Tag: dead
-
หมาอ้อนอยากเดินเล่นต่ออีก และเจ้าของก็มารู้ทีหลังว่ามันเป็นการเดินเล่นครั้งสุดท้าย
ชีวิตของคนเราไม่มีอะไรแน่นอน เราไม่มีวันรู้เลยว่าชีวิตจะจบลงวันไหน เราจึงควรทำดีกับคนที่เรารักให้มากที่สุด พอถึงเวลาต้องจากกันจะได้รู้สึกว่าเราทำดีกับเขาที่สุดแล้ว Li Yi (李怡) มีหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์อยู่ตัวหนึ่งชื่อว่า Pudding มันอายุได้ 15 ปีแล้ว พวกเขาอาศัยอยู่ด้วยกันในเมือง Kaohsiung ในไต้หวัน เจ้าหมาเป็นโรคกระดูกทับเส้นประสาท แต่ก็ยังดูสุขภาพดีอยู่หญิงสาวเลยไม่ได้คิดอะไรมาก นี่คือเจ้า Pudding มันเป็นหมาของ Li Yi ทั้งคู่อยู่ด้วยกันในไต้หวัน เมื่อไม่นานมานี้เธอพามันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ แต่พอถึงเวลาต้องกลับบ้าน ครั้งนี้มันกลับไม่ยอมกลับบ้านง่ายๆ ทำท่าทีว่าอยากจะเดินเล่นรับลมต่อ ซึ่งปกติแล้วมันไม่เป็นแบบนี้ 2 วันต่อมาอาการป่วยของเจ้าหมาก็เข้าจู่โจมอย่างฉับพลัน ทำให้ Li Yi ต้องเสียเพื่อนที่เธอรักที่สุดไปอย่างไม่ทันตั้งตัว แล้วเธอก็คิดได้ว่าที่มันอยากเดินเล่นนานๆ เพราะมันรู้ตัวว่าจะไม่มีโอกาสได้เดินเล่นอีกแล้ว ด้วยความรักและคิดถึงเจ้า Pudding หญิงสาวก็เลยทำคลิปวิดีโออันหนึ่งให้มัน ซึงเนื้อหาในวิดีโอนั้นเป็นการบอกความในใจจากเธอถึงเจ้าหมา ที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็ต้องซึ้งกันทั้งนั้น เธอเขียนข้อความในวิดีโอว่า “ฉันขอโทษนะ แกคงรู้อยู่แล้วว่านั่นเป็นการเดินเล่นครั้งสุดท้าย แกก็เลยอยากสูดอากาศให้นานที่สุด แล้วไม่อยากกลับบ้าน…พอกลับมาถึงบ้านแกก็ไม่ขยับอีกเลย” “แกรอฉันกลับไปหาที่บ้านตั้งนาน แต่ฉันก็กลับไปไม่ทันเวลา แกยังลืมตารอฉันจนวินาทีสุดท้าย ฉันไม่เคยคิดเลยว่าการจากกันของเราจะเป็นแบบนี้…วันก่อนเราเพิ่งจะวิดีโอคอลด้วยกันเอง…
-
หมาจรจัดไปบ้านของเด็กหญิงทุกวัน เพื่อไปหาเพื่อนที่ไม่มีวันได้เจอกันอีก
ทุกคนคงรู้อยู่แล้วว่าหมาเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ ทุกคนอาจจะเคยเห็นความซื่อสัตย์ต่อเจ้านายของมันหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นเรื่องราวของหมาที่มีความซื่อสัตย์ต่อเพื่อนของมัน เจ้าหมาตัวนี้ก็คือหมาจรจัดสีดำจากประเทศเกาหลี มันปืนรั้วข้ามมาที่หลังบ้านของเด็กหญิงและคุณยายทุกวัน เมื่อมันมาถึงมันก็จะไม่ทำอะไรทั้งสิ้นนอกจากนอนรอ จนถึงเวลาเย็นมันก็จะปีนรั้วกลับไปยังถิ่นของตัวเอง แต่เรื่องราวของมันไม่ได้จบเพียงเท่านี้หรอก … นี่คือเจ้าหมาสีดำ พระเอกของเราในวันนี้ มันปีนกำแพงเข้าไปในบ้านของคุณยายและเด็กสาวทุกวัน กว่าจะผ่านไปถึงรั้วบ้านได้ มันต้องผ่านรั้วหนามเหล็กที่อันตราย แล้วก็ผ่านทางที่มีสังกะสีผุซึ่งอันตรายมาก แต่มันก็ใช้ประโยชน์จากความตัวเล็กและคล่องแคล่วลอดรั้วมาได้ ถึงแม้จะยังดูเสี่ยงอันตรายก็ตาม เด็กสาวเล่าว่ามันไม่ได้เป็นหมาของบ้านเธอหรอก มันเป็นแค่สุนัขจรจัดนี่แหละ พอเจ้าหมามาถึงที่บ้าน มันก็จะนั่งรอนิ่งๆ เมื่อถึงตอนเย็นก็จะดันตัวขึ้นไปบนกำแพง แล้ววิ่งกลับไปทางเดิม คุณยายที่อยู่บ้านหลังนั้นเล่าว่าสาเหตุที่มันมาที่บ้านทุกวัน เป็นเพราะเจ้าหมา Sooni Sooni เป็นหมาที่ครอบครัวคุณยายเลี้ยงดู แต่มันป่วยตายไปแล้ว ตอนที่มันยังมีชีวิตอยู่ เจ้าหมาทั้ง 2 ตัวสนิทสนมกัน แม้แต่ตอนนี้ที่ Sooni ตายไป เจ้าหมาดำก็ยังมาหาที่บ้านทุกวันเหมือนเดิม สัตวแพทย์อธิบายว่าสุนัขอาจจะไม่ค่อยเข้าใจว่าความตายเป็นยังไง มันอาจจะมาหาทุกวันจนตัวเองตายก็ได้ ด้วยความเห็นใจ เด็กสาวก็เลยรับมันมาเลี้ยง…
-
หมูร่ำลาคู่แท้ที่อยู่ด้วยกันมาทั้งชีวิตเป็นครั้งสุดท้าย หลังคู่ของมันจากไปด้วยโรคร้าย
ลูกหมู Spot ได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวของ Rachel Vos มันเลยได้อยู่ในบ้านกับครอบครัวที่อบอุ่นตั้งแต่ยังอายุได้ 8 เดือน มันได้มาอาศัยอยู่ในบ้านที่เขต Aubel ประเทศเบลเยียม และที่นั่นเองที่มันได้พบกับคู่ชีวิตของมัน ซึ่งคือลูกหมูอีกตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Sientje Sientje กับ Spot อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก และแม้จะผ่านมา 13 ปีพวกมันก็ยังอยู่ด้วยกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะไปที่ไหนหรือทำอะไรเจ้าหมูทั้ง 2 ตัวก็จะต้องอยู่ข้างกันเสมอ กินข้าวก็กินด้วยกัน นอนอาบแดดก็ยังมาด้วยกัน Spot ยังรัก Sientje ไม่เปลี่ยนแปลงเลย จนถึงวันสุดท้ายในชีวิตของเจ้า Sientje มันป่วยเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมอย่างรุนแรงจนทุกคนเห็นพ้องกันว่าให้มันจากไปอย่างสงบน่าจะดีกว่าปล่อยให้มันทรมาน การตัดสินใจให้ Sientje จากไปครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดสำหรับ Vos เพราะถึงจะช่วยให้ Sientje พ้นจากความเจ็บปวดจากโรคได้ แต่ก็รู้ว่าต่อมา Spot ต้องปวดใจกับการจากไปของคู่มัน เมื่อเดือนตุลาคม 2017 ก็ถึงวันที่เจ้าหมูต้องตายจากไปจริงๆ ครอบครัวก็ไม่อยากจะพรากพวกมันจากกันไปเฉยๆ พวกเขาก็เลยนำร่างของ Sientje มาวางไว้ในสวน…
-
มิ้วน้อยร่างกายอ่อนแอจนจากโลกนี้ไป พี่ของมันเลยกอดร่างไร้วิญญาณไว้
Blaze กับ Glory เป็นมิ้ว 2 พี่น้องที่ลืมตามาดูโลกพร้อมกัน พวกมันถูกพาตัวมาที่ศูนย์พักพิงในเมืองฟรีมอนท์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พวกมันกำพร้าแม่ก็เลยจำเป็นต้องมีคนป้อนนมให้ทั้งวัน กลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Saving Grace Rescue ก็เลยอาสาจะหาบ้านชั่วคราวที่พร้อมจะดูแลพวกมันให้ Blaze กับ Glory มิ้วกำพร้า 2 พี่น้องที่ไม่ยอมออกห่างจากกัน มิ้วน้อยได้มาอยู่ในบ้านของ Joyce หญิงที่รับหน้าที่เป็นแม่ชั่วคราวให้พวกมัน เธอบอกว่ามิ้วทั้ง 2 ตัวจะอยู่ด้วยกันตลอด ไม่ยอมออกห่างจากกันเลย เท่าที่เธอมองดูเจ้า 2 ตัวนี้ Blaze เป็นลูกแมวที่แข็งแรงมากกว่า มันดูซุกซนและมีชีวิตชีวา ป้อนข้าวให้เมื่อไหร่ก็กินจนหมด แต่พอมามอง Glory ดูแล้วมันอ่อนแอมาก เจ้าตัวนี้แทบจะไม่กินนมเลย ก็เลยน่าเป็นห่วงกว่า หลังจากเฝ้าดูแลพวกมันหลายคืน Glory ที่อ่อนแอก็จากโลกนี้ไปอย่างช่วยไม่ได้ มันตายโดยที่มีพี่ชายและ Joyce เป็นกำลังใจให้ข้างๆ พวกเขาช่วยมันอย่างสุดความสามารถแล้วจริงๆ เจ้า Glory ตายไปตั้งแต่เล็กเพราะร่างกายไม่แข็งแรง Joyce เล่าว่า “ตอนที่ Glory…
-
คุณยายใจสลายกับการจากไปของสุนัขเพื่อนรัก จนกระทั่งได้อ่านจดหมายสุดซึ้งจากมัน
เกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นสัจธรรมที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แม้จะรู้แบบนั้นแต่เราก็ไม่สามารถทำใจได้ง่ายๆ กับการจากไปของคนใกล้ตัวอยู่ดี คุณตากับคุณยายของ Ashley Bowerman ที่เพิ่งเสียเจ้าหมา Tucker ที่อยู่ด้วยกันมานานไป ก็ยังคงทำใจกับการจากไปของมันไม่ได้เช่นกัน แต่ก็ยังดีที่มีข้อความจากเจ้าหมาไว้คอยปลอบประโลมใจ เจ้า Tucker เข้ามาอยู่กับคุณตาคุณยายตั้งแต่มันยังเป็นสุนัขตัวเล็กๆ อยู่เลย มันอยู่กับพวกเขาทุกวันและเป็นส่วนหนึ่งในทุกช่วงเวลาสำคัญของพวกเขา จนเมื่อไม่นานมานี้มันก็จากไปด้วยวัย 12 ปี ถึงจะเตรียมใจไว้แล้วบ้าง แต่คุณตากับคุณยายก็ไม่อาจทำใจกับการจากไปของเพื่อนรักที่อยู่ด้วยกันมาร่วม 10 ปีได้เลย พวกเขาก็เลยเอารูปเจ้าหมาและของเล่นของมันมาวางไว้มุมหนึ่งของบ้าน เพื่อเป็นการระลึกถึงมันตลอดเวลาเหมือนกับมันเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัว อย่างไรก็ตามสำหรับคุณยายแล้ว นี่เป็นการสูญเสียที่ทำให้เธอรู้สึกใจสลาย เธอไม่รู้ว่าควรจะจัดการกับความรู้สึกนี้อย่างไรจนกระทั่งไปเจอจดหมายฉบับหนึ่งที่เจ้าหมาเขียนถึงเธอเข้า ในจดหมายมีใจความว่า “ผมอยากให้แม่รู้ว่า แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดของผม ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเป็นลูกหมาตัวเล็กจนถึงตอนที่เราจำเป็นต้องจากกัน แม่ก็ดูแลผมอย่างดีมาตลอด ตอนนี้ผมได้อยู่ในที่ที่สวยงามและไร้ซึ่งความเจ็บปวดใดๆ แล้ว ผมจะคอยเฝ้ามองดูแม่เหมือนที่ผมทำตลอดมา อยู่ตรงมุมที่หน้าต่างของผม ขอให้แม่มีชีวิตที่สุขสบายนะครับ จาก Tuckie” อันที่จริงแล้วเจ้าหมาไม่ได้เป็นคนเขียนจดหมายหรอก คุณตาเป็นคนเขียนโดยนึกถึงความรู้สึกของมันต่างหาก เขาเขียนมันไว้ตอนช่วงคริสต์มาสปี 2017 เพราะเห็นว่าเจ้าหมาคงอยู่ได้อีกไม่นานนัก และเขาก็อยากจะมอบมันให้กับคุณยาย ถึงแม้จดหมายจะไม่ได้มาจากเจ้าหมาจริงๆ…
-
สุนัขผู้ซื่อสัตย์ นั่งรอเจ้านายหน้าโรงพยาบาลไม่ยอมไปไหน แม้เขาจะจากไปแล้ว 4 เดือน
ความซื่อสัตย์ของสุนัขที่มีต่อมนุษย์เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม พวกมันรักเจ้าของของตัวเองจากก้นบึ้งของหัวใจ ทำให้พวกมันไม่อาจลืมคนที่เคยใช้เวลาร่วมกันมาได้ง่ายๆ แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนมันก็จะรอการกลับมาของเจ้าของอยู่อย่างนั้น เหมือนอย่างเจ้าสุนัขในรัฐ Novo Horizonte ประเทศบราซิล ที่แม้ว่าเจ้าของจะตายจากไปนานถึง 4 เดือนแล้ว แต่มันก็ยังรออยู่หน้าโรงพยาบาล ให้เขาเดินกลับออกมากอดมันเหมือนเคย สุนัขตัวนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของชายไร้บ้านวัย 59 ปี เขาถูกส่งตัวเข้าไปรักษาในโรงพยาบาลหลังจากถูกมีดแทง เจ้าหมาเองก็วิ่งตามรถพยาบาลมาจนถึงหน้าโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ได้เข้าไปข้างใน มันแค่นอนรอเจ้าของอยู่ตรงพรมที่หน้าประตู แต่บาดแผลของชายไร้บ้านสาหัสมาก แม้ว่าแพทย์จะพยายามรักษาเขาอย่างสุดความสามารถแล้ว แต่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้ เจ้าหมาที่รออยู่ข้างนอกคงไม่รู้หรอกว่าเจ้านายของตัวเองได้จากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันหวนคืนมาแล้ว หลังจากนั้นทุกวันมันก็เลยมารออยู่ตรงหน้าประตูโรงพยาบาล โดยหวังว่าเจ้าของจะกลับออกมาหามันสักที โชคดีที่นักกฎหมาย Cristine Sardella รู้เรื่องเข้า เธอเกิดความประทับใจในความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของมันกับเจ้าของ ก็เลยช่วยหาบ้านใหม่ให้กับมัน เจ้าหมาจะได้ไม่ต้องรออย่างไร้จุดหมายแบบนี้ แต่กว่าจะช่วยหาบ้านให้มันได้ เจ้าหมาก็รออยู่ที่เดิมนานถึง 4 เดือนเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามเจ้าหมาก็ไม่ยอมอยู่กับครอบครัวใหม่ ทันทีที่มันไปถึงบ้านใหม่ มันก็วิ่งจากตรงนั้นกลับมาที่หน้าโรงพยาบาลเหมือนเดิม แม้ว่าจากบ้านใหม่ไปโรงพยาบาลจะเป็นระยะทางกว่า 3 ไมล์ (เกือบ 5 กิโลเมตร) ก็ตาม มันคงซื่อสัตย์และรักเจ้าของคนเก่ามากจนไม่สามารถลืมเขาแล้วไปเริ่มต้นชีวิตกับครอบครัวใหม่ได้ หรือไม่ก็อาจจะยังมีความหวังว่าเจ้านายคนเก่าจะกลับมาอยู่ เราก็ได้แต่หวังว่าเจ้าหมาจะทำใจได้แล้วมีชีวิตใหม่โดยเร็ว…
-
สุนัขผู้ซื่อสัตย์ มานั่งเฝ้าหลุมศพเจ้านายตลอด 11 ปี จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต
เคยได้ยินเรื่องของ Hachiko สุนัขที่เจ้านายตายไปแล้ว แต่มันก็ยังไปรอที่หน้าสถานีรถไฟทุกวันไหมครับ มันช่างเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและสุนัขที่น่าประทับใจจริงๆ นอกจากมันแล้วก็ยังมีหมาตัวอื่นที่ทำพฤติกรรมคล้ายคลึงกันอยู่ด้วย โดยเจ้าหมาตัวนี้ตามหาหลุมศพของเจ้านายจนเจอด้วยตัวเอง และนอนเฝ้าทุกวันจนมันเองก็ตายตามไปเลย Capitan หมาผู้ซื่อสัตย์และรักเจ้าของยิ่งชีพ เจ้าหมาพันธุ์อัลเซเชียน Capitan อาศัยอยู่กับครอบครัว Guzman ในเมือง Villa Carlos Paz ประเทศอาร์เจนตินา Damian ได้รับเจ้าหมาเป็นของขวัญวันเกิดจาก Miguel คุณพ่อของเขา ต่อมาเมื่อ Miguel เสียชีวิตไปในปี 2006 เจ้าหมาก็หายตัวไปจากบ้านอย่างไร้ร่องรอย คนในครอบครัวคาดไว้ว่ามันคงจะวิ่งหนีออกไปจากบ้านแล้วถูกรถชนตายมันก็เลยไม่กลับมาอีก เมื่อ Miguel เสียชีวิต มันก็หายตัวไปจากบ้านด้วย หลังจากนั้นหลายเดือนคนในครอบครัวก็เดินทางไปเยี่ยมหลุมศพของคุณพ่อกัน ที่นั่นเองพวกเขากลับพบเจ้า Capitan นอนเฝ้าหลุมศพของ Miguel อยู่อย่างไม่น่าเชื่อ มันก็เลยวิ่งมาหาพวกเขาด้วยท่าทางที่ดูเหมือนกับคิดถึงและก็เสียใจ พวกเขาไม่เคยพาเจ้าหมามาเยี่ยมหลุมศพเลยแม้แต่ครั้งเดียว แถมสุสานแห่งนี้ก็อยู่ไกลจากบ้านของพวกเขาด้วย แต่มันกลับหาทางมาที่นี่จนเจอได้ ทางครอบครัวเองก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่ามันสามารถทำได้อย่างไร คนในครอบครัวมาพบมันอยู่ที่หลุมศพของ Miguel Hector Baccega ผู้อำนวยการที่ดูแลสุสานแห่งนี้เล่าว่า “จู่ๆ มันก็โผล่มาที่นี่ด้วยตัวเอง แล้วก็เดินไปทั่วสุสานจนกระทั่งพบหลุมศพของเจ้านาย จากนั้นเป็นต้นมามันก็จะวนเวียนอยู่ในสุสานแห่งนี้ พอถึงเวลา 6 โมงเย็นเมื่อไหร่มันก็จะไปนอนอยู่ข้างหลุมศพจนเช้าทุกวัน”…
-
เสือไซบีเรียเพศเมียหายาก ที่มีปัญหาช่องปากเลยขอให้มนุษย์ช่วย ล่าสุดเสียชีวิตแล้ว
เมื่อตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2018 เราเคยลงข่าวเกี่ยวกับเสือไซบีเรียตัวหนึ่งที่มีปัญหาช่องปากหนักมาก จนมันต้องถ่อมาขอความช่วยเหลือจากเหล่ามนุษย์ เพื่อรักษาให้มันหายดีและกลับไปใช้ชีวิตได้ดังเดิม (อ่านข่าวเก่าเพิ่มเติมได้ ที่นี่) แต่น่าเสียดายที่แม้ทีมสัตวแพทย์จะร่วมมือกันช่วยเหลือมันอย่างสุดความสามารถ มันก็ยังคงมีอาการที่น่าเป็นห่วงอยู่เหมือนเดิม จนเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2018 เสือสาวก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบแล้ว เสือสาวที่มีปัญหาช่องปากอย่างรุนแรง เมื่อตอนที่สัตวแพทย์ตรวจมันครั้งแรก พวกเขาพบว่ามันไม่มีฟันบนเหลือเลยสักซี่ นอกจากนี้เหงือกของมันก็ไม่แข็งแรงพอ จึงทำให้มันมีปัญหาในการล่าเหยือและกินอาหาร และด้วยความที่มันกินอาหารได้ไม่เพียงพอก็ส่งผลให้มันไม่มีเรี่ยวแรงพอจะใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ ตอนที่พวกพบมันที่หน้าบ้านของชายที่เจอ มันขยับร่างกายไม่ไหวเลยทีเดียว ทีมสัตวแพทย์ให้การรักษาอย่างเต็มที่ หลังจากที่มันถูกส่งไปยังศูนย์ฟื้นฟูสภาพในเขต Primorsky ประเทศรัสเซีย พวกเขาก็ป้อนอาหารบดให้มันทำให้มันมีแรงขึ้นมาบ้างแล้ว มันอาการดีขึ้นจากตอนแรกมาก จากที่มันไม่สามารถลุกขึ้นยืนเองได้ ตอนนี้มันก็สามารถกระโดดขึ้นไปบนชั้น 2 ของกรงได้ด้วยตัวเองแล้ว เจ้าเสือเริ่มกินอาหารได้บ้าง ในช่วงแรกของการรักษา ดูเหมือนว่าอาการของมันจะดีขึ้นเรื่อยๆ ทว่าหลังจากนั้นอาการของมันก็ทรุดลงอีกครั้งหนึ่ง มันไม่ยอมกินอาหารอะไรเลย สัตวแพทย์จึงเริ่มสังเกตได้ว่านอกจากสุขภาพในช่องปากแล้วมันต้องมีโรคอื่นๆ อีกเป็นแน่ Viktor Kuzmenko ผู้อำนวยการของศูนย์ช่วยเหลือเสือ Amur Tiger Centre อธิบายอาการของมันว่า “โรคร้ายและความชราทำให้มันอาการแย่ลง แม้ว่าสัตวแพทย์จะพยายามช่วยมันมากแค่ไหนมันก็สู้กับโรคร้ายต่อไปไม่ไหว … มันอยู่ในสภาพที่อ่อนแรงและสิ้นหวัง แถมหัวใจของมันก็ไม่มีไขมันเลยแม้แต่น้อย ไม่มีอะไรช่วยชีวิตมันได้แล้ว…
-
โค้ชทีมฟุตบอลเอาตัวเข้าบัง เพื่อช่วยชีวิตเด็กนักเรียนจากเหตุกราดยิงในฟลอริด้า
ในวันวาเลนไทน์ที่เพิ่งผ่านมานี้มีเรื่องสะเทือนใจเกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตนักเรียน Nikolas Cruz ก่อเหตุใช้ปืนไรเฟิล AR-15 ยิงกราดในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School รัฐฟลอริด้า เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 ราย ผู้เสียชีวิตไม่ได้มีแต่นักเรียนเท่านั้น แม้แต่คุณครูภายในโรงเรียนก็กลายเป็นเหยื่อด้วยเช่นกัน ซึ่งหนึ่งในนั้นเองก็มีโค้ช Aaron Feis รวมอยู่ด้วย Aaron Feis ผู้เป็นทั้งโค้ชและผู้รักษาความปลอดภัย Feis เป็นโค้ชทีมฟุตบอลและผู้รักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียน และเขาเองก็ถูกยิงในเหตุการณ์นั้นเช่นกัน แต่จากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ เขาไม่ได้ถูกยิง แต่ตั้งใจเอาตัวเองเข้าไปบังกระสุนปืนให้นักเรียนต่างหาก โดยขณะที่นักเรียนคนหนึ่งกำลังหนีจากหนุ่มที่ถือปืน เขาเห็นว่านักเรียนคนนั้นไม่สามารถหนีพ้นวิถีของปืนได้แน่ๆ ก็เลยใช้ตัวเองเป็นโล่เพื่อให้นักเรียนสามารถหนีไปได้อย่างปลอดภัย แต่ตัวเขาเองนั้นต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากที่การเสียสละตัวเองของเขาได้เผยแพร่ออกไป คนจำนวนมากก็ทวีตเพื่อสรรเสริญถึงความดีและระลึกถึงการจากไปของเขา นี่คือโฉมหน้าของโค้ช Aaron Feis วีรบุรุษที่บาดเจ็บจากการเข้าปกป้องนักเรียนในเหตุยิงปืน เขาเป็นที่รักของนักเรียนที่รู้จักเขาทุกคน ขอให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจไปให้เขาด้วย โค้ช Aaron Feis เป็นคอยปกป้องผู้อื่นเสมอมา วันนี้เขาได้เสียสละร่างกายของตัวเองเพื่อปกป้องนักเรียน มันต้องใช้ความกล้าหาญอย่างมากในการเผชิญหน้ากับมือปืนที่บ้าคลั่ง โค้ช Feis เป็นวีรบุรุษอเมริกัน แทนที่จะพูดถึงมือปืน เรามาให้เกียรติวีรบุรุษ…
-
นร. หนุ่มจากเหตุยิงในโรงเรียน สละชีวิตตัวเองกั้นประตู เพื่อให้คนอื่นๆ ได้หนีออกไป
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 ที่ผ่านมาเกิดเหตุใช้ปืนยิงกราดในโรงเรียนในรัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา จนมีผู้เสียชีวิต 17 คน กลายเป็นข่าวน่าสลดใจไปทั่วโลก ท่ามกลางความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้น ยังมีเรื่องราวความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของเด็กหนุ่มชคนหนึ่งอยู่ด้วย แม้ว่าสุดท้ายเขาจะเสียชีวิตไป แต่การกระทำของเขาช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนคนอื่นได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว Peter Wang ผู้เสียชีวิตอย่างวีรบุรุษในเหตุการณ์กราดยิงในรัฐฟลอริด้า นักเรียนคนดังกล่าวชื่อ Peter Wang เด็กชายเอเชียน-อเมริกันวัย 15 ปี ตอนที่เกิดเหตุยิงปืนเขาเอาตัวเองเข้าเสี่ยงภัยโดยการกั้นประตูให้คนอื่นได้วิ่งหนีออกไปได้สะดวกยิ่งขึ้น ทว่าท้ายที่สุดแล้วตัวเขาเองก็ไม่รอดชีวิตกลับมา ญาติสนิทของเขา Aaron Chan เองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย เขาเล่าว่า Wang ที่อยู่ในชุดเจ้าหน้าที่ฝึกหัด เปิดประตูให้กับเพื่อนนักเรียนคนอื่นโดยที่ไม่ห่วงตัวเองเลยแม้แต่น้อย เด็กหนุ่มห่วงเพียงแต่ความปลอดภัยของเพื่อนๆ เท่านั้น ส่วนตัว Chan เองทำได้เพียงแต่วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เขาได้เห็นญาติสนิทมีชีวิตอยู่ เขาเข้ารับการฝึกฝนเป็นเจ้าหน้าที่ฝึกหัด (Reserve Officers’ Training Corps) ซึ่งปฎิบัติหน้าที่คล้ายคลึงกับตำรวจ เพื่อนสนิทของเด็กหนุ่มตั้งแต่เมื่อสมัยยังเล็ก Gabriel Ammirata ก็บอกว่า Wang เป็นคนที่อัธยาศัยดี มีความเป็นมิตร ทั้งยังมีนิสัยขี้เล่น และที่สำคัญที่สุดก็คือเขาเป็นเพื่อนที่ดีมากคนหนึ่งเลย เด็กหนุ่มเป็นหนึ่งในเหยื่อจำนวนทั้งหมด…
-
ไทม์ไลน์อดีตนักเรียนใจเหี้ยม บุกยิงกราดในโรงเรียนฟลอริดา เสียชีวิต 17 บาดเจ็บอีก 50 ราย…
เกิดเหตุน่าสลดเมื่ออดีตนักเรียนหนุ่มพกอาวุธปืนและระเบิดควัน บุกเข้าไปในโรงเรียน Marjory Stoneman Douglas High School ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2018 หลังจากหน่วย SWAT เข้าควบคุมเหตุการณ์ได้แล้ว ผลประเมินความเสียหายมีผู้เสียชีวิต 17 คน บาดเจ็บอีก 50 คน เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 14.25 น. โดยในช่วงก่อนเกิดเหตุเล็กน้อย นักเรียนในโรงเรียนได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น นักเรียนจึงเดินออกจากห้องเรียนไปยังจุดรวมตัวตามที่ได้ฝึกซ้อมมา แต่กลับพบว่ามีคนเข้ามากราดยิงปืนในทางเดิน และไล่เข้าไปยิงนักเรียนในห้องเรียนอื่นๆ นักเรียนบางส่วนเข้ามาหลบภัยในห้องเรียน นักเรียนบางส่วนถูกยิงและได้รับบาดเจ็บ ส่วนที่เหลือก็วิ่งหนีกันแบบไม่คิดชีวิต นักเรียนกลุ่มหนึ่งเข้ามาซ่อนตัวภายในห้องเรียน บางคนก็เข้าไปซ่อนตัวในตู้ และอีกส่วนหนึ่งก็วิ่งหนีออกไปนอกโรงเรียนได้ทันเวลา แต่พวกเขาก็ยังได้ยินเสียงยิงปืนดังอย่างต่อเนื่องทำให้ทุกคนตื่นกลัวอย่างมาก นักเรียนจำนวนมากที่ติดอยู่ภายในโรงเรียนเริ่มติดต่อกับภายนอกผ่านทางการโทรศัพท์และทางโซเชียลมีเดียเพื่อให้ตนเองรู้สึกสบายใจ บ้างก็โพสต์ในทวิตเตอร์ และอีกส่วนก็ส่งข้อความคุยกับทางบ้านของตัวเอง นักเรียนอีกส่วนหนึ่งวิ่งหนีออกไปข้างนอกโรงเรียนได้ นักเรียนส่วนมากที่ติดอยู่ภายในโรงเรียนพยายามติดต่อโลกภายนอกผ่านทางโซเชียลมีเดีย นักเรียนคนหนึ่งที่หลบภัยอยู่ในห้องเรียนใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายคลิปวิดีโอเหตุการณ์ตอนนั้นเอาไว้ จะเห็นได้ว่านักเรียนต่างก็หวาดกลัวจึงหมอบลงต่ำเพื่อหลบผู้ก่อเหตุร้าย แต่ก็ยังคงมีเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่องทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนอยู่ในสนามรบอยู่ตลอดเวลา คลิปวิดีโอจากนักเรียนที่ติดอยู่ในโรงเรียน (หากชมคลิปวิดีโอไม่ได้ คลิกที่นี่) JUST IN…
-
ช้างเพื่อนรักกำลังจะจากโลกนี้ไป เจ้าหมาจรจัดก็ยังเฝ้าดูแล ไม่ยอมห่างไปไหนเลย
สายสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธุ์เป็นสิ่งที่สวยงามเสมอ ไม่ว่าเห็นกี่ครั้งเราก็ประทับใจกับความเป็นเพื่อนที่มองข้ามความแตกต่างที่เรามีไปได้ ในครั้งนี้มาชมสายสัมพันธ์ระหว่างช้างและสุนัขกันนะครับ เหตุการณ์นี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นไกลตัวเลย เป็นเรื่องสุดซึ้งในประเทศไทยเรานี่เอง ไปดูกันครับ น้องหมาแพนเค้ก น้องหมาที่เราจะพูดถึงมีชื่อว่า แพนเค้ก มันอาศัยอยู่ใน ปางช้างบุญรอด ที่จังหวัดสุโขทัยซึ่งก่อตั้งโดยสาวใจดี แคเทอรีน คอนเนอร์ ตอนนี้เธอเองก็เป็นผู้บริหารสูงสุดที่ดูแลปางช้างนี้อยู่ด้วย แพนเค้กไม่ได้เกิดและเติบโตมาที่ปางช้างบุญรอดตั้งแต่แรก แคเทอรีนบังเอิญไปเจอมันที่ชายหาดแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง ตอนนั้นมันถูกสุนัขเจ้าถิ่นตัวอื่นรุมรังแก สาวใจดีคนนี้ก็เลยรับเอามันไปดูแลในปางช้างด้วยแม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นช้างก็ตาม ที่ปางช้างแห่งนี้คุ้นชินกับการเข้ามาและจากไปของสัตว์ดี เพราะส่วนมากพวกเขาจะรับดูแลช้างแก่ที่ทำงานไม่ได้แล้วเป็นหลัก พวกมันจึงเป็นเหมือนกับไม้ใกล้ฝั่งที่ใกล้ถึงวันสุดท้ายของชีวิตแล้ว สาวน้อยพักผ่อนให้สบายนะ บุญทองจะคอยอยู่ข้างๆ เอง อย่างเมื่อ 2 ปีก่อนช้างอาวุโสชื่อว่า สาวน้อย ก็เพิ่งเสียชีวิตจากโลกนี้ไป ตอนที่มันกำลังจะตายก็ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ยังคงมีช้าง บุญทอง ที่เป็นเพื่อนกันมาคอยให้กำลังใจจนลมหายใจสุดท้ายด้วย เมื่อต้นปี 2018 นี้เองก็ถึงเวลาที่ต้องจากโลกนี้ไปของบุญทองบ้าง แม้ว่ามันจะไม่มีสาวน้อยที่เป็นช้างเพื่อนซี้คอยอยู่ให้กำลังใจ แต่ก็ยังมีเจ้าแพนเค้กเพื่อนสุนัขแสนรักมาอยู่เป็นกำลังใจให้ไม่ต่างกันเลย เจ้าแพนเค้กเองแม้จะไม่ใช่ช้างเหมือนสัตว์ตัวอื่นในปางช้าง แต่การที่มันอาศัยอยู่ในที่เดียวกันมาเป็นเวลานานๆ ก็ทำให้เกิดสายสัมพันธ์พิเศษกับสัตว์ตัวอื่นรวมทั้งบุญทองเองด้วย เธอเหนื่อยมามากแล้วนะบุญทอง ให้ฉันกับแพนเค้กอยู่เป็นเพื่อนอีกสักหน่อยนะ ในวันที่บุญทองจะตายจากไปแคเทอรีนกับแพนเค้กก็เลยมานั่งเป็นเพื่อนเจ้าบุญทอง แล้วพูดคุยเป็นเพื่อนมันจวบจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต บุญทองเป็นช้างตัวเมียที่มีอายุ 60…
-
ช่างตัดไม้ค้นพบซากมัมมี่หมาติดอยู่ในต้นไม้โดยบังเอิญ มันติดในนั้นมานานเกือบ 60 ปีแล้ว
โดยปกติแล้วเวลาที่สัตว์ตายร่างกายของมันก็จะเน่าเสียและสลายกลายเป็นสารอาหารให้กับพื้นดินไป แต่ในบางครั้งเราก็พบปรากฎการณ์หายากในธรรมชาติที่ร่างของสัตว์ไม่ถูกย่อยสลายแต่กลายเป็นมัมมี่แบบนี้แทน ในปี 1980 คนตัดไม้จากบริษัท Georgia Kraft Corp ทำงานตัดไม้กันตามปกติ แต่พวกเขากลับพบว่าในโพรงของต้นโอ๊กต้นหนึ่งมีมัมมี่สุนัขติดอยู่ด้วย เมื่อพวกเขาเห็นแบบนั้นก็เลยบริจาคท่อนไม้นี้ให้กับพิพิธภัณฑ์ต้นไม้ Forest World ในเมืองเวย์ครอส รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกาไป เจ้าหมา Stuckie มัมมี่สุนัขตามธรรมชาติ จากนั้นในปี 2002 ทางพิพิธภัณฑ์จึงจัดการประกวดตั้งชื่อสุนัขตัวนี้และได้รับชื่อว่า Stuckie (จากคำว่า stuck แปลว่า ติด) ซึ่งเป็นชื่อที่เหมาะกับเจ้าหมาจริงๆ ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าสาเหตุที่เจ้าหมาตัวนี้ติดอยู่ในต้นไม้ น่าจะเป็นเพราะมันวิ่งไล่สัตว์เล็กจนกระทั่งมันหนีเข้าไปในโพรงต้นไม้ แต่เจ้าหมาก็ไม่ละความพยายาม ตะกายเข้าไปในโพรงยาว 28 ฟุต (ประมาณ 8.5 เมตร) จนในที่สุดตัวของมันก็ติดอยู่อย่างที่เห็นนี่แหละ ท่อนไม้ที่เจ้ามัมมี่หมาติดอยู่ ถูกตั้งแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ Forest World การที่เจอเจ้าหมาตายอยู่ในโพรงไม้นั้นก็ไม่แปลกอะไรเท่าไหร่ แต่ที่แปลกจริงๆ ก็คือการที่มันกลายเป็นมัมมี่เองตามธรรมชาติต่างหาก ตามปกติหากสิ่งมีชีวิตตายไปร่างกายของมันก็จะเริ่มเน่าเสีย แบคทีเรีย เชื้อราและแมลงก็จะตามกลิ่นนี้มาแล้วย่อยสลายร่างของมันตามวัฎจักรของธรรมชาติ ทว่าเจ้า Stuckie ไม่ได้เน่าสลายไปเช่นนั้นเนื่องจากมันติดอยู่ในตัวต้นไม้นั่นเอง ทางพิพิธภัณฑ์เขียนคำอธิบายถึงปรากฎการณ์นี้ไว้ว่า “ในขอนไม้ท่อนนี้เกิดปรากฎการณ์ปล่องควันไฟ…