Tag: cola
-
น่ากินมั่กๆ!! ยิ่งกว่าโค้กวุ้นก็คือ ‘โค้กขวดวุ้น’ ตัดแบ่งกินได้ ฟีลอารมณ์หนึบหนับมาเต็ม
เห็นหัวข้อแบบนี้แล้วอาจจะรู้สึกไม่ค่อยแปลกใจอะไร เพราะว่าหลายๆ คนก็เคยทำ ‘โค้กวุ้น’ กันมาก่อน วิธีทำง่ายๆ ก็แค่เทน้ำโค้กใส่ภาชนะ แล้วนำไปแช่ช่องฟรีส รอให้มันแข็งตัวแล้วก็นำมากินคล้ายๆ กับสเลอปี้นั่นแหละ แต่สำหรับวิธีการนี้จะเป็นการทำโค้กวุ้นแบบเยลลี่กัมมี่แบร์ อ้าววว!! อ่านแล้วน่าสนใจดีใช่มั้ยเอ่ย มันน่ากิน น่าทำตามขนาดไหน #เหมียวเลเซอร์ ขอนำทุกท่านมาร่วมรับชมกัน ณ บัดนี้ ก่อนอื่นเลยคุณต้องมีอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ ขวดโค้กขนาดมาตฐาน (พลาสติก) เจลาติน 60 กรัม สก็อตเทป มีดหรือคัตเตอร์ และหม้อต้ม ขั้นตอนแรกให้เทน้ำโค้กลงไปในหม้อต้ม จากนั้นก็ตามด้วยเจลาติน คนให้เข้ากัน นำไปตั้งบนเตาด้วยไฟอ่อนๆ เคี่ยวให้เดือดกรุ่นๆ ในระหว่างที่กำลังต้มอยู่นั้น ก็ผลัดมาทำแม่แบบขวดวุ้น ค่อยๆ ลอกฉลากอย่างระมัดระวัง เก็บรักษาไว้ก่อน จากนั้นก็ใช้มีดหรือคัตเตอร์ผ่าขวดจากหัวถึงท้ายขวดยาวประมาณ 6 นิ้ว ปิดแผลขวดที่เพิ่งผ่าไปด้วยสก็อตเทป หนาๆ หลายชั้นซักนิดนึง เพื่อกันของเหลวไหลทะลักออกจากขวด หลังจากแปะสก็อตเทปเรียบร้อย นำโค้กผสมเจลาตินที่ต้มไว้มาเทใส่ขวด แล้วนำไปแช่ช่องฟรีส ปล่อยทิ้งไว้ทั้งคืน …
-
รวม 18 เกร็ดความรู้และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับแบรนด์ Coca-Cola น้ำดำในตำนานที่ยังมีชีวิต
ยอมรับเลยว่าเครื่องดื่มน้ำอัดลมหรือซอฟต์ดริ๊งค์สีดำที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ในตอนนี้มีเพียงยักษ์ใหญ่แค่ 2 รายเท่านั้นที่ยังฟาดฟันต่อสู้กันไม่หยุดหย่อน ค่ายสีฟ้า เป๊บซี่ และ ค่ายสีแดง โคคา-โคล่า (โค้ก) นั่นแหละ เอาเป็นว่าคราวนี้ขอชูเรื่องเกร็ดความรู้จากฝั่งค่ายสีแดงก่อนละกันเนอะ บริษัทและสูตรต้นตำหรับ Coca-Cola ให้กำเนิดโดยเภสัชกร John S. Pemberton ในปีค.ศ. 1886 แต่ชื่อและโลโก้ที่เราเห็นกันนั้นเป็นความคิดของ Frank Robinson Coca-Cola แต่เดิมเคยทำการตลาดว่าเป็นเครื่องดื่มบำรุงประสาท เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้า Coca-Cola ในช่วงแรกๆ นั้นเคยนำโคเคนมาเป็นส่วนผสมด้วย แต่ใช้เพียงแค่ 9 มิลลิกรัมต่อขวดเท่านั้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาอาการเสพติดฝิ่น ภายหลังในปีค.ศ. 1903 สั่งยกเลิกการนำโคเคนมาเป็นส่วนผสม ในทุกวันนี้ ภานใต้ 3% ของแบรนด์เครื่องดื่มที่มีบนโลก อยู่ภายใต้การจดทะเบียนของ Coca-Cola (3% ก็ประมาณ 1.9 พันล้านยี่ห้อ) มีเพียงเกาหลีเหนือและคิวบาเท่านั้น ที่ไม่การนำ Coca-Cola…