Tag: facebook
-
10 โพสต์ฮาๆ จากเฟซบุ๊ก ที่ไม่รู้ว่าคนโพสต์ตั้งใจให้ตลกไหม แต่มันขำจนแทบกลิ้งเลยล่ะ
โซเชียลมีเดียมีให้เลือกใช้งานกันอย่างมากมายหลากหลาย ทั้งทวิตเตอร์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก จนบางครั้งก็ต้องตามกันจนไม่เป็นอันได้ทำอย่างอื่น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีอะไรก็มักจะนำไปโพสต์กันในโซเชียล ตั้งแต่ชีวิตประจำวัน เรื่องที่ไปพบ เรื่องความรัก หรือเรื่องตลกๆ โดยเฉพาะเรื่องสุดท้ายนั้นอาจจะช่วยให้คนอื่นๆ ยิ้มตามไปได้ด้วยไม่มากก็น้อย และในวันนี้ก็เป็นตาของโพสต์จากเฟซบุ๊กกันแล้ว ที่จะมานำรอยยิ้มสู่ผู้อ่าน เหมือนกับเรื่องตลกๆ เสียดสีสุดฮาเหล่านี้ ที่จะทำให้คุณยิ้มร่าได้ไม่ยากเลย เมื่อผู้ต่อต้านการฉีดวัคซีนพยายามหาแหล่งอ้างอิง เพื่อวิทยานิพนธ์อันตรายของวัคซีน “ทุกคนช่วยด้วย ฉันเริ่มต่อต้านการฉีดวัคซีนก็เลยว่าจะเขียนเกี่ยวกับอันตรายของวัคซีนในวิทยานิพนธ์เสียหน่อย แต่ก็หาแหล่งอ้างอิงทางวิชาการไม่ได้เลย ฉันว่าฉันหาไปทุกที่แล้วนะ ใครก็ได้ช่วยหางานวิจัยทางวิชาการที่สนับสนุนแนวคิดของฉันที” คอมเมนต์: “จะบอกว่าการที่คุณหางานวิจัยมาสนับสนุนไม่ได้มันก็น่าจะยืนยันแล้วนะว่า แนวคิดของคุณมันผิด” เมื่ออาจารย์จะล้างแค้นนักเรียนที่ไม่เคยมาเรียน ผมพร้อมแล้วที่จะพบกับนักเรียนที่ไม่เคยมาเรียนเลยตลอด 30 คาบในเทอมนี้ แต่ดันเมลมาขอคุยกับผมเรื่องเกรด บนโต๊ะ: นายมันไม่สมควรจะผ่าน แน่จริงก็ลองทำให้ผมเปลี่ยนใจดูสิ เมื่อชายคนหนึ่งทำเป็นอวดเก่งโดยอ้างเหตุแผ่นดินไหว “โทษทีนะทุกคน ที่แผ่นดินไหวเพราะผมขย่มสาวหนักไปนิด” “อย่างนี้นี่เอง… มิน่าล่ะข่าวเลยบอกว่าแผ่นดินมันไหวแค่ไม่กี่วิ” เมื่อหลานสาวเอาแต่บ่นไม่ยอมทำเรียงความ คุณย่าจึงออกโรง “ไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะสนุกกับการล้างจานขนาดนี้ ในตอนที่มีเรียงความ 2 ชิ้นต้องทำส่งในวันจันทร์” “และถ้าหลานไม่ทำเรียงความส่ง หลานก็สามารถล้างจานเป็นอาชีพได้เลยนะ ย่ารักหลานนะ” เมื่อคุณโพสต์ถามเรื่องลามกๆ…
-
งานที่แย่ที่สุดในบริษัทเฟซบุ๊ก “ผู้ตรวจสอบเนื้อหารุนแรง” เหมือนเครื่องจักรที่ไม่มีใครใส่ใจ
บนโลกอินเทอร์เน็ตอันไร้ขอบเขตใดๆ ผู้ใช้งานสามารถเลือกที่จะเสพสื่อต่างๆ ตามความชื่นชอบหรือความสนใจของตัวเองได้อย่างไร้ขีดจำกัด และด้วยความไร้ขอบเขตเหล่านี้ โลกอินเทอร์เน็ตจึงมีสภาพเป็นสีเทา ที่มีทั้งด้านดีและด้านไม่ดีอยู่ โดนเฉพาะบนเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์ค และเพื่อให้สังคมกลุ่มหนึ่งอยู่ภายใต้การควบคุม เนื้อหาที่ถูกเผยแพร่ออกมาจากบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ก็จะต้องผ่านผู้ดูแลตรวจสอบเสียก่อน เพื่อไม่ให้ความไม่จรรโลงใจไปกระทบกับจิตใจของผู้อื่นในวงกว้าง งานดังกล่าวก็คือ งานตรวจสอบเนื้อหาของผู้ดูแลระบบหลังบ้านของเฟซบุ๊ก โซเชียลมีเดียยักษ์ใหญ่ระดับโลก ที่มีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เพื่อคอยจัดการ ‘ตรวจสอบและลบ’ เนื้อหาที่ถูกแจ้งละเมิดเข้ามาทุกๆ วัน เป็นพันๆ เคส หนึ่งในผู้ดูแลทางด้านดังกล่าวนามว่า Laura เปิดเผยว่า งานดังกล่าวเป็นงานที่สำคัญที่สุด และแย่ที่สุดในเฟสบุ๊ก อีกทั้งยังไม่มีใครใส่ใจอะไรกับงานนี้เลย… เนื่องจากการทำงานของเธอจะต้องเจอกับ เนื้อหาที่ล่อแหลมและกระทบกระเทือนจิตใจ อย่างเช่น การตัดหัว สื่อลามกเด็ก การทารุณกรรมสัตว์ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผู้ตรวจสอบเนื้อหาจะต้องพบเจอทุกวัน จากการรายงานเข้ามาของผู้ใช้งานของเฟซบุ๊ก เธอเปิดเผยว่าตัวผู้ทำงานจะกลายมาเป็นเครื่องจักร ที่คอยทำการกดปุ่มถัดไป ปุ่มใช่หรือไม่ใช่ กระบวนการดังกล่าวจะวนลูปกลายมาเป็น กดถัดไป ตัดสินใจ และกดถัดไป ตัดสินใจ หลายต่อหลายครั้งภายในหนึ่งวัน สำหรับ…
-
เราจะไม่นกแล้ว!? Facebook เตรียมเพิ่มความสามารถใหม่ ให้คุณ “หาคู่” ได้ง่ายขึ้น
ดูเหมือนว่าตอนนี้ Facebook จะพยายามปรับเปลี่ยนตัวเองให้มีความสามารถรอบด้านมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่ตอนแรกเป็นเพียงเครือข่ายสังคมออนไลน์ ก็เริ่มปรับให้คอนเทนต์วิดีโอมีความสำคัญมากขึ้น ล่าสุดทาง Facebook เริ่มที่จะเพิ่มความสามารถใหม่อย่างการหาคู่เข้าไปด้วย!? สำหรับหนุ่มสาวที่ไม่ค่อยจะมีโอกาส ไม่มีเวลา หรือนกตลอด นี่อาจเป็นโอกาสของคุณ เพราะพวกเขาเตรียมเปิดความสามารถในการหาคู่ ให้คุณได้สร้างโปรไฟล์และข้อมูลต่างๆ ลงไปในหน้า Facebook ของตัวเอง และแน่นอนว่ามันจะแสดงให้เห็นเฉพาะคนที่ไม่ใช่เพื่อนของคุณเท่านั้น (อยากให้ใครเห็นก็ไป Unfriend เขาซะนะ) Facebook ได้เปรียบกว่าแอปฯ อื่นๆ ตรงที่มันมีข้อมูลแทบจะทุกอย่างในชีวิตของคุณอยู่แล้ว ทำให้การจับคู่กับคนอื่นๆ นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นและตรงกับสิ่งที่คุณต้องการ สิ่งที่คุณต้องทำก็เพียงแค่ตั้งค่ามันให้จับคู่กับคนที่คุณตั้งค่าเอาไว้เท่านั้น Facebook ได้ออกมาอธิบายว่า “การจับคู่ที่จะเกิดขึ้นจะอิงการแนะนำตามการตั้งค่าการเดตจากสิ่งที่มีเหมือนกันและมีเพื่อนร่วมกัน พวกเขาจะมีตัวเลือกในการค้นหาคนที่มีความสนใจเหมือนกันผ่าน กลุ่ม (Groups) หรือกิจกรรมต่างๆ (Events) ด้วย” การทำงานของความสามารถนี้ 1. ให้คุณได้เลือกสร้างโปรไฟล์ได้เพียงแค่ใส่ชื่อจริงของคุณ โปรไฟล์ของคุณจะไม่แสดงให้เพื่อนๆ ของคุณเห็น หรือคนที่ไม่ได้ใช้ความสามารถนี้ และมันจะไม่แสดงในนิวฟีด 2. คุณจะสามารถเรียกดูกิจกรรม (Events) ในเมืองของคุณ หรือกลุ่ม (Group)…
-
จากใบหน้า ‘Mark Zuckerberg’ ขณะเข้าพบวุฒิสภา ชาวเน็ตมือดีเลยทำมีมแซวกันใหญ่
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ มีคดีหนึ่งที่เป็นที่โด่งดังในต่างประเทศ คือมีการเปิดเผยว่าข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 80 ล้านบัญชีถูกล้วงออกไปใช้โดยบริษัทที่ปรึกษาทางการเมืองของอังกฤษ เพื่อเอื้อประโยชน์ต่อการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเมื่อสองปีก่อน และเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้มีผู้หลากหลายคนไม่พอใจ และทำให้คนดังหรือเจ้าของธุรกิจหลายรายเลือกที่จะลบเฟซบุ๊ก เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลกันมากมาย ส่วนในวันนี้ (วันที่ 10 เมษายน 2018 ตามเวลาท้องถิ่น) Mark Zuckerberg ได้เดินทางเข้าพบกับวุฒิสภาสหรัฐฯ เพื่อให้การเกี่ยวกับความผิดพลาดนี้ ซึ่งก็จบลงด้วยการที่เขากล่าวขอโทษเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกล้วงออกไป แต่ประเด็นครั้งนี้ก็คือ การแสดงออกภายในระหว่างการเข้าพบวุฒิสภาของตา Mark เพราะว่าสีหน้าและท่าทางของเขานั้นเหมือนกับหุ่นยนต์ไม่มีผิด ด้วยการแสดงออกที่เตะตาชาวเน็ตแบบนี้ จึงไม่พลาดที่พวกเขาจะนำภาพของ Mark Zuckerberg มาทำมุขหรือทำเป็นมีมแซวกันไปทั่วโลกออนไลน์ ตามรูปที่เราจะนำมาให้เพื่อนๆ ได้ชมในวันนี้ครับ 1. ปรับเปลี่ยนรอยยิ้มได้อย่างง่ายดาย 2. Zuckerberg รูปโปรไฟล์ vs Zuckerberg เมื่อเข้าพบวุฒิสภา 3. *จิบน้ำนิดหน่อย* ก่อนจะคิดว่ามนุษย์ก็ดื่มน้ำเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วนี่หว่า 4. วุฒิสภา:บอกเราเกี่ยวตัวเองที่พวกเราไม่รู้มาหน่อยสิ คุณ Zuckerberg Zuckerberg: ผมคือโมเดลรุ่น 255.03-5 บลาๆๆ ที่ถูกดีไซน์มาเพื่อสำรวจความอ่อนแอในรูปแบบของประชากรมนุษย์ วุฒิสภา:…
-
เฟซบุ๊กเตรียมออกฟีเจอร์ใหม่ Unsend ให้คุณลบข้อความได้ แม้จะส่งไปแล้วก็ตาม
คุณเคยไหม? ระหว่างที่แชตคุยกับอีกฝ่ายผ่านเฟซบุ๊ก อาจจะเป็นเพื่อน ครูบาอาจารย์ คนที่แอบชอบ หรือเจ้านาย คุณดันเผลอพิมพ์อะไรสักอย่างออกไป แล้วดันมารู้สึกเสียใจทีหลังว่า “ตูไม่น่ากดส่งไปเลยโว้ยยย!!” แม้จะมากดลบทีหลังก็ไม่ทันซะแล้ว และคุณก็ได้ทำลายความสัมพันธ์นั้นลงไปเป็นที่เรียบร้อย เรามีตัวอย่างสถานการณ์สมมติที่คนส่งข้อความอยากจะให้มีปุ่ม “ลบ” ณ เดี๋ยวนั้นเลย นี่ก็ด้วย แทบจะแทรกแผ่นดินหนี โอ๊ยยยยย กดลบทันไหม!! ถ้าคุณเคยเจ็บช้ำกับการส่งอะไรแบบนั้นออกไปล่ะก็ ตอนนี้คุณอาจจะรู้สึกดีขึ้นก็ได้ เพราะมีข่าวออกมาว่าตอนนี้ทาง Facebook กำลังเตรียมที่จะปล่อยฟีเจอร์ใหม่ ที่ช่วยให้คุณกดลบข้อความที่ส่งไปแล้วได้ ราวกับว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นเลย Facebook ได้ออกมาแถลงข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ว่าเตรียมที่จะเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่อย่างการกดลบข้อความที่ถูกส่งผ่านระบบข้อความ Messenger โดยฟีเจอร์ที่ว่านี้จะยังอยู่ในระหว่างการทดสอบและพัฒนา และจะพร้อมเปิดให้ใช้งานได้ในเดือนหน้านี้ ตัวแทนจาก Facebook ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง Business Insiders ว่า “เราได้มีการหารือเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้มาหลายครั้ง และผู้คนใช้ฟีเจอร์ Secret Message (การส่งข้อความลับ) ที่มีความสามารถในการลบข้อความโดยอัตโนมัติ ตอนนี้เราจะขยายขอบเขตในการลบข้อความออกไปอีก มันอาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยจนกว่ามันจะพร้อม” ในขณะเดียวกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ได้มีแหล่งข่าวกว่า 3…
-
ฤา Google จะเป็นผู้กุมความลับของคนทั้งโลก? ไปดูกันว่าพวกเขาได้ข้อมูลอะไรจากเราบ้าง?
ถ้าข่าวที่ว่ามีข้อมูลผู้ใช้ Facebook กว่า 50 ล้านชุดหลุดรั่วออกไปทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวลแล้วล่ะก็ เราอยากบอกว่านั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะไม่ว่าจะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือบริการไหนๆ พวกเขาก็มักจะคอยเก็บข้อมูลจากผู้ใช้ไปทั้งนั้น โดยเฉพาะเจ้าพ่อเสิร์ชเอนจินอย่าง Google ต้องบอกว่าข้อมูลที่พวกเขามีอยู่ในมือนั้นละเอียดยิบราวกับว่าเขาคือคนสนิทของเราคนนึง ที่คอยตามติดเฝ้าดูชีวิตคุณอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล (อย่างกับสตอล์กเกอร์) เราลองมาไล่เรียงไปเป็นข้อๆ เลยดีกว่าว่าพวกเขารู้อะไรเกี่ยวกับเราบ้าง? Google รู้ว่าคุณไปไหนมาบ้างในแต่ละวัน Google จะคอยเก็บข้อมูลทุกๆ ที่ที่คุณไป (ในกรณีที่คุณเปิดระบบ GPS) พวกเขาจะบันทึกทุกๆ ข้อมูลการใช้และรู้ว่าคุณเคยไปที่ไหนมาบ้าง ถ้าไม่เชื่อล่ะก็ ลองกดที่ลิงก์นี้ดูสิ google.com/maps/timeline แล้วคุณจะระลึกชาติได้ทันทีว่าเคยไปไหนมาบ้าง Google รู้ว่าคุณเคยค้นหาและลบอะไรบ้างในอินเตอร์เน็ต (ใช่ พวกหนังโป๊ก็ด้วย) Google เก็บข้อมูลการค้นหาบนอินเตอร์ทั้งบน PC รวมไปถึงอุปกรณ์พกพาต่างๆ และแม้ว่าคุณจะลบมันไปแล้วก็ตาม แต่พวกเขาก็ได้ข้อมูลก่อนจะลบไปแล้วเรียบร้อย ถ้าอยากรู้ว่าคุณเคยค้นหาหรือกดลิงก์อะไรบ้าง ลองเข้าไปเช็กที่ลิงก์นี้ดูนะ myactivity.google.com/myactivity Google จะมีโฆษณาที่ตรงกับตัวตนของคุณ Google จะสร้างโฆษณาที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับตัวตนหรือความชอบของคุณ ไม่ว่าจะเป็นถิ่นที่อยู่ เพศ อายุ กิจกรรมยามว่าง ความสนใจ ความสัมพันธ์บลาๆๆ ถ้าคุณอยากรู้ว่า Google คาดเดาสิ่งเหล่านี้ได้ยังไง ลองกดลิงก์นี้ไปเลย adssettings.google.com/authenticated…
-
เฟซบุ๊กยังโดนขโมยข้อมูลได้ นับประสาอะไรกับแอปออกกำลัง ความปลอดภัยอยู่ตรงไหน!?
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเราคงจะได้ข่าวเกี่ยวกับข้อมูลที่รั่วไหลของแอปโซเชียลชื่อดังอย่าง Facebook กันบ้างแล้วใช่ไหม ซึ่งในตอนที่ได้รับข่าวดังกล่าวหลายคนคงเชื่อว่าแม้แต่เฟซบุ๊กก็ยังไม่ปลอดภัยแล้วแอปอื่นๆ จะเป็นอย่างไร ซึ่งแน่นอนอนว่าแอปอื่นๆ ก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน แม้แต่แอปบันทึกสถิติการออกกำลังกายของผู้ใช้ก็เช่นกัน เพราะล่าสุดทาง Under Armour ผู้เป็นเจ้าของแอป MyFitnessPal แอปที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถบันทึกข้อมูลการออกกำลังกาย สารอาหารที่กินและอื่นๆ ไว้ได้ ตัวแอปดังกล่าวนั้นมียอดผู้ใช้งานอยู่ที่ 225 ล้านคน ซึ่งสถิติดังกล่าวเผยแพร่ผ่านโฆษกของทางบริษัทโดยตรง จนกระทั่งวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมาได้มีการประกาศว่าอาจจะมีการรั่วไหลของข้อมูลของผู้ใช้ในแอปดังกล่าวกว่า 150 ล้านคน ซึ่งข้อมูลที่อาจจะหลุดไปนั้นประกอบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และอื่นๆ แต่ไม่ใช่ข้อมูลด้านการเงินอย่างรหัสบัตรเครดิต หรือรหัสบัตรประจำตัว ซึ่งแม้จะเป็นเพียงแอปออกกำลังและไม่ได้ถูกเจาะข้อมูลการเงินและส่วนตัวแบบตรงๆ แต่การที่ข้อมูลสามารถรั่วไหลออกไปได้นั้นก็สร้างความไม่ไว้วางใจในตัวแอปให้กับผู้ใช้ได้เช่นกัน นั่นจึงทำให้ทาง Under Armour กำลังร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจสอบว่า สามารถการรั่วไหลข้อมูลนั้นเกิดได้อย่างไร และใครเป็นคนเก็บข้อมูลทั้งหมดไป ซึ่งทางบริษัทก็ได้แนะนำให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนรหัสผ่านให้ไวที่สุดเพื่อความปลอดภัยขั้นต้น ที่มา theverge, buzzfeed
-
บอกให้ลบก็ลบ… Elon Musk สุดชิล ไล่ลบเพจเฟซบุ๊กของตนเอง หลังจากที่ชาวเน็ตเรียกร้อง
เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้มีข่าวเกี่ยวกับทางเฟซบุ๊กที่ได้ทำการยุติบัญชีของ Cambridge Analytica บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลที่ทำงานด้านแคมเปญให้กับประธานาธิบดี Donald Trump แต่ไม่ได้ทำการลบข้อมูลที่แอบบันทึกไว้อย่างไม่ถูกต้อง นับเป็นจำนวนข้อมูลของผู้ใช้ทั้งสิ้นกว่า 10 ล้านราย (อ่านได้ที่นี่) ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีบัญชีเพจ SpaceX และ Tesla ของ Elon Musk ที่เขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเพจเฟซบุ๊กเหล่านั้นอยู่ จนกระทั่งมีคนกล่าวถึงมันในทวิตเตอร์ของเขา Elon Musk ก็ได้ตอบกลับแฮชแท็กที่มีการตั้งขึ้นมาว่า #deletefacebook กับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งนามว่า Brian Action และคำถามจากผู้ใช้ทวิตเตอร์อื่นๆ Brian: ได้เวลาแล้ว #deletefacebook Elon: เฟซบุ๊กอะไรหรอ? Ayşegül: นี่คุณล้อเล่นใช่ไหม บัญชีที่ถูกแอบบันทึกข้อมูลเหล่านั้นก็เป็นบัญชีของคุณนะ Elon: ผมพึ่งเคยเห็นมันครั้งแรก อันทางซ้ายเหมือนจะเป็นเพจทางการแฮะ เดี๋ยวจะลบให้ serdarsprofile: ลบเพจ SpaceX ถ้าคุณกล้าพอ Elon: ไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีเพจนี้ด้วย เดี๋ยวลบแน่นอน bryson: คุณจะลบเพจ…
-
มาร์คยอมรับต่อสื่อ ข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กรั่วไหลจริง พร้อมสัญญาจะปรับปรุงให้ดีขึ้น
หลังจากปัญหาเรื่องข้อมูลรั่วไหลกว่า 50 ล้านรายชื่อจนทำให้ทาง Facebook เกิดปัญหาตามมายกใหญ่ทั้งความปลอดภัยในข้อมูลของผู้ใช้ ความไว้ใจที่หายไป และการออกมาแสดงจุดยืนของ Mark Zuckerberg และแม้ว่าหลังจากเรื่องทั้งหมดจะเกิดขึ้นมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว สื่อมากมายก็ยังไม่เห็นวี่แววของ Mark เลยแม้แต่นิดเดียวจนกระทั่งล่าสุดเขาก็ได้เผยตัวต่อสื่อเป็นครั้งแรกนับจากเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น โดยเขาได้ออกมาขอโทษเกี่ยวกับปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นผ่านการให้สัมภาษณ์กับทาง CNN เมื่อคืนวันพุธที่ 21 มีนามคม 2018 ที่ผ่านมา จากการให้สัมภาษณ์ Mark ได้พูดว่า “ผมขอโทษจริงๆ สำหรับเรื่องข้อมูลรั่วไหลผ่านแบบสอบถามสถาบันวิจัย เคมบริดจ์ แอนาลิติกา แน่นอนว่ามันส่งผลกับเรื่องความเชื่อใจและเป็นเรื่องที่เราต้องรับผิดชอบในการดูแลข้อมูลของผู้ใช้ แต่เราทำไม่ได้ แน่นอนเราไม่สมควรได้รับโอกาสจะดูแลในจุดนั้น แต่เราจะหาทางรับมือมันให้ดีที่สุดต่อจากนี้” ปัญหาที่ว่านั้นได้ทำให้ข้อมูลผู้ใช้จำนวนมากรั่วไหลออกไปและถูกไปใช้ในการหาเสียงของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบันเมื่อปี 2016 นอกจากคำขอโทษของเขาแล้ว เขายังบอกอีกว่าเรื่องดังกล่าวมันถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ซึ่งเขาและทีมงานจะหาวิธีการแก้ไขให้ไวที่สุด Mark บอกว่าเขาได้วางแผนไว้แล้วว่าเขาและทีมงานจะพัฒนาระบบป้องกันตัวใหม่ให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เขายังบอกในบทสัมภาษณ์อีกว่า “ถ้าคุณมาถามผมตอนปี 2004 ตอนที่ผมกำลังก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาและถ้าผมรู้ว่ามันจะกลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผมที่ต้องรับผิดชอบป้องกันข้อมูลการเลือกตั้งต่อรัฐบาล ผมก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าผมจะต้องมาทำอะไรแบบนี้ใน 14 ปี ให้หลัง แต่อย่างไรก็ตาม พวกเรามาถึงจุดนี้แล้ว ฉะนั้นเราจะต้องมั่นใจว่าเราจะทำมันออกมาได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” …
-
เฟซบุ๊กล้มเลิกแบ่งหน้านิวฟีดเป็น 2 ส่วน หลังทดลองใช้ใน 6 ประเทศแล้วทุกคนไม่ปลื้ม!!
ย้อนกลับไปเมื่อหลายเดือนก่อน หลายคนคงจะจำได้ว่าทาง Facebook ได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะทำการแบ่งหน้านิวฟีดของเราออกมาเป็นสองส่วน ซึ่งจะแบ่งแยกนิวฟีดที่ได้รับการโปรโมตและไม่ได้รับการโปรโมตออกจากกัน ระบบดังกล่าวนั้นได้เปิดทดสอบใน 6 ประเทศที่ทาง Facebook เลือก และผลลัพธ์ที่ได้กลับมาจากแบบสอบถามก็พบว่า พวกเขาไม่ปลื้มกับระบบใหม่แม้แต่น้อย และนั่นก็ทำให้ทางบริษัทได้รับคำตอบสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว… “พวกคุณทั้งหมดได้ให้คำตอบแก่เราแล้ว และพวกเราก็ได้รู้ว่าผู้ใช้ไม่ต้องการให้แยกนิวฟีดออกเป็นสองส่วน” ด้วยเหตุนี้ทาง Adam Mosseri หัวหน้าฝ่ายที่ดูแลในส่วนของนิวฟีดก็ให้สัมภาษณ์ว่า “ในแบบสำรวจผู้ใช้ ส่วนใหญ่ล้วนตอบกลับมาว่าพวกเขารู้สึกไม่พอใจกับหน้านิวฟีดที่แยกออกจากกัน เพราะมันไม่ได้ทำให้รู้สึกเข้าถึงเพื่อนหรือครอบครัวของพวกเขาง่ายขึ้นอย่างที่เราเสนอ” การทดสอบระบบดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นที่ประเทศศรีลังกา, โบลิเวีย, สโลวาเกีย, เซอร์เบีย, กัวเตมาลาและกัมพูชา สุดท้ายแล้ว Adam ก็ได้บอกปิดท้ายว่า การแบ่งหน้านิวฟีดออกเป็นสองส่วนนั้นถือเป็นความล้มเหลว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่ได้อะไรกลับมาเลย เพราะว่าจากแบบสอบถามมันทำให้เขารู้ว่า ผู้ใช้นั้นสนใจที่จะเข้าถึงเพื่อนและครอบครัวมากกว่าการเข้าถึงข่าวสาร ฉะนั้นเขาจึงจะหาแนวทางที่พัฒนาให้ระบบนิวฟีดดีขึ้นและตรงตามความต้องการในอนาคต ที่มา gizmodo
-
จากการที่ Kylie บอกจะเลิกเล่นสแนปแชท ส่งผลให้เฟซบุ๊กได้กำไรเพิ่มขึ้น 4 แสนล้านบาท!!
การที่คนๆ หนึ่งซึ่งมีที่มีอิทธิพลมาก ได้พูดแค่ประโยคเดียว ถึงแม้จะเป็นประโยคสั้นๆ ก็ตาม แต่มันสามารถทำให้ความมั่นคงของธุรกิจบางรายถึงกับสั่นคลอนได้เลย เหมือนอย่างที่ Kylie Jenner ได้ทำ เธอได้ทวีตข้อความสั้นๆ ที่บอกเชิงว่าจะเลิกเล่นโปรแกรมแชตสุดฮิตอย่าง Snapchat แล้ว เพียงเท่านั้นแหละ วันต่อมาหุ้นของ Snapchat ได้ตกมาถึง 7.2 เปอร์เซ็นต์ตีเป็นมูลค่าทางการตลาดกว่า 40,000 ล้านบาท ปกติแล้ว Kylie เธอเป็นคนที่มักจะใช้ Snapchat โพสต์ภาพและวิดีโอว่าเธอทำอะไรอยู่ อยู่ที่ไหน หรือใช้โฆษณาแบรนด์เครื่องสำอางของเธอเป็นประจำ และเมื่อไม่นานมานี้ Snapchat ได้มีการอัปเดตครั้งใหม่ ซึ่งทำเอาหลายๆ คนรู้สึกผิดหวังกับการอัปเดตครั้งนี้มากพาลเอาเลิกเล่นกันไปหลายคน และหนึ่งในนั้นก็รวมถึง Kylie ด้วย เธอทวีตข้อความว่า “มีใครอีกมั้ยที่ไม่ได้เล่น Snapchat อีกแล้ว หรือมีแค่ฉันคนเดียวกันเนี่ย… น่าเศร้าจัง “ “ยังคงรักเธออยู่นะ Snapchat เธอเป็นรักแรกเลย” หลังจากที่เธอทวีตสองข้อความนี้ออกมา วันต่อมามูลค่าการตลาดของ Snapchat…
-
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมเฟซบุ๊กถึงรู้ไปซะทุกเรื่อง!? นี่คือระบบกลไกการทำงานของมัน!!
นี่คือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับตัวคุณ เมื่อคุณกำลังพูดคุยถึงสิ่งของที่คุณอยากได้มาใช้ในบ้าน และหลังจากนั้นสิ่งของสิ่งนั้นก็ได้ปรากฏอยู่ในแถบโฆษณาบนเฟซบุ๊กในเวลาถัดมา ความรู้สึกแบบนี้แทบจะเหมือนกับการที่เรากำลังถูกสอดส่องพฤติกรรมโดยโซเชียลเน็ตเวิร์กผ่านโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ของคุณเอง แต่โชคดีที่นั่นไม่ใช่ประเด็น เทคโนโลยีในการโฆษณากลุ่มเป้าหมายของเฟซบุ๊กนั้นได้ล้ำหน้าอย่างเหลือเชื่อ โดยการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงสิ่งที่เราต้องการหรือว่าสนใจจนทำให้เรารู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกดักฟังการสนทนาอยู่ และเทคโนโลยีสุดล้ำของเฟซบุ๊กที่กล่าวถึงก็คือ Facebook Pixel Facebook Pixel เป็นโค้ดหรือระบบติดตามซึ่งจะติดตั้งอยู่แทบจะทุกเว็บไซต์ โดยระบบนี้จะติดตามและศึกษาพฤติกรรมจากการโพสต์และการค้นหาบนเว็บไซต์ ถ้าหากคุณกำลังค้นหาวงดนตรีวงโปรดของคุณ ไม่ต้องแปลกใจเลยถ้าโฆษณาทัวร์คอนเสิร์ตของวงนั้นจะขึ้นมาให้เราเห็น สิ่งที่หลายคนยังไม่รู้ก็คือการที่เฟซบุ๊กนั้นก็ยังคงสอดส่องพฤติกรรมของเรา แม้ว่าเราจะไม่ได้ใช้งานมันอยู่ก็ตาม เนื่องจาก Facebook Pixel ที่ถูกติดตั้งลงบนเว็บไซต์นับล้าน ทำให้ระบบของมันสามารถคำนวณเวลาที่เราใช้ไปกับเว็บไซต์ดังกล่าว และประมวลผลข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งานออกมา ทำให้โฆษณาที่โผล่ขึ้นมาเหล่านั้นจะเฉพาะเจาะจงมากๆ การใช้ประโยชน์จากการรวบรวมข้อมูลบุคคลที่สามทำให้โฆษณาบนเฟซบุ๊กแม่นยำขึ้น เฟซบุ๊กยังสอดส่องตำแหน่งของคุณจากการเช็กอิน ข้อมูลละติจูด ลองติจูดจากการใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถบอกตำแหน่งของคุณได้ เพื่อคำนวณหาโฆษณาที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น หากเราไปเที่ยวต่างจังหวัด เราก็จะเห็นโฆษณาของธุรกิจหรือโฆษณาอื่นๆ ในจังหวัดนั้น และระบบนี้ยังสามารถทำงานได้ในขนาดพื้นที่ที่เล็กลงมาอีกได้ หากเราเช็กอินในห้องสรรพสินค้า ก็อาจจะขึ้นเป็นโฆษณาสินค้าที่กำลังวางขายอยู่ในห้างฯนั้น ข้อมูลดังกล่าวที่ถูกรวบรวมถือว่าเป็นประโยชน์ต่อทางเฟซบุ๊กอย่างมาก จึงทำให้ทางบริษัทได้คิดค้นวิธีเก็บข้อมูลในขณะที่เราออฟไลน์เช่นกัน จากการสัมภาษณ์ผู้ที่ได้สืบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้พบว่าทางเฟซบุ๊กนั้นได้ซื้อข้อมูลจากองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ทำให้ทางบริษัทได้ข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ พฤติกรรมการใช้จ่าย หรือแม้กระทั่งแอปพลิเคชันร้านค้าที่เราไว้วางใจ ยิ่งเก็บรวบรวมข้อมูลได้มากเท่าไร ทางเฟซบุ๊กก็จะคำนวณเลือกโฆษณาให้เราได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น ถึงแม้ว่าการกระทำแบบนี้จากทางเฟซบุ๊กจะเหมือนกับการลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเฟซบุ๊กได้สอดแนมคุณจริงๆ การที่ระบบนั้นทำหน้าที่ได้ดี…
-
ย้อนอดีต 14 ปีแห่ง Facebook ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ หน้าตาเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน…!!?
สำหรับ Facebook ตอนนี้ก็ยังคงครองตำแหน่ง Social Network ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ และตอนนี้ก็มีอายุครบ 12 ปีแล้วล่ะ นับตั้งแต่ที่ Mark Zuckerberg ได้เขียนมันขึ้น ในหอพักนักศึกษามหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของเขาในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 2004 สมัยก่อน Facebook ไม่ได้ใช้ชื่อนี้ แต่เป็น TheFacebook.com (ดูแปลกๆ ใช่มั้ยล่ะ?) แต่สำหรับตอนนี้เราก็คงคุ้นเคยกับคำว่า facebook.com เฉยๆ โดเมนที่มีผู้ใช้งานราวๆ 1 พันล้านคนต่อวัน!!! วันนี้เหมียวก็อยากจะพาเพื่อนๆ ไปย้อนอดีตกันตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เริ่มก่อตั้ง Facebook ว่าหน้าโฮมเพจของพวกเขานั้น เป็นอย่างไรในแต่ละช่วง… ออริจินัลโฮมเพจของเฟซบุ๊คเป็นแบบนี้ (thefacebook) ในปี 2004 มีรูปเล็กๆ ของ Al Pacino อยู่มุมซ้ายบนด้วยล่ะ ในปี 2005 โฮมเพจได้ลิสต์ชื่อของเหล่าโรงเรียน-วิทยาลัยที่เข้าร่วม และแน่นอน รูปของ Al Pacino ในปี 2006…
-
เมนต์ยังไงให้ได้ปั๋ว.. สาวไปเมนต์ฮาๆ ในเฟซบุ๊กหนุ่ม อีกอาทิตย์นึงแต่งงานกันเฉย!!
เวลาเราจะไปตอบโพสต์บนโซเชียลมีเดียของผู้อื่น เราควรจะดูบริบทให้ดีว่าโพสต์นั้นจริงจังหรือว่าโพสต์เอาฮา ไม่งั้นอาจจะได้สามีแบบงงๆ เหมือนสาวคนนี้ที่ไปตอบโพสต์รับสมัครภรรยาในเฟสบุ๊กของเพื่อนแบบเอาฮา แต่หนุ่มกับเอาจริงจนได้แต่งงานกันเฉยเลย เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อหนุ่มไนจีเรีย Chidimma Amedu ตัดสินใจว่าเขาถึงวัยที่ควรจะแต่งงานสักที จึงได้ประกาศรับสมัครสาวมาแต่งงานด้วยอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 ธันวาคม 2017 แต่แทนที่เขาจะประกาศทางเว็บไซต์หาคู่ เขากลับโพสต์ประกาศลงในเฟสบุ๊กของตัวเอง โพสต์มีใจความว่า “ผมคิดว่าตัวเองถึงวัยที่ควรจะแต่งงานแล้ว ตอนนี้ผมไม่อยากเสียเวลารออีกต่อไป ถ้าใครสนใจกรุณาส่งข้อมูลส่วนตัวเข้ามาสมัครเป็นเจ้าสาวของผม ผู้ที่เหมาะสมที่สุดจะได้แต่งงานกับผมในวันที่ 6 มกราคม 2018 ปิดรับสมัครตอนเที่ยงคืนวันท่ี 31 ธันวาคม 2017 นี่ผมเอาจริงนะครับ ใครมาไม่ทันอย่าเสียดายล่ะ” รูปจากงานแต่งงานของ Chidimma Amedu และ Sophy Ijeoma สาวช่างแต่งหน้า Sophy Ijeoma ซึ่งเป็นเพื่อนกับเขาบนเฟซบุ๊กก็ผ่านมาเห็นพอดี เธอคิดว่าเขาคงจะโพสต์ตลกๆ ไปแบบนั้นแหละ จึงตอบคอมเมนต์ไปว่า “ฉันสนใจนะ ส่งข้อความมาคุยกันดูสิ 555” จริงๆ แล้วเธอกับเขาเป็นแค่เพื่อนบนเฟซบุ๊กกันเท่านั้น ไม่ได้สนิทชิดเชื้ออะไรกันเลย ชายหนุ่มรู้จักกับเธอตอนที่เธอไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวในงานแต่งงานของเพื่อนเขา แต่พอเห็นเธอมาโพสต์แบบนี้เขาก็สนใจในตัวเธอไม่น้อยเลย เขาตอบคอมเม้นต์เธอว่า “ผมพร้อมจะแต่งงานกับคุณกว่า 60 เปอร์เซ็นต์แล้วล่ะ” แล้วก็ตอบคอมเม้นต์ของเพื่อนอีกคนหนึ่งว่า “ตอนนี้ผมสนใจ Sophy Ijeoma อยู่” คอมเมนต์ในเฟซบุ๊กที่ฝ่ายสาวไปตอบโพสต์ของหนุ่ม…
-
เปิดราคาเสื้อยืด “พี่มาร์ค” เห็นเรียบๆ แต่ตัวเป็นหมื่น แถมมีให้คุณซื้อเวอร์ชั่นเกรดรองด้วย!!
หากจะพูดถึงเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คสุดฮิตในปัจจุบันอย่าง Facebook ชื่อของ Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์นี้มักจะโผล่เข้ามาในความคิดอยู่เสมอๆ ซึ่งเขาเป็นคนที่มีบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์และก็ได้ขึ้นชื่อว่าใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะคนหนึ่ง โดยภาพลักษณ์ที่เขามักจะออกมาสู่สาธารณะก็คือ เขาชอบที่จะแต่งตัวแบบเดิมๆ ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน โดยสิ่งที่กลายเป็นไอเทมประจำตัวเขาก็คือ เสื้อยืดสีเทา เสื้อคลุมสีน้ำเงิน กางเกงยีน และรองเท้ายี่ห้อไนกี้ แต่งตัวแบบสบายๆ เมื่อออกนอกบ้านเสมอ สำหรับเสื้อที่ Mark เลือกใส่นั้นแน่นอนว่าต้องไม่ใช่เสื้อแบบธรรมดาๆ อย่างแน่นอน โดยเขาได้สั่งตัดเป็นพิเศษกับแบรนด์ Brunello Cucinelli ซึ่งราคาต่อตัวนั้นอยู่ระหว่าง 300-400 ดอลลาร์ (9,800-13,000 บาท) เลยทีเดียว และเมื่อ 2-3 ปีก่อนแบรนด์ H&M ก็ได้ล้อเลียนเขาด้วยการทำคอลเลคชั่นที่ชื่อว่า “Zuckerberg Collection” ออกมาแต่ก็ได้ยุติการขายไปแล้วก่อนหน้านี้ หน้าตาเสื้อผ้าในตู้ของ Mark และนั่นได้ทำให้ Klaus Buchroithner CEO ของแบรนด์เสื้อผ้า Vresh ตัดสินใจศึกษารายละเอียดเสื้อสีเทาของ Mark อย่างใกล้ชิดเพื่อที่จะจำลองมันออกมาให้ใกล้เคียงกับของจริงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเขาได้ศึกษารายละเอียดของเสื้อทั้งในเรื่องของเนื้อผ้า สี และความยาวของเสื้อ ในตอนนี้เสื้อยืด “Zuckerberg” ก็ได้มีออกจำหน่ายแล้วในราคาเพียงแค่ 46 ดอลลาร์สหรัฐ(1,500 บาท)…
-
มนุษย์เมียรำคาญนิสัยของสามี สุดท้ายทนไม่ไหว ประกาศ “ขายปั๋ว” สุดฮาลงเฟซบุ๊ก
นับเป็นเรื่องธรรมดาที่สามีภรรยาจะเกิดพ่อแง่แม่งอนกันบ้าง เหมือนดังเช่นกรณีของ Teresa Turner และสามี เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2560 ทางเว็บไซต์ต่างประเทศมีรายงานว่า Teresa รู้สึกเซงกับนิสัยของ Rob ผู้เป็นสามีอย่างมาก เพราะเขานั้นมีนิสัยที่น่ารำคาญหลายๆ อย่าง จนในที่สุด เธอก็หมดความอดทน และเอาสามีไปลงประกาศขายลงเพจ Kings Lynn ในเฟสบุ๊คโดยระบุว่า… “ฉันมีสามีอายุ 33 ปี ที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากเขาทำให้ฉันมีอาการประสาทขึ้น ฉันไม่ต้องการเล้ยยยย และจะยกให้แบบฟรีๆ และเขาก็ได้รับการฝึกแล้ว ใช้ชีวิตในบ้านและเข้าห้องน้ำเองได้ด้วย” และภายหลังจากที่ Teresa ได้โพสต์ประกาศขายสามีของตัวเองลงในเฟสบุ๊คในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ต โดยเฉพาะสาวๆ เป็นอย่างมาก ซึ่งก็มีสาวๆ หลายคนได้เข้ามาแสดงความเห็นตอบรับมุกไปในทางเดียวกันว่า จะพาเขาออกมาจากเธอให้ได้ จากการรายงานระบุว่า Teresa ได้ตัดสินใจที่จะประกาศขายสามีลงบนโลกออนไลน์ เพราะว่าเธอรู้สึกรำคาญที่เขาเล่นวีดีโอซ้ำๆ ที่น่ารำคาญ และชวนให้โมโหในทุกๆ วัน นอกจากนี้ เขายังมีนิสัยแย่ๆ หลายๆ…
-
เฟซบุ๊กปิดระบบ ‘ปัญญาประดิษฐ์’ หลังจากพบว่าพวกมัน พยายามสร้างภาษาเป็นของตัวเอง!!
สำหรับใครที่ติดตามข่าวสารในแวดวงเทคโนโลยีกันอยู่ อาจจะได้ยินข่าวของการออกมางัดข้อกันระหว่างทีมของ Mark Zuckerberg และ Elon Musk ที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องของการพัฒนาระบบ AI (ปัญญาประดิษฐ์) ว่ามีข้อดีและข้อเสียอย่างไรต่อมวลมนุษยชาติ และในระหว่างที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังถกเถียงกันเรื่องของการพัฒนาระบบ AI ก็ได้มีเรื่องราวที่น่าสนใจเกิดขึ้น โดยเมื่อไม่นานมานี้ ทีมวิจัยของทางเฟซบุ๊กได้ปิดระบบ AI ของพวกเขา หลังจากที่พบว่าพวกมันกำลังพยายามสร้างภาษาของตัวเอง!! จากการรายงานของวารสาร Digital Journal บอกว่า ระบบดังกล่าวได้พยายามพัฒนาภาษาของพวกมันเอง โดยทีมวิจัยได้ทำการปิดระบบของปัญญาประดิษฐ์ หลังจากที่พวกเขาพบว่าระบบเริ่มไม่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกัน โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงต้นเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ภาษาใหม่ที่พวกมันสร้างขึ้นมานั้นไม่มีความหมายสำหรับมนุษย์ แต่มีแค่ AI ด้วยกันเท่านั้นที่จะเข้าใจ โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ 2 ตัวของเฟซบุ๊กที่ชื่อ Bob และ Alice ได้พยายามสร้างภาษาใหม่เพื่อโต้ตอบกัน Bob เริ่มพูดว่า “I can i i everything else” จากนั้น Alice จึงตอบกลับมาว่า “Balls have zero to…
-
ช่างภาพใช้เวลา 5 ปี เดินทางรอบโลก เพื่อถ่ายรูปกับเพื่อนใน Facebook ทั้งหมดของเธอ
ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทุกวันนี้การส่อง Facebook ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตประจำวันของใครหลายๆ คนไปแล้ว นอกจากข่าวสารต่างๆ บนหน้านิวส์ฟีดแล้วยังมีเรื่องราวของเพื่อนๆ ในสังคมออนไลน์ให้เราได้ติดตามความเคลื่อนไหวของแต่ละคนด้วย แต่เราเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าใน Facebook นั้น เป็นเพื่อนจริงๆ ของเราซักกี่คนกัน!? คุณ Tanja Hollander ศิลปินท่านหนึ่งก็เกิดความสงสัยนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นเธอจึงลงมือหาคำตอบนี้ด้วยตัวเธอเอง… ช่างภาพสาวจากรัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา จึงได้ตัดสินใจที่จะออกไปพบปะกับเพื่อนใน Facebook ทั้ง 626 คนของเธอเพื่อพูดคุยและถ่ายภาพกับพวกเขาจริงๆ หญิงสาวใช้เวลาถึง 5 ปีในโปรเจคที่ใช้ชื่อว่า “Are You Really My Friend?” หลังจากที่เธอได้ติดต่อพูดคุยกับเพื่อนๆ ในสังคมออนไลน์แล้ว หญิงสาวเริ่มออกไปพบปะกับพวกเขาตั้งแต่เมื่อช่วงสิ้นปี 2010 โปรเจคดังกล่าวเริ่มต้นจากความสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเธอและบุคคลเหล่านี้ และเธอก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่ามันจะเป็นอย่างไรถ้าหากเพื่อนใน Facebook ได้กลายมาเป็นเพื่อนจริงๆ กับเธอ… โปรเจค “Are You Really My Friend?” ของเธอนั้นค่อนข้างจะตรงไปตรงมา หญิงสาวออกเดินทางไปพบกับเพื่อนทั้ง 626 คนของเธอ ศิลปินสาวใช้เวลากับพวกเขาและถ่ายรูปชีวิตประจำวันสำหรับโปรเจคของเธอ Tanja Hollander ใช้เวลาในการไปหาเพื่อนๆ…
-
สื่อนอกเผยข้อมูล Facebook กำลังใช้ไมค์สมาร์ทโฟนของเรา เพื่อแอบฟังพวกเราอยู่!!
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเฟซบุ๊กนั้นมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างมาก หลายๆ คนใช้เวลาส่วนมากไปปกับการเชคความเคลื่อนไหวต่างๆ ผ่านหน้านิวส์ฟีด และล่าสุดตอนนี้เฟซบุ๊กได้พัฒนาไปอีกขึ้นแล้ว โดยทางผู้ให้บริการได้ออกมาเปิดเผยว่าพวกเขานั้นสามารถที่จะได้ยินการพูดคุยของพวกเราได้ด้วย!! ทางเฟซบุ๊กได้ออกมาเปิดเผยเรื่องนี้ว่า ในตัวแอพนั้นจะสามารถที่จะได้ยินเสียงรอบๆ โทรศัพท์มือถือของคุณเพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยบันทึกความสนใจของคุณ โดยฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นได้เปิดใช้งานเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณ Kelli Burns ศาสตราจารย์จากคณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัย South Florida ได้เกิดความสงสัยถึงการทำงานของฟีเจอร์นี้ เธอรู้สึกว่าทางเฟซบุ๊กได้ยินสิ่งที่เธอพูดหลังจากที่ทดสอบโดยการพูดหัวข้อต่างๆ โดยที่มีโทรศัพท์ของเธอวางไว้ใกล้ๆ และหลังจากนั้นเธอก็เห็นโฆษณาต่างๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เธอพูดปรากฎอยู่หน้านิวส์ฟีด ทางเฟสบุ๊กได้ออกมายอมรับเกี่ยวกับเรื่องนี้ พวกเขาบอกว่าเขานั้นได้ยินเสียงของผู้ใช้งานและเก็บข้อมูลการเข้าดูสิ่งต่างๆ จริง แต่ว่าทั้ง 2 อย่างนี้ไม่ได้ถูกนำไปประมวลผลร่วมกัน และเสียงที่อยู่รอบๆ ตัวผู้ใช้นั้นไม่ได้ถูกนำมาวิเคราะห์ถึงสิ่งที่จะแสดงหน้านิวส์ฟีดด้วย “ทางเราไม่ได้ใช้ไมโครโฟนในเก็บข้อมูลเพื่อเลือกโฆษณาให้ปรากฏหน้านิวฟิดแต่อย่างใด การโฆษณาบนหน้านิวฟีดมาจากความสนใจต่างๆ แต่ไม่ได้มาจากข้อมูลของเสียง” โฆษกของทางเฟซบุ๊กบอกกับเว็บไซต์ Independent อย่างไรก็ตามตอนนี้ฟังก์ชั่นการได้ยินเสียงของเฟซบุ๊กนี้ยังเปิดใช้แค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น โดยพวกเขาได้ออกมายืนยันว่านี่การได้ยินเสียงนั้น เป็นเพียงตัวช่วยที่จะบอกว่ามีสิ่งใดกำลังเกิดขึ้นรอบๆ โทรศัพท์บ้าง และมันจะบอกว่าตอนนี้เรากำลังดูหรือฟังอะไรอยู่ ซึ่งจะทำให้โพสต์เรื่องราวต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้จะเริ่มต้นเมื่อเวลาที่เราต้องจะโพสต์ข้อความใดๆ ก็ตาม ถ้าหากรอบๆ นั้นมีเสียงหรือสิ่งที่เรากำลังดูอยู่ ทางแอปพลิเคชั่นจะแจ้งเตือนให้คุณทราบ และคุณสามารถเลือกที่จะแชร์สิ่งที่คุณกำลังฟังหรือดูอยู่ได้ทันที นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถที่จะเลือกเปิดหรือปิดฟังก์ชั่นนี้ได้ด้วยตัวเอง แหม่… ถึงทางผู้ให้บริการจะออกมายืนยันว่าไม่มีการบันทึกเสียงไว้…
-
เผยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Yale หากใช้ Facebook มากเกินไป อาจทำให้ความสุขลดลง
คงเป็นเรื่องยากที่จะปฏิเสธว่าทุกวันนี้เรามีความสุขดีกับการใช้ Facebook ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะออกไปที่ไหนหรือทำอะไรพอไม่ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คหน้านิวส์ฟีดแล้วมันรู้สึกโหวงๆ แปลกๆ ไม่สบายใจเลย ซึ่งจากงานวิจัยชิ้นล่าสุดจากมหาวิทยาลัย Yale University และมหาวิทยาลัย University of California ได้ข้อสรุปออกมาว่าการใช้งาน Facebook มากเกินไปจะทำให้สุขภาพทางจิตใจถดถอยและความสุขลดน้อยลงไปด้วย การศึกษาในครั้งนี้ทำโดยการติดตามนิสัยการใช้ Facebook ของผู้คนมากกว่า 5,000 คนอย่างใกล้ชิดเป็นระยะเวลานานกว่า 2 ปี พร้อมกับทำการตรวจเช็คสุขภาพและระดับความสุขของพวกเขาเป็นระยะๆ ผลที่ได้ก็พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊คเป็นจำนวนมากกว่า 5-8% ที่มีความพึงพอใจในชีวิต และสุขภาพทางจิตใจที่น้อยกว่า “เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากกับการวิจัยนี้ ที่นักวิจัยจะได้ตามติดและสามารถเข้าถึงข้อมูลเฟซบุ๊คของเหล่าผู้เข้าร่วมตลอดระยะเวลา 2 ปี ทำให้เราสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกเศร้าใจ มีสุขภาพแย่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่ใช้เฟซบุ๊คมากกว่า” ทางด้าน Nicholas Christakis หนึ่งในทีมงานนักวิจัยจาก Human Nature Lab สังกัดมหาวิทยาลัย Yale University ได้บอกถึงกุญแจสำคัญในการสร้างความพึงพอใจในชีวิตและสุขภาพจิต ซึ่งมันสามารถทำได้โดยการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ผ่านทางออนไลน์ หรือจะให้ดีที่สุดก็คือการออกไปพบปะซึ่งหน้ากันและกัน ที่มา : 9to5mac
-
Mark Zuckerberg เข้ารับปริญญา Harvard หลังลาออกมา 13 ปี พร้อมฝากข้อคิดอันล้ำค่าให้ทุกคน..
ในปัจจุบันไม่มีใครไม่รู้จัก Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook เว็บไซต์ Social Media ที่โด่งดังหลังจากที่เขาลาออกจากมหาวิทยาลัย Harvard เพื่อเริ่มต้นบริษัท หลังจาก 13 ปีที่ยาวนาน มหาวิทยาลัย Havard ก็ได้มอบปริญญากิตติมศักดิ์แก่เขา Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook Mark Zuckerberg ผู้ก่อตั้ง Facebook กล่าวสุนทรพจน์ให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาเพื่อเป็นแรงบันดาลใจต่อคนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงและการต่อสู้เพื่อความเสมอภาค CEO หนุ่มวัย 33 ได้กล่าวว่า “การเปลี่ยนแปลงนั้นเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ เสมอ มันขึ้นอยู่กับพวกเราว่าเราสามารถต่อสู้เพื่อเปลี่ยนแปลงความไม่เท่าเทียมกันในปัจจุบันได้หรือไม่” Mark ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์แก่ผู้จบการศึกษา ตอนนี้ Mark ถือเป็นบุคคลที่ได้กล่าวสุนทรพจน์ในวันสำเร็จการศึกษาที่ “อายุน้อยที่สุด” ในมหาวิทยาลัย Harvard เขาเริ่มต้นสุนทรพจน์ของเขาด้วยเรื่องชีวิตในวัยเรียนของเขา นอกจากปริญญากิตติมศักดิ์แล้ว ยังเป็นผู้กล่าวสุนทรพจน์ที่อายุน้อยที่สุดของ Harvard อยู่ด้วย Mark ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ Facebook ที่เริ่มต้นมาจากเว็บไซต์…
-
ภาพถ่ายน่ารักๆ ของ 3 หนูน้อย กลับมาถ่ายภาพร่วมกันอีกครั้ง หลังจากที่หายจากโรคมะเร็ง
ย้อนเวลากลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2557 ช่างภาพนามว่า Lora Scantling ได้บันทึกภาพของเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆ 3 คนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง แต่หลังจากนั้นอีก 3 ปีต่อมา พวกเธอได้เติบโตขึ้น แถมยังได้มารวมตัวกันเพื่อถ่ายภาพเซตใหม่อีกครั้ง ซึ่งต้องบอกเลยว่าหนูน้อยทั้ง 3 ดูแข็งแรง และมีสุขภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย สำหรับ Lora เธอมีคุณพ่อที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็งปอด ดังนั้น เธอจึงได้ตัดสินใจเพื่อทำอะไรบางอย่าง และนั่นก็ทำให้เธอได้คิดว่าอยากจะถ่ายภาพของเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เพราะเพื่อนของเธอได้สูญเสียลูกชายที่เป็นมะเร็งไปก่อนหน้านี้ “ฉันโพสต์ได้ข้อความลงบน Facebook เพื่อหาสาวน้อยที่กำลังต่อสู้กับโรคมะเร็ง และมันจึงเกิดเป็นภาพเหล่านี้” Lora กล่าว และนี่คือภาพของ Rylie อายุ 3 ขวบ Rheann วัย 6 ขวบ และ Ainsley อายุ 4 ขวบ โดยเด็กๆ ทั้งสามไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีเหมือนกันนั้นก็คือ พวกเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งนั่นเอง Lora ได้เริ่มถ่ายภาพของเด็กๆ…
-
แนะนำวิธีการลบตัวตนของคุณ ให้หายออกจากโลกของ “Facebook” ไปตลอดกาล…
ต้องยอมรับเลยว่าในปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์อย่าง “Facebook” ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์อย่างเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นการรับชมข่าวสาร ความบันเทิงต่างๆ รวมถึงเป็นสื่อกลางในการพูดคุยติดต่อกับเพื่อนฝูง และครอบครัว แม้ว่า Facebook จะมีประโยชน์มากมาย แต่ในขณะเดียวกันบางคนก็ถึงขั้นเสพติด Facebook เอามากๆ ถึงขั้นต้องเปิดเข้าไปดู Newsfeed อยู่ตลอดเวลา และนั่นก็อาจจะส่งผลให้การทำงาน หรือการใช้ชีวิตของเราช้าลงไปด้วย เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2560 ที่ผ่านมา ทางเว็บไซต์ Telegraph มีรานงานว่า ทางนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในวินเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเผยว่า การเล่น Facebook ก็เหมือน “ติดยาเสพติด” โดยพวกเขาได้ทดลองการหยุดใช้บัญชีเฟสบุ๊คของตัวเองเป็นเวลานานกว่า 4 สัปดาห์ และนั่นก็ทำให้รู้ว่า เมื่อไม่ได้เล่นเฟสบุ๊คมันทำให้รู้สึกเหมือนกับได้แยกออกจากเพื่อน ครอบครัว และเหมือนกำลังถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอก และถ้าหากคุณรู้สึกว่าการเล่นเฟสบุ๊คนั้นทำให้เราเสียเวลาในการทำอะไรหลายๆ อย่าง คุณสามารถกำจัดบัญชีผู้ใช้ของคุณได้ โดยมี 2 ตัวเลือก คือ คุณสามารถยกเลิกการใช้งาน Facebook ของคุณแบบชั่วคราว…
-
แม่เบื่อลูกชายว่าง วันๆ ไม่ทำอะไรเลย ประกาศผ่านเฟซบุ๊ก ‘ใครก็ได้ เอามันไปทำงานที’
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2560 ทางสำนักข่าวต่างประเทศมีรายงานว่า Donna Cooper คุณแม่จาก Hornsea, East Yorkshire ประเทศอังกฤษ สุดจะทน โพสต์ข้อความประกาศมอบลูกชายให้ไปทำงานด้วยแบบฟรีๆ โดยไม่ต้องให้เงิน เหตุเพราะเบื่อนิสัยลูกชายที่วันๆ มัวแต่เล่นเกม ทางด้านคุณแม่ Donna ได้ออกมาเผยว่า เธอเบื่อนิสัยของลูกชายมากๆ เพราะวันๆ เขามัวแต่นั่งอยู่รอบๆ บ้าน หลังจากที่ถูกทางโรงเรียนกำจัดช่วงเวลาเรียน เพราะพฤติกรรมของเขาเอง ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้เขียนข้อความประกาศลงในเฟสบุ๊คว่า “นี่คือ Nick Cooper ลูกชายวัย 16 ปี เขาถูกทางโรงเรียนจำกัดเวลาเรียน เพราะพฤติกรรมของเขา เวลาที่เขาอยู่นอกโรงเรียนเขาเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย แต่ดูเหมือนทางโรงเรียนจะไม่คิดแบบนั้น ซึ่งเขาจะได้ไปโรงเรียนเพียงแค่วันจันทร์ และวันอังคาร ดังนั้น นี่คือการจัดการที่ดี และเป็นเหตุผลสำหรับการโพสต์นี้ ฉันเป็นแม่ และต้องทำงานหนัก ฉันจึงไม่ชอบให้ลูกอยู่แต่ในบ้านเวลาที่ฉันออกไปทำงาน ดังนั้น หากใครมีงานให้เขาทำ ไม่ว่าจะเป็นงานในฟาร์ม หรืองานหนักๆ อะไรก็ได้ เอาไปทำงานให้ฟรีๆ เลย”…
-
พนักงานวัย 22 พาคุณตาออกเดทในรอบ 55 ปี หลังรู้ว่าเขาใช้ชีวิตส่วนใหญ่อย่างโดดเดี่ยว…
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 ทางเว็บไซต์ Thesun ได้เผยเรื่องราวของ Edwin Holmes อดีตจิตรกรและมัณฑนากร ในวัย 86 ปี ที่ถูกเชิญให้ไปรับประทานอาหารค่ำ กับพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ต Sainsbury หลังจากที่ได้ยินว่าเขาไม่มีเพื่อนสนิท หรือครอบครัวเลย เมื่อได้รับคำชวนจาก Ellie Walker พนักงานสาวในวัย 22 ปี คุณตา Edwin ก็ได้ตัดสินใจที่จะไปรับประทานอาหารค่ำร่วมกับเธอ โดยในวันนั้น เขาได้สวมชุดสูทที่ดีที่สุด พร้อมกับนำช่อดอกไม้มามอบให้ Ellie อีกด้วย “คุณตา Edwin บอกว่านี่เป็นครั้งแรกในรอบ 55 ปี และเขาก็เป็นโรคเส้นประสาทมาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กนักเรียน นั่นก็ทำให้ฉันร้องไห้ออกมา เพราะฉันรู้ทันทีว่ามันมีความหมายสำหรับเขามาก และสำหรับฉันมันเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่ฉันจะได้พูดคุย และได้ดูแลลูกค้า” Ellie กล่าว สำหรับ Ellie เธอได้เข้ามาทำงานในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้มาเป็นเวลานานกว่า 3 ปีแล้ว ที่ผ่านมาเธอมักจะเห็นคุณตา Edwin เข้าไปซื้อของอยู่บ่อยๆ และมักจะชอบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่…
-
ปัดโถ่!! สื่อนอกเผยสหรัฐอาจขอดู “รหัสผ่าน” โซเชียลมีเดียของคุณ ประกอบการขอวีซ่า
กลายเป็นเรื่องให้ถกเถียงกันในโลกออนไลน์ทั้งในไทยและต่างประเทศเลย สำหรับข่าวต่างประเทศที่บอกว่าตอนนี้สหรัฐอาจจะมีมาตรการใหม่ในการป้องกันอันตรายจากต่างประเทศ โดยการของดูรหัสผ่านโซเชียลมีเดียของคุณ!? เรื่องนี้ถูกเปิดเผยผ่านสำนักข่าว NBC เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธุ์ที่ผ่านมา โดยบอกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ John Kelly ได้กล่าวในขณะประชุมคณะกรรมาธิการ ว่าหลังจากนี้ไปหากชาวต่างชาติคนไหนจะยื่นวีซ่าเพื่อเดินทางเข้าสหรัฐ จะต้องกรอกรหัสผ่าน Facebook, Twitter, Youtube, Line และอีกมากมาย เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบประวัติต่างๆ นาย Kelly กล่าวว่า “เราต้องการเข้าถึงโซเชียลมีเดียของพวกเขาด้วยรหัสผ่าน พวกคุณทำอะไร? พวกคุณคุยเรื่องอะไนกัน? ถ้าพวกเขาไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่ต้องให้พวกเขาเข้าประเทศมา” ซึ่งมาตรการนี้เป็นแนวคิดที่ต่อยอดมาจากคำสั่งของประธานาธิบ Donald Trump ที่ต้องการกีดกันผู้อพยพจาก 7 ประเทศมุสลิมได้แก่ โซมาเลีย, ซูดาน, เยเมน, ลิเบีย, อิรัก, อิหร่านและซีเรีย ไม่ให้เข้าประเทศ เพราะเกรงว่าจะเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงความคิดที่ยังอยู่ในการพิจารณาเบื้องต้นเท่านั้น และยังคงต้องมีการหารือกันเพื่อความเหมาะสมก่อนจะมีการตัดสินใจใดๆ ก็ตาม แต่มีการคาดการณ์กันว่าหลังจากนี้ไป การตรวจคนเข้าเมืองจะเป็นเรื่องที่เข้มงวดขึ้นกว่าที่ผ่านมาอย่างแน่นอน นี่ไม่ใช่ความคิดใหม่เสียทีเดียว เพราะหาก ย้อนกลับไปในปี 2015 ในสมัยที่รัฐบาลสหรัฐยังคงอยู่ในความดูแลของประธานาธิปดี…
-
สาวผิวน้ำผึ้งแชร์ประสบการณ์ จากคนขายน้ำมะพร้าวข้างทาง จนกลายเป็นนางแบบระดับอินเตอร์
นี่เป็นเรื่องราวที่ทำเอา#เหมียวฟิ้นถึงกับต้องหยุดอ่านอยู่นานทีเดียว แล้วเมื่ออ่านจบก็ถึงกับทึ่งในชีวิตของคนๆ หนึ่ง ที่เติบโตจากคนธรรมดาๆ จนสามารถทำตามฝันได้สำเร็จ เรื่องราวที่เราจะเล่าต่อไปนี้เป็นของคุณโอปอล พิไลวรรณ พิมพ์ภูลาด วัย 22 ปี เธอได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก Pili Opal เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเธอได้เล่าเรื่องราวของตัวเองตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เริ่มทำงานหาเงินด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสต๊าฟขายตั๋วหรืองานขายมะพร้าวข้างถนนเธอก็ผ่านมาแล้ว เนื่องจากเธอเป็นคนผิวสีน้ำผึ้ง ทำให้หน้าตาของเธอไม่ได้โดดเด่นกว่าคนอื่นๆ เท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่ได้ย่อท้อและยังฝันเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งเธอจะเป็นนางแบบให้ได้ เมื่อเธอโตขึ้นเธอก็ได้พบกับโมเดลลิ่งและคนในวงการเดินแบบ ทำให้เธอเริ่มออกเดินตามฝันในการเป็นนางแบบ คุณโอปอลเล่าให้#เหมียวฟิ้นฟังว่าในสมัยก่อน เธอได้รับการตำหนิและการดูถูกจากคนรอบข้างของเธอมากมาย “เคยมีคนแนะนำให้ทำดั้งแล้วก็แนะนำให้ใช้ครีมหน้าขาวหน้าเกือบแพ้ เพราะเราดำกร้านแดดมาก แต่ทาทีไรมันก็ไม่ขาวเพราะเราเปนคนผิวเหลืองไง” คุณโอปอลกล่าว จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้มีผลงานถ่ายแบบชิ้นแรกกับ Thiacatwalk และหลังจากนั้นเธอก็เริ่มเรียนรู้การโพสท่าและทักษะต่างๆ ในการเป็นนางแบบ คุณโอปอลเริ่มมีผลงานในต่างประเทศ ได้ขึ้นปกนิตยสาร และได้เดินแบบบนเวที Elle Fashion Week 2016 ไปจนถึงงานถ่ายแบบให้กับโฆษณาน้ำหอมของ David Beckham ก่อนจะทิ้งท้ายให้ทุกคนอย่าหยุดทำตามฝัน …
-
สาวตามหนุ่มที่เก็บมือถือตัวเองได้ เตรียมปลดล็อคเอาไปใช้เอง บอกหน้าตาเฉย “ลืมไว้ได้ไงอะ”
เทคโนโลยีสมัยนี้มันมีราคาแพงและหรูหราขึ้นเรื่อยๆ จนใครก็อยากที่จะเป็นเจ้าของมัน หากคุณลืมหรือทำมันหล่นหายที่ไหนล่ะก็ คงเป็นเรื่องยากมากที่จะได้คืน ยิ่งเป็น iPhone ด้วยยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย… เช่นเดียวกับเรื่องราวของพริตตี้สาว คุณปุ๋ย ณพิชญา น้อยทรง และน้องสาว ที่ออกไปเที่ยวที่เซ็นทรัลเมืองพัทยา แต่ดันลืมมือถือ iPhone6 ไว้ที่ตู้เกม เมื่อกลับไปดูก็ไม่พบร่องรอยอีกแล้ว พวกเธอจึงใช้แอพฯ Find My iPhone ออกตามหาสัญญาณมือถือว่าอยู่ที่ไหน จึงพบว่ามีคนเก็บไปได้แล้วขับรถวนอยู่ในตัวเมือง แม้จะโทรศัพท์ไปหาแต่คนที่เก็บได้กลับไม่ยอมรับสายและยังปิดเครื่องหนีไปดื้อๆ โชคดีที่เธอล็อคเครื่องไว้ทำให้ไม่สามารถปลดล็อคได้ง่ายๆ หลังจากที่ออกตามหาตัวกันมานานเกือบชั่วโมง พวกเธอก็ตามจนเจอคนที่เก็บได้บริเวณร้านซ่อมมือถือและพบว่าเป็นผู้ชายและผู้หญิงร่างท้วม 2 คน เมื่อสอบถามไปยังคนที่เก็บได้ว่าทำไมถึงนำมือถือของพวกเธอไปให้กับร้านซ่อมมือถือ เจ้าตัวจึงตอบว่า “ก็ผมจะเอาไปใช้ผมเจอ ผมก็ไม่รู้ จะปลดล็อคเอาไปใช้หน่อยเหอะ ผมไม่รู้ว่าของใคร ผมจะปลดล็อคใช้อยู่แล้วเนี้ยะ” แต่หลังจากที่ยืนพูดคุยกันได้สักพัก ฝ่ายชายก็คืนมือถือให้กับเจ้าของและขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกไปในที่สุด และนี่คือบทสนทนาระหว่างที่เธอทวงมือถือคืนจากคนที่เก็บได้ (ใครดูคลิปไม่ได้ให้กดที่นี่นะ) ดูคนแล้งน้ำใจ!!! อีดอก สมน้ำหน้าเอาไปไม่ได้ติด icloud ร้านปลดล้อคให้ไม่ได้ ? เรื่องคือน้องสาวปุ๋ยลืม iPhone6 ที่เซ็นทรัลชั้น6ตรงที่เล่นเกมส์ เราก็ตาม Find…
-
เรื่องราวสุดประทับใจตลอด 10 ปีของคู่รัก ตั้งแต่มัธยม ฝ่าฟันอุปสรรคจนมีครอบครัวในฝัน
การที่ความรักจะสามารถก่อร่างสร้างฐานได้นั้น มันจำเป็นที่จะต้องมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งความรัก ความเข้าใจ ความอดทน ความรับผิดชอบ และอีกมากมาย หากขาดสิ่งเหล่านี้ไปก็อาจจะทำให้คนสองคนอยู่กันได้ไม่ยืดยาวเท่าที่ควร แต่หากคุณอยากรู้ว่าอะไรที่ทำให้คนสองคนสามารถคบและมีความสัมพันธ์ที่ยืนยาวได้เป็น 10 ปีล่ะก็ ลองมาดูเรื่องราวของสาวคนนี้หน่อยเป็นไง? เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กของคุณ แอม อัยย์ญาดา ที่บอกเล่าเรื่องราวของเธอกับคุณธูป แฟนหนุ่มของเธอ ตั้งแต่วันแรกที่เจอกันเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นทั้งคู่ยังเป็นเพียงแค่เด็กนักเรียนม.ปลายที่เริ่มจีบกันใหม่ๆ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มเติบโต เข้ามหาวิทยาลัย ช่วยกันเรียน ช่วยกันทำมาหากิน ลองผิดลองถูกอยู่หลายอย่าง จนวันหนึ่งความรักของทั้งคู่เริ่มสุกงอมและตกลงแต่งงานกัน แม้ฝ่ายชายจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำได้ดีก็คือเขารักครอบครัว ตอนนี้นี้ทั้งคู่มีลูกด้วยกันแล้ว ช่างน่ารักน่าเอ็นดูจริงๆ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .…
-
เงิบกว่านี้ไม่มี…สาวตีเนียนเป็นเมียน้อยหลอกเอาเงิน เมียหลวงตลบหลัง เอาซะฮากระจาย!!
ในยุคนี้ การจะทำอาชีพเป็นนักต้มตุ๋นหลอกลวงคนไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปแล้วนะ เพราะทุกคนมีสื่ออยู่ในมือ สามารถหาข้อมูลและถูกตลบหลังกลับได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกับหญิงสาวนักต้มตุ๋นมือใหม่รายนี้ เรื่องนี้มาจากเฟซบุ๊กของคุณ Sunisa LannaHut โดยเธอได้เผยแพร่ภาพบทสนทนาระหว่างเธอและหญิงสาวปริศนาคนหนึ่ง ที่ส่งข้อความมาหาเธอและทำทีว่าตัวเองเป็นเมียน้อยของสามีเธอ ซึ่งฝ่ายของคุณสุนิสาเองก็พยายามถามเมียน้อยกลับไป เพื่อให้อีกฝ่ายระบุตัวตนสามีของเธอให้แน่ชัด ว่าใช่คนเดียวกันหรือเปล่า? ฝ่ายเมียน้อยจึงอ้างว่าเจอกับสามีของเธอที่ผับแห่งหนึ่ง โดยฝ่ายชายแอบเปลี่ยนชื่อเป็น “ต้น” แล้วมาคบกับเธอ แถมยังทำให้เธอท้องมานานกว่า 4 เดือน หากอยากให้เธอเลิกยุ่งกับสามี ต้องจ่ายเงินจำนวน 150,000 บาทให้กับเธอ เมื่อคุณสุนิสาเห็นเข้าจึงฮายกใหญ่และเฉลยไปว่าแท้จริงแล้วสามีของเธอไม่ใช่คนไทย แล้วพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ประเทศไทยด้วย ไม่น่าจะได้เจอกันง่ายๆ …งานนี้มีคดีพลิก!! . . . หลอกใครก็เอาให้เนียนๆ หน่อยนะแหม่ แต่จะให้ดี ทำงานหากินสุจริตดีกว่านะทุกคน ที่มา Sunisa LannaHut
-
ผลวิจัยต่างประเทศ ‘การเล่นเกมออนไลน์’ ช่วยพัฒนาการเรียน – ดีกว่าอยู่กับโซเชียลเน็ตเวิร์ก
หลายคนอาจจะคิดว่า ผู้หลักผู้ใหญ่บางคน มักมีชุดความคิดเกี่ยวกับเกมในด้านลบๆ อยู่หน่อย ยิ่งเป็นเกมออนไลน์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันคือสิ่งมอมเมาเยาวชนโดยแท้จริง แต่#เหมียวฟิ้นจะบอกว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเสมอไปนะ เพราะมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งในต่างประเทศบอกว่าการเล่นเกมออนไลน์นี่แหละ ช่วยให้เราเรียนได้ดีขึ้น!? รองศาสตราจารย์ Alberto Posso จากโรงเรียนเศรษฐศาสตร์ การเงินและการตลาดในออสเตรเลีย ได้ใช้โปรแกรมสำหรับการประเมินผลนักเรียนในระดับนานาชาติเพื่อประเมินเด็กออสเตรเลียวัย 15 ปี กว่า 12,000 คน ที่เรียนวิชาคณิตศาสตร์ การอ่านและวิทยาศาสตร์ ศาสตราจารย์ Posso กล่าวว่าวิดีโอเกมสามารถช่วยให้นักเรียนฝึกฝนความสามารถในการเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้ “นักเรียนที่เล่นเกมออนไลน์สม่ำเสมอ ทำคะแนนเฉลี่ยได้ 15 คะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ และ 17 คะแนนสำหนับวิชาวิทยาศาตร์” “เมื่อคุณเล่นเกมออนไลน์ คุณจะได้แก้ปัญหาปริศนาอยู่บ่อยๆ นั่นนำคุณไปสู่การพัฒนาการใช้ความรู้ทั่วไป และความสามารถในคณิตศาสตร์ การอ่านและวิทยาศาสตร์ที่คุณได้รับการสอนโดยคุณครูที่โรงเรียน ครูในโรงเรียนควรพิจารณาการผสมผสานวิดีโอเกมดังๆ เข้าไปในการเรียนการสอน ตราบเท่าที่มันไม่ได้มีความรุนแรงอยู่ในเกมนั้นด้วย” ในทางกลับกัน ศาสตราจารย์ Posso บอกว่าวัยรุ่นที่ติด Facebook หรือโปรแกรมแชททุกวันๆ จะทำคะแนนในวิชาคณิตศาสตร์ได้น้อยกว่านักเรียนที่ไม่ติดสื่อสังคมออนไลน์ใดๆ เลยถึง 20 คะแนน ทั้งหมดนี้อาจบ่งชี้ว่าพวกเขามีปัญหาในการคิดคำนวน…
-
อย่างฮา!! พ่อบ้านขอระบายความในใจ หลังต้องรอสาวๆ เลือกซื้อของเป็นเวลานานๆ…
สำหรับคุณพ่อบ้านแล้ว คงจะไม่มีอะไรจะหนักหนาไปกว่าการต้องต่อสู้กับความเบื่อหน่ายที่ต้องรอสาวๆ เลือกซื้อของเป็นเวลานานๆ ยิ่งเป็นสินค้าประเภทเสื้อผ้าล่ะก็ เตรียมเสื่อผืนหมอนใบไปได้เลย เพราะพวกเธอจะเลือกแล้วเลือกอีก ลองแล้วลองอีกประหนึ่งว่าพวกเธอมีเวลาตลอดกาลชั่วฟ้าดินสลายในการเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเธอมากที่สุด และคงจะไม่มีความเห็นของพ่อบ้านคนไหนที่สามารถที่บรรยายความรู้สึกของเหล่าพ่อบ้านได้ดีไปกว่าข้อความจากคุณ Chakree Yutdharaks อีกแล้วล่ะ โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าตัวได้ไปส่งแฟนสาวเลือกซื้อรองเท้าที่ห้างสรรพสินค้า แต่สงสัยจะใช้เวลามากไปนิดนึง จนเจ้าตัวขอบ่นในสไตล์น่ารักๆ ถึงแม่บ้านของเขาเล็กน้อย ข้อความของคุณ Chakree ได้บรรยายไว้ว่า “ไม่มีอะไรสิ้นหวังไปกว่าการรอผู้หญิงลองรองเท้าแล้ว ตอนเรามองไปในดวงตาอันเหม่อลอยของผู้ชายทุกคนในแผนก เราสัมผัสได้ถึงการรอคอยชั่วกัปชั่วกัลป์ ความไร้จุดหมาย หลุมดำ มิติของเวลา” “การนัดหมายที่จะต้องถูกเลื่อน หมาแมวที่รอตาละห้อยอยู่ที่บ้าน ความง่วงจาก Anthems วันแม่ บลาๆๆๆ อยากให้ที่นี่มีเก้าอี้นอน อยากเดินเข้าไปบอกผู้ชายทุกคนในนี้ว่าเฮ้ย เราเข้าใจนาย ผมเข้าใจพี่นะครับ หาเบียร์แดกกันไหม ลงไปข้างล่างเจอท็อปส์ซูเปอร์มาร์เกตเลยนะ.. ตัดสินใจทำในสิ่งที่สิ้นหวังรองลงมาคือการเซลฟี่ตัวเองตอนคุณเธอลองรองเท้า” หลังจากที่#เหมียวฟิ้นได้มีโอกาสคุยกับคุณ Chakree ก็พบว่ารองเท้าที่พวกเขาต้องเสียเวลาลองแล้วลองอีกก็เพราะว่ามันคือรองเท้าคู่พิเศษ ที่จะเอาไว้ใส่ในงานแต่ง ที่กำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 14 สิงหาคมนี่เอง ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ เมื่อเห็นข้อความของคุณ Chakree แล้ว ทำให้…
-
คุณครูให้เด็กๆ ป.1 วาดภาพลงในชุดเดรสเธอ เก็บเป็นความทรงจำสุดประทับใจ หลังจบการศึกษา
คุณอาจจะบันทึกความทรงจำดีๆ ลงในสมุด หรือรูปภาพ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคนมีวิธีเก็บความทรงจำในรูปแบบที่ต่างกันออกไป เหมือนดังเช่น Sha’Ree Castlebury คุณครูสาว จากรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา คนนี้ เธอก็มีวิธีการบันทึกความทรงจำในรูปแบบของตัวเองเช่นกัน ซึ่งมันก็ได้สร้างความประทับใจให้กับตัวเธอเอง รวมไปถึงผู้ที่กำลังจะได้ฟังเรื่องราวของคุณครูสาวคนนี้ด้วย Sha’Ree เป็นคุณครูสอนเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มานานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งในทุกๆ ปี เธอมักจะมีวิธีการบันทึกความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับเธอและลูกศิษย์ ก่อนที่พวกเขาจะเรียนจบ และเลื่อนชั้น ในปีที่แล้ว Sha’Ree เลือกสร้างความทรงจำกับเด็กๆ โดยให้พวกเขาเขียนความรู้สึกลงสมุดบันทึก แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ยังเจ๋งพอ และต้องการทำในสิ่งที่น่าประทับใจมากกว่านั้น ในที่สุดเธอก็ได้ปิ๊งไปเดียสุดแจ่ม ในการให้เด็กๆ วาดภาพและเขียนข้อความ ลงบนชุดกระโปรงสีขาวของเธอซะเลย และแน่นอนว่าเด็กๆ ก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองออกมาได้ดีเลยทีเดียว ชุดกระโปรงสีชาว ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ และผลงานศิลปะสุดสร้างสรรค์ของเด็กๆ ดูแล้วรู้สึกตื้นตันใจแทนคุณครูที่สุด นอกจากนี้ยังมีคำพูดจากเด็กนักเรียนคนหนึ่ง ที่ทำเอาคุณครู Sha’Ree ซึ้งใจสุดๆ ก็คือ “ครูจะใส่ชุดนี้ออกไปข้างนอก…
-
จิกกัดเล็กๆ แสบนิดๆ ภาพการ์ตูนสะท้อนลักษณะนิสัยของคนเราจากการใช้โซเชียล!!
ทุกวันนี้ อะไรหลายๆ อย่างมันถูกเชื่อมกันไว้หมดแล้ว และแทบจะทุกคนจะต้องใช้งานมันบ้าง เพื่อติดต่อเพื่อนสนิท คนรู้จัก หาเพื่อนใหม่ หรือหาอะไรบันเทิงใจเพื่อรับชม และตั้งแต่การมาของสังคมออนไลน์โซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น มันทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงมากแค่ไหน ศิลปินชาวอังกฤษนามว่า Joe Stone จึงได้วาดการ์ตูนแก็กเล็กๆ สะท้อนให้เห็นลักษณะนิสัยการเสพติดโลกโซเชียลอย่าง Facebook นั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตคนเรายังไงบ้าง รอตอบแชทไปชั่วนิรันดร เบื่อก็เปิด Facebook ดู พอเปิดดูแล้วก็เบื่อ วนเวียนไปเรื่อยๆ คนเราทำได้หลายอย่าง มีคู่สนทนาอยู่ตรงหน้า แต่ให้ความสำคัญกับคนในจอมากกว่า แสดงสีหน้าและอารมณ์ในแชทได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ารู้สึกแบบนั้นจริงๆ แค่มีอินเทอร์เน็ต โลกทั้งใบก็อยู่ในมือแล้ว จะไม่รู้สึกเหงาอีกต่อไป ที่มา : ufunk, designtaxi
-
ศิลปินแห่งชาติยก “กินข้าว” คือคำที่ถูก ส่วน “ทานข้าว” คือคำที่ผิด แบบไหนล่ะที่ถูกต้อง?
กลายเป็นดราม่าสนั่นข้ามวันกันเลยทีเดียว สำหรับประเด็นที่กำลังถกเถียงอยู่ในโลกออนไลน์ขณะนี้ว่าระหว่างคำว่า “ทานข้าว” กับ “กินข้าว” คำไหนคือคำที่ถูกต้องและสุภาพกันแน่? เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนชื่อดังและศิลปินแห่งชาติได้โพสต์ข้อความบอกว่าคำว่า “ทานข้าว” ถือเป็นคำที่คนไทยส่วนใหญ่ใช้กันแบบผิดๆ เพราะเนื่องจากคำว่า “ทาน” แปลว่า “ให้” ไม่ได้แปลว่า “กิน” พร้อมกันนี้ยังมีข้อความระบุอีกว่า “ยิ่งทานข้าว ยิ่งหิว เพราะไม่มีข้าวตกถึงท้อง ให้คนอื่นหมด อยากหายหิว ให้กินข้าว ทาน แปลว่า ให้ ไม่ใช่กิน! ลองถามขอทานว่าอยากได้ข้าวหรือเงิน เขาจะตอบว่าเงิน เพราะชื่อของเขาคือ ขอทาน ไม่ใช่ ขอกิน! เข้าใจตรงกันแล้วนะ!” หลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตพากันแสดงความเห็นเข้ามาอย่างมากมายเช่น บางความเห็นบอกว่าความหมายของคำอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา สิ่งที่ถูกในวันนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกในอนาคต ส่วนบางความเห็นยกคำว่า “กู” กับ “มึง” ขึ้นมาเปรียบเทียบว่าในยุคหนึ่งคำเหล่านี้เป็นคำที่ใช้กันเป็นปกติ แต่หากนำมาพูดในยุคปัจจุบันกับคนที่ไม่สนิท อาจมีเรื่องกันได้…
-
ถึงกับเหวอ!! สาวโดนมือดีพ่นสีรถ หาว่าแย่งแฟนคนอื่น ทั้งที่เจ้าตัวยังไม่มีแฟน!?
เป็นเรื่องที่กำลังโด่งดังและมีชาวเน็ตแห่แชร์กันอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับกรณีของหญิงสาวรายหนึ่ง ที่จอดรถซื้อของที่ตลาดอยู่ดีๆ กลับมีมือดีแอบมาพ่นสีใส่รถของเธอซะอย่างงั้น!? เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pinyapat Ming Peemmetasawad ได้โพสต์ข้อความบอกว่าเมื่อตอนค่ำของวันที่ 27 มีนาคม ตัวเองได้ขับรถไปซื้อของที่ตลาดรถไฟศรีนครินทร์กับเพื่อนๆ แต่หลังจากที่เดินซื้อของกันเสร็จและกลับมาที่รถต้องตกใจสุดๆ เพราะรอบตัวรถมีข้อความหยาบคายถูกพ่นด้วยสีสเปรย์ พร้อมกันนี้ยังมีกระดาษที่เขียนข้อความข่มขู่ตกอยู่ใกล้รถ ทั้งนี้เจ้าตัวได้ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาชู้สาวกับใคร แถมเจ้าตัวเองก็ยังไม่มีแฟนด้วย จึงไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้กับสน.ประเวศ เพื่อตามหามือพ่นสีมาลงโทษต่อไป อ่านเรื่องราวเต็มๆ ได้ที่ด้านล่างเลยจ้า แชร์ได้ แชร์เลยจ้าาา เผื่อได้เบาะแส . . วันที่ 27 มีนาคม 2559 ที่ตลาดรถไฟศรีนครินทร์ เวลาประมาณ 20.00 น. เรากับพี่และเพื… โพสต์โดย Pinyapat Ming Peemmetasawad บน 27 มีนาคม 2016 ขอให้ตามจับผู้กระทำความผิดรายนี้ได้ไวๆ…
-
อดีต CTO ของ Facebook เผยประสบการณ์การทำงานกับ Mark Zuckerberg แบบหมดเปลือก!!!
สำหรับการทำงานแน่นอนว่าถ้าได้มีโอกาสไปทำกับบริษัทใหญ่ๆ หรือบริษัทนานาชาติด้วยแล้วล่ะก็ คุณจะได้ประสบการณ์ แนวคิด และวิธีทำงานดีๆ มามากมายเลยล่ะ แต่ถ้าคุณได้มีโอกาสทำงานกับ CEO ระดับโลกล่ะ?? วันนี้ #จ่าสิบเหมียว ก็มีเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับ Mark Zuckerberg ผู้เป็น CEO ของเฟซบุ๊คและหนึ่งในผู้ที่รวยที่สุดในโลก ของ Bret Taylor อดีต CTO ของบริษัท Facebook มาฝากกัน ลองมาอ่านเรื่องราวของเขากันดูนะ ^^ Bret Taylor อดีต CTO ของ Facebook สำหรับคำพูดทั้งหมดนี้เป็นคำพูดของเขาเลยนะจ๊ะ #จ่าสิบเหมียว ขออนุญาตไม่ใส่ “” และจะใช้ตัวเอียงแทนนะจ๊ะ จะได้พิมพ์สะดวก และอ่านสะดวกด้วย ^^ ถ้าจะให้ผมตอบโดยตรงล่ะก็ การทำงานร่วมกับ Mark Zuckerberg นั้นถือเป็นประสบการณ์ที่ดีในชีวิตของผมครั้งหนึ่งเลยก็ว่าได้ นอกจากเขาจะมีคุณสมบัติที่น่ายกย่องในฐานะผู้นำแล้ว เขายังมีจิตใจที่เปิดกว้างและพร้อมรับฟังไอเดียใหม่ๆ ของเพื่อนร่วมงานเสมอๆ ถ้าเกิดระหว่างการทำงานมีเรื่องอะไรที่ผมกับเขามีความเห็นที่ไม่ตรงกันแล้วล่ะก็ ไม่เหมือนผู้บริหารรายอื่นๆ ที่ผมเคยทำงานด้วย เพราะพวกเขาจะปรับทัศนะคติผมหรือชักจูงให้ผมเห็นพ้องกับพวกเขา แต่ Mark นั้นกลับทำในสิ่งที่ต่างออกไป เขาจะพยายามถามลึกลงไปว่าทำไมผมถึงมีแนวคิดแบบนั้นและพยายามที่จะเข้าใจผมและมุมมองของผมที่ไม่ตรงกับเขา…
-
เตือนภัย!! หลอกให้ใส่รหัสเฟสบุ๊กล็อคอินดูคลิปภายนอก หวังจะฮุบบัญชี ระวังตัวกันไว้ด้วย
ปัจจุบันมักจะมีข่าวคราวเกี่ยวกับการถูกล้วงข้อมูลหรือที่เรียกกันว่าแฮคบัญชีโซเชียลกันอยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะทั้งโดนผู้ไม่หวังดีเข้าโจมตีโดยตรง และโดนหลอกเอาข้อมูลส่วนตัวไปได้ง่ายๆ อย่างการหลอกล่อให้ใส่ชื่อบัญชีผู้ใช้กับรหัสผ่าน บางคนอาจจะรู้และไหวตัวได้ทัน เพราะเล่ห์กลหลอกล่อเหล่านี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย แต่สุดท้ายก็มีหลายคนที่โดนหลอกอยู่ดี ทั้งนี้ก็อยากจะนำเรื่องราวของคุณ Chanachai Chakaew ที่โดนมาเช่นกัน แต่กลับตบหน้าผู้ไม่หวังดีเข้าอย่างจังเลยล่ะ!! เริ่มต้นทักมาก็ให้ซื้อบัตรเติมเงินให้ มันน่าตะหงิดใจตรงที่ว่ารู้จักกันด้วยเหรอ ถึงมาขอให้ทำขนาดนี้ ว่าแล้วก็ส่งลิงค์แปลกๆ มาให้ บอกว่าเป็นคลิปเพื่อนในกลุ่มมอเตอร์ไซค์ ให้กรอกรหัสล็อคอินเฟสบุ๊กก่อนถึงจะเห็น เป็นเว็บปลอมแต่ทำหน้าตาเหมือนกับเฟสบุ๊ก หวังจะฮุบรหัสไป เฮอะ!! ไม่ได้แด๊กตูหรอก (เสียงน้าค่อม) รับรู้ด้วยว่าใส่รหัสเป็นภาษาไทย โป๊ะแตกแล้วล่ะพี่น้องงงง!! ฮร่าาาา!! ถึงจะเป็นวิธีการหลอกที่ตื้นเขินพอดู แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องตกเป็นเหยื่อ เพราะฉะนั้นอันดับแรกรู้จักบุคคลที่เข้ามาทักทายมากแค่ไหน หากมีการส่งลิงค์อะไรแปลกๆ มาอย่าเพิ่งชะล่าใจกดเข้าไปดู อีกทั้งเมื่อเจอหน้าตาลิงค์ที่เข้าไปแล้วมีความคล้ายคลึงกับระบบโซเชียลต่างๆ ต้องสังเกตด้วยว่าชื่อลิงค์นั้นใช่ของจริงรึเปล่า ยังไงก็ฝากๆ เตือนกันหน่อยนะพ่อแม่พี่น้อง คงนึกว่ากูโง่ดิ่เตือนภัย พวกแฮกไอดี มาขอเงิน แล้วจะมาแฮคไอดีต่ออย่าล็อคอินเข้าอย่าใส่รหัส ถ้ามีใครส่งมาแบบนี้ รหัสจะถูกส่งไปให้มัน Posted by Chanachai…
-
ฟีเจอร์ Facebook Reactions โดนพัฒนาฝีมือดีแกะโค๊ดเปลี่ยนไอคอนได้แล้ววว
หลังจากที่ทาง Facebook ได้ทำการปล่อยฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Facebook Reactions ที่สามารถแสดงอารมณ์ต่างๆได้เพิ่มเติมนอกจากการกดไลค์ แต่ตอนนี้มีนักพัฒนาฝีมือดีสามารถแกะโค๊ดและเปลี่ยนไอคอนต่างๆนั้นได้โดยเป็นรูปที่เขาทำขึ้นมาเอง นักพัฒนาคนนี้ชื่อว่า François Grante เขาเป็นคนที่สามารถแกะโค๊ด Facebook ซึ่งเขาพบว่า class ที่ใช้กับรูป Reactions จะเป็น ._iuz และแสดงด้วยคำสั่ง CSS background-image มันจะเป็นตัวนำเข้าอิโมจิทั้งหมด นอกจากนั้นยังมี class .x2 เพิ่มขึ้นมาสำหรับหน้าจอเรติน่าที่มีความละเอียดสูงกว่า เลยทำให้ไฟล์ภาพมี 2 ขนาด ขนาดปกติ และ ขนาดสำหรับจอเรติน่า ขนาดปกติ ขนาดสำหรับหน้าจอเรติน่า ซึ่งในการที่จะเปลี่ยนรุปนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ เพียงแค่แก้ไฟล์ CSS ไฟล์เดียวแค่นี้ก็สามารถเปลี่ยนรูปได้แล้ววว หนุ่มนักพัฒนาคนนี้ได้ทำส่วนขยายของ Chrome ขึ้นมาโดยจะเปลี่ยนเป็นรูปของ Donald Trump (ผู้เสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา) หลังจากที่เขาปล่อยส่วนขยายขึ้น Chrome Web store ทำให้มีนักพัฒนาหลายคนได้ปรับเปลี่ยนเป็นในรูปแบบของตนและบางคนก็ปล่อยขึ้น Chrome Web…
-
ชาว Android เตรียมเฮ! สามารถถ่ายทอดสดได้ผ่านทาง Facebook แล้วววว
เมือก่อนนั้นการที่จะสามารถถ่ายทอดสดแบบ Live Streaming ผ่าน Facebook จะต้องเป็นพวกนักข่าว ดารา นักร้องหรือนักแสดงที่มีชื่อเสียงและได้รับการยืนยันจากทาง Facebook เท่านั้น ล่าสุดนี้ผู้ใช้เฟซบุ๊คทั่วไปธรรมดาก็สามารถถ่ายทอดสดได้เช่นกัน โดยการใช้งานนั้นจะผ่านฟีเจอร์ที่ชื่อว่า “Live Video” บนแอพ Facebook ก่อนหน้านี้ฟีเจอร์นี้ได้มีให้ผู้ใช้ระบบ iOS มาก่อนแล้ว 30 ประเทศทั่วโลก ขณะนี้ทาง Facebook กำลังจะรับรองฟีเจอร์การถ่ายทอดสดนี้ในระบบ Android ภายในสัปดาห์นี้โดยจะเริ่มที่ประเทศสหรัฐอเมริกาก่อนแล้วค่อยๆขยายไป การใช้งานก็ง่ายๆแค่อัพเดตเป็นเวอร์ชั่นที่สามารถเพิ่มฟีเจอร์ Live Video ได้จากนั้นก็ไปที่ สถานะของเรา แล้วกดเลือกไอคอน Live Video แล้วก็เลือกเพื่อนที่จะให้เขาชมการถ่ายทอดสดของเรา แล้วเลือก Go live เพื่อเริ่มการถ่ายทอดสดนั้นเอง มันจะคล้ายๆกับการถ่ายทอดสดผ่านทาง Periscope หรือทาง meerkat แน่ล่ะมันทำให้ผู้คนนั้นให้ความสนใจกับฟีเจอร์ดังกล่าว เพราะมันจะแจ้งเตือน News Feed ในเฟซบุ๊คจนหน้าฟีดของคุณ อาจจะมีแต่การรายงานสดก็เป็นได้ ฮ่าๆ …
-
วุ่นวายทั้งโลกแน่ๆ!! กลุ่มก่อการร้าย ISIS ขู่ฆ่า Mark Zuckerberg แห่ง Facebook และ Jack Dorsey แห่ง Twitter!!
นี่ถือเป็นเรื่องราวระดับโลกทีเดียว สำหรับการที่กลุ่มก่อการร้าย ISIS ออกมาประกาศว่าจะตามล่าตัวผู้ก่อตั้ง Facebook และ Twitter อย่างนาย Mark Zuckerberg และ Jack Dorsey หลังจากที่ทีมรักษาความปลอดภัยของทั้งสององค์กรได้ลบบัญชีผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายออกไปจนหมด เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Mirror ได้รายงานว่ากลุ่ม ISIS ได้ปล่อยคลิปวิดีโอออกมาข่มขู่ว่าจะสังหารผู้ก่อตั้ง Facebook และ Twitter เนื่องจากไปลบบัชชีผู้ใช้ของกลุ่มก่อการร้ายและพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง คลิปวิดีโอเผยให้เห็นภาพของ Zuckerberg และ Dorsey พร้อมกับมีข้อความว่า Flames of the Supporters (เปลวเพลิงของผู้สนับสนุน) เป็นคลิปที่ถูกปล่อยออกมาจากกลุ่มที่ชื่อว่า The sons of the Caliphate army (บุตรแห่งกองทัพเคาะลีฟะฮ์) “ถึง Mark และ Jack ผู้ก่อตั้ง Twitter และ facebook และรัฐบาลผู้ทำสงครามศาสนา คุณประกาศทุกวันว่าคุณได้ลบบัญชีผู้ใช้ของเราไปหลายบัญชี เราจะบอกคุณว่า ‘นั่นคือทั้งหมดที่คุณทำได้เหรอ’…
-
มาแว๊ววว ฟีเจอร์ใหม่ Facebook ให้แสดงอารมณ์ได้หลากหลาย นอกจากการกด Like อย่างเดียว!!
เชื่อว่าคนส่วนมากในโลกนี้เล่นเฟซบุ๊คกันทุกวัน บางคนชอบไปกดไลค์รูปเพื่อนฝูง ครอบครัว สถานที่เที่ยวต่างๆ สเตตัสของคนโน้นคนนี้ หรืออะไรที่สังคมนั้นแชร์กันผ่านทางโซเชี่ยลมีเดียทั้งหลาย แต่หลายคนบอกว่าการกด Like นั้นมันน่าเบื่อไป เพราะมันมีอารมณ์เดียว อยากจะมีอารมณ์แบบอื่นๆบ้าง… เคยมีการขอให้เพิ่มเติมฟีเจอร์ให้มีการกด “Dislike” และ “ชูนิ้วกลาง” แต่มันก็ถูกปล่อยผ่านไปเพราะยังเห็นว่าไม่เหมาะสมสักเท่าไร แต่ในวันนี้ทาง Facebook ก็เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถแสดงอารมณ์ต่อรูปภาพและโพสต์ต่างๆได้มากกว่าเดิมแล้ว โดยฟีเจอร์นี้ใหม่ถูกเรียกว่า “Reactions” การแสดงอารมณ์แบบนี้ทำให้คุณสามารถกด “Love”,”Haha” “Wow”,”Sad” และ “Angry” ได้มากขึ้น “นี่มันเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เรากำลังศึกษาต่อว่าผู้ใช้งานทำยังไงกับปุ่มพวกนี้บ้าง และเราจะได้ศึกษามันเพิ่มเติม เราจะได้อะไรใหม่ๆอีกมากเลย” Tom Alison หัวหน้าทีมวิศวกรเฟซบุ๊คกล่าว อย่างไรก็ตาม การใช้งานในช่วงทดสอบพบว่าคนมักจะกดปุ่ม Love มากที่สุด รองจากการ Like แบบปกติ ซึ่งเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของปุ่มอื่นๆตามมาในภายหลัง ตอนนี้ก็มีหลายประเทศได้ทำการทดลองใช้งานไปแล้ว เช่น สเปน ฟิลิปปินส์ ไอร์แลนด์ เป็นต้น ส่วนไทยเรานั้นคงต้องไปก่อนนะ แน่นอนล่ะหลายๆคนคงตั้งตารอกับเจ้าฟีเจอร์ใหม่อันนี้ล่ะสิ ฮ่าาาาาา!!! ที่มา :…
-
‘นอวงพอส’ โพสต์ข้อความชวนซึ้งถึงเพื่อน ‘โจ้’ ผู้ลาลับ แฟนคลับอ่านแล้วน้ำตาไหลไปตามๆ กัน
ปล่อยออกมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันแล้ว สำหรับเพลง “รักอยู่รอบกาย” ของวงพอส หลังจากที่ห่างหายไปนานถึง 14 ปี หลังจากการจากไปของ “โจ้วงพอส” แม้ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับมือดีที่แอบมาปล่อยเพลงก่อนกำหนด แต่พวกเขาก็สามารถปล่อยเพลง (แบบถูกลิขสิทธิ์) ออกมทาให้แฟนๆ ได้ฟังกัน ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีทีเดียว เพราะเพลงนี้มียอดวิวในยูทูบไปแล้วกว่า 7 แสนครั้ง ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจของนอ นรเทพ มาแสง มือเบสวงพอส ก็ได้ดพสต์ข้อความซึ้งๆ ถึงเพื่อนผู้ล่วงลับ โดยข้อความมีอยู่ว่า “เป็นไงบ้างวะมึง…เพลงเราคนชอบเยอะนะ คนคิดถึงมึงเยอะเชียว ทีมงานดีใจกันมากรวมถึงกูด้วย” “มีอุปสรรค์นิดหน่อยแต่ช่างมันเถอะ พวกกูสบายดีทุกคน วันก่อนไปบ้านมึงมาทางนั้นก็สบายดี คุณยายยังแข็งแรงดี พ่อแม่มึงทำบ้านใหม่ ฝั่งตรงข้ามบ้านที่กูเคยไปจอดรถน่ะเหมือนเดิมแต่คราวนี้ไม่ได้ไปแดกหนมจีนร้านเดิมที่มึงเคยพาไป ไม่ทันว่ะ หลายคนคิดถึงมึงนะ” “หลายครั้งที่คะยั้นคะยอให้กูเล่าเรื่องมึงสมัยก่อนให้ฟัง ก็เรื่องเดิมๆแหละเล่าซ้ำไปซำ้มาเค้าก็ฟังกันนะ หลายเรื่องตะก่อนขำเดี๋ยวนี้ไม่ขำละ มันวนหลายรอบละ ก็ มันไม่มีเรื่องใหม่นี่หว่าจะให้กูเล่าอะไรนักหนา บางเรื่องกูก็เริ่มลืมๆบ้างแล้ว เวลามันนานแล้ว”…
-
คอลัมนิสต์ชื่อดังเผย ลบ Facebook App ออกแล้วประหยัดแบตขึ้น ทั้ง iOS และ Android
เชื่อว่าปัญหาหนึ่งที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนทั่วโลกต้องเจอกันคือแบตเตอรี่หมดไวนั่นเอง หลายครั้งชาร์จออกจากบ้านมาตอนเช้า ยังไม่ทันถึงบ่ายโมง แบตก็เริ่มเป็นขีดแดงแล้ว รู้หรือไม่ บางทีแอปพลิเคชั่น Facebook อาจเป็นสาเหตุของปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ Samuel Gibbs นักข่าวชื่อดังจากสำนักข่าว The Guardian เผยว่า เขาได้ทดลองลบแอปพลิเคชั่น Facebook ออกจากโทรศัพท์ของเขาทั้งแบบ Android และ iOS โดยในเวอร์ชั่น Android นั้น เขาได้เปลี่ยนไปใช้แอปพลิเคชั่นแทนอย่าง Metal แทน และจากการทดลองใช้อยู่หนึ่งสัปดาห์ พบว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์ของเขา อึดขึ้นราวๆ 20% ในส่วนของเวอร์ชั่น iOS นั้น เขาได้เปลี่ยนไปเข้า Facebook จากเบราเซอร์แทน แต่ยังเก็บตัว Facebook Messenger ไว้ จากการทดสอบหนึ่งสัปดาห์ เขาพบว่าเขาสามารถประหยัดแบตเตอรี่ไปได้ถึง 15% รวมถึงได้ที่ว่างคืนมาจากตัวแอปพลิเคชั่นอีกราว 500MB อีกด้วย นอกจาก Gibbs แล้วยังมีบล็อกเกอร์อีกหลายท่านเช่น Russell…
-
รู้หรือไม่!? Facebook Messenger มีเกม ‘หมากรุก’ ให้เราเล่นฆ่าเวลาได้แบบชิวๆ
คนเรามีสื่อสารกับผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในสถานที่เดียวกันก็ตาม โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ไม่รู้จะทำอะไร โทรศัพท์ที่มีอยู่ในมือก็จะเป็นทางออกแรกที่นึกถึง หยิบขึ้นมาคุยแชท วิดีโอคอล และอื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าประเด็นสนทนาหมดลงแล้ว ก็ยังไม่รู้จะทำอะไรอีก ครั้งนี้ขอเสนอความลับภายใน Facebook Messenger ที่จะช่วยฆ่าเวลาให้กับคุณและเพื่อนคู่แชทได้เป็นอย่างดี มันจะช่วยกระตุ้นพลังสมองให้คุณได้คิดอยู่ตลอด มันก็คือ ‘เกมหมากรุก’ นั่นเอง วิธีการเล่นเกมผ่าน Messenger ก็ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่เลือกเพื่อนมาซักคนหนึ่ง แล้วก็พิมพ์ @fbchess play ลงไป ฝ่ายที่ส่งข้อความจะเป็นผู้เริ่มเดินหมากก่อน และการที่จะเดินหมากในแต่ละครั้งก็จะต้องป้อนคำสั่งลงไปผ่านช่องแชท ซึ่งคำสั่งก็จะมี K ตัวคิง, Q ตัวควีน, B ตัวบิชอป, N ตัวอัศวิน, R ตัวเรือ, และ P ตัวเบี้ย คำสั่งเดินจะเป็น @fbchess เปิดเสมอ เช่น @fbchess Pg4 เคลื่อนตัวเบี้ย…
-
แล้วคุณคิดว่ายังไง!? Mark Zuckerberg เขาคือคนเก่งจริงๆ หรือแค่คนที่ ‘บังเอิญ’ โชคดีกันแน่…
มาๆ เรามาเปิดประเด็นชวนคิดกันเล่นๆ หลังจากที่ #ประธานเหมียว ได้นั่งเล่นเว็บบอร์ดดังของไทยอย่างพันทิป และไปเจอกับกระทู้หนึ่ง ซึ่งตั้งคำถามไว้ว่า… ทำไม เราจะต้อง ชื่นชม มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก ขนาดนั้น แล้วเขาเป็นคนธรรมดาจริงๆ หรือ (เค้าเว้นวรรคเยอะไปหน่อย อิอิ) โดยสรุปประเด็นคร่าวๆก็คือ Mark นั้นเกิดในครอบครัวของคนที่มีลักษณะชนชั้นกลางที่รายได้ค่อนข้างสูง พ่อเป็นทันตแพทย์ ส่วนแม่ก็เป็นจิตแพทย์ ซึ่งเป็นอาชีพที่มีหน้าตาในสังคมอเมริกัน ที่สำคัญคือเขายังจบจากโรงเรียน Phillips Exeter Academy ซึ่งมีศิษย์เก่าเป็นคนระดับสูง อย่างผู้บริหาร นักประวัติศาสตร์ นักกีฬาโอลิมปิค ไปจนถึงผู้ได้รับรางวัลโนเบล โรงเรียนแห่งนี้ก็ปูทางไปสู่ Harvard University มหาวิทยาลัยระดับท็อปของโลก ที่มุ่งเน้นการผลิตบุคลากรสำคัญที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น Mark จึงถือว่าเป็นคนที่ถูกปูทางมาให้เป็นคนประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ครอบครัวที่ดี โรงเรียนและมหาวิทยาลัยชั้นนำ การที่เขาทำให้เฟซบุ๊คประสบผลสำเร็จ จึงไม่น่าชื่นชมขนาดที่ว่าเป็นเรื่องราวสไตล์ ‘คนเก็บขยะรวยหมื่นล้าน’ รึเปล่า!??? หลังจากเปิดประเด็นนี้ก็มีความเห็นน่าสนใจมากมาย ตัวอย่างเช่น…. คุณ vanavat1 ก็นะ เขามีโอกาสมากกว่าคนอื่น เขามีความรู้ เขามีความพร้อม อย่าไปอิจฉาเขาเลยครับ …
-
ตอนนั้น 30,000 ล้านของ Mark ทุ่มซื้อ Instagram ทุกคนว่าเขาคิดผิด แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่าคิดถูก!!
เรียกได้ว่าตอนนั้นเป็นอะไรที่ดูบ้าและไร้เหตุผลอย่างมาก ในปี 2012 ที่ CEO ของ Facebook อย่าง Mark Zuckerberg ได้โชว์ความสามารถเกี่ยวกับวิสัยทัศน์ของเขา ก่อนที่จะเริ่มทำ IPO ด้วยการซื้อแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่นักลงทุนคงคิดว่าไม่คุ้มค่าในตอนนั้น ด้วยราคา 1 พันล้านเหรียญ หรือตอนนี้ก็ราวๆ 34,000 ล้านบาท!!!!! กับสิ่งที่ได้มาคือ แอพพลิเคชั่นที่เหล่าผู้มาร่วม IPO กับบริษัทของเขาอาจจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยซ้ำ แถมมีระยะเวลาทำการมาแค่ 2 ปี มีทีมงานเพียงแค่ 13 คน… แอพพลิเคชั่นสำหรับแชร์ภาพที่ในตอนนี้เรารู้จักกันในนาม Instagram ที่เริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาในแวดวงโซเชียลมีเดียได้สักพักหนึ่งแล้ว!!! สำหรับตอนนี้ก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก Application นี้แล้วล่ะ!!! ณ ขณะนั้นมันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายและสุดหยั่งถึงอย่างมาก?? อะไรกันที่เป็นแรงผลักดันให้ CEO ระดับโลกหันมาสนใจและซื้อกิจการของ Application ที่มีรายรับเป็น 0 (ในตอนนั้น) ทำให้เหล่าผู้ที่กำลังจะมาถือหุ้นของบริษัท เริ่มเกิดความไม่ไว้วางใจในตัวเขา หลายๆ คนเชื่อว่าหนุ่มน้อยผู้ชอบสวมเสื้อฮู้ด ในวัย 27 ปีนั้น มีลักษะนิสัยที่ห่าม ไม่คิด ไม่ไตร่ตรองให้ดีก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป และที่สำคัญ…
-
คำบอกเล่าของผู้เข้าร่วมโครงการเลิกเล่น Facebook 99 วันปีนี้ ‘เรามีความสุขและมีเวลามากขึ้น’ !!!
ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่า Social Media นั้น เป็นสิ่งที่มีการติดรุนแรงมาก จนมีโปรเจครณรงค์ให้คนเลิกใช้เป็นจำนวน 99 วันด้วยกัน และเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขารู้ไหม?? พวกเขาบอกว่าตัวเองมีความสุขขึ้น!!! แถมคนส่วนใหญ่ที่สามารถเลิกเล่น Facebook ได้ 99 วันนั้น มีแนวโน้มที่จะเลิกเล่นตลอดไปด้วยล่ะ Merijn Straathof ผู้ริเริ่มโปรเจคนี้ล่าว เลิกเล่น Facebook 99 วัน ‘เราไม่ได้พูดเลยว่าทุกคนควรเลิกเล่น แต่สำหรับพวกเราแล้ว ไอเดียเกี่ยวกับการเลิกเล่นนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ผมหยุดเล่นไปตั้งแต่ผมเริ่มโครงการนี้ เพื่อนๆ ผมอีกหลายคนด้วย ตอนนี้ผมรู้สึกมีอิสรภาพอย่างมาก’ Merijn Straathof กล่าว แถมจากคำบอกเล่าของผู้เข้าร่วมโครงการนี้ก็พบว่า ตัวเองมีความสุขขึ้น และที่สำคัญมีเวลาทำสิ่งต่างๆ มากขึ้นด้วยล่ะ และกว่าร้อยละ 25 ของผู้เข้าร่วมโครงการที่เลิกเล่นได้ 99 วันครบจำนวน ได้เลิกเล่น Facebook แบบจริงจังและไม่กลับไปเล่นอีกเลย… ส่วนข้อมูลต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโปรเจคนี้ เขาก็เตรียมส่งให้ทาง Leiden University และ Vrije Universiteit Amsterdam เพื่อศึกษาวิจัยต่อไปว่า ทำไมบางคนถึงติด Facebook…
-
แชร์เรื่องราว 2 นักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย นั่งขายโปสการ์ดอยู่แถว BTS สร้างแรงบันดาลใจให้คนมีฝัน
แอดเหมียวเชื่อว่าหลายๆ คนมีฝัน แต่บางครั้งฝันมันก็อาจจะต้องใช้เวลา ใช้เงินและความพร้อม หลายๆ คนเลยเลือกที่จะรอ และรอ แต่วันนี้เหมียวมีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้ใครบางคนมาเล่าสู่กันฟังล่ะ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา ในเครื่อข่ายสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวหนึ่งผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก Gyf Chaithanapat โดยเธอเล่าวว่าเจอคู่รักชาวรัสเซีย Irina และ Alexander นั่งขายโปสการ์ดอยู่ที่บริเวณ BTS หมอชิต จากการสอบถามทั้งคู่จึงทราบว่าพวกเขาอยากจะเดินทางรอบโลก โดยนาย Alexander เล่าว่าหลังเรียนจบจะออกเดินทางรอบโลก 1 ปี ซึ่งตั้งแต่มาอยู่ไทยได้ 4-5 วัน ตนเองใช้เงินไปแค่ 300 บาทเอง (คุณพระ) พวกเขาเล่าว่าได้เดินทางไปมาแล้วทั้งอินเดีย เยอรมัน ไทย และอีกหลายๆประเทศ แถมพวกเขายังเล่าอีกว่าเวลาจะเดินทางไปไหนมาไหนจะอาศัยการเดินพร้อมกับถือแผนที่เอา เพื่อประหยัดต่อค่าใช้จ่าย และเนื่องจากเป็นคนรัสเซียทำให้พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย เพิ่งจะมาฝึกเอาเมื่อช่วง 3 เดือนที่ผ่านมานี้เอง ส่วนโปสการ์ดที่พวกเขาขายนั้น พวกเขาบอกว่าไม่ได้ตั้งราคาไว้ สามารถให้ได้ตามต้องการเลย หญิงสาวจึงขอให้ทั้งคู่เลือกโปสการ์ดที่ชอบที่สุดมาให้เธอ 2 ใบ ก่อนที่เธอจะยื่นแบงค์ร้อยให้พวกเขาเป็นค่าตอบแทน …
-
ชาวเน็ตระวังไว้ แก๊งมิจฉาชีพสร้างเพจปลอม หลอกว่าเฟซของคุณกำลังจะโดนปิด เพื่อหลอกเอารหัส!!
แม้ว่าทุกวันนี้ Facebook จะเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือในระดับสูง แต่ก็ยังคงมีไวรัสหลากหลายรูปแบบออกมาให้เราเห็นกันเป็นประจำ ทั้งการกดไลค์ลิ้งต่างๆ หรือการเผยแพร่ภาพอนาจารโดยที่เราไม่ต้องการ ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊กเพจ Tech Talk Thai ได้ออกมาเตือนชาวโซเชียล ถึงไวรัสรูปแบบใหม่ ที่จะส่งข้อความมาเตือนเราว่าบัญชีของเรามีความเสี่ยงต่อการถูกปิด เพื่อให้เรายืนยันตัวตนกับทางระบบ แต่ความจริงแล้วข้อความดังกล่าวไม่ใช่ข้อความจากทีมงาน Facebook อย่างเป็นทางการ แต่เป็นข้อความจากแก๊งมิจฉาชีพ ที่ใช้การ “ฟิชชิ่ง” เพื่อหลอกเอาข้อมูลภายในบัญชีของเรานั่นเอง ในขณะเดียวกัน เฟซบุ๊กเพจชื่อดังอย่าง Drama-Addict ก็ได้ออกโรงเตือนชาวเน็ตเช่นกัน “กำลังระบาดหนักมาก เฟซปลอมแนวๆนี้ ถ้ามีใครมาแชร์สเตตัสเราแล้วขึ้นเตือนแบบนี้ ไม่ต้องไปกรอกข้อมูลอะไรทั้งนั้น เพราะมันทำหน้าเว็บปลอมให้เรากรอก user/password แล้วแฮคเพจ แฮคเฟซเรานะครับ” ใครเจอเพจและข้อความแนวๆ นี้อีก ก็ช่วยๆ กันดูและเตือนเพื่อนๆ ด้วยนะ เพราะหากคนเหล่านี้ได้บัญชีและรหัสผ่านเฟซบุ๊กของเราไป อาจเกิดความเสียหายตามมา หรืออาจถูกปิดบัญชีจริงๆ เลยก็ได้นะเออ ที่มา techtalkthai , Drama-addict
-
น้ำตาจะไหล!! หนุ่มขับแท็กซี่ไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย เหตุเพราะภรรยาเพิ่งเสียชีวิต
กลายเป็นเรื่องราวที่มีการแชร์กันอย่างมากมายในขณะนี้เลยทีเดียว สำหรับเรื่องราวของคนขับรถแท็กซี่รายหนึ่ง ที่ขับรถไปด้วยพร้อมกับป้อนนมลูกน้อยไปด้วย สาเหตุเพราะว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียงชีวิตหลังจากคลอดลูกได้เพียง 4 เดือนเท่านั้น เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อว่า Kwang Jazzykwang โดยเจ้าตัวเล่าววันได้เดินทางไปทำงานด้วยรถแท็กซี่คันหนึ่ง แต่เมื่อเปิดประตูรถเข้าไปก็ตกใจเล็กน้อยเพราะคนขับ ขับรถไปด้วยพร้อมกับป้อนนมลูกไปด้วย แต่เธอก็ตัดสินใจขึ้นไปนั่ง จากคำบอกเล่าของคนขับแท็กซี่ทำให้ทราบว่าภรรยาของเขาเพิ่งเสียชีวิตได้ไม่นาน ทำให้เขาต้องดูแลลูกอีก 2 คน คนโตอยู่ชั้นป.2 และคนเล็กเพิ่งจะอายุได้ไม่กี่เดือน เขาจึงต้องกระเตงลูกน้อยมาเลี้ยงบนรถด้วย แต่เนื่องจากลูกคนเล็กมีอาการป่วยม้ามโตเพราะติดเชื้อจากแม่ ทำให้ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แต่เจ้าตัวไม่มีเงินพอ ทุกวันนี้รายได้จากการขับแท็กซี่ยังแทบไม่พอจ่ายค่าเช่าบ้านเลย ใครที่เจอพี่แท็กซี่คนนี้ก็สามารถช่วยเหลือพี่เขาได้นะ เหมียวอ่านแล้วน้ำตาคลอเลย ที่มา Kwang Jazzykwang
-
Facebook แอบทำให้แอปเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ล่ม เพื่อลองใจผู้ใช้งาน!?!?
ในปัจจุบันเชื่อว่าคงจะมีน้อยคนนักที่ไม่รู้จักโซเชียลเน็ตเวิร์คสุดฮิตอย่าง Facebook รู้หรือไม่ เพิ่งจะมีการแฉออกมาว่า Facebook ได้ทำการทดลองบางอย่างกับผู้ใช้งาน โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว โดยทาง The Verge ได้รายงานว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา Facebook ได้ทำการทดลอง ด้วยการให้แอปเฟสบุ๊คเวอร์ชั้นแอนดรอยด์ล่มอย่างไม่มีสาเหตุ แล้วคอยดูว่าผู้คนจะทำอย่างไร ผลปรากฏว่าถึงแม้แอป Facebook จะล่ม แต่ผู้ใช้งานยังคงพยายามหาทางเข้าใช้ Facebook เหมือนเดิม เช่นไปใช้เฟสบุ๊คผ่านแอปเบราเซอร์แทน นั่นแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดีในเฟสบุ๊คของผู้ใช้งาน ไม่มีรายงานที่แน่ชัดว่า เฟสบุ๊คได้ทำการทดลองนี้ที่ไหนบ้าง แล้วกลุ่มที่พวกเขาต้องการทดสอบนั้นคือใคร แต่เชื่อว่านี่เป็นการเตรียมพร้อมของ Facebook หากวันหนึ่งพวกเขาเกิดความขัดแย้งกับ Google จนต้องถอดแอปออกจาก Play Store สมาชิกยังคงจะหาทางเล่น Facebook อยู่หรือไม่ ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าข่าวนี้เป็นจริงหรือไม่ แต่จากการที่สื่อใหญ่ๆ อย่าง The Verge นำมาเล่น นั่นยืนได้อย่างหนึ่งว่า ข่าวนี้มีเค้ามูลพอสมควร แต่ต่อให้ขัดแย้งขนาดไหน ก็เชื่อว่า Google ไม่กล้าถอดแอป Facebook ออกจาก Play Store…
-
[เหมียวรีวิว] แกะกล่อง Smart Watch ราคาพันนิดๆ นับแคลลอรีได้ ต่อเฟซบุ๊กได้ แถมกันน้ำได้ด้วย!!
เมื่อไม่นานมานี้แอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับร้านนาฬิกาแห่งหนึ่งบนเฟซบุ๊ก เขาขายนาฬิกา Smart Watch เหมียวเห็นแล้วก็อยากได้เหมือนกัน แต่คิดว่าคงหลายพัน แต่ปรากฏว่าราคาแค่พันนิดๆ เอง!! ไม่รอช้าซิ รีบซื้อมาลองเล่นโดยพลัน จากหน้าตาจะเห็นเป็นกล่องสีขาว ไม่มีชื่อยี่ห้อหรือข้อความอะไรมากมาย มีเพียงแค่คำว่า Smart Bracelet อยู่ด้านบนเท่านั้น และมีสัญลักษณ์ Apple Store และ Google Play อยู่ด้านล่าง ซึ่งก็หมายความว่าเราจะต้องไปโหลดแอพฯ ของเจ้านาฬิกามาใช้ในมือถือนั่นเอง เมื่อแกะออกมาก็จะเห็นนาฬิกาอัจฉริยะ 1 เรือน ภายในกล่องมีแค่เจ้านี่เลย (อ้อเกือบลืม มีคู่มืออีกแผ่นนึง) ตัวสายรัดจะเป็นยาง TPU นิ่มๆ ไม่เจ็บข้อมือ มีรูสำหรับรัดข้อมือหลายรูมาก คนข้อมือเล็กไม่ต้องเจาะเพิ่มเลย ตัวสายรัดกับนาฬิกา สามารถถอดแยกออกจากกันได้แบบนี้ มันก็จะกลายเป็น USB สั้นๆ สามารถชาร์จกับคอมหรือสายชาร์จมือถือได้ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 20 – 30 นาที สามารถอยู่ได้นานประมาณ 5 – 6…
-
ทำผิดจนเคยชิน!! ชาวเน็ตโวย ห้าแยกวัชรพลเปิดเลนพิเศษ ขับเลยมาเลนอีกฝั่ง หวั่นเกิดอุบัติเหตุ
เป็นคลิปที่ผู้ใช้รถใช้ถนนกำลังให้ความสนใจอย่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปที่ถูกถ่ายได้ ณ ห้าแยกวัชรพล ที่มีการจราจรติดขัด จนผู้ใช้รถใช้ถนนต้องเปิดเลนใหม่ที่ล้ำเข้าไปอีกเลน ทำให้การจราจรอีกฝั่งติดขัดเช่นกัน และอาจเกิดอุบัติเหตุได้ด้วย พร้อมกันนี้ยังมีข้อความว่า “ทำผิดกฎหมายจนเคยชิน ห้าแยกวัชรพลเปิดเลนพิเศษกันจนซึมลึกเข้าไปในสันดาน บางครั้งเราไม่หลบกลายเป็นเราผิด จนท.ครับ เอาจริงเอาจังเสียทีครับ นี่คือต้นตอของปัญหาจราจรที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะความมักง่ายและความเห็นแก่ตัว” คลิปได้ที่ด้านล่างเลย ทำผิดกฎหมายจนเคยชิน Cr : Pakpoom Plin Wannaseang ห้าแยกวัชรพล เปิดเลนพิเศษกันจนซึมลึกเข้าไปในสันดาน บางครั้งเราไม่หลบกลายเป็นเราผิด จนท.คร้าบ เอาจริงเอาจังเสียทีครับ นี่คือต้นตอของปัญหาจราจรที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ เพราะความมักง่าย และความเห็นแก่ตัว Posted by Motor Thailand on 10 ธันวาคม 2015 หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ทำชาวเน็ตพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มองว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่มักง่ายและไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้รถติดหนักกว่าเดิม ในขณะที่คุณ Puparn Kongsaby กล่าวว่า พฤติกรรมการขับรถแบบนี้มีให้เห็นมานานแล้ว เพราะบริเวณแยกนั้นเป็นแยกที่มีรถติดหนักโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน จึงมีการเปิดเลนใหม่กันเอง วอนเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลความเรียบร้อยด้วย …
-
พาส่องเพจ ‘ใบเฟิร์น ทองพับ ทองม้วน’ แก๊งค์แมวประมงบ้านๆ แต่ความน่ารักระดับพรีเมี่ยม!!
ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีเพจสัตว์เลี้ยงน่ารักผุดขึ้นมากมายยิ่งกว่าดอกเห็ดเสียอีก แต่การที่จะทำให้มีคนติดตามเยอะได้นั้นก็ต้องมาพิสูจน์กันอีกที เพราะฉะนั้นแล้วทางเพจก็ต้องงัดกลยุทธ์ในการเล่าเรื่อง การถ่ายภาพให้ได้มุมมองที่ถูกใจผู้ชมมากที่สุด สำหรับเพจที่เหมียวกำลังจะพาไปส่องนี้ ไม่ใช่เพจที่มีคนถูกใจหลักแสน หลักล้าน มีเพียงแค่หลักหมื่นต้นๆ แต่สำหรับการเล่าเรื่องในเพจนั้นก็สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความ ตามประสาของแก๊งค์แมวบ้านๆ 3 ตัวที่ชื่อว่า ใบเฟิร์น ทองพับ ทองม้วน ซึ่งจากภาพที่เห็นนั้นก็พิสูจน์ให้เห็นได้ว่า เป็นแมวที่เลี้ยงแบบง่ายๆ สบายๆ แถมยังเป็นแมวประมงชายฝั่งอีกต่างหาก เรื่องน้ำไม่กลัวกันเลยแม้แต่นิดเดียว แถมทางเพจก็เล่าแบบสั้นๆ เข้าใจง่าย ให้ความรู้สึกแบบเป็นกันเอง และที่แน่นอนเลยก็คือภาพความน่ารักของแก๊งค์แมวประมงชายฝั่ง ที่ส่วนมากจะใช้ชีวิตใกล้ๆ กับแหล่งน้ำ กิจกรรมส่วนมากก็นั่งเรือออกไปหาปลายามเย็น น่ารักน่าชังซะจริงจริ๊ง แก๊งค์แมวชุดนี้ ฮ่าฮ่า!! ว่าแล้วก็รีบไปกดไลค์กันเลยจ้า ใบเฟิร์น ทองพับ ทองม้วน
-
ชายหนุ่มวอนชาวเน็ตช่วยตามหา ‘ช่างภาพปริศนา’ กับภาพความงดงามระหว่างที่เขาขอแฟนแต่งงาน
ในช่วงเวลาสำคัญของชีวิตแต่ละช่วงนั้น หนึ่งสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยก็คือการถ่ายภาพเพื่อเก็บความทรงจำดีๆ เหล่านั้นเอาไว้ เผื่อว่าวันไหนจะได้กลับมาเปิดดูภาพนั้นอีกรอบ เพื่อระลึกถึงช่วงเวลาดีๆ ที่เคยเกิดขึ้นในชีวิต และไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก อย่างในกรณีของคู่รักที่กำลังจะก้าวเข้าสู่ชีวิตคู่อย่างจริงจัง ที่เหมียวจะบอกคือช่วงจังหวะเวลาในการขอแต่งงานนั่นเอง หากใครมีเพื่อนฝูงหรือมีเงินซักหน่อยเพื่อจ้างช่างภาพมาเก็บภาพความประทับใจก็จะเป็นอะไรที่ดีมากเลยล่ะ ซึ่งสำหรับพ่อหนุ่ม Michael Kent จากประเทศอังกฤษ ได้ทำการคุกเข่าขอแฟนสาว Fiona Newlands แต่งงานในต่างแดนที่ประเทศไอซ์แลนด์ จึงไม่มีใครถ่ายรูปให้ Dear Internet. Last night I proposed to Fiona Newlands in Iceland. A random woman took our picture as it happened (we… Posted by Michael John Kent on Saturday, November 28, 2015 จนมีผู้หญิงรายหนึ่งเดินผ่านมา เขาจึงขอให้เธอช่วยถ่ายรูปช่วงเวลาสำคัญให้…
-
เหมียวพารู้จัก ‘ระบบ Safety Check’ จาก Facebook ที่จะทำให้คุณรู้ว่าคนที่คุณรัก ปลอดภัยดีรึเปล่า!!?
สำหรับเรื่องราวที่เป็นกระแสไปทั่วโลกมากที่สุดตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการก่อการร้ายใจกลางกรุงปารีส ที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 149 คนซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่น่าสลดใจอย่างยิ่ง และถ้าเกิดว่าคนที่เรารัก หรือครอบครัวของเราเกิดอยู่ในโซนเกิดเหตุล่ะ ยิ่งติดต่อไม่ได้ยิ่งทำให้เรากระวนกระวายใจไม่น้อย ซึ่ง Facebook ก็ได้มีระบบเพื่อให้เหล่าญาติและผองเพื่อนได้สบายใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยระบบ Safety Check ระบบ Safety Check ซึ่งหลักการของระบบนั้นก็ง่ายๆ กล่าวคือ ผู้ที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุการณ์ ทั้งแผ่นดินไหว ก่อการร้าย หรือภัยพิบัติต่างๆ สามารถเข้าระเบบ Safety Check ในเหตุการณ์นั้นๆ และตั้งบอกว่าตนเองโอเคแล้ว เพื่อให้เหล่าผู้ที่เป็นห่วงเรา สบายใจนั่นเอง เพราะบางทีเราก็ไม่ได้อยู่ออนตลอด หรือพักรักษาตัวจากเหตุการณ์อยู่แต่ปลอดภัยแล้ว ซึ่งระยะเวลาที่คนเป็นห่วงเราแล้วติดต่อเราไม่ได้นั้น คงกระวนกระวายมากๆ นั่นเอง เลยเกิดระบบนี้ขึ้นมา ระบบ Safety Check จากเฟซบุ๊ค ระบบนี้เกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่น ปี 2011 ซึ่ง Mark Zuckerberg ก็ได้ตระหนักขึ้นมาว่า มีผู้คนมากมายที่ประกาศตามหาคนที่ตนเองรักไปทั่วอินเตอร์เน็ท เขาจึงคิดระบบนี้ขึ้นมาเพื่อบรรเทาและผ่อนคลายความกระวนกระวายของผู้คนที่ประสบเหตุและญาติๆ นั่นเอง ซึ่งระบบนี้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรงในประเทศเนปาลครั้งที่ผ่านมา ซึ่งถ้าเพื่อนๆ อยากเข้าไปเช็คดูว่าคนที่คุณรักโอเครึเปล่านั้น…
-
ใจพี่หล่อมาก!! ชาวเน็ตแชร์เรื่องราวดีๆ ของกระเป๋ารถเมล์ เสียสละเพื่อประชาชนไม่แพ้อาชีพอื่นๆ
นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆ ที่เหมียวอ่านแล้วอยากจะแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันบ้างเลยล่ะ เพราะมันอาจช่วยให้เรารู้สึกดีในวันที่สังคมมีแต่เรื่องแย่ๆ เต็มหน้าเฟซบุ๊กไปหมดก็ได้ เรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านผู้ใช้เฟซบุ็กที่ชื่อว่า อรวรรณ จันทร์นวน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกระเป๋ารถเมล์รายหนึ่ง ที่มีน้ำจิตน้ำใจ ยอมไม่พักกินข้าว และขับรถต่อไปเพื่อไปส่งผู้โดยสารให้ถึงที่หมาย นอกจากนี้ยังเคยส่งผู้โดยสารแบบฟรีๆ มาแล้วด้วย ทำเอาชาวเน็ตต่างชื่นชมและแชร์ข้อความของเธอออกไปอีกกว่าหมื่นครั้งเลยทีเดียว ทั้งนี้มีข้อความเต็มๆ ว่า “มีเรื่อง!!!!!อยากจะเล่าเกี่ยวกับกระเป๋ารถเมล์คันนี้ เรื่องมีอยู่ว่า เรานั่งรถเมล์สาย 56 จากพาหุรัด เพื่อกลับบ้านซึ่งต้องลงบางลำภู ระหว่างนั้นมีผู้โดยสารเป็นป้าแก่ๆ. 3-4 คน ขึ้นมาและกระเป๋ารถเมล์ถามว่า ไปลงไหนครับ ป้าก็บอกผ่านมหาลัย….ไหม?” “กระเป๋ารถเมล์หันไปถามคนขับรถว่า จะจอดแค่บางลำภูดีไหม คนขับบอกแล้วแต่ กระเป๋ารถพูดออกมาเสียงดังแบบดังมาก ‘ไม่ต้องพักหรอกกินข้าว บนรถก็ได้ผู้โดยสารเยอะ รถติดต้องรอคันหลังนาน’ คุณพระใจพี่แมร่งหล่อมาก” “มันทำให้เราคิดเลยนะ ว่าไม่ใช่แค่อาชีพ ตำรวจ ทะหาร พยาบาล ที่ต้องเสียสละเพื่อประชาชนหรอก กระเป๋ารถเมล์/คนขับรถเมล์ก็เช่นกัน น่านับถือใจแกจริงๆ ค่ะ พี่คนนี้เคยให้เราขึ้นรถเมล์ฟรีด้วย เพราะเราจะนั่งรถเมล์ไปรับลูกทุกวัน” “แต่รถเมล์จะเข้าบางลำภูเป็นบางคัน พี่เค้าเห็นเราอุ้มลูกขึ้นรถแล้วบอกว่ารถไม่เข้าบางลำภู แต่ว่าจะนั่งไปลงแยกวันชาติได้นะครับผมไม่เก็บตัง…
-
สุดชอกช้ำ ชายหนุ่มถ่ายคลิปเดินส่งเมียให้ชู้เพราะรวยกว่า แถมอวยพร “โชคดีนะ”
เหมียวล่ะน้ำตาจะไหลเลยทีเดียว เพราะล่าสุดเหมียวได้ไปเห็นคลิปวิดีโอหนึ่งจากเฟซบุ๊กเพจ LiveNews เป็นคลิปที่ชายหนุ่มรายหนึ่งกำลังเดินไปส่งแฟนสาว ขึ้นรถชายชู้อีกคน ทำเอาชาวเน็ตรวมถึงเหมียวเองถึงกับนับถือใจของพี่แกเลย นอกจากนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “มาส่งเมียให้ไปอยู่กับชู้เพราะให้อภัยมาเกินพอขนาดกลับบ้านผูกข้อต่อแขนกัเสร็จยังโกหกมีงานด่วนรีบกลับมาทำงานวันต่อมาเอาไปเช่าโรงแรมบนเกาะล้านมีอะไรกันนี่ขนาดเพิ่งแต่งงานนะเนี้ย” ชมคลิปสุดอึ้งได้ที่ด้านล่างเลย มาส่งเมียให้ไปอยู่กับชู้..เพราะให้อภัยมาเกินพอ!!LiveNews ” มาส่งเมียให้ไปอยู่กับชู้..เพราะให้อภัยมาเกินพอ!! ” มาส่งเมียให้ไปอยู่กับชู้เพราะให้อภัยมาเกินพอขนาดกลับบ้านผูกข้อต่อแขนกัเสร็จยังโกหกมีงานด่วนรีบกลับมาทำงานวันต่อมาเอาไปเช่าโรงแรมบนเกาะล้านเย็ดกันนี่ขนาดเพิ่งแต่งงานนะเนี้ย..(@กรองทิพย์ สิบบาท) กล่าว…” ขอบคุณเรื่องจาก↭(@กรองทิพย์ สิบบาท) CREDI :https://goo.gl/t9g38R #LiveNews อย่าลืมกด”like”กด”share”กันด้วย Posted by LiveNews on 4 พฤศจิกายน 2015 เหมียวไม่รู้ว่าพี่ผู้ชายเป็นใครอยู่ที่ไหนนะ แต่เหมียวนับถือใจพี่เลย ขอให้เจอรักครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม และเขาก็รักพี่จริงๆ นะ ที่มา LiveNews
-
ชาวเน็ตแชร์คลิปงานแต่งของเจ้าสาวขาพิการ เจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาวเข้างาน ซึ้งน้ำตาไหล
หากใครกำลังสิ้นหวังในความรัก แอดเหมียวขอแนะนำให้คุณลองมาอ่านเรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่เหมียวนำมาเสนอในวันนี้หน่อย รับรองว่าคุณจะกลับมาเชื่อมั่นในรักแท้อย่างแน่นอน เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอผ่านผู้ใช้เฟซบุ๊ก กิ๊กกิ๊ก’ ปัทมา.เป็นคลิปวิดีโองานแต่งงานของคุณยะและคุณหนูนา คู่บ่าวสาวที่กำลังเข้าพิธีวิวาห์ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ชาวเน็ตประทับใจในความรักของทั้งคู่คือ ฝ่ายหญิงนั้นสูญเสียขาทั้งสองข้างไป แต่แทนที่ฝ่ายชายจะตัดใจและจากเธอไป เขากลับอยู่ข้างๆ เธอและตัดสินใจขอเธอแต่งงานในที่สุด นอกจากนี้คุณหนูนายังได้พูดประโยคซึ้งๆ ถึงแฟนของเธอด้วยว่า “สิ่งที่หนูอยากจะบอกพี่ยะ ที่เราได้อยู่ด้วยกัน ที่พูดไม่ดีกับพี่ยะ เพราะว่าตั้งแต่หนูตัดขา หนูก็แบบว่าจะเป็นคนอารมณ์ร้อนค่ะ เอาแต่ใจตัวเอง จนบางทีก็ชวนทะเลาะเกือบทุกวัน แต่ไม่เคยพูดขอโทษ แต่วันนี้อยากจะบอกว่าเขาขอโทษ” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย ดูคลิปนี้แล้วน้ำตาไหลและยินดี พี่หนูนาเจ้าสาวขาขาด✌✌ ☺เห็นพี่เค้ายิ้มเราดูมีความสุขตามเลย ตอนนี้แต่งงานแล้วน่ะค่ะน่าอิจฉามากๆ ขอแสดงความยินดีกับพี่หนูนาและพี่ยะด้วยน่ะค่ะปลื้มปริ่มน้ำตาจะไหลคู่แท้มีจริงๆด้วยในโลกนี้ใครที่มีแฟนก็ช่วยกันดูแลดีๆเหมือนพี่ๆคู่นี้น่ะไม่ว่าจะเป็นยังไง Posted by กิ๊กกิ๊ก’ ปัทมา. on 5 พฤศจิกายน 2015 เหมียวล่ะขอชื่นชมในความอดทนของทั้งคู่เลย ยังไงขอเอาใจช่วยให้ความรักของทั้งคู่เบ่งบานและรักกันตลอดไปเลยนะ ที่มา กิ๊กกิ๊ก’ ปัทมา.
-
โลกออนไลน์แห่แชร์ภาพห้องพักสุดรก มีขยะกองเป็นภูเขา ประหนึ่งไม่ได้ทำความสะอาดเป็นปี!!
กลายเป็นภาพที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับภาพของห้องพักสุดรก (จริงๆ) ที่เต็มไปด้วยขยะกองเป็นภูเขาและมองไม่เห็นอะไรเลยแม้แต่เตียงนอน!! เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Snwrsr Wongpanith เป็นอัลบั้มภาพสุดสยองที่ถูกถ่ายโดยหญิงสาวรายหนึ่ง โดยเจ้าตัวอธิบายว่าเธอมักจะถูกมดกัดเวลานอน แถมยังมีแมลงสาบเพ่นพ่านไปมาแถวหน้าห้องของเธอด้วย แต่เมื่อเธอเดินไปดูห้องพักข้างๆ ก็ถึงกับช็อคหนัก เพราะห้องนอนข้างๆ เธอนั้นเต็มไปด้วยเศษขยะ ทั้งกล่องโฟมใส่อาหาร ถุงพลาสติก เสื้อผ้าใช้แล้ว และอีกมากมาย ประหนึ่งว่าไม่เคยทำความสะอาดเลยทั้งปี ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “ตอนแรกก็สงสัยทำไมมดขึ้นเตียงกันจัง เล่นโทรศัพท์มดก็ไต่โทรศัพท์ นอนอยู่มดก็กัด เอ๊ะ!! เราเป็นเบาหวานกันหรอ??????? จะบ้าตายแมลงสาบวิ่งเล่นหน้าห้องให้สนุก ก็ว่าทำความสะอาดตลอดนะ ทำไมทำไมทำไม” “พอห้องข้างๆเปิดประตูเท่านั้นแหละ สะอาด@&&&@&@$€¥ ตกใจไปแปดตลบ พี่คะ พี่อาจจะเป็นลูกคนรวยเนอะ แมคบุ้ค กล้อง ไฟ ของใช้ พี่ติสได้ใจน้องมากคะ กลับมาเก็บห้องโน๊ะ 622 อ้า สงสารเถอะ ตัวนี้จะไม่มีพื้นที่ให้มดกัดแล้วคะ ต้องลื้อห้องใหม่อีก มารู้อ้อ…
-
โหดไป๊!! โลกออนไลน์แชร์ภาพหญิงสาวถูกทหารรุมตบจนล้มในร้านอาหาร ไม่พอยังตามไปตบซ้ำ
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอที่ชื่อว่า ‘เอาขวดฟาดหัวผู้หญิง’ โดยเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นภาพเหตุการณ์ที่หญิงสาวกำลังยืนคุยกับทหารรายหนึ่ง ก่อนที่หนึ่งในกลุ่มทหารจะเดินมาตบหน้าผู้หยิงอย่างแรง แถมเมื่อเธอล้มลงไปแล้ว ยังมีทหารอีกรายเดินตามไปตบเธอซ้ำแม้เธอจะลงไปกองกับพื้นแล้ว สร้างความตกใจให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไปก็มีสมาชิกในเฟซบุ๊ครายหนึ่งออกมาแสดงตัวว่าตนเองเป็นหญิงสาวที่อยู่ในคลิปนั้นเอง พร้อมกับบอกว่าไม่ได้มีการใช้ขวดฟาดแต่อย่างใด เพียงแต่ใช้มือเปล่าๆ ตบเท่านั้น ทั้งนี้เธอได้อธิบายถึงเหตุการณ์ในคลิปต่อว่า เธอได้เดินไปทักทายพี่คนหนึ่งในโต๊ะดังกล่าว มีการพูดคุยจับบ่า แต่ทำให้ทหารคนอื่นๆ เข้าใจผิดคิดว่าเป็นการตบหัว จึงมีการถกเถียงกันเกิดขึ้น ทำให้ทหารเกิดความไม่พอใจและลุกมาตบหน้าเธอในที่สุด ก่อนทหารอีกนายจะตามมาตบซ้ำ หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาแสดงความเห็นอกเห็นใจหญิงสาว และขอให้เธอหายดี แต่มีความเห็นอีกฝั่งของชาวเน็ตมองว่าทหารไม่น่าจะลุกขึ้นมาตบหน้าหญิงสาวได้ หากเธอไม่ไปพูดอะไรไม่ดีหรือพยายามยั่วโมโหทหารก่อน ต่อมาหญิงสาวผู้อ้างตัวว่าเป็นผู้เสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้โพสต์รูปภาพของทหารคู่กรณีลงในเฟซบุ๊คของตัวเอง พร้อมกับข้อความว่า “นี่โฉมหน้าคนทำร้ายตบพุญค่ะ ตบจนล้มลงไปนอน ยังลงไปตบซ้ำ มีคนมาห้ามยังซ้ำ กะเอาให้ตาย ถ้าไม่มีคนมาช่วยถึงตายค่ะ แมนมากเก่งกับพุญ” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ที่มา Fuxker VDO , kapook
-
ดีงาม!! Facebook จะส่งแจ้งเตือนให้ผู้ใช้ได้ทราบ หากว่ามีการล้วงข้อมูลจากรัฐบาล
เป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนไม่อยากให้ข้อมูลความลับส่วนตัวแพร่กระจายออกไปให้ผู้อื่นได้รับรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโลกออนไลน์และในโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งหากจะใช้งานก็จำเป็นที่จะต้องยินยอมเปิดเผยข้อมูลส่วนหนึ่งของตนเองด้วย อย่างไรก็ตามการเผยข้อมูลส่วนตัวนั้นเป็นข้อตกลงระหว่างผู้ใช้กับผู้ให้บริการ โดยที่ผู้อื่นนอกเหนือจากผู้ให้บริการไม่อาจล่วงรู้ถึงข้อมูลผู้ใช้ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้จากผู้ไม่หวังดีนั่นเอง ในการนี้ทาง Facebook จึงได้ออกมาตรการใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ทุกรายที่มีมากกว่า 1 พันล้านบัญชี ด้วยการแจ้งเตือนผ่านข้อความว่า ‘เราคาดว่าบัญชีของท่าน ตกเป็นเป้าหมายหรือถูกโจมตีจากบุคคลที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลภายในประเทศของท่าน’ Facebook จะขอให้ผู้ใช้เปิดการใช้งานระบบ Login Approvals (การยืนยันตัวตน) โดยมีหลักการทำงานคือระบบจะทำการส่งรหัสยืนยันตัวตนผ่านข้อความ SMS และจะต้องป้อนรหัสนี้ทุกครั้งเมื่อมีการเข้าระบบจากอุปกรณ์ใหม่หรือบราวเซอร์ใหม่ ทางหัวหน้าแผนงานด้านความปลอดภัยของ Facebook นามว่า Alex Stamos กล่าวเอาไว้ว่า การแจ้งเตือนดังกล่าวนั้นไม่ได้หมายความว่าระบบส่วนกลางได้รับการโจมตี แต่เป็นการถูกโจมตีมาจากอุปกรณ์ของผู้ใช้ที่อาจจะติดไวรัสหรือมัลแวร์มา เพราะฉะนั้นควรที่หยุดการเชื่อมต่อใดๆ และเปลี่ยนเครื่องให้เร็วที่สุด เหตุการณ์แบบนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับ Facebook เองเพราะหนึ่งในนโยบายหลักคือการปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ทุกราย และจะทำการปิดกั้นการล้วงข้อมูลจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่ถูกสนับสนุนจากรัฐบาลให้ล้วงข้อมูลหรือแม้แต่กระทั่งตัวรัฐบาลเองก็ตาม!! ที่มา : news.yahoo
-
เดือด!! คนขับแท็กซี่ถ่ายคลิปประจานผู้โดยสารกินขนมบนรถแถมไล่ลงกลางทาง เจอชาวเน็ตสวนกลับยับ
กลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาอีกครั้ง สำหรับกรณีระกว่างคนขับแท้กซี่และผู้โดยสาร โดยเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปของคนขับแท็กซี่ที่ใช้ชื่อเฟซบุ๊คว่า ประเสริฐ บุญประเสริฐ ที่ได้ถ่ายคลิปของตนเองขณะที่กำลังด่าผู้โดยสารรายหนึ่ง โดยมีใจความว่า “ไม่ได้เรียนหนังสือหรือถึงอ่านป้ายห้ามรับประทานอาหารที่ติดไว้ไม่ออก พร้อมกับบ่นอีกชุดใหญ่ และบอกให้รีบทานให้หมดไว ๆ เพราะนี่เป็นรถสาธารณะ นั่งกันหลายคน ถ้าเห็นแต่แรกว่ากินขนมจะไม่จอดรับขึ้นรถแน่นอน” พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ขึ้นมาแดกๆๆ บนรถ สุดท้ายผู้หญิงที่นั่งหลังผมทำท่าไม่พอใจ ผมเลยนิมนต์ลงกลางถนนที่รถติดๆ เลยจ้า” หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของชาวเน็ตเป็นอย่างมาก โดยมีความเห็นหนึ่งแสดงความเห็นอกเห็นใจคนขับรถแท็กซี่ว่า “อย่ามองว่าไม่สมควร อย่างมันพูดก็ถูก รถโดยสารไม่ใช่ที่แดกข้าว แดกขนม รถสาธารณะ วันนึงคนขึ้นเยอะ” ในขณะที่ความเห็นอีกฝั่งหนึ่งมองว่าสิ่งที่คนขับแท็กซี่พูดนั้นไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพียงแต่วิธีการพูดอาจจะดูรุนแรงไปหน่อย ควรปรับวิธีการพูดให้ดูนุ่มนวลมากขึ้น หลังจากนั้นเจ้าของคลิปก็ได้ออกมาตอบโต้ชาวเน็ตที่รุมวิจารณ์ตนเองว่า อยากให้ลองนึกถึงใจเขาใจเราบ้าง หากคุณเป็นคนขับรถที่มีคนนำขนมขึ้นมากินบนรถของคุณอย่างสนุกสนาน คุณจะรู้สึกอย่างไร เหมียวก็ขอฝากไปถึงผู้ที่ต้องเดินทางด้วยแท็กซี่บ่อยๆ ก็แล้วกันนะ ว่าอย่างเอาของกินหรืออะไรที่กลิ่นแรงๆ ขึ้นไปกินบนรถเขาเลยนะ ส่วนพี่ๆ แท็กซี่เองก็ใจเย็นๆ นะจ๊ะ มีอะไรก็ค่อยๆ พูด…
-
ไม่รอด!! ตำรวจรวบหนุ่มใช้ตะเกียบแทงแทงคอคนอื่น หลังเพิ่งออกคุกมา อยากมีเรื่อง
หากใครยังจำกันได้ เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมา แอดเหมียวได้นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อหนุ่มสุดคลั่งรายหนึ่ง ที่นั่งกินข้าวอยู่ในร้านข้าวหน้าเป็นในกรุงเทพฯ แต่จู่ๆ กลับใช้ตะเกียบแทงคอลูกค้าโต๊ะข้างๆ ด้วยสาเหตุเพียงเพราะ “อยากมีเรื่อง เพิ่งออกคุก” ล่าสุดดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มคนนั้นจะไม่ได้ลอยหน้าลอยตาไปหาเรื่องคนอื่นอีกแล้วล่ะ เพราะเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊ค ป๋อง ณ.คลองเตย ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากคดีดีนี้ ได้โพสต์ภาพและข้อความที่ระบุว่าสามารถตามจับผู้ก่อเหตุได้แล้วเรียบร้อย ตามรายงานบอกว่า พ.ต.อ. สานิตย์ ไชยสถิตย์ ผกก.สภ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้นำทีมตำรวจเข้าจับกุมนาย คธาวุฒิ ทัดศรี วัย 28 ปี ในข้อหาทำร้ายร่างหายผู้อื่น ได้ที่จังหวัดอุบลราชธานี ทั้งนี้ผู้ก่อเหตุได้รับสารภาพว่าตนเป็นคนก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงประสานงานไปยัง สน.คลองตัน เพื่อให้มารับตัวไปดำเนินคดีต่อไป หากใครจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แอดเหมียวมีคลิปย้อนหลังมาให้ชมกันด้วย ช่วงแรก มื้อนี้อร่อยถ้ากูกินไวคงไม่โดน มานั่งรอกูคนเดียว บอกแล้วว่ากินข้าวช้าถึงไม่ชอบกินนอกบ้าน Posted by ป๋อง ณ.คลองเตย on 11 ตุลาคม 2015 ทีหน้าทีหลัง…
-
ห้าม!! คนขับแท็กซี่ไม่แคร์สื่อ เขียนป้ายห้ามทุกสิ่งอย่าง ใครไม่พอใจรถเมล์ฟรียังมี
เวลาที่เราต้องเดินทางด้วยรถแท็กซี่ หลายๆ คนก็คงจะพอทราบถึงมารยาทในการโดยสารรถแท็กซี่คร่าวๆ ล่ะนะ เช่นไม่นำอาหารกลิ่นแรงๆ ขึ้นมากิน ไม่ส่งเสียงดังโวยวายคนขับรถ เพราะหากเราไม่เกรงใจคนขับรถแท็กซี่ คุณอาจจะเจอแบบโหดๆ อย่างนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค Aonuma Choothong เป็นภาพที่เจ้าตัวได้ถ่ายมาจากรถแท็กซี่คันหนึ่ง โดยเป็นป้ายข้อกำหนดในการโดยสารรถ ที่มีการระบุข้อห้ามต่างๆ มากมาย ทั้งห้ามกินหมากฝรั่ง ท๊อฟฟี่ ลูกอม อาหาร ห้ามใช้แป้งฝุ่น น้ำหอม สารเคมี ห้ามเล่นเกม What App, Line(ให้ปิดเสียงเลย) หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตจำนวนมากพากันเข้ามากดไลค์และแสดงความเห็นมากมาย โดยมีหนึ่งในความคิดเห็นที่น่าสนใจของคุณ วุฒิชาติ ธงแสนเมือง บอกไว้ว่า “ผมขับแท๊กซี่ครับ ตามที่เห็นเขาคงอึดอัดมากไปนะ ผมเช่ารถขับก็เจอแบบที่ลงรูปทุกวันแต่ผมเฉยๆนะ คิดซะว่าเดี๋ยวเขาก็ลงแล้วทนเอานิดหน่อย” มองในมุมลูกค้า เหมียวเองก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกันนะ เพราะบางทีเราก็มีธุระที่ต้องติดต่อ แต่ก็ต้องเห็นใจพี่คนขับแท็กซี่เช่นกัน ว่าวันๆ ต้องเจอกับลูกค้าและรับกับความเครียดมากมาย เอาเป็นว่าเกรงใจซึ่งกันและกันดีกว่าเนอะ ที่มา Aonuma Choothong
-
ชายหนุ่มเจอเพื่อนแฟนทักแชทมาอ่อย แต่เขากลับปฏิเสธอย่างหล่อ ชาวเน็ตเชื่อเป็นเรื่องแต่ง
เมื่อไม่นานมานี้ แอดเหมียวได้ไปเจอเข้ากับกระทู้หนึ่งในพันทิปมาล่ะ เป็นกระทู้โดยสมาชิกหมายเลข 2641391 ที่บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เพื่อนของแฟนแอบแชทมาหา และอยากจะมีความสัมพันธ์มากกว่าพี่น้อง ทำเอาชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปเลย แต่หลังจากตั้งตัวได้ ชายหนุ่มก็ตอบกลับฝ่ายหญิงไปด้วยคำตอบสุดหล่อด้วยข้อความว่า “ไม่ดีมั้งน้อง แฟนพี่ก็เพื่อนน้องนะ อย่าทำแบบนี้เลย มันไม่ถูกหรอก” จนฝ่ายหญิงต้องเฉลยในที่สุดว่า แท้จริงแล้วเป็นแผนของแฟนเขา ที่ให้เธอแอบมาลองใจฝ่ายชายนั่นเอง แต่หลังจากที่กระทู้นี้ถูกเผยแพร่ออกไป กลับมีชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งไม่เชื่อว่านี่คือบทสนทนาจริงๆ และคิดว่าเป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองดัง อย่างเช่นความเห็นของผู้ที่ใช้นามแฝงว่า ชะเอมว่องไว “คำพูดคุณนิยายเกินไป ถามปุ๊บ ยิงเรียงความธรรมชาติศึกษาชั้นเอกปฏิเสธกลับไปปั๊บ” แต่ไม่ว่ากระทู้นี้จะเป็นการแอบอ้างขึ้นหรือเกิดขึ้นจริงๆ แต่เหมียวว่ามันก็ช่วยเตือนสติให้กับสาวๆ หรือหนุ่มๆ ได้พอสมควรเลยล่ะ หากสาวๆ คิดจะลองใจแฟนหนุ่มแบบนี้ แอดเหมียวว่าอย่าดีกว่านะ เดี๋ยวจะกลายเป็นทะเลาะบ้านแตกเปล่าๆ ที่มา สมาชิกหมายเลข 2641391
-
อาบัติแน่นอน!! โลกออนไลน์แชร์คลิป 2 พระภิกษุ นั่งดวดเบียร์กันจนเมาแอ๋ พร้อมบอกเพื่อนซื้อให้
ในขณะที่ผู้ใหญ่ในบ้านเรากำลังวุ่นอยู่กับการเซ็นเซอร์และสั่งระงับภาพยนตร์เรื่อง อาบัติ อยู่นั้น แต่ในโลกออนไลน์กลับมีคลิปของพระที่ทำผิดทางวินัยจริงๆ ให้เราได้เห็นอยู่บ่อยครั้งทีเดียว ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอของพระภิกษุ 2 รูปในขณะกำลังนั่งดื่มเบียร์กันจนเมาแอ๋ แต่ในระหว่างนั้นมีชาวบ้านผ่านมาเห็นพอดี จึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายคลิปไว้พร้อมกับสอบถามว่าพระเป็นคนที่ไหน หลังจากการพูดคุย พระภิกษุรูปหนึ่งก็ได้บอกว่า “ผมได้ดื่มเบียร์มาจริง ไม่เมาแต่ยอมรับความจริง” พร้อมกันนี้ยังบอกด้วยว่าเบียร์ที่เห็นอยู่นี้ ตนไม่ได้เป็นคนซื้อเอง แต่มีเพื่อนซื้อมาให้ #อาบัติ !!!!!!! (15/10/58) ::–> #อาบัติ !!!!!!! (15/10/58) <–:: CREDIT: @Kingpo Podum www.facebook.com/kingpo.podum ************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@Chayakit Hanchengchai Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on 15 ตุลาคม 2015 ความจริงในสังคมไทย มันก็แทบไม่ต่างอะไรจากในภาพยนตร์เลยนะเนี๊ยะ ที่มา YouLike (คลิปเด็ด)
-
เอาไงแน่? ชาวเน็ตเถียงสนั่น ภาพทะเลสาบ Königssee สะอาดจนดื่มได้ แต่ช่างภาพกลับลงไปยืนแช่ซะงั้น!?
กลายเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลนอยู่ในขณะนี้เลยล่ะ สำหรับภาพของทะเลสาบ Königssee ในประเทศเยอรมนี ที่ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คเพจ a day magazine เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยว่ากันว่าสะอาดจนสามารถนำมาดื่มได้เลยทีเดียว แต่กลับมีช่างภาพรายหนึ่งลงไปยืนโพสต์ท่าแนวๆ อยู่ในทะเลสาบ จนชาวเน็ตเกิดความสงสัยว่า มันสะอาดพอให้ดื่มได้จริงหรือเปล่า? “Königssee มีดีกรีเป็นทะเลสาบที่สะอาดที่สุดในเยอรมนี สะอาดในระดับที่สามารถพูดได้ว่า น้ำในทะเลสาบมีคุณภาพทัดเทียมเท่ากับน… Posted by a day magazine on 11 ตุลาคม 2015 หลังจากที่ภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีชาวเน็ตสังเกตเห็นว่า ทะเลที่ว่ากันว่าสะอาดจนสามารถดื่มได้นั้น มีช่างภาพคนหนึ่งยืนอยู่ และคิดว่ามันคงจะไม่สะอาดพอสำหรับการดื่มอีกแล้ว อย่างเช่นคอมเม้นของคุณ Sorrasak Phonklad ที่บอกว่า “ผมว่าก่อนหน้าคนในภาพจะเหยยบลงน้ำ มันคงดื่มได้” และ Chalermsak Kittitrakul ได้บอกว่า “ควรจะปล่อยให้มันสะอาดอยู่แบบนั้น ไม่ต้องลงไปในน้ำก็ได้ครับ” แต่จากนั้นก็มีชาวเน็ตหลายรายเข้ามาแย้งว่าทะเลสาบแห่งนี้สามารถลงไปว่ายได้ด้วย โดยความเห็นของคุณ Deen Godhands ได้แคปภาพจากวิกิพีเดีย ที่ระบุว่าทะเลสาบแห่งนี้สามารถลงว่ายน้ำได้ มาให้พวกเราได้กระจ่างกันด้วย งานนี้ใครเงิบกันล่ะ…
-
ฟังกันบ้าง ‘เสก โลโซ’ โพสต์ข้อความถึงหน่วยงานรัฐ “จะทำอะไรคิดถึงประชาชนด้วยนะจ๊ะ”
หลังจากที่ไม่กี่วันมานี้ มีกระแสออกมาว่า สคบ. ได้สั่งห้ามนักแสดงถือขวดเบียร์หรือแอลกอฮอล์ ที่เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมายมาตรา 26 ล่าสุดร็อคเกอร์ชื่อดังอย่าง เสก โลโซ ก็ขอออกมาพูดถึงประเด็นนี้บ้างล่ะ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความจากเฟซบุ๊คของ SEK LOSO เกี่ยวกับกรณีที่มีการสั่งห้ามดาราและประชาชนถือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงในโซเชียลว่า “POWER 2 DE PEOPLE!! *จะทำอะไรให้คิดถึงประชาชนด้วยนะจ๊ะ อ่านคอมเม้นท์ความคิดเห็นประชาชนหน่อย ด้วยความปรารถนาดี …S. LOSO” หลังจากที่ข้อความถูกแชร์ออกไป ก็มีแฟนคลับจำนวนมากพากันแสดงความคิดเห็นถึงกรณีนี้ว่า รัฐบาลควรเอาใจใส่กับเรื่องอื่นๆ มากกว่านี้ อย่างเช่นข้อความของคิตตี้จัง คิคิ “เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี๊ยะ สังคมไทยจะอะไรกันนักหนา ไปเข้มงวดกับอย่างอื่นที่มันเป็นภัยสังคม ผู้หญิง คนชรา และเด็กๆ จะดีกว่าไหม” งานนี้เหมียวแอบเห็นด้วยกับพี่เสกนะเนี๊ยะ ที่มา SEK LOSO
-
พลังโลกออนไลน์ แห่แชร์ข้อความช่วยเหลือคุณตา หลังยายถูกรถชนเสียชีวิต ไม่มีแม้เงินทำศพ
เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุรถชนรถจักรยานยนพ่วงข้างบริเวณหน้าสนามกอล์ฟลานนา ถนนโชตนา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้คุณตาและคุณยายเร่ขายผักได้รับบาดเจ็บ แต่คุณยายอาการสาหัสจนเจ้าหน้าที่ต้องเร่งปั๊มหัวใจ หลังจากใช้เวลาปั๊มหัวใจสักครู่ คุณตาก็ได้ถามกับเจ้าหน้าที่ว่า “ยายไม่หายใจแล้วใช่ไหม” กลายเป็นบรรยากาศที่น่าสลดของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเลยทีเดียว แต่เรื่องราวกลับน่าเศร้ากว่านั้น เพราะทั้งคู่มีอาชีพเร่ขายผัก และไม่มีเงินมากพอจะนำศพของคุณยายมาทำพิธีกรรมทางศาสนา แต่โชคดีที่มีชาวเน็ตใจดีที่นามชื่อว่า Napat Meo โพสต์ข้อความเพื่อขอความช่วยเหลือแทนคุณ เพราะคุณตาเองยังคงมีอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุอยู่ จึงอาสารับบริจาคเงินเพื่อนำไปมอบให้กับคุณตาขายผัก เพื่อนำเงินไปทำศพยายและเป็นค่ารักษาพยาบาลต่อไป หลังจากที่ข้อความนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีชาวเน็ตต่างพากันเข้ามากดแชร์ข้อความของเธออย่างมากมาย พร้อมกับโอนเงินเพื่อสมทบทุนให้กับคุณตาอีกเพียบเลยทีเดียว และหากใครอยากจะร่วมสมทบทุน พวกคุณก็สามารถบริจาคให้กับบัญชีของคุณตาได้โดยตรงที่ด้านล่างนี้เลยนะ ขอใช้พื้นที่ตรงนี้ นะคะ ช่วยกันไลค์และแชร์ ตอนนี้คุณยายขายผักที่ประสบอุบัติเหตุ โดนรถชน เสียชีวิตแล้ว คืออ่านข่าวร้องไห้… Posted by Napat Meo on 8 ตุลาคม 2015 ที่มา Napat Meo
-
ตามมาส่องรถยนต์ธรรมดาๆ ของเหล่าพนักงาน Facebook ณ สำนักงานใหญ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย
หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก ณ ปัจจุบัน กับบริษัท Facebook ที่มีพนักงานประมาณ 11,000 ชีวิตจากสำนักงานทุกสาขาทั่วโลก ซึ่งสำนักงานใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จะมีพนักงานเยอะที่สุด และหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจก็คือยานยนต์ที่จอดเรียงรายในลานจอดรถ คันนี้คือ Lotus Elise มือหนึ่งราคาอยู่ที่ประมาณ 1.6 – 2.6 ล้านบาท พนักงานบริษัทที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกนั้น จะขับรถยนต์แบบไหนมาทำงานกันบ้าง ก็คงจะเหมือนๆ กับบริษัทอื่นๆ ทั่วไปแหละ รถยนต์ธรรมดาๆ ไม่ได้พิเศษอะไรมากมายเลยจริงๆ นะ แต่ทำรู้สึกอิจฉาตาร้อนผ่าวๆ ฮ่าฮ่า!! อย่าง BMW Z4 ก็มีให้เห็นเยอะเหมือนกัน ราคามือหนึ่งอยู่ที่ 1.6 – 1.8 ล้านบาท รถเก่าย้อนยุคอย่าง Ford Mustang 1965 ก็มากับเขาด้วย Chevy Corvette C3 1980 ตามมาติดๆ …
-
ชาวเน็ตจวก!! เจ้าของตลาดย่านพระราม 3 อาละวาดใหญ่ ไล่ที่แม่ค้าแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
กลายเป็นดราม่าให้ชาวเน็ตได้เข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย สำหรับกรณีของเจ้าของตลาดแห่งหนึ่งย่านพระราม 3 ที่โมโหจัด หลังไล่แม่ค้าไปขายที่อื่น แต่แม่ค้าติดลูกค้าอยู่จึงไม่ได้ย้ายในทันที ทำให้เธอเกิดอาการยัวะจัดจนต้องอาละวาดใหญ่ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 8 ตุลาคมที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค Amm Chumpoonuth เผยให้เห็นหญิงสาวในชุดสีดำรายหนึ่งกำลังวาละวาดเขวี้ยงเก้าอี้ไปมา และพูดจาด้วยถ้อยคำหยาบคายเพื่อไล่แม่ค้าออกไปขายที่อื่น ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง เจ้าของตลาด..ย่านพระราม3 #ไล่ที่แม่ค้า::–> เจ้าของตลาด..ย่านพระราม3 #ไล่ที่แม่ค้า (8/10/58) <–:: โดย[@Amm Chumpoonuth]_ได้โพสต์ไว้ว่า: …เจ้าของตลาดย่านพระราม 3 ทำลายข้าวของแม่ค้า เพราะให้เค้าย้ายที่ขาย..แต่เค้าติดลูกค้าอยุ่เลยไม่ได้ย้ายทันที โปรดใช้วิจารณญาณ ~ CREDIT: web.facebook.com/amm.chumpoonuth/videos/964275196964833/ ************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก––@Amm Chumpoonuth Posted by YouLike (คลิปเด็ด) on 8 ตุลาคม 2015 หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ทำให้ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก โดยมีความเห็นหนึ่งของคุณ เทพบุตรถังแตก ซาคาโมโต้ เรียวม่า ไจไจ๋ ได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจว่า ตลาดแห่งหนี้ชื่อว่าตลาดครูหวี โดยเจ้าของเดิมมีชื่อว่าครูหวีแต่เสียชีวิตไปนานแล้ว…
-
Facebook เตรียมปล่อยปุ่ม Reaction ให้คุณแสดงความรู้สึกได้มากกว่าแค่กด “Like”
เคยไหม เวลาที่เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊คของคุณโพสต์เรื่องเศร้าๆ เช่นเลิกกับแฟน สุนัขตาย แม่เข้าโรงพยาบาล แต่คุณดันกด Like ให้กับเรื่องราวนั้นๆ จนอาจทำให้ฝ่ายตรงข้ามคิดไปว่าคุณรู้สึกดีกับเรื่องราวดังกล่าว? วันนี้คุณไม่จำเป็นต้องกด Like เพียงอย่างเดียวแล้วล่ะ เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม เฟซบุ๊คของ Mark Zuckerberg ได้ออกมาเปิดเผยว่าทีมงานของเขากำลังเตรียมที่จะส่งปุ่ม Reaction ที่สามารถแสดงอารมณ์ได้หลากหลายทั้งตลก เศร้า โกรธ เป็นต้น ทั้งนี้ Zuckerberg ยังได้เขียนข้อความอธิบายแนวคิดของเจ้าปุ่มนี้ด้วยว่า “ปุ่ม Like เป็นส่วนหนึ่งของ Facebook มาอย่างยาวนาน ในหนึ่งวันมีการกดไลค์กันกว่าพันล้านครั้ง และการชื่นชอบอะไรสักอย่างมันก็เป็นการแสดงออกง่ายๆ ว่าคุณเป็นคนยังไง” “ในหลายปีที่ผ่านมา มีหลายคนได้ขอให้เราเพิ่มปุ่ม Dislike เพราะไม่ใช่ว่าทุกๆ เหตุการณ์จะเป็นเหตุการณ์ที่ดี และบางครั้งคุณก็ต้องการแสดงออกถึงความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ คือเหตุการณ์สำคัญที่คุณต้องการจะแบ่งปันให้คนอื่นๆ มากกว่าปกติ และการกด Like อาจใช่การแสดงออกที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณ” ชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย Today we’re launching a test of Reactions…
-
จะทำอย่างไรดี!? หากเราลืมออกจากระบบ Facebook ในเครื่องอื่น ทางแก้ไขง่ายๆ มีที่นี่จ้า!!
เหมียวเชื่อว่าหลายๆ ท่านก็คงจะเคยขอยืมโทรศัพท์ของเพื่อนมาใช้งาน Facebook บ้างเป็นบางครั้ง หรือไม่ก็เข้าไปเล่นอินเทอร์เน็ตตามคอมพิวเตอร์สาธารณะ ซึ่งหลังจากเสร็จธุระแล้วแต่ดันเข้าระบบค้างไว้และลืมออกจากระบบ อย่างน้อยก็อาจจะโดนแกล้งจากเพื่อนเจ้าของโทรศัพท์ พอแกล้งเสร็จก็ออกจากระบบให้ อาจจะดูไม่ร้ายแรงอะไร แต่ถ้าหากว่าเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนของเราล่ะ จะสามารถควบคุมตัวเราได้ทั้งหมด รวมไปถึงข้อมูลลับต่างๆ ของคุณด้วย ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะเออ!! ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปในทันที ซึ่งเมื่อคุณนึกขึ้นได้ว่าลืมออกจากระบบจากเครื่องอื่น ให้คุณรีบเข้าสู่ระบบจากคอมพิวเตอร์ที่คุณไว้ใจได้ทันที อาจจะทำผ่านสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอพฯ Facebook ก็ได้ หรือไม่ก็บราวเซอร์มือถือ ตามวิธีการที่เหมียวจะนำเสนอต่อไปนี้ วิธีการสำหรับคอมพิวเตอร์เดกส์ทอปผ่านบราวเซอร์ เริ่มจากไปที่เมนูด้านขวาบน เลือกเมนูตั้งค่า จากนั้นไปที่เมนูความปลอดภัย ในส่วนของการตั้งค่าความปลอดภัย ให้ไปแก้ไข ‘สถานที่ที่คุณเข้าสู่ระบบ’ คุณจะพบกับรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าสู่ระบบของบัญชีนี้ว่ามีการเข้าสู่ระบบจากที่ไหนบ้าง และเข้าระบบด้วยอุปกรณ์ไหน มีทั้งจากคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่ รายการไหนไม่คุ้นก็กดปุ่มหยุดกิจกรรมได้เลย แต่ถ้าไม่มั่นใจอยากจะออกจากระบบทั้งหมด ก็สามารถกดปุ่มสิ้นสุดกิจกรรมทั้งหมด เพียงเท่านี้ก็ปลอดภัยสามารถออกจากระบบจากอุปกรณ์ที่ไม่คุ้นเคยแล้วจ้า ในส่วนของการตั้งค่าผ่านแอพฯ และผ่านบราวเซอร์มือถือ เหมียวขอยกตัวอย่างจากแอพฯ Facebook ใน iOS แทน…
-
Facebook เตรียมอัพเดต “รูปโปรไฟล์ขยับได้” เหมือนในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์เลย!!
เฟซบุ๊กถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราขาดไม่ได้แล้วในชีวิต หลายคนอาจจะมองว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราติดจนเสียนิสัย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องของยุคสมัยที่ทุกคนต้องมีเพื่อใช้ในการติดต่อสื่อสารกันแล้ว ถ้าใครเล่นเฟซบุ๊กมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ ก็คงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย แต่ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่เคยเปลี่ยนไปเลยนั่นก็คือการรูปโปรไฟล์ของเขาที่มายังไงก็อย่างงั้น …จนถึงตอนนี้ เห็นรูปข้างบนนี้ไหม นี่คือภาพเก่าที่มีคนทำออกมาเล่นๆ โดยให้รูปโปรไฟล์ของเรากลายเป็นภาพ GIF ที่เคลื่อนไหวได้ อิจฉาใช่มั้ยล่ะ แต่เดี๋ยวก่อน ตอนนี้เฟซบุ๊กจะทำให้ฝันของทุกคนเป็นจริงแล้วกับการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ของเราเป็นภาพ GIF ได้ด้วย คุณสามารถใส่วิดีโอความยาว 7 วินาทีลงไปในรูปโปรไฟล์ แล้วทางเฟซบุ๊กก็จะเปลี่ยนให้เป็นไฟล์ GIF ให้เอง ลองดูในภาพข้างล่างนี่ก็ได้ พอจะนึกภาพออกแล้วใช่มั้ยล่ะ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ใหม่นั่นคือ “รูปโปรไฟล์ชั่วคราว” ที่เราสามารถตั้งเวลาได้ว่าจะเอารูปนี้ขึ้นเป็นภาพโปรไฟล์กี่วัน พอถึงเวลาที่กำหนดแล้ว มันก็จะกลับไปเป็นภาพเดิมให้ เหมาะสำหรับงานเทศกาลต่างๆ ในส่วนของแอปในสมาร์ทโฟนก็จะเปลี่ยนหน้าตามไทม์ไลน์ของเราให้ดูง่ายขึ้น รูปโปรไฟล์ย้ายมาตรงกลาง มีประวัติ รูปภาพให้ดู ไม่ต้องค้นให้เสียเวลา เราไปชมคลิปฟีเจอร์ทั้งหมดที่กล่าวมาเลยว่าจะเจ๋งได้แค่ไหน แต่อย่าเพิ่งไปเปิดมือถืออัพรูปนะ ฟีเจอร์นี้ยังไม่เปิดให้ใช้อย่างจริงๆจังๆ เป็นแค่การทดสอบอยู่ แต่ไม่ต้องห่วง เพราะมันมาแน่ๆ อดใจรอได้เลย หลังจากนี้เราคงได้เห็นรูปโปรไฟล์ขยับได้เหมือนในรูปภาพในหนังแฮร์รี่ พอตเตอร์แน่นอน ที่มา distractify
-
แพงไปไหม? ชาวเน็ตโพสต์ภาพอาหารตามสั่งจากร้านปากซอย ราคาจานละ 150 บาท!?
แอดเหมียวเข้าใจว่าทุกวันนี้อะไรๆ มันก็แพงนะ ข้าวของและอาหารทุนอย่างมีต้นทุนที่แพงขึ้น ทำให้เราต้องจ่ายมากกว่าแต่ก่อนนั่นเอง แต่เหมียวก็ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งอาหารตามสั่งที่ปกติจานละแค่ 30-40 บาท จะพุ่งไปสูงถึง 150 บาทเลย!! เรื่องราวต่อไปนี้เป็นเรื่องเล่าจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค ประเสริฐ บุญประเสริฐ ที่บอกเล่าเรื่องราวของตนเองที่ได้ไปกินอาหารตามสั่งที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งมา โดยเจ้าตัวเล่าว่าเขาได้สั่งข้าวกระเพรารวมมิตร แต่พอคิดเงินกลับต้องอึ้งล่ะ เพราะจานนั้นมีราคาสูงถึง 150 บาท พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “อ่านก่อนนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกินข้าวกระเพรารวมมิตรร้านปากซอยสาธุประดิษฐ์ 16 พอคิดเงินป้าแกบอกข้าวจานนี้ 150 ครับกระเพรารวมมิตรจานละ 150 ครับร้านอาหารตามสั่งธรรมดา กินเสร็จหมดแรงเลยเมืองไทย” ทั้งนี้เจ้าตัวยังได้ถ่ายคลิปการสนทนาระหว่างแม่ค้ามาให้เราได้ชมกันด้วย โดยภายหลังจากการพูดคุย ฝ่ายแม่ค้าได้เสนอจะคืนเงินให้กับเขา 20 บาท แต่ชายหนุ่มกลับปฏิเสธและขอนำคลิปมาเผยแพร่แทน อ่านก่อนนะครับ เรื่องมีอยู่ว่าผมกินข้าวกระเพรารวมมิตรร้านปากซอยสาธุประดิษฐ์16พอคิดเงินป้าแกบอกข้าวจานนี้150ครับกระเพรารวมมิตรจานละ150ครับร้านอาหารตามสั่งธรรมดา กินเสร็จหมดแรงเลยเมืองไทย Posted by ประเสริฐ บุญประเสริฐ on 28 กันยายน 2015 แหม่ มันก็น่าเห็นใจอยู่นะเนี๊ยะ กินเสร็จนี่ แอดเหมียวว่าอิ่มไปหลายมื้อเลย ใครเจอเหตุการณ์แบบนี้สามารถโทรแจ้งสคบ. ได้ที่เบอร์ 1569…
-
บ้านป่าเมืองเถื่อน!! หนุ่มขับรถกระบะ ควักปืนออกมาขู่นอกรถ คาดเกิดจากการขับปาดหน้ากัน
โลกเราทุกวันนี้ชักจะอยู่ยากขึ้นเรื่อยๆ แล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรหรือไปที่ไหน ก็ต้องคอยระแวงคนรอบข้างว่าจะหาเรื่องเราจนถึงแก่ชีวิตหรือเปล่า เพราะล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอจากผู้ใช้เฟซบุ๊ค มีปืนจะพกไปไหน จะขู่ใครก็ได้ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องติดรถคันหนึ่ง เผยให้เห็นรถกระบะสีขาวขณะขับอยู่ด้านหน้า ก่อนจะลดกระจกลงเพื่อชูปืนออกมานอกหน้าต่าง ทั้งนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “เหตุเกิดที่เมืองแปดริ้ว ซึ่งก่อนในคลิปรถคันดังกล่าวได้ขับแซงผมและปาดหน้า(ก่อนผมเปิดกล้อง) แล้วผมก็ขับตามในระหว่างนั้นเค้าก็เบรกและยื่นปืนออกมานอกตัวรถ ป.ล. ถ้าก่อนหน้านี้ผมไปทำให้เค้าขุ่นข้องใจ ผมก็ขออภัยด้วยครับ ผมไม่ได้มีเจตนาและไม่รู้จริงๆ” ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไปก็เกิดกระแสวิพาษก์วิจารณ์อย่างหนังในโลกออนไลน์เลยทีเดียว ถึงการกระทำอันป่าเถื่อนของคนขับรถกระบะคันดังกล่าว เป็นคนไทยด้วยกัน เราใจเย็นค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันดีกว่านะจ๊ะ เหมียวไหว้ล่ะ ที่มา kapook
-
อย่าตกใจไป Facebook ล่มทั่วโลกกว่า 10 นาที โดยไม่ทราบสาเหตุ
สำหรับใครที่ใช้บริการของเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่าง Facebook เมื่อช่วงดึกของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา อาจจะพบกับปัญหาการเชื่อมต่อ ที่ไม่สามารถส่งข้อความหรือดูหน้าไทม์ไลน์ได้เลย ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ตของคุณหรอกนะ เพราะผู้ใช้ Facebook ทั่วโลกก็ประสบปัญหานี้เช่นกัน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.29 ของวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา มีรายงานว่าผู้ใช้ Facebook ทั่วโลกไม่สามารถเข้าใช้งานได้ โดยมีข้อความว่า “Sorry, something went wrong. We’re working on it and we’ll get it fixed as soon as we can.” ในขณะที่เว็บไซต์ในเครือของ Facebook อย่าง Instagram และ WhatsApp ไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย และยังสามารถเข้าใช้ได้ตามปกติ แต่ยังไงก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไปประมาณ 10 นาที ทุกอย่างก็เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว ที่มา blognone
-
เอาแล้วสิ Facebook วางแผนสร้างปุ่มกด ‘Dislike’ ในอนาคตอันใกล้ งานนี้ถึงพริกถึงขิงแน่นอน!!!
เอาล่ะสิงานนี้ เรียกได้ว่าเป็นการพลิกโฉมโซเชียลมีเดียเจ้าใหญ่ที่แทบทุกคนในไทยมีเลยก็ว่าได้อย่า Facebook เพราะว่าเริ่มกางแผนสร้างปุ่ม ‘Dislike’ ขึ้นมาให้ได้กดกัน!!! ระหว่างช่วงตอบคำถามของ Mark Zuckerberg ก็ได้ออกมาเปิดอกว่า ‘หลายปีที่ผ่านมานี้ก็มีคนเรียกร้องให้มีปุ่ม Dislike กันอยู่พอสมควร และวันนี้ก็เป็นฤกษ์ดีที่เราจะบอกว่า เราได้เริ่มงานนี้อย่างจริงจังแล้วล่ะ’ ‘แน่นอนว่าในชีวิต ทุกๆ ครั้งนั้น ไม่ได้มีแต่ช่วงเวลาดีๆ และนี่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแสดงความเอาใจใส่ที่หลายๆ คนต้องการ…’ เช่นในสถานการณ์ที่ผู้คนแสดงความเห็นใจซึ่งกันและกัน ทั้งกรณีของการสูญเสียหรืออะไรต่อมิอะไร มันก็แย่อ่ะเนาะที่มีแต่ปุ่มกดไลค์ให้เรากด ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางของการแสดงความคิดเห็น แต่เหมียวว่าบางครั้งเราก็กดไลค์บางคนเพราะความหมั่นไส้เหมือนกัน จะเป็นการประกาศเป็นอริกันเลยรึเปล่าพอมีปุ่ม ‘Dislike’ ขึ้นมา -*- ก็นั่นล่ะฮะท่านผู้ชม งานนี้ดราม่าเอ๋ยมีซับซ้อนยิ่งขึ้นแน่นอน ฮ่าๆๆๆ เพื่อนๆ ล่ะคิดว่าอย่างไรกันบ้างเกี่ยวกับเรื่องนี้?? มาแสดงความคิดเห็นกันได้นะจ๊ะ เหมียวอยากรู้… ที่มา: Distractify
-
Mark Zuckerberg กำลังพิจารณาเพิ่มปุ่มคล้ายๆ “Dislike” ให้กับ Facebook
หลังจากมีคนเรียกร้องมานาน ให้ Facebook เพิ่มปุ่ม Dislike เข้ามาในเฟสบุ๊ค ตอนนี้ดูเหมือน Mark Zuckerberg กำลังคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้ว หลายคนอาจไม่รู้ว่า ใน Facebook ยุคแรกๆนั้น ไม่มีปุ่ม Like จนกระทั่งมีการเพิ่มปุ่ม Like ให้กับ Facebook เมื่อปี 2009 หลังจากนั้น หนึ่งในคำขอที่ผู้ใช้เรียกร้องมากที่สุดคือการเพิ่มปุ่ม Dislike เข้ามาอีกปุ่ม เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย Zuckerberg กล่าวว่า “บางครั้งผู้คนก็ต้องการแสดงความรู้สึกทางด้านลบออกมาบ้าง แต่เราต้องคิดดีๆว่าเราควรจะใช้คำไหนดี เพื่อที่จะไม่ออกดูแย่เกินไป และไม่ทำร้ายความรู้สึกของคนที่ถูกกดปุ่มนี้” นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า ทีมงานได้พัฒนาระบบนี้มาซักพักแล้ว และกำลังทำการทดลองใช้ในเร็วๆนี้ เรื่องนี้ก็พอเข้าใจได้ว่าทำไม Facebook ถึงต้องพิจารณาการเพิ่มปุ่ม Dislike อย่างถี่ถ้วน เพราะมันอาจถูกใช้ในการทำลายความรู้สึกคนอื่นๆได้ ลองนึกภาพมีคนมากด Dislike ภาพถ่ายเราซัก 300 คนสิ เราจะรู้สึกยังไง แต่ก็ถือว่าเป็นอีกก้าวที่สำคัญของ Facebook ก็รอติดตามกันได้ว่า สุดท้ายแล้ว เขาจะใช้ชื่อปุ่มว่าอะไร และจะส่งผลอย่างไรต่อผู้คนใน Facebook…
-
ทำดีมีแชร์ โลกออนไลน์แชร์ภาพสาวน้อยช่วยแม่กวาดถนน บอกภูมิใจในอาชีพของแม่
เรื่องราวดีๆที่ทำให้เราอ่านไปยิ้มไปในโลกออนไลน์ยังมีอีกเยอะนะ เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องค้นหากันสักหน่อย อย่างเช่นเรื่องราวดีๆที่เหมียวจะนำเสนอในวันนี้ ก็เป็นอีกเรื่องดีๆที่เหมียวไปเจอมาและอยากให้คุณได้อ่านกันล่ะ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊คของ ราชินี ควีน เป็นภาพของสาวน้อยน่ารักคนหรึ่ง ในขณะสวมเสื้อกั๊กสีเหลืองของพนักงานกวาดถนน พร้อมกับบอกเล่าเรื่องราวชวนประทับใจเกี่ยวกับอาชีพและแม่ของตัวเอง พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “มาช่วยแม่ทำงานแต่เช้า แม่ทำงานกวาดถนนค่ะ ไม่อายค่ะภูมิใจที่สุดใครดูถูกอาชีพพ่อแม่ตัวเองไม่เจริญหรอกค่ะ เลิกคบได้นะคะถ้าไม่ชอบเรา ถ้าไม่ได้แม่คงไม่มีวันนี้หรอกค่ะ ไม่สร้างภาพค่ะ ทำแบบนี้มาตั้งแต่ ป.1 แล้ว “เห็นชอบดูถูกกูจัง ดูถูกกูได้แต่อย่าดูถูกแม่กู ถึงแม้อาชีพจะต่ำในสายตาคนอื่น แต่จิตใจของพวกกูไม่ต่ำนะ แม่กูทำให้บ้านเมืองสะอาด ไม่ใช่ดีแต่โลกสวยแบบพวกมึง เหนื่อยนะคะแต่หันไปเห็นแม่แม่คงเหนื่อยกว่าช่วยเค้าไปเถอะเค้าอยู่กับเราได้อีกนานมั๊ยก็ไม่รู้ เคโน๊ะ” น่ารัก คิดดี ทำดีแบบนี้ แอดเหมียวขอยกนิ้วให้เลยจ้าาา ที่มา ราชินี ควีน
-
พระอาจารย์แนะนำผ่านเฟซบุ๊ค การแก้กรรมไม่มีจริง เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่นดีกว่า
วันนี้เหมียวจะพาเพื่อนๆไปอ่านคำสอนดีๆที่จะทำให้รู้สึกดีกันดีกว่า คำสอนที่เหมียวว่านี้มาจากเฟซบุ๊คของ พระอาจารย์ ไพรวัลย์ วรรณบุตร ที่มีคนส่งข้อความเข้ามาถามปัญหาเกี่ยวกับการแท้งลูก โดยชายผู้มาขอคำปรึกษานั้นให้รายละเอียดว่าต้องใช้เงินกว่า 20,000 บาทเพื่อทำการสวดวิญญาณให้ไปสู่สุขติ แต่พระอาจารย์ ไพรวัลย์ กลับมองว่าเงินมากขนาดนี้ควรเก็บไว้ใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นดีกว่า การแท้งลูกถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ควรระมัดระวังให้มากขึ้น และหากยังไม่สบายใจก็ให้ทำบุญด้วยการบริจาคสิ่งของให้แก่เด็กๆผู้ด้อยโอกาสแทนก็ได้ พร้อมกันนี้พระอาจารย์ไพรวัลย์ ยังได้ให้ข้อคิดอีกว่าการแก้กรรมนั้นไม่มีจริงตามหลักพุทธศาสนา สิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ มีแค่พยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองไม่ให้ทำผิดซ้ำอีกเท่านั้น สาธุ ที่มา ไพรวัลย์ วรรณบุตร
-
พอกันที!! วิดีโอใน Facebook มันเล่นเองอัตโนมัติใช่มั้ย? มาดูวิธีปิดมันกันเถอะ
ช่วงนี้เหมือนว่า Facebook กำลังทดสอบระบบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับวิดีโอ ซึ่งในอนาคตเห็นว่าจะเอามีตีตลาด YouTube เลยทีเดียว ซึ่งไม่นานมานี้ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์การเล่นวิดีโออัตโนมัติแต่ไม่มีเสียงขึ้นมา สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้เป็นอย่างมาก เหมียวยังหาข้อดีของมันไม่ได้เลย รู้แต่ว่าข้อเสียของมันก็คือมันกิน 3G มากๆ เพราะเราไม่ได้ยินยอมให้มันเล่น อีกทั้งบางคลิปก็มีเนื้อหาความรุนแรง หรือบางทีก็เป็นคลิปแกล้งคนที่เปิดมาน่าสนใจ จู่ๆกลายเป็นคลิปโป๊ไปซะงั้น เปิดในที่สาธารณะคงปิดแทบไม่ทัน วันนี้เหมียวเลยจะพาทุกท่านไปปิดระบบนี้กันเพื่อความสบายใจ เราไปดูกันเลย!! 1. กดลุกศรตรงมุมขวาบนแล้วก็เข้าตรง Settings หรือ ตั้งค่า 2. เข้าตรงหมวดวิดีโอ 3. เปลี่ยนจาก Default เป็น Off แค่นี้ก็เรียบร้อย!! ง่ายใช่มั้ยล่ะ ต่อไปนี้ก็จะไม่มีวิดีโอมากวนใจคุณอีกต่อไปแล้ว 3G ก็ไม่ต้องเปลือง อีกทั้งยังไม่ต้องไปเจอคลิปสยองๆโดยที่เราไม่ได้เต็มใจดูอีกด้วย เรียบเรียงโดย Catdumb.com
-
ชาวเน็ตโวย ผู้โดยสาร BTS มักง่าย นำกาแฟมาดื่มในรถไฟฟ้าจนเลอะเทอะ เดือดร้อนคนอื่นสุดๆ
เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา สมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า spindoctor ได้เข้ามาตั้งกระทู้บ่นถึงการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS ของผู้โดยสารมักง่ายบางราย ที่นำเอากาแฟขึ้นมาดื่มบนรถไฟฟ้า แต่กลับทำหกจนน้ำเลอะเทอะเต็มพื้น ซึ่งรถไฟฟ้าเป็นสถานที่ที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้การทำความสะอาดแต่ละครั้งมีความยุ่งยากและใช้เวลานานกว่าพื้นที่ทั่วๆไป หากรถไฟต้องจอดเพื่อทำความสะอาด อาจส่งผลให้ผู้โดยสารคนอื่นๆไปถึงที่หมายช้ากว่ากำหนดนั่นเอง หลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ก็มีสมาชิกเข้ามาต่อว่าและแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย โดยบอกว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ ซึ่งคนทำอาจไม่ได้ตั้งใจก็เป็นได้ หากใครมีเพื่อน ญาติ หรือคนรู้จักนำอาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปบนรถไฟฟ้า ก็ช่วยๆกันเตือนหน่อยนะจ๊ะ ที่มา pantip
-
หนุ่มจอดรถเสียงดัง เลยได้จดหมายเตือนที่สุภาพสุดๆใน 3 โลก ทำเอาอยากขอโทษเลย
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ภาพข้อความผ่านเฟซบุ๊คของนาย Nikki Kongkapan เป็นภาพของจดหมายฉบับหนึ่งที่เขียนมาเตือนการจอดรถเสียงดังในช่วงดึกของเขา ที่ทำเอาเพื่อนบ้านถึงกับทนไม่ได้ เพราะมีคุณพ่อที่ป่วยเป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะอยู่ ซึ่งเสียงดังกล่าวอาจส่งผลกระทบได้ โดยในจดหมายที่ว่านี้มีข้อความด้วยว่า “เรียนท่านเจ้าของรถที่เคารพ เนื่องจากช่วงนี้คุณพ่อของผมเพิ่งออกจากไอซียูด้วยโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ พอดีรถของคุณพี่เข้ามาจอดช่วงดึก ใกล้บ้านผมพอดี เสียงตอนกลางคืนมันจะสงัดมาก เวลาตอนพี่จอดปิดประตู” “มันจะทำให้ได้ยินชัดเจนมาก จนพ่อผมสะดุ้ง อาการกำเริบน่ะครับ จึงขอรบกวนคุณพี่หาที่จอดตรงที่ๆที่เคยจอดได้ไหมครับ แต่ถ้าวันไหนที่ตรงที่พี่เคยจอดเต็ม นานๆมาจอดตรงนี้ก็ไม่เป็นไรครับ” เราคนไทยด้วยกัน มีอะไรเตือนกันบอกกันดีๆ เหมียวว่าแค่นี้ก็เข้าใจกันแล้วนะ เหมียวหวังอยากให้เป็นกับทุกๆกรณีเลยนะ ที่มา Nikki Kongkapan
-
อย่าเป็นคนมักง่าย!! ชมคลิปการแกล้งคนที่ชอบจอดรถในที่คนพิการ ขอบอกว่าแสบสุดๆ
สำหรับใครที่ชอบจอดรถในที่ห้ามจอด จอดรถในที่ที่เตรียมไว้ให้สำหรับผู้หญิง หรือผู้พิการแล้วล่ะก็ คุณอาจจะต้องดูคลิปที่เหมียวจะมานำเสนอในวันนี้ล่ะ เพราะเมื่อไม่นานมานี้เฟซบุ๊คเพจ FreeStuffWorld ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่งของชายผู้มักง่าย จอดรถในที่ของผู้พิการ แต่แทนที่เขาจะกลับมาเอารถแล้วขับออกไปแบบสบายใจ กลับเจอเข้ากับกระดาษโพสต์อิทสีฟ้าที่ติดไว้รอบรถจนยากที่จะแกะออกทีละแผ่น แถมยังมีการทำสัญลักษณ์เป็นรูปรถเข็นไว้ที่รถด้วย ทำเอาคนที่อยู่แถวนั้นถึงกับต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายเก็บไว้เป็นที่ระลึกเลย คลิปดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าเกิดขึ้นที่ประเทศใด แต่หลังจากที่คลิปนี้ถูกแชร์ออกไป ก็มีผู้คนจำนวนมากพากันเข้ามาสมน้ำหน้าชายมักง่ายคนนี้อย่างมากมายเลยทีเดียว พร้อมกับบอกว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่เขาสมควรได้รับแล้ว ผู้คนแถวนั้นก็หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปกันเพียบเลย อายเขาไหมล่ะนั่น คลิกชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลย Well if you will park in a disabled spot… Head to Funny News & Videos Posted by FreeStuffWorld on 27 กรกฎาคม 2015 แม้เหตุการณ์นี้จะไม่ได้เกิดขึ้นที่ประเทศไทย แต่พวกเราก็ดูไว้เป็นตัวอย่างนะจ๊ะ หากใครมีพฤติกรรมการจอดรถแย่ๆแบบนี้ ไม่แน่ว่าวันหนึ่งคุณอาจโดนแกล้งแบบนี้ก็ได้ ที่มา FreeStuffWorld
-
ชาวเน็ตชื่นชม พนักงานเซเว่นเชิญคนขอทานออกจากหน้าร้าน ด้วยวิธีสุภาพสุดๆ
น้ำใจในทุกวันนี้ กลายเป็นเรื่องที่หาได้ยากหน่อยได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วเหมียวก็ขอนำมาเผยแพร่ต่อให้เพื่อนๆได้อ่านและรู้สึกอิ่มเอมไปด้วยกันนะ เมื่อช่วงคำของวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความจากเฟซบุ๊คของ Surote Mao Paengma เป็นภาพเหตุการณ์ของขอทานรายหนึ่งที่นั่งขอทานอยู่หน้าเซเว่นสาขาหนึ่งจนทำให้ประตูไม่สามารถปิดลงได้ แต่แทนที่พนักงานเซเว่นจะเดินไปไล่เขาให้ออกไปจากหน้าร้าน เขากลับนำข้าวกล่องและน้ำดื่มมามอบให้กับขอทานรายดังกล่าว และขอให้เขาออกไปจากหน้าร้านซะ แม้เรื่องนี้จะไม่ใช่การทำความดีที่ยิ่งใหญ่อะไร แต่เหตุการณ์ดังกล่าวก็มีผู้พบเห็นและสามารถถ่ายภาพมาแชร์ให้โลกออนไลน์ได้เห็นกัน ซึ่งคอมเม้นส่วนใหญ่ก็แสดงความชื่นชมพนักงานเซเว่นอย่างมาก ในการกระทำอันสุภาพและมีน้ำใจของเขา โอ้ย แค่เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ แต่ทำไมเหมียวอ่านแล้วมีความสุขจัง มีน้ำใจต่อเพื่อนมนุษย์เยอะๆนะจ๊ะทุกคน เพิ่มเติม : มีรายงานล่าสุดบอกว่าคนที่ซื้อข้าวกล่องนั้นไม่ใช่พนักงานเซเว่น แต่เป็นลูกค้ารายหนึ่งที่มาใช้บริการที่นั่น ยังไงเหมียวก็ขอขอบคุณและขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะจ๊ะ ที่มา Surote Mao Paengma
-
สาวซุปเปอร์คาร์โวย โดนตำรวจจับข้อหา “ท่อดัง” ทั้งๆที่ไม่เคยดัดแปลงสภาพ
ถึงกับงงเลยทีเดียว สำหรับสาวสวยซุปเปอร์คาร์รายหนึ่งที่ขับรถออกทริปกับเพื่อนๆ แต่กลับต้องเสียอารมณ์เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับเข้า พร้อมกับเขียนใบสั่งในข้อหา “ท่อดัง” งานนี้สาวสวยถึงกับงงเลย เพราะเธอกล่าวว่าไม่เคยดัดแปลงสภาพรถเลยตั้งแต่ซื้อมา ทั้งนี้เรื่องราวดังกล่าวถูกแชรผ่านเฟซบุ๊ค Nuttanun Kulvatanayotin พร้อมกับข้อความแบบเต็มๆว่า “หน้าเหวี่ยงมากกับใบสั่งใบนี้ เอาที่พี่ตำรวจสบายใจเลยค่ะ ข้อหา “ท่อดัง” ก็ไม่รู้จะตอบยังไง มันมาแบบนี้อ่ะ จะให้ไปเปลี่ยนท่อหรอค่ะพี่ตำรวจ งงเลยเกิดมาเพิ่งเคยเจอใบสั่งข้อหานี้ไปไม่ถูกเลยคุณพี่ตำรวจ” แหม่ ขับรถแพงก็โดนหาว่าแต่ง น่าสงสารเขาเหมือนกันนะเนี๊ยะ ที่มา Nuttanun Kulvatanayotin
-
ทำเกินไปไหม? ชาวเน็ตถกประเด็นเทศกิจรุมจับลุงเข็นขายของย่านคลองถม
กลายเป็นประเด็นร้อนที่โลกออนไลน์ต่างพากันถกเถียงกันอย่างมากมายทีเดียว สำหรับกรณีของคุณลุงรายหนึ่งที่เข็นรถเข็นขายของบริเวณย่านคลองถม แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่เทศกิจเข้ามาล้อมจับ ประหนึ่งว่าล้อมจับคนร้ายหนีการจับกุม โดยภาพและข้อความทั้งหมดถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คของคุณ วิมลวรรณ ฟาง’ พรมอุก โดยมีข้อความว่า “ลุงคนนี้แค่กำลังเข็นรถเข็นไปขายของตามปกติ แต่พวกคุณมาจับลุงทำไม? พวกคุณดูสายตาลุงสิค่ะ เข้าใจความรู้สึกเลยค่ะ” “ลุงแก่มากแล้ว พวกคุณเป็นบ้าหรอค่ะ ถึงพากันมารุมจับ ชีวิตของลุงอาจจะมีแค่นี้ที่ช่วยทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว พวกคุณอยากจะจับก็จับหรอ สิ่งนี้อาจจะเป็นสิ่งเดียวที่ประทังชีวิตแก เลี้ยงครอบครัวแก. สงสารลุงมากค่ะ โมโหมากเจอแบบนี้” แม้ว่าการเข็นรถเข็นขายของตามท้องถนนจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายและกีดขวางการจราจร แต่ชาวเน็ตส่วนใหญ่กลับมองว่าสิ่งที่เทศกิจทำนั้นถือว่าเกินกว่าเหตุและเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเชิงต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างมากมาย ที่มา Youlike คลิปเด็ดv2
-
ทั้งผวาทั้งเซอร์ไพรส์!! แฟนหนุ่มเซอร์ไพรส์แฟนสาวด้วยการลักพาตัว!?
หากจะพูดถึงการลักพาตัว คนทั่วไปคงจะนึกไปถึงการป้ายยาสลบ และพาหญิงสาวไปทำมิดีมิร้ายใช่ไหมล่ะ คงไม่มีใครจะนึกหรอกว่าการลักพาตัว จะถูกนำมาเปลี่ยนให้กลายเป็นการเซอร์ไพรส์สุดซึ้งไปได้ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม เฟซบุ๊คเพจ Funk You ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการแกล้งกันแบบฮาร์ดคอร์ของคู่รักคู่หนึ่ง ที่ฝ่ายชายกะเซอร์ไพรส์ฝ่ายหญิงด้วยการลักพาตัวหลอกๆ แต่มาเฉลยเอาตอนท้ายว่าแท้จริงแล้วคนที่พยายามจะลักพาตัวเธอคือแฟนของเธอเอง และขอเธอแต่งงานเป็นการปิดท้าย ล่าสุดคลิปนี้มีคนกดไลค์ไปแล้วเกือบ 7 หมื่นครั้ง ถูกแชร์ไปอีกกว่า 1 แสนครั้ง และมียอดผู้ชมกว่า 10 ล้านครั้ง แต่ในขณะเดียวกันก็มีชาวเน็ตบางคนแสดงความคิดเห็นว่า คลิปนี้อาจกลายเป็นโศกนาฏกรรมก็เป็นได้ หากหญิงสาวมีปืนอยู่ในมือของเธอ คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยนะจ๊ะ Horrifying Kidnapper! Posted by Funk You on 21 สิงหาคม 2015 เซอร์ไพรส์แฟนแบบนี้มันก็ดีอยู่หรอกนะ แต่ก่อนจะเฉลยเหมียวว่าคงตกใจน่าดู ที่มา Funk You
-
แชร์กระหน่ำ!! ‘ลุงเนลสัน’ โพสต์ข้อความเหน็บระบบการศึกษาไทย ตลกแบบเจ็บๆ
ยังคงเป็นกระแสให้สังคมหยิบเอามาพูดถึงอยู่เนืองๆเลยนะ สำหรับกรณีของรองผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ตบนักเรียน จนกลายเป็นประเด็นทางสังคมให้โลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ล่าสุด ‘ลุงเนลสัน‘ ผู้โด่งดังมาจากคลิปไวรัล BKK 1st Time : ตอนโดนคนไทยด่าครั้งแรก ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊คของตัวเองเช่นกัน โดยข้อความมีทั้งหมดว่า “I have a plan to go to Thailand for teaching next year. Now I am practicing slapping people because if you slap a student in Thailand, nothing is going to happen. No one sues you, you don’t need to apologize to the student…
-
ชาวเน็ตแห่แชร์นิทานเรื่อง “ฉันอยากกินน้ำของโถส้วม” จากฝีมือของเด็ก 7 ขวบ
กลายเป็นเรื่องน่ารักๆที่มีคนกดแชร์มากที่สุดในขณะนี้เลย สำหรับนิทานไอเดียล้ำๆอย่าง “ฉันอยากกินน้ำของโถส้วม” ของน้องแปดวัย 7 ขวบ ผ่านเฟซบุ๊ค Pat little artist โดยเล่าเรื่องจองเด็กชายคนหนึ่งที่ชอบกินน้ำจากส้วมและไม่สามารถหยุดกินได้ ซึ่งล่าสุดมีสมาชิกในเฟซบุ๊คกดไลค์นิทานที่ว่านี้ไปแล้วกว่า 8 พันครั้ง และมีการแชร์ต่อไปอีกกว่า 5 พันครั้งทีเดียว พร้อมกับยังมีข้อความสนับสนุนความสามารถของน้องแปดเข้ามาอีกมากมาย ทำเอาเหมียวภูมิใจแทนคนเป็นพ่อเป็นแม่จริงๆ เราลองไปอ่านนิทานของเขาแบบเต็มๆเลย เอ้า สำนักการ์ตูนเจ้าไหนมองเห็นความสามารถของน้องแล้ว ก็ติดต่อเอาไปปั้นได้เลยนะ จินตนาการล้ำแบบนี้อนาคตไกลแน่ๆ ที่มา Pat little artist
-
ขำไม่ออก รมต. ICT พึ่งไสยศาสตร์เอาซินแซมาปัดรังควาญ ประชาชนพึ่งใครได้?
กลายเป็นคลิปที่มีการส่งต่อกันอย่างมากมายในโลกออนไลน์เลยทีเดียว สำหรับคลิปของคณะรัฐมนตรีกระทรวง ICT ในขณะที่กำลังเชิญซินแสรายหนึ่งเข้ามาทำพิธีปัดรังควาญภายในอาคาร จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์อย่างหนัก คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คเพจ Mtoday เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 สิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมกับข้อความว่า “ขำไม่ออก! เมื่อรัฐมนตรี ICT ต้องพึ่งไสยศาสตร์เอาซินแซมาปัดรังควาญ ประชาชนจะพึ่งใครได้” หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตจำนวนมากต่างพากันเข้ามาแสดงความคิดเห็น ว่าขนาดเจ้าหน้าที่รัฐยังพึ่งไสยศาสตร์ แล้วประชาชนจะสามารถพึ่งใครได้อีก? คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ขำไม่ออก! เมื่อรัฐมนตรี ICT ต้องพึ่งไสยศาสตร์เอาซินแซมาปัดรังควาญ ประชาชนจะพึ่งใครได้ Posted by Mtoday on 26 สิงหาคม 2015 ที่มา Mtoday
-
ชมภาพเบื้องหลังการถ่ายรูปโปรไฟล์บนเฟสบุ๊ค กว่าจะออกมาสวยหล่อได้ ไม่ใช่ง่ายๆ เลยนะเนี่ย
ภาพถ่ายของคนในเฟสบุ๊คที่เราเห็นกันนั้น ส่วนใหญ่พวกเขามักจะเลือกรูปโปรไฟล์ที่ทำให้ตัวเองดูสวย ดูหล่อที่สุด ซึ่งเมื่อเราได้เห็นภาพของพวกเขา เหมียวเชื่อว่าสิ่งแรกที่เราจะโฟกัสไปยังภาพใบนั้น มันจะต้องเป็นใบหน้า หรือรูปร่างของพวกเขาใช่ไหมละ แต่สำหรับช่างภาพชาวฝรั่งเศสที่ชื่อว่า Mathieu Grac กลับให้ความสนใจเบื้องหลังภาพถ่ายเซลฟี่ของผู้คนเหล่านั้น ว่ากว่าพวกเขาจะได้ภาพที่สวยหล่อมาโชว์ในเฟสบุ๊ค พวกเขาจะทำท่าทางอย่างไร และต้องพยายามถ่ายภาพเหล่านี้ให้ดูดีมากแค่ไหน หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ และไม่เคยสนใจกับท่าทางในการถ่ายรูป หรือแม้กระทั่งสิ่งของต่างๆ รอบตัวของพวกเขาเลยด้วยซ้ำ แต่สำหรับ Mathieu Grac เขากลับสนใจเบื้องหลังของภาพเหล่านี้มากๆ เลย ถ่ายภาพเซลฟี่สวยหล่อ ที่เราเห็นกันในเฟสบุ๊ค มีสภาพเบื้องหลังการถ่ายเป็นอย่างนี้นี่เอง กว่าจะได้ภาพที่ดูดี ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะเนี่ย และถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบภาพถ่ายของเขา ก็สามารถเข้าไปติดตามผลงานเพิ่มเติมได้ตามช่องทางนี้เลย mathieugrac ที่มา : sobadsogood
-
นางฟ้ากู้ภัย!! ชาวเน็ตแห่ชื่นชมสองสาวเตรียมตัวไปงานแต่ง ลงช่วยอุบัติเหตุข้างทาง
เห็นหนุ่มๆหลายคนมากที่ชอบถามหาสาวๆที่ลุยๆ จิตใจดี และไม่ห่วงสวย เหมียวว่าพวเธอก็ไม่ได้หายากอะไรนะ เพราะเมื่อเร็วๆนี้เหมียวก็ไปเจอมาตั้ง 2 คนแหนะ ขอบอกว่าพวกเธอสวยจากข้างนอกและข้างในเลยทีเดียว เหตุการณ์ที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ เป็นคลิปวิดีโอที่ถูกแชร์ผ่านเฟซบุ๊คของคุณ ซัน ไบทส์ เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 18 สิงหาคม เป็นคลิปวิดีโอของหญิงสาวสองคน กำลังเข้าช่วยผู้ประสบอุบัติเหตุกลางถนนอย่างขันแข็ง ในขณะที่พวกเธอเองก็มีธุระต้องเดินทางไปงานแต่งของน้องชายเช่นกัน พร้อมกันนี้ยังมีข้อความด้วยว่า “ขอบคุณสองสาวสวยที่กำลังไปงานแต่งน้องชายเกิดพบอุบัติเหตุอยู่ข้าง ด้วยความที่เป็นกูภัยอยู่แล้ว เธอลงมาทำหน้าที่อย่างไม่สนใจอะไร ขอขอบคุณจากใจจริง” คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า ขอบคุณสองสาวสวยที่กำลังไปงานแต่งน้องชายเกิดพบอุบัติเหตุอยู่ข้าง ด้วยความที่เป็นกูภัยอยู่แล้ว เธอลงมาทำหน้าที่อย่างไม่สนใจอะไร ขอขอบคุณจากใจจริง Posted by ซัน ไบทส์ on 17 สิงหาคม 2015 สวยแถมยังใจดีแบบนี้ เหมียวนี่แทบจะยกขันหมากไปขอเลยจ้า ที่มา ซัน ไบทส์
-
จวกเละ!! พนักงานมือถือยี่ห้อดัง โพสต์สมน้ำหน้าเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์
จากข้อความเล็กๆในเฟซบุ๊คของตนเอง ลุกลามจนกลายเป็นดราม่าใหญ่โตไปซะแล้วล่ะ สำหรับกรณีของหนุ่มชาวเหนือรายหนึ่ง ที่โพสต์ข้อความในเชิงรู้สึกสะใจ กับเหตุการณ์ระเบิดที่เพิ่งเกิดขึ้นบริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อค่ำที่ผ่านมา โดยข้อความทั้งหมดมีอยู่ว่า “ชอบแต้ๆ ระเบิดลงกรุงเทพ เป็นจะไดอยู่บ้านนอกดีๆบ่ชอบ ชอบไปอยู่เมืองกรุง ระเบิดนักๆ เอามันตายหื้อหมดหื้อเสี้ยง #บึนปากใส่” เมื่อข้อความของนายคนนี้ถูกแชร์ออกไป ก็ทำให้ชาวเน็ตที่พบเห็นเข้าเกิดความไม่พอใจ และเข้ามาต่อว่ากันอย่างมากมาย จนมีบางคนเข้าไปเปิดดูประวัติถึงรู้ว่า นายคนนี้เป็นพนักงานอยู่ที่บริษัท Oppo สาขาหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นก็มีชาวเน็ตจำนวนมากเข้าไปต่อว่ากับเพจ Oppo Thailand กันอย่างมากมาย ถึงการอบรมพันกงานรายดังกล่าว ซึ่งทางแอดมินเพจก็ได้ออกมาชี้แจงว่า แท้จริงแล้ว พนักงานรายนี้ได้สิ้นสภาพการเป็นพนักงานไปตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว นี่ก็เป็นอีกกรณีตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมการโพสต์ข้อความหรือแสดงออกแบบไม่เหมาะสมในโลกออนไลน์ จนข้อมูลหรือข้อความดังกล่าวย้อนกลับมาทำร้ายเราได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนั่นเอง ที่มา OPPO Thailand
-
ชาวบ้านงง คลิปรถชนที่สระบุรี คนขับเปลี่ยนจากชายเป็นหญิงได้ภายในพริบตา!?
เวลาเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หากอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นมารยาทที่เราจะต้องลงจากรถมาช่วยเหลือคู่กรณีเป็นการด่วนเลยล่ะ อย่างเช่นเหตุการณ์ที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ก็เช่นกัน นี่เป็นคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดแห่งหนึ่งบนถนนพิชัยณรงค์สงคราม ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี ที่ถูกเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊คเพจ เจ้าพ่อ คลิปเด็ด ไปเมื่อช่วงเช้ามืดเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม เป็นเหตุการณ์ที่รถยนต์ชนเข้ากับมอเตอร์ไซค์ จนเป็นเหตุให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นกระเด็ดร่วงจากรถทันที หลังจากเกิดเหตุ ได้มีหญิงสาวลงจากรถฝั่งผู้โดยสารลงมาดูคู่กรณี แต่หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับขึ้นรถไปใหม่ และมีชายหนุ่มลงจากประตูฝั่งที่เธอเพิ่งลงมาเมื่อสักครู่ และหญิงสาวก็ลงจากประตูฝั่งคนขับแทน ทำให้ชาวเน็ตเกิดความสงสัยว่า ทำไมคนขับรถถึงเปลี่ยนจากชายเป็นหญิงได้รวดเร็วขนาดนี้ คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง #ชนกระเด็น พริบตาเดียวคนขับสลับชายเป็นหญิง !!! ถนนพิชัยณรงค์สงคราม ตำบลปากเพรียว อำเภอเมืองสระบุรี จังหวัดสระบุรี CREDIT : www.facebook.com/profile.php?id=100003923510306 ************************************************************************* ขอบคุณคลิปแนะนำจาก Peak Newworld (วันจันทร์ สิงหาคม 2558) อยากดู คลิปอีก คลิก Like ===> เจ้าพ่อ คลิปเด็ด <=== Posted by เจ้าพ่อ คลิปเด็ด on 16…
-
ชายหนุ่มถามซื้อบริการทางเพศกับหญิงสาว ผ่านโลกออนไลน์ หลังเห็นภาพสุดวาบหวิว!?
ต้องยอมรับเลยว่าสาวๆสมัยนี้นั้น มีความกล้าแสดงออกและกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนให้โลกออนไลน์ได้รับรู้มากกว่าแต่ก่อนเยอะเลยล่ะ เพราะทุกวันนี้เราจะเห็นว่ามีภาพของสาวๆเซ็กซี่ๆหรือคลิปวิดีโอวาบหวิวให้เราได้เห็นกันแบบไม่ต้องไปเสาะหาที่ไหนไกลเลย แต่สาวๆบางรายที่โพสต์คลิปและรูปเหล่านั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดประสงค์นะ เพราะบางคนมีหน้าที่การงานที่ต้องใช้ความเซ็กซี่อยู่แล้ว อย่างเช่นพริตตี้หรือนางแบบ แต่เคยคิดหรือไม่ว่านั่นอาจเป็นชนวนเล็กๆที่ทำให้มีโรคจิตมาแอบติดตามคุณ หรืออาจทำให้หนุ่มๆบางรายเข้าใจผิด ว่าคุณนั้นทำงานอย่างว่าก็ได้นะ อย่างเช่นกรณีตัวอย่าง ที่เหมียวได้ไปเห็นมาเมื่อไม่นานมานี้ ที่ถูกโพสต์โดยสมาชิกเว็บไซต์เฟซบุ๊คที่ชื่อว่า สปี๊ก ปอนด์ เป็นภาพของหญิงสาวรายหนึ่งในเสื้อผ้าน้อยชิ้นกำลังโพสต์ท่าสุดยั่วยวน แต่จู่ๆกลับมีชายหนุ่มปริศนาเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า “ค้างคืนเท่าไหร่ครับ ได้กี่น้ำ สนใจจริงๆ” เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวรายนี้ถูกเข้าใจผิด ว่าทำงานขายบริการนั่นเอง หากสาวๆคนไหนคิดจะโพสต์ภาพแบบลับเฉพาะของตนเอง ลงในโลกออนไลน์ให้คนอื่นเชยชมกันแบบฟรีๆล่ะก็ ลองคิดถึงผลที่มันจะตามมาสักนิดนะจ๊ะ ที่มา สปี๊ก ปอนด์
-
คุณพระคุณเจ้าช่วย!! ชมคลิปเตือนภัย ก่อนออกรถเช็คให้ดีๆ ไม่งั้นอาจได้งูเป็นเพื่อนร่วมทาง!?
เราคงเคยได้ยินรายการรถหรือใครก็ตาม ที่มักจะออกมาเตือนเราว่าควรจะเช็ครถก่อนออกเดินทางทุกครั้งใช่ไหมล่ะ ซึ่งคนส่วนใหญ่รับรู้แต่ไม่ค่อยทำตามกันนะ หากคุณไม่เช็ครถให้ดีๆก่อนออกเดินทางล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจได้เพื่อนร่วมทางสุดสยองแบบนี้ก็เป็นได้ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา เฟซบุ๊ค ไอ้ ตี๋เหะ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอสุดช็อค ในระหว่างที่เขากำลังขับรถอยู่นั้นเอง จู่ๆกลับมีงูกจงอางตัวเบิ้มเลื้อยลงมาจากหลังคารถและมาเกาะอยู่ที่ขอบประตู ทำเอาทั้งคนขับและผู้โดยสารในรถถึงกับขนลุกไปตามๆกัน พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “ขับซ่ะเร็วเชียว….กูจะลงไง…หละสึด” ลองไปชมคลิปได้ที่ด้านล่างเลยจ้า ขับซ่ะเร็วเชียว….กูจะลงไง…หละสึด Posted by ไอ้ ตี๋เหะ on 11 สิงหาคม 2015 บรึ๋ยยยยย ทีหน้าทีหลัง เวลาจะออกรถ ลองเช็ครอบๆให้ดีๆก่อนนะ ไม่งั้นอาจได้เจอเลื้อยสยองโลกแบบนี้ก็เป็นได้ ที่มา ไอ้ ตี๋เหะ
-
ไม่อร่อยห้ามวิจารณ์? ร้านกาแฟขู่ลูกค้าที่วิจารณ์ในแง่ลบ พร้อมบังคับให้ขอโทษ 1 เดือน
กลายเป็นดาบสองคมไปเสียแล้ว สำหรับการใช้ พรบ.คอมพิวเตอร์ เพื่อเอาผิดแก่ผู้ที่กำทำความผิดและเสื่อมเสียในโลกออนไลน์ เพราะล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค. ได้มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปที่ใช้นามแฝงว่า PARENTAL ADVISORY เข้ามาตั้งกระทู้ ขอคำปรึกษาด้วยครับ น้องสาวโดนร้านกาแฟข่มขู่ให้โพสต์ภาพขอโทษทุกวันเป็นเวลา 1 เดือน เจ้าของกระทู้ได้บอกเล่าเรื่องราวที่น้องสาวของตนเองได้ไปนั่งดื่มกาแฟที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พร้อมกับเช็คอินที่ร้านแห่งนั้น แต่เนื่องจากรสชาติของอาหารไม่ถูกปาก จึงนำมาบอกเล่าผ่านเฟซบุ๊คของตนเอง พร้อมบรรยายสรรพคุณว่าร้านนี้เป็นอย่างไรบ้าง แต่ทางเจ้าของร้านกลับเห็นข้อความดังกล่าวและไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงส่งข้อความมาต่อว่าและกล่าวหาว่าเธอทำให้ทางร้านเสื่อมเสียชื่อ โดยบอกว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ อีกทั้งยังบังคับให้ลูกค้าโพสต์ข้อความขอโทษทางร้านเป็นเวลา 1 เดือน ผ่านหน้าเฟซบุ๊คของตนเองอีกด้วย นอกจากนี้ทางร้านยังได้นำเอารูปจากเฟซบุ๊คของลูกค้า มาใส่ไว้ในข้อความดังกล่าว โดยไม่ได้ขออนุญาตอีกด้วย หลังจากที่ภาพและเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สมาชิกเว็บไซต์พันทิปหลายรายต่างพากันเข้ามาร่วมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่มองว่าการกระทำของร้านกาแฟนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม เพราะการวิจารณ์เรื่องรสชาติอาหารเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว จึงไม่สามารถทำการฟ้องร้องได้ ในขณะที่บางความเห็นบอกว่า การกระทำของร้านกาแฟนั้น ถือเป็รการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลอย่างหนึ่งเช่นกัน ที่มา PARENTAL ADVISORY
-
แพงไปไหม? โลกออนไลน์แฉ ซื้อดอกไม้ไหว้พระ แต่ต้องจ่าย 270 บาท!?
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา ในโลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ภาพข้อความจากสมาชิกเว็บไซต์เฟซบู๊ครายหนึ่ง ที่ได้ออกมาโพสต์ภาพชุดธูปเทียนและดอกไม้ ที่ตนเองได้ซื้อมาจากคนขายดอกไม้รายหนึ่งแถววัดหลวงพ่อพุทธโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมกับบอกว่าตนเองได้เสียรู้ให้กับคนขาย เพราะถูกบังคับให้ซื้อดอกไม้ในราคากว่า 270 บาท พร้อมกันนี้ได้มีข้อความประกอบด้วยว่า “ไหว้หลวงพ่อครั้งนี้ เสียความรู้สึกจริงๆ คนเราเดี๋ยวนี้หากินบนความทุกข์ของผู้อื่นโดยไม่สนว่าบุญหรือบาป เคยซื้อชุดไหว้พระในวัดไม่เกิน 50 บาทต่อคน แต่ครั้งนี้ต้องจ่าย 270 บาท ได้ของเท่าที่เห็น เพราะเสียรู้คน โบกที่จอดรถบังคับซื้อร้านตัวเอง ดีนะเอาพวงมาลัย 9 พวงออก ไม่งั้น 500 คงไม่เหลือ” “ไม่ซื้อก็ไม่ได้ สงสารแต่คนที่มาไหว้หลวงพ่อด้วยศรัทธา คนเฒ่าคนแก่ไม่รู้อิโหน่แอเหน่ คงหมดเงินไปหลายบาทตามๆกัน แทนที่จะอิ่มบุญกลับทุกข์แทน ขนาดเราคนพื้นที่ยังเสียรู้เลย ทำไมหากินกับหลวงพ่อและประชาชนแบบนี้ บอกเลยถ้าเงินที่ได้มาทำให้คุณมีความสุขก็ทำไปเถอะ แต่ตอนนี้เราขอแช่งในใจเล็กๆก็พอ” แอดเหมียวอ่านแล้วถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว กับราคาดอกไม้ 270 บาท หากใครผ่านไปผ่านมาแถวนั้น ก็ดูกันดีๆนิดนึงนะจ๊ะ เดี๋ยวนี้อะไรๆก็แพงเนอะ ที่มา facebook , plug-innews
-
น้ำตาจะไหล สุนัขพุดเดิ้ลนั่งเฝ้าเจ้านายไม่ห่าง หลังเจ้านายประสบอุบัติเหตุบนถนน
สุนัขได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์กับมนุษย์มากที่สุดเลยนะ เพราะพวกมันจะจงรักภักดีต่อเจ้านายที่เลี้ยงมันมา และตอบแทนได้อย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เหมือนอย่างกรณีที่เหมียวจะให้คุณดูต่อไปนี้ โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมาเฟซบุ๊ค Montree Sawasdeepan ได้มีการแชร์เรื่องราวสุดประทับใจ ผ่านเฟซบุ๊ค พุดเดิ้ลคลับ เป็นภาพของชายหนุ่มรายหนึ่งที่นอนอยู่บนพื้นถนน ขณะที่มีสุนัขนอนเฝ้าอยู่ไม่ห่าง พร้อมกันนี้ยังมีข้อความว่า “มากับเจ้าของนั่งตะกร้าหน้ารถมา แล้วมาเกิดอุบัติเหตุ เจ้าของกระเด็นตกมาขาหัก น้องปลิวไปกับรถแต่ไม่เป็นไรวิ่งกลับมานั่งเฝ้าเจ้าของทีรอรถพยาบาลมารับ เห็นแล้วประทับใจมากๆไม่ยอมให้ใครจับด้วยจะกัด “สุดๆเลยผลสุดท้ายยอมให้ผมอุ้มส่งตามเจ้านายขึ้นรถพยาบาลไปครับ…เฮ้อมิตรแท้ ขอเพิ่มเติมขอชมเชย พี่เจ้าหน้าที่ น.พยาบาลของมูลนิธิร่วมกตัญญูด้วย หลังจากปฐมพยาบาลเตรียมนำส่ง รพ.พ่อน้องหมาร้องขอให้ไปบ้านเพื่อเอาน้องไปส่งก่อน พี่เขาก็ดำเนินการให้นะครับ สุดๆดราม่าสุดๆ” เหมียวล่ะดีใจแทนเจ้าของจริงๆ ที่มีเพื่อนแท้แบบนี้ ที่มา Montree Sawasdeepan
-
โลกออนไลน์แชร์เรื่องราวดีๆของเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษ บนรถเมล์สาย 108
เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวดีๆที่แอดเหมียวรู้สึกหัวใจพองโตเลยเมื่อได้อ่าน เพราะนี่เป็นเรื่องราวของสมาชิกเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า Pattarapora Teppajan โดยเจ้าตัวได้เล่าว่าเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา เธอได้พบเจอกับเหตุการณ์เล็กๆเหตุการณ์หนึ่งขณะที่กำลังนั่งรถเมล์สาย 108 กลับบ้าน แต่ในระหว่างนั้นกลับเจอกับสายตรวจพิเศษกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ และได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่รายหนึ่งตะโกนถามยายเนื้อตัวมอมแมมว่าจะเดินทางไปไหน พร้อมกับประคองคุณยายจากกลางถนนจนขึ้นรถเมล์ พร้อมกันนี้ยังได้ตะโกนคุยกับเพื่อนอีก 2 คนเพื่อขอให้ช่วยโบกรถให้คุณยายด้วย จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำเอาชาวเน็ตถึงกับซาบซึ้งในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษรายดังกล่าว และพากันชื่นชมความมีน้ำใจของพวกเขาอีกด้วย แม้ชีวิตของเราจะถูกเร่งรีบด้วยสภาวะแวดล้อมและภาระหน้าที่ต่างๆ แต่ก็อย่าปล่อยให้จิตใจของเราเร่งรีบจนไม่ทันมองสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นรอบๆตัวนะ ที่มา Pattarapora Teppajan
-
ฟังความอีกข้าง หนุ่มป.โทชี้แจง ถูกหาเรื่องก่อนจริง พร้อมแจ้งความกลับตาม พ.ร.บ. คอมฯ
หลังจากกลายเป็นกระแสให้สังคมหยิบมาวิพากษ์ วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับประเด็นการขับรถปาดหน้ากันบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ของหนุ่มที่อ้างตัวว่าจบป.โท เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุดหนุ่มป.โทรายดังกล่าวก็ได้ปล่อยคลิปวิดีโอออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแล้วว่า ตนถูกหาเรื่องก่อนจริง พร้อมกับแจ้งความคู่กรณีกลับ ในข้อการทำผิดพ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ โดยในคลิปเผยให้เห็นหนุ่มป.โทรายดังกล่าวขณะนั่งชี้แจงประเด็นว่า “หลังจากผมเลิกเรียน ผมไปในมหาลัยมา มีน้องคู่กรณีของผมขับปาดหน้าผมจริงที่หน้าห้องสมุดในมหาลัย แล้วผมก็บอก ‘น้องขับรถปาดหน้าพี่นะ ขับรถระวังๆหน่อย’ แล้วเขาสวนผมมาว่า ‘ขับรถปาดหน้ามึงตอนไหน?’ ผมคิดว่าคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว เถียงกันไปเถียงกันมา” “จนน้องผู้หญิงพรรคพวกเขามาไหว้ขอโทษผม พร้อมกับพวกอาจารย์และรปภ. ผมก็คิดว่ามันจบแล้วไม่คิดอะไรมาก ผมก็ขับรถออกจากมหาลัยเพื่อกลับที่พัก แต่คู่กรณีของผมไม่ยอมเลิก เขาก็ขับรถมอไซค์มาหาเรื่องผมถึงหน้ามหาลัยอีก แล้วให้วิทยุสกัดผม” ชมคลิปแบบเต็มๆได้ที่ด้านล่าง ที่มา Piyachart Chansawang
-
วิจารณ์เละ คลิปกลุ่มทหารรุมทำร้ายประชาชนคาห้องพัก หลังถูกเตือนเรื่องตั้งวงดื่มเหล้า
กลายเป็นคลิปวิดีโอที่มีการส่งต่อกันอย่างมากมายในเว็บไซต์เฟซบุ๊คอยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปวิดีโอของกลุ่มพลทหารที่รุมทำร้ายประชาชนคาห้องพัก หลังจากไม่พอใจ ที่ถูกตักเตือนเกี่ยวกับการตั้งวงดื่มเหล้าภายในห้องพักและส่งเสียงดังรบกวนผู้พักอาศัยห้องอื่นๆ ภายในคลิปเผยให้เห็นชายคนหนึ่งขณะสวมใส่เพียงผ้าเช็ดตัว กำลังยืนพูดคุยกับกลุ่มพลทหารภายในห้องพัก จากนั้นไม่นานก็เกิดการตะลุมบอนเกิดขึ้น โดยผู้ที่ถ่ายคลิปดังกล่าวไว้ได้เป็นแฟนสาวของผู้เคราะห์ร้ายรายดังกล่าว และแม้ว่าจะกล่าวคำขอโทษสักกี่ครั้ง แต่กลุ่มพลทหารก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “น้องผมโดนทหารข้างห้องรุมทำร้าย หลังจากที่ได้เข้าไปบอกว่าเสียงดัง เพราะทหารนั่งกินเหล้าแล้วส่งเสียงดังรบกวน เหตุเกิดที่หอในซอย จรัญ 50 เป็นถึงทหารแต่รังแกประชาชน ส่วนแฟนน้องผมเสียขวัญมากครับ ใช้วิจารณญาณในการรับชม” คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง น้องผมโดนทหารข้างห้องรุมทำร้าย หลังจากที่ได้เข้าไปบอกว่าเสียงดัง เพราะทหารนั่งกินเหล้าแล้วส่งเสียงดังรบกวน เหตุเกิดที่หอในซอย จรัญ 50 เป็นถึงทหารแต่รังแกประชาชน ส่วนแฟนน้องผมเสียขวัญมากครับ ใช้วิจารณญาณ ในการรับชม —————————————- เครดิต@ธีรนาท ชมสกุล Posted by คลิป HOT ข่าว HIT on 23 กรกฎาคม 2015 หลักจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ทำให้สมาชิกในเฟซบุ๊คพากันเข้ามาต่อว่าการกระทำอันไม่เหมาะสมของเหล่าพลทหาร เพราะทำให้ภาพลักษณ์ของทหารดีๆต้องเสื่อมเสียไปด้วย ในขณะเดียวกันก็มีความเห็นจากหลายๆคนมองว่าการกระทำครั้งนี้น่าจะมีการสอบสวนและถูกลงโทษในเร็ววัน ที่มา คลิป HOT ข่าว HIT
-
เดือดจัด!! หนุ่มป.โทฉะแหลกคู่กรณีกลางถนน พร้อมอ้างว่า “กูจบปริญญาโท”
กำลังกลายเป็นคลิปที่ถูกแชร์อยู่ในโลกออนไลน์อยู่ในขณะนี้เลย สำหรับคลิปวิดีโอของหนุ่มป.โทรายหนึ่ง ที่แสดงกิริยาก้าวร้าวบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ผ่านเฟซบุ๊คของ Kitti Ladlai พร้อมกับข้อความว่า “จบปริญญาโท…ไม่ได้ช่วยให้สันดานดีขึ้นมาเลย@รามคำแหง” โดยสาเหตุเกิดมาจากการขับรถปาดหน้ากัน โดยชายในชุดสีเขียวได้พยายามหาเรื่องคู่กรณีและพยายามจะหยิบอาวุธออกมา จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้ามาควบคุมตัวกันยกใหญ่ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะอ้างตัวว่า “กูจบปริญญาโท” ทั้งนี้เจ้าของคลิปวิดีโอและคู่กรณีของหนุ่มป.โท ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมดังนี้ คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง จบปริญญาโท…ไม่ได้ช่วยให้สันดานดีขึ้นมาเลย@รามคำแหง Posted by Kitti Ladlai on 22 กรกฎาคม 2015 หลังจากคลิปที่ถูกแชร์ออกไป ทำให้เกิดการวิจารณ์อย่างหนักในสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของหนุ่มป.โท ว่าการศึกษาไม่อาจขัดเกลาบุคคลได้ ในขณะที่บางคนมองว่านี่อาจเป็นคลิปไวรัลของผลิตภัณฑ์อะไรสักอย่างก็เป็นได้ ที่มา Kitti Ladlai
-
ตำรวจเร่งสอบ หลังคุณแม่สกอตแลนด์โพสต์ภาพลูกน้อย ขณะอยู่ในเครื่องซักผ้า
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Dailymail ได้เผยแพร่เรื่องราวของคุณแม่วัยสาวแห่งสกอตแลนด์รายหนึ่ง ขณะยัดลูกน้อยที่ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ลงไปในเครื่องซักผ้า พร้อมกับโพสต์ภาพดังกล่าวลงไปในโลกออนไลน์ แต่ในเวลาไม่นานก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับกุมเพื่อมาสอบปากคำที่โรงพัก หญิงสาวรายนี้มีชื่อว่า Courtney Stewart วัย 21 จากเมือง Renfrewshire ประเทศสกอตแลนด์ เธอได้จับเอาลูกชายวัย 2 ขวบยัดลงไปในเครื่องซักผ้าพร้อมถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกและเผยแพร่มันลงไปในโลกออนไลน์ เธอกล่าวว่าลูกชายของเธอปีนเข้าไปในเครื่องซักผ้าเอง และในระหว่างนั้นเธอก็ดูแลอย่างใกล้ชิด แถมยังบอกอีกว่าลูกชายของเธอนั้นหัวเราะชอบใจใหญ่ แต่ดูเหมือนเหตุการณ์นี้จะบานปลายเข้าไปอีก เพราะเมื่อมีสมาชิกในเว็บไซต์ Facebook บางรายไม่รู้สึกตลกกับเหตุการณ์นี้ และรายงานภาพดังกล่าวไปยังเจ้าหน้าที่ที่ดูแลระบบ ทำให้ตำรวจต้องเข้ามาสอบปากคำเธอ “ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนรายงานไป ฉันไม่รู้จริงๆว่าทำไมพวกเขาต้องทำแบบนั้น ฉันคิดว่ามันน่าขำสิ้นดี” นอกจากนี้เธอยังกล่าวอีกว่า “ลูกฉันรักเครื่องซักผ้านั่น เราถ่ายภาพและหัวเราะร่วมกัน” นอกจากนี้เธอยังบอกอีกว่า ประตูของเครื่องซักผ้าไม่ได้ถูกปิดไว้ และสายไฟเองก็ยังไม่ได้ถูกเสียบด้วย จึงไม่เป็นอันตรายใดๆ หลังจากได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ตรงไปยังบ้านของ Stewart เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าวทันที แต่ไม่ได้เป็นเหตุร้ายแรงอะไร เพราะเป็นเพียงการตรวจเช็คแบบทั่วๆไปเท่านั้น โฆษกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวว่า “เราไม่สามารถให้ความเห็นใดๆกับเรื่องนี้ได้ แต่เราระมัดระวังเกี่ยวกับทุกๆเรื่องที่อาจส่งผลกระทบต่อสวัสดิภาพของเด็กๆ ที่มา dailymail
-
หนุ่มพ่อลูก 3 ใช้มือเปล่าถ่ายรูปแมงมุมลงเฟซบุ๊ค ก่อนพบว่าแมงมุมมีพิษถึงตาย
เป็นเรื่องธรรมดา ที่เวลาเราทำความสะอาดบ้าน เราจะได้เจอกับเหล่ามดแมลง และแมงมุมต่างๆ แต่เชื่อไหมว่าบางทีมันอาจเป็นอันตรายจนคุณคาดไม่ถึงเลยก็ได้นะ เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ Uproxx ได้เผยแพร่เรื่องราวของ Nickie King คุณพ่อลูก 3 วัย 25 ปี ที่เกือบจะต้องเข้าไปนอนในโรงพยาบาลแล้ว เพราะดันไปถ่ายภาพแมงมุม ที่เขาไม่ทันรู้เลยว่ามีพิษร้ายแรงขนาดไหน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างที่นาย Nickie กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ ในระหว่างที่เขากำลังทำความสะอาดหน้าต่างด้วยแปรงทำความสะอาดอยู่นั้นเอง จู่ๆก็มีแมงมุมร่วงลงมาที่แปรงของเขา เขาจึงหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปและแชร์ลงไปในเฟซบุ๊ค ก่อนที่ทุกๆคนจะเข้ามาบอกเขาว่า แมงมุมนั่นมีพิษและเกือบฆ่าเขาไปแล้ว Nickie ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า “ผมกำลังทำความสะอาดอยู่และแมงมุมนั่นก็ร่วงลงมาที่แฟรงของผม มันเล่นเอาผมสะดุ้งไปเลย ผมคิดว่ามันจะเป็นแค่แมงมุมธรรมดาๆ ผมเลยหยิบมันขึ้นมาด้วยมือเปล่าและโยนมันออกไปข้างนอก มันไม่ได้กัดผมหรืออะไร ผมไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมเลยถ่ายรูปมันลงในเฟซบุ๊คเพื่อถามเพื่อนๆ” แต่จากการโพสต์รูปแมงมุมลงไป ทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้ามาบอกว่าแมงมุมนั่นเป็นแมงมุมที่อันตรายมาก โดยมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องแมงมุมได้ออกมาให้ความเห็นว่า ไม่ควรจะจับมันด้วยมือเปล่าๆ ซึ่งพิษของมันร้ายแรงจนอาจทำให้เกิดอาการเจ็บหน้าอก ผิวหนังบวมอย่างรุนแรง และอาจเกิดอาการชาตามนิ้วมือได้ หากใครเจอแมลงแปลๆแบบนี้ล่ะก็ อย่าเข้าใกล้แบบนายคนนี้เด็ดขาดนะจ๊ะ ที่มา uproxx
-
นักปาดในตำนาน!! โซเชี่ยลแฉคลิป ‘กระบะนักปาด’ ไม่ยอมให้ใครแซง
เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ Clip Hot ช็อตเด็ด ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอจากกล้องติดรถของผู้ใช้รถรายหนึ่ง พร้อมกับข้อความว่า “”นักปาดระดับเทพในตำนาน..ขับขวางถนน ไม่ยอมให้ใครแซง…!!!” เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงเวลา 21.40 นาฬิกา ของวันที่ 18 ก.ค. ภายในคลิปเผยให้เห็นกระบะอิซูซุป้ายแดงคันหนึ่ง ขณะขับรถปาดซ้ายและขวา แต่ในขณะที่เจ้าของคลิปจะขับแซงรถอิซูซุ แต่รถคันดังกล่าวกลับไม่ยอมให้แซง พร้อมกับพยายามปาดหน้าอยู่ตลอดเวลา สร้างความอันตรายให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง “นักปาดระดับเทพในตำนาน.“นักปาดระดับเทพในตำนาน..ขับขวางถนน ไม่ยอมให้ใครแซง…!!! Posted by Clip Hot ช็อตเด็ด on 19 กรกฎาคม 2015 หลังจากที่คลิปนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ชาวเน็ตเข้ามาต่อว่าผู้ใช้รถอิซูซุคันดังกล่าว เพราะอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ แต่ในขณะเดียวกันกลับมีสมาชิกบางรายเข้ามาต่อว่าเจ้าของคลิปเช่นกัน เพราะเห็นว่าขับรถด้วยความเร็วและแซงซ้าย ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน ที่มา Clip Hot ช็อตเด็ด
-
ใครมีเหรียญ 5 อย่าคิดว่าน้อย เพราะร้านนี้เขารับซื้อเหรียญ 5 ในราคา 1,500 บาท!!
สำหรับใครที่ต้องใช้จ่ายด้วยเหรียญบ่อยๆ อย่าเพิ่งคิดไปว่ามันมีค่าน้อยล่ะ เพราะเชื่อหรือไม่ว่าบางเหรียญนั้นอาจสร้างมูลค่าได้มากกว่ามูลค่าจริงๆที่เหรียญระบุไว้ซะอีก เพราะเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊คเพจ ร้านปาหนัน จิวเวลรี่ ที่เป็นร้านขายเครื่องประดับในอำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง ได้ประกาศรับซื้อเหรียญ 5 บาท ที่ผลิตในปี 2540 เป็นจำนวนเงิน 1,500 บาท!! และยังรับซื้อเหรียญ 5 ที่ผลิตในปี 2546 ในราคา 250 บาทด้วย ทำเอาชาวเฟซบุ๊คถึงกับตื่นตัวและต้องควักกระเป๋าตังค์ของตัวเองออกมาตรวจดูเหรียญที่มีเลยทีเดียว พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบด้วยว่า “รับซื้อเหรียญ 5 บาท ปี 2540 ในราคาเริ่มต้นที่ 1,500บาท รับไม่อั้น รับตลอด ติดต่อมาได้เรื่อยๆ สนใจขายโพสรูปทาง IB มาคุยครับ รอบนี้ไม่ขอแจกเบอร์ เพราะบางคนชอบถามว่า ปีนี้เอามั๊ย ปีนั้นเอามั๊ย วุ่นวายมากครับ ย้ำเอาแค่ 2 ปี 2540 และ 2546 ปีอื่นไม่เอา ย้ำไม่เอาปีอื่นไม่ต้องเสนอมา…
-
จับหนังสือพิมพ์เก่าๆมาวาดซะใหม่ โดยเพจน้องใหม่ “มือบอน” ทั้งฮาทั้งได้สาระ
เหมียวเชื่อว่าในวัยเด็กของแต่ละคนน่าจะเคย ‘มือบอน’ ไปวาดภาพตามสมุดหนังสือเรียนจนกลายเป็นภาพฮาๆมาไม่มากก็น้อยเลยใช่ไหมล่ะ แต่ดูเหมือนว่าไอเดียเหล่านั้นจะไม่ได้เป็นเพียงภาพที่วาดเล่นๆแล้วโยนทิ้งไปในที่สุดซะแล้วล่ะ เพราะมีศิลปินสุดจ๊าบรายหนึ่งได้นำไอเดียนั้นมาต่อยอดจนกลายเป็นเพจสุดฮาที่ชื่อว่า มือบอน แล้วล่ะ ล่าสุดแอดเหมียวได้ไปเจอผลงานการสร้างสรรค์ฮาๆของเพจ มือบอน ที่เป็นการนำภาพข่าวจากหนังสือพิมพ์ต่างๆมาวาดเล่นจนเกิดเป็นงานศิลปะแบบแปลกๆ ที่ทั้งฮาด้วยและก็ได้อ่านข่าวที่เป็นสาระไปด้วย เราลองไปชมผลงานของเขากันเลย ว่าจะเก๋กู๊ดรูดม่านสักแค่ไหน นักบอลกลายเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ซะแล้ว ที่แท้ทำอาหารอยู่นี่เอง Ghost Biker โผล่ไปทุกที่เลยมินเนียน การพันแผลที่ถูกต้อง น่าสงสารสไปดี้ นั่นชุนลีกับริวใช่ไหม? คนที่คุณก็รู้ว่าใครก็มาด้วย วิ่งหนีไดโนเสาร์กันหน้าตั้ง หากใครชอบผลงานศิลปะฮาๆพร้อมอ่านข่าวสารไปด้วย สามารถตามไปกดไลค์ได้ที่เพจ มือบอน ได้เลยนะแจ๊ะ ที่มา มือบอน
-
หนุ่มโดนตำรวจโบก แต่กลับไม่เอาเรื่อง พร้อมบอกว่า “ตำรวจหนองเสือไม่ใจร้ายหรอก”
ทุกครั้งเวลาเหมียวต้องขับรถไปตามที่ต่างๆ แล้วเจอพี่ๆตำรวจตั้งด่านอยู่แถวไหนก็ตาม เหมียวมักจะเกิดอาการเสียววาบๆทั้งที่จริงแล้วเรายังไม่ทันได้ทำผิดอะไร ก็แหม่พี่ๆเขายืนถือใบสั่งซะขนาดนั้น เป็นใครก็มีเสียวๆบ้างใช่ไหมล่ะ แต่อย่างเพิ่งมองพี่ๆเขาในแง่ร้ายกันไปนะ เพราะจริงๆแล้วพวกเขาน่ะใจดีจะตายไป เหมือนอย่างในคลิปที่เหมียวจะให้ดูต่อไปนี้ เมื่อวันที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา แชแนลยูทูบ II โซเชียล คลิป II ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอของคู่หนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจโบกให้จอดแถวอำเภอหนองเสือจังหวัดปทุมธานี ซึ่งในขณะนั้นเองพวกเขาเพิ่งจะโดนใบสั่งกันมาสดๆร้อนๆ จึงเกรงว่าจะโดนใบสั่งอีกรอบ จึงชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่ง เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นใบสั่งจึงอธิบายว่าใบสั่งมีอายุได้ 7 วัน และควรจะไปเสียค่าปรับให้เรียบร้อย พร้อมกับบอกว่า “ตำรวจหนองเสือไม่ใจร้ายหรอก” เกิดความประทับใจระหว่างประชาชนเป็นอย่างมาก ชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ทั้งนี้ทั้งนั้นเหมียวจะอธิบายสั้นๆว่า หากใครที่ทำผิดกฏจราจรและได้ใบสั่งมาแล้ว 1 ใบ อย่าเพิ่งคิดไปว่าเราจะสามารถกระทำความผิดซ้ำได้นะ หากขับไปแล้วเจอด่านอีกเจ้าหน้าที่สามารถเพิ่มใบสั่งให้กับเราได้ด้วย หากเรากระทำความผิดใหม่ๆอีก และก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยนะจ๊ะ ที่มา II โซเชียล คลิป II
-
แคร์ทำไม? วัยรุ่นหนุ่มจูงมือแฟนสาวเดินห้าง แม้จะโดนแซวว่าแฟนไม่สวย
จริงอยู่ว่าความรักนั้นเป็นเรื่องของคนสองคน แต่เมื่อเราเติบโตขึ้นเราจะพบว่าความรักมันประกอบรวมกันด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง ไม่ว่าจะพ่อแม่เขา พ่อแม่เรา การเงิน อาชีพ ความอดทน หรือแม้แต่เพื่อนๆเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความรักเช่นกัน แต่หากความรักของคุณเจออุปสรรคเป็นคนรอบข้างแล้วล่ะก็ คุณอาจจะต้องลองมาดูวัยรุ่นสองคนนี้เป็นตัวอย่างสักหน่อยแล้ว เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ค Mean Vespa ได้โพสต์ภาพของคู่รักวัยรุ่นคู่หนึ่งขณะจับมือเดินห้างพร้อมกับข้อความว่า “ชอบรูปนี้ ประทับใจโคตร เดินเซ็นกับแม่เจอคู่นี้ไปโคตรชอบเลย ไอ่แก๊งค์เพื่อนผู้ชายเดินผ่าน มันก็แซวๆว่าแฟนมันไม่สวย ไอ้ผู้หญิงก็จะปล่อยมือ ไอ้ผู้ชายจับมือแน่นกว่าเดิมแล้วแกว่งไปมา ชอบว่ะ แมนอ่ะ” “เออ รักก็รักข้างใน มึงอยู่กับใครโอเค มึงก็ไม่ต้องแคร์อะไรแล้ว แค่มึงมีความสุข #อยากจะเห็นหน้าจริงๆผชงี้แม่งหายาก :))” หลังจากที่ภาพนี้ถูกแชร์ออกไปได้ไม่นาน ก็กลายเป็นภาพที่ผู้คนต่างพากันส่งต่อเป็นจำนวนมาก ล่าสุดมีสมาชิกในเฟซบุ๊คกดแชร์ไปแล้วกว่า 2,3000 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีสมาชิกคนอื่นๆเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมเด็กหนุ่ม ที่มีความจริงใจไม่มองคนแต่เพียงภายนอก ยังไงแล้วแอดเหมียวขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ตั้งใจเรียน และช่วยเหลือกันจนประสบความสำเร็จนะจ๊ะ ที่มา Mean Vespa
-
เฟี้ยวฟ้าว!! โลกออนไลน์แห่แชร์คลิปพระสอนลูกศิษย์แบบใหม่ด้วยการ ‘บีทบ็อกซ์’
เมื่อเวลาเปลี่ยนอะไรก็เปลี่ยนนะ ไม่เว้นแม้แต่การเรียนการสอน ที่ทุกวันนี้เหล่าเด็กๆเริ่มจะรู้มากขึ้น และเข้าถึงสื่อได้ง่ายขึ้น คุณครูผู้สอนเองก็ต้องหาวิธีใหม่ๆในการสั่งสอนลูกศิษย์อยู่ตลอดเวลา ล่าสุดแอดเหมียวไปเจอเข้ากับคลิปๆนึงที่ถูกเผยแพร่โดยเฟซบุ๊ค สาธุสดชื่น พระครูใบฎีกาสุพจน์ สุวจโน เป็นคลิปของพระครูใบฎีกาสุพจน์ สุวจโน แห่งวัดเขาน้อย จังหวัดระยอง ในขณะที่กำลังเทศน์ให้แก่ลูกที่เป็นนักเรียน แต่พระอาจารย์ไม่ได้ใช้การเทศน์แบบทั่วๆไป แต่มีการใช้จังหวะบีทบ็อกซ์เข้ามาประกอบด้วย ทำเอาผู้ชมทางบ้านถึงกับทึ่งในความสามารถไปตามๆกันเลย ไปชมคลิปกันเลยจ้า ขอ 3 คำ แหล่ vs บีทบ๊อก (รับลองว่ามันสุดๆ) !!!!!ดูสิใครจะแน่กว่ากัน!!!!!+++55555+++ Posted by สาธุสดชื่น พระครูใบฎีกาสุพจน์ สุวจโน on 8 กรกฎาคม 2015 หลังจากที่คลิปถูกแชร์ออกไป ทำให่มีผู้คนในโลกออนไลน์จำนวนมากเข้ามาแสดงความชื่นชมพระอาจารย์รูปดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ในความคิดสร้างสรรค์และรู้จักปรับตัวให้เข้ากับการเรียนการสอนสมัยใหม่ มีเทคนิคในการสอนลูกศิษย์เจ๋งๆแบบนี้ แอดเหมียวนี่กดไลค์เลยจ้า ที่มา สาธุสดชื่น พระครูใบฎีกาสุพจน์ สุวจโน
-
ล่อเป้า!? หนุ่มมีครอบครัวโพสต์เฟซบุ๊ค ชอบหลอกกะเทย ใครอยากโดนหลอกทักได้
การแสดงความคิดเห็นบางอย่างบนโลกออนไลน์ อาจกลายเป็นประเด็นของสังคมไปโดยปริยาย แม้ว่าเราจะไม่ใช่คนเด่นคนดังอะไร แต่เชื่อไหมว่ามันทำให้คนเสื่อมเสียมานักต่อนักแล้วนะ ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.ค. ได้มีสมาชิกในเฟซบุ๊ครายหนึ่งโพสต์ข้อความที่ทำให้เหมียวถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน เพราะเขาได้เล่าว่าตัวเองเพิ่งจะเลิกกับกะเทยรายหนึ่งมา พร้อมกับบอกด้วยว่าตัวเองชอบหลอกกะเทย หากใครอยากถูกหลอกสามารถติดต่อไปที่เขาได้ “วันนี้ต้นเลิกกับจ๋า สาวสองเเล้วนะ เพื่อนๆในเฟซของต้นทุกคน สิ่งที่อยากจะบอกว่า ต้นได้หลอกให้อีกะเทยคนนี้ให้ออกรถมอไซค์ให้ พอมันรักมันก็ทุ่มทุกอย่าง มันเป็นกะเทยโง่ ใครอยากโง่แบบมัน บอกต้นนะ ต้นชอบหลอกกะเทย ใครชอบทัก ใครอยากโง่ทักนะ จะสมนาคุณให้ เพราะกะเทยควายทุกตัว เชิญด่าได้ครับ ผมไม่แคร์ ผมมีลูกมีเมียเเล้ว เชิญอีดอกกะเทยควายทั้งหลาย” เวลาจะพิมพ์อะไร หรือแสดงความคิดเห็นที่ไหน เหมียวก็อยากจะเตือนให้ระมัดระวังนิดนึงนะจ๊ะ เพราะยิ่งนานวันเข้า ตัวตนจริงๆของเรายิ่งถูกผสานเข้ากับตัวตนบนโลกออนไลน์มากขึ้น มันเปรียบเสมือนบัตรประชาชนใบหนึ่งของเราเลยทีเดียว ที่เผยให้เห็นข้อมูลของเรา ฉะนั้นไม่ว่าทำอะไรที่ไหน มันเหมือนกับเราเอาบัตรประชาชนของเราไปโชว์ที่นั่นด้วยนะ ที่มา facebook
-
รวม 16 สุดยอดคอมเมนท์จาก ‘แฟนเพจเหมียว’ จะมาทำให้ทุกคนหายเครียดและแอบยิ้ม
หลายต่อหลายครั้งที่ทางเว็บเหมียว ได้ลงเนื้อหาทั้งข่าว ข้อมูล สาระบ้างไม่มีสาระบ้าง รวมอะไรฮาๆน่ารักมาฝากกันก็เยอะ มักจะมีคอมเม้นท์ที่มาสร้างสีสันให้กับแฟนๆที่เข้ามาอ่านได้มีความสุขมากขึ้น และเจ้าของคอมเมนท์เหล่านี้ก็เป็นแฟนเพจของเว็บเหมียวเองนี่แหละ เหมียวเลยอยากจะยกย่องพวกเค้าลองรวบรวมคอมเมนท์เด็ดๆโดนๆมาฝากกันสักหน่อยครัชชชช!!! ถึงจะมีรถเท่แค่ไหน แต่ถ้ามาขับที่นี่…. โห ความรู้พี่แน่นมากครับ อันนี้แอบเห็นด้วย 5555 คอสเด็ดแค่ไหน ก็ไม่เหมือนพี่ในเม้นหรอก ถูกเลยฮะ เอ่อ อันนี้ได้ไลค์เยอะ เพราะมันเจ็บจี๊ดรึเปล่า? เออ จริงของพี่เค้า เฮ้ย!! ไม่ใช่แล้ววววววว ผิดนะ นั่นมันนางสาว ยังไม่ได้แต่งงาน เหมียวเคยนะ ถามยามจนออกได้ T^T เจ็บสิครัชทั่นผู้ชม พี่ตั้งตลกกันสักคณะไหม ผมจะไปอุดหนุนบัตร นั่นสิ นั่นสิ นั่นสิ ชะนีไทยเค้าระบายมา… เออ จริงของพี่…
-
หญิงสาวตบกันนัวกลางถนนพระราม 9 เหตุขับรถจี้ท้าย ตำรวจยืนดูเฉย
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. แชแนลยูทูบ Real ClipVideo ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์จริงบนถนนพระราม 9 เป็นเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทกันระหว่างหญิงสาวผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์และหญิงสาวอีกรายที่ขับรถเก๋ง โดยหญิงสาวผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้เข้าทำร้ายร่างกายฝ่ายตรงข้ามที่นั่งอยู่ภายในรถ แต่กลับไม่มีใครคิดจะห้าม จนทำให้การจราจรติดขัด พร้อมกันนี้ยังมีข้อความประกอบคลิปด้วยว่า “เหตุเพราะ..ขับรถจี้ตูดที่ถนนพระราม 9 แยกผังเมืองก่อนถึงแยกอสมท. ถึงกับต้องลงไม้ลงมือกันขนาดนี้ แถมคุณตำรวจก็ไม่มีท่าทีที่จะเข้าไปห้ามปรามปล่อยให้หญิงทั้ง 2 ตบตีทะเลาะกันกลางถนน ทำเอาการจราจรติดขัดเป็นแถวยาว” คลิ๊กชมคลิปได้ที่ด้านล่าง ที่มา Real ClipVideo