ้าตัวกลับขับต่อไปเรื่อยๆ และก้มไปเก็บพร้อมๆ กัน ทำให้เขาเผลอไปเหยียบใส่คันเร่งโดยไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นรถยนต์ของเขาเสียหลักพุ่งลงไปในแม่น้ำทันที โชคดีที่เจ้าตัวไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก ทำให้เขาสามารถออกมาจากรถและขึ้นไปยืนตะโกนขอความช่วยเหลืออยู่บนหลังคารถแบบที่เห็นในภาพ จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทราบเรื่องและนำรถเครนมาดึงรถของเขาขึ้นมาจากน้ำได้ในที่สุด การขับรถบนท้องถนนมันไม่เหมือนกับการขับรถในเกมนะ ที่จะได้ลุกไปเข้าห้องน้ำหรือหยิบของที่ตกระหว่างขับรถได้น่ะ ที่มา shanghaiist
-
แซ่บมาก!! คุณตาชาวจีนวัย 61 ฟิตร่างกายจนมีกล้ามบึ้ก ชาวเน็ตงง ทำได้ไง?
ใครว่าคนเราแก่แล้วแก่เลย? #เหมียวฟิ้นขอเถียงขาดใจ เพราะว่าหากเราดูแลตัวเองดีๆ แล้ว ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่คุณก็สามารถเป็นคนที่ดูดีได้เช่นกันนะ เมื่อวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณตาที่มีชื่อว่า เหลียง ยู่เซี่ยง วัย 61 ปี จากมณฑลเฉินตู ประเทศจีน ผู้ที่ชื่นชอบการขับรถแรลลี่และแม้ว่าจะมีอายุปูนนี้แล้ว เขาก็ยังคงเรียกตัวเองว่าเป็น “นักแข่งที่อายุน้อยที่สุด” คุณตายู่เซี่ยงเคยขับรถแรลลี่ไปยังหลายพื้นที่มาแล้ว ทั้งกรุงโรม หรือรอบประเทศไต้หวัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนสนใจเขานอกเหนือจากอายุก็คือเรื่องของรูปร่างนี่แหละ เพราะคุณตาแกชอบออกกำลังกายมาก จนตอนนี้มีกล้ามขึ้นไปทุกสัดส่วน ทั้งไบเซ็ปไตรเซ็ป กล้ามท้องและหน้าอก ตอนนี้มีนิตยสารมาขอถ่ายภาพแฟชั่นของคุณตา ซึ่งตอนนี้มันก็ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่างแพร่หลาย จนเขากลายเป็นคนดังในเวลาไม่นาน ซึ่งคุณตาก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมไม่เคยคิดเลยว่าจะมีชื่อเสียงในอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวัยนี้” นอกจากนี้คุณตายู่เซี่ยงยังได้เล่าว่าเขามีกิจกรรมยามว่างคือ ช็อปปิ้ง เขียนบล็อก ขับรถดริฟท์ แถมยังให้ข้อคิดดีๆ อีกว่า “คนแก่น่ะ ไม่ควรจะใช้เวลาหมดไปกับการดูแลหลานๆ และการเต้นรำหรอกนะ” เมื่อเราแก่ตัวไป เราจะยังมีไฟแบบคุณตาคนนี้ไหมนะ? ที่มา shanghaiist
-
เทรนด์ใหม่ของสาวจีน แห่ถ่ายรูปกับตู้ไปรษณีย์เพราะ ‘ลู่หาน’ อดีตสมาชิกเก่าวง EXO เคยมาถ่ายไว้…!!
การที่เราไปเจอกับสถานที่สวยๆก็เป็นธรรมดาที่เราอยากจะถ่ายรูป ซึ่งบางที่ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนั้นก็ย่อมมีคนเยอะ และต้องต่อคิวกันเป็นธรรมดา แต่ไม่น่าเชื่อว่าตู้ไปรษณีย์แค่อันเดียวสามารถทำให้คนมาต่อคิวอันยาวเหยียดเพื่อที่จะถ่ายรูปกับคู่กับตู้นี้ จนกลายเป็นที่ถ่ายรูปใหม่ของชาวจีน ความจริงแล้วที่มีคนมาต่อคิวถ่ายรูปกับตู้ไปรษณีย์ตู้นี้ก็เพราะว่า เจ้าตู้นี้เคยมีหนุ่มนักร้องชื่อดังของเซี่ยงไฮ้ ‘ลู่หาน’ มาถ่ายรูปกับตู้นี้ ทำให้มีสาวชาวจีนมากมาย แห่กันมาถ่ายตามรอยหนุ่มคนนี้…!! นี่คือหน้าตาของหนุ่มคนนี้… รูปที่เขามาถ่ายคู่กับตู้ไปรษณีย์ จากนั้นเลยทำให้สาวๆแห่กันมาาา ไม่แน่ใจว่าจองไอโฟนวันแรก กับคิวถ่ายภาพนี้ อันไหนจะคิวยาวกว่ากัน… บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่ FC จริงๆ นั้นคงไม่รอหรอก กับตู้ไปรษณีย์ที่ดารานักร้องคนโปรดเคยไปถ่ายยังขนาดนี้ นี่เจอตัวจริงแบบเป็นๆนี่จะขนาดไหนนะเนี่ยยย ?! ที่มา : jiangsu
-
วุ่นหนัก ฝาแฝดสาวแต่งงานกับฝาแฝดหนุ่ม แต่ดันจำผิดจำถูก จนต้องศัลยกรรมเพื่อแก้ปัญหา!?
นอกจากการเป็นคู่แฝดจะสามารถสร้างความสับสนงุนงงให้แก่ผู้คนรอบข้างได้ในระดังหนึ่งแล้ว แต่ยิ่งไปกว่านั้นหากคู่แฝดดันมาตกหลุมรักเข้ากับคู่แฝดอีกคู่เข้ามันคงจะสร้างความวุ่นวายยิ่งกว่าเดิมแน่ๆ เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Thesun ได้เปิดเผยเรื่องราวของ หยุ่น เฟย และ หยุ่น หยาง ฝาแฝดชาวจีนวัย 22 ปี จากมณฑลส่านซี ประเทศจีน พวกเธอได้รู้จักกับคู่แฝดหนุ่ม จ้าว ซิน กับ จ้าว ซวน ผ่านการแนะนำของแม่สื่อ ทำให้ หยุ่น เฟย คบหากับ จ้าว ซิน และ หยุ่น หยาง คบกับ จ้าว ซวน หลังจากที่ทั้ง 4 เริ่มคบหากันได้ประมาณ 1 เดือน ทางด้านพ่อของฝ่ายชายก็เริ่มมีการแนะนำให้หมั้นหมายกับฝ่ายหญิงและจัดงานแต่งในที่สุด แต่เนื่องจากทั้ง 2 คู่มีใบหน้าที่เหมือนกันมาก ทำให้การแยกแยะว่าใครเป็นใครทำได้ยากพอสมควร แต่ปรากฏว่าหลังจากที่เสร็จพิธีแล้วหนึ่งในเจ้าบ่าวกลับจูงมือเจ้าสาวผิดคนซะงั้น แถมตอนที่ทั้ง 4 ไปฮันนีมูนด้วยกัน หยุ่น หยาง ยังไปคุยเล่นกับ จ้าว ซิน ที่เป็นพี่เขย เพราะคิดว่าเขาคือ จ้าว ซวน…
-
ไม่เนียน!! หนุ่มจีนแก้ผ้าแกล้งล้มให้โดนรถชน ตำรวจเผยเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
เมื่อวันที่ 12 เมษายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มในเมืองเว่นหลิง มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน ได้ถอดเสื้อผ้าจนล่อนจ้อน และแกล้งนอนอยู่หน้ารถเมอร์ซิเดซเบ๊นซ์คันหนึ่งเพื่อทำทีว่าตนเองถูกรถชน!? ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มได้ขี่จักรยานไปตามท้องถนนด้วยสภาพเปลือยเปล่า และล้มลงตรงหน้ารถยนต์ด้วยความรวดเร็ว จากนั้นเจ้าตัวก็เหยียดตัวและนอนลงบนพื้นยางมะตอยแบบสบายใจ โชคดีที่เจ้าของรถเมอร์ซิเดซสามารถเบรคไว้ได้ทัน ทำให้ชายหนุ่มไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เจ้าของรถจึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับตัวชายคนนี้ไปสอบสวน จึงทราบว่าชายคนนี้มาจากมณฑลเหอหนาน วัย 31 ปี และเคยทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แถมยังเคยเข้าไปนอนในห้องขังมาแล้วด้วย แหม่ จะทำอะไรก็ให้มันเนียนๆ หน่อยซิพ่อหนุ่ม 555+ ที่มา shanghaiist
-
ขอร้องละครับ!! ยามห้างเมืองจีนลงทุน ‘คุกเข่า’ ขอร้องให้ลูกค้าย้ายรถ หลังจอดในที่ห้ามจอด
เรื่องของการใช้รถใช้ถนนนี่ถือเป็นเรื่องของสามัญสำนึกส่วนบุคคลจริงๆ นะ สำหรับบางคนอาจจะเคารพกฎเกณฑ์กันบ้างก็จะทำตามป้ายหรือสัญญาณจราจรต่างๆ แต่กับบางคนก็ดูจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นซะเหลือเกิน… เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา สำนักข่าว People’s Daily, China ได้รายงานว่าเมื่อวันที่ 8 เมษายน มีหยิงสาวขับรถยนต์เข้าไปจอดรถในลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเต๋อโจว มณฑลซานตง ทางทิศตะวันออกของประเทศจีน แต่หญิงสาวชาวจีนรายนี้ดันไปจอดรถในที่ห้ามจอด ทางยามรักษาความปลอดภัยจึงต้องเข้ามาเตือนเธอด้วยคำพูด แต่ดูจะไม่เป็นผล เขาจึงตัดสินใจลงไปนั่งคุกเข่ากับพื้นและขอร้องให้หญิงสาวช่วยขยับรถออกจากบริเวณนั้นด้วย เพราะไม่สามรถใช้กำลังบังคับเธอได้ จากนั้นเธอก็ยอมขยับรถแต่โดยดี หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไปก็ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมในการแก้ไข้ปัญหาด้วยวิธีดังกล่าว โดยบางความเห็นบอกว่าวิธีดังกล่าวอาจจะไม่ใช่วิธีที่ถูกนัก แต่เนื่องจากยามรักษาความปลอดภัยไม่มีทางเลือก การกระทำแบบนี้ก็พอจะทำได้ แต่ถ้าจะให้ดีควรจะมีไม้กั้น เพื่อให้ผู้มาใช้บริการได้เห็นแบบชัดเจนและรู้ว่าไม่สามารถจอดบริเวณนั้นได้ ยังไงแล้ว#เหมี่ยวฟิ้นขอฝากไปยังเพื่อนๆที่ต้องใช้บริการของห้างต่างๆ ด้วยนะ หากเขาไม่ให้จอดก็อย่าไปจอดเลย เห็นใจพี่ยามเขาด้วยนะ ที่มา People’s Daily, China
-
ใจเย็นแม่สาวน้อย!! สาวจีนวัย 20 ปี ขู่จะกระโดดน้ำตาย หลังตกหลุมรักชายวัย 69 แต่เจ้าตัวไม่ยอมมาพบ
เรื่องความรักนี่มันไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นะ แม้จะเป็นความรักระหว่างหนุ่มสาว ชาย-ชาย หญิง-หญิง ความรักต่างวัยก็มีให้เห็นอยู่บ่อยๆ เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า มีชาวบ้านในเมืองเซียงหยาง ประเทศจีนได้พบเห็นหญิงสาวท่าทางเศร้าโศก กำลังนั่งอยู่บริเวณแม่น้ำหาน และดูเหมือนเธอกำลังพยายามจะกระโดดลงไปในแม่น้ำ แต่โชคดีที่ชาวบ้านและผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแถวนั้นสามารถช่วยเธอขึ้นมาได้ทันและพาเธอไปส่งยังโรงพัก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยกับหญิงสาวถึงได้ทราบว่าเธอมีชื่อว่า Xiao Yun วัย 20 ปี เธอบอกถึงสาเหตุที่นั่งอยู่ริมแม่น้ำว่าเป็นเพราะเธอเสียใจที่แฟนของเธอเปลี่ยนไปและไม่ยอมมาพบกับเธอ Xiao Yun เล่าว่าแฟนของเธอชื่อ Liu วัยประมาน 50 ปี ทั้งสองได้พบกันที่ตลาดแห่งหนึ่งที่ Xiao Yun ทำงานอยู่ ทั้งสองจึงทำความรู้จักกันมาเรื่อยๆ และแม้ว่าวัยของนาย Liu จะมากขนาดที่เป็นพ่อของเธอได้ แต่เธอก็ไม่ได้สนใจว่าสังคมจะมองอย่างไร เธอคิดว่านาย Liu เข้ากันได้ดีกับเธอและทำให้เธอสบายใจเหมือนอยู่บ้าน อย่างไรก็ตาม นาย Liu ได้หย่ากับภรรยาเมื่อปีก่อน ทำให้ทั้งคู่สามารถมีความสัมพันธ์กันได้โดยไม่ติดข้องอะไร …
-
สยิวกิ้ว!! นักศึกษาจีนปิ๊งไอเดีย นำคนแปลกหน้าสองคนมาจูบกันโดยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านักศึกษารายหนึ่งในมณฑลนานกิง ประเทศจีน ได้เกิดไอเดียอยากจะทำการทดลองกับกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ให้พวกเขามาปิดตาแล้วจูบคนแปลกหน้า เพื่อดูว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยายังไงกันบ้าง? โปรเจ็คสุดแปลกนี้เป็นของนาย Liu Ke นักศึกษาระดับป.ตรีวัย 20 ปี จากมหาวิทยาลัยการบินนานกิง เขาได้เชิญชวนนักศึกษาในมหาวิทยาลัยตั้งแต่วัย 18 ถึง 20 ปี ให้เข้ามาร่วมกิจกรรม “Hello Stranger” โปรเจ็คนี้จะเชิญชวนให้คนที่ไม่รู้จักกันมาจูบกันโดยที่จะปิดตาพวกเขาไว้ และมีกล้องวิดีโอคอยบันทึกภาพพวกเขา โดยในตอนแรก Liu จะเเป็นคนสัมภาษณ์พวกเขาก่อนว่าทำไมพวกเขาถึงอยากจะเข้าร่วมกิจกรรมการจูบกับเขา? หนึ่งในผู้เข้าร่วมการทดลองบอกว่า “ผมคิดว่ามันเหมือนกับในนิยายดีนะ และผมอยากจะมีประสบการณ์แบบนั้นในระหว่างที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ มันคงเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก” ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกคนบอกว่า “ฉันคิดว่าถ้าฉันแก่ตัวไปคงต้องเสียใจแน่ๆ ที่ไม่ได้ทำมันตอนนี้” จากนั้นพวกเขาก็จูบกัน หลังจากที่ภาพและคลิปกิจกรรมของนาย Liu ถูกเผยแพร่ออกไป ผู้ชมบางส่วนก็ได้แสดงความชื่นชมต่อไอเดียนี้ และคิดว่ามันมีความหมายบางอย่างแฝงอยู่ ซึ่งมันสามารถช่วยให้คนแปลกหน้าสองคนสามารถไว้วางใจซึ่งกันและกันได้ แต่ในขณะเดียวกัน กลับมีกลุ่มคนที่ไม่เห็นด้วยและมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระด้วย แถมบางคนยัแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับความสะอาดในระหว่างที่จูบคนแปลกหน้าด้วย…
-
จีนทุ่มงบกว่างบกว่า 13,000 ล้านบาท สร้างโรงแรมสุดหรูในหลุมลึกของเหมืองร้าง อลังการงานสร้างสุดๆ
นี่คือภาพของ “The InterContinental Shimao” โรงแรมสุดหรู ที่ตั้งอยู่ที่เขตเมือง ซงเจียง ในเซี่ยงไฮ้ ทางภาคตะวันออกของประเทศจีน โดยโรงแรมแห่งนี้มีเอกลักษณ์ และความพิเศษที่ไม่เหมือนกับโรงแรมโดยทั่วๆ ไปนั่นก็คือ มันเป็นโรงแรมที่ถูกสร้างขึ้นในหลุมลึกนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโรงแรม ที่ทั้งหรูหรา มีเอกลักษณ์ และมีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของการออกแบบ รวมถึงสถานที่ตั้งของโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งก่อนที่จะกลายมาเป็นโรงแรมสุดหรูหราขนาดนี้ เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่า? สถานที่แห่งนี้เคยเป็นเหมืองร้างที่เก่าแก่ของจีนมาก่อนนะ โหววว ไม่อยากจะเชื่อว่าปัจจุบันเหมืองร้างแห่งนี้ จะถูกเนรมิตขึ้นใหม่ให้กลายเป็นโรงแรมที่หรูหรา และอลังการงานสร้างมากแห่งหนึ่งของประเทศจีน “The InterContinental Shimao” เริ่มก่อสร้างขึ้นในปี 2013 และกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าน่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2017 แน่นอน และอีกไม่นานเราก็จะได้เห็นโฉมหน้าแบบเต็มตัวของโรงแรมสุดอลังการกันสักที ส่วนภายในโรงแรมนั้น เรียกได้ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร, ห้องพักอีกกว่า 370 ห้อง, ชั้นใต้ดินที่ลึกกว่า 17 ชั้น, ชั้นบนดินอีก…
-
ชาวเน็ตจีนวิจารณ์ยับ หลังเห็นคลิปครอบครัวหนึ่ง จ้างโคโยตี้ มาเต้นไหว้หน้าหลุมศพอากงอาม่าในวันเชงเม้ง
สำหรับวันเช้งเม้ง หรือเทศกาลรำลึกถึงบรรพบุรุษของชาวจีน ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันที่ 4 เมษายน 2559 เรียกได้ว่าครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีน รวมไปถึงคนจีนทุกคน ก็คงจะนำดอกไม้ไปไหว้หลุมศพของบรรดาอากงอาม่ากันมาแล้วใช่ไหมละ ซึ่งการนำดอกไม้ และอาหารไปไหว้หลุมศพนั้น ก็ถือเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่มีการสืบทอดกันมาช้านานอยู่แล้ว แต่สำหรับครอบครัวชาวจีนครอบครัวหนึ่ง กลับทำในสิ่งที่ต่างออกไป เพราะพวกเขาไม่ได้นำดอกไม้ไปไหว้หลุมศพเพียงอย่างเดียว แต่กลับทำในสิ่งที่น่าทึ่งไปกว่านั้น เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2559 ทางสำนักข่างต่างประเทศได้รายงานว่า ครอบครัวชาวจีนครอบครัวนี้ ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบนโลกโซเชียลของจีนเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีคลิปการจัดงานอย่างคึกคักในพิธีรำลึกการเสียชีวิตของญาติๆ ที่สุสานแห่งหนึ่งที่มณฑลกวางตุ้ง โดยทางครอบครัวดังกล่าวได้จ้างโคโยตี้ในชุดสุดเซ็กซี่ มาแดนซ์หน้าหลุมฝังศพของอาม่าอากง ท่ามกลางผู้คนที่แห่กันไปชมกันเป็นจำนวนมาก งานนี้ทำให้ชาวเน็ตหลายๆ คน ต่างก็ไม่พอใจกับการกระทำดังกล่าว จึงได้แสดงความเห็นว่า บรรพบุรุษคงไม่ไปสู่สุขคติแน่ๆ เพราะมีลูกหลานทำเรื่องเสื่อมเสีย และน่าอายแบบนี้ ในขณะที่บางรายบอกว่า อย่าทำลายประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมานานแสนนานเลย ให้พวกเขาได้อยู่กันอย่างสุขสงบเถอะ ที่มา : dailymail
-
โอ้โห!! นักศึกษาในจีนบ่นอุบ มหาวิทยาลัยทิ้งขยะกองยักษ์ไว้นอกหอพัก ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว
มหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งมักจะสร้างหอพักไว้ภายในมหาวิทยาลัย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายแก่นักศึกษาและให้พวกเขาเดินทางไปเรียนได้ในเวลาอันรวดเร็ว แต่หากหอพักขาดการดูแลเอาใจใส่จนสกปรกเลอะเทอะไปทั่ว มันคงจะเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจสุดๆ เลยจริงไหม? เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่ามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ทิ้งขยะไว้ด้านนอกของหอพักนักศึกษาเป็นจำนวนมากและไม่ยอมส่งเจ้าหน้าที่มาเก็บกวาด ทำให้ส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วจนนักศึกษาแทบทนไม่ไหว ตามรายงานบอกว่าเหล่านักศึกษาเริ่มจะทนไม่ได้กับทางมหาวิทยาลัย ที่ทิ้งเศษขยะเอาไว้ใกล้ๆ กับหอพักพวกเขา เพราะมันส่งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ และทำให้สภาพความเป็นอยู่โดยรอบดูแย่ไปด้วย จนพวกเขาต้องถ่ายภาพเอามาแฉในโลกออนไลน์เพื่อประท้วงและตีแผ่ให้ชาวเน็ตได้เห็นภาพดังกล่าว ไม่รู้ว่าหลังจากที่ข่าวนี้โด่งดังไปทั่วโลกทางมหาวิทยาลัยจะมีการแก้ไขปัญหานี้ไหมนะ แต่ยังไงขยะเหล่านี้ก็ยังดีกว่ามันอยู่ในห้องนอนแบบสาวคนนี้ล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
รถเมล์จีนไอเดียเก๋ ติดผ้าม่านให้เหล่าคุณแม่สามารถให้นมลูกได้ในระหว่างเดินทาง
การเป็นแม่คนว่าลำบากแล้ว แต่การเป็นแม่คนที่ต้องกระเตงลูกน้อยไปไหนมาไหนยิ่งลำบากกว่านะ เพราะเด็กๆ มักจะงอแงเสียงดัง เมื่อแม่ๆ เห็นแบบนั้นก็ต้องป้อนนมลูกน้อยเพื่อให้พวกเขาสงบลง แต่บางครั้งหากคุณเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะล่ะ จะแก้ปัญหาเหล่านี้ยังไง? ด้วยเหตุนี้รถเมล์ในจีนก็เลยผุดไอเดียแจ่มๆ ในการให้บริการแก่เหล่าคุณแม่แล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมืองผิงเซียง มณฑลเจียงซี ประเทศจีน ได้ติดตั้งเก้าอี้แบบพิเศษบนรถโดยสาร ที่มีผ้าม่านปิดรอบ เพื่อให้เหล่าคุณแม่สามารถให้นมลูกๆ ได้ตามต้องการ ตามรายงานบอกว่าเจ้าที่นั่งพิเศษนี้จะถูกติดตั้งไว้ใกล้ๆ กับทางเดิน โดยจะมีผ้าม่านสีชมพูถูกติดตั้งไว้กับราว เพื่อให้คุณแม่ได้มีความเป็นส่วนตัวเมื่อต้องให้นมลูก ซึ่งเจ้าที่นั่งนี้เองหากไม่มีคุณแม่พร้อมกับลูกขึ้นมาบนรถ เหล่าผู้โดยสารทั่วๆ ไปก็สามารถนั่งได้เช่นกัน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่คนขับรถเห็นว่ามีคุณแม่ขึ้นมา คนขับรถจะทำหน้าที่ขอความกรุณาให้ผู้โดยสารย้ายไปนั่งที่อื่น เพื่อสงวนสิทธิ์ให้แก่คุณแม่เท่านั้น เมื่อช่วงปี 2013 ที่ผ่านมา ทางองค์การอนามัยโลกได้มีการทำผลสำรวจ พบว่ามีเพียง 28% ของคุณแม่ชาวจีนที่ให้นมลูก ในขณะที่ตัวเลขโดยเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ 40% ฉะนั้นทางคณะรัฐบาลของจีนจึงต้องหาวิธีแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้ทางรัฐบาลได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่าภายในปี 2020 จะเพิ่มเปอร์เซ็นการให้นมลูกของคุณแม่เป็น 50%…
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ!? รวบรวมสารพัดวิธีการวัด “ความสมบูรณ์แบบ” ของร่างกายในสไตล์สาวจีน
มาอีกแล้วจ้า กับวิธีการวัดว่าใครมีรูปร่างผอมเพรียวหรือสุขภาพดีแบบที่สาวๆ ในประเทศจีนชอบทำกัน… ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 เมษายนเว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ตอนนี้สาวๆ ได้คิดค้นวิธีใหม่ที่จะวัดว่าใครมีรูปร่างที่ดี นั่นก็คือการนำเอาธนบัตรมาพันไว้รอบข้อมือแล้วดูว่ามันสามารถพันรอบข้อมือเราได้หรือไม่ ถ้าได้แปลว่ารูปมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ!? ตามรายงานบอกว่าสาวๆ นำเอาธนบัตรมูลค่า 100 หยวนมาพันไว้รอบข้อมือเพื่อดูว่าร่างกายของพวกเธอสมส่วนหรือไม่ จากนั้นพวกเธอก็จะถ่ายคลิปวิดีโอเอามาแชร์ลงในโลกออนไลน์อวดให้คนที่เป็นเพื่อน (และไม่ได้เป็นเพื่อน) ได้ดูกัน ตอนนี้เทรนด์การนำธนบัตร 100 หยวนมาพันข้อมือกำลังได้รับความนิยมในสื่อสังคมออนไลน์ของจีนอย่าง Weibo สุดๆ แต่ก็มีชาวเน็ตอีกกลุ่มหนึ่งมองว่ากิจกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องไร้สาระเช่นกัน หนึ่งในความเห็นจากเว็บไซต์ Weibo ได้กล่าวว่า “ตอนแรกก็ใช้กระดาษ A4 วัดเอว ต่อมาก็ใช้ iPhone 6 วัดขา ตอนนี้ยังใช้ธนบัตรวัดข้อมืออีก? ฉันภูมิใจที่จะบอกว่าในที่สุดฉันก็สามารถทำได้สำเร็จหนึ่งอย่างแล้ว ง่ายจังเลย!!” แต่การท้าทายแบบนี้ดูจะไม่เพียงพอสำหรับพวกเขา เพราะชาวเน็ตในจีนหลายๆ คนมองว่าการใช้ธนบัตร 100 หยวนเป็นอะไรที่ง่ายเกินไป จึงเริ่มใช้ธนบัตรที่เล็กกว่านั้น เช่น ธนบัตร…
-
เทคโนโลยีใหม่ทำพิษ นักบินหนุ่มถูกสายการบินสั่งพักงาน หลังแพร่คลิปวิดีโอขณะขับเครื่องบิน!?
ตอนนี้โซเชียลมีเดียหลายๆ ตัวเริ่มจะมีฟังก์ชั่นการทำงานที่ให้ผู้ใช้สามารถเผยแพร่คลิปวิดีโอแบบสดๆ ให้กับผู้ติดตามหรือแฟนๆ ไดชมกันได้แบบเรียลไทม์ แต่ไม่ว่าคุณจะใช้งานมันเพื่ออะไรก็ขอให้ระวังนิดนึงล่ะ เพราะมันอาจส่งผลต่อหน้าที่การงานของคุณได้เลยทีเดียว เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่ากัปตันหนุ่มหล่อบนสายการบินแห่งหนึ่งในประเทศจีน ได้ทำการเผยแพร่คลิปวิดีโอสดๆ ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องบังคับ ให้แก่เหล่าแฟนๆ ผู้ติดตามเขาบนเว็บไซต์ Weibo กว่า 64,000 คนได้ชมกัน แต่หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป มีชาวเน็ตคนหนึ่งโพสต์ข้อความว่า “ทำไมผู้โดยสารบนเครื่องถึงได้รับการเตือนตลอดว่าต้องปิดอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด แต่นักบินกลับไม่ทำตามกฎข้อนี้ไปได้ล่ะ?” ทำให้กลายเป็นประเด็นถกเถียงกันระหว่างที่นักบินกำลังแพร่ภาพอยู่ เพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น นักบินหนุ่มไฟแรงก็ถูกทางสายการบินสั่งพักงานทันที เพราะคลิปดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่ผู้คนส่งต่อกันอย่างรวดเร็วราวกับไวรัสทางสายการบินจึงต้องมีมาตรการในการลงโทษอย่างรุนแรงกับนักบินรายนี้ สำหรับการกระทำที่ขาดการยั้งคิดนั่นเอง ก่อนหน้านี้ก็เหมือนจะมีข่าวว่ามีคู่เกย์ถ่ายคลิปวิดีโอสดๆ ขณะที่กำลังเล่นจ้ำจี้กันอยู่ด้วย ยังไงแล้วขอให้ใช้กันแบบที่ถูกที่ควรด้วยนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
หวาดเสียวเกิ๊น!! หนุ่มจีนขับรถออกจากบ้านไกล 15 กิโลเมตร โดยมีพ่อและพี่ชายเกาะอยู่ที่กระโปรงหน้ารถ!?
บางครั้งการทะเลาะเบาะแว้งกันภายในครอบครัวก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ทางเดียวที่พอจะแก้ไขปัญหาได้ก็คือการให้อภัยกัน และทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ไม่ใช่การหนีปัญหานะ เพราะมันอาจจะทำให้อะไรๆ แย่ลงกว่าเดิมก็ได้… เมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีนได้เรียกให้รถเก๋งคันหนึ่งจอด เพราะเนื่องจากที่กระโปรงหน้ารถมีชายสองคนนอนเกาะอยู่ ทำให้อาจเกิดอันตรายแก่ทั้งสองคนรวมถึงผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ ด้วย จากการสอบถามพบว่าชายทั้งสองคน เป็นพ่อและพี่ชายของคนขับรถ โดยก่อนหน้าที่พวกเขาทั้งสองจะมาเกาะอยู่แบบนี้ พวกเขาได้ทะเลาะและมีปากเสียงกันตอนอยู่ที่บ้าน ทำให้น้องชายเกิดความไม่พอใจจึงขับรถหนีออกมาจากบ้าน แต่คุณพ่อและพี่ชายพยายามตามมาขอโทษขอโพย และกระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บนกระโปรงหน้ารถ แต่ถึงแม้จะเห็นแบบนั้นน้องชายผู้เป็นคนขับก็ไม่มีท่าทีว่าจะจอดรถ และยังขับออกไปยังเมืองดงยาง ที่อยู่ไกลออกไปถึง 15 กิโลเมตรเลยทีเดียว แต่เขาก็พยายามขับรถด้วยความเร็วเพียง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น เพื่อให้พ่อและพี่ชายของเขาหาจังหวะกระโดดออกไปได้ แต่ทั้งคู่ก็ยังคงเกาะหนึบไม่ยอมไปไหนเลย แต่สุดท้ายการตามตื้อของพวกเขาก็จบลงเมื่อเจ้าหน้าที่โบกรถให้พวกเขาจอด ทีหน้าทีหลังมีอะไรก็เคลียร์ๆ ให้จบกันที่บ้านไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องเป็นภาระของคนบนท้องถนน ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนป่วยเป็นมะเร็ง ขอถ่ายภาพพรีเวดดิ้งกับแฟนก่อนตาย แถมอยากกลับมาเกิดเป็นลูกสาวของเขาด้วย
บางทีความรักก็ชอบเล่นตลกกับคน บางคนมีสิ่งดีๆ อยู่ในมือแล้วแท้ๆ แต่ไม่ดูแลรักษาไว้ดีๆ บางคนดูแลกันแทบตาย ยังไงก็ไม่ได้คู่กัน เหมือนกับเรื่องราวของคู่รักชาวจีนที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้บอกเล่าเรื่องราวของ เสี่ยว ยี่ หญิงสาววัย 21 ปี จากมณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน เธอได้รับการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็วกระดูกตั้งแต่อายุได้เพียง 14 ปี เสี่ยว ยี่จึงต้องเข้ารับการรักษานานถึง 6 ปี แต่ดูเหมือนอาการของเธอจะค่อยๆ แย่ลงเรื่อยๆ ทีมแพทย์จึงตัดสินใจผ่าตัดเอาขาซ้ายของเธอออก โชคดีที่เธอมี เสี่ยว ฟู่ แฟนหนุ่มที่คบกันมา 2 ปีคอยเป็นกำลังใจให้เธอ แต่ดูเหมือนทุกอย่างจะเลวร้ายลงเพราะเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา คุณหมอได้บอกกับเสี่ยว ยี่ว่า มะเร็งกระดูกของเธอได้ลุกลามไปทั่ว และเธอจำเป็นที่จะต้องหยุดการรักษา ในระหว่างที่เธอป่วยและมีอาการที่ทรุดลงเรื่อยๆ เสี่ยว ฟู่ก็ไม่ได้หายไปไหน แต่คอยอยู่เคียงข้างเธอและดูแลเธออยู่ข้างๆ เตียงตลอดเวลา เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ทั้งคู่ได้มีโอกาสไปถ่ายภาพพรีเวดดิ้งด้วยกัน เพื่อเติมเต็มให้กับความฝันของเสี่ยว ยี่ ก่อนที่เธอจะลาโลกนี้ไป…
-
ความรักจะคงอยู่ตลอดไป…หนุ่มจีนขอแฟนสาวแต่งงาน หลังจากที่เธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย
นี่คือเรื่องราวความรักของคนสองคน ที่แม้จะรู้ว่าพวกเขามีเวลาเหลือไม่มากแล้ว แต่ความรักของพวกเขาก็ไม่ได้ถดถอยลงไปเลย เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่เรื่องราวของนาย เผิง ซิน ย้อนกลับไปเมื่อ 8 ปีที่แล้วเขาเป็นเพียงหนุ่มช่างซ่อมแอร์ในเมืองหวู่ฮั่น ประเทศจีน เขามีรายได้ต่อเดือนประมาณ 1,500 หยวน หรือประมาณ 8 พันกว่าบาทเท่านั้น ในตอนนั้นเองเขาก็ได้พบรักกับหญิงสาวที่ชื่อ หยาง หลิว เธอถูกเลี้ยงดูมาโดยคุณยายของเธอหลังจากที่พ่อแม่ของเธอหย่าจากกัน แต่เมื่อคุณยายของเธอได้พบเข้ากับนายเผิงเธอกลับรู้สึกไม่ถูกชะตากับเขาอย่างแรง และบอกด้วยว่าหลานสาวของเธอสมควรมีแฟนที่ดีกว่านี้ ต่อมาในปี 2010 พ่อของนางหยางและคุณยายของเธอก็จากไป แถมคุณแม่ของเธอเองก็ยังป่วยเป็นโรคมะเร็งเต้านมด้วย เธอจึงย้ายออกไปใช้ชีวิตอยู่ในอพาร์ทเม้นกับนายเผิง ซึ่งเขาเองก็วางแผนเอาไว้ว่าหากเก็บเงินได้มากกว่านี้เขาจะซื้อบ้านในเมืองสักหลังและขอแฟนสาวแต่งงาน แต่ความฝันก็ต้องสลายไปในพริบตา เมื่อนางหยางถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะสุดท้ายเมื่อเดือนที่ผ่านมา และไม่สามารถผ่าตัดได้แล้ว นายเผิงจึงลาออกจากงานมาดูแฟนสาวของเขาตั้งแต่เช้าจนค่ำ เมื่ออาการของนางหยางเริ่มคงที่ นายเผิงก็เข้าไปคุยกับคุณหมอเพื่อเตรียมแผนการขอแฟนสาวแต่งงาน นายเผิงเล่าว่า “ผมจะเป็นสามีของเธอ ไม่ว่าเธอจะมีชีวิตได้นานแค่ไหนก็ตาม” แม้ว่าชีวิตรักของพวกเขาจะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่นายเผิงก็ไม่คิดถอดใจ เพราะแม้ว่าเขาจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทองหรือดีกว่าผู้ชายคนอื่นๆ แต่แฟนสาวก็เลือกเขา ฉะนั้นเขาจึงต้องอยู่เคียงข้างเธอในเวลาที่เธอต้องการเขามากที่สุด จากนั้นนายเผิงก็ได้ขอนางหยางแต่งงาน…
-
อยู่เข้าไปได้ไงเนี๊ยะ!? พาไปชมหอพักของนักศึกษาสาวในจีน ที่ได้ชื่อว่า “รกที่สุด!!”
โดยทั่วไปแล้วผู้คนมักจะเข้าใจกันว่าหญิงสาวนั้นเป็นพวกที่รักความสะอาดมากกว่าผู้ชายใช่ไหมล่ะ แต่#เหมียวฟิ้นอยากบอกว่าไม่เสมอไป… เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากห้องพักของนักศึกษาสาวชาวจีนรายหนึ่ง ที่เศษขยะกองเรี่ยราดอยู่บนพื้น และข้าวของเครื่องใช้ที่วางแบบระเกะระกะ จนรกแบบสุดๆ และแทบไม่เหลือทางเดินให้เดินเข้าไปเลย ตามรายงานไม่ได้บอกว่าคลิปนี้ถูกถ่ายโดยใครและถ่ายขึ้นที่ไหน แต่หลังจากที่คลิปนี้เริ่มโด่งดัง สื่อต่างๆ ในจีนก็เริ่มตั้งฉายาให้กับห้องพักของหญิงสาวรายนี้ว่าเป็น “ห้องพักที่รกที่สุดตลอดกาล” และเกิดคำถามขึ้นว่าทำไมหญิงสาวถึงไม่มีเวลาเก็บกวาดห้อง? สมาชิกในโลกออนไลน์ที่ใช้ชื่อว่า @金属杯盖 ได้กล่าวไว้ว่า “อ่าฮ่า กลายเป็นว่าห้องนี้เป็นของผู้หญิง มีขยะเยอะกว่าหอพักชายอีกนะเนี๊ยะ ในที่สุดผู้ชายก็มีข้อโต้แย้งสักที” และ @风葬秋暝 บอกว่า “หลังจากที่คุณจบการศึกษาแล้ว คุณสามารถหางานได้ทันทีที่กองขยะเลยนะ” ลองชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย โอย เหมียวเห็นแล้วจะเป็นลมแทน หนุ่มๆ คนไหนได้เธอไปเป็นแฟนล่ะก็…ขอให้โชคดีนะ ที่มา shanghaiist
-
เหมียวนี่ยอมใจ!! เด็กขายดอกไม้ในจีนตื้อจะขายของแก่คนผ่านไปผ่านมา ทั้งเกาะแขน ทั้งทิ้งตัว!?
หลายๆ คนน่าจะเห็นเห็นเทคนิคการขายของอันแพรวพราวของพ่อค้าตามสี่แยกมาแล้วมากมาย บางคนอาจจะมีเทคนิคในการส่งสายตา มีลูกอ้อน ลดแลกแจกแถมอะไรก็ว่ากันไป เพื่อให้คุณยอมควักเงินในกระเป๋าให้พวกเขา แต่ขอบอกเลยว่าวิธีที่คุณจะได้เห็นต่อไปนี้ มันเป็นอะไรที่ชวนเหวอมาก!! เมื่อวันที่ 27 มีนาคม เว็บไซต์ Overseas.weibo ได้เผยแพร่ภาพของแม่ค้าสาวชาวจีนตัวเล็กคนหนึ่ง ที่พยายามขายดอกไม้ให้แก่ชายหนุ่มคนหนึ่ง แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเท่าไหร่ จึงเดินผ่านแม่ค้าสาวไปเฉยๆ แต่ด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้าของแม่ค้าสาว เธอจึงพยายามเกาะที่แขนเสื้อของชายหนุ่มและตื้อให้เขาซื้อดอกไม้ของเธอ แต่ก็ยังไม่สำเร็จ!! แม่ค้าสาวจึงทิ้งตัวลงกับพื้น ไม่ยอมปล่อยให้ชายหนุ่มเดินผ่านเธอไปง่ายๆ โดยที่ไม่ได้ซื้อดอกไม้จากเธอ โอ้วคุณพระ!! หลังจากที่ภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ชาวเน็ตต่างก็วิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นาน เช่นผู้ที่ใช้นามแฝงว่า @我命已定盘 กล่าวว่า “การเป็นคนขายดอกไม้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราควรจะเห็นใจและซื้อคนละดอก” หรือคุณ @M_sir98 บอกว่า “สาวน้อยคนนี้ควรจะมีศักดิ์ศรีบ้าง” เทคนิคการขายแบบนี้ต้องบอกเลยว่าทุ่มทุนสร้างมากๆ #เหมียวฟิ้นเองยังไงเคยทำ เดี๋ยวไว้ต้องกลับไปลองทำบ้างแล้ว ที่มา overseas.weibo
-
นักวิ่งชาวจีนปวดท้องนับพันคน หลังกินสบู่องุ่นเข้าไประหว่างวิ่ง เพราะคิดว่าเป็นอาหาร!?
ในงานแข่งขันวิ่งมาราธอนแต่ละที่มักจะมีการแจกอาหาร แจกน้ำ และผลไม้บำรุงร่างกายต่างๆ ให้แก่เหล่านักวิ่ง แต่คุณอาจจะต้องสังเกตฉลากดีๆ หน่อยนะ เพราะหากคุณกินโดยไม่ทันดูล่ะก็ คุณอาจจะถูกหามส่งโรงหมอก่อนที่จะเข้าเส้นชัยก็เป็นได้… เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี 2016 สำนักข่าว Qingyuan Daily ได้รายงานว่ามีนักวิ่งนับพันคนมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงระหว่างการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองชิงหย่วน ทางตอนใต้ของประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าทางทีมแพทย์และพยาบาลในงานแข่งขันมาราธอนต้องรีบเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลแก่นักวิ่งกันอย่างวุ่นวายเกือบ 12,000 ครั้ง ทั้งนี้มีการโทรเรียกรถพยาบาลกว่า 23 ครั้ง มีคนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 17 คน และมีผู้ที่อยู่ในอาการปวดท้องขั้นรุนแรงอีก 5 คน เมื่อสอบถามไปยังผู้จัดงานถึงสาเหตุที่เหล่านักวิ่งเกิดอาการปวดท้องก็เป็นเพราะว่าทางผู้จัดงานได้มอบถุงของขวัญแก่นักวิ่ง โดยหนึ่งในของขวัญที่อยู่ในถุงนั้นเป็นสบู่กลิ่นองุ่น ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากเข้าใจผิดคิดว่านั่นคือขนมเพิ่มพลังงานและกินเข้าไปนั่นเอง . จะกินอะไรก็ดูกันดีๆ หน่อยซิพวกมนุษย์ ไม่ใช่ได้มาแล้วยัดเข้าปากเลย ที่มา blogs.wsj
-
สาวจีนถูกรถตู้ชนจนกลิ้งเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถ แต่ดันรอดแถมบาดเจ็บเล็กน้อยเท่านั้น!?
[บทความต่อไปนี้อาจมีภาพและเนื้อหาที่ต้องใช้วิจารณญาณในการรับชม] เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Rocketnews24 ได้เผยแพร่คลิปวิดีโออุบัติเหตุสุดอึ้งของหญิงสาวรายหนึ่งขณะเดินข้ามถนนที่การจราจรแออัดในเมืองอันฮุย ประเทศจีน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 มีนาคม ในระหว่างที่เธอเดินข้ามถนนอยู่นั้นเอง กลับมีรถตู้เลี้ยวมาจากถนนอีกเส้นและชนเข้ากับเธอจากด้านหลังจนเจ้าตัวล้มลงและกลิ้งไปอยู่ใต้ล้อรถอย่างสยดสยอง แถมเธอยังถูกรถตู้ลากต่อไปอีกประมาณเมตรกว่าๆ จากนั้นชาวบ้านที่อยู่แถวนั้นก็รีบเข้ามาในที่เกิดเหตุเพื่อดูอาการหญิงสาว ต่อมาคนขับรถตู้ก็ลงมาช่วยยกรถตู้เพื่อดึงเอาตัวหญิงสาวออกมา และตะโกนขอความช่วยเหลือจากคนที่ผ่านไปผ่านมาแถวๆ นั้น จนในที่สุดก็สามารถดึงตัวหญิงสาวออกมาจากใต้ท้องรถได้ในที่สุด ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมจากสำนักข่าว CCTV บอกว่าหญิงสาวปลอดภัยดี แถมยังได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สาเหตุที่อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่าคนขับรถตู้นั้นขับด้านซ้าย และคนเดินข้ามถนนเองก็อยู่ด้านซ้ายของรถตู้เช่นกัน ทำให้คนขับมองไม่เห็นคนข้ามถนน ในขณะที่น้ำหนักของรถตู้ถูกเทไปทางด้านขวา ทำให้ไม่สามารถหักหลบได้ทันนั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย โชคดีมากเลยนะเนี๊ยะที่รอดมาได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะที่จะโชคดีแบบนี้ คราวหน้าคราวหลังก็ระวังกันไว้ด้วยนะจ๊ะ ที่มา rocketnews24
-
ชาวเซี่ยงไฮ้ประดิษฐ์สไลด์เดอร์ในอาคาร เพื่อให้ผู้สูงอายุลงจากที่สูงในกรณีฉุกเฉินได้ในเวลาอันรวดเร็ว
อย่าเพิ่งคิดไปว่าที่ประเทศจีนนั้นมีแต่ข่าวแปลกๆ ข่าวในด้านลบๆ อย่างเดียวนะ เพราะงานไอเดีย งานล้ำๆ พวกเขาก็มีเหมือนกัน… เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านาย Zhou Miaorong ชายชาวจีนวัย 70 ปี ได้คิดค้นหาทางแก้ปัญหาการเดินลงบันไดหลายๆ ชั้นของเหล่าผู้สูงอายุด้วยการสร้างสไลเดอร์ขึ้นมา เพื่อให้ผู้สูงอายุสามารถนั่งจากชั้นบนสุดลงไปยังชั้นล่างสุดได้ภายในเวลาเพียง 90 วินาทีเท่านั้น ตามรายงานบอกว่าสไลเดอร์ที่เห็นอยู่นี้ถูกติดตั้งอยู่ในอาคารแห่งหนึ่งที่มีความสูง 28 ชั้น ในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน มันทำมาจากสแตนเลสและอลูมีเนียม ทำให้การเดินลงบันไดหลายๆ ชั้นกลายเป็นเรื่องง่ายไปเลย นาย Zhou ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าสไลเดอร์นี้ถูกติดตั้งเพื่อเป็นการทดลอง โดยรางสไลดเดอร์จะถูกติดตั้งไปกับกำแพง หากจะใช้งานต้องกางมันออกมาซะก่อน และเมื่อสไลดเดอร์ชั้นบนสุดถูกกางออกแล้ว สไลดเดอร์ชั้นต่อๆ ไปก็จะกางออกมาโดยอัตโนมัติคล้ายกับโดมิโน นาย Zhou ยังตั้งชื่อเล่นให้มันว่า “บันไดวิเศษ” อีกด้วย แต่แม้ว่าสไลดเดอร์นี้จะดูน่าสนุกแค่ไหนก็ตาม แต่คุณก็ควรจะหาอะไรมาป้องกันตัวของคุณสักหน่อย เพราะเวลาใช้งานจริงจะมีการกระแทกกันน่าดู นี่ไม่ใช่ไอเดียแรกเริ่มที่มีการสร้างสไลเดอร์จงจากที่สูงหรอกนะ เพราะก่อนหน้านี้เองก็เคยมีห้างสรรพสินค้าในจีนสร้างสไลเดอร์สูง…
-
เร็วปานเดอะแฟลช!! กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนในเวียดนาม คว้าผลไม้จากจานเกลี้ยงใน 6 วินาที!!
กลายเป็นเรื่องราวโด่งดังไปทั่วโลกทีเดียว สำหรับคลิปของเหล่านักท่องเที่ยวที่หิวโหยตักอาหารทะเลในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศไทยจนหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว ล่าสุดดูเหมือนที่เวียดนามเองก็ต้องรับมือกับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนเช่นกัน… เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเวียดนาม แต่ในระหว่างที่พวกเขากำลังเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์โกลาหลเช่นเดียวกับที่อื่นๆ เพราะในระหว่างที่พนักงานโรงแรมกำลังนำจานลิ้นจี่มาเสิร์ฟบนโต๊ะนั้นเอง กลับมีชาวจีนกว่าสิบคนมายืนล้อมรอบพนักงานคนนั้นเพื่อแย่งชิงผลไม้ในท่าทางแบบหิวโหยสุดๆ เห็นได้ชัดว่าพนักงานรายนี้ดูจะหงุดหงิดสุดๆ เนื่องจากยังไม่ทันจะวางจานก็มีกลุ่มชาวจีนเอิ้อมมือมาหยิบไปซะแล้ว แถมเจ้าตัวยังไม่สามารถขยับออกไปได้ สุดท้ายเธอเลยวางมันลงบนโต๊ะจากนั้นลิ้นจี่บนจานก็หายไปในเวลาไม่กี่วินาที!! ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า Chinese tourists clear out fruit plate in under six seconds at the poolside bar of a hotel in Vietnam. READ MORE: http://shst.me/fruitplate โพสต์โดย Shanghaiist บน 24 มีนาคม 2016 #เหมียวฟิ้นกลัวแล้วจ้าาาา ที่มา shanghaiist
-
อยากลองชิมไหม? Starbucks เตรียมขาย “ชา” สูตรของตัวเองในจีนเดือนกันยายนนี้
Starbucks ถือเป็นแบรนด์กาแฟที่โด่งดังและมีสาขาไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ล่าสุดมีข่าวว่าพวกเขากำลังจะแผ่ขยายสาขาไปยังประเทศจีน แต่ไม่ใช่ร้านกาแฟแบบที่ทุกคนเข้าใจ แต่มันจะเป็นร้านขายน้ำชาแทน เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ร้านกาแฟสัญชาติอเมริกันอย่าง Starbucks กำลังเตรียมที่จะเปิดร้านน้ำชาภายใต้แบรนด์ Teavana ที่ประเทศจีนเป็นสาขาแรก หลังจากที่เริ่มทำมาแล้วในอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน ตามรายงานบอกว่าตอนนี้ชาของแบรนด์ Teavana กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์แล้วเมื่อปีที่ผ่านมา และพวกเขากำลังจะก้าวไปอีกขั้นโดยการเปิดร้านน้ำชาที่จีนในเดือนกันยายนนี้ จีนถือเป็นประเทศที่บริโภคน้ำชามามาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีหลักฐานต่างๆ ที่ขุดพบในหลุมฝังศพของจักรพรรดิฮั่น ที่ช่วยยืนยันว่าชาวจีนนั้นมีน้ำชาดื่มมาตั้งแต่เมื่อสมัย 2737 ปีก่อนคริสต์กาลแล้ว มีแม้กระทั่งน้ำชารสยาสีฟันเลยด้วยซ้ำ แต่การที่บริษัทอเมริกันจะเข้าไปเปิดธุรกิจร้านขายชาในจีนได้นั้นก็ถือเป็นความเสี่ยงอย่างมาก เพราะจีนเป็นประเทศที่ปลูกชาเอง อาจจะต้องเจอกับคู่แข่งในท้องถิ่นก็เป็นได้ แต่ยังไงประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Starbuck อย่าง Kevin Johnson ก็ยังเชื่อมั่นว่าแบรนด์ของเขาจะแข็งแรงพอและประสบความสำเร็จเช่นเดียวกับธุรกิจกาแฟที่เคยทำมา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ชาแบรด์ Teavana จะเข้าไทยบ้างนะเนี๊ยะ แล้วถ้ามาแล้วจะประสบความสำเร็จเหมือนกับกาแฟหรือเปล่า? อันนี้ต้องติดตามกันต่อไปล่ะ ที่มา shanghaiist
-
เล๊ะตุ้มเป๊ะ!! หนุ่มจีนจอดรถหรูขวางทางเข้าออกหมู่บ้าน ชาวบ้านทนไม่ไหวเอาไข่และน้ำหมึกมาปากันมันส์มือ!!
แม้ว่าคนบางคนจะขับหรู ราคาเป็นล้านๆ แต่ก็ใช่ว่าคุณภาพการขับขี่รถของคนบางคนจะเพิ่มสูงตามราคารถไปด้วยนะ และหากคุณไปทำนิสัยแย่ๆ ไว้มากเข้าล่ะก็ อาจจะถูกผู้ใช้รถใช้ถนนรายอื่นๆ รุมเละแบบเจ้าของรถคันนี้ก็ได้นะ… เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าของรถพอร์เช่รายหนึ่งในกรุงเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ได้จอดรถขวางทางเข้าออกของเพื่อนบ้านเป็นเวลานานกว่า 14 ชั่วโมง ทำให้พวกเขาหมดความอดทน จึงหยิบเอาไข่และน้ำหมึกมาสาดใส่รถหรูสะเละเทะเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าเรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นมาจากช่วงเช้าของวันอังคารที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ถกเถียงกันระหว่างเจ้าของรถพอร์เช่แซ่หวาง และยามรักษาความปลอดภัยในละแวกนั้น โดยฝ่ายยามรักษาความปลอดภัยพยายามจะคิดค่าที่จอดรถแก่นายหวาง เนื่องจากเขาจอดรถนานเกิน 7 วัน เป็นจำนวน 70 หยวน หรือประมาณ 380 บาท แต่เจ้าของรถกลับโกรธจัด เพราะนายหวางบอกว่าเขาเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของคนในละแวกนั้นเช่นกัน จึงไม่ควรที่จะถูกปรับเป็นจำนวนเงินที่มากขนาดนี้ แถมรถคันนี้ก็ยังไม่ได้จดทะเบียนด้วย เขาจึงควรลดค่าปรับลงเหลือเพียง 10 หยวน หรือประมาณ 54 บาทเท่านั้น นอกจากนี้นายหวางยังบอกอีกว่ายามรักษาความปลอดภัยพูดจาดูถูกเขา เขาเลยอยากจะแก้แค้นโดยการจอดรถขวางทางเข้าออกของหมู่บ้าน แต่เห็นได้ชัดเลยว่านายหวางไม่ได้คิดถึงผลกระทบเกี่ยวกับเพื่อนบ้านเลย เพื่อนบ้านของเขาจึงต้องเปลี่ยนไปใช้เส้นทางฉุกเฉินแทน และนั่นก็ยิ่งทำให้ชาวบ้านโกรธแค้นและต้องลงไม้ลงมือในที่สุด …
-
ทำไมโหดกันอย่างนี้!? กลุ่มนักเรียนจีนดักทำร้ายร่างกายอาจาร์ย เพียงเพราะโดนต่อว่าในห้องเรียน!?
ถือเป็นเรื่องราวชวนอึ้งไปเลย สำหรับกรณีของกลุ่มเด็กนักเรียนชาวจีน ที่แค้นอาจารย์ผู้สอนเพียงเพราะถูกตำหนิในห้องเรียน เลยพากันยกพวกไปดักทำร้ายร่างกายเขาซะอย่างงั้น!? เมื่อวันที่ 22 มีนาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของ 2 เด็กนักเรียนชายชั้นมัธยมจากโรงเรียน มัธยมเป่าจี๊ ในมณฑลส่านซี ประเทศจีน ที่กำลังรุมทำร้ายร่างกายคุณครูภายในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่ง ตามรายงานบอกว่านักเรียนทั้ง 2 คนได้เข้าทำร้ายร่างกายคุณครูสอนวิชาดนตรี ทั้งต่อยและเตะอย่างรุนแรง ในระหว่างนั้นมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ๆ พบเห็นเหตุการณ์เข้าพอดี จึงเข้าไปห้ามปราม แต่เด็กนักเรียนพยายามกันไม่ให้พวกเขาเข้าไปได้ จึงแอบถ่ายคลิปวิดีโอไว้และนำไปส่งให้ตำรวจท้องถิ่น เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งก็รีบเดินทางมาที่เกิดเหตุและนำตัวคุณครูส่งโรงพยาบาลทันที และโทรเรียกให้พ่อแม่ของเด็กๆ มารับตัวพวกเขากลับบ้านหลังจากที่ได้ตำหนิและสั่งสอนทั้งสองคนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากเด็กๆ ถูกคุณครูตำหนิในชั้นเรียนจนเกิดความแค้นส่วนตัว และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคมที่ผ่านมาแล้ว แต่เด็กนักเรียนทั้งสองกลับไม่ได้ถูกลงโทษร้านแรงอะไร มีเพียงการกล่าวตักเตือนเท่านั้น ส่วนคุณครูเมื่อทำการรักษาพยาบาลเสร็จก็กลับมาทำงานตามปกติ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า มีอะไรก็ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันดีกว่านะนักเรียน ที่คุณครูเขาตำหนิหรือตักเตือนก็เพราะว่าพวกเขาพายามสอนให้เราเป็นคนดีนั่นเอง หากไม่มีคุณครู ไม่มีกฎระเบียบ นักเรียนจะเติบโตไปเป็นคนที่มีระเบียบวินัยได้ยังไงล่ะจริงไหม? ที่มา shanghaiist
-
เละเทะ!! นักท่องเที่ยวชาวจีนแห่กันปีน/กระทุ้งต้นซากุระ เพื่อให้ตัวเองได้ภาพเซลฟี่ที่ดีที่สุด!?
นักท่องเที่ยวชาวจีนถือเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ล่าสุดพวกเขาได้ก่อวีรกรรมที่ทำให้ชาวเน็ตถึงกับต้องอ้าปากค้างอีกแล้ว เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้มีการเผยแพร่ภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวในเมืองนานกิง ประเทศจีนพยายามเตะ กระทุ้งและปีนป่ายต้นซากุระ เพื่อให้ดอกซากุระร่วงลงมาระหว่างที่พวกเขากำลังถ่ายภาพเซลฟี่ ภาพดังกล่าวเผยให้เห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกำลังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้กิ่งเล็กๆ ทำให้ชาวเน็ต ในจีนพากันต่อว่าและประนามการกระทำสุดป่าเถื่อนและไร้อารยธรรมของพวกเขาอย่างมาก ความเห็นจากชาวเน็ตบางส่วนบอกว่า “ถ้าพวกเขาได้มาอ่านข่าวนี้พวกเขาจะรู้สึกละอายแก่ใจกับพฤติกรรมป่าเถื่อนของพวกเขาบ้างไหมนะ” และ “คือ พอถึงปีลิงแล้วทุกๆ คนจะกลายร่างเป็นลิงไปด้วยเหรอ?” แต่ในส่วนของกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบที่มีคุณภาพเองก็ใช่ว่าจะไม่มีนะ อย่างเช่นภาพด้านล่างนี้คือภาพของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ไปชมดอกซากุระแบบถูกระเบียบ ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกและไม่มีการปีนป่ายใดๆ ทั้งสิ้น จากข่าวนี้แสดงให้เห็นว่าชาวจีนบางกลุ่มเองก็ไม่ได้พอใจกับพฤติกรรมเหล่านี้สักเท่าไหร่ และยังพยายามต่อว่าชาวจีนด้วยกันด้วย ที่มา shanghaiist
-
จีนประกาศเตือน!! ระวังภัยอันตรายจากซีรี่ย์ ‘Descendants of the sun’ เหตุเพราะพระเอกหล่อเกิน!?
จากกระแสของซีรี่ย์เกาหลีฟอร์มยักษ์เรื่อง Descendants of the sun ที่กำลังโด่งดังอยู่ในเวลานี้ แน่นอนว่าคงไม่มีใครฮอตเท่ากับ ซุงจุนกิ พระเอกของซีรี่ย์เรื่องนี้อีกแล้วล่ะ (ฮอตจนขนาดที่ว่ามียอดผู้ชมในประเทศจีนถึง 440 ล้านคนเลยทีเดียว) นอกจากนี้ยังมีรายงานจากเว็บไซต์ allkpop ว่าเพจอย่างเป็นทางการที่เกี่ยวของกับความปลอดภัยสาธารณะของจีน ถึงกับต้องโพสท์แจ้งเตือนให้ประชาชน ระวังภัยอันตรายจากซีรี่ย์เรื่องนี้ เพราะ ซงจุงกิ นั้นหล่อจนเกินจะบรรยาย จนทำให้เหล่าพ่อบ้านถึงกับร้องเรียนเข้ามาเพื่อเตือนถึงภัยอันตราย จนอาจจะทำให้ขึ้นโรงขึ้นศาลกันได้เลยทีเดียว เรื่องนี้เนี่ยดูเหมือนจะเว่อร์ไปหน่อยนะ แต่จริงๆแล้วได้เกิดเหตุการความขัดแย้งถึงขั้นนำไปสู่การหย่าร้าง เนื่องจากความหึงหวงของเหล่าพ่อบ้านใจกล้าที่เห็นกวางน้อยของตนชื่นชอบนักแสดงหนุ่มจนเป็นบ้าเป็นหลัง บางส่วนก็ถึงกับลงทุนไปศัลยกรรมพลาสติกให้หน้าตาเหมือนกับ ซงจุงกิ เลยทีเดียว!! และด้วยกระแสความแรงนี้จึงส่งผลให้ความนิยมของซีรี่ย์ Descendants of the sun และนักแสดงหนุ่ม ซงจุงกิ ขึ้นอันดับ 1 บนแท่นดารายอดนิยมในจีนแล้ว และขณะเดียวกันความนิยมของ ซงจุงกิ ก็ได้แพร่กระจายไปยังทั่วทุกมุมโลกเลยทีเดียวแหละ ไมใช่มีเพียงแค่ในเมืองจีนเท่านั้นนะ!! ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงฮอตขนาดนี้ เพราะว่าพี่ ซงจุงกิ แกทั้งหล่อ ทั้งล่ำ ซะขนาดนี้ ฉะนั้นเหล่าสาวๆบ้านเราก็ต้องตั้งสติไว้ให้มั่น…
-
สะเทือนอารมณ์ หนุ่มจีนถูกจ้างให้ปลอมตัวเป็นหลานชายที่ตายไปแล้ว เพื่อให้คุณยายสบายใจ
นี่เป็นหนึ่งในเรื่องราวชวนให้#เหมียวฟิ้นสะเทือนใจ ที่ก้ำกึ่งระหว่างความความรัก ความถูกต้องและศีลธรรมเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายชาวจีน Huang Xiaoyong ว่าจ้างชายหนึ่มคนหนึ่งให้ปลอมตัวเป็นลูกชายของตัวเอง เพื่อไม่ให้คุณยายของเขาจับได้ว่าหลานชายเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2009 ตามรายงานบอกว่านาย Huang Ge ลูกชายของ Huang Xiaoyong ได้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อเสื่อมพันธุกรรม และเสียชีวิตไปตั้งแต่เมื่อปี 2009 แต่เขากลับปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้คุณแม่ของเรารู้ แถมหูตาของเธอก็เริ่มฟ่าฟาง ทำให้เธอแทบจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าหลานชายของเธอได้จากไปแล้ว นาย Huang Xiaoyong ได้บอกกับแม่ของเขาว่าหลานชายกำลังอยู่ในช่วงทำกายภาพบำบัดเพื่อกลับมาเดินได้อีกครั้ง แต่เนื่องจากลูกชายเสียชีวิตไปนานแล้ว เขาจึงจำเป็นที่จะต้องหลอกแม่ของเขาไปเรื่อยๆ เป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของเขาก็เริ่มเฝ้าถามถึงหลานชายสุดที่รักของเธอ นาย Huang Xiaoyong จึงจำเป็นที่จำต้องพาลูกชายมาเจอกับเธอ แต่ในเมื่อเรื่องทุกอย่างเป็นเรื่องโกหก เขาก็เลยต้องตามหาคนที่มีลักษณะคล้ายกับลูกชายของเขา เพื่อปลอมตัวให้แม่ของเขาได้หาสงสัย จนวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับชายที่ชื่อ Wang Feng นาย Huang เลยให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมต้องการชายหนุ่มอายุระหว่าง 25-28 ปี…
-
ออสเตรเลียขยายเวลาวีซ่าสำหรับชาวจีนเป็นเวลา 10 ปี หวังดึงเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยว!!
ประเทศออสเตรเลียถือเป็นประเทศที่ใครๆ ก็อยากไปเที่ยวนะ เพราะเป็นประเทศที่สวยงาม มีความสงบ แถมเด็กๆ ชาวไทยก็เดินทางไปศึกษาต่อที่นั่นมากมายทีเดียว ล่าสุดพวกเขาได้เตรียมส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับชาวจีนโดยเฉพาะเลย เมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายว่า ประเทศออสเตรเลียเสนอวีซ่าให้ชาวจีนเข้ามาในประเทศได้นานถึง 10 ปี เพื่อดึงเอานักท่องเที่ยวและเม็ดเงินจำนวนมากเข้าสู่ประเทศ จากที่ก่อนหน้านี้จะสามารถขอวีซ่าท่องเที่ยวได้ไม่เกิน 1 ปี ตามรายงานบอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ Julie Bishop ได่กล่าวนโยบายดังกล่าว ถือเป็น “ตัวเปลี่ยนเกม” เลย เพราะเป็นการให้อิสระแก่นักท่องเที่ยวจีน ด้านนาย Zhang Chuanbo ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกล่าวว่า “ในหลายๆ ประเทศได้มีการผ่อนปรนเรื่องระยะเวลาวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนลง ยกตัวอย่างเช่นบางประเทศอย่างเกาหลีใต้ ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา และสิงคโปร์ ได้ยืดระยะเวลาจากเดิม 5 ปี เป็น 10 ปี” แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนักวิเคราะห์มองกันว่าการขยายระยะเวลาวีซ่าดังกล่าวจะยังคงมีขอบเขตอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวจีนแอบมาทำงานในออสเตรเลียนั่นเอง #เหมียวฟิ้นมั่นใจเลยว่าหลังจากนี้ออสเตรเลียจะได้รับเม็ดเงิน จากนักท่องเที่ยวชาวจีนจนโกลาหลแน่นอน…
-
คุณยายชาวจีนวัย 87 ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง แต่หลังจากฝึกกังฟู อาการทุกอย่างก็ดีขึ้นทันตาเห็น!?
เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่เรื่องราวสุดเหลือเชื่อของคุณยาย หลิว ซิ่วยิ่ง วัย 87 ปี ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่ป่วยเป็นโรคหลอดเลือดในสมอง แต่นั่นไม่ได้ทำให้เธอท้อแท้ เธอจึงหันมาเล่นกังฟูเพื่อให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้น!? แม้ว่ายายหลิวจะมีอายุปาเข้าไปกว่า 87 ปีแล้วก็ตาม แต่เธอก็ยังมีดวงตาที่ใสแจ๋ว สามารถมองเห็นเส้นด้ายและเข็มแม้จะไม่ได้สวมใส่แว่นตาก็ตาม และหลังจากที่เธอหันมาเล่นกังฟู อาการเจ็บออดๆ แอดๆ ก็หายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อมากๆ นอกจากนี้คุณยายยังเผยเคล็ดลับอื่นๆ ที่ทำให้สุขภาพดีอีกว่า เธอหันมาชกมวย ปลูกผักในสวน และทำอาหารด้วยตัวเอง จากภาพประกอบจะเห็นได้ว่าคุณยายหลิวสามารถยกขาขึ้นมาเหนือหัวได้แบบสบายๆ แถมยังทำท่าฉีกขาได้อีก ทำเอาคนหนุ่มสาวอย่าง#เหมียวฟิ้นนี่ถึงกับอายม้วนเลยทีเดียว อนึ่ง กังฟูถือเป็นศิลปะป้องกันตัวของชาวจีนโปราณมาตั้งแต่สมัยเมื่อ 4,000 กว่าปีก่อน ตั้งแต่สมัยกษัตริย์หวงตี้ หรือ จักรพรรดิเหลืองนั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า อันที่จริงแล้ว เราอาจจะไม่ต้องถึงขั้นไปเล่นกังฟูแบบคุณยายก็ได้นะ แค่เรากินผักผลไม้เยอะๆ…
-
ขนลุกขนพอง!! สาวจีนอัดคลิปขณะเปิบแมงป่องเสียบไม้เป็นๆ อย่างเอร็ดอร่อย!?
ขึ้นชื่อว่าเปิบพิสดาร หลายๆ คนก็คงจะนึกถึงเมนูแปลกๆ อย่างการกินอาหารดิบๆ เมนูสารพัดสัตว์ที่คนทั่วไปเขาไม่กินกัน…แต่บางคนกลับชอบกินซะงั้น เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดอึ้งของสาวจีนรายหนึ่ง ที่กำลังถือแมงป่องเสียบไม้ตัวเป็นๆ จากนั้นเธอก็งับเข้าปากไปอย่างเอร็ดอร่อย ประหนึ่งเป็นอาหารโปรดที่เธอโหยหามานาน!? แม้ว่าแมงป่องจะเป็นสัตว์มีพิษที่คนส่วนใหญ่หวาดกลัว แต่สำหรับชาวจีนแล้ว พวกเขาเชื่อว่าการรับประทานแมงป่องแบบเป็นๆ จะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง คล้ายกับการดื่มยายาอายุวัฒนะยังไงยังงั้นเลย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย สำหรับ#เหมียวฟิ้นแล้ว แค่กินยำกุ้งเต้นก็ถือเป็นที่สุดของความแปลกแล้วล่ะ เห็นแบบนี้แล้วถึงกับจุกในลำคอเลยทีเดียว ที่มา liveleak
-
สาวจีนสั่งซื้อ Apple iPhone 6s ผ่านเน็ตเพราะราคาถูก ปรากฏว่าดันได้ Pear Phone มา 2 เครื่องซะงั้น!?
การสั่งซื้อของออนไลน์ในปัจจุบันนี้ถือเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมมากเลยนะ เพราะไม่ต้องเสียเวลายืนเลือกของ กว่าจะเดินทาง กว่าจะไปถงห้าง กว่าจะกลับอีก แต่มันก็ยังคงมีความเสี่ยงอยู่บ้างนะ เพราะหากคุณไม่เจอของที่ราคาถูก “ผิดปกติ” คุณอาจจะกลายเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหญิงสาวชาวจีนแซ่เฉาได้ทำการสั่งซื้อมือถือ iPhone 6s ผ่านเว็บไซต์ออนไลน์แห่งหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่ามีราคาถูกเพียง 3,400 หยวน หรือประมาณ 18,317 บาทเท่านั้น แต่หลังจากที่เธอโอนเงินให้กับพ่อค้าแล้ว กลับได้รับแจ้งว่า ตอนนี้มือถือของเธอถูกศุลกากรยึดเอาไว้ เธอจำเป็นจะต้องโอนเงินให้กับพ่อค้าอีกราวๆ 5,000 หยวน หรือประมาณ 26,937 บาท และเมื่อเธอได้รับของแล้วพ่อค้าจะโอนเงินคืนให้กับเธอเอง ซึ่งเธอก็ตอบตกลงแต่โดยดี แต่แน่นอนว่ามีพิรุธแบบนี้เธอคงจะไม่ได้มือถือ Apple iPhone6s แบบปกติแน่นอน และเมื่อพัสดุมาส่งถึงบ้านเธอก็แทบลมจับ เพราะภายในนั้นคือ Pear Phone ที่มีสัญลักษณ์ด้านหลังเป็นลูกแพร์!! เมื่อเธอพยายามจะติดต่อพ่อค้าเพื่อขอคืนเงินก็สายไปซะแล้ว เพราะเขาปิดมือถือและเปิดแน่บไปแล้วเรียบร้อย จำไว้ว่าของถูกและดีไม่มีในโลกนะ อาจจะมีบ้างแต่ถ้าถูกจนเกินจริง ให้สันนิษฐานก่อนว่าอาจจะไม่จริงนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
พ่อลูกชาวจีนใจบุญ รับเลี้ยงหมาจรจัดกว่า 300 ตัว ตลอดเวลา 13 ปีที่ผ่านมา!!
เรื่องที่ #เหมียวฟิ้น จะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของสองพ่อลูกสุดใจบุญคู่หนึ่งในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่รับเลี้ยงสุนัขจนจัดมานานกว่า 13 ปี จนพวกเขาเปลี่ยนชีวิตของพวกมันให้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พ่อลูกคู่นี้ได้รับสุนัขมาเลี้ยงแล้วกว่า 300 ตัว ซึ่งแต่ละตัวนั้นมีอาการป่วย พิกลพิการ ถูกทารุณกรรม หรือได้รับบาดเจ็บอะไรสักอย่าง โดยตัวลูกสาวอย่าง A Zi ได้เผยว่า พวกเขาเคยแม้กระทั่งไปช่วยสุนัขให้รอดพ้นจากโรงฆ่าสัตว์เลยทีเดียว ในขณะที่พวกเขาต้องพบกับความยากลำบากและสัตว์มากมายหลายรูปแบบตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะล้มเลิกการรับเลี้ยงสัตว์ แถมยังวางแผนที่จะช่วยเหลือสัตว์ให้ได้มากกว่านี้ซะอีก ตามรายงานไม่ได้ระบุจำนวนตัวเลขที่สองพ่อลูกต้องจ่ายเพื่อดูแลสุนัขกว่า 300 ตัว (แต่คาดว่าน่าจะเป็นแสนทีเดียว) คนใจบุญนี่ก็ใจบุญเหลือล้นจริงๆ ส่วนคนใจร้ายก็ร้ายได้แบบจินตนาการไม่ถึงทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
ชายจีนพิการแขนขาดไม่ยอมแพ้โชคชะตา ประดิษฐ์แขนกลใช้เองจนสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ
แม้ชีวิตของคนเราจะสูญเสียกำลังใจและอะไรหลายๆ อย่างไป แต่ก็อย่างได้ยอมแพ้ต่อโชคชะตาเด็ดขาด เพราะหากคุณลุกขึ้นสู้แบบชายชาวจีนรายนี้ จะต้องมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน เรื่องราวที่#เหมียวฟิ้นจะหยิบมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของนาย ซัน จีฟ่า วัย 63 ปี จากจังหวัดจี๋หลิน ประเทศจีน เขาได้สูญเสียแขนไปทั้ง 2 ข้าง แต่ด้วยความไม่ย่อท้อ ทำให้เขาประดิษฐ์แขนเหล็กขึ้นมาใช้ด้วยตนเอง จนได้รับฉายาว่า “ซันแขนเหล็ก” นายซันเล่าว่าเขาได้เข้าร่วมกับกองทัพเมื่อปี 1974 เข้ามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับระเบิดเป็นพิเศษ หลังจากรับใช้ชาติเสร็จแล้วเขาก็ถูกปลดประจำการกลับมาอยู่ที่บ้านและแต่งงานมีครอบครัว วันหนึ่งในเดือนกันยายนปี 1980 เขาได้ออกไปจับปลานอกบ้านเพื่อนำมาทำอาหารให้กับภรรยาของเขา แต่แทนที่จะใช้เบ็ตตกปลาแบบทั่วๆ ไป เขากลับใช้ตัวจุดระเบิดเพื่อระเบิดให้ปลาลอยขึ้นมาเหนือน้ำ แต่โชคร้ายที่ระเบิดดันระเบิดใส่มือของเขาก่อนที่จะระเบิดลงในแอ่งน้ำ ทำให้เขาสูญเสียแขนตั้งแต่ช่วงข้อศอกลงไป ในตอนนั้นนายซันรู้สึกท้อแท้กับชีวิตถึงขั้นอยากจะฆ่าตัวตายเลยทีเดียว โชคดีที่เขาได้กำลังใจจากภรรยา คนรอบๆ ตัว ทำให้นายซันฮึดสู้อีกครั้ง วันหนึ่งในปี 1934 นายซันได้ประดิษฐ์แขนกลขึ้นมาใช้กับแขนที่ขาดไปของเขา มันทำมาจากพลาสติก, ยาง และเหล็ก แต่นั่นยังไม่เป็นที่พอใจสำหรับเขา เลยมีการนำเอาแชนกลมาพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ …
-
ทารกน้อยพลัดตกตึกชั้น 5 หลังคุณยายปล่อยเล่นริมระเบียงคนเดียวจนประตูล็อค
อย่างที่ #เหมียวฟิ้น มักจะบอกกับเพื่อนๆ เสมอว่าไม่ควรปล่อยลูกน้อยไว้ในห้องนอนคนเดียว เพราะเด็กๆ มักอยากรู้อยากเห็นและซนยิ่งกว่าอะไรดี พวกเขาอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เลยนะ เมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อช่วงบ่าย 3 ของวันที่ 10 มีนาคม หนูน้อยชาวจีนวัย 1 ขวบ ได้พลัดตกลงมาจากระเบียงชั้น 5 ที่อพาร์ทเม้นต์แห่งหนึ่งในเมืองดองกวน ประเทศจีน แต่โชคดีที่มีคนมาช่วยชีวิตไว้ได้ทัน นางสาวซู หนึ่งในผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ที่ชั้นหนึ่งของอาคาร ตอนนั้นฉันได้ยินเสียงร้องของเด็กพอดี ฉันเลยเงยหน้าไปมอง เห็นเด็กนั่งอยู่ที่ริมระเบียงชั้น 5 โดยมีขาข้างหนึ่งยื่นออกมาจากระเบียง” จากนั้นเธอก็รีบเข้าไปที่บ้านของตัวเองเพื่อดึงเอาเตียงออกมารองรับร่างของเด็กน้อยที่กำลังจะตกลงมา แถมยังมีเพื่อนบ้านที่อยู่แถวๆ นั้นเข้ามาช่วยเธอกันยกใหญ่ ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามพังประตูเข้าไปช่วยเหลือเด็กน้อยออกมาจากระเบียง แต่เด็กน้อยดันร่วงลงมาซะก่อน แต่มีคนจำนวนมากช่วยถือที่นอนไว้ด้านล่าง ทำให้เด็กน้อยไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ตามรายงานบอกว่าสาเหตุที่เด็กน้อยตกลงมาจากระเบียงเป็นเพราะว่า ยายอุ้มหลานออกไปเล่นที่ระเบียง เล่นกันไปมาซักพัก คุณยายก็เข้าไปอยู่ฝั่งข้างในแล้วประตูดันล็อค ก็เลยทำให้เข้าไปที่ระเบียงไม่ได้ ซึ่งคุณยายเองสัญญาว่าจากนี้จะจะไม่ละสายตาจากหลานอีกเด็ดขาด ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า…
-
มันต้องไปได้ซิ!! คนขับแท็กซี่ในจีนหัวรั้น ขับรถลงพื้นซีเมนต์ที่ยังไม่แห้ง สุดท้ายติดแหงกจ้า
ทุกครั้งที่หน่วยงานของรัฐมีการปิดถนนเพื่อซ่อมบำรุง พวกเขาก็จำมีการนำเอาป้ายสัญลักษณ์หรืออุปกรณ์ต่างๆ มาวางกั้นไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน แต่ก็ยังมีคนขับรถบางคนที่ดื้อรั้นไม่ฟังใครเหมือนกันนะ… เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ถนนเส้นหนึ่งในเมืองฉงฉิ่ง ประเทศจีน ได้มีการซ่อมบำรุงและเทปูนซีเมนต์ลงไปใหม่ โดยนำเอาที่กั้นมาวางไว้อย่างชัดเจน แต่ในขณะนั้นมีแท็กซี่ขับผ่านมาด้วยความเร่งรีบ เลยคิดว่าคงจะไม่เป็นอะไรหากขับผ่านไปด้วยความเร็ว จากนั้นแท็กซี่คันนี้ก็พุ่งลงไปยังพื้นซีเมนต์ที่ยังไม่แห้งดี ผลปรากฏว่าแหง็กซิครับ แท็กซี่คันนี้ไม่สามารถขับต่อไปได้ นอกจากนี้ยังมีพยานที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า รถแท็กซี่คันนี้ไม่ได้มีการชะลอแต่อย่างใด แถมยังขับทะลุสิ่งกีดขวางไปหน้าตาเฉย หลังจากที่คนขับแท็กซี่แหงกอยู่กับถนนได้ไม่นาน เขาก็ตัดสินใจได้เดินไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาเอารถของเขาออกไป ก่อนที่รถของเขาจะติดอยู่กับถนนไปตลอดกาล อยากจะขอเตือนเพื่อนๆ เลยนะว่าหากเจอถนนซีเมนต์ที่ยังไม่แห้งแถวไหน อย่าขับรถไปเหยียบเด็ดขาด (ปกติก็ไม่มีใครเขาขับไปเหยียบอยู่แล้วแหละ) ที่มา shanghaiist
-
เป็นไปได้ไง!? จีนเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ 4 คันชนกันแบบครึ่งวงกลม ตำรวจคาดเกิดจากไม่ให้ทางกัน
อุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่คงจะมีเพียงไม่กี่ครั้งหรอก ที่ทุกๆ คนจะต้องอึ้งและอุทานว่า “มันเกิดขึ้นได้ไงเนี๊ยะ!?” เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าวันที่ 9 มีนาคม ได้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนถนน Yizhou ในมณฑลเสชวน ประเทศจีน ระหว่างรถยนต์ 4 คัน แต่ภาพที่เห็นไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดาๆ แต่เป็นภาพที่รถทั้ง 4 คันกำลังคันชนกันเป็นรูปครึ่งวงกลม ทำให้เกิดคำถามว่าพวกเขาขับรถยังไงถึงชนกันแบบนั้น!? เมื่อเข้ามาดูให้ชัดๆ จะเห็นว่ามีรถ 3 คันชนกันจากซ้ายไปขวา ส่วนรถสีขาวที่อยู่ขวาสุดถูกชนที่ด้านท้าย หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเข้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ทำการสอบสวนโดยด่วน จากอุบัติเหตุครั้งนี้ ทำให้รถบัสที่วิ่งตามมาจากด้านหลังต้องหยุดชะงักลง และส่งผลให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นได้ยังไง ใครถูกหรือใครผิด แต่โชคดีที่คนขับรถทั้ง 4 คันไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง นี่อาจเกิดจากการที่คนขับรถทั้ง 4 คนไม่ยอมให้ทางแก่รถคันอื่นก็เป็นได้นะ เลยเกิดเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครยอมใครแบบนี้ยังไงล่ะ ที่มา dailymail
-
ตำรวจจีนน่ารัก โบกรถมอบดอกไม้ให้สาวๆ ที่ใส่ส้นสูงขับรถ พร้อมกับเตือนว่า “มันอันตรายนะครับ”
แม้ว่าทุกวันนี้จะมีข่าวแปลกๆ และข่าวลบๆ เกี่ยวกับประเทศจีนหรือชาวจีนออกมาอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเรื่องราวดีๆ น่ารักๆ ของพวกเขาก็มีอยู่เช่นกัน มีรายงานว่าเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรในมณฑลฉงชิ่งที่ออกมายืนตั้งด่านและโบกให้รถยนต์ที่สาวๆ เป็นคนขับจอด เพื่อตรวจดูว่าพวกเธอใส่รองเท้าส้นสูงในการขับรถหรือไม่ จากนั้นพวกเขาก็มอบดอกไม้และกระดาษข้อความน่ารักๆ ให้กับพวกเธอเนื่องในวันสตรีสากล ด้านนางสาวเฉิน หนึ่งในหญิงสาวที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด ให้สัมภาษณ์ว่า เธอรู้สึกตื่นกลัวมากที่ถูกเรียกให้จอด เธอคิดว่าตัวเองต้องทำอะไรผิดไปสักอย่างแน่ๆ แต่เธอก็ต้องประหลาดใจเพราะตำรวจได้มอบดอกกุหลาบสีแดงมาให้เธอดอกหนึ่ง แทนที่จะเป็นการแจกใบสั่ง ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อธิบายกับสื่อท้องถิ่นว่า “เราได้เตรียมดอกไม้ถึง 200 ดอกเพื่อจะแจกมันให้กับสาวๆ ที่ทำตามกฎจราจร เราต้องการแสดงออกถึงความปรารถนาดีถึงสาวๆ ทุกคน เราก็เลยใช้โอกาสนี้ในการบอกคนขับรถ โดยเฉพาะสาวๆ ให้เลิกนิสัยแบบนั้นเสียที เพื่อความปลอดภัยของพวกเขาเอง” พร้อมกันนี้ ในดอกไม้ยังมีกระดาษข้อความที่เขียนเองไว้ว่า “เคล็ดลับการขับรถ: อย่าสวมใส่รองเท้าส้นสูงขณะขับรถ เว้นที่นั่งของคุณให้ห่างจากพวงมาลัย และอย่ารับโทรศัพท์หรือถ่ายเซลฟี่หรือแชทระหว่างขับรถนะครับ” สาเหตุที่พวกเขาต้องทำแบบนั้นก็เพราะว่าสาวๆ ในประเทศจีนมักจะใส่ส้นสูงขับรถ ทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้งนั่นเอง แหม่ น่ารักจริงๆ เลยนะเนี๊ยะ ที่มา shanghaiist
-
ผู้โดยสารจีนเปิดประตูเครื่องบินระหว่างรอเทคออฟ อ้าง “ผมจะสูดอากาศบริสุทธิ์” !?
กลายเป็นเรื่องราววุ่นๆ ที่เกิดขึ้นในประเทศจีนอีกแล้วล่ะ เพราะเมื่อผู้โดยสารเครื่องบินรายหนึ่งดันไปเปิดประตูฉุกเฉินระหว่างรอเครื่องเทคออฟ เพียงเพราะอยากจะสูดอากาศบริสุทธิ์เท่านั้น!? เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าในระหว่างที่เครื่องบินจากสายการบิน China Southern กำลังเตรียมตัวที่จะเทคออฟออกจากสนามบิน จู่ๆ กลับมีผู้โดยสารรายหนึ่งเดินไปเปิดประตูฉุกเฉินแง้มๆ ไว้ เพื่อจะได้รับอากาศบริสุทธิ์ ตามรายงานบอกว่าสายการบินดังกล่าวกำลังจะออกจากมณฑลเฉินตู ไปยังเมืองอุรุมชี ต้องออกเดินทางช้ากว่ากำหนดเกือบ 1 ชั่วโมง ในขณะที่เจ้าหน้าที่สนามบินต้องวิ่งกันวุ่นเพื่อมาปิดประตู และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ สุดท้ายเจ้าหน้าที่บนเครื่องก็พบตัวชายผู้เปิดประตูฉุกเฉินบนเครื่องได้ โดยเจ้าตัวอธิบายว่าตนเองนึกว่าคันโยกของประตูฉุกเฉินคือคันโยกสำหรับเลื่อนหน้าต่างเครื่องบินให้เปิดออก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ชาวจีนมีความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับประตูฉุกเฉิน เพราะมีรายงานกันว่าในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2015 มีผู้โดยสารจีนเปิดประตูฉุกเฉินไปแล้วกว่า 15 ครั้งทีเดียว!! โชคดีที่เครื่องยังคงจอดอยู่กับที่ เพราะหากเปิดประตูฉุกเฉินในระหว่างที่เครื่องกำลังบินอยู่นั้นอาจทำให้ความดันเครื่องต่ำจนผู้โดยสารหายใจไม่ออกและเสียชีวิตได้เลยทีเดียว เล่นเอาตกอกตกใจหมดเลยนะเนี๊ยะ ทีหน้าทีหลังไปสูดอากาศให้ฉ่ำปอดแล้วค่อยขึ้นเครื่องน้า ที่มา shanghaiist
-
อกอีแป้นจะแตก!! จีนจัดกิจกรรมให้คนแข่งกัน “ปลดตะขอบรา” นางแบบกลางห้างสรรพสินค้า!?
วันที่ 8 มีนาคมของทุกๆ ปี จะถือเป็นวันสตรีสากล เพื่อละลึกถึงคุณงามความดีต่อหญิงสาวใรด้านเศรษฐกิจการเมือง และบรบททางสังคมทั่วๆ ไป แต่ที่ประเทศจีนเขามีการเฉลิมฉลองวันดังกล่าวท่ “แตกต่าง” ไปจากภูมิภาคอื่นมากทีเดียว… เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองหลิ่วโจว ประเทศจีน ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองวันสตรีสากลโดยการให้นางแบบ 6 คนมายืนสวมชุดชั้นในกลางห้าง และให้เหล่าอาสาสมัครปลดตะขอที่บราของพวกเธอออกให้เร็วที่สุด!? ตามรายงานบอกว่ากิจกรรมนี้มีผู้เข้าร่วม 8 คนด้วยกัน โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ชาย โดยกติกามีอยู่ว่า ผู้เข้าแข่งขันจะต้องใช้มือเพียงข้างเดียวในการปลดตะขอให้เร็วที่สุด ซึ่งผู้ชนะได้แก่หนึ่งในหญิงสาวผู้เข้าแข่งขัน โดยใช้เวลาในการปลดตะขอไปทั้งสิ้นเพียง 14 วินาทีเท่านั้น อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าผู้จัดงานและคนออกไอเดียดังกล่าวดูจะยังไม่เข้าใจถึงแก่นแท้ของวันสตรีสากลเท่าไหร่นัก เพราะแทนที่พวกเขาจะสร้างความเท่าเทียมทางเพศกลับนำเอามาเป็นกิจกรรมสนุกสนาน แถมยังสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในด้านลบออกมาเสียเป็นส่วนใหญ่ เหมียวนี่อึ้งไปเลย ที่มา dailymail
-
ร้านอาหารข้างถนนในจีนไอเดียแหวก จ้างพริตตี้มายืนหน้าร้านหวังเรียกความสนใจจากคนผ่านไปผ่านมา!?
หากคุณทำธุรกิจค้าขายอาหารตามข้างทาง แล้วอยากจะเรียกความสนใจจากลูกค้าให้ได้มากๆ พวกคุ้ณอาจจะทำโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมหรือสร้างเมนูใหม่ๆ มาให้ลูกค้าได้ลิ้มลองใช่ไหมล่ะ แต่ร้านอาหารที่จีนร้านนี้มีไอเดียที่แปลกแหวกแนวยิ่งกว่านั้น… เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าร้านอาหารตามข้างทางในเมืองเว่ยฟาง มณฑลซานตง ประเทศจีน ได้จ้างนางแบบเอวบางร่างน้อย (แถมยังนุ่งน้อยห่มน้อย) ให้มายืนประจำอยู่ที่หน้าร้าน เพื่อเรียกความสนใจของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ทั้งนี้ไม่มีการรานงานว่าร้านค้าร้านไหนที่เป็นคนเริ่มการจัดกิจกรรมแบบนี้เป็นร้านแรก แต่หลังจากที่มันเริ่มโด่งดัง ร้านค้าอื่นๆ เช่น ร้านขายซุป ขนมปังนึ่ง และอีกมากมาย ก็หันมาจ้างนางแบบพริตตี้สวยๆ มายืนหน้าร้านกับเขาด้วย และแน่นอนว่าการจัดกิจกรรมแบบนี้จะต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างแน่นอน หนึ่งในสมากชิกของโลกออนไลน์ที่ใช้นามแฝงว่า Kuaibao กล่าวว่า “นี่มันเป็นภาพโกหกที่บ่อนทำลายมณฑลซานตงชัดๆ” ส่วนอีกความเห็นหนึ่งบอกว่า “แม่สาวคนนี้ดูน่าเกลียดมาก ฉันแทบจะกลืนอาหารไม่ได้เลย” มีร้านอาหารในไทยร้านไหนสนใจอยากทำแบบนี้บ้างไหม” จ้าง#เหมียวฟิ้นได้นะ ไม่งอแง ยืนนานเท่าไหร่ก็ได้ ที่มา shanghaiist
-
เฉินหลงมาเอง!! หนุ่มจีนแอบเป็นชู้กับแฟนคนอื่น โดดหนีออกระเบียง หลังสามีของเธอกลับมาไม่ทันตั้งตัว
การที่เรารักเดียวใจเดียวนี่ถือเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะมันทำให้ความรักของคนสองคนยั่งยืน ปัญหาอะไรๆ ก็สามารถจัดการได้ง่าย (เมื่อมีน้อยคน) แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณมีอีกคน (หรือที่เราชอบเรียกว่ากิ๊ก) ปัญหาอีนุงตังนังก็จะตามมาแบบนี้แหละ เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอวุ่นๆ ของชายนิรนามชาวจีนที่แอบไปโจ๊ะพรึมๆ กับหญิงสาว ในอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง แต่ระหว่างนั้นเองดูเหมือนว่าสามีของฝ่ายหญิงจะกลับมาโดยไม่ทันตั้งตัว เขาจึงรีบโดดออกจากห้องของเธอด้วยความเร็วแสง หนุ่มจีนรายนี้รีบวิ่งออกไปยังอีกห้องหนึ่งที่ไม่ได้ล็อคเอาไว้ และเปิดออกไปยังระเบียงด้านหลังในสภาพที่กำลังนุ่งกางเกงในสีแดงเพียงตัวเดียว จากนั้นเขาก็รีบสวมเสื้อผ้าอย่างว่องไวและห้อยเชือกกับระเบียงเพื่อโรยตัวลงมายังชั้นล่าง คลิปเหตุการณ์ทั้งหมดถูกถ่ายไว้ได้โดยนายหลิวและนายเฉา ทั้งสองพักอาศัยอยู่ในอาคารแห่งนี้เช่นเดียวกัน แต่เมื่อเขาเห็นชายคนหนึ่งโดดออกมาที่ระเบียงเขาก็รีบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอไว้ และเพิ่งจะรู้ตัวว่าห้องที่ชายชู้โดดออกมานั้นเป็นห้องนอนของพวกเขาเอง!? นายหลิวให้สัมภาษณ์กับนักข่าวภายหลังว่าห้องนั้นคือห้องของเขา ซึ่งอาจจะลืมล็อคห้องเอาไว้ ทำให้ชายชู้เข้าไปในห้องนั้นได้นั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แหม่ ความกลัวนี่มันทำให้เราทำได้ทุกอย่างจริงๆ ที่มา mirror , 中大电视新闻频道
-
ลองไหม? มหาวิทยาลัยในจีนเสิร์ฟเมนู “ผัดคื่นช่ายสตรอเบอร์รี” นักศึกษาแห่ซื้อหมดภายใน 10 นาที!!
ต้องบอกเลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูสุดฮอตจริงๆ สำหรับ “ผัดคื่นช่ายสตรอเบอร์รี” ที่เริ่มกลายเป็นกระแสไปทั่วประเทศจีน จน#เหมียวฟิ้นเองอยากจะลองเอามาชิมมั่งเลย เมื่อวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพเมนูอาหารสุดแปลกที่ชื่อว่า “ผัดคื่นช่ายสตรอเบอร์รี” ที่เป็นการนำเอาผลไม้อย่างสตรอเบอร์รีมาผัดรวมกับผักแล้วราดบนข้าว เป็นเมนูแปลกใหม่จากทางมหาวิทยาลัยหูเป่ย ทางโรงอาหารของมหาวิทยาลัยได้เล็งเห็นว่าเหล่านักศึกษาเริ่มจะเบื่ออาหารหน้าตาเดิมๆ แล้ว พวกเขาเลยลองเอาผลไม้มาผสมกันจนกลายเป็นอาหารดู และนำเอาเมนูที่ว่านี้มาเสิร์ฟให้กับนักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยด้วย แม้ว่าหน้าตาของมันจะดูแปลกยังไงก็ตาม แต่หลังจากที่วางขายไปได้ไม่ถึง 10 นาที เหล่านักศึกษาก็แห่กันมาซื้อไปกินจนหมดเกลี้ยง หลังจากที่เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ก็เกิดกระแสในด้านต่างๆ ตามมามากมาย อย่างเช่นผู้ใช้นามแฝงว่า @Manredaxigua กล่าวว่า “นี่คืออาหารที่สร้างสรรค์ที่สุดในมหาวิทยาลัยในประเทศของเราเลย” ส่วน @Lianrumin ได้หยิบเอาเรื่องนี้มาล้อเลียนขำๆ ว่า “เร็วๆ นี้คงต้องมีเมนูไข่กวนพร้อมสตรอเบอร์รีแน่ๆ” เหมียวเองก็จินตนาการไม่ออกแฮะว่ารสชาติมันจะออกมาเป็นยังไง เอาเป็นว่าเย็นนี้เพื่อนๆ ลองซื้อมาทำกินเองที่บ้านดีมะ? ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนกว่า 2,000 คน เข้าร่วมการแข่งขัน เพื่อเป็นผู้ชนะได้ไปออกเดทกับเศรษฐีดูไบ!?
ปัจจุบันการที่สาวๆ ในจีนจะได้พบกับผู้ชายดีๆ ฐานะร่ำรวยสักคนจะไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอีกต่อไป เพราะตอนนี้ได้มีการจัดการแข่งขันเพื่อเป็นผู้ชนะและได้ไปเดทกับเศรษฐีในดูไบด้วย!? เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้รายงานว่า มีหญิงสาวชาวจีนกว่าเกือบ 2,000 คนเข้ามาสมัครการแข่งขันที่เมืองเฉินตู มณฑลเสชวน ประเทศจีน เพื่อที่จะได้เป็นหนึ่งในสาวผู้โชคดีไปเดทกับเศรษฐีดูไบ หญิงสาวแต่ละคนจะได้ไปเดทกับหนุ่มดูไบ ซึ่งมีการการันตีเลยว่าแต่ละคนจะมีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 20 ล้านหยวน หรือประมาณ 250 ล้านบาท ทั้งนี้มีการคัดเลือกสาวงามเหลือเพียง 280 คน โดยจะมีอายุระหว่าง 19 ถึง 48 ปี โดยแต่ละคนมีประวัติที่แตกต่างกันไป บางคนเป็นคุณครูสอนเด็กอนุบาล พนักงานออฟฟิศไปจนถึงนางงามเลยก็มี สาวๆ จะต้องผ่านการคัดเลือกด้วยกันถึง 3 ด่าน พวกเขาถึงจะชนะการแข่งขัน รอบแรกจะเป็นการแข่งขันด้านบุคคลิกภาพ รอบที่สองจะเป็นคุณสมบัติด้านอาชีพการงาน และสุดท้ายจะเป็นการตรวจสอบความสัมพันธ์ในอดีต นอกจากนี้สาวๆ ยังจะต้องเปิดเผยรายชื่อเพื่อนๆ ในแอพฯ WeChat ให้คณะกรรมการดูด้วย โดยพวกเขาจะตรวจสอบว่าคุณมองโลกในแง่ร้ายหรือเปล่า หรือเป็นคนหยาบคายหรือเปล่า คณะกรรมการจะคัดเลือกสาวงามทั้งหมดอีกครั้งให้เหลือเพียง 50 คนจากทั่วประเทศ…
-
หลอนหนักมาก!! สาวจีนเสียชีวิตอยู่ในลิฟท์นาน 30 วัน โดยไม่มีใครเอะใจเลยว่าเธออยู่ในนั้น!?
กลายเป็นข่าวที่ชวนให้ขนลุกทีเดียว สำหรับกรณีของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่เสียชีวิตอยู่ในลิฟท์นานกว่า 1 เดือน ภายในอพาร์ทเม้นโดยที่ไม่มีใครเอะใจเลยว่าร่างของเธอติดอยู่ในนั้น!? เมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพบศพของหญิงสาวเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่อพาร์ทเม้นในมณฑลส่านซี ประเทศจีน จึงได้ทำการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเธอไปติดอยู่ในนั้นได้อย่างไร? หญิงสาวแซ่หวัง หนึ่งในผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารนี้ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า อาคารมีลิฟท์ 2 ตัว ซึ่งคนที่อาศัยอยู่ในอาคารสามารถใช้มันได้หมด แต่เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมามีลิฟท์ตัวหนึ่งเกิดเสียโดยไม่ทราบสาเหตุ แต่เมื่อวันที่ 1 มีนาคม เธอกลับมาจากที่ทำงานตามปกติ เธอก็เห็นรถพยาบาลมาจอดอยู่ที่หน้าอพาร์ทเม้น และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกับแพทย์ยืนอยู่ด้านนอกอาคารจำนวนมากทีเดียว “ตอนแรกฉันคิดว่าหนึ่งในผู้สูงอายุในอาคารนี้จะเจอปัญหาเข้าซะแล้ว แต่ตำรวจบอกฉันว่ามีการพบศพในลิฟท์” ทั้งนี้ผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารแห่งนี้คาดการณ์กันว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเสียชีวิตจากการอดอาหารเป็นเวลานาน มันเลยทำให้ภายในลิฟท์เกิดภาพที่ไม่น่าดูสักเท่าไหร่ ตามแหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่าผู้ตายเข้าไปติดอยู่ในลิฟท์นานขนาดนั้นได้อย่างไรโดยที่ไม่มีครอบครัว เพื่อน หรือใครเอะใจเลยว่าเธอหายไป ทั้งนี้มีการเรียกร้องให้ทางลิฟท์ติดตั้งระบบเตือนภัยเพื่อให้คนที่อาจติดอยู่ในลิฟท์สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากคนภายนอกได้ เรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุที่คาดการณ์ไม่ได้จริงๆ จะขึ้นลิฟท์ที่ไหนก็ดูลู่ทางดีๆ นะ ที่มา shanghaiist
-
นางแบบสาวชาวจีนวัย 25 ปี เสียชีวิตหลังเข้ารับศัลยกรรมเสริมหน้าอก เพราะคิดว่าอกของตัวเองเล็กไป
การพอใจในสิ่งที่ (เรือนร่าง) ตนเองมีนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะหากคุณไม่พอใจและหันหน้าเข้าหาการศัลยกรรม คุณอาจจะต้องยอมรับผลที่ตามมา ซึ่งมันอาจร้ายแรงต่อชีวิตคุณเลยก็ได้ เหมือนเช่นเรื่องราวของนางแบบสาวรายนี้ เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของนางแบบสาว Ting Ting วัย 25 ปี จากประเทศจีน ที่กังวลเกี่ยวกับขนาดหน้าอกและดวงตาของเธอที่ดูเล็กจนทำให้เธอหมดความมั่นใจ เธอจึงซื้อแพ็คเกจศัลยกรรมที่คลินิก Shenzhen Beauty มูลค่า 45,600 หยวน หรือประมาณ 248,000 บาทเพื่อเสริมหน้าอกและทำดวงตาไปพร้อมๆ กัน คลีนิคเริ่มทำศัลยกรรมให้ Ting Ting เมื่อช่วง 10 โมงครึ่งในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อให้หน้าอกมีขนาดใหญ่ได้รูปตามที่เธอต้องการ โดยขั้นแรกคุณหมอได้ให้ยาสลบแก่เธอเพื่อเริ่มทำดวงตาของเธอ ก่อนที่จะให้ยาสลบเพิ่มเพื่อทำหน้าอกของเธอในขั้นต่อไป แต่ในระหว่างนั้นเองชีพจรและความดันของ Ting Ting กลับลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว คุณหมอจึงรีบฉีดอะดรีนาลีนเพื่อกระตุ้นหัวใจของเธอ แต่หัวใจของเธอกลับหยุดเต้นลงในที่สุด แต่ถึงแม้เธอจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม ทางคลีนิคกลับไม่ได้แจ้งให้ครอบครัวของ Ting Ting ทราบในทันที กว่าจะแจ้งเวลาก็ล่วงเลยมาถึงช่วง…
-
จีนสร้างชุมชนใหม่ๆ กว่า 100 แห่งเพื่อรองรับแรงงานต่างจังหวัดกว่า 250 ล้านคนที่กรูกันไปทำงานในเมือง
อย่างที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนนั้นกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาเศรษฐกิจให้เจริญรุ่งเรือง พวกเขาก็เลยวางแผนที่จะสร้างชุมชนใหญ่ๆ ขึ้นอีก 100 แห่ง เพื่อรองรับชาวเมืองกว่า 250 ล้านคน ที่จะย้ายจากชนบทหรือต่างจังหวัดเข้ามาอยู่ในตัวเมืองเพื่อทำงาน เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานทางรัฐบาลของจีนได้มีแผนจะเคลื่อนย้ายประชาชนจากชนบทเข้าไปอยู่ในเมือง จึงวางแผนสร้างเขตชุมชนใหม่ๆ ขึ้นถึง 100 แห่งด้วยกัน โดยคาดว่าโครงการทั้งหมดนี้จะสำเร็จลุล่วงภายในปี 2026 แต่ในระหว่างนี้เอง อาคารบ้านเมืองที่ถูกสร้างขึ้นอย่างสวยหรู กลับยังไม่มีคนเข้ามาอาศัยอยู่แม้แต่คนเดียว อาจจะเพราะว่ายังไม่ถึงกำหนดการที่จะอนุญาตให้ชาวจีนย้ายเข้าที่พักนั่นเอง ทำให้ชุมชนและอาคารจำนวนมากกลายเป็นอาคารร้างคล้ายกับหมูบ้านผีสิงเลยก็ว่าได้ แม้อาคารเหล่านี้จะยังไม่มีคนอยู่อาศัย แต่เนื่องด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยประหนึ่งภาพยนตร์โลกอนาคต ทำให้อาคารเหล่านี้ดูสวยงามแปลกตาจนช่างภาพชาวอเมริกันอย่างนาย Kai Caemmerer จากรัฐชิคาโกหลงไหลในความงาม จนต้องออกเดินทางไปถ่ายภาพอาคารเหล่านั้นในปี 2015 และตั้งชื่อผลงานว่า ‘Unborn Cities’ ตามรายงานบอกว่านาย Caemmerer เดินทางไปถ่ายภาพตึกรามบ้านช่องเหล่านี้ภายในระยะเวลา 80 วัน โดยจะถ่ายเฉพาะช่วง ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นและช่วงหลังพระอาทิตย์ตกเท่านั้น ลองไปชมผลงานภาพถ่ายเขาดูเลย …
-
อั้วไม่จ่าย!! นักท่องเที่ยวจีนโวยร้านอาหาร ทำไม่อร่อย ให้น้อย ประท้วงไม่จ่ายเงิน!?
แม้ว่าประเทศไทยจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวจีน จนมีกรุ๊ปทัวร์พากันมาเที่ยวที่นี่อย่างไม่ขาดสาย แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้มีแต่เรื่องดีๆ เสมอไปล่ะ เพราะมีข่าวคราวว่านักท่องเที่ยวจีนพากันขับรถชนชาวไทยมาแล้วหลายต่อหลายครั้งเนื่องจากไม่เข้าใจกฎหมายจราจรบ้านเรา ล่าสุดมีเรื่องราววุ่นๆ ของนักท่องเที่ยวจีนมาให้เราได้เห็นอีกแล้ว เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งที่เดินทางไปแวะทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่กลับโวยวายขอไม่จ่ายเงิน เพราะอ้างว่าอาหารไม่อร่อยแถมยังได้น้อยอีกต่างหาก ลองชมคลิปเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลย แก๊งจีนโวยลั่น! ขอไม่จ่าย..เพราะอาหารไม่อร่อย::–> แก๊งจีนโวยลั่น! กินไม่จ่าย..เพราะอาหารไม่อร่อย <–:: โดย@รักฟ้า เภตรา_[ได้โพสต์ไว้ว่า]: แดกแล้วไม่ยอมจ่ายคะ !! บอกอาหารไม่อร่อย ได้น้อย แพง งู้นงี้ แต่..แดกหมด !! ปล. #โปรดใช้วิจารณญาณ ~ CREDIT: @รักฟ้า เภตรา |https://goo.gl/DyBnIG ************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@Ruttanarut Chaikaew Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on 28 กุมภาพันธ์ 2016 หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป คุณรักฟ้า เภตรา ก็ได้ออกมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของคลิปนี้เองพร้อมทั้งให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “หนูเป็นคนถ่ายคลิปค่ะ แย่มาก! ดูเมนูทั้งที่รู้ว่ามันแพง แต่ก็ยังสั่ง!…
-
เก่งเกินไปแล้ว!! หนุ่มจีนเล่นตู้คีบตุ๊กตาได้มากถึง 3,000 ตัวใน 6 เดือน จนเจ้าของขอร้องให้หยุดเล่น!?
เพื่อนๆ คงจะเคยเห็นตู้คีบตุ๊กตาถูกวางไว้ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ใช่ไหมล่ะ บางคนอาจจะเคยคีบตุ๊กตามาได้บ้าง แต่บางคน (เช่นเหมียว) ขอบอกเลยว่ามันเป็นเรื่องยากมาก เพราะมือหุ่นยนต์มันช่างอ่อนปวกเปียกสุดๆ คีบไม่เคยจะได้ แต่นั่นไม่เป็นปัญหาสำหรับหนุ่มจีนรายนี้ เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Dailymail รายงานว่าชายหนุ่มนามว่า Chen Zhitong ทำงานอยู่ในบริษัทไอทีแห่งหนึ่ง ในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งตู้คีบตุ๊กตา” เพราะเขาคีบตุ๊กตามาแล้วกว่า 3,000 ตัว!! ตามรายงานบอกว่านาย Chen เล่นตู้คีบตุ๊กตามาแล้วมากมาย ภายในเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น จนเจ้าของตู้คีบตุ๊กตาต้องขอร้องให้เขาหยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตาของพวกเขา แต่นาย Chen กลับไม่สนใจคำขอร้อง และยังจะเล่นตู้คีบตุ๊กตาต่อไป นอกจากนี้ตามรายงานยังบอกอีกว่าเจ้าของตู้คีบตุ๊กตาในแถบฝูเจี้ยนนั้น รู้จักนาย Chen กันเป็นอย่างดี และพวกเขาพยายามจะติดสินบนแก่เขาเพื่อขอร้องให้หยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตาของพวกเขาซะ เพราะสูญเงินและกำไรกับนาย Chen ไปเยอะทีเดียว นาย Chen ให้สัมภาษณ์ว่า “พวกเขามักจะเลี้ยงข้าวผมและขอให้ผมหยุดเล่นตู้คีบตุ๊กตา พวกเขาไม่อยากจะขาดทุนไปมากกว่านี้แล้ว” ดูจากสถานการณ์แล้ว การจะหยุดนาย Chen ได้มีวิธีเดียว…ปิดตู้คีบตุ๊กตาซะ…
-
‘ราชาเครื่องคีบ!!’ หนุ่มจีนโชว์สกิลเครื่องคีบตุ๊กตา 6 เดือนพี่ล่อเข้าไป 3,000 ตัว จนเจ้าของบอกเอ็งเลิกเหอะ..!!
เพื่อนๆคงรู้จักเครื่องคีบตุ๊กตากันใช่มั้ยล่ะ? ซึ่งมันช่างแสนยากลำบากกว่าจะได้ตุ๊กตาซักตัวมาจากเจ้าเครื่องนี้ ถึงกับอาจจะต้องขายรถขายบ้านกันเลยทีเดียว เพราะพิษสงของมันช่างร้ายกาจ บางทีคีบมาเกือบถึงช่องแล้วตัวคีบดันอ้าออกซะงั้น บ้างก็คีบลงช่องแล้วแต่หูตุ๊กตาดันกว้างกว่าช่องทางออกซะเฉยเลย วันนี้ #เหมียวหง่าว มีเรื่องราวของหนุ่มชาวจีนคนหนึ่งที่ได้รับฉายาว่า “ราชาแห่งเครื่องคีบตุ๊กตา” ที่จะมาแก้แค้นเจ้าตู้คีบตุ๊กตานี้ให้กับพวกเรา ไปทำความรู้จักกับเทพคนนี้พร้อมๆกันเลยยย Chen Zhitong อาศัยอยู่ในเขตเซี่ยเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน เขาเริ่มเล่นเจ้าตู้คีบตุ๊กตานี้เมื่อปีก่อนหน้านี้ จนกลายมาเป็นงานอดิเรกสุดโปรดของเขา และเขาใช้เวลาเพียงประมาณ 6 เดือน เขาสามารถคีบตุ๊กตา่ได้กว่า 3,000 ตัว !! จนกระทั่งได้รับฉายา “ราชาแห่งเครื่องคีบตุ๊กตา” ฉายานี้ไม่ได้มาเล่นๆนะเออ เพราะมีครั้งนึงเจ้าของเครื่องคีบตุ๊กตาเคยนัดเขาไปทานข้าว ไม่ใช่ไปเลี้ยงขอบคุณที่เอ็งคีบได้เยอะมากนะ แต่เขาชวนกินข้าวพร้อมกับขอร้องให้พี่เชนของเราเลิกเล่นไอ๊เครื่องนี้เถ๊อะ!!! เป็นอย่างไรกันบ้างเพื่อนๆ นี่แค่ 6 เดือนเองนะ ได้ตั้ง 3,000 ตัว ถ้าเป็นเหมียวล่ะก็ 6 เดือนคงได้หูแค่ข้างเดียว สมญานามของเทพนี่ไม่ได้ถูกตั้งมาง่ายๆนะฮะ หากเพื่อนๆอยากรู้จักนาย Chen Zhitong เพิ่มเติมล่ะก็ ลองไปดูคลิปข้างล่างนี้ได้เลย อันนี้เป็นเทคนิคเทพๆอีกเทคนิคนึง (ออกแนวโกงไปป่าวหว่า ถถถถ+)…
-
เหงาน่าดู…โรงเรียนประถมในจีน เหลือนักเรียนเพียงคนเดียว เพราะผู้ปกครองพาลูกๆ ไปเรียนในเมืองกันหมด
เชื่อว่าในสมัยเรียน เพื่อนๆ คงเคยผ่านประสบการณ์สุดอ้างว้างอย่างเช่นเพื่อนสนิทไม่มาโรงเรียน หรือเพื่อนในห้องต้องแยกย้ายกันไปเรียนต่อ จนทำให้รู้สึกเหงาๆ กันบ้างใช่ไหมล่ะ แต่เชื่อเถอะว่าไม่มีใครเหงาเท่าเด็กชายคนนี้อีกแล้ว เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยภาพสุดว้าเหว่ของเด็กชายหลิว เจียนคัง เด็กนักเรียนในโรงเรียนประถม Taohuagou ในมณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่นักเรียนอยู่ภายในห้องเรียนเพียงคนเดียว หนำซ้ำทั้งโรงเรียนยังมีนักเรียนเพียงแค่เขาคนเดียวอีกด้วย ทางด้านคุณครู หลิว เซาหมิง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า โรงเรียนแห่งนี้เคยมีนักเรียนมากถึง 300 คน และคุณครูอีกกว่า 30 คนทีเดียว แต่เนื่องจากเหล่าผู้ปกครองต้องการให้ลูกๆ ได้เรียนในเมืองเพื่อสร้างโอกาสทางหน้าที่การงานที่ดีกว่า พวกเขาจึงทยอยพาลูกหลานออกไปจากที่นี่กันจนหมด ทั้งนี้ตามรายงานยังบอกอีกว่าสาเหตุที่เด็กชายหลิวยังคงเรียนที่นี่เพียงคนเดียวก็เพราะว่าพ่อแม่ของพวกเขาต้องปล่อยให้ลูกชายเรียนอยู่ที่ต่างจังหวัดแทนที่จะเข้าไปเรียนในเมืองกับพวกเขา เนื่องจากการเดินทางไปอยู่ในเมืองนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่า และพ่อแม่ของพวกเขาก็ต้องทำงานเพื่อหาเงินเลยไม่สะดวกที่จะพาลูดชายไปกับพวกเขาด้วย นี่เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความล้มเหลวของการขับเคลื่อนเศษฐกิจในจีน ที่ผลักดันให้คนเข้าไปทำงานในเมืองมากกว่าที่ชนบท ทำให้เหล่าพ่อแม่หลายๆ คนต้องทิ้งให้ลูกๆ เติบโตโดยที่ไม่มีพวกเขา (หรือเพื่อนร่วมชั้น) อยู่เคียงข้างนั่นเอง น่าสงสารน้องเขาจัง หวังว่าจะมีเพื่อนใหม่มานั่งเรียนด้วยนะ ที่มา shanghaiist
-
เผยภาพสะเทือนใจ เด็กจีนร้องไห้โฮ รั้งแม่ไม่ให้ไปทำงานไกลบ้าน เพราะทนคิดถึงไม่ไหว
ในช่วงเทศกาล Spring Festival หรือช่วงวันหยุดตรุษจีนที่ผ่านมา ในประเทศจีนได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองกันอย่างคึกคัก และเป็นโอกาสให้เหล่าลูกจ้างทั้งหลายได้กลับไปเยี่ยมญาติๆ ตามต่างจังหวัดอีกด้วย แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกราฉันใด วันหยุดก็ย่อมมีวันหมดฉันนั้น เมื่อสิ้นสุดช่วงวันหยุดยาว เหล่าชาวจีนจำนวนมากก็พากันขนข้าวขนของกลับเข้าเมืองไปทำงานตามปกติ แต่ดูเหมือนว่าเด็กชายคนนี้จะไม่ยอมให้แม่ของเขากลับไปทำงานง่ายๆ แถมยังเหนี่ยวรั้งคุณแม่ของเขาไว้สุดชีวิต กลายเป็นภาพที่น่าสะเทือนใจทีเดียว เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanhaiist ได้เปิดเผยภาพสุดสะเทือนใจของเฟงเฟง เด็กชายวัย 7 ขวบ ในเมืองเควียงหลาย ประเทศจีน ที่ร้องไห้จ้า และดึงรั้งคุณแม่ของเขาไม่ให้กลับไปทำงานในเมืองใหญ่ จนกลายเป็นภาพที่ชาวจีนส่งต่อกันมากที่สุดในโลกออนไลน์ขณะนี้เลย ตามรายงานบอกว่าเด็กชายเอาแต่ตะโกนด้วยคำพูดซ้ำๆ ว่า “แม่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ” พร้อมกับร้องไห้สะอื้นและถีบประตูรถยนต์อย่างรุนแรง เพราะกว่าจะได้เจอหน้าแม่ของเขาอีกครั้งก็ต้องรอให้ถึงเทศกาลตรุษจีนในปีหน้าเลยทีเดียว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ชาวบ้านกว่า 61 ล้านคน จากทั่วประเทศต้องย้ายเข้าไปทำงานในเมืองใหญ่ๆ เพื่อหางานดีๆ ทำ พวกเขาเลยต้องฝากลูกๆ ไว้กับคนที่บ้านอย่างคุณตาคุณยาย เพื่อให้เลี้ยงลูกแทนพวกเขานั่นเอง น่าสงสารคนที่ต้องอยู่ห่างไกลกันแบบนี้มากเลยนะเนี๊ยะ แต่มันทำให้เราเห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกันมากขึ้นนั่นเอง ที่มา shanghaiist
-
หนูน้อยคลานเล่นในห้องจนหัวติดลูกกรงห้อยต่องแต่ง!! หลังคุณแม่ทิ้งไว้ในห้องคนเดียว
สำหรับพ่อแม่คนไหนที่ชอบปล่อยลูกให้เล่นคนเดียวอยู่ในห้องอาจจะต้องดูไว้เป็นตัวอย่างหน่อยแล้วล่ะ เพราะสิ่งที่#เหมียวฟิ้นจะเล่าต่อไปนี้อาจทำให้พวกคุณหวาดกลัวจนไม่อยากปล่อยเขาไว้ตามลำพังเลย เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าคุณพ่อคุณแม่ชาวจีน ปล่อยลูกน้อยให้เล่นอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ชั้น 3 ตามลำพัง แต่โชคร้ายที่หนูน้อยดันพลัดตกไปที่ลูกกรงตรงระเบียง ทำให้ร่างของเขาห้อยต่องแต่งจนน่าหวาดเสียว ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองหม่าเจียง มณฑลเจียงซูของจีน เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โชคดีที่ศีรษะของหนูน้อยไปติดเข้ากับลูกกรงทำให้ยังไม่ตกลงมา เมื่อเห็นดังนั้นชายหนุ่ม 3 คนที่อยู่แถวนั้นจึงรีบปีนขึ้นไปช่วยเด็กน้อยเพราะเกรงว่าจะตกลงมาซะก่อน เมื่อทราบเรื่อง นางหยางผู้เป็นแม่ก็ได้รีบออกตามหาชาย 3 คนที่ช่วยลูกน้อยของเธอไว้และกล่าวขอบคุณ พร้อมกับให้สัมภาษณ์ว่าในช่วงก่อนเกิดเหตุ เธอกล่อมลูกน้อยจนนอนหลับและไม่คิดว่าจะตื่นขึ้นมากลางคัน เธอจึงออกไปข้างนอกเพื่อทำธุระ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย พ่อแม่คนไหนชอบปล่อยลูกไว้ที่ห้องหรือที่บ้านแบบนี้คงต้องระวังกันหน่อยแล้วล่ะ หากลูกน้อยเป็นอะไรขึ้นมา#เหมียวฟิ้นว่ามันไม่คุ้มกันแน่นอน ที่มา GlobalNewsAZ , dailymail
-
สาวจีนขับรถไม่คล่อง ใส่เกียร์ถอยระหว่างจอด ทำรถ Volkswagen ตกลานจอดรถสูง 4 เมตร!!
นี่อาจเป็นอุทาหรณ์สอนใจสาว (หรือหนุ่มบางคนที่ขับรถไม่คล่อง) ว่าเวลาจะจอดรถ ควรจะเช็คเกียร์ของคุณให้ดีๆ ซะก่อน เพราะหากเข้าเกียร์ผิดอาจทำให้รถของคุณเจ๊งไม่มีชิ้นดีแบบนี้ เมื่อวันที 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหญิงสาววัย 38 ปี จากเมืองฉงชิ่งประเทศจีน ที่ไม่ได้ขับรถมาเป็นเวลานาน ได้พยายามจอดรถบนลานจอดรถที่ด้านหลังมีถนนต่างระดับถึง 4 เมตร และใครๆ ก็คงรู้ดีว่าเวลาจะจอดรถนั้นควรจะเข้าเกียร์ว่างและดึงเบรคมือ แต่สาวจีนรายนี้กลับใส่เกียร์ถอย ทำให้รถ Volkswagen คันงามของเธอถอยหลังและร่วงลงไปยังถนนด้านล่างจนพังยับเยินเหมือนรถของเล่น แต่โชคดีที่เจ้าตัวปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน และนี่คือสภาพรถของเธอที่ไม่ต่างอะไรกับรถของเล่นเด็กเลย ทีหน้าทีหลังเวลาจะจอดรถที่ไหนก็ตาม ลองเช็คดูนะว่ารถของคุณอยู่ในเกียร์ว่างหรือเปล่า หรือถ้าเป็นเกียร์ออโต้ ลองเช็คดูว่าอยู่ในเกียร์ P ไหม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากจอดในห้างหรือจอดซ้อนคันก็ไม่ควรดึงเบรคมือเอาไว้นะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
คนไข้สติแตกหยิบมีดจี้คอพยาบาลสาว แต่ทุกคนมัวแต่ถ่ายคลิป เจ้าตัวเลยแจ้งตำรวจเองซะเลย!?
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าพยาบาลสาวในโรงพยาบาลนานกิง ประเทศจีน ถูดผู้ป่วยสติแตกรายหนึ่งจับเป็นตัวประกันพร้อมกับใช้มีดจี้ไปที่คอของเธอ ทำให้เหล่าคนไข้คนอื่นในโรงพยาบาลพากันแตกตื่นไปตามๆ กัน ตามรายงานบอกว่าคนไข้รายนี้มีอายุราว 40 ปี เอาแต่ตะโกนโหวกเหวกว่า “ฉันไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว มีบางคนกำลังวางแผนจะฆ่าผมอยู่!!” จากนั้นเขาก็คว้ามีดปอกผลไม้ขึ้นมาแล้วจี้มันไปที่คอของพยาบาลสาว แต่แทนที่คนไข้คนอื่นๆ จะพยายามเรียกตำรวจหรือช่วยพูดให้ชายคนนี้สงบสติอารมณ์ลง กลับเอาแต่หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพและคลิปวิดีโอกันยกใหญ่ และก่อนที่เรื่องราวจะใหญ่โตไปกว่านั้น เขาได้บอกให้คนไข้ที่อยู่ใกล้ๆ เขาโทรศัพท์หาเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาจับตัวเขาด้วยตัวเอง (!?) เมื่อตำรวจเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก็สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และช่วยตัวพยาบาลสาวออกมาได้โดยไร้รอยขีดข่วน ใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ให้รีบแจ้งตำรวจนะจ๊ะ ไม่ใช่เอาแต่ถ่ายคลิปจนต้องให้คนร้ายมาเตือนแบบนี้ ที่มา shanghaiist
-
เฮ้ย!! ชาวจีนขนไก่และเป็ดกลับบ้านหลังเทศกาลตรุษจีน ด้วยการห้อยถุงก๊อบแก๊บไว้หลังรถ!?
หลังจากที่ชาวจีนหยุดยาวในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ก็มีอันต้องโบกมือลาวันหยุดยาวแล้วในวันนี้ และกลับไปทำงานทำการกันเสียที ชาวจีนส่วนใหญ่ก็ขับรถจากต่างจังหวัดกลับเข้าเมืองไปทำงานกันต่อในวันพรุ่งนี้ ซึ่งทางบ้านของแต่ละคนก็จะต้องมีของฝากให้ลูกๆ หลานๆ เอากลับไปกินกันต่อที่บ้าน แต่ใครจะไปคิดล่ะว่า “วิธีการ” ขนกลับไปมันจะชวนเหวอได้ขนาดนี้!? เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เฟซบุ๊กเพจของสำนักข่าว People’s Daily, China ได้เผยแพร่ภาพสุดแปลกที่มีคนถ่ายได้ระหว่างการเดินทางบนถนนในจีน เผยให้เห็นภาพรถเก๋งคันงามกำลังขนเป็ดและไก่ขึ้นรถไปด้วย แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือพวกเขานำเป็ดและไก่ใส่ถุงก๊อบแก๊บแล้วห้อยไว้ท้ายรถ บางคันถึงขั้นเอาสก็อตเทปมาพันไว้รอบๆ ตัวไก่เพื่อไม่ให้มันดิ้นหลุดไปไหน ทำเอาผู้ใช้รถใช้ถนนถึงกับอึ้งกิมกี่เลยทีเดียว ขนไก่กลับบ้านน่ะไม่เป็นไร แต่พี่ไม่คิดจะหากรงหากล่องอะไรใส่ให้ดีๆ หน่อยเหรอ? ที่มา People’s Daily, China
-
เล่นเสียวไม่เลิก!! กลับมาอีกครั้งกับ 3 หนุ่มรัสเซียจมปีนตึก คราวนี้บุกไปถึงเมืองจีนเลย
บางคนอาจจะเคยได้ยินหรือได้เห็นชื่อของแก๊งวัยรุ่นรัสเซีย Madkhorov และ Raskalov มาบ้าง พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ชอบท้าทายความตายด้วยการแอบขึ้นไปปีนตึกสูงๆ ตามที่ต่างๆ แล้วถ่ายคลิปมาให้ชาวเน็ตได้ชมกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า แก๊งวัยรุ่นรัสเซียกลุ่มนี้ได้พากันไปปีนตึกระฟ้าแห่งใหม่อีกแล้ว คราวนี้เป็นตึกชุนหิงสแควร์ในเมืองเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อดูจากภาพความสูงแล้วถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียว เพราะตึกแห่งนี้เป็นตึกระฟ้าที่มีความสูงถึง 384 เมตร มีทั้งหมด 69 ชั้น และสร้างเสร็จเมื่อปี 2539 และพวกเขาจะพิสูจน์ให้เห็นว่าระดับความสูงแค่นี้ไม่สามารถหยุดพวกเขาได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนุ่มๆ แก๊งนี้พากันไปปีนตึกท้าตาย เพราะเมื่อปีที่แล้วพวกเขาก็เคยไปปีนตึกระฟ้าที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลกที่เซิ่นเจิ้นมาแล้ว เล่นอะไรก็อย่าให้มันหวาดเสียวหรือเดือดร้อนคนอื่นเลยนะ เกิดพลาดท่าตกลงไปรับรองว่าไม่สวยแน่ๆ ที่มา shanghaiist , on the roofs
-
ชาวเชียงใหม่โอด นักท่องเที่ยวจีนแห่ขับรถมาไทย เกิดอุบัติเหตุกลับไม่จ่ายสักบาท!?
ในช่วงนี้ดูจะมีนักท่องเที่ยวจีนหลั่งไหลกันเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะในแถบจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนแห่กันขับรถเข้ามาเที่ยวในตัวเมือง จนชาวเชียงใหม่หลายคนโอดครวญเกี่ยวกับปัญหารถติดและอุบัติเหตุพอสมควร และหากใครได้ติดตามข่าวคราวในช่วงนี้จะพบว่ามีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวชาวจีนเกิดอุบัติเหตุชนกับรถของชาวไทยหลายครั้ง อันเนื่องมาจากกฎหมายจราจรและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก อินทิรา อุ๋มอิ๋ม ก็ได้บอกเล่าประสบการณ์ที่ตนเองถูกรถยนต์ของนักท่องเที่ยวจีนชนมาเหมือนกัน โดยเจ้าตัวเล่าว่าเมื่อช่วงเวลาประมาณบ่าย 2 ของวันที่ 11 กุมภาพันธ์ เธอได้ขับรถจากลำปางไปเชียงใหม่ แต่ระหว่างทางกลับเจอรถของคนจีนพุ่งออกมาจากซอยทางด้านซ้ายมืออย่างกะทันหันและชนเข้าที่ด้านข้างของรถยนต์เธอ จากการปะทะทำให้รถของเธอได้รับความเสียหาย ทั้งยางแตก ฝาครอบไฟเลี้ยวแตก และกันชนหน้ายุบ ทั้งนี้เมื่อเธอขอความช่วยเหลือไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่ได้รับความช่วยเหลือเท่าไหร่ เพราะเห็นว่านักท่องเที่ยวเป็นชาวจีนมีเพียงพรบ.คุ้มครองเฉพาะตัวบุคคลเท่านั้น อ่านเรื่องราวของเธอแบบเต็มๆ ได้ที่นี่เลย เป็นแบบนี้ก็แย่เลยนะเนี๊ยะ หรือว่าเราควรจะมีมาตรการอะไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายแบบนี้ไหม? ยังไง#เหมียวฟิ้นขอฝากเรื่องนี้ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้วยนะจ๊ะ ที่มา อินทิรา อุ๋มอิ๋ม
-
เสียวไปยันต่อมหมวกไต!! นักท่องเที่ยวจีนนับพันแห่เดินขึ้นเขาในฉงชิ่ง ทางเดินหวาดเสียวมาก!!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบความหวาดเสียวและมีแพลนว่าจะเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศจีน คุณอาจจะอยากมาที่นี่ก็ได้ เพราะวันนี้#เหมียวฟิ้น จะพาเพื่อนๆ เดินทางไปยังเมืองฉงชิ่ง เพราะที่นั่นมีทางเดินขึ้นเขาเส้นเล็กๆ ชวนหวาดเสียวไปยันไส้ติ่งและต่อมหมวกไตเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในเมืองฉงชิ่งประเทศจีน ได้มีการเปิดตัวทางขึ้นเขาแห่งใหม่ บนภูเขา Qianjiang Guangyin ซึ่งอยู่ห่างจากระดับพื้นดินกว่า 500 เมตร ทั้งนี้มีรายงานกันว่าหลังจากที่มีการเปิดตัวสะพานไปได้ไม่นาน ก็มีนักท่องเที่ยวและชาวจีนที่แสวงหาความตื่นเต้นจำนวนมาก แห่กันไปเดินขึ้นเขากันอย่างล้นหลามทีเดียว ตามรายงานบอกว่าทางเดินแห่งนี้มีระยะทางทั้งสิ้น 8 กิโลเมตร ใช้งบประมาณในการสร้างไปทั้งสิ้น 600 ล้านหยวน หรือประมาณ 3.2 พันล้านบาททีเดียว!! สำหรับใครที่ชื่นชอบความหวาดเสียวก็ไปตีตั๋วไปท่องเที่ยวกันได้นะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
เอาจริงแล้ว ทางการจีนสั่งห้ามไม่ให้มีการ “ถ่มน้ำลาย” ลงบนพื้นเด็ดขาด ใครฝ่าฝืนโดนปรับทันที
เป็นที่ทราบกันดีว่าชาวจีนนั้นมักจะมีวัฒนธรรมในการถ่มน้ำลายลงพื้น ซึ่งก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาแล้วในปัจจุบัน เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ก็ยังคงมีพฤติกรรมแบบนี้ให้เห็นอยู่ แต่ล่าสุดดูเหมือนว่าพวกเขาจะเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงแล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ทางการของมณฑลหางโจว ประเทศจีน ได้มีการขึ้นป้ายเตือนอย่างชัดเจน ว่าห้ามไม่ให้ผู้ใดถ่มน้ำลายลงพื้นเด็ดขาด เพื่อเป็นการปกป้องชื่อเสียงของเมืองที่ได้ชื่อว่า “สวยงามและหรูหราที่สุดในโลก” ทางการของมณฑลหางโจวจึงต้องออกกฎหมายเพื่อห้ามไม่ให้ชาวเมืองถ่มน้ำลายหรือทิ้งเศษขยะลงพื้น ซึ่งถือเป็นการกระทำของคนที่ “ไร้อารยธรรม” หากใครฝ่าฝืนจะมีโทษปรับอยู่ที่ 200 หยวน หรือประมาณ 1,000 บาท และภาพพฤติกรรมแย่ๆ เหล่านั้นจะถูกบันทึกไว้เป็นวิดีโอและจัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์อย่างดี ทั้งนี้กฎหมายห้ามถ่มน้ำลายและทิ้งขยะจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ จากการทำแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการถ่มน้ำลายในที่สาธารณะนั้น มีผู้คนกว่า 90% บอกว่าพวกเขาถ่มน้ำลายในที่สาธารณะ และข้อกฎหมายนี้เองจะเป็นการแก้เผ็ดสำหรับคนที่มีพฤติกรรมดังกล่าว เหมียวเองก็หวังว่าพวกเขาน่าจะมีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ นะ เพราะนอกจากภาพลักษณ์ของพวกเขาเองจะดีขึ้นแล้ว มันยังช่วยให้บ้านเมืองสะอาดด้วยนะเออ ที่มา shanghaiist
-
อึ้งกันทั้งขบวน ชาวจีนขนหมูขึ้นรถไฟไปขาย อ้างไม่มีเงินจ้างรถบรรทุก ผู้โดยสารโวยกันใหญ่
แม้ว่าจะเป็นระบบขนส่งสาธารณะ แต่ใช่ว่าเราจะนำพาอะไรขึ้นไปโดยสารกับเราก็ได้นะ อย่างช่นเกษตรกรชาวจีนรายนี้ ที่พาเอาหมูเกือบ 10 ตัวขึ้นรถไฟไปกับเขาด้วย!? เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTV ได้เผยแพร่ภาพของแก๊งหมูที่ขึ้นรถไฟมากับชายคนหนึ่ง สร้างความรำคาญใจแก่ผู้โดยสารคนอื่นๆ เป็นอย่างมาก จนหลายคนตั้งคำถามกันว่ารถไฟสายดังกล่าวมีการอนุญาตให้นำหมูขึ้นรถไฟได้ด้วยหรือ? หลังจากภาพนี้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออน์ไลน์ นาย หม่า เจี้ยน ผู้ที่เป็นเจ้าของภาพชุดดังกล่าวก็ออกมาให้ความเห็นว่า หมูเหล่านี้เป็นหมูของเกษตรกรรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านต้าเหลียงชาน มณฑลเสฉวน ที่ห่างไกลความเจริญสุดๆ โดยเกษตรกรบอกกับนายเจี้ยนว่าหมู่บ้านของเขาอยู่ไกลจากตัวเมืองมากแถมยังไม่มีเงินมากพอจะจ้างรถให้ขนหมูเข้าไปขายในเมือง และหากจะต้องเดินเท้าก็ต้องใช้เวลาตั้ง 3 วันกว่าจะไปถึงที่หมาย เขาจึงตัดสินใจพามันขึ้นรถไฟไปด้วยเลย ทั้งนี้เมื่อช่างภาพได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด ก็ขอให้ทุกคนพยายามเข้าใจหัวอกของเกษตรกรหน่อย ซึ่งเจ้าหน้าที่บนรถไฟก็อำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรอย่างอะลุ่มอะหล่วยทีเดียว ก็เข้าใจความรู้สึกของเกษตรกรล่ะนะ แต่สงสารผู้โดยสารคนอื่นๆ มั่งจิ ที่มา CCTVNews , bbs.hupu
-
วังเวงเหลือเกิน…เพนตากอนในจีนร้างหนัก สร้างเป็นห้างแต่ไม่มีคนเดิน!?
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน มักจะมีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจ (!?) จากแลนด์มาร์กดังๆ ในต่างประเทศ มารวมกันไว้อยู่ในประเทศนี้มากมายทีเดียว แม้แต่อาคารเพนตากอน ที่คอยดูแลความมั่นคงของสหรัฐเอง ยังถูกนำมาสร้างไว้ที่ประเทศจีนเลย อาคารเพนตากอนของจีนแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในเมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2010 แต่ใช่ว่ามันจะเอาไว้ดูแลความมั่นคงของประเทศเหมือนอย่างที่สหรัฐนะ เพราะที่นี่เขาเอาไว้ทำเป็นห้างสรรพสินค้านั่นเอง โดยเพนตากอนจีนแห่งนี้มีเนื้อที่อยู่ที่ราวๆ 500,000 ตารางเมตร แต่แทนที่มันจะถูกจับจองเนื้อที่โดยพ่อค้าแม่ค้ามากมาย มันกลับถูกทิ้งร้างอย่างเปล่าประโยชน์ เพราะตัวอาคารนั้นมีความสลับซับซ้อนมากเกินไป จนสร้างความสับสนแก่ลูกค้าและพ่อค้าแม่ค้า ทำให้คนมาเดินเที่ยวที่นี่น้อยมากจนพ่อค้าแม่ค้าต้องยกเลิกสัญญาเช่าไปในที่สุด ปัจจุบันอาคารเพนตากอนในจีนนั้นกลายเป็นอาคารที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดในเซี่ยงไฮ้ และแถบจะกลายเป็นอาคารร้างไปเลยทีเดียว และไม่มีนักลงทุนคนไหนอยากจะนำบางส่วนของอาคารไปใช้ประโยชน์ หรือนำไปพัฒนาต่อยอดเลย ทั้งนี้ทั้งนั้น เหล่าพ่อค้าแม่ค้าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในเพนตากอนแห่งนี้อาจจะมีโอกาสได้ลืมตาอ้าปากกับเขาบ้าง เพราะล่าสุดมีรายงานว่าเร็วๆ นี้จะมี Disney Land มาเปิดในเมืองเซี่ยงไฮ้ใกล้ๆ กับอาคารแห่งนี้ ซึ่งนี่อาจเป็นความหวังสุดท้ายที่ช่วยต่อลมหายใจให้กับอาคารแห่งนี้ก็เป็นได้ อาคารเพนตากอนเขาเอาไว้ใช้สำหรับงานในกระทรวงกลาโหม ไม่ได้ถูกออกแบบให้เป็นห้างสรรพสินค้านะ ที่มา mirror
-
ไม่คิดถึงบ้านบ้างเหรอ? หนุ่มจีนติดหวยหนัก ไม่ยอมกลับบ้านนานกว่า 13 ปี!!
อาการติดหวยนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับคนไทยเท่านั้นนะ แต่คนในต่างประเทศก็เป็นเหมือนกัน อย่างที่ประเทศจีนมีชายหนุ่มคนหนึ่ง ติดหวยมากจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องเป็นเวลากว่า 13 ปีทีเดียว!! เมื่อวันที่ 30 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า หนุ่มชาวจีนนามว่า Xie Yuecong วัย 30 ปี ได้ออกจากบ้านไปทำงานเป็นกรรมกรตั้งแต่ปี 2003 หลังจากที่เรียนจบจากการศึกษาภาคบังคับแล้ว ตามรายงานบอกว่าตลอดระยะเวลาที่นาย Xie หนีออกจากบ้านไป เขาได้กลับมาบ้านเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ในแต่ละครั้งที่กลับมาจะเป็นช่วงสั้นๆ ที่เขาประสบปัญหาทางการเงินเท่านั้น โดยเขาตั้งใจจะออกตามหาฝันด้วยการซื้อหวยเพื่อที่จะได้ชนะรางวัล หอบเงินกลับมาบ้านเป็นกอบเป็นกำ แต่ฝันของเขาก็ดูจะเป็นเรื่องยากไปสักหน่อย เพราะตั้งแต่ซื้อหวยมาเขาแทบไม่เคยถูกรางวัลเลย วันหนึ่งในขณะที่เขาทำงานอยู่ในมณฑลหางโจว เขาก็ได้เห็นป้ายโฆษณาชวนเชื่อที่เขียนว่า “ซื้อหวย ชนะรางวัล หอบเงินกลับบ้านทันที” แต่ก็ไม่เป็นดังที่หวังไว้ แต่นาย Xie ก็ยังคงเดินหน้าเสี่ยงโชคต่อไป และยิ่งมีกำลังใจหึกเหิมขึ้น เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา เพื่อนของเขาถูกหวยจนได้เงินรางวัลก้อนโต จนซื้อรถและขับกลับบ้านอย่างคนมีอันจะกิน ทำให้เขาฮึดสู้อีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ จนเมื่อไม่นานมานี้ นาย Xie…
-
ปวดหัวหนักมาก แรงงานจีนประท้วงขอโบนัสเจ้านาย ด้วยการพัน “นั่งร้าน” ไว้รอบรถเจ้านาย!?
เมื่อใกล้ถึงช่วยตรุษจีน เป็นธรรมดาที่บริษัทหลายๆ แห่งจะแจกโบนัสให้แก่พนักงานเพื่อตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยของพวกเขา แต่บางบริษัทอาจจมีกำไรน้อยหรือขี้เหนียวหน่อย พวกเขาก็เลยไม่แจกโบนัสเหมือนกับหลายๆ ที่ แต่ระวังไว้ให้ดี เพราะพนักงานหัวร้อนอาจส่งสัญญาณบางอย่างเพื่อให้คุณรู้ตัวก็ได้นะ เมื่อวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า มีกลุ่มแรงงานในจีนจากบริษัท Jiangxi’s Shangrao Economic Development Zone รวมตัวกันประท้วงเจ้านายของพวกเขาที่ไม่แจกเงินโบนัส ด้วยการนำเอาท่อเหล็กมาพันรอบๆ รถของเจ้านาย คล้ายกับนั่งร้าน เพื่อส่งสัญญาณบางอย่างไปถึงเจ้านายของพวกเขาหนึ่งในพนักงานผู้โกรธเกรี้ยวจากบริษัทนี้ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า บริษัทแห่งนี้ยังติดหนี้เขาอยู่ถึง 70,000 หยวน หรือประมาณ 381,600 บาทเลย นอกจากนี้ยังมีรายงานด้วยว่า เมื่อปี 2015 ที่ผ่านมา มีคนร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องไม่ได้โบนัสถึง 4,815 คนทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
พาไปสำรวจธุรกิจเช่าแฟนในจีนที่บูมสุดๆ จะหาแฟนสักคนไม่ใช่เรื่องยาก อีกต่อไป
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับวันตรุษจีน ที่ปีนี้ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่ชาวจีนทั่วโลกและชาวไทยเชื้อสายจีนจะร่วมเฉลิมฉลองการเริ่มต้นปีใหม่ และแน่นอนว่าเมื่อญาติๆ ทุกคนมารวมตัวกัน ก็จะมีการพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันไป แต่หนึ่งในคำถามที่ชวนปวดใจสำหรับหนุ่มโสดและสาวโสด นั่นก็คือ “เมื่อไหร่จะมีแฟน” ซึ่งเป็นคำถามที่อึดอัดใจจะตอบมาก (ก็ยังไม่อยากมีอะ, ยังหาไม่ได้อะ บลาๆ) แต่พวกคุณไม่ต้องกังวลไป เพราะธุรกิจ “ให้เช่าแฟน” กำลังเป็นที่เฟื่องฟูสุดๆ ในประเทศจีนตอนนี้เลย เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist โดยมีนักข่าวจากสำนักข่าวท้องถิ่นในมณฑลหูหนานลงทุนไปสำรวจบริษัทให้เช่าแฟน ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ด้วยตนเอง จากการสำรวจด้วยตนเองก็พบว่าบริษัทจัดหาแฟนเช่าบริษัทแรกนั้นยื่นข้อเสนอแก่เขาว่าจะให้เช่าแฟนสาวในราคา 16,300 บาท สำหรับในช่วงวันหยุด ทั้งนี้บริษัทแรกยังบอกด้วยว่าพวกเขามั่นใจในเรื่องแผนการท่องเที่ยวแถมยังมีสาวๆ น่ารักๆ ให้เลือกสำหรับเขาด้วย จากนั้นนักข่าวหนุ่มก็ออกสำรวจบริษัทที่ 2 ที่นี่ได้อวดสรรพคุณว่าจะจัดงานแต่งหลอกๆ ให้กับเขาด้วย และให้หญิงสาวคนนั้นเป็นแฟนกับคุณแบบชั่วคราว แถมยังบอกด้วยว่ามีสาวๆ ให้คุณเลือกมากถึง 20-30 คนทีเดียว ทั้งนี้จะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 16,330 บาท ถึง 21,770 บาท หนึ่งในพนักงานบริษัทจัดแฟนเช่ายังอธิบายต่อไปอีกว่า “ลองคิดดูซิ ถ้าคุณพาแฟนสาวกลับไปที่บ้าน นั่นหมายความว่าคุณจะได้ใช้เวลาในยามค่ำคืนร่วมกัน” ซึ่งเป็นคำอธิบายที่ชวนให้คิดลึกพอสมควร …
-
หนูน้อยชาวจีนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังถูกพ่อทุบตีอาการสาหัส เหตุเพราะอึใส่กางเกง!?
เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหนูน้อยชาวจีนวัย 3 ขวบถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัสโดยฝีมือคุณพ่อผู้โหดเหี้ยม เพียงเพราะว่าเธออึใส่กางเกงเท่านั้น ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาในเมืองซีสี มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน เมื่อคุณพ่อเห็นรอยเปื้อนที่กางเกงของเธอ เขาก็เกิดอาการโกรธจัดและตรงเข้าทำร้ายร่างกายเธอทันที จากการนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลและตรวจร่างกายอย่างละเอียดก็พบว่า หนูน้อยมีรอยร้าวที่กระโหลกศีรษะ ทำให้มีเลือดไหลออกมา และมีของเหลวไหลออกมาจากเยื้อหุ้มสมอง นอกจากนี้คุณหมอยังสงสัยด้วยว่าคุณพ่อรายนี้อาจจะจับเธอกดลงไปในน้ำเย็นอีกด้วย ทั้งนี้ทั้งนั้น มีสื่อจีนบางแห่งรายงานว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อาจไม่ใช่ฝีมือของผู้เป็นพ่อ แต่อาจเกิดจากแม่เลี้ยงของเธอก็เป็นได้ หากมีอะไรคืบหน้าแอดเหมียวจะรีบมารายงานทันทีจ้า ที่มา shanghaiist
-
ตำรวจรวบสาวจีน แอบถ่ายคลิป ‘สาวเปลือย’ ในโรงอาบน้ำสาธารณะ อ้างช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้สามี!!
สำหรับคู่รัก การดูแลเอาใจใส่ในคู่รักของคุณถือเป็นเรื่องสำคัญนะ ไม่ว่าจะเรื่องการใช้ชีวิต การตัดสินใจต่างๆ ไปจนถึงเรื่องสยิวๆ บนเตียง แต่อะไรที่มากเกินความพอดีมันย่อมส่งผลเสียกับเราแน่นอน อย่างเช่นสาวจีนรายนี้ เพราะเมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมหญิงสาวรายหนึ่งในมณฑลอานฮุย ประเทศจีนขณะแอบใช้กล้องวิดีโอถ่ายคลิปโป๊ของสาวๆ โรงอาบน้ำสาธารณะ ทำเอาสาวๆ ที่มาใช้บริการถึงกับควันออกหูเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าหญิงสาวได้เข้าไปใช้บริการโรงอาบน้ำเหมือนกับหญิงสาวคนอื่นๆ เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา และเมื่อเธออาบน้ำเสร็จแล้ว แทนที่เธอจะแต่งตัวและกลับบ้านไป เธอกลับหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นอยู่นานสองนาน จนสาวๆ ในโรงอาบน้ำเริ่มสงสัยพฤติกรรมของเธอ เมื่อเห็นพฤติกรรมแปลกๆ หญิงสาวนาม หลิน จึงเดินเข้ามาดูว่าเธอทำอะไรกับมือถืออยู่ เมื่อถามไปถามมาจึงได้ความว่าหญิงรายนี้แอบถ่ายคลิปวิดีโอของสาวๆ ในโรงอาบน้ำกว่า 5 คลิปด้วย จากการสอบถามหญิงสาวรายนี้ถึงได้รู้ว่าเธอพยายามถ่ายคลิปโป๊ของสาวๆ ในโรงอาบน้ำเพื่อไปให้สามีของเธอดู และช่วยปลุกอารมณ์ทางเพศให้แก่เขา แต่นางหลินและหญิงสาวคนอื่นๆ กลับไม่เชื่อ และคิดว่าเธออาจจะนำมันไปขายให้กับเว็บโป๊บางแห่ง จึงนำตัวเธอส่งให้กับตำรวจเพื่อจัดการกับเธอต่อไป แหม่ คนจะมาอาบน้ำแบบสบายอารมณ์สักหน่อย ดันต้องมาเจอคนโรคจิตแบบนี้ในสังคมแบบนี้ แย่จริงๆ เลยเหมียว ที่มา shanghaiist
-
เฮ็ดให้มันสุกก่อนบ่?? แพทย์พบพยาธิยาวกว่า 6.2 เมตร ในหนุ่มจีนผู้ชอบกินเนื้อดิบ
เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้รายงานว่า หนุ่มจีนวัย 38 ปีรายหนึ่ง ผู้มีพฤติกรรมชอบกินเนื้อวัวดิบเกิดอาการปวดท้อง อาเจียน และเบื่ออาหาร จนต้องเข้าพบแพทย์เป็นการด่วน ถึงได้รู้ว่ามีพยาธิตัวตืดความยาวถึง 6.2 เมตร อาศัยอยู่ในท้องของเขา!! ตามรายงานบอกว่าหนุ่มจีนรายนี้ได้เข้าไปพบแพทย์อยู่บ่อยครั้งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งเขาก็ได้กลับมาเพียงยาแก้ปวดเท่านั้น และไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นอะไรกันแน่ แต่ดูเหมือนว่าครั้งล่าสุดนี้เขาจะมีอาการมากกว่าทุกๆ ครั้ง แพทย์จึงให้เขาลองกินยาถ่ายดู ผลปรากฏว่ามีพยาธิตัวตืดวัว (Taenia saginata) ออกมาจากท้องของเขา เมื่อนำมาวัดแล้วมีขนาดยาวถึง 6.2 เมตรทีเดียว โดยสาเหตุของอาการปวดท้องและเจ้าพยาธินี้เกิดจากการที่ชายหนุ่มมักจะชอบกินเนื้อดิบๆ ทำให้พยาธิเจริญเติบโตอยู่ในลำไส้ของเขา แต่หลังจากที่หนุ่มจีนรายนี้เข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่องถึง 3 เดือน ก็ทำให้เขากลับมามีร่างกายที่สมบูรณ์อีกครั้ง และน้ำหนักก็กลับมาเป็นปกติแล้วด้วย ใครจะกินอะไรก็ระวังๆ หน่อยนะ เนื้ออะไรที่มันยังไม่สุกดีก็อย่างเพิ่งรีบไปกินล่ะ แล้วก็อย่าลืมกินยาถ่ายพยาธิด้วยนะพวกเธอ ที่มา metro
-
หน้าไม่อาย!? เลขาสาวจีนเปิด IG โพสต์ภาพชีวิตอันหรูหรา ที่ได้มาจากเจ้านายของเธอ
กลายเป็นเรื่องราวฉาวโฉ่ที่กำลังเป็นที่พูดถึงของโซเชียลเน็ตเวิร์คของประเทศจีนอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับเรื่องราวของเลขาสาวชาวจีน ที่ลงทุนเปิดบัญชี IG ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์แบบลับๆ ระหว่างเธอและเจ้านาย เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของเลขาสาวชาวจีนจากบริษัทแห่งหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ที่เปิดบัญชี IG ขึ้นมาเพื่อเผยกลยุทธในการพิชิตใจเจ้านายของตัวเอง และผลของมันก็ทำให้เธอมีเงินเดือนที่เพิ่มมากขึ้น แถมยังมีชีวิตอันหรูหรามากทีเดียว แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ใช่ว่าจะได้มาง่ายๆ เพราะแน่นอนว่าเลขาสาวรายนี้ต้องใช้เรือนร่างของเธอเพื่อแลกกับความสะดวกสบายต่างๆ นอกจากนี้เธอยังโพสต์ข้อความด้วยว่า “ฉันทำสิ่งเหล่านี้ให้บอสในตอนกลางวัน พอตกกลางคืนเขาก็ทำให้ฉันบ้าง” แม้ว่าสิ่งต่างๆ ที่เธอทำจะไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมายอะไรนัก แต่มันก็ขัดต่อศีลธรรมของคนในสังคม จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าถึงกับต้องใช้ร่างกายเข้าแลก คล้ายกับผู้หญิงขายบริการไม่มีผิด แหม่ งานนี้เหมียวต้องขอบอกเลยว่าเธอ สตรองมาก!! ที่มา shanghaiist
-
ดูไม่ออกเลยนะเนี๊ยะ!! หนุ่มจีนแกล้งทำไก่ทอดจากกระดาษ หวังแก้แค้นเพื่อนจอมตะกละ!!
สำหรับใครที่มักจะเจอกับปัญหาที่รูมเมทชอบมาแอบกินอาหารของเรา แม้ว่าจะเขียนป้ายบอกก็แล้วมัดถุงแน่นๆ ก็แล้ว แต่ของกินก็ยังหายไปอย่างไร้ร่องรอย วันนี้เหมียวมีวิธีเอาคืนแบบเจ็บแสบมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกันล่ะ เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ China Xinhua News ได้เผยแพร่เรื่องราวการแก้แค้นแบบโหดมันส์ฮาของหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง ที่อดรนทนไม่ได้กับพฤติกรรมการกินแบบตะกละของรูมเมท ที่แอบกินของของเขาแบบไม่เลือก เขาจึงได้ประดิษฐ์ “ไก่ทอดกระดาษ” ขึ้นเพื่อมาเอาคืนรูมเมทของเขา โดยขั้นตอนก็คือการนำเอากระดาษลังมาดัดแปลงให้เป็นไก่ทอด โดยการนำกระดาษลังหนาๆ สักสองแผ่น ตัดเป็นวงกลมคล้ายไก่ทอด แล้วนำกาวสองหน้ามาติดเพื่อประกบมันเข้าด้วยกัน จากนั้นใช้ใช้มีดค่อยๆ เล็มขอบกระดาษออก เพื่อให้กระดาษมีความโค้งมนคล้ายไก่ทอดจริงๆ จากนั้นนำไปชุบแป้งทอด และนำไปทอดในน้ำมันเดือด (อย่าใช้ไฟแรงเกินไปนะ เดี๋ยวไหม้) เมื่อสุดได้ที่แล้วให้นำขึ้นจากกระทะ โรยพริกไทย จากนั้นนำใส่ถุงพลาสติก เป็นอันเรียบร้อย!! ใครมีเพื่อนตะกละแบบนี้ ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ได้นะ รับรองว่าเข็ดไปอีกนาน ที่มา China Xinhua News
-
หนูน้อยชาวจีนวัย 10 ขวบรอดตายเพราะชาวเน็ตช่วยแชร์ภาพคนร้ายผ่านแอพฯ WeChat!!
ปัญหาเด็กถูกลักพาตัวยังคงเป็นปัญหาที่พ่อแม่หลายๆ คนหวาดหวั่นว่าสักวันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับลูกๆ ของตัวเอง อย่างที่ประเทศจีนเองก็มีคดีเกี่ยวกับเรื่องนี้เช่นกัน แต่โชคดีเหลือเกินที่เด็กน้อยรายล่าสุดถูกช่วยไว้ได้ด้วยแอพฯ โซเชียลเน็ตเวิร์คของจีนอย่าง WeChat!! เมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเด็กหญิงชาวจีนวัย 10 ขวบ ถูกชายแซ่เหย่วัย 49 ปีลักพาตัวขึ้นมอเตอร์ไซค์ไป ระหว่างรอกลับบ้านหลังโรงเรียนเลิก ในช่วงเวลาบ่าย 3 โมงของวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่ทางพ่อแม่ของเด็กทราบข่าวก็รีบโทรแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้พวกเขาตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบริเวณดังกล่าว จึงพบว่ามีมอเตอร์ไซค์พาเด็กหญิงออกไป ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจคนอื่นๆ ก็ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากบ้านในแหล่งชุมชนใกล้เคียงเช่นกัน เมื่อเห็นใบหน้าคนร้ายที่ลักพาตัวเด็กแล้ว ทางพ่อแม่และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้อัพโหลดภาพดังกล่าวไปยังแอพฯ WeChat และถูกชาวเน็ตส่งต่อกันอย่างรวดเร็ว จนคนร้ายได้เห็นใบหน้าของตนเองในแอพฯ และเกิดหวาดกลัวการถูกจับ จึงพาเด็กหญิงไปส่งคืนที่บริเวณป้ายรถเมล์ในเวลาประมาณ 1 ทุ่ม ในขณะเดียวกัน นายเหย่ก็เตรียมที่จะหลบหนีการจับกุม แต่ก็สายไปเสียแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบที่อยู่คนร้ายและมาดักรอเขาที่อพาร์ทเมนต์แล้วเรียบร้อย ที่มา shanghaiist
-
หนุ่มจีนสุดซื่อ เจอแฟนสาวไล่ให้ “กลิ้ง” ไปให้พ้นๆ แต่กลับลงไปนอนกลิ้งกับพื้นจริงๆ ซะงั้น!?
เชื่อว่าคู่รักหลายๆ คู่ต้องเคยมีช่วงเวลาที่ทะเลาะกับแฟนจนอีกฝ่ายถึงกับต้องไล่ตะเพิดอีกฝ่ายให้ไปไกลๆ เพราะทนความรำคาญไม่ไหวแน่นอน แต่ชายหนุ่มชาวจีนรายนี้กลับไม่ได้หายไปตามที่แฟนของเขาบอก แต่กลับลงไปนอนเกลือกกลิ้งกับพื้นซะอย่างงั้น!? เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปฮาๆ ของชายหนุ่มชาวจีนรายหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองหางโจว ประเทศจีน เขาได้ทะเลาะกับแฟนสาวอย่างหนัก จนฝ่ายหญิงทนไม่ได้ ตะโกนไล่ฝ่ายชายด้วยคำว่า “กุ่น” (gǔn) ที่แปลเป็นไทยว่า “กลิ้ง” ซึ่งหากใช้ในบริบทการโต้เถียงกันจะแปลว่า “ไปให้พ้นๆ” แต่เมื่อชายหนุ่มได้ยินดังนั้นเขากลับใจเย็น และลงไปนอนกลิ้งกับพื้นจริงๆ ทำให้ผู้คนที่เดินไปมาในห้างถึงกับต้องหยุดมอง และหัวเราะออกมากันเป็นแถว จนแฟนสาวยืนงงอยู่นานสองนาน ทางด้านชาวเน็ตในโลกออนไลน์ของจีนเมื่อเห็นคลิปดังกล่าวแล้ว ก็เอ่ยปากชมหนุ่มจีนรายนี้ว่าเป็นคนใจเย็น ช่างน่าอิจฉาหญิงสาวที่ได้เขาเป็นแฟนเสียจริงๆ ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย งานนี้ถ้าสาวๆ เจอเข้ากับตัว จะรู้สึกโกรธได้ลงอยู่ไหมล่ะ ที่มา shanghaiist
-
ชายหนุ่มปริศนา จู่ๆ โปรยเงินนับหมื่นไปในอากาศแล้วหนีไป ชาวเมืองช่วยกันตามเก็บจ้าล่ะหวั่น
เมื่อวันที่ 14 มกราคมเว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ในช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ได้มีชายหนุ่มคนหนึ่งโยนปึกธนบัตรจำนวนมากขึ้นไปในอากาศ ในระหว่างที่ธนบัตรกำลังลอยลงมาสู่พื้นดินนั้นเอง ชายหนุ่มปริศนาคนดังกล่าวก็หายออกไปจากที่เกิดเหตุทันที แต่แทนที่ชาวบ้านจะรุมเก็บกันอย่างชุลมุน พวกเขากลับรวมตัวกันเก็บกัมเก็บธนบัตรที่ปลิวอยู่ตามพื้นมารวบรวมไว้ โดยที่หนึ่งในนั้นเป็นตัวแทนไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและนำมันส่งให้เจ้าหน้าที่ทั้งหมดเลย หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำเงินทั้งหมดออกมานับ ปรากฏว่าได้เงินสดทั้งหมด 11,000 หยวนเลยทีเดียว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามจะระบุตัวชายปริศนาผู้ปล่อยเงินลงบนถนน เพื่อสืบสวนหาสาเหตุของการกระทำต่อไป ใครว่าคนจีนไม่มีระเบียบกัน นี่ไงพวกเขาแสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาก็มีน้ำใจเหมือนกันนะเออ น่าชื่นชมจริงๆ ที่มา shanghaiist
-
เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟตัวจริง? เด็กหญิงชาวจีนในนครเซี่ยงไฮ้นั่งขายไม้ขีดไฟข้างถนน
เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพของสาวน้อยชาวจีนรายหนึ่งในมหานครเซี่ยงไฮ้ที่แต่งตัวคล้ายกับเด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ ในนิทานของ Hans Christian Anderson’s เพื่อเรียกความสนใจจากผู้คน ให้ซื้อไม้ขีดไฟจากเธอนั่นเอง กิจกรรมนี้สร้างสรรค์โดยองค์กรการกุศลที่ชื่อว่า Love Wardrobe เป็นองค์กรการกุศลที่ไม่หวังผลกำไร ที่มุ่งหวังจะช่วยเหลือเด็กๆ ผู้ด้อยโอกาสที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากสภาพอากาศที่หนาวจัดในช่วงฤดุหนาว ในแถบภูเขาของประเทศจีน หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปตามเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องลงพื้นที่เพื่อไปสอบถามเด็กน้อย และเมื่อดูจากกล่องไม้ขีดอาจจะเห็นว่าเป็นเพียงกล่องธรรมดาๆ แต่ที่ข้างกล่องมีข้อความเขียนติดไว้ว่า “ยังมีเด็กๆ จำนวนมากมายที่อาศัยอยู่ในพื้นที่บนภูเขา คล้ายกับ ‘เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ’ ที่ทรมานกับอากาศหนาว และพวกเขาต้องการความอบอุ่นอยู่” ในขณะเดียวกันที่ด้านหลังกล่องมีภาพ QR Code ที่ให้ผู้ใช้สามารถส่องสมาร์ทโฟนเพื่อลิ้งไปยังเว็บไซต์ช่วยบริจาคเงินให้กับเด็กๆ เพื่อที่เด็กๆ จะได้รับความอบอุ่นมากกว่าที่เป็นอยู่ แต่หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป กลับมีชาวเน็ตหลายรายตั้งข้อสังเกตว่าทำไมองค์กรการกุศลถึงให้เด็กๆ มานั่งขายของข้างถนนแบบนี้ซึ่งคล้ายกับการใช้แรงงานเด็กเลย ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนเอาคืนแฟนเก่าที่ทิ้งไปเพราะเธออ้วน ด้วยการทำสบู่จากไขมันตัวเองให้เขาใช้!?
สำหรับคู่รักแล้ว การเลิกรากันถือเป็นเรื่องธรรมชาติที่เข้าใจได้ บางคู่เลิกกันด้วยดีก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่กับบางคู่เลิกกันแบบไม่สวย ก็อาจจะทำให้ขุ่นข้องหมองใจ จนบางคนเกลียดไม่มองหน้ากัน หรือถึงขั้นกลับมาแก้แค้นกันเลยก็มี เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่เรื่องราวของสาว (เคยอวบ) ชาวจีนรายหนึ่งผู้ใช้นามแฝงในโลกออนไลน์ว่า “เสี้ยวเสี้ยว ผู้รักความงามและการกิน” ที่พยายามแก้แค้นอดีตแฟนหนุ่ม ที่ทิ้งเธอไปเพราะว่าเธอมีรูปร่างที่อวบอ้วน ด้วยการนำเอาไขมันในร่างกายของเธอมาทำเป็นสบู่และส่งให้ฝ่ายชายเอาไปใช้!? ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เธอได้โพสต์ข้อความลงในเครือข่ายสังคมของจีนอย่าง Weibo ว่า “หยาง เสี่ยวเล่ย คุณยังจำเทศกาลฤดูใบไม้ผลิได้ไหม? ตั้งแต่นั้นฉันไม่ได้กลับไปที่บ้านกับคุณแล้ว ขอฝากสบู่จากไขมันของฉันก้อนนี้ไปให้แม่คุณใช้อาบน้ำด้วยนะ” “ตรุษจีนนี่มันเป็นช่วงเวลาที่จะเซอร์ไพรส์พวกผู้ชายชั้นต่ำ ที่ชอบตัดสินผู้หญิงจากรูปลักษณ์ภายนอกจริงๆ” หลังจากที่ข้อความของเธอในโซเชียลมีเดียถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก จนมีคนกดแชร์ไปกว่า 5,400 ครั้ง มีคอมเม้นเข้ามามากกว่า 4,440 คอมเม้นต์ และ กดไลค์อีกกว่า 2,700 ครั้งทีเดียว ทั้งนี้เจ้าสบู่ไขมันที่ว่านี้มีลักษณะภายนอกเหมือนสบู่ทั่วๆ ไป แต่ความจริงแล้วมันคือก้อนไขมันของเธอ…
-
น่าเล่นมาก ทะเลสาบในคุนหมิง เย็นจัดจนกลายเป็นลานไอซ์สเก็ต ชาวจีนนับพันแห่ไปเล่นเนืองแน่น
เมื่อถึงฤดูหนาว ที่อุณหภูมิในแต่ละประเทศลดลง มันก็มักจะทำให้เกิดบรรยากาศสนุกสนานและเกิดปรากฏการณ์แปลกๆ ขึ้นทั่วโลกเลยทีเดียว อย่างที่ประเทศจีน อุณหภูมิลดต่ำลงมากจนทำให้ทะเลสาบกลายเป็นลานน้ำแข็ง ผู้คนแห่กันไปเล่นไอซ์สเก็ตกันนับพันทีเดียว เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าทะเลสาบในมณฑลคุนหมิง ประเทศจีน ที่มีขนาดความกว้างกว่า 7 แสนตารางเมตร ถูกอุณหภูมิที่เย็นจัดจนกลายเป็นลานไอซ์สเก็ตสาธารณะ ที่ชาวจีนแห่กันมาเล่นกว่าพันคน ทำให้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวพากันหิ้วรองเท้าสเก็ตมาพักผ่อนกันอย่างเนืองแน่น และเปิดโอกาศให้พ่อค้าแม่ค้าหัวใสนำเอารองเท้าสเก็ตและอุปกรณ์ต่างๆ มาตั้งเพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้เตรียมอุปกรณ์มา ทั้งนี้ทะเลสาบคุนหมิงถูกตั้งชื่อโดยจักรพรรดิเฉียนหลง จักรพรรดิองค์ที่ 6 ของราชวงศ์ชิง เมื่อสมัยปี 1750 ต่อมาเริ่มมีการขยับขยายและพัฒนาให้มีความใหญ่มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของเขาในสมัยนั้น จะว่าน่าเล่นมันก็น่าเล่นอยู่นะ แต่ถ้าเกิดน้ำแข็งมันละลายขึ้นมาไม่ร่วงกันไปหมดเหรอเนี๊ยะ? ที่มา shanghaiist
-
เหมียวเตือนภัย อย่าปล่อยเด็กไว้กับบันไดเลื่อน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุนิ้วขาดแบบนี้ได้
ข่าวนี้อาจจะสะเทือนใจหรือโหดร้ายสักหน่อยนะ แต่เหมียวต้องหยิบมาเล่าเพราะจะได้เป็นการเตือนเหล่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ปล่อยลูกๆ ไปขึ้นบันไดเลื่อนตามลำพัง เพราะมันอาจจะทำให้ลูกของคุณได้รับอันตรายแบบนี้ได้ เมื่อวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าหนูน้อยวัย 2 ขวบในมณฑลเจียงซี ประเทศจีน ที่ดันหกล้มลงตรงบันไดเลื่อนในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทำให้มือของเธอติดอยู่ในบันไดเลื่อน และต้องสูญเสียนิ้วไปในที่สุด หลังจากที่ประสบอุบัติเหตุ เธอก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในเมืองหนานชางอย่างเร่งด่วน จากการสอบถามผู้เป็นพ่อบอกว่า เจ้าตัวกำลังยุ่งอยู่กับการคุยกับเพื่อนในขณะนั้น ส่วนแม่นั่งรออยู่ที่ร้านอาหารใกล้ๆ ที่พวกเขาควรจะนั่งกินอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข ตามรายงานบอกว่าเครื่องจักรไม่ได้ตัดนิ้วของหนูน้อยไปเสียทั้งหมด เพราะเครื่องจักรตัดเอานิ้วของเธอไปเพียงนิ้วเดียว และครึ่งเดียวเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิกจึงเข้ามางัดแงะเครื่องจักรและนำนิ้วส่วนที่เหลือไปส่งโรงพยาบาล แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะสามารถต่อติดได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ใครมีลูกเด็กเล็กแดงก็ดูแลกันดีๆ อย่าให้คลาดสายตานะ เพราะอันตรายอาจรอเราอยู่ก็เป็นได้ กันไว้ดีกว่าแก้นะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
น่ากินไหม? หนุ่มจีนสะสมก้อนหินมานานกว่า 10 ปี เมื่อรวมกันแล้วหน้าตาคล้ายอาหารมาก!!
เชื่อว่าแต่ละคนคงจะมีของสะสมที่แตกต่างกันไป เช่นบางคนชอบสะสมสแตมป์ บางคนสะสมโมเดล บางคนสะสมบัตรเติมเงิน (ยุคนี้ยังมีอีกเหรอ) หรือแปลกๆ หน่อยก็สะสมแมลง แต่ใครจะแปลกเท่าหนุ่มใหญ่ชาวจีนรายนี้ล่ะ เพราะเขาชอบสะสมก้อนหินเป็นชีวิตจิตใจเลยทีเดียว!! เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา สำนักข่าว China Xinhua News ได้เผยแพร่เรื่องราวของนายหวาง เป่าเซิง คุณตาวัย 70 ปีที่อาศัยอยู่ในเมืองไท่หยวน มณฑลส่านซี ประเทศจีน ที่ชื่นชอบการสะสมก้อนหินมาก จนปัจจุบันเขามีก้อนหินหน้าตาแปลกๆ อยู่ในบ้านหลายหมื่นก้อนแล้ว แต่ความแปลกยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเมื่อเขานำเอาก้อนหินแต่ละแบบมาจัดเรียงกัน มันกลับมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับอาหารบนโต๊ะจีนซะอย่างงั้น ทั้งนี้คุณตาหวางได้เผยกับสื่อว่าเขาใช้เวลากว่า 10 ปีในการเก็บรวบรวมก้อนหินแปลกๆ เหล่านี้จากทั่วทั้งประเทศจีนเลยทีเดียว โอ้โห มองไกลๆ นี่เหมียวนึกว่าอาหารจริงๆ เลยนะเนี๊ยะ คงไม่มีใครเผลอหยิบไปกินจริงๆ หรอกนะ ที่มา China Xinhua News , chinanews
-
ยิ่งกว่า V.I.P.!! เจ้าของร้านซาลาเปาขับลัมโบกินีส่งของถึงที่ หากสั่ง 100 ลูกขึ้นไป!?
เดี๋ยวนี้การแข่งขันทางด้านธุรกิจมันช่างสูงเหลือเกิน ทั้งด้านรสชาติ รูปร่างหน้าตา การบริการ หรือแม้แต่การจัดส่ง ถึงขั้นมีร้านค้าบางร้านเอารถสปอร์ตราคาหลายๆ ล้านมาใช้ส่งของด้วยนะเออ!! เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เจ้าของร้านซาลาเปาแห่งหนึ่งในเมืองเฉินตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ได้นำเอารถสปอร์ตส่วนตัวมาใช้ส่งซาลาเปาให้กับลูกค้าที่มีการสั่งซื้อเกิน 100 ชิ้นขึ้นไป ตามรายบอกว่าเจ้าของกิจการร้านซาลาเปาแห่งนี้เพิ่งจะเปิดร้านมาได้ไม่นานนี้เอง โดยก่อนหน้านี้เขาทำธุรกิจเกี่ยวกับบาร์จนเจริญรุ่งเรืองมาก่อน หลังจากนั้นเขาก็หันมาเปิดร้านขายซาลาเปา และนำเอารถสปอร์ตมาเป็นจุดขาย เห็นได้ชัดว่าเจ้าของกิจการรายนี้ใช้รถหรูเพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้า และใช้เทคนิกด้านการบริการมาเป็นจุดขาย แม้ว่าจะดูสิ้นเปลืองไปหน่อยแต่มันก็สามารถสร้างความน่าเชื่อถือกับแบรนด์เกิดใหม่ของเขาได้เป็นอย่างดี เหมียวเองก็ไม่มั่นใจหรอกนะว่ารถชาติของเจ้าซาลาเปาร้านนี้จะดีเลิศขนาดไหน แต่รับรองว่าเข้าจะเป็นจุดเด่นที่คู่แข่งไม่สามารถเลียนแบบได้แน่ๆ ที่มา shanghaiist
-
แก๊งโสเภณีในจีน เนียนจัดฉากว่าเป็นคนดัง ออกขายบริการในโลกออนไลน์!?
เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเซินเจิ้นประเทศจีน ได้ติดตามและจับกุมตัวหญิงสาวขายบริการในโลกออนไลน์รายหนึ่ง ที่พยายามหลอกคนอื่นๆ ว่าตนเองคือดาราคนดัง และประกาศขายบริการในสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Weibo และ WeChat ในราคาสูงลิบลิ่ว แก๊งอาชญากรท้องถิ่นได้จัดตั้งกลุ่มขายโสเภณีออนไลน์ โดยการสร้างตัวตนปลอมๆ ของหญิงสาวอย่างแนบเนียน เพื่อขายบริการทางเพศ ทั้งนี้ได้มีภาพตัวอย่างเผยให้เห็นหญิงสาว กำลังโพสต์ท่าถ่ายภาพในขณะที่ตนเองชนะการประกวดนางงามในเวที Las Vegas ในขณะที่หญิงสาวบางคนยอมจ่ายเงินถึง 5 พันกว่าบาท เพื่อทำศัลยกรรมพลาสติกในเกาหลีใต้ เพื่อมาอัพค่าตัวของเธอจาก 2,000 หยวน เป็น 30,000 หยวน (164,764 บาท) ทีเดียว แต่ถึงแม้แก๊งนี้จะวางแผนไว้ดีแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางรอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองเซินเจิ้นไปได้ ใครเห็นแบบนี้ อย่าได้ตกหลุมพรางเด็ดขาดนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
เก็บตกวันคริสต์มาส สาวจีนแต่งตัวเป็นซานตาคลอส เดินแจกของให้คนทำงานหามรุ่งหามค่ำในปักกิ่ง
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า มีหญิงสาวรายหนึ่งแต่งตัวเป็นซานตาคลอส ออกเดินไปตามถนนของกรุงปักกิ่ง ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ เพื่อแจกของขวัญให้แก่ชาวเมืองที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ตามรายงานไม่ได้ระบุว่าหญิงสาวรายนี้เป็นใคร บอกเพียงว่าเธอน่าจะเกิดหลังปี 1990 เธอสวมถุงมือ หมวก หนวด และแต่งชุดสีแดงเหมือนซานตาคลอส พร้อมกับถุงของขวัญที่บรรจุของเล่นและของใช้ต่างๆ ไว้มากมาย ก่อนจะออกมาเดินในยามค่ำคืน ด้านนาย Wang Zhengrong วัย 106 ปี ผู้ขายแผ่นเสริมรองเท้าอยู่หน้ามหาวิทยาลัยของจีน ได้รับของขวัญจากเธอเป็นอาหารร้อนๆ กับกล้วย นี่คือภาพของหญิงสาวปริศนา ขณะมอบของขวัญให้คู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง ที่ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อมาเตรียมขายของในตอนเช้า เธอไล่แจกของขวัญให้ชาวเมืองไปเรื่อย จนหนึ่งในชาวเมืองของกรุงปักกิ่งที่ได้พบกับหญิงสาว ตั้งฉายาให้เธอว่าเป็น “แม่สาวคริสต์มาส” ด้วย ใจดีมาก เหมียวล่ะซึ้งในน้ำใจของเธอเลย ชักอยากเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอซะแล้วซิ ที่มา shanghaiist
-
เรียนรู้ภาษาจีนได้ง่ายๆ จากภาพวาดตัวอักษรสุดน่ารัก เหมาะแก่การเริ่มต้นภาษาจีนที่สุด!!
การเรียนรู้ทางด้านภาษาอื่นๆ นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเนื่องจากโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปมาก การติดต่อสื่อสารกับประเทศอื่นๆ ได้ก็จะทำให้เราสามารถทำอะไรๆ ได้สะดวกมากขึ้น แถมยังสามารถสร้างความประทับใจใช้ต้อนรับเจ้าของภาษาในประเทศของเราในฐานะเจ้าบ้านได้อีกด้วย ซึ่งนอกจากภาษาอังกฤษที่เราเรียนรู้กันเป็นภาษาที่สองแล้ว ตอนนี้ภาษาจีนก็ถือว่ามาแรงไม่แพ้กัน มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวในไทยมากมาย และมีคนไทยจำนวนไม่น้อยไปอยู่ที่ประเทศจีน ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจต่างๆ แต่เนื่องจากตัวอักษรจีนที่มีจำนวนมากถึง 20,000 ตัว อาจจะทำให้รู้สึกยากต่อการจำ จนถอดใจไม่เรียนเอาซะดื้อๆ เอาเป็นว่าหากใครสนใจที่อยากจะเรียนรู้ภาษาจีน ภาพการ์ตูนตัวอักษนจีนนี้ถือว่าเหมาะแก่การเริ่มต้นมากๆ เลย และใครที่กำลังเรียนอยู่ก็น่าจะช่วยให้จดจำตัวอักษรได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ลักษณะคล้ายๆ กับภาษาญี่ปุ่นที่เหมียวเรียนมาเหมือนกันนะเนี่ย นำตัวอักษรมาวาดให้เป็นรูปที่มีลักษณะคล้ายกับสิ่งของต่างๆ ทำให้ง่ายต่อการจำนั่นเอง ที่มา : mymodernmet
-
ขอบคุณที่ช่วยชีวิตผม!! เจ้าหมาในจีนเกาะเจ้าหน้าที่กูภัยแจ ประหนึ่งเป็นเจ้านายใหม่ หลังถูกช่วยให้รอดตาย
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้เผยแพร่เรื่องราวน่ารักๆ ของเจ้าหมาจรจัดตัวหนึ่ง ที่ถูกช่วยชีวิตโดยเจ้าหน้าที่กู้ภัย แต่มันกลับไม่ยอมไปไหนและทำตัวติดเจ้าหน้าที่แจเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่า 2 วันหลังจากที่เจ้าหมาถูกช่วยชีวิตออกมาจากซากปรักหักพัง จากเหตุการณ์ดินถล่มในเซินเจิ้นประเทศจีน เจ้าหมาก็ได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปแล้วเรียบร้อย เจ้าหมาคอยเดินวนไปวนมารอบๆ เพื่อตามหาเจ้านายของมัน เจ้าหมาแทบไม่ได้กินอะไรเลย แม้คนงานจะพยายามช่วยกันดูแลมันแล้วก็ตาม เจ้าหมาเลยอยู่กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยประหนึ่งเป็นเจ้านายใหม่ของมัน หลังจากเรื่องราวของเจ้าหมาตัวนี้ถูกแชร์ออกไปในอินเตอร์เน็ต ชาวเน็ตในจีนก็รู้สึกประทับใจและคิดว่ามันมีส่วนคล้ายกับเจ้า Hachi เจ้าหมาผู้ซื่อสัตย์แห่งญี่ปุ่น ที่รอคอยเจ้านายที่สถานีรถไฟ แม้ว่าเจ้านายจะตายไปแล้วก็ตาม ใครมีบุญคุณกับตัวเองก็สามารถรับรู้ได้ น่ารักมาก ที่มา CCTVNews
-
น่าสงสาร หนุ่มจีนของแฟนแต่งงาน แต่ถูกปฏิเสธ เพียงเพราะแหวนนั้นเล็กเกินไป!?
หลายๆ ครั้งเรามักจะได้เห็นการขอแต่งงานแบบพลาดๆ ที่ฝ่ายหญิงปฏิเสธฝ่ายชาย จนกลายเป็นเรื่องหน้าแตก เป็นข่าวดังไปทั่ว ทำเอาฝ่ายชายถึงกับเสียเซล์ฟกันเลยทีเดียว สาเหตุก็เนื่องมาจากความรักของทั้งคู่ยังไม่สุกงอมดีพอ หรือฝ่ายหญิงไม่พร้อมจะแต่งงานด้วย ล่าสุดเกิดเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้อีกแล้วล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ชายหนุ่มในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ถึงกับหน้าแตกกลางที่สาธารณะ เมื่อเขาพยายามขอแฟนสาวแต่งงานด้วยแหวนเพชร แต่สาวเจ้ากลับปฏิเสธ ด้วยสาเหตุที่ว่าแหวนวงนั้นเล็กเกินไป!? ตามรายงานบอกว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หนุ่มจีนได้จัดแจงขอแฟนสาวแต่งงานด้วยการสร้าง “Flash Mob” ที่เป็นการนำคนจำนวนมากแฝงตัวมากับฝูงชน และช่วยกันเต้นรำเพื่อขอหญิงสาวแต่งงานให้สำเร็จ เมื่อหญิงสาวเห็นดังนั้น เธอก็ตื้นตันจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แต่เมื่อเธอเห็นแหวนวงนั้นก็ถึงกับทำให้เธอผิดหวังอย่างรุนแรง เพราะแหวนวงนั้นมีขนาดเล็กกว่า 1 กะรัต เมื่อเห็นว่าแหวนยังไม่ถูกใจเธอ เธอจึงหันหลังและเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีภาพแชทระหว่างเธอกับเพื่อนสาวหลุดออกมา จับใจความได้ว่า “เขาเคยตกลงกับฉันว่าจะซื้อแหวนใหญ่ขนาด 1 กะรัตให้ แต่ทำไมเขาถึงซื้อแหวนที่เล็กกว่านั้นมา? หรือเขาไม่แคร์ฉันเลย?” ไม่รู้ว่าที่ฝ่ายชายหนุ่มซื้อแหวนวงเล็กมาให้เธอ เป็นเพราะซื้อผิดหรือเงินไม่พอกันแน่นะ แต่ถ้าคนรักกันจริง เรื่องแหวนน่าจะพออภัยให้กันได้นา ที่มา shanghaiist
-
อู้หูววว สาวจีนรวมกลุ่มกันเต้นรูดเสาในสภาพอากาศหนาวเหน็บ เพื่อต่อต้านการใส่เสื้อผ้าจากขนสัตว์
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า กลุ่มนักเต้นรูดเสาสาวได้รวมกลุ่มกันออกมาเต้นรูปเสาในมณฑลจี๋หลิน ประเทศจีน ในอุณหภูมิอันหนาวจัด เพื่อแสดงพลังในการต่อต้านเสื้อผ้าที่ทำมาจากขนสัตว์ ตามรายงานบอกว่า Song Yao วัย 29 ปี หนึ่งในสมาชิกนักเต้นรูปเสาได้เข้าร่วมกลุ่มกับสาวๆ คนอื่นเพราะว่าเธออยากให้ผู้คนตระหนักถึงความเลวร้ายในการเลือกใช้ขนสัตว์มาเป็นเครื่องนุ่งห่ม และปฏิเสธการใส่เสื้อผ้าแบบนั้นในฤดูหนาว หลังจากที่มีการแสดง ก็เริ่มมีคนกลุ่มเล็กๆ หยุดดูพวกเธอเต้นรูปเสาในสภาพอากาศอันหนาวเหน็บ พร้อมกับหยิมมือถือขึ้นมาบันทึกภาพการแสดงของพวกเธอไว้ หลังจากที่การแสดงจบลง ทีมงานก็เข้ามาช่วยหิ้วพวกเธอออกไปจากบริเวณนั้น เพราะว่าพวกเธอหนาวสั่นเกินกว่าจะเดินได้เอง แม้จะดูเป็นการรณรงค์ที่ยากจะได้ผล แต่อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ว่ามีคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นคุณค่าของสัตว์โลกและไม่อยากทำร้ายพวกมันล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนตีมึน วิ่งไปล้มลงหน้ารถคนอื่น หวังเรียกเงินประกัน สุดท้ายโดนตำรวจรวบไปซิ
ไม่น่าเชื่อว่าทุกวันนี้จะยังมีคนแกล้งมึน เนียนวิ่งไปให้รถชนเพื่อเรียกร้องเอาเงินประกัน แต่เหมียวขอบอกเลยว่ามุกนี้มันเก่ามากแล้ว แถมรถสมัยนี้ยังมีกล้องติดรถอีก คงจะยากหน่อยหากจะใช้มุกหากินเดิมๆ แบบสาวจีนคนนี้ล่ะ เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอของสาวจีนรายหนึ่ง ที่ตีมึนวิ่งไปล้มตัวลงนอนหน้ารถยนต์คันหนึ่งทำให้คนขับต้องเบรคทันที แต่เหมือนเธอจะรู้ตัวว่าล้มไกลไปหน่อย เธอจึงลุกขึ้นและเดินมาล้มใกล้ๆ กับตัวรถ เพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย แต่งานนี้ไม่หวานหมูแบบที่เธอคิดล่ะ เพราะเจ้าของรถไม่ยอมลงจากรถแม้แต่ก้าวเดียว แถมยังพยายามบีบแตรไล่เธอด้วย ซึ่งผู้ที่สัญจรไปมาแถวนั้นก็ไม่ได้มีใครให้ความสนใจหรือเข้ามาดูเธอแม้แต่น้อย จนสุดท้ายเจ้าของรถต้องโทรเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารวบตัวหญิงสาวออกไป สุดต้องก็ต้องยอมจำนนต่อหลักฐาน เพราะมีคลิปจากรถบันทึกไว้นั่นเอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แหม่ มุกเก่าแบบนี้เหมียวว่าไม่เวิร์คนะ กลับไปคิดมาใหม่นะคุณป้า ที่มา shanghaiist
-
นี่ก็เกินไป๊!! ผู้รับเหมาจีนตูดหมึก สร้างบ้านทับสายไฟ เดินขึ้นลงต้องข้าม-ก้ม ตลอด!?
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าเจ้าของบ้านชาวจีนกลุ่มหนึ่งถึงกับตกตะลึง เมื่อเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยในบ้านตัวเองก่อนเข้าอยู่ แต่กลับพบว่าบ้านของพวกเขามีสายไฟตัดผ่านตัวบ้าน ทำให้เวลาเดินขึ้น-ลง ต้องก้มตัวหรือก้าวข้ามอยู่ตลอดเวลา เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียงของจีน โดยตามรายงานระบุว่าพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่กลับมีสายไฟพาดผ่านบริเวณนั้น แทนที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างจะเปลี่ยนไปสร้างบ้านที่อื่น พวกเขากลับสร้างบ้านทับลงไปเลย ทำให้ต้องเจาะกำแพงไปยังห้องต่างๆ เช่นห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องครัว เพื่อให้สายไฟสามารถผ่านตัวบ้านไปได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นชาวบ้านเองก็ได้ทราบปัญหาสายไฟอยู่ก่อนแล้ว พวกเขาคิดว่าน่าจะมีการย้ายสายไฟออกไปก่อนที่พวกเขาจะย้ายเข้า แต่เมื่อมาดูตัวบ้านจริงๆ ก็พบว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ในโครงการหมู่บ้านแห่งนี้มีด้วยกันทั้งหมด 9 หลัง แต่มีแค่ 3 หลังเท่านั้นที่ประสบปัญหานี้ ตามรายงานจากเว็บไซต์ People’s Daily บอกว่ายังไม่มีผู้ว่าจ้างรายไหนจ่ายเงินให้กับผู้รับเหมาเลย หลังจากที่เจ้าของบ้านได้เข้าตรวจเช็ตสภาพบ้าน คุณตาวัย 83 ปีรายหนึ่งก็ได้สะดุดสายไฟล้มและได้รับบาดเจ็บจนต้องหามส่งโรงพยาบาล เสียค่ารักษาไปกว่า 3,000 หยวน หรือประมาณ 16,709 บาท ที่มา shanghaiist
-
ไม่น้อยหน้า!! Baidu เปิดตัวรถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง คาดใช้เวลา 5-10 ปีในการเก็บเส้นทางในจีน
หากจะพูดถึงโปรแกรมกำจัดไวรัสสุดฮิต (เหรอ) อย่าง Baidu คงจะไม่มีใครไม่รู้จักล่ะนะ หากใครไม่รู้จักแอดเหมียวจะขออธิบายง่ายๆ ว่ามันคือโปรแกรมกำจัดไวรัสในคอมพิวเตอร์จากจีน ที่พร้อมจะชำแรกแทรกตัวเข้าไปอยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณ โดยที่คุณอาจไม่รู้ตัวเลยทีเดียว ล่าสุด Baidu ได้พัฒนาไปอีกขั้น โดยการนำรถ BMW มาดัดแปลงให้กลายเป็นรถไร้คนขับ คล้ายกับของฝั่ง Google เพื่อออกสำรวจเส้นทางในจีน ซึ่งโครงการนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2013 และคาดว่าจะใช้เวลา 5-10 ปี กว่าที่จะเก็บรายละเอียดของเส้นทางต่างๆ ได้จนครบ ทางด้านโฆษกของทาง Baidu ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “การทดสอบถนนนี้ ดำเนินการภายใต้รูปแบบถนนที่ซับซ้อน และยานพาหนะของเราอย่าง BMW ซีรี่ส์ 3 ก็ผ่านการทดสอบมาแล้ว ดังนั้นรถจะตอบสนองได้กับทุกๆ สภาวะแวดล้อมเลยทีเดียว” การทำสอบสามารถพิสูจน์ให้เห็นว่ารถคันนี้สามารถเลี้ยวซ้าย-ขวา ยูเทิร์นได้ สามารถตรวจจับรถคันข้างหน้าได้ ชะลอตัวเมื่อจำเป็น สามารถเปลี่ยนเลนหรือแม้แต่การแซงรถคันอื่นๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีการรายงานว่าเจ้ารถไร้คนขับคันนี้ จะสามารถวิ่งได้ดีในสภาพที่หมอกลงหนาในกรุงปักกิ่งเช่นตอนนี้ได้หรือไม่ แต่หากรถ Baidu สามารถแล่นไปบนถนนที่มีการจราจรติดขับแบบกรุงปักกิ่งได้ล่ะก็ ปัญหานั้นก็คงเป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับพวกเขาแล้วล่ะ…
-
คนดีที่โลกรอ!! หมอจีนไม่ยอมแพ้ต่อความพิการ รักษาคนไข้มากว่า 12 ปี แบบไม่คิดเงิน แม้ตนเองจะมีขาเดียว
ถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เหมียวอยากจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันในวันนี้เลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของคุณหมอชาวจีน ผู้พิการขาเดียว แต่ยังคงทำหน้าที่รักษาคนไข้ในหมู่บ้านเล็กๆ มานานถึง 12 ปี แม้การเดินทางแต่ละครั้งจะเป็นเรื่องยากลำบากก็ตาม เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยคุณหมอรายนี้มีชื่อว่านายฉี เซิ่งหยง วัย 36 ปี เขาได้สูญเสียขาซ้ายไปตั้งแต่อายุได้ 14 ปี เพราะถูกรถชน ทำให้เขาต้องหยุดเรียนไป 1 ปี และฝึกการใช้ชีวิตด้วยขาข้างเดียว เมื่อสภาพจิตใจและร่างกายเริ่มเข้าที่แล้วเขาก็กลับมาเรียนต่อ แม้ชีวิตจะยากลำบากแค่ไหนเขาก็ไม่เคยยอมแพ้ ทำให้เขาตั้งใจเล่าเรียนจนสอบเป็นหมอที่มหาวิทยาลัยหยูโจวได้สำเร็จ และกลับมารักษาคนไข้ผู้ยากไร้ต่อไป ตามรายงานบอกว่าชาวบ้านมักจะเห็นภาพของคุณหมอรายนี้เดินกะเผลกๆ พร้อมกับเครื่องมือการแพทย์ไปตามทางเดินในหมู่บ้านทุกวันๆ ไม่ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม คุณหมอฉีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ในตอนแรกผมล้มลงเพราะไม่คุ้นชินกับเส้นทางเดินเท่าไหร่ แต่รอยแผลทั้งหมดก็ช่วยเตือนผมว่ามีคนไข้กำลังรอผมอยู่ ไม่ว่าจะเจ็บตัวแค่ไหนแต่ก็ยังมีคนไข้ที่รอให้ผมไปช่วยอยู่” ตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมา หมอฉีบอกว่าเขารักษาคนไข้มานับไม่ถ้วน แถมยังไม่เคยเก็บเงินแม้แต่หยวนเดียว เพราะเขารู้ดีว่าชาวบ้านนั้นยากจนแค่ไหน…
-
โวยลั่น!! หนุ่มจีนร้องโวยวายเหมือนเด็ก หลังพยายามเปลี่ยนที่นั่งบนเครื่องบิน แต่ถูกปฏิเสธ
พฤติกรรมการร้องไห้งอแงเพื่อจะเอาสิ่งของอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้จะเป็นพฤติกรรมน่าอายที่เด็กๆ ชอบทำกัน แต่เชื่อไหมว่าทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ใหญ่บางคนทำอยู่เหมือนกันนะ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Metro ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่งที่ถูกถ่ายไว้ได้บนเครื่องบินที่กำลังจะเดินทางออกจารครเซี่ยงไฮ้ไปยังนิวยอร์คเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เผยให้เห็นผู้โดยสารชายชาวจีนรายหนึ่ง กำลังตะโกนโหวกเหวกโวยวายอยู่กับพื้น จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาควบคุมสถานการณ์ สาเหตุที่เขาทำแบบนั้นก็เพราะว่าเขาพยายามจะขอเปลี่ยนที่นั่งบนเครื่องบิน เพื่อไปนั่งในชั้นที่ดีกว่า แต่ถูกพนักงานบนเครื่องปฏิเสธทำให้เขาไม่พอใจและตะโกนเสียงลั่น จนเจ้าหน้าที่ต้องลากเขาออกจากเก้าอี้ เกิดเป็นคลิปวิดีโอสุดน่าอายอย่างที่เห็นนี่แหละ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังควบคุมตัวผู้โดยสารจีน มีเสียงของผู้โดยสารคนอื่นๆ ดังขึ้นว่า “ระวังหน่อย อย่าให้เขากัดคุณได้นะ” สร้างความโกลาหลให้ผู้โดยสารทั้งลำอยู่ไม่น้อย ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ผู้โดยสารท่านไหนที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ก็ใจเย็นๆ หน่อยนะจ๊ะ ยังไงก็ถึงที่หมายเหมือนกัน ที่มา metro
-
ใจสู้ไม่ถอย!! ชาวจีนยึดมั่นไม่ยอมเวนคืนที่ดิน ทำให้รัฐต้องสร้างถนนอ้อมตัวบ้านแทน
ในบางครั้งที่รัฐพยายามจะสร้างถนนไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน หากเส้นทางนั้นไปตรงเข้ากับบ้านของผู้คน ก็อาจจะต้องมีการเวนคืน แต่หากมีคนบางคนดื้อๆ ไม่ยอมย้ายออกไปล่ะ จะเป็นยังไง? เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่าเจ้าของอาคารแห่งหนึ่งในมณฑลหางโจว ประเทศจีน ปฏิเสธที่จะย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งประกอบไปด้วยโรงงานผลิตยาและที่ดินโดยรอบ ทำให้รัฐต้องเปลี่ยนการวางถนนใหม่ ให้อ้อมที่ดินของเขาไปด้านข้างแทน สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่าเจ้าของที่ดินได้รับค่าตอบแทนที่ไม่สมเหตุสมผล ทำให้พวกเขาปฏิเสธการขายที่ดินผืนนี้ จึงทำให้เกิดเป็นถนนรูปตัว C อย่างที่เห็น ในอดีตที่ผ่านมา เคยมีเหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้เกิดขึ้นในประเทศจีนอยู่หลายแห่งทีเดียว ลองไปชมภาพกันเลย แอดเหมียวขอนับถือในความใจเด็ดของพวกคุณเลย ที่มา shanghaiist
-
ไม่ดูตาม้าตาเรือ!! หนุ่มจีนขับรถประมาท ทับเด็ก 2 คน แต่ดันรอดตายอย่างปาฏิหาริย์!?
เมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shahaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อคของคนขับรถไร้วินัยรายหนึ่ง ที่ขับรถเหยียบเด็กเล็กสองคนจนเข้าไปติดอยู่ใต้ท้องรถ แต่ทั้งสองกลับรอดตายและลุกขึ้นเดินหน้าตาเฉย!! ตามรายงานบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมณฑลอันหุยประเทศจีนเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา หนุ่มแซ่ซันได้เช่ารถยนต์มาขับ และขับไปไปตามท้องถนน ในระหว่างทางมีเด็กสองคนกำลังก้มเพื่อผูกเชือกรองเท้าอยู่ นายซันกลับมาจอดรถอยู่ข้างๆ เด็กทั้งสอง แต่จู่ๆ เขาก็ถอยรถและขับไปชนเด็กๆ อย่างหน้าตาเฉย เด็กทั้งสองก็กลิ้งตัวไปอยู่ใต้ท้องรถก่อนที่รถยนต์จะหยุด จากนั้นหนึ่งในนั้นก็ลุกออกมาจากใต้ท้องรถ ก่อนที่จะช่วยเด็กอีกคนที่ติดอยู่ในนั้นออกมา สร้างความตื่นตกใจให้แก่ชาวเมืองในละแวกนั้น รวมไปถึงชาวเน็ตที่ได้ชมคลิปดังกล่าวด้วย ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นก็ได้รีบเข้ามาดูอาการของเด็กทั้งสอง ปรากฏว่าทั้งคู่ไม่ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแต่อย่างใด มีเพียงรอยขีดข่วนเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนทางด้านคนขับนั้นจะถูกดำเนินคดีต่อไป นี่ถือเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้นะ ใครมีลูกมีหลาน โปรดดูแลพวกเขาให้ดีๆ นะ เหมียวล่ะเป็นห่วงจริงจริ๊ง ที่มา shanghaiist
-
สุดยอด!! เด็กชายวัย 11 ขวบ ต้องอุ้มน้องสาวป่วยพิการทางสมองไป-กลับ โรงเรียนทุกวัน
นี่เป็นหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เหมียวอ่านแล้วชื่นใจมากเลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ People’s Daily ได้เผยแพร่ภาพของ Li Yuan เด็กชายวัย 11 ขวบจากจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะอุ้ม Li Nianying หนูน้อยวัย 6 ขวบ ที่ป่วยเป็นโรคสมองพิการ ไปเรียนด้วยทุกๆ วัน ตามรายงานบอกว่า Li Nianying เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบ ทำให้เธอต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ทำให้ครอบครัวของพวกเขาเป็นหนี้มากมาย จนเมื่อเธออายุได้ 6 ขวบ ตายายก็สามารถพูดคุยกับทางโรงเรียน เพื่อขอให้หลานสาวได้เข้าเรียนที่นี่ได้สำเร็จ แต่ตายายไม่สามารถมาส่งหลานสาวได้เนื่องจากแก่มากแล้ว พี่ชายอย่าง Li Yuan จึงต้องอุ้มน้อยสาวไปเรียนด้วยทุกวันๆ และอุ้มกลับในตอนเย็น หลังจากเรื่องราวดังกล่าวเริ่มถึงหูคุณครู ทางโรงเรียนก็ช่วยกันบริจาคข้าวของเครื่องใช้มากมายให้แก่พวกเขา และถึงแม้ว่าหนูน้อย Li Nianying จะมีความพิการทางสมอง แต่เมื่อดูผลการเรียนก็ถึงกับประหลาดใจ เพราะเธอเธอทำคะแนนได้ดีทีเดียว …
-
มันใหญ่มาก!! พบซากปลาวาฬหนักกว่า 3.9 ตัน นอนเกยตื้นอยู่บนชายหาดในประเทศจีน
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าพบศพปลาวาฬตัวยาวกว่า 8.5 เมตร หนัก 3.9 ตัน นอกเกยตื้นอยู่ที่บริเวณชายหาดในเมือง Rizhao มณฑลซานตง ประเทศจีน ตามรายงานบอกว่ามีชาวบ้านพบซากปลาวาฬตัวนี้เข้าที่ชายหาด จึงรีบโทรแจ้งไปยังหน่วยงานแถวนั้น เพื่อให้มารับซากของเจ้าปลาวาฬไป และด้วยขนาดตัวที่ใหญ่มากของมัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถคอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่มาก เพื่อมาขนมันออกไป มีการประเมินเบื้องต้นว่าปลาวาฬยักษ์อาจเสียชีวิตเพราะว่ายน้ำไปชนกับตาข่ายของชาวประมงที่ใช้สำหรับหาปลา ทำให้ร่ายกายของมันไม่สามารถขยับได้และตายในที่สุด ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องนำตัวของมันกลับไปแช่แข็งและทำการสำรวจต่อไป เหตุการณ์เหล่านี้แม้จะดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุ แต่ในอดีตที่ผ่านมา กลับเกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้หลายครั้ง บางครั้งเจ้าหน้าที่ดูแลสัตว์น้ำก็สามารถช่วยพวกมันไว้ได้ทัน แต่บางตัวก็ถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายทีเดียว น่าสงสารเจ้าวาฬมาก ที่มา shanghaiist
-
ไม่กลัวหนาวตายเรอะ!? แก๊งค์หนุ่มใหญ่ แก้ผ้าลงเล่นน้ำในจีน แม้สภาพอากาศจะหนาวเย็นสุดๆ ก็ตาม
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shangahiist ได้รายงานว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สภาพอากาศในประเทศจีนได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน ทำให้อากาศหนาวเย็นขึ้น แต่ถึงแม้อากาศจะหนาวเย็นยังไงก็ไม่สามารถห้ามคนบางกลุ่มไม่ให้ออกมาทำกิจกรรมข้างนอกได้ เพราะในเมืองฉงชิ่งเอง มีกลุ่มชายสูงวัยกว่า 20 คน พากันออกมาว่ายน้ำเล่นข้างแม่น้ำยงซีอย่างไม่สะทกสะท้าน ทำให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาอดไม่ได้ที่จะถ่ายภาพพวกเขามาเผยแพร่ในอินเตอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริเวณใกล้ๆ กันนั้นจะมีซุ้มหรือแหล่งชุมนุมที่เป็นหาดเปลือย ไว้ให้ชาวเมืองที่ชอบเปลือยกายได้มาพักผ่อนกันในที่ลับหูลับตาคน แต่ที่บริเวณนั้นก็ไม่ใช่ที่สำหรับหาดเปลือย และอาจก่อให้เกิดความอุจาดตาได้ ถ้าอากาศหนาวเย็นมาก ก็นอนพักผ่อนอยู่บ้านเถ๊อะพ่อ ที่มา shanghaiist
-
หนักหนา!! จีนเจอหมอกหนาปกคุลมจนมองอะไรไม่เห็น ประหนึ่งพายุทรายบนดาวอังคาร
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพถ่ายจากเมืองฮูฮอตทางตอนเหนือของประเทศจีน ที่ถูกปกคลุมไปด้วยควันหนาจนมองอะไรไม่เห็น ประหนึ่งพายุทรายบนดาวอังคาร ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้เดินทางไปยังกรุงปารีสเพื่อประชุม COP21 กับ UN เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหมอกควัน ที่ปัจจุบันมีหมอกปกคุลมประเทศไปแล้วกว่า 530,000 ตารางกิโลเมตร เมืองนี้ถูกปกคุลมไปด้วยหมอกหนาสีน้ำตาล ซึ่งเปลี่ยนบรรยากาศของเมืองให้ดูน่าขนลุกกว่าเดิม และนอกจากจะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกด้วย อย่างน้อยก็ทำให้เรารู้ล่ะนะ ว่าถ้าเราย้ายไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคาร หน้าตาจะเป็นยังไง ที่มา shanghaiist
-
โหดร้ายเกินไปแล้ว!! นักเรียนนักเลงบังคับเพื่อนกิน “อึ” ในห้องน้ำ ทั้งกดหัว-กระทืบซ้ำ
โรงเรียนแม้จะเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับบ่มเพาะเด็กๆ ให้เติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ แต่ก็ไม่สามารถที่จะสั่งสอนเด็กบางคนให้กลายเป็นคนดีได้ เช่นเหล่านักเรียนนักเลงที่เหมียวจะนำเสนอต่อไปนี้ นี่เป็นคลิปที่กำลังมีการส่งต่อกันอย่างมากมายในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของจีนอย่าง Weibo เลยทีเดียว สำหรับคลิปวิดีโอการกลั่นแกล้งกันของเหล่านักเรียนนักเลง ที่จับเอาเด็กหนุ่มคนหนึ่งมาขังไว้ในห้องน้ำ และบังคับให้เขากิน “อึ” ภายในโถส้วม จากคลิปจะเห็นได้ว่าเด็กหนุ่มถูกบังคับให้ก้มลงไปกับพื้น เพื่อกินอึ แต่ดูเหมือนเขาจะพยายามขัดขืน เหล่านักเลงจึงเหยียบหลังของเขาและกระทืบซ้ำๆ เพื่อให้เขาเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ทั้งนี้ไม่มีการรายงานว่า เด็กๆ เหล่านั้นถูกตามตัวมาลงโทษหรือไม่ แต่หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไปทั่วโลก ทำให้ชาวเน็ตต่างแสดงความเห็นกันอย่างร้อนแรง เช่นสมาชิกที่ใช้นามแฝงว่า Someaussiedude กล่าวว่า “ถ้านั่นคือลูกชายผม ผมจะออกตามล่าพวกมันและหักขาของพวกมันซะ” และ MeeLee กล่าวว่า “การกลั่นแกล้งกันเช่นนี้ มักจะจบลงด้วยการที่เด็กคนนั้นฆ่าตัวตาย ไม่ก็พยายามกลับมาล้างแค้นเด็กเลวพวกนั้นด้วยตัวเอง” ดูแล้วอารมณ์มันขึ้นจริงๆ ถ้าเป็งลูกเป็นหลานนี่จะตบหัวพุ่งเลย ที่มา D’ Ooor VideoOss
-
วิกฤตหนัก ชาวจีนว่างงานกว่า 1.3 ล้านคน แห่สมัครสอบข้าราชการ รับเพียง 27,000 ตำแหน่ง
ปัญหาคนว่างงานกลายเป็นปัญหาที่เริ่มระบาดหนักไปในหลายๆ พื้นที่เลยทีเดียว เพราะอย่างที่ประเทศจีนเองก็เกิดเหตุการณ์ที่เหล่าประชาชนกว่าล้านคน แห่กันไปสมัครงานข้าราชการ ที่รับเพียง 2 หมื่นกว่าคนเท่านั้น เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าประชาชนขาวจีนกว่า 1.39 ล้านคน ได้แห่กันไปสมัครสอบเพื่อบรรจุเป็นข้าราชการ ซึ่งเป็นตัวการันตีว่าพวกเขาจะมีงานและรายได้ที่ดี แต่ตามรายงานบอกว่าการเปิดสอบครั้งนี้เปิดรับเพียง 27,817 ตำแหน่งเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลได้ออกกฎเพื่อลงโทษสำหรับผู้ที่คิดจะโกงข้อสอบ หากถูกจับได้จะต้องถูกลงโทษทางอาญา และถูกจำคุกถึง 3 ปีด้วยกัน แม้ว่าตัวเลข 1.39 ล้านคน จะดูสูงมาก แต่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านๆ มาแล้ว นี่ก็ยังถือว่าไม่ใช่ตัวเลขที่สูงที่สุดอยู่ดี ที่มา shanghaiist
-
สุดยอดคุณแม่!! หญิงจีนแขนเดียว ทำงานวันละ 16 ชั่วโมง เลี้ยงลูก 2 คน หลังจากสามีเสียชีวิต
เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวสู้ชีวิตของสาวแขนเดียวนามว่า Fang Wenying ที่อาศัยอยู่ในมณฑลอันหุยประเทศจีน เธอต้องสู้ชีวิตอย่างหนัก ทั้งทำงานวันละ 3 ที่ และเลี้ยงลูกสาวอีก 2 คน หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตไปในเหตุการณ์รถชนเมื่อ 3 ปีก่อน หลังจากที่ขาดหัวหน้าครอบครัวไป ทำให้เธอและลูกๆ ต้องมีชีวิตที่ยากลำบาก เธอจึงต้องหางานทำหลายๆ รวมแล้ว 16 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งนี้ นาง Wenying เล่าให้สื่อฟังว่า เธอต้องตื่นตั้งแต่ตี 3 และกลับเข้าบ้านอีกครั้งในเวลา 4 ทุ่มครึ่ง ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา แต่นั่นก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับที่เธอต้องทำงานทุกอย่างด้วยแขนเพียงข้างเดียว และเพื่อที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ลูกสาวของเธออย่าง Dandan วัย 20 ปีก็ตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน เพื่อมาช่วยทำงาน โดยเธอสามารถหารายได้ต่อเดือนได้ประมาณ 2,800 หยวนหรือประมาณ 15,720…
-
ชายจีนวัย 58 อาศัยอยู่ในถ้ำหิมะกว่า 10 ปี เผย ดื่มแอลกอฮอล์ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist รายงานว่า พบชายวัย 58 นามว่า Yu Fazhong อาศัยอยู่ในทางตอนเหนือมณฑลเหหลงเจียง ประเทศจีนที่มีอากาศหนาวเย็นปกคลุม โดยเขาอาศัยอยู่ในถ้ำใต้ดินที่เขาสร้างขึ้นมาเองนานกว่า 10 ปี โดยการดื่มแอลกอฮอล ตามรายงานบอกว่านาย Yu Fazhong อาศัยอยู่ห่างจากหมู่บ้านปักกิ่ง มณฑลเหหลงเจียงประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเขตที่มีอากาศหนาวเย็นของจีน จนได้รับการขนานนามว่า “หมู่บ้านอาร์กติก” ชาวเน็ตและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในระแวกนั้น รู้สึกประหลาดใจกับวิธีที่เขาเอาตัวรอดจากความเหงา พื้นที่อันคับแคบ และอากาศหนาวเย็นเพราะเขาบอกว่าเขาดื่มแอลกอฮอล์เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นนั่นเอง นาย Yu Fazhong กล่าวว่า “ผมคุ้นเคยกับสภาพความเป็นอยู่หลังจากที่ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นี่นาน 10 ปี ถ้ามันหนาวเกินไป ผมจะจุดไฟเพื่ออบอุ่นร่างกายในช่วงกลางวัน และจิบเหล้าเพื่อให้อุ่นเข้าไว้” หมู่บ้านอาร์คติก ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 1960 ปัจจุบันมีพื้นที่กว่า 16 ตารางกิโลเมตร…
-
สื่อนอกเผยภาพพ่อ-แม่ชาวจีน ออกมานั่งเฝ้าที่จอดรถให้ลูกวันละหลายชั่วโมง ให้ลูกมีที่จอดรถ!?
กลายเป็นภาพที่ชวนหดหู่จริงๆ สำหรับภาพของชาย-หญิงชราคู่หนึ่ง ขณะนั่งบนเก้าอี้บนที่จอดรถหน้าบ้านตัวเอง เพื่อรอลูกชายขับรถกลับมาจอด แม้ว่าสภาพอากาศจะหนาวเหน็บแค่ไหนก็ตาม ภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นภาพชาย-หญิงชราในเมืองนาน มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ที่ออกมานั่งเฝ้าที่จอดรถทุกวัน หลังจากช่วงบ่าย เพื่อให้เวลาที่ลูกชายกลับบ้าน จะได้มีที่จอดรถสำหรับเขา ตามรายงานบอกว่าชาย-หญิงชราคู่นี้จะผลัดกันออกมาเฝ้าที่จอดรถ เพื่อรอลูกชายกลับบ้าน เหตุเพราะว่าหลายครั้งที่ลูกชายมักจะกลับมาบ้าน และพบว่าไม่มีที่จอดรถสำหรับเขา พวกเขาเองก็เข้าใจดี และยอมมายนั่งเฝ้าที่จอดรถให้ลูกชายวันละหลายชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์บอกว่าสภาพอากาศในขณะนั้นเลวร้ายมากจนอดเป็นห่วงไม่ได้เลยทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
อุบัติเหตุเหนือธรรมชาติ รถลอยขึ้นกลางอากาศ แท้จริงแล้วแค่สายเคเบิ้ลพันล้อรถ!?
ถือเป็นหนึ่งในคลิปฮือฮาที่มีการแชร์ให้เห็นบ่อยที่สุดในวันนี้เลยก็ได้ สำหรับคลิปอุบัติเหตุในประเทศจีน ที่จู่ๆ รถก็ลอยขึ้นไปในอากาศ จนเหมือนเป็นพลังเหนือธรรมชาติเลยทีเดียว เรื่องราวดังกล่าวถูกเปิดเผยผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นคลิปวิดีโอของรถตู้คันหนึ่ง ขณะขับตรงมาตามทาง แต่เมื่อถึงบริเวณสี่แยก รถตู้คันดังกล่าวกลับลอยขึ้นไปในอากาศ นอกจากนี้รถที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็ลอยขึ้นด้วยเล็กน้อย จนทำให้ผู้ชมคลิปบางส่วนเชื่อกันว่านี่อาจเป็นเหตุการณ์ลี้ลับก็เป็นได้ แต่เหตุการณ์ทุกอย่างก็คลี่คลาย เมื่อนักข่าวและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่ก็พบว่า แท้จริงแล้วเป็นเพียงสายเคเบิ้ล ที่พนักงานซ่อมถนนลืมเก็บเท่านั้น ทำให้รถยนต์ที่สัญจรไปมาไปเกี่ยวกับสายไฟเข้า จนเกิดเป็นภาพชวนอึ้งที่เห็นนี่เอง ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย แหม่ เล่นเอาซะตกอกตกใจหมดเลย ทีนี้ก็เอาไปคุยได้แล้วนะ ว่าไม่ใช่พลังลี้ลับอะไร ที่มา shanghaiist
-
เกินไปมั้ง!? เพื่อนเจ้าสาวในจีน ถูกแขกในงานรุมจับหน้าอกยับ แถมส่งเสียงเชียร์ “จับเลยๆ”
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อคภายในงานแต่งงานแห่งหนึ่งในประเทศจีน แต่แทนที่จะมีภาพเจ้าบ่าวเจ้าสาวจูบกัน กลับกลายเป็นภาพของเพื่อนเจ้าสาว ขณะถูกแขกภายในงานรุมจับหน้าอกซะอย่างงั้น ตามรายงานบอกว่าคลิปวิดีโอดังกล่าวถูกถ่ายได้ที่มณฑลไห่หนาน ทางตอนใต้ของประเทศจีน เผยให้เห็นภาพของเหล่าชายหนุ่ม กำลังลูบคลำหน้าอกของหญิงสาว อย่างสนุกสนาน โดยมีแขกในงานตะโกนส่งเสียงเชียร์ว่า “จับเลย จับเลย” หลังจากที่แขกหนุ่มๆ ได้จับหน้าอกของเธอแล้ว พวกเขายังหยิบเอาโทรศัพทมือถือขึ้นมาถ่ายภาพอีก ทำให้หญิงสาวเกิดความอับอายเป็นอย่างมาก และพยายามใช้มือปัดกล้องและมือของพวกเขาออกไป อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นพฤติกรรมที่ยอมรับได้ยากในสังคมชาวจีนเช่นกัน เพราะหลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันรุมประนามการกระทำอันไม่เหมาะสมดังกล่าว แถมยังต่อว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่เป็นผู้จัดงานด้วยว่า ทำไมถึงไปห้ามปรามพวกเขา? ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง งานนี้เลยเถิดไปไกลเชียว เหมียวเห็นแล้วน่าสงสารมาก ที่มา dailymail
-
สาวสองพันปี!? ชมภาพ “หลิน จื้อหลิง” นางแบบสาวไต้หวัน สวยใสเหมือนวัยรุ่น ทั้งที่อายุ 41 แล้ว
ในยุคหนึ่งที่ซีรี่ย์ไต้หวันและจีนกำลังโด่งดังนั้นเอง เชื่อว่าน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักนักแสดงสาวนามว่าหลิน จื้อหลิง (Lin Zhi Ling) แต่สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ไม่รู้จักเธอแล้ว อาจจะคิดว่าเธอคนนี้มีอายุ 20 ปลายๆ แต่หารู้ไม่ว่าหน้าเด็กๆ แบบนี้ อายุเธอปาเข้าไปหลัก 4 แล้วนะเออ หลิน จื้อหลิง วัย 40 ปี เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2517 นั่นก็หมายความว่าในอีกเพียง 2 วันเธอก็จะอายุ 41 แล้ว แต่ใบหน้าของเธอยังคงดูอ่อนเยาว์เหมือนวัยรุ่นสาวๆ อยู่เลย ทั้งนี้ หลิน จื้อหลิง นั้นทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมาอย่างยาวนาน ซึ่งล่าสุดเธอก็เพิ่งจะไปปรากฏตัวในภาพยนตร์ Red Cliff (สามก๊ก ตอน โจโฉแตกทัพเรือ) ในบทเสี่ยวเกี้ยว แถมเมื่อปี 2009 เธอยังถูกจัดอันดับให้เป็นสาวเซ้กซี่แห่งไต้หวันจากนิตยสาร FHM อีกด้วยนะ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ …
-
สวยงามราวเทพนิยาย พาไปชมต้นแปะก๊วยอายุ 1,400 ปี ผลัดใบจนพื้นกลายเป็นสีทอง!!
เมื่อฤดูกาลเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง เหล่าต้นไม้ใบหญ้าเองก็จะเริ่มผลัดใบเพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ภายใน แต่กับต้นไม้เก่าแก่ต้นนี้ สามารถทำได้มากกว่าแค่การผลัดใบล่ะ เพราะมันเนรมิตให้พื้นรอบๆ ต้นไม้กลายเป็นทะเลสีทองไปซะอย่างงั้น เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน เว็บไซต์ Boredpanda ได้เผยแพร่ภาพของต้นแปะก๊วยอายุเก่าแก่ราว 1,400 ปี จากประเทศจีน ที่ผลัดใบสีเหลืองทองลงสู่พื้น จนเปลี่ยนให้พื้นโดยรอยกลายเป็นทะเลสีทอง โดยเจ้าใบไม้พวกนี้เริ่มผลัดใบตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในวัด Gu Guanyin บนภูเขา Zhongnan ประหนึ่งเป็นการเฉลิมฉลองให้กับฤดูใบไม้ร่วงที่กำลังจะผ่านไป เจ้าต้นแปะก๊วยถือเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของต้นไม้ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ฟอสซิลที่มีชีวิต” เพราะมันมีอายุยืนยาว ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงไปแล้วกว่า 200 ล้านปี นี่จึงถือว่าเป็นสายพันธุ์ของต้นไม้ ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์กับไดโนเสาร์เลยก็ว่าได้ ตู้หูววว กลายเป็นพื้นสีทองเหลืองอร่ามเลย อยากจะไปเก็บภาพสักครั้งเหมือนกันนะเนี๊ยะ ที่มา boredpanda
-
จิตใจทำด้วยอะไร? จำคุกแม่ชาวจีน 6 เดือน หลังฟาดลูกน้อยจนตัวลาย เหตุเพราะบังคับให้ทำการบ้าน!?
แม้ว่าทุกคนจะสามารถแต่งงานและมีครอบครัวได้ แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีคุณสมบัติมากพอที่จะเป็นพ่อเป็นแม่คนนะ อย่างเช่นกรณีที่เหมียวจะให้คุณดูต่อไปนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เมื่อคุณแม่ชาวจีนรายหนึ่งฟาดลูกไม่ยั้ง จนร่างกายเป็นแผลเต็มไปหมด เหตุเพียงเพราะต้องการให้ลูกทำการบ้านให้เสร็จ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ศาลในเมืองนานกิง มณฑลเจียงซูปประเทศจีน ได้สั่งจำคุกหญิงสาวแซ่ ลี เป็นเวลา 6 เดือน ฐานทำร้ายร่างกายลูกน้อยวัย 9 ขวบ เพียงเพราะว่าเขาไม่สามารถทำการบ้านให้เสร็จได้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนทำให้ภาพของเด็กชายถูกแพร่ไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ตามร่างกายของเด็กชายนั้นเต็มไปด้วยร่องรอยการถูกฟาดอย่างหนัก สันนิษฐานว่าเป็นการใช้แส้ฟาดลงไป ตามรายงานระบุว่าพ่อแม่ของเด็กชายเป็นเพียงพ่อแม่อุปถัมภ์ที่รับเขามาเลี้ยงเท่านั้น เหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวถูกพบโดยคุณครูของเด็กชายเมื่อปีที่แล้ว แต่คุณครูคิดว่ารอยดังกล่าวอาจเกิดจากอุบัติเหตุ คุณครูจึงไม่ได้เอะใจอะไร ทั้งนี้นางลีได้ให้การว่า “ฉันไม่ใช่แม่ที่เลวร้ายอะไร ฉันแค่พยายามจะฝึกวินัยลูกของฉันก็เท่านั้น” ที่มา shanghaiist
-
เป็นงง!! หญิงชราขู่โดดตึก หลังเถียงกับสามีว่าควรกินบะหมี่หรือกินข้าวเป็นมื้อเที่ยงดี!?
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวชวนงงสำหรับเหมียวในวันนี้เลยล่ะ สำหรับกรณีของคู่สามีภรรยาสูงวัยชาวจีน ที่ทะเลาะกันจนฝ่ายภรรยานั้นต้องออกมานั่งที่ขอบหน้าต่างและขู่ว่าจะโดดตึก เหตุเพียงเพราะพวกเขาทะเลาะกันว่าจะกินบะหมี่หรือกินข้าวเป็นมื้อเที่ยงดี!? เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าคู่สามีภรรยาที่พักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นแห่งหนึ่ง ในมณฑลเหอหนาน ประเทศจีน เกิดทะเลาะกันอย่างหนักหน่วง เหตุเพราะฝ่ายภรรยาอยากจะกินบะหมี่เป็นมื้อเที่ยง แต่ฝ่ายสามีกลับอยากกินข้าว จนภรรยาขู่จะโดดตึกหากสามีไม่เป็นฝ่ายยอมเธอ โชคดีที่ในระหว่างนั้นมีพยานผ่านมาเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเข้า จึงรีบโทรเรียกพนักงานดับเพลิงให้เข้ามาช่วยควบคุมสถานการณ์ ซึ่งพนักงานดับเพลิงต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง กว่าจะเกลี้ยกล่อมให้คุณป้ายอมลงมาจากหน้าต่าง กว่าจะรักกัน กว่าจะแต่งงานกัน กว่าจะใช้ชีวิตร่วมกันมาถึงจุดนี้ได้ เหมียวว่ามันไม่ง่ายเลยนะ ใครที่มีครอบครัวแล้ว เหมียวอยากจะบอกว่า หนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกันเถอะนะ ชีวิตเราสั้นนัก ทำสิ่งดีๆ ให้กันในวันที่ยังมีเวลาดีกว่า ที่มา shanghaiist
-
ชีวิตรันทดเหลือเกิน!! หนุ่มจีนเซอร์ไพรซ์แฟนสาวด้วยตุ๊กตาหมียักษ์ แต่โดนตำรวจจับซะงั้น
แน่นอนว่าสาวๆ กับตุ๊กตาหมีนั้นเป็นของคู่กัน เมื่อรู้ดังนั้น หนุ่มๆ ก็เลยพยายามสรรหาตุ๊กตาหมีน่ารักๆ มามอบเป็นของขวัญให้สาวๆ ตัวเล็กบ้างใหญ่บ้าง ตามแต่กำลังเงินของแต่ละคน แต่ก็ขออย่าให้มันใหญ่มากนะ เพราะมันอาจจะกลายเป็นปัญหาให้กับคุณได้แบบหนุ่มจีนรายนี้ล่ะ เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่าเศรษฐีหนุ่มรายหนึ่งในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน ประเทศจีน พยายามจะเซอร์ไพรซ์แฟนสาวด้วยการซื้อตุ๊กตาหมีขนาดยักษ์มามอบให้กับเธอ แต่ด้วยความใหญ่ยักษ์ของมัน ทำให้เขาไม่สามารถจะยัดมันลงไปในรถสปอร์ตของเขาได้ เขาจึงนำมันมามัดติดกับหลังคารถและขับมันไปตามท้องถนน แต่เมื่อเขาขับออกไปได้ไม่นานก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกให้จอด เพราะเจ้าตุ๊กตาหมีทำให้เกิดความสับสนและเป็นอันตรายแก่ผู้สัญจรไปมา ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างนายถาน เฉียว ได้สั่งปรับเศรษฐีหนุ่มในข้อหาละเมิดกฎจราจร พร้อมกับสั่งห้ามไม่ให้เขาทำแบบนี้อีก และเมื่อเขาพยายามจะเรียกให้เพื่อนมาช่วยกันขนตุ๊กตากลับ ก็ไม่มีใครมีรถที่ใหญ่พอจะขนมัน แถมเขายังถูกสั่งห้ามขับรถสปอร์ตเป็นการชั่วคราว ทำให้ต้องนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านซะอย่างงั้น ชีวิตรันทดเหลือเกินพ่อหนุ่ม… ที่มา dailymail
-
เหลือเชื่อ!! ทีมวิศวกรจีนร่วมแรงกันรื้อ-สร้างสะพานใหม่ ภายในเวลาเพียง 43 ชั่วโมง!?
แม้ว่าจีนจะมีข่าวแปลกๆ เกี่ยวกับผู้คนให้เราได้เห็นกันจนชินตาก็ตาม แต่เรื่องสิ่งปลูกสร้างและเทคโนโลยีนั้นต้องบอกเลยว่าจีนก็ไม่ได้เป็นรองใครเลย อย่างล่าสุดมีเว็บไซต์ต่างประเทศได้รายงานว่าเหล่ากองทัพวิศวกรในจีน ร่วมแรงร่วมใจกันรื้อถอน-สร้างสะพานใหม่ ภายในเวลา 43 ชั่วโมงเท่านั้น!! เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เหล่าวิศวกรในจีน ได้ระดมกำลังกันเพื่อซ่อมแซมสะพานซานหยวนในกรุงปักกิ่ง ที่ได้รับความเสียหายหนักเพราะมีรถวิ่งผ่านไม่ต่ำกว่า 2 แสนคันต่อวัน และยังเป็นจุดเชื่อมต่อไปยังถนนอีกกว่า 48 เส้น ทีมวิศวกรจึงต้องซ่อมมันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยที่สุด พวกเขาต้องวางแผนกันอย่างหนัก เพราะเนื่องจากมีรถวิ่งผ่านอยู่ตลอดเวลา ทำให้พวกเขาต้องคิดแผนการขึ้นมาทั้งหมด 11 แผน และลงมือทำในที่สุด ทีมวิศวกรเริ่มลงมือในช่วงเวลา 23.00 นาฬิกาของวันที่ 13 พฤศจิกายน ทีมวิศวกรได้ลงมือทำงานอย่างรวดเร็ว โดยพวกเขาได้นำเอาคานอันเดิมที่ได้รับความเสียหายออกก่อน และแยกมันออกเป็น 27 ส่วน เพื่อให้ง่ายต่อการขนย้าย แต่ดูเหมือนว่าการทำงานของพวกเขาจะไม่ราบรื่นนัก เพราะคานเดิมได้รับความเสียหายหนักกว่าที่พวกเขาคิดไว้ ทำให้ต้องใช้เวลาในการเคลื่อนย้าย นานกว่าแผนเดิม และเมื่อนำคานเดิมออกไปแล้ว ทีมวิศวกรก็ได้นำเอาคานชิ้นใหม่ที่ถูกสร้างไว้เรียบร้อยแล้ว…
-
เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด!! สาวจีนนัดกันรุมตบเพื่อนสาว หลังจับได้ว่าแอบกิ๊กกับสามีตัวเอง!?
สำหรับหนุ่มๆ คนไหนที่ชอบแอบไปมีกิ๊กมีกั๊กนอกบ้าน คุณอาจจะต้องดูคลิปนี้ไว้เตือนใจหน่อยแล้ว เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ของจีนได้มีการกระหน่ำแชร์คลิปวิดีโอสุดน่าอายของหนุ่มจีนรายหนึ่ง ที่แอบไปมีอะไรกับกิ๊กนอกบ้าน ทั้งที่ตัวเองแต่งงานมีลูก 2 คนแล้ว คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านช่องยูทูบ Viral Cham เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เผยให้เห็นกลุ่มคน 3-4 คน กำลังรุมทำร้ายร่างกายชายหญิงในสภาพล่อนจ้อน โดยที่ทั้งคู่อับอายมากจึงพยายามกอดกันเพื่อปกปิดของลับของตนเอง พร้อมกับร้องไห้อ้อนวอนให้ทั้งหมดหยุดทำร้ายพวกเขาเสียที ตามรายงานบอกว่าฝ่ายชายนั้นแต่งงานกับภรรยาและมีลูกด้วยกันถึง 2 คน แต่ด้วยความไม่รู้จักพอ ทำให้ฝ่ายชายแอบคบชู้กับเพื่อนสาวของฝ่ายภรรยา และแอบนัดกันออกไปมีอะไรที่โรงแรม แต่เมื่อฝ่ายหญิงรู้เข้ากลับไม่ยอมอยู่เฉย จึงนัดเพื่อนๆ ที่เหลือตามไปถึงห้องพักของทั้งคู่และกระหน่ำตบตีทั้งคู่ในสภาพเปลือยเปล่า ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หนุ่มเจ้าชู้ดูไว้เป็นตัวอย่างนะ ใครมีแฟนแล้วก็ขอให้รักเดียวใจเดียวล่ะ ที่มา Viral Cham
-
ไปเที่ยวกันไหม? จีนผุด “บาร์สระน้ำเป่าลม” ให้หนุ่มๆ ขี้เหงา ได้ผ่อนคล้ายไปกับสายน้ำ
หากคุณเป็นหนุ่มโสดขึ้เหงาและอาศัยอยู่ในประเทศจีน ที่ต้องการความสนุกสนาน ความร่าเริง เพื่อเติมเต็มชีวิตคนโสด แต่ไม่มีใครสามารถให้คุณได้ล่ะก็ ลองมาที่บาร์แห่งนี้ดูซิ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าในเมืองเซิ่นหยางประเทศจีน มีการให้บริการที่เรียกกันว่า “บาร์สระน้ำเป่าลม” ที่จะให้คุณนั่งดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับชมโชว์จากสาวสวยในชุดบิกินี ที่จะมาร่ายรำอยู่ในสระน้ำเป่าลมให้คุณดูแบบเพลิดเพลิน นอกจากพวกเธอจะมาเต้นโชว์ให้หนุ่มๆ และแขกในบาร์ได้ชมกันแล้ว เธอยังอนุญาตให้เราสามารถเทแอลกอฮอลราดลงไปบนตัวเธอได้ด้วย (!?) และในขณะที่บางคนกำลังสนุกสนานกับโชว์ แต่ก็มีหนุ่มๆ บางคนเหมือนกัน ที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้และแสดงท่าทีอึดอัดออกมาด้วย หากคุณอยากจะกินอาหารอร่อยๆ ดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ พร้อมกับโชว์สาวเซ็กซี่ในสระน้ำเป่าลมแล้วล่ะก็ อย่าลืมแวะไปที่เมืองเซิ่นหยางนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
แฟชั่นแปลก!? มนุษย์ป้าใส่ชุดซีทรูสุดบางแถม “โนบรา” เดินว่อนทั่วห้างในจีน
แม้ว่าแฟนชั่นทุกวันนี้จะพัฒนาไปไกลจากแต่ก่อน มีเสื้อผ้าสวยๆ งามๆ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวสวยงามและสีสันที่แปลกตา แต่เหมียวก็ไม่เคยเห็นอะไรที่มัน…สยิวกิ้วแบบนี้มาก่อนเลย เพราะเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เว็บไซต์ Ck101 ได้เผยแพร่ภาพการใส่เสื้อผ้าแฟชั่นสุดล้ำ(!?) ของมนุษย์ป้ารายหนึ่งในประเทศจีน ขณะสวมใส่ชุดซีทรู แต่แทนที่เธอจะใส่ชุดปิดด้านในให้เรียบร้อย เธอกลับใส่จีสตริง พร้อมกับโนบราด้านบน แถมยังเดินเที่ยวตามห้างแบบไม่แคร์สายตาผู้คนทั้งนั้น ทั้งนี้ มนุษย์ป้าได้เดินเข้าออกร้านต่างๆ แบบไม่อายใคร ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านรองเท้า แถมยังมีการเซลฟี่บนถนนด้วย งานนี้ชาวบ้านอดรนทนไม่ได้ จึงต้องถ่ายภาพของเธอมาแชร์ในโลกออนไลน์เลยทีเดียว จะแฟชั่น หรือความสะดวกยังไง เหมียวก็ไม่ว่าหรอกนะ แต่ถึงขนาดโนบรามาเดินแบบนี้ เหมียวว่าไม่ต่างอะไรกับการแก้ผ้าล่อนจ่อนเลยนะเออ ที่มา ck101
-
สวยงามตามท้องเรื่อง!! ชมบรรยากาศ ‘วังเหมย-หลิง‘ ประหนึ่งเป็นสร้อยคอยักษ์บนขุนเขา
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ CCTVNews ได้เผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศของคฤหาสน์ของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐจีนที่ชื่อว่า ‘วังเหมย-หลิง‘ ตั้งอยู่ในมณฑลหนานจิง ประเทศจีน คฤหาสน์แห่งนี้ถูกก่อสร้างขึ้นในปี 2473 เพื่อให้ใช้เป็นที่พักสำหรับ ซง เหมย หลิง ภรรยาของภรรยาของจอมพลเจียงไคเช็ค ซึ่งเป็นผู้นำของจีนในขณะนั้น ต่อมาในปี 2492 สถานที่แห่งนี้ก็ถูกใช้เป็นบ้านรับรองสำหรับแขกในประเทศและห้ามไม่ให้คนนอกเข้าชม จากภาพดังกล่าว ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันตกตะลึงในความงานและการออกแบบ และคาดการณ์กันว่านี่อาจจะเกิดจากการออกแบบของจอมพลเจียง ที่ทำขึ้นเพื่อแสดงถึงความรักที่มีต่อภรรยา แต่ทางผู้เชี่ยวชาญด้านสถาปนิกกลับแย้งว่านายพลเจียงไม่ได้สั่งให้มีการออกแบบเช่นนี้ และนี้อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติก็เป็นได้ จะเกิดขึ้นได้อย่างไรเหมียวไม่รู้ล่ะ รู้แค่ว่ามันสวยงามตามท้องเรื่องเลย ที่มา CCTVNews
-
เอาที่สบายใจ จีนผุด ‘เดิน 4 ขาออกกำลังกาย’ เชื่อมีมาตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว!?
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน พวกมักจะมีเทรนด์ใหม่ๆ มาให้เราได้อึ้งกันตลอดซิน่า….!? อย่างล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ news.com.au สำนักข่าวของออสเตรเลียได้เผยแพร่ภาพของกลุ่มชาวจีนในเมืองเจิ้งโจว ขณะกำลังออกกำลังกายด้วยการเดิน 4 ขา ไปรอบๆ สวนสาธารณะ ตามรายงานบอกว่าผู้ที่ออกกำลังกายด้วยท่าแบบนี้ตามข่าวระบุว่าที่พวกเค้าทำกันแบบนี้ เพราะเชื่อกันว่าเป็นการออกกำลังกายที่ทำให้สุขภาพดี คนที่เข้าร่วมเทรนด์ใหม่นี้มีตั้งแต่เด็กไปยันผู้สูงวัย โดยพวกเขาบอกว่าการออกกำลังกายแบบนี้ไม่ได้ทำอันตรายกับหลังของพวกเขาแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังบอกอีกว่าการออกกำลังกายแบบนี้มีมาตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ยุคราชวงศ์ฮั่นเลยทีเดียว ถ้าต้องออกกำลังกายด้วยท่านี้จริงๆ เหมียวขอนอนอยู่บ้านดีกว่า ที่มา news , kapook
-
สุดล้ำ!? เด็กนักเรียนในจีนคิดค้นอุปกรณ์ “รักษาความปลอดภัย” แบบง่ายๆ ที่ดัดแปลงจากของใช้ต่างๆ
ในยุคที่ขโมยชุกชุม การจะติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยดูจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทีเดียวนะ เพราะทรัพ์สินแต่ละอย่างเมื่อถูกขโมยงัดแงะไปแล้วก็ยากที่จะตามมันกลับมา แต่การจะติดตั้งระบบความปลอดภัยแบบนั้นก็มีค่าใช้จ่ายที่แพงหูฉี่ ยิ่งกับเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ต้องอาศัยอยู่ในหอด้วยงบจำกัดแล้วยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไปใหญ่ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหากับเด็กนักเรียนที่มหาวิทยาลัยจงชาน เมืองกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพราะด้วยไอเดียสุดสร้างสรรค์ ทำให้พวกเขานำเอาสิ่งของรอบๆ ตัวมาดัดแปลงเป็นระบบรักษาความปลอดภัยแบบง่ายๆ ที่ใช้งบไม่เยอะ แถมกันขโมยได้อย่างดีด้วย จะเป็นไงมาดูกัน 1. ลูกบิดที่ร้องทุกครั้งที่เปิด-ปิด 2. หนังยาง + ไม้ = ล็อคแน่น (เหรอ) 3. กรรไกร มี งัดมาให้หมด 4. เอาวิกผมมาตั้งไว้ ต้องมีสะดุ้งกันบ้างแหละ 5. เอาว่าเข้ามาต้องติดเชื้อกสักเส้นแน่ๆ 6. ใช้ทั้งกระเป๋า เก้าอี้ ถังน้ำ อัดมันเข้าไปเลย 7. เอาตู้มาบังเอาไว้ รับรองเข้าไม่ได้แน่ๆ เอ่อ แต่ละอันนี่เหมียวยอมใจเลย สงสัยชาตินี้คงไม่ได้ออกจากห้องแล้วล่ะ ที่มา CCTVNews
-
มนุษย์เมียโหดสึด!! ใช้ไม้ทะลวงกระจกรถพังยับ ทั้งๆ ที่ผัวนั่งอยู่กับชู้!?
อันว่ามนุษย์เมียนั้น อย่าได้คิดจะต่อกรหรือขัดขืนพวกเธอเด็ดขาดนะ เพราะหากคุณคิดไม่ซื่อกับพวกเธอแล้วล่ะก็ ชะตากรรมของพวกคุณอาจไปไม่สวยเหมือนอย่างหนุ่มจีนรายนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของหญิงสาวรายหนึ่งในเมืองเอินซือ มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ที่ดันทราบข่าวมาว่าสามีของเธอนั้นแอบคบกิ๊ก และพาขึ้นรถออกไปเที่ยวด้วยกัน เมื่อรู้ดังนั้นเธอก็ไม่รอช้า จึงพาพี่สาวมายืนล้อมรถเก๋งของสามี จากนั้นจึงตะโกนคุยกัน แต่ไม่ว่าคุยเท่าไหร่ฝ่ายชายก็ไม่ยอมลงจากรถเสียที เธอจึงไม่รอช้า หยิบไม้แถวๆนั้นมาฟาดใส่รถเก๋งแบบไม่ยั้งมือ จนกระจกหน้าแตกเป็นรู เท่านั้นยังไม่พอ เธอยังพยายามใช้ไม้แหย่เข้าไปในรถจนสามีของเธอต้องลงมาคุยด้วย จนชาวบ้านแถวนั้นเข้ามามุงดูกันอย่างมากมาย ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง อย่าคิดสู้กับมนุษย์เมียเลยนะ เหมียวขอร้อง ที่มา TITANVORTEX
-
อย่างนี้ก็มี? โลกออนไลน์เผยคลิปแขกรุมจับหน้าอกเจ้าสาว งานนี้กำไรเห็นๆ !!
หากพูดถึงกิจกรรมภายในงานแต่งงาน หลายๆ คนคงจะนึกถึงการตัดเค้ก การร้องเพลง การกล่าวอวยพร หรือการโยนช่อดอกไม้หลังจากเสร็จพิธีแล้วใช่ไหมล่ะ คงไม่มีใครนึกหรอกว่าจะมีกิจกรรมแปลกๆ อย่างการจับหน้าอกเจ้าสาว โดยแขกผู้มาร่วมงาน!? เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา แชแนลยูทูบ TruthTube ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่ชื่อว่า Guest Plays With Bride’s Breasts At Wedding Party (แขกในงานแต่งจับหน้าอกเจ้าสาวในงานปาร์ตี้) ภายในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของหญิงสาวชาวจีนรายหนึ่งขณะถูกหนุ่มๆ รุมจับหน้าอกอย่างสนุกสนาน พร้อมกับถ่ายคลิปเก็บไว้ ทั้งนี้ไม่มีการรายงานว่าเกิดขึ้นในเขตหรือมณฑลไหนของจีนกันแน่ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เอ่อ เหมียวเห็นแล้วรู้สึกเสียวแว๊บบบเลย ที่มา TruthTube
-
ผู้ปกครองจีนสุดทน แฉโรงเรียนทำอาหารสกปรกให้ของลูกๆ กิน ทั้งขึ้นรา ทั้งวางกับพื้น!!
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้รายงานว่า เหล่าผู้ปกครองของนักเรียนชาวจีนได้ออกมาแฉภาพถ่ายการเตรียมอาหารกลางวันของบริษัทผู้ผลิตอาหารกลางวันให้โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตเฉียวชาน นครหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน จากภาพดังกล่าวแสดงให้เห็นชิ้นเนื้อที่ถูกวางไว้เรี่ยราดกับพื้น ภาชนะที่ใส่อาหารและเขียงที่ใช้ทำอาหารมีราขึ้นเต็มไปหมด อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษได้ แถมยังมีแมลงตกลงไปในภาชนะที่ใส่น้ำจิ้มอีกด้วย นอกจากนี้แล้วเหล่าผู้ปกครองยังพบอีกว่ามีไข่ไก่ที่ทางบริษัทผู้ผลิตอาหารกลางวันให้นักเรียน นั้นมีหลายฟองที่แตกแล้ว ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วห้อง ตามรายงานบอกว่าทางโรงเรียนแห่งนี้ ต้องการให้นักเรียนได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ จึงได้จ้างบริษัทผู้ผลิตอาหารกลางวันเพื่อให้ทำข้าวกล่องเมื่อช่วงวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา แต่ด้วยความสกปรกทำให้เหล่าผู้ปกครองไม่อาจนิ่งเฉย จึงได้ถ่ายภาพอาหารเหล่านั้นมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อเข้าตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าว ทางโฆษกของโรงเรียนได้ออกมาแสดงความเห็นว่า พวกเขาเองก็รู้สึกตกใจไม่น้อย เพราะไม่คิดว่าทางผู้ผลิตอาหารจะทำอาหารได้สกปรกขนาดนี้ ส่วนทางด้านผู้ผลิตอาหารได้แสดงความเห็นว่า ปัญหาแมลงตกลงไปในอาหารนั้นเป็นปัญหาที่พบได้บ้าง แต่ไม่มีผลกระทบใดๆ ทั้งนี้ได้มีการตัดสินจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า รูปแบบในการผลิตอาหารนั้นมีความสกปรกจริง ซึ่งพวกเขามีความผิดในฐานไม่รักษาความสะอาดของอาหารและภาชนะให้ได้ตามมาตรฐาน ส่วนทางด้านโรงเรียนเองก็มีความผิดฐานปล่อยปละละเลยเช่นกัน ที่มา dailymail
-
ชื่นชมน้ำใจ รถบรรทุกไข่ไก่แหกโค้งในจีน ชาวบ้านกรูกันช่วยเก็บไข่แตก นำส่งคนขับรถ
แม้ว่าเราจะได้ยินข่าวแปลกๆ จากประเทศจีนมาเยอะ แต่ใช่ว่าประเทศนี้จะมีข่าวเสียๆ เสมอไปนะ เพราะเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่าคนขับรถบรรทุกขนไข่ไก่มาเต็มลำรถ ได้เกิดอุบัติเหตุรถแหกโค้งในมณฑลซานตง ประเทศจีน ทำให้ไข่ไก่ทั้งหมดที่ขนมากับรถร่วงแตกลงพื้นเต็มไปหมด แต่แทนที่ชาวบ้านบริเวณนั้นจะใช้โอกาสนี้เข้าไปตักตวงแต่ไข่ไก่มาเป็นของตัวเอง เหมือนกับกรณีที่เราเคยเห็นก่อนหน้านี้ (ในไทยก็มี) แต่ด้วยความมีน้ำใจของพวกเขา ชาวบ้านจึงจัดแจงเข้าไปช่วยกันเก็บไข่ไก่ขึ้นมาใส่ภาชนะและนำไปคืนให้กับคนขับรถ แม้ว่าจะสามารถเก็บไข่ไก่บางส่วนกลับมาได้ แต่เมื่อตีมูลค่าความเสียหายของเหตุการณ์นี้แล้ว จะอยู่ที่ประมาณ 10,000 หยวน หรือประมาณ 55,000 บาทนั่นเอง แม้ว่านี่จะเป็นอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายมากมาย แต่นี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขายังคงมีน้ำใจ ไม่ต่างอะไรจากประเทศอื่นๆ เลยล่ะ ที่มา shanghaiist
-
แบบนี้ก็มี!? แก๊งค์ต้มตุ๋นจีนสร้างห้องสืบสวนปลอม หวังไถเงินประชาชนที่เดือดร้อน
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Scmp ได้รายงานว่า ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ของประเทศจีน มีแก๊งค์ต้มตุ๋น 4 คนได้สร้างห้องสืบสวนสอบสวนปลอมขึ้นมาเพื่อใช้เป็นห้องสอบปากคำปลอมๆ และรีดไถเงินจากประชาชนโดยอ้างว่าจะช่วยให้คดีง่ายขึ้น ตามรายงานบอกว่าแก๊งค์ต้มตุ๋นแก๊งค์นี้ได้ลงทุนไปกว่า 200,000 หยวน หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมภายในห้อง ให้เหมือนกับห้องสืบสวนจริงๆ ภายในห้องสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ถูกทิ้งร้าง โดยพวกเขาตั้งเป้าไว้ว่าจะใช้ห้องนี้ในการรีดไถเงินจากเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมทุจริตให้มากที่สุด ซึ่งมีหนึ่งในเหยื่อเป็นผู้จัดการหน่วยงานด้านเกษตรกรท้องถิ่นอย่างนายจางเหว่ยด้วย ตามรายงานระบุว่าแก๊งค์ต้มตุ๋นแก๊งค์นี้ได้บุกไปนำตัวนายจางเหว่ยออกมาจากที่พัก และปิดตาของเขาไว้ ในขณะที่ภรรยาของเขาก็รีบโทรแจ้งตำรวจทันที ก่อนที่ทั้งคู่จะถูกนำตัวไปยังห้องสืบสวนปลอม หลังจากที่ใช้เวลาในการสืบสวนเป็นเวลานาน แก๊งค์ต้มตุ๋นได้ตัดสินใจที่จะเรีกค่าไถ่พวกเขาเป็นจำนวน 400,000 หยวน ประมาณ 2.2 ล้านบาท ซึ่งเขาก็ยอมจ่ายแต่โดยดีเพื่อให้พวกเขานั้นปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมแก๊งค์ต้มตุ๋นไว้ได้ 2 คน ในขณะที่อีก 1 คนของเข้ามอบตัวด้วยตนเอง และอีก 1 คนนั้นสามารถหลบหนีไปได้ ที่มา scmp
-
คุณตาจีนสุดโหด!! จับนักเรียนสาวมาคุกเข่า, ตบ, ด่า หลังถูกขี่จักรยานชน ชาวเน็ตวิจารณ์แซ่ด
เมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์อุบัติเหตุระหว่างคนแก่และนักเรียนสาวรายหนึ่งในเมืองหลิงฉิง มณฑลซานตง ประเทศจีน เป็นเหตุการณ์ในช่วงเช้าที่เด็กนักเรียนสาวรีบปั่นจักรยานไปโรงเรียน แต่ในระหว่างทางดันเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับชายชราคนหนึ่ง หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เด็กนักเรียนสาวก็ได้กล่าวขอโทษชายชรา แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะไม่จบลงแค่นั้น เพราะชายชราเกิดโมโหจัดและด่านักเรียนสาวแบบไฟแล่บ จากนั้นเขาก็ตบหัวเธออย่างแรง ต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น แต่ถึงแม้จะทำขนาดนี้ ก็ดูเหมือนว่ายังไม่เป็นที่พอใจของชายชรา เขาจึงกระชากเธอลงมาจากจักรยานและบังคับให้เธอคุกเข่าขอโทษเขา และแม้ว่าเด้กนักเรียนสาวจะขอร้องให้ปล่อยตัวเธอไปเพราะกำลังจะไปโรงเรียนสาย แต่ชายชราก็ดูจะไม่พอใจกว่าเดิม หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ลงในโลกออนไลน์ ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณืต่างๆ ตามมามากมาย โดยมีการโต้เถียงกันในหมู่ชาวเน็ตว่า ชายชรานั้นทำตัวไม่สมกับเป็นผู้ใหญ่ และยังชอบทำตัวให้ได้รับบาดเจ็บเพื่อจะได้รีดไถเงินจากคนอื่น ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง Schoolboy from Shandong province gets beaten and forced to kneel in the street by the elderly man he accidentally collided with.…
-
หนุ่มจีนเหวอ ลงทุนลากเรือมาขอแฟนสาวหน้าที่ทำงาน เธอกลับเขวี้ยงแหวนทิ้งอย่างไม่ใยดี
การขอแต่งงานเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ที่หนุ่มๆ ต้องดูให้ดีว่าสาวๆ ของคุณนั้นพร้อมหรือยัง อย่าไปคิดว่าสาวๆ ทุกคนจะน้ำตารื้นโผเข้ากอดเหมือนอย่างในหนังเสมอไปนะ เพราะบางคนก็ยังไม่พร้อม และอาจทำหนุ่มๆ ถึงกับเงิบเหมือนอย่างกรณีที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ล่ะ เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่ามา เว็บไซต์ Shaghaiist รายงานว่า ชายหนุ่มในเมืองเหยเป่ยประเทศจีน ได้ลงทุนจ้างรถลากเรือเพื่อลากมาไว้ที่หน้าโรงพยาบาล ที่ที่แฟนของเขาทำงานอยู่ จากนั้นเขาก็ขึ้นไปยืนบนเรือพร้อมกับดอกไม้ในมือและใช้โทรโข่งตะโกนบอกแฟนสาวของเขาว่า “XXX ผมรักคุณ! ได้โปรดให้อภัยผมด้วย!” หลังจากนั้นไม่นานแฟนสาวของเขาก็เดินออกมาจากโรงพยาบาลและปีนขึ้นไปบนเรือ โดยมีผู้คนจำนวนมาต่างเฝ้ามองทั้งคู่อยู่เบื้องล่างอย่างใจจดใจจ่อ แถมยังถ่ายภาพทั้งคู่และส่งเสียงเชียร์อย่างไม่ขาดสาย ต่อมาชายหนุ่มจึงหยิบเอาแหวนออกมาจากกระเป๋าและขอแต่งงานกับหญิงสาวอย่างโรแมนติก แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อหญิงสาวหยิบแหวนของเขาขึ้นมาและเขวี้ยงมันหายไป จากนั้นเธอจึงลงจากเรือและกลับเข้าไปทำงานในโรงพยาบาลต่อ จากนั้นชายหนุ่มก็ลงจากเรือและเดินจากไปเช่นกัน เอาล่ะหนุ่มๆ เริ่มกลัวการขอแต่งงานแล้วใช่ไหมล่ะ ลองพิจารณาสถานการณ์ของคุณและแฟนดีๆ นะ ไม่งั้นอาจมีเงิบแบบนี้ได้นะ ที่มา shanghaiist
-
พบชานมไข่มุกปลอมระบาดในจีน คาดทำมาจากยางรถ-หนังรองเท้า ‘อ.เจษ’ เชื่อ เป็นการเต้าข่าว
ขึ้นชื่อว่าของปลอม ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเกินหน้าเกินตาประเทศจีนจริงๆ เพราะแทบจะทุกอย่างบนโลกใบนี้ได้ถูกนำไปก็อปปี้มาแล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Hongkongfp ได้รายงานว่าผู้สื่อข่าวรายหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ Shandong Television ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานีโทรทัศน์ชื่อดังของจีน เปิดเผยกับสื่อว่าพวกเขาพบชานมไข่มุกปลอมในเมืองเชิงเต่า มณฑลชานตง ประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าผู้สื่อข่าวรายนี้ได้ซื้อชานมไข่มุกมาดื่มตามปกติ แต่แล้วก็เกิดอาการประหลาดขึ้น เพราะเขาเกิดอาการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาลในเวลาต่อมา และเมื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดด้วย CT Scan แล้ว จึงพบว่ามีเม็ดไข่มุกอยู่ในกระเพาะอาหารของเขา ในสภาพที่ยังไม่ย่อยสลายอยู่เต็มท้องของเขาไปหมด หลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทีมงานจึงได้ออกสำรวจตามร้านชานมไข่มุกในเมืองชิงเต่า เพื่อสอบถามว่าพวกเขาเคยเห็นไข่มุกปลอมแบบนี้หรือไม่ โดยทั้งหมดตอบคล้ายกันว่าไม่เคยเห็นหรือได้ยินข่าวเกี่ยวกับไข่มุกแบบนี้มาก่อน แต่มีเจ้าของร้านชานมแห่งหนึ่งได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า ไข่มุกเหล่านั้นอาจจะผลิตมาจากโรงงานเคมี ที่ทำมาจากสันรองเท้าหนังและยางรถยนต์เก่าก็เป็นได้ ทั้งนี้ไม่มีการยืนยันว่าไข่มุกเหล่านั้นทำมาจากยางรถยนต์เก่าหรือสันรองเท้าหนังจริงหรือไม่ แต่จากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยชิงเต่า ได้ให้ข้อมูลว่า เม็ดมุกเหล่านั้นมีความเหนียวหนืดกว่ามุกทั่วๆ ไปมาก แต่ล่าสุด อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า อาจเป็นการกุเรื่องของสื่อจีนเท่านั้น เพราะราคายางรถยนต์แพงกว่าแป้งสำปะหลังสำหรับใช้ทำไข่มุกหลายเท่า แถมยังตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจไว้อีกหลายข้อทีเดียว ที่มา hongkongfp , Jessada Denduangboripant
-
ผู้ปกครองชาวจีนโวย ครูอนุบาลจับเด็กๆ แก้ผ้าถ่ายนู๊ด อ้างสอนเพศศึกษา!?
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของคุณครูชาวจีนแซ่มา ในมณฑลเหอหนาน ที่จับเด็กชายชั้นอนุบาลมาแก้ผ้าล่อนจ้อนและถ่ายภาพของพวกเขาลงในแอพฯ WeChat โดยอ้างว่าที่ทำไปทั้งหมดนั้นเพื่อเป็นการสอนเพศศึกษาให้กับเด็กๆ เท่านั้น หลังจากที่ภาพของเหล่าเด็ดๆ ถูกแชร์ลงในแอพฯ และกระจายออกสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ปกครองของเด็กๆ เกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงได้มีการรวมตัวกันร้องเรียนให้ทางโรงเรียนที่คุณครูรายนี้สอนอยู่ ไล่เธอออกซะ หลังจากกลายเป็นข่าว คุณครูสาวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ที่เธอทำลงไปนั้นเพื่อเป็นการสอนเพศศึกษาให้กับเด็กๆ และอยากให้นักเรียนได้เรียนรู้ความหมายของการมีชีวิต ซึ่งเธอคิดว่าการที่เด็กๆ แก้ผ้าแบบนี้ถือเป็นภาพที่น่าักดี นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่าในระหว่างที่ให้เด็กชายแก้ผ้านั้น เธอได้ขอให้เด็กผู้หญิงออกไปจากห้องก่อนด้วย ในเวลาต่อมาทางผู้อำนวยการและคุณครูสาวได้ออกมาแถลงข่าวขอโทษผ่านสื่อต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์สุดอื้อฉาวครั้งนี้ ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่าเธอได้ถูกทางโรงเรียนคาดโทษหรือไล่ออกหรือเปล่า น่าสงสารเด็กๆ มากเลย ที่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์แบบนี้ ไม่แน่ว่าการแก้ผ้าครั้งนั้นอาจเป็นภาพติดตาที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจของพวกเขาในภายภาคหน้าก็ได้ ที่มา shanghaiist
-
ตำรวจมาเลเซียตามจับแก๊งค์นักท่องเที่ยวจีน หลังแก้ผ้าถ่ายรูปแชร์ลงในเน็ต!?
ยังคงเป็นที่น่าชื่นชม (!?) ได้อย่างต่อเนื่องจริงๆ สำหรับวีรกรรมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่ล่าสุดได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มหนึ่งเดินทางไปเที่ยวที่เมืองเซปปอร์นาประเทศมาเลเซีย แต่การท่องเที่ยวก็มีอันต้องสะดุด เพราะพวกเขาดันไปแก้ผ้าถ่ายรูปบนเรือ และนำมันไปแชร์ลงในอินเตอร์เน็ต ทำให้เกิดการส่งต่อกันอย่างมากมาย ทำให้ชาวเน็ตเกิดความไม่พอใจและนำภาพของพวกเขาไปร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของมาเลเซียเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ทั้งหมดถูกตามจับกุมในที่สุด ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่าตำรวจมาเลเซียได้จับกุมนักท่องเที่ยวชาวจีนรายหนึ่ง วัย 30 ปี ซึ่งคาดการณ์กันว่าเขาอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับรูปเปลือยดังกล่าว โดยมีกำหนดปล่อยตัววันที่ 25 ตุลาคมนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นของมาเลเซียได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า การกระทำของนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ถือเป็นพฤติกรรมที่ไร้อารยธรรมและทำลายภาพลักษณ์อันดีของสถานที่ท่องเที่ยวอีกด้วย เหมียวก็อยากจะฝากเตือนนักท่องเที่ยวชาวไทยเหมือนกันนะ หากจะไปที่ไหนก็อย่าไปทำลายหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับที่นั้นๆ นะ ไม่งั้นเราอาจสร้างชื่อเสียให้กับประเทศของเราได้ล่ะ ที่มา news.qq , kapook
-
เหลือเชื่อ!! ชาวจีนตื่นตระหนก ภาพเมืองลอยฟ้าขนาดยักษ์โผล่เหนือน่านฟ้าในจีน
กลายเป็นเรื่องที่ชวนให้ฮือฮาในประเทศจีนอยู่ตอนนี้เลยล่ะ สำหรับเรื่องราวของเมืองลอยฟ้าขนาดยักษ์ที่อยู่เหนือน่านฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน จนชาวบ้านลือกันให้แซ่ดว่านี่อาจเป็นฝีมือของสิ่งลี้ลับหรือเป็นโลกคู่ขนานก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่า ชาวบ้านใรมณฑลเจียงซีและมณฑลฝูเจี้ยนประเทศจีน ได้พบวัตถุประหลาดลอยอยู่บนท้องฟ้าคล้ายกับอาคาร ทำเอาชาวเน็ตพากันตื่นตกใจและแชร์ภาพดังกล่าวออกไปอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้ได้มีผู้เชี่ยวชาญออกมาแสดงความเห็นและะทฤษฎีต่างๆ มากมาย โดยบางคนเชื่อกันว่านี่อาจเป็นทฤษฎีสมคบคิดที่คาดกันว่าเป็นการทดลองของ Nasa ที่ชื่อว่า Blue Beam ที่เป็นการยิงภาพโฮโลแกรมขึ้นฟ้าเพื่อจำลองเหตุการของพระเยซู ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศออกมาแย้งว่าภาพเมืองลอยฟ้าที่เห็นนั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เรียกกันว่า Fata Morgana ตามบันทึกในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาพบว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวมักจะโผล่ออกมาสร้างความตกใจให้แก่ผู้คนอยู่หลายครั้งทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
หนูน้อยชาวจีนวัย 13 หนีจากการถูกลักพาตัวสำเร็จ เพราะเลียนแบบในหนังอาชญากรรม!!
เมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTVNews ได้เปิดเผยเรื่องราวของเด้กหนุ่มชาวจีนนามว่า เสี่ยวยี่ ที่ถูกโจรลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ แต่กลับสามารถหนีรอดออกมาได้ เพราะเลียนแบบภาพยนตร์อาขญากรรมที่เคยดูมา ตามรายงานบอกว่าเสี่ยวยี่อาศัยอยู่ในมณฑลเสฉวน แต่กลับมีชายคนหนึ่งจับเขาพันเทปกาวไว้ที่ปากและใช้ผ้าปิดตา ก่อนจะจับเขาไปขังไว้ที่บ้านร้างแห่งหนึ่งเพื่อโทรศัพท์หาพ่อและแม่ของเด็กเพื่อเรียกเงินจำนวน 30,000 หยวน หรือประมาณ 723,430 บาท จากนั้นเสี่ยวยี่จึงพยายามปลดล็อคตัวเองและแอบหนีออกไปตอนที่คนร้ายไม่อยู่ แต่โชคร้ายที่คนร้ายดันรู้ตัวก่อนเขาจึงถูกจับกลับมามัดไว้อย่างแน่นหนากว่าเดิม ก่อนจะออกไปข้างนอกอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เสี่ยวยี่ระมัดระวังตัวมากขึ้น เลยทดลองตะโกนเสียงดังถึง 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีคนอยู่บริเวณนั้น เขาจึงจัดแจงพาตัวเองออกมาจากบ้านหลังนั้นในที่สุด หลังจากนั้นเสี่ยวยี่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนแถวนั้น เสี่ยวยี่ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ภาพยนตร์สอนผมให้รู้จักการร่วมมือกับคนร้ายลักพาตัว เพื่อซื้อเวลา และรออย่างใจเย็นจนกว่าจะมีโอกาสหนี” นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังสามารถตามจับตัวคนร้ายได้ในขณะที่นั่งชิวอยู่ที่คาเฟ่แห่งหนึ่งด้วย สุดยอดไปเลยนะหนุ่มน้อย!! ที่มา CCTVNews
-
คุณครูสาวชาวจีน ‘ซู่ตงเซียง’ ดังชั่วข้ามคืน หลังมีภาพขณะออกกำลังกายหลุดออกมา
ถือเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ของจีนอยู่ในขณะนี้ สำหรับภาพของ ซู่ตงเซียง อาจารย์สาวผู้สอนวิชาศิลปะการแสดงในมหาวิทยาลัยต้าเหลียน โพลีเทคนิค ของประเทศจีน วัย 23 ปี ที่จู่ๆ ก็กลายเป็นเซเล็บในโลกออนไลน์ขึ้นมาซะอย่างงั้น หลังจากที่มีชาวเน็ตค้นพบภาพของเธอในชุดออกกำลังกายและปั่นจักรยาน ทำเอาหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั่วเมืองจีนถึงกับตาลุกวาวเลยทีเดียว และเมื่อภาพของเธอถูกแชร์ออกไปในโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเว่ยป๋อ ก็ทำให้ยอดผู้ติดตามของเธอพุ่งสูงถึง 260,000 คนเลย ทั้งนี้ยังมีข้อมูลอีกว่า อาจารย์ ซู่ตงเซียง ยังทำอาชีพเสริมเป็นนางแบบอีกด้วย โอ้วววคุณพระ อ๊าคคคคคคคคคคค ที่มา dailymail
-
แบบนี้ก็ได้เหรอ? สื่อนอกเผยภาพป้ายภาษาอังกฤษในจีน ขอบอกว่าพังมาก!!
ขอบอกเลยว่าทุกวันนี้ไม่ว่าเราจะเดินทางไปยังประเทศไหนๆ ก็มักจะได้เห็นป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ นั่นก็เพราะว่าภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่มีคนใช้กันทั่วโลกนั่นเอง แต่บางคำ บางประโยคอาจจะยากต่อการเข้าใจ จนทำให้คนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษามีการแปลแบบผิดๆ ถูกๆ กันได้ อย่างเช่นภาพที่เหมียวนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมกันในวันนี้ เป็นภาพป้ายที่ถูกรวบรวมมาจากประเทศจีนโดยเว็บไซต์ Shanghaiist ขอบอกเลยว่าแต่ละอันแปลผิดเพี้ยนไปไกลเลย… 1. มันใหญ่มาก!! 2. โด้ผัก… 3. Japanese นะ ไม่ใช่ Janpanese 4. เรามีเมนูภาษาอังกริช(Engrish) 5. สงสัยคนทำป้ายเพิ่งทะเลาะกับแฟนมา 6. บริการล้างหรรม!? 7. ชั้น 9 ถูกย้ายไปชั้น 15 ชั่วคราว!? 8. ราเม็งสำหรับพวกร่าน!? 9. นี่คือระเบิดมือ!? 10. ค่อยๆ ลื่นและล้มอย่างระมัดระวัง!? 11. เนื้อสามี!? โอ้ย…
-
หนุ่มจีนโชว์เก๋าขี่บิ๊กไบค์เร็ว 237 กม/ชม. อวดลงเน็ต ตำรวจตามรวบทันควัน
แม้ว่าจะมีเงินมากพอจะซื้อบิ๊กไบค์มาขี่แบบหล่อๆ แต่ก็ต้องเคารพกฎจราจรด้วยนะ เพราะไม่งั้นสิ่งที่คุณรักอาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณหรือทำให้คุณเสียเงินทั้งที่ไม่จำเป็นก็ได้ เมื่อไม่นานมานี้เว็บไซต์ Asiaone ของจีนได้รายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจของจีน สามารถตามจับไบค์เกอร์หนุ่มได้ หลังจากขับขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนหลวงด้วยความเร็วกว่า 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเกินกว่าความเร็วที่กฎหมายอนุญาตถึง 3 เท่า!! เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา บนถนนสายหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยชายหนุ่มแซ่เผิง วัย 30 ปี ได้ขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ที่ความเร็ว 237 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระยะทาง 37.5 กิโลเมตร ในเวลาแค่ 13 นาทีเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้นายเผิงถูกตามตัวได้แม้จะหายไปจากถนนแล้วก็เพราะว่า หลังจากที่ทำการซิ่งเสร็จนั้น เขาได้นำเอาคลิปวิดีโอระหว่างการเดินทางมาโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ที่มีคนกดแชร์ไปกว่า 220,000 ครั้ง ทำให้ตำรวจสามรถตามตัวเขาได้ไม่ยากเลยล่ะ ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง จะขี่รถเร็วก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่แอดเหมียวว่าขี่ในที่ที่เขาจัดไว้ให้ น่าจะปลอดภัยกับตัวเองและคนบนท้องถนนมากกว่านะ ที่มา asiaone , Sina premium
-
มาได้ไง? ศิลปินชาวจีนพบอุปกรณ์ดักฟังภายในบ้านที่ปักกิ่ง หลังเตรียมปรับสภาพบ้านใหม่
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของศิลปินชาวจีนนามว่า Ai Weiwei ที่ค้นพบอุปกรณ์ดักฟังอยู่ภายในห้องทำงานในบ้านของตนเองที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน หลังพยายามปรับสภาพบ้านใหม่ นอกจากนี้แล้วนาย Ai Weiwei ยังพบอีกว่ามีอุปกรณ์ดักฟังอยู่ที่ห้องนอนอีกด้วย โดยมีการคาดว่าอุปกรณ์เหล่านี้น่าจะถูกซ่อนไว้ในบ้านของเขามาแล้วหลายปี แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์ทั้งหมดจะไม่ได้ทำให้เขาช็อคมากนัก เพราะเจ้าตัวได้ถ่ายคลิปวิดีโอประชดเจ้าเครื่องดักฟังนั่น ด้วยการจุดประทัดเสียงดังใส่มัน ซึ่งอาจทำให้บุคคลปริศนาที่แอบฟังอยู่หูแตกได้เลยทีเดียว 听到了么? A video posted by Ai Weiwei (@aiww) on Oct 3, 2015 at 8:59pm PDT เหตุการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นกับบุคคลทั่วไปได้ไม่บ่อยนัก แต่หากใครรู้ตัวว่าเป็นบุคคลที่มีมีธุรกิจหรือความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ก็ควรจะเช็ครอบๆ บ้านของคุณได้ดีนะ ว่าซอกหลืบไหนมีวัตถุแปลกๆ ซ่อนอยู่หรือเปล่า เพราะคุณคงไม่แฮปปี้แน่ๆ หากเรื่องส่วนตัวของคุณจะไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอีกต่อไป ที่มา shanghaiist
-
ผู้ดีเหวอ เจอนักท่องเที่ยวจีน อุ้มลูกอึหน้าร้าน Burberry ในประเทศอังกฤษ!?
หากใครที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวที่อังกฤษก็น่าจะเคยได้ยินชื่อเสียงของร้าน Burberry มาไม่มากก็น้อยล่ะนะ เพราะมีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อแถมยังปลอดภาษีอีกด้วย จึงเป็นร้านค้าที่ดึงดูดลูกค้าได้ดี โดยเฉพาะลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ดูเหมือนว่าชาวจีนบางคนจะไม่ได้เป็นแฟนของ Burberry เพราะเล่นพาลูกหลานมาอึที่หน้าร้านกับแบบไม่เกรงใจใครเลยทีเดียว!! เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่หน้าร้าน Burberry สาขาหนึ่งในหมู่บ้าน Bicester ประเทศอังกฤษ เป็นเหตุการณ์ดูคุณยายชาวจีนคนหนึ่งกำลังอุ้มหลานชายและจัดแจงให้เขาอึลงบนถุงกระดาษที่หน้าร้านค้าชื่อดัง ทำเอานักท่องเที่ยวและชาวเมืองต่างเอือมไปตามๆ กัน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวจีนหลั่งไหลกันเข้ามาเที่ยวที่ประเทศอังกฤษกันอย่างไม่ขาดสาย และตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านมา ทางการของอังกฤษก็ได้ติดตั้งป้ายหรือสัญลักษณ์ต่างๆ เป็นภาษาจีนเพื่อให้พวกเขาเข้าใจง่ายมากขึ้น แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังใช้ไม่ได้ผลกับคนบางกลุ่มล่ะนะ ที่มา shanghaiist
-
เกินไป๊!! บริษัทจีนสุดโหด สั่งพนักงาน “เลื้อย” รอบบึง หลังทำยอดขายบริษัทได้ไม่ดี
หากคุณเป็นพนักขายอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งที่ทำยอดขายได้ไม่ดีนัก คุณอาจจะแค่อดโบนัสหรือค่าคอมฯ อะไรก็ว่ากันไป แต่ที่ประเทศจีน หากคุณทำยอดขายได้ไม่ถึงเป้าที่วางเอาไว้ คุณอาจจะต้องไปเลื้อย-คลานกับพื้นจนเนื้อตัวมอมแมมเลยล่ะ เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ CCTVNews ได้รายงานว่าบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน ประเทศจีน ได้ลงโทษพนักงานขายด้วยการสั่งให้พวกเขาลงไปนอนเลื้อยกับพื้นรอบบึงจนเสื้อผ้าขาดวิ้นและเป็นแผลเต็มตัว หลังทำยอดขายไม่ได้ตามเป้าที่วางไว้ ตามรายงานไม่ได้บอกว่าบริษัทแห่งนี้มีชื่อว่าอะไร แต่หลังจากที่มีคนพบเห็นพวกเขาเข้า ก็ได้มีการนำมาเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ Weibo เครือข่ายสังคมออนไลน์ของประเทศจีน และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัง เกี่ยวกับการลงโทษพนักงานสุดโหดร้ายแบบนี้ โดยมีชาวเน็ตประนาณสิ่งที่บริษัทแห่งนี้ทำว่า เป็นการกระทำที่ป่าเถื่อนมาก เป็นการลดทอนสิทธิมนุษยชน ในขณะที่บางคนสงสัยว่าพนักงานเหล่านี้ทนอยู่กับบริษัทนี้ได้ยังไง? เหมียวว่า ถ้าเจอแบบนี้กับตัว เหมียวขอลาออกดีกว่า ที่มา CCTVNews , kapook
-
เกือบไปแล้ว หนุ่มจีนสุดหื่นดักข่มขืนหญิงสาวระหว่างทางขึ้นบันได โชคดีหนีรอดมาได้
หากคุณเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเดินทางตัวคนเดียวแล้วล่ะก็ หมั่นตรวจเช็ครอบข้างให้ดีๆ นะ เพราะแม้ว่าคุณจะอยู่ในสถานที่เปลี่ยวหรือภายในอาคาร ก็อาจจะเจอเข้ากับผู้ไม่หวังดีได้ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้ออกมาเปิดเผยคลิปวิดีโอสุดช็อคที่ถูกถ่ายไว้ได้โดยกล้องวงจรปิดจากภายในโรงแรมแห่งหนึ่งในประเทศจีน เผยให้เหฌนภาพของหญิงสาวขณะเดินขึ้นบรรได แต่ในจังหวะนั้นเองกลับมีชายปริศนาพุ่งเข้ามหาเธอพร้อมกับพยายามลวนลามเพื่อหวังข่มขืน จนในที่สุดหญิงสาวก็ล้มลงไป แต่เธอดูจะไม่ยอมง่ายๆ จึงพยายามดิ้นสุดชีวิต และเมื่อชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็จึงใช้เท้าของเขากระทืบลงไปที่ใบหน้าของหญิงสาวจนเธอสลบไป แต่โชคยังดีที่หญิงสาวยังพอมีสติอยู่บ้าง จึงขัดขืนชายหนุ่มต่อไป จนในที่สุดฝ่ายชายต้องล้มเลิกและฉกกระเป๋าของหญิงสาวก่อนจะหนีหายไปทางบรรได ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ผู้หญิงคนไหนที่ชอบไปไหนมาไหนคนเดียวก็ระวังตัวหน่อยนะ หากเห็นอะไรที่ผิดสังเกต รีบออกสู่สถานที่แจ้งโดยไวเลยนะ ที่มา debet pong
-
จะแข็ง…แกร่งไปไหน!? หนุ่มจีนโชว์อึด ใช้เจ้าโลกยกลังเบียร์กว่า 3 ลัง แถมแกว่งไปมาได้ด้วย!!
ขึ้นชื่อว่าประเทศจีน มักจะมีเรื่องเหวอๆ ฮาๆ แปลกๆ ให้เราได้เห็นกันอยู่เป็นประจำเลยนะ ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอเข้ากับคลิปหนึ่งมา รับรองว่าอาจทำให้หนุ่มๆ เสียววาบกันเป็นแถบเลยล่ะ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้เผยแพร่คลิปของหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง ที่พยายามจะโชว์แกร่งด้วยการใช้เจ้าโลกผูกกับเชือกแล้วยกลังเบียร์หนักๆ ถึง 3 ลังพร้อมกัน คุณพระ!! และนอกจากยกให้ลอยเหนือพื้นแล้ว ยังพยายามแกว่งไปมาให้เราดูอีกด้วย ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เอิ่ม รู้แหละนะว่าพี่แข็ง…แกร่งจริงๆ แต่อย่าทำบ่อยๆ เลย เดี๋ยวจะชำรุดป่าวๆ นะ… ที่มา mirror
-
คนมันรวย!! ไฮโซจีนเขวี้ยงเงินเป็นฟ่อนใส่หน้าพนักงานร้านทอง หลังเข้าใจผิดคิดว่าโดนดูถูก
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของไฮโซสาวชาวจีนรายหนึ่ง เขวี้ยงเงินเป็นฟ้อนใส่หน้าพนักงานร้านขายเครื่องประดับ หลังคิดว่าพนักงานสาวพูดจาดูถูกตนเอง เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในมณฑลตู่เหาประเทศจีน จากคลิปวิดีโอเผยให้เห็นหญิงสาวรายหนึ่งในชุดสีม่วง กำลังยืนพูดคุยกับพนักงานขายเครื่องประดับอย่างมีอารมณ์ แต่ดุเหมือนว่าพนักงานสาวจะพูดอะไรสักอย่างที่ทำให้ไฮโซสาวไม่พอใจ ทำให้เธอวีนแตกและตะโกนออกมาว่า “อะไรนะ? นี่แกคิดว่าฉันไม่มีเงินเหรอ? ที่นี่มันคือที่แบบไหน? ถนนแฟชั่นเหรอ? เชื่อไหมว่าฉันสามารถซื้อทั้งถนนนี่ยังได้?” เพื่อพิสูจน์ว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นไม่ใช่เรื่องเกินเลย เธอจึงจัดการควักเงินจากกระเป๋าและเขวี้ยงใส่หน้าพนักงานสาวทันที พร้อมตะโกนอีกว่า “นี่มันอะไรหะ? นี่มันอะไร!” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย หลังจากที่คลิปนี้ถูกโพสต์ลงในโลกออนไลน์ ก็กลายเป็นคลิปโด่งดังไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วและกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมของไฮโซสาว ที่มา shanghaiist
-
สาวจีนได้ยินเสียงประหลาดภายในหู เชื่อเป็นเสียงปีศาจ ที่แท้เป็นแมงมุมทำรังอยู่ในหู!!
ถ้าคุณคิดว่าการพบแมงมุมในระหว่างทำความสะอาดห้องเก็บของเป็นอะไรที่น่ากลัวสุดๆ แล้วล่ะก็ คุณคิดผิดแล้วล่ะ เพราะข่าวที่เหมียวจะนำเสนอในวันนี้อาจจะทำให้คุณขนลุกไปทั้งตัวได้เลยล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Uproxx ได้เผยแพร่เรื่องราวสุดสยองของนางลี่ หมิง จากประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าเธอได้ยินเสียง “เกา” ประหลาด อยู่ในหูตลอดเวลา เธอจึงคิดเอาเองว่าเสียที่เธอได้ยินนั้นอาจเป็นเสียงของภูตผีปีศาจ ทำให้เธอรู้สึกกลัวเป็นอย่างมาก หลังจากนั้นนางหมิงก็ได้เดินทางไปหาหมอผี เพื่อให้ร่ายคาถาและสวดมนต์เพื่อไล่สิ่งประหลาดออกไปจากหูของเธอ แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น เธอจึงตัดสินใจไปหาหมอหู คอ จมูก ปาก(น่าจะไปตั้งแต่แรกแล้ว) จากการตรวจสอบของหมอพบว่า มีแมงมุมกำลังชักใยทำรังอยู่ภายในแก้วหูของเธอ!! แต่สุดท้ายคุณหมอก็สามารถเอาแมงมุมตัวนั้นออกมาจากหูของเธอได้สำเร็จ สุดท้ายนี้นางหมิงได้กล่าวว่า เธอไม่อยากรู้เลยว่าแมงมุมนั่นหน้ามีหน้าตาเป็นยังไง… ที่มา uproxx
-
ยามมหาลัยฯ ในจีน แกล้งฝังสุนัขจรจัดในดินทั้งเป็น โชคดีได้นักศึกษามาช่วยไว้ทัน
ดูเหมือนว่ายามรักษาความปลอดภัยจะไม่ได้เป็นมิตรกับสุนัขจรจัดไปเสียทุกคนล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมาเว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่ามียามรักษาความปลอดภับรายหนึ่งในมหาวิทยาลัยหลานโจว ประเทศจีน ได้พบเข้ากับสุนัขจรจัดกลุ่มหนึ่งมาป้วนเปี้ยนอยู่แถวมหาลัยฯ กลุ่มยามจึงตัดสินใจฝังพวกมันลงในดินทั้งที่พวกมันยังมีชีวิตอยู่ แต่โชคดีเหลือเกินที่ในระหว่างนั้นมีกลุ่มนักศึกษากลุ่มหนึ่งที่ยังมีหัวใจอยู่ได้พบเข้ากับกลุ่มลูกสุนัขโดยบังเอิญ พวกเขาจึงรีบเข้าไปยังที่เกิดเหตุเพื่อขุดพวกมันขึ้นมา ทำให้พวกมันรอดตายอย่างหวุดหวิด ปัญหาของสุนัขจรจัดถือเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานานแล้ว และมันทำให้หน่วยงานต่างๆ หาวิธีในการควบคุมมัน ซึ่งบางคนก็เลือกใช้วิธีอันโหดร้ายกับพวกมัน นอกจากการฆ่าพวกมันทั้งเป็นแล้ว แอดเหมียวว่ายังมีวิธีอีกมากมายที่สามารถจำกัดการกระจายพันธุ์ของสุนัขจรจัดได้อีกเพียบเลยนะ ใครทำแบบนี้แอดเหมียวขอให้เดินสะดุดยอดหญ้าตาย ที่มา shanghaiist
-
นักศึกษาดีไซน์เนอร์ในจีนผงาด ออกแบบชุดต่างๆ ให้กลายเป็นลวดลายดอกไม้ธรรมชาติ!?
เมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่ภาพงานออกแบบชุดน่ารักๆ จากกลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากมหาวิทยาลัยเสยฉวน ในประเทศจีน พวกเขาได้ออกแบบชุดง่ายๆ แต่แต่งเติมไอเดียล้ำๆ เข้าไป ทำให้เป็นที่ถูกอกถูกใจชาวเน็ต จนกลายเป็นที่พูดถึงของโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย พวกเขาได้ร่วมมือกันเพื่อวางแผนที่จะจัดงานแฟชั่นโชว์ โดยการใช้เพียงแค่แผ่นกระดาษ ดินสอและกรรไกร เท่านั้น นักศึกษากลุ่มนี้กล่าวว่าพวกเขาได้แรงบันดาลใจมาจากผู้ใช้อินสตาแกรมรายหนึ่งที่ชื่อว่า Shamekhbluwi พวกเขาจึงได้ใช้กรรไกรตัดลงไปบนกระดาษที่ออกแบบชุดเอาไว้ เพื่อให้เป็นช่องตรงตามเสื้อผ้า จากนั้นก็นำไปส่องกับต้นไม้ใบหญ้า ก่อให้เกิดงานไอเดียเจ๋งๆ ขึ้นมาล่ะ หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไปในโลกออนไลน์ของจีน ก็มีชาวเน็ตต่างพากันเขามาแสดงความชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์พวกเขา ในขณะที่บางคนยังคงมองไม่ออกว่าภาพเหล่านี้สวยงามยังไง อย่างไรก็ตามมีบางคนให้ความเห็นว่าภาพเหล่านี้อาจไม่ใช่งานสร้างสรรค์ที่แท้จริง เพราะพวกเขาเคยเห็นงานออกแบบเหล่านี้ในต่างประเทศมาแล้วนั่นเอง ที่มา shanghaiist
-
เสียวววว!! เหมียวพาชมสะพานเชื่อมหุบเขาสุดหวาดเสียวในจีน สูงกว่า 182 เมตร!!
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบความสูงและความหวาดเสียวแล้วล่ะก็ วันนี้แอดเหมียวจะพาคุณไปในสถานที่หนึ่งในประเทศจีน เพราะเมื่อเร็วๆ นี้เขาได้มีการเปิดตัวสะพานแก้ว ที่มีความสูงจากพื้นดินถึง 180 เมตรเลยทีเดียว!! สะพานที่เหมียวพูดถึงนี้ตั้งอยู่ในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน เป็นสะพานแก้วที่มีขนาดความยาวอยู่ที่ 300 เมตร และสูงจากพื้นดิน 180 เมตร และแน่นอนว่าเราสามารถมองทะลุสะพานลงไปยังพื้นด้านล่างได้ด้วย เดิมทีแล้ว สะพานแห่งนี้ถูกสร้างด้วยไม้(ขุ่นพระ) แต่วิศวะกรได้เริ่มออกแบบและเปลี่ยนมาใช้วัสดุที่แข็งแรงและสวยงามมากขึ้นอย่างกระจกใส และแล้วมันก็สำเร็จออกมาเป็นรูปเป็นร่างอย่างที่เห็นนี่แหละ หลังจากที่สะพานถูกสร้างเสร็จแล้ว และมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมกัน ทุกคนก็พากันแตกตื่นกับความสูงและความหวาดเสียวของมันเลยล่ะ เราจะสังเกตเห็นได้จากสีหน้าของแต่ละคนที่ได้ไปยืนอยู่บนนั้นเลยล่ะ เอ้า ว่าแล้วก็ขอตีตั๋วไปชมเป็นบุญตาหน่อยเป็นไง ที่มา metro
-
พี่จะนิ่งไปไหน!! หนุ่มจีนสุดใจเย็น นั่งโซ้ยบะหมี่ ระหว่างที่มีคนตีกันข้างๆ โต๊ะ!?
โดยสัญชาติญาณของมนุษย์แล้ว หากเจอเหตุการณ์ที่มีคนมาทะเลาะวิวาทใส่ใกล้ๆ เรา เราก็ควรจะออกมาให้ไกลจากตรงนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการโดนลูกหลงใช่ไหมล่ะ แต่กับหนุ่มจีนรายนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย แถมยังนั่งชิวประหนึ่งว่าไม่มีเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้นเลย!! เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของชายหนุ่มรายหนึ่งในเมืองเสิ่นหยาง มณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน ขณะกำลังนั่งโซ้ยบะหมี่อยู่ที่ร้านข้างทางแห่งหนึ่ง แต่ในระหว่างนั้นกลับเกิดเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทกันขึ้นใกล้ๆบริเวณนั้น แต่แทนที่ชายหนุ่มคนนั้นจะลุกออกไปให้พ้นทาง เขากลับยังใจเย็นและนั่งโซ้ยบะหมี่และนั่งดูเหตุการณ์ต่อไป และเมื่อกินบะหมี่เสร็จแล้วเขาก็ลุกออกไปแบบนิ่งๆ จนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย เห็นแล้วนี่ เหมียวว่าจะยกให้เป็นหนุ่มใจเย็น 2015 เลยทีเดียว!! ที่มา cheng chen 18
-
ฉันจะไม่ทน!! เมียหลวงกระหน่ำตบเมียน้อยกลางที่สาธารณะ ไร้คนเข้าห้าม
กลายเป็นคลิปที่ร้อนแรงที่สุดในจีนขณะนี้เลย สำหรับคลิปการทำร้ายร่างกายระหว่างเมียหลวงและเมียน้อยกลางที่สาธารณะในประเทศจีน แต่แทนที่จะมีคนเข้าไปห้าม กลับปล่อยให้ฝ่ายเมียหลวงตบตีเมียน้อยจนลงไปนอนกับพื้นเลยทีเดียว คลิปเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ Shanghaiist เมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา เผยเรื่องราวสุดดราม่าของเมียหลวงรายหนึ่งที่จับได้ว่าสามีของตัวเองแอบไปมีเมียน้อย ทำให้เธอโมโหจัดจนต้องระบายอารมณ์กับเมียน้อยอย่างไม่ยั้งมือ นอกจากการทำร้ายร่างกายที่ไม่มีใครเข้ามาห้ามแล้ว ฝ่ายเมียหลวงยังได้กล่าวต่อว่าเมียน้อยด้วยคำพูดที่เจ็บแสบทีเดียว โดยบทสนทนามีอยู่ว่า เมียหลวง: “ทำไมเธอยังสนใจสามีฉันอยู่?” เมียน้อย: “ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับเขาเลย” เมียหลวง: “บอกฉัน บอกฉันมา!” เมียน้อย: “ทำไมคุณไม่ไปลากสามีของคุณมาแล้วถามเขาเองล่ะ?” เมียหลวง: “ฉันจะไม่ถามเขาหรอก แล้วข้อความที่เธอส่งให้เขามันคืออะไรล่ะ? นี่คุณไม่รู้เหรอว่าเขามีลูกๆ แล้ว? นี่คุณอายุเท่าไหร่แล้ว? หาสามีเองไม่เป็นเหรอ?” เมียหลวง: “ถ้าคุณยังกล้ามาหาสามีของฉันอีก ฉันจะทำลายครอบครัวของคุณให้ตายไปเลยถ้าคุณยังกล้าเป็นเมียน้อยอีก ฉันจะฆ่าคุณซะ คุณยังสาวมากนะ ถ้าคุณหาสามีไม่ได้ก็ไปเป็นโสเภณีซะ” เจอเข้าไปแบบนี้ หวังว่าหญิงสาวรายนั้นจะเลิกเป็นเมียน้อยชาวบ้านสักทีนะ มีความรักอย่างเปิดเผยมันดีกว่าร้อยเท่าเลยล่ะ ที่มา shanghaiist
-
โชคดีเหลือเกิน!! หนุ่มจีนขอแฟนสาวแต่งงาน แต่พ่อตากลับให้รถให้บ้านพร้อม!!
เรื่องของการแต่งงานนั้น เป็นเรื่องใหญ่ที่คู่รักต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะฝ่ายชายต้องเป็นผู้ที่มอบเงินสินสอดให้แก่ฝ่ายหญิง ซึ่งก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลยทีเดียว แต่เชื่อหรือไม่ว่ามีหนุ่มบางคน ไม่แทบทรัต้องจ่ายค่าสินสอดเลย แถมยังได้ทรัพย์สินจากฝ่ายหญิงไปแบบหนักหน่วงเลยทีเดียว เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้เปิดเผยเรื่องราวของหนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง ที่ตกลงปลงใจแต่งงานกับหญิงร่างท้วมฐานะดี แต่แทนที่ฝ่ายชายจะเป็นผู้มอบสินสอด เขากลับได้รับเงิน รถ และสินทรัพย์อื่นๆ มากมายจากพ่อตา จนทำให้ชาวเน็ตถึงกับอิจฉาในความโชคดีของเขาเลย ที่มา liveleak
-
วิจารณ์แซ่ด โลกออนไลน์แชร์ภาพชายชรานอนสลบอยู่กับพื้น ไร้พลเมืองดีเข้าช่วย แถมยังเอาแต่ถ่ายคลิป
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าว CCTV ได้รายงานว่ามีชายชรารายหนึ่งนอนสลบอยู่บนพื้นถนนในทณฑลเหอหนาน ประเทศจีน แต่กลับไม่มีประชาชนยื่นมือเข้าไปช่วยเลย เพียงเพราะว่าทุกคนกลัวว่าจะโดนยัดข้อหาให้กลายเป็นผู้กระทำความผิด ตามรายงานบอกว่าเมื่อประชาชนเห็นชายชรานอนอยู่กับพื้น ก็ได้แต่เข้ามานั่งดูอยู่รอบๆ และหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อจะได้มีหลักฐานยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรกับชายชราเลย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามรายละเอียดจึงพบว่าชายชราล้มลงไปกับพื้นเพราะเดินเร็วไป ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและมีเลือดกำเดาไหล นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า เรื่องราวของชายชราได้กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตในจีนพูดถึงกันอย่างแพร่หลายถึงความมีน้ำใจของชาวจีน ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าสภาพสังคมในจีนนั้นเลววร้ายและขาดความมีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนในจีนนั้น ถือเป็นเรื่องที่อันตรายมานานแล้ว เพราะมีหลายกรณีที่พลเมืองดีถูกใส่ร้ายจนได้รับโทษทั้งๆ ที่ไม่ได้ก่อเหตุซะอย่างงั้น คนดีไม่มีที่อยู่จริงๆ นะเนี๊ยะ ที่มา CCTVNews , kapook
-
เจ๋งมาก ! คนขับสามล้อจัดฟรีไวไฟ พร้อม iPad ให้ผู้โดยสารแก้เซ็ง
เมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เผยแพร่เรื่องราวเจ๋งๆ ของคนขับสามล้อรายหนึ่งในมณฑลเฉิงตู ประเทศจีน ที่เปลี่ยนรถสามล้อธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสามล้อไฮเทคติด Wi-Fi ไว้ให้บริการลูกค้าแบบฟรีๆ !! คนขับสามล้อนามสกุลตันรายนี้ได้เปลี่ยนให้รถสามล้อของเขาให้เป็นรถไฮเทค โดยมีบริการ Wi-Fi ไว้ให้ใช้กันฟรีๆ นอกจากนี้ยังมี iPad และเครื่องเสียงแบบเซอร์ราวนด์ ไว้ให้ลูกค้าแก้เบื่อกันด้วย ทั้งหมดนี้นายตันต้องลงทุนไปมากถึงหลายร้อยหยวนเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่านายตันจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเหวินเจียงและชอบความสนุกสนานมาก เขาเลยอยากจะทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการกับเขาได้สัมผัสประสบการณ์ที่สนุกสนานไปด้วย แต่บางคนอาจจะกังวลว่า รถสามล้อคันนี้ให้บริการเสริมเยอะแยะขนาดนี้ จะมีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่ารถสามล้อทั่วไปหรือเปล่า? นายตันขอบอกเลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะค่าโดยสารจะเริ่มต้นเพียง 3 หยวน หรือประมาณ 17 บาทเท่านั้น ขุ่นพระ!! เอาใจลูกค้าดีแบบนี้ เหมียวขอให้มีลูกค้าแบบไม่ขาดสายเลยน้าา ที่มา shanghaiist
-
เหมียวพาไปชม ห้องสมุดที่ “อ้างว้างและโดดเดี่ยวที่สุดในโลก” ตั้งอยู่บนชายหาดประเทศจีน
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเข้าห้องสมุด และมักจะประสบปัญหากับเสียงรบกวน ความวุ่นวายต่างๆในห้องสมุด วันนี้เหมียวมีทางออกให้ล่ะ เพราะล่าสุดแอดเหมียวไปเจอเข้ากับห้องสมุดแสนสงบแห่งหนึ่งในจีนมา สงบจนได้รับฉายาว่าเป็นห้องสมุดที่ “อ้างว้างและโดดเดี่ยวที่สุดในโลก” เลยนะเออ ห้องสมุดที่ว่านี้ตั้งอยู่บนชายหาดทรายริมทะเลเบดาฮี ในเมืองชินฮวงเต่า มณฑลเหอเป่ย ของประเทศจีน ห้องสมุดที่ว่านี้ถูกออกแบบโดยสถาปนิกหนุ่มชาวจีนนามว่านาย ตง กง โดยเขาออกแบบอาคารหลังนี้ขึ้นเพื่อให้ผู้มาใช้บริการ ได้รับความเงียบสงบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แม้ว่าภายนอกนั้นจะดูเรียบๆ แต่ขอบอกว่าภายในนั้นไม่ธรรมดา เพระห้องสมุดแห่งนี้มีขนาดความกว้างอยู่ที่ 450 ตารางเมตร มีการแบ่งออกเป็น 3 ชั้น มีห้องโถงที่สามารถถ่ายเทอากาศได้ดี แถมยังมีวิวเป็นทะเลสวยๆให้ได้มองกันเพลินตาด้วยนะ ห้องสมุดสุดอ้างว้างแห่งนี้ถูกสร้างโดยบริษัทพัฒนาที่ดิน และเพื่อให้เข้าถึงความสงบอย่างแท้จริง ห้องสมุดแห่งนี้จึงไม่มีเส้นทางสาธารณะที่จะเข้ามายังห้องสมุดนี้ได้ด้วย ตามรายงานบอกว่าห้องสมุดแห่งนี้ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการนะ หากเปิดให้บริการแล้วจะมีการประกาศออกมาอีกทีนึงล่ะ นี่มันสวรรค์ของคนรักการอ่านชัดๆ เหมียวอยากไปปปปป ที่มา CCTV 中文 , ที่สุดในโลก
-
ปั่นประชดรัก!? หนุ่มจีนใช้การปั่นจักรยานระงับอารมณ์ทุกครั้ง หลังทะเลาะกับแฟน
เมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ odditycentral ได้เปิดเผยเรื่องราวน่าทึ่งของหนุ่มจีนรายหนึ่ง ที่หาวิธีระบายอารมณ์เวลาทะเลาะกับแฟนด้วยการปั่นจักรยาน และเหลือเชื่อว่าเขาเคยทะเลาะกับแฟนจนต้องปั่นไปไกลถึงแอฟริกามาแล้ว!? หนุ่มจีนรายนี้มีนามว่านาย เหอ กันฮุย เขาเป็นคนที่ชอบปั่นจักรยานมาก และทุกๆ ครั้งที่นายเหอทะเลาะกับแฟน เขาก็มักจะหยิบจักรยานออกไปปั่นระบายอารมณ์ทุกครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อปี 2012 ในปีนั้นนายเหอได้ทะเลาะกับแฟนอย่างรุนแรง แต่เขาก็ไม่รู้จะจัดการกับอารมณ์นั้นยังไง เขาเลยหยิบจักรยานออกมาปั่น จากบ้านในมณฑลกวางตุ้ง ไปจนถึงกรุงปักกิ่ง เป็นระยะทางกว่า 2,200 กิโลเมตร!! ขุ่นพระ!! หลังจากที่แฟนสาวทราบเรื่องเข้า เธอก็เลยซื้อจักรยานมาไว้ปั่นคู่กับเขาด้วยซะเลย แต่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็มีอันต้องทะเลาะกันอีกครั้ง เพราะในปี 2014 พวกเขาก็ได้มีปากเสียงกันอีกครั้ง คราวนี้นายเหอไม่ได้ปั่นอยู่แค่ในประเทศเท่านั้น แต่ปั่นไปไกลถึงแอฟริกาเลยทีเดียว!! ปัจจุบันนายเหอกลับมาอยู่กับแฟนของเขาแล้วเรียบร้อย เขาตัดสินใจที่จะพักการปั่นจักรยานไปสักระยะ และจับเข่าคุยกับแฟนของเขาเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น โดยแฟนสาวของเขาสัญญาว่าจะไม่ตะคอกใส่เขาอีก สุดท้ายนี้เขาได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า “ผมคิดว่าตอนนี้ผมเห็นโลกมามากพอแล้ว ถึงเวลาที่ผมจะทำบางสิ่งให้ถูกต้องที่บ้านของผมแล้วล่ะ” เหมียวขอเป็นกำลังใจให้นายเหอและแฟนสาว สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆไปได้ด้วยดีนะจ๊ะ ที่มา odditycentral
-
อ่าเฮื้อออออ!! สื่อจีนเผยภาพคุณครูประถมสุดน่ารัก ไม่เป็นอันเรียนกันแล้วทีนี้
เมื่อวันก่อนแอดเหมียวเพิ่งจะนำเสนอเรื่องราวของคุณครูสาวเกาหลีสุดน่ารักไปนี่เอง ดูเหมือนว่าล่าสุดแดนมังกรจะไม่ยอมน้อยหน้าล่ะ เพราะเมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Ck101 ก็ได้ออกมารายงานว่า ที่จีนมีคุณครูสุดน่ารักไม่แพ้กันเลย คุณครูชาวจีนที่เหมียวพูดถึงนี่้ เธอมีชื่อว่าคุณครู ถังติงติง เป็นครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในประเทศจีน ด้วยใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มขนาดนี้ ชาวเน็ตจึงนำรูปของเธอมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ Weibo ซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ในจีน ทำเอาชาวเน็ตถึงกับตกหลุมรักเธอไปตามๆกัน และนอกจากเป็นครูแล้ว เธอยังเป็นคนรักสุขภาพที่ชอบออกกำลังกายด้วยนะ แหม่ อะไรมันจะดีขนาดนี้ >< ว๊ากกก ไปจีน ไปจีน ไปจีน!! ที่มา ck101
-
สยิวกิ้ว!! สาวสุดคลั่งลงทุนแก้เสื้อผ้าประชดแฟน กลางถนนในประเทศจีน
เคยได้ยินประโยคที่ว่า ยามที่สาวๆ โมโหขึ้นมา อะไรก็เอาเธอไม่อยู่ไหมล่ะ? ประโยคที่ว่านั้นไม่ได้เกินเลยจากความเป็นจริงเลย เพราะล่าสุดได้มีเว็บไซต์ในจีนเผยแพร่ภาพของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่กำลังแก้ผ้าทะเลาะกับแฟนกลางถนน เพียงเพื่อประชดเขาเท่านั้น!! ตามรายงานบอกว่าเกิดเหตุมณฑลหนานหนิง ประเทศจีน ในขณะที่คู่รักคู่หนึ่งกำลังทะเลาะกันอยู่นั้น จู่ๆ ฝ่ายหญิงก็ถอดเสื้อผ้าออกมากลางถนน เพื่อประชดแฟนหนุ่ม โดยไม่สนใจสายตาของประชาชนที่เดินผ่า ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วการทะเลาะกันของพวกเขาจบลงด้วยวิธีใด แต่เหมียวอยากจะเตือนเพื่อนๆ ว่า…อย่าประชดกันด้วยวิธีนี้เลยนะ เดี๋ยวจะเป็นตากุ้งยิงกันซะหมด ที่มา news.qq
-
เอาอีกแล้ว วัยรุ่นจีนเกือบโดนบันไดเลื่อนดูด โชคดีกระโดดออกมาทัน!!
ยังคงมีข่าวคราวเกี่ยวกับอุบัติเหตุบันไดเลื่อนออกมาให้เราได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ เลยนะ ซึ่งล่าสุดก็เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีกครั้งในประเทศจีนอีกแล้วล่ะ เมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Liveleak ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ในมณฑลเหลียวหนิง ประเทศจีน เป็นภาพเหตุการณ์ในระหว่างที่วัยรุ่นสาวรายหนึ่ง กำลังจะเดินลงบันไดเลื่อน แต่จู่ๆ ฝาปิดด้านล่างก็เปิดออกมา ทำให้วัยรุ่นสาวเกือบตกลงไป แต่โชคดีที่ในขณะนั้นเธอสามารถตั้งสติและกระโดดออกมาได้ทันเวลา ทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ จากนั้นไม่นานทางเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในห้างสรรพสินค้าก็เข้ามาดูที่เกิดเหตุ และสั่งหยุดการใช้งานบันไดเลื่อนชั่วคราว ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ใครที่วางแผนว่าจะไปเที่ยวจีนเร็วๆ นี้ล่ะก็ระวังตัวกันหน่อยนะจ๊ะ ที่มา liveleak
-
นักศึกษาจีนสู้ชีวิต สูญเสียแขน 2 ข้าง แต่ใช้เท้าในการดำรงชีวิตได้คล่องแคล่วไม่แพ้คนปกติเลย
เมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้เปิดเผยเรื่องราวของนาย เชา เผิง วัยรุ่นหนุ่มที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยสีฉวน ในเมืองเฉิงตู ประเทศจีนได้สำเร็จ แม้เขาจะไม่มีแขนทั้ง 2 ข้างก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีแขนทั้ง 2 ข้าง แต่นายเผิงก็สามารถใช้เท้าทั้ง 2 ข้างในการดำเนินชีวิตได้อย่างคล่องแคล้ว รวมไปถึงการทำกิจกรรมต่างๆแบบคนทั่วไป ทั้งการใช้ตะเกียบ การแปรงฟัน การกินข้าว หรือแม้แต่การกดสมาร์ทโฟนก็สามารถทำได้เช่นกัน ในทุกๆเช้า นายเผิงต้องใช้เวลาในการอาบน้ำประมาณ 18 นาที และใช้เวลาอีก 20 นาทีเพื่อเดินจากหอพักไปยังมหาวิทยาลัยเป็นระยะทางอีกกว่า 2.1 กิโลเมตร นายเผิงตั้งใจจะเรียนพิเศษเพิ่มเติมนอกมหาวิทยาลัย เพื่อช่วยให้เขาสามารถเรียนจบปริญญาด้านกฎหมายได้ และโชคดีมากที่นายเผิงมีเพื่อนที่ดี ที่คอยช่วยให้เขาสามารถเดินทางไปยังห้องสมุดได้อย่างสะดวก หลังจากที่เรื่องราวของนายเผิงถูกเผยแพร่ลงสู่โลกออนไลน์ของจีน ก็ทำให้เกิดแรงบันดาลใจต่างๆแก่วัยรุ่นและชาวจีนอีกมากมายเลยทีเดียว เอาล่ะวัยรุ่น เห็นแบบนี้แล้วก็อย่ายอมแพ้พวกเขาเด็ดขาดนะจ๊ะ ที่มา shanghaiist
-
เกินไปม๊าง!! สามีรีบขอหย่าภรรยา หลังรู้ว่าตัวเองถูกหวยรางวัลที่ 1 มูลค่ากว่า 26 ล้าน!!
แม้จะแต่งงานอยู่กินด้วยกันแล้วก็ใช่ว่าจะไว้เนื้อเชื่อใจได้นะ เพราะเมื่อต้องมีเรื่องเงินเรื่องทองเข้ามาเกี่ยว ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สนแล้วล่ะ หากไม่เชื่อแล้วล่ะก็ งั้นเหมียวจะพาไปดูข่าวจากเมืองจีนข่าวนี้กัน เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Indiatoday ได้เปิดเผยเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชื่อว่านาย หลิว เซียง จากเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ตามรายงานบอกว่าเขาได้ขอหย่าภรรยา และขอให้ภรรยารีบเซ็นใบหย่าทันที หลังจากที่เขารู้ตัวว่าถูกลอตเตอรี่เป็นจำนวนเงินกว่า 26 ล้านบาท!! แต่ความลับก็เป็นความลับได้ไม่นาน เพราะหลังจากที่นายหลิวได้นำเอาลอตเตอรี่ไปขึ้นเงิน ก็ทำให้ภรรยารู้ว่าเขาถูกลอตเตอรี่ 26 ล้านบาท และไม่คิดจะแบ่งให้เธอ เธอจึงยื่นฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม และสุดท้ายศาลก็ตัดสินให้นายหลิวต้องแบ่งเงินให้ภรรยาของเขาเป็นจำนวน 6.5 ล้านบาท เพราะลอตเตอรี่ที่ซื้อมานั้น เป็นลอตเตอรี่ที่ซื้อในช่วงที่พวกเขายังเป็นสามีภรรยากัน ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินที่ทั้งคู่มีร่วมกันนั่นเอง ที่มา indiatoday
-
รวบแม่ชาวจีน หลังโยนลูกน้อยวัย 2 ขวบลงจากสะพานจนจมน้ำตาย เหตุปัญหาครอบครัว
เว็บไซต์ Shaghaiist รายงานว่า แม่ชาวจีนรายหนึ่งในมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอโยนลูกสาววัย 2 ขวบลงจากสะพานข้ามแม่น้ำ จนร่างของเธอจมน้ำเสียชีวิต ตามรายงานจากสื่อท้องถิ่นของจีนรานงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งในช่วงเวลา 10.30 ว่ามีหญิงสาวโยนลูกของตัวเองลงจากสะพาน พวกเขาจึงรีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ Cai ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “พวกเราเดินทางมาถึงที่สะพาน เราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่บนขอบสะพานและโยนลูกน้อยลงไปในน้ำ” เจ้าหน้าที่ Cai และคนอื่นๆ จึงรีบกระโจนตัวลงไปในน้ำเพื่อช่วยเหลือเด็ก ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่อีกคนก็พยายามจะจับกุมตัวผู้เป็นแม่เอาไว้ด้วยเช่นกัน แต่โชคร้ายที่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถช่วยเหลือเด็กเอาไว้ได้ พวกเขาจึงโทรเรียกให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามารับช่วงต่อ จนพบเข้ากับร่างไร้วิญญาณของเด็กหญิง หลังจากใช้เวลาค้นหาอยู่นานถึง 20 นาที จากการสอบสวนทราบว่าผู้เป็นแม่มีนามสกุลว่า Zou วัย 20 ปี อาศัยอยู่ในในมณฑลกุ้ยโจวและเพิ่งย้ายมาอยู่มณฑลฝูเจี้ยนได้ 1 ปีเท่านั้น นอกจากลูกสาววัย 2 ขวบที่เพิ่งเสียชีวิตแล้ว เธอยังมีลูกสาววัย 5 ขวบอีกหนึ่งคนด้วย เธอรับสารภาพว่ามีปัญหาภายในครอบครัว จึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ที่มา shanghaiist
-
บ้าไปแล้ว!! โรงเรียนสอนการศัลยกรรมเถื่อนในจีน ให้นักเรียนฝึกศัลยกรรมกับใบหน้าเพื่อน!?
เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าในกรุงปักกิ่งประเทศจีน ได้มีการเปิดโรงเรียนสอนการศัลยกรรมเถื่อน ที่ใช้เวลาสอนแบบเร่งรัดเพียง 4 วัน โดยแลกกับค่าสอนมูลค่า 7,800 หยวน หรือประมาณ 39,000 บาท นตามรายงานบอกว่าโรงเรียนแห่งนี้มีชื่อว่า Beijing Jinghan Medical Cosmetology Training Centre เปิดรับสอนการทำศัลยกรรมให้กับผู้ที่สนใจประกอบอาชีพด้านนี้ โดยการันตีว่าหลังจากจบคอร์สแล้ว จะมีรายได้ต่อเดือนสูงถึง 100,000 หยวน หรือประมาณ 500,000 บาทเลยทีเดียว โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมการสอนศัลยกรรมครั้งนี้ไม่ได้ตระหนักเลยว่านี่เป็นการหลอกลวง ที่จะใช้พวกเขาให้เป็นหนูทดลองในชั้นเรียน ซึ่งมีความอันตรายถึงแก่ชีวิต หลังจากทราบข่าวก็ได้มีสำนักข่าวแห่งหนึ่งในจีนอย่าง Xinjing News ได้ใช้เวลาสืบสาวราวเรื่องกว่า 2 เดือน และได้ไปสัมภาษณ์กับหนึ่งในนักเรียนผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วย เธอกล่าวว่าเธอต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแบบเร่งด่วน เพราะมีอาการติดเชื้อหลังจากที่คุณครูฉีดสารไฮยารูรอนนิคเข้าไปที่จมูกของเธอ ซึ่งสารดังกล่าวถูกใช้เพื่อคงความอ่อนวัย โดยที่นี่ยังใช้มันเป็นฟิลเลอร์สำหรับฉีดที่ริมฝีปากและใช้บริเวณตกแต่งดวงตา มีรายงานอีกว่าโรงเรียนสอนศัลยกรรมเถื่อนแห่งนี้กำลังจะขยายสาขาออกไปเพื่อให้รองรับกับนักเรียนที่จะเพิ่มขึ้นด้วย ที่มา shanghaiist
-
ตำรวจจีนจับแบงค์ปลอมได้กว่า 3 แสนหยวน หลังจับแล้วมีสีเลอะมือ!?
เมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักข่าวในจีนได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในมณฑลคุณหมิง ได้เข้าตรวจจับผู้ต้องสงสัย 3 ราย ที่คาดกันว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับการปลอมแปลงแบงค์ซึ่งมีมูลค่ากว่า 3 แสนหยวนเลยทีเดียว ตามรายงานบอกว่าเจ้าหน้าที่จับสังเกตได้เมื่อลองสัมผัสกับแบงค์เหล่านั้น แล้วเกิดมีน้ำหมึกหลุดติดมือออกมาจนเปื้อนมือกลายเป็นสีแดง ซึ่งหลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ทางการจีนเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะได้มีการออกแบบธนบัตรรูปแบบใหม่ ที่มีการใช้สีสันมากขึ้น ส่งผลให้การทำซ้ำนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น เพราะในระยะหลังมานี้เริ่มมีคดีเกี่ยวกับการปลอมแปลงแบงค์มากขึ้นเรื่อยๆ และการปลอมแปลงก็เริ่มจะมีความแนบเนียนมากยิ่งขึ้นด้วย ตามรายงานยังบอกด้วยว่าเมื่อปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับแบงค์ปลอมได้มากถึง 56 ล้านหยวนเลยทีเดียว ที่มา shanghaiist
-
เหมียวนี่หอบเลย!! บาร์ในจีนผุดไอเดีย จับสาวๆสุดเซ็กซี่มาต่อยมวยโชว์ เรียกลูกค้าได้เพียบ
เมื่อประมาณสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเมืองไท่หยวน มณฑลซานซี ประเทศจีนในมีการเผยแพร่ภาพของบาร์แห่งใหม่ที่จัดเอาสาวสวยในชุดบิกินี มาชกมวยบนสังเวียนผ้าใบให้เราได้ดูกันแบบเพลินตาเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าไอเดียการนำเอาสาวสวยในชุดน้อยชิ้นมาเตะต่อยกันเองนั้นจะเป็นไอเดียที่ไม่เลวเลยล่ะ เพราะมันสามารถเรียกแขกได้ในแต่ละค่ำคืนได้มากมายทีเดียว โดยเจ้าของร้านให้สัมภาษณ์ว่าการที่จัดกิจกรรมแบบนี้จะทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายด้วย แต่ใช่ว่าสาวๆเหล่านี้จะขึ้นชกได้เลยนะ เพราะพวกเธอจะต้องผ่านการฝึกฝนจากครูฝึกอย่างเคร่งครัดเสียก่อน เอาเป็นว่าเหมียวขอหยุดทุกกิจกรรมแล้วออกเดินทางไปจีนกันเถอะ แฮ่กๆๆ ที่มา shanghaiist
-
ชาวเน็ตช็อค หนุ่มจีนก่อเหตุฆาตกรรมแฟนสาว แถมโพสต์ภาพโชว์ลงในโลกออนไลน์
เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shaghaiist ได้รายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในมณฑลกวางสีประเทศจีน ได้จับตัวคนร้ายที่ฆ่าแฟนสาวของตัวเองได้ หลังคนร้ายโพสต์รูปศพของแฟนลงในแอพ WeChat เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามรายงานบอกว่าคนร้ายนามสกุลฉิน ได้ก่อคดีฆาตกรรมแฟนสาวของตนเองเมื่อวันที่ 5-6 กันยายนที่ผ่านมา จากนั้นเขาก็ได้โพสต์รูปศพแฟนสาวลงในโลกออนไลน์ พร้อมกับข้อความว่า “ยกโทษให้กับความรักที่เห็นแก่ตัวของผมด้วยนะ” แต่เนื่องจากมีชาวเน็ตจำนวนมากเห็นภาพของเขาในโลกออนไลน์ จึงส่งเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามสืบ จากนั้นไม่นานเขาก็ถูกจับกุมตัว จากการสอบสวนพบว่าสาเหตุทีนายฉินลงมือก่อเหตุนั้นเป็นเพราะว่าเกิดการทะเลาะกับแฟนสาวอย่างหนัก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเมื่อปี 2557 ก็เกิดเหตุการณ์คล้ายกันนี้มาแล้ว โดยเป็นเหตุการณ์ของวัยรุ่นวัย 17 ปี ที่ก่อเหตุใช้มีดแทงใบหน้าของหญิงสาวรายหนึ่งจากนั้นจึงปล้นทรัพย์สินของเธอไป และโพสต์ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวลงในอินเตอร์เน็ตเช่นกัน ที่มา shanghaiist
-
ทัวร์จีนโห่ร้องเพลงชาติที่สนามบินดอนเมือง หลังเครื่องบินดีเลย์ 10 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา แชแนลยูทูบ Sina premium ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มหนึ่งในสนามบินดอนเมือง ที่รวมตัวกันร้องเพลงชาติจีนเพื่อเป็นการประท้วงที่สายการบินที่พวกเขาใช้บริการ ดีเลย์เป็นเวลากว่า 10 ชั่วโมง สาเหตุที่สายการบินต้องประกาศดีเลย์เที่ยวบินเพราะว่าสภาพอากาศที่เลวร้าย ทำให้เที่ยวบินที่จะมุ่งหน้าจากดอนเมืองไปเมืองฉงชิ่งประเทศจีนนั้นต้องดีเลย์ออกไป แต่ดูเหมือนว่านักท่องเที่ยวชาวจีนจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงรวมตัวกันร้องเพลงเสียงดังภายในสนามบิน หลังจากที่เกิดเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่ในสนามบินก็รีบเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และพานักท่องเที่ยวทั้งหมดออกจากอาคารผู้โดยสารในที่สุด คลิกชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ลงในโลกออนไลน์ ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมสุดเอือมของนักท่องเที่ยวชาวจีน ว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แถมยังมีบางคนเห็นบอกว่าการที่เครื่องบินดีเลย์ นั่นเป็นเพราะว่าพวกเขาคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร หากทำการบินในสภาพอากาศที่เลวร้ายแบบนี้ อาจส่งผลร้ายต่อตัวนักท่องเที่ยวเอง ที่มา top.sina , kapook
-
หนุ่มจีนเหวอ ฝังเงินเกือบ 6 แสนบาทลงในดิน 4 ปีผ่านไปกลายเป็นเงินเน่าซะงั้น
มีเงินเยอะก็ใช่ว่าจะทำให้คุณรวยเป็นเศรษฐีได้นะ เพราะบางครั้งแม้ว่าคุณจะเก็บมันดีขนาดไหน แต่หากเงินเหล่านั้นเกิดได้รับความเสียหายขึ้นมาคุณก็อาจสูญเงินเหล่านั้นไปในทันทีเลยก็ได้ เหมือนอย่างกรณีที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ เพราะเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่านายจาง จากมณฑลเจียงสู ประเทศจีน กำลังเตรียมที่จะแต่งงาน แต่จู่ๆก็เกิดนึกขึ้นมาได้ว่าเขาเคยได้รับเงินเกือบ 6 แสนบาท เป็นมรดกมาจากคุณแม่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยเงินเหล่านั้นคุณแม่ของเขาได้เก็บใส่กล่องเหล็กอย่างดี และฝังมันไว้ในดินใต้ห้องครัวของเขา แต่เมื่อเขาขุดมันขึ้นมาก็ต้องตกใจ เพราะเงินเหล่านั้นได้แปรสภาพกลายเป็นเศษขยะที่เกือบจะหาค่าอะไรไม่ได้เลย!! นายจางจึงร้องขอความช่วยเหลือจากธนาคารท้องถิ่นเพื่อช่วยเปลี่ยนธนบัตรเหล่านั้นให้กลายเป็นเงินแบบที่มันเคยเป็น แต่ทางธนาคารก็ต้องหนักใจเพราะไม่สามารถทำตามคำขอของเขาได้ และถึงทำได้ก็ไม่สามารถคืนเงินได้เต็มจำนวน แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารก็กล่าวกับนายจางว่า พวกเขาจะช่วยเต็มที่ และจะติดต่อไปยังธนาคารในนานกิงเพื่อประเมินความเสียหายทั้งหมดต่อไป ที่มา shanghaiist
-
รวม 25 ภาพแปลกที่พบเห็นได้ในประเทศจีน แปลกยังไงต้องพิสูจน์กันแล้วล่ะ!?
ประเทศจีนนี่เขาขึ้นชื่อเรื่องความแปลกแหวกแนวจริงๆนะ ไม่ว่าจะการดำเนินชีวิต การทำธุรกิจ และไหนจะกิจกรรมแปลกที่พบเห็นได้เฉพาะในจีนอีก ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอเข้ากับอัลบั้มภาพแปลกๆ ที่รวบรวมมาได้จากประเทศจีน ขอบอกว่าแปลกจริงจัง แปลกแบบไหนมาดูกันเถอะ!! สตีฟ นั่นอะไรน่ะ!? เดี๋ยวๆ! มันไม่น่าจะใช่แบบนี้นะ มันไม่ถนัดซินะ เฮ้ย!! ทำไมทำงี้อะ ผู้ชาย!? แตกต่างเหมือนกัน เอ๊ะนี่มันตัวอะไร กางเกงอย่างแหล่ม คุ้นๆนะ… หน้ากากทำไมคุ้นๆ แต่ละอัน เหมียวถึงกับพูดไม่ออกเลย… ที่มา postjung
-
หนุ่มฉงฉิ่งลงทุนนอนใต้สะพานลอย หวังประหยัดเงินเพื่อซื้อแหวนแต่งงานให้แฟน
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shanghaiist ได้รายงานว่าชายหนุ่มชาวฉงฉิ่ง ประเทศจีน ได้ลงทุนนอนใต้สะพานลอย เพื่อหวังประหยัดค่าใช้จ่ายๆ และนำเงินทั้งหมดไปซื้อสร้อยคอทองคำและแหวนเพรชที่แฟนสาวของเขาต้องการมาตลอด ตามรายงานบอกว่าชายหนุ่มแซ่ชงรายนี้ใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะ ทั้งนี้ก็เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างค่ากิน ค่าน้ำและค่าไฟ โดยเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “อยู่กินที่นี่ ผมสามารถประหยัดเงินได้ราวๆ 5 หยวนต่อวัน และผมต้องการที่จะซื้อสร้อยคอทองคำและแหวนเพรชจากร้านเครื่องประดับในห้างเพื่อให้ภรรยาของผมมีแบบคนอื่นๆ ในเมือง” นอกจากนี้นายชงยังคอยเก็บเศษขยะบริเวณรอบๆที่พักของเขา เพื่อนำมันไปขายเอาเงินมาใช้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่การทุ่มเทเพื่อความรักสุดยิ่งใหญ่ที่เราเห็นได้จากคนจีนหรอกนะ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีกรณีของชายชรารายหนึ่ง ที่ลงทุนเก็ยขยะมาทั้งชีวิตเพื่อซื้อแหวนเพรชให้คนรักของเขามาแล้ว แหม่ มันช่างน่าปลื้มใจจริงจรี๊งงง ที่มา shanghaiist
-
สถานที่ท่องเที่ยวในจีน อนุญาตให้นักท่องเที่ยวแกะสลักข้อความในป่าไผ่ได้ คนแห่เที่ยวตรึม
โดยทั่วไปแล้วเวลาเราเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหน แล้วเกิดอยากจะแสดงความรักโดยการฝาก(หรือทิ้ง)อะไรไว้สักอย่าง เรามักจะแขวนลูกกุญแจหรือไม่ก็เขียนข้อความทิ้งไว้ใช่ไหมล่ะ แต่การท่องเที่ยวแบบนั้นมันไม่สร้างสรรค์เอาซะเลย เพราะมันสร้างความสกปรก และทำความสะอาดยากมาก วันนี้แอดเหมียวเลยจะพาไปดูการเขียนข้อความแบบใหม่ที่ไม่สร้างความสกปรกกันดูบ้าง เพราะเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ Shagnaiist ได้รายงานว่าได้มีสถานที่ท่องเที่ยวในมณฑลเสยฉวน ประเทศจีนเกิดไอเดียแนวๆ โดยอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเขียนข้อความลงบนต้นไผ่ได้ ทางด้านผู้จัดการของป่าไผ่แห่งนี้ได้กล่าวว่าการแกะสลักลงไปบนผิวหน้าของไผ่นั้นไม่ได้ส่งผลเสียอะไรต่อธรรมชาติ ต้นไผ่จะไม่ได้รับผลเสียใดๆ ซึ่งเหมาะกับเหล่านักท่องเที่ยวที่อยากแสดงความรู้สึกของตนเองออกมา ให้คนอื่นได้รับรู้กัน ทั้งนี้ยังมีรายงานด้วยว่า หลังจากที่มีการเปิดให้สลักต้นไผ่ ก็มีนักท่องเที่ยวพากันมาเที่ยวมากมาย โดยในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา มีคนมาเที่ยวมากกว่าเมื่อปีที่แล้วซะอีก ที่มา shanghaiist